• มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อตกลงแร่ธาตุที่สหรัฐยื่นเงื่อนไขให้เซเลนสกีมีความ "เข้มงวด" มากกว่าในครั้งแรก!

    ไม่ใช่ 50% แต่ 100% :
    - เซเลนสกีได้รับข้อเสนอใหม่เป็นครั้งที่สองเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ร่างข้อตกลงฉบับใหม่นี้ ไม่ใช่มีแค่ข้อตกลงเกี่ยวกับแร่ธาตุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงน้ำมันและก๊าซ ที่ยูเครนจะต้องโอนรายได้เข้ากองทุนของสหรัฐ 100%

    - ส่วนรายได้จากท่าเรือและโครงสร้างด้านพลังงาน เช่น รายได้จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ สหรัฐขอส่วนแบ่งรายได้ 50%

    - นอกจากนี้ สหรัฐยังไม่มีการรับประกันความปลอดภัยในข้อตกลงดังกล่าว และไม่รับภาระผูกพันด้านการลงทุนใดๆในยูเครนอีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม ยูเครนยังคงยืนกรานว่าต้องการคำมั่นสัญญาด้านความปลอดภัยที่ชัดเจนท่ามกลางสงครามที่ยังคงดำเนินอยู่ และต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญยูเครน ซึ่งทำให้การให้ลงนามข้อตกลงไม่สามารถทำได้ในทันที

    สหรัฐเตือนว่า การปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าวของยูเครน จะเป็นอันตรายต่อความช่วยเหลือในอนาคต

    Ruslan Stefanchuk ประธานรัฐสภาของยูเครน กล่าวว่า การเจรจาจะมีขึ้นอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

    ทางด้าน อเล็กซานเดอร์ ดูบินสกี สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านของยูเครน กล่าวแสดงความเห็นว่า ควรให้ประธานาธิบดีคนต่อไปของยูเครนเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงตามเงื่อนไขของทรัมป์ จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายมากกว่า

    มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อตกลงแร่ธาตุที่สหรัฐยื่นเงื่อนไขให้เซเลนสกีมีความ "เข้มงวด" มากกว่าในครั้งแรก! ไม่ใช่ 50% แต่ 100% : - เซเลนสกีได้รับข้อเสนอใหม่เป็นครั้งที่สองเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ร่างข้อตกลงฉบับใหม่นี้ ไม่ใช่มีแค่ข้อตกลงเกี่ยวกับแร่ธาตุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงน้ำมันและก๊าซ ที่ยูเครนจะต้องโอนรายได้เข้ากองทุนของสหรัฐ 100% - ส่วนรายได้จากท่าเรือและโครงสร้างด้านพลังงาน เช่น รายได้จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ สหรัฐขอส่วนแบ่งรายได้ 50% - นอกจากนี้ สหรัฐยังไม่มีการรับประกันความปลอดภัยในข้อตกลงดังกล่าว และไม่รับภาระผูกพันด้านการลงทุนใดๆในยูเครนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยูเครนยังคงยืนกรานว่าต้องการคำมั่นสัญญาด้านความปลอดภัยที่ชัดเจนท่ามกลางสงครามที่ยังคงดำเนินอยู่ และต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญยูเครน ซึ่งทำให้การให้ลงนามข้อตกลงไม่สามารถทำได้ในทันที สหรัฐเตือนว่า การปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าวของยูเครน จะเป็นอันตรายต่อความช่วยเหลือในอนาคต Ruslan Stefanchuk ประธานรัฐสภาของยูเครน กล่าวว่า การเจรจาจะมีขึ้นอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ทางด้าน อเล็กซานเดอร์ ดูบินสกี สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านของยูเครน กล่าวแสดงความเห็นว่า ควรให้ประธานาธิบดีคนต่อไปของยูเครนเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงตามเงื่อนไขของทรัมป์ จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายมากกว่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'พิชัย' เก้าอี้ยังมั่นคง ไร้สัญญาณปรับ ครม.ถล่มปัญหาสินค้าเกษตร
    .
    สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยเกิดความระส่ำเล็กน้อย ภายหลังมีความเคลื่อนไหวของส.ส.ที่ไม่พอใจกับการทำหน้าที่ของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ที่ไม่สามารถทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้นได้ จนเกิดความกังวลอาจส่งผลต่อฐานคะแนนเสียงของพรรค ในเรื่องนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ที่ผ่านมาพรรครับฟังความเห็นของส.ส.มาโดยตลอด
    .
    "ความจริงต้องทำควบคู่กันไป เวทีต่างประเทศก็สำคัญ เพราะมีการประชุมระดับทวิภาคี รวมถึงเวทีอื่นๆ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็มีบทบาทสำคัญ ทั้งนี้หากนายพิชัยไม่ได้เดินทางไปประชุมเวทีต่างประเทศ ก็น่าจะมีเวลามาฟังความเห็นของ ส.ส.ในพรรคได้ แต่เชื่อว่าไม่มีอะไร ไม่นานสถานการณ์ก็น่าจะดีขึ้น หน้าที่สำคัญของรัฐมนตรีอันดับแรกคือ พยายามปฎิบัติหน้าที่ในส่วนที่รับผิดชอบ ให้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล หากงานของตัวเองไปได้ดี ก็จะได้ผลตอบรับจากประชาชนดี" นายสุริยะ กล่าว
    .
    นายสุริยะ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่ายังไม่มีความคิดที่จะปรับคณะรัฐมนตรี ดังนั้นคนอื่นจะพูดอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ทั้งหมดอยู่ที่นายกฯ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการปรับครม. เพียงคนเดียวเท่านั้น
    .
    ด้าน นายพิชัย ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีเรียกเข้าพบเพื่อหารือถึงการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าทางเกษตร ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ภายในพรรคเพื่อไทย แต่ระบุว่าได้มีการหารือกับคนในพรรคเพื่อไทยบางส่วนแล้ว พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้กังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
    .
    ขณะที่ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระการพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่เพาะปลูกข้าว อันเนื่องมาจากราคาตกต่ำ ซึ่งมี สส.รัฐบาลและฝ่ายค้าน พร้อมใจกันเสนอญัตติรวม 7 ร่างโดยภายหลังการเสนอหลักการ ได้มีการเปิดให้ ส.ส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่โจมตีไปที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ซึ่งกำกับดูแลเรื่องข้าว โดยนายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า จากข่าวที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีว่าพี่น้องเกษตรกรชาวนาได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือราคาข้าวตกต่ำ และมีการชุมนุมปิดถนนเดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล ตนจะไม่พูดเรื่องตัวเลข เพราะตัวเลขมันเยอะเหลือเกิน ทุกคนทราบดีอยู่แล้วการ การแก้ปัญหาระยะสั้น เพราะฉะนั้น การที่กำลังประชุมกันใน คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ต้องเร่งด่วน
    .
    “ถ้าพูดเรื่องข้าว เราไม่เอ่ยถึงกระทรวงพาณิชย์ก็ไม่ได้ เพราะกระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงที่มีรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าขาย เพราะฉะนั้น ถึงแม้จะเป็นพรรคเดียวกัน เป็นรัฐบาลด้วยกัน แต่ก็ต้องมีการติติง แม้กระทั่งในพรรคเพื่อไทยของตน ก็มีการได้คุยกันแล้ว วันนี้ทุกพรรคการเมืองก็เห็นพ้องต้องกัน รัฐบาลปฏิเสธความรับผิดชอบในเรื่องนี้ไม่ได้ ตัวแทนเกษตรกรไม่มีใน นบข.ทุกอย่างอยู่ในห้องแอร์ เขาก็ลงถนนสิ” นายธีระชัย กล่าว
    .
    นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า ไม่แปลกใจที่เห็นพี่น้องมาประท้วงกันในหลายจังหวัด พี่น้องเกษตรกรอยู่ไม่ไหวหรอกทำไมรัฐบาลเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงพาณิชย์ไม่มีมาตรการที่ชัดเจนออกมาที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรอย่างไรเลย อยากจะฝากถึงรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 กระทรวงหลัก กระทรวงพาณิชย์ , กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการคลังให้ช่วยเร่งรัดในการออกมาตรการต่างๆ ที่จะมาช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในระยะสั้นเฉพาะหน้าตรงนี้
    ..............
    Sondhi X
    'พิชัย' เก้าอี้ยังมั่นคง ไร้สัญญาณปรับ ครม.ถล่มปัญหาสินค้าเกษตร . สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยเกิดความระส่ำเล็กน้อย ภายหลังมีความเคลื่อนไหวของส.ส.ที่ไม่พอใจกับการทำหน้าที่ของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ที่ไม่สามารถทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้นได้ จนเกิดความกังวลอาจส่งผลต่อฐานคะแนนเสียงของพรรค ในเรื่องนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ที่ผ่านมาพรรครับฟังความเห็นของส.ส.มาโดยตลอด . "ความจริงต้องทำควบคู่กันไป เวทีต่างประเทศก็สำคัญ เพราะมีการประชุมระดับทวิภาคี รวมถึงเวทีอื่นๆ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็มีบทบาทสำคัญ ทั้งนี้หากนายพิชัยไม่ได้เดินทางไปประชุมเวทีต่างประเทศ ก็น่าจะมีเวลามาฟังความเห็นของ ส.ส.ในพรรคได้ แต่เชื่อว่าไม่มีอะไร ไม่นานสถานการณ์ก็น่าจะดีขึ้น หน้าที่สำคัญของรัฐมนตรีอันดับแรกคือ พยายามปฎิบัติหน้าที่ในส่วนที่รับผิดชอบ ให้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล หากงานของตัวเองไปได้ดี ก็จะได้ผลตอบรับจากประชาชนดี" นายสุริยะ กล่าว . นายสุริยะ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่ายังไม่มีความคิดที่จะปรับคณะรัฐมนตรี ดังนั้นคนอื่นจะพูดอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ทั้งหมดอยู่ที่นายกฯ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการปรับครม. เพียงคนเดียวเท่านั้น . ด้าน นายพิชัย ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีเรียกเข้าพบเพื่อหารือถึงการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าทางเกษตร ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ภายในพรรคเพื่อไทย แต่ระบุว่าได้มีการหารือกับคนในพรรคเพื่อไทยบางส่วนแล้ว พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้กังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น . ขณะที่ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระการพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่เพาะปลูกข้าว อันเนื่องมาจากราคาตกต่ำ ซึ่งมี สส.รัฐบาลและฝ่ายค้าน พร้อมใจกันเสนอญัตติรวม 7 ร่างโดยภายหลังการเสนอหลักการ ได้มีการเปิดให้ ส.ส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่โจมตีไปที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ซึ่งกำกับดูแลเรื่องข้าว โดยนายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า จากข่าวที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีว่าพี่น้องเกษตรกรชาวนาได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือราคาข้าวตกต่ำ และมีการชุมนุมปิดถนนเดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล ตนจะไม่พูดเรื่องตัวเลข เพราะตัวเลขมันเยอะเหลือเกิน ทุกคนทราบดีอยู่แล้วการ การแก้ปัญหาระยะสั้น เพราะฉะนั้น การที่กำลังประชุมกันใน คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ต้องเร่งด่วน . “ถ้าพูดเรื่องข้าว เราไม่เอ่ยถึงกระทรวงพาณิชย์ก็ไม่ได้ เพราะกระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงที่มีรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าขาย เพราะฉะนั้น ถึงแม้จะเป็นพรรคเดียวกัน เป็นรัฐบาลด้วยกัน แต่ก็ต้องมีการติติง แม้กระทั่งในพรรคเพื่อไทยของตน ก็มีการได้คุยกันแล้ว วันนี้ทุกพรรคการเมืองก็เห็นพ้องต้องกัน รัฐบาลปฏิเสธความรับผิดชอบในเรื่องนี้ไม่ได้ ตัวแทนเกษตรกรไม่มีใน นบข.ทุกอย่างอยู่ในห้องแอร์ เขาก็ลงถนนสิ” นายธีระชัย กล่าว . นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า ไม่แปลกใจที่เห็นพี่น้องมาประท้วงกันในหลายจังหวัด พี่น้องเกษตรกรอยู่ไม่ไหวหรอกทำไมรัฐบาลเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงพาณิชย์ไม่มีมาตรการที่ชัดเจนออกมาที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรอย่างไรเลย อยากจะฝากถึงรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 กระทรวงหลัก กระทรวงพาณิชย์ , กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการคลังให้ช่วยเร่งรัดในการออกมาตรการต่างๆ ที่จะมาช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในระยะสั้นเฉพาะหน้าตรงนี้ .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Sad
    Haha
    14
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1510 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไซด์ ซาดีค นักการเมือง ที่เป็นนายแบบได้นิดหน่อย

    เป็นอีกนักการเมืองคนรุ่นใหม่ ที่สร้างสีสันการเมืองในมาเลเซีย สำหรับไซด์ ซาดีค (Syed Saddiq) วัย 32 ปี สส.อำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ สังกัดพรรคฝ่ายค้าน มูดา (MUDA) และอดีต รมว.เยาวชนและกีฬามาเลเซีย ล่าสุดเขาออกมายอมรับว่า ต้องจำยอมไปเป็นนายแบบเสื้อผ้าชุดรายอให้กับแบรนด์แฟชั่นแบรนด์หนึ่ง คู่กับ เบลลา อัสติลลาห์ (Bella Astillah) นักร้องและนักแสดงสาวชื่อดัง เพราะรัฐบาลนายอันวาร์ อิบราฮิม จากกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน (PH) ไม่ยอมจัดสรรเงินช่วยเหลือประชาชนในเขตเลือกตั้งของตนเอง

    ซาดีค กล่าวกลางรัฐสภามาเลเซียว่า ได้พยายามเจรจากับรัฐบาลอันวาร์มาหลายครั้งแล้ว ทำตามคำแนะนำนายอันวาร์ เจรจากับนายฟาดิลลาห์ ยูโซฟ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียไปแล้ว 5 ครั้ง ส่งจดหมายไปแล้ว ฉบับแล้วฉบับเล่านานกว่า 400 วัน แต่ความช่วยเหลือจากรัฐบาลต่อรัฐสภาเมืองมัวร์ยังเป็น 0 ริงกิต ถ้าไม่อยากให้งบประมาณก็พูดในรัฐสภาแห่งนี้ไปเลย อย่าพูดเล่นๆ แบบข้างนอกพูดอย่างหนึ่ง แต่ข้างในกลับพูดอีกอย่างหนึ่ง ผมพยายามหลายครั้งแล้วแต่ไม่สำเร็จ ก็เลยหนีมาเป็นนายแบบ สส.บางคนโกรธที่ผมเป็นนายแบบ ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดผมก็ได้รับเงินบริจาค 1 ล้านริงกิตให้กับรัฐสภาเมืองมัวร์

    ขณะเดียวกัน ซาดีค ได้ขอให้รัฐบาลอันวาร์ทำการเมืองแบบมีวุฒิภาวะ เพราะไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ชะตากรรมของประชาชนในพื้นที่จะได้รับการปกป้อง และให้ความช่วยเหลือโดยไม่คำนึงถึงสังกัดทางการเมือง มาเลเซียจะกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้อย่างไร แม้แต่เรื่องพื้นฐานก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ เราส่งเสียงเรื่องนี้มาหลายสิบปีแล้วเมื่อเป็นฝ่ายค้าน

    ก่อนหน้านี้ เซียร์ลีนา อับดุล ราชิด (Syerleena Abdul Rashid) สมาชิกรัฐสภาของกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน กลุ่มเดียวกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ซาดีคว่า ละเลยประชาชนในเขตเลือกตั้งตนเอง เพราะเขามักจะร่วมงานกับอัสติลลาห์โปรโมตเสื้อผ้ารายอแบรนด์หนึ่ง กระทั่งซาดีคต้องออกมาตอบโต้ดังกล่าว

    ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ซาดีคตัดสินใจวิ่งจากอำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ ไปยังอาคารรัฐสภามาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร โดยใช้เวลา 4 วัน เพื่อระดมทุนรับบริจาคภายใต้แคมเปญ Langkah Muar (ก้าวเพื่อมัวร์) โดยครั้งนั้นได้เงินบริจาคกว่า 1 แสนริงกิต หรือประมาณ 7.7 แสนบาทในเวลา 48 ชั่วโมง

    #Newskit
    ไซด์ ซาดีค นักการเมือง ที่เป็นนายแบบได้นิดหน่อย เป็นอีกนักการเมืองคนรุ่นใหม่ ที่สร้างสีสันการเมืองในมาเลเซีย สำหรับไซด์ ซาดีค (Syed Saddiq) วัย 32 ปี สส.อำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ สังกัดพรรคฝ่ายค้าน มูดา (MUDA) และอดีต รมว.เยาวชนและกีฬามาเลเซีย ล่าสุดเขาออกมายอมรับว่า ต้องจำยอมไปเป็นนายแบบเสื้อผ้าชุดรายอให้กับแบรนด์แฟชั่นแบรนด์หนึ่ง คู่กับ เบลลา อัสติลลาห์ (Bella Astillah) นักร้องและนักแสดงสาวชื่อดัง เพราะรัฐบาลนายอันวาร์ อิบราฮิม จากกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน (PH) ไม่ยอมจัดสรรเงินช่วยเหลือประชาชนในเขตเลือกตั้งของตนเอง ซาดีค กล่าวกลางรัฐสภามาเลเซียว่า ได้พยายามเจรจากับรัฐบาลอันวาร์มาหลายครั้งแล้ว ทำตามคำแนะนำนายอันวาร์ เจรจากับนายฟาดิลลาห์ ยูโซฟ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียไปแล้ว 5 ครั้ง ส่งจดหมายไปแล้ว ฉบับแล้วฉบับเล่านานกว่า 400 วัน แต่ความช่วยเหลือจากรัฐบาลต่อรัฐสภาเมืองมัวร์ยังเป็น 0 ริงกิต ถ้าไม่อยากให้งบประมาณก็พูดในรัฐสภาแห่งนี้ไปเลย อย่าพูดเล่นๆ แบบข้างนอกพูดอย่างหนึ่ง แต่ข้างในกลับพูดอีกอย่างหนึ่ง ผมพยายามหลายครั้งแล้วแต่ไม่สำเร็จ ก็เลยหนีมาเป็นนายแบบ สส.บางคนโกรธที่ผมเป็นนายแบบ ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดผมก็ได้รับเงินบริจาค 1 ล้านริงกิตให้กับรัฐสภาเมืองมัวร์ ขณะเดียวกัน ซาดีค ได้ขอให้รัฐบาลอันวาร์ทำการเมืองแบบมีวุฒิภาวะ เพราะไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ชะตากรรมของประชาชนในพื้นที่จะได้รับการปกป้อง และให้ความช่วยเหลือโดยไม่คำนึงถึงสังกัดทางการเมือง มาเลเซียจะกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้อย่างไร แม้แต่เรื่องพื้นฐานก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ เราส่งเสียงเรื่องนี้มาหลายสิบปีแล้วเมื่อเป็นฝ่ายค้าน ก่อนหน้านี้ เซียร์ลีนา อับดุล ราชิด (Syerleena Abdul Rashid) สมาชิกรัฐสภาของกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน กลุ่มเดียวกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ซาดีคว่า ละเลยประชาชนในเขตเลือกตั้งตนเอง เพราะเขามักจะร่วมงานกับอัสติลลาห์โปรโมตเสื้อผ้ารายอแบรนด์หนึ่ง กระทั่งซาดีคต้องออกมาตอบโต้ดังกล่าว ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ซาดีคตัดสินใจวิ่งจากอำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ ไปยังอาคารรัฐสภามาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร โดยใช้เวลา 4 วัน เพื่อระดมทุนรับบริจาคภายใต้แคมเปญ Langkah Muar (ก้าวเพื่อมัวร์) โดยครั้งนั้นได้เงินบริจาคกว่า 1 แสนริงกิต หรือประมาณ 7.7 แสนบาทในเวลา 48 ชั่วโมง #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรณีของ บ่อนคาสิโน ไม่ว่าจะแสดงความเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ยากที่จะบอกได้ว่าประชาชนทั่วไปได้เข้าใจถึงประโยชน์และโทษอย่างถ่องแท้หรือไม่ หากอายุเราพอๆกัน จะจำได้ว่า “เอ็นเตอเทนเม็นท์คอมเพล็กซ์” (แปลง่ายๆว่าจะให้คนมาประมูลเปิดบ่อนดึงเงินเข้าประเทศ) นั้นถูกเสนอมาตั้งแต่รัฐบาล ทักษิณ ในปี พ.ศ. 2544-2545 แต่กระแสก็แผ่ว ตอนนั้น มีพ่อของ รัฐมนตรีท่องเที่ยว บอกว่าจะให้เอาโรงแรมแอมบาสเดอร์พัทยานั่นแหละเป็นพื้นที่นำร่องเพราะตรงตามความต้องการดี และ ไม่นานกระแสก็แผ่วเพราะภาคประชาสังคมต่อต้านอย่างมาก ปีนี้ปี พ.ศ. 2568 พ่อนายก ก็ยังขุดของเก่ามาขายอีกมั้งๆที่น่าจะมีกรณีศึกษามาแล้วพอสมควรแก่การละ และ วาง

    การที่ประเทศไทย ไม่มีคาสิโนถูกกฎหมายในทุกวันนี้ กอรป กับการที่ ตำรวจกลายเป็นหน่วยงานที่ถูกระบุว่ามีการคอร์รัปชั่นสูงสุด ยกตัวอย่างเป็นกรณีศึกษา ในตอนที่เขียนไว้ข้างต้น ตัรายงานการสำรวจจาก รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ และคณะทำงาน ระบุว่าส่วยตำรวจจากบ่อนการพนันทั่วประเทศในปี พ.ศ. 2544 น่าจะอยู่ระหว่าง 6 พัน 6 ร้อยล้าน ถึง 1 หมื่น 3 พันล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่นับการคอรัปชั่นในรูปแบบอื่นๆอีก ก็เพราะเงินจำนวนมหาศาล นี้เอง ที่ทำให้การฉ้อราษฏร์บังหลวง มันหอมหวานมาก คำถามในเวลานั้นคือถ้ามีบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย ปัญหานี้จะแก้ได้หรือไม่? นี่ยังคงเป็นคำถามเดียวกันที่เราต้องถามในปัจจุบัน ไม่ใช่ ว่าจะลดบ่อนเถื่อนได้หรือไม่ !

    และก็มีไอ้ประเภทชอบอ้างถึง มาเก๊า สิงค์โปร์ ลาสเวกัส (แต่ไม่ยักอ้างถึงฟิลิปปินส์หรือญี่ปุ่น) …ในเรื่องการเปิดเอ็นเตอเทนเม็นท์คอมเพล็กซ์ (บ่อน) - ฟิลิปปินส์ปีที่ผ่านมานี้รัฐบาลบอกว่าภาคอุตสาหกรรมเกมมิ่ง (การพนัน) ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำดีมาก แต่ ..ประชาชนติดการพนันทั้งประเทศ .. ญี่ปุ่นมีกฎหมายดังกล่าวตั้งแต่ ค.ศ. 2016 แต่ถึงปัจจุบันก็ยังมองจากการศึกษาถอดบทเรียนว่าได้ไม่คุ้มเสีย …จีน บอกแล้วประชาชนออกไปเล่นนอกประเทศ มีความเสี่ยง มีค่าใช้จ่าย เป็นกำแพง แต่กลับมาในประเทศห้ามมีเด็ดขาดเพราะการที่ประชาชนติดการพนันสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่ไม่มีคุณภาพ …สิงค์โปร์ กฏหมายต่อต้านคอรัปชั่นรุนแรง กำแพงการเข้าถึงสูง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐและครอบครัวใกล้ชิดห้ามข้องแวะโดยเด็ดขาด…มาเก๊าประเทศมีอะไรนอกจากเอ็นเตอเทนเม็นท์คอมเพล็กซ์? …ลาสเวกัสและการพนันเสรีในสหรัฐ..ดูประเทศเขาตอนนี้สิ รัฐเนวาดาของสหรัฐอเมริกา ที่ตั้งของลาสเวกัส เมืองบ่อนการพนันที่ใหญ่ที่สุดในโลก พบว่าอัตราการฆ่า ตัวตายของรัฐฯ สูงที่สุดในอเมริกา อัตราการล้มละลายสูงถึงร้อยละ 50 หรือที่เมืองเดดวูด รัฐดาโกตา หลังจากให้เปิดคาสิโนเพียง 2 ปี พบการทารุณกรรมเด็กเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 การใช้ความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 อัตราการฆ่าตัวตายของสามี-ภรรยาที่เล่นพนันสม่ำยิ่งน่าตกใจ มันมากกว่าอัตราเฉลี่ยของทั้งประเทศถึง 150 เท่า!!

    ถ้ามีบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย ปัญหาเหล่านี้ของประเทศไทย ที่ทุกวันนี้ มีแต่ข่าว ลูกฆ่าพ่อ พ่อฆ่าลูก ผัวฆ่าเมีย แม่ฆ่ายกครัว เจ้าหนี้โหดทวงหนี้ฆ่ายกบ้าน จะเพิ่มขึ้นหรือไม่? (หรือทุกวันนี้ มันก็มีแฝงกับบ่อนเถื่อนต่างๆ อยู่แล้ว?)

    ปัจจุบันนี้ เรามีรัฐบาลแบบนี้ เรามีฝ่ายค้านแบบนี้ จะมีหรือไม่มีก็ได้ว่าไหม?
    กรณีของ บ่อนคาสิโน ไม่ว่าจะแสดงความเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ยากที่จะบอกได้ว่าประชาชนทั่วไปได้เข้าใจถึงประโยชน์และโทษอย่างถ่องแท้หรือไม่ หากอายุเราพอๆกัน จะจำได้ว่า “เอ็นเตอเทนเม็นท์คอมเพล็กซ์” (แปลง่ายๆว่าจะให้คนมาประมูลเปิดบ่อนดึงเงินเข้าประเทศ) นั้นถูกเสนอมาตั้งแต่รัฐบาล ทักษิณ ในปี พ.ศ. 2544-2545 แต่กระแสก็แผ่ว ตอนนั้น มีพ่อของ รัฐมนตรีท่องเที่ยว บอกว่าจะให้เอาโรงแรมแอมบาสเดอร์พัทยานั่นแหละเป็นพื้นที่นำร่องเพราะตรงตามความต้องการดี และ ไม่นานกระแสก็แผ่วเพราะภาคประชาสังคมต่อต้านอย่างมาก ปีนี้ปี พ.ศ. 2568 พ่อนายก ก็ยังขุดของเก่ามาขายอีกมั้งๆที่น่าจะมีกรณีศึกษามาแล้วพอสมควรแก่การละ และ วาง การที่ประเทศไทย ไม่มีคาสิโนถูกกฎหมายในทุกวันนี้ กอรป กับการที่ ตำรวจกลายเป็นหน่วยงานที่ถูกระบุว่ามีการคอร์รัปชั่นสูงสุด ยกตัวอย่างเป็นกรณีศึกษา ในตอนที่เขียนไว้ข้างต้น ตัรายงานการสำรวจจาก รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ และคณะทำงาน ระบุว่าส่วยตำรวจจากบ่อนการพนันทั่วประเทศในปี พ.ศ. 2544 น่าจะอยู่ระหว่าง 6 พัน 6 ร้อยล้าน ถึง 1 หมื่น 3 พันล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่นับการคอรัปชั่นในรูปแบบอื่นๆอีก ก็เพราะเงินจำนวนมหาศาล นี้เอง ที่ทำให้การฉ้อราษฏร์บังหลวง มันหอมหวานมาก คำถามในเวลานั้นคือถ้ามีบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย ปัญหานี้จะแก้ได้หรือไม่? นี่ยังคงเป็นคำถามเดียวกันที่เราต้องถามในปัจจุบัน ไม่ใช่ ว่าจะลดบ่อนเถื่อนได้หรือไม่ ! และก็มีไอ้ประเภทชอบอ้างถึง มาเก๊า สิงค์โปร์ ลาสเวกัส (แต่ไม่ยักอ้างถึงฟิลิปปินส์หรือญี่ปุ่น) …ในเรื่องการเปิดเอ็นเตอเทนเม็นท์คอมเพล็กซ์ (บ่อน) - ฟิลิปปินส์ปีที่ผ่านมานี้รัฐบาลบอกว่าภาคอุตสาหกรรมเกมมิ่ง (การพนัน) ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำดีมาก แต่ ..ประชาชนติดการพนันทั้งประเทศ .. ญี่ปุ่นมีกฎหมายดังกล่าวตั้งแต่ ค.ศ. 2016 แต่ถึงปัจจุบันก็ยังมองจากการศึกษาถอดบทเรียนว่าได้ไม่คุ้มเสีย …จีน บอกแล้วประชาชนออกไปเล่นนอกประเทศ มีความเสี่ยง มีค่าใช้จ่าย เป็นกำแพง แต่กลับมาในประเทศห้ามมีเด็ดขาดเพราะการที่ประชาชนติดการพนันสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่ไม่มีคุณภาพ …สิงค์โปร์ กฏหมายต่อต้านคอรัปชั่นรุนแรง กำแพงการเข้าถึงสูง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐและครอบครัวใกล้ชิดห้ามข้องแวะโดยเด็ดขาด…มาเก๊าประเทศมีอะไรนอกจากเอ็นเตอเทนเม็นท์คอมเพล็กซ์? …ลาสเวกัสและการพนันเสรีในสหรัฐ..ดูประเทศเขาตอนนี้สิ รัฐเนวาดาของสหรัฐอเมริกา ที่ตั้งของลาสเวกัส เมืองบ่อนการพนันที่ใหญ่ที่สุดในโลก พบว่าอัตราการฆ่า ตัวตายของรัฐฯ สูงที่สุดในอเมริกา อัตราการล้มละลายสูงถึงร้อยละ 50 หรือที่เมืองเดดวูด รัฐดาโกตา หลังจากให้เปิดคาสิโนเพียง 2 ปี พบการทารุณกรรมเด็กเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 การใช้ความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 อัตราการฆ่าตัวตายของสามี-ภรรยาที่เล่นพนันสม่ำยิ่งน่าตกใจ มันมากกว่าอัตราเฉลี่ยของทั้งประเทศถึง 150 เท่า!! ถ้ามีบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย ปัญหาเหล่านี้ของประเทศไทย ที่ทุกวันนี้ มีแต่ข่าว ลูกฆ่าพ่อ พ่อฆ่าลูก ผัวฆ่าเมีย แม่ฆ่ายกครัว เจ้าหนี้โหดทวงหนี้ฆ่ายกบ้าน จะเพิ่มขึ้นหรือไม่? (หรือทุกวันนี้ มันก็มีแฝงกับบ่อนเถื่อนต่างๆ อยู่แล้ว?) ปัจจุบันนี้ เรามีรัฐบาลแบบนี้ เรามีฝ่ายค้านแบบนี้ จะมีหรือไม่มีก็ได้ว่าไหม?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุดอนาถ รัฐบาล ฝ่ายค้าน ข้าราชการ ปล่อยต่างด้าวรุกรานไทย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    สุดอนาถ รัฐบาล ฝ่ายค้าน ข้าราชการ ปล่อยต่างด้าวรุกรานไทย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีฮาเวียร์ มิเลย์ของอาร์เจนตินากำลังเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล $LIBRA ซึ่งเขาเคยให้การสนับสนุนก่อนหน้านี้ โดยมูลค่ามันได้หายไปกว่า 4,500 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งใน “Rug pull” ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    จากการรายงานของสื่อ ระบุว่าเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Javier Milei โพสต์ข้อความสนับสนุนเหรียญคริปโตที่ชื่อว่า *Viva la Libertad Project – LIBRA* โดยพยายามเชิญชวนว่ามันเป็นโปรเจคส่วนตัวที่มุ่งส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจอาร์เจนตินา ผ่านการให้ทุนแก่ธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพในประเทศ ทำให้มูลค่าได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วทันที แต่กลับทรุดตัวแรงถึง 89% หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงที่มีการเทขายเหรียญออกมา ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตามตลาดเพียง $167 ล้านดอลลาร์ จากมูลค่าตลาดที่พุ่งทะลุ 4,500 ล้านดอลลาร์

    ต่อมา Milei ลบโพสต์เดิมบนแพลตฟอร์ม X ที่โปรโมตเหรียญ meme นี้ โดย Milei ยืนยันว่าเขาได้โพสต์การเปิดตัวครั้งนี้จริงๆ แต่ย้ำว่าไม่ใช่เหรียญ meme ส่วนตัวของเขา และเขาได้แจ้งในโพสต์ใหม่ว่า "ผมไม่ได้รับข้อมูลที่สมบูรณ์เกี่ยวกับโครงการนี้ก่อนโพสต์" และเขาไม่ต้องการสนับสนุนโปรเจกต์ดังกล่าวอีก

    แต่เหตุการณ์ไม่จบแค่นั้น ตอนนี้สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านกำลังเรียกร้องให้ถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเขาอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้

    นอกจากนี้ยังมีความเห็นว่า Milei กำลังฉวยโอกาสจากกระแสความนิยมของเหรียญ meme ของทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มาสร้างผลประโยชน์ให้กับตนเอง
    ประธานาธิบดีฮาเวียร์ มิเลย์ของอาร์เจนตินากำลังเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล $LIBRA ซึ่งเขาเคยให้การสนับสนุนก่อนหน้านี้ โดยมูลค่ามันได้หายไปกว่า 4,500 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งใน “Rug pull” ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ จากการรายงานของสื่อ ระบุว่าเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Javier Milei โพสต์ข้อความสนับสนุนเหรียญคริปโตที่ชื่อว่า *Viva la Libertad Project – LIBRA* โดยพยายามเชิญชวนว่ามันเป็นโปรเจคส่วนตัวที่มุ่งส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจอาร์เจนตินา ผ่านการให้ทุนแก่ธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพในประเทศ ทำให้มูลค่าได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วทันที แต่กลับทรุดตัวแรงถึง 89% หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงที่มีการเทขายเหรียญออกมา ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตามตลาดเพียง $167 ล้านดอลลาร์ จากมูลค่าตลาดที่พุ่งทะลุ 4,500 ล้านดอลลาร์ ต่อมา Milei ลบโพสต์เดิมบนแพลตฟอร์ม X ที่โปรโมตเหรียญ meme นี้ โดย Milei ยืนยันว่าเขาได้โพสต์การเปิดตัวครั้งนี้จริงๆ แต่ย้ำว่าไม่ใช่เหรียญ meme ส่วนตัวของเขา และเขาได้แจ้งในโพสต์ใหม่ว่า "ผมไม่ได้รับข้อมูลที่สมบูรณ์เกี่ยวกับโครงการนี้ก่อนโพสต์" และเขาไม่ต้องการสนับสนุนโปรเจกต์ดังกล่าวอีก แต่เหตุการณ์ไม่จบแค่นั้น ตอนนี้สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านกำลังเรียกร้องให้ถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเขาอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีความเห็นว่า Milei กำลังฉวยโอกาสจากกระแสความนิยมของเหรียญ meme ของทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มาสร้างผลประโยชน์ให้กับตนเอง
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • ป.ป.ช.ส่งข้อกล่าวหา 44 สส.อดีตก้าวไกล เสนอแก้ 112 ถึงมือแต่ละคนแล้ว กลางวันมาฆบูชา “โรม” พ้อไร้บทบัญญัติใดเสนอไม่ได้ ย้ำก่อนหาเสียงส่งกกต.แล้ว ลั่น ตลกร้ายเทียบ ป.ป.ช.วิ่งเต้นให้หลุดถอดถอน บอกยินดีกับ “สุชาติ” รู้เวลาเหลือไม่มากจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้ดีที่สุด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000015056

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ป.ป.ช.ส่งข้อกล่าวหา 44 สส.อดีตก้าวไกล เสนอแก้ 112 ถึงมือแต่ละคนแล้ว กลางวันมาฆบูชา “โรม” พ้อไร้บทบัญญัติใดเสนอไม่ได้ ย้ำก่อนหาเสียงส่งกกต.แล้ว ลั่น ตลกร้ายเทียบ ป.ป.ช.วิ่งเต้นให้หลุดถอดถอน บอกยินดีกับ “สุชาติ” รู้เวลาเหลือไม่มากจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้ดีที่สุด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000015056 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    28
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1164 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ ฝ่ายค้านโหลยโท่ย เลี้ยงเสียดินเนอร์ สงสัยเจ้าภาพเลี้ยงเกาเหลาหม้อไฟ
    #7ดอกจิก
    ♣ ฝ่ายค้านโหลยโท่ย เลี้ยงเสียดินเนอร์ สงสัยเจ้าภาพเลี้ยงเกาเหลาหม้อไฟ #7ดอกจิก
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ ไม่หนีสภา พร้อมเผชิญหน้าฝ่ายค้าน 'เท้ง' เมินถูกฟ้องปิดปาก
    .
    วันอภิปรายไม่ไว้วางใจใกล้เข้ามาทุกที ทำให้ความเคลื่อนไหวทางการเมืองเข้มข้นถึงทุกขณะ ซึ่งล่าสุดน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ยืนยันว่า จะเดินทางไปที่รัฐสภาเพื่อตอบชี้แจงการอภิปรายของฝ่ายค้านด้วยตัวเอง พร้อมกับระบุว่ายังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีในห้วงเวลานี้
    .
    “โอ๊ย ดิฉันพร้อมตอบทุกเรื่อง เป็นนายกฯต้องพร้อมตอบทุกเรื่อง” นายกฯตอบคำถามผู้สื่อข่าว
    .
    สำหรับการปรับครม. นายกฯ ระบุว่า “มีโผออกมาว่ายังไง โผเป็นทางการดิฉันเซ็นหรือเปล่า ถ้ายังไม่เซ็นก็ไม่ใช่โผ”
    .
    ด้าน นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ในช่วงสมัยประชุมจะต้องมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ครั้งนี้จะมีการยื่นและอภิปลายในช่วงปลายเดือนก.พ.68 ส่วนในระยะเวลาที่ของยื่นอภิปราย 5 วัน จะต้องตกลงระหว่างวิปทั้ง 2 ฝ่ายขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับวิปทั้ง3ฝ่าย แต่คงจะต้องพูดคุยกัน
    .
    “หากมีประเด็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย เราจะต้องตอบ แต่หากพาดพิงไปในส่วนบุคคล ก็เป็นหน้าที่ของนายทักษิณเองในการฟ้องร้องซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องรับฟังว่าประเด็นหรือข้อมูลของฝ่ายค้านที่จะหยิบยกขึ้นอภิปรายนั้น มีอะไรบ้าง” นายสรวศ์ ย้ำ
    .
    นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า ไม่มีข้อกังวล เพราะการอภิปรายในสภาได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง พวกเราคงทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการเตรียมทีมอภิปรายไว้ค่อนข้างครบครัน และจากการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเมื่อวานก่อน ตอนนี้รอเรื่องการจัดสรรเวลา
    ..............
    Sondhi X
    นายกฯ ไม่หนีสภา พร้อมเผชิญหน้าฝ่ายค้าน 'เท้ง' เมินถูกฟ้องปิดปาก . วันอภิปรายไม่ไว้วางใจใกล้เข้ามาทุกที ทำให้ความเคลื่อนไหวทางการเมืองเข้มข้นถึงทุกขณะ ซึ่งล่าสุดน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ยืนยันว่า จะเดินทางไปที่รัฐสภาเพื่อตอบชี้แจงการอภิปรายของฝ่ายค้านด้วยตัวเอง พร้อมกับระบุว่ายังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีในห้วงเวลานี้ . “โอ๊ย ดิฉันพร้อมตอบทุกเรื่อง เป็นนายกฯต้องพร้อมตอบทุกเรื่อง” นายกฯตอบคำถามผู้สื่อข่าว . สำหรับการปรับครม. นายกฯ ระบุว่า “มีโผออกมาว่ายังไง โผเป็นทางการดิฉันเซ็นหรือเปล่า ถ้ายังไม่เซ็นก็ไม่ใช่โผ” . ด้าน นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ในช่วงสมัยประชุมจะต้องมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ครั้งนี้จะมีการยื่นและอภิปลายในช่วงปลายเดือนก.พ.68 ส่วนในระยะเวลาที่ของยื่นอภิปราย 5 วัน จะต้องตกลงระหว่างวิปทั้ง 2 ฝ่ายขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับวิปทั้ง3ฝ่าย แต่คงจะต้องพูดคุยกัน . “หากมีประเด็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย เราจะต้องตอบ แต่หากพาดพิงไปในส่วนบุคคล ก็เป็นหน้าที่ของนายทักษิณเองในการฟ้องร้องซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องรับฟังว่าประเด็นหรือข้อมูลของฝ่ายค้านที่จะหยิบยกขึ้นอภิปรายนั้น มีอะไรบ้าง” นายสรวศ์ ย้ำ . นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า ไม่มีข้อกังวล เพราะการอภิปรายในสภาได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง พวกเราคงทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการเตรียมทีมอภิปรายไว้ค่อนข้างครบครัน และจากการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเมื่อวานก่อน ตอนนี้รอเรื่องการจัดสรรเวลา .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2028 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเมืองโรมาเนียวุ่นหนัก!

    เคลาส์ โลฮันนิส (Klaus Iohannis) ประธานาธิบดีโรมาเนียประกาศลาออกจากตำแหน่ง โดยจะมีผลในวันพุธนี้ ก่อนจะถูกยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่งโดยพรรคฝ่ายค้าน และถูกกดดันจากประชาชนที่ออกมาชุมนุมประท้วงรัฐบาลอย่างหนักเพื่อให้จัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด

    วาระการดำรงตำแหน่งของ Iohannis สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2024 แต่เขายังคงครองอำนาจต่อ หลังจากศาลสูงโรมาเนียตัดสินให้ผลการเลือกตั้งรอบแรกเป็นโมฆะเนื่องจากสงสัยว่ามี "การแทรกแซงของรัสเซีย" ซึ่งในครั้งนั้น คาลิน จอร์เจสคู (Călin Georgescu) ได้คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่ง

    จอร์เจสคู ผู้สมัครชิงชัยประธานาธิบดี มีแนวคิดชาตินิยมที่ชื่นชมประธานาธิบดีปูติน และมักจะวิจารณ์อิทธิพลตะวันตกที่ครอบงำโรมาเนีย ได้รับการสนับสนุนอย่างมากมายทางออนไลน์จากประชาชนชาวโรมาเนียรุ่นใหม่ การก้าวขึ้นมาของเขาอาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับโรมาเนีย ซึ่งสร้างความวิตกกังวลให้กับนาโต้อย่างมาก เนื่องจากโรมาเนียคือฐานกำลังหลักของนาโต้ที่คอยส่งอาวุธช่วยยูเครน และกดดันรัสเซียแถบทิศทางตะวันตก

    การเมืองโรมาเนียวุ่นหนัก! เคลาส์ โลฮันนิส (Klaus Iohannis) ประธานาธิบดีโรมาเนียประกาศลาออกจากตำแหน่ง โดยจะมีผลในวันพุธนี้ ก่อนจะถูกยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่งโดยพรรคฝ่ายค้าน และถูกกดดันจากประชาชนที่ออกมาชุมนุมประท้วงรัฐบาลอย่างหนักเพื่อให้จัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด วาระการดำรงตำแหน่งของ Iohannis สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2024 แต่เขายังคงครองอำนาจต่อ หลังจากศาลสูงโรมาเนียตัดสินให้ผลการเลือกตั้งรอบแรกเป็นโมฆะเนื่องจากสงสัยว่ามี "การแทรกแซงของรัสเซีย" ซึ่งในครั้งนั้น คาลิน จอร์เจสคู (Călin Georgescu) ได้คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่ง จอร์เจสคู ผู้สมัครชิงชัยประธานาธิบดี มีแนวคิดชาตินิยมที่ชื่นชมประธานาธิบดีปูติน และมักจะวิจารณ์อิทธิพลตะวันตกที่ครอบงำโรมาเนีย ได้รับการสนับสนุนอย่างมากมายทางออนไลน์จากประชาชนชาวโรมาเนียรุ่นใหม่ การก้าวขึ้นมาของเขาอาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับโรมาเนีย ซึ่งสร้างความวิตกกังวลให้กับนาโต้อย่างมาก เนื่องจากโรมาเนียคือฐานกำลังหลักของนาโต้ที่คอยส่งอาวุธช่วยยูเครน และกดดันรัสเซียแถบทิศทางตะวันตก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ รัฐบาลไทยก็อยากให้ รัฐบาลเขมรก็อยากได้ ฝ่ายค้านเขมรก็จะเอา สรุปคนไทยไว้ใจใครไม่ได้เลย แม้แต่คนไทยด้วยกันเอง
    #7ดอกจิก
    ♣ รัฐบาลไทยก็อยากให้ รัฐบาลเขมรก็อยากได้ ฝ่ายค้านเขมรก็จะเอา สรุปคนไทยไว้ใจใครไม่ได้เลย แม้แต่คนไทยด้วยกันเอง #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • องค์กรเฝ้าระวังการเลือกตั้งระหว่างประเทศเรียกร้องประชาคมโลกให้ปฏิเสธการสนับสนุนการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของรัฐบาลทหารพม่า

    สถาบันระหว่างประเทศเพื่อความช่วยเหลือด้านประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง (International IDEA) เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (ANFREL) และสโมสรคลับ เดอ มาดริด (Club de Madrid) ได้ออกคำแถลงร่วมโดยย้ำถึงความกังวลที่เคยกล่าวถึงครั้งแรกในคำประกาศปี 2566 ในการปฏิเสธการเลือกตั้งที่นำโดยรัฐบาลทหาร โดยมองว่าเป็นความพยายามที่จะรักษาอำนาจการปกครองของตนเองไว้มากกว่าที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตย

    กลุ่มกล่าวว่าการเลือกตั้งที่แท้จริงในพม่านั้นจะเป็นไปไม่ได้ภายใต้เงื่อนไขปัจจุบัน ที่พรรคฝ่ายค้านถูกห้ามมีส่วนร่วม ผู้นำทางการเมืองและนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยถูกจำคุก และเสรีภาพของสื่อถูกปิดกั้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000013060

    #MGROnline #รัฐบาลทหารพม่า
    องค์กรเฝ้าระวังการเลือกตั้งระหว่างประเทศเรียกร้องประชาคมโลกให้ปฏิเสธการสนับสนุนการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของรัฐบาลทหารพม่า • สถาบันระหว่างประเทศเพื่อความช่วยเหลือด้านประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง (International IDEA) เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (ANFREL) และสโมสรคลับ เดอ มาดริด (Club de Madrid) ได้ออกคำแถลงร่วมโดยย้ำถึงความกังวลที่เคยกล่าวถึงครั้งแรกในคำประกาศปี 2566 ในการปฏิเสธการเลือกตั้งที่นำโดยรัฐบาลทหาร โดยมองว่าเป็นความพยายามที่จะรักษาอำนาจการปกครองของตนเองไว้มากกว่าที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตย • กลุ่มกล่าวว่าการเลือกตั้งที่แท้จริงในพม่านั้นจะเป็นไปไม่ได้ภายใต้เงื่อนไขปัจจุบัน ที่พรรคฝ่ายค้านถูกห้ามมีส่วนร่วม ผู้นำทางการเมืองและนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยถูกจำคุก และเสรีภาพของสื่อถูกปิดกั้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000013060 • #MGROnline #รัฐบาลทหารพม่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดสาเหตุ USAID จากเงินภาษีสหรัฐฯ กลายเป็นแหล่งทุนของความวุ่นวายทั่วโลก

    ตั้งแต่ปี 2000 เครือข่ายเอ็นจีโอขนาดใหญ่ของจอร์จ โซรอส ใช้เงินไปกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปกับกิจกรรมเสรีนิยมสุดโต่งทั่วโลก ซึ่งผู้สังเกตการณ์คาดว่า เงินภาษีของสหรัฐฯ หลายสิบล้านหรืออาจถึงพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อาจถูกโอนผ่าน USAID

    สถาบันการจัดการตะวันออก-ตะวันตกซึ่งมีความเชื่อมโยงกับโซรอสได้รับเงินกว่า 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก USAID เพื่อใช้ในการมีอิทธิพลต่อกิจการต่างประเทศในจอร์เจีย ยูกันดา แอลเบเนีย และเซอร์เบีย

    ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตของยูเครนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโซรอส เริ่มได้รับเงินช่วยเหลือจาก USAID ในปี 2014 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เกิดการรัฐประหารยูโรไมดานในยูเครน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ทำให้วิกเตอร์ ยานูโควิช ประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งต้องออกจากตำแหน่งด้วยการสนับสนุนจาก USAID ที่โอนเงินกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปยังศูนย์ดังกล่าว

    อีกด้านหนึ่ง ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว (2024) มีการกล่าวหาว่ากลุ่ม USAID, IRI และกลุ่มที่เชื่อมโยงกับโซรอส ก่อรัฐประหารต่อนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศ ชีค ฮาซินา โดยผู้สืบทอดตำแหน่งของเธอ มูฮัมหมัด ยูนุส เป็นที่รู้จักในฐานะพันธมิตรของคลินตันและโซรอส ตามรายงานของ The Grayzone เงินภาษีของสหรัฐฯ นำไปใช้สนับสนุนแร็ปเปอร์ นักเคลื่อนไหวข้ามเพศ และกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศ เพื่อสร้าง "การเปลี่ยนแปลงอำนาจ"

    มีรายงานว่า โซรอสและ USAID พยายามโค่นล้มวิกเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการีมาเป็นเวลานานแล้ว หลังออร์บานต่อต้านมหาเศรษฐีโลกาภิวัตน์ผู้นี้มาอย่างแข็งขันตั้งแต่ปี 2017 ในระหว่างการเลือกตั้งปี 2022 องค์กรพัฒนาเอกชน Action for Democracy ซึ่งเชื่อมโยงกับโซรอส ได้บริจาคเงิน 7.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับฝ่ายค้านของออร์บาน

    ส่วนในสหรัฐฯ กลุ่มที่เชื่อมโยงกับโซรอสซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก USAID เป็นผู้นำในการต่อต้านโดนัลด์ ทรัมป์ในช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งปี 2020 ผ่านการประท้วง Black Lives Matter และทำงานเพื่อพลิกสถานการณ์ในรัฐที่เป็นสมรภูมิรบในปี 2020–2021

    โซรอสจัดหาเงินทุนให้กับ Electoral Justice Project ซึ่งเป็นความพยายามระดมผู้มีสิทธิเลือกตั้งของ Black Lives Matter และบริจาคเงิน 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับ Tides Advocacy ซึ่งสนับสนุนการประท้วงทั่วประเทศก่อนการเลือกตั้งของ Black Lives Matter Global Network Foundation เพื่อต่อต้านทรัมป์ในปี 2020
    ขณะเดียวกัน USAID และโซรอสถูกกล่าวหาว่าใช้เงิน 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการดำเนินคดีต่อต้านทรัมป์ ตามที่ไมค์ เบนซ์ ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวกล่าวอ้าง นอกจากนี้ อัลวิน แบร็ก อัยการแมนฮัตตันยังถูกกล่าวหาว่าถูกโซรอส “ซื้อ” อีกด้วย

    https://www.imctnews.com/news_details-news-6608.html
    เปิดสาเหตุ USAID จากเงินภาษีสหรัฐฯ กลายเป็นแหล่งทุนของความวุ่นวายทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2000 เครือข่ายเอ็นจีโอขนาดใหญ่ของจอร์จ โซรอส ใช้เงินไปกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปกับกิจกรรมเสรีนิยมสุดโต่งทั่วโลก ซึ่งผู้สังเกตการณ์คาดว่า เงินภาษีของสหรัฐฯ หลายสิบล้านหรืออาจถึงพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อาจถูกโอนผ่าน USAID สถาบันการจัดการตะวันออก-ตะวันตกซึ่งมีความเชื่อมโยงกับโซรอสได้รับเงินกว่า 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก USAID เพื่อใช้ในการมีอิทธิพลต่อกิจการต่างประเทศในจอร์เจีย ยูกันดา แอลเบเนีย และเซอร์เบีย ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตของยูเครนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโซรอส เริ่มได้รับเงินช่วยเหลือจาก USAID ในปี 2014 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เกิดการรัฐประหารยูโรไมดานในยูเครน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ทำให้วิกเตอร์ ยานูโควิช ประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งต้องออกจากตำแหน่งด้วยการสนับสนุนจาก USAID ที่โอนเงินกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปยังศูนย์ดังกล่าว อีกด้านหนึ่ง ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว (2024) มีการกล่าวหาว่ากลุ่ม USAID, IRI และกลุ่มที่เชื่อมโยงกับโซรอส ก่อรัฐประหารต่อนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศ ชีค ฮาซินา โดยผู้สืบทอดตำแหน่งของเธอ มูฮัมหมัด ยูนุส เป็นที่รู้จักในฐานะพันธมิตรของคลินตันและโซรอส ตามรายงานของ The Grayzone เงินภาษีของสหรัฐฯ นำไปใช้สนับสนุนแร็ปเปอร์ นักเคลื่อนไหวข้ามเพศ และกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศ เพื่อสร้าง "การเปลี่ยนแปลงอำนาจ" มีรายงานว่า โซรอสและ USAID พยายามโค่นล้มวิกเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการีมาเป็นเวลานานแล้ว หลังออร์บานต่อต้านมหาเศรษฐีโลกาภิวัตน์ผู้นี้มาอย่างแข็งขันตั้งแต่ปี 2017 ในระหว่างการเลือกตั้งปี 2022 องค์กรพัฒนาเอกชน Action for Democracy ซึ่งเชื่อมโยงกับโซรอส ได้บริจาคเงิน 7.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับฝ่ายค้านของออร์บาน ส่วนในสหรัฐฯ กลุ่มที่เชื่อมโยงกับโซรอสซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก USAID เป็นผู้นำในการต่อต้านโดนัลด์ ทรัมป์ในช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งปี 2020 ผ่านการประท้วง Black Lives Matter และทำงานเพื่อพลิกสถานการณ์ในรัฐที่เป็นสมรภูมิรบในปี 2020–2021 โซรอสจัดหาเงินทุนให้กับ Electoral Justice Project ซึ่งเป็นความพยายามระดมผู้มีสิทธิเลือกตั้งของ Black Lives Matter และบริจาคเงิน 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับ Tides Advocacy ซึ่งสนับสนุนการประท้วงทั่วประเทศก่อนการเลือกตั้งของ Black Lives Matter Global Network Foundation เพื่อต่อต้านทรัมป์ในปี 2020 ขณะเดียวกัน USAID และโซรอสถูกกล่าวหาว่าใช้เงิน 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการดำเนินคดีต่อต้านทรัมป์ ตามที่ไมค์ เบนซ์ ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวกล่าวอ้าง นอกจากนี้ อัลวิน แบร็ก อัยการแมนฮัตตันยังถูกกล่าวหาว่าถูกโซรอส “ซื้อ” อีกด้วย https://www.imctnews.com/news_details-news-6608.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • ”ปู“เน่าตัวเดียว เหม็นทั้งประเทศ

    จีน-ไต้หวันประโคมข่าวใหญ่ ’สส.ฝ่ายค้านไทย‘ ข่มขืนนักท่องเที่ยวไต้หวัน ..เรื่องชั่วส่วนตัว กำลังกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทบการท่องเที่ยวที่ช่วยกันฟื้นฟู
    .
    พรรคไหนถือหางได้ถือไป แต่ไม่ใช่กับพรรครทสช. เราไม่ทน.. ขอให้ปูอัดออกไป ลาออกจากเอกสิทธิ์ สส.ไปพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม ก่อนประเทศเสียหายกว่านี้
    .
    ผมเสนอให้สภามีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส ไม่ให้มีการใช้อิทธิพลพรรคใหญ่เข้าแทรกแซง ..พร้อมทั้งเยียวยาเหยื่อ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

    https://www.facebook.com/share/p/12C1wpCkBZw/
    ”ปู“เน่าตัวเดียว เหม็นทั้งประเทศ จีน-ไต้หวันประโคมข่าวใหญ่ ’สส.ฝ่ายค้านไทย‘ ข่มขืนนักท่องเที่ยวไต้หวัน ..เรื่องชั่วส่วนตัว กำลังกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทบการท่องเที่ยวที่ช่วยกันฟื้นฟู . พรรคไหนถือหางได้ถือไป แต่ไม่ใช่กับพรรครทสช. เราไม่ทน.. ขอให้ปูอัดออกไป ลาออกจากเอกสิทธิ์ สส.ไปพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม ก่อนประเทศเสียหายกว่านี้ . ผมเสนอให้สภามีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส ไม่ให้มีการใช้อิทธิพลพรรคใหญ่เข้าแทรกแซง ..พร้อมทั้งเยียวยาเหยื่อ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ https://www.facebook.com/share/p/12C1wpCkBZw/
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดินเนอร์ฝ่ายค้านคึกคัก แกนนำตบเข้าร่วม ไร้เงา “สส.ปูอัด” แม้แต่ป้ายชื่อ “ไทยก้าวหน้า” ยังไม่มี ขณะ “เสรีพิศุทธ์” โผล่ยื่นหนังสือ-มีเก้าอี้ร่วมแถลงข่าวครบ แม้ไม่ได้เป็นฝ่ายค้าน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000012592

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ดินเนอร์ฝ่ายค้านคึกคัก แกนนำตบเข้าร่วม ไร้เงา “สส.ปูอัด” แม้แต่ป้ายชื่อ “ไทยก้าวหน้า” ยังไม่มี ขณะ “เสรีพิศุทธ์” โผล่ยื่นหนังสือ-มีเก้าอี้ร่วมแถลงข่าวครบ แม้ไม่ได้เป็นฝ่ายค้าน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000012592 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 959 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชูความเป็นซอฟต์เพาวเวอร์
    แต่ทั้งตัวนางมีแต่แบรนด์เนม
    ตอแถเต็ม100 ผลงานเป็น 0
    วันๆมีแต่ความเสื่อมถอยลงเหว
    เราอยู่ในยุค
    รัฐบาลก็ห่วย ฝ่ายค้านก็โหลยโท่ย
    อนาถใจไทยเฮา ทนเอาประชาชี
    มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    ชูความเป็นซอฟต์เพาวเวอร์ แต่ทั้งตัวนางมีแต่แบรนด์เนม ตอแถเต็ม100 ผลงานเป็น 0 วันๆมีแต่ความเสื่อมถอยลงเหว เราอยู่ในยุค รัฐบาลก็ห่วย ฝ่ายค้านก็โหลยโท่ย อนาถใจไทยเฮา ทนเอาประชาชี มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซีเรีย ในยุคการปกครองของอัสซาด คืออีกหนึ่งประเทศที่เป็น "เหยื่อ" ของการบ่อนทำลาย โดยการสนับสนุนเงินทุนจาก USAID ครั้งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 21 และในครั้งนี้ พวกเขาประสบความสำเร็จ

    USAID ทุ่มเงิน 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าซีเรียเพื่อโค่นล้มอัสซาด

    “เอ็นจีโอถูกใช้เพื่อก่อความไม่สงบในซีเรีย พวกเขาแสร้งทำเป็นให้ความช่วยเหลือ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ”
    — บาชาร์ อัล-อัสซาด เคยกล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2018

    เป็นเวลากว่าทศวรรษที่ USAID, NED และเอ็นจีโอที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกมีบทบาทสำคัญในสงครามซีเรีย โดยให้เงินทุนแก่กลุ่มฝ่ายค้าน ผลิตโฆษณาชวนเชื่อ และดำเนินการข่าวกรองภายใต้ข้ออ้างของ “ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและพัฒนาประชาธิปไตย” ในปี 2024 หลังจากหลายปีของการโค่นล้ม การคว่ำบาตร และแรงกดดันทางทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก ในที่สุดอัสซาดก็ถูกโค่นล้ม

    .

    "เอ็นจีโอ" แท้จริงแล้วคืออาวุธของ USAID

    USAID:
    • ทุ่มเงินกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าไปในซีเรีย โดยการให้เงินทุนลับแก่เครือข่ายฝ่ายค้านเพื่อใช้ในปฏิบัติการต่อต้านรัฐบาล
    • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มหมวกขาว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกเปิดโปงว่าร่วมมือกับอัลกออิดะห์และจัดฉากวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อเพื่อพิสูจน์ว่าสหรัฐฯ เข้าแทรกแซง
    • ให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์แก่กลุ่มฝ่ายค้านในต่างแดน ช่วยสร้างรัฐบาลเงาที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ

    .
    มูลนิธิ National Endowment for Democracy (NED) – “ภาคประชาสังคม” เป็นเครื่องมือในการปกปิดความไม่มั่นคง:

    • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ Barada TV ซึ่งเป็นสื่อฝ่ายค้านที่มีฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อในการต่อต้านรัฐบาลอัสซาด
    • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ NGO ที่สนับสนุนประชาธิปไตย ซึ่งต่อมาได้จัดสรรทรัพยากรให้แก่กลุ่มญิฮาด รวมถึงกองทัพซีเรียเสรี (FSA)
    • ให้การสนับสนุนนักเคลื่อนไหวชาวซีเรียในต่างแดน เพื่อเตรียมพวกเขาให้พร้อมที่จะยึดอำนาจเมื่ออัสซาดถูกปลดออกจากอำนาจ

    .
    มูลนิธิ Open Society Foundations (OSF) โซรอสในซีเรีย:
    • เผยแพร่เรื่องราวต่อต้านอัสซาดในสื่อระดับโลก โดยบรรยายถึงสงครามว่าเป็นการลุกฮือจากความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่ออัสซาด มากกว่าการรัฐประหารที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก
    • ประสานงานกับกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในความพยายามเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง
    • เรียกร้องให้มีนโยบายการอพยพระหว่างประเทศจำนวนมากซึ่งกดดันให้ประเทศต่างๆ ในยุโรปยอมรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียหลายล้านคน ซึ่งเป็นวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตรงจากสงครามที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ

    .
    ที่ผ่านมาอัสซาดพยายามต่อต้านอย่างหนัก แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ เขาก็ถูกโค่นล้มไปก่อน:

    ✅ 2014 – ขับไล่ NGO ที่ได้รับการสนับสนุนจาก USAID ออกไปหลังจากเปิดเผยความสัมพันธ์ทางการเงินของพวกเขาต่อกลุ่มกบฏ
    ✅ 2016 – เปิดเผยความร่วมมือระหว่างกลุ่ม White Helmets กับกลุ่มญิฮาด พร้อมเตือนถึงข้อมูลเท็จที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก
    ✅ 2018 – กล่าวหากระทรวงต่างประเทศของอังกฤษและ USAID ต่อสาธารณะว่าให้ทุนสนับสนุนปฏิบัติการโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านรัฐบาล
    ✅ 2023 – บรรลุข้อตกลงการฟื้นฟูหลังสงครามกับรัสเซียและจีนเพื่อลดอิทธิพลของตะวันตก

    แม้อัสซาดจะมีความพยายามมากเพียงใด แต่ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับสหรัฐฯ และพันธมิตรที่ไม่เคยละทิ้งภารกิจในการโค่นล้มอัสซาด

    ซีเรีย ในยุคการปกครองของอัสซาด คืออีกหนึ่งประเทศที่เป็น "เหยื่อ" ของการบ่อนทำลาย โดยการสนับสนุนเงินทุนจาก USAID ครั้งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 21 และในครั้งนี้ พวกเขาประสบความสำเร็จ USAID ทุ่มเงิน 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าซีเรียเพื่อโค่นล้มอัสซาด “เอ็นจีโอถูกใช้เพื่อก่อความไม่สงบในซีเรีย พวกเขาแสร้งทำเป็นให้ความช่วยเหลือ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ” — บาชาร์ อัล-อัสซาด เคยกล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2018 เป็นเวลากว่าทศวรรษที่ USAID, NED และเอ็นจีโอที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกมีบทบาทสำคัญในสงครามซีเรีย โดยให้เงินทุนแก่กลุ่มฝ่ายค้าน ผลิตโฆษณาชวนเชื่อ และดำเนินการข่าวกรองภายใต้ข้ออ้างของ “ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและพัฒนาประชาธิปไตย” ในปี 2024 หลังจากหลายปีของการโค่นล้ม การคว่ำบาตร และแรงกดดันทางทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก ในที่สุดอัสซาดก็ถูกโค่นล้ม . "เอ็นจีโอ" แท้จริงแล้วคืออาวุธของ USAID USAID: • ทุ่มเงินกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าไปในซีเรีย โดยการให้เงินทุนลับแก่เครือข่ายฝ่ายค้านเพื่อใช้ในปฏิบัติการต่อต้านรัฐบาล • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มหมวกขาว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกเปิดโปงว่าร่วมมือกับอัลกออิดะห์และจัดฉากวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อเพื่อพิสูจน์ว่าสหรัฐฯ เข้าแทรกแซง • ให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์แก่กลุ่มฝ่ายค้านในต่างแดน ช่วยสร้างรัฐบาลเงาที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ . มูลนิธิ National Endowment for Democracy (NED) – “ภาคประชาสังคม” เป็นเครื่องมือในการปกปิดความไม่มั่นคง: • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ Barada TV ซึ่งเป็นสื่อฝ่ายค้านที่มีฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อในการต่อต้านรัฐบาลอัสซาด • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ NGO ที่สนับสนุนประชาธิปไตย ซึ่งต่อมาได้จัดสรรทรัพยากรให้แก่กลุ่มญิฮาด รวมถึงกองทัพซีเรียเสรี (FSA) • ให้การสนับสนุนนักเคลื่อนไหวชาวซีเรียในต่างแดน เพื่อเตรียมพวกเขาให้พร้อมที่จะยึดอำนาจเมื่ออัสซาดถูกปลดออกจากอำนาจ . มูลนิธิ Open Society Foundations (OSF) โซรอสในซีเรีย: • เผยแพร่เรื่องราวต่อต้านอัสซาดในสื่อระดับโลก โดยบรรยายถึงสงครามว่าเป็นการลุกฮือจากความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่ออัสซาด มากกว่าการรัฐประหารที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก • ประสานงานกับกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในความพยายามเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง • เรียกร้องให้มีนโยบายการอพยพระหว่างประเทศจำนวนมากซึ่งกดดันให้ประเทศต่างๆ ในยุโรปยอมรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียหลายล้านคน ซึ่งเป็นวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตรงจากสงครามที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ . ที่ผ่านมาอัสซาดพยายามต่อต้านอย่างหนัก แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ เขาก็ถูกโค่นล้มไปก่อน: ✅ 2014 – ขับไล่ NGO ที่ได้รับการสนับสนุนจาก USAID ออกไปหลังจากเปิดเผยความสัมพันธ์ทางการเงินของพวกเขาต่อกลุ่มกบฏ ✅ 2016 – เปิดเผยความร่วมมือระหว่างกลุ่ม White Helmets กับกลุ่มญิฮาด พร้อมเตือนถึงข้อมูลเท็จที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก ✅ 2018 – กล่าวหากระทรวงต่างประเทศของอังกฤษและ USAID ต่อสาธารณะว่าให้ทุนสนับสนุนปฏิบัติการโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านรัฐบาล ✅ 2023 – บรรลุข้อตกลงการฟื้นฟูหลังสงครามกับรัสเซียและจีนเพื่อลดอิทธิพลของตะวันตก แม้อัสซาดจะมีความพยายามมากเพียงใด แต่ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับสหรัฐฯ และพันธมิตรที่ไม่เคยละทิ้งภารกิจในการโค่นล้มอัสซาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 385 มุมมอง 0 รีวิว
  • USAID จัดสรรเงิน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับสื่อเพื่อรายงานเนื้อหาต่อต้านรัสเซีย และ 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับ ฮวน กุยโด อดีตผู้นำฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา:

    นี่เป็นเพียงสองตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด:
    สำหรับรัสเซีย USAID ได้มอบเงินสนับสนุนประมาณ 598 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2020 เพียงปีเดียว เพื่อจ่ายให้กับ "สื่อ" เพื่อรายงานข่าวต่อต้านรัสเซียและสนับสนุนอเมริกา

    เพื่อโค่นล้มประธานาธิบดีมาดูโรของเวเนซุเอลา และหวังผลประโยชน์จากแหล่งน้ำมันสำรอง USAID ได้ลงนามในข้อตกลงกับกุยโด ผู้นำฝ่ายค้านที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ เมื่อเดือนตุลาคม 2019 โดย USAID จะสนับสนุนกุยโดในการโค่นล้มรัฐบาลของมาดูโรด้วยเงิน 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    RT News รายงาน
    USAID จัดสรรเงิน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับสื่อเพื่อรายงานเนื้อหาต่อต้านรัสเซีย และ 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับ ฮวน กุยโด อดีตผู้นำฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา: นี่เป็นเพียงสองตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด: สำหรับรัสเซีย USAID ได้มอบเงินสนับสนุนประมาณ 598 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2020 เพียงปีเดียว เพื่อจ่ายให้กับ "สื่อ" เพื่อรายงานข่าวต่อต้านรัสเซียและสนับสนุนอเมริกา เพื่อโค่นล้มประธานาธิบดีมาดูโรของเวเนซุเอลา และหวังผลประโยชน์จากแหล่งน้ำมันสำรอง USAID ได้ลงนามในข้อตกลงกับกุยโด ผู้นำฝ่ายค้านที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ เมื่อเดือนตุลาคม 2019 โดย USAID จะสนับสนุนกุยโดในการโค่นล้มรัฐบาลของมาดูโรด้วยเงิน 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ RT News รายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทรัมป์ฟันฉับ! ตัดงบ USAID ทุบเครือข่าย Soros – สื่อฝ่ายค้านฮังการีสะดุ้ง!"

    เนื้อข่าว:
    สื่อต่อต้านรัฐบาลฮังการีกำลังร้อนเป็นไฟ หลังอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศจาก USAID และสถานทูตสหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้เงินทุนที่เคยไหลเข้ากลุ่ม NGO และสื่อฮังการีที่เชื่อมโยงกับมหาเศรษฐี George Soros ต้องหยุดชะงัก สะท้อนให้เห็นว่าความ "อิสระ" ของพวกเขาอาจไม่ได้อยู่ที่อุดมการณ์…แต่อยู่ที่งบหนุนจากต่างชาติ

    "Soros หมดฤทธิ์! เมื่อเงินหนุนฝ่ายค้านฮังการีถูกตัดขาด"

    Balázs Orbán ผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองของนายกรัฐมนตรีฮังการี ได้แฉว่าหนึ่งในสื่อฝ่ายค้านรายใหญ่ของประเทศไม่พอใจอย่างหนัก หลังสูญเสียแหล่งทุนสนับสนุนจากสหรัฐฯ พร้อมตั้งคำถามว่า "สื่อที่ต้องพึ่งพาเงินจากรัฐบาลต่างชาติ จะเรียกว่าอิสระได้อย่างไร?"

    ด้าน Elon Musk นักธุรกิจพันล้านและที่ปรึกษาคนสนิทของทรัมป์ รีโพสต์ข้อความของ Orbán พร้อมซัดแรงว่า "ฝ่ายซ้ายสุดโต่งของสหรัฐฯ ใช้เงินภาษีของประชาชนเพื่ออุ้มพรรคการเมืองและสื่อฝ่ายซ้ายทั่วโลก!" ทำให้โพสต์นี้กลายเป็นกระแสร้อนในโลกออนไลน์

    "เครือข่าย Soros สะเทือน! USAID โดนทรัมป์เชือด"

    คำสั่งของทรัมป์ไม่ได้กระทบแค่สื่อฝ่ายค้าน แต่ยังส่งผลไปถึง NGO ฮังการีที่มีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของ George Soros ซึ่งเป็นผู้ให้ทุนสนับสนุนหลักผ่าน USAID และสถานทูตสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ David Pressman

    ก่อนหน้านี้ ในวันเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ สถานทูตสหรัฐฯ ที่บูดาเปสต์เคยประกาศแจกจ่ายงบกว่า 200 ล้านฟอรินต์ (ประมาณ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ให้กับกลุ่มสื่อและ NGO ผ่านโครงการ Free Media Tender ซึ่งขณะนี้ถูกสั่งระงับ สื่อที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้แก่ 444, Jelen, G7, Magyar Hang และ Transparency International
    Mérték Media Monitor ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลโครงการนี้ยืนยันว่า "ใช่ โครงการนี้ถูกระงับแล้ว ตอนนี้เราได้แต่รอ ไม่มีการทำสัญญาหรือรับเงินเพิ่มเติม"

    "ตัดท่อน้ำเลี้ยง! สื่อและ NGO ในเครือข่าย Soros โดนเท"

    การระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศครั้งนี้ถือเป็นหมัดหนักที่โจมตีเครือข่ายของ Soros ซึ่งถูกวิจารณ์ว่ามีบทบาทสำคัญในการใช้เงินทุนเพื่อผลักดันแนวคิดเสรีนิยมทั่วโลก ทรัมป์เคยเตือนหลายครั้งว่า USAID ไม่ได้ทำหน้าที่ช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเครื่องมือแทรกแซงทางการเมืองของฝ่ายซ้าย

    "ตัดเงินสนับสนุน = เปิดโปงความจริง!" ฝ่ายสนับสนุนทรัมป์มองว่านี่คือการคืนความโปร่งใสให้กับนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ และลดการใช้เงินภาษีอุ้มกลุ่มการเมืองต่างชาติ ขณะที่ฝ่ายค้านฮังการีและ NGO ที่เคยได้รับทุนต่างออกมาโวยวายว่าการตัดงบนี้คือการทำลาย "ประชาธิปไตย"

    อย่างไรก็ตาม คำถามที่ชัดเจนขึ้นก็คือ "ถ้าต้องพึ่งเงิน Soros และรัฐบาลสหรัฐฯ มาตลอด... ยังกล้าเรียกตัวเองว่าสื่ออิสระหรือ?"

    .
    https://web.facebook.com/share/p/1WpNbXhfxE/
    "ทรัมป์ฟันฉับ! ตัดงบ USAID ทุบเครือข่าย Soros – สื่อฝ่ายค้านฮังการีสะดุ้ง!" เนื้อข่าว: สื่อต่อต้านรัฐบาลฮังการีกำลังร้อนเป็นไฟ หลังอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศจาก USAID และสถานทูตสหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้เงินทุนที่เคยไหลเข้ากลุ่ม NGO และสื่อฮังการีที่เชื่อมโยงกับมหาเศรษฐี George Soros ต้องหยุดชะงัก สะท้อนให้เห็นว่าความ "อิสระ" ของพวกเขาอาจไม่ได้อยู่ที่อุดมการณ์…แต่อยู่ที่งบหนุนจากต่างชาติ "Soros หมดฤทธิ์! เมื่อเงินหนุนฝ่ายค้านฮังการีถูกตัดขาด" Balázs Orbán ผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองของนายกรัฐมนตรีฮังการี ได้แฉว่าหนึ่งในสื่อฝ่ายค้านรายใหญ่ของประเทศไม่พอใจอย่างหนัก หลังสูญเสียแหล่งทุนสนับสนุนจากสหรัฐฯ พร้อมตั้งคำถามว่า "สื่อที่ต้องพึ่งพาเงินจากรัฐบาลต่างชาติ จะเรียกว่าอิสระได้อย่างไร?" ด้าน Elon Musk นักธุรกิจพันล้านและที่ปรึกษาคนสนิทของทรัมป์ รีโพสต์ข้อความของ Orbán พร้อมซัดแรงว่า "ฝ่ายซ้ายสุดโต่งของสหรัฐฯ ใช้เงินภาษีของประชาชนเพื่ออุ้มพรรคการเมืองและสื่อฝ่ายซ้ายทั่วโลก!" ทำให้โพสต์นี้กลายเป็นกระแสร้อนในโลกออนไลน์ "เครือข่าย Soros สะเทือน! USAID โดนทรัมป์เชือด" คำสั่งของทรัมป์ไม่ได้กระทบแค่สื่อฝ่ายค้าน แต่ยังส่งผลไปถึง NGO ฮังการีที่มีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของ George Soros ซึ่งเป็นผู้ให้ทุนสนับสนุนหลักผ่าน USAID และสถานทูตสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ David Pressman ก่อนหน้านี้ ในวันเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ สถานทูตสหรัฐฯ ที่บูดาเปสต์เคยประกาศแจกจ่ายงบกว่า 200 ล้านฟอรินต์ (ประมาณ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ให้กับกลุ่มสื่อและ NGO ผ่านโครงการ Free Media Tender ซึ่งขณะนี้ถูกสั่งระงับ สื่อที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้แก่ 444, Jelen, G7, Magyar Hang และ Transparency International Mérték Media Monitor ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลโครงการนี้ยืนยันว่า "ใช่ โครงการนี้ถูกระงับแล้ว ตอนนี้เราได้แต่รอ ไม่มีการทำสัญญาหรือรับเงินเพิ่มเติม" "ตัดท่อน้ำเลี้ยง! สื่อและ NGO ในเครือข่าย Soros โดนเท" การระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศครั้งนี้ถือเป็นหมัดหนักที่โจมตีเครือข่ายของ Soros ซึ่งถูกวิจารณ์ว่ามีบทบาทสำคัญในการใช้เงินทุนเพื่อผลักดันแนวคิดเสรีนิยมทั่วโลก ทรัมป์เคยเตือนหลายครั้งว่า USAID ไม่ได้ทำหน้าที่ช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเครื่องมือแทรกแซงทางการเมืองของฝ่ายซ้าย "ตัดเงินสนับสนุน = เปิดโปงความจริง!" ฝ่ายสนับสนุนทรัมป์มองว่านี่คือการคืนความโปร่งใสให้กับนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ และลดการใช้เงินภาษีอุ้มกลุ่มการเมืองต่างชาติ ขณะที่ฝ่ายค้านฮังการีและ NGO ที่เคยได้รับทุนต่างออกมาโวยวายว่าการตัดงบนี้คือการทำลาย "ประชาธิปไตย" อย่างไรก็ตาม คำถามที่ชัดเจนขึ้นก็คือ "ถ้าต้องพึ่งเงิน Soros และรัฐบาลสหรัฐฯ มาตลอด... ยังกล้าเรียกตัวเองว่าสื่ออิสระหรือ?" . https://web.facebook.com/share/p/1WpNbXhfxE/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'รู้ผลาญ' แต่ 'หน้าที่' ไม่รู้
    1 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 0:01 น.

    ถ้า "แทงหวยแม่น" เหมือนที่้เคยบอก....
    ว่าทักษิณจะอ้างเหตุ "ที่ปรึกษาประธานอาเซียน" ขออนุญาตศาล บินออกนอกประเทศนั่นละก็
    วันนี้ผมรวย ชนิดเลี้ยงหมาจรจัดได้ทั้งประเทศ  บอกไม่เชื่อ!
    เพราะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อวาน (๓๑ ม.ค.๖๘) ศาลอาญามีคำสั่งว่า
    "พิเคราะห์ข้อเท็จจริงในทางไต่สวนแล้ว จำเลยอ้างตนเองเป็นพยาน โดยมี "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ" มาเบิกความสนับสนุน
    พร้อมพยานเอกสารยืนยันให้เห็นถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักรในระหว่างวันที่ ๒-๓ ก.พ.๖๘ 
    เห็นว่า ช่วงเวลาที่จำเลยขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ไม่กระทบต่อวันนัดพิจารณาคดี 
    เหตุผลและความจำเป็นที่จำเลยอ้าง เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และเพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐ
    กรณีมีเหตุสมควร จึงอนุญาตให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ตามที่ขอ 
    โดยวางหลักประกันตามที่เสนอ และให้มารายงานตัวภายใน ๓ วัน นับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย
    แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ" 
    "๕ ล้านบาท" คือหลักประกันว่าทักษิณจะไม่หนี!
    เอ้า...
    ใครจะตกลง-ต่อรองหรือจะเสนออะไร ทางธุรกิจ-ลงทุน ไม่ว่าจะบ่อน จะพนันออนไลน์ จะทำ "ปฏิญญามาเลย์"
    ก็ไปเจอกันที่นั่นตามวัน-เวลานัดหมายละกัน
    กลับมาเรื่อง "รัฐบาลไทย" ที่ต้องให้จีนส่งคนเข้ามาใช้ "ฝ่ามือทิพย์" ลูบหน้า สอนรู้จักหน้าที่ ที่ "รัฐบาล (ถ้ามี) ความโปร่งใส" ควรทำ
    เรื่อง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งค้ามนุษย์ แก๊งพนันทุกรูปแบบ แก๊งฟอกเงิน ซึ่ง "จีนเทา" เข้าไปสร้าง "เมืองคนบาป" ในฝั่งพม่าตรงข้าม "แม่สอด-แม่สาย"
    และใช้ไทย "เป็นประตู" หลอกเหยื่อไปบังคับเป็น "ทาสมนุษย์" ผ่านทางชายแดนไทย
    ทั้งน้ำ-ทั้งไฟ-ทั้งเน็ต บริการจากฝั่งไทยครบวงจร!
    โลกเดือดร้อน โดยเฉพาะจีน เพราะคนของเขา ถูก "จีนเทา" ซึ่งก็คนของเขา หลอกพวกเดียวกันเองไปเป็นเหยื่อมากที่สุด
    จะว่าไป ต้นตอของเรื่องอยู่ในพม่า กลุ่มก่อเหตุ ก็กลุ่มชาติพันธุ์ในพม่า เชื้อสายจีน สมคบพวกจีน แต่เป็น "แก๊งจีนเทา" จีนก็ควรไปจัดการจีนกันเอง
    ความจริง ก็ควรเป็นเช่นนั้น....
    แต่ที่มันไม่เป็น เพราะจีนเทา ใช้ไทยเป็น "ประตูเข้า-ออก" ตามด่านต่างๆ "ไฟฟ้า-เน็ต" ก็ไปจากไทย
    แทนที่ไทยจะแก้ปัญหาแก๊งจีนเทาใช้เป็นฐาน หัว-คือรัฐบาลกลับส่าย หาง-เจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ก็เลยกระดิกตามไปทุกระดับชั้น
    ถึงขั้น ธุรกิจเครือข่ายนักการเมืองรัฐบาล ขายบ้านจัดสรรให้จีนเทา "ยกทั้งโครงการ" ด้วยซ้ำ!
    "จีน" อดรนทนไม่ไหว ต้องส่งคณะ "ความมั่นคง" เข้ามาลูบหน้าถึงในประเทศ
    ผมเท้าความให้ทราบคร่าวๆ ส่วนประเด็นคุยวันนี้ มีว่า
    แล้วประเทศชาติ (กู) จะอยู่ได้อย่างไร?
    ในเมื่อ มี "ผู้นำรัฐบาล" ไม่รู้ว่าห่า คืออะไร ไม่รู้ว่าเหวคืออะไร แล้วจะให้รู้จัก "บทบาท-หน้าที่" ผู้นำบริหารได้อย่างไร?
    ก็ยกยอ-ปอปั้น "เด็กวานซืน" ที่ไม่รู้กระทั่งว่า "วัวต่างกับควาย" ตรงไหน ให้เป็น "ผู้นำบริหาร" ประเทศ!!!
    เมื่อมีเรื่องด้าน "ความมั่นคง" ต้องตัดสินใจ ประเด็นว่า ไทยควร "ตัดไฟ-ตัดเน็ต" ที่ส่งไปขายเมียวดี ชเวก๊กโก ด้านแม่สอด ตาก, ท่าขี้เหล็ก ด้านแม่สาย เชียงราย
    ปัญหาที่เกิดตามมา คือ...
    "แล้วใครล่ะ" มี "อำนาจหน้าที่" สั่งการในเรื่องนี้?
    ทั้งรัฐบาล ทั้งข้าราชการ "ทุกระดับ" ไม่ใช่กู ทั้งนั้น!
    เมื่อต้องหาใครซักคนมาเป็นแพะเพื่อเชือด-เพื่อด่า ก็ "การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค" นี่ละวะ!
    กฟภ.ขึ้นกับมหาดไทยนี่หว่า งั้น "นายอนุทิน" รัฐมนตรีมหาดไทยนี่แหละ ต้องไปสั่งตัด
    ทั้งฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ก็เลยรุมสกรัมนายอนุทิน เป็นการสกัดดาวรุ่งตัวชิงบัลลังก์การเมืองกันคนละตุ้บ-ละตั้บ
    กฟภ.ซึ่ง "เนื้อไม่ได้กิน แต่ถูกเขาเอากระดูกแขวนคอ" ทนไม่ไหว เลยออกมาแฉ
    "ตัด-ไม่ตัด" อยู่ที่ฝ่าย "ความมั่นคง" โน่น!
    ตามอำนาจหน้าที่ "เรื่องความมั่นคง" เป็นเรื่องของ สมช.คือ "สภาความมั่นคงแห่งชาติ" ที่ "นายฉัตรชัย บางชวด" เป็นเลขาธิการฯ อยู่ขณะนี้
    แต่อย่าเพิ่งทึกทักนายฉัตรชัยเป็นแพะตัวที่ ๒  เขาเป็นแค่เลขาฯ เท่านั้น
    งั้น...ใครล่ะ "ใหญ่สุด" ใน สมช. มีอำนาจชี้เป็น-ชี้ตาย?
    ก็คณะบุคคลที่ประกอบกันเป็นสมาชิก "สภาความมั่นคงแห่งชาติ" นั่นไง ตามตำแหน่งนี้แหละ
    ๑.นายกรัฐมนตรี ประธาน ๒.รองนายกฯ รองประธาน
    ๓.รมว.กลาโหม ๔.รมว.คลัง ๕.รมว.ต่างประเทศ
    ๖.รมว.คมนาคม ๗.รมว.ดิจิทัลฯ ๘.รมว.มหาดไทย
    ๙.รมว.ยุติธรรม ๑๐.ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นสมาชิก
    ๑๑.เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาฯ
    นี่คือ ๑๑ เสือ สมช.หรือ ๑๑ แมว ก็ไม่รู้นะ แต่อนาคตประเทศชาติบนความมั่นคง อยู่ในมือ ๑๑ เสือแมว นี้แหละ
    แล้ว "สภาความมั่นคงฯ" มีหน้าที่อะไร?
    เอาที่ตรงสเปกเรื่องร้อนตอนนี้มาให้ดูซัก ๔ อย่าง
    -กำหนดแนวทาง, มาตรการป้องกัน, แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ เสนอนายกฯ หรือ ครม.พิจารณา
    -ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ภาพรวมในเชิงยุทธศาสตร์อันเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ
    -กำกับและติดตามการดำเนินการตามนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ
    -ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.นี้และกฎหมายอื่นหรือตามที่นายกฯ หรือ ครม.มอบหมาย
    สรุป นายกฯ แพทองธาร ประธาน สมช.และหัวหน้า ครม.นั่นแหละ มีอำนาจหน้าที่โดยตรง ที่จะสั่ง "ตัดไฟ-ตัดเน็ต" ที่ส่งไปขายเมืองคนบาป
    อยากเป็นผู้นำ อย่าเอาแต่ "หลุบหัว-หลุบหาง" ออกจอจ้อแต่เรื่องสวะเอาหน้า แต่กับเรื่อง "เอาชาติบ้านเมือง" กลับผลุบหาย!
    เนี่ย ตอนนี้ ก็เลยโทษกันวุ่น นายกฯ ก็ไม่เกี่ยว  ภูมิธรรมก็ไม่เกี่ยว สมช.ก็ไม่เกี่ยว
    มีแต่นายอนุทิน กับ กฟภ.เท่านั้นเกี่้ยว เห็นแล้ว มันโคตรระยำแมวเลย!
    รองจากนายกฯ ก็ "นายภูมิธรรม" มีหน้าที่รับผิดชอบเต็มสองพระบาท
    เพราะนายกฯ มอบให้กำกับดูแล "กระทรวงเกี่ยวกับด้านความมั่นคง" และ "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ"
    เรื่องในหน้าที่ตัว แต่เงียบกริ๊บ ไม่เก่งเหมือนตอนเป็นฝ่ายแค้น ที่ออกมาคุยโต เบ่งทับรัฐบาลประยุทธ์เลย!
    เอาข่าวเมื่อ ๑๑ พ.ย.๖๗ มาให้นายภูมิธรรมอ่าน เผื่อต่อมสำนึกจะทำงาน
    ...................................
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ รัฐมนตรีกลาโหม ได้นำ นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล รองเลขาฯ นายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองของนายภูมิธรรม
    พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ที่ปรึกษารองนายกฯ, พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
    เดินดูห้องทำงานของแต่ละคนภายในตึกบัญชาการ ๑ จากนั้น นายภูมิธรรมได้มอบนโยบายและแบ่งงาน
    -พล.อ.นิพัทธ์ ดูกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
    -พล.ต.อ.รอย ดูงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง
    -พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ ดูสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)
    ...................................
    ทั้งหมดนี้ สรุปลงในคำถามว่า "Where the hell are you?"
    ประเทศที่รัฐบาลเอาแต่อำนาจ แต่ไม่รู้หน้าที่
    ประเทศที่นักการเมือง, ข้าราชการ, ทหาร-ตำรวจ รู้แต่เอาตัวรอด บ้านเมืองช่างมัน
    ประเทศที่มีแต่ประชาชนรอเงินแจก-บูชาโจร
    แล้วประเทศ (กู) จะรอดมั้ยเนี่ย?
    เปลว สีเงิน
    ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
    วันเสาร์ที่ปลายซอย

    เปลว สีเงิน
    'รู้ผลาญ' แต่ 'หน้าที่' ไม่รู้ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 0:01 น. ถ้า "แทงหวยแม่น" เหมือนที่้เคยบอก.... ว่าทักษิณจะอ้างเหตุ "ที่ปรึกษาประธานอาเซียน" ขออนุญาตศาล บินออกนอกประเทศนั่นละก็ วันนี้ผมรวย ชนิดเลี้ยงหมาจรจัดได้ทั้งประเทศ  บอกไม่เชื่อ! เพราะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อวาน (๓๑ ม.ค.๖๘) ศาลอาญามีคำสั่งว่า "พิเคราะห์ข้อเท็จจริงในทางไต่สวนแล้ว จำเลยอ้างตนเองเป็นพยาน โดยมี "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ" มาเบิกความสนับสนุน พร้อมพยานเอกสารยืนยันให้เห็นถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักรในระหว่างวันที่ ๒-๓ ก.พ.๖๘  เห็นว่า ช่วงเวลาที่จำเลยขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ไม่กระทบต่อวันนัดพิจารณาคดี  เหตุผลและความจำเป็นที่จำเลยอ้าง เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และเพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐ กรณีมีเหตุสมควร จึงอนุญาตให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ตามที่ขอ  โดยวางหลักประกันตามที่เสนอ และให้มารายงานตัวภายใน ๓ วัน นับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ"  "๕ ล้านบาท" คือหลักประกันว่าทักษิณจะไม่หนี! เอ้า... ใครจะตกลง-ต่อรองหรือจะเสนออะไร ทางธุรกิจ-ลงทุน ไม่ว่าจะบ่อน จะพนันออนไลน์ จะทำ "ปฏิญญามาเลย์" ก็ไปเจอกันที่นั่นตามวัน-เวลานัดหมายละกัน กลับมาเรื่อง "รัฐบาลไทย" ที่ต้องให้จีนส่งคนเข้ามาใช้ "ฝ่ามือทิพย์" ลูบหน้า สอนรู้จักหน้าที่ ที่ "รัฐบาล (ถ้ามี) ความโปร่งใส" ควรทำ เรื่อง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งค้ามนุษย์ แก๊งพนันทุกรูปแบบ แก๊งฟอกเงิน ซึ่ง "จีนเทา" เข้าไปสร้าง "เมืองคนบาป" ในฝั่งพม่าตรงข้าม "แม่สอด-แม่สาย" และใช้ไทย "เป็นประตู" หลอกเหยื่อไปบังคับเป็น "ทาสมนุษย์" ผ่านทางชายแดนไทย ทั้งน้ำ-ทั้งไฟ-ทั้งเน็ต บริการจากฝั่งไทยครบวงจร! โลกเดือดร้อน โดยเฉพาะจีน เพราะคนของเขา ถูก "จีนเทา" ซึ่งก็คนของเขา หลอกพวกเดียวกันเองไปเป็นเหยื่อมากที่สุด จะว่าไป ต้นตอของเรื่องอยู่ในพม่า กลุ่มก่อเหตุ ก็กลุ่มชาติพันธุ์ในพม่า เชื้อสายจีน สมคบพวกจีน แต่เป็น "แก๊งจีนเทา" จีนก็ควรไปจัดการจีนกันเอง ความจริง ก็ควรเป็นเช่นนั้น.... แต่ที่มันไม่เป็น เพราะจีนเทา ใช้ไทยเป็น "ประตูเข้า-ออก" ตามด่านต่างๆ "ไฟฟ้า-เน็ต" ก็ไปจากไทย แทนที่ไทยจะแก้ปัญหาแก๊งจีนเทาใช้เป็นฐาน หัว-คือรัฐบาลกลับส่าย หาง-เจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ก็เลยกระดิกตามไปทุกระดับชั้น ถึงขั้น ธุรกิจเครือข่ายนักการเมืองรัฐบาล ขายบ้านจัดสรรให้จีนเทา "ยกทั้งโครงการ" ด้วยซ้ำ! "จีน" อดรนทนไม่ไหว ต้องส่งคณะ "ความมั่นคง" เข้ามาลูบหน้าถึงในประเทศ ผมเท้าความให้ทราบคร่าวๆ ส่วนประเด็นคุยวันนี้ มีว่า แล้วประเทศชาติ (กู) จะอยู่ได้อย่างไร? ในเมื่อ มี "ผู้นำรัฐบาล" ไม่รู้ว่าห่า คืออะไร ไม่รู้ว่าเหวคืออะไร แล้วจะให้รู้จัก "บทบาท-หน้าที่" ผู้นำบริหารได้อย่างไร? ก็ยกยอ-ปอปั้น "เด็กวานซืน" ที่ไม่รู้กระทั่งว่า "วัวต่างกับควาย" ตรงไหน ให้เป็น "ผู้นำบริหาร" ประเทศ!!! เมื่อมีเรื่องด้าน "ความมั่นคง" ต้องตัดสินใจ ประเด็นว่า ไทยควร "ตัดไฟ-ตัดเน็ต" ที่ส่งไปขายเมียวดี ชเวก๊กโก ด้านแม่สอด ตาก, ท่าขี้เหล็ก ด้านแม่สาย เชียงราย ปัญหาที่เกิดตามมา คือ... "แล้วใครล่ะ" มี "อำนาจหน้าที่" สั่งการในเรื่องนี้? ทั้งรัฐบาล ทั้งข้าราชการ "ทุกระดับ" ไม่ใช่กู ทั้งนั้น! เมื่อต้องหาใครซักคนมาเป็นแพะเพื่อเชือด-เพื่อด่า ก็ "การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค" นี่ละวะ! กฟภ.ขึ้นกับมหาดไทยนี่หว่า งั้น "นายอนุทิน" รัฐมนตรีมหาดไทยนี่แหละ ต้องไปสั่งตัด ทั้งฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ก็เลยรุมสกรัมนายอนุทิน เป็นการสกัดดาวรุ่งตัวชิงบัลลังก์การเมืองกันคนละตุ้บ-ละตั้บ กฟภ.ซึ่ง "เนื้อไม่ได้กิน แต่ถูกเขาเอากระดูกแขวนคอ" ทนไม่ไหว เลยออกมาแฉ "ตัด-ไม่ตัด" อยู่ที่ฝ่าย "ความมั่นคง" โน่น! ตามอำนาจหน้าที่ "เรื่องความมั่นคง" เป็นเรื่องของ สมช.คือ "สภาความมั่นคงแห่งชาติ" ที่ "นายฉัตรชัย บางชวด" เป็นเลขาธิการฯ อยู่ขณะนี้ แต่อย่าเพิ่งทึกทักนายฉัตรชัยเป็นแพะตัวที่ ๒  เขาเป็นแค่เลขาฯ เท่านั้น งั้น...ใครล่ะ "ใหญ่สุด" ใน สมช. มีอำนาจชี้เป็น-ชี้ตาย? ก็คณะบุคคลที่ประกอบกันเป็นสมาชิก "สภาความมั่นคงแห่งชาติ" นั่นไง ตามตำแหน่งนี้แหละ ๑.นายกรัฐมนตรี ประธาน ๒.รองนายกฯ รองประธาน ๓.รมว.กลาโหม ๔.รมว.คลัง ๕.รมว.ต่างประเทศ ๖.รมว.คมนาคม ๗.รมว.ดิจิทัลฯ ๘.รมว.มหาดไทย ๙.รมว.ยุติธรรม ๑๐.ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นสมาชิก ๑๑.เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาฯ นี่คือ ๑๑ เสือ สมช.หรือ ๑๑ แมว ก็ไม่รู้นะ แต่อนาคตประเทศชาติบนความมั่นคง อยู่ในมือ ๑๑ เสือแมว นี้แหละ แล้ว "สภาความมั่นคงฯ" มีหน้าที่อะไร? เอาที่ตรงสเปกเรื่องร้อนตอนนี้มาให้ดูซัก ๔ อย่าง -กำหนดแนวทาง, มาตรการป้องกัน, แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ เสนอนายกฯ หรือ ครม.พิจารณา -ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ภาพรวมในเชิงยุทธศาสตร์อันเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ -กำกับและติดตามการดำเนินการตามนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ -ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.นี้และกฎหมายอื่นหรือตามที่นายกฯ หรือ ครม.มอบหมาย สรุป นายกฯ แพทองธาร ประธาน สมช.และหัวหน้า ครม.นั่นแหละ มีอำนาจหน้าที่โดยตรง ที่จะสั่ง "ตัดไฟ-ตัดเน็ต" ที่ส่งไปขายเมืองคนบาป อยากเป็นผู้นำ อย่าเอาแต่ "หลุบหัว-หลุบหาง" ออกจอจ้อแต่เรื่องสวะเอาหน้า แต่กับเรื่อง "เอาชาติบ้านเมือง" กลับผลุบหาย! เนี่ย ตอนนี้ ก็เลยโทษกันวุ่น นายกฯ ก็ไม่เกี่ยว  ภูมิธรรมก็ไม่เกี่ยว สมช.ก็ไม่เกี่ยว มีแต่นายอนุทิน กับ กฟภ.เท่านั้นเกี่้ยว เห็นแล้ว มันโคตรระยำแมวเลย! รองจากนายกฯ ก็ "นายภูมิธรรม" มีหน้าที่รับผิดชอบเต็มสองพระบาท เพราะนายกฯ มอบให้กำกับดูแล "กระทรวงเกี่ยวกับด้านความมั่นคง" และ "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เรื่องในหน้าที่ตัว แต่เงียบกริ๊บ ไม่เก่งเหมือนตอนเป็นฝ่ายแค้น ที่ออกมาคุยโต เบ่งทับรัฐบาลประยุทธ์เลย! เอาข่าวเมื่อ ๑๑ พ.ย.๖๗ มาให้นายภูมิธรรมอ่าน เผื่อต่อมสำนึกจะทำงาน ................................... นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ รัฐมนตรีกลาโหม ได้นำ นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล รองเลขาฯ นายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองของนายภูมิธรรม พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ที่ปรึกษารองนายกฯ, พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เดินดูห้องทำงานของแต่ละคนภายในตึกบัญชาการ ๑ จากนั้น นายภูมิธรรมได้มอบนโยบายและแบ่งงาน -พล.อ.นิพัทธ์ ดูกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) -พล.ต.อ.รอย ดูงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง -พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ ดูสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ................................... ทั้งหมดนี้ สรุปลงในคำถามว่า "Where the hell are you?" ประเทศที่รัฐบาลเอาแต่อำนาจ แต่ไม่รู้หน้าที่ ประเทศที่นักการเมือง, ข้าราชการ, ทหาร-ตำรวจ รู้แต่เอาตัวรอด บ้านเมืองช่างมัน ประเทศที่มีแต่ประชาชนรอเงินแจก-บูชาโจร แล้วประเทศ (กู) จะรอดมั้ยเนี่ย? เปลว สีเงิน ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ วันเสาร์ที่ปลายซอย เปลว สีเงิน
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 602 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัยการเกาหลีใต้ สั่งฟ้อง ยุน ซ็อกยอล ประธานาธิบดีผู้ถูกถอดถอน ในข้อหาเป็นผู้นำในการก่อกบฏ ด้วยการประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับใช้ช่วงสั้นๆ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม จากการเปิดเผยของทนายความของยุนและพรรคฝ่ายค้านหลัก
    .
    ทนายความของยุน วิพากษ์วิจารณ์การสั่งฟ้องครั้งนี้ว่า "เป็นตัวเลือกที่เลวร้าย" ที่ดำเนินการโดยสำนักงานอัยการ แต่ทางพรรคฝ่ายค้านหลักขานรับด้วยความยินดีต่อการตัดสินใจดังกล่าว
    .
    การสั่งฟ้องครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของเกาหลีใต้ และถ้าถูกตัดสินว่ามีความผิด ยุน อาจต้องเผชิญโทษจำคุกสำหรับการประกาศกฎอัยการศึกที่ก่อความตกตะลึงของเขา ในความพยายามหาทางห้ามกิจกรรมทางการเมืองและรัฐสภา รวมถึงควบคุมสื่อมวลชน
    .
    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเขา นำมาซึ่งความอลหม่านทางการเมืองในชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของเอเชีย และพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ถูกถอดถอนเช่นกันและถูกพักอำนาจ นอกจากนี้แล้วยังเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงจำนวนหนึ่งถูกสั่งฟ้องจากบทบาทของพวกเขาในคำกล่าวหาก่อกบฏ
    .
    "ประกาศอัยการศึกฉุกเฉินของประธานาธิบดี เป็นคำวิงวอนที่สิ้นหวังที่มีถึงประชาชน ว่าวิกฤตระดับชาติหนึ่งๆ ที่ก่อโดยพวกฝ่ายค้าน กำลังหลุดจากการควบคุม" ทนายความของยุนระบุในถ้อยแถลง
    .
    สำนักงานอัยการยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น แต่ข่าวคราวเกี่ยวกับการสั่งฟ้องถูกรายงานโดยสื่อมวลชนเกาหลีใต้เช่นกัน
    .
    ทีมสืบสวนต่อต้านคอร์รัปชัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เสนอให้ตั้งข้อหายุน ที่อยู่ภายใต้การคุมขัง หลังจากถูกถอดถอนโดยรัฐสภาและพักจากการทำหน้าที่เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม
    .
    ยุน ซึ่งตัวเองเคยเป็นอัยการสูงสุด ถูกคุมขังเดี่ยวอยู่ที่ทัณฑสถาน ชานกรุงโซล มาตั้งแต่กลายเป็นประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง คนแรกที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 15 มกราคม การจับกุมที่มีขึ้นตามหลังหลายวันของการขัดขืน และการเผชิญหน้าติดอาวุธระหว่างทีมรักษาความปลอดภัยของเขากับเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่จับกุมตัว
    .
    เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลปฏิเสธอัยการถึง 2 รอบในคำร้องขอขยายเวลาควบคุมตัวเขาระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติม แต่ด้วยคำสั่งฟ้อง อัยการจึงร้องขออีกครั้งให้คุมขังเขาต่อไป ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น
    .
    การก่อกบฏเป็นหนึ่งในข้อกล่าวหาทางอาญาไม่กี่ข้อกล่าวหา ที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้รายหนึ่งๆ ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง และมันมีบทลงโทษหนักจำคุกตลอดชีวิตหรือถึงขั้นประหาร แม้เกาหลีใต้ไม่ได้ประหารชีวิตใครมานานหลายทศวรรษแล้วก็ตาม
    .
    "อัยการตัดสินใจสั่งฟ้องยุน ซ็อกยอล ผู้ซึ่งเผชิญข้อกล่าวหาเป็นหัวหน้าแก๊งก่อกบฏ" ฮัน มิน-ซู โฆษกพรรคเดโมแครต ปาร์ตี กล่าวระหว่างแถลงข่าว "เวลานี้การลงโทษหัวหน้าแก๊งก่อกบฏเริ่มต้นขึ้นได้เสียที"
    .
    ยุนและทนายความของเขา โต้แย้ง ณ ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างการพิจารณาการถอดถอน ว่าเขาไม่เคยมีความตั้งใจบังคับใช้อัยการศึกเต็มรูปแบบ แต่มีเจตนาใช้เป็นแค่มาตรการเตือนเพื่อทลายทางตันทางการเมืองเท่านั้น
    .
    ในความเคลื่อนไหวคู่ขนานกับกระบวนการทางอาญา ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ตัดสินรับรองการถอดถอนยุนพ้นจากตำแหน่ง หรือคืนอำนาจประธานาธิบดีแก่เขา โดยศาลมีเวลา 180 วัน สำหรับการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว
    .
    รัฐสภาที่นำโดยฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ ลงมติถอดถอน ยุน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ส่งผลให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีสายอนุรักษนิยมรายที่ 2 ของประเทศ ที่ถูกถอดถอนพ้นจากตำแหน่ง
    .
    ยุน ถอนประกาศอัยการศึกหลังจากบังคับใช้ไปราวๆ 6 ชั่วโมง หลังบรรดาสมาชิกรัฐสภา ที่เผชิญหน้ากับทหารในรัฐสภา ลงมติคว่ำประกาศดังกล่าว
    .
    ระหว่างการเผชิญหน้าอันน่าตกอกตกใจ ทหารพร้อมปืนไรเฟิล เสื้อกันกระสุนและยุทโธปกรณ์สำหรับปฏิบัติการตอนกลางคืน กำลังทุบบานกระจก ในความพยายามเข้าไปยังอาคารรัฐสภา
    .
    ทั้งนี้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญรับรองการถอดถอน ยุน พ้นจากตำแหน่ง ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีจะถูกจัดขึ้นภายใน 60 วัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008311
    ..............
    Sondhi X
    อัยการเกาหลีใต้ สั่งฟ้อง ยุน ซ็อกยอล ประธานาธิบดีผู้ถูกถอดถอน ในข้อหาเป็นผู้นำในการก่อกบฏ ด้วยการประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับใช้ช่วงสั้นๆ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม จากการเปิดเผยของทนายความของยุนและพรรคฝ่ายค้านหลัก . ทนายความของยุน วิพากษ์วิจารณ์การสั่งฟ้องครั้งนี้ว่า "เป็นตัวเลือกที่เลวร้าย" ที่ดำเนินการโดยสำนักงานอัยการ แต่ทางพรรคฝ่ายค้านหลักขานรับด้วยความยินดีต่อการตัดสินใจดังกล่าว . การสั่งฟ้องครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของเกาหลีใต้ และถ้าถูกตัดสินว่ามีความผิด ยุน อาจต้องเผชิญโทษจำคุกสำหรับการประกาศกฎอัยการศึกที่ก่อความตกตะลึงของเขา ในความพยายามหาทางห้ามกิจกรรมทางการเมืองและรัฐสภา รวมถึงควบคุมสื่อมวลชน . ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเขา นำมาซึ่งความอลหม่านทางการเมืองในชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของเอเชีย และพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ถูกถอดถอนเช่นกันและถูกพักอำนาจ นอกจากนี้แล้วยังเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงจำนวนหนึ่งถูกสั่งฟ้องจากบทบาทของพวกเขาในคำกล่าวหาก่อกบฏ . "ประกาศอัยการศึกฉุกเฉินของประธานาธิบดี เป็นคำวิงวอนที่สิ้นหวังที่มีถึงประชาชน ว่าวิกฤตระดับชาติหนึ่งๆ ที่ก่อโดยพวกฝ่ายค้าน กำลังหลุดจากการควบคุม" ทนายความของยุนระบุในถ้อยแถลง . สำนักงานอัยการยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น แต่ข่าวคราวเกี่ยวกับการสั่งฟ้องถูกรายงานโดยสื่อมวลชนเกาหลีใต้เช่นกัน . ทีมสืบสวนต่อต้านคอร์รัปชัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เสนอให้ตั้งข้อหายุน ที่อยู่ภายใต้การคุมขัง หลังจากถูกถอดถอนโดยรัฐสภาและพักจากการทำหน้าที่เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม . ยุน ซึ่งตัวเองเคยเป็นอัยการสูงสุด ถูกคุมขังเดี่ยวอยู่ที่ทัณฑสถาน ชานกรุงโซล มาตั้งแต่กลายเป็นประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง คนแรกที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 15 มกราคม การจับกุมที่มีขึ้นตามหลังหลายวันของการขัดขืน และการเผชิญหน้าติดอาวุธระหว่างทีมรักษาความปลอดภัยของเขากับเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่จับกุมตัว . เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลปฏิเสธอัยการถึง 2 รอบในคำร้องขอขยายเวลาควบคุมตัวเขาระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติม แต่ด้วยคำสั่งฟ้อง อัยการจึงร้องขออีกครั้งให้คุมขังเขาต่อไป ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น . การก่อกบฏเป็นหนึ่งในข้อกล่าวหาทางอาญาไม่กี่ข้อกล่าวหา ที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้รายหนึ่งๆ ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง และมันมีบทลงโทษหนักจำคุกตลอดชีวิตหรือถึงขั้นประหาร แม้เกาหลีใต้ไม่ได้ประหารชีวิตใครมานานหลายทศวรรษแล้วก็ตาม . "อัยการตัดสินใจสั่งฟ้องยุน ซ็อกยอล ผู้ซึ่งเผชิญข้อกล่าวหาเป็นหัวหน้าแก๊งก่อกบฏ" ฮัน มิน-ซู โฆษกพรรคเดโมแครต ปาร์ตี กล่าวระหว่างแถลงข่าว "เวลานี้การลงโทษหัวหน้าแก๊งก่อกบฏเริ่มต้นขึ้นได้เสียที" . ยุนและทนายความของเขา โต้แย้ง ณ ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างการพิจารณาการถอดถอน ว่าเขาไม่เคยมีความตั้งใจบังคับใช้อัยการศึกเต็มรูปแบบ แต่มีเจตนาใช้เป็นแค่มาตรการเตือนเพื่อทลายทางตันทางการเมืองเท่านั้น . ในความเคลื่อนไหวคู่ขนานกับกระบวนการทางอาญา ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ตัดสินรับรองการถอดถอนยุนพ้นจากตำแหน่ง หรือคืนอำนาจประธานาธิบดีแก่เขา โดยศาลมีเวลา 180 วัน สำหรับการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว . รัฐสภาที่นำโดยฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ ลงมติถอดถอน ยุน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ส่งผลให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีสายอนุรักษนิยมรายที่ 2 ของประเทศ ที่ถูกถอดถอนพ้นจากตำแหน่ง . ยุน ถอนประกาศอัยการศึกหลังจากบังคับใช้ไปราวๆ 6 ชั่วโมง หลังบรรดาสมาชิกรัฐสภา ที่เผชิญหน้ากับทหารในรัฐสภา ลงมติคว่ำประกาศดังกล่าว . ระหว่างการเผชิญหน้าอันน่าตกอกตกใจ ทหารพร้อมปืนไรเฟิล เสื้อกันกระสุนและยุทโธปกรณ์สำหรับปฏิบัติการตอนกลางคืน กำลังทุบบานกระจก ในความพยายามเข้าไปยังอาคารรัฐสภา . ทั้งนี้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญรับรองการถอดถอน ยุน พ้นจากตำแหน่ง ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีจะถูกจัดขึ้นภายใน 60 วัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008311 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Wow
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1314 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ประชาชน' โวมีของเพียบ พร้อมเปิดศึกซักฟอก อัดรัฐบาลไม่ตรงปก
    .
    สถานการณ์ทางการเมืองหลังจากผ่านพ้นการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น คาดว่าสปอตไลท์น่าจะจับมาที่พรรคประชาชนในฐานะฝ่ายค้านที่เตรียมยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร โดยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน เปิดเผยว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่า ส่วนตัวมีข้อมูลเตรียมไว้ 3-4 เรื่อง กําลังปรึกษาทางพรรคว่าจะพูดเองในเรื่องใด หรือมอบหมายเรื่องใดให้คนอื่นพูด ซึ่งข้อมูลแต่ละด้าน เรารวบรวมจากข้าราชการภายในที่ส่งต่อมาให้ และจากประชาชนทั่วไป
    .
    นายณัฐชา กล่าวว่า ส่วนเนื้อหาจะเป็นเรื่องใดนั้น ภาพรวมจะมีครบทุกอย่าง เป็นการบริหารตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จนถึงรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งทั้ง 2 รัฐบาลทําให้ประชาชนผิดหวัง ในส่วนรัฐมนตรีบางคน มีเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต และการใช้อํานาจหน้าที่ในทางที่ผิด
    .
    ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า นายพิธา กล่าวว่า รัฐบาลชุดปัจจุบัน ยังไม่ตรงปกเหมือนตอนที่เป็นฝ่ายค้านด้วยกัน ตอนนั้นที่อภิปรายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดชัดเจนจนได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด แต่ตอนนี้ไม่ได้ตรงกับตอนนั้น หรือแม้กระทั่งการขึ้นเวทีดีเบตที่ช่อง 3 นางสาวแพทองธาร ก็มีการพูดเกี่ยวกับผู้นำอาเซียน ตอนนั้นก็ยังตอบได้ดี แต่พอมาบริหารจัดการเอง ก็น่าเสียดาย ที่ไม่ตรงกับการอภิปรายและหาเสียงไว้ หากทำตามที่เคยพูดไว้ก็น่าจะทุเลาลงได้
    ..............
    Sondhi X
    'ประชาชน' โวมีของเพียบ พร้อมเปิดศึกซักฟอก อัดรัฐบาลไม่ตรงปก . สถานการณ์ทางการเมืองหลังจากผ่านพ้นการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น คาดว่าสปอตไลท์น่าจะจับมาที่พรรคประชาชนในฐานะฝ่ายค้านที่เตรียมยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร โดยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน เปิดเผยว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่า ส่วนตัวมีข้อมูลเตรียมไว้ 3-4 เรื่อง กําลังปรึกษาทางพรรคว่าจะพูดเองในเรื่องใด หรือมอบหมายเรื่องใดให้คนอื่นพูด ซึ่งข้อมูลแต่ละด้าน เรารวบรวมจากข้าราชการภายในที่ส่งต่อมาให้ และจากประชาชนทั่วไป . นายณัฐชา กล่าวว่า ส่วนเนื้อหาจะเป็นเรื่องใดนั้น ภาพรวมจะมีครบทุกอย่าง เป็นการบริหารตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จนถึงรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งทั้ง 2 รัฐบาลทําให้ประชาชนผิดหวัง ในส่วนรัฐมนตรีบางคน มีเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต และการใช้อํานาจหน้าที่ในทางที่ผิด . ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า นายพิธา กล่าวว่า รัฐบาลชุดปัจจุบัน ยังไม่ตรงปกเหมือนตอนที่เป็นฝ่ายค้านด้วยกัน ตอนนั้นที่อภิปรายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดชัดเจนจนได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด แต่ตอนนี้ไม่ได้ตรงกับตอนนั้น หรือแม้กระทั่งการขึ้นเวทีดีเบตที่ช่อง 3 นางสาวแพทองธาร ก็มีการพูดเกี่ยวกับผู้นำอาเซียน ตอนนั้นก็ยังตอบได้ดี แต่พอมาบริหารจัดการเอง ก็น่าเสียดาย ที่ไม่ตรงกับการอภิปรายและหาเสียงไว้ หากทำตามที่เคยพูดไว้ก็น่าจะทุเลาลงได้ .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1337 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดราม่าฝุ่น PM 2.5 นายกฯอยู่สวิส คนไทยรับมลพิษ
    .
    ฝุ่นพิษที่กำลังปกคลุมเมืองใหญ่ในประเทศไทยเวลานี้ที่ว่าหนาแล้วอาจจะยังไม่เท่ากับดราม่าการเมืองว่าด้วยเรื่องดังกล่าว เพราะตลอดวันที่ผ่านมาเกิดวิวาทะที่ตอบโต้กันอย่างดุเดือดระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ภายหลังผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร 'ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ' ออกมาระบุว่า "ในขณะที่ท่านนายกรัฐมนตรีกำลังสูดอากาศดีที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างเต็มปอด ระหว่างเดินทางเชิญชวนนักลงทุนเพื่อหวังให้ปี 2568 เป็นปีแห่งโอกาสของประเทศ แต่คนไทยจำนวนหลายล้านคนก็กำลังหายใจรับอากาศพิษขั้นวิกฤตรุนแรงเข้าสู่ปอด"
    .
    เพียงไม่กี่ประโยคที่ออกมา ปรากฎว่าบรรดาคนในรัฐบาลและส.ส.พรรคเพื่อไทย ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อตอบโต้หัวหน้าพรรคประชาชน อย่าง 'จิรายุ ห่วงทรัพย์' โฆษกรัฐบาล แย้งว่า "นายณัฐพงษ์เป็นผู้นำฝ่ายค้าน รู้ทั้งรู้ว่านายกฯ เดินทางไปทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยในการประชุมสำคัญระดับโลก และยังใช้เวลาก่อนการประชุมเดินสายพบปะหารือกับนักธุรกิจระดับโลกเพื่อเชิญชวนมาลงทุนในประเทศไทย ก็ยังไม่วาย ผมจึงขอเรียกร้องให้นายณัฐพงษ์ต้องเรียนรู้ อยู่ให้ได้ว่าหน้าที่ของผู้นำฝ่ายค้านที่มีคุณภาพและเป็นสุภาพบุรุษทางการเมืองเป็นอย่างไร"
    .
    ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 8.00 น. จากเว็บไซต์ IQAir และการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษ พบว่า กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่มีมลพิษฝุ่นเยอะที่สุดในโลกเป็นลำดับที่ 9 จาก 124 ประเทศ ด้าน ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร เวลา 07.00 น. ระบุว่า ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)
    ..............
    Sondhi X
    ดราม่าฝุ่น PM 2.5 นายกฯอยู่สวิส คนไทยรับมลพิษ . ฝุ่นพิษที่กำลังปกคลุมเมืองใหญ่ในประเทศไทยเวลานี้ที่ว่าหนาแล้วอาจจะยังไม่เท่ากับดราม่าการเมืองว่าด้วยเรื่องดังกล่าว เพราะตลอดวันที่ผ่านมาเกิดวิวาทะที่ตอบโต้กันอย่างดุเดือดระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ภายหลังผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร 'ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ' ออกมาระบุว่า "ในขณะที่ท่านนายกรัฐมนตรีกำลังสูดอากาศดีที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างเต็มปอด ระหว่างเดินทางเชิญชวนนักลงทุนเพื่อหวังให้ปี 2568 เป็นปีแห่งโอกาสของประเทศ แต่คนไทยจำนวนหลายล้านคนก็กำลังหายใจรับอากาศพิษขั้นวิกฤตรุนแรงเข้าสู่ปอด" . เพียงไม่กี่ประโยคที่ออกมา ปรากฎว่าบรรดาคนในรัฐบาลและส.ส.พรรคเพื่อไทย ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อตอบโต้หัวหน้าพรรคประชาชน อย่าง 'จิรายุ ห่วงทรัพย์' โฆษกรัฐบาล แย้งว่า "นายณัฐพงษ์เป็นผู้นำฝ่ายค้าน รู้ทั้งรู้ว่านายกฯ เดินทางไปทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยในการประชุมสำคัญระดับโลก และยังใช้เวลาก่อนการประชุมเดินสายพบปะหารือกับนักธุรกิจระดับโลกเพื่อเชิญชวนมาลงทุนในประเทศไทย ก็ยังไม่วาย ผมจึงขอเรียกร้องให้นายณัฐพงษ์ต้องเรียนรู้ อยู่ให้ได้ว่าหน้าที่ของผู้นำฝ่ายค้านที่มีคุณภาพและเป็นสุภาพบุรุษทางการเมืองเป็นอย่างไร" . ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 8.00 น. จากเว็บไซต์ IQAir และการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษ พบว่า กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่มีมลพิษฝุ่นเยอะที่สุดในโลกเป็นลำดับที่ 9 จาก 124 ประเทศ ด้าน ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร เวลา 07.00 น. ระบุว่า ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Sad
    Haha
    Wow
    Angry
    13
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1690 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีเปิดเผยเป็นครั้งแรกว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องปฏิเสธข้อตกลงอิสตันบูล หลังการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียในช่วงเริ่มต้นความขัดแย้ง เนื่องจากปูตินพยายามแทนที่เขาด้วยวิกเตอร์ เมดเวดชุก (Viktor Medvedchuk)

    ▪️รัสเซียเรียกร้องให้เซเลนสกีลาออก และให้วิกเตอร์ เมดเวดชุกเข้ารับตำแหน่งแทน

    ▪️ยูเครนต้องยอมรับดอนบาสทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ยอมรับภาษาของรัสเซีย และปก้ไขรัฐธรรมนูญของยูเครนเพื่อกำหนดสถานะยูเครนให้เป็นกลางทางทหาร

    ▪️สหพันธรัฐรัสเซียยังเรียกร้องให้ลดจำนวนกองทัพยูเครนเหลือ 50,000 นาย รวมถึงการทำลายหรือโอนย้ายอาวุธทั้งหมดออกจากแนวหน้ารัสเซียในระยะ 20 กม.

    ▪️ช่วงเริ่มต้นความขัดแย้ง หน่วยงานความมั่นคงของยูเครนสามารถจับกุม วิกเตอร์ เมดเวดชุก ได้ เขาเป็นนักการเมืองฝ่ายค้าน ที่ต่อต้านเซเลนสกี และมีความสนิทสนมกับวลาดิเมียร์ ปูติน

    ▪️ต่อมา เมดเวดชุก เป็นหนึ่งในนักโทษที่ได้รับการแลกเปลี่ยนเชลยสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ขณะนี้เขาพักอาศัยอยู่ในรัสเซีย
    เซเลนสกีเปิดเผยเป็นครั้งแรกว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องปฏิเสธข้อตกลงอิสตันบูล หลังการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียในช่วงเริ่มต้นความขัดแย้ง เนื่องจากปูตินพยายามแทนที่เขาด้วยวิกเตอร์ เมดเวดชุก (Viktor Medvedchuk) ▪️รัสเซียเรียกร้องให้เซเลนสกีลาออก และให้วิกเตอร์ เมดเวดชุกเข้ารับตำแหน่งแทน ▪️ยูเครนต้องยอมรับดอนบาสทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ยอมรับภาษาของรัสเซีย และปก้ไขรัฐธรรมนูญของยูเครนเพื่อกำหนดสถานะยูเครนให้เป็นกลางทางทหาร ▪️สหพันธรัฐรัสเซียยังเรียกร้องให้ลดจำนวนกองทัพยูเครนเหลือ 50,000 นาย รวมถึงการทำลายหรือโอนย้ายอาวุธทั้งหมดออกจากแนวหน้ารัสเซียในระยะ 20 กม. ▪️ช่วงเริ่มต้นความขัดแย้ง หน่วยงานความมั่นคงของยูเครนสามารถจับกุม วิกเตอร์ เมดเวดชุก ได้ เขาเป็นนักการเมืองฝ่ายค้าน ที่ต่อต้านเซเลนสกี และมีความสนิทสนมกับวลาดิเมียร์ ปูติน ▪️ต่อมา เมดเวดชุก เป็นหนึ่งในนักโทษที่ได้รับการแลกเปลี่ยนเชลยสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ขณะนี้เขาพักอาศัยอยู่ในรัสเซีย
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • อมนครวัดมาพูดก็คงไม่เชื่อ อ้างคดีลิม กิมยา เป็นเรื่องส่วนตัว
    นักการเมืองฝ่ายค้านของกัมพูชากำลังดาหน้าออกมาโวยในลักษณะฟ้องโลก ประมาณว่าตำรวจไทยกำลังเป่าคดี เหตุเกิดจาก บิ๊กต่ายไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ว่าปมส่วนตัวที่ว่านั้นมันคืออะไร ยังไง เท่านั้นเอง
    ในกรณีเช่นนี้ต้องเข้าใจว่า จะกี่ยุคกี่สมัย ผบ.ตร.ที่ถูกกำกับดูแลโดยนักการเมือง ก็ไม่สามารถมีอิสระในการทำงานได้เต็มที่ ไม่ว่าใครก็ตาม หากอยู่ในสถานการณ์แบบบิ๊กต่าย คงต้องยอมเสียรังวัด ดีกว่าเสี่ยงจะเสียเก้าอี้
    โดยเฉพาะเมื่อนายทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกฯ ไทย มีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นยาวนานกับสมเด็จฯ ฮุนเซน พ่อนายกฯ กัมพูชา มีไมตรีเกื้อหนุนกัน จนคนสงสัย “ทักษิณ-ฮุนเซน” จะแยกแยะได้หรือไม่ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ของแต่ละชาติ
    คำพูดของบิ๊กต่าย ที่ว่าคดีนี้ฆ่ากันด้วยเรื่องส่วนตัว เลยยิ่งฟังไม่มีน้ำหนัก เหมือนว่าตำรวจไทยโดนใบสั่งให้รีบสรุปรวบรัดให้มันจบๆ
    และในเรื่องนี้หมากตัวสำคัญก็คือ คนชี้เป้า ซึ่งนั่งรถบัสตามประกบนายลิม กิมยา จากฝั่งเขมรมาถึงใจกลางกรุง คนชี้เป้าที่แท้เป็นน้องชายของนักการเมืองซีกรัฐบาลในปัจจุบัน อาศัยในกรุงพนมเปญ แต่รายนี้ตำรวจไทยและกัมพูชาไม่สามารถตามจับตัวได้
    กลายเป็น “ขอมดำดิน” จนบัดนี้ โดยตำรวจกัมพูชา คลำไม่เจอตัวซะแล้ว ไม่เหมือนตอนตะครุบตัวจ่าเอ็มที่จับได้อย่างไว ขบวนการสังหาร จึงมีคนที่รู้จักนายลิม กิมยา เพียงคนเดียว คือคนชี้เป้า น้องชายนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล
    ส่วนจ่าเอ็ม ก็ไม่รู้ว่าเป้าสังหารของตนเป็นใคร รอให้คนชี้เป้าส่งสัญญาณอย่างเดียว ให้ยิงใครก็ยิง ขบวนการใหญ่แบบนี้ หากใครจะนั่งยันนอนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองเลือด ต้อง “อมนครวัด” มาพูดกันเลยทีเดียว หากจะให้คนเชื่อ
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    อมนครวัดมาพูดก็คงไม่เชื่อ อ้างคดีลิม กิมยา เป็นเรื่องส่วนตัว นักการเมืองฝ่ายค้านของกัมพูชากำลังดาหน้าออกมาโวยในลักษณะฟ้องโลก ประมาณว่าตำรวจไทยกำลังเป่าคดี เหตุเกิดจาก บิ๊กต่ายไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ว่าปมส่วนตัวที่ว่านั้นมันคืออะไร ยังไง เท่านั้นเอง ในกรณีเช่นนี้ต้องเข้าใจว่า จะกี่ยุคกี่สมัย ผบ.ตร.ที่ถูกกำกับดูแลโดยนักการเมือง ก็ไม่สามารถมีอิสระในการทำงานได้เต็มที่ ไม่ว่าใครก็ตาม หากอยู่ในสถานการณ์แบบบิ๊กต่าย คงต้องยอมเสียรังวัด ดีกว่าเสี่ยงจะเสียเก้าอี้ โดยเฉพาะเมื่อนายทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกฯ ไทย มีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นยาวนานกับสมเด็จฯ ฮุนเซน พ่อนายกฯ กัมพูชา มีไมตรีเกื้อหนุนกัน จนคนสงสัย “ทักษิณ-ฮุนเซน” จะแยกแยะได้หรือไม่ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ของแต่ละชาติ คำพูดของบิ๊กต่าย ที่ว่าคดีนี้ฆ่ากันด้วยเรื่องส่วนตัว เลยยิ่งฟังไม่มีน้ำหนัก เหมือนว่าตำรวจไทยโดนใบสั่งให้รีบสรุปรวบรัดให้มันจบๆ และในเรื่องนี้หมากตัวสำคัญก็คือ คนชี้เป้า ซึ่งนั่งรถบัสตามประกบนายลิม กิมยา จากฝั่งเขมรมาถึงใจกลางกรุง คนชี้เป้าที่แท้เป็นน้องชายของนักการเมืองซีกรัฐบาลในปัจจุบัน อาศัยในกรุงพนมเปญ แต่รายนี้ตำรวจไทยและกัมพูชาไม่สามารถตามจับตัวได้ กลายเป็น “ขอมดำดิน” จนบัดนี้ โดยตำรวจกัมพูชา คลำไม่เจอตัวซะแล้ว ไม่เหมือนตอนตะครุบตัวจ่าเอ็มที่จับได้อย่างไว ขบวนการสังหาร จึงมีคนที่รู้จักนายลิม กิมยา เพียงคนเดียว คือคนชี้เป้า น้องชายนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ส่วนจ่าเอ็ม ก็ไม่รู้ว่าเป้าสังหารของตนเป็นใคร รอให้คนชี้เป้าส่งสัญญาณอย่างเดียว ให้ยิงใครก็ยิง ขบวนการใหญ่แบบนี้ หากใครจะนั่งยันนอนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองเลือด ต้อง “อมนครวัด” มาพูดกันเลยทีเดียว หากจะให้คนเชื่อ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts