• จับตา“ชาวยิวในปาย” เบื้องหลัง นักท่องเที่ยว หรือแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว? โดย ผศ.ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
    3 มีนาคม 2568 #อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กลายเป็นจุดสนใจ เมื่อมีรายงานถึงจำนวน #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกต จุดนี้เชื่อมโยงกับข้อกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับบทบาทของ #กลุ่มทุนไซออนิสต์ หลายฝ่ายมองว่าอาจไม่ได้เป็นเพียงการท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของ #ยุทธศาสตร์ขยายอิทธิพลในภูมิภาค
    .
    ปัญหาของชาวยิว ตนต้องการ *เตือนสติ* ชาวไทยเอาไว้ว่ากรณีชาวยิวที่อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน ควรจะมองภาพรวมใหญ่ไว้บ้างว่า...
    .
    1. ประเทศไทย เป็นเป้าหมายหนึ่งของ 'กลุ่มทุนยิวไซออนิสต์' ซึ่งอยู่เบื้องหลัง #รัฐบาลอเมริกา ที่จะยึดครอง คนพวกนี้ต้องการ #สร้างฐานทัพในประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นที่ #ตั้งอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อจ่อจี #นอีกแห่ง
    .
    2. รัฐบาลอเมริกาซึ่งมีกลุ่มทุนยิวไซออนิสต์อยู่เบื้องหลังเคย #ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เป็นฐานทัพ แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ให้มาแล้ว
    .
    3. ในเวลาเดียวกัน อเมริกาก็หันไปสนับสนุนนาง #อองซานซูจี โดยทุ่มเงินจาก #USAID เข้าไปช่วยหาเสียงและซื้อเสียง #กองทัพเมียนมา จับทางได้ว่าอเมริกาต้องการเข้ามามีอิทธิพลในเมียนมาและกำลังใช้เงินจาก USAID ซื้อเสียง จึงยึดอำนาจเสีย รัฐบาลอเมริกาจึงหันไป #ติดอาวุธชนกลุ่มน้อย ให้รบกบกองทัพรัฐบาลพม่าแทน จึงเกิดมีปัญหาสู้รบกันและทำให้มีผู้อพยพเข้าสู่ประเทศไทยมากจนถึงเดี๋ยวนี้
    .
    4. สำหรับประเทศไทย อเมริกาเดินเกมขยาย #สถานกงสุลในเชียงใหม่ ให้ใหญ่โตขึ้น เพื่อรองรับคนทำงานเข้ามาใหม่ให้ได้จำนวนมากขึ้น
    .
    ผมสงสัยว่ากลุ่มคนที่จะเพิ่มเข้ามาทำงานในสถานกงสุล ก็น่าจะเป็น #เครือข่ายซีไอเอ ที่จะมาปฏิบัติการในไทยและเมียนมา ซึ่งอเมริกาต้องการจำนวนคนมากขึ้นกับภารกิจเชิงรุก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เดินทางเข้ามาไทยมากยิ่งขึ้นตามมาในอนาคต
    ต้องไม่ลืมว่าหนังสือพิมพ์ #Haarets ของอิสราเอลรายงานชัดเจนว่าขณะนี้ ชาวยิวกำลังหันมาสนใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
    .
    5. ความจริงประการหนึ่งก็คือขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและ #อังกฤษ ทำงานรับใช้ #ยิว อย่างเต็มที่ อเมริกาทุ่มให้เครือข่ายซีไอเอไปรับใช้ ส่วนอังกฤษทุ่มเครือข่าย #MI6 ให้ทำงานรับใช้ยิวในประเทศต่างๆ มาก
    .
    จึงไม่น่าแปลกอะไรที่จะมีนักท่องเที่ยวอิสราเอล อังกฤษและอเมริกาในอำเภอปายมากกว่าในที่อื่นๆ โดยที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็น #สายลับ ที่เข้ามาสังเกตการณ์และทำงานร่วมกันเพื่อหาทางวางรากฐานให้ชาวยิวอพยพมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวรก็ได้ เพราะการว่าจ้างคนไทยให้เป็นนอมินีซื้อที่ดินให้คนเหล่านี้ยึดครอง ทำได้ง่ายอยู่แล้ว
    .
    6. อเมริกายังเดินเกม จัดตั้ง #ศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อีกแห่ง
    ข้อมูลระดับพื้นฐานที่คนไทยควรจะรู้ ก็คือ #กูเกิล เกิดมาจากหน่วยงาน #ซีไอเอ (ตามข่าวในภาพประกอบ) ขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและอิสราเอลใช้กูเกิลเป็นเครื่องมือช่วยกวาดล้างชาวปาเลสไตน์และปล้นแผ่นดินปาเลสไตน์อยู่
    .
    เมื่อมีการขอจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิล ไม่มีเสียงทักท้วงหรือคัดค้านใดๆ จากเลขาธิการ #สมช. ของไทย #กระทรวงมหาดไทย และ #กระทรวงการต่างประเทศเลย แสดงให้เห็นว่าสามองค์กรหลักนี้ไม่ระแวงหรือสงสัยอะไรเลยเพราะข้อมูลเกี่ยวกับกูเกิลไม่มีมากพอ
    .
    การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการจัดตั้งเครือข่ายซีไอเอและ #มอสสาด (#Mossad หน่วยงานข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล) ในประเทศไทย เพื่อรวบรวม #BigData คนในแถบ #ตะวันออกเฉียงใต้ เอาไว้ด้วยจุดประสงค์บางอย่างนั่นเอง
    .
    อย่าลืมความจริงที่คนไทยก็รู้มานานแล้วว่า ประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตก กำลังวางยุทธศาสตร์แบ่งแยกประเทศไทย ทั้งที่ #สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งใน #ภาคอีสาน และทั้งในพื้นที่ภาคเหนือเพื่อตนเองจะได้เข้ามามีบทบาทควบคุมประเทศแถบนี้มากยิ่งขึ้น
    .
    ประเทศเล็กๆ หลายประเทศในขณะนี้ตกเป็นอาณานิคมของอเมริกาและอิสราเอล ซึ่งมียิวอยู่เบื้องหลังก็เพราะมีหน่วยงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและมีนักการเมืองที่ดูแลผลประโยชน์ประเทศชาติพากัน *โง่* และตั้งตนในความประมาทนี่แหละ!
    .
    จับตา“ชาวยิวในปาย” เบื้องหลัง นักท่องเที่ยว หรือแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว? โดย ผศ.ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 3 มีนาคม 2568 #อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กลายเป็นจุดสนใจ เมื่อมีรายงานถึงจำนวน #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกต จุดนี้เชื่อมโยงกับข้อกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับบทบาทของ #กลุ่มทุนไซออนิสต์ หลายฝ่ายมองว่าอาจไม่ได้เป็นเพียงการท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของ #ยุทธศาสตร์ขยายอิทธิพลในภูมิภาค . ปัญหาของชาวยิว ตนต้องการ *เตือนสติ* ชาวไทยเอาไว้ว่ากรณีชาวยิวที่อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน ควรจะมองภาพรวมใหญ่ไว้บ้างว่า... . 1. ประเทศไทย เป็นเป้าหมายหนึ่งของ 'กลุ่มทุนยิวไซออนิสต์' ซึ่งอยู่เบื้องหลัง #รัฐบาลอเมริกา ที่จะยึดครอง คนพวกนี้ต้องการ #สร้างฐานทัพในประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นที่ #ตั้งอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อจ่อจี #นอีกแห่ง . 2. รัฐบาลอเมริกาซึ่งมีกลุ่มทุนยิวไซออนิสต์อยู่เบื้องหลังเคย #ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เป็นฐานทัพ แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ให้มาแล้ว . 3. ในเวลาเดียวกัน อเมริกาก็หันไปสนับสนุนนาง #อองซานซูจี โดยทุ่มเงินจาก #USAID เข้าไปช่วยหาเสียงและซื้อเสียง #กองทัพเมียนมา จับทางได้ว่าอเมริกาต้องการเข้ามามีอิทธิพลในเมียนมาและกำลังใช้เงินจาก USAID ซื้อเสียง จึงยึดอำนาจเสีย รัฐบาลอเมริกาจึงหันไป #ติดอาวุธชนกลุ่มน้อย ให้รบกบกองทัพรัฐบาลพม่าแทน จึงเกิดมีปัญหาสู้รบกันและทำให้มีผู้อพยพเข้าสู่ประเทศไทยมากจนถึงเดี๋ยวนี้ . 4. สำหรับประเทศไทย อเมริกาเดินเกมขยาย #สถานกงสุลในเชียงใหม่ ให้ใหญ่โตขึ้น เพื่อรองรับคนทำงานเข้ามาใหม่ให้ได้จำนวนมากขึ้น . ผมสงสัยว่ากลุ่มคนที่จะเพิ่มเข้ามาทำงานในสถานกงสุล ก็น่าจะเป็น #เครือข่ายซีไอเอ ที่จะมาปฏิบัติการในไทยและเมียนมา ซึ่งอเมริกาต้องการจำนวนคนมากขึ้นกับภารกิจเชิงรุก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เดินทางเข้ามาไทยมากยิ่งขึ้นตามมาในอนาคต ต้องไม่ลืมว่าหนังสือพิมพ์ #Haarets ของอิสราเอลรายงานชัดเจนว่าขณะนี้ ชาวยิวกำลังหันมาสนใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น . 5. ความจริงประการหนึ่งก็คือขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและ #อังกฤษ ทำงานรับใช้ #ยิว อย่างเต็มที่ อเมริกาทุ่มให้เครือข่ายซีไอเอไปรับใช้ ส่วนอังกฤษทุ่มเครือข่าย #MI6 ให้ทำงานรับใช้ยิวในประเทศต่างๆ มาก . จึงไม่น่าแปลกอะไรที่จะมีนักท่องเที่ยวอิสราเอล อังกฤษและอเมริกาในอำเภอปายมากกว่าในที่อื่นๆ โดยที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็น #สายลับ ที่เข้ามาสังเกตการณ์และทำงานร่วมกันเพื่อหาทางวางรากฐานให้ชาวยิวอพยพมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวรก็ได้ เพราะการว่าจ้างคนไทยให้เป็นนอมินีซื้อที่ดินให้คนเหล่านี้ยึดครอง ทำได้ง่ายอยู่แล้ว . 6. อเมริกายังเดินเกม จัดตั้ง #ศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อีกแห่ง ข้อมูลระดับพื้นฐานที่คนไทยควรจะรู้ ก็คือ #กูเกิล เกิดมาจากหน่วยงาน #ซีไอเอ (ตามข่าวในภาพประกอบ) ขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและอิสราเอลใช้กูเกิลเป็นเครื่องมือช่วยกวาดล้างชาวปาเลสไตน์และปล้นแผ่นดินปาเลสไตน์อยู่ . เมื่อมีการขอจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิล ไม่มีเสียงทักท้วงหรือคัดค้านใดๆ จากเลขาธิการ #สมช. ของไทย #กระทรวงมหาดไทย และ #กระทรวงการต่างประเทศเลย แสดงให้เห็นว่าสามองค์กรหลักนี้ไม่ระแวงหรือสงสัยอะไรเลยเพราะข้อมูลเกี่ยวกับกูเกิลไม่มีมากพอ . การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการจัดตั้งเครือข่ายซีไอเอและ #มอสสาด (#Mossad หน่วยงานข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล) ในประเทศไทย เพื่อรวบรวม #BigData คนในแถบ #ตะวันออกเฉียงใต้ เอาไว้ด้วยจุดประสงค์บางอย่างนั่นเอง . อย่าลืมความจริงที่คนไทยก็รู้มานานแล้วว่า ประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตก กำลังวางยุทธศาสตร์แบ่งแยกประเทศไทย ทั้งที่ #สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งใน #ภาคอีสาน และทั้งในพื้นที่ภาคเหนือเพื่อตนเองจะได้เข้ามามีบทบาทควบคุมประเทศแถบนี้มากยิ่งขึ้น . ประเทศเล็กๆ หลายประเทศในขณะนี้ตกเป็นอาณานิคมของอเมริกาและอิสราเอล ซึ่งมียิวอยู่เบื้องหลังก็เพราะมีหน่วยงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและมีนักการเมืองที่ดูแลผลประโยชน์ประเทศชาติพากัน *โง่* และตั้งตนในความประมาทนี่แหละ! .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในขณะที่รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์กำลังสั่งตัดงบประมาณเครือข่าย Deep State ทั้งหลายอยู่ ซึ่งทำให้คนเหล่านี้เดือดร้อนและกำลังจะตกงานไปทั่ว หน่วยงาน CIA ซึ่งเป็นเครือข่ายของ Deep State ก็กำลังเดือดร้อนเช่นเดียวกัน

    Jesse Waters จาก Fox News รายงานว่าเจ้าหน้าที่ซีไอเอรายหนึ่งออกมาขู่ว่าถ้าโดนัลด์ ทรัมป์ตัดงบประมาณของหน่วยงาน CIA เขาจะนำความลับต่างๆ ของรัฐบาลอเมริกาไปขายให้รัฐบาลรัสเซีย
    ในขณะที่รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์กำลังสั่งตัดงบประมาณเครือข่าย Deep State ทั้งหลายอยู่ ซึ่งทำให้คนเหล่านี้เดือดร้อนและกำลังจะตกงานไปทั่ว หน่วยงาน CIA ซึ่งเป็นเครือข่ายของ Deep State ก็กำลังเดือดร้อนเช่นเดียวกัน Jesse Waters จาก Fox News รายงานว่าเจ้าหน้าที่ซีไอเอรายหนึ่งออกมาขู่ว่าถ้าโดนัลด์ ทรัมป์ตัดงบประมาณของหน่วยงาน CIA เขาจะนำความลับต่างๆ ของรัฐบาลอเมริกาไปขายให้รัฐบาลรัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • ถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคาร กสิกรไทยรองรับ 2 รูปแบบ

    ในช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน 2568 ที่ผ่านมา แต่ละธนาคารได้สำรองเงินสดเพื่อรองรับการใช้จ่าย ซึ่งพบว่าแต่ละธนาคารเปิดเผยตัวเลขจำนวนเครื่องเอทีเอ็มในปัจจุบัน โดยธนาคารไทยพาณิชย์ ยังคงมีเครื่องเอทีเอ็มมากที่สุดในประเทศ รวม 9,937 เครื่องแม้จะลดลงไม่ถึงหลักหมื่น จากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 รวม 10,398 เครื่อง ลดลง 461 เครื่องก็ตาม

    ส่วนธนาคารอื่นๆ อาทิ ธนาคารกสิกรไทย 8,200 เครื่อง ธนาคารกรุงเทพ 8,000 เครื่อง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 5,425 เครื่อง ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) 2,406 เครื่อง ธ.ก.ส. 2,300 เครื่อง ขณะที่ธนาคารกรุงไทยไม่ได้เปิดเผย ข้อมูลล่าสุดไตรมาส 3/2567 มี 8,151 เครื่อง นอกนั้นเป็นธนาคารขนาดเล็ก เช่น ธนาคารยูโอบี 344 เครื่อง และบางธนาคารอย่างซีไอเอ็มบี ไทย ยกเลิกบริการเครื่องเอทีเอ็มไปเมื่อปี 2563 ทดแทนด้วยบริการบัตรเดบิตถอนเงินฟรีทุกตู้ทั่วไทย

    แม้ว่าบริการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารเกิดขึ้นเมื่อปี 2564 แต่ก็เป็นไปในลักษณะให้บริการกับธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลาง เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้บริการกับธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ก่อนจะมี ธ.ก.ส. ธนาคารไทยเครดิต และทีทีบี ตามมา แต่เมื่อสองธนาคารยักษ์อย่างธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย ให้บริการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารร่วมกัน ยิ่งทำให้บริการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น รวมทั้งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ลูกค้ายอมเสียค่าธรรมเนียมเพื่อประหยัดเวลา ไม่ต้องการค้นหาตู้เอทีเอ็มธนาคารตัวเอง

    ตัวกลางในการให้บริการมาจากบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ (ITMX) ที่ต่อยอดบริการถอนเงินไม่ใช้บัตร ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมข้ามธนาคารได้ผ่านระบบ ITMX’s Single Payment และ ATM Switching ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานเดิมสำหรับบริการถอนเงินสดข้ามธนาคาร ปัจจุบันรองรับทั้งการทำรายการแบบ One-Time-Password (OTP) และแบบ QR Code

    ล่าสุดตู้ K ATM ธนาคารกสิกรไทย รองรับการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารได้ทั้งสองรูปแบบ เช่น แอปฯ Bangkok Bank ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แอปฯ SCB Easy ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) แอปฯ KKP Mobile ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) แอปฯ LHB You ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และล่าสุดแอปฯ MyMo ธนาคารออมสิน ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับธนาคารเจ้าของโมบายแอปพลิเคชัน อยู่ที่ประมาณ 10-15 บาทต่อรายการ จึงน่าสนใจว่าอาจมีธนาคารอื่นให้บริการรองรับทั้งสองรูปแบบตามมา สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียม ทดแทนค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตที่มีแนวโน้มลดลง

    #Newskit
    ถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคาร กสิกรไทยรองรับ 2 รูปแบบ ในช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน 2568 ที่ผ่านมา แต่ละธนาคารได้สำรองเงินสดเพื่อรองรับการใช้จ่าย ซึ่งพบว่าแต่ละธนาคารเปิดเผยตัวเลขจำนวนเครื่องเอทีเอ็มในปัจจุบัน โดยธนาคารไทยพาณิชย์ ยังคงมีเครื่องเอทีเอ็มมากที่สุดในประเทศ รวม 9,937 เครื่องแม้จะลดลงไม่ถึงหลักหมื่น จากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 รวม 10,398 เครื่อง ลดลง 461 เครื่องก็ตาม ส่วนธนาคารอื่นๆ อาทิ ธนาคารกสิกรไทย 8,200 เครื่อง ธนาคารกรุงเทพ 8,000 เครื่อง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 5,425 เครื่อง ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) 2,406 เครื่อง ธ.ก.ส. 2,300 เครื่อง ขณะที่ธนาคารกรุงไทยไม่ได้เปิดเผย ข้อมูลล่าสุดไตรมาส 3/2567 มี 8,151 เครื่อง นอกนั้นเป็นธนาคารขนาดเล็ก เช่น ธนาคารยูโอบี 344 เครื่อง และบางธนาคารอย่างซีไอเอ็มบี ไทย ยกเลิกบริการเครื่องเอทีเอ็มไปเมื่อปี 2563 ทดแทนด้วยบริการบัตรเดบิตถอนเงินฟรีทุกตู้ทั่วไทย แม้ว่าบริการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารเกิดขึ้นเมื่อปี 2564 แต่ก็เป็นไปในลักษณะให้บริการกับธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลาง เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้บริการกับธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ก่อนจะมี ธ.ก.ส. ธนาคารไทยเครดิต และทีทีบี ตามมา แต่เมื่อสองธนาคารยักษ์อย่างธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย ให้บริการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารร่วมกัน ยิ่งทำให้บริการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น รวมทั้งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ลูกค้ายอมเสียค่าธรรมเนียมเพื่อประหยัดเวลา ไม่ต้องการค้นหาตู้เอทีเอ็มธนาคารตัวเอง ตัวกลางในการให้บริการมาจากบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ (ITMX) ที่ต่อยอดบริการถอนเงินไม่ใช้บัตร ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมข้ามธนาคารได้ผ่านระบบ ITMX’s Single Payment และ ATM Switching ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานเดิมสำหรับบริการถอนเงินสดข้ามธนาคาร ปัจจุบันรองรับทั้งการทำรายการแบบ One-Time-Password (OTP) และแบบ QR Code ล่าสุดตู้ K ATM ธนาคารกสิกรไทย รองรับการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารได้ทั้งสองรูปแบบ เช่น แอปฯ Bangkok Bank ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แอปฯ SCB Easy ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) แอปฯ KKP Mobile ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) แอปฯ LHB You ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และล่าสุดแอปฯ MyMo ธนาคารออมสิน ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับธนาคารเจ้าของโมบายแอปพลิเคชัน อยู่ที่ประมาณ 10-15 บาทต่อรายการ จึงน่าสนใจว่าอาจมีธนาคารอื่นให้บริการรองรับทั้งสองรูปแบบตามมา สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียม ทดแทนค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตที่มีแนวโน้มลดลง #Newskit
    Like
    Love
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 0 รีวิว
  • การให้สัมภาษณ์ของเซเลนสกี เกี่ยวกับจำนวนเงินที่เขาได้รับเพียงเจ็ดหมื่นล้าน กำลังกลายเป็นประเด็นใหญ่ในอเมริกา สื่อได้หยิบเรื่องนี้มาขยาย

    "จะเกิดอะไรขึ้นหากเงินภาษีของประชาชนสหรัฐ 58% ที่ส่งไปให้เซเลนสกีไม่เคยไปถึงยูเครนด้วยซ้ำ เงินเหล่านั้นไปไหนหมด ซีไอเอตัดเงินทิ้งไปหรือไม่ เจ้าหน้าที่และนายพลของยูเครนนำเงินออกไปใช้ประโยชน์ส่วนตนหรือไม่ ผู้มีอิทธิพลบางคนมีการรับส่วนแบ่งจากเงินจำนวนนี้หรือไม่

    หากคำกล่าวอ้างของเซเลนสกีเป็นจริง ว่าเขาได้รับเพียง 75,000 ล้านเหรียญจากเงิน 177,000 ล้านเหรียญที่วอชิงตันส่งไปให้ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เราจะทำเป็นไม่สนใจต่อไป หรือเราควรจะเรียกร้องคำตอบและความรับผิดชอบ?"
    การให้สัมภาษณ์ของเซเลนสกี เกี่ยวกับจำนวนเงินที่เขาได้รับเพียงเจ็ดหมื่นล้าน กำลังกลายเป็นประเด็นใหญ่ในอเมริกา สื่อได้หยิบเรื่องนี้มาขยาย "จะเกิดอะไรขึ้นหากเงินภาษีของประชาชนสหรัฐ 58% ที่ส่งไปให้เซเลนสกีไม่เคยไปถึงยูเครนด้วยซ้ำ เงินเหล่านั้นไปไหนหมด ซีไอเอตัดเงินทิ้งไปหรือไม่ เจ้าหน้าที่และนายพลของยูเครนนำเงินออกไปใช้ประโยชน์ส่วนตนหรือไม่ ผู้มีอิทธิพลบางคนมีการรับส่วนแบ่งจากเงินจำนวนนี้หรือไม่ หากคำกล่าวอ้างของเซเลนสกีเป็นจริง ว่าเขาได้รับเพียง 75,000 ล้านเหรียญจากเงิน 177,000 ล้านเหรียญที่วอชิงตันส่งไปให้ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เราจะทำเป็นไม่สนใจต่อไป หรือเราควรจะเรียกร้องคำตอบและความรับผิดชอบ?"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • แผนการของซีไอเอและกองทัพสหรัฐในการสังหารชาวอเมริกัน

    เอกสารของ CIA ที่ได้รับการปลดล็อคเผยให้เห็นว่ากองทัพสหรัฐฯ วางแผนปฏิบัติการนอร์ธวูดส์ เพื่อก่อการร้ายต่อพลเมืองอเมริกัน เพื่อเป็นเหตุผลในการทำสงครามกับคิวบา

    โครงเรื่องมีข้อเสนอ เช่น การสร้าง 'การรณรงค์ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์คิวบา' ในเมืองต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา

    หลักฐานที่แสดงว่า CIA ไม่เคยใส่ใจสิทธิมนุษยชนของพลเมืองสหรัฐฯ

    ที่มา : DailyMail
    แผนการของซีไอเอและกองทัพสหรัฐในการสังหารชาวอเมริกัน เอกสารของ CIA ที่ได้รับการปลดล็อคเผยให้เห็นว่ากองทัพสหรัฐฯ วางแผนปฏิบัติการนอร์ธวูดส์ เพื่อก่อการร้ายต่อพลเมืองอเมริกัน เพื่อเป็นเหตุผลในการทำสงครามกับคิวบา โครงเรื่องมีข้อเสนอ เช่น การสร้าง 'การรณรงค์ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์คิวบา' ในเมืองต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา หลักฐานที่แสดงว่า CIA ไม่เคยใส่ใจสิทธิมนุษยชนของพลเมืองสหรัฐฯ ที่มา : DailyMail
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • K PLUS เปิดระบบ สแกนจ่ายที่มาเลเซีย

    หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) เปิดบริการเชื่อมโยงระบบชำระเงินข้ามประเทศ (Cross-border Payment) มาตั้งแต่เดือน มิ.ย.2564 นอกจากลูกค้าธนาคารและอีวอลเล็ตจากมาเลเซีย โดยเฉพาะสถาบันการเงินรายใหญ่ MayBank และ Touch ’n Go สามารถสแกนจ่ายผ่านพร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด (PromptPay QR Code) ที่ร้านค้าในไทยทั้งผ่านป้ายคิวอาร์โค้ด แอปพลิเคชันรับเงินสำหรับร้านค้า หรือบนหน้าจอเครื่องรับบัตร (EDC) ได้แล้ว ลูกค้าแอปพลิเคชันธนาคารในไทย ก็สามารถสแกนจ่ายผ่าน DuitNow QR ในประเทศมาเลเซียได้เช่นกัน

    โดยลูกค้า Krungthai NEXT ธนาคารกรุงไทย, Bangkok Bank ธนาคารกรุงเทพ, Krungsri App ธนาคารกรุงศรี และ CIMB THAI ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย สแกนจ่าย DuitNow QR จากพาร์ทเนอร์ร้านค้า (Merchant Partner) ของ Ambank, Boost, CIMB, Hong Leong Bank, Maybank, Public Bank, Razer Merchant Services, Touch ’n Go, และ United Overseas Bank Malaysia (UOB) โดยสังเกตโลโก้บริเวณป้าย Standee Tab หรือเครื่อง EDC ของผู้ให้บริการเหล่านั้น

    ยังคงเหลือเจ้าตลาดโมบายแบงกิ้งอย่าง K PLUS ธนาคารกสิกรไทย ที่มีผู้ใช้งาน 22.8 ล้านราย จากเดิมสแกนจ่ายได้เฉพาะร้านค้า UnionPay QR Payment ในมาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านค้าชั้นนำ ล่าสุดสามารถสแกนจ่าย DuitNow QR จาก Merchant Partner ที่ร่วมรายการได้แล้ว แต่ใช้ระบบประมวลผลของ Alipay+ โดยระบบจะแปลงหน่วยเงินอัตโนมัติ คิดอัตราแลกเปลี่ยน ณ เวลาขณะนั้น และไม่มีค่าธรรมเนียมอีกด้วย

    สำหรับระบบประมวลผลของ Alipay+ บริษัทเพย์เน็ต (PayNet) ผู้ให้บริการระบบ DuitNow ร่วมกับ Ant Group ร่วมมือเชื่อมระบบการชำระเงินกับอี-วอลเล็ตชั้นนำมาตั้งแต่ปลายปี 2566 ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถใช้ระบบ Alipay+ สแกนจ่ายที่ร้านค้า DuitNow QR ในมาเลเซียกว่า 1.8 ล้านแห่ง ได้แก่ Alipay (จีน) AlipayHK (ฮ่องกง) HelloMoney by AUB (ฟิลิปปินส์) Hipay (มองโกเลีย) MPay (มาเก๊า) Naver Pay & Toss Pay (เกาหลีใต้)

    รวมทั้ง TrueMoney ของไทย ที่มีผู้ใช้งาน 34 ล้านราย สามารถชำระเงินผ่าน QR Code ของ Alipay+ หรือสแกนผ่าน DuitNow QR ที่ร้านค้าในมาเลเซียได้เช่นกัน

    นับตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึง พ.ย.2567 มาเลเซียมีนักท่องเที่ยวมาเยือน 34.15 ล้านคน มาจากสิงคโปร์มากที่สุด 16.84 ล้านคน รองลงมาคือ อินโดนีเซีย 3.71 ล้านคน จีน 3.43 ล้านคน ไทย 2.07 ล้านคน และบรูไน 1.56 ล้านคน ส่วนประเทศไทย ในปี 2567 (ม.ค. ถึง ธ.ค.2567) มีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย 4.95 ล้านคน เป็นอันดับสองรองจากจีน 6.73 ล้านคน

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    K PLUS เปิดระบบ สแกนจ่ายที่มาเลเซีย หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) เปิดบริการเชื่อมโยงระบบชำระเงินข้ามประเทศ (Cross-border Payment) มาตั้งแต่เดือน มิ.ย.2564 นอกจากลูกค้าธนาคารและอีวอลเล็ตจากมาเลเซีย โดยเฉพาะสถาบันการเงินรายใหญ่ MayBank และ Touch ’n Go สามารถสแกนจ่ายผ่านพร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด (PromptPay QR Code) ที่ร้านค้าในไทยทั้งผ่านป้ายคิวอาร์โค้ด แอปพลิเคชันรับเงินสำหรับร้านค้า หรือบนหน้าจอเครื่องรับบัตร (EDC) ได้แล้ว ลูกค้าแอปพลิเคชันธนาคารในไทย ก็สามารถสแกนจ่ายผ่าน DuitNow QR ในประเทศมาเลเซียได้เช่นกัน โดยลูกค้า Krungthai NEXT ธนาคารกรุงไทย, Bangkok Bank ธนาคารกรุงเทพ, Krungsri App ธนาคารกรุงศรี และ CIMB THAI ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย สแกนจ่าย DuitNow QR จากพาร์ทเนอร์ร้านค้า (Merchant Partner) ของ Ambank, Boost, CIMB, Hong Leong Bank, Maybank, Public Bank, Razer Merchant Services, Touch ’n Go, และ United Overseas Bank Malaysia (UOB) โดยสังเกตโลโก้บริเวณป้าย Standee Tab หรือเครื่อง EDC ของผู้ให้บริการเหล่านั้น ยังคงเหลือเจ้าตลาดโมบายแบงกิ้งอย่าง K PLUS ธนาคารกสิกรไทย ที่มีผู้ใช้งาน 22.8 ล้านราย จากเดิมสแกนจ่ายได้เฉพาะร้านค้า UnionPay QR Payment ในมาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านค้าชั้นนำ ล่าสุดสามารถสแกนจ่าย DuitNow QR จาก Merchant Partner ที่ร่วมรายการได้แล้ว แต่ใช้ระบบประมวลผลของ Alipay+ โดยระบบจะแปลงหน่วยเงินอัตโนมัติ คิดอัตราแลกเปลี่ยน ณ เวลาขณะนั้น และไม่มีค่าธรรมเนียมอีกด้วย สำหรับระบบประมวลผลของ Alipay+ บริษัทเพย์เน็ต (PayNet) ผู้ให้บริการระบบ DuitNow ร่วมกับ Ant Group ร่วมมือเชื่อมระบบการชำระเงินกับอี-วอลเล็ตชั้นนำมาตั้งแต่ปลายปี 2566 ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถใช้ระบบ Alipay+ สแกนจ่ายที่ร้านค้า DuitNow QR ในมาเลเซียกว่า 1.8 ล้านแห่ง ได้แก่ Alipay (จีน) AlipayHK (ฮ่องกง) HelloMoney by AUB (ฟิลิปปินส์) Hipay (มองโกเลีย) MPay (มาเก๊า) Naver Pay & Toss Pay (เกาหลีใต้) รวมทั้ง TrueMoney ของไทย ที่มีผู้ใช้งาน 34 ล้านราย สามารถชำระเงินผ่าน QR Code ของ Alipay+ หรือสแกนผ่าน DuitNow QR ที่ร้านค้าในมาเลเซียได้เช่นกัน นับตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึง พ.ย.2567 มาเลเซียมีนักท่องเที่ยวมาเยือน 34.15 ล้านคน มาจากสิงคโปร์มากที่สุด 16.84 ล้านคน รองลงมาคือ อินโดนีเซีย 3.71 ล้านคน จีน 3.43 ล้านคน ไทย 2.07 ล้านคน และบรูไน 1.56 ล้านคน ส่วนประเทศไทย ในปี 2567 (ม.ค. ถึง ธ.ค.2567) มีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย 4.95 ล้านคน เป็นอันดับสองรองจากจีน 6.73 ล้านคน #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 601 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงกลาโหมสหรัฐสร้างความประหลาดใจอย่างมาก ด้วยการประกาศแต่งตั้ง ไมเคิล พี. ดิมิโน (Michael P. DiMino) อดีตนักวิเคราะห์ของซีไอเอและเจ้าหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้าย เข้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายนโยบายตะวันออกกลางของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ผู้ซึ่งมีแนวคิดใช้นโยบายทางการทูตมากกว่าการทำสงคราม

    "ตำแหน่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการควบคุมทิศทางภูมิภาคตะวันออกกลางทั้งหมด โดยที่ดิมิโนจะเป็นผู้รับผิดชอบในการลงนามในข้อตกลงทางทหารต่างประเทศทั้งหมดเกี่ยวกับการจัดหาอาวุธให้กับประเทศที่สนับสนุนสหรัฐฯ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมถึงอิสราเอลด้วย"

    การแต่งตั้งครั้งนี้ส่งผลกระทบถึงอิสราเอลและอิหร่านโดยตรง ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าทรัมป์กำลังถอยห่างจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง "แต่อาจสร้างความไม่พอใจให้กับอิสราเอล"

    เนื่องจากการแสดงออกของดิมิโนที่ผ่านมา เคยวิจารณ์รัฐบาลของไบเดนที่ล้มเหลวในการกดดันอิสราเอลให้เปิดการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังฉนวนกาซา ขณะเดียวกัน เขาก็ชื่นชมไบเดนเช่นกันที่ปฏิเสธเข้าร่วมในการโจมตีตอบโต้ของอิสราเอลต่ออิหร่านโดยตรง

    เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ดิมิโนเคยแสดงความเห็นเอาไว้ว่าตะวันออกกลางไม่ได้มีความสำคัญสำหรับผลประโยชน์ของสหรัฐอย่างแท้จริง และบทบาทของสหรัฐในภูมิภาคนี้ก็ไม่ได้ให้ประโยชน์ใดแก่พวกเขาเช่นกัน นอกจากนี้ภัยคุกคามที่สำคัญของสหรัฐในภูมิภาคนี้ คือการทำให้มีความขัดแย้งกันน้อยที่สุดหรือไม่มีเลยยิ่งดี

    ดิมิโนยังแสดงความเห็นอีกว่า เขายังมองไม่เห็นประเด็นในการทิ้งระเบิดกลุ่มฮูตีจากคำสั่งของไบเดน และเชื่อว่าการทูตเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับฉนวนกาซา

    นี่อาจเป็นก้าวใหม่ของสหรัฐที่มีบุคคลที่อาจเข้ามาทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางที่เน้นด้านมนุษยธรรมมากขึ้น
    กระทรวงกลาโหมสหรัฐสร้างความประหลาดใจอย่างมาก ด้วยการประกาศแต่งตั้ง ไมเคิล พี. ดิมิโน (Michael P. DiMino) อดีตนักวิเคราะห์ของซีไอเอและเจ้าหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้าย เข้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายนโยบายตะวันออกกลางของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ผู้ซึ่งมีแนวคิดใช้นโยบายทางการทูตมากกว่าการทำสงคราม "ตำแหน่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการควบคุมทิศทางภูมิภาคตะวันออกกลางทั้งหมด โดยที่ดิมิโนจะเป็นผู้รับผิดชอบในการลงนามในข้อตกลงทางทหารต่างประเทศทั้งหมดเกี่ยวกับการจัดหาอาวุธให้กับประเทศที่สนับสนุนสหรัฐฯ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมถึงอิสราเอลด้วย" การแต่งตั้งครั้งนี้ส่งผลกระทบถึงอิสราเอลและอิหร่านโดยตรง ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าทรัมป์กำลังถอยห่างจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง "แต่อาจสร้างความไม่พอใจให้กับอิสราเอล" เนื่องจากการแสดงออกของดิมิโนที่ผ่านมา เคยวิจารณ์รัฐบาลของไบเดนที่ล้มเหลวในการกดดันอิสราเอลให้เปิดการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังฉนวนกาซา ขณะเดียวกัน เขาก็ชื่นชมไบเดนเช่นกันที่ปฏิเสธเข้าร่วมในการโจมตีตอบโต้ของอิสราเอลต่ออิหร่านโดยตรง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ดิมิโนเคยแสดงความเห็นเอาไว้ว่าตะวันออกกลางไม่ได้มีความสำคัญสำหรับผลประโยชน์ของสหรัฐอย่างแท้จริง และบทบาทของสหรัฐในภูมิภาคนี้ก็ไม่ได้ให้ประโยชน์ใดแก่พวกเขาเช่นกัน นอกจากนี้ภัยคุกคามที่สำคัญของสหรัฐในภูมิภาคนี้ คือการทำให้มีความขัดแย้งกันน้อยที่สุดหรือไม่มีเลยยิ่งดี ดิมิโนยังแสดงความเห็นอีกว่า เขายังมองไม่เห็นประเด็นในการทิ้งระเบิดกลุ่มฮูตีจากคำสั่งของไบเดน และเชื่อว่าการทูตเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับฉนวนกาซา นี่อาจเป็นก้าวใหม่ของสหรัฐที่มีบุคคลที่อาจเข้ามาทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางที่เน้นด้านมนุษยธรรมมากขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศ.เจฟฟรี่ แซคส์ ศาสตราจาร์ยด้านเศรษฐศาสตร์และนโยบายสาธารณะ แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

    ศ.เจฟฟรีย์ แซคส์: “โอบามาสั่งซีไอเอโค่นล้มอัสซาด ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2011”

    ทักเกอร์ คาร์ลสัน: “แต่ทำไมโอบามาจึงต้องการโค่นล้มอัสซาดล่ะ“

    ศ.เจฟฟรีย์ แซคส์: “เพราะอิสราเอลเป็นฝ่ายขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศของอเมริกาในตะวันออกกลางมาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว”

    ตอนนี้เรารู้แล้วว่าทำไม อิสราเอลถึงกล้ายึดครองดินแดนซีเรียทางใต้ได้มากมาย หลังการล่มสลายของอัสซาด โดยที่ซีเรียไม่คิดจะปกป้องเลยด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำอิสราเอลยังทำลายศักยภาพทางการทหารของซีเรีย เช่น กองบัญชาการ คลังอาวุธ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ฐานทัพอากาศ สนามบินทหาร โดยการโจมตีทางอากาศมากกว่า 500 ครั้งเพียงแค่ระยะเวลาไม่กี่วัน
    ศ.เจฟฟรี่ แซคส์ ศาสตราจาร์ยด้านเศรษฐศาสตร์และนโยบายสาธารณะ แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ศ.เจฟฟรีย์ แซคส์: “โอบามาสั่งซีไอเอโค่นล้มอัสซาด ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2011” ทักเกอร์ คาร์ลสัน: “แต่ทำไมโอบามาจึงต้องการโค่นล้มอัสซาดล่ะ“ ศ.เจฟฟรีย์ แซคส์: “เพราะอิสราเอลเป็นฝ่ายขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศของอเมริกาในตะวันออกกลางมาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว” ตอนนี้เรารู้แล้วว่าทำไม อิสราเอลถึงกล้ายึดครองดินแดนซีเรียทางใต้ได้มากมาย หลังการล่มสลายของอัสซาด โดยที่ซีเรียไม่คิดจะปกป้องเลยด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำอิสราเอลยังทำลายศักยภาพทางการทหารของซีเรีย เช่น กองบัญชาการ คลังอาวุธ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ฐานทัพอากาศ สนามบินทหาร โดยการโจมตีทางอากาศมากกว่า 500 ครั้งเพียงแค่ระยะเวลาไม่กี่วัน
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 592 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • Credit: @พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์
    คนมีมลทินราคีติดหนี้ล้มละลายอย่าหมายบรรพชา
    มาบวชอุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา
    คนมั่วธรรม มนุษย์บางพวก (กเฬวราก จำนวนมาก)
    ยังนิยมชื่นชมเอาไว้ ก็หมายถึงว่า “รอด” อยู่ในช่วงหนึ่ง
    แต่เทวดาสัมมาทิฐิไม่นิยมเอาไว้ก็หมายถึงว่า “จอด” ทันที
    ทองเทียม แม้ไม่ถูกไฟลน นานไปมันก็กลายเป็นตะกั่ว
    เพราะความชั่วมันชอบโชว์เปิดเผยตัวของมันเสียเอง

    ก่อนข้าพเจ้าจะเขียนอธิบายขยายความที่จั่วหัวข้อแรกไว้ ปรารถนาให้ท่านสาธุชนทั้งหลายได้อ่านความอัศจรรย์ของพระพุทธศาสนาเปรียบเป็นมหาสมุทรข้อที่ ๓ สักหน่อย ดังนี้ : -

    “ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนมหาสมุทรไม่ร่วมกับซากศพที่ตายแล้ว ซากศพที่ตายแล้วใดมีอยู่ในมหาสมุทร มหาสมุทรย่อมนำซากศพที่ตาย แล้วนั้นไปสู่ฝั่ง ซัดขึ้นบกโดยพลัน
    บุคคลนั้นใดเป็นผู้ทุศีล มีธรรมหยาบช้าลามก (ชอบออกกูออกมึง กูๆ มึงๆ) มีความประพฤติไม่สะอาด น่ารังเกียจ ปิดบังการกระทำ มิใช่สมณะปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่พรหมจารีปฏิญาณว่าเป็นพรหมจารี เน่าภายในโชกชุ่มด้วยกิเลส ผู้เศร้าหมองก็เหมือนกัน สงฆ์ย่อมไม่ร่วมกับบุคคลนั้น ย่อมประชุมกันยกเธอเสียโดยพลัน
    ถึงแม้เธอนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ก็จริง ถึงอย่างนั้น เธอชื่อว่าไกลจากสงฆ์ และสงฆ์ก็ไกลจากเธอ ข้อที่บุคคลนั้นใดเป็นผู้ทุศีล มีธรรมหยาบช้าลามก (ชอบออกกูออกมึง กูๆ มึงๆ) มีความประพฤติไม่สะอาด น่ารังเกียจ ปิดบังการกระทำ มิใช่สมณะ ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่พรหมจารีปฏิญาณ ว่าเป็นพรหมจารี เน่าภายใน โชกชุ่มด้วยกิเลส ผู้เศร้าหมอง สงฆ์ย่อมไม่ร่วมกับบุคคลนั้น ย่อมประชุมกันยกเธอเสียโดยพลัน ถึงแม้เธอนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ก็จริง ถึงอย่างนั้น เธอชื่อว่าไกลจากสงฆ์ และสงฆ์ก็ไกลจากเธอ
    แม้นี้ก็เป็นความอัศจรรย์ไม่เคยมีในธรรมวินัยนี้ เป็นข้อที่ ๓ ที่ภิกษุทั้งหลายพบเห็นแล้วพากันชื่นชมในธรรมวินัยนี้ ฯ”
    วิ.จุ. ๒/๑๘๔/๔๕๙-๔๖๑

    คนมีมลทินราคีติดหนี้ล้มละลายในข้อกฎหมายคดีความทางโลกก็มีนัย (อ่านว่า “นัย (ะ) ไม่ควรเขียนเป็น “นัยยะ” คำนี้จะแปลว่า “ผู้ที่แนะนำพร่ำสอนได้คือ เนยยบุคคล”) อันเดียวกันกับกฎหมายพระวินัยบัญญัติคดีความทางธรรม ถูกต้องทุกประการด้วย

    ข้าพเจ้าขอพิมพ์ข้อความที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา ประกาศอย่างเป็นทางการให้สาธารณชนทราบโดยทั่วกัน เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันในข้อเท็จจริงนี้

    ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
    เรื่อง คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
    คดีหมายเลขแดงที่.... กองบังคับคดีล้มละลาย ๑
    กรมบังคับคดี
    กระทรวงยุติธรรม

    ด้วย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้จำเลยล้มละลาย และศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ให้พิทักษ์ทรัพย์ของนาย....จำเลย เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๕๘๓ แล้ว

    จำเลย เลขประจำตัวประชาชน........มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่.....

    ดังนั้น นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ และบุคคลผู้เป็นหนี้ลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตามมาตรา ๒๔/๑ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตามมาตรา ๒๔/๑ แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวังโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท ตามมาตรา ๑๗๓/๑ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓

    อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีนี้....และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กำหนดวันลงโฆษณาในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๔

    ประกาศ ณ วันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
    เบญจา สุภานนท์
    เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

    ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
    เรื่อง คำพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย

    คดีหมายเลขแดงที่.... กองบังคับคดีล้มละลาย ๑
    ศาลล้มละลายกลาง กรมบังคับคดี
    กระทรวงยุติธรรม

    ด้วยคดีเรื่องนี้ ศาลล้มละลายกลางได้พิพากษาให้นาย....ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๕
    ผู้ล้มละลาย เลขประจำตัวประชาชน....มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่....

    ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๕
    อุโรวษา เพชรวารี
    เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

    จากข้อความที่ทางการประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาว่า

    “บุคคลผู้เป็นหนี้ลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ....ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตามมาตรา ๒๔/๑ แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวังโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท...”

    คำเตือนที่ข้าพเจ้าเขียนบอกไว้ในบทความหนึ่งว่า
    “ระวังไว้ด้วยนะครับ จะพลอยฟ้าพลอยฝนโดนหางเลขกับเขาไปด้วย”
    และในเวลาต่อมาไม่นาน ข้าพเจ้าก็เขียนโพสต์ไว้ในหน้าวอลล์ว่า
    “ไม่มาเข้าคอร์สก็น่าจะได้ไปเข้าคุก”
    ส่อเค้าว่าจะเป็นจริง เห็นแสงรำไรๆ อยู่ในคุกที่จองจำนั้นเสียแล้ว

    เมื่อเย็นวานนี้ทนายความท่านหนึ่งได้โทรมาคุยสนทนากับข้าพเจ้าในเรื่องนี้ พร้อมกับส่งหลักฐานในราชกิจจานุเบกษามาให้ และเมื่อเช้าของวันนี้ในเวลา 10:00 น. ทนายความอีกท่านหนึ่งก็โทรมาคุยกับข้าพเจ้า และยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ไว้ตรงกับทนายความท่านแรก ทนายความสองท่านนี้ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลมาเป็นอย่างดีแล้ว
    ข้าพเจ้าแสดงหลักฐานคดีความทางโลกให้เห็นปรากฏชัดเรียบร้อยแล้ว ก็จะเขียนเข้าสู่คดีความทางธรรม กฎหมายทางธรรม พระวินัยบัญญัติ ว่า มีข้อกำหนดอย่างไรกับผู้ติดคดีทางโลกมีหนี้สินท่วมหัว จนกระทั่งทางการต้องประกาศให้เป็นผู้ล้มละลาย ต่อจากนี้เขาก็ไม่สามารถทำธุรกิจ ธุรกรรม (เปิดรับบริจาค) ได้อีกแล้ว คนที่ไปบริจาคทรัพย์ให้แก่นายผู้ล้มละลายคนนี้ก็ดี คนที่ไปรับทรัพย์จากนายผู้ล้มละลายคนนี้ก็ดี ก็จะตกอยู่ในข่ายความผิดต้องโทษลักษณะเดียวกันไปโดยปริยาย
    กล่าวคือมีคติเป็น ๒ ไม่ถูกปรับก็ถูกจำ หรือทั้งปรับทั้งจำ

    พระวินัยบัญญัติกำหนดให้กุลบุตรผู้เป็นอุปสัมปทาเปกขะ (ต้องการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ) หากต้องโทษข้อใดข้อหนึ่ง ใน ๑๓ ข้อเหล่านี้ มิให้มาอยู่ในเพศของพระภิกษุในร่มเงาของพระพุทธศาสนา
    ถ้าหากว่าแอบเข้ามาบรรพชาอุปสมบททรงเพศเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ทราบในภายหลัง สงฆ์ก็ต้องสั่งให้สิกขาลาพรต ว่า “สิกฺขํ ปจฺจกฺขาหิ เธอจงบอกคืนสิกขาบทเสียเถิด”
    กรณีตัวอย่างคือ นาคจำแลงแปลงกายเป็นมาณพมาขอบวชเป็นพระภิกษุกับพระสงฆ์กลุ่มหนึ่งอยู่ในป่า พอคืนร่างเป็นนาคตามเดิม ความทราบไปถึงพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ก็รับสั่งให้ภิกษุผู้เป็นนาคจำแลงแปลงกายนั้นบอกคืนสิกขาบท คือให้ลาสิกขาทันที

    ในทุกกรณีของผู้ที่ต้องอันตรายิกธรรมข้อใดข้อหนึ่ง เช่น ทราบในภายหลังว่าเป็นบัณเฑาะก์ คือ ไม่ใช่บุรุษเพศชาย (ผู้ชายเต็มตัว) ก็สั่งให้ลาสิกขาเช่นเดียวกัน ให้อยู่ในเพศของพระภิกษุในพระพุทธศาสนานี้ไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นบุคคลอันตราย จะสร้างความเสียหายให้แก่พระพุทธศาสนาแก่พระสงฆ์องค์สามเณร (ข้าพเจ้าเขียนอธิบายในโพสต์ก่อนแล้ว ร่างเป็นผู้ชายแต่ใจเป็นผู้หญิงก็จะกวนพระกวนเณรไม่ให้อยู่เป็นสุข)

    ถ้าผู้นั้นเป็นบัณเฑาะก์และรู้ว่าตนก็เป็นบัณเฑาะก์แท้ๆ แต่ปกปิดความเป็นบัณเฑาะก์ทรงเพศของพระภิกษุผู้ประพฤติพรหมจรรย์ในพระพุทธศาสนานี้ไว้ ถือว่าอยู่ในฐานะผู้หลอกลวง ลักขโมยเคี้ยวกลืนกินบิณฑะก้อนข้าวของชาวแว่นแคว้น ท่านเรียกเป็นภาษาพระวินัยว่า “ลักเพศ” คือ ลักขโมยเพศของพระภิกษุ ลักขโมยอุดมเพศที่ครองผ้ากาสาวพัสตร์ธงชัยของพระอรหันต์

    เขาจะสั่งสมบาปอกุศลเอาไว้อยู่เรื่อยๆ สุดท้ายเห็นได้ชัดใช่ไหมว่า บัณเฑาะก์ผู้นั้นที่ลักขโมยเพศพระภิกษุแอบอาศัยอยู่ในร่มเงาของพระพุทธศาสนานี้มาเป็นเวลายาวนาน ก็แพ้ภัยตัวเอง กระเด็นออกไปจากพระพุทธศาสนา เปรียบเหมือนกเฬวราก ซากศพเน่า ต้องถูกคลื่นของมหาสมุทรซัดออกมาเกยตื้นติดอยู่กับฝั่งทะเล ฉะนั้น

    อันตรายิกธรรมเหล่านี้ คือ
    “โรคเรื้อน ฝี โรคกลาก โรคมองคร่อ ลมบ้าหมู เจ้าเป็นมนุษย์หรือ เป็นชายหรือ เป็นไทหรือ ไม่มีหนี้สินหรือ มิใช่ราชภัฏหรือ มารดาบิดาอนุญาตแล้วหรือ มีปีครบ ๒๐ แล้วหรือ บาตรจีวรของเจ้ามีครบแล้วหรือ เจ้าชื่ออะไร อุปัชฌาย์ของเจ้าชื่ออะไร”
    วิ.ม. ๑/๑๕๔/๑๔๒

    ปรากฏอยู่ในอุปสัมปทาวิธีว่า

    พระคู่สวดถาม สามเณรตอบ
    กุฏฐัง นัตถิ ภันเต
    คัณโฑ นัตถิ ภันเต
    กิลาโส นัตถิ ภันเต
    โสโส นัตถิ ภันเต
    อะปะมาโร นัตถิ ภันเต
    มะนุสโสสิ๊ อามะ ภันเต
    ปุริโสสิ๊ อามะ ภันเต
    ภุชิสโสสิ๊ อามะ ภันเต
    อะนะโณสิ๊ อามะ ภันเต
    นะสิ๊ราชะภะโฏ อามะ ภันเต
    อะนุญญาโตสิ๊ มาตาปิตูหิ อามะ ภันเต
    ปะริปุณณะวีสะติวัสโสสิ๊ อามะ ภันเต
    ปะริปุณณันเต ปัตตะจีวะรัง อามะ ภันเต
    กินนาโมสิ อะหัง ภันเต...(๑)....นามะ
    โก นามะ เต อุปัชฌาโย อุปัชฌาโย เมภันเต อายัสมา.... (๒).นามะ

    (๑) บอกฉายาของตนเอง
    (๒) บอกฉายาของพระอุปัชฌาย์

    ในคำตอบของสามเณร (นาค) หากผิดไปจาก อามะ ภันเต จาก นัตถิ ภันเต แม้ข้อเดียว เช่น “ปุริโสสิ๊ เจ้าเป็นบุรุษเพศชายจริงหรือเปล่า” นาคตอบว่า “นัตถิ ภันเต ไม่ใช่ครับ” “อะนะโณสิ๊ เธอไม่มีหนี้สินใช่ไหม” นาคตอบว่า “นัตถิ ภันเต ไม่ใช่ครับ” พระคู่สวดอาจจะต้องถามย้ำอีกสัก ๒ - ๓ ครั้ง นาคก็ยังตอบอยู่ในคำเดิม คือ นัตถิ ภันเต อุปสัมปทาวิธีก็ต้องล้มไป ยุติพิธีอุปสมบท ทันที อาจถึงกับขับไล่ผู้ต้องอันตรายิกธรรมข้อใดข้อหนึ่งนี้ออกจากสีมา (เขตแดน) ของพระอุโบสถหลังนั้นไปเลย
    “อย่าแหลมหน้ามาขอบวชอีกเชียวนะ”.
    Credit: @พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์ คนมีมลทินราคีติดหนี้ล้มละลายอย่าหมายบรรพชา มาบวชอุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา คนมั่วธรรม มนุษย์บางพวก (กเฬวราก จำนวนมาก) ยังนิยมชื่นชมเอาไว้ ก็หมายถึงว่า “รอด” อยู่ในช่วงหนึ่ง แต่เทวดาสัมมาทิฐิไม่นิยมเอาไว้ก็หมายถึงว่า “จอด” ทันที ทองเทียม แม้ไม่ถูกไฟลน นานไปมันก็กลายเป็นตะกั่ว เพราะความชั่วมันชอบโชว์เปิดเผยตัวของมันเสียเอง ก่อนข้าพเจ้าจะเขียนอธิบายขยายความที่จั่วหัวข้อแรกไว้ ปรารถนาให้ท่านสาธุชนทั้งหลายได้อ่านความอัศจรรย์ของพระพุทธศาสนาเปรียบเป็นมหาสมุทรข้อที่ ๓ สักหน่อย ดังนี้ : - “ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนมหาสมุทรไม่ร่วมกับซากศพที่ตายแล้ว ซากศพที่ตายแล้วใดมีอยู่ในมหาสมุทร มหาสมุทรย่อมนำซากศพที่ตาย แล้วนั้นไปสู่ฝั่ง ซัดขึ้นบกโดยพลัน บุคคลนั้นใดเป็นผู้ทุศีล มีธรรมหยาบช้าลามก (ชอบออกกูออกมึง กูๆ มึงๆ) มีความประพฤติไม่สะอาด น่ารังเกียจ ปิดบังการกระทำ มิใช่สมณะปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่พรหมจารีปฏิญาณว่าเป็นพรหมจารี เน่าภายในโชกชุ่มด้วยกิเลส ผู้เศร้าหมองก็เหมือนกัน สงฆ์ย่อมไม่ร่วมกับบุคคลนั้น ย่อมประชุมกันยกเธอเสียโดยพลัน ถึงแม้เธอนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ก็จริง ถึงอย่างนั้น เธอชื่อว่าไกลจากสงฆ์ และสงฆ์ก็ไกลจากเธอ ข้อที่บุคคลนั้นใดเป็นผู้ทุศีล มีธรรมหยาบช้าลามก (ชอบออกกูออกมึง กูๆ มึงๆ) มีความประพฤติไม่สะอาด น่ารังเกียจ ปิดบังการกระทำ มิใช่สมณะ ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่พรหมจารีปฏิญาณ ว่าเป็นพรหมจารี เน่าภายใน โชกชุ่มด้วยกิเลส ผู้เศร้าหมอง สงฆ์ย่อมไม่ร่วมกับบุคคลนั้น ย่อมประชุมกันยกเธอเสียโดยพลัน ถึงแม้เธอนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ก็จริง ถึงอย่างนั้น เธอชื่อว่าไกลจากสงฆ์ และสงฆ์ก็ไกลจากเธอ แม้นี้ก็เป็นความอัศจรรย์ไม่เคยมีในธรรมวินัยนี้ เป็นข้อที่ ๓ ที่ภิกษุทั้งหลายพบเห็นแล้วพากันชื่นชมในธรรมวินัยนี้ ฯ” วิ.จุ. ๒/๑๘๔/๔๕๙-๔๖๑ คนมีมลทินราคีติดหนี้ล้มละลายในข้อกฎหมายคดีความทางโลกก็มีนัย (อ่านว่า “นัย (ะ) ไม่ควรเขียนเป็น “นัยยะ” คำนี้จะแปลว่า “ผู้ที่แนะนำพร่ำสอนได้คือ เนยยบุคคล”) อันเดียวกันกับกฎหมายพระวินัยบัญญัติคดีความทางธรรม ถูกต้องทุกประการด้วย ข้าพเจ้าขอพิมพ์ข้อความที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา ประกาศอย่างเป็นทางการให้สาธารณชนทราบโดยทั่วกัน เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันในข้อเท็จจริงนี้ ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด คดีหมายเลขแดงที่.... กองบังคับคดีล้มละลาย ๑ กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ด้วย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้จำเลยล้มละลาย และศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ให้พิทักษ์ทรัพย์ของนาย....จำเลย เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๕๘๓ แล้ว จำเลย เลขประจำตัวประชาชน........มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่..... ดังนั้น นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ และบุคคลผู้เป็นหนี้ลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตามมาตรา ๒๔/๑ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตามมาตรา ๒๔/๑ แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวังโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท ตามมาตรา ๑๗๓/๑ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีนี้....และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กำหนดวันลงโฆษณาในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๔ ประกาศ ณ วันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เบญจา สุภานนท์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง คำพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย คดีหมายเลขแดงที่.... กองบังคับคดีล้มละลาย ๑ ศาลล้มละลายกลาง กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ด้วยคดีเรื่องนี้ ศาลล้มละลายกลางได้พิพากษาให้นาย....ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๕ ผู้ล้มละลาย เลขประจำตัวประชาชน....มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่.... ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๕ อุโรวษา เพชรวารี เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จากข้อความที่ทางการประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาว่า “บุคคลผู้เป็นหนี้ลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ....ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตามมาตรา ๒๔/๑ แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวังโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท...” คำเตือนที่ข้าพเจ้าเขียนบอกไว้ในบทความหนึ่งว่า “ระวังไว้ด้วยนะครับ จะพลอยฟ้าพลอยฝนโดนหางเลขกับเขาไปด้วย” และในเวลาต่อมาไม่นาน ข้าพเจ้าก็เขียนโพสต์ไว้ในหน้าวอลล์ว่า “ไม่มาเข้าคอร์สก็น่าจะได้ไปเข้าคุก” ส่อเค้าว่าจะเป็นจริง เห็นแสงรำไรๆ อยู่ในคุกที่จองจำนั้นเสียแล้ว เมื่อเย็นวานนี้ทนายความท่านหนึ่งได้โทรมาคุยสนทนากับข้าพเจ้าในเรื่องนี้ พร้อมกับส่งหลักฐานในราชกิจจานุเบกษามาให้ และเมื่อเช้าของวันนี้ในเวลา 10:00 น. ทนายความอีกท่านหนึ่งก็โทรมาคุยกับข้าพเจ้า และยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ไว้ตรงกับทนายความท่านแรก ทนายความสองท่านนี้ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลมาเป็นอย่างดีแล้ว ข้าพเจ้าแสดงหลักฐานคดีความทางโลกให้เห็นปรากฏชัดเรียบร้อยแล้ว ก็จะเขียนเข้าสู่คดีความทางธรรม กฎหมายทางธรรม พระวินัยบัญญัติ ว่า มีข้อกำหนดอย่างไรกับผู้ติดคดีทางโลกมีหนี้สินท่วมหัว จนกระทั่งทางการต้องประกาศให้เป็นผู้ล้มละลาย ต่อจากนี้เขาก็ไม่สามารถทำธุรกิจ ธุรกรรม (เปิดรับบริจาค) ได้อีกแล้ว คนที่ไปบริจาคทรัพย์ให้แก่นายผู้ล้มละลายคนนี้ก็ดี คนที่ไปรับทรัพย์จากนายผู้ล้มละลายคนนี้ก็ดี ก็จะตกอยู่ในข่ายความผิดต้องโทษลักษณะเดียวกันไปโดยปริยาย กล่าวคือมีคติเป็น ๒ ไม่ถูกปรับก็ถูกจำ หรือทั้งปรับทั้งจำ พระวินัยบัญญัติกำหนดให้กุลบุตรผู้เป็นอุปสัมปทาเปกขะ (ต้องการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ) หากต้องโทษข้อใดข้อหนึ่ง ใน ๑๓ ข้อเหล่านี้ มิให้มาอยู่ในเพศของพระภิกษุในร่มเงาของพระพุทธศาสนา ถ้าหากว่าแอบเข้ามาบรรพชาอุปสมบททรงเพศเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ทราบในภายหลัง สงฆ์ก็ต้องสั่งให้สิกขาลาพรต ว่า “สิกฺขํ ปจฺจกฺขาหิ เธอจงบอกคืนสิกขาบทเสียเถิด” กรณีตัวอย่างคือ นาคจำแลงแปลงกายเป็นมาณพมาขอบวชเป็นพระภิกษุกับพระสงฆ์กลุ่มหนึ่งอยู่ในป่า พอคืนร่างเป็นนาคตามเดิม ความทราบไปถึงพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ก็รับสั่งให้ภิกษุผู้เป็นนาคจำแลงแปลงกายนั้นบอกคืนสิกขาบท คือให้ลาสิกขาทันที ในทุกกรณีของผู้ที่ต้องอันตรายิกธรรมข้อใดข้อหนึ่ง เช่น ทราบในภายหลังว่าเป็นบัณเฑาะก์ คือ ไม่ใช่บุรุษเพศชาย (ผู้ชายเต็มตัว) ก็สั่งให้ลาสิกขาเช่นเดียวกัน ให้อยู่ในเพศของพระภิกษุในพระพุทธศาสนานี้ไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นบุคคลอันตราย จะสร้างความเสียหายให้แก่พระพุทธศาสนาแก่พระสงฆ์องค์สามเณร (ข้าพเจ้าเขียนอธิบายในโพสต์ก่อนแล้ว ร่างเป็นผู้ชายแต่ใจเป็นผู้หญิงก็จะกวนพระกวนเณรไม่ให้อยู่เป็นสุข) ถ้าผู้นั้นเป็นบัณเฑาะก์และรู้ว่าตนก็เป็นบัณเฑาะก์แท้ๆ แต่ปกปิดความเป็นบัณเฑาะก์ทรงเพศของพระภิกษุผู้ประพฤติพรหมจรรย์ในพระพุทธศาสนานี้ไว้ ถือว่าอยู่ในฐานะผู้หลอกลวง ลักขโมยเคี้ยวกลืนกินบิณฑะก้อนข้าวของชาวแว่นแคว้น ท่านเรียกเป็นภาษาพระวินัยว่า “ลักเพศ” คือ ลักขโมยเพศของพระภิกษุ ลักขโมยอุดมเพศที่ครองผ้ากาสาวพัสตร์ธงชัยของพระอรหันต์ เขาจะสั่งสมบาปอกุศลเอาไว้อยู่เรื่อยๆ สุดท้ายเห็นได้ชัดใช่ไหมว่า บัณเฑาะก์ผู้นั้นที่ลักขโมยเพศพระภิกษุแอบอาศัยอยู่ในร่มเงาของพระพุทธศาสนานี้มาเป็นเวลายาวนาน ก็แพ้ภัยตัวเอง กระเด็นออกไปจากพระพุทธศาสนา เปรียบเหมือนกเฬวราก ซากศพเน่า ต้องถูกคลื่นของมหาสมุทรซัดออกมาเกยตื้นติดอยู่กับฝั่งทะเล ฉะนั้น อันตรายิกธรรมเหล่านี้ คือ “โรคเรื้อน ฝี โรคกลาก โรคมองคร่อ ลมบ้าหมู เจ้าเป็นมนุษย์หรือ เป็นชายหรือ เป็นไทหรือ ไม่มีหนี้สินหรือ มิใช่ราชภัฏหรือ มารดาบิดาอนุญาตแล้วหรือ มีปีครบ ๒๐ แล้วหรือ บาตรจีวรของเจ้ามีครบแล้วหรือ เจ้าชื่ออะไร อุปัชฌาย์ของเจ้าชื่ออะไร” วิ.ม. ๑/๑๕๔/๑๔๒ ปรากฏอยู่ในอุปสัมปทาวิธีว่า พระคู่สวดถาม สามเณรตอบ กุฏฐัง นัตถิ ภันเต คัณโฑ นัตถิ ภันเต กิลาโส นัตถิ ภันเต โสโส นัตถิ ภันเต อะปะมาโร นัตถิ ภันเต มะนุสโสสิ๊ อามะ ภันเต ปุริโสสิ๊ อามะ ภันเต ภุชิสโสสิ๊ อามะ ภันเต อะนะโณสิ๊ อามะ ภันเต นะสิ๊ราชะภะโฏ อามะ ภันเต อะนุญญาโตสิ๊ มาตาปิตูหิ อามะ ภันเต ปะริปุณณะวีสะติวัสโสสิ๊ อามะ ภันเต ปะริปุณณันเต ปัตตะจีวะรัง อามะ ภันเต กินนาโมสิ อะหัง ภันเต...(๑)....นามะ โก นามะ เต อุปัชฌาโย อุปัชฌาโย เมภันเต อายัสมา.... (๒).นามะ (๑) บอกฉายาของตนเอง (๒) บอกฉายาของพระอุปัชฌาย์ ในคำตอบของสามเณร (นาค) หากผิดไปจาก อามะ ภันเต จาก นัตถิ ภันเต แม้ข้อเดียว เช่น “ปุริโสสิ๊ เจ้าเป็นบุรุษเพศชายจริงหรือเปล่า” นาคตอบว่า “นัตถิ ภันเต ไม่ใช่ครับ” “อะนะโณสิ๊ เธอไม่มีหนี้สินใช่ไหม” นาคตอบว่า “นัตถิ ภันเต ไม่ใช่ครับ” พระคู่สวดอาจจะต้องถามย้ำอีกสัก ๒ - ๓ ครั้ง นาคก็ยังตอบอยู่ในคำเดิม คือ นัตถิ ภันเต อุปสัมปทาวิธีก็ต้องล้มไป ยุติพิธีอุปสมบท ทันที อาจถึงกับขับไล่ผู้ต้องอันตรายิกธรรมข้อใดข้อหนึ่งนี้ออกจากสีมา (เขตแดน) ของพระอุโบสถหลังนั้นไปเลย “อย่าแหลมหน้ามาขอบวชอีกเชียวนะ”.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 731 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧵(๑/๓) กลุ่มฮูตีอ้างว่าสามารถเปิดโปงเครือข่ายสายลับของซีไอเอและมอสสาดในเยเมนได้

    กลุ่มอันซาร์ อัลลาห์ในเยเมน, หรือที่เรียกอีกอย่างว่ากลุ่มฮูตี, อ้างว่าสามารถเปิดโปงเครือข่ายสายลับที่ทำงานให้กับมอสสาดและซีไอเอได้
    .
    (๒/๓) กลุ่มดังกล่าวกล่าวว่า สายลับได้รับมอบหมายให้ติดตามสถานที่ทางทหารและรวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับผู้นำกลุ่มฮูตี และบุคคลที่สหรัฐฯ และอิสราเอล ต้องการตัวในเยเมน
    .
    (๓/๓) เครือข่ายดังกล่าวปฏิบัติการมาตั้งแต่วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๐๒๓, โดยพยายามคัดเลือกคนในพื้นที่เพื่อขัดขวางการปฏิบัติการของกองกำลังติดอาวุธเยเมนที่สนับสนุนกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา และกำหนดเป้าหมายเส้นทางเดินเรือระหว่างประเทศ
    .
    🧵(1/3) HOUTHIS CLAIM TO UNCOVER CIA AND MOSSAD SPY RING IN YEMEN

    Yemen's Ansar Allah movement, also known as the Houthis, claims to have uncovered a spy network working for the Mossad and the CIA.
    .
    (2/3) The group said the spies were tasked with monitoring military sites and gathering intelligence on Houthi leaders and US- and Israel-wanted individuals in Yemen.
    .
    (3/3) The network has allegedly operated since October 7, 2023, attempting to recruit locals to hinder Yemeni armed forces operations supporting Hamas in Gaza and targeting international shipping routes.
    .
    1:06 AM · Dec 26, 2024 · 6,018 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1871980935253827819
    🧵(๑/๓) กลุ่มฮูตีอ้างว่าสามารถเปิดโปงเครือข่ายสายลับของซีไอเอและมอสสาดในเยเมนได้ กลุ่มอันซาร์ อัลลาห์ในเยเมน, หรือที่เรียกอีกอย่างว่ากลุ่มฮูตี, อ้างว่าสามารถเปิดโปงเครือข่ายสายลับที่ทำงานให้กับมอสสาดและซีไอเอได้ . (๒/๓) กลุ่มดังกล่าวกล่าวว่า สายลับได้รับมอบหมายให้ติดตามสถานที่ทางทหารและรวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับผู้นำกลุ่มฮูตี และบุคคลที่สหรัฐฯ และอิสราเอล ต้องการตัวในเยเมน . (๓/๓) เครือข่ายดังกล่าวปฏิบัติการมาตั้งแต่วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๐๒๓, โดยพยายามคัดเลือกคนในพื้นที่เพื่อขัดขวางการปฏิบัติการของกองกำลังติดอาวุธเยเมนที่สนับสนุนกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา และกำหนดเป้าหมายเส้นทางเดินเรือระหว่างประเทศ . 🧵(1/3) HOUTHIS CLAIM TO UNCOVER CIA AND MOSSAD SPY RING IN YEMEN Yemen's Ansar Allah movement, also known as the Houthis, claims to have uncovered a spy network working for the Mossad and the CIA. . (2/3) The group said the spies were tasked with monitoring military sites and gathering intelligence on Houthi leaders and US- and Israel-wanted individuals in Yemen. . (3/3) The network has allegedly operated since October 7, 2023, attempting to recruit locals to hinder Yemeni armed forces operations supporting Hamas in Gaza and targeting international shipping routes. . 1:06 AM · Dec 26, 2024 · 6,018 Views https://x.com/SputnikInt/status/1871980935253827819
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ร่ำลา"
    ผู้อำนวยการซีไอเอ วิลเลียม เบิร์นส์ เดินทางเยือนยูเครนเป็นครั้งสุดท้าย
    นายวิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการซีไอเอ เดินทางถึงยูเครนแล้วเพื่อเยือนยูเครนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งสุดท้าย ตามประกาศของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี
    "ร่ำลา" ผู้อำนวยการซีไอเอ วิลเลียม เบิร์นส์ เดินทางเยือนยูเครนเป็นครั้งสุดท้าย นายวิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการซีไอเอ เดินทางถึงยูเครนแล้วเพื่อเยือนยูเครนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งสุดท้าย ตามประกาศของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหน้ารัฐบาลของไบเดนระบุว่าคณะบริหารกำลังเจรจาตุรกีทางการทูตเพื่อให้หยุดการโจมตีกองกำลัง SDF ที่นำโดยชาวเคิร์ดของ SNA

    “การเปิดแนวร่วมเพิ่มเติม ไม่เป็นประโยชน์ต่อใครทั้งสิ้น “พวกเรากำลังทำงานเพื่อคลี่คลายปัญหาดังกล่าว”

    รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ลอยด์ ออสติน ได้พูดคุยกับนายยาซาร์ กูเลอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของตุรกีในวันนี้ โดยบิล เบิร์นส์ ผู้อำนวยการซีไอเอ แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ และเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของไบเดน ได้เข้าร่วมหารือพร้อมกับผู้แทนของทั้งสองฝ่าย
    เจ้าหน้ารัฐบาลของไบเดนระบุว่าคณะบริหารกำลังเจรจาตุรกีทางการทูตเพื่อให้หยุดการโจมตีกองกำลัง SDF ที่นำโดยชาวเคิร์ดของ SNA “การเปิดแนวร่วมเพิ่มเติม ไม่เป็นประโยชน์ต่อใครทั้งสิ้น “พวกเรากำลังทำงานเพื่อคลี่คลายปัญหาดังกล่าว” รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ลอยด์ ออสติน ได้พูดคุยกับนายยาซาร์ กูเลอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของตุรกีในวันนี้ โดยบิล เบิร์นส์ ผู้อำนวยการซีไอเอ แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ และเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของไบเดน ได้เข้าร่วมหารือพร้อมกับผู้แทนของทั้งสองฝ่าย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนังที่สร้างจากการรวบรวมข้อมูลหลักฐานโดย Robert F Kennedy Jrการวางแผนก่อนการระบาด ของโควิด ในปี 2019 มีการเตรียมการร่วมกับซีไอเอ และแผนในการปิดปากใครก็ตามที่จะพูดความจริงเกี่ยวกับเรื่องเชื้อไวรัสและวัคซีน องค์กรต่างๆที่ร่วมมือกันและบริษัทวัคซีนhttps://x.com/realonerebecca/status/1857799285187735598?s=46&t=Pd2sCn9Dej9GlmSuERlElA
    หนังที่สร้างจากการรวบรวมข้อมูลหลักฐานโดย Robert F Kennedy Jrการวางแผนก่อนการระบาด ของโควิด ในปี 2019 มีการเตรียมการร่วมกับซีไอเอ และแผนในการปิดปากใครก็ตามที่จะพูดความจริงเกี่ยวกับเรื่องเชื้อไวรัสและวัคซีน องค์กรต่างๆที่ร่วมมือกันและบริษัทวัคซีนhttps://x.com/realonerebecca/status/1857799285187735598?s=46&t=Pd2sCn9Dej9GlmSuERlElA
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 548 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ตกรางวัล อีลอน มัสก์ แต่งตั้งคุมกระทรวงใหม่ที่รับผิดชอบการปฏิรูปรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเสนอชื่อ พีท เฮกเซธ ผู้ดำเนินรายการของทีวีฟ็อกซ์ นิวส์และอดีตทหารผ่านศึก เป็นรัฐมนตรีกลาโหม ดันแผนล้างบางนายพลสายก้าวหน้าและ “ผู้ทรยศ” ในเพนตากอน
    .
    มัสก์ และ วิเวก รามาสวามี อดีตผู้สมัครเพื่อเป็นตัวแทนรีพับลิกันลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ภายหลังถอนตัวและหันมาสนับสนุนทรัมป์ จะร่วมกันคุมกระทรวงใหม่ที่มีชื่อว่ากระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลแห่งนี้ โดยมุ่งตัดขั้นตอนระเบียบราชการตลอดจนกฎระเบียบที่ไม่จำเป็น ตลอดจนลดเลิกการใช้จ่ายที่สูญเปล่า และปรับโครงสร้างหน่วยงานของรัฐบาลกลาง
    .
    ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา ประกาศเมื่อวันอังคาร (12 พ.ย) ว่า หน่วยงานใหม่นี้จะทำให้ฝันของพรรครีพับลิกันเป็นจริง รวมทั้งจะเสนอคำแนะนำและแนวทางจากภายนอกรัฐบาล เป็นการส่งสัญญาณว่า บทบาทของมัสก์และรามาสวามีจะอยู่ในลักษณะไม่เป็นทางการ จึงไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจากวุฒิสภาเสียก่อน นอกจากนั้นมัสก์ยังสามารถเป็นซีอีโอเทสลา, เอ็กซ์ และสเปซเอ็กซ์ ต่อไปตามปกติ
    .
    กระทรวงใหม่นี้จะทำงานร่วมกับทำเนียบขาวและสำนักบริหารงบประมาณ เพื่อขับเคลื่อนการปรับโครงสร้างและสร้างแนวทางแบบผู้ประกอบการเพื่อทำให้เกิดรัฐบาลแบบที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน โดยที่ภารกิจนี้จะต้องลุล่วงภายในวันที่ 4 ก.ค. 2026 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 250 ปีการลงนามคำประกาศอิสรภาพของอเมริกา
    .
    คาดกันว่า ความเคลื่อนไหวนี้จะส่งให้ธุรกิจของมัสก์ที่นิตยสารฟอร์บส์ยกให้เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกและได้ประโยชน์อย่างชัดเจนจากชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์ ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นพิเศษจากรัฐบาล รวมทั้งจะมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น รวมทั้งส่งผลดีต่อพวกธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และคริปโต
    .
    ในการรณรงค์หาเสียงเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์รอบนี้ มีรายงานว่ามัสก์ทุ่มเงินสนับสนุนรวมแล้วเกินหลัก 100 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นเขายังตระเวนช่วยทรัมป์ปราศรัยหาเสียงอีกด้วย
    .
    สำหรับภารกิจใหม่ที่ทรัมป์อวดอ้างว่า จะมีประสิทธิภาพเทียบเท่า “แมนฮัตตันโปรเจ็กต์” ซึ่งก็คือโครงการพัฒนาระเบิดปรมาณูเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น มัสก์สัญญาจะดำเนินการด้วยความโปร่งใสที่สุด โดยจะรายงานการดำเนินการทั้งหมดทางออนไลน์ พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมให้ข้อเสนอแนะบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
    .
    ระหว่างปราศรัยช่วยทรัมป์หาเสียงที่ เมดิสันสแควร์การ์เด้น นครนิวยอร์ก เมื่อเดือนที่แล้ว มัสก์ระบุว่า งบประมาณของรัฐบาลกลางควรต้องลดลงอย่างน้อย 2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่สำนักงบประมาณรัฐสภาประเมินว่า เฉพาะปีงบประมาณปัจจุบันรัฐบาลมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายทางทหาร รวม 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จากค่าใช้จ่ายทั้งหมดของรัฐบาลกลาง 6.75 ล้านล้านดอลลาร์
    .
    นอกจากนั้นชื่อย่อของกระทรวงใหม่คือ DOGE ยังพาดพิงถึงชื่อโดชคอยน์ ซึ่งเป็นคริปโตที่มัสก์สนับสนุน และราคาของมันก็ทะยานขึ้นเกินเท่าตัวนับจากวันเลือกตั้งตามกระแสการคาดหวังในตลาดคริปโตว่า คณะบริหารของทรัมป์จะผ่อนคลายกฎระเบียบในอุตสาหกรรมนี้
    .
    สำหรับรามาสวามี เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทยา และปี 2021 เคยออกหนังสือ “โวค อิงก์” ติเตียนการตัดสินใจของบริษัทใหญ่บางแห่งที่กำหนดกลยุทธ์ธุรกิจโดยอิงกับข้อกังวลเกี่ยวกับความยุติธรรมทางสังคมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    .
    นอกจากมัสก์และรามาสวามีแล้ว เมื่อคืนวันอังคารทรัมป์ยังเสนอชื่อ พีท เฮกเซธ ผู้ดำเนินรายการของ ฟ็อกซ์ นิวส์ เครือข่ายทีวีอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว เป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) , จอห์น แรตคลิฟฟ์ อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติในรัฐบาลทรัมป์ 1.0 เป็นผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ), คริสตี โนเอ็ม ผู้ว่าการรัฐเซาธ์ดาโกตา เป็นรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ, สตีเฟน มิลเลอร์ ผู้เขียนนโยบายผู้อพยพที่มุ่งแบนมุสลิมของทรัมป์ เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่ทำงานทำเนียบขาว และไมค์ ฮักคาบี อดีตผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอส์ เป็นเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอล
    .
    อย่างไรก็ตาม เฮกเซธ ดูจะเป็นตัวเลือกที่เซอร์ไพรส์ที่สุดในบรรดาสมาชิกคณะบริหารที่ทรัมป์ประกาศออกมาจนถึงขณะนี้ รวมทั้งยังเรียกเสียงประณามจากฝ่ายตรงข้ามบางคน เช่น อดัม สมิธ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเดโมแครต ที่วิจารณ์ว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมไม่ใช่งานสำหรับพวกมือใหม่
    .
    ทว่า ทรัมป์ยกย่องเฮกเซธ วัย 44 ปี อดีตทหารผ่านศึกสังกัดกองทหารรักษาดินแดน (เนชั่นแนลการ์ด) ที่เคยไปประจำการในอัฟกานิสถาน อิรัก และกวนตานาโม ว่า เป็นคนทรหด ฉลาด และเชื่อมั่นในนโยบายอเมริกาต้องมาก่อนอย่างแท้จริง และสำทับว่า เฮกเซธจะทำให้กองทัพอเมริกันกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
    .
    คาดหมายกันว่า หากได้รับการรับรองจากวุฒิสมาชิก เฮกเซธจะเป็นอาวุธชั้นดีในการกำจัดบรรดานายพลที่ทรัมป์กล่าวหาว่า ปฏิบัติตามนโยบายเชิงก้าวหน้าด้านความหลากหลายในกองทัพ เป็นต้นว่า การยอมรับชาวเกย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกอนุรักษนิยมคัดค้าน รวมทั้งยังอาจปะทะกับพลอากาศเอกซี.คิว. บราวน์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯคนปัจจุบัน ที่เฮกเซธกล่าวหาว่า รับนโยบายมาจากนักการเมืองฝ่ายซ้าย
    .
    ทั้งนี้ ภายในเพนตากอนกำลังกังวลว่า ทรัมป์ต้องการขุดรากถอนโคนนายทหารและข้าราชการพลเรือนที่เขามองว่าทรยศต่อตัวเขา โดยเมื่อเดือนมิถุนายน เขาให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า จะไล่นายพลที่ “ตื่นรู้” ซึ่งหมายถึงผู้ที่พุ่งความสนใจที่ความยุติธรรมด้านเชื้อชาติและสังคม ทว่า คำนี้ถูกพวกอนุรักษนิยมนำมาใช้เพื่อใส่ร้ายนโยบายเชิงก้าวหน้า
    .
    นอกจากนั้นเฮกเซธยังโจมตีชาติพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ว่าอ่อนแอ รวมทั้งชี้ว่า จีนกำลังจะครอบงำประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109487
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ตกรางวัล อีลอน มัสก์ แต่งตั้งคุมกระทรวงใหม่ที่รับผิดชอบการปฏิรูปรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเสนอชื่อ พีท เฮกเซธ ผู้ดำเนินรายการของทีวีฟ็อกซ์ นิวส์และอดีตทหารผ่านศึก เป็นรัฐมนตรีกลาโหม ดันแผนล้างบางนายพลสายก้าวหน้าและ “ผู้ทรยศ” ในเพนตากอน . มัสก์ และ วิเวก รามาสวามี อดีตผู้สมัครเพื่อเป็นตัวแทนรีพับลิกันลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ภายหลังถอนตัวและหันมาสนับสนุนทรัมป์ จะร่วมกันคุมกระทรวงใหม่ที่มีชื่อว่ากระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลแห่งนี้ โดยมุ่งตัดขั้นตอนระเบียบราชการตลอดจนกฎระเบียบที่ไม่จำเป็น ตลอดจนลดเลิกการใช้จ่ายที่สูญเปล่า และปรับโครงสร้างหน่วยงานของรัฐบาลกลาง . ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา ประกาศเมื่อวันอังคาร (12 พ.ย) ว่า หน่วยงานใหม่นี้จะทำให้ฝันของพรรครีพับลิกันเป็นจริง รวมทั้งจะเสนอคำแนะนำและแนวทางจากภายนอกรัฐบาล เป็นการส่งสัญญาณว่า บทบาทของมัสก์และรามาสวามีจะอยู่ในลักษณะไม่เป็นทางการ จึงไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจากวุฒิสภาเสียก่อน นอกจากนั้นมัสก์ยังสามารถเป็นซีอีโอเทสลา, เอ็กซ์ และสเปซเอ็กซ์ ต่อไปตามปกติ . กระทรวงใหม่นี้จะทำงานร่วมกับทำเนียบขาวและสำนักบริหารงบประมาณ เพื่อขับเคลื่อนการปรับโครงสร้างและสร้างแนวทางแบบผู้ประกอบการเพื่อทำให้เกิดรัฐบาลแบบที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน โดยที่ภารกิจนี้จะต้องลุล่วงภายในวันที่ 4 ก.ค. 2026 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 250 ปีการลงนามคำประกาศอิสรภาพของอเมริกา . คาดกันว่า ความเคลื่อนไหวนี้จะส่งให้ธุรกิจของมัสก์ที่นิตยสารฟอร์บส์ยกให้เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกและได้ประโยชน์อย่างชัดเจนจากชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์ ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นพิเศษจากรัฐบาล รวมทั้งจะมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น รวมทั้งส่งผลดีต่อพวกธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และคริปโต . ในการรณรงค์หาเสียงเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์รอบนี้ มีรายงานว่ามัสก์ทุ่มเงินสนับสนุนรวมแล้วเกินหลัก 100 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นเขายังตระเวนช่วยทรัมป์ปราศรัยหาเสียงอีกด้วย . สำหรับภารกิจใหม่ที่ทรัมป์อวดอ้างว่า จะมีประสิทธิภาพเทียบเท่า “แมนฮัตตันโปรเจ็กต์” ซึ่งก็คือโครงการพัฒนาระเบิดปรมาณูเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น มัสก์สัญญาจะดำเนินการด้วยความโปร่งใสที่สุด โดยจะรายงานการดำเนินการทั้งหมดทางออนไลน์ พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมให้ข้อเสนอแนะบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ . ระหว่างปราศรัยช่วยทรัมป์หาเสียงที่ เมดิสันสแควร์การ์เด้น นครนิวยอร์ก เมื่อเดือนที่แล้ว มัสก์ระบุว่า งบประมาณของรัฐบาลกลางควรต้องลดลงอย่างน้อย 2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่สำนักงบประมาณรัฐสภาประเมินว่า เฉพาะปีงบประมาณปัจจุบันรัฐบาลมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายทางทหาร รวม 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จากค่าใช้จ่ายทั้งหมดของรัฐบาลกลาง 6.75 ล้านล้านดอลลาร์ . นอกจากนั้นชื่อย่อของกระทรวงใหม่คือ DOGE ยังพาดพิงถึงชื่อโดชคอยน์ ซึ่งเป็นคริปโตที่มัสก์สนับสนุน และราคาของมันก็ทะยานขึ้นเกินเท่าตัวนับจากวันเลือกตั้งตามกระแสการคาดหวังในตลาดคริปโตว่า คณะบริหารของทรัมป์จะผ่อนคลายกฎระเบียบในอุตสาหกรรมนี้ . สำหรับรามาสวามี เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทยา และปี 2021 เคยออกหนังสือ “โวค อิงก์” ติเตียนการตัดสินใจของบริษัทใหญ่บางแห่งที่กำหนดกลยุทธ์ธุรกิจโดยอิงกับข้อกังวลเกี่ยวกับความยุติธรรมทางสังคมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ . นอกจากมัสก์และรามาสวามีแล้ว เมื่อคืนวันอังคารทรัมป์ยังเสนอชื่อ พีท เฮกเซธ ผู้ดำเนินรายการของ ฟ็อกซ์ นิวส์ เครือข่ายทีวีอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว เป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) , จอห์น แรตคลิฟฟ์ อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติในรัฐบาลทรัมป์ 1.0 เป็นผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ), คริสตี โนเอ็ม ผู้ว่าการรัฐเซาธ์ดาโกตา เป็นรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ, สตีเฟน มิลเลอร์ ผู้เขียนนโยบายผู้อพยพที่มุ่งแบนมุสลิมของทรัมป์ เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่ทำงานทำเนียบขาว และไมค์ ฮักคาบี อดีตผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอส์ เป็นเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอล . อย่างไรก็ตาม เฮกเซธ ดูจะเป็นตัวเลือกที่เซอร์ไพรส์ที่สุดในบรรดาสมาชิกคณะบริหารที่ทรัมป์ประกาศออกมาจนถึงขณะนี้ รวมทั้งยังเรียกเสียงประณามจากฝ่ายตรงข้ามบางคน เช่น อดัม สมิธ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเดโมแครต ที่วิจารณ์ว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมไม่ใช่งานสำหรับพวกมือใหม่ . ทว่า ทรัมป์ยกย่องเฮกเซธ วัย 44 ปี อดีตทหารผ่านศึกสังกัดกองทหารรักษาดินแดน (เนชั่นแนลการ์ด) ที่เคยไปประจำการในอัฟกานิสถาน อิรัก และกวนตานาโม ว่า เป็นคนทรหด ฉลาด และเชื่อมั่นในนโยบายอเมริกาต้องมาก่อนอย่างแท้จริง และสำทับว่า เฮกเซธจะทำให้กองทัพอเมริกันกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง . คาดหมายกันว่า หากได้รับการรับรองจากวุฒิสมาชิก เฮกเซธจะเป็นอาวุธชั้นดีในการกำจัดบรรดานายพลที่ทรัมป์กล่าวหาว่า ปฏิบัติตามนโยบายเชิงก้าวหน้าด้านความหลากหลายในกองทัพ เป็นต้นว่า การยอมรับชาวเกย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกอนุรักษนิยมคัดค้าน รวมทั้งยังอาจปะทะกับพลอากาศเอกซี.คิว. บราวน์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯคนปัจจุบัน ที่เฮกเซธกล่าวหาว่า รับนโยบายมาจากนักการเมืองฝ่ายซ้าย . ทั้งนี้ ภายในเพนตากอนกำลังกังวลว่า ทรัมป์ต้องการขุดรากถอนโคนนายทหารและข้าราชการพลเรือนที่เขามองว่าทรยศต่อตัวเขา โดยเมื่อเดือนมิถุนายน เขาให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า จะไล่นายพลที่ “ตื่นรู้” ซึ่งหมายถึงผู้ที่พุ่งความสนใจที่ความยุติธรรมด้านเชื้อชาติและสังคม ทว่า คำนี้ถูกพวกอนุรักษนิยมนำมาใช้เพื่อใส่ร้ายนโยบายเชิงก้าวหน้า . นอกจากนั้นเฮกเซธยังโจมตีชาติพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ว่าอ่อนแอ รวมทั้งชี้ว่า จีนกำลังจะครอบงำประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109487 .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1698 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แต่งตั้งจอห์น แรตคลิฟฟ์ อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (former Director of National Intelligence) เป็นผู้อำนวยการซีไอเอ (CIA) คนใหม่

    จอห์น แรตคลิฟฟ์ (John Ratcliffe) "สายเหยี่ยวสุดโต่งผู้ต่อต้านจีนและอิหร่าน" กลายเป็นบุคคลแรกของอเมริกาที่เป็นผู้นำหน่วยข่าวกรองชั้นนำของประเทศทั้งสองแห่ง!

    จอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้ได้รับเลือกเป็นผู้อำนวยการซีไอเอของทรัมป์ คือคนที่กล่าวหาอิหร่านอย่างตรงไปตรงมาว่า "ก่อสงคราม" ต่อสหรัฐฯ และวางแผนลอบสังหารทรัมป์ แรตคลิฟฟ์ยังกล่าวอีกว่าควรเข้าร่วมกับอิสราเอลในการโจมตีอิหร่านให้สิ้นซาก

    เขายังกล่าวโจมตีว่าจีนเป็น "ภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยและเสรีภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง และต้องการให้ทรัมป์ใช้มาตรการที่แข็งกร้าวกับจีน โดยกำหนดภาษีสินค้าจีนในระดับสูงสุด

    นอกจากนี้ แรตคลิฟฟ์ ยังเป็นผู้สนับสนุนตัวยงให้ใช้กฎหมาย FISA หรือ Foreign Intelligence Surveillance Act ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับการเฝ้าติดตามข่าวกรองต่างประเทศ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากศาล กฎหมายฉบับนี้ถูกต่อต้านจากประชาชนชาวสหรัฐ เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิพลเมืองอเมริกันจากการถูกเฝ้าติดตามโดยหน่วยงานรัฐ



    ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แต่งตั้งจอห์น แรตคลิฟฟ์ อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (former Director of National Intelligence) เป็นผู้อำนวยการซีไอเอ (CIA) คนใหม่ จอห์น แรตคลิฟฟ์ (John Ratcliffe) "สายเหยี่ยวสุดโต่งผู้ต่อต้านจีนและอิหร่าน" กลายเป็นบุคคลแรกของอเมริกาที่เป็นผู้นำหน่วยข่าวกรองชั้นนำของประเทศทั้งสองแห่ง! จอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้ได้รับเลือกเป็นผู้อำนวยการซีไอเอของทรัมป์ คือคนที่กล่าวหาอิหร่านอย่างตรงไปตรงมาว่า "ก่อสงคราม" ต่อสหรัฐฯ และวางแผนลอบสังหารทรัมป์ แรตคลิฟฟ์ยังกล่าวอีกว่าควรเข้าร่วมกับอิสราเอลในการโจมตีอิหร่านให้สิ้นซาก เขายังกล่าวโจมตีว่าจีนเป็น "ภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยและเสรีภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง และต้องการให้ทรัมป์ใช้มาตรการที่แข็งกร้าวกับจีน โดยกำหนดภาษีสินค้าจีนในระดับสูงสุด นอกจากนี้ แรตคลิฟฟ์ ยังเป็นผู้สนับสนุนตัวยงให้ใช้กฎหมาย FISA หรือ Foreign Intelligence Surveillance Act ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับการเฝ้าติดตามข่าวกรองต่างประเทศ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากศาล กฎหมายฉบับนี้ถูกต่อต้านจากประชาชนชาวสหรัฐ เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิพลเมืองอเมริกันจากการถูกเฝ้าติดตามโดยหน่วยงานรัฐ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชนะ. ตัวเลือกอันดับหนึ่งของประธานาธิบดีทรัมป์สำหรับตำแหน่งผู้อำนวยการซีไอเอคือ Kash Patel

    เขาต้องการเปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับ JFK และเหตุการณ์ 9/11, Book of Blackmail ของ Jeffrey Epstein, เอกสาร Russia Gate และความจริงเกี่ยวกับผู้วางระเบิดท่อ J6 ในทันที
    .
    WINNING. President Trump’s TOP CHOICE for CIA Director is Kash Patel.

    He wants to IMMEDIATELY release files about JFK and 9/11, Jeffrey Epstein's Book of Blackmail, the Russia Gate files, and the truth about the J6 pipe bomber.
    .
    7:43 AM · Nov 12, 2024 · 1.7M Views
    https://x.com/liz_churchill10/status/1856135652204519752
    ชนะ. ตัวเลือกอันดับหนึ่งของประธานาธิบดีทรัมป์สำหรับตำแหน่งผู้อำนวยการซีไอเอคือ Kash Patel เขาต้องการเปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับ JFK และเหตุการณ์ 9/11, Book of Blackmail ของ Jeffrey Epstein, เอกสาร Russia Gate และความจริงเกี่ยวกับผู้วางระเบิดท่อ J6 ในทันที . WINNING. President Trump’s TOP CHOICE for CIA Director is Kash Patel. He wants to IMMEDIATELY release files about JFK and 9/11, Jeffrey Epstein's Book of Blackmail, the Russia Gate files, and the truth about the J6 pipe bomber. . 7:43 AM · Nov 12, 2024 · 1.7M Views https://x.com/liz_churchill10/status/1856135652204519752
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้แต่ไบเดนยังสนับสนุนทรัมป์ในตอนท้าย... ตอนนี้ถึงเวลาทิ้งขยะแล้ว...

    เจ้าหน้าที่รัฐลึกทุกคนที่เกี่ยวข้องกับวาระสงครามโลกครั้งที่ 3 แผนก่อการร้าย หรือแม้แต่ความพยายามลอบสังหารทรัมป์ จะต้องถูกกำจัดทันที... ซีไอเอ เอฟบีไอ เอ็นเอสเอ เพนตากอน ดีเอชเอส ต้องถูกกำจัดทั้งหมด... รวมถึงผู้สนับสนุนพลเรือนอย่างเช่น บิล โอบามา และฮิลลารี...
    แม้แต่ไบเดนยังสนับสนุนทรัมป์ในตอนท้าย... ตอนนี้ถึงเวลาทิ้งขยะแล้ว... เจ้าหน้าที่รัฐลึกทุกคนที่เกี่ยวข้องกับวาระสงครามโลกครั้งที่ 3 แผนก่อการร้าย หรือแม้แต่ความพยายามลอบสังหารทรัมป์ จะต้องถูกกำจัดทันที... ซีไอเอ เอฟบีไอ เอ็นเอสเอ เพนตากอน ดีเอชเอส ต้องถูกกำจัดทั้งหมด... รวมถึงผู้สนับสนุนพลเรือนอย่างเช่น บิล โอบามา และฮิลลารี...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดร.ไมเคิล เชอเออร์ อดีตหัวหน้าสถานีข่าวกรองบินลาเดนของซีไอเอ เปิดเผยถึงแผนลอบสังหารทรัมป์ของอิหร่าน ซึ่งถูกกล่าวหาว่าใช้เพื่อสร้างความยินยอมในการทำสงครามกับอิหร่าน
    ดร.ไมเคิล เชอเออร์ อดีตหัวหน้าสถานีข่าวกรองบินลาเดนของซีไอเอ เปิดเผยถึงแผนลอบสังหารทรัมป์ของอิหร่าน ซึ่งถูกกล่าวหาว่าใช้เพื่อสร้างความยินยอมในการทำสงครามกับอิหร่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 62 0 รีวิว
  • 📌สหรัฐฯยังคงควบคุมอิสราเอลต่อไป แม้จะทำผิดก็ตาม📌

    อิหร่านยิงขีปนาวุธอย่างน้อย ๑๘๐ ลูก เข้าไปในอิสราเอลเมื่อวันอังคาร ขณะที่ภูมิภาคนี้กำลังเข้าสู่ภาวะตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนอาจส่งผลให้ตะวันออกกลางเข้าสู่สงครามที่กว้างขึ้น ตามรายงานระบุว่า, ชาวอิสราเอล “รีบหาที่หลบภัยขณะที่เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นและแสงสีส้มของขีปนาวุธพุ่งผ่านท้องฟ้า,” หลังจากที่อิหร่านยิงขีปนาวุธตอบโต้

    💬 “ผมคิดว่ากลยุทธ์ของอิสราเอลในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาคือการพยายามดึงสหรัฐฯ เข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรงมากขึ้นในฝั่งของอิสราเอล [ประธานาธิบดีมาซูด] เปเซชเคียนและรัฐบาลอิหร่านได้แสดงให้เห็นถึงความอดกลั้นอย่างยิ่ง ความอดกลั้นอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับการโจมตีโดยตรงจากอิสราเอล,” จอห์น คิริอากู, อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอและผู้ร่วมดำเนินรายการ Sputnik’s Political Misfits, กล่าวกับ Sputnik’s Fault Lines

    อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอกล่าวเสริมว่ารัฐบาลอิหร่านอยู่ภายใต้ “แรงกดดันอย่างหนัก” จากประชาชนให้ดำเนินการเมื่อเผชิญกับความรุนแรงของอิสราเอล, ซึ่งเราต้องเริ่มคิดว่า “ปลอดภัยสำหรับรัฐบาลอิหร่าน” หรือไม่ที่จะไม่ตอบโต้

    💬 “ขอพูดให้ชัดเจนว่า, [สหรัฐฯ] พูดจากทั้งสองด้าน สหรัฐฯบอกว่าต้องการหยุดยิง, แต่, ในทางกลับกัน, สหรัฐฯยังคงให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุน, และมีการอ้างอื่นๆจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าสหรัฐฯจะสนับสนุนอิสราเอลหากอิสราเอลเข้าไปในเลบานอน,” ไมเคิล มาลูฟ อดีตนักวิเคราะห์นโยบายความมั่นคงอาวุโสในสำนักงานรัฐมนตรีกลาโหม, ซึ่งให้สัมภาษณ์กับ Fault Lines อีกด้วย กล่าวเสริม

    💬 “อิสราเอลเพิกเฉยต่อคำเตือนของสหรัฐฯทั้งหมด, และพวกเขารู้ดีว่า สหรัฐฯจะไม่ทำอะไรเลย,” มาลูฟกล่าวเสริม
    .
    US continues to hand-hold Israel despite its wrongdoings

    Iran launched at least 180 missiles into Israel on Tuesday as the region has entered a growing escalation that is threatening to push the Middle East into a wider war. According to reports, Israelis “scrambled for bomb shelters as air raid sirens sounded and the orange glow of missiles streaked across the sky," following Iran's retaliatory missile launch.

    💬 “I think that the strategy on the part of the Israelis for the past many months has been to try to draw the US more directly into the conflict on Israel's side. [President Masoud] Pezeshkian and the Iranian government have shown great restraint. Great restraint in the face of direct attacks from the Israelis,” John Kiriakou, a former CIA officer and co-host of Sputnik’s Political Misfits, told Sputnik’s Fault Lines.

    The former CIA officer added that the Iranian government is under “great pressure” from its public to act in the face of Israel's violence, where one has to start thinking about whether or not it’s “safe for the Iranian government" not to respond.

    💬 “Let's be clear, [the US] speak out of both ends of their mouth. The US says it wants a ceasefire, but, on the other hand, it continues providing the assistance and backing, and with other claims made by US officials that they will back Israel should it go into Lebanon,” added Michael Maloof, a former senior security policy analyst in the Office of the Secretary of Defense, who also spoke to Fault Lines.

    💬 “The Israelis are ignoring all cautionaries from the US, and they know that the United States will do nothing,” Maloof added.
    .
    11:46 AM · Oct 4, 2024 · 3,009 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1842063800360489097
    📌สหรัฐฯยังคงควบคุมอิสราเอลต่อไป แม้จะทำผิดก็ตาม📌 อิหร่านยิงขีปนาวุธอย่างน้อย ๑๘๐ ลูก เข้าไปในอิสราเอลเมื่อวันอังคาร ขณะที่ภูมิภาคนี้กำลังเข้าสู่ภาวะตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนอาจส่งผลให้ตะวันออกกลางเข้าสู่สงครามที่กว้างขึ้น ตามรายงานระบุว่า, ชาวอิสราเอล “รีบหาที่หลบภัยขณะที่เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นและแสงสีส้มของขีปนาวุธพุ่งผ่านท้องฟ้า,” หลังจากที่อิหร่านยิงขีปนาวุธตอบโต้ 💬 “ผมคิดว่ากลยุทธ์ของอิสราเอลในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาคือการพยายามดึงสหรัฐฯ เข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรงมากขึ้นในฝั่งของอิสราเอล [ประธานาธิบดีมาซูด] เปเซชเคียนและรัฐบาลอิหร่านได้แสดงให้เห็นถึงความอดกลั้นอย่างยิ่ง ความอดกลั้นอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับการโจมตีโดยตรงจากอิสราเอล,” จอห์น คิริอากู, อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอและผู้ร่วมดำเนินรายการ Sputnik’s Political Misfits, กล่าวกับ Sputnik’s Fault Lines อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอกล่าวเสริมว่ารัฐบาลอิหร่านอยู่ภายใต้ “แรงกดดันอย่างหนัก” จากประชาชนให้ดำเนินการเมื่อเผชิญกับความรุนแรงของอิสราเอล, ซึ่งเราต้องเริ่มคิดว่า “ปลอดภัยสำหรับรัฐบาลอิหร่าน” หรือไม่ที่จะไม่ตอบโต้ 💬 “ขอพูดให้ชัดเจนว่า, [สหรัฐฯ] พูดจากทั้งสองด้าน สหรัฐฯบอกว่าต้องการหยุดยิง, แต่, ในทางกลับกัน, สหรัฐฯยังคงให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุน, และมีการอ้างอื่นๆจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าสหรัฐฯจะสนับสนุนอิสราเอลหากอิสราเอลเข้าไปในเลบานอน,” ไมเคิล มาลูฟ อดีตนักวิเคราะห์นโยบายความมั่นคงอาวุโสในสำนักงานรัฐมนตรีกลาโหม, ซึ่งให้สัมภาษณ์กับ Fault Lines อีกด้วย กล่าวเสริม 💬 “อิสราเอลเพิกเฉยต่อคำเตือนของสหรัฐฯทั้งหมด, และพวกเขารู้ดีว่า สหรัฐฯจะไม่ทำอะไรเลย,” มาลูฟกล่าวเสริม . US continues to hand-hold Israel despite its wrongdoings Iran launched at least 180 missiles into Israel on Tuesday as the region has entered a growing escalation that is threatening to push the Middle East into a wider war. According to reports, Israelis “scrambled for bomb shelters as air raid sirens sounded and the orange glow of missiles streaked across the sky," following Iran's retaliatory missile launch. 💬 “I think that the strategy on the part of the Israelis for the past many months has been to try to draw the US more directly into the conflict on Israel's side. [President Masoud] Pezeshkian and the Iranian government have shown great restraint. Great restraint in the face of direct attacks from the Israelis,” John Kiriakou, a former CIA officer and co-host of Sputnik’s Political Misfits, told Sputnik’s Fault Lines. The former CIA officer added that the Iranian government is under “great pressure” from its public to act in the face of Israel's violence, where one has to start thinking about whether or not it’s “safe for the Iranian government" not to respond. 💬 “Let's be clear, [the US] speak out of both ends of their mouth. The US says it wants a ceasefire, but, on the other hand, it continues providing the assistance and backing, and with other claims made by US officials that they will back Israel should it go into Lebanon,” added Michael Maloof, a former senior security policy analyst in the Office of the Secretary of Defense, who also spoke to Fault Lines. 💬 “The Israelis are ignoring all cautionaries from the US, and they know that the United States will do nothing,” Maloof added. . 11:46 AM · Oct 4, 2024 · 3,009 Views https://x.com/SputnikInt/status/1842063800360489097
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตหัวหน้าเอฟบีไอยืนยันว่า เหตุการณ์ ๙/๑๑ ถูกกำหนดขึ้นโดยรัฐบาลสหรัฐฯในระดับสูงสุด เหตุระเบิดที่เมืองโอคลาโฮมา, การลอบสังหาร จอห์น เอฟ. เคนเนดี, การลอบสังหาร โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี, เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ และการค้าประเวณีเด็กโดยกองทหาร, ซีไอเอ และนักการเมือง
    .
    Former Head of the FBI confirms that 9/11 was orchestrated at the highest level by the U.S. Government. Oklahoma city bombing, JFK, RFK assassinations, World Trade Center and Child Sex Trafficking by the Military, CIA and Politicians.
    .
    4:37 AM · Sep 30, 2024 · 294.7K Views
    https://x.com/iluminatibot/status/1840506304042795437
    อดีตหัวหน้าเอฟบีไอยืนยันว่า เหตุการณ์ ๙/๑๑ ถูกกำหนดขึ้นโดยรัฐบาลสหรัฐฯในระดับสูงสุด เหตุระเบิดที่เมืองโอคลาโฮมา, การลอบสังหาร จอห์น เอฟ. เคนเนดี, การลอบสังหาร โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี, เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ และการค้าประเวณีเด็กโดยกองทหาร, ซีไอเอ และนักการเมือง . Former Head of the FBI confirms that 9/11 was orchestrated at the highest level by the U.S. Government. Oklahoma city bombing, JFK, RFK assassinations, World Trade Center and Child Sex Trafficking by the Military, CIA and Politicians. . 4:37 AM · Sep 30, 2024 · 294.7K Views https://x.com/iluminatibot/status/1840506304042795437
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปิดตำนาน 20 ปี บัตรสมาร์ทเพิร์ส

    ในขณะที่คนไทยกำลังตื่นเต้น ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 480 สาขา สแกนจ่ายผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร ผ่านบริการมายพร้อมคิวอาร์ (MyPromptQR) เฉพาะบางธนาคาร แต่อีกด้านหนึ่ง บัตรเซเว่นการ์ด (7-Card) ซึ่งเป็นบัตรสมาร์ทเพิร์สรุ่นสุดท้าย จะยกเลิกให้บริการ โดยปิดระบบเติมเงินในวันที่ 1 ม.ค. 2568 และสมาชิกสามารถใช้เงินภายในบัตรได้ถึง 31 ม.ค. 2568

    หลังจากนั้นจะไม่สามารถใช้งานบัตรได้ สมาชิกต้องลงทะเบียนขอรับเงินคืน และนำบัตร 7-Card ที่ทำลายแล้วพร้อมสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาสมุดบัญชีส่งทางไปรษณีย์ หากไม่ดำเนินการในอีก 120 วันจะหักแต้ม และหักค่ารักษาบัญชีจนหมด

    บัตรสมาร์ทเพิร์ส เริ่มให้บริการเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2548 โดยใช้ชื่อว่า "บัตรเชื่อมรัก" ของเคาน์เตอร์เซอร์วิส ใช้สำหรับส่งและรับเงินระหว่างกันที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่เข้าร่วมโครงการ 1,000 สาขา ตลอด 24 ชั่วโมง คิดค่าบริการครั้งละ 20 บาท

    กระทั่งวันที่ 15 ธ.ค. 2548 จึงได้เริ่มให้บริการบัตรสมาร์ทเพิร์ส นำร่องร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 1,500 สาขา ก่อนทยอยเปิดครบทุกสาขาในปี 2549 โดยบัตรจำหน่ายราคาใบละ 250 บาท เติมเงินขั้นต่ำ 50 บาท สูงสุด 10,000 บาท ผ่านไปปีแรก ในปี 2549 มีผู้ถือบัตรมากถึง 1.1 ล้านใบ และร้านค้ารับบัตร 7,000 แห่ง

    นอกจากนี้ ยังมีบัตรโคแบรนด์ที่ออกร่วมกับภาคเอกชน ร้านค้า สถานศึกษา มากกว่า 100 องค์กร และยังมีบัตรที่ออกร่วมกับธนาคาร เช่น บัตรเอทีเอ็มซีไอเอ็มบีไทย สมาร์ทพอยต์ ร่วมกับธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บัตรเค-เดบิต เซเว่นพอยต์ ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย แต่เป็นไปในลักษณะแยกกันคนละกระเป๋าเงิน ได้แก่ กระเป๋าเงินสมาร์ทเพิร์ส กับบัญชีธนาคาร

    กระทั่งเปิดตัวบัตรสมาชิก All Member ไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2562 จังหวะนั้นเอง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ก็เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จํากัด จากผู้ถือหุ้นอื่นทุกราย เพื่อย้ายฐานสมาชิกบัตร 7-Card ไปเป็น ALL Member

    อิทธิพลของดิจิทัลดิสรัปชัน โดยเฉพาะโมบายเพย์เมนต์ อีกทั้งร้านค้าต่างทยอยยกเลิกรับบัตรสมาร์ทเพิร์ส เหลือร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่ยังรับบัตรอยู่ ขณะนั้นมีฐานสมาชิกบัตรที่ยังไม่หมดอายุกว่า 3 ล้านใบ และมีบัตรที่ใช้งานต่อเนื่อง 1.5 ล้านใบต่อเดือน

    แต่ระหว่างนั้นเซเว่นอีเลฟเว่นหันมาทำการตลาดกับทรูมันนี่วอลเล็ต ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney และ 7-App แทน กระทั่งวันสุดท้ายของบัตรใบนี้ก็มาถึง

    นับเป็นการปิดตำนานบัตรที่ใช้จ่ายแทนเงินสดในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นอย่างถาวร หลังจากให้บริการมานาน 20 ปี

    #Newskit #SmartPurse #7Card
    ปิดตำนาน 20 ปี บัตรสมาร์ทเพิร์ส ในขณะที่คนไทยกำลังตื่นเต้น ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 480 สาขา สแกนจ่ายผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร ผ่านบริการมายพร้อมคิวอาร์ (MyPromptQR) เฉพาะบางธนาคาร แต่อีกด้านหนึ่ง บัตรเซเว่นการ์ด (7-Card) ซึ่งเป็นบัตรสมาร์ทเพิร์สรุ่นสุดท้าย จะยกเลิกให้บริการ โดยปิดระบบเติมเงินในวันที่ 1 ม.ค. 2568 และสมาชิกสามารถใช้เงินภายในบัตรได้ถึง 31 ม.ค. 2568 หลังจากนั้นจะไม่สามารถใช้งานบัตรได้ สมาชิกต้องลงทะเบียนขอรับเงินคืน และนำบัตร 7-Card ที่ทำลายแล้วพร้อมสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาสมุดบัญชีส่งทางไปรษณีย์ หากไม่ดำเนินการในอีก 120 วันจะหักแต้ม และหักค่ารักษาบัญชีจนหมด บัตรสมาร์ทเพิร์ส เริ่มให้บริการเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2548 โดยใช้ชื่อว่า "บัตรเชื่อมรัก" ของเคาน์เตอร์เซอร์วิส ใช้สำหรับส่งและรับเงินระหว่างกันที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่เข้าร่วมโครงการ 1,000 สาขา ตลอด 24 ชั่วโมง คิดค่าบริการครั้งละ 20 บาท กระทั่งวันที่ 15 ธ.ค. 2548 จึงได้เริ่มให้บริการบัตรสมาร์ทเพิร์ส นำร่องร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 1,500 สาขา ก่อนทยอยเปิดครบทุกสาขาในปี 2549 โดยบัตรจำหน่ายราคาใบละ 250 บาท เติมเงินขั้นต่ำ 50 บาท สูงสุด 10,000 บาท ผ่านไปปีแรก ในปี 2549 มีผู้ถือบัตรมากถึง 1.1 ล้านใบ และร้านค้ารับบัตร 7,000 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีบัตรโคแบรนด์ที่ออกร่วมกับภาคเอกชน ร้านค้า สถานศึกษา มากกว่า 100 องค์กร และยังมีบัตรที่ออกร่วมกับธนาคาร เช่น บัตรเอทีเอ็มซีไอเอ็มบีไทย สมาร์ทพอยต์ ร่วมกับธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บัตรเค-เดบิต เซเว่นพอยต์ ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย แต่เป็นไปในลักษณะแยกกันคนละกระเป๋าเงิน ได้แก่ กระเป๋าเงินสมาร์ทเพิร์ส กับบัญชีธนาคาร กระทั่งเปิดตัวบัตรสมาชิก All Member ไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2562 จังหวะนั้นเอง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ก็เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จํากัด จากผู้ถือหุ้นอื่นทุกราย เพื่อย้ายฐานสมาชิกบัตร 7-Card ไปเป็น ALL Member อิทธิพลของดิจิทัลดิสรัปชัน โดยเฉพาะโมบายเพย์เมนต์ อีกทั้งร้านค้าต่างทยอยยกเลิกรับบัตรสมาร์ทเพิร์ส เหลือร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่ยังรับบัตรอยู่ ขณะนั้นมีฐานสมาชิกบัตรที่ยังไม่หมดอายุกว่า 3 ล้านใบ และมีบัตรที่ใช้งานต่อเนื่อง 1.5 ล้านใบต่อเดือน แต่ระหว่างนั้นเซเว่นอีเลฟเว่นหันมาทำการตลาดกับทรูมันนี่วอลเล็ต ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney และ 7-App แทน กระทั่งวันสุดท้ายของบัตรใบนี้ก็มาถึง นับเป็นการปิดตำนานบัตรที่ใช้จ่ายแทนเงินสดในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นอย่างถาวร หลังจากให้บริการมานาน 20 ปี #Newskit #SmartPurse #7Card
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1084 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้นำที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในทรรศนะของซีไอเอ:

    ตอนนี้ เซเลนสกีสุดเศร้าครับ อเมริกาไม่อนุญาตให้ใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลยิงใส่รัสเซีย เพราะอเมริกากลัวรัสเซียจะอัดคืนมาก แต่อเมริกาก็ไม่อยากให้เซเลนสกีไปยอมแพ้และสวามิภักดิ์ต่อรัสเซีย เพราะเซเลนสกีอาจแฉความสกปรกของนาโต้ออกมาก็ได้

    เครือข่ายสื่อซีไอเอจึงมีการจัดเรตติ้งเอาใจเซเลนสกีสักหน่อย โดยระบุว่าเซเลนสกีคือผู้นำที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนภายในประเทศมากที่สุดในขณะนี้...โกหกทั้งนั้นครับ

    ดีไม่ดี เขาอาจได้รับการเสนอชื่อให้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพด้วยซ้ำ
    ความจริงแล้ว อันดับ ๑ คือรัสเซีย แต่นั่นแหละ จักรวรรดิ์นิยมอเมริกาเต็มไปด้วยผู้คนที่อิจฉาริษยาวลาดิเมียร์ ปูติน จึงจัดปูตินไว้อันดับ ๒ แทน อีกสักพัก อาจมีสื่อสากกะเบือไม่ออกดอกของไทยเอาข้อมูลนี้ไปเผยแพร่ตามสื่อของตนก็ได้

    จำเอาไว้ครับ เวลามีการจัดอันดับผู้นำการเมืองในประเทศต่างๆ มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองแอบแฝงทั้งนั้น

    World’s most popular leader (approval rating):

    🇺🇦 Volodymyr Zelensky: 91%
    🇷🇺 Vladimir Putin: 77.4%
    🇮🇳 Narendra Modi: 76%
    🇨🇭 Alain Berset: 66%
    🇲🇽 Andrés López: 61%
    🇦🇺 Anthony Albanese: 54%
    🇧🇷 Lula da Silva: 52%
    🇮🇹 Giorgia Meloni: 45%
    🇪🇸 Pedro Sánchez: 43%
    🇨🇦 Justin Trudeau: 41%
    🇺🇸 Joe Biden: 40%


    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    ผู้นำที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในทรรศนะของซีไอเอ: ตอนนี้ เซเลนสกีสุดเศร้าครับ อเมริกาไม่อนุญาตให้ใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลยิงใส่รัสเซีย เพราะอเมริกากลัวรัสเซียจะอัดคืนมาก แต่อเมริกาก็ไม่อยากให้เซเลนสกีไปยอมแพ้และสวามิภักดิ์ต่อรัสเซีย เพราะเซเลนสกีอาจแฉความสกปรกของนาโต้ออกมาก็ได้ เครือข่ายสื่อซีไอเอจึงมีการจัดเรตติ้งเอาใจเซเลนสกีสักหน่อย โดยระบุว่าเซเลนสกีคือผู้นำที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนภายในประเทศมากที่สุดในขณะนี้...โกหกทั้งนั้นครับ ดีไม่ดี เขาอาจได้รับการเสนอชื่อให้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพด้วยซ้ำ ความจริงแล้ว อันดับ ๑ คือรัสเซีย แต่นั่นแหละ จักรวรรดิ์นิยมอเมริกาเต็มไปด้วยผู้คนที่อิจฉาริษยาวลาดิเมียร์ ปูติน จึงจัดปูตินไว้อันดับ ๒ แทน อีกสักพัก อาจมีสื่อสากกะเบือไม่ออกดอกของไทยเอาข้อมูลนี้ไปเผยแพร่ตามสื่อของตนก็ได้ จำเอาไว้ครับ เวลามีการจัดอันดับผู้นำการเมืองในประเทศต่างๆ มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองแอบแฝงทั้งนั้น World’s most popular leader (approval rating): 🇺🇦 Volodymyr Zelensky: 91% 🇷🇺 Vladimir Putin: 77.4% 🇮🇳 Narendra Modi: 76% 🇨🇭 Alain Berset: 66% 🇲🇽 Andrés López: 61% 🇦🇺 Anthony Albanese: 54% 🇧🇷 Lula da Silva: 52% 🇮🇹 Giorgia Meloni: 45% 🇪🇸 Pedro Sánchez: 43% 🇨🇦 Justin Trudeau: 41% 🇺🇸 Joe Biden: 40% ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับกุมตัว 6 ผู้ต้องสงสัยชาวอเมริกัน ที่เป็นหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือสหรัฐฯหรือNavy Seal และซีไอเอของสเปนกับเช็กเข้ามาวางแผนจะลอบสังหารประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซูเอลา

    15 กันยายน2567-รายงานข่าวเอพีระบุว่า ดีโอสดาโด กาเบญโญ รัฐมนตรีมหาดไทยของเวเนซุเอลา แถลงข่าวทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐว่า ทางการจับกุมชาวอเมริกัน 3 คน ชาวสเปน 2 คน และชาวสาธารณรัฐเช็ก 1 คนเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น (14 ก.ย.) ที่เดินทางเข้าประเทศหวังลอบสังหารประธานาธิบดี โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่นำโดยสำนักข่าวกรองกลาง หรือซีไอเอ ของสหรัฐฯ ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลเวเนซุเอลา และสังหารแกนนำรัฐบาลหลายคน รัฐมนตรีมหาดไทยกาเบญโญได้เปิดเผยภาพปืนยาวหลายกระบอกที่อ้างว่ายึดได้จากผู้วางแผนบางคน และระบุว่าหนึ่งในชาวอเมริกันที่ถูกจับกุมเป็นหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือสหรัฐฯ หรือNavy Seal ที่เคยปฏิบัติภารกิจในอัฟกานิสถาน อิรักและโคลอมเบีย

    ทางด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงในวันเดียวกันว่า มีทหารอเมริกันถูกเวเนซุเอลาจับกุม 1 นาย และได้รับรายงานข่าวที่ไม่ยืนยันว่า มีชาวอเมริกัน 2 คนถูกจับกุมด้วย พร้อมกับปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องสหรัฐฯ พัวพันกับแผนการโค่นล้มนายมาดูโรว่าเป็นเรื่องเท็จอย่างแท้จริง เพราะสหรัฐฯ ยังคงสนับสนุนให้ใช้หนทางประชาธิปไตยในการแก้ไขวิกฤตทางการเมืองในเวเนซุเอลา

    ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสเปนระบุในแถลงการณ์ว่า ได้ติดต่อไปยังรัฐบาลเวเนซุเอลาเพื่อขอคำชี้แจงในเรื่องนี้ เพราะมีพลเมืองสเปนถูกควบคุมตัว 2 คน และต้องการทราบรูปพรรณรวมถึงสถานที่จับกุมชาวสเปนทั้ง 2 คน สื่อสเปนรายงานว่า พลเมืองสเปนทั้ง 2 คนถูกควบคุมตัวในเมืองปวยโต อายาชูโช และเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองสเปน ซึ่งรัฐบาลสเปนปฏิเสธในเรื่องนี้

    เวเนซุเอลาประกาศข่าวจับกุมชาวต่างชาติ หลังจากกระทรวงคลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการลงโทษพันธมิตร 16 คนของผู้นำเวเนซุเอลาได้เพียง 2 วัน โทษฐานขัดขวางการลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซุเอลาเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม และละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะที่รัฐสภาสเปนประกาศรับรอง เอ็ดมุนโด กอนซาเลซ ผู้สมัครฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ว่าเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งกอนซาเลซได้เดินทางออกจากเวเนซุเอลาเข้าไปลี้ภัยการเมืองในสเปนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    https://apnews.com/article/696768e00bf22f5747062a4a8b662fcc

    #Thaitimes
    จับกุมตัว 6 ผู้ต้องสงสัยชาวอเมริกัน ที่เป็นหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือสหรัฐฯหรือNavy Seal และซีไอเอของสเปนกับเช็กเข้ามาวางแผนจะลอบสังหารประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซูเอลา 15 กันยายน2567-รายงานข่าวเอพีระบุว่า ดีโอสดาโด กาเบญโญ รัฐมนตรีมหาดไทยของเวเนซุเอลา แถลงข่าวทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐว่า ทางการจับกุมชาวอเมริกัน 3 คน ชาวสเปน 2 คน และชาวสาธารณรัฐเช็ก 1 คนเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น (14 ก.ย.) ที่เดินทางเข้าประเทศหวังลอบสังหารประธานาธิบดี โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่นำโดยสำนักข่าวกรองกลาง หรือซีไอเอ ของสหรัฐฯ ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลเวเนซุเอลา และสังหารแกนนำรัฐบาลหลายคน รัฐมนตรีมหาดไทยกาเบญโญได้เปิดเผยภาพปืนยาวหลายกระบอกที่อ้างว่ายึดได้จากผู้วางแผนบางคน และระบุว่าหนึ่งในชาวอเมริกันที่ถูกจับกุมเป็นหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือสหรัฐฯ หรือNavy Seal ที่เคยปฏิบัติภารกิจในอัฟกานิสถาน อิรักและโคลอมเบีย ทางด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงในวันเดียวกันว่า มีทหารอเมริกันถูกเวเนซุเอลาจับกุม 1 นาย และได้รับรายงานข่าวที่ไม่ยืนยันว่า มีชาวอเมริกัน 2 คนถูกจับกุมด้วย พร้อมกับปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องสหรัฐฯ พัวพันกับแผนการโค่นล้มนายมาดูโรว่าเป็นเรื่องเท็จอย่างแท้จริง เพราะสหรัฐฯ ยังคงสนับสนุนให้ใช้หนทางประชาธิปไตยในการแก้ไขวิกฤตทางการเมืองในเวเนซุเอลา ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสเปนระบุในแถลงการณ์ว่า ได้ติดต่อไปยังรัฐบาลเวเนซุเอลาเพื่อขอคำชี้แจงในเรื่องนี้ เพราะมีพลเมืองสเปนถูกควบคุมตัว 2 คน และต้องการทราบรูปพรรณรวมถึงสถานที่จับกุมชาวสเปนทั้ง 2 คน สื่อสเปนรายงานว่า พลเมืองสเปนทั้ง 2 คนถูกควบคุมตัวในเมืองปวยโต อายาชูโช และเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองสเปน ซึ่งรัฐบาลสเปนปฏิเสธในเรื่องนี้ เวเนซุเอลาประกาศข่าวจับกุมชาวต่างชาติ หลังจากกระทรวงคลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการลงโทษพันธมิตร 16 คนของผู้นำเวเนซุเอลาได้เพียง 2 วัน โทษฐานขัดขวางการลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซุเอลาเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม และละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะที่รัฐสภาสเปนประกาศรับรอง เอ็ดมุนโด กอนซาเลซ ผู้สมัครฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ว่าเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งกอนซาเลซได้เดินทางออกจากเวเนซุเอลาเข้าไปลี้ภัยการเมืองในสเปนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว https://apnews.com/article/696768e00bf22f5747062a4a8b662fcc #Thaitimes
    APNEWS.COM
    Venezuela says it arrested 6 foreigners allegedly involved in a plot to kill President Maduro
    Venezuelan officials say they've arrested six foreign nationals, including three Americans, accusing them of plotting to assassinate President Nicolas Maduro.
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 720 มุมมอง 0 รีวิว
  • พากันจูงมือเข้าอ่านริ้วววว………พี่ปูเขากำลังจะรุ่งในสายการเมืองแล้ววว………!!!!

    ตอนห้า…..เมื่อราศีจับ……อะไรๆก็ฉุดไม่อยู่……!!!

    เท่ากับว่า ตอนนี้ปูตินมีสองร่างในบุคคลคนเดียวกัน เขาได้มาเป็นที่ปรึกษาให้กับอนาโตลี แต่ยังคงนั่งทำงานประจำที่มหาวิทยาลัย
    ส่วนที่สำนักงาน KGB. เขาจะแวะเข้าไปเป็นครั้งเป็นคราว
    จนวันหนึ่งในช่วงปลายปี 1990 ที่มีคณาจารย์จาก Saint Petersburg University จาก Florida, USA ได้เข้ามาเยี่ยมเยียนมหาวิทยาลัย
    ในเลนินกราด ในโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และแบบแผนการศึกษา
    ตัวผู้ก่อตั้งซึ่งเป็นอธิการบดี Dr. Carl M. Kuttler jr. ได้เดินทางมาด้วย
    ผู้ที่ทำหน้าที่ต้อนรับ คือ วลาดิเมียร์ ปูติน ที่เป็นผู้ประสานงานทุกอย่าง
    ตั้งแต่ชมมหาวิทยาลัย ไปเที่ยวนอกเมือง ซึ่งตอนนั้นเป็นภาวะที่น้ำมันขาดแคลนในโซเวียต
    รถลีมูซีนของท่านอธิการบดี เกิดน้ำมันหมด……ปูตินสามารถสั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐนำน้ำมันมาเติมให้ถึงที่ได้ด้วย
    คาร์ลจึงแปลกใจมาก……เขาแทบไม่เชื่อว่าคณบดีธรรมดาๆ คนนี้ สามารถตอบคำถามได้หมด ตั้งแต่เรื่องการเมือง เศรษฐกิจ และการต่างประเทศ
    ซ้ำยังเรียกหน่วยงานมาจัดการเรื่องเส้นทางและน้ำมันให้ได้อีก
    ทุกอย่างได้เป็นไปอย่างเรียบร้อย ตลอดทั้งสิบวัน……

    ในคืนเกือบสุดท้ายที่คณะจากอเมริกาจะจากไป มีการจัดเลี้ยงอำลา
    ปูตินจึงนำอนาโตลีไปแนะนำให้รู้จักในฐานะเจ้านาย และ ในฐานะของนายกเทศมนตรีของเมือง
    ระหว่างการสนทนา คาร์ลได้เชื้อเชิญให้อนาโตลีไปเยี่ยมเยียนที่อเมริกาบ้าง
    แต่อนาโตลี คือชาวรัสเชี่ยนแท้ๆ ที่ปากกับใจตรงกัน ได้ตอบกลับไปว่า
    “พวกเราไม่มีทุนรอนขนาดนั้น มันไกลเกินฝัน…”
    คาร์ลก็เป็นอเมริกันสายป๋า……เขาตอบทันทีว่า
    “งั้นผมจะลองไปจัดการหาสปอนเซอร์ให้เอง……โปรดอย่าเป็นกังวล”

    ในที่สุด อนาโตลีและคณะก็ได้ไปเยือนอเมริกาสมใจ ด้วยทุนของ Procter & Gamble และได้เข้าพบกับประธานาธิบดี George H.W. Bush
    เขาได้ดูงานเทศบาลของเมือง Saint Petersburg, Florida **ที่มีนโยบายเข้มโดยไม่มีการอนุญาตให้ตัดต้นไม้ใดๆได้ จนกว่าจะได้รับการอนุมัติจากทางการ
    เมื่ออนาโตลีกลับมาถึงโซเวียต สิ่งแรกที่เขาทำคือ ทำการบรรจุปูตินในทีมงานอย่างเป็นทางการ จากความดีความชอบที่สามารถเชื่อมโยงจนได้ไปอเมริกา
    การทำงานกับอนาโตลี……ปูตินเริ่มมองเห็นอะไรอีกด้านหนึ่งที่เขาไม่ได้มองมาก่อน เช่น เรื่องความเสมอภาค ที่อนาโตลีมักพูดเสมอว่า
    “เราคุ้นเคยกับความรุนแรงมาตั้งแต่เกิด จนเห็นเป็นเรื่องปรกติ เราต้องอยู่อย่างหวาดกลัว ระแวง กับการที่จะมีคนมาคอยจ้องจับ นั่นมันไม่ใช่วิสัยการเป็นอยู่ของมนุษยชน”
    หรือ “ เราไม่จำเป็นต้องไปฆ่าฟันผู้คนกลุ่มหนึ่งให้ตาย
    เพื่อสนองตัญหาของคนอีกกลุ่มหนึ่ง……”

    เขาทั้งสองคนมีความแตกต่างกันอย่างสุดโต่ง อายุต่างกัน (12 ปี)
    นิสัยต่างกัน คนหนึ่งรื่นเริง หัวเราะง่าย อารมณ์ดี
    อีกคนหนึ่ง หน้าเครียด ยิ้มยาก ระวังตัวตลอดเวลา
    แต่อนาโตลี……พยายามผลักดันปูตินให้เข้ามาในวงจรของความคิดใหม่
    ปูตินแยกแยะเรื่องงานได้ดี เขาไม่เคยเออออห่อหมกกับทัศนคติของอนาโตลีที่มีต่อโซเวียต เพราะเขายังเป็น KGB ที่ยังต้องซื่อสัตย์กับงาน
    และเขาได้เห็นว่า งานเทศมนตรีที่อนาโตลีทำอยู่นั้น เป็นการเล่นการเมืองเสียส่วนใหญ่ งานด้านทำนุบำรุงประชาชนในส่วนสาธารณูปโภคมีน้อยมาก……

    ในปีนั้น ปี 1991 เศรษฐกิจของโซเวียตฝืดเคือง ข้าวของทุกอย่างหายไปตลาด ชั้นขายของว่างเปล่า อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน การประท้วงได้เกิดขึ้นตามชายขอบของประเทศ กอร์บาเชฟสั่งให้หน่วยทหารและ KGB เตรียมกำลังให้พร้อม เพื่อที่จะไปปราบม็อบ ผลจากการปะทะ ผู้ต่อต้านเสียชีวิตไป 14 คน
    ลิธัวเนีย…ประกาศท้าทายโซเวียตด้วยการจัดการลงคะแนนเสียงเพื่อขอเป็นอิสระ กอร์บาเชฟไม่ยอมรับมติของการลงคะแนน โดยอ้างว่าผิดกฎหมาย
    แต่กระแสเรียกร้อง เรียกหาความเป็นธรรมเริ่มหนาหูขึ้น

    เดือนเมยายน โซเวียต ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภา ที่มีทั้งฝ่ายคอมมิวนิสต์
    และฝ่ายสังคมนิยม ที่จะต้องชิงที่นั่งกัน ผลที่ได้คือ Boris Yelzin ได้ตำแหน่งประธานสภา อันเป็นที่ไม่พอใจกอร์บาเชฟเป็นอย่างยิ่ง
    เพราะคนละวิสัยทัศน์ และ เขาไม่เข้าใจเลยว่า คนที่ดื่มสุราจัด พูดไม่เป็นภาษามนุษย์ จะมาทำงานใหญ่ได้อย่างไร…
    แต่กระแสนิยมในตัวเยลซินกลับเพิ่มขึ้นทุกวัน จนบดบังรัศมี
    ของกอร์บาเชฟจนหมดสิ้น
    คอมมิวนิสต์อยู่ในกระแสขาลง ……ประชาชนฝ่ายใฝ่สังคมนิยมผสมประชาธิปไตยในสายงานของอนาโตลีทำการเรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อเมือง
    จากเลนินกราด……ให้กลับไปเป็นเหมือนก่อนเก่า คือ St. Petersburg ซึ่งได้รับเสียงตอบรับในสภาเกินครึ่ง
    ปูติน……วางตัวเงียบสงบ ตั้งแต่เขาได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในฐานะนักการเมือง เขาได้ลาออกจากการเป็นคณบดีที่มหาวิทยาลัย คอยเฝ้าดูสถานะการณ์ของพรรคการเมืองต่างๆที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เขาเป็นที่ไว้วางใจของอนาโตลี ถึงขนาดที่เซ็นลงในกระดาษเปล่าให้ปูตินเอาไว้เขียนสั่งงานแทน

    วันที่ 17 สิงหาคม 1991 ปูตินได้พาครอบครัวไปเที่ยววันหยุด
    ที่ฝั่งทะเลบอลติค อนาโตลีไปพักผ่อนที่กึ่งประชุมงานที่ลิธัวเนีย
    ไม่มีใครรู้ว่า วันต่อมา คือวันที่ 18 เป็นวันที่ Gorbachev, Yeltzin และผู้นำจาก Kazakhstan มีการประชุมลับกันในการที่จะปรับเปลี่ยนทอนอำนาจในเครมลิน
    แต่ความลับรั่ว……เพราะการประชุมไม่ได้เกิดขึ้น กอร์บาเชฟได้ถูกควบคุมตัวไปขังในบ้านพักตากอากาศของเขาเอง (house arrest) แบบปฏิวัติเงียบจากกลุ่มต่อต้านภายใน หนึ่งในทีมหัวหน้าปฏิบัติการ คือ Vladimir Kryuchkov ผู้อำนวยการใหญ่ KGB
    และจากนั้น……ทั้งประเทศตกอยู่ในการคุมเข้มของกฏอัยการศึก
    ปูตินทราบข่าวจากการประกาศฉุกเฉินทางโทรทัศน์
    อนาโตลี ทราบข่าวจากโทรศัพท์ที่ปลุกกลางดึก ทำให้เขาต้องรีบบินกลับพร้อมกับผู้ติดตามหนึ่งคน ซึ่งทางคณะประกอบการได้ส่งการ์ดพร้อมอาวุธไปเตรียมควบคุมตัวเขาถึงสามคน
    แต่เมื่อถึงสนามบิน การ์ดสามคนนั่น ไม่ได้ทำตามคำสั่ง แถมยังช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับอนาโตลีจนบินกลับถึงมอสโคว์ได้อย่างปลอดภัย

    ปูตินรีบกลับมา เพื่ออยู่ในทีมงานของอนาโตลี เพราะเขารู้สึกเอียนกับการยึดอำนาจแบบนี้ เพราะตลอดชีวิตของเขาก็เจอแต่เหตุการณ์แบบนี้ แล้วผลมันเป็นอย่างไรก็เห็นๆกันอยู่ว่าประเทศได้ย่ำเท้าถอยหลัง ทรุดโทรมลงไปทุกวัน
    เขาตัดสินใจเขียนใบลาออกจาก KGB หลังจากที่ 16 ปีที่ใช้ชีวิตในเส้นทางนั้น พอกันที…
    เป็นไปตามคาด……การปฏิวัติโดยฝ่ายทหารและ KGB ในครั้งนี้ ไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาด เพราะประชาชนไม่ยอมรับ

    เพียงแค่สองวัน กอร์บาเขฟก็ได้รับอิสรภาพออกมาจากบ้านพัก Boris Yeltzin ได้รับความนิยม
    อนาโตลีก็เช่นกัน เขากลายเป็นตัวแทนของความเป็นประชาธิปไตยในเลนินกราด ปูตินก็ถือเป็นโชคที่เข้าข้าง เพราะเขาตัดสินในเลือกถูกฝั่ง……เพราะถ้าเขายังอยู่ในราชการ แน่นอนว่า……เขาคงจบชีวิตราชการที่ศาลทหารอย่างเดียวกับ Vladimir Kryuchkov

    เขาควรจะดีใจ……แต่ตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุด ที่เห็นองค์กร KGB ที่เหมือนจิตวิญญาณศักดิศรีของลูกผู้ชายนั้นได้ล่มสลายไปต่อหน้าต่อตา……

    ตามคาดคือ Yeltzin ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีของรัสเซีย (ใหม่) เขาได้ทำการยุบกลุ่มพรรคที่นิยมคอมมิวนิสต์
    อนาโตลี ก็ก้าวขึ้นมาเป็นบุคคลสำคัญแห่งเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก และก็ได้ทำการอย่างเดียวกับเยลซิน คือ ไล่บี้กลุ่มคอมมิวนิสต์ เขาได้แต่งตั้งให้ปูตินเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจและการต่างประเทศ โดยมีที่ทำการใหม่ที่หรูหราสมฐานะ
    ภาพของเลนินได้ถูกปลดออกจากทุกห้อง โดยนำภาพของพระเจ้าปีเตอร์มหาราชขึ้นไปแขวนแทน
    ธงแดงที่มีตราฆ้อนเคียว ถูกปลดลงหมด แต่ยังหาธงอื่นแทนไม่ได้ (ผลิตใหม่ยังไม่ทัน เสร็จพร้อมเมื่อ 1 พฤศจิกายน) ปูตินได้สั่งให้ถอนเสาธงออกไปเลย……

    ตอนนั้นเป็นยุคที่ต้องมีสื่อทีวีเพื่อการโปรประกันดา อนาโตลี
    ให้สัมภาษณ์จนแทบไม่มีเวลาหายใจ เขาจึงมอบหมาย
    ให้ปูตินรับช่วงต่อไปแทน ที่เป็นการสัมภาษณ์แบบสด ไม่มีสคริปต์ ที่เขาทำให้ทุกคนทึ่งในความสามารถ เพราะปูตินสามารถตอบทุกอย่างได้แบบมือโปร ด้วยท่าทางที่มั่นใจ และเต็มไปด้วยพลังของการทำงาน
    แต่ในสุดท้ายของการสัมภาษณ์ สื่อได้ถามวนเวียนถึงเรื่องการเป็นสายลับของเขา……
    ปูตินเริ่มรำคาญ ……”ดูคุณจะหาคำอธิบายให้ได้ใช่ไหม?”
    สื่อ “ ก็แน่ละซิ เพราะการที่ได้พบกับอดีต KGB ที่ไม่ได้ปกปิดตัวตนนั้น มันง่ายซะที่ไหน..”
    ปูติน……”คุณไม่มีทางรู้เลยว่า คุณอาจได้พบพวกเขาบ่อยๆแล้วโดยที่คุณไม่รู้ตัว………แต่เขาจะรู้เสมอว่าคุณเป็นใคร…แล้วคุณลองดูในอเมริกา นายจอร์จ บุช ก็คืออดีตซีไอเอ…แล้วไง?”
    สื่อ……”#%&฿$€€”

    หลังจากหมัดเด็ดในการสัมภาษณ์นั้นได้ออกทีวีไป
    อาคันตุกะคนแรกที่เข้ามาพบกับปูตินถึงที่ทำงาน ใน Smolny Institute
    คือ Igor Sechin ***เป็นเพื่อนรุ่นน้องในมหาวิทยาลัย และเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในภาษาโปรตุเกส, ฝรั่งเศส และ อังกฤษ เคยเป็นล่ามให้กับกองทัพ
    และ…..เป็นอดีต KGB เช่นกัน……
    แทบไม่ต้องเดา……อิกอร์ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในทีมทำงานเป็นหูเป็นตาให้กับปูติน
    จากนั้น……พรรคพวกเดิมๆที่มีความสามารถอย่างอิกอร์ก็ตบเข้าเข้ามาเสริมกำลัง จนในที่สุด ทั้งออฟฟิศของอนาโตลี
    มีแต่เจ้าหน้าที่ที่เป็นอดีต KGB เป็นส่วนใหญ่

    ปูตินพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยใช้ความสามารถที่มีทั้งหมดตั้งแต่เป็นสายลับ นักกฎหมาย ภาษาเยอรมัน การเมืองและเศรษฐศาสตร์ในการทำงาน เขาเชื่อเสมอว่า รัสเซียสามารถเป็นประเทศที่มีหลักการในการปกครองระบบสังคมนิยมผสมประชาธิปไตยได้ หากประชาชนอยู่ดีกินดี
    เพื่อนที่ใกล้ชิด ที่รู้นิสัยกันดี เขาเอามาทำงานด้วยหมด และทุกคนต่างได้รับผลตอบแทนเข้าขั้นอภิมหาเศรษฐีด้วยกันแทบทั้งนั้น
    แต่.……นั่นหมายความว่า รัฐบาลต้องมีหุ้นอยู่ด้วย.……พร้อมเข้าตรวจสอบได้
    การพัฒนาในเรื่องอุตสาหกรรมพลังงานจะต้องมาเป็นอันดับแรกที่ต้องพัฒนาให้ล้ำที่สุด
    ซึ่งเป็นความคิดที่สอดคล้องกับอนาโตลี ที่ตอนนั้นมีบารมีพอๆกันกับเยลซิน……
    ปูตินกลายเป็นกลไกสำคัญของเหล่าอาคันตุกะที่มาเยี่ยมเยือน และสร้างสัมพันธไมตรีต่างประเทศ ตั้งแต่ รมต. ต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา James Baker,ไปอังกฤษเพื่อพบปะกับ John Major นายกรัฐมนตรี, ไปเยอรมันเพื่อพบกับนายกรัฐมนตรี Helmut Kohl (และทำหน้าที่เป็นล่ำเป็นสัน)
    หรือเมื่อ Henry Kissinger ได้บินมาที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก
    ปูตินไปรับที่สนามบิน และนำไปสู่ที่พัก ในการสนทนากัน
    คิสซิงเจอร์ได้บอกกับปูตินว่า
    “คนที่ทำงานเก่งๆเนี่ย เริ่มต้นมาจากหน่วยราชการลับกันทั้งนั้น”

    ปูตินยิ้มนิดๆ ตอบไปว่า “อย่างผมนี่ไง……..!!”

    **ที่ Florida, USA. มีเมืองที่ชื่อว่า Saint Petersburg เช่นกัน

    ***จำชื่อนี้ไว้นะคะ Igor Sechin เพราะต่อมาเขาคือกลไกสำคัญในการเป็นแขนขาในการทำงาน เคยเป็นรองนายกรัฐมนตรี เมื่อปูตินเป็นนายกฯ
    อิกอร์ดูแลควบคุมการอุตสาหกรรมแร่ รวมไปถึงพลังงานและเป็น CEO บริษัท Rosneft ก๊าสและน้ำมัน ที่ใหญ่อันดับสามของรัสเซีย
    ตัวเขาเองที่เปรียบเสมือนมือขวาของปูตินจนถึงบัดนี้
    และตะวันตก……ได้ให้สถานะเขาว่า เป็นผู้มีอำนาจที่สองรองลงไปจากปูติน

    หรือแม้แต่ Alexey Miller CEO ของ Gazprom บริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียก็เป็นเด็กในคาถาของปูติน
    เพราะปั้นมากับมือตั้งแต่เขาเริ่มเลือกเส้นทางสายการเมือง

    Wiwanda W. Vichit
    พากันจูงมือเข้าอ่านริ้วววว………พี่ปูเขากำลังจะรุ่งในสายการเมืองแล้ววว………!!!! ตอนห้า…..เมื่อราศีจับ……อะไรๆก็ฉุดไม่อยู่……!!! เท่ากับว่า ตอนนี้ปูตินมีสองร่างในบุคคลคนเดียวกัน เขาได้มาเป็นที่ปรึกษาให้กับอนาโตลี แต่ยังคงนั่งทำงานประจำที่มหาวิทยาลัย ส่วนที่สำนักงาน KGB. เขาจะแวะเข้าไปเป็นครั้งเป็นคราว จนวันหนึ่งในช่วงปลายปี 1990 ที่มีคณาจารย์จาก Saint Petersburg University จาก Florida, USA ได้เข้ามาเยี่ยมเยียนมหาวิทยาลัย ในเลนินกราด ในโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และแบบแผนการศึกษา ตัวผู้ก่อตั้งซึ่งเป็นอธิการบดี Dr. Carl M. Kuttler jr. ได้เดินทางมาด้วย ผู้ที่ทำหน้าที่ต้อนรับ คือ วลาดิเมียร์ ปูติน ที่เป็นผู้ประสานงานทุกอย่าง ตั้งแต่ชมมหาวิทยาลัย ไปเที่ยวนอกเมือง ซึ่งตอนนั้นเป็นภาวะที่น้ำมันขาดแคลนในโซเวียต รถลีมูซีนของท่านอธิการบดี เกิดน้ำมันหมด……ปูตินสามารถสั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐนำน้ำมันมาเติมให้ถึงที่ได้ด้วย คาร์ลจึงแปลกใจมาก……เขาแทบไม่เชื่อว่าคณบดีธรรมดาๆ คนนี้ สามารถตอบคำถามได้หมด ตั้งแต่เรื่องการเมือง เศรษฐกิจ และการต่างประเทศ ซ้ำยังเรียกหน่วยงานมาจัดการเรื่องเส้นทางและน้ำมันให้ได้อีก ทุกอย่างได้เป็นไปอย่างเรียบร้อย ตลอดทั้งสิบวัน…… ในคืนเกือบสุดท้ายที่คณะจากอเมริกาจะจากไป มีการจัดเลี้ยงอำลา ปูตินจึงนำอนาโตลีไปแนะนำให้รู้จักในฐานะเจ้านาย และ ในฐานะของนายกเทศมนตรีของเมือง ระหว่างการสนทนา คาร์ลได้เชื้อเชิญให้อนาโตลีไปเยี่ยมเยียนที่อเมริกาบ้าง แต่อนาโตลี คือชาวรัสเชี่ยนแท้ๆ ที่ปากกับใจตรงกัน ได้ตอบกลับไปว่า “พวกเราไม่มีทุนรอนขนาดนั้น มันไกลเกินฝัน…” คาร์ลก็เป็นอเมริกันสายป๋า……เขาตอบทันทีว่า “งั้นผมจะลองไปจัดการหาสปอนเซอร์ให้เอง……โปรดอย่าเป็นกังวล” ในที่สุด อนาโตลีและคณะก็ได้ไปเยือนอเมริกาสมใจ ด้วยทุนของ Procter & Gamble และได้เข้าพบกับประธานาธิบดี George H.W. Bush เขาได้ดูงานเทศบาลของเมือง Saint Petersburg, Florida **ที่มีนโยบายเข้มโดยไม่มีการอนุญาตให้ตัดต้นไม้ใดๆได้ จนกว่าจะได้รับการอนุมัติจากทางการ เมื่ออนาโตลีกลับมาถึงโซเวียต สิ่งแรกที่เขาทำคือ ทำการบรรจุปูตินในทีมงานอย่างเป็นทางการ จากความดีความชอบที่สามารถเชื่อมโยงจนได้ไปอเมริกา การทำงานกับอนาโตลี……ปูตินเริ่มมองเห็นอะไรอีกด้านหนึ่งที่เขาไม่ได้มองมาก่อน เช่น เรื่องความเสมอภาค ที่อนาโตลีมักพูดเสมอว่า “เราคุ้นเคยกับความรุนแรงมาตั้งแต่เกิด จนเห็นเป็นเรื่องปรกติ เราต้องอยู่อย่างหวาดกลัว ระแวง กับการที่จะมีคนมาคอยจ้องจับ นั่นมันไม่ใช่วิสัยการเป็นอยู่ของมนุษยชน” หรือ “ เราไม่จำเป็นต้องไปฆ่าฟันผู้คนกลุ่มหนึ่งให้ตาย เพื่อสนองตัญหาของคนอีกกลุ่มหนึ่ง……” เขาทั้งสองคนมีความแตกต่างกันอย่างสุดโต่ง อายุต่างกัน (12 ปี) นิสัยต่างกัน คนหนึ่งรื่นเริง หัวเราะง่าย อารมณ์ดี อีกคนหนึ่ง หน้าเครียด ยิ้มยาก ระวังตัวตลอดเวลา แต่อนาโตลี……พยายามผลักดันปูตินให้เข้ามาในวงจรของความคิดใหม่ ปูตินแยกแยะเรื่องงานได้ดี เขาไม่เคยเออออห่อหมกกับทัศนคติของอนาโตลีที่มีต่อโซเวียต เพราะเขายังเป็น KGB ที่ยังต้องซื่อสัตย์กับงาน และเขาได้เห็นว่า งานเทศมนตรีที่อนาโตลีทำอยู่นั้น เป็นการเล่นการเมืองเสียส่วนใหญ่ งานด้านทำนุบำรุงประชาชนในส่วนสาธารณูปโภคมีน้อยมาก…… ในปีนั้น ปี 1991 เศรษฐกิจของโซเวียตฝืดเคือง ข้าวของทุกอย่างหายไปตลาด ชั้นขายของว่างเปล่า อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน การประท้วงได้เกิดขึ้นตามชายขอบของประเทศ กอร์บาเชฟสั่งให้หน่วยทหารและ KGB เตรียมกำลังให้พร้อม เพื่อที่จะไปปราบม็อบ ผลจากการปะทะ ผู้ต่อต้านเสียชีวิตไป 14 คน ลิธัวเนีย…ประกาศท้าทายโซเวียตด้วยการจัดการลงคะแนนเสียงเพื่อขอเป็นอิสระ กอร์บาเชฟไม่ยอมรับมติของการลงคะแนน โดยอ้างว่าผิดกฎหมาย แต่กระแสเรียกร้อง เรียกหาความเป็นธรรมเริ่มหนาหูขึ้น เดือนเมยายน โซเวียต ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภา ที่มีทั้งฝ่ายคอมมิวนิสต์ และฝ่ายสังคมนิยม ที่จะต้องชิงที่นั่งกัน ผลที่ได้คือ Boris Yelzin ได้ตำแหน่งประธานสภา อันเป็นที่ไม่พอใจกอร์บาเชฟเป็นอย่างยิ่ง เพราะคนละวิสัยทัศน์ และ เขาไม่เข้าใจเลยว่า คนที่ดื่มสุราจัด พูดไม่เป็นภาษามนุษย์ จะมาทำงานใหญ่ได้อย่างไร… แต่กระแสนิยมในตัวเยลซินกลับเพิ่มขึ้นทุกวัน จนบดบังรัศมี ของกอร์บาเชฟจนหมดสิ้น คอมมิวนิสต์อยู่ในกระแสขาลง ……ประชาชนฝ่ายใฝ่สังคมนิยมผสมประชาธิปไตยในสายงานของอนาโตลีทำการเรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อเมือง จากเลนินกราด……ให้กลับไปเป็นเหมือนก่อนเก่า คือ St. Petersburg ซึ่งได้รับเสียงตอบรับในสภาเกินครึ่ง ปูติน……วางตัวเงียบสงบ ตั้งแต่เขาได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในฐานะนักการเมือง เขาได้ลาออกจากการเป็นคณบดีที่มหาวิทยาลัย คอยเฝ้าดูสถานะการณ์ของพรรคการเมืองต่างๆที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เขาเป็นที่ไว้วางใจของอนาโตลี ถึงขนาดที่เซ็นลงในกระดาษเปล่าให้ปูตินเอาไว้เขียนสั่งงานแทน วันที่ 17 สิงหาคม 1991 ปูตินได้พาครอบครัวไปเที่ยววันหยุด ที่ฝั่งทะเลบอลติค อนาโตลีไปพักผ่อนที่กึ่งประชุมงานที่ลิธัวเนีย ไม่มีใครรู้ว่า วันต่อมา คือวันที่ 18 เป็นวันที่ Gorbachev, Yeltzin และผู้นำจาก Kazakhstan มีการประชุมลับกันในการที่จะปรับเปลี่ยนทอนอำนาจในเครมลิน แต่ความลับรั่ว……เพราะการประชุมไม่ได้เกิดขึ้น กอร์บาเชฟได้ถูกควบคุมตัวไปขังในบ้านพักตากอากาศของเขาเอง (house arrest) แบบปฏิวัติเงียบจากกลุ่มต่อต้านภายใน หนึ่งในทีมหัวหน้าปฏิบัติการ คือ Vladimir Kryuchkov ผู้อำนวยการใหญ่ KGB และจากนั้น……ทั้งประเทศตกอยู่ในการคุมเข้มของกฏอัยการศึก ปูตินทราบข่าวจากการประกาศฉุกเฉินทางโทรทัศน์ อนาโตลี ทราบข่าวจากโทรศัพท์ที่ปลุกกลางดึก ทำให้เขาต้องรีบบินกลับพร้อมกับผู้ติดตามหนึ่งคน ซึ่งทางคณะประกอบการได้ส่งการ์ดพร้อมอาวุธไปเตรียมควบคุมตัวเขาถึงสามคน แต่เมื่อถึงสนามบิน การ์ดสามคนนั่น ไม่ได้ทำตามคำสั่ง แถมยังช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับอนาโตลีจนบินกลับถึงมอสโคว์ได้อย่างปลอดภัย ปูตินรีบกลับมา เพื่ออยู่ในทีมงานของอนาโตลี เพราะเขารู้สึกเอียนกับการยึดอำนาจแบบนี้ เพราะตลอดชีวิตของเขาก็เจอแต่เหตุการณ์แบบนี้ แล้วผลมันเป็นอย่างไรก็เห็นๆกันอยู่ว่าประเทศได้ย่ำเท้าถอยหลัง ทรุดโทรมลงไปทุกวัน เขาตัดสินใจเขียนใบลาออกจาก KGB หลังจากที่ 16 ปีที่ใช้ชีวิตในเส้นทางนั้น พอกันที… เป็นไปตามคาด……การปฏิวัติโดยฝ่ายทหารและ KGB ในครั้งนี้ ไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาด เพราะประชาชนไม่ยอมรับ เพียงแค่สองวัน กอร์บาเขฟก็ได้รับอิสรภาพออกมาจากบ้านพัก Boris Yeltzin ได้รับความนิยม อนาโตลีก็เช่นกัน เขากลายเป็นตัวแทนของความเป็นประชาธิปไตยในเลนินกราด ปูตินก็ถือเป็นโชคที่เข้าข้าง เพราะเขาตัดสินในเลือกถูกฝั่ง……เพราะถ้าเขายังอยู่ในราชการ แน่นอนว่า……เขาคงจบชีวิตราชการที่ศาลทหารอย่างเดียวกับ Vladimir Kryuchkov เขาควรจะดีใจ……แต่ตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุด ที่เห็นองค์กร KGB ที่เหมือนจิตวิญญาณศักดิศรีของลูกผู้ชายนั้นได้ล่มสลายไปต่อหน้าต่อตา…… ตามคาดคือ Yeltzin ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีของรัสเซีย (ใหม่) เขาได้ทำการยุบกลุ่มพรรคที่นิยมคอมมิวนิสต์ อนาโตลี ก็ก้าวขึ้นมาเป็นบุคคลสำคัญแห่งเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก และก็ได้ทำการอย่างเดียวกับเยลซิน คือ ไล่บี้กลุ่มคอมมิวนิสต์ เขาได้แต่งตั้งให้ปูตินเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจและการต่างประเทศ โดยมีที่ทำการใหม่ที่หรูหราสมฐานะ ภาพของเลนินได้ถูกปลดออกจากทุกห้อง โดยนำภาพของพระเจ้าปีเตอร์มหาราชขึ้นไปแขวนแทน ธงแดงที่มีตราฆ้อนเคียว ถูกปลดลงหมด แต่ยังหาธงอื่นแทนไม่ได้ (ผลิตใหม่ยังไม่ทัน เสร็จพร้อมเมื่อ 1 พฤศจิกายน) ปูตินได้สั่งให้ถอนเสาธงออกไปเลย…… ตอนนั้นเป็นยุคที่ต้องมีสื่อทีวีเพื่อการโปรประกันดา อนาโตลี ให้สัมภาษณ์จนแทบไม่มีเวลาหายใจ เขาจึงมอบหมาย ให้ปูตินรับช่วงต่อไปแทน ที่เป็นการสัมภาษณ์แบบสด ไม่มีสคริปต์ ที่เขาทำให้ทุกคนทึ่งในความสามารถ เพราะปูตินสามารถตอบทุกอย่างได้แบบมือโปร ด้วยท่าทางที่มั่นใจ และเต็มไปด้วยพลังของการทำงาน แต่ในสุดท้ายของการสัมภาษณ์ สื่อได้ถามวนเวียนถึงเรื่องการเป็นสายลับของเขา…… ปูตินเริ่มรำคาญ ……”ดูคุณจะหาคำอธิบายให้ได้ใช่ไหม?” สื่อ “ ก็แน่ละซิ เพราะการที่ได้พบกับอดีต KGB ที่ไม่ได้ปกปิดตัวตนนั้น มันง่ายซะที่ไหน..” ปูติน……”คุณไม่มีทางรู้เลยว่า คุณอาจได้พบพวกเขาบ่อยๆแล้วโดยที่คุณไม่รู้ตัว………แต่เขาจะรู้เสมอว่าคุณเป็นใคร…แล้วคุณลองดูในอเมริกา นายจอร์จ บุช ก็คืออดีตซีไอเอ…แล้วไง?” สื่อ……”#%&฿$€€” หลังจากหมัดเด็ดในการสัมภาษณ์นั้นได้ออกทีวีไป อาคันตุกะคนแรกที่เข้ามาพบกับปูตินถึงที่ทำงาน ใน Smolny Institute คือ Igor Sechin ***เป็นเพื่อนรุ่นน้องในมหาวิทยาลัย และเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในภาษาโปรตุเกส, ฝรั่งเศส และ อังกฤษ เคยเป็นล่ามให้กับกองทัพ และ…..เป็นอดีต KGB เช่นกัน…… แทบไม่ต้องเดา……อิกอร์ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในทีมทำงานเป็นหูเป็นตาให้กับปูติน จากนั้น……พรรคพวกเดิมๆที่มีความสามารถอย่างอิกอร์ก็ตบเข้าเข้ามาเสริมกำลัง จนในที่สุด ทั้งออฟฟิศของอนาโตลี มีแต่เจ้าหน้าที่ที่เป็นอดีต KGB เป็นส่วนใหญ่ ปูตินพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยใช้ความสามารถที่มีทั้งหมดตั้งแต่เป็นสายลับ นักกฎหมาย ภาษาเยอรมัน การเมืองและเศรษฐศาสตร์ในการทำงาน เขาเชื่อเสมอว่า รัสเซียสามารถเป็นประเทศที่มีหลักการในการปกครองระบบสังคมนิยมผสมประชาธิปไตยได้ หากประชาชนอยู่ดีกินดี เพื่อนที่ใกล้ชิด ที่รู้นิสัยกันดี เขาเอามาทำงานด้วยหมด และทุกคนต่างได้รับผลตอบแทนเข้าขั้นอภิมหาเศรษฐีด้วยกันแทบทั้งนั้น แต่.……นั่นหมายความว่า รัฐบาลต้องมีหุ้นอยู่ด้วย.……พร้อมเข้าตรวจสอบได้ การพัฒนาในเรื่องอุตสาหกรรมพลังงานจะต้องมาเป็นอันดับแรกที่ต้องพัฒนาให้ล้ำที่สุด ซึ่งเป็นความคิดที่สอดคล้องกับอนาโตลี ที่ตอนนั้นมีบารมีพอๆกันกับเยลซิน…… ปูตินกลายเป็นกลไกสำคัญของเหล่าอาคันตุกะที่มาเยี่ยมเยือน และสร้างสัมพันธไมตรีต่างประเทศ ตั้งแต่ รมต. ต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา James Baker,ไปอังกฤษเพื่อพบปะกับ John Major นายกรัฐมนตรี, ไปเยอรมันเพื่อพบกับนายกรัฐมนตรี Helmut Kohl (และทำหน้าที่เป็นล่ำเป็นสัน) หรือเมื่อ Henry Kissinger ได้บินมาที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ปูตินไปรับที่สนามบิน และนำไปสู่ที่พัก ในการสนทนากัน คิสซิงเจอร์ได้บอกกับปูตินว่า “คนที่ทำงานเก่งๆเนี่ย เริ่มต้นมาจากหน่วยราชการลับกันทั้งนั้น” ปูตินยิ้มนิดๆ ตอบไปว่า “อย่างผมนี่ไง……..!!” **ที่ Florida, USA. มีเมืองที่ชื่อว่า Saint Petersburg เช่นกัน ***จำชื่อนี้ไว้นะคะ Igor Sechin เพราะต่อมาเขาคือกลไกสำคัญในการเป็นแขนขาในการทำงาน เคยเป็นรองนายกรัฐมนตรี เมื่อปูตินเป็นนายกฯ อิกอร์ดูแลควบคุมการอุตสาหกรรมแร่ รวมไปถึงพลังงานและเป็น CEO บริษัท Rosneft ก๊าสและน้ำมัน ที่ใหญ่อันดับสามของรัสเซีย ตัวเขาเองที่เปรียบเสมือนมือขวาของปูตินจนถึงบัดนี้ และตะวันตก……ได้ให้สถานะเขาว่า เป็นผู้มีอำนาจที่สองรองลงไปจากปูติน หรือแม้แต่ Alexey Miller CEO ของ Gazprom บริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียก็เป็นเด็กในคาถาของปูติน เพราะปั้นมากับมือตั้งแต่เขาเริ่มเลือกเส้นทางสายการเมือง Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1086 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงสัยมั้ยครับ เหตุใดรัฐบาลอเมริกาจึงออกมารณรงค์ปิดสื่อมากขึ้นในช่วงนี้?

    เพราะวิญญูชนทั่วโลกได้ใช้บัญชีสื่อโซเชียลมิเดียกระจายข่าวอาชญากรรมของกลุ่มยิวไซออนิสต์ที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลอเมริกาหนักขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า โดยเฉพาะวิญญูชนอเมริกัน น่าสรรเสริญมาก หลายคนแม้จะโดนข่มขู่คุกคามก็สู้ไม่ถอย เพื่อปลุกชาวอเมริกันให้ตื่น

    ต้นๆ อาทิตย์นี้ ข่าวที่สรุปว่ายิวไซออนิสต์อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ 9/11 แพร่หลายไปทั่วโลกสื่อโซเชียลมิเดีย ที่ VK เยอะมาก ที่ X ก็หลายพันบัญชีที่ลงข่าว

    ในช่วงเกิดเหตุการณ์ 9/11 ผมกำลังเรียนปริญญาเอก เหตุการณ์นี้ ทำให้ผมต้องเอาเวลาพักผ่อนจากเรียนหนังสือมาอ่านข่าวจริงๆ จังๆ เมื่ออ่านค้นข้อเท็จจริง ก็เป็นอย่างที่คาด ผมสรุปว่ายิวไซออนิสต์อยู่เบื้องหลัง บิน ลาเดนทำงานให้ซีไอเอ ถูกกำหนดให้ตายทางสื่อ แต่ตัวจริง ไม่ได้ตาย เขาทำศัลยกรรมใบหน้า เปลี่ยนชื่อแซ่ตนเองและอยู่กับภรรยาหลายคนบนเกาะแห่งหนึ่งในขณะนี้

    อเมริกาต้องรีบหาทางปิดปากสื่อในตอนนี้ ทั้งสื่อรัสเซีย เช่น RT และสื่อตนเอง หาไม่แล้ว คนอเมริกันที่รู้ข่าวจริงมากขึ้นอาจต่อต้านยิวไซออนิสต์กันมากขึ้นตามมา


    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    สงสัยมั้ยครับ เหตุใดรัฐบาลอเมริกาจึงออกมารณรงค์ปิดสื่อมากขึ้นในช่วงนี้? เพราะวิญญูชนทั่วโลกได้ใช้บัญชีสื่อโซเชียลมิเดียกระจายข่าวอาชญากรรมของกลุ่มยิวไซออนิสต์ที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลอเมริกาหนักขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า โดยเฉพาะวิญญูชนอเมริกัน น่าสรรเสริญมาก หลายคนแม้จะโดนข่มขู่คุกคามก็สู้ไม่ถอย เพื่อปลุกชาวอเมริกันให้ตื่น ต้นๆ อาทิตย์นี้ ข่าวที่สรุปว่ายิวไซออนิสต์อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ 9/11 แพร่หลายไปทั่วโลกสื่อโซเชียลมิเดีย ที่ VK เยอะมาก ที่ X ก็หลายพันบัญชีที่ลงข่าว ในช่วงเกิดเหตุการณ์ 9/11 ผมกำลังเรียนปริญญาเอก เหตุการณ์นี้ ทำให้ผมต้องเอาเวลาพักผ่อนจากเรียนหนังสือมาอ่านข่าวจริงๆ จังๆ เมื่ออ่านค้นข้อเท็จจริง ก็เป็นอย่างที่คาด ผมสรุปว่ายิวไซออนิสต์อยู่เบื้องหลัง บิน ลาเดนทำงานให้ซีไอเอ ถูกกำหนดให้ตายทางสื่อ แต่ตัวจริง ไม่ได้ตาย เขาทำศัลยกรรมใบหน้า เปลี่ยนชื่อแซ่ตนเองและอยู่กับภรรยาหลายคนบนเกาะแห่งหนึ่งในขณะนี้ อเมริกาต้องรีบหาทางปิดปากสื่อในตอนนี้ ทั้งสื่อรัสเซีย เช่น RT และสื่อตนเอง หาไม่แล้ว คนอเมริกันที่รู้ข่าวจริงมากขึ้นอาจต่อต้านยิวไซออนิสต์กันมากขึ้นตามมา ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts