• “RSS กลับมาอีกครั้งในปี 2025 — เมื่อผู้ใช้เบื่ออัลกอริทึมและโหยหาการควบคุมเนื้อหาด้วยตัวเอง”

    ในยุคที่โซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยอัลกอริทึมที่คัดกรองเนื้อหาแทนผู้ใช้ เสียงเรียกร้องให้กลับไปใช้ระบบที่ “ผู้ใช้ควบคุมเอง” กำลังดังขึ้นอีกครั้ง และ RSS (Really Simple Syndication) ก็กลับมาเป็นพระเอกที่หลายคนลืมไป

    บทความจาก Tom Burkert ชี้ให้เห็นว่า RSS ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเก่า แต่เป็น “โครงสร้างพื้นฐานของเว็บที่ดี” ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามเนื้อหาจากแหล่งที่ตนเลือกได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านการคัดกรองของแพลตฟอร์มกลาง ไม่ว่าจะเป็นบล็อก ข่าว หรือพอดแคสต์ — ถ้ามี RSS feed ก็สามารถรวมมาอ่านในที่เดียวได้ทันที

    Burkert เน้นย้ำว่า RSS คือการ “ควบคุมการรับรู้” ที่แท้จริง เพราะผู้ใช้เลือกเองว่าจะติดตามใคร ไม่ใช่ให้แพลตฟอร์มเลือกให้ และยังปลอดภัยจากการติดตามพฤติกรรมหรือโฆษณาแบบเจาะจง เพราะ RSS ไม่ต้องใช้บัญชี ไม่เก็บข้อมูล และไม่มีการแทรกโฆษณา

    ในขณะที่หลายเว็บไซต์เลิกให้บริการ RSS feed ด้วยเหตุผลด้านการตลาดและการควบคุม traffic ก็มีเครื่องมือใหม่อย่าง RSS.app ที่ช่วยสร้าง feed จากเว็บไซต์ที่ไม่มี RSS ได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถกลับมารวบรวมเนื้อหาได้อย่างอิสระอีกครั้ง

    การกลับมาของ RSS ยังสะท้อนถึงแนวโน้มของ “เว็บแบบกระจายศูนย์” ที่ไม่พึ่งพาแพลตฟอร์มใหญ่ และเปิดโอกาสให้ผู้ใช้เป็นเจ้าของการรับรู้ของตัวเองอย่างแท้จริง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    RSS เป็นระบบติดตามเนื้อหาที่ผู้ใช้ควบคุมเองได้โดยไม่ผ่านอัลกอริทึม
    ผู้ใช้สามารถรวมเนื้อหาจากหลายแหล่งไว้ในที่เดียว เช่น ข่าว บล็อก พอดแคสต์
    RSS ไม่ต้องใช้บัญชี ไม่เก็บข้อมูล และไม่มีโฆษณาเจาะจง
    Tom Burkert ยกย่อง RSS ว่าเป็น “โครงสร้างพื้นฐานของเว็บที่ดี”
    RSS.app ช่วยสร้าง feed จากเว็บไซต์ที่ไม่มี RSS ได้
    การใช้ RSS สะท้อนแนวโน้มของเว็บแบบกระจายศูนย์ที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของการรับรู้
    RSS ช่วยลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มกลางและเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการติดตามเนื้อหา

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    RSS เริ่มต้นในยุค 90s และเคยเป็นเทคโนโลยีหลักในการติดตามเนื้อหาเว็บ
    การลดลงของ RSS เกิดจากการเติบโตของโซเชียลมีเดียและแอปมือถือ
    OPML คือไฟล์ที่ใช้รวม feed หลายรายการไว้ในที่เดียว
    Feed reader เช่น Feedly, Inoreader, NetNewsWire ยังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้เฉพาะ
    การกลับมาใช้ RSS ช่วยเพิ่ม productivity และลดการเสพเนื้อหาที่ไม่จำเป็น

    https://blog.burkert.me/posts/in_praise_of_syndication/
    📡 “RSS กลับมาอีกครั้งในปี 2025 — เมื่อผู้ใช้เบื่ออัลกอริทึมและโหยหาการควบคุมเนื้อหาด้วยตัวเอง” ในยุคที่โซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยอัลกอริทึมที่คัดกรองเนื้อหาแทนผู้ใช้ เสียงเรียกร้องให้กลับไปใช้ระบบที่ “ผู้ใช้ควบคุมเอง” กำลังดังขึ้นอีกครั้ง และ RSS (Really Simple Syndication) ก็กลับมาเป็นพระเอกที่หลายคนลืมไป บทความจาก Tom Burkert ชี้ให้เห็นว่า RSS ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเก่า แต่เป็น “โครงสร้างพื้นฐานของเว็บที่ดี” ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามเนื้อหาจากแหล่งที่ตนเลือกได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านการคัดกรองของแพลตฟอร์มกลาง ไม่ว่าจะเป็นบล็อก ข่าว หรือพอดแคสต์ — ถ้ามี RSS feed ก็สามารถรวมมาอ่านในที่เดียวได้ทันที Burkert เน้นย้ำว่า RSS คือการ “ควบคุมการรับรู้” ที่แท้จริง เพราะผู้ใช้เลือกเองว่าจะติดตามใคร ไม่ใช่ให้แพลตฟอร์มเลือกให้ และยังปลอดภัยจากการติดตามพฤติกรรมหรือโฆษณาแบบเจาะจง เพราะ RSS ไม่ต้องใช้บัญชี ไม่เก็บข้อมูล และไม่มีการแทรกโฆษณา ในขณะที่หลายเว็บไซต์เลิกให้บริการ RSS feed ด้วยเหตุผลด้านการตลาดและการควบคุม traffic ก็มีเครื่องมือใหม่อย่าง RSS.app ที่ช่วยสร้าง feed จากเว็บไซต์ที่ไม่มี RSS ได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถกลับมารวบรวมเนื้อหาได้อย่างอิสระอีกครั้ง การกลับมาของ RSS ยังสะท้อนถึงแนวโน้มของ “เว็บแบบกระจายศูนย์” ที่ไม่พึ่งพาแพลตฟอร์มใหญ่ และเปิดโอกาสให้ผู้ใช้เป็นเจ้าของการรับรู้ของตัวเองอย่างแท้จริง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ RSS เป็นระบบติดตามเนื้อหาที่ผู้ใช้ควบคุมเองได้โดยไม่ผ่านอัลกอริทึม ➡️ ผู้ใช้สามารถรวมเนื้อหาจากหลายแหล่งไว้ในที่เดียว เช่น ข่าว บล็อก พอดแคสต์ ➡️ RSS ไม่ต้องใช้บัญชี ไม่เก็บข้อมูล และไม่มีโฆษณาเจาะจง ➡️ Tom Burkert ยกย่อง RSS ว่าเป็น “โครงสร้างพื้นฐานของเว็บที่ดี” ➡️ RSS.app ช่วยสร้าง feed จากเว็บไซต์ที่ไม่มี RSS ได้ ➡️ การใช้ RSS สะท้อนแนวโน้มของเว็บแบบกระจายศูนย์ที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของการรับรู้ ➡️ RSS ช่วยลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มกลางและเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการติดตามเนื้อหา ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ RSS เริ่มต้นในยุค 90s และเคยเป็นเทคโนโลยีหลักในการติดตามเนื้อหาเว็บ ➡️ การลดลงของ RSS เกิดจากการเติบโตของโซเชียลมีเดียและแอปมือถือ ➡️ OPML คือไฟล์ที่ใช้รวม feed หลายรายการไว้ในที่เดียว ➡️ Feed reader เช่น Feedly, Inoreader, NetNewsWire ยังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้เฉพาะ ➡️ การกลับมาใช้ RSS ช่วยเพิ่ม productivity และลดการเสพเนื้อหาที่ไม่จำเป็น https://blog.burkert.me/posts/in_praise_of_syndication/
    BLOG.BURKERT.ME
    In Praise of RSS and Controlled Feeds of Information
    The way we consume content on the internet is increasingly driven by walled-garden platforms and black-box feed algorithms. This shift is making our media diets miserable. Ironically, a solution to the problem predates algorithmic feeds, social media and other forms of informational junk food. It is called RSS (Really Simple Syndication) and it is beautiful. What the hell is RSS? RSS is just a format that defines how websites can publish updates (articles, posts, episodes, and so on) in a standard feed that you can subscribe to using an RSS reader (or aggregator). Don’t worry if this sounds extremely uninteresting to you; there aren’t many people that get excited about format specifications; the beauty of RSS is in its simplicity. Any content management system or blog platform supports RSS out of the box, and often enables it by default. As a result, a large portion of the content on the internet is available to you in feeds that you can tap into. But this time, you’re in full control of what you’re receiving, and the feeds are purely reverse chronological bliss. Coincidentally, you might already be using RSS without even knowing, because the whole podcasting world runs on RSS.
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • “UPnP บน Xbox: ทางลัดสู่การเล่นออนไลน์ลื่นไหล หรือช่องโหว่ที่เปิดบ้านให้แฮกเกอร์?”

    ในยุคที่เกมออนไลน์กลายเป็นกิจกรรมหลักของผู้เล่น Xbox หลายคน การตั้งค่าเครือข่ายให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการตั้งค่า NAT (Network Address Translation) ที่ส่งผลโดยตรงต่อการเชื่อมต่อกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ซึ่ง UPnP หรือ Universal Plug and Play คือฟีเจอร์ที่ช่วยให้ Xbox สามารถเปิดพอร์ตที่จำเป็นสำหรับการเล่นเกมและแชทเสียงได้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเข้าไปตั้งค่าด้วยตัวเอง

    UPnP ทำงานโดยให้ Xbox ส่งคำขอไปยังเราเตอร์เพื่อเปิดพอร์ตที่จำเป็น เช่น สำหรับเกม Call of Duty หรือ Fortnite ซึ่งช่วยให้ข้อมูลเกมไหลผ่านเครือข่ายได้อย่างราบรื่น และทำให้ NAT type ของ Xbox เป็นแบบ “Open” ซึ่งเป็นสถานะที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นออนไลน์

    แต่ความสะดวกนี้ก็มีด้านมืด เพราะ UPnP ไม่มีระบบตรวจสอบสิทธิ์ใด ๆ เลย — มันเชื่อทุกคำขอจากอุปกรณ์ในเครือข่ายทันที ซึ่งหมายความว่า หากมีอุปกรณ์ที่ถูกแฮกอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน มันสามารถส่งคำขอปลอมไปยังเราเตอร์เพื่อเปิดพอร์ตให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบภายในบ้านได้

    ช่องโหว่นี้เคยถูกใช้ในการโจมตีครั้งใหญ่ เช่น Mirai botnet ที่เจาะอุปกรณ์ IoT ผ่าน UPnP โดยไม่ต้องผ่าน firewall เลย ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจึงแนะนำว่า หากคุณต้องการความปลอดภัยสูงสุด ควรปิด UPnP และตั้งค่า port forwarding ด้วยตัวเอง แม้จะยุ่งยากกว่า แต่คุณจะควบคุมได้เต็มที่ว่า “ประตูไหนเปิดให้ใคร”

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    UPnP คือโปรโตคอลที่ช่วยให้ Xbox เปิดพอร์ตเครือข่ายโดยอัตโนมัติ
    ช่วยให้ NAT type เป็นแบบ “Open” ซึ่งดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมออนไลน์
    Xbox ใช้ UPnP เพื่อเชื่อมต่อกับเกมและแชทเสียงโดยไม่ต้องตั้งค่าด้วยตัวเอง
    หาก UPnP ไม่ทำงาน อาจเกิดข้อผิดพลาด “UPnP Not Successful” บน Xbox
    NAT แบบ Moderate หรือ Strict จะจำกัดการเชื่อมต่อกับผู้เล่นคนอื่น
    การตั้งค่า port forwarding ด้วยตัวเองเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า
    UPnP เป็นฟีเจอร์ที่เปิดไว้โดยค่าเริ่มต้นในเราเตอร์รุ่นใหม่ส่วนใหญ่

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Xbox ใช้พอร์ต UDP: 88, 500, 3544, 4500 และ TCP/UDP: 3074 สำหรับการเชื่อมต่อ
    การตั้งค่า static IP บน Xbox ช่วยให้ port forwarding มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    บางเราเตอร์ต้องตั้งค่า DMZ หรือปรับ firewall เพื่อให้ Xbox เชื่อมต่อได้ดี
    Carrier-Grade NAT (CGNAT) จาก ISP บางรายอาจทำให้ NAT type เป็นแบบ Strict โดยไม่สามารถแก้ไขได้เอง
    การตั้งค่า port forwarding ต้องใช้ข้อมูล IP, MAC address และ gateway ของ Xbox

    https://www.slashgear.com/1981414/xbox-upnp-router-feature-purpose-what-for-how-enable/
    🎮 “UPnP บน Xbox: ทางลัดสู่การเล่นออนไลน์ลื่นไหล หรือช่องโหว่ที่เปิดบ้านให้แฮกเกอร์?” ในยุคที่เกมออนไลน์กลายเป็นกิจกรรมหลักของผู้เล่น Xbox หลายคน การตั้งค่าเครือข่ายให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการตั้งค่า NAT (Network Address Translation) ที่ส่งผลโดยตรงต่อการเชื่อมต่อกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ซึ่ง UPnP หรือ Universal Plug and Play คือฟีเจอร์ที่ช่วยให้ Xbox สามารถเปิดพอร์ตที่จำเป็นสำหรับการเล่นเกมและแชทเสียงได้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเข้าไปตั้งค่าด้วยตัวเอง UPnP ทำงานโดยให้ Xbox ส่งคำขอไปยังเราเตอร์เพื่อเปิดพอร์ตที่จำเป็น เช่น สำหรับเกม Call of Duty หรือ Fortnite ซึ่งช่วยให้ข้อมูลเกมไหลผ่านเครือข่ายได้อย่างราบรื่น และทำให้ NAT type ของ Xbox เป็นแบบ “Open” ซึ่งเป็นสถานะที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นออนไลน์ แต่ความสะดวกนี้ก็มีด้านมืด เพราะ UPnP ไม่มีระบบตรวจสอบสิทธิ์ใด ๆ เลย — มันเชื่อทุกคำขอจากอุปกรณ์ในเครือข่ายทันที ซึ่งหมายความว่า หากมีอุปกรณ์ที่ถูกแฮกอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน มันสามารถส่งคำขอปลอมไปยังเราเตอร์เพื่อเปิดพอร์ตให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบภายในบ้านได้ ช่องโหว่นี้เคยถูกใช้ในการโจมตีครั้งใหญ่ เช่น Mirai botnet ที่เจาะอุปกรณ์ IoT ผ่าน UPnP โดยไม่ต้องผ่าน firewall เลย ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจึงแนะนำว่า หากคุณต้องการความปลอดภัยสูงสุด ควรปิด UPnP และตั้งค่า port forwarding ด้วยตัวเอง แม้จะยุ่งยากกว่า แต่คุณจะควบคุมได้เต็มที่ว่า “ประตูไหนเปิดให้ใคร” ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ UPnP คือโปรโตคอลที่ช่วยให้ Xbox เปิดพอร์ตเครือข่ายโดยอัตโนมัติ ➡️ ช่วยให้ NAT type เป็นแบบ “Open” ซึ่งดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมออนไลน์ ➡️ Xbox ใช้ UPnP เพื่อเชื่อมต่อกับเกมและแชทเสียงโดยไม่ต้องตั้งค่าด้วยตัวเอง ➡️ หาก UPnP ไม่ทำงาน อาจเกิดข้อผิดพลาด “UPnP Not Successful” บน Xbox ➡️ NAT แบบ Moderate หรือ Strict จะจำกัดการเชื่อมต่อกับผู้เล่นคนอื่น ➡️ การตั้งค่า port forwarding ด้วยตัวเองเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า ➡️ UPnP เป็นฟีเจอร์ที่เปิดไว้โดยค่าเริ่มต้นในเราเตอร์รุ่นใหม่ส่วนใหญ่ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Xbox ใช้พอร์ต UDP: 88, 500, 3544, 4500 และ TCP/UDP: 3074 สำหรับการเชื่อมต่อ ➡️ การตั้งค่า static IP บน Xbox ช่วยให้ port forwarding มีประสิทธิภาพมากขึ้น ➡️ บางเราเตอร์ต้องตั้งค่า DMZ หรือปรับ firewall เพื่อให้ Xbox เชื่อมต่อได้ดี ➡️ Carrier-Grade NAT (CGNAT) จาก ISP บางรายอาจทำให้ NAT type เป็นแบบ Strict โดยไม่สามารถแก้ไขได้เอง ➡️ การตั้งค่า port forwarding ต้องใช้ข้อมูล IP, MAC address และ gateway ของ Xbox https://www.slashgear.com/1981414/xbox-upnp-router-feature-purpose-what-for-how-enable/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    What Is UPnP On Xbox, And Should You Have It Enabled? - SlashGear
    The wrong NAT type can ruin your planned night of gaming on an Xbox Series X or S, but it's an easy enough fix if you're getting a UPnP error.
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • “Jonathan Clements จากไปอย่างสงบ — นักเขียนผู้เปลี่ยนชีวิตคนธรรมดาด้วยคำว่า ‘เงิน’ และ ‘ความหมาย’”

    Jonathan Clements ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ HumbleDollar และอดีตคอลัมนิสต์ชื่อดังของ The Wall Street Journal ได้เขียนข้อความอำลาครั้งสุดท้ายไว้ล่วงหน้าในฟอรัมของเว็บไซต์ ก่อนจากไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 ด้วยวัย 62 ปี

    เขาเริ่มต้นข้อความว่า “ถ้าคุณเห็นโพสต์นี้ แปลว่าผมจากไปแล้ว” พร้อมขอให้ผู้อ่านไม่เศร้า เพราะเขามีชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก ประสบการณ์ และโอกาสที่ดีในอาชีพ เขาหวังว่าใต้ต้นไม้หน้าบ้านในฟิลาเดลเฟีย ภรรยาของเขา Elaine จะวางแผ่นหินจารึกชื่อของเขา พร้อมคำว่า “Family • Readers • Words” ซึ่งเป็นสามสิ่งที่เขายึดถือมาตลอดชีวิต

    Jonathan เล่าถึงชีวิตตั้งแต่เกิดในลอนดอน ย้ายไปอเมริกาเมื่อพ่อได้งานที่ World Bank และต้องเผชิญกับชีวิตในโรงเรียนประจำที่โหดร้ายในอังกฤษ ก่อนจะสอบเข้า Cambridge และเริ่มต้นเส้นทางนักข่าวที่ Forbes และ The Wall Street Journal ซึ่งเขาเขียนคอลัมน์ “Getting Going” กว่า 1,000 ตอน

    เขาเป็นผู้ผลักดันแนวคิดการลงทุนในกองทุนดัชนี (index fund) ตั้งแต่ยุคที่ยังไม่เป็นที่นิยม และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่มีเป้าหมาย เขาเคยวิ่งมาราธอนใต้สามชั่วโมง และคว้าอันดับหนึ่งในฮาล์ฟมาราธอนบนเรือกลางทะเลแอนตาร์กติกา

    แม้ชีวิตคู่จะไม่ราบรื่นนัก แต่เขาพบรักครั้งสุดท้ายกับ Elaine ในปี 2020 และแต่งงานกันในปี 2024 เพียงห้าวันหลังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย

    เขาใช้เวลาช่วงสุดท้ายจัดการชีวิต เตรียมเว็บไซต์ HumbleDollar ให้ดำเนินต่อได้ และเขียนบทความเกี่ยวกับการเผชิญความตายอย่างมีสติ จนได้รับความสนใจจากสื่อหลายแห่ง เช่น The New York Times, WSJ และ AARP

    Jonathan ไม่เพียงเป็นนักเขียนด้านการเงิน แต่เป็นนักคิดที่ใช้ “คำ” เป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจชีวิต เขาจากไปอย่างสงบ แต่ทิ้งไว้ซึ่งบทเรียนเรื่องเงิน ความรัก และการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Jonathan Clements เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 ด้วยวัย 62 ปี
    เขาเขียนข้อความอำลาไว้ล่วงหน้าในฟอรัมของ HumbleDollar
    ขอให้ภรรยาวางแผ่นหินจารึกคำว่า “Family • Readers • Words” ใต้ต้นไม้หน้าบ้าน
    เกิดในลอนดอน ย้ายมาอเมริกาเมื่อพ่อได้งานที่ World Bank
    เรียนที่ Cambridge และเริ่มงานที่ Forbes ก่อนย้ายไป The Wall Street Journal
    เขียนคอลัมน์ “Getting Going” กว่า 1,000 ตอน และผลักดันแนวคิด index fund
    เคยวิ่งมาราธอนใต้สามชั่วโมง และชนะการแข่งขันหลายรายการ
    พบรักกับ Elaine ในปี 2020 และแต่งงานกันในปี 2024 หลังรู้ว่าเป็นมะเร็ง
    เตรียม HumbleDollar ให้ดำเนินต่อ และเขียนบทความเกี่ยวกับการเผชิญความตาย
    ได้รับการยกย่องจากสื่อหลายแห่ง เช่น NYT, WSJ, AARP

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Jonathan เป็นหนึ่งในนักเขียนด้านการเงินที่ผลักดัน index fund สู่กระแสหลัก
    หนังสือ “How to Think About Money” เป็นผลงานที่ขายดีที่สุดของเขา
    เขาเคยทำงานกับ Citigroup และ Creative Planning ในบทบาทด้านการศึกษาการเงิน
    HumbleDollar เปิดให้ผู้เขียนสมัครเล่นร่วมเขียนบทความ โดยเขาเป็นผู้แก้ไขด้วยตัวเอง
    เขาเชื่อว่าความสุขมาจากการใช้เงินเพื่อประสบการณ์ ไม่ใช่สิ่งของ

    https://humbledollar.com/forum/farewell-friends/
    🕊️ “Jonathan Clements จากไปอย่างสงบ — นักเขียนผู้เปลี่ยนชีวิตคนธรรมดาด้วยคำว่า ‘เงิน’ และ ‘ความหมาย’” Jonathan Clements ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ HumbleDollar และอดีตคอลัมนิสต์ชื่อดังของ The Wall Street Journal ได้เขียนข้อความอำลาครั้งสุดท้ายไว้ล่วงหน้าในฟอรัมของเว็บไซต์ ก่อนจากไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 ด้วยวัย 62 ปี เขาเริ่มต้นข้อความว่า “ถ้าคุณเห็นโพสต์นี้ แปลว่าผมจากไปแล้ว” พร้อมขอให้ผู้อ่านไม่เศร้า เพราะเขามีชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก ประสบการณ์ และโอกาสที่ดีในอาชีพ เขาหวังว่าใต้ต้นไม้หน้าบ้านในฟิลาเดลเฟีย ภรรยาของเขา Elaine จะวางแผ่นหินจารึกชื่อของเขา พร้อมคำว่า “Family • Readers • Words” ซึ่งเป็นสามสิ่งที่เขายึดถือมาตลอดชีวิต Jonathan เล่าถึงชีวิตตั้งแต่เกิดในลอนดอน ย้ายไปอเมริกาเมื่อพ่อได้งานที่ World Bank และต้องเผชิญกับชีวิตในโรงเรียนประจำที่โหดร้ายในอังกฤษ ก่อนจะสอบเข้า Cambridge และเริ่มต้นเส้นทางนักข่าวที่ Forbes และ The Wall Street Journal ซึ่งเขาเขียนคอลัมน์ “Getting Going” กว่า 1,000 ตอน เขาเป็นผู้ผลักดันแนวคิดการลงทุนในกองทุนดัชนี (index fund) ตั้งแต่ยุคที่ยังไม่เป็นที่นิยม และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่มีเป้าหมาย เขาเคยวิ่งมาราธอนใต้สามชั่วโมง และคว้าอันดับหนึ่งในฮาล์ฟมาราธอนบนเรือกลางทะเลแอนตาร์กติกา แม้ชีวิตคู่จะไม่ราบรื่นนัก แต่เขาพบรักครั้งสุดท้ายกับ Elaine ในปี 2020 และแต่งงานกันในปี 2024 เพียงห้าวันหลังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เขาใช้เวลาช่วงสุดท้ายจัดการชีวิต เตรียมเว็บไซต์ HumbleDollar ให้ดำเนินต่อได้ และเขียนบทความเกี่ยวกับการเผชิญความตายอย่างมีสติ จนได้รับความสนใจจากสื่อหลายแห่ง เช่น The New York Times, WSJ และ AARP Jonathan ไม่เพียงเป็นนักเขียนด้านการเงิน แต่เป็นนักคิดที่ใช้ “คำ” เป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจชีวิต เขาจากไปอย่างสงบ แต่ทิ้งไว้ซึ่งบทเรียนเรื่องเงิน ความรัก และการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Jonathan Clements เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 ด้วยวัย 62 ปี ➡️ เขาเขียนข้อความอำลาไว้ล่วงหน้าในฟอรัมของ HumbleDollar ➡️ ขอให้ภรรยาวางแผ่นหินจารึกคำว่า “Family • Readers • Words” ใต้ต้นไม้หน้าบ้าน ➡️ เกิดในลอนดอน ย้ายมาอเมริกาเมื่อพ่อได้งานที่ World Bank ➡️ เรียนที่ Cambridge และเริ่มงานที่ Forbes ก่อนย้ายไป The Wall Street Journal ➡️ เขียนคอลัมน์ “Getting Going” กว่า 1,000 ตอน และผลักดันแนวคิด index fund ➡️ เคยวิ่งมาราธอนใต้สามชั่วโมง และชนะการแข่งขันหลายรายการ ➡️ พบรักกับ Elaine ในปี 2020 และแต่งงานกันในปี 2024 หลังรู้ว่าเป็นมะเร็ง ➡️ เตรียม HumbleDollar ให้ดำเนินต่อ และเขียนบทความเกี่ยวกับการเผชิญความตาย ➡️ ได้รับการยกย่องจากสื่อหลายแห่ง เช่น NYT, WSJ, AARP ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Jonathan เป็นหนึ่งในนักเขียนด้านการเงินที่ผลักดัน index fund สู่กระแสหลัก ➡️ หนังสือ “How to Think About Money” เป็นผลงานที่ขายดีที่สุดของเขา ➡️ เขาเคยทำงานกับ Citigroup และ Creative Planning ในบทบาทด้านการศึกษาการเงิน ➡️ HumbleDollar เปิดให้ผู้เขียนสมัครเล่นร่วมเขียนบทความ โดยเขาเป็นผู้แก้ไขด้วยตัวเอง ➡️ เขาเชื่อว่าความสุขมาจากการใช้เงินเพื่อประสบการณ์ ไม่ใช่สิ่งของ https://humbledollar.com/forum/farewell-friends/
    HUMBLEDOLLAR.COM
    Farewell Friends - HumbleDollar
    If this post is appearing, it means I’ve succumbed to cancer or one of its side effects. Please don’t feel sad for me. I’ve had a life filled with love, great experiences and wonderful career opportunities. Despite my demise at a relatively young age, I consider myself beyond fortunate. I’m hoping that, under the tree in front of our little Philadelphia rowhome, my wife Elaine will place a stone tablet inscribed with my name, and the year I was born and died.
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • “YMTC กระโดดสู่ตลาด DRAM — จีนเร่งผลิต HBM ในประเทศ สู้วิกฤตขาดแคลนชิป AI หลังถูกสหรัฐฯ ควบคุมการส่งออก”

    หลังจากเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิต NAND รายใหญ่ของจีน บริษัท YMTC (Yangtze Memory Technologies Co.) กำลังขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาด DRAM โดยมีเป้าหมายหลักคือการผลิต HBM (High Bandwidth Memory) ด้วยตัวเอง เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนชิปหน่วยความจำความเร็วสูงที่จำเป็นต่อการพัฒนา AI ในประเทศ

    จีนกำลังเผชิญกับวิกฤต HBM อย่างหนัก เนื่องจากความต้องการชิป AI พุ่งสูง แต่กลับถูกสหรัฐฯ ขยายมาตรการควบคุมการส่งออกในปลายปี 2024 ทำให้บริษัทจีนไม่สามารถเข้าถึง HBM จากผู้ผลิตต่างประเทศ เช่น Micron, SK Hynix และ Samsung ได้อีกต่อไป

    YMTC จึงเริ่มตั้งสายการผลิต DRAM และพัฒนาเทคโนโลยีการบรรจุชิปแบบ TSV (Through-Silicon Via) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้าง HBM ที่ต้องซ้อนชั้น VRAM หลายชั้นอย่างแม่นยำ โดยมีแผนสร้างโรงงานใหม่ในเมืองอู่ฮั่น และร่วมมือกับ CXMT ผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ของจีน เพื่อแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญด้านการซ้อนชั้น 3D และการผลิต HBM2/HBM3

    แม้จะยังไม่มีตัวเลขการผลิตที่แน่นอน แต่ CXMT คาดว่าจะผลิตแผ่นเวเฟอร์ DRAM ได้ถึง 2.73 ล้านแผ่นในปี 2025 ซึ่งใกล้เคียงกับระดับของ Micron แล้ว ขณะที่ YMTC นำเทคโนโลยี Xtacking ที่เคยใช้ใน NAND มาเสริมการผลิต DRAM เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเชื่อมต่อระหว่างชั้น

    การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการภายในประเทศ แต่ยังอาจส่งผลต่ออุตสาหกรรมโลก หากจีนสามารถผลิต HBM ได้ในปริมาณมากและคุณภาพสูง โดยเฉพาะเมื่อ Huawei และบริษัทเทคโนโลยีจีนอื่น ๆ เริ่มพัฒนา AI accelerator ที่ใช้ HBM ในประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    YMTC ขยายธุรกิจจาก NAND สู่ DRAM เพื่อผลิต HBM ภายในประเทศ
    การขาดแคลน HBM เกิดจากการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ที่เริ่มปลายปี 2024
    YMTC ตั้งสายการผลิต DRAM และพัฒนาเทคโนโลยี TSV สำหรับการซ้อนชั้น VRAM
    มีแผนสร้างโรงงานใหม่ในเมืองอู่ฮั่นเพื่อรองรับการผลิต DRAM
    ร่วมมือกับ CXMT ผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ของจีนในการพัฒนา HBM2/HBM3
    CXMT คาดว่าจะผลิตเวเฟอร์ DRAM ได้ถึง 2.73 ล้านแผ่นในปี 2025
    YMTC ใช้เทคโนโลยี Xtacking ที่เคยใช้ใน NAND มาเสริมการผลิต DRAM
    Huawei เตรียมใช้ HBM ที่ผลิตในประเทศกับชิป AI รุ่นใหม่
    การผลิต HBM ในประเทศช่วยลดการพึ่งพาตะวันตกและเสริมความมั่นคงด้านเทคโนโลยี

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    HBM เป็นหน่วยความจำที่จำเป็นต่อการประมวลผล AI เช่นใน GPU และ XPU
    TSV เป็นเทคนิคที่ใช้เชื่อมต่อชั้นหน่วยความจำแบบแนวตั้งด้วยความแม่นยำสูง
    CXMT เป็นผู้ผลิต DRAM ที่มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมสำหรับการผลิต HBM
    การใช้ Xtacking ช่วยลดความร้อนและเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อระหว่างชั้น
    หากจีนผลิต HBM ได้สำเร็จ อาจมีผลต่อการแข่งขันกับ Samsung และ SK Hynix

    https://wccftech.com/china-ymtc-is-now-tapping-into-the-dram-business/
    🇨🇳 “YMTC กระโดดสู่ตลาด DRAM — จีนเร่งผลิต HBM ในประเทศ สู้วิกฤตขาดแคลนชิป AI หลังถูกสหรัฐฯ ควบคุมการส่งออก” หลังจากเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิต NAND รายใหญ่ของจีน บริษัท YMTC (Yangtze Memory Technologies Co.) กำลังขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาด DRAM โดยมีเป้าหมายหลักคือการผลิต HBM (High Bandwidth Memory) ด้วยตัวเอง เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนชิปหน่วยความจำความเร็วสูงที่จำเป็นต่อการพัฒนา AI ในประเทศ จีนกำลังเผชิญกับวิกฤต HBM อย่างหนัก เนื่องจากความต้องการชิป AI พุ่งสูง แต่กลับถูกสหรัฐฯ ขยายมาตรการควบคุมการส่งออกในปลายปี 2024 ทำให้บริษัทจีนไม่สามารถเข้าถึง HBM จากผู้ผลิตต่างประเทศ เช่น Micron, SK Hynix และ Samsung ได้อีกต่อไป YMTC จึงเริ่มตั้งสายการผลิต DRAM และพัฒนาเทคโนโลยีการบรรจุชิปแบบ TSV (Through-Silicon Via) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้าง HBM ที่ต้องซ้อนชั้น VRAM หลายชั้นอย่างแม่นยำ โดยมีแผนสร้างโรงงานใหม่ในเมืองอู่ฮั่น และร่วมมือกับ CXMT ผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ของจีน เพื่อแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญด้านการซ้อนชั้น 3D และการผลิต HBM2/HBM3 แม้จะยังไม่มีตัวเลขการผลิตที่แน่นอน แต่ CXMT คาดว่าจะผลิตแผ่นเวเฟอร์ DRAM ได้ถึง 2.73 ล้านแผ่นในปี 2025 ซึ่งใกล้เคียงกับระดับของ Micron แล้ว ขณะที่ YMTC นำเทคโนโลยี Xtacking ที่เคยใช้ใน NAND มาเสริมการผลิต DRAM เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเชื่อมต่อระหว่างชั้น การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการภายในประเทศ แต่ยังอาจส่งผลต่ออุตสาหกรรมโลก หากจีนสามารถผลิต HBM ได้ในปริมาณมากและคุณภาพสูง โดยเฉพาะเมื่อ Huawei และบริษัทเทคโนโลยีจีนอื่น ๆ เริ่มพัฒนา AI accelerator ที่ใช้ HBM ในประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ YMTC ขยายธุรกิจจาก NAND สู่ DRAM เพื่อผลิต HBM ภายในประเทศ ➡️ การขาดแคลน HBM เกิดจากการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ที่เริ่มปลายปี 2024 ➡️ YMTC ตั้งสายการผลิต DRAM และพัฒนาเทคโนโลยี TSV สำหรับการซ้อนชั้น VRAM ➡️ มีแผนสร้างโรงงานใหม่ในเมืองอู่ฮั่นเพื่อรองรับการผลิต DRAM ➡️ ร่วมมือกับ CXMT ผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ของจีนในการพัฒนา HBM2/HBM3 ➡️ CXMT คาดว่าจะผลิตเวเฟอร์ DRAM ได้ถึง 2.73 ล้านแผ่นในปี 2025 ➡️ YMTC ใช้เทคโนโลยี Xtacking ที่เคยใช้ใน NAND มาเสริมการผลิต DRAM ➡️ Huawei เตรียมใช้ HBM ที่ผลิตในประเทศกับชิป AI รุ่นใหม่ ➡️ การผลิต HBM ในประเทศช่วยลดการพึ่งพาตะวันตกและเสริมความมั่นคงด้านเทคโนโลยี ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ HBM เป็นหน่วยความจำที่จำเป็นต่อการประมวลผล AI เช่นใน GPU และ XPU ➡️ TSV เป็นเทคนิคที่ใช้เชื่อมต่อชั้นหน่วยความจำแบบแนวตั้งด้วยความแม่นยำสูง ➡️ CXMT เป็นผู้ผลิต DRAM ที่มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมสำหรับการผลิต HBM ➡️ การใช้ Xtacking ช่วยลดความร้อนและเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อระหว่างชั้น ➡️ หากจีนผลิต HBM ได้สำเร็จ อาจมีผลต่อการแข่งขันกับ Samsung และ SK Hynix https://wccftech.com/china-ymtc-is-now-tapping-into-the-dram-business/
    WCCFTECH.COM
    China's YMTC Is Now Tapping Into the DRAM Business, Producing It Domestically to Combat the HBM Shortage in the Region
    China's famous NAND producer YMTC is now planning to tap into the DRAM business, likely to speed up development of 'in-house' HBM.
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว”
    ตอนที่ 4 “ท่อส่งอีกแล้ว”
    South Pars เป็นแหล่งแก๊สที่ใหญ่มหาศาลอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย โดยมีอิหร่านและ Qatar เป็นเจ้าของ ส่วนของอิหร่านเรียก South Pars ส่วนของ Qatar เรียก North Dome
    ปี ค.ศ. 2009 Emir ของ Qatar ลงทุนบินไปเจรจากับประธานาธิบดี Assad ของซีเรียด้วยตัวเอง เกี่ยวกับเส้นทางก่อสร้างท่อแก๊สของ North Dome
    Qatar นั้นเป็นผู้ผลิตแก๊สรายใหญ่ ส่งทางเอเซียเป็นส่วนมากอยู่แล้ว เมื่อมี North Dome หล่นใส่ตัก จึงต้องการจะขยายตลาดไปทาง EU Qatar เสนอให้ซีเรียสร้างท่อส่ง เส้นทาง Qatar Turkey (ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ Qatar) และ Syria ปรากฎว่า Assad ปฏิเสธหน้าตาเฉย อ้างว่าเพราะมีไมตรีใกล้ชิดกับ Russia เราทำแบบนี้กับเพื่อนไม่ได้หรอก
    Emir หน้าแตก พกเอาความแค้นบินกลับบ้าน
    Assad ตอบตรงไปหน่อย และ Emir ก็คงจะลืมยาก Assad เหมือนไม่รู้ตัวว่าได้ทำอะไรลงไป หรือตั้งใจ !
    เดือนมกราคม ค.ศ. 2011 ความไม่สงบในซีเรียเริ่มก่อตัว และค่อยเพิ่มความรุนแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ
    เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2011 ในขณะที่ NATO และพวกลูกหาบ เดินหน้าถล่มรัฐบาล Assad รัฐบาลซีเรีย อิหร่าน และอิรัค ก็แอบจับมือลงนามในบันทึกข้อตกลงสร้างท่อส่งแก๊สมูลค่า 10,000 ล้านเหรียญ ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี เมื่อเสร็จ ท่อส่งจะวิ่งจากท่าเรือของอิหร่าน ที่ Assalouyeh ใกล้กับแหล่งแก๊ส South Pars ในอ่าวเปอร์เซีย วิ่งมายัง Damascus ในซีเรีย โดยผ่านเขตแดนของ Iraq นอกจากนี้ อิหร่านยังมีแผนที่จะขยายเส้นทาง ท่อส่ง วิ่งจาก Damascus ไปถึงท่าเรือของ Lebanon ที่ทะเล Mediterranean เพื่อส่งแก๊สจากอิหร่านให้ EU อีกด้วย ทั้งซีเรียและอิรัค ต่างทำสัญญาตกลงที่จะซื้อแก๊สจากอิหร่านเรียบร้อยแล้ว เป็นแก๊สที่มาจาก South Pars
    (หมายเหตุ : เส้นทางท่อแก๊ส South Pars นี้ ปัจจุบันระงับการดำเนินการ เนื่องจากอเมริกาคว่ำบาตรอิหร่าน ถล่มซีเรีย และกำลังกลับมาทุบอิรัคให้แตกแยกอย่างสมบูรณ์ ผ่านขบวนการของ ISIS อยู่ในขณะนี้ ต้องยกให้เป็นผลงานโดดเด่นของ Qatar เข้าตาลูกพี่อย่างยิ่ง ! )
    Qatar เหมือนเป็น สาขาต่างประเทศของ Pentagon เพราะที่ Qatar เต็มไปด้วยหน่วยงานด้านความมั่นคงของอเมริกา ตั้งแต่สำนักงานใหญ่ของ Air Forces Central, หน่วยประจำการรบทางอากาศที่ 83 และหน่วยที่ 379 ของกองทัพอากาศ และ Qatar ในฐานะที่เป็นเจ้าของโทรทัศน์ Al-Jazeera ที่สร้างรายการย้อมสี ฟอกข่าวความเลวร้ายของซีเรียราย วัน กระจายไปทั่วแดนอาหรับแล้ว Qatar ยังมีสัมพันธ์ ชนิดแน่นแบบแกะแทบไม่ออก กับหน่วยงานของอเมริกาและ NATO ที่อยู่แถวอ่าวเปอร์เซียอีกด้วย
    Imir ของ Qatar อมเลือดมาตั้งแต่วันไปพบกับ Assad เมื่อปี ค.ศ. 2009 แม้ Aljazeera จะไม่ออกข่าวการจับมือสร้างท่อส่ง ของกลุ่มอิหร่าน อิรัก ซีเรีย แต่จริง ๆ แล้ว Qatar พร้อมทำทุกอย่างให้แผนของอิหร่าน ซีเรีย ล่มและพังทลาย เพราะถ้าแผนท่อส่งของอิหร่าน เส้นทางอิรัค ซีเรียสำเร็จ ไม่ใช่แค่หน้าของ Imir จะแตกค้างปี Qatar และตุรกีก็จะคงมีสภาพเหมือนเจ้าของด่านเก็บเงิน แต่เส้นทางมาด่าน ถูกมือดีเอาแท่งคอนกรีตมาขวางแบบปิดตาย ก่อนถึงประตูด่านนั้นแหละ
    แค้นนี้จะไม่มีการชำระหรืออย่างไร
    ไม่น่าแปลกใจที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ถึงมีกลุ่ม Jihadists มากมาย ส่งตรงมาร่วมรายการจากหลายประเทศ เช่น ซาอุดิอารเบีย ปากีสถาน และลิเบีย คงพอมองกันออกว่าใครเป็นหัวคิดและใครเป็นผู้อุปถัมภ์รายการ
    แค่เรื่อง South Pars / North Dome มันก็ทำให้หน้าเขียว มือสั่น กันเป็นแถวแล้ว ซีเรียยังดันมีส้มหล่น เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2011 บริษัทสำรวจของซีเรีย ฟลุ๊ก ไปเจอแหล่งแก๊สบ่อใหญ่ใน Qara ใกล้กับเขตแดนของเลบาบอน และใกล้กับฐานทัพเรือของรัสเซีย แถบ Mediterranean ที่ Tarsus ซึ่งรัสเซียมีสัญญาเช่ากับซีเรีย การส่งน้ำมันและแก๊สของอิหร่านและซีเรีย ไปให้ EU จะต้องผ่านท่าเรือ Tarsus แม้ซีเรียจะพยายามทำให้เป็นข่าวเล็ก แต่นักสำรวจทรัพยากรต่างรู้กัน ว่า แหล่ง Qara นี่ อย่างน้อย ๆ ก็ใหญ่เท่า North Dome ของ Qatar แต่ส่วนใหญ่ บอกว่าใหญ่กว่าของ North Dome แยะนัก ฟังเท่านี้ก็คงพอนึกภาพกันออกว่า หน้าของ Imir แห่ง Qatar จะยิ่งออกสีเขียวเข้มขึ้นขนาดไหน !
    Asia Times ลงข่าวว่า Qatar เองก็มีแผนที่ส่งแก๊สของตน ออกไปทางอ่าว Aqaba ของ Jordan ซึ่งพวก Muslim Brotherhood กำลังพยายามกระตุกหนวดกษัตริย์ Jordan อยู่ Qatar แสบขึ้นชั้น ไปตกลงกับพวก Muslim Brotherhood ด้วยข้อแลกเปลี่ยนว่า พวกคุณไปซ่าที่อื่นนอกบ้าน Qatar นะ แล้วผมจะสนับสนุนพวกคุณเต็มที่
    Muslim Brotherhood ที่กระจายอยู่เต็ม Jordan และซีเรีย ซึ่งสนับสนุนโดย Qatar อาจสามารถเปลี่ยนหน้าตาของเกมการเมืองเรื่องท่อส่งแก๊ส ที่เล่นกันอยู่ในภูมิภาคนี้ก็ได้ การเดินหมากของ Qatar นี้ ถ้าสำเร็จนอกจากจะทำให้ฝันของรัสเซีย ซีเรีย อิหร่าน อิรัค สลายล่มแล้ว ยังสามารถทำให้มิตรรักของพวกเขาคือจีน ตกรางวิ่งไม่ได้ตามไปด้วย
    ซีเรียเป็นส่วนหนึ่งของเกมชิงความได้เปรียบในเรื่องการค้าแก๊สผ่านท่อส่ง และการชิงอำนาจระหว่างพวกอิสลาม นิกาย/กลุ่ม ต่าง ๆ อีกด้วย Qatar กำลังยกตัวขึ้นมาเทียบชั้นกับอิหร่าน เป็นการวัดกำลังระหว่างสุนนี่กับซีอะห์
    แล้วตุรกีไปเกี่ยวอะไรด้วย
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
19 กค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว” ตอนที่ 4 “ท่อส่งอีกแล้ว” South Pars เป็นแหล่งแก๊สที่ใหญ่มหาศาลอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย โดยมีอิหร่านและ Qatar เป็นเจ้าของ ส่วนของอิหร่านเรียก South Pars ส่วนของ Qatar เรียก North Dome ปี ค.ศ. 2009 Emir ของ Qatar ลงทุนบินไปเจรจากับประธานาธิบดี Assad ของซีเรียด้วยตัวเอง เกี่ยวกับเส้นทางก่อสร้างท่อแก๊สของ North Dome Qatar นั้นเป็นผู้ผลิตแก๊สรายใหญ่ ส่งทางเอเซียเป็นส่วนมากอยู่แล้ว เมื่อมี North Dome หล่นใส่ตัก จึงต้องการจะขยายตลาดไปทาง EU Qatar เสนอให้ซีเรียสร้างท่อส่ง เส้นทาง Qatar Turkey (ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ Qatar) และ Syria ปรากฎว่า Assad ปฏิเสธหน้าตาเฉย อ้างว่าเพราะมีไมตรีใกล้ชิดกับ Russia เราทำแบบนี้กับเพื่อนไม่ได้หรอก Emir หน้าแตก พกเอาความแค้นบินกลับบ้าน Assad ตอบตรงไปหน่อย และ Emir ก็คงจะลืมยาก Assad เหมือนไม่รู้ตัวว่าได้ทำอะไรลงไป หรือตั้งใจ ! เดือนมกราคม ค.ศ. 2011 ความไม่สงบในซีเรียเริ่มก่อตัว และค่อยเพิ่มความรุนแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2011 ในขณะที่ NATO และพวกลูกหาบ เดินหน้าถล่มรัฐบาล Assad รัฐบาลซีเรีย อิหร่าน และอิรัค ก็แอบจับมือลงนามในบันทึกข้อตกลงสร้างท่อส่งแก๊สมูลค่า 10,000 ล้านเหรียญ ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี เมื่อเสร็จ ท่อส่งจะวิ่งจากท่าเรือของอิหร่าน ที่ Assalouyeh ใกล้กับแหล่งแก๊ส South Pars ในอ่าวเปอร์เซีย วิ่งมายัง Damascus ในซีเรีย โดยผ่านเขตแดนของ Iraq นอกจากนี้ อิหร่านยังมีแผนที่จะขยายเส้นทาง ท่อส่ง วิ่งจาก Damascus ไปถึงท่าเรือของ Lebanon ที่ทะเล Mediterranean เพื่อส่งแก๊สจากอิหร่านให้ EU อีกด้วย ทั้งซีเรียและอิรัค ต่างทำสัญญาตกลงที่จะซื้อแก๊สจากอิหร่านเรียบร้อยแล้ว เป็นแก๊สที่มาจาก South Pars (หมายเหตุ : เส้นทางท่อแก๊ส South Pars นี้ ปัจจุบันระงับการดำเนินการ เนื่องจากอเมริกาคว่ำบาตรอิหร่าน ถล่มซีเรีย และกำลังกลับมาทุบอิรัคให้แตกแยกอย่างสมบูรณ์ ผ่านขบวนการของ ISIS อยู่ในขณะนี้ ต้องยกให้เป็นผลงานโดดเด่นของ Qatar เข้าตาลูกพี่อย่างยิ่ง ! ) Qatar เหมือนเป็น สาขาต่างประเทศของ Pentagon เพราะที่ Qatar เต็มไปด้วยหน่วยงานด้านความมั่นคงของอเมริกา ตั้งแต่สำนักงานใหญ่ของ Air Forces Central, หน่วยประจำการรบทางอากาศที่ 83 และหน่วยที่ 379 ของกองทัพอากาศ และ Qatar ในฐานะที่เป็นเจ้าของโทรทัศน์ Al-Jazeera ที่สร้างรายการย้อมสี ฟอกข่าวความเลวร้ายของซีเรียราย วัน กระจายไปทั่วแดนอาหรับแล้ว Qatar ยังมีสัมพันธ์ ชนิดแน่นแบบแกะแทบไม่ออก กับหน่วยงานของอเมริกาและ NATO ที่อยู่แถวอ่าวเปอร์เซียอีกด้วย Imir ของ Qatar อมเลือดมาตั้งแต่วันไปพบกับ Assad เมื่อปี ค.ศ. 2009 แม้ Aljazeera จะไม่ออกข่าวการจับมือสร้างท่อส่ง ของกลุ่มอิหร่าน อิรัก ซีเรีย แต่จริง ๆ แล้ว Qatar พร้อมทำทุกอย่างให้แผนของอิหร่าน ซีเรีย ล่มและพังทลาย เพราะถ้าแผนท่อส่งของอิหร่าน เส้นทางอิรัค ซีเรียสำเร็จ ไม่ใช่แค่หน้าของ Imir จะแตกค้างปี Qatar และตุรกีก็จะคงมีสภาพเหมือนเจ้าของด่านเก็บเงิน แต่เส้นทางมาด่าน ถูกมือดีเอาแท่งคอนกรีตมาขวางแบบปิดตาย ก่อนถึงประตูด่านนั้นแหละ แค้นนี้จะไม่มีการชำระหรืออย่างไร ไม่น่าแปลกใจที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ถึงมีกลุ่ม Jihadists มากมาย ส่งตรงมาร่วมรายการจากหลายประเทศ เช่น ซาอุดิอารเบีย ปากีสถาน และลิเบีย คงพอมองกันออกว่าใครเป็นหัวคิดและใครเป็นผู้อุปถัมภ์รายการ แค่เรื่อง South Pars / North Dome มันก็ทำให้หน้าเขียว มือสั่น กันเป็นแถวแล้ว ซีเรียยังดันมีส้มหล่น เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2011 บริษัทสำรวจของซีเรีย ฟลุ๊ก ไปเจอแหล่งแก๊สบ่อใหญ่ใน Qara ใกล้กับเขตแดนของเลบาบอน และใกล้กับฐานทัพเรือของรัสเซีย แถบ Mediterranean ที่ Tarsus ซึ่งรัสเซียมีสัญญาเช่ากับซีเรีย การส่งน้ำมันและแก๊สของอิหร่านและซีเรีย ไปให้ EU จะต้องผ่านท่าเรือ Tarsus แม้ซีเรียจะพยายามทำให้เป็นข่าวเล็ก แต่นักสำรวจทรัพยากรต่างรู้กัน ว่า แหล่ง Qara นี่ อย่างน้อย ๆ ก็ใหญ่เท่า North Dome ของ Qatar แต่ส่วนใหญ่ บอกว่าใหญ่กว่าของ North Dome แยะนัก ฟังเท่านี้ก็คงพอนึกภาพกันออกว่า หน้าของ Imir แห่ง Qatar จะยิ่งออกสีเขียวเข้มขึ้นขนาดไหน ! Asia Times ลงข่าวว่า Qatar เองก็มีแผนที่ส่งแก๊สของตน ออกไปทางอ่าว Aqaba ของ Jordan ซึ่งพวก Muslim Brotherhood กำลังพยายามกระตุกหนวดกษัตริย์ Jordan อยู่ Qatar แสบขึ้นชั้น ไปตกลงกับพวก Muslim Brotherhood ด้วยข้อแลกเปลี่ยนว่า พวกคุณไปซ่าที่อื่นนอกบ้าน Qatar นะ แล้วผมจะสนับสนุนพวกคุณเต็มที่ Muslim Brotherhood ที่กระจายอยู่เต็ม Jordan และซีเรีย ซึ่งสนับสนุนโดย Qatar อาจสามารถเปลี่ยนหน้าตาของเกมการเมืองเรื่องท่อส่งแก๊ส ที่เล่นกันอยู่ในภูมิภาคนี้ก็ได้ การเดินหมากของ Qatar นี้ ถ้าสำเร็จนอกจากจะทำให้ฝันของรัสเซีย ซีเรีย อิหร่าน อิรัค สลายล่มแล้ว ยังสามารถทำให้มิตรรักของพวกเขาคือจีน ตกรางวิ่งไม่ได้ตามไปด้วย ซีเรียเป็นส่วนหนึ่งของเกมชิงความได้เปรียบในเรื่องการค้าแก๊สผ่านท่อส่ง และการชิงอำนาจระหว่างพวกอิสลาม นิกาย/กลุ่ม ต่าง ๆ อีกด้วย Qatar กำลังยกตัวขึ้นมาเทียบชั้นกับอิหร่าน เป็นการวัดกำลังระหว่างสุนนี่กับซีอะห์ แล้วตุรกีไปเกี่ยวอะไรด้วย สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
19 กค. 2557
    0 Comments 0 Shares 260 Views 0 Reviews
  • พร้อมไหม? รถไฟ My Sawasdee กัวลาลัมเปอร์-สุราษฎร์ธานี

    เมื่อวันก่อน การรถไฟมาเลเซีย (KTMB) ทดลองเดินรถจากสถานีกลาง KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ ปลายทางสถานีสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 21-23 ก.ย. ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้า ก่อนจะขยายบริการขบวนรถไฟพิเศษ มายสวัสดี (My Sawasdee) มายังปลายทางดังกล่าว โดยนับตั้งแต่เปิดการเดินรถไปยังสถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ทุกวันหยุดยาวของมาเลเซีย มาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2565 มีนักท่องเที่ยวทั้งเดินทางด้วยตัวเอง และบริษัทนำเที่ยวใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

    สืบเนื่องมาจากการประชุมร่วมระหว่างการรถไฟมาเลเซีย (KTMB) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ครั้งที่ 42 ที่เมืองโคตากินาบาลู รัฐซาบาห์ เมื่อปี 2567 หนึ่งในนั้นคือเห็นชอบให้ขยายเส้นทางขบวนรถไฟท่องเที่ยว My Sawasdee จากมาเลเซียมาไทย ให้มาถึงสถานีสุราษฎร์ธานี หลังได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยม มีจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกเที่ยว การขยายเส้นทางรถไฟท่องเที่ยวนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว และนำรายได้เข้าสู่ประเทศเพิ่มขึ้น

    โดยปกติแล้วขบวนรถไฟ My Sawasdee ออกจากสถานี KL Sentral เวลา 22.30 น. ถึงปลายทางสถานีชุมทางหาดใหญ่ เวลา 08.30 น. ของเช้าวันรุ่งขึ้น แต่หากเดินทางต่อไปยังปลายทางสถานีสุราษฎร์ธานี ระยะทาง 294 กิโลเมตร ใช้เวลาเร็วที่สุด 4-5 ชั่วโมง มีรายงานว่าตามกำหนดจะถึงสถานีสุราษฎร์ธานีเวลา 15.20 น. แต่จากการทดสอบเมื่อวันที่ 21 ก.ย. พบว่าถึงปลายทางเวลา 17.02 น. จึงต้องรอให้การรถไฟมาเลเซียพิจารณาความพร้อมก่อนเปิดให้บริการอีกครั้ง

    จุดหมายปลายทางยอดนิยมของจังหวัดสุราษฎร์ธานีคือเกาะต่างๆ โดยเฉพาะเกาะสมุย ต้องใช้เวลาเดินทางจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ไปยังท่าเรือดอนสัก 2 ชั่วโมง ต่อเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะสมุยอีก 1 ชั่วโมง 30 นาที ถือเป็นโจทย์ที่บริษัทนำเที่ยวอาจต้องพิจารณาจัดโปรแกรมทัวร์ภายในเวลา 4 วัน 3 คืน เพราะเท่ากับกินเวลาแล้ว 1 วัน

    อีกด้านหนึ่ง เริ่มมีบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งในมาเลเซีย เสนอโปรแกรมทัวร์ไปยังกรุงเทพฯ และเมืองพัทยา 5 วัน 4 คืนด้วยรถไฟในปี 2569 แล้ว แต่เดินทางด้วยรถไฟขบวนพิเศษไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แล้วต่อรถบัสไปเมืองพัทยา จ.ชลบุรี จากเดิมเสนอโปรแกรมทัวร์ไปยังหาดใหญ่และปัตตานี 4 วัน 3 คืน สนนราคาคนละ 1,200 ริงกิต (ประมาณ 9,200 บาท) นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมทัวร์ไปกรุงเทพฯ 5 วัน 4 คืน, ไปกาญจนบุรี 5 วัน 4 คืน ราคาคนละ 2,300 ริงกิต (ประมาณ 17,500 บาท) และไปเขาใหญ่กับลพบุรี 5 วัน 4 คืน ราคาคนละ 2,200 ริงกิต (ประมาณ 16,750 บาท) ในช่วงปลายปี 2569 อีกด้วย

    #Newskit
    พร้อมไหม? รถไฟ My Sawasdee กัวลาลัมเปอร์-สุราษฎร์ธานี เมื่อวันก่อน การรถไฟมาเลเซีย (KTMB) ทดลองเดินรถจากสถานีกลาง KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ ปลายทางสถานีสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 21-23 ก.ย. ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้า ก่อนจะขยายบริการขบวนรถไฟพิเศษ มายสวัสดี (My Sawasdee) มายังปลายทางดังกล่าว โดยนับตั้งแต่เปิดการเดินรถไปยังสถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ทุกวันหยุดยาวของมาเลเซีย มาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2565 มีนักท่องเที่ยวทั้งเดินทางด้วยตัวเอง และบริษัทนำเที่ยวใช้บริการอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องมาจากการประชุมร่วมระหว่างการรถไฟมาเลเซีย (KTMB) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ครั้งที่ 42 ที่เมืองโคตากินาบาลู รัฐซาบาห์ เมื่อปี 2567 หนึ่งในนั้นคือเห็นชอบให้ขยายเส้นทางขบวนรถไฟท่องเที่ยว My Sawasdee จากมาเลเซียมาไทย ให้มาถึงสถานีสุราษฎร์ธานี หลังได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยม มีจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกเที่ยว การขยายเส้นทางรถไฟท่องเที่ยวนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว และนำรายได้เข้าสู่ประเทศเพิ่มขึ้น โดยปกติแล้วขบวนรถไฟ My Sawasdee ออกจากสถานี KL Sentral เวลา 22.30 น. ถึงปลายทางสถานีชุมทางหาดใหญ่ เวลา 08.30 น. ของเช้าวันรุ่งขึ้น แต่หากเดินทางต่อไปยังปลายทางสถานีสุราษฎร์ธานี ระยะทาง 294 กิโลเมตร ใช้เวลาเร็วที่สุด 4-5 ชั่วโมง มีรายงานว่าตามกำหนดจะถึงสถานีสุราษฎร์ธานีเวลา 15.20 น. แต่จากการทดสอบเมื่อวันที่ 21 ก.ย. พบว่าถึงปลายทางเวลา 17.02 น. จึงต้องรอให้การรถไฟมาเลเซียพิจารณาความพร้อมก่อนเปิดให้บริการอีกครั้ง จุดหมายปลายทางยอดนิยมของจังหวัดสุราษฎร์ธานีคือเกาะต่างๆ โดยเฉพาะเกาะสมุย ต้องใช้เวลาเดินทางจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ไปยังท่าเรือดอนสัก 2 ชั่วโมง ต่อเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะสมุยอีก 1 ชั่วโมง 30 นาที ถือเป็นโจทย์ที่บริษัทนำเที่ยวอาจต้องพิจารณาจัดโปรแกรมทัวร์ภายในเวลา 4 วัน 3 คืน เพราะเท่ากับกินเวลาแล้ว 1 วัน อีกด้านหนึ่ง เริ่มมีบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งในมาเลเซีย เสนอโปรแกรมทัวร์ไปยังกรุงเทพฯ และเมืองพัทยา 5 วัน 4 คืนด้วยรถไฟในปี 2569 แล้ว แต่เดินทางด้วยรถไฟขบวนพิเศษไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แล้วต่อรถบัสไปเมืองพัทยา จ.ชลบุรี จากเดิมเสนอโปรแกรมทัวร์ไปยังหาดใหญ่และปัตตานี 4 วัน 3 คืน สนนราคาคนละ 1,200 ริงกิต (ประมาณ 9,200 บาท) นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมทัวร์ไปกรุงเทพฯ 5 วัน 4 คืน, ไปกาญจนบุรี 5 วัน 4 คืน ราคาคนละ 2,300 ริงกิต (ประมาณ 17,500 บาท) และไปเขาใหญ่กับลพบุรี 5 วัน 4 คืน ราคาคนละ 2,200 ริงกิต (ประมาณ 16,750 บาท) ในช่วงปลายปี 2569 อีกด้วย #Newskit
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 269 Views 0 Reviews
  • 18-09-68/01 : หมี CNN / "สภาโกปี๊" หรรษาขาประจำ EP5.2(ตอนจบ)

    (ต่อ) ขณะที่ชาวบ้านมุงดูดารา เน็ตไอดอลกันตรึม สื่อก็ทำข่าวต่อทันที ดูเหมือนว่า เจ้านี้ จะจ่ายหนักกว่า นักข่าวสายชอบเปย์พากันเข้าสัมภาษณ์ทันที พรรคขาวปรี๊ด หนนี้มีความมั่นใจแค่ไหนครับท่าน?

    หัวหน้าพรรคตอบทันควัน "กระผม นายปลิงดูด น้องปรีดู ขอถวายตัวรับใช้เพ่น้องประชาชนอันเป็นที่รัก" ที่ไหนยากจน ความเจริญจะไปหาทันที ด้วยนโยบายพรรคเรา จ่ายหนัก เฮ๊ย..อยากได้ ก็ต้องได้ อยากมี ก็ต้องมี เสกได้ตามสั่ง แค่เลือกพรรคขาวปรี๊ด เบอร์ 00 ศักดิ์ไม่ต้องศรี มีแดร๊กทุกวัน เฮฮาปาร์ตี้กันทั่วหัวมุมถนน ใครใคร่ชอบอะไร ก็เชิญทำตามสบายใจท่าน เราคือพรรคเอนเตอร์เทนตัวพ่อ กาสิโอ๊ะ ไม่จำเป็น เราเน้นนโยบายกระจายรายได้ ใช้ชุมชนเป็นเจ้ามือ ทุกคนมีงานทำ เปิดด่านไปเลย การค้ากลับมาดั่งเดิม ไม่ต้องห่วงระเบิด เปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษไปเลย ดูแลทั้ง 2 ฝ่าย จบง่าย รวยด้วยกัน อ่าวไทยเหรอ? เก็บเอาไว้ให้ใคร ขุดขึ้นมาใช้ดิ เราจะได้ใช้น้ำมันถูกไง ไม่ดีเหรอ ส่งออกเพื่อนบ้านได้อีก แบ่งๆ กันกิน ก็ไม่มีใครมารบกับเราแล้ว ปากท้องไม่เข้าใครออกใคร?

    นักข่าวยังช็อค ชาวบ้านอารมณ์เปลี่ยน? LIVE สด อยู่น่ะมรึง?

    1 ในชาวบ้าน ตะโกนถามท่านหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า "แล้วดินแดนล่ะ ต้องแบ่งด้วยมั้ย?"

    อ้าว..แบ่งกันไปเลย จะได้จบจบ มีทองแบ่งทอง มีน้ำมันแบ่งน้ำมัน จะมาฆ่ากันทำไม แค่แผ่นดินเท่าเหมี๊ยวดิ้นตาย คนละครึ่งไงจ๊ะ แฟร์เพลย์ดีมั้ยล่ะ?

    ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงเห่าหอน ก็มีเสียงแทรกตะโกนมาว่า "ไอ้สัส!" ประเทศจะมีพวกมรึงไปทำไม? กล้องจับภาพทันที รู้ดี สัญญานแรงแน่ มีข่าวตีชัวร์

    หันไปดูปุ๊บ..ไม่ใช่ใครอื่น? "อาแปะ เปิดฟลอร์แล้วจ๊ะ"

    อาแปะ : มรึงรีบออกไปจากหมู่บ้านกูเลย ก่อนชาวบ้านจะสหบาทา อย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก! (หลังเกิดเหตุ ชาวบ้านก็เลิกสนใจดารา เน็ตไอดอลทันที ต่างรู้ดีว่า ไอ้พวกห่าเหี้ยนี่ มาทำไม? เดินกันเข้ามาหนุนอาแปะ)

    อาโก รีบชิงจังหวะ ที่เห็นอีปากหมา(หัวหน้าพรรคคนใหม่) มันยังช็อคกับเหตุการณ์อยู่ ชิงพื้นที่สื่อทันที เดินเข้าขวางหน้ากล้อง พร้อมพูดว่า

    "นี่คือคนที่คุณจะเลือกเหรอ?" เลือกตั้งมันตอบโจทย์ปากท้องเราได้จริงเหรอ? 93 ปี เราได้อะไรบ้างจากประชาธิปไตย ก็แค่เก้าอี้ดนตรี สมบัติผลัดกันชม เหี้ยไป จัญไรมา เวลาเปลี่ยน พรรคเปลี่ยน คนเปลี่ยน แต่ความเสียหายไม่เคยเปลี่ยน มันลงมาที่ชาวบ้านและประเทศนี้เสมอมา คืนพระราชอำนาจต่างหาก คือสิ่งที่ลูกทุกคนควรทำ เราแย่งชิงพระราชอำนาจมาจากพ่อ ด้วยกลโกงของภัยจากตะวันตก เมื่อไม่ใช่ของเรามาตั้งแต่ต้น ก็ควรจะคืนให้พ่อท่านไป เพราะไม่ว่าพ่อท่านจะส่งใครมาดูแล ปกครองเรา ก็ล้วนอยู่ในสายพระเนตรตลอดเวลา มั่นใจในความซื่อสัตย์ เที่ยงตรงแน่นอน แต่นักการเมือง มาจากพรรค มาจากนายทุน กำไรคือเป้าหมาย พวกเราก็เป็นแค่เหยื่อ?

    อาแปะ รับเข้ามาเสริมทันที "กล้องๆ มาทางนี้ เราขอประกาศว่า หมู่บ้านหมีดุ จะทำการขอประชามติ เรื่องคืนพระราชอำนาจ แล้วจะส่งผลไปให้ฝ่ายการปกครองบ้านเมือง ว่า ณ มุมแห่งนี้ มีความต้องการเช่นไร"

    นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตาตื่น ไอ้สัส! ออกสื่อไม่ปรึกษากูเลย ไอ้แปะ เอาอีกแล้ว งานนี้ กูจะเด้งมั้ยหนอ?

    มีชาวบ้านสนใจ ตะโกนถามอาแปะว่า "จะประชามติเมื่อไหร่" พวกเราพร้อมโหวตจ๊ะ ไม่เอาแล้วการเมือง ยิ่งอยู่ยิ่งรวย ชาวบ้านอดอยากมากยิ่งขึ้น เงินภาษีพวกกู ไม่ได้เอาไปทำความเจริญให้แผ่นดินเลย โดนพวกแม่งแดร๊กเรียบวุธ เอาเลยอาแปะ เราเอาด้วย พอกันที แผ่นดินนี้ต้องการพ่อ ไม่ได้ต้องการเหี้ย?

    นายอำเภอเห็นท่าไม่ดี เรียนเชิญหัวหน้าพรรคขาวปรี๊ด กลับไปก่อน เดี๋ยวชาวบ้านอาจจะไม่พอใจมากไปกว่านี้ อาจควบคุมสถานการณ์ไม่ได้อีก แต่กลับถูกตอกหน้ากลับว่า "แค่หมู่บ้านเล็กๆ จะกลัวไปทำไมกันเล่า" อั๊วเรียก อีกากี ยกกันมาทั้งกรมแล้ว อยากวัด ต้องได้วัด ใครขัดใจ มรึงตาย! เดี๋ยวมรึงหลบไป กูเดาไม่ผิด ต้องเจอพวกหัวแข็ง จึงได้เตรียมจัดฉาก ชาวบ้านคลั่งทำร้ายนักการเมือง จะต้องเป็นข่าวใหญ่แน่ ใครหัวนำ แกนนำ จับมันไปให้หมด งานนี้ ต้องประกาศศักดา พื้นที่นี้ พรรคขาวปรี๊ดเท่านั้น ที่จะตีให้แตกกระจุย

    ไม่ทันไร ขบวนรถขังคุกก็เข้ามาทันควัน เจ้าหน้าที่แห่กันมาเตรียมรวบชาวบ้าน ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำเหี้ยอาไยเลย? นี่ไง ข้าราชการใต้ตรีนนายทุน หาใช่ข้าราชการในหลวงไม่? มีการรประกาศพื้นที่ฉุกเฉิน ห้ามชาวบ้านออกนอกพื้นที่นี้เด็ดขาด อ้างมีกลุ่มก่อการร้ายแฝงตัวเข้ามา ไอ้สัส! แทนที่จะไปปาย เสือกมาหมู่บ้านนี้ เหี้ยกันให้สุดไปเลย

    ชาวบ้านเริ่มไม่พอใจหนัก นี่พวกมรึงคิดการณ์ไว้แล้วชิมิ? จะมากวาดล้างบางหมู่บ้านนี้สิท่า มันไม่ง่ายดอกน่ะ 20 ปีที่ผ่านมา เจออะไรมาเยอะ หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว ไม่รีรอ ยิงแสงสปอตไลท์ขึ้นฟ้า "หาแม่ทัพกุ้ง SUPER KUNG" ทันที แจ้งรหัสลับ "ขะแมร์บุก"

    ในขณะที่กองกำลังอีกากี กำลังจะทำการสลายม็อบรักชาติ อาแปะก็รับชิงเปิดโทรโข่งเสียงดัง เปิดเพลงปลุกใจเพ่น้องไทย บ้านเมืองเป็นกลียุค เพราะไอ้อีที่ไร้จิตสำนึก ดีชั่ว แยกไม่ออก บรรยากาศ ชวนชนอย่างมว๊าก ชาวบ้านก็ไม่ถอย กล้องทุกตัว จับตาอยู่ตลอด ขณะที่อี 6 เหลี่ยม ผู้นำพรรคขาวปรี๊ด เตรียมสั่งกวาดล้างบางทั้งหมู่บ้าน เหมือนที่เคยทำมาก่อนหน้านี้

    อาโก รีบพาเด็กๆ คนชรา ไปยืนแถวหลังสุด เพื่อไม่ให้ได้รับบาดเจ็บจากการตะลุมบอล ฝา กะละมัง หม้อ สาก ครก เอามาใช้ป้องกันตัวหมด ยามนี้ ชาวหมู่บ้าน ได้รวมใจเป็นหนึ่ง ไม่คิดว่าจะต้องลงเอยแบบนี้ แต่กลับไม่มีใครบ่น หรือกล่าวหาใครทั้งนั้น เพราะหมู่บ้านนี้ ชูเรื่อง รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นที่ตั้ง ไม่มีอะไรเปลี่ยนใจได้ เมื่อวีรกรรมหมู่บ้านนี้ก่อเกิด มันจะส่งผลเป็นโดมิโน่ ไปทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอเภอ และทุกจังหวัด กระจายสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไปทั่วประเทศ นี่แหละ ที่เราต้องการ

    สิ้นเสียงเพลงเร้าใจ ก็เปิดลุยทันที ยังไม่ทันจะได้ประชิดตัว ก็มีเสียงตะโกนดังก้องฟ้าว่า "ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้"

    หลังหันไปมองกันหมด ปรากฎว่า "ลุงกุ้ง" ไม่รู้โผล่มาจากไหน? สัญญาน SOS ส่งถึง SUPER KUNG มีอยู่จริงเฟ้ยเห้ย? ทุกคนต่างยินนิ่ง ดูก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้น?

    ลุงกุ้งของน้องๆ มาแย้วจ๋า.. เอ๊ะ ทำอาไยกันอยู่ เหยียบกับระเบิดกันบ้างแล้วรึยัง?

    อี 6 เหลี่ยม หันมามองกองหนุนอีกากี ทันที "พวกมรึงทำห่าอะไรอยู่ฟ่ะ" มันมาแค่คนเดียว "กลัวเหี้ยอะไรกันนักหนา" ลุยเลย กูจ่ายเต็มที่ กล้องส่องกูก็ไม่สนแล้ว "เลือดขึ้นหน้า" วันนี้ หมู่บ้านหมีดุ ต้องตกเป็นของกูผู้เดียว แค่มดปลวก เสือกไม่คิด อยากวัดกับกูชิมิ? กูจัดให้

    "เดี๋ยวก่อน" อี 6 เหลี่ยม คราวก่อนกูไว้ชีวิตมรึง ยังไม่เข็ดอีกเหรอ? เมื่อคืน กูยังแอบเห็น อีเมีย กับอีลูกร่านมรึง เที่ยวบาร์โฮสต์อยู่เลย ครอบครัวหรรษาดีแท้จริงน่ะมรึง ไปอยู่ไหนมา กูมาคนเดียวก็จริง แต่แค่กูยกมือขึ้น ระเบิดลงหัวมรึงแน่ รู้จักมั้ย ดาวเทียม ขนมาทำไมเยอะแยะ แค่หมู่บ้านเล็กๆ ไม่ต้องยกกันมาทั้งกองทัพดอกน่ะ กับแค่ แก๊งค์สีกากี ไม่กี่ร้อย กูเอาอยู่ จริงมั้ย? เด็กๆ

    ไม่ทันไร F-16 และกริปเพนก็บินผ่านหัวอย่างไว เหมือนรอดูสัญญานมือแม่ทัพกุ้งอยู่ ว่าจะให้ย่างยังไงดี กึ่งสุก กึ่งดิบ หรือเอาแบบ MEDIUM RARE ดี เผาอีขะแมรืไป 5000 ตัวแล้ว ยังไม่หนำใจ ขอพ่วงอีสีกากีซักกองร้อย คงอร่อยเหาะดีเน๊าะ

    อี 6 เหลี่ยม เห็นท่าไม่ดี สั่งถอย "ฝากไว้ก่อนโอฬาร" ติดคุกไม่กี่ปี เดี๋ยวกูออกมาอาละวาดใหม่ได้ แค่ย้ายบ้านอยู่ใหม่ชั่วคราว

    หลังพวกเหี้ยกลับไป บรรยากาศก็กลับคืนสู่ภาวะปกติ ชาวบ้านแยกย้ายกันไปทำมาหาแดร๊กกันต่อ ส่วนลุงกุ้ง ก็แวะเข้ามากินโกปี๊กันต่อ ถามสารทุกข์สุกดิบชาวบ้านตามประสา แม่ทัพผู้ใจดี

    อาฉี : ท่านแม่ทัพ ถามจริง? เราจะได้คืนพระราชอำนาจหรือไม่ ทหารคิดเห็นอย่างไร? และมีแผนการเรียกคืนดินแดนเดิมหรือไม่?

    แม่ทัพกุ้ง : ทหารก็คิดไม่แตกต่างจากพวกเราดอกน่ะ แต่ด้วยวินัยทหาร แสดงออกมาไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปตามสายการบังคับบัญชา แต่ทหารรุ่นใหม่ เค้าเทใจให้วังไปนานแล้ว ไอ้ที่ยังอยู่ เก่า แก่ แต่หวงอำนาจยังคงมี ส่วนแผนการเรียกคืนแผ่นดิน เรื่องนี้ การทหารเค้ามีนานแล้ว แต่จะเดินเกมส์ไปกับเกมส์การเมืองโลก และอำนาจของการปิดด่าน จนเศรษฐกิจอีขะแมร์พินาศ เมื่อประเทศอ่อนแอ การรวมชาติก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไปทีละสเตปเร่งไม่ได้ เพราะมันยังไม่เคลียร์เรื่องสนธิสัญญาโตเกียว ที่ไม่ผ่านมติสภา มีผลเป็นโมฆะตามกฎหมายไทย ไม่ว่าใครจะเซ็นต์อะไรไป แต่อำนาจในมือไม่มี ก็ไร้ผล

    อาแปะ : อั๊วว่า ท่านแม่ทัพคงได้สานเรื่องนี้ต่อแน่ หลังเกษียณชัวร์

    แม่ทัพกุ้ง : เราก็หวังเช่นนั้น เพราะทุกฝ่ายวางตัวสืบทอดไว้แล้ว คงต้องใช้เวลาอีกซักระยะนึง เพราะปัญหาโลกนั้นใหญ่เกินกว่าที่เราจะต้านทานเพียงลำพังได้

    อาโก : ท่านแม่ทัพ คิดว่าจะมีปฎิวัติอีกหรือไม่? ผบ.สูงสุด ผบ.ทบ. ท่านพร้อมเรื่องนี้มากแค่ไหน หากสถานการณ์เลวร้ายลง และไม่เป็นไปตามแผน

    แม่ทัพกุ้ง : ดูเหตุ และปัจจัยก่อน หากหาทางออกในฝ่ายการเมืองได้ก็จบ หากหาทางออกในฝ่ายความมั่นคงได้ ก็ไม่จำเป็นต้องรัฐประหาร

    อาคิม : ข่าวมาล่าสุดว่า อีส้มเน่า เตรียมประกาศเป็นผู้นำรัฐบาลแล้ว พร้อมบริหารประเทศ สิ่งแรกที่จะทำ คือ "ยกเลิกมาตรา 112 ในทันที" ท่านแม่ทัพคิดว่ายังไง?

    แม่ทัพกุ้ง : มันทำไม่ได้ดอก แผ่นดินนี้ต้องมีกษัตริย์ และใครก็จะมาดูหมิ่นไม่ได้ เรื่องนี้ แม้ทหารก็ไม่ยอมเช่นกัน เป็นไงเป็นกัน เรื่องนี้ อย่าได้กังวลมากไป เพราะยังมีศาลไคฟงท่านอยู่ ดาบ 2 ดาบ 3 รออีกเพี๊ยบ บางอย่างจะพูดตอนนี้ไปทำไม ทุกอย่างมันต้องมีเหตุก่อน ผลถึงจะตามมา

    อาซิ่ม อินเตอร์ : ท่านแม่ทัพจ๊ะ แล้วเมื่อโลกเปลี่ยนมือไปแล้ว ภายในบ้านเราเองก็ต้องปรับตัวตามเช่นกัน เป็นไปได้หรือไม่ ที่เราจะกลับไปใช้ระบบการปกครองเดิม และประยุกต์ให้มันทันสมัยมากขึ้น ผู้คนเริ่มเบื่อหน่ายกับปชต.ตอแหลแล้ว จะเลือกไปทำไม เสียภาษีไปทำไม เอามาช่วยชาวบ้านอย่างเราเราไม่ดีกว่าเหรอ?

    แม่ทัพกุ้ง : รอบบ้านเราเองก็ยังไม่มั่นคง ต้องรอดูท่าทีอาเซียนก่อน หากสงครามใหญ่มา อาเซียนจะผนึกกำลังเอง ส่วนเรื่องการปกครองนั้น เป็นเรื่องภายในของเราเอง อยากจะเปลี่ยน อยากจะแก้ก็ได้ทั้งนั้น แต่เกมส์โลกต้องได้ผู้ชนะก่อน ถึงจะรู้ทิศทางลมว่าจะต้องเดินไปทางไหน? ศึกใหญ่มันใกล้เข้ามาล่ะ

    ปล.ในแผ่นดิน ย่อมต้องมี ทั้งคนดี คนชั่ว หากแต่ เราต้องช่วยกันส่งมอบอำนาจให้คนดีปกครอง ไม่มีใครทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด หากแต่ให้คนดีปกครองบ้านเมือง คนชั่วก็จะไม่มีโอกาสทำลายบ้านเมืองได้นั่นเอง แล้วใครล่ะคนดี? ก็คนที่พ่อเลือกไงล่ะ คนที่พ่อไว้วางพระทัย คืนพระราชอำนาจเป็นแค่สัญลักษณ์ เพราะโดยเนื้อแท้แล้ว อำนาจสูงสุดก็ยังอยู่ในมือพระมหากษัตริย์ หาแต่ ที่ผ่านมา ลูกได้ช่วงชิงมันไปจากมือพ่อ ก็ต้องส่งคืนมือพ่อด้วยตัวเองไงล่ะ เป็นการขอพระราชทานอภัยโทษ ในสิ่งที่ลุกได้ทำผิดพลาดไปในครั้งอดีต ซึ่งเปลี่ยนแปลงไม่ได้อีกแล้ว แต่จะทำให้มันถูกต้องดั่งเดิม นั่นคือสิ่งที่ทำได้ในวันนี้

    EP.5.2(อวสาน) เรื่องราวในหมู่บ้านหมีดุ จะกลายเป็นตำนานเล่าขานไปอีกนาน ทุกหมู่บ้านเริ่มดวงตาเห็นธรรม นักการเมือง พรรคการเมือง จะมีไปทำไม แดร๊กภาษี เอาเปรียบคนไทยทั้งชาติ โลกเปลี่ยนมือ ก็ไม่ต้องตามปชต.ตอแหลอีกต่อไป โมเดลรัสเซีย จีน มีให้เห็นอยู่ ว่าทำยังไง ถึงได้เจริญแบบก้าวกระโดด โดยที่ไม่ทิ้งรากเหง้าตัวเอง ตัวอย่างมีให้โลกประจักษ์แล้ว อยู่ที่ใครจะเลือกทางไหน?

    หมี CNN(ไทยสุดทน! ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง ปราบม็อบเติมเงินขะแมร์ บ้านหนองหญ้าแก้ว ส่งสัญญานชัด ใช้วิธีสลายม็อบ แบบสากล แต่เด็ดขาด ชาวโลกประจักษ์ มันมาถึงที่สุดแล้ว ดินแดนใช่จะยอมให้กันง่ายๆ เอาชาวบ้านมาเป็นกันชน สุดท้ายมรึงเลือกเอง อย่าร้อง ไอ้สัส! โลกชื่นชมวิธีการทหารไทย ล่อจะเบาไปหาหนัก ตามความชอบธรรม)
    18 กันยายน 68
    00.01 น.
    18-09-68/01 : หมี CNN / "สภาโกปี๊" หรรษาขาประจำ EP5.2(ตอนจบ) (ต่อ) ขณะที่ชาวบ้านมุงดูดารา เน็ตไอดอลกันตรึม สื่อก็ทำข่าวต่อทันที ดูเหมือนว่า เจ้านี้ จะจ่ายหนักกว่า นักข่าวสายชอบเปย์พากันเข้าสัมภาษณ์ทันที พรรคขาวปรี๊ด หนนี้มีความมั่นใจแค่ไหนครับท่าน? หัวหน้าพรรคตอบทันควัน "กระผม นายปลิงดูด น้องปรีดู ขอถวายตัวรับใช้เพ่น้องประชาชนอันเป็นที่รัก" ที่ไหนยากจน ความเจริญจะไปหาทันที ด้วยนโยบายพรรคเรา จ่ายหนัก เฮ๊ย..อยากได้ ก็ต้องได้ อยากมี ก็ต้องมี เสกได้ตามสั่ง แค่เลือกพรรคขาวปรี๊ด เบอร์ 00 ศักดิ์ไม่ต้องศรี มีแดร๊กทุกวัน เฮฮาปาร์ตี้กันทั่วหัวมุมถนน ใครใคร่ชอบอะไร ก็เชิญทำตามสบายใจท่าน เราคือพรรคเอนเตอร์เทนตัวพ่อ กาสิโอ๊ะ ไม่จำเป็น เราเน้นนโยบายกระจายรายได้ ใช้ชุมชนเป็นเจ้ามือ ทุกคนมีงานทำ เปิดด่านไปเลย การค้ากลับมาดั่งเดิม ไม่ต้องห่วงระเบิด เปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษไปเลย ดูแลทั้ง 2 ฝ่าย จบง่าย รวยด้วยกัน อ่าวไทยเหรอ? เก็บเอาไว้ให้ใคร ขุดขึ้นมาใช้ดิ เราจะได้ใช้น้ำมันถูกไง ไม่ดีเหรอ ส่งออกเพื่อนบ้านได้อีก แบ่งๆ กันกิน ก็ไม่มีใครมารบกับเราแล้ว ปากท้องไม่เข้าใครออกใคร? นักข่าวยังช็อค ชาวบ้านอารมณ์เปลี่ยน? LIVE สด อยู่น่ะมรึง? 1 ในชาวบ้าน ตะโกนถามท่านหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า "แล้วดินแดนล่ะ ต้องแบ่งด้วยมั้ย?" อ้าว..แบ่งกันไปเลย จะได้จบจบ มีทองแบ่งทอง มีน้ำมันแบ่งน้ำมัน จะมาฆ่ากันทำไม แค่แผ่นดินเท่าเหมี๊ยวดิ้นตาย คนละครึ่งไงจ๊ะ แฟร์เพลย์ดีมั้ยล่ะ? ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงเห่าหอน ก็มีเสียงแทรกตะโกนมาว่า "ไอ้สัส!" ประเทศจะมีพวกมรึงไปทำไม? กล้องจับภาพทันที รู้ดี สัญญานแรงแน่ มีข่าวตีชัวร์ หันไปดูปุ๊บ..ไม่ใช่ใครอื่น? "อาแปะ เปิดฟลอร์แล้วจ๊ะ" อาแปะ : มรึงรีบออกไปจากหมู่บ้านกูเลย ก่อนชาวบ้านจะสหบาทา อย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก! (หลังเกิดเหตุ ชาวบ้านก็เลิกสนใจดารา เน็ตไอดอลทันที ต่างรู้ดีว่า ไอ้พวกห่าเหี้ยนี่ มาทำไม? เดินกันเข้ามาหนุนอาแปะ) อาโก รีบชิงจังหวะ ที่เห็นอีปากหมา(หัวหน้าพรรคคนใหม่) มันยังช็อคกับเหตุการณ์อยู่ ชิงพื้นที่สื่อทันที เดินเข้าขวางหน้ากล้อง พร้อมพูดว่า "นี่คือคนที่คุณจะเลือกเหรอ?" เลือกตั้งมันตอบโจทย์ปากท้องเราได้จริงเหรอ? 93 ปี เราได้อะไรบ้างจากประชาธิปไตย ก็แค่เก้าอี้ดนตรี สมบัติผลัดกันชม เหี้ยไป จัญไรมา เวลาเปลี่ยน พรรคเปลี่ยน คนเปลี่ยน แต่ความเสียหายไม่เคยเปลี่ยน มันลงมาที่ชาวบ้านและประเทศนี้เสมอมา คืนพระราชอำนาจต่างหาก คือสิ่งที่ลูกทุกคนควรทำ เราแย่งชิงพระราชอำนาจมาจากพ่อ ด้วยกลโกงของภัยจากตะวันตก เมื่อไม่ใช่ของเรามาตั้งแต่ต้น ก็ควรจะคืนให้พ่อท่านไป เพราะไม่ว่าพ่อท่านจะส่งใครมาดูแล ปกครองเรา ก็ล้วนอยู่ในสายพระเนตรตลอดเวลา มั่นใจในความซื่อสัตย์ เที่ยงตรงแน่นอน แต่นักการเมือง มาจากพรรค มาจากนายทุน กำไรคือเป้าหมาย พวกเราก็เป็นแค่เหยื่อ? อาแปะ รับเข้ามาเสริมทันที "กล้องๆ มาทางนี้ เราขอประกาศว่า หมู่บ้านหมีดุ จะทำการขอประชามติ เรื่องคืนพระราชอำนาจ แล้วจะส่งผลไปให้ฝ่ายการปกครองบ้านเมือง ว่า ณ มุมแห่งนี้ มีความต้องการเช่นไร" นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตาตื่น ไอ้สัส! ออกสื่อไม่ปรึกษากูเลย ไอ้แปะ เอาอีกแล้ว งานนี้ กูจะเด้งมั้ยหนอ? มีชาวบ้านสนใจ ตะโกนถามอาแปะว่า "จะประชามติเมื่อไหร่" พวกเราพร้อมโหวตจ๊ะ ไม่เอาแล้วการเมือง ยิ่งอยู่ยิ่งรวย ชาวบ้านอดอยากมากยิ่งขึ้น เงินภาษีพวกกู ไม่ได้เอาไปทำความเจริญให้แผ่นดินเลย โดนพวกแม่งแดร๊กเรียบวุธ เอาเลยอาแปะ เราเอาด้วย พอกันที แผ่นดินนี้ต้องการพ่อ ไม่ได้ต้องการเหี้ย? นายอำเภอเห็นท่าไม่ดี เรียนเชิญหัวหน้าพรรคขาวปรี๊ด กลับไปก่อน เดี๋ยวชาวบ้านอาจจะไม่พอใจมากไปกว่านี้ อาจควบคุมสถานการณ์ไม่ได้อีก แต่กลับถูกตอกหน้ากลับว่า "แค่หมู่บ้านเล็กๆ จะกลัวไปทำไมกันเล่า" อั๊วเรียก อีกากี ยกกันมาทั้งกรมแล้ว อยากวัด ต้องได้วัด ใครขัดใจ มรึงตาย! เดี๋ยวมรึงหลบไป กูเดาไม่ผิด ต้องเจอพวกหัวแข็ง จึงได้เตรียมจัดฉาก ชาวบ้านคลั่งทำร้ายนักการเมือง จะต้องเป็นข่าวใหญ่แน่ ใครหัวนำ แกนนำ จับมันไปให้หมด งานนี้ ต้องประกาศศักดา พื้นที่นี้ พรรคขาวปรี๊ดเท่านั้น ที่จะตีให้แตกกระจุย ไม่ทันไร ขบวนรถขังคุกก็เข้ามาทันควัน เจ้าหน้าที่แห่กันมาเตรียมรวบชาวบ้าน ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำเหี้ยอาไยเลย? นี่ไง ข้าราชการใต้ตรีนนายทุน หาใช่ข้าราชการในหลวงไม่? มีการรประกาศพื้นที่ฉุกเฉิน ห้ามชาวบ้านออกนอกพื้นที่นี้เด็ดขาด อ้างมีกลุ่มก่อการร้ายแฝงตัวเข้ามา ไอ้สัส! แทนที่จะไปปาย เสือกมาหมู่บ้านนี้ เหี้ยกันให้สุดไปเลย ชาวบ้านเริ่มไม่พอใจหนัก นี่พวกมรึงคิดการณ์ไว้แล้วชิมิ? จะมากวาดล้างบางหมู่บ้านนี้สิท่า มันไม่ง่ายดอกน่ะ 20 ปีที่ผ่านมา เจออะไรมาเยอะ หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว ไม่รีรอ ยิงแสงสปอตไลท์ขึ้นฟ้า "หาแม่ทัพกุ้ง SUPER KUNG" ทันที แจ้งรหัสลับ "ขะแมร์บุก" ในขณะที่กองกำลังอีกากี กำลังจะทำการสลายม็อบรักชาติ อาแปะก็รับชิงเปิดโทรโข่งเสียงดัง เปิดเพลงปลุกใจเพ่น้องไทย บ้านเมืองเป็นกลียุค เพราะไอ้อีที่ไร้จิตสำนึก ดีชั่ว แยกไม่ออก บรรยากาศ ชวนชนอย่างมว๊าก ชาวบ้านก็ไม่ถอย กล้องทุกตัว จับตาอยู่ตลอด ขณะที่อี 6 เหลี่ยม ผู้นำพรรคขาวปรี๊ด เตรียมสั่งกวาดล้างบางทั้งหมู่บ้าน เหมือนที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ อาโก รีบพาเด็กๆ คนชรา ไปยืนแถวหลังสุด เพื่อไม่ให้ได้รับบาดเจ็บจากการตะลุมบอล ฝา กะละมัง หม้อ สาก ครก เอามาใช้ป้องกันตัวหมด ยามนี้ ชาวหมู่บ้าน ได้รวมใจเป็นหนึ่ง ไม่คิดว่าจะต้องลงเอยแบบนี้ แต่กลับไม่มีใครบ่น หรือกล่าวหาใครทั้งนั้น เพราะหมู่บ้านนี้ ชูเรื่อง รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นที่ตั้ง ไม่มีอะไรเปลี่ยนใจได้ เมื่อวีรกรรมหมู่บ้านนี้ก่อเกิด มันจะส่งผลเป็นโดมิโน่ ไปทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอเภอ และทุกจังหวัด กระจายสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไปทั่วประเทศ นี่แหละ ที่เราต้องการ สิ้นเสียงเพลงเร้าใจ ก็เปิดลุยทันที ยังไม่ทันจะได้ประชิดตัว ก็มีเสียงตะโกนดังก้องฟ้าว่า "ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้" หลังหันไปมองกันหมด ปรากฎว่า "ลุงกุ้ง" ไม่รู้โผล่มาจากไหน? สัญญาน SOS ส่งถึง SUPER KUNG มีอยู่จริงเฟ้ยเห้ย? ทุกคนต่างยินนิ่ง ดูก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้น? ลุงกุ้งของน้องๆ มาแย้วจ๋า.. เอ๊ะ ทำอาไยกันอยู่ เหยียบกับระเบิดกันบ้างแล้วรึยัง? อี 6 เหลี่ยม หันมามองกองหนุนอีกากี ทันที "พวกมรึงทำห่าอะไรอยู่ฟ่ะ" มันมาแค่คนเดียว "กลัวเหี้ยอะไรกันนักหนา" ลุยเลย กูจ่ายเต็มที่ กล้องส่องกูก็ไม่สนแล้ว "เลือดขึ้นหน้า" วันนี้ หมู่บ้านหมีดุ ต้องตกเป็นของกูผู้เดียว แค่มดปลวก เสือกไม่คิด อยากวัดกับกูชิมิ? กูจัดให้ "เดี๋ยวก่อน" อี 6 เหลี่ยม คราวก่อนกูไว้ชีวิตมรึง ยังไม่เข็ดอีกเหรอ? เมื่อคืน กูยังแอบเห็น อีเมีย กับอีลูกร่านมรึง เที่ยวบาร์โฮสต์อยู่เลย ครอบครัวหรรษาดีแท้จริงน่ะมรึง ไปอยู่ไหนมา กูมาคนเดียวก็จริง แต่แค่กูยกมือขึ้น ระเบิดลงหัวมรึงแน่ รู้จักมั้ย ดาวเทียม ขนมาทำไมเยอะแยะ แค่หมู่บ้านเล็กๆ ไม่ต้องยกกันมาทั้งกองทัพดอกน่ะ กับแค่ แก๊งค์สีกากี ไม่กี่ร้อย กูเอาอยู่ จริงมั้ย? เด็กๆ ไม่ทันไร F-16 และกริปเพนก็บินผ่านหัวอย่างไว เหมือนรอดูสัญญานมือแม่ทัพกุ้งอยู่ ว่าจะให้ย่างยังไงดี กึ่งสุก กึ่งดิบ หรือเอาแบบ MEDIUM RARE ดี เผาอีขะแมรืไป 5000 ตัวแล้ว ยังไม่หนำใจ ขอพ่วงอีสีกากีซักกองร้อย คงอร่อยเหาะดีเน๊าะ อี 6 เหลี่ยม เห็นท่าไม่ดี สั่งถอย "ฝากไว้ก่อนโอฬาร" ติดคุกไม่กี่ปี เดี๋ยวกูออกมาอาละวาดใหม่ได้ แค่ย้ายบ้านอยู่ใหม่ชั่วคราว หลังพวกเหี้ยกลับไป บรรยากาศก็กลับคืนสู่ภาวะปกติ ชาวบ้านแยกย้ายกันไปทำมาหาแดร๊กกันต่อ ส่วนลุงกุ้ง ก็แวะเข้ามากินโกปี๊กันต่อ ถามสารทุกข์สุกดิบชาวบ้านตามประสา แม่ทัพผู้ใจดี อาฉี : ท่านแม่ทัพ ถามจริง? เราจะได้คืนพระราชอำนาจหรือไม่ ทหารคิดเห็นอย่างไร? และมีแผนการเรียกคืนดินแดนเดิมหรือไม่? แม่ทัพกุ้ง : ทหารก็คิดไม่แตกต่างจากพวกเราดอกน่ะ แต่ด้วยวินัยทหาร แสดงออกมาไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปตามสายการบังคับบัญชา แต่ทหารรุ่นใหม่ เค้าเทใจให้วังไปนานแล้ว ไอ้ที่ยังอยู่ เก่า แก่ แต่หวงอำนาจยังคงมี ส่วนแผนการเรียกคืนแผ่นดิน เรื่องนี้ การทหารเค้ามีนานแล้ว แต่จะเดินเกมส์ไปกับเกมส์การเมืองโลก และอำนาจของการปิดด่าน จนเศรษฐกิจอีขะแมร์พินาศ เมื่อประเทศอ่อนแอ การรวมชาติก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไปทีละสเตปเร่งไม่ได้ เพราะมันยังไม่เคลียร์เรื่องสนธิสัญญาโตเกียว ที่ไม่ผ่านมติสภา มีผลเป็นโมฆะตามกฎหมายไทย ไม่ว่าใครจะเซ็นต์อะไรไป แต่อำนาจในมือไม่มี ก็ไร้ผล อาแปะ : อั๊วว่า ท่านแม่ทัพคงได้สานเรื่องนี้ต่อแน่ หลังเกษียณชัวร์ แม่ทัพกุ้ง : เราก็หวังเช่นนั้น เพราะทุกฝ่ายวางตัวสืบทอดไว้แล้ว คงต้องใช้เวลาอีกซักระยะนึง เพราะปัญหาโลกนั้นใหญ่เกินกว่าที่เราจะต้านทานเพียงลำพังได้ อาโก : ท่านแม่ทัพ คิดว่าจะมีปฎิวัติอีกหรือไม่? ผบ.สูงสุด ผบ.ทบ. ท่านพร้อมเรื่องนี้มากแค่ไหน หากสถานการณ์เลวร้ายลง และไม่เป็นไปตามแผน แม่ทัพกุ้ง : ดูเหตุ และปัจจัยก่อน หากหาทางออกในฝ่ายการเมืองได้ก็จบ หากหาทางออกในฝ่ายความมั่นคงได้ ก็ไม่จำเป็นต้องรัฐประหาร อาคิม : ข่าวมาล่าสุดว่า อีส้มเน่า เตรียมประกาศเป็นผู้นำรัฐบาลแล้ว พร้อมบริหารประเทศ สิ่งแรกที่จะทำ คือ "ยกเลิกมาตรา 112 ในทันที" ท่านแม่ทัพคิดว่ายังไง? แม่ทัพกุ้ง : มันทำไม่ได้ดอก แผ่นดินนี้ต้องมีกษัตริย์ และใครก็จะมาดูหมิ่นไม่ได้ เรื่องนี้ แม้ทหารก็ไม่ยอมเช่นกัน เป็นไงเป็นกัน เรื่องนี้ อย่าได้กังวลมากไป เพราะยังมีศาลไคฟงท่านอยู่ ดาบ 2 ดาบ 3 รออีกเพี๊ยบ บางอย่างจะพูดตอนนี้ไปทำไม ทุกอย่างมันต้องมีเหตุก่อน ผลถึงจะตามมา อาซิ่ม อินเตอร์ : ท่านแม่ทัพจ๊ะ แล้วเมื่อโลกเปลี่ยนมือไปแล้ว ภายในบ้านเราเองก็ต้องปรับตัวตามเช่นกัน เป็นไปได้หรือไม่ ที่เราจะกลับไปใช้ระบบการปกครองเดิม และประยุกต์ให้มันทันสมัยมากขึ้น ผู้คนเริ่มเบื่อหน่ายกับปชต.ตอแหลแล้ว จะเลือกไปทำไม เสียภาษีไปทำไม เอามาช่วยชาวบ้านอย่างเราเราไม่ดีกว่าเหรอ? แม่ทัพกุ้ง : รอบบ้านเราเองก็ยังไม่มั่นคง ต้องรอดูท่าทีอาเซียนก่อน หากสงครามใหญ่มา อาเซียนจะผนึกกำลังเอง ส่วนเรื่องการปกครองนั้น เป็นเรื่องภายในของเราเอง อยากจะเปลี่ยน อยากจะแก้ก็ได้ทั้งนั้น แต่เกมส์โลกต้องได้ผู้ชนะก่อน ถึงจะรู้ทิศทางลมว่าจะต้องเดินไปทางไหน? ศึกใหญ่มันใกล้เข้ามาล่ะ ปล.ในแผ่นดิน ย่อมต้องมี ทั้งคนดี คนชั่ว หากแต่ เราต้องช่วยกันส่งมอบอำนาจให้คนดีปกครอง ไม่มีใครทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด หากแต่ให้คนดีปกครองบ้านเมือง คนชั่วก็จะไม่มีโอกาสทำลายบ้านเมืองได้นั่นเอง แล้วใครล่ะคนดี? ก็คนที่พ่อเลือกไงล่ะ คนที่พ่อไว้วางพระทัย คืนพระราชอำนาจเป็นแค่สัญลักษณ์ เพราะโดยเนื้อแท้แล้ว อำนาจสูงสุดก็ยังอยู่ในมือพระมหากษัตริย์ หาแต่ ที่ผ่านมา ลูกได้ช่วงชิงมันไปจากมือพ่อ ก็ต้องส่งคืนมือพ่อด้วยตัวเองไงล่ะ เป็นการขอพระราชทานอภัยโทษ ในสิ่งที่ลุกได้ทำผิดพลาดไปในครั้งอดีต ซึ่งเปลี่ยนแปลงไม่ได้อีกแล้ว แต่จะทำให้มันถูกต้องดั่งเดิม นั่นคือสิ่งที่ทำได้ในวันนี้ EP.5.2(อวสาน) เรื่องราวในหมู่บ้านหมีดุ จะกลายเป็นตำนานเล่าขานไปอีกนาน ทุกหมู่บ้านเริ่มดวงตาเห็นธรรม นักการเมือง พรรคการเมือง จะมีไปทำไม แดร๊กภาษี เอาเปรียบคนไทยทั้งชาติ โลกเปลี่ยนมือ ก็ไม่ต้องตามปชต.ตอแหลอีกต่อไป โมเดลรัสเซีย จีน มีให้เห็นอยู่ ว่าทำยังไง ถึงได้เจริญแบบก้าวกระโดด โดยที่ไม่ทิ้งรากเหง้าตัวเอง ตัวอย่างมีให้โลกประจักษ์แล้ว อยู่ที่ใครจะเลือกทางไหน? หมี CNN(ไทยสุดทน! ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง ปราบม็อบเติมเงินขะแมร์ บ้านหนองหญ้าแก้ว ส่งสัญญานชัด ใช้วิธีสลายม็อบ แบบสากล แต่เด็ดขาด ชาวโลกประจักษ์ มันมาถึงที่สุดแล้ว ดินแดนใช่จะยอมให้กันง่ายๆ เอาชาวบ้านมาเป็นกันชน สุดท้ายมรึงเลือกเอง อย่าร้อง ไอ้สัส! โลกชื่นชมวิธีการทหารไทย ล่อจะเบาไปหาหนัก ตามความชอบธรรม) 18 กันยายน 68 00.01 น.
    0 Comments 0 Shares 391 Views 0 Reviews
  • Microsoft และ Cloudflare ร่วมมือถล่มเครือข่ายฟิชชิ่ง RaccoonO365 — ยุติการขโมยบัญชี Microsoft 365 กว่า 5,000 รายทั่วโลก

    ในปฏิบัติการระดับโลกที่เริ่มต้นเมื่อเดือนกันยายน 2025 Microsoft และ Cloudflare ได้ร่วมกันรื้อถอนเครือข่ายฟิชชิ่งชื่อ RaccoonO365 ซึ่งเป็นบริการ “Phishing-as-a-Service” ที่เปิดให้แฮกเกอร์เช่าชุดเครื่องมือเพื่อขโมยบัญชี Microsoft 365 ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องมีทักษะด้านเทคนิคใด ๆ

    RaccoonO365 ถูกติดตามโดย Microsoft ภายใต้ชื่อ Storm-2246 และมีรูปแบบการให้บริการแบบสมัครสมาชิก โดยคิดค่าบริการ $355 ต่อ 30 วัน หรือ $999 ต่อ 90 วัน ซึ่งผู้ใช้สามารถป้อนอีเมลเป้าหมายได้ถึง 9,000 รายต่อวัน และใช้เทคนิคหลอกลวงที่ซับซ้อน เช่น CAPTCHA ปลอม, หน้าเข้าสู่ระบบ Microsoft ปลอม, และการข้ามระบบยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA)

    Microsoft ได้ยื่นฟ้องต่อศาล Southern District of New York และได้รับคำสั่งให้ยึดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องถึง 338 แห่ง พร้อมระบุผู้อยู่เบื้องหลังคือ Joshua Ogundipe จากไนจีเรีย ซึ่งเป็นผู้พัฒนาและบริหารระบบนี้ผ่าน Telegram ที่มีสมาชิกกว่า 850 คน

    Cloudflare เข้าร่วมปฏิบัติการโดยปิดบัญชีผู้ใช้ที่เกี่ยวข้อง, ลบสคริปต์ Workers ที่ใช้ป้องกันบอท และแสดงหน้าเตือนก่อนเข้าถึงโดเมนที่เป็นอันตราย การดำเนินการนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแนวทางจากการลบโดเมนทีละตัว ไปสู่การรื้อถอนโครงสร้างเครือข่ายแบบครบวงจร

    Microsoft และ Cloudflare ร่วมกันรื้อถอนเครือข่ายฟิชชิ่ง RaccoonO365
    ปฏิบัติการเริ่มต้นวันที่ 2 กันยายน 2025 และเสร็จสิ้นภายในวันที่ 8 กันยายน
    ยึดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องได้ถึง 338 แห่ง

    RaccoonO365 เป็นบริการ Phishing-as-a-Service
    ให้แฮกเกอร์เช่าชุดเครื่องมือผ่าน Telegram
    ค่าบริการ $355 ต่อ 30 วัน หรือ $999 ต่อ 90 วัน
    รองรับเป้าหมายได้ถึง 9,000 อีเมลต่อวัน

    เทคนิคที่ใช้ในการหลอกลวงมีความซับซ้อน
    ใช้ CAPTCHA ปลอมและหน้าเข้าสู่ระบบ Microsoft ปลอม
    ข้ามระบบ MFA และขโมย session cookies
    ใช้แบรนด์ดังเช่น DocuSign, Adobe, Maersk เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

    ผู้พัฒนาและผู้อยู่เบื้องหลังคือ Joshua Ogundipe
    มีพื้นฐานด้านโปรแกรมมิ่งและเขียนโค้ดส่วนใหญ่ด้วยตัวเอง
    ดำเนินการจากไนจีเรียและยังไม่ถูกจับกุม

    Cloudflare ปิดระบบสนับสนุนของเครือข่ายนี้
    ลบสคริปต์ Workers และแสดงหน้าเตือนก่อนเข้าถึงโดเมน
    ปิดบัญชีผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี

    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-and-cloudflare-jointly-take-down-phishing-network-that-stole-thousands-of-microsoft-365-credentials
    📰 Microsoft และ Cloudflare ร่วมมือถล่มเครือข่ายฟิชชิ่ง RaccoonO365 — ยุติการขโมยบัญชี Microsoft 365 กว่า 5,000 รายทั่วโลก ในปฏิบัติการระดับโลกที่เริ่มต้นเมื่อเดือนกันยายน 2025 Microsoft และ Cloudflare ได้ร่วมกันรื้อถอนเครือข่ายฟิชชิ่งชื่อ RaccoonO365 ซึ่งเป็นบริการ “Phishing-as-a-Service” ที่เปิดให้แฮกเกอร์เช่าชุดเครื่องมือเพื่อขโมยบัญชี Microsoft 365 ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องมีทักษะด้านเทคนิคใด ๆ RaccoonO365 ถูกติดตามโดย Microsoft ภายใต้ชื่อ Storm-2246 และมีรูปแบบการให้บริการแบบสมัครสมาชิก โดยคิดค่าบริการ $355 ต่อ 30 วัน หรือ $999 ต่อ 90 วัน ซึ่งผู้ใช้สามารถป้อนอีเมลเป้าหมายได้ถึง 9,000 รายต่อวัน และใช้เทคนิคหลอกลวงที่ซับซ้อน เช่น CAPTCHA ปลอม, หน้าเข้าสู่ระบบ Microsoft ปลอม, และการข้ามระบบยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA) Microsoft ได้ยื่นฟ้องต่อศาล Southern District of New York และได้รับคำสั่งให้ยึดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องถึง 338 แห่ง พร้อมระบุผู้อยู่เบื้องหลังคือ Joshua Ogundipe จากไนจีเรีย ซึ่งเป็นผู้พัฒนาและบริหารระบบนี้ผ่าน Telegram ที่มีสมาชิกกว่า 850 คน Cloudflare เข้าร่วมปฏิบัติการโดยปิดบัญชีผู้ใช้ที่เกี่ยวข้อง, ลบสคริปต์ Workers ที่ใช้ป้องกันบอท และแสดงหน้าเตือนก่อนเข้าถึงโดเมนที่เป็นอันตราย การดำเนินการนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแนวทางจากการลบโดเมนทีละตัว ไปสู่การรื้อถอนโครงสร้างเครือข่ายแบบครบวงจร ✅ Microsoft และ Cloudflare ร่วมกันรื้อถอนเครือข่ายฟิชชิ่ง RaccoonO365 ➡️ ปฏิบัติการเริ่มต้นวันที่ 2 กันยายน 2025 และเสร็จสิ้นภายในวันที่ 8 กันยายน ➡️ ยึดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องได้ถึง 338 แห่ง ✅ RaccoonO365 เป็นบริการ Phishing-as-a-Service ➡️ ให้แฮกเกอร์เช่าชุดเครื่องมือผ่าน Telegram ➡️ ค่าบริการ $355 ต่อ 30 วัน หรือ $999 ต่อ 90 วัน ➡️ รองรับเป้าหมายได้ถึง 9,000 อีเมลต่อวัน ✅ เทคนิคที่ใช้ในการหลอกลวงมีความซับซ้อน ➡️ ใช้ CAPTCHA ปลอมและหน้าเข้าสู่ระบบ Microsoft ปลอม ➡️ ข้ามระบบ MFA และขโมย session cookies ➡️ ใช้แบรนด์ดังเช่น DocuSign, Adobe, Maersk เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ✅ ผู้พัฒนาและผู้อยู่เบื้องหลังคือ Joshua Ogundipe ➡️ มีพื้นฐานด้านโปรแกรมมิ่งและเขียนโค้ดส่วนใหญ่ด้วยตัวเอง ➡️ ดำเนินการจากไนจีเรียและยังไม่ถูกจับกุม ✅ Cloudflare ปิดระบบสนับสนุนของเครือข่ายนี้ ➡️ ลบสคริปต์ Workers และแสดงหน้าเตือนก่อนเข้าถึงโดเมน ➡️ ปิดบัญชีผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-and-cloudflare-jointly-take-down-phishing-network-that-stole-thousands-of-microsoft-365-credentials
    WWW.TECHRADAR.COM
    Joint Microsoft and Cloudflare operation disrupts phishing as a service targeting Microsoft 365 credentials
    RaccoonO365 sold phishing kits that copied Microsoft emails, attachments, and websites
    0 Comments 0 Shares 206 Views 0 Reviews
  • “เมื่อเงินขาดมือ คนรุ่นใหม่หันพึ่ง ChatGPT — จากหนี้บัตรเครดิตสู่บ้านหลังแรก ด้วยคำแนะนำจาก AI”

    ในยุคที่ปัญหาการเงินกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องรับมือกับหนี้สิน ค่าครองชีพ และความไม่มั่นคงทางอาชีพ หลายคนเริ่มหันไปพึ่ง ChatGPT และแชตบอต AI อื่น ๆ เพื่อขอคำแนะนำด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการจัดงบประมาณ การลดหนี้ หรือแม้แต่การลงทุนในตลาดหุ้น

    Myra Donohue คุณแม่ลูกสองจากแคลิฟอร์เนีย ใช้ ChatGPT เพื่อช่วยจัดการหนี้บัตรเครดิตกว่า $5,000 หลังจากรู้สึกท้อแท้กับการจัดการรายจ่ายด้วยตัวเอง เธอใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based ที่จัดสรรหน้าที่ให้กับทุกดอลลาร์ที่หาได้ และพบว่าคำแนะนำจาก AI แม้จะไม่แปลกใหม่ แต่ก็รวดเร็วและช่วยให้เธอเริ่มต้นได้ทันที

    Jennifer Allan ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์จากเดลาแวร์ ใช้ ChatGPT เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต $23,000 ผ่าน “ภารกิจ 30 วัน” ที่เธอขอให้แชตบอตเสนอวิธีหาเงินใหม่ทุกวัน ตั้งแต่ขายแตงโมที่สลักยอดหนี้ ไปจนถึงบริจาคพลาสมา เธอสามารถลดหนี้ได้เกือบครึ่ง และยังใช้ TikTok บันทึกการเดินทางของตัวเอง

    Kathryn Aguilo ครูอนุบาลจากนิวยอร์ก ใช้ ChatGPT เพื่อวางแผนงานแต่งงานและซื้อบ้าน โดยแชตบอตแนะนำให้ลดค่าใช้จ่าย เช่น หยุดเปิดบาร์แท็บ ใช้เงินสดแทนบัตร และทำของตกแต่งเอง หลังแต่งงาน เธอใช้ AI สร้างระบบติดตามรายจ่ายและแผนชำระเงินกู้บ้าน

    Alexander Stuart นักบัญชีจากลอสแอนเจลิส ใช้ ChatGPT เป็น “มหาวิทยาลัยฟรี” เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้น โดยเริ่มจากเงิน $400 และสามารถเพิ่มเป็น $1,600 ผ่านการซื้อขายรายวัน แม้จะขาดทุนบางครั้ง แต่เขายังใช้ AI เพื่อเรียนรู้และเปรียบเทียบคำแนะนำจากแชตบอตอื่น ๆ เช่น Grok

    แม้หลายคนจะพบความสำเร็จจากการใช้ AI แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า คำแนะนำจากแชตบอตอาจไม่แม่นยำเสมอไป และควรตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะเมื่อมีการอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชีหรือหมายเลขประกันสังคม ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย

    ตัวอย่างการใช้ ChatGPT เพื่อแก้ปัญหาการเงิน
    Myra Donohue ใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต
    Jennifer Allan ใช้ภารกิจ 30 วันจาก ChatGPT เพื่อลดหนี้ $23,000 ได้เกือบครึ่ง
    Kathryn Aguilo วางแผนงานแต่งและซื้อบ้านด้วยคำแนะนำจาก AI
    Alexander Stuart ใช้ ChatGPT เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้นและเพิ่มเงินจาก $400 เป็น $1,600

    ข้อมูลจากการสำรวจและแนวโน้ม
    2 ใน 3 ของผู้ใช้ AI เคยขอคำแนะนำด้านการเงินจากแชตบอต
    80% ของผู้ที่ทำตามคำแนะนำกล่าวว่าการเงินดีขึ้น
    คนรุ่นใหม่ เช่น Gen Z และ Millennials ใช้ AI ด้านการเงินมากที่สุด
    ChatGPT ถูกใช้เป็นผู้ช่วยด้านงบประมาณ การลงทุน และการวางแผนชีวิต

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    มี prompt เฉพาะสำหรับการเงิน เช่น “ช่วยสร้างงบประมาณตามกฎ 50/30/20” หรือ “วางแผนเกษียณใน 20 ปี”2
    AI ช่วยให้คนที่ไม่กล้าพูดเรื่องเงินกับคนจริงเปิดใจได้ง่ายขึ้น
    การใช้ AI เพื่อวางแผนการเงินช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจ
    แชตบอตสามารถวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและเสนอแผนที่ปรับตามสถานการณ์

    คำเตือนและข้อจำกัด
    คำแนะนำจาก AI อาจไม่แม่นยำหรือทันสมัย — เช่น ข้อมูลหุ้นที่ล้าสมัย
    การอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชี อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย
    แชตบอตไม่สามารถตรวจสอบบริบทหรือความซับซ้อนของสถานการณ์ได้ดีเท่ามนุษย์
    ผู้ใช้บางรายได้รับคำแนะนำแปลก ๆ เช่น ขายภาพเท้า — ต้องใช้วิจารณญาณ
    การพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญอาจนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/16/they-had-money-problems-they-turned-to-chatgpt-for-solutions
    💬 “เมื่อเงินขาดมือ คนรุ่นใหม่หันพึ่ง ChatGPT — จากหนี้บัตรเครดิตสู่บ้านหลังแรก ด้วยคำแนะนำจาก AI” ในยุคที่ปัญหาการเงินกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องรับมือกับหนี้สิน ค่าครองชีพ และความไม่มั่นคงทางอาชีพ หลายคนเริ่มหันไปพึ่ง ChatGPT และแชตบอต AI อื่น ๆ เพื่อขอคำแนะนำด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการจัดงบประมาณ การลดหนี้ หรือแม้แต่การลงทุนในตลาดหุ้น Myra Donohue คุณแม่ลูกสองจากแคลิฟอร์เนีย ใช้ ChatGPT เพื่อช่วยจัดการหนี้บัตรเครดิตกว่า $5,000 หลังจากรู้สึกท้อแท้กับการจัดการรายจ่ายด้วยตัวเอง เธอใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based ที่จัดสรรหน้าที่ให้กับทุกดอลลาร์ที่หาได้ และพบว่าคำแนะนำจาก AI แม้จะไม่แปลกใหม่ แต่ก็รวดเร็วและช่วยให้เธอเริ่มต้นได้ทันที Jennifer Allan ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์จากเดลาแวร์ ใช้ ChatGPT เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต $23,000 ผ่าน “ภารกิจ 30 วัน” ที่เธอขอให้แชตบอตเสนอวิธีหาเงินใหม่ทุกวัน ตั้งแต่ขายแตงโมที่สลักยอดหนี้ ไปจนถึงบริจาคพลาสมา เธอสามารถลดหนี้ได้เกือบครึ่ง และยังใช้ TikTok บันทึกการเดินทางของตัวเอง Kathryn Aguilo ครูอนุบาลจากนิวยอร์ก ใช้ ChatGPT เพื่อวางแผนงานแต่งงานและซื้อบ้าน โดยแชตบอตแนะนำให้ลดค่าใช้จ่าย เช่น หยุดเปิดบาร์แท็บ ใช้เงินสดแทนบัตร และทำของตกแต่งเอง หลังแต่งงาน เธอใช้ AI สร้างระบบติดตามรายจ่ายและแผนชำระเงินกู้บ้าน Alexander Stuart นักบัญชีจากลอสแอนเจลิส ใช้ ChatGPT เป็น “มหาวิทยาลัยฟรี” เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้น โดยเริ่มจากเงิน $400 และสามารถเพิ่มเป็น $1,600 ผ่านการซื้อขายรายวัน แม้จะขาดทุนบางครั้ง แต่เขายังใช้ AI เพื่อเรียนรู้และเปรียบเทียบคำแนะนำจากแชตบอตอื่น ๆ เช่น Grok แม้หลายคนจะพบความสำเร็จจากการใช้ AI แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า คำแนะนำจากแชตบอตอาจไม่แม่นยำเสมอไป และควรตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะเมื่อมีการอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชีหรือหมายเลขประกันสังคม ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย ✅ ตัวอย่างการใช้ ChatGPT เพื่อแก้ปัญหาการเงิน ➡️ Myra Donohue ใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต ➡️ Jennifer Allan ใช้ภารกิจ 30 วันจาก ChatGPT เพื่อลดหนี้ $23,000 ได้เกือบครึ่ง ➡️ Kathryn Aguilo วางแผนงานแต่งและซื้อบ้านด้วยคำแนะนำจาก AI ➡️ Alexander Stuart ใช้ ChatGPT เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้นและเพิ่มเงินจาก $400 เป็น $1,600 ✅ ข้อมูลจากการสำรวจและแนวโน้ม ➡️ 2 ใน 3 ของผู้ใช้ AI เคยขอคำแนะนำด้านการเงินจากแชตบอต ➡️ 80% ของผู้ที่ทำตามคำแนะนำกล่าวว่าการเงินดีขึ้น ➡️ คนรุ่นใหม่ เช่น Gen Z และ Millennials ใช้ AI ด้านการเงินมากที่สุด ➡️ ChatGPT ถูกใช้เป็นผู้ช่วยด้านงบประมาณ การลงทุน และการวางแผนชีวิต ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ มี prompt เฉพาะสำหรับการเงิน เช่น “ช่วยสร้างงบประมาณตามกฎ 50/30/20” หรือ “วางแผนเกษียณใน 20 ปี”2 ➡️ AI ช่วยให้คนที่ไม่กล้าพูดเรื่องเงินกับคนจริงเปิดใจได้ง่ายขึ้น ➡️ การใช้ AI เพื่อวางแผนการเงินช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจ ➡️ แชตบอตสามารถวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและเสนอแผนที่ปรับตามสถานการณ์ ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ คำแนะนำจาก AI อาจไม่แม่นยำหรือทันสมัย — เช่น ข้อมูลหุ้นที่ล้าสมัย ⛔ การอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชี อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย ⛔ แชตบอตไม่สามารถตรวจสอบบริบทหรือความซับซ้อนของสถานการณ์ได้ดีเท่ามนุษย์ ⛔ ผู้ใช้บางรายได้รับคำแนะนำแปลก ๆ เช่น ขายภาพเท้า — ต้องใช้วิจารณญาณ ⛔ การพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญอาจนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/16/they-had-money-problems-they-turned-to-chatgpt-for-solutions
    WWW.THESTAR.COM.MY
    They had money problems. They turned to ChatGPT for solutions.
    More people are turning to generative A.I. chatbots for financial advice, whether it's for debt management, better saving strategies or stock picks.
    0 Comments 0 Shares 302 Views 0 Reviews
  • แหกคอก ตอนที่ 7 – ถังความคิด
    ทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 7 : ถังความคิด
    แม้เศรษฐกิจจะอยู่ในกำมือพวกนายทุนใหญ่แล้วก็ตาม แต่พวกเขาบอกว่าแค่อยู่ในมือเรา มันไม่อยู่นาน (พวกนี้คิดรอบคอบ) เราต้องสร้างพรรคพวก ต้องทำให้สังคม โดยเฉพาะสังคมในระดับสูง เห็นคล้อยตามเราด้วย ประเภทเราว่าไงเขาต้องว่าตามกัน มันจะได้คุม (หลอก) กัน ง่ายๆ หน่อย แล้วจะทำให้พวกคนในสังคมระดับสูงเขาเห็นพ้องด้วยได้อย่างไรล่ะ คนพวกนี้ถึงแม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่จะให้เรียกให้มาประชุมคงไม่ง่ายนักหรอก พวกเขาหยิ่งยะโสเล่นตัวกันจะตาย แต่จะให้เดินสายไปคุยด้วยทีละราย กว่าจะรู้เรื่องเห็นพ้องกันหมด พวกตูก็แก่ตายหมด ไม่ได้ครองโลกกันเสียที !
    นายทุนใหญ่ ทั้งหลายจึงสรุปว่า อย่ากระนั้นเลย พวกเราควรมอบให้ใครมันไปช่วยคิดช่วยทำให้เราดีกว่านะ รวยแล้ว อย่าต้องลงมือลงแรงเองหมด ใช้ให้ผีมันโม่แป้งแทนก็แล้วกัน แล้วพวกเขาก็ตั้งสถาบันประเภทนักคิด (think tank มาแล้ว) เพื่อให้มีหน้าที่จัดการคิด การชี้นำสังคม วิธีล้อมคอกพวกคนรวย (อื่นๆ) คนในสังคมชั้นสูงจากทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการ สื่อ และแม้แต่พวกคุณทหาร เข้ามารับความเข้าใจ และควบคุมความคิดของบุคคลเหล่า นั้น ให้เป็นไปในทิศทางเดียว กับที่นายทุนใหญ่ต้องการ เข้าใจไหม มันเป็นการย้อมความคิด โดยคนถูกย้อมไม่รู้ตัว ว่ากำลังถูกย้อมสมอง ย้อมความคิด เป็นไปไม่ได้น่ะ ไม่มีทางหรอก ไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะทำอะไรแบบ นั้น พวกโลกสวยคงกำลังคิดในใจ ฮา มันเป็นวิธีที่เฉียบมาก จูงจมูกคนรวย หรือคนมีอำนาจ หรือนักวิชาการด้วยกัน นี่ถือว่าสุดยอดจริงๆ หรือว่ามันก็ไม่ยากเกิน คนรวย คนมีอำนาจ นักวิชาการ ใช่ว่าจะฉลาดเสมอไป ฮา อีกหน
    ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 กลุ่มนักวิชาการชาวอเมริกัน ได้รับมอบหมายให้วาดภาพสถานการณ์ ให้ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ฟังเกี่ยวกับทางเลือกต่างๆ ของอเมริกา ในกรณีที่สงครามโลกจบและ Kaiser และจักรวรรดิเยอรมันหล่นจากบัลลังก์ นักวิชาการกลุ่มนี้เรียกว่ากลุ่ม The Inquiry เวลาวาดภาพให้ประธานาธิบดีฟัง เขามีวิธี เขาใช้วิธีเล่าผ่านคนสนิทที่ประธานาธิบดีเชื่อใจอย่างมาก (จำวิธีนี้กันไว้นะครับ เขาใช้กันทั้งนั้น ปากก็บอกผมไม่เคยเจรจา ไม่เคยพูด แต่ให้คนสนิทเป็นคนพูด ไม่ได้โกหกนี่หว่า !) นายคนสนิท ชื่อ พันเอก Edward M. House นี้สำคัญมาก เป็นผู้เดินสาส์นลับของประธานาธิบดี กับฝ่ายยุโรป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ปี ค.ศ.1914 จนถึงช่วงที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนด้วยในช่วง ค.ศ.1917 ปากก็บอกว่าฉันสันโดษ Isolist แต่ส่งคนเดินสาส์น จนซ่นร้องเท้าสึกไปหลายคู่ นักการเมืองก็เป็นยังงี้ทั้งนั้น และไม่ว่าพันธุ์เทศ พันธุ์ไทย ปากก็พูดไปอย่าง แล้วก็ไปทำอีก 3 อย่าง คนละเรื่องกัน ท่านนายพันเอก House นี้ เป็นคนสำคัญในการผลักและดันให้ประธานาธิบดี Wilson เห็นชอบในการที่อเมริกาจัดตั้งระบบ Federal Reserve (ตกลงคุณ House นี้ เป็นพวกใครกันแน่ !)
    กลุ่ม The Enquiry นี้เอง เป็นผู้ปูทางการสร้าง the Council on Foreign Relations (CFR) CFR เป็น think tank ถังความคิด ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในอเมริกาตั้งแต่เริ่มตั้งจนถึงปัจจุบัน
    เดือนพฤษภาคม ค.ศ.1919 กลุ่มนักวิชาการและนักการฑูตจากอังกฤษและอเมริกา รวมทั้งกลุ่ม The Inquiry นั่งสุมหัววางแผนกันที่โรงแรม the Majestic ในปารีส เพื่อที่จะร่วมกันตั้งสถาบันเกี่ยวกับกิจการระหว่างประเทศ โดยมีสาขาหนึ่งที่ London และอีกสาขาหนึ่งที่ New York เมื่อบรรดาพวกไปสุมหัวกลับมาถึง New York ก็รายงานผลการคุย ให้กับนักการเงินและนักกฏหมายที่ New York (นายทุนตัวจริง !) ฟัง ทุกคนไชโยโห่ตบมือเป่าปากกับข้อสรุปที่ตกลงกันมา แน่นอนคนที่ดีใจที่สุดคงไม่ใครเกิน นาย Cecil Rhodes นักล่ารุ่นเก๋า ที่แค่ซ่อนเขี้ยวของตัวเองให้มิดชิด นักล่ารุ่นกะเตาะ ก็นึกว่านักล่ารุ่นเก๋าเขี้ยวหลุดหมดปากไปแล้ว แหม ! หลอกง่ายจัง นึกว่าเด็กรุ่นใหม่ ฉลาดกว่ารุ่นโบราณ ! แต่ในที่สุดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน มันคงแปร่งหูเกินกว่าคนอังกฤษจะทนฟังได้ สถาบันนักชักใย CFR เลยเปลี่ยนแผนแยกตัวเป็น 2 แขนง แต่มาจากตอเดียวกัน ต่างคนต่างไปตั้งกลุ่มของพวกตัวเอง อังกฤษกลุ่มหนึ่ง อเมริกากลุ่มหนึ่ง แต่ยังจับมือกอดแขนจิกหัวกันไว้ ยังไงก็ต้องร่วมมือใกล้ชิด ก็คิดจะครองโลกด้วยกัน
    The Milner Group ของก๊วนนาย Cecil Rhodes รับบทเป็นตัวตั้งตัวตีในการตั้ง Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ถังความคิด think tank สัญชาติอังกฤษ ในปี ค.ศ.1919 ส่วนกลุ่ม The Inquiry ก็รับมอบหน้าที่ไปตั้ง Council of Foreign Relations think tank สัญชาติอเมริกัน ในปี ค.ศ.1921
    นอกจากนี้ ยังมีองค์กรลับที่มีแนวคิดเดียวกับ Milner Group ทยอยเกิดขึ้นอีกในหลายๆ ประเทศ เขาเรียกกลุ่มพวกนี้ว่าพวกโต๊ะ กลม เอามาจากอัศวินโต๊ะกลม Knights of the Round Table สมัย King Arthur ของอังกฤษนั่นแหละ Round Table Groups ในบรรดาพวกโต๊ะกลม โต๊ะใหญ่ในกลุ่มนี้ก็คือ Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ที่ลดหลั่นลงมาก็มี โต๊ะกลม Canada, Australia, New Zealand, South Africa และ India จักรภพอังกฤษถึงล่มก็ยังไม่สลาย ดึงเอาลูกกะเป๋งเก่า ตามมาเข้าขบวนตั้งโต๊ะกลมด้วย กลุ่มโต๊ะกลมนี้ ก็คือ กลุ่มถังความคิด (think tank) นานาชาติรุ่นแรก ซึ่งยังดำเนินการอย่างแข็งขัน และมีอิทธิพลในแต่ละประเทศของตัว จนถึงทุกวันนี้ ในฐานะเป็นรุ่นใหญ่มีชื่อเสียงอยู่ในอันดับต้นมาตลอด รักษาตำแหน่งไว้ไม่เคยปล่อยให้ตกอันดับ
    ส่วนถังความคิดรุ่นใหญ่ในอเมริกา ที่ได้รับความนิยมตาม CFR มาติดๆ ก็มี Brookings Institution, Carnegie Endowment for International Peace, RAND Corporation, Heritage Foundation, Woodrow Wilson International Centre for Scholars, the Centre for Strategic and International Studies และ American Enterprise Institute (นักอ่านนิทานท่านใด ที่อยากรู้วิธีคิด หรืออยากรู้ว่านักล่ากำลังคิดทำอะไรอยู่ อยากติดตามด้วยตัวเองก็ค้นได้จากอากู กดชื่อตัวถัง พวกนี้แหละครับ มีเรื่องให้อ่านเพียบเลย)
    สำหรับถังความคิดที่ไม่ได้สังกัดกับอเมริกา ก็จะมี Chatham House เป็นถังหมายเลขหนึ่งของอังกฤษ เป็นที่นับหน้าถือตา มีอิทธิพล ทำนองเดียวกับ CFR, the International Institute for Strategic Studies in the UK, the German Council on Foreign Relation, the Adam Smith Institute in the UK, the Fraser Institute ใน Canada, the European Council on Foreign Relations, the International Crisis Group in Belgium และ Canadian Institute of International Affairs
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 7 – ถังความคิด ทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 7 : ถังความคิด แม้เศรษฐกิจจะอยู่ในกำมือพวกนายทุนใหญ่แล้วก็ตาม แต่พวกเขาบอกว่าแค่อยู่ในมือเรา มันไม่อยู่นาน (พวกนี้คิดรอบคอบ) เราต้องสร้างพรรคพวก ต้องทำให้สังคม โดยเฉพาะสังคมในระดับสูง เห็นคล้อยตามเราด้วย ประเภทเราว่าไงเขาต้องว่าตามกัน มันจะได้คุม (หลอก) กัน ง่ายๆ หน่อย แล้วจะทำให้พวกคนในสังคมระดับสูงเขาเห็นพ้องด้วยได้อย่างไรล่ะ คนพวกนี้ถึงแม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่จะให้เรียกให้มาประชุมคงไม่ง่ายนักหรอก พวกเขาหยิ่งยะโสเล่นตัวกันจะตาย แต่จะให้เดินสายไปคุยด้วยทีละราย กว่าจะรู้เรื่องเห็นพ้องกันหมด พวกตูก็แก่ตายหมด ไม่ได้ครองโลกกันเสียที ! นายทุนใหญ่ ทั้งหลายจึงสรุปว่า อย่ากระนั้นเลย พวกเราควรมอบให้ใครมันไปช่วยคิดช่วยทำให้เราดีกว่านะ รวยแล้ว อย่าต้องลงมือลงแรงเองหมด ใช้ให้ผีมันโม่แป้งแทนก็แล้วกัน แล้วพวกเขาก็ตั้งสถาบันประเภทนักคิด (think tank มาแล้ว) เพื่อให้มีหน้าที่จัดการคิด การชี้นำสังคม วิธีล้อมคอกพวกคนรวย (อื่นๆ) คนในสังคมชั้นสูงจากทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการ สื่อ และแม้แต่พวกคุณทหาร เข้ามารับความเข้าใจ และควบคุมความคิดของบุคคลเหล่า นั้น ให้เป็นไปในทิศทางเดียว กับที่นายทุนใหญ่ต้องการ เข้าใจไหม มันเป็นการย้อมความคิด โดยคนถูกย้อมไม่รู้ตัว ว่ากำลังถูกย้อมสมอง ย้อมความคิด เป็นไปไม่ได้น่ะ ไม่มีทางหรอก ไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะทำอะไรแบบ นั้น พวกโลกสวยคงกำลังคิดในใจ ฮา มันเป็นวิธีที่เฉียบมาก จูงจมูกคนรวย หรือคนมีอำนาจ หรือนักวิชาการด้วยกัน นี่ถือว่าสุดยอดจริงๆ หรือว่ามันก็ไม่ยากเกิน คนรวย คนมีอำนาจ นักวิชาการ ใช่ว่าจะฉลาดเสมอไป ฮา อีกหน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 กลุ่มนักวิชาการชาวอเมริกัน ได้รับมอบหมายให้วาดภาพสถานการณ์ ให้ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ฟังเกี่ยวกับทางเลือกต่างๆ ของอเมริกา ในกรณีที่สงครามโลกจบและ Kaiser และจักรวรรดิเยอรมันหล่นจากบัลลังก์ นักวิชาการกลุ่มนี้เรียกว่ากลุ่ม The Inquiry เวลาวาดภาพให้ประธานาธิบดีฟัง เขามีวิธี เขาใช้วิธีเล่าผ่านคนสนิทที่ประธานาธิบดีเชื่อใจอย่างมาก (จำวิธีนี้กันไว้นะครับ เขาใช้กันทั้งนั้น ปากก็บอกผมไม่เคยเจรจา ไม่เคยพูด แต่ให้คนสนิทเป็นคนพูด ไม่ได้โกหกนี่หว่า !) นายคนสนิท ชื่อ พันเอก Edward M. House นี้สำคัญมาก เป็นผู้เดินสาส์นลับของประธานาธิบดี กับฝ่ายยุโรป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ปี ค.ศ.1914 จนถึงช่วงที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนด้วยในช่วง ค.ศ.1917 ปากก็บอกว่าฉันสันโดษ Isolist แต่ส่งคนเดินสาส์น จนซ่นร้องเท้าสึกไปหลายคู่ นักการเมืองก็เป็นยังงี้ทั้งนั้น และไม่ว่าพันธุ์เทศ พันธุ์ไทย ปากก็พูดไปอย่าง แล้วก็ไปทำอีก 3 อย่าง คนละเรื่องกัน ท่านนายพันเอก House นี้ เป็นคนสำคัญในการผลักและดันให้ประธานาธิบดี Wilson เห็นชอบในการที่อเมริกาจัดตั้งระบบ Federal Reserve (ตกลงคุณ House นี้ เป็นพวกใครกันแน่ !) กลุ่ม The Enquiry นี้เอง เป็นผู้ปูทางการสร้าง the Council on Foreign Relations (CFR) CFR เป็น think tank ถังความคิด ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในอเมริกาตั้งแต่เริ่มตั้งจนถึงปัจจุบัน เดือนพฤษภาคม ค.ศ.1919 กลุ่มนักวิชาการและนักการฑูตจากอังกฤษและอเมริกา รวมทั้งกลุ่ม The Inquiry นั่งสุมหัววางแผนกันที่โรงแรม the Majestic ในปารีส เพื่อที่จะร่วมกันตั้งสถาบันเกี่ยวกับกิจการระหว่างประเทศ โดยมีสาขาหนึ่งที่ London และอีกสาขาหนึ่งที่ New York เมื่อบรรดาพวกไปสุมหัวกลับมาถึง New York ก็รายงานผลการคุย ให้กับนักการเงินและนักกฏหมายที่ New York (นายทุนตัวจริง !) ฟัง ทุกคนไชโยโห่ตบมือเป่าปากกับข้อสรุปที่ตกลงกันมา แน่นอนคนที่ดีใจที่สุดคงไม่ใครเกิน นาย Cecil Rhodes นักล่ารุ่นเก๋า ที่แค่ซ่อนเขี้ยวของตัวเองให้มิดชิด นักล่ารุ่นกะเตาะ ก็นึกว่านักล่ารุ่นเก๋าเขี้ยวหลุดหมดปากไปแล้ว แหม ! หลอกง่ายจัง นึกว่าเด็กรุ่นใหม่ ฉลาดกว่ารุ่นโบราณ ! แต่ในที่สุดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน มันคงแปร่งหูเกินกว่าคนอังกฤษจะทนฟังได้ สถาบันนักชักใย CFR เลยเปลี่ยนแผนแยกตัวเป็น 2 แขนง แต่มาจากตอเดียวกัน ต่างคนต่างไปตั้งกลุ่มของพวกตัวเอง อังกฤษกลุ่มหนึ่ง อเมริกากลุ่มหนึ่ง แต่ยังจับมือกอดแขนจิกหัวกันไว้ ยังไงก็ต้องร่วมมือใกล้ชิด ก็คิดจะครองโลกด้วยกัน The Milner Group ของก๊วนนาย Cecil Rhodes รับบทเป็นตัวตั้งตัวตีในการตั้ง Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ถังความคิด think tank สัญชาติอังกฤษ ในปี ค.ศ.1919 ส่วนกลุ่ม The Inquiry ก็รับมอบหน้าที่ไปตั้ง Council of Foreign Relations think tank สัญชาติอเมริกัน ในปี ค.ศ.1921 นอกจากนี้ ยังมีองค์กรลับที่มีแนวคิดเดียวกับ Milner Group ทยอยเกิดขึ้นอีกในหลายๆ ประเทศ เขาเรียกกลุ่มพวกนี้ว่าพวกโต๊ะ กลม เอามาจากอัศวินโต๊ะกลม Knights of the Round Table สมัย King Arthur ของอังกฤษนั่นแหละ Round Table Groups ในบรรดาพวกโต๊ะกลม โต๊ะใหญ่ในกลุ่มนี้ก็คือ Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ที่ลดหลั่นลงมาก็มี โต๊ะกลม Canada, Australia, New Zealand, South Africa และ India จักรภพอังกฤษถึงล่มก็ยังไม่สลาย ดึงเอาลูกกะเป๋งเก่า ตามมาเข้าขบวนตั้งโต๊ะกลมด้วย กลุ่มโต๊ะกลมนี้ ก็คือ กลุ่มถังความคิด (think tank) นานาชาติรุ่นแรก ซึ่งยังดำเนินการอย่างแข็งขัน และมีอิทธิพลในแต่ละประเทศของตัว จนถึงทุกวันนี้ ในฐานะเป็นรุ่นใหญ่มีชื่อเสียงอยู่ในอันดับต้นมาตลอด รักษาตำแหน่งไว้ไม่เคยปล่อยให้ตกอันดับ ส่วนถังความคิดรุ่นใหญ่ในอเมริกา ที่ได้รับความนิยมตาม CFR มาติดๆ ก็มี Brookings Institution, Carnegie Endowment for International Peace, RAND Corporation, Heritage Foundation, Woodrow Wilson International Centre for Scholars, the Centre for Strategic and International Studies และ American Enterprise Institute (นักอ่านนิทานท่านใด ที่อยากรู้วิธีคิด หรืออยากรู้ว่านักล่ากำลังคิดทำอะไรอยู่ อยากติดตามด้วยตัวเองก็ค้นได้จากอากู กดชื่อตัวถัง พวกนี้แหละครับ มีเรื่องให้อ่านเพียบเลย) สำหรับถังความคิดที่ไม่ได้สังกัดกับอเมริกา ก็จะมี Chatham House เป็นถังหมายเลขหนึ่งของอังกฤษ เป็นที่นับหน้าถือตา มีอิทธิพล ทำนองเดียวกับ CFR, the International Institute for Strategic Studies in the UK, the German Council on Foreign Relation, the Adam Smith Institute in the UK, the Fraser Institute ใน Canada, the European Council on Foreign Relations, the International Crisis Group in Belgium และ Canadian Institute of International Affairs คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 307 Views 0 Reviews
  • ทัวร์ปีใหม่มาแล้ว!! เกาหลีใต้ โซล หิมะ Winter ❄ เริ่ม 7,999

    🗓 จำนวนวัน 4วัน 2คืน
    ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์
    พักโรงแรม

    AURORA MEDIA SHOW
    เที่ยวกรุงโซลแบบอิสระด้วยตัวเอง

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์โซล #korea #seoul #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    ทัวร์ปีใหม่มาแล้ว!! เกาหลีใต้ โซล หิมะ Winter ❄ เริ่ม 7,999 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 4วัน 2คืน ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 AURORA MEDIA SHOW 📍 เที่ยวกรุงโซลแบบอิสระด้วยตัวเอง รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์โซล #korea #seoul #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 420 Views 0 0 Reviews
  • “Doomscrolling: The Game — เมื่อการเลื่อนหน้าจอกลายเป็นเกมที่ทั้งเสียดสีและเสพติด”

    David Friedman นักเขียนจาก Ironic Sans ได้สร้างเกมที่ไม่เหมือนใครในชื่อว่า “Doomscrolling: The Game” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากพฤติกรรมของผู้คนที่เลื่อนฟีดข่าวอย่างไม่หยุดยั้งจนรู้สึกหดหู่ หรือที่เรียกว่า doomscrolling โดยเขาตั้งคำถามว่า “ถ้า Doom เป็นเกมที่เล่นด้วยการเลื่อนหน้าจอเท่านั้น จะเป็นอย่างไร?” และคำตอบก็คือเกมนี้ — ที่คุณไม่ต้องกระโดด ไม่ต้องเคลื่อนที่ด้านข้าง แค่เลื่อนลงไปเรื่อย ๆ

    เกมนี้เริ่มต้นจากความล้มเหลว เพราะ GPT-4 ไม่สามารถเข้าใจแนวคิด “เลื่อนลง = พื้นหลังเลื่อนขึ้น” ได้เลย แต่เมื่อ GPT-5 เปิดตัว Friedman กลับมาลองใหม่ และสามารถสร้างต้นแบบเกมได้ภายใน 2 ชั่วโมง โดยใช้ vibe coding และการทดลองผ่าน “lab pages” ที่ให้เขาปรับค่าต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เช่น สีพื้นหลัง, รูปแบบใยแมงมุม, หรือดีไซน์แผ่นป้ายข่าว

    ตัวเกมมีระบบที่กระตุ้นให้ผู้เล่นเคลื่อนไหว เช่น อัปเกรดอาวุธทุก 100 ตัวที่ฆ่า, กำแพงไฟที่ไล่ตามถ้าหยุดนานเกินไป, และสิ่งกีดขวางอย่างใยแมงมุมหรือกำแพงอิฐ นอกจากนี้ยังมี “แผ่นป้ายข่าว” ที่แสดงพาดหัวข่าวจริงจาก RSS ของ New York Times เพื่อสร้างบรรยากาศ doomscrolling อย่างแท้จริง — อ่านแล้วหดหู่แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเลื่อนต่อ

    แม้ Friedman จะไม่ใช่นักพัฒนาเกมมืออาชีพ แต่เขาใช้ AI เป็นเครื่องมือในการสร้างเกมที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว และเปิดให้เล่นฟรีทั้งบนมือถือและเดสก์ท็อป โดยสามารถบันทึกเกมไว้ในหน้าจอหลักให้เหมือนแอปจริงได้

    จุดเด่นของ Doomscrolling: The Game
    เล่นด้วยการเลื่อนหน้าจอเท่านั้น — ไม่มีการเคลื่อนที่ด้านข้างหรือกระโดด
    ได้แรงบันดาลใจจากเกม Doom และพฤติกรรม doomscrolling
    ใช้ GPT-5 ในการสร้างต้นแบบเกมภายในเวลาอันสั้น
    ใช้ vibe coding และ lab pages เพื่อปรับแต่งองค์ประกอบเกม

    ระบบเกมที่กระตุ้นให้เคลื่อนไหว
    อัปเกรดอาวุธทุก 100 ตัวที่ฆ่า
    กำแพงไฟไล่ตามถ้าหยุดนานเกินไป
    มีสิ่งกีดขวาง เช่น ใยแมงมุมและกำแพงอิฐ
    มี health potion และระบบบันทึกระยะทางที่ทำได้

    การผสานข่าวจริงเข้ากับเกม
    ใช้ RSS feed จาก New York Times แสดงพาดหัวข่าวบนแผ่นป้าย
    ข่าวไม่มีผลต่อเกม แต่สร้างบรรยากาศ doomscrolling อย่างแท้จริง
    ผู้เล่นอาจถูกดึงดูดให้หยุดอ่านข่าวระหว่างเล่น
    เป็นการเสียดสีพฤติกรรมเสพข่าวที่ไม่มีวันจบ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เกมนี้เป็นตัวอย่างของ “vibe-coded” project ที่ใช้ AI อย่างสร้างสรรค์
    Friedman ใช้ lab pages เพื่อปรับค่ากราฟิก เช่น ใยแมงมุมและแผ่นป้าย
    เกมสามารถเล่นได้ทั้งบนมือถือและเดสก์ท็อปอย่างลื่นไหล
    มีผู้เล่นบางรายรายงานปัญหาเรื่องการเลื่อนหน้าจอบนบางเบราว์เซอร์

    https://ironicsans.ghost.io/doomscrolling-the-game/
    🕹️ “Doomscrolling: The Game — เมื่อการเลื่อนหน้าจอกลายเป็นเกมที่ทั้งเสียดสีและเสพติด” David Friedman นักเขียนจาก Ironic Sans ได้สร้างเกมที่ไม่เหมือนใครในชื่อว่า “Doomscrolling: The Game” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากพฤติกรรมของผู้คนที่เลื่อนฟีดข่าวอย่างไม่หยุดยั้งจนรู้สึกหดหู่ หรือที่เรียกว่า doomscrolling โดยเขาตั้งคำถามว่า “ถ้า Doom เป็นเกมที่เล่นด้วยการเลื่อนหน้าจอเท่านั้น จะเป็นอย่างไร?” และคำตอบก็คือเกมนี้ — ที่คุณไม่ต้องกระโดด ไม่ต้องเคลื่อนที่ด้านข้าง แค่เลื่อนลงไปเรื่อย ๆ เกมนี้เริ่มต้นจากความล้มเหลว เพราะ GPT-4 ไม่สามารถเข้าใจแนวคิด “เลื่อนลง = พื้นหลังเลื่อนขึ้น” ได้เลย แต่เมื่อ GPT-5 เปิดตัว Friedman กลับมาลองใหม่ และสามารถสร้างต้นแบบเกมได้ภายใน 2 ชั่วโมง โดยใช้ vibe coding และการทดลองผ่าน “lab pages” ที่ให้เขาปรับค่าต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เช่น สีพื้นหลัง, รูปแบบใยแมงมุม, หรือดีไซน์แผ่นป้ายข่าว ตัวเกมมีระบบที่กระตุ้นให้ผู้เล่นเคลื่อนไหว เช่น อัปเกรดอาวุธทุก 100 ตัวที่ฆ่า, กำแพงไฟที่ไล่ตามถ้าหยุดนานเกินไป, และสิ่งกีดขวางอย่างใยแมงมุมหรือกำแพงอิฐ นอกจากนี้ยังมี “แผ่นป้ายข่าว” ที่แสดงพาดหัวข่าวจริงจาก RSS ของ New York Times เพื่อสร้างบรรยากาศ doomscrolling อย่างแท้จริง — อ่านแล้วหดหู่แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเลื่อนต่อ แม้ Friedman จะไม่ใช่นักพัฒนาเกมมืออาชีพ แต่เขาใช้ AI เป็นเครื่องมือในการสร้างเกมที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว และเปิดให้เล่นฟรีทั้งบนมือถือและเดสก์ท็อป โดยสามารถบันทึกเกมไว้ในหน้าจอหลักให้เหมือนแอปจริงได้ ✅ จุดเด่นของ Doomscrolling: The Game ➡️ เล่นด้วยการเลื่อนหน้าจอเท่านั้น — ไม่มีการเคลื่อนที่ด้านข้างหรือกระโดด ➡️ ได้แรงบันดาลใจจากเกม Doom และพฤติกรรม doomscrolling ➡️ ใช้ GPT-5 ในการสร้างต้นแบบเกมภายในเวลาอันสั้น ➡️ ใช้ vibe coding และ lab pages เพื่อปรับแต่งองค์ประกอบเกม ✅ ระบบเกมที่กระตุ้นให้เคลื่อนไหว ➡️ อัปเกรดอาวุธทุก 100 ตัวที่ฆ่า ➡️ กำแพงไฟไล่ตามถ้าหยุดนานเกินไป ➡️ มีสิ่งกีดขวาง เช่น ใยแมงมุมและกำแพงอิฐ ➡️ มี health potion และระบบบันทึกระยะทางที่ทำได้ ✅ การผสานข่าวจริงเข้ากับเกม ➡️ ใช้ RSS feed จาก New York Times แสดงพาดหัวข่าวบนแผ่นป้าย ➡️ ข่าวไม่มีผลต่อเกม แต่สร้างบรรยากาศ doomscrolling อย่างแท้จริง ➡️ ผู้เล่นอาจถูกดึงดูดให้หยุดอ่านข่าวระหว่างเล่น ➡️ เป็นการเสียดสีพฤติกรรมเสพข่าวที่ไม่มีวันจบ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เกมนี้เป็นตัวอย่างของ “vibe-coded” project ที่ใช้ AI อย่างสร้างสรรค์ ➡️ Friedman ใช้ lab pages เพื่อปรับค่ากราฟิก เช่น ใยแมงมุมและแผ่นป้าย ➡️ เกมสามารถเล่นได้ทั้งบนมือถือและเดสก์ท็อปอย่างลื่นไหล ➡️ มีผู้เล่นบางรายรายงานปัญหาเรื่องการเลื่อนหน้าจอบนบางเบราว์เซอร์ https://ironicsans.ghost.io/doomscrolling-the-game/
    IRONICSANS.GHOST.IO
    Doomscrolling: The Game
    Can a game work where all you do is scroll?
    0 Comments 0 Shares 222 Views 0 Reviews

  • เช็กชื่อโผ ครม. ‘อนุทิน 1’ ส่งครบแล้ว ลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน
    วันที่ 8 กันยายน 2568 - 17:04 น.


    โผ ครม. ‘อนุทิน 1’ ส่งรายชื่อครบแล้ว ‘บวรศักดิ์’ นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ด้าน ‘จตุพร – ไผ่ ลิกค์’ หลุดโผ ศุภจี CEO ดุสิตธานี ขึ้นเป็น รมว.พาณิชย์ รอลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน หากสะดุดต้องหลีกทางทันที

    ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า การจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุทิน 1 ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (8 ก.ย.) ได้รับการตอบรับจาก นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีชื่อมานั่งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมาคุยกันลงตัวแล้ว โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนายบวรศักดิ์ ด้วยตัวเอง

    โดยครั้งนี้มีการใช้ รัฐมนตรีคนนอกถึง 6 กระทรวง คือ

    -นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

    -นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

    -นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

    -นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

    -พล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

    -นางศุภจี สุธรรมพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

    -กระทรวงกลาโหม

    ทั้งหมดเพื่อเสริมการทำงานของ ครม. และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันให้คลี่คลายอย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในส่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีชื่อของ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ แต่ล่าสุดไม่ปรากฎชื่อแล้ว

    ส่วนโควตารัฐมนตรีคนนอก ขณะนี้ยังไม่สะเด็ดน้ำ ยกตัวอย่างกระทรวงกลาโหม ที่มีชื่อของ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เพราะแหล่งข่าวยืนยันว่า ยังไม่สะเด็ดน้ำ และขณะนี้ยังมีชื่ออื่นส่งประกวดเพิ่มเติม

    ทั้งนี้ รัฐมนตรีในสัดส่วนพรรคภูมิใจไทย ขณะนี้ยังเป็นชื่อรัฐมนตรีเก่าทั้งหมด เพิ่มขึ้นมาใหม่ คือ นายไชยชนก ชิดชอบ และนายภราดร ปริศนานันทกุล แต่ยังไม่ระบุว่าจะได้นั่งกระทรวงใด



    ด้าน พรรคกล้าธรรม ยืนยันรายชื่อตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ คือ

    -ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

    -นายอรรถกร ศิริลัทธยากร นั่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา

    -นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

    -นายอัครา พรหมเผ่า นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

    -นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

    -นายองอาจ วงษ์ประยูร นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

    และล่าสุดมีชื่อของนายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ พรรคกล้าธรรม จะมานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นชื่อของ นายไผ่ ลิกค์ เนื่องจากติดเงื่อนไขทางรัฐธรรมนูญ แต่ก็ถือเป็นโควตาภาคเหนือ

    ส่วน พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง 2 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีช่วยว่าการอีก 2 ตำแหน่ง ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า

    -นายสันติ พร้อมพัฒน์ นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

    -น.ส.ตรีนุช เทียนทอง จะได้นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

    -นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

    -พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม



    ด้าน พรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้ 3 เก้าอี้ คือ

    -นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

    -นายธนกร วังบุญคงชนะ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

    -จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

    นอกจากนี้ ปรากฏชื่อของ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ที่เข้ามายื่นตรวจสอบประวัติด้วย แต่ยังไม่มีการระบุกระทรวง ส่วน น.ส.นิธิยา บุญญามณี บุตรสาวของ นายนิพนธ์ บุญญามณี มีชื่อนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

    ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า นายนริศ ขำนุรักษ์ จะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งนั้น ล่าสุดมีความชัดเจนแล้วว่าไม่มีชื่อติดในโผ ครม.ครั้งนี้

    ขณะเดียวกัน วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ให้กลุ่มพรรคการเมือง ส่งรายชื่อตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติ ว่ามีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดย สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อ จะใช้เวลา 7-10 วันในการตรวจสอบ

    โดยมีรายงานว่า สำหรับรายชื่อบุคคลที่สุ่มเสี่ยง หากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพบว่า มีปัญหา ต้องยอมรับเงื่อนไข ที่ไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้


    https://www.prachachat.net/politics/news-1879997


    เช็กชื่อโผ ครม. ‘อนุทิน 1’ ส่งครบแล้ว ลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน วันที่ 8 กันยายน 2568 - 17:04 น. โผ ครม. ‘อนุทิน 1’ ส่งรายชื่อครบแล้ว ‘บวรศักดิ์’ นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ด้าน ‘จตุพร – ไผ่ ลิกค์’ หลุดโผ ศุภจี CEO ดุสิตธานี ขึ้นเป็น รมว.พาณิชย์ รอลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน หากสะดุดต้องหลีกทางทันที ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า การจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุทิน 1 ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (8 ก.ย.) ได้รับการตอบรับจาก นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีชื่อมานั่งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมาคุยกันลงตัวแล้ว โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนายบวรศักดิ์ ด้วยตัวเอง โดยครั้งนี้มีการใช้ รัฐมนตรีคนนอกถึง 6 กระทรวง คือ -นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง -นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง -นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน -นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ -พล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม -นางศุภจี สุธรรมพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ -กระทรวงกลาโหม ทั้งหมดเพื่อเสริมการทำงานของ ครม. และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันให้คลี่คลายอย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในส่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีชื่อของ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ แต่ล่าสุดไม่ปรากฎชื่อแล้ว ส่วนโควตารัฐมนตรีคนนอก ขณะนี้ยังไม่สะเด็ดน้ำ ยกตัวอย่างกระทรวงกลาโหม ที่มีชื่อของ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เพราะแหล่งข่าวยืนยันว่า ยังไม่สะเด็ดน้ำ และขณะนี้ยังมีชื่ออื่นส่งประกวดเพิ่มเติม ทั้งนี้ รัฐมนตรีในสัดส่วนพรรคภูมิใจไทย ขณะนี้ยังเป็นชื่อรัฐมนตรีเก่าทั้งหมด เพิ่มขึ้นมาใหม่ คือ นายไชยชนก ชิดชอบ และนายภราดร ปริศนานันทกุล แต่ยังไม่ระบุว่าจะได้นั่งกระทรวงใด ด้าน พรรคกล้าธรรม ยืนยันรายชื่อตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ คือ -ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ -นายอรรถกร ศิริลัทธยากร นั่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา -นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ -นายอัครา พรหมเผ่า นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ -นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ -นายองอาจ วงษ์ประยูร นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และล่าสุดมีชื่อของนายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ พรรคกล้าธรรม จะมานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นชื่อของ นายไผ่ ลิกค์ เนื่องจากติดเงื่อนไขทางรัฐธรรมนูญ แต่ก็ถือเป็นโควตาภาคเหนือ ส่วน พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง 2 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีช่วยว่าการอีก 2 ตำแหน่ง ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า -นายสันติ พร้อมพัฒน์ นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข -น.ส.ตรีนุช เทียนทอง จะได้นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน -นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข -พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ด้าน พรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้ 3 เก้าอี้ คือ -นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม -นายธนกร วังบุญคงชนะ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม -จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ปรากฏชื่อของ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ที่เข้ามายื่นตรวจสอบประวัติด้วย แต่ยังไม่มีการระบุกระทรวง ส่วน น.ส.นิธิยา บุญญามณี บุตรสาวของ นายนิพนธ์ บุญญามณี มีชื่อนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า นายนริศ ขำนุรักษ์ จะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งนั้น ล่าสุดมีความชัดเจนแล้วว่าไม่มีชื่อติดในโผ ครม.ครั้งนี้ ขณะเดียวกัน วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ให้กลุ่มพรรคการเมือง ส่งรายชื่อตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติ ว่ามีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดย สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อ จะใช้เวลา 7-10 วันในการตรวจสอบ โดยมีรายงานว่า สำหรับรายชื่อบุคคลที่สุ่มเสี่ยง หากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพบว่า มีปัญหา ต้องยอมรับเงื่อนไข ที่ไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้ https://www.prachachat.net/politics/news-1879997
    0 Comments 0 Shares 427 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก Shark Tank ถึง ChatGPT: เมื่อการไม่เรียนรู้ AI กลายเป็นการเดินออกจากอนาคตด้วยตัวเอง

    Emma Grede ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Skims และนักลงทุนใน Shark Tank เคยใช้ AI แบบเบา ๆ แค่แทน Google Search ด้วย ChatGPT จนกระทั่งเธอเชิญ Mark Cuban มาคุยในพอดแคสต์ของเธอ และได้คำตอบสั้น ๆ แต่แรงมากจากเขาเมื่อถามว่า “ถ้าไม่อยากใช้ AI จะเป็นยังไง?” คำตอบของ Cuban คือ “You’re (expletive)” หรือแปลตรง ๆ ว่า “คุณจบแล้ว”

    Cuban เปรียบเทียบสถานการณ์ตอนนี้กับยุคที่คนปฏิเสธการใช้ PC, อินเทอร์เน็ต หรือ Wi-Fi แล้วธุรกิจเหล่านั้นก็ตายไปจริง ๆ เขาย้ำว่า “การเริ่มต้นธุรกิจวันนี้ไม่มีทางแยกจากการใช้ AI ได้อีกแล้ว” และแนะนำให้ทุกคน “ใช้เวลาเยอะมาก ๆ กับการเรียนรู้วิธีถาม AI ให้ถูก”

    หลังจากบทสนทนานั้น Grede เปลี่ยนพฤติกรรมทันที เธอเริ่มค้นหาคอร์สเรียน AI ดาวน์โหลดแอปใหม่ และบอกว่า “เขาเตะฉันให้ลุกขึ้นมาเรียน” ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ฟังหลายคนเริ่มต้นตาม

    Harvard ก็ออกมาสนับสนุนแนวคิดนี้ โดยระบุว่า “อัตราการใช้งาน AI สูงกว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตและ PC ในช่วงเริ่มต้น” และเสริมว่า “คนที่เข้าใจและใช้ AI ได้ก่อน จะได้ผลตอบแทนมหาศาลในอนาคต”

    แม้จะมีคำเตือนว่า AI อาจเข้าสู่ช่วง “ความผิดหวัง” หรือเกิดฟองสบู่ แต่ข้อมูลเชิงสถิติก็ชี้ว่า AI กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีฐานรากของทุกอุตสาหกรรม และการไม่เรียนรู้มันคือการเดินออกจากโอกาสโดยไม่รู้ตัว

    คำแนะนำจาก Mark Cuban
    “The first thing you have to do is learn AI”
    ต้องใช้เวลาเยอะมากในการเรียนรู้วิธีถาม AI ให้ถูก
    เปรียบเทียบกับยุคที่คนปฏิเสธการใช้ PC และอินเทอร์เน็ต

    การเปลี่ยนแปลงของ Emma Grede
    เคยใช้ AI แค่แทน Google Search
    หลังคุยกับ Cuban เริ่มค้นหาคอร์สและดาวน์โหลดแอปทันที
    บอกว่า “เขาเตะฉันให้ลุกขึ้นมาเรียน”

    ข้อมูลจาก Harvard
    อัตราการใช้งาน AI สูงกว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตในยุคเริ่มต้น
    คนที่เข้าใจและใช้ AI ได้ก่อนจะได้ผลตอบแทนมหาศาล
    เปรียบเทียบว่า AI จะกลายเป็นเทคโนโลยีฐานรากเหมือน PC

    วิธีเริ่มต้นเรียนรู้ AI
    ทดลองใช้เครื่องมืออย่าง ChatGPT, Gemini, Claude, Perplexity
    ฝึกการตั้งคำถามและการ prompt ให้มีประสิทธิภาพ
    ใช้ AI เป็นเหมือน “ทีมที่ปรึกษา” ในการทำงาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/06/billionaire-entrepreneur-has-some-words-for-people-who-dont-want-to-learn-ai
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Shark Tank ถึง ChatGPT: เมื่อการไม่เรียนรู้ AI กลายเป็นการเดินออกจากอนาคตด้วยตัวเอง Emma Grede ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Skims และนักลงทุนใน Shark Tank เคยใช้ AI แบบเบา ๆ แค่แทน Google Search ด้วย ChatGPT จนกระทั่งเธอเชิญ Mark Cuban มาคุยในพอดแคสต์ของเธอ และได้คำตอบสั้น ๆ แต่แรงมากจากเขาเมื่อถามว่า “ถ้าไม่อยากใช้ AI จะเป็นยังไง?” คำตอบของ Cuban คือ “You’re (expletive)” หรือแปลตรง ๆ ว่า “คุณจบแล้ว” Cuban เปรียบเทียบสถานการณ์ตอนนี้กับยุคที่คนปฏิเสธการใช้ PC, อินเทอร์เน็ต หรือ Wi-Fi แล้วธุรกิจเหล่านั้นก็ตายไปจริง ๆ เขาย้ำว่า “การเริ่มต้นธุรกิจวันนี้ไม่มีทางแยกจากการใช้ AI ได้อีกแล้ว” และแนะนำให้ทุกคน “ใช้เวลาเยอะมาก ๆ กับการเรียนรู้วิธีถาม AI ให้ถูก” หลังจากบทสนทนานั้น Grede เปลี่ยนพฤติกรรมทันที เธอเริ่มค้นหาคอร์สเรียน AI ดาวน์โหลดแอปใหม่ และบอกว่า “เขาเตะฉันให้ลุกขึ้นมาเรียน” ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ฟังหลายคนเริ่มต้นตาม Harvard ก็ออกมาสนับสนุนแนวคิดนี้ โดยระบุว่า “อัตราการใช้งาน AI สูงกว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตและ PC ในช่วงเริ่มต้น” และเสริมว่า “คนที่เข้าใจและใช้ AI ได้ก่อน จะได้ผลตอบแทนมหาศาลในอนาคต” แม้จะมีคำเตือนว่า AI อาจเข้าสู่ช่วง “ความผิดหวัง” หรือเกิดฟองสบู่ แต่ข้อมูลเชิงสถิติก็ชี้ว่า AI กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีฐานรากของทุกอุตสาหกรรม และการไม่เรียนรู้มันคือการเดินออกจากโอกาสโดยไม่รู้ตัว ✅ คำแนะนำจาก Mark Cuban ➡️ “The first thing you have to do is learn AI” ➡️ ต้องใช้เวลาเยอะมากในการเรียนรู้วิธีถาม AI ให้ถูก ➡️ เปรียบเทียบกับยุคที่คนปฏิเสธการใช้ PC และอินเทอร์เน็ต ✅ การเปลี่ยนแปลงของ Emma Grede ➡️ เคยใช้ AI แค่แทน Google Search ➡️ หลังคุยกับ Cuban เริ่มค้นหาคอร์สและดาวน์โหลดแอปทันที ➡️ บอกว่า “เขาเตะฉันให้ลุกขึ้นมาเรียน” ✅ ข้อมูลจาก Harvard ➡️ อัตราการใช้งาน AI สูงกว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตในยุคเริ่มต้น ➡️ คนที่เข้าใจและใช้ AI ได้ก่อนจะได้ผลตอบแทนมหาศาล ➡️ เปรียบเทียบว่า AI จะกลายเป็นเทคโนโลยีฐานรากเหมือน PC ✅ วิธีเริ่มต้นเรียนรู้ AI ➡️ ทดลองใช้เครื่องมืออย่าง ChatGPT, Gemini, Claude, Perplexity ➡️ ฝึกการตั้งคำถามและการ prompt ให้มีประสิทธิภาพ ➡️ ใช้ AI เป็นเหมือน “ทีมที่ปรึกษา” ในการทำงาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/06/billionaire-entrepreneur-has-some-words-for-people-who-dont-want-to-learn-ai
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Billionaire entrepreneur has some words for people who don’t want to learn AI
    Mark Cuban has a salty warning for people who are avoiding getting started on learning to use AI.
    0 Comments 0 Shares 293 Views 0 Reviews
  • “นายกฯหนู” เปิดตัว “วรภัค ธันยาวงษ์” นั่ง รมช.คลัง เผย รู้จักกันมา 30 ปี ไม่เกี่ยงเป็นคนของรัฐบาลเดิม บอก ยินดีไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ ชู เป็นหนึ่งในทีมเจรจาภาษีทรัมป์ พร้อมรับบทนักข่าวถือไมค์สัมภาษณ์ว่าที่รมต.ด้วยตัวเอง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085578

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    “นายกฯหนู” เปิดตัว “วรภัค ธันยาวงษ์” นั่ง รมช.คลัง เผย รู้จักกันมา 30 ปี ไม่เกี่ยงเป็นคนของรัฐบาลเดิม บอก ยินดีไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ ชู เป็นหนึ่งในทีมเจรจาภาษีทรัมป์ พร้อมรับบทนักข่าวถือไมค์สัมภาษณ์ว่าที่รมต.ด้วยตัวเอง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085578 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 461 Views 0 Reviews
  • ไม่อาจหยั่งรู้ไม่พูดปม "ทักษิณ" ไปดูไบ : [THE MESSAGE]

    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เผยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปรากฏข้อมูลการเดินทางไปดูไบ ขัดแย้งกับที่ระบุว่าจะไปตรวจสุขภาพที่สิงคโปร์ นายทักษิณได้ชี้แจงผ่านเพจนายทักษิณแล้ว ไม่สามารถไปรู้ข้อมูลและนำมาพูดได้ ส่วนจะเดินทางกลับประเทศไทยวันที่เท่าไหร่ ในเพจนายทักษิณพูดชัดเจนแล้วเป็นเรื่องของนายทักษิณ ตนไม่อาจไปรู้กว้างอย่างนั้นได้ ส่วนจะยืนยันได้หรือไม่ว่าในวันที่ 9 ก.ย. 2568 นายทักษิณจะเดินทางมาขึ้นศาลด้วยตัวเอง ให้ไปอ่านเพจของนายทักษิณ
    ไม่อาจหยั่งรู้ไม่พูดปม "ทักษิณ" ไปดูไบ : [THE MESSAGE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เผยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปรากฏข้อมูลการเดินทางไปดูไบ ขัดแย้งกับที่ระบุว่าจะไปตรวจสุขภาพที่สิงคโปร์ นายทักษิณได้ชี้แจงผ่านเพจนายทักษิณแล้ว ไม่สามารถไปรู้ข้อมูลและนำมาพูดได้ ส่วนจะเดินทางกลับประเทศไทยวันที่เท่าไหร่ ในเพจนายทักษิณพูดชัดเจนแล้วเป็นเรื่องของนายทักษิณ ตนไม่อาจไปรู้กว้างอย่างนั้นได้ ส่วนจะยืนยันได้หรือไม่ว่าในวันที่ 9 ก.ย. 2568 นายทักษิณจะเดินทางมาขึ้นศาลด้วยตัวเอง ให้ไปอ่านเพจของนายทักษิณ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 529 Views 0 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก Mike Judge: เมื่อความฝันของการเขียนโค้ดด้วย AI กลายเป็นความผิดหวังที่มีหลักฐานรองรับ

    Mike Judge นักพัฒนาอาวุโสที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปี ได้ทดลองใช้งาน AI coding tools อย่างจริงจัง และเริ่มตั้งคำถามหลังอ่านงานวิจัยจาก METR (Model Evaluation & Threat Research) ซึ่งพบว่า นักพัฒนาที่ใช้ AI coding tools ใช้เวลานานขึ้นถึง 19% ในการทำงานจริง—ขัดแย้งกับความเชื่อที่ว่า AI จะช่วยให้เร็วขึ้น

    Mike เริ่มทดลองด้วยตัวเอง โดยใช้วิธีสุ่มว่าจะใช้ AI หรือไม่ในแต่ละงาน และบันทึกเวลาอย่างละเอียด ผลลัพธ์คือ ไม่มีความแตกต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติ และในหลายกรณี AI ทำให้เขาช้าลงถึง 21% ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ METR

    เขาตั้งคำถามว่า ถ้า AI coding tools ทำให้คนเขียนโค้ดเร็วขึ้นจริง ทำไมเราไม่เห็น “น้ำท่วม shovelware” หรือซอฟต์แวร์จำนวนมหาศาลที่ควรจะเกิดขึ้นจาก productivity ที่เพิ่มขึ้น? เขาใช้เงินและเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลจาก SteamDB, GitHub, Statista และ Verisign แล้วพบว่า—ไม่มีการเติบโตแบบ exponential ในการปล่อยซอฟต์แวร์ใหม่เลย

    ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีต่างพากัน rebrand เป็น “AI-first” และใช้ productivity narrative เพื่อ justify การปลดพนักงานหรือกดเงินเดือน นักพัฒนาหลายคนกลับรู้สึกกดดัน สับสน และผิดหวัง เพราะไม่สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่อุตสาหกรรมโฆษณาไว้

    ผลการทดลองของ Mike Judge
    ใช้ AI coding tools แล้วช้าลงโดยเฉลี่ย 21%
    ทดลองสุ่มใช้ AI หรือไม่ในแต่ละงาน และบันทึกเวลาอย่างละเอียด
    ผลลัพธ์ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ และไม่เห็นการเพิ่ม productivity

    ข้อมูลจาก METR Study
    นักพัฒนาใช้ AI แล้วช้าลง 19% โดยเฉลี่ยในการทำงานจริง
    ขัดแย้งกับความคาดหวังที่ว่า AI จะช่วยให้เร็วขึ้น 20–25%
    ใช้การทดลองแบบสุ่มควบคุมกับนักพัฒนา open-source ที่มีประสบการณ์สูง

    การวิเคราะห์ข้อมูลการปล่อยซอฟต์แวร์
    ไม่มีการเพิ่มขึ้นของ shovelware หรือซอฟต์แวร์ใหม่จำนวนมาก
    ข้อมูลจาก SteamDB, GitHub, Statista และ Verisign แสดงกราฟที่ “แบน”
    ไม่มีสัญญาณของ indie boom หรือการปล่อยแอปแบบสายฟ้าแลบ

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและนักพัฒนา
    บริษัทใช้ narrative AI productivity เพื่อปลดพนักงานและลดเงินเดือน
    นักพัฒนารู้สึกกดดันและสับสนจากความคาดหวังที่ไม่ตรงกับความจริง
    การเรียนรู้ prompting ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ

    https://mikelovesrobots.substack.com/p/wheres-the-shovelware-why-ai-coding
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Mike Judge: เมื่อความฝันของการเขียนโค้ดด้วย AI กลายเป็นความผิดหวังที่มีหลักฐานรองรับ Mike Judge นักพัฒนาอาวุโสที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปี ได้ทดลองใช้งาน AI coding tools อย่างจริงจัง และเริ่มตั้งคำถามหลังอ่านงานวิจัยจาก METR (Model Evaluation & Threat Research) ซึ่งพบว่า นักพัฒนาที่ใช้ AI coding tools ใช้เวลานานขึ้นถึง 19% ในการทำงานจริง—ขัดแย้งกับความเชื่อที่ว่า AI จะช่วยให้เร็วขึ้น Mike เริ่มทดลองด้วยตัวเอง โดยใช้วิธีสุ่มว่าจะใช้ AI หรือไม่ในแต่ละงาน และบันทึกเวลาอย่างละเอียด ผลลัพธ์คือ ไม่มีความแตกต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติ และในหลายกรณี AI ทำให้เขาช้าลงถึง 21% ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ METR เขาตั้งคำถามว่า ถ้า AI coding tools ทำให้คนเขียนโค้ดเร็วขึ้นจริง ทำไมเราไม่เห็น “น้ำท่วม shovelware” หรือซอฟต์แวร์จำนวนมหาศาลที่ควรจะเกิดขึ้นจาก productivity ที่เพิ่มขึ้น? เขาใช้เงินและเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลจาก SteamDB, GitHub, Statista และ Verisign แล้วพบว่า—ไม่มีการเติบโตแบบ exponential ในการปล่อยซอฟต์แวร์ใหม่เลย ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีต่างพากัน rebrand เป็น “AI-first” และใช้ productivity narrative เพื่อ justify การปลดพนักงานหรือกดเงินเดือน นักพัฒนาหลายคนกลับรู้สึกกดดัน สับสน และผิดหวัง เพราะไม่สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่อุตสาหกรรมโฆษณาไว้ ✅ ผลการทดลองของ Mike Judge ➡️ ใช้ AI coding tools แล้วช้าลงโดยเฉลี่ย 21% ➡️ ทดลองสุ่มใช้ AI หรือไม่ในแต่ละงาน และบันทึกเวลาอย่างละเอียด ➡️ ผลลัพธ์ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ และไม่เห็นการเพิ่ม productivity ✅ ข้อมูลจาก METR Study ➡️ นักพัฒนาใช้ AI แล้วช้าลง 19% โดยเฉลี่ยในการทำงานจริง ➡️ ขัดแย้งกับความคาดหวังที่ว่า AI จะช่วยให้เร็วขึ้น 20–25% ➡️ ใช้การทดลองแบบสุ่มควบคุมกับนักพัฒนา open-source ที่มีประสบการณ์สูง ✅ การวิเคราะห์ข้อมูลการปล่อยซอฟต์แวร์ ➡️ ไม่มีการเพิ่มขึ้นของ shovelware หรือซอฟต์แวร์ใหม่จำนวนมาก ➡️ ข้อมูลจาก SteamDB, GitHub, Statista และ Verisign แสดงกราฟที่ “แบน” ➡️ ไม่มีสัญญาณของ indie boom หรือการปล่อยแอปแบบสายฟ้าแลบ ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและนักพัฒนา ➡️ บริษัทใช้ narrative AI productivity เพื่อปลดพนักงานและลดเงินเดือน ➡️ นักพัฒนารู้สึกกดดันและสับสนจากความคาดหวังที่ไม่ตรงกับความจริง ➡️ การเรียนรู้ prompting ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ https://mikelovesrobots.substack.com/p/wheres-the-shovelware-why-ai-coding
    MIKELOVESROBOTS.SUBSTACK.COM
    Where's the Shovelware? Why AI Coding Claims Don't Add Up
    78% of developers claim AI makes them more productive. 14% say it's a 10x improvement. So where's the flood of new software? Turns out those productivity claims are bullshit.
    0 Comments 0 Shares 293 Views 0 Reviews
  • ไม่กังวล "ชัยเกษม" ชิงนายก : [THE MESSAGE]

    นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่กังวลพรรคเพื่อไทยจะส่งนายชัยเกษม นิติสิริ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มั่นใจพรรคประชาชนไม่ฉีกข้อตกลง ยืนยันหากเป็นนายกจะไม่แทรกแซงคดีเขากระโดง-การฮั้ว สว. จะติดตามคดีด้วยตัวเอง ต้องแก้ไขทุกปัญหา ไม่ใช่แค่เรื่องชายแดนอย่างเดียว มีทั้งปากท้องปัญหาเศรษฐกิจ ไว้ให้ถึงวันนั้นก่อน ส่วนหากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยเตรียมไล่บี้นั้น เราเป็นบุคคลสาธารณะ ตั้งแต่เข้ามาในสนามการเมือง สิ่งที่เราพร้อมคือเรามีความจริง คนที่จะบี้หรืออภิปรายตีแผ่อะไร ก็ขอให้เอาความจริงมาพูด อย่าไปเสกสรรค์ปั้นแต่ง
    ไม่กังวล "ชัยเกษม" ชิงนายก : [THE MESSAGE] นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่กังวลพรรคเพื่อไทยจะส่งนายชัยเกษม นิติสิริ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มั่นใจพรรคประชาชนไม่ฉีกข้อตกลง ยืนยันหากเป็นนายกจะไม่แทรกแซงคดีเขากระโดง-การฮั้ว สว. จะติดตามคดีด้วยตัวเอง ต้องแก้ไขทุกปัญหา ไม่ใช่แค่เรื่องชายแดนอย่างเดียว มีทั้งปากท้องปัญหาเศรษฐกิจ ไว้ให้ถึงวันนั้นก่อน ส่วนหากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยเตรียมไล่บี้นั้น เราเป็นบุคคลสาธารณะ ตั้งแต่เข้ามาในสนามการเมือง สิ่งที่เราพร้อมคือเรามีความจริง คนที่จะบี้หรืออภิปรายตีแผ่อะไร ก็ขอให้เอาความจริงมาพูด อย่าไปเสกสรรค์ปั้นแต่ง
    0 Comments 0 Shares 493 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก WeChat ถึง Douyin: เมื่อโพสต์ทุกชิ้นต้องบอกว่า “มนุษย์หรือ AI”

    ในเดือนกันยายน 2025 จีนได้บังคับใช้กฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องติดป้ายกำกับเนื้อหาที่สร้างโดย AI อย่างชัดเจน ทั้งในรูปแบบที่ผู้ใช้มองเห็นได้ (explicit labels) และฝังไว้ใน metadata สำหรับระบบอัตโนมัติ (implicit identifiers) โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ, deepfake, และการชักจูงทางความคิดผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

    แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ของจีน เช่น WeChat, Douyin (TikTok เวอร์ชันจีน), Weibo และ RedNote ต่างออกประกาศให้ผู้ใช้ต้อง “ประกาศด้วยตัวเอง” หากโพสต์นั้นสร้างด้วย AI และห้ามลบหรือแก้ไขป้ายกำกับที่ระบบติดไว้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืน อาจถูกลบโพสต์หรือถูกลงโทษตามที่ Cyberspace Administration of China (CAC) กำหนดไว้

    นอกจากนี้ CAC ยังเปิดช่องให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถ “รายงาน” เนื้อหาที่ไม่ได้ติดป้าย AI ได้ด้วยตนเอง และมีการตั้งระบบตรวจสอบ metadata เพื่อช่วยตรวจจับเนื้อหาที่หลุดรอดจากการติดป้าย

    แม้จีนจะเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายลักษณะนี้อย่างเป็นทางการ แต่แนวคิดนี้กำลังแพร่ไปทั่วโลก เช่น Internet Engineering Task Force เสนอให้มี “AI header field” สำหรับเว็บไซต์ และ Google ก็เริ่มฝัง C2PA credentials ในภาพถ่ายจาก Pixel 10 เพื่อบอกว่า “ภาพนี้ผ่าน AI หรือไม่”


    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-social-media-firms-comply-with-strict-ai-labelling-law-making-it-clear-to-users-and-bots-whats-real-and-whats-not
    🎙️ เรื่องเล่าจาก WeChat ถึง Douyin: เมื่อโพสต์ทุกชิ้นต้องบอกว่า “มนุษย์หรือ AI” ในเดือนกันยายน 2025 จีนได้บังคับใช้กฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องติดป้ายกำกับเนื้อหาที่สร้างโดย AI อย่างชัดเจน ทั้งในรูปแบบที่ผู้ใช้มองเห็นได้ (explicit labels) และฝังไว้ใน metadata สำหรับระบบอัตโนมัติ (implicit identifiers) โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ, deepfake, และการชักจูงทางความคิดผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ของจีน เช่น WeChat, Douyin (TikTok เวอร์ชันจีน), Weibo และ RedNote ต่างออกประกาศให้ผู้ใช้ต้อง “ประกาศด้วยตัวเอง” หากโพสต์นั้นสร้างด้วย AI และห้ามลบหรือแก้ไขป้ายกำกับที่ระบบติดไว้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืน อาจถูกลบโพสต์หรือถูกลงโทษตามที่ Cyberspace Administration of China (CAC) กำหนดไว้ นอกจากนี้ CAC ยังเปิดช่องให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถ “รายงาน” เนื้อหาที่ไม่ได้ติดป้าย AI ได้ด้วยตนเอง และมีการตั้งระบบตรวจสอบ metadata เพื่อช่วยตรวจจับเนื้อหาที่หลุดรอดจากการติดป้าย แม้จีนจะเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายลักษณะนี้อย่างเป็นทางการ แต่แนวคิดนี้กำลังแพร่ไปทั่วโลก เช่น Internet Engineering Task Force เสนอให้มี “AI header field” สำหรับเว็บไซต์ และ Google ก็เริ่มฝัง C2PA credentials ในภาพถ่ายจาก Pixel 10 เพื่อบอกว่า “ภาพนี้ผ่าน AI หรือไม่” https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-social-media-firms-comply-with-strict-ai-labelling-law-making-it-clear-to-users-and-bots-whats-real-and-whats-not
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Chinese social media firms comply with strict AI labelling law, making it clear to users and bots what's real and what's not
    It's part of a broader push by the Cyberspace Administration of China to have greater oversight over the AI industry and the content it produces.
    0 Comments 0 Shares 304 Views 0 Reviews
  • ตำรวจพุ่งชนไรเดอร์ อินโดนีเซียลุกเป็นไฟ

    รัฐบาลอินโดนีเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ถูกประชาชนไม่ไว้วางใจอย่างหนัก โดยเชื่อว่ามีแนวโน้มจะรวมศูนย์อำนาจมากขึ้น ในยามที่ประชาชนยากลำบากจากเศรษฐกิจตกต่ำ ตั้งแต่การแสดงสัญลักษณ์ด้วยธงโจรสลัดจากอนิเมะเรื่องวันพีซ ในห้วงวันประกาศอิสรภาพครบรอบ 80 ปี กระทั่งต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วง ตั้งแต่กลุ่มนักศึกษาคัดค้านการขึ้นเงินเดือนและสวัสดิการของรัฐสภา โดยเฉพาะค่าที่พักสูงถึงเดือนละ 50 ล้านรูเปียห์ (เกือบ 100,000 บาท) และกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่เรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ยุติการจ้างงานแบบภายนอก และตั้งคณะกรรมการป้องกันการเลิกจ้าง ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุม

    จุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อวันที่ 28 ส.ค. รถหุ้มเกราะควบคุมฝูงชนบริม็อบ (Brimob) ของตำรวจอินโดนีเซีย พุ่งเข้าชนนายอัฟฟาน คูรเนียวัน อายุ 21 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน (Ojol) เสียชีวิตใจกลางกรุงจาการ์ตา ระหว่างที่มีผู้ชุมนุมประท้วง จุดชนวนให้ประชาชนโกรธแค้นมากขึ้น แม้ต้นสังกัดจะควบคุมตัวตำรวจ 7 นาย ที่อยู่ในรถหุ้มเกราะไปสอบสวน ถูกควบคุมตัวฐานละเมิดจริยธรรม 20 วัน รวมทั้งประธานาธิบดีปราโบโว ไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยตัวเอง แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น

    ในกรุงจาการ์ตา อาคารรัฐสภา ที่ทำการตำรวจ รวมทั้งสถานีรถเมล์ด่วนพิเศษ ถูกผู้ชุมนุมเผาทำลาย อาคารรัฐสภาส่วนภูมิภาคและที่ทำการตำรวจในหลายเมืองก็ถูกผู้ชุมนุมเผา เช่น เมืองมากัสซาร์ อาคารสภาท้องถิ่นถูกวางเพลิง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย เมืองสุราบายา ที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นก็ถูกเผา เมืองบันดุง ปะทะกันรุนแรง และบ้านพักของสมาชิกสภาถูกเผา รวมทั้งเมืองอื่นๆ เช่น เมืองโซโล ยอร์คยาการ์ตา กูนิกัน เตกัล ปอนตินัค ฯลฯ มีการปล้นสะดมที่บ้านของ รมว.คลังอินโดนีเซีย และสมาชิกรัฐสภาหลายคน

    ที่สุดแล้วประธานาธิบดีปราโบโวแถลงว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาลและอยู่ในความสงบ สภาผู้แทนราษฎรเตรียมเพิกถอนสิทธิประโยชน์บางประการ รวมถึงลดเบี้ยเลี้ยง และระงับการดูงานต่างประเทศ หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ จะลงโทษสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กล่าวถ้อยคำไม่เหมาะสม ส่วนตำรวจที่ทำผิดพลาด พร้อมตรวจสอบอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเปิดเผยต่อสาธารณะ ยืนยันว่าเคารพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่หากทำลายทรัพย์สินหรือปล้นสะดมถือว่าละเมิดกฎหมาย ตำรวจและกองทัพจะดำเนินการอย่างเข้มงวด พร้อมเชิญชวนผู้นำการชุมนุมรวมถึงนักศึกษาร่วมพูดคุยโดยตรง โดยรับรองว่าจะรับฟังข้อเสนอแนะและการวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนำไปปฏิบัติต่อไป

    #Newskit
    ตำรวจพุ่งชนไรเดอร์ อินโดนีเซียลุกเป็นไฟ รัฐบาลอินโดนีเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ถูกประชาชนไม่ไว้วางใจอย่างหนัก โดยเชื่อว่ามีแนวโน้มจะรวมศูนย์อำนาจมากขึ้น ในยามที่ประชาชนยากลำบากจากเศรษฐกิจตกต่ำ ตั้งแต่การแสดงสัญลักษณ์ด้วยธงโจรสลัดจากอนิเมะเรื่องวันพีซ ในห้วงวันประกาศอิสรภาพครบรอบ 80 ปี กระทั่งต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วง ตั้งแต่กลุ่มนักศึกษาคัดค้านการขึ้นเงินเดือนและสวัสดิการของรัฐสภา โดยเฉพาะค่าที่พักสูงถึงเดือนละ 50 ล้านรูเปียห์ (เกือบ 100,000 บาท) และกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่เรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ยุติการจ้างงานแบบภายนอก และตั้งคณะกรรมการป้องกันการเลิกจ้าง ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุม จุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อวันที่ 28 ส.ค. รถหุ้มเกราะควบคุมฝูงชนบริม็อบ (Brimob) ของตำรวจอินโดนีเซีย พุ่งเข้าชนนายอัฟฟาน คูรเนียวัน อายุ 21 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน (Ojol) เสียชีวิตใจกลางกรุงจาการ์ตา ระหว่างที่มีผู้ชุมนุมประท้วง จุดชนวนให้ประชาชนโกรธแค้นมากขึ้น แม้ต้นสังกัดจะควบคุมตัวตำรวจ 7 นาย ที่อยู่ในรถหุ้มเกราะไปสอบสวน ถูกควบคุมตัวฐานละเมิดจริยธรรม 20 วัน รวมทั้งประธานาธิบดีปราโบโว ไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยตัวเอง แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น ในกรุงจาการ์ตา อาคารรัฐสภา ที่ทำการตำรวจ รวมทั้งสถานีรถเมล์ด่วนพิเศษ ถูกผู้ชุมนุมเผาทำลาย อาคารรัฐสภาส่วนภูมิภาคและที่ทำการตำรวจในหลายเมืองก็ถูกผู้ชุมนุมเผา เช่น เมืองมากัสซาร์ อาคารสภาท้องถิ่นถูกวางเพลิง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย เมืองสุราบายา ที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นก็ถูกเผา เมืองบันดุง ปะทะกันรุนแรง และบ้านพักของสมาชิกสภาถูกเผา รวมทั้งเมืองอื่นๆ เช่น เมืองโซโล ยอร์คยาการ์ตา กูนิกัน เตกัล ปอนตินัค ฯลฯ มีการปล้นสะดมที่บ้านของ รมว.คลังอินโดนีเซีย และสมาชิกรัฐสภาหลายคน ที่สุดแล้วประธานาธิบดีปราโบโวแถลงว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาลและอยู่ในความสงบ สภาผู้แทนราษฎรเตรียมเพิกถอนสิทธิประโยชน์บางประการ รวมถึงลดเบี้ยเลี้ยง และระงับการดูงานต่างประเทศ หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ จะลงโทษสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กล่าวถ้อยคำไม่เหมาะสม ส่วนตำรวจที่ทำผิดพลาด พร้อมตรวจสอบอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเปิดเผยต่อสาธารณะ ยืนยันว่าเคารพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่หากทำลายทรัพย์สินหรือปล้นสะดมถือว่าละเมิดกฎหมาย ตำรวจและกองทัพจะดำเนินการอย่างเข้มงวด พร้อมเชิญชวนผู้นำการชุมนุมรวมถึงนักศึกษาร่วมพูดคุยโดยตรง โดยรับรองว่าจะรับฟังข้อเสนอแนะและการวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนำไปปฏิบัติต่อไป #Newskit
    1 Comments 1 Shares 518 Views 0 Reviews
  • เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย นำคณะลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จุดที่มวลชนชาวกัมพูชารวมกลุ่มร้องรื้อรั้วลวดหนาม ชี้หมู่บ้านเขมรล้ำเข้ามา ไม่ว่าจะใช้เส้นเขตแดนของไทยหรือกัมพูชาก็ล้ำอยู่ดี จี้สองพ่อลูกตระกูลฮุนลงมาดูแลด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นทหารไทยมีสิทธิ์โดยชอบธรรม ขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081336

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย นำคณะลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จุดที่มวลชนชาวกัมพูชารวมกลุ่มร้องรื้อรั้วลวดหนาม ชี้หมู่บ้านเขมรล้ำเข้ามา ไม่ว่าจะใช้เส้นเขตแดนของไทยหรือกัมพูชาก็ล้ำอยู่ดี จี้สองพ่อลูกตระกูลฮุนลงมาดูแลด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นทหารไทยมีสิทธิ์โดยชอบธรรม ขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081336 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Sad
    2
    0 Comments 0 Shares 464 Views 0 Reviews
  • เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย นำคณะลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จุดที่มวลชนชาวกัมพูชารวมกลุ่มร้องรื้อรั้วลวดหนาม ชี้หมู่บ้านเขมรล้ำเข้ามา ไม่ว่าจะใช้เส้นเขตแดนของไทยหรือกัมพูชาก็ล้ำอยู่ดี จี้สองพ่อลูกตระกูลฮุนลงมาดูแลด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นทหารไทยมีสิทธิ์โดยชอบธรรม ขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000081336

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย นำคณะลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จุดที่มวลชนชาวกัมพูชารวมกลุ่มร้องรื้อรั้วลวดหนาม ชี้หมู่บ้านเขมรล้ำเข้ามา ไม่ว่าจะใช้เส้นเขตแดนของไทยหรือกัมพูชาก็ล้ำอยู่ดี จี้สองพ่อลูกตระกูลฮุนลงมาดูแลด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นทหารไทยมีสิทธิ์โดยชอบธรรม ขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000081336 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 1 Shares 870 Views 0 Reviews
  • เมื่อเมาส์ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นงานศิลป์ที่ปรับแต่งได้

    ลองจินตนาการว่าเมาส์ที่คุณใช้ทุกวันสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับตัวคุณได้ทุกมิติ ตั้งแต่พอร์ตชาร์จที่เปลี่ยนเป็น USB-C ไปจนถึงสวิตช์คลิกที่เงียบสนิท และยังมีซอฟต์แวร์ทางเลือกที่ให้คุณควบคุมได้มากกว่าที่ Logitech เคยให้มา

    นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Logitech MX Ergo S — รุ่นอัปเกรดที่มาพร้อมกับพอร์ต USB-C, สวิตช์แบบ silent และรองรับ Bolt receiver ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของ Logitech สำหรับการเชื่อมต่อไร้สายที่ปลอดภัยและเสถียรยิ่งขึ้น

    แต่สำหรับผู้ใช้รุ่นก่อนหน้าอย่าง MX Ergo รุ่นดั้งเดิมที่ยังใช้พอร์ต Micro-USB หลายคนไม่ยอมแพ้ พวกเขาเลือกที่จะ “โมดิฟาย” ด้วยตัวเอง โดยมีการออกแบบแผงวงจรใหม่ให้รองรับ USB-C และแชร์ไฟล์ Gerber สำหรับการผลิตผ่าน PCBWay

    นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้งานที่ประสบปัญหาสวิตช์คลิกเสียหลังใช้งานไป 2 ปี และเลือกเปลี่ยนเป็น Kailh Square Silent Switch ซึ่งให้สัมผัสที่เงียบและนุ่มนวลกว่าเดิม

    และถ้าคุณไม่ชอบ Logitech Options+ ก็มีซอฟต์แวร์ทางเลือกอย่าง LogiOps หรือ Piper ที่ให้คุณปรับแต่งปุ่มและ DPI ได้อย่างอิสระมากขึ้น

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Logitech MX Ergo S เป็นรุ่นใหม่ที่มาพร้อม USB-C, สวิตช์เงียบ และรองรับ Bolt receiver
    ผู้ใช้งานสามารถโมดิฟาย MX Ergo รุ่นเก่าให้รองรับ USB-C ได้โดยเปลี่ยนแผงวงจรภายใน2
    มีการแชร์ไฟล์ Gerber สำหรับผลิตแผงวงจรผ่าน PCBWay เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถสั่งผลิตได้เอง
    สวิตช์คลิกของ MX Ergo มีแนวโน้มเสียหลังใช้งานประมาณ 2 ปี โดยเฉพาะปุ่มซ้าย3
    Kailh Square Silent Switch เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการเปลี่ยนสวิตช์ให้เงียบและทนทาน
    มีซอฟต์แวร์ทางเลือกสำหรับปรับแต่งเมาส์ เช่น LogiOps และ Piper ที่ให้ความยืดหยุ่นมากกว่า Logitech Options+

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Bolt receiver ของ Logitech ใช้เทคโนโลยี Bluetooth Low Energy ที่ปลอดภัยและลด latency
    USB-C เป็นมาตรฐานใหม่ที่ให้ความสะดวกในการชาร์จและลดจำนวนสายที่ต้องพก
    การเปลี่ยนสวิตช์เมาส์ต้องใช้ทักษะการบัดกรีและเครื่องมือเฉพาะ เช่น T6 torx และ PH00 screwdriver
    Piper เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่รองรับเมาส์หลายรุ่นและสามารถปรับแต่ง DPI, polling rate และปุ่มได้ละเอียด

    https://samwilkinson.io/posts/2025-08-24-mx-ergo-mods
    🎙️ เมื่อเมาส์ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นงานศิลป์ที่ปรับแต่งได้ ลองจินตนาการว่าเมาส์ที่คุณใช้ทุกวันสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับตัวคุณได้ทุกมิติ ตั้งแต่พอร์ตชาร์จที่เปลี่ยนเป็น USB-C ไปจนถึงสวิตช์คลิกที่เงียบสนิท และยังมีซอฟต์แวร์ทางเลือกที่ให้คุณควบคุมได้มากกว่าที่ Logitech เคยให้มา นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Logitech MX Ergo S — รุ่นอัปเกรดที่มาพร้อมกับพอร์ต USB-C, สวิตช์แบบ silent และรองรับ Bolt receiver ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของ Logitech สำหรับการเชื่อมต่อไร้สายที่ปลอดภัยและเสถียรยิ่งขึ้น แต่สำหรับผู้ใช้รุ่นก่อนหน้าอย่าง MX Ergo รุ่นดั้งเดิมที่ยังใช้พอร์ต Micro-USB หลายคนไม่ยอมแพ้ พวกเขาเลือกที่จะ “โมดิฟาย” ด้วยตัวเอง โดยมีการออกแบบแผงวงจรใหม่ให้รองรับ USB-C และแชร์ไฟล์ Gerber สำหรับการผลิตผ่าน PCBWay นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้งานที่ประสบปัญหาสวิตช์คลิกเสียหลังใช้งานไป 2 ปี และเลือกเปลี่ยนเป็น Kailh Square Silent Switch ซึ่งให้สัมผัสที่เงียบและนุ่มนวลกว่าเดิม และถ้าคุณไม่ชอบ Logitech Options+ ก็มีซอฟต์แวร์ทางเลือกอย่าง LogiOps หรือ Piper ที่ให้คุณปรับแต่งปุ่มและ DPI ได้อย่างอิสระมากขึ้น 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Logitech MX Ergo S เป็นรุ่นใหม่ที่มาพร้อม USB-C, สวิตช์เงียบ และรองรับ Bolt receiver ➡️ ผู้ใช้งานสามารถโมดิฟาย MX Ergo รุ่นเก่าให้รองรับ USB-C ได้โดยเปลี่ยนแผงวงจรภายใน2 ➡️ มีการแชร์ไฟล์ Gerber สำหรับผลิตแผงวงจรผ่าน PCBWay เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถสั่งผลิตได้เอง ➡️ สวิตช์คลิกของ MX Ergo มีแนวโน้มเสียหลังใช้งานประมาณ 2 ปี โดยเฉพาะปุ่มซ้าย3 ➡️ Kailh Square Silent Switch เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการเปลี่ยนสวิตช์ให้เงียบและทนทาน ➡️ มีซอฟต์แวร์ทางเลือกสำหรับปรับแต่งเมาส์ เช่น LogiOps และ Piper ที่ให้ความยืดหยุ่นมากกว่า Logitech Options+ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Bolt receiver ของ Logitech ใช้เทคโนโลยี Bluetooth Low Energy ที่ปลอดภัยและลด latency ➡️ USB-C เป็นมาตรฐานใหม่ที่ให้ความสะดวกในการชาร์จและลดจำนวนสายที่ต้องพก ➡️ การเปลี่ยนสวิตช์เมาส์ต้องใช้ทักษะการบัดกรีและเครื่องมือเฉพาะ เช่น T6 torx และ PH00 screwdriver ➡️ Piper เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่รองรับเมาส์หลายรุ่นและสามารถปรับแต่ง DPI, polling rate และปุ่มได้ละเอียด https://samwilkinson.io/posts/2025-08-24-mx-ergo-mods
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
  • เมลลี ไมค์ กับหนูน้อยดีกา ทำแข่งเรืออินโดฯ ดังกระหึ่ม

    หลังจากที่เป็นกระแสออรา ฟาร์มมิ่ง (Aura Farming) หรือการเต้นเลียนแบบเป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียล ในที่สุด เมลลี ไมค์ (Melly Mike) แรปเปอร์ชาวอเมริกัน เจ้าของเพลง Young Black & Rich ก็ได้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตร่วมกับหนูน้อยดิกา (Dikha) หรือ ด.ช.เรย์ยาน อาร์กัน ดิกา (Rayyan Arkan Dikha) วัย 11 ขวบ เจ้าของคลิปไวรัลเต้นบนหัวเรือ ระหว่างการแข่งขันเรือโบราณปาคู จาลูร์ (Pacu Jalur) ประจำปี 2025 บนจังหวัดรีเยา (Riau) ทางภาคตะวันออกของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย หลังเดินทางมาเยือนอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา

    ศิลปินแร็ปเปอร์ชาวอเมริกันผู้นี้ ได้กล่าวขอบคุณชาวอินโดนีเซียและชาวกวนซิง (Kuansing) หรือเขตปกครองตนเองกวนตันซิงกิ (Kuantan Singingi) ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยเขากล่าวว่า การมาเยือนครั้งนี้ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ได้รับทั้งรอยยิ้ม ความมีน้ำใจ และความรักจากทุกคน เขาย้ำว่าไม่ได้อยากให้ถูกมองเพียงแค่ในฐานะแขกผู้มาเยือน แต่ในฐานะคนที่ห่วงใยสถานที่แห่งนี้ และชาวริเยาเสมือนครอบครัว พร้อมทั้งแสดงความซาบซึ้งที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานปาคู จาลูร์ ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และทิ้งท้ายด้วยความหวังว่าจะได้กลับมาเยือนอีกครั้งในอนาคต

    ก่อนหน้านี้ เมลลี ไมค์ ได้พบกับหนูน้อยดีกาด้วยตัวเอง มอบของขวัญเป็นเครื่องเล่นเกมนินเทนโด สวิตช์ พร้อมกับเกมฟีฟ่า 2025 เป็นที่ระลึก เพราะเห็นว่าหนูน้อยดิกาชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเป็นพิเศษ

    เทศกาลปาคู จาลูร์ในปีนี้ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว มาเยือนจังหวัดรีเยามากกว่าปีก่อนถึง 2 เท่า รถเช่าและโรงแรมถูกจองเต็มทั้งหมด จำเป็นต้องไปพักที่เมืองเปกันบารู ซึ่งอยู่ห่างไกลถึง 4-5 ชั่วโมง แต่นักท่องเที่ยวยินดีจ่ายเพิ่มเพื่อให้ได้ไปชมปาคู จาลูร์ก็พอ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะมาเลเซียและสิงคโปร์ก็ยังเดินทางมาเยือนที่นี่ นอกจากช่วยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแล้ว ยังช่วยอนุรักษ์ประเพณีโบราณที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ถึงปัจจุบัน

    เมลลี ไมค์ เกิดเมื่อปี 2540 ในอดีตเคยเป็นทหารกองทัพสหรัฐฯ เคยได้รับรางวัลหลายครั้ง รวมถึงรางวัล Soldier of the Year สองปีซ้อน แต่ได้ลาออกเพื่อทำงานดนตรีเต็มตัว แนวเพลงผสมผสานระหว่างความเข้มข้นในแบบกองทัพสหรัฐฯ เข้ากับดนตรีแนว Rage (เพลงโกรธ) สร้างฐานแฟนเพลงทั่วโลก ผลงานที่สร้างชื่อเสียงอย่าง Young Black & Rich ออกเมื่อปี 2567 แต่กลับมาโด่งดังจากกระแสไวรัลระดับนานาชาติ ปัจจุบันมียอดสตรีมมากกว่า 800,000 ครั้งต่อวัน และถูกแชร์ในวิดีโอนับล้านครั้ง

    #Newskit
    เมลลี ไมค์ กับหนูน้อยดีกา ทำแข่งเรืออินโดฯ ดังกระหึ่ม หลังจากที่เป็นกระแสออรา ฟาร์มมิ่ง (Aura Farming) หรือการเต้นเลียนแบบเป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียล ในที่สุด เมลลี ไมค์ (Melly Mike) แรปเปอร์ชาวอเมริกัน เจ้าของเพลง Young Black & Rich ก็ได้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตร่วมกับหนูน้อยดิกา (Dikha) หรือ ด.ช.เรย์ยาน อาร์กัน ดิกา (Rayyan Arkan Dikha) วัย 11 ขวบ เจ้าของคลิปไวรัลเต้นบนหัวเรือ ระหว่างการแข่งขันเรือโบราณปาคู จาลูร์ (Pacu Jalur) ประจำปี 2025 บนจังหวัดรีเยา (Riau) ทางภาคตะวันออกของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย หลังเดินทางมาเยือนอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา ศิลปินแร็ปเปอร์ชาวอเมริกันผู้นี้ ได้กล่าวขอบคุณชาวอินโดนีเซียและชาวกวนซิง (Kuansing) หรือเขตปกครองตนเองกวนตันซิงกิ (Kuantan Singingi) ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยเขากล่าวว่า การมาเยือนครั้งนี้ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ได้รับทั้งรอยยิ้ม ความมีน้ำใจ และความรักจากทุกคน เขาย้ำว่าไม่ได้อยากให้ถูกมองเพียงแค่ในฐานะแขกผู้มาเยือน แต่ในฐานะคนที่ห่วงใยสถานที่แห่งนี้ และชาวริเยาเสมือนครอบครัว พร้อมทั้งแสดงความซาบซึ้งที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานปาคู จาลูร์ ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และทิ้งท้ายด้วยความหวังว่าจะได้กลับมาเยือนอีกครั้งในอนาคต ก่อนหน้านี้ เมลลี ไมค์ ได้พบกับหนูน้อยดีกาด้วยตัวเอง มอบของขวัญเป็นเครื่องเล่นเกมนินเทนโด สวิตช์ พร้อมกับเกมฟีฟ่า 2025 เป็นที่ระลึก เพราะเห็นว่าหนูน้อยดิกาชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเป็นพิเศษ เทศกาลปาคู จาลูร์ในปีนี้ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว มาเยือนจังหวัดรีเยามากกว่าปีก่อนถึง 2 เท่า รถเช่าและโรงแรมถูกจองเต็มทั้งหมด จำเป็นต้องไปพักที่เมืองเปกันบารู ซึ่งอยู่ห่างไกลถึง 4-5 ชั่วโมง แต่นักท่องเที่ยวยินดีจ่ายเพิ่มเพื่อให้ได้ไปชมปาคู จาลูร์ก็พอ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะมาเลเซียและสิงคโปร์ก็ยังเดินทางมาเยือนที่นี่ นอกจากช่วยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแล้ว ยังช่วยอนุรักษ์ประเพณีโบราณที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ถึงปัจจุบัน เมลลี ไมค์ เกิดเมื่อปี 2540 ในอดีตเคยเป็นทหารกองทัพสหรัฐฯ เคยได้รับรางวัลหลายครั้ง รวมถึงรางวัล Soldier of the Year สองปีซ้อน แต่ได้ลาออกเพื่อทำงานดนตรีเต็มตัว แนวเพลงผสมผสานระหว่างความเข้มข้นในแบบกองทัพสหรัฐฯ เข้ากับดนตรีแนว Rage (เพลงโกรธ) สร้างฐานแฟนเพลงทั่วโลก ผลงานที่สร้างชื่อเสียงอย่าง Young Black & Rich ออกเมื่อปี 2567 แต่กลับมาโด่งดังจากกระแสไวรัลระดับนานาชาติ ปัจจุบันมียอดสตรีมมากกว่า 800,000 ครั้งต่อวัน และถูกแชร์ในวิดีโอนับล้านครั้ง #Newskit
    1 Comments 0 Shares 479 Views 0 Reviews
  • เมื่อแมวอนิเมะกลายเป็นด่านตรวจวิญญาณ – และ AI ก็ยังผ่านได้อยู่ดี

    ถ้าคุณเคยเข้าเว็บไซต์แล้วเจอภาพแมวอนิเมะพร้อมข้อความแปลก ๆ ก่อนเข้าใช้งาน นั่นคือ “Anubis” ระบบป้องกัน AI crawler ที่กำลังเป็นกระแสในหมู่เว็บสายเทคโนโลยี

    Anubis ไม่ใช้ CAPTCHA แบบเดิม แต่กลับบังคับให้ผู้เข้าใช้งาน “ขุดค่า nonce” เพื่อให้ค่า SHA-256 ของข้อความเริ่มต้นด้วยเลขศูนย์หลายหลัก คล้ายกับการขุดบิตคอยน์ โดยหวังว่าจะทำให้ AI crawler ต้องใช้พลังประมวลผลมากเกินไปจนไม่คุ้มที่จะเข้าเว็บ

    แต่ Tavis Ormandy นักวิจัยด้านความปลอดภัยกลับตั้งคำถามว่า “แล้วคนจริง ๆ ล่ะ?” เพราะเขาใช้ curl เพื่อเข้าเว็บ Linux Kernel Mailing List แล้วถูกบล็อกเพราะไม่ได้ใช้ browser ที่สามารถขุด nonce ได้

    เขาทดลองคำนวณว่า ถ้า AI vendor ต้องขุด nonce เพื่อเข้าเว็บทั้งหมดที่ใช้ Anubis จะใช้เวลารวมแค่ 6 นาที และค่าใช้จ่ายแทบเป็นศูนย์เมื่อเทียบกับงบประมาณ cloud หลักล้านดอลลาร์ต่อเดือนของบริษัท AI

    ในทางกลับกัน ผู้ใช้ทั่วไปที่มีเครื่องช้า หรือใช้ command-line tools กลับต้องเสียเวลาขุด nonce ด้วยตัวเอง ซึ่งกลายเป็นภาระที่ไม่จำเป็น

    แม้ Anubis จะมีเจตนาดีในการปกป้องเว็บเล็ก ๆ จากการถูก scrape โดย AI แต่ก็อาจสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้จริงมากกว่าที่ตั้งใจไว้

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Anubis เป็นระบบป้องกัน AI crawler โดยใช้ proof-of-work แบบ SHA-256
    ผู้ใช้ต้องขุด nonce เพื่อให้ค่า hash เริ่มต้นด้วยเลขศูนย์ตามระดับความยาก
    ระบบนี้คล้ายกับการขุดบิตคอยน์ แต่ไม่ได้ใช้เพื่อสร้างเหรียญ
    Tavis Ormandy พบว่าเขาถูกบล็อกจากเว็บ Linux Kernel เพราะไม่ได้ใช้ browser
    เขาทดลองขุด nonce ด้วย C program และพบว่าใช้เวลาเพียง 0.017 วินาที
    ค่าใช้จ่ายในการขุด nonce สำหรับทุกเว็บที่ใช้ Anubis รวมแล้วไม่ถึง 1 เซนต์
    ระบบนี้ให้ cookie ที่มีอายุ 7 วันหลังจากขุด nonce สำเร็จ
    มีช่องโหว่ที่ทำให้สามารถ reuse token ได้หลายครั้ง ซึ่งถูกแก้ไขอย่างรวดเร็ว
    Anubis ได้รับแรงบันดาลใจจาก Hashcash และโครงการต่อต้านสแปมในยุค 90s
    ผู้ใช้สามารถใช้ curl และโปรแกรมภายนอกเพื่อขุด nonce และรับ cookie ได้

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Anubis ถูกพัฒนาโดย Xe Iaso เพื่อป้องกันการ scrape จาก AI ที่ไม่เชื่อฟัง robots.txt
    ระบบจะบล็อกทุก request ที่มี User-Agent เป็น “Mozilla” ซึ่งรวมถึง browser และ bot ส่วนใหญ่
    มีเวอร์ชันที่ไม่มีแมวอนิเมะสำหรับองค์กรที่ต้องการ branding แบบจริงจัง
    GitHub ของ Anubis มีผู้ติดตามมากกว่า 11,000 คน และถูกใช้ในเว็บสาย open-source หลายแห่ง
    ผู้พัฒนาแนะนำให้ใช้ Cloudflare หากไม่ต้องการใช้ Anubis เพราะมีวิธีป้องกันที่ง่ายกว่า

    คำเตือนในข่าว
    ระบบ proof-of-work อาจไม่สามารถป้องกัน AI crawler ได้จริง เพราะบริษัท AI มีพลังประมวลผลมหาศาล
    ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่มีทรัพยากรอาจถูกบล็อกจากการเข้าถึงเว็บโดยไม่จำเป็น
    การใช้ระบบนี้อาจสร้างความยุ่งยากให้กับผู้ใช้ที่ใช้ command-line tools หรือ automation
    ช่องโหว่ในการ reuse token อาจนำไปสู่การละเมิดระบบความปลอดภัย
    การบล็อกด้วย User-Agent “Mozilla” อาจทำให้ผู้ใช้จริงถูกบล็อกโดยไม่ตั้งใจ

    https://lock.cmpxchg8b.com/anubis.html
    🎙️ เมื่อแมวอนิเมะกลายเป็นด่านตรวจวิญญาณ – และ AI ก็ยังผ่านได้อยู่ดี ถ้าคุณเคยเข้าเว็บไซต์แล้วเจอภาพแมวอนิเมะพร้อมข้อความแปลก ๆ ก่อนเข้าใช้งาน นั่นคือ “Anubis” ระบบป้องกัน AI crawler ที่กำลังเป็นกระแสในหมู่เว็บสายเทคโนโลยี Anubis ไม่ใช้ CAPTCHA แบบเดิม แต่กลับบังคับให้ผู้เข้าใช้งาน “ขุดค่า nonce” เพื่อให้ค่า SHA-256 ของข้อความเริ่มต้นด้วยเลขศูนย์หลายหลัก คล้ายกับการขุดบิตคอยน์ โดยหวังว่าจะทำให้ AI crawler ต้องใช้พลังประมวลผลมากเกินไปจนไม่คุ้มที่จะเข้าเว็บ แต่ Tavis Ormandy นักวิจัยด้านความปลอดภัยกลับตั้งคำถามว่า “แล้วคนจริง ๆ ล่ะ?” เพราะเขาใช้ curl เพื่อเข้าเว็บ Linux Kernel Mailing List แล้วถูกบล็อกเพราะไม่ได้ใช้ browser ที่สามารถขุด nonce ได้ เขาทดลองคำนวณว่า ถ้า AI vendor ต้องขุด nonce เพื่อเข้าเว็บทั้งหมดที่ใช้ Anubis จะใช้เวลารวมแค่ 6 นาที และค่าใช้จ่ายแทบเป็นศูนย์เมื่อเทียบกับงบประมาณ cloud หลักล้านดอลลาร์ต่อเดือนของบริษัท AI ในทางกลับกัน ผู้ใช้ทั่วไปที่มีเครื่องช้า หรือใช้ command-line tools กลับต้องเสียเวลาขุด nonce ด้วยตัวเอง ซึ่งกลายเป็นภาระที่ไม่จำเป็น แม้ Anubis จะมีเจตนาดีในการปกป้องเว็บเล็ก ๆ จากการถูก scrape โดย AI แต่ก็อาจสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้จริงมากกว่าที่ตั้งใจไว้ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Anubis เป็นระบบป้องกัน AI crawler โดยใช้ proof-of-work แบบ SHA-256 ➡️ ผู้ใช้ต้องขุด nonce เพื่อให้ค่า hash เริ่มต้นด้วยเลขศูนย์ตามระดับความยาก ➡️ ระบบนี้คล้ายกับการขุดบิตคอยน์ แต่ไม่ได้ใช้เพื่อสร้างเหรียญ ➡️ Tavis Ormandy พบว่าเขาถูกบล็อกจากเว็บ Linux Kernel เพราะไม่ได้ใช้ browser ➡️ เขาทดลองขุด nonce ด้วย C program และพบว่าใช้เวลาเพียง 0.017 วินาที ➡️ ค่าใช้จ่ายในการขุด nonce สำหรับทุกเว็บที่ใช้ Anubis รวมแล้วไม่ถึง 1 เซนต์ ➡️ ระบบนี้ให้ cookie ที่มีอายุ 7 วันหลังจากขุด nonce สำเร็จ ➡️ มีช่องโหว่ที่ทำให้สามารถ reuse token ได้หลายครั้ง ซึ่งถูกแก้ไขอย่างรวดเร็ว ➡️ Anubis ได้รับแรงบันดาลใจจาก Hashcash และโครงการต่อต้านสแปมในยุค 90s ➡️ ผู้ใช้สามารถใช้ curl และโปรแกรมภายนอกเพื่อขุด nonce และรับ cookie ได้ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Anubis ถูกพัฒนาโดย Xe Iaso เพื่อป้องกันการ scrape จาก AI ที่ไม่เชื่อฟัง robots.txt ➡️ ระบบจะบล็อกทุก request ที่มี User-Agent เป็น “Mozilla” ซึ่งรวมถึง browser และ bot ส่วนใหญ่ ➡️ มีเวอร์ชันที่ไม่มีแมวอนิเมะสำหรับองค์กรที่ต้องการ branding แบบจริงจัง ➡️ GitHub ของ Anubis มีผู้ติดตามมากกว่า 11,000 คน และถูกใช้ในเว็บสาย open-source หลายแห่ง ➡️ ผู้พัฒนาแนะนำให้ใช้ Cloudflare หากไม่ต้องการใช้ Anubis เพราะมีวิธีป้องกันที่ง่ายกว่า ‼️ คำเตือนในข่าว ⛔ ระบบ proof-of-work อาจไม่สามารถป้องกัน AI crawler ได้จริง เพราะบริษัท AI มีพลังประมวลผลมหาศาล ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่มีทรัพยากรอาจถูกบล็อกจากการเข้าถึงเว็บโดยไม่จำเป็น ⛔ การใช้ระบบนี้อาจสร้างความยุ่งยากให้กับผู้ใช้ที่ใช้ command-line tools หรือ automation ⛔ ช่องโหว่ในการ reuse token อาจนำไปสู่การละเมิดระบบความปลอดภัย ⛔ การบล็อกด้วย User-Agent “Mozilla” อาจทำให้ผู้ใช้จริงถูกบล็อกโดยไม่ตั้งใจ https://lock.cmpxchg8b.com/anubis.html
    0 Comments 0 Shares 297 Views 0 Reviews
More Results