• เรื่องเล่าจากโลกคริปโต: JSCEAL มัลแวร์ที่ซ่อนตัวในโฆษณาและ JavaScript

    นักวิจัยจาก Check Point พบแคมเปญมัลแวร์ขนาดใหญ่ที่เริ่มต้นตั้งแต่มีนาคม 2024 โดยใช้ชื่อว่า “JSCEAL” ซึ่งมีเป้าหมายคือผู้ใช้แอปซื้อขายคริปโตและกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยแฮกเกอร์สร้างแอปปลอมและเว็บไซต์หลอกลวงที่ดูเหมือนของจริง แล้วโปรโมตผ่านโฆษณาบน Facebook และแพลตฟอร์มอื่น ๆ

    เมื่อเหยื่อคลิกโฆษณา จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ให้ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้ง MSI ซึ่งเมื่อเปิดใช้งาน จะเริ่มกระบวนการเก็บข้อมูลระบบผ่าน PowerShell และสคริปต์ JavaScript ที่ซ่อนอยู่ในเว็บไซต์ จากนั้นจะส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์ และหากพบว่าเครื่องมีข้อมูลสำคัญ ก็จะปล่อย payload สุดท้ายคือ JSCEAL ซึ่งทำงานผ่าน Node.js

    JSCEAL ใช้ไฟล์ JavaScript ที่ถูกคอมไพล์ด้วย V8 engine ของ Google ซึ่งทำให้โค้ดถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียนและหลบเลี่ยงการตรวจจับจากแอนติไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    JSCEAL เป็นมัลแวร์ที่ใช้ไฟล์ JavaScript แบบคอมไพล์เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ
    ใช้ฟีเจอร์ V8 JSC ของ Google เพื่อซ่อนโค้ด
    ทำให้แอนติไวรัสทั่วไปไม่สามารถวิเคราะห์ได้ก่อนการรันจริง

    แคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่มีนาคม 2024 และยังคงแพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง
    พบโฆษณาปลอมกว่า 35,000 รายการใน EU ภายในครึ่งแรกของปี 2025
    คาดว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อมากกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก

    แฮกเกอร์ใช้โฆษณาบน Facebook เพื่อหลอกให้ติดตั้งแอปปลอม
    โฆษณาถูกโพสต์ผ่านบัญชีที่ถูกขโมยหรือสร้างใหม่
    เว็บไซต์ปลอมเลียนแบบบริการจริง เช่น TradingView

    ไฟล์ MSI ที่ดาวน์โหลดจะเปิดเว็บวิวไปยังเว็บไซต์จริงเพื่อหลอกเหยื่อ
    ใช้ msedge_proxy.exe เพื่อเปิดเว็บจริงควบคู่กับการติดตั้งมัลแวร์
    ทำให้เหยื่อไม่สงสัยว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

    JSCEAL สามารถขโมยข้อมูลได้หลากหลายประเภท
    รหัสผ่าน, คุกกี้, seed phrase, ข้อมูล Telegram, ภาพหน้าจอ, keystroke
    สามารถดักจับเว็บทราฟฟิกและฝังสคริปต์ในเว็บไซต์ธนาคารหรือคริปโต

    มัลแวร์มีโครงสร้างแบบหลายชั้นและปรับเปลี่ยน payload ได้ตามสถานการณ์
    ใช้ fingerprinting scripts เพื่อประเมินความคุ้มค่าของเหยื่อก่อนปล่อย payload
    มีการตั้ง proxy ภายในเครื่องเพื่อดักข้อมูลแบบ real-time

    https://www.techradar.com/pro/security/major-new-malware-strain-targets-crypto-users-via-malicious-ads-heres-what-we-know-and-how-to-stay-safe
    🧠 เรื่องเล่าจากโลกคริปโต: JSCEAL มัลแวร์ที่ซ่อนตัวในโฆษณาและ JavaScript นักวิจัยจาก Check Point พบแคมเปญมัลแวร์ขนาดใหญ่ที่เริ่มต้นตั้งแต่มีนาคม 2024 โดยใช้ชื่อว่า “JSCEAL” ซึ่งมีเป้าหมายคือผู้ใช้แอปซื้อขายคริปโตและกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยแฮกเกอร์สร้างแอปปลอมและเว็บไซต์หลอกลวงที่ดูเหมือนของจริง แล้วโปรโมตผ่านโฆษณาบน Facebook และแพลตฟอร์มอื่น ๆ เมื่อเหยื่อคลิกโฆษณา จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ให้ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้ง MSI ซึ่งเมื่อเปิดใช้งาน จะเริ่มกระบวนการเก็บข้อมูลระบบผ่าน PowerShell และสคริปต์ JavaScript ที่ซ่อนอยู่ในเว็บไซต์ จากนั้นจะส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์ และหากพบว่าเครื่องมีข้อมูลสำคัญ ก็จะปล่อย payload สุดท้ายคือ JSCEAL ซึ่งทำงานผ่าน Node.js JSCEAL ใช้ไฟล์ JavaScript ที่ถูกคอมไพล์ด้วย V8 engine ของ Google ซึ่งทำให้โค้ดถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียนและหลบเลี่ยงการตรวจจับจากแอนติไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ JSCEAL เป็นมัลแวร์ที่ใช้ไฟล์ JavaScript แบบคอมไพล์เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ➡️ ใช้ฟีเจอร์ V8 JSC ของ Google เพื่อซ่อนโค้ด ➡️ ทำให้แอนติไวรัสทั่วไปไม่สามารถวิเคราะห์ได้ก่อนการรันจริง ✅ แคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่มีนาคม 2024 และยังคงแพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง ➡️ พบโฆษณาปลอมกว่า 35,000 รายการใน EU ภายในครึ่งแรกของปี 2025 ➡️ คาดว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อมากกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก ✅ แฮกเกอร์ใช้โฆษณาบน Facebook เพื่อหลอกให้ติดตั้งแอปปลอม ➡️ โฆษณาถูกโพสต์ผ่านบัญชีที่ถูกขโมยหรือสร้างใหม่ ➡️ เว็บไซต์ปลอมเลียนแบบบริการจริง เช่น TradingView ✅ ไฟล์ MSI ที่ดาวน์โหลดจะเปิดเว็บวิวไปยังเว็บไซต์จริงเพื่อหลอกเหยื่อ ➡️ ใช้ msedge_proxy.exe เพื่อเปิดเว็บจริงควบคู่กับการติดตั้งมัลแวร์ ➡️ ทำให้เหยื่อไม่สงสัยว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ✅ JSCEAL สามารถขโมยข้อมูลได้หลากหลายประเภท ➡️ รหัสผ่าน, คุกกี้, seed phrase, ข้อมูล Telegram, ภาพหน้าจอ, keystroke ➡️ สามารถดักจับเว็บทราฟฟิกและฝังสคริปต์ในเว็บไซต์ธนาคารหรือคริปโต ✅ มัลแวร์มีโครงสร้างแบบหลายชั้นและปรับเปลี่ยน payload ได้ตามสถานการณ์ ➡️ ใช้ fingerprinting scripts เพื่อประเมินความคุ้มค่าของเหยื่อก่อนปล่อย payload ➡️ มีการตั้ง proxy ภายในเครื่องเพื่อดักข้อมูลแบบ real-time https://www.techradar.com/pro/security/major-new-malware-strain-targets-crypto-users-via-malicious-ads-heres-what-we-know-and-how-to-stay-safe
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากศูนย์หลอกลวง: เมื่อคนถูกล่อลวงให้กลายเป็นอาชญากรโดยไม่รู้ตัว

    ในวันต่อต้านการค้ามนุษย์โลก (30 ก.ค.) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ของ UN ได้ออกมาเตือนว่า ขณะนี้มีผู้คนหลายแสนคนถูกกักขังอยู่ในศูนย์หลอกลวงออนไลน์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนของเมียนมา กัมพูชา ลาว ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย

    เหยื่อส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพ คนหนุ่มสาว เด็ก และผู้พิการ ที่ถูกล่อลวงด้วยคำสัญญาเรื่องงานดีรายได้สูง แต่กลับถูกยึดหนังสือเดินทาง กักขัง และบังคับให้ทำอาชญากรรมออนไลน์ เช่น หลอกลงทุน หลอกรัก หรือหลอกให้โอนเงินผ่านคริปโต

    ที่น่าตกใจคือ เหยื่อเหล่านี้มักถูกจับกุมและลงโทษแทนที่จะได้รับความช่วยเหลือ ทั้งที่พวกเขาเป็นผู้ถูกบังคับ ไม่ใช่อาชญากร

    UN เตือนว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นศูนย์กลางการค้ามนุษย์เพื่ออาชญากรรมออนไลน์
    มีผู้คนหลายแสนคนถูกกักขังในศูนย์หลอกลวง
    สร้างรายได้กว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีให้กับองค์กรอาชญากรรม

    เหยื่อถูกล่อลวงด้วยงานดี แต่กลับถูกบังคับให้ทำอาชญากรรม
    หลอกให้ทำ scam ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น romance scam, crypto fraud
    ถูกยึดหนังสือเดินทาง กักขัง และใช้ความรุนแรง

    เหยื่อมักถูกจับกุมแทนที่จะได้รับความช่วยเหลือ
    หลายคนถูกดำเนินคดีในข้อหาที่ถูกบังคับให้ทำ
    UN เรียกร้องให้เปลี่ยนกฎหมายเพื่อปกป้องเหยื่อ

    IOM ช่วยเหลือเหยื่อกว่า 3,000 คนตั้งแต่ปี 2022
    ส่งกลับประเทศจากฟิลิปปินส์และเวียดนาม
    สนับสนุนเหยื่อในไทย เมียนมา และประเทศอื่น ๆ

    UN เรียกร้องให้รัฐบาลและภาคประชาสังคมร่วมกันแก้ปัญหา
    ต้องเปลี่ยนกฎหมายให้เหยื่อได้รับการคุ้มครอง
    ต้องไล่ล่าผู้ค้ามนุษย์ ไม่ใช่ลงโทษเหยื่อ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/31/un-sounds-alarm-on-se-asia-scam-centre-surge
    🧠 เรื่องเล่าจากศูนย์หลอกลวง: เมื่อคนถูกล่อลวงให้กลายเป็นอาชญากรโดยไม่รู้ตัว ในวันต่อต้านการค้ามนุษย์โลก (30 ก.ค.) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ของ UN ได้ออกมาเตือนว่า ขณะนี้มีผู้คนหลายแสนคนถูกกักขังอยู่ในศูนย์หลอกลวงออนไลน์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนของเมียนมา กัมพูชา ลาว ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย เหยื่อส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพ คนหนุ่มสาว เด็ก และผู้พิการ ที่ถูกล่อลวงด้วยคำสัญญาเรื่องงานดีรายได้สูง แต่กลับถูกยึดหนังสือเดินทาง กักขัง และบังคับให้ทำอาชญากรรมออนไลน์ เช่น หลอกลงทุน หลอกรัก หรือหลอกให้โอนเงินผ่านคริปโต ที่น่าตกใจคือ เหยื่อเหล่านี้มักถูกจับกุมและลงโทษแทนที่จะได้รับความช่วยเหลือ ทั้งที่พวกเขาเป็นผู้ถูกบังคับ ไม่ใช่อาชญากร ✅ UN เตือนว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นศูนย์กลางการค้ามนุษย์เพื่ออาชญากรรมออนไลน์ ➡️ มีผู้คนหลายแสนคนถูกกักขังในศูนย์หลอกลวง ➡️ สร้างรายได้กว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีให้กับองค์กรอาชญากรรม ✅ เหยื่อถูกล่อลวงด้วยงานดี แต่กลับถูกบังคับให้ทำอาชญากรรม ➡️ หลอกให้ทำ scam ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น romance scam, crypto fraud ➡️ ถูกยึดหนังสือเดินทาง กักขัง และใช้ความรุนแรง ✅ เหยื่อมักถูกจับกุมแทนที่จะได้รับความช่วยเหลือ ➡️ หลายคนถูกดำเนินคดีในข้อหาที่ถูกบังคับให้ทำ ➡️ UN เรียกร้องให้เปลี่ยนกฎหมายเพื่อปกป้องเหยื่อ ✅ IOM ช่วยเหลือเหยื่อกว่า 3,000 คนตั้งแต่ปี 2022 ➡️ ส่งกลับประเทศจากฟิลิปปินส์และเวียดนาม ➡️ สนับสนุนเหยื่อในไทย เมียนมา และประเทศอื่น ๆ ✅ UN เรียกร้องให้รัฐบาลและภาคประชาสังคมร่วมกันแก้ปัญหา ➡️ ต้องเปลี่ยนกฎหมายให้เหยื่อได้รับการคุ้มครอง ➡️ ต้องไล่ล่าผู้ค้ามนุษย์ ไม่ใช่ลงโทษเหยื่อ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/31/un-sounds-alarm-on-se-asia-scam-centre-surge
    WWW.THESTAR.COM.MY
    UN sounds alarm on SE Asia scam centre surge
    Too often, instead of getting help, victims are arrested for crimes they were forced to commit, the head of the UN's migration agency said on World Day Against Trafficking in Persons.
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากกระเป๋าเงินดิจิทัล: เมื่อ PayPal เชื่อมโลกคริปโตสู่การค้าจริง

    ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม 2025 PayPal ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ “Pay with Crypto” ที่จะให้ร้านค้าในสหรัฐฯ รับชำระเงินด้วยคริปโตมากกว่า 100 สกุลเงินดิจิทัล เช่น BTC, ETH, XRP, USDT, USDC และ SOL โดยผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกระเป๋าเงินจากแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Coinbase, MetaMask, OKX และ Binance ได้โดยตรง

    ธุรกรรมจะถูกแปลงเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐหรือ stablecoin PYUSD ทันทีที่ชำระเงิน ทำให้ร้านค้าได้รับเงินอย่างรวดเร็วและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของคริปโต ขณะเดียวกัน PayPal เสนออัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปีสำหรับยอดเงิน PYUSD ที่เก็บไว้ในระบบ เพื่อกระตุ้นการใช้งานและถือครอง

    PayPal เปิดตัวฟีเจอร์ “Pay with Crypto” ให้ร้านค้าในสหรัฐฯ รับชำระเงินด้วยคริปโตมากกว่า 100 สกุล
    รองรับ BTC, ETH, XRP, USDT, USDC, BNB, SOL และอื่นๆ
    เชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินยอดนิยม เช่น Coinbase, MetaMask, OKX, Binance

    ธุรกรรมจะถูกแปลงเป็นเงินดอลลาร์หรือ PYUSD ทันทีที่ชำระเงิน
    ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของคริปโต
    ช่วยให้ร้านค้าได้รับเงินเร็วขึ้นและจัดการบัญชีง่ายขึ้น

    ค่าธรรมเนียมธุรกรรมเริ่มต้นที่ 0.99% และอาจเพิ่มเป็น 1.5% หลังปีแรก
    ต่ำกว่าค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตระหว่างประเทศที่เฉลี่ย 1.57%
    ลดต้นทุนการรับชำระเงินจากลูกค้าต่างประเทศได้ถึง 90%

    ร้านค้าที่ถือ PYUSD บน PayPal จะได้รับดอกเบี้ย 4% ต่อปี
    เป็นแรงจูงใจให้ถือครอง stablecoin ของ PayPal
    PYUSD ถูกออกแบบให้มีมูลค่าคงที่ 1:1 กับดอลลาร์สหรัฐ และออกโดย Paxos Trust Company

    ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เชื่อมโลกการเงินดั้งเดิมกับ Web3
    PayPal มีผู้ใช้งานกว่า 650 ล้านรายทั่วโลก
    เป็นการเปิดประตูสู่เศรษฐกิจคริปโตมูลค่า $3.9 ล้านล้านดอลลาร์

    ผู้ซื้อจากต่างประเทศอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูงถึง 10% ต่อธุรกรรม
    อาจทำให้ลูกค้าต่างประเทศลังเลที่จะใช้คริปโตในการซื้อสินค้า
    ส่งผลต่อยอดขายของร้านค้าที่เน้นตลาดต่างประเทศ

    การถือครอง PYUSD มีความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและการรับประกัน
    PYUSD ไม่ได้รับการคุ้มครองจาก FDIC หรือ SIPC
    หากเกิดการโจรกรรมหรือระบบล่ม ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบเอง

    การแปลงคริปโตเป็น fiat ผ่านระบบกลางอาจขัดกับหลักการกระจายอำนาจ
    ผู้ใช้ต้องพึ่งพา PayPal ในการแปลงและจัดการธุรกรรม
    อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการควบคุมสินทรัพย์แบบเต็มรูปแบบ

    การถือครอง PYUSD เพื่อรับดอกเบี้ยอาจถูกตีความว่าเป็นการลงทุน
    อาจเข้าข่ายหลักทรัพย์ตามกฎหมายบางประเทศ
    เสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบหรือจำกัดการใช้งานในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/108847-paypal-us-merchants-accept-over-100-cryptocurrencies-including.html
    💸 เรื่องเล่าจากกระเป๋าเงินดิจิทัล: เมื่อ PayPal เชื่อมโลกคริปโตสู่การค้าจริง ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม 2025 PayPal ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ “Pay with Crypto” ที่จะให้ร้านค้าในสหรัฐฯ รับชำระเงินด้วยคริปโตมากกว่า 100 สกุลเงินดิจิทัล เช่น BTC, ETH, XRP, USDT, USDC และ SOL โดยผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกระเป๋าเงินจากแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Coinbase, MetaMask, OKX และ Binance ได้โดยตรง ธุรกรรมจะถูกแปลงเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐหรือ stablecoin PYUSD ทันทีที่ชำระเงิน ทำให้ร้านค้าได้รับเงินอย่างรวดเร็วและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของคริปโต ขณะเดียวกัน PayPal เสนออัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปีสำหรับยอดเงิน PYUSD ที่เก็บไว้ในระบบ เพื่อกระตุ้นการใช้งานและถือครอง ✅ PayPal เปิดตัวฟีเจอร์ “Pay with Crypto” ให้ร้านค้าในสหรัฐฯ รับชำระเงินด้วยคริปโตมากกว่า 100 สกุล ➡️ รองรับ BTC, ETH, XRP, USDT, USDC, BNB, SOL และอื่นๆ ➡️ เชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินยอดนิยม เช่น Coinbase, MetaMask, OKX, Binance ✅ ธุรกรรมจะถูกแปลงเป็นเงินดอลลาร์หรือ PYUSD ทันทีที่ชำระเงิน ➡️ ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของคริปโต ➡️ ช่วยให้ร้านค้าได้รับเงินเร็วขึ้นและจัดการบัญชีง่ายขึ้น ✅ ค่าธรรมเนียมธุรกรรมเริ่มต้นที่ 0.99% และอาจเพิ่มเป็น 1.5% หลังปีแรก ➡️ ต่ำกว่าค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตระหว่างประเทศที่เฉลี่ย 1.57% ➡️ ลดต้นทุนการรับชำระเงินจากลูกค้าต่างประเทศได้ถึง 90% ✅ ร้านค้าที่ถือ PYUSD บน PayPal จะได้รับดอกเบี้ย 4% ต่อปี ➡️ เป็นแรงจูงใจให้ถือครอง stablecoin ของ PayPal ➡️ PYUSD ถูกออกแบบให้มีมูลค่าคงที่ 1:1 กับดอลลาร์สหรัฐ และออกโดย Paxos Trust Company ✅ ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เชื่อมโลกการเงินดั้งเดิมกับ Web3 ➡️ PayPal มีผู้ใช้งานกว่า 650 ล้านรายทั่วโลก ➡️ เป็นการเปิดประตูสู่เศรษฐกิจคริปโตมูลค่า $3.9 ล้านล้านดอลลาร์ ‼️ ผู้ซื้อจากต่างประเทศอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูงถึง 10% ต่อธุรกรรม ⛔ อาจทำให้ลูกค้าต่างประเทศลังเลที่จะใช้คริปโตในการซื้อสินค้า ⛔ ส่งผลต่อยอดขายของร้านค้าที่เน้นตลาดต่างประเทศ ‼️ การถือครอง PYUSD มีความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและการรับประกัน ⛔ PYUSD ไม่ได้รับการคุ้มครองจาก FDIC หรือ SIPC ⛔ หากเกิดการโจรกรรมหรือระบบล่ม ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบเอง ‼️ การแปลงคริปโตเป็น fiat ผ่านระบบกลางอาจขัดกับหลักการกระจายอำนาจ ⛔ ผู้ใช้ต้องพึ่งพา PayPal ในการแปลงและจัดการธุรกรรม ⛔ อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการควบคุมสินทรัพย์แบบเต็มรูปแบบ ‼️ การถือครอง PYUSD เพื่อรับดอกเบี้ยอาจถูกตีความว่าเป็นการลงทุน ⛔ อาจเข้าข่ายหลักทรัพย์ตามกฎหมายบางประเทศ ⛔ เสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบหรือจำกัดการใช้งานในอนาคต https://www.techspot.com/news/108847-paypal-us-merchants-accept-over-100-cryptocurrencies-including.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    PayPal to let US merchants accept over 100 cryptocurrencies, including Bitcoin and Ethereum
    Over the next few weeks, PayPal will roll out a new "Pay with Crypto" option. The feature will reportedly allow businesses worldwide to accept more than 100...
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เกมเอาชีวิตรอดที่ “ขโมยชีวิตดิจิทัล” ของคุณ

    ลองจินตนาการว่าคุณโหลดเกมเอาชีวิตรอดชื่อ Chemia จาก Steam เพื่อเล่นในช่วง Early Access แต่แทนที่จะได้สนุกกับการสร้างฐานและฝ่าฟันภัยพิบัติ คุณกลับโดนขโมยข้อมูลส่วนตัวและคริปโตแบบไม่รู้ตัว — นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง!

    บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์ Prodaft เปิดเผยว่าเกม Chemia ถูกฝังมัลแวร์ 3 สายพันธุ์ ได้แก่:
    - Fickle Stealer: ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, password manager และ crypto wallet
    - Vidar Stealer: มัลแวร์แบบบริการ (Malware-as-a-Service) ที่เชื่อมต่อผ่านโซเชียลมีเดีย
    - HijackLoader: ตัวโหลดมัลแวร์ที่สามารถติดตั้งภัยคุกคามอื่นในอนาคต

    เกมนี้ถูกแจกผ่านระบบ Playtest ของ Steam ซึ่งต้องขอสิทธิ์เข้าถึงก่อนเล่น ทำให้ดูเหมือนปลอดภัย แต่จริง ๆ แล้วเป็นช่องทางที่แฮกเกอร์ใช้หลบเลี่ยงการตรวจสอบของแพลตฟอร์ม

    เกม Chemia ถูกใช้เป็นช่องทางแพร่มัลแวร์
    ฝังมัลแวร์ 3 ชนิด: Fickle Stealer, Vidar Stealer, HijackLoader
    มัลแวร์ทำงานเมื่อผู้ใช้เปิดเกม โดยรันควบคู่กับแอปพลิเคชันจริง

    มัลแวร์แต่ละตัวมีหน้าที่เฉพาะ
    Fickle Stealer: ใช้ PowerShell ขโมยข้อมูลระบบและไฟล์สำคัญ
    Vidar Stealer: เชื่อมต่อผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อส่งข้อมูล
    HijackLoader: ใช้ติดตั้งมัลแวร์อื่นในอนาคต

    เกมถูกแจกผ่านระบบ Playtest ของ Steam
    ต้องขอสิทธิ์ก่อนเล่น ทำให้ดูเหมือนปลอดภัย
    ไม่มีรีวิวหรือข้อมูลจากนักพัฒนาอื่น ทำให้ตรวจสอบยาก

    นักพัฒนา Aether Forge Studios ไม่มีตัวตนชัดเจน
    ไม่มีเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียที่เชื่อมโยงกับเกม
    อาจเป็นบัญชีปลอมที่ใช้หลอกลวงผู้ใช้

    Prodaft เผยว่าแฮกเกอร์ชื่อ EncryptHub อยู่เบื้องหลัง
    เคยมีประวัติการโจมตีแบบ spear-phishing ตั้งแต่ปี 2024
    แชร์ Indicators of Compromise (IOCs) บน GitHub เพื่อช่วยตรวจสอบ

    เกมบนแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ก็อาจไม่ปลอดภัย
    Steam ไม่สามารถตรวจสอบมัลแวร์ในทุกเกมได้ทันที
    ผู้ใช้มักเชื่อว่าการโหลดจาก Steam คือ “ปลอดภัยโดยอัตโนมัติ”

    มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลสำคัญได้ทันทีที่เปิดเกม
    ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงรหัสผ่าน, session token, และ crypto wallet
    อาจนำไปสู่การสูญเสียทางการเงินและการขโมยตัวตน

    ระบบ Early Access และ Playtest อาจถูกใช้เป็นช่องทางโจมตี
    เกมที่ยังไม่เปิดตัวเต็มรูปแบบอาจไม่มีการตรวจสอบเข้มงวด
    แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ในการฝังโค้ดอันตราย

    ผู้ใช้ที่เคยเล่น Chemia ควรตรวจสอบระบบทันที
    ลบเกมออกจากเครื่อง
    สแกนมัลแวร์เต็มระบบ
    เปลี่ยนรหัสผ่านทุกบัญชีที่เคยล็อกอินระหว่างเล่นเกม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/hacker-plants-three-strains-of-malware-in-a-steam-early-access-game-called-chemia-security-company-found-crypto-jacking-infostealers-and-a-backdoor-to-install-yet-more-malware-in-the-future
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: เกมเอาชีวิตรอดที่ “ขโมยชีวิตดิจิทัล” ของคุณ ลองจินตนาการว่าคุณโหลดเกมเอาชีวิตรอดชื่อ Chemia จาก Steam เพื่อเล่นในช่วง Early Access แต่แทนที่จะได้สนุกกับการสร้างฐานและฝ่าฟันภัยพิบัติ คุณกลับโดนขโมยข้อมูลส่วนตัวและคริปโตแบบไม่รู้ตัว — นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง! บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์ Prodaft เปิดเผยว่าเกม Chemia ถูกฝังมัลแวร์ 3 สายพันธุ์ ได้แก่: - Fickle Stealer: ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, password manager และ crypto wallet - Vidar Stealer: มัลแวร์แบบบริการ (Malware-as-a-Service) ที่เชื่อมต่อผ่านโซเชียลมีเดีย - HijackLoader: ตัวโหลดมัลแวร์ที่สามารถติดตั้งภัยคุกคามอื่นในอนาคต เกมนี้ถูกแจกผ่านระบบ Playtest ของ Steam ซึ่งต้องขอสิทธิ์เข้าถึงก่อนเล่น ทำให้ดูเหมือนปลอดภัย แต่จริง ๆ แล้วเป็นช่องทางที่แฮกเกอร์ใช้หลบเลี่ยงการตรวจสอบของแพลตฟอร์ม ✅ เกม Chemia ถูกใช้เป็นช่องทางแพร่มัลแวร์ ➡️ ฝังมัลแวร์ 3 ชนิด: Fickle Stealer, Vidar Stealer, HijackLoader ➡️ มัลแวร์ทำงานเมื่อผู้ใช้เปิดเกม โดยรันควบคู่กับแอปพลิเคชันจริง ✅ มัลแวร์แต่ละตัวมีหน้าที่เฉพาะ ➡️ Fickle Stealer: ใช้ PowerShell ขโมยข้อมูลระบบและไฟล์สำคัญ ➡️ Vidar Stealer: เชื่อมต่อผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อส่งข้อมูล ➡️ HijackLoader: ใช้ติดตั้งมัลแวร์อื่นในอนาคต ✅ เกมถูกแจกผ่านระบบ Playtest ของ Steam ➡️ ต้องขอสิทธิ์ก่อนเล่น ทำให้ดูเหมือนปลอดภัย ➡️ ไม่มีรีวิวหรือข้อมูลจากนักพัฒนาอื่น ทำให้ตรวจสอบยาก ✅ นักพัฒนา Aether Forge Studios ไม่มีตัวตนชัดเจน ➡️ ไม่มีเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียที่เชื่อมโยงกับเกม ➡️ อาจเป็นบัญชีปลอมที่ใช้หลอกลวงผู้ใช้ ✅ Prodaft เผยว่าแฮกเกอร์ชื่อ EncryptHub อยู่เบื้องหลัง ➡️ เคยมีประวัติการโจมตีแบบ spear-phishing ตั้งแต่ปี 2024 ➡️ แชร์ Indicators of Compromise (IOCs) บน GitHub เพื่อช่วยตรวจสอบ ‼️ เกมบนแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ก็อาจไม่ปลอดภัย ⛔ Steam ไม่สามารถตรวจสอบมัลแวร์ในทุกเกมได้ทันที ⛔ ผู้ใช้มักเชื่อว่าการโหลดจาก Steam คือ “ปลอดภัยโดยอัตโนมัติ” ‼️ มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลสำคัญได้ทันทีที่เปิดเกม ⛔ ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงรหัสผ่าน, session token, และ crypto wallet ⛔ อาจนำไปสู่การสูญเสียทางการเงินและการขโมยตัวตน ‼️ ระบบ Early Access และ Playtest อาจถูกใช้เป็นช่องทางโจมตี ⛔ เกมที่ยังไม่เปิดตัวเต็มรูปแบบอาจไม่มีการตรวจสอบเข้มงวด ⛔ แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ในการฝังโค้ดอันตราย ‼️ ผู้ใช้ที่เคยเล่น Chemia ควรตรวจสอบระบบทันที ⛔ ลบเกมออกจากเครื่อง ⛔ สแกนมัลแวร์เต็มระบบ ⛔ เปลี่ยนรหัสผ่านทุกบัญชีที่เคยล็อกอินระหว่างเล่นเกม https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/hacker-plants-three-strains-of-malware-in-a-steam-early-access-game-called-chemia-security-company-found-crypto-jacking-infostealers-and-a-backdoor-to-install-yet-more-malware-in-the-future
    0 Comments 0 Shares 188 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากข่าว: “แพนด้าน่ารัก” ที่แอบขุดคริปโตในเครื่องคุณ

    ลองจินตนาการว่าคุณเปิดภาพแพนด้าน่ารักจากเว็บแชร์รูปภาพ แล้วเบื้องหลังภาพนั้นกลับมีมัลแวร์ที่กำลังใช้ CPU และ GPU ของคุณขุดคริปโตอยู่เงียบ ๆ — นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อว่า Koske

    Koske เป็นมัลแวร์บน Linux ที่ใช้เทคนิค “polyglot file” คือไฟล์ที่สามารถเป็นได้ทั้งภาพและโค้ดในเวลาเดียวกัน โดยแฮกเกอร์จะฝัง shell script และโค้ด C สำหรับ rootkit ไว้ท้ายไฟล์ JPEG ที่ดูเหมือนภาพแพนด้าธรรมดา เมื่อเปิดด้วยโปรแกรม interpreter มันจะรันโค้ดในหน่วยความจำทันที โดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์

    เป้าหมายของ Koske คือการขุดคริปโตมากกว่า 18 สกุล เช่น Monero, Ravencoin, Nexa และ Zano โดยเลือกใช้ miner ที่เหมาะกับฮาร์ดแวร์ของเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็น CPU หรือ GPU และสามารถสลับเหรียญหรือพูลได้อัตโนมัติหากมีปัญหา

    ที่น่ากลัวคือ Koske แสดงพฤติกรรมที่ “คล้าย AI” เช่น การตรวจสอบการเชื่อมต่อ GitHub หลายชั้น การแก้ไข DNS และ proxy อัตโนมัติ และการค้นหา proxy ที่ใช้งานได้จาก GitHub — ทั้งหมดนี้ชี้ว่าอาจมีการใช้ LLM หรือระบบอัตโนมัติช่วยพัฒนาโค้ด

    Koske เป็นมัลแวร์ Linux ที่ใช้ภาพแพนด้าเป็นตัวหลอก
    ใช้เทคนิค polyglot file ฝังโค้ดไว้ท้ายไฟล์ JPEG
    เมื่อเปิดด้วย interpreter จะรันโค้ดในหน่วยความจำทันที

    เป้าหมายหลักคือการขุดคริปโต
    รองรับมากกว่า 18 สกุล เช่น Monero, Ravencoin, Nexa, Zano
    เลือก miner ตามฮาร์ดแวร์ของเหยื่อ (CPU/GPU)
    สลับพูลหรือเหรียญอัตโนมัติหากมีปัญหา

    ใช้ภาพจากเว็บแชร์รูปภาพที่ถูกต้องตามกฎหมาย
    เช่น OVH images, freeimage, postimage
    ทำให้หลบเลี่ยงการตรวจจับได้ง่าย

    แสดงพฤติกรรมคล้าย AI ในการปรับตัว
    ตรวจสอบการเชื่อมต่อ GitHub ด้วย curl, wget, TCP
    รีเซ็ต proxy, flush iptables, เปลี่ยน DNS เป็น Cloudflare/Google
    ค้นหา proxy ที่ใช้งานได้จาก GitHub lists

    พบร่องรอยของต้นทางจากเซอร์เบียและสโลวัก
    IP จากเซอร์เบีย, สคริปต์มีคำเซอร์เบีย, GitHub repo ใช้ภาษาสโลวัก
    ชื่อ “Koske” อาจมาจากคำว่า “กระดูก” ในภาษาท้องถิ่น

    นักวิจัยเชื่อว่าโค้ดถูกช่วยเขียนโดย AI
    โค้ดมีโครงสร้างดี ความเห็นชัดเจน และใช้เทคนิคป้องกันตัวเอง
    ทำให้การวิเคราะห์และระบุผู้เขียนยากขึ้น

    มัลแวร์ Koske สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    รันในหน่วยความจำโดยไม่เขียนลงดิสก์
    ใช้ rootkit ซ่อน process และไฟล์จากเครื่องมือทั่วไป

    การเปิดภาพจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเป็นช่องทางติดมัลแวร์
    ภาพที่ดู “น่ารัก” อาจมีโค้ดอันตรายซ่อนอยู่
    ไม่ควรเปิดไฟล์จาก URL ที่ไม่รู้จักผ่าน interpreter หรือ shell

    มัลแวร์นี้ใช้ทรัพยากรเครื่องอย่างหนัก
    ทำให้ค่าไฟและค่า cloud compute สูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
    ส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบและความปลอดภัย

    เป็นตัวอย่างของภัยคุกคามยุคใหม่ที่ใช้ AI เป็นเครื่องมือ
    การใช้ LLM ในการสร้างมัลแวร์ทำให้มันปรับตัวได้ดีขึ้น
    อาจเป็นจุดเริ่มต้นของมัลแวร์ที่ “เรียนรู้” และ “ปรับตัว” ได้แบบเรียลไทม์

    https://www.techradar.com/pro/security/a-damaging-new-linux-malware-is-hiding-in-cute-animal-photos
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: “แพนด้าน่ารัก” ที่แอบขุดคริปโตในเครื่องคุณ ลองจินตนาการว่าคุณเปิดภาพแพนด้าน่ารักจากเว็บแชร์รูปภาพ แล้วเบื้องหลังภาพนั้นกลับมีมัลแวร์ที่กำลังใช้ CPU และ GPU ของคุณขุดคริปโตอยู่เงียบ ๆ — นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อว่า Koske Koske เป็นมัลแวร์บน Linux ที่ใช้เทคนิค “polyglot file” คือไฟล์ที่สามารถเป็นได้ทั้งภาพและโค้ดในเวลาเดียวกัน โดยแฮกเกอร์จะฝัง shell script และโค้ด C สำหรับ rootkit ไว้ท้ายไฟล์ JPEG ที่ดูเหมือนภาพแพนด้าธรรมดา เมื่อเปิดด้วยโปรแกรม interpreter มันจะรันโค้ดในหน่วยความจำทันที โดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์ เป้าหมายของ Koske คือการขุดคริปโตมากกว่า 18 สกุล เช่น Monero, Ravencoin, Nexa และ Zano โดยเลือกใช้ miner ที่เหมาะกับฮาร์ดแวร์ของเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็น CPU หรือ GPU และสามารถสลับเหรียญหรือพูลได้อัตโนมัติหากมีปัญหา ที่น่ากลัวคือ Koske แสดงพฤติกรรมที่ “คล้าย AI” เช่น การตรวจสอบการเชื่อมต่อ GitHub หลายชั้น การแก้ไข DNS และ proxy อัตโนมัติ และการค้นหา proxy ที่ใช้งานได้จาก GitHub — ทั้งหมดนี้ชี้ว่าอาจมีการใช้ LLM หรือระบบอัตโนมัติช่วยพัฒนาโค้ด ✅ Koske เป็นมัลแวร์ Linux ที่ใช้ภาพแพนด้าเป็นตัวหลอก ➡️ ใช้เทคนิค polyglot file ฝังโค้ดไว้ท้ายไฟล์ JPEG ➡️ เมื่อเปิดด้วย interpreter จะรันโค้ดในหน่วยความจำทันที ✅ เป้าหมายหลักคือการขุดคริปโต ➡️ รองรับมากกว่า 18 สกุล เช่น Monero, Ravencoin, Nexa, Zano ➡️ เลือก miner ตามฮาร์ดแวร์ของเหยื่อ (CPU/GPU) ➡️ สลับพูลหรือเหรียญอัตโนมัติหากมีปัญหา ✅ ใช้ภาพจากเว็บแชร์รูปภาพที่ถูกต้องตามกฎหมาย ➡️ เช่น OVH images, freeimage, postimage ➡️ ทำให้หลบเลี่ยงการตรวจจับได้ง่าย ✅ แสดงพฤติกรรมคล้าย AI ในการปรับตัว ➡️ ตรวจสอบการเชื่อมต่อ GitHub ด้วย curl, wget, TCP ➡️ รีเซ็ต proxy, flush iptables, เปลี่ยน DNS เป็น Cloudflare/Google ➡️ ค้นหา proxy ที่ใช้งานได้จาก GitHub lists ✅ พบร่องรอยของต้นทางจากเซอร์เบียและสโลวัก ➡️ IP จากเซอร์เบีย, สคริปต์มีคำเซอร์เบีย, GitHub repo ใช้ภาษาสโลวัก ➡️ ชื่อ “Koske” อาจมาจากคำว่า “กระดูก” ในภาษาท้องถิ่น ✅ นักวิจัยเชื่อว่าโค้ดถูกช่วยเขียนโดย AI ➡️ โค้ดมีโครงสร้างดี ความเห็นชัดเจน และใช้เทคนิคป้องกันตัวเอง ➡️ ทำให้การวิเคราะห์และระบุผู้เขียนยากขึ้น ‼️ มัลแวร์ Koske สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ⛔ รันในหน่วยความจำโดยไม่เขียนลงดิสก์ ⛔ ใช้ rootkit ซ่อน process และไฟล์จากเครื่องมือทั่วไป ‼️ การเปิดภาพจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเป็นช่องทางติดมัลแวร์ ⛔ ภาพที่ดู “น่ารัก” อาจมีโค้ดอันตรายซ่อนอยู่ ⛔ ไม่ควรเปิดไฟล์จาก URL ที่ไม่รู้จักผ่าน interpreter หรือ shell ‼️ มัลแวร์นี้ใช้ทรัพยากรเครื่องอย่างหนัก ⛔ ทำให้ค่าไฟและค่า cloud compute สูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ⛔ ส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบและความปลอดภัย ‼️ เป็นตัวอย่างของภัยคุกคามยุคใหม่ที่ใช้ AI เป็นเครื่องมือ ⛔ การใช้ LLM ในการสร้างมัลแวร์ทำให้มันปรับตัวได้ดีขึ้น ⛔ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของมัลแวร์ที่ “เรียนรู้” และ “ปรับตัว” ได้แบบเรียลไทม์ https://www.techradar.com/pro/security/a-damaging-new-linux-malware-is-hiding-in-cute-animal-photos
    0 Comments 0 Shares 181 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อเกมม็อดกลายเป็นประตูสู่การโจรกรรมคริปโต

    เรื่องเริ่มจากการสืบสวนของ Doctor Web ในรัสเซีย ซึ่งพบว่าแฮกเกอร์ใช้เทคนิค DLL Search Order Hijacking โดยวางไฟล์ DLL ปลอมในโฟลเดอร์ของแอปเป้าหมาย เพื่อให้ระบบโหลดไฟล์ปลอมแทนของจริง ทำให้มัลแวร์สามารถเข้าถึงข้อมูลภายในแอปได้โดยตรง

    มัลแวร์ Scavenger ถูกปลอมเป็นไฟล์เกมม็อด เช่น “performance patch” ของเกม Oblivion Remastered หรือไฟล์ .ASI สำหรับ GTA ซึ่งเมื่อผู้ใช้ติดตั้งตามคำแนะนำ มัลแวร์จะเริ่มทำงานเป็นขั้นตอน:

    1️⃣ Trojan.Scavenger1: ปลอมเป็นไฟล์ DLL เกม

    2️⃣ Trojan.Scavenger2: ดาวน์โหลดโมดูลเพิ่มเติม

    3️⃣ Trojan.Scavenger3: แฝงตัวในเบราว์เซอร์ Chromium เช่น Chrome, Edge, Opera
    - ปิดระบบ sandbox และการตรวจสอบ extension
    - แก้ไข extension ยอดนิยม เช่น MetaMask, Bitwarden, LastPass
    - ส่งข้อมูล mnemonic และรหัสผ่านไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์

    4️⃣ Trojan.Scavenger4: เจาะเข้าแอป Exodus เพื่อขโมย private key และ mnemonic

    มัลแวร์ยังมีความสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับ:
    - ตรวจสอบว่าอยู่ใน VM หรือ debug environment แล้วหยุดทำงาน
    - ใช้การ handshake แบบเข้ารหัสก่อนสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์

    แม้ Doctor Web จะแจ้งนักพัฒนาแอปให้แก้ไขช่องโหว่ DLL hijacking แต่หลายรายปฏิเสธ ทำให้ผู้ใช้ต้องระวังเอง เช่น หลีกเลี่ยงการใช้เกมเถื่อน, ไม่โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ และอัปเดตแอนตี้ไวรัสเสมอ

    https://hackread.com/scavenger-trojan-crypto-wallets-game-mods-browser-flaws/
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อเกมม็อดกลายเป็นประตูสู่การโจรกรรมคริปโต เรื่องเริ่มจากการสืบสวนของ Doctor Web ในรัสเซีย ซึ่งพบว่าแฮกเกอร์ใช้เทคนิค DLL Search Order Hijacking โดยวางไฟล์ DLL ปลอมในโฟลเดอร์ของแอปเป้าหมาย เพื่อให้ระบบโหลดไฟล์ปลอมแทนของจริง ทำให้มัลแวร์สามารถเข้าถึงข้อมูลภายในแอปได้โดยตรง มัลแวร์ Scavenger ถูกปลอมเป็นไฟล์เกมม็อด เช่น “performance patch” ของเกม Oblivion Remastered หรือไฟล์ .ASI สำหรับ GTA ซึ่งเมื่อผู้ใช้ติดตั้งตามคำแนะนำ มัลแวร์จะเริ่มทำงานเป็นขั้นตอน: 1️⃣ Trojan.Scavenger1: ปลอมเป็นไฟล์ DLL เกม 2️⃣ Trojan.Scavenger2: ดาวน์โหลดโมดูลเพิ่มเติม 3️⃣ Trojan.Scavenger3: แฝงตัวในเบราว์เซอร์ Chromium เช่น Chrome, Edge, Opera - ปิดระบบ sandbox และการตรวจสอบ extension - แก้ไข extension ยอดนิยม เช่น MetaMask, Bitwarden, LastPass - ส่งข้อมูล mnemonic และรหัสผ่านไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์ 4️⃣ Trojan.Scavenger4: เจาะเข้าแอป Exodus เพื่อขโมย private key และ mnemonic มัลแวร์ยังมีความสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับ: - ตรวจสอบว่าอยู่ใน VM หรือ debug environment แล้วหยุดทำงาน - ใช้การ handshake แบบเข้ารหัสก่อนสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ แม้ Doctor Web จะแจ้งนักพัฒนาแอปให้แก้ไขช่องโหว่ DLL hijacking แต่หลายรายปฏิเสธ ทำให้ผู้ใช้ต้องระวังเอง เช่น หลีกเลี่ยงการใช้เกมเถื่อน, ไม่โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ และอัปเดตแอนตี้ไวรัสเสมอ https://hackread.com/scavenger-trojan-crypto-wallets-game-mods-browser-flaws/
    HACKREAD.COM
    Scavenger Trojan Targets Crypto Wallets via Game Mods and Browser Flaws
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 150 Views 0 Reviews


  • ..จริงๆแล้วทั้งหมดคือการมีอยู่ของกสทช.เรา
    ..กสทช.ต้องถูกปฏิวัติ
    ..อนาคตคือยุคล้ำเทคโนโลยีมากมายแต่กระบวนการ กสทช.ยังไม่พัฒนาอะไรเลย,ไม่มีส่วนร่วมในการปกป้องประชาชนคนไทยเลย,ยุคเก่าแล้วนั้นเอง,ไม่ต่างจากแบงค์ชาติก่อตั้งมาเพื่อสนับสนุนธนาคารเอกชนทั้งหมดในประเทศไทยแต่อ้างประชาชนบังหน้า ควบคุมธนาคารเอกชนเพื่อปกป้องผลประโยชน์ประชาชนแต่สภาพความเป็นจริงด้วยแบงค์แค่อนุญาตการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ในภาวะวิกฤติการเงินกระทบทั่วโลกชัดเชน ธนาคารไทยฟันกำไรดอกเบี้ยแต่ละธนาคารหมื่นล้านบาทเป็นอย่างน้อย แสนล้านบาทภาพรวมกลุ่มแบงค์ยิ่งชัดเจน,คือก่อกำเนิดมาเพื่อเป็นกลไลเครื่องมือให้เอกชนหากกินให้ชอบธรรมแค่นั้นผ่านใบอนุญาตนี้,ยกสิทธิผูกขาดของชาติให้เอกชน,จากนั้นก็บอกประชาชนว่า ห้ามใครมาแข่งขันใดๆอีกโดยไม่มีใบอนุญาต,ธนาคารกองทุนหมู่บ้านก็ไม่ได้เกิด,เกิดแบบธนาคารชุมชนผีบ้าต่างๆแบบธกส.ออมสินคุมหลังฉากก็ใช่ไม่ได้,แค่ร้านค้ากองทุนหมู่บ้านหากต่อยอดพัฒนาดีๆรัฐสนับสนุนช่วยเป็นพี่เลี้ยงวางระบบงานวางเทคโนโลยีช่วยให้สะดวกสบายซื้อขายคล่องจะล้ำกว่า7/11อีก ประชาชนในหมู่บ้านนั้นๆมีตลาดร้านค้าตนเองฝากขายทั่วไทยได้,สร้างระบบฝากขายออนไลน์มีโชว์เรียลไทม์ในร้านค้าออนไลน์ของกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศไทยได้ มี80,000หมู่บ้าน ก็80,000สาขาขายออนไลน์ผ่านหมู่บ้านใครมันได้โดยเข้าระบบสมาชิกผ่านบัตรประชาชนลงทะเบียนการมีตัวตนชัดเจน,พื้นที่จริงออฟไลน์วางขายไม่สะดวก ฝากขายเป็
    นหมวดหมู่บนตลาดออนไลน์ได้ผ่านแพลนฟอร์มตลาดชุมชนตนเหมือนช็อปปี้ ลาซาด้า ติ๊กต๊อกไลน์สดขายของฟรีๆก็ได้,มียอดสั่งซื้อก็ให้ร้านค้ากองทุนหมู่บ้านต่างๆรับรองมาตราฐานสินค้าเบื้องต้นส่งผ่านในนามร้านค้ากองทุนหมู่บ้านตนนั้นๆ ซึ่งร้านค้ากองทุนหมู่บ้านใครมันจะสร้างแผนกฝ่ายนี้แยกต่างหากจากหน้าร้านเดิมปกติที่คนในหมู่บ้านเข้าร้านซื้อขายของปกติ,มีพื้นที่ให้บริการอำนวยความสะดวกสบายแก่ค้าขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์นี้นั้นเอง,หรือใครสะดวกทำเองที่บ้านก็ได้เครดิตมากน้อยในค่าตอบแทน ใครขนส่งผ่านจุดบริการที่สำนักงานกองทุนร้านค้าชุมชนหมู่บ้านก็เครดิตค่าใช้จ่ายมากหน่อยเพราะให้บริการคนมากมายส่วนรวม,ใครอำนวยสะดวกลูกค้าตนแทนสำนักงานก็ต้องส่งเสริมให้ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหน่อย.ช่วยค่าใช้จ่ายด้านขนส่งบรรจุภัณฑ์ไป,ชาวบ้านจะมีตลาดเป็นของตนเองจริง เม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชนแต่ละบ้านขั้นต่ำวันละ100,000บาทโดยเฉลี่ย,80,000หมู่บ้านก็อาจกว่า8,000ล้านบาทต่อวันทั่วประเทศเฉพาะซื้อขายจับจ่ายใช้จ่ายภาคการบริโภคครัวเรือนในร้านค้าชุมชนตนใครมันในแต่ละพื้นที่,ไม่ต้องเข้าห้างเข้า7/11ก็ได้,หันไปซื้อสินค้าราคาทุนผ่านกองทุนร้านค้าตนเองแต่ละหมู่บ้านใครมัน,กำหนดนโยบายหลักให้ชัดเจนว่าขายต่ำกว่าราคาท้องตลาด ยาสีฟันปกติร้านทั่วไปตามห้างตาม7/11ขายหลอดละ10-20บาท ร้านกองทุนหมู่บ้านก็ขายหลอดละ9หรือ19บาท,ยาหม่องตลับเล็กขายตลับละ8บาทก็ขายตลับละ7บาท เป็นต้น,กำไร1สตางค์จะเป็นอะไร,กองทุนร้านค้าชุมชนไม่มุ่งแสวงหากำไรปุ๊บ!!!,ชาวบ้านจะคิดต่างทันทีดีกว่า7/11ก็หันมาสนับสนุนร้านค้าตนเองแทน,นี้ไม่รวมยอดรายได้จากค้าขายออนไลน์บนแพลตฟอร์มของกองทุนร้านค้าชุมชนอีก,การวางระบบ การเป็นพี่เลี้ยงจากรัฐบาลจึงสำคัญหากรัฐบาลมองอย่างจริงใจว่าคนไทยเราต้องพึ่งพาตนเองสามัคคีกันทั่วไทยให้ได้ ตลาดอีคอมเมิร์ซผ่านค้าขายออนไลน์ในเน็ตมีส่วนแบ่งการตลาดดีมาก ทั่วโลกกว่า25-50ล้านล้านเหรียญ,ประเทศไทยนำโดยกองทุนร้านค้าชุมชนหมู่บ้านอาจเป็นผู้นำในไทยตนเองแทนแพลตฟอร์มลาซาด้า ซ็อปปี้ ติ๊กต๊อก อะลีบาบา เตมูหลอกลวงนั้นอีก เราสามารถกำหนดมาตราฐานของชุมชนควบคุมสินค้าไปในตัวด้วย,ชุมชนใดส่งมอบสินค้าไม่ดี เราสามารถแจ้งเตือนปรับปรุงจรรโลงตลาดเราได้ ส่วนแบ่งรวมทั้งค้่ขายออนไลน์ในประเทศและต่างประเทศเราอาจมำได้กว่า10-20ล้านล้านเหรียญจากยอดสั่งซื้อจากทั่วโลกได้,อาทิ ทุเรียนไทย ส่งขายตรงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์กองทุนร้านค้าหมู่บ้านชุมชน ยอดค้าปลีกในหมู่บ้านนั้นๆอาจส่งออกทั่วโลกถึงวันละ1,000ล้านบาทก็ได้ จังหวัดนั้นๆแพ็คขายตรงถึงมือลูกค้าอาจกว่า10,000ล้านบาทต่อวันก็ได้กระจายไปทั่วโลกคนละ1กก.คนละลูกตามคำสั่งซื้อตรงผ่านแพลตฟอร์มเรา,
    ..ในส่วนรัฐบาลที่ดีมีโครงการเงินทุนสัมมาสร้างอาชีพก็อัดตรงลงที่สำนักงานกองทุนร้านค้าชุมชนหมู่บ้านนั้นๆทางตรงก็ได้เช่น งบลงไปให้ชาวบ้านสร้างอาชีพไม่ต้องผ่านธนาคารของรัฐวิสาหกิจหรือธนาคารของเอกชนใดๆ ให้หมู่บ้านชุมชนนั้นๆละ10ล้านบาท นำไปปล่อยยืมสร้างอาชีพห้ามเก็บดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมใดๆกับประชาชนชาวบ้านปีแรกอาจลงงบฯไป10,000หมู่บ้านก่อน,ปีละ10,000หมู่บ้านๆละ10ล้านบาทก็100,000ล้านบาทต่อปี,8ปีก็80,000หมู่บ้านคือ800,000ล้านบาทและ800,000ล้านบาทนี้ก็หมุนเวียนในชุมชนจริงด้วยมิใช้เข้าห้างเข้า7/11 เป็นต้น ต่อเงินอาจได้กว่า8ล้านล้านบาทในสัมมาอาชีพที่รัฐบาลช่วยทุนสัมมาอาชีพนั้น เช่นบางคนได้ตังจากหมู่บ้านตนปล่อยยืมคนละ100,000บาทไร้ดอกเบี้ยมีกำลังพอควรสร้างอาชีพทุนพอดี ช่วยได้หมู่บ้านละ100คนในชุดนั้นปีต่อมาเขาคืนทุนทำกำไร ทั้งค้าขายเอง ค้าขายออนไลน์กับค้าขายเปิดหน้าร้านด้วย ขายฝากร้านค้าชุมชนในหมู่บ้านที่เป็นสถานที่หน้าร้านจริงอีก,มีคำสั่งซื้อเข้ามาช่วยหลายทาง เช่นขายขนมต่างๆทำมมีรายได้ต่อเดือนอาจ5-6หมื่นบาท กำไร3-4หมื่นบาท 1ปี3-4แสนบาทเป็นต้น,ทุกๆคนสมมุติคืนทุนได้แน่นอนปีแรก,ปีต่อไป คนที่เหลือสามารถยืมฟรีๆต่อได้อีกในทุน10ล้านบาทนั้น,หมู่บ้านหนึ่งอาจมี4-5ร้อยครัวเรือนแค่นั้น บางหมู่บ้านมีไม่ถึง200ครัวเรือน ก็แค่2รอบครบกันหมด,หมุนเวียนได้ตลอด,ในชุมชน,จะซื้ออะไรก็ใช้จ่ายแค่ร้านค้ากองทุนหมู่บ้านตน ไม่ฝากตังที่ธนาคารเอกชน ธนาคารรัฐ ฝากกันในกองทุนร้านค้าชุมชนตนนั้นล่ะ ถอน-ฝากตรงในชุมชนตนเองเลยโดยมีรัฐอำนวยวิธีการบริหารจัดการให้เป็นระบบระเบียน,หมู่บ้านหนึ่งอาจกว่า1,000ล้านบาทต่อเดือนของรายได้เข้าชุมชนเช่นขายทุเรียนผลไม้พืชผัก,รัฐมีสำนักงานใหญ่ดูแลระบบช่วยเหลือประชาชน จ้างโดยรัฐบาลพี่เลี้ยงก่อน,เงินมหาศาลจากการค้าขายการฝากออมจะไหลไปรวมก็ศูนย์กลางสำนักงานใหญ่ทันทีกว่าล้านล้านบาทต่อวัน,สำนักงานใหญ่สามารถบริหารจัดการสภาพคล่องกระแสเงินนั้นสบานมากๆ,บริหารจัดการเงินทุนช่วยสร้างอาชีพสร้างรายได้แก่ประชาชนได้สบายอย่างแท้จริง,ติดขัดอะไรเห็นปัญหา สามารถเชื่อมประสานงานแก้ไขได้ผ่านกระบวนการกลไกอำนาจรัฐ,เน็ตมีปัญหา ตรงดิ่งไปกสทช.เอาคลื่นความถี่ฟรีๆมาให้บริการประชาชนโซนเรานี้,จากนั้นประชาชนแค่ลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชนยืนยันการใช้งานและความเป็นคนไทยสามารถใช้เครือข่ายโทรฟรีเน็ตฟรีเพื่อส่งเสริมสนับสัมมาอาชีพค้าขายพึ่งพาตนเองได้,มีทุนมากหน่อยลงมติ ร่วมบริจาคสร้างดาวเทียมเน็ตฟรีๆก็ได้หรือรัฐฐะมีหน้าที่ตรงต้องสร้างมาสนับสนุนสัมมาอาชีพประชาชนและวิถีชีวิตประชาชนมิใช่ช่วยเหลือเอกชนประกอบอาชีพค้ากำไรต่อประชาชนให้ไปใช้บริการมัน,
    ..กสทช.ก็ตาม แบงค์ชาติก็ตาม ทั้งหมดเสมือนก่อเกิดขึ้นมาเพื่อส่งเสริมอาชีพเอกชนมาค้ารายได้กำไรจากประชาชนโดยอ้างการให้บริการแก่ประชาชนต้องมีการแลกเปลี่ยนจ่ายค่าให้บริการมาก็ว่า,ธนาคารได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยกู้ ค่ายมือถือได้ตังจากค่าเน็ตค่าโทรค่าใช้บริการสาระพัดมุกที่จะมีโปรโมชั่นจากค่ายมือถือมาดูดตังจากประชาชน,ทั้งจากเดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย โทรมาโชว์แต่เบอร์ ไม่เคยปรับปรุงว่า 1เบอร์มือถือ 1เลขหมายโทรศัพท์ตือ1บัตรประชาชนเท่านั่น,ระบบต้องโชว์ชื่อโชว์นามสกุลของคนโทรเข้ามาอัตโนมัติด้วย มิใช่โชว์แค่เบอร์ในปัจจุบัน.,ห้ามคนไทยทุดๆคนมีเลขหมายโทรศัพท์เกิน1เบอร์,ส่วนเปิดกิจการค้าขายต้องเงื่อนไขต่างหาก,นี้สามารถตัดตอนเดอะแก๊งชั่วเลวแบบคอลเซ็นเตอร์ได้ทันที,ร่วมถึงธนาคารต้องห้ามคนไทยมีบัญชีธนาคารเกิน1บัญชีต่อ1บัตรประชาชนด้วย มรึงจะมีตังเกิน1ล้านล้านบาทก็มีได้แค่1บัญชี ไม่สามารถฟอกตังฟอกเงินได้ตัดตอนได้อีก,,นี้คือการปกครองที่ซื่อสัตย์สุจริตโปร่งใส่ของจริงด้วย,ต่างชาติใดๆจะมาเยือนประเทศไทย,ในกรณีประชาชนทั่วไป ต้องรวมรวบสถานะการเงินเป็นบัญชีเดียวทั้งหมดเช่นกันก่อนเข้าประเทศไทย,ป้องกันการฟอกเงินข้ามชาติได้ด้วย,สามารถเชื่อมโยงคริปโตโทเคนได้ด้วยในการแจ้งสถานะมูลค่าถือครองมีในครอบครองนั้นก่อนเข้าประเทศไทยทุกๆกรณีด้วย,บริษัทกิจการใดจะมาลงทุนประเทศไทยต้องรวมสถานะการเงินเป็นบัญชีเดียวทั้งหมดให้ชัดเจนนั้นเอง,ตัดตอนการทุจริตการฟอกเงินทันทีด้วยหรือนัยยะบ่อนทำลายประเทศไทยก็ด้วย,ทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นกิจกรรมที่ไม่โปร่งใสทั้งหมด อำนวยอาชญากรอาชญากรรมสาระพัดรูปแบบได้หมด,ปกปิดการเคลื่อนไหวสถานะการเงินนั้นเอง,เงินสามารถจ้างอาชญากรใดๆทั่วโลกได้ ค้าอาวุธค้ายาค้ามนุษย์ได้ และพวกนี้จะกระจายเม็ดเงินกันด้วย,แบงค์ชาติและแบงค์เอกชนเห็นสิ่งนี้หมดแต่ก็เปิดช่องให้คนชั่วเลวนี้ถึงปัจจุบัน,
    ..ในมิติกสทช.คงเห็น1บัตรประชาชน 1เบอร์โทรศัพท์ได้ยาก,การค้าซิมของค่ายมือถือคือบ่อเกิดความหายนะต่อประชาชนตนภายในประเทศ,จำเป็นอะไรที่ประชาชนต้องมีมากกว่า1เบอร์โทรศัพท์,นอกจากมิจฉาชีพจะชอบใช้ก่ออาชญากรรมแล้วทิ้งมิให้มีหลักฐานแค่นั้น,และสะดวกสบายด้วย ต่างจาก1บัตรประชาชน 1เบอร์โทรศัพท์ ล็อกตัวได้ง่าย ระบุที่ตั้งตัวตนคนนั้นได้ชัดเจน แบบเขมรเดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็อ้างเบอร์นั้นนี้มาทำชั่วเลวแทบไม่ได้เลย,โทรมาจากเขมรก็โชว์ว่ามาจากเขมรทันทีได้,เพราะยกเลิกซิม ใช้บัตรประชาชนใครมันคือเบอร์มือถือใครมันจริงนั้นเอง.กสทช.ไม่เคยปรับปรุงตนเองเลย อย่างเดียวที่ทำคือประมูลคลื่นความถี่.,ไม่คิดอ่านว่าคลื่นสาธารณะแผ่นดินนี้ประชาชนคนไทยสมควรใช้บริการฟรีๆเพื่ออัพเรเวลคุณภาพชีวิตคนไทยได้แล้ว,ไลน์ก็ใช้เน็ตติดต่อเรื่องราวระหว่างครูกับผู้ปกครองหรือนักเรียนกับครูๆ,ซิมก็ซื้ออายุเวลาซิมอีกมิใช่ตลอดชีพ ให้มือถือเก็บตังรีดไถ่เก็บส่วยในมุกรักษาอายุซิมก็ว่าตลอด,ค่าเน็ตก็แพง ผูกขาดไม่กี่เจ้าอีก,ทหารยึดอำนาจ ยึดคลื่นจากค่ายมือถือยุบกสทช.ด้วยก็ดี.ไร้ประโยชน์จริงๆ,ทำเองดีกว่า ตั้งหน่วยงานใหม่รับผิดชอบเน็ตคนไทยเลย,ประเทศไทยเลอะเทอะมากพอแล้ว,คืนค่าโรงงานทั้งหมดคืนค่าประเทศไทยทั้งหมดยึดคืนมากเป็นของคนไทยทั้งหมดเหมือนเดิมเพื่อก้าวเดินในวิถีโลกยุคใหม่นี้จริงๆ,ไม่ล้างระบบเก่า จะสร้างใหม่ได้อย่างไร,บ้านใหม่บรแผ่นดินเดิมเรา,บ้านนี้ผุพังเป็นอันมากปลวกมดสัตว์เลื้อยคลานอาศัยอยู่เป็นอันมาก,พังพินาศไส้ในสิ้นดี.

    https://youtube.com/watch?v=7wwuNRyzL4c&feature=shared
    ..จริงๆแล้วทั้งหมดคือการมีอยู่ของกสทช.เรา ..กสทช.ต้องถูกปฏิวัติ ..อนาคตคือยุคล้ำเทคโนโลยีมากมายแต่กระบวนการ กสทช.ยังไม่พัฒนาอะไรเลย,ไม่มีส่วนร่วมในการปกป้องประชาชนคนไทยเลย,ยุคเก่าแล้วนั้นเอง,ไม่ต่างจากแบงค์ชาติก่อตั้งมาเพื่อสนับสนุนธนาคารเอกชนทั้งหมดในประเทศไทยแต่อ้างประชาชนบังหน้า ควบคุมธนาคารเอกชนเพื่อปกป้องผลประโยชน์ประชาชนแต่สภาพความเป็นจริงด้วยแบงค์แค่อนุญาตการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ในภาวะวิกฤติการเงินกระทบทั่วโลกชัดเชน ธนาคารไทยฟันกำไรดอกเบี้ยแต่ละธนาคารหมื่นล้านบาทเป็นอย่างน้อย แสนล้านบาทภาพรวมกลุ่มแบงค์ยิ่งชัดเจน,คือก่อกำเนิดมาเพื่อเป็นกลไลเครื่องมือให้เอกชนหากกินให้ชอบธรรมแค่นั้นผ่านใบอนุญาตนี้,ยกสิทธิผูกขาดของชาติให้เอกชน,จากนั้นก็บอกประชาชนว่า ห้ามใครมาแข่งขันใดๆอีกโดยไม่มีใบอนุญาต,ธนาคารกองทุนหมู่บ้านก็ไม่ได้เกิด,เกิดแบบธนาคารชุมชนผีบ้าต่างๆแบบธกส.ออมสินคุมหลังฉากก็ใช่ไม่ได้,แค่ร้านค้ากองทุนหมู่บ้านหากต่อยอดพัฒนาดีๆรัฐสนับสนุนช่วยเป็นพี่เลี้ยงวางระบบงานวางเทคโนโลยีช่วยให้สะดวกสบายซื้อขายคล่องจะล้ำกว่า7/11อีก ประชาชนในหมู่บ้านนั้นๆมีตลาดร้านค้าตนเองฝากขายทั่วไทยได้,สร้างระบบฝากขายออนไลน์มีโชว์เรียลไทม์ในร้านค้าออนไลน์ของกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศไทยได้ มี80,000หมู่บ้าน ก็80,000สาขาขายออนไลน์ผ่านหมู่บ้านใครมันได้โดยเข้าระบบสมาชิกผ่านบัตรประชาชนลงทะเบียนการมีตัวตนชัดเจน,พื้นที่จริงออฟไลน์วางขายไม่สะดวก ฝากขายเป็ นหมวดหมู่บนตลาดออนไลน์ได้ผ่านแพลนฟอร์มตลาดชุมชนตนเหมือนช็อปปี้ ลาซาด้า ติ๊กต๊อกไลน์สดขายของฟรีๆก็ได้,มียอดสั่งซื้อก็ให้ร้านค้ากองทุนหมู่บ้านต่างๆรับรองมาตราฐานสินค้าเบื้องต้นส่งผ่านในนามร้านค้ากองทุนหมู่บ้านตนนั้นๆ ซึ่งร้านค้ากองทุนหมู่บ้านใครมันจะสร้างแผนกฝ่ายนี้แยกต่างหากจากหน้าร้านเดิมปกติที่คนในหมู่บ้านเข้าร้านซื้อขายของปกติ,มีพื้นที่ให้บริการอำนวยความสะดวกสบายแก่ค้าขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์นี้นั้นเอง,หรือใครสะดวกทำเองที่บ้านก็ได้เครดิตมากน้อยในค่าตอบแทน ใครขนส่งผ่านจุดบริการที่สำนักงานกองทุนร้านค้าชุมชนหมู่บ้านก็เครดิตค่าใช้จ่ายมากหน่อยเพราะให้บริการคนมากมายส่วนรวม,ใครอำนวยสะดวกลูกค้าตนแทนสำนักงานก็ต้องส่งเสริมให้ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหน่อย.ช่วยค่าใช้จ่ายด้านขนส่งบรรจุภัณฑ์ไป,ชาวบ้านจะมีตลาดเป็นของตนเองจริง เม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชนแต่ละบ้านขั้นต่ำวันละ100,000บาทโดยเฉลี่ย,80,000หมู่บ้านก็อาจกว่า8,000ล้านบาทต่อวันทั่วประเทศเฉพาะซื้อขายจับจ่ายใช้จ่ายภาคการบริโภคครัวเรือนในร้านค้าชุมชนตนใครมันในแต่ละพื้นที่,ไม่ต้องเข้าห้างเข้า7/11ก็ได้,หันไปซื้อสินค้าราคาทุนผ่านกองทุนร้านค้าตนเองแต่ละหมู่บ้านใครมัน,กำหนดนโยบายหลักให้ชัดเจนว่าขายต่ำกว่าราคาท้องตลาด ยาสีฟันปกติร้านทั่วไปตามห้างตาม7/11ขายหลอดละ10-20บาท ร้านกองทุนหมู่บ้านก็ขายหลอดละ9หรือ19บาท,ยาหม่องตลับเล็กขายตลับละ8บาทก็ขายตลับละ7บาท เป็นต้น,กำไร1สตางค์จะเป็นอะไร,กองทุนร้านค้าชุมชนไม่มุ่งแสวงหากำไรปุ๊บ!!!,ชาวบ้านจะคิดต่างทันทีดีกว่า7/11ก็หันมาสนับสนุนร้านค้าตนเองแทน,นี้ไม่รวมยอดรายได้จากค้าขายออนไลน์บนแพลตฟอร์มของกองทุนร้านค้าชุมชนอีก,การวางระบบ การเป็นพี่เลี้ยงจากรัฐบาลจึงสำคัญหากรัฐบาลมองอย่างจริงใจว่าคนไทยเราต้องพึ่งพาตนเองสามัคคีกันทั่วไทยให้ได้ ตลาดอีคอมเมิร์ซผ่านค้าขายออนไลน์ในเน็ตมีส่วนแบ่งการตลาดดีมาก ทั่วโลกกว่า25-50ล้านล้านเหรียญ,ประเทศไทยนำโดยกองทุนร้านค้าชุมชนหมู่บ้านอาจเป็นผู้นำในไทยตนเองแทนแพลตฟอร์มลาซาด้า ซ็อปปี้ ติ๊กต๊อก อะลีบาบา เตมูหลอกลวงนั้นอีก เราสามารถกำหนดมาตราฐานของชุมชนควบคุมสินค้าไปในตัวด้วย,ชุมชนใดส่งมอบสินค้าไม่ดี เราสามารถแจ้งเตือนปรับปรุงจรรโลงตลาดเราได้ ส่วนแบ่งรวมทั้งค้่ขายออนไลน์ในประเทศและต่างประเทศเราอาจมำได้กว่า10-20ล้านล้านเหรียญจากยอดสั่งซื้อจากทั่วโลกได้,อาทิ ทุเรียนไทย ส่งขายตรงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์กองทุนร้านค้าหมู่บ้านชุมชน ยอดค้าปลีกในหมู่บ้านนั้นๆอาจส่งออกทั่วโลกถึงวันละ1,000ล้านบาทก็ได้ จังหวัดนั้นๆแพ็คขายตรงถึงมือลูกค้าอาจกว่า10,000ล้านบาทต่อวันก็ได้กระจายไปทั่วโลกคนละ1กก.คนละลูกตามคำสั่งซื้อตรงผ่านแพลตฟอร์มเรา, ..ในส่วนรัฐบาลที่ดีมีโครงการเงินทุนสัมมาสร้างอาชีพก็อัดตรงลงที่สำนักงานกองทุนร้านค้าชุมชนหมู่บ้านนั้นๆทางตรงก็ได้เช่น งบลงไปให้ชาวบ้านสร้างอาชีพไม่ต้องผ่านธนาคารของรัฐวิสาหกิจหรือธนาคารของเอกชนใดๆ ให้หมู่บ้านชุมชนนั้นๆละ10ล้านบาท นำไปปล่อยยืมสร้างอาชีพห้ามเก็บดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมใดๆกับประชาชนชาวบ้านปีแรกอาจลงงบฯไป10,000หมู่บ้านก่อน,ปีละ10,000หมู่บ้านๆละ10ล้านบาทก็100,000ล้านบาทต่อปี,8ปีก็80,000หมู่บ้านคือ800,000ล้านบาทและ800,000ล้านบาทนี้ก็หมุนเวียนในชุมชนจริงด้วยมิใช้เข้าห้างเข้า7/11 เป็นต้น ต่อเงินอาจได้กว่า8ล้านล้านบาทในสัมมาอาชีพที่รัฐบาลช่วยทุนสัมมาอาชีพนั้น เช่นบางคนได้ตังจากหมู่บ้านตนปล่อยยืมคนละ100,000บาทไร้ดอกเบี้ยมีกำลังพอควรสร้างอาชีพทุนพอดี ช่วยได้หมู่บ้านละ100คนในชุดนั้นปีต่อมาเขาคืนทุนทำกำไร ทั้งค้าขายเอง ค้าขายออนไลน์กับค้าขายเปิดหน้าร้านด้วย ขายฝากร้านค้าชุมชนในหมู่บ้านที่เป็นสถานที่หน้าร้านจริงอีก,มีคำสั่งซื้อเข้ามาช่วยหลายทาง เช่นขายขนมต่างๆทำมมีรายได้ต่อเดือนอาจ5-6หมื่นบาท กำไร3-4หมื่นบาท 1ปี3-4แสนบาทเป็นต้น,ทุกๆคนสมมุติคืนทุนได้แน่นอนปีแรก,ปีต่อไป คนที่เหลือสามารถยืมฟรีๆต่อได้อีกในทุน10ล้านบาทนั้น,หมู่บ้านหนึ่งอาจมี4-5ร้อยครัวเรือนแค่นั้น บางหมู่บ้านมีไม่ถึง200ครัวเรือน ก็แค่2รอบครบกันหมด,หมุนเวียนได้ตลอด,ในชุมชน,จะซื้ออะไรก็ใช้จ่ายแค่ร้านค้ากองทุนหมู่บ้านตน ไม่ฝากตังที่ธนาคารเอกชน ธนาคารรัฐ ฝากกันในกองทุนร้านค้าชุมชนตนนั้นล่ะ ถอน-ฝากตรงในชุมชนตนเองเลยโดยมีรัฐอำนวยวิธีการบริหารจัดการให้เป็นระบบระเบียน,หมู่บ้านหนึ่งอาจกว่า1,000ล้านบาทต่อเดือนของรายได้เข้าชุมชนเช่นขายทุเรียนผลไม้พืชผัก,รัฐมีสำนักงานใหญ่ดูแลระบบช่วยเหลือประชาชน จ้างโดยรัฐบาลพี่เลี้ยงก่อน,เงินมหาศาลจากการค้าขายการฝากออมจะไหลไปรวมก็ศูนย์กลางสำนักงานใหญ่ทันทีกว่าล้านล้านบาทต่อวัน,สำนักงานใหญ่สามารถบริหารจัดการสภาพคล่องกระแสเงินนั้นสบานมากๆ,บริหารจัดการเงินทุนช่วยสร้างอาชีพสร้างรายได้แก่ประชาชนได้สบายอย่างแท้จริง,ติดขัดอะไรเห็นปัญหา สามารถเชื่อมประสานงานแก้ไขได้ผ่านกระบวนการกลไกอำนาจรัฐ,เน็ตมีปัญหา ตรงดิ่งไปกสทช.เอาคลื่นความถี่ฟรีๆมาให้บริการประชาชนโซนเรานี้,จากนั้นประชาชนแค่ลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชนยืนยันการใช้งานและความเป็นคนไทยสามารถใช้เครือข่ายโทรฟรีเน็ตฟรีเพื่อส่งเสริมสนับสัมมาอาชีพค้าขายพึ่งพาตนเองได้,มีทุนมากหน่อยลงมติ ร่วมบริจาคสร้างดาวเทียมเน็ตฟรีๆก็ได้หรือรัฐฐะมีหน้าที่ตรงต้องสร้างมาสนับสนุนสัมมาอาชีพประชาชนและวิถีชีวิตประชาชนมิใช่ช่วยเหลือเอกชนประกอบอาชีพค้ากำไรต่อประชาชนให้ไปใช้บริการมัน, ..กสทช.ก็ตาม แบงค์ชาติก็ตาม ทั้งหมดเสมือนก่อเกิดขึ้นมาเพื่อส่งเสริมอาชีพเอกชนมาค้ารายได้กำไรจากประชาชนโดยอ้างการให้บริการแก่ประชาชนต้องมีการแลกเปลี่ยนจ่ายค่าให้บริการมาก็ว่า,ธนาคารได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยกู้ ค่ายมือถือได้ตังจากค่าเน็ตค่าโทรค่าใช้บริการสาระพัดมุกที่จะมีโปรโมชั่นจากค่ายมือถือมาดูดตังจากประชาชน,ทั้งจากเดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย โทรมาโชว์แต่เบอร์ ไม่เคยปรับปรุงว่า 1เบอร์มือถือ 1เลขหมายโทรศัพท์ตือ1บัตรประชาชนเท่านั่น,ระบบต้องโชว์ชื่อโชว์นามสกุลของคนโทรเข้ามาอัตโนมัติด้วย มิใช่โชว์แค่เบอร์ในปัจจุบัน.,ห้ามคนไทยทุดๆคนมีเลขหมายโทรศัพท์เกิน1เบอร์,ส่วนเปิดกิจการค้าขายต้องเงื่อนไขต่างหาก,นี้สามารถตัดตอนเดอะแก๊งชั่วเลวแบบคอลเซ็นเตอร์ได้ทันที,ร่วมถึงธนาคารต้องห้ามคนไทยมีบัญชีธนาคารเกิน1บัญชีต่อ1บัตรประชาชนด้วย มรึงจะมีตังเกิน1ล้านล้านบาทก็มีได้แค่1บัญชี ไม่สามารถฟอกตังฟอกเงินได้ตัดตอนได้อีก,,นี้คือการปกครองที่ซื่อสัตย์สุจริตโปร่งใส่ของจริงด้วย,ต่างชาติใดๆจะมาเยือนประเทศไทย,ในกรณีประชาชนทั่วไป ต้องรวมรวบสถานะการเงินเป็นบัญชีเดียวทั้งหมดเช่นกันก่อนเข้าประเทศไทย,ป้องกันการฟอกเงินข้ามชาติได้ด้วย,สามารถเชื่อมโยงคริปโตโทเคนได้ด้วยในการแจ้งสถานะมูลค่าถือครองมีในครอบครองนั้นก่อนเข้าประเทศไทยทุกๆกรณีด้วย,บริษัทกิจการใดจะมาลงทุนประเทศไทยต้องรวมสถานะการเงินเป็นบัญชีเดียวทั้งหมดให้ชัดเจนนั้นเอง,ตัดตอนการทุจริตการฟอกเงินทันทีด้วยหรือนัยยะบ่อนทำลายประเทศไทยก็ด้วย,ทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นกิจกรรมที่ไม่โปร่งใสทั้งหมด อำนวยอาชญากรอาชญากรรมสาระพัดรูปแบบได้หมด,ปกปิดการเคลื่อนไหวสถานะการเงินนั้นเอง,เงินสามารถจ้างอาชญากรใดๆทั่วโลกได้ ค้าอาวุธค้ายาค้ามนุษย์ได้ และพวกนี้จะกระจายเม็ดเงินกันด้วย,แบงค์ชาติและแบงค์เอกชนเห็นสิ่งนี้หมดแต่ก็เปิดช่องให้คนชั่วเลวนี้ถึงปัจจุบัน, ..ในมิติกสทช.คงเห็น1บัตรประชาชน 1เบอร์โทรศัพท์ได้ยาก,การค้าซิมของค่ายมือถือคือบ่อเกิดความหายนะต่อประชาชนตนภายในประเทศ,จำเป็นอะไรที่ประชาชนต้องมีมากกว่า1เบอร์โทรศัพท์,นอกจากมิจฉาชีพจะชอบใช้ก่ออาชญากรรมแล้วทิ้งมิให้มีหลักฐานแค่นั้น,และสะดวกสบายด้วย ต่างจาก1บัตรประชาชน 1เบอร์โทรศัพท์ ล็อกตัวได้ง่าย ระบุที่ตั้งตัวตนคนนั้นได้ชัดเจน แบบเขมรเดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็อ้างเบอร์นั้นนี้มาทำชั่วเลวแทบไม่ได้เลย,โทรมาจากเขมรก็โชว์ว่ามาจากเขมรทันทีได้,เพราะยกเลิกซิม ใช้บัตรประชาชนใครมันคือเบอร์มือถือใครมันจริงนั้นเอง.กสทช.ไม่เคยปรับปรุงตนเองเลย อย่างเดียวที่ทำคือประมูลคลื่นความถี่.,ไม่คิดอ่านว่าคลื่นสาธารณะแผ่นดินนี้ประชาชนคนไทยสมควรใช้บริการฟรีๆเพื่ออัพเรเวลคุณภาพชีวิตคนไทยได้แล้ว,ไลน์ก็ใช้เน็ตติดต่อเรื่องราวระหว่างครูกับผู้ปกครองหรือนักเรียนกับครูๆ,ซิมก็ซื้ออายุเวลาซิมอีกมิใช่ตลอดชีพ ให้มือถือเก็บตังรีดไถ่เก็บส่วยในมุกรักษาอายุซิมก็ว่าตลอด,ค่าเน็ตก็แพง ผูกขาดไม่กี่เจ้าอีก,ทหารยึดอำนาจ ยึดคลื่นจากค่ายมือถือยุบกสทช.ด้วยก็ดี.ไร้ประโยชน์จริงๆ,ทำเองดีกว่า ตั้งหน่วยงานใหม่รับผิดชอบเน็ตคนไทยเลย,ประเทศไทยเลอะเทอะมากพอแล้ว,คืนค่าโรงงานทั้งหมดคืนค่าประเทศไทยทั้งหมดยึดคืนมากเป็นของคนไทยทั้งหมดเหมือนเดิมเพื่อก้าวเดินในวิถีโลกยุคใหม่นี้จริงๆ,ไม่ล้างระบบเก่า จะสร้างใหม่ได้อย่างไร,บ้านใหม่บรแผ่นดินเดิมเรา,บ้านนี้ผุพังเป็นอันมากปลวกมดสัตว์เลื้อยคลานอาศัยอยู่เป็นอันมาก,พังพินาศไส้ในสิ้นดี. https://youtube.com/watch?v=7wwuNRyzL4c&feature=shared
    0 Comments 0 Shares 264 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกมืดของ UIA: เมื่อเครื่องมือสำหรับผู้พิการถูกใช้เป็นช่องทางลอบโจมตี

    UI Automation (UIA) เป็นระบบที่ Microsoft ออกแบบเพื่อช่วยให้เทคโนโลยีผู้ช่วย (assistive technologies) เช่น screen reader เข้าถึง UI ของซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ได้ — แต่แฮกเกอร์พบว่า UIA สามารถใช้ “สแกน” หน้าต่างของโปรแกรมอื่น เพื่อดึงข้อมูลจากฟิลด์ต่าง ๆ ได้ โดยไม่ต้องเข้าถึง API หรือระบบเครือข่าย

    มัลแวร์ Coyote รุ่นล่าสุดจึงใช้ UIA ในการ:
    - ตรวจสอบว่าเหย้อติดต่อกับธนาคารหรือเว็บคริปโตหรือไม่ โดยวิเคราะห์ชื่อหน้าต่าง
    - หากไม่พบชื่อในลิสต์ 75 สถาบันที่ถูกตั้งไว้ล่วงหน้า จะใช้ UIA สแกน sub-elements เพื่อตรวจจับ field ที่น่าจะเกี่ยวกับการเงิน
    - ดึงข้อมูล เช่น username, password, หรือ address bar ได้โดยตรงผ่าน COM object ของ UIA

    เทคนิคนี้ช่วยให้มัลแวร์:
    - หลบหลีก endpoint detection software ได้ดีขึ้น
    - ทำงานได้ทั้งแบบ online และ offline
    - มีความยืดหยุ่นในการเข้าถึงหลายแอปและหลาย browser โดยไม่ต้องรู้โครงสร้างล่วงหน้า

    Coyote Trojan รุ่นใหม่ใช้ Microsoft UI Automation (UIA) ในการขโมยข้อมูลจากธนาคารและคริปโต
    ถือเป็นมัลแวร์ตัวแรกที่นำ UIA ไปใช้จริงจากแนวคิด proof-of-concept

    UIA เป็น framework ที่ช่วยให้โปรแกรมเข้าถึง UI ของแอปอื่นผ่าน COM object
    ทำให้สามารถอ่าน content ใน input field, address bar, และ sub-element ของหน้าต่างได้

    Coyote ตรวจสอบชื่อหน้าต่างว่าเกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินหรือไม่
    หากไม่ตรง จะใช้ UIA “ไต่” โครงสร้างหน้าต่างเพื่อหาข้อมูลแทน

    มัลแวร์มีลิสต์สถาบันการเงิน 75 แห่ง ซึ่งรวมถึงธนาคารและ crypto exchange
    มีการ mapping เป็นหมวดหมู่ภายใน เพื่อใช้เลือกเป้าหมายและเทคนิคการโจมตี

    Coyote ยังส่งข้อมูลเครื่องกลับไปยัง C2 เช่น username, computer name, browser
    แม้อยู่แบบ offline ก็ยังตรวจสอบและเก็บข้อมูลไว้ได้โดยไม่ต้องสื่อสารตลอดเวลา

    Akamai มีคำแนะนำให้ตรวจสอบ DLL ที่โหลด เช่น UIAutomationCore.dll
    และใช้ osquery ตรวจสอบ named pipe ที่เกี่ยวข้องกับ UIA เพื่อจับพฤติกรรมผิดปกติ

    https://hackread.com/coyote-trojan-use-microsoft-ui-automation-bank-attacks/
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกมืดของ UIA: เมื่อเครื่องมือสำหรับผู้พิการถูกใช้เป็นช่องทางลอบโจมตี UI Automation (UIA) เป็นระบบที่ Microsoft ออกแบบเพื่อช่วยให้เทคโนโลยีผู้ช่วย (assistive technologies) เช่น screen reader เข้าถึง UI ของซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ได้ — แต่แฮกเกอร์พบว่า UIA สามารถใช้ “สแกน” หน้าต่างของโปรแกรมอื่น เพื่อดึงข้อมูลจากฟิลด์ต่าง ๆ ได้ โดยไม่ต้องเข้าถึง API หรือระบบเครือข่าย มัลแวร์ Coyote รุ่นล่าสุดจึงใช้ UIA ในการ: - ตรวจสอบว่าเหย้อติดต่อกับธนาคารหรือเว็บคริปโตหรือไม่ โดยวิเคราะห์ชื่อหน้าต่าง - หากไม่พบชื่อในลิสต์ 75 สถาบันที่ถูกตั้งไว้ล่วงหน้า จะใช้ UIA สแกน sub-elements เพื่อตรวจจับ field ที่น่าจะเกี่ยวกับการเงิน - ดึงข้อมูล เช่น username, password, หรือ address bar ได้โดยตรงผ่าน COM object ของ UIA เทคนิคนี้ช่วยให้มัลแวร์: - หลบหลีก endpoint detection software ได้ดีขึ้น - ทำงานได้ทั้งแบบ online และ offline - มีความยืดหยุ่นในการเข้าถึงหลายแอปและหลาย browser โดยไม่ต้องรู้โครงสร้างล่วงหน้า ✅ Coyote Trojan รุ่นใหม่ใช้ Microsoft UI Automation (UIA) ในการขโมยข้อมูลจากธนาคารและคริปโต ➡️ ถือเป็นมัลแวร์ตัวแรกที่นำ UIA ไปใช้จริงจากแนวคิด proof-of-concept ✅ UIA เป็น framework ที่ช่วยให้โปรแกรมเข้าถึง UI ของแอปอื่นผ่าน COM object ➡️ ทำให้สามารถอ่าน content ใน input field, address bar, และ sub-element ของหน้าต่างได้ ✅ Coyote ตรวจสอบชื่อหน้าต่างว่าเกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินหรือไม่ ➡️ หากไม่ตรง จะใช้ UIA “ไต่” โครงสร้างหน้าต่างเพื่อหาข้อมูลแทน ✅ มัลแวร์มีลิสต์สถาบันการเงิน 75 แห่ง ซึ่งรวมถึงธนาคารและ crypto exchange ➡️ มีการ mapping เป็นหมวดหมู่ภายใน เพื่อใช้เลือกเป้าหมายและเทคนิคการโจมตี ✅ Coyote ยังส่งข้อมูลเครื่องกลับไปยัง C2 เช่น username, computer name, browser ➡️ แม้อยู่แบบ offline ก็ยังตรวจสอบและเก็บข้อมูลไว้ได้โดยไม่ต้องสื่อสารตลอดเวลา ✅ Akamai มีคำแนะนำให้ตรวจสอบ DLL ที่โหลด เช่น UIAutomationCore.dll ➡️ และใช้ osquery ตรวจสอบ named pipe ที่เกี่ยวข้องกับ UIA เพื่อจับพฤติกรรมผิดปกติ https://hackread.com/coyote-trojan-use-microsoft-ui-automation-bank-attacks/
    HACKREAD.COM
    Coyote Trojan First to Use Microsoft UI Automation in Bank Attacks
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • การผลิตเงินตราของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางสำคัญ 3 ประการ และแต่ละทิศทางมีทั้งผลดีและผลเสีย ดังนี้:

    ### 1. **การเปลี่ยนสู่เงินดิจิทัล (Digital Currencies)**
    - **ผลดี:**
    - **ความสะดวกและเร็ว:** การชำระเงินข้ามประเทศใช้เวลาไม่กี่วินาที (เดิมใช้วัน) เช่น ระบบ CBDC ของจีน (e-CNY)
    - **การเข้าถึงบริการทางการเงิน:** ช่วยให้ประชากร 1.4 พันล้านคนที่ไม่มีบัญชีธนาคารเข้าถึงระบบการเงิน (World Bank 2023)
    - **ลดต้นทุน:** ธนาคารกลางยุโรปประเมินว่า CBDC ลดต้นทุนการจัดการเงินสดได้ 30%
    - **ผลเสีย:**
    - **ความเสี่ยงทางไซเบอร์:** แฮ็กระบบการเงินระดับชาติ เช่น เหตุการณ์แฮ็ก Cryptocurrency ที่สูญเสียกว่า 3.8 พันล้าน USD ในปี 2022 (Chainalysis)
    - **การละเมิดความเป็นส่วนตัว:** รัฐอาจติดตามทุกการทำธุรกรรมของประชาชน

    ### 2. **การลดบทบาทเงินสด (Cashless Society)**
    - **ผลดี:**
    - **ลดอาชญากรรม:** สวีเดนพบว่าการปล้นลดลง 85% หลังลดการใช้เงินสด (Riksbank รายงาน)
    - **ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ:** IMF ชี้ว่าประเทศไร้เงินสดเพิ่ม GDP ได้ 0.8-1.2% จากการลดต้นทุนการพิมพ์/ขนส่ง
    - **ผลเสีย:**
    - **การแบ่งแยกดิจิทัล:** ผู้สูงอายุหรือชุมชนห่างไกลในอินเดียกว่า 40% ยังไม่พร้อม (Reserve Bank of India)
    - **ความเสี่ยงต่อระบบ:** ไฟฟ้าดับหรือระบบล่มอาจทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก

    ### 3. **การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลภาคเอกชน (Private Cryptocurrencies & Stablecoins)**
    - **ผลดี:**
    - **นวัตกรรมทางการเงิน:** DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์) สร้างตลาดมูลค่า 80 พันล้าน USD ในปี 2023 (DeFi Llama)
    - **การป้องกันเงินเฟ้อ:** Stablecoin เช่น USDT ให้ทางเลือกในประเทศที่เงินเฟ้อสูง (เวเนซุเอลา อาร์เจนตินา)
    - **ผลเสีย:**
    - **ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงิน:** การล่มสลายของ TerraUSD (2022) ทำลายมูลค่ากว่า 40 พันล้าน USD ใน 3 วัน
    - **การฟอกเงิน:** UN ประเมินว่ามีการฟอกเงินผ่านคริปโตกว่า 8.6 พันล้าน USD ในปี 2021

    ### ผลกระทบเชิงโครงสร้าง:
    - **ผลดีโดยรวม:**
    - เพิ่มประสิทธิภาพระบบการเงินโลก
    - ส่งเสริมการรวมตัวทางการเงิน (Financial Inclusion)
    - ลดต้นทุนการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน (เดิมเฉลี่ย 6.5% ลดเหลือต่ำกว่า 1%)

    - **ผลเสียโดยรวม:**
    - **ความไม่เสมอภาค:** ประเทศกำลังพัฒนาอาจถูกทิ้งห่าง (แอฟริกามีการใช้ CBDC เพียง 3 ประเทศเทียบกับ 114 ประเทศที่กำลังวิจัย)
    - **ภัยคุกคามต่ออธิปไตย:** สกุลเงินดิจิทัลเอกชนอาจลดทอนอำนาจนโยบายการเงินของรัฐ

    ### ตัวอย่างประเทศที่ชัดเจน:
    - **จีน (e-CNY):** ใช้ทดลองใน 26 เมืองใหญ่ คาดครอบคลุม 15% ของเศรษฐกิจภายในปี 2025 → เพิ่มการควบคุมทางการคลัง แต่ถูกวิจารณ์เรื่องการสอดส่องประชาชน
    - **สวีเดน:** เงินสดเหลือเพียง 8% ของ GDP (2010 อยู่ที่ 40%) → ลดอาชญากรรมแต่เสี่ยงต่อ Cyberattack

    ### บทสรุป:
    การเปลี่ยนแปลงนี้เป็น **"ดาบสองคม"** โดยทิศทางหลักคือ **การทำให้เป็นดิจิทัล (Digitalization)** ซึ่งให้ประโยชน์ด้านประสิทธิภาพ แต่ต้องจัดการกับความเสี่ยงด้านความมั่นคงและความเป็นส่วนตัวอย่างเร่งด่วน อนาคตอาจเห็นระบบการเงินแบบผสมผสานระหว่าง CBDC, สกุลเงินดิจิทัลเอกชน และเงินสดแบบจำกัด โดยความสำเร็จขึ้นอยู่กับการออกแบบกฎเกณฑ์ที่สมดุลระหว่างนวัตกรรมกับการคุ้มครองประชาชน
    การผลิตเงินตราของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางสำคัญ 3 ประการ และแต่ละทิศทางมีทั้งผลดีและผลเสีย ดังนี้: ### 1. **การเปลี่ยนสู่เงินดิจิทัล (Digital Currencies)** - **ผลดี:** - **ความสะดวกและเร็ว:** การชำระเงินข้ามประเทศใช้เวลาไม่กี่วินาที (เดิมใช้วัน) เช่น ระบบ CBDC ของจีน (e-CNY) - **การเข้าถึงบริการทางการเงิน:** ช่วยให้ประชากร 1.4 พันล้านคนที่ไม่มีบัญชีธนาคารเข้าถึงระบบการเงิน (World Bank 2023) - **ลดต้นทุน:** ธนาคารกลางยุโรปประเมินว่า CBDC ลดต้นทุนการจัดการเงินสดได้ 30% - **ผลเสีย:** - **ความเสี่ยงทางไซเบอร์:** แฮ็กระบบการเงินระดับชาติ เช่น เหตุการณ์แฮ็ก Cryptocurrency ที่สูญเสียกว่า 3.8 พันล้าน USD ในปี 2022 (Chainalysis) - **การละเมิดความเป็นส่วนตัว:** รัฐอาจติดตามทุกการทำธุรกรรมของประชาชน ### 2. **การลดบทบาทเงินสด (Cashless Society)** - **ผลดี:** - **ลดอาชญากรรม:** สวีเดนพบว่าการปล้นลดลง 85% หลังลดการใช้เงินสด (Riksbank รายงาน) - **ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ:** IMF ชี้ว่าประเทศไร้เงินสดเพิ่ม GDP ได้ 0.8-1.2% จากการลดต้นทุนการพิมพ์/ขนส่ง - **ผลเสีย:** - **การแบ่งแยกดิจิทัล:** ผู้สูงอายุหรือชุมชนห่างไกลในอินเดียกว่า 40% ยังไม่พร้อม (Reserve Bank of India) - **ความเสี่ยงต่อระบบ:** ไฟฟ้าดับหรือระบบล่มอาจทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก ### 3. **การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลภาคเอกชน (Private Cryptocurrencies & Stablecoins)** - **ผลดี:** - **นวัตกรรมทางการเงิน:** DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์) สร้างตลาดมูลค่า 80 พันล้าน USD ในปี 2023 (DeFi Llama) - **การป้องกันเงินเฟ้อ:** Stablecoin เช่น USDT ให้ทางเลือกในประเทศที่เงินเฟ้อสูง (เวเนซุเอลา อาร์เจนตินา) - **ผลเสีย:** - **ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงิน:** การล่มสลายของ TerraUSD (2022) ทำลายมูลค่ากว่า 40 พันล้าน USD ใน 3 วัน - **การฟอกเงิน:** UN ประเมินว่ามีการฟอกเงินผ่านคริปโตกว่า 8.6 พันล้าน USD ในปี 2021 ### ผลกระทบเชิงโครงสร้าง: - **ผลดีโดยรวม:** - เพิ่มประสิทธิภาพระบบการเงินโลก - ส่งเสริมการรวมตัวทางการเงิน (Financial Inclusion) - ลดต้นทุนการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน (เดิมเฉลี่ย 6.5% ลดเหลือต่ำกว่า 1%) - **ผลเสียโดยรวม:** - **ความไม่เสมอภาค:** ประเทศกำลังพัฒนาอาจถูกทิ้งห่าง (แอฟริกามีการใช้ CBDC เพียง 3 ประเทศเทียบกับ 114 ประเทศที่กำลังวิจัย) - **ภัยคุกคามต่ออธิปไตย:** สกุลเงินดิจิทัลเอกชนอาจลดทอนอำนาจนโยบายการเงินของรัฐ ### ตัวอย่างประเทศที่ชัดเจน: - **จีน (e-CNY):** ใช้ทดลองใน 26 เมืองใหญ่ คาดครอบคลุม 15% ของเศรษฐกิจภายในปี 2025 → เพิ่มการควบคุมทางการคลัง แต่ถูกวิจารณ์เรื่องการสอดส่องประชาชน - **สวีเดน:** เงินสดเหลือเพียง 8% ของ GDP (2010 อยู่ที่ 40%) → ลดอาชญากรรมแต่เสี่ยงต่อ Cyberattack ### บทสรุป: การเปลี่ยนแปลงนี้เป็น **"ดาบสองคม"** โดยทิศทางหลักคือ **การทำให้เป็นดิจิทัล (Digitalization)** ซึ่งให้ประโยชน์ด้านประสิทธิภาพ แต่ต้องจัดการกับความเสี่ยงด้านความมั่นคงและความเป็นส่วนตัวอย่างเร่งด่วน อนาคตอาจเห็นระบบการเงินแบบผสมผสานระหว่าง CBDC, สกุลเงินดิจิทัลเอกชน และเงินสดแบบจำกัด โดยความสำเร็จขึ้นอยู่กับการออกแบบกฎเกณฑ์ที่สมดุลระหว่างนวัตกรรมกับการคุ้มครองประชาชน
    0 Comments 0 Shares 367 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกการเงิน: Citigroup อาจออก Stablecoin ของตัวเองเพื่อเร่งระบบการชำระเงินดิจิทัล

    ในโลกที่การเงินดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Citigroup ก็ไม่ยอมตกขบวน ล่าสุด Jane Fraser ซีอีโอของ Citi ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกำลังพิจารณาออก “Citi Stablecoin” เพื่อใช้ในการชำระเงินดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ Citi ไม่ได้มองแค่การออกเหรียญเท่านั้น พวกเขายังเน้นไปที่ “tokenized deposit” หรือการแปลงเงินฝากให้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ธนาคารกำลังลงทุนอย่างจริงจัง

    นอกจากนี้ Citi ยังสำรวจการบริหารทุนสำรองสำหรับ stablecoin และการให้บริการดูแลสินทรัพย์คริปโต (custody) เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในยุคใหม่

    ข่าวนี้ออกมาหลังจาก Citi รายงานผลประกอบการไตรมาสสองที่ดีกว่าคาด และประกาศแผนซื้อหุ้นคืนอย่างน้อย 4 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008

    Stablecoin ของ Citi ยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณา
    ยังไม่มีการประกาศวันเปิดตัวหรือรายละเอียดเชิงเทคนิค

    การเข้าสู่ตลาด stablecoin ต้องเผชิญกับข้อกำกับทางกฎหมาย
    โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่ยังมีความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบคริปโต

    การแข่งขันในตลาด stablecoin มีผู้เล่นรายใหญ่อยู่แล้ว
    เช่น USDC, USDT และโครงการจากธนาคารอื่น ๆ

    การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเงินดิจิทัลอาจกระทบระบบธนาคารแบบดั้งเดิม
    ต้องมีการปรับตัวทั้งในด้านเทคโนโลยีและความเชื่อมั่นจากลูกค้า

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/16/citigroup-considers-issuing-its-own-stablecoin-ceo-says
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกการเงิน: Citigroup อาจออก Stablecoin ของตัวเองเพื่อเร่งระบบการชำระเงินดิจิทัล ในโลกที่การเงินดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Citigroup ก็ไม่ยอมตกขบวน ล่าสุด Jane Fraser ซีอีโอของ Citi ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกำลังพิจารณาออก “Citi Stablecoin” เพื่อใช้ในการชำระเงินดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ Citi ไม่ได้มองแค่การออกเหรียญเท่านั้น พวกเขายังเน้นไปที่ “tokenized deposit” หรือการแปลงเงินฝากให้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ธนาคารกำลังลงทุนอย่างจริงจัง นอกจากนี้ Citi ยังสำรวจการบริหารทุนสำรองสำหรับ stablecoin และการให้บริการดูแลสินทรัพย์คริปโต (custody) เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในยุคใหม่ ข่าวนี้ออกมาหลังจาก Citi รายงานผลประกอบการไตรมาสสองที่ดีกว่าคาด และประกาศแผนซื้อหุ้นคืนอย่างน้อย 4 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008 ‼️ Stablecoin ของ Citi ยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณา 👉 ยังไม่มีการประกาศวันเปิดตัวหรือรายละเอียดเชิงเทคนิค ‼️ การเข้าสู่ตลาด stablecoin ต้องเผชิญกับข้อกำกับทางกฎหมาย 👉 โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่ยังมีความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบคริปโต ‼️ การแข่งขันในตลาด stablecoin มีผู้เล่นรายใหญ่อยู่แล้ว 👉 เช่น USDC, USDT และโครงการจากธนาคารอื่น ๆ ‼️ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเงินดิจิทัลอาจกระทบระบบธนาคารแบบดั้งเดิม 👉 ต้องมีการปรับตัวทั้งในด้านเทคโนโลยีและความเชื่อมั่นจากลูกค้า https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/16/citigroup-considers-issuing-its-own-stablecoin-ceo-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Citigroup considers issuing its own stablecoin, CEO says
    NEW YORK (Reuters) -Citigroup may issue its own stablecoin in an effort to facilitate digital payments, the bank's CEO, Jane Fraser, told analysts on a post-earnings conference call on Tuesday.
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • ..เบื่อพวกสมุนขี้ข้าซาตานdeep stateปั่นบิตคอยน์จริง btcนี้สมควรไปวัดจริงๆได้แล้วปั่นราคาจนเกินเวลาแล้ว ขุดเหมืองเปลืองพลังงานไฟฟ้าด้วย,ผีบ้าขุดเหมืองทางอิเล็กทรอนิกส์ พวกนี้สิ้นคิดสุดๆ อยากทำให้โลกเสมือนจริงมีมูลค่าอ้างขุดเหมืองทองคำผ่านวงจรไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต้นทุนสูงพะนะ พวกสิ้นเปลืองไฟฟ้าชาวบ้านชาวเมืองชาวโลกเขาชัดเจน,สื่อช่องฝ่ายมืดเต็มโลกในแต่ละประเทศปั่นกระแสหลอกลวงล่อลวงคนไปทางที่ผิด,เหมืองทองคำแท้จับต้องได้จริงต่างหากคือของจริง,สมมุติโลกไม่มีไฟฟ้าใช้โทรศัพท์มือถือใช้ไม่ได้ดาวเทียมตกร่วงเป็นว่าเล่น เน็ตดาวเทียมดับอนาถไร้ส่งคลื่นมือถือ เสาส่งพังทั่วโลกเพราะภัยพิบัติธรรมชาติ พวกมรึงจะสแกนแลกทองคำbtcเสมือนจริงแบบไหนแดกแลกอาหารซื้อจริงแบบไหน,ชาวบ้านมีทองคำจริงเต็มมือ สามารถแลกจ่ายกันกลางป่ากลางดงเมืองดงธรรมชาติได้หมด สภาพคล่องจริงต่างกันชัดเจน,ดูน้ำท่วมพายุถล่มจีนปีทีแล้วล่าสุดระบบโทรศัพท์พังทัังมลฑล รอสแกนจ่ายตังผ่านมือถือยืนยันตัวตนหามีตังเงินสดๆจ่ายเพิ่มสภาพคล่องจริงไม่ได้เลย,ซวยคือไม่มีอาหารแดกแม้มีตังเต็มมือถือ,btcบิตคอยน์ก็อันเดียวกัน คริปโคฯนี้ไร้ทองคำจริงค้ำประกันแบบบาทคอยน์อินทนนท์เราด้วยเลย,บิตคอยน์จึงมหากาฬแห่งคริปโตฯที่โคตรล่อลวงหลอกลวงประชาชนสุดๆ,ทรัมป์บัดสบ ตัวพ่อdeep stateอเมริกาสมควรจัดการจริงด้วย.
    ..บิตคอยน์จริงๆbricsสมควรลงนามตกลงชัดเจนร่วมกันว่า ในนามสามชิกbricsทุกๆประเทศจะร่วมกันแบนบิตคอยน์หรือไม่เป็นที่ยอมรับแลกเปลี่ยนในสมาชิกbricsใครมีครอบครองในประเทศไม่สามารถเข้าร่วมbricsได้และร่วมกันกำจัดbtcนี้ออกจากระบบไป,btcคือตัวฟอกเงินตัวพ่อ ตัวค้ามนุษย์ด้วย,อนาถในนักวิชาการวิเคราะห์ตลาดเงินตลาดทุนจริงๆบัดสบมากๆตามตูดฝ่ายมืดฝ่ายไม่ดีเพียงโลภตังเท่านั้น.,จริงๆธปท.แบงค์ชาติเราสมควรลงดาบเด็ดขาด จับกุมผู้ครอบครองคริปโตโทเคนลักษณะนี้ชัดเจนอย่างเป็นทางการได้แล้ว ,บิ้กดาต้าในมือมีตรึมเห็นทุกๆการเคลื่อนไหวในโลกเสมือนจริงหมดล่ะ,ไม่มีทองคำห่าอะไรจริงค้ำประกันด้วย,แต่ธปท.กลับตาบอดไม่กำจัดออกไปจริงจัง,นี้คือระบบตังชัดเจน,ถ้าประเทศไทยเข้าร่วมbricsคริปโตโทเคนที่ไร้ทองคำค้ำประกันทั้งหมดต้องดับไปทันที,ไทยมีตังดิจิดัลเดียวคือบาทคอยน์ก็พอแล้ว,อนาคตใช้bricsสกุลเงินดิจิดัลbricsอีกอาจเป็น1brics:1฿ไทยก็ว่า,1brics:1หยวนจีนก็ด้วย ก็คือ1บาท:1หยวนจีนนั้นเอง,สมาชิกbricsจะใช้สกุลเงินกลางมาตราฐานกลุ่มใช้แลกเปลี่ยนกันจริงในอนาคต,ทุกๆสกุลเงินสมาชิกbricsเอาตังของตนไปตีค่าใหม่,คือbricsตั้งค่าใหม่รับรองใหม่ เช่น4บาทไทยปัจจุบันแลกได้1brics,จากนั้นจะเป็นมูลค่าใหม่ที่1บาทbrics,จีนก็1หยวนแลกได้1bricsตีมูลค่าใหม่เป็น1หยวนbrics,เมื่อทุกๆประเทศเอาตังทั้งประเทศใครมันตีมูลค่าใหม่เสร็จ,กลุ่มสมาชิกbricsจะทำการซื้อขายได้เสรีที่1:1ทันที,นักท่องเที่ยวไทยไปจีนก็จะจ่ายตังไทย1บาทเสมือน1หยวนได้ทันที,นักท่องเที่ยวจีนมาไทยก็จ่ายตังที่1หยวนกับ1บาทไทยได้ทันทีเช่นกัน ต่างฝ่ายยังคงอัตลักษณ์ของตนเองไว้แต่มูลค่าตังตีมูลค่าใหม่แล้วให้มีค่าเท่ากันทุกๆประเทศสมาชิกbricsนั้นเอง,ซึ่งดำเนินการโดยผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆแล้วโดยใช้ทองคำค้ำประกันค่าเงินตนเองไว้ในอัตราที่สร้างความแข็งแกร่งในสมาชิกbricsร่วมกัน,
    ..จึงต้องทำลายคริปโตเถื่อนทั้งหมดทิ้งไป,หมดเวลาเล่นแล้วก็ว่า,bricsต้องตั้งค่ามาตราฐานสากลนี้เป็นเงื่อนไขให้ชัดเจน,จีนมีbtcก็ต้องทำลายกำจัดจริงด้วย,รัสเชียมีก็ต้องทำลายกำจัดด้วย,คือคริปโตโทเคนใดๆที่ไม่ใช่บาทคอยน์ หยวนคอยน์ เป็นต้นของชาติสมาชิกของสกุลหลักชาติสมาชิกนั้นๆต้องห้ามปรากฎทุกๆกรณีในประเทศสมาชิก,ตัดตอนสร้างความโกลาหลวุ่นวายเสียสมดุลของระบบตังนั้นเอง.

    https://youtube.com/watch?v=bb_Ky9ejyoc&si=B5SEbHPqKcxQffzz
    ..เบื่อพวกสมุนขี้ข้าซาตานdeep stateปั่นบิตคอยน์จริง btcนี้สมควรไปวัดจริงๆได้แล้วปั่นราคาจนเกินเวลาแล้ว ขุดเหมืองเปลืองพลังงานไฟฟ้าด้วย,ผีบ้าขุดเหมืองทางอิเล็กทรอนิกส์ พวกนี้สิ้นคิดสุดๆ อยากทำให้โลกเสมือนจริงมีมูลค่าอ้างขุดเหมืองทองคำผ่านวงจรไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต้นทุนสูงพะนะ พวกสิ้นเปลืองไฟฟ้าชาวบ้านชาวเมืองชาวโลกเขาชัดเจน,สื่อช่องฝ่ายมืดเต็มโลกในแต่ละประเทศปั่นกระแสหลอกลวงล่อลวงคนไปทางที่ผิด,เหมืองทองคำแท้จับต้องได้จริงต่างหากคือของจริง,สมมุติโลกไม่มีไฟฟ้าใช้โทรศัพท์มือถือใช้ไม่ได้ดาวเทียมตกร่วงเป็นว่าเล่น เน็ตดาวเทียมดับอนาถไร้ส่งคลื่นมือถือ เสาส่งพังทั่วโลกเพราะภัยพิบัติธรรมชาติ พวกมรึงจะสแกนแลกทองคำbtcเสมือนจริงแบบไหนแดกแลกอาหารซื้อจริงแบบไหน,ชาวบ้านมีทองคำจริงเต็มมือ สามารถแลกจ่ายกันกลางป่ากลางดงเมืองดงธรรมชาติได้หมด สภาพคล่องจริงต่างกันชัดเจน,ดูน้ำท่วมพายุถล่มจีนปีทีแล้วล่าสุดระบบโทรศัพท์พังทัังมลฑล รอสแกนจ่ายตังผ่านมือถือยืนยันตัวตนหามีตังเงินสดๆจ่ายเพิ่มสภาพคล่องจริงไม่ได้เลย,ซวยคือไม่มีอาหารแดกแม้มีตังเต็มมือถือ,btcบิตคอยน์ก็อันเดียวกัน คริปโคฯนี้ไร้ทองคำจริงค้ำประกันแบบบาทคอยน์อินทนนท์เราด้วยเลย,บิตคอยน์จึงมหากาฬแห่งคริปโตฯที่โคตรล่อลวงหลอกลวงประชาชนสุดๆ,ทรัมป์บัดสบ ตัวพ่อdeep stateอเมริกาสมควรจัดการจริงด้วย. ..บิตคอยน์จริงๆbricsสมควรลงนามตกลงชัดเจนร่วมกันว่า ในนามสามชิกbricsทุกๆประเทศจะร่วมกันแบนบิตคอยน์หรือไม่เป็นที่ยอมรับแลกเปลี่ยนในสมาชิกbricsใครมีครอบครองในประเทศไม่สามารถเข้าร่วมbricsได้และร่วมกันกำจัดbtcนี้ออกจากระบบไป,btcคือตัวฟอกเงินตัวพ่อ ตัวค้ามนุษย์ด้วย,อนาถในนักวิชาการวิเคราะห์ตลาดเงินตลาดทุนจริงๆบัดสบมากๆตามตูดฝ่ายมืดฝ่ายไม่ดีเพียงโลภตังเท่านั้น.,จริงๆธปท.แบงค์ชาติเราสมควรลงดาบเด็ดขาด จับกุมผู้ครอบครองคริปโตโทเคนลักษณะนี้ชัดเจนอย่างเป็นทางการได้แล้ว ,บิ้กดาต้าในมือมีตรึมเห็นทุกๆการเคลื่อนไหวในโลกเสมือนจริงหมดล่ะ,ไม่มีทองคำห่าอะไรจริงค้ำประกันด้วย,แต่ธปท.กลับตาบอดไม่กำจัดออกไปจริงจัง,นี้คือระบบตังชัดเจน,ถ้าประเทศไทยเข้าร่วมbricsคริปโตโทเคนที่ไร้ทองคำค้ำประกันทั้งหมดต้องดับไปทันที,ไทยมีตังดิจิดัลเดียวคือบาทคอยน์ก็พอแล้ว,อนาคตใช้bricsสกุลเงินดิจิดัลbricsอีกอาจเป็น1brics:1฿ไทยก็ว่า,1brics:1หยวนจีนก็ด้วย ก็คือ1บาท:1หยวนจีนนั้นเอง,สมาชิกbricsจะใช้สกุลเงินกลางมาตราฐานกลุ่มใช้แลกเปลี่ยนกันจริงในอนาคต,ทุกๆสกุลเงินสมาชิกbricsเอาตังของตนไปตีค่าใหม่,คือbricsตั้งค่าใหม่รับรองใหม่ เช่น4บาทไทยปัจจุบันแลกได้1brics,จากนั้นจะเป็นมูลค่าใหม่ที่1บาทbrics,จีนก็1หยวนแลกได้1bricsตีมูลค่าใหม่เป็น1หยวนbrics,เมื่อทุกๆประเทศเอาตังทั้งประเทศใครมันตีมูลค่าใหม่เสร็จ,กลุ่มสมาชิกbricsจะทำการซื้อขายได้เสรีที่1:1ทันที,นักท่องเที่ยวไทยไปจีนก็จะจ่ายตังไทย1บาทเสมือน1หยวนได้ทันที,นักท่องเที่ยวจีนมาไทยก็จ่ายตังที่1หยวนกับ1บาทไทยได้ทันทีเช่นกัน ต่างฝ่ายยังคงอัตลักษณ์ของตนเองไว้แต่มูลค่าตังตีมูลค่าใหม่แล้วให้มีค่าเท่ากันทุกๆประเทศสมาชิกbricsนั้นเอง,ซึ่งดำเนินการโดยผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆแล้วโดยใช้ทองคำค้ำประกันค่าเงินตนเองไว้ในอัตราที่สร้างความแข็งแกร่งในสมาชิกbricsร่วมกัน, ..จึงต้องทำลายคริปโตเถื่อนทั้งหมดทิ้งไป,หมดเวลาเล่นแล้วก็ว่า,bricsต้องตั้งค่ามาตราฐานสากลนี้เป็นเงื่อนไขให้ชัดเจน,จีนมีbtcก็ต้องทำลายกำจัดจริงด้วย,รัสเชียมีก็ต้องทำลายกำจัดด้วย,คือคริปโตโทเคนใดๆที่ไม่ใช่บาทคอยน์ หยวนคอยน์ เป็นต้นของชาติสมาชิกของสกุลหลักชาติสมาชิกนั้นๆต้องห้ามปรากฎทุกๆกรณีในประเทศสมาชิก,ตัดตอนสร้างความโกลาหลวุ่นวายเสียสมดุลของระบบตังนั้นเอง. https://youtube.com/watch?v=bb_Ky9ejyoc&si=B5SEbHPqKcxQffzz
    0 Comments 0 Shares 334 Views 0 Reviews
  • VPN ฟรีที่ไม่ฟรี – มัลแวร์ขโมยข้อมูลแฝงใน GitHub

    นักวิจัยจาก Cyfirma พบแคมเปญมัลแวร์ใหม่ที่ใช้ GitHub เป็นช่องทางเผยแพร่ โดยปลอมตัวเป็นเครื่องมือยอดนิยม เช่น “Free VPN for PC” และ “Minecraft Skin Changer” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำการติดตั้งอย่างละเอียด—ทำให้ดูน่าเชื่อถือ

    เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ Launch.exe ภายใน ZIP:
    - มัลแวร์จะถอดรหัสสตริง Base64 ที่ซ่อนด้วยข้อความภาษาฝรั่งเศส
    - สร้างไฟล์ DLL ชื่อ msvcp110.dll ในโฟลเดอร์ AppData
    - โหลด DLL แบบ dynamic และเรียกฟังก์ชัน GetGameData() เพื่อเริ่ม payload สุดท้าย

    มัลแวร์นี้คือ Lumma Stealer ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, โปรแกรมแชต, และกระเป๋าเงินคริปโต โดยใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น:
    - memory injection
    - DLL side-loading
    - sandbox evasion
    - process injection ผ่าน MSBuild.exe และ aspnet_regiis.exe

    การวิเคราะห์มัลแวร์ทำได้ยาก เพราะมีการใช้ anti-debugging เช่น IsDebuggerPresent() และการบิดเบือนโครงสร้างโค้ด

    ข้อมูลจากข่าว
    - มัลแวร์ Lumma Stealer ถูกปลอมเป็น VPN ฟรีและ Minecraft mods บน GitHub
    - ใช้ไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำการติดตั้งเพื่อหลอกผู้ใช้
    - เมื่อเปิดไฟล์ Launch.exe จะถอดรหัส Base64 และสร้าง DLL ใน AppData
    - DLL ถูกโหลดแบบ dynamic และเรียกฟังก์ชันเพื่อเริ่ม payload
    - ใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น memory injection, DLL side-loading, sandbox evasion
    - ใช้ process injection ผ่าน MSBuild.exe และ aspnet_regiis.exe
    - มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, โปรแกรมแชต, และ crypto wallets
    - GitHub repository ที่ใช้ชื่อ SAMAIOEC เป็นแหล่งเผยแพร่หลัก

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - ห้ามดาวน์โหลด VPN ฟรีหรือ game mods จากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ โดยเฉพาะ GitHub ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ
    - ไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำติดตั้งซับซ้อนควรถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย
    - หลีกเลี่ยงการรันไฟล์ .exe จากแหล่งที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะในโฟลเดอร์ AppData
    - ควรใช้แอนติไวรัสที่มีระบบตรวจจับพฤติกรรม ไม่ใช่แค่การสแกนไฟล์
    - ตรวจสอบ Task Manager และระบบว่ามี MSBuild.exe หรือ aspnet_regiis.exe ทำงานผิดปกติหรือไม่
    - หากพบ DLL ในโฟลเดอร์ Roaming หรือ Temp ควรตรวจสอบทันที

    https://www.techradar.com/pro/criminals-are-using-a-dangerous-fake-free-vpn-to-spread-malware-via-github-heres-how-to-stay-safe
    VPN ฟรีที่ไม่ฟรี – มัลแวร์ขโมยข้อมูลแฝงใน GitHub นักวิจัยจาก Cyfirma พบแคมเปญมัลแวร์ใหม่ที่ใช้ GitHub เป็นช่องทางเผยแพร่ โดยปลอมตัวเป็นเครื่องมือยอดนิยม เช่น “Free VPN for PC” และ “Minecraft Skin Changer” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำการติดตั้งอย่างละเอียด—ทำให้ดูน่าเชื่อถือ เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ Launch.exe ภายใน ZIP: - มัลแวร์จะถอดรหัสสตริง Base64 ที่ซ่อนด้วยข้อความภาษาฝรั่งเศส - สร้างไฟล์ DLL ชื่อ msvcp110.dll ในโฟลเดอร์ AppData - โหลด DLL แบบ dynamic และเรียกฟังก์ชัน GetGameData() เพื่อเริ่ม payload สุดท้าย มัลแวร์นี้คือ Lumma Stealer ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, โปรแกรมแชต, และกระเป๋าเงินคริปโต โดยใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น: - memory injection - DLL side-loading - sandbox evasion - process injection ผ่าน MSBuild.exe และ aspnet_regiis.exe การวิเคราะห์มัลแวร์ทำได้ยาก เพราะมีการใช้ anti-debugging เช่น IsDebuggerPresent() และการบิดเบือนโครงสร้างโค้ด ✅ ข้อมูลจากข่าว - มัลแวร์ Lumma Stealer ถูกปลอมเป็น VPN ฟรีและ Minecraft mods บน GitHub - ใช้ไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำการติดตั้งเพื่อหลอกผู้ใช้ - เมื่อเปิดไฟล์ Launch.exe จะถอดรหัส Base64 และสร้าง DLL ใน AppData - DLL ถูกโหลดแบบ dynamic และเรียกฟังก์ชันเพื่อเริ่ม payload - ใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น memory injection, DLL side-loading, sandbox evasion - ใช้ process injection ผ่าน MSBuild.exe และ aspnet_regiis.exe - มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, โปรแกรมแชต, และ crypto wallets - GitHub repository ที่ใช้ชื่อ SAMAIOEC เป็นแหล่งเผยแพร่หลัก ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - ห้ามดาวน์โหลด VPN ฟรีหรือ game mods จากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ โดยเฉพาะ GitHub ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ - ไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำติดตั้งซับซ้อนควรถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย - หลีกเลี่ยงการรันไฟล์ .exe จากแหล่งที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะในโฟลเดอร์ AppData - ควรใช้แอนติไวรัสที่มีระบบตรวจจับพฤติกรรม ไม่ใช่แค่การสแกนไฟล์ - ตรวจสอบ Task Manager และระบบว่ามี MSBuild.exe หรือ aspnet_regiis.exe ทำงานผิดปกติหรือไม่ - หากพบ DLL ในโฟลเดอร์ Roaming หรือ Temp ควรตรวจสอบทันที https://www.techradar.com/pro/criminals-are-using-a-dangerous-fake-free-vpn-to-spread-malware-via-github-heres-how-to-stay-safe
    0 Comments 0 Shares 319 Views 0 Reviews
  • ESMA เตือนบริษัทคริปโต – อย่าใช้คำว่า “ถูกกำกับดูแล” หลอกผู้บริโภค

    เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2025 ESMA (European Securities and Markets Authority) ได้ออกแถลงการณ์เตือนบริษัทคริปโตทั่วสหภาพยุโรปว่าไม่ควรใช้สถานะ “ได้รับใบอนุญาต” ภายใต้กฎ MiCA (Markets in Crypto-Assets) เป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้บริโภค

    หลายบริษัทคริปโต (CASPs) เสนอทั้งผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA บนแพลตฟอร์มเดียวกัน เช่น การลงทุนในทองคำหรือการให้กู้ยืมคริปโต ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าทุกบริการได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย

    ESMA ระบุว่าบางบริษัทถึงขั้นใช้ใบอนุญาต MiCA เป็น “เครื่องมือส่งเสริมการขาย” และสร้างความสับสนระหว่างผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการกำกับกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการกำกับ

    นอกจากนี้ ESMA ยังออกแนวทางใหม่เกี่ยวกับความรู้และความสามารถของพนักงานที่ทำหน้าที่ประเมินบริษัทคริปโต เพื่อให้การออกใบอนุญาตมีความรัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากพบว่า Malta Financial Services Authority มีการประเมินความเสี่ยงของบริษัทคริปโตบางแห่งอย่างไม่ละเอียดพอ

    ข้อมูลจากข่าว
    - ESMA เตือนบริษัทคริปโตว่าไม่ควรใช้สถานะ “ได้รับการกำกับ” เป็นเครื่องมือทางการตลาด
    - กฎ MiCA ของ EU มีข้อกำหนดด้านการคุ้มครองผู้ลงทุน เช่น การจัดการสินทรัพย์และการรับเรื่องร้องเรียน
    - CASPs บางแห่งเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA เช่น การลงทุนในทองคำหรือการให้กู้ยืมคริปโต
    - ESMA ระบุว่าการเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งแบบกำกับและไม่กำกับบนแพลตฟอร์มเดียวกันสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค
    - ESMA ออกแนวทางใหม่เกี่ยวกับความรู้ของพนักงานที่ประเมินบริษัทคริปโต
    - การตรวจสอบในมอลตาพบว่ามีการอนุญาตบริษัทคริปโตโดยไม่ประเมินความเสี่ยงอย่างละเอียด

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - ผู้บริโภคอาจเข้าใจผิดว่าทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทคริปโตได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
    - การใช้ใบอนุญาต MiCA เป็นเครื่องมือส่งเสริมการขายอาจนำไปสู่การหลอกลวง
    - ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA เช่น crypto lending ไม่มีการคุ้มครองหากเกิดปัญหา
    - การออกใบอนุญาตที่ไม่รัดกุมอาจเปิดช่องให้บริษัทที่มีความเสี่ยงสูงเข้าสู่ตลาด
    - นักลงทุนควรตรวจสอบว่าแต่ละบริการของบริษัทคริปโตอยู่ภายใต้กฎ MiCA หรือไม่ ก่อนตัดสินใจลงทุน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/11/european-securities-regulator-warns-about-crypto-firms-misleading-customers
    ESMA เตือนบริษัทคริปโต – อย่าใช้คำว่า “ถูกกำกับดูแล” หลอกผู้บริโภค เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2025 ESMA (European Securities and Markets Authority) ได้ออกแถลงการณ์เตือนบริษัทคริปโตทั่วสหภาพยุโรปว่าไม่ควรใช้สถานะ “ได้รับใบอนุญาต” ภายใต้กฎ MiCA (Markets in Crypto-Assets) เป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้บริโภค หลายบริษัทคริปโต (CASPs) เสนอทั้งผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA บนแพลตฟอร์มเดียวกัน เช่น การลงทุนในทองคำหรือการให้กู้ยืมคริปโต ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าทุกบริการได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ESMA ระบุว่าบางบริษัทถึงขั้นใช้ใบอนุญาต MiCA เป็น “เครื่องมือส่งเสริมการขาย” และสร้างความสับสนระหว่างผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการกำกับกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการกำกับ นอกจากนี้ ESMA ยังออกแนวทางใหม่เกี่ยวกับความรู้และความสามารถของพนักงานที่ทำหน้าที่ประเมินบริษัทคริปโต เพื่อให้การออกใบอนุญาตมีความรัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากพบว่า Malta Financial Services Authority มีการประเมินความเสี่ยงของบริษัทคริปโตบางแห่งอย่างไม่ละเอียดพอ ✅ ข้อมูลจากข่าว - ESMA เตือนบริษัทคริปโตว่าไม่ควรใช้สถานะ “ได้รับการกำกับ” เป็นเครื่องมือทางการตลาด - กฎ MiCA ของ EU มีข้อกำหนดด้านการคุ้มครองผู้ลงทุน เช่น การจัดการสินทรัพย์และการรับเรื่องร้องเรียน - CASPs บางแห่งเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA เช่น การลงทุนในทองคำหรือการให้กู้ยืมคริปโต - ESMA ระบุว่าการเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งแบบกำกับและไม่กำกับบนแพลตฟอร์มเดียวกันสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค - ESMA ออกแนวทางใหม่เกี่ยวกับความรู้ของพนักงานที่ประเมินบริษัทคริปโต - การตรวจสอบในมอลตาพบว่ามีการอนุญาตบริษัทคริปโตโดยไม่ประเมินความเสี่ยงอย่างละเอียด ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - ผู้บริโภคอาจเข้าใจผิดว่าทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทคริปโตได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย - การใช้ใบอนุญาต MiCA เป็นเครื่องมือส่งเสริมการขายอาจนำไปสู่การหลอกลวง - ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA เช่น crypto lending ไม่มีการคุ้มครองหากเกิดปัญหา - การออกใบอนุญาตที่ไม่รัดกุมอาจเปิดช่องให้บริษัทที่มีความเสี่ยงสูงเข้าสู่ตลาด - นักลงทุนควรตรวจสอบว่าแต่ละบริการของบริษัทคริปโตอยู่ภายใต้กฎ MiCA หรือไม่ ก่อนตัดสินใจลงทุน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/11/european-securities-regulator-warns-about-crypto-firms-misleading-customers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    European securities regulator warns about crypto firms misleading customers
    PARIS (Reuters) -Europe's securities regulator warned crypto companies on Friday not to mislead customers about the extent to which their products are regulated - the latest sign of European authorities trying to limit crypto-related risks.
    0 Comments 0 Shares 368 Views 0 Reviews
  • ..อนาคตประเทศไทยจะเป็นที่พึ่งของใครหลายคน ที่ไม่ใช่คนไทย มีบัตรประชาชนคนไทย เขาทั้งหลายมากมายหนีทุกข์มาพึ่งประเทศไทยที่สงบสุข ,จริงๆคนไทยเราใจดีมาก เป็นที่พึ่งคนต่างถิ่นใดๆได้,อันตรายคือบางคนที่มาพึ่งพิงนั้นเป็นคนไม่ดี ทำลายทำร้ายคนให้พึ่งพิงอาศัย เนรคุณทรยศอกตัญญูก็ว่า,เหมือนเขมรในปัจจุบันที่ผู้นำเขมรเองแสดงความอกตัญญูเนรคุณทรยศแผ่นดินไทยที่ตนเองเคยหนีตายมาพึ่งพาอาศัยอยู่กิน.

    ..เด็กๆผู้บริสุทธิ์มากมายตลอดผู้ปกครองพ่อแม่เขา มีทุกข์เป็นอันมากปกติอยู่แล้วในการดำรงชีพ ยิ่งเป็นคนไม่มีสัญชาติไทยอีกหรือตกหล่นประการใดก็ตามน่าเห็นใจมากที่สมควรได้รับการช่วยเหลือบนแผ่นดินไทยเรา,นี้ไง คนไทยเราต้องพ้นยากจนทุกๆคนทั้งหมดทันทีบนกลไกการปกครองที่ทำให้คนไทยมั่นคงในความยากจนนี้ต้องฉีกทิ้งกฎหมายผีบ้าต่างๆมากมายจริงที่ปล้นชิงแย่งชิงความร่ำรวยมั่งคั่งของคนไทยไปซึ่งส่วนใหญ่ถ่ายโอนไปสู่ชนชั้นนักการเมืองที่อยู่วงกลไกอำนาจรัฐทั้งสิ้นจะเจ้าสัวจะข้าราชการก็ตามมีหมดจนร่ำรวยผิดปกติจากการโกงกินทั้งเงินหลวงทั้งนอกเงินหลวงต่างๆที่ไม่สุจริตจนได้มาซึ่งทรัพย์สินมากมายมหาศาลอันผิดปกติพึ่งบุคคลควรมีได้,อำนาจรัฐจึงคือกลไกปัญหาหลักสำคัญที่สุดที่จะนำพาประชาชนทั้งประเทศร่ำรวยหรือยากจนดักดานจริงๆ,และเราสามารถยื่นโอกาสอันดีงามมากมายแก่คนที่เข้ามาบนแผ่นดินไทยให้เขามีชีวิตที่ดีงามผาสุขได้ เติบโตสร้างโลกให้สวยงามดีงามร่วมกันต่อไปได้,และอนาคตคนดีๆเหล่านี้ทำไมเราต้องปฏิเสธการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เกลียดชังเขาด้วย ตราบใดเป็นคนดีขึ้นชื่อว่าดีแน่นอน,และทุกๆคนหมายทำสิ่งดีๆทั้งสิ้น,เราจึงต้องกำจัดคนชั่วเลวมิให้รังแกคนดีๆ จนเป็นคนไม่ดีนั้นเอง,,เพราะเมื่อเขาเติบโตล้วนสามารถเลือกภูมิประเทศที่ต้องการอยู่อาศัยได้,จริงๆเจตจำนงเสรีมนุษย์สมควรเลือกประเทศที่ตนต้องการอยู่อาศัยได้อิสระเสรีในกรณีคนดีปกติที่มิใช่คนชั่วเลวหมายทำร้ายทำลายร่างกายหรือฆ่าสังหารมนุษย์ด้วยกัน,พร้อมเงินสัมมาชีวิตตนติดตัว เช่นคนไทยอยากย้ายไปอยู่จีน ด้วยบัตรสูติบัตรตนที่เกิดมาสามารถเบิกตังองค์กรสากลโลกที่มีตังประจำสูติบัตรตั้งค่าไว้ เช่นสูติบัตรใบเกิดทุกๆคนบนโลกตีมูลค่าเป็นตังได้ที่คนละ100,000,000เหรียญดอลล่าร์ตลอดชีพ,นับตามอายุเฉลี่ยที่ใช้ไปและเหลืออยู่ มนุษย์อายุเฉลี่ย100ปี,ก็ตกปีละ1ล้านเหรียญต่อปีต่อคน,คนไทยที่ย้ายภูมิประเทศไปอยู่จีนเม็ดเงินนี้ก็ย้ายไปด้วยและแปลงค่าเป็นสกุลหยวนทันทีด้วย,คือ1ดอลล่าร์เท่ากับ7หยวนก็7ล้านหยวนต่อปี,คนไทยคนนั้นต้องบริหารตังภายใน1ปีใช้ตามนั้นเอง ส่วนจะสร้างเม็ดเงินเพิ่มขึ้นก็ความสามารถใครมัน,ทุกๆชีวิตมนุษย์เราบนโลกจะถูกตีมูลค่าชีวิตใหม่ให้เหมาะสมตามรูปแบบการดำรงชีวิตของโลกนั้นๆแบบเรา ในที่นี้ใช้ตังเป็นกลไกขับเคลื่อนวิถีชีวิต,เราก็ต้องทำลักษณะนี้,อยู่ไปได้แค่5ปีขอย้ายกลับมาเป็นสัญชาติไทยแบบหลังเรียนจบที่จีน,ตัง1ล้านดอลล่าร์นั้นก็ย้ายตามสถานะชีวิตเรามาด้วยแปลงเป็นเงินไทยคือ1ดอลล่าร์เท่ากับ33บาท นั่นคือ33ล้านบาทต่อปีที่มีตังในบัญชีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเบื้องต้นในประเทศไทยให้สุขภาพร่างกายในเนื้อกายมนุษย์โลกนี้ปกติดีก่อนตายจากไป,ตายไปก็เป็นสถานะ0บาททันทีก็ว่า,โลกเราสมควรรีเซ็ตครั้งใหม่ครั้งใหญ่จริงๆตีมูลค่าใหม่,เด็กๆมากมายตามพ่อแม่หนีภัยมาพึ่งพาแผ่นดินไทยนี้และมิใช่เข้ามาเพื่อฆ่าล้างทำร้ายทำลายชีวิตคนไทยแต่อย่างใดหรือมาเอารัดเอาเปรียบเหยียบย่ำคนไทยแต่อย่างใด แค่ต้องการมีชีวิตที่ปกติดีเท่านั้น ในคนสำนึกดีปกติพึ่งเป็น,โลกจึงสมควรถูกตั้งค่าใหม่จริงๆ ,deep stateไซออนิสต์ก็จะถูกรีเซ็ตลบทิ้งด้วยทันทีเช่นกันในระบบใหม่ เพราะทุกๆชีวิตมนุษย์เราจะมีเจตจำนงเสรีเขียนเป็นโค้ตสัมมาชีวิตใครมันไว้,เอเลี่ยนแรปทีเลี่ยนใส่ชุดมนุษย์ปลอมเป็นมนุษย์สร้างโคลนขึ้นมาก็ตามจะคัดกรองแยกย่อยออกได้หมดมีแต่ค่าจริงเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่,และนั้นจะหมายความรวมถึง มนุษย์เราจะเคลื่อนย้ายสถานที่อยู่ตนเองได้อิสระเสรีตามเจตจำนงเจตนาตนมุ่งปราถนาไว้และอาจค้นหาตนเองตามระดับจิตระดับใจใครมันเองด้วยคือยกจิตยกใจตนเองเสรีไร้ใครขัดขวางบนโลกนี้อีกต่อไปเหมือนยุคเก่าอดีตหรือแบบปัจจุบันนี้,ใครมุ่งสิ่งใดก็อิสระที่จะทำตราบใดไม่ก้าวล่วงชีวิตคนอื่นมนุษย์คนอื่น ไม่ทำร้ายทำลายกัน ไม่ลักขโมยของกัน ไม่ฆ่ากัน,หรือผิดไปจากอารยะธรรมธรรมจักรวาลพื้นฐานที่ดีงามของการเป็นไปด้วยสัมมาชีวิตสัมมาอาชีพใครมัน.

    ..ประเทศไทยเรา จึงสมควรพร้อมเราคนดีที่บริสุทธิ์เหล่านี้ในการช่วยเหลือคนเหล่านั้นเบื้องต้นจนกว่าเขาจะพ้นภัยในเวลาที่สมควร.

    ..การมีตังติดตัวตั้งแต่เกิดจึงสำคัญมาก,จริงๆมีอยู่แล้วแต่ฝ่ายมืดเอาไปทำแดกเอง.

    ..เราจึงต้องล้างระบบใหม่,ที่สะดวกที่สุดคือระบบควอนตัมตังดิจิดัลจริงๆนั้นล่ะ,จึงจะสามารถอัพเรเวลได้ดี,การทุจริตโกงกินแบบเดิมๆจะเหลือศูนย์เพราะรู้กระแสการไหลของตังไปมาย้อนหลังได้หมด เข้าใครออกใครผ่านมากี่คน ทุกๆธุรกรรมควอนตัมมันบันทึกรายละเอียดหมด,ซึ่งมีทองคำค้ำประกันยิ่งดี ต่างจากบิตคอนย์BTCไม่มีทองคำค้ำประกันเลย ไร้เสถียรภาพมั่นคงอะไรอีลิทจึงสร้างมันขึ้นมาปั่นไซออนิสต์จึงสร้างมันมาเพื่อฟอกตังทั่วโลก,ฝ่ายมืดหมายใช่btcควบคุมตังยุคใหม่นั้นเอง,แต่คงไปไม่รอดเพราะไร้ทองคำค้ำประกันและการปั่นราคานี้คือครั้งสุดท้ายก็ได้ก่อนดับอนาถในวงการคริปโตฯสกุลbtcและตัวอื่นๆที่ไม่มีทองคำค้ำประกัน ต่างจากบาทคอยน์อินทนนท์เรามีทองคำค้ำประกันนะ,ไม่ใช่ผีบ้าแบบตังดิจิดัลแจก10,000บาทผีบ้านั้นกูรูแฉเสียไส้แตกหมดเปลือกก็ว่าเอาคริปโตโทเคนโนเนมมาขายให้ไทยแลกเป็นบาทที่มีทองคำค้ำประกัน,กินส่วนต่างโกงค่าแลกเปลี่ยนอีก,ไม่ซื่อสัตย์ชัดเจน,

    ..ใบเกิดเราสูติบัตรเราจึงสมควรตีมูลค่ากันใหม่ ชาวโลกสมควรมีตังในบัญชีตังดิจิดัลทุกๆคนที่100ล้านเหรียญตลอดชีพในเบื้องต้น,จริงๆฝ่ายแสงที่เขามโนไว้ว่ามีทรัพย์สินเงินทองเพชรนิลจินดาแร่ธาตุของมีค่ามากมายสาระพัดที่ยึดมาจากฝ่ายมืดได้ตีมูลค่าโดยประมาณไว้นั้นคือ 1×10⁸⁰⁰ขั้นต่ำ,หรือ1×10¹⁰⁰⁰ ขั้นกลางๆที่ฝ่ายมืดปล้นชิงแอบซ่อนคือชาวโลก8,000ล้านคน หักแรปทีเลี่ยนใส่ชุดคนออก หักโคลนสร้างนอมินีแทนคนจริงๆหักหุ่นยนต์แปลงเป็นคน,หักปีศาจมารซาตานอสูรแปลงเป็นคนอาจเหลือจริงแค่3,000-4,000ล้านคน,ตุยตายจากวัคซีนโควิดmRNAอีกในอนาคต แก่เฒ่าชราตายก่อนเตียงmedbedsจะมาอีก สรุปอาจเหลือมนุษย์ผิวโลกจริงๆแค่1,500-2,000ล้านคนว่าเหลือมากที่สุดแล้วนะ,ไทยอาจเหลือแค่5-10ล้านคนในอนาคตอันใกล้ ข้างบ้านป่วยสะสม โรคสะสมตรึม ตลอดจัดงานศพติดๆกันก็ว่าแล้ว.,กรณีใช้ตังดิจิดัลแจกจ่ายจึงสะดวกรวดเร็วจริง,แต่ต้องฝ่ายดีฝ่ายแสงปกครองนะแบบสภากาแล็กติกจักรวาลช่วยควบคุมระบบก็ว่า.,เฉลี่ยต่อคนชาวโลก อาจมากกว่า1,000ล้านเหรียญต่อคนต่อตลอดชีพได้สบายๆมาก,ตังทั้งโลกที่ฝ่ายแสงยึดทรัพย์มาจากฝ่ายมืดใช้ไปอีกเป็นแสนๆปีก็ยังใช้ไม่หมด,แต่ถ้าเบื้องต้นที่คนละ100ล้านเหรียญต่อคนต่อตลอดชีพถึงว่าทดลองเบิกจ่ายไปก่อนสามารถวิจัยประเมินผลติดตามค่าลยค่าบวกได้,ซึ่งอนาคตbricsอาจให้ประเทศสมาขิกใช้สกุลเงินbricsดิจิดัลนำร่องและใช้ในอัตรา1ต่อ1(1:1) 1บาทไทยต่อ1หยวนจีน นั้นเอง,ทำเป็นมาตรฐานสากล,จากนั้นตัง100ล้านเหรียญนี้ต่อคนต่อตลอดชีพจะตีมูลค่าที่100ล้านบาทเสมอกันกับ100ล้านหยวนนั้นเอง,
    ..บางคนอาจว่าคนไทยเราได้น้อยเมื่อเทียบทรัพยากรมีค่ามากมายของชาติไทยเราจริงที่เฉลี่ยต่อคนอาจมากถึง400ถึง800ล้านบาทต่อคนต่อตลอดชีพ,แต่นี้คือค่าประเมินเบื้องต้นจากมากกว่าคนละ1,000ล้านเหรียญที่ตีค่าไว้,ซึ่งอนาคตเมื่อชาวโลกเราอัพเรเวลสู่มิติ5Dเบื้องต้นหรือบรรลุธรรมจักรวาล ตังอาจไร้ค่าทันทีก็ว่า,สภาวะจิตวิญญาณใครมันสุดยอดแล้วนั้นเอง.

    ..เวลามนุษย์โลกชาวโลกคนใดจะย้ายไปอยู่ประเทศไหนๆสถานะการเงินจะย้ายไปทันทีด้วย,ประเทศนั้นๆจะมีตังบริหารจัดการชาติทันทีเพื่อช่วยดูแลชีวิตมนุษย์ทันนั้นๆรับเพิ่มทันทีที่1ล้านเหรียญต่อปีเช่นกัน,แยกต่างหากจากตังส่วนตัวของบุคคลนั้นๆที่ย้ายไปอยู่เพื่อแบ่งเบาภาวะทรัพยากรที่ประเทศนั้นๆเตรียมพร้อมรองรับในการใช้ชีวิตของมนุษย์โลกเราคนนั้นก็ว่า, ตัวอย่างคือ ประเทศไทยเรามีประชากร66ล้านคนก็66ล้านเหรียญในบัญชีตังดิจิดัลต่อคนต่อปีในการใช้จ่ายในชีวิต ส่วนรัฐบาลก็จะได้ทันทีแยกต่างหากเป็นสาธารณะแก่รัฐนั้นๆที่66ล้านเหรียญต่อคนต่อปีเช่นกัน,มีคนชาวโลกจากประเทศอื่นย้ายเข้ามาอยู่อาศันบนแผ่นดินไทยสัก20ล้านคนก็รับเพิ่มอีก20ล้านเหรียญให้แก่รัฐประเทศนั้นๆ,ปีต่อไปมีคนย้ายออกจากประเทศไทยที่50ล้านคน ,ผลคือ50ล้านเหรียญนี้จะย้ายตามคนนั้นๆไปจ่ายให้รัฐบาลประเทศอื่นนั้นๆเป็นสาธารณะให้รัฐบาลนั้นบริหารจัดการก็ว่าแทนที่เดิม,นี้ตังติดบุคคลช่วยลดภาระการไปอยู่บ้านเมืองอื่นที่ต้องการ,เด็กๆหรือบุคคลใดๆเข้ามาประเทศไทยเราแบบลักษณะคลิปนี้ เราสามารถดูแลชีวิตเขาได้เต็มที่ ตลอดเขาเองก็มีตังติดตัวมหาศาลไม่น้อย,เราจึงสามารถจรรโลงสร้างสรรค์โลกให้สวยงามดีงามสงบสุขสันติร่วมกันของทุกๆคนชาวโลกได้.
    ..
    ..https://youtube.com/shorts/Fv4asOidqg4?si=mwct5bmVmjBY47QJ
    ..อนาคตประเทศไทยจะเป็นที่พึ่งของใครหลายคน ที่ไม่ใช่คนไทย มีบัตรประชาชนคนไทย เขาทั้งหลายมากมายหนีทุกข์มาพึ่งประเทศไทยที่สงบสุข ,จริงๆคนไทยเราใจดีมาก เป็นที่พึ่งคนต่างถิ่นใดๆได้,อันตรายคือบางคนที่มาพึ่งพิงนั้นเป็นคนไม่ดี ทำลายทำร้ายคนให้พึ่งพิงอาศัย เนรคุณทรยศอกตัญญูก็ว่า,เหมือนเขมรในปัจจุบันที่ผู้นำเขมรเองแสดงความอกตัญญูเนรคุณทรยศแผ่นดินไทยที่ตนเองเคยหนีตายมาพึ่งพาอาศัยอยู่กิน. ..เด็กๆผู้บริสุทธิ์มากมายตลอดผู้ปกครองพ่อแม่เขา มีทุกข์เป็นอันมากปกติอยู่แล้วในการดำรงชีพ ยิ่งเป็นคนไม่มีสัญชาติไทยอีกหรือตกหล่นประการใดก็ตามน่าเห็นใจมากที่สมควรได้รับการช่วยเหลือบนแผ่นดินไทยเรา,นี้ไง คนไทยเราต้องพ้นยากจนทุกๆคนทั้งหมดทันทีบนกลไกการปกครองที่ทำให้คนไทยมั่นคงในความยากจนนี้ต้องฉีกทิ้งกฎหมายผีบ้าต่างๆมากมายจริงที่ปล้นชิงแย่งชิงความร่ำรวยมั่งคั่งของคนไทยไปซึ่งส่วนใหญ่ถ่ายโอนไปสู่ชนชั้นนักการเมืองที่อยู่วงกลไกอำนาจรัฐทั้งสิ้นจะเจ้าสัวจะข้าราชการก็ตามมีหมดจนร่ำรวยผิดปกติจากการโกงกินทั้งเงินหลวงทั้งนอกเงินหลวงต่างๆที่ไม่สุจริตจนได้มาซึ่งทรัพย์สินมากมายมหาศาลอันผิดปกติพึ่งบุคคลควรมีได้,อำนาจรัฐจึงคือกลไกปัญหาหลักสำคัญที่สุดที่จะนำพาประชาชนทั้งประเทศร่ำรวยหรือยากจนดักดานจริงๆ,และเราสามารถยื่นโอกาสอันดีงามมากมายแก่คนที่เข้ามาบนแผ่นดินไทยให้เขามีชีวิตที่ดีงามผาสุขได้ เติบโตสร้างโลกให้สวยงามดีงามร่วมกันต่อไปได้,และอนาคตคนดีๆเหล่านี้ทำไมเราต้องปฏิเสธการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เกลียดชังเขาด้วย ตราบใดเป็นคนดีขึ้นชื่อว่าดีแน่นอน,และทุกๆคนหมายทำสิ่งดีๆทั้งสิ้น,เราจึงต้องกำจัดคนชั่วเลวมิให้รังแกคนดีๆ จนเป็นคนไม่ดีนั้นเอง,,เพราะเมื่อเขาเติบโตล้วนสามารถเลือกภูมิประเทศที่ต้องการอยู่อาศัยได้,จริงๆเจตจำนงเสรีมนุษย์สมควรเลือกประเทศที่ตนต้องการอยู่อาศัยได้อิสระเสรีในกรณีคนดีปกติที่มิใช่คนชั่วเลวหมายทำร้ายทำลายร่างกายหรือฆ่าสังหารมนุษย์ด้วยกัน,พร้อมเงินสัมมาชีวิตตนติดตัว เช่นคนไทยอยากย้ายไปอยู่จีน ด้วยบัตรสูติบัตรตนที่เกิดมาสามารถเบิกตังองค์กรสากลโลกที่มีตังประจำสูติบัตรตั้งค่าไว้ เช่นสูติบัตรใบเกิดทุกๆคนบนโลกตีมูลค่าเป็นตังได้ที่คนละ100,000,000เหรียญดอลล่าร์ตลอดชีพ,นับตามอายุเฉลี่ยที่ใช้ไปและเหลืออยู่ มนุษย์อายุเฉลี่ย100ปี,ก็ตกปีละ1ล้านเหรียญต่อปีต่อคน,คนไทยที่ย้ายภูมิประเทศไปอยู่จีนเม็ดเงินนี้ก็ย้ายไปด้วยและแปลงค่าเป็นสกุลหยวนทันทีด้วย,คือ1ดอลล่าร์เท่ากับ7หยวนก็7ล้านหยวนต่อปี,คนไทยคนนั้นต้องบริหารตังภายใน1ปีใช้ตามนั้นเอง ส่วนจะสร้างเม็ดเงินเพิ่มขึ้นก็ความสามารถใครมัน,ทุกๆชีวิตมนุษย์เราบนโลกจะถูกตีมูลค่าชีวิตใหม่ให้เหมาะสมตามรูปแบบการดำรงชีวิตของโลกนั้นๆแบบเรา ในที่นี้ใช้ตังเป็นกลไกขับเคลื่อนวิถีชีวิต,เราก็ต้องทำลักษณะนี้,อยู่ไปได้แค่5ปีขอย้ายกลับมาเป็นสัญชาติไทยแบบหลังเรียนจบที่จีน,ตัง1ล้านดอลล่าร์นั้นก็ย้ายตามสถานะชีวิตเรามาด้วยแปลงเป็นเงินไทยคือ1ดอลล่าร์เท่ากับ33บาท นั่นคือ33ล้านบาทต่อปีที่มีตังในบัญชีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเบื้องต้นในประเทศไทยให้สุขภาพร่างกายในเนื้อกายมนุษย์โลกนี้ปกติดีก่อนตายจากไป,ตายไปก็เป็นสถานะ0บาททันทีก็ว่า,โลกเราสมควรรีเซ็ตครั้งใหม่ครั้งใหญ่จริงๆตีมูลค่าใหม่,เด็กๆมากมายตามพ่อแม่หนีภัยมาพึ่งพาแผ่นดินไทยนี้และมิใช่เข้ามาเพื่อฆ่าล้างทำร้ายทำลายชีวิตคนไทยแต่อย่างใดหรือมาเอารัดเอาเปรียบเหยียบย่ำคนไทยแต่อย่างใด แค่ต้องการมีชีวิตที่ปกติดีเท่านั้น ในคนสำนึกดีปกติพึ่งเป็น,โลกจึงสมควรถูกตั้งค่าใหม่จริงๆ ,deep stateไซออนิสต์ก็จะถูกรีเซ็ตลบทิ้งด้วยทันทีเช่นกันในระบบใหม่ เพราะทุกๆชีวิตมนุษย์เราจะมีเจตจำนงเสรีเขียนเป็นโค้ตสัมมาชีวิตใครมันไว้,เอเลี่ยนแรปทีเลี่ยนใส่ชุดมนุษย์ปลอมเป็นมนุษย์สร้างโคลนขึ้นมาก็ตามจะคัดกรองแยกย่อยออกได้หมดมีแต่ค่าจริงเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่,และนั้นจะหมายความรวมถึง มนุษย์เราจะเคลื่อนย้ายสถานที่อยู่ตนเองได้อิสระเสรีตามเจตจำนงเจตนาตนมุ่งปราถนาไว้และอาจค้นหาตนเองตามระดับจิตระดับใจใครมันเองด้วยคือยกจิตยกใจตนเองเสรีไร้ใครขัดขวางบนโลกนี้อีกต่อไปเหมือนยุคเก่าอดีตหรือแบบปัจจุบันนี้,ใครมุ่งสิ่งใดก็อิสระที่จะทำตราบใดไม่ก้าวล่วงชีวิตคนอื่นมนุษย์คนอื่น ไม่ทำร้ายทำลายกัน ไม่ลักขโมยของกัน ไม่ฆ่ากัน,หรือผิดไปจากอารยะธรรมธรรมจักรวาลพื้นฐานที่ดีงามของการเป็นไปด้วยสัมมาชีวิตสัมมาอาชีพใครมัน. ..ประเทศไทยเรา จึงสมควรพร้อมเราคนดีที่บริสุทธิ์เหล่านี้ในการช่วยเหลือคนเหล่านั้นเบื้องต้นจนกว่าเขาจะพ้นภัยในเวลาที่สมควร. ..การมีตังติดตัวตั้งแต่เกิดจึงสำคัญมาก,จริงๆมีอยู่แล้วแต่ฝ่ายมืดเอาไปทำแดกเอง. ..เราจึงต้องล้างระบบใหม่,ที่สะดวกที่สุดคือระบบควอนตัมตังดิจิดัลจริงๆนั้นล่ะ,จึงจะสามารถอัพเรเวลได้ดี,การทุจริตโกงกินแบบเดิมๆจะเหลือศูนย์เพราะรู้กระแสการไหลของตังไปมาย้อนหลังได้หมด เข้าใครออกใครผ่านมากี่คน ทุกๆธุรกรรมควอนตัมมันบันทึกรายละเอียดหมด,ซึ่งมีทองคำค้ำประกันยิ่งดี ต่างจากบิตคอนย์BTCไม่มีทองคำค้ำประกันเลย ไร้เสถียรภาพมั่นคงอะไรอีลิทจึงสร้างมันขึ้นมาปั่นไซออนิสต์จึงสร้างมันมาเพื่อฟอกตังทั่วโลก,ฝ่ายมืดหมายใช่btcควบคุมตังยุคใหม่นั้นเอง,แต่คงไปไม่รอดเพราะไร้ทองคำค้ำประกันและการปั่นราคานี้คือครั้งสุดท้ายก็ได้ก่อนดับอนาถในวงการคริปโตฯสกุลbtcและตัวอื่นๆที่ไม่มีทองคำค้ำประกัน ต่างจากบาทคอยน์อินทนนท์เรามีทองคำค้ำประกันนะ,ไม่ใช่ผีบ้าแบบตังดิจิดัลแจก10,000บาทผีบ้านั้นกูรูแฉเสียไส้แตกหมดเปลือกก็ว่าเอาคริปโตโทเคนโนเนมมาขายให้ไทยแลกเป็นบาทที่มีทองคำค้ำประกัน,กินส่วนต่างโกงค่าแลกเปลี่ยนอีก,ไม่ซื่อสัตย์ชัดเจน, ..ใบเกิดเราสูติบัตรเราจึงสมควรตีมูลค่ากันใหม่ ชาวโลกสมควรมีตังในบัญชีตังดิจิดัลทุกๆคนที่100ล้านเหรียญตลอดชีพในเบื้องต้น,จริงๆฝ่ายแสงที่เขามโนไว้ว่ามีทรัพย์สินเงินทองเพชรนิลจินดาแร่ธาตุของมีค่ามากมายสาระพัดที่ยึดมาจากฝ่ายมืดได้ตีมูลค่าโดยประมาณไว้นั้นคือ 1×10⁸⁰⁰ขั้นต่ำ,หรือ1×10¹⁰⁰⁰ ขั้นกลางๆที่ฝ่ายมืดปล้นชิงแอบซ่อนคือชาวโลก8,000ล้านคน หักแรปทีเลี่ยนใส่ชุดคนออก หักโคลนสร้างนอมินีแทนคนจริงๆหักหุ่นยนต์แปลงเป็นคน,หักปีศาจมารซาตานอสูรแปลงเป็นคนอาจเหลือจริงแค่3,000-4,000ล้านคน,ตุยตายจากวัคซีนโควิดmRNAอีกในอนาคต แก่เฒ่าชราตายก่อนเตียงmedbedsจะมาอีก สรุปอาจเหลือมนุษย์ผิวโลกจริงๆแค่1,500-2,000ล้านคนว่าเหลือมากที่สุดแล้วนะ,ไทยอาจเหลือแค่5-10ล้านคนในอนาคตอันใกล้ ข้างบ้านป่วยสะสม โรคสะสมตรึม ตลอดจัดงานศพติดๆกันก็ว่าแล้ว.,กรณีใช้ตังดิจิดัลแจกจ่ายจึงสะดวกรวดเร็วจริง,แต่ต้องฝ่ายดีฝ่ายแสงปกครองนะแบบสภากาแล็กติกจักรวาลช่วยควบคุมระบบก็ว่า.,เฉลี่ยต่อคนชาวโลก อาจมากกว่า1,000ล้านเหรียญต่อคนต่อตลอดชีพได้สบายๆมาก,ตังทั้งโลกที่ฝ่ายแสงยึดทรัพย์มาจากฝ่ายมืดใช้ไปอีกเป็นแสนๆปีก็ยังใช้ไม่หมด,แต่ถ้าเบื้องต้นที่คนละ100ล้านเหรียญต่อคนต่อตลอดชีพถึงว่าทดลองเบิกจ่ายไปก่อนสามารถวิจัยประเมินผลติดตามค่าลยค่าบวกได้,ซึ่งอนาคตbricsอาจให้ประเทศสมาขิกใช้สกุลเงินbricsดิจิดัลนำร่องและใช้ในอัตรา1ต่อ1(1:1) 1บาทไทยต่อ1หยวนจีน นั้นเอง,ทำเป็นมาตรฐานสากล,จากนั้นตัง100ล้านเหรียญนี้ต่อคนต่อตลอดชีพจะตีมูลค่าที่100ล้านบาทเสมอกันกับ100ล้านหยวนนั้นเอง, ..บางคนอาจว่าคนไทยเราได้น้อยเมื่อเทียบทรัพยากรมีค่ามากมายของชาติไทยเราจริงที่เฉลี่ยต่อคนอาจมากถึง400ถึง800ล้านบาทต่อคนต่อตลอดชีพ,แต่นี้คือค่าประเมินเบื้องต้นจากมากกว่าคนละ1,000ล้านเหรียญที่ตีค่าไว้,ซึ่งอนาคตเมื่อชาวโลกเราอัพเรเวลสู่มิติ5Dเบื้องต้นหรือบรรลุธรรมจักรวาล ตังอาจไร้ค่าทันทีก็ว่า,สภาวะจิตวิญญาณใครมันสุดยอดแล้วนั้นเอง. ..เวลามนุษย์โลกชาวโลกคนใดจะย้ายไปอยู่ประเทศไหนๆสถานะการเงินจะย้ายไปทันทีด้วย,ประเทศนั้นๆจะมีตังบริหารจัดการชาติทันทีเพื่อช่วยดูแลชีวิตมนุษย์ทันนั้นๆรับเพิ่มทันทีที่1ล้านเหรียญต่อปีเช่นกัน,แยกต่างหากจากตังส่วนตัวของบุคคลนั้นๆที่ย้ายไปอยู่เพื่อแบ่งเบาภาวะทรัพยากรที่ประเทศนั้นๆเตรียมพร้อมรองรับในการใช้ชีวิตของมนุษย์โลกเราคนนั้นก็ว่า, ตัวอย่างคือ ประเทศไทยเรามีประชากร66ล้านคนก็66ล้านเหรียญในบัญชีตังดิจิดัลต่อคนต่อปีในการใช้จ่ายในชีวิต ส่วนรัฐบาลก็จะได้ทันทีแยกต่างหากเป็นสาธารณะแก่รัฐนั้นๆที่66ล้านเหรียญต่อคนต่อปีเช่นกัน,มีคนชาวโลกจากประเทศอื่นย้ายเข้ามาอยู่อาศันบนแผ่นดินไทยสัก20ล้านคนก็รับเพิ่มอีก20ล้านเหรียญให้แก่รัฐประเทศนั้นๆ,ปีต่อไปมีคนย้ายออกจากประเทศไทยที่50ล้านคน ,ผลคือ50ล้านเหรียญนี้จะย้ายตามคนนั้นๆไปจ่ายให้รัฐบาลประเทศอื่นนั้นๆเป็นสาธารณะให้รัฐบาลนั้นบริหารจัดการก็ว่าแทนที่เดิม,นี้ตังติดบุคคลช่วยลดภาระการไปอยู่บ้านเมืองอื่นที่ต้องการ,เด็กๆหรือบุคคลใดๆเข้ามาประเทศไทยเราแบบลักษณะคลิปนี้ เราสามารถดูแลชีวิตเขาได้เต็มที่ ตลอดเขาเองก็มีตังติดตัวมหาศาลไม่น้อย,เราจึงสามารถจรรโลงสร้างสรรค์โลกให้สวยงามดีงามสงบสุขสันติร่วมกันของทุกๆคนชาวโลกได้. .. ..https://youtube.com/shorts/Fv4asOidqg4?si=mwct5bmVmjBY47QJ
    0 Comments 0 Shares 511 Views 0 Reviews
  • Robinhood Crypto ถูกสอบสวน – คำว่า “ถูกที่สุด” อาจไม่จริง?

    เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2025 James Uthmeier อัยการสูงสุดรัฐฟลอริดา ได้เปิดการสอบสวน Robinhood Crypto ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของ Robinhood Markets โดยตั้งข้อสงสัยว่าแพลตฟอร์มอาจโฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับ “ต้นทุนต่ำที่สุดในการซื้อขายคริปโต”

    สำนักงานอัยการได้ออกหมายเรียกเอกสารภายในของบริษัท เพื่อพิจารณาว่ามีการละเมิดกฎหมายว่าด้วยการค้าหลอกลวงและไม่เป็นธรรมของรัฐฟลอริดาหรือไม่

    Robinhood อ้างว่าไม่มีค่าคอมมิชชันในการซื้อขาย แต่จริง ๆ แล้วบริษัทหารายได้จากการส่งคำสั่งซื้อขายไปยังบริษัทภายนอกที่จ่ายเงินให้ Robinhood ตามระบบที่เรียกว่า “Payment for Order Flow” (PFOF)

    Lucas Moskowitz ที่ปรึกษาทั่วไปของ Robinhood ยืนยันว่าบริษัทเปิดเผยข้อมูลค่าธรรมเนียมและรายได้อย่างชัดเจนในทุกขั้นตอนของการซื้อขาย และยังคงเชื่อว่าแพลตฟอร์มของตนมีต้นทุนเฉลี่ยต่ำที่สุด

    Robinhood Crypto มีเวลาถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2025 ในการตอบกลับหมายเรียกของอัยการ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/11/florida-ag-probes-robinhood-crypto-over-claims-of-low-cost-trading
    Robinhood Crypto ถูกสอบสวน – คำว่า “ถูกที่สุด” อาจไม่จริง? เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2025 James Uthmeier อัยการสูงสุดรัฐฟลอริดา ได้เปิดการสอบสวน Robinhood Crypto ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของ Robinhood Markets โดยตั้งข้อสงสัยว่าแพลตฟอร์มอาจโฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับ “ต้นทุนต่ำที่สุดในการซื้อขายคริปโต” สำนักงานอัยการได้ออกหมายเรียกเอกสารภายในของบริษัท เพื่อพิจารณาว่ามีการละเมิดกฎหมายว่าด้วยการค้าหลอกลวงและไม่เป็นธรรมของรัฐฟลอริดาหรือไม่ Robinhood อ้างว่าไม่มีค่าคอมมิชชันในการซื้อขาย แต่จริง ๆ แล้วบริษัทหารายได้จากการส่งคำสั่งซื้อขายไปยังบริษัทภายนอกที่จ่ายเงินให้ Robinhood ตามระบบที่เรียกว่า “Payment for Order Flow” (PFOF) Lucas Moskowitz ที่ปรึกษาทั่วไปของ Robinhood ยืนยันว่าบริษัทเปิดเผยข้อมูลค่าธรรมเนียมและรายได้อย่างชัดเจนในทุกขั้นตอนของการซื้อขาย และยังคงเชื่อว่าแพลตฟอร์มของตนมีต้นทุนเฉลี่ยต่ำที่สุด Robinhood Crypto มีเวลาถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2025 ในการตอบกลับหมายเรียกของอัยการ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/11/florida-ag-probes-robinhood-crypto-over-claims-of-low-cost-trading
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Florida AG probes Robinhood Crypto over claims of low-cost trading
    (Reuters) -Florida Attorney General James Uthmeier on Thursday launched an investigation into Robinhood Crypto, alleging that the platform may have misled customers by promoting itself as the least expensive way to buy cryptocurrencies.
    0 Comments 0 Shares 229 Views 0 Reviews
  • ลองจินตนาการว่าเห็นโลโก้บริษัทฉายบนตึก Burj Khalifa ยักษ์สุดหรูในดูไบ — พูดกันตรงๆ ใครจะไม่เชื่อว่า legit! → แต่จริง ๆ แล้ว OmegaPro คือโครงการ Ponzi Scheme ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ "ดูน่าเชื่อถือ" โดยใช้กลยุทธ์ทั้งการฉายโลโก้, จัดงานเทรนนิ่งหรู, และโชว์ชีวิตฟู่ฟ่าเพื่อหลอกผู้คนให้ลงทุน → ผู้เสียหายถูกล่อลวงให้ซื้อ “แพ็กเกจการลงทุนคริปโต” โดยอ้างว่าจะมีการเทรดฟอเร็กซ์โดย “เทรดเดอร์ระดับโลก” → แต่ในความจริง เงินถูกโอนเข้ากระเป๋าเครือข่ายผู้บริหารผ่านวอลเล็ตที่พวกเขาควบคุมเอง!

    เมื่อต้นปี 2023 OmegaPro อ้างว่าระบบถูกแฮ็ก และจะย้ายเงินไปยังแพลตฟอร์มชื่อ “Broker Group” → แต่เหยื่อไม่มีใครถอนเงินได้เลย → สุดท้ายถูก DoJ ตั้งข้อหาหลายกระทง รวมถึง conspiracy to commit wire fraud และ conspiracy to commit money laundering

    ตอนนี้ผู้ต้องหาหลักคือ
    - Michael Shannon Sims → ผู้ก่อตั้งและโปรโมตบริษัท
    - Juan Carlos Reynoso → ผู้นำปฏิบัติการในละตินอเมริกา

    ทั้งสองอาจโดนโทษจำคุกสูงสุด 20 ปีในแต่ละข้อหา หากศาลตัดสินว่าผิดจริง

    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DoJ) ตั้งข้อหาหลอกลวงคริปโต OmegaPro มูลค่ากว่า $650M
    • หลอกให้ลงทุนโดยอ้างผลตอบแทน 300% ภายใน 16 เดือน  
    • แนะนำให้ชำระเงินด้วยคริปโตเพื่อซื้อ “แพ็กเกจการลงทุน”  
    • อ้างว่ามีเทรดเดอร์มืออาชีพดูแลเงิน

    ผู้ต้องหา:  
    • Michael Shannon Sims → ผู้ก่อตั้ง–โปรโมต OmegaPro  
    • Juan Carlos Reynoso → ผู้นำฝั่งละตินอเมริกา

    กลยุทธ์ลวงตา:  
    • ฉายโลโก้บน Burj Khalifa เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ  
    • โชว์รถหรู–เที่ยวหรูบนโซเชียล  
    • จัดงานเทรนนิ่งระดับโลก

    ปี 2023 OmegaPro อ้างว่าถูก hack → ย้ายเงินไป Broker Group แต่ถอนไม่ได้  
    • เงินถูกล้างผ่านวอลเล็ตของผู้บริหารแล้วโอนเข้ากลุ่ม insider

    ข้อหาที่ได้รับ:  
    • สมรู้ร่วมคิดฉ้อโกงผ่านระบบสื่อสาร (wire fraud)  
    • สมรู้ร่วมคิดฟอกเงิน → โทษสูงสุด 20 ปี/ข้อหา

    ผู้ร่วมขบวนการอื่น เช่น Andreas Szakacs ถูกจับในตุรกีฐานฉ้อโกง $4B ผ่านระบบ Ponzi คริปโตอีกแห่ง

    https://www.techspot.com/news/108609-doj-charges-two-men-over-650-million-crypto.html
    ลองจินตนาการว่าเห็นโลโก้บริษัทฉายบนตึก Burj Khalifa ยักษ์สุดหรูในดูไบ — พูดกันตรงๆ ใครจะไม่เชื่อว่า legit! → แต่จริง ๆ แล้ว OmegaPro คือโครงการ Ponzi Scheme ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ "ดูน่าเชื่อถือ" โดยใช้กลยุทธ์ทั้งการฉายโลโก้, จัดงานเทรนนิ่งหรู, และโชว์ชีวิตฟู่ฟ่าเพื่อหลอกผู้คนให้ลงทุน → ผู้เสียหายถูกล่อลวงให้ซื้อ “แพ็กเกจการลงทุนคริปโต” โดยอ้างว่าจะมีการเทรดฟอเร็กซ์โดย “เทรดเดอร์ระดับโลก” → แต่ในความจริง เงินถูกโอนเข้ากระเป๋าเครือข่ายผู้บริหารผ่านวอลเล็ตที่พวกเขาควบคุมเอง! เมื่อต้นปี 2023 OmegaPro อ้างว่าระบบถูกแฮ็ก และจะย้ายเงินไปยังแพลตฟอร์มชื่อ “Broker Group” → แต่เหยื่อไม่มีใครถอนเงินได้เลย → สุดท้ายถูก DoJ ตั้งข้อหาหลายกระทง รวมถึง conspiracy to commit wire fraud และ conspiracy to commit money laundering ตอนนี้ผู้ต้องหาหลักคือ - Michael Shannon Sims → ผู้ก่อตั้งและโปรโมตบริษัท - Juan Carlos Reynoso → ผู้นำปฏิบัติการในละตินอเมริกา ทั้งสองอาจโดนโทษจำคุกสูงสุด 20 ปีในแต่ละข้อหา หากศาลตัดสินว่าผิดจริง ✅ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DoJ) ตั้งข้อหาหลอกลวงคริปโต OmegaPro มูลค่ากว่า $650M • หลอกให้ลงทุนโดยอ้างผลตอบแทน 300% ภายใน 16 เดือน   • แนะนำให้ชำระเงินด้วยคริปโตเพื่อซื้อ “แพ็กเกจการลงทุน”   • อ้างว่ามีเทรดเดอร์มืออาชีพดูแลเงิน ✅ ผู้ต้องหา:   • Michael Shannon Sims → ผู้ก่อตั้ง–โปรโมต OmegaPro   • Juan Carlos Reynoso → ผู้นำฝั่งละตินอเมริกา ✅ กลยุทธ์ลวงตา:   • ฉายโลโก้บน Burj Khalifa เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ   • โชว์รถหรู–เที่ยวหรูบนโซเชียล   • จัดงานเทรนนิ่งระดับโลก ✅ ปี 2023 OmegaPro อ้างว่าถูก hack → ย้ายเงินไป Broker Group แต่ถอนไม่ได้   • เงินถูกล้างผ่านวอลเล็ตของผู้บริหารแล้วโอนเข้ากลุ่ม insider ✅ ข้อหาที่ได้รับ:   • สมรู้ร่วมคิดฉ้อโกงผ่านระบบสื่อสาร (wire fraud)   • สมรู้ร่วมคิดฟอกเงิน → โทษสูงสุด 20 ปี/ข้อหา ✅ ผู้ร่วมขบวนการอื่น เช่น Andreas Szakacs ถูกจับในตุรกีฐานฉ้อโกง $4B ผ่านระบบ Ponzi คริปโตอีกแห่ง https://www.techspot.com/news/108609-doj-charges-two-men-over-650-million-crypto.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    DOJ charges two men over $650 million crypto Ponzi scheme that promised 300% returns
    The DoJ writes that an indictment was unsealed yesterday in the District of Puerto Rico charging two men for their alleged roles in operating and promoting OmegaPro.
    0 Comments 0 Shares 315 Views 0 Reviews
  • ในวันที่คนรุ่นใหม่ใช้คริปโตมากกว่าเงินสด และการบินไม่ใช่แค่เรื่องของ “จองผ่านบัตรเครดิต” อีกต่อไป → Emirates เตรียมเปิดรับ “ผู้โดยสารยุค Web3” ผ่านความร่วมมือกับ Crypto.com → โดยให้ใช้บริการ Crypto.com Pay เพื่อจ่ายค่าโดยสารและบริการอื่น ๆ บนแพลตฟอร์มของ Emirates

    Adnan Kazim (รองประธานฝ่ายการพาณิชย์ของ Emirates) บอกว่า → กลุ่มเป้าหมายคือ “ลูกค้าหน้าใหม่ที่มีความถนัดด้านเทคโนโลยี และชอบใช้เงินดิจิทัล” → ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังเติบโตอย่างมากในตลาดตะวันออกกลาง, ยุโรป และเอเชีย

    บริการนี้จะเริ่มใช้จริง “ในปีหน้า” → โดยรวมเข้ากับแพลตฟอร์มการจอง–การชำระเงินของ Emirates → ช่วยเปิดประตูสู่เศรษฐกิจแบบไร้พรมแดน และเร่งการยอมรับคริปโตในภาคธุรกิจสายการบินเป็นครั้งแรก

    Emirates Airline ลงนามข้อตกลงเบื้องต้นกับ Crypto.com เพื่อรองรับการจ่ายเงินด้วยคริปโต  
    • ใช้แพลตฟอร์ม “Crypto.com Pay”  
    • ชำระค่าโดยสาร, บริการเสริม, หรือสินค้าในเครือ Emirates ได้

    บริการจะเริ่มใช้จริงในปี 2026  • เป็นครั้งแรกที่สายการบินระดับโลกเปิดให้ใช้ crypto payment แบบเป็นทางการ

    กลุ่มเป้าหมายคือ “ลูกค้าที่ถนัดเทคโนโลยี–ชอบคริปโต–ต้องการการเดินทางที่ไร้พรมแดน”  
    • เน้นตลาดใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง, กลุ่มคน Gen Z, นักลงทุนสาย Web3

    Emirates เคยมีบทบาทในนวัตกรรมด้าน loyalty program มาก่อน → จึงไม่แปลกที่เลือกนำคริปโตมาเป็นช่องทางใหม่

    ยังไม่มีรายละเอียดว่าการชำระจะรองรับสกุลใดบ้าง เช่น BTC, ETH, CRO หรือ stablecoin แบบ USDC/USDT  
    • ผู้ใช้ควรติดตามข้อมูลจาก Crypto.com ก่อนใช้งานจริง

    การชำระเงินด้วยคริปโตยังมีความผันผวนสูง → อาจต้องใช้ระบบ lock rate, หรือมี conversion fee ในแต่ละประเทศ

    หากกฎหมายของบางประเทศไม่รองรับ crypto → อาจยังใช้งานไม่ได้ทั่วโลก

    ยังไม่แน่ชัดว่าการคืนเงิน (refund) จะดำเนินการผ่านระบบคริปโตหรือ fiat → ส่งผลต่อ UX ของผู้โดยสาร

    ความร่วมมือยังอยู่ในขั้นต้น → ต้องรอติดตามว่าระบบจะ integrate เข้ากับ Emirates ได้ seamless แค่ไหน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/09/dubai039s-emirates-signs-preliminary-deal-to-add-crypto-to-payments
    ในวันที่คนรุ่นใหม่ใช้คริปโตมากกว่าเงินสด และการบินไม่ใช่แค่เรื่องของ “จองผ่านบัตรเครดิต” อีกต่อไป → Emirates เตรียมเปิดรับ “ผู้โดยสารยุค Web3” ผ่านความร่วมมือกับ Crypto.com → โดยให้ใช้บริการ Crypto.com Pay เพื่อจ่ายค่าโดยสารและบริการอื่น ๆ บนแพลตฟอร์มของ Emirates Adnan Kazim (รองประธานฝ่ายการพาณิชย์ของ Emirates) บอกว่า → กลุ่มเป้าหมายคือ “ลูกค้าหน้าใหม่ที่มีความถนัดด้านเทคโนโลยี และชอบใช้เงินดิจิทัล” → ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังเติบโตอย่างมากในตลาดตะวันออกกลาง, ยุโรป และเอเชีย บริการนี้จะเริ่มใช้จริง “ในปีหน้า” → โดยรวมเข้ากับแพลตฟอร์มการจอง–การชำระเงินของ Emirates → ช่วยเปิดประตูสู่เศรษฐกิจแบบไร้พรมแดน และเร่งการยอมรับคริปโตในภาคธุรกิจสายการบินเป็นครั้งแรก ✅ Emirates Airline ลงนามข้อตกลงเบื้องต้นกับ Crypto.com เพื่อรองรับการจ่ายเงินด้วยคริปโต   • ใช้แพลตฟอร์ม “Crypto.com Pay”   • ชำระค่าโดยสาร, บริการเสริม, หรือสินค้าในเครือ Emirates ได้ ✅ บริการจะเริ่มใช้จริงในปี 2026  • เป็นครั้งแรกที่สายการบินระดับโลกเปิดให้ใช้ crypto payment แบบเป็นทางการ ✅ กลุ่มเป้าหมายคือ “ลูกค้าที่ถนัดเทคโนโลยี–ชอบคริปโต–ต้องการการเดินทางที่ไร้พรมแดน”   • เน้นตลาดใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง, กลุ่มคน Gen Z, นักลงทุนสาย Web3 ✅ Emirates เคยมีบทบาทในนวัตกรรมด้าน loyalty program มาก่อน → จึงไม่แปลกที่เลือกนำคริปโตมาเป็นช่องทางใหม่ ‼️ ยังไม่มีรายละเอียดว่าการชำระจะรองรับสกุลใดบ้าง เช่น BTC, ETH, CRO หรือ stablecoin แบบ USDC/USDT   • ผู้ใช้ควรติดตามข้อมูลจาก Crypto.com ก่อนใช้งานจริง ‼️ การชำระเงินด้วยคริปโตยังมีความผันผวนสูง → อาจต้องใช้ระบบ lock rate, หรือมี conversion fee ในแต่ละประเทศ ‼️ หากกฎหมายของบางประเทศไม่รองรับ crypto → อาจยังใช้งานไม่ได้ทั่วโลก ‼️ ยังไม่แน่ชัดว่าการคืนเงิน (refund) จะดำเนินการผ่านระบบคริปโตหรือ fiat → ส่งผลต่อ UX ของผู้โดยสาร ‼️ ความร่วมมือยังอยู่ในขั้นต้น → ต้องรอติดตามว่าระบบจะ integrate เข้ากับ Emirates ได้ seamless แค่ไหน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/09/dubai039s-emirates-signs-preliminary-deal-to-add-crypto-to-payments
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Dubai's Emirates signs preliminary deal to add crypto to payments
    DUBAI (Reuters) -Emirates has signed a preliminary deal with Crypto.com that will allow its customers to make payments through the crypto trading platform's payment service, the Gulf carrier's parent company said in a statement on Wednesday.
    0 Comments 0 Shares 287 Views 0 Reviews
  • ..555,มาแล้ว.
    ..คุณคือฮีโร่ของไทย,ส่วนตัวถ้าเราเป็นแฮ็กเกอร์นะจะแฮ็กฯปล้นคริปโตฯโทเคนตังดิจิดัลของเดอะแก๊งทั้งหมดในเขมรเลยแล้วโอนตังมันทั้งหลายไปเข้าบัญชีบริจาคช่วยเหลือคนตกทุกข์คนยากจนคนพิการหรือเหยื่ออาชญากรรมและค้ามนุษยทั่วโลกเลย,โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่ดีๆดูแลรักษาคนลักษณะนี้ กระทั่งทุนวิจัยผลิตยารักษาคนฟรีๆสร้างโรงงานฟรีๆสกัดยาสาระพัดก็ด้วยเพื่อมุ่งไม่หวังผลตอบแทน,แฮ๊กดาต้าข้อมูลทุกๆคนที่ก่อการเป็นเครือข่ายในเขมรตลอดสนับสนุนเงินทุนด้วย,ร่วมกันแฮ็กทำลายมันจากแฮ็กเกอร์ทั่วโลกนะโดยแฮ็กเกอร์ไทยขอความร่วมมือจากแฮ็กเกอร์ทั่วโลกอีกทีจัดการเดอะแก็งทั้งหมดในเขมรจะตังจากค้ายาค้ามนุษย์ตังจากคอลเซ็นเตอร์คือแฮ็กเกอร์ทั่วโลกร่วมกันจัดการตังมันทุกๆตัวก็ว่าจะระดับเดอะรัฐบาลเขมรหรือจีนเทาที่มาลงตังในเขมรก็ตาม,ถ้าแฮ๊กเกอร์ทั่วโลกลงขันให้พวกนี้ไปวัดพังทัังเขมรศูนย์บัญชาการใหญ่อาชญากรรมโลกที่เขมรลงได้นะ ทุกๆคนคือเดอะฮีโร่ของจริงเลยล่ะ,ต้องส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือคุ้มครองคนเหล่านี้ทันที,ไทยเราออกหน้าทางลับๆก็ได้,สายทหารเราก็ว่า,และแฮ็กเกอร์ทั่วโลกก็ช่วยเหลือคุ้มครองกันและกันด้วยเช่นกัน,สายตัดเคเบิลใต้ทะเลที่เขมรใช้สื่อสารสมควรมีด้วย,ตัดสายที่ทะเลดำก็ได้ที่ต่อมาเขมรหรือทะเลจีนใต้ก็ด้วยที่เคเบิลเน็ตผ่านทาง.มีหนาวแน่นอน,เน็ตเขมรตัดย่อมอนาถทันที,ยุคนี้ถ้าไม่ใช้เน็ตพวกนี้พังทันที,แฮ็กเน็ตดาวเทียมมันด้วยเช่นใช้starlinkก็แฉออกมาว่าเน็ตดาวเทียมstarlinkคือเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการก่ออาชญากรรมต่อชาวโลกด้วยของเขมรและการค้ามนุษย์ในเขมรก็ว่า,ประจานมันเลยหากแฮ็กstarlinkได้ยิ่งดี ปั่นจนระบบพังตกไปเลยหรือถ้าใช้บอลลูนบินจริงในดาวเทียมเน็ตต่างๆก็ทำลายระบบควบคุมลมบอลลูนเลยตกทุกๆดวงแน่นอน555.
    ..แฮ็กเกอร์คือองค์กรเฉพาะกิจหน่วยงานหนึ่งที่จำเป็น,และในหลายๆประเทศแบบอเมริกา จีน รัสเชีย และหลายๆชาติทั่วโลกตั้งตรงทางลับชัดเจนในการก่อการสาระพัด,และจะไม่ใช่ตั้งในประเทศตนเองด้วยเพื่อปิดบังสายตาชาวโลกมองมาที่ตนได้เด่นชัดเกินไป จึงตั้งบนประเทศอื่น เกาะอื่นๆแต่รับรู้สั่งการตรงใจกัน,มุมมืดในแต่ละชาติต้องมีประจำตัว เพราะบางอย่างไม่สามารถจัดการที่สว่างนั้นเองติดภาพผู้ดีในสายตาชาวโลกหนักไป,
    ..เขมรสมควรโดนนานแล้ว,เรา..ปล่อยเรื่องนี้นานเกินไปแล้วคือปล่อยให้รัฐบาลนี้ยังอยู่ทั้งหมดได้อย่างไร มีแต่จะทำให้ชาติไทยโกลาหลวุ่นวายไม่หยุดหย่อนจริงๆ.


    https://youtu.be/Ckm2Mt3Abtw?si=GonUGlwAffjYLSBO
    ..555,มาแล้ว. ..คุณคือฮีโร่ของไทย,ส่วนตัวถ้าเราเป็นแฮ็กเกอร์นะจะแฮ็กฯปล้นคริปโตฯโทเคนตังดิจิดัลของเดอะแก๊งทั้งหมดในเขมรเลยแล้วโอนตังมันทั้งหลายไปเข้าบัญชีบริจาคช่วยเหลือคนตกทุกข์คนยากจนคนพิการหรือเหยื่ออาชญากรรมและค้ามนุษยทั่วโลกเลย,โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่ดีๆดูแลรักษาคนลักษณะนี้ กระทั่งทุนวิจัยผลิตยารักษาคนฟรีๆสร้างโรงงานฟรีๆสกัดยาสาระพัดก็ด้วยเพื่อมุ่งไม่หวังผลตอบแทน,แฮ๊กดาต้าข้อมูลทุกๆคนที่ก่อการเป็นเครือข่ายในเขมรตลอดสนับสนุนเงินทุนด้วย,ร่วมกันแฮ็กทำลายมันจากแฮ็กเกอร์ทั่วโลกนะโดยแฮ็กเกอร์ไทยขอความร่วมมือจากแฮ็กเกอร์ทั่วโลกอีกทีจัดการเดอะแก็งทั้งหมดในเขมรจะตังจากค้ายาค้ามนุษย์ตังจากคอลเซ็นเตอร์คือแฮ็กเกอร์ทั่วโลกร่วมกันจัดการตังมันทุกๆตัวก็ว่าจะระดับเดอะรัฐบาลเขมรหรือจีนเทาที่มาลงตังในเขมรก็ตาม,ถ้าแฮ๊กเกอร์ทั่วโลกลงขันให้พวกนี้ไปวัดพังทัังเขมรศูนย์บัญชาการใหญ่อาชญากรรมโลกที่เขมรลงได้นะ ทุกๆคนคือเดอะฮีโร่ของจริงเลยล่ะ,ต้องส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือคุ้มครองคนเหล่านี้ทันที,ไทยเราออกหน้าทางลับๆก็ได้,สายทหารเราก็ว่า,และแฮ็กเกอร์ทั่วโลกก็ช่วยเหลือคุ้มครองกันและกันด้วยเช่นกัน,สายตัดเคเบิลใต้ทะเลที่เขมรใช้สื่อสารสมควรมีด้วย,ตัดสายที่ทะเลดำก็ได้ที่ต่อมาเขมรหรือทะเลจีนใต้ก็ด้วยที่เคเบิลเน็ตผ่านทาง.มีหนาวแน่นอน,เน็ตเขมรตัดย่อมอนาถทันที,ยุคนี้ถ้าไม่ใช้เน็ตพวกนี้พังทันที,แฮ็กเน็ตดาวเทียมมันด้วยเช่นใช้starlinkก็แฉออกมาว่าเน็ตดาวเทียมstarlinkคือเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการก่ออาชญากรรมต่อชาวโลกด้วยของเขมรและการค้ามนุษย์ในเขมรก็ว่า,ประจานมันเลยหากแฮ็กstarlinkได้ยิ่งดี ปั่นจนระบบพังตกไปเลยหรือถ้าใช้บอลลูนบินจริงในดาวเทียมเน็ตต่างๆก็ทำลายระบบควบคุมลมบอลลูนเลยตกทุกๆดวงแน่นอน555. ..แฮ็กเกอร์คือองค์กรเฉพาะกิจหน่วยงานหนึ่งที่จำเป็น,และในหลายๆประเทศแบบอเมริกา จีน รัสเชีย และหลายๆชาติทั่วโลกตั้งตรงทางลับชัดเจนในการก่อการสาระพัด,และจะไม่ใช่ตั้งในประเทศตนเองด้วยเพื่อปิดบังสายตาชาวโลกมองมาที่ตนได้เด่นชัดเกินไป จึงตั้งบนประเทศอื่น เกาะอื่นๆแต่รับรู้สั่งการตรงใจกัน,มุมมืดในแต่ละชาติต้องมีประจำตัว เพราะบางอย่างไม่สามารถจัดการที่สว่างนั้นเองติดภาพผู้ดีในสายตาชาวโลกหนักไป, ..เขมรสมควรโดนนานแล้ว,เรา..ปล่อยเรื่องนี้นานเกินไปแล้วคือปล่อยให้รัฐบาลนี้ยังอยู่ทั้งหมดได้อย่างไร มีแต่จะทำให้ชาติไทยโกลาหลวุ่นวายไม่หยุดหย่อนจริงๆ. https://youtu.be/Ckm2Mt3Abtw?si=GonUGlwAffjYLSBO
    0 Comments 0 Shares 285 Views 0 Reviews
  • ..เงินบริจาคคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา สามารถมอบให้ทหารฝ่ายนี้ของเราได้หากฝ่ายที่ว่าปฏิเสธเพื่อรักษาท่าที,ช่วยซื้ออุปกรณ์เครื่องมือที่สำคัญจำเป็นได้.
    ..ถ้าชัดเจนว่าเป็นมิติจากเกาหลีเหนือจริงมิใช่เป็นการปล่อยข่าวสร้างฝักสร้างฝ่ายให้เราแตกแยกกันเองในคนเอเชียด้วยกันและเกาหลีเหนือแทบไม่มีข่าวอะไรกับไทยเลย,หากคตเกาหลีเหนือรับใช้ฮุนเซนก็ต้องติดต่อประเทศเกาหลีเหนือโดยตรงเพื่อประสานงานว่าคนของตนมาร่วมในภัยคุกคามคร้งนี้จริงหรือไม่ เกาหลีเหนือควรมีท่าทีเพื่อจัดการคนนอกรีตสัญชาติเกาหลีเหนือของตนอย่างไร,ipหรือใดๆมาจากเขมรหรือมาจากเกาหลีเหนือ สิ่งนี้ต้องชัดเจนแก่เกาหนีเหนือพร้อมประสานทางจีนเพื่อพูดคุยบอกผ่านไปยังเกาหลีเหนือด้วยเพราะเป็นพี่ใหญ่ของเกาหลีเหนือต้องจัดการคนนอกรีตของตนในเขมรทันที,เพื่อมิให้อเมริกาหรือฝรั่งชาติตะวันตกมายึดฐานในไทยทำสงครามกับจีนได้สะดวกหรือตีเนียนว่าเขมรมีเกาหลีเหนือลูกน้องจีนหนุนหลังหรือจีนสนับสนุนเขมรทางอ้อมโดยผ่านคนเกาหลีเหนือมิตรสหายจีนนั้นเอง,เกาหลีเหนือต้องส่งคนของตนมากวาดล้างคนของตนในเขมรทันทีหรือสั่งสอนเขมรด้วยวิธีไซเบอร์จริงโจมตีเขมรล่มทั้งประเทศ,แฮ็กเงินทองฮุนเซนและคนตระกูลฮุนเซนทั้งหมดทั่วโลกเลยที่ฟอกตังชาวโลกที่ไปหลอกลวงมาทั่วโลกไปเก็บไว้เกาหลีเหนือเลย,พร้อมติดตามไล่ล่าคนสัญชาติเกาหลีเหนือนอกรีตนั้นที่มาให้ตะวันตกใช้เป็นของอ้างหาฝักฝ่ายในเอเชียเราชัดเจนขึ้น,นี้ล่ะจึงต้องตัดไฟฟ้าตัดเน็ตตัดสายเคเบิลในทะเลจริงมิให้เขมรใช้เป็นช่องทางเล่นงานไทยได้,มีประตูเดียวเกตเวย์เดียวจะตรวจจับและป้องกันภัยไซเบอร์ใดๆจากใครจะอยากโจมตีได้ระดับหนึ่ง เห็นโจรคนร้ายก็ง่าย,
    ..กระทรวงต่างประเทศไทยจีนไทยเกาหลีเหนือหากมีฑูตต้องประสานงานทันทีเพราะนัยยะจะดึงจะอ้างเกาหลีเหนือพันธมิตรจีนมาเล่นแบบนี้ไม่ดี,เสมือนเขมรกำลังดึงชาติยุโรปตะวันตกอเมริกามาร่วมเป็นสงครามตัวแทนจนถึงให้ไทยเป็นฐานฝรั่งเพื่อทำสงครามกับจีนได้,โดยเขมรกำลังบอกเป็นนัยยะว่าตนมีเกาหลีเหนือและจีนสนับสนุนหนุนหลังเต็มที่ทางลับๆนะ,ไทยคือพวกตะวันตกอเมริกาและชาติฝรั่งยุโรปหนุนพะนะ,เขมรจึงตัวป่วนสร้างสงครามระดับภูมิภาคอาเชียนจนถึงดึงถึงระดับเอเชียแบบจีนกับอเมริกาได้,นี้คือภัยที่ประเทศอาเชียนต้องคว่ำบาตรเขมรตัดเสบียงเขมรไม่สนับสนุนทั้งหมด,แน่นอนหลายชาติทั่วโลกและอาเชียนโดยโจมตีทางไซเบอร์จากเขมรแน่นอน มันทำกับไทยอย่างเปิดเผย,แสดงว่าที่ไม่เปิดเผยก็ไม่รอดแน่ๆที่ผ่านๆมา และข้อมูลที่เดอะแก๊งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ได้หลอกลวงเหยื่อสำเร็จก็ได้มาจากการโจมตีแฮ็กระบบดูดข้อมูลด้วยหัวหน้าใหญ่ชาติเขมรสั่งการนี้เอง,หรือการโจมตีสาระพัดรูปแบบให้ได้ซึ่งใดๆสู่เขมรมาจากเขมรนี้ล่ะ
    ..แฮ็กเกอร์ดีๆทั่วโลก สามารถแฮ็กโจมตีเอาตังเอาทองของคนตระกูลฮุนเซนที่ฟอกตังทั่วโลกได้เลยนะ,ไม่ผิดหรอก,ทหารนิรนามมือพระกาฬทั่วโลกก็แฮ๊กตังแฮ็กคริปโตฯโทเคนตระกูลฮุนเซนหรือเงินทองที่ฝากๆไว้ทั่วโลกได้เพราะคนอาชญากรรมของโลก ชาวโลกต้องร่วมกันกำจัด,ฮับเจ้าพ่อใหญ่ควบคุมเขมรเอง เปิดเผยตัวตนขนาดนี้ เดอะแฮ็กเกอร์ทั่วโลกสมควรจัดการมันด้วย.

    https://youtu.be/kkeSLysOwKQ?si=MDVtQ6QZT-11ztDs
    ..เงินบริจาคคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา สามารถมอบให้ทหารฝ่ายนี้ของเราได้หากฝ่ายที่ว่าปฏิเสธเพื่อรักษาท่าที,ช่วยซื้ออุปกรณ์เครื่องมือที่สำคัญจำเป็นได้. ..ถ้าชัดเจนว่าเป็นมิติจากเกาหลีเหนือจริงมิใช่เป็นการปล่อยข่าวสร้างฝักสร้างฝ่ายให้เราแตกแยกกันเองในคนเอเชียด้วยกันและเกาหลีเหนือแทบไม่มีข่าวอะไรกับไทยเลย,หากคตเกาหลีเหนือรับใช้ฮุนเซนก็ต้องติดต่อประเทศเกาหลีเหนือโดยตรงเพื่อประสานงานว่าคนของตนมาร่วมในภัยคุกคามคร้งนี้จริงหรือไม่ เกาหลีเหนือควรมีท่าทีเพื่อจัดการคนนอกรีตสัญชาติเกาหลีเหนือของตนอย่างไร,ipหรือใดๆมาจากเขมรหรือมาจากเกาหลีเหนือ สิ่งนี้ต้องชัดเจนแก่เกาหนีเหนือพร้อมประสานทางจีนเพื่อพูดคุยบอกผ่านไปยังเกาหลีเหนือด้วยเพราะเป็นพี่ใหญ่ของเกาหลีเหนือต้องจัดการคนนอกรีตของตนในเขมรทันที,เพื่อมิให้อเมริกาหรือฝรั่งชาติตะวันตกมายึดฐานในไทยทำสงครามกับจีนได้สะดวกหรือตีเนียนว่าเขมรมีเกาหลีเหนือลูกน้องจีนหนุนหลังหรือจีนสนับสนุนเขมรทางอ้อมโดยผ่านคนเกาหลีเหนือมิตรสหายจีนนั้นเอง,เกาหลีเหนือต้องส่งคนของตนมากวาดล้างคนของตนในเขมรทันทีหรือสั่งสอนเขมรด้วยวิธีไซเบอร์จริงโจมตีเขมรล่มทั้งประเทศ,แฮ็กเงินทองฮุนเซนและคนตระกูลฮุนเซนทั้งหมดทั่วโลกเลยที่ฟอกตังชาวโลกที่ไปหลอกลวงมาทั่วโลกไปเก็บไว้เกาหลีเหนือเลย,พร้อมติดตามไล่ล่าคนสัญชาติเกาหลีเหนือนอกรีตนั้นที่มาให้ตะวันตกใช้เป็นของอ้างหาฝักฝ่ายในเอเชียเราชัดเจนขึ้น,นี้ล่ะจึงต้องตัดไฟฟ้าตัดเน็ตตัดสายเคเบิลในทะเลจริงมิให้เขมรใช้เป็นช่องทางเล่นงานไทยได้,มีประตูเดียวเกตเวย์เดียวจะตรวจจับและป้องกันภัยไซเบอร์ใดๆจากใครจะอยากโจมตีได้ระดับหนึ่ง เห็นโจรคนร้ายก็ง่าย, ..กระทรวงต่างประเทศไทยจีนไทยเกาหลีเหนือหากมีฑูตต้องประสานงานทันทีเพราะนัยยะจะดึงจะอ้างเกาหลีเหนือพันธมิตรจีนมาเล่นแบบนี้ไม่ดี,เสมือนเขมรกำลังดึงชาติยุโรปตะวันตกอเมริกามาร่วมเป็นสงครามตัวแทนจนถึงให้ไทยเป็นฐานฝรั่งเพื่อทำสงครามกับจีนได้,โดยเขมรกำลังบอกเป็นนัยยะว่าตนมีเกาหลีเหนือและจีนสนับสนุนหนุนหลังเต็มที่ทางลับๆนะ,ไทยคือพวกตะวันตกอเมริกาและชาติฝรั่งยุโรปหนุนพะนะ,เขมรจึงตัวป่วนสร้างสงครามระดับภูมิภาคอาเชียนจนถึงดึงถึงระดับเอเชียแบบจีนกับอเมริกาได้,นี้คือภัยที่ประเทศอาเชียนต้องคว่ำบาตรเขมรตัดเสบียงเขมรไม่สนับสนุนทั้งหมด,แน่นอนหลายชาติทั่วโลกและอาเชียนโดยโจมตีทางไซเบอร์จากเขมรแน่นอน มันทำกับไทยอย่างเปิดเผย,แสดงว่าที่ไม่เปิดเผยก็ไม่รอดแน่ๆที่ผ่านๆมา และข้อมูลที่เดอะแก๊งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ได้หลอกลวงเหยื่อสำเร็จก็ได้มาจากการโจมตีแฮ็กระบบดูดข้อมูลด้วยหัวหน้าใหญ่ชาติเขมรสั่งการนี้เอง,หรือการโจมตีสาระพัดรูปแบบให้ได้ซึ่งใดๆสู่เขมรมาจากเขมรนี้ล่ะ ..แฮ็กเกอร์ดีๆทั่วโลก สามารถแฮ็กโจมตีเอาตังเอาทองของคนตระกูลฮุนเซนที่ฟอกตังทั่วโลกได้เลยนะ,ไม่ผิดหรอก,ทหารนิรนามมือพระกาฬทั่วโลกก็แฮ๊กตังแฮ็กคริปโตฯโทเคนตระกูลฮุนเซนหรือเงินทองที่ฝากๆไว้ทั่วโลกได้เพราะคนอาชญากรรมของโลก ชาวโลกต้องร่วมกันกำจัด,ฮับเจ้าพ่อใหญ่ควบคุมเขมรเอง เปิดเผยตัวตนขนาดนี้ เดอะแฮ็กเกอร์ทั่วโลกสมควรจัดการมันด้วย. https://youtu.be/kkeSLysOwKQ?si=MDVtQ6QZT-11ztDs
    0 Comments 0 Shares 333 Views 0 Reviews
  • Meta เคยเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ — มี Facebook ครองโลก, ซื้อ Instagram มาต่อยอด, ทุ่มเงินซื้อ WhatsApp พร้อมสัญญาว่าจะไม่มีโฆษณา…แต่สุดท้ายทุกอย่างกำลังย้อนกลับ

    WhatsApp ตอนนี้มีโฆษณา Metaverse ทุ่มเงินหลายพันล้านเหรียญ → ยังไม่เห็นผล Libra (คริปโตของ Meta) → ตาย แม้แต่ AI — LLaMA ยังตามหลัง ChatGPT, Claude และ Gemini อยู่หลายร้อยแต้ม

    นักเขียนบทความนี้ (Howard Yu) วิเคราะห์ว่า Mark Zuckerberg เรียนรู้เชิงธุรกิจเก่งมาก แต่ “ไม่เคยเรียนรู้จากผลกระทบที่ Meta ก่อในสังคม” เช่น การถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่น, ปัญหาสุขภาพจิตวัยรุ่น, และกรณีรุนแรงอย่างความขัดแย้งในเมียนมา

    บทวิเคราะห์เปรียบเทียบ Mark กับ Steve Jobs ไว้อย่างน่าสนใจ:
    - Jobs เคยผิดพลาด, เคยล้ม, เคยถูกไล่ออกจาก Apple
    - แต่เขากลับมาใหม่ด้วยการ “เติบโตทางจิตใจ” ไม่ใช่แค่ทางเทคโนโลยี
    - เขายอมฟังคนอื่น, สร้างทีมที่เก่งกว่า, ไม่พยายามควบคุมทุกอย่าง → และสร้าง Apple ยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง

    ส่วน Zuckerberg ใช้อำนาจหุ้นพิเศษ (super-voting shares) ทำให้ไม่มีใครปลดเขาได้ → ไม่มีแรงกดดันให้เติบโต เปลี่ยนแปลง หรือยอมรับความผิดพลาด → ผลลัพธ์คือ Meta วนลูปเดิม ๆ — ปรับ feed เพิ่ม engagement → ขายโฆษณา → repeat

    Meta เคยล้มเหลวหลายโปรเจกต์ใหญ่:  
    • Facebook phone → ล้มเหลว  
    • Free Basics → ถูกแบนในอินเดีย  
    • Libra → ถูกต่อต้านโดยรัฐบาล  
    • Metaverse → ทุ่มเงินมหาศาล แต่ยังไม่คืนทุน

    AI ของ Meta (LLaMA 4) ยังตามหลัง OpenAI (ChatGPT), Anthropic (Claude), Google (Gemini)  
    • คะแนน Elo ห่างคู่แข่งหลายสิบถึงหลายร้อยแต้ม  
    • แม้ใช้ open-source เป็นยุทธศาสตร์หลัก แต่ยังไม่ดึงใจนักพัฒนาเท่าที่ควร

    ผู้เขียนชี้ว่า Zuckerberg ไม่เคยเรียนรู้จาก ‘ผลเสียต่อสังคม’ ที่ Meta สร้างไว้:  
    • กรณี Facebook ในเมียนมา → ปล่อยให้ Hate speech ลุกลาม  
    • Facebook ถูกใช้ในการปลุกระดม, ปั่นเลือกตั้ง (Cambridge Analytica)  
    • ระบบโฆษณาใช้ microtargeting เพื่อกด turnout กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่ม

    โครงสร้างอำนาจของ Meta = Zuckerberg คุมทุกอย่าง:  
    • เขาถือหุ้น 13% แต่มีสิทธิ์โหวตกว่า 50%  
    • ไม่มีใครปลดเขาได้ จึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อใคร

    เปรียบเทียบกับ Steve Jobs:  
    • Jobs ล้มเหลว, ถูกไล่ออกจาก Apple  
    • แต่กลับมาใหม่แบบถ่อมตนและเรียนรู้  
    • สร้างวัฒนธรรมที่ Apple แข็งแรงพอจะอยู่ได้แม้เขาจากไป

    Meta แม้จะยังทำเงินได้มากจากโฆษณา แต่กำลัง “ไร้วิสัยทัศน์ที่สดใหม่” สำหรับโลกยุคหลังโฆษณา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/01/why-mark-zuckerberg-and-meta-cant-build-the-future
    Meta เคยเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ — มี Facebook ครองโลก, ซื้อ Instagram มาต่อยอด, ทุ่มเงินซื้อ WhatsApp พร้อมสัญญาว่าจะไม่มีโฆษณา…แต่สุดท้ายทุกอย่างกำลังย้อนกลับ WhatsApp ตอนนี้มีโฆษณา Metaverse ทุ่มเงินหลายพันล้านเหรียญ → ยังไม่เห็นผล Libra (คริปโตของ Meta) → ตาย แม้แต่ AI — LLaMA ยังตามหลัง ChatGPT, Claude และ Gemini อยู่หลายร้อยแต้ม นักเขียนบทความนี้ (Howard Yu) วิเคราะห์ว่า Mark Zuckerberg เรียนรู้เชิงธุรกิจเก่งมาก แต่ “ไม่เคยเรียนรู้จากผลกระทบที่ Meta ก่อในสังคม” เช่น การถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่น, ปัญหาสุขภาพจิตวัยรุ่น, และกรณีรุนแรงอย่างความขัดแย้งในเมียนมา บทวิเคราะห์เปรียบเทียบ Mark กับ Steve Jobs ไว้อย่างน่าสนใจ: - Jobs เคยผิดพลาด, เคยล้ม, เคยถูกไล่ออกจาก Apple - แต่เขากลับมาใหม่ด้วยการ “เติบโตทางจิตใจ” ไม่ใช่แค่ทางเทคโนโลยี - เขายอมฟังคนอื่น, สร้างทีมที่เก่งกว่า, ไม่พยายามควบคุมทุกอย่าง → และสร้าง Apple ยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง ส่วน Zuckerberg ใช้อำนาจหุ้นพิเศษ (super-voting shares) ทำให้ไม่มีใครปลดเขาได้ → ไม่มีแรงกดดันให้เติบโต เปลี่ยนแปลง หรือยอมรับความผิดพลาด → ผลลัพธ์คือ Meta วนลูปเดิม ๆ — ปรับ feed เพิ่ม engagement → ขายโฆษณา → repeat ✅ Meta เคยล้มเหลวหลายโปรเจกต์ใหญ่:   • Facebook phone → ล้มเหลว   • Free Basics → ถูกแบนในอินเดีย   • Libra → ถูกต่อต้านโดยรัฐบาล   • Metaverse → ทุ่มเงินมหาศาล แต่ยังไม่คืนทุน ✅ AI ของ Meta (LLaMA 4) ยังตามหลัง OpenAI (ChatGPT), Anthropic (Claude), Google (Gemini)   • คะแนน Elo ห่างคู่แข่งหลายสิบถึงหลายร้อยแต้ม   • แม้ใช้ open-source เป็นยุทธศาสตร์หลัก แต่ยังไม่ดึงใจนักพัฒนาเท่าที่ควร ✅ ผู้เขียนชี้ว่า Zuckerberg ไม่เคยเรียนรู้จาก ‘ผลเสียต่อสังคม’ ที่ Meta สร้างไว้:   • กรณี Facebook ในเมียนมา → ปล่อยให้ Hate speech ลุกลาม   • Facebook ถูกใช้ในการปลุกระดม, ปั่นเลือกตั้ง (Cambridge Analytica)   • ระบบโฆษณาใช้ microtargeting เพื่อกด turnout กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่ม ✅ โครงสร้างอำนาจของ Meta = Zuckerberg คุมทุกอย่าง:   • เขาถือหุ้น 13% แต่มีสิทธิ์โหวตกว่า 50%   • ไม่มีใครปลดเขาได้ จึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อใคร ✅ เปรียบเทียบกับ Steve Jobs:   • Jobs ล้มเหลว, ถูกไล่ออกจาก Apple   • แต่กลับมาใหม่แบบถ่อมตนและเรียนรู้   • สร้างวัฒนธรรมที่ Apple แข็งแรงพอจะอยู่ได้แม้เขาจากไป ✅ Meta แม้จะยังทำเงินได้มากจากโฆษณา แต่กำลัง “ไร้วิสัยทัศน์ที่สดใหม่” สำหรับโลกยุคหลังโฆษณา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/01/why-mark-zuckerberg-and-meta-cant-build-the-future
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Why Mark Zuckerberg and Meta can't build the future
    Here's how absolute power trapped Facebook's parent company — and how Steve Jobs broke free.
    0 Comments 0 Shares 406 Views 0 Reviews
  • หลายคนอาจไม่รู้ว่า Bitcoin ATM ไม่ได้เหมือน ATM ธนาคารนะครับ มันคือ “ตู้แลกเงิน” ที่คุณเอาเงินสดเข้าไป แล้วระบบจะโอน Bitcoin เข้า wallet ของคุณ — เงินสดที่ใส่เข้าไปก็จะเป็นของบริษัทเจ้าของเครื่องทันที เพราะเค้าได้โอนคริปโตให้เราไปแล้ว

    แต่ที่ Jasper County, รัฐเท็กซัส ตำรวจกลับใช้เลื่อยเปิดตู้ของบริษัท Bitcoin Depot เพื่อ “เอาเงิน $25,000 คืนให้เหยื่อ” ที่ถูกหลอกให้ฝากเงินสดเข้าไปส่งไปยัง wallet ของมิจฉาชีพ

    บริษัท Bitcoin Depot โวยว่าการกระทำแบบนี้คือ “สร้างเหยื่อเพิ่ม” เพราะ:
    - เงินสดข้างในเป็นของบริษัทแล้วตามกฎหมาย
    - ทางบริษัทพร้อมให้ความร่วมมืออยู่แล้วหากมีหมายค้น
    - แต่แทนที่จะให้บริษัทเปิดให้ กลับเลื่อยเครื่องที่ราคาตั้ง $14,000 ทิ้งไปเลย

    พวกเขาเตรียมเรียกค่าเสียหายและดำเนินคดีทางกฎหมายกับหน่วยงานท้องถิ่นดังกล่าว โดยระบุว่าเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดถึง 20 ครั้ง/ปีจากทั่วสหรัฐฯ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/bitcoin-firm-says-police-shouldnt-saw-open-bitcoin-atms-to-seize-cash-for-scammed-customers-will-seek-damages-for-destroyed-machines-firm-claims-seizures-are-criminal-and-victimize-the-company
    หลายคนอาจไม่รู้ว่า Bitcoin ATM ไม่ได้เหมือน ATM ธนาคารนะครับ มันคือ “ตู้แลกเงิน” ที่คุณเอาเงินสดเข้าไป แล้วระบบจะโอน Bitcoin เข้า wallet ของคุณ — เงินสดที่ใส่เข้าไปก็จะเป็นของบริษัทเจ้าของเครื่องทันที เพราะเค้าได้โอนคริปโตให้เราไปแล้ว แต่ที่ Jasper County, รัฐเท็กซัส ตำรวจกลับใช้เลื่อยเปิดตู้ของบริษัท Bitcoin Depot เพื่อ “เอาเงิน $25,000 คืนให้เหยื่อ” ที่ถูกหลอกให้ฝากเงินสดเข้าไปส่งไปยัง wallet ของมิจฉาชีพ บริษัท Bitcoin Depot โวยว่าการกระทำแบบนี้คือ “สร้างเหยื่อเพิ่ม” เพราะ: - เงินสดข้างในเป็นของบริษัทแล้วตามกฎหมาย - ทางบริษัทพร้อมให้ความร่วมมืออยู่แล้วหากมีหมายค้น - แต่แทนที่จะให้บริษัทเปิดให้ กลับเลื่อยเครื่องที่ราคาตั้ง $14,000 ทิ้งไปเลย พวกเขาเตรียมเรียกค่าเสียหายและดำเนินคดีทางกฎหมายกับหน่วยงานท้องถิ่นดังกล่าว โดยระบุว่าเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดถึง 20 ครั้ง/ปีจากทั่วสหรัฐฯ https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/bitcoin-firm-says-police-shouldnt-saw-open-bitcoin-atms-to-seize-cash-for-scammed-customers-will-seek-damages-for-destroyed-machines-firm-claims-seizures-are-criminal-and-victimize-the-company
    0 Comments 0 Shares 231 Views 0 Reviews
  • ย้อนกลับไปปีที่แล้ว CoreWeave เคยเสนอยื่นซื้อกิจการ Core Scientific มาแล้วครั้งหนึ่งด้วยเงิน $1.02 พันล้าน แต่ถูกปฏิเสธเพราะทาง CoreSci มองว่ามูลค่าดังกล่าวยังต่ำกว่าความเป็นจริง

    เวลาผ่านไป…ดูเหมือนสถานการณ์เปลี่ยนครับ เพราะวันนี้ WSJ รายงานว่า ทั้งสองบริษัท “กลับมาเจรจากันใหม่” และอาจปิดดีลได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

    อะไรคือเหตุผลเบื้องหลัง? เพราะตอนนี้บริษัท AI อย่าง CoreWeave ต้องการ “แหล่งพลังงานราคาถูกและพร้อมใช้งานได้ทันที” — ซึ่งตรงกับสิ่งที่ CoreSci มีอยู่ เพราะศูนย์เหมืองคริปโตต้องใช้ไฟมหาศาลระดับหลายร้อยเมกะวัตต์อยู่แล้ว และมีสัญญาโรงไฟฟ้าระยะยาวพร้อมใช้งาน

    นอกจากนี้ ทั้งคู่เพิ่งเซ็นสัญญาร่วมกันไปเมื่อกลางปี 2024 โดย CoreSci จะจัดหาโครงสร้างพื้นฐาน 200 เมกะวัตต์ให้ CoreWeave ใช้กับการประมวลผล AI

    CoreWeave กำลังเจรจาซื้อกิจการ Core Scientific อีกครั้ง หลังเคยถูกปฏิเสธเมื่อปีที่แล้ว  
    • รอบก่อนเสนอซื้อที่ $1.02 พันล้าน หรือ $5.75/หุ้น แต่โดนปัดตกว่า “ราคาต่ำเกินไป”

    ดีลใหม่นี้มีมูลค่ายังไม่เปิดเผย และยังอยู่ระหว่างเจรจา  
    • หากสำเร็จ อาจเสร็จสิ้นภายในไม่กี่สัปดาห์

    Core Scientific ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดราว $4 พันล้าน  
    • ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 8% หลังมีข่าวเจรจา

    ทั้งสองบริษัทมีสัญญาระยะยาวร่วมกันอยู่แล้ว  
    • CoreSci ให้พลังงาน 200MW สำหรับศูนย์ AI ของ CoreWeave  
    • เป็นระบบพลังงานระดับ “High-performance computing infrastructure”

    เทรนด์ในอุตสาหกรรมตอนนี้: บริษัท AI ซื้อหรือร่วมมือกับผู้ขุดเหมืองคริปโตเพื่อแย่งพลังงานราคาถูก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/27/coreweave-in-talks-to-buy-core-scientific-wsj-reports
    ย้อนกลับไปปีที่แล้ว CoreWeave เคยเสนอยื่นซื้อกิจการ Core Scientific มาแล้วครั้งหนึ่งด้วยเงิน $1.02 พันล้าน แต่ถูกปฏิเสธเพราะทาง CoreSci มองว่ามูลค่าดังกล่าวยังต่ำกว่าความเป็นจริง เวลาผ่านไป…ดูเหมือนสถานการณ์เปลี่ยนครับ เพราะวันนี้ WSJ รายงานว่า ทั้งสองบริษัท “กลับมาเจรจากันใหม่” และอาจปิดดีลได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า อะไรคือเหตุผลเบื้องหลัง? เพราะตอนนี้บริษัท AI อย่าง CoreWeave ต้องการ “แหล่งพลังงานราคาถูกและพร้อมใช้งานได้ทันที” — ซึ่งตรงกับสิ่งที่ CoreSci มีอยู่ เพราะศูนย์เหมืองคริปโตต้องใช้ไฟมหาศาลระดับหลายร้อยเมกะวัตต์อยู่แล้ว และมีสัญญาโรงไฟฟ้าระยะยาวพร้อมใช้งาน นอกจากนี้ ทั้งคู่เพิ่งเซ็นสัญญาร่วมกันไปเมื่อกลางปี 2024 โดย CoreSci จะจัดหาโครงสร้างพื้นฐาน 200 เมกะวัตต์ให้ CoreWeave ใช้กับการประมวลผล AI ✅ CoreWeave กำลังเจรจาซื้อกิจการ Core Scientific อีกครั้ง หลังเคยถูกปฏิเสธเมื่อปีที่แล้ว   • รอบก่อนเสนอซื้อที่ $1.02 พันล้าน หรือ $5.75/หุ้น แต่โดนปัดตกว่า “ราคาต่ำเกินไป” ✅ ดีลใหม่นี้มีมูลค่ายังไม่เปิดเผย และยังอยู่ระหว่างเจรจา   • หากสำเร็จ อาจเสร็จสิ้นภายในไม่กี่สัปดาห์ ✅ Core Scientific ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดราว $4 พันล้าน   • ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 8% หลังมีข่าวเจรจา ✅ ทั้งสองบริษัทมีสัญญาระยะยาวร่วมกันอยู่แล้ว   • CoreSci ให้พลังงาน 200MW สำหรับศูนย์ AI ของ CoreWeave   • เป็นระบบพลังงานระดับ “High-performance computing infrastructure” ✅ เทรนด์ในอุตสาหกรรมตอนนี้: บริษัท AI ซื้อหรือร่วมมือกับผู้ขุดเหมืองคริปโตเพื่อแย่งพลังงานราคาถูก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/27/coreweave-in-talks-to-buy-core-scientific-wsj-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    CoreWeave in talks to buy Core Scientific, WSJ reports
    (Reuters) -CoreWeave is in talks to buy Core Scientific, after the bitcoin miner rejected an earlier deal from the cloud provider last year, the Wall Street Journal reported on Thursday, citing people familiar with the matter.
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • ถ้าคุณคิดว่าเรื่องคริปโตคือแค่เทรนด์การลงทุน... FATF อยากให้เราคิดใหม่ เพราะตอนนี้พวกเขาเห็นแล้วว่า คริปโตกลายเป็นช่องทางหลักของการฟอกเงิน, การหลอกลวง, และการสนับสนุนอาชญากรรมข้ามชาติ

    จากรายงานล่าสุดของ FATF ระบุว่า:
    - มีเงินคริปโตที่อาจมาจากกิจกรรมผิดกฎหมายสูงถึง $51,000 ล้านในปี 2024
    - แต่จาก 138 ประเทศที่ FATF ตรวจสอบ มีแค่ 40 ประเทศเท่านั้น ที่มีระบบควบคุมตามมาตรฐาน
    - ทำให้การ “หลบกฎหมาย” สามารถเกิดขึ้นได้ง่าย — เพราะคริปโตเคลื่อนข้ามพรมแดนได้เร็วมาก

    เรื่องนี้ไม่ได้แค่ในเชิงสถิติ เพราะ FATF ยังเตือนว่า พวกที่ใช้ stablecoin (เหรียญที่ผูกกับเงินจริง) กลายเป็นกลไกหลักของกลุ่มผิดกฎหมาย เช่น เกาหลีเหนือ, ผู้ก่อการร้าย, และขบวนการค้ายาเสพติด

    ตัวอย่างล่าสุดคือ FBI ยืนยันว่า เกาหลีเหนือขโมยคริปโตมูลค่ากว่า $1.5 พันล้านจาก ByBit เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ — เป็นการโจรกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์คริปโต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/26/global-financial-crime-watchdog-calls-for-action-on-crypto-risks
    ถ้าคุณคิดว่าเรื่องคริปโตคือแค่เทรนด์การลงทุน... FATF อยากให้เราคิดใหม่ เพราะตอนนี้พวกเขาเห็นแล้วว่า คริปโตกลายเป็นช่องทางหลักของการฟอกเงิน, การหลอกลวง, และการสนับสนุนอาชญากรรมข้ามชาติ จากรายงานล่าสุดของ FATF ระบุว่า: - มีเงินคริปโตที่อาจมาจากกิจกรรมผิดกฎหมายสูงถึง $51,000 ล้านในปี 2024 - แต่จาก 138 ประเทศที่ FATF ตรวจสอบ มีแค่ 40 ประเทศเท่านั้น ที่มีระบบควบคุมตามมาตรฐาน - ทำให้การ “หลบกฎหมาย” สามารถเกิดขึ้นได้ง่าย — เพราะคริปโตเคลื่อนข้ามพรมแดนได้เร็วมาก เรื่องนี้ไม่ได้แค่ในเชิงสถิติ เพราะ FATF ยังเตือนว่า พวกที่ใช้ stablecoin (เหรียญที่ผูกกับเงินจริง) กลายเป็นกลไกหลักของกลุ่มผิดกฎหมาย เช่น เกาหลีเหนือ, ผู้ก่อการร้าย, และขบวนการค้ายาเสพติด ตัวอย่างล่าสุดคือ FBI ยืนยันว่า เกาหลีเหนือขโมยคริปโตมูลค่ากว่า $1.5 พันล้านจาก ByBit เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ — เป็นการโจรกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์คริปโต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/26/global-financial-crime-watchdog-calls-for-action-on-crypto-risks
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Global financial crime watchdog calls for action on crypto risks
    PARIS (Reuters) -The Financial Action Task Force (FATF), a global financial crime watchdog, on Thursday called on countries to take stronger action to combat illicit finance in crypto assets, warning that gaps in regulation could have global repercussions.
    0 Comments 0 Shares 353 Views 0 Reviews
  • ..ใครคงสังเกตุเห็นชัดในข่าวว่าโทนี่ใส่ปลอกคอว่าเป็นการไม่สบายที่คอนะ,กูรูบางคนสายใต้ดินบอกว่าโทนี่ตัวจริงไม่มีแล้ว,ที่เห็นคือตัวปลอม,ตัวโคลนหรือหุ่นยนต์ก็ได้หมด ส่วนใครอยู่เบื้องหลังให้เข้ามาทำภารกิจอะไรก็ไม่รู้,คลิปนี้มันสามารถทำเป็นคนไหนก็ได้จริงๆล่ะยิ่งแค่ถ่ายทำออกสื่อผ่านโชเซียบคลิปวีดีโอต่างๆอีก,ในต่างประเทศเล่นกันแบบไม่แคร์ประชาชนเลยในผู้นำต่างๆคงเห็นว่าประชาชนเขาคือวัวคือควายมั้งจึงกะจะหลอกลวงประชาชนง่ายๆผ่านสื่อได้,พวกหุ่นยนต์มันวิวัฒนาการไปไกลมาก,ปะปนในชนชั้นปกครองและโดยเฉพาะพวกกิจการบริษัทใหญ่ๆแต่ละประเทศนั้นๆหมดแล้ว,เพราะระบบทาสตังคือกลไกสำคัญควบคุมวิถีโลก,ขาดตังขาดเงินไปวัดแน่นอน,เช่นอเมริการหนี้กว่า36-37ล้านล้านเหรียญ,ญี่ปุ่นก็จะล่มละลายแหล่ไม่ละลายแหล่ในตอนนี้ก็เพราะกลไกตังทั้งนั้น ตลาดหุ้นก็ปั่นหาตัง,ป่วนกระแสสงครามใครเก็งส่วนต่างซื้อนั้นนี้ไว้กำไรตรึมล่ะ,แบบโทนี่เล่นค่าเงินจนร่ำรวยนั้นล่ะบนหายนะคนทั้งชาติ,ระเบิดEMPอาจสามารถทำลายระบบกลไกอิเล็กทรอนิกส์หุ่นยนต์ได้จริงๆก็ได้,พวกมันใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนตนเอง,มนุษย์ไม่ได้รับผลกระทบอะไร,นี้ไม่รวมตัวเหี้ยต่างๆที่เต็มโลกนี้ด้วยเลย,กล่าวแค่พวกหุ่นยนต์แค่นั้น.,และพวกมันกำลังผลักดันให้ชาวโลกไปสู่การเล่นในเกมส์ของมันที่ชำนาญและควบคุมได้ในกระดานของมัน,เช่นตังดิจิดัลอิเล็กทรอนิกส์คริปโตฯโทเคนต่างๆตลอดสินทรัพย์ดิจิดัลด้วย,ฟอกตังก็ง่าย,ชงเข้าระบบตีค่าปั่นตัวเลขก็ง่ายอีก,ค้ำประกันทองคำคือข้ออ้าง ตาไทบ้านประชาชนจะมีปัญญาไปรู้เห็นอะไรจริงตรวจสอบตลอดเวลาไม่เคลื่อนย้ายได้,สมมุติอ้างว่าโลกสะพัดตังดิจิดัลทั่วโลกคือ1,000ล้านล้านเหรียญตังดิจิดัลต่อวัน,ทองคำค้ำๆอาจกำลังเดินทางออกนอกโลกผ่านประตูมิติหลายๆที่ทั่วโลกก็ได้แบบทองคำเดินทางไปแล้วไม่ยอมกลับมาที่โลกอีกเลย,หรือเผาต่างดาวหนึ่งใช้ทองคำเผาสร้างโลกมันนั้นล่ะหากบรรยากาศโลกมันที่เอาทองคำไปสร้างบรรยากาศไม่สมดุลโลกมันจะตาย มนุษย์โลกมันจะตายหมด,จึงเดินทางไปทั่วจักรวาลอื่นๆไล่ล่าทองคำไปทั่ว,มาเจอโลกก็ขุดง่ายย้ายสะดวก,มายุคนี้จึงหามุก,สร้างตังดิจิดัลเพื่อรวบรวมทองคำง่ายๆก็ว่า.ส่งไปดาวมันโดยมีหุ่นยนต์เอไอล้ำสมัยคือกลไกมาลวงโลกให้สู่การควบคุมของมันง่ายขึ้นเพราะมันคือเจ้าของระบบก็ว่า.,ต่างดาวล้ำก็เราแน่นอนตลอดทางปัญญจิตด้วย.,เราเกิดมาโง่ทันที รู้อะไรล่ะ ต้องมาเข้าโรงเรียนมาเรียนให้หายโง่อีก,พวกมันอาจเกิดทันทีฉลาดทันทีเลยไอคิวเกินพันอัพตั้งแต่เด็กหรือโหลดข้อมูลใส่สมองทันทีก็ว่าอาจชนิดบันทึกใส่dnaแล้วประมวลตามทันใจให้ผลใดๆที่ต้องการเห็นค่าเกิดขึ้นตามต้องการได้ถอดรหัสdnaควอนตัมฉลาดทันทีก็ว่าที่ต้องการจะรู้อะไรใดๆ,เทียบคนบนโลกเราโง่บรมเลยล่ะ..
    ..ประเทศไทยสมควรเปลี่ยนแปลงจริงๆ,ผู้นำการปกครองในเวลานี้ต้องถีบออกทันที,ยุคสมัยเดิมๆต้องเปลี่ยนไป,คือยุคที่มืดบอดก็ว่า,โลกใบนี้ต้องเปิดรับอารยะธรรมดีๆจากทั่วจักรวาลได้แล้วจริงๆ อารยะธรรมไม่ดีต้องถูกย้ายออกจากดาวโลกเราใบนี้ทันที,ยานแม่มาดูดคนพวกนี้ไปดาวอื่นที่ระดับจิตเหี้ยเท่ากันก็ต้องดูดไปจริงๆ.

    เทคโนโลยีหุ่นยนต์นั้นก้าวหน้ากว่าที่เราคิดมาก

    พวกมันแสร้งทำเป็นว่าทำการวิจัย แต่สิ่งที่พวกมันทำคือเบี่ยงเบนความสนใจของมนุษยชาติจากความเป็นจริง นอกจากโคลนและลูกผสมแล้ว เรายังพบหุ่นยนต์ในระดับการตัดสินใจทางการเมืองและเศรษฐกิจอีกด้วย พวกมันอนุมัติการตัดสินใจ และเราสงสัยว่าทำไมโลกของเราถึงเป็นแบบนี้ คนที่เป็นวิญญาณจะไม่ทำตามเลย

    สิ่งที่คุณต้องการก็คือหัวที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์และผิวหนังเทียมที่ทำจากลาเท็กซ์ที่ปกคลุมหัวและลำตัวเท่านั้นเอง

    ปัจจุบันมีหุ่นยนต์ AI ที่ซับซ้อนซึ่งสามารถพูด วิ่ง เลือดออก และแทบจะเหมือนกับมนุษย์ทุกประการทั้งภายนอกและภายใน (อีลอน มัสก์)

    ยกเว้นว่าพวกมันไม่มีวิญญาณและไม่มีจิตสำนึก พวกมันทำทุกอย่างไม่ว่าจะได้รับคำสั่งอะไร และไม่มีใครต้องจ่ายเงินให้พวกมัน
    คุณเห็นพวกเขาทางทีวีหรือเดินผ่านไปอีกฝั่งถนนแต่คุณไม่ได้สังเกตเห็น‌‌

    - รอน วิลสัน
    ..ใครคงสังเกตุเห็นชัดในข่าวว่าโทนี่ใส่ปลอกคอว่าเป็นการไม่สบายที่คอนะ,กูรูบางคนสายใต้ดินบอกว่าโทนี่ตัวจริงไม่มีแล้ว,ที่เห็นคือตัวปลอม,ตัวโคลนหรือหุ่นยนต์ก็ได้หมด ส่วนใครอยู่เบื้องหลังให้เข้ามาทำภารกิจอะไรก็ไม่รู้,คลิปนี้มันสามารถทำเป็นคนไหนก็ได้จริงๆล่ะยิ่งแค่ถ่ายทำออกสื่อผ่านโชเซียบคลิปวีดีโอต่างๆอีก,ในต่างประเทศเล่นกันแบบไม่แคร์ประชาชนเลยในผู้นำต่างๆคงเห็นว่าประชาชนเขาคือวัวคือควายมั้งจึงกะจะหลอกลวงประชาชนง่ายๆผ่านสื่อได้,พวกหุ่นยนต์มันวิวัฒนาการไปไกลมาก,ปะปนในชนชั้นปกครองและโดยเฉพาะพวกกิจการบริษัทใหญ่ๆแต่ละประเทศนั้นๆหมดแล้ว,เพราะระบบทาสตังคือกลไกสำคัญควบคุมวิถีโลก,ขาดตังขาดเงินไปวัดแน่นอน,เช่นอเมริการหนี้กว่า36-37ล้านล้านเหรียญ,ญี่ปุ่นก็จะล่มละลายแหล่ไม่ละลายแหล่ในตอนนี้ก็เพราะกลไกตังทั้งนั้น ตลาดหุ้นก็ปั่นหาตัง,ป่วนกระแสสงครามใครเก็งส่วนต่างซื้อนั้นนี้ไว้กำไรตรึมล่ะ,แบบโทนี่เล่นค่าเงินจนร่ำรวยนั้นล่ะบนหายนะคนทั้งชาติ,ระเบิดEMPอาจสามารถทำลายระบบกลไกอิเล็กทรอนิกส์หุ่นยนต์ได้จริงๆก็ได้,พวกมันใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนตนเอง,มนุษย์ไม่ได้รับผลกระทบอะไร,นี้ไม่รวมตัวเหี้ยต่างๆที่เต็มโลกนี้ด้วยเลย,กล่าวแค่พวกหุ่นยนต์แค่นั้น.,และพวกมันกำลังผลักดันให้ชาวโลกไปสู่การเล่นในเกมส์ของมันที่ชำนาญและควบคุมได้ในกระดานของมัน,เช่นตังดิจิดัลอิเล็กทรอนิกส์คริปโตฯโทเคนต่างๆตลอดสินทรัพย์ดิจิดัลด้วย,ฟอกตังก็ง่าย,ชงเข้าระบบตีค่าปั่นตัวเลขก็ง่ายอีก,ค้ำประกันทองคำคือข้ออ้าง ตาไทบ้านประชาชนจะมีปัญญาไปรู้เห็นอะไรจริงตรวจสอบตลอดเวลาไม่เคลื่อนย้ายได้,สมมุติอ้างว่าโลกสะพัดตังดิจิดัลทั่วโลกคือ1,000ล้านล้านเหรียญตังดิจิดัลต่อวัน,ทองคำค้ำๆอาจกำลังเดินทางออกนอกโลกผ่านประตูมิติหลายๆที่ทั่วโลกก็ได้แบบทองคำเดินทางไปแล้วไม่ยอมกลับมาที่โลกอีกเลย,หรือเผาต่างดาวหนึ่งใช้ทองคำเผาสร้างโลกมันนั้นล่ะหากบรรยากาศโลกมันที่เอาทองคำไปสร้างบรรยากาศไม่สมดุลโลกมันจะตาย มนุษย์โลกมันจะตายหมด,จึงเดินทางไปทั่วจักรวาลอื่นๆไล่ล่าทองคำไปทั่ว,มาเจอโลกก็ขุดง่ายย้ายสะดวก,มายุคนี้จึงหามุก,สร้างตังดิจิดัลเพื่อรวบรวมทองคำง่ายๆก็ว่า.ส่งไปดาวมันโดยมีหุ่นยนต์เอไอล้ำสมัยคือกลไกมาลวงโลกให้สู่การควบคุมของมันง่ายขึ้นเพราะมันคือเจ้าของระบบก็ว่า.,ต่างดาวล้ำก็เราแน่นอนตลอดทางปัญญจิตด้วย.,เราเกิดมาโง่ทันที รู้อะไรล่ะ ต้องมาเข้าโรงเรียนมาเรียนให้หายโง่อีก,พวกมันอาจเกิดทันทีฉลาดทันทีเลยไอคิวเกินพันอัพตั้งแต่เด็กหรือโหลดข้อมูลใส่สมองทันทีก็ว่าอาจชนิดบันทึกใส่dnaแล้วประมวลตามทันใจให้ผลใดๆที่ต้องการเห็นค่าเกิดขึ้นตามต้องการได้ถอดรหัสdnaควอนตัมฉลาดทันทีก็ว่าที่ต้องการจะรู้อะไรใดๆ,เทียบคนบนโลกเราโง่บรมเลยล่ะ.. ..ประเทศไทยสมควรเปลี่ยนแปลงจริงๆ,ผู้นำการปกครองในเวลานี้ต้องถีบออกทันที,ยุคสมัยเดิมๆต้องเปลี่ยนไป,คือยุคที่มืดบอดก็ว่า,โลกใบนี้ต้องเปิดรับอารยะธรรมดีๆจากทั่วจักรวาลได้แล้วจริงๆ อารยะธรรมไม่ดีต้องถูกย้ายออกจากดาวโลกเราใบนี้ทันที,ยานแม่มาดูดคนพวกนี้ไปดาวอื่นที่ระดับจิตเหี้ยเท่ากันก็ต้องดูดไปจริงๆ. เทคโนโลยีหุ่นยนต์นั้นก้าวหน้ากว่าที่เราคิดมาก พวกมันแสร้งทำเป็นว่าทำการวิจัย แต่สิ่งที่พวกมันทำคือเบี่ยงเบนความสนใจของมนุษยชาติจากความเป็นจริง นอกจากโคลนและลูกผสมแล้ว เรายังพบหุ่นยนต์ในระดับการตัดสินใจทางการเมืองและเศรษฐกิจอีกด้วย พวกมันอนุมัติการตัดสินใจ และเราสงสัยว่าทำไมโลกของเราถึงเป็นแบบนี้ คนที่เป็นวิญญาณจะไม่ทำตามเลย สิ่งที่คุณต้องการก็คือหัวที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์และผิวหนังเทียมที่ทำจากลาเท็กซ์ที่ปกคลุมหัวและลำตัวเท่านั้นเอง ปัจจุบันมีหุ่นยนต์ AI ที่ซับซ้อนซึ่งสามารถพูด วิ่ง เลือดออก และแทบจะเหมือนกับมนุษย์ทุกประการทั้งภายนอกและภายใน (อีลอน มัสก์) ยกเว้นว่าพวกมันไม่มีวิญญาณและไม่มีจิตสำนึก พวกมันทำทุกอย่างไม่ว่าจะได้รับคำสั่งอะไร และไม่มีใครต้องจ่ายเงินให้พวกมัน คุณเห็นพวกเขาทางทีวีหรือเดินผ่านไปอีกฝั่งถนนแต่คุณไม่ได้สังเกตเห็น‌‌ - รอน วิลสัน
    0 Comments 0 Shares 455 Views 0 0 Reviews
  • เรื่องราวเริ่มจาก Chetal และพวก 2 คน ใช้เทคนิค social engineering ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ Google/Yahoo หลอกเหยื่อจากวอชิงตัน ดี.ซี. จนสามารถขโมย Bitcoin จำนวน 4,100 เหรียญ มูลค่าราว $245 ล้าน (และตอนนี้ขึ้นมาเกือบ $440 ล้านแล้ว!)

    จากนั้นเขาใช้เงินที่ได้ไปใช้ชีวิตหรูหราทั้งซื้อรถ, เช่าคฤหาสน์, ปาร์ตี้ไนต์คลับ และเครื่องเพชร — จนกลายเป็นเป้าสายตาแบบเต็ม ๆ

    และเรื่องดันบานปลาย เมื่อ พ่อแม่ของ Chetal ถูกกลุ่มอาชญากรจากฟลอริดารุมทำร้าย-ลักพาตัว แบบกลางวันแสก ๆ ด้วยการเอารถชน, มัดมือ, ยัดใส่รถตู้ — แต่โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ FBI นอกเครื่องแบบอยู่ใกล้ ๆ และช่วยได้ทัน

    ต่อมา FBI บุกค้นบ้าน พบเงินสด $500,000 และคริปโตอีก $39 ล้าน ซ้ำยังพบว่า Chetal เคยก่อเหตุแบบเดียวกันอีกเกือบ 50 ครั้ง รวมรายได้อีก $3 ล้าน

    ตอนนี้ Chetal ยอมรับผิดและให้ความร่วมมือกับทางการ เพื่อแลกกับโทษที่เบาลง — แต่อาจต้องติดคุก 19–24 ปี, ถูกปรับสูงสุด $500,000 และอาจ ถูกเนรเทศกลับอินเดีย เพราะเป็นผู้ย้ายถิ่นตั้งแต่ยังเด็ก

    ข้อมูลจากข่าว:
    Veer Chetal และพรรคพวกขโมย Bitcoin จำนวน 4,100 BTC มูลค่า $245 ล้าน ในเดือนส.ค. 2024  
    • ใช้การหลอกลวงแบบ social engineering ด้วยการปลอมเป็นเจ้าหน้าที่บริการเว็บชื่อดัง

    หลังการขโมย Chetal ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย  
    • ซื้อรถหรู, เครื่องเพชร, เช่าคฤหาสน์ และปาร์ตี้อย่างรื่นเริง

    พ่อแม่ของเขาถูกกลุ่มชายจากฟลอริดาลักพาตัวกลางวันแสก ๆ ด้วยความรุนแรง  
    • โชคดีที่มี FBI อยู่ในเหตุการณ์ ทำให้ช่วยไว้ได้ทัน

    FBI ค้นบ้านพบ $500,000 เงินสด และ crypto อีก $39 ล้าน  
    • ตรวจพบว่ามีคดีคล้ายกันอีก 50 ครั้ง รวมเงิน $3 ล้าน

    Chetal ยอมรับผิดข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน  
    • เตรียมรับโทษจำคุก 19–24 ปี และปรับ $50,000–$500,000 พร้อมชดใช้เหยื่อ  
    • อาจถูกเนรเทศกลับอินเดีย เพราะไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ

    พ่อของเขาถูกไล่ออกจาก Morgan Stanley จากเหตุผลเกี่ยวกับคดีนี้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/man-behind-usd245m-bitcoin-theft-has-bizarre-tale-that-includes-kidnapped-parents-fraud-and-money-laundering-suspect-now-faces-up-to-24-years-in-prison-half-million-dollar-fine-and-possible-deportation-to-india
    เรื่องราวเริ่มจาก Chetal และพวก 2 คน ใช้เทคนิค social engineering ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ Google/Yahoo หลอกเหยื่อจากวอชิงตัน ดี.ซี. จนสามารถขโมย Bitcoin จำนวน 4,100 เหรียญ มูลค่าราว $245 ล้าน (และตอนนี้ขึ้นมาเกือบ $440 ล้านแล้ว!) จากนั้นเขาใช้เงินที่ได้ไปใช้ชีวิตหรูหราทั้งซื้อรถ, เช่าคฤหาสน์, ปาร์ตี้ไนต์คลับ และเครื่องเพชร — จนกลายเป็นเป้าสายตาแบบเต็ม ๆ และเรื่องดันบานปลาย เมื่อ พ่อแม่ของ Chetal ถูกกลุ่มอาชญากรจากฟลอริดารุมทำร้าย-ลักพาตัว แบบกลางวันแสก ๆ ด้วยการเอารถชน, มัดมือ, ยัดใส่รถตู้ — แต่โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ FBI นอกเครื่องแบบอยู่ใกล้ ๆ และช่วยได้ทัน ต่อมา FBI บุกค้นบ้าน พบเงินสด $500,000 และคริปโตอีก $39 ล้าน ซ้ำยังพบว่า Chetal เคยก่อเหตุแบบเดียวกันอีกเกือบ 50 ครั้ง รวมรายได้อีก $3 ล้าน ตอนนี้ Chetal ยอมรับผิดและให้ความร่วมมือกับทางการ เพื่อแลกกับโทษที่เบาลง — แต่อาจต้องติดคุก 19–24 ปี, ถูกปรับสูงสุด $500,000 และอาจ ถูกเนรเทศกลับอินเดีย เพราะเป็นผู้ย้ายถิ่นตั้งแต่ยังเด็ก ✅ ข้อมูลจากข่าว: ✅ Veer Chetal และพรรคพวกขโมย Bitcoin จำนวน 4,100 BTC มูลค่า $245 ล้าน ในเดือนส.ค. 2024   • ใช้การหลอกลวงแบบ social engineering ด้วยการปลอมเป็นเจ้าหน้าที่บริการเว็บชื่อดัง ✅ หลังการขโมย Chetal ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย   • ซื้อรถหรู, เครื่องเพชร, เช่าคฤหาสน์ และปาร์ตี้อย่างรื่นเริง ✅ พ่อแม่ของเขาถูกกลุ่มชายจากฟลอริดาลักพาตัวกลางวันแสก ๆ ด้วยความรุนแรง   • โชคดีที่มี FBI อยู่ในเหตุการณ์ ทำให้ช่วยไว้ได้ทัน ✅ FBI ค้นบ้านพบ $500,000 เงินสด และ crypto อีก $39 ล้าน   • ตรวจพบว่ามีคดีคล้ายกันอีก 50 ครั้ง รวมเงิน $3 ล้าน ✅ Chetal ยอมรับผิดข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน   • เตรียมรับโทษจำคุก 19–24 ปี และปรับ $50,000–$500,000 พร้อมชดใช้เหยื่อ   • อาจถูกเนรเทศกลับอินเดีย เพราะไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ ✅ พ่อของเขาถูกไล่ออกจาก Morgan Stanley จากเหตุผลเกี่ยวกับคดีนี้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/man-behind-usd245m-bitcoin-theft-has-bizarre-tale-that-includes-kidnapped-parents-fraud-and-money-laundering-suspect-now-faces-up-to-24-years-in-prison-half-million-dollar-fine-and-possible-deportation-to-india
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Man behind $245m Bitcoin theft has bizarre tale that includes kidnapped parents, fraud, and money laundering — suspect now faces up to 24 years in prison, half-million-dollar fine, and possible deportation to India
    Connecticut man’s parents were kidnapped shortly after the BTC theft. The father allegedly lost his job at Morgan Stanley due to his son’s nefarious activities.
    0 Comments 0 Shares 485 Views 0 Reviews
More Results