• #เพลงนั่งงงในดงทัวร์ #บอสพอล
    #บอสดารา #ดิไอคอนกรุ๊ป
    #ธุรกิจขายตรง #แชร์ลูกโซ่
    #โหนกระแส #หนุ่มกรรชัย
    #บอสกันต์ #โชว์รวย
    #เพลงใหม่ฮิตติดกระแส
    #เพลงนั่งงงในดงทัวร์ #บอสพอล #บอสดารา #ดิไอคอนกรุ๊ป #ธุรกิจขายตรง #แชร์ลูกโซ่ #โหนกระแส #หนุ่มกรรชัย #บอสกันต์ #โชว์รวย #เพลงใหม่ฮิตติดกระแส
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 25 0 รีวิว
  • บอยปกรณ์กับความผิดซ้ำซาก
    #ดิไอค่อนกรุ๊ป #ดิไอค่อน #บอยปกรณ์ #บอสดารา #thaitimes #news1 #sondhitalk
    https://th.mentboard.com/thread/4g9iyda/
    บอยปกรณ์กับความผิดซ้ำซาก #ดิไอค่อนกรุ๊ป #ดิไอค่อน #บอยปกรณ์ #บอสดารา #thaitimes #news1 #sondhitalk https://th.mentboard.com/thread/4g9iyda/
    TH.MENTBOARD.COM
    บอยปกรณ์กับความผิดซ้ำซาก - Mentboard
    โพสต์โดยคุณิิbb (ID:f3dda) เป็นที่ทราบกันดีว่าบอยปกรณ์ในขณะนี้ ได้ถูกสังคมจับตามองจากกรณีที่เขาได้มีส่วนเข้าไปพัวพันกับกลุ่มดิไอคอนในฐานะ เป็นดาราโปรโมทสินค้า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'บอสพอล' ไม่ยอมตายเดี่ยวส่งสัญญาณลากบอสดาราร่วมรับกรรมไปด้วยกัน : ข่าวลึกปมลับ 15/10/67
    'บอสพอล' ไม่ยอมตายเดี่ยวส่งสัญญาณลากบอสดาราร่วมรับกรรมไปด้วยกัน : ข่าวลึกปมลับ 15/10/67
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 77 0 รีวิว
  • บอสดารา The Icon ตอกย้ำด้านมืดคนดัง ดิ้นเอาตัวรอด-ไม่รับผิดชอบ
    .
    ปฏิเสธไม่ได้ว่าคดีการตรวจสอบกระบวนการทำธุรกิจของ The Icon กรุ๊ป กลายเป็นคดีระดับประเทศที่คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นคดีที่ท้าทายความสามารถของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่อย่าง 'บิ๊กต่าย' พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ในการกอบกู้ศักดิ์ศรีของตำรวจไทยให้ประชาชนกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง
    .
    นอกจากคดีจะเป็นตัวชี้วัดในการเรียกศรัทธาคืนมาของตำรวจแล้ว อีกด้านคดีนี้เป็นการนำไปสู่การตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบุคคลสาธารณะอย่างดารานักแสดงและพิธีกรด้วย ภายหลังกรณีของ The Icon พบว่ามีเหล่าผู้มีชื่อเสียงเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก
    .
    ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คดีกลายเป็นที่จับจ้องของสังคมนั้น เนื่องจากปรากฎหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเหล่าดาราเหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่เป็นหนึ่งในผู้บริหารบริษัทด้านต่างๆ พร้อมกับมีการประกาศออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน
    .
    แต่ทันทีที่เกิดเรื่องบรรดาผู้มีชื่อเสียงและนามสกุลใหญ่เหล่านั้นกลับเลือกที่เขียนด้วยและลบด้วยเท้าผ่านการอ้างว่าเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น โดยไม่ได้เกี่ยวข้องในแง่การบริหารธุรกิจอย่างใด ซึ่งดันมาบังเอิญเหมาะเจาะกับการที่บริษัทดิ ไอคอน ก็ออกประกาศยืนยันว่าบอสดาราต่างๆไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท
    .
    การที่ยกข้ออ้างเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อปกป้องบรรดาบอสดาราก็ถือเป็นสิทธิที่จะกระทำได้ ซึ่งก็ต้องไปว่ากันในแง่ของข้อกฎหมายต่อไป โดยเริ่มมีนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญหลายคนเริ่มออกมาให้ความคิดเห็นแล้วว่า
    .
    หากผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนทำธุรกิจเพราะความน่าเชื่อถือของเหล่าดาราที่เรียกตัวเองว่าบอสเหล่านี้ จึงย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้
    .
    ในแง่ของคดีความและข้อกฎหมายก็คงต้องไปว่ากันในชั้นศาล แต่คำถามที่ตามมา ว่าเวลานี้สังคมไทยยังพอจะสามารถเชื่อถือบรรดาแวดวงคนบันเทิงในฐานะที่เป็นผู้ชี้นำและมีอิทธิพลต่อสังคมไทยได้อีกต่อไปหรือไม่
    .
    ทั้งนี้เป็นเพราะกรณีที่เกิดขึ้นจากกลุ่มบริษัท ดิ ไอคอน ไม่ได้เป็นกรณีแรกที่มีดาราเข้ามามีส่วนพัวพัน ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ก็เคยมีดารา ซึ่งเป็นบุคคลที่มีสถานะพิเศษต้องถูกดำเนินคดีและใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำให้เห็นกันมาแล้วอย่างกรณีคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ซึ่งพบว่ามีดาราอาศัยความมีชื่อเสียงของตัวเองในการชักชวนให้ประชาชนมาลงทุน
    .
    ทั้งนี้ ดังจะเห็นได้จากกรณีของพิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช พร้อมแม่และพี่ชายถูกฟ้องเป็นจำเลย ซึ่งปัจจุบันได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อมาต่อสู้คดี รวมไปถึงนายพัฒนพล มินทะขิน หรือดีเจแมน และ น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย อาร์สยาม โดยกรณีของรายหลังศาลได้มีการยกฟ้องคดีไปบางส่วนแล้ว แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ออกมาให้ข้อมูลว่าคดีที่ยกฟ้องนั้น เป็นคดีที่ประชาชนผู้เสียหายเกี่ยวกับแชร์ Forex-3D ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเองโดยตรงที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่ดีเอสไอกำลังดำเนินการตรวจสอบ
    .
    หรือย้อนกลับไปกว่านั้น คือ กรณีของบริษัท เมจิกสกิน จำหน่ายอาหารเสริมที่ไม่มีคุณภาพและไม่ผ่านการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาเนื่องจากมีดาราจำนวนไม่น้อยรับงานรีวิวสินค้า จนถูกหมายเรียกและบางรายต้องต่อสู้คดีในชั้นศาล เช่น น.ส.รัชวิน วงศ์วิริยะ หรือ ก้อย และ นายกนกฉัตร มรรยาทอ่อน หรือ ไต้ฝุ่น หนึ่งในกลุ่มดาราที่รับรีวิวเมจิกสกิน ศาลได้พิพากษาให้ความผิดแต่ให้รอลงอาญา ขณะที่ กลุ่มผู้บริหารผลิตภัณฑ์ของบริษัท เมจิกสกิน ศาลก็ได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุก 20 ปี แต่เนื่องจากจำเลยมีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการพยายามเยียวยาให้กับผู้เสียหาย ทำให้ศาลรอลงอาญาโทษจำคุก
    .
    อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะนำกรณีของเมจิกสกินกับดิ ไอคอน มาเปรียบเทียบกันเพื่อสรุปว่ากรณีของ The Icon จะมีบทสรุปลงเอยเหมือนกับคดีเมจิกสกิน เนื่องจากเหล่าดาราในกรณีของเมจิกสกินนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเพียงพรีเซนเตอร์เท่านั้น
    .
    ผิดกับกรณี The Icon ที่ได้ประกาศตัวเองว่าเป็น 'บอส' ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการดึงดูดให้ประชาชนมาร่วมลงทุน ดังนั้น การจะมาอ้างว่าการเป็นบอสเป็นอีกร่างอวตารหนึ่งของพรีเซ็นเตอร์นั้นดูจะเป็นการเอาสีข้างเข้าถูกจนเกินไป
    .
    เพราะฉะนั้น จากกรณีของThe Icon ที่เกิดขึ้นมานั้นยิ่งจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งที่ทำให้สถานะของวงการบันเทิงถูกสั่นคลอนในแง่ของความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก หลังจากที่ทุกวันนี้วงการบันเทิงไทยซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง และคนนินทาหมาดูถูก อย่างหนัก
    ..............
    Sondhi X
    บอสดารา The Icon ตอกย้ำด้านมืดคนดัง ดิ้นเอาตัวรอด-ไม่รับผิดชอบ . ปฏิเสธไม่ได้ว่าคดีการตรวจสอบกระบวนการทำธุรกิจของ The Icon กรุ๊ป กลายเป็นคดีระดับประเทศที่คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นคดีที่ท้าทายความสามารถของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่อย่าง 'บิ๊กต่าย' พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ในการกอบกู้ศักดิ์ศรีของตำรวจไทยให้ประชาชนกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง . นอกจากคดีจะเป็นตัวชี้วัดในการเรียกศรัทธาคืนมาของตำรวจแล้ว อีกด้านคดีนี้เป็นการนำไปสู่การตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบุคคลสาธารณะอย่างดารานักแสดงและพิธีกรด้วย ภายหลังกรณีของ The Icon พบว่ามีเหล่าผู้มีชื่อเสียงเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก . ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คดีกลายเป็นที่จับจ้องของสังคมนั้น เนื่องจากปรากฎหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเหล่าดาราเหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่เป็นหนึ่งในผู้บริหารบริษัทด้านต่างๆ พร้อมกับมีการประกาศออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน . แต่ทันทีที่เกิดเรื่องบรรดาผู้มีชื่อเสียงและนามสกุลใหญ่เหล่านั้นกลับเลือกที่เขียนด้วยและลบด้วยเท้าผ่านการอ้างว่าเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น โดยไม่ได้เกี่ยวข้องในแง่การบริหารธุรกิจอย่างใด ซึ่งดันมาบังเอิญเหมาะเจาะกับการที่บริษัทดิ ไอคอน ก็ออกประกาศยืนยันว่าบอสดาราต่างๆไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท . การที่ยกข้ออ้างเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อปกป้องบรรดาบอสดาราก็ถือเป็นสิทธิที่จะกระทำได้ ซึ่งก็ต้องไปว่ากันในแง่ของข้อกฎหมายต่อไป โดยเริ่มมีนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญหลายคนเริ่มออกมาให้ความคิดเห็นแล้วว่า . หากผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนทำธุรกิจเพราะความน่าเชื่อถือของเหล่าดาราที่เรียกตัวเองว่าบอสเหล่านี้ จึงย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้ . ในแง่ของคดีความและข้อกฎหมายก็คงต้องไปว่ากันในชั้นศาล แต่คำถามที่ตามมา ว่าเวลานี้สังคมไทยยังพอจะสามารถเชื่อถือบรรดาแวดวงคนบันเทิงในฐานะที่เป็นผู้ชี้นำและมีอิทธิพลต่อสังคมไทยได้อีกต่อไปหรือไม่ . ทั้งนี้เป็นเพราะกรณีที่เกิดขึ้นจากกลุ่มบริษัท ดิ ไอคอน ไม่ได้เป็นกรณีแรกที่มีดาราเข้ามามีส่วนพัวพัน ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ก็เคยมีดารา ซึ่งเป็นบุคคลที่มีสถานะพิเศษต้องถูกดำเนินคดีและใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำให้เห็นกันมาแล้วอย่างกรณีคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ซึ่งพบว่ามีดาราอาศัยความมีชื่อเสียงของตัวเองในการชักชวนให้ประชาชนมาลงทุน . ทั้งนี้ ดังจะเห็นได้จากกรณีของพิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช พร้อมแม่และพี่ชายถูกฟ้องเป็นจำเลย ซึ่งปัจจุบันได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อมาต่อสู้คดี รวมไปถึงนายพัฒนพล มินทะขิน หรือดีเจแมน และ น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย อาร์สยาม โดยกรณีของรายหลังศาลได้มีการยกฟ้องคดีไปบางส่วนแล้ว แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ออกมาให้ข้อมูลว่าคดีที่ยกฟ้องนั้น เป็นคดีที่ประชาชนผู้เสียหายเกี่ยวกับแชร์ Forex-3D ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเองโดยตรงที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่ดีเอสไอกำลังดำเนินการตรวจสอบ . หรือย้อนกลับไปกว่านั้น คือ กรณีของบริษัท เมจิกสกิน จำหน่ายอาหารเสริมที่ไม่มีคุณภาพและไม่ผ่านการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาเนื่องจากมีดาราจำนวนไม่น้อยรับงานรีวิวสินค้า จนถูกหมายเรียกและบางรายต้องต่อสู้คดีในชั้นศาล เช่น น.ส.รัชวิน วงศ์วิริยะ หรือ ก้อย และ นายกนกฉัตร มรรยาทอ่อน หรือ ไต้ฝุ่น หนึ่งในกลุ่มดาราที่รับรีวิวเมจิกสกิน ศาลได้พิพากษาให้ความผิดแต่ให้รอลงอาญา ขณะที่ กลุ่มผู้บริหารผลิตภัณฑ์ของบริษัท เมจิกสกิน ศาลก็ได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุก 20 ปี แต่เนื่องจากจำเลยมีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการพยายามเยียวยาให้กับผู้เสียหาย ทำให้ศาลรอลงอาญาโทษจำคุก . อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะนำกรณีของเมจิกสกินกับดิ ไอคอน มาเปรียบเทียบกันเพื่อสรุปว่ากรณีของ The Icon จะมีบทสรุปลงเอยเหมือนกับคดีเมจิกสกิน เนื่องจากเหล่าดาราในกรณีของเมจิกสกินนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเพียงพรีเซนเตอร์เท่านั้น . ผิดกับกรณี The Icon ที่ได้ประกาศตัวเองว่าเป็น 'บอส' ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการดึงดูดให้ประชาชนมาร่วมลงทุน ดังนั้น การจะมาอ้างว่าการเป็นบอสเป็นอีกร่างอวตารหนึ่งของพรีเซ็นเตอร์นั้นดูจะเป็นการเอาสีข้างเข้าถูกจนเกินไป . เพราะฉะนั้น จากกรณีของThe Icon ที่เกิดขึ้นมานั้นยิ่งจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งที่ทำให้สถานะของวงการบันเทิงถูกสั่นคลอนในแง่ของความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก หลังจากที่ทุกวันนี้วงการบันเทิงไทยซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง และคนนินทาหมาดูถูก อย่างหนัก .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • สคบ. เตรียมเรียก 3 บอสดาราดังให้ข้อมูลสัปดาห์หน้า หลังโผล่นั่งแท่น ผอ. ร่วมบริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ขณะที่ผู้เสียหายรวมตัวจี้ สคบ. รับผิดชอบ หลังออกใบอนุญาตธุรกิจตลาดแบบตรงแต่ไม่เคยติดตามผลลัพธ์ ฝากเช็คบิลพฤติกรรมแผนธุรกิจ - การจดทะเบียน ส่อฝ่าฝืนกฎหมาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000096900

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สคบ. เตรียมเรียก 3 บอสดาราดังให้ข้อมูลสัปดาห์หน้า หลังโผล่นั่งแท่น ผอ. ร่วมบริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ขณะที่ผู้เสียหายรวมตัวจี้ สคบ. รับผิดชอบ หลังออกใบอนุญาตธุรกิจตลาดแบบตรงแต่ไม่เคยติดตามผลลัพธ์ ฝากเช็คบิลพฤติกรรมแผนธุรกิจ - การจดทะเบียน ส่อฝ่าฝืนกฎหมาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000096900 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2634 มุมมอง 1 รีวิว