• สหรัฐฯจะปรับยุทธศาสตร์ป้องปรามทางนิวเคลียร์ของตนเอง เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ของภัยคุกคามต่างๆนานาจากรัสเซียและจีน อ้างอิงรายงานฉบับหนึ่งของเพนตากอน
    .
    ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดีที่แล้ว(21พ.ย.) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯะบุว่า "พวกศัตรูที่ทัดเทียมทางนิวเคลียร์หลายชาติ ท้าทายความมั่นคงของสหรัฐฯ พันธมิตรและคู่หู" พร้อมระบุประเทศเหล่านี้กำลังยกระดับคลังแสงให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆและกำลังปรับปรุงให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น
    .
    ริชาร์ด จอห์นสัน รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม ชี้เป้าที่ไปรัสเซียและจีน พร้อมเน้นว่าบางทีสหรัฐฯอาจจำเป็นต้องปรับแก้ Nuclear Posture Review ปี 2022 เพื่อธำรงไว้ซึ่งการป้องปรามทางนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตามเขาเน้นว่าความพยายามปรับปรุงทางนิวเคลียร์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น อาจจะไม่เพียงพอ
    .
    จอห์นสัน กล่าวถึงความกังวลเหล่านี้ โดยชี้ว่า "เพนตากอนได้ใช้ก้าวย่างต่างๆนานา ในการยกระดับความสามารถในภาคสนามในการเสริมการป้องปรามและความยืดหยุ่นทางนิวเคลียร์" ซึ่งองค์ประกอบหลักของมาตรการนี้ก็คือ การประจำการระเบิดแรงโน้มถ่วง B61-13 เพิ่มความพร้อมของอาวุธนิวเคลียร์และยกระดับแสนยานุภาพของกองเรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ
    .
    ก่อนหน้านี้เพนตากอนแถลงประจำการระเบิด B61 รุ่นใหม่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และบอกว่ามันจะเข้ามาแทนที่เวอร์ชันเก่าบางรุ่น และมอบทางเลือกต่างๆเพิ่มเติมแก่สหรัฐฯในการจัดการกับเป้าหมายทางทหารในพื้นที่ขนาดใหญ่และยากลำบากกว่าเดิม อย่างไรก็ตามวอชิงตันเน้นย้ำว่าการประจำการ B61-13 ไม่ใช่การตอบสนองต่อสถานการณ์ใดๆในปัจจุบัน และจะไม่เป็นการเพิ่มสต๊อกนิวเคลียร์ในภาพรวม
    .
    เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ คือองค์ประกอบหลักของ "สามเหล่านิวเคลียร์(nuclear triad)" ของสหรัฐฯ และออกแบบมาเฉพาะเจาะจงสำหรับป้องปรามทางนิวเคลียร์ ทั้งนี้เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ สามารถติดขีปนาวุธไทรแดนท์ ที่มีพิสัยทำการสูงสุด 12,000 กิโลเมตร
    .
    ความเห็นของ จอห์นสัน มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ออกคำสั่งให้ปรับแก้หลักการนิวเคลียร์ของประเทศเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน เอกสารที่มีการปรับแก้นั้นกำหนดให้ "การรุกรานเล่นงานสหพันธรัฐรัสเซียและ/หรือชาติพันธมิตร โดยรัฐหนึ่งที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง แต่ดำเนินการภายใต้การมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนจากประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ จะถูกมองในฐานะเป็นการโจมตีร่วม"
    .
    ปูติน อนุมัติการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในวันที่ 19 พฤศจิกายน หลังจากสหรัฐฯและบรรดาพันธมิตรตะวันตกหลายชาติของอเมริกา ไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่จัดหาให้ โจมตีลึกเข้ามาในดินแดนรัสเซีย แม้มอสโกเคยเตือนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย และผลก็คือเป็นการลากนาโตเข้าร่วมความขัดแย้งโดยตรง
    .
    ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน รัสเซียปฏิบัติการโจมตียูเครน ด้วยการใช้ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยปานกลางล่าสุด Oreshnik พร้อมระบุมันเป็นการตอบโต้การโจมตีข้ามชายแดนของเคียฟ ที่ใช้ระบบ ATACMS และ HIMARS ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ เช่นเดียวกับขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ที่ผลิตโดยสหราชอาณาจักร
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113055
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯจะปรับยุทธศาสตร์ป้องปรามทางนิวเคลียร์ของตนเอง เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ของภัยคุกคามต่างๆนานาจากรัสเซียและจีน อ้างอิงรายงานฉบับหนึ่งของเพนตากอน . ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดีที่แล้ว(21พ.ย.) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯะบุว่า "พวกศัตรูที่ทัดเทียมทางนิวเคลียร์หลายชาติ ท้าทายความมั่นคงของสหรัฐฯ พันธมิตรและคู่หู" พร้อมระบุประเทศเหล่านี้กำลังยกระดับคลังแสงให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆและกำลังปรับปรุงให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น . ริชาร์ด จอห์นสัน รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม ชี้เป้าที่ไปรัสเซียและจีน พร้อมเน้นว่าบางทีสหรัฐฯอาจจำเป็นต้องปรับแก้ Nuclear Posture Review ปี 2022 เพื่อธำรงไว้ซึ่งการป้องปรามทางนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตามเขาเน้นว่าความพยายามปรับปรุงทางนิวเคลียร์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น อาจจะไม่เพียงพอ . จอห์นสัน กล่าวถึงความกังวลเหล่านี้ โดยชี้ว่า "เพนตากอนได้ใช้ก้าวย่างต่างๆนานา ในการยกระดับความสามารถในภาคสนามในการเสริมการป้องปรามและความยืดหยุ่นทางนิวเคลียร์" ซึ่งองค์ประกอบหลักของมาตรการนี้ก็คือ การประจำการระเบิดแรงโน้มถ่วง B61-13 เพิ่มความพร้อมของอาวุธนิวเคลียร์และยกระดับแสนยานุภาพของกองเรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ . ก่อนหน้านี้เพนตากอนแถลงประจำการระเบิด B61 รุ่นใหม่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และบอกว่ามันจะเข้ามาแทนที่เวอร์ชันเก่าบางรุ่น และมอบทางเลือกต่างๆเพิ่มเติมแก่สหรัฐฯในการจัดการกับเป้าหมายทางทหารในพื้นที่ขนาดใหญ่และยากลำบากกว่าเดิม อย่างไรก็ตามวอชิงตันเน้นย้ำว่าการประจำการ B61-13 ไม่ใช่การตอบสนองต่อสถานการณ์ใดๆในปัจจุบัน และจะไม่เป็นการเพิ่มสต๊อกนิวเคลียร์ในภาพรวม . เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ คือองค์ประกอบหลักของ "สามเหล่านิวเคลียร์(nuclear triad)" ของสหรัฐฯ และออกแบบมาเฉพาะเจาะจงสำหรับป้องปรามทางนิวเคลียร์ ทั้งนี้เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ สามารถติดขีปนาวุธไทรแดนท์ ที่มีพิสัยทำการสูงสุด 12,000 กิโลเมตร . ความเห็นของ จอห์นสัน มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ออกคำสั่งให้ปรับแก้หลักการนิวเคลียร์ของประเทศเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน เอกสารที่มีการปรับแก้นั้นกำหนดให้ "การรุกรานเล่นงานสหพันธรัฐรัสเซียและ/หรือชาติพันธมิตร โดยรัฐหนึ่งที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง แต่ดำเนินการภายใต้การมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนจากประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ จะถูกมองในฐานะเป็นการโจมตีร่วม" . ปูติน อนุมัติการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในวันที่ 19 พฤศจิกายน หลังจากสหรัฐฯและบรรดาพันธมิตรตะวันตกหลายชาติของอเมริกา ไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่จัดหาให้ โจมตีลึกเข้ามาในดินแดนรัสเซีย แม้มอสโกเคยเตือนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย และผลก็คือเป็นการลากนาโตเข้าร่วมความขัดแย้งโดยตรง . ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน รัสเซียปฏิบัติการโจมตียูเครน ด้วยการใช้ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยปานกลางล่าสุด Oreshnik พร้อมระบุมันเป็นการตอบโต้การโจมตีข้ามชายแดนของเคียฟ ที่ใช้ระบบ ATACMS และ HIMARS ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ เช่นเดียวกับขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ที่ผลิตโดยสหราชอาณาจักร . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113055 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘Chancay’ท่าเรือยักษ์เปรู จีนตีท้ายครัวมะกัน
    .
    ก่อนการประชุมAPEC Peru2024 จะเริ่มต้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ร่วมกับประธานาธิบดีดินา เอร์ซิเลีย โบลัวร์เต ผู้นำเปรู ได้ทำพิธีเปิดท่าเรือชานไค (Chancay) ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ "1 แถบ 1 เส้นทาง" ที่จะเปลี่ยนให้เปรูเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของอเมริกาใต้ และทำให้อเมริกาหวั่นไหวมากถึงอิทธิพลของจีน ซึ่งขยายอิทธิพลมาประชิดหลังบ้านของอเมริกา
    .
    ท่าเรือชานไค ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงเปรู คือ กรุงลิมา ไปทางทิศเหนือราวๆ 80 กิโลเมตร มีมูลค่าลงทุนทั้งหมด 3,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 121,000 ล้านบาท เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท Cosco Shipping รัฐวิสาหกิจของจีน ถือหุ้น 60% และบริษัท Volcan บริษัทเหมืองแร่ของเปรู ถือหุ้นอยู่ 40% โครงการนี้เริ่มสร้างเมื่อ 5 ปีที่แล้ว (ปี 2562)
    .
    ท่าเรือนี้ช่วยลดระยะเวลาในการขนส่งจากอเมริกาใต้ไปยังเอเชีย เดิมใช้เวลา 30 วัน ให้เหลือแค่ 20 วัน เส้นทางเดินเรือจากเปรู ตรงไปยังนครเซี่ยงไฮ้ของจีน เป็นท่าเรือแห่งแรกทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของอเมริกาใต้ที่จะรองรับเรือขนาดใหญ่ 60 ฟุต ที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ได้ 24,000 ตู้ คาดว่าในอนาคตจะมีการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 100 ล้านตู้ต่อปี คาดว่าจะมีรายได้สูงถึงปีละ 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นตั้ง 1.8% ของ GDP ของประเทศเปรู และสามารถสร้างงานได้ถึง 8 พันกว่าตำแหน่ง
    .
    ทีนี้คำถามมีอยู่ว่า ทำไมอเมริกาถึงมีความหวั่นไหวมากกับท่าเรือชานไค สิ่งที่น่าสนใจคือ ท่าเรือชานไคไม่ใช่แค่ท่าเรือ แต่เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งแรกของจีนในลาตินอเมริกา เป็นฐานที่มั่นทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง ทำให้จีนสามารถควบคุมเส้นทางนำเข้า-ส่งออกในอเมริกาใต้ ในฝั่งแปซิฟิก จนอเมริกาถึงกับหวั่นไหวที่จีนได้ขยายอิทธิพลมายังลาตินอเมริกา ซึ่งเป็นหลังบ้านของอเมริกานั่นเอง
    .
    ประเด็น ณ วันนี้ จีนไม่เพียงสามารถเข้าสู่แหล่งทรัพยากรและแร่ธาตุต่างๆ ในลาตินอเมริกาเท่านั้น จีนยังสามารถจะควบคุมเส้นทางคมนาคม โลจิสติกส์ ได้ด้วย ลึกซึ้งไหม แล้วถ้าเราต่อภาพกับเส้นทางในยุโรปที่บริษัทจีนได้ถือหุ้นใหญ่ในท่าเรือไพรีอัสในประเทศกรีก ท่าเรือวาเลนเซียในสเปน รวมทั้งท่าเรือในเมืองฮัมบูร์ก เยอรมนี และเมืองร็อตเตอร์ดัม ในเนเธอร์แลนด์ รวมทั้งท่าเรือในศรีลังกา กัมพูชา รถไฟความเร็วสูงในลาว จะเห็นว่ายุทธศาสตร์แถบเส้นทางของจีนได้ครอบคลุมการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ได้มากกว่าครึ่งโลก เพราะทั่วโลกจีนเข้าไปเป็นหุ้นส่วนของท่าเรือสำคัญนี้ ทั่วโลกแล้วกว่า 160 แห่ง ยิ่งเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" ทอดทิ้งพันธมิตรชาติต่างๆ ด้วยแล้ว บทบาทของจีนในสวนหลังบ้านของอเมริกาอย่างลาตินอเมริกายิ่งมากขึ้น
    .
    อเมริกาทุกวันนี้หวังว่าจะใช้สงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี ด้วยการขึ้นภาษี การแซงก์ชัน การกีดกันทางการค้าต่างๆ นานาเพื่อปิดล้อมจีน แต่เราต้องไม่ลืมมองด้วยว่า วันนี้แม้แต่หลังบ้านของตัวเอง ก็ยังถูกจีนปิดล้อมทั้งทางด้านทรัพยากรและเส้นทางคมนาคม และโลจิสติกส์ ไว้เกือบทั้งหมดด้วยแล้วครับ
    ‘Chancay’ท่าเรือยักษ์เปรู จีนตีท้ายครัวมะกัน . ก่อนการประชุมAPEC Peru2024 จะเริ่มต้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ร่วมกับประธานาธิบดีดินา เอร์ซิเลีย โบลัวร์เต ผู้นำเปรู ได้ทำพิธีเปิดท่าเรือชานไค (Chancay) ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ "1 แถบ 1 เส้นทาง" ที่จะเปลี่ยนให้เปรูเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของอเมริกาใต้ และทำให้อเมริกาหวั่นไหวมากถึงอิทธิพลของจีน ซึ่งขยายอิทธิพลมาประชิดหลังบ้านของอเมริกา . ท่าเรือชานไค ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงเปรู คือ กรุงลิมา ไปทางทิศเหนือราวๆ 80 กิโลเมตร มีมูลค่าลงทุนทั้งหมด 3,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 121,000 ล้านบาท เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท Cosco Shipping รัฐวิสาหกิจของจีน ถือหุ้น 60% และบริษัท Volcan บริษัทเหมืองแร่ของเปรู ถือหุ้นอยู่ 40% โครงการนี้เริ่มสร้างเมื่อ 5 ปีที่แล้ว (ปี 2562) . ท่าเรือนี้ช่วยลดระยะเวลาในการขนส่งจากอเมริกาใต้ไปยังเอเชีย เดิมใช้เวลา 30 วัน ให้เหลือแค่ 20 วัน เส้นทางเดินเรือจากเปรู ตรงไปยังนครเซี่ยงไฮ้ของจีน เป็นท่าเรือแห่งแรกทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของอเมริกาใต้ที่จะรองรับเรือขนาดใหญ่ 60 ฟุต ที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ได้ 24,000 ตู้ คาดว่าในอนาคตจะมีการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 100 ล้านตู้ต่อปี คาดว่าจะมีรายได้สูงถึงปีละ 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นตั้ง 1.8% ของ GDP ของประเทศเปรู และสามารถสร้างงานได้ถึง 8 พันกว่าตำแหน่ง . ทีนี้คำถามมีอยู่ว่า ทำไมอเมริกาถึงมีความหวั่นไหวมากกับท่าเรือชานไค สิ่งที่น่าสนใจคือ ท่าเรือชานไคไม่ใช่แค่ท่าเรือ แต่เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งแรกของจีนในลาตินอเมริกา เป็นฐานที่มั่นทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง ทำให้จีนสามารถควบคุมเส้นทางนำเข้า-ส่งออกในอเมริกาใต้ ในฝั่งแปซิฟิก จนอเมริกาถึงกับหวั่นไหวที่จีนได้ขยายอิทธิพลมายังลาตินอเมริกา ซึ่งเป็นหลังบ้านของอเมริกานั่นเอง . ประเด็น ณ วันนี้ จีนไม่เพียงสามารถเข้าสู่แหล่งทรัพยากรและแร่ธาตุต่างๆ ในลาตินอเมริกาเท่านั้น จีนยังสามารถจะควบคุมเส้นทางคมนาคม โลจิสติกส์ ได้ด้วย ลึกซึ้งไหม แล้วถ้าเราต่อภาพกับเส้นทางในยุโรปที่บริษัทจีนได้ถือหุ้นใหญ่ในท่าเรือไพรีอัสในประเทศกรีก ท่าเรือวาเลนเซียในสเปน รวมทั้งท่าเรือในเมืองฮัมบูร์ก เยอรมนี และเมืองร็อตเตอร์ดัม ในเนเธอร์แลนด์ รวมทั้งท่าเรือในศรีลังกา กัมพูชา รถไฟความเร็วสูงในลาว จะเห็นว่ายุทธศาสตร์แถบเส้นทางของจีนได้ครอบคลุมการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ได้มากกว่าครึ่งโลก เพราะทั่วโลกจีนเข้าไปเป็นหุ้นส่วนของท่าเรือสำคัญนี้ ทั่วโลกแล้วกว่า 160 แห่ง ยิ่งเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" ทอดทิ้งพันธมิตรชาติต่างๆ ด้วยแล้ว บทบาทของจีนในสวนหลังบ้านของอเมริกาอย่างลาตินอเมริกายิ่งมากขึ้น . อเมริกาทุกวันนี้หวังว่าจะใช้สงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี ด้วยการขึ้นภาษี การแซงก์ชัน การกีดกันทางการค้าต่างๆ นานาเพื่อปิดล้อมจีน แต่เราต้องไม่ลืมมองด้วยว่า วันนี้แม้แต่หลังบ้านของตัวเอง ก็ยังถูกจีนปิดล้อมทั้งทางด้านทรัพยากรและเส้นทางคมนาคม และโลจิสติกส์ ไว้เกือบทั้งหมดด้วยแล้วครับ
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปมากกว่า ๒๖๐ นาย เมื่อวันที่ผ่านมาในพื้นที่เคิร์สค์, กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าว TASS ได้รวบรวมข้อมูลการพัฒนาที่สำคัญในภูมิภาคเคิร์สค์ไว้ดังนี้:
    .
    Ukrainian forces lost more than 260 servicemen over the past day in the Kursk area, the Russian Defense Ministry said. TASS has put together the main developments in the Kursk Region:
    https://tass.com/politics/1876905
    .
    9:57 PM · Nov 24, 2024 · 2,453 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1860699326428631530
    กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปมากกว่า ๒๖๐ นาย เมื่อวันที่ผ่านมาในพื้นที่เคิร์สค์, กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าว TASS ได้รวบรวมข้อมูลการพัฒนาที่สำคัญในภูมิภาคเคิร์สค์ไว้ดังนี้: . Ukrainian forces lost more than 260 servicemen over the past day in the Kursk area, the Russian Defense Ministry said. TASS has put together the main developments in the Kursk Region: https://tass.com/politics/1876905 . 9:57 PM · Nov 24, 2024 · 2,453 Views https://x.com/tassagency_en/status/1860699326428631530
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • การส่งอาวุธให้ยูเครนของเกาหลีใต้จะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างโซลและมอสโกว์อย่างสิ้นเชิง, รัสเซียจะตอบโต้พวกเขาในทุกวิถีทางที่จำเป็น, รองรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย อันเดรย์ รูเดนโก กล่าวกับ TASS:
    .
    South Korea's arms supplies to Ukraine will completely destroy relations between Seoul and Moscow, Russia will respond to them in every necessary way, Deputy Foreign Minister of the Russian Federation Andrey Rudenko told TASS:
    https://tass.com/politics/1876855
    .
    5:02 PM · Nov 24, 2024 · 6,089 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1860625007396651505
    การส่งอาวุธให้ยูเครนของเกาหลีใต้จะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างโซลและมอสโกว์อย่างสิ้นเชิง, รัสเซียจะตอบโต้พวกเขาในทุกวิถีทางที่จำเป็น, รองรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย อันเดรย์ รูเดนโก กล่าวกับ TASS: . South Korea's arms supplies to Ukraine will completely destroy relations between Seoul and Moscow, Russia will respond to them in every necessary way, Deputy Foreign Minister of the Russian Federation Andrey Rudenko told TASS: https://tass.com/politics/1876855 . 5:02 PM · Nov 24, 2024 · 6,089 Views https://x.com/tassagency_en/status/1860625007396651505
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • กำลังอยู่ในภาวะสงครามลูกผสมกับนาโต้, รัสเซียผลิตอาวุธส่วนใหญ่เอง, แม้ว่าจะรักษาความร่วมมือกับหลายประเทศไว้ก็ตาม, ดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย กล่าว:
    .
    Being in a state of a hybrid war with NATO, Russia manufactures most of its weapons itself, although it maintains cooperation with a number of countries, Deputy Chairman of Russia’s Security Council Dmitry Medvedev said:
    https://tass.com/politics/1876777
    .
    5:24 AM · Nov 24, 2024 · 4,386 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1860449420724093233
    กำลังอยู่ในภาวะสงครามลูกผสมกับนาโต้, รัสเซียผลิตอาวุธส่วนใหญ่เอง, แม้ว่าจะรักษาความร่วมมือกับหลายประเทศไว้ก็ตาม, ดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย กล่าว: . Being in a state of a hybrid war with NATO, Russia manufactures most of its weapons itself, although it maintains cooperation with a number of countries, Deputy Chairman of Russia’s Security Council Dmitry Medvedev said: https://tass.com/politics/1876777 . 5:24 AM · Nov 24, 2024 · 4,386 Views https://x.com/tassagency_en/status/1860449420724093233
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • Philosophy means ”Love of Wisdom“จะ “มู” ทั้งที … ต้อง “มีความรู้” หน่อย 🦉🦉🦉—————————————————————————เป็น Common Interest แบบที่ต้องมี “ประสบการณ์ร่วม” ถึงจะคุยกันรู้เรื่องเข้าใจเลยว่าทำไม “ขงเบ้ง” ถึงต้องไปอยู่ที่ ”โงลังกั๋ง“—————————————————————————ฟังคลิปแล้วรู้สึก … เอ๊ะ!! อ้าว!! พูดคนเดียวอ่อ <<< พูดคนเดียวเป็นปกติธุระ >>>——————————————————————————ฉบับเต็ม 12.34 นาที อยู่ใน YT : Bliss Academy นะคะ——————————————————————————
    Philosophy means ”Love of Wisdom“จะ “มู” ทั้งที … ต้อง “มีความรู้” หน่อย 🦉🦉🦉—————————————————————————เป็น Common Interest แบบที่ต้องมี “ประสบการณ์ร่วม” ถึงจะคุยกันรู้เรื่องเข้าใจเลยว่าทำไม “ขงเบ้ง” ถึงต้องไปอยู่ที่ ”โงลังกั๋ง“—————————————————————————ฟังคลิปแล้วรู้สึก … เอ๊ะ!! อ้าว!! พูดคนเดียวอ่อ <<< พูดคนเดียวเป็นปกติธุระ >>>——————————————————————————ฉบับเต็ม 12.34 นาที อยู่ใน YT : Bliss Academy นะคะ——————————————————————————
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • 🇺🇸🇨🇳บทความใหม่: นโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ กับจีนยังคงดำเนินต่อไปภายใต้การนำของทรัมป์. "รัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่พร้อมที่จะดำเนินนโยบายต่อจากที่รัฐบาลไบเดนทิ้งเอาไว้ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่ยาวนานหลายทศวรรษ นั่นก็คือ การปิดล้อมและจำกัดจีน , ซึ่งรวมถึงการสร้างกำลังทหารสหรัฐฯ อย่างเข้มข้นทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก การยั่วยุในมณฑลไต้หวัน และการแทรกแซงอย่างต่อเนื่องในประเทศต่างๆ ตามแนวชายแดนของจีน&quot; . ➡️ READ HERE (goes to Telegram post ) https://t.me/brianlovethailand/3475
    🇺🇸🇨🇳บทความใหม่: นโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ กับจีนยังคงดำเนินต่อไปภายใต้การนำของทรัมป์. "รัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่พร้อมที่จะดำเนินนโยบายต่อจากที่รัฐบาลไบเดนทิ้งเอาไว้ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่ยาวนานหลายทศวรรษ นั่นก็คือ การปิดล้อมและจำกัดจีน , ซึ่งรวมถึงการสร้างกำลังทหารสหรัฐฯ อย่างเข้มข้นทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก การยั่วยุในมณฑลไต้หวัน และการแทรกแซงอย่างต่อเนื่องในประเทศต่างๆ ตามแนวชายแดนของจีน&quot; . ➡️ READ HERE (goes to Telegram post ) https://t.me/brianlovethailand/3475
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/live/pc9CDJSpINA?si=-OsawjitEHwM0Jh3
    https://www.youtube.com/live/pc9CDJSpINA?si=-OsawjitEHwM0Jh3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านอาหาร(เด็ด)ในเชียงใหม่

    (สำหรับ พาเพื่อนๆ..ไปเลี้ยงรับรอง)ฉันไม่กินเนื้อสัตว์
    แต่เพื่อนๆต่างชาติชอบบิน มาเยี่ยม จึงต้องมีข้อมูลให้คนขับรถ พาพวกเขาไปเลี้ยงรับรอง-ฉันไม่ค่อยไป..จะอ๊วก
    หรือ ใครอยากกินอะไร? ฉันสั่งให้เด็กขี่รถเครื่อง ออกไปซื้อ(ตามเวลา)แล้วมาจัดใส่จาน ขาม พร้อมเสริฟ

    ตลาดประตูเชียงใหม่ (03.00-11.00 และ 15.00-24.00)
    -โจ๊กนายโอ๋(03.00-09.00น.)-สภากาแฟ ป้าเล็ก ขายขนมปัง ไข่ลวก ชา-กาแฟโบราณ -อาหารเหนือ ร้านป้าน้อย
    ยำหนัง น้ำพริกขนุน *น้ำพริกคั่วโฮะ* น้ำพริกมะเขือยาว -ร้านหมูปิ้งใบเฟิร์น หมูทอดขั้นเทพ ไม้ละ12* ลาบ -ร้านใบตองอาหารเหนือ น้ำพริกหนุ่ม* -ร้านหน่อยข้าวเหนียว
    -ร้านน้ำผลไม้ปั่นSMOOTHiES -ร้านไส้อั่วช่อเอื้อง+น้ำพริกตาแดง -ร้านป้าคำ แค๊บหมู หมูกระจก สามชั้นกรอบ น้ำพริกหนุ่ม -ขนมไทยนิตยา ขนมถ้วยใบเตย เปียกปูนใบเตย

    กาดต้นลำไย ร้านโกเหน่ง ปาท่องโก๋+สังขยา
    (เป็น ปาท่องโก๋ รูปมังกร40 ช้าง20ก๊อตซิลล่า20

    ADIRAK PIZZA เป็นพิซซ่าแป้งหมัก Sourdough
    วัตถุดิบต่างๆ Home Made เช่น Sauce,
    Mossarella Cheese, Burrata Cheese
    -แนะนำ Pasta-Pesto Pizza 365บาท แป้งเหนียวหนึบ
    แบบขนมปัง ชีสรสเข้มข้น ครบทุกรส หวานจากBalsemic เปรี้ยว..นิดๆจาก Rocotta Cheese เข้ากับความหวานจาก
    มะเขือเทศตากแห้ง เป็นรสนัวๆเข้าถึงกลิ่นหอมจากเพสโต้

    ร้านเค็กเปี่ยมสุข แนะนำ พายมะพร้าว 125 บาท/ชิ้น
    อร่อยที่สุดในโลก

    ก๊วยจั๊บรินลองกอย (หลัง ม.ช.)เปิด 6โมงเช้า-สายๆ
    ชามใหญ่ หน้าตาดี กรอบหอม+อร่อยสุด 40 บาท

    ร้านลาบพันแหวน ลาบหมู-ไก่ ไส้อั่ว แคปหมู ไข่เจียว
    น้ำพริกหนุ่ม หมูแดดเดียว อ่องปู โคตรอร่อย

    ร้านก่องข้าวเมือง
    ไก่นึ่งสมุนไพร และไส้อั่ว(ต้องจองล่วงหน้า 2วัน)
    แกงเห็ดถอบ 250 ปูอ่อง 100 จิ้นส้มหมก 50
    ตำกะท้อนน้ำปู๋ (แซ่บ)80 น้ำพริกก่องข้าวเมือง150

    THE JOURSEY (หลัง ม.ช.)นมไขมันสูง
    ไอติม 60-100 บาท
    โยเกิร์ตบิสคอฟ 70 บาท

    หมี่เกี๊ยว เตี๊ยว ป๊อก ป๊อก (STAR AVENUE-5 หางดง)
    โทร 097 956 9542

    ป้าหลง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อไส้ รถเข็นตรงข้ามรพ.เชียงใหม่-ราม
    หยุดอาทิตย์ 8.30-14.30น. เด็ดที่เอ็นตุ๋นชิ้นใหญ่ๆ ไส้เปื่อย

    มาม่าฟ้าธานี แซ่บ..สุดๆ (บ่าย3-ตีหนึ่ง)

    Khao SO-i หัวถนนฟ้าฮ่าม-ด้านซุปเปอร์
    ช้าวซอยฟิวชั่นสไตล์ญี่ปุ่น เส้นสด ปรุงสด จานต่อจาน
    เน้นคุณภาพวัตถุดิบ เนื้อวากิว ไก่ ไข่กุ้งล๊อบสเตอร์
    (599 บาท)อร่อยมาก-ไม่เผ็ด

    ร้านข้าวซอยแม่สาย(ป้านะ) ซ.ราชพฤกษ์ ถ.ห้วยแก้ว
    MICHELIN PLATE 2021 2022 ข้าวซอยหมู เนื้อ และน่องไก่
    รสชาติน้ำแกงเครื่องเทศแบบเข้มข้น เผ็ดอร่อย กะทิไม่มัน

    ข้าวซอยลุงประกิตกาดก้อม(NetFlix)น้ำรสเข้มข้น(มาก)
    เผ็ดกว่าทุกร้าน เส้นแข็งกรุบกรอบ
    มีข้าวมันไก่ด้วย

    ข้าวซอยน้องฟลุ๊ค+ไส้อั่วดำรงค์ นิมมาน-17
    แปลก เพราะ เป็นข้าวซอย(ผัดแห้ง)ไส้อั่ว เส้นจะมีรสเข้มข้น

    ขนมจีนสันป่าข่อย ตลาดทองคำ ขายเย็น-ดึก
    MICHELIN 2020 2021 2022 2023 2024
    มิชลิน 5 ปีซ้อน แต่ขายในราคาถูก 30บาท
    จุดเด่นที่น้ำพริกแกงรสกลมกล่อม เน้นเผ็ด-เผ็ดมาก
    น้ำเงี้ยว น้ำยากะทิ(ใส่ไข่) แกงเขียวหวานไก่
    แกงเผ็ดหมู-เนื้อ และ ข้าวซอยไก่ (หยุดวันอาทิตย์)

    สุกี้ช้างเผือก คิวยาวเป็นพิเศษ (17.00-00.00น.)
    ***จองคิวล่วงหน้า ผ่านแอ๊ปฯ QueQ ได้นะ***
    เด็ดสุด ตือ สุกี้แห้งเนื้อผัดจนมีกลิ่นกระทะติดมาด้วย แต่
    ผักยังคงความกรอบอร่อยอยู่ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของสุกี้ช้างเผือก
    หมู ปลา และมังสวิรัติก็มี เด็ดที่น้ำจิ้มที่เข้ากันดี

    ไก่ทอดเที่ยงคืน เปิดเย็นๆ-รุ่งสาง ถนนกำแพงดิน
    ไก่ทอด หมูสามชั้น ข้าวเหนียว ไข่ต้ม ++น้ำพริกหนุ่ม
    ของสดใหม่ ทอดใหม่..ตลอด

    โรตีMICHELIN-ป้าเด ท่าแพซอย4(หน้าบ้านฉัน)


    ร้านผัดไทยไออุ่น ต.หนองควาย อ.หางดง
    ผัดไทย-ผัดซีอิ๊ว-ข้าวผัด(กุ้ง,หมู,ไก่)
    เด็ดที่น้ำซอสปรุงรสผัดไทย น้ำพริกเผา-พริกแห้ง
    สีเข้ม เทคนิคการตอกไข่ใส่เป็นแผ่นคล้ายผัดไทยห่อไข่
    ผัดไทย 50 บาท ผัดซีอิ๊ว 40 บาท ข้าวผัด 55 บาท

    ร้านเชฟนนท์ ข้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ
    สวนอาหารตามสั่ง จัดเต็มทุกเมนู( 10.00-17.00น.)
    ข้าวผัดแหนม 65 ปู กุ้ง 75 บาท ไข่เจียวปู 150
    ต้มยำกุ้ง 180 ข้าวหมูผัดน้ำมันหอย 65
    ทะเลคั่วพริกเกลือ 150

    ก๋วยเตี๋ยวเครื่องล้น ธนาโอชา ถนนราชวงศ์ ช้างม่อย
    MICHELIN 2020 2021 2022 (7โมงเช้า-5โมงเย็น)
    ก๋วยเตี๋ยวแคะ เย็นตาโฟ เกี้ยมอี๋ ก๋วยเตี๋ยวหลอด
    ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา ลวกจิ้ม บ๊ะจ่าง ลูกชิ้นเกี๊ยวปลา
    ปลาเส้นฮื่อก๊วย เต้่าหู้ยัดไส้ลูกชิ้นหมูสับ ลูกชิ้นแคะ
    เลือดหมู ปลาหมึกกรอบ เกี๊ยวทอด ป่อเปียะปู
    ป่อเปี๊ยะสด เกี๊ยวหมูน้ำ เกี๊ยวปลาน้ำ เกี๊ยวกุ้งน้ำ
    ข้าวหมูกรอบ

    ก่อนนอน..ฉันมักจะพาเพื่อนๆ ไปเดินเล่น ที่ กาดหน้ามอ
    เดินชมตลาด เพื่อย่อยอาหาร และ ในกาดมีของกินอีกเยอะ
    แต่...เด็ดที่สุด คือ ไอติม SOFT SERVE รสช๊อคโกแล๊ต
    กินไอติมเสร็จ..ส่งเพื่อนๆ เข้าบ้านนอน

    ส่วนฉัน เดินไปนอน คอนโด(ส่วนตัว)ใกล้ๆบ้าน.
    ร้านอาหาร(เด็ด)ในเชียงใหม่ (สำหรับ พาเพื่อนๆ..ไปเลี้ยงรับรอง)ฉันไม่กินเนื้อสัตว์ แต่เพื่อนๆต่างชาติชอบบิน มาเยี่ยม จึงต้องมีข้อมูลให้คนขับรถ พาพวกเขาไปเลี้ยงรับรอง-ฉันไม่ค่อยไป..จะอ๊วก หรือ ใครอยากกินอะไร? ฉันสั่งให้เด็กขี่รถเครื่อง ออกไปซื้อ(ตามเวลา)แล้วมาจัดใส่จาน ขาม พร้อมเสริฟ ตลาดประตูเชียงใหม่ (03.00-11.00 และ 15.00-24.00) -โจ๊กนายโอ๋(03.00-09.00น.)-สภากาแฟ ป้าเล็ก ขายขนมปัง ไข่ลวก ชา-กาแฟโบราณ -อาหารเหนือ ร้านป้าน้อย ยำหนัง น้ำพริกขนุน *น้ำพริกคั่วโฮะ* น้ำพริกมะเขือยาว -ร้านหมูปิ้งใบเฟิร์น หมูทอดขั้นเทพ ไม้ละ12* ลาบ -ร้านใบตองอาหารเหนือ น้ำพริกหนุ่ม* -ร้านหน่อยข้าวเหนียว -ร้านน้ำผลไม้ปั่นSMOOTHiES -ร้านไส้อั่วช่อเอื้อง+น้ำพริกตาแดง -ร้านป้าคำ แค๊บหมู หมูกระจก สามชั้นกรอบ น้ำพริกหนุ่ม -ขนมไทยนิตยา ขนมถ้วยใบเตย เปียกปูนใบเตย กาดต้นลำไย ร้านโกเหน่ง ปาท่องโก๋+สังขยา (เป็น ปาท่องโก๋ รูปมังกร40 ช้าง20ก๊อตซิลล่า20 ADIRAK PIZZA เป็นพิซซ่าแป้งหมัก Sourdough วัตถุดิบต่างๆ Home Made เช่น Sauce, Mossarella Cheese, Burrata Cheese -แนะนำ Pasta-Pesto Pizza 365บาท แป้งเหนียวหนึบ แบบขนมปัง ชีสรสเข้มข้น ครบทุกรส หวานจากBalsemic เปรี้ยว..นิดๆจาก Rocotta Cheese เข้ากับความหวานจาก มะเขือเทศตากแห้ง เป็นรสนัวๆเข้าถึงกลิ่นหอมจากเพสโต้ ร้านเค็กเปี่ยมสุข แนะนำ พายมะพร้าว 125 บาท/ชิ้น อร่อยที่สุดในโลก ก๊วยจั๊บรินลองกอย (หลัง ม.ช.)เปิด 6โมงเช้า-สายๆ ชามใหญ่ หน้าตาดี กรอบหอม+อร่อยสุด 40 บาท ร้านลาบพันแหวน ลาบหมู-ไก่ ไส้อั่ว แคปหมู ไข่เจียว น้ำพริกหนุ่ม หมูแดดเดียว อ่องปู โคตรอร่อย ร้านก่องข้าวเมือง ไก่นึ่งสมุนไพร และไส้อั่ว(ต้องจองล่วงหน้า 2วัน) แกงเห็ดถอบ 250 ปูอ่อง 100 จิ้นส้มหมก 50 ตำกะท้อนน้ำปู๋ (แซ่บ)80 น้ำพริกก่องข้าวเมือง150 THE JOURSEY (หลัง ม.ช.)นมไขมันสูง ไอติม 60-100 บาท โยเกิร์ตบิสคอฟ 70 บาท หมี่เกี๊ยว เตี๊ยว ป๊อก ป๊อก (STAR AVENUE-5 หางดง) โทร 097 956 9542 ป้าหลง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อไส้ รถเข็นตรงข้ามรพ.เชียงใหม่-ราม หยุดอาทิตย์ 8.30-14.30น. เด็ดที่เอ็นตุ๋นชิ้นใหญ่ๆ ไส้เปื่อย มาม่าฟ้าธานี แซ่บ..สุดๆ (บ่าย3-ตีหนึ่ง) Khao SO-i หัวถนนฟ้าฮ่าม-ด้านซุปเปอร์ ช้าวซอยฟิวชั่นสไตล์ญี่ปุ่น เส้นสด ปรุงสด จานต่อจาน เน้นคุณภาพวัตถุดิบ เนื้อวากิว ไก่ ไข่กุ้งล๊อบสเตอร์ (599 บาท)อร่อยมาก-ไม่เผ็ด ร้านข้าวซอยแม่สาย(ป้านะ) ซ.ราชพฤกษ์ ถ.ห้วยแก้ว MICHELIN PLATE 2021 2022 ข้าวซอยหมู เนื้อ และน่องไก่ รสชาติน้ำแกงเครื่องเทศแบบเข้มข้น เผ็ดอร่อย กะทิไม่มัน ข้าวซอยลุงประกิตกาดก้อม(NetFlix)น้ำรสเข้มข้น(มาก) เผ็ดกว่าทุกร้าน เส้นแข็งกรุบกรอบ มีข้าวมันไก่ด้วย ข้าวซอยน้องฟลุ๊ค+ไส้อั่วดำรงค์ นิมมาน-17 แปลก เพราะ เป็นข้าวซอย(ผัดแห้ง)ไส้อั่ว เส้นจะมีรสเข้มข้น ขนมจีนสันป่าข่อย ตลาดทองคำ ขายเย็น-ดึก MICHELIN 2020 2021 2022 2023 2024 มิชลิน 5 ปีซ้อน แต่ขายในราคาถูก 30บาท จุดเด่นที่น้ำพริกแกงรสกลมกล่อม เน้นเผ็ด-เผ็ดมาก น้ำเงี้ยว น้ำยากะทิ(ใส่ไข่) แกงเขียวหวานไก่ แกงเผ็ดหมู-เนื้อ และ ข้าวซอยไก่ (หยุดวันอาทิตย์) สุกี้ช้างเผือก คิวยาวเป็นพิเศษ (17.00-00.00น.) ***จองคิวล่วงหน้า ผ่านแอ๊ปฯ QueQ ได้นะ*** เด็ดสุด ตือ สุกี้แห้งเนื้อผัดจนมีกลิ่นกระทะติดมาด้วย แต่ ผักยังคงความกรอบอร่อยอยู่ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของสุกี้ช้างเผือก หมู ปลา และมังสวิรัติก็มี เด็ดที่น้ำจิ้มที่เข้ากันดี ไก่ทอดเที่ยงคืน เปิดเย็นๆ-รุ่งสาง ถนนกำแพงดิน ไก่ทอด หมูสามชั้น ข้าวเหนียว ไข่ต้ม ++น้ำพริกหนุ่ม ของสดใหม่ ทอดใหม่..ตลอด โรตีMICHELIN-ป้าเด ท่าแพซอย4(หน้าบ้านฉัน) ร้านผัดไทยไออุ่น ต.หนองควาย อ.หางดง ผัดไทย-ผัดซีอิ๊ว-ข้าวผัด(กุ้ง,หมู,ไก่) เด็ดที่น้ำซอสปรุงรสผัดไทย น้ำพริกเผา-พริกแห้ง สีเข้ม เทคนิคการตอกไข่ใส่เป็นแผ่นคล้ายผัดไทยห่อไข่ ผัดไทย 50 บาท ผัดซีอิ๊ว 40 บาท ข้าวผัด 55 บาท ร้านเชฟนนท์ ข้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ สวนอาหารตามสั่ง จัดเต็มทุกเมนู( 10.00-17.00น.) ข้าวผัดแหนม 65 ปู กุ้ง 75 บาท ไข่เจียวปู 150 ต้มยำกุ้ง 180 ข้าวหมูผัดน้ำมันหอย 65 ทะเลคั่วพริกเกลือ 150 ก๋วยเตี๋ยวเครื่องล้น ธนาโอชา ถนนราชวงศ์ ช้างม่อย MICHELIN 2020 2021 2022 (7โมงเช้า-5โมงเย็น) ก๋วยเตี๋ยวแคะ เย็นตาโฟ เกี้ยมอี๋ ก๋วยเตี๋ยวหลอด ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา ลวกจิ้ม บ๊ะจ่าง ลูกชิ้นเกี๊ยวปลา ปลาเส้นฮื่อก๊วย เต้่าหู้ยัดไส้ลูกชิ้นหมูสับ ลูกชิ้นแคะ เลือดหมู ปลาหมึกกรอบ เกี๊ยวทอด ป่อเปียะปู ป่อเปี๊ยะสด เกี๊ยวหมูน้ำ เกี๊ยวปลาน้ำ เกี๊ยวกุ้งน้ำ ข้าวหมูกรอบ ก่อนนอน..ฉันมักจะพาเพื่อนๆ ไปเดินเล่น ที่ กาดหน้ามอ เดินชมตลาด เพื่อย่อยอาหาร และ ในกาดมีของกินอีกเยอะ แต่...เด็ดที่สุด คือ ไอติม SOFT SERVE รสช๊อคโกแล๊ต กินไอติมเสร็จ..ส่งเพื่อนๆ เข้าบ้านนอน ส่วนฉัน เดินไปนอน คอนโด(ส่วนตัว)ใกล้ๆบ้าน.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความผูกพันกับพี่ๆ น้องๆ พิธีกรเวที #ความจริงมีหนึ่งเดียว คุยทุกเรื่องกับสนธิ และ #Thaitimes #ammsarosha #แอ้มสโรชา
    ความผูกพันกับพี่ๆ น้องๆ พิธีกรเวที #ความจริงมีหนึ่งเดียว คุยทุกเรื่องกับสนธิ และ #Thaitimes #ammsarosha #แอ้มสโรชา
    Love
    Like
    17
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่อิสราเอลขอให้เนทันยาฮูผ่อนปรนจุดยืนเกี่ยวกับข้อตกลงกับกลุ่มฮามาส แต่เขาปฏิเสธ สิ่งนี้ยืนยันได้อย่างดีว่า เนทันยาฮู "ไม่สนใจชีวิตตัวประกัน" มากเท่ากับการทำลายฮามาส

    สำนักข่าว Axios รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่อิสราเอล 2 รายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า หัวหน้ากองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล มอสสาด และชินเบต พยายามโน้มน้าวให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผ่อนปรนจุดยืนเกี่ยวกับข้อตกลงกับกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ โดยทั้งสองกล่าวว่าหากรัฐบาลอิสราเอลสนใจข้อตกลง ก็ควรผ่อนปรนจุดยืนปัจจุบัน "แต่เนทันยาฮูปฏิเสธที่จะยุติสงครามเพื่อแลกกับข้อตกลงปล่อยตัวตัวประกัน"
    เนทันยาฮูให้เหตุผลสำหรับจุดยืนของตนว่า "ข้อตกลงดังกล่าวกับกลุ่มฮามาสจะช่วยให้กลุ่มฮามาสสามารถดำรงอยู่ต่อไปได้"

    เนทันยาฮูยึดมั่นในการทำลายล้างกลุ่มฮามาสเป็นเป้าหมายแรกมาตลอด และตัวเขาเองก็ประกาศออกมาชัดเจนตลอดเวลา ว่านี่เป็นเป้าหมายสำคัญที่สุด สิ่งนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า เนทันยาฮูไม่ได้มีความจริงใจช่วยเหลือตัวประกัน ในขณะที่ชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์จะเสียชีวิตจำนวนเท่าไหร่ ย่อมไม่อยู่ในความสนใจของเนทันยาฮูด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นประเทศใดก็ตามที่ร่วมมือกับเนทันยาฮู สมควรถูกออกหมายจับในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติเช่นเดียวกับเนทันยาฮูด้วยเช่นกัน!
    เจ้าหน้าที่อิสราเอลขอให้เนทันยาฮูผ่อนปรนจุดยืนเกี่ยวกับข้อตกลงกับกลุ่มฮามาส แต่เขาปฏิเสธ สิ่งนี้ยืนยันได้อย่างดีว่า เนทันยาฮู "ไม่สนใจชีวิตตัวประกัน" มากเท่ากับการทำลายฮามาส สำนักข่าว Axios รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่อิสราเอล 2 รายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า หัวหน้ากองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล มอสสาด และชินเบต พยายามโน้มน้าวให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผ่อนปรนจุดยืนเกี่ยวกับข้อตกลงกับกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ โดยทั้งสองกล่าวว่าหากรัฐบาลอิสราเอลสนใจข้อตกลง ก็ควรผ่อนปรนจุดยืนปัจจุบัน "แต่เนทันยาฮูปฏิเสธที่จะยุติสงครามเพื่อแลกกับข้อตกลงปล่อยตัวตัวประกัน" เนทันยาฮูให้เหตุผลสำหรับจุดยืนของตนว่า "ข้อตกลงดังกล่าวกับกลุ่มฮามาสจะช่วยให้กลุ่มฮามาสสามารถดำรงอยู่ต่อไปได้" เนทันยาฮูยึดมั่นในการทำลายล้างกลุ่มฮามาสเป็นเป้าหมายแรกมาตลอด และตัวเขาเองก็ประกาศออกมาชัดเจนตลอดเวลา ว่านี่เป็นเป้าหมายสำคัญที่สุด สิ่งนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า เนทันยาฮูไม่ได้มีความจริงใจช่วยเหลือตัวประกัน ในขณะที่ชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์จะเสียชีวิตจำนวนเท่าไหร่ ย่อมไม่อยู่ในความสนใจของเนทันยาฮูด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นประเทศใดก็ตามที่ร่วมมือกับเนทันยาฮู สมควรถูกออกหมายจับในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติเช่นเดียวกับเนทันยาฮูด้วยเช่นกัน!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇬🇧 สหราชอาณาจักรยังคงจับกุมผู้คนที่โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ซึ่งรัฐบาลเห็นว่าเป็น "สิ่งที่น่ารังเกียจ"

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว, นายกรัฐมนตรีอังกฤษ คีร์ สตาร์เมอร์ กล่าวกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนว่า 🤣เขารู้สึก "กังวล" เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ถูกกล่าวหาในจีน🤣
    .
    🇬🇧 United Kingdom continues to arrest people for Facebook post deemed "hateful" by the government.

    Last week, UK Prime Minister Keir Starmer told Chinese President Xi Jinping that he was "concerned" about alleged human rights violations in China.
    .
    12:48 PM · Nov 24, 2024 · 36.2K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1860561119233933381
    🇬🇧 สหราชอาณาจักรยังคงจับกุมผู้คนที่โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ซึ่งรัฐบาลเห็นว่าเป็น "สิ่งที่น่ารังเกียจ" เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว, นายกรัฐมนตรีอังกฤษ คีร์ สตาร์เมอร์ กล่าวกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนว่า 🤣เขารู้สึก "กังวล" เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ถูกกล่าวหาในจีน🤣 . 🇬🇧 United Kingdom continues to arrest people for Facebook post deemed "hateful" by the government. Last week, UK Prime Minister Keir Starmer told Chinese President Xi Jinping that he was "concerned" about alleged human rights violations in China. . 12:48 PM · Nov 24, 2024 · 36.2K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1860561119233933381
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 618 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • What’s In A Name: The Laws That Apply When Naming Your Baby

    Can you really name your baby that?!

    Picking a baby name that everyone (from grandma to the grocery clerk) likes can be a fruitless, futile endeavor. Coming up with one that confounds the whole world is seemingly a lot easier. Take Elon Musk, chief of Tesla and SpaceX, and singer Grimes, who recently announced the birth of their daughter, Exa Dark Sideræl, or “Y” for short. The “Y” makes more sense when you know that their older son is named X Æ A-12. (Yes, we’re talking about their human son, not the name of a new car or spacecraft.)

    Sometimes, parents decide a name change is in order—like when celebrity couple Kylie Jenner and Travis Scott announced that they were going to change their son’s name from Wolf to one that better suits him. In other cases, though, a name change is not a matter of preference but of legality.

    Is a baby name with numbers and symbols legal?

    Call it peculiar, perplexing, or sensationalistic, but one thing you may not be able to call X Æ A-12 is … legal. When it comes to baby names, the fact is parents don’t always have free rein to choose any name they like. There are laws that limit their choices. These laws vary by state, and they’re arbitrary at best, but they are laws that appear in the books. While some states have strict laws that prohibit obscenities, numbers, and names that are too long, other states have no restrictions.

    Take laid-back California, which isn’t so laid back when it comes to baby names. In fact, the state won’t even allow accent marks and other diacritical marks in names like José. This restriction originated in 1986, when Proposition 63 established English as the California’s official language. Names must only contain “the 26 alphabetical characters of the English language with appropriate punctuation if necessary.” And guess where little X Æ A-12 was born? That’s right: the Golden State.

    It seems that for now, a California birth certificate can be completed with single dashes in the spaces for first, middle, and last names, and a legal name can be added later, which is exactly what Elon and Grimes have done for their son.

    Will he ever need a legal name? Not necessarily. He won’t be arrested for not having one, but he will need one if he wants to obtain a Social Security number, passport, or driver’s license. His parents could consider tweaking his name a bit to make the legal cut, perhaps by spelling out some of the characters as David and Victoria Beckham did with their daughter, Harper Seven.

    Why are there laws about baby names?

    Not only are baby name laws inconsistent across the country, but if they are meant to protect children from controversial or embarrassing names, they often miss the boat. For example, in a well-publicized New Jersey case, a couple named their son Adolf Hitler Campbell, which is somehow permissible under the state’s law. The law bans names that contain “obscenity, numerals, symbols, or a combination of letters, numerals, or symbols…”, but naming a child after a mass murderer is A-OK.

    In most cases, the United States is pretty relaxed about what you can name your child when it comes to the stigma or meaning a name may carry.

    However there are some really bizarre cases where baby names have not been allowed in the good ol’ US. For example, in 2013, a Tennessee judge ordered that a baby’s name be changed to Martin instead of Messiah. Her reasoning: “The word Messiah is a title and it’s a title that has only been earned by one person and that one person is Jesus Christ.” That reasoning was later overturned, however, and the baby’s name was changed back to Messiah.

    And in Georgia, a couple eventually won a legal battle to give their daughter the surname Allah. The court’s original objection to the name wasn’t any implied meaning, but rather that neither parent had that last name. Plus we don’t have to look far for celebrities who chose rather unusual baby names that have gone unchallenged. Penn Jillette named his child Moxie CrimeFighter, and Nicolas Cage chose Kal-El Coppola, to name a few—all of those passed the legal test.

    Whether or not naming moderation is the government’s business is up for debate. Usually, states challenge names for reasons of practicality; for example, a record-keeping software may only allow a certain number of characters or not allow numerical digits. In Arkansas, you can’t name your child Test, Unk, Void, Baby Boy, Infant, or a handful of other names, because its system won’t accept them. In Hawaii, parents can include symbols in names, but for each one, there has to be at least one number too. In New Hampshire, the baby’s first, middle, and last names can’t exceed 100 characters in total.

    According to constitutional law expert Carlton F.W. Larson (writing in the The George Washington Law Review), baby naming “is a legal universe that has scarcely been mapped, full of strange lacunae, spotty statutory provisions, and patchy, inconsistent caselaw.”

    Are there naming laws in other countries?

    Naming laws around the world vary even more and are often even more stringent than those in the United States.

    In France, for example, parents have been banned from giving their children names that would “lead to a childhood of mockery,” such as Prince William and Mini Cooper. In Germany, a court ruled that a couple couldn’t name their child Stone because “a child cannot identify with it, because it is an object.” Möwe (“seagull”) was rejected as well, because the bird is “a nuisance and is seen as a pest and would therefore degrade the child.” In Denmark, parents must select from a list of pre-approved names, and if they want to use one that’s not on the list, they must get special permission.

    In any case, if you’re planning on having a baby, you may want to check the laws in your locale before you get too attached to a name. Of course, even if your favorite name doesn’t make the grade, nicknames are a whole other, unrestricted territory. Anyone who has ever had a sobriquet like Stinky or Pickle Pop may wish there were some more stringent laws governing them, too.

    Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    What’s In A Name: The Laws That Apply When Naming Your Baby Can you really name your baby that?! Picking a baby name that everyone (from grandma to the grocery clerk) likes can be a fruitless, futile endeavor. Coming up with one that confounds the whole world is seemingly a lot easier. Take Elon Musk, chief of Tesla and SpaceX, and singer Grimes, who recently announced the birth of their daughter, Exa Dark Sideræl, or “Y” for short. The “Y” makes more sense when you know that their older son is named X Æ A-12. (Yes, we’re talking about their human son, not the name of a new car or spacecraft.) Sometimes, parents decide a name change is in order—like when celebrity couple Kylie Jenner and Travis Scott announced that they were going to change their son’s name from Wolf to one that better suits him. In other cases, though, a name change is not a matter of preference but of legality. Is a baby name with numbers and symbols legal? Call it peculiar, perplexing, or sensationalistic, but one thing you may not be able to call X Æ A-12 is … legal. When it comes to baby names, the fact is parents don’t always have free rein to choose any name they like. There are laws that limit their choices. These laws vary by state, and they’re arbitrary at best, but they are laws that appear in the books. While some states have strict laws that prohibit obscenities, numbers, and names that are too long, other states have no restrictions. Take laid-back California, which isn’t so laid back when it comes to baby names. In fact, the state won’t even allow accent marks and other diacritical marks in names like José. This restriction originated in 1986, when Proposition 63 established English as the California’s official language. Names must only contain “the 26 alphabetical characters of the English language with appropriate punctuation if necessary.” And guess where little X Æ A-12 was born? That’s right: the Golden State. It seems that for now, a California birth certificate can be completed with single dashes in the spaces for first, middle, and last names, and a legal name can be added later, which is exactly what Elon and Grimes have done for their son. Will he ever need a legal name? Not necessarily. He won’t be arrested for not having one, but he will need one if he wants to obtain a Social Security number, passport, or driver’s license. His parents could consider tweaking his name a bit to make the legal cut, perhaps by spelling out some of the characters as David and Victoria Beckham did with their daughter, Harper Seven. Why are there laws about baby names? Not only are baby name laws inconsistent across the country, but if they are meant to protect children from controversial or embarrassing names, they often miss the boat. For example, in a well-publicized New Jersey case, a couple named their son Adolf Hitler Campbell, which is somehow permissible under the state’s law. The law bans names that contain “obscenity, numerals, symbols, or a combination of letters, numerals, or symbols…”, but naming a child after a mass murderer is A-OK. In most cases, the United States is pretty relaxed about what you can name your child when it comes to the stigma or meaning a name may carry. However there are some really bizarre cases where baby names have not been allowed in the good ol’ US. For example, in 2013, a Tennessee judge ordered that a baby’s name be changed to Martin instead of Messiah. Her reasoning: “The word Messiah is a title and it’s a title that has only been earned by one person and that one person is Jesus Christ.” That reasoning was later overturned, however, and the baby’s name was changed back to Messiah. And in Georgia, a couple eventually won a legal battle to give their daughter the surname Allah. The court’s original objection to the name wasn’t any implied meaning, but rather that neither parent had that last name. Plus we don’t have to look far for celebrities who chose rather unusual baby names that have gone unchallenged. Penn Jillette named his child Moxie CrimeFighter, and Nicolas Cage chose Kal-El Coppola, to name a few—all of those passed the legal test. Whether or not naming moderation is the government’s business is up for debate. Usually, states challenge names for reasons of practicality; for example, a record-keeping software may only allow a certain number of characters or not allow numerical digits. In Arkansas, you can’t name your child Test, Unk, Void, Baby Boy, Infant, or a handful of other names, because its system won’t accept them. In Hawaii, parents can include symbols in names, but for each one, there has to be at least one number too. In New Hampshire, the baby’s first, middle, and last names can’t exceed 100 characters in total. According to constitutional law expert Carlton F.W. Larson (writing in the The George Washington Law Review), baby naming “is a legal universe that has scarcely been mapped, full of strange lacunae, spotty statutory provisions, and patchy, inconsistent caselaw.” Are there naming laws in other countries? Naming laws around the world vary even more and are often even more stringent than those in the United States. In France, for example, parents have been banned from giving their children names that would “lead to a childhood of mockery,” such as Prince William and Mini Cooper. In Germany, a court ruled that a couple couldn’t name their child Stone because “a child cannot identify with it, because it is an object.” Möwe (“seagull”) was rejected as well, because the bird is “a nuisance and is seen as a pest and would therefore degrade the child.” In Denmark, parents must select from a list of pre-approved names, and if they want to use one that’s not on the list, they must get special permission. In any case, if you’re planning on having a baby, you may want to check the laws in your locale before you get too attached to a name. Of course, even if your favorite name doesn’t make the grade, nicknames are a whole other, unrestricted territory. Anyone who has ever had a sobriquet like Stinky or Pickle Pop may wish there were some more stringent laws governing them, too. Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • Fancy Spring Words To Breathe Life Into Your Budding Vocabulary

    As Leo Tolstoy wrote in the classic Anna Karenina, “spring is the time of plans and projects.” To put it more bluntly, spring is a time of new growth, new experiences, and, in most of the world, temperamental weather. To encourage your personal growth during this season of change, why not try out some of these sophisticated vocabulary terms related to spring?

    verdurous
    Verdurous is an adjective meaning “rich in verdure; freshly green; verdant.” Verdure is a fancy word meaning “greenness, especially of fresh, flourishing vegetation.” The word comes from the Middle French verd, meaning “green.” (The modern French equivalent of this word is vert.)

    vernal
    An adjective that directly relates to the season is vernal, meaning “of or relating to spring.” It is also used figuratively to mean “belonging to or characteristic of youth,” which is just one of many examples of spring being related to new birth or adolescence. Vernal comes from Latin vernālis, meaning “of spring.”

    recrudesce
    Many of the words in this list end in the suffixes -esce, -escent, or -escence, which are used to denote the beginning of an action. This makes sense if you consider the overall theme of spring, which is the beginning of new life or new experiences. One such word is recrudesce, “to break out afresh, as a sore, a disease, or anything else that has been quiescent.” Quiescent is another fancy word that means “being at rest.”

    frondescence
    Another word that describes plants shaking off their winter slumber and waking up to spring is frondescence, “the process or period of putting forth leaves, as a tree, plant, or the like.” The word comes from the Latin frondescēns, “becoming leafy.” If the frond- part of the word looks familiar, that’s probably because the English frond means “an often large, finely divided leaf,” from the Latin frond meaning “branch.”

    effloresce
    Yet another -esce verb on this list is effloresce, “to burst into bloom, blossom.” In chemistry, however, the verb has a specific meaning to describe a surface becoming covered in a “mealy or powdery substance upon exposure to air” or “covered with crystals of salt.” You can imagine it looks like crystals “blooming” on the surface of a substance.

    juvenescence
    The word is a noun meaning “youth or immaturity” or “the act or process of growing from childhood to youth.” The juven- part of the word comes from the Latin for “young.” This is ultimately the same Latin root we see in the more familiar juvenile, meaning “young” or “youthful.”

    renascent
    In the spring, it seems as if everything is renascent after the long, cold winter. Renascent means “being reborn; springing again into being or vigor.” The Latin root of this word can also be seen in the word Renaissance, a term given to the “great revival of art, literature, and learning in Europe beginning in the 14th century and extending to the 17th century,” a time when culture was being reborn after the medieval ages.

    incalescent
    One of the most pleasant aspects of spring is that the weather is incalescent, or “increasing in heat or ardor.” While this term can be used literally to describe something becoming warm, it is also used to describe a growing romance or love, when things are “heating up.”

    provenience
    The spring is a time when new things begin. In other words, it is the provenience of many creatures. Provenience means “origin; source.” The word provenience is primarily used in archaeology to describe the spot where an object is found or originated, to differentiate from provenance, which describes the chain of ownership of an object.

    risorgimento
    A term similar to renascent is risorgimento [ ri-zawr-juh–men-toh ], “any period or instance of rebirth or renewed activity.” When capitalized, it refers to a specific period of Italian history during “the period of or movement for the liberation and unification of Italy, 1750–1870.” As you may have guessed, the word risorgimento comes from Italian for “to rise again.”

    pullulate
    Pullulate is a verb with a variety of meanings, including “to send forth sprouts, buds, etc.; germinate; sprout” and “to exist abundantly; swarm; teem.” In the spring, plants and animals pullulate. The verb pullulate comes from the Latin pullulāre, meaning “to sprout, bring forth young.” Specifically, a pullus in Latin means “chicken,” which is ultimately the root of the French word for chicken, poulet.

    fecundate
    A verb related to pullulate is fecundate, “to make prolific or fruitful.” The word fecund and its verb form fecundate is ultimately related to root fētus, “bringing forth of young.” If that word looks familiar, that’s because it’s at the root of the English fetus, “the young of an animal in the womb or egg.” It’s all about the birth of new life.

    erumpent
    One of the first signs of spring is when the crocuses grow erumpent from the cold, hard earth. Erumpent is an adjective that means “bursting forth.” It is also used particularly to describe fungi or algae “projecting from or bursting through host tissue.” The way that mushrooms pop up on the bark of decomposing trees is a good visualization of the meaning of erumpent.

    burgeon
    Another word that describes the proliferation of new growth that occurs in the spring is burgeon, “to grow or develop quickly; flourish.” Burgeon is generally used as a verb, but it can also be used as a noun to mean “a bud; sprout.” The origin of burgeon is pretty interesting; it ultimately comes from the Latin burra meaning “wool, fluff,” likely a reference to the down covering certain buds in spring.

    redolent
    With all of the new flowers blossoming, trees leafing, and the rain making the world smell of wet dirt, one good word to describe spring is redolent, “having a pleasant odor; fragrant.” This is an adjective that is also used figuratively to mean “suggestive; reminiscent [of].” For example, Her poems are redolent of Keats’s sonnets, or they make one think of Keats’s sonnets.

    hyetal
    Speaking of the general dampness of spring, one good word to describe this weather is hyetal [ hahy-i-tl ], “of or relating to rain or rainfall.” Unlike the majority of the words on this list which have Latin roots, hyetal comes from the Greek hyetós, which means “rain.” This is why the study of rainfall is technically known as hyetography or hyetology.

    salubrious
    When the gray clouds of winter lift and a crisp spring breeze blows in, the weather feels especially salubrious, “favorable to or promoting health; healthful.” There’s nothing like a little fresh air to perk you up. Salubrious comes from the Latin salūbris, meaning “promoting health.” The word salutary comes from a similar root, and it means “favorable to or promoting health; healthful.”

    Chelidonian
    One way to describe a spring breeze is Chelidonian, which is what the ancient Greeks called it. The name comes from the Greek for swallow, because the appearance of the spring wind augured their appearance. It was believed that the swallows flew from Africa to Europe on the Chelidonian winds.

    bucolic
    Another term from Greek we can use to describe the spring is bucolic, which literally means “of or relating to shepherds; pastoral.” However, it is typically used figuratively to describe any pleasant natural or country scene. Historically, a bucolic was a specific kind of “pastoral poem” that describes the peacefulness or beauty of rural life.

    vivify
    You may feel particularly vivified in the spring months. Vivify is a verb that means “to give life to; animate; quicken.” The root of vivify is the Late Latin vīvificāre, which roughly translates to “to make live.”

    Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    Fancy Spring Words To Breathe Life Into Your Budding Vocabulary As Leo Tolstoy wrote in the classic Anna Karenina, “spring is the time of plans and projects.” To put it more bluntly, spring is a time of new growth, new experiences, and, in most of the world, temperamental weather. To encourage your personal growth during this season of change, why not try out some of these sophisticated vocabulary terms related to spring? verdurous Verdurous is an adjective meaning “rich in verdure; freshly green; verdant.” Verdure is a fancy word meaning “greenness, especially of fresh, flourishing vegetation.” The word comes from the Middle French verd, meaning “green.” (The modern French equivalent of this word is vert.) vernal An adjective that directly relates to the season is vernal, meaning “of or relating to spring.” It is also used figuratively to mean “belonging to or characteristic of youth,” which is just one of many examples of spring being related to new birth or adolescence. Vernal comes from Latin vernālis, meaning “of spring.” recrudesce Many of the words in this list end in the suffixes -esce, -escent, or -escence, which are used to denote the beginning of an action. This makes sense if you consider the overall theme of spring, which is the beginning of new life or new experiences. One such word is recrudesce, “to break out afresh, as a sore, a disease, or anything else that has been quiescent.” Quiescent is another fancy word that means “being at rest.” frondescence Another word that describes plants shaking off their winter slumber and waking up to spring is frondescence, “the process or period of putting forth leaves, as a tree, plant, or the like.” The word comes from the Latin frondescēns, “becoming leafy.” If the frond- part of the word looks familiar, that’s probably because the English frond means “an often large, finely divided leaf,” from the Latin frond meaning “branch.” effloresce Yet another -esce verb on this list is effloresce, “to burst into bloom, blossom.” In chemistry, however, the verb has a specific meaning to describe a surface becoming covered in a “mealy or powdery substance upon exposure to air” or “covered with crystals of salt.” You can imagine it looks like crystals “blooming” on the surface of a substance. juvenescence The word is a noun meaning “youth or immaturity” or “the act or process of growing from childhood to youth.” The juven- part of the word comes from the Latin for “young.” This is ultimately the same Latin root we see in the more familiar juvenile, meaning “young” or “youthful.” renascent In the spring, it seems as if everything is renascent after the long, cold winter. Renascent means “being reborn; springing again into being or vigor.” The Latin root of this word can also be seen in the word Renaissance, a term given to the “great revival of art, literature, and learning in Europe beginning in the 14th century and extending to the 17th century,” a time when culture was being reborn after the medieval ages. incalescent One of the most pleasant aspects of spring is that the weather is incalescent, or “increasing in heat or ardor.” While this term can be used literally to describe something becoming warm, it is also used to describe a growing romance or love, when things are “heating up.” provenience The spring is a time when new things begin. In other words, it is the provenience of many creatures. Provenience means “origin; source.” The word provenience is primarily used in archaeology to describe the spot where an object is found or originated, to differentiate from provenance, which describes the chain of ownership of an object. risorgimento A term similar to renascent is risorgimento [ ri-zawr-juh–men-toh ], “any period or instance of rebirth or renewed activity.” When capitalized, it refers to a specific period of Italian history during “the period of or movement for the liberation and unification of Italy, 1750–1870.” As you may have guessed, the word risorgimento comes from Italian for “to rise again.” pullulate Pullulate is a verb with a variety of meanings, including “to send forth sprouts, buds, etc.; germinate; sprout” and “to exist abundantly; swarm; teem.” In the spring, plants and animals pullulate. The verb pullulate comes from the Latin pullulāre, meaning “to sprout, bring forth young.” Specifically, a pullus in Latin means “chicken,” which is ultimately the root of the French word for chicken, poulet. fecundate A verb related to pullulate is fecundate, “to make prolific or fruitful.” The word fecund and its verb form fecundate is ultimately related to root fētus, “bringing forth of young.” If that word looks familiar, that’s because it’s at the root of the English fetus, “the young of an animal in the womb or egg.” It’s all about the birth of new life. erumpent One of the first signs of spring is when the crocuses grow erumpent from the cold, hard earth. Erumpent is an adjective that means “bursting forth.” It is also used particularly to describe fungi or algae “projecting from or bursting through host tissue.” The way that mushrooms pop up on the bark of decomposing trees is a good visualization of the meaning of erumpent. burgeon Another word that describes the proliferation of new growth that occurs in the spring is burgeon, “to grow or develop quickly; flourish.” Burgeon is generally used as a verb, but it can also be used as a noun to mean “a bud; sprout.” The origin of burgeon is pretty interesting; it ultimately comes from the Latin burra meaning “wool, fluff,” likely a reference to the down covering certain buds in spring. redolent With all of the new flowers blossoming, trees leafing, and the rain making the world smell of wet dirt, one good word to describe spring is redolent, “having a pleasant odor; fragrant.” This is an adjective that is also used figuratively to mean “suggestive; reminiscent [of].” For example, Her poems are redolent of Keats’s sonnets, or they make one think of Keats’s sonnets. hyetal Speaking of the general dampness of spring, one good word to describe this weather is hyetal [ hahy-i-tl ], “of or relating to rain or rainfall.” Unlike the majority of the words on this list which have Latin roots, hyetal comes from the Greek hyetós, which means “rain.” This is why the study of rainfall is technically known as hyetography or hyetology. salubrious When the gray clouds of winter lift and a crisp spring breeze blows in, the weather feels especially salubrious, “favorable to or promoting health; healthful.” There’s nothing like a little fresh air to perk you up. Salubrious comes from the Latin salūbris, meaning “promoting health.” The word salutary comes from a similar root, and it means “favorable to or promoting health; healthful.” Chelidonian One way to describe a spring breeze is Chelidonian, which is what the ancient Greeks called it. The name comes from the Greek for swallow, because the appearance of the spring wind augured their appearance. It was believed that the swallows flew from Africa to Europe on the Chelidonian winds. bucolic Another term from Greek we can use to describe the spring is bucolic, which literally means “of or relating to shepherds; pastoral.” However, it is typically used figuratively to describe any pleasant natural or country scene. Historically, a bucolic was a specific kind of “pastoral poem” that describes the peacefulness or beauty of rural life. vivify You may feel particularly vivified in the spring months. Vivify is a verb that means “to give life to; animate; quicken.” The root of vivify is the Late Latin vīvificāre, which roughly translates to “to make live.” Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัคซีนโควิดปลอดภัยในสตรีตั้งครรภ์จริงหรือ ?   รวบรวมข้อมูลจาก CDC/FDA Vaccine Adverse Event Reporting System (VAERS) ตั้งแต่ 1 มกราคม 1990 ถึง 26 เมษายน 2024 เพื่อดูผลข้างเคียง (adverse effect, AE) ของวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น รวมระยะเวลาทั้งหมด 412 เดือน ยกเว้นวัคซีนโควิดที่เก็บรวบรวมได้แค่ 40 เดือนจาก 412 เดือน (1 ธันวาคม 2020 ถึง 26 เมษายน April 2024) โดยดู proportional reporting ratios (PRR) ตามระยะเวลา เปรียบเทียบ AEs ระหว่างวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์กับวัคซีนชนิดอื่น ในกรณีที่หา PRR ไม่ได้ก็ใช้ Chi-square analysis และ Fisher’s exact tests แทน โดยยึดข้อกำหนดตาม CDC/FDA safety concern คือต้องระวังเรื่องความปลอดภัย ถ้า PRR ≥ 2 หรือ Chi-square  ≥ 4พบ 37 AE จากการฉีดวัคซีนโควิดในผู้ตั้งครรภ์  ได้แก่ : miscarriage, fetal chromosomal abnormality, fetal malformation, cervical insufficiency, premature rupture of membranes, premature labor, premature delivery, placental calcification, placental infarction, placental thrombosis, placenta accreta, placental abruption, placental insufficiency, placental disorder, fetal maternal hemorrhage, fetal growth restriction, reduced amniotic fluid volume, preeclampsia, fetal heart rate abnormality, fetal cardiac disorder, fetal vascular mal-perfusion, fetal arrhythmia, fetal distress, fetal biophysical profile abnormal, hemorrhage in pregnancy, fetal cardiac arrest, fetal death (stillbirth), premature infant death, neonatal asphyxia, neonatal dyspnea, neonatal infection, neonatal hemorrhage, insufficient breast milk, neonatal pneumonia, neonatal respiratory distress, neonatal respiratory distress syndrome, neonatal seizure. ขออนุญาตไม่แปลเป็นภาษาไทยทั้งหมดเพราะอาจสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน แต่สำหรับผู้ที่สนใจหาข้อมูลก็สามารถหาคำแปลภาวะต่างๆด้านบนได้ไม่ยากSummary statistics for the deviation from the CDC/FDA safety signals mean (n, range) เป็นดังนี้: PRR 69.3 (46, 5.37 - 499); z statistic 9.64 (46, 3.29 - 27.0); และ Chi-square was 74.7 (26, 28.9 - 148)จะเห็นได้ว่าผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิดในสตรีตั้งครรภ์สูงกว่า safety concern ที่ CDC/FDA กำหนดไว้มากและมีอีก 1 รายงานผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีมีครรภ์จากการรวบรวมเคส 438 รายในประเทศซาอุดิอาระเบีย ช่วง มีค.-พค. 2022 โดยแบ่งกลุ่มศึกษาเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม A คือสตรีมีครรภ์ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว กลุ่ม B คือได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม พบว่ากลุ่ม B มีอัตราการแท้ง น้ำคร่ำน้อย รกผิดปกติ การเจริญเติบโตของทารกผิดปกติ มีปัญหาเรื่องการให้นม ความดันโลหิตสูง อาการอื่นๆทางระบบ เช่น อ่อนเพลียปวดหัวเจ็บหน้าอก การหายใจมีปัญหา มีปัญหาการนอนหลับ มากกว่ากลุ่ม A อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เรียบเรียงโดย นพ.ดร. ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริhttps://www.preprints.org/manuscript/202406.2062/v1 https://journals.sagepub.com/doi/epdf/10.1177/25151355241285594?utm_source=substack&utm_medium=email
    วัคซีนโควิดปลอดภัยในสตรีตั้งครรภ์จริงหรือ ?   รวบรวมข้อมูลจาก CDC/FDA Vaccine Adverse Event Reporting System (VAERS) ตั้งแต่ 1 มกราคม 1990 ถึง 26 เมษายน 2024 เพื่อดูผลข้างเคียง (adverse effect, AE) ของวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น รวมระยะเวลาทั้งหมด 412 เดือน ยกเว้นวัคซีนโควิดที่เก็บรวบรวมได้แค่ 40 เดือนจาก 412 เดือน (1 ธันวาคม 2020 ถึง 26 เมษายน April 2024) โดยดู proportional reporting ratios (PRR) ตามระยะเวลา เปรียบเทียบ AEs ระหว่างวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์กับวัคซีนชนิดอื่น ในกรณีที่หา PRR ไม่ได้ก็ใช้ Chi-square analysis และ Fisher’s exact tests แทน โดยยึดข้อกำหนดตาม CDC/FDA safety concern คือต้องระวังเรื่องความปลอดภัย ถ้า PRR ≥ 2 หรือ Chi-square  ≥ 4พบ 37 AE จากการฉีดวัคซีนโควิดในผู้ตั้งครรภ์  ได้แก่ : miscarriage, fetal chromosomal abnormality, fetal malformation, cervical insufficiency, premature rupture of membranes, premature labor, premature delivery, placental calcification, placental infarction, placental thrombosis, placenta accreta, placental abruption, placental insufficiency, placental disorder, fetal maternal hemorrhage, fetal growth restriction, reduced amniotic fluid volume, preeclampsia, fetal heart rate abnormality, fetal cardiac disorder, fetal vascular mal-perfusion, fetal arrhythmia, fetal distress, fetal biophysical profile abnormal, hemorrhage in pregnancy, fetal cardiac arrest, fetal death (stillbirth), premature infant death, neonatal asphyxia, neonatal dyspnea, neonatal infection, neonatal hemorrhage, insufficient breast milk, neonatal pneumonia, neonatal respiratory distress, neonatal respiratory distress syndrome, neonatal seizure. ขออนุญาตไม่แปลเป็นภาษาไทยทั้งหมดเพราะอาจสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน แต่สำหรับผู้ที่สนใจหาข้อมูลก็สามารถหาคำแปลภาวะต่างๆด้านบนได้ไม่ยากSummary statistics for the deviation from the CDC/FDA safety signals mean (n, range) เป็นดังนี้: PRR 69.3 (46, 5.37 - 499); z statistic 9.64 (46, 3.29 - 27.0); และ Chi-square was 74.7 (26, 28.9 - 148)จะเห็นได้ว่าผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิดในสตรีตั้งครรภ์สูงกว่า safety concern ที่ CDC/FDA กำหนดไว้มากและมีอีก 1 รายงานผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีมีครรภ์จากการรวบรวมเคส 438 รายในประเทศซาอุดิอาระเบีย ช่วง มีค.-พค. 2022 โดยแบ่งกลุ่มศึกษาเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม A คือสตรีมีครรภ์ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว กลุ่ม B คือได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม พบว่ากลุ่ม B มีอัตราการแท้ง น้ำคร่ำน้อย รกผิดปกติ การเจริญเติบโตของทารกผิดปกติ มีปัญหาเรื่องการให้นม ความดันโลหิตสูง อาการอื่นๆทางระบบ เช่น อ่อนเพลียปวดหัวเจ็บหน้าอก การหายใจมีปัญหา มีปัญหาการนอนหลับ มากกว่ากลุ่ม A อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เรียบเรียงโดย นพ.ดร. ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริhttps://www.preprints.org/manuscript/202406.2062/v1 https://journals.sagepub.com/doi/epdf/10.1177/25151355241285594?utm_source=substack&utm_medium=email
    Like
    Love
    18
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 499 มุมมอง 1 รีวิว
  • แจ้งอัปเดตเวอร์ชัน 3.2.2 (Android) เราได้ทำการอัปเดตแอปพลิเคชันเวอร์ชัน 3.2.2 สำหรับ Android โดยมีการปรับปรุงดังนี้:

    - ปัญหาการแชร์วิดีโอ Live แล้วเล่นไม่ได้ได้รับการแก้ไขเรียบร้อย

    สำหรับ iOS กำลังดำเนินการครับ.....

    #Thaitimes #Update
    แจ้งอัปเดตเวอร์ชัน 3.2.2 (Android) เราได้ทำการอัปเดตแอปพลิเคชันเวอร์ชัน 3.2.2 สำหรับ Android โดยมีการปรับปรุงดังนี้: - ปัญหาการแชร์วิดีโอ Live แล้วเล่นไม่ได้ได้รับการแก้ไขเรียบร้อย สำหรับ iOS กำลังดำเนินการครับ..... #Thaitimes #Update
    Like
    Yay
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 505 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมอร์เคิลปกป้องการตัดสินใจของเธอที่จะไม่ระงับการนำเข้าผ่านท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม, โดยให้เหตุผลว่า คงไม่เกิดความแตกต่างมากนัก หากเบอร์ลินหยุดซื้อก๊าซจากมอสโกว์ในปี ๒๐๑๔
    .
    “คงจะเป็นเช่นเดียวกันในสมัยนั้น หากเราตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทั้งหมด,” เมอร์เคิล กล่าว, โดยชี้ไปที่ “ประเทศอื่นๆ” ที่ยังคงซื้อก๊าซจากรัสเซียมาจนถึงทุกวันนี้
    .
    Merkel defends her decision not to halt imports via the Nord Stream pipelines, arguing that it would have made little difference if Berlin had stopped buying gas from Moscow in 2014
    .
    ‘It would have been the same back then if we had broken off all economic ties,’ Merkel said, pointing to ‘other countries’ that continue to buy Russian gas to this day
    .
    4:00 PM · Nov 23, 2024 · 9,024 Views
    https://x.com/RT_com/status/1860246930313433505
    เมอร์เคิลปกป้องการตัดสินใจของเธอที่จะไม่ระงับการนำเข้าผ่านท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม, โดยให้เหตุผลว่า คงไม่เกิดความแตกต่างมากนัก หากเบอร์ลินหยุดซื้อก๊าซจากมอสโกว์ในปี ๒๐๑๔ . “คงจะเป็นเช่นเดียวกันในสมัยนั้น หากเราตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทั้งหมด,” เมอร์เคิล กล่าว, โดยชี้ไปที่ “ประเทศอื่นๆ” ที่ยังคงซื้อก๊าซจากรัสเซียมาจนถึงทุกวันนี้ . Merkel defends her decision not to halt imports via the Nord Stream pipelines, arguing that it would have made little difference if Berlin had stopped buying gas from Moscow in 2014 . ‘It would have been the same back then if we had broken off all economic ties,’ Merkel said, pointing to ‘other countries’ that continue to buy Russian gas to this day . 4:00 PM · Nov 23, 2024 · 9,024 Views https://x.com/RT_com/status/1860246930313433505
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • อังกฤษน่าจะยอมปฏิบัติตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศต่อนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล หากเขาเดินทางมาเยือน – โฆษกของบ้านเลขที่ ๑๐ ถนนดาวนิ่ง
    .
    Britain would most likely honor the International Criminal Court's arrest warrant against Israeli Prime Minister Benjamin Netanyahu if he were to visit – spokesman for 10 Downing Street
    .
    7:00 PM · Nov 23, 2024 · 5,215 Views
    https://x.com/RT_com/status/1860292215651631487
    อังกฤษน่าจะยอมปฏิบัติตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศต่อนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล หากเขาเดินทางมาเยือน – โฆษกของบ้านเลขที่ ๑๐ ถนนดาวนิ่ง . Britain would most likely honor the International Criminal Court's arrest warrant against Israeli Prime Minister Benjamin Netanyahu if he were to visit – spokesman for 10 Downing Street . 7:00 PM · Nov 23, 2024 · 5,215 Views https://x.com/RT_com/status/1860292215651631487
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💬 สื่อเรียกผมว่าหัวหน้า ‘เครือข่ายปูตินในอิตาลี’ เพราะบอกความจริงเกี่ยวกับยูเครน – นักข่าวอิตาลี

    จอร์โจ เบียนคี ถูกพรากโอกาสที่จะพูดต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนและเรียกเขาว่าสายลับรัสเซีย เพราะพยายามแจ้งให้ชาวอิตาลีทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครน หลังจากเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหาร, นักข่าวบอกกับสปุตนิก

    นักข่าวรายงานเหตุการณ์ในยูเครนตั้งแต่ยูโรไมดานในปี ๒๐๑๔, และปรากฏตัวหลายครั้งในฐานะผู้เชี่ยวชาญในสื่อของอิตาลี หลังจากเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหาร, เขาเดินทางไปดอนบาสเกือบสองเดือน, ซึ่งเขาได้เห็นการปลดปล่อยมาริอูโปลและโวลโนวาคาด้วยตาตนเอง

    🗨️“ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา, ฉันไม่สามารถจัดการประชุมในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยได้อีกต่อไป หนังสือพิมพ์ Corriere della Sera ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของอิตาลี ได้พิมพ์ชื่อฉันบนหน้าแรก, โดยอ้างว่าฉันเป็นหัวหน้าเครือข่ายของปูตินในอิตาลี,” เขาเล่าให้ฟัง, พร้อมทั้งเสริมว่า คดีที่ฟ้องเขานั้นได้ถูกส่งไปยัง มาริโอ ดรากี หัวหน้ารัฐบาลอิตาลีในขณะนั้น

    บิอันคีเน้นย้ำว่า เขายังคงพูดความจริงต่อไป, โดยอธิบายว่าข้อตกลงมินสค์ถูกใช้เพื่อติดอาวุธให้ยูเครนอย่างลับๆ และแนวคิดนีโอนาซีก็ถูกสังเกตในประเทศนี้จริงๆ, เนื่องจากนักข่าวเองก็เห็นสัญลักษณ์และวรรณกรรมนีโอนาซีเมื่อเขาอยู่ที่เมืองมาริอูโปล

    🗨️อย่างไรก็ตาม, หนังสือพิมพ์ทั้งหมดที่พูดถึงเรื่องนี้มาหลายปีก็ “เปลี่ยนใจในชั่วข้ามคืน,” และเริ่มอ้างว่าไม่มีอุดมการณ์ดังกล่าวในยูเครน, นักข่าวเน้นย้ำ
    .
    💬 MEDIA CALLED ME HEAD OF ‘PUTIN'S NETWORK IN ITALY’ FOR TELLING THE TRUTH ABOUT UKRAINE – Italian journalist

    Giorgio Bianchi was deprived of the opportunity to speak publicly about the Ukraine conflict and called a Russian spy for trying to inform Italians about the real reasons for what is happening in Ukraine after the start of the special military operation, the journalist told Sputnik.

    The reporter has been covering events in Ukraine since the Euromaidan in 2014, and has appeared several times as an expert in the Italian media. After the start of the special military operation, he went to Donbass for almost two months, where he witnessed the liberation of Mariupol and Volnovakha firsthand.

    🗨️“From that moment on, I could no longer hold conferences in schools and universities. Italy's most popular newspaper Corriere della Sera printed me on the front page, claiming that I was the head of 'Putin's network in Italy,'” he shared, adding that the case against him was sent to Italy's then-head of government Mario Draghi.

    Bianchi emphasized that he continued to tell the truth, explaining that the Minsk agreements were subversively used to arm Ukraine and that neo-Nazi ideas were actually observed in the country, as the journalist himself saw neo-Nazi symbols and literature when he was in Mariupol.

    🗨️However, all the newspapers that had been talking about it for years suddenly “changed their minds overnight,” and began to claim there was no such ideology in Ukraine, the journalist stressed.
    .
    12:19 PM · Nov 23, 2024 · 5,380 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1860191337099723243
    💬 สื่อเรียกผมว่าหัวหน้า ‘เครือข่ายปูตินในอิตาลี’ เพราะบอกความจริงเกี่ยวกับยูเครน – นักข่าวอิตาลี จอร์โจ เบียนคี ถูกพรากโอกาสที่จะพูดต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนและเรียกเขาว่าสายลับรัสเซีย เพราะพยายามแจ้งให้ชาวอิตาลีทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครน หลังจากเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหาร, นักข่าวบอกกับสปุตนิก นักข่าวรายงานเหตุการณ์ในยูเครนตั้งแต่ยูโรไมดานในปี ๒๐๑๔, และปรากฏตัวหลายครั้งในฐานะผู้เชี่ยวชาญในสื่อของอิตาลี หลังจากเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหาร, เขาเดินทางไปดอนบาสเกือบสองเดือน, ซึ่งเขาได้เห็นการปลดปล่อยมาริอูโปลและโวลโนวาคาด้วยตาตนเอง 🗨️“ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา, ฉันไม่สามารถจัดการประชุมในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยได้อีกต่อไป หนังสือพิมพ์ Corriere della Sera ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของอิตาลี ได้พิมพ์ชื่อฉันบนหน้าแรก, โดยอ้างว่าฉันเป็นหัวหน้าเครือข่ายของปูตินในอิตาลี,” เขาเล่าให้ฟัง, พร้อมทั้งเสริมว่า คดีที่ฟ้องเขานั้นได้ถูกส่งไปยัง มาริโอ ดรากี หัวหน้ารัฐบาลอิตาลีในขณะนั้น บิอันคีเน้นย้ำว่า เขายังคงพูดความจริงต่อไป, โดยอธิบายว่าข้อตกลงมินสค์ถูกใช้เพื่อติดอาวุธให้ยูเครนอย่างลับๆ และแนวคิดนีโอนาซีก็ถูกสังเกตในประเทศนี้จริงๆ, เนื่องจากนักข่าวเองก็เห็นสัญลักษณ์และวรรณกรรมนีโอนาซีเมื่อเขาอยู่ที่เมืองมาริอูโปล 🗨️อย่างไรก็ตาม, หนังสือพิมพ์ทั้งหมดที่พูดถึงเรื่องนี้มาหลายปีก็ “เปลี่ยนใจในชั่วข้ามคืน,” และเริ่มอ้างว่าไม่มีอุดมการณ์ดังกล่าวในยูเครน, นักข่าวเน้นย้ำ . 💬 MEDIA CALLED ME HEAD OF ‘PUTIN'S NETWORK IN ITALY’ FOR TELLING THE TRUTH ABOUT UKRAINE – Italian journalist Giorgio Bianchi was deprived of the opportunity to speak publicly about the Ukraine conflict and called a Russian spy for trying to inform Italians about the real reasons for what is happening in Ukraine after the start of the special military operation, the journalist told Sputnik. The reporter has been covering events in Ukraine since the Euromaidan in 2014, and has appeared several times as an expert in the Italian media. After the start of the special military operation, he went to Donbass for almost two months, where he witnessed the liberation of Mariupol and Volnovakha firsthand. 🗨️“From that moment on, I could no longer hold conferences in schools and universities. Italy's most popular newspaper Corriere della Sera printed me on the front page, claiming that I was the head of 'Putin's network in Italy,'” he shared, adding that the case against him was sent to Italy's then-head of government Mario Draghi. Bianchi emphasized that he continued to tell the truth, explaining that the Minsk agreements were subversively used to arm Ukraine and that neo-Nazi ideas were actually observed in the country, as the journalist himself saw neo-Nazi symbols and literature when he was in Mariupol. 🗨️However, all the newspapers that had been talking about it for years suddenly “changed their minds overnight,” and began to claim there was no such ideology in Ukraine, the journalist stressed. . 12:19 PM · Nov 23, 2024 · 5,380 Views https://x.com/SputnikInt/status/1860191337099723243
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💬สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรกำลังทำสงครามกับสหภาพยุโรปด้วยการคว่ำบาตรรัสเซีย – นักข่าวอิตาลี

    การคว่ำบาตรที่วอชิงตันกดดันให้ประเทศในยุโรปบังคับใช้กับรัสเซียนั้น แท้จริงแล้วกลับส่งผลเสียต่อสหภาพยุโรป (EU) มากกว่า, นักข่าวอิตาลี จอร์โจ เบียนคี กล่าวกับสปุตนิก

    🗨️“ผมรู้สึกว่า นี่คือสงครามของสหรัฐฯไม่ใช่แค่กับรัสเซียเท่านั้น, แต่ยังรวมถึงอิตาลี, เยอรมนี, และฝรั่งเศสด้วย เพราะมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯบังคับให้ประเทศของเราใช้, ผมเรียกว่ามาตรการคว่ำบาตรอัตโนมัติ, มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้มุ่งเป้ามาที่เราเองมากกว่ารัสเซีย,” เขากล่าว

    เบียนคีเชื่อว่า จริงๆแล้วสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรได้รับประโยชน์จากการคว่ำบาตรเหล่านี้มากกว่าการทิ้งระเบิดเขตอุตสาหกรรมของยุโรปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

    🗨️“บริษัทขนาดใหญ่จะย้ายออกจากประเทศ [EU] ไป “บางบริษัทได้ย้ายไปยังเอเชียแล้ว, และตอนนี้พวกเขาจะย้ายไปอเมริกาเพราะมีเงื่อนไขทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยมากกว่า,” นักข่าวกล่าวเสริม
    .
    💬US AND UK ARE WAGING WAR AGAINST EU WITH ANTI-RUSSIAN SANCTIONS – Italian journalist

    The sanctions that Washington is pressuring European countries to impose against Russia are actually hurting the European Union (EU) more, Italian journalist Giorgio Bianchi told Sputnik.

    🗨️“I have the impression that this is a US war not only against Russia, but also against Italy, Germany, and France. Because the sanctions that the US has forced our countries to apply, I call them auto-sanctions, these sanctions are directed more against us than against Russia,” he pointed out.

    Bianchi believes that the US and UK have actually benefited far more from these sanctions than from the bombing of Europe’s industrial districts during World War II.

    🗨️“Large companies will simply move out of [EU] countries. Some of them have already moved to Asia, and now they will move to America because of more favorable business conditions,” the journalist added.
    .
    4:14 PM · Nov 23, 2024 · 859 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1860250584944681019
    💬สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรกำลังทำสงครามกับสหภาพยุโรปด้วยการคว่ำบาตรรัสเซีย – นักข่าวอิตาลี การคว่ำบาตรที่วอชิงตันกดดันให้ประเทศในยุโรปบังคับใช้กับรัสเซียนั้น แท้จริงแล้วกลับส่งผลเสียต่อสหภาพยุโรป (EU) มากกว่า, นักข่าวอิตาลี จอร์โจ เบียนคี กล่าวกับสปุตนิก 🗨️“ผมรู้สึกว่า นี่คือสงครามของสหรัฐฯไม่ใช่แค่กับรัสเซียเท่านั้น, แต่ยังรวมถึงอิตาลี, เยอรมนี, และฝรั่งเศสด้วย เพราะมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯบังคับให้ประเทศของเราใช้, ผมเรียกว่ามาตรการคว่ำบาตรอัตโนมัติ, มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้มุ่งเป้ามาที่เราเองมากกว่ารัสเซีย,” เขากล่าว เบียนคีเชื่อว่า จริงๆแล้วสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรได้รับประโยชน์จากการคว่ำบาตรเหล่านี้มากกว่าการทิ้งระเบิดเขตอุตสาหกรรมของยุโรปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง 🗨️“บริษัทขนาดใหญ่จะย้ายออกจากประเทศ [EU] ไป “บางบริษัทได้ย้ายไปยังเอเชียแล้ว, และตอนนี้พวกเขาจะย้ายไปอเมริกาเพราะมีเงื่อนไขทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยมากกว่า,” นักข่าวกล่าวเสริม . 💬US AND UK ARE WAGING WAR AGAINST EU WITH ANTI-RUSSIAN SANCTIONS – Italian journalist The sanctions that Washington is pressuring European countries to impose against Russia are actually hurting the European Union (EU) more, Italian journalist Giorgio Bianchi told Sputnik. 🗨️“I have the impression that this is a US war not only against Russia, but also against Italy, Germany, and France. Because the sanctions that the US has forced our countries to apply, I call them auto-sanctions, these sanctions are directed more against us than against Russia,” he pointed out. Bianchi believes that the US and UK have actually benefited far more from these sanctions than from the bombing of Europe’s industrial districts during World War II. 🗨️“Large companies will simply move out of [EU] countries. Some of them have already moved to Asia, and now they will move to America because of more favorable business conditions,” the journalist added. . 4:14 PM · Nov 23, 2024 · 859 Views https://x.com/SputnikInt/status/1860250584944681019
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • ๒ผลการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่วานนี้ (22 พ.ย.) โดย BBC และศูนย์ Open Source Centre ในอังกฤษพบว่าเกาหลีเหนือมีการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งถือว่าละเมิดคำสั่งคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น)

    รายงานที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ขององค์กรวิจัย Open Source Centre ระบุว่า เรือบรรทุกน้ำมันเกาหลีเหนือเดินทางไปยังท่าเรือวอสตอชนี (Vostochny) ในภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียมากกว่า 40 ครั้ง

    “อ้างอิงจากภาพถ่ายความละเอียดสูงหลายสิบภาพ ระบบระบุข้อมูลอัตโนมัติ (Automatic Identification System - AIS) รวมถึงฐานข้อมูลและภาพถ่ายที่ได้จากภารกิจลาดตระเวนซึ่งได้รับมอบหมายให้ตรวจตราการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ แสดงให้เห็นว่าเรือบรรทุกน้ำมันเกาหลีเหนือมีการขนถ่ายน้ำมันหลายครั้งที่ท่าเรือขนส่งน้ำมันในวอสตอชนี”

    กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังไม่ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ ส่วนโฆษกยูเอ็นก็ยังไม่มีถ้อยแถลงใดๆ เช่นกัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/around/detail/9670000112701

    #MGROnline #กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย #รัสเซีย #เกาหลีเหนือ
    ๒ผลการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่วานนี้ (22 พ.ย.) โดย BBC และศูนย์ Open Source Centre ในอังกฤษพบว่าเกาหลีเหนือมีการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งถือว่าละเมิดคำสั่งคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) • รายงานที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ขององค์กรวิจัย Open Source Centre ระบุว่า เรือบรรทุกน้ำมันเกาหลีเหนือเดินทางไปยังท่าเรือวอสตอชนี (Vostochny) ในภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียมากกว่า 40 ครั้ง • “อ้างอิงจากภาพถ่ายความละเอียดสูงหลายสิบภาพ ระบบระบุข้อมูลอัตโนมัติ (Automatic Identification System - AIS) รวมถึงฐานข้อมูลและภาพถ่ายที่ได้จากภารกิจลาดตระเวนซึ่งได้รับมอบหมายให้ตรวจตราการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ แสดงให้เห็นว่าเรือบรรทุกน้ำมันเกาหลีเหนือมีการขนถ่ายน้ำมันหลายครั้งที่ท่าเรือขนส่งน้ำมันในวอสตอชนี” • กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังไม่ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ ส่วนโฆษกยูเอ็นก็ยังไม่มีถ้อยแถลงใดๆ เช่นกัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9670000112701 • #MGROnline #กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย #รัสเซีย #เกาหลีเหนือ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครื่องทำน้ำอุ่น Toshiba the-45wth(w)#เครื่องทำน้ำอุ่น #toshiba #รับประกัน #5ปี #ร้อนไว #เครื่องทำน้ำอุ่น Toshiba the-45wth(w)พิกัด📍Shopee:https://s.shopee.co.th/1qL2dzsU9Q LAZADA:https://s.lazada.co.th/s.IpJi1 .
    ครื่องทำน้ำอุ่น Toshiba the-45wth(w)#เครื่องทำน้ำอุ่น #toshiba #รับประกัน #5ปี #ร้อนไว #เครื่องทำน้ำอุ่น Toshiba the-45wth(w)พิกัด📍Shopee:https://s.shopee.co.th/1qL2dzsU9Q LAZADA:https://s.lazada.co.th/s.IpJi1 .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 400 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • ยังมีใครที่เชื่อว่าหน่วยข่าวกรอง Mossad ของอิสราเอล ล้มเหลวด้านข่าวกรองเกี่ยวกับการโจมตีของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปีที่แล้วอยู่อีกไหม

    - พวกเขาสังหาร Nasrallah ในเบรุต ประเทศเลบานอน
    - พวกเขาวางแผนจัดการวางระเบิดขนาดเล็กในเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารของสมาชิก Hezbollah หลายพันคน และระเบิดในเวลาใกล้เคียงกัน
    - พวกเขาจัดการสังหาร Haniyeh ผู้นำฮามาสขณะอยู่ในอิหร่าน
    - หลังจากนั้น พวกเขาสังหารผู้นำคนใหม่ของฮิซบอลเลาะห์เพียงแค่สัปดาห์เดียวหลังการเข้ารับตำแหน่ง
    - พวกเขามีส่วนจัดการสังหาร Qassem Suleimani ในอิรัก

    "ยังมีคนบางส่วนหลงเชื่อว่าหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลไม่เห็นความผิดปกติ หรือไม่ได้รับข่าวกรองก่อนการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม"

    จากทั้งหมดที่ผ่านมา รวมถึงการใช้ตัวประกันเป็นเงื่อนไขในการทำลายฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ ผู้นำอิสราเอลรู้เกี่ยวกับแผนการของฮามาสและเฝ้ารอให้พวกเขาโจมตี เพื่อต้องการยกระดับให้มันรุนแรงขึ้น เพื่อทำลายภูมิภาคนี้ต่อไปสำหรับแผนระยะยาวของพวกเขาในการสร้าง "อิสราเอลที่ยิ่งใหญ่" (Greater Israel)
    ยังมีใครที่เชื่อว่าหน่วยข่าวกรอง Mossad ของอิสราเอล ล้มเหลวด้านข่าวกรองเกี่ยวกับการโจมตีของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปีที่แล้วอยู่อีกไหม - พวกเขาสังหาร Nasrallah ในเบรุต ประเทศเลบานอน - พวกเขาวางแผนจัดการวางระเบิดขนาดเล็กในเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารของสมาชิก Hezbollah หลายพันคน และระเบิดในเวลาใกล้เคียงกัน - พวกเขาจัดการสังหาร Haniyeh ผู้นำฮามาสขณะอยู่ในอิหร่าน - หลังจากนั้น พวกเขาสังหารผู้นำคนใหม่ของฮิซบอลเลาะห์เพียงแค่สัปดาห์เดียวหลังการเข้ารับตำแหน่ง - พวกเขามีส่วนจัดการสังหาร Qassem Suleimani ในอิรัก "ยังมีคนบางส่วนหลงเชื่อว่าหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลไม่เห็นความผิดปกติ หรือไม่ได้รับข่าวกรองก่อนการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม" จากทั้งหมดที่ผ่านมา รวมถึงการใช้ตัวประกันเป็นเงื่อนไขในการทำลายฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ ผู้นำอิสราเอลรู้เกี่ยวกับแผนการของฮามาสและเฝ้ารอให้พวกเขาโจมตี เพื่อต้องการยกระดับให้มันรุนแรงขึ้น เพื่อทำลายภูมิภาคนี้ต่อไปสำหรับแผนระยะยาวของพวกเขาในการสร้าง "อิสราเอลที่ยิ่งใหญ่" (Greater Israel)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกแถลงการณ์ตอบโต้ หลังจากตัวเขาถูกออกหมายจับจาก ICC

    "คำตัดสินต่อต้านชาวยิวของศาลระหว่างประเทศในกรุงเฮกถือเป็นการพิจารณาคดีเดรย์ฟัสในยุคใหม่ และจะจบลงในลักษณะเดียวกัน"

    เนทันยาฮู กำลังปลุกระดมชาวยิวมั่วโลกว่านการออกหมายจับตัวเขาครั้งนี้ เกิดจากการต่อต้านชาวยิว (Antisemitism) รและมีอคติที่มีต่อชาวยิว โดยพยายามเปรียบเทียบไปถึงเหตุการณ์ในฝรั่งเศสช่วงยุคปลายศตวรรษที่ 19 เกี่ยวกับคดีของ "อัลเฟรด เดรย์ฟัส" (Alfred Dreyfus) นายทหารฝรั่งเศสผู้ถูกตราหน้าว่า "ขายชาติ" เพียงเพราะว่าเขาเป็นชาวยิว

    ในความเป็นจริงแล้ว ICC ออกหมายจับเพราะเกิดจากการกระทำของตัวเขาเอง ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบให้เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์จำนวนมาก จนป็นที่มาของข้อกล่าวหาอาชญากรรมสงครามและและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติในกาซา ซึ่งเป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่ใช่จากความเกลียดชังเชื้อชาติหรือศาสนาแต่อย่างใด
    .
    เรื่องราวของ "อัลเฟรด เดรย์ฟัส" (Alfred Dreyfus):
    https://web.facebook.com/photo.php?fbid=474353857272597&id=100315104676476&set=a.101096837931636&_rdc=1&_rdr
    https://www.blockdit.com/posts/61165e659ffff3111efff475
    https://pantip.com/topic/41068141
    https://www.thepeople.co/read/4522
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกแถลงการณ์ตอบโต้ หลังจากตัวเขาถูกออกหมายจับจาก ICC "คำตัดสินต่อต้านชาวยิวของศาลระหว่างประเทศในกรุงเฮกถือเป็นการพิจารณาคดีเดรย์ฟัสในยุคใหม่ และจะจบลงในลักษณะเดียวกัน" เนทันยาฮู กำลังปลุกระดมชาวยิวมั่วโลกว่านการออกหมายจับตัวเขาครั้งนี้ เกิดจากการต่อต้านชาวยิว (Antisemitism) รและมีอคติที่มีต่อชาวยิว โดยพยายามเปรียบเทียบไปถึงเหตุการณ์ในฝรั่งเศสช่วงยุคปลายศตวรรษที่ 19 เกี่ยวกับคดีของ "อัลเฟรด เดรย์ฟัส" (Alfred Dreyfus) นายทหารฝรั่งเศสผู้ถูกตราหน้าว่า "ขายชาติ" เพียงเพราะว่าเขาเป็นชาวยิว ในความเป็นจริงแล้ว ICC ออกหมายจับเพราะเกิดจากการกระทำของตัวเขาเอง ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบให้เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์จำนวนมาก จนป็นที่มาของข้อกล่าวหาอาชญากรรมสงครามและและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติในกาซา ซึ่งเป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่ใช่จากความเกลียดชังเชื้อชาติหรือศาสนาแต่อย่างใด . เรื่องราวของ "อัลเฟรด เดรย์ฟัส" (Alfred Dreyfus): https://web.facebook.com/photo.php?fbid=474353857272597&id=100315104676476&set=a.101096837931636&_rdc=1&_rdr https://www.blockdit.com/posts/61165e659ffff3111efff475 https://pantip.com/topic/41068141 https://www.thepeople.co/read/4522
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่คือเหตุผลที่ทำไมขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ORESHNIK ของรัสเซียจึงพร้อมสำหรับการผลิตจำนวนมาก

    การทดสอบการรบประจำการของระบบขีปนาวุธ Oreshnik ในวันพฤหัสบดีกับเป้าหมายทางทหารและอุตสาหกรรมของยูเครนในเมือง Dnepropetrovsk แสดงให้เห็นว่าระบบขีปนาวุธใหม่ของรัสเซียพร้อมสำหรับการนำไปปฏิบัติและการผลิตจำนวนมากแล้ว, และเหตุผลก็คืออาวุธขีปนาวุธของรัสเซียได้รับการออกแบบมาอย่างไรมาหลายทศวรรษ, Dmitry Kornev ผู้สังเกตการณ์ทางทหารที่มีประสบการณ์ของรัสเซียกล่าว

    ศักยภาพของกลุ่มอุตสาหกรรมการทหารของรัสเซียในการผลิตอาวุธแบบ Oreshnik นั้น "สูงกว่าของชาติตะวันตกอย่างเห็นได้ชัด," Kornev กล่าวกับ Sputnik, โดยชี้ไปที่ปรัชญาการออกแบบขีปนาวุธของรัสเซีย (และก่อนหน้านั้นก็คือสหภาพโซเวียต) ที่ย้อนกลับไปถึงการเผชิญหน้าในยุคสงครามเย็นระหว่าง RSD-10 Pioneer และ Pershing 2 โดยระบบของสหภาพโซเวียตได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่ามีการยับยั้งเชิงกลยุทธ์ในระดับทวีป, ซึ่งต่างจากเป้าหมายของสหรัฐฯ ในการโจมตีเป้าหมายของศัตรูให้เร็วที่สุดจากฐานที่มั่นในแนวหน้า

    💬“ระบบของเรามีศักยภาพในการโจมตีที่สูงกว่ามากในแง่ที่ว่ามันถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของเทคโนโลยีขีปนาวุธที่ถูกพิสูจน์แล้ว - ซึ่งมีแนวโน้มสูงสุดที่สถาบันวิศวกรรมความร้อนมอสโก, ซึ่งหมายความว่าการผลิตจำนวนมากและการใช้งานขีปนาวุธจำนวนมากอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งที่มั่นใจได้,” Kornev กล่าว

    💬“ในกรณีของตะวันตก, ระบบที่คล้ายคลึงกัน จะมีราคาค่อนข้างแพงในการสร้าง,” Kornev เน้นย้ำ

    ประธานาธิบดีปูตินยืนยันในการแถลงข่าวต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมเมื่อวันศุกร์ว่า ได้ตัดสินใจแล้วเกี่ยวกับการผลิตจำนวนมากของ Oreshnik, และกองทัพได้รวบรวมคลังอาวุธขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่นี้ไว้, และ “จะดำเนินการทดสอบต่อไป, รวมถึงในสภาพการสู้รบ, ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และลักษณะของภัยคุกคามต่อความปลอดภัยที่รัสเซียเผชิญ”
    .
    HERE’S WHY RUSSIA’S ORESHNIK HYPERSONIC MISSILE IS READY FOR MASS PRODUCTION

    Thursday’s combat deployment testing of the Oreshnik missile system against a Ukrainian military-industrial target in Dnepropetrovsk speaks to the fact that the new Russian missile system is ready for deployment and mass production, and the reason comes down to the way Russia’s missile weaponry has been designed for many decades, says veteran Russian military observer Dmitry Kornev.

    The capabilities of Russia’s military-industrial complex when it comes to producing Oreshnik-style weaponry is “significantly higher than those of the West,” Kornev told Sputnik, pointing to the Russian (and before that Soviet) missile design philosophy going back to the Cold War-era standoff involving the RSD-10 Pioneer and the Pershing 2 – with the Soviet system designed to ensure strategic deterrence on the continental scale, vs. the US goal of delivering a strike against enemy targets as quickly as possible from a forward foothold.

    💬“Our system likely has a far greater strike potential in the sense that it was created on the basis of already proven ballistic missile technologies - most likely, at the Moscow Institute of Thermal Engineering, which means that mass production and rapid deployment of large quantities of the missiles is assured,” Kornev said.

    💬“In the case of the West, any similar system will be rather expensive to create,” Kornev emphasized.

    President Putin confirmed in a briefing with defense officials Friday that a decision on the Oreshnik’s mass production has been taken, and that the military has amassed a stockpile of the new ballistic hypersonic missiles, and “will continue these tests, including in combat conditions, depending on the situation and the nature of the security threats that are created for Russia.”
    .
    2:52 AM · Nov 23, 2024 · 2,723 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1860048762300682281
    นี่คือเหตุผลที่ทำไมขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ORESHNIK ของรัสเซียจึงพร้อมสำหรับการผลิตจำนวนมาก การทดสอบการรบประจำการของระบบขีปนาวุธ Oreshnik ในวันพฤหัสบดีกับเป้าหมายทางทหารและอุตสาหกรรมของยูเครนในเมือง Dnepropetrovsk แสดงให้เห็นว่าระบบขีปนาวุธใหม่ของรัสเซียพร้อมสำหรับการนำไปปฏิบัติและการผลิตจำนวนมากแล้ว, และเหตุผลก็คืออาวุธขีปนาวุธของรัสเซียได้รับการออกแบบมาอย่างไรมาหลายทศวรรษ, Dmitry Kornev ผู้สังเกตการณ์ทางทหารที่มีประสบการณ์ของรัสเซียกล่าว ศักยภาพของกลุ่มอุตสาหกรรมการทหารของรัสเซียในการผลิตอาวุธแบบ Oreshnik นั้น "สูงกว่าของชาติตะวันตกอย่างเห็นได้ชัด," Kornev กล่าวกับ Sputnik, โดยชี้ไปที่ปรัชญาการออกแบบขีปนาวุธของรัสเซีย (และก่อนหน้านั้นก็คือสหภาพโซเวียต) ที่ย้อนกลับไปถึงการเผชิญหน้าในยุคสงครามเย็นระหว่าง RSD-10 Pioneer และ Pershing 2 โดยระบบของสหภาพโซเวียตได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่ามีการยับยั้งเชิงกลยุทธ์ในระดับทวีป, ซึ่งต่างจากเป้าหมายของสหรัฐฯ ในการโจมตีเป้าหมายของศัตรูให้เร็วที่สุดจากฐานที่มั่นในแนวหน้า 💬“ระบบของเรามีศักยภาพในการโจมตีที่สูงกว่ามากในแง่ที่ว่ามันถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของเทคโนโลยีขีปนาวุธที่ถูกพิสูจน์แล้ว - ซึ่งมีแนวโน้มสูงสุดที่สถาบันวิศวกรรมความร้อนมอสโก, ซึ่งหมายความว่าการผลิตจำนวนมากและการใช้งานขีปนาวุธจำนวนมากอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งที่มั่นใจได้,” Kornev กล่าว 💬“ในกรณีของตะวันตก, ระบบที่คล้ายคลึงกัน จะมีราคาค่อนข้างแพงในการสร้าง,” Kornev เน้นย้ำ ประธานาธิบดีปูตินยืนยันในการแถลงข่าวต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมเมื่อวันศุกร์ว่า ได้ตัดสินใจแล้วเกี่ยวกับการผลิตจำนวนมากของ Oreshnik, และกองทัพได้รวบรวมคลังอาวุธขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่นี้ไว้, และ “จะดำเนินการทดสอบต่อไป, รวมถึงในสภาพการสู้รบ, ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และลักษณะของภัยคุกคามต่อความปลอดภัยที่รัสเซียเผชิญ” . HERE’S WHY RUSSIA’S ORESHNIK HYPERSONIC MISSILE IS READY FOR MASS PRODUCTION Thursday’s combat deployment testing of the Oreshnik missile system against a Ukrainian military-industrial target in Dnepropetrovsk speaks to the fact that the new Russian missile system is ready for deployment and mass production, and the reason comes down to the way Russia’s missile weaponry has been designed for many decades, says veteran Russian military observer Dmitry Kornev. The capabilities of Russia’s military-industrial complex when it comes to producing Oreshnik-style weaponry is “significantly higher than those of the West,” Kornev told Sputnik, pointing to the Russian (and before that Soviet) missile design philosophy going back to the Cold War-era standoff involving the RSD-10 Pioneer and the Pershing 2 – with the Soviet system designed to ensure strategic deterrence on the continental scale, vs. the US goal of delivering a strike against enemy targets as quickly as possible from a forward foothold. 💬“Our system likely has a far greater strike potential in the sense that it was created on the basis of already proven ballistic missile technologies - most likely, at the Moscow Institute of Thermal Engineering, which means that mass production and rapid deployment of large quantities of the missiles is assured,” Kornev said. 💬“In the case of the West, any similar system will be rather expensive to create,” Kornev emphasized. President Putin confirmed in a briefing with defense officials Friday that a decision on the Oreshnik’s mass production has been taken, and that the military has amassed a stockpile of the new ballistic hypersonic missiles, and “will continue these tests, including in combat conditions, depending on the situation and the nature of the security threats that are created for Russia.” . 2:52 AM · Nov 23, 2024 · 2,723 Views https://x.com/SputnikInt/status/1860048762300682281
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts