ตั๋วสัญญาใช้เงิน ชนักติดหลังอุ๊งอิ๊ง
แม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จบลงไปแล้ว แต่ประเด็นที่เป็นชนักติดหลัง คือ การยื่นบัญชีทรัพย์สิน พบว่ามีรายการหนี้สินเป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน (ตั๋ว P/N) ชำระค่าหุ้นแก่คนในครอบครัว 5 คน 9 ฉบับ ตั้งแต่ปี 2559 รวมกว่า 4,434 ล้านบาท โดยไม่มีกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ ไม่คิดดอกเบี้ย ถือว่ามีเจตนาผ่องถ่ายทรัพย์สินโอนหุ้นระหว่างเครือญาติหรือไม่ ส่อเข้าข่ายหลีกเลี่ยงภาษีสูงถึง 218.7 ล้านบาท
แม้ น.ส.แพทองธารจะอ้างว่า เวลานั้นไม่พร้อมชำระค่าหุ้นด้วยเงินสด จึงทำตั๋ว P/N และมีแผนจะชำระรอบแรกในปี 2569 ก็ตาม แต่เวลาผ่านไป 9 ปีเพิ่งบอกว่าจะชำระรอบแรกก็เป็นที่เคลือบแคลงสงสัย ถึงกระนั้นนายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร อ้างว่าเป็นการซื้อขายหุ้นนอกตลาด โดยออกตั๋ว P/N แทนสัญญาเงินกู้ สามารถออกได้ 2 แบบ คือ มีกำหนดชำระ กับไม่ได้กำหนดชำระแต่ต้องจ่ายทันทีเมื่อถูกเรียกหรือทวงถาม จะกำหนดดอกเบี้ยหรือไม่ก็ได้ แต่เมื่อมีการจ่ายเงินจะต้องเสียภาษีตามจริง
ทำให้นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง จากพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า อธิบดีกรมสรรพากรอย่ารีบสรุป ต้องสั่งตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีนิติกรรมอำพรางเพื่อเลี่ยงภาษีการรับให้ ตลอด 9 ปีที่ผ่านมาได้สอดส่องตรวจตราอย่างไร ถ้าไม่มีอภิปรายเรื่องนี้ในสภาฯ รัฐจะเก็บภาษีได้จริงหรือไม่ อีกทั้งต้องตรวจสอบที่มาของผู้ขายหุ้น เพื่อให้แน่ชัดว่าผู้ขายได้หุ้นมาฟรีหรือไม่ จ่ายค่าหุ้นจริงหรือใช้เทคนิคตั๋ว P/N เป็นการซุกหุ้นของนักการเมืองผู้ใดหรือไม่ โดยไม่ไปตีความเฉพาะแกะบรรทัดอ่านตามตัวอักษรแค่นั้น
ด้าน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล เห็นว่า ถ้าเป็นเช่นนี้กรมสรรพากรต้องยกเลิกเก็บภาษีรายรับทุกคน เพราะหากใครก็ได้สามารถออกตั๋ว P/N ว่าจะจ่ายเงินคืน หรือให้โอนทรัพย์สินมาไว้ที่อีกคนล่วงหน้า แล้วผู้รับแค่ติดหนี้ไปเรื่อยๆ ได้โดยผู้ให้กู้ไม่ทวง และหน่วยงานจัดเก็บภาษีก็ปล่อยเพราะไม่ทราบว่าจะรับทรัพย์คืนเมื่อใด ก็หมายความว่าผู้มอบทรัพย์สินให้ไปแล้วโดยเสน่หา ผู้รับไม่ต้องชำระภาษี พอถึงเวลาผู้ให้เสียชีวิตก็ย่อมหมดวาระทวงหนี้ด้วย ผู้ให้ยืมสามารถลืมเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีรายรับ 5% ส่วนภาษีมรดกก็ไม่ต้องจ่ายเช่นกัน
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยครั้งแรกโดยสำนักข่าวอิศรา ก่อนที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เคยยื่นถึง ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 2 ก.พ.เพื่อให้ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร กรณีรายการหนี้สินอื่น 9 รายการ เป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน ไม่มีดอกเบี้ยจ่าย เข้าข่ายเป็นการรับประโยชน์ ที่ไม่ใช่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดหรือไม่ แต่ยังไม่คืบหน้า
#Newskit
แม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จบลงไปแล้ว แต่ประเด็นที่เป็นชนักติดหลัง คือ การยื่นบัญชีทรัพย์สิน พบว่ามีรายการหนี้สินเป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน (ตั๋ว P/N) ชำระค่าหุ้นแก่คนในครอบครัว 5 คน 9 ฉบับ ตั้งแต่ปี 2559 รวมกว่า 4,434 ล้านบาท โดยไม่มีกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ ไม่คิดดอกเบี้ย ถือว่ามีเจตนาผ่องถ่ายทรัพย์สินโอนหุ้นระหว่างเครือญาติหรือไม่ ส่อเข้าข่ายหลีกเลี่ยงภาษีสูงถึง 218.7 ล้านบาท
แม้ น.ส.แพทองธารจะอ้างว่า เวลานั้นไม่พร้อมชำระค่าหุ้นด้วยเงินสด จึงทำตั๋ว P/N และมีแผนจะชำระรอบแรกในปี 2569 ก็ตาม แต่เวลาผ่านไป 9 ปีเพิ่งบอกว่าจะชำระรอบแรกก็เป็นที่เคลือบแคลงสงสัย ถึงกระนั้นนายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร อ้างว่าเป็นการซื้อขายหุ้นนอกตลาด โดยออกตั๋ว P/N แทนสัญญาเงินกู้ สามารถออกได้ 2 แบบ คือ มีกำหนดชำระ กับไม่ได้กำหนดชำระแต่ต้องจ่ายทันทีเมื่อถูกเรียกหรือทวงถาม จะกำหนดดอกเบี้ยหรือไม่ก็ได้ แต่เมื่อมีการจ่ายเงินจะต้องเสียภาษีตามจริง
ทำให้นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง จากพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า อธิบดีกรมสรรพากรอย่ารีบสรุป ต้องสั่งตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีนิติกรรมอำพรางเพื่อเลี่ยงภาษีการรับให้ ตลอด 9 ปีที่ผ่านมาได้สอดส่องตรวจตราอย่างไร ถ้าไม่มีอภิปรายเรื่องนี้ในสภาฯ รัฐจะเก็บภาษีได้จริงหรือไม่ อีกทั้งต้องตรวจสอบที่มาของผู้ขายหุ้น เพื่อให้แน่ชัดว่าผู้ขายได้หุ้นมาฟรีหรือไม่ จ่ายค่าหุ้นจริงหรือใช้เทคนิคตั๋ว P/N เป็นการซุกหุ้นของนักการเมืองผู้ใดหรือไม่ โดยไม่ไปตีความเฉพาะแกะบรรทัดอ่านตามตัวอักษรแค่นั้น
ด้าน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล เห็นว่า ถ้าเป็นเช่นนี้กรมสรรพากรต้องยกเลิกเก็บภาษีรายรับทุกคน เพราะหากใครก็ได้สามารถออกตั๋ว P/N ว่าจะจ่ายเงินคืน หรือให้โอนทรัพย์สินมาไว้ที่อีกคนล่วงหน้า แล้วผู้รับแค่ติดหนี้ไปเรื่อยๆ ได้โดยผู้ให้กู้ไม่ทวง และหน่วยงานจัดเก็บภาษีก็ปล่อยเพราะไม่ทราบว่าจะรับทรัพย์คืนเมื่อใด ก็หมายความว่าผู้มอบทรัพย์สินให้ไปแล้วโดยเสน่หา ผู้รับไม่ต้องชำระภาษี พอถึงเวลาผู้ให้เสียชีวิตก็ย่อมหมดวาระทวงหนี้ด้วย ผู้ให้ยืมสามารถลืมเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีรายรับ 5% ส่วนภาษีมรดกก็ไม่ต้องจ่ายเช่นกัน
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยครั้งแรกโดยสำนักข่าวอิศรา ก่อนที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เคยยื่นถึง ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 2 ก.พ.เพื่อให้ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร กรณีรายการหนี้สินอื่น 9 รายการ เป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน ไม่มีดอกเบี้ยจ่าย เข้าข่ายเป็นการรับประโยชน์ ที่ไม่ใช่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดหรือไม่ แต่ยังไม่คืบหน้า
#Newskit
ตั๋วสัญญาใช้เงิน ชนักติดหลังอุ๊งอิ๊ง
แม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จบลงไปแล้ว แต่ประเด็นที่เป็นชนักติดหลัง คือ การยื่นบัญชีทรัพย์สิน พบว่ามีรายการหนี้สินเป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน (ตั๋ว P/N) ชำระค่าหุ้นแก่คนในครอบครัว 5 คน 9 ฉบับ ตั้งแต่ปี 2559 รวมกว่า 4,434 ล้านบาท โดยไม่มีกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ ไม่คิดดอกเบี้ย ถือว่ามีเจตนาผ่องถ่ายทรัพย์สินโอนหุ้นระหว่างเครือญาติหรือไม่ ส่อเข้าข่ายหลีกเลี่ยงภาษีสูงถึง 218.7 ล้านบาท
แม้ น.ส.แพทองธารจะอ้างว่า เวลานั้นไม่พร้อมชำระค่าหุ้นด้วยเงินสด จึงทำตั๋ว P/N และมีแผนจะชำระรอบแรกในปี 2569 ก็ตาม แต่เวลาผ่านไป 9 ปีเพิ่งบอกว่าจะชำระรอบแรกก็เป็นที่เคลือบแคลงสงสัย ถึงกระนั้นนายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร อ้างว่าเป็นการซื้อขายหุ้นนอกตลาด โดยออกตั๋ว P/N แทนสัญญาเงินกู้ สามารถออกได้ 2 แบบ คือ มีกำหนดชำระ กับไม่ได้กำหนดชำระแต่ต้องจ่ายทันทีเมื่อถูกเรียกหรือทวงถาม จะกำหนดดอกเบี้ยหรือไม่ก็ได้ แต่เมื่อมีการจ่ายเงินจะต้องเสียภาษีตามจริง
ทำให้นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง จากพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า อธิบดีกรมสรรพากรอย่ารีบสรุป ต้องสั่งตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีนิติกรรมอำพรางเพื่อเลี่ยงภาษีการรับให้ ตลอด 9 ปีที่ผ่านมาได้สอดส่องตรวจตราอย่างไร ถ้าไม่มีอภิปรายเรื่องนี้ในสภาฯ รัฐจะเก็บภาษีได้จริงหรือไม่ อีกทั้งต้องตรวจสอบที่มาของผู้ขายหุ้น เพื่อให้แน่ชัดว่าผู้ขายได้หุ้นมาฟรีหรือไม่ จ่ายค่าหุ้นจริงหรือใช้เทคนิคตั๋ว P/N เป็นการซุกหุ้นของนักการเมืองผู้ใดหรือไม่ โดยไม่ไปตีความเฉพาะแกะบรรทัดอ่านตามตัวอักษรแค่นั้น
ด้าน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล เห็นว่า ถ้าเป็นเช่นนี้กรมสรรพากรต้องยกเลิกเก็บภาษีรายรับทุกคน เพราะหากใครก็ได้สามารถออกตั๋ว P/N ว่าจะจ่ายเงินคืน หรือให้โอนทรัพย์สินมาไว้ที่อีกคนล่วงหน้า แล้วผู้รับแค่ติดหนี้ไปเรื่อยๆ ได้โดยผู้ให้กู้ไม่ทวง และหน่วยงานจัดเก็บภาษีก็ปล่อยเพราะไม่ทราบว่าจะรับทรัพย์คืนเมื่อใด ก็หมายความว่าผู้มอบทรัพย์สินให้ไปแล้วโดยเสน่หา ผู้รับไม่ต้องชำระภาษี พอถึงเวลาผู้ให้เสียชีวิตก็ย่อมหมดวาระทวงหนี้ด้วย ผู้ให้ยืมสามารถลืมเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีรายรับ 5% ส่วนภาษีมรดกก็ไม่ต้องจ่ายเช่นกัน
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยครั้งแรกโดยสำนักข่าวอิศรา ก่อนที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เคยยื่นถึง ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 2 ก.พ.เพื่อให้ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร กรณีรายการหนี้สินอื่น 9 รายการ เป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน ไม่มีดอกเบี้ยจ่าย เข้าข่ายเป็นการรับประโยชน์ ที่ไม่ใช่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดหรือไม่ แต่ยังไม่คืบหน้า
#Newskit
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
3 มุมมอง
0 รีวิว