• Rockstar Games ได้ประกาศเลื่อนวันเปิดตัว Grand Theft Auto VI (GTA 6) จากกำหนดเดิมในช่วง ฤดูใบไม้ร่วงปี 2025 ไปเป็น 26 พฤษภาคม 2026 โดยให้เหตุผลว่าต้องการเวลาเพิ่มเติมเพื่อให้เกมมีคุณภาพสูงสุด

    แม้ว่าจะมีการประกาศวันวางจำหน่ายสำหรับ PlayStation 5 และ Xbox Series X/S แต่ Rockstar ยังไม่ได้ยืนยันวันเปิดตัวสำหรับ PC ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเวอร์ชัน PC อาจล่าช้าไปถึงปี 2027

    นอกจากนี้ มีข่าวลือว่า GTA 6 อาจมีราคาสูงถึง $100 ซึ่งอาจรวมถึง โบนัสเงินในเกมสำหรับโหมดออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันจาก Rockstar ว่าราคานี้จะเป็นราคามาตรฐานหรือเป็นเพียงรุ่นพิเศษ

    ✅ วันเปิดตัวใหม่
    - จากเดิมใน ฤดูใบไม้ร่วงปี 2025 เป็น 26 พฤษภาคม 2026
    - Rockstar ระบุว่าต้องการเวลาเพิ่มเติมเพื่อให้เกมมีคุณภาพสูงสุด

    ✅ สถานะของเวอร์ชัน PC
    - ยังไม่มีการยืนยันวันเปิดตัวสำหรับ PC
    - อาจล่าช้าไปถึงปี 2027 ตามแนวโน้มของเกม GTA รุ่นก่อนหน้า

    ✅ ข่าวลือเกี่ยวกับราคาเกม
    - อาจมีราคาสูงถึง $100
    - อาจรวมโบนัสเงินในเกมสำหรับโหมดออนไลน์

    ✅ ความคาดหวังจากแฟนเกม
    - Rockstar ระบุว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้
    - อาจมีการปล่อย ตัวอย่างที่สอง ในอนาคตอันใกล้

    https://www.techspot.com/news/107776-grand-theft-auto-vi-has-delayed-launch-may.html
    Rockstar Games ได้ประกาศเลื่อนวันเปิดตัว Grand Theft Auto VI (GTA 6) จากกำหนดเดิมในช่วง ฤดูใบไม้ร่วงปี 2025 ไปเป็น 26 พฤษภาคม 2026 โดยให้เหตุผลว่าต้องการเวลาเพิ่มเติมเพื่อให้เกมมีคุณภาพสูงสุด แม้ว่าจะมีการประกาศวันวางจำหน่ายสำหรับ PlayStation 5 และ Xbox Series X/S แต่ Rockstar ยังไม่ได้ยืนยันวันเปิดตัวสำหรับ PC ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเวอร์ชัน PC อาจล่าช้าไปถึงปี 2027 นอกจากนี้ มีข่าวลือว่า GTA 6 อาจมีราคาสูงถึง $100 ซึ่งอาจรวมถึง โบนัสเงินในเกมสำหรับโหมดออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันจาก Rockstar ว่าราคานี้จะเป็นราคามาตรฐานหรือเป็นเพียงรุ่นพิเศษ ✅ วันเปิดตัวใหม่ - จากเดิมใน ฤดูใบไม้ร่วงปี 2025 เป็น 26 พฤษภาคม 2026 - Rockstar ระบุว่าต้องการเวลาเพิ่มเติมเพื่อให้เกมมีคุณภาพสูงสุด ✅ สถานะของเวอร์ชัน PC - ยังไม่มีการยืนยันวันเปิดตัวสำหรับ PC - อาจล่าช้าไปถึงปี 2027 ตามแนวโน้มของเกม GTA รุ่นก่อนหน้า ✅ ข่าวลือเกี่ยวกับราคาเกม - อาจมีราคาสูงถึง $100 - อาจรวมโบนัสเงินในเกมสำหรับโหมดออนไลน์ ✅ ความคาดหวังจากแฟนเกม - Rockstar ระบุว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้ - อาจมีการปล่อย ตัวอย่างที่สอง ในอนาคตอันใกล้ https://www.techspot.com/news/107776-grand-theft-auto-vi-has-delayed-launch-may.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Grand Theft Auto VI has been delayed, will launch on May 26, 2026
    In an official post on its website, Rockstar Games confirmed that the next Grand Theft Auto game is now set to release on May 26, 2026.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังสร้างความท้าทายด้าน ความปลอดภัยไซเบอร์ และ โครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย โดยรายงานจาก Expereo พบว่า เกือบ 20% ขององค์กรในสหรัฐฯ ประสบปัญหาด้านความปลอดภัยจากการใช้ AI

    นอกจากนี้ 41% ขององค์กรทั่วโลก เผชิญกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แม้ว่าความปลอดภัยจะเป็น ลำดับที่สองของการลงทุน รองจาก เครือข่ายและการเชื่อมต่อ (43%)

    ความคาดหวังเกี่ยวกับ AI ในองค์กรยังคงสูงเกินจริง โดย หนึ่งในสามของ CIO ทั่วโลก เชื่อว่าคณะกรรมการบริษัทมีความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับผลกระทบของ AI และ 27% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีในสหรัฐฯ มีความคิดเห็นเช่นเดียวกัน

    ✅ ผลกระทบด้านความปลอดภัยไซเบอร์
    - เกือบ 20% ขององค์กรในสหรัฐฯ ประสบปัญหาด้านความปลอดภัยจากการใช้ AI
    - 41% ขององค์กรทั่วโลก เผชิญกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ การลงทุนด้านเทคโนโลยี
    - ความปลอดภัยไซเบอร์เป็น ลำดับที่สองของการลงทุน (38%)
    - เครือข่ายและการเชื่อมต่อเป็น ลำดับแรกของการลงทุน (43%)

    ✅ ความคาดหวังเกี่ยวกับ AI
    - หนึ่งในสามของ CIO ทั่วโลก เชื่อว่าคณะกรรมการบริษัทมีความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับ AI
    - 27% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีในสหรัฐฯ มีความคิดเห็นเช่นเดียวกัน

    ✅ ผลกระทบจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
    - 50% ขององค์กรในสหรัฐฯ ระบุว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลต่อกลยุทธ์การเติบโตของพวกเขา
    - 34% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีทั่วโลก ต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานเนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์

    https://www.techradar.com/pro/rushed-ai-deployments-and-skills-shortages-are-putting-businesses-at-risk
    การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังสร้างความท้าทายด้าน ความปลอดภัยไซเบอร์ และ โครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย โดยรายงานจาก Expereo พบว่า เกือบ 20% ขององค์กรในสหรัฐฯ ประสบปัญหาด้านความปลอดภัยจากการใช้ AI นอกจากนี้ 41% ขององค์กรทั่วโลก เผชิญกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แม้ว่าความปลอดภัยจะเป็น ลำดับที่สองของการลงทุน รองจาก เครือข่ายและการเชื่อมต่อ (43%) ความคาดหวังเกี่ยวกับ AI ในองค์กรยังคงสูงเกินจริง โดย หนึ่งในสามของ CIO ทั่วโลก เชื่อว่าคณะกรรมการบริษัทมีความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับผลกระทบของ AI และ 27% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีในสหรัฐฯ มีความคิดเห็นเช่นเดียวกัน ✅ ผลกระทบด้านความปลอดภัยไซเบอร์ - เกือบ 20% ขององค์กรในสหรัฐฯ ประสบปัญหาด้านความปลอดภัยจากการใช้ AI - 41% ขององค์กรทั่วโลก เผชิญกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ การลงทุนด้านเทคโนโลยี - ความปลอดภัยไซเบอร์เป็น ลำดับที่สองของการลงทุน (38%) - เครือข่ายและการเชื่อมต่อเป็น ลำดับแรกของการลงทุน (43%) ✅ ความคาดหวังเกี่ยวกับ AI - หนึ่งในสามของ CIO ทั่วโลก เชื่อว่าคณะกรรมการบริษัทมีความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับ AI - 27% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีในสหรัฐฯ มีความคิดเห็นเช่นเดียวกัน ✅ ผลกระทบจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ - 50% ขององค์กรในสหรัฐฯ ระบุว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลต่อกลยุทธ์การเติบโตของพวกเขา - 34% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีทั่วโลก ต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานเนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ https://www.techradar.com/pro/rushed-ai-deployments-and-skills-shortages-are-putting-businesses-at-risk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงผลกระทบของการนำ AI มาใช้แทนแรงงานมนุษย์ในธุรกิจในสหราชอาณาจักร โดยรายงานจาก Orgvue พบว่า 55% ของธุรกิจที่ปลดพนักงานเพื่อแทนที่ด้วย AI รู้สึกเสียใจ เนื่องจากการตัดสินใจดังกล่าวนำไปสู่ความสับสนภายในองค์กร การลาออกของพนักงาน และประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง ซึ่งตรงข้ามกับความคาดหวังของธุรกิจที่หวังว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ

    แม้ว่าผู้นำธุรกิจบางส่วนยังคงไม่เข้าใจผลกระทบของ AI ต่อองค์กร แต่หลายบริษัทเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการฝึกอบรมพนักงานให้ใช้งาน AI อย่างเหมาะสม โดย 80% ของธุรกิจมีแผนเพิ่มการลงทุนใน AI ในปี 2025 และ 41% ได้เพิ่มงบประมาณสำหรับการเรียนรู้และพัฒนา

    อย่างไรก็ตาม การใช้ AI โดยไม่มีแผนที่ชัดเจนอาจนำไปสู่ความเสี่ยง เช่น การใช้งาน AI ที่ไม่สามารถควบคุมได้ และการลดความรับผิดชอบของผู้นำในการปกป้องพนักงานจากการถูกปลด

    ✅ ผลกระทบจากการปลดพนักงานเพื่อแทนที่ด้วย AI
    - 55% ของธุรกิจที่ปลดพนักงานรู้สึกเสียใจ
    - การตัดสินใจดังกล่าวนำไปสู่ความสับสนภายในองค์กรและประสิทธิภาพที่ลดลง

    ✅ การลงทุนใน AI
    - 80% ของธุรกิจมีแผนเพิ่มการลงทุนใน AI ในปี 2025
    - 41% ได้เพิ่มงบประมาณสำหรับการเรียนรู้และพัฒนา

    ✅ การฝึกอบรมพนักงาน
    - 4 ใน 5 ธุรกิจมีแผนฝึกอบรมพนักงานให้ใช้งาน AI อย่างเหมาะสม
    - 51% ได้กำหนดนโยบายการใช้งาน AI ภายในองค์กร

    ✅ ความสำคัญของแรงงานมนุษย์
    - ธุรกิจเริ่มตระหนักว่าแรงงานมนุษย์ยังคงมีบทบาทสำคัญ

    https://www.techradar.com/pro/over-half-of-uk-businesses-who-replaced-workers-with-ai-regret-their-decision
    บทความนี้กล่าวถึงผลกระทบของการนำ AI มาใช้แทนแรงงานมนุษย์ในธุรกิจในสหราชอาณาจักร โดยรายงานจาก Orgvue พบว่า 55% ของธุรกิจที่ปลดพนักงานเพื่อแทนที่ด้วย AI รู้สึกเสียใจ เนื่องจากการตัดสินใจดังกล่าวนำไปสู่ความสับสนภายในองค์กร การลาออกของพนักงาน และประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง ซึ่งตรงข้ามกับความคาดหวังของธุรกิจที่หวังว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แม้ว่าผู้นำธุรกิจบางส่วนยังคงไม่เข้าใจผลกระทบของ AI ต่อองค์กร แต่หลายบริษัทเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการฝึกอบรมพนักงานให้ใช้งาน AI อย่างเหมาะสม โดย 80% ของธุรกิจมีแผนเพิ่มการลงทุนใน AI ในปี 2025 และ 41% ได้เพิ่มงบประมาณสำหรับการเรียนรู้และพัฒนา อย่างไรก็ตาม การใช้ AI โดยไม่มีแผนที่ชัดเจนอาจนำไปสู่ความเสี่ยง เช่น การใช้งาน AI ที่ไม่สามารถควบคุมได้ และการลดความรับผิดชอบของผู้นำในการปกป้องพนักงานจากการถูกปลด ✅ ผลกระทบจากการปลดพนักงานเพื่อแทนที่ด้วย AI - 55% ของธุรกิจที่ปลดพนักงานรู้สึกเสียใจ - การตัดสินใจดังกล่าวนำไปสู่ความสับสนภายในองค์กรและประสิทธิภาพที่ลดลง ✅ การลงทุนใน AI - 80% ของธุรกิจมีแผนเพิ่มการลงทุนใน AI ในปี 2025 - 41% ได้เพิ่มงบประมาณสำหรับการเรียนรู้และพัฒนา ✅ การฝึกอบรมพนักงาน - 4 ใน 5 ธุรกิจมีแผนฝึกอบรมพนักงานให้ใช้งาน AI อย่างเหมาะสม - 51% ได้กำหนดนโยบายการใช้งาน AI ภายในองค์กร ✅ ความสำคัญของแรงงานมนุษย์ - ธุรกิจเริ่มตระหนักว่าแรงงานมนุษย์ยังคงมีบทบาทสำคัญ https://www.techradar.com/pro/over-half-of-uk-businesses-who-replaced-workers-with-ai-regret-their-decision
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงผลสำรวจล่าสุดของ Figma ที่แสดงให้เห็นว่า AI ยังไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังที่สูงเกินจริงได้ในปัจจุบัน แม้ว่า AI จะเริ่มมีบทบาทสำคัญในกระบวนการทำงานของนักออกแบบและนักพัฒนา แต่ยังคงมีข้อจำกัดที่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่า AI ยังไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูงได้

    จากการสำรวจพบว่า 85% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า AI จะมีความสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคตของพวกเขา แต่มีเพียง 27% เท่านั้นที่เชื่อว่า AI จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเป้าหมายขององค์กร นอกจากนี้ยังพบว่าผู้พัฒนามีความพึงพอใจต่อ AI มากกว่านักออกแบบ เนื่องจาก AI ถูกนำมาใช้ในงานที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโค้ดและการพัฒนา ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า

    ✅ ความสำคัญของ AI ในอนาคต
    - 85% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า AI จะมีความสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคต
    - มีเพียง 27% ที่เชื่อว่า AI จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเป้าหมายขององค์กร

    ✅ การใช้งาน AI ในปัจจุบัน
    - 78% เชื่อว่า AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน
    - มีเพียง 58% ที่เชื่อว่า AI ช่วยปรับปรุงคุณภาพของงาน

    ✅ ความแตกต่างระหว่างนักออกแบบและนักพัฒนา
    - นักพัฒนามีความพึงพอใจต่อ AI มากกว่านักออกแบบ
    - AI ถูกใช้ในงานเขียนโค้ดและการพัฒนามากกว่างานสร้างสรรค์

    ✅ เป้าหมายของการสำรวจ
    - สำรวจการใช้งาน AI ในกระบวนการทำงานของนักออกแบบและนักพัฒนา
    - วิเคราะห์ผลกระทบของ AI ต่อเป้าหมายขององค์กร

    https://www.techradar.com/pro/figmas-latest-survey-shows-ai-is-not-yet-living-up-to-its-over-hyped-promise
    บทความนี้กล่าวถึงผลสำรวจล่าสุดของ Figma ที่แสดงให้เห็นว่า AI ยังไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังที่สูงเกินจริงได้ในปัจจุบัน แม้ว่า AI จะเริ่มมีบทบาทสำคัญในกระบวนการทำงานของนักออกแบบและนักพัฒนา แต่ยังคงมีข้อจำกัดที่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่า AI ยังไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูงได้ จากการสำรวจพบว่า 85% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า AI จะมีความสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคตของพวกเขา แต่มีเพียง 27% เท่านั้นที่เชื่อว่า AI จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเป้าหมายขององค์กร นอกจากนี้ยังพบว่าผู้พัฒนามีความพึงพอใจต่อ AI มากกว่านักออกแบบ เนื่องจาก AI ถูกนำมาใช้ในงานที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโค้ดและการพัฒนา ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า ✅ ความสำคัญของ AI ในอนาคต - 85% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า AI จะมีความสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคต - มีเพียง 27% ที่เชื่อว่า AI จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเป้าหมายขององค์กร ✅ การใช้งาน AI ในปัจจุบัน - 78% เชื่อว่า AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน - มีเพียง 58% ที่เชื่อว่า AI ช่วยปรับปรุงคุณภาพของงาน ✅ ความแตกต่างระหว่างนักออกแบบและนักพัฒนา - นักพัฒนามีความพึงพอใจต่อ AI มากกว่านักออกแบบ - AI ถูกใช้ในงานเขียนโค้ดและการพัฒนามากกว่างานสร้างสรรค์ ✅ เป้าหมายของการสำรวจ - สำรวจการใช้งาน AI ในกระบวนการทำงานของนักออกแบบและนักพัฒนา - วิเคราะห์ผลกระทบของ AI ต่อเป้าหมายขององค์กร https://www.techradar.com/pro/figmas-latest-survey-shows-ai-is-not-yet-living-up-to-its-over-hyped-promise
    WWW.TECHRADAR.COM
    Figma’s latest survey shows AI is not yet living up to its over-hyped promise
    Designers and developers split on just how useful AI really is right now
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิเวศของจิต ขณะที่ทำบุญ — ซึ่งส่งผลยาวไกลถึง "นิสัย", "ชีวิตหลังทำบุญ", และแม้แต่ "ภพภูมิในอนาคต"

    ---

    1. บุญไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ แต่เป็นพลังงานที่ติดตามอาการทางใจ

    > "อาการทางใจขณะทำบุญ เป็นตัวกำหนดนิสัยและผลกรรมในอนาคต"

    บุญไม่ได้แค่บันดาลความสุขในระยะสั้น

    แต่ “รูปแบบการทำบุญ” และ “เจตนาขณะทำ” จะ หล่อหลอมจิต ให้เป็นไปในแนวทางนั้นๆ

    > ธรรมะสำคัญ:
    "ทำบุญอย่างไร ใจก็แปรไปตามนั้น"

    ---

    2. การทำบุญคนเดียว: ฝึกพึ่งตนเอง สร้างพลังเดี่ยวอย่างเบิกบาน

    ถ้าทำบุญคนเดียวด้วยความสุขใจ:

    สร้างนิสัย “พึ่งตัวเอง” ได้จริง

    มีโอกาส "เหงายาก" และมีความสุขกับตัวเอง

    เดินทางธรรมได้ง่าย เพราะไม่ต้องคอยพึ่งพาอาศัยกำลังใจจากผู้อื่นตลอด

    ถ้าทำบุญแล้ว “แอบเหงา” หรือ “วาดฝันหาใคร”:

    อาจสร้างนิสัยเพ้อฝัน ไม่สมดุลกับโลกจริง

    และนำไปสู่ความคาดหวังผิดๆ ในความสัมพันธ์ในอนาคต

    > ธรรมะสำคัญ:
    "สุขจริงคือสุขที่ไม่ต้องมีเงื่อนไข"

    ---

    3. การลากคนอื่นไปทำบุญด้วยเจตนาผิด: เป็นบุญหรือเป็นภาระ?

    ถ้าแค่พาไปแต่ “ใจเขาไม่มา” ก็มีแต่ เหนื่อยฟรี หรือหนักกว่านั้นคือสร้างนิสัย "แบกคน"

    บุญที่แท้คือการ ทำด้วยใจเต็มร้อยของตัวเอง และให้โอกาสคนอื่นตามด้วยศรัทธาของเขาเอง ไม่ใช่การกดดันหรือลากจูง

    > ธรรมะสำคัญ:
    "บุญแท้ไม่ได้อยู่ที่จำนวนคนที่ไปด้วย แต่อยู่ที่ความพร้อมของใจตนเองและผู้อื่น"

    ---

    4. สไตล์การทำบุญจะสร้างแบบแผนชีวิตในอนาคต

    ถ้าทำบุญอย่างอิสระ สุขใจ → ชีวิตจะเบา ง่าย เป็นสุขด้วยตัวเอง

    ถ้าทำบุญแบบพึ่งพา เหนื่อยใจ → ชีวิตจะวนเวียนอยู่กับการต้องหาคนพึ่งตลอด

    ถ้าทำบุญแบบเพ้อฝัน → ชีวิตจะเต็มไปด้วยการคาดหวังสิ่งที่ไม่มีจริง

    > ธรรมะสำคัญ:
    "บุญสร้างทางเดินชีวิตใหม่แบบไม่รู้ตัว"

    ---

    5. สรุปแก่นธรรมะจากบทความนี้

    บุญเป็นพลังบันดาลที่ติดอยู่กับอาการทางใจ ณ ขณะที่ทำ

    การทำบุญคนเดียวอย่างเบิกบาน คือการสร้างกำลังใจพึ่งตนเอง ในระยะยาว

    ลากคนอื่นมาทำบุญแบบฝืนใจ มีโอกาสก่อภาระกรรมมากกว่าสร้างบุญ

    ฝึกทำบุญโดยไม่เพ้อหาใคร จะเป็นอิสระทั้งในปัจจุบันและอนาคต

    อาการใจขณะทำบุญ คือเมล็ดพันธุ์ของนิสัยและชะตาชีวิตในอนาคต

    ---

    ธรรมะสั้นจากบทความนี้ ใช้ต่อยอดได้ทันที

    "ทำบุญอย่างไร ใจก็กลายเป็นอย่างนั้น"

    "บุญที่แท้ ต้องเบิกบาน ไม่แบกคน ไม่ลากคน"

    "สุขที่พึ่งตัวเองได้ คือสุขที่มั่นคงที่สุด"

    "อย่าทำบุญด้วยใจฝืน เพราะผลที่ได้จะเป็นภาระไม่รู้จบ"

    "บุญเป็นพลังสร้างนิสัยชีวิต — ดีหรือร้าย ขึ้นกับใจที่ทำ"

    ---
    นิเวศของจิต ขณะที่ทำบุญ — ซึ่งส่งผลยาวไกลถึง "นิสัย", "ชีวิตหลังทำบุญ", และแม้แต่ "ภพภูมิในอนาคต" --- 1. บุญไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ แต่เป็นพลังงานที่ติดตามอาการทางใจ > "อาการทางใจขณะทำบุญ เป็นตัวกำหนดนิสัยและผลกรรมในอนาคต" บุญไม่ได้แค่บันดาลความสุขในระยะสั้น แต่ “รูปแบบการทำบุญ” และ “เจตนาขณะทำ” จะ หล่อหลอมจิต ให้เป็นไปในแนวทางนั้นๆ > ธรรมะสำคัญ: "ทำบุญอย่างไร ใจก็แปรไปตามนั้น" --- 2. การทำบุญคนเดียว: ฝึกพึ่งตนเอง สร้างพลังเดี่ยวอย่างเบิกบาน ถ้าทำบุญคนเดียวด้วยความสุขใจ: สร้างนิสัย “พึ่งตัวเอง” ได้จริง มีโอกาส "เหงายาก" และมีความสุขกับตัวเอง เดินทางธรรมได้ง่าย เพราะไม่ต้องคอยพึ่งพาอาศัยกำลังใจจากผู้อื่นตลอด ถ้าทำบุญแล้ว “แอบเหงา” หรือ “วาดฝันหาใคร”: อาจสร้างนิสัยเพ้อฝัน ไม่สมดุลกับโลกจริง และนำไปสู่ความคาดหวังผิดๆ ในความสัมพันธ์ในอนาคต > ธรรมะสำคัญ: "สุขจริงคือสุขที่ไม่ต้องมีเงื่อนไข" --- 3. การลากคนอื่นไปทำบุญด้วยเจตนาผิด: เป็นบุญหรือเป็นภาระ? ถ้าแค่พาไปแต่ “ใจเขาไม่มา” ก็มีแต่ เหนื่อยฟรี หรือหนักกว่านั้นคือสร้างนิสัย "แบกคน" บุญที่แท้คือการ ทำด้วยใจเต็มร้อยของตัวเอง และให้โอกาสคนอื่นตามด้วยศรัทธาของเขาเอง ไม่ใช่การกดดันหรือลากจูง > ธรรมะสำคัญ: "บุญแท้ไม่ได้อยู่ที่จำนวนคนที่ไปด้วย แต่อยู่ที่ความพร้อมของใจตนเองและผู้อื่น" --- 4. สไตล์การทำบุญจะสร้างแบบแผนชีวิตในอนาคต ถ้าทำบุญอย่างอิสระ สุขใจ → ชีวิตจะเบา ง่าย เป็นสุขด้วยตัวเอง ถ้าทำบุญแบบพึ่งพา เหนื่อยใจ → ชีวิตจะวนเวียนอยู่กับการต้องหาคนพึ่งตลอด ถ้าทำบุญแบบเพ้อฝัน → ชีวิตจะเต็มไปด้วยการคาดหวังสิ่งที่ไม่มีจริง > ธรรมะสำคัญ: "บุญสร้างทางเดินชีวิตใหม่แบบไม่รู้ตัว" --- 5. สรุปแก่นธรรมะจากบทความนี้ บุญเป็นพลังบันดาลที่ติดอยู่กับอาการทางใจ ณ ขณะที่ทำ การทำบุญคนเดียวอย่างเบิกบาน คือการสร้างกำลังใจพึ่งตนเอง ในระยะยาว ลากคนอื่นมาทำบุญแบบฝืนใจ มีโอกาสก่อภาระกรรมมากกว่าสร้างบุญ ฝึกทำบุญโดยไม่เพ้อหาใคร จะเป็นอิสระทั้งในปัจจุบันและอนาคต อาการใจขณะทำบุญ คือเมล็ดพันธุ์ของนิสัยและชะตาชีวิตในอนาคต --- ธรรมะสั้นจากบทความนี้ ใช้ต่อยอดได้ทันที "ทำบุญอย่างไร ใจก็กลายเป็นอย่างนั้น" "บุญที่แท้ ต้องเบิกบาน ไม่แบกคน ไม่ลากคน" "สุขที่พึ่งตัวเองได้ คือสุขที่มั่นคงที่สุด" "อย่าทำบุญด้วยใจฝืน เพราะผลที่ได้จะเป็นภาระไม่รู้จบ" "บุญเป็นพลังสร้างนิสัยชีวิต — ดีหรือร้าย ขึ้นกับใจที่ทำ" ---
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้กล่าวถึงการอัปเดตระบบใหม่ของ PlayStation 5 (PS5) ที่จะเปิดตัวในวันที่ 24 เมษายน 2025 โดยมีการนำธีมคลาสสิกจากการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีของ PlayStation กลับมาให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้ พร้อมทั้งเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Audio Focus ซึ่งช่วยปรับเสียงในเกมให้เหมาะสมยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ใช้หูฟัง

    ✅ การนำธีมคลาสสิกกลับมา
    - ธีมคลาสสิกจาก PlayStation รุ่นก่อน (PS1, PS2, PS3, PS4) กลับมาให้เลือกใช้ในเมนู 'Appearance'
    - ธีมเหล่านี้เคยเปิดตัวในช่วงการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีของ PlayStation

    ✅ ฟีเจอร์ Audio Focus
    - ช่วยปรับเสียงในเกม เช่น เสียงฝีเท้า ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานหูฟัง
    - ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริง

    ✅ การตอบสนองต่อคำขอของแฟนๆ
    - การนำธีมกลับมาเกิดจากคำขอของผู้ใช้งานที่ต้องการธีมเหล่านี้

    ✅ การพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มเติมในอนาคต
    - มีความคาดหวังว่า PlayStation อาจเพิ่มธีมเฉพาะเกมในอนาคต

    https://wccftech.com/playstations-classic-console-themes-from-30th-anniversary-celebrations-are-back-in-new-ps5-system-update/
    ข่าวนี้กล่าวถึงการอัปเดตระบบใหม่ของ PlayStation 5 (PS5) ที่จะเปิดตัวในวันที่ 24 เมษายน 2025 โดยมีการนำธีมคลาสสิกจากการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีของ PlayStation กลับมาให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้ พร้อมทั้งเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Audio Focus ซึ่งช่วยปรับเสียงในเกมให้เหมาะสมยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ใช้หูฟัง ✅ การนำธีมคลาสสิกกลับมา - ธีมคลาสสิกจาก PlayStation รุ่นก่อน (PS1, PS2, PS3, PS4) กลับมาให้เลือกใช้ในเมนู 'Appearance' - ธีมเหล่านี้เคยเปิดตัวในช่วงการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีของ PlayStation ✅ ฟีเจอร์ Audio Focus - ช่วยปรับเสียงในเกม เช่น เสียงฝีเท้า ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานหูฟัง - ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริง ✅ การตอบสนองต่อคำขอของแฟนๆ - การนำธีมกลับมาเกิดจากคำขอของผู้ใช้งานที่ต้องการธีมเหล่านี้ ✅ การพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มเติมในอนาคต - มีความคาดหวังว่า PlayStation อาจเพิ่มธีมเฉพาะเกมในอนาคต https://wccftech.com/playstations-classic-console-themes-from-30th-anniversary-celebrations-are-back-in-new-ps5-system-update/
    WCCFTECH.COM
    PlayStation's Classic Console Themes From 30th Anniversary Celebrations Are Back In New PS5 System Update
    PlayStation has confirmed that the classic console themes from its 30th anniversary celebrations are back for PS5 owners in tomorrow's update
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกการพบคือ... การเตรียมจากลา ใช้ช่วงเวลานี้ ให้ดีที่สุด! คุ้มค่าจริงหรือ? ที่จะเก็บความโกรธไว้ จนไม่ได้เจอกันอีกเลย

    เมื่อวันพรุ่งนี้อาจไม่มีอีกแล้ว... รักให้มากที่สุด ก่อนที่จะสายเกินไป อย่าปล่อยให้ความโกรธพรากคนที่คุณรัก ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด เพราะทุกการพบคือการเตรียมจากลา

    จะพาทบทวนความสัมพันธ์ ความเปราะบางของชีวิต และเหตุผลที่เราควรใช้ช่วงเวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่า เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่า วันพรุ่งนี้จะมีให้กับทุกคนอีกหรือไม่

    🌿 ชีวิตคือ “ของขวัญชั่วคราว” ที่ไม่มีใครบอกได้ว่า วันหมดอายุคือเมื่อไหร่ เคยไหม... อยู่กับใครสักคนทุกวัน จนหลงลืมว่า เขาอาจไม่อยู่กับเราตลอดไป?

    เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วย “ความไม่แน่นอน” และ “การสูญเสีย” แม้จะรู้ดีว่าความตาย เป็นปลายทางของทุกชีวิต แต่หลายคนก็ยังใช้ชีวิตราวกับว่า มีเวลามากมายไม่รู้จบ ทั้งที่จริง... เราไม่มีใครรู้เลยว่า “วันนี้” อาจเป็น “วันสุดท้าย” ที่เราจะได้เห็นรอยยิ้มของใครบางคน

    การเข้าใจความไม่แน่นอนของชีวิต ไม่ได้ทำให้เราต้องใช้ชีวิตอย่างเศร้าสร้อย แต่กลับเป็นแรงผลักดันให้เรา “เห็นคุณค่า” ของแต่ละวินาทีที่ยังมีอยู่ ใช้โอกาสนี้ให้ดีที่สุดก่อนที่จะ “สายเกินไป”

    ความหมายของคำว่า “ทุกการพบคือการเตรียมจากลา” คำพูดที่ดูเรียบง่ายนี้ กลับเต็มไปด้วยความจริงที่ลึกซึ้ง

    เราเกิดมาเพื่อ “พบเจอ” และ “จากลา” เป็นวัฏจักรของชีวิต ที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ แม้เราจะหลีกเลี่ยงการพูดถึงมัน แต่ความตายก็ยังอยู่ตรงนั้น รอวันเวลาที่มาถึง

    📌 “เราต่างพบกันชั่วคราว เพื่อจากกันตลอดกาลเท่านั้นเอง”

    ประโยคนี้อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกใจหาย แต่มันคือ “ความจริง” ที่ควรเตือนใจเราทุกวัน ว่า... อย่าประมาทกับเวลา อย่าผัดวันประกันพรุ่งในการรัก การให้อภัย หรือการดูแลกัน และอย่าปล่อยให้ความโกรธ กลายเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราทิ้งไว้ให้กัน

    เพราะ “ความตาย” ไม่รอใคร... 🖤 บางคนเพิ่งกอดกันเมื่อวาน วันนี้อาจเหลือแค่ความว่างเปล่า...

    มนุษย์เรามีแนวโน้ม จะมองข้ามความเปราะบางของชีวิต เราใช้ชีวิตเหมือนมีพรุ่งนี้เสมอ ทั้งที่พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง สำหรับบางคน

    ลองคิดดูสิ... ถ้าคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย คุณจะยังโกรธใครอยู่ไหม? ถ้าคนที่คุณรักกำลังจะจากไป คุณจะยังเลือกความเงียบมากกว่าการสื่อสารไหม? ถ้าพรุ่งนี้เขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว คุณจะเสียใจแค่ไหน ที่ไม่ได้บอกรักเขาอีกสักครั้ง?

    💡 “การตาย” อาจเกิดขึ้นทันที โดยไม่ให้เวลาเตรียมใจแม้แต่นาทีเดียว

    คุ้มค่าจริงหรือ? ที่จะเก็บความโกรธไว้... จนไม่ได้เจอกันอีกเลย โกรธ... คืออารมณ์ที่มนุษย์ทุกคนมี แต่การเก็บความโกรธไว้นาน ๆ โดยไม่หาทางปลดปล่อยมัน อาจกลายเป็นบาดแผลในความสัมพันธ์ ที่ไม่มีวันรักษาได้

    🔥 คนเราทะเลาะกันได้ ผิดใจกันได้ แต่ควรรีบเคลียร์ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า “โอกาสหน้า” จะยังมีอยู่หรือเปล่า

    “ความโกรธไม่ใช่ปัญหา... แต่การไม่จัดการความโกรธต่างหาก ที่เป็นปัญหา” ทุกความโกรธ ทุกความเข้าใจผิด ควรถูกแก้ไขในวันที่ยังมีโอกาส ไม่ใช่ในวันงานศพ ที่ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้ว

    ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด รักให้มากที่สุด เท่าที่เวลาจะมีให้ ⏳ เวลาคือทรัพยากรที่ใช้แล้ว ไม่สามารถเรียกคืนได้ แทนที่จะมัวเสียเวลาไปกับความคาดหวัง การเปรียบเทียบ หรือความขุ่นเคืองใจ ลองหันกลับมาใช้ “เวลาที่เหลืออยู่” เพื่อทำสิ่งเหล่านี้...

    บอกรักให้บ่อยขึ้น กอดกันให้แน่นขึ้น ให้อภัยเร็วขึ้น ฟังกันมากขึ้น ใส่ใจกันมากกว่าก่อน เพราะสุดท้ายแล้ว... ไม่มีใครเสียใจที่รักมากเกินไป แต่ทุกคนเสียใจที่ “ไม่ได้รักให้มากพอ”

    เมื่อวันพรุ่งนี้ไม่มีอีกแล้ว... 🎗️ โลกนี้ไม่เคยเตรียมเราให้พร้อมกับการจากลา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ คนรัก เพื่อนสนิท หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง ทุกคนล้วนมีวันจากไป บางคนอาจจากกันด้วยเหตุผล บางคนจากกันด้วยความตาย และบางคนจากไป... โดยไม่มีแม้แต่คำลา

    และเมื่อวันนั้นมาถึง... ไม่มีเวลาแก้ตัว ไม่มีเวลาอธิบาย ไม่มีเวลาขอโทษ ไม่มีเวลาเริ่มต้นใหม่ จะดีกว่าไหม ถ้าทำทุกวันให้ดีที่สุด... เหมือนมันคือวันสุดท้าย

    อย่าทำร้ายกันด้วยความเงียบ 💬 การไม่พูด การไม่อธิบาย การไม่บอกความรู้สึก คือสิ่งที่ทำร้ายจิตใจ ได้มากกว่าคำพูดรุนแรงเสียอีก

    ในช่วงเวลาที่มีจำกัด คำพูดง่าย ๆ อย่าง “ขอโทษ” “คิดถึง” หรือ “รักนะ” อาจเป็นสิ่งที่เปลี่ยนใจใครบางคนได้ และอาจเป็นคำสุดท้ายที่เขาได้ยินจากเรา

    ถ้าเป็นวันนี้... คุณยังอยากโกรธอยู่ไหม? ลองถามตัวเอง... ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเรา... เรายังอยากถือโทษใครอยู่ไหม? ถ้าคำตอบคือ “ไม่” แปลว่า... ความโกรธนั้น ไม่สำคัญพอจะเก็บมันไว้ตั้งแต่แรก

    ชีวิตสั้นเกินกว่าจะเก็บความรู้สึกดี ๆ ไว้ 🌼 ทุกการพบคือการเตรียมจากลา ใช้ช่วงเวลาที่มีให้คุ้มค่า ใช้ใจในการรัก ใช้เวลาในการฟัง ใช้โอกาสในการให้อภัย ใช้คำพูดในการสร้างความเข้าใจ

    โลกใบนี้ไม่แน่นอน แต่การกระทำของเราวันนี้สามารถ “เปลี่ยนแปลงความทรงจำของใครสักคนตลอดไป”

    ทุกลมหายใจ คือของขวัญ 🕊️ อย่ารอให้สายเกินไป ก่อนจะพูดว่า... "ฉันรักเธอ"

    เราควรให้อภัยคนที่ทำร้ายเรา? เพราะการให้อภัย คือการปลดปล่อยตัวเอง ไม่ใช่เพื่อตัวเขา แต่เพื่อตัวเรา ที่จะได้ก้าวต่อไปอย่างสงบ

    หากคุณยังรู้สึกผิด หรือยังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แปลว่า... ยังไม่สายเกินไปที่จะพูดคำขอโท

    คำว่า “ชั่วคราว” มีพลังมาก เพราะมันเตือนให้เรารู้ว่า ไม่มีสิ่งใดยั่งยืน ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วก็ผ่านไป

    เราจะหยุดโกรธคนที่เรารัก หากนึกถึงช่วงเวลาที่ดี นึกถึงวันหนึ่งที่เขาอาจไม่อยู่ แล้วคุณจะรู้ว่าความโกรธไม่คุ้มค่า

    ความรักจะช่วยเยียวยาความเสียใจได้ เพราะความรักคือการเข้าใจ ให้อภัย และเป็นพลังงานที่อยู่เหนือความเศร้า

    เริ่มใช้ชีวิตให้คุ้มค่าจากวันนี้ ลองโทรหาคนที่คุณคิดถึง พูดในสิ่งที่อยากพูด ทำในสิ่งที่อยากทำ ก่อนจะไม่มีโอกาสอีก

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 222155 เม.ย. 2568

    #ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด #อย่าปล่อยให้สายเกินไป #รักให้เต็มที่ #คำขอโทษสุดท้าย #ความตายคือปลายทาง #ความรักและการให้อภัย #ความทรงจำดีๆ #ชีวิตสั้นนัก #พบเพื่อจาก #เราต่างพบกันชั่วคราว
    ทุกการพบคือ... การเตรียมจากลา ใช้ช่วงเวลานี้ ให้ดีที่สุด! คุ้มค่าจริงหรือ? ที่จะเก็บความโกรธไว้ จนไม่ได้เจอกันอีกเลย เมื่อวันพรุ่งนี้อาจไม่มีอีกแล้ว... รักให้มากที่สุด ก่อนที่จะสายเกินไป อย่าปล่อยให้ความโกรธพรากคนที่คุณรัก ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด เพราะทุกการพบคือการเตรียมจากลา จะพาทบทวนความสัมพันธ์ ความเปราะบางของชีวิต และเหตุผลที่เราควรใช้ช่วงเวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่า เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่า วันพรุ่งนี้จะมีให้กับทุกคนอีกหรือไม่ 🌿 ชีวิตคือ “ของขวัญชั่วคราว” ที่ไม่มีใครบอกได้ว่า วันหมดอายุคือเมื่อไหร่ เคยไหม... อยู่กับใครสักคนทุกวัน จนหลงลืมว่า เขาอาจไม่อยู่กับเราตลอดไป? เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วย “ความไม่แน่นอน” และ “การสูญเสีย” แม้จะรู้ดีว่าความตาย เป็นปลายทางของทุกชีวิต แต่หลายคนก็ยังใช้ชีวิตราวกับว่า มีเวลามากมายไม่รู้จบ ทั้งที่จริง... เราไม่มีใครรู้เลยว่า “วันนี้” อาจเป็น “วันสุดท้าย” ที่เราจะได้เห็นรอยยิ้มของใครบางคน การเข้าใจความไม่แน่นอนของชีวิต ไม่ได้ทำให้เราต้องใช้ชีวิตอย่างเศร้าสร้อย แต่กลับเป็นแรงผลักดันให้เรา “เห็นคุณค่า” ของแต่ละวินาทีที่ยังมีอยู่ ใช้โอกาสนี้ให้ดีที่สุดก่อนที่จะ “สายเกินไป” ความหมายของคำว่า “ทุกการพบคือการเตรียมจากลา” คำพูดที่ดูเรียบง่ายนี้ กลับเต็มไปด้วยความจริงที่ลึกซึ้ง เราเกิดมาเพื่อ “พบเจอ” และ “จากลา” เป็นวัฏจักรของชีวิต ที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ แม้เราจะหลีกเลี่ยงการพูดถึงมัน แต่ความตายก็ยังอยู่ตรงนั้น รอวันเวลาที่มาถึง 📌 “เราต่างพบกันชั่วคราว เพื่อจากกันตลอดกาลเท่านั้นเอง” ประโยคนี้อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกใจหาย แต่มันคือ “ความจริง” ที่ควรเตือนใจเราทุกวัน ว่า... อย่าประมาทกับเวลา อย่าผัดวันประกันพรุ่งในการรัก การให้อภัย หรือการดูแลกัน และอย่าปล่อยให้ความโกรธ กลายเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราทิ้งไว้ให้กัน เพราะ “ความตาย” ไม่รอใคร... 🖤 บางคนเพิ่งกอดกันเมื่อวาน วันนี้อาจเหลือแค่ความว่างเปล่า... มนุษย์เรามีแนวโน้ม จะมองข้ามความเปราะบางของชีวิต เราใช้ชีวิตเหมือนมีพรุ่งนี้เสมอ ทั้งที่พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง สำหรับบางคน ลองคิดดูสิ... ถ้าคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย คุณจะยังโกรธใครอยู่ไหม? ถ้าคนที่คุณรักกำลังจะจากไป คุณจะยังเลือกความเงียบมากกว่าการสื่อสารไหม? ถ้าพรุ่งนี้เขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว คุณจะเสียใจแค่ไหน ที่ไม่ได้บอกรักเขาอีกสักครั้ง? 💡 “การตาย” อาจเกิดขึ้นทันที โดยไม่ให้เวลาเตรียมใจแม้แต่นาทีเดียว คุ้มค่าจริงหรือ? ที่จะเก็บความโกรธไว้... จนไม่ได้เจอกันอีกเลย โกรธ... คืออารมณ์ที่มนุษย์ทุกคนมี แต่การเก็บความโกรธไว้นาน ๆ โดยไม่หาทางปลดปล่อยมัน อาจกลายเป็นบาดแผลในความสัมพันธ์ ที่ไม่มีวันรักษาได้ 🔥 คนเราทะเลาะกันได้ ผิดใจกันได้ แต่ควรรีบเคลียร์ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า “โอกาสหน้า” จะยังมีอยู่หรือเปล่า “ความโกรธไม่ใช่ปัญหา... แต่การไม่จัดการความโกรธต่างหาก ที่เป็นปัญหา” ทุกความโกรธ ทุกความเข้าใจผิด ควรถูกแก้ไขในวันที่ยังมีโอกาส ไม่ใช่ในวันงานศพ ที่ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้ว ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด รักให้มากที่สุด เท่าที่เวลาจะมีให้ ⏳ เวลาคือทรัพยากรที่ใช้แล้ว ไม่สามารถเรียกคืนได้ แทนที่จะมัวเสียเวลาไปกับความคาดหวัง การเปรียบเทียบ หรือความขุ่นเคืองใจ ลองหันกลับมาใช้ “เวลาที่เหลืออยู่” เพื่อทำสิ่งเหล่านี้... บอกรักให้บ่อยขึ้น กอดกันให้แน่นขึ้น ให้อภัยเร็วขึ้น ฟังกันมากขึ้น ใส่ใจกันมากกว่าก่อน เพราะสุดท้ายแล้ว... ไม่มีใครเสียใจที่รักมากเกินไป แต่ทุกคนเสียใจที่ “ไม่ได้รักให้มากพอ” เมื่อวันพรุ่งนี้ไม่มีอีกแล้ว... 🎗️ โลกนี้ไม่เคยเตรียมเราให้พร้อมกับการจากลา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ คนรัก เพื่อนสนิท หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง ทุกคนล้วนมีวันจากไป บางคนอาจจากกันด้วยเหตุผล บางคนจากกันด้วยความตาย และบางคนจากไป... โดยไม่มีแม้แต่คำลา และเมื่อวันนั้นมาถึง... ไม่มีเวลาแก้ตัว ไม่มีเวลาอธิบาย ไม่มีเวลาขอโทษ ไม่มีเวลาเริ่มต้นใหม่ จะดีกว่าไหม ถ้าทำทุกวันให้ดีที่สุด... เหมือนมันคือวันสุดท้าย อย่าทำร้ายกันด้วยความเงียบ 💬 การไม่พูด การไม่อธิบาย การไม่บอกความรู้สึก คือสิ่งที่ทำร้ายจิตใจ ได้มากกว่าคำพูดรุนแรงเสียอีก ในช่วงเวลาที่มีจำกัด คำพูดง่าย ๆ อย่าง “ขอโทษ” “คิดถึง” หรือ “รักนะ” อาจเป็นสิ่งที่เปลี่ยนใจใครบางคนได้ และอาจเป็นคำสุดท้ายที่เขาได้ยินจากเรา ถ้าเป็นวันนี้... คุณยังอยากโกรธอยู่ไหม? ลองถามตัวเอง... ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเรา... เรายังอยากถือโทษใครอยู่ไหม? ถ้าคำตอบคือ “ไม่” แปลว่า... ความโกรธนั้น ไม่สำคัญพอจะเก็บมันไว้ตั้งแต่แรก ชีวิตสั้นเกินกว่าจะเก็บความรู้สึกดี ๆ ไว้ 🌼 ทุกการพบคือการเตรียมจากลา ใช้ช่วงเวลาที่มีให้คุ้มค่า ใช้ใจในการรัก ใช้เวลาในการฟัง ใช้โอกาสในการให้อภัย ใช้คำพูดในการสร้างความเข้าใจ โลกใบนี้ไม่แน่นอน แต่การกระทำของเราวันนี้สามารถ “เปลี่ยนแปลงความทรงจำของใครสักคนตลอดไป” ทุกลมหายใจ คือของขวัญ 🕊️ อย่ารอให้สายเกินไป ก่อนจะพูดว่า... "ฉันรักเธอ" เราควรให้อภัยคนที่ทำร้ายเรา? เพราะการให้อภัย คือการปลดปล่อยตัวเอง ไม่ใช่เพื่อตัวเขา แต่เพื่อตัวเรา ที่จะได้ก้าวต่อไปอย่างสงบ หากคุณยังรู้สึกผิด หรือยังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แปลว่า... ยังไม่สายเกินไปที่จะพูดคำขอโท คำว่า “ชั่วคราว” มีพลังมาก เพราะมันเตือนให้เรารู้ว่า ไม่มีสิ่งใดยั่งยืน ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วก็ผ่านไป เราจะหยุดโกรธคนที่เรารัก หากนึกถึงช่วงเวลาที่ดี นึกถึงวันหนึ่งที่เขาอาจไม่อยู่ แล้วคุณจะรู้ว่าความโกรธไม่คุ้มค่า ความรักจะช่วยเยียวยาความเสียใจได้ เพราะความรักคือการเข้าใจ ให้อภัย และเป็นพลังงานที่อยู่เหนือความเศร้า เริ่มใช้ชีวิตให้คุ้มค่าจากวันนี้ ลองโทรหาคนที่คุณคิดถึง พูดในสิ่งที่อยากพูด ทำในสิ่งที่อยากทำ ก่อนจะไม่มีโอกาสอีก ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 222155 เม.ย. 2568 #ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด #อย่าปล่อยให้สายเกินไป #รักให้เต็มที่ #คำขอโทษสุดท้าย #ความตายคือปลายทาง #ความรักและการให้อภัย #ความทรงจำดีๆ #ชีวิตสั้นนัก #พบเพื่อจาก #เราต่างพบกันชั่วคราว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงแนวทางที่ CISOs (Chief Information Security Officers) ควรใช้ในการสื่อสารกับคณะกรรมการบริษัท เพื่อให้สามารถนำเสนอข้อมูลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ

    ✅ แนวทางการสื่อสารของ CISOs กับคณะกรรมการ
    - แปลความเสี่ยงทางไซเบอร์ให้เป็นภาษาธุรกิจ
    - หาพันธมิตรในคณะกรรมการเพื่อช่วยปรับปรุงการนำเสนอ

    ✅ การพัฒนาเอกสารช่วยให้คณะกรรมการเข้าใจข้อมูล
    - เอกสารอธิบายคำศัพท์ด้านความปลอดภัย
    - เอกสารแนวทางการปฏิบัติตามมาตรฐาน

    ✅ การศึกษาประวัติของสมาชิกคณะกรรมการ
    - เข้าใจมุมมองและความคาดหวังของคณะกรรมการ
    - ปรับการนำเสนอให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท

    ℹ️ ข้อจำกัดของการสื่อสารด้านความปลอดภัย
    - คณะกรรมการบางคนอาจไม่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี
    - การนำเสนอข้อมูลที่ซับซ้อนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด

    ℹ️ ผลกระทบต่อการตัดสินใจของคณะกรรมการ
    - หากข้อมูลด้านความปลอดภัยไม่ถูกนำเสนออย่างเหมาะสม อาจส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุน
    - การขาดความเข้าใจด้านไซเบอร์อาจทำให้คณะกรรมการมองข้ามความเสี่ยงที่สำคัญ

    https://www.csoonline.com/article/3953098/what-boards-want-and-dont-want-to-hear-from-cybersecurity-leaders.html
    ข่าวนี้เล่าถึงแนวทางที่ CISOs (Chief Information Security Officers) ควรใช้ในการสื่อสารกับคณะกรรมการบริษัท เพื่อให้สามารถนำเสนอข้อมูลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ ✅ แนวทางการสื่อสารของ CISOs กับคณะกรรมการ - แปลความเสี่ยงทางไซเบอร์ให้เป็นภาษาธุรกิจ - หาพันธมิตรในคณะกรรมการเพื่อช่วยปรับปรุงการนำเสนอ ✅ การพัฒนาเอกสารช่วยให้คณะกรรมการเข้าใจข้อมูล - เอกสารอธิบายคำศัพท์ด้านความปลอดภัย - เอกสารแนวทางการปฏิบัติตามมาตรฐาน ✅ การศึกษาประวัติของสมาชิกคณะกรรมการ - เข้าใจมุมมองและความคาดหวังของคณะกรรมการ - ปรับการนำเสนอให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท ℹ️ ข้อจำกัดของการสื่อสารด้านความปลอดภัย - คณะกรรมการบางคนอาจไม่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี - การนำเสนอข้อมูลที่ซับซ้อนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ℹ️ ผลกระทบต่อการตัดสินใจของคณะกรรมการ - หากข้อมูลด้านความปลอดภัยไม่ถูกนำเสนออย่างเหมาะสม อาจส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุน - การขาดความเข้าใจด้านไซเบอร์อาจทำให้คณะกรรมการมองข้ามความเสี่ยงที่สำคัญ https://www.csoonline.com/article/3953098/what-boards-want-and-dont-want-to-hear-from-cybersecurity-leaders.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    What boards want and don’t want to hear from cybersecurity leaders
    To get through to board members, cybersecurity leaders need to not only learn the language of business but how to translate cyber risk in a way board members can make sense of.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI เปิดเผยว่า ChatGPT มีผู้ใช้งานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในเดือนมีนาคม 2025 มีการดาวน์โหลดแอป ChatGPT มากถึง 46 ล้านครั้ง ซึ่งเป็นแอปที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในเดือนนั้น (ไม่รวมเกม) การอัปเดตฟีเจอร์การสร้างภาพในเดือนมีนาคมช่วยเพิ่มความนิยม โดยเฉพาะภาพในสไตล์ Studio Ghibli ที่สร้างกระแสในโซเชียลมีเดียจนทำให้ระบบของ OpenAI ต้องเผชิญกับความต้องการที่สูงมาก

    อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ ChatGPT ยังนำมาซึ่งคำถามเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในที่ทำงาน เนื่องจากมีบริษัทหลายแห่งลดจำนวนพนักงานเนื่องจากงานบางส่วนถูกแทนที่ด้วย AI Altman ให้ความเห็นว่า AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน และแม้จะมีความคาดหวังที่สูงขึ้นในงาน แต่ AI จะช่วยให้ผู้คนสามารถปรับตัวและทำงานได้ดีขึ้น

    ✅ ความสำเร็จของ ChatGPT
    - มีผู้ใช้งานรายสัปดาห์ใกล้ถึงหนึ่งพันล้านคน
    - การดาวน์โหลดแอป ChatGPT สูงสุดในเดือนมีนาคม 2025

    ✅ ฟีเจอร์การสร้างภาพที่ได้รับความนิยม
    - การสร้างภาพในสไตล์ Studio Ghibli ได้รับความนิยมอย่างมาก
    - ฟีเจอร์การสร้างภาพช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน

    ✅ ผลกระทบต่อการทำงาน
    - บริษัทบางแห่งลดจำนวนพนักงานเนื่องจากงานถูกแทนที่ด้วย AI
    - AI ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานและปรับตัวในงานที่มีความคาดหวังสูง

    ℹ️ ความเสี่ยงจากการใช้ AI ในที่ทำงาน
    - การลดจำนวนพนักงานอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในอาชีพ
    - การใช้ AI อาจเพิ่มความกดดันในงานที่ต้องการความสามารถสูง

    ℹ️ คำแนะนำสำหรับการปรับตัว
    - ผู้คนควรเรียนรู้และปรับตัวกับการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
    - องค์กรควรสนับสนุนการฝึกอบรมและการใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบ

    https://www.techspot.com/news/107528-chatgpt-user-base-nears-one-billion-after-image.html
    Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI เปิดเผยว่า ChatGPT มีผู้ใช้งานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในเดือนมีนาคม 2025 มีการดาวน์โหลดแอป ChatGPT มากถึง 46 ล้านครั้ง ซึ่งเป็นแอปที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในเดือนนั้น (ไม่รวมเกม) การอัปเดตฟีเจอร์การสร้างภาพในเดือนมีนาคมช่วยเพิ่มความนิยม โดยเฉพาะภาพในสไตล์ Studio Ghibli ที่สร้างกระแสในโซเชียลมีเดียจนทำให้ระบบของ OpenAI ต้องเผชิญกับความต้องการที่สูงมาก อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ ChatGPT ยังนำมาซึ่งคำถามเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในที่ทำงาน เนื่องจากมีบริษัทหลายแห่งลดจำนวนพนักงานเนื่องจากงานบางส่วนถูกแทนที่ด้วย AI Altman ให้ความเห็นว่า AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน และแม้จะมีความคาดหวังที่สูงขึ้นในงาน แต่ AI จะช่วยให้ผู้คนสามารถปรับตัวและทำงานได้ดีขึ้น ✅ ความสำเร็จของ ChatGPT - มีผู้ใช้งานรายสัปดาห์ใกล้ถึงหนึ่งพันล้านคน - การดาวน์โหลดแอป ChatGPT สูงสุดในเดือนมีนาคม 2025 ✅ ฟีเจอร์การสร้างภาพที่ได้รับความนิยม - การสร้างภาพในสไตล์ Studio Ghibli ได้รับความนิยมอย่างมาก - ฟีเจอร์การสร้างภาพช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน ✅ ผลกระทบต่อการทำงาน - บริษัทบางแห่งลดจำนวนพนักงานเนื่องจากงานถูกแทนที่ด้วย AI - AI ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานและปรับตัวในงานที่มีความคาดหวังสูง ℹ️ ความเสี่ยงจากการใช้ AI ในที่ทำงาน - การลดจำนวนพนักงานอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในอาชีพ - การใช้ AI อาจเพิ่มความกดดันในงานที่ต้องการความสามารถสูง ℹ️ คำแนะนำสำหรับการปรับตัว - ผู้คนควรเรียนรู้และปรับตัวกับการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน - องค์กรควรสนับสนุนการฝึกอบรมและการใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบ https://www.techspot.com/news/107528-chatgpt-user-base-nears-one-billion-after-image.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    ChatGPT nears one billion users as Ghibli-style AI images double weekly actives
    Speaking onstage at TED on Friday, curator Chris Anderson asked Altman how many users ChatGPT had. "I think the last time we said was 500 million weekly...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำเนียบขาวเผยประธานาธิบดีทรัมป์เปิดใจเจรจาข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับจีน หลังจากความตึงเครียดและภาษีศุลกากรต่างๆ สถานการณ์อาจคลี่คลายลงในที่สุด

    "ทรัมป์ยังคงมีความคาดหวัง ว่าเขาจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีนได้ หลังจากขึ้นภาษีตอบโต้กัน" โฆษกทำเนียบขาว แคโรไลน์ ลีวิตต์ กล่าว
    ทำเนียบขาวเผยประธานาธิบดีทรัมป์เปิดใจเจรจาข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับจีน หลังจากความตึงเครียดและภาษีศุลกากรต่างๆ สถานการณ์อาจคลี่คลายลงในที่สุด "ทรัมป์ยังคงมีความคาดหวัง ว่าเขาจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีนได้ หลังจากขึ้นภาษีตอบโต้กัน" โฆษกทำเนียบขาว แคโรไลน์ ลีวิตต์ กล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Intel เผชิญกับปัญหาด้านประสิทธิภาพของ CPU รุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 200S และ Raptor Lake Refresh ซึ่งไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องความไม่เสถียรของ CPU ที่ทำให้ต้องเรียกคืนผลิตภัณฑ์จำนวนมาก ส่งผลให้ผู้บริโภคในจีนหันไปเลือกใช้ CPU ของ AMD ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เช่น Ryzen 9000 Series และ X3D CPUs

    AMD สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนได้ถึง 50% ในไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดที่เคยถูกครอบครองโดย Intel

    ✅ การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดของ Intel
    - Intel สูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนให้กับ AMD อย่างรวดเร็ว
    - ปัญหาด้านประสิทธิภาพของ CPU รุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 200S และ Raptor Lake Refresh

    ✅ การเพิ่มขึ้นของ AMD ในตลาดจีน
    - AMD เพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนได้ถึง 50% ในไตรมาสแรกของปี 2025
    - ผู้บริโภคในจีนเลือกใช้ Ryzen 9000 Series และ X3D CPUs

    ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ Intel
    - การลดลงของยอดขาย CPU ส่งผลต่อยอดขายเมนบอร์ดของ Intel
    - Intel ต้องเผชิญกับความท้าทายในการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของแบรนด์

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อ Intel
    - ปัญหาด้านความไม่เสถียรของ CPU อาจลดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
    - การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในระดับโลก

    ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด CPU
    - การเพิ่มขึ้นของ AMD อาจสร้างแรงกดดันให้ Intel ต้องปรับปรุงผลิตภัณฑ์
    - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว

    https://wccftech.com/intel-has-reportedly-started-to-lose-its-ground-in-the-china-cpu-markets/
    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Intel เผชิญกับปัญหาด้านประสิทธิภาพของ CPU รุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 200S และ Raptor Lake Refresh ซึ่งไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องความไม่เสถียรของ CPU ที่ทำให้ต้องเรียกคืนผลิตภัณฑ์จำนวนมาก ส่งผลให้ผู้บริโภคในจีนหันไปเลือกใช้ CPU ของ AMD ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เช่น Ryzen 9000 Series และ X3D CPUs AMD สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนได้ถึง 50% ในไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดที่เคยถูกครอบครองโดย Intel ✅ การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดของ Intel - Intel สูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนให้กับ AMD อย่างรวดเร็ว - ปัญหาด้านประสิทธิภาพของ CPU รุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 200S และ Raptor Lake Refresh ✅ การเพิ่มขึ้นของ AMD ในตลาดจีน - AMD เพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนได้ถึง 50% ในไตรมาสแรกของปี 2025 - ผู้บริโภคในจีนเลือกใช้ Ryzen 9000 Series และ X3D CPUs ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ Intel - การลดลงของยอดขาย CPU ส่งผลต่อยอดขายเมนบอร์ดของ Intel - Intel ต้องเผชิญกับความท้าทายในการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของแบรนด์ ℹ️ ความเสี่ยงต่อ Intel - ปัญหาด้านความไม่เสถียรของ CPU อาจลดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค - การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในระดับโลก ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด CPU - การเพิ่มขึ้นของ AMD อาจสร้างแรงกดดันให้ Intel ต้องปรับปรุงผลิตภัณฑ์ - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว https://wccftech.com/intel-has-reportedly-started-to-lose-its-ground-in-the-china-cpu-markets/
    WCCFTECH.COM
    Intel Has Reportedly Started To Lose Its Ground In China's CPU Markets; AMD Sees a Massive Rise In Domestic Market Share
    Well, with Intel's sluggish recent-gen CPU performance, it seems like the China markets have started to respond, now prioritizing AMD.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่วนตัวหลังจากนี้คงอาจจะลดโพสต์ที่ดูซ้ำซากลง ไม่ก็หยุดโพสต์เลย เพราะจะได้มีเวลาเสพให้ฉ่ำจิตใจได้เต็มที่ ที่ผ่านมาก็เจ็บปวดมามากพอแล้วกับการที่ต้องทำตามความคาดหวังที่พวกเขาหวังไว้สูงจนผมเริ่มอยากจะทำอะไรที่เป็นแบบของตัวเอง ไม่ต้องตามใคร เพราะบางทีผมคงต้องอิสระกว่านี้ แต่บางทีควรปล่อยให้ผมค้นหาตัวเอง ไม่ใช่มาบีบบังคับเพราะความเป็นห่วงที่มากเกินไปและสุดโต่ง จะให้ผมสานต่อเจนที่ไม่ตรงความต้องการผม ณ ตอนนี้ ตลอดไปมันไม่ได้นะ โซตัสมันหมดยุคแล้ว ยุคโลกาภิวัฒน์กำลังรุ่ง แต่ผู้ใหญ่แบบนี้ที่ยังคาดหวังกับลูกหลายมากจนเกินไปจนลูกหลานเสียความรู้สึก เจ็บปวด จนต้องระเบิดอารมณ์ออกมา จนสุดท้ายต้องมาทะเลาะกับคนรอบข้างไม่ว่าจะคนสนิทหรือคนรอบข้างก็ตาม แต่ผมไม่เลือกที่จะทะเลาะกับครอบครัวเพียงเพราะเรื่องกะโหลกกะลาแค่นี้ แต่บางทีผมคิดเองได้ ไม่ต้องตามความคิดคนอื่น ไม่จำเป็นต้องตามแรงบันดาลใจใคร แค่ทำตามฝันและทำในสิ่งที่ผมมีใจรักก็พอแล้ว ที่ผ่านมาผมระบมกับจ็อบที่ต้องทำเกือบปี สุดท้ายก็ต้องแคนเซิ่ล เพราะโดนบีบให้แก้งานรัวๆๆ คือไม่รู้เขาวางงานยากๆให้ผมทำ แก้ และกดค่าจ้างผมหรือเปล่า ส่วนตัวผมว่ามีแต่ แต่โกงค่าจ้างฟรีแลนซ์ผมผมโดนมาแล้ว เจอเรื่องที่ไม่แฟร์กับเรา และอีกปัจจัยคือต้องย้ายทะเบียนบ้านบ่อยเกินไปจนผมแทบจะทะเลาะกับครอบครัวแล้วครับ
    ส่วนตัวหลังจากนี้คงอาจจะลดโพสต์ที่ดูซ้ำซากลง ไม่ก็หยุดโพสต์เลย เพราะจะได้มีเวลาเสพให้ฉ่ำจิตใจได้เต็มที่ ที่ผ่านมาก็เจ็บปวดมามากพอแล้วกับการที่ต้องทำตามความคาดหวังที่พวกเขาหวังไว้สูงจนผมเริ่มอยากจะทำอะไรที่เป็นแบบของตัวเอง ไม่ต้องตามใคร เพราะบางทีผมคงต้องอิสระกว่านี้ แต่บางทีควรปล่อยให้ผมค้นหาตัวเอง ไม่ใช่มาบีบบังคับเพราะความเป็นห่วงที่มากเกินไปและสุดโต่ง จะให้ผมสานต่อเจนที่ไม่ตรงความต้องการผม ณ ตอนนี้ ตลอดไปมันไม่ได้นะ โซตัสมันหมดยุคแล้ว ยุคโลกาภิวัฒน์กำลังรุ่ง แต่ผู้ใหญ่แบบนี้ที่ยังคาดหวังกับลูกหลายมากจนเกินไปจนลูกหลานเสียความรู้สึก เจ็บปวด จนต้องระเบิดอารมณ์ออกมา จนสุดท้ายต้องมาทะเลาะกับคนรอบข้างไม่ว่าจะคนสนิทหรือคนรอบข้างก็ตาม แต่ผมไม่เลือกที่จะทะเลาะกับครอบครัวเพียงเพราะเรื่องกะโหลกกะลาแค่นี้ แต่บางทีผมคิดเองได้ ไม่ต้องตามความคิดคนอื่น ไม่จำเป็นต้องตามแรงบันดาลใจใคร แค่ทำตามฝันและทำในสิ่งที่ผมมีใจรักก็พอแล้ว ที่ผ่านมาผมระบมกับจ็อบที่ต้องทำเกือบปี สุดท้ายก็ต้องแคนเซิ่ล เพราะโดนบีบให้แก้งานรัวๆๆ คือไม่รู้เขาวางงานยากๆให้ผมทำ แก้ และกดค่าจ้างผมหรือเปล่า ส่วนตัวผมว่ามีแต่ แต่โกงค่าจ้างฟรีแลนซ์ผมผมโดนมาแล้ว เจอเรื่องที่ไม่แฟร์กับเรา และอีกปัจจัยคือต้องย้ายทะเบียนบ้านบ่อยเกินไปจนผมแทบจะทะเลาะกับครอบครัวแล้วครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • EU กำลังเตรียมประกาศคำตัดสินเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) โดย Apple และ Meta ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้รับการจับตามองอย่างมากในวงการเทคโนโลยี โดยคำตัดสินนี้อาจเป็นการบังคับใช้กฎหมาย DMA ครั้งแรกที่เข้มงวดที่สุด

    == ประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้อง ==
    ✅ การละเมิดกฎหมาย DMA:
    - Apple และ Meta ถูกกล่าวหาว่ามีการดำเนินการที่ส่งเสริมการผูกขาดและลดการแข่งขันในตลาดดิจิทัล
    - การสอบสวนเริ่มต้นตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้ใช้งาน

    ✅ การเลื่อนคำตัดสิน:
    - เดิมทีคำตัดสินมีกำหนดในเดือนมีนาคม แต่ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองและการเจรจาภาษีระหว่างประเทศ

    == ผลกระทบและความคาดหวัง ==
    ✅ การบังคับใช้กฎหมาย DMA:
    - หากมีการลงโทษ Apple และ Meta อาจเป็นการบังคับใช้กฎหมาย DMA ครั้งแรกที่เข้มงวดที่สุด ซึ่งจะเป็นตัวอย่างสำคัญสำหรับการตัดสินในอนาคต

    ✅ การตอบสนองจาก Meta:
    - Meta แสดงความไม่พอใจต่อข้อกล่าวหา โดยระบุว่ากฎหมาย DMA มีเป้าหมายเพื่อทำให้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีใหญ่ดูไม่ดี และยืนยันว่าบริษัทได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแล

    https://wccftech.com/eu-rulings-on-apple-and-metas-potential-violations-of-the-digital-markets-act-expected-in-the-coming-weeks/
    EU กำลังเตรียมประกาศคำตัดสินเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) โดย Apple และ Meta ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้รับการจับตามองอย่างมากในวงการเทคโนโลยี โดยคำตัดสินนี้อาจเป็นการบังคับใช้กฎหมาย DMA ครั้งแรกที่เข้มงวดที่สุด == ประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้อง == ✅ การละเมิดกฎหมาย DMA: - Apple และ Meta ถูกกล่าวหาว่ามีการดำเนินการที่ส่งเสริมการผูกขาดและลดการแข่งขันในตลาดดิจิทัล - การสอบสวนเริ่มต้นตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้ใช้งาน ✅ การเลื่อนคำตัดสิน: - เดิมทีคำตัดสินมีกำหนดในเดือนมีนาคม แต่ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองและการเจรจาภาษีระหว่างประเทศ == ผลกระทบและความคาดหวัง == ✅ การบังคับใช้กฎหมาย DMA: - หากมีการลงโทษ Apple และ Meta อาจเป็นการบังคับใช้กฎหมาย DMA ครั้งแรกที่เข้มงวดที่สุด ซึ่งจะเป็นตัวอย่างสำคัญสำหรับการตัดสินในอนาคต ✅ การตอบสนองจาก Meta: - Meta แสดงความไม่พอใจต่อข้อกล่าวหา โดยระบุว่ากฎหมาย DMA มีเป้าหมายเพื่อทำให้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีใหญ่ดูไม่ดี และยืนยันว่าบริษัทได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแล https://wccftech.com/eu-rulings-on-apple-and-metas-potential-violations-of-the-digital-markets-act-expected-in-the-coming-weeks/
    WCCFTECH.COM
    EU Rulings On Apple And Meta's Potential Violations Of The Digital Markets Act Expected In The Coming Weeks
    EU has pushed back its decision on Meta and Apple's violation of the Digital Markets Act and announced it will come in the next few weeks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tobias Lutke CEO ของ Shopify ได้เปิดเผยแนวทางใหม่ในการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน โดยเน้นให้ AI เป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยงานแทนการเพิ่มจำนวนพนักงาน

    🌐 แนวทางการใช้ AI ใน Shopify:
    - 📈 เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: Lutke ระบุว่า AI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้ถึง 10 เท่า และเมื่อรวมกับความสามารถของพนักงาน จะสร้างผลลัพธ์ที่มากถึง 100 เท่า
    - 💡 การเรียนรู้และปรับตัว: Shopify ส่งเสริมให้พนักงานเรียนรู้และทดลองใช้ AI ในการทำงาน โดยการใช้ AI กลายเป็น “ความคาดหวังพื้นฐาน” ในการประเมินผลการทำงาน

    ⚠️ ผลกระทบต่อการจ้างงาน:
    - 🛑 ลดจำนวนพนักงาน: Shopify มีแผนที่จะ คงจำนวนพนักงานไว้เท่าเดิม หลังจากลดพนักงานไปแล้วกว่า 20% ในปี 2023 และ 10% ในปี 2022
    - 🔄 การใช้ AI แทนการจ้างงานใหม่: Lutke ระบุว่าทีมงานต้องแสดงให้เห็นว่าไม่สามารถทำงานได้ด้วย AI ก่อนที่จะขอเพิ่มทรัพยากรหรือจำนวนพนักงาน

    https://www.techradar.com/pro/dont-ask-for-more-staff-if-ai-can-already-do-the-job-shopify-ceo-says
    Tobias Lutke CEO ของ Shopify ได้เปิดเผยแนวทางใหม่ในการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน โดยเน้นให้ AI เป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยงานแทนการเพิ่มจำนวนพนักงาน 🌐 แนวทางการใช้ AI ใน Shopify: - 📈 เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: Lutke ระบุว่า AI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้ถึง 10 เท่า และเมื่อรวมกับความสามารถของพนักงาน จะสร้างผลลัพธ์ที่มากถึง 100 เท่า - 💡 การเรียนรู้และปรับตัว: Shopify ส่งเสริมให้พนักงานเรียนรู้และทดลองใช้ AI ในการทำงาน โดยการใช้ AI กลายเป็น “ความคาดหวังพื้นฐาน” ในการประเมินผลการทำงาน ⚠️ ผลกระทบต่อการจ้างงาน: - 🛑 ลดจำนวนพนักงาน: Shopify มีแผนที่จะ คงจำนวนพนักงานไว้เท่าเดิม หลังจากลดพนักงานไปแล้วกว่า 20% ในปี 2023 และ 10% ในปี 2022 - 🔄 การใช้ AI แทนการจ้างงานใหม่: Lutke ระบุว่าทีมงานต้องแสดงให้เห็นว่าไม่สามารถทำงานได้ด้วย AI ก่อนที่จะขอเพิ่มทรัพยากรหรือจำนวนพนักงาน https://www.techradar.com/pro/dont-ask-for-more-staff-if-ai-can-already-do-the-job-shopify-ceo-says
    WWW.TECHRADAR.COM
    Don't ask for more staff if AI can already do the job, Shopify CEO says
    Shopify wants to amplify its workers with AI - but at what cost?
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้แสดงท่าทีที่ระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับการลงทุนใน ศูนย์ข้อมูล AI โดยมีรายงานว่าบริษัทได้ยุติหรือเลื่อนโครงการศูนย์ข้อมูลในหลายภูมิภาค เช่น สหราชอาณาจักร อินโดนีเซีย และสหรัฐฯ แม้จะยังคงยืนยันงบประมาณ 80,000 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณนี้ แต่ก็มีแผนที่จะเปลี่ยนโฟกัสจากการก่อสร้างใหม่ไปสู่การอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แทน

    ✅ ความต้องการ AI ที่คาดไม่ถึง:
    - เทคโนโลยี AI บางประเภท เช่น DeepSeek แสดงให้เห็นว่าความสามารถในการประมวลผลสามารถทำได้โดยใช้งบประมาณที่น้อยกว่าที่เคยคาดไว้ ทำให้นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความคุ้มค่าของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่

    ✅ ปัญหาการใช้ทรัพยากรต่ำ:
    - ในประเทศจีน ซึ่งมีการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่กว่า 500 แห่ง พบว่าประมาณ 80% ของทรัพยากรเหล่านี้ยังไม่ได้ถูกใช้งานอย่างเต็มที่ ทำให้เห็นภาพรวมของปัญหาอุปทานที่เกินความต้องการในวงการ

    ✅ การเลื่อนหรือยกเลิกแผน:
    - Microsoft ได้ถอนตัวจากโครงการศูนย์ข้อมูลในบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักรและอินโดนีเซีย รวมถึงเลื่อนการขยายโครงการในสหรัฐฯ เช่น วิสคอนซิน แม้จะลงทุนไปแล้วกว่า 262 ล้านดอลลาร์

    ✅ ผลกระทบและมุมมองใหม่ของอุตสาหกรรม:
    - สมดุลใหม่ในตลาด: ความระมัดระวังนี้อาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลังพิจารณาแผนการลงทุนที่ตอบโจทย์ความต้องการในอนาคตมากกว่าความคาดหวังที่สูงเกินจริงในปัจจุบัน
    - การเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์: Microsoft ตั้งใจที่จะใช้ทรัพยากรเพื่อปรับปรุงระบบที่มีอยู่ มากกว่าที่จะสร้างใหม่ทั้งหมด ซึ่งอาจนำไปสู่ความยั่งยืนที่มากขึ้นในระยะยาว

    https://www.techradar.com/pro/does-microsoft-know-something-we-dont-tech-giant-cools-down-on-ai-data-center-investment-as-third-report-emerges-on-pullbacks
    Microsoft ได้แสดงท่าทีที่ระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับการลงทุนใน ศูนย์ข้อมูล AI โดยมีรายงานว่าบริษัทได้ยุติหรือเลื่อนโครงการศูนย์ข้อมูลในหลายภูมิภาค เช่น สหราชอาณาจักร อินโดนีเซีย และสหรัฐฯ แม้จะยังคงยืนยันงบประมาณ 80,000 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณนี้ แต่ก็มีแผนที่จะเปลี่ยนโฟกัสจากการก่อสร้างใหม่ไปสู่การอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แทน ✅ ความต้องการ AI ที่คาดไม่ถึง: - เทคโนโลยี AI บางประเภท เช่น DeepSeek แสดงให้เห็นว่าความสามารถในการประมวลผลสามารถทำได้โดยใช้งบประมาณที่น้อยกว่าที่เคยคาดไว้ ทำให้นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความคุ้มค่าของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ✅ ปัญหาการใช้ทรัพยากรต่ำ: - ในประเทศจีน ซึ่งมีการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่กว่า 500 แห่ง พบว่าประมาณ 80% ของทรัพยากรเหล่านี้ยังไม่ได้ถูกใช้งานอย่างเต็มที่ ทำให้เห็นภาพรวมของปัญหาอุปทานที่เกินความต้องการในวงการ ✅ การเลื่อนหรือยกเลิกแผน: - Microsoft ได้ถอนตัวจากโครงการศูนย์ข้อมูลในบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักรและอินโดนีเซีย รวมถึงเลื่อนการขยายโครงการในสหรัฐฯ เช่น วิสคอนซิน แม้จะลงทุนไปแล้วกว่า 262 ล้านดอลลาร์ ✅ ผลกระทบและมุมมองใหม่ของอุตสาหกรรม: - สมดุลใหม่ในตลาด: ความระมัดระวังนี้อาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลังพิจารณาแผนการลงทุนที่ตอบโจทย์ความต้องการในอนาคตมากกว่าความคาดหวังที่สูงเกินจริงในปัจจุบัน - การเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์: Microsoft ตั้งใจที่จะใช้ทรัพยากรเพื่อปรับปรุงระบบที่มีอยู่ มากกว่าที่จะสร้างใหม่ทั้งหมด ซึ่งอาจนำไปสู่ความยั่งยืนที่มากขึ้นในระยะยาว https://www.techradar.com/pro/does-microsoft-know-something-we-dont-tech-giant-cools-down-on-ai-data-center-investment-as-third-report-emerges-on-pullbacks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • “รักแท้คือการร่วมมือเพื่อคลี่คลายทุกข์ ไม่ใช่แค่ร่วมรับทุกข์”
    ---

    1. รักแท้ไม่ใช่แค่ ‘ร่วมทุกข์’ แต่คือ ‘ร่วมกันแก้ทุกข์’

    ความรักไม่ใช่การจมอยู่ในทุกข์ด้วยกัน

    แต่คือการ มีความสุขในการช่วยให้อีกฝ่ายพ้นทุกข์

    ใครยินดีช่วยแก้ทุกข์ให้อีกฝ่ายเสมอ คือผู้มีใจรักแท้

    ---

    2. การวัดใจ ต้องวัดทั้งสองฝ่าย

    ความรักที่แท้จริง คือการที่ ทั้งคู่พร้อมให้ ไม่ใช่แค่ฝ่ายเดียว “ติดหนี้ใจ”

    ดูว่าต่างฝ่ายต่างอยากอยู่ใกล้ เพื่อช่วยกันไม่ใช่เพื่อแบกกัน

    ---

    3. รักคือการ ‘ร่วมบุญ’ ไม่ใช่เอาเปรียบ

    หากความสัมพันธ์มีฝ่ายหนึ่งจ้องเอาแต่ได้ อีกฝ่ายให้ตลอด

    จะกลายเป็นการใช้หนี้ ไม่ใช่การร่วมทุกข์ร่วมสุข

    ---

    4. วิธีคลี่คลายทุกข์ในรัก เริ่มที่สติ

    ความทุกข์ในความสัมพันธ์ไม่ต้องหนี

    แค่ใช้สติ “ดู” ความทุกข์ด้วยความเข้าใจ

    จะเห็นว่า ทุกข์ไม่เที่ยง เปลี่ยนไปเรื่อยๆ

    ใจจะเริ่มหลุดพ้นจากการยึดถือความทุกข์

    ---

    5. อย่าคาดหวังให้ทุกข์หาย แต่ให้ตั้งใจเห็นทุกข์อย่างเป็นจริง

    ความคาดหวังว่าทุกข์จะหายไวๆ จะยิ่งเติมทุกข์

    แต่หาก “ยอมรับและดู” โดยไม่เร่งผล

    ใจจะเริ่มมีอิสรภาพจากความกระวนกระวาย

    ---

    6. จะรักให้ยืนยาว ต้อง ‘ร่วมสร้างบุญใหม่’ ต่อเนื่อง

    ถึงบาปเก่าจะหนักเพียงใด

    ถ้าเติมบุญใหม่ใส่กันทุกวัน ความทุกข์จะเบาบาง

    และความรักจะเติบโตได้จริง

    รักแท้ไม่ได้หมายถึง มีแต่ความสุขตลอด

    แต่คือ “ผ่านทุกข์ไปด้วยกันอย่างไม่ทอดทิ้ง”

    ---

    Essence สั้นๆ

    > รักแท้ = สุขที่ได้ช่วยกันทุกข์ ไม่ใช่ทุกข์ที่ต้องแบกกันไว้
    ถ้าร่วมทุกข์ แล้วไม่ช่วยกันแก้ทุกข์ = ไม่ใช่รัก แต่เป็นภาระ
    ถ้าร่วมทุกข์ แล้วมีใจแปรเปลี่ยนอกุศลเป็นกุศลร่วมกัน = นั่นแหละรักแท้!
    “รักแท้คือการร่วมมือเพื่อคลี่คลายทุกข์ ไม่ใช่แค่ร่วมรับทุกข์” --- 1. รักแท้ไม่ใช่แค่ ‘ร่วมทุกข์’ แต่คือ ‘ร่วมกันแก้ทุกข์’ ความรักไม่ใช่การจมอยู่ในทุกข์ด้วยกัน แต่คือการ มีความสุขในการช่วยให้อีกฝ่ายพ้นทุกข์ ใครยินดีช่วยแก้ทุกข์ให้อีกฝ่ายเสมอ คือผู้มีใจรักแท้ --- 2. การวัดใจ ต้องวัดทั้งสองฝ่าย ความรักที่แท้จริง คือการที่ ทั้งคู่พร้อมให้ ไม่ใช่แค่ฝ่ายเดียว “ติดหนี้ใจ” ดูว่าต่างฝ่ายต่างอยากอยู่ใกล้ เพื่อช่วยกันไม่ใช่เพื่อแบกกัน --- 3. รักคือการ ‘ร่วมบุญ’ ไม่ใช่เอาเปรียบ หากความสัมพันธ์มีฝ่ายหนึ่งจ้องเอาแต่ได้ อีกฝ่ายให้ตลอด จะกลายเป็นการใช้หนี้ ไม่ใช่การร่วมทุกข์ร่วมสุข --- 4. วิธีคลี่คลายทุกข์ในรัก เริ่มที่สติ ความทุกข์ในความสัมพันธ์ไม่ต้องหนี แค่ใช้สติ “ดู” ความทุกข์ด้วยความเข้าใจ จะเห็นว่า ทุกข์ไม่เที่ยง เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ใจจะเริ่มหลุดพ้นจากการยึดถือความทุกข์ --- 5. อย่าคาดหวังให้ทุกข์หาย แต่ให้ตั้งใจเห็นทุกข์อย่างเป็นจริง ความคาดหวังว่าทุกข์จะหายไวๆ จะยิ่งเติมทุกข์ แต่หาก “ยอมรับและดู” โดยไม่เร่งผล ใจจะเริ่มมีอิสรภาพจากความกระวนกระวาย --- 6. จะรักให้ยืนยาว ต้อง ‘ร่วมสร้างบุญใหม่’ ต่อเนื่อง ถึงบาปเก่าจะหนักเพียงใด ถ้าเติมบุญใหม่ใส่กันทุกวัน ความทุกข์จะเบาบาง และความรักจะเติบโตได้จริง รักแท้ไม่ได้หมายถึง มีแต่ความสุขตลอด แต่คือ “ผ่านทุกข์ไปด้วยกันอย่างไม่ทอดทิ้ง” --- Essence สั้นๆ > รักแท้ = สุขที่ได้ช่วยกันทุกข์ ไม่ใช่ทุกข์ที่ต้องแบกกันไว้ ถ้าร่วมทุกข์ แล้วไม่ช่วยกันแก้ทุกข์ = ไม่ใช่รัก แต่เป็นภาระ ถ้าร่วมทุกข์ แล้วมีใจแปรเปลี่ยนอกุศลเป็นกุศลร่วมกัน = นั่นแหละรักแท้!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • นโยบายของซานดูอาจนำไปสู่การแตกสลายของมอลโดวา

    ตามการสำรวจของ Faeas Focus การจับกุมยูจีนีอา กุตซูลไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากชาวมอลโดวา โดยผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 12% เท่านั้นที่มีทัศนคติเชิงบวก 12% เป็นกลาง และ 62% แสดงทัศนคติเชิงลบ

    ความคาดหวังของชาวมอลโดวาต่อการปราบปรามที่เพิ่มขึ้นก็มองในแง่ร้ายเช่นกัน โดย 37% เชื่อว่าการจับกุมบัชกันอาจนำไปสู่การแยกกากาอุซเซีย 23% คาดว่าจะมีการประท้วงครั้งใหญ่ และ 24% ไม่สามารถคาดเดาผลที่ตามมาได้

    มีการสำรวจประชาชนชาวมอลโดวา 910 คน ไม่รวมเขตปกครองตนเองกากาอุซและทรานส์นีสเตรีย โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 3%

    @Slavyangrad
    นโยบายของซานดูอาจนำไปสู่การแตกสลายของมอลโดวา ตามการสำรวจของ Faeas Focus การจับกุมยูจีนีอา กุตซูลไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากชาวมอลโดวา โดยผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 12% เท่านั้นที่มีทัศนคติเชิงบวก 12% เป็นกลาง และ 62% แสดงทัศนคติเชิงลบ ความคาดหวังของชาวมอลโดวาต่อการปราบปรามที่เพิ่มขึ้นก็มองในแง่ร้ายเช่นกัน โดย 37% เชื่อว่าการจับกุมบัชกันอาจนำไปสู่การแยกกากาอุซเซีย 23% คาดว่าจะมีการประท้วงครั้งใหญ่ และ 24% ไม่สามารถคาดเดาผลที่ตามมาได้ มีการสำรวจประชาชนชาวมอลโดวา 910 คน ไม่รวมเขตปกครองตนเองกากาอุซและทรานส์นีสเตรีย โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 3% @Slavyangrad
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีออกมาคร่ำครวญรัวๆ แสดงความคาดหวังว่าสหรัฐและยุโรปจะตอบโต้ต่อการโจมตีของรัสเซีย โดยโพสต์วิดีโอที่แสดงความสูญเสียของยูเครนเพื่อเรียกคะแนนความสงสาร

    เขากล่าวว่าตลอดเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ภูมิภาคส่วนใหญ่ของยูเครนถูกโจมตีจากระเบิดนำวิถีทางอากาศของรัสเซียกว่า 1,300 ลูก โดรนโจมตีมากกว่า 1,000 ลำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโดรน "Shahed" และขีปนาวุธประเภทต่างๆอีก 9 ลูก
    เซเลนสกีออกมาคร่ำครวญรัวๆ แสดงความคาดหวังว่าสหรัฐและยุโรปจะตอบโต้ต่อการโจมตีของรัสเซีย โดยโพสต์วิดีโอที่แสดงความสูญเสียของยูเครนเพื่อเรียกคะแนนความสงสาร เขากล่าวว่าตลอดเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ภูมิภาคส่วนใหญ่ของยูเครนถูกโจมตีจากระเบิดนำวิถีทางอากาศของรัสเซียกว่า 1,300 ลูก โดรนโจมตีมากกว่า 1,000 ลำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโดรน "Shahed" และขีปนาวุธประเภทต่างๆอีก 9 ลูก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • ข่าวนี้รายงานถึงความไม่พอใจของ Linus Torvalds ผู้สร้างและหัวหน้าทีมพัฒนา Linux ต่อปัญหา 'hdrtest' files ใน Linux kernel 6.15-rc1 ซึ่งเป็นโค้ดที่ทำให้การสร้างโปรแกรมช้าลง และทิ้งไฟล์ที่ไม่จำเป็นในไดเรกทอรีรวมถึงแทรกแซงการทำงานอย่างอื่น ผู้เขียนจึงตัดสินใจแก้ไขโดยการตั้งค่าให้โค้ดนี้ถูกระบุว่าใช้งานไม่ได้ (broken) ชั่วคราว เพื่อป้องกันผลกระทบต่อการพัฒนาตัวระบบ

    รายละเอียดของ 'hdrtest':
    - โค้ดนี้เกี่ยวข้องกับการทดสอบไฟล์ header ของระบบ Direct Rendering Manager (DRM) ใน Linux kernel ซึ่งใช้กับไดรเวอร์ Intel Xe kernel graphics แต่กลายเป็นปัญหาสำหรับการ build ระบบ.

    ผลกระทบต่อการพัฒนา:
    - นอกจากทำให้กระบวนการสร้างโปรแกรมช้าลง ยังทำให้การทำงานของระบบโดยรวมได้รับผลกระทบ เช่น การแทรกแซงการทำ auto-complete ไฟล์ ซึ่งผู้พัฒนาไม่สามารถยอมรับได้.

    ความคาดหวังในอนาคต:
    - Torvalds เสนอว่าโค้ดทดสอบเหล่านี้ควรทำงานเฉพาะผู้พัฒนาที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ไม่ควรถูกรวมไว้ใน build หลักเพื่อให้เกิดปัญหาต่อทีมพัฒนาโดยรวม.

    https://www.tomshardware.com/software/linux/linus-torvalds-rages-against-random-turd-files-in-linux-6-15-rc1-directories
    ข่าวนี้รายงานถึงความไม่พอใจของ Linus Torvalds ผู้สร้างและหัวหน้าทีมพัฒนา Linux ต่อปัญหา 'hdrtest' files ใน Linux kernel 6.15-rc1 ซึ่งเป็นโค้ดที่ทำให้การสร้างโปรแกรมช้าลง และทิ้งไฟล์ที่ไม่จำเป็นในไดเรกทอรีรวมถึงแทรกแซงการทำงานอย่างอื่น ผู้เขียนจึงตัดสินใจแก้ไขโดยการตั้งค่าให้โค้ดนี้ถูกระบุว่าใช้งานไม่ได้ (broken) ชั่วคราว เพื่อป้องกันผลกระทบต่อการพัฒนาตัวระบบ รายละเอียดของ 'hdrtest': - โค้ดนี้เกี่ยวข้องกับการทดสอบไฟล์ header ของระบบ Direct Rendering Manager (DRM) ใน Linux kernel ซึ่งใช้กับไดรเวอร์ Intel Xe kernel graphics แต่กลายเป็นปัญหาสำหรับการ build ระบบ. ผลกระทบต่อการพัฒนา: - นอกจากทำให้กระบวนการสร้างโปรแกรมช้าลง ยังทำให้การทำงานของระบบโดยรวมได้รับผลกระทบ เช่น การแทรกแซงการทำ auto-complete ไฟล์ ซึ่งผู้พัฒนาไม่สามารถยอมรับได้. ความคาดหวังในอนาคต: - Torvalds เสนอว่าโค้ดทดสอบเหล่านี้ควรทำงานเฉพาะผู้พัฒนาที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ไม่ควรถูกรวมไว้ใน build หลักเพื่อให้เกิดปัญหาต่อทีมพัฒนาโดยรวม. https://www.tomshardware.com/software/linux/linus-torvalds-rages-against-random-turd-files-in-linux-6-15-rc1-directories
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Linus Torvalds rages against ‘random turd files’ in Linux 6.15-rc1 directories
    ‘This thing needs to *die*’ he says, advising testing code be removed from normal builds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงความก้าวหน้าของบริษัท DapuStor ผู้ผลิต SSD ประสิทธิภาพสูงจากจีน ที่เปิดตัว Roealsen6 R6101 7.68TB SSD ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น "สุดยอดงานวิศวกรรม" ด้วยความเร็วในการอ่านแบบต่อเนื่องถึง 14,600 MB/s และการเขียนที่ 11,000 MB/s SSD รุ่นนี้ใช้ตัวควบคุม DP800 และเทคโนโลยี PCIe 5.0 ที่เหนือกว่า PCIe 4.0 ถึงสองเท่า

    ความโดดเด่นในการทดสอบ:
    - ผลทดสอบพบว่า SSD รุ่นนี้สามารถทำสถิติใหม่ในระดับ 4K random read IOPS ที่สูงถึง 3.62 ล้าน ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% จากรุ่นอื่น ๆ ในตลาด.

    ความสามารถในงานหลากหลาย:
    - SSD สามารถทำงานในลักษณะโหลดงานผสมได้ดีจนสามารถแข่งขันกับ SSD ระดับ 3-DWPD ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า.

    การออกแบบที่ตอบโจทย์:
    - SSD ใช้ 3D eTLC NAND Flash และโปรโตคอล NVMe 2.0 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการอ่าน-เขียน และเหมาะกับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลที่ต้องการความเร็วและความเสถียร.

    ความคาดหวังในอนาคต:
    - SSD รุ่นใหม่ที่มีความจุสูงถึง 122.88TB อยู่ในขั้นตอนการพัฒนา ซึ่งอาจสร้างการเปลี่ยนแปลงสำคัญในตลาดเซิร์ฟเวอร์.

    https://www.techradar.com/pro/an-engineering-masterpiece-reviewer-raves-about-fastest-large-capacity-ssd-ever-built-but-it-wont-be-cheap
    ข่าวนี้พูดถึงความก้าวหน้าของบริษัท DapuStor ผู้ผลิต SSD ประสิทธิภาพสูงจากจีน ที่เปิดตัว Roealsen6 R6101 7.68TB SSD ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น "สุดยอดงานวิศวกรรม" ด้วยความเร็วในการอ่านแบบต่อเนื่องถึง 14,600 MB/s และการเขียนที่ 11,000 MB/s SSD รุ่นนี้ใช้ตัวควบคุม DP800 และเทคโนโลยี PCIe 5.0 ที่เหนือกว่า PCIe 4.0 ถึงสองเท่า ความโดดเด่นในการทดสอบ: - ผลทดสอบพบว่า SSD รุ่นนี้สามารถทำสถิติใหม่ในระดับ 4K random read IOPS ที่สูงถึง 3.62 ล้าน ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% จากรุ่นอื่น ๆ ในตลาด. ความสามารถในงานหลากหลาย: - SSD สามารถทำงานในลักษณะโหลดงานผสมได้ดีจนสามารถแข่งขันกับ SSD ระดับ 3-DWPD ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า. การออกแบบที่ตอบโจทย์: - SSD ใช้ 3D eTLC NAND Flash และโปรโตคอล NVMe 2.0 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการอ่าน-เขียน และเหมาะกับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลที่ต้องการความเร็วและความเสถียร. ความคาดหวังในอนาคต: - SSD รุ่นใหม่ที่มีความจุสูงถึง 122.88TB อยู่ในขั้นตอนการพัฒนา ซึ่งอาจสร้างการเปลี่ยนแปลงสำคัญในตลาดเซิร์ฟเวอร์. https://www.techradar.com/pro/an-engineering-masterpiece-reviewer-raves-about-fastest-large-capacity-ssd-ever-built-but-it-wont-be-cheap
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 397 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD อาจเปิดตัว Ryzen 9000G APUs รุ่นใหม่ในปลายปี 2025 ด้วยการออกแบบ Zen 5 และ RDNA 3.5 ที่ปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพ พร้อมรองรับ AI และ DDR5 ความคาดหวังใหม่ทำให้ชิปนี้กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับตลาดเดสก์ท็อปที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    การพัฒนาในรุ่น Strix Point และ Krackan Point:
    - Strix Point เน้นการรวม Zen 5 cores และ Zen 5c cores ในโครงสร้างแบบ hybrid พร้อมกราฟิก iGPU Radeon 890M ที่มี Compute Unit ถึง 16 หน่วย เหมาะสำหรับเกม 1080p และการทำงาน AI.
    - Krackan Point ใช้ Zen 5 ในกลุ่มกลาง ลดขนาดลงเหลือ 8 cores และมี iGPU Radeon 860M ที่มี 8 Compute Unit.

    การสนับสนุน AI และ DDR5:
    - Ryzen 9000G ติดตั้ง XDNA 2 NPU ที่มอบประสิทธิภาพ AI สูงถึง 50 TOPS และการสนับสนุน DDR5 ที่ช่วยปรับปรุงความเร็วในการประมวลผลข้อมูลและประสิทธิภาพโดยรวม.

    อนาคตของ Zen 5 และ Zen 6:
    - Ryzen 9000G จะเป็นรุ่นสุดท้ายของ Zen 5 ก่อนที่ AMD จะเปิดตัว Zen 6 ในปี 2026 และการพัฒนาชิป AI 400 ที่ต่อยอดจาก Ryzen AI 300.

    ความเป็นไปได้ใหม่ในตลาด:
    - หากการคาดการณ์เป็นจริง Ryzen 9000G อาจกลายเป็นชิป APU แรกที่ได้รับการรับรอง Copilot+ ซึ่งจะเป็นการรวมเทคโนโลยี AI เข้ากับประสบการณ์การใช้งานเดสก์ท็อปที่มีประสิทธิภาพสูง.

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-ryzen-9000g-apus-rumored-to-launch-in-q4-for-am5-motherboards
    AMD อาจเปิดตัว Ryzen 9000G APUs รุ่นใหม่ในปลายปี 2025 ด้วยการออกแบบ Zen 5 และ RDNA 3.5 ที่ปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพ พร้อมรองรับ AI และ DDR5 ความคาดหวังใหม่ทำให้ชิปนี้กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับตลาดเดสก์ท็อปที่ต้องการประสิทธิภาพสูง การพัฒนาในรุ่น Strix Point และ Krackan Point: - Strix Point เน้นการรวม Zen 5 cores และ Zen 5c cores ในโครงสร้างแบบ hybrid พร้อมกราฟิก iGPU Radeon 890M ที่มี Compute Unit ถึง 16 หน่วย เหมาะสำหรับเกม 1080p และการทำงาน AI. - Krackan Point ใช้ Zen 5 ในกลุ่มกลาง ลดขนาดลงเหลือ 8 cores และมี iGPU Radeon 860M ที่มี 8 Compute Unit. การสนับสนุน AI และ DDR5: - Ryzen 9000G ติดตั้ง XDNA 2 NPU ที่มอบประสิทธิภาพ AI สูงถึง 50 TOPS และการสนับสนุน DDR5 ที่ช่วยปรับปรุงความเร็วในการประมวลผลข้อมูลและประสิทธิภาพโดยรวม. อนาคตของ Zen 5 และ Zen 6: - Ryzen 9000G จะเป็นรุ่นสุดท้ายของ Zen 5 ก่อนที่ AMD จะเปิดตัว Zen 6 ในปี 2026 และการพัฒนาชิป AI 400 ที่ต่อยอดจาก Ryzen AI 300. ความเป็นไปได้ใหม่ในตลาด: - หากการคาดการณ์เป็นจริง Ryzen 9000G อาจกลายเป็นชิป APU แรกที่ได้รับการรับรอง Copilot+ ซึ่งจะเป็นการรวมเทคโนโลยี AI เข้ากับประสบการณ์การใช้งานเดสก์ท็อปที่มีประสิทธิภาพสูง. https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-ryzen-9000g-apus-rumored-to-launch-in-q4-for-am5-motherboards
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD Ryzen 9000G APUs rumored to launch in Q4 for AM5 motherboards
    Ryzen 9000G can potentially be the first Microsoft Copilot+ certified APUs for desktops.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • Wolfspeed กำลังเผชิญวิกฤตหลังหุ้นตกต่ำที่สุดในรอบ 27 ปี เนื่องจากความไม่แน่นอนของเงินทุนจากกฎหมาย CHIPS Act บริษัทตั้งเป้าหมายใช้เงินทุนเพื่อผลิตชิปซิลิคอนคาร์ไบด์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติภายใต้รัฐบาลใหม่ พร้อมแต่งตั้ง CEO คนใหม่เพื่อช่วยนำพาองค์กรผ่านช่วงวิกฤต

    ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง:
    - ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอให้ยกเลิกกฎหมาย CHIPS Act และนำเงินไปใช้ชำระหนี้ของประเทศ ซึ่งทำให้โครงการของ Wolfspeed มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ได้รับเงินทุน.

    ความสำคัญของเงินทุน:
    - Wolfspeed ตั้งเป้าหมายใช้เงินทุนนี้เพื่อเร่งการผลิตชิป ซิลิคอนคาร์ไบด์ ที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน.

    การปรับตัวของบริษัท:
    - บริษัทได้แต่งตั้ง CEO คนใหม่ Robert Feurle เพื่อช่วยนำพาองค์กรผ่านช่วงวิกฤต และวางแผนใช้เครดิตภาษีมูลค่า 865 ล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมโครงสร้างเงินทุน.

    ความคาดหวังในตลาด:
    - ตลาดยังคงมองว่าหุ้นของ Wolfspeed มีแนวโน้มลดลง โดยมีการถือหุ้นในสถานะ short position สูงถึง 32.5% ซึ่งสะท้อนถึงความไม่มั่นใจในอนาคตของบริษัท.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/28/chipmaker-wolfspeed039s-shares-plunge-over-45-to-27-year-low
    Wolfspeed กำลังเผชิญวิกฤตหลังหุ้นตกต่ำที่สุดในรอบ 27 ปี เนื่องจากความไม่แน่นอนของเงินทุนจากกฎหมาย CHIPS Act บริษัทตั้งเป้าหมายใช้เงินทุนเพื่อผลิตชิปซิลิคอนคาร์ไบด์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติภายใต้รัฐบาลใหม่ พร้อมแต่งตั้ง CEO คนใหม่เพื่อช่วยนำพาองค์กรผ่านช่วงวิกฤต ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง: - ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอให้ยกเลิกกฎหมาย CHIPS Act และนำเงินไปใช้ชำระหนี้ของประเทศ ซึ่งทำให้โครงการของ Wolfspeed มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ได้รับเงินทุน. ความสำคัญของเงินทุน: - Wolfspeed ตั้งเป้าหมายใช้เงินทุนนี้เพื่อเร่งการผลิตชิป ซิลิคอนคาร์ไบด์ ที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน. การปรับตัวของบริษัท: - บริษัทได้แต่งตั้ง CEO คนใหม่ Robert Feurle เพื่อช่วยนำพาองค์กรผ่านช่วงวิกฤต และวางแผนใช้เครดิตภาษีมูลค่า 865 ล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมโครงสร้างเงินทุน. ความคาดหวังในตลาด: - ตลาดยังคงมองว่าหุ้นของ Wolfspeed มีแนวโน้มลดลง โดยมีการถือหุ้นในสถานะ short position สูงถึง 32.5% ซึ่งสะท้อนถึงความไม่มั่นใจในอนาคตของบริษัท. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/28/chipmaker-wolfspeed039s-shares-plunge-over-45-to-27-year-low
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Chipmaker Wolfspeed's shares hit 27-year low over uncertain federal funding
    (Reuters) - Wolfspeed's shares lost half their value on Friday, hitting their lowest level since 1998, as funding through a Joe Biden-era legislation that promised subsidies for chip making in the United States remains uncertain.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • Facebook ปรับโฉมแท็บ 'Friends' ใหม่ เพื่อลดความวุ่นวายของฟีดและนำโพสต์จากเพื่อนมาให้เห็นชัดเจนขึ้น แท็บนี้จะเป็นจุดศูนย์รวมที่ช่วยให้เราติดตามกิจกรรมของเพื่อนได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโพสต์ รูปภาพ หรือวันเกิด ฟีเจอร์นี้เริ่มใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา ซึ่งสะท้อนความพยายามของ Meta ในการฟื้นฟูความทรงจำดี ๆ จากยุค Facebook ดั้งเดิม

    การเปลี่ยนแปลงของแท็บ Friends:
    - เดิมทีแท็บนี้ใช้เพื่อดูคำขอและคำแนะนำเพื่อน (People You May Know) แต่ถูกปรับปรุงให้แสดงโพสต์จากเพื่อนทั้งหมด รวมถึงกิจกรรม เช่น วันเกิด และวิดีโอสั้น ๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานติดตามความเคลื่อนไหวของเพื่อนได้สะดวกขึ้น.

    การเปิดตัวและใช้งาน:
    - ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดให้ใช้งานแล้วในสหรัฐฯ และแคนาดา โดยผู้ใช้สามารถปักหมุดแท็บนี้ไว้ในแถบ Navigation ได้ง่าย ๆ ผ่านการตั้งค่าในแอป.

    กระแสตอบรับและความคาดหวัง:
    - การปรับปรุงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Meta ในการนำประสบการณ์แบบ "OG" หรือรูปแบบการใช้งานยุคเริ่มต้นของ Facebook กลับมา ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์เก่า ๆ อย่างการ Poke ที่เคยถูกนำกลับมาในปี 2024.

    อนาคตของฟีเจอร์ OG:
    - ยังไม่มีการเปิดเผยว่า Meta จะนำฟีเจอร์ใดในอดีตกลับมาเพิ่มเติม แต่คาดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มมากขึ้น.

    https://www.techspot.com/news/107327-facebook-introduces-friends-only-tab-recapture-original-magic.html
    Facebook ปรับโฉมแท็บ 'Friends' ใหม่ เพื่อลดความวุ่นวายของฟีดและนำโพสต์จากเพื่อนมาให้เห็นชัดเจนขึ้น แท็บนี้จะเป็นจุดศูนย์รวมที่ช่วยให้เราติดตามกิจกรรมของเพื่อนได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโพสต์ รูปภาพ หรือวันเกิด ฟีเจอร์นี้เริ่มใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา ซึ่งสะท้อนความพยายามของ Meta ในการฟื้นฟูความทรงจำดี ๆ จากยุค Facebook ดั้งเดิม การเปลี่ยนแปลงของแท็บ Friends: - เดิมทีแท็บนี้ใช้เพื่อดูคำขอและคำแนะนำเพื่อน (People You May Know) แต่ถูกปรับปรุงให้แสดงโพสต์จากเพื่อนทั้งหมด รวมถึงกิจกรรม เช่น วันเกิด และวิดีโอสั้น ๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานติดตามความเคลื่อนไหวของเพื่อนได้สะดวกขึ้น. การเปิดตัวและใช้งาน: - ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดให้ใช้งานแล้วในสหรัฐฯ และแคนาดา โดยผู้ใช้สามารถปักหมุดแท็บนี้ไว้ในแถบ Navigation ได้ง่าย ๆ ผ่านการตั้งค่าในแอป. กระแสตอบรับและความคาดหวัง: - การปรับปรุงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Meta ในการนำประสบการณ์แบบ "OG" หรือรูปแบบการใช้งานยุคเริ่มต้นของ Facebook กลับมา ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์เก่า ๆ อย่างการ Poke ที่เคยถูกนำกลับมาในปี 2024. อนาคตของฟีเจอร์ OG: - ยังไม่มีการเปิดเผยว่า Meta จะนำฟีเจอร์ใดในอดีตกลับมาเพิ่มเติม แต่คาดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มมากขึ้น. https://www.techspot.com/news/107327-facebook-introduces-friends-only-tab-recapture-original-magic.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Facebook introduces Friends-only tab to recapture its original appeal
    Facebook today isn't the platform it once was. Many people complain that they rarely spot posts from actual friends on their feeds, lost in an algorithmic sea...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจาก JPMorgan Chase และพันธมิตรได้พัฒนาโปรโตคอลใหม่ที่สามารถสร้างตัวเลขแบบสุ่มจริง (Truly Random Numbers) โดยใช้คอมพิวเตอร์ควอนตัมรุ่นปัจจุบัน ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เครื่องจักรควอนตัมไม่เพียงเป็นแนวคิดทางทฤษฎี แต่มีการนำมาใช้ในงานที่เป็นประโยชน์จริง โดยโปรโตคอลนี้ช่วยให้สามารถสร้างตัวเลขสุ่มที่ได้รับการรับรอง (Certified Randomness) ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในด้านการเงิน การเข้ารหัส และความปลอดภัยสูงสุด

    ข้อดีของตัวเลขสุ่มที่ได้รับการรับรอง:
    - ตัวเลขสุ่มนี้มีคุณสมบัติสามประการ ได้แก่ การมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้, มีการรับรองทางคณิตศาสตร์อย่างเข้มงวด, และไม่สามารถถูกปรับเปลี่ยนโดยผู้ไม่หวังดี ซึ่งโปรโตคอลนี้แก้ปัญหาที่คอมพิวเตอร์ทั่วไปไม่สามารถทำได้.

    การประยุกต์ใช้ในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง:
    - การสร้างตัวเลขสุ่มนี้สามารถนำไปใช้ในกระบวนการสร้างกุญแจเข้ารหัส (Encryption Key) ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ซึ่งช่วยป้องกันการโจมตีด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต.

    การทดสอบและเทคโนโลยีที่ใช้:
    - โปรโตคอลนี้ถูกทดสอบบนคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบ 56-qubit ของ Quantinuum ที่ใช้ Random Circuit Sampling (RCS) เพื่อลดเวลาประมวลผลจาก 100 วินาที (ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป) เหลือเพียง 2 วินาที และผลลัพธ์ได้รับการตรวจสอบโดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อรับรองความสุ่ม.

    ความคาดหวังในอนาคต:
    - แม้จะยังไม่สามารถใช้งานได้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน แต่โปรโตคอลนี้แสดงถึงศักยภาพของคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต ที่อาจเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการป้องกันและจัดการข้อมูลระดับสูง.

    https://www.csoonline.com/article/3855710/researchers-claim-their-protocol-can-create-truly-random-numbers-on-a-current-quantum-computer.html
    นักวิจัยจาก JPMorgan Chase และพันธมิตรได้พัฒนาโปรโตคอลใหม่ที่สามารถสร้างตัวเลขแบบสุ่มจริง (Truly Random Numbers) โดยใช้คอมพิวเตอร์ควอนตัมรุ่นปัจจุบัน ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เครื่องจักรควอนตัมไม่เพียงเป็นแนวคิดทางทฤษฎี แต่มีการนำมาใช้ในงานที่เป็นประโยชน์จริง โดยโปรโตคอลนี้ช่วยให้สามารถสร้างตัวเลขสุ่มที่ได้รับการรับรอง (Certified Randomness) ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในด้านการเงิน การเข้ารหัส และความปลอดภัยสูงสุด ข้อดีของตัวเลขสุ่มที่ได้รับการรับรอง: - ตัวเลขสุ่มนี้มีคุณสมบัติสามประการ ได้แก่ การมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้, มีการรับรองทางคณิตศาสตร์อย่างเข้มงวด, และไม่สามารถถูกปรับเปลี่ยนโดยผู้ไม่หวังดี ซึ่งโปรโตคอลนี้แก้ปัญหาที่คอมพิวเตอร์ทั่วไปไม่สามารถทำได้. การประยุกต์ใช้ในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง: - การสร้างตัวเลขสุ่มนี้สามารถนำไปใช้ในกระบวนการสร้างกุญแจเข้ารหัส (Encryption Key) ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ซึ่งช่วยป้องกันการโจมตีด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต. การทดสอบและเทคโนโลยีที่ใช้: - โปรโตคอลนี้ถูกทดสอบบนคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบ 56-qubit ของ Quantinuum ที่ใช้ Random Circuit Sampling (RCS) เพื่อลดเวลาประมวลผลจาก 100 วินาที (ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป) เหลือเพียง 2 วินาที และผลลัพธ์ได้รับการตรวจสอบโดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อรับรองความสุ่ม. ความคาดหวังในอนาคต: - แม้จะยังไม่สามารถใช้งานได้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน แต่โปรโตคอลนี้แสดงถึงศักยภาพของคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต ที่อาจเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการป้องกันและจัดการข้อมูลระดับสูง. https://www.csoonline.com/article/3855710/researchers-claim-their-protocol-can-create-truly-random-numbers-on-a-current-quantum-computer.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Researchers claim their protocol can create truly random numbers on a current quantum computer
    Work could be useful in high security environments, says industry analyst.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple กำลังมุ่งมั่นพัฒนา iPhone Fold สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้รุ่นแรกของบริษัท โดยมีจุดเด่นที่บานพับซึ่งทำจากวัสดุ Metallic Glass หรือโลหะเหลว ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยเพิ่มความทนทานต่อแรงกดและการเสียรูป คุณสมบัตินี้ไม่เพียงช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับรอยพับบนหน้าจอ แต่ยังทำให้บานพับแข็งแรงกว่าโลหะไทเทเนียมถึง 2.5 เท่า นอกจากนี้ Apple ตั้งใจให้วัสดุดังกล่าวเพิ่มความเงางามและทนต่อการกัดกร่อนอีกด้วย

    ความล้ำหน้าของวัสดุ Metallic Glass:
    - วัสดุนี้ถูกออกแบบให้มีการจัดเรียงอะตอมแบบสุ่ม ซึ่งแตกต่างจากโลหะทั่วไปที่มีโครงสร้างอะตอมซ้ำซ้อน จึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและลดโอกาสเกิดรอยบุบเมื่ออุปกรณ์ตกหล่น.

    เป้าหมายของบานพับ:
    - บานพับมีบทบาทสำคัญต่อการเชื่อมต่อชิ้นส่วนของอุปกรณ์และส่งผลต่อคุณภาพการแสดงผล Apple ได้ใช้วัสดุเดียวกันนี้ในอุปกรณ์เล็ก ๆ อย่างเข็มจิ้มถาดซิมมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ใช้ในชิ้นส่วนสำคัญ.

    ความคาดหวังจากตลาด:
    - iPhone Fold คาดว่าจะมีหน้าจอภายในขนาด 7.8 นิ้ว ซึ่งรูปแบบการออกแบบจะคล้ายกับ Galaxy Z Fold มากกว่าจะเป็น Z Flip และราคาประมาณ $2,000 ทำให้เป็น iPhone ที่แพงที่สุดจนถึงปัจจุบัน.

    ความสำคัญของซอฟต์แวร์:
    - นอกจากฮาร์ดแวร์แล้ว ความสำเร็จของ iPhone Fold จะขึ้นอยู่กับวิธีการปรับแต่งซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานจอพับได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งยังต้องรอดูว่า Apple จะตอบโจทย์ตลาดอย่างไร.

    https://wccftech.com/iphone-fold-metallic-hinge-for-better-durability/
    Apple กำลังมุ่งมั่นพัฒนา iPhone Fold สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้รุ่นแรกของบริษัท โดยมีจุดเด่นที่บานพับซึ่งทำจากวัสดุ Metallic Glass หรือโลหะเหลว ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยเพิ่มความทนทานต่อแรงกดและการเสียรูป คุณสมบัตินี้ไม่เพียงช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับรอยพับบนหน้าจอ แต่ยังทำให้บานพับแข็งแรงกว่าโลหะไทเทเนียมถึง 2.5 เท่า นอกจากนี้ Apple ตั้งใจให้วัสดุดังกล่าวเพิ่มความเงางามและทนต่อการกัดกร่อนอีกด้วย ความล้ำหน้าของวัสดุ Metallic Glass: - วัสดุนี้ถูกออกแบบให้มีการจัดเรียงอะตอมแบบสุ่ม ซึ่งแตกต่างจากโลหะทั่วไปที่มีโครงสร้างอะตอมซ้ำซ้อน จึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและลดโอกาสเกิดรอยบุบเมื่ออุปกรณ์ตกหล่น. เป้าหมายของบานพับ: - บานพับมีบทบาทสำคัญต่อการเชื่อมต่อชิ้นส่วนของอุปกรณ์และส่งผลต่อคุณภาพการแสดงผล Apple ได้ใช้วัสดุเดียวกันนี้ในอุปกรณ์เล็ก ๆ อย่างเข็มจิ้มถาดซิมมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ใช้ในชิ้นส่วนสำคัญ. ความคาดหวังจากตลาด: - iPhone Fold คาดว่าจะมีหน้าจอภายในขนาด 7.8 นิ้ว ซึ่งรูปแบบการออกแบบจะคล้ายกับ Galaxy Z Fold มากกว่าจะเป็น Z Flip และราคาประมาณ $2,000 ทำให้เป็น iPhone ที่แพงที่สุดจนถึงปัจจุบัน. ความสำคัญของซอฟต์แวร์: - นอกจากฮาร์ดแวร์แล้ว ความสำเร็จของ iPhone Fold จะขึ้นอยู่กับวิธีการปรับแต่งซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานจอพับได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งยังต้องรอดูว่า Apple จะตอบโจทย์ตลาดอย่างไร. https://wccftech.com/iphone-fold-metallic-hinge-for-better-durability/
    WCCFTECH.COM
    Leak Claims "iPhone Fold" Will Feature Glossy Hinge Made From Metallic Glass, Offering Superior Resistance Against Bending And Deformation Under Extreme Pressure
    Apple's iPhone Fold to feature a metallic hinge with a glossy finish for better durability and resistance against dents and deformations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts