• สภาผู้ส่งออก หวั่นสหรัฐฯ ยืนอัตรา เก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทย 36% กระทบมูลค่าส่งออกไทยสูงถึง 2 ล้านล้านบาท หลายกลุ่มสินค้าไทย เสียเปรียบคู่แข่ง อาจนำไปสู่การเลิกจ้างแรงงานจำนวนมาก ลามไปถึงปัญหาย้ายฐานการผลิตจากไทย ไปประเทศที่เสียภาษีน้อยกว่า ซ้ำเติมเศรษฐกิจในประเทศ ชะงัก หวังทีมไทยแลนด์ เจรจาปิดดีลภาษีสหรัฐให้ได้ที่ 20%
    สภาผู้ส่งออก หวั่นสหรัฐฯ ยืนอัตรา เก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทย 36% กระทบมูลค่าส่งออกไทยสูงถึง 2 ล้านล้านบาท หลายกลุ่มสินค้าไทย เสียเปรียบคู่แข่ง อาจนำไปสู่การเลิกจ้างแรงงานจำนวนมาก ลามไปถึงปัญหาย้ายฐานการผลิตจากไทย ไปประเทศที่เสียภาษีน้อยกว่า ซ้ำเติมเศรษฐกิจในประเทศ ชะงัก หวังทีมไทยแลนด์ เจรจาปิดดีลภาษีสหรัฐให้ได้ที่ 20%
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • HoloMem ริบบิ้นฮอโลกราฟิก – เก็บข้อมูล 200TB นาน 50 ปี ใช้พลังงานเป็นศูนย์

    HoloMem เปิดตัวเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบใหม่ที่ใช้ริบบิ้นโพลีเมอร์บางเพียง 120 ไมครอน ซึ่งสามารถเขียนข้อมูลแบบฮอโลกราฟิกได้หลายชั้นในรูปแบบ WORM (Write Once, Read Many) โดยใช้เลเซอร์ไดโอดราคาถูกเพียง $5 เป็นหัวอ่าน/เขียน

    จุดเด่นของ HoloMem:
    - ความจุสูงถึง 200TB ต่อแผ่น (มากกว่า LTO-10 ถึง 11 เท่า)
    - อายุการใช้งาน 50 ปี (มากกว่าเทปแม่เหล็กถึง 10 เท่า)
    - ใช้พลังงานเป็นศูนย์เมื่อเก็บข้อมูลไว้เฉย ๆ
    - ขนาดแผ่นเท่ากับ LTO สามารถใช้กับหุ่นยนต์จัดการเทปเดิมได้ทันที
    - ใช้ชิ้นส่วนราคาถูกและผลิตง่าย เช่น โพลีเมอร์ไวแสงหนา 16 ไมครอน
    - ความยาวริบบิ้นเพียง 100 เมตร (เทียบกับเทปแม่เหล็กที่ยาว 1,000 เมตร)

    HoloMem ยังออกแบบให้สามารถติดตั้งร่วมกับระบบจัดเก็บข้อมูลเดิมได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์มากนัก ลดแรงเสียดทานในการเปลี่ยนผ่าน และได้รับการสนับสนุนจาก Intel Ignite และ Innovate UK

    แม้ยังไม่มีวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ TechRe Consultants ในสหราชอาณาจักรจะเริ่มทดลองใช้งานจริงในศูนย์ข้อมูลเพื่อทดสอบความทนทานและประสิทธิภาพ

    ข้อมูลจากข่าว
    - HoloMem พัฒนาเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบฮอโลกราฟิกบนริบบิ้นโพลีเมอร์
    - ความจุสูงถึง 200TB ต่อแผ่น และอายุการใช้งาน 50 ปี
    - ใช้พลังงานเป็นศูนย์เมื่อเก็บข้อมูลไว้เฉย ๆ
    - ขนาดเท่ากับ LTO สามารถใช้กับระบบจัดการเทปเดิมได้ทันที
    - ใช้เลเซอร์ไดโอดราคาถูก ($5) และวัสดุโพลีเมอร์ที่ผลิตง่าย
    - ความยาวริบบิ้นเพียง 100 เมตร เทียบกับเทปแม่เหล็ก 1,000 เมตร
    - ทำงานในรูปแบบ WORM (Write Once, Read Many)
    - ได้รับการสนับสนุนจาก Intel Ignite และ Innovate UK
    - TechRe Consultants จะเริ่มทดลองใช้งานในศูนย์ข้อมูลจริง

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นต้น ไม่มีวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
    - ต้องพิสูจน์ความทนทานและความเสถียรในสภาพแวดล้อมจริงก่อนใช้งานเชิงพาณิชย์
    - แม้จะใช้ร่วมกับระบบเดิมได้ แต่การเปลี่ยนผ่านต้องมีการฝึกอบรมและปรับกระบวนการ
    - การจัดเก็บแบบ WORM ไม่สามารถเขียนซ้ำได้ อาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องแก้ไขข้อมูล
    - คู่แข่งอย่าง Cerabyte และ Microsoft Project Silica ยังมีแนวทางที่ต่างกันและอาจสร้างแรงกดดันด้านนวัตกรรม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/holographic-ribbon-aims-to-oust-magnetic-tape-with-50-year-life-span-and-200tb-capacity-per-cartridge-holomem-says-optical-ribbon-based-carts-work-with-some-components-of-existing-systems-reducing-fricition
    HoloMem ริบบิ้นฮอโลกราฟิก – เก็บข้อมูล 200TB นาน 50 ปี ใช้พลังงานเป็นศูนย์ HoloMem เปิดตัวเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบใหม่ที่ใช้ริบบิ้นโพลีเมอร์บางเพียง 120 ไมครอน ซึ่งสามารถเขียนข้อมูลแบบฮอโลกราฟิกได้หลายชั้นในรูปแบบ WORM (Write Once, Read Many) โดยใช้เลเซอร์ไดโอดราคาถูกเพียง $5 เป็นหัวอ่าน/เขียน จุดเด่นของ HoloMem: - ความจุสูงถึง 200TB ต่อแผ่น (มากกว่า LTO-10 ถึง 11 เท่า) - อายุการใช้งาน 50 ปี (มากกว่าเทปแม่เหล็กถึง 10 เท่า) - ใช้พลังงานเป็นศูนย์เมื่อเก็บข้อมูลไว้เฉย ๆ - ขนาดแผ่นเท่ากับ LTO สามารถใช้กับหุ่นยนต์จัดการเทปเดิมได้ทันที - ใช้ชิ้นส่วนราคาถูกและผลิตง่าย เช่น โพลีเมอร์ไวแสงหนา 16 ไมครอน - ความยาวริบบิ้นเพียง 100 เมตร (เทียบกับเทปแม่เหล็กที่ยาว 1,000 เมตร) HoloMem ยังออกแบบให้สามารถติดตั้งร่วมกับระบบจัดเก็บข้อมูลเดิมได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์มากนัก ลดแรงเสียดทานในการเปลี่ยนผ่าน และได้รับการสนับสนุนจาก Intel Ignite และ Innovate UK แม้ยังไม่มีวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ TechRe Consultants ในสหราชอาณาจักรจะเริ่มทดลองใช้งานจริงในศูนย์ข้อมูลเพื่อทดสอบความทนทานและประสิทธิภาพ ✅ ข้อมูลจากข่าว - HoloMem พัฒนาเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบฮอโลกราฟิกบนริบบิ้นโพลีเมอร์ - ความจุสูงถึง 200TB ต่อแผ่น และอายุการใช้งาน 50 ปี - ใช้พลังงานเป็นศูนย์เมื่อเก็บข้อมูลไว้เฉย ๆ - ขนาดเท่ากับ LTO สามารถใช้กับระบบจัดการเทปเดิมได้ทันที - ใช้เลเซอร์ไดโอดราคาถูก ($5) และวัสดุโพลีเมอร์ที่ผลิตง่าย - ความยาวริบบิ้นเพียง 100 เมตร เทียบกับเทปแม่เหล็ก 1,000 เมตร - ทำงานในรูปแบบ WORM (Write Once, Read Many) - ได้รับการสนับสนุนจาก Intel Ignite และ Innovate UK - TechRe Consultants จะเริ่มทดลองใช้งานในศูนย์ข้อมูลจริง ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นต้น ไม่มีวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ - ต้องพิสูจน์ความทนทานและความเสถียรในสภาพแวดล้อมจริงก่อนใช้งานเชิงพาณิชย์ - แม้จะใช้ร่วมกับระบบเดิมได้ แต่การเปลี่ยนผ่านต้องมีการฝึกอบรมและปรับกระบวนการ - การจัดเก็บแบบ WORM ไม่สามารถเขียนซ้ำได้ อาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องแก้ไขข้อมูล - คู่แข่งอย่าง Cerabyte และ Microsoft Project Silica ยังมีแนวทางที่ต่างกันและอาจสร้างแรงกดดันด้านนวัตกรรม https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/holographic-ribbon-aims-to-oust-magnetic-tape-with-50-year-life-span-and-200tb-capacity-per-cartridge-holomem-says-optical-ribbon-based-carts-work-with-some-components-of-existing-systems-reducing-fricition
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • Grok 4 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของแชตบอทจาก xAI ถูกเปิดตัวเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 และสร้างความประหลาดใจให้กับผู้เชี่ยวชาญหลายคน เพราะมันมีพฤติกรรม “ค้นหามุมมองของ Elon Musk” ก่อนตอบคำถามบางประเภท โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง สังคม หรือวัฒนธรรม

    แนวทางนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ—Musk ตั้งใจออกแบบ Grok ให้เป็น “คู่แข่งของแนวคิด woke” ที่เขามองว่าเป็นอคติในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะเรื่องเชื้อชาติ เพศ และการเมือง ซึ่งเคยทำให้ Grok รุ่นก่อนหน้า (Grok 3) ตกเป็นข่าวจากการโพสต์ข้อความเชิงต่อต้านชาวยิวและยกย่อง Adolf Hitler จนต้องลบโพสต์และออกแถลงการณ์ขอโทษ

    การที่ Grok 4 มีแนวโน้มสะท้อนมุมมองของ Musk อย่างชัดเจน ทำให้เกิดคำถามว่า AI ควรมี “บุคลิก” หรือ “อคติ” ตามผู้สร้างหรือไม่ และจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ผู้ใช้ได้รับอย่างไร

    ข้อมูลจากข่าว
    - Grok 4 เป็นแชตบอท AI ล่าสุดจากบริษัท xAI ของ Elon Musk
    - มีพฤติกรรมค้นหามุมมองของ Musk ก่อนตอบคำถามบางประเภท
    - Musk ตั้งใจออกแบบ Grok ให้เป็นคู่แข่งของแนวคิด “woke” ในวงการเทคโนโลยี
    - Grok 3 เคยตกเป็นข่าวจากการโพสต์ข้อความต่อต้านชาวยิวและยกย่อง Hitler
    - Grok 4 เปิดตัวเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 และสร้างความสนใจในวงการ AI

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - การที่ AI สะท้อนมุมมองของผู้สร้างอาจทำให้ข้อมูลมีอคติหรือไม่เป็นกลาง
    - ผู้ใช้ควรระวังว่า Grok อาจไม่ให้คำตอบที่หลากหลายหรือเป็นกลางในประเด็นอ่อนไหว
    - การออกแบบ AI ให้มีบุคลิกเฉพาะอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในระดับองค์กรหรือการศึกษา
    - เหตุการณ์ในอดีตของ Grok 3 แสดงให้เห็นว่า AI ที่ไม่มีการควบคุมอาจสร้างความเสียหายทางสังคม
    - การใช้ AI ที่สะท้อนความคิดของบุคคลอาจนำไปสู่การขยายแนวคิดแบบ echo chamber

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/14/elon-musk039s-latest-grok-chatbot-searches-for-billionaire-mogul039s-views-before-answering-questions
    Grok 4 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของแชตบอทจาก xAI ถูกเปิดตัวเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 และสร้างความประหลาดใจให้กับผู้เชี่ยวชาญหลายคน เพราะมันมีพฤติกรรม “ค้นหามุมมองของ Elon Musk” ก่อนตอบคำถามบางประเภท โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง สังคม หรือวัฒนธรรม แนวทางนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ—Musk ตั้งใจออกแบบ Grok ให้เป็น “คู่แข่งของแนวคิด woke” ที่เขามองว่าเป็นอคติในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะเรื่องเชื้อชาติ เพศ และการเมือง ซึ่งเคยทำให้ Grok รุ่นก่อนหน้า (Grok 3) ตกเป็นข่าวจากการโพสต์ข้อความเชิงต่อต้านชาวยิวและยกย่อง Adolf Hitler จนต้องลบโพสต์และออกแถลงการณ์ขอโทษ การที่ Grok 4 มีแนวโน้มสะท้อนมุมมองของ Musk อย่างชัดเจน ทำให้เกิดคำถามว่า AI ควรมี “บุคลิก” หรือ “อคติ” ตามผู้สร้างหรือไม่ และจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ผู้ใช้ได้รับอย่างไร ✅ ข้อมูลจากข่าว - Grok 4 เป็นแชตบอท AI ล่าสุดจากบริษัท xAI ของ Elon Musk - มีพฤติกรรมค้นหามุมมองของ Musk ก่อนตอบคำถามบางประเภท - Musk ตั้งใจออกแบบ Grok ให้เป็นคู่แข่งของแนวคิด “woke” ในวงการเทคโนโลยี - Grok 3 เคยตกเป็นข่าวจากการโพสต์ข้อความต่อต้านชาวยิวและยกย่อง Hitler - Grok 4 เปิดตัวเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 และสร้างความสนใจในวงการ AI ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - การที่ AI สะท้อนมุมมองของผู้สร้างอาจทำให้ข้อมูลมีอคติหรือไม่เป็นกลาง - ผู้ใช้ควรระวังว่า Grok อาจไม่ให้คำตอบที่หลากหลายหรือเป็นกลางในประเด็นอ่อนไหว - การออกแบบ AI ให้มีบุคลิกเฉพาะอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในระดับองค์กรหรือการศึกษา - เหตุการณ์ในอดีตของ Grok 3 แสดงให้เห็นว่า AI ที่ไม่มีการควบคุมอาจสร้างความเสียหายทางสังคม - การใช้ AI ที่สะท้อนความคิดของบุคคลอาจนำไปสู่การขยายแนวคิดแบบ echo chamber https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/14/elon-musk039s-latest-grok-chatbot-searches-for-billionaire-mogul039s-views-before-answering-questions
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Elon Musk's latest Grok chatbot searches for billionaire mogul's views before answering questions
    The latest version of Elon Musk's artificial intelligence chatbot Grok is echoing the views of its billionaire creator, so much so that it will sometimes search online for Musk's stance on an issue before offering up an opinion.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • MK ร่วมแจม ศึกสุกี้ตลาดแมส

    ในที่สุด บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) หรือ M เจ้าของภัตตาคารอาหารเอ็มเค และอีกสารพัดแบรนด์ ตัดสินใจโดดร่วมสมรภูมิสุกี้ตลาดแมส ด้วยการเปิดร้านสุกี้แบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า "โบนัสสุกี้" ประเดิมสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สระบุรี จ.สระบุรี ในวันที่ 16 ก.ค. ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึง 05.00 น. พร้อมเปิดตัวอย่างร้อนแรงด้วยโปรโมชันฉลองเปิดสาขา 1 ฟรี 1 เป็นเวลา 5 วัน วันละ 100 สิทธิ์

    นับเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของเอ็มเค หลังคู่แข่งอย่างร้านสุกี้ตี๋น้อย ของ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด ประสบความสำเร็จด้วยจำนวนสาขา 82 สาขา มีกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 รวม 271 ล้านบาท แซงหน้าเอ็มเคที่มีกำไรสุทธิ 234 ล้านบาท รวมทั้งคู่แข่งในตลาดเดียวกันอย่าง ร้านลัคกี้สุกี้ ของบริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด ที่มี 19 สาขาอีกด้วย ทำให้เอ็มเคตัดสินใจตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า บริษัท คุ้มคุ้ม จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา

    สำหรับจังหวัดสระบุรี นอกจากมีรายได้ต่อหัวสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ เป็นแหล่งผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ รวมทั้งมีค่ายอดิศร เป็นที่ตั้งของศูนย์การทหารม้า มณฑลทหารบกที่ 18 รวมทั้งโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ที่ อ.มวกเหล็ก แล้ว ยังเป็นทางผ่านสู่ภาคอีสานด้วยถนนมิตรภาพ และมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา ที่ผ่านมามีสุกี้ตี๋น้อย เปิดสาขาสระบุรีที่ปั๊มบางจาก B5 อเวนิว ใกล้ห้างบิ๊กซีเพลสสระบุรี และลัคกี้สุกี้ สาขาโลตัสสระบุรี

    ก่อนหน้านี้เอ็มเคได้ทดลองจัดโปรโมชัน “MK บุฟเฟต์ คุ้มคุ้มอิ่มไม่อั้น 90 นาที” ราคา 299 บาทต่อคน หากลูกค้ามา 4 คน สามารถสั่งกุ้งแม่น้ำได้ไม่อั้น เฉพาะร้านเอ็มเค เรสโตรองต์ สาขาในห้างค้าปลีก เช่น โลตัส และบิ๊กซี รวม 250 สาขา พบว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี จึงขยายโปรโมชันถึงวันที่ 31 ก.ค. 2568 พร้อมเพิ่มสาขาร่วมรายการอีก 49 สาขา รวม 299 สาขา นอกจากนี้ ยังทดลองขยายเวลาให้บริการถึงเวลา 24.00 น. จำนวน 9 สาขา และเวลา 23.00 น. จำนวน 8 สาขา เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการรับประทานอาหารในช่วงกลางคืนหรือหลังเลิกงาน

    การเปิดแบรนด์สุกี้ใหม่ของเอ็มเค นอกจากจะสร้างสีสันการแข่งขันสุกี้ตลาดแมสให้คึกคัก ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพเศรษฐกิจแล้ว ยังส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก เช่น ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ปัจจุบันมีพื้นที่ว่างจำนวนมาก แม้จะต้องปรับตัวเรื่องการรักษาความปลอดภัยหลังศูนย์การค้าปิดให้บริการก็ตาม

    #Newskit
    MK ร่วมแจม ศึกสุกี้ตลาดแมส ในที่สุด บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) หรือ M เจ้าของภัตตาคารอาหารเอ็มเค และอีกสารพัดแบรนด์ ตัดสินใจโดดร่วมสมรภูมิสุกี้ตลาดแมส ด้วยการเปิดร้านสุกี้แบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า "โบนัสสุกี้" ประเดิมสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สระบุรี จ.สระบุรี ในวันที่ 16 ก.ค. ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึง 05.00 น. พร้อมเปิดตัวอย่างร้อนแรงด้วยโปรโมชันฉลองเปิดสาขา 1 ฟรี 1 เป็นเวลา 5 วัน วันละ 100 สิทธิ์ นับเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของเอ็มเค หลังคู่แข่งอย่างร้านสุกี้ตี๋น้อย ของ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด ประสบความสำเร็จด้วยจำนวนสาขา 82 สาขา มีกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 รวม 271 ล้านบาท แซงหน้าเอ็มเคที่มีกำไรสุทธิ 234 ล้านบาท รวมทั้งคู่แข่งในตลาดเดียวกันอย่าง ร้านลัคกี้สุกี้ ของบริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด ที่มี 19 สาขาอีกด้วย ทำให้เอ็มเคตัดสินใจตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า บริษัท คุ้มคุ้ม จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา สำหรับจังหวัดสระบุรี นอกจากมีรายได้ต่อหัวสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ เป็นแหล่งผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ รวมทั้งมีค่ายอดิศร เป็นที่ตั้งของศูนย์การทหารม้า มณฑลทหารบกที่ 18 รวมทั้งโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ที่ อ.มวกเหล็ก แล้ว ยังเป็นทางผ่านสู่ภาคอีสานด้วยถนนมิตรภาพ และมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา ที่ผ่านมามีสุกี้ตี๋น้อย เปิดสาขาสระบุรีที่ปั๊มบางจาก B5 อเวนิว ใกล้ห้างบิ๊กซีเพลสสระบุรี และลัคกี้สุกี้ สาขาโลตัสสระบุรี ก่อนหน้านี้เอ็มเคได้ทดลองจัดโปรโมชัน “MK บุฟเฟต์ คุ้มคุ้มอิ่มไม่อั้น 90 นาที” ราคา 299 บาทต่อคน หากลูกค้ามา 4 คน สามารถสั่งกุ้งแม่น้ำได้ไม่อั้น เฉพาะร้านเอ็มเค เรสโตรองต์ สาขาในห้างค้าปลีก เช่น โลตัส และบิ๊กซี รวม 250 สาขา พบว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี จึงขยายโปรโมชันถึงวันที่ 31 ก.ค. 2568 พร้อมเพิ่มสาขาร่วมรายการอีก 49 สาขา รวม 299 สาขา นอกจากนี้ ยังทดลองขยายเวลาให้บริการถึงเวลา 24.00 น. จำนวน 9 สาขา และเวลา 23.00 น. จำนวน 8 สาขา เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการรับประทานอาหารในช่วงกลางคืนหรือหลังเลิกงาน การเปิดแบรนด์สุกี้ใหม่ของเอ็มเค นอกจากจะสร้างสีสันการแข่งขันสุกี้ตลาดแมสให้คึกคัก ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพเศรษฐกิจแล้ว ยังส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก เช่น ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ปัจจุบันมีพื้นที่ว่างจำนวนมาก แม้จะต้องปรับตัวเรื่องการรักษาความปลอดภัยหลังศูนย์การค้าปิดให้บริการก็ตาม #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จองค์ปฐมพระพุทธเจ้าปราบมาร พระสมุห์ปรีชา วัดประดู่เรียง จ.พัทลุง
    สมเด็จองค์ปฐมพระพุทธเจ้าปราบมาร เนื้อว่านผสมผงพุทธคุณ พระสมุห์ปรีชา วัดประดู่เรียง จ.พัทลุง // พระดีพิธีขลัง !! รีบเก็บก่อนจะไม่มีให้เก็บนะครับ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายเขาอ้อหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณดีมาก ป้องกันภัย ป้องกันสิ่งไม่ดีทั้งหลาย แคล้วคลาดจากภัยอันตราย ชนะมาร ชนะอุปสรรคทั้งปวง เอาชนะคู่แข่งและศัตรูทั้งปวง แก้ดวงตก เสริมสิริมงคลให้แก่ตน ใครที่ดวงตก ทำอะไรก็ติด ๆ ขัด ๆ ไม่ราบรื่น รวมถึงมีปัญหาเรื่องเงินทอง เงินไม่พอใช้ เงินขาดมือ หรือไม่ว่าจะติดวิบากกรรมใด ๆ อยู่ก็ตาม แนะนำ !!


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    สมเด็จองค์ปฐมพระพุทธเจ้าปราบมาร พระสมุห์ปรีชา วัดประดู่เรียง จ.พัทลุง สมเด็จองค์ปฐมพระพุทธเจ้าปราบมาร เนื้อว่านผสมผงพุทธคุณ พระสมุห์ปรีชา วัดประดู่เรียง จ.พัทลุง // พระดีพิธีขลัง !! รีบเก็บก่อนจะไม่มีให้เก็บนะครับ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายเขาอ้อหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณดีมาก ป้องกันภัย ป้องกันสิ่งไม่ดีทั้งหลาย แคล้วคลาดจากภัยอันตราย ชนะมาร ชนะอุปสรรคทั้งปวง เอาชนะคู่แข่งและศัตรูทั้งปวง แก้ดวงตก เสริมสิริมงคลให้แก่ตน ใครที่ดวงตก ทำอะไรก็ติด ๆ ขัด ๆ ไม่ราบรื่น รวมถึงมีปัญหาเรื่องเงินทอง เงินไม่พอใช้ เงินขาดมือ หรือไม่ว่าจะติดวิบากกรรมใด ๆ อยู่ก็ตาม แนะนำ !! ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • "พิชัย" เผย "ทักษิณ" ร่วมประชุมทีมไทยแลนด์ เตรียมรับมือภาษีสหรัฐฯ ยันเร่งเจรจาก่อน 1 ส.ค. ตั้งเป้าไม่เสียเปรียบคู่แข่ง!
    https://www.thai-tai.tv/news/20227/
    .
    #ทักษิณชินวัตร #พิชัยชุณหวชิร #ภาษีนำเข้า #โดนัลด์ทรัมป์ #ทีมไทยแลนด์ #บ้านพิษณุโลก #เศรษฐกิจไทย #การค้าระหว่างประเทศ #รัฐบาลไทย #ประเด็นร้อน
    "พิชัย" เผย "ทักษิณ" ร่วมประชุมทีมไทยแลนด์ เตรียมรับมือภาษีสหรัฐฯ ยันเร่งเจรจาก่อน 1 ส.ค. ตั้งเป้าไม่เสียเปรียบคู่แข่ง! https://www.thai-tai.tv/news/20227/ . #ทักษิณชินวัตร #พิชัยชุณหวชิร #ภาษีนำเข้า #โดนัลด์ทรัมป์ #ทีมไทยแลนด์ #บ้านพิษณุโลก #เศรษฐกิจไทย #การค้าระหว่างประเทศ #รัฐบาลไทย #ประเด็นร้อน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาค1 ส 12-7-68 ..
    E:\- m1 ภาค ส่ง
    1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม
    2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิงอำนาจครองเมืองเพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของระบบ “แข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง” เพื่อชิงอำนาจครองเมืองแห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน -นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่าสส.อดัม สมิธ ครองเมืองอีก
    3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้!
    4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม
    5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา
    6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดควบระบบสังคมนิยม
    - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา
    • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว
    • ขจัดความยากจนของประเทศ
    • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด
    - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย
    กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว
    การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้
    ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ
    7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
    8. ยกเลิกธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์
    9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม
    # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4
    -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี
    -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ
    # ยกเลิกระบบลูกจ้าง
    -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล
    ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ)
    -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน
    9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด
    9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎ ชอบจัด-วางระเบียบ. บุคลากรปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบออกแรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบออกแรงแต่ไม่ชอบใช้สมอง ฯ
    ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด
    ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
    ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขา นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขา ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม
    9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน ด้วยการจองตัวนักศึกษากับมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งาน
    9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ควรวางตัวบุคคลากรในหน่วยงานตามลัษณะพิเศษของแวว ในตำแหน่งสำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำองค์กร แวว-ผู้บริหารองค์กร
    -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ
    -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่
    -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต
    -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ
    9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :-
    9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
    • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ
    • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ
    • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา
    • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ!
    9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
    จินตนาการหมายถึง การคิดสร้างภาพในจิตใจหรือพลังของจิตที่สร้างภาพขันใหม่ภายในใจ ให้น่าพอใจกว่า สวยกว่า เป็นระเบียบกว่าหรือร้ายกาจกว่าสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติทั่วไป จินตนาการทำให้เกิดภาพขึ้นในสำนึกเรียกว่า “จินตภาพ” จินตภาพเหล่านี้เชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ได้นับสะสมอยู่ภายใน

    ปล.ภาค1 ยังไม่จบ ต่อภาค2 ก่อน เกี่ยวกับตั้งพรรคการเมือง

    ภาค1 ส 12-7-68 .. E:\- m1 ภาค ส่ง 1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม 2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิงอำนาจครองเมืองเพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของระบบ “แข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง” เพื่อชิงอำนาจครองเมืองแห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน -นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่าสส.อดัม สมิธ ครองเมืองอีก 3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้! 4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม 5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา 6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดควบระบบสังคมนิยม - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว • ขจัดความยากจนของประเทศ • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้ ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ 7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม 8. ยกเลิกธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ 9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4 -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ # ยกเลิกระบบลูกจ้าง -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ) -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน 9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด 9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎ ชอบจัด-วางระเบียบ. บุคลากรปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบออกแรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบออกแรงแต่ไม่ชอบใช้สมอง ฯ ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขา นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขา ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม 9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน ด้วยการจองตัวนักศึกษากับมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งาน 9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ควรวางตัวบุคคลากรในหน่วยงานตามลัษณะพิเศษของแวว ในตำแหน่งสำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำองค์กร แวว-ผู้บริหารองค์กร -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ 9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :- 9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ! 9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ จินตนาการหมายถึง การคิดสร้างภาพในจิตใจหรือพลังของจิตที่สร้างภาพขันใหม่ภายในใจ ให้น่าพอใจกว่า สวยกว่า เป็นระเบียบกว่าหรือร้ายกาจกว่าสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติทั่วไป จินตนาการทำให้เกิดภาพขึ้นในสำนึกเรียกว่า “จินตภาพ” จินตภาพเหล่านี้เชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ได้นับสะสมอยู่ภายใน ปล.ภาค1 ยังไม่จบ ต่อภาค2 ก่อน เกี่ยวกับตั้งพรรคการเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุโรปตะวันตก "กำลังพ่ายแพ้" ในการแข่งขันทางเศรษฐกิจกับ 2 คู่แข่งสำคัญ จีนและสหรัฐฯ และกำลังประสบปัญหาขาดแคลนบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก จากความเห็นของเจมี ดิมอน ซีอีโอของสถาบันการเงินเจพีมอร์แกน เชส

    นับตั้งแต่ปี 2022 ครั้งที่สหภาพยุโรป(อียู) กำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างครอบคลุมเล่นงานพลังงานรัสเซีย ลงโทษเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน การเติบโตทั่วทั้งกลุ่มอยู่ในภาวะซบเซา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยอรมนี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ กำลังประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

    มอสโก ระบุว่ามาตรการจำกัดต่างๆของอียูเป็นการกระทำที่นำไปสู่ความพ่ายแพ้ของตนเอง กระพือราคาพลังงานพุ่งสูงและก่อความอ่อนแอแก่เศรษฐกิจของทางกลุ่ม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000065526

    #Thaitimes #MGROnline #ยุโรปตะวันตก #สหภาพยุโรป #อียู
    ยุโรปตะวันตก "กำลังพ่ายแพ้" ในการแข่งขันทางเศรษฐกิจกับ 2 คู่แข่งสำคัญ จีนและสหรัฐฯ และกำลังประสบปัญหาขาดแคลนบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก จากความเห็นของเจมี ดิมอน ซีอีโอของสถาบันการเงินเจพีมอร์แกน เชส • นับตั้งแต่ปี 2022 ครั้งที่สหภาพยุโรป(อียู) กำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างครอบคลุมเล่นงานพลังงานรัสเซีย ลงโทษเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน การเติบโตทั่วทั้งกลุ่มอยู่ในภาวะซบเซา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยอรมนี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ กำลังประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน • มอสโก ระบุว่ามาตรการจำกัดต่างๆของอียูเป็นการกระทำที่นำไปสู่ความพ่ายแพ้ของตนเอง กระพือราคาพลังงานพุ่งสูงและก่อความอ่อนแอแก่เศรษฐกิจของทางกลุ่ม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000065526 • #Thaitimes #MGROnline #ยุโรปตะวันตก #สหภาพยุโรป #อียู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประชุมทีมไทยแลนด์ รับมือภาษีสหรัฐอเมริกา โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุม ย้ำ สหรัฐเผยแพร่จดหมายเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% เป็นการเลื่อนเวลา ยังไม่ได้เจรจาถึงที่สุด มีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. นี้ ส่วนที่เอกชนเป็นห่วงว่าเวียดนามได้ภาษี 20% อาจทำให้เราเสียภาษีมากกว่าคู่แข่ง เราจะทำให้ดีที่สุด เชื่อมั่นสิ่งที่ทำหลายเรื่องจะชี้แจงให้ชัดเจน สหรัฐแบ่งสินค้าเป็นสองสามประเภทใหญ่ๆ สินค้าทั่วไปเริ่ม 10% และสินค้าที่นำเข้ามาประกอบแล้วส่งออก ต้องไม่ให้ได้รับผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ ทั้งภาคเกษตรกร อุตสาหกรรมรายย่อย อาจต้องรับซื้อสินค้าเข้ามา ก็ได้โอกาสปรับตัว สิ่งสำคัญคือมาตรการช่วยเหลือ ทั้งกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมรายย่อย โดยกำหนดหลักการกว้างๆ ไว้แล้ว ซึ่งจะลงรายละเอียดต่อไป

    -อย่าเชื่อเฟกนิวส์ถอนกำลัง
    -วัดภูม่านฟ้าไม่ได้ก๊อบเขมร
    -เขมรแหล่งอาชญากรรมโลก
    -ห้ามสัมผัสทากทะเลน้ำเงินมีพิษ
    นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประชุมทีมไทยแลนด์ รับมือภาษีสหรัฐอเมริกา โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุม ย้ำ สหรัฐเผยแพร่จดหมายเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% เป็นการเลื่อนเวลา ยังไม่ได้เจรจาถึงที่สุด มีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. นี้ ส่วนที่เอกชนเป็นห่วงว่าเวียดนามได้ภาษี 20% อาจทำให้เราเสียภาษีมากกว่าคู่แข่ง เราจะทำให้ดีที่สุด เชื่อมั่นสิ่งที่ทำหลายเรื่องจะชี้แจงให้ชัดเจน สหรัฐแบ่งสินค้าเป็นสองสามประเภทใหญ่ๆ สินค้าทั่วไปเริ่ม 10% และสินค้าที่นำเข้ามาประกอบแล้วส่งออก ต้องไม่ให้ได้รับผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ ทั้งภาคเกษตรกร อุตสาหกรรมรายย่อย อาจต้องรับซื้อสินค้าเข้ามา ก็ได้โอกาสปรับตัว สิ่งสำคัญคือมาตรการช่วยเหลือ ทั้งกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมรายย่อย โดยกำหนดหลักการกว้างๆ ไว้แล้ว ซึ่งจะลงรายละเอียดต่อไป -อย่าเชื่อเฟกนิวส์ถอนกำลัง -วัดภูม่านฟ้าไม่ได้ก๊อบเขมร -เขมรแหล่งอาชญากรรมโลก -ห้ามสัมผัสทากทะเลน้ำเงินมีพิษ
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 595 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • "ทักษิณ" รู้ดีภาษีสหรัฐ หวังไทยได้เปรียบคู่แข่ง : [THE MESSAGE]

    นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประชุมทีมไทยแลนด์ พร้อมทั้งทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อรับมือมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งไทยถูกเก็บ 36% โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุม ย้ำ สหรัฐเผยแพร่จดหมายเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% เป็นการเลื่อนเวลา ยังไม่ได้เจรจาถึงที่สุด มีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. นี้ เพื่อให้ได้ข้อยุติ หวังเราจะได้ในส่วนที่ไม่เสียเปรียบ สหรัฐแบ่งสินค้าเป็นสองสามประเภทใหญ่ๆ สินค้าทั่วไปเริ่ม 10% และสินค้าที่นำเข้ามาประกอบแล้วส่งออก ไทยเข้มงวดกวดขันส่วนนี้ ส่วนหากเป็นตัวเลข 25% แล้วเสียเปรียบก็ไม่วางเป้าที่ตัวเลขนี้ ส่วนที่นายทักษิณมาร่วมประชุมด้วย เพราะรู้เรื่องเหล่านี้ดีน่าจะให้ข้อคิดได้
    "ทักษิณ" รู้ดีภาษีสหรัฐ หวังไทยได้เปรียบคู่แข่ง : [THE MESSAGE] นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประชุมทีมไทยแลนด์ พร้อมทั้งทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อรับมือมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งไทยถูกเก็บ 36% โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุม ย้ำ สหรัฐเผยแพร่จดหมายเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% เป็นการเลื่อนเวลา ยังไม่ได้เจรจาถึงที่สุด มีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. นี้ เพื่อให้ได้ข้อยุติ หวังเราจะได้ในส่วนที่ไม่เสียเปรียบ สหรัฐแบ่งสินค้าเป็นสองสามประเภทใหญ่ๆ สินค้าทั่วไปเริ่ม 10% และสินค้าที่นำเข้ามาประกอบแล้วส่งออก ไทยเข้มงวดกวดขันส่วนนี้ ส่วนหากเป็นตัวเลข 25% แล้วเสียเปรียบก็ไม่วางเป้าที่ตัวเลขนี้ ส่วนที่นายทักษิณมาร่วมประชุมด้วย เพราะรู้เรื่องเหล่านี้ดีน่าจะให้ข้อคิดได้
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 595 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “ทักษิณ” โผล่บ้านพิษณุโลก ร่วมวงถกรับมือภาษีสหรัฐฯ “พิชัย” แถลงนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มแต่ต้องไม่กระทบคนไทย ตั้งเป้าภาษีไม่ให้น้อยกว่าคู่แข่ง บอกเชิญ “ทักษิณ” มาให้ข้อคิดเห็น แจงจดหมายทรัมป์เป็นการเลื่อนวันให้เรา เพราะยังไม่ได้เจราจาถึงที่สุด โดยฝ่ายไทยยื่นรายละเอียดไปแล้วตั้งแต่ 6 ก.ค.อาจต้องปรับปรุงและยื่นเพิ่มเติม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000065305

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ทักษิณ” โผล่บ้านพิษณุโลก ร่วมวงถกรับมือภาษีสหรัฐฯ “พิชัย” แถลงนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มแต่ต้องไม่กระทบคนไทย ตั้งเป้าภาษีไม่ให้น้อยกว่าคู่แข่ง บอกเชิญ “ทักษิณ” มาให้ข้อคิดเห็น แจงจดหมายทรัมป์เป็นการเลื่อนวันให้เรา เพราะยังไม่ได้เจราจาถึงที่สุด โดยฝ่ายไทยยื่นรายละเอียดไปแล้วตั้งแต่ 6 ก.ค.อาจต้องปรับปรุงและยื่นเพิ่มเติม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000065305 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 503 มุมมอง 0 รีวิว
  • MIPS จากตำนาน RISC สู่การเริ่มต้นใหม่ในอ้อมแขนของ GlobalFoundries

    ย้อนกลับไปในยุค 1980s MIPS คือหนึ่งในผู้บุกเบิกสถาปัตยกรรม RISC (Reduced Instruction Set Computing) โดยมี John Hennessy จาก Stanford เป็นผู้ร่วมออกแบบ และเปิดตัว CPU รุ่นแรกคือ R2000 ซึ่งมีเพียง 110,000 ทรานซิสเตอร์ แต่สามารถทำงานได้เร็วถึง 15MHz

    MIPS เคยเป็นคู่แข่งของ Intel และ Arm และมีบทบาทสำคัญในอุปกรณ์ระดับสูง เช่น:
    - Workstation ของ Silicon Graphics
    - เครื่องเล่นเกม Sony PlayStation รุ่นแรก
    - ยานสำรวจอวกาศ New Horizons ของ NASA

    แต่หลังจากนั้น MIPS ก็เปลี่ยนมือหลายครั้ง—ผ่าน Silicon Graphics, Imagination Technologies, Tallwood Ventures และ Wave Computing ก่อนจะล้มละลายและกลับมาอีกครั้งในปี 2020 โดยหันไปใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แบบโอเพนซอร์ส

    แม้จะเปิดตัวซีรีส์ eVocore และ Atlas Explorer เพื่อเจาะตลาด AI และ edge computing แต่ก็ไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมได้มากนัก จนล่าสุด GlobalFoundries เข้าซื้อกิจการ และจะให้ MIPS ดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระที่เน้น AI, อุตสาหกรรม และระบบอัตโนมัติ

    ข้อมูลจากข่าว
    - MIPS เคยเป็นผู้นำด้าน RISC และอยู่เบื้องหลัง PlayStation รุ่นแรกและภารกิจของ NASA
    - เปิดตัว CPU รุ่นแรก R2000 ในปี 1986 และ R3000 ในปี 1988
    - ถูกซื้อโดย GlobalFoundries ซึ่งเคยเป็นโรงงานผลิตชิปของ AMD
    - MIPS จะดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระภายใต้ GlobalFoundries
    - เป้าหมายใหม่คือ AI, ระบบอัตโนมัติ และ edge computing
    - เคยเปลี่ยนมาใช้ RISC-V architecture เพื่อกลับเข้าสู่ตลาด
    - CEO ของ MIPS มองว่าการเข้าร่วม GlobalFoundries คือ “การเริ่มต้นบทใหม่ที่กล้าหาญ”

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - แม้จะมีประวัติยิ่งใหญ่ แต่ MIPS ยังไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมในตลาด AI ได้จริง
    - การเปลี่ยนมือบ่อยครั้งสะท้อนถึงความไม่มั่นคงของโมเดลธุรกิจ
    - RISC-V แม้จะเป็นมาตรฐานเปิด แต่ยังมีความไม่แน่นอนในด้าน ecosystem และการสนับสนุนเชิงพาณิชย์
    - การพึ่งพา GlobalFoundries อาจทำให้ MIPS ต้องปรับตัวตามกลยุทธ์ของบริษัทแม่
    - ผู้พัฒนาและองค์กรที่ใช้ IP ของ MIPS ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบในระยะยาว

    https://www.techradar.com/pro/arms-legendary-rival-was-in-the-original-playstation-now-in-a-twist-of-fate-mips-has-been-sold-to-amds-former-foundry
    MIPS จากตำนาน RISC สู่การเริ่มต้นใหม่ในอ้อมแขนของ GlobalFoundries ย้อนกลับไปในยุค 1980s MIPS คือหนึ่งในผู้บุกเบิกสถาปัตยกรรม RISC (Reduced Instruction Set Computing) โดยมี John Hennessy จาก Stanford เป็นผู้ร่วมออกแบบ และเปิดตัว CPU รุ่นแรกคือ R2000 ซึ่งมีเพียง 110,000 ทรานซิสเตอร์ แต่สามารถทำงานได้เร็วถึง 15MHz MIPS เคยเป็นคู่แข่งของ Intel และ Arm และมีบทบาทสำคัญในอุปกรณ์ระดับสูง เช่น: - Workstation ของ Silicon Graphics - เครื่องเล่นเกม Sony PlayStation รุ่นแรก - ยานสำรวจอวกาศ New Horizons ของ NASA แต่หลังจากนั้น MIPS ก็เปลี่ยนมือหลายครั้ง—ผ่าน Silicon Graphics, Imagination Technologies, Tallwood Ventures และ Wave Computing ก่อนจะล้มละลายและกลับมาอีกครั้งในปี 2020 โดยหันไปใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แบบโอเพนซอร์ส แม้จะเปิดตัวซีรีส์ eVocore และ Atlas Explorer เพื่อเจาะตลาด AI และ edge computing แต่ก็ไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมได้มากนัก จนล่าสุด GlobalFoundries เข้าซื้อกิจการ และจะให้ MIPS ดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระที่เน้น AI, อุตสาหกรรม และระบบอัตโนมัติ ✅ ข้อมูลจากข่าว - MIPS เคยเป็นผู้นำด้าน RISC และอยู่เบื้องหลัง PlayStation รุ่นแรกและภารกิจของ NASA - เปิดตัว CPU รุ่นแรก R2000 ในปี 1986 และ R3000 ในปี 1988 - ถูกซื้อโดย GlobalFoundries ซึ่งเคยเป็นโรงงานผลิตชิปของ AMD - MIPS จะดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระภายใต้ GlobalFoundries - เป้าหมายใหม่คือ AI, ระบบอัตโนมัติ และ edge computing - เคยเปลี่ยนมาใช้ RISC-V architecture เพื่อกลับเข้าสู่ตลาด - CEO ของ MIPS มองว่าการเข้าร่วม GlobalFoundries คือ “การเริ่มต้นบทใหม่ที่กล้าหาญ” ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - แม้จะมีประวัติยิ่งใหญ่ แต่ MIPS ยังไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมในตลาด AI ได้จริง - การเปลี่ยนมือบ่อยครั้งสะท้อนถึงความไม่มั่นคงของโมเดลธุรกิจ - RISC-V แม้จะเป็นมาตรฐานเปิด แต่ยังมีความไม่แน่นอนในด้าน ecosystem และการสนับสนุนเชิงพาณิชย์ - การพึ่งพา GlobalFoundries อาจทำให้ MIPS ต้องปรับตัวตามกลยุทธ์ของบริษัทแม่ - ผู้พัฒนาและองค์กรที่ใช้ IP ของ MIPS ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบในระยะยาว https://www.techradar.com/pro/arms-legendary-rival-was-in-the-original-playstation-now-in-a-twist-of-fate-mips-has-been-sold-to-amds-former-foundry
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

    เดือนนี้ เป็นหนี้เป็นสินใครจะถูกฟ้องร้องตัดสินไปในทางลบ จึงควรใส่ใจสุขภาพร่างกายเพราะอาจจะเป็นสาเหตุ ให้เจ็บป่วย ทั้งกระเพาะ ระบบย่อย นิ้วมือ นิ้วเท้า แขน ขา ลำไส้ หรือแม้แต่ประจำเดือน อาจจะพบสิ่งผิดปกติได้ ครอบครัวควรหลีกเลี่ยงคำพูดคำจาที่พร้อมจะทำให้เกิดการขัดแย้งแตกแยก ควรปรองดองถนอมน้ำใจให้มากๆ ดึกดื่นข้ามคืนควรตรวจตราภายในบ้านให้ละเอียดรอบคอบ ระวังภัยโจรปล้นขโมยเพราะมีโอกาสจะขึ้นบ้าน เลี้ยงสุนัขควรดูแลเอาใจใส่ให้ความรักอย่างจริงจัง อย่าปล่อยทิ้งๆขว้างๆจนประสาทเครียดให้ระแวงแว้งกัดได้ ทำธุรกิจการงานแม้จะมีศัตรูคู่แข่ง ที่คอยสร้างแต่ปัญหาให้หนักอกหนักใจ แต่ก็จะเอาชนะผ่านพ้นไปได้ โดยเฉพาะธุรกิจที่ดินจะพบประสบกับความสำเร็จ พรั่งพร้อมทั้งตำแหน่ง อำนาจ บารมี อีกทั้งความมั่งคั่ง มั่งมี ร่ำรวย มีเงินออมเก็บสะสมไว้ในวันหน้า

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เดือนนี้ เป็นหนี้เป็นสินใครจะถูกฟ้องร้องตัดสินไปในทางลบ จึงควรใส่ใจสุขภาพร่างกายเพราะอาจจะเป็นสาเหตุ ให้เจ็บป่วย ทั้งกระเพาะ ระบบย่อย นิ้วมือ นิ้วเท้า แขน ขา ลำไส้ หรือแม้แต่ประจำเดือน อาจจะพบสิ่งผิดปกติได้ ครอบครัวควรหลีกเลี่ยงคำพูดคำจาที่พร้อมจะทำให้เกิดการขัดแย้งแตกแยก ควรปรองดองถนอมน้ำใจให้มากๆ ดึกดื่นข้ามคืนควรตรวจตราภายในบ้านให้ละเอียดรอบคอบ ระวังภัยโจรปล้นขโมยเพราะมีโอกาสจะขึ้นบ้าน เลี้ยงสุนัขควรดูแลเอาใจใส่ให้ความรักอย่างจริงจัง อย่าปล่อยทิ้งๆขว้างๆจนประสาทเครียดให้ระแวงแว้งกัดได้ ทำธุรกิจการงานแม้จะมีศัตรูคู่แข่ง ที่คอยสร้างแต่ปัญหาให้หนักอกหนักใจ แต่ก็จะเอาชนะผ่านพ้นไปได้ โดยเฉพาะธุรกิจที่ดินจะพบประสบกับความสำเร็จ พรั่งพร้อมทั้งตำแหน่ง อำนาจ บารมี อีกทั้งความมั่งคั่ง มั่งมี ร่ำรวย มีเงินออมเก็บสะสมไว้ในวันหน้า ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าคุณเคยรู้สึกว่าเวลาเข้าไปที่หน้า Settings หรือเปิดหน้า Split Screen ใน Microsoft Edge แล้วมันช้า ๆ หน่วง ๆ นิด ๆ ตอนนี้แหละคือจุดเปลี่ยนใหญ่แล้วครับ → เพราะ Microsoft พัฒนาเบื้องหลังของเบราว์เซอร์ใหม่เรียกว่า WebUI 2.0 → ใช้เทคนิคโหลดหน้าจอแบบเบา–รวดเร็ว ทำให้ “First Contentful Paint (FCP)” หรือความเร็วที่ UI ปรากฏครั้งแรก เร็วขึ้นเหลือต่ำกว่า 300 มิลลิวินาที

    แปลว่าผู้ใช้แทบไม่รู้สึกว่า “รอ” อยู่เลยในหลาย ๆ เมนู → และจากการวัดผลโดย Microsoft เอง ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Edge เช่น Split Screen, Workspaces, Read Aloud และ Settings ก็โหลดเร็วขึ้น เฉลี่ย 40%

    นี่ไม่ใช่แค่ตัวเลขสวยงาม เพราะ Microsoft ยังโชว์วิดีโอเปรียบเทียบให้ดูว่า → หน้า Settings ตอนนี้ “โผล่มาแทบจะทันที” → และประกาศว่าอีกหลายส่วนของเบราว์เซอร์ อย่าง Print Preview และ Extensions กำลังจะย้ายมาใช้ WebUI 2.0 ต่อในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    สิ่งนี้สะท้อนว่า Microsoft กำลัง “ฟังเสียงผู้ใช้” และไม่ใช่แค่ใส่ฟีเจอร์ที่น่ารำคาญอย่างโฆษณาหรือป๊อปอัปอีกต่อไป

    Microsoft Edge โหลด UI ได้เร็วขึ้นแบบรู้สึกได้ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ WebUI 2.0  
    • FCP ต่ำกว่า 300ms → ประสบการณ์ใช้งานลื่นขึ้นชัดเจน  
    • ตามมาตรฐาน “ความเร็วสมัยใหม่” เทียบชั้นเบราว์เซอร์คู่แข่ง

    หลังอัปเดต WebUI 2.0 ไปยัง 13 ฟีเจอร์ พบว่าโหลดเร็วขึ้นเฉลี่ย 40%  
    • เช่น Settings, Read Aloud, Split Screen, Workspaces

    Microsoft เผยแผนจะขยาย WebUI 2.0 ไปยังส่วนอื่น เช่น Print Preview และ Extensions  
    • คาดว่าจะมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    การตัด “bloat” ใน Edge ช่วยให้เบราว์เซอร์เร็วขึ้นโดยรวม  
    • Microsoft เน้นว่าไม่ได้แค่เพิ่มความเร็ว แต่ยังลดการรบกวนผู้ใช้ (โฆษณา, ป๊อปอัป ฯลฯ)


    https://www.neowin.net/news/microsoft-edge-is-now-significantly-faster-than-before/
    ถ้าคุณเคยรู้สึกว่าเวลาเข้าไปที่หน้า Settings หรือเปิดหน้า Split Screen ใน Microsoft Edge แล้วมันช้า ๆ หน่วง ๆ นิด ๆ ตอนนี้แหละคือจุดเปลี่ยนใหญ่แล้วครับ → เพราะ Microsoft พัฒนาเบื้องหลังของเบราว์เซอร์ใหม่เรียกว่า WebUI 2.0 → ใช้เทคนิคโหลดหน้าจอแบบเบา–รวดเร็ว ทำให้ “First Contentful Paint (FCP)” หรือความเร็วที่ UI ปรากฏครั้งแรก เร็วขึ้นเหลือต่ำกว่า 300 มิลลิวินาที แปลว่าผู้ใช้แทบไม่รู้สึกว่า “รอ” อยู่เลยในหลาย ๆ เมนู → และจากการวัดผลโดย Microsoft เอง ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Edge เช่น Split Screen, Workspaces, Read Aloud และ Settings ก็โหลดเร็วขึ้น เฉลี่ย 40% นี่ไม่ใช่แค่ตัวเลขสวยงาม เพราะ Microsoft ยังโชว์วิดีโอเปรียบเทียบให้ดูว่า → หน้า Settings ตอนนี้ “โผล่มาแทบจะทันที” → และประกาศว่าอีกหลายส่วนของเบราว์เซอร์ อย่าง Print Preview และ Extensions กำลังจะย้ายมาใช้ WebUI 2.0 ต่อในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สิ่งนี้สะท้อนว่า Microsoft กำลัง “ฟังเสียงผู้ใช้” และไม่ใช่แค่ใส่ฟีเจอร์ที่น่ารำคาญอย่างโฆษณาหรือป๊อปอัปอีกต่อไป ✅ Microsoft Edge โหลด UI ได้เร็วขึ้นแบบรู้สึกได้ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ WebUI 2.0   • FCP ต่ำกว่า 300ms → ประสบการณ์ใช้งานลื่นขึ้นชัดเจน   • ตามมาตรฐาน “ความเร็วสมัยใหม่” เทียบชั้นเบราว์เซอร์คู่แข่ง ✅ หลังอัปเดต WebUI 2.0 ไปยัง 13 ฟีเจอร์ พบว่าโหลดเร็วขึ้นเฉลี่ย 40%   • เช่น Settings, Read Aloud, Split Screen, Workspaces ✅ Microsoft เผยแผนจะขยาย WebUI 2.0 ไปยังส่วนอื่น เช่น Print Preview และ Extensions   • คาดว่าจะมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ✅ การตัด “bloat” ใน Edge ช่วยให้เบราว์เซอร์เร็วขึ้นโดยรวม   • Microsoft เน้นว่าไม่ได้แค่เพิ่มความเร็ว แต่ยังลดการรบกวนผู้ใช้ (โฆษณา, ป๊อปอัป ฯลฯ) https://www.neowin.net/news/microsoft-edge-is-now-significantly-faster-than-before/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft Edge is now significantly faster than before
    Recent changes in Microsoft Edge have made the browser significantly faster, giving users a valid reason to stay away from other browsers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่:

    1. **สหรัฐอเมริกา:**
    * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control)

    2. **จีน:**
    * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ

    3. **รัสเซีย:**
    * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ
    * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น

    4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:**
    * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ
    * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS)

    **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม
    2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้
    3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี
    4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
    5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง

    **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ
    2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต
    3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ
    4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):**
    * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน
    * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น
    5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา
    6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ

    **สรุป:**
    สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่: 1. **สหรัฐอเมริกา:** * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control) 2. **จีน:** * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ 3. **รัสเซีย:** * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น 4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:** * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS) **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม 2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้ 3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี 4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ 2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต 3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ 4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):** * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น 5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา 6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ **สรุป:** สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก่อนหน้านี้ใครที่ใช้โน้ตบุ๊กแล้วอยากเพิ่มพลังการ์ดจอ ต้องพึ่ง eGPU ที่ใช้ Thunderbolt 3 หรือ 4 ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องแบนด์วิดธ์ — พอมาเจอ Thunderbolt 5 ที่วิ่งได้ถึง 80 Gbps (จากเดิม 40–64 Gbps) การส่งข้อมูลกราฟิกจะเร็วกว่าเดิมชัดเจน → ทำให้ภาพลื่นขึ้น การตอบสนองเร็วขึ้น โดยเฉพาะในเกม AAA หรือการเรนเดอร์ภาพ/โมเดล AI

    ONE-NETBOOK เคยเปิดตัว ONEXGPU รุ่นแรกที่ใช้ OCulink (64 Gbps) มาก่อน
    → ตอนนี้รุ่นใหม่จะเปลี่ยนมาใช้ Thunderbolt 5, เพิ่มแบนด์วิดธ์อีก 16 Gbps
    → ดีไซน์ใหม่, ระบบระบายความร้อนดีขึ้น, มีไฟ LED ด้านหน้าเพื่อความสวยงาม
    → แม้ยังไม่เปิดสเปกทั้งหมด แต่คาดว่าจะมี ช่อง M.2 SSD แบบ PCIe 4.0 หรือ 5.0, USB-A/USB-C, และพอร์ตชาร์จ (PD) เหมือนรุ่นก่อน

    eGPU รุ่นใหม่นี้ถือเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจของ ROG XG Mobile และ Minisforum MGA 1 ที่ใช้ RX 7600M XT เช่นกัน
    → จุดเด่นของ ONE-NETBOOK คือ “ขนาดเล็กแบบพกพาใส่กระเป๋าได้” แถมราคาน่าจะไม่แรงเท่าคู่แข่งจากแบรนด์ใหญ่

    https://wccftech.com/one-netbook-prepares-worlds-first-thunderbolt-5-based-rx-7600m-xt-egpu/
    ก่อนหน้านี้ใครที่ใช้โน้ตบุ๊กแล้วอยากเพิ่มพลังการ์ดจอ ต้องพึ่ง eGPU ที่ใช้ Thunderbolt 3 หรือ 4 ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องแบนด์วิดธ์ — พอมาเจอ Thunderbolt 5 ที่วิ่งได้ถึง 80 Gbps (จากเดิม 40–64 Gbps) การส่งข้อมูลกราฟิกจะเร็วกว่าเดิมชัดเจน → ทำให้ภาพลื่นขึ้น การตอบสนองเร็วขึ้น โดยเฉพาะในเกม AAA หรือการเรนเดอร์ภาพ/โมเดล AI ONE-NETBOOK เคยเปิดตัว ONEXGPU รุ่นแรกที่ใช้ OCulink (64 Gbps) มาก่อน → ตอนนี้รุ่นใหม่จะเปลี่ยนมาใช้ Thunderbolt 5, เพิ่มแบนด์วิดธ์อีก 16 Gbps → ดีไซน์ใหม่, ระบบระบายความร้อนดีขึ้น, มีไฟ LED ด้านหน้าเพื่อความสวยงาม → แม้ยังไม่เปิดสเปกทั้งหมด แต่คาดว่าจะมี ช่อง M.2 SSD แบบ PCIe 4.0 หรือ 5.0, USB-A/USB-C, และพอร์ตชาร์จ (PD) เหมือนรุ่นก่อน eGPU รุ่นใหม่นี้ถือเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจของ ROG XG Mobile และ Minisforum MGA 1 ที่ใช้ RX 7600M XT เช่นกัน → จุดเด่นของ ONE-NETBOOK คือ “ขนาดเล็กแบบพกพาใส่กระเป๋าได้” แถมราคาน่าจะไม่แรงเท่าคู่แข่งจากแบรนด์ใหญ่ https://wccftech.com/one-netbook-prepares-worlds-first-thunderbolt-5-based-rx-7600m-xt-egpu/
    WCCFTECH.COM
    ONE-NETBOOK Prepares World's First ThunderBolt 5-Based RX 7600M XT eGPU
    OneXPlayer has introduced the first-ever RX 7600M XT eGPU with Thunderbolt 5 interface, delivering greater bandwidth than before.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุโรปเป็นภูมิภาคแรกของโลกที่ออกกฎหมาย AI แบบครอบคลุมทั้งระบบ โดยเรียกว่า AI Act ซึ่งเน้นความปลอดภัย–ความโปร่งใส–และสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก

    ฟังดูดีใช่ไหมครับ?

    แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายแห่งกลับบอกว่า... “มันดีเกินไปจนทำให้นวัตกรรมไปไม่ถึงไหน” → เพราะกฎที่ซับซ้อน อาจทำให้สตาร์ทอัพ–องค์กรขนาดกลาง ไปจนถึง “European Champion” อย่าง Airbus หรือ ASML ไม่สามารถพัฒนา–ใช้งาน–ทดสอบ AI ได้ทันคู่แข่งในจีนและสหรัฐฯ → พวกเขาเลยเสนอให้ “หยุดพัก 2 ปี” สำหรับข้อบังคับที่เกี่ยวกับ AI แบบ “General-purpose” (เช่น ChatGPT, Gemini, Le Chat) และ AI แบบ “High-risk” (เช่น AI ในระบบสุขภาพ, กฎหมาย, ความมั่นคง)

    โดยเฉพาะกฎของ EU ที่ให้ AI ที่เสี่ยงต่อสุขภาพหรือสิทธิผู้ใช้ ต้องผ่านมาตรฐานหลายขั้นมาก (risk-based approach) → ยังไม่มีกำหนดแน่ชัดของ “code of practice” สำหรับ General-purpose AI ด้วยซ้ำ → แถมประธานาธิบดี Donald Trump และรองประธาน JD Vance ของสหรัฐฯ ยังเคยวิจารณ์ AI Act ว่า “เข้มจนเป็นภัยต่อการแข่งขัน”

    46 บริษัทใหญ่ของยุโรปยื่นจดหมายขอให้ EU ชะลอกฎหมาย AI Act ออกไป 2 ปี  
    • รวมถึง Airbus (ฝรั่งเศส), ASML (เนเธอร์แลนด์), Lufthansa และ Mercedes-Benz (เยอรมนี), Mistral (AI จากฝรั่งเศส)

    เสนอให้เลื่อนข้อกำหนด 2 กลุ่มหลักออกไปก่อน:  
    • General-purpose AI models (เช่น GPT, Gemini, Le Chat): เดิมจะเริ่มเดือนสิงหาคม 2025  
    • High-risk AI systems: เดิมจะเริ่มเดือนสิงหาคม 2026

    ให้เหตุผลว่ากฎเหล่านี้ “ทำลายความสามารถในการแข่งขันเชิงอุตสาหกรรม”  
    • ทั้งในด้านความเร็ว, งบวิจัย, การทดสอบ, และการสเกลโมเดลไปใช้จริง

    AI Act ใช้หลัก “ความเสี่ยงสูง–ความรับผิดสูง” (risk-based approach)  
    • ถ้าใช้ AI ในระบบสุขภาพ, กฎหมาย, ระบบคะแนนสังคม → ต้องผ่านเกณฑ์เข้มมาก  
    • General-purpose AI ยังไม่มี code of practice อย่างเป็นทางการ

    คณะกรรมาธิการยุโรปจะเผยแพร่แนวปฏิบัติ (code of practice) สำหรับ GPAI ภายในกรกฎาคม 2025 นี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/european-companies-urge-eu-to-delay-ai-rules
    ยุโรปเป็นภูมิภาคแรกของโลกที่ออกกฎหมาย AI แบบครอบคลุมทั้งระบบ โดยเรียกว่า AI Act ซึ่งเน้นความปลอดภัย–ความโปร่งใส–และสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก ฟังดูดีใช่ไหมครับ? แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายแห่งกลับบอกว่า... “มันดีเกินไปจนทำให้นวัตกรรมไปไม่ถึงไหน” → เพราะกฎที่ซับซ้อน อาจทำให้สตาร์ทอัพ–องค์กรขนาดกลาง ไปจนถึง “European Champion” อย่าง Airbus หรือ ASML ไม่สามารถพัฒนา–ใช้งาน–ทดสอบ AI ได้ทันคู่แข่งในจีนและสหรัฐฯ → พวกเขาเลยเสนอให้ “หยุดพัก 2 ปี” สำหรับข้อบังคับที่เกี่ยวกับ AI แบบ “General-purpose” (เช่น ChatGPT, Gemini, Le Chat) และ AI แบบ “High-risk” (เช่น AI ในระบบสุขภาพ, กฎหมาย, ความมั่นคง) โดยเฉพาะกฎของ EU ที่ให้ AI ที่เสี่ยงต่อสุขภาพหรือสิทธิผู้ใช้ ต้องผ่านมาตรฐานหลายขั้นมาก (risk-based approach) → ยังไม่มีกำหนดแน่ชัดของ “code of practice” สำหรับ General-purpose AI ด้วยซ้ำ → แถมประธานาธิบดี Donald Trump และรองประธาน JD Vance ของสหรัฐฯ ยังเคยวิจารณ์ AI Act ว่า “เข้มจนเป็นภัยต่อการแข่งขัน” ✅ 46 บริษัทใหญ่ของยุโรปยื่นจดหมายขอให้ EU ชะลอกฎหมาย AI Act ออกไป 2 ปี   • รวมถึง Airbus (ฝรั่งเศส), ASML (เนเธอร์แลนด์), Lufthansa และ Mercedes-Benz (เยอรมนี), Mistral (AI จากฝรั่งเศส) ✅ เสนอให้เลื่อนข้อกำหนด 2 กลุ่มหลักออกไปก่อน:   • General-purpose AI models (เช่น GPT, Gemini, Le Chat): เดิมจะเริ่มเดือนสิงหาคม 2025   • High-risk AI systems: เดิมจะเริ่มเดือนสิงหาคม 2026 ✅ ให้เหตุผลว่ากฎเหล่านี้ “ทำลายความสามารถในการแข่งขันเชิงอุตสาหกรรม”   • ทั้งในด้านความเร็ว, งบวิจัย, การทดสอบ, และการสเกลโมเดลไปใช้จริง ✅ AI Act ใช้หลัก “ความเสี่ยงสูง–ความรับผิดสูง” (risk-based approach)   • ถ้าใช้ AI ในระบบสุขภาพ, กฎหมาย, ระบบคะแนนสังคม → ต้องผ่านเกณฑ์เข้มมาก   • General-purpose AI ยังไม่มี code of practice อย่างเป็นทางการ ✅ คณะกรรมาธิการยุโรปจะเผยแพร่แนวปฏิบัติ (code of practice) สำหรับ GPAI ภายในกรกฎาคม 2025 นี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/european-companies-urge-eu-to-delay-ai-rules
    WWW.THESTAR.COM.MY
    European companies urge EU to delay AI rules
    Dozens of Europe's biggest companies urged the EU to hit the pause button on its landmark AI rules on July 3, warning that going too fast could harm the bloc's ability to lead in the global AI race.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘ภาษีทรัมป์’ ชี้ชะตาขีดแข่งขันไทย : [Biz Talk]

    นอกจากจะลุ้นให้ผลเจรจาภาษีไทย-สหรัฐ ได้ข้อสรุปก่อนครบกำหนด 9 ก.ค.68 แล้ว /ยังต้องลุ้นด้วยว่า ผลที่ออกมา จะทำให้ไทย เสียเปรียบประเทศคู่แข่งในภูมิภาค หรือไม่ หวั่นส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคการผลิต และห่วงโซ่อุปทานของไทย

    https://www.youtube.com/watch?v=JQ9CwY7-S1w
    ‘ภาษีทรัมป์’ ชี้ชะตาขีดแข่งขันไทย : [Biz Talk] นอกจากจะลุ้นให้ผลเจรจาภาษีไทย-สหรัฐ ได้ข้อสรุปก่อนครบกำหนด 9 ก.ค.68 แล้ว /ยังต้องลุ้นด้วยว่า ผลที่ออกมา จะทำให้ไทย เสียเปรียบประเทศคู่แข่งในภูมิภาค หรือไม่ หวั่นส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคการผลิต และห่วงโซ่อุปทานของไทย https://www.youtube.com/watch?v=JQ9CwY7-S1w
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 0 รีวิว
  • แต่เดิม 18A ถูกวางตัวให้เป็นหมัดเด็ดของ Intel ในการกลับเข้าสู่ตลาดโรงหล่อแข่งกับ TSMC — เพราะมันคือเทคโนโลยีแรกที่ใช้ทรานซิสเตอร์แบบ RibbonFET กับโครงสร้างส่งพลังงานด้านหลัง PowerVia อย่างเต็มรูปแบบ

    แต่ล่าสุดมีรายงานว่า CEO คนใหม่ของ Intel, Lip-Bu Tan กำลังพิจารณา “ถอยออกจาก 18A สำหรับลูกค้าภายนอก” แล้วหันไปโฟกัสกับ 14A แทน โดยเขามองว่า:
    - 18A ดึงลูกค้าขนาดใหญ่ได้ยาก
    - ทุนที่ลงไปอาจไม่คุ้ม ถ้ายังไม่มีดีลใหญ่
    - 14A เตรียมไว้สำหรับการผลิตจริงในปี 2028 — ถ้าจะโปรโมต ก็ควรเริ่มแล้วตอนนี้

    ผลที่ตามมาคือ Intel อาจต้อง “หายไปจากสนามแข่งของ TSMC รุ่น N2 / A16” ไปอีก 2-3 ปี → เปิดช่องว่างให้ TSMC ครองตลาดแบบไร้คู่แข่งเลยก็ได้

    แม้ Intel จะยังผลิตชิปภายในของตัวเองด้วย 18A เช่น Panther Lake, Diamond Rapids ฯลฯ แต่การถอนตัวจาก 18A ฝั่งโรงหล่อ ก็เหมือนกับยอมรับว่า…

    “เรายังไม่พร้อมให้คนอื่นใช้ของเราเป็นเวทีหลักได้ในตอนนี้”

    Intel อาจไม่เปิดใช้เทคโนโลยี 18A ให้กับลูกค้าโรงหล่อภายนอกอีกต่อไป  
    • เพราะดึงลูกค้าใหญ่ได้ไม่มาก  
    • มีค่าใช้จ่ายสูงในการสนับสนุน + รักษาโรงงาน

    จะโฟกัสไปที่เทคโนโลยี 14A แทน → เตรียมพร้อมสำหรับการผลิตในปี 2028  
    • เริ่มโปรโมตให้ลูกค้าภายนอกแล้ว  
    • ใช้ PowerDirect และ Turbo Cells — เทคโนโลยีขั้นกว่าของ PowerVia

    18A ยังใช้กับผลิตภัณฑ์ภายในของ Intel เช่น Panther Lake, Jaguar Shores, Diamond Rapids  
    • แต่ไม่ดันออกตลาดให้ผู้อื่นใช้อีกต่อไป  
    • ลูกค้าภายนอกที่ยืนยันใช้ 18A มีแค่ Amazon, Microsoft, กระทรวงกลาโหมสหรัฐ

    หากถอนตัวจากตลาด foundry รุ่น 18A → Intel จะไม่สามารถแข่งกับ TSMC รุ่น N2 / A16 ได้อีก 2–3 ปี

    TSMC ยังเหนือกว่าเรื่องความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ แม้ 18A จะได้เปรียบเรื่อง Power Delivery

    Intel เตรียมหารือกับบอร์ดบริหารปลายปีนี้ เพื่อเคาะทิศทางสุดท้าย

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-might-axe-the-18a-process-node-for-foundry-customers-essentially-leaving-tsmc-with-no-rival-intel-reportedly-to-focus-on-14a
    แต่เดิม 18A ถูกวางตัวให้เป็นหมัดเด็ดของ Intel ในการกลับเข้าสู่ตลาดโรงหล่อแข่งกับ TSMC — เพราะมันคือเทคโนโลยีแรกที่ใช้ทรานซิสเตอร์แบบ RibbonFET กับโครงสร้างส่งพลังงานด้านหลัง PowerVia อย่างเต็มรูปแบบ แต่ล่าสุดมีรายงานว่า CEO คนใหม่ของ Intel, Lip-Bu Tan กำลังพิจารณา “ถอยออกจาก 18A สำหรับลูกค้าภายนอก” แล้วหันไปโฟกัสกับ 14A แทน โดยเขามองว่า: - 18A ดึงลูกค้าขนาดใหญ่ได้ยาก - ทุนที่ลงไปอาจไม่คุ้ม ถ้ายังไม่มีดีลใหญ่ - 14A เตรียมไว้สำหรับการผลิตจริงในปี 2028 — ถ้าจะโปรโมต ก็ควรเริ่มแล้วตอนนี้ ผลที่ตามมาคือ Intel อาจต้อง “หายไปจากสนามแข่งของ TSMC รุ่น N2 / A16” ไปอีก 2-3 ปี → เปิดช่องว่างให้ TSMC ครองตลาดแบบไร้คู่แข่งเลยก็ได้ แม้ Intel จะยังผลิตชิปภายในของตัวเองด้วย 18A เช่น Panther Lake, Diamond Rapids ฯลฯ แต่การถอนตัวจาก 18A ฝั่งโรงหล่อ ก็เหมือนกับยอมรับว่า… “เรายังไม่พร้อมให้คนอื่นใช้ของเราเป็นเวทีหลักได้ในตอนนี้” ✅ Intel อาจไม่เปิดใช้เทคโนโลยี 18A ให้กับลูกค้าโรงหล่อภายนอกอีกต่อไป   • เพราะดึงลูกค้าใหญ่ได้ไม่มาก   • มีค่าใช้จ่ายสูงในการสนับสนุน + รักษาโรงงาน ✅ จะโฟกัสไปที่เทคโนโลยี 14A แทน → เตรียมพร้อมสำหรับการผลิตในปี 2028   • เริ่มโปรโมตให้ลูกค้าภายนอกแล้ว   • ใช้ PowerDirect และ Turbo Cells — เทคโนโลยีขั้นกว่าของ PowerVia ✅ 18A ยังใช้กับผลิตภัณฑ์ภายในของ Intel เช่น Panther Lake, Jaguar Shores, Diamond Rapids   • แต่ไม่ดันออกตลาดให้ผู้อื่นใช้อีกต่อไป   • ลูกค้าภายนอกที่ยืนยันใช้ 18A มีแค่ Amazon, Microsoft, กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ✅ หากถอนตัวจากตลาด foundry รุ่น 18A → Intel จะไม่สามารถแข่งกับ TSMC รุ่น N2 / A16 ได้อีก 2–3 ปี ✅ TSMC ยังเหนือกว่าเรื่องความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ แม้ 18A จะได้เปรียบเรื่อง Power Delivery ✅ Intel เตรียมหารือกับบอร์ดบริหารปลายปีนี้ เพื่อเคาะทิศทางสุดท้าย https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-might-axe-the-18a-process-node-for-foundry-customers-essentially-leaving-tsmc-with-no-rival-intel-reportedly-to-focus-on-14a
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศเหนือ

    เดือนนี้ มีเกณฑ์จะได้รับบาดเจ็บจนเสียเลือดเสียเนื้อจนต้องเข้ารับการรักษาผ่าตัดพยาบาล ควรระมัดระวังภัย อันเกิดเนื่องจากเหตุเพลิงไหม้ อุบัติภัยธรรมชาติ หรือภัยอุบัติเหตุจากของมีคม จะเกิดเหตุให้ปะทะอารมณ์ จนบานปลาย หากขาดความไว้เนื้อเชื่อใจจนเป็นเรื่องชู้สาววุ่นวายเกิดขึ้นได้ง่าย จะเกิดการแข่งขันแย่งชิง ผลประโยชน์กันอย่างรุนแรง จากศัตรูคู่แข่งทางธุรกิจทั้งในและนอกที่ทำงาน รวมทั้งการประชุมตกลงเจรจา ทำสัญญาต่างๆ แม้ว่าจะไม่สำเร็จลงตัว แต่ก็ควรถนอมน้ำใจกันไว้เพื่อภายภาคหน้า เพราะจะมีลูกค้า กลุ่มเป้าหมายเข้ามาอย่างมากมาย เหมาะสำหรับการเริ่มต้นทำธุรกิจการใหม่ๆ โดยเฉพาะธุรกิจประดับยนต์ หรือรถยนต์ จะโชคดีเจริญรุ่งเรืองมีชื่อเสียงก้าวสู่ความสำเร็จระดับโลกได้

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศเหนือ เดือนนี้ มีเกณฑ์จะได้รับบาดเจ็บจนเสียเลือดเสียเนื้อจนต้องเข้ารับการรักษาผ่าตัดพยาบาล ควรระมัดระวังภัย อันเกิดเนื่องจากเหตุเพลิงไหม้ อุบัติภัยธรรมชาติ หรือภัยอุบัติเหตุจากของมีคม จะเกิดเหตุให้ปะทะอารมณ์ จนบานปลาย หากขาดความไว้เนื้อเชื่อใจจนเป็นเรื่องชู้สาววุ่นวายเกิดขึ้นได้ง่าย จะเกิดการแข่งขันแย่งชิง ผลประโยชน์กันอย่างรุนแรง จากศัตรูคู่แข่งทางธุรกิจทั้งในและนอกที่ทำงาน รวมทั้งการประชุมตกลงเจรจา ทำสัญญาต่างๆ แม้ว่าจะไม่สำเร็จลงตัว แต่ก็ควรถนอมน้ำใจกันไว้เพื่อภายภาคหน้า เพราะจะมีลูกค้า กลุ่มเป้าหมายเข้ามาอย่างมากมาย เหมาะสำหรับการเริ่มต้นทำธุรกิจการใหม่ๆ โดยเฉพาะธุรกิจประดับยนต์ หรือรถยนต์ จะโชคดีเจริญรุ่งเรืองมีชื่อเสียงก้าวสู่ความสำเร็จระดับโลกได้ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผ่าดวง AI อุ๊งอิ๊งค์ไม่น่ารอด?

    1 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้รับคำร้องกรณีที่สมาชิกวุฒิสภาขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา พร้อมกับมีมติ 7 ต่อ 2 ให้หยุดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ขณะที่เจ้าตัวกล่าวขอโทษคนไทยที่ไม่สบายใจหรือรู้สึกโกรธเคือง ยืนยันตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ

    เมื่อใช้ ChatGPT ทำนายดวงผู้หญิงที่เกิดวันที่ 21 ส.ค. 2529 ที่กรุงเทพมหานคร โดยไม่เจาะจงว่าเป็นใคร ใช้สถานการณ์สมมติว่าถูกฝ่ายตรวจสอบภายในบริษัทสั่งพักงานเพราะทำความผิดร้ายแรง มีคลิปเสียงที่ไปคุยกับบริษัทคู่แข่ง แต่บอกว่ามีเจตนาดี อยากช่วยบริษัท ไม่ได้ตั้งใจเป็นแบบนั้น พบว่าดาวเสาร์จร (Saturn transit) ซึ่งทำมุมตรงข้ามกับดวงอาทิตย์กำเนิดในราศีสิงห์ สะท้อนว่าเป็นช่วงที่ชีวิตโดนสอบสวนและต้องชดใช้ในสิ่งที่อาจทำไปโดยรู้หรือไม่รู้ตัว

    ส่วนคลิปเสียงเกี่ยวข้องกับดาวพุธ (Mercury) ซึ่งมักเกี่ยวกับหลักฐานทางการสื่อสาร หากพุธจรสัมพันธ์กับดาวมฤตยูหรือดาวเสาร์ ก็หมายถึงความลับที่ถูกเปิดเผย หรือคำพูดที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ดาวพลูโตโคจรทำมุมกับดาวอังคารกำเนิดในราศีกันย์ ซึ่งดาวแห่งการกระทำเชิงงานสื่อถึงการถูกจับตา ถูกแฉ ถูกล้วงความลับ ซึ่งเกิดขึ้นกับคนที่มีอีโก้หรือเจตนาดี แต่ระบบไม่มองแบบนั้น ส่วนจะตกงานหรือไม่ มีโอกาสตกงานในตำแหน่งเดิม หรือต้องรีเซตใหม่สูง

    ปี 2568 เป็นปีที่ดาวเสาร์บีบตัวตนแรงที่สุดในรอบ 14 ปี ผู้หญิงรายนี้มีพลังอาทิตย์ในราศีสิงห์ ภาคภูมิใจในตัวเอง แต่ตอนนี้ถูกทำให้หมดศักดิ์ศรีแบบไม่เต็มใจ ซึ่งคลิปเสียงเป็นสิ่งที่ย้อนมาทำร้ายดาวพุธ กับอาทิตย์ หากสามารถพิสูจน์เจตนาดีและมีคนในองค์กรระดับสูงช่วยพูดแทน จะอาจได้โอกาสเปลี่ยนตำแหน่ง ลดบทบาท หรือย้าย มากกว่าถูกให้ออก แต่กลางปี 2569 ดาวพฤหัสเข้าสู่มุมดีกับงาน อาจมีหน่วยงานใหม่ หรือบริษัทใหม่ที่รับผู้หญิงรายนี้ไปด้วยมุมมองต่างจากองค์กรเดิม

    หากยังอยากอยู่ในที่เดิม ต้องยอมรับว่าเจตนาดีไม่เพียงพอในองค์กรระบบใหญ่ ต้องขอโทษแบบไม่มีข้อแม้ เพราะโหงวเฮ้งหรือดาวเสาร์ไม่เปิดรับข้ออ้าง อย่าปะทะกลับหรืออธิบายซ้ำซ้อนมากเกินไป คนไม่ชอบจะใช้เป็นเหตุขุดเพิ่ม และหาพยานบุคคลที่เคยเห็นความตั้งใจดี ขอให้พูดแทนแบบมืออาชีพ แต่หากพร้อมจะไปต่อที่ใหม่ ควรพักใจ รีเซตตัวเอง เลือกงานที่วางโครงสร้างชัดเจน ช่วงปลายปี 2568 ถึงต้นปี 2569 จะมีแสงสว่างจากผู้ใหญ่ใหม่ หรือโปรเจกต์ที่เคยมีบุญคุณไว้ หรือเคยช่วยไว้ในอดีต

    #Newskit
    ผ่าดวง AI อุ๊งอิ๊งค์ไม่น่ารอด? 1 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้รับคำร้องกรณีที่สมาชิกวุฒิสภาขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา พร้อมกับมีมติ 7 ต่อ 2 ให้หยุดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ขณะที่เจ้าตัวกล่าวขอโทษคนไทยที่ไม่สบายใจหรือรู้สึกโกรธเคือง ยืนยันตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เมื่อใช้ ChatGPT ทำนายดวงผู้หญิงที่เกิดวันที่ 21 ส.ค. 2529 ที่กรุงเทพมหานคร โดยไม่เจาะจงว่าเป็นใคร ใช้สถานการณ์สมมติว่าถูกฝ่ายตรวจสอบภายในบริษัทสั่งพักงานเพราะทำความผิดร้ายแรง มีคลิปเสียงที่ไปคุยกับบริษัทคู่แข่ง แต่บอกว่ามีเจตนาดี อยากช่วยบริษัท ไม่ได้ตั้งใจเป็นแบบนั้น พบว่าดาวเสาร์จร (Saturn transit) ซึ่งทำมุมตรงข้ามกับดวงอาทิตย์กำเนิดในราศีสิงห์ สะท้อนว่าเป็นช่วงที่ชีวิตโดนสอบสวนและต้องชดใช้ในสิ่งที่อาจทำไปโดยรู้หรือไม่รู้ตัว ส่วนคลิปเสียงเกี่ยวข้องกับดาวพุธ (Mercury) ซึ่งมักเกี่ยวกับหลักฐานทางการสื่อสาร หากพุธจรสัมพันธ์กับดาวมฤตยูหรือดาวเสาร์ ก็หมายถึงความลับที่ถูกเปิดเผย หรือคำพูดที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ดาวพลูโตโคจรทำมุมกับดาวอังคารกำเนิดในราศีกันย์ ซึ่งดาวแห่งการกระทำเชิงงานสื่อถึงการถูกจับตา ถูกแฉ ถูกล้วงความลับ ซึ่งเกิดขึ้นกับคนที่มีอีโก้หรือเจตนาดี แต่ระบบไม่มองแบบนั้น ส่วนจะตกงานหรือไม่ มีโอกาสตกงานในตำแหน่งเดิม หรือต้องรีเซตใหม่สูง ปี 2568 เป็นปีที่ดาวเสาร์บีบตัวตนแรงที่สุดในรอบ 14 ปี ผู้หญิงรายนี้มีพลังอาทิตย์ในราศีสิงห์ ภาคภูมิใจในตัวเอง แต่ตอนนี้ถูกทำให้หมดศักดิ์ศรีแบบไม่เต็มใจ ซึ่งคลิปเสียงเป็นสิ่งที่ย้อนมาทำร้ายดาวพุธ กับอาทิตย์ หากสามารถพิสูจน์เจตนาดีและมีคนในองค์กรระดับสูงช่วยพูดแทน จะอาจได้โอกาสเปลี่ยนตำแหน่ง ลดบทบาท หรือย้าย มากกว่าถูกให้ออก แต่กลางปี 2569 ดาวพฤหัสเข้าสู่มุมดีกับงาน อาจมีหน่วยงานใหม่ หรือบริษัทใหม่ที่รับผู้หญิงรายนี้ไปด้วยมุมมองต่างจากองค์กรเดิม หากยังอยากอยู่ในที่เดิม ต้องยอมรับว่าเจตนาดีไม่เพียงพอในองค์กรระบบใหญ่ ต้องขอโทษแบบไม่มีข้อแม้ เพราะโหงวเฮ้งหรือดาวเสาร์ไม่เปิดรับข้ออ้าง อย่าปะทะกลับหรืออธิบายซ้ำซ้อนมากเกินไป คนไม่ชอบจะใช้เป็นเหตุขุดเพิ่ม และหาพยานบุคคลที่เคยเห็นความตั้งใจดี ขอให้พูดแทนแบบมืออาชีพ แต่หากพร้อมจะไปต่อที่ใหม่ ควรพักใจ รีเซตตัวเอง เลือกงานที่วางโครงสร้างชัดเจน ช่วงปลายปี 2568 ถึงต้นปี 2569 จะมีแสงสว่างจากผู้ใหญ่ใหม่ หรือโปรเจกต์ที่เคยมีบุญคุณไว้ หรือเคยช่วยไว้ในอดีต #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta เคยเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ — มี Facebook ครองโลก, ซื้อ Instagram มาต่อยอด, ทุ่มเงินซื้อ WhatsApp พร้อมสัญญาว่าจะไม่มีโฆษณา…แต่สุดท้ายทุกอย่างกำลังย้อนกลับ

    WhatsApp ตอนนี้มีโฆษณา Metaverse ทุ่มเงินหลายพันล้านเหรียญ → ยังไม่เห็นผล Libra (คริปโตของ Meta) → ตาย แม้แต่ AI — LLaMA ยังตามหลัง ChatGPT, Claude และ Gemini อยู่หลายร้อยแต้ม

    นักเขียนบทความนี้ (Howard Yu) วิเคราะห์ว่า Mark Zuckerberg เรียนรู้เชิงธุรกิจเก่งมาก แต่ “ไม่เคยเรียนรู้จากผลกระทบที่ Meta ก่อในสังคม” เช่น การถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่น, ปัญหาสุขภาพจิตวัยรุ่น, และกรณีรุนแรงอย่างความขัดแย้งในเมียนมา

    บทวิเคราะห์เปรียบเทียบ Mark กับ Steve Jobs ไว้อย่างน่าสนใจ:
    - Jobs เคยผิดพลาด, เคยล้ม, เคยถูกไล่ออกจาก Apple
    - แต่เขากลับมาใหม่ด้วยการ “เติบโตทางจิตใจ” ไม่ใช่แค่ทางเทคโนโลยี
    - เขายอมฟังคนอื่น, สร้างทีมที่เก่งกว่า, ไม่พยายามควบคุมทุกอย่าง → และสร้าง Apple ยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง

    ส่วน Zuckerberg ใช้อำนาจหุ้นพิเศษ (super-voting shares) ทำให้ไม่มีใครปลดเขาได้ → ไม่มีแรงกดดันให้เติบโต เปลี่ยนแปลง หรือยอมรับความผิดพลาด → ผลลัพธ์คือ Meta วนลูปเดิม ๆ — ปรับ feed เพิ่ม engagement → ขายโฆษณา → repeat

    Meta เคยล้มเหลวหลายโปรเจกต์ใหญ่:  
    • Facebook phone → ล้มเหลว  
    • Free Basics → ถูกแบนในอินเดีย  
    • Libra → ถูกต่อต้านโดยรัฐบาล  
    • Metaverse → ทุ่มเงินมหาศาล แต่ยังไม่คืนทุน

    AI ของ Meta (LLaMA 4) ยังตามหลัง OpenAI (ChatGPT), Anthropic (Claude), Google (Gemini)  
    • คะแนน Elo ห่างคู่แข่งหลายสิบถึงหลายร้อยแต้ม  
    • แม้ใช้ open-source เป็นยุทธศาสตร์หลัก แต่ยังไม่ดึงใจนักพัฒนาเท่าที่ควร

    ผู้เขียนชี้ว่า Zuckerberg ไม่เคยเรียนรู้จาก ‘ผลเสียต่อสังคม’ ที่ Meta สร้างไว้:  
    • กรณี Facebook ในเมียนมา → ปล่อยให้ Hate speech ลุกลาม  
    • Facebook ถูกใช้ในการปลุกระดม, ปั่นเลือกตั้ง (Cambridge Analytica)  
    • ระบบโฆษณาใช้ microtargeting เพื่อกด turnout กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่ม

    โครงสร้างอำนาจของ Meta = Zuckerberg คุมทุกอย่าง:  
    • เขาถือหุ้น 13% แต่มีสิทธิ์โหวตกว่า 50%  
    • ไม่มีใครปลดเขาได้ จึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อใคร

    เปรียบเทียบกับ Steve Jobs:  
    • Jobs ล้มเหลว, ถูกไล่ออกจาก Apple  
    • แต่กลับมาใหม่แบบถ่อมตนและเรียนรู้  
    • สร้างวัฒนธรรมที่ Apple แข็งแรงพอจะอยู่ได้แม้เขาจากไป

    Meta แม้จะยังทำเงินได้มากจากโฆษณา แต่กำลัง “ไร้วิสัยทัศน์ที่สดใหม่” สำหรับโลกยุคหลังโฆษณา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/01/why-mark-zuckerberg-and-meta-cant-build-the-future
    Meta เคยเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ — มี Facebook ครองโลก, ซื้อ Instagram มาต่อยอด, ทุ่มเงินซื้อ WhatsApp พร้อมสัญญาว่าจะไม่มีโฆษณา…แต่สุดท้ายทุกอย่างกำลังย้อนกลับ WhatsApp ตอนนี้มีโฆษณา Metaverse ทุ่มเงินหลายพันล้านเหรียญ → ยังไม่เห็นผล Libra (คริปโตของ Meta) → ตาย แม้แต่ AI — LLaMA ยังตามหลัง ChatGPT, Claude และ Gemini อยู่หลายร้อยแต้ม นักเขียนบทความนี้ (Howard Yu) วิเคราะห์ว่า Mark Zuckerberg เรียนรู้เชิงธุรกิจเก่งมาก แต่ “ไม่เคยเรียนรู้จากผลกระทบที่ Meta ก่อในสังคม” เช่น การถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่น, ปัญหาสุขภาพจิตวัยรุ่น, และกรณีรุนแรงอย่างความขัดแย้งในเมียนมา บทวิเคราะห์เปรียบเทียบ Mark กับ Steve Jobs ไว้อย่างน่าสนใจ: - Jobs เคยผิดพลาด, เคยล้ม, เคยถูกไล่ออกจาก Apple - แต่เขากลับมาใหม่ด้วยการ “เติบโตทางจิตใจ” ไม่ใช่แค่ทางเทคโนโลยี - เขายอมฟังคนอื่น, สร้างทีมที่เก่งกว่า, ไม่พยายามควบคุมทุกอย่าง → และสร้าง Apple ยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง ส่วน Zuckerberg ใช้อำนาจหุ้นพิเศษ (super-voting shares) ทำให้ไม่มีใครปลดเขาได้ → ไม่มีแรงกดดันให้เติบโต เปลี่ยนแปลง หรือยอมรับความผิดพลาด → ผลลัพธ์คือ Meta วนลูปเดิม ๆ — ปรับ feed เพิ่ม engagement → ขายโฆษณา → repeat ✅ Meta เคยล้มเหลวหลายโปรเจกต์ใหญ่:   • Facebook phone → ล้มเหลว   • Free Basics → ถูกแบนในอินเดีย   • Libra → ถูกต่อต้านโดยรัฐบาล   • Metaverse → ทุ่มเงินมหาศาล แต่ยังไม่คืนทุน ✅ AI ของ Meta (LLaMA 4) ยังตามหลัง OpenAI (ChatGPT), Anthropic (Claude), Google (Gemini)   • คะแนน Elo ห่างคู่แข่งหลายสิบถึงหลายร้อยแต้ม   • แม้ใช้ open-source เป็นยุทธศาสตร์หลัก แต่ยังไม่ดึงใจนักพัฒนาเท่าที่ควร ✅ ผู้เขียนชี้ว่า Zuckerberg ไม่เคยเรียนรู้จาก ‘ผลเสียต่อสังคม’ ที่ Meta สร้างไว้:   • กรณี Facebook ในเมียนมา → ปล่อยให้ Hate speech ลุกลาม   • Facebook ถูกใช้ในการปลุกระดม, ปั่นเลือกตั้ง (Cambridge Analytica)   • ระบบโฆษณาใช้ microtargeting เพื่อกด turnout กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่ม ✅ โครงสร้างอำนาจของ Meta = Zuckerberg คุมทุกอย่าง:   • เขาถือหุ้น 13% แต่มีสิทธิ์โหวตกว่า 50%   • ไม่มีใครปลดเขาได้ จึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อใคร ✅ เปรียบเทียบกับ Steve Jobs:   • Jobs ล้มเหลว, ถูกไล่ออกจาก Apple   • แต่กลับมาใหม่แบบถ่อมตนและเรียนรู้   • สร้างวัฒนธรรมที่ Apple แข็งแรงพอจะอยู่ได้แม้เขาจากไป ✅ Meta แม้จะยังทำเงินได้มากจากโฆษณา แต่กำลัง “ไร้วิสัยทัศน์ที่สดใหม่” สำหรับโลกยุคหลังโฆษณา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/01/why-mark-zuckerberg-and-meta-cant-build-the-future
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Why Mark Zuckerberg and Meta can't build the future
    Here's how absolute power trapped Facebook's parent company — and how Steve Jobs broke free.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก่อนหน้านี้หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์ Wi-Fi บนเครื่องบินที่ช้า ใช้งานไม่ได้จริง หรือโหลดแค่เว็บยังต้องรอเป็นนาที แต่ตอนนี้ยุคใหม่มาถึงแล้วครับ

    จากข้อมูลของ Ookla พบว่า Hawaiian Airlines และ Qatar Airways ซึ่งใช้บริการอินเทอร์เน็ตจาก Starlink ได้ความเร็วเฉลี่ยสูงถึง 161 Mbps และ 120 Mbps ตามลำดับ ส่วนความเร็วสูงสุดนั้นทะลุไปถึง 276 Mbps และ 236 Mbps เลยทีเดียว — เร็วกว่าสายการบินที่ใช้ผู้ให้บริการรายอื่นเกือบ “2 เท่า”

    ประเด็นสำคัญคือ Starlink ใช้ ดาวเทียมในวงโคจรต่ำ (LEO) ทำให้ค่า latency ต่ำมาก (แค่ 44 มิลลิวินาที) เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่นที่ใช้ดาวเทียมกลางวงโคจร (MEO) หรือวงโคจรสูง (GEO) ที่มี latency สูงเป็นสิบเท่า!

    นอกจากเครื่องบินแล้ว Starlink ยังขยายสู่ภาคเรือสำราญ เช่น Royal Caribbean และกำลังจะติดตั้งในสายการบิน United เร็ว ๆ นี้

    Starlink ของ SpaceX เป็นอินเทอร์เน็ตบนเครื่องบินที่เร็วที่สุด ณ Q1 ปี 2025 ตามข้อมูลจาก Ookla  
    • ความเร็วเฉลี่ยสูงสุดพบที่ Hawaiian Airlines (161 Mbps) และ Qatar Airways (120 Mbps)
    • ความเร็วสูงสุดแตะ 276 Mbps และ 236 Mbps ตามลำดับ

    สายการบินที่ใช้ Starlink นำคู่แข่งเรื่องความเร็วชัดเจน  
    • Spirit Airlines ที่ไม่ได้ใช้ Starlink ได้ความเร็วเฉลี่ยเพียง ~80 Mbps เท่านั้น  
    • ค่า latency ของ Starlink อยู่ที่ 44 ms เทียบกับ 667 ms ของผู้ให้บริการอันดับสอง

    Starlink ใช้ดาวเทียมในวงโคจรต่ำ (LEO) → ส่งผลให้ความหน่วงต่ำและความเร็วสูง  
    • ตอบสนองได้เร็วกว่า MEO หรือ GEO แบบเดิม  
    • เหมาะกับการใช้งานแบบสตรีมหรือวิดีโอคอล

    นอกจากสายการบินแล้ว Starlink ยังขยายไปยังเรือท่องเที่ยว (Royal Caribbean) และรอเปิดใช้งานใน United Airlines

    Starlink กลายเป็นผู้ให้บริการ Wi-Fi บนเครื่องบินเจ้าแรกที่ความเร็วสูงสุดทะลุ 200 Mbps ในหลายเที่ยวบิน

    https://wccftech.com/spacexs-starlink-is-the-fastest-inflight-internet-in-the-world-shows-data/
    ก่อนหน้านี้หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์ Wi-Fi บนเครื่องบินที่ช้า ใช้งานไม่ได้จริง หรือโหลดแค่เว็บยังต้องรอเป็นนาที แต่ตอนนี้ยุคใหม่มาถึงแล้วครับ จากข้อมูลของ Ookla พบว่า Hawaiian Airlines และ Qatar Airways ซึ่งใช้บริการอินเทอร์เน็ตจาก Starlink ได้ความเร็วเฉลี่ยสูงถึง 161 Mbps และ 120 Mbps ตามลำดับ ส่วนความเร็วสูงสุดนั้นทะลุไปถึง 276 Mbps และ 236 Mbps เลยทีเดียว — เร็วกว่าสายการบินที่ใช้ผู้ให้บริการรายอื่นเกือบ “2 เท่า” ประเด็นสำคัญคือ Starlink ใช้ ดาวเทียมในวงโคจรต่ำ (LEO) ทำให้ค่า latency ต่ำมาก (แค่ 44 มิลลิวินาที) เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่นที่ใช้ดาวเทียมกลางวงโคจร (MEO) หรือวงโคจรสูง (GEO) ที่มี latency สูงเป็นสิบเท่า! นอกจากเครื่องบินแล้ว Starlink ยังขยายสู่ภาคเรือสำราญ เช่น Royal Caribbean และกำลังจะติดตั้งในสายการบิน United เร็ว ๆ นี้ ✅ Starlink ของ SpaceX เป็นอินเทอร์เน็ตบนเครื่องบินที่เร็วที่สุด ณ Q1 ปี 2025 ตามข้อมูลจาก Ookla   • ความเร็วเฉลี่ยสูงสุดพบที่ Hawaiian Airlines (161 Mbps) และ Qatar Airways (120 Mbps) • ความเร็วสูงสุดแตะ 276 Mbps และ 236 Mbps ตามลำดับ ✅ สายการบินที่ใช้ Starlink นำคู่แข่งเรื่องความเร็วชัดเจน   • Spirit Airlines ที่ไม่ได้ใช้ Starlink ได้ความเร็วเฉลี่ยเพียง ~80 Mbps เท่านั้น   • ค่า latency ของ Starlink อยู่ที่ 44 ms เทียบกับ 667 ms ของผู้ให้บริการอันดับสอง ✅ Starlink ใช้ดาวเทียมในวงโคจรต่ำ (LEO) → ส่งผลให้ความหน่วงต่ำและความเร็วสูง   • ตอบสนองได้เร็วกว่า MEO หรือ GEO แบบเดิม   • เหมาะกับการใช้งานแบบสตรีมหรือวิดีโอคอล ✅ นอกจากสายการบินแล้ว Starlink ยังขยายไปยังเรือท่องเที่ยว (Royal Caribbean) และรอเปิดใช้งานใน United Airlines ✅ Starlink กลายเป็นผู้ให้บริการ Wi-Fi บนเครื่องบินเจ้าแรกที่ความเร็วสูงสุดทะลุ 200 Mbps ในหลายเที่ยวบิน https://wccftech.com/spacexs-starlink-is-the-fastest-inflight-internet-in-the-world-shows-data/
    WCCFTECH.COM
    SpaceX's Starlink Is The Fastest Inflight Internet In The World, Shows Data
    SpaceX's Starlink satellite internet is the market leader in inflight internet connectivity, shows data. Take a look!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในบล็อกล่าสุดของ Microsoft คุณ Yusuf Mehdi รองประธานฝ่าย Windows กล่าวว่า “Windows มีผู้ใช้งานเกิน 1,000 ล้านเครื่องทั่วโลก” — ฟังดูดีใช่ไหมครับ?

    แต่ถ้าเราไล่กลับไปดูรายงานประจำปี 2022 ของ Microsoft จะพบว่าตัวเลขผู้ใช้งาน Windows 10 และ 11 เคยอยู่ที่ 1.4 พันล้านเครื่อง…แปลว่าภายในเวลาแค่ 3 ปี หายไปถึง 400 ล้านเครื่อง!

    เกิดอะไรขึ้น?
    - ไม่ใช่เพราะคนแห่ไปใช้ MacBook เพราะแม้แต่ Apple เองยอดขาย Mac ก็ลดลง
    - แต่คนจำนวนมาก “เลิกใช้พีซีไปเลย” แล้วหันไปใช้สมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตแทน
    - เด็ก ๆ ที่โตมากับระบบอย่าง Chromebook ก็อาจเลือก Google แทน Microsoft ในอนาคต
    - แอปอย่าง Google Docs แทนที่ MS Office ได้ฟรี → ไม่จำเป็นต้องใช้ Windows อีกต่อไป

    ขณะเดียวกัน Microsoft ก็เร่งให้คนอัปเกรดจาก Windows 10 ไป 11 ก่อนที่ Win10 จะหมดการสนับสนุน แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ยังยึดติดกับ PC เก่า ซึ่งอัปเกรดไม่ได้

    Windows เคยมีผู้ใช้ 1.4 พันล้านเครื่องในปี 2022 → ล่าสุดเหลือราว 1 พันล้านเครื่อง  
    • ลดลงราว 400 ล้านเครื่องในช่วง 3 ปี  
    • ข้อมูลจาก Microsoft เองในบล็อกและรายงานทางการ

    Microsoft ผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Windows 11 เพราะ Windows 10 จะหมดการซัพพอร์ตในปี 2025

    แม้ macOS ของ Apple จะเป็นคู่แข่ง แต่ยอดขาย Mac ลดลงเช่นกัน (เหลือแค่ 7.7% ของรายได้บริษัทในปี 2023)
    • แสดงว่าคน “ไม่ได้ย้าย” ไป Mac แต่เลือกเลิกใช้พีซีแทน

    สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตทำให้ความจำเป็นในการใช้ Windows ลดลง  
    • Chromebook เติบโตในภาคการศึกษา และเป็นระบบที่เด็กยุคใหม่คุ้นเคย  
    • Google Docs และเว็บแอปต่าง ๆ ทำงานได้โดยไม่ต้องใช้ Windows หรือ Office

    ตลาดที่ยังแข็งแรงของ Windows คือ “เกมเมอร์” และ “มืออาชีพเฉพาะทาง” ที่ต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะ


    https://www.tomshardware.com/software/windows/windows-seemingly-lost-400-million-users-in-the-past-three-years-official-microsoft-statements-show-hints-of-a-shrinking-user-base
    ในบล็อกล่าสุดของ Microsoft คุณ Yusuf Mehdi รองประธานฝ่าย Windows กล่าวว่า “Windows มีผู้ใช้งานเกิน 1,000 ล้านเครื่องทั่วโลก” — ฟังดูดีใช่ไหมครับ? แต่ถ้าเราไล่กลับไปดูรายงานประจำปี 2022 ของ Microsoft จะพบว่าตัวเลขผู้ใช้งาน Windows 10 และ 11 เคยอยู่ที่ 1.4 พันล้านเครื่อง…แปลว่าภายในเวลาแค่ 3 ปี หายไปถึง 400 ล้านเครื่อง! เกิดอะไรขึ้น? - ไม่ใช่เพราะคนแห่ไปใช้ MacBook เพราะแม้แต่ Apple เองยอดขาย Mac ก็ลดลง - แต่คนจำนวนมาก “เลิกใช้พีซีไปเลย” แล้วหันไปใช้สมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตแทน - เด็ก ๆ ที่โตมากับระบบอย่าง Chromebook ก็อาจเลือก Google แทน Microsoft ในอนาคต - แอปอย่าง Google Docs แทนที่ MS Office ได้ฟรี → ไม่จำเป็นต้องใช้ Windows อีกต่อไป ขณะเดียวกัน Microsoft ก็เร่งให้คนอัปเกรดจาก Windows 10 ไป 11 ก่อนที่ Win10 จะหมดการสนับสนุน แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ยังยึดติดกับ PC เก่า ซึ่งอัปเกรดไม่ได้ ✅ Windows เคยมีผู้ใช้ 1.4 พันล้านเครื่องในปี 2022 → ล่าสุดเหลือราว 1 พันล้านเครื่อง   • ลดลงราว 400 ล้านเครื่องในช่วง 3 ปี   • ข้อมูลจาก Microsoft เองในบล็อกและรายงานทางการ ✅ Microsoft ผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Windows 11 เพราะ Windows 10 จะหมดการซัพพอร์ตในปี 2025 ✅ แม้ macOS ของ Apple จะเป็นคู่แข่ง แต่ยอดขาย Mac ลดลงเช่นกัน (เหลือแค่ 7.7% ของรายได้บริษัทในปี 2023) • แสดงว่าคน “ไม่ได้ย้าย” ไป Mac แต่เลือกเลิกใช้พีซีแทน ✅ สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตทำให้ความจำเป็นในการใช้ Windows ลดลง   • Chromebook เติบโตในภาคการศึกษา และเป็นระบบที่เด็กยุคใหม่คุ้นเคย   • Google Docs และเว็บแอปต่าง ๆ ทำงานได้โดยไม่ต้องใช้ Windows หรือ Office ✅ ตลาดที่ยังแข็งแรงของ Windows คือ “เกมเมอร์” และ “มืออาชีพเฉพาะทาง” ที่ต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะ https://www.tomshardware.com/software/windows/windows-seemingly-lost-400-million-users-in-the-past-three-years-official-microsoft-statements-show-hints-of-a-shrinking-user-base
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว