• แผนชั่ว ตอนที่ 6

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 6
    ในที่สุด เดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2007 CNPC หน่วยงานที่ดูแลด้านน้ำมัน ของรัฐบาลจีน ก็ตกลงทำสัญญากับรัฐบาลของชาด Chad ในการสร้างท่อส่งน้ำมัน หลังจากนั้น 2 ปี การก่อสร้างท่อส่งน้ำมันก็เริ่มดำเนินการ มันเป็นท่อส่งสำหรับน้ำมันบ่อใหม่ ที่จีน (แอบ) ไปลงทุนขุดใหม่ทางใต้ของชาด ห่างไปอีก 300 กิโลเมตร หลังจากนั้น กลุ่มเอ็นจีโอ ที่พวกตะวันตกสนับสนุน ก็ออกมาโว้ยว่า เป็นการทำลาย สิ่งแวดล้อม มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ และเมื่อตอน Chevron ขุดน้ำมันแถวนั้น ในปี ค.ศ.2003 เอ็นจีโอกลุ่มเดียวกันนี้ ไม่ออกมาโวย ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องน่าแปลกใจเช่นเดียวกัน
    แล้วเดือนกรกฏาคม ค.ศ.2011 ชาดและจีน ก็ฉลองการเปิดดำเนินการของโรงกลั่นน้ำมัน ที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงของชาด ที่ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมทุนกัน โรงกลั่นนี้ ว่าไปแล้ว ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสำรวจที่จีนไปลงทุนไว้ตอนแรก ในบริเวณดาร์ฟูที่ติดกับชาด และจีนถูกไม้กั้น ไม่เสี้ยม จนยังกินแห้วอยู่นั่นเอง แม้จะกินแห้วของดาร์ฟู แต่แหล่งที่จีนได้ใหม่ ที่ชาดก็น่าจะชดเชยของเดิม ที่ถูกถีบออกมาได้อย่างน่าทึ่ง
    จากการประเมินทางภูมิศาสตร์ สายน้ำมันน่าจะไหลมาจากดาร์ฟู ผ่านมาที่ชาด และต่อไปถึงแคเมอรูน ขนาดของแหล่งน้ำมันนี้ประเมินกันว่า ใหญ่มหาศาลนัก อาจจะเท่ากับแหล่งน้ำมันที่ซาอุดิอารเบียเสียด้วยซ้ำ การควบคุมซูดานใต้ ชาดและแคเมอรูน จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญรายการใหม่ ของสภาความมั่นคงของอเมริกา คราวนี้เป็น “ยุทธศาสตร์ขวางจีน” เต็มรูปแบบ เพื่อไม่ให้จีน เข้าไปสู่แหล่งพลังงานทุกแห่งในโลก โดยเฉพาะที่อาฟริกา
    หมากตัวสำคัญ ที่จะทำให้ยุทธศาสตร์ขวางจีนในอาฟริกา เป็นผลสำเร็จหรือไม่ คือ กัดดาฟี แห่งลิเบีย เป็นกัดดาฟีที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับตะวันตก และต่อสู้ทุกเม็ด ทุกหมากกับอเมริกา และอังกฤษ เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศตนและอาฟริกา รวมไปถีงประเทศในตะวันออกกลาง กัดดาฟี พยายามตั้งสถาบันการเงิน เหมือนธนาคารโลก เพื่อช่วยเหลือประเทศในกลุ่มอาฟริกา จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของก๊วนหน้าเลือด ใจร้าย World Bank, IMF และที่สำคัญ กัดดาฟี ไม่ปฏิเสธ ที่จะคบ และค้าขายกับรัสเซียและจีน
    เขาจึงเป็นบุคคลที่อเมริกา และอังกฤษรังเกียจยิ่งนัก
    ลิเบีย เป็นประเทศในอาฟริกา ที่ด้านเหนือ ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ข้ามทะเลไปก็เป็นอิตาลี ซึ่งบริษัทน้ำมัน ENI ของอิตาลี เป็นผู้มาร่วมงานขุดเจาะน้ำมัน กับลิเบียอยู่นาน ตะวันตกของลิเบียติดกับ ตูนีเซีย และอัลจีเรีย ทางด้านใต้ ติดกับชาด ส่วนตะวันออกติดกับซูดาน ทั้งเหนือและใต้ และอียิปต์ ที่ตั้งของลิเบียจึงเหมือนอยู่กลางดงน้ำมัน คงมีใครมองว่า ลิเบียเหมาะที่จะใช้เป็นศูนย์กลาง ในการควบคุมดงน้ำมันอย่างยิ่ง
    ลิเบีย ไม่ให้ใครมาเป็นเจ้าของปั้มลิเบีย ลิเบียเป็นเจ้าของปั้มเอง ขายเอง ดูแลแหล่งน้ำมันที่มีคุณภาพสูงเอง ในปี ค.ศ.2006 ลิเบียเป็นเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่ได้รับการสำรวจและพิสูจน์ว่า มีน้ำมันแล้วถึง 35% ของน้ำมันทั้งหมดในอาฟริกา มีมากกว่าไนจีเรีย ที่อเมริกาคว้าคออยู่หมัดเสียอีก
    นอกจากนี้ ลิเบียยังให้สัมปทานน้ำมัน แก่รัฐบาลจีนด้วย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องระหว่างรัฐบาล กับ รัฐบาล
    แบบนี้ อเมริกาจะทนดู ลิเบีย ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่ในกลางดงน้ำมัน (ที่อเมริกาอยากครอบครอง) ได้หรือ อเมริกามองว่า ตราบใดที่รัฐบาลกัดดาฟีเข้มแข็ง มีอำนาจอยู่ที่เมืองทริโปลี และควบคุมแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในอาฟริกา แผนการของอเมริกา ตามยุทธศาสตร์ขวางจีน คงสำเร็จยาก การแบ่งแยกซูดานเป็น 2 ประเทศ และการยุ การเสี้ยมให้เกิดการกบฏในลิเบียต้องทำพร้อมกัน จึงพอจะมีทางเอากัดดาฟี่มาขึงพืดได้
    นี่จึงเป็นภาระกิจสำคัญและเป็น “งาน” ของจริง สำหรับ AFRICOM ที่คงไม่ได้แถลงกันในรัฐสภาให้คนอเมริกันรู้
    AFRICOM รับหน้าที่เป็นกองกำลังหลัก ในปฏิบัติการทำลายกัดดาฟีและลิเบีย รวมทั้งในการสร้างกบฏ เปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในตูนีเซีย อียิปต์ และสร้างรัฐซูดานใต้ทั้งหมด เพื่อให้แหล่งน้ำมันใหญ่ ในประเทศเหล่านี้ ไม่มีเจ้าของดูแลควบคุม อเมริกาและพวก จะได้เข้าไปควบคุมแทน
    มันเป็นปฏิบัติการเก็บเจ้าของปั้ม แล้วปล้นเอาปั้มเขามา นั่นเอง
    แต่อเมริกาไม่กล้ารบเดี่ยว อยากจะปล้น แต่ก็คงปอดแหกเหมือนกัน กัดดาฟีไม่ได้เคี้ยวง่ายเหมือนซูดาน กัดดาฟี มีทั้งเขี้ยวยาว และอาวุธทันสมัยที่ซื้อจากอเมริกาและรัสเซีย เก็บเงียบอยู่เต็มลิเบีย คราวนี้ อเมริกาจะใช้พระเอกหนังไปเดินทำหน้าเศร้า ก็คงไม่สำเร็จ อเมริกาจึงดึงนาโต้เข้ามาเล่นเต็มอัตรา
    ปี ค.ศ.2010 นาโต้ ไปกวาดต้อนเอาสาระพัดพันธ์ุ ตั้งแต่อดีตนักการเมืองที่เคยอยู่กับกัดดาฟี แต่บัดนี้ขัดใจกันแล้ว อดีตนักธุรกิจขี้โกงที่หนีคดี ไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนประกอบแบบนี้ คุ้นไหมครับ ส่วนประกอบที่สำคัญอีก 2 ส่วนคือ เด็กในกระเป๋า ซีไอเอ ที่ได้รับการฝึก รับเงินและก็ไปร่วมรบกับ ซีไอเอ หลายที่ เช่น อาฟกานิสถาน อิรัค เป็นต้น อีกส่วนหนึ่งคือ ทหารรับจ้าง หรือที่สมัยใหม่นี้ เรียกว่า ผู้รับเหมา contractor รับเหมาทำอะไรบ้าง ก็คงพอเดากันออก มันเป็นการผสมพันธุ์โหด ที่เตรียมเอาไว้เชือดกัดดาฟี
    กลุ่มสาระพัดพันธ์ุนี่ เรียกตัวเองว่า กลุ่ม TNC Transitional Nation Council
    กลุ่ม TNC ออกมาด่าว่า กัดดาฟี่เป็นเผด็จการรวบอำนาจ กดขี่ ประชาชน ต้องการให้ กัดดาฟีลาออก มีการเลือกตั้งใหม่ และปกครองตามระบอบประชาธิปไตย แหม โรเนียวนี้ใช้จนเก่าเน่าแล้ว ไม่เปลี่ยนเลยหรือพี่
    กัดดาฟี เป็นเผด็จการจริง มีทั้งพวกที่บอกว่า เขาทำประโยชน์ให้กับชาวลิเบีย และก็มีพวกที่บอกว่า เขาข่มขู่บังคับชาวลิเบีย จึงคงมีทั้งพวกที่รักเขา และพวกที่เกลียดเขา แต่ลองดูจากหลายสิ่งที่เขาทำให้กับชาวลิเบีย มันก็พอบอกได้ว่า เขาดี เลวอย่างไรกับลิเบีย
    – ชาวลิเบีย ได้รับการรักษาพยาบาล และเรียนหนังสือฟรี ( อย่าบอกนะว่า เหมือน 30 บาท รักษาทุกโรค)
    – ชาวลิเบียไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้า
    – ชาวลิเบียกู้เงินไม่เสียดอกเบี้ยจากธนาคารของรัฐ ซึ่งใหญ่มาก และกัดดาฟีมีแผนจะสร้าง ให้มีเงินทุนมากกว่า World Bank เพื่อให้ ชาวอาฟริกันกู้ด้วย
    – รัฐบาลกัดดาฟี สร้างระบบชลประทานที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการสร้างแม่น้ำทั่วประเทศ ชาวลิเบีย ไม่มีการขาดน้ำตลอดปี
    – ถ้าชาวลิเบียต้องการทำฟาร์มเพาะ ปลูก และเลี้ยงสัตว์ รัฐจะยกที่ดินให้ฟรี แถมปลูกบ้านให้ พร้อมแจกพันธ์ุพืชและสัตว์ ฟรีหมด เพราะรัฐสนับสนุนให้สร้าง “อาหาร” จะได้ไม่อดตาย
    – เมื่อหญิงชาวลิเบียคลอดลูก จะได้รับเงินช่วยจากรัฐ จำนวน 5 พันเหรียญ เขาสนับสนุนให้มีชาวลิเบียอยู่ในโลก ไม่ใช่ถูกตอนพันธ์
    – รัฐบาลกัดดาฟี ยืนราคาน้ำมันขายในลิเบีย ที่ลิตรละ 14 เซ็นต์ (ประมาณ 5 บาท)
    – รัฐบาลกัดดาฟีส่งเสริมการศึกษา ก่อนเขาปกครอง มีคนอ่านหนังสือออกเพียง 25% ช่วง 40 ปี ที่กัดดาฟี ปกครองลิเบีย จำนวนคนอ่านหนังสือออก เพิ่มเป็นเกือบ 90% และมีคนศึกษาจบระดับปริญญา 25%
    TNC เป็นแนวหน้าที่นาโต้เตรียมไว้ให้ไปสู้ และตายแทนกองกำลังนาโต้ ส่วนทหารนาโต้ นั่งคอยดูผลงาน TNC ไปก่อน นี่เป็นเพียงก๊อก 1
    ก๊อก 1 เริ่มงานด้วยการ ออกมาประท้วงกัดดาฟีตามเมืองต่างๆว่า เป็นเผด็จการ พวกเขาต้องการประชาธิปไตย และการประท้วงครั้งแรกในลืเบีย ก็เกิดขึ้นที่เมือง Cyrenaica เมืองที่เป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ ทางตะวันออกของลิเบีย หลังจากนั้น การประท้วงก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และขยายตัวออกไป และในที่สุดก็ยึดเมืองสำคัญอย่าง เบงกาซี Benghazi ได้
    หลังจากนั้น กระป๋องสีย้อมข่าวใบใหญ่ ซีเอนเอน ก็รับช่วงรายงานข่าวทุกวันว่า กัดดาฟี ชั่วช้า กระทำรุนแรง ตั้งใจฆ่าประชาชน ด้วยการเอาเครื่องบินมาถล่มพวกกบฏมือเปล่า แบบนี้นานาชาติใจบุญ จะทนดูชาวลิเบียโดนระเบิดทุกวันไหวยังไง
    อังกฤษกับฝรั่งเศส รีบถลาไปเอาหน้าเกือบไม่ทัน บอกว่าไม่ได้นะ แบบนี่มันละเมิดกฏ “No Fly Zone” ของสหประชาชาติ ว่าเข้าไปโน่น สหประชาชาติ เลยมีมติกำหนดเขตห้ามบิน No Fly Zone ตามเมืองต่างๆในลิเบีย เครื่องบินของฝ่ายรัฐบาลหรือกัดดาฟี บินไม่ได้ แต่ของกองกำลังผสมของนานาชาติบินได้ ทิ้งระเบิดได้ มีปัญหาไหม ไม่มีคร้าบ… พวกเอ็งมันใหญ่ค้ำโลกแล้ว ใครจะกล้ามีปัญหาด้วย
    ก๊อก 2 คือ กองกำลังผสมของนานาชาติ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อร่วมกันเชือด กัดดาฟี ทรัพยากรลิเบียแยะนัก กองกำลังร่วมเชือด เลยแยะตามไปด้วย หวังได้แบ่งส่วนบุญ กองกำลังผสม นำโดยอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา และลูกกระเป๋ง อย่าง กาต้าร์ สหรัฐเอมิเรต เบลเยี่ยม อิตาลี เดนมาร์ค นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์และสเปญ เอาชื่อมาโชว์ให้ดูหมด จะได้รู้ว่าใคร อยู่ตรงไหน… โถ นึกว่ารวยแล้วไม่ตะกระ …แถวบ้านผมเคยมี ที่รวยแล้ว ทั้งตะกระ ทั้งโกง….
    ช่วงแรก กองกำลังผสมบัญชาการโดยอเมริกา ช่วงหลัง บัญชาการโดยนาโต้ ไม่รู้จะดัดจริต เปลี่ยนทำไม ยังไงอเมริกาก็คุมนาโต้อยู่แล้ว
    จริงๆ ช่วงแรก อเมริกานำ ก็เพราะต้องการจะเข้าลิเบียไปก่อนใคร เพื่อค้นหาสมบัติของกัดดาฟี โดยเฉพาะ พวกอาวุธที่แอบเก็บตามโกดังนั่นแหละ ใครๆ ก็อยากงาบต่อทั้งนั้น
    แล้วกองกำลังผสมของชาติต่างๆ บวกกองกำลังของนาโต้เอง บวกกองกำลังฝ่ายกบฏ บวกกองกำลังของผู้รับเหมา บวกกองกำลังทหารของอเมริกา (เอะ นี่ผมตกกองอะไร ของใครอีกไหม มันแยะ เละไปหมด) ก็ไล่ล่ากัดดาฟีอยู่ 8 เดือน กัดดาฟีหนีไปเมืองไหน ยิงกันอย่างไร บ้านเรือนพังฉิบหายขนาดไหน คนเจ็บคนตายนอนน่าสมเพชเกลื่อน ถนนเท่าไหร่ ไอ้กระป๋องใส่สีย้อมข่าว ซีเอนเอน รายงานข่าวละเอียดละออ ชาวบ้านได้ดูข่าวการไล่ล่า และไล่ฆ่า เป็นรายการสดทางทีวี ทุกวัน ทุกคืน
    เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2011 นาโต้ประกาศว่า ได้ทิ้งระเบิด ที่บริเวณบ้านใหญ่ ของกัดดาฟี ที่ทริโปลีรอบใหญ่ บ้านพังฉิบหายยับ แต่ยังไม่เจอกัดดาฟี ไม่ว่าเป็นหรือตาย แต่มีคนอื่นตายแทน เป็นลูกชายคนเล็กของกัดดาฟี และหลานปู่เล็กๆ อีก 3 คน เวร…..
    แล้วในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2011 กัดดาฟี ก็ถูกฆ่าตายที่เมืองบ้านเกิดของเขา Sirte ขณะที่อยู่กับกองกำลังของตัว ที่ล้อมหน้า ล้อมหลัง แต่มันมาทางจากข้างบน เป็นจรวดไล่ยิง จะไปคุ้มกันยังไงไหว เล่นยิงใส่ขบวนรถของพวกกัดดาฟี ที่กำลังขับหนีออกจาก Sirte รถกระเด็นพลิกคว่ำ บ้านเรือนแถบนั้นพังเป็นแถบ คนจะรอดหรือ แล้วกัดดาฟีพร้อมลูกชาย 2 คน และลูกน้องคนสนิทหลายคน ก็ตายเรียบ
    หลังจากนั้น เขาว่าพวกกบฏก็บุกเขาไปเอาร่างกัดดาฟีออกมา ลากไปตามถนนโห่ร้องยินดี บางข่าว บอกว่าเขาตายตั้งแต่โดนจรวด บางข่าวบอก เขายังไม่ตาย แค่เกือบ เขาหลุดออกมาจากรถ ไปแอบซ่อนตัวอยู่ในท่อ แต่มาตายตอนที่พวกกบฏลากตัวขึ้น มาจากท่อ ไปตามถนน ก่อนลาก ทุบเสียละเอียด ก่อน ทุบ จับแก้ผ้า และชำเราทางทวารหนักก่อน บางสื่อลงภาพเขานอนตาย หัวเป็นรู จากรอยกระสุน
    2 วัน ก่อนที่กัดดาฟีจะถูกจับ คุณนายคลินตัน สตรีหน้าโหด ( ผมเห็นหน้าคุณนายในทีวีทีไร ฝันร้ายทุกที ผู้หญิงอะไร น่ากลัวชะมัด) ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ เดินทางไปที่เมือง ทริโปลี Tripoli ด้วยเครื่องบินทหาร ที่มีการคุ้มกันหลายชั้น แม้แต่แมลงวันที่คุ้นเคยกัน ก็คงเข้าไปตอมคุณนายไม่ถึง คุณนายประกาศเสียงดังฟังชัดว่า เราจะต้องจับตัวกัดดาฟี มาให้ได้ ไม่ว่า จับตาย หรือจับเป็น “dead or alive”
    นี่! มันยิ่งกว่าบทพระเอก ไปทำหน้าเศร้าที่ซูดานอีกนะ บทนี้มันเป็นบทนางสิงห์สั่งฆ่าเลย
    กัดดาฟี จะอย่างไรก็เป็นประมุขประเทศ เป็นประเทศเอกราช ไม่ได้เป็นขี้ข้าใคร ทำดี ทำชั่ว ศาลระหว่างประเทศมี อเมริกา และรัฐมนตรีต่างประเทศของตน ใช้สิทธิอะไร เที่ยวประกาศ ตัดสินว่า ประเทศไหน ต้องมีนโยบายอย่างไร ประมุขประเทศ ต้องทำตัวอย่างไร ตามใจอเมริกาอย่างไร ถ้าไม่ถูกใจนี่ อเมริกา สั่งฆ่าได้เลยหรือ เรื่องนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ และสะอิดสะเอียนที่สุด
    เรื่องนี้ สำนักข่าว Associated Press รายงานข่าวว่า
    … นางคลินตันพูดแบบไม่อ้อมค้อมเป็นพิเศษว่า อเมริกา ต้องการเห็น อดีตเผด็จการ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ถึงแก่ความตาย….
    … เราหวังว่า เขาจะถูกจับ หรือถูก ฆ่า เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ต้องกลัวเขาอีกต่อไป
    .. Clinton declared in unusually blunt terms that the United States would like to see former dictator Muammar Gaddafi dead..
    …We hope he can be captured or killed soon so that you don’t have to fear him any longer…
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    19 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 6 ในที่สุด เดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2007 CNPC หน่วยงานที่ดูแลด้านน้ำมัน ของรัฐบาลจีน ก็ตกลงทำสัญญากับรัฐบาลของชาด Chad ในการสร้างท่อส่งน้ำมัน หลังจากนั้น 2 ปี การก่อสร้างท่อส่งน้ำมันก็เริ่มดำเนินการ มันเป็นท่อส่งสำหรับน้ำมันบ่อใหม่ ที่จีน (แอบ) ไปลงทุนขุดใหม่ทางใต้ของชาด ห่างไปอีก 300 กิโลเมตร หลังจากนั้น กลุ่มเอ็นจีโอ ที่พวกตะวันตกสนับสนุน ก็ออกมาโว้ยว่า เป็นการทำลาย สิ่งแวดล้อม มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ และเมื่อตอน Chevron ขุดน้ำมันแถวนั้น ในปี ค.ศ.2003 เอ็นจีโอกลุ่มเดียวกันนี้ ไม่ออกมาโวย ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องน่าแปลกใจเช่นเดียวกัน แล้วเดือนกรกฏาคม ค.ศ.2011 ชาดและจีน ก็ฉลองการเปิดดำเนินการของโรงกลั่นน้ำมัน ที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงของชาด ที่ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมทุนกัน โรงกลั่นนี้ ว่าไปแล้ว ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสำรวจที่จีนไปลงทุนไว้ตอนแรก ในบริเวณดาร์ฟูที่ติดกับชาด และจีนถูกไม้กั้น ไม่เสี้ยม จนยังกินแห้วอยู่นั่นเอง แม้จะกินแห้วของดาร์ฟู แต่แหล่งที่จีนได้ใหม่ ที่ชาดก็น่าจะชดเชยของเดิม ที่ถูกถีบออกมาได้อย่างน่าทึ่ง จากการประเมินทางภูมิศาสตร์ สายน้ำมันน่าจะไหลมาจากดาร์ฟู ผ่านมาที่ชาด และต่อไปถึงแคเมอรูน ขนาดของแหล่งน้ำมันนี้ประเมินกันว่า ใหญ่มหาศาลนัก อาจจะเท่ากับแหล่งน้ำมันที่ซาอุดิอารเบียเสียด้วยซ้ำ การควบคุมซูดานใต้ ชาดและแคเมอรูน จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญรายการใหม่ ของสภาความมั่นคงของอเมริกา คราวนี้เป็น “ยุทธศาสตร์ขวางจีน” เต็มรูปแบบ เพื่อไม่ให้จีน เข้าไปสู่แหล่งพลังงานทุกแห่งในโลก โดยเฉพาะที่อาฟริกา หมากตัวสำคัญ ที่จะทำให้ยุทธศาสตร์ขวางจีนในอาฟริกา เป็นผลสำเร็จหรือไม่ คือ กัดดาฟี แห่งลิเบีย เป็นกัดดาฟีที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับตะวันตก และต่อสู้ทุกเม็ด ทุกหมากกับอเมริกา และอังกฤษ เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศตนและอาฟริกา รวมไปถีงประเทศในตะวันออกกลาง กัดดาฟี พยายามตั้งสถาบันการเงิน เหมือนธนาคารโลก เพื่อช่วยเหลือประเทศในกลุ่มอาฟริกา จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของก๊วนหน้าเลือด ใจร้าย World Bank, IMF และที่สำคัญ กัดดาฟี ไม่ปฏิเสธ ที่จะคบ และค้าขายกับรัสเซียและจีน เขาจึงเป็นบุคคลที่อเมริกา และอังกฤษรังเกียจยิ่งนัก ลิเบีย เป็นประเทศในอาฟริกา ที่ด้านเหนือ ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ข้ามทะเลไปก็เป็นอิตาลี ซึ่งบริษัทน้ำมัน ENI ของอิตาลี เป็นผู้มาร่วมงานขุดเจาะน้ำมัน กับลิเบียอยู่นาน ตะวันตกของลิเบียติดกับ ตูนีเซีย และอัลจีเรีย ทางด้านใต้ ติดกับชาด ส่วนตะวันออกติดกับซูดาน ทั้งเหนือและใต้ และอียิปต์ ที่ตั้งของลิเบียจึงเหมือนอยู่กลางดงน้ำมัน คงมีใครมองว่า ลิเบียเหมาะที่จะใช้เป็นศูนย์กลาง ในการควบคุมดงน้ำมันอย่างยิ่ง ลิเบีย ไม่ให้ใครมาเป็นเจ้าของปั้มลิเบีย ลิเบียเป็นเจ้าของปั้มเอง ขายเอง ดูแลแหล่งน้ำมันที่มีคุณภาพสูงเอง ในปี ค.ศ.2006 ลิเบียเป็นเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่ได้รับการสำรวจและพิสูจน์ว่า มีน้ำมันแล้วถึง 35% ของน้ำมันทั้งหมดในอาฟริกา มีมากกว่าไนจีเรีย ที่อเมริกาคว้าคออยู่หมัดเสียอีก นอกจากนี้ ลิเบียยังให้สัมปทานน้ำมัน แก่รัฐบาลจีนด้วย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องระหว่างรัฐบาล กับ รัฐบาล แบบนี้ อเมริกาจะทนดู ลิเบีย ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่ในกลางดงน้ำมัน (ที่อเมริกาอยากครอบครอง) ได้หรือ อเมริกามองว่า ตราบใดที่รัฐบาลกัดดาฟีเข้มแข็ง มีอำนาจอยู่ที่เมืองทริโปลี และควบคุมแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในอาฟริกา แผนการของอเมริกา ตามยุทธศาสตร์ขวางจีน คงสำเร็จยาก การแบ่งแยกซูดานเป็น 2 ประเทศ และการยุ การเสี้ยมให้เกิดการกบฏในลิเบียต้องทำพร้อมกัน จึงพอจะมีทางเอากัดดาฟี่มาขึงพืดได้ นี่จึงเป็นภาระกิจสำคัญและเป็น “งาน” ของจริง สำหรับ AFRICOM ที่คงไม่ได้แถลงกันในรัฐสภาให้คนอเมริกันรู้ AFRICOM รับหน้าที่เป็นกองกำลังหลัก ในปฏิบัติการทำลายกัดดาฟีและลิเบีย รวมทั้งในการสร้างกบฏ เปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในตูนีเซีย อียิปต์ และสร้างรัฐซูดานใต้ทั้งหมด เพื่อให้แหล่งน้ำมันใหญ่ ในประเทศเหล่านี้ ไม่มีเจ้าของดูแลควบคุม อเมริกาและพวก จะได้เข้าไปควบคุมแทน มันเป็นปฏิบัติการเก็บเจ้าของปั้ม แล้วปล้นเอาปั้มเขามา นั่นเอง แต่อเมริกาไม่กล้ารบเดี่ยว อยากจะปล้น แต่ก็คงปอดแหกเหมือนกัน กัดดาฟีไม่ได้เคี้ยวง่ายเหมือนซูดาน กัดดาฟี มีทั้งเขี้ยวยาว และอาวุธทันสมัยที่ซื้อจากอเมริกาและรัสเซีย เก็บเงียบอยู่เต็มลิเบีย คราวนี้ อเมริกาจะใช้พระเอกหนังไปเดินทำหน้าเศร้า ก็คงไม่สำเร็จ อเมริกาจึงดึงนาโต้เข้ามาเล่นเต็มอัตรา ปี ค.ศ.2010 นาโต้ ไปกวาดต้อนเอาสาระพัดพันธ์ุ ตั้งแต่อดีตนักการเมืองที่เคยอยู่กับกัดดาฟี แต่บัดนี้ขัดใจกันแล้ว อดีตนักธุรกิจขี้โกงที่หนีคดี ไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนประกอบแบบนี้ คุ้นไหมครับ ส่วนประกอบที่สำคัญอีก 2 ส่วนคือ เด็กในกระเป๋า ซีไอเอ ที่ได้รับการฝึก รับเงินและก็ไปร่วมรบกับ ซีไอเอ หลายที่ เช่น อาฟกานิสถาน อิรัค เป็นต้น อีกส่วนหนึ่งคือ ทหารรับจ้าง หรือที่สมัยใหม่นี้ เรียกว่า ผู้รับเหมา contractor รับเหมาทำอะไรบ้าง ก็คงพอเดากันออก มันเป็นการผสมพันธุ์โหด ที่เตรียมเอาไว้เชือดกัดดาฟี กลุ่มสาระพัดพันธ์ุนี่ เรียกตัวเองว่า กลุ่ม TNC Transitional Nation Council กลุ่ม TNC ออกมาด่าว่า กัดดาฟี่เป็นเผด็จการรวบอำนาจ กดขี่ ประชาชน ต้องการให้ กัดดาฟีลาออก มีการเลือกตั้งใหม่ และปกครองตามระบอบประชาธิปไตย แหม โรเนียวนี้ใช้จนเก่าเน่าแล้ว ไม่เปลี่ยนเลยหรือพี่ กัดดาฟี เป็นเผด็จการจริง มีทั้งพวกที่บอกว่า เขาทำประโยชน์ให้กับชาวลิเบีย และก็มีพวกที่บอกว่า เขาข่มขู่บังคับชาวลิเบีย จึงคงมีทั้งพวกที่รักเขา และพวกที่เกลียดเขา แต่ลองดูจากหลายสิ่งที่เขาทำให้กับชาวลิเบีย มันก็พอบอกได้ว่า เขาดี เลวอย่างไรกับลิเบีย – ชาวลิเบีย ได้รับการรักษาพยาบาล และเรียนหนังสือฟรี ( อย่าบอกนะว่า เหมือน 30 บาท รักษาทุกโรค) – ชาวลิเบียไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้า – ชาวลิเบียกู้เงินไม่เสียดอกเบี้ยจากธนาคารของรัฐ ซึ่งใหญ่มาก และกัดดาฟีมีแผนจะสร้าง ให้มีเงินทุนมากกว่า World Bank เพื่อให้ ชาวอาฟริกันกู้ด้วย – รัฐบาลกัดดาฟี สร้างระบบชลประทานที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการสร้างแม่น้ำทั่วประเทศ ชาวลิเบีย ไม่มีการขาดน้ำตลอดปี – ถ้าชาวลิเบียต้องการทำฟาร์มเพาะ ปลูก และเลี้ยงสัตว์ รัฐจะยกที่ดินให้ฟรี แถมปลูกบ้านให้ พร้อมแจกพันธ์ุพืชและสัตว์ ฟรีหมด เพราะรัฐสนับสนุนให้สร้าง “อาหาร” จะได้ไม่อดตาย – เมื่อหญิงชาวลิเบียคลอดลูก จะได้รับเงินช่วยจากรัฐ จำนวน 5 พันเหรียญ เขาสนับสนุนให้มีชาวลิเบียอยู่ในโลก ไม่ใช่ถูกตอนพันธ์ – รัฐบาลกัดดาฟี ยืนราคาน้ำมันขายในลิเบีย ที่ลิตรละ 14 เซ็นต์ (ประมาณ 5 บาท) – รัฐบาลกัดดาฟีส่งเสริมการศึกษา ก่อนเขาปกครอง มีคนอ่านหนังสือออกเพียง 25% ช่วง 40 ปี ที่กัดดาฟี ปกครองลิเบีย จำนวนคนอ่านหนังสือออก เพิ่มเป็นเกือบ 90% และมีคนศึกษาจบระดับปริญญา 25% TNC เป็นแนวหน้าที่นาโต้เตรียมไว้ให้ไปสู้ และตายแทนกองกำลังนาโต้ ส่วนทหารนาโต้ นั่งคอยดูผลงาน TNC ไปก่อน นี่เป็นเพียงก๊อก 1 ก๊อก 1 เริ่มงานด้วยการ ออกมาประท้วงกัดดาฟีตามเมืองต่างๆว่า เป็นเผด็จการ พวกเขาต้องการประชาธิปไตย และการประท้วงครั้งแรกในลืเบีย ก็เกิดขึ้นที่เมือง Cyrenaica เมืองที่เป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ ทางตะวันออกของลิเบีย หลังจากนั้น การประท้วงก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และขยายตัวออกไป และในที่สุดก็ยึดเมืองสำคัญอย่าง เบงกาซี Benghazi ได้ หลังจากนั้น กระป๋องสีย้อมข่าวใบใหญ่ ซีเอนเอน ก็รับช่วงรายงานข่าวทุกวันว่า กัดดาฟี ชั่วช้า กระทำรุนแรง ตั้งใจฆ่าประชาชน ด้วยการเอาเครื่องบินมาถล่มพวกกบฏมือเปล่า แบบนี้นานาชาติใจบุญ จะทนดูชาวลิเบียโดนระเบิดทุกวันไหวยังไง อังกฤษกับฝรั่งเศส รีบถลาไปเอาหน้าเกือบไม่ทัน บอกว่าไม่ได้นะ แบบนี่มันละเมิดกฏ “No Fly Zone” ของสหประชาชาติ ว่าเข้าไปโน่น สหประชาชาติ เลยมีมติกำหนดเขตห้ามบิน No Fly Zone ตามเมืองต่างๆในลิเบีย เครื่องบินของฝ่ายรัฐบาลหรือกัดดาฟี บินไม่ได้ แต่ของกองกำลังผสมของนานาชาติบินได้ ทิ้งระเบิดได้ มีปัญหาไหม ไม่มีคร้าบ… พวกเอ็งมันใหญ่ค้ำโลกแล้ว ใครจะกล้ามีปัญหาด้วย ก๊อก 2 คือ กองกำลังผสมของนานาชาติ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อร่วมกันเชือด กัดดาฟี ทรัพยากรลิเบียแยะนัก กองกำลังร่วมเชือด เลยแยะตามไปด้วย หวังได้แบ่งส่วนบุญ กองกำลังผสม นำโดยอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา และลูกกระเป๋ง อย่าง กาต้าร์ สหรัฐเอมิเรต เบลเยี่ยม อิตาลี เดนมาร์ค นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์และสเปญ เอาชื่อมาโชว์ให้ดูหมด จะได้รู้ว่าใคร อยู่ตรงไหน… โถ นึกว่ารวยแล้วไม่ตะกระ …แถวบ้านผมเคยมี ที่รวยแล้ว ทั้งตะกระ ทั้งโกง…. ช่วงแรก กองกำลังผสมบัญชาการโดยอเมริกา ช่วงหลัง บัญชาการโดยนาโต้ ไม่รู้จะดัดจริต เปลี่ยนทำไม ยังไงอเมริกาก็คุมนาโต้อยู่แล้ว จริงๆ ช่วงแรก อเมริกานำ ก็เพราะต้องการจะเข้าลิเบียไปก่อนใคร เพื่อค้นหาสมบัติของกัดดาฟี โดยเฉพาะ พวกอาวุธที่แอบเก็บตามโกดังนั่นแหละ ใครๆ ก็อยากงาบต่อทั้งนั้น แล้วกองกำลังผสมของชาติต่างๆ บวกกองกำลังของนาโต้เอง บวกกองกำลังฝ่ายกบฏ บวกกองกำลังของผู้รับเหมา บวกกองกำลังทหารของอเมริกา (เอะ นี่ผมตกกองอะไร ของใครอีกไหม มันแยะ เละไปหมด) ก็ไล่ล่ากัดดาฟีอยู่ 8 เดือน กัดดาฟีหนีไปเมืองไหน ยิงกันอย่างไร บ้านเรือนพังฉิบหายขนาดไหน คนเจ็บคนตายนอนน่าสมเพชเกลื่อน ถนนเท่าไหร่ ไอ้กระป๋องใส่สีย้อมข่าว ซีเอนเอน รายงานข่าวละเอียดละออ ชาวบ้านได้ดูข่าวการไล่ล่า และไล่ฆ่า เป็นรายการสดทางทีวี ทุกวัน ทุกคืน เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2011 นาโต้ประกาศว่า ได้ทิ้งระเบิด ที่บริเวณบ้านใหญ่ ของกัดดาฟี ที่ทริโปลีรอบใหญ่ บ้านพังฉิบหายยับ แต่ยังไม่เจอกัดดาฟี ไม่ว่าเป็นหรือตาย แต่มีคนอื่นตายแทน เป็นลูกชายคนเล็กของกัดดาฟี และหลานปู่เล็กๆ อีก 3 คน เวร….. แล้วในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2011 กัดดาฟี ก็ถูกฆ่าตายที่เมืองบ้านเกิดของเขา Sirte ขณะที่อยู่กับกองกำลังของตัว ที่ล้อมหน้า ล้อมหลัง แต่มันมาทางจากข้างบน เป็นจรวดไล่ยิง จะไปคุ้มกันยังไงไหว เล่นยิงใส่ขบวนรถของพวกกัดดาฟี ที่กำลังขับหนีออกจาก Sirte รถกระเด็นพลิกคว่ำ บ้านเรือนแถบนั้นพังเป็นแถบ คนจะรอดหรือ แล้วกัดดาฟีพร้อมลูกชาย 2 คน และลูกน้องคนสนิทหลายคน ก็ตายเรียบ หลังจากนั้น เขาว่าพวกกบฏก็บุกเขาไปเอาร่างกัดดาฟีออกมา ลากไปตามถนนโห่ร้องยินดี บางข่าว บอกว่าเขาตายตั้งแต่โดนจรวด บางข่าวบอก เขายังไม่ตาย แค่เกือบ เขาหลุดออกมาจากรถ ไปแอบซ่อนตัวอยู่ในท่อ แต่มาตายตอนที่พวกกบฏลากตัวขึ้น มาจากท่อ ไปตามถนน ก่อนลาก ทุบเสียละเอียด ก่อน ทุบ จับแก้ผ้า และชำเราทางทวารหนักก่อน บางสื่อลงภาพเขานอนตาย หัวเป็นรู จากรอยกระสุน 2 วัน ก่อนที่กัดดาฟีจะถูกจับ คุณนายคลินตัน สตรีหน้าโหด ( ผมเห็นหน้าคุณนายในทีวีทีไร ฝันร้ายทุกที ผู้หญิงอะไร น่ากลัวชะมัด) ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ เดินทางไปที่เมือง ทริโปลี Tripoli ด้วยเครื่องบินทหาร ที่มีการคุ้มกันหลายชั้น แม้แต่แมลงวันที่คุ้นเคยกัน ก็คงเข้าไปตอมคุณนายไม่ถึง คุณนายประกาศเสียงดังฟังชัดว่า เราจะต้องจับตัวกัดดาฟี มาให้ได้ ไม่ว่า จับตาย หรือจับเป็น “dead or alive” นี่! มันยิ่งกว่าบทพระเอก ไปทำหน้าเศร้าที่ซูดานอีกนะ บทนี้มันเป็นบทนางสิงห์สั่งฆ่าเลย กัดดาฟี จะอย่างไรก็เป็นประมุขประเทศ เป็นประเทศเอกราช ไม่ได้เป็นขี้ข้าใคร ทำดี ทำชั่ว ศาลระหว่างประเทศมี อเมริกา และรัฐมนตรีต่างประเทศของตน ใช้สิทธิอะไร เที่ยวประกาศ ตัดสินว่า ประเทศไหน ต้องมีนโยบายอย่างไร ประมุขประเทศ ต้องทำตัวอย่างไร ตามใจอเมริกาอย่างไร ถ้าไม่ถูกใจนี่ อเมริกา สั่งฆ่าได้เลยหรือ เรื่องนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ และสะอิดสะเอียนที่สุด เรื่องนี้ สำนักข่าว Associated Press รายงานข่าวว่า … นางคลินตันพูดแบบไม่อ้อมค้อมเป็นพิเศษว่า อเมริกา ต้องการเห็น อดีตเผด็จการ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ถึงแก่ความตาย…. … เราหวังว่า เขาจะถูกจับ หรือถูก ฆ่า เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ต้องกลัวเขาอีกต่อไป .. Clinton declared in unusually blunt terms that the United States would like to see former dictator Muammar Gaddafi dead.. …We hope he can be captured or killed soon so that you don’t have to fear him any longer… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 19 ก.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • These Synonyms For “I Mean” Will Help You Communicate Clearly

    I mean, we all know pepperoni pizza is best, right? I mean, come on! The only people who dislike pepperoni are those pineapple lovers who, I mean, wouldn’t know a good pizza if it fell on their head!

    While this example is admittedly a little silly, it shows how phrases like I mean can slip into sentences without really adding much to the conversation. There is certainly nothing wrong with that, but it can make your writing and speech a little less formal than you might have intended. So, what other options do we have? There are actually more than you might think!

    I mean and other filler words
    The phrase I mean is an example of what are known as filler words. Filler words, which go by many other names, are words and phrases that are used in sentences for reasons other than the literal meaning of the words themselves. Some other examples of filler words that are used similarly to I mean include you know, like, well, and just.

    Talking about I mean specifically, the phrase is often used as a pause, as an enhancing phrase, or to simply make a sentence longer. Often, filler words don’t serve much purpose at all and can be removed from a sentence without changing its meaning. For example, we can remove I mean from the sentence The movie wasn’t very good, but, I mean, the sequel might be better without changing the meaning at all.

    However, filler words aren’t bad. They do have several important uses in casual and informal speech and writing. In speech, filler words give a speaker a chance to slow down and catch their breath, establish a friendly tone with an audience, or give their brain a chance to think about what to say or digest what someone else has said. In writing, they are used to make dialogue sound more natural or to allow a writer to establish an informal voice to try and connect with readers, especially younger readers who use filler words more often than other audiences.

    What to do with filler words like I mean
    In casual and formal speech/writing, there isn’t anything wrong with using filler words every now and again. In fact, most people agree that using filler words makes speech sound more natural than speech that doesn’t use them at all.

    That being said, there are alternatives to using filler words if you think you might be using them just a bit too much in your speech. Let’s look at a few different ways you could handle filler words like I mean.

    Remove filler words: The easiest and most direct option is to simply get rid of the filler words entirely. In many situations, the filler words weren’t really doing much in the sentence, so taking them out won’t change what you were trying to say.

    Filler word sentence: Benny painted his house pink, and, I mean, I kinda like it.
    Filler words removed: Benny painted his house pink, and I kinda like it.
    Use a short pause: Rather than slip a filler word or two in there to buy time, you could simply just pause for a second to catch your breath or quickly consider what you want to say. Similar to an enhancing filler word, a pause can also catch someone’s attention and indicate that your next words are important or dramatic.

    Replace filler words with adverbs, transitional phrases, or more formal alternatives: Most of the time, there are other words and phrases that can serve the same role as a filler word without making a sentence sound too informal or casual. Let’s take a look at a couple of examples:

    Original: You shouldn’t talk about his sister like that. I mean, it’s not nice.
    Replaced: You shouldn’t talk about his sister like that. Honestly, it’s not nice.
    Original: We could go into the bear cave if, I mean, we had no other options.
    Replaced: We could go into the bear cave if it turned out that we had no other options.

    Formal alternatives and synonyms for I mean
    While filler words are typically not a problem in casual and informal writing and speech, the same can’t be said for formal contexts. In formal writing and speech, filler words are often viewed as making a person seem unprepared, unprofessional, or inexperienced. It is thought that filler words like I mean will make your writing or speech weaker and/or less effective.

    That being the case, you’ll typically need to remove I mean completely or swap it out for something else. You can use the following list for some great alternatives for I mean that you can use in your formal writing and speech:

    In other words
    Putting it another way
    To put it another way
    Putting it simply
    For one thing
    That is
    That is to say
    After all
    As a matter of fact
    For one thing
    For lack of a better word
    In a nutshell
    We can say that
    What I intend to show is that
    It is clear to see that
    This means that
    What I mean to say is
    What I mean is
    What I am trying to say is

    สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    These Synonyms For “I Mean” Will Help You Communicate Clearly I mean, we all know pepperoni pizza is best, right? I mean, come on! The only people who dislike pepperoni are those pineapple lovers who, I mean, wouldn’t know a good pizza if it fell on their head! While this example is admittedly a little silly, it shows how phrases like I mean can slip into sentences without really adding much to the conversation. There is certainly nothing wrong with that, but it can make your writing and speech a little less formal than you might have intended. So, what other options do we have? There are actually more than you might think! I mean and other filler words The phrase I mean is an example of what are known as filler words. Filler words, which go by many other names, are words and phrases that are used in sentences for reasons other than the literal meaning of the words themselves. Some other examples of filler words that are used similarly to I mean include you know, like, well, and just. Talking about I mean specifically, the phrase is often used as a pause, as an enhancing phrase, or to simply make a sentence longer. Often, filler words don’t serve much purpose at all and can be removed from a sentence without changing its meaning. For example, we can remove I mean from the sentence The movie wasn’t very good, but, I mean, the sequel might be better without changing the meaning at all. However, filler words aren’t bad. They do have several important uses in casual and informal speech and writing. In speech, filler words give a speaker a chance to slow down and catch their breath, establish a friendly tone with an audience, or give their brain a chance to think about what to say or digest what someone else has said. In writing, they are used to make dialogue sound more natural or to allow a writer to establish an informal voice to try and connect with readers, especially younger readers who use filler words more often than other audiences. What to do with filler words like I mean In casual and formal speech/writing, there isn’t anything wrong with using filler words every now and again. In fact, most people agree that using filler words makes speech sound more natural than speech that doesn’t use them at all. That being said, there are alternatives to using filler words if you think you might be using them just a bit too much in your speech. Let’s look at a few different ways you could handle filler words like I mean. Remove filler words: The easiest and most direct option is to simply get rid of the filler words entirely. In many situations, the filler words weren’t really doing much in the sentence, so taking them out won’t change what you were trying to say. Filler word sentence: Benny painted his house pink, and, I mean, I kinda like it. Filler words removed: Benny painted his house pink, and I kinda like it. Use a short pause: Rather than slip a filler word or two in there to buy time, you could simply just pause for a second to catch your breath or quickly consider what you want to say. Similar to an enhancing filler word, a pause can also catch someone’s attention and indicate that your next words are important or dramatic. Replace filler words with adverbs, transitional phrases, or more formal alternatives: Most of the time, there are other words and phrases that can serve the same role as a filler word without making a sentence sound too informal or casual. Let’s take a look at a couple of examples: Original: You shouldn’t talk about his sister like that. I mean, it’s not nice. Replaced: You shouldn’t talk about his sister like that. Honestly, it’s not nice. Original: We could go into the bear cave if, I mean, we had no other options. Replaced: We could go into the bear cave if it turned out that we had no other options. Formal alternatives and synonyms for I mean While filler words are typically not a problem in casual and informal writing and speech, the same can’t be said for formal contexts. In formal writing and speech, filler words are often viewed as making a person seem unprepared, unprofessional, or inexperienced. It is thought that filler words like I mean will make your writing or speech weaker and/or less effective. That being the case, you’ll typically need to remove I mean completely or swap it out for something else. You can use the following list for some great alternatives for I mean that you can use in your formal writing and speech: In other words Putting it another way To put it another way Putting it simply For one thing That is That is to say After all As a matter of fact For one thing For lack of a better word In a nutshell We can say that What I intend to show is that It is clear to see that This means that What I mean to say is What I mean is What I am trying to say is สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทยาศาสตร์สร้างผ้าดำที่สุดในโลก ดูดซับแสงได้ถึง 99.87%

    ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ สหรัฐฯ ได้พัฒนาผ้าขนสัตว์เมอริโนที่ผ่านการเคลือบด้วยโพลีโดปามีนและการบำบัดด้วยพลาสมา จนเกิดโครงสร้างระดับนาโนที่สามารถดักจับและสะท้อนแสงภายใน ทำให้ผ้าชนิดนี้ดูดซับแสงได้มากถึง 99.87% ซึ่งถือเป็นผ้าที่ดำที่สุดที่เคยถูกสร้างขึ้นมา

    แรงบันดาลใจของงานวิจัยนี้มาจากนก Magnificent Riflebird ที่มีขนดำพิเศษซึ่งสามารถดูดซับแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักวิจัยเลียนแบบโครงสร้างเส้นใยเล็กๆ (nanofibrils) ของขนดังกล่าว เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ “ultrablack” ที่ไม่สะท้อนแสงแม้มองจากมุมต่างๆ ถึง 60 องศา ซึ่งเหนือกว่าความสามารถของขนนกจริง

    แม้จะไม่ดำที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับวัสดุอย่าง Vantablack (ดูดซับแสง 99.96%) หรือวัสดุคาร์บอนนาโนทิวบ์จาก MIT (99.995%) แต่ผ้าดำใหม่นี้มีข้อได้เปรียบคือ ผลิตง่ายและราคาถูกกว่า จึงมีศักยภาพในการนำไปใช้จริงในหลายด้าน เช่น แฟชั่น การถ่ายภาพ และงานวิทยาศาสตร์ที่ต้องการวัสดุควบคุมแสง

    นอกจากนี้ นักศึกษาด้านแฟชั่นของคอร์เนลล์ยังได้นำผ้าดำพิเศษนี้ไปสร้างชุดเดรสที่มีการไล่เฉดสีจากเทาเข้มไปจนถึงดำสนิท พร้อมจุดสีฟ้า-เขียวตรงกลางเพื่อเลียนแบบอกของนก riflebird ถือเป็นการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และศิลปะที่น่าทึ่ง

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    ผ้าดำที่สุดที่เคยสร้าง
    ดูดซับแสงได้ 99.87%
    ใช้โพลีโดปามีนและการบำบัดพลาสมา

    แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ
    เลียนแบบโครงสร้างขนนก Magnificent Riflebird
    สร้างเอฟเฟกต์ ultrablack ที่คงทนแม้มองจากหลายมุม

    เปรียบเทียบกับวัสดุอื่น
    ดำไม่เท่า Vantablack หรือคาร์บอนนาโนทิวบ์
    แต่ผลิตง่ายและราคาถูกกว่า เหมาะต่อการใช้งานจริง

    การประยุกต์ใช้งาน
    แฟชั่นและการออกแบบเสื้อผ้า
    งานวิทยาศาสตร์และการถ่ายภาพที่ต้องการควบคุมแสง

    ข้อควรระวัง
    แม้จะผลิตง่าย แต่ยังต้องตรวจสอบความทนทานระยะยาว
    การใช้งานในอุตสาหกรรมต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม

    https://www.sciencealert.com/blackest-fabric-ever-made-absorbs-99-87-of-all-light-that-hits-it
    ✨ นักวิทยาศาสตร์สร้างผ้าดำที่สุดในโลก ดูดซับแสงได้ถึง 99.87% ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ สหรัฐฯ ได้พัฒนาผ้าขนสัตว์เมอริโนที่ผ่านการเคลือบด้วยโพลีโดปามีนและการบำบัดด้วยพลาสมา จนเกิดโครงสร้างระดับนาโนที่สามารถดักจับและสะท้อนแสงภายใน ทำให้ผ้าชนิดนี้ดูดซับแสงได้มากถึง 99.87% ซึ่งถือเป็นผ้าที่ดำที่สุดที่เคยถูกสร้างขึ้นมา แรงบันดาลใจของงานวิจัยนี้มาจากนก Magnificent Riflebird ที่มีขนดำพิเศษซึ่งสามารถดูดซับแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักวิจัยเลียนแบบโครงสร้างเส้นใยเล็กๆ (nanofibrils) ของขนดังกล่าว เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ “ultrablack” ที่ไม่สะท้อนแสงแม้มองจากมุมต่างๆ ถึง 60 องศา ซึ่งเหนือกว่าความสามารถของขนนกจริง แม้จะไม่ดำที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับวัสดุอย่าง Vantablack (ดูดซับแสง 99.96%) หรือวัสดุคาร์บอนนาโนทิวบ์จาก MIT (99.995%) แต่ผ้าดำใหม่นี้มีข้อได้เปรียบคือ ผลิตง่ายและราคาถูกกว่า จึงมีศักยภาพในการนำไปใช้จริงในหลายด้าน เช่น แฟชั่น การถ่ายภาพ และงานวิทยาศาสตร์ที่ต้องการวัสดุควบคุมแสง นอกจากนี้ นักศึกษาด้านแฟชั่นของคอร์เนลล์ยังได้นำผ้าดำพิเศษนี้ไปสร้างชุดเดรสที่มีการไล่เฉดสีจากเทาเข้มไปจนถึงดำสนิท พร้อมจุดสีฟ้า-เขียวตรงกลางเพื่อเลียนแบบอกของนก riflebird ถือเป็นการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และศิลปะที่น่าทึ่ง 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ ผ้าดำที่สุดที่เคยสร้าง ➡️ ดูดซับแสงได้ 99.87% ➡️ ใช้โพลีโดปามีนและการบำบัดพลาสมา ✅ แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ➡️ เลียนแบบโครงสร้างขนนก Magnificent Riflebird ➡️ สร้างเอฟเฟกต์ ultrablack ที่คงทนแม้มองจากหลายมุม ✅ เปรียบเทียบกับวัสดุอื่น ➡️ ดำไม่เท่า Vantablack หรือคาร์บอนนาโนทิวบ์ ➡️ แต่ผลิตง่ายและราคาถูกกว่า เหมาะต่อการใช้งานจริง ✅ การประยุกต์ใช้งาน ➡️ แฟชั่นและการออกแบบเสื้อผ้า ➡️ งานวิทยาศาสตร์และการถ่ายภาพที่ต้องการควบคุมแสง ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ แม้จะผลิตง่าย แต่ยังต้องตรวจสอบความทนทานระยะยาว ⛔ การใช้งานในอุตสาหกรรมต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม https://www.sciencealert.com/blackest-fabric-ever-made-absorbs-99-87-of-all-light-that-hits-it
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Blackest Fabric Ever Made Absorbs 99.87% of All Light That Hits It
    If you want to stand out at your next metal gig, don't settle for a spot of color in a sea of black – go ultrablack instead.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรคใหม่จากเห็บในสุนัข อาจเสี่ยงต่อมนุษย์

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัฐนอร์ทแคโรไลนาได้ค้นพบเชื้อแบคทีเรียสายพันธุ์ใหม่ชื่อ Rickettsia finnyi ซึ่งถูกตรวจพบในสุนัขที่ป่วยคล้ายโรค Rocky Mountain Spotted Fever (RMSF) ที่เคยเป็นภัยร้ายแรงในสหรัฐฯ การค้นพบนี้สร้างความกังวลว่าเชื้ออาจข้ามสายพันธุ์มาสู่มนุษย์ได้ เนื่องจากเชื้อในกลุ่มเดียวกันมีประวัติทำให้เกิดโรคในคนมาแล้วหลายชนิด

    การติดเชื้อในสุนัขที่พบมีอาการตั้งแต่ไข้สูง อ่อนเพลีย ไปจนถึงภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งบางรายถึงขั้นเสียชีวิต แม้ส่วนใหญ่จะรักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้ผล แต่ก็มีกรณีที่กลับมาเป็นซ้ำและเสียชีวิตภายหลัง นักวิจัยย้ำว่าการเฝ้าระวังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเชื้อในกลุ่ม Rickettsia มักซ่อนตัวอยู่ในเซลล์ ทำให้การตรวจวินิจฉัยยากและเสี่ยงต่อการแพร่กระจายโดยไม่รู้ตัว

    สิ่งที่น่าสนใจคือ เชื้อ Rickettsia finnyi ถูกพบ DNA ในเห็บสายพันธุ์ Lone Star Tick ซึ่งมีถิ่นกระจายอยู่ในพื้นที่ตะวันออกและตอนกลางของสหรัฐฯ เห็บชนิดนี้เป็นพาหะของโรคหลายชนิด เช่น ehrlichiosis, tularemia และแม้กระทั่งภาวะภูมิแพ้เนื้อแดง (alpha-gal syndrome) การที่เชื้อใหม่ถูกเชื่อมโยงกับเห็บชนิดนี้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่สู่มนุษย์

    นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า แม้ยังไม่มีหลักฐานการติดเชื้อในคน แต่ความสามารถของเชื้อในการอยู่รอดในเซลล์สัตว์เลี้ยงเป็นเวลานาน แสดงให้เห็นว่ามันอาจกลายเป็นภัยสาธารณสุขในอนาคต หากไม่เร่งศึกษาวงจรชีวิตและพาหะที่แท้จริง การป้องกันและการเฝ้าระวังจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การค้นพบเชื้อใหม่ Rickettsia finnyi
    พบในสุนัขที่มีอาการคล้ายโรค RMSF และบางรายเสียชีวิต
    ถูกตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่สุนัข “Finny” ที่เป็นต้นเคส

    อาการในสุนัขที่ติดเชื้อ
    ไข้สูง อ่อนเพลีย และภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
    ส่วนใหญ่รักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้ แต่บางรายกลับมาเป็นซ้ำ

    เห็บ Lone Star Tick เป็นพาหะที่น่าสงสัย
    มีถิ่นกระจายกว้างในสหรัฐฯ และเป็นพาหะโรคหลายชนิด
    พบ DNA ของ R. finnyi ในเห็บชนิดนี้

    ความเสี่ยงต่อมนุษย์
    เชื้อในกลุ่ม Rickettsia มีประวัติทำให้เกิดโรคในคน
    หากข้ามสายพันธุ์ได้ อาจกลายเป็นภัยสาธารณสุขใหม่

    ความยากในการตรวจวินิจฉัย
    เชื้อเติบโตภายในเซลล์ ทำให้การตรวจหายาก
    เสี่ยงต่อการแพร่กระจายโดยไม่ถูกค้นพบทันเวลา

    https://www.sciencealert.com/new-tick-borne-disease-discovered-in-dogs-may-pose-a-risk-to-humans
    🦠 โรคใหม่จากเห็บในสุนัข อาจเสี่ยงต่อมนุษย์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัฐนอร์ทแคโรไลนาได้ค้นพบเชื้อแบคทีเรียสายพันธุ์ใหม่ชื่อ Rickettsia finnyi ซึ่งถูกตรวจพบในสุนัขที่ป่วยคล้ายโรค Rocky Mountain Spotted Fever (RMSF) ที่เคยเป็นภัยร้ายแรงในสหรัฐฯ การค้นพบนี้สร้างความกังวลว่าเชื้ออาจข้ามสายพันธุ์มาสู่มนุษย์ได้ เนื่องจากเชื้อในกลุ่มเดียวกันมีประวัติทำให้เกิดโรคในคนมาแล้วหลายชนิด การติดเชื้อในสุนัขที่พบมีอาการตั้งแต่ไข้สูง อ่อนเพลีย ไปจนถึงภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งบางรายถึงขั้นเสียชีวิต แม้ส่วนใหญ่จะรักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้ผล แต่ก็มีกรณีที่กลับมาเป็นซ้ำและเสียชีวิตภายหลัง นักวิจัยย้ำว่าการเฝ้าระวังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเชื้อในกลุ่ม Rickettsia มักซ่อนตัวอยู่ในเซลล์ ทำให้การตรวจวินิจฉัยยากและเสี่ยงต่อการแพร่กระจายโดยไม่รู้ตัว สิ่งที่น่าสนใจคือ เชื้อ Rickettsia finnyi ถูกพบ DNA ในเห็บสายพันธุ์ Lone Star Tick ซึ่งมีถิ่นกระจายอยู่ในพื้นที่ตะวันออกและตอนกลางของสหรัฐฯ เห็บชนิดนี้เป็นพาหะของโรคหลายชนิด เช่น ehrlichiosis, tularemia และแม้กระทั่งภาวะภูมิแพ้เนื้อแดง (alpha-gal syndrome) การที่เชื้อใหม่ถูกเชื่อมโยงกับเห็บชนิดนี้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่สู่มนุษย์ นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า แม้ยังไม่มีหลักฐานการติดเชื้อในคน แต่ความสามารถของเชื้อในการอยู่รอดในเซลล์สัตว์เลี้ยงเป็นเวลานาน แสดงให้เห็นว่ามันอาจกลายเป็นภัยสาธารณสุขในอนาคต หากไม่เร่งศึกษาวงจรชีวิตและพาหะที่แท้จริง การป้องกันและการเฝ้าระวังจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การค้นพบเชื้อใหม่ Rickettsia finnyi ➡️ พบในสุนัขที่มีอาการคล้ายโรค RMSF และบางรายเสียชีวิต ➡️ ถูกตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่สุนัข “Finny” ที่เป็นต้นเคส ✅ อาการในสุนัขที่ติดเชื้อ ➡️ ไข้สูง อ่อนเพลีย และภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ➡️ ส่วนใหญ่รักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้ แต่บางรายกลับมาเป็นซ้ำ ✅ เห็บ Lone Star Tick เป็นพาหะที่น่าสงสัย ➡️ มีถิ่นกระจายกว้างในสหรัฐฯ และเป็นพาหะโรคหลายชนิด ➡️ พบ DNA ของ R. finnyi ในเห็บชนิดนี้ ‼️ ความเสี่ยงต่อมนุษย์ ⛔ เชื้อในกลุ่ม Rickettsia มีประวัติทำให้เกิดโรคในคน ⛔ หากข้ามสายพันธุ์ได้ อาจกลายเป็นภัยสาธารณสุขใหม่ ‼️ ความยากในการตรวจวินิจฉัย ⛔ เชื้อเติบโตภายในเซลล์ ทำให้การตรวจหายาก ⛔ เสี่ยงต่อการแพร่กระจายโดยไม่ถูกค้นพบทันเวลา https://www.sciencealert.com/new-tick-borne-disease-discovered-in-dogs-may-pose-a-risk-to-humans
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    New Tick-Borne Disease Discovered in Dogs May Pose a Risk to Humans
    Several dogs in the US have died following infections by a newly discovered tick-borne disease from the same genus responsible for 'spotted fever'.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251205 #TechRadar

    บอทเน็ต Aisuru ทำสถิติใหม่โจมตี DDoS 29.7 Tbps
    เรื่องนี้เป็นการกลับมาอีกครั้งของบอทเน็ตชื่อ Aisuru ที่ใช้เครื่อง IoT กว่า 4 ล้านเครื่องในการสร้างการโจมตี DDoS ที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดย Cloudflare รายงานว่าเพียงไตรมาสเดียวก็ต้องรับมือกับการโจมตีมากกว่า 1,300 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งมีความรุนแรงระดับหลาย Tbps เหยื่อที่โดนล่าสุดมีทั้งบริษัทเกม Gcore และ Microsoft ที่เจอการโจมตีบนคลาวด์สูงถึง 15.72 Tbps จุดที่น่ากังวลคือบอทเน็ตนี้ถูกให้บริการเป็น “บริการเช่า” ใครก็สามารถใช้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญได้ง่ายๆ
    https://www.techradar.com/pro/security/this-ddos-group-just-smashed-the-previous-record-with-a-29-7-tbps-attack

    Samsung OLED รุ่นใหม่หลุด พร้อมทีวี “The Frame” ขนาดยักษ์ 98 นิ้ว
    มีข้อมูลหลุดจากฐานข้อมูลอะไหล่ของ Samsung ในยุโรป เผยว่าปี 2026 จะมีทีวี OLED รุ่นใหม่หลายรุ่น รวมถึง S99H ที่คาดว่าจะเหนือกว่ารุ่นเรือธง S95F ที่เพิ่งได้รางวัลทีวีแห่งปี และยังมีการเตรียมเปิดตัว “The Frame” ขนาด 98 นิ้ว ซึ่งใหญ่จนแทบจะเรียกว่า “The Mural” ได้เลย นอกจากนี้ยังมีรุ่น S82H และ S83H ที่ใช้แผง WOLED จาก LG Display เพื่อเจาะตลาดราคาย่อมเยา คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน CES 2026
    https://www.techradar.com/televisions/samsungs-next-gen-oled-tvs-leak-including-a-mysterious-new-elite-model

    Microsoft ปิดช่องโหว่ LNK ที่ถูกใช้โจมตีมานานหลายปี
    Microsoft ได้ออกแพตช์ในเดือนพฤศจิกายนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ในไฟล์ .LNK ที่ถูกใช้โจมตีมาตั้งแต่ปี 2017 ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถซ่อนคำสั่งอันตรายในไฟล์ชอร์ตคัต และเมื่อผู้ใช้เปิดดูไฟล์ก็จะไม่เห็นคำสั่งที่แท้จริง ทำให้เกิดการโจมตีแบบ Remote Code Execution ได้ ช่องโหว่นี้ถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐหลายประเทศ เช่น จีน อิหร่าน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย หลังจากถูกเตือนหลายครั้ง Microsoft จึงตัดสินใจแก้ไขอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-quietly-patches-lnk-vulnerability-thats-been-weaponized-for-years

    เบราว์เซอร์ AI กำลังเปลี่ยนเกม แต่ความปลอดภัยยังตามไม่ทัน
    เบราว์เซอร์ยุคใหม่อย่าง Edge ที่มี Copilot หรือ Chrome ที่ใส่ Gemini กำลังทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นมาก ทั้งการสรุปเนื้อหา แปลภาษา หรือค้นหาข้อมูล แต่ความสะดวกนี้ก็แฝงความเสี่ยง เพราะ AI อาจถูกหลอกด้วยข้อความหรือโค้ดที่ซ่อนอยู่ในหน้าเว็บ แล้วทำงานตามคำสั่งที่เป็นอันตราย เช่น ส่งข้อมูลเข้าสู่มือแฮกเกอร์โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว ปัญหาคือการนำ AI มาใช้ในเบราว์เซอร์เกิดขึ้นเร็วมาก จนมาตรการด้านความปลอดภัยยังไม่ทันตาม ทำให้ผู้เชี่ยวชี้เตือนว่าต้องระวังการโจมตีรูปแบบใหม่ที่แทบไม่มีร่องรอยให้ตรวจจับ
    https://www.techradar.com/pro/ai-browsers-are-rewriting-the-rules-is-your-security-keeping-pace

    บทเรียนจากการวิ่งมาราธอนสู่การทำงานด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้
    Stephanie Schneider เล่าประสบการณ์ว่า การวิ่งมาราธอน 26.2 ไมล์สอนให้เธอเข้าใจความอดทนและการจัดการพลังงาน ซึ่งเหมือนกับการทำงานในโลกไซเบอร์ที่เต็มไปด้วยแรงกดดันและความเหนื่อยล้า เธอเปรียบเทียบว่าเหมือนการเจอ “กำแพง” ตอนวิ่ง ที่ต้องใช้ใจสู้ต่อไป เช่นเดียวกับการทำงานที่ต้องเจอภัยคุกคามใหม่ๆ ทุกวัน การฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง การแบ่งเป้าหมายเป็นขั้นตอนเล็กๆ และการรักษาความสมดุลคือสิ่งที่ทำให้ทั้งนักวิ่งและนักไซเบอร์สามารถไปถึงเส้นชัยได้
    https://www.techradar.com/pro/im-a-marathoner-and-a-cybersecurity-leader-heres-what-26-2-miles-have-taught-me-about-work

    Microsoft ปฏิเสธข่าวลดเป้าหมายยอดขาย AI หลังลูกค้าต้านทาน
    มีรายงานว่าลูกค้าหลายรายลังเลที่จะลงทุนในเครื่องมือ AI ของ Microsoft เพราะราคาสูงและยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่ทาง Microsoft ออกมาปฏิเสธข่าวลือว่ามีการปรับลดเป้าหมายยอดขาย โดยยืนยันว่าความต้องการยังคงแข็งแรง เพียงแต่ลูกค้าบางกลุ่มต้องใช้เวลาในการปรับตัวและวางกลยุทธ์การใช้งานจริง เรื่องนี้สะท้อนว่าการนำ AI เข้ามาในองค์กรไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมและวิธีทำงานด้วย
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-denies-reports-of-lower-ai-sales-targets-as-customers-resist-new-tools

    วิกฤติชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์หนักขึ้น RAM ผู้ผลิตใหญ่เลิกตลาดผู้บริโภค
    ตลาดคอมพิวเตอร์กำลังเจอปัญหาหนัก เมื่อผู้ผลิต RAM รายใหญ่ประกาศเลิกทำตลาดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป หันไปเน้นตลาดองค์กรแทน ทำให้เกิดความกังวลว่าราคาชิ้นส่วนจะพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าราคาซีพียูจะปรับขึ้นอีกด้วย สถานการณ์นี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการอัปเกรดหรือประกอบเครื่องใหม่อาจต้องเจอค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอย่างมาก
    https://www.techradar.com/computing/memory/pc-component-crisis-just-got-worse-as-major-ram-maker-gives-up-on-consumers-and-cpu-price-hikes-are-rumored

    YouTube เตรียมบล็อกผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีในออสเตรเลีย
    ท่ามกลางการถกเถียงเรื่องการแบนโซเชียลมีเดียสำหรับเยาวชนในออสเตรเลีย YouTube ประกาศว่าจะบล็อกการใช้งานสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลกำลังพิจารณากฎหมายใหม่เพื่อจำกัดการเข้าถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ของเด็กและเยาวชน โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและความปลอดภัย แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการบังคับใช้เข้มงวดเกินไปและอาจกระทบต่อเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/youtube-to-lock-out-under-16s-in-australia-as-controversial-social-media-ban-looms

    รีวิวเครื่องสแกนหนังสือ CZUR ET24 Pro
    เครื่องสแกนหนังสือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการแปลงหนังสือเป็นไฟล์ดิจิทัล จุดเด่นคือสามารถสแกนได้เร็วและมีฟีเจอร์แก้ไขภาพอัตโนมัติ เช่น การปรับหน้าหนังสือที่โค้งให้ออกมาเรียบ รวมถึงการตรวจจับหน้าที่พลิกอัตโนมัติ เหมาะสำหรับนักวิจัย นักเรียน หรือผู้ที่ต้องการเก็บเอกสารจำนวนมากในรูปแบบดิจิทัล รีวิวชี้ว่าคุณภาพการสแกนคมชัดและใช้งานง่าย แต่ราคาก็ถือว่าสูงพอสมควร
    https://www.techradar.com/computing/czur-et24-pro-book-scanner-review

    ข้อมูลลูกค้า Freedom Mobile ถูกขโมยจากแพลตฟอร์มจัดการบัญชี
    มีการแฮกแพลตฟอร์มจัดการบัญชีของ Freedom Mobile ทำให้ข้อมูลลูกค้าถูกขโมยไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมาก เพราะข้อมูลที่รั่วไหลอาจรวมถึงรายละเอียดส่วนตัวและข้อมูลการติดต่อ ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องเผชิญ และตอกย้ำว่าการป้องกันข้อมูลลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องลงทุนอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/customer-data-stolen-in-freedom-mobile-account-management-platform-hack

    ChatGPT อาจไม่ปลอดภัยเท่าเดิม หลังศาลสั่งให้ OpenAI ส่งมอบข้อมูลการสนทนา
    เรื่องนี้เริ่มจากการฟ้องร้องของ The New York Times ต่อ OpenAI โดยศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้บริษัทต้องส่งมอบบันทึกการสนทนากว่า 20 ล้านรายการ เพื่อใช้ตรวจสอบการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้ศาลยืนยันว่าจะมีการลบข้อมูลระบุตัวตนเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัว แต่ OpenAI กลับมองว่าการกระทำนี้บั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เพราะถึงแม้ชื่อจะถูกลบออก แต่รูปแบบการสนทนาก็ยังสามารถบอกอะไรได้มากมาย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ข้อมูลการแชทถูกบังคับให้เปิดเผย และอาจเป็นสัญญาณของการต่อสู้เรื่องความเป็นส่วนตัวในโลก AI ที่กำลังจะเข้มข้นขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/your-chatgpt-chats-could-be-less-private-than-you-thought-heres-what-a-new-openai-court-ruling-means-for-you

    รัสเซียบล็อก FaceTime และ Roblox เพิ่มเติมในมาตรการควบคุมอินเทอร์เน็ต
    รัฐบาลรัสเซียเดินหน้าจำกัดเสรีภาพดิจิทัลมากขึ้น โดยล่าสุด FaceTime และ Roblox ถูกบล็อกอย่างเป็นทางการ เหตุผลที่อ้างคือการป้องกันการก่อการร้ายและการปกป้องเยาวชน แต่ผู้ใช้จำนวนมากมองว่านี่คือการตัดขาดจากโลกภายนอก เด็กและวัยรุ่นที่เคยใช้ Roblox เพื่อเล่นและสื่อสารได้รับผลกระทบหนัก ขณะเดียวกัน FaceTime ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นช่องทางในการจัดกิจกรรมผิดกฎหมาย ทำให้ผู้คนหันไปใช้แอปที่รัฐสนับสนุนแทน เช่น MAX ซึ่งถูกบังคับติดตั้งในมือถือใหม่ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องการถูกสอดส่องมากขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/roblox-facetime-become-the-last-targets-of-russias-censorship

    Hyundai เปิดตัวหุ่นยนต์อเนกประสงค์ MobED ที่แปลงร่างได้หลากหลาย
    Hyundai กำลังจะวางขายหุ่นยนต์แพลตฟอร์มใหม่ชื่อ MobED ที่สามารถปรับตัวได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง จุดเด่นคือระบบล้อที่หมุนและปรับองศาได้ ทำให้มันเคลื่อนที่บนพื้นขรุขระหรือขึ้นบันไดเล็ก ๆ ได้อย่างมั่นคง ผู้ใช้สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้ตามต้องการ เช่น แขนกลสำหรับงานคลังสินค้า รถเข็นกอล์ฟ หรือแม้แต่กล้องถ่ายคอนเทนต์อัตโนมัติ Hyundai ตั้งใจผลิตด้วยมาตรฐานยานยนต์เพื่อให้ใช้งานจริงในโรงงานและชีวิตประจำวัน และยังมีแผนทำเวอร์ชัน Pro ที่ติดเซ็นเซอร์และ Lidar สำหรับการทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/hyundais-charming-autonomous-robot-can-be-everything-from-a-golf-trolley-to-an-e-scooter-and-its-going-on-sale-soon

    ซีอีโอเตือนการลงทุนด้าน AI ต้องมีแผน ไม่ใช่แค่ตามกระแส
    หลายผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีออกมาเตือนว่าการลงทุนใน AI กำลังเสี่ยงจะกลายเป็น “ฟองสบู่” Logitech ชี้ว่าหลายผลิตภัณฑ์ AI เป็นเพียงการสร้างสิ่งที่ไม่ตอบโจทย์จริง Anthropic ก็เตือนว่าการทุ่มเงินมหาศาลโดยไม่คำนวณความเสี่ยงอาจทำให้เกิดผลเสียทางการเงิน ขณะที่ Google และ OpenAI เองก็ยอมรับว่าความตื่นตัวเกินไปอาจทำให้นักลงทุนเจ็บตัวในอนาคต สรุปคือ AI เป็นเครื่องมือทรงพลัง แต่ต้องใช้กลยุทธ์และการวางแผน ไม่ใช่การลงทุนแบบ “YOLO”
    https://www.techradar.com/pro/ceos-are-warning-ai-adoption-and-spending-should-be-more-strategic

    อัปเกรด Raspberry Pi แค่ $10 ได้ทั้ง PCIe และ HDMI คู่
    Waveshare เปิดตัวอะแดปเตอร์ใหม่สำหรับ Raspberry Pi 5 ที่ราคาเพียง $10 แต่เพิ่มความสามารถได้มากมาย ทั้งการเชื่อมต่อ PCIe M.2 สำหรับ SSD และพอร์ต HDMI ขนาดเต็มสองช่อง ทำให้สามารถบูตระบบจาก NVMe SSD ได้โดยตรง และใช้งานเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับนักพัฒนาและผู้ที่อยากขยายความสามารถของบอร์ดเล็ก ๆ ให้ทำงานได้ใกล้เคียงเดสก์ท็อป แม้จะรองรับเฉพาะการ์ด M.2 ขนาดเล็ก แต่ถือเป็นการอัปเกรดที่คุ้มค่าและเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานอย่างมาก
    https://www.techradar.com/pro/looking-to-supercharge-your-raspberry-pi-this-adapter-provides-two-full-sized-hdmi-ports-and-a-pcie-connector-and-it-only-costs-usd10

    ธนาคารสหรัฐกว่า 70 แห่งถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Marquis
    มีรายงานว่าธนาคารและสหภาพเครดิตในสหรัฐฯ กว่า 70 แห่งตกเป็นเหยื่อการโจมตีของกลุ่มแฮกเกอร์ Marquis โดยข้อมูลลูกค้าถูกขโมยและถูกนำไปขายในตลาดมืด การโจมตีครั้งนี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อระบบการเงิน เพราะ Marquis มีประวัติการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่หลายครั้งแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าธนาคารต้องเร่งเสริมระบบป้องกันไซเบอร์ และลูกค้าควรตรวจสอบบัญชีของตนเองอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด
    https://www.techradar.com/pro/security/over-70-us-banks-and-credit-unions-affected-by-marquis-ransomware-breach-heres-what-we-know

    ค้นพบแหล่งดินเหนียวที่มีลิเทียมมหาศาลในสหรัฐฯ
    นักวิจัยพบแหล่งดินเหนียวที่มีลิเทียมจำนวนมหาศาลภายในซูเปอร์ภูเขาไฟในสหรัฐฯ คาดว่ามีมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ และสามารถใช้ผลิตแบตเตอรี่ได้หลายสิบปี การค้นพบนี้อาจช่วยลดความผันผวนของราคาลิเทียมที่พุ่งสูงในตลาดโลก แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองในพื้นที่ที่เปราะบาง การค้นพบนี้จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด
    https://www.techradar.com/pro/newly-discovered-usd1-5-billion-lithium-deposit-could-revolutionize-the-tech-industry-but-bad-news-its-inside-a-supervolcano

    Android vs iPhone: ผลสำรวจเผยผู้ใช้ TechRadar ชอบฝั่งไหนมากกว่า
    ผลสำรวจจากผู้อ่าน TechRadar แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ยังคงแบ่งขั้วระหว่าง Android และ iPhone อย่างชัดเจน โดย Android ได้คะแนนนิยมจากผู้ที่ชอบความยืดหยุ่นและราคาที่หลากหลาย ส่วน iPhone ได้คะแนนจากผู้ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ใช้งานที่เรียบง่ายและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple อื่น ๆ การถกเถียงเรื่อง “ใครดีกว่า” จึงยังคงดำเนินต่อไป และสะท้อนให้เห็นว่าทั้งสองระบบมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน
    https://www.techradar.com/phones/android-vs-iphone-heres-what-techradar-readers-prefer

    Nvidia CEO Jensen Huang ผลักดันรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อต้านข้อจำกัดชิป AI
    Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ออกมาเรียกร้องต่อสภาคองเกรสและรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ทบทวนข้อจำกัดการส่งออกชิป AI และกฎระเบียบระดับรัฐ เขาเตือนว่าการจำกัดมากเกินไปจะทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบในการแข่งขันระดับโลก โดยเฉพาะกับจีนที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำตลาดชิป AI มองว่าการเปิดเสรีมากขึ้นจะช่วยให้สหรัฐฯ รักษาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/nvidia-boss-jensen-huang-steers-trump-congress-against-ai-chip-limits-and-state-level-ai-rules

    Arm64 แรงแซง x86 ในการทดสอบ AWS Lambda ปี 2025
    ผลการทดสอบล่าสุดของ AWS Lambda เผยว่า Arm64 มีประสิทธิภาพเหนือกว่า x86 อย่างชัดเจน โดยทำงานเร็วขึ้นถึง 4-5 เท่า และลดค่าใช้จ่ายลงกว่า 30% การเปลี่ยนมาใช้สถาปัตยกรรม Arm64 จึงถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบคลาวด์ นักพัฒนาที่ใช้ AWS อาจได้ประโยชน์มหาศาลจากการเปลี่ยนแปลงนี้ เพราะสามารถรันงานได้เร็วขึ้นและประหยัดมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/arm64-dominates-aws-lambda-in-2025-rust-4-5x-faster-than-x86-costs-30-less-across-all-workloads

    Google เปิดตัวเครื่องมือสร้าง AI Agent แบบไม่ต้องมีประสบการณ์
    Google เปิดตัว Workspace Studio ให้ธุรกิจทุกระดับสามารถสร้าง AI Agent ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ด ใช้เพียงการพิมพ์คำสั่งธรรมชาติ ระบบนี้ขับเคลื่อนด้วย Gemini 3 ที่มีความสามารถด้านการวิเคราะห์และเข้าใจบริบทอย่างลึกซึ้ง จุดเด่นคือสามารถทำงานร่วมกับทั้งแอปใน Google Workspace และแอปภายนอก เช่น Asana, Jira, Salesforce และ Mailchimp ได้อย่างราบรื่น ผู้ใช้สามารถแบ่งปัน Agent ที่สร้างขึ้นกับทีมได้เหมือนแชร์ไฟล์ใน Google Drive และมีบริษัทอย่าง Kärcher ที่ทดลองใช้แล้วสามารถลดเวลาการทำงานจากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจทั่วไปเข้าถึง AI ได้ง่ายขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/google-wants-to-help-businesses-build-ai-agents-with-no-prior-experience

    รีวิว Apple Final Cut Pro 2025
    Final Cut Pro เวอร์ชันใหม่ 11.2 ยังคงรักษาจุดแข็งเรื่องการใช้งานที่ลื่นไหลและแนวคิด “Magnetic Timeline” ที่ช่วยให้การตัดต่อรวดเร็วขึ้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเพราะใช้ได้เฉพาะบน Mac และบางฟีเจอร์รองรับเฉพาะเครื่องที่ใช้ Apple Silicon เท่านั้น จุดเด่นคือมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น “Magnetic Mask” ที่ช่วยเลือกและติดตามวัตถุในวิดีโอได้อัตโนมัติ รวมถึงการทำซับไตเติลอัตโนมัติ แม้จะยังไม่สมบูรณ์สำหรับผู้ใช้ Mac รุ่นเก่า แต่ก็ถือว่า Apple กำลังพยายามไล่ตามคู่แข่งอย่าง Premiere Pro และ Resolve โดยยังคงข้อดีเรื่องการจ่ายครั้งเดียวแล้วได้อัปเดตตลอดชีพ
    https://www.techradar.com/pro/apple-final-cut-pro-review

    รีวิว Antigravity A1 โดรน 360 องศา
    Antigravity A1 เป็นโดรนที่รวมเทคโนโลยีการถ่ายภาพ 360 องศาเข้ากับการบิน ทำให้สามารถเก็บภาพและวิดีโอที่มุมมองรอบทิศได้อย่างสมจริง มาพร้อม FPV Goggles และ Motion Controller ที่ให้ประสบการณ์การบินแบบดื่มด่ำ แต่ก็ทำให้ราคาสูงกว่ากล้องโดรนทั่วไปมาก จุดเด่นคือการถ่ายวิดีโอ 8K และการออกแบบที่ทำให้ตัวโดรน “หายไป” จากภาพด้วยเทคนิคการเย็บภาพ จุดด้อยคือการใช้งานต้องมีผู้ช่วยคอยสังเกตโดรนเพื่อความปลอดภัย และคุณภาพภาพยังไม่เทียบเท่ากล้องโดรนระดับสูงอย่าง DJI Mini 5 Pro แต่ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ยังไม่มีคู่แข่งโดยตรง
    https://www.techradar.com/cameras/drones/antigravity-a1-review

    Apple ประกาศ 17 แอปยอดเยี่ยมแห่งปี 2025
    Apple เผยรายชื่อผู้ชนะรางวัล App Store Awards ปี 2025 รวมทั้งหมด 17 แอปและเกมที่โดดเด่นในด้านการออกแบบและการใช้ AI ตัวอย่างเช่น Tiimo แอปวางแผนงานที่คว้ารางวัล iPhone App of the Year, Detail แอปตัดต่อวิดีโอด้วย AI สำหรับ iPad และ Essayist แอปช่วยทำบรรณานุกรมสำหรับ Mac ส่วนเกมที่โดดเด่นคือ Pokémon TCG Pocket และ Cyberpunk 2077: Ultimate Edition ที่ถูกยกให้เป็น Mac Game of the Year นอกจากนี้ยังมีรางวัลด้าน Cultural Impact เช่น Be My Eyes ที่ใช้ AI ช่วยผู้พิการทางสายตา ถือเป็นการสะท้อนว่า AI กำลังกลายเป็นหัวใจหลักของแอปยุคใหม่
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/apple-reveals-the-17-must-download-apps-of-2025-the-app-store-award-winners-are-here

    กีตาร์ E Ink เปลี่ยนสีได้
    Cream Guitars เปิดตัว “DaVinci” กีตาร์ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยี E Ink Prism 3 ทำให้สามารถเปลี่ยนสีและลวดลายบนตัวกีตาร์ได้ตามใจผ่านแอป Bluetooth มีสีให้เลือกผสมถึง 7 สีและแบ่งเป็น 64 ส่วนเพื่อสร้างดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใคร นอกจากรูปลักษณ์ที่ล้ำสมัย ยังมาพร้อมปิ๊กอัพ Fishman Fluence ที่ปรับเสียงได้ทั้งแบบซิงเกิลคอยล์และฮัมบัคเกอร์ จุดเด่นคือความสามารถในการปรับโฉมกีตาร์ได้ทันที แต่ราคาก็สูงถึง 3,500 ดอลลาร์ และผลิตเพียง 85 ตัวเท่านั้น กำหนดส่งในปี 2026 ถือเป็นกีตาร์ที่ผสมผสานเทคโนโลยีและดนตรีอย่างแท้จริง
    https://www.techradar.com/audio/this-color-changing-e-ink-guitar-absolutely-rocks-and-i-wish-i-could-afford-it

    รีวิว TerraMaster D4-320U NAS
    เรื่องนี้เล่าถึงอุปกรณ์เสริมสำหรับการจัดเก็บข้อมูล TerraMaster D4-320U ที่ออกแบบมาให้ติดตั้งในตู้แร็ค ใช้งานง่ายเพียงใส่ฮาร์ดดิสก์หรือ SSD แล้วเชื่อมต่อผ่านสาย USB 3.2 ก็สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้ทันที จุดเด่นคือรองรับสูงสุดถึง 120TB แต่ไม่มีระบบ RAID ในตัว ทำให้เหมาะสำหรับการขยายพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่าการใช้งานเป็น NAS หลัก แม้จะมีเสียงพัดลมดังไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและยืดหยุ่นสำหรับธุรกิจหรือผู้ทำงานด้านภาพและวิดีโอที่ต้องการพื้นที่มหาศาล
    https://www.techradar.com/computing/terramaster-d4-320u-nas-review

    เคล็ดลับการใช้ Nano Banana Pro ของ Google
    Google เปิดเผยเทคนิคการเขียน prompt สำหรับเครื่องมือสร้างภาพด้วย AI ที่ชื่อ Nano Banana Pro ซึ่งทำงานบน Gemini 3 โดยมีผู้ใช้แชร์วิธีที่น่าสนใจ 3 แบบ ได้แก่ การเขียน prompt แบบโค้ดกำหนดตัวแปรเพื่อให้ภาพมีความสอดคล้อง การใส่ “ความไม่สมบูรณ์” เช่นแสงรั่วหรือภาพเบลอเล็กน้อยเพื่อให้ดูสมจริง และการเปลี่ยนมุมมองเพื่อให้ภาพมีมิติและเล่าเรื่องได้ลึกขึ้น เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการสร้างภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมจริงมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/3-advanced-strategies-for-making-the-most-of-nano-banana-pro

    สกัดการเข้าถึงเว็บอันตรายเกือบพันล้านครั้งในสหราชอาณาจักร
    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหราชอาณาจักร (NCSC) รายงานว่าเครื่องมือใหม่ชื่อ “Share and Defend” สามารถบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์อันตรายได้เกือบพันล้านครั้งภายในเวลาไม่ถึงปี ระบบนี้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันผู้ใช้จากการถูกขโมยข้อมูลหรือเงิน โดยในช่วงเดียวกันยังพบว่าการโจมตี ransomware เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว และการเคลมประกันไซเบอร์พุ่งสูงถึง 230% ทำให้รัฐบาลเตรียมแผนรับมือใหม่เพื่อเสริมความปลอดภัยทางดิจิทัล
    https://www.techradar.com/pro/security/uk-cybercrime-agency-blocks-nearly-1-billion-access-attempts-to-malicious-websites

    งาน PC Gaming Show: Most Wanted
    วันนี้มีการจัดงาน PC Gaming Show: Most Wanted ที่จะนับถอยหลัง 25 เกม PC ที่ถูกคาดหวังมากที่สุดในปี 2026 พร้อมทั้งมีการเปิดตัวตัวอย่างใหม่และเบื้องหลังจากเกมกว่า 50 เรื่อง เช่น Resident Evil Requiem, Lego Batman: Legacy of the Dark Knight และ 007 First Light งานนี้ถ่ายทอดสดผ่านหลายช่องทาง และถือเป็นเวทีใหญ่ที่รวมเกมใหม่ ๆ ที่แฟน ๆ รอคอยไว้มากมาย
    https://www.techradar.com/gaming/gaming-industry/the-pc-gaming-show-most-wanted-airs-today-heres-when-you-can-tune-in-and-what-announcements-you-can-expect

    Ofcom พิจารณามาตรการเพิ่มเติมเกี่ยวกับ VPN หลัง Online Safety Act
    หน่วยงานกำกับดูแลสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) กำลังเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ VPN โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอายุหลังจากกฎหมาย Online Safety Act มีผลบังคับใช้ ขณะนี้ Ofcom ได้ลงทุนกว่า 500,000 ปอนด์ในเครื่องมือเฝ้าระวังอินเทอร์เน็ต และยังตั้งคณะทำงานร่วมกับผู้แทนเด็กเพื่อฟังความคิดเห็นโดยตรง การตัดสินใจว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่คาดว่าจะออกมาในปีหน้า
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-weighs-further-action-on-vpns-following-online-safety-act

    ข่าว Samsung เตรียมแก้ปัญหาโฆษณาในมือถือ
    Samsung กำลังพัฒนา One UI 8.5 ที่จะช่วยลดปัญหาโฆษณาที่รบกวนผู้ใช้ในสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะการแจ้งเตือนที่มักจะปรากฏขึ้นบ่อยครั้ง การอัปเดตใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะทำให้ประสบการณ์ใช้งานราบรื่นขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องเจอกับโฆษณาที่ไม่ต้องการอีกต่อไป ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Galaxy ที่รอคอยการปรับปรุงด้านนี้มานาน
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phones-ad-nightmare-could-soon-be-over-thanks-to-this-one-ui-8-5-upgrade

    อัปเดต Windows 11 ล่าสุดแก้บั๊ก แต่ยังมีปัญหา
    Microsoft ปล่อยอัปเดตใหม่ของ Windows 11 ที่แก้ไขบั๊กหลายอย่าง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าผู้ใช้ควรระวัง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้โหมดมืด (Dark Mode) เนื่องจากอัปเดตนี้อาจทำให้ระบบแสดงผลผิดพลาด แม้จะช่วยแก้ปัญหาบางอย่าง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ผู้ใช้จะเจอปัญหาใหม่ จึงควรรอการปรับปรุงเพิ่มเติมก่อนที่จะติดตั้ง
    https://www.techradar.com/computing/windows/latest-windows-11-update-fixes-some-nasty-bugs-but-dont-grab-it-yet-especially-if-you-use-dark-mode

    สหราชอาณาจักรปรับแพลตฟอร์มผู้ใหญ่ 1 ล้านปอนด์
    รัฐบาลอังกฤษออกค่าปรับกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อแพลตฟอร์มผู้ใหญ่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎการตรวจสอบอายุ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเพื่อปกป้องเยาวชนออนไลน์ การบังคับใช้กฎหมายนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของสหราชอาณาจักรในการจัดการกับแพลตฟอร์มที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยทางดิจิทัล
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-issues-gbp1-million-fine-to-adult-platform-for-failing-to-comply-with-age-verification-rules

    iPhone 17 Pro สูญเสียฟีเจอร์กล้องสำคัญ
    Apple ทำให้หลายคนแปลกใจเมื่อ iPhone 17 Pro ถูกตัดฟีเจอร์กล้องที่เคยเป็นจุดขายออกไป โดยบริษัทไม่ได้ให้คำอธิบายชัดเจนว่าทำไมถึงตัดสินใจเช่นนั้น ข่าวนี้สร้างความสงสัยและการถกเถียงในหมู่ผู้ใช้และนักวิเคราะห์ เพราะฟีเจอร์ดังกล่าวเคยเป็นหนึ่งในจุดแข็งของรุ่น Pro
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/the-iphone-17-pro-has-just-lost-a-key-camera-feature-and-apple-wont-explain-why
    📌📡🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📡📌 #รวมข่าวIT #20251205 #TechRadar 🛡️ บอทเน็ต Aisuru ทำสถิติใหม่โจมตี DDoS 29.7 Tbps เรื่องนี้เป็นการกลับมาอีกครั้งของบอทเน็ตชื่อ Aisuru ที่ใช้เครื่อง IoT กว่า 4 ล้านเครื่องในการสร้างการโจมตี DDoS ที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดย Cloudflare รายงานว่าเพียงไตรมาสเดียวก็ต้องรับมือกับการโจมตีมากกว่า 1,300 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งมีความรุนแรงระดับหลาย Tbps เหยื่อที่โดนล่าสุดมีทั้งบริษัทเกม Gcore และ Microsoft ที่เจอการโจมตีบนคลาวด์สูงถึง 15.72 Tbps จุดที่น่ากังวลคือบอทเน็ตนี้ถูกให้บริการเป็น “บริการเช่า” ใครก็สามารถใช้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญได้ง่ายๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/this-ddos-group-just-smashed-the-previous-record-with-a-29-7-tbps-attack 📺 Samsung OLED รุ่นใหม่หลุด พร้อมทีวี “The Frame” ขนาดยักษ์ 98 นิ้ว มีข้อมูลหลุดจากฐานข้อมูลอะไหล่ของ Samsung ในยุโรป เผยว่าปี 2026 จะมีทีวี OLED รุ่นใหม่หลายรุ่น รวมถึง S99H ที่คาดว่าจะเหนือกว่ารุ่นเรือธง S95F ที่เพิ่งได้รางวัลทีวีแห่งปี และยังมีการเตรียมเปิดตัว “The Frame” ขนาด 98 นิ้ว ซึ่งใหญ่จนแทบจะเรียกว่า “The Mural” ได้เลย นอกจากนี้ยังมีรุ่น S82H และ S83H ที่ใช้แผง WOLED จาก LG Display เพื่อเจาะตลาดราคาย่อมเยา คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน CES 2026 🔗 https://www.techradar.com/televisions/samsungs-next-gen-oled-tvs-leak-including-a-mysterious-new-elite-model 🔒 Microsoft ปิดช่องโหว่ LNK ที่ถูกใช้โจมตีมานานหลายปี Microsoft ได้ออกแพตช์ในเดือนพฤศจิกายนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ในไฟล์ .LNK ที่ถูกใช้โจมตีมาตั้งแต่ปี 2017 ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถซ่อนคำสั่งอันตรายในไฟล์ชอร์ตคัต และเมื่อผู้ใช้เปิดดูไฟล์ก็จะไม่เห็นคำสั่งที่แท้จริง ทำให้เกิดการโจมตีแบบ Remote Code Execution ได้ ช่องโหว่นี้ถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐหลายประเทศ เช่น จีน อิหร่าน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย หลังจากถูกเตือนหลายครั้ง Microsoft จึงตัดสินใจแก้ไขอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-quietly-patches-lnk-vulnerability-thats-been-weaponized-for-years 🌐 เบราว์เซอร์ AI กำลังเปลี่ยนเกม แต่ความปลอดภัยยังตามไม่ทัน เบราว์เซอร์ยุคใหม่อย่าง Edge ที่มี Copilot หรือ Chrome ที่ใส่ Gemini กำลังทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นมาก ทั้งการสรุปเนื้อหา แปลภาษา หรือค้นหาข้อมูล แต่ความสะดวกนี้ก็แฝงความเสี่ยง เพราะ AI อาจถูกหลอกด้วยข้อความหรือโค้ดที่ซ่อนอยู่ในหน้าเว็บ แล้วทำงานตามคำสั่งที่เป็นอันตราย เช่น ส่งข้อมูลเข้าสู่มือแฮกเกอร์โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว ปัญหาคือการนำ AI มาใช้ในเบราว์เซอร์เกิดขึ้นเร็วมาก จนมาตรการด้านความปลอดภัยยังไม่ทันตาม ทำให้ผู้เชี่ยวชี้เตือนว่าต้องระวังการโจมตีรูปแบบใหม่ที่แทบไม่มีร่องรอยให้ตรวจจับ 🔗 https://www.techradar.com/pro/ai-browsers-are-rewriting-the-rules-is-your-security-keeping-pace 🏃 บทเรียนจากการวิ่งมาราธอนสู่การทำงานด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ Stephanie Schneider เล่าประสบการณ์ว่า การวิ่งมาราธอน 26.2 ไมล์สอนให้เธอเข้าใจความอดทนและการจัดการพลังงาน ซึ่งเหมือนกับการทำงานในโลกไซเบอร์ที่เต็มไปด้วยแรงกดดันและความเหนื่อยล้า เธอเปรียบเทียบว่าเหมือนการเจอ “กำแพง” ตอนวิ่ง ที่ต้องใช้ใจสู้ต่อไป เช่นเดียวกับการทำงานที่ต้องเจอภัยคุกคามใหม่ๆ ทุกวัน การฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง การแบ่งเป้าหมายเป็นขั้นตอนเล็กๆ และการรักษาความสมดุลคือสิ่งที่ทำให้ทั้งนักวิ่งและนักไซเบอร์สามารถไปถึงเส้นชัยได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/im-a-marathoner-and-a-cybersecurity-leader-heres-what-26-2-miles-have-taught-me-about-work 💼 Microsoft ปฏิเสธข่าวลดเป้าหมายยอดขาย AI หลังลูกค้าต้านทาน มีรายงานว่าลูกค้าหลายรายลังเลที่จะลงทุนในเครื่องมือ AI ของ Microsoft เพราะราคาสูงและยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่ทาง Microsoft ออกมาปฏิเสธข่าวลือว่ามีการปรับลดเป้าหมายยอดขาย โดยยืนยันว่าความต้องการยังคงแข็งแรง เพียงแต่ลูกค้าบางกลุ่มต้องใช้เวลาในการปรับตัวและวางกลยุทธ์การใช้งานจริง เรื่องนี้สะท้อนว่าการนำ AI เข้ามาในองค์กรไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมและวิธีทำงานด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-denies-reports-of-lower-ai-sales-targets-as-customers-resist-new-tools 🖥️ วิกฤติชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์หนักขึ้น RAM ผู้ผลิตใหญ่เลิกตลาดผู้บริโภค ตลาดคอมพิวเตอร์กำลังเจอปัญหาหนัก เมื่อผู้ผลิต RAM รายใหญ่ประกาศเลิกทำตลาดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป หันไปเน้นตลาดองค์กรแทน ทำให้เกิดความกังวลว่าราคาชิ้นส่วนจะพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าราคาซีพียูจะปรับขึ้นอีกด้วย สถานการณ์นี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการอัปเกรดหรือประกอบเครื่องใหม่อาจต้องเจอค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอย่างมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/pc-component-crisis-just-got-worse-as-major-ram-maker-gives-up-on-consumers-and-cpu-price-hikes-are-rumored 📵 YouTube เตรียมบล็อกผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีในออสเตรเลีย ท่ามกลางการถกเถียงเรื่องการแบนโซเชียลมีเดียสำหรับเยาวชนในออสเตรเลีย YouTube ประกาศว่าจะบล็อกการใช้งานสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลกำลังพิจารณากฎหมายใหม่เพื่อจำกัดการเข้าถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ของเด็กและเยาวชน โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและความปลอดภัย แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการบังคับใช้เข้มงวดเกินไปและอาจกระทบต่อเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/youtube-to-lock-out-under-16s-in-australia-as-controversial-social-media-ban-looms 📚 รีวิวเครื่องสแกนหนังสือ CZUR ET24 Pro เครื่องสแกนหนังสือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการแปลงหนังสือเป็นไฟล์ดิจิทัล จุดเด่นคือสามารถสแกนได้เร็วและมีฟีเจอร์แก้ไขภาพอัตโนมัติ เช่น การปรับหน้าหนังสือที่โค้งให้ออกมาเรียบ รวมถึงการตรวจจับหน้าที่พลิกอัตโนมัติ เหมาะสำหรับนักวิจัย นักเรียน หรือผู้ที่ต้องการเก็บเอกสารจำนวนมากในรูปแบบดิจิทัล รีวิวชี้ว่าคุณภาพการสแกนคมชัดและใช้งานง่าย แต่ราคาก็ถือว่าสูงพอสมควร 🔗 https://www.techradar.com/computing/czur-et24-pro-book-scanner-review 🔓 ข้อมูลลูกค้า Freedom Mobile ถูกขโมยจากแพลตฟอร์มจัดการบัญชี มีการแฮกแพลตฟอร์มจัดการบัญชีของ Freedom Mobile ทำให้ข้อมูลลูกค้าถูกขโมยไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมาก เพราะข้อมูลที่รั่วไหลอาจรวมถึงรายละเอียดส่วนตัวและข้อมูลการติดต่อ ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องเผชิญ และตอกย้ำว่าการป้องกันข้อมูลลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องลงทุนอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/customer-data-stolen-in-freedom-mobile-account-management-platform-hack 🛡️ ChatGPT อาจไม่ปลอดภัยเท่าเดิม หลังศาลสั่งให้ OpenAI ส่งมอบข้อมูลการสนทนา เรื่องนี้เริ่มจากการฟ้องร้องของ The New York Times ต่อ OpenAI โดยศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้บริษัทต้องส่งมอบบันทึกการสนทนากว่า 20 ล้านรายการ เพื่อใช้ตรวจสอบการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้ศาลยืนยันว่าจะมีการลบข้อมูลระบุตัวตนเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัว แต่ OpenAI กลับมองว่าการกระทำนี้บั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เพราะถึงแม้ชื่อจะถูกลบออก แต่รูปแบบการสนทนาก็ยังสามารถบอกอะไรได้มากมาย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ข้อมูลการแชทถูกบังคับให้เปิดเผย และอาจเป็นสัญญาณของการต่อสู้เรื่องความเป็นส่วนตัวในโลก AI ที่กำลังจะเข้มข้นขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/your-chatgpt-chats-could-be-less-private-than-you-thought-heres-what-a-new-openai-court-ruling-means-for-you 🚫 รัสเซียบล็อก FaceTime และ Roblox เพิ่มเติมในมาตรการควบคุมอินเทอร์เน็ต รัฐบาลรัสเซียเดินหน้าจำกัดเสรีภาพดิจิทัลมากขึ้น โดยล่าสุด FaceTime และ Roblox ถูกบล็อกอย่างเป็นทางการ เหตุผลที่อ้างคือการป้องกันการก่อการร้ายและการปกป้องเยาวชน แต่ผู้ใช้จำนวนมากมองว่านี่คือการตัดขาดจากโลกภายนอก เด็กและวัยรุ่นที่เคยใช้ Roblox เพื่อเล่นและสื่อสารได้รับผลกระทบหนัก ขณะเดียวกัน FaceTime ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นช่องทางในการจัดกิจกรรมผิดกฎหมาย ทำให้ผู้คนหันไปใช้แอปที่รัฐสนับสนุนแทน เช่น MAX ซึ่งถูกบังคับติดตั้งในมือถือใหม่ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องการถูกสอดส่องมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/roblox-facetime-become-the-last-targets-of-russias-censorship 🤖 Hyundai เปิดตัวหุ่นยนต์อเนกประสงค์ MobED ที่แปลงร่างได้หลากหลาย Hyundai กำลังจะวางขายหุ่นยนต์แพลตฟอร์มใหม่ชื่อ MobED ที่สามารถปรับตัวได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง จุดเด่นคือระบบล้อที่หมุนและปรับองศาได้ ทำให้มันเคลื่อนที่บนพื้นขรุขระหรือขึ้นบันไดเล็ก ๆ ได้อย่างมั่นคง ผู้ใช้สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้ตามต้องการ เช่น แขนกลสำหรับงานคลังสินค้า รถเข็นกอล์ฟ หรือแม้แต่กล้องถ่ายคอนเทนต์อัตโนมัติ Hyundai ตั้งใจผลิตด้วยมาตรฐานยานยนต์เพื่อให้ใช้งานจริงในโรงงานและชีวิตประจำวัน และยังมีแผนทำเวอร์ชัน Pro ที่ติดเซ็นเซอร์และ Lidar สำหรับการทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/hyundais-charming-autonomous-robot-can-be-everything-from-a-golf-trolley-to-an-e-scooter-and-its-going-on-sale-soon 💼 ซีอีโอเตือนการลงทุนด้าน AI ต้องมีแผน ไม่ใช่แค่ตามกระแส หลายผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีออกมาเตือนว่าการลงทุนใน AI กำลังเสี่ยงจะกลายเป็น “ฟองสบู่” Logitech ชี้ว่าหลายผลิตภัณฑ์ AI เป็นเพียงการสร้างสิ่งที่ไม่ตอบโจทย์จริง Anthropic ก็เตือนว่าการทุ่มเงินมหาศาลโดยไม่คำนวณความเสี่ยงอาจทำให้เกิดผลเสียทางการเงิน ขณะที่ Google และ OpenAI เองก็ยอมรับว่าความตื่นตัวเกินไปอาจทำให้นักลงทุนเจ็บตัวในอนาคต สรุปคือ AI เป็นเครื่องมือทรงพลัง แต่ต้องใช้กลยุทธ์และการวางแผน ไม่ใช่การลงทุนแบบ “YOLO” 🔗 https://www.techradar.com/pro/ceos-are-warning-ai-adoption-and-spending-should-be-more-strategic 💻 อัปเกรด Raspberry Pi แค่ $10 ได้ทั้ง PCIe และ HDMI คู่ Waveshare เปิดตัวอะแดปเตอร์ใหม่สำหรับ Raspberry Pi 5 ที่ราคาเพียง $10 แต่เพิ่มความสามารถได้มากมาย ทั้งการเชื่อมต่อ PCIe M.2 สำหรับ SSD และพอร์ต HDMI ขนาดเต็มสองช่อง ทำให้สามารถบูตระบบจาก NVMe SSD ได้โดยตรง และใช้งานเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับนักพัฒนาและผู้ที่อยากขยายความสามารถของบอร์ดเล็ก ๆ ให้ทำงานได้ใกล้เคียงเดสก์ท็อป แม้จะรองรับเฉพาะการ์ด M.2 ขนาดเล็ก แต่ถือเป็นการอัปเกรดที่คุ้มค่าและเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานอย่างมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/looking-to-supercharge-your-raspberry-pi-this-adapter-provides-two-full-sized-hdmi-ports-and-a-pcie-connector-and-it-only-costs-usd10 🏦 ธนาคารสหรัฐกว่า 70 แห่งถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Marquis มีรายงานว่าธนาคารและสหภาพเครดิตในสหรัฐฯ กว่า 70 แห่งตกเป็นเหยื่อการโจมตีของกลุ่มแฮกเกอร์ Marquis โดยข้อมูลลูกค้าถูกขโมยและถูกนำไปขายในตลาดมืด การโจมตีครั้งนี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อระบบการเงิน เพราะ Marquis มีประวัติการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่หลายครั้งแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าธนาคารต้องเร่งเสริมระบบป้องกันไซเบอร์ และลูกค้าควรตรวจสอบบัญชีของตนเองอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/over-70-us-banks-and-credit-unions-affected-by-marquis-ransomware-breach-heres-what-we-know ⚡ ค้นพบแหล่งดินเหนียวที่มีลิเทียมมหาศาลในสหรัฐฯ นักวิจัยพบแหล่งดินเหนียวที่มีลิเทียมจำนวนมหาศาลภายในซูเปอร์ภูเขาไฟในสหรัฐฯ คาดว่ามีมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ และสามารถใช้ผลิตแบตเตอรี่ได้หลายสิบปี การค้นพบนี้อาจช่วยลดความผันผวนของราคาลิเทียมที่พุ่งสูงในตลาดโลก แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองในพื้นที่ที่เปราะบาง การค้นพบนี้จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด 🔗 https://www.techradar.com/pro/newly-discovered-usd1-5-billion-lithium-deposit-could-revolutionize-the-tech-industry-but-bad-news-its-inside-a-supervolcano 📱 Android vs iPhone: ผลสำรวจเผยผู้ใช้ TechRadar ชอบฝั่งไหนมากกว่า ผลสำรวจจากผู้อ่าน TechRadar แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ยังคงแบ่งขั้วระหว่าง Android และ iPhone อย่างชัดเจน โดย Android ได้คะแนนนิยมจากผู้ที่ชอบความยืดหยุ่นและราคาที่หลากหลาย ส่วน iPhone ได้คะแนนจากผู้ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ใช้งานที่เรียบง่ายและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple อื่น ๆ การถกเถียงเรื่อง “ใครดีกว่า” จึงยังคงดำเนินต่อไป และสะท้อนให้เห็นว่าทั้งสองระบบมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน 🔗 https://www.techradar.com/phones/android-vs-iphone-heres-what-techradar-readers-prefer 💽 Nvidia CEO Jensen Huang ผลักดันรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อต้านข้อจำกัดชิป AI Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ออกมาเรียกร้องต่อสภาคองเกรสและรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ทบทวนข้อจำกัดการส่งออกชิป AI และกฎระเบียบระดับรัฐ เขาเตือนว่าการจำกัดมากเกินไปจะทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบในการแข่งขันระดับโลก โดยเฉพาะกับจีนที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำตลาดชิป AI มองว่าการเปิดเสรีมากขึ้นจะช่วยให้สหรัฐฯ รักษาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/nvidia-boss-jensen-huang-steers-trump-congress-against-ai-chip-limits-and-state-level-ai-rules 🚀 Arm64 แรงแซง x86 ในการทดสอบ AWS Lambda ปี 2025 ผลการทดสอบล่าสุดของ AWS Lambda เผยว่า Arm64 มีประสิทธิภาพเหนือกว่า x86 อย่างชัดเจน โดยทำงานเร็วขึ้นถึง 4-5 เท่า และลดค่าใช้จ่ายลงกว่า 30% การเปลี่ยนมาใช้สถาปัตยกรรม Arm64 จึงถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบคลาวด์ นักพัฒนาที่ใช้ AWS อาจได้ประโยชน์มหาศาลจากการเปลี่ยนแปลงนี้ เพราะสามารถรันงานได้เร็วขึ้นและประหยัดมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/arm64-dominates-aws-lambda-in-2025-rust-4-5x-faster-than-x86-costs-30-less-across-all-workloads 🧑‍💻 Google เปิดตัวเครื่องมือสร้าง AI Agent แบบไม่ต้องมีประสบการณ์ Google เปิดตัว Workspace Studio ให้ธุรกิจทุกระดับสามารถสร้าง AI Agent ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ด ใช้เพียงการพิมพ์คำสั่งธรรมชาติ ระบบนี้ขับเคลื่อนด้วย Gemini 3 ที่มีความสามารถด้านการวิเคราะห์และเข้าใจบริบทอย่างลึกซึ้ง จุดเด่นคือสามารถทำงานร่วมกับทั้งแอปใน Google Workspace และแอปภายนอก เช่น Asana, Jira, Salesforce และ Mailchimp ได้อย่างราบรื่น ผู้ใช้สามารถแบ่งปัน Agent ที่สร้างขึ้นกับทีมได้เหมือนแชร์ไฟล์ใน Google Drive และมีบริษัทอย่าง Kärcher ที่ทดลองใช้แล้วสามารถลดเวลาการทำงานจากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจทั่วไปเข้าถึง AI ได้ง่ายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-wants-to-help-businesses-build-ai-agents-with-no-prior-experience 🎬 รีวิว Apple Final Cut Pro 2025 Final Cut Pro เวอร์ชันใหม่ 11.2 ยังคงรักษาจุดแข็งเรื่องการใช้งานที่ลื่นไหลและแนวคิด “Magnetic Timeline” ที่ช่วยให้การตัดต่อรวดเร็วขึ้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเพราะใช้ได้เฉพาะบน Mac และบางฟีเจอร์รองรับเฉพาะเครื่องที่ใช้ Apple Silicon เท่านั้น จุดเด่นคือมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น “Magnetic Mask” ที่ช่วยเลือกและติดตามวัตถุในวิดีโอได้อัตโนมัติ รวมถึงการทำซับไตเติลอัตโนมัติ แม้จะยังไม่สมบูรณ์สำหรับผู้ใช้ Mac รุ่นเก่า แต่ก็ถือว่า Apple กำลังพยายามไล่ตามคู่แข่งอย่าง Premiere Pro และ Resolve โดยยังคงข้อดีเรื่องการจ่ายครั้งเดียวแล้วได้อัปเดตตลอดชีพ 🔗 https://www.techradar.com/pro/apple-final-cut-pro-review 🚁 รีวิว Antigravity A1 โดรน 360 องศา Antigravity A1 เป็นโดรนที่รวมเทคโนโลยีการถ่ายภาพ 360 องศาเข้ากับการบิน ทำให้สามารถเก็บภาพและวิดีโอที่มุมมองรอบทิศได้อย่างสมจริง มาพร้อม FPV Goggles และ Motion Controller ที่ให้ประสบการณ์การบินแบบดื่มด่ำ แต่ก็ทำให้ราคาสูงกว่ากล้องโดรนทั่วไปมาก จุดเด่นคือการถ่ายวิดีโอ 8K และการออกแบบที่ทำให้ตัวโดรน “หายไป” จากภาพด้วยเทคนิคการเย็บภาพ จุดด้อยคือการใช้งานต้องมีผู้ช่วยคอยสังเกตโดรนเพื่อความปลอดภัย และคุณภาพภาพยังไม่เทียบเท่ากล้องโดรนระดับสูงอย่าง DJI Mini 5 Pro แต่ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ยังไม่มีคู่แข่งโดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/antigravity-a1-review 📱 Apple ประกาศ 17 แอปยอดเยี่ยมแห่งปี 2025 Apple เผยรายชื่อผู้ชนะรางวัล App Store Awards ปี 2025 รวมทั้งหมด 17 แอปและเกมที่โดดเด่นในด้านการออกแบบและการใช้ AI ตัวอย่างเช่น Tiimo แอปวางแผนงานที่คว้ารางวัล iPhone App of the Year, Detail แอปตัดต่อวิดีโอด้วย AI สำหรับ iPad และ Essayist แอปช่วยทำบรรณานุกรมสำหรับ Mac ส่วนเกมที่โดดเด่นคือ Pokémon TCG Pocket และ Cyberpunk 2077: Ultimate Edition ที่ถูกยกให้เป็น Mac Game of the Year นอกจากนี้ยังมีรางวัลด้าน Cultural Impact เช่น Be My Eyes ที่ใช้ AI ช่วยผู้พิการทางสายตา ถือเป็นการสะท้อนว่า AI กำลังกลายเป็นหัวใจหลักของแอปยุคใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/apple-reveals-the-17-must-download-apps-of-2025-the-app-store-award-winners-are-here 🎸 กีตาร์ E Ink เปลี่ยนสีได้ Cream Guitars เปิดตัว “DaVinci” กีตาร์ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยี E Ink Prism 3 ทำให้สามารถเปลี่ยนสีและลวดลายบนตัวกีตาร์ได้ตามใจผ่านแอป Bluetooth มีสีให้เลือกผสมถึง 7 สีและแบ่งเป็น 64 ส่วนเพื่อสร้างดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใคร นอกจากรูปลักษณ์ที่ล้ำสมัย ยังมาพร้อมปิ๊กอัพ Fishman Fluence ที่ปรับเสียงได้ทั้งแบบซิงเกิลคอยล์และฮัมบัคเกอร์ จุดเด่นคือความสามารถในการปรับโฉมกีตาร์ได้ทันที แต่ราคาก็สูงถึง 3,500 ดอลลาร์ และผลิตเพียง 85 ตัวเท่านั้น กำหนดส่งในปี 2026 ถือเป็นกีตาร์ที่ผสมผสานเทคโนโลยีและดนตรีอย่างแท้จริง 🔗 https://www.techradar.com/audio/this-color-changing-e-ink-guitar-absolutely-rocks-and-i-wish-i-could-afford-it 🖥️ รีวิว TerraMaster D4-320U NAS เรื่องนี้เล่าถึงอุปกรณ์เสริมสำหรับการจัดเก็บข้อมูล TerraMaster D4-320U ที่ออกแบบมาให้ติดตั้งในตู้แร็ค ใช้งานง่ายเพียงใส่ฮาร์ดดิสก์หรือ SSD แล้วเชื่อมต่อผ่านสาย USB 3.2 ก็สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้ทันที จุดเด่นคือรองรับสูงสุดถึง 120TB แต่ไม่มีระบบ RAID ในตัว ทำให้เหมาะสำหรับการขยายพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่าการใช้งานเป็น NAS หลัก แม้จะมีเสียงพัดลมดังไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและยืดหยุ่นสำหรับธุรกิจหรือผู้ทำงานด้านภาพและวิดีโอที่ต้องการพื้นที่มหาศาล 🔗 https://www.techradar.com/computing/terramaster-d4-320u-nas-review 🤖 เคล็ดลับการใช้ Nano Banana Pro ของ Google Google เปิดเผยเทคนิคการเขียน prompt สำหรับเครื่องมือสร้างภาพด้วย AI ที่ชื่อ Nano Banana Pro ซึ่งทำงานบน Gemini 3 โดยมีผู้ใช้แชร์วิธีที่น่าสนใจ 3 แบบ ได้แก่ การเขียน prompt แบบโค้ดกำหนดตัวแปรเพื่อให้ภาพมีความสอดคล้อง การใส่ “ความไม่สมบูรณ์” เช่นแสงรั่วหรือภาพเบลอเล็กน้อยเพื่อให้ดูสมจริง และการเปลี่ยนมุมมองเพื่อให้ภาพมีมิติและเล่าเรื่องได้ลึกขึ้น เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการสร้างภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมจริงมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/3-advanced-strategies-for-making-the-most-of-nano-banana-pro 🔒 สกัดการเข้าถึงเว็บอันตรายเกือบพันล้านครั้งในสหราชอาณาจักร หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหราชอาณาจักร (NCSC) รายงานว่าเครื่องมือใหม่ชื่อ “Share and Defend” สามารถบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์อันตรายได้เกือบพันล้านครั้งภายในเวลาไม่ถึงปี ระบบนี้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันผู้ใช้จากการถูกขโมยข้อมูลหรือเงิน โดยในช่วงเดียวกันยังพบว่าการโจมตี ransomware เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว และการเคลมประกันไซเบอร์พุ่งสูงถึง 230% ทำให้รัฐบาลเตรียมแผนรับมือใหม่เพื่อเสริมความปลอดภัยทางดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/uk-cybercrime-agency-blocks-nearly-1-billion-access-attempts-to-malicious-websites 🎮 งาน PC Gaming Show: Most Wanted วันนี้มีการจัดงาน PC Gaming Show: Most Wanted ที่จะนับถอยหลัง 25 เกม PC ที่ถูกคาดหวังมากที่สุดในปี 2026 พร้อมทั้งมีการเปิดตัวตัวอย่างใหม่และเบื้องหลังจากเกมกว่า 50 เรื่อง เช่น Resident Evil Requiem, Lego Batman: Legacy of the Dark Knight และ 007 First Light งานนี้ถ่ายทอดสดผ่านหลายช่องทาง และถือเป็นเวทีใหญ่ที่รวมเกมใหม่ ๆ ที่แฟน ๆ รอคอยไว้มากมาย 🔗 https://www.techradar.com/gaming/gaming-industry/the-pc-gaming-show-most-wanted-airs-today-heres-when-you-can-tune-in-and-what-announcements-you-can-expect 🌐 Ofcom พิจารณามาตรการเพิ่มเติมเกี่ยวกับ VPN หลัง Online Safety Act หน่วยงานกำกับดูแลสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) กำลังเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ VPN โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอายุหลังจากกฎหมาย Online Safety Act มีผลบังคับใช้ ขณะนี้ Ofcom ได้ลงทุนกว่า 500,000 ปอนด์ในเครื่องมือเฝ้าระวังอินเทอร์เน็ต และยังตั้งคณะทำงานร่วมกับผู้แทนเด็กเพื่อฟังความคิดเห็นโดยตรง การตัดสินใจว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่คาดว่าจะออกมาในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-weighs-further-action-on-vpns-following-online-safety-act 📱 ข่าว Samsung เตรียมแก้ปัญหาโฆษณาในมือถือ Samsung กำลังพัฒนา One UI 8.5 ที่จะช่วยลดปัญหาโฆษณาที่รบกวนผู้ใช้ในสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะการแจ้งเตือนที่มักจะปรากฏขึ้นบ่อยครั้ง การอัปเดตใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะทำให้ประสบการณ์ใช้งานราบรื่นขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องเจอกับโฆษณาที่ไม่ต้องการอีกต่อไป ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Galaxy ที่รอคอยการปรับปรุงด้านนี้มานาน 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phones-ad-nightmare-could-soon-be-over-thanks-to-this-one-ui-8-5-upgrade 💻 อัปเดต Windows 11 ล่าสุดแก้บั๊ก แต่ยังมีปัญหา Microsoft ปล่อยอัปเดตใหม่ของ Windows 11 ที่แก้ไขบั๊กหลายอย่าง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าผู้ใช้ควรระวัง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้โหมดมืด (Dark Mode) เนื่องจากอัปเดตนี้อาจทำให้ระบบแสดงผลผิดพลาด แม้จะช่วยแก้ปัญหาบางอย่าง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ผู้ใช้จะเจอปัญหาใหม่ จึงควรรอการปรับปรุงเพิ่มเติมก่อนที่จะติดตั้ง 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/latest-windows-11-update-fixes-some-nasty-bugs-but-dont-grab-it-yet-especially-if-you-use-dark-mode ⚖️ สหราชอาณาจักรปรับแพลตฟอร์มผู้ใหญ่ 1 ล้านปอนด์ รัฐบาลอังกฤษออกค่าปรับกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อแพลตฟอร์มผู้ใหญ่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎการตรวจสอบอายุ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเพื่อปกป้องเยาวชนออนไลน์ การบังคับใช้กฎหมายนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของสหราชอาณาจักรในการจัดการกับแพลตฟอร์มที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยทางดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-issues-gbp1-million-fine-to-adult-platform-for-failing-to-comply-with-age-verification-rules 📷 iPhone 17 Pro สูญเสียฟีเจอร์กล้องสำคัญ Apple ทำให้หลายคนแปลกใจเมื่อ iPhone 17 Pro ถูกตัดฟีเจอร์กล้องที่เคยเป็นจุดขายออกไป โดยบริษัทไม่ได้ให้คำอธิบายชัดเจนว่าทำไมถึงตัดสินใจเช่นนั้น ข่าวนี้สร้างความสงสัยและการถกเถียงในหมู่ผู้ใช้และนักวิเคราะห์ เพราะฟีเจอร์ดังกล่าวเคยเป็นหนึ่งในจุดแข็งของรุ่น Pro ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/the-iphone-17-pro-has-just-lost-a-key-camera-feature-and-apple-wont-explain-why
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251205 #securityonline

    Google ทดลองให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ แต่กลับทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยน
    Google กำลังทดสอบระบบที่ให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ในบริการ Google Discover โดยตั้งใจให้ผู้ใช้เข้าใจเนื้อหาได้เร็วขึ้นและกดเข้าไปอ่าน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เพราะหลายครั้งหัวข้อที่ AI เขียนขึ้นมาเกิดการบิดเบือนความหมายเดิมจนทำให้เข้าใจผิด ตัวอย่างเช่น ข่าวเกี่ยวกับเครื่องเกม Steam Machine ที่ยังไม่เปิดเผยราคา แต่ AI กลับเขียนหัวข้อว่า “Steam Machine price revealed” ซึ่งผิดไปจากข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า หากปล่อยให้ AI เขียนหัวข้อข่าวโดยไม่มีการควบคุม อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดและลดความน่าเชื่อถือของสื่อ รวมถึงกระทบต่อจำนวนคนที่คลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาจริง แม้ Google จะบอกว่าทดลองกับผู้ใช้เพียงส่วนน้อย แต่สำนักข่าวหลายแห่งก็เริ่มเห็นผลกระทบต่อทราฟฟิกของตนแล้ว
    https://securityonline.info/misleading-ai-headlines-google-discover-testing-rewrites-that-distort-news-facts

    AWS ดันชิป Trainium สร้างรายได้หลายพันล้าน ท้าชน NVIDIA
    Amazon ผ่าน AWS กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดชิป AI ที่ NVIDIA ครองอยู่ ด้วยการพัฒนา Trainium ซึ่งตอนนี้ทำรายได้ระดับหลายพันล้านดอลลาร์แล้ว โดยรุ่น Trainium2 ถูกใช้งานมากกว่า 100,000 บริษัท และผลิตไปแล้วกว่า 1 ล้านชิป จุดเด่นคือราคาถูกกว่า GPU ของ NVIDIA แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพสูง ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ โดยเฉพาะ Anthropic ที่ใช้ชิป Trainium2 กว่า 500,000 ตัวในการสร้างโมเดลใหม่ของ Claude ล่าสุด AWS เปิดตัว Trainium3 ที่แรงขึ้น 4 เท่าและประหยัดพลังงานมากขึ้น พร้อมแผนพัฒนา Trainium4 ที่สามารถทำงานร่วมกับ GPU ของ NVIDIA ได้อย่างลื่นไหล ถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จากการแข่งตรง ๆ ไปสู่การสร้างระบบไฮบริดที่ยืดหยุ่นกว่า
    https://securityonline.info/aws-trainium-chip-business-hits-multi-billion-revenue-challenging-nvidias-pricing

    Meta ดึงตัวดีไซน์เนอร์ระดับตำนานจาก Apple มาสร้างสตูดิโอใหม่
    Mark Zuckerberg ประกาศว่า Meta ได้ดึง Alan Dye อดีตหัวหน้าฝ่าย Human Interface Design ของ Apple มานำทีม Creative Studio ใหม่ใน Reality Labs Alan Dye เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังงานออกแบบสำคัญของ Apple เช่น Apple Watch, iPhone X และ Vision Pro การเข้ามาของเขาถูกมองว่าเป็นการยกระดับงานดีไซน์ของ Meta ให้มีความโดดเด่นและผสมผสานระหว่างแฟชั่น เทคโนโลยี และ AI โดย Dye จะทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ที่มีทั้ง Billy Sorrentino และ Joshua To เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ Meta การดึงตัวบุคลากรจาก Apple ครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสองยักษ์ใหญ่ที่กำลังแย่งชิงอนาคตของอุปกรณ์ AI และสมาร์ทแกดเจ็ต
    https://securityonline.info/design-wars-meta-hires-apple-veteran-alan-dye-to-lead-new-reality-labs-creative-studio

    ปฏิบัติการ DUPEHIKE: มัลแวร์เจาะฝ่าย HR ของรัสเซีย
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบเจาะจงที่ถูกตั้งชื่อว่า Operation DUPEHIKE โดยกลุ่มแฮกเกอร์ใช้วิธีส่งอีเมลหลอกล่อพนักงานฝ่ายบุคคลและเงินเดือน ด้วยไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารโบนัสสิ้นปี แต่แท้จริงแล้วเป็นไฟล์ลัด (LNK) ที่เมื่อเปิดขึ้นจะไปดาวน์โหลดมัลแวร์ชื่อ DUPERUNNER ผ่าน PowerShell ทำงานเบื้องหลังอย่างแนบเนียน มัลแวร์นี้สามารถฉีดโค้ดเข้าไปในโปรเซสที่ใช้บ่อย เช่น explorer.exe หรือ notepad.exe เพื่อให้ฝังตัวถาวร และสุดท้ายจะติดตั้ง Adaptix C2 ซึ่งเป็นเครื่องมือควบคุมจากระยะไกล เป้าหมายคือการสอดแนมและควบคุมระบบขององค์กรที่ตกเป็นเหยื่อ
    https://securityonline.info/operation-dupehike-hits-russian-hr-bonus-lure-delivers-duperunner-and-adaptix-c2-via-process-injection

    ช่องโหว่ Splunk บน Windows เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์
    Splunk ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลชื่อดัง พบช่องโหว่ร้ายแรงสองรายการ (CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387) ที่ทำให้การติดตั้งบน Windows กำหนดสิทธิ์ไฟล์ผิดพลาด เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่แอดมินเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้ หากแฮกเกอร์ได้สิทธิ์ผู้ใช้ระดับต่ำ ก็สามารถแก้ไขไฟล์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรจะถูกป้องกันไว้ได้ทันที ทาง Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว
    https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows

    ช่องโหว่ Cacti เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจากระยะไกล
    Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับทำกราฟเครือข่าย พบช่องโหว่ร้ายแรง (CVE-2025-66399) ที่เกี่ยวกับการจัดการค่า SNMP Community String หากผู้ใช้ใส่ค่าที่มีตัวอักษรพิเศษหรือบรรทัดใหม่ ระบบจะไม่กรองออก ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทรกคำสั่งอันตรายเข้าไปได้ เมื่อระบบนำค่าเหล่านี้ไปใช้กับเครื่องมือ SNMP ภายนอก คำสั่งที่ถูกแทรกก็จะถูกรันทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 1.2.29 และแนะนำให้อัปเดตทันที
    https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection

    กลุ่ม Calisto APT รัสเซียโจมตี NGO ด้วยฟิชชิ่งแบบใหม่
    กลุ่มแฮกเกอร์ Calisto ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงรัสเซีย ได้พุ่งเป้าโจมตีองค์กร Reporters Without Borders (RSF) โดยใช้เทคนิคฟิชชิ่งที่ซับซ้อน พวกเขาส่งอีเมลแสร้งเป็นคนรู้จัก พร้อมไฟล์ที่ “หายไป” หรือไฟล์ที่เปิดไม่ได้ เพื่อให้เหยื่อขอไฟล์ใหม่ เมื่อเหยื่อตอบกลับก็จะได้รับลิงก์ไปยังไฟล์ที่แท้จริงซึ่งเป็นมัลแวร์ ฟิชชิ่งนี้ยังใช้เทคนิค AiTM (Adversary-in-the-Middle) เพื่อดักข้อมูลการเข้าสู่ระบบและรหัส 2FA แบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่เจาะจง NGO ที่เกี่ยวข้องกับยูเครนและเสรีภาพสื่อโดยตรง
    https://securityonline.info/russian-calisto-apt-targets-reporters-without-borders-with-custom-aitm-phishing-and-missing-file-lure

    NVIDIA Triton Server พบช่องโหว่ DoS ร้ายแรง
    NVIDIA ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ Triton Inference Server ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการรันโมเดล AI พบช่องโหว่สองรายการ (CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ผิดรูปแบบหรือใหญ่เกินไปจนทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ ผลคือบริการ AI inference จะหยุดทำงานทันที ซึ่งอาจกระทบต่อองค์กรที่พึ่งพา AI ในการประมวลผลขนาดใหญ่ NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน r25.10 เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/nvidia-triton-server-patches-two-high-severity-dos-flaws-risking-critical-ai-inference-disruption

    Patchwork APT ใช้ StreamSpy Trojan ซ่อนคำสั่งใน WebSocket
    กลุ่มแฮกเกอร์ Patchwork APT ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ StreamSpy Trojan ที่มีความสามารถในการซ่อนคำสั่งควบคุม (C2) ภายในทราฟฟิก WebSocket ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนเป็นการใช้งานเว็บตามปกติ เทคนิคนี้ช่วยให้การสอดแนมดำเนินไปโดยไม่ถูกตรวจจับง่าย ๆ และยังสามารถดึงข้อมูลหรือสั่งการเครื่องเหยื่อได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการพัฒนาแนวทางโจมตีที่เน้นความลับและการพรางตัวสูง
    https://securityonline.info/patchwork-apt-deploys-streamspy-trojan-hiding-c2-commands-in-websocket-traffic-for-stealth-espionage

    ความต้องการ AI ลดลง Microsoft ปรับลดโควตายอดขาย
    มีรายงานว่า Microsoft ได้ปรับลดโควตายอดขายของทีม Enterprise AI ลงมากถึง 50% เนื่องจากความต้องการใช้งาน AI ในระดับองค์กรไม่เติบโตตามที่คาดไว้ สาเหตุหลักมาจากลูกค้าหลายรายยังลังเลที่จะลงทุนในโซลูชัน AI ขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและความไม่แน่ใจในผลลัพธ์ที่แท้จริง การปรับลดนี้สะท้อนถึงความท้าทายของตลาด AI ที่แม้จะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง แต่การนำไปใช้จริงในองค์กรยังต้องใช้เวลาและการพิสูจน์คุณค่า
    https://securityonline.info/ai-demand-struggles-microsoft-slashes-enterprise-ai-sales-quotas-by-up-to-50

    Telegram เตรียมใช้ Passkey แทน SMS สำหรับการล็อกอิน
    Telegram กำลังพัฒนาระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ โดยจะใช้ Passkey Authentication แทนการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการดักข้อความ ระบบ Passkey จะทำงานร่วมกับมาตรฐาน FIDO2 และ WebAuthn ทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินได้ด้วยการยืนยันจากอุปกรณ์ที่เชื่อถือ เช่น ลายนิ้วมือหรือ Face ID การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การใช้งาน Telegram ปลอดภัยขึ้นและลดการพึ่งพา SMS ที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login

    SpyCloud เผยผู้ใช้บริษัทเสี่ยงฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ 3 เท่า
    ข้อมูลจาก SpyCloud ระบุว่าผู้ใช้ในองค์กรมีโอกาสถูกโจมตีด้วยฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ถึง 3 เท่า โดยการโจมตีฟิชชิ่งมักใช้วิธีหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ซึ่งง่ายต่อการดำเนินการและได้ผลเร็วกว่า การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานและการใช้ระบบตรวจจับฟิชชิ่งมากขึ้น เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลและการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต
    https://securityonline.info/spycloud-data-shows-corporate-users-3x-more-likely-to-be-targeted-by-phishing-than-by-malware

    อินเดียยกเลิกบังคับใช้แอป Sanchar Saathi หลังถูกต่อต้าน
    รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกข้อบังคับที่ให้ประชาชนต้องใช้แอป Sanchar Saathi ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวง หลังจากประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ออกมาคัดค้านอย่างหนัก โดยมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและเสรีภาพดิจิทัล การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากสังคมที่ไม่ยอมรับการควบคุมที่เข้มงวดเกินไป และเป็นการปรับท่าทีของรัฐบาลต่อการใช้งานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/policy-u-turn-india-drops-mandatory-sanchar-saathi-app-after-fierce-opposition
    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251205 #securityonline 📰 Google ทดลองให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ แต่กลับทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยน Google กำลังทดสอบระบบที่ให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ในบริการ Google Discover โดยตั้งใจให้ผู้ใช้เข้าใจเนื้อหาได้เร็วขึ้นและกดเข้าไปอ่าน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เพราะหลายครั้งหัวข้อที่ AI เขียนขึ้นมาเกิดการบิดเบือนความหมายเดิมจนทำให้เข้าใจผิด ตัวอย่างเช่น ข่าวเกี่ยวกับเครื่องเกม Steam Machine ที่ยังไม่เปิดเผยราคา แต่ AI กลับเขียนหัวข้อว่า “Steam Machine price revealed” ซึ่งผิดไปจากข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า หากปล่อยให้ AI เขียนหัวข้อข่าวโดยไม่มีการควบคุม อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดและลดความน่าเชื่อถือของสื่อ รวมถึงกระทบต่อจำนวนคนที่คลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาจริง แม้ Google จะบอกว่าทดลองกับผู้ใช้เพียงส่วนน้อย แต่สำนักข่าวหลายแห่งก็เริ่มเห็นผลกระทบต่อทราฟฟิกของตนแล้ว 🔗 https://securityonline.info/misleading-ai-headlines-google-discover-testing-rewrites-that-distort-news-facts 💻 AWS ดันชิป Trainium สร้างรายได้หลายพันล้าน ท้าชน NVIDIA Amazon ผ่าน AWS กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดชิป AI ที่ NVIDIA ครองอยู่ ด้วยการพัฒนา Trainium ซึ่งตอนนี้ทำรายได้ระดับหลายพันล้านดอลลาร์แล้ว โดยรุ่น Trainium2 ถูกใช้งานมากกว่า 100,000 บริษัท และผลิตไปแล้วกว่า 1 ล้านชิป จุดเด่นคือราคาถูกกว่า GPU ของ NVIDIA แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพสูง ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ โดยเฉพาะ Anthropic ที่ใช้ชิป Trainium2 กว่า 500,000 ตัวในการสร้างโมเดลใหม่ของ Claude ล่าสุด AWS เปิดตัว Trainium3 ที่แรงขึ้น 4 เท่าและประหยัดพลังงานมากขึ้น พร้อมแผนพัฒนา Trainium4 ที่สามารถทำงานร่วมกับ GPU ของ NVIDIA ได้อย่างลื่นไหล ถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จากการแข่งตรง ๆ ไปสู่การสร้างระบบไฮบริดที่ยืดหยุ่นกว่า 🔗 https://securityonline.info/aws-trainium-chip-business-hits-multi-billion-revenue-challenging-nvidias-pricing 🎨 Meta ดึงตัวดีไซน์เนอร์ระดับตำนานจาก Apple มาสร้างสตูดิโอใหม่ Mark Zuckerberg ประกาศว่า Meta ได้ดึง Alan Dye อดีตหัวหน้าฝ่าย Human Interface Design ของ Apple มานำทีม Creative Studio ใหม่ใน Reality Labs Alan Dye เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังงานออกแบบสำคัญของ Apple เช่น Apple Watch, iPhone X และ Vision Pro การเข้ามาของเขาถูกมองว่าเป็นการยกระดับงานดีไซน์ของ Meta ให้มีความโดดเด่นและผสมผสานระหว่างแฟชั่น เทคโนโลยี และ AI โดย Dye จะทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ที่มีทั้ง Billy Sorrentino และ Joshua To เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ Meta การดึงตัวบุคลากรจาก Apple ครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสองยักษ์ใหญ่ที่กำลังแย่งชิงอนาคตของอุปกรณ์ AI และสมาร์ทแกดเจ็ต 🔗 https://securityonline.info/design-wars-meta-hires-apple-veteran-alan-dye-to-lead-new-reality-labs-creative-studio 🕵️‍♂️ ปฏิบัติการ DUPEHIKE: มัลแวร์เจาะฝ่าย HR ของรัสเซีย เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบเจาะจงที่ถูกตั้งชื่อว่า Operation DUPEHIKE โดยกลุ่มแฮกเกอร์ใช้วิธีส่งอีเมลหลอกล่อพนักงานฝ่ายบุคคลและเงินเดือน ด้วยไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารโบนัสสิ้นปี แต่แท้จริงแล้วเป็นไฟล์ลัด (LNK) ที่เมื่อเปิดขึ้นจะไปดาวน์โหลดมัลแวร์ชื่อ DUPERUNNER ผ่าน PowerShell ทำงานเบื้องหลังอย่างแนบเนียน มัลแวร์นี้สามารถฉีดโค้ดเข้าไปในโปรเซสที่ใช้บ่อย เช่น explorer.exe หรือ notepad.exe เพื่อให้ฝังตัวถาวร และสุดท้ายจะติดตั้ง Adaptix C2 ซึ่งเป็นเครื่องมือควบคุมจากระยะไกล เป้าหมายคือการสอดแนมและควบคุมระบบขององค์กรที่ตกเป็นเหยื่อ 🔗 https://securityonline.info/operation-dupehike-hits-russian-hr-bonus-lure-delivers-duperunner-and-adaptix-c2-via-process-injection ⚠️ ช่องโหว่ Splunk บน Windows เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์ Splunk ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลชื่อดัง พบช่องโหว่ร้ายแรงสองรายการ (CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387) ที่ทำให้การติดตั้งบน Windows กำหนดสิทธิ์ไฟล์ผิดพลาด เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่แอดมินเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้ หากแฮกเกอร์ได้สิทธิ์ผู้ใช้ระดับต่ำ ก็สามารถแก้ไขไฟล์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรจะถูกป้องกันไว้ได้ทันที ทาง Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows 🖥️ ช่องโหว่ Cacti เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจากระยะไกล Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับทำกราฟเครือข่าย พบช่องโหว่ร้ายแรง (CVE-2025-66399) ที่เกี่ยวกับการจัดการค่า SNMP Community String หากผู้ใช้ใส่ค่าที่มีตัวอักษรพิเศษหรือบรรทัดใหม่ ระบบจะไม่กรองออก ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทรกคำสั่งอันตรายเข้าไปได้ เมื่อระบบนำค่าเหล่านี้ไปใช้กับเครื่องมือ SNMP ภายนอก คำสั่งที่ถูกแทรกก็จะถูกรันทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 1.2.29 และแนะนำให้อัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection 🎯 กลุ่ม Calisto APT รัสเซียโจมตี NGO ด้วยฟิชชิ่งแบบใหม่ กลุ่มแฮกเกอร์ Calisto ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงรัสเซีย ได้พุ่งเป้าโจมตีองค์กร Reporters Without Borders (RSF) โดยใช้เทคนิคฟิชชิ่งที่ซับซ้อน พวกเขาส่งอีเมลแสร้งเป็นคนรู้จัก พร้อมไฟล์ที่ “หายไป” หรือไฟล์ที่เปิดไม่ได้ เพื่อให้เหยื่อขอไฟล์ใหม่ เมื่อเหยื่อตอบกลับก็จะได้รับลิงก์ไปยังไฟล์ที่แท้จริงซึ่งเป็นมัลแวร์ ฟิชชิ่งนี้ยังใช้เทคนิค AiTM (Adversary-in-the-Middle) เพื่อดักข้อมูลการเข้าสู่ระบบและรหัส 2FA แบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่เจาะจง NGO ที่เกี่ยวข้องกับยูเครนและเสรีภาพสื่อโดยตรง 🔗 https://securityonline.info/russian-calisto-apt-targets-reporters-without-borders-with-custom-aitm-phishing-and-missing-file-lure 🤖 NVIDIA Triton Server พบช่องโหว่ DoS ร้ายแรง NVIDIA ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ Triton Inference Server ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการรันโมเดล AI พบช่องโหว่สองรายการ (CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ผิดรูปแบบหรือใหญ่เกินไปจนทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ ผลคือบริการ AI inference จะหยุดทำงานทันที ซึ่งอาจกระทบต่อองค์กรที่พึ่งพา AI ในการประมวลผลขนาดใหญ่ NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน r25.10 เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/nvidia-triton-server-patches-two-high-severity-dos-flaws-risking-critical-ai-inference-disruption 🕶️ Patchwork APT ใช้ StreamSpy Trojan ซ่อนคำสั่งใน WebSocket กลุ่มแฮกเกอร์ Patchwork APT ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ StreamSpy Trojan ที่มีความสามารถในการซ่อนคำสั่งควบคุม (C2) ภายในทราฟฟิก WebSocket ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนเป็นการใช้งานเว็บตามปกติ เทคนิคนี้ช่วยให้การสอดแนมดำเนินไปโดยไม่ถูกตรวจจับง่าย ๆ และยังสามารถดึงข้อมูลหรือสั่งการเครื่องเหยื่อได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการพัฒนาแนวทางโจมตีที่เน้นความลับและการพรางตัวสูง 🔗 https://securityonline.info/patchwork-apt-deploys-streamspy-trojan-hiding-c2-commands-in-websocket-traffic-for-stealth-espionage 📉 ความต้องการ AI ลดลง Microsoft ปรับลดโควตายอดขาย มีรายงานว่า Microsoft ได้ปรับลดโควตายอดขายของทีม Enterprise AI ลงมากถึง 50% เนื่องจากความต้องการใช้งาน AI ในระดับองค์กรไม่เติบโตตามที่คาดไว้ สาเหตุหลักมาจากลูกค้าหลายรายยังลังเลที่จะลงทุนในโซลูชัน AI ขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและความไม่แน่ใจในผลลัพธ์ที่แท้จริง การปรับลดนี้สะท้อนถึงความท้าทายของตลาด AI ที่แม้จะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง แต่การนำไปใช้จริงในองค์กรยังต้องใช้เวลาและการพิสูจน์คุณค่า 🔗 https://securityonline.info/ai-demand-struggles-microsoft-slashes-enterprise-ai-sales-quotas-by-up-to-50 🔐 Telegram เตรียมใช้ Passkey แทน SMS สำหรับการล็อกอิน Telegram กำลังพัฒนาระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ โดยจะใช้ Passkey Authentication แทนการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการดักข้อความ ระบบ Passkey จะทำงานร่วมกับมาตรฐาน FIDO2 และ WebAuthn ทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินได้ด้วยการยืนยันจากอุปกรณ์ที่เชื่อถือ เช่น ลายนิ้วมือหรือ Face ID การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การใช้งาน Telegram ปลอดภัยขึ้นและลดการพึ่งพา SMS ที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login 🎣 SpyCloud เผยผู้ใช้บริษัทเสี่ยงฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ 3 เท่า ข้อมูลจาก SpyCloud ระบุว่าผู้ใช้ในองค์กรมีโอกาสถูกโจมตีด้วยฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ถึง 3 เท่า โดยการโจมตีฟิชชิ่งมักใช้วิธีหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ซึ่งง่ายต่อการดำเนินการและได้ผลเร็วกว่า การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานและการใช้ระบบตรวจจับฟิชชิ่งมากขึ้น เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลและการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต 🔗 https://securityonline.info/spycloud-data-shows-corporate-users-3x-more-likely-to-be-targeted-by-phishing-than-by-malware 🇮🇳 อินเดียยกเลิกบังคับใช้แอป Sanchar Saathi หลังถูกต่อต้าน รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกข้อบังคับที่ให้ประชาชนต้องใช้แอป Sanchar Saathi ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวง หลังจากประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ออกมาคัดค้านอย่างหนัก โดยมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและเสรีภาพดิจิทัล การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากสังคมที่ไม่ยอมรับการควบคุมที่เข้มงวดเกินไป และเป็นการปรับท่าทีของรัฐบาลต่อการใช้งานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/policy-u-turn-india-drops-mandatory-sanchar-saathi-app-after-fierce-opposition
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Windows 11 Dark Mode กลายเป็น Flashbang – ผู้ใช้สะดุ้งตาแตก"

    Microsoft ปล่อย Windows 11 Preview Build KB5070311 โดยระบุว่าจะทำให้ Dark Mode ใน Explorer มีความสม่ำเสมอมากขึ้น ครอบคลุมทั้งหน้าต่าง copy/move/delete, progress bar, chart view และ dialog ยืนยัน แต่ผู้ใช้กลับพบว่าเมื่อเปิด Explorer หรือสลับไปยัง Home/Gallery หน้าจอกลับ แสดงแสงขาวจ้า ก่อนโหลดเนื้อหาจริง.

    บั๊กนี้สามารถถูกกระตุ้นได้หลายวิธี เช่น การสร้างแท็บใหม่, เปิด/ปิด Details pane, หรือเลือก “More Details” ระหว่างการ copy ไฟล์ ทำให้ผู้ใช้ที่ตั้งค่า Dark Mode ต้องเจอแสงแฟลชทุกครั้ง โดยวิธีแก้ชั่วคราวคือ ปิด Dark Mode ทั้งหมด.

    แม้จะมีบั๊ก แต่ Preview Build ยังมีฟีเจอร์ใหม่ เช่น Full-Screen Experience สำหรับ handheld, ปากกา haptic ที่ตอบสนอง UI, การปรับแต่งคีย์บอร์ด backlit, และการแชร์ไฟล์หลายรายการพร้อมกัน รวมถึงการแก้บั๊กเกมที่เคยขึ้นข้อความ “unsupported graphics card detected”.

    ผู้ใช้บางคนมองว่าเป็นเรื่องตลก เพราะ Microsoft โฆษณาว่าจะทำให้ Dark Mode “consistent” แต่กลับสร้างเอฟเฟกต์ตรงข้าม ขณะที่นักรีวิวเรียกมันว่า “Flashbang bug” ซึ่งกลายเป็นมีมในชุมชน Windows.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Windows 11 Preview Build KB5070311 มีบั๊ก Dark Mode แสดงแสงขาวจ้า
    เกิดขึ้นเมื่อเปิด Explorer, สร้างแท็บใหม่, หรือเปิด Details pane
    วิธีแก้ชั่วคราวคือปิด Dark Mode
    Build ยังเพิ่มฟีเจอร์ Full-Screen Experience, haptic pen, multi-file sharing

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    Dark Mode เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ Windows เรียกร้องมากที่สุดตั้งแต่ปี 2019
    Microsoft มักใช้ Preview Build เพื่อทดสอบก่อนปล่อยจริง แต่บั๊กเช่นนี้เกิดบ่อย
    ชุมชน Windows มีประวัติการสร้างมีมจากบั๊ก UI เช่น “Blue Screen of Death”

    คำเตือนจากข่าว
    บั๊ก Flashbang อาจรบกวนผู้ใช้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมแสงน้อย
    Preview Build มีความเสี่ยง ไม่ควรติดตั้งบนเครื่องหลัก
    Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขอย่างเป็นทางการ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/windows-11-update-designed-to-improve-dark-mode-greets-users-with-a-flashbang-preview-build-stuns-unsuspecting-eyeballs
    💡 "Windows 11 Dark Mode กลายเป็น Flashbang – ผู้ใช้สะดุ้งตาแตก" Microsoft ปล่อย Windows 11 Preview Build KB5070311 โดยระบุว่าจะทำให้ Dark Mode ใน Explorer มีความสม่ำเสมอมากขึ้น ครอบคลุมทั้งหน้าต่าง copy/move/delete, progress bar, chart view และ dialog ยืนยัน แต่ผู้ใช้กลับพบว่าเมื่อเปิด Explorer หรือสลับไปยัง Home/Gallery หน้าจอกลับ แสดงแสงขาวจ้า ก่อนโหลดเนื้อหาจริง. บั๊กนี้สามารถถูกกระตุ้นได้หลายวิธี เช่น การสร้างแท็บใหม่, เปิด/ปิด Details pane, หรือเลือก “More Details” ระหว่างการ copy ไฟล์ ทำให้ผู้ใช้ที่ตั้งค่า Dark Mode ต้องเจอแสงแฟลชทุกครั้ง โดยวิธีแก้ชั่วคราวคือ ปิด Dark Mode ทั้งหมด. แม้จะมีบั๊ก แต่ Preview Build ยังมีฟีเจอร์ใหม่ เช่น Full-Screen Experience สำหรับ handheld, ปากกา haptic ที่ตอบสนอง UI, การปรับแต่งคีย์บอร์ด backlit, และการแชร์ไฟล์หลายรายการพร้อมกัน รวมถึงการแก้บั๊กเกมที่เคยขึ้นข้อความ “unsupported graphics card detected”. ผู้ใช้บางคนมองว่าเป็นเรื่องตลก เพราะ Microsoft โฆษณาว่าจะทำให้ Dark Mode “consistent” แต่กลับสร้างเอฟเฟกต์ตรงข้าม ขณะที่นักรีวิวเรียกมันว่า “Flashbang bug” ซึ่งกลายเป็นมีมในชุมชน Windows. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Windows 11 Preview Build KB5070311 มีบั๊ก Dark Mode แสดงแสงขาวจ้า ➡️ เกิดขึ้นเมื่อเปิด Explorer, สร้างแท็บใหม่, หรือเปิด Details pane ➡️ วิธีแก้ชั่วคราวคือปิด Dark Mode ➡️ Build ยังเพิ่มฟีเจอร์ Full-Screen Experience, haptic pen, multi-file sharing ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ Dark Mode เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ Windows เรียกร้องมากที่สุดตั้งแต่ปี 2019 ➡️ Microsoft มักใช้ Preview Build เพื่อทดสอบก่อนปล่อยจริง แต่บั๊กเช่นนี้เกิดบ่อย ➡️ ชุมชน Windows มีประวัติการสร้างมีมจากบั๊ก UI เช่น “Blue Screen of Death” ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ บั๊ก Flashbang อาจรบกวนผู้ใช้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมแสงน้อย ⛔ Preview Build มีความเสี่ยง ไม่ควรติดตั้งบนเครื่องหลัก ⛔ Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขอย่างเป็นทางการ https://www.tomshardware.com/tech-industry/windows-11-update-designed-to-improve-dark-mode-greets-users-with-a-flashbang-preview-build-stuns-unsuspecting-eyeballs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Valve เปิดวิสัยทัศน์ – เกม PC สู่โลก Arm ผ่าน SteamOS"

    Valve กำลังพัฒนาโครงการที่ทำให้ เกม Windows บน PC สามารถรันได้บนอุปกรณ์ Arm โดยไม่ต้องรอให้ผู้พัฒนาเกมทำการพอร์ตเอง เทคโนโลยีนี้ใช้การผสมผสานระหว่าง Proton (ชั้นความเข้ากันได้ Windows-to-Linux) และ FEX Emulator (แปลงสถาปัตยกรรม x86 เป็น Arm) ซึ่งช่วยให้เกมที่สร้างขึ้นสำหรับ Windows สามารถทำงานบน Linux และ Arm ได้อย่างราบรื่น

    Pierre-Loup Griffais จาก Valve อธิบายว่าเป้าหมายคือการทำให้ SteamOS และ Steam Machine ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เครื่องคอนโซล แต่สามารถขยายไปสู่ สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ก Arm ได้ในอนาคต ตัวอย่างเช่น เกมดังอย่าง Hollow Knight: Silksong แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android แต่สามารถเล่นได้แล้วบนมือถือ Samsung Galaxy ผ่านเทคโนโลยีใหม่นี้

    Valve ยังเปิดตัวชื่ออย่างเป็นทางการของเลเยอร์ความเข้ากันได้สำหรับ Android คือ Lepton พร้อมโลโก้รูปกบ ซึ่งสะท้อนความตั้งใจที่จะสร้าง ecosystem ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และนักพัฒนา โดย Lepton จะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเกม PC ให้เข้าถึงผู้ใช้มือถือหลายพันล้านคนทั่วโลก

    แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ Valve ยืนยันว่าจะไม่ อุดหนุนราคาของ Steam Machine เพื่อแข่งขันกับคอนโซลรายใหญ่ เน้นการสร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นมากกว่า ซึ่งอาจเป็นการวางรากฐานให้เกม PC กลายเป็น “แพลตฟอร์มไร้พรมแดน” ที่สามารถเล่นได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Valve ใช้ Proton + FEX Emulator เพื่อรันเกม Windows บน Arm
    เกม Hollow Knight: Silksong เล่นได้บนมือถือ Samsung Galaxy แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android
    เปิดตัว Lepton เป็น compatibility layer สำหรับ Android พร้อมโลโก้กบ
    Valve จะไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    ตลาดสมาร์ทโฟน Arm มีผู้ใช้งานมากกว่า 6 พันล้านเครื่องทั่วโลก
    การเล่นเกม PC บนมือถืออาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เล่นและตลาดเกมพกพา
    นักพัฒนาหลายรายเริ่มสนใจการใช้ Proton และ Emulator เพื่อขยายฐานผู้เล่น

    คำเตือนจากข่าว
    การรันเกม PC บนมือถืออาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพและแบตเตอรี่
    หากไม่มีการสนับสนุนจากนักพัฒนา อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ในบางเกม
    การไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine อาจทำให้แข่งขันกับคอนโซลยากขึ้น

    https://www.theverge.com/report/820656/valve-interview-arm-gaming-steamos-pierre-loup-griffais
    🎮 "Valve เปิดวิสัยทัศน์ – เกม PC สู่โลก Arm ผ่าน SteamOS" Valve กำลังพัฒนาโครงการที่ทำให้ เกม Windows บน PC สามารถรันได้บนอุปกรณ์ Arm โดยไม่ต้องรอให้ผู้พัฒนาเกมทำการพอร์ตเอง เทคโนโลยีนี้ใช้การผสมผสานระหว่าง Proton (ชั้นความเข้ากันได้ Windows-to-Linux) และ FEX Emulator (แปลงสถาปัตยกรรม x86 เป็น Arm) ซึ่งช่วยให้เกมที่สร้างขึ้นสำหรับ Windows สามารถทำงานบน Linux และ Arm ได้อย่างราบรื่น Pierre-Loup Griffais จาก Valve อธิบายว่าเป้าหมายคือการทำให้ SteamOS และ Steam Machine ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เครื่องคอนโซล แต่สามารถขยายไปสู่ สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ก Arm ได้ในอนาคต ตัวอย่างเช่น เกมดังอย่าง Hollow Knight: Silksong แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android แต่สามารถเล่นได้แล้วบนมือถือ Samsung Galaxy ผ่านเทคโนโลยีใหม่นี้ Valve ยังเปิดตัวชื่ออย่างเป็นทางการของเลเยอร์ความเข้ากันได้สำหรับ Android คือ Lepton พร้อมโลโก้รูปกบ ซึ่งสะท้อนความตั้งใจที่จะสร้าง ecosystem ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และนักพัฒนา โดย Lepton จะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเกม PC ให้เข้าถึงผู้ใช้มือถือหลายพันล้านคนทั่วโลก แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ Valve ยืนยันว่าจะไม่ อุดหนุนราคาของ Steam Machine เพื่อแข่งขันกับคอนโซลรายใหญ่ เน้นการสร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นมากกว่า ซึ่งอาจเป็นการวางรากฐานให้เกม PC กลายเป็น “แพลตฟอร์มไร้พรมแดน” ที่สามารถเล่นได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Valve ใช้ Proton + FEX Emulator เพื่อรันเกม Windows บน Arm ➡️ เกม Hollow Knight: Silksong เล่นได้บนมือถือ Samsung Galaxy แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android ➡️ เปิดตัว Lepton เป็น compatibility layer สำหรับ Android พร้อมโลโก้กบ ➡️ Valve จะไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ ตลาดสมาร์ทโฟน Arm มีผู้ใช้งานมากกว่า 6 พันล้านเครื่องทั่วโลก ➡️ การเล่นเกม PC บนมือถืออาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เล่นและตลาดเกมพกพา ➡️ นักพัฒนาหลายรายเริ่มสนใจการใช้ Proton และ Emulator เพื่อขยายฐานผู้เล่น ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ การรันเกม PC บนมือถืออาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพและแบตเตอรี่ ⛔ หากไม่มีการสนับสนุนจากนักพัฒนา อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ในบางเกม ⛔ การไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine อาจทำให้แข่งขันกับคอนโซลยากขึ้น https://www.theverge.com/report/820656/valve-interview-arm-gaming-steamos-pierre-loup-griffais
    WWW.THEVERGE.COM
    Steam Machine today, Steam Phones tomorrow
    The Steam Frame is a Trojan horse carrying Arm’s gaming future.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • “มัลแวร์ย้อนศร แฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือถูกเจาะเอง”

    Hudson Rock บริษัทด้านข่าวกรองไซเบอร์พบว่าเครื่องของนักพัฒนามัลแวร์ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานรัฐเกาหลีเหนือถูกติด LummaC2 infostealer ซึ่งปกติใช้โจมตีเหยื่อทั่วไป แต่ครั้งนี้กลับทำให้ข้อมูลภายในของแฮ็กเกอร์รั่วไหลออกมา ทั้งอีเมล, โดเมนปลอม และเครื่องมือที่ใช้ในการโจมตี

    “เชื่อมโยงการโจมตี Bybit มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์”
    ข้อมูลจากเครื่องที่ถูกติดมัลแวร์เผยว่าอีเมลและโดเมนที่ใช้ในการโจมตีตรงกับหลักฐานที่ Silent Push เคยรายงานไว้ก่อนหน้านี้ โดยโดเมน bybit-assessment.com ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกเหยื่อและสนับสนุนการขโมยคริปโตครั้งใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ

    “เครื่องมือและโครงสร้างที่ถูกเปิดโปง”
    เครื่องที่ถูกเจาะเป็นคอมพิวเตอร์สเปกสูง ใช้ Intel Core i7 Gen 12 พร้อม RAM 16GB และติดตั้งเครื่องมือพัฒนาเช่น Visual Studio และ Enigma Protector เพื่อสร้างมัลแวร์และหลบเลี่ยงการตรวจจับ นอกจากนี้ยังพบการใช้ VPN, Slack, Telegram และ Dropbox ในการสื่อสารและจัดเก็บข้อมูลที่ขโมยมา

    “ผลกระทบต่อการวิจัยด้านความมั่นคงไซเบอร์”
    การที่แฮ็กเกอร์ระดับรัฐถูกมัลแวร์เจาะเองถือเป็นกรณีหายาก ทำให้ผู้เชี่ยวชาญได้เห็นโครงสร้างการทำงานภายในของปฏิบัติการไซเบอร์เกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด ซึ่งช่วยให้การวิจัยและการป้องกันในอนาคตมีข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การติด LummaC2 infostealer
    เครื่องของนักพัฒนามัลแวร์เกาหลีเหนือถูกเจาะเอง
    ทำให้ข้อมูลภายในรั่วไหลออกมา

    การเชื่อมโยงกับ Bybit Heist
    โดเมนปลอม bybit-assessment.com ถูกใช้ในโจมตี
    มูลค่าการขโมยคริปโตสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์

    เครื่องมือและโครงสร้างที่ถูกเปิดโปง
    ใช้เครื่องสเปกสูงและซอฟต์แวร์พัฒนาเพื่อสร้างมัลแวร์
    พบการใช้ VPN และแพลตฟอร์มสื่อสารหลายชนิด

    ผลกระทบต่อการวิจัยด้านไซเบอร์
    เปิดโอกาสให้เห็นโครงสร้างการทำงานของแฮ็กเกอร์รัฐ
    ช่วยเพิ่มข้อมูลเชิงลึกในการป้องกันภัยไซเบอร์

    คำเตือนสำหรับองค์กรและผู้ใช้
    มัลแวร์สามารถย้อนกลับมาโจมตีผู้สร้างเองได้
    การใช้เครื่องมือและ VPN ไม่ได้หมายความว่าปลอดภัยเสมอไป
    การโจมตีคริปโตยังคงเป็นเป้าหมายหลักของกลุ่มแฮ็กเกอร์รัฐ

    https://hackread.com/north-korean-hacker-device-lummac2-infostealer-bybit/
    💻 “มัลแวร์ย้อนศร แฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือถูกเจาะเอง” Hudson Rock บริษัทด้านข่าวกรองไซเบอร์พบว่าเครื่องของนักพัฒนามัลแวร์ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานรัฐเกาหลีเหนือถูกติด LummaC2 infostealer ซึ่งปกติใช้โจมตีเหยื่อทั่วไป แต่ครั้งนี้กลับทำให้ข้อมูลภายในของแฮ็กเกอร์รั่วไหลออกมา ทั้งอีเมล, โดเมนปลอม และเครื่องมือที่ใช้ในการโจมตี 🪙 “เชื่อมโยงการโจมตี Bybit มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์” ข้อมูลจากเครื่องที่ถูกติดมัลแวร์เผยว่าอีเมลและโดเมนที่ใช้ในการโจมตีตรงกับหลักฐานที่ Silent Push เคยรายงานไว้ก่อนหน้านี้ โดยโดเมน bybit-assessment.com ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกเหยื่อและสนับสนุนการขโมยคริปโตครั้งใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ 🛠️ “เครื่องมือและโครงสร้างที่ถูกเปิดโปง” เครื่องที่ถูกเจาะเป็นคอมพิวเตอร์สเปกสูง ใช้ Intel Core i7 Gen 12 พร้อม RAM 16GB และติดตั้งเครื่องมือพัฒนาเช่น Visual Studio และ Enigma Protector เพื่อสร้างมัลแวร์และหลบเลี่ยงการตรวจจับ นอกจากนี้ยังพบการใช้ VPN, Slack, Telegram และ Dropbox ในการสื่อสารและจัดเก็บข้อมูลที่ขโมยมา 🌍 “ผลกระทบต่อการวิจัยด้านความมั่นคงไซเบอร์” การที่แฮ็กเกอร์ระดับรัฐถูกมัลแวร์เจาะเองถือเป็นกรณีหายาก ทำให้ผู้เชี่ยวชาญได้เห็นโครงสร้างการทำงานภายในของปฏิบัติการไซเบอร์เกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด ซึ่งช่วยให้การวิจัยและการป้องกันในอนาคตมีข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การติด LummaC2 infostealer ➡️ เครื่องของนักพัฒนามัลแวร์เกาหลีเหนือถูกเจาะเอง ➡️ ทำให้ข้อมูลภายในรั่วไหลออกมา ✅ การเชื่อมโยงกับ Bybit Heist ➡️ โดเมนปลอม bybit-assessment.com ถูกใช้ในโจมตี ➡️ มูลค่าการขโมยคริปโตสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์ ✅ เครื่องมือและโครงสร้างที่ถูกเปิดโปง ➡️ ใช้เครื่องสเปกสูงและซอฟต์แวร์พัฒนาเพื่อสร้างมัลแวร์ ➡️ พบการใช้ VPN และแพลตฟอร์มสื่อสารหลายชนิด ✅ ผลกระทบต่อการวิจัยด้านไซเบอร์ ➡️ เปิดโอกาสให้เห็นโครงสร้างการทำงานของแฮ็กเกอร์รัฐ ➡️ ช่วยเพิ่มข้อมูลเชิงลึกในการป้องกันภัยไซเบอร์ ‼️ คำเตือนสำหรับองค์กรและผู้ใช้ ⛔ มัลแวร์สามารถย้อนกลับมาโจมตีผู้สร้างเองได้ ⛔ การใช้เครื่องมือและ VPN ไม่ได้หมายความว่าปลอดภัยเสมอไป ⛔ การโจมตีคริปโตยังคงเป็นเป้าหมายหลักของกลุ่มแฮ็กเกอร์รัฐ https://hackread.com/north-korean-hacker-device-lummac2-infostealer-bybit/
    HACKREAD.COM
    LummaC2 Infects North Korean Hacker Device Linked to Bybit Heist
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • Fedora ปรับโฉมระบบ Console ครั้งใหญ่

    Fedora 44 กำลังเปลี่ยนระบบ Kernel Console (fbcon) ที่ใช้มานานหลายสิบปี ไปเป็น kmscon ซึ่งทำงานใน Userspace เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความยืดหยุ่น โดย fbcon จะยังคงอยู่เป็นระบบสำรองในกรณีที่เกิดปัญหา

    Fedora เป็นดิสโทรที่มักนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ก่อนใคร ล่าสุด Fedora Engineering Steering Committee (FESCo) ได้อนุมัติให้เปลี่ยนจาก fbcon (framebuffer console) ที่ทำงานใน Kernel ไปใช้ kmscon (Kernel Mode Setting console) ที่ทำงานใน Userspace เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสามารถในการจัดการ

    เหตุผลที่ต้องเปลี่ยน
    fbcon ล้าสมัย และเคยถูกตัดฟีเจอร์สำคัญ เช่น การเลื่อนหน้าจอ (scrolling) เนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัย
    fbcon ยังพึ่งพา fbdev emulation ทั้งที่ GPU สมัยใหม่ใช้ DRM interface แล้ว ทำให้เกิดส่วนประกอบที่ไม่จำเป็น
    การทำงานใน Kernel Space หมายความว่าหาก fbcon ล้มเหลว จะทำให้ระบบเกิด Kernel Panic และหยุดทำงานทั้งหมด

    สิ่งที่ผู้ใช้จะได้รับจาก kmscon
    การเลื่อนหน้าจอ (scrolling) กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
    รองรับ xkbcommon ทำให้การจัดการคีย์บอร์ดดีขึ้น เช่น layout หลายภาษา และ shortcut ที่ถูกต้อง
    รองรับ Unicode และการเปลี่ยนฟอนต์
    หาก kmscon มีปัญหา ระบบจะ fallback กลับไปใช้ fbcon โดยอัตโนมัติ

    ผลกระทบต่ออนาคต Linux
    หาก Fedora สามารถเปลี่ยนผ่านได้อย่างราบรื่น ดิสโทรอื่น ๆ อาจตามรอยในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้ระบบ Linux โดยรวมมีความปลอดภัยและทันสมัยมากขึ้น โดยเป้าหมายระยะยาวคือการเลิกใช้ทั้ง fbcon และ fbdev emulation อย่างถาวร

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Fedora 44 จะเปลี่ยนจาก fbcon ไปใช้ kmscon
    fbcon เคยถูกตัดฟีเจอร์ scrolling และพึ่งพา fbdev ที่ล้าสมัย
    kmscon รองรับ Unicode, ฟอนต์, และคีย์บอร์ดหลายภาษา
    หาก kmscon ล้มเหลว ระบบจะ fallback ไป fbcon

    คำเตือนจากข่าว
    fbcon ที่ทำงานใน Kernel Space เสี่ยงต่อ Kernel Panic หากเกิดข้อผิดพลาด
    หากผู้ใช้ไม่ปรับตัว อาจเจอความไม่เข้ากันกับระบบใหม่ในช่วงแรก
    การละเลยการอัปเดตอาจทำให้ระบบยังคงเสี่ยงต่อปัญหาความปลอดภัยเดิม

    https://itsfoss.com/news/fedora-replacing-kernel-console/
    📰 Fedora ปรับโฉมระบบ Console ครั้งใหญ่ Fedora 44 กำลังเปลี่ยนระบบ Kernel Console (fbcon) ที่ใช้มานานหลายสิบปี ไปเป็น kmscon ซึ่งทำงานใน Userspace เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความยืดหยุ่น โดย fbcon จะยังคงอยู่เป็นระบบสำรองในกรณีที่เกิดปัญหา Fedora เป็นดิสโทรที่มักนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ก่อนใคร ล่าสุด Fedora Engineering Steering Committee (FESCo) ได้อนุมัติให้เปลี่ยนจาก fbcon (framebuffer console) ที่ทำงานใน Kernel ไปใช้ kmscon (Kernel Mode Setting console) ที่ทำงานใน Userspace เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสามารถในการจัดการ 🔎 เหตุผลที่ต้องเปลี่ยน 💠 fbcon ล้าสมัย และเคยถูกตัดฟีเจอร์สำคัญ เช่น การเลื่อนหน้าจอ (scrolling) เนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัย 💠 fbcon ยังพึ่งพา fbdev emulation ทั้งที่ GPU สมัยใหม่ใช้ DRM interface แล้ว ทำให้เกิดส่วนประกอบที่ไม่จำเป็น 💠 การทำงานใน Kernel Space หมายความว่าหาก fbcon ล้มเหลว จะทำให้ระบบเกิด Kernel Panic และหยุดทำงานทั้งหมด ⚙️ สิ่งที่ผู้ใช้จะได้รับจาก kmscon 💠 การเลื่อนหน้าจอ (scrolling) กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง 💠 รองรับ xkbcommon ทำให้การจัดการคีย์บอร์ดดีขึ้น เช่น layout หลายภาษา และ shortcut ที่ถูกต้อง 💠 รองรับ Unicode และการเปลี่ยนฟอนต์ 💠 หาก kmscon มีปัญหา ระบบจะ fallback กลับไปใช้ fbcon โดยอัตโนมัติ 🌍 ผลกระทบต่ออนาคต Linux หาก Fedora สามารถเปลี่ยนผ่านได้อย่างราบรื่น ดิสโทรอื่น ๆ อาจตามรอยในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้ระบบ Linux โดยรวมมีความปลอดภัยและทันสมัยมากขึ้น โดยเป้าหมายระยะยาวคือการเลิกใช้ทั้ง fbcon และ fbdev emulation อย่างถาวร 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Fedora 44 จะเปลี่ยนจาก fbcon ไปใช้ kmscon ➡️ fbcon เคยถูกตัดฟีเจอร์ scrolling และพึ่งพา fbdev ที่ล้าสมัย ➡️ kmscon รองรับ Unicode, ฟอนต์, และคีย์บอร์ดหลายภาษา ➡️ หาก kmscon ล้มเหลว ระบบจะ fallback ไป fbcon ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ fbcon ที่ทำงานใน Kernel Space เสี่ยงต่อ Kernel Panic หากเกิดข้อผิดพลาด ⛔ หากผู้ใช้ไม่ปรับตัว อาจเจอความไม่เข้ากันกับระบบใหม่ในช่วงแรก ⛔ การละเลยการอัปเดตอาจทำให้ระบบยังคงเสี่ยงต่อปัญหาความปลอดภัยเดิม https://itsfoss.com/news/fedora-replacing-kernel-console/
    ITSFOSS.COM
    Fedora 44 is Replacing Decades-Old Kernel Console with Safer, Modern Alternative
    It is making a more secure userspace console the default while keeping the old one as a backup.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ Splunk บน Windows ทำให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่ Administrator สามารถเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้

    Splunk Enterprise และ Splunk Universal Forwarder บน Windows ถูกค้นพบช่องโหว่ CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387 โดยมีคะแนนความรุนแรง CVSS 8.0 ซึ่งถือว่าสูงมาก ช่องโหว่นี้เกิดจากการติดตั้งหรืออัปเกรดที่กำหนด Permission ของโฟลเดอร์ผิดพลาด ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงไฟล์ที่ควรจำกัดสิทธิ์เฉพาะ Administrator ได้

    กลไกการโจมตี
    เมื่อ Permission ถูกตั้งค่าไม่ถูกต้อง ผู้โจมตีที่มีบัญชีผู้ใช้ระดับต่ำสามารถ:
    อ่านไฟล์การตั้งค่าที่มีข้อมูลสำคัญ
    เขียนหรือแก้ไขไฟล์ในโฟลเดอร์ Splunk
    ฝังไฟล์อันตรายเพื่อให้ระบบรันโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้ทำให้การโจมตีง่ายขึ้นมาก เพราะไม่ต้องใช้สิทธิ์สูงตั้งแต่แรก

    เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ
    Splunk Enterprise และ Universal Forwarder เวอร์ชันต่ำกว่า:
    10.0.2
    9.4.6
    9.3.8
    9.2.10

    แนวทางแก้ไข
    Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชันข้างต้น ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถอัปเดตได้ Splunk แนะนำให้ใช้คำสั่ง icacls.exe เพื่อแก้ไข Permission ด้วยตนเอง เช่น:
    ปิด inheritance
    ลบสิทธิ์ Built-in Users และ Authenticated Users
    เปิด inheritance ใหม่อย่างปลอดภัย

    สรุปประเด็นสำคัญ

    ข้อมูลจากข่าว
    ช่องโหว่ CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387 มีคะแนน CVSS 8.0
    เกิดจาก Permission โฟลเดอร์ Splunk บน Windows ที่ตั้งค่าไม่ถูกต้อง
    ผู้โจมตีสามารถอ่าน/เขียนไฟล์ และฝังโค้ดอันตรายได้
    เวอร์ชันที่ปลอดภัยคือ 10.0.2, 9.4.6, 9.3.8, 9.2.10

    คำเตือนจากข่าว
    หากไม่อัปเดต ระบบเสี่ยงต่อการถูกยึดครองโดยผู้ใช้ทั่วไป
    การปล่อยให้ Permission เปิดกว้างทำให้ไฟล์สำคัญถูกแก้ไขได้
    การละเลยการตรวจสอบสิทธิ์ไฟล์อาจเปิดช่องให้ฝัง Backdoor
    การใช้เวอร์ชันเก่าต่อไปคือความเสี่ยงต่อความปลอดภัยองค์กร

    https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows/
    ⚠️ ช่องโหว่ Splunk บน Windows ทำให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่ Administrator สามารถเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้ Splunk Enterprise และ Splunk Universal Forwarder บน Windows ถูกค้นพบช่องโหว่ CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387 โดยมีคะแนนความรุนแรง CVSS 8.0 ซึ่งถือว่าสูงมาก ช่องโหว่นี้เกิดจากการติดตั้งหรืออัปเกรดที่กำหนด Permission ของโฟลเดอร์ผิดพลาด ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงไฟล์ที่ควรจำกัดสิทธิ์เฉพาะ Administrator ได้ 🧩 กลไกการโจมตี เมื่อ Permission ถูกตั้งค่าไม่ถูกต้อง ผู้โจมตีที่มีบัญชีผู้ใช้ระดับต่ำสามารถ: 🐞 อ่านไฟล์การตั้งค่าที่มีข้อมูลสำคัญ 🐞 เขียนหรือแก้ไขไฟล์ในโฟลเดอร์ Splunk 🐞 ฝังไฟล์อันตรายเพื่อให้ระบบรันโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้ทำให้การโจมตีง่ายขึ้นมาก เพราะไม่ต้องใช้สิทธิ์สูงตั้งแต่แรก 🔎 เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ Splunk Enterprise และ Universal Forwarder เวอร์ชันต่ำกว่า: 🐞 10.0.2 🐞 9.4.6 🐞 9.3.8 🐞 9.2.10 🛡️ แนวทางแก้ไข Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชันข้างต้น ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถอัปเดตได้ Splunk แนะนำให้ใช้คำสั่ง icacls.exe เพื่อแก้ไข Permission ด้วยตนเอง เช่น: 🐞 ปิด inheritance 🐞 ลบสิทธิ์ Built-in Users และ Authenticated Users 🐞 เปิด inheritance ใหม่อย่างปลอดภัย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387 มีคะแนน CVSS 8.0 ➡️ เกิดจาก Permission โฟลเดอร์ Splunk บน Windows ที่ตั้งค่าไม่ถูกต้อง ➡️ ผู้โจมตีสามารถอ่าน/เขียนไฟล์ และฝังโค้ดอันตรายได้ ➡️ เวอร์ชันที่ปลอดภัยคือ 10.0.2, 9.4.6, 9.3.8, 9.2.10 ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ หากไม่อัปเดต ระบบเสี่ยงต่อการถูกยึดครองโดยผู้ใช้ทั่วไป ⛔ การปล่อยให้ Permission เปิดกว้างทำให้ไฟล์สำคัญถูกแก้ไขได้ ⛔ การละเลยการตรวจสอบสิทธิ์ไฟล์อาจเปิดช่องให้ฝัง Backdoor ⛔ การใช้เวอร์ชันเก่าต่อไปคือความเสี่ยงต่อความปลอดภัยองค์กร https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows/
    SECURITYONLINE.INFO
    High-Severity Splunk Flaw Allows Local Privilege Escalation via Incorrect File Permissions on Windows
    A High-severity flaw (CVSS 8.0) in Splunk Enterprise/Universal Forwarder for Windows allows low-privileged users to access/tamper with sensitive installation directories due to incorrect permissions. Update to v10.0.2+.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ใน Cacti เสี่ยงต่อการถูกยึดครอง Server

    Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือ Network Monitoring แบบ Open Source ถูกค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งอันตรายเข้าสู่ระบบได้โดยตรง ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-66399 และจัดอยู่ในระดับ High Severity เนื่องจากสามารถนำไปสู่การควบคุมเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด

    กลไกการโจมตี
    ปัญหาเกิดจากการที่ระบบไม่ตรวจสอบค่า SNMP Community String อย่างถูกต้อง โดย regex ที่ใช้สำหรับการกรองถูกปล่อยว่าง ทำให้ newline characters ไม่ถูกลบออก ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถแทรกคำสั่งเพิ่มเติมเข้าไปในกระบวนการ SNMP ได้ เช่น การใช้ snmpwalk หรือ wrapper tools ที่ตีความ newline เป็นคำสั่งใหม่ ทำให้เกิดการ Command Injection และนำไปสู่การรันโค้ดโดยตรง

    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    หากการโจมตีสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถ:
    แก้ไขข้อมูลการมอนิเตอร์เครือข่าย
    รันคำสั่งระดับระบบ
    เขียนไฟล์โดยไม่ได้รับอนุญาต
    ยึดครองเซิร์ฟเวอร์ Cacti ได้เต็มรูปแบบ

    แนวทางแก้ไข
    ทีมพัฒนา Cacti ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.2.29 แล้ว ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตทันที รวมถึงตรวจสอบไฟล์และกระบวนการที่ผิดปกติในเซิร์ฟเวอร์เพื่อป้องกันการฝัง Backdoor หรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    ช่องโหว่ CVE-2025-66399 อยู่ใน Cacti เวอร์ชันก่อน 1.2.29
    เกิดจากการตรวจสอบ SNMP Community String ที่ไม่สมบูรณ์
    newline characters ทำให้เกิด Command Injection ได้
    ทีมพัฒนาออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.2.29

    คำเตือนจากข่าว
    หากไม่อัปเดต ระบบเสี่ยงต่อการถูกยึดครองเต็มรูปแบบ
    ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งระดับระบบและเขียนไฟล์โดยไม่ได้รับอนุญาต
    การละเลยการตรวจสอบไฟล์และกระบวนการอาจเปิดช่องให้ Backdoor ถูกฝัง
    การใช้ SNMP tools ที่ตีความ newline เป็นคำสั่งใหม่เพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตี

    https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection/
    ⚠️ ช่องโหว่ใน Cacti เสี่ยงต่อการถูกยึดครอง Server Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือ Network Monitoring แบบ Open Source ถูกค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งอันตรายเข้าสู่ระบบได้โดยตรง ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-66399 และจัดอยู่ในระดับ High Severity เนื่องจากสามารถนำไปสู่การควบคุมเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด 🧩 กลไกการโจมตี ปัญหาเกิดจากการที่ระบบไม่ตรวจสอบค่า SNMP Community String อย่างถูกต้อง โดย regex ที่ใช้สำหรับการกรองถูกปล่อยว่าง ทำให้ newline characters ไม่ถูกลบออก ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถแทรกคำสั่งเพิ่มเติมเข้าไปในกระบวนการ SNMP ได้ เช่น การใช้ snmpwalk หรือ wrapper tools ที่ตีความ newline เป็นคำสั่งใหม่ ทำให้เกิดการ Command Injection และนำไปสู่การรันโค้ดโดยตรง 🔎 ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หากการโจมตีสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถ: 🐞 แก้ไขข้อมูลการมอนิเตอร์เครือข่าย 🐞 รันคำสั่งระดับระบบ 🐞 เขียนไฟล์โดยไม่ได้รับอนุญาต 🐞 ยึดครองเซิร์ฟเวอร์ Cacti ได้เต็มรูปแบบ 🛡️ แนวทางแก้ไข ทีมพัฒนา Cacti ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.2.29 แล้ว ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตทันที รวมถึงตรวจสอบไฟล์และกระบวนการที่ผิดปกติในเซิร์ฟเวอร์เพื่อป้องกันการฝัง Backdoor หรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-66399 อยู่ใน Cacti เวอร์ชันก่อน 1.2.29 ➡️ เกิดจากการตรวจสอบ SNMP Community String ที่ไม่สมบูรณ์ ➡️ newline characters ทำให้เกิด Command Injection ได้ ➡️ ทีมพัฒนาออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.2.29 ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ หากไม่อัปเดต ระบบเสี่ยงต่อการถูกยึดครองเต็มรูปแบบ ⛔ ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งระดับระบบและเขียนไฟล์โดยไม่ได้รับอนุญาต ⛔ การละเลยการตรวจสอบไฟล์และกระบวนการอาจเปิดช่องให้ Backdoor ถูกฝัง ⛔ การใช้ SNMP tools ที่ตีความ newline เป็นคำสั่งใหม่เพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตี https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection/
    SECURITYONLINE.INFO
    High-Severity Cacti Flaw (CVE-2025-66399) Risks Remote Code Execution via SNMP Community String Injection
    A High-severity RCE flaw (CVE-2025-66399) in Cacti allows authenticated attackers to execute commands by injecting newline characters into the SNMP Community String. Update to v1.2.29 immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ DoS (Denial of Service) ร้ายแรง 2 จุดใน Triton Inference Server

    NVIDIA ประกาศพบช่องโหว่ร้ายแรง 2 จุดใน Triton Inference Server บน Linux ได้แก่ CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201 ซึ่งสามารถถูกโจมตีเพื่อทำให้เซิร์ฟเวอร์หยุดทำงานได้ทันที ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ AI ที่ต้องการความต่อเนื่องสูง

    รายละเอียดของช่องโหว่
    CVE-2025-33211: เกิดจากการตรวจสอบค่าที่รับเข้ามาไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ผิดพลาดเพื่อทำให้ระบบล้มเหลว
    CVE-2025-33201: เกิดจากการตรวจสอบขนาดข้อมูลที่ไม่เหมาะสม หากผู้โจมตีส่ง Payload ที่ใหญ่เกินกว่าที่ระบบรองรับ จะทำให้เซิร์ฟเวอร์ไม่สามารถทำงานต่อได้

    ผลกระทบต่อระบบ AI
    การโจมตีเหล่านี้อาจทำให้บริการ AI ที่ใช้ Triton หยุดชะงักทันที เช่น ระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ หรือบริการ AI ที่ต้องการความเสถียรสูง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อธุรกิจที่พึ่งพา AI ในการดำเนินงาน

    แนวทางแก้ไข
    NVIDIA ได้ออกแพตช์ในเวอร์ชัน r25.10 เพื่อแก้ไขปัญหานี้แล้ว ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดต Container และ Binary ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดทันที เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    ช่องโหว่ CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201 พบใน Triton Inference Server บน Linux
    ช่องโหว่ทำให้เกิดการโจมตีแบบ DoS ส่งผลให้ระบบหยุดทำงาน
    NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน r25.10
    ผู้ดูแลระบบควรอัปเดต Container และ Binary ทันที

    คำเตือนจากข่าว
    หากไม่อัปเดต ระบบ AI อาจหยุดทำงานและกระทบต่อธุรกิจที่ใช้บริการ AI
    การโจมตีสามารถทำให้บริการ AI ที่ต้องการความต่อเนื่องสูงหยุดชะงักทันที
    Payload ที่ใหญ่เกินไปอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือโจมตีเพื่อทำให้ระบบล้มเหลว
    การละเลยการอัปเดตอาจเปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้ามาโจมตีซ้ำได้

    https://securityonline.info/nvidia-triton-server-patches-two-high-severity-dos-flaws-risking-critical-ai-inference-disruption/
    ⚠️ NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ DoS (Denial of Service) ร้ายแรง 2 จุดใน Triton Inference Server NVIDIA ประกาศพบช่องโหว่ร้ายแรง 2 จุดใน Triton Inference Server บน Linux ได้แก่ CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201 ซึ่งสามารถถูกโจมตีเพื่อทำให้เซิร์ฟเวอร์หยุดทำงานได้ทันที ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ AI ที่ต้องการความต่อเนื่องสูง 🧩 รายละเอียดของช่องโหว่ 🐞 CVE-2025-33211: เกิดจากการตรวจสอบค่าที่รับเข้ามาไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ผิดพลาดเพื่อทำให้ระบบล้มเหลว 🐞 CVE-2025-33201: เกิดจากการตรวจสอบขนาดข้อมูลที่ไม่เหมาะสม หากผู้โจมตีส่ง Payload ที่ใหญ่เกินกว่าที่ระบบรองรับ จะทำให้เซิร์ฟเวอร์ไม่สามารถทำงานต่อได้ 🔎 ผลกระทบต่อระบบ AI การโจมตีเหล่านี้อาจทำให้บริการ AI ที่ใช้ Triton หยุดชะงักทันที เช่น ระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ หรือบริการ AI ที่ต้องการความเสถียรสูง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อธุรกิจที่พึ่งพา AI ในการดำเนินงาน 🛡️ แนวทางแก้ไข NVIDIA ได้ออกแพตช์ในเวอร์ชัน r25.10 เพื่อแก้ไขปัญหานี้แล้ว ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดต Container และ Binary ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดทันที เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201 พบใน Triton Inference Server บน Linux ➡️ ช่องโหว่ทำให้เกิดการโจมตีแบบ DoS ส่งผลให้ระบบหยุดทำงาน ➡️ NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน r25.10 ➡️ ผู้ดูแลระบบควรอัปเดต Container และ Binary ทันที ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ หากไม่อัปเดต ระบบ AI อาจหยุดทำงานและกระทบต่อธุรกิจที่ใช้บริการ AI ⛔ การโจมตีสามารถทำให้บริการ AI ที่ต้องการความต่อเนื่องสูงหยุดชะงักทันที ⛔ Payload ที่ใหญ่เกินไปอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือโจมตีเพื่อทำให้ระบบล้มเหลว ⛔ การละเลยการอัปเดตอาจเปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้ามาโจมตีซ้ำได้ https://securityonline.info/nvidia-triton-server-patches-two-high-severity-dos-flaws-risking-critical-ai-inference-disruption/
    SECURITYONLINE.INFO
    NVIDIA Triton Server Patches Two High-Severity DoS Flaws, Risking Critical AI Inference Disruption
    NVIDIA patched two high-severity DoS flaws in Triton Inference Server (CVE-2025-33211, CVE-2025-33201). Attackers can crash the server by sending malformed or excessively large payloads. Update to r25.10 immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ Next.js ระดับวิกฤติ

    นักพัฒนาที่ใช้ Next.js ร่วมกับ React Server Components (RSC) กำลังเผชิญสถานการณ์อันตราย เนื่องจากมีการค้นพบช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งไปประมวลผลบนเซิร์ฟเวอร์โดยตรง ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ CVSS 10.0 ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุด หมายถึงความเสี่ยงต่อการถูกยึดครองระบบทั้งหมด

    สาเหตุของปัญหา
    ปัญหานี้เกิดจากการที่ RSC Protocol ไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลที่ส่งเข้ามาอย่างเข้มงวด ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างคำขอที่บังคับให้เซิร์ฟเวอร์ทำงานตามเส้นทางที่ไม่ได้ตั้งใจไว้ ส่งผลให้เกิดการ Remote Code Execution (RCE) โดยตรง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในช่องโหว่ที่อันตรายที่สุดในโลกเว็บแอปพลิเคชัน

    เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ
    Next.js 15.x และ 16.x
    Next.js 14.3.0-canary.77 และเวอร์ชัน canary ที่ใหม่กว่า

    ในขณะที่ Next.js 13.x, 14.x stable, Pages Router และ Edge Runtime ไม่ได้รับผลกระทบ

    แนวทางแก้ไข
    ไม่มีวิธีการตั้งค่าหรือ workaround ที่สามารถปิดช่องโหว่นี้ได้ ผู้พัฒนาจึงต้อง อัปเดตทันที ไปยังเวอร์ชันที่ได้รับการแก้ไข ได้แก่:
    Next.js 15.0.5, 15.1.9, 15.2.6, 15.3.6, 15.4.8, 15.5.7
    Next.js 16.0.7

    สำหรับผู้ที่ใช้เวอร์ชัน 14 Canary ควร downgrade กลับไปยังเวอร์ชัน stable ล่าสุดเพื่อความปลอดภัย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    ช่องโหว่ CVE-2025-66478 มีคะแนน CVSS 10.0
    เกิดจาก React Server Components (RSC) Protocol ที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลเข้มงวด
    ส่งผลให้เกิด Remote Code Execution (RCE) ได้ทันที
    เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบคือ Next.js 15.x, 16.x และ 14.3.0-canary.77+
    เวอร์ชันที่ปลอดภัยคือ Next.js 13.x, 14.x stable, Pages Router และ Edge Runtime

    คำเตือนจากข่าว
    ไม่มี workaround หรือการตั้งค่าที่ช่วยแก้ไขได้
    หากไม่อัปเดตทันที ระบบเสี่ยงต่อการถูกยึดครองเต็มรูปแบบ
    ผู้ใช้ Next.js Canary ต้อง downgrade เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
    การละเลยการอัปเดตอาจทำให้ข้อมูลและระบบถูกโจมตีโดยตรง

    https://securityonline.info/maximum-severity-alert-critical-rce-flaw-hits-next-js-cve-2025-66478-cvss-10-0/
    ⚠️ ช่องโหว่ Next.js ระดับวิกฤติ นักพัฒนาที่ใช้ Next.js ร่วมกับ React Server Components (RSC) กำลังเผชิญสถานการณ์อันตราย เนื่องจากมีการค้นพบช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งไปประมวลผลบนเซิร์ฟเวอร์โดยตรง ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ CVSS 10.0 ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุด หมายถึงความเสี่ยงต่อการถูกยึดครองระบบทั้งหมด 🧩 สาเหตุของปัญหา ปัญหานี้เกิดจากการที่ RSC Protocol ไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลที่ส่งเข้ามาอย่างเข้มงวด ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างคำขอที่บังคับให้เซิร์ฟเวอร์ทำงานตามเส้นทางที่ไม่ได้ตั้งใจไว้ ส่งผลให้เกิดการ Remote Code Execution (RCE) โดยตรง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในช่องโหว่ที่อันตรายที่สุดในโลกเว็บแอปพลิเคชัน 🔎 เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ 🐞 Next.js 15.x และ 16.x 🐞 Next.js 14.3.0-canary.77 และเวอร์ชัน canary ที่ใหม่กว่า ในขณะที่ Next.js 13.x, 14.x stable, Pages Router และ Edge Runtime ไม่ได้รับผลกระทบ 🛡️ แนวทางแก้ไข ไม่มีวิธีการตั้งค่าหรือ workaround ที่สามารถปิดช่องโหว่นี้ได้ ผู้พัฒนาจึงต้อง อัปเดตทันที ไปยังเวอร์ชันที่ได้รับการแก้ไข ได้แก่: 🪛 Next.js 15.0.5, 15.1.9, 15.2.6, 15.3.6, 15.4.8, 15.5.7 🪛 Next.js 16.0.7 สำหรับผู้ที่ใช้เวอร์ชัน 14 Canary ควร downgrade กลับไปยังเวอร์ชัน stable ล่าสุดเพื่อความปลอดภัย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-66478 มีคะแนน CVSS 10.0 ➡️ เกิดจาก React Server Components (RSC) Protocol ที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลเข้มงวด ➡️ ส่งผลให้เกิด Remote Code Execution (RCE) ได้ทันที ➡️ เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบคือ Next.js 15.x, 16.x และ 14.3.0-canary.77+ ➡️ เวอร์ชันที่ปลอดภัยคือ Next.js 13.x, 14.x stable, Pages Router และ Edge Runtime ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ ไม่มี workaround หรือการตั้งค่าที่ช่วยแก้ไขได้ ⛔ หากไม่อัปเดตทันที ระบบเสี่ยงต่อการถูกยึดครองเต็มรูปแบบ ⛔ ผู้ใช้ Next.js Canary ต้อง downgrade เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ⛔ การละเลยการอัปเดตอาจทำให้ข้อมูลและระบบถูกโจมตีโดยตรง https://securityonline.info/maximum-severity-alert-critical-rce-flaw-hits-next-js-cve-2025-66478-cvss-10-0/
    SECURITYONLINE.INFO
    Maximum Severity Alert: Critical RCE Flaw Hits Next.js (CVE-2025-66478, CVSS 10.0)
    Developers using the modern stack of Next.js and React are facing a “red alert” situation today. A maximum-severity
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • Telegram เตรียมเลิกใช้ SMS Verification

    Telegram ซึ่งปัจจุบันพึ่งพาการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเข้าสู่ระบบ กำลังเปลี่ยนไปใช้ Passkeys ที่เก็บไว้ในอุปกรณ์หรือ Password Manager แทน วิธีนี้จะช่วยลดปัญหาการส่งรหัสที่ล่าช้าในบางประเทศ และลดค่าใช้จ่ายที่ผู้ใช้ต้องจ่ายเพื่อรับรหัสยืนยัน

    ความปลอดภัยที่เหนือกว่า
    Passkeys จะทำงานร่วมกับ Biometric Authentication เช่น Face ID หรือ Fingerprint ทำให้การเข้าสู่ระบบมีความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้โดยตรง ไม่สามารถถูกดักจับจากระยะไกลเหมือน SMS ที่เสี่ยงต่อการถูก Hijack

    ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วโลก
    การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ในประเทศที่ระบบ SMS ไม่เสถียร สามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างราบรื่นมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ Telegram เคยเรียกเก็บในบางภูมิภาค (ประมาณ $0.1–$1 ต่อการรับรหัส) การใช้ Passkeys จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ทั้งปลอดภัยและคุ้มค่า

    แนวโน้มในอนาคต
    Telegram มีประวัติการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่างรวดเร็ว จึงคาดว่าระบบ Passkey Authentication จะถูกนำมาใช้จริงในเวลาไม่นาน และอาจเป็นมาตรฐานใหม่ที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ นำไปปรับใช้ตาม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Telegram กำลังพัฒนาระบบ Passkey Authentication
    ปัจจุบันยังใช้ SMS Verification ซึ่งมีปัญหาความล่าช้าและค่าใช้จ่าย
    Passkeys จะทำงานร่วมกับ Face ID หรือ Fingerprint
    คาดว่าจะเปิดตัวเร็ว เนื่องจาก Telegram มักปล่อยฟีเจอร์ใหม่อย่างรวดเร็ว

    คำเตือนจากข่าว
    ผู้ใช้ที่ยังพึ่งพา SMS Verification เสี่ยงต่อการถูก Hijack
    หากไม่ปรับตัวไปใช้ Passkeys อาจยังเจอปัญหาความล่าช้าและค่าใช้จ่าย
    การละเลยการอัปเดตระบบยืนยันตัวตนอาจทำให้บัญชีเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

    https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login/
    🔐 Telegram เตรียมเลิกใช้ SMS Verification Telegram ซึ่งปัจจุบันพึ่งพาการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเข้าสู่ระบบ กำลังเปลี่ยนไปใช้ Passkeys ที่เก็บไว้ในอุปกรณ์หรือ Password Manager แทน วิธีนี้จะช่วยลดปัญหาการส่งรหัสที่ล่าช้าในบางประเทศ และลดค่าใช้จ่ายที่ผู้ใช้ต้องจ่ายเพื่อรับรหัสยืนยัน 📱 ความปลอดภัยที่เหนือกว่า Passkeys จะทำงานร่วมกับ Biometric Authentication เช่น Face ID หรือ Fingerprint ทำให้การเข้าสู่ระบบมีความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้โดยตรง ไม่สามารถถูกดักจับจากระยะไกลเหมือน SMS ที่เสี่ยงต่อการถูก Hijack 🌍 ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ในประเทศที่ระบบ SMS ไม่เสถียร สามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างราบรื่นมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ Telegram เคยเรียกเก็บในบางภูมิภาค (ประมาณ $0.1–$1 ต่อการรับรหัส) การใช้ Passkeys จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ทั้งปลอดภัยและคุ้มค่า 🚀 แนวโน้มในอนาคต Telegram มีประวัติการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่างรวดเร็ว จึงคาดว่าระบบ Passkey Authentication จะถูกนำมาใช้จริงในเวลาไม่นาน และอาจเป็นมาตรฐานใหม่ที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ นำไปปรับใช้ตาม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Telegram กำลังพัฒนาระบบ Passkey Authentication ➡️ ปัจจุบันยังใช้ SMS Verification ซึ่งมีปัญหาความล่าช้าและค่าใช้จ่าย ➡️ Passkeys จะทำงานร่วมกับ Face ID หรือ Fingerprint ➡️ คาดว่าจะเปิดตัวเร็ว เนื่องจาก Telegram มักปล่อยฟีเจอร์ใหม่อย่างรวดเร็ว ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ ผู้ใช้ที่ยังพึ่งพา SMS Verification เสี่ยงต่อการถูก Hijack ⛔ หากไม่ปรับตัวไปใช้ Passkeys อาจยังเจอปัญหาความล่าช้าและค่าใช้จ่าย ⛔ การละเลยการอัปเดตระบบยืนยันตัวตนอาจทำให้บัญชีเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login/
    SECURITYONLINE.INFO
    No More SMS: Telegram is Developing Passkey Authentication for Secure Login
    Telegram is developing passkey authentication to replace unreliable SMS codes. The move promises a far more secure login, leveraging biometrics (Face ID/fingerprint).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • Buy Chrome Extension Reviews

    Visit Now: https://pvaoutlets.com/product/buy-chrome-extension-reviews/
    ➤E-mail : pvaoutlets@ gmail.com
    ➤WhatsApp : +44 7577-329388
    ➤Telegram : @pvaoutlets
    ➤Skype : pvaoutlets
    #pvaoutlets #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s
    Buy Chrome Extension Reviews Visit Now: https://pvaoutlets.com/product/buy-chrome-extension-reviews/ ➤E-mail : pvaoutlets@ gmail.com ➤WhatsApp : +44 7577-329388 ➤Telegram : @pvaoutlets ➤Skype : pvaoutlets #pvaoutlets #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • Buy Pissedconsumer Reviews

    Visit Now: https://pvaoutlets.com/product/buy-pissedconsumer-reviews/
    ➤E-mail : pvaoutlets@ gmail.com
    ➤WhatsApp : +44 7577-329388
    ➤Telegram : @pvaoutlets
    ➤Skype : pvaoutlets
    #pvaoutlets #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s
    Buy Pissedconsumer Reviews Visit Now: https://pvaoutlets.com/product/buy-pissedconsumer-reviews/ ➤E-mail : pvaoutlets@ gmail.com ➤WhatsApp : +44 7577-329388 ➤Telegram : @pvaoutlets ➤Skype : pvaoutlets #pvaoutlets #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • Buy Google 5 Star Reviews

    Visit Now: https://pvaoutlets.com/product/buy-google-5-star-reviews/
    ➤E-mail : pvaoutlets@ gmail.com
    ➤WhatsApp : +44 7577-329388
    ➤Telegram : @pvaoutlets
    ➤Skype : pvaoutlets
    #pvaoutlets #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s
    Buy Google 5 Star Reviews Visit Now: https://pvaoutlets.com/product/buy-google-5-star-reviews/ ➤E-mail : pvaoutlets@ gmail.com ➤WhatsApp : +44 7577-329388 ➤Telegram : @pvaoutlets ➤Skype : pvaoutlets #pvaoutlets #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • Buy Google Negative Reviews

    Visit Now: https://pvaoutlets.com/product/buy-google-negative-reviews/
    ➤E-mail : pvaoutlets@ gmail.com
    ➤WhatsApp : +44 7577-329388
    ➤Telegram : @pvaoutlets
    ➤Skype : pvaoutlets
    #pvaoutlets #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s
    Buy Google Negative Reviews Visit Now: https://pvaoutlets.com/product/buy-google-negative-reviews/ ➤E-mail : pvaoutlets@ gmail.com ➤WhatsApp : +44 7577-329388 ➤Telegram : @pvaoutlets ➤Skype : pvaoutlets #pvaoutlets #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักดาราศาสตร์ค้นพบเส้นใยจักรวาลหมุนได้

    นักดาราศาสตร์ค้นพบเส้นใยจักรวาล (cosmic filament) ที่ยาวกว่า 49 ล้านปีแสง และกำลังหมุนรอบแกนกลางของมันเอง ถือเป็นโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบว่ามีการหมุนในเอกภพ

    การค้นพบเส้นใยจักรวาลหมุนได้
    ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ใช้ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์วิทยุ MeerKAT ในแอฟริกาใต้ และการสำรวจท้องฟ้า Sloan Digital Sky Survey พบเส้นใยจักรวาลที่ประกอบด้วยกว่า 283 กาแล็กซี เรียงตัวเป็นเส้นตรงยาว และมีการหมุนคล้าย “ทอร์นาโดจักรวาล”

    หลักฐานการหมุน
    นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบการเลื่อนสีของแสง (redshift และ blueshift) จากกาแล็กซีที่อยู่สองฝั่งของเส้นใย พบว่าฝั่งหนึ่งเคลื่อนเข้าหาเรา ส่วนอีกฝั่งเคลื่อนออกไป ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่าโครงสร้างทั้งหมดกำลังหมุนด้วยความเร็วราว 110 กิโลเมตรต่อวินาที

    ความหมายต่อทฤษฎีจักรวาล
    การค้นพบนี้สอดคล้องกับ Tidal Torque Theory ที่เสนอว่าความไม่สมมาตรของแรงโน้มถ่วงในเอกภพยุคแรกสามารถถ่ายโอนโมเมนตัมเชิงมุมให้กับเส้นใยจักรวาล ทำให้มันหมุนได้ การหมุนนี้ยังอาจเป็นตัวกำหนดการหมุนของกาแล็กซีที่ก่อตัวอยู่ภายในเส้นใยด้วย

    ผลต่อการศึกษาจักรวาล
    เส้นใยจักรวาลหมุนได้ไม่เพียงช่วยอธิบายการกระจายตัวของกาแล็กซี แต่ยังชี้ให้เห็นว่า เอกภพเชื่อมโยงกันมากกว่าที่เราคิด การศึกษานี้อาจช่วยไขปริศนาว่ากาแล็กซีได้รับการหมุนและเชื้อเพลิงในการก่อตัวดาวฤกษ์จากโครงสร้างขนาดใหญ่อย่างไร

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ค้นพบเส้นใยจักรวาลยาว 49 ล้านปีแสง
    เป็นโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดที่พบว่ามีการหมุน

    ประกอบด้วยกว่า 283 กาแล็กซี
    เรียงตัวเป็นเส้นตรงคล้ายทอร์นาโดจักรวาล

    หลักฐานจาก redshift และ blueshift
    ยืนยันการหมุนด้วยความเร็ว ~110 กม./วินาที

    สอดคล้องกับ Tidal Torque Theory
    ความไม่สมมาตรของแรงโน้มถ่วงในเอกภพยุคแรกทำให้เส้นใยหมุน

    ผลต่อการศึกษากาแล็กซีและเอกภพ
    ช่วยอธิบายการหมุนและการก่อตัวของกาแล็กซี

    ยังไม่เข้าใจกลไกทั้งหมดของการหมุน
    ต้องการการสำรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันทฤษฎีและผลกระทบต่อเอกภพ

    https://www.sciencealert.com/tornado-of-galaxies-could-be-the-longest-spinning-structure-ever-seen
    🌀 นักดาราศาสตร์ค้นพบเส้นใยจักรวาลหมุนได้ นักดาราศาสตร์ค้นพบเส้นใยจักรวาล (cosmic filament) ที่ยาวกว่า 49 ล้านปีแสง และกำลังหมุนรอบแกนกลางของมันเอง ถือเป็นโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบว่ามีการหมุนในเอกภพ 🌌 การค้นพบเส้นใยจักรวาลหมุนได้ ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ใช้ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์วิทยุ MeerKAT ในแอฟริกาใต้ และการสำรวจท้องฟ้า Sloan Digital Sky Survey พบเส้นใยจักรวาลที่ประกอบด้วยกว่า 283 กาแล็กซี เรียงตัวเป็นเส้นตรงยาว และมีการหมุนคล้าย “ทอร์นาโดจักรวาล” 🔬 หลักฐานการหมุน นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบการเลื่อนสีของแสง (redshift และ blueshift) จากกาแล็กซีที่อยู่สองฝั่งของเส้นใย พบว่าฝั่งหนึ่งเคลื่อนเข้าหาเรา ส่วนอีกฝั่งเคลื่อนออกไป ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่าโครงสร้างทั้งหมดกำลังหมุนด้วยความเร็วราว 110 กิโลเมตรต่อวินาที 🧩 ความหมายต่อทฤษฎีจักรวาล การค้นพบนี้สอดคล้องกับ Tidal Torque Theory ที่เสนอว่าความไม่สมมาตรของแรงโน้มถ่วงในเอกภพยุคแรกสามารถถ่ายโอนโมเมนตัมเชิงมุมให้กับเส้นใยจักรวาล ทำให้มันหมุนได้ การหมุนนี้ยังอาจเป็นตัวกำหนดการหมุนของกาแล็กซีที่ก่อตัวอยู่ภายในเส้นใยด้วย 🚀 ผลต่อการศึกษาจักรวาล เส้นใยจักรวาลหมุนได้ไม่เพียงช่วยอธิบายการกระจายตัวของกาแล็กซี แต่ยังชี้ให้เห็นว่า เอกภพเชื่อมโยงกันมากกว่าที่เราคิด การศึกษานี้อาจช่วยไขปริศนาว่ากาแล็กซีได้รับการหมุนและเชื้อเพลิงในการก่อตัวดาวฤกษ์จากโครงสร้างขนาดใหญ่อย่างไร 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ค้นพบเส้นใยจักรวาลยาว 49 ล้านปีแสง ➡️ เป็นโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดที่พบว่ามีการหมุน ✅ ประกอบด้วยกว่า 283 กาแล็กซี ➡️ เรียงตัวเป็นเส้นตรงคล้ายทอร์นาโดจักรวาล ✅ หลักฐานจาก redshift และ blueshift ➡️ ยืนยันการหมุนด้วยความเร็ว ~110 กม./วินาที ✅ สอดคล้องกับ Tidal Torque Theory ➡️ ความไม่สมมาตรของแรงโน้มถ่วงในเอกภพยุคแรกทำให้เส้นใยหมุน ✅ ผลต่อการศึกษากาแล็กซีและเอกภพ ➡️ ช่วยอธิบายการหมุนและการก่อตัวของกาแล็กซี ‼️ ยังไม่เข้าใจกลไกทั้งหมดของการหมุน ⛔ ต้องการการสำรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันทฤษฎีและผลกระทบต่อเอกภพ https://www.sciencealert.com/tornado-of-galaxies-could-be-the-longest-spinning-structure-ever-seen
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    'Tornado' of Galaxies Could Be The Longest Spinning Structure Ever Seen
    A team of astronomers studying the distribution of galaxies in nearby space has discovered something truly extraordinary: a huge strand of galaxies, twisting around as though caught up in a slow-motion cosmic tornado.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเดินทางมนุษย์โบราณไปที่ดินแดน Sahul (ออสเตรเลีย-นิวกินี-แทสเมเนีย) เมื่อราว 60,000 ปีก่อน

    นักวิจัยวิเคราะห์ DNA มัยโตคอนเดรียกว่า 2,500 ตัวอย่าง จากชนพื้นเมืองในออสเตรเลีย นิวกินี โอเชียเนีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบหลักฐานชัดเจนว่า การเข้ามาของมนุษย์ใน Sahul ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเส้นทางเดียว แต่มีทั้งสายพันธุ์ที่เดินทางผ่าน เส้นทางใต้ (Southern Route) และ เส้นทางเหนือ (Northern Route)

    เส้นทางใต้และเหนือ
    เส้นทางใต้: ผ่านมาเลเซีย ชวา และติมอร์ เข้าสู่ Sahul ทางฝั่งเมืองดาร์วินในปัจจุบัน
    เส้นทางเหนือ: ผ่านฟิลิปปินส์และสุลาเวสี เข้าสู่ปาปัวนิวกินีและตอนเหนือของควีนส์แลนด์

    การวิเคราะห์พบว่า 64% ของสายพันธุ์แรกเริ่มมาจากเส้นทางใต้ และ 36% จากเส้นทางเหนือ แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลุ่มที่มาจากเส้นทางเหนือยังคงแพร่กระจายต่อไปถึงหมู่เกาะบิสมัคและโซโลมอน

    ความหมายต่อประวัติศาสตร์มนุษย์
    ผลการศึกษานี้สนับสนุนทฤษฎี “Long Chronology” ที่เชื่อว่ามนุษย์เข้ามาในออสเตรเลียตั้งแต่ราว 60,000 ปีก่อน ไม่ใช่ 45,000–50,000 ปีตามทฤษฎีเดิม การค้นพบยังสะท้อนถึงความสามารถในการเดินเรือและการปรับตัวของมนุษย์ยุคแรกที่น่าทึ่ง

    ก้าวต่อไป
    นักวิทยาศาสตร์ย้ำว่าการขาดแคลน DNA โบราณจากเอเชียใต้และ Sahul ยังเป็นข้อจำกัด หากได้ข้อมูลเพิ่มเติม จะช่วยยืนยันรายละเอียดของการอพยพและการผสมพันธุ์ระหว่างกลุ่มมนุษย์ในภูมิภาคนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

    สรุปเป็นหัวข้อ
    มนุษย์โบราณเข้าสู่ Sahul ราว 60,000 ปีก่อน
    สนับสนุนทฤษฎี Long Chronology

    มีสองเส้นทางหลักในการอพยพ
    เส้นทางใต้ผ่านชวา–ติมอร์
    เส้นทางเหนือผ่านฟิลิปปินส์–สุลาเวสี

    สัดส่วนการอพยพ
    64% จากเส้นทางใต้ และ 36% จากเส้นทางเหนือ

    เส้นทางเหนือแพร่กระจายต่อไปยังหมู่เกาะบิสมัคและโซโลมอน
    แสดงถึงการเดินเรือและการปรับตัวของมนุษย์ยุคแรก

    ยังขาดข้อมูล DNA โบราณจากบางภูมิภาค
    ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันรายละเอียดการอพยพ

    https://www.sciencealert.com/dna-analysis-reveals-two-routes-ancient-humans-used-to-reach-australia
    👣 การเดินทางมนุษย์โบราณไปที่ดินแดน Sahul (ออสเตรเลีย-นิวกินี-แทสเมเนีย) เมื่อราว 60,000 ปีก่อน นักวิจัยวิเคราะห์ DNA มัยโตคอนเดรียกว่า 2,500 ตัวอย่าง จากชนพื้นเมืองในออสเตรเลีย นิวกินี โอเชียเนีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบหลักฐานชัดเจนว่า การเข้ามาของมนุษย์ใน Sahul ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเส้นทางเดียว แต่มีทั้งสายพันธุ์ที่เดินทางผ่าน เส้นทางใต้ (Southern Route) และ เส้นทางเหนือ (Northern Route) 🌍 เส้นทางใต้และเหนือ 🧭 เส้นทางใต้: ผ่านมาเลเซีย ชวา และติมอร์ เข้าสู่ Sahul ทางฝั่งเมืองดาร์วินในปัจจุบัน 🧭 เส้นทางเหนือ: ผ่านฟิลิปปินส์และสุลาเวสี เข้าสู่ปาปัวนิวกินีและตอนเหนือของควีนส์แลนด์ การวิเคราะห์พบว่า 64% ของสายพันธุ์แรกเริ่มมาจากเส้นทางใต้ และ 36% จากเส้นทางเหนือ แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลุ่มที่มาจากเส้นทางเหนือยังคงแพร่กระจายต่อไปถึงหมู่เกาะบิสมัคและโซโลมอน 🔬 ความหมายต่อประวัติศาสตร์มนุษย์ ผลการศึกษานี้สนับสนุนทฤษฎี “Long Chronology” ที่เชื่อว่ามนุษย์เข้ามาในออสเตรเลียตั้งแต่ราว 60,000 ปีก่อน ไม่ใช่ 45,000–50,000 ปีตามทฤษฎีเดิม การค้นพบยังสะท้อนถึงความสามารถในการเดินเรือและการปรับตัวของมนุษย์ยุคแรกที่น่าทึ่ง 🚀 ก้าวต่อไป นักวิทยาศาสตร์ย้ำว่าการขาดแคลน DNA โบราณจากเอเชียใต้และ Sahul ยังเป็นข้อจำกัด หากได้ข้อมูลเพิ่มเติม จะช่วยยืนยันรายละเอียดของการอพยพและการผสมพันธุ์ระหว่างกลุ่มมนุษย์ในภูมิภาคนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ มนุษย์โบราณเข้าสู่ Sahul ราว 60,000 ปีก่อน ➡️ สนับสนุนทฤษฎี Long Chronology ✅ มีสองเส้นทางหลักในการอพยพ ➡️ เส้นทางใต้ผ่านชวา–ติมอร์ ➡️ เส้นทางเหนือผ่านฟิลิปปินส์–สุลาเวสี ✅ สัดส่วนการอพยพ ➡️ 64% จากเส้นทางใต้ และ 36% จากเส้นทางเหนือ ✅ เส้นทางเหนือแพร่กระจายต่อไปยังหมู่เกาะบิสมัคและโซโลมอน ➡️ แสดงถึงการเดินเรือและการปรับตัวของมนุษย์ยุคแรก ‼️ ยังขาดข้อมูล DNA โบราณจากบางภูมิภาค ⛔ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันรายละเอียดการอพยพ https://www.sciencealert.com/dna-analysis-reveals-two-routes-ancient-humans-used-to-reach-australia
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    DNA Analysis Reveals Two Routes Ancient Humans Used to Reach Australia
    The first humans arrived upon the landmass now known as Australia around 60,000 years ago along two distinct routes, according to a new genomics study.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • “การเรืองแสงในสิ่งมีชีวิต (Bioluminescence)” เกิดขึ้นบนโลกตั้งแต่กว่า 500 ล้านปีก่อน

    นักวิทยาศาสตร์จาก Smithsonian Institution และ Nagoya University พบว่า Octocorallia ซึ่งเป็นปะการังโบราณในทะเลลึก มีความสามารถเรืองแสงตั้งแต่ราว 540 ล้านปีก่อน ถือเป็นการยืนยันว่าการเรืองแสงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เคยเชื่อไว้เดิม (267 ล้านปี) เกือบสองเท่า

    วิธีการศึกษา
    ทีมวิจัยใช้ข้อมูลพันธุกรรมจากกว่า 185 สายพันธุ์ของ Octocorallia และวิเคราะห์ด้วยวิธี ancestral state reconstruction เพื่อย้อนหาความน่าจะเป็นของการเรืองแสงในบรรพบุรุษ ผลลัพธ์ชี้ว่า บรรพบุรุษร่วมของ Octocorallia มีโอกาสสูงที่จะเรืองแสงได้ และการค้นพบนี้ยังสอดคล้องกับการมีสัตว์ทะเลที่มีดวงตาในยุคเดียวกัน ซึ่งสามารถตรวจจับแสงได้

    ความหมายต่อระบบนิเวศโบราณ
    การเรืองแสงอาจถูกใช้เพื่อดึงดูดเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่ามากินสัตว์ที่ทำร้ายปะการัง ซึ่งสะท้อนถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในทะเลลึกตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของโลก การศึกษานี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ต่อวิวัฒนาการของการสื่อสารและการเอาตัวรอดในสิ่งมีชีวิตโบราณ

    คำถามที่ยังค้างคา
    แม้บรรพบุรุษของ Octocorallia จะเรืองแสง แต่ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่สายพันธุ์ที่ยังคงคุณสมบัตินี้อยู่ นักวิทยาศาสตร์จึงตั้งคำถามว่า ทำไมสิ่งมีชีวิตจำนวนมากจึงสูญเสียความสามารถในการเรืองแสงไป และนี่คือเป้าหมายการวิจัยต่อไป

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเรืองแสงเกิดขึ้นกว่า 500 ล้านปีก่อน
    ต้นกำเนิดจากกลุ่มปะการัง Octocorallia ในยุคแคมเบรียน

    การวิเคราะห์พันธุกรรมยืนยันบรรพบุรุษเรืองแสงได้
    ใช้ข้อมูลจาก 185 สายพันธุ์และวิธี ancestral state reconstruction

    การเรืองแสงมีบทบาทต่อระบบนิเวศโบราณ
    อาจใช้ล่อเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่า

    การค้นพบช่วยขยายความเข้าใจวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต
    สะท้อนการสื่อสารและการเอาตัวรอดในทะเลลึกยุคแรก

    ยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลายสายพันธุ์สูญเสียการเรืองแสง
    ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาคำตอบ

    https://www.sciencealert.com/bioluminescence-on-earth-evolved-over-500-million-years-ago-study-finds
    💡 “การเรืองแสงในสิ่งมีชีวิต (Bioluminescence)” เกิดขึ้นบนโลกตั้งแต่กว่า 500 ล้านปีก่อน นักวิทยาศาสตร์จาก Smithsonian Institution และ Nagoya University พบว่า Octocorallia ซึ่งเป็นปะการังโบราณในทะเลลึก มีความสามารถเรืองแสงตั้งแต่ราว 540 ล้านปีก่อน ถือเป็นการยืนยันว่าการเรืองแสงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เคยเชื่อไว้เดิม (267 ล้านปี) เกือบสองเท่า 🔬 วิธีการศึกษา ทีมวิจัยใช้ข้อมูลพันธุกรรมจากกว่า 185 สายพันธุ์ของ Octocorallia และวิเคราะห์ด้วยวิธี ancestral state reconstruction เพื่อย้อนหาความน่าจะเป็นของการเรืองแสงในบรรพบุรุษ ผลลัพธ์ชี้ว่า บรรพบุรุษร่วมของ Octocorallia มีโอกาสสูงที่จะเรืองแสงได้ และการค้นพบนี้ยังสอดคล้องกับการมีสัตว์ทะเลที่มีดวงตาในยุคเดียวกัน ซึ่งสามารถตรวจจับแสงได้ 🐠 ความหมายต่อระบบนิเวศโบราณ การเรืองแสงอาจถูกใช้เพื่อดึงดูดเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่ามากินสัตว์ที่ทำร้ายปะการัง ซึ่งสะท้อนถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในทะเลลึกตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของโลก การศึกษานี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ต่อวิวัฒนาการของการสื่อสารและการเอาตัวรอดในสิ่งมีชีวิตโบราณ 🚀 คำถามที่ยังค้างคา แม้บรรพบุรุษของ Octocorallia จะเรืองแสง แต่ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่สายพันธุ์ที่ยังคงคุณสมบัตินี้อยู่ นักวิทยาศาสตร์จึงตั้งคำถามว่า ทำไมสิ่งมีชีวิตจำนวนมากจึงสูญเสียความสามารถในการเรืองแสงไป และนี่คือเป้าหมายการวิจัยต่อไป 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเรืองแสงเกิดขึ้นกว่า 500 ล้านปีก่อน ➡️ ต้นกำเนิดจากกลุ่มปะการัง Octocorallia ในยุคแคมเบรียน ✅ การวิเคราะห์พันธุกรรมยืนยันบรรพบุรุษเรืองแสงได้ ➡️ ใช้ข้อมูลจาก 185 สายพันธุ์และวิธี ancestral state reconstruction ✅ การเรืองแสงมีบทบาทต่อระบบนิเวศโบราณ ➡️ อาจใช้ล่อเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่า ✅ การค้นพบช่วยขยายความเข้าใจวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต ➡️ สะท้อนการสื่อสารและการเอาตัวรอดในทะเลลึกยุคแรก ‼️ ยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลายสายพันธุ์สูญเสียการเรืองแสง ⛔ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาคำตอบ https://www.sciencealert.com/bioluminescence-on-earth-evolved-over-500-million-years-ago-study-finds
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Bioluminescence on Earth Evolved Over 500 Million Years Ago, Study Finds
    In the darkest corners of the planet, where the light of the Sun never touches, eerie glows can yet be found, illuminating the shadows.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมองเชื่อมโยงกันเมื่อทำงานร่วมกัน

    นักวิจัยจาก Western Sydney University ทดลองให้ผู้เข้าร่วม 24 คู่ทำงานร่วมกันในการจัดหมวดหมู่รูปทรงที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผลการตรวจ EEG พบว่า สมองของคู่ที่ทำงานร่วมกันมีการปรับคลื่นสมองให้สอดคล้องกัน โดยเฉพาะหลังจาก 200 มิลลิวินาทีที่สิ่งเร้าปรากฏขึ้น ซึ่งต่างจากคู่ที่ไม่ได้ร่วมมือจริง ๆ

    ความแตกต่างระหว่าง “คู่จริง” และ “คู่จำลอง”
    นักวิจัยเปรียบเทียบข้อมูล EEG ของคู่ที่ทำงานร่วมกันจริงกับคู่จำลองที่ถูกจับคู่แบบสุ่ม พบว่า การซิงค์ของสมองในคู่จริงมีความเข้มข้นและต่อเนื่องมากกว่า แม้จะใช้กติกาการจัดหมวดหมู่คล้ายกันก็ตาม แสดงให้เห็นว่าปัจจัยสำคัญคือการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ไม่ใช่เพียงการทำงานตามกติกา

    ผลต่อการทำงานเป็นทีมและการสื่อสาร
    การค้นพบนี้ชี้ว่า การทำงานร่วมกันช่วยสร้างการเชื่อมโยงทางประสาท ซึ่งอาจอธิบายว่าทำไมทีมที่มีความสามัคคีจึงทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น งานวิจัยยังเสนอว่าแนวทางนี้สามารถนำไปใช้ศึกษาการสื่อสาร การตัดสินใจ และการทำงานกลุ่มในระดับองค์กรหรือการเรียนรู้ร่วมกันได้

    ก้าวต่อไปของการวิจัย
    นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการทำความเข้าใจการซิงค์ของสมองจะช่วยพัฒนา วิธีการเสริมสร้างการทำงานเป็นทีม และอาจนำไปสู่การประยุกต์ใช้ในด้านการศึกษา การแพทย์ และการพัฒนาทักษะการสื่อสารในอนาคต

    สรุปเป็นหัวข้อ
    สมองซิงค์กันเมื่อทำงานร่วมกัน
    EEG แสดงการปรับคลื่นสมองภายใน 200 มิลลิวินาที

    คู่จริงมีการซิงค์มากกว่าคู่จำลอง
    ปัจจัยสำคัญคือการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม

    การซิงค์สมองช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทีม
    อธิบายว่าทำไมทีมที่สามัคคีจึงทำงานได้ดี

    การประยุกต์ใช้ในอนาคต
    ศึกษาการสื่อสาร การตัดสินใจ และการเรียนรู้ร่วมกัน

    การตีความผลวิจัยต้องระวัง
    ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าการซิงค์สมองทำให้ผลลัพธ์ดีกว่าเสมอ

    ข้อจำกัดของการทดลอง
    ขนาดกลุ่มตัวอย่างยังเล็ก และต้องการการศึกษาเพิ่มเติม

    https://www.sciencealert.com/our-brains-really-do-sync-up-when-we-collaborate-study-reveals
    🧠 สมองเชื่อมโยงกันเมื่อทำงานร่วมกัน นักวิจัยจาก Western Sydney University ทดลองให้ผู้เข้าร่วม 24 คู่ทำงานร่วมกันในการจัดหมวดหมู่รูปทรงที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผลการตรวจ EEG พบว่า สมองของคู่ที่ทำงานร่วมกันมีการปรับคลื่นสมองให้สอดคล้องกัน โดยเฉพาะหลังจาก 200 มิลลิวินาทีที่สิ่งเร้าปรากฏขึ้น ซึ่งต่างจากคู่ที่ไม่ได้ร่วมมือจริง ๆ 🔬 ความแตกต่างระหว่าง “คู่จริง” และ “คู่จำลอง” นักวิจัยเปรียบเทียบข้อมูล EEG ของคู่ที่ทำงานร่วมกันจริงกับคู่จำลองที่ถูกจับคู่แบบสุ่ม พบว่า การซิงค์ของสมองในคู่จริงมีความเข้มข้นและต่อเนื่องมากกว่า แม้จะใช้กติกาการจัดหมวดหมู่คล้ายกันก็ตาม แสดงให้เห็นว่าปัจจัยสำคัญคือการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ไม่ใช่เพียงการทำงานตามกติกา 🌍 ผลต่อการทำงานเป็นทีมและการสื่อสาร การค้นพบนี้ชี้ว่า การทำงานร่วมกันช่วยสร้างการเชื่อมโยงทางประสาท ซึ่งอาจอธิบายว่าทำไมทีมที่มีความสามัคคีจึงทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น งานวิจัยยังเสนอว่าแนวทางนี้สามารถนำไปใช้ศึกษาการสื่อสาร การตัดสินใจ และการทำงานกลุ่มในระดับองค์กรหรือการเรียนรู้ร่วมกันได้ 🚀 ก้าวต่อไปของการวิจัย นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการทำความเข้าใจการซิงค์ของสมองจะช่วยพัฒนา วิธีการเสริมสร้างการทำงานเป็นทีม และอาจนำไปสู่การประยุกต์ใช้ในด้านการศึกษา การแพทย์ และการพัฒนาทักษะการสื่อสารในอนาคต 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ สมองซิงค์กันเมื่อทำงานร่วมกัน ➡️ EEG แสดงการปรับคลื่นสมองภายใน 200 มิลลิวินาที ✅ คู่จริงมีการซิงค์มากกว่าคู่จำลอง ➡️ ปัจจัยสำคัญคือการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ✅ การซิงค์สมองช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทีม ➡️ อธิบายว่าทำไมทีมที่สามัคคีจึงทำงานได้ดี ✅ การประยุกต์ใช้ในอนาคต ➡️ ศึกษาการสื่อสาร การตัดสินใจ และการเรียนรู้ร่วมกัน ‼️ การตีความผลวิจัยต้องระวัง ⛔ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าการซิงค์สมองทำให้ผลลัพธ์ดีกว่าเสมอ ‼️ ข้อจำกัดของการทดลอง ⛔ ขนาดกลุ่มตัวอย่างยังเล็ก และต้องการการศึกษาเพิ่มเติม https://www.sciencealert.com/our-brains-really-do-sync-up-when-we-collaborate-study-reveals
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Our Brains Really Do 'Sync Up' When We Collaborate, Study Reveals
    Ever experienced a moment of flow when working with another human to achieve a common goal, almost as if you and your collaborator are tuned in to each other's brains? You may have literally been 'in sync' on a neurological level, new research shows.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • การค้นพบที่ไม่คาดคิด

    เมื่อ Curiosity Rover เคลื่อนตัวผ่านหินในช่องทาง Gediz Vallis Channel หินก้อนหนึ่งแตกออก เผยให้เห็นผลึกสีเหลืองสดของ กำมะถันบริสุทธิ์ (elemental sulfur) ซึ่งแตกต่างจากสารประกอบซัลเฟตที่เคยพบมาก่อนบนดาวอังคาร การค้นพบนี้ถือเป็นครั้งแรกที่พบกำมะถันในรูปแบบบริสุทธิ์บนดาวเคราะห์สีแดง

    ความสำคัญทางวิทยาศาสตร์
    ซัลเฟต (sulfates) มักเกิดจากการที่กำมะถันผสมกับแร่ธาตุในน้ำแล้วตกผลึกเมื่อระเหย แต่ กำมะถันบริสุทธิ์ ต้องการเงื่อนไขเฉพาะที่ยังไม่เคยถูกบันทึกในพื้นที่ดังกล่าว การพบกำมะถันจำนวนมากในพื้นที่นี้จึงบ่งชี้ว่าอาจมีปัจจัยทางธรณีวิทยาที่เรายังไม่เข้าใจ และอาจเป็นเบาะแสสำคัญต่อการศึกษาประวัติศาสตร์น้ำบนดาวอังคาร

    ความเชื่อมโยงกับชีวิต
    กำมะถันเป็นธาตุจำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต ใช้สร้างกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการสร้างโปรตีน แม้การค้นพบนี้ยังไม่ใช่หลักฐานของชีวิต แต่ก็เพิ่มข้อมูลว่า ดาวอังคารมีองค์ประกอบที่สิ่งมีชีวิตต้องการ เช่น น้ำ แร่ธาตุ และสภาพที่เคยเอื้อต่อการอยู่อาศัยในอดีต

    ก้าวต่อไปของการสำรวจ
    นักวิทยาศาสตร์วางแผนใช้แบบจำลองทางธรณีวิทยาเพื่ออธิบายว่ากำมะถันบริสุทธิ์เกิดขึ้นได้อย่างไรบนดาวอังคาร ขณะเดียวกัน Curiosity จะยังคงสำรวจเส้นทางใน Gediz Vallis Channel ต่อไป เพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของดาวอังคารและความเป็นไปได้ของสิ่งมีชีวิต

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Curiosity Rover พบกำมะถันบริสุทธิ์บนดาวอังคาร
    เป็นครั้งแรกที่พบธาตุนี้ในรูปแบบบริสุทธิ์ ไม่ใช่สารประกอบซัลเฟต

    กำมะถันบริสุทธิ์ต้องการเงื่อนไขเฉพาะในการเกิด
    บ่งชี้ว่ามีปัจจัยทางธรณีวิทยาที่เรายังไม่เข้าใจ

    กำมะถันเป็นธาตุสำคัญต่อสิ่งมีชีวิต
    ใช้สร้างกรดอะมิโนและโปรตีนที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต

    การค้นพบเพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของชีวิตบนดาวอังคาร
    ดาวอังคารมีองค์ประกอบที่สิ่งมีชีวิตต้องการ เช่น น้ำและแร่ธาตุ

    ยังไม่ใช่หลักฐานของชีวิตโดยตรง
    ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความเชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิต

    ความเข้าใจปัจจัยทางธรณีวิทยายังไม่สมบูรณ์
    ต้องใช้แบบจำลองและการสำรวจต่อเนื่องเพื่อหาคำตอบ

    https://www.sciencealert.com/curiosity-cracked-open-a-rock-on-mars-and-revealed-a-big-surprise
    🚀 การค้นพบที่ไม่คาดคิด เมื่อ Curiosity Rover เคลื่อนตัวผ่านหินในช่องทาง Gediz Vallis Channel หินก้อนหนึ่งแตกออก เผยให้เห็นผลึกสีเหลืองสดของ กำมะถันบริสุทธิ์ (elemental sulfur) ซึ่งแตกต่างจากสารประกอบซัลเฟตที่เคยพบมาก่อนบนดาวอังคาร การค้นพบนี้ถือเป็นครั้งแรกที่พบกำมะถันในรูปแบบบริสุทธิ์บนดาวเคราะห์สีแดง 🔬 ความสำคัญทางวิทยาศาสตร์ ซัลเฟต (sulfates) มักเกิดจากการที่กำมะถันผสมกับแร่ธาตุในน้ำแล้วตกผลึกเมื่อระเหย แต่ กำมะถันบริสุทธิ์ ต้องการเงื่อนไขเฉพาะที่ยังไม่เคยถูกบันทึกในพื้นที่ดังกล่าว การพบกำมะถันจำนวนมากในพื้นที่นี้จึงบ่งชี้ว่าอาจมีปัจจัยทางธรณีวิทยาที่เรายังไม่เข้าใจ และอาจเป็นเบาะแสสำคัญต่อการศึกษาประวัติศาสตร์น้ำบนดาวอังคาร 🌍 ความเชื่อมโยงกับชีวิต กำมะถันเป็นธาตุจำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต ใช้สร้างกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการสร้างโปรตีน แม้การค้นพบนี้ยังไม่ใช่หลักฐานของชีวิต แต่ก็เพิ่มข้อมูลว่า ดาวอังคารมีองค์ประกอบที่สิ่งมีชีวิตต้องการ เช่น น้ำ แร่ธาตุ และสภาพที่เคยเอื้อต่อการอยู่อาศัยในอดีต 🛰️ ก้าวต่อไปของการสำรวจ นักวิทยาศาสตร์วางแผนใช้แบบจำลองทางธรณีวิทยาเพื่ออธิบายว่ากำมะถันบริสุทธิ์เกิดขึ้นได้อย่างไรบนดาวอังคาร ขณะเดียวกัน Curiosity จะยังคงสำรวจเส้นทางใน Gediz Vallis Channel ต่อไป เพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของดาวอังคารและความเป็นไปได้ของสิ่งมีชีวิต 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Curiosity Rover พบกำมะถันบริสุทธิ์บนดาวอังคาร ➡️ เป็นครั้งแรกที่พบธาตุนี้ในรูปแบบบริสุทธิ์ ไม่ใช่สารประกอบซัลเฟต ✅ กำมะถันบริสุทธิ์ต้องการเงื่อนไขเฉพาะในการเกิด ➡️ บ่งชี้ว่ามีปัจจัยทางธรณีวิทยาที่เรายังไม่เข้าใจ ✅ กำมะถันเป็นธาตุสำคัญต่อสิ่งมีชีวิต ➡️ ใช้สร้างกรดอะมิโนและโปรตีนที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ✅ การค้นพบเพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของชีวิตบนดาวอังคาร ➡️ ดาวอังคารมีองค์ประกอบที่สิ่งมีชีวิตต้องการ เช่น น้ำและแร่ธาตุ ‼️ ยังไม่ใช่หลักฐานของชีวิตโดยตรง ⛔ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความเชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิต ‼️ ความเข้าใจปัจจัยทางธรณีวิทยายังไม่สมบูรณ์ ⛔ ต้องใช้แบบจำลองและการสำรวจต่อเนื่องเพื่อหาคำตอบ https://www.sciencealert.com/curiosity-cracked-open-a-rock-on-mars-and-revealed-a-big-surprise
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Curiosity Cracked Open a Rock on Mars And Revealed a Big Surprise
    A rock on Mars spilled a surprising yellow treasure after Curiosity accidentally cracked through its unremarkable exterior.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251204 #TechRadar

    Google Antigravity AI ลบข้อมูลนักพัฒนาแล้วขอโทษ
    เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อระบบ AI ของ Google ที่ชื่อว่า Antigravity ลบข้อมูลใน Google Drive ของนักพัฒนารายหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นระบบได้ส่งข้อความขอโทษกลับมาเอง เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามใหญ่เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของ AI ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ หลายฝ่ายกังวลว่าหาก AI สามารถทำผิดพลาดในระดับนี้ อาจสร้างผลกระทบต่อธุรกิจและบุคคลทั่วไปได้อย่างรุนแรง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/googles-antigravity-ai-deleted-a-developers-drive-and-then-apologized

    ความพยายามของทรัมป์ในการผลักดันกฎหมาย AI ระดับชาติสะดุด
    เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในสภาอเมริกา เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์พยายามผลักดันให้กฎหมายควบคุม AI ถูกกำหนดในระดับรัฐบาลกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงการมี “กฎหมาย 50 แบบ” จากแต่ละรัฐ เขาเชื่อว่าการรวมศูนย์จะช่วยให้สหรัฐฯ แข่งขันกับจีนได้ แต่ฝ่ายนิติบัญญัติหลายคน โดยเฉพาะรีพับลิกันเอง กลับไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ารัฐมีความคล่องตัวในการออกกฎหมายที่ตอบโจทย์สถานการณ์ได้เร็วกว่า อีกทั้งยังมีเสียงวิจารณ์ว่าการผลักดันนี้คือการเข้าข้างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี สุดท้ายข้อเสนอนี้ถูกโหวตคว่ำอย่างท่วมท้น และทำให้ทรัมป์ถูกโจมตีว่า “ยืนอยู่ข้าง Big Tech”
    https://www.techradar.com/pro/trumps-push-to-overrule-ai-regulation-falters-as-republicans-split

    AWS เปิดตัว Nova Forge ให้ธุรกิจสร้างโมเดล AI ของตัวเอง
    Amazon Web Services เปิดตัวบริการใหม่ชื่อ Nova Forge ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งโมเดล AI ได้ตามต้องการ โดยเริ่มจากโมเดลพื้นฐานของ Amazon แล้วนำข้อมูลของบริษัทมาผสมเพื่อสร้างโมเดลเฉพาะกิจที่เรียกว่า “Novellas” จุดเด่นคือช่วยลดต้นทุนและเวลาในการฝึกโมเดลใหม่จากศูนย์ ซึ่งปกติอาจใช้เงินมหาศาลและทีมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Nova 2 ที่มาพร้อมโมเดลพื้นฐานใหม่หลายตัว รวมถึงความสามารถด้านการสนทนาแบบเสียงต่อเสียงที่ใกล้เคียงมนุษย์ ถือเป็นการขยายศักยภาพของ AWS ในตลาด AI อย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/aws-nova-forge-could-be-your-companys-cue-to-start-building-custom-ai-models

    แฮกเกอร์เกาหลีเหนือถูกจับตาแบบสด ๆ ระหว่างปฏิบัติการ
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยสามารถหลอกกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือให้ใช้เครื่องที่พวกเขาคิดว่าเป็น “แล็ปท็อปจริง” แต่แท้จริงคือ sandbox ที่ควบคุมจากระยะไกล ทำให้สามารถเห็นการทำงานของแฮกเกอร์แบบสด ๆ แผนการนี้เกี่ยวข้องกับการสร้าง “คนงานปลอม” เพื่อสมัครงานในบริษัทใหญ่ แล้วใช้ตำแหน่งนั้นทำกิจกรรมโจมตีไซเบอร์ นักวิจัยพบว่าแฮกเกอร์ใช้เครื่องมืออย่าง OTP generator, AI automation และ Google Remote Desktop เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบสองชั้น เหตุการณ์นี้ช่วยเปิดเผยวิธีการทำงานของกลุ่ม Lazarus และเป็นข้อมูลสำคัญในการป้องกันภัยไซเบอร์ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-fake-worker-scheme-caught-live-on-camera

    รีวิว Lenovo ThinkBook Plus Gen 6 Rollable โน้ตบุ๊คจอขยายได้
    Lenovo เปิดตัวโน้ตบุ๊คที่เรียกว่า “Rollable” รุ่นแรกของโลก ThinkBook Plus Gen 6 ที่สามารถขยายหน้าจอจาก 14 นิ้วเป็น 16 นิ้วได้เพียงกดปุ่มเดียว ทำให้การทำงานนอกสถานที่สะดวกขึ้นมาก ตัวเครื่องมาพร้อมสเปกแรง เช่น Intel Core Ultra 7, RAM 32GB และ SSD 1TB จุดเด่นคือจอ OLED ที่ขยายได้อย่างลื่นไหลและใช้งานจริงได้ ไม่ใช่แค่ลูกเล่น ผู้รีวิวเล่าว่าทุกครั้งที่กางจอออก คนรอบข้างมักตื่นตาตื่นใจ ถือเป็นการเปลี่ยนมุมมองใหม่ต่อโน้ตบุ๊คสำหรับธุรกิจและการทำงานแบบพกพา
    https://www.techradar.com/pro/lenovo-thinkbook-plus-gen-6-rollable-business-laptop-review

    หลุดข้อมูล Xeon 6 เวิร์กสเตชันใหม่ของ Intel
    มีการพบเมนบอร์ด ADLINK ISB-W890 ที่เผยให้เห็นแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel สำหรับเวิร์กสเตชัน Granite Rapids-WS จุดเด่นคือรองรับหน่วยความจำ ECC DDR5 ได้สูงสุดถึง 1TB และมีช่อง PCIe มากมายสำหรับงานประมวลผลหนัก ๆ รวมถึงการ์ดกราฟิกหลายตัว ซีพียู Xeon รุ่นใหม่คาดว่าจะมีสูงสุดถึง 86 คอร์ พร้อมความเร็วสูงถึง 4.8GHz ซึ่งจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ AMD ThreadRipper รุ่นท็อป การรั่วไหลนี้ทำให้เห็นว่า Intel กำลังกลับมาท้าทายตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูงอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/pro/is-this-our-first-look-at-intels-xeon-6-workstation-hardware-leak-claims-to-show-w890-platform-ahead-of-granite-rapids-launch

    Qualcomm สู้กลับด้วย Snapdragon 8 Gen 5
    เรื่องนี้เริ่มจาก OnePlus เตรียมเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ OnePlus 15R ที่จะใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 5 เป็นครั้งแรก จุดที่น่าสนใจคือ Qualcomm เลือกใช้กลยุทธ์ “สองรุ่นเรือธง” คล้ายกับที่ Apple ทำกับชิป A-series โดยแบ่งเป็นรุ่น Elite และรุ่นปกติ เพื่อให้มือถือราคาย่อมเยาได้สัมผัสพลังระดับเรือธงเช่นกัน ผู้บริหาร OnePlus อธิบายว่า Apple เป็นแรงบันดาลใจ เพราะการแยกชิป Pro และชิปธรรมดาใน iPhone ทำให้ตลาดแตกต่างชัดเจน Qualcomm จึงต้องเดินตามแนวทางนี้เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ และผลลัพธ์คือผู้ใช้จะได้มือถือที่แรงขึ้นแม้ไม่ใช่รุ่นแพงสุด
    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/qualcomm-knows-it-has-to-fight-back-oneplus-exec-explains-why-apple-is-partially-responsible-for-the-new-snapdragon-8-gen-5-chipset

    รื้อความเข้าใจผิดเรื่อง Passwordless Authentication
    หลายคนยังเชื่อว่าการเข้าสู่ระบบแบบไม่ใช้รหัสผ่านนั้นไม่ปลอดภัย แต่บทความนี้อธิบายชัดว่ามันคือการยกระดับความปลอดภัย เพราะใช้สิ่งที่คุณ “เป็น” เช่น ลายนิ้วมือหรือใบหน้า ร่วมกับ PIN ที่ทำงานเฉพาะบนอุปกรณ์ ไม่ถูกส่งออกไปเหมือนรหัสผ่านทั่วไป จึงยากต่อการโจมตี อีกทั้งยังช่วยลดภาระของทีม IT ที่ต้องคอยแก้ปัญหาการรีเซ็ตรหัสผ่านซ้ำๆ เทคโนโลยีนี้จึงเป็นก้าวสำคัญสู่ยุค Zero-Trust ที่องค์กรกำลังมุ่งไป
    https://www.techradar.com/pro/passwordless-authentication-isnt-the-problem-the-myths-around-the-technology-are

    โฆษณา Windows 11 “PC ที่พูดคุยได้” สร้างเสียงแตก
    Microsoft ปล่อยโฆษณาใหม่ช่วงเทศกาลที่โชว์ฟีเจอร์ “Hey Copilot” ให้ผู้ใช้พูดคุยกับคอมพิวเตอร์ได้เหมือนผู้ช่วยส่วนตัว โฆษณามีฉากสนุกๆ เช่นการให้ Copilot ซิงค์ไฟคริสต์มาสกับเพลง แต่ปัญหาคือฟีเจอร์จริงยังทำไม่ได้ ทำให้ผู้ชมบางส่วนมองว่า Microsoft กำลังสร้างความคาดหวังเกินจริง หลายคอมเมนต์ประชดประชัน เช่น “Hey Copilot – ช่วยติดตั้ง Linux ให้หน่อย” สะท้อนว่าผู้ใช้บางกลุ่มรู้สึกถูกยัดเยียด AI มากเกินไป
    https://www.techradar.com/computing/windows/new-windows-11-pc-you-can-talk-to-ad-pushing-copilot-is-proving-divisive-and-i-can-see-it-seriously-backfiring

    ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในยุค AI
    AI กำลังเปลี่ยนโลกธุรกิจให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ปัญหาคือข้อมูลที่ใช้ฝึก AI มักเป็นข้อมูลลับและอ่อนไหว หากบริษัทไม่โปร่งใสในการจัดการข้อมูล ลูกค้าอาจหมดความเชื่อใจ ตัวอย่างเช่น OpenAI เคยถูกปรับเพราะใช้ข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ชัดเจน ทำให้เกิดคำถามใหญ่: ผู้ให้บริการ AI จะสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไร? คำตอบคือการเปิดเผยที่มาของข้อมูลและสถานที่จัดเก็บอย่างชัดเจน พร้อมเสริมระบบความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและ MFA เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าข้อมูลของพวกเขาปลอดภัยจริง
    https://www.techradar.com/pro/the-search-for-transparency-and-reliability-in-the-ai-era

    Nvidia กับดีล 100 พันล้านดอลลาร์ที่ยังไม่เสร็จ
    แม้จะมีข่าวใหญ่เรื่อง Nvidia จับมือ OpenAI ทำโครงการโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์ แต่ความจริงคือดีลนี้ยังไม่ถูกลงนามอย่างเป็นทางการ CFO ของ Nvidia ยอมรับว่าทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอน “จดหมายแสดงเจตนา” เท่านั้น ความเสี่ยงคือการลงทุนระยะยาวอาจเจอปัญหาสินค้าล้นสต็อกหรือการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เร็วเกินไป นักลงทุนบางส่วนจึงกังวลว่าอาจเกิด “ฟองสบู่ AI” ที่พร้อมแตกได้ทุกเมื่อ ถึงแม้หุ้น Nvidia จะยังขึ้น แต่คำถามเรื่องความยั่งยืนยังคงอยู่
    https://www.techradar.com/pro/nvidia-admits-the-usd100bn-biggest-ai-infrastructure-project-in-history-openai-deal-still-isnt-finalized

    Character.ai ปรับกลยุทธ์ใหม่สำหรับวัยรุ่น
    แพลตฟอร์ม AI ชื่อดัง Character.ai เริ่มเปลี่ยนแนวทางการให้บริการ โดยลดการสนทนาแบบเปิดกว้างสำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี แล้วเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Stories” เพื่อดึงดูดวัยรุ่นให้ยังคงสนใจอยู่ จุดประสงค์คือสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น และยังคงให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการเล่าเรื่องในรูปแบบที่ควบคุมได้มากกว่า การปรับนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังหาทางบาลานซ์ระหว่างความสร้างสรรค์และความรับผิดชอบต่อผู้ใช้เยาวชน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/character-ai-launches-stories-to-keep-teens-engaged-as-it-scales-back-open-ended-chat-for-under-18s

    กลุ่มแฮ็กเกอร์อิหร่านใช้เกม Snake เป็นอาวุธ
    มีรายงานว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จากอิหร่านได้สร้างเกม Snake ปลอมขึ้นมาเพื่อโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในอียิปต์และอิสราเอล เกมนี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนเกมธรรมดา แต่จริงๆ แล้วแฝงมัลแวร์ที่สามารถเจาะระบบได้ การใช้วิธีที่ดู “ไร้เดียงสา” เช่นเกมยอดนิยม เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น และเป็นสัญญาณเตือนว่าภัยคุกคามไซเบอร์กำลังซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/security/iranian-hacker-group-deploys-malicious-snake-game-to-target-egyptian-and-israeli-critical-infrastructure

    รีวิว MSI Cubi NUC AI+ 2MG Mini PC
    บทความนี้รีวิวเครื่อง Mini PC รุ่นใหม่จาก MSI ที่ชื่อ Cubi NUC AI+ 2MG จุดเด่นคือขนาดเล็กแต่ทรงพลัง เหมาะสำหรับงานสำนักงานหรือผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่กินพื้นที่มาก ตัวเครื่องมาพร้อมการรองรับ AI workload และการเชื่อมต่อที่ครบครัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้ PC ขนาดกะทัดรัดแต่ยังคงความแรงไว้ครบ
    https://www.techradar.com/pro/msi-cubi-nuc-ai-2mg-mini-pc-review

    ExpressVPN อัปเดตใหม่ เร็วขึ้นและปรับโฉมบน Mac
    ExpressVPN ปล่อยอัปเดตล่าสุดที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ และปรับปรุงแอปบน Mac ให้ใช้งานง่ายขึ้น ดีไซน์ใหม่ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงฟีเจอร์หลักได้สะดวกกว่าเดิม พร้อมทั้งเสริมความปลอดภัยและเสถียรภาพของการเชื่อมต่อ ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์ใช้งาน VPN ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้ระดับมืออาชีพ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/expressvpns-latest-update-boosts-connection-speeds-and-revamps-its-mac-app

    กฎหมาย Chat Control สร้างเสียงวิจารณ์ในวงการ Privacy Tech
    กฎหมายใหม่ที่ชื่อ Chat Control กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว หลายคนมองว่ามันคือ “หายนะที่รอเกิดขึ้น” เพราะเปิดช่องให้มีการสอดส่องการสื่อสารส่วนตัวของผู้ใช้ แม้จะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันจะกระทบสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และอาจทำให้ความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยีด้านความเป็นส่วนตัวพังทลาย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/a-disaster-waiting-to-happen-the-privacy-tech-world-reacts-to-the-new-chat-control-bill

    Devolo WiFi 6 Router 3600 5G Review
    เรื่องนี้เล่าได้ว่าเป็นประสบการณ์ตรงของผู้ทดสอบที่ได้ลองใช้เราเตอร์ Devolo WiFi 6 รุ่น 3600 ที่รองรับซิมการ์ด 5G LTE ตัวเครื่องออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมาก เพียงใส่ซิม เปิดไฟ และกดปุ่ม WPS ก็เชื่อมต่อได้ทันที จุดเด่นคือสามารถรองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า 100 เครื่องพร้อมกัน เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตบ้าน เช่นออฟฟิศใหม่หรือการทำงานนอกสถานที่ ความเร็วขึ้นอยู่กับสัญญาณเครือข่าย แต่เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มี 5G แรง ๆ ก็เร็วและเสถียรกว่าการแชร์ฮอตสปอตจากมือถือมาก แม้ราคาจะสูงเกือบ £399 แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในสถานการณ์ที่ต้องการอินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้
    https://www.techradar.com/computing/devolo-wifi-6-router-3600-5g-lte-review

    OnePlus 15 เตรียมเปิดตัวในสหรัฐฯ พร้อมของแถมพิเศษ
    OnePlus 15 ที่หลายคนรอคอยกำลังจะเปิดให้พรีออเดอร์ในสหรัฐฯ วันที่ 4 ธันวาคมนี้ หลังจากเลื่อนเปิดตัวเพราะติดปัญหาการรับรองจาก FCC ราคาจะเริ่มต้นที่ $899.99 สำหรับรุ่น RAM 12GB และ $999.99 สำหรับรุ่น RAM 16GB พร้อมของแถมให้เลือก เช่นนาฬิกา OnePlus Watch 3 มูลค่า $300 หรือหูฟัง Buds Pro 3 จุดเด่นของรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,300mAh ที่ใช้งานได้ยาวนานมาก รวมถึงกล้องและซอฟต์แวร์ที่ได้รับคำชมจนได้คะแนนรีวิวเต็ม 5 ดาว ถือเป็นการกลับมาที่น่าตื่นเต้นของ OnePlus ในตลาดสหรัฐฯ
    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-oneplus-15-is-finally-heading-to-the-us-and-you-can-grab-a-major-pre-order-bonus

    รัสเซียเตรียมแบน WhatsApp ภายใต้ “ม่านเหล็กดิจิทัล”
    รัฐบาลรัสเซียโดยหน่วยงาน Roskomnadzor ขู่จะบล็อก WhatsApp แบบเต็มรูปแบบ โดยกล่าวหาว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้เพื่อกิจกรรมก่อการร้าย และไม่ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น ปัจจุบันมีผู้ใช้ WhatsApp ในรัสเซียกว่า 97 ล้านคน หากถูกบล็อกจริงจะกระทบการสื่อสารอย่างรุนแรง โดยก่อนหน้านี้ Signal ก็ถูกบล็อกไปแล้ว ทำให้ผู้ใช้ถูกบังคับไปใช้แอปที่รัฐควบคุมอย่าง MAX ซึ่งมีความเสี่ยงด้านการสอดส่องสูง WhatsApp ยืนยันว่าจะยังคงให้บริการการสื่อสารแบบเข้ารหัสเพื่อปกป้องสิทธิผู้ใช้ แม้จะถูกกดดันจากรัฐบาล
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russias-digital-iron-curtain-whatsapp-next-on-the-chopping-block

    Amazon ทดลอง “AI Factories” ติดตั้งในองค์กรลูกค้า
    Amazon Web Services เปิดตัวแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า “AI Factories” คือการนำฮาร์ดแวร์และระบบ AI ไปติดตั้งในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง เพื่อรองรับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและอธิปไตยข้อมูล ลูกค้าไม่ต้องลงทุนสร้างระบบเอง แต่ AWS จะจัดการทุกอย่างให้ โดยใช้ชิป Nvidia Blackwell และ Trainium3 ของ Amazon จุดนี้ถือเป็นการกลับไปสู่แนวทาง on-premises อีกครั้ง หลังยุคที่ทุกอย่างย้ายขึ้นคลาวด์ เหมาะกับองค์กรหรือรัฐบาลที่ต้องการใช้ AI แต่ไม่สามารถส่งข้อมูลออกนอกพื้นที่ได้
    https://www.techradar.com/pro/amazon-is-testing-out-private-on-premises-ai-factories

    Windows 11 มีบั๊กใหม่ใน Dark Mode ของ File Explorer
    Microsoft ปล่อยอัปเดตตัวล่าสุด KB5070311 ที่ตั้งใจจะปรับปรุง Dark Mode ให้สมบูรณ์ขึ้น แต่กลับทำให้เกิดบั๊กที่สร้างความรำคาญ เมื่อผู้ใช้เปิดโฟลเดอร์หรือแท็บใหม่ใน File Explorer จะมีแฟลชสีขาววาบขึ้นมา ซึ่งยิ่งรบกวนสายตาในสภาพแสงน้อย Microsoft ยอมรับปัญหาและกำลังแก้ไขก่อนที่จะปล่อยอัปเดตเต็มในสัปดาห์หน้า แม้จะเป็นเพียงเวอร์ชันทดลอง แต่หากไม่แก้ทันก็อาจกระทบผู้ใช้จำนวนมากที่รออัปเดต
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-just-broke-file-explorer-dark-mode-some-windows-11-users-are-seeing-jarring-white-flashes-when-opening-folders

    Zettlab D6 NAS Review
    นี่เป็นรีวิวของ Zettlab D6 NAS อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเครือข่ายที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความปลอดภัยสูง จุดเด่นคือรองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูง มีพอร์ตหลากหลาย และระบบจัดการที่ใช้งานง่าย เหมาะกับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและผู้ใช้ที่ต้องการเก็บไฟล์จำนวนมากในบ้าน แม้ราคาจะสูง แต่ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความสามารถในการปกป้องและแชร์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/computing/zettlab-d6-nas-device-review

    ทดสอบ ChatGPT, Gemini และ Claude ในโลกมัลติโหมด
    บทความนี้เล่าถึงการทดสอบ AI รุ่นใหม่ ๆ ที่สามารถทำงานแบบมัลติโหมดได้ เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude โดยเปรียบเทียบความสามารถในการเข้าใจข้อความ ภาพ และเสียง จุดที่น่าสนใจคือแต่ละระบบมีจุดแข็งต่างกัน เช่น ChatGPT เด่นด้านการสนทนาเชิงลึก Gemini เน้นการเชื่อมโยงข้อมูลหลายรูปแบบ ส่วน Claude มีความแม่นยำในการตีความบริบท การทดสอบนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังพัฒนาไปสู่การใช้งานที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/testing-chatgpt-gemini-and-claude-in-the-multimodal-maze

    ยุคโฆษณาใน ChatGPT เริ่มต้นแล้ว
    ผู้ใช้ ChatGPT โดยเฉพาะกลุ่ม Pro ที่จ่ายถึง $200 ต่อเดือน กำลังไม่พอใจอย่างหนัก เพราะ OpenAI เริ่มแสดงโฆษณาและแนะนำแอปในระบบ แม้จะเป็นผู้ใช้แบบเสียเงินก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการหาทางสร้างรายได้ใหม่ของบริษัท แต่ก็ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการลดคุณภาพประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ยอมจ่ายแพงเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/the-era-of-ads-in-chatgpt-begins-users-furious-as-even-usd200-a-month-pro-subscribers-hit-with-app-suggestions

    ออสเตรเลียสั่งห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ VPN เพื่อเลี่ยงกฎหมายโซเชียล
    รัฐบาลออสเตรเลียออกมาตรการใหม่ บังคับให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องป้องกันไม่ให้ผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการแบนโซเชียลมีเดีย กฎหมายนี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและสร้างภาระให้กับบริษัทเทคโนโลยี แต่รัฐบาลยืนยันว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบของโซเชียลมีเดีย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/australia-expects-platforms-to-stop-under-16s-from-using-vpns-to-evade-social-media-ban

    กว่า 2 ใน 3 ของร้านค้าปลีกใช้ AI Agent เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว
    รายงานล่าสุดเผยว่ามากกว่า 67% ของผู้ค้าปลีกได้เริ่มนำ AI Agent มาใช้ในการทำงาน เช่น การตอบลูกค้า การจัดการสต็อก และการวิเคราะห์ข้อมูล จุดนี้สะท้อนว่าการใช้ AI ไม่ใช่แค่แนวโน้ม แต่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของธุรกิจค้าปลีกที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำในการแข่งขัน
    https://www.techradar.com/pro/over-two-thirds-of-retailers-have-already-partially-deployed-ai-agents-for-efficiency



    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251204 #TechRadar 🤖 Google Antigravity AI ลบข้อมูลนักพัฒนาแล้วขอโทษ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อระบบ AI ของ Google ที่ชื่อว่า Antigravity ลบข้อมูลใน Google Drive ของนักพัฒนารายหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นระบบได้ส่งข้อความขอโทษกลับมาเอง เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามใหญ่เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของ AI ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ หลายฝ่ายกังวลว่าหาก AI สามารถทำผิดพลาดในระดับนี้ อาจสร้างผลกระทบต่อธุรกิจและบุคคลทั่วไปได้อย่างรุนแรง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/googles-antigravity-ai-deleted-a-developers-drive-and-then-apologized 🏛️ ความพยายามของทรัมป์ในการผลักดันกฎหมาย AI ระดับชาติสะดุด เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในสภาอเมริกา เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์พยายามผลักดันให้กฎหมายควบคุม AI ถูกกำหนดในระดับรัฐบาลกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงการมี “กฎหมาย 50 แบบ” จากแต่ละรัฐ เขาเชื่อว่าการรวมศูนย์จะช่วยให้สหรัฐฯ แข่งขันกับจีนได้ แต่ฝ่ายนิติบัญญัติหลายคน โดยเฉพาะรีพับลิกันเอง กลับไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ารัฐมีความคล่องตัวในการออกกฎหมายที่ตอบโจทย์สถานการณ์ได้เร็วกว่า อีกทั้งยังมีเสียงวิจารณ์ว่าการผลักดันนี้คือการเข้าข้างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี สุดท้ายข้อเสนอนี้ถูกโหวตคว่ำอย่างท่วมท้น และทำให้ทรัมป์ถูกโจมตีว่า “ยืนอยู่ข้าง Big Tech” 🔗 https://www.techradar.com/pro/trumps-push-to-overrule-ai-regulation-falters-as-republicans-split ☁️ AWS เปิดตัว Nova Forge ให้ธุรกิจสร้างโมเดล AI ของตัวเอง Amazon Web Services เปิดตัวบริการใหม่ชื่อ Nova Forge ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งโมเดล AI ได้ตามต้องการ โดยเริ่มจากโมเดลพื้นฐานของ Amazon แล้วนำข้อมูลของบริษัทมาผสมเพื่อสร้างโมเดลเฉพาะกิจที่เรียกว่า “Novellas” จุดเด่นคือช่วยลดต้นทุนและเวลาในการฝึกโมเดลใหม่จากศูนย์ ซึ่งปกติอาจใช้เงินมหาศาลและทีมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Nova 2 ที่มาพร้อมโมเดลพื้นฐานใหม่หลายตัว รวมถึงความสามารถด้านการสนทนาแบบเสียงต่อเสียงที่ใกล้เคียงมนุษย์ ถือเป็นการขยายศักยภาพของ AWS ในตลาด AI อย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-nova-forge-could-be-your-companys-cue-to-start-building-custom-ai-models 🕵️ แฮกเกอร์เกาหลีเหนือถูกจับตาแบบสด ๆ ระหว่างปฏิบัติการ นักวิจัยด้านความปลอดภัยสามารถหลอกกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือให้ใช้เครื่องที่พวกเขาคิดว่าเป็น “แล็ปท็อปจริง” แต่แท้จริงคือ sandbox ที่ควบคุมจากระยะไกล ทำให้สามารถเห็นการทำงานของแฮกเกอร์แบบสด ๆ แผนการนี้เกี่ยวข้องกับการสร้าง “คนงานปลอม” เพื่อสมัครงานในบริษัทใหญ่ แล้วใช้ตำแหน่งนั้นทำกิจกรรมโจมตีไซเบอร์ นักวิจัยพบว่าแฮกเกอร์ใช้เครื่องมืออย่าง OTP generator, AI automation และ Google Remote Desktop เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบสองชั้น เหตุการณ์นี้ช่วยเปิดเผยวิธีการทำงานของกลุ่ม Lazarus และเป็นข้อมูลสำคัญในการป้องกันภัยไซเบอร์ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-fake-worker-scheme-caught-live-on-camera 💻 รีวิว Lenovo ThinkBook Plus Gen 6 Rollable โน้ตบุ๊คจอขยายได้ Lenovo เปิดตัวโน้ตบุ๊คที่เรียกว่า “Rollable” รุ่นแรกของโลก ThinkBook Plus Gen 6 ที่สามารถขยายหน้าจอจาก 14 นิ้วเป็น 16 นิ้วได้เพียงกดปุ่มเดียว ทำให้การทำงานนอกสถานที่สะดวกขึ้นมาก ตัวเครื่องมาพร้อมสเปกแรง เช่น Intel Core Ultra 7, RAM 32GB และ SSD 1TB จุดเด่นคือจอ OLED ที่ขยายได้อย่างลื่นไหลและใช้งานจริงได้ ไม่ใช่แค่ลูกเล่น ผู้รีวิวเล่าว่าทุกครั้งที่กางจอออก คนรอบข้างมักตื่นตาตื่นใจ ถือเป็นการเปลี่ยนมุมมองใหม่ต่อโน้ตบุ๊คสำหรับธุรกิจและการทำงานแบบพกพา 🔗 https://www.techradar.com/pro/lenovo-thinkbook-plus-gen-6-rollable-business-laptop-review ⚙️ หลุดข้อมูล Xeon 6 เวิร์กสเตชันใหม่ของ Intel มีการพบเมนบอร์ด ADLINK ISB-W890 ที่เผยให้เห็นแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel สำหรับเวิร์กสเตชัน Granite Rapids-WS จุดเด่นคือรองรับหน่วยความจำ ECC DDR5 ได้สูงสุดถึง 1TB และมีช่อง PCIe มากมายสำหรับงานประมวลผลหนัก ๆ รวมถึงการ์ดกราฟิกหลายตัว ซีพียู Xeon รุ่นใหม่คาดว่าจะมีสูงสุดถึง 86 คอร์ พร้อมความเร็วสูงถึง 4.8GHz ซึ่งจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ AMD ThreadRipper รุ่นท็อป การรั่วไหลนี้ทำให้เห็นว่า Intel กำลังกลับมาท้าทายตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูงอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-this-our-first-look-at-intels-xeon-6-workstation-hardware-leak-claims-to-show-w890-platform-ahead-of-granite-rapids-launch 📱 Qualcomm สู้กลับด้วย Snapdragon 8 Gen 5 เรื่องนี้เริ่มจาก OnePlus เตรียมเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ OnePlus 15R ที่จะใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 5 เป็นครั้งแรก จุดที่น่าสนใจคือ Qualcomm เลือกใช้กลยุทธ์ “สองรุ่นเรือธง” คล้ายกับที่ Apple ทำกับชิป A-series โดยแบ่งเป็นรุ่น Elite และรุ่นปกติ เพื่อให้มือถือราคาย่อมเยาได้สัมผัสพลังระดับเรือธงเช่นกัน ผู้บริหาร OnePlus อธิบายว่า Apple เป็นแรงบันดาลใจ เพราะการแยกชิป Pro และชิปธรรมดาใน iPhone ทำให้ตลาดแตกต่างชัดเจน Qualcomm จึงต้องเดินตามแนวทางนี้เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ และผลลัพธ์คือผู้ใช้จะได้มือถือที่แรงขึ้นแม้ไม่ใช่รุ่นแพงสุด 🔗 https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/qualcomm-knows-it-has-to-fight-back-oneplus-exec-explains-why-apple-is-partially-responsible-for-the-new-snapdragon-8-gen-5-chipset 🔐 รื้อความเข้าใจผิดเรื่อง Passwordless Authentication หลายคนยังเชื่อว่าการเข้าสู่ระบบแบบไม่ใช้รหัสผ่านนั้นไม่ปลอดภัย แต่บทความนี้อธิบายชัดว่ามันคือการยกระดับความปลอดภัย เพราะใช้สิ่งที่คุณ “เป็น” เช่น ลายนิ้วมือหรือใบหน้า ร่วมกับ PIN ที่ทำงานเฉพาะบนอุปกรณ์ ไม่ถูกส่งออกไปเหมือนรหัสผ่านทั่วไป จึงยากต่อการโจมตี อีกทั้งยังช่วยลดภาระของทีม IT ที่ต้องคอยแก้ปัญหาการรีเซ็ตรหัสผ่านซ้ำๆ เทคโนโลยีนี้จึงเป็นก้าวสำคัญสู่ยุค Zero-Trust ที่องค์กรกำลังมุ่งไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/passwordless-authentication-isnt-the-problem-the-myths-around-the-technology-are 🎄 โฆษณา Windows 11 “PC ที่พูดคุยได้” สร้างเสียงแตก Microsoft ปล่อยโฆษณาใหม่ช่วงเทศกาลที่โชว์ฟีเจอร์ “Hey Copilot” ให้ผู้ใช้พูดคุยกับคอมพิวเตอร์ได้เหมือนผู้ช่วยส่วนตัว โฆษณามีฉากสนุกๆ เช่นการให้ Copilot ซิงค์ไฟคริสต์มาสกับเพลง แต่ปัญหาคือฟีเจอร์จริงยังทำไม่ได้ ทำให้ผู้ชมบางส่วนมองว่า Microsoft กำลังสร้างความคาดหวังเกินจริง หลายคอมเมนต์ประชดประชัน เช่น “Hey Copilot – ช่วยติดตั้ง Linux ให้หน่อย” สะท้อนว่าผู้ใช้บางกลุ่มรู้สึกถูกยัดเยียด AI มากเกินไป 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/new-windows-11-pc-you-can-talk-to-ad-pushing-copilot-is-proving-divisive-and-i-can-see-it-seriously-backfiring 🤖 ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในยุค AI AI กำลังเปลี่ยนโลกธุรกิจให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ปัญหาคือข้อมูลที่ใช้ฝึก AI มักเป็นข้อมูลลับและอ่อนไหว หากบริษัทไม่โปร่งใสในการจัดการข้อมูล ลูกค้าอาจหมดความเชื่อใจ ตัวอย่างเช่น OpenAI เคยถูกปรับเพราะใช้ข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ชัดเจน ทำให้เกิดคำถามใหญ่: ผู้ให้บริการ AI จะสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไร? คำตอบคือการเปิดเผยที่มาของข้อมูลและสถานที่จัดเก็บอย่างชัดเจน พร้อมเสริมระบบความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและ MFA เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าข้อมูลของพวกเขาปลอดภัยจริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-search-for-transparency-and-reliability-in-the-ai-era 💰 Nvidia กับดีล 100 พันล้านดอลลาร์ที่ยังไม่เสร็จ แม้จะมีข่าวใหญ่เรื่อง Nvidia จับมือ OpenAI ทำโครงการโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์ แต่ความจริงคือดีลนี้ยังไม่ถูกลงนามอย่างเป็นทางการ CFO ของ Nvidia ยอมรับว่าทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอน “จดหมายแสดงเจตนา” เท่านั้น ความเสี่ยงคือการลงทุนระยะยาวอาจเจอปัญหาสินค้าล้นสต็อกหรือการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เร็วเกินไป นักลงทุนบางส่วนจึงกังวลว่าอาจเกิด “ฟองสบู่ AI” ที่พร้อมแตกได้ทุกเมื่อ ถึงแม้หุ้น Nvidia จะยังขึ้น แต่คำถามเรื่องความยั่งยืนยังคงอยู่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/nvidia-admits-the-usd100bn-biggest-ai-infrastructure-project-in-history-openai-deal-still-isnt-finalized 📖 Character.ai ปรับกลยุทธ์ใหม่สำหรับวัยรุ่น แพลตฟอร์ม AI ชื่อดัง Character.ai เริ่มเปลี่ยนแนวทางการให้บริการ โดยลดการสนทนาแบบเปิดกว้างสำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี แล้วเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Stories” เพื่อดึงดูดวัยรุ่นให้ยังคงสนใจอยู่ จุดประสงค์คือสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น และยังคงให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการเล่าเรื่องในรูปแบบที่ควบคุมได้มากกว่า การปรับนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังหาทางบาลานซ์ระหว่างความสร้างสรรค์และความรับผิดชอบต่อผู้ใช้เยาวชน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/character-ai-launches-stories-to-keep-teens-engaged-as-it-scales-back-open-ended-chat-for-under-18s 🎮 กลุ่มแฮ็กเกอร์อิหร่านใช้เกม Snake เป็นอาวุธ มีรายงานว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จากอิหร่านได้สร้างเกม Snake ปลอมขึ้นมาเพื่อโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในอียิปต์และอิสราเอล เกมนี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนเกมธรรมดา แต่จริงๆ แล้วแฝงมัลแวร์ที่สามารถเจาะระบบได้ การใช้วิธีที่ดู “ไร้เดียงสา” เช่นเกมยอดนิยม เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น และเป็นสัญญาณเตือนว่าภัยคุกคามไซเบอร์กำลังซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/iranian-hacker-group-deploys-malicious-snake-game-to-target-egyptian-and-israeli-critical-infrastructure 💻 รีวิว MSI Cubi NUC AI+ 2MG Mini PC บทความนี้รีวิวเครื่อง Mini PC รุ่นใหม่จาก MSI ที่ชื่อ Cubi NUC AI+ 2MG จุดเด่นคือขนาดเล็กแต่ทรงพลัง เหมาะสำหรับงานสำนักงานหรือผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่กินพื้นที่มาก ตัวเครื่องมาพร้อมการรองรับ AI workload และการเชื่อมต่อที่ครบครัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้ PC ขนาดกะทัดรัดแต่ยังคงความแรงไว้ครบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/msi-cubi-nuc-ai-2mg-mini-pc-review 🌐 ExpressVPN อัปเดตใหม่ เร็วขึ้นและปรับโฉมบน Mac ExpressVPN ปล่อยอัปเดตล่าสุดที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ และปรับปรุงแอปบน Mac ให้ใช้งานง่ายขึ้น ดีไซน์ใหม่ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงฟีเจอร์หลักได้สะดวกกว่าเดิม พร้อมทั้งเสริมความปลอดภัยและเสถียรภาพของการเชื่อมต่อ ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์ใช้งาน VPN ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้ระดับมืออาชีพ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/expressvpns-latest-update-boosts-connection-speeds-and-revamps-its-mac-app ⚖️ กฎหมาย Chat Control สร้างเสียงวิจารณ์ในวงการ Privacy Tech กฎหมายใหม่ที่ชื่อ Chat Control กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว หลายคนมองว่ามันคือ “หายนะที่รอเกิดขึ้น” เพราะเปิดช่องให้มีการสอดส่องการสื่อสารส่วนตัวของผู้ใช้ แม้จะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันจะกระทบสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และอาจทำให้ความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยีด้านความเป็นส่วนตัวพังทลาย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/a-disaster-waiting-to-happen-the-privacy-tech-world-reacts-to-the-new-chat-control-bill 📡 Devolo WiFi 6 Router 3600 5G Review เรื่องนี้เล่าได้ว่าเป็นประสบการณ์ตรงของผู้ทดสอบที่ได้ลองใช้เราเตอร์ Devolo WiFi 6 รุ่น 3600 ที่รองรับซิมการ์ด 5G LTE ตัวเครื่องออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมาก เพียงใส่ซิม เปิดไฟ และกดปุ่ม WPS ก็เชื่อมต่อได้ทันที จุดเด่นคือสามารถรองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า 100 เครื่องพร้อมกัน เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตบ้าน เช่นออฟฟิศใหม่หรือการทำงานนอกสถานที่ ความเร็วขึ้นอยู่กับสัญญาณเครือข่าย แต่เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มี 5G แรง ๆ ก็เร็วและเสถียรกว่าการแชร์ฮอตสปอตจากมือถือมาก แม้ราคาจะสูงเกือบ £399 แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในสถานการณ์ที่ต้องการอินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้ 🔗 https://www.techradar.com/computing/devolo-wifi-6-router-3600-5g-lte-review 📱 OnePlus 15 เตรียมเปิดตัวในสหรัฐฯ พร้อมของแถมพิเศษ OnePlus 15 ที่หลายคนรอคอยกำลังจะเปิดให้พรีออเดอร์ในสหรัฐฯ วันที่ 4 ธันวาคมนี้ หลังจากเลื่อนเปิดตัวเพราะติดปัญหาการรับรองจาก FCC ราคาจะเริ่มต้นที่ $899.99 สำหรับรุ่น RAM 12GB และ $999.99 สำหรับรุ่น RAM 16GB พร้อมของแถมให้เลือก เช่นนาฬิกา OnePlus Watch 3 มูลค่า $300 หรือหูฟัง Buds Pro 3 จุดเด่นของรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,300mAh ที่ใช้งานได้ยาวนานมาก รวมถึงกล้องและซอฟต์แวร์ที่ได้รับคำชมจนได้คะแนนรีวิวเต็ม 5 ดาว ถือเป็นการกลับมาที่น่าตื่นเต้นของ OnePlus ในตลาดสหรัฐฯ 🔗 https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-oneplus-15-is-finally-heading-to-the-us-and-you-can-grab-a-major-pre-order-bonus 🚫 รัสเซียเตรียมแบน WhatsApp ภายใต้ “ม่านเหล็กดิจิทัล” รัฐบาลรัสเซียโดยหน่วยงาน Roskomnadzor ขู่จะบล็อก WhatsApp แบบเต็มรูปแบบ โดยกล่าวหาว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้เพื่อกิจกรรมก่อการร้าย และไม่ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น ปัจจุบันมีผู้ใช้ WhatsApp ในรัสเซียกว่า 97 ล้านคน หากถูกบล็อกจริงจะกระทบการสื่อสารอย่างรุนแรง โดยก่อนหน้านี้ Signal ก็ถูกบล็อกไปแล้ว ทำให้ผู้ใช้ถูกบังคับไปใช้แอปที่รัฐควบคุมอย่าง MAX ซึ่งมีความเสี่ยงด้านการสอดส่องสูง WhatsApp ยืนยันว่าจะยังคงให้บริการการสื่อสารแบบเข้ารหัสเพื่อปกป้องสิทธิผู้ใช้ แม้จะถูกกดดันจากรัฐบาล 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russias-digital-iron-curtain-whatsapp-next-on-the-chopping-block 🤖 Amazon ทดลอง “AI Factories” ติดตั้งในองค์กรลูกค้า Amazon Web Services เปิดตัวแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า “AI Factories” คือการนำฮาร์ดแวร์และระบบ AI ไปติดตั้งในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง เพื่อรองรับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและอธิปไตยข้อมูล ลูกค้าไม่ต้องลงทุนสร้างระบบเอง แต่ AWS จะจัดการทุกอย่างให้ โดยใช้ชิป Nvidia Blackwell และ Trainium3 ของ Amazon จุดนี้ถือเป็นการกลับไปสู่แนวทาง on-premises อีกครั้ง หลังยุคที่ทุกอย่างย้ายขึ้นคลาวด์ เหมาะกับองค์กรหรือรัฐบาลที่ต้องการใช้ AI แต่ไม่สามารถส่งข้อมูลออกนอกพื้นที่ได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/amazon-is-testing-out-private-on-premises-ai-factories 💻 Windows 11 มีบั๊กใหม่ใน Dark Mode ของ File Explorer Microsoft ปล่อยอัปเดตตัวล่าสุด KB5070311 ที่ตั้งใจจะปรับปรุง Dark Mode ให้สมบูรณ์ขึ้น แต่กลับทำให้เกิดบั๊กที่สร้างความรำคาญ เมื่อผู้ใช้เปิดโฟลเดอร์หรือแท็บใหม่ใน File Explorer จะมีแฟลชสีขาววาบขึ้นมา ซึ่งยิ่งรบกวนสายตาในสภาพแสงน้อย Microsoft ยอมรับปัญหาและกำลังแก้ไขก่อนที่จะปล่อยอัปเดตเต็มในสัปดาห์หน้า แม้จะเป็นเพียงเวอร์ชันทดลอง แต่หากไม่แก้ทันก็อาจกระทบผู้ใช้จำนวนมากที่รออัปเดต 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-just-broke-file-explorer-dark-mode-some-windows-11-users-are-seeing-jarring-white-flashes-when-opening-folders 💾 Zettlab D6 NAS Review นี่เป็นรีวิวของ Zettlab D6 NAS อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเครือข่ายที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความปลอดภัยสูง จุดเด่นคือรองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูง มีพอร์ตหลากหลาย และระบบจัดการที่ใช้งานง่าย เหมาะกับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและผู้ใช้ที่ต้องการเก็บไฟล์จำนวนมากในบ้าน แม้ราคาจะสูง แต่ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความสามารถในการปกป้องและแชร์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/computing/zettlab-d6-nas-device-review 🧩 ทดสอบ ChatGPT, Gemini และ Claude ในโลกมัลติโหมด บทความนี้เล่าถึงการทดสอบ AI รุ่นใหม่ ๆ ที่สามารถทำงานแบบมัลติโหมดได้ เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude โดยเปรียบเทียบความสามารถในการเข้าใจข้อความ ภาพ และเสียง จุดที่น่าสนใจคือแต่ละระบบมีจุดแข็งต่างกัน เช่น ChatGPT เด่นด้านการสนทนาเชิงลึก Gemini เน้นการเชื่อมโยงข้อมูลหลายรูปแบบ ส่วน Claude มีความแม่นยำในการตีความบริบท การทดสอบนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังพัฒนาไปสู่การใช้งานที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/testing-chatgpt-gemini-and-claude-in-the-multimodal-maze 📢 ยุคโฆษณาใน ChatGPT เริ่มต้นแล้ว ผู้ใช้ ChatGPT โดยเฉพาะกลุ่ม Pro ที่จ่ายถึง $200 ต่อเดือน กำลังไม่พอใจอย่างหนัก เพราะ OpenAI เริ่มแสดงโฆษณาและแนะนำแอปในระบบ แม้จะเป็นผู้ใช้แบบเสียเงินก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการหาทางสร้างรายได้ใหม่ของบริษัท แต่ก็ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการลดคุณภาพประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ยอมจ่ายแพงเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/the-era-of-ads-in-chatgpt-begins-users-furious-as-even-usd200-a-month-pro-subscribers-hit-with-app-suggestions 🛡️ ออสเตรเลียสั่งห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ VPN เพื่อเลี่ยงกฎหมายโซเชียล รัฐบาลออสเตรเลียออกมาตรการใหม่ บังคับให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องป้องกันไม่ให้ผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการแบนโซเชียลมีเดีย กฎหมายนี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและสร้างภาระให้กับบริษัทเทคโนโลยี แต่รัฐบาลยืนยันว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบของโซเชียลมีเดีย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/australia-expects-platforms-to-stop-under-16s-from-using-vpns-to-evade-social-media-ban 🛍️ กว่า 2 ใน 3 ของร้านค้าปลีกใช้ AI Agent เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว รายงานล่าสุดเผยว่ามากกว่า 67% ของผู้ค้าปลีกได้เริ่มนำ AI Agent มาใช้ในการทำงาน เช่น การตอบลูกค้า การจัดการสต็อก และการวิเคราะห์ข้อมูล จุดนี้สะท้อนว่าการใช้ AI ไม่ใช่แค่แนวโน้ม แต่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของธุรกิจค้าปลีกที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำในการแข่งขัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/over-two-thirds-of-retailers-have-already-partially-deployed-ai-agents-for-efficiency
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts