• รรท.อธิบดีดีเอสไอ เผย ผลประชุมมีมติเอาผิด 18 บอส "ดิไอคอน" ข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ ส่วนฟอกเงินอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน

    วันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 115/2567 และคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีพิจารณาแจ้งข้อหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 กับผู้ต้องหาคดี "ดิไอคอน"

    พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวเปิดเผยหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 119/2567 ได้ประชุมร่วมกันและมีมติเอกฉันท์เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หรือแชร์ลูกโซ่ รวมทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 โดยจะแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้และต่อเนื่องสัปดาห์ เพราะความพร้อมของผู้ต้องหาและทนายความแต่ละคนไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ยังมีการพิจารณาจัดตั้งศูนย์เพื่อปฏิบัติหน้าที่และแบ่งมอบหมายงานเพิ่มประสิทธิภาพ และอาจมีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นมาร่วมสอบสวนด้วย ตาม ม.33 หรือ ตั้งที่ปรึกษาคดีพิเศษ ตาม ม.30 ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เรื่องงบดุล งบบัญชี รวมถึง แต่งตั้งอัยการเป็นที่ปรึกษาด้วย

    พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ในชั้นนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่อเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งสำนวนมา รวมทั้งมีการสอบพยานเพิ่มเติมจนมีหลักฐานตามสมควร ผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย เข้าข่ายการกระทำความผิดทั้ง 2 ข้อหาดังกล่าว ส่วนรายละเอียดผู้ต้องหาแต่ละบุคคลยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยบอสดาราแม้อาจจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับโครงการสร้างธุรกิจแต่ก็มีการแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน และแต่ละคนมีจุดประสงค์เดียวกันจึงเข้าความผิดตามองค์ประกอบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000106265

    #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    รรท.อธิบดีดีเอสไอ เผย ผลประชุมมีมติเอาผิด 18 บอส "ดิไอคอน" ข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ ส่วนฟอกเงินอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน • วันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 115/2567 และคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีพิจารณาแจ้งข้อหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 กับผู้ต้องหาคดี "ดิไอคอน" • พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวเปิดเผยหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 119/2567 ได้ประชุมร่วมกันและมีมติเอกฉันท์เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หรือแชร์ลูกโซ่ รวมทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 โดยจะแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้และต่อเนื่องสัปดาห์ เพราะความพร้อมของผู้ต้องหาและทนายความแต่ละคนไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ยังมีการพิจารณาจัดตั้งศูนย์เพื่อปฏิบัติหน้าที่และแบ่งมอบหมายงานเพิ่มประสิทธิภาพ และอาจมีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นมาร่วมสอบสวนด้วย ตาม ม.33 หรือ ตั้งที่ปรึกษาคดีพิเศษ ตาม ม.30 ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เรื่องงบดุล งบบัญชี รวมถึง แต่งตั้งอัยการเป็นที่ปรึกษาด้วย • พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ในชั้นนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่อเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งสำนวนมา รวมทั้งมีการสอบพยานเพิ่มเติมจนมีหลักฐานตามสมควร ผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย เข้าข่ายการกระทำความผิดทั้ง 2 ข้อหาดังกล่าว ส่วนรายละเอียดผู้ต้องหาแต่ละบุคคลยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยบอสดาราแม้อาจจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับโครงการสร้างธุรกิจแต่ก็มีการแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน และแต่ละคนมีจุดประสงค์เดียวกันจึงเข้าความผิดตามองค์ประกอบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000106265 • #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 236 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดผลตรวจเส้นทางการเงิน 3 บอสดารา รับตรง “ดิไอคอนกรุ๊ป” บอสกันต์ ฟันเละ รับส่วนแบ่ง คนเดียวเกือบ 80 ล้านบาท หลักฐานยันชัดไม่ใช่พรีเซ็นเตอร์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000102859

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เปิดผลตรวจเส้นทางการเงิน 3 บอสดารา รับตรง “ดิไอคอนกรุ๊ป” บอสกันต์ ฟันเละ รับส่วนแบ่ง คนเดียวเกือบ 80 ล้านบาท หลักฐานยันชัดไม่ใช่พรีเซ็นเตอร์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000102859 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    Sad
    24
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3538 มุมมอง 1 รีวิว
  • ‘ดร.ตฤณห์โพธิรักษา’ นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาฯ ม.มหิดล เจาะลึกพฤติกรรม ‘บอสพอล’ และ ‘บอสดารา’ ดิไอคอน กรุ๊ป พบจุดเด่น ‘บอสพอล’ จีเนียส คุมอารมณ์ได้เยี่ยม แต่มีอาการทั้ง ‘นาร์ซีซิสติก-ไซโคพาธี’ แถมอาการหัวเราะแบบ ‘Duchenne Smile’ ที่จริงใจและมีความสุขเขารู้คนเดียวว่าสุขจากเหตุใด หรือสะใจที่ทุกคนเป็นลูกไก่ในกำมือบีบเมื่อไหร่ตายเรียบ ชี้ถ้าสมองปกติ บอสพอลคือคนน่ากลัวมาก ส่วนบอสดารา ‘บอสมิน’ รู้ดีที่สุดเพราะมีประสบการณ์ตรง แถมมี Self-Esteem สูงอารมณ์เด่น ‘ไม่พอใจ โกรธ และเครียด’ ตามมา ‘บอสกันต์’ เครียดและกลัวการอวดรวยแค่ผลพลอยได้ ขณะที่ ‘บอสแซม’ รู้น้อยและไม่อยากรู้ ยืนยันบอสทั้ง 18 คน รู้หมดว่าทำอะไรอยู่ ‘ถูก-ผิด-เทา-ขาว-ดำ’ ระบุ 3 องค์ประกอบของการก่ออาชญากรรมที่เกิดขึ้นได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/specialscoop/detail/9670000102025

    #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล #บอสหมอเอก #กันต์กันตถาวร #มินพีชญา #แซมยุรนันท์
    ‘ดร.ตฤณห์โพธิรักษา’ นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาฯ ม.มหิดล เจาะลึกพฤติกรรม ‘บอสพอล’ และ ‘บอสดารา’ ดิไอคอน กรุ๊ป พบจุดเด่น ‘บอสพอล’ จีเนียส คุมอารมณ์ได้เยี่ยม แต่มีอาการทั้ง ‘นาร์ซีซิสติก-ไซโคพาธี’ แถมอาการหัวเราะแบบ ‘Duchenne Smile’ ที่จริงใจและมีความสุขเขารู้คนเดียวว่าสุขจากเหตุใด หรือสะใจที่ทุกคนเป็นลูกไก่ในกำมือบีบเมื่อไหร่ตายเรียบ ชี้ถ้าสมองปกติ บอสพอลคือคนน่ากลัวมาก ส่วนบอสดารา ‘บอสมิน’ รู้ดีที่สุดเพราะมีประสบการณ์ตรง แถมมี Self-Esteem สูงอารมณ์เด่น ‘ไม่พอใจ โกรธ และเครียด’ ตามมา ‘บอสกันต์’ เครียดและกลัวการอวดรวยแค่ผลพลอยได้ ขณะที่ ‘บอสแซม’ รู้น้อยและไม่อยากรู้ ยืนยันบอสทั้ง 18 คน รู้หมดว่าทำอะไรอยู่ ‘ถูก-ผิด-เทา-ขาว-ดำ’ ระบุ 3 องค์ประกอบของการก่ออาชญากรรมที่เกิดขึ้นได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/specialscoop/detail/9670000102025 • #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล #บอสหมอเอก #กันต์กันตถาวร #มินพีชญา #แซมยุรนันท์
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • MGR Online - รองโฆษกราชทัณฑ์ เผยขั้นตอนครบกักโรคบอสหญิง 5 วัน ส่งควบคุมต่อแดนพิจารณาคดีแต่แยกคู่คดีออกจากกัน ส่วนเยี่ยมญาติวันแรก มีคนลงชื่อ 3 ราย หนึ่งในนั้น "แฟนบอสมิน"

    วันนี้ (22 ต.ค.) บริเวณด้านหน้าทัณฑสถานหญิงกลาง ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยหลังครบกำหนดกักโรค 5 วันของบอสหญิง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำนวน 7 ราย ว่า ผู้ต้องขังทั้งหมดจะย้ายไปที่แดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดี ส่วนเรื่องสุขภาพจิตใจยังไม่มีสิ่งใดต้องเฝ้าระวัง แต่อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกสักระยะ โดย น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ "บอสมิน" ยังไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ ค่อนข้างปรับตัวได้ดีขึ้น แต่ยังไม่ถึงขนาดปกติมากนักเพราะการเข้าไปอยู่ในเรือนจำก็ต้องใช้เวลาพอสมควร

    นางกนกวรรณ เผยอีกว่า ทางทัณฑสถานหญิงกลาง มีการให้เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำเรื่องการใช้ชีวิตในเรือนจำและเเนะนำการปรับตัวการใช้ชีวิต ยังมีอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ คอยดูแลเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งจะประจำอยู่แต่ละเรือนนอนเพื่อที่จะดูแลทั้งสุขภาพกายสุขภาพใจ อีกทั้งต้องดูทั้งความปลอดภัยและมาตรการการดูแล เช่น หากเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ ก็จะให้อยู่ชั้นล่าง แต่ถ้าเป็นผู้ต้องขังตั้งครรภ์ก็จะให้อยู่ในส่วนที่เหมาะสมสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หรือมีโรคประจำตัวที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ทั้งนี้ คงไม่ได้ให้บอสหญิงได้อยู่รวมกันทั้งหมด คงต้องแยกคู่คดีออกจากกัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000101809

    #MGROnline #รองโฆษกราชทัณฑ์ #ทัณฑสถานหญิงกลาง #บอสดารา #บอสมิน #มินพีชญา #บอสพอล #ดิไอค่อน #ดิไอค่อนกรุ๊ป #ดิไอคอน
    MGR Online - รองโฆษกราชทัณฑ์ เผยขั้นตอนครบกักโรคบอสหญิง 5 วัน ส่งควบคุมต่อแดนพิจารณาคดีแต่แยกคู่คดีออกจากกัน ส่วนเยี่ยมญาติวันแรก มีคนลงชื่อ 3 ราย หนึ่งในนั้น "แฟนบอสมิน" • วันนี้ (22 ต.ค.) บริเวณด้านหน้าทัณฑสถานหญิงกลาง ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยหลังครบกำหนดกักโรค 5 วันของบอสหญิง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำนวน 7 ราย ว่า ผู้ต้องขังทั้งหมดจะย้ายไปที่แดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดี ส่วนเรื่องสุขภาพจิตใจยังไม่มีสิ่งใดต้องเฝ้าระวัง แต่อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกสักระยะ โดย น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ "บอสมิน" ยังไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ ค่อนข้างปรับตัวได้ดีขึ้น แต่ยังไม่ถึงขนาดปกติมากนักเพราะการเข้าไปอยู่ในเรือนจำก็ต้องใช้เวลาพอสมควร • นางกนกวรรณ เผยอีกว่า ทางทัณฑสถานหญิงกลาง มีการให้เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำเรื่องการใช้ชีวิตในเรือนจำและเเนะนำการปรับตัวการใช้ชีวิต ยังมีอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ คอยดูแลเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งจะประจำอยู่แต่ละเรือนนอนเพื่อที่จะดูแลทั้งสุขภาพกายสุขภาพใจ อีกทั้งต้องดูทั้งความปลอดภัยและมาตรการการดูแล เช่น หากเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ ก็จะให้อยู่ชั้นล่าง แต่ถ้าเป็นผู้ต้องขังตั้งครรภ์ก็จะให้อยู่ในส่วนที่เหมาะสมสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หรือมีโรคประจำตัวที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ทั้งนี้ คงไม่ได้ให้บอสหญิงได้อยู่รวมกันทั้งหมด คงต้องแยกคู่คดีออกจากกัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000101809 • #MGROnline #รองโฆษกราชทัณฑ์ #ทัณฑสถานหญิงกลาง #บอสดารา #บอสมิน #มินพีชญา #บอสพอล #ดิไอค่อน #ดิไอค่อนกรุ๊ป #ดิไอคอน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวบ3บอสดารา ชะตาต้องมีคดีความ เสียทรัพย์
    รวบ3บอสดารา ชะตาต้องมีคดีความ เสียทรัพย์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 12 0 รีวิว
  • สุดท้ายแล้ว 'บอสพอล' คือผู้ชนะตัวจริง
    //////

    ข่าวล่าสุดวันนี้

    "พบเส้นทางเงินผิดปกติกว่า 247,911,936 USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ถูกโอนออกไปก่อนที่ 'โค๊ชแล็ป่ ดิไอคอน จะถูกจับเพียง 1 ชั่วโมง"

    ตอนนี้มันชัดแล้วว่า "เกมดูดทรัพย์" จากแชร์ลูกโซ่แสนล้าน The Icon เกมนี้ บอสพอลคือผู้ชนะตัวจริง แบบ Winner Takes All (ชนะแบบกินรวบคนเดียว)

    เงินเหรียญคริปโตมูลค่าแปดฟันกว่าล้านที่หายไปในความมืดนี้ คือเครื่องพิสูจน์อย่างชัดแจ้งที่สุดว่า ...

    ● แชร์ลูกโซ่ The Icon วงนี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น หนึ่งแสนล้านบาท มิใช่หมื่นล้านดังที่บอสพอลเจตนาปล่อยข้อมูลลวงผ่านการให้สัมภาษณ์ในรายการ The Standard ก่อนถูกจับ

    ● ข้อมูล "จ่ายส่วยหมื่นล้าน" ที่บอสพอลให้คนออกมาปล่อยข้อมูลนี้แก่กลุ่มทนายจิตอาสา น่าจะเป็นเรื่องจริงแน่นอน

    ● ที่ประเมินกันว่า เกมนี้บอสพอลน่าจะ "ดูดทรัพย์" ไปคนเดียวสองหมื่นล้าน จึงมีเค้าว่าน่าจะจริงเช่นกัน

    ........

    จากข่าวนี้ยังงั้นก็แสดงว่าบริษัท The Icon นี้เปิดมาเพื่อฟอกเงิน และทำแชร์ลูกโซ่อีกส่วนหนึ่งด้วยใช่หรือไม่?

    ผมคิดว่าบอสพอลน่าจะทำแชร์ลูกโซ่แล้วฟอกเงินเพื่อส่งส่วย กับเตรียมเอาไปใช้เสพสุขหลังพ้นคดีแล้วมากกว่านะ

    อันที่จริงทั้งหมดอยู่ในแผนการใหญ่ของบอสพอลตั้งแต่แรกแล้วละ รวมทั้งการยอมถูกจับดำเนินคดีด้วย

    ตอนนี้บอสพอลจึง 'นิ่ง' มากกว่าใครในบรรดาบอส 18 คนทั้งหมดที่โดนดำเนินคดี

    "การยอมตกเป็นผู้ต้องหา" คือ ห่วงโซ่ข้อที่สำคัญที่สุดในแผนการใหญ่ของบอสพอลที่เขาวางไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนริเริ่มขบวนการแชร์ลูกโซ่ The Icon เมื่อหกปีก่อน

    วินาทีนี้ ตัวบอสพอลเองรู้แน่ชัดแล้วว่า ตัวเขาคือ 'ผู้ชนะตัวจริง' ของเกมนี้โดยที่ทั้งหมดเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้แต่แรก

    แผนก่อนหน้าของบอสพอลประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ...
    เมื่อบอสพอลหันมาว่าจ้างพวก 'บอสดารา' อย่างทุ่มไม่อั้น เพื่อเพิ่มจำนวนรายชื่อคนที่สมัครมาเป็นดีลเลอร์รายละ 250,000 อย่างก้าวกระโดด โดยที่บุคคลเหล่านั้นได้ถูกทำให้เป็น 'บัญชีม้า' ของบริษัทไปแบบไม่รู้ตัว

    ตอนนั้นพวก 'บอสดาราหน้าโง่' ที่ถูกบอสพอลหลอกใช้ ล้วนหลงดีใจกระดี๊กระด๊ามีความสุข เพราะเห็นตัวเลขยอดขายและลูกข่ายพุ่งขี้นตลอด

    โดยหารู้ไม่ว่า คนที่ยิ้มกริ่มจริง ๆ ก็คือตัวบอสพอล
    เพราะการว่าจ้างพวกบอสดาราหน้าโง่ค่าตัวแพงเหล่านี้ มันสามารถช่วยอายุต่อเกมดูดทรัพย์-แชร์ลูกโซ่วงนี้ได้อีกสองปี แถมยังดูดทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกหลายหมื่นล้านจนแชร์ลูกโซ่วงนี้ทะลุแสนล้านได้ในที่สุด

    เพราะพวกบอสดาราหน้าโง่พวกนี้แท้ ๆ จึงทำให้บอสพอลได้ รายชื่อ (เหยื่อ) มาฟรี ๆ อีกสามแสนกว่าคน ทั้งยังได้ฟอกเงินแปลงเป็นเหรียญคริปโตอีกสามหมื่นกว่าล้าน

    เรียกว่า winner takes all สุด ๆ ...คือทำให้บอสพอลกินรวบจนพุงกาง อิ่มสุด ๆ

    ถ้าผมเป็นบอสพอล กลยุทธ์ต่อจากนี้ของผมคือ กลยุทธ์ "เตมีย์ใบ้" ทำให้สังคมค่อย ๆ ลืมเลือนตัวตนและเรื่องราวของเขา จนหายไปจากความทรงจำของสังคมและผู้คน โดยปล่อยให้ 'บอสกันต์' รับบาปแทนไปเต็ม ๆ คนเดียว

    บอสพอลเล็งเป้าไปที่ 'บอสกันต์' ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ที่จะให้ "รับบาปแทนตัวเอง" เพราะบอสพอลศึกษาพฤติกรรมในอดีตจนเข้าใจตัวตนของบอสกันต์อย่างทะลุปรุโปร่งว่า ชายคนนี้ทั้งกร่าง ทั้งละโมบ ทั้งหิวแสง และชอบอวดตัวตน บอสพอลจึงตั้งใจ "ปรนเปรอ" บอสกันต์อย่างไม่อั้น
    จน 'บอสกันต์' ติดกับดักของ 'บอสพอล' อย่างดิ้นไม่หลุด

    ตอนนี้บอสพอลน่าจะนั่งยิ้มเยาะ "พวกหน้าโง่ทั้งหลายในโซเชียล" ที่หันไปรุมถล่มสมน้ำหน้า "บอสกันต์" แถมด้วย "บอสวอ" ที่โดนลูกหลง

    คนพวกนี้ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า พวกตนถูกจมูงจมูกโดยพวกไอโอที่เป็นสมุนรับจ้างของบอสพอล ให้คอยยุแหย่ ปล่อยข่าวเบี่ยงเบนความสนใจของกระแสโซเชียลให้ฟุ่งเป้าความหมั่นไส้และใส่ใจทั้งปวงไปที่ "บอสกันต์" แทน

    "พวกหน้าโง่พวกนี้ มันไม่มีวันตามหมากของกูทันหรอก เพราะพวกมันมีสติปัญญาแค่เสพสารที่พวกกูคอยป้อนให้พวกมันอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น"

    การจ้างไอโอมืออาชีพเพื่อให้ทำหน้าที่เบี่ยงเบนกระแสโจมตีไปจากตัวเอง คือห่วงโซ่อีกข้อหนึ่งที่ 'บอสพอล' ยอมทุ่มเงินทอง โดยจ่ายเงินมัดจำก้อนโตไปแล้วก่อนหน้านี้

    ผมจะไม่แปลกใจเลยหากตอนนี้ 'บอสพอล' กำลังยิ้มเยาะอย่างลำพองอยู่ในใจคนเดียวในห้องคุมขัง ... เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของแผน 'ปิดเกม' (end game) ของเขาตั้งแต่แรก

    จุดสำคัญคือ ปปง.จะอายัดทรัพย์สิน The Icon ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเงินอย่างน้อยเกือบสองหมื่นล้านน่าจะหายเข้ากลีบเมฆในรูปของเหรียญคริปโตไปแล้ว

    เงินชดเชยที่ผู้เสียหายจะได้รับคืน ถ้าได้ถึง 10% ก็บุญโขแล้วละ

    เนื่องจากเรื่องนี้มี "อำนาจมืด" ผู้รับส่วยจากบอสพอลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในเชิงลึก สุดท้ายทางการคงปล่อยให้พวกบอสดารารับกรรมกันไป ส่วน 'บอสพอล' คงลอยนวลหลังจากติดคุกพอเป็นพิธีเท่านั้น

    นี่คือข้อตกลงลับที่ 'บอสพอล' น่าจะได้รับมาตั้งแต่สามสี่ปีที่แล้ว

    โลกแห่งความเป็นจริงมันก็เป็นเช่นนี้แหละ

    ~ สุวินัย ภรณวลัย
    Suvinai Pornavalai
    สุดท้ายแล้ว 'บอสพอล' คือผู้ชนะตัวจริง ////// ข่าวล่าสุดวันนี้ "พบเส้นทางเงินผิดปกติกว่า 247,911,936 USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ถูกโอนออกไปก่อนที่ 'โค๊ชแล็ป่ ดิไอคอน จะถูกจับเพียง 1 ชั่วโมง" ตอนนี้มันชัดแล้วว่า "เกมดูดทรัพย์" จากแชร์ลูกโซ่แสนล้าน The Icon เกมนี้ บอสพอลคือผู้ชนะตัวจริง แบบ Winner Takes All (ชนะแบบกินรวบคนเดียว) เงินเหรียญคริปโตมูลค่าแปดฟันกว่าล้านที่หายไปในความมืดนี้ คือเครื่องพิสูจน์อย่างชัดแจ้งที่สุดว่า ... ● แชร์ลูกโซ่ The Icon วงนี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น หนึ่งแสนล้านบาท มิใช่หมื่นล้านดังที่บอสพอลเจตนาปล่อยข้อมูลลวงผ่านการให้สัมภาษณ์ในรายการ The Standard ก่อนถูกจับ ● ข้อมูล "จ่ายส่วยหมื่นล้าน" ที่บอสพอลให้คนออกมาปล่อยข้อมูลนี้แก่กลุ่มทนายจิตอาสา น่าจะเป็นเรื่องจริงแน่นอน ● ที่ประเมินกันว่า เกมนี้บอสพอลน่าจะ "ดูดทรัพย์" ไปคนเดียวสองหมื่นล้าน จึงมีเค้าว่าน่าจะจริงเช่นกัน ........ จากข่าวนี้ยังงั้นก็แสดงว่าบริษัท The Icon นี้เปิดมาเพื่อฟอกเงิน และทำแชร์ลูกโซ่อีกส่วนหนึ่งด้วยใช่หรือไม่? ผมคิดว่าบอสพอลน่าจะทำแชร์ลูกโซ่แล้วฟอกเงินเพื่อส่งส่วย กับเตรียมเอาไปใช้เสพสุขหลังพ้นคดีแล้วมากกว่านะ อันที่จริงทั้งหมดอยู่ในแผนการใหญ่ของบอสพอลตั้งแต่แรกแล้วละ รวมทั้งการยอมถูกจับดำเนินคดีด้วย ตอนนี้บอสพอลจึง 'นิ่ง' มากกว่าใครในบรรดาบอส 18 คนทั้งหมดที่โดนดำเนินคดี "การยอมตกเป็นผู้ต้องหา" คือ ห่วงโซ่ข้อที่สำคัญที่สุดในแผนการใหญ่ของบอสพอลที่เขาวางไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนริเริ่มขบวนการแชร์ลูกโซ่ The Icon เมื่อหกปีก่อน วินาทีนี้ ตัวบอสพอลเองรู้แน่ชัดแล้วว่า ตัวเขาคือ 'ผู้ชนะตัวจริง' ของเกมนี้โดยที่ทั้งหมดเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้แต่แรก แผนก่อนหน้าของบอสพอลประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ... เมื่อบอสพอลหันมาว่าจ้างพวก 'บอสดารา' อย่างทุ่มไม่อั้น เพื่อเพิ่มจำนวนรายชื่อคนที่สมัครมาเป็นดีลเลอร์รายละ 250,000 อย่างก้าวกระโดด โดยที่บุคคลเหล่านั้นได้ถูกทำให้เป็น 'บัญชีม้า' ของบริษัทไปแบบไม่รู้ตัว ตอนนั้นพวก 'บอสดาราหน้าโง่' ที่ถูกบอสพอลหลอกใช้ ล้วนหลงดีใจกระดี๊กระด๊ามีความสุข เพราะเห็นตัวเลขยอดขายและลูกข่ายพุ่งขี้นตลอด โดยหารู้ไม่ว่า คนที่ยิ้มกริ่มจริง ๆ ก็คือตัวบอสพอล เพราะการว่าจ้างพวกบอสดาราหน้าโง่ค่าตัวแพงเหล่านี้ มันสามารถช่วยอายุต่อเกมดูดทรัพย์-แชร์ลูกโซ่วงนี้ได้อีกสองปี แถมยังดูดทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกหลายหมื่นล้านจนแชร์ลูกโซ่วงนี้ทะลุแสนล้านได้ในที่สุด เพราะพวกบอสดาราหน้าโง่พวกนี้แท้ ๆ จึงทำให้บอสพอลได้ รายชื่อ (เหยื่อ) มาฟรี ๆ อีกสามแสนกว่าคน ทั้งยังได้ฟอกเงินแปลงเป็นเหรียญคริปโตอีกสามหมื่นกว่าล้าน เรียกว่า winner takes all สุด ๆ ...คือทำให้บอสพอลกินรวบจนพุงกาง อิ่มสุด ๆ ถ้าผมเป็นบอสพอล กลยุทธ์ต่อจากนี้ของผมคือ กลยุทธ์ "เตมีย์ใบ้" ทำให้สังคมค่อย ๆ ลืมเลือนตัวตนและเรื่องราวของเขา จนหายไปจากความทรงจำของสังคมและผู้คน โดยปล่อยให้ 'บอสกันต์' รับบาปแทนไปเต็ม ๆ คนเดียว บอสพอลเล็งเป้าไปที่ 'บอสกันต์' ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ที่จะให้ "รับบาปแทนตัวเอง" เพราะบอสพอลศึกษาพฤติกรรมในอดีตจนเข้าใจตัวตนของบอสกันต์อย่างทะลุปรุโปร่งว่า ชายคนนี้ทั้งกร่าง ทั้งละโมบ ทั้งหิวแสง และชอบอวดตัวตน บอสพอลจึงตั้งใจ "ปรนเปรอ" บอสกันต์อย่างไม่อั้น จน 'บอสกันต์' ติดกับดักของ 'บอสพอล' อย่างดิ้นไม่หลุด ตอนนี้บอสพอลน่าจะนั่งยิ้มเยาะ "พวกหน้าโง่ทั้งหลายในโซเชียล" ที่หันไปรุมถล่มสมน้ำหน้า "บอสกันต์" แถมด้วย "บอสวอ" ที่โดนลูกหลง คนพวกนี้ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า พวกตนถูกจมูงจมูกโดยพวกไอโอที่เป็นสมุนรับจ้างของบอสพอล ให้คอยยุแหย่ ปล่อยข่าวเบี่ยงเบนความสนใจของกระแสโซเชียลให้ฟุ่งเป้าความหมั่นไส้และใส่ใจทั้งปวงไปที่ "บอสกันต์" แทน "พวกหน้าโง่พวกนี้ มันไม่มีวันตามหมากของกูทันหรอก เพราะพวกมันมีสติปัญญาแค่เสพสารที่พวกกูคอยป้อนให้พวกมันอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น" การจ้างไอโอมืออาชีพเพื่อให้ทำหน้าที่เบี่ยงเบนกระแสโจมตีไปจากตัวเอง คือห่วงโซ่อีกข้อหนึ่งที่ 'บอสพอล' ยอมทุ่มเงินทอง โดยจ่ายเงินมัดจำก้อนโตไปแล้วก่อนหน้านี้ ผมจะไม่แปลกใจเลยหากตอนนี้ 'บอสพอล' กำลังยิ้มเยาะอย่างลำพองอยู่ในใจคนเดียวในห้องคุมขัง ... เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของแผน 'ปิดเกม' (end game) ของเขาตั้งแต่แรก จุดสำคัญคือ ปปง.จะอายัดทรัพย์สิน The Icon ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเงินอย่างน้อยเกือบสองหมื่นล้านน่าจะหายเข้ากลีบเมฆในรูปของเหรียญคริปโตไปแล้ว เงินชดเชยที่ผู้เสียหายจะได้รับคืน ถ้าได้ถึง 10% ก็บุญโขแล้วละ เนื่องจากเรื่องนี้มี "อำนาจมืด" ผู้รับส่วยจากบอสพอลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในเชิงลึก สุดท้ายทางการคงปล่อยให้พวกบอสดารารับกรรมกันไป ส่วน 'บอสพอล' คงลอยนวลหลังจากติดคุกพอเป็นพิธีเท่านั้น นี่คือข้อตกลงลับที่ 'บอสพอล' น่าจะได้รับมาตั้งแต่สามสี่ปีที่แล้ว โลกแห่งความเป็นจริงมันก็เป็นเช่นนี้แหละ ~ สุวินัย ภรณวลัย Suvinai Pornavalai
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟ้องด้วยภาพ…
    มีภาพระหว่างการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นภาพของ บอสพอล หรือ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้ก่อตั้งดิไอคอนกรุ๊ป โดยมี บอสกันต์ กันตถาวร นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยบรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด โดยบอสกันต์นั้นกำลังถูกสอบปากคำด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ปราศจากรอยยิ้มใดๆ ตรงกันข้ามกับ บอสพอล ที่นั่งยิ้มแย้มและหัวเราะอยู่ข้างๆ ในระหว่างการสอบปากคำ

    รายงานข่าวมติชนแจ้งว่า ภายในห้องสอบสวนบอสพอล และบอสดาราทั้ง 3 คน ประกอบไปด้วย กันต์, มิน, แซม ได้เผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรก หลังจากที่เกิดประเด็นดราม่า ดิไอคอน กรุ๊ป ซึ่งดาราทั้ง 3 คน ได้เรียกร้องให้บริษัทออกมาแถลงข่าวหรือแสดงความรับผิดชอบ แต่ปรากฏว่าที่ผ่านมาบริษัทกลับเงียบเฉย จนถูกหมายจับในเวลาต่อมา

    และเมื่อทั้ง 4 คนมาเจอกันครั้งแรก ขณะที่ตำรวจได้สอบปากคำทั้งหมด ถึงประเด็นการจ้างดาราทั้ง 3 คนมาเป็นพรีเซนเตอร์ในบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ว่าทำงานในลักษณะแบบใด ซึ่งบอสดาราทั้ง 3 คน ก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี ซึ่งจากการสังเกตกลับไม่พบว่าบอสดาราทั้ง 3 คน ได้พูดคุยกับบอสพอลเลย มีเพียงแต่บอสคนอื่นๆ ที่คุยกับบอสพอลเท่านั้น ซึ่งบรรยายในขณะนั้น ก็เต็มไปด้วยความตึงเครียด

    ทั้งนี้การยึดทรัพย์ของบอสดาราทั้ง3 ปรากฏว่าบอสกันต์ กันตถาวรโดนยึดทรัพย์สินมากที่สุดกว่า 17ล้านบาท ได้แก่ รถหรูยี่ห้อ Mercedes Benz รุ่น Sprinter 416 CDI Van รุ่น ปี 2020 สีดำ 1 คัน รถหรูยี่ห้อ Porche รุ่น Cayenne S E-Hybrid ปี 2014 สีแดง จำนวน 1 คัน รถสปอร์ตยี่ห้อ FORD Muastang 1 คัน รถอเนกประสงค์ ยี่ห้อ KIA รุ่น CARNIVAL ปี 2022 จำนวน 1 คัน iPad mini 2 จำนวน 1 เครื่อง และผลิตภัณฑ์ของ The Icon หลายรายการ รวมมูลค่า 17,077,000 บาท

    ขณะที่นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ บอสแซม ถูกยึดเพียงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 1 รายการ มูลค่า 20,000 บาท

    ส่วน ดาราสาว มิน พีชญา วัฒนามนตรี หรือบอสมิน ถูกยึดทรัพย์เพียงแค่ กระเป๋าเดินทางหลุยส์ วิตตองเพียง 1 ใบ มูลค่า 125,000 บาท

    ที่มาข่าวและภาพ : มติชนออนไลน์
    https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4853942#m2ett7ahftwpgowrjms

    #Thaitimes
    ฟ้องด้วยภาพ… มีภาพระหว่างการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นภาพของ บอสพอล หรือ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้ก่อตั้งดิไอคอนกรุ๊ป โดยมี บอสกันต์ กันตถาวร นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยบรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด โดยบอสกันต์นั้นกำลังถูกสอบปากคำด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ปราศจากรอยยิ้มใดๆ ตรงกันข้ามกับ บอสพอล ที่นั่งยิ้มแย้มและหัวเราะอยู่ข้างๆ ในระหว่างการสอบปากคำ รายงานข่าวมติชนแจ้งว่า ภายในห้องสอบสวนบอสพอล และบอสดาราทั้ง 3 คน ประกอบไปด้วย กันต์, มิน, แซม ได้เผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรก หลังจากที่เกิดประเด็นดราม่า ดิไอคอน กรุ๊ป ซึ่งดาราทั้ง 3 คน ได้เรียกร้องให้บริษัทออกมาแถลงข่าวหรือแสดงความรับผิดชอบ แต่ปรากฏว่าที่ผ่านมาบริษัทกลับเงียบเฉย จนถูกหมายจับในเวลาต่อมา และเมื่อทั้ง 4 คนมาเจอกันครั้งแรก ขณะที่ตำรวจได้สอบปากคำทั้งหมด ถึงประเด็นการจ้างดาราทั้ง 3 คนมาเป็นพรีเซนเตอร์ในบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ว่าทำงานในลักษณะแบบใด ซึ่งบอสดาราทั้ง 3 คน ก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี ซึ่งจากการสังเกตกลับไม่พบว่าบอสดาราทั้ง 3 คน ได้พูดคุยกับบอสพอลเลย มีเพียงแต่บอสคนอื่นๆ ที่คุยกับบอสพอลเท่านั้น ซึ่งบรรยายในขณะนั้น ก็เต็มไปด้วยความตึงเครียด ทั้งนี้การยึดทรัพย์ของบอสดาราทั้ง3 ปรากฏว่าบอสกันต์ กันตถาวรโดนยึดทรัพย์สินมากที่สุดกว่า 17ล้านบาท ได้แก่ รถหรูยี่ห้อ Mercedes Benz รุ่น Sprinter 416 CDI Van รุ่น ปี 2020 สีดำ 1 คัน รถหรูยี่ห้อ Porche รุ่น Cayenne S E-Hybrid ปี 2014 สีแดง จำนวน 1 คัน รถสปอร์ตยี่ห้อ FORD Muastang 1 คัน รถอเนกประสงค์ ยี่ห้อ KIA รุ่น CARNIVAL ปี 2022 จำนวน 1 คัน iPad mini 2 จำนวน 1 เครื่อง และผลิตภัณฑ์ของ The Icon หลายรายการ รวมมูลค่า 17,077,000 บาท ขณะที่นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ บอสแซม ถูกยึดเพียงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 1 รายการ มูลค่า 20,000 บาท ส่วน ดาราสาว มิน พีชญา วัฒนามนตรี หรือบอสมิน ถูกยึดทรัพย์เพียงแค่ กระเป๋าเดินทางหลุยส์ วิตตองเพียง 1 ใบ มูลค่า 125,000 บาท ที่มาข่าวและภาพ : มติชนออนไลน์ https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4853942#m2ett7ahftwpgowrjms #Thaitimes
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 531 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sondhitalk EP 264 : FACE/OF ถอดหน้ากาก “ดิ ไอคอน” อภิมหาแชร์ลูกโซ่ (Full)
    - ดิไอคอน” อภิมหาแชร์ลูกโซ่
    - คลิปตบทรัพย์ “บอสพอล ดิไอคอน”
    - มหาศึกตะวันออกกลาง
    - แก๊งสวาปาล์ม ปตท.

    #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #thaitime #ดิไอคอน #TheIcon #แชร์ลูกโซ่ #ธุรกิจขายตรง #บอสพอล #บอสดารา #สงครามตะวันออกกลาง #อิสราเอล #อิหร่าน #แก๊งสวาปาม
    Sondhitalk EP 264 : FACE/OF ถอดหน้ากาก “ดิ ไอคอน” อภิมหาแชร์ลูกโซ่ (Full) - ดิไอคอน” อภิมหาแชร์ลูกโซ่ - คลิปตบทรัพย์ “บอสพอล ดิไอคอน” - มหาศึกตะวันออกกลาง - แก๊งสวาปาล์ม ปตท. #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #thaitime #ดิไอคอน #TheIcon #แชร์ลูกโซ่ #ธุรกิจขายตรง #บอสพอล #บอสดารา #สงครามตะวันออกกลาง #อิสราเอล #อิหร่าน #แก๊งสวาปาม
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    80
    3 ความคิดเห็น 4 การแบ่งปัน 5448 มุมมอง 3215 8 รีวิว
  • #เพลงนั่งงงในดงทัวร์ #บอสพอล
    #บอสดารา #ดิไอคอนกรุ๊ป
    #ธุรกิจขายตรง #แชร์ลูกโซ่
    #โหนกระแส #หนุ่มกรรชัย
    #บอสกันต์ #โชว์รวย
    #เพลงใหม่ฮิตติดกระแส
    #เพลงนั่งงงในดงทัวร์ #บอสพอล #บอสดารา #ดิไอคอนกรุ๊ป #ธุรกิจขายตรง #แชร์ลูกโซ่ #โหนกระแส #หนุ่มกรรชัย #บอสกันต์ #โชว์รวย #เพลงใหม่ฮิตติดกระแส
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 35 0 รีวิว
  • บอยปกรณ์กับความผิดซ้ำซาก
    #ดิไอค่อนกรุ๊ป #ดิไอค่อน #บอยปกรณ์ #บอสดารา #thaitimes #news1 #sondhitalk
    https://th.mentboard.com/thread/4g9iyda/
    บอยปกรณ์กับความผิดซ้ำซาก #ดิไอค่อนกรุ๊ป #ดิไอค่อน #บอยปกรณ์ #บอสดารา #thaitimes #news1 #sondhitalk https://th.mentboard.com/thread/4g9iyda/
    TH.MENTBOARD.COM
    บอยปกรณ์กับความผิดซ้ำซาก - Mentboard
    โพสต์โดยคุณิิbb (ID:f3dda) เป็นที่ทราบกันดีว่าบอยปกรณ์ในขณะนี้ ได้ถูกสังคมจับตามองจากกรณีที่เขาได้มีส่วนเข้าไปพัวพันกับกลุ่มดิไอคอนในฐานะ เป็นดาราโปรโมทสินค้า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 534 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'บอสพอล' ไม่ยอมตายเดี่ยวส่งสัญญาณลากบอสดาราร่วมรับกรรมไปด้วยกัน : ข่าวลึกปมลับ 15/10/67
    'บอสพอล' ไม่ยอมตายเดี่ยวส่งสัญญาณลากบอสดาราร่วมรับกรรมไปด้วยกัน : ข่าวลึกปมลับ 15/10/67
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 160 0 รีวิว
  • บอสดารา The Icon ตอกย้ำด้านมืดคนดัง ดิ้นเอาตัวรอด-ไม่รับผิดชอบ
    .
    ปฏิเสธไม่ได้ว่าคดีการตรวจสอบกระบวนการทำธุรกิจของ The Icon กรุ๊ป กลายเป็นคดีระดับประเทศที่คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นคดีที่ท้าทายความสามารถของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่อย่าง 'บิ๊กต่าย' พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ในการกอบกู้ศักดิ์ศรีของตำรวจไทยให้ประชาชนกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง
    .
    นอกจากคดีจะเป็นตัวชี้วัดในการเรียกศรัทธาคืนมาของตำรวจแล้ว อีกด้านคดีนี้เป็นการนำไปสู่การตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบุคคลสาธารณะอย่างดารานักแสดงและพิธีกรด้วย ภายหลังกรณีของ The Icon พบว่ามีเหล่าผู้มีชื่อเสียงเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก
    .
    ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คดีกลายเป็นที่จับจ้องของสังคมนั้น เนื่องจากปรากฎหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเหล่าดาราเหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่เป็นหนึ่งในผู้บริหารบริษัทด้านต่างๆ พร้อมกับมีการประกาศออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน
    .
    แต่ทันทีที่เกิดเรื่องบรรดาผู้มีชื่อเสียงและนามสกุลใหญ่เหล่านั้นกลับเลือกที่เขียนด้วยและลบด้วยเท้าผ่านการอ้างว่าเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น โดยไม่ได้เกี่ยวข้องในแง่การบริหารธุรกิจอย่างใด ซึ่งดันมาบังเอิญเหมาะเจาะกับการที่บริษัทดิ ไอคอน ก็ออกประกาศยืนยันว่าบอสดาราต่างๆไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท
    .
    การที่ยกข้ออ้างเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อปกป้องบรรดาบอสดาราก็ถือเป็นสิทธิที่จะกระทำได้ ซึ่งก็ต้องไปว่ากันในแง่ของข้อกฎหมายต่อไป โดยเริ่มมีนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญหลายคนเริ่มออกมาให้ความคิดเห็นแล้วว่า
    .
    หากผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนทำธุรกิจเพราะความน่าเชื่อถือของเหล่าดาราที่เรียกตัวเองว่าบอสเหล่านี้ จึงย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้
    .
    ในแง่ของคดีความและข้อกฎหมายก็คงต้องไปว่ากันในชั้นศาล แต่คำถามที่ตามมา ว่าเวลานี้สังคมไทยยังพอจะสามารถเชื่อถือบรรดาแวดวงคนบันเทิงในฐานะที่เป็นผู้ชี้นำและมีอิทธิพลต่อสังคมไทยได้อีกต่อไปหรือไม่
    .
    ทั้งนี้เป็นเพราะกรณีที่เกิดขึ้นจากกลุ่มบริษัท ดิ ไอคอน ไม่ได้เป็นกรณีแรกที่มีดาราเข้ามามีส่วนพัวพัน ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ก็เคยมีดารา ซึ่งเป็นบุคคลที่มีสถานะพิเศษต้องถูกดำเนินคดีและใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำให้เห็นกันมาแล้วอย่างกรณีคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ซึ่งพบว่ามีดาราอาศัยความมีชื่อเสียงของตัวเองในการชักชวนให้ประชาชนมาลงทุน
    .
    ทั้งนี้ ดังจะเห็นได้จากกรณีของพิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช พร้อมแม่และพี่ชายถูกฟ้องเป็นจำเลย ซึ่งปัจจุบันได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อมาต่อสู้คดี รวมไปถึงนายพัฒนพล มินทะขิน หรือดีเจแมน และ น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย อาร์สยาม โดยกรณีของรายหลังศาลได้มีการยกฟ้องคดีไปบางส่วนแล้ว แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ออกมาให้ข้อมูลว่าคดีที่ยกฟ้องนั้น เป็นคดีที่ประชาชนผู้เสียหายเกี่ยวกับแชร์ Forex-3D ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเองโดยตรงที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่ดีเอสไอกำลังดำเนินการตรวจสอบ
    .
    หรือย้อนกลับไปกว่านั้น คือ กรณีของบริษัท เมจิกสกิน จำหน่ายอาหารเสริมที่ไม่มีคุณภาพและไม่ผ่านการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาเนื่องจากมีดาราจำนวนไม่น้อยรับงานรีวิวสินค้า จนถูกหมายเรียกและบางรายต้องต่อสู้คดีในชั้นศาล เช่น น.ส.รัชวิน วงศ์วิริยะ หรือ ก้อย และ นายกนกฉัตร มรรยาทอ่อน หรือ ไต้ฝุ่น หนึ่งในกลุ่มดาราที่รับรีวิวเมจิกสกิน ศาลได้พิพากษาให้ความผิดแต่ให้รอลงอาญา ขณะที่ กลุ่มผู้บริหารผลิตภัณฑ์ของบริษัท เมจิกสกิน ศาลก็ได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุก 20 ปี แต่เนื่องจากจำเลยมีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการพยายามเยียวยาให้กับผู้เสียหาย ทำให้ศาลรอลงอาญาโทษจำคุก
    .
    อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะนำกรณีของเมจิกสกินกับดิ ไอคอน มาเปรียบเทียบกันเพื่อสรุปว่ากรณีของ The Icon จะมีบทสรุปลงเอยเหมือนกับคดีเมจิกสกิน เนื่องจากเหล่าดาราในกรณีของเมจิกสกินนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเพียงพรีเซนเตอร์เท่านั้น
    .
    ผิดกับกรณี The Icon ที่ได้ประกาศตัวเองว่าเป็น 'บอส' ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการดึงดูดให้ประชาชนมาร่วมลงทุน ดังนั้น การจะมาอ้างว่าการเป็นบอสเป็นอีกร่างอวตารหนึ่งของพรีเซ็นเตอร์นั้นดูจะเป็นการเอาสีข้างเข้าถูกจนเกินไป
    .
    เพราะฉะนั้น จากกรณีของThe Icon ที่เกิดขึ้นมานั้นยิ่งจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งที่ทำให้สถานะของวงการบันเทิงถูกสั่นคลอนในแง่ของความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก หลังจากที่ทุกวันนี้วงการบันเทิงไทยซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง และคนนินทาหมาดูถูก อย่างหนัก
    ..............
    Sondhi X
    บอสดารา The Icon ตอกย้ำด้านมืดคนดัง ดิ้นเอาตัวรอด-ไม่รับผิดชอบ . ปฏิเสธไม่ได้ว่าคดีการตรวจสอบกระบวนการทำธุรกิจของ The Icon กรุ๊ป กลายเป็นคดีระดับประเทศที่คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นคดีที่ท้าทายความสามารถของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่อย่าง 'บิ๊กต่าย' พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ในการกอบกู้ศักดิ์ศรีของตำรวจไทยให้ประชาชนกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง . นอกจากคดีจะเป็นตัวชี้วัดในการเรียกศรัทธาคืนมาของตำรวจแล้ว อีกด้านคดีนี้เป็นการนำไปสู่การตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบุคคลสาธารณะอย่างดารานักแสดงและพิธีกรด้วย ภายหลังกรณีของ The Icon พบว่ามีเหล่าผู้มีชื่อเสียงเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก . ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คดีกลายเป็นที่จับจ้องของสังคมนั้น เนื่องจากปรากฎหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเหล่าดาราเหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่เป็นหนึ่งในผู้บริหารบริษัทด้านต่างๆ พร้อมกับมีการประกาศออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน . แต่ทันทีที่เกิดเรื่องบรรดาผู้มีชื่อเสียงและนามสกุลใหญ่เหล่านั้นกลับเลือกที่เขียนด้วยและลบด้วยเท้าผ่านการอ้างว่าเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น โดยไม่ได้เกี่ยวข้องในแง่การบริหารธุรกิจอย่างใด ซึ่งดันมาบังเอิญเหมาะเจาะกับการที่บริษัทดิ ไอคอน ก็ออกประกาศยืนยันว่าบอสดาราต่างๆไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท . การที่ยกข้ออ้างเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อปกป้องบรรดาบอสดาราก็ถือเป็นสิทธิที่จะกระทำได้ ซึ่งก็ต้องไปว่ากันในแง่ของข้อกฎหมายต่อไป โดยเริ่มมีนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญหลายคนเริ่มออกมาให้ความคิดเห็นแล้วว่า . หากผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนทำธุรกิจเพราะความน่าเชื่อถือของเหล่าดาราที่เรียกตัวเองว่าบอสเหล่านี้ จึงย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้ . ในแง่ของคดีความและข้อกฎหมายก็คงต้องไปว่ากันในชั้นศาล แต่คำถามที่ตามมา ว่าเวลานี้สังคมไทยยังพอจะสามารถเชื่อถือบรรดาแวดวงคนบันเทิงในฐานะที่เป็นผู้ชี้นำและมีอิทธิพลต่อสังคมไทยได้อีกต่อไปหรือไม่ . ทั้งนี้เป็นเพราะกรณีที่เกิดขึ้นจากกลุ่มบริษัท ดิ ไอคอน ไม่ได้เป็นกรณีแรกที่มีดาราเข้ามามีส่วนพัวพัน ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ก็เคยมีดารา ซึ่งเป็นบุคคลที่มีสถานะพิเศษต้องถูกดำเนินคดีและใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำให้เห็นกันมาแล้วอย่างกรณีคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ซึ่งพบว่ามีดาราอาศัยความมีชื่อเสียงของตัวเองในการชักชวนให้ประชาชนมาลงทุน . ทั้งนี้ ดังจะเห็นได้จากกรณีของพิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช พร้อมแม่และพี่ชายถูกฟ้องเป็นจำเลย ซึ่งปัจจุบันได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อมาต่อสู้คดี รวมไปถึงนายพัฒนพล มินทะขิน หรือดีเจแมน และ น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย อาร์สยาม โดยกรณีของรายหลังศาลได้มีการยกฟ้องคดีไปบางส่วนแล้ว แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ออกมาให้ข้อมูลว่าคดีที่ยกฟ้องนั้น เป็นคดีที่ประชาชนผู้เสียหายเกี่ยวกับแชร์ Forex-3D ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเองโดยตรงที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่ดีเอสไอกำลังดำเนินการตรวจสอบ . หรือย้อนกลับไปกว่านั้น คือ กรณีของบริษัท เมจิกสกิน จำหน่ายอาหารเสริมที่ไม่มีคุณภาพและไม่ผ่านการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาเนื่องจากมีดาราจำนวนไม่น้อยรับงานรีวิวสินค้า จนถูกหมายเรียกและบางรายต้องต่อสู้คดีในชั้นศาล เช่น น.ส.รัชวิน วงศ์วิริยะ หรือ ก้อย และ นายกนกฉัตร มรรยาทอ่อน หรือ ไต้ฝุ่น หนึ่งในกลุ่มดาราที่รับรีวิวเมจิกสกิน ศาลได้พิพากษาให้ความผิดแต่ให้รอลงอาญา ขณะที่ กลุ่มผู้บริหารผลิตภัณฑ์ของบริษัท เมจิกสกิน ศาลก็ได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุก 20 ปี แต่เนื่องจากจำเลยมีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการพยายามเยียวยาให้กับผู้เสียหาย ทำให้ศาลรอลงอาญาโทษจำคุก . อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะนำกรณีของเมจิกสกินกับดิ ไอคอน มาเปรียบเทียบกันเพื่อสรุปว่ากรณีของ The Icon จะมีบทสรุปลงเอยเหมือนกับคดีเมจิกสกิน เนื่องจากเหล่าดาราในกรณีของเมจิกสกินนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเพียงพรีเซนเตอร์เท่านั้น . ผิดกับกรณี The Icon ที่ได้ประกาศตัวเองว่าเป็น 'บอส' ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการดึงดูดให้ประชาชนมาร่วมลงทุน ดังนั้น การจะมาอ้างว่าการเป็นบอสเป็นอีกร่างอวตารหนึ่งของพรีเซ็นเตอร์นั้นดูจะเป็นการเอาสีข้างเข้าถูกจนเกินไป . เพราะฉะนั้น จากกรณีของThe Icon ที่เกิดขึ้นมานั้นยิ่งจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งที่ทำให้สถานะของวงการบันเทิงถูกสั่นคลอนในแง่ของความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก หลังจากที่ทุกวันนี้วงการบันเทิงไทยซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง และคนนินทาหมาดูถูก อย่างหนัก .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 739 มุมมอง 0 รีวิว
  • สคบ. เตรียมเรียก 3 บอสดาราดังให้ข้อมูลสัปดาห์หน้า หลังโผล่นั่งแท่น ผอ. ร่วมบริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ขณะที่ผู้เสียหายรวมตัวจี้ สคบ. รับผิดชอบ หลังออกใบอนุญาตธุรกิจตลาดแบบตรงแต่ไม่เคยติดตามผลลัพธ์ ฝากเช็คบิลพฤติกรรมแผนธุรกิจ - การจดทะเบียน ส่อฝ่าฝืนกฎหมาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000096900

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สคบ. เตรียมเรียก 3 บอสดาราดังให้ข้อมูลสัปดาห์หน้า หลังโผล่นั่งแท่น ผอ. ร่วมบริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ขณะที่ผู้เสียหายรวมตัวจี้ สคบ. รับผิดชอบ หลังออกใบอนุญาตธุรกิจตลาดแบบตรงแต่ไม่เคยติดตามผลลัพธ์ ฝากเช็คบิลพฤติกรรมแผนธุรกิจ - การจดทะเบียน ส่อฝ่าฝืนกฎหมาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000096900 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2670 มุมมอง 1 รีวิว