• Microsoft เตรียมหยุดสนับสนุน OneNote รุ่น Windows 10 ในปี 2025 และจะลดความเร็วการซิงค์ในรุ่นนี้เพื่อจูงใจให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ OneNote เวอร์ชันใหม่บน Windows 11 แม้ว่าผู้ใช้จะยังสามารถใช้งานต่อไปได้ แต่จะพบความลำบากในการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ ผู้ที่ยังไม่ต้องการอัปเกรดมีตัวเลือกใช้โปรแกรมอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบ

    ฟีเจอร์ที่จำกัดใน OneNote รุ่นเก่า:
    - Microsoft ยืนยันว่า OneNote รุ่นใหม่จะมีการซิงค์ที่รวดเร็วกว่า รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ เช่น Copilot AI และตัวเลือกความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งจะไม่มีให้ใน OneNote รุ่น Windows 10.

    ผลกระทบต่อผู้ใช้ระดับองค์กร:
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ทางธุรกิจและองค์กรที่ยังคงใช้งาน Windows 10 และ OneNote for Windows 10 ในการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์.

    ทางเลือกอื่น:
    - ผู้ใช้ Windows 10 ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนไปใช้ Windows 11 ยังมีตัวเลือกอื่น เช่น ใช้แพลตฟอร์ม note-taking อื่น ๆ ที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งอาจตอบโจทย์ได้ดีกว่าในด้านความเสถียรและประสิทธิภาพ.

    https://www.techspot.com/news/107272-microsoft-slowing-down-onenote-windows-10-force-users.html
    Microsoft เตรียมหยุดสนับสนุน OneNote รุ่น Windows 10 ในปี 2025 และจะลดความเร็วการซิงค์ในรุ่นนี้เพื่อจูงใจให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ OneNote เวอร์ชันใหม่บน Windows 11 แม้ว่าผู้ใช้จะยังสามารถใช้งานต่อไปได้ แต่จะพบความลำบากในการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ ผู้ที่ยังไม่ต้องการอัปเกรดมีตัวเลือกใช้โปรแกรมอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบ ฟีเจอร์ที่จำกัดใน OneNote รุ่นเก่า: - Microsoft ยืนยันว่า OneNote รุ่นใหม่จะมีการซิงค์ที่รวดเร็วกว่า รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ เช่น Copilot AI และตัวเลือกความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งจะไม่มีให้ใน OneNote รุ่น Windows 10. ผลกระทบต่อผู้ใช้ระดับองค์กร: - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ทางธุรกิจและองค์กรที่ยังคงใช้งาน Windows 10 และ OneNote for Windows 10 ในการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์. ทางเลือกอื่น: - ผู้ใช้ Windows 10 ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนไปใช้ Windows 11 ยังมีตัวเลือกอื่น เช่น ใช้แพลตฟอร์ม note-taking อื่น ๆ ที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งอาจตอบโจทย์ได้ดีกว่าในด้านความเสถียรและประสิทธิภาพ. https://www.techspot.com/news/107272-microsoft-slowing-down-onenote-windows-10-force-users.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft is slowing down OneNote on Windows 10 to force users to upgrade
    The original OneNote was announced by Bill Gates in 2002, back when most people were still using Windows XP or Windows 2000 on their PCs. The note-taking...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • HP ตกลงยุติคดีจากการอัปเดตเฟิร์มแวร์ที่ปิดกั้นการใช้งานตลับหมึกของบริษัทคู่แข่ง โดยไม่มีการจ่ายชดเชยให้ลูกค้าโดยตรง แม้ว่า HP จะอ้างว่าการอัปเดตนี้มีไว้เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลูกค้าหลายคนมองว่านี่คือการบีบบังคับให้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ HP เท่านั้น เรื่องนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาความสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความโปร่งใส

    ข้อโต้แย้งและผลกระทบ:
    - ระบบ Dynamic Security อ้างว่ามีไว้เพื่อปกป้องการพิมพ์ ลดการใช้ตลับหมึกปลอม และเพิ่มความปลอดภัย แต่ลูกค้ากลับมองว่ามันเป็นวิธีการที่ HP ใช้เพิ่มรายได้ เนื่องจากตลับหมึกถือเป็นรายได้สำคัญของบริษัท.

    การยุติข้อพิพาททางกฎหมาย:
    - HP จ่ายเงิน $5,000 ให้แก่บริษัทที่ฟ้องร้อง และอีก $725,000 สำหรับค่าทนายความและค่าใช้จ่ายทางคดี นอกจากนี้ลูกค้าในบางรุ่นสามารถเลือกปิดการอัปเดต Dynamic Security ได้.

    คำวิจารณ์และบทเรียน:
    - HP เผชิญคดีลักษณะเดียวกันในหลายประเทศ เช่นในอิตาลีที่บริษัทถูกปรับถึง $12 ล้าน เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ HP ต้องพิจารณาวิธีการสร้างความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์และบริการของตน.

    https://www.techspot.com/news/107266-hp-settles-lawsuit-over-ink-blocking-printer-update.html
    HP ตกลงยุติคดีจากการอัปเดตเฟิร์มแวร์ที่ปิดกั้นการใช้งานตลับหมึกของบริษัทคู่แข่ง โดยไม่มีการจ่ายชดเชยให้ลูกค้าโดยตรง แม้ว่า HP จะอ้างว่าการอัปเดตนี้มีไว้เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลูกค้าหลายคนมองว่านี่คือการบีบบังคับให้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ HP เท่านั้น เรื่องนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาความสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความโปร่งใส ข้อโต้แย้งและผลกระทบ: - ระบบ Dynamic Security อ้างว่ามีไว้เพื่อปกป้องการพิมพ์ ลดการใช้ตลับหมึกปลอม และเพิ่มความปลอดภัย แต่ลูกค้ากลับมองว่ามันเป็นวิธีการที่ HP ใช้เพิ่มรายได้ เนื่องจากตลับหมึกถือเป็นรายได้สำคัญของบริษัท. การยุติข้อพิพาททางกฎหมาย: - HP จ่ายเงิน $5,000 ให้แก่บริษัทที่ฟ้องร้อง และอีก $725,000 สำหรับค่าทนายความและค่าใช้จ่ายทางคดี นอกจากนี้ลูกค้าในบางรุ่นสามารถเลือกปิดการอัปเดต Dynamic Security ได้. คำวิจารณ์และบทเรียน: - HP เผชิญคดีลักษณะเดียวกันในหลายประเทศ เช่นในอิตาลีที่บริษัทถูกปรับถึง $12 ล้าน เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ HP ต้องพิจารณาวิธีการสร้างความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์และบริการของตน. https://www.techspot.com/news/107266-hp-settles-lawsuit-over-ink-blocking-printer-update.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    HP settles lawsuit over ink-blocking printer update, with no payout or admission of wrongdoing
    HP's November 2020 firmware update enabled, or re-enabled, the company's Dynamic Security system in some printer models. This detects non-HP ink or toner cartridges, even those that...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • 23andMe บริษัทตรวจ DNA ยื่นล้มละลายและเตรียมขายธุรกิจหลังเผชิญปัญหาการเจาะข้อมูลครั้งใหญ่ ผู้ใช้กว่า 5.5 ล้านคนได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ขณะที่ตลาดตรวจ DNA ก็มีแนวโน้มลดลง CEO Anne Wojcicki ประกาศลาออกจากตำแหน่ง สถานการณ์นี้สะท้อนถึงผลกระทบจากความปลอดภัยข้อมูลและความท้าทายของธุรกิจเทคโนโลยีที่ขาดการต่อยอด

    ความเสียหายที่เกิดจากการเจาะข้อมูล:
    - นอกจากข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ผ่านฟีเจอร์ DNA Relatives ยังมีข้อมูลสายตระกูลของผู้ใช้งานอีก 1.4 ล้านคน ที่ถูกแฮ็ก การโจมตีครั้งนี้สร้างผลกระทบอย่างมากต่อความปลอดภัยและชื่อเสียงของบริษัท.

    การลดลงของตลาดตรวจ DNA:
    - ผู้บริโภคมองว่าโมเดลธุรกิจของการตรวจ DNA แบบ "ใช้ครั้งเดียว" ไม่ได้ตอบโจทย์การใช้งานซ้ำ จึงทำให้ความสนใจในบริการนี้ลดลงเรื่อย ๆ.

    ความพยายามในการฟื้นฟูบริษัทที่ล้มเหลว:
    - 23andMe เคยพยายามปรับโครงสร้างธุรกิจผ่านการลดพนักงานลงถึง 40% เพื่อลดค่าใช้จ่ายรายปีกว่า $35 ล้าน แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้.

    การลดมูลค่าหุ้นอย่างมาก:
    - มูลค่าหุ้นที่เคยสูงสุดถึง $320 ลดลงจนเหลือเพียง $0.92 ซึ่งเป็นสัญญาณถึงปัญหาทางการเงินที่ลุกลามและไม่สามารถแก้ไขได้.

    https://www.techspot.com/news/107268-dna-testing-firm-23andme-files-bankruptcy-ceo-anne.html
    23andMe บริษัทตรวจ DNA ยื่นล้มละลายและเตรียมขายธุรกิจหลังเผชิญปัญหาการเจาะข้อมูลครั้งใหญ่ ผู้ใช้กว่า 5.5 ล้านคนได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ขณะที่ตลาดตรวจ DNA ก็มีแนวโน้มลดลง CEO Anne Wojcicki ประกาศลาออกจากตำแหน่ง สถานการณ์นี้สะท้อนถึงผลกระทบจากความปลอดภัยข้อมูลและความท้าทายของธุรกิจเทคโนโลยีที่ขาดการต่อยอด ความเสียหายที่เกิดจากการเจาะข้อมูล: - นอกจากข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ผ่านฟีเจอร์ DNA Relatives ยังมีข้อมูลสายตระกูลของผู้ใช้งานอีก 1.4 ล้านคน ที่ถูกแฮ็ก การโจมตีครั้งนี้สร้างผลกระทบอย่างมากต่อความปลอดภัยและชื่อเสียงของบริษัท. การลดลงของตลาดตรวจ DNA: - ผู้บริโภคมองว่าโมเดลธุรกิจของการตรวจ DNA แบบ "ใช้ครั้งเดียว" ไม่ได้ตอบโจทย์การใช้งานซ้ำ จึงทำให้ความสนใจในบริการนี้ลดลงเรื่อย ๆ. ความพยายามในการฟื้นฟูบริษัทที่ล้มเหลว: - 23andMe เคยพยายามปรับโครงสร้างธุรกิจผ่านการลดพนักงานลงถึง 40% เพื่อลดค่าใช้จ่ายรายปีกว่า $35 ล้าน แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้. การลดมูลค่าหุ้นอย่างมาก: - มูลค่าหุ้นที่เคยสูงสุดถึง $320 ลดลงจนเหลือเพียง $0.92 ซึ่งเป็นสัญญาณถึงปัญหาทางการเงินที่ลุกลามและไม่สามารถแก้ไขได้. https://www.techspot.com/news/107268-dna-testing-firm-23andme-files-bankruptcy-ceo-anne.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    DNA testing firm 23andMe files for bankruptcy, CEO Anne Wojcicki resigns
    23andMe was founded in 2006 as a direct-to-consumer genetics testing specialist and became a publicly traded company in June 2021, trading under the ticker symbol "ME." At...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานล่าสุดชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนา AI แบบ AGI โดยเน้นว่าการเพิ่มพลังประมวลผลเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แม้บริษัทใหญ่ลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีนี้ ผลลัพธ์ที่ได้กลับลดลง นอกจากนี้ นักวิจัยยังสนับสนุนให้เน้นความปลอดภัยและวิธีการพัฒนาที่คุ้มค่า เช่น การลดพลังงานหรือปรับกระบวนการทำงานของ AI ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ความท้าทายในการพัฒนา AGI:
    - แม้มีการลงทุนมากกว่า 56 พันล้านดอลลาร์ ใน AI เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่ แต่ผลลัพธ์ในด้านประสิทธิภาพเริ่มลดลง เช่น โมเดลล่าสุดของ OpenAI ที่แสดงการปรับปรุงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า.

    ปัญหาด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน:
    - เนื่องจากโมเดล AI ต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาล บริษัทต่าง ๆ เช่น Microsoft, Google และ Amazon จึงเริ่มหันไปใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล.

    แนวทางใหม่เพื่อการพัฒนา AI:
    - มีการสำรวจวิธีการที่ไม่เน้นเพิ่มพลังประมวลผล เช่น การใช้ "Test-time Compute" ซึ่งโมเดล AI จะ "คิด" นานขึ้นก่อนให้คำตอบ วิธีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่ต้องขยายระบบอย่างมหาศาล แต่ยังไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่สมบูรณ์.

    มุมมองด้านความปลอดภัยและจริยธรรม:
    - 82% ของนักวิจัย เชื่อว่าหาก AGI พัฒนาโดยบริษัทเอกชน ควรอยู่ภายใต้การควบคุมสาธารณะเพื่อลดความเสี่ยงและปัญหาด้านจริยธรรม.

    https://www.techspot.com/news/107256-most-ai-researchers-doubt-scaling-current-systems-alone.html
    รายงานล่าสุดชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนา AI แบบ AGI โดยเน้นว่าการเพิ่มพลังประมวลผลเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แม้บริษัทใหญ่ลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีนี้ ผลลัพธ์ที่ได้กลับลดลง นอกจากนี้ นักวิจัยยังสนับสนุนให้เน้นความปลอดภัยและวิธีการพัฒนาที่คุ้มค่า เช่น การลดพลังงานหรือปรับกระบวนการทำงานของ AI ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ความท้าทายในการพัฒนา AGI: - แม้มีการลงทุนมากกว่า 56 พันล้านดอลลาร์ ใน AI เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่ แต่ผลลัพธ์ในด้านประสิทธิภาพเริ่มลดลง เช่น โมเดลล่าสุดของ OpenAI ที่แสดงการปรับปรุงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า. ปัญหาด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน: - เนื่องจากโมเดล AI ต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาล บริษัทต่าง ๆ เช่น Microsoft, Google และ Amazon จึงเริ่มหันไปใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล. แนวทางใหม่เพื่อการพัฒนา AI: - มีการสำรวจวิธีการที่ไม่เน้นเพิ่มพลังประมวลผล เช่น การใช้ "Test-time Compute" ซึ่งโมเดล AI จะ "คิด" นานขึ้นก่อนให้คำตอบ วิธีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่ต้องขยายระบบอย่างมหาศาล แต่ยังไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่สมบูรณ์. มุมมองด้านความปลอดภัยและจริยธรรม: - 82% ของนักวิจัย เชื่อว่าหาก AGI พัฒนาโดยบริษัทเอกชน ควรอยู่ภายใต้การควบคุมสาธารณะเพื่อลดความเสี่ยงและปัญหาด้านจริยธรรม. https://www.techspot.com/news/107256-most-ai-researchers-doubt-scaling-current-systems-alone.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Most AI experts say chasing AGI with more compute is a losing strategy
    A recent survey of 475 AI researchers reveals that 76% believe adding more computing power and data to current AI models is "unlikely" or "very unlikely" to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung ยอมรับว่าการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ผิดพลาดทำให้ soundbar รุ่นปี 2024 หลายรุ่นกลายเป็นอุปกรณ์ที่ไม่สามารถใช้งานได้ ปัญหานี้เกิดจากเฟิร์มแวร์เวอร์ชัน 1020.7 ซึ่งทำให้ระบบ freeze และไม่ตอบสนอง ผู้ใช้งานจำเป็นต้องส่งเครื่องเข้ารับการซ่อมแซมฟรี สำหรับผู้ที่ยังไม่มีปัญหา ควรปิดการอัปเดตอัตโนมัติชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย

    การตอบสนองจาก Samsung:
    - Samsung ได้เสนอการซ่อมแซมฟรีให้กับทุกยูนิตที่ได้รับผลกระทบ โดยไม่คำนึงถึงสถานะการรับประกัน ซึ่งเป็นการยอมรับปัญหาอย่างเปิดเผย.

    ผลกระทบที่กว้างขวาง:
    - ปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรีย และมาเลเซีย เนื่องจากเฟิร์มแวร์ถูกตั้งค่าให้อัปเดตอัตโนมัติ.

    คำแนะนำสำหรับเจ้าของ soundbar:
    - สำหรับผู้ที่ soundbar ยังใช้งานได้ ขอแนะนำให้ปิดการอัปเดตอัตโนมัติชั่วคราว เพื่อป้องกันการติดตั้งเฟิร์มแวร์ที่อาจมีปัญหา.

    ความท้าทายในการแก้ไข:
    - ซอฟต์แวร์แพตช์ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ในทันที และหน่วยเสียงต้องการการซ่อมแซมทางกายภาพเพื่อกลับมาใช้งาน.

    https://www.techspot.com/news/107255-samsung-confirms-buggy-update-has-bricking-premium-soundbars.html
    Samsung ยอมรับว่าการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ผิดพลาดทำให้ soundbar รุ่นปี 2024 หลายรุ่นกลายเป็นอุปกรณ์ที่ไม่สามารถใช้งานได้ ปัญหานี้เกิดจากเฟิร์มแวร์เวอร์ชัน 1020.7 ซึ่งทำให้ระบบ freeze และไม่ตอบสนอง ผู้ใช้งานจำเป็นต้องส่งเครื่องเข้ารับการซ่อมแซมฟรี สำหรับผู้ที่ยังไม่มีปัญหา ควรปิดการอัปเดตอัตโนมัติชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย การตอบสนองจาก Samsung: - Samsung ได้เสนอการซ่อมแซมฟรีให้กับทุกยูนิตที่ได้รับผลกระทบ โดยไม่คำนึงถึงสถานะการรับประกัน ซึ่งเป็นการยอมรับปัญหาอย่างเปิดเผย. ผลกระทบที่กว้างขวาง: - ปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรีย และมาเลเซีย เนื่องจากเฟิร์มแวร์ถูกตั้งค่าให้อัปเดตอัตโนมัติ. คำแนะนำสำหรับเจ้าของ soundbar: - สำหรับผู้ที่ soundbar ยังใช้งานได้ ขอแนะนำให้ปิดการอัปเดตอัตโนมัติชั่วคราว เพื่อป้องกันการติดตั้งเฟิร์มแวร์ที่อาจมีปัญหา. ความท้าทายในการแก้ไข: - ซอฟต์แวร์แพตช์ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ในทันที และหน่วยเสียงต้องการการซ่อมแซมทางกายภาพเพื่อกลับมาใช้งาน. https://www.techspot.com/news/107255-samsung-confirms-buggy-update-has-bricking-premium-soundbars.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Samsung admits a bad software update has been bricking its soundbars
    The confirmation comes straight from Jim Kiczek, the head of audio at Samsung Electronics America. In a statement to The Verge, Kiczek called it a "software update...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD เปิดตัว Gaia แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สสำหรับการใช้งาน LLMs บนเครื่อง PC โดยเฉพาะ Gaia ไม่เพียงเพิ่มความเร็วและแม่นยำ แต่ยังช่วยให้ใช้งาน LLMs ได้แบบออฟไลน์ เหมาะสำหรับใครที่ต้องการความปลอดภัยและการประมวลผลข้อมูลในเครื่องส่วนตัว

    ฟีเจอร์เด่นของ Gaia:
    - Gaia มีตัวเลือกเอเจนต์ เช่น Simple Prompt Completion สำหรับการทดสอบโมเดล, Chaty ซึ่งเป็นแชตบ็อตสำหรับโต้ตอบกับผู้ใช้, Clip ที่มีฟีเจอร์ค้นหาใน YouTube, และ Joker ซึ่งเพิ่มมิติความสนุกด้วยการเล่าเรื่องตลก.
    - การทำงานรวมกับระบบ Retrieval-Augmented Generation (RAG) ช่วยให้ Gaia เพิ่มความแม่นยำและความเกี่ยวข้องของผลลัพธ์

    ประโยชน์ของการรัน LLMs แบบโลคอล:
    - ลดเวลาแฝง (latency) และเพิ่มความปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลไม่ได้ส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก.
    - สามารถใช้งานได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีข้อจำกัดทางการเชื่อมต่อ.

    ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์อื่น ๆ:
    - Gaia มีตัวเลือกติดตั้งสองแบบคือ Mainstream Installer ซึ่งรองรับ PC ทุกรุ่น และ Hybrid Installer ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Ryzen AI PCs เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล.

    ข้อได้เปรียบเหนือโซลูชันคลาวด์:
    - ความสามารถของ Gaia ในการประมวลผลแบบออฟไลน์และรองรับการใช้งานหลากหลาย เช่น การสรุปข้อมูลและการตอบคำถามเชิงลึก อาจดึงดูดผู้ใช้ที่กังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-launches-gaia-open-source-project-for-running-llms-locally-on-any-pc
    AMD เปิดตัว Gaia แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สสำหรับการใช้งาน LLMs บนเครื่อง PC โดยเฉพาะ Gaia ไม่เพียงเพิ่มความเร็วและแม่นยำ แต่ยังช่วยให้ใช้งาน LLMs ได้แบบออฟไลน์ เหมาะสำหรับใครที่ต้องการความปลอดภัยและการประมวลผลข้อมูลในเครื่องส่วนตัว ฟีเจอร์เด่นของ Gaia: - Gaia มีตัวเลือกเอเจนต์ เช่น Simple Prompt Completion สำหรับการทดสอบโมเดล, Chaty ซึ่งเป็นแชตบ็อตสำหรับโต้ตอบกับผู้ใช้, Clip ที่มีฟีเจอร์ค้นหาใน YouTube, และ Joker ซึ่งเพิ่มมิติความสนุกด้วยการเล่าเรื่องตลก. - การทำงานรวมกับระบบ Retrieval-Augmented Generation (RAG) ช่วยให้ Gaia เพิ่มความแม่นยำและความเกี่ยวข้องของผลลัพธ์ ประโยชน์ของการรัน LLMs แบบโลคอล: - ลดเวลาแฝง (latency) และเพิ่มความปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลไม่ได้ส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก. - สามารถใช้งานได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีข้อจำกัดทางการเชื่อมต่อ. ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์อื่น ๆ: - Gaia มีตัวเลือกติดตั้งสองแบบคือ Mainstream Installer ซึ่งรองรับ PC ทุกรุ่น และ Hybrid Installer ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Ryzen AI PCs เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล. ข้อได้เปรียบเหนือโซลูชันคลาวด์: - ความสามารถของ Gaia ในการประมวลผลแบบออฟไลน์และรองรับการใช้งานหลากหลาย เช่น การสรุปข้อมูลและการตอบคำถามเชิงลึก อาจดึงดูดผู้ใช้ที่กังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว. https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-launches-gaia-open-source-project-for-running-llms-locally-on-any-pc
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD launches Gaia open source project for running LLMs locally on any PC
    Gaia runs faster on Ryzen AI PCs, using the XDNA NPU and RDNA iGPU.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • FBI เตือนว่าการใช้เว็บไซต์แปลงไฟล์ฟรีอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลส่วนตัวและการติดมัลแวร์ แฮ็กเกอร์ใช้กลยุทธ์หลอกลวงโดยทำให้เว็บไซต์ดูเหมือนปลอดภัย แต่กลับแฝงภัยไว้เบื้องหลัง ผู้ใช้งานควรเลือกเครื่องมือจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและหลีกเลี่ยงการส่งข้อมูลสำคัญไปยังเว็บไซต์ที่ไม่รู้จัก

    ลักษณะการหลอกลวง:
    - เครื่องมือแปลงไฟล์ เช่น การแปลง .doc เป็น .pdf หรือรวมไฟล์ .jpg หลายไฟล์เป็น .pdf อาจดูเหมือนใช้งานได้ตามปกติ แต่เบื้องหลังมีการติดตั้งมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลจากไฟล์ที่อัปโหลด.

    เป้าหมายของแฮ็กเกอร์:
    - แฮ็กเกอร์ใช้ข้อมูลที่ได้จากการหลอกลวงนี้เพื่อสร้างความเสียหาย เช่น การขโมยตัวตน ข้อมูลการเงิน หรือทำกิจกรรมไซเบอร์อื่น ๆ.

    คำแนะนำจาก FBI:
    - หน่วยงานเน้นย้ำความสำคัญของการศึกษาให้ผู้ใช้ระมัดระวังและไม่ใช้งานเครื่องมือออนไลน์ฟรีจากแหล่งที่ไม่เชื่อถือ.

    การแก้ปัญหาและความปลอดภัย:
    - FBI สนับสนุนให้รายงานเหตุการณ์การหลอกลวงผ่านศูนย์รับข้อร้องเรียนอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต (www.ic3.gov) เพื่อช่วยหยุดกิจกรรมเหล่านี้.

    https://www.techradar.com/pro/security/fake-file-converters-are-stealing-info-pushing-ransomware-fbi-warns
    FBI เตือนว่าการใช้เว็บไซต์แปลงไฟล์ฟรีอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลส่วนตัวและการติดมัลแวร์ แฮ็กเกอร์ใช้กลยุทธ์หลอกลวงโดยทำให้เว็บไซต์ดูเหมือนปลอดภัย แต่กลับแฝงภัยไว้เบื้องหลัง ผู้ใช้งานควรเลือกเครื่องมือจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและหลีกเลี่ยงการส่งข้อมูลสำคัญไปยังเว็บไซต์ที่ไม่รู้จัก ลักษณะการหลอกลวง: - เครื่องมือแปลงไฟล์ เช่น การแปลง .doc เป็น .pdf หรือรวมไฟล์ .jpg หลายไฟล์เป็น .pdf อาจดูเหมือนใช้งานได้ตามปกติ แต่เบื้องหลังมีการติดตั้งมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลจากไฟล์ที่อัปโหลด. เป้าหมายของแฮ็กเกอร์: - แฮ็กเกอร์ใช้ข้อมูลที่ได้จากการหลอกลวงนี้เพื่อสร้างความเสียหาย เช่น การขโมยตัวตน ข้อมูลการเงิน หรือทำกิจกรรมไซเบอร์อื่น ๆ. คำแนะนำจาก FBI: - หน่วยงานเน้นย้ำความสำคัญของการศึกษาให้ผู้ใช้ระมัดระวังและไม่ใช้งานเครื่องมือออนไลน์ฟรีจากแหล่งที่ไม่เชื่อถือ. การแก้ปัญหาและความปลอดภัย: - FBI สนับสนุนให้รายงานเหตุการณ์การหลอกลวงผ่านศูนย์รับข้อร้องเรียนอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต (www.ic3.gov) เพื่อช่วยหยุดกิจกรรมเหล่านี้. https://www.techradar.com/pro/security/fake-file-converters-are-stealing-info-pushing-ransomware-fbi-warns
    WWW.TECHRADAR.COM
    Fake file converters are stealing info, pushing ransomware, FBI warns
    Be careful with web-based file management services, FBI says
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • การศึกษาล่าสุดเผยว่า Microsoft 365 อาจไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ได้อย่างสมบูรณ์ โดยพบมัลแวร์และ URL อันตรายจำนวนมากในข้อมูลสำรอง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้โซลูชันสำรองข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูง ควบคู่กับการอบรมพนักงานและตรวจสอบระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการโจมตีซ้ำและเสริมสร้างความปลอดภัยในองค์กร

    ผลการวิจัยที่น่ากังวล:
    - พบ URL อันตรายกว่า 2 ล้านรายการ ที่อาจนำไปสู่เว็บไซต์ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์.
    - มีมัลแวร์กว่า 5,000 รายการ ถูกตรวจพบในข้อมูลสำรอง.

    โมเดลความรับผิดชอบร่วม (Shared Responsibility Model):
    - Microsoft รับผิดชอบความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ขณะที่องค์กรผู้ใช้งานต้องรับผิดชอบการปกป้องข้อมูลและแอปพลิเคชันของตัวเอง.

    ข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มความปลอดภัย:
    - ใช้โซลูชันสำรองข้อมูลที่มีคุณสมบัติการป้องกันขั้นสูง เพื่อลดความเสี่ยงจากมัลแวร์และภัยคุกคาม.
    - เพิ่มความปลอดภัยอีเมล เช่น การบล็อกอีเมลฟิชชิ่งและการหลอกลวง.
    - อบรมพนักงานให้รับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์และทำการจำลองสถานการณ์เพื่อสร้างความตื่นตัว.

    ผลกระทบของภัยคุกคามในข้อมูลสำรอง:
    - หากมัลแวร์หรือ URL อันตรายแฝงตัวในข้อมูลสำรอง จะสามารถกลับมาติดระบบใหม่ได้ทุกครั้งที่กู้คืนข้อมูล สร้างวงจรการโจมตีซ้ำ ๆ

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/hidden-threats-how-microsoft-365-backups-store-risks-for-future-attacks/
    การศึกษาล่าสุดเผยว่า Microsoft 365 อาจไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ได้อย่างสมบูรณ์ โดยพบมัลแวร์และ URL อันตรายจำนวนมากในข้อมูลสำรอง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้โซลูชันสำรองข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูง ควบคู่กับการอบรมพนักงานและตรวจสอบระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการโจมตีซ้ำและเสริมสร้างความปลอดภัยในองค์กร ผลการวิจัยที่น่ากังวล: - พบ URL อันตรายกว่า 2 ล้านรายการ ที่อาจนำไปสู่เว็บไซต์ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์. - มีมัลแวร์กว่า 5,000 รายการ ถูกตรวจพบในข้อมูลสำรอง. โมเดลความรับผิดชอบร่วม (Shared Responsibility Model): - Microsoft รับผิดชอบความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ขณะที่องค์กรผู้ใช้งานต้องรับผิดชอบการปกป้องข้อมูลและแอปพลิเคชันของตัวเอง. ข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มความปลอดภัย: - ใช้โซลูชันสำรองข้อมูลที่มีคุณสมบัติการป้องกันขั้นสูง เพื่อลดความเสี่ยงจากมัลแวร์และภัยคุกคาม. - เพิ่มความปลอดภัยอีเมล เช่น การบล็อกอีเมลฟิชชิ่งและการหลอกลวง. - อบรมพนักงานให้รับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์และทำการจำลองสถานการณ์เพื่อสร้างความตื่นตัว. ผลกระทบของภัยคุกคามในข้อมูลสำรอง: - หากมัลแวร์หรือ URL อันตรายแฝงตัวในข้อมูลสำรอง จะสามารถกลับมาติดระบบใหม่ได้ทุกครั้งที่กู้คืนข้อมูล สร้างวงจรการโจมตีซ้ำ ๆ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/hidden-threats-how-microsoft-365-backups-store-risks-for-future-attacks/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Hidden Threats: How Microsoft 365 Backups Store Risks for Future Attacks
    Acronis Threat Research found 2M+ malicious URLs & 5,000+ malware instances in Microsoft 365 backup data—demonstrating how built-in security isn't always enough. Don't let threats persist in your cloud data. Strengthen your defenses.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานว่า Cisco Smart Licensing Utility ถูกโจมตีผ่านช่องโหว่แอดมินลับที่นักวิจัยเพิ่งเปิดเผยรายละเอียด แม้ Cisco จะได้แก้ไขช่องโหว่นี้แล้ว แต่ระบบที่ไม่ได้รับการอัปเดตยังคงเป็นเป้าหมายของนักโจมตี

    ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น:
    - ช่องโหว่ทั้งสองนี้จะเป็นปัญหาก็ต่อเมื่อระบบไม่ได้รับการอัปเดตและผู้ใช้เรียกใช้งาน CSLU ซึ่งโดยปกติไม่ได้ออกแบบให้ทำงานเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว.

    บทบาทของนักวิจัย:
    - Nicholas Starke นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Aruba ได้ถอดรหัสช่องโหว่และเผยแพร่รายละเอียด รวมถึงรหัสผ่านแอดมินที่ฝังอยู่ ซึ่งทำให้นักโจมตีสามารถเริ่มการโจมตีได้รวดเร็วขึ้น.

    เป้าหมายของการโจมตี:
    - แม้เป้าหมายของการโจมตีครั้งนี้ยังไม่ชัดเจน แต่นักโจมตีพยายามใช้ช่องโหว่ร่วมกับการโจมตีช่องโหว่ตัวอื่น เช่น DVR จาก Guangzhou Yingke Electronic.

    ประวัติของช่องโหว่ใน Cisco:
    - Cisco เคยมีปัญหากับบัญชีแอดมินที่ฝังในผลิตภัณฑ์ก่อนหน้านี้ เช่น DNA Center และ IOS XE ซึ่งบ่งบอกถึงความท้าทายด้านความปลอดภัยของบริษัท.

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/critical-cisco-smart-licensing-utility-flaws-now-exploited-in-attacks/
    มีรายงานว่า Cisco Smart Licensing Utility ถูกโจมตีผ่านช่องโหว่แอดมินลับที่นักวิจัยเพิ่งเปิดเผยรายละเอียด แม้ Cisco จะได้แก้ไขช่องโหว่นี้แล้ว แต่ระบบที่ไม่ได้รับการอัปเดตยังคงเป็นเป้าหมายของนักโจมตี ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น: - ช่องโหว่ทั้งสองนี้จะเป็นปัญหาก็ต่อเมื่อระบบไม่ได้รับการอัปเดตและผู้ใช้เรียกใช้งาน CSLU ซึ่งโดยปกติไม่ได้ออกแบบให้ทำงานเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว. บทบาทของนักวิจัย: - Nicholas Starke นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Aruba ได้ถอดรหัสช่องโหว่และเผยแพร่รายละเอียด รวมถึงรหัสผ่านแอดมินที่ฝังอยู่ ซึ่งทำให้นักโจมตีสามารถเริ่มการโจมตีได้รวดเร็วขึ้น. เป้าหมายของการโจมตี: - แม้เป้าหมายของการโจมตีครั้งนี้ยังไม่ชัดเจน แต่นักโจมตีพยายามใช้ช่องโหว่ร่วมกับการโจมตีช่องโหว่ตัวอื่น เช่น DVR จาก Guangzhou Yingke Electronic. ประวัติของช่องโหว่ใน Cisco: - Cisco เคยมีปัญหากับบัญชีแอดมินที่ฝังในผลิตภัณฑ์ก่อนหน้านี้ เช่น DNA Center และ IOS XE ซึ่งบ่งบอกถึงความท้าทายด้านความปลอดภัยของบริษัท. https://www.bleepingcomputer.com/news/security/critical-cisco-smart-licensing-utility-flaws-now-exploited-in-attacks/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Critical Cisco Smart Licensing Utility flaws now exploited in attacks
    Attackers have started targeting Cisco Smart Licensing Utility (CSLU) instances unpatched against a vulnerability exposing a built-in backdoor admin account.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • Vibe Coding เป็นแนวคิดใหม่ในวงการพัฒนาโปรแกรม โดยใช้ AI ช่วยเขียนโค้ดให้นักพัฒนามีเวลาไปโฟกัสกับงานที่ซับซ้อนและสร้างสรรค์มากขึ้น นักพัฒนามืออาชีพต่างแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโอกาสและความเสี่ยงของวิธีนี้ หลายคนเชื่อว่า AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาการพัฒนาโค้ดได้ อย่างไรก็ตาม หากปล่อยให้ AI ทำงานโดยไม่มีการตรวจสอบ อาจเสี่ยงต่อปัญหาความปลอดภัยและคุณภาพของโค้ด ซึ่งแนวคิดนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงทั้งในวงการพัฒนาซอฟต์แวร์และการศึกษา

    ประโยชน์ของ Vibe Coding:
    - ผู้พัฒนาบางรายรายงานว่า AI สามารถช่วยพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ได้รวดเร็ว เช่น การสร้างต้นแบบฟังก์ชันภายใน 20 นาที โดยลดเวลาที่ใช้ในการพัฒนาไปอย่างมาก.
    - Vibe Coding ทำให้นักพัฒนาสามารถมุ่งไปที่การแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์และซับซ้อนมากขึ้น แทนที่จะเสียเวลาทำงานที่ซ้ำซ้อน.

    ข้อจำกัดและความเสี่ยง:
    - นักพัฒนามือใหม่หรือคนที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโค้ด อาจสร้างโค้ดที่ไม่ปลอดภัย เช่น มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย หรือโค้ดที่ยากต่อการบำรุงรักษา.
    - การใช้ AI สร้างโค้ดโดยไม่มีมนุษย์ตรวจสอบอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาด เช่น การใช้งานข้อมูลส่วนตัวผิดวิธี.

    ความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการศึกษาและการเรียนรู้:
    - AI ไม่เพียงช่วยในด้านการพัฒนาโค้ดเท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนรู้ เช่น การทำให้การเรียนการสอนมีความสร้างสรรค์และลดความกดดันจากการท่องจำ.

    https://www.zdnet.com/article/10-professional-developers-on-the-true-promise-and-peril-of-vibe-coding/
    Vibe Coding เป็นแนวคิดใหม่ในวงการพัฒนาโปรแกรม โดยใช้ AI ช่วยเขียนโค้ดให้นักพัฒนามีเวลาไปโฟกัสกับงานที่ซับซ้อนและสร้างสรรค์มากขึ้น นักพัฒนามืออาชีพต่างแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโอกาสและความเสี่ยงของวิธีนี้ หลายคนเชื่อว่า AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาการพัฒนาโค้ดได้ อย่างไรก็ตาม หากปล่อยให้ AI ทำงานโดยไม่มีการตรวจสอบ อาจเสี่ยงต่อปัญหาความปลอดภัยและคุณภาพของโค้ด ซึ่งแนวคิดนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงทั้งในวงการพัฒนาซอฟต์แวร์และการศึกษา ประโยชน์ของ Vibe Coding: - ผู้พัฒนาบางรายรายงานว่า AI สามารถช่วยพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ได้รวดเร็ว เช่น การสร้างต้นแบบฟังก์ชันภายใน 20 นาที โดยลดเวลาที่ใช้ในการพัฒนาไปอย่างมาก. - Vibe Coding ทำให้นักพัฒนาสามารถมุ่งไปที่การแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์และซับซ้อนมากขึ้น แทนที่จะเสียเวลาทำงานที่ซ้ำซ้อน. ข้อจำกัดและความเสี่ยง: - นักพัฒนามือใหม่หรือคนที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโค้ด อาจสร้างโค้ดที่ไม่ปลอดภัย เช่น มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย หรือโค้ดที่ยากต่อการบำรุงรักษา. - การใช้ AI สร้างโค้ดโดยไม่มีมนุษย์ตรวจสอบอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาด เช่น การใช้งานข้อมูลส่วนตัวผิดวิธี. ความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการศึกษาและการเรียนรู้: - AI ไม่เพียงช่วยในด้านการพัฒนาโค้ดเท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนรู้ เช่น การทำให้การเรียนการสอนมีความสร้างสรรค์และลดความกดดันจากการท่องจำ. https://www.zdnet.com/article/10-professional-developers-on-the-true-promise-and-peril-of-vibe-coding/
    WWW.ZDNET.COM
    10 professional developers on the true promise and peril of vibe coding
    Is vibe coding the future of software or a security nightmare in disguise? Here's how experienced developers are responding to the latest AI-fueled coding craze.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นการพลั้งเผลอที่ร้ายแรงมาก : เมื่อสหรัฐ "เผลอ" ดึง Jeffrey Goldberg บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร The Atlantic เข้าไปในกลุ่มแชทสนทนาของแอปฯ Signal ก่อนที่การโจมตี 'ฮูตี' ในเยเมนจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา

    Goldberg เปิดเผยผ่านบทความของตัวเองว่า เขาถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มแชทที่ชื่อ 'Houthi PC Small Group' ตั้งแต่ 2 วันก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง:
    ในกลุ่มสนทนานี้มีทั้ง Mike Waltz ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ, Pete Hegseth รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ, JD Vance รองประธานาธิบดีสหรัฐ และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ในรัฐบาลทรัมป์

    Goldberg กล่าวอีกว่าในช่วงสองวันที่เขาอยู่ในกลุ่มสนทนานี้ ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะมีการเปิดฉากโจมตีฮูตี เจ้าหน้าที่ระดับสูงในฝ่ายบริหารได้ถกเถียงกันว่าการโจมตีควรเกิดขึ้นหรือไม่ โดยรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ มีความเห็นว่า "ไม่ควรเปิดฉากโจมตีแบบรุนแรง" เนื่องจากคนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจและไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีเรือในทะเลแดงของกลุ่มฮูตี

    แต่ Pete Hegseth รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ แย้งว่าการโจมตีครั้งนี้มีประโยชน์ต่อสหรัฐในการป้องกันการโจมตีเรือเดินทะเลผ่านช่องแคบบาบอัลมันดาบในอนาคต

    ในตอนท้าย Goldberg ระบุว่าเขาได้รับข้อความในแชทจากพีท เฮกเซธ แต่เขาไม่สามารถกล่าวถึงข้อความดังกล่าวโดยตรงได้ เนื่องจากข้อความดังกล่าว เป็นข้อความที่ละเอียดอ่อนและมีข้อมูลลับสุดยอด ซึ่ง Goldberg เน้นว่า “หากข้อมูลดังกล่าวถูกอ่านโดยศัตรูของสหรัฐ อาจถูกนำไปใช้ทำร้ายทหารและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐ โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการกลาง (CENTCOM)”

    Goldberg กล่าวว่านี่ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความประมาทเลินเล่ออย่างน่าตกใจของการสนทนาครั้งนี้ที่เขาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งมีรายละเอียดการปฏิบัติการของการโจมตีเยเมนที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมาย อาวุธที่สหรัฐจะนำไปใช้ และลำดับการโจมตี และแสดงความกังวลถึงความปลอดภัยของข้อมูล โดยเฉพาะหากผู้ที่มีข้อมูลเผยแพร่แผนดังกล่าวก่อนปฏิบัติการจริง อาจทำให้ปฏิบัติการของสหรัฐฯ ล้มเหลวหรือสร้างความเสียหายตามมา

    โกลด์เบิร์กได้สอบถามไปยังไบรอัน ฮิวจ์ส โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเกี่ยวกับกลุ่มสนทนาดังกล่าว โดยเขายอมรับว่า นี่อาจเป็น ของจริง และขอเวลาในการตรวจสอบว่ามีการเพิ่มบุคคลเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจนี้ได้อย่างไร

    อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้นำเรื่องนี้มาเปิดเผยก่อนการโจมตีเกิดขึ้นแต่อย่างใด
    เป็นการพลั้งเผลอที่ร้ายแรงมาก : เมื่อสหรัฐ "เผลอ" ดึง Jeffrey Goldberg บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร The Atlantic เข้าไปในกลุ่มแชทสนทนาของแอปฯ Signal ก่อนที่การโจมตี 'ฮูตี' ในเยเมนจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา Goldberg เปิดเผยผ่านบทความของตัวเองว่า เขาถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มแชทที่ชื่อ 'Houthi PC Small Group' ตั้งแต่ 2 วันก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง: ในกลุ่มสนทนานี้มีทั้ง Mike Waltz ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ, Pete Hegseth รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ, JD Vance รองประธานาธิบดีสหรัฐ และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ในรัฐบาลทรัมป์ Goldberg กล่าวอีกว่าในช่วงสองวันที่เขาอยู่ในกลุ่มสนทนานี้ ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะมีการเปิดฉากโจมตีฮูตี เจ้าหน้าที่ระดับสูงในฝ่ายบริหารได้ถกเถียงกันว่าการโจมตีควรเกิดขึ้นหรือไม่ โดยรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ มีความเห็นว่า "ไม่ควรเปิดฉากโจมตีแบบรุนแรง" เนื่องจากคนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจและไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีเรือในทะเลแดงของกลุ่มฮูตี แต่ Pete Hegseth รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ แย้งว่าการโจมตีครั้งนี้มีประโยชน์ต่อสหรัฐในการป้องกันการโจมตีเรือเดินทะเลผ่านช่องแคบบาบอัลมันดาบในอนาคต ในตอนท้าย Goldberg ระบุว่าเขาได้รับข้อความในแชทจากพีท เฮกเซธ แต่เขาไม่สามารถกล่าวถึงข้อความดังกล่าวโดยตรงได้ เนื่องจากข้อความดังกล่าว เป็นข้อความที่ละเอียดอ่อนและมีข้อมูลลับสุดยอด ซึ่ง Goldberg เน้นว่า “หากข้อมูลดังกล่าวถูกอ่านโดยศัตรูของสหรัฐ อาจถูกนำไปใช้ทำร้ายทหารและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐ โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการกลาง (CENTCOM)” Goldberg กล่าวว่านี่ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความประมาทเลินเล่ออย่างน่าตกใจของการสนทนาครั้งนี้ที่เขาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งมีรายละเอียดการปฏิบัติการของการโจมตีเยเมนที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมาย อาวุธที่สหรัฐจะนำไปใช้ และลำดับการโจมตี และแสดงความกังวลถึงความปลอดภัยของข้อมูล โดยเฉพาะหากผู้ที่มีข้อมูลเผยแพร่แผนดังกล่าวก่อนปฏิบัติการจริง อาจทำให้ปฏิบัติการของสหรัฐฯ ล้มเหลวหรือสร้างความเสียหายตามมา โกลด์เบิร์กได้สอบถามไปยังไบรอัน ฮิวจ์ส โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเกี่ยวกับกลุ่มสนทนาดังกล่าว โดยเขายอมรับว่า นี่อาจเป็น ของจริง และขอเวลาในการตรวจสอบว่ามีการเพิ่มบุคคลเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจนี้ได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้นำเรื่องนี้มาเปิดเผยก่อนการโจมตีเกิดขึ้นแต่อย่างใด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10 ปี โศกนาฏกรรม Germanwings เที่ยวบิน 4U9525 เครื่องบินตกที่เทือกเขาแอลป์ จากเหตุ “นักบินผู้ช่วยป่วยจิต” เจตนาฆ่ายกลำ 150 ศพ!

    ✈️ เหตุการณ์เครื่องบินตกของสายการบิน Germanwings เที่ยวบิน 4U9525 ถือเป็นโศกนาฏกรรมทางอากาศ ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง ในประวัติศาสตร์การบินของเยอรมนี และกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญ ที่ยังคงถูกพูดถึง แม้เวลาจะล่วงเลยไปกว่า 10 ปีแล้ว 🚨

    เพราะสิ่งที่ยิ่งกว่าความสูญเสียคือ “ข้อเท็จจริงอันน่าสยดสยอง” ว่าผู้ช่วยนักบิน ตั้งใจทำให้เครื่องบินตก นำไปสู่การเสียชีวิตของผู้โดยสาร และลูกเรือทั้ง 150 คนบนเครื่อง ✈️

    ✈️ โศกนาฏกรรม เที่ยวบิน 4U9525 วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10:41 น. สายการบิน Germanwings เที่ยวบินที่ 4U9525 ได้บินจากบาร์เซโลนา ประเทศสเปน มุ่งหน้าสู่ดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี ด้วยเครื่องบิน Airbus A320-200 ที่มีอายุการใช้งาน 24 ปี ผู้โดยสารบนเครื่องมีทั้งหมด 144 คน และลูกเรือ 6 คน รวมถึงกัปตัน " แพทริก ซอน เดนไฮเมอร์" (Patrick Son Denheimer) และผู้ช่วยนักบิน "อันเดรียส ลูบริซ" (Andreas Lubitz) 👨‍✈️

    การเดินทางที่ควรจะ "ปกติ" เริ่มต้นได้อย่างราบรื่น เครื่องบินไต่ระดับขึ้นไปที่ 38,000 ฟุต ⛰️ แต่เพียงไม่นาน... เครื่องบินก็เริ่มลดระดับลงอย่างผิดปกติ โดยไม่มีการติดต่อกลับจากนักบินผู้ช่วย ⚠️

    🚨 สิบนาทีสุดท้าย ก่อนพุ่งชนเทือกเขาแอลป์ ในช่วงเวลาสิบกว่านาทีสุดท้ายของเที่ยวบิน ลูบิตซ์ นักบินผู้ช่วย ได้ใช้โอกาสที่กัปตันเดนไฮเมอร์ ออกไปจากห้องนักบิน กดล็อกประตูไม่ให้กัปตันกลับเข้าไป และตั้งค่าระบบนำร่องอัตโนมัติ ให้เครื่องบินพุ่งต่ำลงเรื่อยๆ จนกระทั่งชนภูเขาในเขต Massif des Trois-Évêchés ของเทือกเขาแอลป์ 🏔️

    เสียงในห้องนักบินที่บันทึกโดยกล่องดำ (CVR) เผยให้เห็นว่าลูบิตซ์เงียบตลอดเวลาดำเนินการ และไม่ตอบสนองต่อการติดต่อใดๆ แม้แต่เสียงร้องขอความช่วยเหลือของกัปตันเดนไฮเมอร์ และเสียงกรีดร้องของผู้โดยสาร ที่ตระหนักถึงชะตากรรมของตนเอง 😢

    ⚠️ นักบินผู้ช่วยที่ป่วยจิต… และระบบที่พังทลาย ลูบิตซ์มีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า และมีอาการจิตเวชที่ซับซ้อนมาก่อน เคยหยุดการฝึกบินกลางคันในปี 2552 ด้วยปัญหาทางจิตใจ แต่ได้รับใบรับรองแพทย์คืนหลังจากผ่านการรักษา ✅

    แม้จะหายป่วยในช่วงหนึ่ง แต่ภายหลังอาการกลับมาอีกครั้งในปี 2557-2558 โดยไม่มีใครในสายการบินรับรู้ เพราะลูบิตซ์เลือก "ปกปิด" ไม่แจ้งข้อมูลนี้กับบริษัท และเพื่อนร่วมงาน เพราะกลัวสูญเสียอาชีพการบิน ที่หลงใหลมาตลอดชีวิต 🛩️

    👉 ปัญหานี้ชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่อง ในระบบตรวจสอบสุขภาพจิตของนักบิน ที่เน้นแต่การคัดกรองและป้องกัน โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบสนับสนุน และการฟื้นฟูผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างแท้จริง

    🔍 เบื้องหลังอาชญากรรม "อันเดรียส ลูบิตซ์" เป็นชายหนุ่มชาวเยอรมัน ที่เติบโตในเมือง Montabaur รักการบินมาตั้งแต่เด็ก เริ่มฝึกบินเครื่องร่อนตั้งแต่อายุ 14 ปี มีเส้นทางที่ดูเหมือนจะรุ่งโรจน์ในอาชีพนักบิน แต่ด้วยปัญหาสุขภาพจิต ที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ทำให้กลายเป็นฆาตกรในคราบนักบิน ✈️

    ลูบิตซ์ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรัง เคยมีความคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง และสุดท้าย ก็เลือกจบชีวิตตัวเองบนเครื่องบิน พร้อมกับพรากชีวิตคนอีก 149 คนไปพร้อมกัน ⚰️

    📜 มาตรการความปลอดภัย ที่เปลี่ยนแปลงหลังเหตุการณ์
    มาตรการเร่งด่วนที่ถูกนำมาใช้ทันที
    - ต้องมีนักบินสองคนในห้องนักบินตลอดเวลา (Two-Person Cockpit Rule)
    - เข้มงวดกับการตรวจสุขภาพจิตของนักบินมากขึ้น 📝
    - ให้สิทธิ์แพทย์ ในการแจ้งข้อมูลสุขภาพจิตของนักบิน ในกรณีเสี่ยงต่อความปลอดภัย ⚖️

    แต่ปัจจุบัน หลายฝ่ายมองว่านโยบายเหล่านี้ อาจไม่ได้ป้องกันปัญหาที่แท้จริง เพราะระบบยังคงขาดความยืดหยุ่น ในการจัดการกับปัญหาสุขภาพจิตของนักบิน 😔

    💡 บทเรียนที่ยังคงถูกถกเถียงในวงการการบิน
    - นักบินหลายคนเลือก "โกหก" เพื่อไม่ให้ประวัติสุขภาพจิต มาทำลายอาชีพการบินของตนเอง
    - ความเข้มงวดเกินไปในระบบใบรับรองแพทย์ อาจทำให้ปัญหาซ่อนอยู่ มากกว่าการเปิดเผยความจริง
    - จำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมการยอมรับและสนับสนุน ไม่ใช่การลงโทษคนที่ขอความช่วยเหลือ

    🎯 คำถามคือ เราจะป้องกันไม่ให้เกิด "Andreas Lubitz คนต่อไป" ได้อย่างไร?

    ✨ เหตุการณ์ที่โลกไม่มีวันลืม โศกนาฏกรรมเที่ยวบิน 4U9525 เป็นตัวอย่างสะท้อนความสำคัญ ของการตรวจสอบสุขภาพจิตนักบิน อย่างเป็นระบบและมีมนุษยธรรม หากไม่มีการปรับปรุง ระบบเดิมจะยังคงสร้างช่องว่าง ให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นได้อีกครั้ง 💔

    10 ปีผ่านไป... แต่รอยแผลจากวันนั้นยังคงอยู่ และคำถามที่ไร้คำตอบก็คือ "ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ สิ่งนี้จะป้องกันได้ไหม?" ⏳

    ✈️ ความเชื่อใจในนักบินเป็นสิ่งสำคัญ แต่ "ระบบ" ที่สนับสนุนความปลอดภัยนั้น สำคัญยิ่งกว่า!

    10 ปีแห่งบทเรียนที่ไม่มีวันลืม...

    🕊️ เพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตบนท้องฟ้า 🌤️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241018 มี.ค. 2568

    📌 #เที่ยวบิน9525 #Germanwings #โศกนาฏกรรมการบิน #AndreasLubitz #สุขภาพจิตนักบิน #โศกนาฏกรรมเยอรมันวิงส์ #ความปลอดภัยทางการบิน #ห้องนักบิน #อุบัติเหตุการบิน #บินปลอดภัย
    10 ปี โศกนาฏกรรม Germanwings เที่ยวบิน 4U9525 เครื่องบินตกที่เทือกเขาแอลป์ จากเหตุ “นักบินผู้ช่วยป่วยจิต” เจตนาฆ่ายกลำ 150 ศพ! ✈️ เหตุการณ์เครื่องบินตกของสายการบิน Germanwings เที่ยวบิน 4U9525 ถือเป็นโศกนาฏกรรมทางอากาศ ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง ในประวัติศาสตร์การบินของเยอรมนี และกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญ ที่ยังคงถูกพูดถึง แม้เวลาจะล่วงเลยไปกว่า 10 ปีแล้ว 🚨 เพราะสิ่งที่ยิ่งกว่าความสูญเสียคือ “ข้อเท็จจริงอันน่าสยดสยอง” ว่าผู้ช่วยนักบิน ตั้งใจทำให้เครื่องบินตก นำไปสู่การเสียชีวิตของผู้โดยสาร และลูกเรือทั้ง 150 คนบนเครื่อง ✈️ ✈️ โศกนาฏกรรม เที่ยวบิน 4U9525 วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10:41 น. สายการบิน Germanwings เที่ยวบินที่ 4U9525 ได้บินจากบาร์เซโลนา ประเทศสเปน มุ่งหน้าสู่ดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี ด้วยเครื่องบิน Airbus A320-200 ที่มีอายุการใช้งาน 24 ปี ผู้โดยสารบนเครื่องมีทั้งหมด 144 คน และลูกเรือ 6 คน รวมถึงกัปตัน " แพทริก ซอน เดนไฮเมอร์" (Patrick Son Denheimer) และผู้ช่วยนักบิน "อันเดรียส ลูบริซ" (Andreas Lubitz) 👨‍✈️ การเดินทางที่ควรจะ "ปกติ" เริ่มต้นได้อย่างราบรื่น เครื่องบินไต่ระดับขึ้นไปที่ 38,000 ฟุต ⛰️ แต่เพียงไม่นาน... เครื่องบินก็เริ่มลดระดับลงอย่างผิดปกติ โดยไม่มีการติดต่อกลับจากนักบินผู้ช่วย ⚠️ 🚨 สิบนาทีสุดท้าย ก่อนพุ่งชนเทือกเขาแอลป์ ในช่วงเวลาสิบกว่านาทีสุดท้ายของเที่ยวบิน ลูบิตซ์ นักบินผู้ช่วย ได้ใช้โอกาสที่กัปตันเดนไฮเมอร์ ออกไปจากห้องนักบิน กดล็อกประตูไม่ให้กัปตันกลับเข้าไป และตั้งค่าระบบนำร่องอัตโนมัติ ให้เครื่องบินพุ่งต่ำลงเรื่อยๆ จนกระทั่งชนภูเขาในเขต Massif des Trois-Évêchés ของเทือกเขาแอลป์ 🏔️ เสียงในห้องนักบินที่บันทึกโดยกล่องดำ (CVR) เผยให้เห็นว่าลูบิตซ์เงียบตลอดเวลาดำเนินการ และไม่ตอบสนองต่อการติดต่อใดๆ แม้แต่เสียงร้องขอความช่วยเหลือของกัปตันเดนไฮเมอร์ และเสียงกรีดร้องของผู้โดยสาร ที่ตระหนักถึงชะตากรรมของตนเอง 😢 ⚠️ นักบินผู้ช่วยที่ป่วยจิต… และระบบที่พังทลาย ลูบิตซ์มีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า และมีอาการจิตเวชที่ซับซ้อนมาก่อน เคยหยุดการฝึกบินกลางคันในปี 2552 ด้วยปัญหาทางจิตใจ แต่ได้รับใบรับรองแพทย์คืนหลังจากผ่านการรักษา ✅ แม้จะหายป่วยในช่วงหนึ่ง แต่ภายหลังอาการกลับมาอีกครั้งในปี 2557-2558 โดยไม่มีใครในสายการบินรับรู้ เพราะลูบิตซ์เลือก "ปกปิด" ไม่แจ้งข้อมูลนี้กับบริษัท และเพื่อนร่วมงาน เพราะกลัวสูญเสียอาชีพการบิน ที่หลงใหลมาตลอดชีวิต 🛩️ 👉 ปัญหานี้ชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่อง ในระบบตรวจสอบสุขภาพจิตของนักบิน ที่เน้นแต่การคัดกรองและป้องกัน โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบสนับสนุน และการฟื้นฟูผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างแท้จริง 🔍 เบื้องหลังอาชญากรรม "อันเดรียส ลูบิตซ์" เป็นชายหนุ่มชาวเยอรมัน ที่เติบโตในเมือง Montabaur รักการบินมาตั้งแต่เด็ก เริ่มฝึกบินเครื่องร่อนตั้งแต่อายุ 14 ปี มีเส้นทางที่ดูเหมือนจะรุ่งโรจน์ในอาชีพนักบิน แต่ด้วยปัญหาสุขภาพจิต ที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ทำให้กลายเป็นฆาตกรในคราบนักบิน ✈️ ลูบิตซ์ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรัง เคยมีความคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง และสุดท้าย ก็เลือกจบชีวิตตัวเองบนเครื่องบิน พร้อมกับพรากชีวิตคนอีก 149 คนไปพร้อมกัน ⚰️ 📜 มาตรการความปลอดภัย ที่เปลี่ยนแปลงหลังเหตุการณ์ มาตรการเร่งด่วนที่ถูกนำมาใช้ทันที - ต้องมีนักบินสองคนในห้องนักบินตลอดเวลา (Two-Person Cockpit Rule) - เข้มงวดกับการตรวจสุขภาพจิตของนักบินมากขึ้น 📝 - ให้สิทธิ์แพทย์ ในการแจ้งข้อมูลสุขภาพจิตของนักบิน ในกรณีเสี่ยงต่อความปลอดภัย ⚖️ แต่ปัจจุบัน หลายฝ่ายมองว่านโยบายเหล่านี้ อาจไม่ได้ป้องกันปัญหาที่แท้จริง เพราะระบบยังคงขาดความยืดหยุ่น ในการจัดการกับปัญหาสุขภาพจิตของนักบิน 😔 💡 บทเรียนที่ยังคงถูกถกเถียงในวงการการบิน - นักบินหลายคนเลือก "โกหก" เพื่อไม่ให้ประวัติสุขภาพจิต มาทำลายอาชีพการบินของตนเอง - ความเข้มงวดเกินไปในระบบใบรับรองแพทย์ อาจทำให้ปัญหาซ่อนอยู่ มากกว่าการเปิดเผยความจริง - จำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมการยอมรับและสนับสนุน ไม่ใช่การลงโทษคนที่ขอความช่วยเหลือ 🎯 คำถามคือ เราจะป้องกันไม่ให้เกิด "Andreas Lubitz คนต่อไป" ได้อย่างไร? ✨ เหตุการณ์ที่โลกไม่มีวันลืม โศกนาฏกรรมเที่ยวบิน 4U9525 เป็นตัวอย่างสะท้อนความสำคัญ ของการตรวจสอบสุขภาพจิตนักบิน อย่างเป็นระบบและมีมนุษยธรรม หากไม่มีการปรับปรุง ระบบเดิมจะยังคงสร้างช่องว่าง ให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นได้อีกครั้ง 💔 10 ปีผ่านไป... แต่รอยแผลจากวันนั้นยังคงอยู่ และคำถามที่ไร้คำตอบก็คือ "ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ สิ่งนี้จะป้องกันได้ไหม?" ⏳ ✈️ ความเชื่อใจในนักบินเป็นสิ่งสำคัญ แต่ "ระบบ" ที่สนับสนุนความปลอดภัยนั้น สำคัญยิ่งกว่า! 10 ปีแห่งบทเรียนที่ไม่มีวันลืม... 🕊️ เพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตบนท้องฟ้า 🌤️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241018 มี.ค. 2568 📌 #เที่ยวบิน9525 #Germanwings #โศกนาฏกรรมการบิน #AndreasLubitz #สุขภาพจิตนักบิน #โศกนาฏกรรมเยอรมันวิงส์ #ความปลอดภัยทางการบิน #ห้องนักบิน #อุบัติเหตุการบิน #บินปลอดภัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพวิดีโอแสดงการทดสอบการระเบิดของ "บังเกอร์บัสเตอร์" (Bunker Buster) ระเบิดที่มีประสิทธิภาพสูงในการเจาะโครงสร้างแข็งแกร่งก่อนที่จะเกิดการระเบิด

    ปกติแล้วระเบิดประเภทนี้ไม่ได้มีไว้ใช้ในเขตเมืองที่มีพลเรือนอาศัยอยู่ แต่กองกำลังอิสราเอลไม่เคยสนใจความปลอดภัยของประชาชน
    ภาพวิดีโอแสดงการทดสอบการระเบิดของ "บังเกอร์บัสเตอร์" (Bunker Buster) ระเบิดที่มีประสิทธิภาพสูงในการเจาะโครงสร้างแข็งแกร่งก่อนที่จะเกิดการระเบิด ปกติแล้วระเบิดประเภทนี้ไม่ได้มีไว้ใช้ในเขตเมืองที่มีพลเรือนอาศัยอยู่ แต่กองกำลังอิสราเอลไม่เคยสนใจความปลอดภัยของประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • ถกเข้ม! ห้าง-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง ปมแม่ค้ารับหิ้วซัดกันนัวจองกระเป๋าแบรนด์เนมดัง เพิ่มความปลอดภัย ตร.ยันรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว

    จากกรณีเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 เพจ “ผู้บริโภค” แชร์ภาพเหตุการณ์ชายหญิงนับสิบคนทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันบริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี โดยระบุข้อความว่า “หน้าเซ็นทรัลเวสต์เกตตอนนี้กับเรื่องวุ่นๆ ของวัยรุ่นกระเป๋า Merge” ทำให้มีประชาชนที่พบเห็นเหตุการณ์บันทึกภาพและวิดีโอเผยแพร่ในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัยภายในศูนย์การค้า

    ล่าสุด วันนี้ (23 มี.ค.) เวลา 14.00 น. พ.ต.อ.สิรภพ อนุศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางใหญ่ นายวรรธนะ รักเจริญ ปลัดอำเภอบางใหญ่ พร้อมด้วย ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต และตัวแทนจากแบรนด์ Merge ได้เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำขึ้นอีก โดยมีการลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้า จุดเกิดเหตุหน้าห้าง และเดินตรวจตราภายในศูนย์การค้า เพื่อประเมินสถานการณ์และวางแนวทางเฝ้าระวัง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000027605

    #MGROnline #กระเป๋าแบรนด์เนม
    ถกเข้ม! ห้าง-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง ปมแม่ค้ารับหิ้วซัดกันนัวจองกระเป๋าแบรนด์เนมดัง เพิ่มความปลอดภัย ตร.ยันรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว • จากกรณีเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 เพจ “ผู้บริโภค” แชร์ภาพเหตุการณ์ชายหญิงนับสิบคนทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันบริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี โดยระบุข้อความว่า “หน้าเซ็นทรัลเวสต์เกตตอนนี้กับเรื่องวุ่นๆ ของวัยรุ่นกระเป๋า Merge” ทำให้มีประชาชนที่พบเห็นเหตุการณ์บันทึกภาพและวิดีโอเผยแพร่ในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัยภายในศูนย์การค้า • ล่าสุด วันนี้ (23 มี.ค.) เวลา 14.00 น. พ.ต.อ.สิรภพ อนุศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางใหญ่ นายวรรธนะ รักเจริญ ปลัดอำเภอบางใหญ่ พร้อมด้วย ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต และตัวแทนจากแบรนด์ Merge ได้เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำขึ้นอีก โดยมีการลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้า จุดเกิดเหตุหน้าห้าง และเดินตรวจตราภายในศูนย์การค้า เพื่อประเมินสถานการณ์และวางแนวทางเฝ้าระวัง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000027605 • #MGROnline #กระเป๋าแบรนด์เนม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22 มีนาคม 2568-รายงานจากเพจเฟซบุ๊กSiamtownUSระบุว่าเริ่มตรวจโซเชียลมีเดีย ผู้ขอใบเขียว-สัญชาติแอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : หนึ่งในมาตรการตรวจเข้มต่างชาติที่ต้องการเข้าประเทศ หรืออยู่ในประเทศแบบถาวร คือต้องยอมให้ตรวจ “โซเชียลมีเดีย” ด้วย มีผลทั้งกับผู้ขอใบเขียว เปลี่ยนสัญชาติ รวมถึงการขอเข้าประเทศชั่วคราวด้วย กระทรวงความมั่นคงภายใน (โฮมแลนด์ฯ) ประกาศผ่านเว็บไซต์ the Federal Register เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2025 ถึงมาตรการใหม่ที่จะกระชับการตรวจสอบประวัติผู้ยื่นขอรับสวัสดิการต่างๆ ของรัฐ ตั้งแต่การยื่นขอใบเขียวจนถึงการยื่นขอเปลี่ยนสัญชาติ ให้มีความละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้นมาตรการดังกล่าวคือ “ผู้ยื่นแบบฟอร์ม ต้องให้ข้อมูลโซเชียลมีเดีย เพื่อให้รัฐตรวจสอบด้วย”รายละเอียดที่ระบุใน เดอะเฟดเดอรัล รีจีสเตอร์ บอกว่า มาตรการใหม่ ซึ่งมีขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งบริหารเลขที่ 14161 ว่าด้วยการคุ้มครองสหรัฐอเมริกา จากภัยก่อการร้ายต่างประเทศ, เพื่อความมั่นคงภายใน และความปลอดภัยของสาธารณะชน ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามเมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมาโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ (U.S. Citizenship and Immigration Service – USCIS) จะเรียกเก็บข้อมูลโซเชียลมีเดีย (แต่ไม่เรียกเก็บพาสเวิร์ด) เพื่อตรวจสอบว่าผู้ยื่นแบบฟอร์มขอรับประโยชน์จาก USCIS มีความเสี่ยงใดๆ ต่อความมั่นคงหรือความปลอดภัยต่อสาธารณะหรือไม่มาตรการใหม่ จะมีผลกับผู้ยื่นแบบฟอร์มเกี่ยวกับอิมมิเกรชั่น 9 ประเภท คือ-N-400 (Application for Naturalization) ขอเปลี่ยนสัญชาติ-I-131 (Application for Travel Document) ขอเดินทางออกนอกประเทศ-I-192 (Application for Advance Permission to Enter as Nonimmigrant) วีซ่าชั่วคราว สำหรับคนต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง เช่น การลงทุน ศึกษาดูงาน ประชุม การปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน การเผยแผ่ศาสนา เป็นต้น-I-485 (Application for Adjustment of Status) ขอปรับสถานภาพ (ขอใบเขียว)-I-589 (Application for Asylum and for Withholding of Removal) ขอลี้ภัยหรือขอระงับการเนรเทศ-I-590 (Registration for Classification as Refugee) ขอรับการจัดประเภทเป็นผู้ลี้ภัย-I-730 (Refugee/Asylee Relative Petition) ขอให้ญาติได้รับการให้สถานะผู้ลี้ภัย-I-751 (Petition to Remove Conditions on Residence) ขอยกเลิกเงื่อนไขการพำนักอาศัย-I-829 (Petition by Investor to Remove Conditions on Permanent Resident Status) ขอจากนักลงทุน ให้ยกเลิกเงื่อนไขสถานะผู้พำนักถาวรสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฯ ประเมินว่าการกระชับมาตรการตรวจสอบฯ ครั้งนี้ มีผลกับผู้ยื่นแบบฟอร์มต่างๆ ปีละกว่า 3.5 ล้านคนอย่างไรก็ตาม หากไม่เห็นชอบกับมาตรการใหม่ของกระทรวงความมั่นคงภายในฯ สาธารณชนมีเวลา 60 วันนับจากการประกาศใน the Federal Register เพื่อยื่นคัดค้าน (ผ่านการแสดงความเห็น) ที่ https://www.regulations.gov/document/USCIS-2025-0003-0001) โดยกระทรวงความมั่นคงฯ จะทำการทบทวนความเห็นเหล่านี้อีกครั้ง ก่อนจะประกาศใช้ (หรือเพิกถอน).
    22 มีนาคม 2568-รายงานจากเพจเฟซบุ๊กSiamtownUSระบุว่าเริ่มตรวจโซเชียลมีเดีย ผู้ขอใบเขียว-สัญชาติแอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : หนึ่งในมาตรการตรวจเข้มต่างชาติที่ต้องการเข้าประเทศ หรืออยู่ในประเทศแบบถาวร คือต้องยอมให้ตรวจ “โซเชียลมีเดีย” ด้วย มีผลทั้งกับผู้ขอใบเขียว เปลี่ยนสัญชาติ รวมถึงการขอเข้าประเทศชั่วคราวด้วย กระทรวงความมั่นคงภายใน (โฮมแลนด์ฯ) ประกาศผ่านเว็บไซต์ the Federal Register เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2025 ถึงมาตรการใหม่ที่จะกระชับการตรวจสอบประวัติผู้ยื่นขอรับสวัสดิการต่างๆ ของรัฐ ตั้งแต่การยื่นขอใบเขียวจนถึงการยื่นขอเปลี่ยนสัญชาติ ให้มีความละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้นมาตรการดังกล่าวคือ “ผู้ยื่นแบบฟอร์ม ต้องให้ข้อมูลโซเชียลมีเดีย เพื่อให้รัฐตรวจสอบด้วย”รายละเอียดที่ระบุใน เดอะเฟดเดอรัล รีจีสเตอร์ บอกว่า มาตรการใหม่ ซึ่งมีขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งบริหารเลขที่ 14161 ว่าด้วยการคุ้มครองสหรัฐอเมริกา จากภัยก่อการร้ายต่างประเทศ, เพื่อความมั่นคงภายใน และความปลอดภัยของสาธารณะชน ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามเมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมาโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ (U.S. Citizenship and Immigration Service – USCIS) จะเรียกเก็บข้อมูลโซเชียลมีเดีย (แต่ไม่เรียกเก็บพาสเวิร์ด) เพื่อตรวจสอบว่าผู้ยื่นแบบฟอร์มขอรับประโยชน์จาก USCIS มีความเสี่ยงใดๆ ต่อความมั่นคงหรือความปลอดภัยต่อสาธารณะหรือไม่มาตรการใหม่ จะมีผลกับผู้ยื่นแบบฟอร์มเกี่ยวกับอิมมิเกรชั่น 9 ประเภท คือ-N-400 (Application for Naturalization) ขอเปลี่ยนสัญชาติ-I-131 (Application for Travel Document) ขอเดินทางออกนอกประเทศ-I-192 (Application for Advance Permission to Enter as Nonimmigrant) วีซ่าชั่วคราว สำหรับคนต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง เช่น การลงทุน ศึกษาดูงาน ประชุม การปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน การเผยแผ่ศาสนา เป็นต้น-I-485 (Application for Adjustment of Status) ขอปรับสถานภาพ (ขอใบเขียว)-I-589 (Application for Asylum and for Withholding of Removal) ขอลี้ภัยหรือขอระงับการเนรเทศ-I-590 (Registration for Classification as Refugee) ขอรับการจัดประเภทเป็นผู้ลี้ภัย-I-730 (Refugee/Asylee Relative Petition) ขอให้ญาติได้รับการให้สถานะผู้ลี้ภัย-I-751 (Petition to Remove Conditions on Residence) ขอยกเลิกเงื่อนไขการพำนักอาศัย-I-829 (Petition by Investor to Remove Conditions on Permanent Resident Status) ขอจากนักลงทุน ให้ยกเลิกเงื่อนไขสถานะผู้พำนักถาวรสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฯ ประเมินว่าการกระชับมาตรการตรวจสอบฯ ครั้งนี้ มีผลกับผู้ยื่นแบบฟอร์มต่างๆ ปีละกว่า 3.5 ล้านคนอย่างไรก็ตาม หากไม่เห็นชอบกับมาตรการใหม่ของกระทรวงความมั่นคงภายในฯ สาธารณชนมีเวลา 60 วันนับจากการประกาศใน the Federal Register เพื่อยื่นคัดค้าน (ผ่านการแสดงความเห็น) ที่ https://www.regulations.gov/document/USCIS-2025-0003-0001) โดยกระทรวงความมั่นคงฯ จะทำการทบทวนความเห็นเหล่านี้อีกครั้ง ก่อนจะประกาศใช้ (หรือเพิกถอน).
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ เพิกถอนใบอนุญาตด้านความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลข่าวกรอง ฮิลลารี คลินตัน(Hillary Clinton) และคามาลา แฮร์ริส (Kamala Harris)

    ทำให้ทั้งสองจะถูกตัดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลลับของรัฐบาล รวมถึงรายงานประจำวันที่สำคัญอื่นๆอีกต่อไป
    ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ เพิกถอนใบอนุญาตด้านความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลข่าวกรอง ฮิลลารี คลินตัน(Hillary Clinton) และคามาลา แฮร์ริส (Kamala Harris) ทำให้ทั้งสองจะถูกตัดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลลับของรัฐบาล รวมถึงรายงานประจำวันที่สำคัญอื่นๆอีกต่อไป
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • “คมนาคม-กทพ.”ลุยแจ้งความ ดำเนินคดีแพ่ง-อาญา เหตุคาน “ทางด่วนพระราม 3 - ดาวคะนอง” ทรุดตัว ที่ สน.บางมด พร้อมเร่งสอบข้อเท็จจริง คาดสรุปใน 20 วัน ร่วมกับ วสท. ตั้งทีม“Safety Auditor” สแกนความปลอดภัยทุกโปรเจกต์ เพื่อปลอดภัยสูงสุด ยันสงกรานต์ 68 หยุดก่อสร้าง100%

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000027195
    “คมนาคม-กทพ.”ลุยแจ้งความ ดำเนินคดีแพ่ง-อาญา เหตุคาน “ทางด่วนพระราม 3 - ดาวคะนอง” ทรุดตัว ที่ สน.บางมด พร้อมเร่งสอบข้อเท็จจริง คาดสรุปใน 20 วัน ร่วมกับ วสท. ตั้งทีม“Safety Auditor” สแกนความปลอดภัยทุกโปรเจกต์ เพื่อปลอดภัยสูงสุด ยันสงกรานต์ 68 หยุดก่อสร้าง100% อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000027195
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 824 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนามบินฮีทโธรว์แจ้งผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ว่า เนื่องจากเกิดเพลิงไหม้ที่สถานีไฟฟ้าย่อยซึ่งจ่ายกระแสไฟให้สนามบิน ทำให้ฮีทโธรว์ประสบปัญหาไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและพนักงานทุกคน ฮีทโธรว์จำเป็นต้องปิดให้บริการจนถึงเวลา 23.59 น. ของวันที่ 21 มีนาคมนี้ตามเวลาอังกฤษ (6.59 น. พรุ่งนี้ เวลาไทย)
    สนามบินฮีทโธรว์แจ้งผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ว่า เนื่องจากเกิดเพลิงไหม้ที่สถานีไฟฟ้าย่อยซึ่งจ่ายกระแสไฟให้สนามบิน ทำให้ฮีทโธรว์ประสบปัญหาไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและพนักงานทุกคน ฮีทโธรว์จำเป็นต้องปิดให้บริการจนถึงเวลา 23.59 น. ของวันที่ 21 มีนาคมนี้ตามเวลาอังกฤษ (6.59 น. พรุ่งนี้ เวลาไทย)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยค้นพบวิธีใหม่ในการเจลเบรค AI เพื่อให้สร้างมัลแวร์ได้ผ่านการเล่าเรื่องที่โน้มน้าว AI ให้ทำสิ่งที่ไม่ปลอดภัย อย่างการสร้างโปรแกรมขโมยข้อมูลใน Chrome การโจมตีแบบนี้ทำให้ผู้โจมตีที่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโค้ดสามารถสร้างมัลแวร์ได้ง่ายขึ้น ความกังวลนี้ทำให้วงการ AI ต้องหันมาปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด

    วิธีการโจมตี:
    - เทคนิค Immersive World ใช้การสร้างโลกสมมติที่ทำให้การกระทำที่ไม่ปลอดภัยดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ.
    - การเจลเบรคนี้ไม่ต้องการความรู้พื้นฐานด้านการเขียนโค้ดมัลแวร์มาก่อน ทำให้ผู้โจมตีที่มีประสบการณ์น้อยสามารถสร้างมัลแวร์ได้ง่ายขึ้น.

    มัลแวร์ Infostealer:
    - Infostealer กำลังกลายเป็นภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน และข้อมูลบัญชีธนาคาร ได้อย่างรวดเร็ว.
    - การพัฒนานี้แสดงให้เห็นว่าการใช้งาน AI ที่ไม่ระมัดระวังสามารถทำให้เกิดการโจมตีไซเบอร์ได้บ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น.

    ผลกระทบต่อวงการ AI:
    - AI กำลังเปลี่ยนภูมิทัศน์ของความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยทำให้ผู้โจมตีสามารถออกแบบการโจมตีที่ซับซ้อนขึ้นได้.
    - มีการเรียกร้องให้ปรับปรุงระบบความปลอดภัยและสร้างมาตรการใหม่เพื่อป้องกันการเจลเบรค AI ในอนาคต.

    https://www.techradar.com/pro/security/ai-chatbots-jailbroken-to-create-a-chrome-infostealer
    นักวิจัยค้นพบวิธีใหม่ในการเจลเบรค AI เพื่อให้สร้างมัลแวร์ได้ผ่านการเล่าเรื่องที่โน้มน้าว AI ให้ทำสิ่งที่ไม่ปลอดภัย อย่างการสร้างโปรแกรมขโมยข้อมูลใน Chrome การโจมตีแบบนี้ทำให้ผู้โจมตีที่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโค้ดสามารถสร้างมัลแวร์ได้ง่ายขึ้น ความกังวลนี้ทำให้วงการ AI ต้องหันมาปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด วิธีการโจมตี: - เทคนิค Immersive World ใช้การสร้างโลกสมมติที่ทำให้การกระทำที่ไม่ปลอดภัยดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ. - การเจลเบรคนี้ไม่ต้องการความรู้พื้นฐานด้านการเขียนโค้ดมัลแวร์มาก่อน ทำให้ผู้โจมตีที่มีประสบการณ์น้อยสามารถสร้างมัลแวร์ได้ง่ายขึ้น. มัลแวร์ Infostealer: - Infostealer กำลังกลายเป็นภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน และข้อมูลบัญชีธนาคาร ได้อย่างรวดเร็ว. - การพัฒนานี้แสดงให้เห็นว่าการใช้งาน AI ที่ไม่ระมัดระวังสามารถทำให้เกิดการโจมตีไซเบอร์ได้บ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น. ผลกระทบต่อวงการ AI: - AI กำลังเปลี่ยนภูมิทัศน์ของความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยทำให้ผู้โจมตีสามารถออกแบบการโจมตีที่ซับซ้อนขึ้นได้. - มีการเรียกร้องให้ปรับปรุงระบบความปลอดภัยและสร้างมาตรการใหม่เพื่อป้องกันการเจลเบรค AI ในอนาคต. https://www.techradar.com/pro/security/ai-chatbots-jailbroken-to-create-a-chrome-infostealer
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวร้ายสำหรับผู้ใช้ Windows เพราะพบช่องโหว่ใหม่ที่ชื่อ ZDI-CAN-25373 ซึ่งเปิดโอกาสให้แฮ็กเกอร์แฝงโค้ดอันตรายในไฟล์ .LNK โดยผู้ใช้จะมองไม่เห็นคำสั่งนั้นเลย กลุ่มแฮ็กเกอร์จากหลายประเทศใช้ช่องโหว่นี้เพื่อจารกรรมข้อมูลทั่วโลก Microsoft บอกว่า Defender สามารถช่วยป้องกันได้ แต่ยังไม่มีแพตช์แก้ไขออกมา ดังนั้น ทุกคนควรระมัดระวังเรื่องไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาจากแหล่งที่ไม่น่าไว้วางใจ และอัปเดตระบบอยู่เสมอเพื่อป้องกันความเสี่ยง

    รายละเอียดของช่องโหว่:
    - ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการแสดงผลไฟล์ .LNK (Shortcut) โดยผู้โจมตีสามารถซ่อนคำสั่งอันตรายไว้ในไฟล์ผ่านการเติมช่องว่างพิเศษ ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถมองเห็นโค้ดอันตรายได้จากอินเทอร์เฟซปกติ.

    กลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์:
    - การโจมตีโดยช่องโหว่นี้มุ่งเป้าไปที่หลายภูมิภาคทั่วโลก รวมถึงอเมริกาเหนือ, ยุโรป, และเอเชียตะวันออก โดยมากกว่า 70% ของกรณีโจมตีมุ่งเน้นการจารกรรมข้อมูล ส่วนที่เหลือมีจุดประสงค์ทางการเงิน.

    มัลแวร์ที่เกี่ยวข้อง:
    - กลุ่มแฮ็กเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ร่วมกับมัลแวร์ยอดนิยม เช่น Ursnif และ Trickbot และบริการมัลแวร์เช่า (Malware-as-a-Service) เพิ่มความซับซ้อนของการโจมตี.

    ท่าทีของ Microsoft และข้อเสนอแนะ:
    - Microsoft ระบุว่าฟีเจอร์ Windows Defender และ Smart App Control สามารถตรวจจับและบล็อกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรหลีกเลี่ยงการเปิดไฟล์ที่มาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ และใช้วิธีการป้องกันเพิ่มเติม เช่น อัปเดตซอฟต์แวร์และระบบรักษาความปลอดภัยเป็นประจำ

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/new-windows-zero-day-exploited-by-11-state-hacking-groups-since-2017/
    มีข่าวร้ายสำหรับผู้ใช้ Windows เพราะพบช่องโหว่ใหม่ที่ชื่อ ZDI-CAN-25373 ซึ่งเปิดโอกาสให้แฮ็กเกอร์แฝงโค้ดอันตรายในไฟล์ .LNK โดยผู้ใช้จะมองไม่เห็นคำสั่งนั้นเลย กลุ่มแฮ็กเกอร์จากหลายประเทศใช้ช่องโหว่นี้เพื่อจารกรรมข้อมูลทั่วโลก Microsoft บอกว่า Defender สามารถช่วยป้องกันได้ แต่ยังไม่มีแพตช์แก้ไขออกมา ดังนั้น ทุกคนควรระมัดระวังเรื่องไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาจากแหล่งที่ไม่น่าไว้วางใจ และอัปเดตระบบอยู่เสมอเพื่อป้องกันความเสี่ยง รายละเอียดของช่องโหว่: - ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการแสดงผลไฟล์ .LNK (Shortcut) โดยผู้โจมตีสามารถซ่อนคำสั่งอันตรายไว้ในไฟล์ผ่านการเติมช่องว่างพิเศษ ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถมองเห็นโค้ดอันตรายได้จากอินเทอร์เฟซปกติ. กลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์: - การโจมตีโดยช่องโหว่นี้มุ่งเป้าไปที่หลายภูมิภาคทั่วโลก รวมถึงอเมริกาเหนือ, ยุโรป, และเอเชียตะวันออก โดยมากกว่า 70% ของกรณีโจมตีมุ่งเน้นการจารกรรมข้อมูล ส่วนที่เหลือมีจุดประสงค์ทางการเงิน. มัลแวร์ที่เกี่ยวข้อง: - กลุ่มแฮ็กเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ร่วมกับมัลแวร์ยอดนิยม เช่น Ursnif และ Trickbot และบริการมัลแวร์เช่า (Malware-as-a-Service) เพิ่มความซับซ้อนของการโจมตี. ท่าทีของ Microsoft และข้อเสนอแนะ: - Microsoft ระบุว่าฟีเจอร์ Windows Defender และ Smart App Control สามารถตรวจจับและบล็อกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรหลีกเลี่ยงการเปิดไฟล์ที่มาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ และใช้วิธีการป้องกันเพิ่มเติม เช่น อัปเดตซอฟต์แวร์และระบบรักษาความปลอดภัยเป็นประจำ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/new-windows-zero-day-exploited-by-11-state-hacking-groups-since-2017/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    New Windows zero-day exploited by 11 state hacking groups since 2017
    At least 11 state-backed hacking groups from North Korea, Iran, Russia, and China have been exploiting a new Windows vulnerability in data theft and cyber espionage zero-day attacks since 2017.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในยูเครน มีกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ใช้บัญชี Signal ที่ถูกแฮ็กเพื่อส่งมัลแวร์ให้กับกองทัพและบริษัทด้านกลาโหม ไฟล์แนบที่ส่งมาจะปลอมเป็นรายงานการประชุมและหลอกให้เหยื่อเปิดใช้งานมัลแวร์ ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบของเหยื่อได้ ผู้ใช้ Signal จึงควรตรวจสอบอุปกรณ์และตั้งค่าความปลอดภัยให้เข้มงวด เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อในอนาคต

    ลักษณะของการโจมตี:
    - ผู้โจมตีส่งข้อความที่มีไฟล์แนบโดยใช้บัญชี Signal ของคนที่เป้าหมายรู้จัก เพื่อเพิ่มโอกาสในการเปิดไฟล์.
    - ไฟล์แนบประกอบด้วย PDF ซึ่งหลอกให้เหยื่อเปิด และไฟล์ที่เป็นโปรแกรมอันตรายซึ่งเริ่มการโจมตีเมื่อถูกเปิด.

    หัวข้อเหยื่อล่อใหม่:
    - ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2025 การโจมตีเปลี่ยนมาใช้หัวข้อที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางทหาร เช่น UAV และระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสนใจของเป้าหมายโดยตรง.

    การป้องกันสำหรับผู้ใช้งาน Signal:
    - ผู้ใช้ Signal ควรปิดการดาวน์โหลดไฟล์แนบโดยอัตโนมัติและตรวจสอบอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในบัญชีของตนอย่างสม่ำเสมอ.
    - การเปิดใช้งานการตรวจสอบสองขั้นตอนและอัปเดตแอปเวอร์ชันล่าสุดช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตี.

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/ukrainian-military-targeted-in-new-signal-spear-phishing-attacks/
    ในยูเครน มีกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ใช้บัญชี Signal ที่ถูกแฮ็กเพื่อส่งมัลแวร์ให้กับกองทัพและบริษัทด้านกลาโหม ไฟล์แนบที่ส่งมาจะปลอมเป็นรายงานการประชุมและหลอกให้เหยื่อเปิดใช้งานมัลแวร์ ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบของเหยื่อได้ ผู้ใช้ Signal จึงควรตรวจสอบอุปกรณ์และตั้งค่าความปลอดภัยให้เข้มงวด เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อในอนาคต ลักษณะของการโจมตี: - ผู้โจมตีส่งข้อความที่มีไฟล์แนบโดยใช้บัญชี Signal ของคนที่เป้าหมายรู้จัก เพื่อเพิ่มโอกาสในการเปิดไฟล์. - ไฟล์แนบประกอบด้วย PDF ซึ่งหลอกให้เหยื่อเปิด และไฟล์ที่เป็นโปรแกรมอันตรายซึ่งเริ่มการโจมตีเมื่อถูกเปิด. หัวข้อเหยื่อล่อใหม่: - ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2025 การโจมตีเปลี่ยนมาใช้หัวข้อที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางทหาร เช่น UAV และระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสนใจของเป้าหมายโดยตรง. การป้องกันสำหรับผู้ใช้งาน Signal: - ผู้ใช้ Signal ควรปิดการดาวน์โหลดไฟล์แนบโดยอัตโนมัติและตรวจสอบอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในบัญชีของตนอย่างสม่ำเสมอ. - การเปิดใช้งานการตรวจสอบสองขั้นตอนและอัปเดตแอปเวอร์ชันล่าสุดช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตี. https://www.bleepingcomputer.com/news/security/ukrainian-military-targeted-in-new-signal-spear-phishing-attacks/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Ukrainian military targeted in new Signal spear-phishing attacks
    Ukraine's Computer Emergency Response Team (CERT-UA) is warning about highly targeted attacks employing compromised Signal accounts to send malware to employees of defense industry firms and members of the country's army forces.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราอาจต้องเริ่มลืมคำว่า SaaS (Software as a Service) ไปก่อน เพราะตอนนี้มีแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า Services as Software (S-a-S) ซึ่งเกิดจากการที่ AI เข้ามาแทนที่มนุษย์ในงานบริการหลายรูปแบบ ตั้งแต่ IT การบัญชี HR ไปจนถึงการบริการลูกค้า องค์กรขนาดใหญ่เริ่มเปลี่ยนมาใช้ AI เป็นผู้ปฏิบัติงานหลักในการจัดการกระบวนการและบริการต่าง ๆ สิ่งนี้เปลี่ยนวิธีที่ธุรกิจดำเนินงานไปโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม มนุษย์ยังคงมีบทบาทสำคัญในด้านการกำกับดูแล การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ และการสร้างวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ สำหรับอนาคต

    การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ในธุรกิจ:
    - จากการสำรวจ 60% ขององค์กรใหญ่จำนวน 1,000 แห่ง กำลังพิจารณาที่จะเปลี่ยนบางส่วนหรือทั้งหมดของบริการมืออาชีพที่ใช้มนุษย์ ให้เป็นการใช้งาน AI ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า.
    - การใช้ AI ไม่เพียงแค่เพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังเปลี่ยนรูปแบบของการบริโภคและให้บริการในธุรกิจไปโดยสิ้นเชิง.

    ผลกระทบต่อบทบาทของผู้เชี่ยวชาญ:
    - ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีต้องปรับตัวจากการจัดการโครงสร้างพื้นฐานไปสู่การออกแบบบริการที่ยืดหยุ่นและอัจฉริยะมากขึ้น.
    - ความสามารถด้านการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร (Human-Machine Synergy) กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพัฒนา.

    ความสำคัญของมนุษย์ยังไม่จางหาย:
    - แม้ AI จะช่วยดำเนินงานได้อัตโนมัติ แต่มนุษย์ยังมีบทบาทสำคัญในด้านการกำกับดูแล เช่น การตรวจสอบความยุติธรรม ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ.
    - ความคิดสร้างสรรค์ วิสัยทัศน์ และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ยังคงเป็นจุดแข็งที่ AI ไม่สามารถทดแทนได้.

    ความท้าทายที่ต้องเผชิญ:
    - การรวมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านบริการและด้านซอฟต์แวร์ให้ทำงานร่วมกันอาจไม่ง่าย เนื่องจากความแตกต่างในแนวคิดและภาษาที่ใช้.
    - ความจำเป็นในการกำหนดคุณค่าทางธุรกิจและราคาของ AI ตามผลลัพธ์ที่ส่งมอบ ยังเป็นสิ่งที่ต้องจัดการในแนวทาง S-a-S.

    https://www.zdnet.com/article/forget-saas-the-future-is-services-as-software-thanks-to-ai/
    เราอาจต้องเริ่มลืมคำว่า SaaS (Software as a Service) ไปก่อน เพราะตอนนี้มีแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า Services as Software (S-a-S) ซึ่งเกิดจากการที่ AI เข้ามาแทนที่มนุษย์ในงานบริการหลายรูปแบบ ตั้งแต่ IT การบัญชี HR ไปจนถึงการบริการลูกค้า องค์กรขนาดใหญ่เริ่มเปลี่ยนมาใช้ AI เป็นผู้ปฏิบัติงานหลักในการจัดการกระบวนการและบริการต่าง ๆ สิ่งนี้เปลี่ยนวิธีที่ธุรกิจดำเนินงานไปโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม มนุษย์ยังคงมีบทบาทสำคัญในด้านการกำกับดูแล การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ และการสร้างวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ สำหรับอนาคต การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ในธุรกิจ: - จากการสำรวจ 60% ขององค์กรใหญ่จำนวน 1,000 แห่ง กำลังพิจารณาที่จะเปลี่ยนบางส่วนหรือทั้งหมดของบริการมืออาชีพที่ใช้มนุษย์ ให้เป็นการใช้งาน AI ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า. - การใช้ AI ไม่เพียงแค่เพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังเปลี่ยนรูปแบบของการบริโภคและให้บริการในธุรกิจไปโดยสิ้นเชิง. ผลกระทบต่อบทบาทของผู้เชี่ยวชาญ: - ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีต้องปรับตัวจากการจัดการโครงสร้างพื้นฐานไปสู่การออกแบบบริการที่ยืดหยุ่นและอัจฉริยะมากขึ้น. - ความสามารถด้านการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร (Human-Machine Synergy) กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพัฒนา. ความสำคัญของมนุษย์ยังไม่จางหาย: - แม้ AI จะช่วยดำเนินงานได้อัตโนมัติ แต่มนุษย์ยังมีบทบาทสำคัญในด้านการกำกับดูแล เช่น การตรวจสอบความยุติธรรม ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ. - ความคิดสร้างสรรค์ วิสัยทัศน์ และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ยังคงเป็นจุดแข็งที่ AI ไม่สามารถทดแทนได้. ความท้าทายที่ต้องเผชิญ: - การรวมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านบริการและด้านซอฟต์แวร์ให้ทำงานร่วมกันอาจไม่ง่าย เนื่องจากความแตกต่างในแนวคิดและภาษาที่ใช้. - ความจำเป็นในการกำหนดคุณค่าทางธุรกิจและราคาของ AI ตามผลลัพธ์ที่ส่งมอบ ยังเป็นสิ่งที่ต้องจัดการในแนวทาง S-a-S. https://www.zdnet.com/article/forget-saas-the-future-is-services-as-software-thanks-to-ai/
    WWW.ZDNET.COM
    Forget SaaS: The future is Services as Software, thanks to AI
    As software becomes the worker, Software as a Service is being turned on its head by artificial intelligence. Meet 'Services as Software.'
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลออกคำสั่งให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากพื้นที่ที่กำหนดในฉนวนกาซาอย่างเร่งด่วน

    โฆษกกองทัพอิสราเอล:
    “ขอประกาศให้ประชาชนในฉนวนกาซาทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ที่ทำเครื่องหมายเป็นสีแดง โดยเฉพาะในย่าน Beit Hanoun, Khirbet Khuza'a, Abasan al-Kabira และ al-Jadida เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง คุณต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงทางตะวันตกและในเมืองคานยูนิสทันที”
    อิสราเอลออกคำสั่งให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากพื้นที่ที่กำหนดในฉนวนกาซาอย่างเร่งด่วน โฆษกกองทัพอิสราเอล: “ขอประกาศให้ประชาชนในฉนวนกาซาทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ที่ทำเครื่องหมายเป็นสีแดง โดยเฉพาะในย่าน Beit Hanoun, Khirbet Khuza'a, Abasan al-Kabira และ al-Jadida เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง คุณต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงทางตะวันตกและในเมืองคานยูนิสทันที”
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • Black Basta ได้พัฒนาเครื่องมือชื่อ BRUTED เพื่อเจาะระบบรักษาความปลอดภัย เช่น VPN และไฟร์วอลล์ ด้วยวิธี brute-force ที่สามารถช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตีเครือข่ายเป้าหมาย พวกเขายังใช้ proxy server เพื่อซ่อนตัวและป้องกันการถูกตรวจจับ แน่นอนว่าทางป้องกันที่สำคัญที่สุดคือการใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่ง เปิดใช้งาน MFA และอัปเดตอุปกรณ์เป็นประจำเพื่อป้องกันการถูกโจมตี

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/black-basta-ransomware-creates-automated-tool-to-brute-force-vpns/
    Black Basta ได้พัฒนาเครื่องมือชื่อ BRUTED เพื่อเจาะระบบรักษาความปลอดภัย เช่น VPN และไฟร์วอลล์ ด้วยวิธี brute-force ที่สามารถช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตีเครือข่ายเป้าหมาย พวกเขายังใช้ proxy server เพื่อซ่อนตัวและป้องกันการถูกตรวจจับ แน่นอนว่าทางป้องกันที่สำคัญที่สุดคือการใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่ง เปิดใช้งาน MFA และอัปเดตอุปกรณ์เป็นประจำเพื่อป้องกันการถูกโจมตี https://www.bleepingcomputer.com/news/security/black-basta-ransomware-creates-automated-tool-to-brute-force-vpns/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Ransomware gang creates tool to automate VPN brute-force attacks
    The Black Basta ransomware operation created an automated brute-forcing framework dubbed 'BRUTED' to breach edge networking devices like firewalls and VPNs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google กำลังคิดใหญ่ด้วยการเจรจาซื้อ Wiz สตาร์ตอัพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยเงินมหาศาลถึง 30 พันล้านดอลลาร์ ดีลนี้ถ้าสำเร็จ นับว่าเป็นการซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดของ Alphabet เลยก็ว่าได้. Wiz เองก็เด่นเรื่องการใช้ AI ช่วยองค์กรตรวจจับความเสี่ยงในระบบคลาวด์ และเหมาะกับความต้องการในยุคที่องค์กรต่าง ๆ ต้องป้องกันข้อมูลดิจิทัลให้ดีกว่าเดิม แต่การซื้อครั้งนี้ก็อาจถูกจับตามองในเรื่องการผูกขาดตลาดด้วย

    เบื้องหลังของ Wiz:
    - Wiz เป็นสตาร์ตอัพที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาโซลูชันความปลอดภัยบนระบบคลาวด์ โดยใช้เทคโนโลยี AI เพื่อตรวจจับและแก้ไขความเสี่ยงในระบบคลาวด์ขององค์กร.
    - มูลค่าของ Wiz ล่าสุดในปี 2024 อยู่ที่ 12 พันล้านดอลลาร์จากการระดมทุนรอบก่อน.

    ผลกระทบของการซื้อกิจการ:
    - หากการเข้าซื้อสำเร็จ Alphabet จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ได้มากขึ้น ท่ามกลางความกังวลขององค์กรที่เพิ่มขึ้นหลังเหตุการณ์ระบบ CrowdStrike ล่มทั่วโลกเมื่อปีที่ผ่านมา.
    - อย่างไรก็ตาม ดีลนี้น่าจะเผชิญการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากหน่วยงานกำกับดูแล เนื่องจากมีมูลค่าสูงและอาจกระทบเรื่องการแข่งขันในตลาด.

    ตลาดความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เติบโต:
    - อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ มุ่งลงทุนในการป้องกันระบบดิจิทัล.
    - Alphabet มีแผนใช้ Wiz เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของตัวเอง ซึ่งปีที่ผ่านมา สร้างรายได้กว่า 43 พันล้านดอลลาร์.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/18/alphabet-back-in-deal-to-buy-cybersecurity-startup-wiz-for-30-billion-wsj-reports
    Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google กำลังคิดใหญ่ด้วยการเจรจาซื้อ Wiz สตาร์ตอัพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยเงินมหาศาลถึง 30 พันล้านดอลลาร์ ดีลนี้ถ้าสำเร็จ นับว่าเป็นการซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดของ Alphabet เลยก็ว่าได้. Wiz เองก็เด่นเรื่องการใช้ AI ช่วยองค์กรตรวจจับความเสี่ยงในระบบคลาวด์ และเหมาะกับความต้องการในยุคที่องค์กรต่าง ๆ ต้องป้องกันข้อมูลดิจิทัลให้ดีกว่าเดิม แต่การซื้อครั้งนี้ก็อาจถูกจับตามองในเรื่องการผูกขาดตลาดด้วย เบื้องหลังของ Wiz: - Wiz เป็นสตาร์ตอัพที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาโซลูชันความปลอดภัยบนระบบคลาวด์ โดยใช้เทคโนโลยี AI เพื่อตรวจจับและแก้ไขความเสี่ยงในระบบคลาวด์ขององค์กร. - มูลค่าของ Wiz ล่าสุดในปี 2024 อยู่ที่ 12 พันล้านดอลลาร์จากการระดมทุนรอบก่อน. ผลกระทบของการซื้อกิจการ: - หากการเข้าซื้อสำเร็จ Alphabet จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ได้มากขึ้น ท่ามกลางความกังวลขององค์กรที่เพิ่มขึ้นหลังเหตุการณ์ระบบ CrowdStrike ล่มทั่วโลกเมื่อปีที่ผ่านมา. - อย่างไรก็ตาม ดีลนี้น่าจะเผชิญการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากหน่วยงานกำกับดูแล เนื่องจากมีมูลค่าสูงและอาจกระทบเรื่องการแข่งขันในตลาด. ตลาดความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เติบโต: - อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ มุ่งลงทุนในการป้องกันระบบดิจิทัล. - Alphabet มีแผนใช้ Wiz เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของตัวเอง ซึ่งปีที่ผ่านมา สร้างรายได้กว่า 43 พันล้านดอลลาร์. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/18/alphabet-back-in-deal-to-buy-cybersecurity-startup-wiz-for-30-billion-wsj-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alphabet back in talks to buy cybersecurity startup Wiz for $30 billion, source says
    (Reuters) -Google-parent Alphabet is in advanced talks to acquire cybersecurity startup Wiz for around $30 billion, a source familiar with the matter said on Monday, potentially marking the tech giant's largest deal to date.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts