• จับตา“ชาวยิวในปาย” เบื้องหลัง นักท่องเที่ยว หรือแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว? โดย ผศ.ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
    3 มีนาคม 2568 #อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กลายเป็นจุดสนใจ เมื่อมีรายงานถึงจำนวน #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกต จุดนี้เชื่อมโยงกับข้อกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับบทบาทของ #กลุ่มทุนไซออนิสต์ หลายฝ่ายมองว่าอาจไม่ได้เป็นเพียงการท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของ #ยุทธศาสตร์ขยายอิทธิพลในภูมิภาค
    .
    ปัญหาของชาวยิว ตนต้องการ *เตือนสติ* ชาวไทยเอาไว้ว่ากรณีชาวยิวที่อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน ควรจะมองภาพรวมใหญ่ไว้บ้างว่า...
    .
    1. ประเทศไทย เป็นเป้าหมายหนึ่งของ 'กลุ่มทุนยิวไซออนิสต์' ซึ่งอยู่เบื้องหลัง #รัฐบาลอเมริกา ที่จะยึดครอง คนพวกนี้ต้องการ #สร้างฐานทัพในประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นที่ #ตั้งอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อจ่อจี #นอีกแห่ง
    .
    2. รัฐบาลอเมริกาซึ่งมีกลุ่มทุนยิวไซออนิสต์อยู่เบื้องหลังเคย #ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เป็นฐานทัพ แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ให้มาแล้ว
    .
    3. ในเวลาเดียวกัน อเมริกาก็หันไปสนับสนุนนาง #อองซานซูจี โดยทุ่มเงินจาก #USAID เข้าไปช่วยหาเสียงและซื้อเสียง #กองทัพเมียนมา จับทางได้ว่าอเมริกาต้องการเข้ามามีอิทธิพลในเมียนมาและกำลังใช้เงินจาก USAID ซื้อเสียง จึงยึดอำนาจเสีย รัฐบาลอเมริกาจึงหันไป #ติดอาวุธชนกลุ่มน้อย ให้รบกบกองทัพรัฐบาลพม่าแทน จึงเกิดมีปัญหาสู้รบกันและทำให้มีผู้อพยพเข้าสู่ประเทศไทยมากจนถึงเดี๋ยวนี้
    .
    4. สำหรับประเทศไทย อเมริกาเดินเกมขยาย #สถานกงสุลในเชียงใหม่ ให้ใหญ่โตขึ้น เพื่อรองรับคนทำงานเข้ามาใหม่ให้ได้จำนวนมากขึ้น
    .
    ผมสงสัยว่ากลุ่มคนที่จะเพิ่มเข้ามาทำงานในสถานกงสุล ก็น่าจะเป็น #เครือข่ายซีไอเอ ที่จะมาปฏิบัติการในไทยและเมียนมา ซึ่งอเมริกาต้องการจำนวนคนมากขึ้นกับภารกิจเชิงรุก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เดินทางเข้ามาไทยมากยิ่งขึ้นตามมาในอนาคต
    ต้องไม่ลืมว่าหนังสือพิมพ์ #Haarets ของอิสราเอลรายงานชัดเจนว่าขณะนี้ ชาวยิวกำลังหันมาสนใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
    .
    5. ความจริงประการหนึ่งก็คือขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและ #อังกฤษ ทำงานรับใช้ #ยิว อย่างเต็มที่ อเมริกาทุ่มให้เครือข่ายซีไอเอไปรับใช้ ส่วนอังกฤษทุ่มเครือข่าย #MI6 ให้ทำงานรับใช้ยิวในประเทศต่างๆ มาก
    .
    จึงไม่น่าแปลกอะไรที่จะมีนักท่องเที่ยวอิสราเอล อังกฤษและอเมริกาในอำเภอปายมากกว่าในที่อื่นๆ โดยที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็น #สายลับ ที่เข้ามาสังเกตการณ์และทำงานร่วมกันเพื่อหาทางวางรากฐานให้ชาวยิวอพยพมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวรก็ได้ เพราะการว่าจ้างคนไทยให้เป็นนอมินีซื้อที่ดินให้คนเหล่านี้ยึดครอง ทำได้ง่ายอยู่แล้ว
    .
    6. อเมริกายังเดินเกม จัดตั้ง #ศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อีกแห่ง
    ข้อมูลระดับพื้นฐานที่คนไทยควรจะรู้ ก็คือ #กูเกิล เกิดมาจากหน่วยงาน #ซีไอเอ (ตามข่าวในภาพประกอบ) ขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและอิสราเอลใช้กูเกิลเป็นเครื่องมือช่วยกวาดล้างชาวปาเลสไตน์และปล้นแผ่นดินปาเลสไตน์อยู่
    .
    เมื่อมีการขอจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิล ไม่มีเสียงทักท้วงหรือคัดค้านใดๆ จากเลขาธิการ #สมช. ของไทย #กระทรวงมหาดไทย และ #กระทรวงการต่างประเทศเลย แสดงให้เห็นว่าสามองค์กรหลักนี้ไม่ระแวงหรือสงสัยอะไรเลยเพราะข้อมูลเกี่ยวกับกูเกิลไม่มีมากพอ
    .
    การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการจัดตั้งเครือข่ายซีไอเอและ #มอสสาด (#Mossad หน่วยงานข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล) ในประเทศไทย เพื่อรวบรวม #BigData คนในแถบ #ตะวันออกเฉียงใต้ เอาไว้ด้วยจุดประสงค์บางอย่างนั่นเอง
    .
    อย่าลืมความจริงที่คนไทยก็รู้มานานแล้วว่า ประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตก กำลังวางยุทธศาสตร์แบ่งแยกประเทศไทย ทั้งที่ #สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งใน #ภาคอีสาน และทั้งในพื้นที่ภาคเหนือเพื่อตนเองจะได้เข้ามามีบทบาทควบคุมประเทศแถบนี้มากยิ่งขึ้น
    .
    ประเทศเล็กๆ หลายประเทศในขณะนี้ตกเป็นอาณานิคมของอเมริกาและอิสราเอล ซึ่งมียิวอยู่เบื้องหลังก็เพราะมีหน่วยงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและมีนักการเมืองที่ดูแลผลประโยชน์ประเทศชาติพากัน *โง่* และตั้งตนในความประมาทนี่แหละ!
    .
    จับตา“ชาวยิวในปาย” เบื้องหลัง นักท่องเที่ยว หรือแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว? โดย ผศ.ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 3 มีนาคม 2568 #อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กลายเป็นจุดสนใจ เมื่อมีรายงานถึงจำนวน #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกต จุดนี้เชื่อมโยงกับข้อกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับบทบาทของ #กลุ่มทุนไซออนิสต์ หลายฝ่ายมองว่าอาจไม่ได้เป็นเพียงการท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของ #ยุทธศาสตร์ขยายอิทธิพลในภูมิภาค . ปัญหาของชาวยิว ตนต้องการ *เตือนสติ* ชาวไทยเอาไว้ว่ากรณีชาวยิวที่อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน ควรจะมองภาพรวมใหญ่ไว้บ้างว่า... . 1. ประเทศไทย เป็นเป้าหมายหนึ่งของ 'กลุ่มทุนยิวไซออนิสต์' ซึ่งอยู่เบื้องหลัง #รัฐบาลอเมริกา ที่จะยึดครอง คนพวกนี้ต้องการ #สร้างฐานทัพในประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นที่ #ตั้งอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อจ่อจี #นอีกแห่ง . 2. รัฐบาลอเมริกาซึ่งมีกลุ่มทุนยิวไซออนิสต์อยู่เบื้องหลังเคย #ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เป็นฐานทัพ แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ให้มาแล้ว . 3. ในเวลาเดียวกัน อเมริกาก็หันไปสนับสนุนนาง #อองซานซูจี โดยทุ่มเงินจาก #USAID เข้าไปช่วยหาเสียงและซื้อเสียง #กองทัพเมียนมา จับทางได้ว่าอเมริกาต้องการเข้ามามีอิทธิพลในเมียนมาและกำลังใช้เงินจาก USAID ซื้อเสียง จึงยึดอำนาจเสีย รัฐบาลอเมริกาจึงหันไป #ติดอาวุธชนกลุ่มน้อย ให้รบกบกองทัพรัฐบาลพม่าแทน จึงเกิดมีปัญหาสู้รบกันและทำให้มีผู้อพยพเข้าสู่ประเทศไทยมากจนถึงเดี๋ยวนี้ . 4. สำหรับประเทศไทย อเมริกาเดินเกมขยาย #สถานกงสุลในเชียงใหม่ ให้ใหญ่โตขึ้น เพื่อรองรับคนทำงานเข้ามาใหม่ให้ได้จำนวนมากขึ้น . ผมสงสัยว่ากลุ่มคนที่จะเพิ่มเข้ามาทำงานในสถานกงสุล ก็น่าจะเป็น #เครือข่ายซีไอเอ ที่จะมาปฏิบัติการในไทยและเมียนมา ซึ่งอเมริกาต้องการจำนวนคนมากขึ้นกับภารกิจเชิงรุก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เดินทางเข้ามาไทยมากยิ่งขึ้นตามมาในอนาคต ต้องไม่ลืมว่าหนังสือพิมพ์ #Haarets ของอิสราเอลรายงานชัดเจนว่าขณะนี้ ชาวยิวกำลังหันมาสนใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น . 5. ความจริงประการหนึ่งก็คือขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและ #อังกฤษ ทำงานรับใช้ #ยิว อย่างเต็มที่ อเมริกาทุ่มให้เครือข่ายซีไอเอไปรับใช้ ส่วนอังกฤษทุ่มเครือข่าย #MI6 ให้ทำงานรับใช้ยิวในประเทศต่างๆ มาก . จึงไม่น่าแปลกอะไรที่จะมีนักท่องเที่ยวอิสราเอล อังกฤษและอเมริกาในอำเภอปายมากกว่าในที่อื่นๆ โดยที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็น #สายลับ ที่เข้ามาสังเกตการณ์และทำงานร่วมกันเพื่อหาทางวางรากฐานให้ชาวยิวอพยพมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวรก็ได้ เพราะการว่าจ้างคนไทยให้เป็นนอมินีซื้อที่ดินให้คนเหล่านี้ยึดครอง ทำได้ง่ายอยู่แล้ว . 6. อเมริกายังเดินเกม จัดตั้ง #ศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อีกแห่ง ข้อมูลระดับพื้นฐานที่คนไทยควรจะรู้ ก็คือ #กูเกิล เกิดมาจากหน่วยงาน #ซีไอเอ (ตามข่าวในภาพประกอบ) ขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและอิสราเอลใช้กูเกิลเป็นเครื่องมือช่วยกวาดล้างชาวปาเลสไตน์และปล้นแผ่นดินปาเลสไตน์อยู่ . เมื่อมีการขอจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิล ไม่มีเสียงทักท้วงหรือคัดค้านใดๆ จากเลขาธิการ #สมช. ของไทย #กระทรวงมหาดไทย และ #กระทรวงการต่างประเทศเลย แสดงให้เห็นว่าสามองค์กรหลักนี้ไม่ระแวงหรือสงสัยอะไรเลยเพราะข้อมูลเกี่ยวกับกูเกิลไม่มีมากพอ . การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการจัดตั้งเครือข่ายซีไอเอและ #มอสสาด (#Mossad หน่วยงานข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล) ในประเทศไทย เพื่อรวบรวม #BigData คนในแถบ #ตะวันออกเฉียงใต้ เอาไว้ด้วยจุดประสงค์บางอย่างนั่นเอง . อย่าลืมความจริงที่คนไทยก็รู้มานานแล้วว่า ประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตก กำลังวางยุทธศาสตร์แบ่งแยกประเทศไทย ทั้งที่ #สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งใน #ภาคอีสาน และทั้งในพื้นที่ภาคเหนือเพื่อตนเองจะได้เข้ามามีบทบาทควบคุมประเทศแถบนี้มากยิ่งขึ้น . ประเทศเล็กๆ หลายประเทศในขณะนี้ตกเป็นอาณานิคมของอเมริกาและอิสราเอล ซึ่งมียิวอยู่เบื้องหลังก็เพราะมีหน่วยงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและมีนักการเมืองที่ดูแลผลประโยชน์ประเทศชาติพากัน *โง่* และตั้งตนในความประมาทนี่แหละ! .
    0 Comments 0 Shares 221 Views 0 Reviews
  • กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปแล้ว 1,000,000 นาย!

    “นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการพิเศษ กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งรวมทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีรถถังและรถหุ้มเกราะประมาณ 20,000 คัน”

    รายงานโดย พล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารของกองทัพรัสเซีย

    ประเด็นอื่นที่น่าสนใจของ เกราซิมอฟ:
    - เฉพาะในพื้นที่ภูมิภาคเคิร์ส กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปมากกว่า 42,000 นาย รถถังและรถหุ้มเกราะมากกว่า 1,800 คัน

    - การจัดตั้งกองทหารชุดแรกที่ติดตั้งระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ S-500 ซึ่งสามารถป้องกันขีปนาวุธเชิงยุทธศาสตร์ได้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

    - มีการปลดปล่อยนิคมมากกว่า 190 แห่งในปีนี้ รวมพื้นที่ประมาณ 4,500 ตารางกิโลเมตร อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย

    - การติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ภาคพื้นดินของกองทัพรัสเซียเสร็จสมบูรณ์แล้ว

    - ในปี 2024 มีการจัดตั้งในส่วนของกองกำลังภาคพื้นดิน(กองทัพบก) เพิ่มเติม ประกอบด้วย 2 กองทัพ 1 กองพลทหาร และ 16 หน่วยทหาร รวมถึงเขตทหารอีก 2 เขต

    - กองทัพเรือรัสเซียจะได้รับเรือดำน้ำนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์คลาส Borei-A จำนวน 3 ลำภายในปี 2028
    กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปแล้ว 1,000,000 นาย! “นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการพิเศษ กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งรวมทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีรถถังและรถหุ้มเกราะประมาณ 20,000 คัน” รายงานโดย พล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารของกองทัพรัสเซีย ประเด็นอื่นที่น่าสนใจของ เกราซิมอฟ: - เฉพาะในพื้นที่ภูมิภาคเคิร์ส กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปมากกว่า 42,000 นาย รถถังและรถหุ้มเกราะมากกว่า 1,800 คัน - การจัดตั้งกองทหารชุดแรกที่ติดตั้งระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ S-500 ซึ่งสามารถป้องกันขีปนาวุธเชิงยุทธศาสตร์ได้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว - มีการปลดปล่อยนิคมมากกว่า 190 แห่งในปีนี้ รวมพื้นที่ประมาณ 4,500 ตารางกิโลเมตร อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย - การติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ภาคพื้นดินของกองทัพรัสเซียเสร็จสมบูรณ์แล้ว - ในปี 2024 มีการจัดตั้งในส่วนของกองกำลังภาคพื้นดิน(กองทัพบก) เพิ่มเติม ประกอบด้วย 2 กองทัพ 1 กองพลทหาร และ 16 หน่วยทหาร รวมถึงเขตทหารอีก 2 เขต - กองทัพเรือรัสเซียจะได้รับเรือดำน้ำนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์คลาส Borei-A จำนวน 3 ลำภายในปี 2028
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 283 Views 0 Reviews
  • "โลกมาถึงจุดที่กำลังจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ ไม่ใช่เพราะต้นเหตุที่เกิดจากสหรัฐอเมริกาใช้อำนาจกดดัน บังคับ คว่ำบาตร ต่อประเทศต่างๆ เพื่อให้พวกเขาอยู่ใต้อำนาจหรอกหรือ"

    หลังจากที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธ IRBM โจมตีในดนิโปร ของยูเครน และสร้างความตกตะลึงให้กับปลุ่มประเทศนาโตอย่างมาก กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯได้เสนอรายงานเพื่อปรับปรุงกองกำลังนิวเคลียร์ กองบัญชาการและควบคุมนิวเคลียร์ และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย และปรับกลยุทธ์การยับยั้งการใช้อาวุธนิวเคลียร์ เหตุผลก็เพราะศัตรูด้านนิวเคลียร์อย่างรัสเซียและจีนกำลังเป็นภัย "คุกคาม" มากขึ้น

    ริชาร์ด จอห์นสัน รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมฝ่ายนโยบายนิวเคลียร์และต่อต้านอาวุธทำลายล้างสูง กล่าวว่า "ปัจจุบันเราอาศัยอยู่ในโลกที่ต้องเผชิญกับคู่แข่งด้านนิวเคลียร์หลายราย หลายประเทศกำลังขยาย และเพิ่มความหลากหลาย รวมทั้งปรับปรุงคลังอาวุธนิวเคลียร์ของตน ซึ่งน่าเสียดายที่ประเทศเหล่านั้นให้ความสำคัญกับบทบาทของอาวุธนิวเคลียร์ในกลยุทธ์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของตนเป็นอันดับแรก ทำให้สหรัฐฯจำเป็นต้องทบทวนท่าทีด้านนิวเคลียร์ในปี 2022 "เพื่อรักษาการยับยั้งนิวเคลียร์ไว้ภายใต้ศักยภาพด้านนิวเคลียร์ที่เพิ่มขึ้นของจีนและรัสเซีย"

    จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ ได้ดำเนินการต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสหรัฐฯ แล้ว รวมถึงในด้านการผลิตระเบิดแรงโน้มถ่วง B61-13 การเพิ่มความพร้อมของเรือดำน้ำชั้นโอไฮโอที่ติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์และระบบขับเคลื่อน และการปรับปรุงคลังอาวุธนิวเคลียร์โดยทั่วไป

    จอห์นสันยังกล่าวว่า "การใช้นโยบาย "ยับยั้ง" เพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถแก้ไขอันตรายเชิงยุทธศาสตร์ได้ ซึ่งต้องดำเนินไปกับการควบคุมอาวุธ การลดความเสี่ยง และการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งมีบทบาทสำคัญเช่นกัน"

    ด้านนายแกรนท์ ชไนเดอร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ของคณะเสนาธิการร่วม กล่าวว่า "เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทศวรรษ 2030 เราจะต้องปรับปรุงกองกำลังนิวเคลียร์ กองบัญชาการและควบคุมนิวเคลียร์ และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย ​​ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถยืดหยุ่นและปรับตัวได้เมื่อเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยคุกคามใหม่ๆ การเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น หรือความล่าช้าในการปรับปรุงให้ทันสมัย"
    "โลกมาถึงจุดที่กำลังจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ ไม่ใช่เพราะต้นเหตุที่เกิดจากสหรัฐอเมริกาใช้อำนาจกดดัน บังคับ คว่ำบาตร ต่อประเทศต่างๆ เพื่อให้พวกเขาอยู่ใต้อำนาจหรอกหรือ" หลังจากที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธ IRBM โจมตีในดนิโปร ของยูเครน และสร้างความตกตะลึงให้กับปลุ่มประเทศนาโตอย่างมาก กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯได้เสนอรายงานเพื่อปรับปรุงกองกำลังนิวเคลียร์ กองบัญชาการและควบคุมนิวเคลียร์ และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย และปรับกลยุทธ์การยับยั้งการใช้อาวุธนิวเคลียร์ เหตุผลก็เพราะศัตรูด้านนิวเคลียร์อย่างรัสเซียและจีนกำลังเป็นภัย "คุกคาม" มากขึ้น ริชาร์ด จอห์นสัน รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมฝ่ายนโยบายนิวเคลียร์และต่อต้านอาวุธทำลายล้างสูง กล่าวว่า "ปัจจุบันเราอาศัยอยู่ในโลกที่ต้องเผชิญกับคู่แข่งด้านนิวเคลียร์หลายราย หลายประเทศกำลังขยาย และเพิ่มความหลากหลาย รวมทั้งปรับปรุงคลังอาวุธนิวเคลียร์ของตน ซึ่งน่าเสียดายที่ประเทศเหล่านั้นให้ความสำคัญกับบทบาทของอาวุธนิวเคลียร์ในกลยุทธ์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของตนเป็นอันดับแรก ทำให้สหรัฐฯจำเป็นต้องทบทวนท่าทีด้านนิวเคลียร์ในปี 2022 "เพื่อรักษาการยับยั้งนิวเคลียร์ไว้ภายใต้ศักยภาพด้านนิวเคลียร์ที่เพิ่มขึ้นของจีนและรัสเซีย" จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ ได้ดำเนินการต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสหรัฐฯ แล้ว รวมถึงในด้านการผลิตระเบิดแรงโน้มถ่วง B61-13 การเพิ่มความพร้อมของเรือดำน้ำชั้นโอไฮโอที่ติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์และระบบขับเคลื่อน และการปรับปรุงคลังอาวุธนิวเคลียร์โดยทั่วไป จอห์นสันยังกล่าวว่า "การใช้นโยบาย "ยับยั้ง" เพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถแก้ไขอันตรายเชิงยุทธศาสตร์ได้ ซึ่งต้องดำเนินไปกับการควบคุมอาวุธ การลดความเสี่ยง และการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งมีบทบาทสำคัญเช่นกัน" ด้านนายแกรนท์ ชไนเดอร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ของคณะเสนาธิการร่วม กล่าวว่า "เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทศวรรษ 2030 เราจะต้องปรับปรุงกองกำลังนิวเคลียร์ กองบัญชาการและควบคุมนิวเคลียร์ และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย ​​ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถยืดหยุ่นและปรับตัวได้เมื่อเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยคุกคามใหม่ๆ การเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น หรือความล่าช้าในการปรับปรุงให้ทันสมัย"
    0 Comments 0 Shares 451 Views 0 Reviews
  • กองทัพอากาศยูเครนอ้างอย่างเป็นทางการว่าถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM)

    ตามรายงานการป้องกันทางอากาศประจำวันของกองทัพอากาศยูเครน ซึ่งมีรายละเอียดบางส่วนดังนี้:
    เมื่อเช้าวันที่ 21 พฤศจิกายน 2024 ระหว่างเวลา 05:00 น. ถึง 07:00 น. กองทัพรัสเซียโจมตีเป้าหมายทางทหารในเมือง Dnipro (ที่ตั้งสำนักงานและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ) ด้วยขีปนาวุธหลายประเภท ประกอบด้วย
    - ขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ถูกยิงจากภูมิภาค Astrakhan ของสหพันธรัฐรัสเซีย
    - ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kh-47M2 "Kinzhal" จากเครื่องบินรบ MiG-31K
    - ขีปนาวุธร่อน Kh-101 จำนวน 7 ลูก จากเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ Tu-95MS (ยิงจากภูมิภาค Volgograd)
    .

    ขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ที่รัสเซียใช้ครั้งนี้ เป็นหัวรบโจมตีแยกอิสระแบบหลายเป้าหมาย (MIRV - Multiple independent targetable reentry vehicle) หัวรบเหล่านี้จะแตกตัวขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศตั้งแต่สองลูกไปจนถึงหลายสิบลูก โดยแต่ละลูกสามารถโจมตีเป้าหมายที่แตกต่างกันได้อย่างอิสระ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเอาชนะระบบป้องกันภัยทางอากาศและโจมตีศัตรูด้วยหัวรบจำนวนมากพร้อมๆกันจนไม่สามารถทำลายได้หมด โดยปกติหัวรบเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ได้

    ในการใช้ ICBM ครั้งนี้ ไม่ถือว่าเป็นการตัดสินใจทางยุทธศาสตร์อย่างแท้จริงของรัสเซีย เนื่องจากรัสเซียไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธประเภทนี้โจมตียูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวรบแบบธรรมดา (ไม่ใช่หัวรบนิวเคลียร์) โดยที่เป้าหมายในเมืองดนิโปรที่ห่างจากแนวหน้าเพียงร้อยกว่ากิโลเมตร

    การโจมตีครั้งนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออย่างเดียว คือเป็นการแสดงอำนาจและข่มขู่ทางทหารที่เหนือกว่ายูเครน ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถและความมุ่งมั่นของรัสเซียอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา

    วิดีโอ1 เป็นตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นการทำงานของ ICBM
    กองทัพอากาศยูเครนอ้างอย่างเป็นทางการว่าถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ตามรายงานการป้องกันทางอากาศประจำวันของกองทัพอากาศยูเครน ซึ่งมีรายละเอียดบางส่วนดังนี้: เมื่อเช้าวันที่ 21 พฤศจิกายน 2024 ระหว่างเวลา 05:00 น. ถึง 07:00 น. กองทัพรัสเซียโจมตีเป้าหมายทางทหารในเมือง Dnipro (ที่ตั้งสำนักงานและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ) ด้วยขีปนาวุธหลายประเภท ประกอบด้วย - ขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ถูกยิงจากภูมิภาค Astrakhan ของสหพันธรัฐรัสเซีย - ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kh-47M2 "Kinzhal" จากเครื่องบินรบ MiG-31K - ขีปนาวุธร่อน Kh-101 จำนวน 7 ลูก จากเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ Tu-95MS (ยิงจากภูมิภาค Volgograd) . ขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ที่รัสเซียใช้ครั้งนี้ เป็นหัวรบโจมตีแยกอิสระแบบหลายเป้าหมาย (MIRV - Multiple independent targetable reentry vehicle) หัวรบเหล่านี้จะแตกตัวขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศตั้งแต่สองลูกไปจนถึงหลายสิบลูก โดยแต่ละลูกสามารถโจมตีเป้าหมายที่แตกต่างกันได้อย่างอิสระ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเอาชนะระบบป้องกันภัยทางอากาศและโจมตีศัตรูด้วยหัวรบจำนวนมากพร้อมๆกันจนไม่สามารถทำลายได้หมด โดยปกติหัวรบเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ได้ ในการใช้ ICBM ครั้งนี้ ไม่ถือว่าเป็นการตัดสินใจทางยุทธศาสตร์อย่างแท้จริงของรัสเซีย เนื่องจากรัสเซียไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธประเภทนี้โจมตียูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวรบแบบธรรมดา (ไม่ใช่หัวรบนิวเคลียร์) โดยที่เป้าหมายในเมืองดนิโปรที่ห่างจากแนวหน้าเพียงร้อยกว่ากิโลเมตร การโจมตีครั้งนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออย่างเดียว คือเป็นการแสดงอำนาจและข่มขู่ทางทหารที่เหนือกว่ายูเครน ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถและความมุ่งมั่นของรัสเซียอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา วิดีโอ1 เป็นตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นการทำงานของ ICBM
    0 Comments 0 Shares 354 Views 0 Reviews
  • ฉันไม่เข้าใจว่าเราทำอะไรอยู่ในยูเครน และฉันก็ไม่คิดว่าคุณจะเข้าใจเช่นกัน

    Eric Weinstein
    .
    I don’t understand what we are doing in Ukraine. And I don’t think you do either.
    .
    11:16 PM · Sep 13, 2024 · 5.6M Views
    https://x.com/EricRWeinstein/status/1834627309275578789
    .
    ฉันเข้าใจ

    โดยพื้นฐานแล้วยูเครนเป็นฐานทัพใหญ่ของ CIA, ที่แอบอ้างว่าเป็นประเทศที่มีอำนาจอธิปไตย

    CIA ย้ายเข้ามาในยูเครนหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต, โดยมุ่งหวังที่จะใช้ประโยชน์จากประเทศที่ไร้กฎหมายและไม่มั่นคงแห่งนี้, โดยใช้ประเทศนี้เป็นตัวแทนในต่างประเทศ, นอกเหนือขอบเขตการกำกับดูแลของสหรัฐฯ

    เริ่มต้นด้วยกฎหมาย Nunn-Lugar ในปี ๑๙๙๑, และดำเนินต่อไปในปี ๒๐๐๕, เมื่อวุฒิสมาชิกโอบามาและลูการ์เดินทางไปเยือนยูเครน, เพื่อตรวจสอบโรงงานชีวภาพ, โรงงานเคมี, และโรงงานนิวเคลียร์ของอดีตสหภาพโซเวียต (ตามภาพด้านล่าง), จากนั้นจึงเพิ่มยูเครนเข้าในหน่วยงานลดภัยคุกคามทางการป้องกัน, และเริ่มเปลี่ยนโรงงานโซเวียตเหล่านี้ให้กลายเป็น "โรงงานวิจัยเชิงป้องกัน", ซึ่งเปิดประตูให้ผู้รับเหมาของสหรัฐฯเข้ามาตั้งหลักปักฐานในยูเครน, และจัดตั้งปฏิบัติการฟอกเงินและกรรโชกทรัพย์, ภายใต้ข้ออ้างของ "ความช่วยเหลือจากต่างประเทศ"

    จากนั้น CIA ก็ให้ทุนสนับสนุนกลุ่มนักรบนาซีในยูเครน ซึ่งนำไปสู่การปะทุของสงครามกลางเมืองในปี ๒๐๑๔ ในดอนบาส ท่ามกลางความโกลาหล, กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ, ได้ใช้สถานการณ์นี้ผ่านวิกตอเรีย นูลแลนด์, เพื่อจัดตั้งหุ่นเชิดที่ภักดีต่อสหรัฐฯ, รวมถึงสายโทรศัพท์ที่รั่วไหลอย่างฉาวโฉ่ระหว่างเธอและเจฟฟรีย์ ไพแอตต์ ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศด้วยกัน, เกี่ยวกับการให้แน่ใจว่า “คนของพวกเขา” ยัตเซนุยก์, ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี กระทรวงการต่างประเทศ, ร่วมกับ CIA, เข้าควบคุมยูเครนอย่างลับๆผ่านการปฏิวัติสีในปี ๒๐๑๔

    ปูตินตระหนักถึงเรื่องนี้, เขารู้ว่าสหรัฐฯได้ทำให้ยูเครนไม่มั่นคงและได้เข้าควบคุม, และยอมรับว่าสหรัฐฯกำลังสร้างกองทัพตัวแทนบนชายแดนของเขา, โดยให้ทุน, ฝึกอบรม, และจัดหาอาวุธให้กับยูเครน และพยายามนำยูเครนเข้าสู่ NATO นี่คือเส้นแบ่งสำหรับปูติน, ดังที่เขาพูดมาหลายทศวรรษ รัสเซียได้ถูกรุกรานจากตะวันตกมาหลายครั้งแล้ว และจะไม่ยอมให้มีกองทัพประจำการที่เป็นศัตรูและขีปนาวุธพิสัยไกลบนชายแดนของพวกเขา เหมือนกับที่สหรัฐฯไม่ชอบเมื่อรัสเซียพยายามติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในคิวบาในยุค ๖๐, รัสเซียก็ไม่ชอบที่สหรัฐฯพยายามนำกองทัพและอาวุธเข้ามาในยูเครน

    โดยพื้นฐานแล้ว, ยูเครนเป็นดินแดนที่ไม่เป็นทางการของสหรัฐฯ และไม่เป็นสมาชิกนาโต, และกลุ่มดีพสเตตไม่ต้องการสูญเสียแหล่งรายได้และสินทรัพย์เชิงยุทธศาสตร์อย่างยูเครน, ดังนั้น พวกเขาจึงยังคงส่งเงินภาษีของเราหลายแสนล้านดอลลาร์เพื่อปกป้องชายแดนยูเครน พวกเขากำลังใช้ยูเครนเป็นแหล่งฟอกเงินเพื่อนำเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ไปใช้กับเครื่องจักรสงคราม, และยังปกปิดอาชญากรรมร้ายแรงในยูเครนอีกด้วย, รวมถึงอาชญากรรมต่อมนุษยชาติในการพัฒนาอาวุธชีวภาพ, การค้ามนุษย์, การค้ายาเสพติด, และอื่นๆ สิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้ในสหรัฐฯ, พวกเขาทำในยูเครน

    หากประชาชนรู้ความจริงเกี่ยวกับที่มาของการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯในยูเครน, พวกเขาจะไม่สนับสนุนการส่งเงินแม้แต่เพนนีเดียวไปยังยูเครน เรื่องเล่าที่ว่ารัสเซียโจมตียูเครนในปี ๒๐๒๒ "โดยไม่ได้รับการยั่วยุ", เป็นการโฆษณาชวนเชื่อสงครามเพื่อให้ดูเหมือนว่ายูเครนเป็นผู้ปกป้องที่ชอบธรรมเพื่อรวบรวมการสนับสนุนของคุณ, ในขณะที่ในความเป็นจริง, สหรัฐฯเป็นคนเริ่มความขัดแย้งนี้, พวกเขาคือผู้ที่นำสงครามมาที่หน้าประตูบ้านของปูติน, และสหรัฐฯเป็นผู้ทำให้สงครามดำเนินต่อไป โดยยังคงให้เงินทุนและเสบียงแก่ยูเครน

    ปูตินไม่ต้องการพิชิตยุโรปทั้งหมด, เขาต้องการเพียงแค่ให้ NATO ออกไปจากชายแดนของเขา, และความยุติธรรมสำหรับการพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูงของสหรัฐฯ ในยูเครน, โดยเฉพาะ, อาวุธชีวภาพที่จำเพาะต่อยีน

    สงครามเย็นไม่เคยสิ้นสุดอย่างแท้จริง

    Clandestine
    .
    I do.

    Ukraine is essentially a giant CIA base, posing as a sovereign nation.

    The CIA moved into Ukraine after the fall of the Soviet Union, looking to take advantage of the lawless and destabilized country, using it as an offshore proxy, outside the scope of US oversight.

    It began with the Nunn-Lugar Act in 1991, and then carried on into 2005, when then Senators Obama and Lugar visited Ukraine, to inspect the former Soviet bio, chemical, and nuclear facilities (pictured below), and then added Ukraine to the Defense Threat Reduction Agency, and began turning these former Soviet facilities into “defensive research facilities”, which opened the door for US contractors to establish their foothold in Ukraine, and set up their money laundering and racketeering operations, under the guise of “foreign aid”.

    Then the CIA funded Nazi militant groups in Ukraine which led to the outbreak of civil war in 2014 in the Donbas. Amidst the chaos, the US State Department, via Victoria Nuland, leveraged the situation to install US-loyal puppets, including the infamous leaked phone call between her and fellow State Department bureaucrat Geoffrey Pyatt, about ensuring “their guy” Yatsenuik, was installed as Prime Minister. The State Department, in tandem with the CIA, covertly took control of Ukraine via Color Revolution in 2014.

    Putin recognized this. He knew that the US had destabilized and taken control of Ukraine, and recognized that the US were building a proxy army on his border, by funding, training, and supplying Ukraine with weapons, and trying to bring them into NATO. This was a red line for Putin, as he has said for decades. Russia have been invaded from the West too many times before, and will not tolerate a hostile standing army and long-range missiles on their border. Just like the US didn’t like it when Russia tried to put nukes in Cuba in the 60’s, Russia doesn’t like the US trying to bring armies and weapons to Ukraine.

    Essentially, Ukraine is an unofficial US territory and NATO member, and the Deep State do not want to lose out on their cash cow and strategic asset that is Ukraine, hence why they continue to send hundreds of billions of our tax dollars to protect Ukraine’s border. They are using Ukraine as a laundry mat to funnel in hundreds of billions for the war machine, and also covering up their extreme criminality in Ukraine, including crimes against humanity for bioweapon development, human trafficking, drug trafficking, etc. All the things they can’t get away with stateside, they do in Ukraine.

    If the public knew the truth about the origins of US involvement in Ukraine, they would NEVER have supported sending a single penny to Ukraine. The narrative that Russia attacked Ukraine in 2022 “unprovoked”, is war propaganda to make it appear Ukraine are the righteous defenders in order to garner your support, when in reality, The US started this conflict, they are the ones who brought war to Putin’s doorstep, and the US are the ones perpetuating the war by continuing to fund and supply Ukraine.

    Putin does not want to conquer all of Europe, he just wants NATO off of his border, and justice for US development of weapons of mass destruction in Ukraine, namely, gene-specific biological weapons.

    The Cold War never truly ended.
    .
    1:44 AM · Sep 14, 2024 · 3.3M Views
    https://x.com/WarClandestine/status/1834664499976323116
    ฉันไม่เข้าใจว่าเราทำอะไรอยู่ในยูเครน และฉันก็ไม่คิดว่าคุณจะเข้าใจเช่นกัน Eric Weinstein . I don’t understand what we are doing in Ukraine. And I don’t think you do either. . 11:16 PM · Sep 13, 2024 · 5.6M Views https://x.com/EricRWeinstein/status/1834627309275578789 . ฉันเข้าใจ โดยพื้นฐานแล้วยูเครนเป็นฐานทัพใหญ่ของ CIA, ที่แอบอ้างว่าเป็นประเทศที่มีอำนาจอธิปไตย CIA ย้ายเข้ามาในยูเครนหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต, โดยมุ่งหวังที่จะใช้ประโยชน์จากประเทศที่ไร้กฎหมายและไม่มั่นคงแห่งนี้, โดยใช้ประเทศนี้เป็นตัวแทนในต่างประเทศ, นอกเหนือขอบเขตการกำกับดูแลของสหรัฐฯ เริ่มต้นด้วยกฎหมาย Nunn-Lugar ในปี ๑๙๙๑, และดำเนินต่อไปในปี ๒๐๐๕, เมื่อวุฒิสมาชิกโอบามาและลูการ์เดินทางไปเยือนยูเครน, เพื่อตรวจสอบโรงงานชีวภาพ, โรงงานเคมี, และโรงงานนิวเคลียร์ของอดีตสหภาพโซเวียต (ตามภาพด้านล่าง), จากนั้นจึงเพิ่มยูเครนเข้าในหน่วยงานลดภัยคุกคามทางการป้องกัน, และเริ่มเปลี่ยนโรงงานโซเวียตเหล่านี้ให้กลายเป็น "โรงงานวิจัยเชิงป้องกัน", ซึ่งเปิดประตูให้ผู้รับเหมาของสหรัฐฯเข้ามาตั้งหลักปักฐานในยูเครน, และจัดตั้งปฏิบัติการฟอกเงินและกรรโชกทรัพย์, ภายใต้ข้ออ้างของ "ความช่วยเหลือจากต่างประเทศ" จากนั้น CIA ก็ให้ทุนสนับสนุนกลุ่มนักรบนาซีในยูเครน ซึ่งนำไปสู่การปะทุของสงครามกลางเมืองในปี ๒๐๑๔ ในดอนบาส ท่ามกลางความโกลาหล, กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ, ได้ใช้สถานการณ์นี้ผ่านวิกตอเรีย นูลแลนด์, เพื่อจัดตั้งหุ่นเชิดที่ภักดีต่อสหรัฐฯ, รวมถึงสายโทรศัพท์ที่รั่วไหลอย่างฉาวโฉ่ระหว่างเธอและเจฟฟรีย์ ไพแอตต์ ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศด้วยกัน, เกี่ยวกับการให้แน่ใจว่า “คนของพวกเขา” ยัตเซนุยก์, ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี กระทรวงการต่างประเทศ, ร่วมกับ CIA, เข้าควบคุมยูเครนอย่างลับๆผ่านการปฏิวัติสีในปี ๒๐๑๔ ปูตินตระหนักถึงเรื่องนี้, เขารู้ว่าสหรัฐฯได้ทำให้ยูเครนไม่มั่นคงและได้เข้าควบคุม, และยอมรับว่าสหรัฐฯกำลังสร้างกองทัพตัวแทนบนชายแดนของเขา, โดยให้ทุน, ฝึกอบรม, และจัดหาอาวุธให้กับยูเครน และพยายามนำยูเครนเข้าสู่ NATO นี่คือเส้นแบ่งสำหรับปูติน, ดังที่เขาพูดมาหลายทศวรรษ รัสเซียได้ถูกรุกรานจากตะวันตกมาหลายครั้งแล้ว และจะไม่ยอมให้มีกองทัพประจำการที่เป็นศัตรูและขีปนาวุธพิสัยไกลบนชายแดนของพวกเขา เหมือนกับที่สหรัฐฯไม่ชอบเมื่อรัสเซียพยายามติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในคิวบาในยุค ๖๐, รัสเซียก็ไม่ชอบที่สหรัฐฯพยายามนำกองทัพและอาวุธเข้ามาในยูเครน โดยพื้นฐานแล้ว, ยูเครนเป็นดินแดนที่ไม่เป็นทางการของสหรัฐฯ และไม่เป็นสมาชิกนาโต, และกลุ่มดีพสเตตไม่ต้องการสูญเสียแหล่งรายได้และสินทรัพย์เชิงยุทธศาสตร์อย่างยูเครน, ดังนั้น พวกเขาจึงยังคงส่งเงินภาษีของเราหลายแสนล้านดอลลาร์เพื่อปกป้องชายแดนยูเครน พวกเขากำลังใช้ยูเครนเป็นแหล่งฟอกเงินเพื่อนำเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ไปใช้กับเครื่องจักรสงคราม, และยังปกปิดอาชญากรรมร้ายแรงในยูเครนอีกด้วย, รวมถึงอาชญากรรมต่อมนุษยชาติในการพัฒนาอาวุธชีวภาพ, การค้ามนุษย์, การค้ายาเสพติด, และอื่นๆ สิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้ในสหรัฐฯ, พวกเขาทำในยูเครน หากประชาชนรู้ความจริงเกี่ยวกับที่มาของการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯในยูเครน, พวกเขาจะไม่สนับสนุนการส่งเงินแม้แต่เพนนีเดียวไปยังยูเครน เรื่องเล่าที่ว่ารัสเซียโจมตียูเครนในปี ๒๐๒๒ "โดยไม่ได้รับการยั่วยุ", เป็นการโฆษณาชวนเชื่อสงครามเพื่อให้ดูเหมือนว่ายูเครนเป็นผู้ปกป้องที่ชอบธรรมเพื่อรวบรวมการสนับสนุนของคุณ, ในขณะที่ในความเป็นจริง, สหรัฐฯเป็นคนเริ่มความขัดแย้งนี้, พวกเขาคือผู้ที่นำสงครามมาที่หน้าประตูบ้านของปูติน, และสหรัฐฯเป็นผู้ทำให้สงครามดำเนินต่อไป โดยยังคงให้เงินทุนและเสบียงแก่ยูเครน ปูตินไม่ต้องการพิชิตยุโรปทั้งหมด, เขาต้องการเพียงแค่ให้ NATO ออกไปจากชายแดนของเขา, และความยุติธรรมสำหรับการพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูงของสหรัฐฯ ในยูเครน, โดยเฉพาะ, อาวุธชีวภาพที่จำเพาะต่อยีน สงครามเย็นไม่เคยสิ้นสุดอย่างแท้จริง Clandestine . I do. Ukraine is essentially a giant CIA base, posing as a sovereign nation. The CIA moved into Ukraine after the fall of the Soviet Union, looking to take advantage of the lawless and destabilized country, using it as an offshore proxy, outside the scope of US oversight. It began with the Nunn-Lugar Act in 1991, and then carried on into 2005, when then Senators Obama and Lugar visited Ukraine, to inspect the former Soviet bio, chemical, and nuclear facilities (pictured below), and then added Ukraine to the Defense Threat Reduction Agency, and began turning these former Soviet facilities into “defensive research facilities”, which opened the door for US contractors to establish their foothold in Ukraine, and set up their money laundering and racketeering operations, under the guise of “foreign aid”. Then the CIA funded Nazi militant groups in Ukraine which led to the outbreak of civil war in 2014 in the Donbas. Amidst the chaos, the US State Department, via Victoria Nuland, leveraged the situation to install US-loyal puppets, including the infamous leaked phone call between her and fellow State Department bureaucrat Geoffrey Pyatt, about ensuring “their guy” Yatsenuik, was installed as Prime Minister. The State Department, in tandem with the CIA, covertly took control of Ukraine via Color Revolution in 2014. Putin recognized this. He knew that the US had destabilized and taken control of Ukraine, and recognized that the US were building a proxy army on his border, by funding, training, and supplying Ukraine with weapons, and trying to bring them into NATO. This was a red line for Putin, as he has said for decades. Russia have been invaded from the West too many times before, and will not tolerate a hostile standing army and long-range missiles on their border. Just like the US didn’t like it when Russia tried to put nukes in Cuba in the 60’s, Russia doesn’t like the US trying to bring armies and weapons to Ukraine. Essentially, Ukraine is an unofficial US territory and NATO member, and the Deep State do not want to lose out on their cash cow and strategic asset that is Ukraine, hence why they continue to send hundreds of billions of our tax dollars to protect Ukraine’s border. They are using Ukraine as a laundry mat to funnel in hundreds of billions for the war machine, and also covering up their extreme criminality in Ukraine, including crimes against humanity for bioweapon development, human trafficking, drug trafficking, etc. All the things they can’t get away with stateside, they do in Ukraine. If the public knew the truth about the origins of US involvement in Ukraine, they would NEVER have supported sending a single penny to Ukraine. The narrative that Russia attacked Ukraine in 2022 “unprovoked”, is war propaganda to make it appear Ukraine are the righteous defenders in order to garner your support, when in reality, The US started this conflict, they are the ones who brought war to Putin’s doorstep, and the US are the ones perpetuating the war by continuing to fund and supply Ukraine. Putin does not want to conquer all of Europe, he just wants NATO off of his border, and justice for US development of weapons of mass destruction in Ukraine, namely, gene-specific biological weapons. The Cold War never truly ended. . 1:44 AM · Sep 14, 2024 · 3.3M Views https://x.com/WarClandestine/status/1834664499976323116
    Wow
    1
    0 Comments 0 Shares 1121 Views 0 Reviews