• SK hynix ได้เปิดตัวเทคโนโลยีหน่วยความจำ HBM4 เป็นครั้งแรกในงาน TSMC's North America Technology Symposium โดยเทคโนโลยีนี้มีความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลสูงถึง 48 GB และมีแบนด์วิดท์ที่น่าทึ่งถึง 2.0 TB/s พร้อมความเร็ว I/O ที่ 8.0 Gbps ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญในตลาดหน่วยความจำ HBM (High Bandwidth Memory)

    SK hynix ยังได้แสดงเทคโนโลยี HBM3E ที่มีความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลสูงสุด 16 ชั้น และแบนด์วิดท์ 1.2 TB/s ซึ่งจะถูกนำไปใช้ใน AI clusters ของ NVIDIA เช่น GB300 "Blackwell Ultra" นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวหน่วยความจำสำหรับเซิร์ฟเวอร์ เช่น RDIMMs และ MRDIMMs ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 12.8 Gbps และความจุสูงสุด 256 GB

    เทคโนโลยี HBM4 ของ SK hynix ได้รับการพัฒนาโดยใช้เทคนิค Advanced MR-MUF และ TSV ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อชั้นหน่วยความจำ และคาดว่าจะเริ่มการผลิตในเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025

    ✅ การเปิดตัว HBM4
    - ความจุสูงสุด 48 GB และแบนด์วิดท์ 2.0 TB/s
    - ความเร็ว I/O สูงถึง 8.0 Gbps

    ✅ การพัฒนา HBM3E
    - ความจุสูงสุด 16 ชั้น และแบนด์วิดท์ 1.2 TB/s
    - ใช้ใน AI clusters ของ NVIDIA เช่น GB300 "Blackwell Ultra"

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีเซิร์ฟเวอร์
    - RDIMMs และ MRDIMMs มีความเร็วสูงสุด 12.8 Gbps
    - ความจุสูงสุด 256 GB

    ✅ เป้าหมายของ SK hynix
    - เป็นผู้นำในตลาด HBM และ DRAM ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่

    https://wccftech.com/sk-hynix-showcases-world-first-hbm4-technology-to-the-public/
    SK hynix ได้เปิดตัวเทคโนโลยีหน่วยความจำ HBM4 เป็นครั้งแรกในงาน TSMC's North America Technology Symposium โดยเทคโนโลยีนี้มีความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลสูงถึง 48 GB และมีแบนด์วิดท์ที่น่าทึ่งถึง 2.0 TB/s พร้อมความเร็ว I/O ที่ 8.0 Gbps ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญในตลาดหน่วยความจำ HBM (High Bandwidth Memory) SK hynix ยังได้แสดงเทคโนโลยี HBM3E ที่มีความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลสูงสุด 16 ชั้น และแบนด์วิดท์ 1.2 TB/s ซึ่งจะถูกนำไปใช้ใน AI clusters ของ NVIDIA เช่น GB300 "Blackwell Ultra" นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวหน่วยความจำสำหรับเซิร์ฟเวอร์ เช่น RDIMMs และ MRDIMMs ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 12.8 Gbps และความจุสูงสุด 256 GB เทคโนโลยี HBM4 ของ SK hynix ได้รับการพัฒนาโดยใช้เทคนิค Advanced MR-MUF และ TSV ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อชั้นหน่วยความจำ และคาดว่าจะเริ่มการผลิตในเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ✅ การเปิดตัว HBM4 - ความจุสูงสุด 48 GB และแบนด์วิดท์ 2.0 TB/s - ความเร็ว I/O สูงถึง 8.0 Gbps ✅ การพัฒนา HBM3E - ความจุสูงสุด 16 ชั้น และแบนด์วิดท์ 1.2 TB/s - ใช้ใน AI clusters ของ NVIDIA เช่น GB300 "Blackwell Ultra" ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีเซิร์ฟเวอร์ - RDIMMs และ MRDIMMs มีความเร็วสูงสุด 12.8 Gbps - ความจุสูงสุด 256 GB ✅ เป้าหมายของ SK hynix - เป็นผู้นำในตลาด HBM และ DRAM ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ https://wccftech.com/sk-hynix-showcases-world-first-hbm4-technology-to-the-public/
    WCCFTECH.COM
    SK Hynix Showcases World's First HBM4 Technology To The Public; Featuring 16-Hi Stacks, 2.0 TB/s Bandwidth & TSMC Logic Die
    SK Hynix decided to showcase its HBM4 implementation to the public at TSMC's NA Technology Symposium, alongside several memory products.
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่ที่สุดในปี 2025 ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 3 เมษายน โดยมีเป้าหมายที่องค์กรการพนันออนไลน์ที่ไม่เปิดเผยชื่อ การโจมตีเริ่มต้นด้วยความเร็ว 67Gbps และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 965Gbps ภายในเวลาเพียง 20 นาที ก่อนจะลดลงและสิ้นสุดในเวลา 90 นาที การโจมตีนี้ใช้เทคนิคหลายรูปแบบ เช่น UDP flood, SYN flood, IP flood และ TCP flood

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ Alexander Ovechkin นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งทำลายสถิติของ Wayne Gretzky ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการโจมตี DDoS มักเกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์สำคัญที่มีผู้ชมจำนวนมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการพนันออนไลน์

    ✅ ลักษณะของการโจมตี
    - ใช้เทคนิคหลายรูปแบบ เช่น UDP flood, SYN flood, IP flood และ TCP flood
    - ความเร็วสูงสุดถึง 965Gbps

    ✅ เป้าหมายของการโจมตี
    - องค์กรการพนันออนไลน์ที่ไม่เปิดเผยชื่อ
    - เกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์สำคัญ เช่น การทำลายสถิติของ Alexander Ovechkin

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - อุตสาหกรรมการพนันออนไลน์เป็นเป้าหมายหลักในช่วงเหตุการณ์สำคัญ

    ✅ การจัดการและการป้องกัน
    - บริษัท Qrator Labs สามารถลดผลกระทบของการโจมตีได้สำเร็จ

    https://www.techradar.com/pro/largest-ddos-attack-of-2025-hit-an-online-betting-organization-with-1tbps-brute-force-heres-what-we-know
    บทความนี้กล่าวถึงการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่ที่สุดในปี 2025 ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 3 เมษายน โดยมีเป้าหมายที่องค์กรการพนันออนไลน์ที่ไม่เปิดเผยชื่อ การโจมตีเริ่มต้นด้วยความเร็ว 67Gbps และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 965Gbps ภายในเวลาเพียง 20 นาที ก่อนจะลดลงและสิ้นสุดในเวลา 90 นาที การโจมตีนี้ใช้เทคนิคหลายรูปแบบ เช่น UDP flood, SYN flood, IP flood และ TCP flood เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ Alexander Ovechkin นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งทำลายสถิติของ Wayne Gretzky ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการโจมตี DDoS มักเกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์สำคัญที่มีผู้ชมจำนวนมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการพนันออนไลน์ ✅ ลักษณะของการโจมตี - ใช้เทคนิคหลายรูปแบบ เช่น UDP flood, SYN flood, IP flood และ TCP flood - ความเร็วสูงสุดถึง 965Gbps ✅ เป้าหมายของการโจมตี - องค์กรการพนันออนไลน์ที่ไม่เปิดเผยชื่อ - เกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์สำคัญ เช่น การทำลายสถิติของ Alexander Ovechkin ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - อุตสาหกรรมการพนันออนไลน์เป็นเป้าหมายหลักในช่วงเหตุการณ์สำคัญ ✅ การจัดการและการป้องกัน - บริษัท Qrator Labs สามารถลดผลกระทบของการโจมตีได้สำเร็จ https://www.techradar.com/pro/largest-ddos-attack-of-2025-hit-an-online-betting-organization-with-1tbps-brute-force-heres-what-we-know
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการทดสอบโมดูลหน่วยความจำ GDDR7 ของ SK hynix ที่ใช้ใน GPU รุ่น RTX 5070 Ti โดยพบว่ามีศักยภาพในการโอเวอร์คล็อกที่ใกล้เคียงกับโมดูลของ Samsung โดยสามารถเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลได้ถึง 34 Gbps อย่างไรก็ตาม การทดสอบยังขาดข้อมูลด้านความร้อนและประสิทธิภาพพลังงาน

    การทดสอบนี้แสดงให้เห็นว่า Nvidia ได้เพิ่ม SK hynix เป็นผู้จัดหาหน่วยความจำ GDDR7 สำหรับซีรีส์ RTX 50 นอกเหนือจาก Samsung เพื่อเพิ่มความหลากหลายของซัพพลายเออร์ แม้ว่าจะมีข้อสันนิษฐานว่า BIOS ของ RTX 50 อาจขึ้นอยู่กับผู้ผลิตหน่วยความจำ ซึ่งอาจทำให้การใช้งาน BIOS ข้ามผู้ผลิตทำให้การ์ดจอเสียหายได้

    ✅ การทดสอบโมดูล GDDR7
    - SK Hynix GDDR7 สามารถโอเวอร์คล็อกได้ถึง 34 Gbps
    - มีศักยภาพใกล้เคียงกับโมดูลของ Samsung

    ✅ การเพิ่มความหลากหลายของซัพพลายเออร์
    - Nvidia เพิ่ม SK hynix เป็นผู้จัดหาหน่วยความจำ GDDR7 สำหรับซีรีส์ RTX 50

    ✅ ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับ BIOS
    - BIOS ของ RTX 50 อาจขึ้นอยู่กับผู้ผลิตหน่วยความจำ
    - การใช้งาน BIOS ข้ามผู้ผลิตอาจทำให้การ์ดจอเสียหาย

    ✅ เป้าหมายของ Nvidia
    - เพิ่มความหลากหลายของซัพพลายเออร์เพื่อความมั่นคงของการผลิต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/sk-hynix-gddr7-modules-hit-34-gbps-on-the-rtx-5070-ti-similar-oc-performance-to-samsung
    บทความนี้กล่าวถึงการทดสอบโมดูลหน่วยความจำ GDDR7 ของ SK hynix ที่ใช้ใน GPU รุ่น RTX 5070 Ti โดยพบว่ามีศักยภาพในการโอเวอร์คล็อกที่ใกล้เคียงกับโมดูลของ Samsung โดยสามารถเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลได้ถึง 34 Gbps อย่างไรก็ตาม การทดสอบยังขาดข้อมูลด้านความร้อนและประสิทธิภาพพลังงาน การทดสอบนี้แสดงให้เห็นว่า Nvidia ได้เพิ่ม SK hynix เป็นผู้จัดหาหน่วยความจำ GDDR7 สำหรับซีรีส์ RTX 50 นอกเหนือจาก Samsung เพื่อเพิ่มความหลากหลายของซัพพลายเออร์ แม้ว่าจะมีข้อสันนิษฐานว่า BIOS ของ RTX 50 อาจขึ้นอยู่กับผู้ผลิตหน่วยความจำ ซึ่งอาจทำให้การใช้งาน BIOS ข้ามผู้ผลิตทำให้การ์ดจอเสียหายได้ ✅ การทดสอบโมดูล GDDR7 - SK Hynix GDDR7 สามารถโอเวอร์คล็อกได้ถึง 34 Gbps - มีศักยภาพใกล้เคียงกับโมดูลของ Samsung ✅ การเพิ่มความหลากหลายของซัพพลายเออร์ - Nvidia เพิ่ม SK hynix เป็นผู้จัดหาหน่วยความจำ GDDR7 สำหรับซีรีส์ RTX 50 ✅ ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับ BIOS - BIOS ของ RTX 50 อาจขึ้นอยู่กับผู้ผลิตหน่วยความจำ - การใช้งาน BIOS ข้ามผู้ผลิตอาจทำให้การ์ดจอเสียหาย ✅ เป้าหมายของ Nvidia - เพิ่มความหลากหลายของซัพพลายเออร์เพื่อความมั่นคงของการผลิต https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/sk-hynix-gddr7-modules-hit-34-gbps-on-the-rtx-5070-ti-similar-oc-performance-to-samsung
    0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • Commodore OS Vision 3.0 เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นโดยแฟนๆ ซึ่งใช้พื้นฐานจาก Linux และออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์แบรนด์ Commodore โดยเฉพาะ เช่น Commodore 64x ระบบนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อฟื้นฟูประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ในยุคเก่า โดยนำฮาร์ดแวร์สมัยใหม่มาใส่ในเคสแบบย้อนยุค

    ระบบปฏิบัติการนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ เช่น Commodore OS Central ซึ่งเป็นศูนย์รวมแหล่งข้อมูลและเครื่องมือสำคัญ รวมถึง Settings Manager ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับแต่งระบบได้อย่างละเอียด เช่น การเปลี่ยนวอลเปเปอร์ เพิ่มแอนิเมชัน และปรับแต่งเสียงเพลงสำหรับฟังก์ชันต่างๆ นอกจากนี้ยังรองรับการตั้งค่าตัวเลือกระบบ เช่น โปรโตคอลการเริ่มต้นและการตั้งค่าอีมูเลเตอร์

    Commodore OS Vision 3.0 ยังมีเกมที่ติดตั้งมาให้เล่นได้ทันที รวมถึงตัวแก้ไข BASIC รุ่นใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบแอปและเกมของตนเองได้ โดยรองรับกราฟิก 2D และ 3D รวมถึงฟิสิกส์

    ✅ การออกแบบและการใช้งาน
    - ระบบปฏิบัติการ Linux ที่ออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์แบรนด์ Commodore
    - ฟื้นฟูประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ในยุคเก่า

    ✅ ฟีเจอร์ใหม่
    - Commodore OS Central เป็นศูนย์รวมแหล่งข้อมูลและเครื่องมือสำคัญ
    - Settings Manager ช่วยปรับแต่งระบบ เช่น วอลเปเปอร์ แอนิเมชัน และเสียงเพลง

    ✅ การสนับสนุนเกมและการพัฒนา
    - มีเกมที่ติดตั้งมาให้เล่นได้ทันที
    - ตัวแก้ไข BASIC รุ่นใหม่ช่วยออกแบบแอปและเกม รองรับกราฟิก 2D และ 3D

    ✅ เป้าหมายของระบบปฏิบัติการ
    - สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ผสมผสานระหว่างความย้อนยุคและความทันสมัย

    https://www.tomshardware.com/software/linux/commodore-os-vision-3-0-linux-based-os-arrives-to-spruce-up-retro-builds
    Commodore OS Vision 3.0 เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นโดยแฟนๆ ซึ่งใช้พื้นฐานจาก Linux และออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์แบรนด์ Commodore โดยเฉพาะ เช่น Commodore 64x ระบบนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อฟื้นฟูประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ในยุคเก่า โดยนำฮาร์ดแวร์สมัยใหม่มาใส่ในเคสแบบย้อนยุค ระบบปฏิบัติการนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ เช่น Commodore OS Central ซึ่งเป็นศูนย์รวมแหล่งข้อมูลและเครื่องมือสำคัญ รวมถึง Settings Manager ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับแต่งระบบได้อย่างละเอียด เช่น การเปลี่ยนวอลเปเปอร์ เพิ่มแอนิเมชัน และปรับแต่งเสียงเพลงสำหรับฟังก์ชันต่างๆ นอกจากนี้ยังรองรับการตั้งค่าตัวเลือกระบบ เช่น โปรโตคอลการเริ่มต้นและการตั้งค่าอีมูเลเตอร์ Commodore OS Vision 3.0 ยังมีเกมที่ติดตั้งมาให้เล่นได้ทันที รวมถึงตัวแก้ไข BASIC รุ่นใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบแอปและเกมของตนเองได้ โดยรองรับกราฟิก 2D และ 3D รวมถึงฟิสิกส์ ✅ การออกแบบและการใช้งาน - ระบบปฏิบัติการ Linux ที่ออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์แบรนด์ Commodore - ฟื้นฟูประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ในยุคเก่า ✅ ฟีเจอร์ใหม่ - Commodore OS Central เป็นศูนย์รวมแหล่งข้อมูลและเครื่องมือสำคัญ - Settings Manager ช่วยปรับแต่งระบบ เช่น วอลเปเปอร์ แอนิเมชัน และเสียงเพลง ✅ การสนับสนุนเกมและการพัฒนา - มีเกมที่ติดตั้งมาให้เล่นได้ทันที - ตัวแก้ไข BASIC รุ่นใหม่ช่วยออกแบบแอปและเกม รองรับกราฟิก 2D และ 3D ✅ เป้าหมายของระบบปฏิบัติการ - สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ผสมผสานระหว่างความย้อนยุคและความทันสมัย https://www.tomshardware.com/software/linux/commodore-os-vision-3-0-linux-based-os-arrives-to-spruce-up-retro-builds
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Commodore OS Vision 3.0 Linux-based OS arrives to spruce up retro builds
    This fan-made Linux-based OS was just released for Commodore-branded devices.
    0 Comments 0 Shares 40 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการดัดแปลง GPU รุ่นเก่า Voodoo4 ให้สามารถใช้งานในแล็ปท็อปได้ โดยนักดัดแปลงฮาร์ดแวร์ Daniel Simionescu ได้พัฒนา PCB ที่ติดตั้ง GPU Voodoo4 พร้อมหน่วยความจำ SDR ขนาด 64MB และเชื่อมต่อกับแล็ปท็อป Dell Precision M4800 ผ่านโมดูล MXM (Mobile PCI Express Module) การดัดแปลงนี้ต้องใช้ FPGA, ตัวเชื่อมต่อ LVDS/eDP และ RealTek Scaler เพื่อให้ GPU รุ่นเก่าสามารถทำงานร่วมกับมาตรฐานปัจจุบันได้

    การทดสอบในระบบปฏิบัติการ Windows 98 พบปัญหาความเข้ากันไม่ได้ของ BIOS แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Windows XP และไดรเวอร์ VBE (VESA BIOS Extensions) ก็สามารถใช้งานได้บางส่วน เช่น การรัน 3DMark 2001 และเกม Need for Speed: Porsche Unleashed

    แม้ว่าการดัดแปลงนี้จะไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการค้า แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนผู้ใช้งานสามารถพัฒนาต่อได้ในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส

    ✅ การออกแบบและการดัดแปลง
    - ใช้ PCB ที่ติดตั้ง GPU Voodoo4 พร้อมหน่วยความจำ SDR ขนาด 64MB
    - เชื่อมต่อกับแล็ปท็อปผ่านโมดูล MXM

    ✅ การแก้ปัญหาความเข้ากันได้
    - ใช้ FPGA, ตัวเชื่อมต่อ LVDS/eDP และ RealTek Scaler
    - ใช้ไดรเวอร์ VBE เพื่อแก้ปัญหาความเข้ากันไม่ได้ของ BIOS

    ✅ ผลการทดสอบ
    - สามารถรัน 3DMark 2001 และเกม Need for Speed: Porsche Unleashed บน Windows XP

    ✅ เป้าหมายของการดัดแปลง
    - เปิดโอกาสให้ชุมชนผู้ใช้งานพัฒนาต่อในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/legendary-voodoo4-gpu-modded-into-laptop-benchmarks-work-with-windows-xp
    บทความนี้กล่าวถึงการดัดแปลง GPU รุ่นเก่า Voodoo4 ให้สามารถใช้งานในแล็ปท็อปได้ โดยนักดัดแปลงฮาร์ดแวร์ Daniel Simionescu ได้พัฒนา PCB ที่ติดตั้ง GPU Voodoo4 พร้อมหน่วยความจำ SDR ขนาด 64MB และเชื่อมต่อกับแล็ปท็อป Dell Precision M4800 ผ่านโมดูล MXM (Mobile PCI Express Module) การดัดแปลงนี้ต้องใช้ FPGA, ตัวเชื่อมต่อ LVDS/eDP และ RealTek Scaler เพื่อให้ GPU รุ่นเก่าสามารถทำงานร่วมกับมาตรฐานปัจจุบันได้ การทดสอบในระบบปฏิบัติการ Windows 98 พบปัญหาความเข้ากันไม่ได้ของ BIOS แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Windows XP และไดรเวอร์ VBE (VESA BIOS Extensions) ก็สามารถใช้งานได้บางส่วน เช่น การรัน 3DMark 2001 และเกม Need for Speed: Porsche Unleashed แม้ว่าการดัดแปลงนี้จะไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการค้า แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนผู้ใช้งานสามารถพัฒนาต่อได้ในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส ✅ การออกแบบและการดัดแปลง - ใช้ PCB ที่ติดตั้ง GPU Voodoo4 พร้อมหน่วยความจำ SDR ขนาด 64MB - เชื่อมต่อกับแล็ปท็อปผ่านโมดูล MXM ✅ การแก้ปัญหาความเข้ากันได้ - ใช้ FPGA, ตัวเชื่อมต่อ LVDS/eDP และ RealTek Scaler - ใช้ไดรเวอร์ VBE เพื่อแก้ปัญหาความเข้ากันไม่ได้ของ BIOS ✅ ผลการทดสอบ - สามารถรัน 3DMark 2001 และเกม Need for Speed: Porsche Unleashed บน Windows XP ✅ เป้าหมายของการดัดแปลง - เปิดโอกาสให้ชุมชนผู้ใช้งานพัฒนาต่อในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/legendary-voodoo4-gpu-modded-into-laptop-benchmarks-work-with-windows-xp
    0 Comments 0 Shares 36 Views 0 Reviews
  • ลุงไม่คิดว่ามันจะต้องถึงขนาดนี้เลยนะ

    Asus ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน GPU รุ่น ROG Astral ที่ชื่อว่า Equipment Installation Check ซึ่งใช้เซ็นเซอร์ Bosch Sensortec BMI323 Inertial Measurement Unit (IMU) เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของการ์ดจอ ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันปัญหา GPU sagging หรือการที่การ์ดจอหนักเกินไปจนทำให้เกิดความเสียหายต่อเมนบอร์ด

    การ์ดจอ ROG Astral มีน้ำหนักถึง 3 กิโลกรัม ซึ่งหนักกว่าก้อนอิฐมาตรฐาน และแม้จะมีการเสริมความแข็งแรงในช่อง PCIe หรือการใช้ขาตั้งรองรับ แต่ก็ยังมีโอกาสที่ขาตั้งจะหลุดหรือคลายตัวเมื่อเวลาผ่านไป ฟีเจอร์นี้จึงช่วยแจ้งเตือนผู้ใช้งานหากการ์ดจอมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งโดยไม่ได้ตั้งใจ

    นอกจากนี้ ROG Astral ยังมาพร้อมฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Power Detector+ ที่ตรวจสอบการกระจายพลังงานในสายไฟ 12V และ Thermal Map ที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิรอบการ์ดจอเพื่อป้องกันจุดร้อน

    ✅ ฟีเจอร์ Equipment Installation Check
    - ใช้เซ็นเซอร์ IMU เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของการ์ดจอ
    - ช่วยป้องกันปัญหา GPU sagging ที่อาจทำให้เมนบอร์ดเสียหาย

    ✅ น้ำหนักและการออกแบบ
    - การ์ดจอมีน้ำหนักถึง 3 กิโลกรัม
    - มีการเสริมความแข็งแรงในช่อง PCIe และขาตั้งรองรับ

    ✅ ฟีเจอร์เสริมอื่นๆ
    - Power Detector+ ตรวจสอบการกระจายพลังงานในสายไฟ
    - Thermal Map ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิรอบการ์ดจอ

    ✅ เป้าหมายของฟีเจอร์
    - ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายต่อฮาร์ดแวร์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gpus-built-in-gyro-and-accelerometer-tell-you-if-the-card-isnt-level-rog-astral-gpu-battles-card-sag-with-software-monitored-feature
    ลุงไม่คิดว่ามันจะต้องถึงขนาดนี้เลยนะ Asus ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน GPU รุ่น ROG Astral ที่ชื่อว่า Equipment Installation Check ซึ่งใช้เซ็นเซอร์ Bosch Sensortec BMI323 Inertial Measurement Unit (IMU) เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของการ์ดจอ ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันปัญหา GPU sagging หรือการที่การ์ดจอหนักเกินไปจนทำให้เกิดความเสียหายต่อเมนบอร์ด การ์ดจอ ROG Astral มีน้ำหนักถึง 3 กิโลกรัม ซึ่งหนักกว่าก้อนอิฐมาตรฐาน และแม้จะมีการเสริมความแข็งแรงในช่อง PCIe หรือการใช้ขาตั้งรองรับ แต่ก็ยังมีโอกาสที่ขาตั้งจะหลุดหรือคลายตัวเมื่อเวลาผ่านไป ฟีเจอร์นี้จึงช่วยแจ้งเตือนผู้ใช้งานหากการ์ดจอมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้ ROG Astral ยังมาพร้อมฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Power Detector+ ที่ตรวจสอบการกระจายพลังงานในสายไฟ 12V และ Thermal Map ที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิรอบการ์ดจอเพื่อป้องกันจุดร้อน ✅ ฟีเจอร์ Equipment Installation Check - ใช้เซ็นเซอร์ IMU เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของการ์ดจอ - ช่วยป้องกันปัญหา GPU sagging ที่อาจทำให้เมนบอร์ดเสียหาย ✅ น้ำหนักและการออกแบบ - การ์ดจอมีน้ำหนักถึง 3 กิโลกรัม - มีการเสริมความแข็งแรงในช่อง PCIe และขาตั้งรองรับ ✅ ฟีเจอร์เสริมอื่นๆ - Power Detector+ ตรวจสอบการกระจายพลังงานในสายไฟ - Thermal Map ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิรอบการ์ดจอ ✅ เป้าหมายของฟีเจอร์ - ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายต่อฮาร์ดแวร์ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gpus-built-in-gyro-and-accelerometer-tell-you-if-the-card-isnt-level-rog-astral-gpu-battles-card-sag-with-software-monitored-feature
    0 Comments 0 Shares 42 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงข้อบกพร่องและความไม่สมบูรณ์ในระบบปฏิบัติการ Windows 11 ที่ยังคงสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้งาน แม้จะมีการปรับปรุงตั้งแต่เปิดตัวในปี 2021 โดยมีประเด็นสำคัญที่ถูกวิจารณ์ เช่น การสนับสนุน Dark Mode ที่ไม่ครอบคลุม การขาดฟีเจอร์การเปลี่ยนธีมอัตโนมัติ การรวม Control Panel เข้ากับ Settings app ที่ยังไม่สมบูรณ์ การออกแบบ Start Menu และ Taskbar ที่ไม่ยืดหยุ่น และปัญหาเกี่ยวกับแอนิเมชันที่ไม่ราบรื่น

    ผู้เขียนบทความยังเสนอแนะให้ Microsoft ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงฟีเจอร์พื้นฐานที่ผู้ใช้งานต้องการมากกว่าการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่อาจไม่จำเป็น

    ✅ การสนับสนุน Dark Mode
    - Dark Mode ไม่ครอบคลุมใน UI บางส่วน เช่น File Properties และ Control Panel
    - มีแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้

    ✅ การเปลี่ยนธีมอัตโนมัติ
    - Windows 11 ยังไม่มีฟีเจอร์การเปลี่ยนธีมอัตโนมัติตามเวลา

    ✅ การรวม Control Panel กับ Settings app
    - การรวมยังไม่สมบูรณ์ เช่น Disk Management และ Device Manager
    - UI บางส่วนยังไม่มีการสนับสนุน DPI สูงหรือ Dark Mode

    ✅ การออกแบบ Start Menu และ Taskbar
    - Start Menu ไม่สามารถปรับขนาดได้ตามต้องการ
    - Taskbar ไม่สามารถย้ายตำแหน่งได้

    ✅ ปัญหาเกี่ยวกับแอนิเมชัน
    - แอนิเมชันใน Task View และ Virtual Desktops ไม่ราบรื่น

    https://www.neowin.net/editorials/windows-11-still-grinds-my-gears-with-these-5-things/
    บทความนี้กล่าวถึงข้อบกพร่องและความไม่สมบูรณ์ในระบบปฏิบัติการ Windows 11 ที่ยังคงสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้งาน แม้จะมีการปรับปรุงตั้งแต่เปิดตัวในปี 2021 โดยมีประเด็นสำคัญที่ถูกวิจารณ์ เช่น การสนับสนุน Dark Mode ที่ไม่ครอบคลุม การขาดฟีเจอร์การเปลี่ยนธีมอัตโนมัติ การรวม Control Panel เข้ากับ Settings app ที่ยังไม่สมบูรณ์ การออกแบบ Start Menu และ Taskbar ที่ไม่ยืดหยุ่น และปัญหาเกี่ยวกับแอนิเมชันที่ไม่ราบรื่น ผู้เขียนบทความยังเสนอแนะให้ Microsoft ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงฟีเจอร์พื้นฐานที่ผู้ใช้งานต้องการมากกว่าการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่อาจไม่จำเป็น ✅ การสนับสนุน Dark Mode - Dark Mode ไม่ครอบคลุมใน UI บางส่วน เช่น File Properties และ Control Panel - มีแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ✅ การเปลี่ยนธีมอัตโนมัติ - Windows 11 ยังไม่มีฟีเจอร์การเปลี่ยนธีมอัตโนมัติตามเวลา ✅ การรวม Control Panel กับ Settings app - การรวมยังไม่สมบูรณ์ เช่น Disk Management และ Device Manager - UI บางส่วนยังไม่มีการสนับสนุน DPI สูงหรือ Dark Mode ✅ การออกแบบ Start Menu และ Taskbar - Start Menu ไม่สามารถปรับขนาดได้ตามต้องการ - Taskbar ไม่สามารถย้ายตำแหน่งได้ ✅ ปัญหาเกี่ยวกับแอนิเมชัน - แอนิเมชันใน Task View และ Virtual Desktops ไม่ราบรื่น https://www.neowin.net/editorials/windows-11-still-grinds-my-gears-with-these-5-things/
    WWW.NEOWIN.NET
    Windows 11 still grinds my gears with these 5 things
    In its fourth year, Windows 11 is in a much better state than it was in 2021. However, Microsoft still won't fix these five things that grind my gears.
    0 Comments 0 Shares 38 Views 0 Reviews
  • The Last Equation of Elias Voltaire" encourages cognitive scientists, medical philosophers and especially for those grieving the death of a loved one.

    It highlights the importance of compassion and serves as a reminder of significant truths that may be overlooked.

    Book on Amazon : The Last Equation of Elias Voltaire https://www.amazon.com/dp/B0F1FH8LLG

    FashionFromPhilosophy : https://www.redbubble.com/shop/ap/170279088?ref=studio-promote

    Song - In the Beginning, There Was Stillness : https://open.spotify.com/playlist/0SDJzlDtAgZYdbTxfEGmCJ


    The Last Equation of Elias Voltaire: A New Cognitive and Medical Frontier
    https://www.facebook.com/groups/23980494804930838
    The Last Equation of Elias Voltaire" encourages cognitive scientists, medical philosophers and especially for those grieving the death of a loved one. It highlights the importance of compassion and serves as a reminder of significant truths that may be overlooked. Book on Amazon : The Last Equation of Elias Voltaire https://www.amazon.com/dp/B0F1FH8LLG FashionFromPhilosophy : https://www.redbubble.com/shop/ap/170279088?ref=studio-promote Song - In the Beginning, There Was Stillness : https://open.spotify.com/playlist/0SDJzlDtAgZYdbTxfEGmCJ The Last Equation of Elias Voltaire: A New Cognitive and Medical Frontier https://www.facebook.com/groups/23980494804930838
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • https://youtube.com/shorts/xOSkHEcflUM?si=iPtZ9I39yjb519tl
    https://youtube.com/shorts/xOSkHEcflUM?si=iPtZ9I39yjb519tl
    0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews
  • 3/
    เจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษของรัสเซีย สามารถจับกุมสายลับยูเครนที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีที่สังหารนายพลโมสคาลิกในมอสโกได้แล้ว!!

    Ignat Kuzin ถูกกองกำลังความมั่นคงควบคุมตัวในตุรกี ซึ่งเขาหลบหนีออกนอกรัสเซียทันทีที่พลโทยาโรสลาฟ โมสคาลิก เสียชีวิต และถูกนำตัวส่งกลับไปที่มอสโก

    Ignat Kuzin เกิดเมื่อปี 1983 และมีใบอนุญาตพำนักในยูเครน ยอมรับสารภาพว่าคือผู้ลงมือผู้สังหารรองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการหลักของกองบัญชาการกองทัพรัสเซีย นายพล Yaroslav Moskalik ถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย และจะได้รับการปฏิบัติภายใต้กฎหมายผู้ก่อการร้าย ตามรายงานของคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซีย

    Kuzin ยอมรับว่าถูกเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงแห่งยูเครน (SBU) ว่าจ้างด้วยจำนวนเงิน 18,000 ดอลลาร์ และมีการวางแผนลอบสังหารตั้งแต่กันยายน 2024

    ตามรายงานของเจ้าหน้าที่พิเศษรัสเซีย คูซิน (Kuzin) เช่าบ้านหลังหนึ่ง เพื่อใช้เฝ้าสังเกตและติดตามกิจวัตรของนายพลโมสคาลิก โดยเขาศึกษาเส้นทาง ตารางเวลา ของนายพลอย่างละเอียด

    หลังจากทราบกิจวัตรของนายพลแน่ชัดแล้ว คูซินซื้อรถยนต์ Volkswagen มือสองมาติดตั้งระเบิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน และจอดไว้ข้างบ้านของนายพลในบาลาชิกา และการระเบิดเกิดขึ้นจากการใช้รีโมทควบคุมจากระยะไกล

    3/ เจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษของรัสเซีย สามารถจับกุมสายลับยูเครนที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีที่สังหารนายพลโมสคาลิกในมอสโกได้แล้ว!! Ignat Kuzin ถูกกองกำลังความมั่นคงควบคุมตัวในตุรกี ซึ่งเขาหลบหนีออกนอกรัสเซียทันทีที่พลโทยาโรสลาฟ โมสคาลิก เสียชีวิต และถูกนำตัวส่งกลับไปที่มอสโก Ignat Kuzin เกิดเมื่อปี 1983 และมีใบอนุญาตพำนักในยูเครน ยอมรับสารภาพว่าคือผู้ลงมือผู้สังหารรองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการหลักของกองบัญชาการกองทัพรัสเซีย นายพล Yaroslav Moskalik ถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย และจะได้รับการปฏิบัติภายใต้กฎหมายผู้ก่อการร้าย ตามรายงานของคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซีย Kuzin ยอมรับว่าถูกเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงแห่งยูเครน (SBU) ว่าจ้างด้วยจำนวนเงิน 18,000 ดอลลาร์ และมีการวางแผนลอบสังหารตั้งแต่กันยายน 2024 ตามรายงานของเจ้าหน้าที่พิเศษรัสเซีย คูซิน (Kuzin) เช่าบ้านหลังหนึ่ง เพื่อใช้เฝ้าสังเกตและติดตามกิจวัตรของนายพลโมสคาลิก โดยเขาศึกษาเส้นทาง ตารางเวลา ของนายพลอย่างละเอียด หลังจากทราบกิจวัตรของนายพลแน่ชัดแล้ว คูซินซื้อรถยนต์ Volkswagen มือสองมาติดตั้งระเบิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน และจอดไว้ข้างบ้านของนายพลในบาลาชิกา และการระเบิดเกิดขึ้นจากการใช้รีโมทควบคุมจากระยะไกล
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 185 Views 25 0 Reviews
  • 2/
    เจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษของรัสเซีย สามารถจับกุมสายลับยูเครนที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีที่สังหารนายพลโมสคาลิกในมอสโกได้แล้ว!!

    Ignat Kuzin ถูกกองกำลังความมั่นคงควบคุมตัวในตุรกี ซึ่งเขาหลบหนีออกนอกรัสเซียทันทีที่พลโทยาโรสลาฟ โมสคาลิก เสียชีวิต และถูกนำตัวส่งกลับไปที่มอสโก

    Ignat Kuzin เกิดเมื่อปี 1983 และมีใบอนุญาตพำนักในยูเครน ยอมรับสารภาพว่าคือผู้ลงมือผู้สังหารรองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการหลักของกองบัญชาการกองทัพรัสเซีย นายพล Yaroslav Moskalik ถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย และจะได้รับการปฏิบัติภายใต้กฎหมายผู้ก่อการร้าย ตามรายงานของคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซีย

    Kuzin ยอมรับว่าถูกเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงแห่งยูเครน (SBU) ว่าจ้างด้วยจำนวนเงิน 18,000 ดอลลาร์ และมีการวางแผนลอบสังหารตั้งแต่กันยายน 2024

    ตามรายงานของเจ้าหน้าที่พิเศษรัสเซีย คูซิน (Kuzin) เช่าบ้านหลังหนึ่ง เพื่อใช้เฝ้าสังเกตและติดตามกิจวัตรของนายพลโมสคาลิก โดยเขาศึกษาเส้นทาง ตารางเวลา ของนายพลอย่างละเอียด

    หลังจากทราบกิจวัตรของนายพลแน่ชัดแล้ว คูซินซื้อรถยนต์ Volkswagen มือสองมาติดตั้งระเบิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน และจอดไว้ข้างบ้านของนายพลในบาลาชิกา และการระเบิดเกิดขึ้นจากการใช้รีโมทควบคุมจากระยะไกล

    2/ เจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษของรัสเซีย สามารถจับกุมสายลับยูเครนที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีที่สังหารนายพลโมสคาลิกในมอสโกได้แล้ว!! Ignat Kuzin ถูกกองกำลังความมั่นคงควบคุมตัวในตุรกี ซึ่งเขาหลบหนีออกนอกรัสเซียทันทีที่พลโทยาโรสลาฟ โมสคาลิก เสียชีวิต และถูกนำตัวส่งกลับไปที่มอสโก Ignat Kuzin เกิดเมื่อปี 1983 และมีใบอนุญาตพำนักในยูเครน ยอมรับสารภาพว่าคือผู้ลงมือผู้สังหารรองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการหลักของกองบัญชาการกองทัพรัสเซีย นายพล Yaroslav Moskalik ถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย และจะได้รับการปฏิบัติภายใต้กฎหมายผู้ก่อการร้าย ตามรายงานของคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซีย Kuzin ยอมรับว่าถูกเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงแห่งยูเครน (SBU) ว่าจ้างด้วยจำนวนเงิน 18,000 ดอลลาร์ และมีการวางแผนลอบสังหารตั้งแต่กันยายน 2024 ตามรายงานของเจ้าหน้าที่พิเศษรัสเซีย คูซิน (Kuzin) เช่าบ้านหลังหนึ่ง เพื่อใช้เฝ้าสังเกตและติดตามกิจวัตรของนายพลโมสคาลิก โดยเขาศึกษาเส้นทาง ตารางเวลา ของนายพลอย่างละเอียด หลังจากทราบกิจวัตรของนายพลแน่ชัดแล้ว คูซินซื้อรถยนต์ Volkswagen มือสองมาติดตั้งระเบิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน และจอดไว้ข้างบ้านของนายพลในบาลาชิกา และการระเบิดเกิดขึ้นจากการใช้รีโมทควบคุมจากระยะไกล
    0 Comments 0 Shares 183 Views 34 0 Reviews
  • 1/
    เจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษของรัสเซีย สามารถจับกุมสายลับยูเครนที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีที่สังหารนายพลโมสคาลิกในมอสโกได้แล้ว!!

    Ignat Kuzin ถูกกองกำลังความมั่นคงควบคุมตัวในตุรกี ซึ่งเขาหลบหนีออกนอกรัสเซียทันทีที่พลโทยาโรสลาฟ โมสคาลิก เสียชีวิต และถูกนำตัวส่งกลับไปที่มอสโก

    Ignat Kuzin เกิดเมื่อปี 1983 และมีใบอนุญาตพำนักในยูเครน ยอมรับสารภาพว่าคือผู้ลงมือผู้สังหารรองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการหลักของกองบัญชาการกองทัพรัสเซีย นายพล Yaroslav Moskalik ถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย และจะได้รับการปฏิบัติภายใต้กฎหมายผู้ก่อการร้าย ตามรายงานของคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซีย

    Kuzin ยอมรับว่าถูกเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงแห่งยูเครน (SBU) ว่าจ้างด้วยจำนวนเงิน 18,000 ดอลลาร์ และมีการวางแผนลอบสังหารตั้งแต่กันยายน 2024

    ตามรายงานของเจ้าหน้าที่พิเศษรัสเซีย คูซิน (Kuzin) เช่าบ้านหลังหนึ่ง เพื่อใช้เฝ้าสังเกตและติดตามกิจวัตรของนายพลโมสคาลิก โดยเขาศึกษาเส้นทาง ตารางเวลา ของนายพลอย่างละเอียด

    หลังจากทราบกิจวัตรของนายพลแน่ชัดแล้ว คูซินซื้อรถยนต์ Volkswagen มือสองมาติดตั้งระเบิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน และจอดไว้ข้างบ้านของนายพลในบาลาชิกา และการระเบิดเกิดขึ้นจากการใช้รีโมทควบคุมจากระยะไกล

    1/ เจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษของรัสเซีย สามารถจับกุมสายลับยูเครนที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีที่สังหารนายพลโมสคาลิกในมอสโกได้แล้ว!! Ignat Kuzin ถูกกองกำลังความมั่นคงควบคุมตัวในตุรกี ซึ่งเขาหลบหนีออกนอกรัสเซียทันทีที่พลโทยาโรสลาฟ โมสคาลิก เสียชีวิต และถูกนำตัวส่งกลับไปที่มอสโก Ignat Kuzin เกิดเมื่อปี 1983 และมีใบอนุญาตพำนักในยูเครน ยอมรับสารภาพว่าคือผู้ลงมือผู้สังหารรองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการหลักของกองบัญชาการกองทัพรัสเซีย นายพล Yaroslav Moskalik ถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย และจะได้รับการปฏิบัติภายใต้กฎหมายผู้ก่อการร้าย ตามรายงานของคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซีย Kuzin ยอมรับว่าถูกเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงแห่งยูเครน (SBU) ว่าจ้างด้วยจำนวนเงิน 18,000 ดอลลาร์ และมีการวางแผนลอบสังหารตั้งแต่กันยายน 2024 ตามรายงานของเจ้าหน้าที่พิเศษรัสเซีย คูซิน (Kuzin) เช่าบ้านหลังหนึ่ง เพื่อใช้เฝ้าสังเกตและติดตามกิจวัตรของนายพลโมสคาลิก โดยเขาศึกษาเส้นทาง ตารางเวลา ของนายพลอย่างละเอียด หลังจากทราบกิจวัตรของนายพลแน่ชัดแล้ว คูซินซื้อรถยนต์ Volkswagen มือสองมาติดตั้งระเบิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน และจอดไว้ข้างบ้านของนายพลในบาลาชิกา และการระเบิดเกิดขึ้นจากการใช้รีโมทควบคุมจากระยะไกล
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
  • ผลการสำรวจล่าสุดจาก Malwarebytes เผยว่า เกือบสามในสี่ของผู้คน ไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลบนสมาร์ทโฟน และ เกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ มองว่าบริษัทต่างๆ ก็ไม่น่าเชื่อถือเช่นกัน ความกังวลนี้เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การที่รัฐบาลอังกฤษเรียกร้องให้ Apple เปิดเผยข้อมูลผู้ใช้งานที่เข้ารหัส การล้มละลายของบริษัทตรวจสอบพันธุกรรม 23andMe และการใช้ข้อมูลจำนวนมากใน AI chatbot

    ความไม่ไว้วางใจนี้สะท้อนถึงความกังวลของผู้คนเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในยุคดิจิทัล ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับรัฐบาลและบริษัทต่างๆ

    ✅ ผลการสำรวจจาก Malwarebytes
    - เกือบสามในสี่ของผู้คนไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
    - เกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์มองว่าบริษัทต่างๆ ไม่น่าเชื่อถือ

    ✅ เหตุการณ์ที่กระตุ้นความกังวล
    - รัฐบาลอังกฤษเรียกร้องให้ Apple เปิดเผยข้อมูลผู้ใช้งานที่เข้ารหัส
    - การล้มละลายของบริษัทตรวจสอบพันธุกรรม 23andMe
    - การใช้ข้อมูลจำนวนมากใน AI chatbot

    ✅ ผลกระทบต่อความไว้วางใจ
    - ผู้คนกังวลเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในยุคดิจิทัล
    - ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับรัฐบาลและบริษัท

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/27/most-people-mistrust-governments-and-businesses-on-data-privacy
    ผลการสำรวจล่าสุดจาก Malwarebytes เผยว่า เกือบสามในสี่ของผู้คน ไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลบนสมาร์ทโฟน และ เกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ มองว่าบริษัทต่างๆ ก็ไม่น่าเชื่อถือเช่นกัน ความกังวลนี้เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การที่รัฐบาลอังกฤษเรียกร้องให้ Apple เปิดเผยข้อมูลผู้ใช้งานที่เข้ารหัส การล้มละลายของบริษัทตรวจสอบพันธุกรรม 23andMe และการใช้ข้อมูลจำนวนมากใน AI chatbot ความไม่ไว้วางใจนี้สะท้อนถึงความกังวลของผู้คนเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในยุคดิจิทัล ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับรัฐบาลและบริษัทต่างๆ ✅ ผลการสำรวจจาก Malwarebytes - เกือบสามในสี่ของผู้คนไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล - เกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์มองว่าบริษัทต่างๆ ไม่น่าเชื่อถือ ✅ เหตุการณ์ที่กระตุ้นความกังวล - รัฐบาลอังกฤษเรียกร้องให้ Apple เปิดเผยข้อมูลผู้ใช้งานที่เข้ารหัส - การล้มละลายของบริษัทตรวจสอบพันธุกรรม 23andMe - การใช้ข้อมูลจำนวนมากใน AI chatbot ✅ ผลกระทบต่อความไว้วางใจ - ผู้คนกังวลเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในยุคดิจิทัล - ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับรัฐบาลและบริษัท https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/27/most-people-mistrust-governments-and-businesses-on-data-privacy
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Most people mistrust governments and businesses on data privacy
    Almost three-quarters of people surveyed by Internet security software maker Malwarebytes do not trust governments with their data while almost nine in 10 view companies to be just as shady.
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • Rose fairy doll
    Rose fairy doll
    0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews
  • Arm บริษัทออกแบบชิปที่มีชื่อเสียงระดับโลก ฉลองครบรอบ 40 ปีของการพัฒนาเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงโลก โดยเริ่มต้นจากชิป ARM1 ที่มีทรานซิสเตอร์เพียง 25,000 ตัว ในปี 1985 และปัจจุบันชิป Arm ถูกใช้งานในอุปกรณ์กว่า 300 พันล้านเครื่อง ทั่วโลก รวมถึง 99% ของสมาร์ทโฟน และยังมีการใช้งานที่เพิ่มขึ้นใน IoT, คลาวด์ และ AI

    ชิป ARM1 ถูกพัฒนาขึ้นโดย Sophie Wilson และ Steve Furber ที่ Acorn Computers ในเมือง Cambridge ประเทศอังกฤษ โดยเน้นการออกแบบที่ใช้ชุดคำสั่งที่ลดลง (Reduced Instruction Set Computing หรือ RISC) เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการประมวลผล ชิปนี้ถูกใช้ในคอมพิวเตอร์ BBC Micro และต่อมา ARM2 ถูกนำไปใช้ใน Acorn Archimedes ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ RISC รุ่นแรก

    ในปี 1990 Arm Ltd. ถูกก่อตั้งขึ้นเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Acorn, Apple และ VLSI โดยชิป ARM7TDMI ได้รับความนิยมในโทรศัพท์มือถือ เช่น Nokia 6110 และในปี 2021 Armv9 ได้เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ที่เน้นการประมวลผล AI เช่น Scalable Vector Extension 2 (SVE2) และ Scalable Matrix Extension (SME)

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีชิป
    - ชิป ARM1 มีทรานซิสเตอร์เพียง 25,000 ตัวในปี 1985
    - Armv9 เปิดตัวในปี 2021 พร้อมฟีเจอร์ที่เน้นการประมวลผล AI

    ✅ การใช้งานในอุปกรณ์ต่างๆ
    - ชิป Arm ถูกใช้งานในอุปกรณ์กว่า 300 พันล้านเครื่องทั่วโลก
    - 99% ของสมาร์ทโฟนใช้ชิป Arm

    ✅ การออกแบบที่เน้นประสิทธิภาพ
    - ใช้ชุดคำสั่งที่ลดลง (RISC) เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ
    - ฟีเจอร์ใหม่ เช่น SVE2 และ SME ช่วยเพิ่มความสามารถในการประมวลผล AI

    ✅ การเติบโตในตลาดใหม่
    - Arm มีการใช้งานที่เพิ่มขึ้นใน IoT, คลาวด์ และ AI workloads

    https://www.techradar.com/pro/300-billion-and-counting-most-popular-chip-designer-in-the-world-turns-40-and-it-all-started-in-a-wooden-barn
    Arm บริษัทออกแบบชิปที่มีชื่อเสียงระดับโลก ฉลองครบรอบ 40 ปีของการพัฒนาเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงโลก โดยเริ่มต้นจากชิป ARM1 ที่มีทรานซิสเตอร์เพียง 25,000 ตัว ในปี 1985 และปัจจุบันชิป Arm ถูกใช้งานในอุปกรณ์กว่า 300 พันล้านเครื่อง ทั่วโลก รวมถึง 99% ของสมาร์ทโฟน และยังมีการใช้งานที่เพิ่มขึ้นใน IoT, คลาวด์ และ AI ชิป ARM1 ถูกพัฒนาขึ้นโดย Sophie Wilson และ Steve Furber ที่ Acorn Computers ในเมือง Cambridge ประเทศอังกฤษ โดยเน้นการออกแบบที่ใช้ชุดคำสั่งที่ลดลง (Reduced Instruction Set Computing หรือ RISC) เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการประมวลผล ชิปนี้ถูกใช้ในคอมพิวเตอร์ BBC Micro และต่อมา ARM2 ถูกนำไปใช้ใน Acorn Archimedes ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ RISC รุ่นแรก ในปี 1990 Arm Ltd. ถูกก่อตั้งขึ้นเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Acorn, Apple และ VLSI โดยชิป ARM7TDMI ได้รับความนิยมในโทรศัพท์มือถือ เช่น Nokia 6110 และในปี 2021 Armv9 ได้เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ที่เน้นการประมวลผล AI เช่น Scalable Vector Extension 2 (SVE2) และ Scalable Matrix Extension (SME) ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีชิป - ชิป ARM1 มีทรานซิสเตอร์เพียง 25,000 ตัวในปี 1985 - Armv9 เปิดตัวในปี 2021 พร้อมฟีเจอร์ที่เน้นการประมวลผล AI ✅ การใช้งานในอุปกรณ์ต่างๆ - ชิป Arm ถูกใช้งานในอุปกรณ์กว่า 300 พันล้านเครื่องทั่วโลก - 99% ของสมาร์ทโฟนใช้ชิป Arm ✅ การออกแบบที่เน้นประสิทธิภาพ - ใช้ชุดคำสั่งที่ลดลง (RISC) เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ - ฟีเจอร์ใหม่ เช่น SVE2 และ SME ช่วยเพิ่มความสามารถในการประมวลผล AI ✅ การเติบโตในตลาดใหม่ - Arm มีการใช้งานที่เพิ่มขึ้นใน IoT, คลาวด์ และ AI workloads https://www.techradar.com/pro/300-billion-and-counting-most-popular-chip-designer-in-the-world-turns-40-and-it-all-started-in-a-wooden-barn
    WWW.TECHRADAR.COM
    It started in a wooden shed, now 40 years on Arm powers your entire digital life
    Arm’s minimalist chip design became the blueprint for modern computing
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • Intel ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า 200S Boost สำหรับชิป Arrow Lake ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบผ่านการปรับปรุงความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างหน่วยความจำและชิป อย่างไรก็ตาม การทดสอบโดย Phoronix พบว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้งานบนระบบ Linux

    ฟีเจอร์ 200S Boost เป็นโปรไฟล์ที่สามารถเลือกเปิดใช้งานได้ใน BIOS โดยช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างชิปและหน่วยความจำ เช่น DDR5-7200 หรือ DDR5-8000 อย่างไรก็ตาม การทดสอบพบว่าการปรับปรุงประสิทธิภาพส่วนใหญ่เกิดจากการใช้หน่วยความจำที่มีความเร็วสูงขึ้น ไม่ใช่จากการปรับปรุงฟีเจอร์นี้โดยตรง

    Intel ได้พยายามปรับปรุงประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake ผ่านการอัปเดต BIOS และ Windows Updates รวมถึงการเปิดตัวโปรแกรม IPO ในประเทศจีน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งความเร็วและพลังงานของชิปได้ภายใต้การรับประกัน

    ✅ การออกแบบและการใช้งาน
    - ฟีเจอร์ 200S Boost ช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างชิปและหน่วยความจำ
    - สามารถเลือกเปิดใช้งานได้ใน BIOS

    ✅ ผลการทดสอบ
    - การปรับปรุงประสิทธิภาพส่วนใหญ่เกิดจากการใช้หน่วยความจำที่มีความเร็วสูงขึ้น
    - การทดสอบบน Linux พบว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ

    ✅ การปรับปรุงจาก Intel
    - Intel ได้อัปเดต BIOS และ Windows Updates เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake
    - เปิดตัวโปรแกรม IPO ในประเทศจีนเพื่อปรับแต่งความเร็วและพลังงานของชิป

    ✅ เป้าหมายของ Intel
    - มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake ผ่านการปรับปรุงเทคโนโลยี

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/tests-indicate-intels-200s-boost-feature-provides-no-real-gain-for-arrow-lake-cpus-on-linux
    Intel ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า 200S Boost สำหรับชิป Arrow Lake ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบผ่านการปรับปรุงความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างหน่วยความจำและชิป อย่างไรก็ตาม การทดสอบโดย Phoronix พบว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้งานบนระบบ Linux ฟีเจอร์ 200S Boost เป็นโปรไฟล์ที่สามารถเลือกเปิดใช้งานได้ใน BIOS โดยช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างชิปและหน่วยความจำ เช่น DDR5-7200 หรือ DDR5-8000 อย่างไรก็ตาม การทดสอบพบว่าการปรับปรุงประสิทธิภาพส่วนใหญ่เกิดจากการใช้หน่วยความจำที่มีความเร็วสูงขึ้น ไม่ใช่จากการปรับปรุงฟีเจอร์นี้โดยตรง Intel ได้พยายามปรับปรุงประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake ผ่านการอัปเดต BIOS และ Windows Updates รวมถึงการเปิดตัวโปรแกรม IPO ในประเทศจีน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งความเร็วและพลังงานของชิปได้ภายใต้การรับประกัน ✅ การออกแบบและการใช้งาน - ฟีเจอร์ 200S Boost ช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างชิปและหน่วยความจำ - สามารถเลือกเปิดใช้งานได้ใน BIOS ✅ ผลการทดสอบ - การปรับปรุงประสิทธิภาพส่วนใหญ่เกิดจากการใช้หน่วยความจำที่มีความเร็วสูงขึ้น - การทดสอบบน Linux พบว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ✅ การปรับปรุงจาก Intel - Intel ได้อัปเดต BIOS และ Windows Updates เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake - เปิดตัวโปรแกรม IPO ในประเทศจีนเพื่อปรับแต่งความเร็วและพลังงานของชิป ✅ เป้าหมายของ Intel - มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake ผ่านการปรับปรุงเทคโนโลยี https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/tests-indicate-intels-200s-boost-feature-provides-no-real-gain-for-arrow-lake-cpus-on-linux
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • Elon Musk ได้เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า Colossus ซึ่งใช้ GPU Nvidia H100 จำนวน 100,000 ตัว ในการประมวลผล AI อย่างไรก็ตาม ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้เผชิญกับข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนที่ใช้ในไซต์งาน Memphis รัฐเทนเนสซี

    ในช่วงแรก Colossus ใช้พลังงานเพียง 7 MW ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งาน GPU เพียง 4% ของทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหานี้ Musk ได้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่หลายตัวเพื่อรองรับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ไซต์งานยังคงใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนกว่า 30 ตัว ซึ่งปล่อยสารมลพิษที่เชื่อมโยงกับโรคหอบหืด โรคทางเดินหายใจ และมะเร็งบางชนิด

    Southern Environmental Law Center (SELC) ได้ร่วมมือกับ South Wings ในการถ่ายภาพไซต์งานด้วยกล้องถ่ายภาพความร้อน และพบว่ามีจุดร้อนกว่า 30 จุด ซึ่งบ่งชี้ถึงจำนวนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่

    แม้ว่า Colossus จะได้รับการอนุมัติให้ใช้พลังงาน 150 MW แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าต้องการพลังงานอย่างน้อย 155 MW เพื่อใช้งาน GPU ทั้งหมด และหาก Musk ขยายการใช้งาน GPU เป็น 200,000 ตัว จะต้องการพลังงานถึง 310 MW

    ✅ การออกแบบและการใช้งาน
    - ใช้ GPU Nvidia H100 จำนวน 100,000 ตัว
    - ต้องการพลังงานอย่างน้อย 155 MW เพื่อใช้งาน GPU ทั้งหมด

    ✅ การแก้ไขปัญหาพลังงาน
    - ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนกว่า 30 ตัวเพื่อรองรับความต้องการพลังงาน
    - เครื่องกำเนิดไฟฟ้าปล่อยสารมลพิษที่เชื่อมโยงกับโรคหอบหืดและมะเร็ง

    ✅ การตรวจสอบจาก SELC
    - พบจุดร้อนกว่า 30 จุดในไซต์งานด้วยกล้องถ่ายภาพความร้อน
    - SELC กำลังยื่นคำร้องต่อ Shelby County Health Department เพื่อปฏิเสธการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

    ✅ การขยายการใช้งาน GPU
    - หากขยายการใช้งาน GPU เป็น 200,000 ตัว จะต้องการพลังงานถึง 310 MW

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/elon-musks-nvidia-powered-colossus-supercomputer-faces-pollution-allegations-from-under-reported-power-generators
    Elon Musk ได้เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า Colossus ซึ่งใช้ GPU Nvidia H100 จำนวน 100,000 ตัว ในการประมวลผล AI อย่างไรก็ตาม ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้เผชิญกับข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนที่ใช้ในไซต์งาน Memphis รัฐเทนเนสซี ในช่วงแรก Colossus ใช้พลังงานเพียง 7 MW ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งาน GPU เพียง 4% ของทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหานี้ Musk ได้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่หลายตัวเพื่อรองรับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ไซต์งานยังคงใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนกว่า 30 ตัว ซึ่งปล่อยสารมลพิษที่เชื่อมโยงกับโรคหอบหืด โรคทางเดินหายใจ และมะเร็งบางชนิด Southern Environmental Law Center (SELC) ได้ร่วมมือกับ South Wings ในการถ่ายภาพไซต์งานด้วยกล้องถ่ายภาพความร้อน และพบว่ามีจุดร้อนกว่า 30 จุด ซึ่งบ่งชี้ถึงจำนวนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่ แม้ว่า Colossus จะได้รับการอนุมัติให้ใช้พลังงาน 150 MW แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าต้องการพลังงานอย่างน้อย 155 MW เพื่อใช้งาน GPU ทั้งหมด และหาก Musk ขยายการใช้งาน GPU เป็น 200,000 ตัว จะต้องการพลังงานถึง 310 MW ✅ การออกแบบและการใช้งาน - ใช้ GPU Nvidia H100 จำนวน 100,000 ตัว - ต้องการพลังงานอย่างน้อย 155 MW เพื่อใช้งาน GPU ทั้งหมด ✅ การแก้ไขปัญหาพลังงาน - ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนกว่า 30 ตัวเพื่อรองรับความต้องการพลังงาน - เครื่องกำเนิดไฟฟ้าปล่อยสารมลพิษที่เชื่อมโยงกับโรคหอบหืดและมะเร็ง ✅ การตรวจสอบจาก SELC - พบจุดร้อนกว่า 30 จุดในไซต์งานด้วยกล้องถ่ายภาพความร้อน - SELC กำลังยื่นคำร้องต่อ Shelby County Health Department เพื่อปฏิเสธการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ✅ การขยายการใช้งาน GPU - หากขยายการใช้งาน GPU เป็น 200,000 ตัว จะต้องการพลังงานถึง 310 MW https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/elon-musks-nvidia-powered-colossus-supercomputer-faces-pollution-allegations-from-under-reported-power-generators
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • AMD ได้เปิดตัว APU รุ่นใหม่ Ryzen 5 7533HS ซึ่งเป็นชิปที่พัฒนาจากสถาปัตยกรรม Rembrandt-R โดยมีการปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Ryzen 5 7535HS ด้วยการลดความเร็ว Boost Clock ลง 150 MHz เพื่อให้เหมาะสมกับตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัด ชิปนี้มี 6 คอร์ 12 เธรด พร้อมแคช L2 ขนาด 3MB และ L3 ขนาด 16MB รวมถึง iGPU Radeon 660M ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 2

    Ryzen 5 7533HS รองรับหน่วยความจำ DDR5-4800 และ LPDDR5-6400 โดยมี TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 35W ถึง 54W ชิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในแล็ปท็อปของ Lenovo เช่น ThinkBook 16 Gen 7 และ IdeaPad Slim 3/5 ซึ่งอาจเป็นการบ่งชี้ถึงความพิเศษที่ Lenovo ได้รับจาก AMD

    แม้ว่า Ryzen 5 7533HS จะไม่ได้เป็นชิปที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาด แต่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาแล็ปท็อปที่มีความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ

    ✅ สถาปัตยกรรมและการออกแบบ
    - ใช้สถาปัตยกรรม Rembrandt-R พร้อม 6 คอร์ 12 เธรด
    - iGPU Radeon 660M ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 2

    ✅ การปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้า
    - ลด Boost Clock ลง 150 MHz เพื่อให้เหมาะสมกับตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัด
    - รองรับหน่วยความจำ DDR5-4800 และ LPDDR5-6400

    ✅ การใช้งานในแล็ปท็อป
    - ใช้ในแล็ปท็อปของ Lenovo เช่น ThinkBook 16 Gen 7 และ IdeaPad Slim 3/5
    - มี TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 35W ถึง 54W

    ✅ เป้าหมายของ AMD
    - มุ่งเน้นตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัดที่มีความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-ryzen-5-7533hs-apu-makes-its-debut-with-lenovos-budget-lineup
    AMD ได้เปิดตัว APU รุ่นใหม่ Ryzen 5 7533HS ซึ่งเป็นชิปที่พัฒนาจากสถาปัตยกรรม Rembrandt-R โดยมีการปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Ryzen 5 7535HS ด้วยการลดความเร็ว Boost Clock ลง 150 MHz เพื่อให้เหมาะสมกับตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัด ชิปนี้มี 6 คอร์ 12 เธรด พร้อมแคช L2 ขนาด 3MB และ L3 ขนาด 16MB รวมถึง iGPU Radeon 660M ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 2 Ryzen 5 7533HS รองรับหน่วยความจำ DDR5-4800 และ LPDDR5-6400 โดยมี TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 35W ถึง 54W ชิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในแล็ปท็อปของ Lenovo เช่น ThinkBook 16 Gen 7 และ IdeaPad Slim 3/5 ซึ่งอาจเป็นการบ่งชี้ถึงความพิเศษที่ Lenovo ได้รับจาก AMD แม้ว่า Ryzen 5 7533HS จะไม่ได้เป็นชิปที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาด แต่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาแล็ปท็อปที่มีความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ ✅ สถาปัตยกรรมและการออกแบบ - ใช้สถาปัตยกรรม Rembrandt-R พร้อม 6 คอร์ 12 เธรด - iGPU Radeon 660M ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 2 ✅ การปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้า - ลด Boost Clock ลง 150 MHz เพื่อให้เหมาะสมกับตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัด - รองรับหน่วยความจำ DDR5-4800 และ LPDDR5-6400 ✅ การใช้งานในแล็ปท็อป - ใช้ในแล็ปท็อปของ Lenovo เช่น ThinkBook 16 Gen 7 และ IdeaPad Slim 3/5 - มี TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 35W ถึง 54W ✅ เป้าหมายของ AMD - มุ่งเน้นตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัดที่มีความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-ryzen-5-7533hs-apu-makes-its-debut-with-lenovos-budget-lineup
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • TSMC ได้เปิดเผยแผนการพัฒนาเทคโนโลยีชิป AI รุ่นใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับความต้องการการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นในยุค AI และการคำนวณประสิทธิภาพสูง โดยในงาน North American Technology Symposium บริษัทได้แนะนำเทคโนโลยี CoWoS-L (Chip-on-Wafer-on-Substrate) รุ่นใหม่ ซึ่งสามารถรองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm² และรองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks

    เทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้มากกว่า 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับชิปที่มีอยู่ในปัจจุบัน และยังมีแผนพัฒนา interposers ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 7,885 mm² ซึ่งสามารถรองรับระบบ 3D-stacked และหน่วยความจำ HBM4 ได้ถึง 12 stacks

    TSMC ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X) ที่สามารถรวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานใน AI processors ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

    ✅ เทคโนโลยี CoWoS-L รุ่นใหม่
    - รองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm²
    - รองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks

    ✅ การพัฒนา interposers ขนาดใหญ่
    - ขนาดใหญ่ถึง 7,885 mm² รองรับระบบ 3D-stacked และ HBM4

    ✅ เทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X)
    - รวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียวสำหรับ AI processors

    ✅ การจัดการพลังงานและความร้อน
    - ใช้วงจรจัดการพลังงานขั้นสูงและระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว

    https://www.techspot.com/news/107695-tsmc-unveils-plans-giant-ai-chips-meet-surging.html
    TSMC ได้เปิดเผยแผนการพัฒนาเทคโนโลยีชิป AI รุ่นใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับความต้องการการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นในยุค AI และการคำนวณประสิทธิภาพสูง โดยในงาน North American Technology Symposium บริษัทได้แนะนำเทคโนโลยี CoWoS-L (Chip-on-Wafer-on-Substrate) รุ่นใหม่ ซึ่งสามารถรองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm² และรองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks เทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้มากกว่า 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับชิปที่มีอยู่ในปัจจุบัน และยังมีแผนพัฒนา interposers ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 7,885 mm² ซึ่งสามารถรองรับระบบ 3D-stacked และหน่วยความจำ HBM4 ได้ถึง 12 stacks TSMC ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X) ที่สามารถรวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานใน AI processors ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ✅ เทคโนโลยี CoWoS-L รุ่นใหม่ - รองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm² - รองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks ✅ การพัฒนา interposers ขนาดใหญ่ - ขนาดใหญ่ถึง 7,885 mm² รองรับระบบ 3D-stacked และ HBM4 ✅ เทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X) - รวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียวสำหรับ AI processors ✅ การจัดการพลังงานและความร้อน - ใช้วงจรจัดการพลังงานขั้นสูงและระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว https://www.techspot.com/news/107695-tsmc-unveils-plans-giant-ai-chips-meet-surging.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    TSMC unveils plans for giant AI chips to meet surging compute demands
    Today's high-end processors, especially those powering data centers and AI workloads, already rely on multi-chiplet designs to meet soaring demands for performance and memory bandwidth. TSMC's current...
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok กำลังพิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในประเทศบราซิล โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้พลังงานลมที่มีอยู่มากมายในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ การลงทุนนี้จะช่วยให้บราซิลกลายเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos ผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ท่าเรือ Pecem รัฐ Ceara โดยโครงการนี้มีแผนเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์ ในระยะที่สอง ซึ่งจะทำให้บราซิลเป็นฐานสำคัญสำหรับการดำเนินงานของ ByteDance ในซีกโลกตะวันตก

    Casa dos Ventos ได้ขอเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าสำหรับโครงการศูนย์ข้อมูลใน Pecem แต่ถูกปฏิเสธในเบื้องต้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของบราซิลกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อรองรับโครงการนี้

    ✅ การลงทุนในบราซิล
    - ByteDance พิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในบราซิล
    - ใช้พลังงานลมในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ

    ✅ การเจรจากับ Casa dos Ventos
    - ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูล
    - โครงการเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์

    ✅ ความสำคัญของ Pecem
    - Pecem เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับศูนย์ข้อมูลเนื่องจากมีสถานีเชื่อมต่อสายเคเบิลใต้น้ำและพลังงานหมุนเวียน

    ✅ การตอบสนองของรัฐบาลบราซิล
    - กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้า

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/exclusive-tiktok-owner-weighs-data-center-project-in-brazil-sources-say
    ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok กำลังพิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในประเทศบราซิล โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้พลังงานลมที่มีอยู่มากมายในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ การลงทุนนี้จะช่วยให้บราซิลกลายเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos ผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ท่าเรือ Pecem รัฐ Ceara โดยโครงการนี้มีแผนเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์ ในระยะที่สอง ซึ่งจะทำให้บราซิลเป็นฐานสำคัญสำหรับการดำเนินงานของ ByteDance ในซีกโลกตะวันตก Casa dos Ventos ได้ขอเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าสำหรับโครงการศูนย์ข้อมูลใน Pecem แต่ถูกปฏิเสธในเบื้องต้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของบราซิลกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อรองรับโครงการนี้ ✅ การลงทุนในบราซิล - ByteDance พิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในบราซิล - ใช้พลังงานลมในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ✅ การเจรจากับ Casa dos Ventos - ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูล - โครงการเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์ ✅ ความสำคัญของ Pecem - Pecem เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับศูนย์ข้อมูลเนื่องจากมีสถานีเชื่อมต่อสายเคเบิลใต้น้ำและพลังงานหมุนเวียน ✅ การตอบสนองของรัฐบาลบราซิล - กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้า https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/exclusive-tiktok-owner-weighs-data-center-project-in-brazil-sources-say
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Exclusive-TikTok owner weighs data center project in Brazil, sources say
    SAO PAULO/BRASILIA (Reuters) -ByteDance, the Chinese parent company of TikTok, is weighing a major investment in a data center in Brazil, three people familiar with the matter told Reuters, tapping abundant wind energy on the country's northeast coast.
    0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการใช้เงินของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ เพื่อการล็อบบี้รัฐบาลในปี 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์และสนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ รายงานจาก OpenSecrets เผยให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Apple, Meta, Microsoft, Amazon, OpenAI, Alphabet และ Samsung ได้ลงทุนเงินจำนวนมหาศาลในกิจกรรมล็อบบี้ โดย Meta เป็นบริษัทที่ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์

    กิจกรรมล็อบบี้ของบริษัทเหล่านี้ครอบคลุมกฎหมายที่หลากหลาย เช่น กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ (Kids Online Safety Act) กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง (Protect Elections from Deceptive AI Act) และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ

    การล็อบบี้ในสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การล็อบบี้ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงในหลายประเทศ เนื่องจากอาจถูกมองว่าเป็นการทุจริต

    ✅ การใช้เงินในกิจกรรมล็อบบี้
    - Meta ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์
    - Apple ใช้เงิน 7.82 ล้านดอลลาร์ และ Microsoft ใช้เงิน 10.35 ล้านดอลลาร์

    ✅ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
    - กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ เช่น Kids Online Safety Act
    - กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง เช่น Protect Elections from Deceptive AI Act

    ✅ เป้าหมายของกิจกรรมล็อบบี้
    - ปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท
    - สนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ

    ✅ การล็อบบี้ในสหรัฐฯ
    - เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ

    https://www.neowin.net/news/here-is-how-much-us-tech-firms-spent-on-lobbying-the-us-government-in-2024/
    บทความนี้กล่าวถึงการใช้เงินของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ เพื่อการล็อบบี้รัฐบาลในปี 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์และสนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ รายงานจาก OpenSecrets เผยให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Apple, Meta, Microsoft, Amazon, OpenAI, Alphabet และ Samsung ได้ลงทุนเงินจำนวนมหาศาลในกิจกรรมล็อบบี้ โดย Meta เป็นบริษัทที่ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์ กิจกรรมล็อบบี้ของบริษัทเหล่านี้ครอบคลุมกฎหมายที่หลากหลาย เช่น กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ (Kids Online Safety Act) กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง (Protect Elections from Deceptive AI Act) และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ การล็อบบี้ในสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การล็อบบี้ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงในหลายประเทศ เนื่องจากอาจถูกมองว่าเป็นการทุจริต ✅ การใช้เงินในกิจกรรมล็อบบี้ - Meta ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์ - Apple ใช้เงิน 7.82 ล้านดอลลาร์ และ Microsoft ใช้เงิน 10.35 ล้านดอลลาร์ ✅ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง - กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ เช่น Kids Online Safety Act - กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง เช่น Protect Elections from Deceptive AI Act ✅ เป้าหมายของกิจกรรมล็อบบี้ - ปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท - สนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ ✅ การล็อบบี้ในสหรัฐฯ - เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ https://www.neowin.net/news/here-is-how-much-us-tech-firms-spent-on-lobbying-the-us-government-in-2024/
    WWW.NEOWIN.NET
    Here is how much US tech firms spent on lobbying the US government in 2024
    Tech firms in the United States spend hundreds of millions of dollars per year on lobbying efforts to protect their interests. Here is how much.
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • ลุงนี่โกรธความดื้อดึงของ Microsoft ในเรื่องนี้จริงๆ

    Microsoft ได้เริ่มย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel ไปยัง Settings app ใน Windows 11 อย่างต่อเนื่อง โดยในอัปเดตล่าสุดสำหรับ Dev และ Beta builds ได้เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ด เช่น Character Repeat Delay (ระยะเวลาที่ต้องกดปุ่มก่อนเริ่มการพิมพ์ซ้ำ) และ Character Repeat Rate (ความเร็วในการพิมพ์ซ้ำ) ซึ่งสามารถปรับได้ผ่านแถบเลื่อนใน Settings > Accessibility > Keyboard

    อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ใหม่นี้ยังถูกซ่อนอยู่ในค่าตั้งต้น และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Microsoft เนื่องจากยังไม่สมบูรณ์ เช่น ตัวเลือก Cursor Blink Rate (ความเร็วในการกระพริบของเคอร์เซอร์) ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app

    การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Microsoft ในการทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11

    ✅ การย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel
    - เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ดใน Settings app
    - ตัวเลือกใหม่ เช่น Character Repeat Delay และ Character Repeat Rate

    ✅ การปรับปรุง Settings app
    - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับแต่งคีย์บอร์ดได้ง่ายขึ้น
    - การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรวมศูนย์การตั้งค่า

    ✅ สถานะของฟีเจอร์ใหม่
    - ฟีเจอร์ยังถูกซ่อนในค่าตั้งต้นและยังไม่สมบูรณ์
    - Cursor Blink Rate ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app

    ✅ เป้าหมายของ Microsoft
    - ทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11

    https://www.neowin.net/news/microsoft-moves-more-control-panel-elements-to-the-settings-app-in-windows-11/
    ลุงนี่โกรธความดื้อดึงของ Microsoft ในเรื่องนี้จริงๆ Microsoft ได้เริ่มย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel ไปยัง Settings app ใน Windows 11 อย่างต่อเนื่อง โดยในอัปเดตล่าสุดสำหรับ Dev และ Beta builds ได้เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ด เช่น Character Repeat Delay (ระยะเวลาที่ต้องกดปุ่มก่อนเริ่มการพิมพ์ซ้ำ) และ Character Repeat Rate (ความเร็วในการพิมพ์ซ้ำ) ซึ่งสามารถปรับได้ผ่านแถบเลื่อนใน Settings > Accessibility > Keyboard อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ใหม่นี้ยังถูกซ่อนอยู่ในค่าตั้งต้น และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Microsoft เนื่องจากยังไม่สมบูรณ์ เช่น ตัวเลือก Cursor Blink Rate (ความเร็วในการกระพริบของเคอร์เซอร์) ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Microsoft ในการทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11 ✅ การย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel - เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ดใน Settings app - ตัวเลือกใหม่ เช่น Character Repeat Delay และ Character Repeat Rate ✅ การปรับปรุง Settings app - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับแต่งคีย์บอร์ดได้ง่ายขึ้น - การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรวมศูนย์การตั้งค่า ✅ สถานะของฟีเจอร์ใหม่ - ฟีเจอร์ยังถูกซ่อนในค่าตั้งต้นและยังไม่สมบูรณ์ - Cursor Blink Rate ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app ✅ เป้าหมายของ Microsoft - ทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11 https://www.neowin.net/news/microsoft-moves-more-control-panel-elements-to-the-settings-app-in-windows-11/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft moves more Control Panel elements to the Settings app in Windows 11
    Microsoft continues to slowly migrate Control Panel elements to the Settings app. Certain keyboard settings received a modern overhaul in the latest Windows 11 preview builds.
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • Hay . . . la la la
    Beneath the burning golden skies
    Whispers rise, like desert sighs
    Spin and twirl, feel the fire
    Hearts collide with wild desire
    Come closer now, don't be shy
    Let the stars dance in your eyes
    Ooo yaa Ooo yaa Duniya roshan hai
    Hey hey Nachle Nachle saathiya
    Spinning lights, in the heart of the night
    Set the desert sparks on fire
    Mirrors flash on silken skin
    Hear the drums, let dreams begin
    Raise your hands, break the sky
    Ride the winds, we're born to fly
    Hay . . . la la la Beneath the burning golden skies Whispers rise, like desert sighs Spin and twirl, feel the fire Hearts collide with wild desire Come closer now, don't be shy Let the stars dance in your eyes Ooo yaa Ooo yaa Duniya roshan hai Hey hey Nachle Nachle saathiya Spinning lights, in the heart of the night Set the desert sparks on fire Mirrors flash on silken skin Hear the drums, let dreams begin Raise your hands, break the sky Ride the winds, we're born to fly
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • อนาคต Osaka Expo จะแปลงร่างเป็น "บ่อนกาสิโน" !
    .
    สาเหตุที่ เมืองโอซาก้า เสนอตัวจัดงาน World Expo ก็เพราะอยากจะมีอีเวนท์ใหญ่ ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ยังมีเบื้องหลังอีกเรื่องหนึ่ง ที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือ พรรคการเมืองใหญ่ของโอซาก้า ที่ชื่อว่า “นิปปง อิชิน” ต้องการผลักดัน โครงการสร้าง “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ซึ่งมี กาสิโน อยู่ในนั้นด้วย
    .
    เกาะเทียมที่สร้างขึ้นใหม่ที่ชื่อว่า “ยูเมะ ชิมะ” ที่แปลว่า “เกาะแห่งความฝัน” ที่ใช้จัดงาน World Expo อยู่ตอนนี้ ในอนาคตก็จะถูกเปลี่ยนเป็น “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” และกาสิโน ...
    .
    คลิกชม >> https://vt.tiktok.com/ZSrwMMroS/
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #OsakaExpo #OsakaExpo2025 #โอซาก้า #กาสิโน
    อนาคต Osaka Expo จะแปลงร่างเป็น "บ่อนกาสิโน" ! . สาเหตุที่ เมืองโอซาก้า เสนอตัวจัดงาน World Expo ก็เพราะอยากจะมีอีเวนท์ใหญ่ ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ยังมีเบื้องหลังอีกเรื่องหนึ่ง ที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือ พรรคการเมืองใหญ่ของโอซาก้า ที่ชื่อว่า “นิปปง อิชิน” ต้องการผลักดัน โครงการสร้าง “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ซึ่งมี กาสิโน อยู่ในนั้นด้วย . เกาะเทียมที่สร้างขึ้นใหม่ที่ชื่อว่า “ยูเมะ ชิมะ” ที่แปลว่า “เกาะแห่งความฝัน” ที่ใช้จัดงาน World Expo อยู่ตอนนี้ ในอนาคตก็จะถูกเปลี่ยนเป็น “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” และกาสิโน ... . คลิกชม >> https://vt.tiktok.com/ZSrwMMroS/ . #บูรพาไม่แพ้ #OsakaExpo #OsakaExpo2025 #โอซาก้า #กาสิโน
    @thedongfangbubai

    อนาคต Osaka Expo จะแปลงร่างเป็น "บ่อนกาสิโน" ! . สาเหตุที่ เมืองโอซาก้า เสนอตัวจัดงาน World Expo ก็เพราะอยากจะมีอีเวนท์ใหญ่ ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ยังมีเบื้องหลังอีกเรื่องหนึ่ง ที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือ พรรคการเมืองใหญ่ของโอซาก้า ที่ชื่อว่า “นิปปง อิชิน” ต้องการผลักดัน โครงการสร้าง “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ซึ่งมี กาสิโน อยู่ในนั้นด้วย . เกาะเทียมที่สร้างขึ้นใหม่ที่ชื่อว่า “ยูเมะ ชิมะ” ที่แปลว่า “เกาะแห่งความฝัน” ที่ใช้จัดงาน World Expo อยู่ตอนนี้ ในอนาคตก็จะถูกเปลี่ยนเป็น “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” และกาสิโน ... . #บูรพาไม่แพ้ OsakaExpo #OsakaExpo2025 #โอซาก้า #กาสิโน

    ♬ original sound - บูรพาไม่แพ้ - บูรพาไม่แพ้
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.118 : คนญี่ปุ่นคิดยังไงกับ Osaka Expo 2025 ?
    .
    สาเหตุที่ เมืองโอซาก้า เสนอตัวจัดงาน World Expo ก็เพราะอยากจะมีอีเวนท์ใหญ่ ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ยังมีเบื้องหลังอีกเรื่องหนึ่ง ที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือ พรรคการเมืองใหญ่ของโอซาก้า ที่ชื่อว่า “นิปปง อิชิน” ต้องการผลักดัน โครงการสร้าง “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ซึ่งมี กาสิโน อยู่ในนั้นด้วย
    .
    เกาะเทียมที่สร้างขึ้นใหม่ที่ชื่อว่า “ยูเมะ ชิมะ” ที่แปลว่า “เกาะแห่งความฝัน” ที่ใช้จัดงาน World Expo อยู่ตอนนี้ ในอนาคตก็จะถูกเปลี่ยนเป็น “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” และ กาสิโน ครับ
    .
    คลิกฟังทั้งหมด >> https://www.youtube.com/watch?v=1Gj9WWDdkGc
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #OsakaExpo #WorldExpo2025
    บูรพาไม่แพ้ Ep.118 : คนญี่ปุ่นคิดยังไงกับ Osaka Expo 2025 ? . สาเหตุที่ เมืองโอซาก้า เสนอตัวจัดงาน World Expo ก็เพราะอยากจะมีอีเวนท์ใหญ่ ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ยังมีเบื้องหลังอีกเรื่องหนึ่ง ที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือ พรรคการเมืองใหญ่ของโอซาก้า ที่ชื่อว่า “นิปปง อิชิน” ต้องการผลักดัน โครงการสร้าง “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ซึ่งมี กาสิโน อยู่ในนั้นด้วย . เกาะเทียมที่สร้างขึ้นใหม่ที่ชื่อว่า “ยูเมะ ชิมะ” ที่แปลว่า “เกาะแห่งความฝัน” ที่ใช้จัดงาน World Expo อยู่ตอนนี้ ในอนาคตก็จะถูกเปลี่ยนเป็น “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” และ กาสิโน ครับ . คลิกฟังทั้งหมด >> https://www.youtube.com/watch?v=1Gj9WWDdkGc . #บูรพาไม่แพ้ #OsakaExpo #WorldExpo2025
    Like
    2
    0 Comments 1 Shares 155 Views 0 Reviews
More Results