• ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 1 – 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”
    ตอน 1
    เรื่องหนี้ของกรีซยก 2 นี่ ถ้าเป็นหนังก็ออกรสตื่นเต้น ประเภท เกทับบลั้ฟแหลก คมเฉือนคม อะไรทำนองนั้น เพราะมันจะมีการพลิกเกมกันอยู่ตลอดเวลา ต่างฝ่ายก็เอามือล้วงกระเป๋า เหมือนมีของดีแอบอยู่ จะงัดเอาออกมาใช้เมื่อไหร่เท่า นั้น แต่จริงๆแล้ว ของดีมีจริง หรือมีปลอม ยังไม่มีใครรู้แน่ ระหว่างนั้น ก็ทำหน้าขรึม หน้าเครียดเจรจากัน สื่อก็รายงานของจริงแถมใบสั่ง เป็นโอกาสล่อให้แมงเม่าเข้าไปเล่นกองไฟ มีคนฉิบหายตายเพราะหนี้ท่วมประเทศยังไม่พอ ต้องหาแมงเม่าเข้ามาสังเวยด้วย มันถึงจะได้อารมณ์ สร้างกำไร จากความหายนะ ความคิดแบบนี้ มีทุกสัญชาติแหละครับ มากน้อย ตามสันดาน และตัณหา
    พระเอกที่จะเล่นเกมเกทับ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ของกรีซ ที่มาจากพรรค Syriza ซึ่งเป็นพวกที่เอนไปทางสังคมนิยม ก่อต้ังเมื่อปี ค.ศ. 2004 จากการรวมตัวของกลุ่มฝ่ายซ้ายต่างๆ ประมาณ 10 กว่ากลุ่ม Syriza เคยมีชื่อเสียงว่า เป็นพวก anti establishment เป็นพวกไม่เอาทุนนิยมว่างั้นเถอะ แม้ตอนหลังพวกเขาจะไม่เน้นเรื่อ งนี้ แต่เมื่อ Syriza ชนะเลือกตั้ง เมื่อต้นปี 2015 แน่นอน ทำให้อียูเริ่มขมวดคิ้ว เพราะดูเหมือน Syriza จะมาทำให้ชาวกรีซร้องคนเพลงกับอียู ยิ่งหัวหน้าพรรคที่ชื่อ Alexis Tsipras ประกาศชัดเจนว่า “euro is not my fetish” เงินยูโรมันก็ไม่ได้วิเศษอะไรนักหนา คำประกาศเขาให้รสชาดแบบนั้นนะครับ
    ในการเลือกต้ังดังกล่าว Syriza ขาดไปแค่ 2 คะแนน ที่จะเป็นเสียงข้างมาก พวกเขาเลยต้องผสมกับพรรคอื่นตั้ง รัฐบาล แต่ยังไงก็ได้นาย Alexis Tsipras เป็นนายกรัฐมนตรีหนุ่มแน่น อายุแค่ 40 และมีนาย Yanis Varoufakis เป็นรัฐมนตรีคลัง ที่จะมาช่วยหาวิธีถอดโซ่ ที่พวกเจ้าหนี้กรีซ เอามาคล้องคอชาวกรีซออกไป หรือทำให้โซ่คล้องคอมันหลวมหน่อย ไม่ใช่รัดติ้ว ท้องกิ่ว หายใจจะไม่ออก ไม่มีจะกินกันทั้งประเทศอย่างนี้
    นาย Alexis Tsipras เป็นลูกชาวกรีซ ที่อพยพมาจากตุรกี ตามโครงการแลกเปลี่ยนประชาชน ระหว่าง 2 ประเทศ เขาเป็นคนชอบเล่นกีฬา และทำกิจกรรมมาต้ังแต่เป็นเด็กนักเรียน หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นนักเคลื่อนไหวไฟแรง แหม เหมือนกับจะเขียนเรื่องเจ้ายะใส หนุ่มหน้ามนของสาวๆแดนสยามเลยนะ แต่ยะใส คงต้องติวใหม่อีกแยะนะ เอาเรื่องนายอเล็กซิส ต่อแล้วกัน เขาเรียนจบด้านวิศวกรรมจากวิทยาลัยเทคนิคของกรีซ ระหว่างเรียน ก็เริ่มเข้ากลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายของกรีซ และได้เป็นหัวหน้านักศึกษาทางกิจกรรมการเมือง ก็คงเหมือน สนนท. ของบ้านเรานะครับ หลังจากนั้น ก็เข้าการเมืองท้องถิ่นเต็มตัว ก่อนลงสนามใหญ่
    เมื่อบรรดาพรรคฝ่ายซ้าย จับมือรวมกันเป็นพรรค Syriza นายอเล็กซิส ก็ไปเข้าร่วม แล้วในที่สุด ในปี คศ 2009 หนุ่มอเล็กซิส อายุ 30 กว่า ก็ได้เป็นหัวหน้าพรรค Syriza เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง จะมีใครอุ้ม ใครดันหรือเปล่า ข่าวไม่บอก แล้วเขาก็พา Syriza เข้าลงเลือกต้ังในสนามใหญ่ ต้ังแต่ปี 2012 แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ก็ได้เข้าอยู่ในสภา ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายค้าน ไม่เบาเหมือนกันสำหรับ หนุ่มวัย 30 กว่า
    เมื่อ สภากรีซล่มในปี ค.ศ. 2014 และประกาศจะมีการเลือกต้ังใหม่ ในเดือนมกราคม ปี ค.ศ.2015 อเล็กซิส ระดมพลพรรค ประกาศลงเลือกต้ัง และประกาศ Thessaloniki Programme ในเดือนสิงหาคม ปี 2014 ซึ่งเป็นนโยบายที่เสนอให้มีการปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และการเมืองของกรีซเสียใหม่ นอกจากนี้ ยังประกาศใช้นโยบายการหาเสียงว่า พรรค Syriza ต้ังใจจะเข้าไปแก้ไขเงื่อนไขมหาโหด ในสัญญาเงินกู้ ที่บรรดาเจ้าหนี้ต่างประเทศกำหนดไว้ เหมือนเอาโซ่มาคล้องคอชาวกรีซและทำให้ชีวิตชาวกรีซสุดแสนจะลำเค็ญ
    ในส่วนนโยบายต่างประเทศ ระหว่างการหาเสียง อเล็กซิส แสดงความไม่พอใจอย่างเผ็ดร้อน กับการตัดสินใจหลายเรื่องของยุโรป ที่คัดท้ายโดยรัฐบาลเยอรมัน ภายใต้การนำของป้าเข็มขัดเหล็ก แน่นอน มันเป็นการฝาก “รอย” ให้ไว้กับป้าเข็มขัดเหล็ก ที่ทำให้การเจรจาต่อมาระหว่างอเล็กซิส ในฐานะนายกรัฐมนตรีกรีซ กับป้าเข็มขัดเหล็ก เกี่ยวกับเรื่องหนี้ของกรีซ ฝืดสิ้นดี
    เหมือนจะให้ผู้คนแน่ใจว่าเขาคิดอย่างไร เมื่อได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี งานแรกที่ Alexis Tsipras ทำ คือ เขานำดอกกุหลาบแดงช่อใหญ่ ไปวางแสดงความเคารพที่อนุสรณ์สถานของชาวกรีซ 200 คน ที่เสียชีวิตจากการฆ่าของเยอรมัน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ.1944 ….ช่างเล่นนะไอ้หนุ่ม
    งานเดินสายต่างประเทศ รายการแรกของนายกรัฐมนตรีหนุ่ม คือ ไปพบนายกรัฐมนตรี Matteo Renzi ที่โรม เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2015 จับเข่าคุยในฐานะ คนเป็นลูกหนี้ ที่มีโซ่คล้องคอเหมือนกัน คุยกันเสร็จ นาย Renzi ก็มอบเนคไทไหมอิตาเลียน ให้เป็นที่ระลึกแก่ นายอเล็กซิส ซึ่งมีชื่อเสียงว่า ไม่นิยมการผูกเนคไท เขารับไว้ แล้วบอกว่า เขาจะผูกเนคไทนี้ ในวันที่ชาวกรีซ ตัดโซ่คล้องคอสำเร็จ… อยากได้ยินคำพูดแบบนี้ ในแดนสยามบ้างครับ
    ส่วน นาย Yanis Varoufakis มาคนละทางกับอเล็กซิส
    ยานิส ไม่ได้เป็นนักการเมือง เขาออกไปทางนักวิชาการ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ และเป็นอาจารย์สอนเศรษฐศาสตร์มีชื่อเสียง แต่ใช่ว่าเขาไม่สนใจการเมือง พ่อเขาร่วมรบในสงครามกลางเมืองกรีซ โดยอยู่ฝั่งคอมมิวนิสต์ แพ้สงครามก็ถูกจับไปนอนคุกอยู่หลายปี ออกจากคุกมาทำธุรกิจ กลายเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของกรีซ ส่วนแม่ก็เป็นพวกคอการเมือง ครอบครัวนี้ สนับสนุนกลุ่มไอร์แลนด์เหนือให้สู้กับอังกฤษ พวกเขานับ Belfast เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือเป็นบ้านที่ 2
    สำหรับคนรุ่นหลังๆ คงไม่ค่อยรู้จักวีรกรรมของชาวไอริช ที่ต้องการแยกตัวจากอังกฤษ นอกจากรู้จากดูหนัง จริงๆ คนไอริช หรือขบวนการ IRA เป็นขบวนการ ที่ถูกอังกฤษและพวก รวมทั้งสื่อ เรียกว่า เป็นผู้ก่อการร้าย ทั้งๆ ที่พวกเขาคิดการดี ในช่วงประมาณปี ค.ศ.1970 เป็นต้นมา ขบวนการ IRA จะเป็นข่าวเกือบรายวัน ในการวางระเบิดใส่อังกฤษ ผู้คนบาดเจ็บล้มตายมาก ตึกรามบ้านช่องพังวินาศ
    ไม่มีการต่อสู้เพื่อเอกราชใด หรือปลดพันธนาการใดจะได้มาง่ายๆ มันต้องลงแรงลงใจลงชีวิตทั้งนั้น ชาวแดนสยาม สบายจนเคยตัว บางพวกทำตัว ยิ่งกว่าตามสบาย เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว หาความสุข สนุกไปวันๆ ไม่สนใจประเทศ และเพื่อนร่วมชาติ จนน่ารังเกียจ น่าเสียดายครับ มีของดี ไม่รู้จักคุณค่า ไม่รู้จักรักษา ชอบอยู่แต่ใน “ครอบ” ไม่อยากใช้คำว่า “คอก” ปล่อยให้มัน ฟอกย้อม ต้มตุ๋นเอาจนชิน วันไหนไม่ถูกย้อม ไม่ถูกต้ม คงกินไม่ได้นอนไม่หลับ เฮ้อ! คุยเรื่อง นายยานิสต่อดีกว่า
    เมื่อพ่อรวย ก็ส่งลูกไปเรียนที่อังกฤษ ยานิส จึงเรียน พูด และด่าเป็นภาษาอังกฤษ ได้ชัด และคมคายเอาเรื่อง สรุปว่า เขาเรียนต้ังแต่ ปริญญาตรี จนจบปริญญาเอกจากอังกฤษแล้วกัน
    เรียนจบแล้ว ก็ไปสอนหนังสือ ที่หลายมหาวิทยาลัย หลายประเทศ แล้วยังเดินทางไปดูโลกกว้างในแง่มุมของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากสร้างให้เกิด ที่ต้องมองกันอย่างลึกซึ้ง กลับมาก็เปิดบล๊อกของตัวเอง ให้ความรู้ ความเห็น สอนคนนอกมหาวิทยาลัยไปเรื่อยๆ ที่สำคัญ เขาบอกว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการที่กรีซ ไปกู้เงินพวกเจ้าหนี้หน้าเลือดเหล่านั้น ไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขที่เจ้า หนี้ต้ัง ไม่เห็นด้วยๆๆๆ สาระพัด ไม่เห็นด้วย และบอกว่า ถ้ากรีซ ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ชาวกรีก ก็คงแห้งตายซาก และเกาะกรีซอันสวยงาม ก็คงล่มจมหายไปในเมดิเตอร์เรเนียน อย่างน่าเสียดาย …
    เพราะเขียนในบล๊อกแบบนี้ จนดังระเบิด เมื่อ พรรค Syriza ได้เป็นรัฐบาล จึงส่งเทียบมาเชิญ ท่านพี่ยานิส ท่านอย่ามัวแต่นั่งเขียนให้คนอ่านเลย แบบนั้นมันง่าย ( เหมือนที่ลุงนิทานทำ แค่นั่งเขียนอยู่ในบ้าน) ท่านจงออกมาใช้ภูมิปัญญา ลงมือแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอย่าง จริงจังกับเราเถิด นายยานิส ก็ไม่เล่นตัว ไม่เรื่องมาก แค่บอกว่า พูดกันให้รู้เรื่องก่อนนะ ถ้าเอาผมไปนั่งคลัง ผมจะใช้นโยบาย อย่างที่ผมเขียน คือ เราต้องตัดโซ่ของเจ้าหนี้ ที่เอามาคล้องคอชาวกรีซ ออกเสียนะ
    นายกรัฐมนตรีหนุ่มบอก นั่นแหล่ะพี่ เราพูดเรื่องเดียวกัน พี่เอาคีมเบอร์ใหญ่สุดมาเลยนะ มาช่วยพวกผมตัดโซ่ด่วนเลย แล้วยานิสก็ไปนั่งเป็นรัฐมนตรีคลังในรัฐบาล แต่ไม่สังกัดพรรค อืม…
    เป็นต้ัง พณฯ ท่านรัฐมนตรี เขาก็ส่งทั้งรถยนต์ คนขับ ผู้ติดตาม เครื่องยศ มาให้พร้อม ยานิส ก็ส่งคืนกลับไปหมด รถยนต์ ผมมีแล้วครับ เก่าหน่อย แต่ยังวิ่งได้ดีอยู่ วันไหนอากาศดี ผมก็ไม่ใช้รถ ขี่มอร์ไซด์ไปเร็ว และประหยัดกว่า มิน่า เลยติดใส่เสื้อหนัง ส่วนผู้ติดตาม ก็ไม่จำเป็นครับ ไม่รู้จะเอามาทำอะไร ถ้าประชาชนเขาไม่พอใจผม เอาไข่ปาผมไม่กี่ที ผมก็รู้หน้าที่ว่า ควรลาออกแล้วครับ ประเทศเราจนมากนะครับ ยังมีหนี้อีกแยะ จะใช้อะไร จะทำอะไร ก็ต้องเอาแต่จำเป็น รู้จักประหยัดบ้าง รับรอง ลุงนิทานไม่ได้เขียนเอง แดกใคร คุณน้องยานิส ให้สัมภาษณ์อย่างนี้จริงๆ
    ###############
    “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”

    ตอน 2
    ก่อนจะเดินหน้าไปตัดโซ่ มาทบทวนกันหน่อยว่า หนี้กรีซ นี่มันอะไรนักหนา แล้วเงื่อนไขเจ้าหนี้มันทารุณเหมือนเอาโซ่มาคล้องคอชาวกรีกจริงหรือเปล่า หรือพวกหนุ่มๆ เขาเลือดร้อน ฮอร์โมนพุ่งตามวัย เห็นอะไรขัดใจนิด ขัดใจหน่อย ก็คิดชนมันซะเลย
    บรรดาขาใหญ่นักวิเคราะห์การเมือง ไม่ใช่ พวกนักวิเคราะห์การเงิน ที่เอาไว้หลอกพวกแมงเม่า บอกว่า มันไม่ใช่เป็นเรื่องว่า กรีซ ประเทศเล็กๆ ที่อยู่ในสหภาพยุโรป จะผิดนัดชำระหนี้ไหม และจะพากันจูงมือ เดินออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู หรือเปล่า แต่เรื่องหนี้กรีซ อาจกลายเป็นซึนามิ ทางการเงิน เศรษฐกิจ และการเมืองของยุโรปได้อย่างนึกไม่ถึง และถ้าเข้าทาง …มันอาจจะไปไกลกว่านั้น....
    ปัญหาหนี้ของกรีซ เริ่มมาต้ังแต่ปี ค.ศ.2001 ก็ต้ังแต่ กรีซ เริ่มเปลี่ยนมาใช้เงินสกุลยูโร แทนเงินสกุลดรักมาร์ของตัวเองนั่นแหละ กรีซเป็นสมาชิกอียูโซนมาต้ังแต่ปี ค.ศ.1981 แต่กรีซมีงบประมาณขาดดุลยสูงเกินเกณท์ของอียู ที่เรียกว่า Maastricht Criteria อยู่ตลอดมา ถึงจะเกินเกณท์ แต่ ปีแรกๆ ก็ไม่มีปัญหา เพราะดูเหมือนหลายประเทศในอียู ก็เกินกันทั้งนั้น และกรีซ ก็ได้ประโยชน์จากการกู้ดอกถูก ในฐานะเป็นสมาชิกอียู และมีเงินลงทุนเข้ามาเพิ่ม
    นี่คือ ความผิดพลาดของกรีซ รายการแรก ที่มองการเข้าไปอยู่ในคอกอียู แต่ด้านบวก ด้านได้ โดยไม่มองด้านลบ หรือไม่คิดว่ามีด้านลบ
    ถึง ปี ค.ศ.2004 กรีซ หลุดปากบอกว่า ตัวเองแต่งตัวเลข เพื่อไม่ให้ผิดหลักเกณฑ์อียู แต่น่าประหลาด อียูทำเหมือนไม่ได้ยิน เกิดหูบอดกระทันหันเสียอย่างนั้น ไม่เตือน ไม่ด่า ไม่ทำโทษกรีซ เพราะอะไรหรือ เพราะ ใครๆก็ทำกัน โดยเฉพาะ ฝรั่งเศส และเยอรมัน ลูกพี่ใหญ่ของอียู ด่ากรีซ ก็เหมือนด่าตัวเองด้วย แล้วถ้าจะทำโทษ จะทำอะไรล่ะ ยังไม่มีกฏกติกา เรื่องนี้เลย ไล่กรีซออกจากอียูเลยดีไหม อียูน่าจะทำได้ แต่มันจะทำให้ภาพพจน์อียู หมดท่า เหมือนแก้ผ้าประจานตัวเอง แถมตอนนั้น สมาชิกอียูยังน้อยอยู่ อยากได้ไอ้พวกพี่เบิ้ม อย่างอังกฤษ ก็ยังยักท่า หรือ รวยๆ อย่างสวีเดน เดนมาร์ก ตอนนั้น ก็ยังทำหยิ่งไม่เข้ามา นี่ถ้ารู้ว่า กรีซ แต่งตัวเลข ใครจะมา มีแต่จะไป แล้วทุกฝ่ายก็ปิดปากเงียบ หลอกตัวเอง หลอกกันเอง และหลอกคนอื่นต่อไป นี่คือความผิดส่วนของอียู ที่ไม่ได้มีเพียงครั้งเดียว
    แต่พอถึงปี ค.ศ.2009 ฝีแตก กรีซปิดต่อไปอีกไม่ไหว เพราะเงินทำท่าจะหมดประเทศ จริงๆ ก็หมดแล้ว มีแต่เงินกู้เขามา อ้อมแอ้ม ออกมาว่า มีตัวเลขงบประมาณขาดดุลย ประมาณ 12.9 % ของ จีดีพี ( ผลิตภัณท์มวลรวมภายใน ) ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกินกว่าเกณท์ที่ อียู กำหนดไว้ ที่ 3% พูดภาษาเข้าใจง่ายๆ แปลว่า มีจ่ายจ่ายมากกว่ารายรับอยู่แยะมาก จะทำไงดีครับลูกพี่ เป็นคนธรรมดา ก็ต้องบอกว่าอยู่ในสภาพ เป็นหนี้หัวโต นอนเอามือก่ายหน้าผากจนบุบ ก็ยังไม่เห็นทางแก้ปัญหา
    ลูกพี่ยังคิดไม่ออกว่าจะใช้แผน พิฆาตชุดไหน แต่ สามหมาไน บริษัท จัดอันดับ ratings agency Standard & Poor , Fitch และ Moody’s ได้กลิ่น รีบประกาศลดอันดับความน่าเชื่อ ถือของ กรีซลงอย่างรวดเร็ว เหลือเป็นระดับ junk bond หรือระดับขยะ คือ อยู่ในสภาพล้มละลาย พันธบัตรกรีซ มีค่าไม่ต่างกับกระดาษชำระ การประกาศของ 3 หมาไน ได้ผลอย่างดียิ่ง กลางปี 2010 กรีซก็ถูกตัดขาดจากเส้นทางกู้เงินในตลาดทุนของโลก เหลือแต่เส้นทางไปสู่การเป็นประเทศล้มละลายอย่างสมบูรณ์
    กรีซแทบไม่เหลือทางเลือก จะตายช้า หรือตายเร็วเท่านั้น แล้วอัศวิน ชื่อ Troika ก็โผล่มา Troika เป็นชื่อเรียก ของสามเสือหิว IMF, ECB (European Central Bank) และ European Commission เล่นบทลูกพี่ใจดี จับมือกันจัดการให้เงินกู้ ที่อ้างว่า เป็นการช่วยฉุดกรีซขึ้นมาจากเหว รอบแรก จำนวน 340 พันล้านยูโร
    เงินจำนวนนี้ ถือว่ามากมาย และน่าจะผิดหลักเกณท์ของ IMF เสียด้วยซ้ำ แต่ทำไมอัศวิน หรือ Trioka รีบจัดการให้ สงสารกรีซมากหรือไง อ้อ ไม่ใช่ มันเป็นพวกไอ้เสือหิว มองหาเหยื่อแบบนี้ มานานแล้วต่างหาก พอเข้าใจนะครับ
    เงินกู้ ฉุดจากเหว มาพร้อมกับโซ่เหล็กคล้องคอกรีซ เป็นเงื่อนไขที่อ้างว่า เพื่อสร้างวินัยในการใช้จ่ายของกรีซ ที่กรีซ ไม่มีโอกาสต่อรอง ต้องก้มหน้ารับอย่างเดียว แต่ที่น่าสนใจ เงินกู้แลกโซ่ ควรจะมาช่วยให้สถานะของกรีซในสายตาของตลาดทุนดีขึ้น ตรงกันข้าม เงินกู้ลอยผ่านหน้ารัฐบาลกรีซ ไปเข้ากระเป๋าธนาคารต่างประเทศ ที่ให้กรีซกู้ไปก่อนหน้านี้
    เงินกู้ฉุดจากเหว กลายเป็นการใช้หนี้ ฉุดธนาคารต่างประเทศ ขึ้นมาจากเหวก่อน ชาวกรีซยังคงอยู่ในเหวต่อไป แต่มีโซ่มาคล้องคอหนักรัดติ้ว นั่งท้องกิ่วอยู่ก้นเหว ตกลงอัศวิน Troika มาช่วยใคร นี่คือ การเสียค่าโง่ครั้งที่เท่าไหร่ของกรีซ
    แล้วธนาคารต่างประเทศไหนล่ะ ที่ได้รับการชำระหนี้ไปก่อน เปิดดูอากู ก็รู้ว่า ธนาคารในอียูเองเป็นเจ้าหนี้กรี ซ ทั้งนั้น และเจ้าหนี้รายใหญ่สุด คือ เยอรมัน รองมา คือ ฝรั่งเศส พอเข้าใจแล้วนะครับว่า ทำไมนายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ถึงเอาดอกกุหลาบแดงไปวางที่อนุสรณ์สถาน
    ก่อนการให้เงินกู้ จำนวนมโหฬาร IMF หัวหน้าใหญ่ของกลุ่มเสือหิว ที่เป็นผู้นำการกำหนดเงื่อนไข ลายโซ่คล้องคอชาวกรีซ บอกว่าการใช้จ่ายของกรีซ หนักไปที่ค่าจ้าง เป็นจำนวน ถึง 75% ของงบประมาณรายจ่าย แยกเป็นค่าจ้าง พนักงานของรัฐ ทั้งประจำ และชั่วคราว ค่าจ้างแรงงานคนทำงาน ค่าสวัสดิการ ค่าเบี้ยบำนาญ ของคนที่ทำงานมาจนแก่เหลือแต่เหงือก
    ถ้ายังจำกันได้ กรีซจัดงานแข่งกีฬาโอลิมปิค ในปี ค.ศ. 2004 ยิ่งใหญ่ และสวยงาม แน่นอนก่อนจัดงาน ต้องมีการปรับปรุงสาธารณูปโภค ถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำประปา ทั้งประเทศรวมทั้ง การก่อสร้าง สนามกีฬา บ้านพักนักกีฬา และอีกหลายๆอย่าง เพื่อรองรับการแข่งขัน และผู้มาชม ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 ปี รายจ่ายของกรีซทั้งด้านแรงงาน และด้านก่อสร้าง ไม่บานทะโล่ ก็คงแปลกอยู่
    นอกจากนี้ยังมีหนี้ส่วนบุคคลของ ชาวกรีก ที่เห็นเป็นโอกาสที่ทำเงิน ด้วยการสร้างที่พัก สำหรับนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร บริการรถเช่า ฯลฯ ซึ่งสร้างขึ้นมาจากเงินกู้เกือบทั้งสิ้น
    และ นี่ ก็เป็นอีกความผิดพลาด อีกรายการของกรีซ กีฬาโอลิมปิคสวยงาม สร้างชื่อเสียงให้กับกรีซ และก็สร้างหนี้ให้กับกรีซด้วย กรีซขาดทุนย่อยยับ ขายของ ไม่ได้ราคาคุ้มทุนที่ลง แถมมีหนี้ติดค้างทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เลยเป็นโอกาสให้ IMF ผู้ชำนาญการ สั่งให้กรีซ ตัดรายการจ้างงาน และสวัสดิการ ขณะที่กรีซ พยายามขายการท่องเที่ยวประเทศของตัวเองต่อ เพื่อเอาทุนคืนจากการขาดทุนโอลิมปิค IMF ปิดประตูการจ้างงาน เปิดให้ครึ่งบานและครึ่งวัน ที่พัก ร้านอาหารเริ่มโทรม เมื่อมีลูกจ้างมาทำงานไม่พอให้บริการ นักท่องเที่ยวที่ไหน อยากจะไปเที่ยว แล้วยกกระเป๋า และ ล้างจานเอง
    ถ้าไม่แน่ใจว่า การจัดงานกีฬาโอลิมปิค ไม่ได้สร้างกำไรเสมอไป ก็ลองไปถามคุณปากจีบ นายกรัฐมนตรี ของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ได้ว่า หลังจาก กระเสือกกระสน จัดการแข่งกีฬาโอลิมปิค เมื่อปี 2012 แล้วเป็นไง ตอนนี้ เลยต้องตัดงบสาระพัด รวมทั้งงบด้านกองทัพ เล่นเอาคุณพีปูตินของผม หัวร่อ ฮิ ฮิ
    จึงไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ที่ ในปี 2010 อัตราว่างงานของกรีซ เพิ่มขึ้นเป็น 15% ทุก 7 คนกรีก จะมีคนว่างงาน 1 คน ! เริ่มมีการประท้วงรัฐบาล การเมืองง่อนแง่น และกรีซ ก็ต้อง กู้เงินจาก อัศวิน Troika เพิ่มขึ้นอีก และโซ่คล้องคอชาวกรีซ ก็หนักขึ้นทุกที ชาวกรีซ ก็จมลงในเหวลึกลงไปทุกที
    ปี ค.ศ.2011 สถานการณ์ของกรีซ แย่ลงกว่าเดิม รัฐบาลไหนมาก็แก้ปัญหาไม่ได้ ได้แต่กู้เพิ่มเพื่อเอามาใช้หนี้เก่า หมุนไปเรื่อยๆ รัฐบาลกรีซคิดหาทางทางออกไม่เจอ เขิญผู้เชี่ยวชาญมาช่วยคิด
    OECD ซึ่งเป็นหน่วยงาน ที่อ้างว่ามีหน้าที่คอยแนะนำประ เทศ ที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ภายใต้เสื้อคลุม ที่ไอ้นักล่าใบตองแห้ง คิดขึ้นมาหลังจากคิดสร้าง World Bank, IMF บอกกรีซต้องหารายได้เพิ่มด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม ใช้มาตรการเด็ดขาดกับผู้หนีภาษี และขายรัฐวิสาหกิจที่สร้างกำไรอ อกไปให้กับนักธุรกิจ และขายทรัพย์สินของประเทศ เพื่อเอามาใช้หนี้ ชาวกรีก เริ่มรู้ตัวว่า กำลังถูกแร้งลง ออกมาประท้วง ไม่ยอมให้รัฐบาลขายรัฐวิสาหกิจ กับทรัพย์สินของประเทศ บอกไปเก็บภาษีจากพวกคนรวยๆ และพวกหนี้ภาษีด่วนเลย
    กรีซ น่าจะเห็นแล้วว่า ตัวเองถูกต้ม และเป็นเหยื่อ ของเหล่านักล่า หมาไน และก่อนสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ถ้าตัดสินใจผิดอีก คราวนี้ คงถึงแร้งลง
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    26 มิ.ย. 2558
    ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 1 เรื่องหนี้ของกรีซยก 2 นี่ ถ้าเป็นหนังก็ออกรสตื่นเต้น ประเภท เกทับบลั้ฟแหลก คมเฉือนคม อะไรทำนองนั้น เพราะมันจะมีการพลิกเกมกันอยู่ตลอดเวลา ต่างฝ่ายก็เอามือล้วงกระเป๋า เหมือนมีของดีแอบอยู่ จะงัดเอาออกมาใช้เมื่อไหร่เท่า นั้น แต่จริงๆแล้ว ของดีมีจริง หรือมีปลอม ยังไม่มีใครรู้แน่ ระหว่างนั้น ก็ทำหน้าขรึม หน้าเครียดเจรจากัน สื่อก็รายงานของจริงแถมใบสั่ง เป็นโอกาสล่อให้แมงเม่าเข้าไปเล่นกองไฟ มีคนฉิบหายตายเพราะหนี้ท่วมประเทศยังไม่พอ ต้องหาแมงเม่าเข้ามาสังเวยด้วย มันถึงจะได้อารมณ์ สร้างกำไร จากความหายนะ ความคิดแบบนี้ มีทุกสัญชาติแหละครับ มากน้อย ตามสันดาน และตัณหา พระเอกที่จะเล่นเกมเกทับ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ของกรีซ ที่มาจากพรรค Syriza ซึ่งเป็นพวกที่เอนไปทางสังคมนิยม ก่อต้ังเมื่อปี ค.ศ. 2004 จากการรวมตัวของกลุ่มฝ่ายซ้ายต่างๆ ประมาณ 10 กว่ากลุ่ม Syriza เคยมีชื่อเสียงว่า เป็นพวก anti establishment เป็นพวกไม่เอาทุนนิยมว่างั้นเถอะ แม้ตอนหลังพวกเขาจะไม่เน้นเรื่อ งนี้ แต่เมื่อ Syriza ชนะเลือกตั้ง เมื่อต้นปี 2015 แน่นอน ทำให้อียูเริ่มขมวดคิ้ว เพราะดูเหมือน Syriza จะมาทำให้ชาวกรีซร้องคนเพลงกับอียู ยิ่งหัวหน้าพรรคที่ชื่อ Alexis Tsipras ประกาศชัดเจนว่า “euro is not my fetish” เงินยูโรมันก็ไม่ได้วิเศษอะไรนักหนา คำประกาศเขาให้รสชาดแบบนั้นนะครับ ในการเลือกต้ังดังกล่าว Syriza ขาดไปแค่ 2 คะแนน ที่จะเป็นเสียงข้างมาก พวกเขาเลยต้องผสมกับพรรคอื่นตั้ง รัฐบาล แต่ยังไงก็ได้นาย Alexis Tsipras เป็นนายกรัฐมนตรีหนุ่มแน่น อายุแค่ 40 และมีนาย Yanis Varoufakis เป็นรัฐมนตรีคลัง ที่จะมาช่วยหาวิธีถอดโซ่ ที่พวกเจ้าหนี้กรีซ เอามาคล้องคอชาวกรีซออกไป หรือทำให้โซ่คล้องคอมันหลวมหน่อย ไม่ใช่รัดติ้ว ท้องกิ่ว หายใจจะไม่ออก ไม่มีจะกินกันทั้งประเทศอย่างนี้ นาย Alexis Tsipras เป็นลูกชาวกรีซ ที่อพยพมาจากตุรกี ตามโครงการแลกเปลี่ยนประชาชน ระหว่าง 2 ประเทศ เขาเป็นคนชอบเล่นกีฬา และทำกิจกรรมมาต้ังแต่เป็นเด็กนักเรียน หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นนักเคลื่อนไหวไฟแรง แหม เหมือนกับจะเขียนเรื่องเจ้ายะใส หนุ่มหน้ามนของสาวๆแดนสยามเลยนะ แต่ยะใส คงต้องติวใหม่อีกแยะนะ เอาเรื่องนายอเล็กซิส ต่อแล้วกัน เขาเรียนจบด้านวิศวกรรมจากวิทยาลัยเทคนิคของกรีซ ระหว่างเรียน ก็เริ่มเข้ากลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายของกรีซ และได้เป็นหัวหน้านักศึกษาทางกิจกรรมการเมือง ก็คงเหมือน สนนท. ของบ้านเรานะครับ หลังจากนั้น ก็เข้าการเมืองท้องถิ่นเต็มตัว ก่อนลงสนามใหญ่ เมื่อบรรดาพรรคฝ่ายซ้าย จับมือรวมกันเป็นพรรค Syriza นายอเล็กซิส ก็ไปเข้าร่วม แล้วในที่สุด ในปี คศ 2009 หนุ่มอเล็กซิส อายุ 30 กว่า ก็ได้เป็นหัวหน้าพรรค Syriza เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง จะมีใครอุ้ม ใครดันหรือเปล่า ข่าวไม่บอก แล้วเขาก็พา Syriza เข้าลงเลือกต้ังในสนามใหญ่ ต้ังแต่ปี 2012 แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ก็ได้เข้าอยู่ในสภา ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายค้าน ไม่เบาเหมือนกันสำหรับ หนุ่มวัย 30 กว่า เมื่อ สภากรีซล่มในปี ค.ศ. 2014 และประกาศจะมีการเลือกต้ังใหม่ ในเดือนมกราคม ปี ค.ศ.2015 อเล็กซิส ระดมพลพรรค ประกาศลงเลือกต้ัง และประกาศ Thessaloniki Programme ในเดือนสิงหาคม ปี 2014 ซึ่งเป็นนโยบายที่เสนอให้มีการปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และการเมืองของกรีซเสียใหม่ นอกจากนี้ ยังประกาศใช้นโยบายการหาเสียงว่า พรรค Syriza ต้ังใจจะเข้าไปแก้ไขเงื่อนไขมหาโหด ในสัญญาเงินกู้ ที่บรรดาเจ้าหนี้ต่างประเทศกำหนดไว้ เหมือนเอาโซ่มาคล้องคอชาวกรีซและทำให้ชีวิตชาวกรีซสุดแสนจะลำเค็ญ ในส่วนนโยบายต่างประเทศ ระหว่างการหาเสียง อเล็กซิส แสดงความไม่พอใจอย่างเผ็ดร้อน กับการตัดสินใจหลายเรื่องของยุโรป ที่คัดท้ายโดยรัฐบาลเยอรมัน ภายใต้การนำของป้าเข็มขัดเหล็ก แน่นอน มันเป็นการฝาก “รอย” ให้ไว้กับป้าเข็มขัดเหล็ก ที่ทำให้การเจรจาต่อมาระหว่างอเล็กซิส ในฐานะนายกรัฐมนตรีกรีซ กับป้าเข็มขัดเหล็ก เกี่ยวกับเรื่องหนี้ของกรีซ ฝืดสิ้นดี เหมือนจะให้ผู้คนแน่ใจว่าเขาคิดอย่างไร เมื่อได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี งานแรกที่ Alexis Tsipras ทำ คือ เขานำดอกกุหลาบแดงช่อใหญ่ ไปวางแสดงความเคารพที่อนุสรณ์สถานของชาวกรีซ 200 คน ที่เสียชีวิตจากการฆ่าของเยอรมัน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ.1944 ….ช่างเล่นนะไอ้หนุ่ม งานเดินสายต่างประเทศ รายการแรกของนายกรัฐมนตรีหนุ่ม คือ ไปพบนายกรัฐมนตรี Matteo Renzi ที่โรม เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2015 จับเข่าคุยในฐานะ คนเป็นลูกหนี้ ที่มีโซ่คล้องคอเหมือนกัน คุยกันเสร็จ นาย Renzi ก็มอบเนคไทไหมอิตาเลียน ให้เป็นที่ระลึกแก่ นายอเล็กซิส ซึ่งมีชื่อเสียงว่า ไม่นิยมการผูกเนคไท เขารับไว้ แล้วบอกว่า เขาจะผูกเนคไทนี้ ในวันที่ชาวกรีซ ตัดโซ่คล้องคอสำเร็จ… อยากได้ยินคำพูดแบบนี้ ในแดนสยามบ้างครับ ส่วน นาย Yanis Varoufakis มาคนละทางกับอเล็กซิส ยานิส ไม่ได้เป็นนักการเมือง เขาออกไปทางนักวิชาการ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ และเป็นอาจารย์สอนเศรษฐศาสตร์มีชื่อเสียง แต่ใช่ว่าเขาไม่สนใจการเมือง พ่อเขาร่วมรบในสงครามกลางเมืองกรีซ โดยอยู่ฝั่งคอมมิวนิสต์ แพ้สงครามก็ถูกจับไปนอนคุกอยู่หลายปี ออกจากคุกมาทำธุรกิจ กลายเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของกรีซ ส่วนแม่ก็เป็นพวกคอการเมือง ครอบครัวนี้ สนับสนุนกลุ่มไอร์แลนด์เหนือให้สู้กับอังกฤษ พวกเขานับ Belfast เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือเป็นบ้านที่ 2 สำหรับคนรุ่นหลังๆ คงไม่ค่อยรู้จักวีรกรรมของชาวไอริช ที่ต้องการแยกตัวจากอังกฤษ นอกจากรู้จากดูหนัง จริงๆ คนไอริช หรือขบวนการ IRA เป็นขบวนการ ที่ถูกอังกฤษและพวก รวมทั้งสื่อ เรียกว่า เป็นผู้ก่อการร้าย ทั้งๆ ที่พวกเขาคิดการดี ในช่วงประมาณปี ค.ศ.1970 เป็นต้นมา ขบวนการ IRA จะเป็นข่าวเกือบรายวัน ในการวางระเบิดใส่อังกฤษ ผู้คนบาดเจ็บล้มตายมาก ตึกรามบ้านช่องพังวินาศ ไม่มีการต่อสู้เพื่อเอกราชใด หรือปลดพันธนาการใดจะได้มาง่ายๆ มันต้องลงแรงลงใจลงชีวิตทั้งนั้น ชาวแดนสยาม สบายจนเคยตัว บางพวกทำตัว ยิ่งกว่าตามสบาย เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว หาความสุข สนุกไปวันๆ ไม่สนใจประเทศ และเพื่อนร่วมชาติ จนน่ารังเกียจ น่าเสียดายครับ มีของดี ไม่รู้จักคุณค่า ไม่รู้จักรักษา ชอบอยู่แต่ใน “ครอบ” ไม่อยากใช้คำว่า “คอก” ปล่อยให้มัน ฟอกย้อม ต้มตุ๋นเอาจนชิน วันไหนไม่ถูกย้อม ไม่ถูกต้ม คงกินไม่ได้นอนไม่หลับ เฮ้อ! คุยเรื่อง นายยานิสต่อดีกว่า เมื่อพ่อรวย ก็ส่งลูกไปเรียนที่อังกฤษ ยานิส จึงเรียน พูด และด่าเป็นภาษาอังกฤษ ได้ชัด และคมคายเอาเรื่อง สรุปว่า เขาเรียนต้ังแต่ ปริญญาตรี จนจบปริญญาเอกจากอังกฤษแล้วกัน เรียนจบแล้ว ก็ไปสอนหนังสือ ที่หลายมหาวิทยาลัย หลายประเทศ แล้วยังเดินทางไปดูโลกกว้างในแง่มุมของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากสร้างให้เกิด ที่ต้องมองกันอย่างลึกซึ้ง กลับมาก็เปิดบล๊อกของตัวเอง ให้ความรู้ ความเห็น สอนคนนอกมหาวิทยาลัยไปเรื่อยๆ ที่สำคัญ เขาบอกว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการที่กรีซ ไปกู้เงินพวกเจ้าหนี้หน้าเลือดเหล่านั้น ไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขที่เจ้า หนี้ต้ัง ไม่เห็นด้วยๆๆๆ สาระพัด ไม่เห็นด้วย และบอกว่า ถ้ากรีซ ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ชาวกรีก ก็คงแห้งตายซาก และเกาะกรีซอันสวยงาม ก็คงล่มจมหายไปในเมดิเตอร์เรเนียน อย่างน่าเสียดาย … เพราะเขียนในบล๊อกแบบนี้ จนดังระเบิด เมื่อ พรรค Syriza ได้เป็นรัฐบาล จึงส่งเทียบมาเชิญ ท่านพี่ยานิส ท่านอย่ามัวแต่นั่งเขียนให้คนอ่านเลย แบบนั้นมันง่าย ( เหมือนที่ลุงนิทานทำ แค่นั่งเขียนอยู่ในบ้าน) ท่านจงออกมาใช้ภูมิปัญญา ลงมือแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอย่าง จริงจังกับเราเถิด นายยานิส ก็ไม่เล่นตัว ไม่เรื่องมาก แค่บอกว่า พูดกันให้รู้เรื่องก่อนนะ ถ้าเอาผมไปนั่งคลัง ผมจะใช้นโยบาย อย่างที่ผมเขียน คือ เราต้องตัดโซ่ของเจ้าหนี้ ที่เอามาคล้องคอชาวกรีซ ออกเสียนะ นายกรัฐมนตรีหนุ่มบอก นั่นแหล่ะพี่ เราพูดเรื่องเดียวกัน พี่เอาคีมเบอร์ใหญ่สุดมาเลยนะ มาช่วยพวกผมตัดโซ่ด่วนเลย แล้วยานิสก็ไปนั่งเป็นรัฐมนตรีคลังในรัฐบาล แต่ไม่สังกัดพรรค อืม… เป็นต้ัง พณฯ ท่านรัฐมนตรี เขาก็ส่งทั้งรถยนต์ คนขับ ผู้ติดตาม เครื่องยศ มาให้พร้อม ยานิส ก็ส่งคืนกลับไปหมด รถยนต์ ผมมีแล้วครับ เก่าหน่อย แต่ยังวิ่งได้ดีอยู่ วันไหนอากาศดี ผมก็ไม่ใช้รถ ขี่มอร์ไซด์ไปเร็ว และประหยัดกว่า มิน่า เลยติดใส่เสื้อหนัง ส่วนผู้ติดตาม ก็ไม่จำเป็นครับ ไม่รู้จะเอามาทำอะไร ถ้าประชาชนเขาไม่พอใจผม เอาไข่ปาผมไม่กี่ที ผมก็รู้หน้าที่ว่า ควรลาออกแล้วครับ ประเทศเราจนมากนะครับ ยังมีหนี้อีกแยะ จะใช้อะไร จะทำอะไร ก็ต้องเอาแต่จำเป็น รู้จักประหยัดบ้าง รับรอง ลุงนิทานไม่ได้เขียนเอง แดกใคร คุณน้องยานิส ให้สัมภาษณ์อย่างนี้จริงๆ ############### “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 2 ก่อนจะเดินหน้าไปตัดโซ่ มาทบทวนกันหน่อยว่า หนี้กรีซ นี่มันอะไรนักหนา แล้วเงื่อนไขเจ้าหนี้มันทารุณเหมือนเอาโซ่มาคล้องคอชาวกรีกจริงหรือเปล่า หรือพวกหนุ่มๆ เขาเลือดร้อน ฮอร์โมนพุ่งตามวัย เห็นอะไรขัดใจนิด ขัดใจหน่อย ก็คิดชนมันซะเลย บรรดาขาใหญ่นักวิเคราะห์การเมือง ไม่ใช่ พวกนักวิเคราะห์การเงิน ที่เอาไว้หลอกพวกแมงเม่า บอกว่า มันไม่ใช่เป็นเรื่องว่า กรีซ ประเทศเล็กๆ ที่อยู่ในสหภาพยุโรป จะผิดนัดชำระหนี้ไหม และจะพากันจูงมือ เดินออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู หรือเปล่า แต่เรื่องหนี้กรีซ อาจกลายเป็นซึนามิ ทางการเงิน เศรษฐกิจ และการเมืองของยุโรปได้อย่างนึกไม่ถึง และถ้าเข้าทาง …มันอาจจะไปไกลกว่านั้น.... ปัญหาหนี้ของกรีซ เริ่มมาต้ังแต่ปี ค.ศ.2001 ก็ต้ังแต่ กรีซ เริ่มเปลี่ยนมาใช้เงินสกุลยูโร แทนเงินสกุลดรักมาร์ของตัวเองนั่นแหละ กรีซเป็นสมาชิกอียูโซนมาต้ังแต่ปี ค.ศ.1981 แต่กรีซมีงบประมาณขาดดุลยสูงเกินเกณท์ของอียู ที่เรียกว่า Maastricht Criteria อยู่ตลอดมา ถึงจะเกินเกณท์ แต่ ปีแรกๆ ก็ไม่มีปัญหา เพราะดูเหมือนหลายประเทศในอียู ก็เกินกันทั้งนั้น และกรีซ ก็ได้ประโยชน์จากการกู้ดอกถูก ในฐานะเป็นสมาชิกอียู และมีเงินลงทุนเข้ามาเพิ่ม นี่คือ ความผิดพลาดของกรีซ รายการแรก ที่มองการเข้าไปอยู่ในคอกอียู แต่ด้านบวก ด้านได้ โดยไม่มองด้านลบ หรือไม่คิดว่ามีด้านลบ ถึง ปี ค.ศ.2004 กรีซ หลุดปากบอกว่า ตัวเองแต่งตัวเลข เพื่อไม่ให้ผิดหลักเกณฑ์อียู แต่น่าประหลาด อียูทำเหมือนไม่ได้ยิน เกิดหูบอดกระทันหันเสียอย่างนั้น ไม่เตือน ไม่ด่า ไม่ทำโทษกรีซ เพราะอะไรหรือ เพราะ ใครๆก็ทำกัน โดยเฉพาะ ฝรั่งเศส และเยอรมัน ลูกพี่ใหญ่ของอียู ด่ากรีซ ก็เหมือนด่าตัวเองด้วย แล้วถ้าจะทำโทษ จะทำอะไรล่ะ ยังไม่มีกฏกติกา เรื่องนี้เลย ไล่กรีซออกจากอียูเลยดีไหม อียูน่าจะทำได้ แต่มันจะทำให้ภาพพจน์อียู หมดท่า เหมือนแก้ผ้าประจานตัวเอง แถมตอนนั้น สมาชิกอียูยังน้อยอยู่ อยากได้ไอ้พวกพี่เบิ้ม อย่างอังกฤษ ก็ยังยักท่า หรือ รวยๆ อย่างสวีเดน เดนมาร์ก ตอนนั้น ก็ยังทำหยิ่งไม่เข้ามา นี่ถ้ารู้ว่า กรีซ แต่งตัวเลข ใครจะมา มีแต่จะไป แล้วทุกฝ่ายก็ปิดปากเงียบ หลอกตัวเอง หลอกกันเอง และหลอกคนอื่นต่อไป นี่คือความผิดส่วนของอียู ที่ไม่ได้มีเพียงครั้งเดียว แต่พอถึงปี ค.ศ.2009 ฝีแตก กรีซปิดต่อไปอีกไม่ไหว เพราะเงินทำท่าจะหมดประเทศ จริงๆ ก็หมดแล้ว มีแต่เงินกู้เขามา อ้อมแอ้ม ออกมาว่า มีตัวเลขงบประมาณขาดดุลย ประมาณ 12.9 % ของ จีดีพี ( ผลิตภัณท์มวลรวมภายใน ) ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกินกว่าเกณท์ที่ อียู กำหนดไว้ ที่ 3% พูดภาษาเข้าใจง่ายๆ แปลว่า มีจ่ายจ่ายมากกว่ารายรับอยู่แยะมาก จะทำไงดีครับลูกพี่ เป็นคนธรรมดา ก็ต้องบอกว่าอยู่ในสภาพ เป็นหนี้หัวโต นอนเอามือก่ายหน้าผากจนบุบ ก็ยังไม่เห็นทางแก้ปัญหา ลูกพี่ยังคิดไม่ออกว่าจะใช้แผน พิฆาตชุดไหน แต่ สามหมาไน บริษัท จัดอันดับ ratings agency Standard & Poor , Fitch และ Moody’s ได้กลิ่น รีบประกาศลดอันดับความน่าเชื่อ ถือของ กรีซลงอย่างรวดเร็ว เหลือเป็นระดับ junk bond หรือระดับขยะ คือ อยู่ในสภาพล้มละลาย พันธบัตรกรีซ มีค่าไม่ต่างกับกระดาษชำระ การประกาศของ 3 หมาไน ได้ผลอย่างดียิ่ง กลางปี 2010 กรีซก็ถูกตัดขาดจากเส้นทางกู้เงินในตลาดทุนของโลก เหลือแต่เส้นทางไปสู่การเป็นประเทศล้มละลายอย่างสมบูรณ์ กรีซแทบไม่เหลือทางเลือก จะตายช้า หรือตายเร็วเท่านั้น แล้วอัศวิน ชื่อ Troika ก็โผล่มา Troika เป็นชื่อเรียก ของสามเสือหิว IMF, ECB (European Central Bank) และ European Commission เล่นบทลูกพี่ใจดี จับมือกันจัดการให้เงินกู้ ที่อ้างว่า เป็นการช่วยฉุดกรีซขึ้นมาจากเหว รอบแรก จำนวน 340 พันล้านยูโร เงินจำนวนนี้ ถือว่ามากมาย และน่าจะผิดหลักเกณท์ของ IMF เสียด้วยซ้ำ แต่ทำไมอัศวิน หรือ Trioka รีบจัดการให้ สงสารกรีซมากหรือไง อ้อ ไม่ใช่ มันเป็นพวกไอ้เสือหิว มองหาเหยื่อแบบนี้ มานานแล้วต่างหาก พอเข้าใจนะครับ เงินกู้ ฉุดจากเหว มาพร้อมกับโซ่เหล็กคล้องคอกรีซ เป็นเงื่อนไขที่อ้างว่า เพื่อสร้างวินัยในการใช้จ่ายของกรีซ ที่กรีซ ไม่มีโอกาสต่อรอง ต้องก้มหน้ารับอย่างเดียว แต่ที่น่าสนใจ เงินกู้แลกโซ่ ควรจะมาช่วยให้สถานะของกรีซในสายตาของตลาดทุนดีขึ้น ตรงกันข้าม เงินกู้ลอยผ่านหน้ารัฐบาลกรีซ ไปเข้ากระเป๋าธนาคารต่างประเทศ ที่ให้กรีซกู้ไปก่อนหน้านี้ เงินกู้ฉุดจากเหว กลายเป็นการใช้หนี้ ฉุดธนาคารต่างประเทศ ขึ้นมาจากเหวก่อน ชาวกรีซยังคงอยู่ในเหวต่อไป แต่มีโซ่มาคล้องคอหนักรัดติ้ว นั่งท้องกิ่วอยู่ก้นเหว ตกลงอัศวิน Troika มาช่วยใคร นี่คือ การเสียค่าโง่ครั้งที่เท่าไหร่ของกรีซ แล้วธนาคารต่างประเทศไหนล่ะ ที่ได้รับการชำระหนี้ไปก่อน เปิดดูอากู ก็รู้ว่า ธนาคารในอียูเองเป็นเจ้าหนี้กรี ซ ทั้งนั้น และเจ้าหนี้รายใหญ่สุด คือ เยอรมัน รองมา คือ ฝรั่งเศส พอเข้าใจแล้วนะครับว่า ทำไมนายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ถึงเอาดอกกุหลาบแดงไปวางที่อนุสรณ์สถาน ก่อนการให้เงินกู้ จำนวนมโหฬาร IMF หัวหน้าใหญ่ของกลุ่มเสือหิว ที่เป็นผู้นำการกำหนดเงื่อนไข ลายโซ่คล้องคอชาวกรีซ บอกว่าการใช้จ่ายของกรีซ หนักไปที่ค่าจ้าง เป็นจำนวน ถึง 75% ของงบประมาณรายจ่าย แยกเป็นค่าจ้าง พนักงานของรัฐ ทั้งประจำ และชั่วคราว ค่าจ้างแรงงานคนทำงาน ค่าสวัสดิการ ค่าเบี้ยบำนาญ ของคนที่ทำงานมาจนแก่เหลือแต่เหงือก ถ้ายังจำกันได้ กรีซจัดงานแข่งกีฬาโอลิมปิค ในปี ค.ศ. 2004 ยิ่งใหญ่ และสวยงาม แน่นอนก่อนจัดงาน ต้องมีการปรับปรุงสาธารณูปโภค ถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำประปา ทั้งประเทศรวมทั้ง การก่อสร้าง สนามกีฬา บ้านพักนักกีฬา และอีกหลายๆอย่าง เพื่อรองรับการแข่งขัน และผู้มาชม ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 ปี รายจ่ายของกรีซทั้งด้านแรงงาน และด้านก่อสร้าง ไม่บานทะโล่ ก็คงแปลกอยู่ นอกจากนี้ยังมีหนี้ส่วนบุคคลของ ชาวกรีก ที่เห็นเป็นโอกาสที่ทำเงิน ด้วยการสร้างที่พัก สำหรับนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร บริการรถเช่า ฯลฯ ซึ่งสร้างขึ้นมาจากเงินกู้เกือบทั้งสิ้น และ นี่ ก็เป็นอีกความผิดพลาด อีกรายการของกรีซ กีฬาโอลิมปิคสวยงาม สร้างชื่อเสียงให้กับกรีซ และก็สร้างหนี้ให้กับกรีซด้วย กรีซขาดทุนย่อยยับ ขายของ ไม่ได้ราคาคุ้มทุนที่ลง แถมมีหนี้ติดค้างทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เลยเป็นโอกาสให้ IMF ผู้ชำนาญการ สั่งให้กรีซ ตัดรายการจ้างงาน และสวัสดิการ ขณะที่กรีซ พยายามขายการท่องเที่ยวประเทศของตัวเองต่อ เพื่อเอาทุนคืนจากการขาดทุนโอลิมปิค IMF ปิดประตูการจ้างงาน เปิดให้ครึ่งบานและครึ่งวัน ที่พัก ร้านอาหารเริ่มโทรม เมื่อมีลูกจ้างมาทำงานไม่พอให้บริการ นักท่องเที่ยวที่ไหน อยากจะไปเที่ยว แล้วยกกระเป๋า และ ล้างจานเอง ถ้าไม่แน่ใจว่า การจัดงานกีฬาโอลิมปิค ไม่ได้สร้างกำไรเสมอไป ก็ลองไปถามคุณปากจีบ นายกรัฐมนตรี ของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ได้ว่า หลังจาก กระเสือกกระสน จัดการแข่งกีฬาโอลิมปิค เมื่อปี 2012 แล้วเป็นไง ตอนนี้ เลยต้องตัดงบสาระพัด รวมทั้งงบด้านกองทัพ เล่นเอาคุณพีปูตินของผม หัวร่อ ฮิ ฮิ จึงไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ที่ ในปี 2010 อัตราว่างงานของกรีซ เพิ่มขึ้นเป็น 15% ทุก 7 คนกรีก จะมีคนว่างงาน 1 คน ! เริ่มมีการประท้วงรัฐบาล การเมืองง่อนแง่น และกรีซ ก็ต้อง กู้เงินจาก อัศวิน Troika เพิ่มขึ้นอีก และโซ่คล้องคอชาวกรีซ ก็หนักขึ้นทุกที ชาวกรีซ ก็จมลงในเหวลึกลงไปทุกที ปี ค.ศ.2011 สถานการณ์ของกรีซ แย่ลงกว่าเดิม รัฐบาลไหนมาก็แก้ปัญหาไม่ได้ ได้แต่กู้เพิ่มเพื่อเอามาใช้หนี้เก่า หมุนไปเรื่อยๆ รัฐบาลกรีซคิดหาทางทางออกไม่เจอ เขิญผู้เชี่ยวชาญมาช่วยคิด OECD ซึ่งเป็นหน่วยงาน ที่อ้างว่ามีหน้าที่คอยแนะนำประ เทศ ที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ภายใต้เสื้อคลุม ที่ไอ้นักล่าใบตองแห้ง คิดขึ้นมาหลังจากคิดสร้าง World Bank, IMF บอกกรีซต้องหารายได้เพิ่มด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม ใช้มาตรการเด็ดขาดกับผู้หนีภาษี และขายรัฐวิสาหกิจที่สร้างกำไรอ อกไปให้กับนักธุรกิจ และขายทรัพย์สินของประเทศ เพื่อเอามาใช้หนี้ ชาวกรีก เริ่มรู้ตัวว่า กำลังถูกแร้งลง ออกมาประท้วง ไม่ยอมให้รัฐบาลขายรัฐวิสาหกิจ กับทรัพย์สินของประเทศ บอกไปเก็บภาษีจากพวกคนรวยๆ และพวกหนี้ภาษีด่วนเลย กรีซ น่าจะเห็นแล้วว่า ตัวเองถูกต้ม และเป็นเหยื่อ ของเหล่านักล่า หมาไน และก่อนสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ถ้าตัดสินใจผิดอีก คราวนี้ คงถึงแร้งลง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 26 มิ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 470 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลคาบาล โลกคาบาลไซออนิสต์คุมมันว่า โลกใบนี้เป็นของกูคาบาลไซออนิสต์มันว่า,รัฐบาลโลก ศัตรูของกลุ่มหมวกฟาง,จำอดีตนายกฯไม่ซื่อสัตย์ทวีฐาได้นะ มันจำกัดเขตพื้นที่อนุญาตให้ใช้ตังภายใน4กิโลเมตรแบบประกาศเป็นทางการแบบจริงจังเลยนะ เพราะมันรัฐบาลทั่วโลกรวมทั้งไทย เป็นทาสคาบาลชัดเจน ค่อยรับคำสั่งคาบาลรัฐบาลโลกคาบาลไซออนิสต์ จำกัดการใช้ได้ใช้ตังไม่ได้ซึ่งมันทำจริงด้วย,แร่เอิร์ธ บ่อน้ำมันในไทยมันจึงเข้าใจว่าเป็นของมันแม้เป็นประเทศไทย มันจะเอาแบบไหนตอนไหนก็ได้,ปาหี่มุกให้ปกครองที่มันส่งออกทั้งประชาธิปไตยและคอมมิวนิสต์นั้นล่ะ มันล้วนคุมเองเป็นเจ้าของเองทั้งหมดด้วย.

    ..ชาวโลกเราขนาดวิ่งจะไปดูสำรวจกำแพงน้ำแข็งแค่นั้น ค่าจริงมันชูหัวมาปกป้องห้ามชาวโลกเราเข้าออกโน้น ทางน้ำทางอากาศ รัฐบาลโลกมันชัดเจนว่าต้องการห้ามเราออกไปนอกกำแพงนั้น.


    https://vm.tiktok.com/ZSH3JwPco4N9G-sWNA7/
    รัฐบาลคาบาล โลกคาบาลไซออนิสต์คุมมันว่า โลกใบนี้เป็นของกูคาบาลไซออนิสต์มันว่า,รัฐบาลโลก ศัตรูของกลุ่มหมวกฟาง,จำอดีตนายกฯไม่ซื่อสัตย์ทวีฐาได้นะ มันจำกัดเขตพื้นที่อนุญาตให้ใช้ตังภายใน4กิโลเมตรแบบประกาศเป็นทางการแบบจริงจังเลยนะ เพราะมันรัฐบาลทั่วโลกรวมทั้งไทย เป็นทาสคาบาลชัดเจน ค่อยรับคำสั่งคาบาลรัฐบาลโลกคาบาลไซออนิสต์ จำกัดการใช้ได้ใช้ตังไม่ได้ซึ่งมันทำจริงด้วย,แร่เอิร์ธ บ่อน้ำมันในไทยมันจึงเข้าใจว่าเป็นของมันแม้เป็นประเทศไทย มันจะเอาแบบไหนตอนไหนก็ได้,ปาหี่มุกให้ปกครองที่มันส่งออกทั้งประชาธิปไตยและคอมมิวนิสต์นั้นล่ะ มันล้วนคุมเองเป็นเจ้าของเองทั้งหมดด้วย. ..ชาวโลกเราขนาดวิ่งจะไปดูสำรวจกำแพงน้ำแข็งแค่นั้น ค่าจริงมันชูหัวมาปกป้องห้ามชาวโลกเราเข้าออกโน้น ทางน้ำทางอากาศ รัฐบาลโลกมันชัดเจนว่าต้องการห้ามเราออกไปนอกกำแพงนั้น. https://vm.tiktok.com/ZSH3JwPco4N9G-sWNA7/
    @maygjgerol

    الأرض مسطحة ،اعترضت مدمرة .,تابعة للبحرية (سفينة هوبارت) فرقة باد بويز بالقرب من أستراليا..#australia #map #global #fyp #trnd earth is flaaat ✅ maps,🗺️

    ♬ الصوت الأصلي - الحقيقة The Truth 💫
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซามูไรแบกถาด ตอนที่ 3
    “ซามูไรแบกถาด”

    ตอน 3

    น่าสนใจว่า เมื่อนายอาเบะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี รอบ 2 ในปี ค.ศ.2012 นั้น เหมือนกับเขามากับภาระกิจพิเศษ รู้งานล่วงหน้าว่า จะต้องทำอะไรบ้าง และทำอะไรก่อนหลัง

    จากประเทศที่ประกาศตัวว่ารักสงบ และไม่ฝักฝ่ายการทำสงคราม เมื่อรับตำแหน่งใหม่ๆ นายอาเบะ ฉลองเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ด้วยการตั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ National Security Council (NSC) ขึ้น เป็นครั้งแรกของญี่ปุ่น (หลังสงครามโลกครั้งที่ 2) ญี่ปุ่นใช้ สภาความมั่นคงของอเมริกา เป็นแม่แบบ และวัตถุประสงค์หลัก ของการจัดตั้ง NSC ตอนนึง ระบุว่า หนึ่งในเรื่องสำคัญที่สุด ที่กระทบความมั่นคงของญี่ปุ่นคือ การเจริญเติบโตของจีน ญี่ปุ่นจะต้องมีนโยบายที่แก้ไขเรื่องนี้ อย่างครอบคลุมทุกด้าน ไม่ใช่แต่ทางวิธีการทูตเท่านั้น แต่จะต้องรวมนโยบายด้านการป้องกัน และการใช้นโยบายการค้า การเงิน และอื่นๆด้วย …สงสัยไอ้สุดกร่าง ช่วยร่างให้ เขียนแบบกร่างๆอย่างนี้….

    หลังจากนั้น เขาเสนอกฏหมายเกี่ยวกับการรักษาความลับของชาติเข้าสภา ต่อมาก็จัดร่างยุทธศาสตร์ความมั่นคงของชาติและ พยายามที่จะให้มีการตีความรัฐธรรมนูญ ขยายขอบเขตนิยาม การปกป้องตนเอง ของประเทศให้กว้างขวางขึ้น …นี่เดินตามพิมพ์เขียว ของใครนะ

    นอกจากนั้น นายอาเบะยังเดินสาย แวะไปจับเข่าถึง 49 เข่า 49 ประเทศ แน่นอน ยกเว้นไม่ไปแดนมังกร กับไม่ไปเยี่ยมน้องคิมของผมที่เกาหลีเหนือ ดูเหมือนนายอาเบะนี่ แกจะชอบเข่าฝรั่งมากกว่าเข่าเอเซียด้วยกัน ข่าวว่า แกไปทำข้อตกลงความร่วมมือด้านความ มั่นคง กับออสเตรเลีย อังกฤษ ฝรั่งเศส และนาโต้ เรียบร้อยหมดแล้ว นับว่า สุดกร่าง CFR เป็นพี่เลี้ยง ที่ชำนาญการเลี้ยงเด็กสร้างจริงๆ

    การขยับดาบซามูไรของนายอาเบะในช่วงนั้น ทำให้สื่อคอการเมืองหันขวับ พาดหัวข่าวตัวโตว่า “Japan is back” ญี่ปุ่นกลับมาแล้ว กลับมาทำอะไร ตอนนั้นยังไม่มีใครตายาว มองเห็นว่า ญี่ปุ่น หรือนายอาเบะ มีแผนการอะไรกันแน่
    ระหว่างนั้น นายอาเบะ ก็ขยับงบประมาณด้านความมั่นคง ของประเทศ เขยิบขึ้นไปทุกปี และงบประมาณในปี 2015 สูงลิ่วไปถึง 4.98 ล้านล้านเย็น หรือ 4 หมื่น 2 พันล้านเหรียญ เพื่อเตรียมจ่ายค่า เครื่องบินรบ เรือรบ ฯลฯ ที่พวกนายหน้าค้าอาวุธ (ต้ม) เตรียมไว้ให้

    งบประมาณสูงลิ่วนี้ มิได้ลอยมาง่ายๆ นายอาเบะ ต้องออกแรง ให้มีการตีความรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน

    นาย James R. Holmes ศาสตราจารย์ด้านการวางยุทธศาสตร์ของ Naval War College เขียนถึง ภารกิจแบกถาดของนายอาเบะไว้อย่างน่าคิด เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2015 หัวเรื่อง” This Brave New U.S – Japan Alliance”

    ” …นาย ชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เดินทางมาวอชิงตันสัปดาห์นี้ .. เป้าหมายหนึ่งคือ เพื่อมายกเครื่อง แนวทางความมั่นคงระหว่างอเมริกากับญี่ปุ่น ซึ่งมีผลเกี่ยวกับการเมือง และการทหาร ของทั้ง 2 ประเทศ … ทั้ง 2 ฝ่ายสัญญากันว่า จะรักษาสันติภาพและความมั่นคงของญี่ปุนในทุกขั้นตอน รวมทั้งในสถานการณ์ที่ญี่ปุ่นไม่ได้ถูกโจมตีทางอาวุธ... ทั้งสองฝ่าย ตกลงว่า ต่างมีสิทธิที่จะตอบโต้ ผู้ที่ใช้อาวุธโจมตีอเมริกา หรือโจมตีประเทศอื่น ที่มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับญี่ปุ่น และแม้ญี่ปุ่นเองจะไม่ได้ถูกโจมตีอย่างรุนแรง..”

    ท่านศาสตราจารย์มีความเห็นว่า ข้อตกลงแบบนี้ออกจะจืดชืด...ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น อย่างที่ตีปิ๊บกัน

    ท่าน ศจ ว่า การเป็นพันธมิตร มีหลายแบบ แบบเท่าเทียมกัน หรือแบบ who has the gold makes the rule ใครมีทองก็นับเป็นพี่ ซึ่งในความคิดของ ท่าน ศจ ว่า สัมพันธ์ วอชิงตัน-โตเกียวตั้งแต่ ค.ศ.1951 มาแล้ว เป็นแบบหลัง หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา แม้อเมริกาจะเอาอดีตศัตรูมาเป็นพันธมิตร มันก็แค่เป็นการเอามาอยู่ใกล้ตัว เพื่อให้แน่ใจว่า นักฆ่าจะไม่ฟื้นคืนชีพมากกว่า อเมริกาทำอย่างนั้น กับทั้งญี่ปุ่น และเยอรมัน … คุณป้าเข็มขัดเหล็กรับทราบด้วยนะครับ ว่าท่าน ศจ เขามองคุณป้าอย่างไร…

    ….ความคิดแบบนี้ ยังมีอยู่ตลอด ผู้คนยังจำได้เสมอ ถึงคำพูดอันโด่งดังของ Lord Ismay เลขาธิการนาโต้คนแรก ที่บอกว่า ..กลุ่มพันธมิตรแอตแลนติก Atlantic Alliance ยังมีอยู่ก็เพื่อ ให้อเมริกาคงอยู่ รัสเซียไป และเยอรมันล่ม the Americans in, the Russians out and the Germans down… เช่นเดียวกับ พันธมิตรของอเมริกา-ญี่ปุ่น ก็มีไว้ เพื่อให้อเมริกาคงอยู่ คอมมิวนิสต์ เช่นรัสเซีย จีน ไป และญี่ปุ่นล่ม…
    …อเมริกา ต้องการคุมญี่ปุ่น ไม่ให้เอาเงินไปสร้างกองทัพใหญ่โต ขณะเดียวกับรัฐมนตรีกลาโหมอเมริกา ดันไปเดินประโคมข่าวในญี่ปุ่นว่า การปรับแนวทางด้านความมั่นคงใหม่ของญี่ปุ่นนี่ เยี่ยมยอด…. มันคงเยี่ยมจริง เพราะวอชิงตันยังไม่ต้องควักกระเป็าสักเหรียญเดียว แต่ญี่ปุ่นต้องแก้กฏหมายเกี่ยวกับการควบคุมงบประมาณด้านความมั่นคง ซึ่งกำหนดเพดานไว้ว่า ต้องไม่เกินกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี …. นี่แปลว่า อเมริกาเปลี่ยนใจเลิกคุมเข้มนักฆ่าแล้วหรือ เปล่าหรอก ท่าน ศจ บอกว่า อเมริกายังคุมญี่ปุ่นเข้มเหมือนเดิม ถึงจะสนับสนุนให้ญี่ปุ่นขยายกองกำลังอย่างไร สุดท้าย อเมริกาก็จะเป็นผู้ออกคำสั่งกับกองทัพญี่ปุ่นเอง … และไม่ว่า ต่อไปข้างหน้า ญี่ปุ่นจะมีเศรษฐกิจโตขี้นในเอเซียขนาดไหน เชื่อเถอะว่า วอชิงตัน ก็ยังมีวิธีคุมญี่ปุ่นได้อยู่ดี..

    … ถึงอย่างนั้น มันก็เป็นความกล้าของทั้ง 2 ฝ่าย ที่เล่มเกมนี้กัน ก็หวังว่า ทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมที่จะเล่นเกมนี้...ท่าน ศจ สรุป

    ท่าน ศจ นี่ เขียนได้กวนใจจริงๆ ชวนให้คิดว่า อเมริกาก็รู้ดีอยู่ว่า ญี่ปุ่นเองก็อาจคิดแหกคอก ถือโอกาสจากการที่อเมริกายกขึ้นเป็นหัวหมู่ สร้างกองกำลังของตัวเองขึ้นมาใหม่ เพื่อกลับมา เป็นญี่ปุ่นที่ยิ่งใหญ่ เหมือนสมัยสงครามโลก แต่ อเมริกาก็สนับสนุนให้ญี่ปุ่นทำ แสดงว่าอเมริกาน่าจะมีแผนสกัดสับคอ รออยู่ หรือหลอกให้ญี่ปุ่นลงเหวลึกไปเลย ญี่ปุ่นเอง ก็น่าจะรู้ว่าอเมริกาคิดกับตนเองอย่างไร รู้แล้วยังคิดแหกคอกไหม ถ้าคิดจะแหกคอก มันก็ต้องเล่นกันตอนนี้แหละ เนียนไปกับบทแบกถาด ถึงเวลาก็ค่อยโยนถาดทิ้ง

    แต่ไม่ว่าญี่ปุ่นจะคิดเล่นบทแบกถาด บริการอเมริกาต่อไป หรือคิดแหกคอก กลับมาสวมวิญญาณนักรบ หรือนักฆ่า เหมือนสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นก่อศัตรูคู่แค้นอย่าง จีน และเกาหลี ชนิดยากจะให้อภัยกัน ญี่ปุ่นก็ไม่เคยเป็นแบบอย่างของ การเป็นเพื่อนแท้กับใคร
    ปลาดิบ ทำจากปลาปักเป้า เขาว่าน่ากิน อร่อยหนักหนา มองไม่มีพิษ ไม่มีภัย แต่ถ้าเอาพิษปลาปักเป้าออกไม่เป็น คนกินก็ถูกนำส่งวัดมาหลายรายแล้ว

    สัมพันธ์ญี่ปุ่นอเมริกาน่าศึกษา และน่าจับตา ไม่ใช่เป็นเรื่องเข้าใจ และวางใจได้ง่ายๆ

    แต่ญี่ปุ่นคงต้องมีคุณสมบัติบางอย่าง ซึ่งเป็นที่น่าต้องการ ของผู้ที่มุ่งหมายจะให้การปฏิบัติภาระกิจสำเร็จลุล่วงอย่างไม่มีโอกาสพลาด เมื่อรับปากแล้วก็ต้องทำจนถึงที่สุด แม้ที่สุด จะหมายถึงจบชีวิต หรือความหายนะ มันคงเป็นนิสัยซามูไร ที่รับใช้ “นาย” จนถึงที่สุด หรืออย่างไร

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 พ.ค. 2558
    ซามูไรแบกถาด ตอนที่ 3 “ซามูไรแบกถาด” ตอน 3 น่าสนใจว่า เมื่อนายอาเบะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี รอบ 2 ในปี ค.ศ.2012 นั้น เหมือนกับเขามากับภาระกิจพิเศษ รู้งานล่วงหน้าว่า จะต้องทำอะไรบ้าง และทำอะไรก่อนหลัง จากประเทศที่ประกาศตัวว่ารักสงบ และไม่ฝักฝ่ายการทำสงคราม เมื่อรับตำแหน่งใหม่ๆ นายอาเบะ ฉลองเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ด้วยการตั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ National Security Council (NSC) ขึ้น เป็นครั้งแรกของญี่ปุ่น (หลังสงครามโลกครั้งที่ 2) ญี่ปุ่นใช้ สภาความมั่นคงของอเมริกา เป็นแม่แบบ และวัตถุประสงค์หลัก ของการจัดตั้ง NSC ตอนนึง ระบุว่า หนึ่งในเรื่องสำคัญที่สุด ที่กระทบความมั่นคงของญี่ปุ่นคือ การเจริญเติบโตของจีน ญี่ปุ่นจะต้องมีนโยบายที่แก้ไขเรื่องนี้ อย่างครอบคลุมทุกด้าน ไม่ใช่แต่ทางวิธีการทูตเท่านั้น แต่จะต้องรวมนโยบายด้านการป้องกัน และการใช้นโยบายการค้า การเงิน และอื่นๆด้วย …สงสัยไอ้สุดกร่าง ช่วยร่างให้ เขียนแบบกร่างๆอย่างนี้…. หลังจากนั้น เขาเสนอกฏหมายเกี่ยวกับการรักษาความลับของชาติเข้าสภา ต่อมาก็จัดร่างยุทธศาสตร์ความมั่นคงของชาติและ พยายามที่จะให้มีการตีความรัฐธรรมนูญ ขยายขอบเขตนิยาม การปกป้องตนเอง ของประเทศให้กว้างขวางขึ้น …นี่เดินตามพิมพ์เขียว ของใครนะ นอกจากนั้น นายอาเบะยังเดินสาย แวะไปจับเข่าถึง 49 เข่า 49 ประเทศ แน่นอน ยกเว้นไม่ไปแดนมังกร กับไม่ไปเยี่ยมน้องคิมของผมที่เกาหลีเหนือ ดูเหมือนนายอาเบะนี่ แกจะชอบเข่าฝรั่งมากกว่าเข่าเอเซียด้วยกัน ข่าวว่า แกไปทำข้อตกลงความร่วมมือด้านความ มั่นคง กับออสเตรเลีย อังกฤษ ฝรั่งเศส และนาโต้ เรียบร้อยหมดแล้ว นับว่า สุดกร่าง CFR เป็นพี่เลี้ยง ที่ชำนาญการเลี้ยงเด็กสร้างจริงๆ การขยับดาบซามูไรของนายอาเบะในช่วงนั้น ทำให้สื่อคอการเมืองหันขวับ พาดหัวข่าวตัวโตว่า “Japan is back” ญี่ปุ่นกลับมาแล้ว กลับมาทำอะไร ตอนนั้นยังไม่มีใครตายาว มองเห็นว่า ญี่ปุ่น หรือนายอาเบะ มีแผนการอะไรกันแน่ ระหว่างนั้น นายอาเบะ ก็ขยับงบประมาณด้านความมั่นคง ของประเทศ เขยิบขึ้นไปทุกปี และงบประมาณในปี 2015 สูงลิ่วไปถึง 4.98 ล้านล้านเย็น หรือ 4 หมื่น 2 พันล้านเหรียญ เพื่อเตรียมจ่ายค่า เครื่องบินรบ เรือรบ ฯลฯ ที่พวกนายหน้าค้าอาวุธ (ต้ม) เตรียมไว้ให้ งบประมาณสูงลิ่วนี้ มิได้ลอยมาง่ายๆ นายอาเบะ ต้องออกแรง ให้มีการตีความรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน นาย James R. Holmes ศาสตราจารย์ด้านการวางยุทธศาสตร์ของ Naval War College เขียนถึง ภารกิจแบกถาดของนายอาเบะไว้อย่างน่าคิด เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2015 หัวเรื่อง” This Brave New U.S – Japan Alliance” ” …นาย ชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เดินทางมาวอชิงตันสัปดาห์นี้ .. เป้าหมายหนึ่งคือ เพื่อมายกเครื่อง แนวทางความมั่นคงระหว่างอเมริกากับญี่ปุ่น ซึ่งมีผลเกี่ยวกับการเมือง และการทหาร ของทั้ง 2 ประเทศ … ทั้ง 2 ฝ่ายสัญญากันว่า จะรักษาสันติภาพและความมั่นคงของญี่ปุนในทุกขั้นตอน รวมทั้งในสถานการณ์ที่ญี่ปุ่นไม่ได้ถูกโจมตีทางอาวุธ... ทั้งสองฝ่าย ตกลงว่า ต่างมีสิทธิที่จะตอบโต้ ผู้ที่ใช้อาวุธโจมตีอเมริกา หรือโจมตีประเทศอื่น ที่มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับญี่ปุ่น และแม้ญี่ปุ่นเองจะไม่ได้ถูกโจมตีอย่างรุนแรง..” ท่านศาสตราจารย์มีความเห็นว่า ข้อตกลงแบบนี้ออกจะจืดชืด...ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น อย่างที่ตีปิ๊บกัน ท่าน ศจ ว่า การเป็นพันธมิตร มีหลายแบบ แบบเท่าเทียมกัน หรือแบบ who has the gold makes the rule ใครมีทองก็นับเป็นพี่ ซึ่งในความคิดของ ท่าน ศจ ว่า สัมพันธ์ วอชิงตัน-โตเกียวตั้งแต่ ค.ศ.1951 มาแล้ว เป็นแบบหลัง หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา แม้อเมริกาจะเอาอดีตศัตรูมาเป็นพันธมิตร มันก็แค่เป็นการเอามาอยู่ใกล้ตัว เพื่อให้แน่ใจว่า นักฆ่าจะไม่ฟื้นคืนชีพมากกว่า อเมริกาทำอย่างนั้น กับทั้งญี่ปุ่น และเยอรมัน … คุณป้าเข็มขัดเหล็กรับทราบด้วยนะครับ ว่าท่าน ศจ เขามองคุณป้าอย่างไร… ….ความคิดแบบนี้ ยังมีอยู่ตลอด ผู้คนยังจำได้เสมอ ถึงคำพูดอันโด่งดังของ Lord Ismay เลขาธิการนาโต้คนแรก ที่บอกว่า ..กลุ่มพันธมิตรแอตแลนติก Atlantic Alliance ยังมีอยู่ก็เพื่อ ให้อเมริกาคงอยู่ รัสเซียไป และเยอรมันล่ม the Americans in, the Russians out and the Germans down… เช่นเดียวกับ พันธมิตรของอเมริกา-ญี่ปุ่น ก็มีไว้ เพื่อให้อเมริกาคงอยู่ คอมมิวนิสต์ เช่นรัสเซีย จีน ไป และญี่ปุ่นล่ม… …อเมริกา ต้องการคุมญี่ปุ่น ไม่ให้เอาเงินไปสร้างกองทัพใหญ่โต ขณะเดียวกับรัฐมนตรีกลาโหมอเมริกา ดันไปเดินประโคมข่าวในญี่ปุ่นว่า การปรับแนวทางด้านความมั่นคงใหม่ของญี่ปุ่นนี่ เยี่ยมยอด…. มันคงเยี่ยมจริง เพราะวอชิงตันยังไม่ต้องควักกระเป็าสักเหรียญเดียว แต่ญี่ปุ่นต้องแก้กฏหมายเกี่ยวกับการควบคุมงบประมาณด้านความมั่นคง ซึ่งกำหนดเพดานไว้ว่า ต้องไม่เกินกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี …. นี่แปลว่า อเมริกาเปลี่ยนใจเลิกคุมเข้มนักฆ่าแล้วหรือ เปล่าหรอก ท่าน ศจ บอกว่า อเมริกายังคุมญี่ปุ่นเข้มเหมือนเดิม ถึงจะสนับสนุนให้ญี่ปุ่นขยายกองกำลังอย่างไร สุดท้าย อเมริกาก็จะเป็นผู้ออกคำสั่งกับกองทัพญี่ปุ่นเอง … และไม่ว่า ต่อไปข้างหน้า ญี่ปุ่นจะมีเศรษฐกิจโตขี้นในเอเซียขนาดไหน เชื่อเถอะว่า วอชิงตัน ก็ยังมีวิธีคุมญี่ปุ่นได้อยู่ดี.. … ถึงอย่างนั้น มันก็เป็นความกล้าของทั้ง 2 ฝ่าย ที่เล่มเกมนี้กัน ก็หวังว่า ทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมที่จะเล่นเกมนี้...ท่าน ศจ สรุป ท่าน ศจ นี่ เขียนได้กวนใจจริงๆ ชวนให้คิดว่า อเมริกาก็รู้ดีอยู่ว่า ญี่ปุ่นเองก็อาจคิดแหกคอก ถือโอกาสจากการที่อเมริกายกขึ้นเป็นหัวหมู่ สร้างกองกำลังของตัวเองขึ้นมาใหม่ เพื่อกลับมา เป็นญี่ปุ่นที่ยิ่งใหญ่ เหมือนสมัยสงครามโลก แต่ อเมริกาก็สนับสนุนให้ญี่ปุ่นทำ แสดงว่าอเมริกาน่าจะมีแผนสกัดสับคอ รออยู่ หรือหลอกให้ญี่ปุ่นลงเหวลึกไปเลย ญี่ปุ่นเอง ก็น่าจะรู้ว่าอเมริกาคิดกับตนเองอย่างไร รู้แล้วยังคิดแหกคอกไหม ถ้าคิดจะแหกคอก มันก็ต้องเล่นกันตอนนี้แหละ เนียนไปกับบทแบกถาด ถึงเวลาก็ค่อยโยนถาดทิ้ง แต่ไม่ว่าญี่ปุ่นจะคิดเล่นบทแบกถาด บริการอเมริกาต่อไป หรือคิดแหกคอก กลับมาสวมวิญญาณนักรบ หรือนักฆ่า เหมือนสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นก่อศัตรูคู่แค้นอย่าง จีน และเกาหลี ชนิดยากจะให้อภัยกัน ญี่ปุ่นก็ไม่เคยเป็นแบบอย่างของ การเป็นเพื่อนแท้กับใคร ปลาดิบ ทำจากปลาปักเป้า เขาว่าน่ากิน อร่อยหนักหนา มองไม่มีพิษ ไม่มีภัย แต่ถ้าเอาพิษปลาปักเป้าออกไม่เป็น คนกินก็ถูกนำส่งวัดมาหลายรายแล้ว สัมพันธ์ญี่ปุ่นอเมริกาน่าศึกษา และน่าจับตา ไม่ใช่เป็นเรื่องเข้าใจ และวางใจได้ง่ายๆ แต่ญี่ปุ่นคงต้องมีคุณสมบัติบางอย่าง ซึ่งเป็นที่น่าต้องการ ของผู้ที่มุ่งหมายจะให้การปฏิบัติภาระกิจสำเร็จลุล่วงอย่างไม่มีโอกาสพลาด เมื่อรับปากแล้วก็ต้องทำจนถึงที่สุด แม้ที่สุด จะหมายถึงจบชีวิต หรือความหายนะ มันคงเป็นนิสัยซามูไร ที่รับใช้ “นาย” จนถึงที่สุด หรืออย่างไร สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 510 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนสอยมังกร ตอนที่ 1 – 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนสอยมังกร”

    ตอน 1

    วันนี้ เดิมผมตั้งใจจะเอาตอนแถมของนิทาน เรื่อง”ต้มข้ามศตวรรษ ” (หรือหม้อตุ๋นแตก ที่คุณจตุพร เพชรเรียง ตั้งชื่อให้ ซึ่งผมชอบมาก) มาลงให้อ่าน แต่ก่อนหน้านี้ ผมได้ไปเจอเอกสารชิ้นหนึ่งน่าสนใจมาก ตั้งใจไว้ว่าจะเขียนเล่าให้ฟังกัน หลังจากลงของแถม แต่บังเอิญเช้านี้ ได้กลิ่นทะแม่งๆค่อนข้างแรง เลยขอพาท่านผู้อ่าน เดินทางกลับจากอดีต 100 ปี เข้าสู่ปัจจุบันกันก่อนเดี๋ยวจะตกข่าวสำคัญ แล้วกลายเป็นว่า ลุงนิทานดีแต่เขียนเรื่องอดีต ปัจจุบันเขาไปถึงไหนกันแล้วไม่บอกกันมั่ง หมู่นี้ลุงนิทานโดนค่อนขอดนินทาแยะแล้ว ไม่อยากโดนเพิ่ม แต่ไม่เป็นไรครับ นินทาลุงแล้วนอนหลับสบายก็เชิญ ถือว่าลุงนิทานได้ทำกุศล 555

    เมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Council on Foreign Relations หรือ CFR ถังขยะความคิด (think tank) ที่มีอิทธิพลสูงลิ่ว และมีเสียงดังฟังชัด ซึ่งในหลายๆครั้ง (จริงๆก็เกือบทุกครั้ง) ดูเหมือนจะดังนำ จนเสียงของประธานาธิบดี ต้องว่าตามเสียงอ่อยๆเสียด้วยซ้ำ ได้ออกรายงาน Council Special Report No. 72 ชื่อ “Revising U.S. Grand Strategy Toward China” ซึ่งกว่าผมจะได้อ่าน ก็นู่น จะหมดเดือนเมษาเข้าไปแล้ว อากาศบ้านเรากำลังร้อนจัด แค่เห็นหัวข้อ ผมก็แทบสะอึก พออ่านจบ ผมต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ และลดความร้อนในใจอยู่หลายวัน กว่าจะตัดสินใจว่า จะเอามาเขียนเล่าสู่กันฟัง

    รายงานนี้มีความหมายมากครับ เหมือนเป็นเข็มทิศและเครื่องวัดอุณหภูมิของโลก และที่สำคัญ มีความเกี่ยวพันกับแดนสมันน้อยของเรา ในช่วงเวลานับจากนี้เป็นต้นไป

    Edward Mead บรรณาธิการรุ่นเก๋าชื่อดัง ได้เขียนอธิบายความหมายของคำว่า Grand Strategy ไว้ว่า เป็นศิลปะของการควบคุม และการใช้ทรัพยากรทั้งหมดของประเทศอย่างถึงที่สุด เพื่อรักษาผลประโยชน์สุงสุดของประเทศและเพื่อปกป้องตนเองจากผู้ที่เป็นศัตรู หรือมีโอกาสที่จะกลายเป็นศัตรู หรือเพียงแต่คาดว่า อาจจะเป็นศัตรู… และเป็นยุทธศาสตร์ที่มิได้ใช้เฉพาะในภาวะสงครามเท่านั้น แต่ใช้ในทุกสภาวะของรัฐนั้น
    เทียบกับสมัยโบราณของบ้านเรา Grand Stategy คงจะเป็นทำนองหลักพิชัยสงครามขั้นสูงสุด นะครับ

    ” จีน นับเป็นขู่แข่งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา ในขณะนี้ และในอีกหลายๆทศวรรษต่อไป”
    China represents and will remain the most significant competitor to the United States for decades to come”

    คนเขียนรายงานการวิเคราะห์ เขาเกริ่นเริ่มต้นเช่นนั้น อ่านเผินๆ เหมือนน้ำไหลเอี่อยๆ
    ไม่เห็นต้องสดุ้ง สะอึก อะไรเลย แต่ประโยคต่อไปของเขา ความเอื่อยค่อยๆเปลี่ยน..

    …จีน กำลังดำเนินยุทธศาสตร์ ของตน ซึ่งมีเป้าหมาย ที่จะควบคุมประชาสังคมทั้งในและนอกประเทศจีน ที่อยู่ใกล้กับอาณาบริเวณของจีน ให้สงบราบคาบ และสร้างสถานะของจีนให้แข็งแกร่งในประชาคมนานาชาติ เพื่อเข้าไปแทนที่อเมริกา ในฐานะเป็นผู้มีอำนาจที่สุดในเอเซีย..

    …ความพยายามของอเมริกา ที่จะนำจีนเข้ามาอยู่ในระบบที่ใช้กันอยู่ในสากล กลายเป็นการสร้างความคุกคามให้แก่อเมริกาเอง ในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดในเอเซีย และในที่สุดจีนอาจเป็นผู้ท้าทาย ความเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในโลก ของอเมริกาด้วย..

    .. อเมริกาจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเด็ดขาด ในนโยบายปัจจุบันของอเมริกา เพื่อเป็นการจำกัดอันตราย ที่อาจมีต่อผลประโยชน์ของอเมริกาในภูมิภาคเอเซีย และในระดับโลก ที่เกิดจากการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ และการทหารของจีน

    การเปลี่ยนแปลงยโยบายของอเมริกาดังกล่าว จะต้องเกิดขึ้น เนื่องจากเป็นความจำเป็น ที่จะต้องรักษาความเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของอเมริกาในระบบปัจจุบันของโลกเอา ไว้…

    ….การเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของจีน ในช่วงสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้จีนสามารถสร้างอำนาจ ที่ยากแก่การเอาชนะ กลายเป็นประเทศที่สามารถจะครอบงำภูมิภาคเอเซีย และเป็นอันตรายต่อวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และผลประโยชน์ ของอเมริกาในภูมิภาค
    ด้วยเศรษฐกิจที่โตแบบพุ่งพรวดของจีน แม้รายได้ต่อหัวของคนจีน จะยังตามหลังคนอเมริกันก็ตาม แต่ก็ยังทำให้ปักกิ่ง สามารถท้าทายความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้านแถบเอเซียและอิทธิพลของอเมริกาในเอเซีย ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่ออเมริกาอย่างน่าอันตราย และแม้การเติบโตของจีดีพีของจีน อาจจะช้าลงอย่างเห็นชัดในอนาคต แต่เมื่อเทียบกับของอเมริกาในอนาคตแล้ว ก็ยังจะสูงกว่าอเมริกาอยู่ดี จึงทำให้การถ่วงดุลอำนาจจีน จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง

    การทำให้รากฐานของจีนล่มสลายเท่า นั้น (fundamental collapse) จึงเป็นทางเดียว ที่จะทำให้อเมริกาพ้นจาก “ภาระ” การถ่วงดุลกับจีน เพราะว่า แม้จะทำให้จีน “สะดุด” หัวทิ่มบ้าง ก็ยังไม่เป็นการเพียงพอที่จะขจัดอันตราย ที่จีนมีต่ออเมริกาในเอเซีย และที่ไกลโพ้นไปกว่านั้น

    ในบรรดาชาติทั้งหมด และไม่ว่าในสถานการณ์ใดเท่าที่จะคาดการณ์ได้ มีแต่จีนเท่านั้น ที่จะเป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา และจะเป็นอยู่เช่นนั้นไปอีกหลายทศวรรษ การผงาดขึ้นมาของจีน จนถึงขณะนี้ ได้สร้างความท้าทายอำนาจของอเมริกา (และอำนาจของอเมริกาที่มีต่อ)มิตร ของอเมริกา ไม่ว่าทางด้านภูมิศาสตร์ การเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และที่สำคัญ ต่อการจัดระเบียบโลก “ภายใต้ข้อกำหนด” ของอเมริกา และถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้อีกต่อไป ยิ่งนานไป ก็ยิ่งเป็นการทำลายผลประโยชน์ของอเมริการุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ

    นโยบายที่อเมริกาใช้อยู่กับจีนขณะนี้ เป็นนโยบายที่รับรองคุณค่าของจีนทางเศรษฐกิจและปล่อยให้เกิดเสรีทางการเมืองในนานาชาติ ด้วยค่าใช้จ่าย หรือการเสียประโยชน์ของอเมริกาในการเป็นหมายเลขหนึ่งของโลก มันห่างไกลกับการใช้ยุทธศาสตร์แบบ “grand” แถมไม่มีทางจะได้ผลอะไรขึ้นมา จำเป็นอย่างยิ่งแล้ว ที่อเมริกาจะต้องตอบโต้การเติบโตของอำนาจจีนอย่างเร่งด่วน ซึ่งแม้จะทำตอนนี้ ยังเกือบจะสายไป..
    อือ หือ…. ผมอ่านวิธีการเขียนของ คุณสุดกร่าง ถังขยะความคิด CFR แล้วต้องยอม ว่าเขาใหญ่จริง เขาตบอาเฮียของผม แบบไม่เลี้ยงเลยนะ เอาซะกกหูบวม หัวโน คางโย้ เพราะอาเฮียอีดันโตเร็ว โตไป ใหญ่ไป มันคงไปกระตุ้นต่อมอิจฉา ต่อมหมั่นไส้ ของไอ้พวกนักล่าใบตองแห้ง อย่างทนไม่ไหว เอาซะใบตองปลิวกระจาย ข้อหาความผิดของอาเฮีย คือใหญ่ขนาดมาทาบรัศมี นี่ ไอ้นักล่ารับไม่ได้จริงๆ คงเหมือนเด็กถูกเหยียบเงาหัว ที่สำคัญคือ อาเฮียไม่ยอมคุกเข่า สะบัดแขนคำนับอเมริกา แถมยังเดินหน้าตามวิธีการ นอกรูปแบบ ที่อเมริกากำกับ หรือสั่งให้สิ่งมีชีวิตทั้งโลกทำตาม ขนาดสั่งให้แผ่นดินไหว ให้เกิดพายุยังทำได้เลย จวนจะเป็นพระเจ้าอยู่แล้วรู้ไหม เอะ หรือเป็นแล้ว… แล้วจีนเป็นใครมาจากไหน ถึงสั่งซ้ายหัน ขวาหันไม่ได้ เรื่องมันสำคัญตรงนี้ เพราะฉะนั้น สำหรับนักล่าเมื่อสั่งกันไม่ได้ ก็ต้องสอยให้ร่วง (fundamental collapse) มีแค่นั้นเอง เข้าใจไหมครับอาเฮีย

    “แผนสอยมังกร”

    ตอน 2

    จีนสร้างความเจริญเติบโตอย่างไร สุดกร่าง CFR บอกว่า จีนขึ้นต้นด้วยการสร้างหัวขบวนก่อนอื่น สร้างหัวหน้าที่มีอำนาจเต็มไม้เต็มมือ เหนือกว่าสถาบันใดในประเทศ หลังจากนั้นจึงเดินหน้าสู่ภาระกิจ 4 ประการ

    – จัดระเบียบภายในประเทศ จัดแถวหน่วยงานต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ แต่สุดกร่าง ติติง ว่า การเป็นผู้นำประเทศของจีนมักมีปัญหาในเรื่องของการปกครองที่ไม่ชอบธรรม และขาดธรรมาภิบาล ( ผมว่า ไอ้สุดกร่างนี่มันเขียนลอกจากคู่มือ ที่ไอ้นักล่าใบตองแห้ง แจกไปทั่วโลก เรื่องธรรมาภิบาลในการบริหาร Good Governance ทำให้นึกถึงน้านันของผมเลย มีอยู่ช่วงหนึ่ง ขึ้นเวทีไหนไม่พูดเรื่องนี้ เหมือนเป็นตัวปลอมเลย 55)
    – จีนเริ่มปฏิรูปประเทศอย่างเอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะการสร้างความเข้มแข็งในสมัยเติ้งเสี่ยวผิง เพราะเชื่อว่าถ้าเศรษฐกิจของประเทศดี ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น ความวุ่นวายทางสังคมจะน้อยลง และการปกครองประชาชนจะง่ายขึ้น ดังนั้นนโยบายเรื่องเศรษฐกิจ จึงเป็นนโยบายที่จำเป็นอย่างยิ่งของจีน นอกจากนั้น การเน้นนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ ยังเป็นเครื่องมือให้พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) สามารถจัดระเบียบสังคมจีน ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกันนัก (การปฏิรูปด้านเศรษฐกิจของจีน ไม่ได้เกี่ยวกับการแข่งขันทางการเมือง เพราะทางการเมือง พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นพรรคเดียวที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ในการบริหารประเทศ) ดังนั้นการปฏิรูปประเทศ ด้านเศรษฐกิจ จึงไม่ใช่เป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่เป็นนโยบายสำคัญด้านการเมืองภายในของจีนด้วย หมายความว่า จีนไม่มีทางเลิกนโยบายนี้ และเป็นเรื่องที่สุดกร่าง CFR บอกว่า ยิ่งจีนเดินหน้าตามเส้นทางนี้ โอกาสกระแทกนักล่า หล่นจากการเป็นผู้กุมชะตาโลกแต่ผู้เดียว ก็เป็นเรื่องน่าหวั่นใจมาก…. แหม ก็แค่ทำแท่นให้มันใหญ่ขึ้น ยืนด้วยกันหลายๆคน ใหญ่ๆ ด้วยกัน เก่งๆ กันทั้งนั้น ช่วยๆกันทำให้โลกนี้มันดีขึ้นนี่ พวกเอ็งขัดใจมากนักหรือไง ขอโทษครับ ผมไม่สุภาพไปหน่อย

    – เมื่อเศรษฐกิจจีนดีขึ้น ต้ังแต่ช่วงปี ค.ศ. 1980 กว่า ถึง 1990 กว่า จีนก็รวยเอาๆ จนเปลี่ยนฐานะเป็นเศรษฐี เป็นเศรษฐีแล้วจะนั่งอุดอู้อยู่แต่ในบ้านทำไม สุดกร่างบอก จีนเลยเริ่มเดินเผ่นผ่านออกไปนอกบ้าน ไปตบหัวลูบหลังเด็กๆที่อยู่แถวนอกบ้าน จึงเป็นที่มาของนโยบายของจีน ที่จะแผ่อิทธิพลในแถบอินโดแปซิฟิก

    แต่โลกมันก็เปลี่ยนด้วย รอบตัวจีนไม่ได้มีแต่พวกเด็กน้อยที่รอจีนมาตบหัวลูบหลัง แต่มีพวกกล้ามใหญ่ที่เป็นคู่แข็งจีนด้วยซ้ำ ยืนกอดอกดูจีนอยู่เหมือนกัน เช่น รัสเซีย ญี่ปุ่น และอินเดีย และนอกจากนั้น พวกที่อาจเคยเกรงใจจีนมาในสมัยก่อน เช่น เกาหลีใต้ และเวียตนาม แต่บัดนี้ ก็กลายเป็นประเทศที่ดูแลตนเองได้ แม้จะยังมีความอ่อนแออยู่บ้าง ก็ไม่แสดงความสนใจว่าจะไปซุกอยู่ใต้อุ้งเล็บมังกร และเมื่อจีนคิดขยายวง ประเล้าประโลมออกไปเรื่อยๆ ก็ดันไปเจอเอาฐานทัพและกองกำลังอันแข็งแกร่งของอเมริกา ที่กระจายอยู่เต็มบ้านของพันธมิตรของอเมริกา ซึ่งยากที่จีนจะทะลวงเข้าไปได้ ….แม่จ้าวโว้ย อ่านที่ไอ้สุดกร่างบรรยายถึงตอนนี้ เล่นเอาผมเคลิ้มจนเอกสารปึกใหญ่หล่น
    เมื่อทางเข้าเส้นนี้มีอุปสรรค หนทางเดินหน้าตามแผนของจีน ในความเห็นของสุดกร่าง ก็คือ จีนยิ่งใช้อำนาจทางเศรษฐกิจ สานไมตรีกับเพื่อนบ้านในภูมิภาคหนักเข้าไปกว่าเดิมและเพื่อไม่ให้ถูกนินทาว่า จีนกำลังจะฮุบเอเซีย จีนก็เริ่มหันไปจับมือกับรัสเซีย ทำทีเป็นเห็นใจรัสเซีย ที่ถูกตะวันตกคว่ำบาตรใส่ จนหน้าบุบไปหมดแล้ว แต่ที่แสบที่สุด เห็นจะเป็นเรื่องอิทธิพลอเมริกาที่มีอยู่ทั่วเอเซียอย่างชอบธรรมนั้น จีนพยายามหาเหตุอ้างว่าไม่เหมาะสม และกำลังเดินนโยบายที่จีนบอกว่า จะเป็นการถ่วงดุลอำนาจอเมริกาในเอเซียเสียใหม่ … อาเฮียครับ พระเจ้านักล่าบอกว่า อิทธิพลของเขาที่มีอยู่ทั่วเอเซีย “ชอบธรรม” แล้ว อาเฮียจะเถียง จะท้าทายเขาแน่จริงไหมครับ พวกผมจะได้เตรียมตัว..หลบ

    – ประการสุดท้าย ที่จีนแสดงอาการให้เห็นเป็นการท้าทายอเมริกา ในความเห็นของสุดกร่าง คือ จีนเริ่มก้าวเข้าไปเบ่งกล้ามใน ระบบสากล เพื่อแสดงให้เห็นว่า จีนก็เป็นดาราอินเตอร์ได้ อันที่จริง บทดาราอินเตอร์ จีนก็ได้เล่นอยู่แล้ว ต้ังแต่ก่อน การปฏิวัติคอมมิวนิสต์ ค.ศ.1949 ซึ่งจีนได้รับสิทธิในการออกเสียงคัดค้าน (veto) ในฐานะสมาชิกถาวร ในคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ (UNSC) เพียงแต่ตอนนั้น จีนเลือกที่จะเป็นคอมจนๆ เสียงในสากลก็เลยไม่ดัง ตอนนี้ จีนเปลี่ยนมาเล่นบทเป็นเศรษฐี บวกกับยังมีตำแหน่งดาราอินเตอร์ของเดิมค้างอยู่ คราวนี้ เสียงจีนในสหประชาชาติ ก็เลยยิ่งดังโดยไม่ต้องใช้ไมค์… แบบนี้ เขาจะไม่หมั่นไส้อาเฮีย จนคันไปทั้งแผงหลังได้ยังไง….

    และจีนก็ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เมื่อเห็นว่าตัวเองมีเศรษฐกิจดี จีนเริ่มออกความเห็น และพยายามเข้ามามีอิทธิพลใน IMF และ World Bank เพื่อใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของตน จีนทำตัวเป็นดาราอินเตอร์เต็มตัว เหมือนกับพวกที่เริ่มมีอำนาจทางการเมืองโลกใหม่เขาทำๆกัน นี่.. ด่ากระทบซะเลย
    แต่พวกเศรษฐีใหม่ก็เป็นอย่างนี้แหละ พยายามเสนอตัวเอง เข้าไปในสังคมโลก เฉพาะในทางที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง แต่ถ้าจะต้องเสียสละทำให้สวนรวม ก็ยังไม่เห็นจีนแสดงบทบาทอะไรที่เหมาะสมกับความเป็นเศรษฐีของตน และแม้ว่าจะเป็นถึงหมายเลขสองของโลกในด้าน เศรษฐกิจและการงบประมาณด้านทหาร จีนก็พยายามวางนโยบาย ที่จะเอาภาระที่จะต้องเสียสละให้แก่สังคม ไปให้อเมริกาและประเทศอื่น ที่ยังมีสถานะเป็นเพียงประเทศที่กำลังพัฒนาด้วยซ้ำ ..อันนี้ด่าอาเฮียเจ็บนะครับ หาว่า เขารวย แต่ เค็ม เห็นแก่ตัว ทำนองนั้น….

    แต่เวลาจะสร้างความมั่นคงให้กับตนเอง จีนกลับตัดอเมริกาออก เช่น เมื่อจีนพยายามรวมกลุ่มประเทศที่มีความก้าวหน้า ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยการรวมกลุ่มกับบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และอาฟริกาใต้ (BRICS) นอกจากนั้น จีนยังพยายามสร้างความร่วมมือ กับประเทศในภูมิภาคอื่น เช่น China-Africa Cooperation, China-Arab Cooperation Forum เพื่อแข่งขันกับองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจรุ่นเก่าๆ สมดังคำเปรียบเปรยของ นาย เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ ที่กล่าวว่า จีนยังวุ่นอยู่กับการนำตัวเองเข้าไปจัดการองค์กรที่ได้จัดสร้างขึ้น โดยจีนไม่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างและพัฒนาวัตถุประสงค์ขององค์กรเหล่านั้น … ไอ้สุดกร่าง นี่มันสรรหามาแดกดันได้ทุกเรื่องจริงๆ

    สุดกร่างสรุปในที่สุดว่า จีนไม่ได้มีนโยบายที่จะเป็นประเทศที่มุ่งจะทำการค้าขาย “trading state” แต่อย่างใด แม้ว่าในผลลัพธ์จะประสบความสำเร็จอย่างมากก็ตาม แต่โดยแท้จริงแล้ว จีนมุ่งหมายที่จะเป็นมหาอำนาจอย่างเต็มรูปแบบ conventional great power เต็มยศชุดใหญ่ ในด้านการเมือง และการทหาร การท้าชิงความเป็นใหญ่ในเอเซียกับอเมริกา เป็นแค่หนังตัวอย่างเท่านั้น สำหรับการก้าวไปสู่การเป็นมหาอำนาจในโลกของจีน

    นี่คือ ” จีน ” ตามข้อกล่าวหา และในสายตาของถังความคิด CFR ที่ประธานาธิบดีของอเมริกาเกือบทุกคน ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ” ต้อง” ให้ความสนใจ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    13 พ.ค. 2558
    แผนสอยมังกร ตอนที่ 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนสอยมังกร” ตอน 1 วันนี้ เดิมผมตั้งใจจะเอาตอนแถมของนิทาน เรื่อง”ต้มข้ามศตวรรษ ” (หรือหม้อตุ๋นแตก ที่คุณจตุพร เพชรเรียง ตั้งชื่อให้ ซึ่งผมชอบมาก) มาลงให้อ่าน แต่ก่อนหน้านี้ ผมได้ไปเจอเอกสารชิ้นหนึ่งน่าสนใจมาก ตั้งใจไว้ว่าจะเขียนเล่าให้ฟังกัน หลังจากลงของแถม แต่บังเอิญเช้านี้ ได้กลิ่นทะแม่งๆค่อนข้างแรง เลยขอพาท่านผู้อ่าน เดินทางกลับจากอดีต 100 ปี เข้าสู่ปัจจุบันกันก่อนเดี๋ยวจะตกข่าวสำคัญ แล้วกลายเป็นว่า ลุงนิทานดีแต่เขียนเรื่องอดีต ปัจจุบันเขาไปถึงไหนกันแล้วไม่บอกกันมั่ง หมู่นี้ลุงนิทานโดนค่อนขอดนินทาแยะแล้ว ไม่อยากโดนเพิ่ม แต่ไม่เป็นไรครับ นินทาลุงแล้วนอนหลับสบายก็เชิญ ถือว่าลุงนิทานได้ทำกุศล 555 เมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Council on Foreign Relations หรือ CFR ถังขยะความคิด (think tank) ที่มีอิทธิพลสูงลิ่ว และมีเสียงดังฟังชัด ซึ่งในหลายๆครั้ง (จริงๆก็เกือบทุกครั้ง) ดูเหมือนจะดังนำ จนเสียงของประธานาธิบดี ต้องว่าตามเสียงอ่อยๆเสียด้วยซ้ำ ได้ออกรายงาน Council Special Report No. 72 ชื่อ “Revising U.S. Grand Strategy Toward China” ซึ่งกว่าผมจะได้อ่าน ก็นู่น จะหมดเดือนเมษาเข้าไปแล้ว อากาศบ้านเรากำลังร้อนจัด แค่เห็นหัวข้อ ผมก็แทบสะอึก พออ่านจบ ผมต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ และลดความร้อนในใจอยู่หลายวัน กว่าจะตัดสินใจว่า จะเอามาเขียนเล่าสู่กันฟัง รายงานนี้มีความหมายมากครับ เหมือนเป็นเข็มทิศและเครื่องวัดอุณหภูมิของโลก และที่สำคัญ มีความเกี่ยวพันกับแดนสมันน้อยของเรา ในช่วงเวลานับจากนี้เป็นต้นไป Edward Mead บรรณาธิการรุ่นเก๋าชื่อดัง ได้เขียนอธิบายความหมายของคำว่า Grand Strategy ไว้ว่า เป็นศิลปะของการควบคุม และการใช้ทรัพยากรทั้งหมดของประเทศอย่างถึงที่สุด เพื่อรักษาผลประโยชน์สุงสุดของประเทศและเพื่อปกป้องตนเองจากผู้ที่เป็นศัตรู หรือมีโอกาสที่จะกลายเป็นศัตรู หรือเพียงแต่คาดว่า อาจจะเป็นศัตรู… และเป็นยุทธศาสตร์ที่มิได้ใช้เฉพาะในภาวะสงครามเท่านั้น แต่ใช้ในทุกสภาวะของรัฐนั้น เทียบกับสมัยโบราณของบ้านเรา Grand Stategy คงจะเป็นทำนองหลักพิชัยสงครามขั้นสูงสุด นะครับ ” จีน นับเป็นขู่แข่งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา ในขณะนี้ และในอีกหลายๆทศวรรษต่อไป” China represents and will remain the most significant competitor to the United States for decades to come” คนเขียนรายงานการวิเคราะห์ เขาเกริ่นเริ่มต้นเช่นนั้น อ่านเผินๆ เหมือนน้ำไหลเอี่อยๆ ไม่เห็นต้องสดุ้ง สะอึก อะไรเลย แต่ประโยคต่อไปของเขา ความเอื่อยค่อยๆเปลี่ยน.. …จีน กำลังดำเนินยุทธศาสตร์ ของตน ซึ่งมีเป้าหมาย ที่จะควบคุมประชาสังคมทั้งในและนอกประเทศจีน ที่อยู่ใกล้กับอาณาบริเวณของจีน ให้สงบราบคาบ และสร้างสถานะของจีนให้แข็งแกร่งในประชาคมนานาชาติ เพื่อเข้าไปแทนที่อเมริกา ในฐานะเป็นผู้มีอำนาจที่สุดในเอเซีย.. …ความพยายามของอเมริกา ที่จะนำจีนเข้ามาอยู่ในระบบที่ใช้กันอยู่ในสากล กลายเป็นการสร้างความคุกคามให้แก่อเมริกาเอง ในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดในเอเซีย และในที่สุดจีนอาจเป็นผู้ท้าทาย ความเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในโลก ของอเมริกาด้วย.. .. อเมริกาจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเด็ดขาด ในนโยบายปัจจุบันของอเมริกา เพื่อเป็นการจำกัดอันตราย ที่อาจมีต่อผลประโยชน์ของอเมริกาในภูมิภาคเอเซีย และในระดับโลก ที่เกิดจากการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ และการทหารของจีน การเปลี่ยนแปลงยโยบายของอเมริกาดังกล่าว จะต้องเกิดขึ้น เนื่องจากเป็นความจำเป็น ที่จะต้องรักษาความเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของอเมริกาในระบบปัจจุบันของโลกเอา ไว้… ….การเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของจีน ในช่วงสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้จีนสามารถสร้างอำนาจ ที่ยากแก่การเอาชนะ กลายเป็นประเทศที่สามารถจะครอบงำภูมิภาคเอเซีย และเป็นอันตรายต่อวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และผลประโยชน์ ของอเมริกาในภูมิภาค ด้วยเศรษฐกิจที่โตแบบพุ่งพรวดของจีน แม้รายได้ต่อหัวของคนจีน จะยังตามหลังคนอเมริกันก็ตาม แต่ก็ยังทำให้ปักกิ่ง สามารถท้าทายความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้านแถบเอเซียและอิทธิพลของอเมริกาในเอเซีย ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่ออเมริกาอย่างน่าอันตราย และแม้การเติบโตของจีดีพีของจีน อาจจะช้าลงอย่างเห็นชัดในอนาคต แต่เมื่อเทียบกับของอเมริกาในอนาคตแล้ว ก็ยังจะสูงกว่าอเมริกาอยู่ดี จึงทำให้การถ่วงดุลอำนาจจีน จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง การทำให้รากฐานของจีนล่มสลายเท่า นั้น (fundamental collapse) จึงเป็นทางเดียว ที่จะทำให้อเมริกาพ้นจาก “ภาระ” การถ่วงดุลกับจีน เพราะว่า แม้จะทำให้จีน “สะดุด” หัวทิ่มบ้าง ก็ยังไม่เป็นการเพียงพอที่จะขจัดอันตราย ที่จีนมีต่ออเมริกาในเอเซีย และที่ไกลโพ้นไปกว่านั้น ในบรรดาชาติทั้งหมด และไม่ว่าในสถานการณ์ใดเท่าที่จะคาดการณ์ได้ มีแต่จีนเท่านั้น ที่จะเป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา และจะเป็นอยู่เช่นนั้นไปอีกหลายทศวรรษ การผงาดขึ้นมาของจีน จนถึงขณะนี้ ได้สร้างความท้าทายอำนาจของอเมริกา (และอำนาจของอเมริกาที่มีต่อ)มิตร ของอเมริกา ไม่ว่าทางด้านภูมิศาสตร์ การเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และที่สำคัญ ต่อการจัดระเบียบโลก “ภายใต้ข้อกำหนด” ของอเมริกา และถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้อีกต่อไป ยิ่งนานไป ก็ยิ่งเป็นการทำลายผลประโยชน์ของอเมริการุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ นโยบายที่อเมริกาใช้อยู่กับจีนขณะนี้ เป็นนโยบายที่รับรองคุณค่าของจีนทางเศรษฐกิจและปล่อยให้เกิดเสรีทางการเมืองในนานาชาติ ด้วยค่าใช้จ่าย หรือการเสียประโยชน์ของอเมริกาในการเป็นหมายเลขหนึ่งของโลก มันห่างไกลกับการใช้ยุทธศาสตร์แบบ “grand” แถมไม่มีทางจะได้ผลอะไรขึ้นมา จำเป็นอย่างยิ่งแล้ว ที่อเมริกาจะต้องตอบโต้การเติบโตของอำนาจจีนอย่างเร่งด่วน ซึ่งแม้จะทำตอนนี้ ยังเกือบจะสายไป.. อือ หือ…. ผมอ่านวิธีการเขียนของ คุณสุดกร่าง ถังขยะความคิด CFR แล้วต้องยอม ว่าเขาใหญ่จริง เขาตบอาเฮียของผม แบบไม่เลี้ยงเลยนะ เอาซะกกหูบวม หัวโน คางโย้ เพราะอาเฮียอีดันโตเร็ว โตไป ใหญ่ไป มันคงไปกระตุ้นต่อมอิจฉา ต่อมหมั่นไส้ ของไอ้พวกนักล่าใบตองแห้ง อย่างทนไม่ไหว เอาซะใบตองปลิวกระจาย ข้อหาความผิดของอาเฮีย คือใหญ่ขนาดมาทาบรัศมี นี่ ไอ้นักล่ารับไม่ได้จริงๆ คงเหมือนเด็กถูกเหยียบเงาหัว ที่สำคัญคือ อาเฮียไม่ยอมคุกเข่า สะบัดแขนคำนับอเมริกา แถมยังเดินหน้าตามวิธีการ นอกรูปแบบ ที่อเมริกากำกับ หรือสั่งให้สิ่งมีชีวิตทั้งโลกทำตาม ขนาดสั่งให้แผ่นดินไหว ให้เกิดพายุยังทำได้เลย จวนจะเป็นพระเจ้าอยู่แล้วรู้ไหม เอะ หรือเป็นแล้ว… แล้วจีนเป็นใครมาจากไหน ถึงสั่งซ้ายหัน ขวาหันไม่ได้ เรื่องมันสำคัญตรงนี้ เพราะฉะนั้น สำหรับนักล่าเมื่อสั่งกันไม่ได้ ก็ต้องสอยให้ร่วง (fundamental collapse) มีแค่นั้นเอง เข้าใจไหมครับอาเฮีย “แผนสอยมังกร” ตอน 2 จีนสร้างความเจริญเติบโตอย่างไร สุดกร่าง CFR บอกว่า จีนขึ้นต้นด้วยการสร้างหัวขบวนก่อนอื่น สร้างหัวหน้าที่มีอำนาจเต็มไม้เต็มมือ เหนือกว่าสถาบันใดในประเทศ หลังจากนั้นจึงเดินหน้าสู่ภาระกิจ 4 ประการ – จัดระเบียบภายในประเทศ จัดแถวหน่วยงานต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ แต่สุดกร่าง ติติง ว่า การเป็นผู้นำประเทศของจีนมักมีปัญหาในเรื่องของการปกครองที่ไม่ชอบธรรม และขาดธรรมาภิบาล ( ผมว่า ไอ้สุดกร่างนี่มันเขียนลอกจากคู่มือ ที่ไอ้นักล่าใบตองแห้ง แจกไปทั่วโลก เรื่องธรรมาภิบาลในการบริหาร Good Governance ทำให้นึกถึงน้านันของผมเลย มีอยู่ช่วงหนึ่ง ขึ้นเวทีไหนไม่พูดเรื่องนี้ เหมือนเป็นตัวปลอมเลย 55) – จีนเริ่มปฏิรูปประเทศอย่างเอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะการสร้างความเข้มแข็งในสมัยเติ้งเสี่ยวผิง เพราะเชื่อว่าถ้าเศรษฐกิจของประเทศดี ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น ความวุ่นวายทางสังคมจะน้อยลง และการปกครองประชาชนจะง่ายขึ้น ดังนั้นนโยบายเรื่องเศรษฐกิจ จึงเป็นนโยบายที่จำเป็นอย่างยิ่งของจีน นอกจากนั้น การเน้นนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ ยังเป็นเครื่องมือให้พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) สามารถจัดระเบียบสังคมจีน ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกันนัก (การปฏิรูปด้านเศรษฐกิจของจีน ไม่ได้เกี่ยวกับการแข่งขันทางการเมือง เพราะทางการเมือง พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นพรรคเดียวที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ในการบริหารประเทศ) ดังนั้นการปฏิรูปประเทศ ด้านเศรษฐกิจ จึงไม่ใช่เป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่เป็นนโยบายสำคัญด้านการเมืองภายในของจีนด้วย หมายความว่า จีนไม่มีทางเลิกนโยบายนี้ และเป็นเรื่องที่สุดกร่าง CFR บอกว่า ยิ่งจีนเดินหน้าตามเส้นทางนี้ โอกาสกระแทกนักล่า หล่นจากการเป็นผู้กุมชะตาโลกแต่ผู้เดียว ก็เป็นเรื่องน่าหวั่นใจมาก…. แหม ก็แค่ทำแท่นให้มันใหญ่ขึ้น ยืนด้วยกันหลายๆคน ใหญ่ๆ ด้วยกัน เก่งๆ กันทั้งนั้น ช่วยๆกันทำให้โลกนี้มันดีขึ้นนี่ พวกเอ็งขัดใจมากนักหรือไง ขอโทษครับ ผมไม่สุภาพไปหน่อย – เมื่อเศรษฐกิจจีนดีขึ้น ต้ังแต่ช่วงปี ค.ศ. 1980 กว่า ถึง 1990 กว่า จีนก็รวยเอาๆ จนเปลี่ยนฐานะเป็นเศรษฐี เป็นเศรษฐีแล้วจะนั่งอุดอู้อยู่แต่ในบ้านทำไม สุดกร่างบอก จีนเลยเริ่มเดินเผ่นผ่านออกไปนอกบ้าน ไปตบหัวลูบหลังเด็กๆที่อยู่แถวนอกบ้าน จึงเป็นที่มาของนโยบายของจีน ที่จะแผ่อิทธิพลในแถบอินโดแปซิฟิก แต่โลกมันก็เปลี่ยนด้วย รอบตัวจีนไม่ได้มีแต่พวกเด็กน้อยที่รอจีนมาตบหัวลูบหลัง แต่มีพวกกล้ามใหญ่ที่เป็นคู่แข็งจีนด้วยซ้ำ ยืนกอดอกดูจีนอยู่เหมือนกัน เช่น รัสเซีย ญี่ปุ่น และอินเดีย และนอกจากนั้น พวกที่อาจเคยเกรงใจจีนมาในสมัยก่อน เช่น เกาหลีใต้ และเวียตนาม แต่บัดนี้ ก็กลายเป็นประเทศที่ดูแลตนเองได้ แม้จะยังมีความอ่อนแออยู่บ้าง ก็ไม่แสดงความสนใจว่าจะไปซุกอยู่ใต้อุ้งเล็บมังกร และเมื่อจีนคิดขยายวง ประเล้าประโลมออกไปเรื่อยๆ ก็ดันไปเจอเอาฐานทัพและกองกำลังอันแข็งแกร่งของอเมริกา ที่กระจายอยู่เต็มบ้านของพันธมิตรของอเมริกา ซึ่งยากที่จีนจะทะลวงเข้าไปได้ ….แม่จ้าวโว้ย อ่านที่ไอ้สุดกร่างบรรยายถึงตอนนี้ เล่นเอาผมเคลิ้มจนเอกสารปึกใหญ่หล่น เมื่อทางเข้าเส้นนี้มีอุปสรรค หนทางเดินหน้าตามแผนของจีน ในความเห็นของสุดกร่าง ก็คือ จีนยิ่งใช้อำนาจทางเศรษฐกิจ สานไมตรีกับเพื่อนบ้านในภูมิภาคหนักเข้าไปกว่าเดิมและเพื่อไม่ให้ถูกนินทาว่า จีนกำลังจะฮุบเอเซีย จีนก็เริ่มหันไปจับมือกับรัสเซีย ทำทีเป็นเห็นใจรัสเซีย ที่ถูกตะวันตกคว่ำบาตรใส่ จนหน้าบุบไปหมดแล้ว แต่ที่แสบที่สุด เห็นจะเป็นเรื่องอิทธิพลอเมริกาที่มีอยู่ทั่วเอเซียอย่างชอบธรรมนั้น จีนพยายามหาเหตุอ้างว่าไม่เหมาะสม และกำลังเดินนโยบายที่จีนบอกว่า จะเป็นการถ่วงดุลอำนาจอเมริกาในเอเซียเสียใหม่ … อาเฮียครับ พระเจ้านักล่าบอกว่า อิทธิพลของเขาที่มีอยู่ทั่วเอเซีย “ชอบธรรม” แล้ว อาเฮียจะเถียง จะท้าทายเขาแน่จริงไหมครับ พวกผมจะได้เตรียมตัว..หลบ – ประการสุดท้าย ที่จีนแสดงอาการให้เห็นเป็นการท้าทายอเมริกา ในความเห็นของสุดกร่าง คือ จีนเริ่มก้าวเข้าไปเบ่งกล้ามใน ระบบสากล เพื่อแสดงให้เห็นว่า จีนก็เป็นดาราอินเตอร์ได้ อันที่จริง บทดาราอินเตอร์ จีนก็ได้เล่นอยู่แล้ว ต้ังแต่ก่อน การปฏิวัติคอมมิวนิสต์ ค.ศ.1949 ซึ่งจีนได้รับสิทธิในการออกเสียงคัดค้าน (veto) ในฐานะสมาชิกถาวร ในคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ (UNSC) เพียงแต่ตอนนั้น จีนเลือกที่จะเป็นคอมจนๆ เสียงในสากลก็เลยไม่ดัง ตอนนี้ จีนเปลี่ยนมาเล่นบทเป็นเศรษฐี บวกกับยังมีตำแหน่งดาราอินเตอร์ของเดิมค้างอยู่ คราวนี้ เสียงจีนในสหประชาชาติ ก็เลยยิ่งดังโดยไม่ต้องใช้ไมค์… แบบนี้ เขาจะไม่หมั่นไส้อาเฮีย จนคันไปทั้งแผงหลังได้ยังไง…. และจีนก็ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เมื่อเห็นว่าตัวเองมีเศรษฐกิจดี จีนเริ่มออกความเห็น และพยายามเข้ามามีอิทธิพลใน IMF และ World Bank เพื่อใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของตน จีนทำตัวเป็นดาราอินเตอร์เต็มตัว เหมือนกับพวกที่เริ่มมีอำนาจทางการเมืองโลกใหม่เขาทำๆกัน นี่.. ด่ากระทบซะเลย แต่พวกเศรษฐีใหม่ก็เป็นอย่างนี้แหละ พยายามเสนอตัวเอง เข้าไปในสังคมโลก เฉพาะในทางที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง แต่ถ้าจะต้องเสียสละทำให้สวนรวม ก็ยังไม่เห็นจีนแสดงบทบาทอะไรที่เหมาะสมกับความเป็นเศรษฐีของตน และแม้ว่าจะเป็นถึงหมายเลขสองของโลกในด้าน เศรษฐกิจและการงบประมาณด้านทหาร จีนก็พยายามวางนโยบาย ที่จะเอาภาระที่จะต้องเสียสละให้แก่สังคม ไปให้อเมริกาและประเทศอื่น ที่ยังมีสถานะเป็นเพียงประเทศที่กำลังพัฒนาด้วยซ้ำ ..อันนี้ด่าอาเฮียเจ็บนะครับ หาว่า เขารวย แต่ เค็ม เห็นแก่ตัว ทำนองนั้น…. แต่เวลาจะสร้างความมั่นคงให้กับตนเอง จีนกลับตัดอเมริกาออก เช่น เมื่อจีนพยายามรวมกลุ่มประเทศที่มีความก้าวหน้า ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยการรวมกลุ่มกับบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และอาฟริกาใต้ (BRICS) นอกจากนั้น จีนยังพยายามสร้างความร่วมมือ กับประเทศในภูมิภาคอื่น เช่น China-Africa Cooperation, China-Arab Cooperation Forum เพื่อแข่งขันกับองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจรุ่นเก่าๆ สมดังคำเปรียบเปรยของ นาย เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ ที่กล่าวว่า จีนยังวุ่นอยู่กับการนำตัวเองเข้าไปจัดการองค์กรที่ได้จัดสร้างขึ้น โดยจีนไม่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างและพัฒนาวัตถุประสงค์ขององค์กรเหล่านั้น … ไอ้สุดกร่าง นี่มันสรรหามาแดกดันได้ทุกเรื่องจริงๆ สุดกร่างสรุปในที่สุดว่า จีนไม่ได้มีนโยบายที่จะเป็นประเทศที่มุ่งจะทำการค้าขาย “trading state” แต่อย่างใด แม้ว่าในผลลัพธ์จะประสบความสำเร็จอย่างมากก็ตาม แต่โดยแท้จริงแล้ว จีนมุ่งหมายที่จะเป็นมหาอำนาจอย่างเต็มรูปแบบ conventional great power เต็มยศชุดใหญ่ ในด้านการเมือง และการทหาร การท้าชิงความเป็นใหญ่ในเอเซียกับอเมริกา เป็นแค่หนังตัวอย่างเท่านั้น สำหรับการก้าวไปสู่การเป็นมหาอำนาจในโลกของจีน นี่คือ ” จีน ” ตามข้อกล่าวหา และในสายตาของถังความคิด CFR ที่ประธานาธิบดีของอเมริกาเกือบทุกคน ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ” ต้อง” ให้ความสนใจ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 13 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 665 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์แก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งฟอกทองคำฟอกเงินค้ามนุษย์ของเถื่อนค้ายาค้าอาวุธตลอดจนอาชญากรรมใดๆ,ดูกระแสเงินสด การไหลเวียนของเงินเชื่อมโยงใครบ้างก็รู้หมดจากแบงค์ชาตินั้นล่ะ,เพราะเบื้องต้นมันทำเพื่อเงินเพื่อตังทั้งหมด,กระแสเงินไหลเข้าไหลออกบัญชีใครผิดปกติ แบงค์ชาติไทยเห็นหมดล่ะ ไหลออกประเทศเข้าประเทศก็เห็นหมด, ต่างชาติทำธุรกรรมผิดปกติใดๆในไทยก็รับระบบตรวจสอบได้หมด,จบที่แบงค์ชาติหมด,แต่แบงค์ชาติเป็นของอีลิทdeep stateตระกูลชั่วสากลโลก ทั่วโลกธนาคารในแต่ละประเทศทุกๆประเทศที่มีธนาคารกลางล้วนมันคือเจ้าของ รัฐประเทศไหนๆนั้นๆจึงถูกพวกมันกั้นออกไป ไม่สามารถเข้าไปปกครองหรือสั่งงานสั่งการ ออกคำสั่งใดๆเด็ดขาดให้ทำตามรัฐบาลประเทศนั้นๆได้ ควบคุมเด็ดขาดไม่ได้ มุกสวยหรูคือ ให้ธนาคารชาตินั้นๆขึ้นเป็นอิสระจากคำสั่งปกครองของรัฐบาลในประเทศนั้นๆ ย่อมาไทยคือแบงค์ชาติเป็นอิสระจากการบริหารจากการปกครองจากคำสั่งให้บังคับใช้ได้ทันทีแก่แบงค์ชาติไทยไม่ได้ มุกอีลิทซาตาน ยึดธนาคารกลางแบงค์ชาติประเทศใดได้บนทั่วโลกเสมือนยึดปกครองเศรษฐกิจภายในการปกครองทางเมืองประเทศนั้นๆทั้งทางตรงและทางอ้อมได้เด็ดขาดเกือบ100%ได้แล้ว,จึงไม่แปลกใจทำไม กลุ่มธนาคารในตลาดsetจึงมีผลประการเป็นเขียวเป็นบวกในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นทั้งตลาดในยามวิกฤติโลกแดงเต็มไปหมดในตลาดsetไทย,แต่กลุ่มแบงค์กลับมีกำไรเป็นว่าเล่นเพราะอีลิทมารซาตานโลกสั่งนั้นเองในไทยเรา.
    ..เงินดิจิดัลมันก็สั่งปูพรมในไทยปูทางให้เกิดให้ได้จึงเร่งรีบให้ถือกำเนิดตัวละครเงินดิจิดัลขึ้น,การอ้างเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์เงินฟอกเงินปั่นเงินเทามาซื้อเสียงเลือกตังก็ให้คนไทยหันเหว่าการใช้ตังกระดาษไม่ดีมันใช้ซื้อเสียงได้ง่าย มาเปลี่ยนใช้เงินดิจิดัลเถอะ ทำให้เห็นว่าคนขายเสียงซื้อเสียงได้จับกุม ตรวจสอบใดๆย้อนหลังหรือเรียลไทม์ได้หมด,มันต้อนผู้คนชาวไทยไปอีกคอกหนึ่งคอกควายคอกวัวคอกแพะคอกแกะสู่การควบคุมตรวจสอบได้เด็ดขาดขึ้นในอนาคต,ทั้งหมดมากมายมันบีบให้เข้าไปในกรอบในกระดานในแผนในวาระแผนการมันทั้งหมด,กฎหมายคาร์บอนเครดิตการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศก็เขียนเข้าสภาเรียบร้อยแล้ว ,ใช้pm2.5คือข้ออ้างควบคุมมนุษย์คนไทย.
    ..เงินๆๆๆและเงิน มันจะทำลายระบบเงินเก่า ทาสเงินกระดาษเก่า เปลี่ยนไปสู่ยุคทาสเงินที่จับต้องไม่ได้ ทาสเงินอากาศอิเล็กทรอนิกส์เงินลมๆเงินแล้งๆจริง คือเงินดิจิดัลที่กำหนดเงื่อนไขการดำเนินชีวิตของทุกๆคนบนโลกนี้ได้,คอกควบคุมอิสระภาพ คอกควบคุมเจตนำนงเสรีคุณทั้งโลก.
    ..สงครามไทยเขมร สงครามดินแดนคือหมากล่อปลอม,แหกตาคนไทย ของจริงคือลดประชากรไทย1 ควบคุมคนไทย1ให้เด็ดขาดให้ได้,ยึดประเทศไทยได้ยิ่งดี1อย่างเปิดเผยและออกหน้าออกตากว่าในอดีตที่เคยผ่านมานั้น,อดีตที่เคยผ่านมาจากผลงานการยึดบ่อน้ำมันทั่วไทยและบ่อทองคำทั่วแผ่นดินเป็นของต่างชาติของพวกมันทางลับผ่านทางรัฐบาลขี้ข้าส้นตีนมันสั่งซ้ายสั่งขวาได้หมดในอดีตถึงปัจจุบันนี้ล่ะ ล่าสุดแร่เอิร์ธเต็มๆ.,ตลอดแร่มีค่ามหาศาลมากมายอื่นอีกเพรียบ,มันปกครอง มันยึดควบคุมหลังฉากเบื้องหลังเราคนไทยตลอด,ทหารไทยมากมายจึงทำชั่วเลวสนองฝ่ายมันอยู่ฝ่ายมันเป็นอันมากยึดอำนาจมาได้ มันจึงเขียนกฎหมายมากมายเต็มประเทศไทยมาบังคับกดขี่ข่มเหงคนไทยมากมายมาโดยตลอด กฎหมายไม่สมควรออก ปัญญาอ่อนมันก็เขียนออกมาตลอดอย่างง่ายดาย mouห่าเหวใดๆก็ตกลงกันตามอำเภอใจในอดีต กฎหมายอะไรคนดีเราเขียนกั้นไว้มันก็ฉีกทิ้งเขียนใหม่เพื่อปกป้องเดอะแก๊งเดอะก๊กเดอะคนของฝ่ายมัน อำนวยคนฝ่ายมันมานั่งปกครองในตำแหน่งใหญ่โตเต็มบ้านเต็มเมืองกระจายตัวทั่วประเทศไปหมด,ยุคศิวิไลซ์ฝ่ายชั่วเลวประจำโลกในประเทศไทยก็ได้.
    ..จริงๆคนไทยไม่สมควรอยู่ในสถานะยากจนเลย แต่เพราะมันยึดหัวปกครองหัวเราได้ ทั้งตัวจึงเสียหาย ผีบ้าไม่เต็มส่วนไปหมด,ส่วนดีหน่อยคุ้มดีก็หยิบนั้นนี้ใส่ปากพออยู่ได้ เส้นเสียเป็นหงิกเป็นหงอย ส่วนไม่ดีทั่วร่างกายเว้นไว้ส่วนดีเช่นคนดีในบ้านในเมืองเรายังมีอยู่ก็พอกินยาแก้หงิกหงอยทันกาลบ้างจังหวะได้,อดีตตัังแต่เราเสียดินแดนให้นักล่าอาณานิคมนั้นล่ะ จนเหลือแค่แผ่นดินไทยในปัจจุบันนี้ได้มันเริ่มกระบวนการเอาประเทศไทยมาแล้วจนถึงปัจจุบันมันก็จะเอาให้ได้นั่นเอง,ปรับวิธีการกลยุทธมาโดยตลอด,จนสุดท้ายสำเร็จบังคับคนไทยฉีดตายได้ในยุคลุงกว่าร้อยๆโดส คนละ1-2เข็ม กว่า60ล้านคนถูกฉีดตาย,ยุคลุงจึงเป็นการยึดอำนาจอย่างมีการวางแผนการไว้ดีแล้วเพื่อเตรียมฉีดตายนี้ล่ะของจริง,รวมทั้งผีบ้าแบบเขมรที่เปิดยิงระเบิดใส่ไทยก่อน มันก็สร้างเหตุสร้างแผนการปัจจัยวางหมากรอแล้ว เช่นนั้นเขมรผีบ้าไม่กล้าหรอก.,ให้ร้อยความกล้าก็ไม่ทำ,จนรีบให้มาเลย์อเมริกามาช่วยหยุดไทยฆ่าฝ่ายมันก่อนถึงพนมเปญ.เสียแผนด้วย จีนคอมมิวนิสต์ก็ด้วย เสียแผนจีนเช่นกัน,โลกนี้จริงๆทุกๆประเทศยืนหนึ่งไม่สู้ไทย อีลิทฝ่ายมืดทั่วโลกกลัวประเทศไทยที่สุด ตลอดต่างดาวใต้ทะเลมหาสมุทรก็ด้วย,ทั้งเกรงใจ ทั้งกลัวคนไทยสายพุทธ เพราะพวกนี้บรรลุธรรมได้ของจริง มีพลังสนามแม่เหล็กขั้นหลุดพ้นเหนือพลังมันได้หมดด้วย,ถ้าปล่อยคนไทยเจริญทางจิตวิญญาณ สุขกายสุขใจ มันจะเจริญสุขทางใจได้สะดวก บรรลุธรรมได้ไวได้ดีได้ง่าย ซวยคือฝ่ายมืดมารมันจะลำบากเพราะคนไทยจะเห็นแจ้งต่อหมดไปหมดไร้ที่ซ่อนใดๆนั้นเอง ยิ่งสามัคคีกันทั่วไทยอีก บรรลัยทั้งอาณาจักรฝ่ายมืดมันนี้,ประเทศนี้จึงห้ามสงบสุขทุกๆกรณี วุ่นวาย โกลาหลให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาให้ได้ ทำลายสถาบันกษัตริย์มันคือสิ่งแรกทันที จึงเกิดพวกชูสามนิ้วเปิดหน้าชกอย่างชัดเจนกว่าในอดีตที่ผ่านๆมา.,เพราะยุคสุดท้ายเวลานี้ คือยกจบ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องจบ รู้ผลแพ้ชนะ,มืดปกครองโลกก็เวลานี้เลย,แสงขาวฝ่ายดีปกครองโลกก็ช่วงจังหวะเวลานี้เลย,ไทม์ไลน์เวลาเราคือช่วงนี้ก็ช่วงนี้ มิติอื่นก็มิติอื่น ปัจจุบันคือช่วงเวลาเราบนสมมุติโลกในขณะนี้,
    ..ไทยจะเป็นไทยหรือเมืองหลวงของอีลิทซาตานโลกก็เวลานี้ล่ะ.

    ..สถานะใดๆเราคนไทยสามัคคีกันจะร่วมกันเป็นได้ในยุคเราในรุ่นเรา,นรกหรือสวรรค์คนไทย เรา..คนไทยช่วยกันเลือกได้,เพราะเราคือสังคมใหญ่ระดับชาติประเทศมิอาจอยู่คนเดียวหรือข้าคือตำนานหนึ่งเดียวไม่ได้,ไปไหน..เราคนไทยอยู่ร่วมกันไปด้วยกันหมด,เพราะเราอยู่บ้านเดียวกัน นี้คือบ้านเรา คือแผ่นดินเรา ที่เราอาศัยเกิด อาศัยแก่ อาศัยตาย.,ไม่มีชาติใดๆจะรักคนไทยได้ดีกว่าคนไทยรักกันเองหรอก.,คนอเมริกาทั้งประเทศมารักคนไทยดีกว่าคนไทยมั้ย,คนฝรั่งยุโรปจะมีรักคนไทยรักแผ่นดินไทยดีกว่าคนไทยจริงเหรอ อดีตเห็นแต่มาปล้นมาชิงสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายขนกลับไปเสวยสุขในชาติประเทศมัน,เรา..คนไทยต้องสามัคคี มารักกัน ไม่ก้าวล่วงทำร้ายทำลายกันภายในกันเอง จะนับถือศาสนาความเชื่อใดๆ เราต้องรักและสามัคคีกันปกป้องแผ่นดินไทยเรา,เรา..คนไทยไปอาศัยแผ่นดินคนอื่นอยู่ บ้านคนอื่นตายคนอื่นนอนมีความสุขจริงๆเหรอ.,แผ่นดินไทยเท่านั้นที่เติมเต็มสมบูรณ์ทุกๆคำตอบในจิตในใจเราอย่างลงใจ.

    ..ทหารไทยต้องยึดอำนาจเท่านั้นคือหนทางออกเดียว.,จะแก้ทั้งกระดานหมากพวกชั่วเลวนี้ทั้งผูกทั้งวางได้หมด,ทำลายเพื่อสร้างใหม่ให้ดีๆก็ได้.มันเน่ามันพังไปหมดแล้ว.

    https://youtu.be/0uY1iVWLMec?si=SipLS_hw1f3kgQA2
    ใครเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์แก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งฟอกทองคำฟอกเงินค้ามนุษย์ของเถื่อนค้ายาค้าอาวุธตลอดจนอาชญากรรมใดๆ,ดูกระแสเงินสด การไหลเวียนของเงินเชื่อมโยงใครบ้างก็รู้หมดจากแบงค์ชาตินั้นล่ะ,เพราะเบื้องต้นมันทำเพื่อเงินเพื่อตังทั้งหมด,กระแสเงินไหลเข้าไหลออกบัญชีใครผิดปกติ แบงค์ชาติไทยเห็นหมดล่ะ ไหลออกประเทศเข้าประเทศก็เห็นหมด, ต่างชาติทำธุรกรรมผิดปกติใดๆในไทยก็รับระบบตรวจสอบได้หมด,จบที่แบงค์ชาติหมด,แต่แบงค์ชาติเป็นของอีลิทdeep stateตระกูลชั่วสากลโลก ทั่วโลกธนาคารในแต่ละประเทศทุกๆประเทศที่มีธนาคารกลางล้วนมันคือเจ้าของ รัฐประเทศไหนๆนั้นๆจึงถูกพวกมันกั้นออกไป ไม่สามารถเข้าไปปกครองหรือสั่งงานสั่งการ ออกคำสั่งใดๆเด็ดขาดให้ทำตามรัฐบาลประเทศนั้นๆได้ ควบคุมเด็ดขาดไม่ได้ มุกสวยหรูคือ ให้ธนาคารชาตินั้นๆขึ้นเป็นอิสระจากคำสั่งปกครองของรัฐบาลในประเทศนั้นๆ ย่อมาไทยคือแบงค์ชาติเป็นอิสระจากการบริหารจากการปกครองจากคำสั่งให้บังคับใช้ได้ทันทีแก่แบงค์ชาติไทยไม่ได้ มุกอีลิทซาตาน ยึดธนาคารกลางแบงค์ชาติประเทศใดได้บนทั่วโลกเสมือนยึดปกครองเศรษฐกิจภายในการปกครองทางเมืองประเทศนั้นๆทั้งทางตรงและทางอ้อมได้เด็ดขาดเกือบ100%ได้แล้ว,จึงไม่แปลกใจทำไม กลุ่มธนาคารในตลาดsetจึงมีผลประการเป็นเขียวเป็นบวกในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นทั้งตลาดในยามวิกฤติโลกแดงเต็มไปหมดในตลาดsetไทย,แต่กลุ่มแบงค์กลับมีกำไรเป็นว่าเล่นเพราะอีลิทมารซาตานโลกสั่งนั้นเองในไทยเรา. ..เงินดิจิดัลมันก็สั่งปูพรมในไทยปูทางให้เกิดให้ได้จึงเร่งรีบให้ถือกำเนิดตัวละครเงินดิจิดัลขึ้น,การอ้างเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์เงินฟอกเงินปั่นเงินเทามาซื้อเสียงเลือกตังก็ให้คนไทยหันเหว่าการใช้ตังกระดาษไม่ดีมันใช้ซื้อเสียงได้ง่าย มาเปลี่ยนใช้เงินดิจิดัลเถอะ ทำให้เห็นว่าคนขายเสียงซื้อเสียงได้จับกุม ตรวจสอบใดๆย้อนหลังหรือเรียลไทม์ได้หมด,มันต้อนผู้คนชาวไทยไปอีกคอกหนึ่งคอกควายคอกวัวคอกแพะคอกแกะสู่การควบคุมตรวจสอบได้เด็ดขาดขึ้นในอนาคต,ทั้งหมดมากมายมันบีบให้เข้าไปในกรอบในกระดานในแผนในวาระแผนการมันทั้งหมด,กฎหมายคาร์บอนเครดิตการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศก็เขียนเข้าสภาเรียบร้อยแล้ว ,ใช้pm2.5คือข้ออ้างควบคุมมนุษย์คนไทย. ..เงินๆๆๆและเงิน มันจะทำลายระบบเงินเก่า ทาสเงินกระดาษเก่า เปลี่ยนไปสู่ยุคทาสเงินที่จับต้องไม่ได้ ทาสเงินอากาศอิเล็กทรอนิกส์เงินลมๆเงินแล้งๆจริง คือเงินดิจิดัลที่กำหนดเงื่อนไขการดำเนินชีวิตของทุกๆคนบนโลกนี้ได้,คอกควบคุมอิสระภาพ คอกควบคุมเจตนำนงเสรีคุณทั้งโลก. ..สงครามไทยเขมร สงครามดินแดนคือหมากล่อปลอม,แหกตาคนไทย ของจริงคือลดประชากรไทย1 ควบคุมคนไทย1ให้เด็ดขาดให้ได้,ยึดประเทศไทยได้ยิ่งดี1อย่างเปิดเผยและออกหน้าออกตากว่าในอดีตที่เคยผ่านมานั้น,อดีตที่เคยผ่านมาจากผลงานการยึดบ่อน้ำมันทั่วไทยและบ่อทองคำทั่วแผ่นดินเป็นของต่างชาติของพวกมันทางลับผ่านทางรัฐบาลขี้ข้าส้นตีนมันสั่งซ้ายสั่งขวาได้หมดในอดีตถึงปัจจุบันนี้ล่ะ ล่าสุดแร่เอิร์ธเต็มๆ.,ตลอดแร่มีค่ามหาศาลมากมายอื่นอีกเพรียบ,มันปกครอง มันยึดควบคุมหลังฉากเบื้องหลังเราคนไทยตลอด,ทหารไทยมากมายจึงทำชั่วเลวสนองฝ่ายมันอยู่ฝ่ายมันเป็นอันมากยึดอำนาจมาได้ มันจึงเขียนกฎหมายมากมายเต็มประเทศไทยมาบังคับกดขี่ข่มเหงคนไทยมากมายมาโดยตลอด กฎหมายไม่สมควรออก ปัญญาอ่อนมันก็เขียนออกมาตลอดอย่างง่ายดาย mouห่าเหวใดๆก็ตกลงกันตามอำเภอใจในอดีต กฎหมายอะไรคนดีเราเขียนกั้นไว้มันก็ฉีกทิ้งเขียนใหม่เพื่อปกป้องเดอะแก๊งเดอะก๊กเดอะคนของฝ่ายมัน อำนวยคนฝ่ายมันมานั่งปกครองในตำแหน่งใหญ่โตเต็มบ้านเต็มเมืองกระจายตัวทั่วประเทศไปหมด,ยุคศิวิไลซ์ฝ่ายชั่วเลวประจำโลกในประเทศไทยก็ได้. ..จริงๆคนไทยไม่สมควรอยู่ในสถานะยากจนเลย แต่เพราะมันยึดหัวปกครองหัวเราได้ ทั้งตัวจึงเสียหาย ผีบ้าไม่เต็มส่วนไปหมด,ส่วนดีหน่อยคุ้มดีก็หยิบนั้นนี้ใส่ปากพออยู่ได้ เส้นเสียเป็นหงิกเป็นหงอย ส่วนไม่ดีทั่วร่างกายเว้นไว้ส่วนดีเช่นคนดีในบ้านในเมืองเรายังมีอยู่ก็พอกินยาแก้หงิกหงอยทันกาลบ้างจังหวะได้,อดีตตัังแต่เราเสียดินแดนให้นักล่าอาณานิคมนั้นล่ะ จนเหลือแค่แผ่นดินไทยในปัจจุบันนี้ได้มันเริ่มกระบวนการเอาประเทศไทยมาแล้วจนถึงปัจจุบันมันก็จะเอาให้ได้นั่นเอง,ปรับวิธีการกลยุทธมาโดยตลอด,จนสุดท้ายสำเร็จบังคับคนไทยฉีดตายได้ในยุคลุงกว่าร้อยๆโดส คนละ1-2เข็ม กว่า60ล้านคนถูกฉีดตาย,ยุคลุงจึงเป็นการยึดอำนาจอย่างมีการวางแผนการไว้ดีแล้วเพื่อเตรียมฉีดตายนี้ล่ะของจริง,รวมทั้งผีบ้าแบบเขมรที่เปิดยิงระเบิดใส่ไทยก่อน มันก็สร้างเหตุสร้างแผนการปัจจัยวางหมากรอแล้ว เช่นนั้นเขมรผีบ้าไม่กล้าหรอก.,ให้ร้อยความกล้าก็ไม่ทำ,จนรีบให้มาเลย์อเมริกามาช่วยหยุดไทยฆ่าฝ่ายมันก่อนถึงพนมเปญ.เสียแผนด้วย จีนคอมมิวนิสต์ก็ด้วย เสียแผนจีนเช่นกัน,โลกนี้จริงๆทุกๆประเทศยืนหนึ่งไม่สู้ไทย อีลิทฝ่ายมืดทั่วโลกกลัวประเทศไทยที่สุด ตลอดต่างดาวใต้ทะเลมหาสมุทรก็ด้วย,ทั้งเกรงใจ ทั้งกลัวคนไทยสายพุทธ เพราะพวกนี้บรรลุธรรมได้ของจริง มีพลังสนามแม่เหล็กขั้นหลุดพ้นเหนือพลังมันได้หมดด้วย,ถ้าปล่อยคนไทยเจริญทางจิตวิญญาณ สุขกายสุขใจ มันจะเจริญสุขทางใจได้สะดวก บรรลุธรรมได้ไวได้ดีได้ง่าย ซวยคือฝ่ายมืดมารมันจะลำบากเพราะคนไทยจะเห็นแจ้งต่อหมดไปหมดไร้ที่ซ่อนใดๆนั้นเอง ยิ่งสามัคคีกันทั่วไทยอีก บรรลัยทั้งอาณาจักรฝ่ายมืดมันนี้,ประเทศนี้จึงห้ามสงบสุขทุกๆกรณี วุ่นวาย โกลาหลให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาให้ได้ ทำลายสถาบันกษัตริย์มันคือสิ่งแรกทันที จึงเกิดพวกชูสามนิ้วเปิดหน้าชกอย่างชัดเจนกว่าในอดีตที่ผ่านๆมา.,เพราะยุคสุดท้ายเวลานี้ คือยกจบ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องจบ รู้ผลแพ้ชนะ,มืดปกครองโลกก็เวลานี้เลย,แสงขาวฝ่ายดีปกครองโลกก็ช่วงจังหวะเวลานี้เลย,ไทม์ไลน์เวลาเราคือช่วงนี้ก็ช่วงนี้ มิติอื่นก็มิติอื่น ปัจจุบันคือช่วงเวลาเราบนสมมุติโลกในขณะนี้, ..ไทยจะเป็นไทยหรือเมืองหลวงของอีลิทซาตานโลกก็เวลานี้ล่ะ. ..สถานะใดๆเราคนไทยสามัคคีกันจะร่วมกันเป็นได้ในยุคเราในรุ่นเรา,นรกหรือสวรรค์คนไทย เรา..คนไทยช่วยกันเลือกได้,เพราะเราคือสังคมใหญ่ระดับชาติประเทศมิอาจอยู่คนเดียวหรือข้าคือตำนานหนึ่งเดียวไม่ได้,ไปไหน..เราคนไทยอยู่ร่วมกันไปด้วยกันหมด,เพราะเราอยู่บ้านเดียวกัน นี้คือบ้านเรา คือแผ่นดินเรา ที่เราอาศัยเกิด อาศัยแก่ อาศัยตาย.,ไม่มีชาติใดๆจะรักคนไทยได้ดีกว่าคนไทยรักกันเองหรอก.,คนอเมริกาทั้งประเทศมารักคนไทยดีกว่าคนไทยมั้ย,คนฝรั่งยุโรปจะมีรักคนไทยรักแผ่นดินไทยดีกว่าคนไทยจริงเหรอ อดีตเห็นแต่มาปล้นมาชิงสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายขนกลับไปเสวยสุขในชาติประเทศมัน,เรา..คนไทยต้องสามัคคี มารักกัน ไม่ก้าวล่วงทำร้ายทำลายกันภายในกันเอง จะนับถือศาสนาความเชื่อใดๆ เราต้องรักและสามัคคีกันปกป้องแผ่นดินไทยเรา,เรา..คนไทยไปอาศัยแผ่นดินคนอื่นอยู่ บ้านคนอื่นตายคนอื่นนอนมีความสุขจริงๆเหรอ.,แผ่นดินไทยเท่านั้นที่เติมเต็มสมบูรณ์ทุกๆคำตอบในจิตในใจเราอย่างลงใจ. ..ทหารไทยต้องยึดอำนาจเท่านั้นคือหนทางออกเดียว.,จะแก้ทั้งกระดานหมากพวกชั่วเลวนี้ทั้งผูกทั้งวางได้หมด,ทำลายเพื่อสร้างใหม่ให้ดีๆก็ได้.มันเน่ามันพังไปหมดแล้ว. https://youtu.be/0uY1iVWLMec?si=SipLS_hw1f3kgQA2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 499 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 5 – 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 5

    คงพอเห็นแล้วว่า ฉากปฏิวัติ Bolsheviks เป็นฉากสำคัญ ที่มีผลต่อสงครามโลก ละครลวงโลก ที่เล่นกันข้ามเดือนข้ามปี มันต้องเป็นการจับมือวางแผนร่วมกัน ของหลายพวกหลายฝ่าย

    และคงไม่ต้องแปลกใจมากนักว่า เยอรมันก็เล่นละครเป็น และร่วมเล่นละครลวงโลกกับเขาด้วย แม้จะไม่ได้ร่วมเขียนบทด้วยกันกับกลุ่มอื่นๆ

    แต่ละครเรื่องนี้ คงเล่นสำเร็จถึงขนาดนี้ไม่ได้ ถ้าไม่มีนายโรงตัวจริง หรือหัวหน้าโจรตัวจริง ที่วางกลยุทธ์ อย่างลึกซึ้ง เลือดเย็น ยาวนาน และคอยชักใยทุกฝ่ายอย่างแนบเนียน

    เราย้อนกลับไปดูเรื่องและบทสำคัญ ของบางคนอีกที

    หัวหน้า Bolsheviks ผู้ทำการปฏิวัติที่โด่งดัง ตัวละคร ที่การมาเข้าฉากละครลวงโลก เหมือนจะยังไม่ชัดเจน พวกเขาน่าจะเป็นกุญแจสำคัญ

    Levi Davidovich Bronstien คือชื่อจริงของ Leon Trotsky เขาเป็นยิวทั้งแท่ง มาจากครอบครัวคนมีกิน ที่เป็นเจ้าของที่ดินทางใต้ของยูเครน เขาอ่านหนังสือของ Marx บรมครูของลัทธิสังคมนิยม (ซึ่งก็เป็นชาวยิว) แล้วซาบซึ้ง ใฝ่ฝันตั้งแต่ยังเป็นกระทงหนุ่มอายุ 18 ที่จะเป็นนักปฏิวัติ เขาจึงมาคลุกคลีอยู่กับพวกสังคมนิยมชาวยิว ถูกจับเข้าคุกหลายครั้ง เพราะวุ่นอยู่กับการปลุกระดมการประท้วงของพวกกรรมกร เขาเอาชื่อ Leon Trosky มาจากชื่อผู้คุมคุกชาวโปแลนด์

    Trosky ได้ยินชื่อ Lenin นักปลุกระดมลัทธิคอมมิวนิสม์ เขาจึงติดต่อไปหา แล้วทั้ง 2 คนก็แลกฝันกัน Lenin บอก Trosky ว่า เราต้องไปแสวงหาโลกข้างนอกที่กว้างใหญ่กว่ารัสเซีย ในที่สุด ทั้ง 2 คนก็นัดพบกันที่ลอนดอน อืม น่าสนใจ
    ปี ค.ศ. 1905 Trotsky กลับมารัสเซีย เพื่อพยายามก่อการปฏิวัติขับไล่ ซาร์ การปลุกระดมดำเนินอยู่หลายเดือน แต่ไม่สำเร็จ และ Trosky ถูกจับเข้าคุกอีกครั้ง คราวนี้ได้เจอตัวละครสำคัญในคุก Alexander “Parvus” Helphand ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางชาวยิวและมือเก๋าในการปลุกระดม เป็น Parvus ที่แนะนำให้ Trotsky กับ Jacob H Schiff รู้จักกัน

    คนหนึ่ง อยากได้คนมาไล่ซาร์ ส่วนอีกคน กำลังอยากไล่ซาร์ อยากทำปฏิวัติตามฝัน สมประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย Schiff จึงตกลงอุดหนุนการปฏิวัติของTrotsky ด้วยทุน 20 ล้านเหรียญ ของ Kuhn, Loeb &Co หรือจริงๆ ก็คือเงิน ของ Rothschild ที่ต้องการกำจัด ซาร์ จากเรื่องน้ำมันที่ Baku และเรื่องของชาวยิวในรัสเซีย

    เมื่อ Trotsky และครอบครัวเดินทางมาถึงนิวยอร์ค เพื่อเก็บตัวก่อนการเข้าฉากสำคัญที่รัสเซีย ผู้ที่ไปรับเขาที่ท่าเรือ คือ Arthur Concors ผุ้อำนวยการ สมาคมช่วยเหลือชาวยิวที่เพิ่งเดิน ทางเข้าอเมริกา the Hebrew Shelterings and Immigration Aid Society ซึ่ง Schiff เป็นกรรมการที่ปรึกษา ส่วนอพาตเมนท์ที่ Trosky และครอบครัวไปพัก รวมทั้งรถและคนขับนั้น เป็นของ Dr Julius Hammer ที่อพยพมาจากรัสเซีย และเป็นผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์อเมริกา Armand ลูกชายของ Julius ประธานของ Occidental Petroleum Corporation เป็นต่างชาติรายแรก ที่ได้สัมปทานจากรัฐบาลโซเวียต

    เมื่อ Trosky ถูกจับที่แคนาดา คำสั่งปล่อยตัว Trotsky มาจากการตกลงใจร่วมกัน ระหว่าง Col. House กับเพื่อนร่วมอพาตเมนท์เดียวกัน ชื่อ Sir William Wiseman หัวหน้าข่าวกรองของอังกฤษที่อยู่ที่อเมริกานั่นเอง และมีตำแหน่งเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่ง ของ Kuhn, Loeb ของ Schiff หรือของ Rothschild ด้วย

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 6

    Nikolai Lenin หรือชื่อจริงคือ Vladimir llyich Ulyanov ชาวรัสเซีย เชื้อสายยิวหนึ่งส่วนสี่ จากย่าที่เป็นชาวยิว เขาเป็นผู้นิยมลัทธิ Marx และคิดที่จะแก้แค้นแทนพี่ชาย ที่ถูกลงโทษแขวนคอ พร้อมพวกอีก 4 คน เนื่องจากร่วมกันลอบฆ่าซาร์ Alexander ที่ 2 ปู่ ของ ซาร์นิโคลัส ที่ 2

    Lenin คิดใช้นโยบายประชานิยม เพื่อล้มรัฐบาลซาร์ และนำลัทธิสังคมนิยมมาใช้ปกครองต่อ

    ปี ค.ศ. 1905 ขณะที่รัสเซีย กำลังวุ่นวายอยู่กับการรบกับญี่ปุ่น Lenin Trosky และพวก ก็พยายามยุให้ชาวนาต่อต้านซาร์ แต่ไม่สำเร็จ จึงพากันหนีออกไปจากรัสเซีย Lenin ตระเวนไปทั่วยุโรป สุดท้ายกบดานอยู่ที่สวิส

    เป็น Parvus คนสำคัญเจ้าเก่า ที่ไปหา Lenin ที่สวิส และชักชวนให้ Lenin ซึ่งยังฝันค้าง มาร่วมทำปฏิวัติรัสเซีย แต่ Lenin บอกไม่มีทุน แถมยังต้องกบดาน จะไปปฏิวัติได้ยังไง

    ช่วงนั้น Parvus ปักหลักอยู่ที่ Copenhagen จึงคุ้นเคยกับ Brockdorff-Rantzau รัฐมนตรีของเยอรมัน ที่ประจำอยู่ที่ เดนมาร์กและทำหน้าที่หาข่าว

    Parvus วิจารณ์การรบของเยอรมัน ให้รัฐมนตรีเยอรมันฟัง

    เยอรมันกำลังทำสงครามแบบขาถ่าง ด้านหนึ่งสู้กับกลุ่มอังกฤษ ฝรั่งเศส ทางตะวันตก ส่วนด้านตะวันออกก็สู้รัสเซีย เยอรมันสู้แบบห่วงหน้าพะวงหลัง รบแบบนี้ ให้ตายก็ไม่มีทางชนะ แถมจะขาถ่าง หัวทิ่มตาย มันต้องหาวิธีทำให้รัสเซียถอนตัวจากการรบ

    ทำให้รัสเซียถอนตัวจากสงคราม ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ เยอรมันจะได้รบอังกฤษด้านเดียว อัดตามสบาย
    แล้ว Lenin ก็ได้รับการสนับสนุนจากเยอรมัน เป็นจำนวน 10 ล้านเหรียญทอง เพื่อมาทำปฏิวัติในฝันที่รัสเซีย แต่เขาคงจะคุยโวยากหน่อย ถึงการปฏวัติ ที่รับทุนจากประเทศที่เป็นศัตรู และกำลังทำสงครามกัน มันน่าจะเรียกว่า เป็นการกบฏขายชาติ มากกว่าเป็นปฏิวัติที่โด่งดัง ละครฉากนี้บัดซบจริงๆ และคงเป็นเพราะเหตุนี้ กลุ่มนักปฏิวัติจึงมี ชาวรัสเซียแท้เพียง 25 % ที่เหลือเป็นรัสเซียเชื้อสายยิว
    Parvus มีชื่อเต็มตามที่เขาบอกใครๆ ว่า Alexander Israel Helphand แต่จริงๆ เขาชื่อ Israel Lazarevich Gelfand พ่อแม่เชื้อสายยิวทั้งคู่ เขาเป็นชาวยิวเต็มร้อย เขาเกิดที่เมือง Berazino ซึ่งปัจจุบัน เป็นส่วนหนึ่งของ Beralus เขาเจอ Lenin ครั้งแรก เมื่อปี 1900 ที่เมืองมิวนิค ของเยอรมัน ต่างคนต่างแลกเปลี่ยนทฤษฏีกัน

    Parvus เป็นคนที่ได้รับการชื่นชมว่า เฉลียวฉลาดมาก และฝักใฝ่เรื่องการปฏิวัติมาตลอด เขาเป็นคนคิดทฤษฏี เอาสงครามนอกบ้าน มาใช้ก่อเหตุในบ้าน

    Parvus ใช้ชีวิตอยู่แถบยุโรปส่วนใหญ่ ช่วงหนึ่งเขาร่อนเร่ไปอยู่ตุรกีถึง 5 ปี เป็นช่วงเดียวกับที่ Sir Basil Zaharoff ก็อยู่ที่นั่นด้วย เพื่อทำภาระกิจ ที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี Lloyd George ของอังกฤษ ในการจัดหาอาวุธให้กรีกไปรบกับ ตุรกี เป็นการตัดกำลังออตโตมาน อาวุธที่ส่งให้กรีก มาจากบริษัท Vickers บริษัทผลิตอาวุธ ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ที่ Zaharoff เป็นกรรมการ และมี Rothschild เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ Parvus ได้ร่วมงานด้วย และทำให้เขามีเงินใช้ชีวิตอย่างสบาย

    วันที่ Lenin และพวก เดินทางจากสวิส ผ่านเยอรมัน มาเข้ารัสเซีย พร้อมทองคำ 10 ล้านเหรียญ พวกเขาซ่อนตัวมาในรถไฟ ซึ่งปิดหน้าต่างมีผ้าคลุม ไม่ให้รู้ว่า ใครอยู่ในรถไฟ

    คำพูดของ หลอด Winston Churchill ที่พูดไว้ที่สภาของอังกฤษ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ.1919 เกี่ยวกับ Lenin น่าสนใจ และน่าคิด

    “… Lenin ถูกนำตัวมารัสเซีย…เหมือนการนำเอาขวดแก้ว ที่ใส่เชื้อไทฟอยด์ หรืออหิวาต์เข้ามา เพื่อเอาไปเทใส่ในแหล่งน้ำ ให้มันแพร่กระจายไปทั่วเมือง และมันได้ผลดีอย่างมหัศจรรย์ ทันทีที่ Lenin ถึงที่หมาย เขาก็เริ่มชี้นิ้ว สั่งคนนั้น สั่งคนนี้ ที่แอบซ่อนอยู่ใน New York, Glasgow, Bern และเมืองอื่นๆ เขาเรียกให้พวกหัวหน้าของลัทธิ ที่น่ากลัว ที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกมารวมตัวกัน และเมื่อมีพวกนี้อยู่รอบตัว เขาก็เริ่มงานที่เป็นการทำลายล้างทุกสถาบัน ที่ประกอบเป็นรัสเซีย ที่รัสเซียยึดถืออยู่ แหลกละเอียดจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย…”

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    10 พ.ค. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 5 – 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 5 คงพอเห็นแล้วว่า ฉากปฏิวัติ Bolsheviks เป็นฉากสำคัญ ที่มีผลต่อสงครามโลก ละครลวงโลก ที่เล่นกันข้ามเดือนข้ามปี มันต้องเป็นการจับมือวางแผนร่วมกัน ของหลายพวกหลายฝ่าย และคงไม่ต้องแปลกใจมากนักว่า เยอรมันก็เล่นละครเป็น และร่วมเล่นละครลวงโลกกับเขาด้วย แม้จะไม่ได้ร่วมเขียนบทด้วยกันกับกลุ่มอื่นๆ แต่ละครเรื่องนี้ คงเล่นสำเร็จถึงขนาดนี้ไม่ได้ ถ้าไม่มีนายโรงตัวจริง หรือหัวหน้าโจรตัวจริง ที่วางกลยุทธ์ อย่างลึกซึ้ง เลือดเย็น ยาวนาน และคอยชักใยทุกฝ่ายอย่างแนบเนียน เราย้อนกลับไปดูเรื่องและบทสำคัญ ของบางคนอีกที หัวหน้า Bolsheviks ผู้ทำการปฏิวัติที่โด่งดัง ตัวละคร ที่การมาเข้าฉากละครลวงโลก เหมือนจะยังไม่ชัดเจน พวกเขาน่าจะเป็นกุญแจสำคัญ Levi Davidovich Bronstien คือชื่อจริงของ Leon Trotsky เขาเป็นยิวทั้งแท่ง มาจากครอบครัวคนมีกิน ที่เป็นเจ้าของที่ดินทางใต้ของยูเครน เขาอ่านหนังสือของ Marx บรมครูของลัทธิสังคมนิยม (ซึ่งก็เป็นชาวยิว) แล้วซาบซึ้ง ใฝ่ฝันตั้งแต่ยังเป็นกระทงหนุ่มอายุ 18 ที่จะเป็นนักปฏิวัติ เขาจึงมาคลุกคลีอยู่กับพวกสังคมนิยมชาวยิว ถูกจับเข้าคุกหลายครั้ง เพราะวุ่นอยู่กับการปลุกระดมการประท้วงของพวกกรรมกร เขาเอาชื่อ Leon Trosky มาจากชื่อผู้คุมคุกชาวโปแลนด์ Trosky ได้ยินชื่อ Lenin นักปลุกระดมลัทธิคอมมิวนิสม์ เขาจึงติดต่อไปหา แล้วทั้ง 2 คนก็แลกฝันกัน Lenin บอก Trosky ว่า เราต้องไปแสวงหาโลกข้างนอกที่กว้างใหญ่กว่ารัสเซีย ในที่สุด ทั้ง 2 คนก็นัดพบกันที่ลอนดอน อืม น่าสนใจ ปี ค.ศ. 1905 Trotsky กลับมารัสเซีย เพื่อพยายามก่อการปฏิวัติขับไล่ ซาร์ การปลุกระดมดำเนินอยู่หลายเดือน แต่ไม่สำเร็จ และ Trosky ถูกจับเข้าคุกอีกครั้ง คราวนี้ได้เจอตัวละครสำคัญในคุก Alexander “Parvus” Helphand ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางชาวยิวและมือเก๋าในการปลุกระดม เป็น Parvus ที่แนะนำให้ Trotsky กับ Jacob H Schiff รู้จักกัน คนหนึ่ง อยากได้คนมาไล่ซาร์ ส่วนอีกคน กำลังอยากไล่ซาร์ อยากทำปฏิวัติตามฝัน สมประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย Schiff จึงตกลงอุดหนุนการปฏิวัติของTrotsky ด้วยทุน 20 ล้านเหรียญ ของ Kuhn, Loeb &Co หรือจริงๆ ก็คือเงิน ของ Rothschild ที่ต้องการกำจัด ซาร์ จากเรื่องน้ำมันที่ Baku และเรื่องของชาวยิวในรัสเซีย เมื่อ Trotsky และครอบครัวเดินทางมาถึงนิวยอร์ค เพื่อเก็บตัวก่อนการเข้าฉากสำคัญที่รัสเซีย ผู้ที่ไปรับเขาที่ท่าเรือ คือ Arthur Concors ผุ้อำนวยการ สมาคมช่วยเหลือชาวยิวที่เพิ่งเดิน ทางเข้าอเมริกา the Hebrew Shelterings and Immigration Aid Society ซึ่ง Schiff เป็นกรรมการที่ปรึกษา ส่วนอพาตเมนท์ที่ Trosky และครอบครัวไปพัก รวมทั้งรถและคนขับนั้น เป็นของ Dr Julius Hammer ที่อพยพมาจากรัสเซีย และเป็นผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์อเมริกา Armand ลูกชายของ Julius ประธานของ Occidental Petroleum Corporation เป็นต่างชาติรายแรก ที่ได้สัมปทานจากรัฐบาลโซเวียต เมื่อ Trosky ถูกจับที่แคนาดา คำสั่งปล่อยตัว Trotsky มาจากการตกลงใจร่วมกัน ระหว่าง Col. House กับเพื่อนร่วมอพาตเมนท์เดียวกัน ชื่อ Sir William Wiseman หัวหน้าข่าวกรองของอังกฤษที่อยู่ที่อเมริกานั่นเอง และมีตำแหน่งเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่ง ของ Kuhn, Loeb ของ Schiff หรือของ Rothschild ด้วย นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 6 Nikolai Lenin หรือชื่อจริงคือ Vladimir llyich Ulyanov ชาวรัสเซีย เชื้อสายยิวหนึ่งส่วนสี่ จากย่าที่เป็นชาวยิว เขาเป็นผู้นิยมลัทธิ Marx และคิดที่จะแก้แค้นแทนพี่ชาย ที่ถูกลงโทษแขวนคอ พร้อมพวกอีก 4 คน เนื่องจากร่วมกันลอบฆ่าซาร์ Alexander ที่ 2 ปู่ ของ ซาร์นิโคลัส ที่ 2 Lenin คิดใช้นโยบายประชานิยม เพื่อล้มรัฐบาลซาร์ และนำลัทธิสังคมนิยมมาใช้ปกครองต่อ ปี ค.ศ. 1905 ขณะที่รัสเซีย กำลังวุ่นวายอยู่กับการรบกับญี่ปุ่น Lenin Trosky และพวก ก็พยายามยุให้ชาวนาต่อต้านซาร์ แต่ไม่สำเร็จ จึงพากันหนีออกไปจากรัสเซีย Lenin ตระเวนไปทั่วยุโรป สุดท้ายกบดานอยู่ที่สวิส เป็น Parvus คนสำคัญเจ้าเก่า ที่ไปหา Lenin ที่สวิส และชักชวนให้ Lenin ซึ่งยังฝันค้าง มาร่วมทำปฏิวัติรัสเซีย แต่ Lenin บอกไม่มีทุน แถมยังต้องกบดาน จะไปปฏิวัติได้ยังไง ช่วงนั้น Parvus ปักหลักอยู่ที่ Copenhagen จึงคุ้นเคยกับ Brockdorff-Rantzau รัฐมนตรีของเยอรมัน ที่ประจำอยู่ที่ เดนมาร์กและทำหน้าที่หาข่าว Parvus วิจารณ์การรบของเยอรมัน ให้รัฐมนตรีเยอรมันฟัง เยอรมันกำลังทำสงครามแบบขาถ่าง ด้านหนึ่งสู้กับกลุ่มอังกฤษ ฝรั่งเศส ทางตะวันตก ส่วนด้านตะวันออกก็สู้รัสเซีย เยอรมันสู้แบบห่วงหน้าพะวงหลัง รบแบบนี้ ให้ตายก็ไม่มีทางชนะ แถมจะขาถ่าง หัวทิ่มตาย มันต้องหาวิธีทำให้รัสเซียถอนตัวจากการรบ ทำให้รัสเซียถอนตัวจากสงคราม ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ เยอรมันจะได้รบอังกฤษด้านเดียว อัดตามสบาย แล้ว Lenin ก็ได้รับการสนับสนุนจากเยอรมัน เป็นจำนวน 10 ล้านเหรียญทอง เพื่อมาทำปฏิวัติในฝันที่รัสเซีย แต่เขาคงจะคุยโวยากหน่อย ถึงการปฏวัติ ที่รับทุนจากประเทศที่เป็นศัตรู และกำลังทำสงครามกัน มันน่าจะเรียกว่า เป็นการกบฏขายชาติ มากกว่าเป็นปฏิวัติที่โด่งดัง ละครฉากนี้บัดซบจริงๆ และคงเป็นเพราะเหตุนี้ กลุ่มนักปฏิวัติจึงมี ชาวรัสเซียแท้เพียง 25 % ที่เหลือเป็นรัสเซียเชื้อสายยิว Parvus มีชื่อเต็มตามที่เขาบอกใครๆ ว่า Alexander Israel Helphand แต่จริงๆ เขาชื่อ Israel Lazarevich Gelfand พ่อแม่เชื้อสายยิวทั้งคู่ เขาเป็นชาวยิวเต็มร้อย เขาเกิดที่เมือง Berazino ซึ่งปัจจุบัน เป็นส่วนหนึ่งของ Beralus เขาเจอ Lenin ครั้งแรก เมื่อปี 1900 ที่เมืองมิวนิค ของเยอรมัน ต่างคนต่างแลกเปลี่ยนทฤษฏีกัน Parvus เป็นคนที่ได้รับการชื่นชมว่า เฉลียวฉลาดมาก และฝักใฝ่เรื่องการปฏิวัติมาตลอด เขาเป็นคนคิดทฤษฏี เอาสงครามนอกบ้าน มาใช้ก่อเหตุในบ้าน Parvus ใช้ชีวิตอยู่แถบยุโรปส่วนใหญ่ ช่วงหนึ่งเขาร่อนเร่ไปอยู่ตุรกีถึง 5 ปี เป็นช่วงเดียวกับที่ Sir Basil Zaharoff ก็อยู่ที่นั่นด้วย เพื่อทำภาระกิจ ที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี Lloyd George ของอังกฤษ ในการจัดหาอาวุธให้กรีกไปรบกับ ตุรกี เป็นการตัดกำลังออตโตมาน อาวุธที่ส่งให้กรีก มาจากบริษัท Vickers บริษัทผลิตอาวุธ ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ที่ Zaharoff เป็นกรรมการ และมี Rothschild เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ Parvus ได้ร่วมงานด้วย และทำให้เขามีเงินใช้ชีวิตอย่างสบาย วันที่ Lenin และพวก เดินทางจากสวิส ผ่านเยอรมัน มาเข้ารัสเซีย พร้อมทองคำ 10 ล้านเหรียญ พวกเขาซ่อนตัวมาในรถไฟ ซึ่งปิดหน้าต่างมีผ้าคลุม ไม่ให้รู้ว่า ใครอยู่ในรถไฟ คำพูดของ หลอด Winston Churchill ที่พูดไว้ที่สภาของอังกฤษ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ.1919 เกี่ยวกับ Lenin น่าสนใจ และน่าคิด “… Lenin ถูกนำตัวมารัสเซีย…เหมือนการนำเอาขวดแก้ว ที่ใส่เชื้อไทฟอยด์ หรืออหิวาต์เข้ามา เพื่อเอาไปเทใส่ในแหล่งน้ำ ให้มันแพร่กระจายไปทั่วเมือง และมันได้ผลดีอย่างมหัศจรรย์ ทันทีที่ Lenin ถึงที่หมาย เขาก็เริ่มชี้นิ้ว สั่งคนนั้น สั่งคนนี้ ที่แอบซ่อนอยู่ใน New York, Glasgow, Bern และเมืองอื่นๆ เขาเรียกให้พวกหัวหน้าของลัทธิ ที่น่ากลัว ที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกมารวมตัวกัน และเมื่อมีพวกนี้อยู่รอบตัว เขาก็เริ่มงานที่เป็นการทำลายล้างทุกสถาบัน ที่ประกอบเป็นรัสเซีย ที่รัสเซียยึดถืออยู่ แหลกละเอียดจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย…” สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 10 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 504 มุมมอง 0 รีวิว
  • Times ลงข่าวว่า “ขณะที่ประตูของสำนักงาน ยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ ผู้คนก็มาเข้าแถวยาว รอกันอยู่หน้าประตูแล้ว เพื่อคอยซื้อพันธบัตร พนักงานเล่าภายหลังว่า ตั้งกะเช้าจนเที่ยง เราขายดี จนเราไม่มีหยุดพักเลย”

    ในที่สุดชาวยิว ก็ล้วงกระเป๋าชาวอเมริกัน ให้ชาวญี่ปุ่น เอาไปถล่มชาวรัสเซีย และประเทศรัสเซีย ได้ถึง 410 ล้านเหรียญ

    หลังจากญี่ปุ่นชนะสงครามที่สู้กับรัสเซีย จากเงินที่ยิวหาให้ กษัตริย์เอดเวิร์ดที่ 7 (Edward ที่ 7) ก็เชิญ Schiff ไปทานอาหารกลางวันที่พระราชวัง Buckingham ด้วยความชื่นชม และจักรพรรดิญี่ปุ่นก็เชิญ Schiff ไปรับเครื่องอิสริยาภรณ์ เป็นครั้งแรกที่จักรพรรดิญี่ปุ่น เชิญชาวต่างประเทศ ที่เป็นคนธรรมดาเข้าไปในพระราชวัง ที่ปรกติจะเปิดรับแต่พวกพระราชวงศ์

    เพื่อจะไปเข้าเฝ้าจักรพรรด์ญี่ปุ่น Schiff และคณะ ซึ่งประกอบไปด้วยญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง รวมไปถึงคนรับใช้ เหมารถไฟ 4 ตู้ เป็นส่วนตัว นั่งหรูชูคอ ข้ามทวีปอเมริกา จากนิวยอร์คไปถึง San Francisco เพื่อลงเรือเดินสมุทรต่อไปญี่ปุ่น ระหว่างทาง เขาแวะเยี่ยมราชินี Liliuokalani ที่ Honolulu

    ทำการใหญ่มันต้องฟอร์มใหญ่อย่างนี้
    นิตยสาร New York Journal American ฉบับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 1949 ลงข่าวว่า John หลานปู่ของ Schiff ให้สัมภาษณ์ กับนักเขียนชื่อ Cholly Knickerbocker ว่าปู่ของเขา Jacob Schiff ได้จ่ายเงินไปประมาณ 20 ล้านเหรียญ เพื่อให้คอมมิวนิสต์รัสเซียได้ชัยชนะ

    Schiff ดูเหมือนจะรับบท เป็นดารา ที่ออกมาเล่นบทนำคนแรก ในละครลวงโลก เรื่องปฏิวัติรัสเซีย หรือ น่าจะเรียกชื่อเรื่องว่า ปล้นรัสเซีย อาจจะตรงไปตรงมาดีกว่า แต่คงไม่ใช่ มี Schiff เป็นดาราแสดงนำคนเดียว เขาอาจจะเป็นดารารับบทสำคัญคนหนึ่ง ของกระบวนการ แต่ละครเรื่องนี้ น่าจะมีดาราแสดงนำหลายคน

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    4 พ.ค. 2558
    Times ลงข่าวว่า “ขณะที่ประตูของสำนักงาน ยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ ผู้คนก็มาเข้าแถวยาว รอกันอยู่หน้าประตูแล้ว เพื่อคอยซื้อพันธบัตร พนักงานเล่าภายหลังว่า ตั้งกะเช้าจนเที่ยง เราขายดี จนเราไม่มีหยุดพักเลย” ในที่สุดชาวยิว ก็ล้วงกระเป๋าชาวอเมริกัน ให้ชาวญี่ปุ่น เอาไปถล่มชาวรัสเซีย และประเทศรัสเซีย ได้ถึง 410 ล้านเหรียญ หลังจากญี่ปุ่นชนะสงครามที่สู้กับรัสเซีย จากเงินที่ยิวหาให้ กษัตริย์เอดเวิร์ดที่ 7 (Edward ที่ 7) ก็เชิญ Schiff ไปทานอาหารกลางวันที่พระราชวัง Buckingham ด้วยความชื่นชม และจักรพรรดิญี่ปุ่นก็เชิญ Schiff ไปรับเครื่องอิสริยาภรณ์ เป็นครั้งแรกที่จักรพรรดิญี่ปุ่น เชิญชาวต่างประเทศ ที่เป็นคนธรรมดาเข้าไปในพระราชวัง ที่ปรกติจะเปิดรับแต่พวกพระราชวงศ์ เพื่อจะไปเข้าเฝ้าจักรพรรด์ญี่ปุ่น Schiff และคณะ ซึ่งประกอบไปด้วยญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง รวมไปถึงคนรับใช้ เหมารถไฟ 4 ตู้ เป็นส่วนตัว นั่งหรูชูคอ ข้ามทวีปอเมริกา จากนิวยอร์คไปถึง San Francisco เพื่อลงเรือเดินสมุทรต่อไปญี่ปุ่น ระหว่างทาง เขาแวะเยี่ยมราชินี Liliuokalani ที่ Honolulu ทำการใหญ่มันต้องฟอร์มใหญ่อย่างนี้ นิตยสาร New York Journal American ฉบับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 1949 ลงข่าวว่า John หลานปู่ของ Schiff ให้สัมภาษณ์ กับนักเขียนชื่อ Cholly Knickerbocker ว่าปู่ของเขา Jacob Schiff ได้จ่ายเงินไปประมาณ 20 ล้านเหรียญ เพื่อให้คอมมิวนิสต์รัสเซียได้ชัยชนะ Schiff ดูเหมือนจะรับบท เป็นดารา ที่ออกมาเล่นบทนำคนแรก ในละครลวงโลก เรื่องปฏิวัติรัสเซีย หรือ น่าจะเรียกชื่อเรื่องว่า ปล้นรัสเซีย อาจจะตรงไปตรงมาดีกว่า แต่คงไม่ใช่ มี Schiff เป็นดาราแสดงนำคนเดียว เขาอาจจะเป็นดารารับบทสำคัญคนหนึ่ง ของกระบวนการ แต่ละครเรื่องนี้ น่าจะมีดาราแสดงนำหลายคน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 4 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – หัวโจก 1 – 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 3 “หัวโจก”

    ตอน 1

    ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 อาณาจักรของธุรกิจการเงิน การอุตสาหกรรมและการค้าของอเม ริกา ถูกครอบงำโดยยักษ์ใหญ่ 2 กลุ่มคือ Standard Oil- Rockefeller Enterprise กลุ่มหนึ่ง และ Morgan อีกกลุ่มหนึ่ง ยักษ์ใหญ่ 2 กลุ่ม น่าจะตีกัน แต่แปลก นอกจากไม่ตีกันแล้ว ยังจับมือร่วมกัน เพื่อครอบงำอาณาจักรธุรกิจของอเมริกาอีกด้วย โดยใช้วิธีการถือหุ้น และเป็นกรรมการบริษัท ไขว้กันไปมา มันเป็นการครอบงำ ที่แนบเนียน ยากที่คนภายนอกจะดูออก

    กลุ่ม Rockefeller เน้น การผูกขาดด้านอุตสาหกรรมน้ำมัน โดยเป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันStandard Oil ที่ใหญ่คับอเมริกา และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกัน รวมทั้ง ลงทุนในการสร้างทางรถไฟ พร้อมถือหุ้นส่วนใหญ่ใน กองทุนทองแดง กองทุนถลุงแร่ กองทุนยาสูบ แค่นั้นคงใหญ่ไม่พอ กลุ่มนี้จึงไปถือหุ้นส่วนใหญ่ใน National City Bank ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุด และรวมไปถึง บริษัทเงินทุนใหญ่ของอเมริกาคือ United State Trust Company และ Hanover Nation Bank และบริษัทประกันชีวิตระดับใหญ่ต่างๆ อีกด้วย

    ส่วนกลุ่ม Morgan เน้นการผูกขาดด้านอุตสาหกรรมเหล็ก การขนส่งทางเรือ การสร้างทางรถไฟ อุตสาหกรรมด้านเครื่องไฟฟ้า รวมถึง General Electric ยางพารา และสถาบันการเงิน เช่น National Bank of Commerce, the Chase National Bank, New York Life Insurance และ Guaranty Trust Company ที่มีบทบาทสำคัญ
    J.P. Morgan และ Guaranty Trust ถูกพาดพิง ว่าพัวพันเกือบตลอดระยะเวลา และเกือบทุกเรื่องราว เกี่ยวกับการปฏิวัติรัสเซียนี้ มารู้จักประวัติของกลุ่มนี้กันหน่อย

    ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กลุ่ม Guaranty Trust ยังเป็นของพวกตระกูล Harriman แต่เมื่อพี่ใหญ่ Edward Henry Harriman ตายในปี ค.ศ.1909 Morgan และพวก จึงเข้าไปกวาดซื้อหุ้นทั้งหมดของ Harriman และกลายเป็นเจ้าของ Guaranty Trust รวมทั้งบริษัทประกันในเครือแทน ต่อมาในปีเดียวกัน Morgan ก็ไล่ซื้อหุ้นของบริษัทอื่นๆ เพิ่มอีก และเอาเข้ามาอยู่ในชื่อของ Guaranty Trust หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 Guaranty Trust และ Bankers Trust จึงเป็นบริษัททรัสต์ ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่ง และอันดับสองของอเมริกา และทั้ง 2 กลุ่มบริษัท เป็นของกลุ่มทุน Morgan

    เห็นใยแมงมุมคร่าวๆ ของธุรกิจ ของยักษ์ ทั้ง 2 กลุ่ม ในช่วงแรกแล้วนะครับ

    ยักษ์ ทั้ง 2 กลุ่ม ต่างเข้าไปมีส่วน เกี่ยวพัน กับการสนับสนุนเงินทุนให้กับพวกปฏิวัติ Bolsheviks ตั้งแต่ก่อน ค.ศ.1917 แล้ว ไม่มากก็น้อย

    มีบันทึกแสดงว่า ค.ศ.1913 สำนักงานกฏหมาย Sullivan & Cromwell มีส่วนสนับสนุนการปฏิวัติของปานามา เรื่องนี้อยู่ในบันทึกการไต่สวนของรัฐสภาในปี 1913 ซึ่งชี้แจงโดยสมาชิกสภา Rainey

    “….การปฏิวัติที่เกี่ยวกับช่องแคบปานามา ถ้าไม่ใช่เพราะรัฐบาล(อเมริกา) นี้เข้าไปมีส่วนแล้ว การปฏิวัติก็คงทำไม่สำเร็จแน่ มันเป็นการกระทำของรัฐบาลนี้ ที่ผิดตามสนธิสัญญา ค.ศ.1846 มันเป็นการปฏิวัติ ที่ทำโดยนักปฏิวัติชาวปานามา 10 ถึง 12 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัท Panama Railroad & Steamship ซึ่งทำงานอยู่ในนิวยอร์ค และอยู่ในความดูแลของนาย William Nelson Cromwell และพวกเจ้าหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศในวอชิงตัน บุคคลเหล่านี้ รู้เรื่องการปฏิวัติที่กำลังจะ เกิดขึ้น อย่างดี วัตถุประสงค์ของการปฏิวัติ ก็เพื่อเข้าไปยึดโคลัมเบีย เพื่อจะครอบครอง คลองปานามา ด้วยการใช้เงิน 40 ล้านเหรียญ ”

    “ผมจะเสนอข้อพิสูจน์ เป็นเอกสาร ที่ประกาศอิสรภาพ ซึ่งประกาศในปานามา วันที่ 3 พฤศจิกายน 1903 เป็นเอกสารซึ่งจัดเตรียมขึ้นในนครนิวยอร์ค โดย สำนักงานของ Nelson Cromwell….”
    เอกสารตัวอย่างอีกรายการ ที่แสดงให้เห็น ถึงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ ของพวก Wall Street ที่ ดำเนินการในนิวยอร์คคือ การปฏิวัติในจีน ปี ค.ศ.1912 ซึ่งนำโดยนายซุนยัดเซ็น (Sun Yat-sen) แม้ว่าสุดท้ายแล้ว การเข้าไปยุ่งกับการปฏิวัติของกลุ่มนักการเงินนี้ จะได้รับผลตอบแทนอย่างไร จะยังไม่เห็นชัด แต่เจตนาและบทบาทของนักการเงินนิวยอร์คเหล่านั้น ถูกบันทึกไว้อย่างละเอียด ถึงจำนวนเงิน ข้อมูลของสมาคมลับทางฝั่งจีนที่ให้ร่วมมือ รวมทั้งมีรายการส่งอาวุธ ที่ต้องการให้ซื้อและส่งให้ทางเรือด้วย

    กลุ่มนักการเงินนิวยอร์ค ที่ร่วมกันปฏิวัติกับซุนยัดเซ็น มีชื่อนาย Charles B. Hill ทนายจากสำนักงาน Hunt, Hill & Betts ซึ่งในปี ค.ศ.1912 สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 165 ถนนบรอดเวย์ นิวยอร์ค แต่ในปี 1917 ย้ายไปอยู่ที่ 120 บรอดเวย์

    นาย Charles B. Hill นี้ เป็นกรรมการของหลายบริษัทในเครือ Westinghouse, Bryant Electric, Perkins Electric Switch และ Westinghouse Lamp ทั้งหมดเป็นบริษัทในเครือของ Westinghouse Electric ที่มีสำนักงานในนิวยอร์คอยู่ที่ เลขที่ 120 Broadway และนาย Charles R. Crane ผู้ที่จัดตั้งบริษัทในเครือ Westinghouse ในรัสเซีย ก็เป็นที่รู้กันดีว่า เขามีบทบาทสำคัญ เกี่ยวกับการทำปฏิวัติของพวก Bolsheviks และเขาก็เดินทางไปรัสเซีย พร้อมกับกลุ่มของ Trotsky ในช่วงเดือนมีนาคม 1917

    การดำเนินงานของ Hill Syndicate ที่เมืองจีนในปี 1910 ถูกบันทึกไว้ในหลักฐาน เรียกว่า Laurence Boothe Papers ที่เก็บอยู่ใน Hoover Institute เอกสาร ชุดนี้มี 110 รายการ รวมทั้งจดหมาย ของซุนยัดเซ็น ที่ติดต่อกับชาวอเมริกันที่หนุนหลังเขา และเพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกอเมริกันสนับสนุนทางการเงิน ซุนยัดเซ็น สัญญากับ Hill Syndicate ที่จะจัดการให้สัมปทานรถไฟ ธนาคาร และสัมปทานการค้าอีกหลายรายการ หลังจากการปฏิวัติที่จีนทำสำเร็จ
    อีกกรณีที่แสดงว่า เป็นการปฏิวัติ ที่มีการสนับสนุนโดยกลุ่มธุรกิจการ เงินในนิวยอร์ค คือ การปฏิวัติที่ Mexico ใน ปี 1915-1916 สายลับชาวเยอรมัน ซึ่งอาศัยอยู่ในอเมริกา ถูกกล่าวหาและถูกดำเนินคดีในนิวยอร์คเมื่อเดือนพฤษภาคม 1917 ว่าได้มีการพยายามโยงเอารัฐบาลอเมริกัน ไปเกี่ยวพันกับเม็กซิโก และญี่ปุ่น โดยพยายามขนย้ายอาวุธยุทธภันฑ์ ที่จัดส่งไปให้สัมพันธมิตรในยุโรป โดยมีการจ่ายเงิน ให้ส่งอาวุธนั้นไปให้นักปฏิวัติชาวเม็กซิกันคือ Pancho Villa แทน โดยการจ่ายเงินผ่าน Guaranty Trust เป็นจำนวนเงิน 380,000 เหรียญ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางปี 1915

    การเกี่ยวพันของกลุ่มวอลสตรีท กับการปฏิวัติของเม็กซิกันนี้ ได้ปรากฏอยู่ในจดหมายของนาย Linclon Steffens คอมมิวนิสต์อเมริกัน ที่มีไปถึง Colonel House ที่ปรึกษาสุดใหญ่ของประธานาธิบดี Wilson และได้มีการรายงานอยู่ใน นสพ. New York Times เรื่อง “Texas Revolution (การซ้อมใหญ่ก่อนการแสดงจริง ของการปฏิวัติพวก Bolsheviks)” ว่าเป็นการร่วมมือกัน ระหว่างพวกเยอรมันกับพวก Bolsheviks

    และจากการให้การของ John A Walls อัยการเขตประจำเมือง Brownsville Texas ต่อคณะกรรมาธิการ 1919 Fall Committee ซึ่งส่งมอบเอกสาร ที่มีหลักฐานแสดงว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างผลประโยชน์ในอเมริกา, พวก Bolsheviks, กลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวเยอรมัน และกองกำลังของ Carranza ในเม็กซิโก

    รัฐบาล Carranza นี้ ได้ชื่อว่า เป็นรัฐบาลแรกในโลก ที่มีการปกครองที่ใช้รัฐธรรมนูญแบบเดียวกับของโซเวียต (ซึ่งร่างตามแบบของ Trotsky) และได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่มวอลสตรีทให้เป็นรัฐบาล

    การปฏิวัติ Carranza ไม่ มีทางสำเร็จได้ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุน ด้านอาวุธยุทธภัณฑ์จากอเมริกา และไม่สามารถจะอยู่ในอำนาจได้นาน ถ้าไม่มีการช่วยเหลือจากอเมริกา

    การปฏิวัติรัสเซียของกลุ่ม Bolsheviks ก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่มี นายธนาคารชาวสวีเดน Olof Aschberg เป็นตัวกลางประสาน กลุ่มวอลสตรีท กับอีกหลายๆฝ่าย ก็คงไม่สำเร็จเหมือนกัน

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 3 “หัวโจก”

    ตอน 2

    ยุโรปเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ในเดือนสิงหาคม 1914 ส่วนอเมริกายังไม่เข้าร่วมทำสงครามโลก และประกาศตัวเป็นกลาง ภายใต้กฏหมายระหว่างประเทศ ประเทศที่ประกาศตัวเป็นกลาง ไม่สามารถให้เงินกู้ กับประเทศที่กำลังทำสงครามได้ มันเป็นเรื่องของการขัดต่อกฏหมาย และขัดศีลธรรม แต่ดูเหมือนกลุ่มวอลสตรีท และอเมริกา จะไม่เห็นว่า 2 เรื่องนี้ เป็นปัญหาแต่อย่างใด

    และน้อยคนที่จะรู้ว่า เมื่ออังกฤษจะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น อังกฤษเองก็กำลังถังแตก เงินคงคลังหมดเกลี้ยง รัฐบาลอังกฤษปิดปากแน่นสนิท ไม่ให้ประชาชนและสื่อรู้เรื่อง แต่อังกฤษก็ยังเดินหน้าตามแผนเข้าสู่สงครามโลก เนื่องจากมีเป้าหมายชัดเจนที่จะขจัดเยอรมัน ให้ออกไปจากเส้นทางตามแผนสู่การ เป็นมหาอำนาจใหญ่ หมายเลขหนึ่งของโลก ที่อังกฤษวางไว้ แค่เป็นจักรภพอังกฤษ มันใหญ๋ไม่พอ สำหรับชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อย ของเท้าซ้าย

    อังกฤษทำได้อย่างไร ทำสงครามทั้งๆที่ไม่มีเงิน อังกฤษทำได้เพราะมี กลุ่ม Morgan จัดการให้ Morgan ได้รับมอบหมายจากอังกฤษ ให้ทำหน้าที่ เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวของอังกฤษเพื่อระดมทุน โดยการออกพันธบัตรสงคราม ( War Bond) ในปี 1915 แถม และระดมทุนเผื่อฝรั่งเศสอีกด้วย อังกฤษ รวมทั้งฝรั่งเศส เข้าสู่สงครามโลกด้วยการกู้ยืมเงินจากอเมริกา ที่บอกว่าเป็นกลางและไม่ร่วมทำสงครามด้วย !

    J.P. Morgan ตะแบงว่าไม่ใช่เป็นเงินให้กู้เพื่อทำสงคราม แต่เป็นเพียงวิธีการจัดการ เพื่อให้เอาเงินไปใช้ ในด้านการค้าขายระหว่างประเทศเท่านั้น มีปัญหาไหม

    จะมีปัญหาได้อย่างไร เพราะผู้ที่ออกมาอธิบาย สนันสนุนการออกพันธบัตร War Bond ของ Morgan คือ ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ของอเมริกา

    ประธานาธิบดี Wilson ทำหน้าที่ เหมือนเป็นผู้รับประกันการขายพันธบัตร ( underwriter) เขาบอกว่า มันเป็นพันธบัตรที่ออกขายในอเมริกา เพื่อนำเงินที่ได้จากการขาย ไปให้รัฐบาลต่างชาติ ใช้เป็นเงินคงคลัง หรือเงินเก็บน่ะ เขาไม่ได้เอาไปใช้ในการสงคราม ในทางปฏิบัติ อังกฤษและฝรั่งเศส นำเงินที่ได้รับ ลงบัญชีเป็นเงินฝากในประเทศของตัว และใช้เป็นหลักประกันในการสั่งซื้อสินค้า และยุทธภัณฑ์ต่างๆ จากอเมริกา เพื่อใช้ในการทำสงคราม มันผิดกฏหมายเกี่ยวกับความเป็นกลางตรงไหน
    นี่มันเรื่อง 100 ปีมาแล้ว นักการเงินของเขา ยังคิดตะแบงได้ขนาดนี้ แล้วเดี๋ยวนี้เขาจะพลิกแพลงขนาดไหน แต่สมันน้อยอย่าเพิ่งขวัญอ่อนตกใจ มันก็ใช้สูตรเดิมๆ นั่นแหละ แค่เปลี่ยนชื่อเรียก เติมลูกเล่น สลับขั้นตอนเข้าไปอีกหน่อย แค่นั้นเราก็มึน คิดตามมันกันไม่ทันไปค่อนโลก แต่ถ้าเราไม่ว่าง่ายเชื่อมันไปหมด ในสิ่งที่มันสร้างมาหลอกเรา เราก็รู้ทันมันได้ ฝรั่งมันไม่ได้ฉลาดเก่งกว่าเรานักหรอกครับ

    แค่ออกพันธบัตร War Bond ให้อังกฤษกับฝรั่งเศส สงครามโลกคงไม่ได้เกิดขึ้นตามแผนที่วางไว้ ดังนั้น กลุ่มนักการเงินของอเมริกา จึงต้องสนับสนุนเงินกู้ให้รัสเซียด้วย ตั้งแต่สมัยซาร์นิโคลัส เพื่อให้มีเงินมาร่วมทำสงครามสู้กับฝ่ายเยอรมัน ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตร หรืออังกฤษต้องการ

    เจ้ามือให้เงินกู้ลูกค้ารอบวงแบบนี้ เจ้ามือคงปิดทางเจ๊งไว้เรียบร้อยแล้ว

    มีหลักฐานเป็นเอกสารของกระทรวง ต่างประเทศ ที่แสดงว่า National City Bank ซึ่งมีกลุ่ม Stillman และ Rockefeller เป็นเจ้าของ และ Guaranty Trust ซึ่งเป็นของกลุ่ม Morgan ได้ร่วมกันให้เงินกู้ก้อนใหญ่แก่รัสเซีย ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงคราม และเป็นการให้กู้หลังจากที่กระทรวงต่างประเทศ ได้แจ้งกับกลุ่มผู้ให้กู้ว่า เป็นการผิดกฏหมายระหว่างประเทศ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 เม.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – หัวโจก 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 3 “หัวโจก” ตอน 1 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 อาณาจักรของธุรกิจการเงิน การอุตสาหกรรมและการค้าของอเม ริกา ถูกครอบงำโดยยักษ์ใหญ่ 2 กลุ่มคือ Standard Oil- Rockefeller Enterprise กลุ่มหนึ่ง และ Morgan อีกกลุ่มหนึ่ง ยักษ์ใหญ่ 2 กลุ่ม น่าจะตีกัน แต่แปลก นอกจากไม่ตีกันแล้ว ยังจับมือร่วมกัน เพื่อครอบงำอาณาจักรธุรกิจของอเมริกาอีกด้วย โดยใช้วิธีการถือหุ้น และเป็นกรรมการบริษัท ไขว้กันไปมา มันเป็นการครอบงำ ที่แนบเนียน ยากที่คนภายนอกจะดูออก กลุ่ม Rockefeller เน้น การผูกขาดด้านอุตสาหกรรมน้ำมัน โดยเป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันStandard Oil ที่ใหญ่คับอเมริกา และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกัน รวมทั้ง ลงทุนในการสร้างทางรถไฟ พร้อมถือหุ้นส่วนใหญ่ใน กองทุนทองแดง กองทุนถลุงแร่ กองทุนยาสูบ แค่นั้นคงใหญ่ไม่พอ กลุ่มนี้จึงไปถือหุ้นส่วนใหญ่ใน National City Bank ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุด และรวมไปถึง บริษัทเงินทุนใหญ่ของอเมริกาคือ United State Trust Company และ Hanover Nation Bank และบริษัทประกันชีวิตระดับใหญ่ต่างๆ อีกด้วย ส่วนกลุ่ม Morgan เน้นการผูกขาดด้านอุตสาหกรรมเหล็ก การขนส่งทางเรือ การสร้างทางรถไฟ อุตสาหกรรมด้านเครื่องไฟฟ้า รวมถึง General Electric ยางพารา และสถาบันการเงิน เช่น National Bank of Commerce, the Chase National Bank, New York Life Insurance และ Guaranty Trust Company ที่มีบทบาทสำคัญ J.P. Morgan และ Guaranty Trust ถูกพาดพิง ว่าพัวพันเกือบตลอดระยะเวลา และเกือบทุกเรื่องราว เกี่ยวกับการปฏิวัติรัสเซียนี้ มารู้จักประวัติของกลุ่มนี้กันหน่อย ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กลุ่ม Guaranty Trust ยังเป็นของพวกตระกูล Harriman แต่เมื่อพี่ใหญ่ Edward Henry Harriman ตายในปี ค.ศ.1909 Morgan และพวก จึงเข้าไปกวาดซื้อหุ้นทั้งหมดของ Harriman และกลายเป็นเจ้าของ Guaranty Trust รวมทั้งบริษัทประกันในเครือแทน ต่อมาในปีเดียวกัน Morgan ก็ไล่ซื้อหุ้นของบริษัทอื่นๆ เพิ่มอีก และเอาเข้ามาอยู่ในชื่อของ Guaranty Trust หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 Guaranty Trust และ Bankers Trust จึงเป็นบริษัททรัสต์ ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่ง และอันดับสองของอเมริกา และทั้ง 2 กลุ่มบริษัท เป็นของกลุ่มทุน Morgan เห็นใยแมงมุมคร่าวๆ ของธุรกิจ ของยักษ์ ทั้ง 2 กลุ่ม ในช่วงแรกแล้วนะครับ ยักษ์ ทั้ง 2 กลุ่ม ต่างเข้าไปมีส่วน เกี่ยวพัน กับการสนับสนุนเงินทุนให้กับพวกปฏิวัติ Bolsheviks ตั้งแต่ก่อน ค.ศ.1917 แล้ว ไม่มากก็น้อย มีบันทึกแสดงว่า ค.ศ.1913 สำนักงานกฏหมาย Sullivan & Cromwell มีส่วนสนับสนุนการปฏิวัติของปานามา เรื่องนี้อยู่ในบันทึกการไต่สวนของรัฐสภาในปี 1913 ซึ่งชี้แจงโดยสมาชิกสภา Rainey “….การปฏิวัติที่เกี่ยวกับช่องแคบปานามา ถ้าไม่ใช่เพราะรัฐบาล(อเมริกา) นี้เข้าไปมีส่วนแล้ว การปฏิวัติก็คงทำไม่สำเร็จแน่ มันเป็นการกระทำของรัฐบาลนี้ ที่ผิดตามสนธิสัญญา ค.ศ.1846 มันเป็นการปฏิวัติ ที่ทำโดยนักปฏิวัติชาวปานามา 10 ถึง 12 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัท Panama Railroad & Steamship ซึ่งทำงานอยู่ในนิวยอร์ค และอยู่ในความดูแลของนาย William Nelson Cromwell และพวกเจ้าหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศในวอชิงตัน บุคคลเหล่านี้ รู้เรื่องการปฏิวัติที่กำลังจะ เกิดขึ้น อย่างดี วัตถุประสงค์ของการปฏิวัติ ก็เพื่อเข้าไปยึดโคลัมเบีย เพื่อจะครอบครอง คลองปานามา ด้วยการใช้เงิน 40 ล้านเหรียญ ” “ผมจะเสนอข้อพิสูจน์ เป็นเอกสาร ที่ประกาศอิสรภาพ ซึ่งประกาศในปานามา วันที่ 3 พฤศจิกายน 1903 เป็นเอกสารซึ่งจัดเตรียมขึ้นในนครนิวยอร์ค โดย สำนักงานของ Nelson Cromwell….” เอกสารตัวอย่างอีกรายการ ที่แสดงให้เห็น ถึงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ ของพวก Wall Street ที่ ดำเนินการในนิวยอร์คคือ การปฏิวัติในจีน ปี ค.ศ.1912 ซึ่งนำโดยนายซุนยัดเซ็น (Sun Yat-sen) แม้ว่าสุดท้ายแล้ว การเข้าไปยุ่งกับการปฏิวัติของกลุ่มนักการเงินนี้ จะได้รับผลตอบแทนอย่างไร จะยังไม่เห็นชัด แต่เจตนาและบทบาทของนักการเงินนิวยอร์คเหล่านั้น ถูกบันทึกไว้อย่างละเอียด ถึงจำนวนเงิน ข้อมูลของสมาคมลับทางฝั่งจีนที่ให้ร่วมมือ รวมทั้งมีรายการส่งอาวุธ ที่ต้องการให้ซื้อและส่งให้ทางเรือด้วย กลุ่มนักการเงินนิวยอร์ค ที่ร่วมกันปฏิวัติกับซุนยัดเซ็น มีชื่อนาย Charles B. Hill ทนายจากสำนักงาน Hunt, Hill & Betts ซึ่งในปี ค.ศ.1912 สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 165 ถนนบรอดเวย์ นิวยอร์ค แต่ในปี 1917 ย้ายไปอยู่ที่ 120 บรอดเวย์ นาย Charles B. Hill นี้ เป็นกรรมการของหลายบริษัทในเครือ Westinghouse, Bryant Electric, Perkins Electric Switch และ Westinghouse Lamp ทั้งหมดเป็นบริษัทในเครือของ Westinghouse Electric ที่มีสำนักงานในนิวยอร์คอยู่ที่ เลขที่ 120 Broadway และนาย Charles R. Crane ผู้ที่จัดตั้งบริษัทในเครือ Westinghouse ในรัสเซีย ก็เป็นที่รู้กันดีว่า เขามีบทบาทสำคัญ เกี่ยวกับการทำปฏิวัติของพวก Bolsheviks และเขาก็เดินทางไปรัสเซีย พร้อมกับกลุ่มของ Trotsky ในช่วงเดือนมีนาคม 1917 การดำเนินงานของ Hill Syndicate ที่เมืองจีนในปี 1910 ถูกบันทึกไว้ในหลักฐาน เรียกว่า Laurence Boothe Papers ที่เก็บอยู่ใน Hoover Institute เอกสาร ชุดนี้มี 110 รายการ รวมทั้งจดหมาย ของซุนยัดเซ็น ที่ติดต่อกับชาวอเมริกันที่หนุนหลังเขา และเพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกอเมริกันสนับสนุนทางการเงิน ซุนยัดเซ็น สัญญากับ Hill Syndicate ที่จะจัดการให้สัมปทานรถไฟ ธนาคาร และสัมปทานการค้าอีกหลายรายการ หลังจากการปฏิวัติที่จีนทำสำเร็จ อีกกรณีที่แสดงว่า เป็นการปฏิวัติ ที่มีการสนับสนุนโดยกลุ่มธุรกิจการ เงินในนิวยอร์ค คือ การปฏิวัติที่ Mexico ใน ปี 1915-1916 สายลับชาวเยอรมัน ซึ่งอาศัยอยู่ในอเมริกา ถูกกล่าวหาและถูกดำเนินคดีในนิวยอร์คเมื่อเดือนพฤษภาคม 1917 ว่าได้มีการพยายามโยงเอารัฐบาลอเมริกัน ไปเกี่ยวพันกับเม็กซิโก และญี่ปุ่น โดยพยายามขนย้ายอาวุธยุทธภันฑ์ ที่จัดส่งไปให้สัมพันธมิตรในยุโรป โดยมีการจ่ายเงิน ให้ส่งอาวุธนั้นไปให้นักปฏิวัติชาวเม็กซิกันคือ Pancho Villa แทน โดยการจ่ายเงินผ่าน Guaranty Trust เป็นจำนวนเงิน 380,000 เหรียญ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางปี 1915 การเกี่ยวพันของกลุ่มวอลสตรีท กับการปฏิวัติของเม็กซิกันนี้ ได้ปรากฏอยู่ในจดหมายของนาย Linclon Steffens คอมมิวนิสต์อเมริกัน ที่มีไปถึง Colonel House ที่ปรึกษาสุดใหญ่ของประธานาธิบดี Wilson และได้มีการรายงานอยู่ใน นสพ. New York Times เรื่อง “Texas Revolution (การซ้อมใหญ่ก่อนการแสดงจริง ของการปฏิวัติพวก Bolsheviks)” ว่าเป็นการร่วมมือกัน ระหว่างพวกเยอรมันกับพวก Bolsheviks และจากการให้การของ John A Walls อัยการเขตประจำเมือง Brownsville Texas ต่อคณะกรรมาธิการ 1919 Fall Committee ซึ่งส่งมอบเอกสาร ที่มีหลักฐานแสดงว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างผลประโยชน์ในอเมริกา, พวก Bolsheviks, กลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวเยอรมัน และกองกำลังของ Carranza ในเม็กซิโก รัฐบาล Carranza นี้ ได้ชื่อว่า เป็นรัฐบาลแรกในโลก ที่มีการปกครองที่ใช้รัฐธรรมนูญแบบเดียวกับของโซเวียต (ซึ่งร่างตามแบบของ Trotsky) และได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่มวอลสตรีทให้เป็นรัฐบาล การปฏิวัติ Carranza ไม่ มีทางสำเร็จได้ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุน ด้านอาวุธยุทธภัณฑ์จากอเมริกา และไม่สามารถจะอยู่ในอำนาจได้นาน ถ้าไม่มีการช่วยเหลือจากอเมริกา การปฏิวัติรัสเซียของกลุ่ม Bolsheviks ก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่มี นายธนาคารชาวสวีเดน Olof Aschberg เป็นตัวกลางประสาน กลุ่มวอลสตรีท กับอีกหลายๆฝ่าย ก็คงไม่สำเร็จเหมือนกัน นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 3 “หัวโจก” ตอน 2 ยุโรปเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ในเดือนสิงหาคม 1914 ส่วนอเมริกายังไม่เข้าร่วมทำสงครามโลก และประกาศตัวเป็นกลาง ภายใต้กฏหมายระหว่างประเทศ ประเทศที่ประกาศตัวเป็นกลาง ไม่สามารถให้เงินกู้ กับประเทศที่กำลังทำสงครามได้ มันเป็นเรื่องของการขัดต่อกฏหมาย และขัดศีลธรรม แต่ดูเหมือนกลุ่มวอลสตรีท และอเมริกา จะไม่เห็นว่า 2 เรื่องนี้ เป็นปัญหาแต่อย่างใด และน้อยคนที่จะรู้ว่า เมื่ออังกฤษจะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น อังกฤษเองก็กำลังถังแตก เงินคงคลังหมดเกลี้ยง รัฐบาลอังกฤษปิดปากแน่นสนิท ไม่ให้ประชาชนและสื่อรู้เรื่อง แต่อังกฤษก็ยังเดินหน้าตามแผนเข้าสู่สงครามโลก เนื่องจากมีเป้าหมายชัดเจนที่จะขจัดเยอรมัน ให้ออกไปจากเส้นทางตามแผนสู่การ เป็นมหาอำนาจใหญ่ หมายเลขหนึ่งของโลก ที่อังกฤษวางไว้ แค่เป็นจักรภพอังกฤษ มันใหญ๋ไม่พอ สำหรับชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อย ของเท้าซ้าย อังกฤษทำได้อย่างไร ทำสงครามทั้งๆที่ไม่มีเงิน อังกฤษทำได้เพราะมี กลุ่ม Morgan จัดการให้ Morgan ได้รับมอบหมายจากอังกฤษ ให้ทำหน้าที่ เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวของอังกฤษเพื่อระดมทุน โดยการออกพันธบัตรสงคราม ( War Bond) ในปี 1915 แถม และระดมทุนเผื่อฝรั่งเศสอีกด้วย อังกฤษ รวมทั้งฝรั่งเศส เข้าสู่สงครามโลกด้วยการกู้ยืมเงินจากอเมริกา ที่บอกว่าเป็นกลางและไม่ร่วมทำสงครามด้วย ! J.P. Morgan ตะแบงว่าไม่ใช่เป็นเงินให้กู้เพื่อทำสงคราม แต่เป็นเพียงวิธีการจัดการ เพื่อให้เอาเงินไปใช้ ในด้านการค้าขายระหว่างประเทศเท่านั้น มีปัญหาไหม จะมีปัญหาได้อย่างไร เพราะผู้ที่ออกมาอธิบาย สนันสนุนการออกพันธบัตร War Bond ของ Morgan คือ ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ของอเมริกา ประธานาธิบดี Wilson ทำหน้าที่ เหมือนเป็นผู้รับประกันการขายพันธบัตร ( underwriter) เขาบอกว่า มันเป็นพันธบัตรที่ออกขายในอเมริกา เพื่อนำเงินที่ได้จากการขาย ไปให้รัฐบาลต่างชาติ ใช้เป็นเงินคงคลัง หรือเงินเก็บน่ะ เขาไม่ได้เอาไปใช้ในการสงคราม ในทางปฏิบัติ อังกฤษและฝรั่งเศส นำเงินที่ได้รับ ลงบัญชีเป็นเงินฝากในประเทศของตัว และใช้เป็นหลักประกันในการสั่งซื้อสินค้า และยุทธภัณฑ์ต่างๆ จากอเมริกา เพื่อใช้ในการทำสงคราม มันผิดกฏหมายเกี่ยวกับความเป็นกลางตรงไหน นี่มันเรื่อง 100 ปีมาแล้ว นักการเงินของเขา ยังคิดตะแบงได้ขนาดนี้ แล้วเดี๋ยวนี้เขาจะพลิกแพลงขนาดไหน แต่สมันน้อยอย่าเพิ่งขวัญอ่อนตกใจ มันก็ใช้สูตรเดิมๆ นั่นแหละ แค่เปลี่ยนชื่อเรียก เติมลูกเล่น สลับขั้นตอนเข้าไปอีกหน่อย แค่นั้นเราก็มึน คิดตามมันกันไม่ทันไปค่อนโลก แต่ถ้าเราไม่ว่าง่ายเชื่อมันไปหมด ในสิ่งที่มันสร้างมาหลอกเรา เราก็รู้ทันมันได้ ฝรั่งมันไม่ได้ฉลาดเก่งกว่าเรานักหรอกครับ แค่ออกพันธบัตร War Bond ให้อังกฤษกับฝรั่งเศส สงครามโลกคงไม่ได้เกิดขึ้นตามแผนที่วางไว้ ดังนั้น กลุ่มนักการเงินของอเมริกา จึงต้องสนับสนุนเงินกู้ให้รัสเซียด้วย ตั้งแต่สมัยซาร์นิโคลัส เพื่อให้มีเงินมาร่วมทำสงครามสู้กับฝ่ายเยอรมัน ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตร หรืออังกฤษต้องการ เจ้ามือให้เงินกู้ลูกค้ารอบวงแบบนี้ เจ้ามือคงปิดทางเจ๊งไว้เรียบร้อยแล้ว มีหลักฐานเป็นเอกสารของกระทรวง ต่างประเทศ ที่แสดงว่า National City Bank ซึ่งมีกลุ่ม Stillman และ Rockefeller เป็นเจ้าของ และ Guaranty Trust ซึ่งเป็นของกลุ่ม Morgan ได้ร่วมกันให้เงินกู้ก้อนใหญ่แก่รัสเซีย ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงคราม และเป็นการให้กู้หลังจากที่กระทรวงต่างประเทศ ได้แจ้งกับกลุ่มผู้ให้กู้ว่า เป็นการผิดกฏหมายระหว่างประเทศ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 เม.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 623 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลิ่นไอของสิ่งที่ผ่านมา..ในแต่ะช่วงใครมัน ในความทรงจำดีๆของแต่ละคน.

    เรา..ประเทศไทยสบายมากที่จะดำรงผสมผสานความล้ำสมัยใดๆเข้ากับเราคนไทยได้อย่างลงตัว,ไม่สุดโด่งแบบเผด็จการคอมมิวนิสต์ ไม่อิสระจ๋าแบบประชาธิปไตยจอมปลอมของฝรั่งแต่ไส้ในอุบาทก์ชาติชั่วสุดๆเผด็จการโคตรๆไม่ต่างจากคอมมิวนิสต์ซึ่งทั้งสองอย่างอีลิทมันเองละคือเจ้าของหมด,ดูยุคโควิด19ฉีดตายได้เลยฝรั่งจ๋าบังคับฉีดคนภายในประเทศมันสุดๆเช่นกัน.

    ..อนาคตประเทศไทยเราจะล้ำทั้งทางจิตใจอันดีงามผู้นำทางพลังจิตพลังใจที่ดีงามจริงคู่ขนานAIได้อย่างลงตัวล้ำๆทางเทคโนโลยีนั้นเอง,แต่ต้องกวาดล้างและกำจัดทำความสะอาดบ้านเมืองเราเองจริงๆจังๆก่อน.

    ..ยิ้มสยามทั่วไทยเรา อันน่ารักๆจากใจทุกๆคนไทยจะกลับมาอีกบนฐานะที่ดีร่ำรวยมั่งคงกันทุกๆคน.

    https://vm.tiktok.com/ZSHcdQG4NQcDo-jo9du/

    กลิ่นไอของสิ่งที่ผ่านมา..ในแต่ะช่วงใครมัน ในความทรงจำดีๆของแต่ละคน. เรา..ประเทศไทยสบายมากที่จะดำรงผสมผสานความล้ำสมัยใดๆเข้ากับเราคนไทยได้อย่างลงตัว,ไม่สุดโด่งแบบเผด็จการคอมมิวนิสต์ ไม่อิสระจ๋าแบบประชาธิปไตยจอมปลอมของฝรั่งแต่ไส้ในอุบาทก์ชาติชั่วสุดๆเผด็จการโคตรๆไม่ต่างจากคอมมิวนิสต์ซึ่งทั้งสองอย่างอีลิทมันเองละคือเจ้าของหมด,ดูยุคโควิด19ฉีดตายได้เลยฝรั่งจ๋าบังคับฉีดคนภายในประเทศมันสุดๆเช่นกัน. ..อนาคตประเทศไทยเราจะล้ำทั้งทางจิตใจอันดีงามผู้นำทางพลังจิตพลังใจที่ดีงามจริงคู่ขนานAIได้อย่างลงตัวล้ำๆทางเทคโนโลยีนั้นเอง,แต่ต้องกวาดล้างและกำจัดทำความสะอาดบ้านเมืองเราเองจริงๆจังๆก่อน. ..ยิ้มสยามทั่วไทยเรา อันน่ารักๆจากใจทุกๆคนไทยจะกลับมาอีกบนฐานะที่ดีร่ำรวยมั่งคงกันทุกๆคน. https://vm.tiktok.com/ZSHcdQG4NQcDo-jo9du/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – สร้างฉากปฏิวัติ 1 – 3
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ”

    ตอน 1

    เดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1916 ประมาณ 1 ปี ก่อนการปฏิวัติอันโด่งดังของรัสเซีย Russian Revolution หรือ Bolshevik Revolution นาย Leon Trotsky ซึ่งตามประวัติศาสตร์ระบุว่า เขาเป็นหนึ่งในหัวหน้าคณะปฏิวัติ กำลังถูกไล่ให้ออกจากประเทศฝรั่งเศส สาเหตุจากบทความที่เขาเขียนลงใน Nashe Slovo หนังสือพิมพ์ภาษารัสเซีย ที่ออกจำหน่ายในฝรั่งเศส มันคงเร้าใจมากขนาดฝรั่งเศส ซึ่งคุ้นเคยกับการปฏิวัติโหดมาแล้ว ยังรับไม่ไหว ตำรวจฝรั่งเศสจึงจัดการส่งตัวนาย Trotsky ออกนอกประเทศ ไปทางเขตแดนด้านประเทศสเปน

    ไม่กี่วัน นายTrotsky ก็มาถึงเมืองมาดริด และถูกตำรวจที่เมืองมาดริด จับใส่ห้องขัง มันเป็นห้องขังประเภทชั้นพิเศษ first class cell ซึ่งต้องมีการจ่ายเงินค่าความพิเศษ ไม่เหมือนห้องขังทั่วไป แต่เหมือนโรงแรมมากกว่า นาย Trotsky นี่น่าจะเป็นผู้ต้องขัง ชนิดมีปลอกคอ จากนั้นก็มีการส่งตัวเขาต่อมายังเมืองบาร์เซโลนา เพื่อมาลงเรือเดินสมุทรของ Spanish Transatlantic Company ชื่อ Monserrat

    Trosky และครอบครัวนั่งเรือ Monserrat ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก มาขึ้นบกที่เมืองนิวยอร์ค เมื่อ วันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1917

    จากหนังสือชีวประวัติ ที่ Trosky เขียนเอง ชื่อ My Life คนมีปลอกคอ เล่าว่า ” อาชีพเดียวที่ผมทำ ตอนอยู่ที่นิวยอร์คคือ เป็นนักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม นอกเหนือจากการเขียนบทความเป็นครั้งคราว ลงในหนังสือพิมพ์ Novy Mir ของพวกสังคมนิยม ”

    แต่ระหว่างที่อยู่นิวยอร์ค เมืองของนายทุน Trosky นักสังคมนิยมและครอบครัว พักอยู่ในอพาร์ตเมนท์ ที่มีตู้เย็นและโทรศัพท์ ซึ่งถือว่าเป็นของหรูหรา ฟุ่มเฟือยอย่างมากในสมัยเมื่อ 100 ปีก่อน นอกจากนั้นครอบครัว Trotsky ยังเดินทาง ไปมาในเมืองนิวยอร์ค ด้วยรถยนต์ ที่มีคนขับรถประจำ

    นี่ใช่เรื่องของ Leon Trostky ซึ่งมีชื่อปรากฎในประวัติศาสตร์ว่า เป็นนักปฏิวัติสังคมนิยมคนดัง ของรัสเซีย แน่หรือ

    Trotsky เขียนเล่าถึงชีวิตเขาที่นิวยอร์ค ในชีวประวัติของเขาต่อไปว่า ” ระหว่างอยู่นิวยอร์ค ช่วงปี 1916 ถึง 1917 ผมมีรายได้เพียง 310 เหรียญ ซึ่งผมได้แจกเงินดังกล่าวทั้งหมดให้แก่คนรัสเซีย 5 คน ที่อยู่นิวยอร์ค เพื่อเป็นค่าเดินทางกลับบ้าน”

    ขณะเดียวกัน อพาร์ตเมนท์ที่เขาอยู่ ก็มีการจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 3 เดือน เขาต้องเลี้ยงดูเมีย 1 และลูกอีก 2 เขามีรถยนต์ใช้และมีคนขับรถประจำ นี่คือวิถีชีวิตของนักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม ที่อ้างว่าดำรงชีพ ด้วยการเขียนบทความลงหนังหนังสือพิมพ์เป็นครั้งคราว

    เรื่องราวของเขา คงไม่ตรงไปตรงมา อย่างที่เราเคยเข้าใจกัน หรือว่าพวกนักปฏิวัติ นักปฏิรูป เขาเป็นกันอย่างนี้ทั้งนั้น

    นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเงินสดจำนวน 1 หมื่นเหรียญ ที่นาย Trotsky พกติดตัวและถูกเจ้าหน้าที่ค้นพบ ระหว่างที่เขาถูกเจ้าหน้าที่แคนาดาจับ ในเดือนเมษายน 1917 ที่เมือง Halifax เมื่อ 100 ปีก่อน เงิน 1 หมื่นเหรียญ นี่เป็นเงินจำนวนไม่เล็กน้อยนะครับ นักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม เอาเงินจำนวนนี้มาจากไหนกัน
    มีข่าวลือว่า เงิน 1 หมื่นเหรียญนั้น มาจากเยอรมัน ข่าวนี้มาจากฝ่ายข่าวกรองของอังกฤษ ซึ่งรายงานว่า นาย Gregory Weinstein ซึ่งต่อมา เป็นสมาชิกที่โด่งดังของ Soviet Bureau ประจำนครนิวยอร์ค เป็นคนรับเงินมา และนำมาส่งให้นาย Trotsky ที่นิวยอร์ค เงินจำนวนนี้มาจากเยอรมัน โดยการฟอกผ่าน Volks-zeitung น.ส.พ. รายวันของเยอรมัน ที่รัฐบาลเยอรมันสนับสนุนอยู่

    ขณะที่มีข่าวว่า Trotsky ได้รับเงินอุดหนุนจากเยอรมัน Trotsky กลับเคลี่อนไหวอยู่ในอเมริกา ก่อนที่เขาจะเดินทางออกจากนิวยอร์ค ไปรัสเซีย….เพื่อไปทำการปฏิวัติ !

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ”

    ตอน 2

    วันที่ 5 มีนาคม 1917 หนังสือพิมพ์อเมริกัน พากันพาดหัวข่าวตัวโต ถึงความเป็นไปได้ ที่อเมริกาจะเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร เพื่อทำสงครามกับเยอรมัน คืนวันนั้นเอง Trotsky ก็ไปร่วมการชุมนุมของกลุ่มชาวสังคมนิยมในนิวยอร์คด้วย เขาพูดปลุกระดมให้ชาวสังคมนิยมในอเมริกา จัดการให้มีการนัดหยุดงาน และต่อต้านการเกณท์ทหาร หากอเมริกาจะเข้าร่วมทำสงครามต่อสู้กับเยอรมัน (ท่านผู้อ่านนิทาน คงพอจำกันได้ว่า ขณะที่ฝ่ายสัมพันธมิตร ที่นำโดยอังกฤษ ประกาศสงครามกับฝ่ายเยอรมัน ในปี 1914 นั้น อเมริกายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมสงครามด้วย และมีสถานะเป็นประเทศเป็นกลางอยู่หลายปี)

    หลังจากนั้นประมาณสัปดาห์กว่า ในวันที่ 16 มีนาคม 1917 ก็เกิดเหตุการณ์ใหญ่ในรัสเซีย ซาร์นิโคลัส ที่ 2 ถูกปฏิวัติให้ลงจากบัลลังก์ โดยกลุ่มนักปฏิวัติ ที่นำโดยนาย Aleksandre Kerensky หนังสือพิมพ์ Novy Mir ได้มาขอสัมภาษณ์ Leon Trotsky ซึ่งให้ความเห็นไว้เหมือนคนรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่า

    “คณะผู้บริหาร ที่ตั้งขึ้นมาทำหน้าที่แทนพวกซาร์ ที่ถูกปฏิวัติไปนั้น ไม่ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มผลประโยชน์ หรือทำตามวัตถุประสงค์ ของพวกที่ต้องการปฏิวัติ คณะผู้บริหารนี้คงอยู่ไม่นานหรอก อีกหน่อยก็คงลาออกไป เพื่อให้กลุ่มคนที่สามารถจะนำพารัสเซียไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย มาทำหน้าที่ต่อไป…”

    กลุ่มคนที่สามารถนำพารัสเซียไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย ในความหมายของ Trotsky คือ พวก Bolsheviks และ Menshevik ซึ่งกำลังลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ และกำลังรีบเร่งเดินทางกลับรัส เซีย ส่วนคณะผู้บริหารนั้น หมายถึง รัฐบาลเฉพาะกาล Provisional Government ของกลุ่มนาย Aleksandr Kerensky ที่ทำการปฏิวัติในวันที่ 16 มีนาคม คศ 1917
    แล้วนาย Trotsky ก็ออกเดินทางจากนครนิวยอร์ค เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 1917 ด้วยเรือเดินสมุทรชื่อ S S Kristainiafjord เขาผ่านด่านตรวจ ขึ้นเรือดังกล่าวด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา เขาเดินทางพร้อมพรรคพวกอีกหลายคน เพื่อจะไปทำการปฏิวัติ นอกจากนี้ ยังมีนักการเงินจากวอลสตรีท คอมมิวนิสต์สัญชาติอเมริกัน และบุคคลน่าสนใจอีกหลายคน ร่วมเดินทางไปกับนาย Trotsky ด้วย

    นาย Trotsky เอาพาสปอร์ตของอเมริกามาจากไหน

    นาย Jennings C. Wise เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง “Woodlow Wilson : Disciple Revolution” ว่า นักประวัติศาสตร์จะต้องไม่ลืมว่า ประธานาธิบดีของอเมริกา นาย Woodlow Wilson เป็นนางฟ้า ที่มาเศกให้นาย Leon Trotsky เดินทางเข้ารัสเซียได้สำเร็จ ด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา แม้ว่าจะมีการพยายามขัดขวางโดยตำรวจอังกฤษก็ตาม”

    คงเกินกว่าที่เราจะคาดคิดว่า ประธานาธิบดี Wilson เป็นนางฟ้ามาเศกให้นาย Trotsky ได้ถือพาสปอร์ตที่ออกโดยอเมริกา เพื่อเดินทางกลับไปรัสเซีย และไปดำเนินการปฏิวัติต่อให้สำเร็จ (ตามเป้าหมาย!?) และเป็นพาสปอร์ตของอเมริกา ที่สามารถผ่านเข้าออกได้ทุกด่านของอเมริกา รวมทั้งมีวีซ่าอนุญาตให้เข้าประเทศอังกฤษอีกด้วย

    นางฟ้าทำได้ทุกอย่างจริงๆ ตั้งแต่สมัยนั้น จนถึงเดี๋ยวนี่ แต่ควรจะเรียกว่าเป็นนางฟ้า หรือไม่ อ่านนิทานต่อไปเรื่อยๆ คนอ่านนิทาน คงนึกออกว่าควรจะเรียกว่าอะไร

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ”

    ตอน 3

    ส่วนผสมของผู้โดยสาร ที่เดินทางไปในเรือ S S Kristainiafjord ได้ถูกบันทึกไว้โดยนาย Lincoln Steffens คอมมิวนิสต์ชาวอเมริกัน ดังนี้:

    “…รายชื่อผู้โดยสารยาวเหยียด และดูลึกลับน่าสนใจ แน่นอน Trotsky แสดงตัวเป็นหัวหน้ากลุ่มนักปฏิวัติ มีนักปฎิวัติชาวญี่ปุ่น นอนเคบินเดียวกับผม มีชาวดัชท์หลายคนที่รีบร้อนกลับเมืองชะวา พวกนี้ดูจะเป็นกลุ่มเดียวที่ไม่เกี่ยวโยงกับใคร ที่เหลือดูเหมือนจะเป็นผู้ที่เกี่ยวโยงกับสงครามโลกที่กำลังเกิดขึ้น นอกจากนี้ มีพวกนักการเงินวอลสตรีท 2 คน มุ่งหน้าไปเยอรมัน.. ”
    นาย Steffens เองนั้น โดยสารไปในเรือเดินสมุทร โดยคำเชิญของ นาย Charles R Crane เจ้าของกระเป๋าทุนใบใหญ่ที่สนับสนุน ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ในการสมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

    นาย Crane นั้น เป็นรองประธานบริษัท Crane Company ซึ่งภายหลัง เป็นคนไปตั้งบริษัท Westinghouse สาขารัสเซีย หลังการปฏิวัติของรัสเซียรอบที่กลุ่ม Bolsheviks เป็นผู้ปฎิบัติการสำเร็จเรียบร้อย นาย Crane ยังเป็นหนึ่งในกรรมาธิการ Root Mission ที่ประธานาธิบดี Wilson ส่งไปสำรวจรัสเซียทุกตารางนิ้ว หลังการปฏิวัติอีกด้วย

    นาย Crane เดินทางไปรัสเซียในระหว่างช่วงปี ค.ศ.1890 ถึง 1930 ประมาณ 23 ครั้ง ลูกชายของเขา Richard Crane เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างเทศ ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างมาก ของนาย Robert Lansing รัฐมนตรีต่างเทศของอเมริกาขณะนั้น

    นาย William Dodd อดีตทูตอเมริกันประจำเยอรมัน พูดถึงนาย Crane ว่า เป็นผู้มีส่วนอย่างมาก ที่ทำให้การปฏิวัติในรัสเซียเมื่อเดือนมีนาคม โดยกลุ่มของ Aleksandr Kerensky กลายเป็นการปฏิวัติชั่วคราว ที่นำร่อง เปิดทางให้กับการปฏิวัติของจริง ที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ในปีเดียวกัน

    นาย Steffens ได้บันทึกการสนทนา ที่เขาได้ยินระหว่างการเดินทางในเรือเดินสมุทรไว้ว่า “…. ดูเหมือนทุกคนจะเห็นพ้องกันว่า การปฏิวัติที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม (โดย Aleksandr Kerensky) เป็นเพียงขั้นตอนแรกเท่านั้นเอง มันจะต้องมีตอนต่อไป Crane และพวกรัสเซียหัวก้าวหน้าที่อยู่ในเรือ คิดว่าพวกที่กำลังเดินทางจะไปเมือง Petrograd (ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นเมือง St Petersberg ) เพื่อไปทำการปฏิวัติซ้ำ…”

    เมื่อนาย Crane กลับมาอเมริกาในเดือนธันวาคม 1917 หลังจากการปฏิวัติบอลเชวิก Bolsheviks Revolution (หรือการปฏิวัติซ้ำ นั่นแหละ) สำเร็จเรียบร้อยแล้ว นาย Crane ก็ได้รับโทรเลข ลงวันที่ 11 ธันวาคม 1917 จากกระทรวงต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าโดย นาย Maddin Summers กงสุลอเมริกันประจำกรุงมอสโคว์ พร้อมจดหมายปะหน้าจากนาย Summers ว่า

    ” กระผม ขออนุญาตนำเสนอรายงานที่แนบมา นี้ และสำเนาอีกหนึ่งฉบับ โดยขอให้กระทรวงฯ ได้โปรดนำส่งให้ นาย Charles Crane เพื่อทราบความคืบหน้าด้วย หวังว่าทางกระทรวงคงไม่ขัดข้อง ที่จะให้นาย Crane ได้เห็นรายงาน….”

    สำหรับท่านผู้อ่านนิทานเรื่องจริง เรื่องเหยื่อ คงพอจำชื่อนี้ได้ เขาคือ นาย Crane คนเดียวกันกับ เจ้าของรายงาน King Crane Report ที่ไปเดินสำรวจตะวันออกกลาง เพื่อทำประชามติว่า ชาวอาหรับต้องการจะอยู่ในความปกครอง ของใคร หลังจากถูกอังกฤษหลอก โดยให้สายลับ ที่เรารู้จักกันในนาม Lawrence of Arabia เป็นผู้นำชาวอาหรับ ไปรบกับตุรกี และยึดหลายเมืองในตะวันออกกลางได้
    และเป็นนาย Crane คนเดียวกัน ที่สามารถจับมือให้กษัตริย์ซาอุดิอารเบีย ตัดสินใจเปิดประตูเมืองครั้งแรก และให้สัมปทานน้ำมันแก่อเมริกา เริ่มศักราช Petro Dollar ร่วมกันรวย ช่วยกันปั่น มาจนถึงทุกวันนี้

    พอเห็นเค้าแล้วนะครับ ว่านิทานเรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    23 เม.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – สร้างฉากปฏิวัติ 1 – 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ” ตอน 1 เดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1916 ประมาณ 1 ปี ก่อนการปฏิวัติอันโด่งดังของรัสเซีย Russian Revolution หรือ Bolshevik Revolution นาย Leon Trotsky ซึ่งตามประวัติศาสตร์ระบุว่า เขาเป็นหนึ่งในหัวหน้าคณะปฏิวัติ กำลังถูกไล่ให้ออกจากประเทศฝรั่งเศส สาเหตุจากบทความที่เขาเขียนลงใน Nashe Slovo หนังสือพิมพ์ภาษารัสเซีย ที่ออกจำหน่ายในฝรั่งเศส มันคงเร้าใจมากขนาดฝรั่งเศส ซึ่งคุ้นเคยกับการปฏิวัติโหดมาแล้ว ยังรับไม่ไหว ตำรวจฝรั่งเศสจึงจัดการส่งตัวนาย Trotsky ออกนอกประเทศ ไปทางเขตแดนด้านประเทศสเปน ไม่กี่วัน นายTrotsky ก็มาถึงเมืองมาดริด และถูกตำรวจที่เมืองมาดริด จับใส่ห้องขัง มันเป็นห้องขังประเภทชั้นพิเศษ first class cell ซึ่งต้องมีการจ่ายเงินค่าความพิเศษ ไม่เหมือนห้องขังทั่วไป แต่เหมือนโรงแรมมากกว่า นาย Trotsky นี่น่าจะเป็นผู้ต้องขัง ชนิดมีปลอกคอ จากนั้นก็มีการส่งตัวเขาต่อมายังเมืองบาร์เซโลนา เพื่อมาลงเรือเดินสมุทรของ Spanish Transatlantic Company ชื่อ Monserrat Trosky และครอบครัวนั่งเรือ Monserrat ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก มาขึ้นบกที่เมืองนิวยอร์ค เมื่อ วันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1917 จากหนังสือชีวประวัติ ที่ Trosky เขียนเอง ชื่อ My Life คนมีปลอกคอ เล่าว่า ” อาชีพเดียวที่ผมทำ ตอนอยู่ที่นิวยอร์คคือ เป็นนักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม นอกเหนือจากการเขียนบทความเป็นครั้งคราว ลงในหนังสือพิมพ์ Novy Mir ของพวกสังคมนิยม ” แต่ระหว่างที่อยู่นิวยอร์ค เมืองของนายทุน Trosky นักสังคมนิยมและครอบครัว พักอยู่ในอพาร์ตเมนท์ ที่มีตู้เย็นและโทรศัพท์ ซึ่งถือว่าเป็นของหรูหรา ฟุ่มเฟือยอย่างมากในสมัยเมื่อ 100 ปีก่อน นอกจากนั้นครอบครัว Trotsky ยังเดินทาง ไปมาในเมืองนิวยอร์ค ด้วยรถยนต์ ที่มีคนขับรถประจำ นี่ใช่เรื่องของ Leon Trostky ซึ่งมีชื่อปรากฎในประวัติศาสตร์ว่า เป็นนักปฏิวัติสังคมนิยมคนดัง ของรัสเซีย แน่หรือ Trotsky เขียนเล่าถึงชีวิตเขาที่นิวยอร์ค ในชีวประวัติของเขาต่อไปว่า ” ระหว่างอยู่นิวยอร์ค ช่วงปี 1916 ถึง 1917 ผมมีรายได้เพียง 310 เหรียญ ซึ่งผมได้แจกเงินดังกล่าวทั้งหมดให้แก่คนรัสเซีย 5 คน ที่อยู่นิวยอร์ค เพื่อเป็นค่าเดินทางกลับบ้าน” ขณะเดียวกัน อพาร์ตเมนท์ที่เขาอยู่ ก็มีการจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 3 เดือน เขาต้องเลี้ยงดูเมีย 1 และลูกอีก 2 เขามีรถยนต์ใช้และมีคนขับรถประจำ นี่คือวิถีชีวิตของนักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม ที่อ้างว่าดำรงชีพ ด้วยการเขียนบทความลงหนังหนังสือพิมพ์เป็นครั้งคราว เรื่องราวของเขา คงไม่ตรงไปตรงมา อย่างที่เราเคยเข้าใจกัน หรือว่าพวกนักปฏิวัติ นักปฏิรูป เขาเป็นกันอย่างนี้ทั้งนั้น นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเงินสดจำนวน 1 หมื่นเหรียญ ที่นาย Trotsky พกติดตัวและถูกเจ้าหน้าที่ค้นพบ ระหว่างที่เขาถูกเจ้าหน้าที่แคนาดาจับ ในเดือนเมษายน 1917 ที่เมือง Halifax เมื่อ 100 ปีก่อน เงิน 1 หมื่นเหรียญ นี่เป็นเงินจำนวนไม่เล็กน้อยนะครับ นักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม เอาเงินจำนวนนี้มาจากไหนกัน มีข่าวลือว่า เงิน 1 หมื่นเหรียญนั้น มาจากเยอรมัน ข่าวนี้มาจากฝ่ายข่าวกรองของอังกฤษ ซึ่งรายงานว่า นาย Gregory Weinstein ซึ่งต่อมา เป็นสมาชิกที่โด่งดังของ Soviet Bureau ประจำนครนิวยอร์ค เป็นคนรับเงินมา และนำมาส่งให้นาย Trotsky ที่นิวยอร์ค เงินจำนวนนี้มาจากเยอรมัน โดยการฟอกผ่าน Volks-zeitung น.ส.พ. รายวันของเยอรมัน ที่รัฐบาลเยอรมันสนับสนุนอยู่ ขณะที่มีข่าวว่า Trotsky ได้รับเงินอุดหนุนจากเยอรมัน Trotsky กลับเคลี่อนไหวอยู่ในอเมริกา ก่อนที่เขาจะเดินทางออกจากนิวยอร์ค ไปรัสเซีย….เพื่อไปทำการปฏิวัติ ! นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ” ตอน 2 วันที่ 5 มีนาคม 1917 หนังสือพิมพ์อเมริกัน พากันพาดหัวข่าวตัวโต ถึงความเป็นไปได้ ที่อเมริกาจะเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร เพื่อทำสงครามกับเยอรมัน คืนวันนั้นเอง Trotsky ก็ไปร่วมการชุมนุมของกลุ่มชาวสังคมนิยมในนิวยอร์คด้วย เขาพูดปลุกระดมให้ชาวสังคมนิยมในอเมริกา จัดการให้มีการนัดหยุดงาน และต่อต้านการเกณท์ทหาร หากอเมริกาจะเข้าร่วมทำสงครามต่อสู้กับเยอรมัน (ท่านผู้อ่านนิทาน คงพอจำกันได้ว่า ขณะที่ฝ่ายสัมพันธมิตร ที่นำโดยอังกฤษ ประกาศสงครามกับฝ่ายเยอรมัน ในปี 1914 นั้น อเมริกายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมสงครามด้วย และมีสถานะเป็นประเทศเป็นกลางอยู่หลายปี) หลังจากนั้นประมาณสัปดาห์กว่า ในวันที่ 16 มีนาคม 1917 ก็เกิดเหตุการณ์ใหญ่ในรัสเซีย ซาร์นิโคลัส ที่ 2 ถูกปฏิวัติให้ลงจากบัลลังก์ โดยกลุ่มนักปฏิวัติ ที่นำโดยนาย Aleksandre Kerensky หนังสือพิมพ์ Novy Mir ได้มาขอสัมภาษณ์ Leon Trotsky ซึ่งให้ความเห็นไว้เหมือนคนรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่า “คณะผู้บริหาร ที่ตั้งขึ้นมาทำหน้าที่แทนพวกซาร์ ที่ถูกปฏิวัติไปนั้น ไม่ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มผลประโยชน์ หรือทำตามวัตถุประสงค์ ของพวกที่ต้องการปฏิวัติ คณะผู้บริหารนี้คงอยู่ไม่นานหรอก อีกหน่อยก็คงลาออกไป เพื่อให้กลุ่มคนที่สามารถจะนำพารัสเซียไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย มาทำหน้าที่ต่อไป…” กลุ่มคนที่สามารถนำพารัสเซียไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย ในความหมายของ Trotsky คือ พวก Bolsheviks และ Menshevik ซึ่งกำลังลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ และกำลังรีบเร่งเดินทางกลับรัส เซีย ส่วนคณะผู้บริหารนั้น หมายถึง รัฐบาลเฉพาะกาล Provisional Government ของกลุ่มนาย Aleksandr Kerensky ที่ทำการปฏิวัติในวันที่ 16 มีนาคม คศ 1917 แล้วนาย Trotsky ก็ออกเดินทางจากนครนิวยอร์ค เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 1917 ด้วยเรือเดินสมุทรชื่อ S S Kristainiafjord เขาผ่านด่านตรวจ ขึ้นเรือดังกล่าวด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา เขาเดินทางพร้อมพรรคพวกอีกหลายคน เพื่อจะไปทำการปฏิวัติ นอกจากนี้ ยังมีนักการเงินจากวอลสตรีท คอมมิวนิสต์สัญชาติอเมริกัน และบุคคลน่าสนใจอีกหลายคน ร่วมเดินทางไปกับนาย Trotsky ด้วย นาย Trotsky เอาพาสปอร์ตของอเมริกามาจากไหน นาย Jennings C. Wise เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง “Woodlow Wilson : Disciple Revolution” ว่า นักประวัติศาสตร์จะต้องไม่ลืมว่า ประธานาธิบดีของอเมริกา นาย Woodlow Wilson เป็นนางฟ้า ที่มาเศกให้นาย Leon Trotsky เดินทางเข้ารัสเซียได้สำเร็จ ด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา แม้ว่าจะมีการพยายามขัดขวางโดยตำรวจอังกฤษก็ตาม” คงเกินกว่าที่เราจะคาดคิดว่า ประธานาธิบดี Wilson เป็นนางฟ้ามาเศกให้นาย Trotsky ได้ถือพาสปอร์ตที่ออกโดยอเมริกา เพื่อเดินทางกลับไปรัสเซีย และไปดำเนินการปฏิวัติต่อให้สำเร็จ (ตามเป้าหมาย!?) และเป็นพาสปอร์ตของอเมริกา ที่สามารถผ่านเข้าออกได้ทุกด่านของอเมริกา รวมทั้งมีวีซ่าอนุญาตให้เข้าประเทศอังกฤษอีกด้วย นางฟ้าทำได้ทุกอย่างจริงๆ ตั้งแต่สมัยนั้น จนถึงเดี๋ยวนี่ แต่ควรจะเรียกว่าเป็นนางฟ้า หรือไม่ อ่านนิทานต่อไปเรื่อยๆ คนอ่านนิทาน คงนึกออกว่าควรจะเรียกว่าอะไร นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ” ตอน 3 ส่วนผสมของผู้โดยสาร ที่เดินทางไปในเรือ S S Kristainiafjord ได้ถูกบันทึกไว้โดยนาย Lincoln Steffens คอมมิวนิสต์ชาวอเมริกัน ดังนี้: “…รายชื่อผู้โดยสารยาวเหยียด และดูลึกลับน่าสนใจ แน่นอน Trotsky แสดงตัวเป็นหัวหน้ากลุ่มนักปฏิวัติ มีนักปฎิวัติชาวญี่ปุ่น นอนเคบินเดียวกับผม มีชาวดัชท์หลายคนที่รีบร้อนกลับเมืองชะวา พวกนี้ดูจะเป็นกลุ่มเดียวที่ไม่เกี่ยวโยงกับใคร ที่เหลือดูเหมือนจะเป็นผู้ที่เกี่ยวโยงกับสงครามโลกที่กำลังเกิดขึ้น นอกจากนี้ มีพวกนักการเงินวอลสตรีท 2 คน มุ่งหน้าไปเยอรมัน.. ” นาย Steffens เองนั้น โดยสารไปในเรือเดินสมุทร โดยคำเชิญของ นาย Charles R Crane เจ้าของกระเป๋าทุนใบใหญ่ที่สนับสนุน ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ในการสมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี นาย Crane นั้น เป็นรองประธานบริษัท Crane Company ซึ่งภายหลัง เป็นคนไปตั้งบริษัท Westinghouse สาขารัสเซีย หลังการปฏิวัติของรัสเซียรอบที่กลุ่ม Bolsheviks เป็นผู้ปฎิบัติการสำเร็จเรียบร้อย นาย Crane ยังเป็นหนึ่งในกรรมาธิการ Root Mission ที่ประธานาธิบดี Wilson ส่งไปสำรวจรัสเซียทุกตารางนิ้ว หลังการปฏิวัติอีกด้วย นาย Crane เดินทางไปรัสเซียในระหว่างช่วงปี ค.ศ.1890 ถึง 1930 ประมาณ 23 ครั้ง ลูกชายของเขา Richard Crane เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างเทศ ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างมาก ของนาย Robert Lansing รัฐมนตรีต่างเทศของอเมริกาขณะนั้น นาย William Dodd อดีตทูตอเมริกันประจำเยอรมัน พูดถึงนาย Crane ว่า เป็นผู้มีส่วนอย่างมาก ที่ทำให้การปฏิวัติในรัสเซียเมื่อเดือนมีนาคม โดยกลุ่มของ Aleksandr Kerensky กลายเป็นการปฏิวัติชั่วคราว ที่นำร่อง เปิดทางให้กับการปฏิวัติของจริง ที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ในปีเดียวกัน นาย Steffens ได้บันทึกการสนทนา ที่เขาได้ยินระหว่างการเดินทางในเรือเดินสมุทรไว้ว่า “…. ดูเหมือนทุกคนจะเห็นพ้องกันว่า การปฏิวัติที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม (โดย Aleksandr Kerensky) เป็นเพียงขั้นตอนแรกเท่านั้นเอง มันจะต้องมีตอนต่อไป Crane และพวกรัสเซียหัวก้าวหน้าที่อยู่ในเรือ คิดว่าพวกที่กำลังเดินทางจะไปเมือง Petrograd (ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นเมือง St Petersberg ) เพื่อไปทำการปฏิวัติซ้ำ…” เมื่อนาย Crane กลับมาอเมริกาในเดือนธันวาคม 1917 หลังจากการปฏิวัติบอลเชวิก Bolsheviks Revolution (หรือการปฏิวัติซ้ำ นั่นแหละ) สำเร็จเรียบร้อยแล้ว นาย Crane ก็ได้รับโทรเลข ลงวันที่ 11 ธันวาคม 1917 จากกระทรวงต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าโดย นาย Maddin Summers กงสุลอเมริกันประจำกรุงมอสโคว์ พร้อมจดหมายปะหน้าจากนาย Summers ว่า ” กระผม ขออนุญาตนำเสนอรายงานที่แนบมา นี้ และสำเนาอีกหนึ่งฉบับ โดยขอให้กระทรวงฯ ได้โปรดนำส่งให้ นาย Charles Crane เพื่อทราบความคืบหน้าด้วย หวังว่าทางกระทรวงคงไม่ขัดข้อง ที่จะให้นาย Crane ได้เห็นรายงาน….” สำหรับท่านผู้อ่านนิทานเรื่องจริง เรื่องเหยื่อ คงพอจำชื่อนี้ได้ เขาคือ นาย Crane คนเดียวกันกับ เจ้าของรายงาน King Crane Report ที่ไปเดินสำรวจตะวันออกกลาง เพื่อทำประชามติว่า ชาวอาหรับต้องการจะอยู่ในความปกครอง ของใคร หลังจากถูกอังกฤษหลอก โดยให้สายลับ ที่เรารู้จักกันในนาม Lawrence of Arabia เป็นผู้นำชาวอาหรับ ไปรบกับตุรกี และยึดหลายเมืองในตะวันออกกลางได้ และเป็นนาย Crane คนเดียวกัน ที่สามารถจับมือให้กษัตริย์ซาอุดิอารเบีย ตัดสินใจเปิดประตูเมืองครั้งแรก และให้สัมปทานน้ำมันแก่อเมริกา เริ่มศักราช Petro Dollar ร่วมกันรวย ช่วยกันปั่น มาจนถึงทุกวันนี้ พอเห็นเค้าแล้วนะครับ ว่านิทานเรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 23 เม.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 670 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนประกาศแผน 5 ปีใหม่ มุ่งพึ่งพาตนเองด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI พร้อมกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ

    จีนกำลังวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวฉบับใหม่ (ปี 2026–2030) โดยเน้นการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจในยุคใหม่ แผนนี้ถูกผลักดันโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน และมีเป้าหมายเพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากการพึ่งพาการส่งออกและผลกระทบจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ

    จีนต้องการเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจจากการพึ่งพาการส่งออก มาเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยจะเพิ่มความมั่นคงทางการเงินให้ประชาชนผ่านการปรับปรุงระบบประกันสังคมและสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้ประชาชนกล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

    ในด้านเทคโนโลยี รัฐบาลจะสนับสนุนการผลิตภายในประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และ AI ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของแผนนี้ พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ เช่น การบิน การขนส่ง และอินเทอร์เน็ต เพื่อสร้าง “พลังการผลิตคุณภาพใหม่” ที่จะผลักดันเศรษฐกิจจีนให้เติบโตอย่างมั่นคง

    แผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปีใหม่ของจีน (2026–2030)
    เน้นการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์และ AI
    ผลักดัน “พลังการผลิตคุณภาพใหม่” เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยุคใหม่
    รับมือกับความเสี่ยงจากการพึ่งพาการส่งออกและสงครามการค้ากับสหรัฐฯ

    การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ
    ลดสัดส่วนการพึ่งพาการส่งออก ซึ่งเคยสูงสุดในปี 2024
    กระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศที่ยังต่ำกว่า 40% ของ GDP
    ปรับปรุงระบบประกันสังคมและสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์
    เพิ่มความมั่นคงทางการเงินให้ประชาชนเพื่อกระตุ้นการบริโภค

    ผลกระทบต่อภาคเทคโนโลยี
    บริษัทเทคโนโลยีจีนจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
    ความต้องการภายในประเทศจะเพิ่มขึ้นจากการกระตุ้นการใช้จ่าย
    การพัฒนาเทคโนโลยีภายในจะช่วยลดการพึ่งพาตะวันตก

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    การเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจต้องใช้เวลาและอาจกระทบการเติบโตระยะสั้น
    การพัฒนาเทคโนโลยีภายในอาจเผชิญกับข้อจำกัดด้านทรัพยากรและความเชี่ยวชาญ
    ความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
    การกระตุ้นการใช้จ่ายอาจไม่สำเร็จหากประชาชนยังขาดความมั่นใจ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-seeks-semiconductor-and-ai-self-reliance-in-ambitious-new-5-year-plan-beijing-also-wants-to-increase-domestic-spending-and-reduce-reliance-on-exports
    🇨🇳 จีนประกาศแผน 5 ปีใหม่ มุ่งพึ่งพาตนเองด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI พร้อมกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ จีนกำลังวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวฉบับใหม่ (ปี 2026–2030) โดยเน้นการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจในยุคใหม่ แผนนี้ถูกผลักดันโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน และมีเป้าหมายเพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากการพึ่งพาการส่งออกและผลกระทบจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ จีนต้องการเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจจากการพึ่งพาการส่งออก มาเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยจะเพิ่มความมั่นคงทางการเงินให้ประชาชนผ่านการปรับปรุงระบบประกันสังคมและสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้ประชาชนกล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ในด้านเทคโนโลยี รัฐบาลจะสนับสนุนการผลิตภายในประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และ AI ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของแผนนี้ พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ เช่น การบิน การขนส่ง และอินเทอร์เน็ต เพื่อสร้าง “พลังการผลิตคุณภาพใหม่” ที่จะผลักดันเศรษฐกิจจีนให้เติบโตอย่างมั่นคง ✅ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปีใหม่ของจีน (2026–2030) ➡️ เน้นการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์และ AI ➡️ ผลักดัน “พลังการผลิตคุณภาพใหม่” เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยุคใหม่ ➡️ รับมือกับความเสี่ยงจากการพึ่งพาการส่งออกและสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ✅ การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ➡️ ลดสัดส่วนการพึ่งพาการส่งออก ซึ่งเคยสูงสุดในปี 2024 ➡️ กระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศที่ยังต่ำกว่า 40% ของ GDP ➡️ ปรับปรุงระบบประกันสังคมและสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ ➡️ เพิ่มความมั่นคงทางการเงินให้ประชาชนเพื่อกระตุ้นการบริโภค ✅ ผลกระทบต่อภาคเทคโนโลยี ➡️ บริษัทเทคโนโลยีจีนจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ➡️ ความต้องการภายในประเทศจะเพิ่มขึ้นจากการกระตุ้นการใช้จ่าย ➡️ การพัฒนาเทคโนโลยีภายในจะช่วยลดการพึ่งพาตะวันตก ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ การเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจต้องใช้เวลาและอาจกระทบการเติบโตระยะสั้น ⛔ การพัฒนาเทคโนโลยีภายในอาจเผชิญกับข้อจำกัดด้านทรัพยากรและความเชี่ยวชาญ ⛔ ความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ⛔ การกระตุ้นการใช้จ่ายอาจไม่สำเร็จหากประชาชนยังขาดความมั่นใจ https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-seeks-semiconductor-and-ai-self-reliance-in-ambitious-new-5-year-plan-beijing-also-wants-to-increase-domestic-spending-and-reduce-reliance-on-exports
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • พฤติกรรมกระทรวงการต่างประเทศไทยและอดีตรัฐบาลที่ผ่านๆมาไม่เคยทวงคืนดินแดนและอธิปไตยไทยตรงจุดนี้อย่างจริงจังเลย.
    ..การเมืองในรูปแบบปกตินี้คือรัฐบาลยุคปัจจุบันถือว่าไร้ฝีมือและศักยภาพทั้งหมด ทำไปทำมาตัวพ่อเหมือนกันที่บัดสบกับเขมรเหี้ยนี้ด้วย,ไปยอมรับ1:200,000ตามเขมรในmou43,44อีก,ไปร่วมเจรจากับอาชญากรสงครามที่จงใจยิงระเบิดฆ่าเด็กๆฆ่าประชาชนคนไทยอีก,ไร้จิตสำนึกจัดการอาชญากรแบบเขมรชัดเจน,มีกลิ่นเน่าเหม็นกับเขมรด้วย,เกาหลีใต้ยังแสดงบทบาทชัดเจน,รัฐบาลชุดนี้ถือว่าเทา ไม่บริสุทธิ์สมควรยุบอำนาจตนไปสะ.,อย่าถ่วงความถูกต้องดีงามและความเจริญของคนไทยเลย,ต้องพักงานภาคการเมืองของนักการเมืองทั้งหมดถือว่าสอบตกทั้งระบบในการดูแลปกครองประเทศไทยตัังแต่ปี2475มาถึงปัจจุบัน,สมบัติชาติเอย ทรัพยากรมีค่ามากมายทั่วประเทศล้วนตกไปในมือของประเทศต่างชาติและเอกชนต่างชาติหมด,เอกชนไทยก็เลวชั่วผูกขาดความมั่งคั่งร่ำรวยไปกับต่างชาติด้วย ตย.ชัดเจนคือบ่อน้ำมันและบ่อทองคำบนแผ่นดินไทย เรา..ประเทศไทยถูกพวกมันยึดครองหมด.,ทหารเลวชั่วไร้จิตสำนึกก็ทำชั่วเลวกับมันด้วย,ไม่แน่คือพวกอำมาตย์คณะกบฎ2475นี้ล่ะ.,ที่สืบทอดความอัปรีย์บัดสบถึงปัจจุบัน,เรา..ประชาชนคนไทยไม่ต้องการระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์และก็ไม่ต้องการระบบคอมมิวนิสต์เผด็จการแบบจีนด้วยเช่นกันหรือระบบประชาธิปไตยส่งออกปลอมๆของฝรั่งเหมือนกันดั่งในปัจจุบันนี้,ระบบประชาธิปไตยของนายทุน อำนวยเอื้อนายทุนชัดเจนกว่าเป็นประโยชน์ของประชาชน,เรา..ประเทศไทยต้องออกแบบระบบปกครองเราใหม่จริงๆ,ระบบธรรมาธิปไตย ธรรมะจักรวาลสมควรเป็นต้นแบบของโลกบนแผ่นดินไทยเรานี้,ประชาชนเป็นกษัตริย์ปกครองโลกใบนี้ร่วมกัน มีหัวหน้ากษัตริย์ที่ทรงธรรมนำพาปกครองโลกนี้ ย่อมาคือประเทศไทยเรา,คุณสมบัติ ถ้าวิชาไม่มี บรรลุหยั่งเห็นในธรรม ในวิชาคุณวิเศษทางธรรม อย่าลิมาขึ้นนำพาปกครองประเทศ ตาทิพย์หูทิพย์อ่านจิตอ่านใจประชาชนต้องได้คุณนี้ แสดงว่าดีจริงจึงผ่านคุณวิชานี้ได้,รู้สมควรชอบดีชั่วงามจึงผ่านวิชานี้ได้และได้ครองวิชานี้เบื้องต้น,เพราะเมื่อขึ้นปกครอง จะนำพาประชาชนมีวิชานี้ยิ่งๆขึ้นไปด้วย มีหูทิพย์ตาทิพย์อ่านใจทางทิพย์ มนุษย์เราจะเคารพกันบนพื้นฐานแห่งธรรมทันที ธรรมจะปกครองควบคุมเรากันเองทั่วโลก,โลกจะเต็มด้วยแสงสว่างแห่งธรรม การก้าวล่วงในทางชั่วเลวแก่กันและกันจะไม่มีในหมู่มนุษย์โลกเราใบนี้ทันที,มารเลวชั่วเข้ามาในโลก มวลชาวโลกก็พร้อมสามัคคีพลังจิตพลังใจร่วมต่อสู้ได้สบาย,สันติสุขจะเกิดจริงแก่ทุกๆคน,ปัจจุบันผู้นำผู้ปกครองโลกไม่มีสิ่งนี้เลย ไม่สมควรเป็นผู้นำประเทศนั้นๆทั้งหมดหากหยิบตรงจุดนี้มาพิจารณากันจริงๆ ล้วนขาดคุณสมบัติ การปกครองจึงเลว เป็นผีเป็นครึ่งอสูร ,เรา..ประชาชนต้องสร้างมาตราฐานนี้,การเมืองไทยจึงยิ่งยุบไป มีแต่พวกชั่วเลวละโมบโลภในอำนาจอยากมีอำนาจเพื่อให้ตนและพวกพ้องเลวมีทางหาแดกทางชั่วเลวและสะดวกผ่านระบบกฎหมายที่ตนเขียนขึ้นเองแบบกฎหมายลักษณะต่างๆเช่นผีบ้ากฎหมายปิโตรเลียม ลามไปmou43,44สดๆร้อนๆในแบบปัจจุบันที่ร่วมกันขายชาติขายแผ่นดินในทางชั่วเลวโดยกระทรวงการต่างประเทศไทยล้วนเห็นตำจาลึกทุกๆรายละเอียดหมดล่ะ เสือก1:200,000ก็ชัดเจนว่าเสียดินแดนให้เขมรแน่นอนยังเสือกจะไปเจรจามันอีก,สรุป ยึดทรัพย์สินพวกเกี่ยวข้องกับmou43,44นี้ทั้งหมดก่อน ใครดำเนินการร่วมในเรื่องmouยึดทรัพย์สินเงินทองไว้ก่อนหมด มาแจ้งพิสูจน์ทรัพย์สินที่ได้มาอย่างบริสุทธิ์นั้นทีหลัง,หากเงินทองทรัพย์สินใดแจ้งที่มาที่ไปไม่ได้ จะถูกยึดและอายัดทันที,พวกจะเปิดด่านเอย ออกมาปกป้องให้ใช้mou43,44ใช้1:200,000ต้องยึดทรัยพ์สินเงินทองก่อนทั้งหมดคือชุดแรกทันที

    https://youtube.com/shorts/9nzZrC1cL2Q?si=XnZf_AE0IMY4_AEk
    พฤติกรรมกระทรวงการต่างประเทศไทยและอดีตรัฐบาลที่ผ่านๆมาไม่เคยทวงคืนดินแดนและอธิปไตยไทยตรงจุดนี้อย่างจริงจังเลย. ..การเมืองในรูปแบบปกตินี้คือรัฐบาลยุคปัจจุบันถือว่าไร้ฝีมือและศักยภาพทั้งหมด ทำไปทำมาตัวพ่อเหมือนกันที่บัดสบกับเขมรเหี้ยนี้ด้วย,ไปยอมรับ1:200,000ตามเขมรในmou43,44อีก,ไปร่วมเจรจากับอาชญากรสงครามที่จงใจยิงระเบิดฆ่าเด็กๆฆ่าประชาชนคนไทยอีก,ไร้จิตสำนึกจัดการอาชญากรแบบเขมรชัดเจน,มีกลิ่นเน่าเหม็นกับเขมรด้วย,เกาหลีใต้ยังแสดงบทบาทชัดเจน,รัฐบาลชุดนี้ถือว่าเทา ไม่บริสุทธิ์สมควรยุบอำนาจตนไปสะ.,อย่าถ่วงความถูกต้องดีงามและความเจริญของคนไทยเลย,ต้องพักงานภาคการเมืองของนักการเมืองทั้งหมดถือว่าสอบตกทั้งระบบในการดูแลปกครองประเทศไทยตัังแต่ปี2475มาถึงปัจจุบัน,สมบัติชาติเอย ทรัพยากรมีค่ามากมายทั่วประเทศล้วนตกไปในมือของประเทศต่างชาติและเอกชนต่างชาติหมด,เอกชนไทยก็เลวชั่วผูกขาดความมั่งคั่งร่ำรวยไปกับต่างชาติด้วย ตย.ชัดเจนคือบ่อน้ำมันและบ่อทองคำบนแผ่นดินไทย เรา..ประเทศไทยถูกพวกมันยึดครองหมด.,ทหารเลวชั่วไร้จิตสำนึกก็ทำชั่วเลวกับมันด้วย,ไม่แน่คือพวกอำมาตย์คณะกบฎ2475นี้ล่ะ.,ที่สืบทอดความอัปรีย์บัดสบถึงปัจจุบัน,เรา..ประชาชนคนไทยไม่ต้องการระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์และก็ไม่ต้องการระบบคอมมิวนิสต์เผด็จการแบบจีนด้วยเช่นกันหรือระบบประชาธิปไตยส่งออกปลอมๆของฝรั่งเหมือนกันดั่งในปัจจุบันนี้,ระบบประชาธิปไตยของนายทุน อำนวยเอื้อนายทุนชัดเจนกว่าเป็นประโยชน์ของประชาชน,เรา..ประเทศไทยต้องออกแบบระบบปกครองเราใหม่จริงๆ,ระบบธรรมาธิปไตย ธรรมะจักรวาลสมควรเป็นต้นแบบของโลกบนแผ่นดินไทยเรานี้,ประชาชนเป็นกษัตริย์ปกครองโลกใบนี้ร่วมกัน มีหัวหน้ากษัตริย์ที่ทรงธรรมนำพาปกครองโลกนี้ ย่อมาคือประเทศไทยเรา,คุณสมบัติ ถ้าวิชาไม่มี บรรลุหยั่งเห็นในธรรม ในวิชาคุณวิเศษทางธรรม อย่าลิมาขึ้นนำพาปกครองประเทศ ตาทิพย์หูทิพย์อ่านจิตอ่านใจประชาชนต้องได้คุณนี้ แสดงว่าดีจริงจึงผ่านคุณวิชานี้ได้,รู้สมควรชอบดีชั่วงามจึงผ่านวิชานี้ได้และได้ครองวิชานี้เบื้องต้น,เพราะเมื่อขึ้นปกครอง จะนำพาประชาชนมีวิชานี้ยิ่งๆขึ้นไปด้วย มีหูทิพย์ตาทิพย์อ่านใจทางทิพย์ มนุษย์เราจะเคารพกันบนพื้นฐานแห่งธรรมทันที ธรรมจะปกครองควบคุมเรากันเองทั่วโลก,โลกจะเต็มด้วยแสงสว่างแห่งธรรม การก้าวล่วงในทางชั่วเลวแก่กันและกันจะไม่มีในหมู่มนุษย์โลกเราใบนี้ทันที,มารเลวชั่วเข้ามาในโลก มวลชาวโลกก็พร้อมสามัคคีพลังจิตพลังใจร่วมต่อสู้ได้สบาย,สันติสุขจะเกิดจริงแก่ทุกๆคน,ปัจจุบันผู้นำผู้ปกครองโลกไม่มีสิ่งนี้เลย ไม่สมควรเป็นผู้นำประเทศนั้นๆทั้งหมดหากหยิบตรงจุดนี้มาพิจารณากันจริงๆ ล้วนขาดคุณสมบัติ การปกครองจึงเลว เป็นผีเป็นครึ่งอสูร ,เรา..ประชาชนต้องสร้างมาตราฐานนี้,การเมืองไทยจึงยิ่งยุบไป มีแต่พวกชั่วเลวละโมบโลภในอำนาจอยากมีอำนาจเพื่อให้ตนและพวกพ้องเลวมีทางหาแดกทางชั่วเลวและสะดวกผ่านระบบกฎหมายที่ตนเขียนขึ้นเองแบบกฎหมายลักษณะต่างๆเช่นผีบ้ากฎหมายปิโตรเลียม ลามไปmou43,44สดๆร้อนๆในแบบปัจจุบันที่ร่วมกันขายชาติขายแผ่นดินในทางชั่วเลวโดยกระทรวงการต่างประเทศไทยล้วนเห็นตำจาลึกทุกๆรายละเอียดหมดล่ะ เสือก1:200,000ก็ชัดเจนว่าเสียดินแดนให้เขมรแน่นอนยังเสือกจะไปเจรจามันอีก,สรุป ยึดทรัพย์สินพวกเกี่ยวข้องกับmou43,44นี้ทั้งหมดก่อน ใครดำเนินการร่วมในเรื่องmouยึดทรัพย์สินเงินทองไว้ก่อนหมด มาแจ้งพิสูจน์ทรัพย์สินที่ได้มาอย่างบริสุทธิ์นั้นทีหลัง,หากเงินทองทรัพย์สินใดแจ้งที่มาที่ไปไม่ได้ จะถูกยึดและอายัดทันที,พวกจะเปิดด่านเอย ออกมาปกป้องให้ใช้mou43,44ใช้1:200,000ต้องยึดทรัยพ์สินเงินทองก่อนทั้งหมดคือชุดแรกทันที https://youtube.com/shorts/9nzZrC1cL2Q?si=XnZf_AE0IMY4_AEk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 518 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีคะคุณอาสนธิ🙏🏾"หนูเห็นข่าวจีนจะมาปรามสแกมเมอร์ที่กัมพูชา จะปรามได้จริงๆเหรอคราวก่อนก็มาบ้านเราไปที่พม่าขนกลับไป5หมื่นคน ต่อมามีศูนย์ใหญ่ที่กัมพูชากับพม่าเหมือนเดิมแบบนี้มันคืออะไรกัน หลับตาข้างหนึ่งหรือเปล่า จริงๆส่งพวกนี้มาบ่อนทำลายความมั่นคงในเอเซียแล้วก็เอาเงินสกปรกมาให้ นกม.หนุนอยู่ข้างหลังไหมเพราะถ้าปรามจริงป่านี้น่าจะหมดไปแล้วนะหนูสงสัยว่าเขากำลังเล่นบทอะไรอยู่ "มังกรกับอีแร้งพวกเดียวกันหรือเปล่า เห็นว่ามังกรปรามทุจริตคอรัปชั่นแต่!!!!"มาเฟียเต็มไปหมด ทั่วทุกวงการ ไทยมามีศึกคราวนี้มองเห็นอะไรๆชัดขึ้นเยอะเลยจริงๆแล้วมีแต่คนต้องการผลประโยชน์จากเรา ไม่มีมิตรจริงๆที่คบได้เลย มังกรไปทำเหมืองที่พม่าก็ปล่อยสารเคมีลงแม่น้ำเรา ทางเหนือใช้น้ำไม่ได้เลยอันตรายปนเปื้อนสัตว์น้ำตายเกลื่อน เขาสร้างเขื่อนเหนือแม่น้ำโขงวันดีคืนดีก็ปล่อยน้ำมาท่วมเรามาช่วงหลังๆทางเหนือน้ำท่วมผิดปกติเวลาแล้งเดินเล่นได้เลยไม่ปล่อยน้ำให้ประเทศท้ายน้ำได้ใช้เลย ตอนนี้ทั้งมังกร&อีแร้งแทรกแซงไทยมาตลอดตั้งแต่รบเขมรส่งอาวุธให้เขมรอีกต่างหากเป็นแบบนี้ไงเราถึงไม่ควรอยู่ข้างใครทั้งสิ้นยึดผลประโยชน์ประเทศเป็นที่ตั้ง แต่"นกม มันเอาแต่ผลประโยชน์พวกมันน่ะซิ เขาส่งอาวุธให้เขมรๆมันถึงท้าเรารบตลอดเวลาเพราะมีพี่ใหญ่หนุน ส่วนไอกันก็อยากได้แหล่งน้ำมันแก๊สในอ่าวไทยเรา แล้วคนไทยมันก็ตัดแผ่นดินขายซะด้วยหนูฟังชาวเวียดนามเขาคุยกันถึงสยามประเทศไทยฟังแล้วยัง งง?ส่วนมังกรถ้าไม่ได้เราก็ทำลายทิ้งซะเลยแบบนั้นไหมปล่อยน้ำมาท่วมให้มันไม่ฟื้นเลย มาตอนนี้เห็นคนจีนเขาคุยกันว่าชนชั้นนำจะฆ่าใครก็ได้....มีนายกคนหนึ่งพูดว่าฆ่าคนเหมือนฆ่ามดตัวหนึ่งเท่านั้นแคร์ทำไม?คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินคำนี้จากผู้นำ ""หนูว่าคอมมิวนิสต์ฯนี้ก็ไม่ไหวนะ ใครวิจารณ์ คนอยู่ในความหวาดกลัว"ส่วนอีแร้งก็ไม่แพ้กันเผด็จการสุดขั้วไปเลย แค่โพตส์ด่าปธน.ตำรวจไปยิงตายถึงบ้านเลย ตอนนี้ไม่รู้ประเทศไทยยังไว้ใจใครได้อีกบ้างไหม??
    สวัสดีคะคุณอาสนธิ🙏🏾"หนูเห็นข่าวจีนจะมาปรามสแกมเมอร์ที่กัมพูชา จะปรามได้จริงๆเหรอคราวก่อนก็มาบ้านเราไปที่พม่าขนกลับไป5หมื่นคน ต่อมามีศูนย์ใหญ่ที่กัมพูชากับพม่าเหมือนเดิมแบบนี้มันคืออะไรกัน หลับตาข้างหนึ่งหรือเปล่า จริงๆส่งพวกนี้มาบ่อนทำลายความมั่นคงในเอเซียแล้วก็เอาเงินสกปรกมาให้ นกม.หนุนอยู่ข้างหลังไหมเพราะถ้าปรามจริงป่านี้น่าจะหมดไปแล้วนะหนูสงสัยว่าเขากำลังเล่นบทอะไรอยู่ "มังกรกับอีแร้งพวกเดียวกันหรือเปล่า เห็นว่ามังกรปรามทุจริตคอรัปชั่นแต่!!!!🙄"มาเฟียเต็มไปหมด ทั่วทุกวงการ ไทยมามีศึกคราวนี้มองเห็นอะไรๆชัดขึ้นเยอะเลยจริงๆแล้วมีแต่คนต้องการผลประโยชน์จากเรา ไม่มีมิตรจริงๆที่คบได้เลย มังกรไปทำเหมืองที่พม่าก็ปล่อยสารเคมีลงแม่น้ำเรา ทางเหนือใช้น้ำไม่ได้เลยอันตรายปนเปื้อนสัตว์น้ำตายเกลื่อน เขาสร้างเขื่อนเหนือแม่น้ำโขงวันดีคืนดีก็ปล่อยน้ำมาท่วมเรามาช่วงหลังๆทางเหนือน้ำท่วมผิดปกติเวลาแล้งเดินเล่นได้เลยไม่ปล่อยน้ำให้ประเทศท้ายน้ำได้ใช้เลย ตอนนี้ทั้งมังกร&อีแร้งแทรกแซงไทยมาตลอดตั้งแต่รบเขมรส่งอาวุธให้เขมรอีกต่างหากเป็นแบบนี้ไงเราถึงไม่ควรอยู่ข้างใครทั้งสิ้นยึดผลประโยชน์ประเทศเป็นที่ตั้ง แต่"นกม มันเอาแต่ผลประโยชน์พวกมันน่ะซิ เขาส่งอาวุธให้เขมรๆมันถึงท้าเรารบตลอดเวลาเพราะมีพี่ใหญ่หนุน ส่วนไอกันก็อยากได้แหล่งน้ำมันแก๊สในอ่าวไทยเรา แล้วคนไทยมันก็ตัดแผ่นดินขายซะด้วยหนูฟังชาวเวียดนามเขาคุยกันถึงสยามประเทศไทยฟังแล้วยัง งง?ส่วนมังกรถ้าไม่ได้เราก็ทำลายทิ้งซะเลยแบบนั้นไหมปล่อยน้ำมาท่วมให้มันไม่ฟื้นเลย มาตอนนี้เห็นคนจีนเขาคุยกันว่าชนชั้นนำจะฆ่าใครก็ได้....มีนายกคนหนึ่งพูดว่าฆ่าคนเหมือนฆ่ามดตัวหนึ่งเท่านั้นแคร์ทำไม?😯คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินคำนี้จากผู้นำ ""หนูว่าคอมมิวนิสต์ฯนี้ก็ไม่ไหวนะ ใครวิจารณ์💀 คนอยู่ในความหวาดกลัว🤐"ส่วนอีแร้งก็ไม่แพ้กันเผด็จการสุดขั้วไปเลย แค่โพตส์ด่าปธน.ตำรวจไปยิงตายถึงบ้านเลย ตอนนี้ไม่รู้ประเทศไทยยังไว้ใจใครได้อีกบ้างไหม??😔
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศไทยเรา ตอนนี้สมควรมีนายพลและอดีตนายพล พลเอกหลายคนสมควรถูกไล่ออกจากกองทัพไทยเราจริงจังบ้างแล้ว ,ศาลทหารไทยมีไว้ทำไม,ชายแดนไทยเขมร เขมรรุกรานกว่า11จุดพื้นที่ไทย ทหารระดับบัญชาการอาจรวมขั้นนายพลไทยและอดีตนายพลทหารไทยล้วนเกี่ยวข้องแน่นอน ปัญหาแบบเคสบ้านหนองจาน หนองหญ้าแกว สระแก้วและบ่อนคาสิโนจ.ตราด มันชัดเจนมาก แต่ศาลทหารไร้บทบาทสิ้นดี.

    #จีน กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ได้ขับไล่นายพลระดับสูง 2 นายออกจากกองทัพและพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนการทุจริตต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ 9 นาย

    https://insiderpaper.com/china-says-investigating-9-high-ranking-military-officials-for-corruption/
    ประเทศไทยเรา ตอนนี้สมควรมีนายพลและอดีตนายพล พลเอกหลายคนสมควรถูกไล่ออกจากกองทัพไทยเราจริงจังบ้างแล้ว ,ศาลทหารไทยมีไว้ทำไม,ชายแดนไทยเขมร เขมรรุกรานกว่า11จุดพื้นที่ไทย ทหารระดับบัญชาการอาจรวมขั้นนายพลไทยและอดีตนายพลทหารไทยล้วนเกี่ยวข้องแน่นอน ปัญหาแบบเคสบ้านหนองจาน หนองหญ้าแกว สระแก้วและบ่อนคาสิโนจ.ตราด มันชัดเจนมาก แต่ศาลทหารไร้บทบาทสิ้นดี. #จีน กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ได้ขับไล่นายพลระดับสูง 2 นายออกจากกองทัพและพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนการทุจริตต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ 9 นาย https://insiderpaper.com/china-says-investigating-9-high-ranking-military-officials-for-corruption/
    INSIDERPAPER.COM
    China expels two top-ranked generals from military in graft probe
    China said on Friday it has expelled two top generals from the military and ruling Communist Party, part of corruption investigations into nine
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 382 มุมมอง 0 รีวิว

  • ทุกๆคนทั่วโลกที่โดนหลอกไปล้วนน่าสงสารหมดทุกๆคนจะชาติใดๆทั่วโลกก็ตาม ไม่ใช่แค่เกาหลีใต้ ,ทุกๆประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะเอเชีย โดยเฉพาะอาเชียน โดยเฉพาะจีนพี่ใหญ่เขมรที่ไม่ลืมหูลืมตาลงทุนช่วยเขมร สนับสนุนเขมรสร้างนั่นสร้างนี้ไม่สนใจผิดถูกในเขมร สนใจแค่ทรัพยากรมีค่าในเขมรที่ตนได้ประโยชน์และนัยยะอื่นๆที่ตนมีแต่ได้ ได้ลูกหนี้เขมรเต็มๆ สั่งขี้ข้าลูกหนี้ทาสหนี้ บังคับเอากับเขมรได้หมดแน่นอน ตัวพ่อหมวกกันน๊อคได้เลยถ้าเทียบไม่ผิด ทวงหนี้สไตล์เผด็จการคอมมิวนิสต์แน่นอน,จีนเทาเต็มเขมร จีนดีทำไมไม่จัดการในเมื่อสั่งการและควบคุมได้,เป็นไปไม่ได้ที่สั่งฮุนเซนไม่ได้,รู้เห็นด้วยกันหมดล่ะ,แหล่งทำเงินของจีนผ่านเขมรในสาระพัดด้านได้เช่นกันทั้งแบบสไตล์โชว์ภาพหน้างานชอบธรรมถูกต้องและในนามเลี้ยงดูปูสื่อฝ่ายมืดเลวไว้ใช้งานมิให้ภาพลักษณ์ตนเสียหายหรือสาวถึงได้ โยนแพะให้จีนเทาได้นั้นเอง เดอะแก๊งไหนต้องเชือดไก่ก็ต้องเชือดไก่ เดอะแก๊งไหนซวยเพื่อคลายปมภาพลักษณ์ให้จีนแท้ดูดีได้ก็ต้องกำจัดประหารชีวิตแก๊งนั้น,ฝ่ายจีนซาตานก็มี ฝ่ายจีนแสงก็มี จึงมิอาจเชื่อใจได้,ตลอดอาวุธถล่มไทยก็จีนส่งให้เขมรล่วงหน้าก่อนยิงใส่ไทยไม่กี่วัน ฝึกห่าเหวอะไรฟังไม่ขึ้นหรอก ดูก็ออกว่าไทยทะเลาะกับเขมรมาตลอด ยังขายอาวุธให้ รัสเชียก็ด้วยโดยเฉพาะกับระเบิด รัสเชียไม่มาร่วมจัดการเขมรที่ใช้กับระเบิดกับไทยในฝั่งไทยเลย,
    ...รัฐบาลในอดีตก็เลวชั่วเช่นกัน กลัวเขมรแฉความชั่วของตน ยุคเสื้อแดงหนีเข้าเขมร ยุคพวกล้มสถาบันกษัตริย์หนีเข้าเขมรจึงมีความลับชั่วเก็บเพื่อแฉได้แน่นอนนั้นเอง พอกลับมามีอำนาจทางบ้านเมืองจะนักการเมืองหรือและข้าราชการไทยจึงมีความชั่วเลวด้านลับเก็บไว้ กลัวเขมรแฉจึงทรยศแผ่นดินไทยตนตลอดเรื่อยมา,ทหารนายพลเลวชั่วก็มีมากค้าขายชั่วเลวกับเขมร,บ้านเมืองไทยจึงบัดสบมาก.
    ..บิ๊งกุ้งกู้หน้ากองทัพไทยได้ และได้ใจประชาชนทั้งประเทศ เสือกมาทำเสียที่กองทัพบูรพาพยัคฆ์ผีบ้าภาคตะวันออกเสียชื่อทหารเสือพระราชินีทันที ไม่ถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งภาคตะวันออก ทรยศเนรคุณในการปกป้องดินแดนอธิปไตยแผ่นดินไทยชัดเจน ทมภ.2ลงดาบจัดการชัดสร้างผลงานชัดเจน11จุดพื้นที่,แต่ทมภ.1ใจขลาดไม่อาจหาญแม้แต่ตารางนิ้วเดียวยังทำไม่ได้ในเวลาเดียวกัน ณ ขณะนั้น ,จนความจริงเหยียบหน้าชัดอีกที่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้วและตราด ออกสื่อมีพยานหลักฐานชัดเจน.,เพราะถ้าจบในเวลาตอนนั้น ปัญหาปัจจุบันในเวลานี้จะจบสิ้นทั้งหมดทันที.
    ..เขมรต้องล่มสลายทั้งประเทศอย่างเดียว มันคือประเทศที่รกโลก ไม่ซื่อสัตย์เนรคุณทรยศหักหลังทำร้ายทำลายทุกๆคนชาวโลกได้ยกเว้นคนเขมรชาติมันเอง,ประชาชนเขมรสนับสนุนให้ทำสงครามฆ่าประชาชนคนไทยอย่างชัดเจน ไม่สนใจว่าทหารมันทหารเขมรมันยิงใส่ประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์นอกแนวรบนอกแนวปะทะ,อเมริกาและฝรั่งเศสบวกมาเลย์ทั้งUNเสือกไม่เข้าใจความจริงชัดเจนเข้าข้างเขมรอีกด้วย ไม่บีบบังคับเขมรคืนดินแดนแผ่นดินไทยที่เป็นของไทยคืนจริงๆ,ไม่สนใจจริงห่าเหวอะไร ผิดหลักสากลบ่อนก่อไฟสงครามไม่จบเหตุปัญหาจริงด้วย,อยากได้หน้าและเหี้ยเต็มใบหน้าทั้งหมด.
    ..เขมรคือภัยอาชญากรและภัยร้ายแรงทางอาชญากรรมของโลกสากลแล้วเสือกอยากทำดีกับโจรฆ่าพ่อฆ่าแม่ฆ่าลูกฆ่าครอบครัวมันแบบอเมริกาหรือชาติสมาชิกUN เสมือนUNและอเมริกากำลังปกป้องภัยร้ายของโลก ปกป้องให้เขมรคนอาชญากรรมโลกให้อยู่รอดปลอดภัยจะได้สร้างอาชญากรรมสร้างงานให้ตนคืออเมริกาคือUNมีงานทำแนน่นอนชัดเจนแล้ว,อเมริกาและUNคืออาชญากรรมตัวพ่อของโลกแน่แล้วเพราะปกป้องเขมร ไม่กำจัดเขมรก่อน แต่เสือกบอกไทยให้จับมือกับมือฆ่าประชาชนชาวโลก จงบำรุงเลี้ยงดูอาชญากรแบบเขมรให้ดี จงเปิดด่านให้ข้าวให้ปลาให้น้ำเขมรแดกนะจะได้ไปฆ่าคนทั่วโลกได้ต่อไป จับคนทั่วโลกมาค้าแรงงานค้ามนุษย์ค้าอวัยวะส่งตังไปอเมริกาจะได้อ้างอายัดตังเขมรแดกเต็มอิ่มสบายๆด้วยข้อหาอาชญากรรมโลกต่อไป,งานกูอเมริกาและฝรั่งทั้งหมดตลอดUNจะได้มีงานทำเป็นฮีโร่ในภาพลักษณ์ที่ดีของคนทั้งโลกต่อไป.
    ..กูในนามทรัมป์จะเป็นผู้สร้างสันติภาพอาเชียนเอเชียและโลกแน่นอน.

    https://youtube.com/watch?v=ZIcg5PXS6_I&si=VqgQV5m0zKiX_57O
    ทุกๆคนทั่วโลกที่โดนหลอกไปล้วนน่าสงสารหมดทุกๆคนจะชาติใดๆทั่วโลกก็ตาม ไม่ใช่แค่เกาหลีใต้ ,ทุกๆประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะเอเชีย โดยเฉพาะอาเชียน โดยเฉพาะจีนพี่ใหญ่เขมรที่ไม่ลืมหูลืมตาลงทุนช่วยเขมร สนับสนุนเขมรสร้างนั่นสร้างนี้ไม่สนใจผิดถูกในเขมร สนใจแค่ทรัพยากรมีค่าในเขมรที่ตนได้ประโยชน์และนัยยะอื่นๆที่ตนมีแต่ได้ ได้ลูกหนี้เขมรเต็มๆ สั่งขี้ข้าลูกหนี้ทาสหนี้ บังคับเอากับเขมรได้หมดแน่นอน ตัวพ่อหมวกกันน๊อคได้เลยถ้าเทียบไม่ผิด ทวงหนี้สไตล์เผด็จการคอมมิวนิสต์แน่นอน,จีนเทาเต็มเขมร จีนดีทำไมไม่จัดการในเมื่อสั่งการและควบคุมได้,เป็นไปไม่ได้ที่สั่งฮุนเซนไม่ได้,รู้เห็นด้วยกันหมดล่ะ,แหล่งทำเงินของจีนผ่านเขมรในสาระพัดด้านได้เช่นกันทั้งแบบสไตล์โชว์ภาพหน้างานชอบธรรมถูกต้องและในนามเลี้ยงดูปูสื่อฝ่ายมืดเลวไว้ใช้งานมิให้ภาพลักษณ์ตนเสียหายหรือสาวถึงได้ โยนแพะให้จีนเทาได้นั้นเอง เดอะแก๊งไหนต้องเชือดไก่ก็ต้องเชือดไก่ เดอะแก๊งไหนซวยเพื่อคลายปมภาพลักษณ์ให้จีนแท้ดูดีได้ก็ต้องกำจัดประหารชีวิตแก๊งนั้น,ฝ่ายจีนซาตานก็มี ฝ่ายจีนแสงก็มี จึงมิอาจเชื่อใจได้,ตลอดอาวุธถล่มไทยก็จีนส่งให้เขมรล่วงหน้าก่อนยิงใส่ไทยไม่กี่วัน ฝึกห่าเหวอะไรฟังไม่ขึ้นหรอก ดูก็ออกว่าไทยทะเลาะกับเขมรมาตลอด ยังขายอาวุธให้ รัสเชียก็ด้วยโดยเฉพาะกับระเบิด รัสเชียไม่มาร่วมจัดการเขมรที่ใช้กับระเบิดกับไทยในฝั่งไทยเลย, ...รัฐบาลในอดีตก็เลวชั่วเช่นกัน กลัวเขมรแฉความชั่วของตน ยุคเสื้อแดงหนีเข้าเขมร ยุคพวกล้มสถาบันกษัตริย์หนีเข้าเขมรจึงมีความลับชั่วเก็บเพื่อแฉได้แน่นอนนั้นเอง พอกลับมามีอำนาจทางบ้านเมืองจะนักการเมืองหรือและข้าราชการไทยจึงมีความชั่วเลวด้านลับเก็บไว้ กลัวเขมรแฉจึงทรยศแผ่นดินไทยตนตลอดเรื่อยมา,ทหารนายพลเลวชั่วก็มีมากค้าขายชั่วเลวกับเขมร,บ้านเมืองไทยจึงบัดสบมาก. ..บิ๊งกุ้งกู้หน้ากองทัพไทยได้ และได้ใจประชาชนทั้งประเทศ เสือกมาทำเสียที่กองทัพบูรพาพยัคฆ์ผีบ้าภาคตะวันออกเสียชื่อทหารเสือพระราชินีทันที ไม่ถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งภาคตะวันออก ทรยศเนรคุณในการปกป้องดินแดนอธิปไตยแผ่นดินไทยชัดเจน ทมภ.2ลงดาบจัดการชัดสร้างผลงานชัดเจน11จุดพื้นที่,แต่ทมภ.1ใจขลาดไม่อาจหาญแม้แต่ตารางนิ้วเดียวยังทำไม่ได้ในเวลาเดียวกัน ณ ขณะนั้น ,จนความจริงเหยียบหน้าชัดอีกที่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้วและตราด ออกสื่อมีพยานหลักฐานชัดเจน.,เพราะถ้าจบในเวลาตอนนั้น ปัญหาปัจจุบันในเวลานี้จะจบสิ้นทั้งหมดทันที. ..เขมรต้องล่มสลายทั้งประเทศอย่างเดียว มันคือประเทศที่รกโลก ไม่ซื่อสัตย์เนรคุณทรยศหักหลังทำร้ายทำลายทุกๆคนชาวโลกได้ยกเว้นคนเขมรชาติมันเอง,ประชาชนเขมรสนับสนุนให้ทำสงครามฆ่าประชาชนคนไทยอย่างชัดเจน ไม่สนใจว่าทหารมันทหารเขมรมันยิงใส่ประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์นอกแนวรบนอกแนวปะทะ,อเมริกาและฝรั่งเศสบวกมาเลย์ทั้งUNเสือกไม่เข้าใจความจริงชัดเจนเข้าข้างเขมรอีกด้วย ไม่บีบบังคับเขมรคืนดินแดนแผ่นดินไทยที่เป็นของไทยคืนจริงๆ,ไม่สนใจจริงห่าเหวอะไร ผิดหลักสากลบ่อนก่อไฟสงครามไม่จบเหตุปัญหาจริงด้วย,อยากได้หน้าและเหี้ยเต็มใบหน้าทั้งหมด. ..เขมรคือภัยอาชญากรและภัยร้ายแรงทางอาชญากรรมของโลกสากลแล้วเสือกอยากทำดีกับโจรฆ่าพ่อฆ่าแม่ฆ่าลูกฆ่าครอบครัวมันแบบอเมริกาหรือชาติสมาชิกUN เสมือนUNและอเมริกากำลังปกป้องภัยร้ายของโลก ปกป้องให้เขมรคนอาชญากรรมโลกให้อยู่รอดปลอดภัยจะได้สร้างอาชญากรรมสร้างงานให้ตนคืออเมริกาคือUNมีงานทำแนน่นอนชัดเจนแล้ว,อเมริกาและUNคืออาชญากรรมตัวพ่อของโลกแน่แล้วเพราะปกป้องเขมร ไม่กำจัดเขมรก่อน แต่เสือกบอกไทยให้จับมือกับมือฆ่าประชาชนชาวโลก จงบำรุงเลี้ยงดูอาชญากรแบบเขมรให้ดี จงเปิดด่านให้ข้าวให้ปลาให้น้ำเขมรแดกนะจะได้ไปฆ่าคนทั่วโลกได้ต่อไป จับคนทั่วโลกมาค้าแรงงานค้ามนุษย์ค้าอวัยวะส่งตังไปอเมริกาจะได้อ้างอายัดตังเขมรแดกเต็มอิ่มสบายๆด้วยข้อหาอาชญากรรมโลกต่อไป,งานกูอเมริกาและฝรั่งทั้งหมดตลอดUNจะได้มีงานทำเป็นฮีโร่ในภาพลักษณ์ที่ดีของคนทั้งโลกต่อไป. ..กูในนามทรัมป์จะเป็นผู้สร้างสันติภาพอาเชียนเอเชียและโลกแน่นอน. https://youtube.com/watch?v=ZIcg5PXS6_I&si=VqgQV5m0zKiX_57O
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 560 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนสร้างความอัปรีย์จัญไรแก่สายตาคนไทยอีกแล้ว,มุ่งแต่ตัวเอง หวังผลประโยชน์หวังแก่กำไรใส่ตัวเองอีกแล้ว,สะท้อนสันดานคนจีนได้ชัดเจนอีกด้าน,เรื่องพื้นๆยังจะทำกับคนไทยได้ลง,แล้วเรื่องพานิชย์ตัวอีกๆตัวพ่อๆแม่ๆล่ะ มันคงทำยิ่งกว่าหมูเด้งอีกที่เอาเปรียบคนขายค้าคนไทย.,เรื่องจีนแอบช่วยเขมรยังไม่เคลียร์ แฉออกมาระหว่างสู้รบกัน24ก.ค68 ถึง28 ก.ค.68 กูรูบางท่านแฉแล้ว และตอนนี้ออกมาแฉเต็มๆอีก,จีนคอมมิวนิสต์ไว้ใจไม่ได้เช่นกันจริงๆ,นาแกนครพนมเสียงปืนแตกครัังแรกนะ คอมมิวนิสต์สหายภูพานตัวพ่อภาคอีสานจะยึดประเทศไทยเลย,รวมคอมมิวนิสต์ภาคเหนืออีก,ลาวก็คอมมิวนิสต์ เวียดนามก็คอมมิวนิสต์ พม่าก็คอมมิวนิสต์ เขมรก็คอมมิวนิสต์ผีสิงผีปอบตัวพ่อฮุนเซนเผด็จการของแท้ระยำกว่าพม่า เวียดนาม ระยำกว่าลาวอีก,จีนสนับสนุนเขมรชัดเจน,เพราะแร่ธาตุในเขมรจีนต้องการหมด ถ้าเขมรนอมินีแทนจีนยึดแย่งดินแดนไทยสำเร็จหากชนะอีสานได้ยึดอีสานได้จีนก็ได้อีสานทั้งหมด รวมทั้งช่วยเขมรสู้กับไทยยึดอีสานยึดไทยได้อย่างเปิดเผยด้วย,
    ..กองทัพไทยบังเอิญคือแม่ทัพกุ้ง มทภ.2มิใช่ มทภ.1 เช่นนั้นไทยเสียอีสานทั้งภาคแน่นอน,ไม่มีบทลงโทษใดๆแก่มทภ.1และคณะทั้งหมดเลย.

    https://youtube.com/watch?v=_UaeNM1x0hQ&si=jtBtQkaOABqifKCj
    จีนสร้างความอัปรีย์จัญไรแก่สายตาคนไทยอีกแล้ว,มุ่งแต่ตัวเอง หวังผลประโยชน์หวังแก่กำไรใส่ตัวเองอีกแล้ว,สะท้อนสันดานคนจีนได้ชัดเจนอีกด้าน,เรื่องพื้นๆยังจะทำกับคนไทยได้ลง,แล้วเรื่องพานิชย์ตัวอีกๆตัวพ่อๆแม่ๆล่ะ มันคงทำยิ่งกว่าหมูเด้งอีกที่เอาเปรียบคนขายค้าคนไทย.,เรื่องจีนแอบช่วยเขมรยังไม่เคลียร์ แฉออกมาระหว่างสู้รบกัน24ก.ค68 ถึง28 ก.ค.68 กูรูบางท่านแฉแล้ว และตอนนี้ออกมาแฉเต็มๆอีก,จีนคอมมิวนิสต์ไว้ใจไม่ได้เช่นกันจริงๆ,นาแกนครพนมเสียงปืนแตกครัังแรกนะ คอมมิวนิสต์สหายภูพานตัวพ่อภาคอีสานจะยึดประเทศไทยเลย,รวมคอมมิวนิสต์ภาคเหนืออีก,ลาวก็คอมมิวนิสต์ เวียดนามก็คอมมิวนิสต์ พม่าก็คอมมิวนิสต์ เขมรก็คอมมิวนิสต์ผีสิงผีปอบตัวพ่อฮุนเซนเผด็จการของแท้ระยำกว่าพม่า เวียดนาม ระยำกว่าลาวอีก,จีนสนับสนุนเขมรชัดเจน,เพราะแร่ธาตุในเขมรจีนต้องการหมด ถ้าเขมรนอมินีแทนจีนยึดแย่งดินแดนไทยสำเร็จหากชนะอีสานได้ยึดอีสานได้จีนก็ได้อีสานทั้งหมด รวมทั้งช่วยเขมรสู้กับไทยยึดอีสานยึดไทยได้อย่างเปิดเผยด้วย, ..กองทัพไทยบังเอิญคือแม่ทัพกุ้ง มทภ.2มิใช่ มทภ.1 เช่นนั้นไทยเสียอีสานทั้งภาคแน่นอน,ไม่มีบทลงโทษใดๆแก่มทภ.1และคณะทั้งหมดเลย. https://youtube.com/watch?v=_UaeNM1x0hQ&si=jtBtQkaOABqifKCj
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 400 มุมมอง 0 รีวิว

  • จัดการเขมรง่ายนิดเดียว,คว่ำบาตรทันทีเลย,เขมรยิงไทยก่อน1,เขมรคืออาชญากรรมสงครามเจตนาสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์เราชัดเจนคือปั้มน้ำมัน7/11ที่มิใช้แนวรบแนวปะทะ1,อาศัยสิ่งนี้นายกฯไทยมีสิทธิชอบธรรมบุกทำลายศัตรูแบบฮุนเซนฮุนมาเนตจับมาลงโทษทันทีที่สั่งการก่ออาชญากรรมสงครามกับไทย,ฮุนเซนและฮุนมาเนตต้องถูกทหารไทยเข้าจับกุมมาลงโทษทันทีไม่มีการเจรจาต่อรองใดๆได้อีก จนเขมรนำโดยฮุนเซยฮุนมาเนตจะสิ้นศักยภาพสิ้นสภาพเป็นภัยรุกรานประเทศไทย มิสามารถเป็นอื่นใดๆได้ กองทัพไทยต้องบุกยึดกรุงพนมเปญทันทีเพื่อจับกุมฮุนเซนและฮุนมาเนตมาลงโทษให้ได้ที่มากระทำการก่อสงครามสร้างอาชญากรรมสงครามทำร้ายทำลายประชาชนผู้บริสุทธิ์เราถือว่ามิสมควรเป็นผู้นำที่ดีต่อประเทศติดชิดกันหมายทำลายทำร้ายประเทศชิดติดกันชัดเจน,นายกฯปัจจุบันของไทยเราต้องสายฝีมือตนด้านนี้ทันทีเพื่อจบวิกฤติภัยอธิปไตยของชาติไทยมิให้ส่งต่อภัยชั่วร้ายนี้ไปถึงรุ่นๆต่อไปของประชาชนคนไทยเรา,หากทำไม่ได้ก็ออกๆไปสะให้ นายกฯคนที่ชูนโยบายกำจัดฮุนเซนฮุนมาเนตที่ก่ออาชญากรรมสงครามหมายสังหารประชาชนคนไทยเรามาทำหน้าที่กำจัดฮุนเซนฮุนมาเนตให้ชัดเจนจะดีกว่ามาก.

    ..นายกฯไทยถ้ากาก กระจอก ต้องถอยและถอนตัว ลาออกและยุบสภาออกมาเถอะ อย่าถ่วงความปลอดภัยประชาชนคนไทย อย่าถ่วงการกำจัดภัยร้ายแรงของชาติไทย อย่าถ่วงยุทธการยุทธวิถีกำจัดภัยศัตรูของชาติไทยตนเองอีกเลย,ประเทศไทยต้องเด็ดขาดในสิ่งที่เด็ดขาดเสียที,เลอะเทอะมากพอในหมู่ราชการไทยที่คตโกงและทุจริตมากพอแล้วกับนักการเมืองนี้ตลอดเรื่อยมาจนเห็นเด่นชัดเจนแล้วในปัจจุบัน,ผู้นำผู้ปกครองหรือนายกฯปัจจุบันไม่ยกเลิกmou43,44,tor46,ไม่ประกาศอย่างเป็นทางการให้ชัดเจนว่าประเทศไทยยอมรับแค่เสาปักหมุดที่ตกลงกันจบแล้วตั้งแต่สมัยร.5กับฝรั่งเศสเท่านั้นในทั้ง73เสาหลักและ1เสาย่อย รวมกับเขตสันปันน้ำด้วย,ให้mou43ที่อ้างเอา1:200,000เขตแดนนี้เพื่อลากเข้ามายึดกินพื้นที่ไทยดินแดนไทยเราเพิ่มมากขึ้นนั้น ให้mou43,44นี้ตกไปโมฆะไปทั้งหมดทันทีมิให้มีผลบังคับไทยได้ต่อไปอีก, ยกเลิกและโมฆะอัตโนมัติทั้งหมดทันทีในmou43,44,และtor46นั้นเองย้ำ,นี้นายกฯมาใหม่ต้องเจตนาชัดเจนแสดงจุดยืนแบบนี้.,นักการเมืองไทยต้องการจะมาทำงานเพื่อชาติเพื่อบ้านเพื่อเมืองเพื่อประชาชนต้องแบบนี้,นักการเมืองปัจจุบันไม่มีอุดมการณ์แบบนี้จริงแล้ว,สมควรยุบตัว เว้นวรรค พักงานทัังระบบจริงๆในเวลานี้ ล้างกระดานใหม่ทั้งหมดก่อน,นายกฯพระราชทานต้องมาก่อน และมาทำเพื่อชาติไทยเพื่อประชาชนไทยจริง มาเพื่อกำจัดศัตรูภัยคุกคามรุกรานมาก่ออาชญากรรมทางสงครามใส่ไทยเราด้วยคือสิ่งแรกที่ต้องทำ,เขมรและประชาชนเขมรตอนนี้มิอาจไว้ใจได้,เขมรในไทยทั้งหมดต้องถูกส่งไปประเทศอื่นที่มิใช่ประเทศไทยก่อน,ใครชาติใดที่เข้าข้างเขมร เห็นใจเขมร เราจะส่งคนเขมรในไทยไปให้ชาตินัันๆให้ดูแลมันคนเขมรกันเองก่อน ไทยของบาย,คนเขมรที่แอบลักลอบเข้าไทยทั้งหมดจะถูกจับกุมและติดคุกทันทีหรือถูกส่งไปอยู่เกาะใดเกาะหนึ่งคุกเกาะทันทีจนกว่าชาติที่สนับสนุนเขมรเข้าข้างเขมรจะมารับไปเลี้ยงดูจ้างเป็นแรงงานต่อไป,ไทยไม่รับหรือส่งกลับไปตายกันเองที่ประเทศเขมรมัน.,เขมร คนเขมรไว้ใจไม่ได้คือหลักพิจารณาตั้งธงไว้ก่อน,คนไทยต้องปลอดภัยก่อน.เราถูกยิงระเบิด เราตายบนแผ่นดินไทยที่เขมรยิงเราก่อนโดยอยู่นอกแนวปะทะการรบชัดเจน,เขมรมีเจตนาสังหารฆ่าคนไทยชัดเจน ฮุนเซนฮุนมาเนตต้องถูกกำจัด,แต่นายกฯไทยในปัจจุบันไม่มีท่าทีกำจัดฮุนเซนฮุนมาเนตจริงเลย,น่าผิดหวังมาก,สมควรลาออกไปหรือยุบสภาเสีย, พรรคไหนชูนโยบายไล่ล่ากำจัดอาชญากรสงครามและอาชญากรรมสงครามกับประเทศไทยคือฮุนเซนฮุนมาเนต จะเลือกทันที,รวมทั้งยกเลิกmou43,44,tor46ด้วยจะเลือกมาเป็นนายกใหม่ทันที,
    ..
    ..นายกฯปัจจุบันหรือใครเข้ามาเป็น ต้องจำใส่สมองตลอดเวลาว่า เขมรนำโดยฮุนเซนฮุนมาเนตต้องถูกจัดอย่างเดียว,ไม่สามารถมานั่งเจรจาต่อรองใดๆได้อีก,มันคือตัวภัยความมั่นคงไทย จะทำลายไทยชัดเจน.,มันสั่งยิงจรวดสั่งยิงระเบิดใส่คนไทยให้ตายจริงชัดเจน ,ประชาชนเราคือผู้บริสุทธิ์แท้ที่ใช้ชีวิตประจำวันปกตินอกแนวปะทะแนวรบ,ฮุนเซนฮุนมาเนตมิอาจหนีความผิดครั้งนี้ได้ ต้องตายสถานเดียว,รัฐบาลปัจจุบันทำไม่ได้ก็ออกไปสะ อย่าถ่วงคนทำได้ มากำจัดฮุนเซนฮุนมาเนตได้จริง อย่ามาถ่วงเวลาถ่วงสาระพัดเรื่อง,ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. นี้คือการถ่วงเวลาชัดเจน,บ้านหนองจานเอย ตราดเอย จันทบุรีเอย สระแก้วเอย ถ่วงเวลาชัดเจนที่นำโดยรัฐบาล4เดือนนี้,จะมารักษาการอีก บัดสบมาก,พอกันทีกับนักการเมืองลักษณะนี้ ชาติไทยบรรลัยนี้กับสถานการณ์ยุคอนาคตหากสมองปัญญาและความคิดตนยังปลดแอกจากอำนาจมืดฝ่ายเลวที่สั่งการตนอยู่ไม่ได้,การบริหารชาติ บริหารบ้านเมืองจะถูกครอบงำไปทางไม่ดีต่อไปอีกบนยุคสมัยใหม่ที่ไม่ทันเกมส์หมากมัน คนไทยเราเองจะซวยทั้งประเทศ ปกติสุขจะสิ้นพบเห็น,เพียงสถานการณ์แค่เขมรยังไม่มีปัญญาจัดการได้ เรามีผู้ปกครองที่กาก กระจอก ไร้ฝีมือ มือไม่ถือ ห่วยแตกมากและระยำจัญไรมานาน โดยเฉพาะไอ้สาระเลวหน้าหล่อไปทำmouเป็นสนธิสัญากับUN นี้บ่งบอกชัดเจนว่านายกฯในอดีตๆเราชั่วเลวทั้งโดยสันดานและถูกควบคุมครอบงำจากอำนาจมืดโลกสากลปกครองเราทางลับผ่านนายกฯคนไทยเรา ให้ทำสิ่งที่เลวชั่วแบบยกสัมปทานบ่อน้ำมันให้ต่างชาติให้ถูกกฎหมายไทยตนเองเพื่อหลบตาประชาชนให้ชอบธรรม ไม่ปล้นชิงอย่างเปิดเผยเหมือนในอดีต,สาระพัดกฎหมายมากมายในไทยล้วนพวกเดอะแก๊งสาระเลวนี้เขียนผ่านออกมาเพื่อกดขี่ประชาชนคนไทย,ใช้บังคับปนะชาชนคนไทยให้ต้องปฏิบัติตามที่มันออกกฎออกกติกาเงื่อนไข,ทำง่ายมาก เขียนกฎหมายง่ายมากในหมู่พวกมันไม่กี่คน,แต่พอตอนจะยกเลิก สาระพัดให้มีความยุ่งยาก,แบบmou43,44มุกเดียวกัน มันเวลาทำการเสือกไม่เอาเข้าสภา ทำกันในหมู่คณะมันเอง คณะครม.ก็ทำเอง คณะกระทรวงทบวงกรมข้าราชการต่างๆก็เขียนเองทำเองออกกฎกติกาเองไม่มีมติจะประชาชนลงมติรับรู้เห็นด้วยห่าอะไร กูเขียนกูออกกฎหมายมามรึงประชาชนต้องทำตามอย่างเดียว,นี้คือระบบเผด็จการคอมมิวนิสต์ผ่านระบบกฎหมายในระบอบอ้างว่าประชาธิปไตยบังหน้าของระบอบฝรั่งส่งออกให้เรามาใช้ระบอบห่าเหวฝรั่งนี้ปกครอง.

    ..ฝรั่งเศสแท้ๆพยายามมาตลอดทุกๆยุคสมัยเพื่อยึดประเทศไทยเรา ยึดไม่ได้ มันก็ยึดด้วยให้ไทยใช้ระบอบปกครองแบบมัน มันฝรั่งเศสที่ใช้จริง เสมือนมรึงไทยจะตกเป็นเมืองขึ้นทางอ้อมนั้นเอง,จากนั้นก็ยึดเนียนๆแบบส่งฝรั่งอื่นๆแบบฝรั่งอเมริกา ฝรั่งชาติอื่นๆมายึดปล้นชิงสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายของไทยไว้ รวบรวมเก็บแดกเองใส่มันพวกฝรั่งให้มากผูกขาดให้มาก แบบผูกขาดน้ำมันในไทย มันยึดผ่านกฎหมายปิโตรเลียมมันที่พาคนไทยหน้าโง่ทรยศหักหลังคนไทยด้วยกันเองพากันเขียนเองเออเอง จนยึดบ่อน้ำมันผูกขาดสัมปทานจนสิ้นทุกๆหลุดน้ำมัน,ซวยคือคนไทยซื้อน้ำมันแบบราคาอิหร่านลิตรละ1-2บาทไม่ได้จะเบนซินหรือดีเชลในอิหร่านก็ไม่เกินลิตระละ1-2บาทที่ไม่มีการผสมเอทานอลใดๆเลย,แต่ไทย ที่เอกชนไทยสารเลวบวกต่างชาติชั่วระยำบัดสบที่ปล้นชิงยึดบ่อน้ำมันไทยผ่านกฎหมายไทยที่ฝรั่งมันเองพาเขียน ทำการขายน้ำมันให้คนไทยหนักสุด 2ลิตร100บาทแบบไม่ผสมเติมเอทานอลเลย,ปัจจุบันก็ยังแดกที่ลิตรละ30บาทต่ำสุดในปัจจุบันสูงสุดเกือบ40บาทหรือ45บาทตามอารมณ์คนท้องถิ่นรับไปขายในที่ห่างไกล,
    ..วิกฤตอะไรจะเกิดขึ้น ราคาน้ำมันไทยทแดกเงียบ,ไม่ยอมลดราคาด้วย,มันพยายามขึ้นราคามาตลอด ชัดเจนเริ่มก่อนยุค40 หลังยุค40ตัวพ่อ มันพยายามขึ้นราคาน้ำมันตลอด เพื่อทำให้ราคาขนส่งขึ้นไปด้วย มุกเพื่อให้ราคาสินค้านายทุนบริษัทกิจการทุนสามานย์ปรับราคาสินค้าอ้างต้นทุนราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ค่าขนส่งโลจิสติกสูงขึ้นมันว่า ราคาข้าวของกูขอขึ้นเลยนะมันว่า ,จากนั้นล่ะ มันเริ่มรับลูกรับบทกันมาตลอด มรึงน้ำมันขึ้นสักพักนะ กูราคาข้าวของเรียกร้องขึ้รเลย แมร่งขึ้นมาตลอดจากยุค40 จนราคาค่าครองชีพค่าสินค้่บรรลัยบัดสบแพงขึ้นสูงขึ้นในปัจจุบัน,นี้คือวิธีทำลายชาติไทยจากวิถีชีวิตคนไทยในความเป็นอยู่ปัจจุบันชัดเจน บวกวิกฤติโลกยุโรปล้มอีก ชาติตะวันตกและยุโรปล่มสลายทางการเงินมากระทบเอเชียอาเชียนด้วยนั้นเองจึงเหี้ยให้เห็นจริงชัดในปัจจุบัน,และราคาน้ำมันเสือกไม่ลดราคาน้ำมันลงช่วยคนไทยภายในประเทศด้วยเพราะฝรั่งมันยึดบ่อน้ำมันไทย ,ฝรั่งในที่นี้ เหมารวมได้เลยว่าคือฝรั่งที่ปล้นแดนดินไทยในอดีตทั้งหมดล่ะ มันคือพวกเดียวกันหมดคือแยกบ้านกันเท่านั้นแต่มันเครือญาติกันหมด.,บ้านหลักไม่ปล้นชิงแย่งชิงไทยตรงๆก็อาศัยบ้านรองแบบอเมริกาหรือชาติอื่นมาปล้นแทน แต่แมร่งไปดูไส้ใน โคตรพ่อโคตรแมร่งเดอะแก็งเดียวกันหมด ปล้นชิงไทยเสร็จมันก็แอบแบ่งส่วนผลประโยชน์กำไรๆให้ๆกันไปเหมือนเดิมนั้นเอง.

    ..เขมรที่ปะทะยิงไทยให้เราตายก็ฝรั่งและชาติควายเลวระยำอยู่ร่วมในเบื้องหลังเขมรเนรคุณนี้ล่ะก็จะอยากได้ทรัพยากรมากมายบนเขตแดนที่1:200,000ที่เราเสียดินแดนถึง1:150,000นี้ล่ะ มันได้ทั้งบนบกและอ่าวไทยชัดเจน 10ล้านล้านบาทจริงๆอาจไม่ใช่ตัวเลขนี้ เขมรจึงร่วมกับฝรั่งและชาติอื่นๆสารเลวทางใต้ดินจะยึดครองแดนดินแผ่นดินไทยให้ได้ อาจมีกว่า1,000ล้านล้านบาทเลย 100ล้านล้านบาทอาจเล็กน้อยเท่านั้น.,ฝรั่งมันมีดาวเทียมสำรวจแร่ธาตุโดยเฉพาะ มันรู้หมดล่ะ แบบอเมริกาสำรวจบ่อน้ำมันเราและแร่ธาตุทั้งหมดในประเทศไทยเราสมันสงครามอินโดจีน อีสานมันสำรวจมากเป็นพิเศษเลยล่ะแต่ด้วยเทคโนโลยียังไปไม่ถึงมันจึงเว้นไว้ก่อน,แต่บ่อน้ำมันและแร่ธาตุอื่นๆมันเห็นหมดจึงรีบมายึดไทย จีนโรงงานแถวอีสานก็ผุดอย่างมากมาย,จีนนี้ก็เอาเปรียบไทยนะ,ลาวคือตย.,เวียดนามรู้ไส้รู้พุงจีนอย่างดี,ติดจีนขนาดนั้น,อดีตเราจีนแม้ผลประโยชน์มีจริงแต่สายสัมพันธ์ทางใจดีกว่ามากเมื่อเทียบปัจจุบัน ผลประโยชน์อาจมาก่อนสายสัมพันธ์ที่ดีๆกันไปแล้ว,คนจีนรุ่นปัจจุบันมันมองผลประโยชน์ต้องมาก่อน ลงทุนต้องเอากำไรคืนอย่างเดียว.,นักลงทุนจีนที่สันดานนิสัยเลวแย่ๆที่ออกมานอกประเทศจีนส่วนใหญ่จะมากและเป็นคนพวกนี้,คนดีๆจีนนิสัยดีๆออกมาลงทุนจริงนอกประเทศนั้นมาน้อย.,พวกโลภๆจีนโลภๆทั้งนั้นที่ออกมาลงทุนในประเทศไทยเรา ตย.ชัดเจน คือทัวร์ศูนย์เหรียญ โรงงานศูนย์เหรียญในไทยก็เป็นข่าวชัดเจนแล้ว,คนจีนสันดานจริงๆก็ชอบเอาเปรียบคนอื่นและเห็นแก่ตัวนี้ล่ะของจริง,ต่างจังหวัดคนในชนบทจะเห็นสันดานดิบคนจีนชัดเจนในอดีต,เพราะคนชนบทไทยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เมตตากัน แบ่งกันกินกันใช้ ไม่ติดนิสัยโลภนัก มีธรรมะค้ำชูจิตใจคนในชุมชนสังคม คนจีนที่แสดงนิสัยสันดานดิบออกมาจึงเป็นที่ผิดปกติง่ายดาย.,แต่คนจีนดีๆก็มีจริงแต่ส่วนน้อย,
    ..คนไทยเรา ผู้นำไทยเรา ถ้าเราได้คนดีมาปกครองจริงๆตั้งแต่ต้น เราจะไม่มีสถานะแบบปัจจุบันนี้,เราจะร่ำรวยทั้งทางวัตถุธาตุนิยมคู่ขนานร่ำรวยทางจิตใจดีงามด้วยพร้อมๆกันไม่ยาก,ไม่เสื่อมเช่นในปัจจุบัน ยากจนดักดานมั่นคงด้วย บวกคนได้บัตรคนจนเพิ่มมากมายนั้นเองหากลงทะเบียนเพิ่มกันจริงๆ.
    ..
    #หยุดผู้นำกากมานำพาประเทศไทย
    #หยุดผู้นำขี้ขลาดมานำพาประเทศไทย
    #หยุดผู้นำไทยใจเขมรมานำประเทศไทย
    #หยุดนายกไทยใจหมามานำประเทศไทย


    https://youtu.be/BV3HAhljI3k?si=0sIBsws9xTVKWOXv

    จัดการเขมรง่ายนิดเดียว,คว่ำบาตรทันทีเลย,เขมรยิงไทยก่อน1,เขมรคืออาชญากรรมสงครามเจตนาสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์เราชัดเจนคือปั้มน้ำมัน7/11ที่มิใช้แนวรบแนวปะทะ1,อาศัยสิ่งนี้นายกฯไทยมีสิทธิชอบธรรมบุกทำลายศัตรูแบบฮุนเซนฮุนมาเนตจับมาลงโทษทันทีที่สั่งการก่ออาชญากรรมสงครามกับไทย,ฮุนเซนและฮุนมาเนตต้องถูกทหารไทยเข้าจับกุมมาลงโทษทันทีไม่มีการเจรจาต่อรองใดๆได้อีก จนเขมรนำโดยฮุนเซยฮุนมาเนตจะสิ้นศักยภาพสิ้นสภาพเป็นภัยรุกรานประเทศไทย มิสามารถเป็นอื่นใดๆได้ กองทัพไทยต้องบุกยึดกรุงพนมเปญทันทีเพื่อจับกุมฮุนเซนและฮุนมาเนตมาลงโทษให้ได้ที่มากระทำการก่อสงครามสร้างอาชญากรรมสงครามทำร้ายทำลายประชาชนผู้บริสุทธิ์เราถือว่ามิสมควรเป็นผู้นำที่ดีต่อประเทศติดชิดกันหมายทำลายทำร้ายประเทศชิดติดกันชัดเจน,นายกฯปัจจุบันของไทยเราต้องสายฝีมือตนด้านนี้ทันทีเพื่อจบวิกฤติภัยอธิปไตยของชาติไทยมิให้ส่งต่อภัยชั่วร้ายนี้ไปถึงรุ่นๆต่อไปของประชาชนคนไทยเรา,หากทำไม่ได้ก็ออกๆไปสะให้ นายกฯคนที่ชูนโยบายกำจัดฮุนเซนฮุนมาเนตที่ก่ออาชญากรรมสงครามหมายสังหารประชาชนคนไทยเรามาทำหน้าที่กำจัดฮุนเซนฮุนมาเนตให้ชัดเจนจะดีกว่ามาก. ..นายกฯไทยถ้ากาก กระจอก ต้องถอยและถอนตัว ลาออกและยุบสภาออกมาเถอะ อย่าถ่วงความปลอดภัยประชาชนคนไทย อย่าถ่วงการกำจัดภัยร้ายแรงของชาติไทย อย่าถ่วงยุทธการยุทธวิถีกำจัดภัยศัตรูของชาติไทยตนเองอีกเลย,ประเทศไทยต้องเด็ดขาดในสิ่งที่เด็ดขาดเสียที,เลอะเทอะมากพอในหมู่ราชการไทยที่คตโกงและทุจริตมากพอแล้วกับนักการเมืองนี้ตลอดเรื่อยมาจนเห็นเด่นชัดเจนแล้วในปัจจุบัน,ผู้นำผู้ปกครองหรือนายกฯปัจจุบันไม่ยกเลิกmou43,44,tor46,ไม่ประกาศอย่างเป็นทางการให้ชัดเจนว่าประเทศไทยยอมรับแค่เสาปักหมุดที่ตกลงกันจบแล้วตั้งแต่สมัยร.5กับฝรั่งเศสเท่านั้นในทั้ง73เสาหลักและ1เสาย่อย รวมกับเขตสันปันน้ำด้วย,ให้mou43ที่อ้างเอา1:200,000เขตแดนนี้เพื่อลากเข้ามายึดกินพื้นที่ไทยดินแดนไทยเราเพิ่มมากขึ้นนั้น ให้mou43,44นี้ตกไปโมฆะไปทั้งหมดทันทีมิให้มีผลบังคับไทยได้ต่อไปอีก, ยกเลิกและโมฆะอัตโนมัติทั้งหมดทันทีในmou43,44,และtor46นั้นเองย้ำ,นี้นายกฯมาใหม่ต้องเจตนาชัดเจนแสดงจุดยืนแบบนี้.,นักการเมืองไทยต้องการจะมาทำงานเพื่อชาติเพื่อบ้านเพื่อเมืองเพื่อประชาชนต้องแบบนี้,นักการเมืองปัจจุบันไม่มีอุดมการณ์แบบนี้จริงแล้ว,สมควรยุบตัว เว้นวรรค พักงานทัังระบบจริงๆในเวลานี้ ล้างกระดานใหม่ทั้งหมดก่อน,นายกฯพระราชทานต้องมาก่อน และมาทำเพื่อชาติไทยเพื่อประชาชนไทยจริง มาเพื่อกำจัดศัตรูภัยคุกคามรุกรานมาก่ออาชญากรรมทางสงครามใส่ไทยเราด้วยคือสิ่งแรกที่ต้องทำ,เขมรและประชาชนเขมรตอนนี้มิอาจไว้ใจได้,เขมรในไทยทั้งหมดต้องถูกส่งไปประเทศอื่นที่มิใช่ประเทศไทยก่อน,ใครชาติใดที่เข้าข้างเขมร เห็นใจเขมร เราจะส่งคนเขมรในไทยไปให้ชาตินัันๆให้ดูแลมันคนเขมรกันเองก่อน ไทยของบาย,คนเขมรที่แอบลักลอบเข้าไทยทั้งหมดจะถูกจับกุมและติดคุกทันทีหรือถูกส่งไปอยู่เกาะใดเกาะหนึ่งคุกเกาะทันทีจนกว่าชาติที่สนับสนุนเขมรเข้าข้างเขมรจะมารับไปเลี้ยงดูจ้างเป็นแรงงานต่อไป,ไทยไม่รับหรือส่งกลับไปตายกันเองที่ประเทศเขมรมัน.,เขมร คนเขมรไว้ใจไม่ได้คือหลักพิจารณาตั้งธงไว้ก่อน,คนไทยต้องปลอดภัยก่อน.เราถูกยิงระเบิด เราตายบนแผ่นดินไทยที่เขมรยิงเราก่อนโดยอยู่นอกแนวปะทะการรบชัดเจน,เขมรมีเจตนาสังหารฆ่าคนไทยชัดเจน ฮุนเซนฮุนมาเนตต้องถูกกำจัด,แต่นายกฯไทยในปัจจุบันไม่มีท่าทีกำจัดฮุนเซนฮุนมาเนตจริงเลย,น่าผิดหวังมาก,สมควรลาออกไปหรือยุบสภาเสีย, พรรคไหนชูนโยบายไล่ล่ากำจัดอาชญากรสงครามและอาชญากรรมสงครามกับประเทศไทยคือฮุนเซนฮุนมาเนต จะเลือกทันที,รวมทั้งยกเลิกmou43,44,tor46ด้วยจะเลือกมาเป็นนายกใหม่ทันที, .. ..นายกฯปัจจุบันหรือใครเข้ามาเป็น ต้องจำใส่สมองตลอดเวลาว่า เขมรนำโดยฮุนเซนฮุนมาเนตต้องถูกจัดอย่างเดียว,ไม่สามารถมานั่งเจรจาต่อรองใดๆได้อีก,มันคือตัวภัยความมั่นคงไทย จะทำลายไทยชัดเจน.,มันสั่งยิงจรวดสั่งยิงระเบิดใส่คนไทยให้ตายจริงชัดเจน ,ประชาชนเราคือผู้บริสุทธิ์แท้ที่ใช้ชีวิตประจำวันปกตินอกแนวปะทะแนวรบ,ฮุนเซนฮุนมาเนตมิอาจหนีความผิดครั้งนี้ได้ ต้องตายสถานเดียว,รัฐบาลปัจจุบันทำไม่ได้ก็ออกไปสะ อย่าถ่วงคนทำได้ มากำจัดฮุนเซนฮุนมาเนตได้จริง อย่ามาถ่วงเวลาถ่วงสาระพัดเรื่อง,ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. นี้คือการถ่วงเวลาชัดเจน,บ้านหนองจานเอย ตราดเอย จันทบุรีเอย สระแก้วเอย ถ่วงเวลาชัดเจนที่นำโดยรัฐบาล4เดือนนี้,จะมารักษาการอีก บัดสบมาก,พอกันทีกับนักการเมืองลักษณะนี้ ชาติไทยบรรลัยนี้กับสถานการณ์ยุคอนาคตหากสมองปัญญาและความคิดตนยังปลดแอกจากอำนาจมืดฝ่ายเลวที่สั่งการตนอยู่ไม่ได้,การบริหารชาติ บริหารบ้านเมืองจะถูกครอบงำไปทางไม่ดีต่อไปอีกบนยุคสมัยใหม่ที่ไม่ทันเกมส์หมากมัน คนไทยเราเองจะซวยทั้งประเทศ ปกติสุขจะสิ้นพบเห็น,เพียงสถานการณ์แค่เขมรยังไม่มีปัญญาจัดการได้ เรามีผู้ปกครองที่กาก กระจอก ไร้ฝีมือ มือไม่ถือ ห่วยแตกมากและระยำจัญไรมานาน โดยเฉพาะไอ้สาระเลวหน้าหล่อไปทำmouเป็นสนธิสัญากับUN นี้บ่งบอกชัดเจนว่านายกฯในอดีตๆเราชั่วเลวทั้งโดยสันดานและถูกควบคุมครอบงำจากอำนาจมืดโลกสากลปกครองเราทางลับผ่านนายกฯคนไทยเรา ให้ทำสิ่งที่เลวชั่วแบบยกสัมปทานบ่อน้ำมันให้ต่างชาติให้ถูกกฎหมายไทยตนเองเพื่อหลบตาประชาชนให้ชอบธรรม ไม่ปล้นชิงอย่างเปิดเผยเหมือนในอดีต,สาระพัดกฎหมายมากมายในไทยล้วนพวกเดอะแก๊งสาระเลวนี้เขียนผ่านออกมาเพื่อกดขี่ประชาชนคนไทย,ใช้บังคับปนะชาชนคนไทยให้ต้องปฏิบัติตามที่มันออกกฎออกกติกาเงื่อนไข,ทำง่ายมาก เขียนกฎหมายง่ายมากในหมู่พวกมันไม่กี่คน,แต่พอตอนจะยกเลิก สาระพัดให้มีความยุ่งยาก,แบบmou43,44มุกเดียวกัน มันเวลาทำการเสือกไม่เอาเข้าสภา ทำกันในหมู่คณะมันเอง คณะครม.ก็ทำเอง คณะกระทรวงทบวงกรมข้าราชการต่างๆก็เขียนเองทำเองออกกฎกติกาเองไม่มีมติจะประชาชนลงมติรับรู้เห็นด้วยห่าอะไร กูเขียนกูออกกฎหมายมามรึงประชาชนต้องทำตามอย่างเดียว,นี้คือระบบเผด็จการคอมมิวนิสต์ผ่านระบบกฎหมายในระบอบอ้างว่าประชาธิปไตยบังหน้าของระบอบฝรั่งส่งออกให้เรามาใช้ระบอบห่าเหวฝรั่งนี้ปกครอง. ..ฝรั่งเศสแท้ๆพยายามมาตลอดทุกๆยุคสมัยเพื่อยึดประเทศไทยเรา ยึดไม่ได้ มันก็ยึดด้วยให้ไทยใช้ระบอบปกครองแบบมัน มันฝรั่งเศสที่ใช้จริง เสมือนมรึงไทยจะตกเป็นเมืองขึ้นทางอ้อมนั้นเอง,จากนั้นก็ยึดเนียนๆแบบส่งฝรั่งอื่นๆแบบฝรั่งอเมริกา ฝรั่งชาติอื่นๆมายึดปล้นชิงสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายของไทยไว้ รวบรวมเก็บแดกเองใส่มันพวกฝรั่งให้มากผูกขาดให้มาก แบบผูกขาดน้ำมันในไทย มันยึดผ่านกฎหมายปิโตรเลียมมันที่พาคนไทยหน้าโง่ทรยศหักหลังคนไทยด้วยกันเองพากันเขียนเองเออเอง จนยึดบ่อน้ำมันผูกขาดสัมปทานจนสิ้นทุกๆหลุดน้ำมัน,ซวยคือคนไทยซื้อน้ำมันแบบราคาอิหร่านลิตรละ1-2บาทไม่ได้จะเบนซินหรือดีเชลในอิหร่านก็ไม่เกินลิตระละ1-2บาทที่ไม่มีการผสมเอทานอลใดๆเลย,แต่ไทย ที่เอกชนไทยสารเลวบวกต่างชาติชั่วระยำบัดสบที่ปล้นชิงยึดบ่อน้ำมันไทยผ่านกฎหมายไทยที่ฝรั่งมันเองพาเขียน ทำการขายน้ำมันให้คนไทยหนักสุด 2ลิตร100บาทแบบไม่ผสมเติมเอทานอลเลย,ปัจจุบันก็ยังแดกที่ลิตรละ30บาทต่ำสุดในปัจจุบันสูงสุดเกือบ40บาทหรือ45บาทตามอารมณ์คนท้องถิ่นรับไปขายในที่ห่างไกล, ..วิกฤตอะไรจะเกิดขึ้น ราคาน้ำมันไทยทแดกเงียบ,ไม่ยอมลดราคาด้วย,มันพยายามขึ้นราคามาตลอด ชัดเจนเริ่มก่อนยุค40 หลังยุค40ตัวพ่อ มันพยายามขึ้นราคาน้ำมันตลอด เพื่อทำให้ราคาขนส่งขึ้นไปด้วย มุกเพื่อให้ราคาสินค้านายทุนบริษัทกิจการทุนสามานย์ปรับราคาสินค้าอ้างต้นทุนราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ค่าขนส่งโลจิสติกสูงขึ้นมันว่า ราคาข้าวของกูขอขึ้นเลยนะมันว่า ,จากนั้นล่ะ มันเริ่มรับลูกรับบทกันมาตลอด มรึงน้ำมันขึ้นสักพักนะ กูราคาข้าวของเรียกร้องขึ้รเลย แมร่งขึ้นมาตลอดจากยุค40 จนราคาค่าครองชีพค่าสินค้่บรรลัยบัดสบแพงขึ้นสูงขึ้นในปัจจุบัน,นี้คือวิธีทำลายชาติไทยจากวิถีชีวิตคนไทยในความเป็นอยู่ปัจจุบันชัดเจน บวกวิกฤติโลกยุโรปล้มอีก ชาติตะวันตกและยุโรปล่มสลายทางการเงินมากระทบเอเชียอาเชียนด้วยนั้นเองจึงเหี้ยให้เห็นจริงชัดในปัจจุบัน,และราคาน้ำมันเสือกไม่ลดราคาน้ำมันลงช่วยคนไทยภายในประเทศด้วยเพราะฝรั่งมันยึดบ่อน้ำมันไทย ,ฝรั่งในที่นี้ เหมารวมได้เลยว่าคือฝรั่งที่ปล้นแดนดินไทยในอดีตทั้งหมดล่ะ มันคือพวกเดียวกันหมดคือแยกบ้านกันเท่านั้นแต่มันเครือญาติกันหมด.,บ้านหลักไม่ปล้นชิงแย่งชิงไทยตรงๆก็อาศัยบ้านรองแบบอเมริกาหรือชาติอื่นมาปล้นแทน แต่แมร่งไปดูไส้ใน โคตรพ่อโคตรแมร่งเดอะแก็งเดียวกันหมด ปล้นชิงไทยเสร็จมันก็แอบแบ่งส่วนผลประโยชน์กำไรๆให้ๆกันไปเหมือนเดิมนั้นเอง. ..เขมรที่ปะทะยิงไทยให้เราตายก็ฝรั่งและชาติควายเลวระยำอยู่ร่วมในเบื้องหลังเขมรเนรคุณนี้ล่ะก็จะอยากได้ทรัพยากรมากมายบนเขตแดนที่1:200,000ที่เราเสียดินแดนถึง1:150,000นี้ล่ะ มันได้ทั้งบนบกและอ่าวไทยชัดเจน 10ล้านล้านบาทจริงๆอาจไม่ใช่ตัวเลขนี้ เขมรจึงร่วมกับฝรั่งและชาติอื่นๆสารเลวทางใต้ดินจะยึดครองแดนดินแผ่นดินไทยให้ได้ อาจมีกว่า1,000ล้านล้านบาทเลย 100ล้านล้านบาทอาจเล็กน้อยเท่านั้น.,ฝรั่งมันมีดาวเทียมสำรวจแร่ธาตุโดยเฉพาะ มันรู้หมดล่ะ แบบอเมริกาสำรวจบ่อน้ำมันเราและแร่ธาตุทั้งหมดในประเทศไทยเราสมันสงครามอินโดจีน อีสานมันสำรวจมากเป็นพิเศษเลยล่ะแต่ด้วยเทคโนโลยียังไปไม่ถึงมันจึงเว้นไว้ก่อน,แต่บ่อน้ำมันและแร่ธาตุอื่นๆมันเห็นหมดจึงรีบมายึดไทย จีนโรงงานแถวอีสานก็ผุดอย่างมากมาย,จีนนี้ก็เอาเปรียบไทยนะ,ลาวคือตย.,เวียดนามรู้ไส้รู้พุงจีนอย่างดี,ติดจีนขนาดนั้น,อดีตเราจีนแม้ผลประโยชน์มีจริงแต่สายสัมพันธ์ทางใจดีกว่ามากเมื่อเทียบปัจจุบัน ผลประโยชน์อาจมาก่อนสายสัมพันธ์ที่ดีๆกันไปแล้ว,คนจีนรุ่นปัจจุบันมันมองผลประโยชน์ต้องมาก่อน ลงทุนต้องเอากำไรคืนอย่างเดียว.,นักลงทุนจีนที่สันดานนิสัยเลวแย่ๆที่ออกมานอกประเทศจีนส่วนใหญ่จะมากและเป็นคนพวกนี้,คนดีๆจีนนิสัยดีๆออกมาลงทุนจริงนอกประเทศนั้นมาน้อย.,พวกโลภๆจีนโลภๆทั้งนั้นที่ออกมาลงทุนในประเทศไทยเรา ตย.ชัดเจน คือทัวร์ศูนย์เหรียญ โรงงานศูนย์เหรียญในไทยก็เป็นข่าวชัดเจนแล้ว,คนจีนสันดานจริงๆก็ชอบเอาเปรียบคนอื่นและเห็นแก่ตัวนี้ล่ะของจริง,ต่างจังหวัดคนในชนบทจะเห็นสันดานดิบคนจีนชัดเจนในอดีต,เพราะคนชนบทไทยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เมตตากัน แบ่งกันกินกันใช้ ไม่ติดนิสัยโลภนัก มีธรรมะค้ำชูจิตใจคนในชุมชนสังคม คนจีนที่แสดงนิสัยสันดานดิบออกมาจึงเป็นที่ผิดปกติง่ายดาย.,แต่คนจีนดีๆก็มีจริงแต่ส่วนน้อย, ..คนไทยเรา ผู้นำไทยเรา ถ้าเราได้คนดีมาปกครองจริงๆตั้งแต่ต้น เราจะไม่มีสถานะแบบปัจจุบันนี้,เราจะร่ำรวยทั้งทางวัตถุธาตุนิยมคู่ขนานร่ำรวยทางจิตใจดีงามด้วยพร้อมๆกันไม่ยาก,ไม่เสื่อมเช่นในปัจจุบัน ยากจนดักดานมั่นคงด้วย บวกคนได้บัตรคนจนเพิ่มมากมายนั้นเองหากลงทะเบียนเพิ่มกันจริงๆ. .. #หยุดผู้นำกากมานำพาประเทศไทย #หยุดผู้นำขี้ขลาดมานำพาประเทศไทย #หยุดผู้นำไทยใจเขมรมานำประเทศไทย #หยุดนายกไทยใจหมามานำประเทศไทย https://youtu.be/BV3HAhljI3k?si=0sIBsws9xTVKWOXv
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1103 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ตอนที่ 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3”
    ตอนที่ 2

    ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษมองอเมริกาเหมือนเป็นเด็กอ่อน เขี้ยวยังไม่งอก ดังนั้นอังกฤษจึงตั้งตัวเองเป็นหัวหน้า เป็นผู้ควบคุมเกมสงครามโลกครั้ง ที่ 1 อังกฤษอยากทำสงคราม แต่กำลังถังแตก! ไม่มีทุน แต่คิดการใหญ่ จึงมีการวางแผนหลอกล่อ ให้อเมริกาเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินและอื่นๆ ให้อังกฤษเข้าทำสงคราม แผนการหลอกล่ออเมริกานี้ เกิด ขึ้นจากการ ร่วมมือของเหล่าอิลีต นักการเมือง นักธุรกิจข้ามชาติ และนักการเงิน ของทั้ง 2 ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ที่คิดร่ำรวย จากการยุให้ทั้งอังกฤษ และอเมริกา เข้าทำสงครามโลก โดยให้ Think Tank ถังความคิด Chatham House ของฝั่งอังกฤษและ Council on Foreign Relations (CFR) ของฝั่งอเมริกา ร่วมกันวางแผนดำเนินการ

    นักธุรกิจ ไม่ว่าสมัยไหน และเชื้อชาติไหน ส่วนใหญ่ก็คิดเพื่อกระเป๋าตัวเองทั้งสิ้น ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร ช่างมัน

    แต่แท้จริงแล้ว อเมริกา ที่อังกฤษคิดว่าเป็นเด็กอ่อนเขี้ยวยังไม่งอก แอบเอาเขี้ยวหลบใน อเมริกามองข้ามซ๊อตไกลไปกว่าพวกชาวเกาะ ใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 จะเกิดเสียอีก! อเมริกาเห็นว่า ไม่ใช่จะมีแต่อังกฤษเท่านั้น ที่ใหญ่พอที่จะเป็นผู้ครองโลกหมายเลขหนึ่ง อเมริกาเองก็มีสิทธิเข้าชิงตำแหน่งเหมือนกัน อเมริกาจึงวางแผน ที่มีทั้งความลึก และใช้เวลายาวนานอย่างเหลือเขื่อ !

    อเมริกา วางแผนล่วงหน้าที่จะให้มีทั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 รวมทั้งวางแผน จังหวะเวลาที่เหมาะสม สำหรับอเมริกา ที่จะเข้าสู่สงครามโลกแต่ละครั้ง และสุดท้ายจะเป็นรายเดียวของผู้ชนะสงครามโลก ที่ไม่บอบช้ำ วางแผนสมกับจะเป็นผู้นำโลกจริงๆ

    อเมริกาเล่นบทเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วย การลงทุนให้การสนับสนุนอังกฤษ ทั้งด้านการเงินและอื่นๆ ให้อังกฤษนำการรบ ให้อังกฤษจัดการคว่ำเยอรมัน ซึ่งเป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งในยุโรป โดยมีฝรั่งเศษ อิตาลีและ รัสเซีย เป็นกองเชียร์สนับสนุนและรุมทุบ โดยอเมริกาไม่ต้องออกแรง หลังจากนั้นอเมริกาวางแผนหนุนรัสเซีย ให้ทำการปฏิวัติล้มราชวงศ์ ทั้งหมดเพื่อนำไปสู่เกิดของสงครามโลกครั้งที่ 2 เห็นเขี้ยวอเมริกาหรือยัง

    อเมริกาวางแผนการเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ใน จังหวะที่จะส่งผลให้อังกฤษและยุโรปบอบซ้ำ ฉิบหาย กระเป๋าฉีก บ้านเมืองพังพินาศ และหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงจะเหลืออเมริกาประเทศใหญ่ ประเทศเดียวที่ไม่มีการบอบซ้ำ และผงาดเป็นพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลกแทนที่อังกฤษ ตามแผนที่วางไว้ทุกประการ (รายละเอียดของตอนนี้อยู่ในนิทานเรื่อง”มายากลยุทธ”) อเมริกาไม่ใช่มีเขี้ยวธรรมดา แต่เป็นเขี้ยวที่แหลมคมยิ่ง
    มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และอเมริกาก็ไม่ได้ถูกอังกฤษหลอกต้ม แต่อเมริกาปล่อยให้คิดว่า อเมริกาถูกหลอก จริงๆแล้วอเมริกาเอง ก็มีความคิดที่จะเป็นพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก โดยการครอบครอง Eurasia เช่น เดียวกับอังกฤษ เพราะกลุ่มผู้วางแผนให้อเมริกาเข้าสู่สงครามโลก ทั้ง 2 ครั้ง รวมทั้งเดินแผนครองโลกก็คือ กลุ่มบุคคลที่เป็นลูกศิษย์ครู Mac ใน ด้านภูมิศาสตร์การเมืองเหมือนกัน หรือมีความเห็นไม่ต่างกับครู Mac อิทธิพลครูMac นี่ไม่เบาเลย

    ผู้วางแผนปฏิบัติการของอเมริกาก็คือ ถังความคิดหมายเลขหนึ่งของอเมริกา Council of Foreign Relations หรือ CFR ตัวแสบนี่แหละ ที่ซ้อนแผนของอังกฤษอีกต่อหนึ่ง CFR โดยการชักใยของพวกอีลิต ที่อยากจะมีอำนาจเหนือรัฐบาลอเมริกัน นำโดยตระกูล Rockefeller ทำหน้าที่ คัดสรร จัดหา วางตัว และผลักดันบุคคล ที่พวกตนเลือก เข้าไปอยู่ในตำแหน่ง และองค์กรสำคัญๆ ของรัฐบาลอเมริกัน เพื่อมาดำเนินการตามแผน อย่างต่อเนื่อง

    หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การเดินแผนครองโลกของอเมริกา เป็นไปตามโครงการ War and Peace Studies ที่ CFR เป็นผู้จัดทำให้รัฐบาลอเมริกาปฏิบัติ ตามโครงการนี้ อเมริกาต้องมุ่งหน้า แผ่อิทธิพลเข้าไป เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ลาตินอเมริกา และประเทศต่างๆที่หลุดพ้นจากการเป็นอาณานิคม เนื่องจากผลของสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมทั้งกับอีกหลายประเทศในยุโรป ที่พังยับเยินจากสงครามโลกครั้งที่ 2 โครงการ War and Peace เรียกบริเวณต่างๆ เหล่านั้นว่า “Grand Area” ทุ่งใหญ่สำหรับการล่า เพื่อมุ่งหน้าไปสู่การเป็นหมายเลขหนึ่ง ผู้ครองโลกใบนี้

    เป็นการวางแผน เพื่อชิงโลกคนละเส้นทางกับครูMac แต่สอดคล้องกัน โดย เป็นการค่อยๆล้อม Eurasia มาจากอีกฝั่งหนึ่ง และดูเหมือนจะเป็นยุทธศาสตร์กระชับวงล้อมแบบที่อเมริกาชอบใช้

    จังหวะและการเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ของอเมริกา ก็เป็นหนึ่งในแผนการที่โครงการ War and Peace กำหนดไว้ล่วงหน้าด้วย (รายละเอียดตอนนี้อยู่ในนิทานเรื่อง “แหกคอก”)

    โดยการวางแผนของ CFR หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาล อเมริกันเริ่มแผน โดยมุ่งหน้ามาทางเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ก่อน ด้วยการสร้างผีคอมมิวนิสต์และทฤษฎีโดมิโน เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด รวมทั้งแดนสมันน้อย ก็ตกอยู่ในกำมือ ไม่ต่างกับเป็นเมืองขึ้นกลายๆของอเมริกา รวมกับญี่ปุ่นซึ่งแพ้สงครามโลก และอยู่ในกระเป๋าของอเมริกาไปก่อนแล้ว อเมริกา จึงเหมือนได้เอเซียไปเกือบหมด ยกเว้น จีน อินเดีย และเกาหลีเหนือ
    พร้อมกับการรวบเอเซีย อเมริกาก็จัดการกวาดประเทศแถบลาตินอเมริกามาได้เกือบหมดด้วย ยกเว้นคิวบา หนามยอกอกของอเมริกา ซึ่งเอียงไปทางฝั่งสหภาพโซเวียตอย่างไม่เปลี่ยนแปลง (รายละเอียดตอนนี้อยู่ในนิทานเรื่องจิ๊กโก๋ปากซอย และมายากลยุทธ)

    หมากต่อไปที่อเมริกาต้องรีบเดิน ตามอิทธิพลของยุทธศาสตร์ครู Mac คือ การชิง Heartland ของ Eurasia ทฤษฎีการปิดล้อม หรือ Containment สหภาพโซเวียต ที่นำไปสู่สงครามเย็น จึงถูกนำมาใช้ตั้งแต่ ค.ศ.1947 เป็นต้นมา

    ด้วยการ Containment ของอเมริกาและพวก เศรษฐกิจของสหภาพโซเวียตจึงอาการสาหัส แต่โซเวียตก็ยังไม่ล้มอย่างที่อเมริกาคาด ทุบจากข้างนอกไม่ล้ม อเมริกาจึงเปลี่ยนเป็นแผนทุบจากข้างใน ค.ศ.1985 Mikhail Gorbachev เป็น ผู้คุมบังเหียนสหภาพโซเวียต เห็นคนนอกดีกว่าคนในเพราะอะไรคงเดากันออก ได้ตัดเชือกที่ผูกสหภาพโซเวียตไว้ด้วยกันขาดสะบั้น ตามต่อด้วย Boris Yelsin ใน ปี ค.ศ.1990 ซึ่งไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ในที่สุด ค.ศ.1991 สหภาพโซเวียตก็ล่มสลายสมใจอเมริกา (รายละเอียดตอนนี้อยู่ในนิทานเรื่อง” มายากลยุทธ”)

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    30 พย. 2557
    แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3” ตอนที่ 2 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษมองอเมริกาเหมือนเป็นเด็กอ่อน เขี้ยวยังไม่งอก ดังนั้นอังกฤษจึงตั้งตัวเองเป็นหัวหน้า เป็นผู้ควบคุมเกมสงครามโลกครั้ง ที่ 1 อังกฤษอยากทำสงคราม แต่กำลังถังแตก! ไม่มีทุน แต่คิดการใหญ่ จึงมีการวางแผนหลอกล่อ ให้อเมริกาเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินและอื่นๆ ให้อังกฤษเข้าทำสงคราม แผนการหลอกล่ออเมริกานี้ เกิด ขึ้นจากการ ร่วมมือของเหล่าอิลีต นักการเมือง นักธุรกิจข้ามชาติ และนักการเงิน ของทั้ง 2 ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ที่คิดร่ำรวย จากการยุให้ทั้งอังกฤษ และอเมริกา เข้าทำสงครามโลก โดยให้ Think Tank ถังความคิด Chatham House ของฝั่งอังกฤษและ Council on Foreign Relations (CFR) ของฝั่งอเมริกา ร่วมกันวางแผนดำเนินการ นักธุรกิจ ไม่ว่าสมัยไหน และเชื้อชาติไหน ส่วนใหญ่ก็คิดเพื่อกระเป๋าตัวเองทั้งสิ้น ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร ช่างมัน แต่แท้จริงแล้ว อเมริกา ที่อังกฤษคิดว่าเป็นเด็กอ่อนเขี้ยวยังไม่งอก แอบเอาเขี้ยวหลบใน อเมริกามองข้ามซ๊อตไกลไปกว่าพวกชาวเกาะ ใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 จะเกิดเสียอีก! อเมริกาเห็นว่า ไม่ใช่จะมีแต่อังกฤษเท่านั้น ที่ใหญ่พอที่จะเป็นผู้ครองโลกหมายเลขหนึ่ง อเมริกาเองก็มีสิทธิเข้าชิงตำแหน่งเหมือนกัน อเมริกาจึงวางแผน ที่มีทั้งความลึก และใช้เวลายาวนานอย่างเหลือเขื่อ ! อเมริกา วางแผนล่วงหน้าที่จะให้มีทั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 รวมทั้งวางแผน จังหวะเวลาที่เหมาะสม สำหรับอเมริกา ที่จะเข้าสู่สงครามโลกแต่ละครั้ง และสุดท้ายจะเป็นรายเดียวของผู้ชนะสงครามโลก ที่ไม่บอบช้ำ วางแผนสมกับจะเป็นผู้นำโลกจริงๆ อเมริกาเล่นบทเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วย การลงทุนให้การสนับสนุนอังกฤษ ทั้งด้านการเงินและอื่นๆ ให้อังกฤษนำการรบ ให้อังกฤษจัดการคว่ำเยอรมัน ซึ่งเป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งในยุโรป โดยมีฝรั่งเศษ อิตาลีและ รัสเซีย เป็นกองเชียร์สนับสนุนและรุมทุบ โดยอเมริกาไม่ต้องออกแรง หลังจากนั้นอเมริกาวางแผนหนุนรัสเซีย ให้ทำการปฏิวัติล้มราชวงศ์ ทั้งหมดเพื่อนำไปสู่เกิดของสงครามโลกครั้งที่ 2 เห็นเขี้ยวอเมริกาหรือยัง อเมริกาวางแผนการเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ใน จังหวะที่จะส่งผลให้อังกฤษและยุโรปบอบซ้ำ ฉิบหาย กระเป๋าฉีก บ้านเมืองพังพินาศ และหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงจะเหลืออเมริกาประเทศใหญ่ ประเทศเดียวที่ไม่มีการบอบซ้ำ และผงาดเป็นพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลกแทนที่อังกฤษ ตามแผนที่วางไว้ทุกประการ (รายละเอียดของตอนนี้อยู่ในนิทานเรื่อง”มายากลยุทธ”) อเมริกาไม่ใช่มีเขี้ยวธรรมดา แต่เป็นเขี้ยวที่แหลมคมยิ่ง มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และอเมริกาก็ไม่ได้ถูกอังกฤษหลอกต้ม แต่อเมริกาปล่อยให้คิดว่า อเมริกาถูกหลอก จริงๆแล้วอเมริกาเอง ก็มีความคิดที่จะเป็นพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก โดยการครอบครอง Eurasia เช่น เดียวกับอังกฤษ เพราะกลุ่มผู้วางแผนให้อเมริกาเข้าสู่สงครามโลก ทั้ง 2 ครั้ง รวมทั้งเดินแผนครองโลกก็คือ กลุ่มบุคคลที่เป็นลูกศิษย์ครู Mac ใน ด้านภูมิศาสตร์การเมืองเหมือนกัน หรือมีความเห็นไม่ต่างกับครู Mac อิทธิพลครูMac นี่ไม่เบาเลย ผู้วางแผนปฏิบัติการของอเมริกาก็คือ ถังความคิดหมายเลขหนึ่งของอเมริกา Council of Foreign Relations หรือ CFR ตัวแสบนี่แหละ ที่ซ้อนแผนของอังกฤษอีกต่อหนึ่ง CFR โดยการชักใยของพวกอีลิต ที่อยากจะมีอำนาจเหนือรัฐบาลอเมริกัน นำโดยตระกูล Rockefeller ทำหน้าที่ คัดสรร จัดหา วางตัว และผลักดันบุคคล ที่พวกตนเลือก เข้าไปอยู่ในตำแหน่ง และองค์กรสำคัญๆ ของรัฐบาลอเมริกัน เพื่อมาดำเนินการตามแผน อย่างต่อเนื่อง หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การเดินแผนครองโลกของอเมริกา เป็นไปตามโครงการ War and Peace Studies ที่ CFR เป็นผู้จัดทำให้รัฐบาลอเมริกาปฏิบัติ ตามโครงการนี้ อเมริกาต้องมุ่งหน้า แผ่อิทธิพลเข้าไป เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ลาตินอเมริกา และประเทศต่างๆที่หลุดพ้นจากการเป็นอาณานิคม เนื่องจากผลของสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมทั้งกับอีกหลายประเทศในยุโรป ที่พังยับเยินจากสงครามโลกครั้งที่ 2 โครงการ War and Peace เรียกบริเวณต่างๆ เหล่านั้นว่า “Grand Area” ทุ่งใหญ่สำหรับการล่า เพื่อมุ่งหน้าไปสู่การเป็นหมายเลขหนึ่ง ผู้ครองโลกใบนี้ เป็นการวางแผน เพื่อชิงโลกคนละเส้นทางกับครูMac แต่สอดคล้องกัน โดย เป็นการค่อยๆล้อม Eurasia มาจากอีกฝั่งหนึ่ง และดูเหมือนจะเป็นยุทธศาสตร์กระชับวงล้อมแบบที่อเมริกาชอบใช้ จังหวะและการเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ของอเมริกา ก็เป็นหนึ่งในแผนการที่โครงการ War and Peace กำหนดไว้ล่วงหน้าด้วย (รายละเอียดตอนนี้อยู่ในนิทานเรื่อง “แหกคอก”) โดยการวางแผนของ CFR หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาล อเมริกันเริ่มแผน โดยมุ่งหน้ามาทางเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ก่อน ด้วยการสร้างผีคอมมิวนิสต์และทฤษฎีโดมิโน เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด รวมทั้งแดนสมันน้อย ก็ตกอยู่ในกำมือ ไม่ต่างกับเป็นเมืองขึ้นกลายๆของอเมริกา รวมกับญี่ปุ่นซึ่งแพ้สงครามโลก และอยู่ในกระเป๋าของอเมริกาไปก่อนแล้ว อเมริกา จึงเหมือนได้เอเซียไปเกือบหมด ยกเว้น จีน อินเดีย และเกาหลีเหนือ พร้อมกับการรวบเอเซีย อเมริกาก็จัดการกวาดประเทศแถบลาตินอเมริกามาได้เกือบหมดด้วย ยกเว้นคิวบา หนามยอกอกของอเมริกา ซึ่งเอียงไปทางฝั่งสหภาพโซเวียตอย่างไม่เปลี่ยนแปลง (รายละเอียดตอนนี้อยู่ในนิทานเรื่องจิ๊กโก๋ปากซอย และมายากลยุทธ) หมากต่อไปที่อเมริกาต้องรีบเดิน ตามอิทธิพลของยุทธศาสตร์ครู Mac คือ การชิง Heartland ของ Eurasia ทฤษฎีการปิดล้อม หรือ Containment สหภาพโซเวียต ที่นำไปสู่สงครามเย็น จึงถูกนำมาใช้ตั้งแต่ ค.ศ.1947 เป็นต้นมา ด้วยการ Containment ของอเมริกาและพวก เศรษฐกิจของสหภาพโซเวียตจึงอาการสาหัส แต่โซเวียตก็ยังไม่ล้มอย่างที่อเมริกาคาด ทุบจากข้างนอกไม่ล้ม อเมริกาจึงเปลี่ยนเป็นแผนทุบจากข้างใน ค.ศ.1985 Mikhail Gorbachev เป็น ผู้คุมบังเหียนสหภาพโซเวียต เห็นคนนอกดีกว่าคนในเพราะอะไรคงเดากันออก ได้ตัดเชือกที่ผูกสหภาพโซเวียตไว้ด้วยกันขาดสะบั้น ตามต่อด้วย Boris Yelsin ใน ปี ค.ศ.1990 ซึ่งไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ในที่สุด ค.ศ.1991 สหภาพโซเวียตก็ล่มสลายสมใจอเมริกา (รายละเอียดตอนนี้อยู่ในนิทานเรื่อง” มายากลยุทธ”) สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 30 พย. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 493 มุมมอง 0 รีวิว


  • #พรบการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรือคาร์บอนเครติดคือภัยพิบัติคนไทยเรา หรือมุกแอบแฝงควบคุมคาร์บอนให้ต่ำลง เป้าหมายควบคุมประชาชนในประเทศนั้นทั้งหมดให้เป็นทาสขี้ข้าโดยเบ็ดเสร็จของอีลิทไซออนิสต์deep state อะเจนด้า30ที่ต้องการ,

    #รัฐบาลสามารถควบคุมCBDCเชื่อมต่อกับรหัสดิจิทัลไบโอเมตริกซ์เชื่อมต่อกับเครือข่ายกล้องจดจำใบหน้า

    #รัฐบาลสามารถควบคุมปริมาณคาร์บอนของคุณ

    #รัฐบาลสามารถควบคุมวิธีการใช้จ่ายเงิน

    #รัฐบาลสามารถควบคุมระบบเครดิตทางสังคมของ

    #รัฐบาลสามารถควบคุมโปรแกรมCBDCให้หยุดเงินของคุณได้ทั้งหมด


    จีนคือตัวพ่อเผด็จการจะยึดโลกควบคุมมนุษย์ อีลิทไซออนิสต์deep stateโลกมันทิ้งอเมริกาย้ายมาใช้งานจีนแล้ว.,เหมือนทิ้งอังกฤษปอนด์ ไปหาอเมริกาดอลล่าร์เพื่อควบคุมโลก ในโลกยุคใหม่ที่เราเห็นกันชัดๆที่ผ่านๆมา,ตอนนี้กำลังจะเขียนบริบทโลกใหม่อีกแล้ว ยูโรปทางตัน อเมริกาก็ทางตัน ,จีนคือตัวเลือก ,ทิ้งดอลล่าร์ใช้หยวนนั้นเองในโลกทางการเงิน,แต่ความจริงระบบคอมมิวนิสต์ต่างหากที่เหมาะสมกับสไตล์อีลิทมัน,อังกฤษและอเมริกามันลองใช้แล้วล้มเหลว จึงจะใช้ระบบเผด็จการแทนในการทดสอบครั้งนี้ในยุคใหม่นี้ มันจึงถ่ายทอดเทคโนโลยีย้ายโอนมาอัดมาใส่ที่จีน,คนจีนคือห้องทดลองผิวโลกขนาดใหญ่ของมันที่ผ่านๆมา.,ทางเลือกมีแค่คนจีนดีๆจะลุกขึ้นสู้ร่วมต่อต้านระบบเผด็จการปลดปล่อยตนเองทั้งประเทศจีนเท่านั้น.,หรืออเมริกายิงขีปนาวุธถล่มจีนปลดปล่อยชาวจีนเท่านั้น,โดยอเมริกาก็ปลดปล่อยตนเองจากอีลิทเองด้วยซึ่งถูกกดขี่มานานเช่นกัน.
    ..ในสภาฯไทยเรา นายกฯอนุทินประกาศชัดเจนเหมือนมุ่งเน้นเจตนารมณ์ตามคำสั่งอีลิทเด่นมาก,ซึ่งจริงๆไม่ต้องอ่านหรือเขียนอย่างเป็นทางการก็ได้,รวมเอาพรบ.สภาพอากาศมายื่นพื้นช่วยค้ำให้อีลิทด้วย รับไม้ต่อชัดเจนไม่ว่าจะเปลี่ยนใครมาเป็นนายกฯ เหมือนไม่แตะบ่อปิโตรเลี่ยน บ่อน้ำมันไทยเลยนั้นล่ะ ถ้าประกาศว่าจะยกเลิกสัมปทานบ่อปิโตรเลียมทั้งหมดที่ไม่เคยผ่านสภาสส.สว.อันขัดต่อความมั่นคงทางอธิปไตยของชาติด้านพลังงานของรัฐธรรมนูญแม่บทเรา ถ้าประกาศแบบนี้จะดีมาก ยกเลิกเลย,แต่ไม่แตะเลย,วิกฤติเศรษฐกิจไทยแค่ลดราคาน้ำมันลงเหลือ1-2บาทแบบอิหร่าน เราจะผ่านพ้นทันทีทั้งประเทศ เสมือนยึดแดนดินคืนจากเขมรที่เสาหมุด1:1 ทั้ง73-74เสาเขตแดนตั้งเป็นฐานเดิมเรื่องเขตแดนก็จบแล้ว,mouใดๆถือว่าโมฆะหมด,เรามีนายกฯที่ไม่มีฝีมือ ไม่กล้าหาญจริงแต่นั้น,,นายกฯกล้าหาญคือโมฆะสัมปทานบ่อน้ำมันทั้งหมด ยึดดินแดนไทยคืนจากเขมร,สร้างรั้วลวดหนามตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมร,ปิดด่านไทยเขมรไม่มีกำหนดจนกว่าเขมรจะหมดสิ้นสภาพสถานะมาเป็นภัยร้ายแรงคุกคามกับไทยได้อีกพร้อมคว่ำบาตรเขมรทุกๆช่องทางทั้งหมดด้วย,กรณีโจรใต้เราก็สร้างรั้วลวดหนามถาวรตลอดแนวพรมแดนกว่า600กม.ด้วยเช่นกัน.,นี้คือพื้นฐานจริงที่นายกฯประเทศต้องทำทันทีในยุคนี้ ปลดปล่อยประเทศไทย กอบกู้ชาติไทยคืนจากการผูกขาดทรัพยากรชาติไทยจากต่างชาติทั้งหมด,เมื่อนายกฯในอดีตชั่วเลว นายกฯปัจจุบันไม่จำเป็นต้องคงสิ่งชั่วเลวที่มันร่วมกันทำไว้,เพราะอำนาจนายกฯอยู่ในมือตนแล้วในปัจจุบัน,เรามีผู้นำผู้ปกครองทันหมากอีลิทย่อมต่อกรหรือชนะได้แน่เช่นกัน.,ผ่านพ้นภัยอันตรายลักษณะผีบ้าที่คอมมิวนิสต์จีนทำกับประชาชนพลเมืองมันด้วย.

    [...CBDC ของจีนเชื่อมต่อกับรหัสดิจิทัลไบโอเมตริกซ์ที่จำเป็น ซึ่งเชื่อมต่อกับเครือข่ายกล้องจดจำใบหน้าอันกว้างขวาง

    ประชาชนสามารถชำระค่าสิ่งของได้อย่าง "สะดวก" โดยไม่ต้องใช้อะไรเลยนอกจากใบหน้า

    แต่สิ่งนี้ยังทำให้รัฐบาลสามารถควบคุมวิธีการใช้จ่ายเงินของประชาชนได้อย่างสมบูรณ์

    ลองนึกภาพผู้หญิงคนนี้ต้องการซื้อโคล่า แต่ในเดือนนี้เธอได้เกินปริมาณคาร์บอนที่อนุญาตไว้แล้ว สามารถตั้งโปรแกรม CBDC ให้ปฏิเสธธุรกรรมโดยอัลกอริทึมได้

    หรือจินตนาการว่าเธอวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทางโซเชียลมีเดีย และพบว่าตัวเองถูกขึ้นบัญชีดำโดยระบบเครดิตทางสังคมของจีน สามารถตั้งโปรแกรม CBDC ให้หยุดเงินทุนของเธอได้ทั้งหมด

    อย่าพลาด: ฝันร้ายดิสโทเปียนี้กำลังจะเกิดขึ้นในโลกตะวันตก หากเรายอมให้รัฐบาลหลอกให้เรายอมรับ ID ดิจิทัลและ CBDC ]
    #พรบการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรือคาร์บอนเครติดคือภัยพิบัติคนไทยเรา หรือมุกแอบแฝงควบคุมคาร์บอนให้ต่ำลง เป้าหมายควบคุมประชาชนในประเทศนั้นทั้งหมดให้เป็นทาสขี้ข้าโดยเบ็ดเสร็จของอีลิทไซออนิสต์deep state อะเจนด้า30ที่ต้องการ, #รัฐบาลสามารถควบคุมCBDCเชื่อมต่อกับรหัสดิจิทัลไบโอเมตริกซ์เชื่อมต่อกับเครือข่ายกล้องจดจำใบหน้า #รัฐบาลสามารถควบคุมปริมาณคาร์บอนของคุณ #รัฐบาลสามารถควบคุมวิธีการใช้จ่ายเงิน #รัฐบาลสามารถควบคุมระบบเครดิตทางสังคมของ #รัฐบาลสามารถควบคุมโปรแกรมCBDCให้หยุดเงินของคุณได้ทั้งหมด จีนคือตัวพ่อเผด็จการจะยึดโลกควบคุมมนุษย์ อีลิทไซออนิสต์deep stateโลกมันทิ้งอเมริกาย้ายมาใช้งานจีนแล้ว.,เหมือนทิ้งอังกฤษปอนด์ ไปหาอเมริกาดอลล่าร์เพื่อควบคุมโลก ในโลกยุคใหม่ที่เราเห็นกันชัดๆที่ผ่านๆมา,ตอนนี้กำลังจะเขียนบริบทโลกใหม่อีกแล้ว ยูโรปทางตัน อเมริกาก็ทางตัน ,จีนคือตัวเลือก ,ทิ้งดอลล่าร์ใช้หยวนนั้นเองในโลกทางการเงิน,แต่ความจริงระบบคอมมิวนิสต์ต่างหากที่เหมาะสมกับสไตล์อีลิทมัน,อังกฤษและอเมริกามันลองใช้แล้วล้มเหลว จึงจะใช้ระบบเผด็จการแทนในการทดสอบครั้งนี้ในยุคใหม่นี้ มันจึงถ่ายทอดเทคโนโลยีย้ายโอนมาอัดมาใส่ที่จีน,คนจีนคือห้องทดลองผิวโลกขนาดใหญ่ของมันที่ผ่านๆมา.,ทางเลือกมีแค่คนจีนดีๆจะลุกขึ้นสู้ร่วมต่อต้านระบบเผด็จการปลดปล่อยตนเองทั้งประเทศจีนเท่านั้น.,หรืออเมริกายิงขีปนาวุธถล่มจีนปลดปล่อยชาวจีนเท่านั้น,โดยอเมริกาก็ปลดปล่อยตนเองจากอีลิทเองด้วยซึ่งถูกกดขี่มานานเช่นกัน. ..ในสภาฯไทยเรา นายกฯอนุทินประกาศชัดเจนเหมือนมุ่งเน้นเจตนารมณ์ตามคำสั่งอีลิทเด่นมาก,ซึ่งจริงๆไม่ต้องอ่านหรือเขียนอย่างเป็นทางการก็ได้,รวมเอาพรบ.สภาพอากาศมายื่นพื้นช่วยค้ำให้อีลิทด้วย รับไม้ต่อชัดเจนไม่ว่าจะเปลี่ยนใครมาเป็นนายกฯ เหมือนไม่แตะบ่อปิโตรเลี่ยน บ่อน้ำมันไทยเลยนั้นล่ะ ถ้าประกาศว่าจะยกเลิกสัมปทานบ่อปิโตรเลียมทั้งหมดที่ไม่เคยผ่านสภาสส.สว.อันขัดต่อความมั่นคงทางอธิปไตยของชาติด้านพลังงานของรัฐธรรมนูญแม่บทเรา ถ้าประกาศแบบนี้จะดีมาก ยกเลิกเลย,แต่ไม่แตะเลย,วิกฤติเศรษฐกิจไทยแค่ลดราคาน้ำมันลงเหลือ1-2บาทแบบอิหร่าน เราจะผ่านพ้นทันทีทั้งประเทศ เสมือนยึดแดนดินคืนจากเขมรที่เสาหมุด1:1 ทั้ง73-74เสาเขตแดนตั้งเป็นฐานเดิมเรื่องเขตแดนก็จบแล้ว,mouใดๆถือว่าโมฆะหมด,เรามีนายกฯที่ไม่มีฝีมือ ไม่กล้าหาญจริงแต่นั้น,,นายกฯกล้าหาญคือโมฆะสัมปทานบ่อน้ำมันทั้งหมด ยึดดินแดนไทยคืนจากเขมร,สร้างรั้วลวดหนามตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมร,ปิดด่านไทยเขมรไม่มีกำหนดจนกว่าเขมรจะหมดสิ้นสภาพสถานะมาเป็นภัยร้ายแรงคุกคามกับไทยได้อีกพร้อมคว่ำบาตรเขมรทุกๆช่องทางทั้งหมดด้วย,กรณีโจรใต้เราก็สร้างรั้วลวดหนามถาวรตลอดแนวพรมแดนกว่า600กม.ด้วยเช่นกัน.,นี้คือพื้นฐานจริงที่นายกฯประเทศต้องทำทันทีในยุคนี้ ปลดปล่อยประเทศไทย กอบกู้ชาติไทยคืนจากการผูกขาดทรัพยากรชาติไทยจากต่างชาติทั้งหมด,เมื่อนายกฯในอดีตชั่วเลว นายกฯปัจจุบันไม่จำเป็นต้องคงสิ่งชั่วเลวที่มันร่วมกันทำไว้,เพราะอำนาจนายกฯอยู่ในมือตนแล้วในปัจจุบัน,เรามีผู้นำผู้ปกครองทันหมากอีลิทย่อมต่อกรหรือชนะได้แน่เช่นกัน.,ผ่านพ้นภัยอันตรายลักษณะผีบ้าที่คอมมิวนิสต์จีนทำกับประชาชนพลเมืองมันด้วย. [...CBDC ของจีนเชื่อมต่อกับรหัสดิจิทัลไบโอเมตริกซ์ที่จำเป็น ซึ่งเชื่อมต่อกับเครือข่ายกล้องจดจำใบหน้าอันกว้างขวาง ประชาชนสามารถชำระค่าสิ่งของได้อย่าง "สะดวก" โดยไม่ต้องใช้อะไรเลยนอกจากใบหน้า แต่สิ่งนี้ยังทำให้รัฐบาลสามารถควบคุมวิธีการใช้จ่ายเงินของประชาชนได้อย่างสมบูรณ์ ลองนึกภาพผู้หญิงคนนี้ต้องการซื้อโคล่า แต่ในเดือนนี้เธอได้เกินปริมาณคาร์บอนที่อนุญาตไว้แล้ว สามารถตั้งโปรแกรม CBDC ให้ปฏิเสธธุรกรรมโดยอัลกอริทึมได้ หรือจินตนาการว่าเธอวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทางโซเชียลมีเดีย และพบว่าตัวเองถูกขึ้นบัญชีดำโดยระบบเครดิตทางสังคมของจีน สามารถตั้งโปรแกรม CBDC ให้หยุดเงินทุนของเธอได้ทั้งหมด อย่าพลาด: ฝันร้ายดิสโทเปียนี้กำลังจะเกิดขึ้นในโลกตะวันตก หากเรายอมให้รัฐบาลหลอกให้เรายอมรับ ID ดิจิทัลและ CBDC ]
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 616 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศไทยเราจริงๆแล้วจะเจริญรุ่งเรืองกันนานแล้ว,เกิดจากพรรคภาคใต้นี้ล่ะตัวถ่วงความเจริญของชาติไทยที่แท้จริง,มักใหญ่ใฝ่สูงด้วย,แต่ยังดีที่ประชาชนคนไทยทางภาคใต้เหมือนกัน ตื่นรับรู้ความจริงมากเช่นกันด้วย รักบ้านรักเมืองมากกว่านักการเมืองภาคใต้ด้วย,ปชป.จึงดับอนาถของจริง ,mou43ก็คน ปชป.จากอดีตนายกฯ พรรค.ปชป.นี้จัดทำขึ้น,ประเทศไทยมีนายกฯจากพรรคปชป.นี้เอง ชาติไทยจึงถูกเตะตัดขาทางด้านความร่ำรวยมั่งคั่งสู่ประชาชนไปตลอดเวลา,และพรรคปชป.นี้ดูดีๆไม่ต่างจากพรรคเดโมแคตของอเมริกาเลย,ถูกปกครองโดยตระกูลรอธไชลด์นั้นละและหรือ13ตระกูลก็ว่า,ไทยก็แบบเดียวกัน,และชาติไทยเราจึงถูกปล้นชิงความร่ำรวยมั่งคั่งมาโดยตลอดจากการกำกับงานสร้างโดยไซออนิสต์ossหรือciaประจำภูมิภาคเอเชียอาเชียนเรานี้ด้วย,มันปกครองทั้งระบบปกครองประชาธิปไตยและคอมมิวนิสต์แบบจีน,พวกนี้มันส่งคนของมันไปปะปนควบคุมในอำนาจปกครองประเทศทั้งหมดได้,กฎหมายมากมายจึงออกมาบังคับควบคุมอิสระภาพประชาชนโดยส่วนใหญ่ยิ่งเผด็จการคอมมิวนิสต์ด้วยแล้วมันยิ่งชอบ,
    ..ทางเดียวจะจบตัดตอนมันได้ให้ชาติไทยเรารอดต้องเปลี่ยนระบบปกครองจากฝรั่งส่งให้เราใช้ปกครองเป็นเราสร้างทำขึ้นเองคือระบบปกครองแบบธรรมาธิปไตย อีนมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เราจะทำลายฝ่ายมืดได้แน่นอน.

    https://youtube.com/watch?v=G31LnpOYHQI&si=18RVXHEqTsHcTnLO
    ประเทศไทยเราจริงๆแล้วจะเจริญรุ่งเรืองกันนานแล้ว,เกิดจากพรรคภาคใต้นี้ล่ะตัวถ่วงความเจริญของชาติไทยที่แท้จริง,มักใหญ่ใฝ่สูงด้วย,แต่ยังดีที่ประชาชนคนไทยทางภาคใต้เหมือนกัน ตื่นรับรู้ความจริงมากเช่นกันด้วย รักบ้านรักเมืองมากกว่านักการเมืองภาคใต้ด้วย,ปชป.จึงดับอนาถของจริง ,mou43ก็คน ปชป.จากอดีตนายกฯ พรรค.ปชป.นี้จัดทำขึ้น,ประเทศไทยมีนายกฯจากพรรคปชป.นี้เอง ชาติไทยจึงถูกเตะตัดขาทางด้านความร่ำรวยมั่งคั่งสู่ประชาชนไปตลอดเวลา,และพรรคปชป.นี้ดูดีๆไม่ต่างจากพรรคเดโมแคตของอเมริกาเลย,ถูกปกครองโดยตระกูลรอธไชลด์นั้นละและหรือ13ตระกูลก็ว่า,ไทยก็แบบเดียวกัน,และชาติไทยเราจึงถูกปล้นชิงความร่ำรวยมั่งคั่งมาโดยตลอดจากการกำกับงานสร้างโดยไซออนิสต์ossหรือciaประจำภูมิภาคเอเชียอาเชียนเรานี้ด้วย,มันปกครองทั้งระบบปกครองประชาธิปไตยและคอมมิวนิสต์แบบจีน,พวกนี้มันส่งคนของมันไปปะปนควบคุมในอำนาจปกครองประเทศทั้งหมดได้,กฎหมายมากมายจึงออกมาบังคับควบคุมอิสระภาพประชาชนโดยส่วนใหญ่ยิ่งเผด็จการคอมมิวนิสต์ด้วยแล้วมันยิ่งชอบ, ..ทางเดียวจะจบตัดตอนมันได้ให้ชาติไทยเรารอดต้องเปลี่ยนระบบปกครองจากฝรั่งส่งให้เราใช้ปกครองเป็นเราสร้างทำขึ้นเองคือระบบปกครองแบบธรรมาธิปไตย อีนมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เราจะทำลายฝ่ายมืดได้แน่นอน. https://youtube.com/watch?v=G31LnpOYHQI&si=18RVXHEqTsHcTnLO
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 5 – อิหร่าน 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว 5”
    อิหร่าน 2
ความทารุณโหดร้าย และการดูถูกเหยียดหยามของนักล่าชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ กระทำซ้ำแล้วซ้ำอีกต่อชาวอิหร่าน เริ่มมาตั้งแต่ ค.ศ. 1905 ตั้งแต่อังกฤษเริ่มย่างก้าวแรกเข้ามาในอิหร่านนั่นแหละ ชาวอิหร่านทนไม่ไหวลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวต่อต้าน ในที่สุด Shah ผู้ปกครองรัฐอิหร่านก็ยินยอมให้มีรัฐธรรมนูญ และล้มเลิกระบบที่กษัตริย์เป็นผู้มีสิทธิในการปกครองแต่ผู้เดียว
    แต่การปกครองโดยรัฐธรรมนูญนี้ ก็อยู่ไม่ได้นาน ค.ศ. 1908 Shah ได้นำกองทหาร Cossack จากรัสเซียมาช่วยขับไล่รัฐบาล Majlis ออกไป แต่ชาวอิหร่านก็ยังไม่ยอมหยุด ในที่สุดเมื่ออังกฤษกับรัสเซีย จับมือกันตามแผนถล่มออตโตมาน กองทัพอังกฤษและรัสเซียก็เป็นผู้ปฏิบัติการ กวาดล้าง และปิดตายรัฐสภาประชาชน จับขังฝ่ายรัฐบาล และอุ้มเอา Shah ขึ้นมาเป็น (หุ่น) ผู้ปกครองประเทศมีอำนาจบริหารแต่ผู้เดียว ต่อไปใหม่อีกรอบ
    ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่ 1 อิหร่านก็ต้องเข้าฉากร่วมเล่นสงครามด้วย แม้จะไม่ได้บทเป็นตัวเอก แต่เนื่องจากมีบ่อน้ำมัน กองทัพอังกฤษจึงยกพลกันมาเต็ม อิหร่าน เพื่อปกป้องบ่อน้ำมันอิหร่าน ที่อังกฤษถือว่าตนเองเป็นเจ้าของ
    ตามข้อตกลงหลอกเหยื่อ อังกฤษกล่อมรัสเซียให้มาร่วมรายการขยี้เยอรมัน และออตโตมาน โดยตกลงจะยกออตโตมานให้รัสเซีย และทำสัญญาสุดชั่ว Syke-Picot แบ่งเค้กออตโตมานตะวันออกกลาง แต่เมื่อสงครามโลกจบ รัสเซียมีการปฏิวัติโดยพวกบอลเชวิก ฝ่ายปฎิวัติบอกไม่สนใจข้อตกลงที่พวกซาร์ไปทำไว้กับอังกฤษ ฝ่ายปฏวัติกลับสนับสนุนชาวอิหร่านให้ต่อต้านการครอบครอง ของพวกนักล่าชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ และพร้อมที่จะสนับสนุนชาวอิหร่านให้ได้อิสรภาพ
    อังกฤษทนไม่ได้ ถลาเข้ามาแก้ตัวจนลิ้นพันกัน พร้อมเริ่มขบวนการโฆษณาชวนเชื่อในอิหร่าน บรรยายความเลวร้ายของลัทธิคอมมิวนิสต์ออกสื่อทุกวัน เพื่อกันไม่ให้พวกบอลเชวิก เข้ามาในอิหร่าน โดยเฉพาะทางด้านเหนือที่ติดกับเขตแดนของรัสเซีย
    ในที่สุด อังกฤษตัดสินใจเลิกใช้ไม้นวม เข้าไปควบคุมสถานการณ์ในอิหร่าน โดยคว้าข้อมืออิหร่าน จับให้ทำสัญญา Anglo – Persian Agreement
    เมื่อ ค.ศ. 1919 ให้อังกฤษมีสิทธิควบคุมเหนืออิหร่าน ในด้านกองทัพ การคลัง และระบบการขนส่งทั้งหมด และเพื่อให้แน่ใจว่าอำนาจอยู่ในมือเต็มทั้ง 2 มือ อังกฤษประกาศกฎอัยการศึก และเริ่มให้มีการใช้ธนบัตรในการซื้อขาย
    โอ้โห นี่ขนาดเพิ่งต้มตุ๋น ได้น้ำมันมาบ่อเดียวนะ ยังปฏิบัติการเฉียบขนาดนี้เลย นี่ถ้ามี หลายบ่อ หลายหลุม เรียงกันเป็นพรึด มันจะคุมประเทศเขาเข้มขนาดไหนหนอ..
    แต่ชาวอิหร่านก็ดูเหมือนจะไม่ได้พร้อมใจ จะอยู่ใต้อุ้งมือของชาวเกาะใหญ่ฯ พวกเขาพยายามต่อต้าน แต่แล้วใน ค.ศ. 1921 เมื่อการต่อต้านรุนแรงขึ้น แถมศึกชิงน้ำมันของกลุ่มนักล่าหน้าใหม่จากอีกฝั่งหนึ่ง ของ มหาสมุทรแอตแลนติก เริ่มดุเดือดเลือดพล่านขึ้น อังกฤษปรับแผนใหม่อีกรอบ
    สนับสนุนให้มีการปฏิวัติโดย Reza Khan ซึ่งภายหลังประกาศตั้งตัวเองเป็น Shah คนใหม่ ในปี ค.ศ. 1926 เป็นต้นราชวงศ์ Pahlevi หุ่นเชิดของนักล่าชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย
Shah ใช้ความเหี้ยมโหด ข่มเหง กดขี่ ประชาชนต่อไป ภายใต้การหนุน และชักใยของนักล่าชาวเกาะฯ แหม ! แผมใหม่นี่ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ยุซ้าย เสี้ยมขวา ให้พวกมันก็ตีกันเอง แล้วเราก็ขุดน้ำมันรวยไป เรื่อย ๆ สบายใจดี ฮ่า ฮ่า อร่อยนุ่ม เคี้ยวเพลิน !
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
14 ก.ย. 57
    เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 5 – อิหร่าน 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว 5” อิหร่าน 2
ความทารุณโหดร้าย และการดูถูกเหยียดหยามของนักล่าชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ กระทำซ้ำแล้วซ้ำอีกต่อชาวอิหร่าน เริ่มมาตั้งแต่ ค.ศ. 1905 ตั้งแต่อังกฤษเริ่มย่างก้าวแรกเข้ามาในอิหร่านนั่นแหละ ชาวอิหร่านทนไม่ไหวลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวต่อต้าน ในที่สุด Shah ผู้ปกครองรัฐอิหร่านก็ยินยอมให้มีรัฐธรรมนูญ และล้มเลิกระบบที่กษัตริย์เป็นผู้มีสิทธิในการปกครองแต่ผู้เดียว แต่การปกครองโดยรัฐธรรมนูญนี้ ก็อยู่ไม่ได้นาน ค.ศ. 1908 Shah ได้นำกองทหาร Cossack จากรัสเซียมาช่วยขับไล่รัฐบาล Majlis ออกไป แต่ชาวอิหร่านก็ยังไม่ยอมหยุด ในที่สุดเมื่ออังกฤษกับรัสเซีย จับมือกันตามแผนถล่มออตโตมาน กองทัพอังกฤษและรัสเซียก็เป็นผู้ปฏิบัติการ กวาดล้าง และปิดตายรัฐสภาประชาชน จับขังฝ่ายรัฐบาล และอุ้มเอา Shah ขึ้นมาเป็น (หุ่น) ผู้ปกครองประเทศมีอำนาจบริหารแต่ผู้เดียว ต่อไปใหม่อีกรอบ ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่ 1 อิหร่านก็ต้องเข้าฉากร่วมเล่นสงครามด้วย แม้จะไม่ได้บทเป็นตัวเอก แต่เนื่องจากมีบ่อน้ำมัน กองทัพอังกฤษจึงยกพลกันมาเต็ม อิหร่าน เพื่อปกป้องบ่อน้ำมันอิหร่าน ที่อังกฤษถือว่าตนเองเป็นเจ้าของ ตามข้อตกลงหลอกเหยื่อ อังกฤษกล่อมรัสเซียให้มาร่วมรายการขยี้เยอรมัน และออตโตมาน โดยตกลงจะยกออตโตมานให้รัสเซีย และทำสัญญาสุดชั่ว Syke-Picot แบ่งเค้กออตโตมานตะวันออกกลาง แต่เมื่อสงครามโลกจบ รัสเซียมีการปฏิวัติโดยพวกบอลเชวิก ฝ่ายปฎิวัติบอกไม่สนใจข้อตกลงที่พวกซาร์ไปทำไว้กับอังกฤษ ฝ่ายปฏวัติกลับสนับสนุนชาวอิหร่านให้ต่อต้านการครอบครอง ของพวกนักล่าชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ และพร้อมที่จะสนับสนุนชาวอิหร่านให้ได้อิสรภาพ อังกฤษทนไม่ได้ ถลาเข้ามาแก้ตัวจนลิ้นพันกัน พร้อมเริ่มขบวนการโฆษณาชวนเชื่อในอิหร่าน บรรยายความเลวร้ายของลัทธิคอมมิวนิสต์ออกสื่อทุกวัน เพื่อกันไม่ให้พวกบอลเชวิก เข้ามาในอิหร่าน โดยเฉพาะทางด้านเหนือที่ติดกับเขตแดนของรัสเซีย ในที่สุด อังกฤษตัดสินใจเลิกใช้ไม้นวม เข้าไปควบคุมสถานการณ์ในอิหร่าน โดยคว้าข้อมืออิหร่าน จับให้ทำสัญญา Anglo – Persian Agreement เมื่อ ค.ศ. 1919 ให้อังกฤษมีสิทธิควบคุมเหนืออิหร่าน ในด้านกองทัพ การคลัง และระบบการขนส่งทั้งหมด และเพื่อให้แน่ใจว่าอำนาจอยู่ในมือเต็มทั้ง 2 มือ อังกฤษประกาศกฎอัยการศึก และเริ่มให้มีการใช้ธนบัตรในการซื้อขาย โอ้โห นี่ขนาดเพิ่งต้มตุ๋น ได้น้ำมันมาบ่อเดียวนะ ยังปฏิบัติการเฉียบขนาดนี้เลย นี่ถ้ามี หลายบ่อ หลายหลุม เรียงกันเป็นพรึด มันจะคุมประเทศเขาเข้มขนาดไหนหนอ.. แต่ชาวอิหร่านก็ดูเหมือนจะไม่ได้พร้อมใจ จะอยู่ใต้อุ้งมือของชาวเกาะใหญ่ฯ พวกเขาพยายามต่อต้าน แต่แล้วใน ค.ศ. 1921 เมื่อการต่อต้านรุนแรงขึ้น แถมศึกชิงน้ำมันของกลุ่มนักล่าหน้าใหม่จากอีกฝั่งหนึ่ง ของ มหาสมุทรแอตแลนติก เริ่มดุเดือดเลือดพล่านขึ้น อังกฤษปรับแผนใหม่อีกรอบ สนับสนุนให้มีการปฏิวัติโดย Reza Khan ซึ่งภายหลังประกาศตั้งตัวเองเป็น Shah คนใหม่ ในปี ค.ศ. 1926 เป็นต้นราชวงศ์ Pahlevi หุ่นเชิดของนักล่าชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย
Shah ใช้ความเหี้ยมโหด ข่มเหง กดขี่ ประชาชนต่อไป ภายใต้การหนุน และชักใยของนักล่าชาวเกาะฯ แหม ! แผมใหม่นี่ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ยุซ้าย เสี้ยมขวา ให้พวกมันก็ตีกันเอง แล้วเราก็ขุดน้ำมันรวยไป เรื่อย ๆ สบายใจดี ฮ่า ฮ่า อร่อยนุ่ม เคี้ยวเพลิน ! สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
14 ก.ย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 490 มุมมอง 0 รีวิว
  • โครงสร้างสังคมยุคใหม่ 2-10-68 …ภายใต้ระบอบพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข
    2/10/68
     ภาระหน้าที่ของรัฐ : หนุนช่วยภาคประชาชนและสร้างอาชีพให้กับประชาชน หมดปัญหาความเหลื่อมล้ำ - หมดปัญหาคนยากไร้
     ทั้งนี้เพื่อไม่เกิดปัญหาสังคมที่ครอบครัวแย่งชิงทรัพย์สมบัติกันเมื่อลูกหลานเติบโตขึ้น สายใยความรักแห่งครอบครัวและเครือญาติก็จะมั่นคงยั่งยืนและสุขใจ
     ปัญหาความขัดแย้งลูกจ้าง-นายจ้างก็จะหมดไป
     ปัญหาความโลภความเห็นแก่ตัวของนักการเมืองและส.ส.ก็จะสลายไป
     การเรียน เรียนที่ใจชอบ ที่ไม่ชอบไม่ต้องเสียเวลาเรียน จบแล้วให้อาชีพทำเลย (มีระบบทดสอบความชอบตั้งแต่เตรียมอนุบาล รู้ชัดแล้วแววชอบและทักษะไปทางใหนก็เสริมวิชาไปทางนั้น จัดให้เลย)
     การค้ายาเสบติด และ คอร์รัปชั่น โทษติดคุกและถึงขั้นประหารชีวิต ต้องเฉียบขาด

    1. ก่อนอื่น ลดค่าครองชีพประชาชน สร้างกำลังซื้อ สร้างภาวะหมุนเวียน
    - บ้านพักฟรี สถานที่ประกอบอาชีพฟรี การศึกษาฟรี
    - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เป็นรายบุคคล
    - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เครื่องมือพัฒนาจัดให้เลย เป็นคณะ นำโดยผู้นำ กรณีเกษตร ควรเป็นคณะ-ควรเป็นชุมชน ที่ดินจะได้ผืนใหญ่ ง่ายต่อเครื่องจักรใหญ่ การเป็นชุมชนการแปรพืชผลเกตรได้หลากหลาย (อาจต้องเสริมผู้จบหลักสูตรทำอาหารและชนม) ซึ่งนำโดยผู้นำและผู้บริหาร
    -สนองเครื่องเทคโนโลยี-ไฮเทค หุ้นส่วน+ภาครัฐ นำโดยผู้นำและผู้บริหาร

     ภาคประชาชน หนุนช่วยรัฐ :
    1.เมื่อปัจจัยพื้นฐานต่างๆในการประกอบอาชีพ ภาครัฐนั้นสนองให้ทั้งหมดแล้ว
    ส่วนภาคประชาชน การหนุนช่วยต่อภาครัฐ นั้น คือ ภาระหน้าที่ เสียภาษีแก่รัฐ (เพื่อรัฐจะได้ช่วยด้านต่างๆได้มากขึ้น) กิจการเล็ก-ใหญ่ล้วนต้องเสียภาษีตามรายได้-ตามยอดขาย โดยผ่านระบบคิวอาร์โค้ต เพื่อให้เงินภาษีไหลเวียนสู่การคลังได้ทันที เพื่อให้ภาครัฐมีกำลังเงินคล่องตัวหมุนเวียน
    # อุทิศเพื่อสังคม : หนุนช่วยภาครัฐในด้านต่างๆ
    # สนับสนุนหนุนช่วยต่อชนรุ่นใหม่ อาชีพเกิดใหม่
    *คำขวัญ คือ ช่วยชาติ ช่วยรัฐ ช่วยคนรุ่นใหม่- สิ่งเกิดใหม่!

    2.ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” จะต้องไม่ให้มี ในประเทศไทย (อย่าเหมือนจีนที่ประสพปัญหาเช่น วิกฤติอสังหาฯ และการศึกษาเอกชน(การเรียนแข่งกันสูงและแพง) เป็นภาระค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้คนหนุ่มสาวไม่ยอมแต่งงาน ถ้าจะแต่งก็ไม่ยอมมีลูก เป็นผลให้ประชากรประเทศลดลง (ไม่สน ที่รัฐบาลมี นโยบายให้มีลูกสามคน – จากหนึ่งคน)

    *ประเทศไทย ต้องไม่มี ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” เช่น
    - ธุรกิจอสังหาฯ
    - ธุรกิจซื้อขายที่ดิน
    -ธุรกิจตลาดหลักทรัพย์
    -ธุรกิจปล่อยกู้
    -ธุรกิจการธนาคารเอกชน (ยกเว้นภาครัฐ่)
    -ธุรกิจการศึกษาเอกชนทั้งปวง
    • นับตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมหาวิทยาลัยเอกชน อีกทั้ง มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ: รวมทั้งสอนพิเศษ (เป็นหน้าที่โดยรัฐ่เท่านั้น)
    2.1 ธุรกิจอสังหา ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจปล่อยกู้
    พักหนี้ทั้งหมด 3 ปี ภาครัฐจะชดเชยให้แทน

    หมายเหตุ โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ที่เขียนมานี้ เป็นเพียง ”รูปแบบโครงสร้างสังคมตัวอย่าง” จึงต้อง ช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเข็มทิศรูปธรรมแก่สังคม เป็นเป้าหมายให้มุ่งไป
    - ซึ่งการเคลื่อนไหวนั้น
    - ต้องมีเข็มทิศรูปธรรมเพื่อเป็นเป้าหมายนำพา และเป็นเป้าหมายของการตั้งพรรคของเราด้วย
    - คือต้อง “มีสามสิ่งนี้พร้อม!” ประเทศไทยเปลี่ยน!
    - 1.พลังของประชาชน (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร=ต่างมีความพร้อม) สิ่งที่1นี้พร้อม
    - 2.เข็มทิศเป้าหมายรูปธรรม (รูปแบบโครงสร้างสังคมยุคใหม่ที่ตกผลึกกันแล้ว) สิ่งที่2นี้พร้อม
    - 3. โฉมหน้า “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่นี้” ตั้งพรรคสำเร็จ คือ สิ่งที่3นี้พร้อม
    -
    อาวุธวิเศษสามสิ่งนี้ จะขาด จะหย่อนสิ่งใดไม่ได้

    การเลือกตั้งปี70ครั้งนี้(ช่วง28มิย.2570}
    ต้องตั้ง “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่”เกิดขึ้นและ ชนะเลือกตั้ง ให้มีทุกจังหวัด ทุกอำเภอ

    A---------------------------------------------
    (คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ : ที่สำคัญ “การเลือกตั้ง”เป็นกระบวนการสำคัญในการปกครองระบอบประชาธิปไตยทางผู้แทน เพื่อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย อาจกล่าวได้ว่าหากการปกครองใดไม่มีการเลือกตั้งย่อมไม่ใช่การปกครองระบอบประชาธิปไตย
    ประเทศไทยจึงเกิดภาวการณ์ ส.ส.และ นักการเมืองใช้หลากกลวิธีสกปรกแย่งชิงกันเพื่อเอาชนะเลือกตั้ง เพื่อมีสิทธิ์เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อยึดอำนาจอธิปไตยที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตยของบ้านเมือง
    เพื่อยึดอำนาจ เพื่อเข้ากอบโกย

    จึงเป็นกติกาประเทศ ผู้ใดพรรคใดชนะเลือกตั้งก็มีสิทธ์มีอำนาจปกครองประเทศแทนประชาชน
    เจ้าของประเทศ

    a--------------------------------------
    พอดีช่วง28มิย.2570 จะมีการเลือกตั้ง
    จึงเป็นช่วงจังหวะที่ดีที่กระแสเหล่าพรรคการเมืองตกต่ำ
    จึงเป็นโอกาสตั้งพรรคการเมืองของเรา ซึ่งไม่ใช่ความต้องการส่วนตัว “อยากดัง” เลิกมองแบบนี้ได้เลย คำๆนี้ เป็นคำ”บอนไซ อนาคตประเทศ”
    เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องมีพรรค “เป็นกองหน้า” พรรคหนึ่งชื่อว่า พรรคการเมืองใหม่หรือพรรคการเมืองยุคใหม่ โดยมีนโยบายรูปธรรมเป็นเป้าหมาย
    การลงสมัครพรรคการเมือง (จึงมีสิทธิ์ลงเลือกตั้ง)
    การลงเลือกตั้ง(จีงจะมีสิทธิคว้าอำนาจทางการเมืองมันเป็นกติกาของบ้านเมือง) ความคิดจึงจะเป็นจริง

    การเคลื่อนไหว “ (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร )สร้างความตื่นตัวของประชาชน
    คือ รูปการที่1 ส่วน (การตั้งพรรคการเมือง) เพื่อมุ่งสู่ยึดอำนาจรัฐ ด้วยรูปแบบตามกติกา “เลือกตั้ง”คือรูปการที่2 ทั้งสองรูปการต้องเดินคู่ขนานกันไป



    a------------------------------------

    ประเทศเนปาล ปัญหาเปราะบางของเขา คือ มีความเหลื่อมล้ำสูง จากการคอรัปชั่นของนักการเมือง คือการลงถนน 20 กว่าปี ของเขาต้องการเปลี่ยนแปลง อันดับแรกก็คือ “กษัตริย์” ที่ปกครองอยู่ ลงถนนกดดันขับไล่ จนกษัตริย์ลาออก ฝูงชนดีใจร้องรำทำเพลงกันเต็มท้องถนนที่จะได้ “ระบอบประชาธิปไตย”กันแล้ว จึงได้ “นักการเมือง -ส.ส.” มา ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าครองอำนาจ ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ก็แก้ความเหลื่อมล้ำไม่ได้ ด้วยเนปาลพื้นที่ทำเกษตรเป็นป่าเขาเยอะจึงดึงพรรคคอมมิวนิสต์เข้ามา ทั้งเหมาอีดส์ และมาร์กซ์ ทำสงครามรบ ร่วม10ปี มีตายและบาดเจ็บ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นลงจับมือกับหัวหน้าพรรคฯออกกฎหมาย “พรรคคอมมิวต์ถูกต้องตามกฎหมาย สมัครเป็นพรรคการเมืองได้ จึงทำให้ประชาชนพากันผิดหวังกันไป ซึ่งปัญหาความเหลื่อมล้ำก็ไม่ได้รับการแก้ไข ขณะเดียวกันก็อัญเชิญกษัตรย์องค์เดิมมาปกครองต่อ อีกทั้งเห็นลูกหลานนักการเมืองใช้ชีวิตหรูหราใส่ชุดแบนด์หรู ออกสื่อโชว์ความสุขสำราญของพวกเขา ประจวบกับเหล่านักการเมืองในสภาผ่านเพิ่มเงินเดือนให้กันเอง ออกภาพสื่อร้องรำเต้นด้วยความดีใจกัน มีการคุมวัยเจนชีไม่ให้เข้าถึง แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เท่านั้นแหละ การเคลื่อนไหวลงถนนลุกลามไปใหญ่ ถึงแม้ ประกดาศยกเลิกการห้ามดูเน็ตก็เอาไม่อยู่ มีการเผาสภา เผาสถานที่ราชการ เผาบ้านนายกรัฐมนตรี ต่างๆ ไล่ทำร้ายรัฐมนตรีคลัง หนีลงน้ำยังถูกตามไล่ทำร้าย จนทหารออกมาระงับสถานการณ์ แต่เอาไม่อยู่ จนนายพลทับบกต้องออกมาเอง ขอคุยกับผู้นำกลุ่มเจนซี
    ตกลงจะมอบให้“สุศิลา คาร์กี”อดีตประธานศาลฎีกาเนปาล เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการของเนปาล
    จัดให้การเลือกตั้งภายใน 6 เดือน (หลังเลือกตั้งเนปาลก็ยังคงเหมือนเดิม) พรรคการเมืองใหญ่8พรรคยังคงอยู่ : พรรคการเมืองหลัก 8 พรรคของเนปาล รวมถึง พรรคคองเกรสเนปาล (Nepali Congress) พรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (รวมลัทธิมาร์กซ์-เลนินิสต์) (CPN-UML) และพรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (ลัทธิเหมา) เนปาลจะไม่มีทางเปลี่ยนโฉมได้เลย
    สาเหตุเพราะ ขาดพรรคนำ ขาดเข็มทิศโครงสร้างสังคมเป็นเป้าหมาย ขาดพลังมวลชนที่ตื่นตัวทางทฤษฎี










    โครงสร้างสังคมยุคใหม่ 2-10-68 …ภายใต้ระบอบพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข 2/10/68  ภาระหน้าที่ของรัฐ : หนุนช่วยภาคประชาชนและสร้างอาชีพให้กับประชาชน หมดปัญหาความเหลื่อมล้ำ - หมดปัญหาคนยากไร้  ทั้งนี้เพื่อไม่เกิดปัญหาสังคมที่ครอบครัวแย่งชิงทรัพย์สมบัติกันเมื่อลูกหลานเติบโตขึ้น สายใยความรักแห่งครอบครัวและเครือญาติก็จะมั่นคงยั่งยืนและสุขใจ  ปัญหาความขัดแย้งลูกจ้าง-นายจ้างก็จะหมดไป  ปัญหาความโลภความเห็นแก่ตัวของนักการเมืองและส.ส.ก็จะสลายไป  การเรียน เรียนที่ใจชอบ ที่ไม่ชอบไม่ต้องเสียเวลาเรียน จบแล้วให้อาชีพทำเลย (มีระบบทดสอบความชอบตั้งแต่เตรียมอนุบาล รู้ชัดแล้วแววชอบและทักษะไปทางใหนก็เสริมวิชาไปทางนั้น จัดให้เลย)  การค้ายาเสบติด และ คอร์รัปชั่น โทษติดคุกและถึงขั้นประหารชีวิต ต้องเฉียบขาด 1. ก่อนอื่น ลดค่าครองชีพประชาชน สร้างกำลังซื้อ สร้างภาวะหมุนเวียน - บ้านพักฟรี สถานที่ประกอบอาชีพฟรี การศึกษาฟรี - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เป็นรายบุคคล - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เครื่องมือพัฒนาจัดให้เลย เป็นคณะ นำโดยผู้นำ กรณีเกษตร ควรเป็นคณะ-ควรเป็นชุมชน ที่ดินจะได้ผืนใหญ่ ง่ายต่อเครื่องจักรใหญ่ การเป็นชุมชนการแปรพืชผลเกตรได้หลากหลาย (อาจต้องเสริมผู้จบหลักสูตรทำอาหารและชนม) ซึ่งนำโดยผู้นำและผู้บริหาร -สนองเครื่องเทคโนโลยี-ไฮเทค หุ้นส่วน+ภาครัฐ นำโดยผู้นำและผู้บริหาร  ภาคประชาชน หนุนช่วยรัฐ : 1.เมื่อปัจจัยพื้นฐานต่างๆในการประกอบอาชีพ ภาครัฐนั้นสนองให้ทั้งหมดแล้ว ส่วนภาคประชาชน การหนุนช่วยต่อภาครัฐ นั้น คือ ภาระหน้าที่ เสียภาษีแก่รัฐ (เพื่อรัฐจะได้ช่วยด้านต่างๆได้มากขึ้น) กิจการเล็ก-ใหญ่ล้วนต้องเสียภาษีตามรายได้-ตามยอดขาย โดยผ่านระบบคิวอาร์โค้ต เพื่อให้เงินภาษีไหลเวียนสู่การคลังได้ทันที เพื่อให้ภาครัฐมีกำลังเงินคล่องตัวหมุนเวียน # อุทิศเพื่อสังคม : หนุนช่วยภาครัฐในด้านต่างๆ # สนับสนุนหนุนช่วยต่อชนรุ่นใหม่ อาชีพเกิดใหม่ *คำขวัญ คือ ช่วยชาติ ช่วยรัฐ ช่วยคนรุ่นใหม่- สิ่งเกิดใหม่! 2.ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” จะต้องไม่ให้มี ในประเทศไทย (อย่าเหมือนจีนที่ประสพปัญหาเช่น วิกฤติอสังหาฯ และการศึกษาเอกชน(การเรียนแข่งกันสูงและแพง) เป็นภาระค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้คนหนุ่มสาวไม่ยอมแต่งงาน ถ้าจะแต่งก็ไม่ยอมมีลูก เป็นผลให้ประชากรประเทศลดลง (ไม่สน ที่รัฐบาลมี นโยบายให้มีลูกสามคน – จากหนึ่งคน) *ประเทศไทย ต้องไม่มี ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” เช่น - ธุรกิจอสังหาฯ - ธุรกิจซื้อขายที่ดิน -ธุรกิจตลาดหลักทรัพย์ -ธุรกิจปล่อยกู้ -ธุรกิจการธนาคารเอกชน (ยกเว้นภาครัฐ่) -ธุรกิจการศึกษาเอกชนทั้งปวง • นับตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมหาวิทยาลัยเอกชน อีกทั้ง มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ: รวมทั้งสอนพิเศษ (เป็นหน้าที่โดยรัฐ่เท่านั้น) 2.1 ธุรกิจอสังหา ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจปล่อยกู้ พักหนี้ทั้งหมด 3 ปี ภาครัฐจะชดเชยให้แทน หมายเหตุ โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ที่เขียนมานี้ เป็นเพียง ”รูปแบบโครงสร้างสังคมตัวอย่าง” จึงต้อง ช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเข็มทิศรูปธรรมแก่สังคม เป็นเป้าหมายให้มุ่งไป - ซึ่งการเคลื่อนไหวนั้น - ต้องมีเข็มทิศรูปธรรมเพื่อเป็นเป้าหมายนำพา และเป็นเป้าหมายของการตั้งพรรคของเราด้วย - คือต้อง “มีสามสิ่งนี้พร้อม!” ประเทศไทยเปลี่ยน! - 1.พลังของประชาชน (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร=ต่างมีความพร้อม) สิ่งที่1นี้พร้อม - 2.เข็มทิศเป้าหมายรูปธรรม (รูปแบบโครงสร้างสังคมยุคใหม่ที่ตกผลึกกันแล้ว) สิ่งที่2นี้พร้อม - 3. โฉมหน้า “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่นี้” ตั้งพรรคสำเร็จ คือ สิ่งที่3นี้พร้อม - อาวุธวิเศษสามสิ่งนี้ จะขาด จะหย่อนสิ่งใดไม่ได้ – การเลือกตั้งปี70ครั้งนี้(ช่วง28มิย.2570} ต้องตั้ง “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่”เกิดขึ้นและ ชนะเลือกตั้ง ให้มีทุกจังหวัด ทุกอำเภอ A--------------------------------------------- (คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ : ที่สำคัญ “การเลือกตั้ง”เป็นกระบวนการสำคัญในการปกครองระบอบประชาธิปไตยทางผู้แทน เพื่อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย อาจกล่าวได้ว่าหากการปกครองใดไม่มีการเลือกตั้งย่อมไม่ใช่การปกครองระบอบประชาธิปไตย ประเทศไทยจึงเกิดภาวการณ์ ส.ส.และ นักการเมืองใช้หลากกลวิธีสกปรกแย่งชิงกันเพื่อเอาชนะเลือกตั้ง เพื่อมีสิทธิ์เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อยึดอำนาจอธิปไตยที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตยของบ้านเมือง เพื่อยึดอำนาจ เพื่อเข้ากอบโกย จึงเป็นกติกาประเทศ ผู้ใดพรรคใดชนะเลือกตั้งก็มีสิทธ์มีอำนาจปกครองประเทศแทนประชาชน เจ้าของประเทศ a-------------------------------------- พอดีช่วง28มิย.2570 จะมีการเลือกตั้ง จึงเป็นช่วงจังหวะที่ดีที่กระแสเหล่าพรรคการเมืองตกต่ำ จึงเป็นโอกาสตั้งพรรคการเมืองของเรา ซึ่งไม่ใช่ความต้องการส่วนตัว “อยากดัง” เลิกมองแบบนี้ได้เลย คำๆนี้ เป็นคำ”บอนไซ อนาคตประเทศ” เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องมีพรรค “เป็นกองหน้า” พรรคหนึ่งชื่อว่า พรรคการเมืองใหม่หรือพรรคการเมืองยุคใหม่ โดยมีนโยบายรูปธรรมเป็นเป้าหมาย การลงสมัครพรรคการเมือง (จึงมีสิทธิ์ลงเลือกตั้ง) การลงเลือกตั้ง(จีงจะมีสิทธิคว้าอำนาจทางการเมืองมันเป็นกติกาของบ้านเมือง) ความคิดจึงจะเป็นจริง การเคลื่อนไหว “ (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร )สร้างความตื่นตัวของประชาชน คือ รูปการที่1 ส่วน (การตั้งพรรคการเมือง) เพื่อมุ่งสู่ยึดอำนาจรัฐ ด้วยรูปแบบตามกติกา “เลือกตั้ง”คือรูปการที่2 ทั้งสองรูปการต้องเดินคู่ขนานกันไป a------------------------------------ ประเทศเนปาล ปัญหาเปราะบางของเขา คือ มีความเหลื่อมล้ำสูง จากการคอรัปชั่นของนักการเมือง คือการลงถนน 20 กว่าปี ของเขาต้องการเปลี่ยนแปลง อันดับแรกก็คือ “กษัตริย์” ที่ปกครองอยู่ ลงถนนกดดันขับไล่ จนกษัตริย์ลาออก ฝูงชนดีใจร้องรำทำเพลงกันเต็มท้องถนนที่จะได้ “ระบอบประชาธิปไตย”กันแล้ว จึงได้ “นักการเมือง -ส.ส.” มา ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าครองอำนาจ ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ก็แก้ความเหลื่อมล้ำไม่ได้ ด้วยเนปาลพื้นที่ทำเกษตรเป็นป่าเขาเยอะจึงดึงพรรคคอมมิวนิสต์เข้ามา ทั้งเหมาอีดส์ และมาร์กซ์ ทำสงครามรบ ร่วม10ปี มีตายและบาดเจ็บ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นลงจับมือกับหัวหน้าพรรคฯออกกฎหมาย “พรรคคอมมิวต์ถูกต้องตามกฎหมาย สมัครเป็นพรรคการเมืองได้ จึงทำให้ประชาชนพากันผิดหวังกันไป ซึ่งปัญหาความเหลื่อมล้ำก็ไม่ได้รับการแก้ไข ขณะเดียวกันก็อัญเชิญกษัตรย์องค์เดิมมาปกครองต่อ อีกทั้งเห็นลูกหลานนักการเมืองใช้ชีวิตหรูหราใส่ชุดแบนด์หรู ออกสื่อโชว์ความสุขสำราญของพวกเขา ประจวบกับเหล่านักการเมืองในสภาผ่านเพิ่มเงินเดือนให้กันเอง ออกภาพสื่อร้องรำเต้นด้วยความดีใจกัน มีการคุมวัยเจนชีไม่ให้เข้าถึง แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เท่านั้นแหละ การเคลื่อนไหวลงถนนลุกลามไปใหญ่ ถึงแม้ ประกดาศยกเลิกการห้ามดูเน็ตก็เอาไม่อยู่ มีการเผาสภา เผาสถานที่ราชการ เผาบ้านนายกรัฐมนตรี ต่างๆ ไล่ทำร้ายรัฐมนตรีคลัง หนีลงน้ำยังถูกตามไล่ทำร้าย จนทหารออกมาระงับสถานการณ์ แต่เอาไม่อยู่ จนนายพลทับบกต้องออกมาเอง ขอคุยกับผู้นำกลุ่มเจนซี ตกลงจะมอบให้“สุศิลา คาร์กี”อดีตประธานศาลฎีกาเนปาล เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการของเนปาล จัดให้การเลือกตั้งภายใน 6 เดือน (หลังเลือกตั้งเนปาลก็ยังคงเหมือนเดิม) พรรคการเมืองใหญ่8พรรคยังคงอยู่ : พรรคการเมืองหลัก 8 พรรคของเนปาล รวมถึง พรรคคองเกรสเนปาล (Nepali Congress) พรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (รวมลัทธิมาร์กซ์-เลนินิสต์) (CPN-UML) และพรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (ลัทธิเหมา) เนปาลจะไม่มีทางเปลี่ยนโฉมได้เลย สาเหตุเพราะ ขาดพรรคนำ ขาดเข็มทิศโครงสร้างสังคมเป็นเป้าหมาย ขาดพลังมวลชนที่ตื่นตัวทางทฤษฎี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 796 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
    ตอนที่ 1 : “เสี้ยม 5”
    เป็นเวลากว่า 2 เดือน ที่นักธุรกิจชาว Chicago (มาแล้ว !) ชื่อ Charles Crane และนักเทววิทยา (อีกแล้ว) ชาวอเมริกัน ชื่อ Henry King เดินทางไปทั่วตะวันออกกลางตามที่ได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดี Wilson เพื่อสอบถามชาวอาหรับระดับหัวหน้าหลายร้อยคน แม้ว่าอังกฤษและฝรั่งเศสจะพยายามใช้อิทธิพลของตนเอง กำหนดโผของตนเองให้ชาวอาหรับท่องตาม แต่ผลของการสำรวจก็ดูจะออกมาทางตรงกันข้ามกับโผที่คู่หูคู่กัดอังกฤษฝรั่งเศสที่ไปกำกับบทไว้
    ชาวซีเรียไม่ต้องการอยู่ในความปกครองของฝรั่งเศส และชาวปาเลสไตน์ไม่สนใจที่จะอยู่ในความปกครองของอังกฤษ แต่อังกฤษประสบผลสำเร็จในการสกัดไม่ให้อเมริกาทำการสำรวจในแถบเมโสโปแตเมีย (น่าคิดอังกฤษทำได้อย่างไรนะ)
    เดือนสิงหาคม King และ Crane ส่งรายงานสำรวจ เขาเสนอให้มีการปกครองซีเรียและปาเลสไตน์ร่วมกัน โดยคนกลางคืออเมริกา แทนการปกครองโดยพวกอดีตนักล่าอาณานิคมยุโรป และเสนอให้ Faisal ลูกชายของ Hussein เป็นหัวหน้ารัฐอาหรับ ถือเป็นการพยายามเป็นตาอยู่ของอเมริกาที่น่าสนใจ แม้จะโป๊อล่างฉ่าง ตามสไตล์และตามประสานักล่าหน้าใหม่ แต่ต้องให้คะแนนความกล้าหน้าด้านแข่งกับพวกนักล่ารุ่นเก๋า ในเกมการแย่งชิงชามข้าวหรือขนมเค้ก คติพจน์ที่เราไม่ควรลืมคือ ด้านได้ อาย อด เขาใช้กันมาทุกชาติ ทุกสมัย จนถึงปัจจุบันนี้
    ภายใต้ความกดดันของอังกฤษและของฝรั่งเศส และเพราะความป่วยไข้ของประธานาธิบดี Wilson รายงานนี้ได้ถูกซ่อน และได้นำออกมาเปิดเผย 3 ปีให้หลัง ซึ่งถึงตอนนั้น ปารีสและลอนดอน ก็ตกลงกันในแผนที่ใหม่ของตะวันออกกลางเรียบร้อยไปแล้ว ซึ่งแน่นอนออกมาตรงกันข้ามกับที่ King และ Crane เสนอ
    ฝรั่งเศสตกลงได้ปกครองเลบานอนและซีเรียตามต้องการ
    ส่วนอังกฤษได้ปกครองเมโสโปเตเมีย ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นอีรัค ซึ่งได้รวมเอา Mosul ส่วนที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำมันเข้าไว้ด้วย พร้อมกับได้ปกครองปาเลสไตน์ (ชื่อ Mosul นี้ คงทำให้ท่านผู้อ่านนิทานเริ่มเห็นภาพ หรือเข้าใจบางอย่างได้อย่างลาง ๆ แล้ว)
    ส่วนจอร์แดนให้เป็นรัฐกันชน โดยให้ Prince Abdullah ลูกชายของ Sharif Hussein มาเป็นกษัตริย์ปกครอง ภายใต้การดูแลของอังกฤษและฝรั่งเศสร่วมกัน แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสก็ยังเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริง เหนือดินแดนของลูกถูกเสี้ยมทั้งหมด มันเป็นการหลอกและต้ม Sharif Hussein จนเปื่อยยุ่ย
    ส่วนพวกยิว ได้รับอนุญาตจากอังกฤษให้ตั้งรกรากอยู่ที่ปาเลสไตน์ โดยมีข้อจำกัดบางประการ อังกฤษยังไม่พร้อมที่จะให้กลุ่มอาหรับ ที่อาศัยอยู่ในปาเลสไตน์อยู่แล้วลุกฮือขึ้นมา ดังนั้น จึงพยายามจำกัดจำนวนยิว ที่จะอพยพเข้าไปอยู่ในปาเลสไตน์ การจำกัดจำนวนนี้ ก็ทำให้ฝ่ายยิวไม่พอใจ หาทางที่จะเล็ดลอดอพยพเข้าไปในดินแดนนี้อยู่ดีในช่วงปี ค.ศ. 1920-1940 ขณะเดียวกันฝ่ายอาหรับที่อาศัยตั้งถิ่นฐานในปาเลสไตน์ ก็ถือว่าการอพยพชาวยิวมาอยู่ที่ปาเลสไตน์ เป็นการละเมิดสิทธิของพวกเขาที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1187
    ข้อตกลงทั้งหมดนี้ ภายหลังได้รับความเห็นชอบและยืนยัน โดยสันนิบาตชาติ (League of Nations ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสหประชาชาติ) ที่ตั้งขึ้นมาเมื่อ ค.ศ. 1918 ภายหลังสงครามโลกสิ้นสุด หนึ่งในวัตถุประสงค์ที่ตั้งขึ้นมา เพื่อแบ่งสมบัติส่วนที่เคยเป็นอาณาจักรออตโตมาน ในระหว่างฝ่ายผู้ชนะสงคราม
    สันนิบาตชาตินี้ นำโดยสมาชิกที่เป็นชาติมหาอำนาจที่ชนะสงคราม คือ อังกฤษและฝรั่งเศส อีก 2 ชาติมหาอำนาจ รัสเซียกับเยอรมัน ไม่มีสิทธิร่วมด้วย เพราะเยอรมันเป็นผู้แพ้สงคราม ส่วนรัสเซียหลังสงคราม เกิดปฏิวัติบอคเชวิก เปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ ถูกจำกัดสิทธิไม่ให้เป็นสมาชิก การแบ่งเค้กที่ ตกลงข้างต้น จึงไม่มีทางแหกโผของอังกฤษ !
    ต้องยอมรับในความตอแหล หน้าด้านของอังกฤษว่าสามารถจริง ๆ ค.ศ. 1917 โลกส่วนหนึ่งมึนงงกับข้อตกลงที่อังกฤษทำไว้กับ 3 กลุ่ม ตกลงเกี่ยวกับอนาคตของตะวันออกกลาง 3 แบบ พวกอาหรับยืนยันว่าพวกเขาต้องได้อาณาจักรอาหรับในฝัน ตามที่อังกฤษตกลงไว้กับ Sharif Hussein ส่วนฝรั่งเศส และอังกฤษ ตั้งใจที่จะเดินหน้าแบ่งเค้กอาหรับตามที่ตกลงกัน และชาวยิวก็เชื่อว่าตัวเองจะต้องได้ครอบครอง ปาเลสไตน์ ตามที่นาย Balfour รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษตกลงไว้
    อังกฤษทำได้อย่างไร อังกฤษบอกทำได้สบายมาก เพราะเป็นสันดานที่เห็นแก่ได้ โกหก ตลบแตลง ปลิ้นปล้อน ที่ทำมาตลอดในการล่าเหยื่อ และเด็กชายสยามก็เกือบจะไม่รอดจากการเป็นเหยื่อ จากการกระทำเยี่ยงนี้ของอังกฤษ
    ชาวอาหรับบอกว่า จนถึงทุกวันนี้ข้อขัดแย้งเกี่ยวกับดินแดน ในตะวันออกกลาง ไม่ได้แสดงถึงความขัดแย้งอย่างแท้จริงระหว่างกลุ่มชนพื้นเมือง ระหว่างชาวอิรัค ชาวซีเรีย ชาวจอร์แดน ฯลฯ แต่เป็นความขัดแย้งที่มีรากมาจากการล่าอาณานิคมของอังกฤษ ซึ่ง “ตั้งใจ” วางรูปแบบและแผนการณ์ที่จะให้มีความขัดแย้ง และการแตกแยกเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มชนชาวอาหรับด้วยกันเองต่างหาก อังกฤษและพวกได้กำหนดเขตแดนของพวกเขาโดยไม่เคารพ ไม่คำนึงถึงความเป็นจริง ถึงจริยธรรมและความต้องการพวกเขา เหมือนพวกเขาไม่มีตัวตนเกี่ยวข้องกับแผนที่และพื้นที่ ราวกับพวกเขาเป็นมนุษย์ล่องหน พวกเขาตกเป็นเหยื่อแห่งความกระหาย ตะกระ ตะกรามของอังกฤษและพวก ซึ่งกำหนดเขตแดนขึ้นมาอย่างชนิดที่ คนที่อยู่ในเขตแดนก็รับไม่ได้ และที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่พอใจ แล้วแบบนี้ความสงบ ความปรองดอง มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร มันเป็นผลงานที่สร้างตะวันออกกลางใหม่ จากอำนาจ และจากความพอใจของผู้สร้าง คือ นักล่าอาณานิคม ที่ควบคุมโดยอังกฤษแต่ผู้เดียว
    มันเป็นการจงใจสร้างให้เกิดความขัดแย้ง ความไม่สามัคคีในระหว่างชาวอาหรับ ซึ่งทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางการเมือง ทั่วทั้งตะวันออกกลาง ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และยังมีผลสืบเนื่องอยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้
    ไม้เสี้ยมของอังกฤษ ยังทำงานได้ผลดีเยี่ยม แม้ว่าจะได้เสียบไว้นาน 100 ปี แล้ว
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
19 ส.ค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ” ตอนที่ 1 : “เสี้ยม 5” เป็นเวลากว่า 2 เดือน ที่นักธุรกิจชาว Chicago (มาแล้ว !) ชื่อ Charles Crane และนักเทววิทยา (อีกแล้ว) ชาวอเมริกัน ชื่อ Henry King เดินทางไปทั่วตะวันออกกลางตามที่ได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดี Wilson เพื่อสอบถามชาวอาหรับระดับหัวหน้าหลายร้อยคน แม้ว่าอังกฤษและฝรั่งเศสจะพยายามใช้อิทธิพลของตนเอง กำหนดโผของตนเองให้ชาวอาหรับท่องตาม แต่ผลของการสำรวจก็ดูจะออกมาทางตรงกันข้ามกับโผที่คู่หูคู่กัดอังกฤษฝรั่งเศสที่ไปกำกับบทไว้ ชาวซีเรียไม่ต้องการอยู่ในความปกครองของฝรั่งเศส และชาวปาเลสไตน์ไม่สนใจที่จะอยู่ในความปกครองของอังกฤษ แต่อังกฤษประสบผลสำเร็จในการสกัดไม่ให้อเมริกาทำการสำรวจในแถบเมโสโปแตเมีย (น่าคิดอังกฤษทำได้อย่างไรนะ) เดือนสิงหาคม King และ Crane ส่งรายงานสำรวจ เขาเสนอให้มีการปกครองซีเรียและปาเลสไตน์ร่วมกัน โดยคนกลางคืออเมริกา แทนการปกครองโดยพวกอดีตนักล่าอาณานิคมยุโรป และเสนอให้ Faisal ลูกชายของ Hussein เป็นหัวหน้ารัฐอาหรับ ถือเป็นการพยายามเป็นตาอยู่ของอเมริกาที่น่าสนใจ แม้จะโป๊อล่างฉ่าง ตามสไตล์และตามประสานักล่าหน้าใหม่ แต่ต้องให้คะแนนความกล้าหน้าด้านแข่งกับพวกนักล่ารุ่นเก๋า ในเกมการแย่งชิงชามข้าวหรือขนมเค้ก คติพจน์ที่เราไม่ควรลืมคือ ด้านได้ อาย อด เขาใช้กันมาทุกชาติ ทุกสมัย จนถึงปัจจุบันนี้ ภายใต้ความกดดันของอังกฤษและของฝรั่งเศส และเพราะความป่วยไข้ของประธานาธิบดี Wilson รายงานนี้ได้ถูกซ่อน และได้นำออกมาเปิดเผย 3 ปีให้หลัง ซึ่งถึงตอนนั้น ปารีสและลอนดอน ก็ตกลงกันในแผนที่ใหม่ของตะวันออกกลางเรียบร้อยไปแล้ว ซึ่งแน่นอนออกมาตรงกันข้ามกับที่ King และ Crane เสนอ ฝรั่งเศสตกลงได้ปกครองเลบานอนและซีเรียตามต้องการ ส่วนอังกฤษได้ปกครองเมโสโปเตเมีย ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นอีรัค ซึ่งได้รวมเอา Mosul ส่วนที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำมันเข้าไว้ด้วย พร้อมกับได้ปกครองปาเลสไตน์ (ชื่อ Mosul นี้ คงทำให้ท่านผู้อ่านนิทานเริ่มเห็นภาพ หรือเข้าใจบางอย่างได้อย่างลาง ๆ แล้ว) ส่วนจอร์แดนให้เป็นรัฐกันชน โดยให้ Prince Abdullah ลูกชายของ Sharif Hussein มาเป็นกษัตริย์ปกครอง ภายใต้การดูแลของอังกฤษและฝรั่งเศสร่วมกัน แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสก็ยังเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริง เหนือดินแดนของลูกถูกเสี้ยมทั้งหมด มันเป็นการหลอกและต้ม Sharif Hussein จนเปื่อยยุ่ย ส่วนพวกยิว ได้รับอนุญาตจากอังกฤษให้ตั้งรกรากอยู่ที่ปาเลสไตน์ โดยมีข้อจำกัดบางประการ อังกฤษยังไม่พร้อมที่จะให้กลุ่มอาหรับ ที่อาศัยอยู่ในปาเลสไตน์อยู่แล้วลุกฮือขึ้นมา ดังนั้น จึงพยายามจำกัดจำนวนยิว ที่จะอพยพเข้าไปอยู่ในปาเลสไตน์ การจำกัดจำนวนนี้ ก็ทำให้ฝ่ายยิวไม่พอใจ หาทางที่จะเล็ดลอดอพยพเข้าไปในดินแดนนี้อยู่ดีในช่วงปี ค.ศ. 1920-1940 ขณะเดียวกันฝ่ายอาหรับที่อาศัยตั้งถิ่นฐานในปาเลสไตน์ ก็ถือว่าการอพยพชาวยิวมาอยู่ที่ปาเลสไตน์ เป็นการละเมิดสิทธิของพวกเขาที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1187 ข้อตกลงทั้งหมดนี้ ภายหลังได้รับความเห็นชอบและยืนยัน โดยสันนิบาตชาติ (League of Nations ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสหประชาชาติ) ที่ตั้งขึ้นมาเมื่อ ค.ศ. 1918 ภายหลังสงครามโลกสิ้นสุด หนึ่งในวัตถุประสงค์ที่ตั้งขึ้นมา เพื่อแบ่งสมบัติส่วนที่เคยเป็นอาณาจักรออตโตมาน ในระหว่างฝ่ายผู้ชนะสงคราม สันนิบาตชาตินี้ นำโดยสมาชิกที่เป็นชาติมหาอำนาจที่ชนะสงคราม คือ อังกฤษและฝรั่งเศส อีก 2 ชาติมหาอำนาจ รัสเซียกับเยอรมัน ไม่มีสิทธิร่วมด้วย เพราะเยอรมันเป็นผู้แพ้สงคราม ส่วนรัสเซียหลังสงคราม เกิดปฏิวัติบอคเชวิก เปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ ถูกจำกัดสิทธิไม่ให้เป็นสมาชิก การแบ่งเค้กที่ ตกลงข้างต้น จึงไม่มีทางแหกโผของอังกฤษ ! ต้องยอมรับในความตอแหล หน้าด้านของอังกฤษว่าสามารถจริง ๆ ค.ศ. 1917 โลกส่วนหนึ่งมึนงงกับข้อตกลงที่อังกฤษทำไว้กับ 3 กลุ่ม ตกลงเกี่ยวกับอนาคตของตะวันออกกลาง 3 แบบ พวกอาหรับยืนยันว่าพวกเขาต้องได้อาณาจักรอาหรับในฝัน ตามที่อังกฤษตกลงไว้กับ Sharif Hussein ส่วนฝรั่งเศส และอังกฤษ ตั้งใจที่จะเดินหน้าแบ่งเค้กอาหรับตามที่ตกลงกัน และชาวยิวก็เชื่อว่าตัวเองจะต้องได้ครอบครอง ปาเลสไตน์ ตามที่นาย Balfour รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษตกลงไว้ อังกฤษทำได้อย่างไร อังกฤษบอกทำได้สบายมาก เพราะเป็นสันดานที่เห็นแก่ได้ โกหก ตลบแตลง ปลิ้นปล้อน ที่ทำมาตลอดในการล่าเหยื่อ และเด็กชายสยามก็เกือบจะไม่รอดจากการเป็นเหยื่อ จากการกระทำเยี่ยงนี้ของอังกฤษ ชาวอาหรับบอกว่า จนถึงทุกวันนี้ข้อขัดแย้งเกี่ยวกับดินแดน ในตะวันออกกลาง ไม่ได้แสดงถึงความขัดแย้งอย่างแท้จริงระหว่างกลุ่มชนพื้นเมือง ระหว่างชาวอิรัค ชาวซีเรีย ชาวจอร์แดน ฯลฯ แต่เป็นความขัดแย้งที่มีรากมาจากการล่าอาณานิคมของอังกฤษ ซึ่ง “ตั้งใจ” วางรูปแบบและแผนการณ์ที่จะให้มีความขัดแย้ง และการแตกแยกเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มชนชาวอาหรับด้วยกันเองต่างหาก อังกฤษและพวกได้กำหนดเขตแดนของพวกเขาโดยไม่เคารพ ไม่คำนึงถึงความเป็นจริง ถึงจริยธรรมและความต้องการพวกเขา เหมือนพวกเขาไม่มีตัวตนเกี่ยวข้องกับแผนที่และพื้นที่ ราวกับพวกเขาเป็นมนุษย์ล่องหน พวกเขาตกเป็นเหยื่อแห่งความกระหาย ตะกระ ตะกรามของอังกฤษและพวก ซึ่งกำหนดเขตแดนขึ้นมาอย่างชนิดที่ คนที่อยู่ในเขตแดนก็รับไม่ได้ และที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่พอใจ แล้วแบบนี้ความสงบ ความปรองดอง มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร มันเป็นผลงานที่สร้างตะวันออกกลางใหม่ จากอำนาจ และจากความพอใจของผู้สร้าง คือ นักล่าอาณานิคม ที่ควบคุมโดยอังกฤษแต่ผู้เดียว มันเป็นการจงใจสร้างให้เกิดความขัดแย้ง ความไม่สามัคคีในระหว่างชาวอาหรับ ซึ่งทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางการเมือง ทั่วทั้งตะวันออกกลาง ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และยังมีผลสืบเนื่องอยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้ ไม้เสี้ยมของอังกฤษ ยังทำงานได้ผลดีเยี่ยม แม้ว่าจะได้เสียบไว้นาน 100 ปี แล้ว สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
19 ส.ค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 570 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ถ้าเป็นจริง ผู้นำประเทศไทยเราต้องระดับคนเหนือมนุษย์เข้ามาปกครองจริงๆนะ,มีพลังเวทย์ยิ่งสุดยอดแบบหนังจักรๆวงศ์ๆเรานั้นล่ะ,กากๆต้องหลบลงจากผู้ปกครองประเทศไทย,ปีศาจจำแลงแปลงร่างกายมาต้องดูออก,มองเห็นแบบมีระบบออโต้ตาทิพย์หูทิพย์ใจทิพย์ อ่านจิตอ่านใจคนฝ่ายตรงข้ามได้ด้วย,ประเทศไทยเราต้องอัพเลเวลกันจริงจังตามนี้นะจึงจะรอดหรือเกรียวdna12-13เกรียวเราต้องได้คืนมา,มิใช่มี1-2เกรียวdnaแบบมนุษย์ปัจจุบัน,โลกก่อนล้านล้านปีของเรามีเช่นนั้นมาแล้ว,เราคนยุคปัจจุบันต้องทำได้ด้วย,มิเช่นนั้นพวกชั่วเลวสาระพัดจากต่างดาวอวกาศหรือใต้โลกใต้มหาสมุทรเราควบคุมเราสิ้นซากแบบปัจจุบันนี้ที่deep stateไซออนิสต์ต้องการปกครองควบคุมเรา.,ไทยเราต้องเป็นต้นแบบนะ.
    ระบบการกักขังและการเฝ้าระวังที่โหดร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเปิดใช้งานโดย Silicon Valley เอกสารภายในแสดง | Associated Press (AP)

    ap ได้รับเอกสารที่จำแนกและภายในหลายหมื่นหน้าซึ่งแสดงให้เห็นว่า บริษัท ในสหรัฐอเมริกา (Microsoft, Intel, Oracle, IBM, Dell Amazon Web Services และระบบอื่น ๆ ) ออกแบบและทำการตลาดระบบที่กลายเป็นรากฐานสำหรับกรงดิจิตอลของจีน

    ในระดับสูงสุดไม่มี "US vs พวกเขา" ประเทศนี้เทียบกับประเทศนั้นหรือซ้ายเทียบกับด้านขวามันคือ "Satanic รักร่วมเพศเฒ่าหัวงูคลับ Freemasons Club" ทำงานร่วมกันเพื่อกดขี่มนุษยชาติ

    ลิงค์ข่าวap

    Silicon Valley เปิดใช้งานรัฐตำรวจดิจิตอลในประเทศจีนได้อย่างไร
    https://youtube.com/watch?v=uo_-d0lShxo&si=1EF92ko7zzGXmIhk

    ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมด้านล่าง:

    ❇พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) ได้รับเลือกจากผู้ควบคุมให้เป็นศูนย์ควบคุมของออสเตรเลีย


    ❇โดนัลด์ทรัมป์เสนอการใช้จ่ายเงิน 5500 พันล้านพันล้านเหรียญสหรัฐใน AI นั้นน่ากลัวอย่างยิ่งและทุกคนควรกลัว! | Ryan Villie (ผู้เชี่ยวชาญ AI)
    ..ถ้าเป็นจริง ผู้นำประเทศไทยเราต้องระดับคนเหนือมนุษย์เข้ามาปกครองจริงๆนะ,มีพลังเวทย์ยิ่งสุดยอดแบบหนังจักรๆวงศ์ๆเรานั้นล่ะ,กากๆต้องหลบลงจากผู้ปกครองประเทศไทย,ปีศาจจำแลงแปลงร่างกายมาต้องดูออก,มองเห็นแบบมีระบบออโต้ตาทิพย์หูทิพย์ใจทิพย์ อ่านจิตอ่านใจคนฝ่ายตรงข้ามได้ด้วย,ประเทศไทยเราต้องอัพเลเวลกันจริงจังตามนี้นะจึงจะรอดหรือเกรียวdna12-13เกรียวเราต้องได้คืนมา,มิใช่มี1-2เกรียวdnaแบบมนุษย์ปัจจุบัน,โลกก่อนล้านล้านปีของเรามีเช่นนั้นมาแล้ว,เราคนยุคปัจจุบันต้องทำได้ด้วย,มิเช่นนั้นพวกชั่วเลวสาระพัดจากต่างดาวอวกาศหรือใต้โลกใต้มหาสมุทรเราควบคุมเราสิ้นซากแบบปัจจุบันนี้ที่deep stateไซออนิสต์ต้องการปกครองควบคุมเรา.,ไทยเราต้องเป็นต้นแบบนะ. 🇨🇳ระบบการกักขังและการเฝ้าระวังที่โหดร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเปิดใช้งานโดย Silicon Valley เอกสารภายในแสดง | Associated Press (AP) ap ได้รับเอกสารที่จำแนกและภายในหลายหมื่นหน้าซึ่งแสดงให้เห็นว่า บริษัท ในสหรัฐอเมริกา (Microsoft, Intel, Oracle, IBM, Dell Amazon Web Services และระบบอื่น ๆ ) ออกแบบและทำการตลาดระบบที่กลายเป็นรากฐานสำหรับกรงดิจิตอลของจีน ⚡ในระดับสูงสุดไม่มี "US vs พวกเขา" ประเทศนี้เทียบกับประเทศนั้นหรือซ้ายเทียบกับด้านขวามันคือ "Satanic รักร่วมเพศเฒ่าหัวงูคลับ Freemasons Club" ทำงานร่วมกันเพื่อกดขี่มนุษยชาติ ลิงค์ข่าว👉ap Silicon Valley เปิดใช้งานรัฐตำรวจดิจิตอลในประเทศจีนได้อย่างไร https://youtube.com/watch?v=uo_-d0lShxo&si=1EF92ko7zzGXmIhk 🎓ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมด้านล่าง: ❇พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) ได้รับเลือกจากผู้ควบคุมให้เป็นศูนย์ควบคุมของออสเตรเลีย ❇โดนัลด์ทรัมป์เสนอการใช้จ่ายเงิน 5500 พันล้านพันล้านเหรียญสหรัฐใน AI นั้นน่ากลัวอย่างยิ่งและทุกคนควรกลัว! | Ryan Villie (ผู้เชี่ยวชาญ AI)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนมีดีคือจีนแท้,จีนไม่ดีคือจีนเทา มันใฝ่ทรยศจีนแท้ได้,ทำลายคนจีนแท้ในประเทศจีนได้,
    ..จริงๆจีนมีนโยบายตนเองชัด,ถ้านายกฯเราดีก็ชัดเจนกับจีนได้หมด,แต่มิใช่แบบลาวแบบเขมร ทาสหนี้จีนเมืองขึ้นจีน ขายแผ่นดินให้จีนยึดครองได้หลากหลายวิธีลักษณะแบบนั้น,จีนปัจจุบันมองผลประโยชน์สำคัญเป็นหลักแล้วก่อนมองด้านอดีตที่เคยสัมพันธ์กันมาก่อน,นโยบายไทยเราก็อนาถด้วย จุดยืนตนเองไม่มี เพราะนักการเมืองไทยและข้าราชการไทยเราทุจริตไม่ซื่อสัตย์ในหน้าที่ถูกตังเจ้าสัวไทยนอมินีจีนซื้อด้วยเงินก็ขาอ่อนหมดแล้ว,รากฐานคือผู้นำผู้ปกครองเรากาก ไม่มีอะไรเลย,จีนจึงเต็มไทยไปหมดรวมต่างด้าวด้วย,ต่างด้าวต่างชาติมีงานในไทยมากเท่าไร คนไทยก็ตกงานมากเท่านั่นเพราะเอกชนไทยและต่างชาติสุมหัวกันทำลายแรงงานคนไทยได้สบาย สุดท้ายคนไทยตกงาน ขาดรายได้รายรับ ถูกยึดที่ดินผิดปกติด้วยกฎหมายเปิดช่องมากมายจากนักการเมืองปกครองประเทศแบบสาระเลวชั่ว,จีนแฟร์มาก เราประเทศได้ผู้นำเอาคนไทยมาก่อนมันจะจบเลย,คนไทยจะมีงานทำเกือบหมด,ไม่มีงานทางตรงจากประจำกิจการบริษัทโรงงานก็เป็นงานทางอ้อมส่งวัตถุดิบเข้ากิจการโรงงานบริษัทนั้นๆได้,มีรายได้รายรับผ่านช่องทางนี้ได้,กระทรวงแรงงานเรากากไม่มีอะไรหรอก บริหารจัดการไม่เป็น,ต้นน้ำคือโรงเรียนวิลัยมหาลัยไทยตน ปลายน้ำคือกิจการเอกชนและหน่วนงานรัฐบาล ตนต้องส่งแรงงานไทยตนทั้งหมดให้ถึงฝั่งจะเป็นด้านเอกชนที่คนไทยนั้นๆสนใจทำงานหรือหน่วยงานระบบราชการตนก็ต้องส่งคนไทนนั้นๆถึงฝันใฝ่ด้วย,ชี้แนะวิชาชีพ อาชีพแต่แรก,เตรียมรองรับเมื่อเขาจบการศึกษา ประสานแหล่งงานเตรียมพร้อมรับแรงงานคนไทยเข้าทำงาน ทั้งเอกชนและทางรัฐเองที่สรรหากำลังพลบุคลากร,ตลอดทั่วโลกด้วย ติดตามทุกๆสัปดาห์หรือเดือนด้วยเพื่อปกป้องคนไทยเรา หรืออาชญากรรมค้ามนุษย์ทั้งในไทยเองและที่ต่างประเทศ.,กระทรวงแรงงานเราจึงกากตอบไม่ผิด,ตนต้องอุดช่องขัดขวางมิให้ประสิทธิภาพหน้าที่ตนลดลง ดูแลรายรับคนได้ได้ทั่วประเทศ,ส่งเสริมทักษะและอาชีพจริง สนับสนุนแหล่งเงินทุนสร้างรายได้รายรับด้วย,บริหารและบริการแบบครบวงจรอุ่นใจเมื่อทุกๆคนไทยเข้าไปหาว่ามีโอกาสสร้างรายรับเข้าบ้านแน่นอนเมื่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานนี้,คนไทยเราไม่อดตายมีเงินมีตังมีรายได้ไว้ใช้จ่ายเลี้ยงชีพตนและคนที่ตนอยากดูแลเลี้ยงดูด้วย,
    ..จีน อินเดีย อินโดฯ เอเชียเราคือตลาดการค้าเสรีที่ใหญ่โตมากสามารถพึงพากันในเอเชียในหลายๆด้านได้สบายเช่นตลาดสร้างรายได้แลกเปลี่ยนกันในแต่ละประเทศ,หรือสร้างความสงบร่มเย็นปลอดสงครามสู้รบใดๆทั้งภายในและแบบเขมรยิงใส่ไทยเราก่อนแบบนี้,
    ..จีนเป็นพี่ใหญ่ที่ดีกับไทยในอดีตแต่ไส้ในเราไม่รู้ว่าไปแลกกับผลประโยชน์ของประเทศไทยอะไรบ้าง,ทุกๆบ้านไส้ในเราไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรกับเรา,แต่ทั้งหมดคบกันอาจด้วยผลประโยชน์ต้องมาก่อนเสมอ.,น้อยมาที่สายสัมพันธุ์มาก่อน,แต่จีนแท้ สายสัมพันธุ์ที่ดีอาจมาก่อนเสมอ,คนจีนที่นิสัยดีๆซื่อสัตย์ซื่อตรงมีไม่น้อย ตลอดผู้นำจีนแม้เขาคือคอมมิวนิสต์เขาก็เป็นคนดีในหมู่คอมมิวนิสต์เขาได้,คนดีคบกันไม่สนใจว่าปกครองด้วยระบบอะไรหรอก,เพราะคนดีจะไม่ทรยศและหักหลังกันและกันเด็ดขาด.,ต่างตักเตือนเฝ้าระวังภัยให้กันและกันเมื่อมีภัยเกิดขึ้น.,ไม่ทิ้งกันเช่นกัน.
    ..ดีที่สุดเรา..ประเทศไทนคนไทยเราต้องสามัคคีกันพึ่งพากันและกันช่วยเหลือกันและกันดีที่สุด.

    https://youtube.com/shorts/mNwZxmoscYQ?si=XiKZq615VFPIjxNd
    จีนมีดีคือจีนแท้,จีนไม่ดีคือจีนเทา มันใฝ่ทรยศจีนแท้ได้,ทำลายคนจีนแท้ในประเทศจีนได้, ..จริงๆจีนมีนโยบายตนเองชัด,ถ้านายกฯเราดีก็ชัดเจนกับจีนได้หมด,แต่มิใช่แบบลาวแบบเขมร ทาสหนี้จีนเมืองขึ้นจีน ขายแผ่นดินให้จีนยึดครองได้หลากหลายวิธีลักษณะแบบนั้น,จีนปัจจุบันมองผลประโยชน์สำคัญเป็นหลักแล้วก่อนมองด้านอดีตที่เคยสัมพันธ์กันมาก่อน,นโยบายไทยเราก็อนาถด้วย จุดยืนตนเองไม่มี เพราะนักการเมืองไทยและข้าราชการไทยเราทุจริตไม่ซื่อสัตย์ในหน้าที่ถูกตังเจ้าสัวไทยนอมินีจีนซื้อด้วยเงินก็ขาอ่อนหมดแล้ว,รากฐานคือผู้นำผู้ปกครองเรากาก ไม่มีอะไรเลย,จีนจึงเต็มไทยไปหมดรวมต่างด้าวด้วย,ต่างด้าวต่างชาติมีงานในไทยมากเท่าไร คนไทยก็ตกงานมากเท่านั่นเพราะเอกชนไทยและต่างชาติสุมหัวกันทำลายแรงงานคนไทยได้สบาย สุดท้ายคนไทยตกงาน ขาดรายได้รายรับ ถูกยึดที่ดินผิดปกติด้วยกฎหมายเปิดช่องมากมายจากนักการเมืองปกครองประเทศแบบสาระเลวชั่ว,จีนแฟร์มาก เราประเทศได้ผู้นำเอาคนไทยมาก่อนมันจะจบเลย,คนไทยจะมีงานทำเกือบหมด,ไม่มีงานทางตรงจากประจำกิจการบริษัทโรงงานก็เป็นงานทางอ้อมส่งวัตถุดิบเข้ากิจการโรงงานบริษัทนั้นๆได้,มีรายได้รายรับผ่านช่องทางนี้ได้,กระทรวงแรงงานเรากากไม่มีอะไรหรอก บริหารจัดการไม่เป็น,ต้นน้ำคือโรงเรียนวิลัยมหาลัยไทยตน ปลายน้ำคือกิจการเอกชนและหน่วนงานรัฐบาล ตนต้องส่งแรงงานไทยตนทั้งหมดให้ถึงฝั่งจะเป็นด้านเอกชนที่คนไทยนั้นๆสนใจทำงานหรือหน่วยงานระบบราชการตนก็ต้องส่งคนไทนนั้นๆถึงฝันใฝ่ด้วย,ชี้แนะวิชาชีพ อาชีพแต่แรก,เตรียมรองรับเมื่อเขาจบการศึกษา ประสานแหล่งงานเตรียมพร้อมรับแรงงานคนไทยเข้าทำงาน ทั้งเอกชนและทางรัฐเองที่สรรหากำลังพลบุคลากร,ตลอดทั่วโลกด้วย ติดตามทุกๆสัปดาห์หรือเดือนด้วยเพื่อปกป้องคนไทยเรา หรืออาชญากรรมค้ามนุษย์ทั้งในไทยเองและที่ต่างประเทศ.,กระทรวงแรงงานเราจึงกากตอบไม่ผิด,ตนต้องอุดช่องขัดขวางมิให้ประสิทธิภาพหน้าที่ตนลดลง ดูแลรายรับคนได้ได้ทั่วประเทศ,ส่งเสริมทักษะและอาชีพจริง สนับสนุนแหล่งเงินทุนสร้างรายได้รายรับด้วย,บริหารและบริการแบบครบวงจรอุ่นใจเมื่อทุกๆคนไทยเข้าไปหาว่ามีโอกาสสร้างรายรับเข้าบ้านแน่นอนเมื่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานนี้,คนไทยเราไม่อดตายมีเงินมีตังมีรายได้ไว้ใช้จ่ายเลี้ยงชีพตนและคนที่ตนอยากดูแลเลี้ยงดูด้วย, ..จีน อินเดีย อินโดฯ เอเชียเราคือตลาดการค้าเสรีที่ใหญ่โตมากสามารถพึงพากันในเอเชียในหลายๆด้านได้สบายเช่นตลาดสร้างรายได้แลกเปลี่ยนกันในแต่ละประเทศ,หรือสร้างความสงบร่มเย็นปลอดสงครามสู้รบใดๆทั้งภายในและแบบเขมรยิงใส่ไทยเราก่อนแบบนี้, ..จีนเป็นพี่ใหญ่ที่ดีกับไทยในอดีตแต่ไส้ในเราไม่รู้ว่าไปแลกกับผลประโยชน์ของประเทศไทยอะไรบ้าง,ทุกๆบ้านไส้ในเราไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรกับเรา,แต่ทั้งหมดคบกันอาจด้วยผลประโยชน์ต้องมาก่อนเสมอ.,น้อยมาที่สายสัมพันธุ์มาก่อน,แต่จีนแท้ สายสัมพันธุ์ที่ดีอาจมาก่อนเสมอ,คนจีนที่นิสัยดีๆซื่อสัตย์ซื่อตรงมีไม่น้อย ตลอดผู้นำจีนแม้เขาคือคอมมิวนิสต์เขาก็เป็นคนดีในหมู่คอมมิวนิสต์เขาได้,คนดีคบกันไม่สนใจว่าปกครองด้วยระบบอะไรหรอก,เพราะคนดีจะไม่ทรยศและหักหลังกันและกันเด็ดขาด.,ต่างตักเตือนเฝ้าระวังภัยให้กันและกันเมื่อมีภัยเกิดขึ้น.,ไม่ทิ้งกันเช่นกัน. ..ดีที่สุดเรา..ประเทศไทนคนไทยเราต้องสามัคคีกันพึ่งพากันและกันช่วยเหลือกันและกันดีที่สุด. https://youtube.com/shorts/mNwZxmoscYQ?si=XiKZq615VFPIjxNd
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 591 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts