• Jacinda Ardern อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ได้กล่าวในงาน Zendesk Relate 2025 ว่าเราควรปรับมุมมองเกี่ยวกับ AI จากความกลัวไปสู่โอกาส โดยเธอเน้นว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีไม่ควรทำให้แรงงานรู้สึกถูกทอดทิ้ง แต่ควรมีการสนับสนุนจากรัฐบาลและองค์กรเพื่อช่วยให้พนักงานปรับตัว

    ✅ AI ไม่ได้ทำให้แรงงานหมดความสำคัญ แต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
    - Ardern เชื่อว่า AI จะช่วยให้แรงงานสามารถทำงานได้ดีขึ้น แทนที่จะเข้ามาแทนที่พวกเขา
    - เธอเน้นว่าคุณค่าของแรงงานจะยังคงอยู่ แม้ว่าบทบาทของพวกเขาจะเปลี่ยนไป

    ✅ รัฐบาลควรมีบทบาทในการสนับสนุนแรงงาน
    - นิวซีแลนด์มีโครงการ ประกันรายได้ และ การเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อช่วยให้ประชาชนปรับตัว
    - การสนับสนุนจากรัฐบาลช่วยให้ประชาชนรู้สึกมั่นใจในการเปลี่ยนแปลง

    ✅ AI ต้องการการกำกับดูแลและความโปร่งใส
    - Ardern เน้นว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีต้องมีความชัดเจนและโปร่งใส
    - บริษัทและรัฐบาลต้องร่วมมือกันเพื่อให้แน่ใจว่า AI ถูกนำไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์

    ✅ AI สามารถช่วยเพิ่มผลิตภาพของแรงงาน
    - แม้ว่า AI จะช่วยให้แรงงานทำงานได้เร็วขึ้น แต่ยังต้องการการควบคุมจากมนุษย์

    https://www.techradar.com/pro/former-new-zealand-prime-minister-jacinda-ardern-says-we-should-reframe-how-we-think-about-ai
    Jacinda Ardern อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ได้กล่าวในงาน Zendesk Relate 2025 ว่าเราควรปรับมุมมองเกี่ยวกับ AI จากความกลัวไปสู่โอกาส โดยเธอเน้นว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีไม่ควรทำให้แรงงานรู้สึกถูกทอดทิ้ง แต่ควรมีการสนับสนุนจากรัฐบาลและองค์กรเพื่อช่วยให้พนักงานปรับตัว ✅ AI ไม่ได้ทำให้แรงงานหมดความสำคัญ แต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ - Ardern เชื่อว่า AI จะช่วยให้แรงงานสามารถทำงานได้ดีขึ้น แทนที่จะเข้ามาแทนที่พวกเขา - เธอเน้นว่าคุณค่าของแรงงานจะยังคงอยู่ แม้ว่าบทบาทของพวกเขาจะเปลี่ยนไป ✅ รัฐบาลควรมีบทบาทในการสนับสนุนแรงงาน - นิวซีแลนด์มีโครงการ ประกันรายได้ และ การเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อช่วยให้ประชาชนปรับตัว - การสนับสนุนจากรัฐบาลช่วยให้ประชาชนรู้สึกมั่นใจในการเปลี่ยนแปลง ✅ AI ต้องการการกำกับดูแลและความโปร่งใส - Ardern เน้นว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีต้องมีความชัดเจนและโปร่งใส - บริษัทและรัฐบาลต้องร่วมมือกันเพื่อให้แน่ใจว่า AI ถูกนำไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ ✅ AI สามารถช่วยเพิ่มผลิตภาพของแรงงาน - แม้ว่า AI จะช่วยให้แรงงานทำงานได้เร็วขึ้น แต่ยังต้องการการควบคุมจากมนุษย์ https://www.techradar.com/pro/former-new-zealand-prime-minister-jacinda-ardern-says-we-should-reframe-how-we-think-about-ai
    WWW.TECHRADAR.COM
    Former New Zealand Prime Minister Jacinda Ardern says we should reframe how we think about AI
    How can governments, companies and workers create a more positive environment?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัว Android XR Smart Glasses ซึ่งเป็นแว่นตาอัจฉริยะที่ใช้ Gemini AI เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถจดจำวัตถุ, แปลภาษา และแสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์ โดยแว่นตานี้ถูกนำเสนอครั้งแรกในงาน TED2025 และถือเป็นก้าวสำคัญของ Google ในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีสวมใส่

    ✅ แว่นตาอัจฉริยะของ Google ใช้ Gemini AI
    - สามารถจดจำวัตถุและช่วยค้นหาสิ่งของที่ผู้ใช้ทำหาย
    - รองรับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องตั้งค่าล่วงหน้า

    ✅ แสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์
    - ผู้ใช้สามารถดูบันทึกการพูดบนเลนส์ของแว่นตาได้ทันที
    - เหมาะสำหรับการนำเสนอหรือการประชุม

    ✅ รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
    - ใช้พลังประมวลผลจากสมาร์ทโฟนเพื่อเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ
    - รองรับการใช้งานร่วมกับแอป Android ทั่วไป

    ✅ Samsung เตรียมเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะของตัวเอง
    - แว่นตา Haean ของ Samsung ถูกออกแบบให้มีความเบาและคล้ายแว่นกันแดด
    - อาจใช้ชิป Snapdragon XR2 Plus Gen 2 และรองรับการควบคุมด้วยท่าทาง

    https://www.techspot.com/news/107616-google-demos-android-xr-smart-glasses-gemini-ai.html
    Google ได้เปิดตัว Android XR Smart Glasses ซึ่งเป็นแว่นตาอัจฉริยะที่ใช้ Gemini AI เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถจดจำวัตถุ, แปลภาษา และแสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์ โดยแว่นตานี้ถูกนำเสนอครั้งแรกในงาน TED2025 และถือเป็นก้าวสำคัญของ Google ในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีสวมใส่ ✅ แว่นตาอัจฉริยะของ Google ใช้ Gemini AI - สามารถจดจำวัตถุและช่วยค้นหาสิ่งของที่ผู้ใช้ทำหาย - รองรับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องตั้งค่าล่วงหน้า ✅ แสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์ - ผู้ใช้สามารถดูบันทึกการพูดบนเลนส์ของแว่นตาได้ทันที - เหมาะสำหรับการนำเสนอหรือการประชุม ✅ รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ - ใช้พลังประมวลผลจากสมาร์ทโฟนเพื่อเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ - รองรับการใช้งานร่วมกับแอป Android ทั่วไป ✅ Samsung เตรียมเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะของตัวเอง - แว่นตา Haean ของ Samsung ถูกออกแบบให้มีความเบาและคล้ายแว่นกันแดด - อาจใช้ชิป Snapdragon XR2 Plus Gen 2 และรองรับการควบคุมด้วยท่าทาง https://www.techspot.com/news/107616-google-demos-android-xr-smart-glasses-gemini-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google demos Android XR smart glasses with Gemini AI, visual memory, and multilingual capabilities
    Until now, Google's Android XR glasses had only appeared in carefully curated teaser videos and limited hands-on previews shared with select publications. These early glimpses hinted at...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฟลชไดรฟ์ราคาถูกที่มีความจุสูงอาจไม่ใช่ข้อเสนอที่ดีอย่างที่คิด! บทความนี้เตือนถึงอันตรายของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลปลอมที่ขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยอุปกรณ์เหล่านี้มักมีความจุจริงต่ำกว่าที่โฆษณา และอาจทำให้ข้อมูลสูญหายหรือเสียหายได้

    ✅ แฟลชไดรฟ์ราคาถูกมักมีความจุจริงต่ำกว่าที่โฆษณา
    - ตัวอย่างเช่น แฟลชไดรฟ์ที่โฆษณาว่ามีความจุ 2TB แต่เมื่อทดสอบพบว่ามีเพียง 18.2GB
    - ผู้ขายมักใช้เฟิร์มแวร์ปลอมเพื่อให้ระบบรายงานความจุสูงกว่าความเป็นจริง

    ✅ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซพยายามจัดการกับสินค้าปลอม
    - Lazada และ Shopee ใช้เทคโนโลยีเพื่อตรวจจับและลบรายการสินค้าปลอม
    - อย่างไรก็ตาม ผู้ขายที่ไม่ซื่อสัตย์ยังคงหาวิธีหลีกเลี่ยงมาตรการตรวจสอบ

    ✅ อุปกรณ์ปลอมอาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์
    - แฮกเกอร์สามารถใช้แฟลชไดรฟ์ปลอมเพื่อแพร่กระจายมัลแวร์
    - มีรายงานว่า USB ปลอมสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการขโมยข้อมูลหรือเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์

    ✅ วิธีหลีกเลี่ยงการซื้อแฟลชไดรฟ์ปลอม
    - ซื้อจากร้านค้าที่ได้รับการรับรองหรือแบรนด์ที่เชื่อถือได้
    - หลีกเลี่ยงสินค้าที่มีราคาถูกเกินไปเมื่อเทียบกับราคาตลาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/danger-in-disguise-when-that-ultra-cheap-high-capacity-thumb-drive-seems-too-good-to-be-true
    แฟลชไดรฟ์ราคาถูกที่มีความจุสูงอาจไม่ใช่ข้อเสนอที่ดีอย่างที่คิด! บทความนี้เตือนถึงอันตรายของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลปลอมที่ขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยอุปกรณ์เหล่านี้มักมีความจุจริงต่ำกว่าที่โฆษณา และอาจทำให้ข้อมูลสูญหายหรือเสียหายได้ ✅ แฟลชไดรฟ์ราคาถูกมักมีความจุจริงต่ำกว่าที่โฆษณา - ตัวอย่างเช่น แฟลชไดรฟ์ที่โฆษณาว่ามีความจุ 2TB แต่เมื่อทดสอบพบว่ามีเพียง 18.2GB - ผู้ขายมักใช้เฟิร์มแวร์ปลอมเพื่อให้ระบบรายงานความจุสูงกว่าความเป็นจริง ✅ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซพยายามจัดการกับสินค้าปลอม - Lazada และ Shopee ใช้เทคโนโลยีเพื่อตรวจจับและลบรายการสินค้าปลอม - อย่างไรก็ตาม ผู้ขายที่ไม่ซื่อสัตย์ยังคงหาวิธีหลีกเลี่ยงมาตรการตรวจสอบ ✅ อุปกรณ์ปลอมอาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์ - แฮกเกอร์สามารถใช้แฟลชไดรฟ์ปลอมเพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ - มีรายงานว่า USB ปลอมสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการขโมยข้อมูลหรือเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์ ✅ วิธีหลีกเลี่ยงการซื้อแฟลชไดรฟ์ปลอม - ซื้อจากร้านค้าที่ได้รับการรับรองหรือแบรนด์ที่เชื่อถือได้ - หลีกเลี่ยงสินค้าที่มีราคาถูกเกินไปเมื่อเทียบกับราคาตลาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/danger-in-disguise-when-that-ultra-cheap-high-capacity-thumb-drive-seems-too-good-to-be-true
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Danger in disguise: When that cheap 2TB thumb drive seems too good to be true
    Beware of counterfeit USB drives being sold cheaply online as they could pose a cybersecurity risk.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึง Opera Browser Days ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นในลิสบอนเพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของ Opera และนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ AI โดย Opera ได้เปิดตัว Operator ซึ่งเป็น AI ที่สามารถทำงานภายในเบราว์เซอร์ได้โดยตรง งานนี้ยังเน้นถึงแนวคิดของ Opera ในการพัฒนาเบราว์เซอร์ให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น Opera GX สำหรับเกมเมอร์ และ Opera Mini สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดข้อมูล

    ✅ Opera ฉลองครบรอบ 30 ปีและเปิดตัว AI Operator
    - Operator เป็น AI ที่สามารถทำงานภายในเบราว์เซอร์ได้โดยตรง
    - Opera เน้นการพัฒนาเบราว์เซอร์ให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย

    ✅ Opera GX และ Opera Mini ได้รับการปรับปรุงใหม่
    - Opera GX เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการควบคุมทรัพยากรระบบ
    - Opera Mini ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดข้อมูล

    ✅ Opera One มีประสิทธิภาพในการใช้หน่วยความจำมากกว่า Firefox
    - การทดสอบพบว่า Opera One ใช้ RAM น้อยกว่า Firefox ประมาณ 570MB
    - Opera One โหลดหน้าเว็บเร็วกว่า Firefox เมื่อเปิดแท็บเดิม

    ✅ Opera มีฟีเจอร์ Sidebar Messenger และการจัดการบุ๊กมาร์กที่สะดวก
    - Sidebar Messenger ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอปแชทได้ง่ายขึ้น
    - Opera รองรับการจัดกลุ่มไอคอนบนหน้าเริ่มต้น

    https://www.neowin.net/editorials/i-attended-operas-browser-days-in-lisbon-maybe-ai-isnt-such-a-bad-thing-after-all/
    บทความนี้กล่าวถึง Opera Browser Days ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นในลิสบอนเพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของ Opera และนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ AI โดย Opera ได้เปิดตัว Operator ซึ่งเป็น AI ที่สามารถทำงานภายในเบราว์เซอร์ได้โดยตรง งานนี้ยังเน้นถึงแนวคิดของ Opera ในการพัฒนาเบราว์เซอร์ให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น Opera GX สำหรับเกมเมอร์ และ Opera Mini สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดข้อมูล ✅ Opera ฉลองครบรอบ 30 ปีและเปิดตัว AI Operator - Operator เป็น AI ที่สามารถทำงานภายในเบราว์เซอร์ได้โดยตรง - Opera เน้นการพัฒนาเบราว์เซอร์ให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย ✅ Opera GX และ Opera Mini ได้รับการปรับปรุงใหม่ - Opera GX เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการควบคุมทรัพยากรระบบ - Opera Mini ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดข้อมูล ✅ Opera One มีประสิทธิภาพในการใช้หน่วยความจำมากกว่า Firefox - การทดสอบพบว่า Opera One ใช้ RAM น้อยกว่า Firefox ประมาณ 570MB - Opera One โหลดหน้าเว็บเร็วกว่า Firefox เมื่อเปิดแท็บเดิม ✅ Opera มีฟีเจอร์ Sidebar Messenger และการจัดการบุ๊กมาร์กที่สะดวก - Sidebar Messenger ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอปแชทได้ง่ายขึ้น - Opera รองรับการจัดกลุ่มไอคอนบนหน้าเริ่มต้น https://www.neowin.net/editorials/i-attended-operas-browser-days-in-lisbon-maybe-ai-isnt-such-a-bad-thing-after-all/
    WWW.NEOWIN.NET
    I attended Opera's Browser Days in Lisbon. Maybe AI isn't such a bad thing after all!
    Opera showcased its latest innovations in the browser space, along with a live demo of its agentic AI called Operator. I also compare the new features one-to-one against my browser of choice, Firefox.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับซีพียูรุ่นใหม่ Nova Lake ซึ่งจะใช้ซ็อกเก็ต LGA1954 แทน LGA1851 โดย Nova Lake เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีกำหนดเปิดตัวในปี 2026 และมีการออกแบบที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุดด้วยโครงสร้างไฮบริดที่ประกอบด้วยคอร์ประสิทธิภาพสูง (P-cores) และคอร์ประหยัดพลังงาน (E-cores) รวมถึงคอร์ประหยัดพลังงานต่ำ (LPE cores) ใน SoC Tile รวมทั้งหมด 52 คอร์

    ✅ Nova Lake จะใช้ซ็อกเก็ต LGA1954 แทน LGA1851
    - ซ็อกเก็ต LGA1954 มีจำนวนขาเชื่อมต่อไฟฟ้า 1,954 ขา ซึ่งมากกว่า LGA1851
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและรองรับการออกแบบใหม่

    ✅ Nova Lake มีโครงสร้างไฮบริดที่ประกอบด้วย 52 คอร์
    - ประกอบด้วย P-cores, E-cores และ LPE cores เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน
    - เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่

    ✅ Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026
    - Intel ได้เริ่มส่งตัวอย่างสำหรับการทดสอบไปยังพันธมิตรทั่วโลก

    ✅ การออกแบบใหม่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการพัฒนา
    - มีการใช้ interposer เพื่อทดสอบการควบคุมแรงดันไฟฟ้าสำหรับแพลตฟอร์มใหม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-next-gen-nova-lake-cpus-will-seemingly-use-a-new-lga1954-socket
    Intel ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับซีพียูรุ่นใหม่ Nova Lake ซึ่งจะใช้ซ็อกเก็ต LGA1954 แทน LGA1851 โดย Nova Lake เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีกำหนดเปิดตัวในปี 2026 และมีการออกแบบที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุดด้วยโครงสร้างไฮบริดที่ประกอบด้วยคอร์ประสิทธิภาพสูง (P-cores) และคอร์ประหยัดพลังงาน (E-cores) รวมถึงคอร์ประหยัดพลังงานต่ำ (LPE cores) ใน SoC Tile รวมทั้งหมด 52 คอร์ ✅ Nova Lake จะใช้ซ็อกเก็ต LGA1954 แทน LGA1851 - ซ็อกเก็ต LGA1954 มีจำนวนขาเชื่อมต่อไฟฟ้า 1,954 ขา ซึ่งมากกว่า LGA1851 - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและรองรับการออกแบบใหม่ ✅ Nova Lake มีโครงสร้างไฮบริดที่ประกอบด้วย 52 คอร์ - ประกอบด้วย P-cores, E-cores และ LPE cores เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน - เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ✅ Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026 - Intel ได้เริ่มส่งตัวอย่างสำหรับการทดสอบไปยังพันธมิตรทั่วโลก ✅ การออกแบบใหม่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการพัฒนา - มีการใช้ interposer เพื่อทดสอบการควบคุมแรงดันไฟฟ้าสำหรับแพลตฟอร์มใหม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-next-gen-nova-lake-cpus-will-seemingly-use-a-new-lga1954-socket
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌿 20 เมษา “วันกัญชาโลก” เดอะวอลโดส โค้ดลับ โฟร์ทเวนตี ต่างชาติหลงใหลกัญชาไทย เสน่ห์ใหม่ หรือว่า… ปัญหางอก! จากรหัสลับ สู่สนามถกเถียงระดับโลก

    จากเรื่องเล่ากลุ่มวัยรุ่น The Waldos สู่กระแสร่วมสมัยในไทย การใช้กัญชาควรเป็นเสรีภาพเพื่อสุขภาพ หรือแค่แฟชั่นเสพติด?

    🔍 หากเคยเห็นคำว่า “420” หรือ “4/20” บนเสื้อผ้า โซเชียลมีเดีย หรือในบทสนทนาระหว่างกลุ่มวัยรุ่น และสงสัยว่า... หมายถึงอะไร? คำตอบคือ 420 คือรหัสลับของผู้ใช้กัญชาทั่วโลก ที่ถูกยกระดับให้กลายเป็น "วันกัญชาโลก" หรือ "World Cannabis Day" 🗓️

    ทุกวันที่ 20 เมษายน (20/4) ของทุกปี กลายเป็นวันเฉลิมฉลอง ของผู้สนับสนุนเสรีภาพในการใช้กัญชา ทั้งในด้านการแพทย์ การพักผ่อน และการรณรงค์ให้กฎหมายในแต่ละประเทศ เปิดใจยอมรับพืชชนิดนี้มากขึ้น 📢

    แต่... การเฉลิมฉลองนั้น ควรมีขอบเขตแค่ไหน? เสรีภาพจะพาไปสู่โอกาส หรือปัญหางอกไม่รู้จบ?

    🧠 จุดเริ่มต้นจากกลุ่ม The Waldos สู่วัฒนธรรมสมัยนิยม เรื่องราวของ “420” เริ่มต้นในปี 2514 จากกลุ่มวัยรุ่นชื่อ "The Waldos" ที่เมืองซานราฟาเอล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขานัดเจอกันทุกวันเวลา 16.20 น. หรือ 4:20 PM เพื่อออกตามหาต้นกัญชาลึกลับ ในค่ายทหาร "abandoned" โดยใช้เวลา 4:20 เป็นรหัสลับระหว่างกัน 🕓

    แม้จะไม่เจอต้นกัญชานั้นจริงๆ แต่คำว่า “420” กลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ใช้กัญชา โดยถูกผลักดันจากวงดนตรี "Grateful Dead" และต่อมากลายเป็นวัฒนธรรมย่อย ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก 🌍

    📅 วันที่ 20 เมษายน หรือ “4/20” ตามรูปแบบการเขียนเดือนและวัน ของสหรัฐฯ ถูกยกระดับให้เป็น วันแห่งการเฉลิมฉลองกัญชา โดยผู้ใช้กัญชาทั่วโลก จะออกมารวมตัวจัดกิจกรรม สังสรรค์ หรือแม้แต่ประท้วง เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายที่เป็นธรรม เกี่ยวกับการใช้กัญชา ✊

    🌿 ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ แม้กัญชาจะเคยถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ แต่ด้วยการวิจัยทางการแพทย์ล่าสุด กัญชาถูกมองใหม่ในฐานะ “สมุนไพรทางเลือก” ที่มี CBD และ THC เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญ ซึ่งช่วยรักษาอาการ ได้หลายประเภท 🧪

    ✅ ประโยชน์ที่ได้รับการยอมรับ ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด 🤢 บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดประสาท ปวดข้อ 🤕 ช่วยให้ผู้ป่วยหลับสบายขึ้น 💤 ลดอาการวิตกกังวล เฉพาะบางกรณี 😟➡️🙂

    📌 ทั้งนี้.... การใช้ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น

    ❌ ความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจ กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ เพราะมันมีผลข้างเคียงหากใช้อย่างไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการเสพติด หากใช้ต่อเนื่องในปริมาณมาก 🔄 ส่งผลต่อสมอง โดยเฉพาะในวัยรุ่น 🧠 อาจก่อให้เกิดความจำสั้น สมาธิสั้น และอารมณ์แปรปรวน 😵 มีความเสี่ยงต่อภาวะจิตประสาท ในบางราย 🧨

    🇹🇭 "กัญชาไทย" จากปลดล็อกสู่การควบคุม ปี 2565 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลประกาศ “ปลดล็อกกัญชา” ออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อเปิดโอกาสให้ใช้เพื่อการแพทย์ และเศรษฐกิจภายในครัวเรือน 👩‍⚕️🏠

    แต่เมื่อขาดกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน ปัญหาจึงตามมา เยาวชนเข้าถึงได้ง่ายเกินไป 👦👧 โฆษณาเกินจริงบนโลกออนไลน์ 💻 และการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่ตระหนักถึงผลเสีย 🚬

    📈 ธุรกิจกัญชาไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว มีมูลค่าตลาดคาดการณ์สูงถึง 20,000 ล้านบาท หากสามารถจัดการได้ดี 💸

    🧩 เสรีภาพ กับความปลอดภัย สมดุลที่ต้องคิดให้รอบด้าน คำถามใหญ่ที่สังคมไทยกำลังเผชิญในปี 2568 คือ...

    “กัญชาเป็นเสรีภาพใหม่ หรือปัญหางอก?”

    แม้หลายฝ่ายจะชูธงเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่กลุ่มทางการแพทย์และผู้ปกครอง กลับกังวลถึงผลกระทบระยะยาวต่อเด็ก และเยาวชน โดยเฉพาะเมื่อไม่มีพระราชบัญญัติ ควบคุมที่ชัดเจน 😰

    🔒 ล่าสุด รัฐบาลมีแนวโน้มจะออก "พระราชบัญญัติกัญชา" เพื่อควบคุมให้ใช้เพื่อสุขภาพ และการแพทย์เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อความบันเทิง

    👶 เยาวชนคือกลุ่มเสี่ยงที่สุด ผลกระทบต่อสมองและพฤติกรรม การพัฒนาสมองถูกรบกวนโดยสาร THC 🧠 เพิ่มความเสี่ยงโรคซึมเศร้า โรคจิตเภท และอาการหลอน 😨 พฤติกรรมเสี่ยงมากขึ้น เช่น การลองยาเสพติดอื่น 🔗

    แนวทางป้องกันคือ ให้ความรู้ในโรงเรียน 🏫 ควบคุมการโฆษณา และจำหน่ายอย่างเคร่งครัด 🔞 จำกัดอายุขั้นต่ำ ในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา 🚫

    ✈️ ต่างชาติหลงใหล “กัญชาไทย” หรือแค่... โบนัสท่องเที่ยว? หลังปลดล็อกกัญชาในปี 2565 ไทยกลายเป็น “จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายเขียว” 🌍💚

    โดยเฉพาะจากประเทศที่มีกฎหมายยาเสพติดเข้มงวด เช่น 🇯🇵 ญี่ปุ่น 🇰🇷 เกาหลีใต้ นักท่องเที่ยวบางคนมองว่า กัญชาไทยเป็นเสน่ห์ใหม่ ของการท่องเที่ยว แต่บางส่วนกลับกังวลว่า อาจบ่อนทำลายภาพลักษณ์ไทย ในสายตาชาวโลก

    📢 กฎหมายของไทย อาจไม่ตรงกับกฎหมายในประเทศต้นทาง นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา!

    💼 เศรษฐกิจกัญชา โอกาสทองหรือความเสี่ยงซ่อนเร้น? ประเทศที่ปลดล็อกกัญชาแล้วประสบความสำเร็จ เช่น 🇨🇦 แคนาดา 🇺🇾 อุรุกวัย 🇲🇹 มอลตา ล้วนมีระบบควบคุมกัญชาเข้มงวด ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจ

    📉 หากไม่มีการควบคุมที่ดี เศรษฐกิจกัญชาจะกลายเป็นดาบสองคม ทำให้ปัญหาสังคมลุกลาม และลดความน่าเชื่อถือของประเทศได้

    🧑‍⚕️ แพทย์เตือน กัญชาเป็น “เครื่องมือ” ไม่ใช่ “ของเล่น” วงการแพทย์ย้ำว่า...

    “กัญชาใช้รักษาโรคได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม และไม่ควรใช้แบบสันทนาการทั่วไป”

    กลุ่มโรคที่อาจได้ประโยชน์จากกัญชาคือ ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่ปวดเรื้อรัง ผู้ที่นอนไม่หลับ และผู้ป่วยจิตเวชบางกลุ่ม

    อย่างไรก็ตาม การใช้ต้องอาศัยการวินิจฉัยจากแพทย์ และข้อมูลวิจัยเพิ่มเติม 🔍

    📚 ควรฉลองหรือทบทวน? วันกัญชาโลก (420) คือโอกาสให้เราหยุดคิด ทบทวน และสร้างบทสนทนาที่มีคุณภาพ ในสังคมไทย ไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง 🎉

    สิ่งที่สังคมควรย้ำคือ

    ✅ สนับสนุนการใช้กัญชา เพื่อการแพทย์และสุขภาพ

    ❌ ต่อต้านการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่มีการควบคุม

    ⚖️ สร้างสมดุลระหว่างสิทธิเสรีภาพ และความปลอดภัยของสาธารณชน

    "กัญชาอาจเป็นพืชมหัศจรรย์... ถ้าเราใช้ด้วยความรู้ ไม่ใช่แค่ตามกระแส" 🌱

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200924 เม.ย. 2568

    📌 #วันกัญชาโลก #420ไทย #โฟร์ทเวนตี้ #กัญชาเพื่อการแพทย์
    #กัญชาไทย #เสรีภาพไม่ใช่สันทนาการ #TheWaldos #กัญชากับเยาวชน
    #สังคมกับกัญชา #กัญชาอย่างปลอดภัย
    🌿 20 เมษา “วันกัญชาโลก” เดอะวอลโดส โค้ดลับ โฟร์ทเวนตี ต่างชาติหลงใหลกัญชาไทย เสน่ห์ใหม่ หรือว่า… ปัญหางอก! จากรหัสลับ สู่สนามถกเถียงระดับโลก จากเรื่องเล่ากลุ่มวัยรุ่น The Waldos สู่กระแสร่วมสมัยในไทย การใช้กัญชาควรเป็นเสรีภาพเพื่อสุขภาพ หรือแค่แฟชั่นเสพติด? 🔍 หากเคยเห็นคำว่า “420” หรือ “4/20” บนเสื้อผ้า โซเชียลมีเดีย หรือในบทสนทนาระหว่างกลุ่มวัยรุ่น และสงสัยว่า... หมายถึงอะไร? คำตอบคือ 420 คือรหัสลับของผู้ใช้กัญชาทั่วโลก ที่ถูกยกระดับให้กลายเป็น "วันกัญชาโลก" หรือ "World Cannabis Day" 🗓️ ทุกวันที่ 20 เมษายน (20/4) ของทุกปี กลายเป็นวันเฉลิมฉลอง ของผู้สนับสนุนเสรีภาพในการใช้กัญชา ทั้งในด้านการแพทย์ การพักผ่อน และการรณรงค์ให้กฎหมายในแต่ละประเทศ เปิดใจยอมรับพืชชนิดนี้มากขึ้น 📢 แต่... การเฉลิมฉลองนั้น ควรมีขอบเขตแค่ไหน? เสรีภาพจะพาไปสู่โอกาส หรือปัญหางอกไม่รู้จบ? 🧠 จุดเริ่มต้นจากกลุ่ม The Waldos สู่วัฒนธรรมสมัยนิยม เรื่องราวของ “420” เริ่มต้นในปี 2514 จากกลุ่มวัยรุ่นชื่อ "The Waldos" ที่เมืองซานราฟาเอล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขานัดเจอกันทุกวันเวลา 16.20 น. หรือ 4:20 PM เพื่อออกตามหาต้นกัญชาลึกลับ ในค่ายทหาร "abandoned" โดยใช้เวลา 4:20 เป็นรหัสลับระหว่างกัน 🕓 แม้จะไม่เจอต้นกัญชานั้นจริงๆ แต่คำว่า “420” กลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ใช้กัญชา โดยถูกผลักดันจากวงดนตรี "Grateful Dead" และต่อมากลายเป็นวัฒนธรรมย่อย ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก 🌍 📅 วันที่ 20 เมษายน หรือ “4/20” ตามรูปแบบการเขียนเดือนและวัน ของสหรัฐฯ ถูกยกระดับให้เป็น วันแห่งการเฉลิมฉลองกัญชา โดยผู้ใช้กัญชาทั่วโลก จะออกมารวมตัวจัดกิจกรรม สังสรรค์ หรือแม้แต่ประท้วง เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายที่เป็นธรรม เกี่ยวกับการใช้กัญชา ✊ 🌿 ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ แม้กัญชาจะเคยถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ แต่ด้วยการวิจัยทางการแพทย์ล่าสุด กัญชาถูกมองใหม่ในฐานะ “สมุนไพรทางเลือก” ที่มี CBD และ THC เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญ ซึ่งช่วยรักษาอาการ ได้หลายประเภท 🧪 ✅ ประโยชน์ที่ได้รับการยอมรับ ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด 🤢 บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดประสาท ปวดข้อ 🤕 ช่วยให้ผู้ป่วยหลับสบายขึ้น 💤 ลดอาการวิตกกังวล เฉพาะบางกรณี 😟➡️🙂 📌 ทั้งนี้.... การใช้ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น ❌ ความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจ กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ เพราะมันมีผลข้างเคียงหากใช้อย่างไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการเสพติด หากใช้ต่อเนื่องในปริมาณมาก 🔄 ส่งผลต่อสมอง โดยเฉพาะในวัยรุ่น 🧠 อาจก่อให้เกิดความจำสั้น สมาธิสั้น และอารมณ์แปรปรวน 😵 มีความเสี่ยงต่อภาวะจิตประสาท ในบางราย 🧨 🇹🇭 "กัญชาไทย" จากปลดล็อกสู่การควบคุม ปี 2565 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลประกาศ “ปลดล็อกกัญชา” ออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อเปิดโอกาสให้ใช้เพื่อการแพทย์ และเศรษฐกิจภายในครัวเรือน 👩‍⚕️🏠 แต่เมื่อขาดกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน ปัญหาจึงตามมา เยาวชนเข้าถึงได้ง่ายเกินไป 👦👧 โฆษณาเกินจริงบนโลกออนไลน์ 💻 และการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่ตระหนักถึงผลเสีย 🚬 📈 ธุรกิจกัญชาไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว มีมูลค่าตลาดคาดการณ์สูงถึง 20,000 ล้านบาท หากสามารถจัดการได้ดี 💸 🧩 เสรีภาพ กับความปลอดภัย สมดุลที่ต้องคิดให้รอบด้าน คำถามใหญ่ที่สังคมไทยกำลังเผชิญในปี 2568 คือ... “กัญชาเป็นเสรีภาพใหม่ หรือปัญหางอก?” แม้หลายฝ่ายจะชูธงเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่กลุ่มทางการแพทย์และผู้ปกครอง กลับกังวลถึงผลกระทบระยะยาวต่อเด็ก และเยาวชน โดยเฉพาะเมื่อไม่มีพระราชบัญญัติ ควบคุมที่ชัดเจน 😰 🔒 ล่าสุด รัฐบาลมีแนวโน้มจะออก "พระราชบัญญัติกัญชา" เพื่อควบคุมให้ใช้เพื่อสุขภาพ และการแพทย์เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อความบันเทิง 👶 เยาวชนคือกลุ่มเสี่ยงที่สุด ผลกระทบต่อสมองและพฤติกรรม การพัฒนาสมองถูกรบกวนโดยสาร THC 🧠 เพิ่มความเสี่ยงโรคซึมเศร้า โรคจิตเภท และอาการหลอน 😨 พฤติกรรมเสี่ยงมากขึ้น เช่น การลองยาเสพติดอื่น 🔗 แนวทางป้องกันคือ ให้ความรู้ในโรงเรียน 🏫 ควบคุมการโฆษณา และจำหน่ายอย่างเคร่งครัด 🔞 จำกัดอายุขั้นต่ำ ในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา 🚫 ✈️ ต่างชาติหลงใหล “กัญชาไทย” หรือแค่... โบนัสท่องเที่ยว? หลังปลดล็อกกัญชาในปี 2565 ไทยกลายเป็น “จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายเขียว” 🌍💚 โดยเฉพาะจากประเทศที่มีกฎหมายยาเสพติดเข้มงวด เช่น 🇯🇵 ญี่ปุ่น 🇰🇷 เกาหลีใต้ นักท่องเที่ยวบางคนมองว่า กัญชาไทยเป็นเสน่ห์ใหม่ ของการท่องเที่ยว แต่บางส่วนกลับกังวลว่า อาจบ่อนทำลายภาพลักษณ์ไทย ในสายตาชาวโลก 📢 กฎหมายของไทย อาจไม่ตรงกับกฎหมายในประเทศต้นทาง นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา! 💼 เศรษฐกิจกัญชา โอกาสทองหรือความเสี่ยงซ่อนเร้น? ประเทศที่ปลดล็อกกัญชาแล้วประสบความสำเร็จ เช่น 🇨🇦 แคนาดา 🇺🇾 อุรุกวัย 🇲🇹 มอลตา ล้วนมีระบบควบคุมกัญชาเข้มงวด ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจ 📉 หากไม่มีการควบคุมที่ดี เศรษฐกิจกัญชาจะกลายเป็นดาบสองคม ทำให้ปัญหาสังคมลุกลาม และลดความน่าเชื่อถือของประเทศได้ 🧑‍⚕️ แพทย์เตือน กัญชาเป็น “เครื่องมือ” ไม่ใช่ “ของเล่น” วงการแพทย์ย้ำว่า... “กัญชาใช้รักษาโรคได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม และไม่ควรใช้แบบสันทนาการทั่วไป” กลุ่มโรคที่อาจได้ประโยชน์จากกัญชาคือ ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่ปวดเรื้อรัง ผู้ที่นอนไม่หลับ และผู้ป่วยจิตเวชบางกลุ่ม อย่างไรก็ตาม การใช้ต้องอาศัยการวินิจฉัยจากแพทย์ และข้อมูลวิจัยเพิ่มเติม 🔍 📚 ควรฉลองหรือทบทวน? วันกัญชาโลก (420) คือโอกาสให้เราหยุดคิด ทบทวน และสร้างบทสนทนาที่มีคุณภาพ ในสังคมไทย ไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง 🎉 สิ่งที่สังคมควรย้ำคือ ✅ สนับสนุนการใช้กัญชา เพื่อการแพทย์และสุขภาพ ❌ ต่อต้านการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่มีการควบคุม ⚖️ สร้างสมดุลระหว่างสิทธิเสรีภาพ และความปลอดภัยของสาธารณชน "กัญชาอาจเป็นพืชมหัศจรรย์... ถ้าเราใช้ด้วยความรู้ ไม่ใช่แค่ตามกระแส" 🌱 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200924 เม.ย. 2568 📌 #วันกัญชาโลก #420ไทย #โฟร์ทเวนตี้ #กัญชาเพื่อการแพทย์ #กัญชาไทย #เสรีภาพไม่ใช่สันทนาการ #TheWaldos #กัญชากับเยาวชน #สังคมกับกัญชา #กัญชาอย่างปลอดภัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฉีกหน้ากาก”โกงซ้อนโกง” ตึก สตง.ถล่ม
    ปลอมลายเซ็นวิศวกร บิดเบือนไม่รับผิดชอบ
    .
    เรื่องตึก สตง.(สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน)ถล่ม อีกสิบปีก็พูดได้ว่ามันเป็นมหากาพย์การโกง ผมว่ามันโคตรจะระยำตำบอนเลย ผม 78 ปี ปีนี้ ผมทำข่าวมาห้าสิบกว่าปี ผมไม่เคยเจอขบวนการคอร์รัปชันที่ยิ่งใหญ่และลึกลับซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยก็ว่าได้ เรื่องขบวนการทุจริตในการจัดจ้างเพื่อก่อสร้างและตกแต่งอาคาร สตง. แห่งใหม่ ในเขตจตุจักร อย่างที่ผมฟันธงและบอกไปแล้วว่ามันมีเงื่อนงำในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
    .
    จริงๆ เรื่องนี้ต้องทำเป็นกรณีศึกษา Case study สถาบันการศึกษา อาจารย์น่าจะเอาข้อมูลพวกนี้ แล้วมาสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาว่ามันโกงกันอย่างไร ความเป็น สตง. นี่ไงที่ผมบอกว่าผมจะฟ้องท่านผู้ชม ให้จารึกลงในประวัติศาสตร์ ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานมันพูดถึงคน สตง. เลวๆ ที่มันระยำตำบอนและโกงชาติบ้านเมือง ทำผิดคุณธรรม จริยธรรม ในหน้าที่ที่ตัวเองต้องตรวจสอบการทุจริต แต่กลับทุจริตเสียเอง
    .
    ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความไม่ชอบมาพากลในการจัดจ้างเพื่อก่อสร้างโครงการนี้ยิ่งขึ้นไปอีก คือมันมีการปลอมลายเซ็นสำหรับกรณีวิศวกรทั้งสองคนที่มีชื่อไปเกี่ยวข้องและรับผิดชอบเกี่ยวกับการควบคุมการก่อสร้างและออกแบบอาคาร คือ หนึ่ง คุณสมเกียรติ ชูแสงสุข ที่ถูกอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นว่าเป็นผู้ควบคุมงานของกิจการร่วมค้า PWK สอง คือคุณพิมล เจริญยิ่ง วิศวกรอายุ 85 ปี ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ออกแบบอาคาร 2 สตง. จริงหรือไม่ เจ้าตัวกลับปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องด้วย และไม่ได้ทำงานออกแบบมาหลายปีแล้ว ท่านผู้ชมครับเห็นหรือยังครับ มหากาพย์ของการโกง โกงกันตั้งแต่เริ่มออกแบบแล้ว ตรงนี้มันมีพิรุธไหม ? เพราะกรมโยธาธิการฯได้แจ้งว่า ที่ขอมาขอให้มีการเร่งออกแบบตึก สตง.ที่มีงบสองพันล้านบาทภายใน 180 วันไม่ทัน ก็เป็นสิทธิ์หน่วยงานนี้จะเอาสิทธิ์ตรงนั้นไปแจ้งบริษัทเอกชนออกแบบแทน นี่คือการเจตนาที่จะทุจริตที่เห็นได้ชัดเจน
    .
    มีคนหนึ่งที่ผมอยากให้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ใจแทบขาด เพราะน่าจะเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง คือ คุณปฏิวัติ ศิริไทย ซีอีโอ และเจ้าของบริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด ซึ่งบริษัทนี้เป็นหนึ่งในสามบริษัทที่ไปรวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้า PKWได้งานควบคุมก่อสร้างตึก สตง. ในวงเงิน 74.65 ล้านบาท
    .
    คุณปฏิวัติครับ คุณอย่านั่งนิ่งเฉย เพราะผมได้ยินว่าคุณเป็นผู้กว้างขวาง รู้จักคุณประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่าฯ สตง. รู้จักนายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าฯ สตง. มือไม้ของคุณประจักษ์ รวมทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ อย่างประธาน คตง. คือ พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธาน คตง. หรือประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เรื่อยไปจนถึงคนใกล้ชิด ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ซึ่งเป็นเครือญาติและคนใกล้ชิด พล.อ.ชนะทัพ ด้วย แม้หน่วยงานโคตรอภิสิทธิ์อย่าง สตง. ยืนยันที่ทำนั้น ล้วนแต่ดำเนินด้วยความถูกต้องบริสุทธิ์ผูดผ่องทั้งสิ้น
    .
    แต่ถ้ามันเน่าข้างในหมดแล้ว จะเอาหนังอะไรมากลบ ใส่เสื้อกี่ตัว กลิ่นมันออก พอกลิ่นมันออก ถอดเสื้อออกก็เหม็นเสื้อเชิ้ตก็เหม็น ถอดเสื้อเชิ้ตออก เสื้อเชิ้ตก็เหม็น ถอดคอกลมออก คอกลมก็เหม็น พอถอดออกหมดแล้ว อ้าว ตายห่า มันเน่าหมดแล้วนี่ มันเน่าก็คือว่า ทำมาหาแดกกันทุกระดับ ตั้งแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ใน สตง. จะเป็นใครก็ตาม ท่านผู้ชมเดาเอาเองก็แล้วกัน
    ฉีกหน้ากาก”โกงซ้อนโกง” ตึก สตง.ถล่ม ปลอมลายเซ็นวิศวกร บิดเบือนไม่รับผิดชอบ . เรื่องตึก สตง.(สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน)ถล่ม อีกสิบปีก็พูดได้ว่ามันเป็นมหากาพย์การโกง ผมว่ามันโคตรจะระยำตำบอนเลย ผม 78 ปี ปีนี้ ผมทำข่าวมาห้าสิบกว่าปี ผมไม่เคยเจอขบวนการคอร์รัปชันที่ยิ่งใหญ่และลึกลับซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยก็ว่าได้ เรื่องขบวนการทุจริตในการจัดจ้างเพื่อก่อสร้างและตกแต่งอาคาร สตง. แห่งใหม่ ในเขตจตุจักร อย่างที่ผมฟันธงและบอกไปแล้วว่ามันมีเงื่อนงำในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ . จริงๆ เรื่องนี้ต้องทำเป็นกรณีศึกษา Case study สถาบันการศึกษา อาจารย์น่าจะเอาข้อมูลพวกนี้ แล้วมาสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาว่ามันโกงกันอย่างไร ความเป็น สตง. นี่ไงที่ผมบอกว่าผมจะฟ้องท่านผู้ชม ให้จารึกลงในประวัติศาสตร์ ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานมันพูดถึงคน สตง. เลวๆ ที่มันระยำตำบอนและโกงชาติบ้านเมือง ทำผิดคุณธรรม จริยธรรม ในหน้าที่ที่ตัวเองต้องตรวจสอบการทุจริต แต่กลับทุจริตเสียเอง . ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความไม่ชอบมาพากลในการจัดจ้างเพื่อก่อสร้างโครงการนี้ยิ่งขึ้นไปอีก คือมันมีการปลอมลายเซ็นสำหรับกรณีวิศวกรทั้งสองคนที่มีชื่อไปเกี่ยวข้องและรับผิดชอบเกี่ยวกับการควบคุมการก่อสร้างและออกแบบอาคาร คือ หนึ่ง คุณสมเกียรติ ชูแสงสุข ที่ถูกอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นว่าเป็นผู้ควบคุมงานของกิจการร่วมค้า PWK สอง คือคุณพิมล เจริญยิ่ง วิศวกรอายุ 85 ปี ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ออกแบบอาคาร 2 สตง. จริงหรือไม่ เจ้าตัวกลับปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องด้วย และไม่ได้ทำงานออกแบบมาหลายปีแล้ว ท่านผู้ชมครับเห็นหรือยังครับ มหากาพย์ของการโกง โกงกันตั้งแต่เริ่มออกแบบแล้ว ตรงนี้มันมีพิรุธไหม ? เพราะกรมโยธาธิการฯได้แจ้งว่า ที่ขอมาขอให้มีการเร่งออกแบบตึก สตง.ที่มีงบสองพันล้านบาทภายใน 180 วันไม่ทัน ก็เป็นสิทธิ์หน่วยงานนี้จะเอาสิทธิ์ตรงนั้นไปแจ้งบริษัทเอกชนออกแบบแทน นี่คือการเจตนาที่จะทุจริตที่เห็นได้ชัดเจน . มีคนหนึ่งที่ผมอยากให้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ใจแทบขาด เพราะน่าจะเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง คือ คุณปฏิวัติ ศิริไทย ซีอีโอ และเจ้าของบริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด ซึ่งบริษัทนี้เป็นหนึ่งในสามบริษัทที่ไปรวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้า PKWได้งานควบคุมก่อสร้างตึก สตง. ในวงเงิน 74.65 ล้านบาท . คุณปฏิวัติครับ คุณอย่านั่งนิ่งเฉย เพราะผมได้ยินว่าคุณเป็นผู้กว้างขวาง รู้จักคุณประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่าฯ สตง. รู้จักนายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าฯ สตง. มือไม้ของคุณประจักษ์ รวมทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ อย่างประธาน คตง. คือ พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธาน คตง. หรือประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เรื่อยไปจนถึงคนใกล้ชิด ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ซึ่งเป็นเครือญาติและคนใกล้ชิด พล.อ.ชนะทัพ ด้วย แม้หน่วยงานโคตรอภิสิทธิ์อย่าง สตง. ยืนยันที่ทำนั้น ล้วนแต่ดำเนินด้วยความถูกต้องบริสุทธิ์ผูดผ่องทั้งสิ้น . แต่ถ้ามันเน่าข้างในหมดแล้ว จะเอาหนังอะไรมากลบ ใส่เสื้อกี่ตัว กลิ่นมันออก พอกลิ่นมันออก ถอดเสื้อออกก็เหม็นเสื้อเชิ้ตก็เหม็น ถอดเสื้อเชิ้ตออก เสื้อเชิ้ตก็เหม็น ถอดคอกลมออก คอกลมก็เหม็น พอถอดออกหมดแล้ว อ้าว ตายห่า มันเน่าหมดแล้วนี่ มันเน่าก็คือว่า ทำมาหาแดกกันทุกระดับ ตั้งแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ใน สตง. จะเป็นใครก็ตาม ท่านผู้ชมเดาเอาเองก็แล้วกัน
    Like
    Love
    21
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 557 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปูติน ประกาศสงบศึกชั่วคราวช่วงวันอีสเตอร์ แต่เซเลนสกีปฏิเสธข้อตกลงหยุดยิงในช่วงเวลาดังกล่าว

    ปูตินสั่งหยุดปฏิบัติการรบทั้งหมดชั่วคราวตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 19 เมษายน จนถึงเที่ยงคืนของวันที่ 21 เมษายน

    "ฝ่ายรัสเซียประกาศหยุดยิงในช่วงเทศกาลอีสเตอร์โดยยึดหลักมนุษยธรรม ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันนี้ (19 เมษายน) จนถึงเวลา 00.00 น. ของวันจันทร์นี้ (21 เมษายน) ข้าพเจ้าขอสั่งให้หยุดปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว"

    ปูตินยังต้องการให้ยูเครนปฏิบัติเช่นเดียวกัน แต่ก็พร้อมที่จะให้กองทัพรัสเซียตอบโต้ทันที หากมีการละเมิดการหยุดยิงและการยั่วยุที่อาจเกิดขึ้นจากยูเครน

    "เราหวังว่ายูเครนจะปฏิบัติตามเช่นกัน ในขณะเดียวกัน กองกำลังของเราจะมีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา หากมีการละเมิดการหยุดยิงและการยั่วยุที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการกระทำก้าวร้าวใดๆที่มาจากฝ่ายยูเครน"

    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวระหว่างการประชุมที่เครมลินกับเสนาธิการกองทัพรัสเซีย วาเลรี เกราซิมอฟ

    เซเลนสกีปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของปูตินในวันอีสเตอร์:

    หลังจากผ่านช่วงเวลา 18.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเริ่มต้นหยุดยิงของกองทัพรัสเซีย เซเลนสกีไม่ได้โพสต์ข้อความตอบรับตามข้อเสนอหยุดยิงของปูติน แต่เขาโพสต์ข้อความของผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครนที่ยังปฏิบัติการต่อไปในภูมิภาคเคิร์สก์

    "ผู้บัญชาการทหารสูงสุด โอเล็กซานเดอร์ ซิร์สกี้ เพิ่งรายงาน

    กองกำลังของเรายังคงดำเนินกิจกรรมในภูมิภาคเคิร์สก์ในวันนี้และยังคงรักษาตำแหน่งของตนไว้ ในภูมิภาคเบลโกรอด กองทัพของเราได้เคลื่อนพลและเพิ่มเขตควบคุมของเรา"
    ปูติน ประกาศสงบศึกชั่วคราวช่วงวันอีสเตอร์ แต่เซเลนสกีปฏิเสธข้อตกลงหยุดยิงในช่วงเวลาดังกล่าว ปูตินสั่งหยุดปฏิบัติการรบทั้งหมดชั่วคราวตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 19 เมษายน จนถึงเที่ยงคืนของวันที่ 21 เมษายน "ฝ่ายรัสเซียประกาศหยุดยิงในช่วงเทศกาลอีสเตอร์โดยยึดหลักมนุษยธรรม ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันนี้ (19 เมษายน) จนถึงเวลา 00.00 น. ของวันจันทร์นี้ (21 เมษายน) ข้าพเจ้าขอสั่งให้หยุดปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว" ปูตินยังต้องการให้ยูเครนปฏิบัติเช่นเดียวกัน แต่ก็พร้อมที่จะให้กองทัพรัสเซียตอบโต้ทันที หากมีการละเมิดการหยุดยิงและการยั่วยุที่อาจเกิดขึ้นจากยูเครน "เราหวังว่ายูเครนจะปฏิบัติตามเช่นกัน ในขณะเดียวกัน กองกำลังของเราจะมีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา หากมีการละเมิดการหยุดยิงและการยั่วยุที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการกระทำก้าวร้าวใดๆที่มาจากฝ่ายยูเครน" ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวระหว่างการประชุมที่เครมลินกับเสนาธิการกองทัพรัสเซีย วาเลรี เกราซิมอฟ เซเลนสกีปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของปูตินในวันอีสเตอร์: หลังจากผ่านช่วงเวลา 18.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเริ่มต้นหยุดยิงของกองทัพรัสเซีย เซเลนสกีไม่ได้โพสต์ข้อความตอบรับตามข้อเสนอหยุดยิงของปูติน แต่เขาโพสต์ข้อความของผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครนที่ยังปฏิบัติการต่อไปในภูมิภาคเคิร์สก์ "ผู้บัญชาการทหารสูงสุด โอเล็กซานเดอร์ ซิร์สกี้ เพิ่งรายงาน กองกำลังของเรายังคงดำเนินกิจกรรมในภูมิภาคเคิร์สก์ในวันนี้และยังคงรักษาตำแหน่งของตนไว้ ในภูมิภาคเบลโกรอด กองทัพของเราได้เคลื่อนพลและเพิ่มเขตควบคุมของเรา"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 12 อยู่กินอย่างไรไม่ให้เดือดร้อน
    .
    การจับจ่ายใช้สอยซื้อของที่ตนเองต้องการเป็นเรื่องสนุก หลายคนมีสติในเรื่องการใช้จ่าย แต่หลายคนก็ขาดสติ ใช้จ่ายจนเกิดความเดือดร้อนในเรื่องเงินทอง ซึ่งมีผลกระทบไปถึงการดำเนินชีวิตด้วย
    .
    บ่อยครั้งคนที่เริ่มเดือดร้อนเรื่องเงิน ยังไม่ตระหนักถึงสภานะของตนเอง เพราะไม่มีไฟแดงกระพริบเตือนเป็นสัญญาณให้ทราบว่ากำลังใช้จ่ายเกินตัว กินอยู่เกินฐานะ และชีวิตในอนาคตกำลังจะลำบาก สิ่งที่อาจเป็นตัวแทนของไฟแดงกระพริบได้แก่ (1) รายได้ส่วนหนึ่งถูกใช้ชำระหนี้เพิ่มมากขึ้นทุกที (2) จ่ายเงินชำระหนี้บัตรเครดิตหรือเงินกู้ด้วยจำนวนเงินต่ำที่สุดเท่าที่เจ้าหนี้จะยอมให้ได้ (3) ใช้เงินเต็มวงกู้ของบัตรเครดิต (4) ต้องเอาเงินส่วนที่ตั้งใจไว้ทำอย่างอื่น มาจ่ายชำระเงินตามใบเรียกเก็บเงิน (5) ใช้บัตรเครดิตชำระเงินสำหรับหลายสิ่งทั้ง ๆ ที่แต่เดิมใช้เงินสด (6) ชำระเงินตามใบเรียกเก็บเกินกำหนดเวลาอยู่เนืองๆ (7) ถูกเตือนให้จัดการกับบิลค้างชำระอยู่บ่อย ๆ (8) ทำงานล่วงเวลาหรือหาเงินพิเศษตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินสดมาชำระบิลที่ส่งมาเรียกเก็บ (9) หากต้องออกจากงานที่ทำอยู่ก็จะเกิดปัญหาการเงินขึ้นมาทันที (10) นึกกังวลถึงเรื่องเงินอยู่เสมอ
    .
    สัญญาณข้างต้นไม่จำเป็นต้องมีครบทุกอย่างก็แสดงว่า กำลังกินอย่างเดือดร้อนแล้ว สาเหตุก็มาจากความไม่สมดุลระหว่างรายได้และรายจ่าย หนทางแก้ไขแรกคือ ต้องหารายได้ให้พอกับรายจ่ายที่กำลังเกิดขึ้น หรือพูดอีกอย่างว่า ยกฐานะการเงินขึ้นมาให้ทัดเทียมกับระดับการอยู่กิน หนทางที่สองคือ ลดรายจ่ายลงให้พอดีกับรายได้ หรือลดการอยู่กินลงมาให้พอดีหรือต่ำกว่าฐานะ หรือทั้งสองหนทาง
    .
    การแก้ไขด้วยวิธีแรกนั้นยากมาก และไม่มีวันจบสิ้นได้เลย เพราะเคยชินกับการใช้จ่ายสูงจนเสมือนกับไล่จับเงาตัวเอง หามาได้เท่าใดก็ไม่มีวันเพียงพอ การใช้ทั้งสองวิธี หรือใช้วิธีที่สองคือ ลดรายจ่ายลงให้พอดีกับรายได้ มีเหตุมีผลมากกว่า เพราะถึงแม้จะเจ็บปวดแต่ก็กระทำได้ง่ายกว่าการหารายได้ให้เพียงพอกับรายจ่าย และที่สำคัญที่สุด เกิดเป็นมรรคเป็นผลในระยะยาว
    .
    อย่างไรก็ดีในการหาทางแก้ไข จะจ้องเข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุของการอยู่กินอย่างเดือดร้อนของคนไฟแดงกะพริบเหล่านี้ หากมองในภาพรวมก็จะเห็นว่า ปัญหาเริ่มจากความต้องการที่ไม่มีวันพอ เป็นสาเหตุแรก กล่าวคือ ความต้องการมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังที่มาสโลว์ กล่าวไว้ โดยเริ่มต้นจากต้องการบำบัดความหิว ต้องการอยู่รอดอย่างมั่นคงปลอดภัย ต้องการความรักและมีพรรคพวก ต้องการความสำเร็จและได้รับการชื่นชมยอมรับ ต้องการมีความรู้และความเข้าใจ ต้องการความงามและความเป็นระเบียบ สุดท้ายต้องการบรรลุศักยภาพของตนเอง ดังนั้นโดยพื้นฐาน มนุษย์ต้องการการบริโภคมากอยู่แล้ว ซึ่งย่อมทำให้ใช้จ่ายมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
    .
    สาเหตุที่ 2 คือ ความเข้าใจโลกที่ไม่เหมาะสม หลายคนมักนึกว่าการดำเนินชีวิตของผู้คนและครอบครัวกังที่ปรากฏในสื่อ คือวิถีการดำเนินชีวิตจริงของคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริโภค การใช้ชีวิต และค่านิยม ดังนั้นเมื่อผู้เสพสื่อเหล่านี้ต้องการเป็นเช่นเดียวกับคนอื่นๆ จึงจำเป็นต้องบริโภคในลักษณะนั้นๆ เพื่อให้ได้ใช้ชีวิต และมีค่านิยมแบบเดียวกัน การเลียนแบบเหล่านี้ ย่อมเกิดค่าใช้จ่ายขึ้นมากมายอีกเช่นกัน
    .
    สาเหตุที่ 3 คือ อิทธิพลของสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบันโทรศัพท์สื่อโซเชี่ยลมิเดียหลายแพลทฟอร์ม เป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลอย่างมาก มีหลายครั้งที่ผู้โฆษณาพยายามบอกผู้ชมว่า ถ้าใช้สินค้านั้น หรือไปสถานที่นี้ ทำอย่างนั้นแล้วจะเป็น “คนมีระดับ” จะทำให้เป็นคนที่สังคมยอมรับ และ “คนปกติ” เขาก็ปฎิบัติเช่นนั้น การสื่อเช่นนี้ทำให้ผู้คนคล้อยตามได้โดยง่าย
    .
    ทั้งสามสาเหตุ นำไปสู่การใช้จ่ายที่สูง ดังนั้นการขาดความสมดุลระหว่างรายได้และรายจ่ายจึงเป็นเหตุที่ทำให้คนจำนวนมากอยู่ในสภาวะอยู่กินอย่างเดือดร้อน
    .
    ผู้ที่ดื่มด่ำกับการบริโภคในปัจจุบันจนลึมนึกถึงอนาคต ลืมนึกถึงความมั่นคงในชีวิตตนเองและครอบครัวในวันข้างหน้า มักจะนึกเอาว่า เอาไว้อีกสักพักค่อยออมเงินเพื่อสร้างอนาคตก็ได้ แต่ “สักพัก” นั้นก็ไม่มาถึงซักที พร้อมกับจมดิ่งลงไปในหนี้สินที่พอกพูนขึ้นทุกวัน สำหรับคนเหล่านี้ อย่าว่าแต่จะออมได้เลย แค่มีเงินใช้จ่ายให้ตลอดเดือนได้ก็ยากเต็มทีแล้ว
    .
    กลุ่มคนเหล่านี้จะหลุดพ้นจากการอยู่กินอย่างเดือดร้อนได้ก็ด้วยหลัก 4 ประการ ดังต่อไปนี้
    (1) ต้องมองโลกในแง่ใหม่ ว่าเงินเป็นได้ทั้งมิตรและศัตรู การมีหนี้สินที่ไม่นำไปสู่อนาคตที่ดีขึ้น เท่ากับเปิดช่องให้เงินเป็นศัตรู โดยทำร้ายตนเองตลอดเวลาด้วยดอกเบี้ย ดังนั้นจึงต้องพยายามแก้ไขให้เงินเป็นมิตรด้วยการมีเงินออมแทน
    (2) อยู่กินต่ำกว่าฐานะ
    (3) ทำให้เงินทำงานรับใช้ โดยเริ่มจากการมีเงินออม
    (4) ควบคุมความต้องการของตนเองโดยยึด “แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง” นั่นคือดำรงตนอย่างมีสติ ไม่ใช้เงินอย่างประมาท รู้จักความพอดี ความพอประมาณ มีเหตุมีผล และมีวุฒิภาวะควบคุมความต้องการของตนเองให้ได้
    .
    การอยู่กินอย่างเดือดร้อน คือการอยู่กินอย่างขาดความหวังว่าชีวิตในอนาคตจะมีความมั่นคงทางการเงิน เป็นการดำรงชีวิตอย่างทุกข์ใจ ต้องนึกถึงแต่เรื่องเงินอยู่ตลอดเวลาจนชีวิตเปราะบาง เอื้อต่อการกระทำที่ผิดจริยธรรม
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 12 อยู่กินอย่างไรไม่ให้เดือดร้อน . การจับจ่ายใช้สอยซื้อของที่ตนเองต้องการเป็นเรื่องสนุก หลายคนมีสติในเรื่องการใช้จ่าย แต่หลายคนก็ขาดสติ ใช้จ่ายจนเกิดความเดือดร้อนในเรื่องเงินทอง ซึ่งมีผลกระทบไปถึงการดำเนินชีวิตด้วย . บ่อยครั้งคนที่เริ่มเดือดร้อนเรื่องเงิน ยังไม่ตระหนักถึงสภานะของตนเอง เพราะไม่มีไฟแดงกระพริบเตือนเป็นสัญญาณให้ทราบว่ากำลังใช้จ่ายเกินตัว กินอยู่เกินฐานะ และชีวิตในอนาคตกำลังจะลำบาก สิ่งที่อาจเป็นตัวแทนของไฟแดงกระพริบได้แก่ (1) รายได้ส่วนหนึ่งถูกใช้ชำระหนี้เพิ่มมากขึ้นทุกที (2) จ่ายเงินชำระหนี้บัตรเครดิตหรือเงินกู้ด้วยจำนวนเงินต่ำที่สุดเท่าที่เจ้าหนี้จะยอมให้ได้ (3) ใช้เงินเต็มวงกู้ของบัตรเครดิต (4) ต้องเอาเงินส่วนที่ตั้งใจไว้ทำอย่างอื่น มาจ่ายชำระเงินตามใบเรียกเก็บเงิน (5) ใช้บัตรเครดิตชำระเงินสำหรับหลายสิ่งทั้ง ๆ ที่แต่เดิมใช้เงินสด (6) ชำระเงินตามใบเรียกเก็บเกินกำหนดเวลาอยู่เนืองๆ (7) ถูกเตือนให้จัดการกับบิลค้างชำระอยู่บ่อย ๆ (8) ทำงานล่วงเวลาหรือหาเงินพิเศษตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินสดมาชำระบิลที่ส่งมาเรียกเก็บ (9) หากต้องออกจากงานที่ทำอยู่ก็จะเกิดปัญหาการเงินขึ้นมาทันที (10) นึกกังวลถึงเรื่องเงินอยู่เสมอ . สัญญาณข้างต้นไม่จำเป็นต้องมีครบทุกอย่างก็แสดงว่า กำลังกินอย่างเดือดร้อนแล้ว สาเหตุก็มาจากความไม่สมดุลระหว่างรายได้และรายจ่าย หนทางแก้ไขแรกคือ ต้องหารายได้ให้พอกับรายจ่ายที่กำลังเกิดขึ้น หรือพูดอีกอย่างว่า ยกฐานะการเงินขึ้นมาให้ทัดเทียมกับระดับการอยู่กิน หนทางที่สองคือ ลดรายจ่ายลงให้พอดีกับรายได้ หรือลดการอยู่กินลงมาให้พอดีหรือต่ำกว่าฐานะ หรือทั้งสองหนทาง . การแก้ไขด้วยวิธีแรกนั้นยากมาก และไม่มีวันจบสิ้นได้เลย เพราะเคยชินกับการใช้จ่ายสูงจนเสมือนกับไล่จับเงาตัวเอง หามาได้เท่าใดก็ไม่มีวันเพียงพอ การใช้ทั้งสองวิธี หรือใช้วิธีที่สองคือ ลดรายจ่ายลงให้พอดีกับรายได้ มีเหตุมีผลมากกว่า เพราะถึงแม้จะเจ็บปวดแต่ก็กระทำได้ง่ายกว่าการหารายได้ให้เพียงพอกับรายจ่าย และที่สำคัญที่สุด เกิดเป็นมรรคเป็นผลในระยะยาว . อย่างไรก็ดีในการหาทางแก้ไข จะจ้องเข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุของการอยู่กินอย่างเดือดร้อนของคนไฟแดงกะพริบเหล่านี้ หากมองในภาพรวมก็จะเห็นว่า ปัญหาเริ่มจากความต้องการที่ไม่มีวันพอ เป็นสาเหตุแรก กล่าวคือ ความต้องการมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังที่มาสโลว์ กล่าวไว้ โดยเริ่มต้นจากต้องการบำบัดความหิว ต้องการอยู่รอดอย่างมั่นคงปลอดภัย ต้องการความรักและมีพรรคพวก ต้องการความสำเร็จและได้รับการชื่นชมยอมรับ ต้องการมีความรู้และความเข้าใจ ต้องการความงามและความเป็นระเบียบ สุดท้ายต้องการบรรลุศักยภาพของตนเอง ดังนั้นโดยพื้นฐาน มนุษย์ต้องการการบริโภคมากอยู่แล้ว ซึ่งย่อมทำให้ใช้จ่ายมากขึ้นเป็นเงาตามตัว . สาเหตุที่ 2 คือ ความเข้าใจโลกที่ไม่เหมาะสม หลายคนมักนึกว่าการดำเนินชีวิตของผู้คนและครอบครัวกังที่ปรากฏในสื่อ คือวิถีการดำเนินชีวิตจริงของคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริโภค การใช้ชีวิต และค่านิยม ดังนั้นเมื่อผู้เสพสื่อเหล่านี้ต้องการเป็นเช่นเดียวกับคนอื่นๆ จึงจำเป็นต้องบริโภคในลักษณะนั้นๆ เพื่อให้ได้ใช้ชีวิต และมีค่านิยมแบบเดียวกัน การเลียนแบบเหล่านี้ ย่อมเกิดค่าใช้จ่ายขึ้นมากมายอีกเช่นกัน . สาเหตุที่ 3 คือ อิทธิพลของสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบันโทรศัพท์สื่อโซเชี่ยลมิเดียหลายแพลทฟอร์ม เป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลอย่างมาก มีหลายครั้งที่ผู้โฆษณาพยายามบอกผู้ชมว่า ถ้าใช้สินค้านั้น หรือไปสถานที่นี้ ทำอย่างนั้นแล้วจะเป็น “คนมีระดับ” จะทำให้เป็นคนที่สังคมยอมรับ และ “คนปกติ” เขาก็ปฎิบัติเช่นนั้น การสื่อเช่นนี้ทำให้ผู้คนคล้อยตามได้โดยง่าย . ทั้งสามสาเหตุ นำไปสู่การใช้จ่ายที่สูง ดังนั้นการขาดความสมดุลระหว่างรายได้และรายจ่ายจึงเป็นเหตุที่ทำให้คนจำนวนมากอยู่ในสภาวะอยู่กินอย่างเดือดร้อน . ผู้ที่ดื่มด่ำกับการบริโภคในปัจจุบันจนลึมนึกถึงอนาคต ลืมนึกถึงความมั่นคงในชีวิตตนเองและครอบครัวในวันข้างหน้า มักจะนึกเอาว่า เอาไว้อีกสักพักค่อยออมเงินเพื่อสร้างอนาคตก็ได้ แต่ “สักพัก” นั้นก็ไม่มาถึงซักที พร้อมกับจมดิ่งลงไปในหนี้สินที่พอกพูนขึ้นทุกวัน สำหรับคนเหล่านี้ อย่าว่าแต่จะออมได้เลย แค่มีเงินใช้จ่ายให้ตลอดเดือนได้ก็ยากเต็มทีแล้ว . กลุ่มคนเหล่านี้จะหลุดพ้นจากการอยู่กินอย่างเดือดร้อนได้ก็ด้วยหลัก 4 ประการ ดังต่อไปนี้ (1) ต้องมองโลกในแง่ใหม่ ว่าเงินเป็นได้ทั้งมิตรและศัตรู การมีหนี้สินที่ไม่นำไปสู่อนาคตที่ดีขึ้น เท่ากับเปิดช่องให้เงินเป็นศัตรู โดยทำร้ายตนเองตลอดเวลาด้วยดอกเบี้ย ดังนั้นจึงต้องพยายามแก้ไขให้เงินเป็นมิตรด้วยการมีเงินออมแทน (2) อยู่กินต่ำกว่าฐานะ (3) ทำให้เงินทำงานรับใช้ โดยเริ่มจากการมีเงินออม (4) ควบคุมความต้องการของตนเองโดยยึด “แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง” นั่นคือดำรงตนอย่างมีสติ ไม่ใช้เงินอย่างประมาท รู้จักความพอดี ความพอประมาณ มีเหตุมีผล และมีวุฒิภาวะควบคุมความต้องการของตนเองให้ได้ . การอยู่กินอย่างเดือดร้อน คือการอยู่กินอย่างขาดความหวังว่าชีวิตในอนาคตจะมีความมั่นคงทางการเงิน เป็นการดำรงชีวิตอย่างทุกข์ใจ ต้องนึกถึงแต่เรื่องเงินอยู่ตลอดเวลาจนชีวิตเปราะบาง เอื้อต่อการกระทำที่ผิดจริยธรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้อาหารในไทยไม่นำเข้ามากนัก,แต่ก็อันตรายโคตรๆหากนำเข้ามาได้จริงที่ผสมปนวัคซีนมาด้วย,หรือวางสารพิษหลายสักษณะมากับอาหารนำเข้า,ซึ่งแค่ในไทยเราเอง ในยุคปัจจุบันก็ไว้วางใจอะไรไม่ได้ในมาตราฐาน&มาตราการต่างๆ ขนาด อย. ยังยอมให้คนไทยรับวัคซีนเลย ทั้งที่ปัจจุบันวัคซีนหลายๆยี่ห้อถูกลงโทษว่าผิดและมีผลกระทบจริงแก่คนฉีดวัคซีนไป อย.ซึ่งควบคุมด้านนี้ทางตรงและทางอ้อมก็ประมาทเลินเล่อชัดเจน ทั้งยังไม่ออกมายอมรับความผิดพลาดตนอย่างเป็นทางการแก้ประชาชนพร้อมกับกระทรวงสาธาฯประเทศและเริ่มเยี่ยวยารักษาคนรับพิษไป ทั้งที่แสดงอาการผลข้างเคียงแล้วและเริ่มเป็นพาหะด้วย ตลอดตรวจสุขภาพจริงแก่คนไทยด้วย,บวกมาแผนมามุกทำให้หมอพยาบาลขาดแคลนด้วย ตัดตอนกำลังตังสนับสนุนส่งเสริมป้องกันโรค,ตัดกำลังคนไม่ส่งเสริมคนเล่าเรียนจริงจังมาทดแทนคนเก่า,มหาลัยเต็มประเทศไม่กระจายสร้างหมอพยาบาลให้เพียงพอและต้นทุนค่าเล่าเรียนไม่แพงด้วย,หมอพยาบาลปัจจุบันยิ่งอ่อนด้อยคุณภาพอีกในรุ่นใหม่ที่ผลิตมาทดแทนรุ่นเดิมองค์ความรอบรู้และสติปัญญาอีโก้มาทางตนเองมาก ไม่สนใจคนไข้ขาดจรรยาบรรณก็มาก,มีน้อยคนมากที่ดี,ไปทางล้างสมองมุ่งหวังกำไรด้วย,ทั้งต่างชาติต่างด้าวจริงๆไม่สมควรมาแย่งชิงบริการของคนไทย,ควรไปรักษาที่สถานบริการเอกชนเท่านั้น,ภาระต้องบริษัทเอกชนที่จ้างต่างด้าวต้องยอมรับความเสี่ยงไปทั้งหมดที่นำเข้าคนต่างชาติต่างด้าวมาแย่งชิงทรัพยากรที่มีจำกัดด้านยารักษาคนไทยภายในประเทศไทยตน,ภาระหมอพยาบาล&โรงพยาบาลรัฐจะลดต้นทุนลงต่ำเป็นอันมากและควบคุมบริหารจัดการคนไทยล้วนๆได้สบายใจ,มิใช่ต่างชาติต่างด้าวเดินเต็มโรงพยาบาลรัฐร่วมกันคนประเทศไทยตนเต็มโรงพยาบาลทั้งยังเบียดเบียนหมอพยาบาลที่ต้องใส่ใจเวลารักษาคนของตนคือคนไทยต้องมาก่อนไปอีกด้วย,นี้คือการทำลายไทยอีกด้านจากภายใน &กำลังภายในทำลายตนเองก็ว่า มันมีที่ไหน,ไม่ต่างจากไปยกบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยให้ต่างชาติมาขายคนไทยแพงๆนั้นล่ะ.,การปกครอง&วิถีการปกครองไทยเราปาหี่แหกตาและผิดพลาดพอแล้ว สมควรยกเลิกวิถีไม่ดีนี้จริงๆ แผ่นดินไทยเสียเปรียบและคนไทยภายในชาติไทยประเทศไทยตนเองเสียเปรียบมากมายใช้ไม่ได้,ตลอดให้สิทธิ์ต่างชาติต่างด้าวมากมายในมุกต่างๆมิติต่างๆเต็มไปหมด ทั้งมาแบบมุกคณะลงทุนboiหรือมุกเขตเศรษฐกิจพิเศษล้วนเหี้ยหมดจริง.
    ..วัคซีนฉีดคนไทยได้ครบทั่วไทย อนาคตจะบังคับฉีดรายบุคคลให้เจาะจงชี้ชัดติดตามผลได้ด้วยโน้น ติดตามสถานะว่าจะอยู่จะตายช่วงเวลาไหนยาออกฤทธิ์ได้หมด,ไม่รวมใส่ทางอาหารต่างๆและทางสัมผัสต่างๆกระทั่งจมูกปอดก็ด้วยแบบนาซ่าพ่นพิษบินทั่วไทยนั้นล่ะ.
    แม้อาหารในไทยไม่นำเข้ามากนัก,แต่ก็อันตรายโคตรๆหากนำเข้ามาได้จริงที่ผสมปนวัคซีนมาด้วย,หรือวางสารพิษหลายสักษณะมากับอาหารนำเข้า,ซึ่งแค่ในไทยเราเอง ในยุคปัจจุบันก็ไว้วางใจอะไรไม่ได้ในมาตราฐาน&มาตราการต่างๆ ขนาด อย. ยังยอมให้คนไทยรับวัคซีนเลย ทั้งที่ปัจจุบันวัคซีนหลายๆยี่ห้อถูกลงโทษว่าผิดและมีผลกระทบจริงแก่คนฉีดวัคซีนไป อย.ซึ่งควบคุมด้านนี้ทางตรงและทางอ้อมก็ประมาทเลินเล่อชัดเจน ทั้งยังไม่ออกมายอมรับความผิดพลาดตนอย่างเป็นทางการแก้ประชาชนพร้อมกับกระทรวงสาธาฯประเทศและเริ่มเยี่ยวยารักษาคนรับพิษไป ทั้งที่แสดงอาการผลข้างเคียงแล้วและเริ่มเป็นพาหะด้วย ตลอดตรวจสุขภาพจริงแก่คนไทยด้วย,บวกมาแผนมามุกทำให้หมอพยาบาลขาดแคลนด้วย ตัดตอนกำลังตังสนับสนุนส่งเสริมป้องกันโรค,ตัดกำลังคนไม่ส่งเสริมคนเล่าเรียนจริงจังมาทดแทนคนเก่า,มหาลัยเต็มประเทศไม่กระจายสร้างหมอพยาบาลให้เพียงพอและต้นทุนค่าเล่าเรียนไม่แพงด้วย,หมอพยาบาลปัจจุบันยิ่งอ่อนด้อยคุณภาพอีกในรุ่นใหม่ที่ผลิตมาทดแทนรุ่นเดิมองค์ความรอบรู้และสติปัญญาอีโก้มาทางตนเองมาก ไม่สนใจคนไข้ขาดจรรยาบรรณก็มาก,มีน้อยคนมากที่ดี,ไปทางล้างสมองมุ่งหวังกำไรด้วย,ทั้งต่างชาติต่างด้าวจริงๆไม่สมควรมาแย่งชิงบริการของคนไทย,ควรไปรักษาที่สถานบริการเอกชนเท่านั้น,ภาระต้องบริษัทเอกชนที่จ้างต่างด้าวต้องยอมรับความเสี่ยงไปทั้งหมดที่นำเข้าคนต่างชาติต่างด้าวมาแย่งชิงทรัพยากรที่มีจำกัดด้านยารักษาคนไทยภายในประเทศไทยตน,ภาระหมอพยาบาล&โรงพยาบาลรัฐจะลดต้นทุนลงต่ำเป็นอันมากและควบคุมบริหารจัดการคนไทยล้วนๆได้สบายใจ,มิใช่ต่างชาติต่างด้าวเดินเต็มโรงพยาบาลรัฐร่วมกันคนประเทศไทยตนเต็มโรงพยาบาลทั้งยังเบียดเบียนหมอพยาบาลที่ต้องใส่ใจเวลารักษาคนของตนคือคนไทยต้องมาก่อนไปอีกด้วย,นี้คือการทำลายไทยอีกด้านจากภายใน &กำลังภายในทำลายตนเองก็ว่า มันมีที่ไหน,ไม่ต่างจากไปยกบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยให้ต่างชาติมาขายคนไทยแพงๆนั้นล่ะ.,การปกครอง&วิถีการปกครองไทยเราปาหี่แหกตาและผิดพลาดพอแล้ว สมควรยกเลิกวิถีไม่ดีนี้จริงๆ แผ่นดินไทยเสียเปรียบและคนไทยภายในชาติไทยประเทศไทยตนเองเสียเปรียบมากมายใช้ไม่ได้,ตลอดให้สิทธิ์ต่างชาติต่างด้าวมากมายในมุกต่างๆมิติต่างๆเต็มไปหมด ทั้งมาแบบมุกคณะลงทุนboiหรือมุกเขตเศรษฐกิจพิเศษล้วนเหี้ยหมดจริง. ..วัคซีนฉีดคนไทยได้ครบทั่วไทย อนาคตจะบังคับฉีดรายบุคคลให้เจาะจงชี้ชัดติดตามผลได้ด้วยโน้น ติดตามสถานะว่าจะอยู่จะตายช่วงเวลาไหนยาออกฤทธิ์ได้หมด,ไม่รวมใส่ทางอาหารต่างๆและทางสัมผัสต่างๆกระทั่งจมูกปอดก็ด้วยแบบนาซ่าพ่นพิษบินทั่วไทยนั้นล่ะ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของเวียดนามมีแผนที่จะเข้าถือหุ้นใหญ่ใน FPT Telecom ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ระดับชาติ การดำเนินการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมภาคส่วนอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคมของประเทศ

    ✅ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะมีบทบาทเพิ่มขึ้นในภาคส่วนอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคม
    - กระทรวงฯ ได้เข้าควบคุม MobiFone ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่อันดับสามของประเทศเมื่อปีที่แล้ว
    - มีการออกกฎระเบียบด้านการปกป้องข้อมูลที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งสร้างความกังวลให้กับบริษัทเทคโนโลยีต่างชาติ

    ✅ การเข้าถือหุ้นใหญ่ใน FPT Telecom มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์
    - การดำเนินการนี้ช่วยให้รัฐบาลสามารถ ควบคุมโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น
    - เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ระดับชาติ

    ✅ FPT Telecom เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ในเวียดนาม
    - บริษัทมีบทบาทสำคัญในการให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ประชาชนและองค์กรต่างๆ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/vietnam039s-public-security-ministry-aims-to-take-majority-stake-in-internet-firm-document-shows
    กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของเวียดนามมีแผนที่จะเข้าถือหุ้นใหญ่ใน FPT Telecom ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ระดับชาติ การดำเนินการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมภาคส่วนอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคมของประเทศ ✅ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะมีบทบาทเพิ่มขึ้นในภาคส่วนอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคม - กระทรวงฯ ได้เข้าควบคุม MobiFone ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่อันดับสามของประเทศเมื่อปีที่แล้ว - มีการออกกฎระเบียบด้านการปกป้องข้อมูลที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งสร้างความกังวลให้กับบริษัทเทคโนโลยีต่างชาติ ✅ การเข้าถือหุ้นใหญ่ใน FPT Telecom มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ - การดำเนินการนี้ช่วยให้รัฐบาลสามารถ ควบคุมโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น - เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ระดับชาติ ✅ FPT Telecom เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ในเวียดนาม - บริษัทมีบทบาทสำคัญในการให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ประชาชนและองค์กรต่างๆ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/vietnam039s-public-security-ministry-aims-to-take-majority-stake-in-internet-firm-document-shows
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Vietnam's public security ministry aims to take majority stake in internet firm, document shows
    HANOI (Reuters) - Vietnam's Ministry of Public Security plans to take a majority stake in FPT Telecom, one of the country's largest internet providers, as part of its efforts to boost national cybersecurity, according to a document seen by Reuters.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้จาก CSO Online เตือนถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกิดจาก AI ที่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้ (Autopoietic AI) ซึ่งเป็นระบบที่สามารถ เขียนโปรแกรมตัวเองใหม่ และปรับเปลี่ยนการทำงานโดยไม่มีการควบคุมจากมนุษย์ โดยนักวิจัยระบุว่า องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะ อาจเผชิญความเสี่ยงสูง เนื่องจากขาดทรัพยากรในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI

    ✅ AI ที่ปรับเปลี่ยนตัวเองได้สามารถสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    - ระบบ AI อาจ ลดความเข้มงวดของการตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
    - ตัวอย่างเช่น ระบบกรองอีเมลอาจ ลดการบล็อกอีเมลฟิชชิง เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนจากผู้ใช้

    ✅ การเปลี่ยนแปลงของ AI อาจไม่สามารถตรวจสอบได้
    - AI อาจ ปรับเปลี่ยนการตั้งค่าความปลอดภัยโดยไม่มีการบันทึก ทำให้ยากต่อการวิเคราะห์
    - องค์กรอาจไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ความปลอดภัย

    ✅ องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะมีความเสี่ยงสูง
    - ขาดทรัพยากรในการ ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI
    - ตัวอย่างเช่น ระบบตรวจจับการฉ้อโกงอาจ ลดการแจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงัก

    ✅ นักวิจัยเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
    - ใช้ ระบบตรวจสอบแบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของ AI
    - พัฒนา AI ที่มีความโปร่งใส เพื่อให้มนุษย์สามารถเข้าใจการตัดสินใจของระบบ

    https://www.csoonline.com/article/3852782/when-ai-moves-beyond-human-oversight-the-cybersecurity-risks-of-self-sustaining-systems.html
    บทความนี้จาก CSO Online เตือนถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกิดจาก AI ที่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้ (Autopoietic AI) ซึ่งเป็นระบบที่สามารถ เขียนโปรแกรมตัวเองใหม่ และปรับเปลี่ยนการทำงานโดยไม่มีการควบคุมจากมนุษย์ โดยนักวิจัยระบุว่า องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะ อาจเผชิญความเสี่ยงสูง เนื่องจากขาดทรัพยากรในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI ✅ AI ที่ปรับเปลี่ยนตัวเองได้สามารถสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - ระบบ AI อาจ ลดความเข้มงวดของการตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน - ตัวอย่างเช่น ระบบกรองอีเมลอาจ ลดการบล็อกอีเมลฟิชชิง เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนจากผู้ใช้ ✅ การเปลี่ยนแปลงของ AI อาจไม่สามารถตรวจสอบได้ - AI อาจ ปรับเปลี่ยนการตั้งค่าความปลอดภัยโดยไม่มีการบันทึก ทำให้ยากต่อการวิเคราะห์ - องค์กรอาจไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ความปลอดภัย ✅ องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะมีความเสี่ยงสูง - ขาดทรัพยากรในการ ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI - ตัวอย่างเช่น ระบบตรวจจับการฉ้อโกงอาจ ลดการแจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงัก ✅ นักวิจัยเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อเพิ่มความปลอดภัย - ใช้ ระบบตรวจสอบแบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของ AI - พัฒนา AI ที่มีความโปร่งใส เพื่อให้มนุษย์สามารถเข้าใจการตัดสินใจของระบบ https://www.csoonline.com/article/3852782/when-ai-moves-beyond-human-oversight-the-cybersecurity-risks-of-self-sustaining-systems.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    When AI moves beyond human oversight: The cybersecurity risks of self-sustaining systems
    What happens when AI cybersecurity systems start to rewrite themselves as they adapt over time? Keeping an eye on what they’re doing will be mission-critical.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • Ubuntu 25.04 ซึ่งมีชื่อรหัสว่า Plucky Puffin ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยมาพร้อมกับ GNOME 48 และ Linux Kernel 6.14 ซึ่งเป็นการอัปเดตที่เน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ เช่น การจัดการการแจ้งเตือนแบบใหม่ และ การตั้งค่าด้านสุขภาพดิจิทัล

    ✅ GNOME 48 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
    - การจัดการการแจ้งเตือนแบบ stacking เพื่อให้การแจ้งเตือนเป็นระเบียบมากขึ้น
    - การตั้งค่าด้านสุขภาพดิจิทัลเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ได้ดีขึ้น

    ✅ Linux Kernel 6.14 เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมและการพัฒนา
    - เพิ่ม NTSYNC driver เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเกม Windows ที่รันบน WINE และ Proton
    - เพิ่มระบบ sched_ext ที่ช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถสร้างตัวจัดการการทำงานแบบ hot-swappable

    ✅ รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และการปรับปรุงด้านกราฟิก
    - รองรับ Intel Core Ultra 200V series และ GPU Intel Arc รุ่นใหม่
    - เพิ่มประสิทธิภาพการเรนเดอร์ ray tracing ใน Blender และการเข้ารหัสวิดีโอแบบ hardware acceleration

    ✅ การเปลี่ยนแปลงด้านบริการ geolocation
    - ใช้ BeaconDB geolocation service แทนบริการของ Mozilla ที่ถูกยกเลิก

    ✅ รองรับ ARM64 และ Snapdragon chips
    - Canonical ระบุว่า Ubuntu 25.04 สามารถใช้งานบนอุปกรณ์ ARM64 และ Snapdragon ได้

    https://www.neowin.net/news/ubuntu-2504-now-available-with-gnome-48-and-linux-kernel-614/
    Ubuntu 25.04 ซึ่งมีชื่อรหัสว่า Plucky Puffin ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยมาพร้อมกับ GNOME 48 และ Linux Kernel 6.14 ซึ่งเป็นการอัปเดตที่เน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ เช่น การจัดการการแจ้งเตือนแบบใหม่ และ การตั้งค่าด้านสุขภาพดิจิทัล ✅ GNOME 48 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ - การจัดการการแจ้งเตือนแบบ stacking เพื่อให้การแจ้งเตือนเป็นระเบียบมากขึ้น - การตั้งค่าด้านสุขภาพดิจิทัลเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ได้ดีขึ้น ✅ Linux Kernel 6.14 เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมและการพัฒนา - เพิ่ม NTSYNC driver เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเกม Windows ที่รันบน WINE และ Proton - เพิ่มระบบ sched_ext ที่ช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถสร้างตัวจัดการการทำงานแบบ hot-swappable ✅ รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และการปรับปรุงด้านกราฟิก - รองรับ Intel Core Ultra 200V series และ GPU Intel Arc รุ่นใหม่ - เพิ่มประสิทธิภาพการเรนเดอร์ ray tracing ใน Blender และการเข้ารหัสวิดีโอแบบ hardware acceleration ✅ การเปลี่ยนแปลงด้านบริการ geolocation - ใช้ BeaconDB geolocation service แทนบริการของ Mozilla ที่ถูกยกเลิก ✅ รองรับ ARM64 และ Snapdragon chips - Canonical ระบุว่า Ubuntu 25.04 สามารถใช้งานบนอุปกรณ์ ARM64 และ Snapdragon ได้ https://www.neowin.net/news/ubuntu-2504-now-available-with-gnome-48-and-linux-kernel-614/
    WWW.NEOWIN.NET
    Ubuntu 25.04 now available with GNOME 48 and Linux kernel 6.14
    Canonical has released Ubuntu 25.04 to the general public. This release brings new versions of GNOME and the Linux kernel, but it's only going to be supported for a short time.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัว ChromeOS M135 ซึ่งเป็นอัปเดตใหม่ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การปรับปรุงการควบคุมด้วยใบหน้า (Face Control) และ การค้นหารูปภาพตามเนื้อหาใน Launcher โดยยังคงเน้นการพัฒนาด้านการเข้าถึงและการใช้งานที่ง่ายขึ้น

    ✅ การปรับปรุงการควบคุมด้วยใบหน้า (Face Control)
    - เพิ่มข้อความแจ้งเตือนเมื่อเปิดใช้งาน Face Control เช่น "Face control active"
    - มีปุ่มปิดการใช้งานที่ชัดเจนและแจ้งเตือนเมื่อเปิดใช้งาน

    ✅ การค้นหารูปภาพตามเนื้อหาใน Launcher
    - ผู้ใช้สามารถค้นหารูปภาพโดยไม่ต้องจำชื่อไฟล์ เพียงแค่ค้นหาตามเนื้อหาของภาพ

    ✅ การรองรับ Android Bluetooth Stack (Fluoride)
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth เป็นไปอย่างราบรื่น
    - รองรับการใช้งานบน ChromeOS Flex สำหรับฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า

    ✅ ฟีเจอร์ Mouse Keys และ Fast Pair สำหรับเมาส์
    - Mouse Keys ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมเคอร์เซอร์ด้วยคีย์บอร์ด
    - Fast Pair ช่วยให้การเชื่อมต่อเมาส์ที่รองรับเป็นไปอย่างรวดเร็ว

    ✅ การอัปเดตจะทยอยเปิดให้ใช้งานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
    - หากพบปัญหา ผู้ใช้สามารถรายงานได้ผ่านระบบฟีดแบ็ก

    https://www.neowin.net/news/google-brings-chromeos-m135-to-the-stable-channel-with-improved-mouse-support-and-more/
    Google ได้เปิดตัว ChromeOS M135 ซึ่งเป็นอัปเดตใหม่ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การปรับปรุงการควบคุมด้วยใบหน้า (Face Control) และ การค้นหารูปภาพตามเนื้อหาใน Launcher โดยยังคงเน้นการพัฒนาด้านการเข้าถึงและการใช้งานที่ง่ายขึ้น ✅ การปรับปรุงการควบคุมด้วยใบหน้า (Face Control) - เพิ่มข้อความแจ้งเตือนเมื่อเปิดใช้งาน Face Control เช่น "Face control active" - มีปุ่มปิดการใช้งานที่ชัดเจนและแจ้งเตือนเมื่อเปิดใช้งาน ✅ การค้นหารูปภาพตามเนื้อหาใน Launcher - ผู้ใช้สามารถค้นหารูปภาพโดยไม่ต้องจำชื่อไฟล์ เพียงแค่ค้นหาตามเนื้อหาของภาพ ✅ การรองรับ Android Bluetooth Stack (Fluoride) - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth เป็นไปอย่างราบรื่น - รองรับการใช้งานบน ChromeOS Flex สำหรับฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า ✅ ฟีเจอร์ Mouse Keys และ Fast Pair สำหรับเมาส์ - Mouse Keys ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมเคอร์เซอร์ด้วยคีย์บอร์ด - Fast Pair ช่วยให้การเชื่อมต่อเมาส์ที่รองรับเป็นไปอย่างรวดเร็ว ✅ การอัปเดตจะทยอยเปิดให้ใช้งานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า - หากพบปัญหา ผู้ใช้สามารถรายงานได้ผ่านระบบฟีดแบ็ก https://www.neowin.net/news/google-brings-chromeos-m135-to-the-stable-channel-with-improved-mouse-support-and-more/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google brings ChromeOS M135 to the stable channel, with improved mouse support and more
    ChromeOS M135 has landed in the stable channel, bringing several improvements that will roll out over the next few days.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครเหนือกว่าใครในระบบการเงินโลกใหม่?
    BEYOND DIGITAL : The new world financial system?
    เหลือเวลาเพียง 5 นาทีใน 24 ชม.ของระบบ ในระบบโลกการเงินแบบเก่าที่เงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นสกุลเงินหลักของโลกในวันนี้ กำลังๆๆๆ หมดคุณค่าที่เป็นเงินตราของโลกเข้ามาทุกที อะไรจะมาแทนระหว่าง Bitcoin กับ Digital Yuan?

    ถ้าโลกแบ่งออกเป็นสองขั้วทางการเงินใหญ่ ๆ คือ
    • ฝ่ายอเมริกาและพันธมิตรเลือกใช้ Bitcoin
    • ฝ่ายจีนและกลุ่ม BRICS เลือกใช้ Digital หยวน (e-CNY)
    จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจระดับโลกครั้งใหญ่มาก เราอาจจะได้เห็นระบบการเงินโลกใหม่ที่ไม่ได้มีศูนย์กลางเพียงแห่งเดียวอีกต่อไป
    ลักษณะของระบบการเงินทั้งสอง
    1. ฝ่ายอเมริกา + พันธมิตร (Bitcoin)
    • ไร้ศูนย์กลาง (Decentralized) ไม่มีรัฐบาลควบคุม
    • ใช้ระบบ Blockchain แบบเปิด โปร่งใสและตรวจสอบได้
    • มีจำนวนจำกัด (21 ล้าน BTC) ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อน้อยในระยะยาว
    • อิงหลักการ ตลาดเสรี และความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน
    • ธนาคารกลางจะมีบทบาทลดลงมาก หรือถูกบีบให้ปรับตัว
    2. ฝ่ายจีน + BRICS (Digital Yuan/e-CNY)
    • มีศูนย์กลาง (Centralized) ควบคุมโดยรัฐและธนาคารกลางจีน
    • ใช้ Blockchain แบบปิด หรือเทคโนโลยี ledger เฉพาะภายใน
    • ใช้เป็นเครื่องมือกำหนดนโยบายการเงินของรัฐได้อย่างแม่นยำ
    • ติดตามและควบคุมธุรกรรมของผู้ใช้งานได้
    • สร้างระบบการโอนเงินระหว่างประเทศใหม่ เช่น CIPS แทน SWIFT
    จุดร่วมของทั้งสองระบบ
    • เป็น เงินดิจิทัล ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain หรือ DLT
    • มีความเร็วในการโอนเงินข้ามประเทศสูงกว่าระบบธนาคารเดิม
    • ลดต้นทุนในการทำธุรกรรม
    • เป็นการท้าทายระบบการเงินเดิมที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐ
    จุดแตกต่างหลัก
    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    • ระบบการเงินโลกจะแตกออกเป็น 2 มาตรฐาน เหมือนสงครามเย็นทางเศรษฐกิจ
    • ประเทศต่าง ๆ อาจต้องเลือกข้าง หรือพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองให้รองรับทั้งสองระบบ
    • ดอลลาร์สหรัฐอาจสูญเสียสถานะการเป็นเงินสำรองหลักของโลก หาก Bitcoin หรือ e-CNY ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
    • แรงกดดันต่อ IMF, World Bank และระบบ SWIFT ให้ปรับตัวหรือเสื่อมอิทธิพลลง
    • เกิดโอกาสใหม่สำหรับประเทศกำลังพัฒนา ที่จะพึ่งพาระบบใหม่โดยไม่ผ่านระบบดั้งเดิมของตะวันตก
    นี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชั่วโมงต่อไปในวันใหม่ เราจะยื่นตรงไหนจะเลือกใช่ระบบการเงินใหม่ในโลกอนาคตกันอย่างไรตัวเราเล็กเกินที่จะกำหนดอะไรได้เองแต่เราเลือกที่จะเข้าใจและเลือกที่จะเดินไปพร้อมกับระบบใหม่นี้กันดีกว่า...

    TABU
    รัชชสิทธิ์ เปี่ยมโรจนภัทร
    ใครเหนือกว่าใครในระบบการเงินโลกใหม่? BEYOND DIGITAL : The new world financial system? เหลือเวลาเพียง 5 นาทีใน 24 ชม.ของระบบ ในระบบโลกการเงินแบบเก่าที่เงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นสกุลเงินหลักของโลกในวันนี้ กำลังๆๆๆ หมดคุณค่าที่เป็นเงินตราของโลกเข้ามาทุกที อะไรจะมาแทนระหว่าง Bitcoin กับ Digital Yuan? ถ้าโลกแบ่งออกเป็นสองขั้วทางการเงินใหญ่ ๆ คือ • ฝ่ายอเมริกาและพันธมิตรเลือกใช้ Bitcoin • ฝ่ายจีนและกลุ่ม BRICS เลือกใช้ Digital หยวน (e-CNY) จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจระดับโลกครั้งใหญ่มาก เราอาจจะได้เห็นระบบการเงินโลกใหม่ที่ไม่ได้มีศูนย์กลางเพียงแห่งเดียวอีกต่อไป ลักษณะของระบบการเงินทั้งสอง 1. ฝ่ายอเมริกา + พันธมิตร (Bitcoin) • ไร้ศูนย์กลาง (Decentralized) ไม่มีรัฐบาลควบคุม • ใช้ระบบ Blockchain แบบเปิด โปร่งใสและตรวจสอบได้ • มีจำนวนจำกัด (21 ล้าน BTC) ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อน้อยในระยะยาว • อิงหลักการ ตลาดเสรี และความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน • ธนาคารกลางจะมีบทบาทลดลงมาก หรือถูกบีบให้ปรับตัว 2. ฝ่ายจีน + BRICS (Digital Yuan/e-CNY) • มีศูนย์กลาง (Centralized) ควบคุมโดยรัฐและธนาคารกลางจีน • ใช้ Blockchain แบบปิด หรือเทคโนโลยี ledger เฉพาะภายใน • ใช้เป็นเครื่องมือกำหนดนโยบายการเงินของรัฐได้อย่างแม่นยำ • ติดตามและควบคุมธุรกรรมของผู้ใช้งานได้ • สร้างระบบการโอนเงินระหว่างประเทศใหม่ เช่น CIPS แทน SWIFT จุดร่วมของทั้งสองระบบ • เป็น เงินดิจิทัล ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain หรือ DLT • มีความเร็วในการโอนเงินข้ามประเทศสูงกว่าระบบธนาคารเดิม • ลดต้นทุนในการทำธุรกรรม • เป็นการท้าทายระบบการเงินเดิมที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐ จุดแตกต่างหลัก ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น • ระบบการเงินโลกจะแตกออกเป็น 2 มาตรฐาน เหมือนสงครามเย็นทางเศรษฐกิจ • ประเทศต่าง ๆ อาจต้องเลือกข้าง หรือพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองให้รองรับทั้งสองระบบ • ดอลลาร์สหรัฐอาจสูญเสียสถานะการเป็นเงินสำรองหลักของโลก หาก Bitcoin หรือ e-CNY ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง • แรงกดดันต่อ IMF, World Bank และระบบ SWIFT ให้ปรับตัวหรือเสื่อมอิทธิพลลง • เกิดโอกาสใหม่สำหรับประเทศกำลังพัฒนา ที่จะพึ่งพาระบบใหม่โดยไม่ผ่านระบบดั้งเดิมของตะวันตก นี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชั่วโมงต่อไปในวันใหม่ เราจะยื่นตรงไหนจะเลือกใช่ระบบการเงินใหม่ในโลกอนาคตกันอย่างไรตัวเราเล็กเกินที่จะกำหนดอะไรได้เองแต่เราเลือกที่จะเข้าใจและเลือกที่จะเดินไปพร้อมกับระบบใหม่นี้กันดีกว่า... TABU รัชชสิทธิ์ เปี่ยมโรจนภัทร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • **เจาะลึกจิตวิญญาณและอารมณ์ของตัวละครหลัก**
    (ในนิยาย *The Seven Heirs: Bonds of the Compass*)

    ---

    ### **1. หลง เจี้ยน (จีน - ทิศเหนือ)**
    **จิตวิญญาณ :** *ผู้แบกรักเก่าในร่างนักรบ*
    - **ความเจ็บปวดซ่อนเร้น :** แผลเป็นรูปเกล็ดงูบนแก้มไม่ใช่แค่ร่องรอยคำสาป แต่เป็นสัญลักษณ์แห่ง "ความอัปยศ" ที่ปล่อยให้หยวนเยี่ยนต้องเป็นอมตะเพียงลำพัง
    - **การแสดงออก :** สื่อสารผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด เวลาโกรธจะจัดระเบียบเข็มปักจักรวาลให้เรียงตัวเป็นรูปวงแหวน
    - **ความปรารถนาลึกๆ :** อยากใช้ชีวิตธรรมดาเป็นช่างซ่อมนาฬิกาในตรอกเล็กๆ ของปักกิ่ง โดยไม่ต้องสวมมงกุฎแห่งความรับผิดชอบ
    - **จุดแตกหักทางอารมณ์ :** การพบว่าหยวนเยี่ยนเลือกถูกสาปเพื่อให้เขาได้มีชีวิตต่อ...แทนที่จะปล่อยให้เขาตายตาม

    ---

    ### **2. ทาเคดะ ซากุระ (ญี่ปุ่น - ทิศตะวันออก)**
    **จิตวิญญาณ :** *ศิลปินผู้วาดภาพด้วยวิญญาณตนเอง*
    - **ความเปราะบาง :** รู้สึกเหมือนเป็น "ภาพวาดที่ยังไม่เสร็จ" เปรียบเทียบตัวเองกับพี่ชายที่สมบูรณ์แบบเสมอ
    - **พิธีกรรมส่วนตัว :** แอบเก็บเส้นผมของทุกคนที่วาดภาพไว้ในสมุดสีน้ำ เพื่อรู้สึกว่ายังควบคุมบางสิ่งได้
    - **ความฝันลับ :** อยากวาดภาพที่ไม่มีคำสาปซ่อนอยู่ แค่ภาพทุ่งซากุระกับพี่ชายที่ยิ้มได้อย่างอิสระ
    - **การเผชิญความจริง :** วันที่ต้องใช้พู่กันจุ่มเลือดตัวเองเพื่อวาดทางรอดให้ทุกคน

    ---

    ### **3. วีร ราชปุต (อินเดีย - ทิศตะวันตก)**
    **จิตวิญญาณ :** *มหาเศรษฐีผู้ห่อหุ้มหัวใจด้วยเงินตรา*
    - **ความกลัวที่ซ่อนอยู่ :** กลัวความเงียบ จึงใช้เสียงเพลง/การเจรจาเติมเต็มชีวิตตลอดเวลา
    - **พฤติกรรมย้ำคิด :** นับเม็ดพลอยในสร้อย 108 เม็ดทุกเช้า เพื่อยืนยันว่ายัง "เป็นปกติ"
    - **ความขัดแย้ง :** เกลียดความอ่อนแอ แต่แอบเก็บยาพิษที่อานยาทำไว้...ในกรณีที่ต้องฆ่าตัวตาย
    - **จุดเปลี่ยน :** การพบว่าแม่แท้ๆ ยังมีชีวิตอยู่ในร่างของศัตรู

    ---

    ### **4. คิม จีอู (เกาหลีใต้ - ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)**
    **จิตวิญญาณ :** *นกในกรงทองแห่งเสียงเพลง*
    - **ความทุกข์ระทม :** ได้ยินเสียงกระซิบจากไมโครโฟนเก่าๆ ที่พี่ชายให้มา เสียงนั้นบอกให้เธอ "ร้องให้ดังกว่านี้...แม้ต้องแลกด้วยชีวิต"
    - **การต่อรองกับชะตา :** ใช้ลิปสติกสีเลือดเขียนคำสาปบนกระจกห้องน้ำทุกครั้งก่อนขึ้นเวที
    - **ความฝันที่ถูกกดทับ :** อยากร้องเพลงกล่อมเด็กในหมู่บ้านเล็กๆ โดยไม่ต้องมีเอฟเฟกต์พิเศษ
    - **ความสัมพันธ์กับแทฮยอน :** รู้สึกเหมือนเป็น "นกขมิ้นในกรงทอง" ที่พี่ชายสวยงาม แต่กรงนั้นทำจากความผิดพลาดในอดีตของเขา

    ---

    ### **5. ณัฐ ศรีสุวรรณ (ไทย - ทิศใต้)**
    **จิตวิญญาณ :** *นักรบผู้สวมหน้ากากแห่งรอยยิ้ม*
    - **ความเจ็บปวดที่ซ่อนใต้รอยสัก :** สักคำว่า "อิสระ" ซ่อนไว้ใต้ลายนาคราช แต่รู้ตัวว่าตนเองถูกพันธนาการโดยความรักที่มีต่อน้องสาว
    - **พิธีกรรม :** ทุบกระจกในห้องฝึกมวยทุกครั้งที่รู้สึกอ่อนแอ
    - **ความฝันลึกๆ :** อยากพาพิมพ์ลดาไปเที่ยวทะเล โดยไม่ต้องคิดเรื่องคำสาปหรือพิธีกรรม
    - **จุดพลิกผัน :** วันที่พิมพ์ลดาเลือกเต้นระบำหน้ากากครั้งสุดท้าย...โดยไม่บอกเขา

    ---

    ### **6. เดีย วิชายา (อินโดนีเซีย - ทิศตะวันออกเฉียงใต้)**
    **จิตวิญญาณ :** *ราชินีเครื่องเทศผู้หลงกลิ่นอดีต*
    - **ความขัดแย้ง :** เกลียดเครื่องเทศเพราะถูกพ่อฝึกจนจมูกเสื่อม แต่กลับใช้มันเป็นอาวุธ
    - **ความทรงจำสุขสุด :** กลิ่นดินหลังฝนตกในวันที่พี่ชายพาไปตั้งแคมป์โดยไม่บอกแม่
    - **ความกลัว :** กลัวการถูกทิ้ง จึงแสร้งทำตัวแข็งกร้าวตลอดเวลา
    - **สัญลักษณ์ :** แก้วกาแฟร้าวที่พี่ชายให้...เก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ"

    ---

    ### **7. เหงียน ลาน (เวียดนาม - ทิศตะวันตกเฉียงใต้)**
    **จิตวิญญาณ :** *เชฟผู้ปรุงรสชาติแห่งความทรงจำ*
    - **ความสามารถพิเศษ :** รู้รสชาติอารมณ์คนผ่านอาหาร แต่ไม่สามารถลิ้มรสอาหารที่ตัวเองปรุงได้
    - **พิธีกรรม :** แอบชิมน้ำตาตัวเองเวลาปรุงอาหารให้คนสำคัญ
    - **ความฝันที่ถูกเก็บไว้ :** อยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่เสิร์ฟแต่เมนูแห่งความสุข โดยไม่มีสูตรลับของตระกูล
    - **ความสัมพันธ์กับล็อง :** มองว่าพี่ชายคือ "สมุดบันทึกที่มีชีวิต" ที่เธอไม่อยากให้เขียนจบ
    **เจาะลึกจิตวิญญาณและอารมณ์ของตัวละครหลัก** (ในนิยาย *The Seven Heirs: Bonds of the Compass*) --- ### **1. หลง เจี้ยน (จีน - ทิศเหนือ)** **จิตวิญญาณ :** *ผู้แบกรักเก่าในร่างนักรบ* - **ความเจ็บปวดซ่อนเร้น :** แผลเป็นรูปเกล็ดงูบนแก้มไม่ใช่แค่ร่องรอยคำสาป แต่เป็นสัญลักษณ์แห่ง "ความอัปยศ" ที่ปล่อยให้หยวนเยี่ยนต้องเป็นอมตะเพียงลำพัง - **การแสดงออก :** สื่อสารผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด เวลาโกรธจะจัดระเบียบเข็มปักจักรวาลให้เรียงตัวเป็นรูปวงแหวน - **ความปรารถนาลึกๆ :** อยากใช้ชีวิตธรรมดาเป็นช่างซ่อมนาฬิกาในตรอกเล็กๆ ของปักกิ่ง โดยไม่ต้องสวมมงกุฎแห่งความรับผิดชอบ - **จุดแตกหักทางอารมณ์ :** การพบว่าหยวนเยี่ยนเลือกถูกสาปเพื่อให้เขาได้มีชีวิตต่อ...แทนที่จะปล่อยให้เขาตายตาม --- ### **2. ทาเคดะ ซากุระ (ญี่ปุ่น - ทิศตะวันออก)** **จิตวิญญาณ :** *ศิลปินผู้วาดภาพด้วยวิญญาณตนเอง* - **ความเปราะบาง :** รู้สึกเหมือนเป็น "ภาพวาดที่ยังไม่เสร็จ" เปรียบเทียบตัวเองกับพี่ชายที่สมบูรณ์แบบเสมอ - **พิธีกรรมส่วนตัว :** แอบเก็บเส้นผมของทุกคนที่วาดภาพไว้ในสมุดสีน้ำ เพื่อรู้สึกว่ายังควบคุมบางสิ่งได้ - **ความฝันลับ :** อยากวาดภาพที่ไม่มีคำสาปซ่อนอยู่ แค่ภาพทุ่งซากุระกับพี่ชายที่ยิ้มได้อย่างอิสระ - **การเผชิญความจริง :** วันที่ต้องใช้พู่กันจุ่มเลือดตัวเองเพื่อวาดทางรอดให้ทุกคน --- ### **3. วีร ราชปุต (อินเดีย - ทิศตะวันตก)** **จิตวิญญาณ :** *มหาเศรษฐีผู้ห่อหุ้มหัวใจด้วยเงินตรา* - **ความกลัวที่ซ่อนอยู่ :** กลัวความเงียบ จึงใช้เสียงเพลง/การเจรจาเติมเต็มชีวิตตลอดเวลา - **พฤติกรรมย้ำคิด :** นับเม็ดพลอยในสร้อย 108 เม็ดทุกเช้า เพื่อยืนยันว่ายัง "เป็นปกติ" - **ความขัดแย้ง :** เกลียดความอ่อนแอ แต่แอบเก็บยาพิษที่อานยาทำไว้...ในกรณีที่ต้องฆ่าตัวตาย - **จุดเปลี่ยน :** การพบว่าแม่แท้ๆ ยังมีชีวิตอยู่ในร่างของศัตรู --- ### **4. คิม จีอู (เกาหลีใต้ - ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)** **จิตวิญญาณ :** *นกในกรงทองแห่งเสียงเพลง* - **ความทุกข์ระทม :** ได้ยินเสียงกระซิบจากไมโครโฟนเก่าๆ ที่พี่ชายให้มา เสียงนั้นบอกให้เธอ "ร้องให้ดังกว่านี้...แม้ต้องแลกด้วยชีวิต" - **การต่อรองกับชะตา :** ใช้ลิปสติกสีเลือดเขียนคำสาปบนกระจกห้องน้ำทุกครั้งก่อนขึ้นเวที - **ความฝันที่ถูกกดทับ :** อยากร้องเพลงกล่อมเด็กในหมู่บ้านเล็กๆ โดยไม่ต้องมีเอฟเฟกต์พิเศษ - **ความสัมพันธ์กับแทฮยอน :** รู้สึกเหมือนเป็น "นกขมิ้นในกรงทอง" ที่พี่ชายสวยงาม แต่กรงนั้นทำจากความผิดพลาดในอดีตของเขา --- ### **5. ณัฐ ศรีสุวรรณ (ไทย - ทิศใต้)** **จิตวิญญาณ :** *นักรบผู้สวมหน้ากากแห่งรอยยิ้ม* - **ความเจ็บปวดที่ซ่อนใต้รอยสัก :** สักคำว่า "อิสระ" ซ่อนไว้ใต้ลายนาคราช แต่รู้ตัวว่าตนเองถูกพันธนาการโดยความรักที่มีต่อน้องสาว - **พิธีกรรม :** ทุบกระจกในห้องฝึกมวยทุกครั้งที่รู้สึกอ่อนแอ - **ความฝันลึกๆ :** อยากพาพิมพ์ลดาไปเที่ยวทะเล โดยไม่ต้องคิดเรื่องคำสาปหรือพิธีกรรม - **จุดพลิกผัน :** วันที่พิมพ์ลดาเลือกเต้นระบำหน้ากากครั้งสุดท้าย...โดยไม่บอกเขา --- ### **6. เดีย วิชายา (อินโดนีเซีย - ทิศตะวันออกเฉียงใต้)** **จิตวิญญาณ :** *ราชินีเครื่องเทศผู้หลงกลิ่นอดีต* - **ความขัดแย้ง :** เกลียดเครื่องเทศเพราะถูกพ่อฝึกจนจมูกเสื่อม แต่กลับใช้มันเป็นอาวุธ - **ความทรงจำสุขสุด :** กลิ่นดินหลังฝนตกในวันที่พี่ชายพาไปตั้งแคมป์โดยไม่บอกแม่ - **ความกลัว :** กลัวการถูกทิ้ง จึงแสร้งทำตัวแข็งกร้าวตลอดเวลา - **สัญลักษณ์ :** แก้วกาแฟร้าวที่พี่ชายให้...เก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ" --- ### **7. เหงียน ลาน (เวียดนาม - ทิศตะวันตกเฉียงใต้)** **จิตวิญญาณ :** *เชฟผู้ปรุงรสชาติแห่งความทรงจำ* - **ความสามารถพิเศษ :** รู้รสชาติอารมณ์คนผ่านอาหาร แต่ไม่สามารถลิ้มรสอาหารที่ตัวเองปรุงได้ - **พิธีกรรม :** แอบชิมน้ำตาตัวเองเวลาปรุงอาหารให้คนสำคัญ - **ความฝันที่ถูกเก็บไว้ :** อยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่เสิร์ฟแต่เมนูแห่งความสุข โดยไม่มีสูตรลับของตระกูล - **ความสัมพันธ์กับล็อง :** มองว่าพี่ชายคือ "สมุดบันทึกที่มีชีวิต" ที่เธอไม่อยากให้เขียนจบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยถึงการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน คาดไม่เกิน 7 วัน ถ้าไม่ทันก็ขยายไปเรื่อยๆ มีหลายเรื่องที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ทุกคนที่ทำผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีหมด ส่วนจำนวนผู้ที่จะถูกออกหมายจับยังตอบไม่ได้ เพราะกำลังสอบผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งพนักงานตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ได้ไปตรวจสอบหรือไม่ บริษัทรับเหมาก่อสร้างทำถูกแบบหรือไม่ มีวิศวกรสถาปนิกเข้าไปดูการก่อสร้างหรือไม่ รายละเอียดเยอะมากต้องใช้เวลา ส่วน สตง. ที่เป็นคนอนุมัติแบบและใช้งบประมาณ ถูกมองว่าไม่มีรายละเอียด ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าจะเอาผิด สตง.ได้หรือไม่นั้น
    ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนมากกว่านี้ จึงจะตอบได้

    -วิศวกรถูกปลอมลายเซ็นเพียบ
    -แนะอยู่หน้างานเก็บหลักฐาน
    -เอาผิดฉ้อโกงลงทุนทอง
    -หนุนค่ายมือถือแจ้งเตือนภัย
    พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยถึงการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน คาดไม่เกิน 7 วัน ถ้าไม่ทันก็ขยายไปเรื่อยๆ มีหลายเรื่องที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ทุกคนที่ทำผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีหมด ส่วนจำนวนผู้ที่จะถูกออกหมายจับยังตอบไม่ได้ เพราะกำลังสอบผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งพนักงานตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ได้ไปตรวจสอบหรือไม่ บริษัทรับเหมาก่อสร้างทำถูกแบบหรือไม่ มีวิศวกรสถาปนิกเข้าไปดูการก่อสร้างหรือไม่ รายละเอียดเยอะมากต้องใช้เวลา ส่วน สตง. ที่เป็นคนอนุมัติแบบและใช้งบประมาณ ถูกมองว่าไม่มีรายละเอียด ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าจะเอาผิด สตง.ได้หรือไม่นั้น ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนมากกว่านี้ จึงจะตอบได้ -วิศวกรถูกปลอมลายเซ็นเพียบ -แนะอยู่หน้างานเก็บหลักฐาน -เอาผิดฉ้อโกงลงทุนทอง -หนุนค่ายมือถือแจ้งเตือนภัย
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยถึงการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน คาดไม่เกิน 7 วัน ถ้าไม่ทันก็ขยายไปเรื่อยๆ มีหลายเรื่องที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ทุกคนที่ทำผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีหมด ส่วนจำนวนผู้ที่จะถูกออกหมายจับยังตอบไม่ได้ เพราะกำลังสอบผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งพนักงานตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ได้ไปตรวจสอบหรือไม่ บริษัทรับเหมาก่อสร้างทำถูกแบบหรือไม่ มีวิศวกรสถาปนิกเข้าไปดูการก่อสร้างหรือไม่ รายละเอียดเยอะมาก ต้องใช้เวลา ส่วน สตง. ที่เป็นคนอนุมัติแบบและใช้งบประมาณ ถูกมองว่าไม่มีรายละเอียด ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าจะเอาผิด สตง.ได้หรือไม่นั้น ต้องรวบรวมพยานหลักฐานก่อนจึงจะตอบได้ ตอนนี้เริ่มต้นมาระยะหนึ่งแล้ว ต้องให้ชัดเจนมากกว่านี้
    พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยถึงการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน คาดไม่เกิน 7 วัน ถ้าไม่ทันก็ขยายไปเรื่อยๆ มีหลายเรื่องที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ทุกคนที่ทำผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีหมด ส่วนจำนวนผู้ที่จะถูกออกหมายจับยังตอบไม่ได้ เพราะกำลังสอบผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งพนักงานตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ได้ไปตรวจสอบหรือไม่ บริษัทรับเหมาก่อสร้างทำถูกแบบหรือไม่ มีวิศวกรสถาปนิกเข้าไปดูการก่อสร้างหรือไม่ รายละเอียดเยอะมาก ต้องใช้เวลา ส่วน สตง. ที่เป็นคนอนุมัติแบบและใช้งบประมาณ ถูกมองว่าไม่มีรายละเอียด ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าจะเอาผิด สตง.ได้หรือไม่นั้น ต้องรวบรวมพยานหลักฐานก่อนจึงจะตอบได้ ตอนนี้เริ่มต้นมาระยะหนึ่งแล้ว ต้องให้ชัดเจนมากกว่านี้
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 470 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 10 ทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับเงิน
    .
    สุภาษิตจีนบอกว่า หากจะกินผลไม้ที่ปลูกเองอย่างเร็วที่สุดก็ต้องปลูกวันนี้เลย ถ้าจะให้ผลิดอกออกผลอย่างดีแล้ว ก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของมันตั้งแต่แรก และวางแผนก่อนลงมือปลูกว่าจะปลูกที่ใด ห่างจากต้นไม้อื่นมากน้อยแค่ไหน การผลิดอกออกผลของเงินก็เหมือนกัน จำเป็นต้องเข้าใจธรรมชาติของมัน และวางแผนเพื่อความมั่นคงที่จะได้ดอกผล
    .
    มีความตรงหลายประเด็นที่ควรทำความเข้าใจ นั่นคือเงินเป็นได้ทั้งนาย ทาส มิตร และศัตรู ถ้าผู้ใดยอมให้เงินเป็นนาย ชีวิตก็จะอับเฉา เพราะจริยธรรมจะเป็นเรื่องรองจากการแสวงหาเงินทอง การใช้เล่ห์เพทุบายฉ้อฉลคดโกงจะเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของคนเหล่านี้ เพราะสามารถกระทำได้ทุกสิ่งเพียงให้ได้เงิน แต่ถ้าเห็นว่าเงินมิใช่เรื่องใหญ่ที่สุด และสามารถมีวินัยควบคุมตนเองให้มีอำนาจเหนือเงินได้แล้ว เงินก็จะเป็นทาสรับใช้และเป็นมิตรไปพร้อมๆกันด้วย เพราะเงินจะทำงานรับใช้ตลอดเวลา โดยจะหาเงินมาให้จากการที่ได้เอาเงินไปลงทุนไว้
    .
    การที่เงินเป็นศัตรูนั้นเกิดขึ้นเมื่อต้องกู้หนี้ยืมสิน เพราะจำเป็นต้องใช้เงินในขณะที่เงินในมือมีไม่พอ ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็คือการเป็นศัตรูของเงิน เพราะมันจะทิ่มแทงผู้กู้ตลอดเวลาทั้งหลับและตื่น การเลือกให้เงินเป็นทาสและให้เงินเป็นมิตรจึงเป็นสิ่งพึงประสงค์กว่ากรณีเงินเป็นนายและศัตรู
    .
    นอกจากนี้การใช้เงินที่เหมาะสมในแต่ละเดือนนั้น ควรมีลำดับความสำคัญเรียงลงไปดังนี้ (1) ค่าใช้จ่ายในการครองชีพ ซึ่งได้แก่ค่าอาหาร ค่าพาหนะ ค่าเสื้อผ้า ค่าหย่อนใจ สิ่งเหล่านี้สำคัญที่สุดเพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่ทำให้มีชีวิตอยู่รอด (2) กันเงินส่วนหนึ่งไว้สำรองฉุกเฉินในรูปของเงินฝากออมทรัพย์ หรือการลงทุนระยะสั้นที่สามารถถอนมาใช้ได้ทันกาล (3) จ่ายภาระหนี้สินที่จำเป็น เช่น เงินผ่อนชำระหนี้เพื่อการบริโภค (หนี้บัตรเครดิต) และเพื่อการศึกษา และ (4) หักเงินไว้สำหรับแผนการในอนาคตที่สำคัญเพื่อการมีชีวิตที่มีความสุขสบายและมั่นคง เช่น ค่าดาวน์บ้าน ค่าดาวน์รถยนต์ ทุนการศึกษาของลูก ค่าภาษีปลายปี เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือเงินอย่างอื่นเพื่อเป็นทุนตอนเกษียฯอายุ (5) หักเบี้ยประกันชีวิต ประกันรถยนต์ และค่าประกันอื่นๆ เพื่อความมั่นคงในชีวิต การประกันเหล่านี้แท้จริงแล้วก็คือการประกันเงินออมทางอ้อมนั่นเอง เพราะหากไม่มีการประกันแล้ว เหตุการณ์ที่ทำให้เสียเงินมากๆ โดยไม่คาดฝันจะทำให้ต้องเอาเงินออมออกมาใช้จนอาจหมดไปก็เป็นได้
    .
    รายจ่ายทั้ง 5 รายการนี้ปนเปกันอยู่ทั้งรายจ่ายเพื่อการบริโภคและเงินออม (ค่าดาวน์บ้าน ทุนการศึกษา ค่าดาวน์รถยนต์ เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ) สิ่งสำคัญก็คือ ในภาพรวมของช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น หนึ่งปี รายจ่ายเพื่อการบริโภครวมกันไม่ควรเกินร้อยละ 85 ซึ่งหมายถึงมีเงินออมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันถือว่าเป็นอัตราต่ำสุดของการออม
    .
    เงินมีแขนขา มีพลวัตไม่หยุดนิ่ง การมีรายได้น้อยแต่ยังพอมีชีวิตอยู่รอดด้วยปัจจัยสี่ระดับพื้นฐาน มิได้หมายความว่าขาดโอกาสในการสร้างความมั่นคงให้แก่ชีวิต ถ้าหากสามารถกันเงินส่วนหนึ่งออกจากรายได้ก่อนการบริโภค ก็จะทำให้มีเงินออมเป็นทุนเริ่มต้น
    .
    การออมทำได้หลายวิธี ดังนี้
    .
    (1) เก็บเงินแบบเพิ่มสิบ กล่าวคือเมื่อใดก็ตามที่ใช้เงินออกไป ให้บวกยอดเงินเข้าไปอีกร้อยละ 10 เช่น ถ้าซื้อของ 100 บาท ก็ให้เก็บเงินไว้อีก 10 บาทเสมอ ถ้าทำอย่างนี้เป็นประจำ ไม่ว่าจะจ่ายออกไปมากน้อยเพียงใด ก็จะมีเงินออมร้อยละ 10 อยู่ในมือเสมอ ข้อดีของมันคล้ายกับมีภาษีเก็บเพิ่มนั่นเอง เช่น เมื่อจะซื้อของราคา 500 บาท ก็จะเกิดความคิดว่าราคาของมันคือ 550 บาท ดังนั้น การใช้จ่ายก็จะน้อยลงไปด้วยโดยอัตโนมัติ
    (2) เก็บเงินแบบลบสิบ กล่าวคือ หักเงินร้อยละ 10 ของเงินเดือนทันทีที่ได้รับมาเป็นเงินออม โดยอาจเป็นการสั่งให้หักเงินเดือนเข้าอีกบัญชีหนึ่งในอัตราร้อยละ 10 ของรายได้ทุกเดือน การกระทำเช่นนี้ก็จะทำให้มีเงินออมร้อยละ 10 ของรายได้ทุกเดือน
    (3) กำหนดการออมแต่ละวันไว้ตายตัว เช่น แต่ละเดือนเก็บเงินออมวันละ 15 บาททุกวัน โดยรวมกันทั้งเดือนอย่างน้อยไม่ควรต่ำกว่าร้อยละ 10 ของเงินเดือน และหากเป็นไปได้ไม่ควรออมต่ำกว่าร้อยละ 15 ของรายได้ก่อนหักภาษี
    .
    ทั้ง 3 วิธีนี้จะทำให้เก็บเงินได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของเงินเดือน ซึ่งเงินออมทั้งหมดนี้มีแขนขาที่สามารถงอกเงยออกไปได้อย่างไม่หยุดยั่ง ขอยกตัวอย่างตัวเลขให้ดูดังนี้ การออมวันละ 15 บาท และนำฝากธนาคารทุกวันอย่างสม่ำเสมอด้วยอัตราดอกเบี้ยทยต้นร้อยละ 10 ต่อปี ในเวลา 13 ปี จะมีเงินก้อน 100,000 บาท (เงินออมจริงๆคือ 71,175 บาท ดอกเบี้ยคือ 28,825 บาท)
    .
    เงินก้อนนี้สามารถนำไปดาวน์บ้านหรือลงทุนเพื่อให้เกิดความสุขสบายโดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้านอีกต่อไป หรือได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนซึ่งสามารถทำให้เงินงอกเงยขึ้นได้
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 10 ทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับเงิน . สุภาษิตจีนบอกว่า หากจะกินผลไม้ที่ปลูกเองอย่างเร็วที่สุดก็ต้องปลูกวันนี้เลย ถ้าจะให้ผลิดอกออกผลอย่างดีแล้ว ก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของมันตั้งแต่แรก และวางแผนก่อนลงมือปลูกว่าจะปลูกที่ใด ห่างจากต้นไม้อื่นมากน้อยแค่ไหน การผลิดอกออกผลของเงินก็เหมือนกัน จำเป็นต้องเข้าใจธรรมชาติของมัน และวางแผนเพื่อความมั่นคงที่จะได้ดอกผล . มีความตรงหลายประเด็นที่ควรทำความเข้าใจ นั่นคือเงินเป็นได้ทั้งนาย ทาส มิตร และศัตรู ถ้าผู้ใดยอมให้เงินเป็นนาย ชีวิตก็จะอับเฉา เพราะจริยธรรมจะเป็นเรื่องรองจากการแสวงหาเงินทอง การใช้เล่ห์เพทุบายฉ้อฉลคดโกงจะเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของคนเหล่านี้ เพราะสามารถกระทำได้ทุกสิ่งเพียงให้ได้เงิน แต่ถ้าเห็นว่าเงินมิใช่เรื่องใหญ่ที่สุด และสามารถมีวินัยควบคุมตนเองให้มีอำนาจเหนือเงินได้แล้ว เงินก็จะเป็นทาสรับใช้และเป็นมิตรไปพร้อมๆกันด้วย เพราะเงินจะทำงานรับใช้ตลอดเวลา โดยจะหาเงินมาให้จากการที่ได้เอาเงินไปลงทุนไว้ . การที่เงินเป็นศัตรูนั้นเกิดขึ้นเมื่อต้องกู้หนี้ยืมสิน เพราะจำเป็นต้องใช้เงินในขณะที่เงินในมือมีไม่พอ ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็คือการเป็นศัตรูของเงิน เพราะมันจะทิ่มแทงผู้กู้ตลอดเวลาทั้งหลับและตื่น การเลือกให้เงินเป็นทาสและให้เงินเป็นมิตรจึงเป็นสิ่งพึงประสงค์กว่ากรณีเงินเป็นนายและศัตรู . นอกจากนี้การใช้เงินที่เหมาะสมในแต่ละเดือนนั้น ควรมีลำดับความสำคัญเรียงลงไปดังนี้ (1) ค่าใช้จ่ายในการครองชีพ ซึ่งได้แก่ค่าอาหาร ค่าพาหนะ ค่าเสื้อผ้า ค่าหย่อนใจ สิ่งเหล่านี้สำคัญที่สุดเพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่ทำให้มีชีวิตอยู่รอด (2) กันเงินส่วนหนึ่งไว้สำรองฉุกเฉินในรูปของเงินฝากออมทรัพย์ หรือการลงทุนระยะสั้นที่สามารถถอนมาใช้ได้ทันกาล (3) จ่ายภาระหนี้สินที่จำเป็น เช่น เงินผ่อนชำระหนี้เพื่อการบริโภค (หนี้บัตรเครดิต) และเพื่อการศึกษา และ (4) หักเงินไว้สำหรับแผนการในอนาคตที่สำคัญเพื่อการมีชีวิตที่มีความสุขสบายและมั่นคง เช่น ค่าดาวน์บ้าน ค่าดาวน์รถยนต์ ทุนการศึกษาของลูก ค่าภาษีปลายปี เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือเงินอย่างอื่นเพื่อเป็นทุนตอนเกษียฯอายุ (5) หักเบี้ยประกันชีวิต ประกันรถยนต์ และค่าประกันอื่นๆ เพื่อความมั่นคงในชีวิต การประกันเหล่านี้แท้จริงแล้วก็คือการประกันเงินออมทางอ้อมนั่นเอง เพราะหากไม่มีการประกันแล้ว เหตุการณ์ที่ทำให้เสียเงินมากๆ โดยไม่คาดฝันจะทำให้ต้องเอาเงินออมออกมาใช้จนอาจหมดไปก็เป็นได้ . รายจ่ายทั้ง 5 รายการนี้ปนเปกันอยู่ทั้งรายจ่ายเพื่อการบริโภคและเงินออม (ค่าดาวน์บ้าน ทุนการศึกษา ค่าดาวน์รถยนต์ เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ) สิ่งสำคัญก็คือ ในภาพรวมของช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น หนึ่งปี รายจ่ายเพื่อการบริโภครวมกันไม่ควรเกินร้อยละ 85 ซึ่งหมายถึงมีเงินออมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันถือว่าเป็นอัตราต่ำสุดของการออม . เงินมีแขนขา มีพลวัตไม่หยุดนิ่ง การมีรายได้น้อยแต่ยังพอมีชีวิตอยู่รอดด้วยปัจจัยสี่ระดับพื้นฐาน มิได้หมายความว่าขาดโอกาสในการสร้างความมั่นคงให้แก่ชีวิต ถ้าหากสามารถกันเงินส่วนหนึ่งออกจากรายได้ก่อนการบริโภค ก็จะทำให้มีเงินออมเป็นทุนเริ่มต้น . การออมทำได้หลายวิธี ดังนี้ . (1) เก็บเงินแบบเพิ่มสิบ กล่าวคือเมื่อใดก็ตามที่ใช้เงินออกไป ให้บวกยอดเงินเข้าไปอีกร้อยละ 10 เช่น ถ้าซื้อของ 100 บาท ก็ให้เก็บเงินไว้อีก 10 บาทเสมอ ถ้าทำอย่างนี้เป็นประจำ ไม่ว่าจะจ่ายออกไปมากน้อยเพียงใด ก็จะมีเงินออมร้อยละ 10 อยู่ในมือเสมอ ข้อดีของมันคล้ายกับมีภาษีเก็บเพิ่มนั่นเอง เช่น เมื่อจะซื้อของราคา 500 บาท ก็จะเกิดความคิดว่าราคาของมันคือ 550 บาท ดังนั้น การใช้จ่ายก็จะน้อยลงไปด้วยโดยอัตโนมัติ (2) เก็บเงินแบบลบสิบ กล่าวคือ หักเงินร้อยละ 10 ของเงินเดือนทันทีที่ได้รับมาเป็นเงินออม โดยอาจเป็นการสั่งให้หักเงินเดือนเข้าอีกบัญชีหนึ่งในอัตราร้อยละ 10 ของรายได้ทุกเดือน การกระทำเช่นนี้ก็จะทำให้มีเงินออมร้อยละ 10 ของรายได้ทุกเดือน (3) กำหนดการออมแต่ละวันไว้ตายตัว เช่น แต่ละเดือนเก็บเงินออมวันละ 15 บาททุกวัน โดยรวมกันทั้งเดือนอย่างน้อยไม่ควรต่ำกว่าร้อยละ 10 ของเงินเดือน และหากเป็นไปได้ไม่ควรออมต่ำกว่าร้อยละ 15 ของรายได้ก่อนหักภาษี . ทั้ง 3 วิธีนี้จะทำให้เก็บเงินได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของเงินเดือน ซึ่งเงินออมทั้งหมดนี้มีแขนขาที่สามารถงอกเงยออกไปได้อย่างไม่หยุดยั่ง ขอยกตัวอย่างตัวเลขให้ดูดังนี้ การออมวันละ 15 บาท และนำฝากธนาคารทุกวันอย่างสม่ำเสมอด้วยอัตราดอกเบี้ยทยต้นร้อยละ 10 ต่อปี ในเวลา 13 ปี จะมีเงินก้อน 100,000 บาท (เงินออมจริงๆคือ 71,175 บาท ดอกเบี้ยคือ 28,825 บาท) . เงินก้อนนี้สามารถนำไปดาวน์บ้านหรือลงทุนเพื่อให้เกิดความสุขสบายโดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้านอีกต่อไป หรือได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนซึ่งสามารถทำให้เงินงอกเงยขึ้นได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • งูสวัดมีเรื่อง อันตรายอีกเยอะนอกจากผื่น.

    • ไนตำแหน่งหน้า ศีรษะ คอ บ่าไหล่ ไม่ว่าจะอายุเท่าไร เป็นภูมิคุ้มกันปกติก็ตาม
    เป็นเรื่องต้องให้การรักษาทันที โอกาศไวรัสลามเข้าสมองผ่านทางเส้นเลือดสูงมาก

    ถ้ามาช้า และเริ่มผิดปกติมากกว่านอกจากที่ผิวหนัง มีไข้ ปวดหัว ไม่ต้องรอให้โคม่า หรือตาบอด หรือเส้นเลือดอักเสบตัน ให้เป็น IV acyclovir 10 mg/kg ทุก 8 ชั่วโมงทันที ไป 14 วัน

    ในขณะที่ตำแหน่งอื่นอาจใช้เป็นยากินแทน
    และ acyclovir กิน แม้ว่าต้องกินวันละห้าครั้งทุก 4 ชั่วโมงไปเป็นเวลาอย่างน้อยเจ็ดวันและอาจถึง 14 วัน ประสิทธิภาพดีกว่า ยาที่ทาน วันละสองครั้ง เพราะสามารถควบคุมไม่ให้ไวรัสวิ่งย้อนกลับเข้าไปตามเส้นประสาทเข้าในไขสันหลัง หรือสมอง

    ยกเว้นการมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ต้องเป็นยาฉีดทั้งหมด

    • และงูสวัดไม่ว่าอยู่ตำแหน่งใดของร่างกายมีความเสี่ยงอัมพฤกษ์ เส้นเลือดหัวใจตัน ถึง 6 เดือน จนถึงหลายปี

    ประการสำคัญ การรักษาไม่ใช่พอใจที่ทายาพอกที่ผื่น แม้ว่าทาแล้วหายเร็ว ก็ตาม
    อยู่ที่การป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบที่ปมประสาท และจะเจ็บปวดไปหลายเดือน ปี หรือไม่หาย
    และเพื่อต้องกันไม่ให้ไวรัสย้อนกลับตามเส้นประสาทเข้าไปที่ไขสันหลัง เกิตขาอัมพาต เข้าสมอง ติดเกิดเส้นเลือดอักเสบ และไวรัสทะลักเข้าไปติดเชื้อในสมอง

    • ย้ำๆๆๆ ไม่ว่างูสวัดขึ้นที่ใดต้องรักษาทั้งสิ้น ไม่ใช่เพื่อผื่นหายอย่างเดียวเท่านั้นเช่นจาก ยาทา พอก หรือกินยาสมุนไพร ต้องกันที่ร้ายแรงกว่านั้นอีกเยอะ

    • ในปัจจุบันมีวัคซีนงูสวัดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงที่เป็นโปรตีนสับยูนิต และสามารถใช้ได้กับคนที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ต่างจากวัคซีนยุคแรกที่เป็นเชื้ออ่อนกำลัง แต่อย่างไรก็ตามสารที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันดีมาก จนอาจทำให้มีปฏิกิริยาข้างเคียง ระดับน้อยจนรุนแรงแต่ไม่ได้เกิดทุกคน และในบางกรณีเกิดการกระตุ้นทำให้เกิดเส้นประสาทอักเสบได้
    • ดังนั้นการได้วัคซีน ควรต้องให้แพทย์ ให้คำแนะนำ และถ้าเกิดมีปฏิกิริยาข้างเคียงจะได้รีบรักษาได้ทัน

    ลักษณะอาการของงูสวัดและผลแทรกซ้อนไม่ได้เกิดขึ้นแต่ในระยะนั้นอย่างเดียว จะเกิดขึ้นตามหลังได้อย่างน้อยหกเดือนและอาจเป็นปีโดยเฉพาะออกอาการเป็นเส้นเลือดในสมองและเส้นเลือดในหัวใจตัน

    เพราะฉะนั้นถ้าเกิดมีอาการของเส้นเลือดหัวใจเจ็บหน้าอก หรือเส้นเลือดสมองอัมพฤกษ์ ต้องบอกคุณหมอว่าเคยเป็นงูสวัดในช่วงก่อนหน้า ซึ่งต้องพิจารณาว่าควรต้องรักษางูสวัดควบคู่กันไปด้วย ให้ทางเส้นเลือด ร่วมกับการรักษาสมองหรือหัวใจที่ผิดปกติ
    ทั้งนี้เนื่องจากยังมีความเป็นไปได้ว่าไวรัสยังไม่ได้สงบเสงี่ยมนิ่งอยู่กับที่ แต่ ยังมีการกระตุ้นการอักเสบอยู่เรื่อยๆ จนเกิดเส้นเลือดหัวใจหรือสมองตัน

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข
    และ
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    งูสวัดมีเรื่อง อันตรายอีกเยอะนอกจากผื่น. • ไนตำแหน่งหน้า ศีรษะ คอ บ่าไหล่ ไม่ว่าจะอายุเท่าไร เป็นภูมิคุ้มกันปกติก็ตาม เป็นเรื่องต้องให้การรักษาทันที โอกาศไวรัสลามเข้าสมองผ่านทางเส้นเลือดสูงมาก ถ้ามาช้า และเริ่มผิดปกติมากกว่านอกจากที่ผิวหนัง มีไข้ ปวดหัว ไม่ต้องรอให้โคม่า หรือตาบอด หรือเส้นเลือดอักเสบตัน ให้เป็น IV acyclovir 10 mg/kg ทุก 8 ชั่วโมงทันที ไป 14 วัน ในขณะที่ตำแหน่งอื่นอาจใช้เป็นยากินแทน และ acyclovir กิน แม้ว่าต้องกินวันละห้าครั้งทุก 4 ชั่วโมงไปเป็นเวลาอย่างน้อยเจ็ดวันและอาจถึง 14 วัน ประสิทธิภาพดีกว่า ยาที่ทาน วันละสองครั้ง เพราะสามารถควบคุมไม่ให้ไวรัสวิ่งย้อนกลับเข้าไปตามเส้นประสาทเข้าในไขสันหลัง หรือสมอง ยกเว้นการมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ต้องเป็นยาฉีดทั้งหมด • และงูสวัดไม่ว่าอยู่ตำแหน่งใดของร่างกายมีความเสี่ยงอัมพฤกษ์ เส้นเลือดหัวใจตัน ถึง 6 เดือน จนถึงหลายปี ประการสำคัญ การรักษาไม่ใช่พอใจที่ทายาพอกที่ผื่น แม้ว่าทาแล้วหายเร็ว ก็ตาม อยู่ที่การป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบที่ปมประสาท และจะเจ็บปวดไปหลายเดือน ปี หรือไม่หาย และเพื่อต้องกันไม่ให้ไวรัสย้อนกลับตามเส้นประสาทเข้าไปที่ไขสันหลัง เกิตขาอัมพาต เข้าสมอง ติดเกิดเส้นเลือดอักเสบ และไวรัสทะลักเข้าไปติดเชื้อในสมอง • ย้ำๆๆๆ ไม่ว่างูสวัดขึ้นที่ใดต้องรักษาทั้งสิ้น ไม่ใช่เพื่อผื่นหายอย่างเดียวเท่านั้นเช่นจาก ยาทา พอก หรือกินยาสมุนไพร ต้องกันที่ร้ายแรงกว่านั้นอีกเยอะ • ในปัจจุบันมีวัคซีนงูสวัดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงที่เป็นโปรตีนสับยูนิต และสามารถใช้ได้กับคนที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ต่างจากวัคซีนยุคแรกที่เป็นเชื้ออ่อนกำลัง แต่อย่างไรก็ตามสารที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันดีมาก จนอาจทำให้มีปฏิกิริยาข้างเคียง ระดับน้อยจนรุนแรงแต่ไม่ได้เกิดทุกคน และในบางกรณีเกิดการกระตุ้นทำให้เกิดเส้นประสาทอักเสบได้ • ดังนั้นการได้วัคซีน ควรต้องให้แพทย์ ให้คำแนะนำ และถ้าเกิดมีปฏิกิริยาข้างเคียงจะได้รีบรักษาได้ทัน ลักษณะอาการของงูสวัดและผลแทรกซ้อนไม่ได้เกิดขึ้นแต่ในระยะนั้นอย่างเดียว จะเกิดขึ้นตามหลังได้อย่างน้อยหกเดือนและอาจเป็นปีโดยเฉพาะออกอาการเป็นเส้นเลือดในสมองและเส้นเลือดในหัวใจตัน เพราะฉะนั้นถ้าเกิดมีอาการของเส้นเลือดหัวใจเจ็บหน้าอก หรือเส้นเลือดสมองอัมพฤกษ์ ต้องบอกคุณหมอว่าเคยเป็นงูสวัดในช่วงก่อนหน้า ซึ่งต้องพิจารณาว่าควรต้องรักษางูสวัดควบคู่กันไปด้วย ให้ทางเส้นเลือด ร่วมกับการรักษาสมองหรือหัวใจที่ผิดปกติ ทั้งนี้เนื่องจากยังมีความเป็นไปได้ว่าไวรัสยังไม่ได้สงบเสงี่ยมนิ่งอยู่กับที่ แต่ ยังมีการกระตุ้นการอักเสบอยู่เรื่อยๆ จนเกิดเส้นเลือดหัวใจหรือสมองตัน ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข และ ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตรวจสัญญา 4 ฉบับ ขุดไส้ในตึก สตง. : [NEWS UPDATE]

    พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีนอมินีบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ก่อสร้างที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แห่งใหม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงสัญญา 4 ฉบับ ได้แก่ 1.การออกแบบโครงสร้าง 2.การควบคุมงาน 3.การก่อสร้าง และ 4.การเปลี่ยนแบบ ส่วนการฮั้วประมูลต้องดูว่ามีการใช้กลอุบายจนได้สัญญามาหรือไม่ ซึ่งต้องพิจารณาทุกมิติ ส่วนการปลอมลายเซ็นอยู่ระหว่างขยายผล ซึ่งจะทำให้เห็นว่าในกระบวนการต่างๆ ของการสร้างตึก สตง. มีวิศวกรเกี่ยวข้องกี่ราย เป็นใครบ้าง

    -แฉถูกเกณฑ์เรียกถ่ายรูป

    -ตัดวงจรเชื้อโรค

    -ยึดอาเซียนอำนาจต่อรอง

    -ดันทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา
    ตรวจสัญญา 4 ฉบับ ขุดไส้ในตึก สตง. : [NEWS UPDATE] พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีนอมินีบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ก่อสร้างที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แห่งใหม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงสัญญา 4 ฉบับ ได้แก่ 1.การออกแบบโครงสร้าง 2.การควบคุมงาน 3.การก่อสร้าง และ 4.การเปลี่ยนแบบ ส่วนการฮั้วประมูลต้องดูว่ามีการใช้กลอุบายจนได้สัญญามาหรือไม่ ซึ่งต้องพิจารณาทุกมิติ ส่วนการปลอมลายเซ็นอยู่ระหว่างขยายผล ซึ่งจะทำให้เห็นว่าในกระบวนการต่างๆ ของการสร้างตึก สตง. มีวิศวกรเกี่ยวข้องกี่ราย เป็นใครบ้าง -แฉถูกเกณฑ์เรียกถ่ายรูป -ตัดวงจรเชื้อโรค -ยึดอาเซียนอำนาจต่อรอง -ดันทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา
    Like
    Angry
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 571 มุมมอง 58 0 รีวิว
  • ..นอกจากควบคุมมนุษย์จากพรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแล้ว การทำลายความมั่นคงต่างๆเช่นน้ำ อากาศ อาหารให้เป็นพิษ มันล่ะทำแน่นอน เดอะแก๊งdeep stateทั้งสายพันธุ์คนทรยศประจำประเทศไทยและมาในนามนักลงทุนต่างชาติสาระพัดตั้งโรงงานใกล้แหล่งน้ำแหล่งดินแหล่งอาศัยเพื่องานนี้ก็ว่า.
    ..การควบคุมน้ำแหล่งน้ำ เมื่อมันควบคุมไม่ได้ด้วยมันเอง การทำลายจึงถือกำหนดขึ้น,ดินสะสมปนเปื้อนสารพิษเรื่อยมาจากการนำเข้าผูกขาดของนายทุนเดอะแก๊งมันล้มประเทศ แล้วไหลลงแหล่งน้ำ ไม่รวมโรงงานต่างๆของแก๊งมันอีก..อำนาจจากฝ่าย,การปกครองนั้นล่ะจริงๆสามารถตัดตอนได้ควบคุมเดอะแก๊งมันได้.
    ..https://youtube.com/watch?v=3cHTiPH-KVs&si=68_iszgSmPQEBEjI
    ..นอกจากควบคุมมนุษย์จากพรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแล้ว การทำลายความมั่นคงต่างๆเช่นน้ำ อากาศ อาหารให้เป็นพิษ มันล่ะทำแน่นอน เดอะแก๊งdeep stateทั้งสายพันธุ์คนทรยศประจำประเทศไทยและมาในนามนักลงทุนต่างชาติสาระพัดตั้งโรงงานใกล้แหล่งน้ำแหล่งดินแหล่งอาศัยเพื่องานนี้ก็ว่า. ..การควบคุมน้ำแหล่งน้ำ เมื่อมันควบคุมไม่ได้ด้วยมันเอง การทำลายจึงถือกำหนดขึ้น,ดินสะสมปนเปื้อนสารพิษเรื่อยมาจากการนำเข้าผูกขาดของนายทุนเดอะแก๊งมันล้มประเทศ แล้วไหลลงแหล่งน้ำ ไม่รวมโรงงานต่างๆของแก๊งมันอีก..อำนาจจากฝ่าย,การปกครองนั้นล่ะจริงๆสามารถตัดตอนได้ควบคุมเดอะแก๊งมันได้. ..https://youtube.com/watch?v=3cHTiPH-KVs&si=68_iszgSmPQEBEjI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่าให้มันรื้อสร้างใหม่ ปล่อยให้ใช้ลานจอดผุพังไป ควบคุมงานมาตรฐานสตง. เพดานลานจอดยังเห็นสภาพเป็นทรายผสมหิน ปูนไม่ประสานกัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #สตง
    อย่าให้มันรื้อสร้างใหม่ ปล่อยให้ใช้ลานจอดผุพังไป ควบคุมงานมาตรฐานสตง. เพดานลานจอดยังเห็นสภาพเป็นทรายผสมหิน ปูนไม่ประสานกัน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #สตง
    Like
    Sad
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจาก Tom's Hardware ระบุว่า การส่งออกชิปไปยังมาเลเซียเพิ่มขึ้นถึง 366% ท่ามกลางมาตรการเข้มงวดของสหรัฐฯ ในการควบคุมการลักลอบนำเข้า Nvidia AI GPUs ไปยังจีน โดยมีข้อสงสัยว่ามาเลเซียอาจกลายเป็น ศูนย์กลางข้อมูล AI หรือเป็นช่องทางในการส่งออกชิปไปยังจีน

    ✅ การส่งออกชิปจากไต้หวันไปมาเลเซียเพิ่มขึ้น 366% ในเดือนมีนาคม
    - มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นจาก $401.92 ล้าน เป็น $1873.89 ล้าน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
    - การเพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นหลังจาก สหรัฐฯ เพิ่มมาตรการควบคุมการส่งออก AI GPUs ไปยังจีน

    ✅ มาเลเซียอาจกลายเป็นศูนย์กลางข้อมูล AI หรือช่องทางส่งออกชิปไปจีน
    - มีข้อสงสัยว่าบริษัทจีนอาจใช้มาเลเซียเป็น ศูนย์กลางในการสะสมฮาร์ดแวร์ AI ก่อนที่มาตรการควบคุมของสหรัฐฯ จะมีผลในวันที่ 15 พฤษภาคม
    - รายงานระบุว่าบริษัทจีนเป็น ลูกค้าหลักของศูนย์ข้อมูลคลาวด์ในมาเลเซีย ซึ่งอาจหมายถึงการนำเข้าเซิร์ฟเวอร์ AI จากไต้หวันเพื่อใช้งานในจีน

    ✅ การส่งออกชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์จากไต้หวันไปมาเลเซียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    - มูลค่าการส่งออกชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นจาก $15 ล้าน เป็น $60.83 ล้าน ในเดือนมีนาคม
    - อาจรวมถึง AI accelerators เช่น Nvidia H100 ซึ่งเป็นชิปที่ถูกควบคุมการส่งออกโดยสหรัฐฯ

    ✅ สหรัฐฯ ขอให้มาเลเซียเพิ่มการตรวจสอบการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังจีน
    - มีข้อสงสัยว่า Nvidia GPUs ระดับสูงอาจถูกส่งไปยังจีนผ่านมาเลเซีย
    - สหรัฐฯ กำลังตรวจสอบว่ามาเลเซียมีบทบาทในการ ช่วยให้บริษัทจีนเข้าถึงฮาร์ดแวร์ที่ถูกควบคุม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/massive-366-percent-chip-shipment-surge-to-malaysia-amid-increased-nvidia-ai-gpu-smuggling-curbs-ahead-of-looming-sectoral-tariffs
    รายงานจาก Tom's Hardware ระบุว่า การส่งออกชิปไปยังมาเลเซียเพิ่มขึ้นถึง 366% ท่ามกลางมาตรการเข้มงวดของสหรัฐฯ ในการควบคุมการลักลอบนำเข้า Nvidia AI GPUs ไปยังจีน โดยมีข้อสงสัยว่ามาเลเซียอาจกลายเป็น ศูนย์กลางข้อมูล AI หรือเป็นช่องทางในการส่งออกชิปไปยังจีน ✅ การส่งออกชิปจากไต้หวันไปมาเลเซียเพิ่มขึ้น 366% ในเดือนมีนาคม - มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นจาก $401.92 ล้าน เป็น $1873.89 ล้าน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว - การเพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นหลังจาก สหรัฐฯ เพิ่มมาตรการควบคุมการส่งออก AI GPUs ไปยังจีน ✅ มาเลเซียอาจกลายเป็นศูนย์กลางข้อมูล AI หรือช่องทางส่งออกชิปไปจีน - มีข้อสงสัยว่าบริษัทจีนอาจใช้มาเลเซียเป็น ศูนย์กลางในการสะสมฮาร์ดแวร์ AI ก่อนที่มาตรการควบคุมของสหรัฐฯ จะมีผลในวันที่ 15 พฤษภาคม - รายงานระบุว่าบริษัทจีนเป็น ลูกค้าหลักของศูนย์ข้อมูลคลาวด์ในมาเลเซีย ซึ่งอาจหมายถึงการนำเข้าเซิร์ฟเวอร์ AI จากไต้หวันเพื่อใช้งานในจีน ✅ การส่งออกชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์จากไต้หวันไปมาเลเซียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว - มูลค่าการส่งออกชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นจาก $15 ล้าน เป็น $60.83 ล้าน ในเดือนมีนาคม - อาจรวมถึง AI accelerators เช่น Nvidia H100 ซึ่งเป็นชิปที่ถูกควบคุมการส่งออกโดยสหรัฐฯ ✅ สหรัฐฯ ขอให้มาเลเซียเพิ่มการตรวจสอบการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังจีน - มีข้อสงสัยว่า Nvidia GPUs ระดับสูงอาจถูกส่งไปยังจีนผ่านมาเลเซีย - สหรัฐฯ กำลังตรวจสอบว่ามาเลเซียมีบทบาทในการ ช่วยให้บริษัทจีนเข้าถึงฮาร์ดแวร์ที่ถูกควบคุม https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/massive-366-percent-chip-shipment-surge-to-malaysia-amid-increased-nvidia-ai-gpu-smuggling-curbs-ahead-of-looming-sectoral-tariffs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • Atomic Keyboard ได้เปิดตัว MDR Dasher ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซีรีส์ Severance บน Apple TV+ โดยออกแบบให้มีรูปลักษณ์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อม trackball ในตัว และการจัดวางปุ่มที่แตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป

    ✅ MDR Dasher ได้รับแรงบันดาลใจจากคีย์บอร์ดในซีรีส์ Severance
    - คีย์บอร์ดนี้ออกแบบให้คล้ายกับ Data General Dasher terminals ที่ได้รับความนิยมในช่วงปลายยุค 70 และต้นยุค 80
    - มี ดีไซน์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อมกรอบสีขาวหม่นและปุ่มสีน้ำเงิน

    ✅ การจัดวางปุ่มแตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป
    - ไม่มีปุ่ม Escape, Control และ Option เพื่อสะท้อนธีมของซีรีส์ที่เน้นความเป็นระบบปิด
    - มี 73 ปุ่ม และใช้ เลย์เอาต์แบบ 70%

    ✅ MDR Dasher มาพร้อม trackball ในตัว
    - แทนที่จะใช้เมาส์แบบทั่วไป คีย์บอร์ดนี้มี trackball ทางด้านขวา
    - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเคอร์เซอร์ได้โดยไม่ต้องใช้เมาส์แยก

    ✅ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C และใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการหลัก
    - สามารถใช้กับ Windows, macOS และ Linux
    - ตัวเคสทำจาก อะลูมิเนียม เพื่อเพิ่มความทนทาน

    ✅ ราคายังไม่ถูกยืนยัน แต่คาดว่าอยู่ที่ประมาณ $399
    - Atomic Keyboard ยังไม่ได้ประกาศราคาสุดท้าย เนื่องจากมี ปัญหาด้านภาษีนำเข้า
    - เปิดให้ลงทะเบียนสำหรับ การสั่งจองล่วงหน้าแบบจำนวนจำกัด

    https://www.techspot.com/news/107593-real-life-severance-keyboard-here-complete-built-trackball.html
    Atomic Keyboard ได้เปิดตัว MDR Dasher ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซีรีส์ Severance บน Apple TV+ โดยออกแบบให้มีรูปลักษณ์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อม trackball ในตัว และการจัดวางปุ่มที่แตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป ✅ MDR Dasher ได้รับแรงบันดาลใจจากคีย์บอร์ดในซีรีส์ Severance - คีย์บอร์ดนี้ออกแบบให้คล้ายกับ Data General Dasher terminals ที่ได้รับความนิยมในช่วงปลายยุค 70 และต้นยุค 80 - มี ดีไซน์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อมกรอบสีขาวหม่นและปุ่มสีน้ำเงิน ✅ การจัดวางปุ่มแตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป - ไม่มีปุ่ม Escape, Control และ Option เพื่อสะท้อนธีมของซีรีส์ที่เน้นความเป็นระบบปิด - มี 73 ปุ่ม และใช้ เลย์เอาต์แบบ 70% ✅ MDR Dasher มาพร้อม trackball ในตัว - แทนที่จะใช้เมาส์แบบทั่วไป คีย์บอร์ดนี้มี trackball ทางด้านขวา - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเคอร์เซอร์ได้โดยไม่ต้องใช้เมาส์แยก ✅ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C และใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการหลัก - สามารถใช้กับ Windows, macOS และ Linux - ตัวเคสทำจาก อะลูมิเนียม เพื่อเพิ่มความทนทาน ✅ ราคายังไม่ถูกยืนยัน แต่คาดว่าอยู่ที่ประมาณ $399 - Atomic Keyboard ยังไม่ได้ประกาศราคาสุดท้าย เนื่องจากมี ปัญหาด้านภาษีนำเข้า - เปิดให้ลงทะเบียนสำหรับ การสั่งจองล่วงหน้าแบบจำนวนจำกัด https://www.techspot.com/news/107593-real-life-severance-keyboard-here-complete-built-trackball.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    A real-life Severance keyboard is here, complete with built-in trackball
    In Severance, the keyboards used by Macrodata Refinement – the department where the protagonists work – appear to draw inspiration from Data General's vintage Dasher terminals, popular...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts