• ประเทศตะวันตกหารือลับๆ เกี่ยวกับผู้นำ 'คนต่อไป' ของอิหร่าน

    — CBS รายงาน

    ท่ามกลางการเคลื่อนย้ายทรัพยากรด้านอาวุธเข้าสู่ตะวันออกกลาง และการขนย้ายเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากภูมิภาค จากข้อมูลเหล่านี้ คาดว่าการโจมตีอย่างรุนแรงในอิหร่านกำลังจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่วันข้างหน้า
    ประเทศตะวันตกหารือลับๆ เกี่ยวกับผู้นำ 'คนต่อไป' ของอิหร่าน — CBS รายงาน ท่ามกลางการเคลื่อนย้ายทรัพยากรด้านอาวุธเข้าสู่ตะวันออกกลาง และการขนย้ายเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากภูมิภาค จากข้อมูลเหล่านี้ คาดว่าการโจมตีอย่างรุนแรงในอิหร่านกำลังจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่วันข้างหน้า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณอาจเคยได้ยินว่า AI เริ่มใช้ในการวินิจฉัยโรค หรือแต่งเนื้อเพลง…แต่ตอนนี้มันเดินเข้าศาลแล้วแบบจริงจัง! หลายคดีในสหรัฐฯ เริ่มเห็น GenAI ถูกใช้ในหลายรูปแบบ เช่น:

    - ผู้พิพากษาใช้ AI ช่วยค้นคว้าคำพิพากษาเก่า ๆ
    - ทนายใช้ ChatGPT หรือ AI ผู้ช่วยอย่าง LexisNexis Protege, CoCounsel จาก Thomson Reuters ช่วยร่างคำร้อง
    - ฝ่ายที่ไม่มีทนาย (pro se) ใช้ AI เขียนคำร้องเอง

    หนึ่งในกรณีที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดคือคดีที่เหยื่อถูกยิงเสียชีวิต และญาติของเขาสร้าง “อวตาร AI” ขึ้นมาให้ผู้ตายกล่าวคำอำลาและแสดงความให้อภัยในศาลด้วยตัวเอง ผ่านหน้าจอ—ผู้พิพากษาถึงกับบอกว่า “มันรู้สึกเหมือนจริง” มาก

    แต่ในอีกมุม GenAI ก็มีปัญหาเหมือนกัน — มีคดีหนึ่งที่ทนายใช้ AI ช่วยร่างคำฟ้องจนเกิดการอ้างคำพิพากษาปลอม (hallucination) จนโดนปรับไปกว่า $31,000 แบบไม่มีข้อแก้ตัว

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าถึงแม้ GenAI จะช่วยให้คนเข้าถึงระบบยุติธรรมง่ายขึ้น โดยเฉพาะคนไม่มีทนาย แต่ระบบศาลต้องเตรียมรับมือกับ “คดีที่ถูกสร้างด้วยปุ่มเดียว” เพราะ GenAI ทำให้คนสามารถร่างคำฟ้องได้เร็วและมากขึ้นหลายเท่า ซึ่งอาจเพิ่มภาระให้กับศาลที่มีคดีล้นอยู่แล้ว

    ✅ GenAI เริ่มถูกใช้จริงจังในศาลสหรัฐฯ ทั้งโดยผู้พิพากษา ทนาย และประชาชนทั่วไป  
    • ผู้พิพากษาใช้เพื่อค้นข้อมูลทางกฎหมาย  
    • ทนายใช้ AI ผู้ช่วย เช่น LexisNexis Protege และ CoCounsel  
    • ผู้ที่ไม่มีทนายใช้ AI ยื่นคำร้องเอง

    ✅ มีการใช้ Avatar AI เป็นครั้งแรกในศาลอเมริกาเพื่อให้เหยื่อ “กล่าวคำอำลา” หลังเสียชีวิต  
    • เหยื่อถูกยิงเสียชีวิตในปี 2021  
    • พี่สาวสร้างวิดีโอ AI ให้พูดในศาลตอนตัดสินคนร้าย

    ✅ AI ช่วยลดภาระและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม  
    • โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่สามารถจ้างทนายได้  
    • อาจเพิ่มความเป็นธรรมและลดต้นทุนระบบ

    ✅ นักวิชาการเสนอให้ศาลเตรียมโครงสร้างพื้นฐานรองรับ AI อย่างจริงจัง  
    • เช่น การฝึกอบรมผู้พิพากษาให้เข้าใจ AI  
    • อาจช่วยให้คำพิพากษาแม่นยำและไม่ถูกยื่นอุทธรณ์ง่าย

    ‼️ GenAI ยังมีปัญหาเรื่อง “ความเที่ยงตรงของข้อมูล” (hallucination)  
    • มีกรณีอ้างคำพิพากษาปลอมแล้วศาลลงโทษจริง  
    • ต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนใช้เอกสารที่ AI สร้างขึ้น

    ‼️ การเปิดให้ใช้ AI อย่างเสรี อาจทำให้ “คดีที่ไม่มีเนื้อหา” ท่วมศาล  
    • คนสามารถสร้างคำฟ้องด้วย AI ได้ง่ายและเร็วเกินไป  
    • เพิ่มภาระต่อระบบที่มีทรัพยากรจำกัด

    ‼️ ผู้ที่ไม่มีทนายอาจเชื่อใจ AI มากเกินไปจนทำผิดพลาด  
    • โดยเฉพาะหากไม่เข้าใจว่า AI ไม่ใช่ที่ปรึกษาทางกฎหมาย

    ‼️ อาจเกิดการโน้มน้าวผู้พิพากษาจากข้อมูลที่ AI คัดเลือกมา “โดยไม่ได้ตั้งใจ”  
    • เช่น ถ้า AI เลือกคำพิพากษาเก่าที่บางเฉียบ แต่อิทธิพลสูง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/justice-at-stake-as-generative-ai-enters-the-courtroom
    คุณอาจเคยได้ยินว่า AI เริ่มใช้ในการวินิจฉัยโรค หรือแต่งเนื้อเพลง…แต่ตอนนี้มันเดินเข้าศาลแล้วแบบจริงจัง! หลายคดีในสหรัฐฯ เริ่มเห็น GenAI ถูกใช้ในหลายรูปแบบ เช่น: - ผู้พิพากษาใช้ AI ช่วยค้นคว้าคำพิพากษาเก่า ๆ - ทนายใช้ ChatGPT หรือ AI ผู้ช่วยอย่าง LexisNexis Protege, CoCounsel จาก Thomson Reuters ช่วยร่างคำร้อง - ฝ่ายที่ไม่มีทนาย (pro se) ใช้ AI เขียนคำร้องเอง หนึ่งในกรณีที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดคือคดีที่เหยื่อถูกยิงเสียชีวิต และญาติของเขาสร้าง “อวตาร AI” ขึ้นมาให้ผู้ตายกล่าวคำอำลาและแสดงความให้อภัยในศาลด้วยตัวเอง ผ่านหน้าจอ—ผู้พิพากษาถึงกับบอกว่า “มันรู้สึกเหมือนจริง” มาก แต่ในอีกมุม GenAI ก็มีปัญหาเหมือนกัน — มีคดีหนึ่งที่ทนายใช้ AI ช่วยร่างคำฟ้องจนเกิดการอ้างคำพิพากษาปลอม (hallucination) จนโดนปรับไปกว่า $31,000 แบบไม่มีข้อแก้ตัว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าถึงแม้ GenAI จะช่วยให้คนเข้าถึงระบบยุติธรรมง่ายขึ้น โดยเฉพาะคนไม่มีทนาย แต่ระบบศาลต้องเตรียมรับมือกับ “คดีที่ถูกสร้างด้วยปุ่มเดียว” เพราะ GenAI ทำให้คนสามารถร่างคำฟ้องได้เร็วและมากขึ้นหลายเท่า ซึ่งอาจเพิ่มภาระให้กับศาลที่มีคดีล้นอยู่แล้ว ✅ GenAI เริ่มถูกใช้จริงจังในศาลสหรัฐฯ ทั้งโดยผู้พิพากษา ทนาย และประชาชนทั่วไป   • ผู้พิพากษาใช้เพื่อค้นข้อมูลทางกฎหมาย   • ทนายใช้ AI ผู้ช่วย เช่น LexisNexis Protege และ CoCounsel   • ผู้ที่ไม่มีทนายใช้ AI ยื่นคำร้องเอง ✅ มีการใช้ Avatar AI เป็นครั้งแรกในศาลอเมริกาเพื่อให้เหยื่อ “กล่าวคำอำลา” หลังเสียชีวิต   • เหยื่อถูกยิงเสียชีวิตในปี 2021   • พี่สาวสร้างวิดีโอ AI ให้พูดในศาลตอนตัดสินคนร้าย ✅ AI ช่วยลดภาระและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม   • โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่สามารถจ้างทนายได้   • อาจเพิ่มความเป็นธรรมและลดต้นทุนระบบ ✅ นักวิชาการเสนอให้ศาลเตรียมโครงสร้างพื้นฐานรองรับ AI อย่างจริงจัง   • เช่น การฝึกอบรมผู้พิพากษาให้เข้าใจ AI   • อาจช่วยให้คำพิพากษาแม่นยำและไม่ถูกยื่นอุทธรณ์ง่าย ‼️ GenAI ยังมีปัญหาเรื่อง “ความเที่ยงตรงของข้อมูล” (hallucination)   • มีกรณีอ้างคำพิพากษาปลอมแล้วศาลลงโทษจริง   • ต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนใช้เอกสารที่ AI สร้างขึ้น ‼️ การเปิดให้ใช้ AI อย่างเสรี อาจทำให้ “คดีที่ไม่มีเนื้อหา” ท่วมศาล   • คนสามารถสร้างคำฟ้องด้วย AI ได้ง่ายและเร็วเกินไป   • เพิ่มภาระต่อระบบที่มีทรัพยากรจำกัด ‼️ ผู้ที่ไม่มีทนายอาจเชื่อใจ AI มากเกินไปจนทำผิดพลาด   • โดยเฉพาะหากไม่เข้าใจว่า AI ไม่ใช่ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ‼️ อาจเกิดการโน้มน้าวผู้พิพากษาจากข้อมูลที่ AI คัดเลือกมา “โดยไม่ได้ตั้งใจ”   • เช่น ถ้า AI เลือกคำพิพากษาเก่าที่บางเฉียบ แต่อิทธิพลสูง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/justice-at-stake-as-generative-ai-enters-the-courtroom
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Justice at stake as generative AI enters the courtroom
    Generative artificial intelligence (GenAI) is making its way into courts despite early stumbles, raising questions about how it will influence the legal system and justice itself.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ปฏิวัติเลย,รัฐประหารก็ชั่ง,ยึดอำนาจก็ตาม,ดีสุดพักงานพวกสถาบันการเมืองทั้งหมดด้วยสัก10ปี,บวกพักงานอำนาจตุลาการ,นิติบัญญัติทั้งหมดด้วย,คดีของคนระบบราชการไทยทั้งหมดตลอดเจ้าสัวทั้งหลายให้ทหารจัดการแทนทั้งหมด,กฎหมายอยุติธรรมต่อชาติต่อประชาชนต้องฉีกทิ้งทั้งหมดเช่นกัน,เลอะเทอะมากกดขี่บังคับใช้ทางกฎหมายไร้สาระสุดๆมากมายในตัวบทกฎหมายที่ออก ล้วนเป็นไปเพื่อควบคุมครอบงำอิสระเสรีของประชาชนคนไทยเอง,และเป็นไปเ้พื่อผ่องถ่ายสมบัติชาติไทยทรัพยากรมีค่ามากมายของชาติไทยบนแผ่นดินไทยไปให้คนอื่นสิ้น,ประชาชนถือไว้แต่ความยากจนเต็มแผ่นดินบนการบริหารจัดการจากทุนตังบริษัทกิจการต่างๆที่ตั้งใจเอาเปรียบกดขี่ประชาชนไปพร้อมๆกันในตัว,ค่าแรงถูก ค่าครองชีพแพงไม่พอค่าใช้จ่ายเป็นต้น,ปกครองด้วยกลไกทำให้อธิปไตยชาติไทยเสื่อมถอยเสื่อมทรามตลอดเสียอธิปไตยไทยไปในความหลากหายรูปแบบหลากหลายลักษณะหลากหลายวิธีการหลากหลายสาระพัดมุกที่มีโอกาสทำได้,นั้นคือเราเสื่อมรอบด้าน,สื่อหลักก็เสื่อม บิดเบือนความจริงมากมาย,ไม่มีจุดยืนอะไรมีแต่จุดตังแล้วพร้อมนำเสนอ,
    ..ยุคนี้ต้องกวาดล้างทำความสะอาดจริงๆ

    http://youtube.com/post/UgkxWrcTjypQPZhWr64OPzxXupC6ZRJqFWzG?si=5N3EmCoxWanSVINf
    ..ปฏิวัติเลย,รัฐประหารก็ชั่ง,ยึดอำนาจก็ตาม,ดีสุดพักงานพวกสถาบันการเมืองทั้งหมดด้วยสัก10ปี,บวกพักงานอำนาจตุลาการ,นิติบัญญัติทั้งหมดด้วย,คดีของคนระบบราชการไทยทั้งหมดตลอดเจ้าสัวทั้งหลายให้ทหารจัดการแทนทั้งหมด,กฎหมายอยุติธรรมต่อชาติต่อประชาชนต้องฉีกทิ้งทั้งหมดเช่นกัน,เลอะเทอะมากกดขี่บังคับใช้ทางกฎหมายไร้สาระสุดๆมากมายในตัวบทกฎหมายที่ออก ล้วนเป็นไปเพื่อควบคุมครอบงำอิสระเสรีของประชาชนคนไทยเอง,และเป็นไปเ้พื่อผ่องถ่ายสมบัติชาติไทยทรัพยากรมีค่ามากมายของชาติไทยบนแผ่นดินไทยไปให้คนอื่นสิ้น,ประชาชนถือไว้แต่ความยากจนเต็มแผ่นดินบนการบริหารจัดการจากทุนตังบริษัทกิจการต่างๆที่ตั้งใจเอาเปรียบกดขี่ประชาชนไปพร้อมๆกันในตัว,ค่าแรงถูก ค่าครองชีพแพงไม่พอค่าใช้จ่ายเป็นต้น,ปกครองด้วยกลไกทำให้อธิปไตยชาติไทยเสื่อมถอยเสื่อมทรามตลอดเสียอธิปไตยไทยไปในความหลากหายรูปแบบหลากหลายลักษณะหลากหลายวิธีการหลากหลายสาระพัดมุกที่มีโอกาสทำได้,นั้นคือเราเสื่อมรอบด้าน,สื่อหลักก็เสื่อม บิดเบือนความจริงมากมาย,ไม่มีจุดยืนอะไรมีแต่จุดตังแล้วพร้อมนำเสนอ, ..ยุคนี้ต้องกวาดล้างทำความสะอาดจริงๆ http://youtube.com/post/UgkxWrcTjypQPZhWr64OPzxXupC6ZRJqFWzG?si=5N3EmCoxWanSVINf
    YOUTUBE.COM
    โพสต์จาก Ejan
    เพจกองทัพบก โพสต์ ผบ.ทบ. ย้ำว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้ คือ #คนไทยต้องสามัคคี ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคั...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากสหรัฐฯ ออกข้อจำกัดไม่ให้ Nvidia ขายการ์ด AI ระดับสูง (เช่น H100, H200, B200) ให้กับจีนโดยตรง บริษัทจีนหลายแห่งก็พยายาม “หาทางอ้อม” เพื่อใช้งาน GPU เหล่านี้ต่อ

    ล่าสุด มีรายงานว่า ชาวจีน 4 คนบินจากปักกิ่งมามาเลเซีย พร้อมนำฮาร์ดดิสก์ที่บรรจุข้อมูลหลายสิบเทราไบต์ ทั้งวิดีโอ ภาพ และ spreadsheet เพื่อ “ฝึก AI” บนเซิร์ฟเวอร์ที่เช่าผ่าน data center ในมาเลเซีย ที่มี GPU ของ Nvidia ติดตั้งอยู่ราว 2,400 ตัว

    แม้จะฟังดูไม่ใช่คลัสเตอร์ขนาดใหญ่เท่า supercomputer แต่ก็เพียงพอสำหรับ training model ได้สบาย ๆ—ที่สำคัญคือ “เป็นวิธีที่ช่วยให้บริษัทจีนยังคงเข้าถึงเทคโนโลยีที่สหรัฐฯ ห้ามขาย” ได้โดยไม่ซื้อโดยตรง

    ประเด็นนี้ทำให้กระทรวงการค้าและการลงทุนของมาเลเซีย (MITI) ต้องออกมายืนยันว่ากำลังสอบสวนร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อดูว่าเข้าข่ายละเมิดกฎหมายหรือไม่

    ✅ กระทรวงการค้าและการลงทุนของมาเลเซีย (MITI) กำลังสอบสวนกรณีบริษัทจีนใช้ GPU Nvidia ผ่าน data center ในมาเลเซีย  
    • เป็นการเช่าเซิร์ฟเวอร์เพื่อ train AI โดยไม่ได้ครอบครองฮาร์ดแวร์โดยตรง  
    • ยังไม่พบการละเมิดกฎหมายในประเทศ ณ เวลานี้

    ✅ มีรายงานว่าชาวจีน 4 คนขน HDD หลายสิบเทราไบต์เข้าเครื่องที่เช่าไว้ในมาเลเซีย  
    • ฝึกโมเดล AI บนเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ Nvidia GPU ~2,400 ตัว  
    • GPU เหล่านี้น่าจะเป็น H100 หรือรุ่นที่สหรัฐห้ามส่งออกไปยังจีน

    ✅ มาเลเซียไม่ได้อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐ  
    • ทำให้บริษัทในประเทศสามารถนำเข้า GPU ได้อย่างถูกกฎหมาย  
    • แต่ถ้ามีการ “นำ GPU ไปให้จีนใช้ทางอ้อม” ก็อาจละเมิดกฎของสหรัฐฯ

    ✅ หน่วยงานด้านการค้าในสหรัฐฯ เคยร้องขอให้มาเลเซียตรวจสอบทุก shipment ที่อาจเกี่ยวข้องกับ GPU ขั้นสูง  
    • หลังพบว่าในปี 2025 การนำเข้าเซิร์ฟเวอร์ AI จากไต้หวันไปยังมาเลเซีย “พุ่งขึ้นถึง 3,400%”

    ✅ บริษัทจีนที่ใช้บริการเช่าระยะไกลแบบนี้ อาจเลี่ยงข้อห้ามสหรัฐฯ ได้ชั่วคราวโดยไม่ซื้อตรง  
    • เรียกว่าใช้ “compute-as-a-service” แบบหลบเลี่ยง

    ‼️ ยังไม่แน่ชัดว่ากรณีนี้จะเข้าข่าย “ละเมิดมาตรการของสหรัฐฯ” หรือไม่ เพราะไม่ได้ส่งมอบฮาร์ดแวร์ไปจีนโดยตรง  
    • หากสหรัฐมองว่า “การให้คนจีนเข้าถึง compute” ถือว่าเข้าข่าย ก็อาจสร้างแรงกดดันต่อมาเลเซียในอนาคต

    ‼️ มาเลเซียอาจถูกจับตาจากรัฐบาลสหรัฐฯ หากพบว่าเป็นจุดผ่านของการ “ลักลอบใช้ GPU ที่ควบคุมอยู่”  
    • ส่งผลต่อภาพลักษณ์ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศในเทคโนโลยี AI

    ‼️ ผู้ให้บริการ data center ในภูมิภาคอาเซียนอาจต้องเผชิญแรงกดดันเช่นเดียวกัน  
    • หากไม่มีระบบ “ตรวจสอบแหล่งข้อมูลลูกค้า” อาจกลายเป็นช่องโหว่ให้ฝ่ายต่าง ๆ ใช้หลบมาตรการ

    ‼️ กรณีนี้สะท้อนว่าแม้มาตรการควบคุม GPU จะรุนแรง แต่จีนยังคงหาวิธีเข้าถึงทรัพยากร AI ได้อยู่ดี  
    • เช่นเดียวกับกรณีก่อนหน้านี้ที่มีข่าวลอบขน GPU ผ่าน “กุ้ง” และ “ซิลิโคนหน้าท้องปลอม”

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/malaysia-investigates-chinese-use-of-nvidia-powered-servers-in-the-country-trade-minister-verifying-reports-of-possible-regulation-breach-following-reports-of-smuggled-hard-drives-and-server-rentals
    หลังจากสหรัฐฯ ออกข้อจำกัดไม่ให้ Nvidia ขายการ์ด AI ระดับสูง (เช่น H100, H200, B200) ให้กับจีนโดยตรง บริษัทจีนหลายแห่งก็พยายาม “หาทางอ้อม” เพื่อใช้งาน GPU เหล่านี้ต่อ ล่าสุด มีรายงานว่า ชาวจีน 4 คนบินจากปักกิ่งมามาเลเซีย พร้อมนำฮาร์ดดิสก์ที่บรรจุข้อมูลหลายสิบเทราไบต์ ทั้งวิดีโอ ภาพ และ spreadsheet เพื่อ “ฝึก AI” บนเซิร์ฟเวอร์ที่เช่าผ่าน data center ในมาเลเซีย ที่มี GPU ของ Nvidia ติดตั้งอยู่ราว 2,400 ตัว แม้จะฟังดูไม่ใช่คลัสเตอร์ขนาดใหญ่เท่า supercomputer แต่ก็เพียงพอสำหรับ training model ได้สบาย ๆ—ที่สำคัญคือ “เป็นวิธีที่ช่วยให้บริษัทจีนยังคงเข้าถึงเทคโนโลยีที่สหรัฐฯ ห้ามขาย” ได้โดยไม่ซื้อโดยตรง ประเด็นนี้ทำให้กระทรวงการค้าและการลงทุนของมาเลเซีย (MITI) ต้องออกมายืนยันว่ากำลังสอบสวนร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อดูว่าเข้าข่ายละเมิดกฎหมายหรือไม่ ✅ กระทรวงการค้าและการลงทุนของมาเลเซีย (MITI) กำลังสอบสวนกรณีบริษัทจีนใช้ GPU Nvidia ผ่าน data center ในมาเลเซีย   • เป็นการเช่าเซิร์ฟเวอร์เพื่อ train AI โดยไม่ได้ครอบครองฮาร์ดแวร์โดยตรง   • ยังไม่พบการละเมิดกฎหมายในประเทศ ณ เวลานี้ ✅ มีรายงานว่าชาวจีน 4 คนขน HDD หลายสิบเทราไบต์เข้าเครื่องที่เช่าไว้ในมาเลเซีย   • ฝึกโมเดล AI บนเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ Nvidia GPU ~2,400 ตัว   • GPU เหล่านี้น่าจะเป็น H100 หรือรุ่นที่สหรัฐห้ามส่งออกไปยังจีน ✅ มาเลเซียไม่ได้อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐ   • ทำให้บริษัทในประเทศสามารถนำเข้า GPU ได้อย่างถูกกฎหมาย   • แต่ถ้ามีการ “นำ GPU ไปให้จีนใช้ทางอ้อม” ก็อาจละเมิดกฎของสหรัฐฯ ✅ หน่วยงานด้านการค้าในสหรัฐฯ เคยร้องขอให้มาเลเซียตรวจสอบทุก shipment ที่อาจเกี่ยวข้องกับ GPU ขั้นสูง   • หลังพบว่าในปี 2025 การนำเข้าเซิร์ฟเวอร์ AI จากไต้หวันไปยังมาเลเซีย “พุ่งขึ้นถึง 3,400%” ✅ บริษัทจีนที่ใช้บริการเช่าระยะไกลแบบนี้ อาจเลี่ยงข้อห้ามสหรัฐฯ ได้ชั่วคราวโดยไม่ซื้อตรง   • เรียกว่าใช้ “compute-as-a-service” แบบหลบเลี่ยง ‼️ ยังไม่แน่ชัดว่ากรณีนี้จะเข้าข่าย “ละเมิดมาตรการของสหรัฐฯ” หรือไม่ เพราะไม่ได้ส่งมอบฮาร์ดแวร์ไปจีนโดยตรง   • หากสหรัฐมองว่า “การให้คนจีนเข้าถึง compute” ถือว่าเข้าข่าย ก็อาจสร้างแรงกดดันต่อมาเลเซียในอนาคต ‼️ มาเลเซียอาจถูกจับตาจากรัฐบาลสหรัฐฯ หากพบว่าเป็นจุดผ่านของการ “ลักลอบใช้ GPU ที่ควบคุมอยู่”   • ส่งผลต่อภาพลักษณ์ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศในเทคโนโลยี AI ‼️ ผู้ให้บริการ data center ในภูมิภาคอาเซียนอาจต้องเผชิญแรงกดดันเช่นเดียวกัน   • หากไม่มีระบบ “ตรวจสอบแหล่งข้อมูลลูกค้า” อาจกลายเป็นช่องโหว่ให้ฝ่ายต่าง ๆ ใช้หลบมาตรการ ‼️ กรณีนี้สะท้อนว่าแม้มาตรการควบคุม GPU จะรุนแรง แต่จีนยังคงหาวิธีเข้าถึงทรัพยากร AI ได้อยู่ดี   • เช่นเดียวกับกรณีก่อนหน้านี้ที่มีข่าวลอบขน GPU ผ่าน “กุ้ง” และ “ซิลิโคนหน้าท้องปลอม” https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/malaysia-investigates-chinese-use-of-nvidia-powered-servers-in-the-country-trade-minister-verifying-reports-of-possible-regulation-breach-following-reports-of-smuggled-hard-drives-and-server-rentals
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา Honda จัดการทดสอบ “ยิงจรวดขึ้น – ลงจอดสำเร็จ” อย่างสวยงามในเมืองไทกิ จังหวัดฮอกไกโด ซึ่งมีฉายาว่า “เมืองอวกาศของญี่ปุ่น” เพราะเป็นฐานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศของหลายบริษัท

    จรวดต้นแบบของ Honda มีความยาว 6.3 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 85 เซนติเมตร หนักรวม 1.3 ตันเมื่อเติมเชื้อเพลิง ตัวเล็กกว่าจรวด Falcon 9 ของ SpaceX มาก แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือ… มัน สามารถขึ้นไปที่ความสูง 271.4 เมตร และลงจอดกลับมาที่เป้าหมายได้ภายในระยะห่างเพียง 37 เซนติเมตร! ใช้เวลาบินรวมแค่ 56.6 วินาทีเท่านั้น

    Honda บอกว่าเป้าหมายของการทดสอบครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อความสูงหรือระยะทาง แต่เพื่อพิสูจน์ว่าเทคโนโลยี “ขึ้นลงอย่างมีเสถียรภาพ” และ “ลงจอดแบบควบคุมได้” พร้อมทั้งโชว์ระบบความปลอดภัย เช่น การปิดการขับดันอัตโนมัติถ้าทิศทางผิดเพี้ยน

    ทั้งหมดนี้เป็นก้าวแรกเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้คือ: ทำ suborbital launch ได้ภายในปี 2029

    ✅ Honda ทดสอบยิงจรวดต้นแบบแบบ reusable สำเร็จในญี่ปุ่น  
    • ความสูงสูงสุด 271.4 เมตร / ใช้เวลา 56.6 วินาที / ลงจอดห่างจากเป้าแค่ 37 ซม.  
    • ทดสอบที่ Taiki Town, Hokkaido — เมืองที่มีศักยภาพด้าน space tech

    ✅ จรวดมีขนาดเล็ก: 6.3 ม. / 85 ซม. / น้ำหนักเต็ม 1,312 กก.  
    • เปรียบเทียบแล้วเป็นระดับ subscale test model แต่ครอบคลุมเทคโนโลยีหลัก

    ✅ ตั้งเป้าทำ suborbital launch ได้ภายในปี 2029  
    • หลังจากเริ่มโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2024 ด้วยการทดสอบเผาไหม้และ hover

    ✅ เน้นทดสอบเทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพและระบบลงจอดแบบมี precision  
    • แสดงให้เห็นความพร้อมด้านระบบนำทางและระบบความปลอดภัย

    ✅ สร้างโซนจำกัดรัศมี 1 กม. ระหว่างการทดสอบ พร้อมระบบหยุดฉุกเฉิน  
    • แสดงความใส่ใจต่อความปลอดภัยของสาธารณชน

    ✅ เป็นหนึ่งในโครงการด้านอวกาศที่เปิดเผยของ Honda หลังเงียบมานาน  
    • ต่อจากโครงการพัฒนา hydrogen system สำหรับใช้บนสถานีอวกาศ ISS

    ‼️ แม้การทดสอบสำเร็จ แต่ Honda ยังตามหลัง SpaceX และ Blue Origin หลายปีแสง  
    • ทั้งสองบริษัทมีประสบการณ์การบิน suborbital และ orbital หลายสิบเที่ยวแล้ว

    ‼️ จรวดที่ทดสอบยังอยู่ระดับต้นแบบย่อย (subscale)  
    • ยังไม่พิสูจน์ว่าระบบสามารถนำไปใช้งานจริงหรือรับ payload ได้ในระดับ commercial

    ‼️ ยังไม่ชัดเจนว่าฮอนด้าจะพัฒนาด้วยทรัพยากรของตัวเองทั้งหมด หรือจับมือกับพันธมิตรในวงการอวกาศ  
    • ความยั่งยืนของโครงการขึ้นกับการจัดหาเงินทุนระยะยาว

    ‼️ การแข่งขันในวงการ reusable rocket เข้มข้นและต้นทุนสูงมาก  
    • อาจไม่ใช่ตลาดที่ทุกคนจะอยู่รอดได้แม้มีเทคโนโลยี

    https://www.techspot.com/news/108365-honda-celebrates-first-successful-test-reusable-rocket-bid.html
    เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา Honda จัดการทดสอบ “ยิงจรวดขึ้น – ลงจอดสำเร็จ” อย่างสวยงามในเมืองไทกิ จังหวัดฮอกไกโด ซึ่งมีฉายาว่า “เมืองอวกาศของญี่ปุ่น” เพราะเป็นฐานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศของหลายบริษัท จรวดต้นแบบของ Honda มีความยาว 6.3 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 85 เซนติเมตร หนักรวม 1.3 ตันเมื่อเติมเชื้อเพลิง ตัวเล็กกว่าจรวด Falcon 9 ของ SpaceX มาก แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือ… มัน สามารถขึ้นไปที่ความสูง 271.4 เมตร และลงจอดกลับมาที่เป้าหมายได้ภายในระยะห่างเพียง 37 เซนติเมตร! ใช้เวลาบินรวมแค่ 56.6 วินาทีเท่านั้น Honda บอกว่าเป้าหมายของการทดสอบครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อความสูงหรือระยะทาง แต่เพื่อพิสูจน์ว่าเทคโนโลยี “ขึ้นลงอย่างมีเสถียรภาพ” และ “ลงจอดแบบควบคุมได้” พร้อมทั้งโชว์ระบบความปลอดภัย เช่น การปิดการขับดันอัตโนมัติถ้าทิศทางผิดเพี้ยน ทั้งหมดนี้เป็นก้าวแรกเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้คือ: ทำ suborbital launch ได้ภายในปี 2029 ✅ Honda ทดสอบยิงจรวดต้นแบบแบบ reusable สำเร็จในญี่ปุ่น   • ความสูงสูงสุด 271.4 เมตร / ใช้เวลา 56.6 วินาที / ลงจอดห่างจากเป้าแค่ 37 ซม.   • ทดสอบที่ Taiki Town, Hokkaido — เมืองที่มีศักยภาพด้าน space tech ✅ จรวดมีขนาดเล็ก: 6.3 ม. / 85 ซม. / น้ำหนักเต็ม 1,312 กก.   • เปรียบเทียบแล้วเป็นระดับ subscale test model แต่ครอบคลุมเทคโนโลยีหลัก ✅ ตั้งเป้าทำ suborbital launch ได้ภายในปี 2029   • หลังจากเริ่มโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2024 ด้วยการทดสอบเผาไหม้และ hover ✅ เน้นทดสอบเทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพและระบบลงจอดแบบมี precision   • แสดงให้เห็นความพร้อมด้านระบบนำทางและระบบความปลอดภัย ✅ สร้างโซนจำกัดรัศมี 1 กม. ระหว่างการทดสอบ พร้อมระบบหยุดฉุกเฉิน   • แสดงความใส่ใจต่อความปลอดภัยของสาธารณชน ✅ เป็นหนึ่งในโครงการด้านอวกาศที่เปิดเผยของ Honda หลังเงียบมานาน   • ต่อจากโครงการพัฒนา hydrogen system สำหรับใช้บนสถานีอวกาศ ISS ‼️ แม้การทดสอบสำเร็จ แต่ Honda ยังตามหลัง SpaceX และ Blue Origin หลายปีแสง   • ทั้งสองบริษัทมีประสบการณ์การบิน suborbital และ orbital หลายสิบเที่ยวแล้ว ‼️ จรวดที่ทดสอบยังอยู่ระดับต้นแบบย่อย (subscale)   • ยังไม่พิสูจน์ว่าระบบสามารถนำไปใช้งานจริงหรือรับ payload ได้ในระดับ commercial ‼️ ยังไม่ชัดเจนว่าฮอนด้าจะพัฒนาด้วยทรัพยากรของตัวเองทั้งหมด หรือจับมือกับพันธมิตรในวงการอวกาศ   • ความยั่งยืนของโครงการขึ้นกับการจัดหาเงินทุนระยะยาว ‼️ การแข่งขันในวงการ reusable rocket เข้มข้นและต้นทุนสูงมาก   • อาจไม่ใช่ตลาดที่ทุกคนจะอยู่รอดได้แม้มีเทคโนโลยี https://www.techspot.com/news/108365-honda-celebrates-first-successful-test-reusable-rocket-bid.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Honda joins space race with first successful reusable rocket test
    The historic flight took place on June 17 at the Honda facility in Taiki Town, Hiroo District, Hokkaido Prefecture, Japan, which has been dubbed as a "space...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครจะเชื่อว่า “โบนัสเซ็นสัญญา” สำหรับนักวิจัย AI ตอนนี้อาจแตะตัวเลข 100 ล้านเหรียญ! Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ของน้องชายตัวเองว่า Meta เสนอตัวเลขนี้จริง ๆ เพื่อดึงคนจาก OpenAI ไป

    Altman บอกว่า “Meta เริ่มแจกข้อเสนอระดับไม่ธรรมดากับหลายคนในทีมเรา...ยังดีที่ตอนนี้ไม่มีใครตัดสินใจย้ายไปนะ” ข้อเสนอนี้รวมทั้งโบนัสและค่าตอบแทนรายปีซึ่งรวม ๆ กันก็ทำให้หลายคน “ตาค้าง”

    เบื้องหลังเรื่องนี้คือ Meta ตั้งทีม AI “superintelligence” ใหม่ โดยมี Alexandr Wang (อดีตซีอีโอของ Scale AI) มาเป็นผู้นำ ซึ่งนั่งทำงานใกล้กับ Mark Zuckerberg เลย แถม Meta ก็เพิ่งเทเงิน $14.3 พันล้านลงทุนใน Scale AI ไปหมาด ๆ ถือว่าจัดหนักในสนามนี้

    Altman ยังวิจารณ์เบา ๆ ว่า “Meta ไม่ใช่บริษัทที่เก่งเรื่องนวัตกรรม” และเตือนว่า ถ้าบริษัทไหนมองแค่เรื่องเงินมากกว่าภารกิจ AI ระดับ AGI (Artificial General Intelligence) อาจสร้างวัฒนธรรมที่ไม่เหมาะกับการเกิด “การค้นพบครั้งใหญ่”

    ✅ Meta เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $100 ล้าน เพื่อดึงนักวิจัย AI จากคู่แข่ง  
    • รวมทั้งโบนัสเซ็นสัญญาและค่าตอบแทนรวมรายปี  
    • จุดมุ่งหมายเพื่อเร่งสร้างทีม AI ระดับ “superintelligence”

    ✅ Sam Altman เผยเรื่องนี้ในพอดแคสต์ โดยระบุว่า Meta เสนอให้หลายคนใน OpenAI  
    • ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีใครรับข้อเสนอ  
    • มองว่า OpenAI มีโอกาสบรรลุ AGI ได้มากกว่า Meta

    ✅ ผู้นำทีมใหม่ของ Meta คือ Alexandr Wang (อดีต CEO ของ Scale AI)  
    • ทำงานใกล้ชิดกับ Mark Zuckerberg  
    • Meta ลงทุน $14.3 พันล้านใน Scale AI เพื่อสนับสนุนทิศทางนี้

    ✅ Meta ได้ตัวนักวิจัยดังบางคนจาก Google DeepMind และ Sesame AI แล้ว  
    • เช่น Jack Rae และ Johan Schalkwyk  
    • แต่ยังไม่สำเร็จในการดึง Noam Brown จาก OpenAI หรือ Koray Kavukcuoglu จาก Google

    ✅ มีมุมมองจากผู้บริหาร AI คนอื่นว่าการล่าคนต้องมีทั้งเงินและทรัพยากร GPU  
    • CEO ของ Perplexity เผยนักวิจัยจาก Meta บอก “มี 10,000 H100 เมื่อไหร่ ค่อยกลับมาคุย”

    ‼️ การล่าพนักงานแบบ “เงินนำหน้า” อาจทำลายวัฒนธรรมองค์กร  
    • คนที่เข้ามาเพราะเงิน อาจไม่ยึดมั่นในเป้าหมายระยะยาวขององค์กร  
    • ยิ่งในการวิจัย AI แบบ AGI ที่ต้องการการร่วมมือและความมุ่งมั่นสูง

    ‼️ Meta ถูกวิจารณ์ว่านวัตกรรมโอเพ่นซอร์สของตัวเอง “สะดุด” หลังเลื่อนปล่อยโมเดลใหม่  
    • ทำให้คู่แข่งอย่าง Google, DeepSeek และ OpenAI นำหน้าไปก่อน

    ‼️ การแย่งบุคลากร AI อาจทำให้ช่องว่างเทคโนโลยีระหว่างบริษัทยิ่งถ่างออก  
    • บริษัทเล็กหรือประเทศกำลังพัฒนาจะเสียเปรียบอย่างมาก

    ‼️ การเสนอค่าตัวระดับเกิน 100 ล้านดอลลาร์อาจผลักดันค่าจ้างในวงการขึ้นแบบไม่ยั่งยืน  
    • กระทบ ecosystem ของ startup และการวิจัยสาธารณะ

    https://www.techspot.com/news/108357-meta-offering-up-100-million-lure-ai-talent.html
    ใครจะเชื่อว่า “โบนัสเซ็นสัญญา” สำหรับนักวิจัย AI ตอนนี้อาจแตะตัวเลข 100 ล้านเหรียญ! Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ของน้องชายตัวเองว่า Meta เสนอตัวเลขนี้จริง ๆ เพื่อดึงคนจาก OpenAI ไป Altman บอกว่า “Meta เริ่มแจกข้อเสนอระดับไม่ธรรมดากับหลายคนในทีมเรา...ยังดีที่ตอนนี้ไม่มีใครตัดสินใจย้ายไปนะ” ข้อเสนอนี้รวมทั้งโบนัสและค่าตอบแทนรายปีซึ่งรวม ๆ กันก็ทำให้หลายคน “ตาค้าง” เบื้องหลังเรื่องนี้คือ Meta ตั้งทีม AI “superintelligence” ใหม่ โดยมี Alexandr Wang (อดีตซีอีโอของ Scale AI) มาเป็นผู้นำ ซึ่งนั่งทำงานใกล้กับ Mark Zuckerberg เลย แถม Meta ก็เพิ่งเทเงิน $14.3 พันล้านลงทุนใน Scale AI ไปหมาด ๆ ถือว่าจัดหนักในสนามนี้ Altman ยังวิจารณ์เบา ๆ ว่า “Meta ไม่ใช่บริษัทที่เก่งเรื่องนวัตกรรม” และเตือนว่า ถ้าบริษัทไหนมองแค่เรื่องเงินมากกว่าภารกิจ AI ระดับ AGI (Artificial General Intelligence) อาจสร้างวัฒนธรรมที่ไม่เหมาะกับการเกิด “การค้นพบครั้งใหญ่” ✅ Meta เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $100 ล้าน เพื่อดึงนักวิจัย AI จากคู่แข่ง   • รวมทั้งโบนัสเซ็นสัญญาและค่าตอบแทนรวมรายปี   • จุดมุ่งหมายเพื่อเร่งสร้างทีม AI ระดับ “superintelligence” ✅ Sam Altman เผยเรื่องนี้ในพอดแคสต์ โดยระบุว่า Meta เสนอให้หลายคนใน OpenAI   • ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีใครรับข้อเสนอ   • มองว่า OpenAI มีโอกาสบรรลุ AGI ได้มากกว่า Meta ✅ ผู้นำทีมใหม่ของ Meta คือ Alexandr Wang (อดีต CEO ของ Scale AI)   • ทำงานใกล้ชิดกับ Mark Zuckerberg   • Meta ลงทุน $14.3 พันล้านใน Scale AI เพื่อสนับสนุนทิศทางนี้ ✅ Meta ได้ตัวนักวิจัยดังบางคนจาก Google DeepMind และ Sesame AI แล้ว   • เช่น Jack Rae และ Johan Schalkwyk   • แต่ยังไม่สำเร็จในการดึง Noam Brown จาก OpenAI หรือ Koray Kavukcuoglu จาก Google ✅ มีมุมมองจากผู้บริหาร AI คนอื่นว่าการล่าคนต้องมีทั้งเงินและทรัพยากร GPU   • CEO ของ Perplexity เผยนักวิจัยจาก Meta บอก “มี 10,000 H100 เมื่อไหร่ ค่อยกลับมาคุย” ‼️ การล่าพนักงานแบบ “เงินนำหน้า” อาจทำลายวัฒนธรรมองค์กร   • คนที่เข้ามาเพราะเงิน อาจไม่ยึดมั่นในเป้าหมายระยะยาวขององค์กร   • ยิ่งในการวิจัย AI แบบ AGI ที่ต้องการการร่วมมือและความมุ่งมั่นสูง ‼️ Meta ถูกวิจารณ์ว่านวัตกรรมโอเพ่นซอร์สของตัวเอง “สะดุด” หลังเลื่อนปล่อยโมเดลใหม่   • ทำให้คู่แข่งอย่าง Google, DeepSeek และ OpenAI นำหน้าไปก่อน ‼️ การแย่งบุคลากร AI อาจทำให้ช่องว่างเทคโนโลยีระหว่างบริษัทยิ่งถ่างออก   • บริษัทเล็กหรือประเทศกำลังพัฒนาจะเสียเปรียบอย่างมาก ‼️ การเสนอค่าตัวระดับเกิน 100 ล้านดอลลาร์อาจผลักดันค่าจ้างในวงการขึ้นแบบไม่ยั่งยืน   • กระทบ ecosystem ของ startup และการวิจัยสาธารณะ https://www.techspot.com/news/108357-meta-offering-up-100-million-lure-ai-talent.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Meta is offering up to $100 million to lure AI talent, says OpenAI's Sam Altman
    The recruitment drive has a personal element: former Scale AI CEO Alexandr Wang heads Meta's new AI group, and some new hires are said to be working...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายคนอาจไม่ค่อยรู้จักชื่อ Nat Friedman เท่า Elon หรือ Altman แต่เบื้องหลังเขาคือหนึ่งใน “คนสร้างแรงกระเพื่อม” แห่งโลกโอเพ่นซอร์สและนักลงทุนยุค AI-first ตัวจริง โดยเคยเป็น CEO ของ GitHub (ช่วงที่ Microsoft ซื้อมา) และหลังออกจากตำแหน่ง ก็หันมาเป็น VC เปิดกองทุนร่วมกับ Daniel Gross (อดีตผู้บริหาร Apple และผู้ร่วมก่อตั้ง Cue ที่ถูก Google ซื้อกิจการ)

    ข่าวจาก The Information และ Reuters บอกว่า Meta กำลังเจรจาทาบทามทั้งคู่มาเสริมทัพโปรเจกต์ AI ของบริษัท และอาจถึงขั้น ซื้อหุ้นบางส่วนของกองทุน NFDG ที่พวกเขาร่วมกันตั้งขึ้น เพื่อ “ดึงทรัพยากร AI ทั้งคนและเทคโนโลยี” เข้ามาอยู่ในมือ Meta

    ช่วงนี้ Meta ขยับเร็วมาก—หลังเพิ่งเทเงินกว่า 14.8 พันล้านดอลลาร์ลงทุนใน Scale AI และดึงตัวซีอีโอของ Scale อย่าง Alexandr Wang มานำแผนก “Superintelligence” ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่

    เป้าหมายของ Meta คือสร้างโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สที่แข่งกับ OpenAI, Google และ Anthropic ให้ได้ โดยมี Llama เป็นแกนหลัก และตอนนี้ต้องการทีมระดับ “ผู้ปั้น ecosystem” มาเสริม ไม่ใช่แค่นักวิจัย

    Nat Friedman เคยอยู่ในคณะที่ปรึกษา Meta มาก่อนด้วย ทำให้คาดว่าดีลนี้มีโอกาสเกิดขึ้นจริงสูง และน่าจะเชื่อมโยงกับทิศทาง AI ด้าน Developer Tools หรือแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สของ Meta ในอนาคต

    ✅ Meta อยู่ระหว่างการเจรจากับ Nat Friedman (อดีต CEO GitHub) และ Daniel Gross ให้เข้าร่วมภารกิจ AI  
    • ทั้งสองคนเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกองทุน NFDG ซึ่งลงทุนในสตาร์ตอัปสาย AI  
    • Meta เคยดึง Friedman เข้าเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีมาแล้วก่อนหน้านี้

    ✅ มีการพูดคุยถึงการซื้อหุ้นบางส่วนของ NFDG เพื่อควบรวมกำลังด้าน AI  
    • Meta ต้องการเชื่อมโยงแหล่งบุคลากรและบริษัท AI ที่กองทุนสนับสนุนอยู่

    ✅ การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลัง Meta เทเงิน $14.8B ลงทุนใน Scale AI  
    • และดึง CEO ของ Scale (Alexandr Wang) มานำทีม Superintelligence Unit

    ✅ เป้าหมายระยะยาวของ Meta คือเร่งพัฒนา Open-Source AI ให้แข่งขันกับคู่แข่งอย่าง OpenAI, Google, Anthropic ได้  
    • โดยเฉพาะผ่านโมเดล Llama และแพลตฟอร์มที่เน้น Developer เป็นศูนย์กลาง

    ‼️ หาก Meta ซื้อหุ้นใน NFDG จริง อาจเกิดความกังวลเรื่อง “การผูกขาดบุคลากร AI”  
    • Meta อาจเข้าถึง startup และนักพัฒนา AI รุ่นใหม่ก่อนใครในตลาด  
    • ส่งผลต่อความเป็นอิสระของระบบนิเวศโอเพ่นซอร์ส

    ‼️ แผน “เร่งเกม AI” ของ Meta ยังไม่มีโมเดลที่ใช้งานเชิงพาณิชย์เทียบเท่า GPT-4 หรือ Claude 3  
    • แม้จะเปิดตัว Llama และชุด weights ฟรี แต่ยังเน้นด้านนักพัฒนา มากกว่าผู้ใช้งานทั่วไป

    ‼️ การจ้างบุคคลระดับสูงจำนวนมากในระยะสั้น อาจส่งผลกระทบต่อความสอดคล้องของวิสัยทัศน์องค์กร  
    • โดยเฉพาะหากมีหลายทีมที่พัฒนา AI ไปคนละทิศ

    ‼️ ตลาด AI มีการแข่งขันสูง และเคลื่อนไหวเร็ว—อาจทำให้ Meta ต้องทบทวนแผนลงทุนและโครงสร้างบ่อยครั้ง  
    • ส่งผลต่อเสถียรภาพของแพลตฟอร์มและเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/meta-in-talks-to-hire-former-github-ceo-nat-friedman-to-join-ai-efforts-the-information-reports
    หลายคนอาจไม่ค่อยรู้จักชื่อ Nat Friedman เท่า Elon หรือ Altman แต่เบื้องหลังเขาคือหนึ่งใน “คนสร้างแรงกระเพื่อม” แห่งโลกโอเพ่นซอร์สและนักลงทุนยุค AI-first ตัวจริง โดยเคยเป็น CEO ของ GitHub (ช่วงที่ Microsoft ซื้อมา) และหลังออกจากตำแหน่ง ก็หันมาเป็น VC เปิดกองทุนร่วมกับ Daniel Gross (อดีตผู้บริหาร Apple และผู้ร่วมก่อตั้ง Cue ที่ถูก Google ซื้อกิจการ) ข่าวจาก The Information และ Reuters บอกว่า Meta กำลังเจรจาทาบทามทั้งคู่มาเสริมทัพโปรเจกต์ AI ของบริษัท และอาจถึงขั้น ซื้อหุ้นบางส่วนของกองทุน NFDG ที่พวกเขาร่วมกันตั้งขึ้น เพื่อ “ดึงทรัพยากร AI ทั้งคนและเทคโนโลยี” เข้ามาอยู่ในมือ Meta ช่วงนี้ Meta ขยับเร็วมาก—หลังเพิ่งเทเงินกว่า 14.8 พันล้านดอลลาร์ลงทุนใน Scale AI และดึงตัวซีอีโอของ Scale อย่าง Alexandr Wang มานำแผนก “Superintelligence” ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ เป้าหมายของ Meta คือสร้างโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สที่แข่งกับ OpenAI, Google และ Anthropic ให้ได้ โดยมี Llama เป็นแกนหลัก และตอนนี้ต้องการทีมระดับ “ผู้ปั้น ecosystem” มาเสริม ไม่ใช่แค่นักวิจัย Nat Friedman เคยอยู่ในคณะที่ปรึกษา Meta มาก่อนด้วย ทำให้คาดว่าดีลนี้มีโอกาสเกิดขึ้นจริงสูง และน่าจะเชื่อมโยงกับทิศทาง AI ด้าน Developer Tools หรือแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สของ Meta ในอนาคต ✅ Meta อยู่ระหว่างการเจรจากับ Nat Friedman (อดีต CEO GitHub) และ Daniel Gross ให้เข้าร่วมภารกิจ AI   • ทั้งสองคนเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกองทุน NFDG ซึ่งลงทุนในสตาร์ตอัปสาย AI   • Meta เคยดึง Friedman เข้าเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีมาแล้วก่อนหน้านี้ ✅ มีการพูดคุยถึงการซื้อหุ้นบางส่วนของ NFDG เพื่อควบรวมกำลังด้าน AI   • Meta ต้องการเชื่อมโยงแหล่งบุคลากรและบริษัท AI ที่กองทุนสนับสนุนอยู่ ✅ การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลัง Meta เทเงิน $14.8B ลงทุนใน Scale AI   • และดึง CEO ของ Scale (Alexandr Wang) มานำทีม Superintelligence Unit ✅ เป้าหมายระยะยาวของ Meta คือเร่งพัฒนา Open-Source AI ให้แข่งขันกับคู่แข่งอย่าง OpenAI, Google, Anthropic ได้   • โดยเฉพาะผ่านโมเดล Llama และแพลตฟอร์มที่เน้น Developer เป็นศูนย์กลาง ‼️ หาก Meta ซื้อหุ้นใน NFDG จริง อาจเกิดความกังวลเรื่อง “การผูกขาดบุคลากร AI”   • Meta อาจเข้าถึง startup และนักพัฒนา AI รุ่นใหม่ก่อนใครในตลาด   • ส่งผลต่อความเป็นอิสระของระบบนิเวศโอเพ่นซอร์ส ‼️ แผน “เร่งเกม AI” ของ Meta ยังไม่มีโมเดลที่ใช้งานเชิงพาณิชย์เทียบเท่า GPT-4 หรือ Claude 3   • แม้จะเปิดตัว Llama และชุด weights ฟรี แต่ยังเน้นด้านนักพัฒนา มากกว่าผู้ใช้งานทั่วไป ‼️ การจ้างบุคคลระดับสูงจำนวนมากในระยะสั้น อาจส่งผลกระทบต่อความสอดคล้องของวิสัยทัศน์องค์กร   • โดยเฉพาะหากมีหลายทีมที่พัฒนา AI ไปคนละทิศ ‼️ ตลาด AI มีการแข่งขันสูง และเคลื่อนไหวเร็ว—อาจทำให้ Meta ต้องทบทวนแผนลงทุนและโครงสร้างบ่อยครั้ง   • ส่งผลต่อเสถียรภาพของแพลตฟอร์มและเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/meta-in-talks-to-hire-former-github-ceo-nat-friedman-to-join-ai-efforts-the-information-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta in talks to hire former GitHub CEO Nat Friedman to join AI efforts, The Information reports
    (Reuters) -Meta Platforms is in talks to hire former GitHub CEO Nat Friedman to join the Facebook parent's AI efforts, The Information reported on Wednesday, citing a person familiar with the matter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดานิเอล เบสซาราบอฟ ส.ส. รัสเซีย :
    " พวกเขา (อิสราเอล สหรัฐฯ ชาติตะวันตก) พยายามกล่าวหาอิหร่านกำลังจะสร้างหรือมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง เรื่องนี้เป็นเพียงข้ออ้างเหมือนอิรัก พวกเขาไม่สนว่าอิหร่านจะมีหรือไม่มี
    .
    แต่สิ่งที่พวกเขาสนคือ พื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอิหร่าน อิหร่านเป็นหนึ่งในสองประเทศในตะวันออกกลางที่ต่อต้านอิสราเอลและอเมริกาอย่างแข็งกร้าวเช่นเดียวกับเยเมน ชาติที่แข็งข้อกับพวกเขาสุดท้ายจะโดนกำจัดตั้งแต่อิรัก ลิเบีย ล่าสุด ซีเรีย จากหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายไอซิส ที่สหรัฐตั้งค่าหัว $10 ล้าน ในที่สุดกลับกลายเป็นหุ่นเชิดอเมริกา
    .
    พวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงอิหร่าน เพียงเพราะต้องการหุ่นเชิดเหมือนซีเรีย และต้องการปล้นทรัพยากรธรรมชาติก๊าซและนํ้ามัน ตลอดไปจนถึงเข้ายึดครองพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของอิหร่านในช่องแคบฮอร์มุซ และนี่คือข้อเท็จจริง"
    ดานิเอล เบสซาราบอฟ ส.ส. รัสเซีย : " พวกเขา (อิสราเอล สหรัฐฯ ชาติตะวันตก) พยายามกล่าวหาอิหร่านกำลังจะสร้างหรือมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง เรื่องนี้เป็นเพียงข้ออ้างเหมือนอิรัก พวกเขาไม่สนว่าอิหร่านจะมีหรือไม่มี . แต่สิ่งที่พวกเขาสนคือ พื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอิหร่าน อิหร่านเป็นหนึ่งในสองประเทศในตะวันออกกลางที่ต่อต้านอิสราเอลและอเมริกาอย่างแข็งกร้าวเช่นเดียวกับเยเมน ชาติที่แข็งข้อกับพวกเขาสุดท้ายจะโดนกำจัดตั้งแต่อิรัก ลิเบีย ล่าสุด ซีเรีย จากหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายไอซิส ที่สหรัฐตั้งค่าหัว $10 ล้าน ในที่สุดกลับกลายเป็นหุ่นเชิดอเมริกา . พวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงอิหร่าน เพียงเพราะต้องการหุ่นเชิดเหมือนซีเรีย และต้องการปล้นทรัพยากรธรรมชาติก๊าซและนํ้ามัน ตลอดไปจนถึงเข้ายึดครองพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของอิหร่านในช่องแคบฮอร์มุซ และนี่คือข้อเท็จจริง"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel เตรียมเปิดตัว Nova Lake-S รุ่นถัดไปของซีพียูฝั่งเดสก์ท็อปใน ครึ่งหลังของปี 2026 ที่มาพร้อมแนวคิดใหม่ทั้งด้าน “สถาปัตยกรรม” และ “ขุมพลัง” ตัวท็อป Core Ultra 9 385K จะมีถึง 52 คอร์! โดยแบ่งเป็น 16 คอร์แรงจัด (P-core), 32 คอร์ประหยัด (E-core) และ 4 คอร์พลังต่ำพิเศษ (LPE-core) เรียกว่าเป็นการกระโดดจากรุ่นปัจจุบันที่มีสูงสุดแค่ 24 คอร์ แบบไม่เห็นฝุ่น

    แต่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการเปลี่ยนผ่านไปสู่ “ระบบแยกแผ่น (tile-based)” ซึ่งแต่ละกลุ่มคอร์จะถูกวางอยู่บนไดแยกกัน คล้ายกับแนวคิดของชิป Apple M-Series หรือ AMD 3D V-Cache เพื่อให้บริหารพลังงานและประสิทธิภาพได้แบบละเอียดสุด ๆ

    Intel ยังใส่ใจสายกราฟิกด้วยการแยกส่วน iGPU ออกเป็นสองกลุ่มชัดเจน: Xe3 “Celestial” สำหรับเรนเดอร์ และ Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอ/จอภาพ — ลดภาระเครื่องและเพิ่มเฟรมเรตสำหรับทั้งงานสร้างสรรค์และเกม

    Nova Lake-S ยังมาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่หมด ตั้งแต่ LGA 1854 Socket, แรม DDR5 8000+ MT/s, ไปจนถึง 48 เลน PCIe และระบบ USB/SATA แบบขยายเต็มพิกัด

    ✅ Nova Lake-S จะเป็นซีรีส์เดสก์ท็อปใหม่ของ Intel ที่เปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่  
    • เริ่มวางจำหน่ายครึ่งหลังปี 2026  
    • ใช้ดีไซน์แบบ tile-based คล้ายกับชิปยุคใหม่ เช่น Meteor Lake

    ✅ Core Ultra 9 385K: มีสูงสุดถึง 52 คอร์!  
    • แบ่งเป็น: 16 P-core + 32 E-core + 4 LPE-core  
    • เปรียบเทียบแล้วมากกว่ารุ่นก่อน (24 คอร์) เกินเท่าตัว

    ✅ ซีรีส์อื่นก็แรงไม่แพ้กัน  
    • Core Ultra 7: 42 คอร์  
    • Core Ultra 5: มีตั้งแต่ 18 ถึง 28 คอร์  
    • Core Ultra 3: รุ่นเล็กสุดยังมีถึง 16 คอร์ (พร้อม LPE-core)

    ✅ แรมและสถาปัตยกรรมใหม่  
    • รองรับ DDR5 สูงสุด 8000 MT/s และอาจไปถึง 10,000+ MT/s  
    • ใช้ Socket ใหม่ LGA 1854 และชิปเซต 900 ซีรีส์

    ✅ ระบบกราฟิกในตัวแบบไฮบริด แยกเรนเดอร์/วิดีโอ  
    • Xe3 “Celestial” สำหรับเกมและกราฟิก  
    • Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอและจอภาพ

    ✅ เป้าหมาย: สู้กับ AMD Zen 6 แบบจัง ๆ  
    • Intel มุ่งหวังทวงบัลลังก์ซีพียูเดสก์ท็อปคืนจากคู่แข่ง

    ‼️ ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่เพื่อใช้ Nova Lake-S  
    • ใช้ LGA 1854 socket และชิปเซตรุ่นใหม่ทั้งหมด  
    • ไม่สามารถใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดปัจจุบัน

    ‼️ ยังไม่มีการทดสอบจริง — ตัวเลขทั้งหมดมาจาก “ข่าวหลุด”  
    • ต้องรอ benchmark และประสิทธิภาพจริงจากผู้ผลิตหรือผู้ใช้งาน

    ‼️ จำนวนคอร์ที่มากขึ้นอาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป  
    • ถ้าซอฟต์แวร์ไม่ปรับให้รองรับการทำงานแบบ multi-thread อาจไม่ใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่า

    ‼️ TDP ระดับ 150W บ่งชี้ว่าอาจต้องระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น  
    • โดยเฉพาะรุ่น Core Ultra 9 / 7 ที่มีคอร์จำนวนมาก

    https://www.techspot.com/news/108337-intel-nova-lake-s-cpus-bring-massive-architectural.html
    Intel เตรียมเปิดตัว Nova Lake-S รุ่นถัดไปของซีพียูฝั่งเดสก์ท็อปใน ครึ่งหลังของปี 2026 ที่มาพร้อมแนวคิดใหม่ทั้งด้าน “สถาปัตยกรรม” และ “ขุมพลัง” ตัวท็อป Core Ultra 9 385K จะมีถึง 52 คอร์! โดยแบ่งเป็น 16 คอร์แรงจัด (P-core), 32 คอร์ประหยัด (E-core) และ 4 คอร์พลังต่ำพิเศษ (LPE-core) เรียกว่าเป็นการกระโดดจากรุ่นปัจจุบันที่มีสูงสุดแค่ 24 คอร์ แบบไม่เห็นฝุ่น แต่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการเปลี่ยนผ่านไปสู่ “ระบบแยกแผ่น (tile-based)” ซึ่งแต่ละกลุ่มคอร์จะถูกวางอยู่บนไดแยกกัน คล้ายกับแนวคิดของชิป Apple M-Series หรือ AMD 3D V-Cache เพื่อให้บริหารพลังงานและประสิทธิภาพได้แบบละเอียดสุด ๆ Intel ยังใส่ใจสายกราฟิกด้วยการแยกส่วน iGPU ออกเป็นสองกลุ่มชัดเจน: Xe3 “Celestial” สำหรับเรนเดอร์ และ Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอ/จอภาพ — ลดภาระเครื่องและเพิ่มเฟรมเรตสำหรับทั้งงานสร้างสรรค์และเกม Nova Lake-S ยังมาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่หมด ตั้งแต่ LGA 1854 Socket, แรม DDR5 8000+ MT/s, ไปจนถึง 48 เลน PCIe และระบบ USB/SATA แบบขยายเต็มพิกัด ✅ Nova Lake-S จะเป็นซีรีส์เดสก์ท็อปใหม่ของ Intel ที่เปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่   • เริ่มวางจำหน่ายครึ่งหลังปี 2026   • ใช้ดีไซน์แบบ tile-based คล้ายกับชิปยุคใหม่ เช่น Meteor Lake ✅ Core Ultra 9 385K: มีสูงสุดถึง 52 คอร์!   • แบ่งเป็น: 16 P-core + 32 E-core + 4 LPE-core   • เปรียบเทียบแล้วมากกว่ารุ่นก่อน (24 คอร์) เกินเท่าตัว ✅ ซีรีส์อื่นก็แรงไม่แพ้กัน   • Core Ultra 7: 42 คอร์   • Core Ultra 5: มีตั้งแต่ 18 ถึง 28 คอร์   • Core Ultra 3: รุ่นเล็กสุดยังมีถึง 16 คอร์ (พร้อม LPE-core) ✅ แรมและสถาปัตยกรรมใหม่   • รองรับ DDR5 สูงสุด 8000 MT/s และอาจไปถึง 10,000+ MT/s   • ใช้ Socket ใหม่ LGA 1854 และชิปเซต 900 ซีรีส์ ✅ ระบบกราฟิกในตัวแบบไฮบริด แยกเรนเดอร์/วิดีโอ   • Xe3 “Celestial” สำหรับเกมและกราฟิก   • Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอและจอภาพ ✅ เป้าหมาย: สู้กับ AMD Zen 6 แบบจัง ๆ   • Intel มุ่งหวังทวงบัลลังก์ซีพียูเดสก์ท็อปคืนจากคู่แข่ง ‼️ ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่เพื่อใช้ Nova Lake-S   • ใช้ LGA 1854 socket และชิปเซตรุ่นใหม่ทั้งหมด   • ไม่สามารถใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดปัจจุบัน ‼️ ยังไม่มีการทดสอบจริง — ตัวเลขทั้งหมดมาจาก “ข่าวหลุด”   • ต้องรอ benchmark และประสิทธิภาพจริงจากผู้ผลิตหรือผู้ใช้งาน ‼️ จำนวนคอร์ที่มากขึ้นอาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป   • ถ้าซอฟต์แวร์ไม่ปรับให้รองรับการทำงานแบบ multi-thread อาจไม่ใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่า ‼️ TDP ระดับ 150W บ่งชี้ว่าอาจต้องระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น   • โดยเฉพาะรุ่น Core Ultra 9 / 7 ที่มีคอร์จำนวนมาก https://www.techspot.com/news/108337-intel-nova-lake-s-cpus-bring-massive-architectural.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel's Nova Lake-S CPUs to bring massive architectural overhaul, up to 52 cores
    The flagship Core Ultra 9 385K model could feature a staggering 52 cores, comprising 16 high-performance P-cores, 32 efficiency-focused E-cores, and four 4 low-power LPE-cores – making...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกวันนี้เราใช้งาน AI อย่าง ChatGPT กันจนเป็นเรื่องปกติ—แต่รู้ไหมครับว่าแค่พิมพ์ถามคำถามหนึ่งครั้ง อาจมีผลต่อสิ่งแวดล้อมไม่น้อยเลย

    Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ออกมาเผยตัวเลขว่า คำถามหนึ่งคำถามบน ChatGPT ใช้พลังงานประมาณ 0.34 วัตต์-ชั่วโมง ซึ่งเท่ากับเปิดเตาอบประมาณ 1 วินาที หรือเปิดหลอดไฟประหยัดพลังงานประมาณ 2 นาที และใช้น้ำประมาณ 0.000085 แกลลอน (ประมาณ 1/15 ช้อนชา)

    แต่ในความเป็นจริง คำถามไม่ได้มีแค่คำถามเดียว—ทั่วโลกมีการยิงคำถามเข้าระบบเป็นพันล้านครั้งต่อวัน รวมแล้วผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมก็ “ไม่เล็ก” อีกต่อไป

    แอปวิเคราะห์คาร์บอนฟุตพรินต์ชื่อว่า Greenly เคยคำนวณว่า ChatGPT รุ่นแรก ใช้พลังงานจนปล่อย CO₂ ประมาณ 240 ตันต่อปี เทียบได้กับการบินระหว่างปารีส-นิวยอร์ก 136 เที่ยวไปกลับ!

    และถ้าองค์กรหนึ่งใช้ ChatGPT-4 เพื่อตอบอีเมลล้านฉบับต่อเดือน จะปล่อย CO₂ รวมกันปีละ 7,138 ตัน หรือเท่ากับการบินไป-กลับปารีส-นิวยอร์กถึง 4,300 เที่ยว 😱

    นักวิจัยจาก MIT ยังชี้ว่า การฝึกสอนโมเดลภาษาหลายตัว เทียบเท่าการปล่อยคาร์บอนของรถยนต์ในอเมริกาตลอดอายุการใช้งาน “ถึง 5 คัน” รวมการผลิตรถด้วยนะครับ ไม่ใช่แค่การขับ

    ✅ Altman เผยตัวเลขพลังงานที่ใช้ต่อ 1 คำถามของ ChatGPT  
    • ใช้พลังงาน 0.34 วัตต์-ชั่วโมง และน้ำประมาณ 1/15 ช้อนชา  
    • เทียบเท่ากับการเปิดเตาอบไฟฟ้า 1 วินาที หรือหลอดไฟ 2 นาที

    ✅ ผลกระทบสะสมมหาศาลเมื่อมีผู้ใช้จำนวนมาก  
    • ChatGPT เองยังตอบว่าผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหากใช้งานระดับพันล้านครั้ง

    ✅ รายงานจาก Greenly ระบุ ChatGPT-4 สร้าง CO₂ ประมาณ 7,138 ตัน/ปี (ใช้ตอบอีเมลล้านฉบับ/เดือน)  
    • เทียบเท่ากับเที่ยวบินไปกลับปารีส-นิวยอร์ก 4,300 เที่ยว

    ✅ แหล่งการปล่อย CO₂ ส่วนใหญ่มาจากการฝึก (Training)  
    • ระบบฝึกคิดเป็น 99% ของปริมาณคาร์บอนทั้งหมดในบางกรณี  
    • คิดเป็นประมาณ 238 ตัน CO₂ ต่อปีสำหรับรุ่นแรกของ ChatGPT

    ✅ MIT เปรียบเทียบว่าโมเดล LLM ปล่อย CO₂ เท่ารถยนต์ 5 คันรวมกันตลอดอายุการใช้งาน  
    • คำนวณรวมตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการใช้งาน

    ✅ แนวโน้ม “AI ขนาดเล็ก ประสิทธิภาพสูง” กำลังมาแรงเพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม  
    • เป็นทางเลือกให้ใช้งานได้แบบพอดี โดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรสูงแบบ LLM ขนาดใหญ่

    ‼️ AI แม้ตอบได้ฉลาด แต่ไม่ใช่ “ไร้มลพิษ” อย่างที่เข้าใจกัน  
    • การใช้งานมากเกินจำเป็น หรือใช้แบบไม่ได้วางแผน อาจมีผลต่อสิ่งแวดล้อมสูง

    ‼️ การฝึกโมเดลขนาดใหญ่มีผลกระทบสูงมากต่อทรัพยากรโลก  
    • โดยเฉพาะการใช้ไฟฟ้า น้ำ และการผลิตอุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์

    ‼️ ปริมาณน้ำที่ใช้ต่อ query ดูเหมือนน้อย แต่สะสมแล้วสูงมากในระดับโลก  
    • ยิ่งมีการขยายเซิร์ฟเวอร์ AI ทั่วโลก ยิ่งต้องคำนึงถึง “Water Footprint” มากขึ้น

    ‼️ ข้อมูลจาก Altman เป็นค่าเฉลี่ย ไม่ได้แสดงความแปรผันตามรูปแบบคำถามที่ซับซ้อนกว่า  
    • คำถามที่ใช้ context เยอะ หรือเรียกโมเดลขนาดใหญ่ อาจใช้พลังงานมากกว่าค่าเฉลี่ยหลายเท่า

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/18/the-environmental-cost-of-a-chatgpt-query-according-to-openai039s-ceo
    ทุกวันนี้เราใช้งาน AI อย่าง ChatGPT กันจนเป็นเรื่องปกติ—แต่รู้ไหมครับว่าแค่พิมพ์ถามคำถามหนึ่งครั้ง อาจมีผลต่อสิ่งแวดล้อมไม่น้อยเลย Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ออกมาเผยตัวเลขว่า คำถามหนึ่งคำถามบน ChatGPT ใช้พลังงานประมาณ 0.34 วัตต์-ชั่วโมง ซึ่งเท่ากับเปิดเตาอบประมาณ 1 วินาที หรือเปิดหลอดไฟประหยัดพลังงานประมาณ 2 นาที และใช้น้ำประมาณ 0.000085 แกลลอน (ประมาณ 1/15 ช้อนชา) แต่ในความเป็นจริง คำถามไม่ได้มีแค่คำถามเดียว—ทั่วโลกมีการยิงคำถามเข้าระบบเป็นพันล้านครั้งต่อวัน รวมแล้วผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมก็ “ไม่เล็ก” อีกต่อไป แอปวิเคราะห์คาร์บอนฟุตพรินต์ชื่อว่า Greenly เคยคำนวณว่า ChatGPT รุ่นแรก ใช้พลังงานจนปล่อย CO₂ ประมาณ 240 ตันต่อปี เทียบได้กับการบินระหว่างปารีส-นิวยอร์ก 136 เที่ยวไปกลับ! และถ้าองค์กรหนึ่งใช้ ChatGPT-4 เพื่อตอบอีเมลล้านฉบับต่อเดือน จะปล่อย CO₂ รวมกันปีละ 7,138 ตัน หรือเท่ากับการบินไป-กลับปารีส-นิวยอร์กถึง 4,300 เที่ยว 😱 นักวิจัยจาก MIT ยังชี้ว่า การฝึกสอนโมเดลภาษาหลายตัว เทียบเท่าการปล่อยคาร์บอนของรถยนต์ในอเมริกาตลอดอายุการใช้งาน “ถึง 5 คัน” รวมการผลิตรถด้วยนะครับ ไม่ใช่แค่การขับ ✅ Altman เผยตัวเลขพลังงานที่ใช้ต่อ 1 คำถามของ ChatGPT   • ใช้พลังงาน 0.34 วัตต์-ชั่วโมง และน้ำประมาณ 1/15 ช้อนชา   • เทียบเท่ากับการเปิดเตาอบไฟฟ้า 1 วินาที หรือหลอดไฟ 2 นาที ✅ ผลกระทบสะสมมหาศาลเมื่อมีผู้ใช้จำนวนมาก   • ChatGPT เองยังตอบว่าผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหากใช้งานระดับพันล้านครั้ง ✅ รายงานจาก Greenly ระบุ ChatGPT-4 สร้าง CO₂ ประมาณ 7,138 ตัน/ปี (ใช้ตอบอีเมลล้านฉบับ/เดือน)   • เทียบเท่ากับเที่ยวบินไปกลับปารีส-นิวยอร์ก 4,300 เที่ยว ✅ แหล่งการปล่อย CO₂ ส่วนใหญ่มาจากการฝึก (Training)   • ระบบฝึกคิดเป็น 99% ของปริมาณคาร์บอนทั้งหมดในบางกรณี   • คิดเป็นประมาณ 238 ตัน CO₂ ต่อปีสำหรับรุ่นแรกของ ChatGPT ✅ MIT เปรียบเทียบว่าโมเดล LLM ปล่อย CO₂ เท่ารถยนต์ 5 คันรวมกันตลอดอายุการใช้งาน   • คำนวณรวมตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการใช้งาน ✅ แนวโน้ม “AI ขนาดเล็ก ประสิทธิภาพสูง” กำลังมาแรงเพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม   • เป็นทางเลือกให้ใช้งานได้แบบพอดี โดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรสูงแบบ LLM ขนาดใหญ่ ‼️ AI แม้ตอบได้ฉลาด แต่ไม่ใช่ “ไร้มลพิษ” อย่างที่เข้าใจกัน   • การใช้งานมากเกินจำเป็น หรือใช้แบบไม่ได้วางแผน อาจมีผลต่อสิ่งแวดล้อมสูง ‼️ การฝึกโมเดลขนาดใหญ่มีผลกระทบสูงมากต่อทรัพยากรโลก   • โดยเฉพาะการใช้ไฟฟ้า น้ำ และการผลิตอุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์ ‼️ ปริมาณน้ำที่ใช้ต่อ query ดูเหมือนน้อย แต่สะสมแล้วสูงมากในระดับโลก   • ยิ่งมีการขยายเซิร์ฟเวอร์ AI ทั่วโลก ยิ่งต้องคำนึงถึง “Water Footprint” มากขึ้น ‼️ ข้อมูลจาก Altman เป็นค่าเฉลี่ย ไม่ได้แสดงความแปรผันตามรูปแบบคำถามที่ซับซ้อนกว่า   • คำถามที่ใช้ context เยอะ หรือเรียกโมเดลขนาดใหญ่ อาจใช้พลังงานมากกว่าค่าเฉลี่ยหลายเท่า https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/18/the-environmental-cost-of-a-chatgpt-query-according-to-openai039s-ceo
    WWW.THESTAR.COM.MY
    The environmental cost of a ChatGPT query, according to OpenAI's CEO
    What is the environmental impact of using large language models such as ChatGPT? It's difficult to say, although several studies on the subject have already been conducted.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายประเทศในลาตินอเมริกาไม่อยากเป็นแค่ "ผู้บริโภค AI" อีกต่อไป พวกเขารวมตัวกันกว่า 12 ประเทศ โดยมีชิลีเป็นแกนกลาง ผ่านศูนย์ CENIA (National Center for AI) เพื่อพัฒนาโมเดล AI ภาษาใหญ่ของตัวเองชื่อ Latam-GPT

    จุดเด่นคือโมเดลนี้จะเข้าใจบริบท วัฒนธรรม และภาษาเฉพาะถิ่นของลาตินอเมริกาได้ดีกว่าโมเดลที่ถูกฝึกด้วยภาษาอังกฤษแบบตะวันตก เช่น ChatGPT หรือ Gemini แถมยัง “โอเพนซอร์ส” เปิดให้ใคร ๆ ในภูมิภาคนำไปใช้หรือพัฒนาต่อยอดได้

    อีกหนึ่งไฮไลต์คือ การรักษาภาษา Indigenous อย่าง Rapa Nui ซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองของ Easter Island พวกเขาสร้างระบบแปลไว้แล้วเพื่อให้ใช้ในบริการสาธารณะ เช่น แชตบอทหน่วยงานรัฐหรือแพลตฟอร์มการศึกษาสำหรับชุมชน

    Latam-GPT จะใช้เทคโนโลยีพื้นฐานจาก Llama 3 ของ Meta และพัฒนาโดยใช้ทรัพยากรประมวลผลจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ รวมถึงคลาวด์จาก Amazon ด้วย

    ✅ 12 ประเทศในลาตินอเมริการ่วมพัฒนาโมเดล Latam-GPT เปิดตัว ก.ย. 2025  
    • นำโดยชิลี และศูนย์วิจัย CENIA พร้อมสถาบันในภูมิภาคกว่า 30 แห่ง  
    • พัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ที่เข้าใจภาษาและวัฒนธรรมเฉพาะถิ่น

    ✅ เป้าหมายคือการกระจาย AI ให้เข้าถึงผู้คนทุกกลุ่ม (AI democratization)  
    • วางแผนใช้ในโรงเรียน โรงพยาบาล และระบบบริการภาครัฐ

    ✅ เน้นการอนุรักษ์ภาษา Indigenous เช่น Rapa Nui  
    • สร้างระบบแปลภาษาเพื่อการใช้งานเชิงบริการและการศึกษา

    ✅ พัฒนาด้วยเทคโนโลยี Llama 3 จาก Meta  
    • ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ระดับภูมิภาค รวมถึงคลาวด์ของ AWS

    ✅ ยังไม่มีงบประมาณเฉพาะ แต่หวังดึงเงินทุนจากภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติมภายหลัง  
    • CENIA ระบุว่าหากโชว์ศักยภาพได้ จะมีผู้สนับสนุนเพิ่มขึ้นแน่นอน

    ‼️ การที่ Latam-GPT เปิดโอเพนซอร์ส อาจเสี่ยงต่อการนำไปใช้ในทางที่ผิด  
    • โดยเฉพาะในภูมิภาคที่การควบคุมการใช้เทคโนโลยียังไม่เข้มงวด

    ‼️ การใช้ LLM กับภาษาเฉพาะถิ่นต้องใช้ข้อมูลเทรนมากพอ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เกิด bias  
    • หากรวบรวมข้อมูลน้อยหรือไม่หลากหลาย AI อาจเข้าใจผิดหรือตอบไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรม

    ‼️ การพัฒนา AI ข้ามประเทศหลายฝ่าย อาจขัดแย้งกันด้านสิทธิ์และการควบคุมในอนาคต  
    • ต้องมีข้อตกลงชัดเจนด้านกฎหมายระหว่างประเทศ และการแบ่งปันผลประโยชน์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/18/latin-american-countries-to-launch-own-ai-model-in-september
    หลายประเทศในลาตินอเมริกาไม่อยากเป็นแค่ "ผู้บริโภค AI" อีกต่อไป พวกเขารวมตัวกันกว่า 12 ประเทศ โดยมีชิลีเป็นแกนกลาง ผ่านศูนย์ CENIA (National Center for AI) เพื่อพัฒนาโมเดล AI ภาษาใหญ่ของตัวเองชื่อ Latam-GPT จุดเด่นคือโมเดลนี้จะเข้าใจบริบท วัฒนธรรม และภาษาเฉพาะถิ่นของลาตินอเมริกาได้ดีกว่าโมเดลที่ถูกฝึกด้วยภาษาอังกฤษแบบตะวันตก เช่น ChatGPT หรือ Gemini แถมยัง “โอเพนซอร์ส” เปิดให้ใคร ๆ ในภูมิภาคนำไปใช้หรือพัฒนาต่อยอดได้ อีกหนึ่งไฮไลต์คือ การรักษาภาษา Indigenous อย่าง Rapa Nui ซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองของ Easter Island พวกเขาสร้างระบบแปลไว้แล้วเพื่อให้ใช้ในบริการสาธารณะ เช่น แชตบอทหน่วยงานรัฐหรือแพลตฟอร์มการศึกษาสำหรับชุมชน Latam-GPT จะใช้เทคโนโลยีพื้นฐานจาก Llama 3 ของ Meta และพัฒนาโดยใช้ทรัพยากรประมวลผลจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ รวมถึงคลาวด์จาก Amazon ด้วย ✅ 12 ประเทศในลาตินอเมริการ่วมพัฒนาโมเดล Latam-GPT เปิดตัว ก.ย. 2025   • นำโดยชิลี และศูนย์วิจัย CENIA พร้อมสถาบันในภูมิภาคกว่า 30 แห่ง   • พัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ที่เข้าใจภาษาและวัฒนธรรมเฉพาะถิ่น ✅ เป้าหมายคือการกระจาย AI ให้เข้าถึงผู้คนทุกกลุ่ม (AI democratization)   • วางแผนใช้ในโรงเรียน โรงพยาบาล และระบบบริการภาครัฐ ✅ เน้นการอนุรักษ์ภาษา Indigenous เช่น Rapa Nui   • สร้างระบบแปลภาษาเพื่อการใช้งานเชิงบริการและการศึกษา ✅ พัฒนาด้วยเทคโนโลยี Llama 3 จาก Meta   • ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ระดับภูมิภาค รวมถึงคลาวด์ของ AWS ✅ ยังไม่มีงบประมาณเฉพาะ แต่หวังดึงเงินทุนจากภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติมภายหลัง   • CENIA ระบุว่าหากโชว์ศักยภาพได้ จะมีผู้สนับสนุนเพิ่มขึ้นแน่นอน ‼️ การที่ Latam-GPT เปิดโอเพนซอร์ส อาจเสี่ยงต่อการนำไปใช้ในทางที่ผิด   • โดยเฉพาะในภูมิภาคที่การควบคุมการใช้เทคโนโลยียังไม่เข้มงวด ‼️ การใช้ LLM กับภาษาเฉพาะถิ่นต้องใช้ข้อมูลเทรนมากพอ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เกิด bias   • หากรวบรวมข้อมูลน้อยหรือไม่หลากหลาย AI อาจเข้าใจผิดหรือตอบไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรม ‼️ การพัฒนา AI ข้ามประเทศหลายฝ่าย อาจขัดแย้งกันด้านสิทธิ์และการควบคุมในอนาคต   • ต้องมีข้อตกลงชัดเจนด้านกฎหมายระหว่างประเทศ และการแบ่งปันผลประโยชน์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/18/latin-american-countries-to-launch-own-ai-model-in-september
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Latin American countries to launch own AI model in September
    SANTIAGO (Reuters) -A dozen Latin American countries are collaborating to launch Latam-GPT in September, the first large artificial intelligence language model trained to understand the region's diverse cultures and linguistic nuances, Chilean officials said on Tuesday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ยุคนี้ สิ่งชั่วเลวใดๆและอะไรที่เขมรไม่ทำไม่มี.
    ..deep state มากมายจากทั่วโลกถูกไล่ล่าเด็ดชีพไปมากมาย,พม่าคือคัวอย่างที่ดีเห็นภาพง่ายขึ้นหากจะเทียบยกมาอีกหลายๆชาติทั่วโลก ย้ายฐานมาเขมรมาอาเชียนมาเอเชียก็ว่า ตลอดซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่ปีก็พวกก่อการร้ายจากทั่วโลกนั้นล่ะ แถวอาหรับทะเลทรายยิ่งตัวดี ดังยุคนั้นก็คงรู้,deep stateหล่อเลี้ยงส่งท่อเลี้ยงเพื่อปั่นป่วนในการแย่งชิงวัตถุดิบทรัพยากรมีค่าแร่หายากในแต่ละชาตินั้นๆล่ะจะยึดปกครองประเทศนั้นๆมั่นคงไปเลยก็ว่า,ไม่ต่างจากไทย ไทยเราตอนนี้เนื้อหอมด้วย,สารพัดทรัพยากรมากมายไหลมารวมที่ไทยก็มากปกติต่างจากยุคอดีตมากอาจเพราะสนามแม่เหล็กโลกกำลังเปลี่ยนแปลงและจุดสิ้นสุดคือไทยเป็นฮับสิ่งดีๆจากทั้งโลกนัันเอง,ทองคำก็จะไหลมาไทยสายแร่ทองคำก็ว่า,บ่อน้ำมันยิ่งไม่ต้องพูดถึงไหลเป็นสายเปลี่ยนทิศทางไหลมารวมที่ไทยเรานี้ ดูดมาใช้อีกหลายพันปีก็ไม่หมดหรือจนสิ้นยุครัตนโกสินทร์เราไปอีกก็ยังไม่หมดก็ว่า,และอื่นๆตรึมอาจแร่สุดยอดกว่าดาวอังคารอีกมาอยู่ที่ไทยเมื่อบารมีถึงจังหวะเวลาเหมาะสมจะเปิดเอง,ไม่รวมฮับพลังงานจักรวาลอีกแบบฐานพลังงานมหาศาลเชื่อมจักรวาลมหาจักรวาลต่างๆต่างจิตวิญญาณนี้ก็อยู่ที่ไทย ทั่วจักรวาลลงใจไว้วางใจที่ไทยเรา,ไทยเราอนาคตอันต่อไปพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปก็เกิดที่แผ่นดินไทยเรานี้แต่ชื่อประเทศไทยอาจเปลี่ยนแปลงไปแล้วเพราะกาลเวลาขึ้นลงจนพระองค์มาเกิดมาประสูติมันน้อยๆที่ไหน.,ยุคพระศรีอาริยะฯก็ว่า,คนมีบุญจริงๆโน้นมีศีลมีธรรมพิเศษบริสุทธิ์ระดับหนึ่งจึงมีโอกาสได้เกิดมาร่วมยุคสมัยพระองค์ท่าน,แต่ยุคปัจจุบันเรานี้ก็ไม่น้อยหน้านะ คนไทยเรามีบุญไม่น้อยยังทันเห็นพระพุทธศาสนาอยู่เห็นนักบวชพระเณรคนปฏิบัติธรรมรักษาศีลให้เห็นเป็นสมมุติประจำโลก,
    ..คนไทยเราโชคดีเห็นขยะติดพื้นที่บ้างจึงจะได้ไม่ลืมสถานะว่าไม่มีขยะมันดีกว่าอย่างไร,มีสิ่งดีงามสร้างสิ่งดีงามเจริญในสิ่งดีงามทั้งทางภายในและภายนอกมันดีกว่ามีขยะทั้งภายในและภายนอกแบบใด.,สามัคคีร่วมใจกำจัดขยะนี้ก็ผลดีจากมีขยะนี้อีกจึงเข้าใจว่าสามัคคีในเรามันดีจริงอย่างไร.
    ..#ทุกๆประเทศทั่วโลกต้องแบนเขมรภัยอันตรายของโลก

    https://youtu.be/j9soFF4WerU?si=5zC74J5EWFiEGAdK
    ..ยุคนี้ สิ่งชั่วเลวใดๆและอะไรที่เขมรไม่ทำไม่มี. ..deep state มากมายจากทั่วโลกถูกไล่ล่าเด็ดชีพไปมากมาย,พม่าคือคัวอย่างที่ดีเห็นภาพง่ายขึ้นหากจะเทียบยกมาอีกหลายๆชาติทั่วโลก ย้ายฐานมาเขมรมาอาเชียนมาเอเชียก็ว่า ตลอดซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่ปีก็พวกก่อการร้ายจากทั่วโลกนั้นล่ะ แถวอาหรับทะเลทรายยิ่งตัวดี ดังยุคนั้นก็คงรู้,deep stateหล่อเลี้ยงส่งท่อเลี้ยงเพื่อปั่นป่วนในการแย่งชิงวัตถุดิบทรัพยากรมีค่าแร่หายากในแต่ละชาตินั้นๆล่ะจะยึดปกครองประเทศนั้นๆมั่นคงไปเลยก็ว่า,ไม่ต่างจากไทย ไทยเราตอนนี้เนื้อหอมด้วย,สารพัดทรัพยากรมากมายไหลมารวมที่ไทยก็มากปกติต่างจากยุคอดีตมากอาจเพราะสนามแม่เหล็กโลกกำลังเปลี่ยนแปลงและจุดสิ้นสุดคือไทยเป็นฮับสิ่งดีๆจากทั้งโลกนัันเอง,ทองคำก็จะไหลมาไทยสายแร่ทองคำก็ว่า,บ่อน้ำมันยิ่งไม่ต้องพูดถึงไหลเป็นสายเปลี่ยนทิศทางไหลมารวมที่ไทยเรานี้ ดูดมาใช้อีกหลายพันปีก็ไม่หมดหรือจนสิ้นยุครัตนโกสินทร์เราไปอีกก็ยังไม่หมดก็ว่า,และอื่นๆตรึมอาจแร่สุดยอดกว่าดาวอังคารอีกมาอยู่ที่ไทยเมื่อบารมีถึงจังหวะเวลาเหมาะสมจะเปิดเอง,ไม่รวมฮับพลังงานจักรวาลอีกแบบฐานพลังงานมหาศาลเชื่อมจักรวาลมหาจักรวาลต่างๆต่างจิตวิญญาณนี้ก็อยู่ที่ไทย ทั่วจักรวาลลงใจไว้วางใจที่ไทยเรา,ไทยเราอนาคตอันต่อไปพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปก็เกิดที่แผ่นดินไทยเรานี้แต่ชื่อประเทศไทยอาจเปลี่ยนแปลงไปแล้วเพราะกาลเวลาขึ้นลงจนพระองค์มาเกิดมาประสูติมันน้อยๆที่ไหน.,ยุคพระศรีอาริยะฯก็ว่า,คนมีบุญจริงๆโน้นมีศีลมีธรรมพิเศษบริสุทธิ์ระดับหนึ่งจึงมีโอกาสได้เกิดมาร่วมยุคสมัยพระองค์ท่าน,แต่ยุคปัจจุบันเรานี้ก็ไม่น้อยหน้านะ คนไทยเรามีบุญไม่น้อยยังทันเห็นพระพุทธศาสนาอยู่เห็นนักบวชพระเณรคนปฏิบัติธรรมรักษาศีลให้เห็นเป็นสมมุติประจำโลก, ..คนไทยเราโชคดีเห็นขยะติดพื้นที่บ้างจึงจะได้ไม่ลืมสถานะว่าไม่มีขยะมันดีกว่าอย่างไร,มีสิ่งดีงามสร้างสิ่งดีงามเจริญในสิ่งดีงามทั้งทางภายในและภายนอกมันดีกว่ามีขยะทั้งภายในและภายนอกแบบใด.,สามัคคีร่วมใจกำจัดขยะนี้ก็ผลดีจากมีขยะนี้อีกจึงเข้าใจว่าสามัคคีในเรามันดีจริงอย่างไร. ..#ทุกๆประเทศทั่วโลกต้องแบนเขมรภัยอันตรายของโลก https://youtu.be/j9soFF4WerU?si=5zC74J5EWFiEGAdK
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักข่าวชื่อดังของอิหร่าน Khayal Muazzin อธิบายสถานการณ์ภายในอิหร่านในช่วงวันแรกที่ถูกโจมตีจากอิสราเอล และประเด็นด้านความมั่นคงของอิหร่าน:

    🟢 ช่วง 30 ชั่วโมงที่ผ่านมา หน่วยข่าวกรองของอิหร่านสามารถระบุรูปแบบการโจมตีของหน่วยข่าวกรอง Mossad ได้แล้ว ทำให้แกะรอยย้อนกลับไปตามเบาะแสต่างๆ จนสามารถค้นพบโรงงานใต้ดินหลายแห่งที่แอบลักลอบสร้างโดรนโจมตีภายในเตหะราน

    🟢 โดรนโจมตีที่หน่วยข่าวกรองอิหร่านค้นพบเหล่านี้มีจำนวนมากถึง 80% หากเทียบกับจำนวนโดรนที่ระบอบไซออนิสต์ใช้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งไม่เคยมีใครตรวจเจอมาก่อน และตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าทำไมการโจมตีของอิสราเอลถึงรุนแรงและสร้างความเสียหายได้มาก เพราะการโจมตีมาจากภายในดินแดนของเราเอง

    🟢 การที่เตหะรานและอิสฟาฮานถูกโจมตีอย่างแสนสาหัส เป็นผลมาจากโดรนในโรงงานลับเหล่านี้ ตามข้อมูลล่าสุด 90% ของการทำลายล้างไม่เกี่ยวข้องกับการรุกรานจากภายนอก แต่เป็นการปฏิบัติการที่จัดขึ้นจากดินแดนของประเทศเราเอง อิสราเอลสามารถเจาะลึกได้โดยใช้ช่องทางข่าวกรองและการสนับสนุนจากภายใน แต่ตอนนี้ขั้นตอนการเปิดโปงและการชำระล้างได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เจ้าหน้าที่มีการตรวจตราในระดับที่เข้มงวด และสามารถจับกุมกลุ่มก่อวินาศกรรมของอิสราเอลมากมาย รวมทั้งเข้าทลายโรงงานผลิต นั่นทำให้ระดับอันตรายลดลงอย่างรวดเร็วจากการโจมตีภายใน จากการคาดการณ์เชื่อว่าลดลงอย่างน้อย 80%

    🟢 หลายคนถามว่าทำไม Kermanshah และ Tabriz (คลังขีปนาวุธใต้ดินขนาดใหญ่) ถึงตกเป็นเป้าหมายโจมตีซ้ำหลายครั้ง คำตอบนั้นง่ายมาก เพราะยังมีคนในรัฐบาลที่เชื่อในคำพูดรับประกันของสหรัฐฯ ว่าจะไม่ทำอะไรพวกเรา ภาพลวงตาของความปลอดภัยเหล่านั้นกลายเป็นโศกนาฏกรรมบนดินแดนของเรา

    🟢 สำหรับพลังของกองทัพอากาศอิสราเอลนั้นถือถูกนำเสนอเกินจริงไปมาก หลังจากระบบป้องกันภัยทางอากาศยิงเครื่องบินรบขั้นสูงหลายลำตกทางตะวันตกของประเทศ เครื่องบิน F-35 ก็ไม่กล้าเข้าใกล้พื้นที่น่านฟ้าของอิหร่านอีกต่อไป พวกเขาเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีทั้งหมดเป็นดำเนินการโดยระบบดาวเทียมและการประสานงานกับตัวแทนในพื้นที่ หรือผ่านช่องทางการก่อวินาศกรรมภายในประเทศ

    🟢 การเสียชีวิตของผู้บัญชาการ IRGC ไม่ใช่การแสดงความแข็งแกร่งของศัตรู แต่เป็นผลจากความล้มเหลวในการรักษาความปลอดภัยภายในของเราเอง คุณไม่สามารถโทษศัตรูได้ในเรื่องเหล่านี้ เพราะมันเป็นผลมาจากข้อบกพร่องภายในของเรา ด้วยเหตุนี้เองที่ทพให้อิหร่านต้องดำเนินการด้วยความอดกลั้นและระมัดระวัง เป้าหมายหลักในช่วงแรกของเราคือการกำจัดโรงงานภายในเพื่อหยุดยั้งการโจมตีทั้งหมด

    🟢 ช่วงเวลายากลำบากนั้นผ่านไปแล้ว อิสราเอลไม่ได้มีไพ่เด็ดอีกต่อไป และถึงคราวที่อิหร่านจะต้องพูดในภาษาที่ศัตรูเข้าใจจริงๆ อิสราเอลกลัวการเผชิญหน้าอย่างเปิดเผย และเราสามารถเห็นได้แล้วว่าพวกเขาใช้ทรัพยากรทั้งหมดอย่างไร เพราะตระหนักดีว่าสิ่งที่ตนมีคือเวลา และเวลากำลังขัดขวางพวกเขา

    🟢 การเป็นผู้นำปฏิบัติการตอบโต้ครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในมือของสภาความมั่นคงแห่งชาติแล้ว แต่เป็นการตัดสินใจจากสำนักงานใหญ่ของผู้นำสูงสุดและกองบัญชาการทหาร สงครามกำลังดำเนินไปอย่างเลือดเย็นและไม่มีการประนีประนอม อิหร่านมีคลังขีปนาวุธซ่อนอยู่ใต้ดินลึกมากๆ และยังไม่เคยถูกโจมตีจากศัตรูแม้แต่ครั้งเดียว

    🟢 ขอพูดซ้ำอีกครั้งว่า อิสราเอลเป็นผู้เริ่ม แต่อิหร่านจะทำให้มันจบลง
    นักข่าวชื่อดังของอิหร่าน Khayal Muazzin อธิบายสถานการณ์ภายในอิหร่านในช่วงวันแรกที่ถูกโจมตีจากอิสราเอล และประเด็นด้านความมั่นคงของอิหร่าน: 🟢 ช่วง 30 ชั่วโมงที่ผ่านมา หน่วยข่าวกรองของอิหร่านสามารถระบุรูปแบบการโจมตีของหน่วยข่าวกรอง Mossad ได้แล้ว ทำให้แกะรอยย้อนกลับไปตามเบาะแสต่างๆ จนสามารถค้นพบโรงงานใต้ดินหลายแห่งที่แอบลักลอบสร้างโดรนโจมตีภายในเตหะราน 🟢 โดรนโจมตีที่หน่วยข่าวกรองอิหร่านค้นพบเหล่านี้มีจำนวนมากถึง 80% หากเทียบกับจำนวนโดรนที่ระบอบไซออนิสต์ใช้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งไม่เคยมีใครตรวจเจอมาก่อน และตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าทำไมการโจมตีของอิสราเอลถึงรุนแรงและสร้างความเสียหายได้มาก เพราะการโจมตีมาจากภายในดินแดนของเราเอง 🟢 การที่เตหะรานและอิสฟาฮานถูกโจมตีอย่างแสนสาหัส เป็นผลมาจากโดรนในโรงงานลับเหล่านี้ ตามข้อมูลล่าสุด 90% ของการทำลายล้างไม่เกี่ยวข้องกับการรุกรานจากภายนอก แต่เป็นการปฏิบัติการที่จัดขึ้นจากดินแดนของประเทศเราเอง อิสราเอลสามารถเจาะลึกได้โดยใช้ช่องทางข่าวกรองและการสนับสนุนจากภายใน แต่ตอนนี้ขั้นตอนการเปิดโปงและการชำระล้างได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เจ้าหน้าที่มีการตรวจตราในระดับที่เข้มงวด และสามารถจับกุมกลุ่มก่อวินาศกรรมของอิสราเอลมากมาย รวมทั้งเข้าทลายโรงงานผลิต นั่นทำให้ระดับอันตรายลดลงอย่างรวดเร็วจากการโจมตีภายใน จากการคาดการณ์เชื่อว่าลดลงอย่างน้อย 80% 🟢 หลายคนถามว่าทำไม Kermanshah และ Tabriz (คลังขีปนาวุธใต้ดินขนาดใหญ่) ถึงตกเป็นเป้าหมายโจมตีซ้ำหลายครั้ง คำตอบนั้นง่ายมาก เพราะยังมีคนในรัฐบาลที่เชื่อในคำพูดรับประกันของสหรัฐฯ ว่าจะไม่ทำอะไรพวกเรา ภาพลวงตาของความปลอดภัยเหล่านั้นกลายเป็นโศกนาฏกรรมบนดินแดนของเรา 🟢 สำหรับพลังของกองทัพอากาศอิสราเอลนั้นถือถูกนำเสนอเกินจริงไปมาก หลังจากระบบป้องกันภัยทางอากาศยิงเครื่องบินรบขั้นสูงหลายลำตกทางตะวันตกของประเทศ เครื่องบิน F-35 ก็ไม่กล้าเข้าใกล้พื้นที่น่านฟ้าของอิหร่านอีกต่อไป พวกเขาเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีทั้งหมดเป็นดำเนินการโดยระบบดาวเทียมและการประสานงานกับตัวแทนในพื้นที่ หรือผ่านช่องทางการก่อวินาศกรรมภายในประเทศ 🟢 การเสียชีวิตของผู้บัญชาการ IRGC ไม่ใช่การแสดงความแข็งแกร่งของศัตรู แต่เป็นผลจากความล้มเหลวในการรักษาความปลอดภัยภายในของเราเอง คุณไม่สามารถโทษศัตรูได้ในเรื่องเหล่านี้ เพราะมันเป็นผลมาจากข้อบกพร่องภายในของเรา ด้วยเหตุนี้เองที่ทพให้อิหร่านต้องดำเนินการด้วยความอดกลั้นและระมัดระวัง เป้าหมายหลักในช่วงแรกของเราคือการกำจัดโรงงานภายในเพื่อหยุดยั้งการโจมตีทั้งหมด 🟢 ช่วงเวลายากลำบากนั้นผ่านไปแล้ว อิสราเอลไม่ได้มีไพ่เด็ดอีกต่อไป และถึงคราวที่อิหร่านจะต้องพูดในภาษาที่ศัตรูเข้าใจจริงๆ อิสราเอลกลัวการเผชิญหน้าอย่างเปิดเผย และเราสามารถเห็นได้แล้วว่าพวกเขาใช้ทรัพยากรทั้งหมดอย่างไร เพราะตระหนักดีว่าสิ่งที่ตนมีคือเวลา และเวลากำลังขัดขวางพวกเขา 🟢 การเป็นผู้นำปฏิบัติการตอบโต้ครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในมือของสภาความมั่นคงแห่งชาติแล้ว แต่เป็นการตัดสินใจจากสำนักงานใหญ่ของผู้นำสูงสุดและกองบัญชาการทหาร สงครามกำลังดำเนินไปอย่างเลือดเย็นและไม่มีการประนีประนอม อิหร่านมีคลังขีปนาวุธซ่อนอยู่ใต้ดินลึกมากๆ และยังไม่เคยถูกโจมตีจากศัตรูแม้แต่ครั้งเดียว 🟢 ขอพูดซ้ำอีกครั้งว่า อิสราเอลเป็นผู้เริ่ม แต่อิหร่านจะทำให้มันจบลง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🍽️ AI ช่วยลดขยะอาหารบนเครื่องบิน
    สายการบินกำลังใช้ AI เพื่อปรับปรุงการวางแผนอาหารบนเที่ยวบิน ลดปัญหาการสั่งอาหารเกินหรือขาด และช่วยลดขยะอาหารที่เกิดขึ้น

    ✅ การนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมการบิน
    - สายการบิน AirAsia ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการสั่งอาหารของผู้โดยสาร
    - ระบบสามารถคาดการณ์ความต้องการอาหารโดยอิงจาก ข้อมูลประวัติการขายและพฤติกรรมผู้โดยสาร
    - AI ช่วยลดขยะอาหารบนเที่ยวบินได้ถึง 20% ในปีที่ผ่านมา
    - ระบบสามารถปรับเมนูตาม ฤดูกาลและเทศกาล เช่น ช่วงถือศีลอดหรือวันหยุดสำคัญ

    ‼️ ข้อควรระวัง
    - การใช้ AI ต้องมีการปกป้องข้อมูลผู้โดยสาร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านความเป็นส่วนตัว
    - ต้นทุนการติดตั้งระบบ AI สูง อาจเป็นอุปสรรคสำหรับสายการบินขนาดเล็ก
    - ต้องมีการตรวจสอบความแม่นยำของ AI เพื่อให้แน่ใจว่าการคาดการณ์สอดคล้องกับความต้องการจริง

    ✅ การนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร
    - โรงแรม Hilton ใช้ AI เพื่อลดขยะอาหารในช่วง เดือนรอมฎอน
    - ระบบ AI สามารถวิเคราะห์ ภาพถ่ายอาหารที่เหลือ เพื่อปรับปรุงเมนูให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า
    - AI ช่วยให้ร้านอาหารสามารถปรับ ขนาดของอาหาร เพื่อลดการทิ้งขยะโดยไม่จำเป็น

    ‼️ ข้อควรระวังในการใช้ AI
    - ต้องมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยของข้อมูล เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ์ของลูกค้า
    - AI อาจมีข้อจำกัดในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น ความชอบส่วนตัวของลูกค้า
    - ต้องมีการตรวจสอบผลลัพธ์ของ AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    🌍 อนาคตของ AI ในการลดขยะอาหาร
    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยี AI
    - AI สามารถช่วย คาดการณ์ปริมาณอาหารที่ต้องผลิต เพื่อลดการสูญเสียทรัพยากร
    - ระบบ AI สามารถช่วย ปรับปรุงกระบวนการจัดเก็บอาหาร เพื่อยืดอายุการใช้งาน
    - AI อาจถูกนำมาใช้ใน การบริหารจัดการอาหารในระดับประเทศ เพื่อลดปัญหาขาดแคลนอาหาร

    ‼️ ข้อควรระวังในการพัฒนา AI
    - ต้องมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน เพื่อให้ AI ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
    - ต้องมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ AI สามารถทำงานร่วมกับระบบที่มีอยู่ได้
    - ต้องมีการศึกษาและพัฒนา AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงได้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/16/ai-takes-on-food-waste
    🍽️ AI ช่วยลดขยะอาหารบนเครื่องบิน สายการบินกำลังใช้ AI เพื่อปรับปรุงการวางแผนอาหารบนเที่ยวบิน ลดปัญหาการสั่งอาหารเกินหรือขาด และช่วยลดขยะอาหารที่เกิดขึ้น ✅ การนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมการบิน - สายการบิน AirAsia ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการสั่งอาหารของผู้โดยสาร - ระบบสามารถคาดการณ์ความต้องการอาหารโดยอิงจาก ข้อมูลประวัติการขายและพฤติกรรมผู้โดยสาร - AI ช่วยลดขยะอาหารบนเที่ยวบินได้ถึง 20% ในปีที่ผ่านมา - ระบบสามารถปรับเมนูตาม ฤดูกาลและเทศกาล เช่น ช่วงถือศีลอดหรือวันหยุดสำคัญ ‼️ ข้อควรระวัง - การใช้ AI ต้องมีการปกป้องข้อมูลผู้โดยสาร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านความเป็นส่วนตัว - ต้นทุนการติดตั้งระบบ AI สูง อาจเป็นอุปสรรคสำหรับสายการบินขนาดเล็ก - ต้องมีการตรวจสอบความแม่นยำของ AI เพื่อให้แน่ใจว่าการคาดการณ์สอดคล้องกับความต้องการจริง ✅ การนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร - โรงแรม Hilton ใช้ AI เพื่อลดขยะอาหารในช่วง เดือนรอมฎอน - ระบบ AI สามารถวิเคราะห์ ภาพถ่ายอาหารที่เหลือ เพื่อปรับปรุงเมนูให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า - AI ช่วยให้ร้านอาหารสามารถปรับ ขนาดของอาหาร เพื่อลดการทิ้งขยะโดยไม่จำเป็น ‼️ ข้อควรระวังในการใช้ AI - ต้องมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยของข้อมูล เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ์ของลูกค้า - AI อาจมีข้อจำกัดในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น ความชอบส่วนตัวของลูกค้า - ต้องมีการตรวจสอบผลลัพธ์ของ AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🌍 อนาคตของ AI ในการลดขยะอาหาร ✅ การพัฒนาเทคโนโลยี AI - AI สามารถช่วย คาดการณ์ปริมาณอาหารที่ต้องผลิต เพื่อลดการสูญเสียทรัพยากร - ระบบ AI สามารถช่วย ปรับปรุงกระบวนการจัดเก็บอาหาร เพื่อยืดอายุการใช้งาน - AI อาจถูกนำมาใช้ใน การบริหารจัดการอาหารในระดับประเทศ เพื่อลดปัญหาขาดแคลนอาหาร ‼️ ข้อควรระวังในการพัฒนา AI - ต้องมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน เพื่อให้ AI ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม - ต้องมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ AI สามารถทำงานร่วมกับระบบที่มีอยู่ได้ - ต้องมีการศึกษาและพัฒนา AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงได้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/16/ai-takes-on-food-waste
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI takes on food waste
    Airlines and hotels are increasingly turning to artificial intelligence to better predict meal consumption patterns. Could this be the key to tackling food waste?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🏭 จีนเปิดตัว QiMeng: ระบบ AI ออกแบบชิปเต็มรูปแบบ
    สถาบันวิทยาศาสตร์จีน (CAS) ได้เปิดตัว QiMeng ซึ่งเป็น ระบบ AI ที่สามารถออกแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของชิปได้โดยอัตโนมัติ โดยใช้ LLM (Large Language Model) ในการแปลงความต้องการด้านประสิทธิภาพเป็นสถาปัตยกรรม CPU

    QiMeng เป็นโครงการโอเพ่นซอร์สที่มุ่งเน้นการออกแบบชิปแบบครบวงจร และ สามารถลดระยะเวลาการออกแบบจากหลายสัปดาห์เหลือเพียงไม่กี่วัน

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - QiMeng เป็นระบบ AI ที่สามารถออกแบบ CPU ได้โดยอัตโนมัติ
    - โครงการนี้เป็นโอเพ่นซอร์สและพัฒนาโดยสถาบันวิทยาศาสตร์จีน (CAS)
    - QiMeng-CPU-v1 มีประสิทธิภาพเทียบเท่า Intel 486 (1989)
    - QiMeng-CPU-v2 มีประสิทธิภาพเทียบเท่า Arm Cortex A53 (2012)
    - ระบบนี้สามารถลดระยะเวลาการออกแบบชิปจากหลายสัปดาห์เหลือเพียงไม่กี่วัน

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    QiMeng อาจเป็นก้าวสำคัญในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก โดยเฉพาะ หลังจากที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้กับบริษัทจีน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - QiMeng-CPU-v2 ยังมีประสิทธิภาพต่ำกว่าชิปที่ใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่
    - ต้องติดตามว่า QiMeng จะสามารถพัฒนา CPU ที่แข่งขันกับชิประดับสูงได้หรือไม่
    - การออกแบบชิปด้วย AI อาจต้องใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์จำนวนมาก
    - ต้องรอดูว่าอุตสาหกรรมจะนำ QiMeng ไปใช้ในระดับกว้างหรือไม่

    🚀 อนาคตของ QiMeng และการออกแบบชิปด้วย AI
    QiMeng อาจเป็นก้าวแรกในการพัฒนาเทคโนโลยีออกแบบชิปด้วย AI ซึ่ง อาจช่วยให้จีนสามารถลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตกและเร่งการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ของตนเอง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/china-claims-to-have-developed-the-worlds-first-ai-designed-processor-llm-turned-performance-requests-into-cpu-architecture
    🏭 จีนเปิดตัว QiMeng: ระบบ AI ออกแบบชิปเต็มรูปแบบ สถาบันวิทยาศาสตร์จีน (CAS) ได้เปิดตัว QiMeng ซึ่งเป็น ระบบ AI ที่สามารถออกแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของชิปได้โดยอัตโนมัติ โดยใช้ LLM (Large Language Model) ในการแปลงความต้องการด้านประสิทธิภาพเป็นสถาปัตยกรรม CPU QiMeng เป็นโครงการโอเพ่นซอร์สที่มุ่งเน้นการออกแบบชิปแบบครบวงจร และ สามารถลดระยะเวลาการออกแบบจากหลายสัปดาห์เหลือเพียงไม่กี่วัน ✅ ข้อมูลจากข่าว - QiMeng เป็นระบบ AI ที่สามารถออกแบบ CPU ได้โดยอัตโนมัติ - โครงการนี้เป็นโอเพ่นซอร์สและพัฒนาโดยสถาบันวิทยาศาสตร์จีน (CAS) - QiMeng-CPU-v1 มีประสิทธิภาพเทียบเท่า Intel 486 (1989) - QiMeng-CPU-v2 มีประสิทธิภาพเทียบเท่า Arm Cortex A53 (2012) - ระบบนี้สามารถลดระยะเวลาการออกแบบชิปจากหลายสัปดาห์เหลือเพียงไม่กี่วัน 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ QiMeng อาจเป็นก้าวสำคัญในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก โดยเฉพาะ หลังจากที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้กับบริษัทจีน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - QiMeng-CPU-v2 ยังมีประสิทธิภาพต่ำกว่าชิปที่ใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ - ต้องติดตามว่า QiMeng จะสามารถพัฒนา CPU ที่แข่งขันกับชิประดับสูงได้หรือไม่ - การออกแบบชิปด้วย AI อาจต้องใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์จำนวนมาก - ต้องรอดูว่าอุตสาหกรรมจะนำ QiMeng ไปใช้ในระดับกว้างหรือไม่ 🚀 อนาคตของ QiMeng และการออกแบบชิปด้วย AI QiMeng อาจเป็นก้าวแรกในการพัฒนาเทคโนโลยีออกแบบชิปด้วย AI ซึ่ง อาจช่วยให้จีนสามารถลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตกและเร่งการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ของตนเอง https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/china-claims-to-have-developed-the-worlds-first-ai-designed-processor-llm-turned-performance-requests-into-cpu-architecture
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤖 นักวิจัยสอนหุ่นยนต์เล่นแบดมินตันด้วย AI และ Nvidia RTX
    นักวิจัยจาก ETH Zürich ได้พัฒนา หุ่นยนต์สี่ขา ANYmal-D ให้สามารถ เล่นแบดมินตันได้โดยใช้ AI และการเรียนรู้แบบเสริมกำลัง (Reinforcement Learning) โดยใช้ Nvidia RTX 2080 Ti ในการฝึกฝน

    หุ่นยนต์ เรียนรู้การเคลื่อนไหวและการตีลูกแบดมินตันโดยไม่ต้องมีการตั้งโปรแกรมล่วงหน้า โดยใช้ Isaac Gym virtual simulator

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - นักวิจัยจาก ETH Zürich พัฒนาหุ่นยนต์ ANYmal-D ให้เล่นแบดมินตันได้
    - ใช้ AI และ Reinforcement Learning ในการฝึกฝน
    - หุ่นยนต์เรียนรู้การเคลื่อนไหวผ่าน Isaac Gym virtual simulator
    - ใช้ Nvidia RTX 2080 Ti ในการฝึกฝนกว่า 7,500 รอบ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
    - สามารถติดตามลูกแบดมินตันด้วยกล้องสเตอริโอในตัว และใช้โมเดลพยากรณ์เสียงรบกวนเพื่อคาดการณ์ตำแหน่งของลูกแบด

    🔥 ผลกระทบต่อการพัฒนาหุ่นยนต์
    เทคนิคนี้ ช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้การเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนโดยไม่ต้องตั้งโปรแกรมทีละขั้นตอน ซึ่งอาจ นำไปใช้กับงานอื่น ๆ เช่น การตรวจสอบอุตสาหกรรมและการช่วยเหลือฉุกเฉิน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้ AI ในการฝึกหุ่นยนต์ต้องใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์สูง
    - ต้องติดตามว่าหุ่นยนต์จะสามารถเล่นแบดมินตันได้ดีขึ้นเมื่อพัฒนาเพิ่มเติมหรือไม่
    - การนำ AI ไปใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูงยังคงเป็นความท้าทาย
    - ต้องรอดูว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถนำไปใช้กับหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้หรือไม่

    🚀 อนาคตของหุ่นยนต์ AI
    หุ่นยนต์ที่สามารถ เรียนรู้การเคลื่อนไหวแบบเต็มตัวโดยไม่ต้องตั้งโปรแกรมทีละขั้นตอน อาจ ช่วยให้การพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับงานอุตสาหกรรมและการช่วยเหลือฉุกเฉินมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/108279-researchers-teach-robot-play-badminton-using-nvidia-rtx.html
    🤖 นักวิจัยสอนหุ่นยนต์เล่นแบดมินตันด้วย AI และ Nvidia RTX นักวิจัยจาก ETH Zürich ได้พัฒนา หุ่นยนต์สี่ขา ANYmal-D ให้สามารถ เล่นแบดมินตันได้โดยใช้ AI และการเรียนรู้แบบเสริมกำลัง (Reinforcement Learning) โดยใช้ Nvidia RTX 2080 Ti ในการฝึกฝน หุ่นยนต์ เรียนรู้การเคลื่อนไหวและการตีลูกแบดมินตันโดยไม่ต้องมีการตั้งโปรแกรมล่วงหน้า โดยใช้ Isaac Gym virtual simulator ✅ ข้อมูลจากข่าว - นักวิจัยจาก ETH Zürich พัฒนาหุ่นยนต์ ANYmal-D ให้เล่นแบดมินตันได้ - ใช้ AI และ Reinforcement Learning ในการฝึกฝน - หุ่นยนต์เรียนรู้การเคลื่อนไหวผ่าน Isaac Gym virtual simulator - ใช้ Nvidia RTX 2080 Ti ในการฝึกฝนกว่า 7,500 รอบ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง - สามารถติดตามลูกแบดมินตันด้วยกล้องสเตอริโอในตัว และใช้โมเดลพยากรณ์เสียงรบกวนเพื่อคาดการณ์ตำแหน่งของลูกแบด 🔥 ผลกระทบต่อการพัฒนาหุ่นยนต์ เทคนิคนี้ ช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้การเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนโดยไม่ต้องตั้งโปรแกรมทีละขั้นตอน ซึ่งอาจ นำไปใช้กับงานอื่น ๆ เช่น การตรวจสอบอุตสาหกรรมและการช่วยเหลือฉุกเฉิน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้ AI ในการฝึกหุ่นยนต์ต้องใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์สูง - ต้องติดตามว่าหุ่นยนต์จะสามารถเล่นแบดมินตันได้ดีขึ้นเมื่อพัฒนาเพิ่มเติมหรือไม่ - การนำ AI ไปใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูงยังคงเป็นความท้าทาย - ต้องรอดูว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถนำไปใช้กับหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้หรือไม่ 🚀 อนาคตของหุ่นยนต์ AI หุ่นยนต์ที่สามารถ เรียนรู้การเคลื่อนไหวแบบเต็มตัวโดยไม่ต้องตั้งโปรแกรมทีละขั้นตอน อาจ ช่วยให้การพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับงานอุตสาหกรรมและการช่วยเหลือฉุกเฉินมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techspot.com/news/108279-researchers-teach-robot-play-badminton-using-nvidia-rtx.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Researchers teach robot to play badminton using Nvidia RTX machine learning
    Scientists at ETH Zürich recently published a study and video (below) explaining how they trained a quadrupedal robot to play badminton. The research could demonstrate the usefulness...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • จริงๆคนไทยโคตรมีอิสระภาพมากจนชนชั้นอีลิทชาติอื่นอิจฉา ยุแยงยุยงแทรกแซงเรื่อยมาจนปัจจุบันเขียนกฎหมายได้เองแล้วจึงควบคุมผ่านกฎหมายสาระพัดจัดการอิสระภาพคนไทยและมากมายทำลายอธิปไตยความมั่นคงมั่งคั่งการมีอยู่ดีมีสุขของคนไทยเองตลอดปล้นชิงสมบัติวัตถุดิบชาติไทยทรัพยากรมีค่าของชาติไทยมากมายมหาศาลผ่านกลไกกฎหมายของไทยเราเอง,ปล้นอย่างถูกกฎหมายประจำประเทศไทยก็ว่า,อดีตรุกรานทางกองทัพภายนอกแบบฝรั่งเศสยกพลยกกองทัพยกกองเรือหมายโจมตียึดประเทศไทยอย่างเปิดเผยทั้งหมด ปัจจุบันเขือดนิ่มๆคือปล้นชิงแย่งชิงยึดประเทศนั้นๆปกครองประเทศนั้นๆผ่านกฎหมายไทยมันเองที่กูคนปกครองภายนอกจะเขียนปกครองควบคุมมรึงคนไทยแบบเนียนๆไม่ให้เหยื่อศัตรูรู้ตัว,ตายแบบนิ่มๆแดกอร่อยก็ว่า,
    ..อิสระภาพเราสามารถยึดคืนได้จริงๆ.ถีบชุดบริหารชาติปัจจุบันออกก่อนจากนั้นให้ทหารพระราชาเรายึดอำนาจคืนมา,กษัตริย์ไทยเราไม่ใช่เผ่าพันธ์แรปทีเลี่ยนเลวชั่วแบบอังกฤษแดกเลือดเด็กเลือดมนุษย์มิเช่นนั้นต้องล่มสะลายด้วยกรรมวิบากเลวแบบอังกฤษนานแล้ว,ด้วยปกครองโดยธรรมมาตลอดทุกยุคสมัย,ธรรมคือเครื่องคุ้มครองนั้นเอง,การอำนาจการปกครองจริงๆจะเปลี่ยนสถานะลำบากยากจนข้นแค้นแบบหลายๆคนไทยในอดีตเรากลับมาร่ำรวยเงินทองทางวัตถุธาตุและร่ำรวยบุญกุศลศีลธรรมอันดีงามยกจิตยกใจสูงคู่ขนานทางโลกให้สมดุลได้ด้วย.,ไทยเราสุดยอดจริงๆในยุคต่อไปนี้.,เด็ดขาดถีบผู้ปกครองกากๆนี้หนีไป,ร10 11 12 และอีกหลาย ร. มีแต่ความเจริญรุ่งโรจน์ก็ว่า.,ให้มันจบที่รุ่นเรายุคสุดท้ายนี้เถอะความลำบากยากจน,ดูประวัติอาจารย์เลย ยากจนลำบากขนาดไหนกว่าจะมาเป็นท่านถึงปัจจุบันนี้,แล้วมาลาออกเพื่ออิสระภาพตนก็ว่า.

    https://youtube.com/shorts/I6QdlzHHRPU?si=HdRwbx9zGCMeOLWb
    จริงๆคนไทยโคตรมีอิสระภาพมากจนชนชั้นอีลิทชาติอื่นอิจฉา ยุแยงยุยงแทรกแซงเรื่อยมาจนปัจจุบันเขียนกฎหมายได้เองแล้วจึงควบคุมผ่านกฎหมายสาระพัดจัดการอิสระภาพคนไทยและมากมายทำลายอธิปไตยความมั่นคงมั่งคั่งการมีอยู่ดีมีสุขของคนไทยเองตลอดปล้นชิงสมบัติวัตถุดิบชาติไทยทรัพยากรมีค่าของชาติไทยมากมายมหาศาลผ่านกลไกกฎหมายของไทยเราเอง,ปล้นอย่างถูกกฎหมายประจำประเทศไทยก็ว่า,อดีตรุกรานทางกองทัพภายนอกแบบฝรั่งเศสยกพลยกกองทัพยกกองเรือหมายโจมตียึดประเทศไทยอย่างเปิดเผยทั้งหมด ปัจจุบันเขือดนิ่มๆคือปล้นชิงแย่งชิงยึดประเทศนั้นๆปกครองประเทศนั้นๆผ่านกฎหมายไทยมันเองที่กูคนปกครองภายนอกจะเขียนปกครองควบคุมมรึงคนไทยแบบเนียนๆไม่ให้เหยื่อศัตรูรู้ตัว,ตายแบบนิ่มๆแดกอร่อยก็ว่า, ..อิสระภาพเราสามารถยึดคืนได้จริงๆ.ถีบชุดบริหารชาติปัจจุบันออกก่อนจากนั้นให้ทหารพระราชาเรายึดอำนาจคืนมา,กษัตริย์ไทยเราไม่ใช่เผ่าพันธ์แรปทีเลี่ยนเลวชั่วแบบอังกฤษแดกเลือดเด็กเลือดมนุษย์มิเช่นนั้นต้องล่มสะลายด้วยกรรมวิบากเลวแบบอังกฤษนานแล้ว,ด้วยปกครองโดยธรรมมาตลอดทุกยุคสมัย,ธรรมคือเครื่องคุ้มครองนั้นเอง,การอำนาจการปกครองจริงๆจะเปลี่ยนสถานะลำบากยากจนข้นแค้นแบบหลายๆคนไทยในอดีตเรากลับมาร่ำรวยเงินทองทางวัตถุธาตุและร่ำรวยบุญกุศลศีลธรรมอันดีงามยกจิตยกใจสูงคู่ขนานทางโลกให้สมดุลได้ด้วย.,ไทยเราสุดยอดจริงๆในยุคต่อไปนี้.,เด็ดขาดถีบผู้ปกครองกากๆนี้หนีไป,ร10 11 12 และอีกหลาย ร. มีแต่ความเจริญรุ่งโรจน์ก็ว่า.,ให้มันจบที่รุ่นเรายุคสุดท้ายนี้เถอะความลำบากยากจน,ดูประวัติอาจารย์เลย ยากจนลำบากขนาดไหนกว่าจะมาเป็นท่านถึงปัจจุบันนี้,แล้วมาลาออกเพื่ออิสระภาพตนก็ว่า. https://youtube.com/shorts/I6QdlzHHRPU?si=HdRwbx9zGCMeOLWb
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔐 องค์กรขนาดเล็กกำลังเผชิญวิกฤตความปลอดภัยไซเบอร์
    รายงานล่าสุดจาก World Economic Forum (WEF) ระบุว่า 71% ของผู้นำด้านไซเบอร์เชื่อว่าองค์กรขนาดเล็กกำลังถึงจุดวิกฤต เนื่องจาก งบประมาณที่จำกัด ทีม IT ที่ทำงานหนักเกินไป และภัยคุกคามที่ซับซ้อนขึ้น

    องค์กรขนาดเล็ก ขาดทรัพยากรและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ ทำให้ ความสามารถในการป้องกันภัยคุกคามลดลงอย่างมาก

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - 71% ของผู้นำด้านไซเบอร์เชื่อว่าองค์กรขนาดเล็กกำลังถึงจุดวิกฤต
    - 35% ขององค์กรขนาดเล็กเชื่อว่าความสามารถในการป้องกันภัยไซเบอร์ของตนไม่เพียงพอ
    - ช่องว่างด้านทักษะไซเบอร์เพิ่มขึ้น 8% โดย 2 ใน 3 ขององค์กรขาดบุคลากรที่มีความสามารถ
    - องค์กรขนาดเล็กมักตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีแบบ supply chain attack
    - การใช้ AI ในการโจมตีไซเบอร์ เช่น phishing และ ransomware-as-a-service กำลังเพิ่มขึ้น

    ⚠️ ความเสี่ยงและข้อควรระวัง
    องค์กรขนาดเล็ก มักเข้าใจผิดว่าภัยไซเบอร์มุ่งเป้าไปที่องค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ในความเป็นจริง พวกเขาเป็นเป้าหมายที่ง่ายสำหรับแฮกเกอร์

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - องค์กรขนาดเล็กมักไม่มีทีมรักษาความปลอดภัยเฉพาะทาง ทำให้การตอบสนองต่อภัยคุกคามล่าช้า
    - การขาดการฝึกอบรมด้านไซเบอร์ทำให้พนักงานมีความเสี่ยงต่อ phishing และ social engineering
    - กฎระเบียบด้านไซเบอร์ เช่น NIS2 และ GDPR กำลังเพิ่มภาระให้กับองค์กรขนาดเล็ก
    - การใช้ AI ในการโจมตีไซเบอร์ทำให้ภัยคุกคามมีความซับซ้อนและยากต่อการตรวจจับมากขึ้น

    องค์กรขนาดเล็ก สามารถใช้บริการรักษาความปลอดภัยแบบ managed security services เพื่อช่วย ลดภาระของทีม IT และเพิ่มความสามารถในการป้องกันภัยไซเบอร์

    https://www.csoonline.com/article/4003892/smaller-organizations-nearing-cybersecurity-breaking-point.html
    🔐 องค์กรขนาดเล็กกำลังเผชิญวิกฤตความปลอดภัยไซเบอร์ รายงานล่าสุดจาก World Economic Forum (WEF) ระบุว่า 71% ของผู้นำด้านไซเบอร์เชื่อว่าองค์กรขนาดเล็กกำลังถึงจุดวิกฤต เนื่องจาก งบประมาณที่จำกัด ทีม IT ที่ทำงานหนักเกินไป และภัยคุกคามที่ซับซ้อนขึ้น องค์กรขนาดเล็ก ขาดทรัพยากรและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ ทำให้ ความสามารถในการป้องกันภัยคุกคามลดลงอย่างมาก ✅ ข้อมูลจากข่าว - 71% ของผู้นำด้านไซเบอร์เชื่อว่าองค์กรขนาดเล็กกำลังถึงจุดวิกฤต - 35% ขององค์กรขนาดเล็กเชื่อว่าความสามารถในการป้องกันภัยไซเบอร์ของตนไม่เพียงพอ - ช่องว่างด้านทักษะไซเบอร์เพิ่มขึ้น 8% โดย 2 ใน 3 ขององค์กรขาดบุคลากรที่มีความสามารถ - องค์กรขนาดเล็กมักตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีแบบ supply chain attack - การใช้ AI ในการโจมตีไซเบอร์ เช่น phishing และ ransomware-as-a-service กำลังเพิ่มขึ้น ⚠️ ความเสี่ยงและข้อควรระวัง องค์กรขนาดเล็ก มักเข้าใจผิดว่าภัยไซเบอร์มุ่งเป้าไปที่องค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ในความเป็นจริง พวกเขาเป็นเป้าหมายที่ง่ายสำหรับแฮกเกอร์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - องค์กรขนาดเล็กมักไม่มีทีมรักษาความปลอดภัยเฉพาะทาง ทำให้การตอบสนองต่อภัยคุกคามล่าช้า - การขาดการฝึกอบรมด้านไซเบอร์ทำให้พนักงานมีความเสี่ยงต่อ phishing และ social engineering - กฎระเบียบด้านไซเบอร์ เช่น NIS2 และ GDPR กำลังเพิ่มภาระให้กับองค์กรขนาดเล็ก - การใช้ AI ในการโจมตีไซเบอร์ทำให้ภัยคุกคามมีความซับซ้อนและยากต่อการตรวจจับมากขึ้น องค์กรขนาดเล็ก สามารถใช้บริการรักษาความปลอดภัยแบบ managed security services เพื่อช่วย ลดภาระของทีม IT และเพิ่มความสามารถในการป้องกันภัยไซเบอร์ https://www.csoonline.com/article/4003892/smaller-organizations-nearing-cybersecurity-breaking-point.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Smaller organizations nearing cybersecurity breaking point
    Strained budgets, overstretched teams, and a rise in sophisticated threats is leading to plummeting security confidence among SMEs as cybercriminals increasingly target them in supply chain attacks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌌 การเปิดตัวฐานข้อมูลจักรวาลจากกล้องโทรทรรศน์ James Webb
    โครงการ COSMOS-Web ได้เปิดตัวฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวม ข้อมูลของกว่า 800,000 กาแล็กซี ซึ่งเป็น ภาพที่ลึกที่สุดของจักรวาลที่เคยบันทึกโดยกล้องโทรทรรศน์ James Webb

    ฐานข้อมูลนี้ช่วยให้ นักดาราศาสตร์และผู้สนใจสามารถสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลจักรวาล ที่เคยเป็น เอกสิทธิ์ของนักวิจัยเฉพาะทาง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - COSMOS-Web เป็นโครงการสำรวจจักรวาลที่ใหญ่ที่สุดในปีแรกของกล้อง James Webb
    - ใช้ Near Infrared Camera (NIRCam) และ Mid-Infrared Instrument (MIRI) เพื่อบันทึกภาพ
    - ฐานข้อมูล "COSMOS2025" มีข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้าง, redshifts และพารามิเตอร์ทางกายภาพของกาแล็กซี
    - สามารถค้นหาวัตถุเฉพาะหรือสำรวจคุณสมบัติของกาแล็กซีผ่านเครื่องมือแบบอินเทอร์แอกทีฟ
    - โครงการนี้ใช้เวลากว่า 250 ชั่วโมงในการสังเกตการณ์และมีนักวิจัยกว่า 50 คนจากทั่วโลกเข้าร่วม

    🔥 ความสำคัญของข้อมูลที่เปิดเผย
    ข้อมูลจาก COSMOS-Web ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษากาแล็กซีในยุคแรกของจักรวาล และ ติดตามวิวัฒนาการของสสารมืดและสสารที่มองเห็นได้

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้ว่าข้อมูลจะมีคุณภาพสูง แต่ยังต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความถูกต้อง
    - การวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลต้องใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง
    - ต้องติดตามว่าข้อมูลนี้จะนำไปสู่การค้นพบใหม่เกี่ยวกับจักรวาลหรือไม่
    - การเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะอาจทำให้เกิดการตีความผิดพลาดจากผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านดาราศาสตร์

    https://www.techspot.com/news/108269-public-gains-unprecedented-access-webb-telescope-vast-cosmic.html
    🌌 การเปิดตัวฐานข้อมูลจักรวาลจากกล้องโทรทรรศน์ James Webb โครงการ COSMOS-Web ได้เปิดตัวฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวม ข้อมูลของกว่า 800,000 กาแล็กซี ซึ่งเป็น ภาพที่ลึกที่สุดของจักรวาลที่เคยบันทึกโดยกล้องโทรทรรศน์ James Webb ฐานข้อมูลนี้ช่วยให้ นักดาราศาสตร์และผู้สนใจสามารถสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลจักรวาล ที่เคยเป็น เอกสิทธิ์ของนักวิจัยเฉพาะทาง ✅ ข้อมูลจากข่าว - COSMOS-Web เป็นโครงการสำรวจจักรวาลที่ใหญ่ที่สุดในปีแรกของกล้อง James Webb - ใช้ Near Infrared Camera (NIRCam) และ Mid-Infrared Instrument (MIRI) เพื่อบันทึกภาพ - ฐานข้อมูล "COSMOS2025" มีข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้าง, redshifts และพารามิเตอร์ทางกายภาพของกาแล็กซี - สามารถค้นหาวัตถุเฉพาะหรือสำรวจคุณสมบัติของกาแล็กซีผ่านเครื่องมือแบบอินเทอร์แอกทีฟ - โครงการนี้ใช้เวลากว่า 250 ชั่วโมงในการสังเกตการณ์และมีนักวิจัยกว่า 50 คนจากทั่วโลกเข้าร่วม 🔥 ความสำคัญของข้อมูลที่เปิดเผย ข้อมูลจาก COSMOS-Web ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษากาแล็กซีในยุคแรกของจักรวาล และ ติดตามวิวัฒนาการของสสารมืดและสสารที่มองเห็นได้ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้ว่าข้อมูลจะมีคุณภาพสูง แต่ยังต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความถูกต้อง - การวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลต้องใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง - ต้องติดตามว่าข้อมูลนี้จะนำไปสู่การค้นพบใหม่เกี่ยวกับจักรวาลหรือไม่ - การเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะอาจทำให้เกิดการตีความผิดพลาดจากผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านดาราศาสตร์ https://www.techspot.com/news/108269-public-gains-unprecedented-access-webb-telescope-vast-cosmic.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Public gains unprecedented access to Webb telescope's vast cosmic survey
    The COSMOS-Web project – the largest General Observer program selected for JWST's first year – has mapped a region of the sky equivalent to three full moons...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔐 8 บทเรียนสำคัญที่ CISOs ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์โจมตีไซเบอร์
    CISOs ที่เคยเผชิญกับการโจมตีไซเบอร์ ได้เปลี่ยนแนวทางการรักษาความปลอดภัย โดยเน้นไปที่ การตอบสนองที่รวดเร็วและการป้องกันเชิงรุก เพื่อให้สามารถ ปรับกลยุทธ์และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบรักษาความปลอดภัย

    🔍 บทเรียนสำคัญจากเหตุการณ์โจมตี
    1️⃣ การแบ่งปันบทเรียนช่วยให้ทุกคนปลอดภัยขึ้น

    CISOs ที่เคยเผชิญกับการโจมตีไซเบอร์ ควรแบ่งปันประสบการณ์เพื่อช่วยให้ชุมชนปลอดภัยขึ้น

    การวิเคราะห์เหตุการณ์โดยไม่มีการตำหนิ ช่วยให้สามารถเรียนรู้จากข้อผิดพลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    2️⃣ ต้องเปลี่ยนจากการตั้งรับเป็นการรุก

    CISOs ที่เคยเผชิญกับการโจมตี ต้องปรับแนวคิดให้เข้าใจการโจมตีมากขึ้น

    การฝึกซ้อม Red Team และ Live Fire Drill ช่วยให้สามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามได้ดีขึ้น

    3️⃣ ต้องมีแผนรับมือที่ชัดเจน
    - การมีแผนรับมือที่ดี ช่วยลดความตื่นตระหนกและเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนอง
    - ควรกำหนดบทบาทของแต่ละฝ่ายให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถสื่อสารและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว

    4️⃣ ต้องมีระบบสำรองข้อมูลที่ปลอดภัย
    - แฮกเกอร์มักโจมตีระบบสำรองข้อมูลก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เหยื่อสามารถกู้คืนข้อมูลได้
    - ควรตรวจสอบและทดสอบระบบสำรองข้อมูลเป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีมัลแวร์แฝงอยู่

    5️⃣ ต้องตั้งมาตรฐานความปลอดภัยให้สูงขึ้น
    - หลังจากเหตุการณ์โจมตี CISOs ควรปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยให้แข็งแกร่งขึ้น
    - การฝึกซ้อม Tabletop Exercise ช่วยให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น

    6️⃣ อย่าหลงไปกับเทคโนโลยีใหม่โดยไม่จำเป็น
    - CISOs ควรให้ความสำคัญกับ การจัดการช่องโหว่และการตรวจจับภัยคุกคามมากกว่าการใช้เทคโนโลยีใหม่
    - การใช้ Zero Trust และ Passwordless Authentication ช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องมือที่ซับซ้อน

    7️⃣ งบประมาณด้านความปลอดภัยอาจลดลงหลังเหตุการณ์โจมตี
    - หลังจากเหตุการณ์โจมตี องค์กรอาจเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยชั่วคราว
    - CISOs ต้องวางแผนให้ดี เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้หลังจากงบประมาณลดลง

    8️⃣ ต้องดูแลสุขภาพจิตของตนเอง
    - CISOs ที่ต้องรับมือกับเหตุการณ์โจมตี มักเผชิญกับความเครียดสูง
    - ควรมีแผนดูแลสุขภาพจิต เพื่อให้สามารถรับมือกับแรงกดดันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    🔥 ความท้าทายในการรักษาความปลอดภัย
    ‼️ องค์กรที่ไม่มีงบประมาณเพียงพออาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    ‼️ การพึ่งพาเครื่องมืออัตโนมัติเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการป้องกันภัยคุกคามที่ซับซ้อน
    ‼️ CISOs ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากฝ่ายบริหารในการลดต้นทุนด้านความปลอดภัย
    ‼️ ต้องติดตามแนวโน้มภัยคุกคามใหม่ ๆ เพื่อปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อสถานการณ์

    https://www.csoonline.com/article/4002175/8-things-cisos-have-learnt-from-cyber-incidents.html
    🔐 8 บทเรียนสำคัญที่ CISOs ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ CISOs ที่เคยเผชิญกับการโจมตีไซเบอร์ ได้เปลี่ยนแนวทางการรักษาความปลอดภัย โดยเน้นไปที่ การตอบสนองที่รวดเร็วและการป้องกันเชิงรุก เพื่อให้สามารถ ปรับกลยุทธ์และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบรักษาความปลอดภัย 🔍 บทเรียนสำคัญจากเหตุการณ์โจมตี 1️⃣ การแบ่งปันบทเรียนช่วยให้ทุกคนปลอดภัยขึ้น CISOs ที่เคยเผชิญกับการโจมตีไซเบอร์ ควรแบ่งปันประสบการณ์เพื่อช่วยให้ชุมชนปลอดภัยขึ้น การวิเคราะห์เหตุการณ์โดยไม่มีการตำหนิ ช่วยให้สามารถเรียนรู้จากข้อผิดพลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2️⃣ ต้องเปลี่ยนจากการตั้งรับเป็นการรุก CISOs ที่เคยเผชิญกับการโจมตี ต้องปรับแนวคิดให้เข้าใจการโจมตีมากขึ้น การฝึกซ้อม Red Team และ Live Fire Drill ช่วยให้สามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามได้ดีขึ้น 3️⃣ ต้องมีแผนรับมือที่ชัดเจน - การมีแผนรับมือที่ดี ช่วยลดความตื่นตระหนกและเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนอง - ควรกำหนดบทบาทของแต่ละฝ่ายให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถสื่อสารและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว 4️⃣ ต้องมีระบบสำรองข้อมูลที่ปลอดภัย - แฮกเกอร์มักโจมตีระบบสำรองข้อมูลก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เหยื่อสามารถกู้คืนข้อมูลได้ - ควรตรวจสอบและทดสอบระบบสำรองข้อมูลเป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีมัลแวร์แฝงอยู่ 5️⃣ ต้องตั้งมาตรฐานความปลอดภัยให้สูงขึ้น - หลังจากเหตุการณ์โจมตี CISOs ควรปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยให้แข็งแกร่งขึ้น - การฝึกซ้อม Tabletop Exercise ช่วยให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น 6️⃣ อย่าหลงไปกับเทคโนโลยีใหม่โดยไม่จำเป็น - CISOs ควรให้ความสำคัญกับ การจัดการช่องโหว่และการตรวจจับภัยคุกคามมากกว่าการใช้เทคโนโลยีใหม่ - การใช้ Zero Trust และ Passwordless Authentication ช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องมือที่ซับซ้อน 7️⃣ งบประมาณด้านความปลอดภัยอาจลดลงหลังเหตุการณ์โจมตี - หลังจากเหตุการณ์โจมตี องค์กรอาจเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยชั่วคราว - CISOs ต้องวางแผนให้ดี เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้หลังจากงบประมาณลดลง 8️⃣ ต้องดูแลสุขภาพจิตของตนเอง - CISOs ที่ต้องรับมือกับเหตุการณ์โจมตี มักเผชิญกับความเครียดสูง - ควรมีแผนดูแลสุขภาพจิต เพื่อให้สามารถรับมือกับแรงกดดันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔥 ความท้าทายในการรักษาความปลอดภัย ‼️ องค์กรที่ไม่มีงบประมาณเพียงพออาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ‼️ การพึ่งพาเครื่องมืออัตโนมัติเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการป้องกันภัยคุกคามที่ซับซ้อน ‼️ CISOs ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากฝ่ายบริหารในการลดต้นทุนด้านความปลอดภัย ‼️ ต้องติดตามแนวโน้มภัยคุกคามใหม่ ๆ เพื่อปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อสถานการณ์ https://www.csoonline.com/article/4002175/8-things-cisos-have-learnt-from-cyber-incidents.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    8 things CISOs have learned from cyber incidents
    CISOs who have been through cyber attacks share some of the enduring lessons that have changed their approach to cybersecurity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌍 Google Workspace เพิ่ม 10 ฟีเจอร์ AI ฟรีสำหรับองค์กรไม่แสวงหากำไร
    Google ได้ประกาศ ขยายโปรแกรม Google for Nonprofits ไปยัง กว่า 100 ประเทศทั่วโลก พร้อมเพิ่ม 10 ฟีเจอร์ AI ฟรี ให้กับ Workspace for Nonprofits ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้องค์กรสามารถ ใช้ Gmail, Calendar, Meet และแอป AI เช่น Gemini และ NotebookLM ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

    Google สำรวจองค์กรไม่แสวงหากำไร กว่า 9,000 แห่ง และพบว่า 90% รายงานว่าการใช้ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่มีเพียง 20% ที่ใช้งาน AI อย่างแพร่หลาย

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Google ขยายโปรแกรม Google for Nonprofits ไปยังกว่า 100 ประเทศ
    - Workspace for Nonprofits ให้บริการ Gmail, Calendar, Meet และแอป AI ฟรี
    - เพิ่ม 10 ฟีเจอร์ AI ใหม่ เช่น Gems Audio Overviews, Image Generation, Deep Research และ Mind Maps
    - NotebookLM รองรับ Summaries, Audio Overviews ในกว่า 50 ภาษา และ Q&A
    - องค์กรสามารถใช้ Google Vids เพื่อสร้างวิดีโอแบบกำหนดเองด้วย Veo 2

    🔥 ผลกระทบต่อองค์กรไม่แสวงหากำไร
    Google ระบุว่า องค์กรสามารถใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และ เชื่อมต่อกับผู้คนผ่านโฆษณาใน Google Maps ได้ฟรี

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีฟีเจอร์ AI ฟรี แต่บางองค์กรอาจต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มเติมเพื่อปรับตัว
    - ต้องติดตามว่า Google จะขยายฟีเจอร์ AI ไปยังองค์กรขนาดเล็กหรือไม่
    - การใช้ AI ในองค์กรต้องมีแนวทางที่ชัดเจนเพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลผิดวัตถุประสงค์
    - ต้องรอดูว่าองค์กรจะสามารถใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้จริงหรือไม่

    https://www.neowin.net/news/google-workspace-brings-10-free-ai-features-for-nonprofit-organizations/
    🌍 Google Workspace เพิ่ม 10 ฟีเจอร์ AI ฟรีสำหรับองค์กรไม่แสวงหากำไร Google ได้ประกาศ ขยายโปรแกรม Google for Nonprofits ไปยัง กว่า 100 ประเทศทั่วโลก พร้อมเพิ่ม 10 ฟีเจอร์ AI ฟรี ให้กับ Workspace for Nonprofits ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้องค์กรสามารถ ใช้ Gmail, Calendar, Meet และแอป AI เช่น Gemini และ NotebookLM ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย Google สำรวจองค์กรไม่แสวงหากำไร กว่า 9,000 แห่ง และพบว่า 90% รายงานว่าการใช้ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่มีเพียง 20% ที่ใช้งาน AI อย่างแพร่หลาย ✅ ข้อมูลจากข่าว - Google ขยายโปรแกรม Google for Nonprofits ไปยังกว่า 100 ประเทศ - Workspace for Nonprofits ให้บริการ Gmail, Calendar, Meet และแอป AI ฟรี - เพิ่ม 10 ฟีเจอร์ AI ใหม่ เช่น Gems Audio Overviews, Image Generation, Deep Research และ Mind Maps - NotebookLM รองรับ Summaries, Audio Overviews ในกว่า 50 ภาษา และ Q&A - องค์กรสามารถใช้ Google Vids เพื่อสร้างวิดีโอแบบกำหนดเองด้วย Veo 2 🔥 ผลกระทบต่อองค์กรไม่แสวงหากำไร Google ระบุว่า องค์กรสามารถใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และ เชื่อมต่อกับผู้คนผ่านโฆษณาใน Google Maps ได้ฟรี ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีฟีเจอร์ AI ฟรี แต่บางองค์กรอาจต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มเติมเพื่อปรับตัว - ต้องติดตามว่า Google จะขยายฟีเจอร์ AI ไปยังองค์กรขนาดเล็กหรือไม่ - การใช้ AI ในองค์กรต้องมีแนวทางที่ชัดเจนเพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลผิดวัตถุประสงค์ - ต้องรอดูว่าองค์กรจะสามารถใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้จริงหรือไม่ https://www.neowin.net/news/google-workspace-brings-10-free-ai-features-for-nonprofit-organizations/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google Workspace brings 10 free AI features for nonprofit organizations
    Google is bringing several new updates for nonprofits, including ten AI features through its dedicated Workspace tier.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤝 OpenAI ขยายความร่วมมือกับ Google Cloud เพื่อเพิ่มศักยภาพด้าน AI
    OpenAI ได้ตกลงใช้ Google Cloud เพื่อช่วยรองรับความต้องการด้านการประมวลผลสำหรับ การฝึกและใช้งานโมเดล AI ซึ่งถือเป็นการขยายแหล่งทรัพยากร นอกเหนือจาก Microsoft Azure

    แม้ว่า OpenAI และ Google จะเป็นคู่แข่งกันในตลาด AI แต่ข้อตกลงนี้ช่วยให้ OpenAI สามารถเข้าถึง Tensor Processing Units (TPUs) ของ Google ซึ่งออกแบบมาเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล AI

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - OpenAI ตกลงใช้ Google Cloud เพื่อรองรับการฝึกและใช้งานโมเดล AI
    - ข้อตกลงนี้ช่วยให้ OpenAI ขยายแหล่งทรัพยากรนอกเหนือจาก Microsoft Azure
    - OpenAI จะสามารถเข้าถึง Tensor Processing Units (TPUs) ของ Google
    - Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) มีรายได้จาก Google Cloud สูงถึง 43 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024
    - OpenAI มีอัตราการเติบโตสูง โดยมีรายได้ต่อปีสูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์

    🔥 ผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ Google
    แม้ว่าข้อตกลงนี้จะช่วยให้ Google Cloud มีลูกค้ารายใหญ่เพิ่มขึ้น แต่ Google ต้องบริหารทรัพยากรระหว่างโครงการ AI ของตนเองและลูกค้าภายนอก

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Google ต้องจัดสรรทรัพยากรระหว่างโครงการ AI ของตนเองและลูกค้าภายนอก
    - Google Cloud กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านความต้องการทรัพยากรที่สูงขึ้น
    - OpenAI กำลังพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ของตนเองเพื่อลดการพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก
    - ต้องติดตามว่า Microsoft จะตอบสนองต่อข้อตกลงนี้อย่างไร

    การขยายความร่วมมือกับ Google Cloud ช่วยให้ OpenAI มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการจัดหาทรัพยากร และ อาจช่วยให้ Google Cloud แข่งขันกับ Microsoft Azure ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่ออุตสาหกรรม AI อย่างไร

    https://www.neowin.net/news/openai-to-use-google-cloud-despite-rivalry-diversifying-beyond-microsoft/
    🤝 OpenAI ขยายความร่วมมือกับ Google Cloud เพื่อเพิ่มศักยภาพด้าน AI OpenAI ได้ตกลงใช้ Google Cloud เพื่อช่วยรองรับความต้องการด้านการประมวลผลสำหรับ การฝึกและใช้งานโมเดล AI ซึ่งถือเป็นการขยายแหล่งทรัพยากร นอกเหนือจาก Microsoft Azure แม้ว่า OpenAI และ Google จะเป็นคู่แข่งกันในตลาด AI แต่ข้อตกลงนี้ช่วยให้ OpenAI สามารถเข้าถึง Tensor Processing Units (TPUs) ของ Google ซึ่งออกแบบมาเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล AI ✅ ข้อมูลจากข่าว - OpenAI ตกลงใช้ Google Cloud เพื่อรองรับการฝึกและใช้งานโมเดล AI - ข้อตกลงนี้ช่วยให้ OpenAI ขยายแหล่งทรัพยากรนอกเหนือจาก Microsoft Azure - OpenAI จะสามารถเข้าถึง Tensor Processing Units (TPUs) ของ Google - Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) มีรายได้จาก Google Cloud สูงถึง 43 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 - OpenAI มีอัตราการเติบโตสูง โดยมีรายได้ต่อปีสูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์ 🔥 ผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ Google แม้ว่าข้อตกลงนี้จะช่วยให้ Google Cloud มีลูกค้ารายใหญ่เพิ่มขึ้น แต่ Google ต้องบริหารทรัพยากรระหว่างโครงการ AI ของตนเองและลูกค้าภายนอก ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Google ต้องจัดสรรทรัพยากรระหว่างโครงการ AI ของตนเองและลูกค้าภายนอก - Google Cloud กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านความต้องการทรัพยากรที่สูงขึ้น - OpenAI กำลังพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ของตนเองเพื่อลดการพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก - ต้องติดตามว่า Microsoft จะตอบสนองต่อข้อตกลงนี้อย่างไร การขยายความร่วมมือกับ Google Cloud ช่วยให้ OpenAI มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการจัดหาทรัพยากร และ อาจช่วยให้ Google Cloud แข่งขันกับ Microsoft Azure ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่ออุตสาหกรรม AI อย่างไร https://www.neowin.net/news/openai-to-use-google-cloud-despite-rivalry-diversifying-beyond-microsoft/
    WWW.NEOWIN.NET
    OpenAI to use Google Cloud despite rivalry, diversifying beyond Microsoft
    OpenAI and Google Cloud have reportedly reached a deal that will allow OpenAI to train its models on Google Cloud infrastructure.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥 Mozilla ปิดบริการ Firefox หลายตัว รวมถึง Pocket และ Orbit
    Mozilla กำลัง ปรับโครงสร้างธุรกิจ โดย ยุติบริการหลายตัวที่เกี่ยวข้องกับ Firefox เพื่อ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเบราว์เซอร์หลัก ซึ่งรวมถึง Pocket, Fakespot, Deep Fake Detector และ Orbit

    Pocket ซึ่งเป็น บริการบันทึกบทความเพื่ออ่านภายหลัง จะ หยุดให้บริการในวันที่ 8 กรกฎาคม 2025 และผู้ใช้มีเวลาถึง 8 ตุลาคม 2025 ในการดาวน์โหลดข้อมูลก่อนถูกลบถาวร

    Orbit ซึ่งเป็น เครื่องมือ AI ที่ช่วยสรุปบทความและตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาเว็บ จะ หยุดให้บริการในวันที่ 26 มิถุนายน 2025 โดย Mozilla แนะนำให้ผู้ใช้ เปลี่ยนไปใช้แถบด้านข้างใหม่ของ Firefox ที่รองรับ ChatGPT และ Gemini

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Mozilla ปิดบริการ Pocket, Fakespot, Deep Fake Detector และ Orbit
    - Pocket จะหยุดให้บริการในวันที่ 8 กรกฎาคม 2025 และข้อมูลจะถูกลบในวันที่ 8 ตุลาคม 2025
    - Deep Fake Detector ซึ่งใช้ ApolloDFT และ ZipPy จะหยุดให้บริการในวันที่ 26 มิถุนายน 2025
    - Orbit ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI ที่เน้นความเป็นส่วนตัว จะถูกแทนที่ด้วยแถบด้านข้างใหม่ของ Firefox
    - Mozilla ระบุว่าการปิดบริการเหล่านี้เป็นไปเพื่อมุ่งเน้นทรัพยากรไปที่ Firefox

    🔥 ผลกระทบต่อผู้ใช้
    การปิดบริการเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะ Orbit ซึ่ง ใช้โมเดล Mistral 7B ภายในระบบของ Mozilla โดยไม่แชร์ข้อมูลกับบริษัทอื่น

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ผู้ใช้ Pocket ต้องดาวน์โหลดข้อมูลก่อนวันที่ 8 ตุลาคม 2025 มิฉะนั้นข้อมูลจะถูกลบถาวร
    - Orbit ถูกแทนที่ด้วยแถบด้านข้างใหม่ของ Firefox ซึ่งเชื่อมต่อกับ ChatGPT และ Gemini
    - Mozilla อาจปิดบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต หากไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์ใหม่
    - ต้องติดตามว่า Firefox จะสามารถแข่งขันกับเบราว์เซอร์อื่น ๆ ได้ดีขึ้นหลังการปรับโครงสร้างนี้หรือไม่

    https://www.neowin.net/news/mozilla-shuts-down-even-more-firefox-services-you-might-still-be-using/
    🔥 Mozilla ปิดบริการ Firefox หลายตัว รวมถึง Pocket และ Orbit Mozilla กำลัง ปรับโครงสร้างธุรกิจ โดย ยุติบริการหลายตัวที่เกี่ยวข้องกับ Firefox เพื่อ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเบราว์เซอร์หลัก ซึ่งรวมถึง Pocket, Fakespot, Deep Fake Detector และ Orbit Pocket ซึ่งเป็น บริการบันทึกบทความเพื่ออ่านภายหลัง จะ หยุดให้บริการในวันที่ 8 กรกฎาคม 2025 และผู้ใช้มีเวลาถึง 8 ตุลาคม 2025 ในการดาวน์โหลดข้อมูลก่อนถูกลบถาวร Orbit ซึ่งเป็น เครื่องมือ AI ที่ช่วยสรุปบทความและตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาเว็บ จะ หยุดให้บริการในวันที่ 26 มิถุนายน 2025 โดย Mozilla แนะนำให้ผู้ใช้ เปลี่ยนไปใช้แถบด้านข้างใหม่ของ Firefox ที่รองรับ ChatGPT และ Gemini ✅ ข้อมูลจากข่าว - Mozilla ปิดบริการ Pocket, Fakespot, Deep Fake Detector และ Orbit - Pocket จะหยุดให้บริการในวันที่ 8 กรกฎาคม 2025 และข้อมูลจะถูกลบในวันที่ 8 ตุลาคม 2025 - Deep Fake Detector ซึ่งใช้ ApolloDFT และ ZipPy จะหยุดให้บริการในวันที่ 26 มิถุนายน 2025 - Orbit ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI ที่เน้นความเป็นส่วนตัว จะถูกแทนที่ด้วยแถบด้านข้างใหม่ของ Firefox - Mozilla ระบุว่าการปิดบริการเหล่านี้เป็นไปเพื่อมุ่งเน้นทรัพยากรไปที่ Firefox 🔥 ผลกระทบต่อผู้ใช้ การปิดบริการเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะ Orbit ซึ่ง ใช้โมเดล Mistral 7B ภายในระบบของ Mozilla โดยไม่แชร์ข้อมูลกับบริษัทอื่น ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ผู้ใช้ Pocket ต้องดาวน์โหลดข้อมูลก่อนวันที่ 8 ตุลาคม 2025 มิฉะนั้นข้อมูลจะถูกลบถาวร - Orbit ถูกแทนที่ด้วยแถบด้านข้างใหม่ของ Firefox ซึ่งเชื่อมต่อกับ ChatGPT และ Gemini - Mozilla อาจปิดบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต หากไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์ใหม่ - ต้องติดตามว่า Firefox จะสามารถแข่งขันกับเบราว์เซอร์อื่น ๆ ได้ดีขึ้นหลังการปรับโครงสร้างนี้หรือไม่ https://www.neowin.net/news/mozilla-shuts-down-even-more-firefox-services-you-might-still-be-using/
    WWW.NEOWIN.NET
    Mozilla shuts down even more Firefox services you might still be using
    Mozilla has announced the shutdown of several Firefox services as it shifts its focus and resources back to the core Firefox browser.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • หรือว่าตระกูลฮุน ใกล้จะถึงวันอวสานแล้ว

    ช่วงนี้ผมว่ากองทัพไทยทำงานกันดีมาก ฉลาดและรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของเขมรไปทุกด้าน ตั้งแต่กองทัพประกาศกฏอัยการศึกออกมา จากที่ไทยเสียเปรียบเขมรทุกอย่าง จากการทำงานไม่ได้เรื่องของแพรทองธารกับนายภูมิธรรม ก็ปรากฏว่าในปัจจุบัน ไทยขึ้นมาคุมความได้เปรียบเขมร แทบจะเบ็ดเสร็จทุกอย่าง ***ผมอยากเห็นจริงๆว่า เป็นฝีมือกุนซือจากกองทัพไทยคนไหน ท่านนี้หรือกลุ่มนี้ในอนาคตต้องเป็นที่พึ่งของประเทศชาติได้แน่นอน***

    ความฉลาดแรก คือการตอบโต้สองพ่อลูกตระกูลฮุน แบบเหนือชั้นก็คือ ยังคงตรึงกำลังเอาไว้จำนวนมาก แม้ทหารเขมรจะถอยออกมาถึงนอกเขตต้นพญาสัตยบรรณแล้วก็ตาม เพราะเหมือนรู้ว่า ฮุนเซน จะต้องโพสต์ข้อความหลอกชาวเขมรต่อไปว่า ไม่ได้ถอยทัพ แค่ปรับกำลังพลใหม่ การตรึงกำลังทหารไทยเอาไว้จำนวนมากและเตรียมความพร้อมเรื่องอาวุธ พรอมตอบโต้ตลอด ทำให้คนเขมรได้เห็นภาพความจริงที่ชัดเจน ว่าทหารฝ่ายตนเองได้พ่ายแพ้แล้วจริงๆ และกองทัพไทยก็ได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมดแล้ว

    ความฉลาดครั้งที่สอง การสั่งปิดพรมแดน ที่เป็นจุดกล่องดวงใจของรายได้หลักของตระกูลฮุน คือห้ามคนไทย เข้าไปเล่นบ่อนคาสิโนในเขมร งดการส่งอาหารและสินค้าอุปโภคทั้งหมดเข้าไปในจุดสำคัญของเขมร ทำให้ฮุนเซนเดือดดาลอย่างหนัก เลยออกมาตรฐการณ์งดเวลาวีซ่าของไทยให้พำนักในเขมรได้แค่เหลือ 7 วัน จาก29วัน

    กองทัพไทยก็ตอบโต้ ด้วยการผลักดันแรงงานเถื่อนเขมรจำนวนมากกลับเขมรในทันที และสั่งตรวจสอบวีซ่าคนเขมร ให้เข้ามาพำนักในราชอาณาจักรไทยได้แค่ 7 วันเหมือนกัน จากที่เคยฟรีวีซ่า และถือโอกาสส่งเสริมการกวาดล้างและผลักดันแรงงานเถื่อนของเขมรจำนวนนับล้านคนออกจากราชอาณาจักรไทย ส่งกลับคืนประเทศเขมร ทำให้สองพ่อลูกตระกูลฮุนขาดรายได้อย่างหนัก และต้องแบกรับภาระคนตกงานในประเทศเพิ่มขึ้น

    ความฉลาดครั้งที่สาม นำฑูตทหารฝ่ายความมั่นคงของทุกประเทศ เข้าร่วมประชุมรับรู้ถึงพฤติกรรมของฝ่ายเขมร ต่อกรณีการรุกล้ำอธิปไตยของไทย และมีเจตนาชั่วร้ายที่คิดจะนำกองทัพเขมรบุกเข้ามายึดตัวปราสาทของไทย ทำให้ฑูตทหารฝ่ายความมั่นคงของทุกประเทศเข้าใจอย่างถูกต้องว่า กองทัพไทยจำเป็นต้องตัดไฟฟ้าและตัดสัญญานอินเตอร์เนต และงดการส่งอาหารและเชื้อเพลิงพลังงาน เข้าไปยังเมืองเขตเศรษฐกิจสำคัญของเขมร เพราะตรวจทราบชัดเจนว่า เป็นแหล่งฟอกเงินขนาดใหญ่ เปิดบ่อนคาสิโน เพื่อสร้างอาชญากรรมทางไซเบอร์ และเป็นศูนย์รวมของแก๊งมิจฉาชีพทางการเงินขนาดใหญ่ ทั้งค้าอาวุธสงคราม และเป็นทุนใหญ่หนุนกองทัพเขมร ให้บุกเข้ามารุกล้ำอธิปไตยของไทย

    นี่คือเหตุผลสำคัญว่า ทำไม EU ถึงได้ออกมาตำหนินายฮุนมาเนต เมื่อวิ่งไปขอความช่วยเหลือจาก EU ว่า ระวังจะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์ ขึ้นมาอีกครั้ง จากพฤติกรรมของตระกูลตนเองได้

    นี่คือเหตุผลว่า ทำไมสถานฑูตจีน ถึงเปลี่ยนท่าทีไม่สนับสนุนเขมรอีกต่อไป เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าเขมรมีเจตนารุกล้ำอธิปไตยของไทยจริง และเห็นชอบที่ไทยจะตัดไฟตัดความช่วยเหลือเขมรทุกทาง จากการยกประเด็นเรื่องรัฐบาลเขมรอยู่เบื้องหลังอาชญกรรมทางไซเบอร์ ที่ผู้นำจีน เกลียดเข้าไส้

    ในขณะที่สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น ไม่พูดมาก พร้อมสนับสนุนไทยทุกด้าน หากไทยเปิดสงครามกับเขมรแบบจริงจัง

    ความฉลาดครั้งที่สี่ การกดดันเขมรทุกทางและตัดความช่วยเหลือทุกอย่างของกองทัพไทย คือการบีบให้ตระกูลฮุน ให้ไปเผชิญหน้าตามลำพังกับฝ่ายค้านของตนเอง และข่าวลือเริ่มแพร่กระจายไปทั่วเขมรว่า ประชาชนเริ่มลุกฮือ ไม่เอาตระกูลฮุน เพราะแพ้สงครามกับไทย ไม่ได้ยึดตัวปราสาทและเกาะกูดของไทย เหมือนอย่างที่คุยเอาไว้ และข่าวลือเริ่มระบาดหนักว่า ตระกูลเตีย ที่มีเชื้อสายคนไทย ที่คุมกำลังทหารทั้งหมดของเขมร จะปฏิวัติรัฐประหารตระกูลฮุน แบบนี้เท่ากับว่า กองทัพไทยเตรียมตัดหางตระกูลฮุนแบบถาวร และให้เขมรไปจัดการปัญหาภายในของตนเอง และงดความร่วมมือทุกอย่างกับตระกูลฮุน

    เขมรเพิ่งมีปัญหากับ สปป.ลาว เรื่องพรมแดน นี่คือรอยร้าวที่เกิดขึ้นใหม่ของเขมรกับ สปป.ลาว

    เขมรคือประเทศที่ติดหนี้จีน เป็นอันดับต้นๆของโลกและเงินสกุลเรียว ไม่สามารถใช้ได้ในอาเซี่ยนและทั่วโลก ต่างจากสกุลเงินบาทไทย ที่ในอาเซี่ยนและทั่วโลกยอมรับกันหมด ปัญหาของตระกูลฮุนก็คือ ไม่มีเครดิต ที่จะขอกู้เงินจากที่ไหนได้อีก หากจีนและสหรัฐอเมริกาเข้ามาช่วยเหลือ นั่นก็หมายความว่า ทรัพยากรทั้งหมดของเขมรและทุกพื้นที่ของเขมร จะต้องถูกนำมาจำนองหรือถูกขายแบบถาวรให้สองมหาอำนาจนี้ และนั่นคงจะเป็นจุดจบของตระกูลฮุน ที่อาจจะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์กันเองขึ้นมาอีกรอบ เมื่อเวียดนามส่งทหารเข้ามาช่วยตระกูลฮุน ในขณะที่จีนจะกลับมาสนับสนุนปลุกผีเขมรแดงอีกรอบให้ขึ้นมาจากหลุม

    ในขณะที่ประเทศไทย จะจำบทเรียนสำคัญให้ขึ้นใจ ก็คือต้องหยุดความสงสารต่อคนเขมร เมื่อหากมีการอพยพหนีตายขึ้นมาอีกครั้ง

    แต่ผมยังสงสัยอยู่ว่า เมื่อกองทัพได้ประกาศกฏอัยการศึกออกมาแล้ว ปัญหาเรื่องเขมรกับไทย กองทัพก็ได้ประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่า ให้เป็นหน้าที่ของกองทัพไทยเท่านั้น เหตุใดยังเห็นภาพของนายภูมิธรรมกับแพรทองธาร เที่ยวออกมาพูดวุ่นวายไปทั่ว แถมออกมาตีเนียนและเคลมว่า เป็นผลงานของตนเอง ที่แอบเจรจากับเขมรมาตลอด แถมยังยกมือกราบไหว้ขอบคุณสรรเสริญต่อผู้นำเขมร ที่ยอมถอยทหารออกไป

    นี่คือความพยายามเฮือกสุดท้ายของตระกูลชิน ที่ต้องการช่วยเหลือญาติทางฝั่งเขมรของตนเอง.

    เดชา นฤนารท.
    10/6/68 08.45 น.

    #ไทยต้องไม่ถอย
    #หยุดเขมรรุกแดน
    #รักชาติพิสูจน์ด้วยการกระทำ
    #พร้อมรบเพื่อแผ่นดิน
    #ศึกนี้เพื่ออธิปไตย
    #ไม่เอา2ตระกูลหนักแผ่นดิน
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #ธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม
    #ThammasatPitakTham
    หรือว่าตระกูลฮุน ใกล้จะถึงวันอวสานแล้ว ช่วงนี้ผมว่ากองทัพไทยทำงานกันดีมาก ฉลาดและรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของเขมรไปทุกด้าน ตั้งแต่กองทัพประกาศกฏอัยการศึกออกมา จากที่ไทยเสียเปรียบเขมรทุกอย่าง จากการทำงานไม่ได้เรื่องของแพรทองธารกับนายภูมิธรรม ก็ปรากฏว่าในปัจจุบัน ไทยขึ้นมาคุมความได้เปรียบเขมร แทบจะเบ็ดเสร็จทุกอย่าง ***ผมอยากเห็นจริงๆว่า เป็นฝีมือกุนซือจากกองทัพไทยคนไหน ท่านนี้หรือกลุ่มนี้ในอนาคตต้องเป็นที่พึ่งของประเทศชาติได้แน่นอน*** ความฉลาดแรก คือการตอบโต้สองพ่อลูกตระกูลฮุน แบบเหนือชั้นก็คือ ยังคงตรึงกำลังเอาไว้จำนวนมาก แม้ทหารเขมรจะถอยออกมาถึงนอกเขตต้นพญาสัตยบรรณแล้วก็ตาม เพราะเหมือนรู้ว่า ฮุนเซน จะต้องโพสต์ข้อความหลอกชาวเขมรต่อไปว่า ไม่ได้ถอยทัพ แค่ปรับกำลังพลใหม่ การตรึงกำลังทหารไทยเอาไว้จำนวนมากและเตรียมความพร้อมเรื่องอาวุธ พรอมตอบโต้ตลอด ทำให้คนเขมรได้เห็นภาพความจริงที่ชัดเจน ว่าทหารฝ่ายตนเองได้พ่ายแพ้แล้วจริงๆ และกองทัพไทยก็ได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมดแล้ว ความฉลาดครั้งที่สอง การสั่งปิดพรมแดน ที่เป็นจุดกล่องดวงใจของรายได้หลักของตระกูลฮุน คือห้ามคนไทย เข้าไปเล่นบ่อนคาสิโนในเขมร งดการส่งอาหารและสินค้าอุปโภคทั้งหมดเข้าไปในจุดสำคัญของเขมร ทำให้ฮุนเซนเดือดดาลอย่างหนัก เลยออกมาตรฐการณ์งดเวลาวีซ่าของไทยให้พำนักในเขมรได้แค่เหลือ 7 วัน จาก29วัน กองทัพไทยก็ตอบโต้ ด้วยการผลักดันแรงงานเถื่อนเขมรจำนวนมากกลับเขมรในทันที และสั่งตรวจสอบวีซ่าคนเขมร ให้เข้ามาพำนักในราชอาณาจักรไทยได้แค่ 7 วันเหมือนกัน จากที่เคยฟรีวีซ่า และถือโอกาสส่งเสริมการกวาดล้างและผลักดันแรงงานเถื่อนของเขมรจำนวนนับล้านคนออกจากราชอาณาจักรไทย ส่งกลับคืนประเทศเขมร ทำให้สองพ่อลูกตระกูลฮุนขาดรายได้อย่างหนัก และต้องแบกรับภาระคนตกงานในประเทศเพิ่มขึ้น ความฉลาดครั้งที่สาม นำฑูตทหารฝ่ายความมั่นคงของทุกประเทศ เข้าร่วมประชุมรับรู้ถึงพฤติกรรมของฝ่ายเขมร ต่อกรณีการรุกล้ำอธิปไตยของไทย และมีเจตนาชั่วร้ายที่คิดจะนำกองทัพเขมรบุกเข้ามายึดตัวปราสาทของไทย ทำให้ฑูตทหารฝ่ายความมั่นคงของทุกประเทศเข้าใจอย่างถูกต้องว่า กองทัพไทยจำเป็นต้องตัดไฟฟ้าและตัดสัญญานอินเตอร์เนต และงดการส่งอาหารและเชื้อเพลิงพลังงาน เข้าไปยังเมืองเขตเศรษฐกิจสำคัญของเขมร เพราะตรวจทราบชัดเจนว่า เป็นแหล่งฟอกเงินขนาดใหญ่ เปิดบ่อนคาสิโน เพื่อสร้างอาชญากรรมทางไซเบอร์ และเป็นศูนย์รวมของแก๊งมิจฉาชีพทางการเงินขนาดใหญ่ ทั้งค้าอาวุธสงคราม และเป็นทุนใหญ่หนุนกองทัพเขมร ให้บุกเข้ามารุกล้ำอธิปไตยของไทย นี่คือเหตุผลสำคัญว่า ทำไม EU ถึงได้ออกมาตำหนินายฮุนมาเนต เมื่อวิ่งไปขอความช่วยเหลือจาก EU ว่า ระวังจะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์ ขึ้นมาอีกครั้ง จากพฤติกรรมของตระกูลตนเองได้ นี่คือเหตุผลว่า ทำไมสถานฑูตจีน ถึงเปลี่ยนท่าทีไม่สนับสนุนเขมรอีกต่อไป เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าเขมรมีเจตนารุกล้ำอธิปไตยของไทยจริง และเห็นชอบที่ไทยจะตัดไฟตัดความช่วยเหลือเขมรทุกทาง จากการยกประเด็นเรื่องรัฐบาลเขมรอยู่เบื้องหลังอาชญกรรมทางไซเบอร์ ที่ผู้นำจีน เกลียดเข้าไส้ ในขณะที่สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น ไม่พูดมาก พร้อมสนับสนุนไทยทุกด้าน หากไทยเปิดสงครามกับเขมรแบบจริงจัง ความฉลาดครั้งที่สี่ การกดดันเขมรทุกทางและตัดความช่วยเหลือทุกอย่างของกองทัพไทย คือการบีบให้ตระกูลฮุน ให้ไปเผชิญหน้าตามลำพังกับฝ่ายค้านของตนเอง และข่าวลือเริ่มแพร่กระจายไปทั่วเขมรว่า ประชาชนเริ่มลุกฮือ ไม่เอาตระกูลฮุน เพราะแพ้สงครามกับไทย ไม่ได้ยึดตัวปราสาทและเกาะกูดของไทย เหมือนอย่างที่คุยเอาไว้ และข่าวลือเริ่มระบาดหนักว่า ตระกูลเตีย ที่มีเชื้อสายคนไทย ที่คุมกำลังทหารทั้งหมดของเขมร จะปฏิวัติรัฐประหารตระกูลฮุน แบบนี้เท่ากับว่า กองทัพไทยเตรียมตัดหางตระกูลฮุนแบบถาวร และให้เขมรไปจัดการปัญหาภายในของตนเอง และงดความร่วมมือทุกอย่างกับตระกูลฮุน เขมรเพิ่งมีปัญหากับ สปป.ลาว เรื่องพรมแดน นี่คือรอยร้าวที่เกิดขึ้นใหม่ของเขมรกับ สปป.ลาว เขมรคือประเทศที่ติดหนี้จีน เป็นอันดับต้นๆของโลกและเงินสกุลเรียว ไม่สามารถใช้ได้ในอาเซี่ยนและทั่วโลก ต่างจากสกุลเงินบาทไทย ที่ในอาเซี่ยนและทั่วโลกยอมรับกันหมด ปัญหาของตระกูลฮุนก็คือ ไม่มีเครดิต ที่จะขอกู้เงินจากที่ไหนได้อีก หากจีนและสหรัฐอเมริกาเข้ามาช่วยเหลือ นั่นก็หมายความว่า ทรัพยากรทั้งหมดของเขมรและทุกพื้นที่ของเขมร จะต้องถูกนำมาจำนองหรือถูกขายแบบถาวรให้สองมหาอำนาจนี้ และนั่นคงจะเป็นจุดจบของตระกูลฮุน ที่อาจจะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์กันเองขึ้นมาอีกรอบ เมื่อเวียดนามส่งทหารเข้ามาช่วยตระกูลฮุน ในขณะที่จีนจะกลับมาสนับสนุนปลุกผีเขมรแดงอีกรอบให้ขึ้นมาจากหลุม ในขณะที่ประเทศไทย จะจำบทเรียนสำคัญให้ขึ้นใจ ก็คือต้องหยุดความสงสารต่อคนเขมร เมื่อหากมีการอพยพหนีตายขึ้นมาอีกครั้ง แต่ผมยังสงสัยอยู่ว่า เมื่อกองทัพได้ประกาศกฏอัยการศึกออกมาแล้ว ปัญหาเรื่องเขมรกับไทย กองทัพก็ได้ประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่า ให้เป็นหน้าที่ของกองทัพไทยเท่านั้น เหตุใดยังเห็นภาพของนายภูมิธรรมกับแพรทองธาร เที่ยวออกมาพูดวุ่นวายไปทั่ว แถมออกมาตีเนียนและเคลมว่า เป็นผลงานของตนเอง ที่แอบเจรจากับเขมรมาตลอด แถมยังยกมือกราบไหว้ขอบคุณสรรเสริญต่อผู้นำเขมร ที่ยอมถอยทหารออกไป นี่คือความพยายามเฮือกสุดท้ายของตระกูลชิน ที่ต้องการช่วยเหลือญาติทางฝั่งเขมรของตนเอง. เดชา นฤนารท. 10/6/68 08.45 น. #ไทยต้องไม่ถอย #หยุดเขมรรุกแดน #รักชาติพิสูจน์ด้วยการกระทำ #พร้อมรบเพื่อแผ่นดิน #ศึกนี้เพื่ออธิปไตย #ไม่เอา2ตระกูลหนักแผ่นดิน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #ธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม #ThammasatPitakTham
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • 555
    ..ส่วนตัว คว่ำบาตรทุกๆอย่างทุกๆกรณีทุกๆด้าน,ปิดพรมแดนตลอดแนวทั้งหมดห้ามใครเข้าออกทุกๆกรณี,ตัดคลื่นวิทยุตัดคลื่นมือถือตัดเน็ตทั้งหมด,ตัดน้ำมันตัดไฟฟ้าก็คงอยู่ในคว่ำบาตรนั้นล่ะ,ถีบคนเขมรออกจากประเทศไทยทั้งหมด ถีบฑูตเขมรกลับไปด้วย,ตัดความสัมพันธ์ทั้งหมด,ลงมติขับเขมรออกจากอาเชียน,ปิดตัวสำนึกผิดเขมรเอง,แบนเขมรแบนสินค้าเขมรและทั้งหมดของเขมรออกจากตลาดกลไกการตลาดไทย,ห้ามกระแสเงินตราจากใดๆโอนไปเขมร,และห้ามให้กระแสเงินตราใดๆเข้าประเทศไทย,นอกจากปิดพรมแดนทางบกปิดน่านน้ำและน่านฟ้าไทยด้วยห้ามเครื่องบินใดๆบินผ่านเพื่อไปเขมรและห้ามเครื่องบินเขมรผ่านน่านฟ้าน่านน้ำไทยตลอดเรือทุกๆชนิดประเภทด้วยห้ามผ่านไทยอ่าวไทยและอันดามันไทยตลอดแนว.,นี้พื้นๆเบื้องต้นไปก่อนเพียงสั่งสอนเบื้องต้น.
    ..เขมรปัจจุบันคือภัยคุกคามชาวโลกแล้ว หลอกลวงคนทั่วโลกผ่านแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะคนเถื่อนต่างชาติใดๆไปใช้เขมรก่อการด้วยก็ชั่ง,แต่มันเขมรไม่กวาดล้างสิ่งชั่วเลวใดๆก็แสดงว่าคนเดียวกัน,ค้ามนุษย์และค้าแรงงานอีกอาจค้าอวัยวะด้วยที่ลักพาตัวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่างๆหรือไปลักพาตัวโดยตรงจากประเทศเขามาเลยโดยผ่านชายแดนต่างๆทั่วประเทศมันและผ่านชายแดนไทยด้วยสมัยยังปกติไม่รู้ว่ามันชั่วเลวจะเก่งกล้าสามารถจะสร้างโกลาหลปั่นกระแสสร้างเรื่องเดินหมากจากยึดดินแดนไทยหมายลากยาวยึดบ่อน้ำมันบนอ่าวไทยและทรัพยากรชาติไทยมหาศาลด้วย,เรายึดต้องปิดด่านปิดพรมแดนจริงถาวรตลอดแนว,สร้างกำแพงตรงไหนที่กั้นได้สร้างเลย,อาจพวกมันคือสัตว์เลื้อยคลานในคราบชุดมนุษย์ไปแล้วในนามชาติเขมรลักพาตัวคนไทยและคนทั่วโลกอ้างจ้างแรงงานก็ตาม แท้จริงอาจกำลังเอาไปกินแบบวาติกันก็ได้,จึงถือว่าภัยอันตรายขั้นสูงสุดไว้ก่อน,เพื่อความปลอดภัยคนไทยเองจริงๆที่มีพรมแดนติดประเทศเหี้ยนี้,เหมือนจีนอาจคือภัยคุกคามทาทาเรียสมัยอดีตจึงสร้างกำแพงเมืองจีนที่จีนอ้างว่าสร้างเองแต่เสือกหันหน้าต่างช่องวางกระบอกปืนช่องรอยิงข้าศึกศัตรูหันไปทาง้มืองจีนนั้นล่ะ,
    ..เขมรคือประเทศค้ามนุษย์ค้าแรงงานอาจค้าอวัยวะมนุษย์ที่ใช้แรงงานจนหน่ำใจแล้วฆ่าทำกำไรตังต่อก็ได้ที่ถูกหลอกลวงล่อลวงไปจะวิธีใดๆก็ได้.,แหล่งวัตถุดิบของอีลิทอีกประเทศหนึ่งหรือแหล่งผลิตอะดริโนโครมจากการทารุณทรมานเด็กๆที่ลักพาตัวจากทั่วโลกอีกชาติหนึ่งก็ได้,deep stateมีแผนการเสมอ มีวางสนุ๊คไว้หมด,จีนสนับสนุนเขมรแดงในอดีต,จีนสมัยนั้นคือขี้ข้าสมุนรับใช้อีลิทdeep stateตัวจริงตัวพ่ออีกตัวก็ว่า,ใครจะรู้ความจริงว่า อะดริโนโครมที่คนฮอลลีวูดใช้มันไม่มาจากเขมรแดงก็ว่า.,ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แค่บังหน้าหามนุษย์แดกของแรปทีเลี่ยนบนโลกนี้ก็ได้.
    555 ..ส่วนตัว คว่ำบาตรทุกๆอย่างทุกๆกรณีทุกๆด้าน,ปิดพรมแดนตลอดแนวทั้งหมดห้ามใครเข้าออกทุกๆกรณี,ตัดคลื่นวิทยุตัดคลื่นมือถือตัดเน็ตทั้งหมด,ตัดน้ำมันตัดไฟฟ้าก็คงอยู่ในคว่ำบาตรนั้นล่ะ,ถีบคนเขมรออกจากประเทศไทยทั้งหมด ถีบฑูตเขมรกลับไปด้วย,ตัดความสัมพันธ์ทั้งหมด,ลงมติขับเขมรออกจากอาเชียน,ปิดตัวสำนึกผิดเขมรเอง,แบนเขมรแบนสินค้าเขมรและทั้งหมดของเขมรออกจากตลาดกลไกการตลาดไทย,ห้ามกระแสเงินตราจากใดๆโอนไปเขมร,และห้ามให้กระแสเงินตราใดๆเข้าประเทศไทย,นอกจากปิดพรมแดนทางบกปิดน่านน้ำและน่านฟ้าไทยด้วยห้ามเครื่องบินใดๆบินผ่านเพื่อไปเขมรและห้ามเครื่องบินเขมรผ่านน่านฟ้าน่านน้ำไทยตลอดเรือทุกๆชนิดประเภทด้วยห้ามผ่านไทยอ่าวไทยและอันดามันไทยตลอดแนว.,นี้พื้นๆเบื้องต้นไปก่อนเพียงสั่งสอนเบื้องต้น. ..เขมรปัจจุบันคือภัยคุกคามชาวโลกแล้ว หลอกลวงคนทั่วโลกผ่านแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะคนเถื่อนต่างชาติใดๆไปใช้เขมรก่อการด้วยก็ชั่ง,แต่มันเขมรไม่กวาดล้างสิ่งชั่วเลวใดๆก็แสดงว่าคนเดียวกัน,ค้ามนุษย์และค้าแรงงานอีกอาจค้าอวัยวะด้วยที่ลักพาตัวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่างๆหรือไปลักพาตัวโดยตรงจากประเทศเขามาเลยโดยผ่านชายแดนต่างๆทั่วประเทศมันและผ่านชายแดนไทยด้วยสมัยยังปกติไม่รู้ว่ามันชั่วเลวจะเก่งกล้าสามารถจะสร้างโกลาหลปั่นกระแสสร้างเรื่องเดินหมากจากยึดดินแดนไทยหมายลากยาวยึดบ่อน้ำมันบนอ่าวไทยและทรัพยากรชาติไทยมหาศาลด้วย,เรายึดต้องปิดด่านปิดพรมแดนจริงถาวรตลอดแนว,สร้างกำแพงตรงไหนที่กั้นได้สร้างเลย,อาจพวกมันคือสัตว์เลื้อยคลานในคราบชุดมนุษย์ไปแล้วในนามชาติเขมรลักพาตัวคนไทยและคนทั่วโลกอ้างจ้างแรงงานก็ตาม แท้จริงอาจกำลังเอาไปกินแบบวาติกันก็ได้,จึงถือว่าภัยอันตรายขั้นสูงสุดไว้ก่อน,เพื่อความปลอดภัยคนไทยเองจริงๆที่มีพรมแดนติดประเทศเหี้ยนี้,เหมือนจีนอาจคือภัยคุกคามทาทาเรียสมัยอดีตจึงสร้างกำแพงเมืองจีนที่จีนอ้างว่าสร้างเองแต่เสือกหันหน้าต่างช่องวางกระบอกปืนช่องรอยิงข้าศึกศัตรูหันไปทาง้มืองจีนนั้นล่ะ, ..เขมรคือประเทศค้ามนุษย์ค้าแรงงานอาจค้าอวัยวะมนุษย์ที่ใช้แรงงานจนหน่ำใจแล้วฆ่าทำกำไรตังต่อก็ได้ที่ถูกหลอกลวงล่อลวงไปจะวิธีใดๆก็ได้.,แหล่งวัตถุดิบของอีลิทอีกประเทศหนึ่งหรือแหล่งผลิตอะดริโนโครมจากการทารุณทรมานเด็กๆที่ลักพาตัวจากทั่วโลกอีกชาติหนึ่งก็ได้,deep stateมีแผนการเสมอ มีวางสนุ๊คไว้หมด,จีนสนับสนุนเขมรแดงในอดีต,จีนสมัยนั้นคือขี้ข้าสมุนรับใช้อีลิทdeep stateตัวจริงตัวพ่ออีกตัวก็ว่า,ใครจะรู้ความจริงว่า อะดริโนโครมที่คนฮอลลีวูดใช้มันไม่มาจากเขมรแดงก็ว่า.,ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แค่บังหน้าหามนุษย์แดกของแรปทีเลี่ยนบนโลกนี้ก็ได้.
    คนไทยอยากตอบโต้ไอ้เหมนอย่างไร ที่มิใช่สงคราม
    เชิญตอบแบบสำรวจกันด้วยจ้า
    #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 2 0 รีวิว
Pages Boosts