• ตัวเลขข้างสัญลักษณ์ Wi-Fi บนมือถือ Android หมายถึงอะไร?

    หลายคนอาจเคยสังเกตเห็นตัวเลขเล็ก ๆ เช่น 5, 6 หรือ 7 ปรากฏอยู่ข้างสัญลักษณ์ Wi-Fi บนหน้าจอสมาร์ทโฟน Android แล้วสงสัยว่ามันคืออะไร จริง ๆ แล้วตัวเลขเหล่านี้บอกถึง “รุ่นของมาตรฐาน Wi-Fi” ที่อุปกรณ์และเราเตอร์กำลังเชื่อมต่ออยู่ เช่น Wi-Fi 5 (802.11ac), Wi-Fi 6 (802.11ax) และ Wi-Fi 7 (802.11be) ซึ่งแต่ละรุ่นมีความแตกต่างด้านความเร็ว ความหน่วง และประสิทธิภาพในการใช้งานในพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น

    Wi-Fi รุ่นใหม่ ๆ ไม่ได้หมายความว่าจะเร็วเสมอไป หากเราเตอร์ที่ใช้อยู่ยังเป็นรุ่นเก่า แม้โทรศัพท์จะรองรับ Wi-Fi 7 ก็จะเชื่อมต่อได้เพียง Wi-Fi 6 หรือ Wi-Fi 5 เท่านั้น ดังนั้นการอัปเกรดเราเตอร์จึงมีความสำคัญพอ ๆ กับการใช้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

    นอกจากนี้ บางรุ่นของสมาร์ทโฟน เช่น Xiaomi หรือ OnePlus ยังมีฟีเจอร์พิเศษที่แสดงตัวเลขวิ่งขึ้นลงข้างสัญลักษณ์ Wi-Fi ซึ่งเป็น “ตัวบ่งชี้การรับส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์” โดยตัวเลขนี้ไม่ได้บอกความเร็วสูงสุด แต่แสดงปริมาณข้อมูลที่กำลังอัปโหลดหรือดาวน์โหลดในขณะนั้น ทำให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้ทันทีว่ามีการใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่หรือไม่

    อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้เครือข่าย Wi-Fi ก็ยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเร็วอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการ และการเลือกย่านความถี่ที่เหมาะสม (2.4 GHz หรือ 5 GHz) เพื่อให้ได้ความเร็วและความเสถียรที่ดีที่สุด โดย Wi-Fi 7 ยังมีฟีเจอร์ Multi-Link Operation ที่ช่วยให้เชื่อมต่อหลายย่านความถี่พร้อมกัน เพิ่มความเสถียรและลดการหลุดของสัญญาณ

    สรุปสาระสำคัญ
    ตัวเลขข้างสัญลักษณ์ Wi-Fi บน Android
    บอกถึงรุ่นมาตรฐาน Wi-Fi (5, 6, 7) ที่อุปกรณ์เชื่อมต่ออยู่

    ความแตกต่างของ Wi-Fi แต่ละรุ่น
    Wi-Fi 5: ใช้ 802.11ac
    Wi-Fi 6: ใช้ 802.11ax, ลดความหน่วงและรองรับผู้ใช้มากขึ้น
    Wi-Fi 7: ใช้ 802.11be, มี Multi-Link Operation เพิ่มความเสถียร

    ฟีเจอร์เสริมในบางสมาร์ทโฟน
    ตัวเลขวิ่งขึ้นลงแสดงการรับส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์
    ฟีเจอร์ Dual Wi-Fi acceleration ในบางรุ่น เช่น OnePlus

    ข้อควรระวังในการใช้งาน Wi-Fi
    โทรศัพท์รุ่นใหม่อาจเชื่อมต่อได้เพียงมาตรฐานเก่า หากเราเตอร์ไม่รองรับ
    ความเร็วจริงขึ้นอยู่กับแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่แค่รุ่น Wi-Fi
    การเลือกย่านความถี่ผิด (เช่นใช้ 2.4 GHz ในพื้นที่แออัด) อาจทำให้สัญญาณช้าหรือไม่เสถียร

    https://www.slashgear.com/2007604/number-next-wi-fi-symbol-meaning-android/
    📡 ตัวเลขข้างสัญลักษณ์ Wi-Fi บนมือถือ Android หมายถึงอะไร? หลายคนอาจเคยสังเกตเห็นตัวเลขเล็ก ๆ เช่น 5, 6 หรือ 7 ปรากฏอยู่ข้างสัญลักษณ์ Wi-Fi บนหน้าจอสมาร์ทโฟน Android แล้วสงสัยว่ามันคืออะไร จริง ๆ แล้วตัวเลขเหล่านี้บอกถึง “รุ่นของมาตรฐาน Wi-Fi” ที่อุปกรณ์และเราเตอร์กำลังเชื่อมต่ออยู่ เช่น Wi-Fi 5 (802.11ac), Wi-Fi 6 (802.11ax) และ Wi-Fi 7 (802.11be) ซึ่งแต่ละรุ่นมีความแตกต่างด้านความเร็ว ความหน่วง และประสิทธิภาพในการใช้งานในพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น 📶 Wi-Fi รุ่นใหม่ ๆ ไม่ได้หมายความว่าจะเร็วเสมอไป หากเราเตอร์ที่ใช้อยู่ยังเป็นรุ่นเก่า แม้โทรศัพท์จะรองรับ Wi-Fi 7 ก็จะเชื่อมต่อได้เพียง Wi-Fi 6 หรือ Wi-Fi 5 เท่านั้น ดังนั้นการอัปเกรดเราเตอร์จึงมีความสำคัญพอ ๆ กับการใช้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 🌐 นอกจากนี้ บางรุ่นของสมาร์ทโฟน เช่น Xiaomi หรือ OnePlus ยังมีฟีเจอร์พิเศษที่แสดงตัวเลขวิ่งขึ้นลงข้างสัญลักษณ์ Wi-Fi ซึ่งเป็น “ตัวบ่งชี้การรับส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์” โดยตัวเลขนี้ไม่ได้บอกความเร็วสูงสุด แต่แสดงปริมาณข้อมูลที่กำลังอัปโหลดหรือดาวน์โหลดในขณะนั้น ทำให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้ทันทีว่ามีการใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่หรือไม่ ⚠️ อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้เครือข่าย Wi-Fi ก็ยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเร็วอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการ และการเลือกย่านความถี่ที่เหมาะสม (2.4 GHz หรือ 5 GHz) เพื่อให้ได้ความเร็วและความเสถียรที่ดีที่สุด โดย Wi-Fi 7 ยังมีฟีเจอร์ Multi-Link Operation ที่ช่วยให้เชื่อมต่อหลายย่านความถี่พร้อมกัน เพิ่มความเสถียรและลดการหลุดของสัญญาณ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ตัวเลขข้างสัญลักษณ์ Wi-Fi บน Android ➡️ บอกถึงรุ่นมาตรฐาน Wi-Fi (5, 6, 7) ที่อุปกรณ์เชื่อมต่ออยู่ ✅ ความแตกต่างของ Wi-Fi แต่ละรุ่น ➡️ Wi-Fi 5: ใช้ 802.11ac ➡️ Wi-Fi 6: ใช้ 802.11ax, ลดความหน่วงและรองรับผู้ใช้มากขึ้น ➡️ Wi-Fi 7: ใช้ 802.11be, มี Multi-Link Operation เพิ่มความเสถียร ✅ ฟีเจอร์เสริมในบางสมาร์ทโฟน ➡️ ตัวเลขวิ่งขึ้นลงแสดงการรับส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ ➡️ ฟีเจอร์ Dual Wi-Fi acceleration ในบางรุ่น เช่น OnePlus ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน Wi-Fi ⛔ โทรศัพท์รุ่นใหม่อาจเชื่อมต่อได้เพียงมาตรฐานเก่า หากเราเตอร์ไม่รองรับ ⛔ ความเร็วจริงขึ้นอยู่กับแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่แค่รุ่น Wi-Fi ⛔ การเลือกย่านความถี่ผิด (เช่นใช้ 2.4 GHz ในพื้นที่แออัด) อาจทำให้สัญญาณช้าหรือไม่เสถียร https://www.slashgear.com/2007604/number-next-wi-fi-symbol-meaning-android/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Here's What The Number Next To The Wi-Fi Symbol On Your Android Device Means - SlashGear
    Wi-Fi generations previously used confusing number and letter names, but things are much simpler today. Here's what the number next to the Wi-Fi symbol means.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • Qualcomm เปิดตัว Dragonwing IQ-X: พลัง AI 45 TOPS สำหรับโรงงานอัจฉริยะ

    Qualcomm ประกาศเปิดตัวซีรีส์ Dragonwing IQ-X ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อ Industrial PCs (IPCs) และระบบควบคุมในโรงงาน โดยใช้สถาปัตยกรรม Oryon CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งการทำงานแบบ Single-thread และ Multi-thread จุดเด่นคือการรวม Neural Processing Unit (NPU) ที่สามารถประมวลผล AI ได้สูงสุดถึง 45 TOPS ทำให้สามารถรันงาน AI ได้โดยตรงบนอุปกรณ์โดยไม่ต้องพึ่งพา Cloud

    ซีรีส์นี้ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4nm และมีคอร์ประสิทธิภาพสูง 8–12 คอร์ รองรับการทำงานในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่รุนแรง โดยสามารถทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิ –40°C ถึง 105°C นอกจากนี้ยังรองรับ Windows 11 IoT Enterprise LTSC และเครื่องมือมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น Qt, CODESYS และ EtherCAT

    Qualcomm เน้นว่าการออกแบบ Dragonwing IQ-X ใช้ COM form factor ทำให้สามารถนำไปใช้แทนบอร์ดเดิมได้ทันทีโดยไม่ต้องเพิ่มโมดูล AI หรือมัลติมีเดียภายนอก ช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับใช้ในระบบอุตสาหกรรม

    ผู้ผลิตรายใหญ่หลายราย เช่น Advantech, NEXCOM, Portwell, Congatec, Kontron, Tria และ SECO ได้เริ่มนำ Dragonwing IQ-X ไปใช้ในผลิตภัณฑ์แล้ว โดยคาดว่าอุปกรณ์เชิงพาณิชย์ที่ใช้ซีรีส์นี้จะเริ่มวางจำหน่ายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Dragonwing IQ-X เปิดตัวเพื่อ Industrial PCs
    ใช้สถาปัตยกรรม Oryon CPU พร้อม NPU 45 TOPS
    รองรับงาน AI เช่น Predictive Maintenance และ Defect Detection

    คุณสมบัติทางเทคนิค
    ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4nm
    มีคอร์ 8–12 คอร์ และรองรับอุณหภูมิ –40°C ถึง 105°C

    การรองรับซอฟต์แวร์
    รองรับ Windows 11 IoT Enterprise LTSC
    ใช้เครื่องมือมาตรฐาน เช่น Qt, CODESYS, EtherCAT

    การนำไปใช้จริง
    ใช้ COM form factor ลดต้นทุน BOM
    ผู้ผลิตรายใหญ่หลายรายเริ่มนำไปใช้แล้ว

    คำเตือนต่อผู้ใช้งานอุตสาหกรรม
    หากไม่อัปเดตระบบให้รองรับ AI อาจเสียเปรียบด้านประสิทธิภาพและต้นทุน
    การละเลยการปรับใช้เทคโนโลยีใหม่อาจทำให้ระบบโรงงานล้าหลังในการแข่งขัน

    https://securityonline.info/qualcomm-launches-dragonwing-iq-x-oryon-cpu-brings-45-tops-edge-ai-to-factory-pcs/
    ⚙️ Qualcomm เปิดตัว Dragonwing IQ-X: พลัง AI 45 TOPS สำหรับโรงงานอัจฉริยะ Qualcomm ประกาศเปิดตัวซีรีส์ Dragonwing IQ-X ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อ Industrial PCs (IPCs) และระบบควบคุมในโรงงาน โดยใช้สถาปัตยกรรม Oryon CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งการทำงานแบบ Single-thread และ Multi-thread จุดเด่นคือการรวม Neural Processing Unit (NPU) ที่สามารถประมวลผล AI ได้สูงสุดถึง 45 TOPS ทำให้สามารถรันงาน AI ได้โดยตรงบนอุปกรณ์โดยไม่ต้องพึ่งพา Cloud ซีรีส์นี้ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4nm และมีคอร์ประสิทธิภาพสูง 8–12 คอร์ รองรับการทำงานในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่รุนแรง โดยสามารถทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิ –40°C ถึง 105°C นอกจากนี้ยังรองรับ Windows 11 IoT Enterprise LTSC และเครื่องมือมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น Qt, CODESYS และ EtherCAT Qualcomm เน้นว่าการออกแบบ Dragonwing IQ-X ใช้ COM form factor ทำให้สามารถนำไปใช้แทนบอร์ดเดิมได้ทันทีโดยไม่ต้องเพิ่มโมดูล AI หรือมัลติมีเดียภายนอก ช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับใช้ในระบบอุตสาหกรรม ผู้ผลิตรายใหญ่หลายราย เช่น Advantech, NEXCOM, Portwell, Congatec, Kontron, Tria และ SECO ได้เริ่มนำ Dragonwing IQ-X ไปใช้ในผลิตภัณฑ์แล้ว โดยคาดว่าอุปกรณ์เชิงพาณิชย์ที่ใช้ซีรีส์นี้จะเริ่มวางจำหน่ายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Dragonwing IQ-X เปิดตัวเพื่อ Industrial PCs ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม Oryon CPU พร้อม NPU 45 TOPS ➡️ รองรับงาน AI เช่น Predictive Maintenance และ Defect Detection ✅ คุณสมบัติทางเทคนิค ➡️ ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4nm ➡️ มีคอร์ 8–12 คอร์ และรองรับอุณหภูมิ –40°C ถึง 105°C ✅ การรองรับซอฟต์แวร์ ➡️ รองรับ Windows 11 IoT Enterprise LTSC ➡️ ใช้เครื่องมือมาตรฐาน เช่น Qt, CODESYS, EtherCAT ✅ การนำไปใช้จริง ➡️ ใช้ COM form factor ลดต้นทุน BOM ➡️ ผู้ผลิตรายใหญ่หลายรายเริ่มนำไปใช้แล้ว ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้งานอุตสาหกรรม ⛔ หากไม่อัปเดตระบบให้รองรับ AI อาจเสียเปรียบด้านประสิทธิภาพและต้นทุน ⛔ การละเลยการปรับใช้เทคโนโลยีใหม่อาจทำให้ระบบโรงงานล้าหลังในการแข่งขัน https://securityonline.info/qualcomm-launches-dragonwing-iq-x-oryon-cpu-brings-45-tops-edge-ai-to-factory-pcs/
    SECURITYONLINE.INFO
    Qualcomm Launches Dragonwing IQ-X: Oryon CPU Brings 45 TOPS Edge AI to Factory PCs
    Qualcomm launches Dragonwing IQ-X, its first industrial PC processor with Oryon CPUs, 45 TOPS of AI power, and a rugged design for factory edge controllers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • การโจมตีไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ครั้งแรก

    Anthropic เปิดเผยว่ามีการใช้ Claude เวอร์ชันที่ถูกเจลเบรกเพื่อดำเนินการโจมตีไซเบอร์ต่อสถาบันกว่า 30 แห่ง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยี การเงิน โรงงานเคมี และหน่วยงานรัฐบาล การโจมตีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการใช้ AI แบบ “agentic” ในการจัดการขั้นตอนต่าง ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ตลอดเวลา

    วิธีการโจมตีที่ซับซ้อน
    การโจมตีแบ่งออกเป็น 5 เฟส ตั้งแต่การสแกนระบบเบื้องต้น การค้นหาช่องโหว่ ไปจนถึงการขโมยข้อมูลและ credentials จุดสำคัญคือ AI สามารถทำงานได้เองถึง 80–90% ของเวลา โดยมนุษย์เพียงแค่ให้คำสั่งและตรวจสอบผลลัพธ์ ทำให้การโจมตีดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง

    การหลอก AI ให้ทำงานผิดวัตถุประสงค์
    ผู้โจมตีใช้เทคนิค “context splitting” โดยแบ่งงานออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนไม่มีอันตราย และทำให้ Claude เชื่อว่ากำลังทำงานเพื่อการทดสอบระบบ (penetration testing) ไม่ใช่การโจมตีจริง วิธีนี้ช่วยหลีกเลี่ยงกลไกความปลอดภัยที่ถูกฝังไว้ในโมเดล

    ผลกระทบและการตอบสนอง
    Anthropic ได้บล็อกบัญชีที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนเหยื่อและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเผยแพร่รายงานเพื่อช่วยอุตสาหกรรมพัฒนาแนวทางป้องกันใหม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า AI ที่มีความสามารถเชิง “agency” สามารถถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ง่าย และอาจเป็นภัยคุกคามระดับชาติในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การโจมตีไซเบอร์ครั้งแรกที่ orchestrated โดย AI
    ใช้ Claude เวอร์ชันเจลเบรกโจมตีสถาบันกว่า 30 แห่ง

    AI ทำงานได้เองถึง 80–90%
    ลดการพึ่งพามนุษย์ ทำให้การโจมตีรวดเร็วและซับซ้อน

    เทคนิค context splitting
    หลอกให้ AI เชื่อว่ากำลังทำงานเพื่อการทดสอบระบบ

    ความเสี่ยงจาก AI agentic capabilities
    อาจถูกใช้ในทางที่ผิดและเป็นภัยคุกคามระดับชาติ

    การป้องกันยังไม่สมบูรณ์
    แม้มี safeguards แต่สามารถถูกหลอกให้ทำงานผิดวัตถุประสงค์ได้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/anthropic-says-it-has-foiled-the-first-ever-ai-orchestrated-cyber-attack-originating-from-china-company-alleges-attack-was-run-by-chinese-state-sponsored-group
    🛡️ การโจมตีไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ครั้งแรก Anthropic เปิดเผยว่ามีการใช้ Claude เวอร์ชันที่ถูกเจลเบรกเพื่อดำเนินการโจมตีไซเบอร์ต่อสถาบันกว่า 30 แห่ง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยี การเงิน โรงงานเคมี และหน่วยงานรัฐบาล การโจมตีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการใช้ AI แบบ “agentic” ในการจัดการขั้นตอนต่าง ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ตลอดเวลา ⚙️ วิธีการโจมตีที่ซับซ้อน การโจมตีแบ่งออกเป็น 5 เฟส ตั้งแต่การสแกนระบบเบื้องต้น การค้นหาช่องโหว่ ไปจนถึงการขโมยข้อมูลและ credentials จุดสำคัญคือ AI สามารถทำงานได้เองถึง 80–90% ของเวลา โดยมนุษย์เพียงแค่ให้คำสั่งและตรวจสอบผลลัพธ์ ทำให้การโจมตีดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง 🔒 การหลอก AI ให้ทำงานผิดวัตถุประสงค์ ผู้โจมตีใช้เทคนิค “context splitting” โดยแบ่งงานออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนไม่มีอันตราย และทำให้ Claude เชื่อว่ากำลังทำงานเพื่อการทดสอบระบบ (penetration testing) ไม่ใช่การโจมตีจริง วิธีนี้ช่วยหลีกเลี่ยงกลไกความปลอดภัยที่ถูกฝังไว้ในโมเดล 🌐 ผลกระทบและการตอบสนอง Anthropic ได้บล็อกบัญชีที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนเหยื่อและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเผยแพร่รายงานเพื่อช่วยอุตสาหกรรมพัฒนาแนวทางป้องกันใหม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า AI ที่มีความสามารถเชิง “agency” สามารถถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ง่าย และอาจเป็นภัยคุกคามระดับชาติในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การโจมตีไซเบอร์ครั้งแรกที่ orchestrated โดย AI ➡️ ใช้ Claude เวอร์ชันเจลเบรกโจมตีสถาบันกว่า 30 แห่ง ✅ AI ทำงานได้เองถึง 80–90% ➡️ ลดการพึ่งพามนุษย์ ทำให้การโจมตีรวดเร็วและซับซ้อน ✅ เทคนิค context splitting ➡️ หลอกให้ AI เชื่อว่ากำลังทำงานเพื่อการทดสอบระบบ ‼️ ความเสี่ยงจาก AI agentic capabilities ⛔ อาจถูกใช้ในทางที่ผิดและเป็นภัยคุกคามระดับชาติ ‼️ การป้องกันยังไม่สมบูรณ์ ⛔ แม้มี safeguards แต่สามารถถูกหลอกให้ทำงานผิดวัตถุประสงค์ได้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/anthropic-says-it-has-foiled-the-first-ever-ai-orchestrated-cyber-attack-originating-from-china-company-alleges-attack-was-run-by-chinese-state-sponsored-group
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • Valve รอเทคโนโลยีใหม่ก่อนเปิดตัว Steam Deck 2

    Valve ประกาศชัดเจนว่า Steam Deck 2 จะไม่ใช่การอัปเกรดเล็กน้อย แต่ต้องเป็น “ก้าวกระโดด” ทั้งด้านประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ปัจจุบัน Steam Deck รุ่นแรกแม้ยังคงเล่นเกมได้ดี แต่เริ่มล้าหลังเมื่อเจอกับเกม AAA รุ่นใหม่ ๆ ที่กินทรัพยากรมากขึ้น ทำให้ทีมพัฒนาเลือกที่จะรอจนกว่าชิปใหม่จะพร้อมใช้งานจริง

    AMD Strix Halo APU – พลังที่ Valve จับตามอง
    AMD เปิดตัว Ryzen AI MAX+ 395 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Strix Halo ซึ่งมาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 จำนวน 40 CU ที่ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4060 Laptop GPU นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจทำให้ Steam Deck 2 สามารถแข่งขันกับโน้ตบุ๊กเกมมิ่งระดับกลางได้ โดยยังคงอยู่ในขนาดพกพา

    ปัญหาหลัก: ประสิทธิภาพต่อวัตต์และแบตเตอรี่
    แม้ Strix Halo จะทรงพลัง แต่ Valve ย้ำว่าการเพิ่มประสิทธิภาพ 20–50% ยังไม่เพียงพอ หากต้องแลกกับแบตเตอรี่ที่หมดเร็วเกินไป ตัวอย่างเช่น ROG Ally X ที่ใช้ชิปใหม่ แม้เล่นเกมได้ลื่น แต่แบตเตอรี่หมดภายใน 2 ชั่วโมงเมื่อใช้โหมด Turbo ซึ่งไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในระยะยาว

    อนาคตของเครื่องเล่นพกพา
    Valve กำลังวางแผนให้ Steam Deck 2 เป็นเครื่องที่ “Next-gen” อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการอัปเกรดเล็กน้อย หาก AMD สามารถทำให้ Strix Halo หรือรุ่นถัดไปมีราคาที่เข้าถึงได้และประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงพอ Steam Deck 2 อาจเปิดตัวในช่วงปี 2027–2028 ซึ่งจะเป็นการเว้นระยะห่างราว 5–6 ปีจากรุ่นแรก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Valve ชะลอการเปิดตัว Steam Deck 2
    ต้องการรอเทคโนโลยีซิลิคอนใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพสูงโดยไม่ลดทอนแบตเตอรี่

    AMD Strix Halo APU โดดเด่น
    มาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 ที่แรงเทียบ RTX 4060 Laptop

    Steam Deck รุ่นปัจจุบันเริ่มล้าหลัง
    เกม AAA ใหม่ ๆ ทำให้เครื่องแสดงข้อจำกัดด้านเฟรมเรตและแบตเตอรี่

    ความเสี่ยงด้านแบตเตอรี่และความร้อน
    ชิปที่แรงขึ้นอาจทำให้แบตหมดเร็วและเครื่องร้อนเกินไป ไม่เหมาะกับการพกพา

    ราคาที่อาจสูงเกินเอื้อม
    หาก Steam Deck 2 ใช้ชิปประสิทธิภาพสูง ราคาสามารถพุ่งใกล้ $1,000 ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงยาก

    https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/valve-is-waiting-for-major-architectural-improvements-on-future-silicon-before-creating-the-steam-deck-2-drastically-better-performance-with-the-same-battery-life-is-not-enough
    🎮 Valve รอเทคโนโลยีใหม่ก่อนเปิดตัว Steam Deck 2 Valve ประกาศชัดเจนว่า Steam Deck 2 จะไม่ใช่การอัปเกรดเล็กน้อย แต่ต้องเป็น “ก้าวกระโดด” ทั้งด้านประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ปัจจุบัน Steam Deck รุ่นแรกแม้ยังคงเล่นเกมได้ดี แต่เริ่มล้าหลังเมื่อเจอกับเกม AAA รุ่นใหม่ ๆ ที่กินทรัพยากรมากขึ้น ทำให้ทีมพัฒนาเลือกที่จะรอจนกว่าชิปใหม่จะพร้อมใช้งานจริง ⚡ AMD Strix Halo APU – พลังที่ Valve จับตามอง AMD เปิดตัว Ryzen AI MAX+ 395 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Strix Halo ซึ่งมาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 จำนวน 40 CU ที่ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4060 Laptop GPU นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจทำให้ Steam Deck 2 สามารถแข่งขันกับโน้ตบุ๊กเกมมิ่งระดับกลางได้ โดยยังคงอยู่ในขนาดพกพา 🔋 ปัญหาหลัก: ประสิทธิภาพต่อวัตต์และแบตเตอรี่ แม้ Strix Halo จะทรงพลัง แต่ Valve ย้ำว่าการเพิ่มประสิทธิภาพ 20–50% ยังไม่เพียงพอ หากต้องแลกกับแบตเตอรี่ที่หมดเร็วเกินไป ตัวอย่างเช่น ROG Ally X ที่ใช้ชิปใหม่ แม้เล่นเกมได้ลื่น แต่แบตเตอรี่หมดภายใน 2 ชั่วโมงเมื่อใช้โหมด Turbo ซึ่งไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในระยะยาว 🌐 อนาคตของเครื่องเล่นพกพา Valve กำลังวางแผนให้ Steam Deck 2 เป็นเครื่องที่ “Next-gen” อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการอัปเกรดเล็กน้อย หาก AMD สามารถทำให้ Strix Halo หรือรุ่นถัดไปมีราคาที่เข้าถึงได้และประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงพอ Steam Deck 2 อาจเปิดตัวในช่วงปี 2027–2028 ซึ่งจะเป็นการเว้นระยะห่างราว 5–6 ปีจากรุ่นแรก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Valve ชะลอการเปิดตัว Steam Deck 2 ➡️ ต้องการรอเทคโนโลยีซิลิคอนใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพสูงโดยไม่ลดทอนแบตเตอรี่ ✅ AMD Strix Halo APU โดดเด่น ➡️ มาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 ที่แรงเทียบ RTX 4060 Laptop ✅ Steam Deck รุ่นปัจจุบันเริ่มล้าหลัง ➡️ เกม AAA ใหม่ ๆ ทำให้เครื่องแสดงข้อจำกัดด้านเฟรมเรตและแบตเตอรี่ ‼️ ความเสี่ยงด้านแบตเตอรี่และความร้อน ⛔ ชิปที่แรงขึ้นอาจทำให้แบตหมดเร็วและเครื่องร้อนเกินไป ไม่เหมาะกับการพกพา ‼️ ราคาที่อาจสูงเกินเอื้อม ⛔ หาก Steam Deck 2 ใช้ชิปประสิทธิภาพสูง ราคาสามารถพุ่งใกล้ $1,000 ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงยาก https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/valve-is-waiting-for-major-architectural-improvements-on-future-silicon-before-creating-the-steam-deck-2-drastically-better-performance-with-the-same-battery-life-is-not-enough
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • “การแปรรูปรถไฟอังกฤษที่ล้มเหลว”

    เรื่องราวนี้เล่าถึงการแปรรูปรถไฟอังกฤษในช่วงปี 1990s ที่ถูกขายออกไปให้เอกชน โดยหวังว่าจะสร้างการแข่งขันและยกระดับคุณภาพ แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม ระบบรถไฟที่เคยมีประสิทธิภาพสูงกลับเผชิญปัญหามากมาย ทั้งอุบัติเหตุร้ายแรง การขาดการลงทุน และการจัดการที่ซับซ้อนเกินไป จนท้ายที่สุดต้องกลับเข้าสู่การดูแลของรัฐอีกครั้งในรูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า Great British Railways (GBR)

    การเล่าเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า การแปรรูปไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยและความต่อเนื่องของบริการสาธารณะ แต่กลับเน้นผลประโยชน์ทางการเงินของเอกชน ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพยากรอย่างมหาศาล ปัจจุบันแม้ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนการกลับมาเป็นของรัฐ แต่ก็ยังมีความไม่แน่ใจว่าระบบใหม่จะสามารถแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่

    สรุปเป็นหัวข้อ:
    การแปรรูปรถไฟอังกฤษในปี 1990s
    ถูกขายให้เอกชนหลายบริษัท ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและขบวนรถ
    เกิดการจัดการที่ซับซ้อนและไม่ต่อเนื่อง

    ผลกระทบหลังแปรรูป
    เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหลายครั้ง เช่น Southall, Ladbroke Grove, Hatfield
    ผู้โดยสารเผชิญปัญหาความปลอดภัยและความล่าช้า

    การกลับสู่รัฐ
    ก่อตั้ง Network Rail และต่อมา Great British Railways
    ประชาชน 75% สนับสนุนการเป็นของรัฐ

    คำเตือน
    การแปรรูปโดยไม่คำนึงถึงบริการสาธารณะอาจสร้างหายนะ
    การเมืองและผลประโยชน์อาจทำให้การปฏิรูปไม่ยั่งยืน

    https://www.rosalux.de/en/news/id/53917/britains-railway-privatization-was-an-abject-failure
    🚆 “การแปรรูปรถไฟอังกฤษที่ล้มเหลว” เรื่องราวนี้เล่าถึงการแปรรูปรถไฟอังกฤษในช่วงปี 1990s ที่ถูกขายออกไปให้เอกชน โดยหวังว่าจะสร้างการแข่งขันและยกระดับคุณภาพ แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม ระบบรถไฟที่เคยมีประสิทธิภาพสูงกลับเผชิญปัญหามากมาย ทั้งอุบัติเหตุร้ายแรง การขาดการลงทุน และการจัดการที่ซับซ้อนเกินไป จนท้ายที่สุดต้องกลับเข้าสู่การดูแลของรัฐอีกครั้งในรูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า Great British Railways (GBR) การเล่าเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า การแปรรูปไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยและความต่อเนื่องของบริการสาธารณะ แต่กลับเน้นผลประโยชน์ทางการเงินของเอกชน ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพยากรอย่างมหาศาล ปัจจุบันแม้ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนการกลับมาเป็นของรัฐ แต่ก็ยังมีความไม่แน่ใจว่าระบบใหม่จะสามารถแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ: ✅ การแปรรูปรถไฟอังกฤษในปี 1990s ➡️ ถูกขายให้เอกชนหลายบริษัท ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและขบวนรถ ➡️ เกิดการจัดการที่ซับซ้อนและไม่ต่อเนื่อง ✅ ผลกระทบหลังแปรรูป ➡️ เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหลายครั้ง เช่น Southall, Ladbroke Grove, Hatfield ➡️ ผู้โดยสารเผชิญปัญหาความปลอดภัยและความล่าช้า ✅ การกลับสู่รัฐ ➡️ ก่อตั้ง Network Rail และต่อมา Great British Railways ➡️ ประชาชน 75% สนับสนุนการเป็นของรัฐ ‼️ คำเตือน ⛔ การแปรรูปโดยไม่คำนึงถึงบริการสาธารณะอาจสร้างหายนะ ⛔ การเมืองและผลประโยชน์อาจทำให้การปฏิรูปไม่ยั่งยืน https://www.rosalux.de/en/news/id/53917/britains-railway-privatization-was-an-abject-failure
    WWW.ROSALUX.DE
    Britain’s Railway Privatization Was an Abject Failure - Rosa-Luxemburg-Stiftung
    Sold off in the 1990s, the UK’s railways are returning to public hands — but at what cost?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nitrux 5.0.0 เปิดตัวแล้ว !!!

    Nitrux 5.0.0 เปิดตัวแล้ว โดยเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ไปใช้ Hyprland, ระบบไฟล์แบบ immutable, และแนวทางจัดการซอฟต์แวร์ใหม่ที่ไม่เหมาะกับทุกคน แต่ชัดเจนว่าออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ชอบการปรับแต่งและเครื่องที่มีสมรรถนะสูง

    จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของ Nitrux
    Nitrux เป็นดิสโทรที่มีพื้นฐานจาก Debian และเคยโดดเด่นด้วยการใช้ NX Desktop บน KDE Plasma แต่ในปีนี้ทีมพัฒนาได้ประกาศยุติ NX Desktop และหันไปใช้ Hyprland บน Wayland อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ Nitrux 5.0.0 กลายเป็นเวอร์ชันแรกที่สะท้อนแนวทางใหม่นี้ โดยตัด KDE Plasma, KWin และ SDDM ออกไปทั้งหมด

    ฟีเจอร์ใหม่และระบบภายใน
    Nitrux 5.0.0 ใช้ OpenRC 0.63 แทน systemd และมาพร้อม Liquorix kernel 6.17.7 หรือ CachyOS-patched kernel ขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ยังมีการนำเครื่องมือใหม่ ๆ เข้ามา เช่น Waybar, Crystal Dock, greetd, QtGreet, Wofi และ wlogout เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างจากเดิม ระบบไฟล์ถูกออกแบบให้เป็น immutable root filesystem ผ่าน NX Overlayroot ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ rollback ระบบได้ง่ายและมั่นคงมากขึ้น

    การจัดการซอฟต์แวร์แบบใหม่
    ทีมพัฒนาได้เปิดตัว NX AppHub และ AppBoxes เป็นวิธีหลักในการติดตั้งแอปพลิเคชัน โดยยังคงรองรับ Flatpak และ Distrobox เป็นทางเลือกเสริม พร้อมอัปเดตเครื่องมือสำคัญหลายตัว เช่น Podman 5.6.1, Docker 26.1.5, Git 2.51.0, Python 3.13.7, MESA 25.2.3 และ PipeWire 1.4.8

    การออกแบบเพื่อผู้ใช้เฉพาะกลุ่ม
    นักพัฒนา Nitrux ย้ำชัดว่า ดิสโทรนี้ ไม่ถูกออกแบบมาเพื่อทุกคน แต่เหมาะกับผู้ใช้ที่มองว่าการปรับแต่งคือพลัง ไม่ใช่ความยุ่งยาก โดยเปรียบเทียบว่า Nitrux เป็นเหมือน “รถแข่งสำหรับสนามจริง” ไม่ใช่ “รถสำหรับขับในเมือง” สะท้อนว่ามุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้ที่มีฮาร์ดแวร์ทันสมัยและต้องการประสิทธิภาพสูง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลงหลักใน Nitrux 5.0.0
    ยกเลิก NX Desktop และ KDE Plasma
    ใช้ Hyprland บน Wayland อย่างเต็มรูปแบบ

    ระบบภายในและฟีเจอร์ใหม่
    ใช้ OpenRC 0.63 และ kernel ที่ปรับแต่ง
    Immutable root filesystem ผ่าน NX Overlayroot

    การจัดการซอฟต์แวร์
    NX AppHub และ AppBoxes เป็นวิธีหลัก
    Flatpak และ Distrobox ยังรองรับเป็นทางเลือก

    แนวคิดการออกแบบ
    มุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้ที่ชอบการปรับแต่ง
    เหมาะกับเครื่องสมรรถนะสูง ไม่ใช่ทุกคน

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ไม่รองรับการอัปเดตจากเวอร์ชันเก่า (3.9.1 → 5.0.0)
    ไม่รองรับการใช้งานบน Virtual Machine โดยตรง

    https://itsfoss.com/news/nitrux-5-release/
    🐧 Nitrux 5.0.0 เปิดตัวแล้ว !!! Nitrux 5.0.0 เปิดตัวแล้ว โดยเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ไปใช้ Hyprland, ระบบไฟล์แบบ immutable, และแนวทางจัดการซอฟต์แวร์ใหม่ที่ไม่เหมาะกับทุกคน แต่ชัดเจนว่าออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ชอบการปรับแต่งและเครื่องที่มีสมรรถนะสูง 🖥️ จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของ Nitrux Nitrux เป็นดิสโทรที่มีพื้นฐานจาก Debian และเคยโดดเด่นด้วยการใช้ NX Desktop บน KDE Plasma แต่ในปีนี้ทีมพัฒนาได้ประกาศยุติ NX Desktop และหันไปใช้ Hyprland บน Wayland อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ Nitrux 5.0.0 กลายเป็นเวอร์ชันแรกที่สะท้อนแนวทางใหม่นี้ โดยตัด KDE Plasma, KWin และ SDDM ออกไปทั้งหมด ⚙️ ฟีเจอร์ใหม่และระบบภายใน Nitrux 5.0.0 ใช้ OpenRC 0.63 แทน systemd และมาพร้อม Liquorix kernel 6.17.7 หรือ CachyOS-patched kernel ขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ยังมีการนำเครื่องมือใหม่ ๆ เข้ามา เช่น Waybar, Crystal Dock, greetd, QtGreet, Wofi และ wlogout เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างจากเดิม ระบบไฟล์ถูกออกแบบให้เป็น immutable root filesystem ผ่าน NX Overlayroot ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ rollback ระบบได้ง่ายและมั่นคงมากขึ้น 📦 การจัดการซอฟต์แวร์แบบใหม่ ทีมพัฒนาได้เปิดตัว NX AppHub และ AppBoxes เป็นวิธีหลักในการติดตั้งแอปพลิเคชัน โดยยังคงรองรับ Flatpak และ Distrobox เป็นทางเลือกเสริม พร้อมอัปเดตเครื่องมือสำคัญหลายตัว เช่น Podman 5.6.1, Docker 26.1.5, Git 2.51.0, Python 3.13.7, MESA 25.2.3 และ PipeWire 1.4.8 🚀 การออกแบบเพื่อผู้ใช้เฉพาะกลุ่ม นักพัฒนา Nitrux ย้ำชัดว่า ดิสโทรนี้ ไม่ถูกออกแบบมาเพื่อทุกคน แต่เหมาะกับผู้ใช้ที่มองว่าการปรับแต่งคือพลัง ไม่ใช่ความยุ่งยาก โดยเปรียบเทียบว่า Nitrux เป็นเหมือน “รถแข่งสำหรับสนามจริง” ไม่ใช่ “รถสำหรับขับในเมือง” สะท้อนว่ามุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้ที่มีฮาร์ดแวร์ทันสมัยและต้องการประสิทธิภาพสูง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลงหลักใน Nitrux 5.0.0 ➡️ ยกเลิก NX Desktop และ KDE Plasma ➡️ ใช้ Hyprland บน Wayland อย่างเต็มรูปแบบ ✅ ระบบภายในและฟีเจอร์ใหม่ ➡️ ใช้ OpenRC 0.63 และ kernel ที่ปรับแต่ง ➡️ Immutable root filesystem ผ่าน NX Overlayroot ✅ การจัดการซอฟต์แวร์ ➡️ NX AppHub และ AppBoxes เป็นวิธีหลัก ➡️ Flatpak และ Distrobox ยังรองรับเป็นทางเลือก ✅ แนวคิดการออกแบบ ➡️ มุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้ที่ชอบการปรับแต่ง ➡️ เหมาะกับเครื่องสมรรถนะสูง ไม่ใช่ทุกคน ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ไม่รองรับการอัปเดตจากเวอร์ชันเก่า (3.9.1 → 5.0.0) ⛔ ไม่รองรับการใช้งานบน Virtual Machine โดยตรง https://itsfoss.com/news/nitrux-5-release/
    ITSFOSS.COM
    Nitrux 5.0.0 Released: A 'New Beginning' That's Not for Everyone (By Design)
    The Debian-based distro goes all-in on Hyprland, immutability, and intentional design.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nitrux 5.0 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ – ดิสโทร Linux แบบ Systemd-Free พร้อม Hyprland

    หลังจากพัฒนามาอย่างยาวนาน ทีมงาน Nitrux ได้ประกาศเปิดตัว Nitrux 5.0 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยตัด KDE Plasma ออกและหันมาใช้ Hyprland เป็น Wayland compositor หลัก ทำให้ระบบมีความเบาและตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น พร้อมเครื่องมือใหม่ ๆ เช่น Waybar, Wlogout, Crystal Dock และ Wofi ที่ช่วยให้การใช้งานลื่นไหลและทันสมัยมากขึ้น

    Nitrux 5.0 ยังมาพร้อมกับ สองเวอร์ชัน คือ Liquorix kernel สำหรับผู้ใช้ AMD และ CachyOS kernel สำหรับผู้ใช้ NVIDIA โดยทั้งสองรุ่นใช้ Linux kernel 6.17 และมีการปรับแต่งเพื่อให้ประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ยังมีการรวมเครื่องมือสำคัญ เช่น PipeWire สำหรับจัดการเสียงและวิดีโอ, NetworkManager สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย และ Flatpak สำหรับติดตั้งแอปพลิเคชัน

    สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือการใช้ OpenRC แทน systemd ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นและเบากว่าเดิม พร้อมฟีเจอร์เสริมอย่าง SCX global vtime CPU scheduler และ Ananicy-cpp daemon ที่ช่วยจัดการทรัพยากร CPU และ RAM อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดจากเวอร์ชันเก่าไม่สามารถทำได้ ต้องติดตั้งใหม่ทั้งหมด

    จุดเด่นของ Nitrux 5.0
    ใช้ Hyprland แทน KDE Plasma
    มีเครื่องมือใหม่ เช่น Waybar, Wlogout, Crystal Dock, Wofi

    ตัวเลือก Kernel
    Liquorix สำหรับ AMD
    CachyOS สำหรับ NVIDIA

    ฟีเจอร์ระบบ
    ใช้ OpenRC แทน systemd
    มี SCX CPU scheduler และ Ananicy-cpp daemon

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ไม่สามารถอัปเกรดจากเวอร์ชันเก่า ต้องติดตั้งใหม่
    ผู้ใช้ที่ไม่คุ้นเคยกับ Wayland อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้การปรับแต่ง

    https://9to5linux.com/systemd-free-nitrux-5-0-officially-released-with-hyprland-desktop-linux-kernel-6-17
    💻 Nitrux 5.0 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ – ดิสโทร Linux แบบ Systemd-Free พร้อม Hyprland หลังจากพัฒนามาอย่างยาวนาน ทีมงาน Nitrux ได้ประกาศเปิดตัว Nitrux 5.0 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยตัด KDE Plasma ออกและหันมาใช้ Hyprland เป็น Wayland compositor หลัก ทำให้ระบบมีความเบาและตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น พร้อมเครื่องมือใหม่ ๆ เช่น Waybar, Wlogout, Crystal Dock และ Wofi ที่ช่วยให้การใช้งานลื่นไหลและทันสมัยมากขึ้น Nitrux 5.0 ยังมาพร้อมกับ สองเวอร์ชัน คือ Liquorix kernel สำหรับผู้ใช้ AMD และ CachyOS kernel สำหรับผู้ใช้ NVIDIA โดยทั้งสองรุ่นใช้ Linux kernel 6.17 และมีการปรับแต่งเพื่อให้ประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ยังมีการรวมเครื่องมือสำคัญ เช่น PipeWire สำหรับจัดการเสียงและวิดีโอ, NetworkManager สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย และ Flatpak สำหรับติดตั้งแอปพลิเคชัน สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือการใช้ OpenRC แทน systemd ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นและเบากว่าเดิม พร้อมฟีเจอร์เสริมอย่าง SCX global vtime CPU scheduler และ Ananicy-cpp daemon ที่ช่วยจัดการทรัพยากร CPU และ RAM อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดจากเวอร์ชันเก่าไม่สามารถทำได้ ต้องติดตั้งใหม่ทั้งหมด ✅ จุดเด่นของ Nitrux 5.0 ➡️ ใช้ Hyprland แทน KDE Plasma ➡️ มีเครื่องมือใหม่ เช่น Waybar, Wlogout, Crystal Dock, Wofi ✅ ตัวเลือก Kernel ➡️ Liquorix สำหรับ AMD ➡️ CachyOS สำหรับ NVIDIA ✅ ฟีเจอร์ระบบ ➡️ ใช้ OpenRC แทน systemd ➡️ มี SCX CPU scheduler และ Ananicy-cpp daemon ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ไม่สามารถอัปเกรดจากเวอร์ชันเก่า ต้องติดตั้งใหม่ ⛔ ผู้ใช้ที่ไม่คุ้นเคยกับ Wayland อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้การปรับแต่ง https://9to5linux.com/systemd-free-nitrux-5-0-officially-released-with-hyprland-desktop-linux-kernel-6-17
    9TO5LINUX.COM
    Systemd-Free Nitrux 5.0 Officially Released with Hyprland Desktop, Linux 6.17 - 9to5Linux
    Nitrux 5.0 distribution is now available for download with Linux kernel 6.17 and full Hyprland desktop environment.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลยุทธ์ CISO – หยุดเหตุการณ์ก่อนลุกลาม

    บทความนี้เสนอแผนการสำหรับ CISO เพื่อหยุดเหตุการณ์ความปลอดภัยตั้งแต่ต้น โดยเน้น 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การเพิ่ม visibility, การตอบสนองอย่างรวดเร็ว และการใช้ automation อย่างชาญฉลาด แนวคิดคือการเปลี่ยน SOC จากการทำงานเชิงรับเป็นเชิงรุก โดยใช้ sandbox แบบ interactive เช่น ANY.RUN ที่สามารถตรวจจับพฤติกรรมมัลแวร์ได้ในไม่กี่วินาที

    การตอบสนองเร็วเป็นหัวใจสำคัญ เพราะแม้จะตรวจพบภัยคุกคามแล้ว หากการ triage และการตัดสินใจล่าช้า ความเสียหายก็ยังเกิดขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น RedLine Stealer ถูกตรวจจับได้ภายใน 18 วินาที ทำให้ทีมสามารถหยุดการแพร่กระจายทันที Automation ก็ช่วยลดภาระงานซ้ำ ๆ เช่นการคลิก CAPTCHA หรือการเปิดไฟล์ ทำให้ทีมมีเวลาไปโฟกัสกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนมากขึ้น

    ผลลัพธ์ที่องค์กรได้รับคือ MTTR เร็วขึ้น, SOC มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และลด false positives การผสมผสานระหว่าง visibility, speed และ automation จึงเป็นแนวทางที่ช่วยให้ CISO สามารถหยุดเหตุการณ์ก่อนที่จะกลายเป็นวิกฤติ

    สรุปประเด็น

    Visibility
    ใช้ sandbox interactive ตรวจจับพฤติกรรมมัลแวร์แบบ real-time

    Speed
    การตอบสนองเร็วช่วยลด downtime และค่าใช้จ่าย

    Automation
    ลดงานซ้ำ ๆ และเพิ่มความแม่นยำในการตรวจสอบ

    ความเสี่ยง
    หาก detection และ response ช้า เหตุการณ์เล็ก ๆ อาจกลายเป็นวิกฤติใหญ่

    https://securityonline.info/how-to-stop-incidents-early-plan-for-cisos/
    👨‍💼 กลยุทธ์ CISO – หยุดเหตุการณ์ก่อนลุกลาม บทความนี้เสนอแผนการสำหรับ CISO เพื่อหยุดเหตุการณ์ความปลอดภัยตั้งแต่ต้น โดยเน้น 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การเพิ่ม visibility, การตอบสนองอย่างรวดเร็ว และการใช้ automation อย่างชาญฉลาด แนวคิดคือการเปลี่ยน SOC จากการทำงานเชิงรับเป็นเชิงรุก โดยใช้ sandbox แบบ interactive เช่น ANY.RUN ที่สามารถตรวจจับพฤติกรรมมัลแวร์ได้ในไม่กี่วินาที การตอบสนองเร็วเป็นหัวใจสำคัญ เพราะแม้จะตรวจพบภัยคุกคามแล้ว หากการ triage และการตัดสินใจล่าช้า ความเสียหายก็ยังเกิดขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น RedLine Stealer ถูกตรวจจับได้ภายใน 18 วินาที ทำให้ทีมสามารถหยุดการแพร่กระจายทันที Automation ก็ช่วยลดภาระงานซ้ำ ๆ เช่นการคลิก CAPTCHA หรือการเปิดไฟล์ ทำให้ทีมมีเวลาไปโฟกัสกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนมากขึ้น ผลลัพธ์ที่องค์กรได้รับคือ MTTR เร็วขึ้น, SOC มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และลด false positives การผสมผสานระหว่าง visibility, speed และ automation จึงเป็นแนวทางที่ช่วยให้ CISO สามารถหยุดเหตุการณ์ก่อนที่จะกลายเป็นวิกฤติ สรุปประเด็น ✅ Visibility ➡️ ใช้ sandbox interactive ตรวจจับพฤติกรรมมัลแวร์แบบ real-time ✅ Speed ➡️ การตอบสนองเร็วช่วยลด downtime และค่าใช้จ่าย ✅ Automation ➡️ ลดงานซ้ำ ๆ และเพิ่มความแม่นยำในการตรวจสอบ ‼️ ความเสี่ยง ⛔ หาก detection และ response ช้า เหตุการณ์เล็ก ๆ อาจกลายเป็นวิกฤติใหญ่ https://securityonline.info/how-to-stop-incidents-early-plan-for-cisos/
    SECURITYONLINE.INFO
    How to Stop Incidents Early: Plan for CISOs
    For every CISO, the goal is simple but increasingly difficult: stop incidents before they disrupt business. Yet, with
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สุดขั้ว! ผู้ใช้จัดสเปก Quad RTX 5090 เต็มเคส – แรงระดับ AI แต่ PSU อาจไม่รอด”

    ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งสร้างกระแสฮือฮาด้วยการติดตั้งการ์ดจอ ASUS ROG Astral GeForce RTX 5090 จำนวน 4 ใบในเคสเดียวกัน โดยใช้พื้นที่เกือบทั้งหมดของเคส พร้อมระบบระบายความร้อนและสายไฟสุดแน่น แต่ PSU ที่ใช้กลับต่ำกว่าความต้องการของระบบ

    Redditor ชื่อ u/Zestyclose-Salad-290 โพสต์ภาพ “battlestation” ที่จัดเต็มด้วยการ์ดจอ RTX 5090 ถึง 4 ใบ ซึ่งเป็นรุ่น ROG Astral จาก ASUS ที่มีขนาดเกือบ 4 สล็อตต่อใบ ทำให้ต้องใช้ PCIe 5.0 riser cable เพื่อย้ายการ์ดไปอีกฝั่งของเคส และเว้นพื้นที่ให้เมนบอร์ดและระบบระบายความร้อนของ CPU หายใจได้

    แม้จะใช้เคสขนาดใหญ่และจัดสายไฟอย่างดี แต่การ์ดทั้ง 4 ใบกินพื้นที่ไปถึง 75% ของเคส และเหลือช่องว่างแค่สำหรับ PSU เท่านั้น โดยการ์ด RTX 5090 แต่ละใบสามารถใช้ไฟได้ถึง 600W เมื่อโหลดเต็ม ทำให้ระบบนี้อาจใช้ไฟรวมถึง 2,400W เฉพาะการ์ดจอ ยังไม่รวม CPU และอุปกรณ์อื่น ๆ

    ที่น่าตกใจคือ เขาใช้ PSU ขนาด 2,400W ซึ่งอาจไม่เพียงพอหากใช้งานเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะถ้าไม่ได้ใช้ PSU แบบ Platinum หรือ Titanium ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

    แม้จะไม่มีการระบุว่าใช้ระบบนี้เพื่ออะไร แต่คาดว่าเป็นงานด้าน AI หรือการเรนเดอร์ระดับสูง เพราะการ์ดระดับนี้เกินความจำเป็นสำหรับการเล่นเกมทั่วไป

    สเปกของระบบ
    ใช้ ASUS ROG Astral GeForce RTX 5090 จำนวน 4 ใบ
    ติดตั้งด้วย PCIe 5.0 riser cable เพื่อจัดวางในอีกฝั่งของเคส
    ใช้เคสขนาดใหญ่ที่รองรับการ์ด 4 สล็อต
    มีระบบระบายความร้อนด้วย AIO สำหรับ CPU

    การใช้พลังงาน
    RTX 5090 ใช้ไฟสูงสุด 600W ต่อใบ
    รวมแล้วอาจใช้ไฟถึง 2,400W เฉพาะ GPU
    PSU ที่ใช้มีขนาด 2,400W ซึ่งอาจไม่เพียงพอ
    ควรใช้ PSU ขนาด 3,000W ขึ้นไปสำหรับระบบนี้

    ความเป็นไปได้ในการใช้งาน
    เหมาะกับงาน AI, การเรนเดอร์, หรือ simulation
    ไม่เหมาะกับการเล่นเกมทั่วไป
    ต้องมีการจัดการความร้อนและพลังงานอย่างระมัดระวัง

    ความเสี่ยงด้านพลังงาน
    PSU ขนาด 2,400W อาจไม่รองรับโหลดเต็มของระบบ
    การใช้สาย 16-pin จำนวนมากอาจเสี่ยงต่อการหลอมละลาย
    ต้องตรวจสอบคู่มือการใช้งานของผู้ผลิตอย่างละเอียด

    ความร้อนและการระบายอากาศ
    การ์ด 4 ใบในเคสเดียวอาจทำให้เกิดความร้อนสะสม
    ต้องมีการจัด airflow ที่ดีเพื่อป้องกันความเสียหาย

    https://wccftech.com/user-sets-up-quad-rtx-5090-battlestation-with-gpus-filling-up-the-entire-tower/
    🖥️ “สุดขั้ว! ผู้ใช้จัดสเปก Quad RTX 5090 เต็มเคส – แรงระดับ AI แต่ PSU อาจไม่รอด” ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งสร้างกระแสฮือฮาด้วยการติดตั้งการ์ดจอ ASUS ROG Astral GeForce RTX 5090 จำนวน 4 ใบในเคสเดียวกัน โดยใช้พื้นที่เกือบทั้งหมดของเคส พร้อมระบบระบายความร้อนและสายไฟสุดแน่น แต่ PSU ที่ใช้กลับต่ำกว่าความต้องการของระบบ Redditor ชื่อ u/Zestyclose-Salad-290 โพสต์ภาพ “battlestation” ที่จัดเต็มด้วยการ์ดจอ RTX 5090 ถึง 4 ใบ ซึ่งเป็นรุ่น ROG Astral จาก ASUS ที่มีขนาดเกือบ 4 สล็อตต่อใบ ทำให้ต้องใช้ PCIe 5.0 riser cable เพื่อย้ายการ์ดไปอีกฝั่งของเคส และเว้นพื้นที่ให้เมนบอร์ดและระบบระบายความร้อนของ CPU หายใจได้ แม้จะใช้เคสขนาดใหญ่และจัดสายไฟอย่างดี แต่การ์ดทั้ง 4 ใบกินพื้นที่ไปถึง 75% ของเคส และเหลือช่องว่างแค่สำหรับ PSU เท่านั้น โดยการ์ด RTX 5090 แต่ละใบสามารถใช้ไฟได้ถึง 600W เมื่อโหลดเต็ม ทำให้ระบบนี้อาจใช้ไฟรวมถึง 2,400W เฉพาะการ์ดจอ ยังไม่รวม CPU และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่น่าตกใจคือ เขาใช้ PSU ขนาด 2,400W ซึ่งอาจไม่เพียงพอหากใช้งานเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะถ้าไม่ได้ใช้ PSU แบบ Platinum หรือ Titanium ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แม้จะไม่มีการระบุว่าใช้ระบบนี้เพื่ออะไร แต่คาดว่าเป็นงานด้าน AI หรือการเรนเดอร์ระดับสูง เพราะการ์ดระดับนี้เกินความจำเป็นสำหรับการเล่นเกมทั่วไป ✅ สเปกของระบบ ➡️ ใช้ ASUS ROG Astral GeForce RTX 5090 จำนวน 4 ใบ ➡️ ติดตั้งด้วย PCIe 5.0 riser cable เพื่อจัดวางในอีกฝั่งของเคส ➡️ ใช้เคสขนาดใหญ่ที่รองรับการ์ด 4 สล็อต ➡️ มีระบบระบายความร้อนด้วย AIO สำหรับ CPU ✅ การใช้พลังงาน ➡️ RTX 5090 ใช้ไฟสูงสุด 600W ต่อใบ ➡️ รวมแล้วอาจใช้ไฟถึง 2,400W เฉพาะ GPU ➡️ PSU ที่ใช้มีขนาด 2,400W ซึ่งอาจไม่เพียงพอ ➡️ ควรใช้ PSU ขนาด 3,000W ขึ้นไปสำหรับระบบนี้ ✅ ความเป็นไปได้ในการใช้งาน ➡️ เหมาะกับงาน AI, การเรนเดอร์, หรือ simulation ➡️ ไม่เหมาะกับการเล่นเกมทั่วไป ➡️ ต้องมีการจัดการความร้อนและพลังงานอย่างระมัดระวัง ‼️ ความเสี่ยงด้านพลังงาน ⛔ PSU ขนาด 2,400W อาจไม่รองรับโหลดเต็มของระบบ ⛔ การใช้สาย 16-pin จำนวนมากอาจเสี่ยงต่อการหลอมละลาย ⛔ ต้องตรวจสอบคู่มือการใช้งานของผู้ผลิตอย่างละเอียด ‼️ ความร้อนและการระบายอากาศ ⛔ การ์ด 4 ใบในเคสเดียวอาจทำให้เกิดความร้อนสะสม ⛔ ต้องมีการจัด airflow ที่ดีเพื่อป้องกันความเสียหาย https://wccftech.com/user-sets-up-quad-rtx-5090-battlestation-with-gpus-filling-up-the-entire-tower/
    WCCFTECH.COM
    User Sets Up Quad-RTX 5090 Battlestation With GPUs Filling Up The Entire Tower
    A Redditor builds a battlestation with five ROG Astral GeForce RTX 5090 GPUs. The GPUs filled up the entire case.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple เตรียมเปิดตัวชิป M5 Pro, M5 Max และ M5 Ultra ในครึ่งแรกของปี 2026 – คาดใช้สถาปัตยกรรมใหม่และแรงขึ้นกว่าเดิม

    Apple กำลังเตรียมเปิดตัวชิปตระกูล M5 รุ่นใหม่สำหรับ MacBook Pro และ Mac Studio ในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 โดยจะมีรุ่น M5 Pro, M5 Max และ M5 Ultra ซึ่งคาดว่าจะใช้สถาปัตยกรรมใหม่ที่แรงขึ้นและประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม.

    ไทม์ไลน์การเปิดตัว
    ชิป M5 Pro และ M5 Max คาดว่าจะเปิดตัวพร้อม MacBook Pro รุ่นใหม่ในช่วงต้นปี 2026
    M5 Ultra จะตามมาใน Mac Studio รุ่นใหม่ภายในครึ่งแรกของปีเดียวกัน

    สถาปัตยกรรมและเทคโนโลยี
    คาดว่าใช้สถาปัตยกรรมใหม่ที่อาจเป็น “A19” หรือรุ่นถัดไปจาก A18 Pro
    ผลิตบนเทคโนโลยี 3nm รุ่นปรับปรุงจาก TSMC (อาจเป็น N3E หรือ N3P)
    เน้นประสิทธิภาพสูงและการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น

    การใช้งานในผลิตภัณฑ์ Apple
    M5 Pro และ M5 Max จะใช้ใน MacBook Pro ขนาด 14 และ 16 นิ้ว
    M5 Ultra จะใช้ใน Mac Studio และอาจมีรุ่นใหม่ของ Mac Pro ตามมา

    แนวโน้มการพัฒนา
    Apple ยังคงเดินหน้าพัฒนา SoC แบบรวมทุกฟังก์ชัน (unified architecture)
    คาดว่าจะมีการปรับปรุงด้าน GPU และ Neural Engine เพื่อรองรับงาน AI และกราฟิกระดับสูง

    https://wccftech.com/apple-preparing-m5-pro-m5-max-m5-ultra-chipsets-for-a-launch-in-h1-2026/
    🧠 Apple เตรียมเปิดตัวชิป M5 Pro, M5 Max และ M5 Ultra ในครึ่งแรกของปี 2026 – คาดใช้สถาปัตยกรรมใหม่และแรงขึ้นกว่าเดิม Apple กำลังเตรียมเปิดตัวชิปตระกูล M5 รุ่นใหม่สำหรับ MacBook Pro และ Mac Studio ในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 โดยจะมีรุ่น M5 Pro, M5 Max และ M5 Ultra ซึ่งคาดว่าจะใช้สถาปัตยกรรมใหม่ที่แรงขึ้นและประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม. ✅ ไทม์ไลน์การเปิดตัว ➡️ ชิป M5 Pro และ M5 Max คาดว่าจะเปิดตัวพร้อม MacBook Pro รุ่นใหม่ในช่วงต้นปี 2026 ➡️ M5 Ultra จะตามมาใน Mac Studio รุ่นใหม่ภายในครึ่งแรกของปีเดียวกัน ✅ สถาปัตยกรรมและเทคโนโลยี ➡️ คาดว่าใช้สถาปัตยกรรมใหม่ที่อาจเป็น “A19” หรือรุ่นถัดไปจาก A18 Pro ➡️ ผลิตบนเทคโนโลยี 3nm รุ่นปรับปรุงจาก TSMC (อาจเป็น N3E หรือ N3P) ➡️ เน้นประสิทธิภาพสูงและการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น ✅ การใช้งานในผลิตภัณฑ์ Apple ➡️ M5 Pro และ M5 Max จะใช้ใน MacBook Pro ขนาด 14 และ 16 นิ้ว ➡️ M5 Ultra จะใช้ใน Mac Studio และอาจมีรุ่นใหม่ของ Mac Pro ตามมา ✅ แนวโน้มการพัฒนา ➡️ Apple ยังคงเดินหน้าพัฒนา SoC แบบรวมทุกฟังก์ชัน (unified architecture) ➡️ คาดว่าจะมีการปรับปรุงด้าน GPU และ Neural Engine เพื่อรองรับงาน AI และกราฟิกระดับสูง https://wccftech.com/apple-preparing-m5-pro-m5-max-m5-ultra-chipsets-for-a-launch-in-h1-2026/
    WCCFTECH.COM
    M5 Pro, M5 Max & M5 Ultra Chipsets Being Prepared For Updated MacBook Pro, Mac Studio Models, Launch Targeted In H1 2026
    A total of three high-end chipsets, the M5 Pro, M5 Max and M5 Ultra are being prepared to launch in the first half of 2026
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • “SanDisk ขึ้นราคาหน่วยความจำ 50% – AI ดันตลาดร้อนแรงจนผู้ผลิตต้องหยุดส่งของ!”

    SanDisk ปรับราคาหน่วยความจำขึ้น 50%! ตลาด NAND และ DRAM ร้อนแรงจากความต้องการ AI SanDisk ขึ้นราคาสัญญา NAND flash ถึง 50% ในเดือนพฤศจิกายน 2025 สะท้อนภาวะตลาดหน่วยความจำที่ตึงตัวจากความต้องการของศูนย์ข้อมูล AI และการผลิตที่จำกัด

    ในเดือนพฤศจิกายน 2025 SanDisk ได้ปรับราคาสัญญา NAND flash ขึ้นถึง 50% ตามรายงานของ DigiTimes Asia โดยมีสาเหตุหลักจากความต้องการหน่วยความจำที่พุ่งสูงจากศูนย์ข้อมูล AI และการผลิตที่จำกัดจากโรงงาน wafer fabs

    การปรับราคานี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อซัพพลายเชน โดยผู้ผลิตโมดูลหน่วยความจำอย่าง Transcend, Innodisk และ Apacer ต้องหยุดการเสนอราคาและการจัดส่งชั่วคราวเพื่อประเมินสถานการณ์ใหม่ Transcend ถึงขั้นหยุดส่งของตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน พร้อมคาดการณ์ว่าราคาจะยังคงปรับขึ้นต่อไป

    รายงานยังเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของผู้ผลิตเหล่านี้ที่เติบโตอย่างมาก เช่น Transcend มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 334% จากปีก่อน ขณะที่ Innodisk และ Apacer ก็มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว สะท้อนว่าผู้ผลิตหน่วยความจำกำลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากภาวะขาดแคลน

    โรงงานผลิตชิปกำลังหันไปผลิต DRAM ประสิทธิภาพสูง เช่น DDR5 และ HBM สำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI และ HPC ทำให้ DDR4 ซึ่งยังจำเป็นต่อระบบอุตสาหกรรมและองค์กร ขาดตลาดและราคาพุ่งตามไปด้วย

    สถานการณ์นี้อาจยืดเยื้อไปถึงปี 2026 หากความต้องการจาก AI ยังคงสูง และผู้ผลิตไม่เพิ่มกำลังการผลิตในเร็ววัน

    SanDisk ปรับราคาสัญญา NAND flash ขึ้น 50%
    มีผลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2025
    สาเหตุจากความต้องการสูงและการผลิตจำกัด
    ส่งผลให้ผู้ผลิตโมดูลหยุดเสนอราคาและจัดส่ง

    ผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ได้รับผลดี
    Transcend กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 334%
    Innodisk รายได้เพิ่ม 64% และกำไรเพิ่ม 250%
    Apacer รายได้เพิ่ม 70% จากปีก่อน

    โรงงาน wafer fabs หันไปผลิต DRAM ประสิทธิภาพสูง
    เน้น DDR5 และ HBM สำหรับ AI และ HPC
    ทำให้ DDR4 ขาดตลาดและราคาพุ่ง

    แนวโน้มตลาดหน่วยความจำ
    ราคายังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ
    อาจยืดเยื้อถึงปี 2026 หาก AI ยังขยายตัว

    คำเตือนสำหรับผู้บริโภคและองค์กร
    ราคาหน่วยความจำอาจยังไม่ลดในระยะสั้น
    การอัปเกรดหรือขยายระบบควรรีบตัดสินใจก่อนราคาขึ้นอีก

    ความเสี่ยงจากการขาดแคลน DDR4
    อาจกระทบระบบอุตสาหกรรมที่ยังใช้ DDR4
    การเปลี่ยนไปใช้ DDR5 ต้องปรับระบบและงบประมาณ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/sandisk-reportedly-jacks-up-flash-prices-by-50-percent-as-memory-makers-cash-in-on-ai-fueled-demand
    💸 “SanDisk ขึ้นราคาหน่วยความจำ 50% – AI ดันตลาดร้อนแรงจนผู้ผลิตต้องหยุดส่งของ!” SanDisk ปรับราคาหน่วยความจำขึ้น 50%! ตลาด NAND และ DRAM ร้อนแรงจากความต้องการ AI SanDisk ขึ้นราคาสัญญา NAND flash ถึง 50% ในเดือนพฤศจิกายน 2025 สะท้อนภาวะตลาดหน่วยความจำที่ตึงตัวจากความต้องการของศูนย์ข้อมูล AI และการผลิตที่จำกัด ในเดือนพฤศจิกายน 2025 SanDisk ได้ปรับราคาสัญญา NAND flash ขึ้นถึง 50% ตามรายงานของ DigiTimes Asia โดยมีสาเหตุหลักจากความต้องการหน่วยความจำที่พุ่งสูงจากศูนย์ข้อมูล AI และการผลิตที่จำกัดจากโรงงาน wafer fabs การปรับราคานี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อซัพพลายเชน โดยผู้ผลิตโมดูลหน่วยความจำอย่าง Transcend, Innodisk และ Apacer ต้องหยุดการเสนอราคาและการจัดส่งชั่วคราวเพื่อประเมินสถานการณ์ใหม่ Transcend ถึงขั้นหยุดส่งของตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน พร้อมคาดการณ์ว่าราคาจะยังคงปรับขึ้นต่อไป รายงานยังเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของผู้ผลิตเหล่านี้ที่เติบโตอย่างมาก เช่น Transcend มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 334% จากปีก่อน ขณะที่ Innodisk และ Apacer ก็มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว สะท้อนว่าผู้ผลิตหน่วยความจำกำลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากภาวะขาดแคลน โรงงานผลิตชิปกำลังหันไปผลิต DRAM ประสิทธิภาพสูง เช่น DDR5 และ HBM สำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI และ HPC ทำให้ DDR4 ซึ่งยังจำเป็นต่อระบบอุตสาหกรรมและองค์กร ขาดตลาดและราคาพุ่งตามไปด้วย สถานการณ์นี้อาจยืดเยื้อไปถึงปี 2026 หากความต้องการจาก AI ยังคงสูง และผู้ผลิตไม่เพิ่มกำลังการผลิตในเร็ววัน ✅ SanDisk ปรับราคาสัญญา NAND flash ขึ้น 50% ➡️ มีผลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2025 ➡️ สาเหตุจากความต้องการสูงและการผลิตจำกัด ➡️ ส่งผลให้ผู้ผลิตโมดูลหยุดเสนอราคาและจัดส่ง ✅ ผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ได้รับผลดี ➡️ Transcend กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 334% ➡️ Innodisk รายได้เพิ่ม 64% และกำไรเพิ่ม 250% ➡️ Apacer รายได้เพิ่ม 70% จากปีก่อน ✅ โรงงาน wafer fabs หันไปผลิต DRAM ประสิทธิภาพสูง ➡️ เน้น DDR5 และ HBM สำหรับ AI และ HPC ➡️ ทำให้ DDR4 ขาดตลาดและราคาพุ่ง ✅ แนวโน้มตลาดหน่วยความจำ ➡️ ราคายังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ ➡️ อาจยืดเยื้อถึงปี 2026 หาก AI ยังขยายตัว ‼️ คำเตือนสำหรับผู้บริโภคและองค์กร ⛔ ราคาหน่วยความจำอาจยังไม่ลดในระยะสั้น ⛔ การอัปเกรดหรือขยายระบบควรรีบตัดสินใจก่อนราคาขึ้นอีก ‼️ ความเสี่ยงจากการขาดแคลน DDR4 ⛔ อาจกระทบระบบอุตสาหกรรมที่ยังใช้ DDR4 ⛔ การเปลี่ยนไปใช้ DDR5 ต้องปรับระบบและงบประมาณ https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/sandisk-reportedly-jacks-up-flash-prices-by-50-percent-as-memory-makers-cash-in-on-ai-fueled-demand
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    SanDisk reportedly jacks up flash prices by 50% as memory makers cash in on AI-fueled demand
    This move underscores a rapidly tightening memory market, affecting both flash and DRAM.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • “SSD ถอดประกอบได้! Samsung ปลุกอนาคตแห่งการอัปเกรดแบบ DIY”

    Samsung เปิดตัว SSD โมดูลาร์สุดล้ำ! ถอดเปลี่ยน NAND และคอนโทรลเลอร์ได้ พร้อมรุ่นเล็ก 4TB PCIe 5.0 สำหรับอุปกรณ์พกพา Samsung เผยโฉม SSD รุ่นใหม่ในงาน CES 2026 ที่มาพร้อมดีไซน์โมดูลาร์ ถอดเปลี่ยน NAND และคอนโทรลเลอร์ได้อย่างอิสระ พร้อมเปิดตัวรุ่นเล็ก PM9E1 M.2 2242 ขนาด 4TB สำหรับอุปกรณ์พกพา

    Samsung สร้างความฮือฮาในวงการจัดเก็บข้อมูลด้วยการเปิดตัว SSD รุ่นใหม่สองตัวในงาน CES 2026 ได้แก่:

    1️⃣ AM9C1 E1.A – Detachable AutoSSD SSD สำหรับยานยนต์ที่สามารถถอดเปลี่ยน NAND และคอนโทรลเลอร์ได้อย่างอิสระ โดยใช้ดีไซน์โมดูลาร์ที่แยกส่วนประกอบออกเป็นสองโมดูลหลัก ทำให้สามารถอัปเกรดหรือซ่อมแซมได้ง่ายขึ้น และช่วยลดความร้อนเพื่อยืดอายุการใช้งาน

    2️⃣ PM9E1 M.2 2242 – SSD ขนาดเล็กแต่แรง รุ่นย่อส่วนของ PM9E1 ที่ออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์พกพา เช่น แล็ปท็อปบางเฉียบหรือมินิพีซี แม้จะมีขนาดเล็กกว่า M.2 2280 แต่ยังคงประสิทธิภาพสูงด้วยความเร็วอ่าน/เขียนสูงถึง 14.8 GB/s และ 13.4 GB/s ตามลำดับ

    ทั้งสองรุ่นใช้เทคโนโลยี PCIe 5.0 และ NAND รุ่นที่ 8 ของ Samsung พร้อมคอนโทรลเลอร์ 5nm ที่ทันสมัย โดยเฉพาะ AM9C1 E1.A ที่สามารถเปลี่ยนคอนโทรลเลอร์จาก PCIe 4.0 เป็น 5.0 ได้ในอนาคต ถือเป็นก้าวสำคัญของ SSD ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ตามต้องการ

    Samsung เปิดตัว SSD โมดูลาร์รุ่น AM9C1 E1.A
    ถอดเปลี่ยน NAND และคอนโทรลเลอร์ได้
    ใช้ดีไซน์แยกโมดูลเพื่ออัปเกรดและลดความร้อน
    รองรับ PCIe 4.0 และสามารถอัปเกรดเป็น PCIe 5.0
    ความจุเริ่มต้นตั้งแต่ 128GB ถึง 2TB

    เปิดตัว PM9E1 M.2 2242 สำหรับอุปกรณ์พกพา
    ขนาดเล็กกว่า M.2 2280 แต่แรงกว่า
    ความจุสูงสุด 4TB เหมาะกับ Steam Deck และแล็ปท็อป
    ความเร็วอ่าน/เขียนสูงถึง 14.8 GB/s และ 13.4 GB/s
    ใช้คอนโทรลเลอร์ Presto 5nm และ V8 TLC V-NAND

    แนวโน้ม SSD ในอนาคต
    โมดูลาร์ดีไซน์ช่วยให้ซ่อมแซมและอัปเกรดง่ายขึ้น
    อาจขยายสู่ตลาดผู้บริโภคในอนาคต
    เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    SSD โมดูลาร์อาจมีราคาสูงกว่ารุ่นทั่วไป
    การเปลี่ยนโมดูลต้องใช้ความรู้ด้านเทคนิค
    อุปกรณ์บางรุ่นอาจไม่รองรับขนาด M.2 2242

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/samsung-teases-modular-ssd-with-swappable-nand-and-ssd-controller-compact-4tb-pcie-5-0-m-2-2242-drive-is-also-ready-to-deploy
    🧩 “SSD ถอดประกอบได้! Samsung ปลุกอนาคตแห่งการอัปเกรดแบบ DIY” Samsung เปิดตัว SSD โมดูลาร์สุดล้ำ! ถอดเปลี่ยน NAND และคอนโทรลเลอร์ได้ พร้อมรุ่นเล็ก 4TB PCIe 5.0 สำหรับอุปกรณ์พกพา Samsung เผยโฉม SSD รุ่นใหม่ในงาน CES 2026 ที่มาพร้อมดีไซน์โมดูลาร์ ถอดเปลี่ยน NAND และคอนโทรลเลอร์ได้อย่างอิสระ พร้อมเปิดตัวรุ่นเล็ก PM9E1 M.2 2242 ขนาด 4TB สำหรับอุปกรณ์พกพา Samsung สร้างความฮือฮาในวงการจัดเก็บข้อมูลด้วยการเปิดตัว SSD รุ่นใหม่สองตัวในงาน CES 2026 ได้แก่: 1️⃣ AM9C1 E1.A – Detachable AutoSSD SSD สำหรับยานยนต์ที่สามารถถอดเปลี่ยน NAND และคอนโทรลเลอร์ได้อย่างอิสระ โดยใช้ดีไซน์โมดูลาร์ที่แยกส่วนประกอบออกเป็นสองโมดูลหลัก ทำให้สามารถอัปเกรดหรือซ่อมแซมได้ง่ายขึ้น และช่วยลดความร้อนเพื่อยืดอายุการใช้งาน 2️⃣ PM9E1 M.2 2242 – SSD ขนาดเล็กแต่แรง รุ่นย่อส่วนของ PM9E1 ที่ออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์พกพา เช่น แล็ปท็อปบางเฉียบหรือมินิพีซี แม้จะมีขนาดเล็กกว่า M.2 2280 แต่ยังคงประสิทธิภาพสูงด้วยความเร็วอ่าน/เขียนสูงถึง 14.8 GB/s และ 13.4 GB/s ตามลำดับ ทั้งสองรุ่นใช้เทคโนโลยี PCIe 5.0 และ NAND รุ่นที่ 8 ของ Samsung พร้อมคอนโทรลเลอร์ 5nm ที่ทันสมัย โดยเฉพาะ AM9C1 E1.A ที่สามารถเปลี่ยนคอนโทรลเลอร์จาก PCIe 4.0 เป็น 5.0 ได้ในอนาคต ถือเป็นก้าวสำคัญของ SSD ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ตามต้องการ ✅ Samsung เปิดตัว SSD โมดูลาร์รุ่น AM9C1 E1.A ➡️ ถอดเปลี่ยน NAND และคอนโทรลเลอร์ได้ ➡️ ใช้ดีไซน์แยกโมดูลเพื่ออัปเกรดและลดความร้อน ➡️ รองรับ PCIe 4.0 และสามารถอัปเกรดเป็น PCIe 5.0 ➡️ ความจุเริ่มต้นตั้งแต่ 128GB ถึง 2TB ✅ เปิดตัว PM9E1 M.2 2242 สำหรับอุปกรณ์พกพา ➡️ ขนาดเล็กกว่า M.2 2280 แต่แรงกว่า ➡️ ความจุสูงสุด 4TB เหมาะกับ Steam Deck และแล็ปท็อป ➡️ ความเร็วอ่าน/เขียนสูงถึง 14.8 GB/s และ 13.4 GB/s ➡️ ใช้คอนโทรลเลอร์ Presto 5nm และ V8 TLC V-NAND ✅ แนวโน้ม SSD ในอนาคต ➡️ โมดูลาร์ดีไซน์ช่วยให้ซ่อมแซมและอัปเกรดง่ายขึ้น ➡️ อาจขยายสู่ตลาดผู้บริโภคในอนาคต ➡️ เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ⛔ SSD โมดูลาร์อาจมีราคาสูงกว่ารุ่นทั่วไป ⛔ การเปลี่ยนโมดูลต้องใช้ความรู้ด้านเทคนิค ⛔ อุปกรณ์บางรุ่นอาจไม่รองรับขนาด M.2 2242 https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/samsung-teases-modular-ssd-with-swappable-nand-and-ssd-controller-compact-4tb-pcie-5-0-m-2-2242-drive-is-also-ready-to-deploy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เมื่อกราฟิกการ์ดกลายร่างเป็นสเก็ตบอร์ด – ความบ้าระห่ำของเกมเมอร์สายโมดิฟาย”

    ลองจินตนาการว่าคุณเดินเล่นอยู่ริมถนน แล้วเห็นใครบางคนกำลังเล่นสเก็ตบอร์ดที่หน้าตาเหมือนกราฟิกการ์ดราคาแพงสุดโหด… ใช่แล้ว! นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ Reddit นามว่า “u/ashleysaidwhat” ได้โพสต์ภาพของเขาเล่นสเก็ตบอร์ดที่ทำจากกราฟิกการ์ดรุ่น ROG Astral RTX 5080 ซึ่งมีราคาสูงถึง $1,700 หรือราวๆ 60,000 บาท!

    แต่เดี๋ยวก่อน… นี่ไม่ใช่การเอาการ์ดที่ยังใช้งานได้มาทำของเล่นนะ เพราะจากภาพที่เห็น Cooler ของการ์ดนั้นโปร่งจนมองทะลุได้ แปลว่าไม่มีแผงวงจร (PCB) อยู่ข้างใน อาจเป็นการ์ดที่เสียแล้ว หรือเป็นของปลอมที่ไม่มีชิปตั้งแต่แรกก็ได้

    แม้จะไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเขาทำไปเพื่ออะไร แต่การเปลี่ยนของแพงให้กลายเป็นของเล่นสุดเท่ก็สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และความกล้าหาญของชาวเกมเมอร์สายโมดิฟาย ที่ไม่ยึดติดกับการใช้งานแบบเดิมๆ

    นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่น่าสนใจจากวงการฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้อง เช่น การ์ดปลอมที่ขายในตลาดมือสอง, การซ่อมแซมการ์ดด้วยเทคนิค BGA หรือแม้แต่การดัดแปลงการ์ดให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยการ “ชุนต์โมดิฟาย” ซึ่งเป็นเทคนิคที่เสี่ยงแต่ได้ผลจริงในบางกรณี

    การ์ด ROG Astral RTX 5080 ถูกดัดแปลงเป็นสเก็ตบอร์ด
    ผู้ใช้ Reddit ชื่อ “u/ashleysaidwhat” เป็นผู้โพสต์ภาพ
    การ์ดไม่มี PCB อาจเป็นของเสียหรือของปลอม
    ราคาการ์ดอยู่ที่ประมาณ $1,700 ถือว่าแพงมาก
    การใช้งานเป็นสเก็ตบอร์ดดูเหมือนจะได้ผลจริง

    ความคิดสร้างสรรค์ของเกมเมอร์สายโมดิฟาย
    เปลี่ยนของไอทีให้กลายเป็นของใช้หรือของเล่น
    สะท้อนวัฒนธรรม DIY และความกล้าทดลอง

    สาระเพิ่มเติมจากวงการฮาร์ดแวร์
    มีการ์ดปลอมที่ขายในตลาดมือสองโดยไม่มีชิป
    เทคนิค BGA ใช้ซ่อมแซมการ์ดที่เสีย
    “ชุนต์โมดิฟาย” เพิ่มแรงดันไฟฟ้าให้การ์ดแรงขึ้น

    คำเตือนเกี่ยวกับการซื้อการ์ดมือสอง
    อาจเจอของปลอมที่ไม่มีชิปหรือหน่วยความจำ
    ควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อนซื้อ

    ความเสี่ยงจากการโมดิฟายฮาร์ดแวร์
    อาจทำให้การ์ดเสียหายถาวร
    การเปลี่ยนแรงดันไฟฟ้าอาจทำให้ระบบพัง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/radical-gamer-repurposes-usd1-700-rog-atral-rtx-5080-into-a-diy-skateboard-rides-graphics-card-down-the-street-while-walking-dog
    🛹 “เมื่อกราฟิกการ์ดกลายร่างเป็นสเก็ตบอร์ด – ความบ้าระห่ำของเกมเมอร์สายโมดิฟาย” ลองจินตนาการว่าคุณเดินเล่นอยู่ริมถนน แล้วเห็นใครบางคนกำลังเล่นสเก็ตบอร์ดที่หน้าตาเหมือนกราฟิกการ์ดราคาแพงสุดโหด… ใช่แล้ว! นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ Reddit นามว่า “u/ashleysaidwhat” ได้โพสต์ภาพของเขาเล่นสเก็ตบอร์ดที่ทำจากกราฟิกการ์ดรุ่น ROG Astral RTX 5080 ซึ่งมีราคาสูงถึง $1,700 หรือราวๆ 60,000 บาท! แต่เดี๋ยวก่อน… นี่ไม่ใช่การเอาการ์ดที่ยังใช้งานได้มาทำของเล่นนะ เพราะจากภาพที่เห็น Cooler ของการ์ดนั้นโปร่งจนมองทะลุได้ แปลว่าไม่มีแผงวงจร (PCB) อยู่ข้างใน อาจเป็นการ์ดที่เสียแล้ว หรือเป็นของปลอมที่ไม่มีชิปตั้งแต่แรกก็ได้ แม้จะไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเขาทำไปเพื่ออะไร แต่การเปลี่ยนของแพงให้กลายเป็นของเล่นสุดเท่ก็สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และความกล้าหาญของชาวเกมเมอร์สายโมดิฟาย ที่ไม่ยึดติดกับการใช้งานแบบเดิมๆ นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่น่าสนใจจากวงการฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้อง เช่น การ์ดปลอมที่ขายในตลาดมือสอง, การซ่อมแซมการ์ดด้วยเทคนิค BGA หรือแม้แต่การดัดแปลงการ์ดให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยการ “ชุนต์โมดิฟาย” ซึ่งเป็นเทคนิคที่เสี่ยงแต่ได้ผลจริงในบางกรณี ✅ การ์ด ROG Astral RTX 5080 ถูกดัดแปลงเป็นสเก็ตบอร์ด ➡️ ผู้ใช้ Reddit ชื่อ “u/ashleysaidwhat” เป็นผู้โพสต์ภาพ ➡️ การ์ดไม่มี PCB อาจเป็นของเสียหรือของปลอม ➡️ ราคาการ์ดอยู่ที่ประมาณ $1,700 ถือว่าแพงมาก ➡️ การใช้งานเป็นสเก็ตบอร์ดดูเหมือนจะได้ผลจริง ✅ ความคิดสร้างสรรค์ของเกมเมอร์สายโมดิฟาย ➡️ เปลี่ยนของไอทีให้กลายเป็นของใช้หรือของเล่น ➡️ สะท้อนวัฒนธรรม DIY และความกล้าทดลอง ✅ สาระเพิ่มเติมจากวงการฮาร์ดแวร์ ➡️ มีการ์ดปลอมที่ขายในตลาดมือสองโดยไม่มีชิป ➡️ เทคนิค BGA ใช้ซ่อมแซมการ์ดที่เสีย ➡️ “ชุนต์โมดิฟาย” เพิ่มแรงดันไฟฟ้าให้การ์ดแรงขึ้น ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการซื้อการ์ดมือสอง ⛔ อาจเจอของปลอมที่ไม่มีชิปหรือหน่วยความจำ ⛔ ควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อนซื้อ ‼️ ความเสี่ยงจากการโมดิฟายฮาร์ดแวร์ ⛔ อาจทำให้การ์ดเสียหายถาวร ⛔ การเปลี่ยนแรงดันไฟฟ้าอาจทำให้ระบบพัง https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/radical-gamer-repurposes-usd1-700-rog-atral-rtx-5080-into-a-diy-skateboard-rides-graphics-card-down-the-street-while-walking-dog
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • TUXEDO InfinityBook Max 15 Gen10: โน้ตบุ๊ก Linux สเปคแรงจัด พร้อม Ryzen AI และ RTX 5000 Series

    TUXEDO Computers เปิดตัวโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ “InfinityBook Max 15 Gen10” ที่มาพร้อมขุมพลัง AMD Ryzen AI 300 และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5060/5070 รุ่นล่าสุด พร้อมรองรับการใช้งาน Linux เต็มรูปแบบ เหมาะสำหรับทั้งสายงานหนักและเกมเมอร์ที่ต้องการความเสถียรและพลังประมวลผลสูง

    TUXEDO InfinityBook Max 15 Gen10 คือโน้ตบุ๊กระดับเรือธงที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ Linux โดยเฉพาะ ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมทั้งตัว แข็งแรงแต่บางเบา ภายในอัดแน่นด้วยสเปคระดับสูงที่พร้อมรองรับงาน AI, การตัดต่อวิดีโอ, การเล่นเกม และการใช้งานระดับองค์กร

    จุดเด่นคือการใช้ซีพียู AMD Ryzen AI 300 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีหน่วยประมวลผล AI ในตัว (NPU) พร้อมการ์ดจอแยก NVIDIA RTX 5000 ซีรีส์ และหน้าจอ 15.3 นิ้ว ความละเอียด WQXGA รีเฟรชเรตสูงถึง 300Hz

    สรุปจุดเด่นของ TUXEDO InfinityBook Max 15 Gen10
    สเปคภายในระดับไฮเอนด์
    ซีพียู AMD Ryzen AI 7 350 (8 คอร์), Ryzen AI 9 365 (10 คอร์), หรือ Ryzen AI 9 HX 370 (12 คอร์)
    การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5060 หรือ 5070 พร้อม VRAM 8GB GDDR7
    รองรับ RAM สูงสุด 128GB และ SSD PCIe 4.0 สูงสุด 8TB

    หน้าจอคุณภาพสูง
    ขนาด 15.3 นิ้ว WQXGA (2560×1600), อัตราส่วน 16:10
    รีเฟรชเรตสูงสุด 300Hz, ความสว่าง 500 nits, คอนทราสต์ 1200:1, ครอบคลุมสี sRGB 100%

    การเชื่อมต่อครบครัน
    Wi-Fi 6 (Intel AX210 หรือ AMD RZ616), Bluetooth 5.3, LAN Gigabit
    USB-A 3.2 Gen1 x3, USB-C 3.2 Gen2 (DP 1.4a), HDMI 2.0 และ 2.1, USB4, SD card reader

    ฟีเจอร์เสริมเพื่อความปลอดภัยและความสะดวก
    TPM 2.0, ปุ่ม killswitch สำหรับ webcam, Wi-Fi, Bluetooth
    คีย์บอร์ด RGB แบบ rubberdome เงียบ, touchpad กระจก, ลำโพงสเตอริโอ 2W

    ระบบปฏิบัติการ
    มาพร้อม TUXEDO OS (พื้นฐานจาก Ubuntu + KDE Plasma) หรือ Ubuntu 24.04 LTS

    ราคาและการวางจำหน่าย
    เริ่มต้นที่ 1,689 ยูโร (~1,644 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่รวมภาษี)
    เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้ จัดส่งต้นเดือนธันวาคม

    คำเตือนสำหรับผู้สนใจ
    ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กทั่วไปที่มีสเปคใกล้เคียงกัน
    เหมาะกับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและการรองรับฮาร์ดแวร์แบบเนทีฟ

    TUXEDO InfinityBook Max 15 Gen10 คือคำตอบของผู้ใช้ Linux ที่ต้องการโน้ตบุ๊กทรงพลัง พร้อมรองรับงาน AI และมั่นใจในความเสถียรของระบบปฏิบัติการโอเพ่นซอร์ส

    https://9to5linux.com/tuxedo-infinitybook-max-15-gen10-linux-laptop-announced-with-amd-ryzen-ai-300
    💻 TUXEDO InfinityBook Max 15 Gen10: โน้ตบุ๊ก Linux สเปคแรงจัด พร้อม Ryzen AI และ RTX 5000 Series TUXEDO Computers เปิดตัวโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ “InfinityBook Max 15 Gen10” ที่มาพร้อมขุมพลัง AMD Ryzen AI 300 และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5060/5070 รุ่นล่าสุด พร้อมรองรับการใช้งาน Linux เต็มรูปแบบ เหมาะสำหรับทั้งสายงานหนักและเกมเมอร์ที่ต้องการความเสถียรและพลังประมวลผลสูง TUXEDO InfinityBook Max 15 Gen10 คือโน้ตบุ๊กระดับเรือธงที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ Linux โดยเฉพาะ ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมทั้งตัว แข็งแรงแต่บางเบา ภายในอัดแน่นด้วยสเปคระดับสูงที่พร้อมรองรับงาน AI, การตัดต่อวิดีโอ, การเล่นเกม และการใช้งานระดับองค์กร จุดเด่นคือการใช้ซีพียู AMD Ryzen AI 300 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีหน่วยประมวลผล AI ในตัว (NPU) พร้อมการ์ดจอแยก NVIDIA RTX 5000 ซีรีส์ และหน้าจอ 15.3 นิ้ว ความละเอียด WQXGA รีเฟรชเรตสูงถึง 300Hz 💻 สรุปจุดเด่นของ TUXEDO InfinityBook Max 15 Gen10 ✅ สเปคภายในระดับไฮเอนด์ ➡️ ซีพียู AMD Ryzen AI 7 350 (8 คอร์), Ryzen AI 9 365 (10 คอร์), หรือ Ryzen AI 9 HX 370 (12 คอร์) ➡️ การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5060 หรือ 5070 พร้อม VRAM 8GB GDDR7 ➡️ รองรับ RAM สูงสุด 128GB และ SSD PCIe 4.0 สูงสุด 8TB ✅ หน้าจอคุณภาพสูง ➡️ ขนาด 15.3 นิ้ว WQXGA (2560×1600), อัตราส่วน 16:10 ➡️ รีเฟรชเรตสูงสุด 300Hz, ความสว่าง 500 nits, คอนทราสต์ 1200:1, ครอบคลุมสี sRGB 100% ✅ การเชื่อมต่อครบครัน ➡️ Wi-Fi 6 (Intel AX210 หรือ AMD RZ616), Bluetooth 5.3, LAN Gigabit ➡️ USB-A 3.2 Gen1 x3, USB-C 3.2 Gen2 (DP 1.4a), HDMI 2.0 และ 2.1, USB4, SD card reader ✅ ฟีเจอร์เสริมเพื่อความปลอดภัยและความสะดวก ➡️ TPM 2.0, ปุ่ม killswitch สำหรับ webcam, Wi-Fi, Bluetooth ➡️ คีย์บอร์ด RGB แบบ rubberdome เงียบ, touchpad กระจก, ลำโพงสเตอริโอ 2W ✅ ระบบปฏิบัติการ ➡️ มาพร้อม TUXEDO OS (พื้นฐานจาก Ubuntu + KDE Plasma) หรือ Ubuntu 24.04 LTS ✅ ราคาและการวางจำหน่าย ➡️ เริ่มต้นที่ 1,689 ยูโร (~1,644 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่รวมภาษี) ➡️ เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้ จัดส่งต้นเดือนธันวาคม ‼️ คำเตือนสำหรับผู้สนใจ ⛔ ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กทั่วไปที่มีสเปคใกล้เคียงกัน ⛔ เหมาะกับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและการรองรับฮาร์ดแวร์แบบเนทีฟ TUXEDO InfinityBook Max 15 Gen10 คือคำตอบของผู้ใช้ Linux ที่ต้องการโน้ตบุ๊กทรงพลัง พร้อมรองรับงาน AI และมั่นใจในความเสถียรของระบบปฏิบัติการโอเพ่นซอร์ส https://9to5linux.com/tuxedo-infinitybook-max-15-gen10-linux-laptop-announced-with-amd-ryzen-ai-300
    9TO5LINUX.COM
    TUXEDO InfinityBook Max 15 Gen10 Linux Laptop Announced with AMD Ryzen AI 300 - 9to5Linux
    TUXEDO InfinityBook Max 15 Gen10 Linux laptop announced with AMD Ryzen AI 300 CPUs, up to 128GB RAM, up to 8TB SDD, and NVIDIA RTX GPUs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD กับดีลพันล้าน: ขยายฐานลูกค้า AI ระดับ OpenAI

    ในรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2025 Lisa Su ซีอีโอของ AMD เผยว่า บริษัทกำลังเจรจากับลูกค้าหลายรายที่มีขนาดดีลเทียบเท่ากับ OpenAI ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้สูงถึง 100 พันล้านดอลลาร์ จากการใช้ชิป AI รุ่นใหม่ Instinct MI450 โดย AMD ตั้งเป้าลดความเสี่ยงจากการพึ่งพา OpenAI เพียงรายเดียว ด้วยการขยายฐานลูกค้าให้หลากหลายมากขึ้น

    ชิป Instinct MI450 ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นทั้งด้านสถาปัตยกรรมและการใช้พลังงาน พร้อมรองรับการใช้งานในระดับ rack-scale ซึ่งเหมาะกับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่และงาน AI ที่ซับซ้อน

    Lisa Su ยังเปิดเผยว่า AMD ได้เริ่มผลิตชิปรุ่นก่อนหน้าอย่าง MI355 แล้ว และจะเดินหน้าด้วย “momentum ที่แข็งแกร่ง” ไปจนถึงปี 2026 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ MI450 จะเปิดตัวสู่ตลาด

    AMD เตรียมขยายฐานลูกค้า AI ขนาดใหญ่
    ดีลกับ OpenAI คาดสร้างรายได้ $100B
    มีลูกค้ารายอื่นที่กำลังเจรจาดีลขนาดใกล้เคียง

    Instinct MI450 คือหัวใจของยุทธศาสตร์ใหม่
    พัฒนาเพื่อแข่งกับ NVIDIA โดยตรง
    เน้นประสิทธิภาพด้านพลังงานและการใช้งานระดับ rack-scale

    AMD เริ่มผลิต MI355 แล้ว
    เดินหน้าด้วย momentum แข็งแกร่งสู่ปี 2026
    MI450 จะเปิดตัวช่วงครึ่งหลังของปีหน้า

    ความเสี่ยงจากการพึ่งพา OpenAI เพียงรายเดียว
    AMD วางแผนลดความเสี่ยงด้วยการกระจายลูกค้า
    หากดีลกับ OpenAI สะดุด อาจกระทบรายได้มหาศาล

    การแข่งขันกับ NVIDIA ยังดุเดือด
    NVIDIA มีฐานลูกค้าและเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง
    AMD ต้องเร่งสร้าง ecosystem และความเชื่อมั่นในตลาด

    https://wccftech.com/amd-has-multiple-openai-scale-customers-lined-up-for-its-ai-chips/
    🚀 AMD กับดีลพันล้าน: ขยายฐานลูกค้า AI ระดับ OpenAI ในรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2025 Lisa Su ซีอีโอของ AMD เผยว่า บริษัทกำลังเจรจากับลูกค้าหลายรายที่มีขนาดดีลเทียบเท่ากับ OpenAI ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้สูงถึง 100 พันล้านดอลลาร์ จากการใช้ชิป AI รุ่นใหม่ Instinct MI450 โดย AMD ตั้งเป้าลดความเสี่ยงจากการพึ่งพา OpenAI เพียงรายเดียว ด้วยการขยายฐานลูกค้าให้หลากหลายมากขึ้น ชิป Instinct MI450 ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นทั้งด้านสถาปัตยกรรมและการใช้พลังงาน พร้อมรองรับการใช้งานในระดับ rack-scale ซึ่งเหมาะกับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่และงาน AI ที่ซับซ้อน Lisa Su ยังเปิดเผยว่า AMD ได้เริ่มผลิตชิปรุ่นก่อนหน้าอย่าง MI355 แล้ว และจะเดินหน้าด้วย “momentum ที่แข็งแกร่ง” ไปจนถึงปี 2026 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ MI450 จะเปิดตัวสู่ตลาด ✅ AMD เตรียมขยายฐานลูกค้า AI ขนาดใหญ่ ➡️ ดีลกับ OpenAI คาดสร้างรายได้ $100B ➡️ มีลูกค้ารายอื่นที่กำลังเจรจาดีลขนาดใกล้เคียง ✅ Instinct MI450 คือหัวใจของยุทธศาสตร์ใหม่ ➡️ พัฒนาเพื่อแข่งกับ NVIDIA โดยตรง ➡️ เน้นประสิทธิภาพด้านพลังงานและการใช้งานระดับ rack-scale ✅ AMD เริ่มผลิต MI355 แล้ว ➡️ เดินหน้าด้วย momentum แข็งแกร่งสู่ปี 2026 ➡️ MI450 จะเปิดตัวช่วงครึ่งหลังของปีหน้า ‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่งพา OpenAI เพียงรายเดียว ⛔ AMD วางแผนลดความเสี่ยงด้วยการกระจายลูกค้า ⛔ หากดีลกับ OpenAI สะดุด อาจกระทบรายได้มหาศาล ‼️ การแข่งขันกับ NVIDIA ยังดุเดือด ⛔ NVIDIA มีฐานลูกค้าและเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง ⛔ AMD ต้องเร่งสร้าง ecosystem และความเชื่อมั่นในตลาด https://wccftech.com/amd-has-multiple-openai-scale-customers-lined-up-for-its-ai-chips/
    WCCFTECH.COM
    AMD Has Multiple "OpenAI-Scale" Customers Lined Up for Its AI Chips, Reflecting Massive Interest in the Next-Gen Instinct Lineup
    AMD's CEO, Lisa Su, revealed that the firm has multiple customers hoping to strike a deal of a similar magnitude to the OpenAI partnership.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Google เปิดตัว Axion CPU และ Ironwood TPU รุ่น 7 – สร้าง ‘AI Hypercomputer’ ล้ำหน้า Nvidia GB300!”

    เรื่องเล่าจากแนวหน้าของเทคโนโลยี AI! Google Cloud ได้เปิดตัวระบบประมวลผลใหม่ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยการผสาน Axion CPU ที่ออกแบบเองกับ Ironwood TPU รุ่นที่ 7 เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม “AI Hypercomputer” ที่สามารถฝึกและให้บริการโมเดลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

    Ironwood TPU รุ่นใหม่ให้พลังประมวลผลถึง 4,614 FP8 TFLOPS ต่อชิป และสามารถรวมกันเป็นพ็อดขนาดใหญ่ถึง 9,216 ตัว ให้พลังรวม 42.5 FP8 ExaFLOPS ซึ่งเหนือกว่า Nvidia GB300 NVL72 ที่ให้เพียง 0.36 ExaFLOPS อย่างมหาศาล

    ระบบนี้ยังใช้เทคโนโลยี Optical Circuit Switching ที่สามารถปรับเส้นทางการเชื่อมต่อทันทีเมื่อมีฮาร์ดแวร์ขัดข้อง ทำให้ระบบทำงานต่อเนื่องได้แม้มีปัญหา พร้อมทั้งมีหน่วยความจำ HBM3E รวมกว่า 1.77 PB และเครือข่าย Inter-Chip Interconnect ความเร็ว 9.6 Tbps

    ในด้าน CPU, Google เปิดตัว Axion ซึ่งเป็นชิป Armv9 ที่ใช้สถาปัตยกรรม Neoverse V2 ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าชิป x86 ถึง 50% และประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 60% โดยมีรุ่น C4A, N4A และ C4A Metal ให้เลือกใช้งานตามความต้องการ

    บริษัทอย่าง Anthropic และ Lightricks ได้เริ่มใช้งานระบบนี้แล้ว โดย Anthropic เตรียมใช้ TPU กว่าล้านตัวเพื่อขับเคลื่อนโมเดล Claude รุ่นใหม่

    Google เปิดตัว Ironwood TPU รุ่นที่ 7
    พลังประมวลผล 4,614 FP8 TFLOPS ต่อชิป
    รวมเป็นพ็อดขนาดใหญ่ได้ถึง 42.5 FP8 ExaFLOPS
    ใช้ Optical Circuit Switching เพื่อความเสถียร
    หน่วยความจำรวม 1.77 PB แบบ HBM3E

    เปิดตัว Axion CPU ที่ออกแบบเอง
    ใช้สถาปัตยกรรม Arm Neoverse V2
    ประสิทธิภาพสูงกว่าชิป x86 ถึง 50%
    มีรุ่น C4A, N4A และ C4A Metal ให้เลือก
    รองรับ DDR5-5600 MT/s และ UMA

    สร้างแพลตฟอร์ม “AI Hypercomputer”
    รวม compute, storage และ networking ภายใต้ระบบเดียว
    รองรับการฝึกและให้บริการโมเดลขนาดใหญ่
    ใช้ Titanium controller เพื่อจัดการ I/O และความปลอดภัย

    บริษัทชั้นนำเริ่มใช้งานแล้ว
    Anthropic ใช้ TPU กว่าล้านตัวสำหรับ Claude
    Lightricks ใช้ฝึกโมเดลมัลติโหมด LTX-2

    ความท้าทายด้านการพัฒนา AI ขนาดใหญ่
    ต้องใช้พลังงานและฮาร์ดแวร์จำนวนมหาศาล
    ต้องมีระบบจัดการความเสถียรและความปลอดภัยขั้นสูง

    ความเสี่ยงจากการพึ่งพาเทคโนโลยีเฉพาะ
    หากระบบล่มหรือมีข้อบกพร่อง อาจกระทบโมเดลขนาดใหญ่
    ต้องมีการลงทุนต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโตของ AI

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/google-deploys-new-axion-cpus-and-seventh-gen-ironwood-tpu-training-and-inferencing-pods-beat-nvidia-gb300-and-shape-ai-hypercomputer-model
    🧠 “Google เปิดตัว Axion CPU และ Ironwood TPU รุ่น 7 – สร้าง ‘AI Hypercomputer’ ล้ำหน้า Nvidia GB300!” เรื่องเล่าจากแนวหน้าของเทคโนโลยี AI! Google Cloud ได้เปิดตัวระบบประมวลผลใหม่ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยการผสาน Axion CPU ที่ออกแบบเองกับ Ironwood TPU รุ่นที่ 7 เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม “AI Hypercomputer” ที่สามารถฝึกและให้บริการโมเดลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด Ironwood TPU รุ่นใหม่ให้พลังประมวลผลถึง 4,614 FP8 TFLOPS ต่อชิป และสามารถรวมกันเป็นพ็อดขนาดใหญ่ถึง 9,216 ตัว ให้พลังรวม 42.5 FP8 ExaFLOPS ซึ่งเหนือกว่า Nvidia GB300 NVL72 ที่ให้เพียง 0.36 ExaFLOPS อย่างมหาศาล ระบบนี้ยังใช้เทคโนโลยี Optical Circuit Switching ที่สามารถปรับเส้นทางการเชื่อมต่อทันทีเมื่อมีฮาร์ดแวร์ขัดข้อง ทำให้ระบบทำงานต่อเนื่องได้แม้มีปัญหา พร้อมทั้งมีหน่วยความจำ HBM3E รวมกว่า 1.77 PB และเครือข่าย Inter-Chip Interconnect ความเร็ว 9.6 Tbps ในด้าน CPU, Google เปิดตัว Axion ซึ่งเป็นชิป Armv9 ที่ใช้สถาปัตยกรรม Neoverse V2 ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าชิป x86 ถึง 50% และประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 60% โดยมีรุ่น C4A, N4A และ C4A Metal ให้เลือกใช้งานตามความต้องการ บริษัทอย่าง Anthropic และ Lightricks ได้เริ่มใช้งานระบบนี้แล้ว โดย Anthropic เตรียมใช้ TPU กว่าล้านตัวเพื่อขับเคลื่อนโมเดล Claude รุ่นใหม่ ✅ Google เปิดตัว Ironwood TPU รุ่นที่ 7 ➡️ พลังประมวลผล 4,614 FP8 TFLOPS ต่อชิป ➡️ รวมเป็นพ็อดขนาดใหญ่ได้ถึง 42.5 FP8 ExaFLOPS ➡️ ใช้ Optical Circuit Switching เพื่อความเสถียร ➡️ หน่วยความจำรวม 1.77 PB แบบ HBM3E ✅ เปิดตัว Axion CPU ที่ออกแบบเอง ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม Arm Neoverse V2 ➡️ ประสิทธิภาพสูงกว่าชิป x86 ถึง 50% ➡️ มีรุ่น C4A, N4A และ C4A Metal ให้เลือก ➡️ รองรับ DDR5-5600 MT/s และ UMA ✅ สร้างแพลตฟอร์ม “AI Hypercomputer” ➡️ รวม compute, storage และ networking ภายใต้ระบบเดียว ➡️ รองรับการฝึกและให้บริการโมเดลขนาดใหญ่ ➡️ ใช้ Titanium controller เพื่อจัดการ I/O และความปลอดภัย ✅ บริษัทชั้นนำเริ่มใช้งานแล้ว ➡️ Anthropic ใช้ TPU กว่าล้านตัวสำหรับ Claude ➡️ Lightricks ใช้ฝึกโมเดลมัลติโหมด LTX-2 ‼️ ความท้าทายด้านการพัฒนา AI ขนาดใหญ่ ⛔ ต้องใช้พลังงานและฮาร์ดแวร์จำนวนมหาศาล ⛔ ต้องมีระบบจัดการความเสถียรและความปลอดภัยขั้นสูง ‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่งพาเทคโนโลยีเฉพาะ ⛔ หากระบบล่มหรือมีข้อบกพร่อง อาจกระทบโมเดลขนาดใหญ่ ⛔ ต้องมีการลงทุนต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโตของ AI https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/google-deploys-new-axion-cpus-and-seventh-gen-ironwood-tpu-training-and-inferencing-pods-beat-nvidia-gb300-and-shape-ai-hypercomputer-model
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.18

    การยื่นคำร้องต่อศาลหรือหน่วยงานรัฐเป็นมากกว่าการส่งเอกสาร แต่คือการใช้สิทธิอันชอบธรรมของพลเมืองในการขอให้ภาครัฐใช้อำนาจตามกฎหมายเพื่อแก้ไข เยียวยา หรือดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและความเป็นอยู่ของพวกเขา คำร้องเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้เสียงของประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่ระดับชาติถูกนำไปพิจารณาในระบบยุติธรรมและระบบบริหารราชการแผ่นดิน มันสะท้อนถึงหลักการพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่อำนาจสูงสุดเป็นของปวงชนและสามารถแสดงออกผ่านช่องทางที่เป็นทางการเพื่อแสวงหาความยุติธรรมหรือการบริการจากรัฐ การเตรียมคำร้องจึงต้องอาศัยความเข้าใจในข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง และการเขียนที่ชัดเจนและหนักแน่น เพื่อให้ข้อเรียกร้องนั้นมีน้ำหนักและนำไปสู่การพิจารณาอย่างจริงจังตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ การกระทำนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของการมีส่วนร่วมและการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของรัฐด้วยวิถีทางที่สงบและเป็นระบบ

    ในทางปฏิบัติ คำร้องที่ถูกยื่นจะถูกกลั่นกรองและประเมินโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือคณะผู้พิพากษาตามแต่กรณี การตอบสนองต่อคำร้องนั้นอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบาย การยกเลิกคำสั่งที่ไม่ชอบ หรือการพิพากษาคดีเพื่อคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทุกครั้งที่มีการยื่นคำร้อง ถือเป็นการเปิดโอกาสให้หน่วยงานรัฐได้ทบทวนการทำงานของตนเองและปรับปรุงการให้บริการหรือการบังคับใช้กฎหมายให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรมมากยิ่งขึ้น ความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการนี้อยู่ที่การให้โอกาสแก่ทุกฝ่ายได้นำเสนอข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เป็นการยืนยันว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และทุกคนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ การลงนามในคำร้องแต่ละฉบับจึงเปรียบเสมือนการส่งมอบความหวังและความเชื่อมั่นในระบบ ในขณะเดียวกันก็เป็นการท้าทายให้ระบบนั้นต้องทำงานอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพสูงสุด

    ท้ายที่สุดแล้ว คำร้องคือเครื่องมือทรงพลังที่เปลี่ยนข้อความบนกระดาษให้กลายเป็น การเคลื่อนไหวเพื่อความเป็นธรรมและการเรียกร้องให้เกิดการกระทำ ที่เป็นรูปธรรม มันคือหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเสียงเล็กๆ ของประชาชนมีความหมายและมีช่องทางที่เปิดกว้างในการสร้างผลกระทบต่อการตัดสินใจของรัฐ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นไปตามที่ร้องขอหรือไม่ กระบวนการยื่นคำร้องเองก็เป็นเครื่องยืนยันถึงสิทธิเสรีภาพและเป็นรากฐานสำคัญที่ค้ำจุนสังคมที่ยึดมั่นในหลักนิติธรรมไว้ได้อย่างมั่นคง คำร้องจึงมิใช่เพียงแค่การขอ แต่คือ การประกาศสิทธิ์ ที่รอคอยการตอบรับจากผู้มีอำนาจเพื่อผลประโยชน์สาธารณะและความเป็นธรรมของสังคมโดยรวม
    บทความกฎหมาย EP.18 การยื่นคำร้องต่อศาลหรือหน่วยงานรัฐเป็นมากกว่าการส่งเอกสาร แต่คือการใช้สิทธิอันชอบธรรมของพลเมืองในการขอให้ภาครัฐใช้อำนาจตามกฎหมายเพื่อแก้ไข เยียวยา หรือดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและความเป็นอยู่ของพวกเขา คำร้องเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้เสียงของประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่ระดับชาติถูกนำไปพิจารณาในระบบยุติธรรมและระบบบริหารราชการแผ่นดิน มันสะท้อนถึงหลักการพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่อำนาจสูงสุดเป็นของปวงชนและสามารถแสดงออกผ่านช่องทางที่เป็นทางการเพื่อแสวงหาความยุติธรรมหรือการบริการจากรัฐ การเตรียมคำร้องจึงต้องอาศัยความเข้าใจในข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง และการเขียนที่ชัดเจนและหนักแน่น เพื่อให้ข้อเรียกร้องนั้นมีน้ำหนักและนำไปสู่การพิจารณาอย่างจริงจังตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ การกระทำนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของการมีส่วนร่วมและการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของรัฐด้วยวิถีทางที่สงบและเป็นระบบ ในทางปฏิบัติ คำร้องที่ถูกยื่นจะถูกกลั่นกรองและประเมินโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือคณะผู้พิพากษาตามแต่กรณี การตอบสนองต่อคำร้องนั้นอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบาย การยกเลิกคำสั่งที่ไม่ชอบ หรือการพิพากษาคดีเพื่อคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทุกครั้งที่มีการยื่นคำร้อง ถือเป็นการเปิดโอกาสให้หน่วยงานรัฐได้ทบทวนการทำงานของตนเองและปรับปรุงการให้บริการหรือการบังคับใช้กฎหมายให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรมมากยิ่งขึ้น ความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการนี้อยู่ที่การให้โอกาสแก่ทุกฝ่ายได้นำเสนอข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เป็นการยืนยันว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และทุกคนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ การลงนามในคำร้องแต่ละฉบับจึงเปรียบเสมือนการส่งมอบความหวังและความเชื่อมั่นในระบบ ในขณะเดียวกันก็เป็นการท้าทายให้ระบบนั้นต้องทำงานอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพสูงสุด ท้ายที่สุดแล้ว คำร้องคือเครื่องมือทรงพลังที่เปลี่ยนข้อความบนกระดาษให้กลายเป็น การเคลื่อนไหวเพื่อความเป็นธรรมและการเรียกร้องให้เกิดการกระทำ ที่เป็นรูปธรรม มันคือหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเสียงเล็กๆ ของประชาชนมีความหมายและมีช่องทางที่เปิดกว้างในการสร้างผลกระทบต่อการตัดสินใจของรัฐ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นไปตามที่ร้องขอหรือไม่ กระบวนการยื่นคำร้องเองก็เป็นเครื่องยืนยันถึงสิทธิเสรีภาพและเป็นรากฐานสำคัญที่ค้ำจุนสังคมที่ยึดมั่นในหลักนิติธรรมไว้ได้อย่างมั่นคง คำร้องจึงมิใช่เพียงแค่การขอ แต่คือ การประกาศสิทธิ์ ที่รอคอยการตอบรับจากผู้มีอำนาจเพื่อผลประโยชน์สาธารณะและความเป็นธรรมของสังคมโดยรวม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เย็นแต่แพง” — ระบบระบายความร้อนของ Nvidia NVL72 และ NVL144

    ในยุคที่ AI ต้องการพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ Nvidia ได้พัฒนาเซิร์ฟเวอร์ระดับ rack-scale ที่ชื่อว่า NVL72 และรุ่นถัดไป NVL144 ซึ่งใช้ GPU และ CPU ที่มี TDP สูงถึงหลายพันวัตต์ ส่งผลให้ระบบระบายความร้อนต้องล้ำหน้าและมีราคาสูงลิ่ว

    ตามรายงานจาก Morgan Stanley:
    NVL72 (GB300) ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ liquid cooling มูลค่า $49,860
    NVL144 (Vera Rubin) จะใช้ระบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมีมูลค่า $55,710 เพิ่มขึ้น 17%

    รายละเอียดค่าใช้จ่ายของระบบระบายความร้อน
    Compute Tray (18 ชิ้น):
    NVL72: $2,260 ต่อ tray → รวม $40,680
    NVL144: เพิ่มเป็น $2,660 ต่อ tray → รวม $47,880

    Switch Tray (9 ชิ้น):
    NVL72: $1,020 ต่อ tray → รวม $9,180
    NVL144: ลดเหลือ $870 ต่อ tray → รวม $7,830

    Cold Plate คือหัวใจของระบบ
    Cold plate สำหรับ GPU และ CPU มีราคาสูงถึง $300–$400 ต่อชิ้น
    สำหรับ NVSwitch ASICs อยู่ที่ $200 ต่อชิ้น
    รุ่นถัดไปอาจต้องใช้ cold plate ที่รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ต่อ GPU package

    เตรียมพบ NVL576 — แรงกว่าเดิม 2 เท่า
    Nvidia กำลังพัฒนา NVL576 “Kyber” ที่จะใช้ GPU 144 ชุด และมีประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า แต่ก็ต้องแลกกับความร้อนที่มากขึ้น และระบบระบายความร้อนที่ซับซ้อนและแพงกว่าเดิม

    ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนของ NVL72 และ NVL144
    NVL72: $49,860 ต่อ rack
    NVL144: $55,710 ต่อ rack (เพิ่มขึ้น 17%)

    รายละเอียดค่าใช้จ่ายต่อ tray
    Compute tray: เพิ่มจาก $2,260 → $2,660
    Switch tray: ลดจาก $1,020 → $870

    Cold plate ประสิทธิภาพสูง
    GPU/CPU: $300–$400 ต่อชิ้น
    NVSwitch: $200 ต่อชิ้น
    รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ในอนาคต

    การพัฒนา NVL576
    ใช้ GPU 144 ชุด
    ประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า
    ต้องใช้ระบบระบายความร้อนที่ล้ำหน้ากว่าเดิม

    ความท้าทายด้านความร้อนในยุค AI
    GPU และ CPU มี TDP สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    ระบบระบายความร้อนต้องลงทุนสูงและซับซ้อน

    ความเสี่ยงด้านต้นทุนและพลังงาน
    ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการขยายระบบ
    การใช้พลังงานสูงอาจกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐาน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/cooling-system-for-a-single-nvidia-blackwell-ultra-nvl72-rack-costs-a-staggering-usd50-000-set-to-increase-to-usd56-000-with-next-generation-nvl144-racks
    ❄️💸 “เย็นแต่แพง” — ระบบระบายความร้อนของ Nvidia NVL72 และ NVL144 ในยุคที่ AI ต้องการพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ Nvidia ได้พัฒนาเซิร์ฟเวอร์ระดับ rack-scale ที่ชื่อว่า NVL72 และรุ่นถัดไป NVL144 ซึ่งใช้ GPU และ CPU ที่มี TDP สูงถึงหลายพันวัตต์ ส่งผลให้ระบบระบายความร้อนต้องล้ำหน้าและมีราคาสูงลิ่ว ตามรายงานจาก Morgan Stanley: 💹 NVL72 (GB300) ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ liquid cooling มูลค่า $49,860 💹 NVL144 (Vera Rubin) จะใช้ระบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมีมูลค่า $55,710 เพิ่มขึ้น 17% 🧊 รายละเอียดค่าใช้จ่ายของระบบระบายความร้อน 📍 Compute Tray (18 ชิ้น): 💹 NVL72: $2,260 ต่อ tray → รวม $40,680 💹 NVL144: เพิ่มเป็น $2,660 ต่อ tray → รวม $47,880 📍 Switch Tray (9 ชิ้น): 💹 NVL72: $1,020 ต่อ tray → รวม $9,180 💹 NVL144: ลดเหลือ $870 ต่อ tray → รวม $7,830 🔩 Cold Plate คือหัวใจของระบบ 📍 Cold plate สำหรับ GPU และ CPU มีราคาสูงถึง $300–$400 ต่อชิ้น 📍 สำหรับ NVSwitch ASICs อยู่ที่ $200 ต่อชิ้น 📍 รุ่นถัดไปอาจต้องใช้ cold plate ที่รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ต่อ GPU package 🚀 เตรียมพบ NVL576 — แรงกว่าเดิม 2 เท่า Nvidia กำลังพัฒนา NVL576 “Kyber” ที่จะใช้ GPU 144 ชุด และมีประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า แต่ก็ต้องแลกกับความร้อนที่มากขึ้น และระบบระบายความร้อนที่ซับซ้อนและแพงกว่าเดิม ✅ ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนของ NVL72 และ NVL144 ➡️ NVL72: $49,860 ต่อ rack ➡️ NVL144: $55,710 ต่อ rack (เพิ่มขึ้น 17%) ✅ รายละเอียดค่าใช้จ่ายต่อ tray ➡️ Compute tray: เพิ่มจาก $2,260 → $2,660 ➡️ Switch tray: ลดจาก $1,020 → $870 ✅ Cold plate ประสิทธิภาพสูง ➡️ GPU/CPU: $300–$400 ต่อชิ้น ➡️ NVSwitch: $200 ต่อชิ้น ➡️ รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ในอนาคต ✅ การพัฒนา NVL576 ➡️ ใช้ GPU 144 ชุด ➡️ ประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า ➡️ ต้องใช้ระบบระบายความร้อนที่ล้ำหน้ากว่าเดิม ‼️ ความท้าทายด้านความร้อนในยุค AI ⛔ GPU และ CPU มี TDP สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ⛔ ระบบระบายความร้อนต้องลงทุนสูงและซับซ้อน ‼️ ความเสี่ยงด้านต้นทุนและพลังงาน ⛔ ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการขยายระบบ ⛔ การใช้พลังงานสูงอาจกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐาน https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/cooling-system-for-a-single-nvidia-blackwell-ultra-nvl72-rack-costs-a-staggering-usd50-000-set-to-increase-to-usd56-000-with-next-generation-nvl144-racks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • “DRAM ยุคใหม่” จาก SK hynix พร้อมรองรับ AI และ HPC จนถึงปี 2031
    SK hynix เปิดเผยแผนพัฒนา DRAM ในงาน SK AI Summit 2025 โดยเน้นการรองรับความต้องการของเซิร์ฟเวอร์ AI และระบบประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการวางแผนเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่หลายรุ่นในช่วงปี 2026–2031

    DDR6, LPDDR6, GDDR8 และ 3D DRAM กำลังมา
    DDR6: คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2029–2030 โดยก่อนหน้านั้น DDR5 จะยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น MRDIMM Gen2 (2026–2027) และ CXL Gen2 (2027–2028)

    LPDDR6: จะมาพร้อมฟีเจอร์สำหรับศูนย์ข้อมูล เช่น SOCAMM2 modules และ LPDDR6-PIM (Processing-in-Memory) ในปี 2028

    GDDR8: SK hynix เรียกชื่อว่า “GDDR7-Next” ซึ่งน่าจะเป็น GDDR8 สำหรับงาน inference accelerator ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแต่ต้นทุนต่ำ

    3D DRAM: คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2030 โดยยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน

    HBM5 และ HBM5E — แรงสุดในสาย DRAM
    SK hynix เตรียมเปิดตัว HBM4, HBM4E, HBM5 และ HBM5E ในช่วงปี 2025–2031 โดย HBM5 ที่คาดว่าจะใช้ใน GPU รุ่น Feynman ของ Nvidia จะเปิดตัวในปี 2029–2030

    นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนา High-Bandwidth Flash (HBF) ที่รวมข้อดีของ HBM และ NAND แต่ต้องรอการพัฒนาสื่อใหม่และการตกลงร่วมกับผู้ผลิต NAND รายอื่น เช่น SanDisk

    แผนพัฒนา DRAM ของ SK hynix ถึงปี 2031
    เน้นรองรับ AI servers และ HPC
    เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่หลายรุ่นในช่วงปี 2026–2031

    DDR6 และการพัฒนา DDR5 ต่อเนื่อง
    DDR6 เปิดตัวปี 2029–2030
    DDR5 จะพัฒนาเป็น MRDIMM Gen2 และ CXL Gen2

    LPDDR6 สำหรับศูนย์ข้อมูล
    SOCAMM2 modules เปิดตัวปลายทศวรรษ
    LPDDR6-PIM สำหรับงานเฉพาะทางในปี 2028

    GDDR8 และการใช้งานเฉพาะทาง
    ใช้ใน inference accelerator เช่น Nvidia Rubin CPX
    ประสิทธิภาพสูงแต่ต้นทุนต่ำกว่ากลุ่ม HBM

    HBM4 ถึง HBM5E — DRAM ระดับสูงสุด
    เปิดตัวเป็นช่วงๆ ทุก 1.5–2 ปี
    HBM5 คาดว่าจะใช้ใน Nvidia Feynman ปี 2029–2030

    3D DRAM และ HBF — เทคโนโลยีแห่งอนาคต
    3D DRAM เปิดตัวปี 2030
    HBF ต้องรอการพัฒนาสื่อใหม่และความร่วมมือกับผู้ผลิต NAND

    ข้อจำกัดของเทคโนโลยีปัจจุบัน
    DDR5 ยังไม่สามารถตอบโจทย์ AI ที่ต้องการแบนด์วิดธ์สูง
    GDDR7 ยังขาดความจุที่เพียงพอสำหรับงาน inference ขนาดใหญ่

    ความท้าทายในการพัฒนา HBF
    ต้องสร้างสื่อใหม่ทั้งหมด
    ต้องตกลงร่วมกับผู้ผลิต NAND รายอื่น เช่น SanDisk

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/sk-hynix-reveals-dram-development-roadmap-through-2031-ddr6-gddr8-lpddr6-and-3d-dram-incoming
    🧠💾 “DRAM ยุคใหม่” จาก SK hynix พร้อมรองรับ AI และ HPC จนถึงปี 2031 SK hynix เปิดเผยแผนพัฒนา DRAM ในงาน SK AI Summit 2025 โดยเน้นการรองรับความต้องการของเซิร์ฟเวอร์ AI และระบบประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการวางแผนเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่หลายรุ่นในช่วงปี 2026–2031 🚀 DDR6, LPDDR6, GDDR8 และ 3D DRAM กำลังมา 🎗️ DDR6: คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2029–2030 โดยก่อนหน้านั้น DDR5 จะยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น MRDIMM Gen2 (2026–2027) และ CXL Gen2 (2027–2028) 🎗️ LPDDR6: จะมาพร้อมฟีเจอร์สำหรับศูนย์ข้อมูล เช่น SOCAMM2 modules และ LPDDR6-PIM (Processing-in-Memory) ในปี 2028 🎗️ GDDR8: SK hynix เรียกชื่อว่า “GDDR7-Next” ซึ่งน่าจะเป็น GDDR8 สำหรับงาน inference accelerator ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแต่ต้นทุนต่ำ 🎗️ 3D DRAM: คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2030 โดยยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน 🧊 HBM5 และ HBM5E — แรงสุดในสาย DRAM SK hynix เตรียมเปิดตัว HBM4, HBM4E, HBM5 และ HBM5E ในช่วงปี 2025–2031 โดย HBM5 ที่คาดว่าจะใช้ใน GPU รุ่น Feynman ของ Nvidia จะเปิดตัวในปี 2029–2030 นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนา High-Bandwidth Flash (HBF) ที่รวมข้อดีของ HBM และ NAND แต่ต้องรอการพัฒนาสื่อใหม่และการตกลงร่วมกับผู้ผลิต NAND รายอื่น เช่น SanDisk ✅ แผนพัฒนา DRAM ของ SK hynix ถึงปี 2031 ➡️ เน้นรองรับ AI servers และ HPC ➡️ เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่หลายรุ่นในช่วงปี 2026–2031 ✅ DDR6 และการพัฒนา DDR5 ต่อเนื่อง ➡️ DDR6 เปิดตัวปี 2029–2030 ➡️ DDR5 จะพัฒนาเป็น MRDIMM Gen2 และ CXL Gen2 ✅ LPDDR6 สำหรับศูนย์ข้อมูล ➡️ SOCAMM2 modules เปิดตัวปลายทศวรรษ ➡️ LPDDR6-PIM สำหรับงานเฉพาะทางในปี 2028 ✅ GDDR8 และการใช้งานเฉพาะทาง ➡️ ใช้ใน inference accelerator เช่น Nvidia Rubin CPX ➡️ ประสิทธิภาพสูงแต่ต้นทุนต่ำกว่ากลุ่ม HBM ✅ HBM4 ถึง HBM5E — DRAM ระดับสูงสุด ➡️ เปิดตัวเป็นช่วงๆ ทุก 1.5–2 ปี ➡️ HBM5 คาดว่าจะใช้ใน Nvidia Feynman ปี 2029–2030 ✅ 3D DRAM และ HBF — เทคโนโลยีแห่งอนาคต ➡️ 3D DRAM เปิดตัวปี 2030 ➡️ HBF ต้องรอการพัฒนาสื่อใหม่และความร่วมมือกับผู้ผลิต NAND ‼️ ข้อจำกัดของเทคโนโลยีปัจจุบัน ⛔ DDR5 ยังไม่สามารถตอบโจทย์ AI ที่ต้องการแบนด์วิดธ์สูง ⛔ GDDR7 ยังขาดความจุที่เพียงพอสำหรับงาน inference ขนาดใหญ่ ‼️ ความท้าทายในการพัฒนา HBF ⛔ ต้องสร้างสื่อใหม่ทั้งหมด ⛔ ต้องตกลงร่วมกับผู้ผลิต NAND รายอื่น เช่น SanDisk https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/sk-hynix-reveals-dram-development-roadmap-through-2031-ddr6-gddr8-lpddr6-and-3d-dram-incoming
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • “36 USB Ports” บนเมนบอร์ด Intel สุดล้ำ — เชื่อมโลกดิจิทัลหรือฟาร์มบอท?

    ลองจินตนาการถึงเมนบอร์ดที่มี USB มากกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปถึง 5 เท่า — นี่คือสิ่งที่ปรากฏในวิดีโอจาก Reddit ซึ่งเผยให้เห็นเมนบอร์ด Intel แบบปรับแต่งพิเศษที่มีถึง 36 พอร์ต USB พร้อมการออกแบบที่ดูเหมือนมาจากโรงงานหรือคลังสินค้า

    ภาพในวิดีโอแสดงให้เห็นเมนบอร์ดหลายตัววางเรียงกันบนถุงพลาสติกกันกระแทก โดยมี RAM และพัดลม CPU ติดตั้งไว้แล้ว จุดเด่นคือแผงพอร์ต USB ที่เรียงกันแน่นขนัด พร้อมชิปควบคุม USB หลายตัว ซึ่งบ่งบอกว่าเมนบอร์ดเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อ งานเฉพาะทาง เช่น การทดสอบอุปกรณ์จำนวนมาก, การทำฟาร์มบอท หรือแม้แต่การขุดคริปโต

    ฟาร์มบอทหรือแล็บทดสอบ? ความเป็นไปได้ที่หลากหลาย
    ผู้ใช้ใน Reddit ตั้งข้อสังเกตว่าเมนบอร์ดเหล่านี้อาจถูกใช้ในฟาร์มบอท ซึ่งต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมาก เช่น สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เพื่อทำงานอัตโนมัติ หรืออาจใช้ในแล็บทดสอบอุปกรณ์ USB จำนวนมากในเวลาเดียวกัน

    นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบกับเมนบอร์ด Asus H370 Mining Master ที่เคยเปิดตัวพร้อม 20 พอร์ต USB สำหรับการขุดคริปโต ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการออกแบบแบบนี้มี รากฐานในอุตสาหกรรมจริง

    ขุมพลังจากยุค Skylake/Kaby Lake
    จากการตรวจสอบซ็อกเก็ตของ CPU พบว่าเป็น LGA 1151 ซึ่งรองรับชิป Intel รุ่น Skylake และ Kaby Lake — ยุคสุดท้ายก่อนที่ AMD จะเริ่มแซงหน้าในตลาด CPU ประสิทธิภาพสูง

    เมนบอร์ด Intel แบบปรับแต่งพิเศษ
    มีพอร์ต USB มากถึง 36 ช่อง
    ติดตั้ง RAM และพัดลม CPU พร้อมใช้งาน
    ใช้ซ็อกเก็ต LGA 1151 รองรับ Skylake/Kaby Lake

    การใช้งานที่เป็นไปได้
    ฟาร์มบอทที่ต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมาก
    แล็บทดสอบอุปกรณ์ USB แบบ mass testing
    การขุดคริปโตแบบใช้ USB riser

    การออกแบบเพื่อประสิทธิภาพ
    มีชิปควบคุม USB หลายตัวเพื่อรองรับการเชื่อมต่อ
    ยังมีพื้นที่สำหรับติดตั้ง GPU เพิ่มเติม

    ข้อจำกัดของการใช้งานทั่วไป
    เมนบอร์ดแบบนี้ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปหรือเกมเมอร์
    อาจมีข้อจำกัดด้านการระบายความร้อนและพลังงาน

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    การใช้ในฟาร์มบอทอาจเกี่ยวข้องกับการละเมิดเงื่อนไขการใช้งานของแพลตฟอร์มต่างๆ
    การเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมากอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูล

    https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/custom-intel-motherboards-with-a-whopping-36-usb-ports-spotted-online-extravagant-connectivity-offering-fuels-bot-farm-speculation
    🧠🔌 “36 USB Ports” บนเมนบอร์ด Intel สุดล้ำ — เชื่อมโลกดิจิทัลหรือฟาร์มบอท? ลองจินตนาการถึงเมนบอร์ดที่มี USB มากกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปถึง 5 เท่า — นี่คือสิ่งที่ปรากฏในวิดีโอจาก Reddit ซึ่งเผยให้เห็นเมนบอร์ด Intel แบบปรับแต่งพิเศษที่มีถึง 36 พอร์ต USB พร้อมการออกแบบที่ดูเหมือนมาจากโรงงานหรือคลังสินค้า ภาพในวิดีโอแสดงให้เห็นเมนบอร์ดหลายตัววางเรียงกันบนถุงพลาสติกกันกระแทก โดยมี RAM และพัดลม CPU ติดตั้งไว้แล้ว จุดเด่นคือแผงพอร์ต USB ที่เรียงกันแน่นขนัด พร้อมชิปควบคุม USB หลายตัว ซึ่งบ่งบอกว่าเมนบอร์ดเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อ งานเฉพาะทาง เช่น การทดสอบอุปกรณ์จำนวนมาก, การทำฟาร์มบอท หรือแม้แต่การขุดคริปโต 🏭 ฟาร์มบอทหรือแล็บทดสอบ? ความเป็นไปได้ที่หลากหลาย ผู้ใช้ใน Reddit ตั้งข้อสังเกตว่าเมนบอร์ดเหล่านี้อาจถูกใช้ในฟาร์มบอท ซึ่งต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมาก เช่น สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เพื่อทำงานอัตโนมัติ หรืออาจใช้ในแล็บทดสอบอุปกรณ์ USB จำนวนมากในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบกับเมนบอร์ด Asus H370 Mining Master ที่เคยเปิดตัวพร้อม 20 พอร์ต USB สำหรับการขุดคริปโต ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการออกแบบแบบนี้มี รากฐานในอุตสาหกรรมจริง 🧬 ขุมพลังจากยุค Skylake/Kaby Lake จากการตรวจสอบซ็อกเก็ตของ CPU พบว่าเป็น LGA 1151 ซึ่งรองรับชิป Intel รุ่น Skylake และ Kaby Lake — ยุคสุดท้ายก่อนที่ AMD จะเริ่มแซงหน้าในตลาด CPU ประสิทธิภาพสูง ✅ เมนบอร์ด Intel แบบปรับแต่งพิเศษ ➡️ มีพอร์ต USB มากถึง 36 ช่อง ➡️ ติดตั้ง RAM และพัดลม CPU พร้อมใช้งาน ➡️ ใช้ซ็อกเก็ต LGA 1151 รองรับ Skylake/Kaby Lake ✅ การใช้งานที่เป็นไปได้ ➡️ ฟาร์มบอทที่ต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมาก ➡️ แล็บทดสอบอุปกรณ์ USB แบบ mass testing ➡️ การขุดคริปโตแบบใช้ USB riser ✅ การออกแบบเพื่อประสิทธิภาพ ➡️ มีชิปควบคุม USB หลายตัวเพื่อรองรับการเชื่อมต่อ ➡️ ยังมีพื้นที่สำหรับติดตั้ง GPU เพิ่มเติม ‼️ ข้อจำกัดของการใช้งานทั่วไป ⛔ เมนบอร์ดแบบนี้ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปหรือเกมเมอร์ ⛔ อาจมีข้อจำกัดด้านการระบายความร้อนและพลังงาน ‼️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ⛔ การใช้ในฟาร์มบอทอาจเกี่ยวข้องกับการละเมิดเงื่อนไขการใช้งานของแพลตฟอร์มต่างๆ ⛔ การเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมากอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูล https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/custom-intel-motherboards-with-a-whopping-36-usb-ports-spotted-online-extravagant-connectivity-offering-fuels-bot-farm-speculation
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google เปิดตัว Project Suncatcher: ส่งศูนย์ข้อมูล AI ขึ้นสู่อวกาศ!

    Google ประกาศโครงการสุดล้ำ “Project Suncatcher” ที่จะนำศูนย์ข้อมูล AI ขึ้นสู่วงโคจรโลก โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์และเทคโนโลยี TPU เพื่อประมวลผลแบบไร้ขีดจำกัดในอวกาศ พร้อมจับมือ Planet Labs เตรียมปล่อยดาวเทียมต้นแบบภายในปี 2027.

    Google กำลังพลิกโฉมการประมวลผล AI ด้วยแนวคิดใหม่: แทนที่จะสร้างศูนย์ข้อมูลบนโลกที่ใช้พลังงานมหาศาลและต้องการระบบระบายความร้อนซับซ้อน พวกเขาจะส่งศูนย์ข้อมูลขึ้นสู่อวกาศ!

    โดยใช้ดาวเทียมที่ติดตั้ง TPU (Tensor Processing Units) ซึ่งเป็นชิปประมวลผล AI ของ Google พร้อมแผงโซลาร์เซลล์ประสิทธิภาพสูงที่สามารถผลิตพลังงานได้มากกว่าแผงบนโลกถึง 8 เท่า

    ข้อดีคือ:
    ได้พลังงานสะอาดตลอด 24 ชั่วโมง
    ไม่ต้องใช้ระบบระบายความร้อนแบบเดิม
    ลดต้นทุนระยะยาวในการดำเนินงาน

    แต่ก็มีความท้าทาย:
    ต้องสร้างระบบสื่อสารที่ส่งข้อมูลได้หลายเทราไบต์ต่อวินาที
    ต้องป้องกัน TPU จากรังสีในอวกาศ ซึ่ง Google ได้ทดสอบแล้วว่า Trillium TPU ทนได้ถึง 5 ปีโดยไม่เสียหาย
    ต้องจัดการความเสี่ยงจากการชนกันของดาวเทียมในวงโคจร

    Google คาดว่าในปี 2035 ต้นทุนการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลในอวกาศจะใกล้เคียงกับบนโลก และจะเป็นทางเลือกใหม่ที่ยั่งยืนสำหรับการพัฒนา AI ในอนาคต

    แนวคิดของ Project Suncatcher
    ส่ง TPU ขึ้นสู่วงโคจรเพื่อประมวลผล AI
    ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพสูง
    ลดต้นทุนและปัญหาระบบระบายความร้อน

    ความร่วมมือและแผนการดำเนินงาน
    ร่วมมือกับ Planet Labs
    เตรียมปล่อยดาวเทียมต้นแบบภายในปี 2027
    คาดว่าความคุ้มทุนจะเกิดในช่วงปี 2035

    ความท้าทายทางเทคนิค
    ต้องสร้างระบบสื่อสารความเร็วสูงระหว่างดาวเทียม
    ต้องป้องกัน TPU จากรังสีอวกาศ
    ต้องจัดการความเสี่ยงจากการชนกันของดาวเทียม

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    การสื่อสารข้อมูลจากอวกาศยังมีข้อจำกัดด้านความเร็วและความเสถียร
    การจัดการดาวเทียมจำนวนมากอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในวงโคจร
    ต้องมีการตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจในระยะยาว

    Project Suncatcher ไม่ใช่แค่การส่งชิปขึ้นฟ้า แต่มันคือการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการประมวลผล AI ที่ไร้ขีดจำกัด… และอาจเปลี่ยนวิธีที่โลกใช้พลังงานและเทคโนโลยีไปตลอดกาล

    https://securityonline.info/orbital-ai-google-unveils-project-suncatcher-to-launch-tpu-data-centers-into-space/
    🚀 Google เปิดตัว Project Suncatcher: ส่งศูนย์ข้อมูล AI ขึ้นสู่อวกาศ! Google ประกาศโครงการสุดล้ำ “Project Suncatcher” ที่จะนำศูนย์ข้อมูล AI ขึ้นสู่วงโคจรโลก โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์และเทคโนโลยี TPU เพื่อประมวลผลแบบไร้ขีดจำกัดในอวกาศ พร้อมจับมือ Planet Labs เตรียมปล่อยดาวเทียมต้นแบบภายในปี 2027. Google กำลังพลิกโฉมการประมวลผล AI ด้วยแนวคิดใหม่: แทนที่จะสร้างศูนย์ข้อมูลบนโลกที่ใช้พลังงานมหาศาลและต้องการระบบระบายความร้อนซับซ้อน พวกเขาจะส่งศูนย์ข้อมูลขึ้นสู่อวกาศ! โดยใช้ดาวเทียมที่ติดตั้ง TPU (Tensor Processing Units) ซึ่งเป็นชิปประมวลผล AI ของ Google พร้อมแผงโซลาร์เซลล์ประสิทธิภาพสูงที่สามารถผลิตพลังงานได้มากกว่าแผงบนโลกถึง 8 เท่า ข้อดีคือ: 💠 ได้พลังงานสะอาดตลอด 24 ชั่วโมง 💠 ไม่ต้องใช้ระบบระบายความร้อนแบบเดิม 💠 ลดต้นทุนระยะยาวในการดำเนินงาน แต่ก็มีความท้าทาย: 🎗️ ต้องสร้างระบบสื่อสารที่ส่งข้อมูลได้หลายเทราไบต์ต่อวินาที 🎗️ ต้องป้องกัน TPU จากรังสีในอวกาศ ซึ่ง Google ได้ทดสอบแล้วว่า Trillium TPU ทนได้ถึง 5 ปีโดยไม่เสียหาย 🎗️ ต้องจัดการความเสี่ยงจากการชนกันของดาวเทียมในวงโคจร Google คาดว่าในปี 2035 ต้นทุนการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลในอวกาศจะใกล้เคียงกับบนโลก และจะเป็นทางเลือกใหม่ที่ยั่งยืนสำหรับการพัฒนา AI ในอนาคต ✅ แนวคิดของ Project Suncatcher ➡️ ส่ง TPU ขึ้นสู่วงโคจรเพื่อประมวลผล AI ➡️ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพสูง ➡️ ลดต้นทุนและปัญหาระบบระบายความร้อน ✅ ความร่วมมือและแผนการดำเนินงาน ➡️ ร่วมมือกับ Planet Labs ➡️ เตรียมปล่อยดาวเทียมต้นแบบภายในปี 2027 ➡️ คาดว่าความคุ้มทุนจะเกิดในช่วงปี 2035 ✅ ความท้าทายทางเทคนิค ➡️ ต้องสร้างระบบสื่อสารความเร็วสูงระหว่างดาวเทียม ➡️ ต้องป้องกัน TPU จากรังสีอวกาศ ➡️ ต้องจัดการความเสี่ยงจากการชนกันของดาวเทียม ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ การสื่อสารข้อมูลจากอวกาศยังมีข้อจำกัดด้านความเร็วและความเสถียร ⛔ การจัดการดาวเทียมจำนวนมากอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในวงโคจร ⛔ ต้องมีการตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจในระยะยาว Project Suncatcher ไม่ใช่แค่การส่งชิปขึ้นฟ้า แต่มันคือการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการประมวลผล AI ที่ไร้ขีดจำกัด… และอาจเปลี่ยนวิธีที่โลกใช้พลังงานและเทคโนโลยีไปตลอดกาล https://securityonline.info/orbital-ai-google-unveils-project-suncatcher-to-launch-tpu-data-centers-into-space/
    SECURITYONLINE.INFO
    Orbital AI: Google Unveils Project Suncatcher to Launch TPU Data Centers into Space
    Google announced Project Suncatcher: an ambitious plan to launch TPU-equipped satellites to perform AI computing in space, harnessing limitless solar power and low temperatures.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหตุการณ์และกิจกรรมปลุกพี่น้องคนไทยจากโควิดลวงโลก!
    https://drive.google.com/drive/folders/1lrGtLt2lCdGjTYeXaJfYDniXxwdJcUWP
    https://t.me/ThaiPitaksithData/6071

    ช่วงที่ 1
    1.วันที่ 28 พ.ย.2553 คุณธรรมรัตน์ ศิริ เขียนบทความ เช่น Illuminati Bloodline(สายเลือดอิลลูมินาติ),Rothschild,ลัทธิซาตาน,การลดประชากรโลก Agenda โดยกลุ่ม NWO
    https://jimmysiri.blogspot.com/
    2.วันที่ 31 ธ.ค.2562 เป็นวันที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการระบาดของโควิด19
    3.วันที่ 30 ม.ค.2563 องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ
    4.วันที่ 8 ธ.ค. 2563 เริ่มฉีดวัคซีนโควิดให้กับคนทั้งโลก
    5.วันที่ 17 มี.ค.2563 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ให้สัมภาษณ์เตือนคนไทย ตั้งแต่โควิดเริ่มระบาดเข้าไทยใหม่ๆ ตั้งแต่ตอนที่ สธ. รพ. ยังไม่สนใจ จะทำอะไร ก่อนการระบาดในสนามมวย กล่าวถึงถึงภูมิคุ้มกันหมู่ "ตามธรรมชาติ" ว่าเป็นวิธีช่วยทำให้การระบาดยุติ บอกว่า เป็นการระบาดใหญ่ pandemic ก่อนที่ WHO จะประกาศเสียอีก
    มี21ตอน ทั้งบอกวิธี ป้องกัน วิธีการรักษา และเอาตัวรอดจากโควิด ส่วนใหญ่ ถูกต้องหมด ถ้าทำตาม เราไม่ต้อง พึ่งวัคซีน ไม่ต้องใช้ยาแพง แถมจะได้ขาย สมุนไพร เศรษฐกิจไม่เสียหาย ไม่ต้องปิดบ้านปิดเมือง
    https://youtu.be/KVOCl0j7-EU?si=HlEoIeeMdscekeqs

    6.วันที่ 14 ก.พ.2564 เริ่มฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ไทย

    7.วันที่ 28 ก.พ.2564 เริ่มฉีดให้คนไทย ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ไฟเซอร์ทำรายงานผลกระทบจากวัคซีนโควิดเสร็จพอดี แล้วพบว่าในช่วง 3 เดือนแรก (1 ธ.ค. 2563 ถึง 28 ก.พ. 2564) มีคนป่วยคนเสียชีวิต1,223 ราย ป่วย 42,086 ราย เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ 158,893 ราย แต่ก็ยังปิดบังข้อมูล และให้ระดมฉีดกันต่อตามแผนลดประชากรโลก
    https://www.rookon.com/?p=538
    https://www.rookon.com/?p=936
    8.วันที่ 1 เม.ย..2564 ศ.ดร.สุจริต ภักดี บุญรัตพันธ์ เป็นแพทย์คนแรกของโลกที่ออกมาเตือนชาวโลกเรื่องอันตรายของวัคซีนโควิด ได้เขียนหนังสือ “Corona Unmasked”
    https://drive.google.com/file/d/1EZleXos_x8n3faM2Fp3W8WeSoCsJPL_F/view
    ศ.นพ. สุจริต บุณยรัตพันธุ์ ภักดี – นักจุลชีววิทยา | Johannes Gutenberg Universitat Mainz เยอรมัน
    https://stopthaicontrol.com/featured/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%88/?fbclid=IwAR3V2zLj4rsMq0oyFTAILGqSaqqtcuhs5bz6xyGdbACDyA9O4z_AbhCScE8
    วัคซีนโควิดอันตราย/ลดประชากรโลก/ชุดตรวจให้ผลลวง
    https://odysee.com/@tang:1/1080P:0
    9.วันที่ 4 พ.ค.2564 คุณอดิเทพ จาวลาห์ สร้างเวปไซด์ rookon.com และตามมาด้วย stopthaicontrol.com
    10.วันที่ 25 เม.ย.2564 คุณไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซัด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไร้ประสิทธิภาพ ชี้ เชื้อโควิดเป็นอาวุธชีวภาพที่มีเจ้าของ
    https://youtu.be/nOfEIJZtdTk
    11.วันที่ 16 มิ.ย.2564 คุณธรรมรัตน์ ศิริ เขียนบทความ
    แผนงาน..ล๊อคสเต็ป 2010 (ร๊อคกี้เฟลเลอร์)
    (ลำดับเหตุการณ์ ขั้นตอน วิธีการ สำหรับ “โควิด 19” ปี 2020 )
    https://docs.google.com/document/d/12EQWG-5m88jG1To8R2mwMX6YviZ2vDTTiC3K5l7nm_k/edit?usp=sharing
    12.วันที่ 17 ก.ย.2564 หม่อมโจ้ รุ่งคุณ กิติยากรและประชาชนเข้าพบเพื่อให้ข้อมูลแก่ตัวแทนกรมอนามัย https://rumble.com/vmqybf-38209083.html
    13.วันที่ 18 ก.ย.2564 รายการรู้ทันพลังงานไทย โดยกลุ่ม ผีเสื้อกระพือปีก ตอนพิเศษ ข้อเท็จจริงที่ควรรู้เรื่อง ภูมิคุ้มกัน วิทยากร อ.นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง,นพ.ศิริโรจน์ กิตติสารพงษ์,ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร
    https://rumble.com/vmr3i3-38215803.html
    14.วันที่ 20 ก.ย.2564 ไลฟ์สดคุณบรรพต ธนาเพิ่มสุข สัมภาษณ์ อ.ทวีสุข ธรรมศักดิ์ หัวข้อ ตระกูล Rothschild เบื้องหลังแนวคิด การเงินการปกครองโลก
    https://www.youtube.com/live/-0sBalQr0Gw?si=uSsQnXmmKLxjNr6O
    แนวคิด City of London ศูนย์กลางการเงินโลก
    https://www.youtube.com/live/TRM7gs2-0w0?si=1IxlWt0wiV1REuLV
    15.วันที่ 30 ก.ย.2564 เสวนาออนไลน์และแถลงการณ์ เสรีภาพในการรับ/ไม่รับ วัคซีนต้าน โควิด 19 บนความรับผิดชอบ ศ.นพ.อมร เปรมกมล,นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง,นพ.ทีปทัศน์ ชุณหสวัสดิกุล,พท.ป.วิพุธ สันติวาณิช,คุณธวัชชัย โตสิตระกูล,มล.รุ่งคุณ กิติยากร ผู้ดำเนินรายการ ดร.กฤษฎา บุญชัย,คุณนคร ลิมปคุปตถาวร
    https://www.youtube.com/watch?v=EpdTD7G6pCU
    16.วันที่ 1ต.ค.2564 คุณไพศาล พืชมงคล แนะ รบ.เร่งตรวจสอบวัคซีนบริจาคจากต่างชาติ แล้วมีข้อกำหนดลับ
    https://mgronline.com/uptodate/detail/9640000097330
    ไพศาล แฉ ขบานการกินค่านายหน้าซื้อยาตามโรงพยาบาลรัฐ (คลิปปลิว)
    https://youtu.be/dHVqMZL3tAU
    17.วันที่ 27 ต.ค.2564 ยื่นหนังสือถึงศาลปกครอง หม่อมโจ้ รุ่งคุณ กิติยากร เป็นตัวแทนฟ้องศาลปกครอง กรณีวัคซีนพาสปอร์ต https://t.me/ThaiPitaksithData/2227
    https://www.facebook.com/479570925826198/posts/1267602190356397/
    18.วันที่ 4 ธ.ค.2564 หม่อมโจ้ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร และประชาชนผู้ตื่นรู้ข้อมูลโควิดลวงโลกร่วมชุมนุมหน้าสวนลุมและหน้าสถานฑูตออสเตรเลีย https://www.facebook.com/watch/live/?ref=watch_permalink&v=3169160836742615
    https://youtu.be/SJ_FQHnFKxw
    19.วันที่ 13 ธ.ค.2564 กลุ่มเชียงใหม่พิทักษ์สิทธิ์(ต่อมาเปลี่ยนชื่อกลุ่มเป็นคนไทยพิทักษ์สิทธิ์) ชุมนุมเพื่อพิทักษ์สิทธิ์ต่อต้านการบังคับฉีดทั้งทางตรงและทางอ้อมที่จ.เชียงใหม่ จุดประกายการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ต่อต้านยาฉีดลวงโลก ครั้งแรก ยื่นหนังสือต่อศาลปกครอง https://www.facebook.com/105105782022345/posts/110293994836857/
    20.วันที่ 1 ม.ค.2565 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ (เชียงใหม่)รวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เพื่อสร้างความตื่นรู้ให้กับผู้ปกครองเกี่ยวกับความปลอดภัยของยาฉีดโควิดเนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขจะเริ่มจัดฉีดในเด็กอายุ 5-11 ปี โดยจะเริ่มฉีดในวันที่ 31 มกราคม 2565 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=118390780693845&id=105105782022345&mibextid=gngRpg
    21.วันที่ 14 ม.ค.2565 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ที่เคยร่วมลงไว้ 185 ชื่อ ยื่นหนังสือต่อ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เรื่อง ขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้รับสรุปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนโยบายการฉีดวัคซีน จากภาครัฐและแถลงการณ์ภายใน 7 วัน https://docs.google.com/document/d/1n_xmLIp85Ao-E_mM7jzdlyvn8m0feluWPz79w-bB18g/edit?usp=sharing
    22.วันที่ 16 ม.ค.2565 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ (เชียงใหม่) รวมตัวกันบริเวณประตูท่าแพ เพื่อแสดงความห่วงใยแก่เด็ก ต่อนโยบายยาฉีดระยะทดลอง ที่จะเริ่มขึ้นสิ้นเดือน มกราคม 65 และตั้งคำถามกับหน่วยงานของรัฐ กรณีการใช้มาตรการ 2 มาตรฐาน กีดกันไม่ให้ผู้ที่เลือกไม่รับยาฉีดไม่สามารถเข้าร่วมตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น ถนนคนเดินบริเวณประตูท่าแพ
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=122732786926311&id=105105782022345&mibextid=gngRpg
    23.ระหว่างวันที่ 24-31 ม.ค.2565 ดร.ณัฏฐพบธรรม(วู้ดดี้)และคณะจากกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ปั่นจักรยานจากเชียงใหม่มากรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือพร้อม นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง และหม่อมโจ้ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร และประชาชนต่อกระทรวงศึกษาฯ ครั้งเริ่มมีการฉีดในเด็ก https://www.facebook.com/105105782022345/posts/126941879838735/ https://photos.app.goo.gl/zfpHX8iSDYXD26fh7
    24.วันที่ 17 ก.พ.2565 ชุมชุมต่อต้านวัคซีนโควิด-19 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา https://t.me/ThaiPitaksithData/2282
    https://photos.app.goo.gl/mzi3A4dCrPqgW4936
    25.วันที่ 6 ก.พ.2565 คุณไพศาล พืชมงคล เขียนบทความ ถามเข็ม 3 ทําลายกี่ครอบครัวแล้ว
    https://siamrath.co.th/n/320034
    26.วันที่ 11 มี.ค.2565 คุณหมออรรถพล ดร.ณัฏฐพบธรรม คุณอดิเทพ คุณวรเชษฐ์ (วงสไมล์บัพพาโล่)พร้อมกับกลุ่มผู้ต่อต้านวัคซีนทดลอง ไปยื่นหนังสือที่กระทรวงสาธารณสุข https://photos.app.goo.gl/qukmJK5xiaiJE9ij7 เพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่ผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากวัคซีนทดลอง หลังจากนั้นก็มีการทยอยส่งหนังสือถึงหน่วยงานต่างๆ อาทิ จดหมายเปิดผนึก ถึงเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา https://cmhealthlibertyrights.blogspot.com/2022/04/email-paisarnpomgmail.html
    จดหมายเปิดผนึกถึงคนไทย และผู้มีอำนาจใน ศคบ https://cmhealthlibertyrights.blogspot.com/2022/05/blog-post_61.html
    27.วันที่ 11 มี.ค.2565 ไฟเซอร์แพ้คดีจากกลุ่มแพทย์อเมริกาที่รวมตัวกันฟ้อง ถูกคำสั่งศาลให้เปิดเผยข้อมูลที่จงใจปิด ว่าคนฉีดวัคซีนโควิดจะได้รับผลกระทบ 1,291 โรค
    https://phmpt.org/wp-content/uploads/2021/11/5.3.6-postmarketing-experience.pdf
    https://www.facebook.com/share/v/14LxcGr5SjQ/?mibextid=wwXIfr
    https://phmpt.org/multiple-file-downloads/
    https://dailyclout.io/pfizer-and-moderna-reports/
    28.วันที่ 17 เม.ย.2565 แพทย์ไทยลงชื่อ30ท่าน คือแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษาผู้ที่ติดเชื้อโkวิd-19 ด้วยยาผสมผสาน 4 ตัว Combination Drugs อันได้แก่ 1. ยา Ivermectin 2.ยา Fluoxetine 3.ยา Niclosamide 4.ยา Doxycycline 5.วิตามิน ดี 6.วิตามิน ซี 7.สังกะสี 8. NAC 9.แอสไพริน 10.famotidine 11.วิตามิน เอ 12. Quecertin (หอมแดง) 13. ฟ้าทะลายโจร 14. ขิง 15. กระชาย
    สนับสนุนให้เพื่อนๆแพทย์ที่เคารพทั้งหลายมีทางเลือกในการดูแลรักษาพี่น้องประชาชนชาวไทยด้วยการใช้ยารักษาโรคอื่นๆ (เดิม) ที่ได้ผ่านการศึกษาวิจัย เพื่อนำมาใช้ใหม่ Repurposed Drugs ในการรักษาโkวิd19 เป็นยาราคาถูกที่หมดสิทธิบัตรไปแล้ว Off-patent Drugs เป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูงแต่ผลข้างเคียงน้อย ซึ่งทั้งหมดนี้ผ่านการรักษามาเป็นจำนวนมากแล้ว โดยอ้างอิงผลการวิจัยและคนไข้จริงๆ ทำให้คนไข้หายได้เร็วและไม่เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆตามมา
    https://c19early.com/
    รายชื่อแพทย์เรียงตามลำดับตามอักษร มีดังต่อไปนี้
    หมายเหตุ : ลงชื่อ นพ. พญ. ชื่อ-นามสกุล แพทย์สาขาหรือประสบการณ์ ที่ทำงานอดีตหรือปัจจุบัน จังหวัด
    1. นพ.กฤษณ์ติพัฒณ์ พิริยกรเจริญกิจ กุมารแพทย์
    2. นพ.กฤษดา จงสกุล เวชศาสตร์ครอบครัว นนทบุรี
    3. นพ.โกวิท ยงวานิชจิต
    4. พญ.จันทนา พงศ์สงวนสิน อายุรแพทย์ กรุงเทพฯ
    5. พญ.จันทร์จิรา ชัชวาลา รังสีแพทย์ กรุงเทพฯ
    6. นพ.จิตจำลอง หะริณสุต อายุรแพทย์ กรุงเทพฯ
    7. นพ.ชัยยศ คุณานุสนธิ์ แพทย์ระบาดวิทยา นนทบุรี
    8. นพ.ทวีชัย พิตรปรีชา โสต-ศอ-นาสิกแพทย์ กรุงเทพฯ
    9. นพ.ธนะรัตน์ ลยางกูร กุมารแพทย์ (ใช้ในการป้องกัน)
    10. นพ.ธีรเดช ตังเดชะหิรัญ อายุรแพทย์ กรุงเทพฯ
    11. ศ.นพ.ธีรวัฒน์ เหมะจุฑา คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    12. นพ.พิศิษฐ์ เจนดิษฐการ อายุรแพทย์ กรุงเทพฯ
    13. นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ แพทย์ เวชศาสตร์ป้องกัน จังหวัดน่าน
    14. นพ. พุทธพจน์ สรรพกิจจำนง แพทย์โรงพยาบาลเอกชน อยุธยา
    15. นพ.ภูษณุ ธนาพรสังสุทธิ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
    16. นพ.มาโนช อาภรณ์สุวรรณ กุมารแพทย์ บุรีรัมย์
    17. พญ.ลลิดา เกษมสุวรรณ โสต-ศอ-นาสิกแพทย์ กรุงเทพฯ
    18.พญ.วัชรา ริ้วไพบูลย์ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู กรุงเทพฯ
    19. นพ.วัฒนา รังสราญนนท์ ศัลยกรรมทั่วไป รพ.บางไผ่ กทม.
    20. นพ.วีรชัย ลดาคม แพทย์เอกชน กรุงเทพฯ
    21. พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร กุมารแพทย์ กรุงเทพฯ
    22. นพ.สมภพ อิทธิอาวัชกุล สูติแพทย์ อรัญประเทศ
    23. นพ.สายัณห์ ผลประเสริฐ สูตินรีแพทย์ อ.หล่มศักดิ์ จ.เพชรบูรณ์
    24. นพ.สุทัศน์ วาณิชเสนี จักษุแพทย์ นครศรีธรรมราช
    25. นพ.สุเทพ ลิ้มสุขนิรันดร์ จักษุแพทย์ กาญจนบุรี
    26. นพ.สุนทร ศรีปรัชญาอนันต์ กรุงเทพฯ
    27. พญ.อรสา ชวาลภาฤทธิ์ รังสีแพทย์ กรุงเทพฯ
    28. พญ.อัจฉรา รังสราญนนท์ แพทย์ห้วงเวลา ศูนย์บริการสาธารณสุข 30 วัดเจ้าอาม สำนักอนามัย กทม.
    29. น.พ. อลงกรณ์ ชุตินันท์ ประสาทศัลยแพทย์ จ.ชลบุรี
    30. นพ อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.facebook.com/105105782022345/posts/146820267850896/
    29.วันที่ 31 พ.ค.2565 กลุ่มผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากนโยบายของโควิดมากว่า 2 ปี นำโดยนิตยสารข้ามห้วงมหรรณพที่เป็นสื่อกลาง ร่วมกับ กลุ่มภาคการท่องเที่ยว กลุ่มผู้ปกครองและเด็ก และกลุ่มภาคประชาชน กว่า 50 ชีวิต ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้อง ขอให้ยกเลิกการสวมหน้ากาก ให้การสวมหน้ากากเป็นทางเลือก เพื่อคืนชีวิตปกติ 100 % ให้กับประชาชน ต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่กระทรวงสาธารณสุข โดยมี คุณปวีณ์ริศา สกุลเกียรติศรุต รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี ได้เป็นตัวแทนในการรับเรื่องและข้อเรียกร้องในครั้งนี้
    30.วันที่ 20 พ.ค.2565 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง และประชาชนบุกช่อง 3 เพื่อเอาข้อมูลบ.ไฟzerแพ้คดีจำใจเปิดเผยข้อมูลด้านเสียของยาฉีด มีนักข่าวมารับเรื่องเพียงเท่านั้นเรื่องก็เงียบไป
    https://rumble.com/v15flrb--.-3.html https://odysee.com/@EE:8/CH3PfizerReports:9 https://rookon.com/read-blog/130
    ต่อมาช่อง news1 สนใจและเชิญอาจารย์หมอออกรายการคนเคาะข่าว https://t.me/ThaiPitaksithData/867
    31.วันที่ 11 ก.ค.2565 องค์กรภาคีเครือข่ายผู้ประกอบการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชนแห่งประเทศไทย รายการประเด็นโดนใจ หัวข้อ"ฉีดวัคซีนตอนนี้ดีหรือไม่ " ดำเนินรายการโดย ชาลี นพวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ร่วมรายการ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=620043739211127&id=100004085020749
    32.วันที่ 30 ก.ค.2565 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง,พญ.ชนิฎา ศิริประภารัตน์,ทพญ.เพ็ญนภา คณิตจินดา,ทพ.วัลลภ ธีรเวชกุล,ลุงโฉลก สัมพันธารักษ์,ทนายเกิดผล แก้วเกิด,โค๊ชนาตาลี,อดิเทพ จาวลาห์,บรรยงก์ วิสุทธิ์,ภัทนรินทร์ ผลพฤกษาและผู้กล้าหลายๆท่าน จัดงานสัมมนา โควิด ทางรอดที่ปลอดภัย ครั้งที่ 1 ปลุกคนไทยให้เข้าถึงความรู้และทางรอด
    คลิปที่ 1-14 https://t.me/ThaiPitaksithData/1117 คลิปที่15-20 https://t.me/ThaiPitaksithData/1801
    หรือ https://docs.google.com/document/d/1bWenIBiboQgE5WnvM6_Tqn-PP90w45wF6C3b-LFcmxw/edit?usp=sharing
    33.วันที่ 13 ก.ย.2565 จส ๑๐๐ สัมภาษณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง เรื่องวัคซีนโควิด-19 https://atapol616246.substack.com/p/100?sd=pf
    34.วันที่ 30 ก.ย.2565 นายอภิชาติ กาญจนาพงศาเวช ตัวแทนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการยา ขอให้ทบทวนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์แบบมีเงื่อนไข ในสถานการณ์ฉุกเฉินของผลิตภัณฑ์วัคซีนโคเมอร์เนตี (Comirnaty, วัคซีนไฟเซอร์) นายอภิชาติ ได้รับสำเนาหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (ในฐานะที่ผู้แทนสำนักฯ เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง ในคณะกรรมการยา) เรื่องการส่งคำร้องของนายอภิชาติ เพื่อให้ทางเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาพิจารณาเพิกถอนตำรับยาวัคซีนโคเมอร์เนตีต่อไป
    35.วันที่ 5 ต.ค.2565 กลุ่มฯเชิญชวนประชาชนส่งข้อมูลถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน https://drive.google.com/drive/folders/190jXcZNCD8znI340eigQl3NvuWTsgoI3?usp=share_link
    36.วันที่ 14 พ.ย.2565 ตัวแทนกลุ่มฯเดินทางไปที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนเพื่อติดต่อดำเนินการขอจัดตั้งองค์กร "พลังไทยพิทักษ์สิทธิ์"
    37.วันที่ 15 พ.ย.2565 ตัวแทนกลุ่มพลังไทยพิทักษ์สิทธิ์ เดินทางไปที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อติดตามเรื่องการสืบเนื่องจากการที่คณะกรรมการอาหารและยาได้อนุญาตให้ใช้วัคซีน โคเมอร์เนตีในเด็ก ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของกระบวนการพิจารณาอนุญาตยา ที่ยังไม่ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา อันเป็นผลให้ไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้ การอนุญาตวัคซีนไฟเซอร์จึงเป็นการอนุญาตที่ผิดเงื่อนไข และผิดขั้นตอนทางกฎหมาย อันมีผลทำให้วัคซีนดังกล่าวยังไม่ได้รับการอนุญาต หากมีการนำวัคซีนไปฉีดให้กับผู้ป่วยจึงเป็นการนำยาที่ไม่ได้รับอนุญาตไปฉีดอันเป็นการกระทำที่ผิดตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๖๕
    38.วันที่ 20 ธ.ค.2565 ตัวแทนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ยื่นหนังสือถวายฎีกา https://t.me/ThaiPitaksithData/2258
    39.วันที่ 23 ม.ค.2566 เริ่มยื่นหนังสือ จากการที่กลุ่มได้เชิญชวนประชาชนยื่นหนังสือให้หน่วยงานต่างๆให้ทบทวนแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 พร้อมทั้งรับทราบผลเสียจากวัคซีน และการรับผิดชอบทางละเมิด หากท่านกระทำการโดยประมาท https://drive.google.com/drive/folders/1z0_Qv-q7C9RXETMBkaqBcJHATVXNElbw?usp=share_link
    รายชื่อบุคลากรทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่ต้องการให้ยุติการฉีดยีนไวรัส ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน ดังนี้ ศ.ดร.สุจริต (บุณยรัตพันธุ์)ภักดี,นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง,อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์,ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา,หมอเดชา ศิริภัทร,นพ.มนตรี เศรษฐบุตร,นพ.ทวีศักดิ์ เนตรวงศ์,นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ,นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา,ทพญ.เพ็ญนภา คณิตจินดา,ทพ.วัลลภ ธีรเวชกุล,พญ.ชนิฎา ศิริประภารัตน์,พญ.ภูสณิตา วิเศษปุณรัตน์,นพ.สำลี เปลี่ยนบางช้าง,ทพญ.สรินภรณ์ ธีรเวชกุล,นพ.วัลลภ ธนเกียรติ์,ผศ.พญ.นิลรัตน์ นฤหล้า,นพ.วีระพล มงคลกุล,ศ.นพ.อมร เปรมกมล,ทพ.เกริกพันธุ์ ทองดี​,นพ.อลงกรณ์ ชุตินันท์,พญ.นรากร ลีปรีชานนท์,ทพ.เกรียง​ศักดิ์​ ลือ​กำลัง,พญ.​นวลอนงค์​ ลือ​กำลัง,นพ.ภาคภูมิ สุปิยพันธ์,ทพญ.อัมพา ทองดี,นพ.ศิริโรจน์ กิตติสารพงษ์,พญ.รัสรินทร์ กาญจนศศิศิลป์,พญ.ทิตยาวดี สัมพันธารักษ์,พญ.สุภาพร มีลาภ,นพ.ภาสิน เหมะจุฑา,แพทย์แผนจีนไกร บารมีเสริมส่ง,พท.กนกนุช​ ชิตวัฒนานนท์,พท.วิชากร จันทรโคตร,พท.วัชรธน อภิเลิศโสภณ,พท.มณฑล ภัทรภักดีกุล,พท.ปภาน ชัยเกษมวรากุล, พท.สุมนัสสา วาจรัต,พท.นิสิริน ลอสวัสดิ์,พท.อภิชาติ กาญจนาพงศาเวช,ทนพ.ชัยศรี เลิศวิทยากูล,พว.ณัฐชฎา สมบูรณ์สุข,พว.ณัฐชฎา สมบูรณ์สุข,พว.ปาหนัน หวนไธสง,พว.บัวบาน อาชาศรัย,พว.ศิริรัตน์ คำไข,พว.วรนุชนันท์ ลภัสสุปภานันท์,พว.สุภรณ์ บุหลัน,พว.พิกุล เขื่อนคำ,ร.ต.พิลาสินี พันทองหลาง (นายทหารกายภาพบำบัด),ภกญ.พรรณราย ชัยชมภู,ภก.วีรรัตน์ อภิวัฒนเสวี​,ภก.นชน มาตรชัยสิงห์,ภก.พัชราถรณ์ กาญจนบัตร,ภญ.พิรุณ​รัตน์​ เขื่อน​แก้ว,ภญ.วรณัน เกิดม่วงหมู่​,อสม.วิจิตรา จันทร์สม,ผู้ช่วย พยาบาลนพนันท์ จิตรตรง,รุ่งทิพย์ อาจารยา,เสียงเงิน สอนเย็น,จินตนา เดชศร,นวลละออ ศิโรรัตน์,มริยาท สารทอง,โชติกา ไทยฤทธิ์,เพนนี แจนส์ซ,ดร.ศรีวิชัย ศรีสุวรรณ,ดร.วีระพล โมนยะกุล,ดร.ธิดารัตน์ เอกศิริ,ดร.ภัทราภรณ์ พิมลไทย,ผศ.ดร.ศรัณยา สุจริตกุล,คุณโฉลก สัมพันธารักษ์,คุณNatalie Proenca,มล.รุ่งคุณ กิติยากร,คุณอดิเทพ จาวลาห์
    และรายชื่อประชาชนจากลิงค์ต่อไปนี้ https://docs.google.com/spreadsheets/d/1h1cE4qaAs062q-IxuEwzSWektFvCbVWs1UUpnA9z_gM/edit?usp=sharing
    ร่วมลงชื่อเพิ่มเติมใบแบบฟอร์มลิงก์ต่อไปนี้ https://forms.gle/LhtATTMenVmASZVH7
    40.วันที่ 28 ม.ค.2566 โค๊ชนาตาลีจัดงานสัมนามีหัวข้อบางส่วนในนั้นคือสิ่งสำคัญที่สุด ที่คุณต้องตื่นรู้ในชีวิตนี้และเรียนรู้เรื่อง Mind Control ปลดล็อคจากการถูกควบคุมเพื่ออิสระภาพของคุณ บรรยายร่วมกับ คุณอดิเทพ จาวลาห์

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    เหตุการณ์และกิจกรรมปลุกพี่น้องคนไทยจากโควิดลวงโลก! https://drive.google.com/drive/folders/1lrGtLt2lCdGjTYeXaJfYDniXxwdJcUWP https://t.me/ThaiPitaksithData/6071 ช่วงที่ 1 🇹🇭1.วันที่ 28 พ.ย.2553 คุณธรรมรัตน์ ศิริ เขียนบทความ เช่น Illuminati Bloodline(สายเลือดอิลลูมินาติ),Rothschild,ลัทธิซาตาน,การลดประชากรโลก Agenda โดยกลุ่ม NWO https://jimmysiri.blogspot.com/ 🇹🇭2.วันที่ 31 ธ.ค.2562 เป็นวันที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการระบาดของโควิด19 🇹🇭3.วันที่ 30 ม.ค.2563 องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ 🇹🇭4.วันที่ 8 ธ.ค. 2563 เริ่มฉีดวัคซีนโควิดให้กับคนทั้งโลก 🇹🇭5.วันที่ 17 มี.ค.2563 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ให้สัมภาษณ์เตือนคนไทย ตั้งแต่โควิดเริ่มระบาดเข้าไทยใหม่ๆ ตั้งแต่ตอนที่ สธ. รพ. ยังไม่สนใจ จะทำอะไร ก่อนการระบาดในสนามมวย กล่าวถึงถึงภูมิคุ้มกันหมู่ "ตามธรรมชาติ" ว่าเป็นวิธีช่วยทำให้การระบาดยุติ บอกว่า เป็นการระบาดใหญ่ pandemic ก่อนที่ WHO จะประกาศเสียอีก มี21ตอน ทั้งบอกวิธี ป้องกัน วิธีการรักษา และเอาตัวรอดจากโควิด ส่วนใหญ่ ถูกต้องหมด ถ้าทำตาม เราไม่ต้อง พึ่งวัคซีน ไม่ต้องใช้ยาแพง แถมจะได้ขาย สมุนไพร เศรษฐกิจไม่เสียหาย ไม่ต้องปิดบ้านปิดเมือง https://youtu.be/KVOCl0j7-EU?si=HlEoIeeMdscekeqs 🇹🇭6.วันที่ 14 ก.พ.2564 เริ่มฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ไทย 🇹🇭7.วันที่ 28 ก.พ.2564 เริ่มฉีดให้คนไทย ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ไฟเซอร์ทำรายงานผลกระทบจากวัคซีนโควิดเสร็จพอดี แล้วพบว่าในช่วง 3 เดือนแรก (1 ธ.ค. 2563 ถึง 28 ก.พ. 2564) มีคนป่วยคนเสียชีวิต1,223 ราย ป่วย 42,086 ราย เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ 158,893 ราย แต่ก็ยังปิดบังข้อมูล และให้ระดมฉีดกันต่อตามแผนลดประชากรโลก https://www.rookon.com/?p=538 https://www.rookon.com/?p=936 🇹🇭8.วันที่ 1 เม.ย..2564 ศ.ดร.สุจริต ภักดี บุญรัตพันธ์ เป็นแพทย์คนแรกของโลกที่ออกมาเตือนชาวโลกเรื่องอันตรายของวัคซีนโควิด ได้เขียนหนังสือ “Corona Unmasked” https://drive.google.com/file/d/1EZleXos_x8n3faM2Fp3W8WeSoCsJPL_F/view ศ.นพ. สุจริต บุณยรัตพันธุ์ ภักดี – นักจุลชีววิทยา | Johannes Gutenberg Universitat Mainz เยอรมัน https://stopthaicontrol.com/featured/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%88/?fbclid=IwAR3V2zLj4rsMq0oyFTAILGqSaqqtcuhs5bz6xyGdbACDyA9O4z_AbhCScE8 วัคซีนโควิดอันตราย/ลดประชากรโลก/ชุดตรวจให้ผลลวง https://odysee.com/@tang:1/1080P:0 🇹🇭9.วันที่ 4 พ.ค.2564 คุณอดิเทพ จาวลาห์ สร้างเวปไซด์ rookon.com และตามมาด้วย stopthaicontrol.com 🇹🇭10.วันที่ 25 เม.ย.2564 คุณไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซัด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไร้ประสิทธิภาพ ชี้ เชื้อโควิดเป็นอาวุธชีวภาพที่มีเจ้าของ https://youtu.be/nOfEIJZtdTk 🇹🇭11.วันที่ 16 มิ.ย.2564 คุณธรรมรัตน์ ศิริ เขียนบทความ แผนงาน..ล๊อคสเต็ป 2010 (ร๊อคกี้เฟลเลอร์) (ลำดับเหตุการณ์ ขั้นตอน วิธีการ สำหรับ “โควิด 19” ปี 2020 ) https://docs.google.com/document/d/12EQWG-5m88jG1To8R2mwMX6YviZ2vDTTiC3K5l7nm_k/edit?usp=sharing 🇹🇭12.วันที่ 17 ก.ย.2564 หม่อมโจ้ รุ่งคุณ กิติยากรและประชาชนเข้าพบเพื่อให้ข้อมูลแก่ตัวแทนกรมอนามัย https://rumble.com/vmqybf-38209083.html 🇹🇭13.วันที่ 18 ก.ย.2564 รายการรู้ทันพลังงานไทย โดยกลุ่ม ผีเสื้อกระพือปีก ตอนพิเศษ ข้อเท็จจริงที่ควรรู้เรื่อง ภูมิคุ้มกัน วิทยากร อ.นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง,นพ.ศิริโรจน์ กิตติสารพงษ์,ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร https://rumble.com/vmr3i3-38215803.html 🇹🇭14.วันที่ 20 ก.ย.2564 ไลฟ์สดคุณบรรพต ธนาเพิ่มสุข สัมภาษณ์ อ.ทวีสุข ธรรมศักดิ์ หัวข้อ ตระกูล Rothschild เบื้องหลังแนวคิด การเงินการปกครองโลก https://www.youtube.com/live/-0sBalQr0Gw?si=uSsQnXmmKLxjNr6O แนวคิด City of London ศูนย์กลางการเงินโลก https://www.youtube.com/live/TRM7gs2-0w0?si=1IxlWt0wiV1REuLV 🇹🇭15.วันที่ 30 ก.ย.2564 เสวนาออนไลน์และแถลงการณ์ เสรีภาพในการรับ/ไม่รับ วัคซีนต้าน โควิด 19 บนความรับผิดชอบ ศ.นพ.อมร เปรมกมล,นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง,นพ.ทีปทัศน์ ชุณหสวัสดิกุล,พท.ป.วิพุธ สันติวาณิช,คุณธวัชชัย โตสิตระกูล,มล.รุ่งคุณ กิติยากร ผู้ดำเนินรายการ ดร.กฤษฎา บุญชัย,คุณนคร ลิมปคุปตถาวร https://www.youtube.com/watch?v=EpdTD7G6pCU 🇹🇭16.วันที่ 1ต.ค.2564 คุณไพศาล พืชมงคล แนะ รบ.เร่งตรวจสอบวัคซีนบริจาคจากต่างชาติ แล้วมีข้อกำหนดลับ https://mgronline.com/uptodate/detail/9640000097330 ไพศาล แฉ ขบานการกินค่านายหน้าซื้อยาตามโรงพยาบาลรัฐ (คลิปปลิว) https://youtu.be/dHVqMZL3tAU 🇹🇭17.วันที่ 27 ต.ค.2564 ยื่นหนังสือถึงศาลปกครอง หม่อมโจ้ รุ่งคุณ กิติยากร เป็นตัวแทนฟ้องศาลปกครอง กรณีวัคซีนพาสปอร์ต https://t.me/ThaiPitaksithData/2227 https://www.facebook.com/479570925826198/posts/1267602190356397/ 🇹🇭18.วันที่ 4 ธ.ค.2564 หม่อมโจ้ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร และประชาชนผู้ตื่นรู้ข้อมูลโควิดลวงโลกร่วมชุมนุมหน้าสวนลุมและหน้าสถานฑูตออสเตรเลีย https://www.facebook.com/watch/live/?ref=watch_permalink&v=3169160836742615 https://youtu.be/SJ_FQHnFKxw 🇹🇭19.วันที่ 13 ธ.ค.2564 กลุ่มเชียงใหม่พิทักษ์สิทธิ์(ต่อมาเปลี่ยนชื่อกลุ่มเป็นคนไทยพิทักษ์สิทธิ์) ชุมนุมเพื่อพิทักษ์สิทธิ์ต่อต้านการบังคับฉีดทั้งทางตรงและทางอ้อมที่จ.เชียงใหม่ จุดประกายการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ต่อต้านยาฉีดลวงโลก ครั้งแรก ยื่นหนังสือต่อศาลปกครอง https://www.facebook.com/105105782022345/posts/110293994836857/ 🇹🇭20.วันที่ 1 ม.ค.2565 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ (เชียงใหม่)รวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เพื่อสร้างความตื่นรู้ให้กับผู้ปกครองเกี่ยวกับความปลอดภัยของยาฉีดโควิดเนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขจะเริ่มจัดฉีดในเด็กอายุ 5-11 ปี โดยจะเริ่มฉีดในวันที่ 31 มกราคม 2565 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=118390780693845&id=105105782022345&mibextid=gngRpg 🇹🇭21.วันที่ 14 ม.ค.2565 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ที่เคยร่วมลงไว้ 185 ชื่อ ยื่นหนังสือต่อ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เรื่อง ขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้รับสรุปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนโยบายการฉีดวัคซีน จากภาครัฐและแถลงการณ์ภายใน 7 วัน https://docs.google.com/document/d/1n_xmLIp85Ao-E_mM7jzdlyvn8m0feluWPz79w-bB18g/edit?usp=sharing 🇹🇭22.วันที่ 16 ม.ค.2565 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ (เชียงใหม่) รวมตัวกันบริเวณประตูท่าแพ เพื่อแสดงความห่วงใยแก่เด็ก ต่อนโยบายยาฉีดระยะทดลอง ที่จะเริ่มขึ้นสิ้นเดือน มกราคม 65 และตั้งคำถามกับหน่วยงานของรัฐ กรณีการใช้มาตรการ 2 มาตรฐาน กีดกันไม่ให้ผู้ที่เลือกไม่รับยาฉีดไม่สามารถเข้าร่วมตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น ถนนคนเดินบริเวณประตูท่าแพ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=122732786926311&id=105105782022345&mibextid=gngRpg 🇹🇭23.ระหว่างวันที่ 24-31 ม.ค.2565 ดร.ณัฏฐพบธรรม(วู้ดดี้)และคณะจากกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ปั่นจักรยานจากเชียงใหม่มากรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือพร้อม นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง และหม่อมโจ้ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร และประชาชนต่อกระทรวงศึกษาฯ ครั้งเริ่มมีการฉีดในเด็ก https://www.facebook.com/105105782022345/posts/126941879838735/ https://photos.app.goo.gl/zfpHX8iSDYXD26fh7 🇹🇭24.วันที่ 17 ก.พ.2565 ชุมชุมต่อต้านวัคซีนโควิด-19 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา https://t.me/ThaiPitaksithData/2282 https://photos.app.goo.gl/mzi3A4dCrPqgW4936 🇹🇭25.วันที่ 6 ก.พ.2565 คุณไพศาล พืชมงคล เขียนบทความ ถามเข็ม 3 ทําลายกี่ครอบครัวแล้ว https://siamrath.co.th/n/320034 🇹🇭26.วันที่ 11 มี.ค.2565 คุณหมออรรถพล ดร.ณัฏฐพบธรรม คุณอดิเทพ คุณวรเชษฐ์ (วงสไมล์บัพพาโล่)พร้อมกับกลุ่มผู้ต่อต้านวัคซีนทดลอง ไปยื่นหนังสือที่กระทรวงสาธารณสุข https://photos.app.goo.gl/qukmJK5xiaiJE9ij7 เพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่ผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากวัคซีนทดลอง หลังจากนั้นก็มีการทยอยส่งหนังสือถึงหน่วยงานต่างๆ อาทิ จดหมายเปิดผนึก ถึงเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา https://cmhealthlibertyrights.blogspot.com/2022/04/email-paisarnpomgmail.html จดหมายเปิดผนึกถึงคนไทย และผู้มีอำนาจใน ศคบ https://cmhealthlibertyrights.blogspot.com/2022/05/blog-post_61.html 🇹🇭27.วันที่ 11 มี.ค.2565 ไฟเซอร์แพ้คดีจากกลุ่มแพทย์อเมริกาที่รวมตัวกันฟ้อง ถูกคำสั่งศาลให้เปิดเผยข้อมูลที่จงใจปิด ว่าคนฉีดวัคซีนโควิดจะได้รับผลกระทบ 1,291 โรค https://phmpt.org/wp-content/uploads/2021/11/5.3.6-postmarketing-experience.pdf https://www.facebook.com/share/v/14LxcGr5SjQ/?mibextid=wwXIfr https://phmpt.org/multiple-file-downloads/ https://dailyclout.io/pfizer-and-moderna-reports/ 🇹🇭28.วันที่ 17 เม.ย.2565 แพทย์ไทยลงชื่อ30ท่าน คือแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษาผู้ที่ติดเชื้อโkวิd-19 ด้วยยาผสมผสาน 4 ตัว Combination Drugs อันได้แก่ 1. ยา Ivermectin 2.ยา Fluoxetine 3.ยา Niclosamide 4.ยา Doxycycline 5.วิตามิน ดี 6.วิตามิน ซี 7.สังกะสี 8. NAC 9.แอสไพริน 10.famotidine 11.วิตามิน เอ 12. Quecertin (หอมแดง) 13. ฟ้าทะลายโจร 14. ขิง 15. กระชาย สนับสนุนให้เพื่อนๆแพทย์ที่เคารพทั้งหลายมีทางเลือกในการดูแลรักษาพี่น้องประชาชนชาวไทยด้วยการใช้ยารักษาโรคอื่นๆ (เดิม) ที่ได้ผ่านการศึกษาวิจัย เพื่อนำมาใช้ใหม่ Repurposed Drugs ในการรักษาโkวิd19 เป็นยาราคาถูกที่หมดสิทธิบัตรไปแล้ว Off-patent Drugs เป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูงแต่ผลข้างเคียงน้อย ซึ่งทั้งหมดนี้ผ่านการรักษามาเป็นจำนวนมากแล้ว โดยอ้างอิงผลการวิจัยและคนไข้จริงๆ ทำให้คนไข้หายได้เร็วและไม่เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆตามมา https://c19early.com/ รายชื่อแพทย์เรียงตามลำดับตามอักษร มีดังต่อไปนี้ หมายเหตุ : ลงชื่อ นพ. พญ. ชื่อ-นามสกุล แพทย์สาขาหรือประสบการณ์ ที่ทำงานอดีตหรือปัจจุบัน จังหวัด 1. นพ.กฤษณ์ติพัฒณ์ พิริยกรเจริญกิจ กุมารแพทย์ 2. นพ.กฤษดา จงสกุล เวชศาสตร์ครอบครัว นนทบุรี 3. นพ.โกวิท ยงวานิชจิต 4. พญ.จันทนา พงศ์สงวนสิน อายุรแพทย์ กรุงเทพฯ 5. พญ.จันทร์จิรา ชัชวาลา รังสีแพทย์ กรุงเทพฯ 6. นพ.จิตจำลอง หะริณสุต อายุรแพทย์ กรุงเทพฯ 7. นพ.ชัยยศ คุณานุสนธิ์ แพทย์ระบาดวิทยา นนทบุรี 8. นพ.ทวีชัย พิตรปรีชา โสต-ศอ-นาสิกแพทย์ กรุงเทพฯ 9. นพ.ธนะรัตน์ ลยางกูร กุมารแพทย์ (ใช้ในการป้องกัน) 10. นพ.ธีรเดช ตังเดชะหิรัญ อายุรแพทย์ กรุงเทพฯ 11. ศ.นพ.ธีรวัฒน์ เหมะจุฑา คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 12. นพ.พิศิษฐ์ เจนดิษฐการ อายุรแพทย์ กรุงเทพฯ 13. นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ แพทย์ เวชศาสตร์ป้องกัน จังหวัดน่าน 14. นพ. พุทธพจน์ สรรพกิจจำนง แพทย์โรงพยาบาลเอกชน อยุธยา 15. นพ.ภูษณุ ธนาพรสังสุทธิ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 16. นพ.มาโนช อาภรณ์สุวรรณ กุมารแพทย์ บุรีรัมย์ 17. พญ.ลลิดา เกษมสุวรรณ โสต-ศอ-นาสิกแพทย์ กรุงเทพฯ 18.พญ.วัชรา ริ้วไพบูลย์ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู กรุงเทพฯ 19. นพ.วัฒนา รังสราญนนท์ ศัลยกรรมทั่วไป รพ.บางไผ่ กทม. 20. นพ.วีรชัย ลดาคม แพทย์เอกชน กรุงเทพฯ 21. พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร กุมารแพทย์ กรุงเทพฯ 22. นพ.สมภพ อิทธิอาวัชกุล สูติแพทย์ อรัญประเทศ 23. นพ.สายัณห์ ผลประเสริฐ สูตินรีแพทย์ อ.หล่มศักดิ์ จ.เพชรบูรณ์ 24. นพ.สุทัศน์ วาณิชเสนี จักษุแพทย์ นครศรีธรรมราช 25. นพ.สุเทพ ลิ้มสุขนิรันดร์ จักษุแพทย์ กาญจนบุรี 26. นพ.สุนทร ศรีปรัชญาอนันต์ กรุงเทพฯ 27. พญ.อรสา ชวาลภาฤทธิ์ รังสีแพทย์ กรุงเทพฯ 28. พญ.อัจฉรา รังสราญนนท์ แพทย์ห้วงเวลา ศูนย์บริการสาธารณสุข 30 วัดเจ้าอาม สำนักอนามัย กทม. 29. น.พ. อลงกรณ์ ชุตินันท์ ประสาทศัลยแพทย์ จ.ชลบุรี 30. นพ อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.facebook.com/105105782022345/posts/146820267850896/ 🇹🇭29.วันที่ 31 พ.ค.2565 กลุ่มผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากนโยบายของโควิดมากว่า 2 ปี นำโดยนิตยสารข้ามห้วงมหรรณพที่เป็นสื่อกลาง ร่วมกับ กลุ่มภาคการท่องเที่ยว กลุ่มผู้ปกครองและเด็ก และกลุ่มภาคประชาชน กว่า 50 ชีวิต ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้อง ขอให้ยกเลิกการสวมหน้ากาก ให้การสวมหน้ากากเป็นทางเลือก เพื่อคืนชีวิตปกติ 100 % ให้กับประชาชน ต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่กระทรวงสาธารณสุข โดยมี คุณปวีณ์ริศา สกุลเกียรติศรุต รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี ได้เป็นตัวแทนในการรับเรื่องและข้อเรียกร้องในครั้งนี้ 🇹🇭30.วันที่ 20 พ.ค.2565 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง และประชาชนบุกช่อง 3 เพื่อเอาข้อมูลบ.ไฟzerแพ้คดีจำใจเปิดเผยข้อมูลด้านเสียของยาฉีด มีนักข่าวมารับเรื่องเพียงเท่านั้นเรื่องก็เงียบไป https://rumble.com/v15flrb--.-3.html https://odysee.com/@EE:8/CH3PfizerReports:9 https://rookon.com/read-blog/130 ต่อมาช่อง news1 สนใจและเชิญอาจารย์หมอออกรายการคนเคาะข่าว https://t.me/ThaiPitaksithData/867 🇹🇭31.วันที่ 11 ก.ค.2565 องค์กรภาคีเครือข่ายผู้ประกอบการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชนแห่งประเทศไทย รายการประเด็นโดนใจ หัวข้อ"ฉีดวัคซีนตอนนี้ดีหรือไม่ " ดำเนินรายการโดย ชาลี นพวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ร่วมรายการ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=620043739211127&id=100004085020749 🇹🇭32.วันที่ 30 ก.ค.2565 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง,พญ.ชนิฎา ศิริประภารัตน์,ทพญ.เพ็ญนภา คณิตจินดา,ทพ.วัลลภ ธีรเวชกุล,ลุงโฉลก สัมพันธารักษ์,ทนายเกิดผล แก้วเกิด,โค๊ชนาตาลี,อดิเทพ จาวลาห์,บรรยงก์ วิสุทธิ์,ภัทนรินทร์ ผลพฤกษาและผู้กล้าหลายๆท่าน จัดงานสัมมนา โควิด ทางรอดที่ปลอดภัย ครั้งที่ 1 ปลุกคนไทยให้เข้าถึงความรู้และทางรอด คลิปที่ 1-14 https://t.me/ThaiPitaksithData/1117 คลิปที่15-20 https://t.me/ThaiPitaksithData/1801 หรือ https://docs.google.com/document/d/1bWenIBiboQgE5WnvM6_Tqn-PP90w45wF6C3b-LFcmxw/edit?usp=sharing 🇹🇭33.วันที่ 13 ก.ย.2565 จส ๑๐๐ สัมภาษณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง เรื่องวัคซีนโควิด-19 https://atapol616246.substack.com/p/100?sd=pf 🇹🇭34.วันที่ 30 ก.ย.2565 นายอภิชาติ กาญจนาพงศาเวช ตัวแทนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการยา ขอให้ทบทวนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์แบบมีเงื่อนไข ในสถานการณ์ฉุกเฉินของผลิตภัณฑ์วัคซีนโคเมอร์เนตี (Comirnaty, วัคซีนไฟเซอร์) นายอภิชาติ ได้รับสำเนาหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (ในฐานะที่ผู้แทนสำนักฯ เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง ในคณะกรรมการยา) เรื่องการส่งคำร้องของนายอภิชาติ เพื่อให้ทางเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาพิจารณาเพิกถอนตำรับยาวัคซีนโคเมอร์เนตีต่อไป 🇹🇭35.วันที่ 5 ต.ค.2565 กลุ่มฯเชิญชวนประชาชนส่งข้อมูลถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน https://drive.google.com/drive/folders/190jXcZNCD8znI340eigQl3NvuWTsgoI3?usp=share_link 🇹🇭36.วันที่ 14 พ.ย.2565 ตัวแทนกลุ่มฯเดินทางไปที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนเพื่อติดต่อดำเนินการขอจัดตั้งองค์กร "พลังไทยพิทักษ์สิทธิ์" 🇹🇭37.วันที่ 15 พ.ย.2565 ตัวแทนกลุ่มพลังไทยพิทักษ์สิทธิ์ เดินทางไปที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อติดตามเรื่องการสืบเนื่องจากการที่คณะกรรมการอาหารและยาได้อนุญาตให้ใช้วัคซีน โคเมอร์เนตีในเด็ก ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของกระบวนการพิจารณาอนุญาตยา ที่ยังไม่ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา อันเป็นผลให้ไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้ การอนุญาตวัคซีนไฟเซอร์จึงเป็นการอนุญาตที่ผิดเงื่อนไข และผิดขั้นตอนทางกฎหมาย อันมีผลทำให้วัคซีนดังกล่าวยังไม่ได้รับการอนุญาต หากมีการนำวัคซีนไปฉีดให้กับผู้ป่วยจึงเป็นการนำยาที่ไม่ได้รับอนุญาตไปฉีดอันเป็นการกระทำที่ผิดตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๖๕ 🇹🇭38.วันที่ 20 ธ.ค.2565 ตัวแทนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ยื่นหนังสือถวายฎีกา https://t.me/ThaiPitaksithData/2258 🇹🇭39.วันที่ 23 ม.ค.2566 เริ่มยื่นหนังสือ จากการที่กลุ่มได้เชิญชวนประชาชนยื่นหนังสือให้หน่วยงานต่างๆให้ทบทวนแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 พร้อมทั้งรับทราบผลเสียจากวัคซีน และการรับผิดชอบทางละเมิด หากท่านกระทำการโดยประมาท https://drive.google.com/drive/folders/1z0_Qv-q7C9RXETMBkaqBcJHATVXNElbw?usp=share_link รายชื่อบุคลากรทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่ต้องการให้ยุติการฉีดยีนไวรัส ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน ดังนี้ ศ.ดร.สุจริต (บุณยรัตพันธุ์)ภักดี,นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง,อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์,ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา,หมอเดชา ศิริภัทร,นพ.มนตรี เศรษฐบุตร,นพ.ทวีศักดิ์ เนตรวงศ์,นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ,นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา,ทพญ.เพ็ญนภา คณิตจินดา,ทพ.วัลลภ ธีรเวชกุล,พญ.ชนิฎา ศิริประภารัตน์,พญ.ภูสณิตา วิเศษปุณรัตน์,นพ.สำลี เปลี่ยนบางช้าง,ทพญ.สรินภรณ์ ธีรเวชกุล,นพ.วัลลภ ธนเกียรติ์,ผศ.พญ.นิลรัตน์ นฤหล้า,นพ.วีระพล มงคลกุล,ศ.นพ.อมร เปรมกมล,ทพ.เกริกพันธุ์ ทองดี​,นพ.อลงกรณ์ ชุตินันท์,พญ.นรากร ลีปรีชานนท์,ทพ.เกรียง​ศักดิ์​ ลือ​กำลัง,พญ.​นวลอนงค์​ ลือ​กำลัง,นพ.ภาคภูมิ สุปิยพันธ์,ทพญ.อัมพา ทองดี,นพ.ศิริโรจน์ กิตติสารพงษ์,พญ.รัสรินทร์ กาญจนศศิศิลป์,พญ.ทิตยาวดี สัมพันธารักษ์,พญ.สุภาพร มีลาภ,นพ.ภาสิน เหมะจุฑา,แพทย์แผนจีนไกร บารมีเสริมส่ง,พท.กนกนุช​ ชิตวัฒนานนท์,พท.วิชากร จันทรโคตร,พท.วัชรธน อภิเลิศโสภณ,พท.มณฑล ภัทรภักดีกุล,พท.ปภาน ชัยเกษมวรากุล, พท.สุมนัสสา วาจรัต,พท.นิสิริน ลอสวัสดิ์,พท.อภิชาติ กาญจนาพงศาเวช,ทนพ.ชัยศรี เลิศวิทยากูล,พว.ณัฐชฎา สมบูรณ์สุข,พว.ณัฐชฎา สมบูรณ์สุข,พว.ปาหนัน หวนไธสง,พว.บัวบาน อาชาศรัย,พว.ศิริรัตน์ คำไข,พว.วรนุชนันท์ ลภัสสุปภานันท์,พว.สุภรณ์ บุหลัน,พว.พิกุล เขื่อนคำ,ร.ต.พิลาสินี พันทองหลาง (นายทหารกายภาพบำบัด),ภกญ.พรรณราย ชัยชมภู,ภก.วีรรัตน์ อภิวัฒนเสวี​,ภก.นชน มาตรชัยสิงห์,ภก.พัชราถรณ์ กาญจนบัตร,ภญ.พิรุณ​รัตน์​ เขื่อน​แก้ว,ภญ.วรณัน เกิดม่วงหมู่​,อสม.วิจิตรา จันทร์สม,ผู้ช่วย พยาบาลนพนันท์ จิตรตรง,รุ่งทิพย์ อาจารยา,เสียงเงิน สอนเย็น,จินตนา เดชศร,นวลละออ ศิโรรัตน์,มริยาท สารทอง,โชติกา ไทยฤทธิ์,เพนนี แจนส์ซ,ดร.ศรีวิชัย ศรีสุวรรณ,ดร.วีระพล โมนยะกุล,ดร.ธิดารัตน์ เอกศิริ,ดร.ภัทราภรณ์ พิมลไทย,ผศ.ดร.ศรัณยา สุจริตกุล,คุณโฉลก สัมพันธารักษ์,คุณNatalie Proenca,มล.รุ่งคุณ กิติยากร,คุณอดิเทพ จาวลาห์ และรายชื่อประชาชนจากลิงค์ต่อไปนี้ https://docs.google.com/spreadsheets/d/1h1cE4qaAs062q-IxuEwzSWektFvCbVWs1UUpnA9z_gM/edit?usp=sharing ร่วมลงชื่อเพิ่มเติมใบแบบฟอร์มลิงก์ต่อไปนี้ https://forms.gle/LhtATTMenVmASZVH7 🇹🇭40.วันที่ 28 ม.ค.2566 โค๊ชนาตาลีจัดงานสัมนามีหัวข้อบางส่วนในนั้นคือสิ่งสำคัญที่สุด ที่คุณต้องตื่นรู้ในชีวิตนี้และเรียนรู้เรื่อง Mind Control ปลดล็อคจากการถูกควบคุมเพื่ออิสระภาพของคุณ บรรยายร่วมกับ คุณอดิเทพ จาวลาห์ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 777 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Apple เตรียมเปิดตัว MacBook ราคาประหยัด! ลุยตลาดนักเรียน-ธุรกิจในปี 2026”
    Apple กำลังเปลี่ยนเกมอีกครั้ง — คราวนี้ไม่ใช่ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ แต่ด้วยราคาที่เข้าถึงได้! มีรายงานล่าสุดว่า Apple กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิตและทดสอบ MacBook รุ่นใหม่ที่มีราคาต่ำกว่า $1,000 โดยมีเป้าหมายเจาะกลุ่มนักเรียน ธุรกิจขนาดเล็ก และผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการโน้ตบุ๊กคุณภาพในราคาคุ้มค่า

    MacBook รุ่นนี้มีโค้ดเนมภายในว่า “J700” และคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 โดยใช้ชิป A18 Pro ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 16 Pro พร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 13.6 นิ้ว และโครงสร้างอะลูมิเนียมแบบเดียวกับ MacBook Air แต่ลดสเปกบางส่วนเพื่อควบคุมต้นทุน

    แม้จะไม่มี Thunderbolt แต่ยังคงมีพอร์ต USB 3.2 Gen 2 ที่รองรับความเร็วสูงถึง 10Gb/s พร้อม RAM 12GB และ SSD 256GB ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เช่น เอกสาร, วิดีโอคอล, และงานออนไลน์

    Apple เคยทดลองขาย MacBook Air M1 ผ่าน Walmart ในราคาต่ำกว่า $700 มาแล้ว และดูเหมือนว่ากลยุทธ์นี้จะถูกนำมาใช้จริงในรุ่นใหม่ เพื่อแข่งขันกับ Chromebook และโน้ตบุ๊ก Windows ราคาประหยัด โดยเฉพาะหลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 อย่างเป็นทางการ

    Apple เตรียมเปิดตัว MacBook ราคาประหยัดในปี 2026
    โค้ดเนม “J700” อยู่ในขั้นตอนการผลิตและทดสอบ
    คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี

    สเปกที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมต้นทุน
    ใช้ชิป A18 Pro และหน้าจอ LCD ขนาด 13.6 นิ้ว
    ไม่มี Thunderbolt แต่มี USB 3.2 Gen 2
    RAM 12GB และ SSD 256GB

    กลุ่มเป้าหมายคือผู้ใช้ทั่วไป
    นักเรียน, ธุรกิจขนาดเล็ก, ผู้ใช้งานทั่วไป
    แข่งขันกับ Chromebook และโน้ตบุ๊ก Windows ราคาประหยัด

    กลยุทธ์ต่อยอดจาก MacBook Air M1 ราคาถูก
    เคยขายผ่าน Walmart ในราคาต่ำกว่า $700
    รุ่นใหม่อาจตั้งราคาระหว่าง $599–$699

    คำเตือนด้านข้อจำกัดของรุ่นราคาประหยัด
    ไม่มีคีย์บอร์ดแบบ backlit
    ไม่มี Thunderbolt อาจจำกัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ระดับโปร

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง
    ไม่เหมาะกับงานกราฟิกหรือการตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ
    อาจไม่รองรับแอปที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง

    https://wccftech.com/apples-first-low-cost-macbook-coming-in-h1-2026-early-production-already-underway/
    🍏💻 “Apple เตรียมเปิดตัว MacBook ราคาประหยัด! ลุยตลาดนักเรียน-ธุรกิจในปี 2026” Apple กำลังเปลี่ยนเกมอีกครั้ง — คราวนี้ไม่ใช่ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ แต่ด้วยราคาที่เข้าถึงได้! มีรายงานล่าสุดว่า Apple กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิตและทดสอบ MacBook รุ่นใหม่ที่มีราคาต่ำกว่า $1,000 โดยมีเป้าหมายเจาะกลุ่มนักเรียน ธุรกิจขนาดเล็ก และผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการโน้ตบุ๊กคุณภาพในราคาคุ้มค่า MacBook รุ่นนี้มีโค้ดเนมภายในว่า “J700” และคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 โดยใช้ชิป A18 Pro ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 16 Pro พร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 13.6 นิ้ว และโครงสร้างอะลูมิเนียมแบบเดียวกับ MacBook Air แต่ลดสเปกบางส่วนเพื่อควบคุมต้นทุน แม้จะไม่มี Thunderbolt แต่ยังคงมีพอร์ต USB 3.2 Gen 2 ที่รองรับความเร็วสูงถึง 10Gb/s พร้อม RAM 12GB และ SSD 256GB ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เช่น เอกสาร, วิดีโอคอล, และงานออนไลน์ Apple เคยทดลองขาย MacBook Air M1 ผ่าน Walmart ในราคาต่ำกว่า $700 มาแล้ว และดูเหมือนว่ากลยุทธ์นี้จะถูกนำมาใช้จริงในรุ่นใหม่ เพื่อแข่งขันกับ Chromebook และโน้ตบุ๊ก Windows ราคาประหยัด โดยเฉพาะหลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 อย่างเป็นทางการ ✅ Apple เตรียมเปิดตัว MacBook ราคาประหยัดในปี 2026 ➡️ โค้ดเนม “J700” อยู่ในขั้นตอนการผลิตและทดสอบ ➡️ คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี ✅ สเปกที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมต้นทุน ➡️ ใช้ชิป A18 Pro และหน้าจอ LCD ขนาด 13.6 นิ้ว ➡️ ไม่มี Thunderbolt แต่มี USB 3.2 Gen 2 ➡️ RAM 12GB และ SSD 256GB ✅ กลุ่มเป้าหมายคือผู้ใช้ทั่วไป ➡️ นักเรียน, ธุรกิจขนาดเล็ก, ผู้ใช้งานทั่วไป ➡️ แข่งขันกับ Chromebook และโน้ตบุ๊ก Windows ราคาประหยัด ✅ กลยุทธ์ต่อยอดจาก MacBook Air M1 ราคาถูก ➡️ เคยขายผ่าน Walmart ในราคาต่ำกว่า $700 ➡️ รุ่นใหม่อาจตั้งราคาระหว่าง $599–$699 ‼️ คำเตือนด้านข้อจำกัดของรุ่นราคาประหยัด ⛔ ไม่มีคีย์บอร์ดแบบ backlit ⛔ ไม่มี Thunderbolt อาจจำกัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ระดับโปร ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ⛔ ไม่เหมาะกับงานกราฟิกหรือการตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ ⛔ อาจไม่รองรับแอปที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง https://wccftech.com/apples-first-low-cost-macbook-coming-in-h1-2026-early-production-already-underway/
    WCCFTECH.COM
    Apple's First Low-Cost MacBook Coming In H1 2026, Early Production Already Underway
    The fact that Apple's low-cost MacBook is already in early production and testing phase bolsters the thesis for its near-imminent launch.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA ปล่อยไดรเวอร์ 580.105.08 สำหรับ Linux พร้อมตัวแปรใหม่ควบคุมพลังงาน GPU

    NVIDIA ได้เปิดตัวไดรเวอร์เวอร์ชัน 580.105.08 สำหรับระบบปฏิบัติการ Linux, BSD และ Solaris โดยมีไฮไลต์สำคัญคือการเพิ่มตัวแปรสภาพแวดล้อมใหม่ CUDA_DISABLE_PERF_BOOST ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปิดการเร่งพลังงาน GPU อัตโนมัติเมื่อรันแอปพลิเคชัน CUDA ได้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เปิดตัวไดรเวอร์ NVIDIA 580.105.08
    รองรับ Linux, BSD, Solaris
    เป็นเวอร์ชัน production ล่าสุดที่แนะนำให้ใช้งาน

    เพิ่มตัวแปร CUDA_DISABLE_PERF_BOOST
    ปิดการเร่งพลังงาน GPU อัตโนมัติเมื่อรัน CUDA
    เหมาะกับการควบคุมพลังงานและอุณหภูมิ

    แก้ไขบั๊กสำคัญหลายรายการ
    ปัญหา VM, เกม crash, HDMI จอดำ, VRR ผิดพลาด
    รองรับความละเอียดสูงและ refresh rate สูงขึ้น

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ CUDA
    หากปิดการ boost อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของแอป CUDA
    ควรทดสอบก่อนใช้งานจริงในงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    นี่คือการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการควบคุมพลังงาน GPU อย่างละเอียด โดยเฉพาะในงานที่ต้องการเสถียรภาพมากกว่าความเร็วสูงสุด เช่น การประมวลผลแบบต่อเนื่องหรือในสภาพแวดล้อมเสมือน.

    https://9to5linux.com/nvidia-580-105-08-linux-graphics-driver-released-with-a-new-environment-variable
    🖥️ NVIDIA ปล่อยไดรเวอร์ 580.105.08 สำหรับ Linux พร้อมตัวแปรใหม่ควบคุมพลังงาน GPU NVIDIA ได้เปิดตัวไดรเวอร์เวอร์ชัน 580.105.08 สำหรับระบบปฏิบัติการ Linux, BSD และ Solaris โดยมีไฮไลต์สำคัญคือการเพิ่มตัวแปรสภาพแวดล้อมใหม่ CUDA_DISABLE_PERF_BOOST ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปิดการเร่งพลังงาน GPU อัตโนมัติเมื่อรันแอปพลิเคชัน CUDA ได้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เปิดตัวไดรเวอร์ NVIDIA 580.105.08 ➡️ รองรับ Linux, BSD, Solaris ➡️ เป็นเวอร์ชัน production ล่าสุดที่แนะนำให้ใช้งาน ✅ เพิ่มตัวแปร CUDA_DISABLE_PERF_BOOST ➡️ ปิดการเร่งพลังงาน GPU อัตโนมัติเมื่อรัน CUDA ➡️ เหมาะกับการควบคุมพลังงานและอุณหภูมิ ✅ แก้ไขบั๊กสำคัญหลายรายการ ➡️ ปัญหา VM, เกม crash, HDMI จอดำ, VRR ผิดพลาด ➡️ รองรับความละเอียดสูงและ refresh rate สูงขึ้น ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ CUDA ⛔ หากปิดการ boost อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของแอป CUDA ⛔ ควรทดสอบก่อนใช้งานจริงในงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง นี่คือการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการควบคุมพลังงาน GPU อย่างละเอียด โดยเฉพาะในงานที่ต้องการเสถียรภาพมากกว่าความเร็วสูงสุด เช่น การประมวลผลแบบต่อเนื่องหรือในสภาพแวดล้อมเสมือน. https://9to5linux.com/nvidia-580-105-08-linux-graphics-driver-released-with-a-new-environment-variable
    9TO5LINUX.COM
    NVIDIA 580.105.08 Linux Graphics Driver Released with a New Environment Variable - 9to5Linux
    NVIDIA 580.105.08 graphics driver for Linux systems is now available for download with a new environment variable and various bug fixes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • มอเตอร์เล็กพริกขี้หนู: YASA สร้างมอเตอร์ไฟฟ้า 1,005 แรงม้า หนักแค่ 28 ปอนด์

    บริษัท YASA จากสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Mercedes-Benz ได้เปิดตัวมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ axial flux รุ่นใหม่ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาเพียง 28 ปอนด์ (ประมาณ 12.7 กิโลกรัม) แต่สามารถผลิตกำลังได้ถึง 750 กิโลวัตต์ หรือ 1,005 แรงม้า — เทียบเท่ากับมอเตอร์ Tesla 4 ตัวรวมกันเลยทีเดียว!

    มอเตอร์รุ่นนี้ไม่ใช่แค่แนวคิดในห้องแล็บ แต่เป็นต้นแบบที่ใช้งานได้จริง และสามารถส่งกำลังได้ต่อเนื่องถึง 350–400 กิโลวัตต์ โดยไม่ต้องใช้วัสดุหายากหรือราคาแพง ทำให้มีโอกาสผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้ในอนาคต

    CEO ของ YASA กล่าวว่า “เรามีความหนาแน่นของกำลังมากกว่ามอเตอร์แบบ radial flux ถึง 3 เท่า” ซึ่งหมายความว่า EV ที่ใช้มอเตอร์นี้จะเบาขึ้น เร็วขึ้น และประหยัดพลังงานมากขึ้น

    ปัจจุบัน YASA ผลิตมอเตอร์ให้กับรถระดับไฮเอนด์ เช่น Ferrari 296 GTB และ Mercedes-AMG GT XX และมีแนวโน้มว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำไปใช้กับรถทั่วไปในอนาคต เช่น Nissan Leaf

    YASA เปิดตัวมอเตอร์ axial flux รุ่นใหม่
    น้ำหนักเพียง 28 ปอนด์ แต่ให้กำลังถึง 1,005 แรงม้า
    แรงกว่ามอเตอร์ Tesla 4 ตัวรวมกัน

    ประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนถึง 40%
    รุ่นก่อนให้กำลัง 737 แรงม้า
    รุ่นใหม่ให้กำลัง 1,005 แรงม้า

    ส่งกำลังต่อเนื่องได้ 350–400 กิโลวัตต์
    ไม่ใช่แค่แรงระยะสั้น แต่ใช้งานจริงได้ทั้งวัน
    ไม่ใช้วัสดุหายาก ทำให้มีโอกาสผลิตในวงกว้าง

    YASA เป็นบริษัทในเครือของ Mercedes-Benz
    ผลิตมอเตอร์ให้กับรถไฮเอนด์ เช่น Ferrari และ Mercedes
    อาจนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับรถทั่วไปในอนาคต

    https://supercarblondie.com/electric-motor-yasa-more-powerful-tesla-mercedes/
    ⚡ มอเตอร์เล็กพริกขี้หนู: YASA สร้างมอเตอร์ไฟฟ้า 1,005 แรงม้า หนักแค่ 28 ปอนด์ บริษัท YASA จากสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Mercedes-Benz ได้เปิดตัวมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ axial flux รุ่นใหม่ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาเพียง 28 ปอนด์ (ประมาณ 12.7 กิโลกรัม) แต่สามารถผลิตกำลังได้ถึง 750 กิโลวัตต์ หรือ 1,005 แรงม้า — เทียบเท่ากับมอเตอร์ Tesla 4 ตัวรวมกันเลยทีเดียว! มอเตอร์รุ่นนี้ไม่ใช่แค่แนวคิดในห้องแล็บ แต่เป็นต้นแบบที่ใช้งานได้จริง และสามารถส่งกำลังได้ต่อเนื่องถึง 350–400 กิโลวัตต์ โดยไม่ต้องใช้วัสดุหายากหรือราคาแพง ทำให้มีโอกาสผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้ในอนาคต CEO ของ YASA กล่าวว่า “เรามีความหนาแน่นของกำลังมากกว่ามอเตอร์แบบ radial flux ถึง 3 เท่า” ซึ่งหมายความว่า EV ที่ใช้มอเตอร์นี้จะเบาขึ้น เร็วขึ้น และประหยัดพลังงานมากขึ้น ปัจจุบัน YASA ผลิตมอเตอร์ให้กับรถระดับไฮเอนด์ เช่น Ferrari 296 GTB และ Mercedes-AMG GT XX และมีแนวโน้มว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำไปใช้กับรถทั่วไปในอนาคต เช่น Nissan Leaf ✅ YASA เปิดตัวมอเตอร์ axial flux รุ่นใหม่ ➡️ น้ำหนักเพียง 28 ปอนด์ แต่ให้กำลังถึง 1,005 แรงม้า ➡️ แรงกว่ามอเตอร์ Tesla 4 ตัวรวมกัน ✅ ประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนถึง 40% ➡️ รุ่นก่อนให้กำลัง 737 แรงม้า ➡️ รุ่นใหม่ให้กำลัง 1,005 แรงม้า ✅ ส่งกำลังต่อเนื่องได้ 350–400 กิโลวัตต์ ➡️ ไม่ใช่แค่แรงระยะสั้น แต่ใช้งานจริงได้ทั้งวัน ➡️ ไม่ใช้วัสดุหายาก ทำให้มีโอกาสผลิตในวงกว้าง ✅ YASA เป็นบริษัทในเครือของ Mercedes-Benz ➡️ ผลิตมอเตอร์ให้กับรถไฮเอนด์ เช่น Ferrari และ Mercedes ➡️ อาจนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับรถทั่วไปในอนาคต https://supercarblondie.com/electric-motor-yasa-more-powerful-tesla-mercedes/
    SUPERCARBLONDIE.COM
    Tiny electric motor is as powerful as four Tesla motors put together and outperforms record holder by 40%
    UK-based YASA has just built a tiny electric motor that makes Tesla motors look like slackers, and this invention could potentially reshape the future of EVs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts