• การพัฒนาควอนตัมคอมพิพิวติ้ง (Quantum Computing) เป็นหนึ่งในความท้าทายทางเทคโนโลยีที่สำคัญของโลกในปัจจุบัน และสภาพอากาศที่หนาวเย็นอาจมีบทบาทในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนี้ เนื่องจาก:

    ### 1. **ความต้องการสภาพแวดล้อมที่เย็นจัด**
    - ควอนตัมคอมพิวเตอร์บางประเภท โดยเฉพาะ **ซูเปอร์คอนดักติ้งควอนตัมบิต (Superconducting Qubits)** จำเป็นต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ศูนย์สัมบูรณ์ (−273.15°C หรือ 0 เคลวิน) เพื่อลดสัญญาณรบกวนทางความร้อน (Thermal Noise) ที่อาจรบกวนสถานะควอนตัม (Quantum State) ของคิวบิต
    - ประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นโดยธรรมชาติอาจช่วยลดต้นทุนและความซับซ้อนของระบบทำความเย็น (Cryogenic Systems) ที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ

    ### 2. **ประเทศที่มีศักยภาพจากสภาพอากาศหนาวเย็น**
    - **แคนาดา, รัสเซีย, สแกนดิเนเวีย (นอร์เวย์, สวีเดน, ฟินแลนด์), ไอซ์แลนด์** และบางส่วนของ **สหรัฐอเมริกา (อลาสกา)** มีภูมิอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการทดลองควอนตัมบางประเภท
    - ตัวอย่างเช่น:
    - **แคนาดา** มีบริษัทและสถาบันวิจัยชั้นนำด้านควอนตัม เช่น **D-Wave Systems** (บริษัทแรกของโลกที่ขายควอนตัมคอมพิวเตอร์เชิงพาณิชย์) และ **University of Waterloo** ซึ่งเป็นศูนย์กลางของ **Quantum Valley**
    - **สวีเดนและฟินแลนด์** มีโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่งและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการวิจัย

    ### 3. **แต่...สภาพอากาศหนาวไม่ใช่ปัจจัยหลัก**
    - เทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวติ้งยังต้องพึ่งพา **ระบบทำความเย็นขั้นสูง** (เช่น Dilution Refrigerators) อยู่ดี แม้ในประเทศที่หนาวเย็น ดังนั้น ข้อได้เปรียบทางภูมิอากาศอาจมีจำกัด
    - ปัจจัยที่สำคัญกว่าคือ:
    - **การลงทุนในวิจัยและพัฒนา** (เช่น จีน, สหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป)
    - **ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและอุตสาหกรรม**
    - **โครงสร้างพื้นฐานด้านวิศวกรรมและวัสดุศาสตร์**

    ### 4. **ประเทศที่นำด้านควอนตัมคอมพิวติ้งในปัจจุบัน**
    - **สหรัฐอเมริกา** (Google, IBM, Microsoft)
    - **จีน** (ความก้าวหน้าด้วยควอนตัมคอมพิวเตอร์เช่น **Jiuzhang** และ **Zuchongzhi**)
    - **สหภาพยุโรป** (โปรแกรม Quantum Flagship)
    - **แคนาดา** (D-Wave, Xanadu)
    - **ออสเตรเลีย** (Silicon Quantum Computing)

    ### สรุป
    แม้สภาพอากาศหนาวเย็นอาจช่วยในบางแง่มุม (เช่น ลดพลังงานในการทำความเย็น) แต่ความสำเร็จของควอนตัมคอมพิวติ้งขึ้นอยู่กับ **ความสามารถทางวิศวกรรม, การลงทุน, และการพัฒนาอัลกอริธึมควอนตัม** มากกว่า ประเทศที่มีอากาศหนาวอาจได้เปรียบในบางกรณี แต่ไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดที่ทำให้ควอนตัมคอมพิวติ้งประสบความสำเร็จในระดับโลก
    การพัฒนาควอนตัมคอมพิพิวติ้ง (Quantum Computing) เป็นหนึ่งในความท้าทายทางเทคโนโลยีที่สำคัญของโลกในปัจจุบัน และสภาพอากาศที่หนาวเย็นอาจมีบทบาทในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนี้ เนื่องจาก: ### 1. **ความต้องการสภาพแวดล้อมที่เย็นจัด** - ควอนตัมคอมพิวเตอร์บางประเภท โดยเฉพาะ **ซูเปอร์คอนดักติ้งควอนตัมบิต (Superconducting Qubits)** จำเป็นต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ศูนย์สัมบูรณ์ (−273.15°C หรือ 0 เคลวิน) เพื่อลดสัญญาณรบกวนทางความร้อน (Thermal Noise) ที่อาจรบกวนสถานะควอนตัม (Quantum State) ของคิวบิต - ประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นโดยธรรมชาติอาจช่วยลดต้นทุนและความซับซ้อนของระบบทำความเย็น (Cryogenic Systems) ที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ ### 2. **ประเทศที่มีศักยภาพจากสภาพอากาศหนาวเย็น** - **แคนาดา, รัสเซีย, สแกนดิเนเวีย (นอร์เวย์, สวีเดน, ฟินแลนด์), ไอซ์แลนด์** และบางส่วนของ **สหรัฐอเมริกา (อลาสกา)** มีภูมิอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการทดลองควอนตัมบางประเภท - ตัวอย่างเช่น: - **แคนาดา** มีบริษัทและสถาบันวิจัยชั้นนำด้านควอนตัม เช่น **D-Wave Systems** (บริษัทแรกของโลกที่ขายควอนตัมคอมพิวเตอร์เชิงพาณิชย์) และ **University of Waterloo** ซึ่งเป็นศูนย์กลางของ **Quantum Valley** - **สวีเดนและฟินแลนด์** มีโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่งและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการวิจัย ### 3. **แต่...สภาพอากาศหนาวไม่ใช่ปัจจัยหลัก** - เทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวติ้งยังต้องพึ่งพา **ระบบทำความเย็นขั้นสูง** (เช่น Dilution Refrigerators) อยู่ดี แม้ในประเทศที่หนาวเย็น ดังนั้น ข้อได้เปรียบทางภูมิอากาศอาจมีจำกัด - ปัจจัยที่สำคัญกว่าคือ: - **การลงทุนในวิจัยและพัฒนา** (เช่น จีน, สหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป) - **ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและอุตสาหกรรม** - **โครงสร้างพื้นฐานด้านวิศวกรรมและวัสดุศาสตร์** ### 4. **ประเทศที่นำด้านควอนตัมคอมพิวติ้งในปัจจุบัน** - **สหรัฐอเมริกา** (Google, IBM, Microsoft) - **จีน** (ความก้าวหน้าด้วยควอนตัมคอมพิวเตอร์เช่น **Jiuzhang** และ **Zuchongzhi**) - **สหภาพยุโรป** (โปรแกรม Quantum Flagship) - **แคนาดา** (D-Wave, Xanadu) - **ออสเตรเลีย** (Silicon Quantum Computing) ### สรุป แม้สภาพอากาศหนาวเย็นอาจช่วยในบางแง่มุม (เช่น ลดพลังงานในการทำความเย็น) แต่ความสำเร็จของควอนตัมคอมพิวติ้งขึ้นอยู่กับ **ความสามารถทางวิศวกรรม, การลงทุน, และการพัฒนาอัลกอริธึมควอนตัม** มากกว่า ประเทศที่มีอากาศหนาวอาจได้เปรียบในบางกรณี แต่ไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดที่ทำให้ควอนตัมคอมพิวติ้งประสบความสำเร็จในระดับโลก
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • ในยุคที่ การทำงานทางไกล (Remote Work) และการทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Work) กลายเป็นเรื่องปกติ มีพนักงานจำนวนมากขึ้นที่เลือกทำงาน มากกว่าหนึ่งตำแหน่งพร้อมกัน โดยไม่แจ้งให้นายจ้างทราบ ซึ่งแนวโน้มนี้ถูกเรียกว่า "Polygamous Working" หรือ "Overemployment"

    ✅ พนักงานจำนวนมากขึ้นเลือกทำงานมากกว่าหนึ่งตำแหน่งพร้อมกัน
    - การทำงานทางไกลช่วยให้ สามารถจัดการประชุมและงานจากหลายบริษัทได้ง่ายขึ้น

    ✅ โซเชียลมีเดีย เช่น Reddit และ TikTok มีคำแนะนำเกี่ยวกับการบริหารงานหลายตำแหน่ง
    - มีผู้ใช้บางคนแชร์เทคนิค เช่น ใช้เมาส์จิ๊กเกิล (Mouse Jiggler) และแล็ปท็อปสองเครื่องเพื่อจัดการประชุมที่ทับซ้อนกัน

    ✅ บางคนสามารถสร้างรายได้สูงจากการทำงานหลายตำแหน่ง
    - ตัวอย่างเช่น "Nadia" ซึ่งทำงานสองตำแหน่งพร้อมกันและมีรายได้ถึง £87,000 ต่อปี

    ✅ การทำงานหลายตำแหน่งอาจช่วยให้พนักงานมีอิสระทางการเงินมากขึ้น
    - บางคนใช้รายได้เสริมเพื่อ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือท่องเที่ยว

    ✅ HR Magazine เตือนว่าการทำงานหลายตำแหน่งอาจส่งผลต่อความไว้วางใจในองค์กร
    - อาจนำไปสู่ ปัญหาด้านประสิทธิภาพ, ความเครียด และการละเมิดสัญญาจ้างงาน

    https://www.techradar.com/pro/security/polygamous-working-on-the-rise-as-ease-of-cheating-on-employers-blamed-on-wfh-and-remote-working
    ในยุคที่ การทำงานทางไกล (Remote Work) และการทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Work) กลายเป็นเรื่องปกติ มีพนักงานจำนวนมากขึ้นที่เลือกทำงาน มากกว่าหนึ่งตำแหน่งพร้อมกัน โดยไม่แจ้งให้นายจ้างทราบ ซึ่งแนวโน้มนี้ถูกเรียกว่า "Polygamous Working" หรือ "Overemployment" ✅ พนักงานจำนวนมากขึ้นเลือกทำงานมากกว่าหนึ่งตำแหน่งพร้อมกัน - การทำงานทางไกลช่วยให้ สามารถจัดการประชุมและงานจากหลายบริษัทได้ง่ายขึ้น ✅ โซเชียลมีเดีย เช่น Reddit และ TikTok มีคำแนะนำเกี่ยวกับการบริหารงานหลายตำแหน่ง - มีผู้ใช้บางคนแชร์เทคนิค เช่น ใช้เมาส์จิ๊กเกิล (Mouse Jiggler) และแล็ปท็อปสองเครื่องเพื่อจัดการประชุมที่ทับซ้อนกัน ✅ บางคนสามารถสร้างรายได้สูงจากการทำงานหลายตำแหน่ง - ตัวอย่างเช่น "Nadia" ซึ่งทำงานสองตำแหน่งพร้อมกันและมีรายได้ถึง £87,000 ต่อปี ✅ การทำงานหลายตำแหน่งอาจช่วยให้พนักงานมีอิสระทางการเงินมากขึ้น - บางคนใช้รายได้เสริมเพื่อ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือท่องเที่ยว ✅ HR Magazine เตือนว่าการทำงานหลายตำแหน่งอาจส่งผลต่อความไว้วางใจในองค์กร - อาจนำไปสู่ ปัญหาด้านประสิทธิภาพ, ความเครียด และการละเมิดสัญญาจ้างงาน https://www.techradar.com/pro/security/polygamous-working-on-the-rise-as-ease-of-cheating-on-employers-blamed-on-wfh-and-remote-working
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • ห้องน้ำอัจฉริยะพร้อมระบบจำกัดเวลาเปิดใช้งานในเมือง Long Beach เมือง Long Beach ได้เปิดตัว โครงการนำร่องห้องน้ำอัจฉริยะ โดยร่วมมือกับ Throne Labs ซึ่งเป็นบริษัทจาก Washington DC ห้องน้ำเหล่านี้ถูกเรียกว่า "Thrones" และมีระบบ QR Code สำหรับการเข้าใช้งาน

    ผู้ใช้สามารถ สแกน QR Code เพื่อรับข้อความเปิดประตู หรือใช้ รหัสที่พิมพ์ได้สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังมี บัตรเข้าถึงแบบกายภาพ สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานแบบไม่ต้องใช้เทคโนโลยี

    ✅ ห้องน้ำอัจฉริยะใช้ QR Code และรหัสผ่านเพื่อเปิดประตู
    - ช่วยให้ สามารถควบคุมการเข้าใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ มีระบบแจ้งสถานะห้องน้ำแบบดิจิทัล
    - แสดงว่า ห้องน้ำว่าง, กำลังใช้งาน, กำลังทำความสะอาด หรือปิดให้บริการ

    ✅ จำกัดเวลาใช้งาน 10 นาทีต่อครั้ง
    - หลังจากครบเวลา ประตูจะเปิดโดยอัตโนมัติ

    ✅ ติดตั้งที่ Belmont Pier, Shoreline Marina, Harvey Milk Promenade Park และ DeForest Park
    - เลือกพื้นที่ที่มี ความต้องการห้องน้ำสูงแต่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ

    ✅ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6,200 ดอลลาร์ต่อเดือนต่อห้องน้ำ
    - รวมเป็น 100,000 ดอลลาร์สำหรับโครงการนำร่อง 4 เดือน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/10/time-restricted-039smart039-toilets-arrive-as-us-city-looks-to-plug-restroom-gaps
    ห้องน้ำอัจฉริยะพร้อมระบบจำกัดเวลาเปิดใช้งานในเมือง Long Beach เมือง Long Beach ได้เปิดตัว โครงการนำร่องห้องน้ำอัจฉริยะ โดยร่วมมือกับ Throne Labs ซึ่งเป็นบริษัทจาก Washington DC ห้องน้ำเหล่านี้ถูกเรียกว่า "Thrones" และมีระบบ QR Code สำหรับการเข้าใช้งาน ผู้ใช้สามารถ สแกน QR Code เพื่อรับข้อความเปิดประตู หรือใช้ รหัสที่พิมพ์ได้สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังมี บัตรเข้าถึงแบบกายภาพ สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานแบบไม่ต้องใช้เทคโนโลยี ✅ ห้องน้ำอัจฉริยะใช้ QR Code และรหัสผ่านเพื่อเปิดประตู - ช่วยให้ สามารถควบคุมการเข้าใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ มีระบบแจ้งสถานะห้องน้ำแบบดิจิทัล - แสดงว่า ห้องน้ำว่าง, กำลังใช้งาน, กำลังทำความสะอาด หรือปิดให้บริการ ✅ จำกัดเวลาใช้งาน 10 นาทีต่อครั้ง - หลังจากครบเวลา ประตูจะเปิดโดยอัตโนมัติ ✅ ติดตั้งที่ Belmont Pier, Shoreline Marina, Harvey Milk Promenade Park และ DeForest Park - เลือกพื้นที่ที่มี ความต้องการห้องน้ำสูงแต่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ ✅ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6,200 ดอลลาร์ต่อเดือนต่อห้องน้ำ - รวมเป็น 100,000 ดอลลาร์สำหรับโครงการนำร่อง 4 เดือน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/10/time-restricted-039smart039-toilets-arrive-as-us-city-looks-to-plug-restroom-gaps
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • โรงเรียนในสหรัฐฯ เตือนภัย TikTok Challenge ใหม่ที่ทำให้คอมพิวเตอร์เกิดควัน โรงเรียนในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับ TikTok Challenge ใหม่ที่นักเรียนจงใจทำให้ Chromebook ของโรงเรียนเกิดควัน ซึ่งนำไปสู่ การอพยพนักเรียนออกจากห้องเรียนในบางโรงเรียน

    เขตการศึกษา Wake County และโรงเรียนทั่วสหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ พฤติกรรมอันตรายนี้ โดยระบุว่า มีรายงานเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วในบางโรงเรียน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ ความปลอดภัยของนักเรียนและทรัพย์สินของโรงเรียน

    ✅ นักเรียนบางคนจงใจทำให้ Chromebook ของโรงเรียนเกิดควัน
    - ส่งผลให้ บางโรงเรียนต้องอพยพนักเรียนออกจากห้องเรียน

    ✅ Wake County และโรงเรียนทั่วสหรัฐฯ ออกคำเตือนเกี่ยวกับพฤติกรรมนี้
    - มีรายงานว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วในบางโรงเรียน

    ✅ TikTok Challenge นี้อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของโรงเรียน
    - Chromebook ที่ถูกทำให้เกิดควัน อาจเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้

    ✅ โรงเรียนกำลังพิจารณามาตรการป้องกันเพิ่มเติม
    - เช่น การตรวจสอบอุปกรณ์และการให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับความปลอดภัย

    ✅ TikTok Challenge ที่เป็นอันตรายเคยเกิดขึ้นมาก่อน
    - เช่น "Benadryl Challenge" ที่ทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรง และ "Devious Licks" ที่ส่งเสริมการทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/09/us-schools-warn-against-new-tiktok-challenge-making-computers-smoke
    โรงเรียนในสหรัฐฯ เตือนภัย TikTok Challenge ใหม่ที่ทำให้คอมพิวเตอร์เกิดควัน โรงเรียนในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับ TikTok Challenge ใหม่ที่นักเรียนจงใจทำให้ Chromebook ของโรงเรียนเกิดควัน ซึ่งนำไปสู่ การอพยพนักเรียนออกจากห้องเรียนในบางโรงเรียน เขตการศึกษา Wake County และโรงเรียนทั่วสหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ พฤติกรรมอันตรายนี้ โดยระบุว่า มีรายงานเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วในบางโรงเรียน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ ความปลอดภัยของนักเรียนและทรัพย์สินของโรงเรียน ✅ นักเรียนบางคนจงใจทำให้ Chromebook ของโรงเรียนเกิดควัน - ส่งผลให้ บางโรงเรียนต้องอพยพนักเรียนออกจากห้องเรียน ✅ Wake County และโรงเรียนทั่วสหรัฐฯ ออกคำเตือนเกี่ยวกับพฤติกรรมนี้ - มีรายงานว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วในบางโรงเรียน ✅ TikTok Challenge นี้อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของโรงเรียน - Chromebook ที่ถูกทำให้เกิดควัน อาจเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ ✅ โรงเรียนกำลังพิจารณามาตรการป้องกันเพิ่มเติม - เช่น การตรวจสอบอุปกรณ์และการให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับความปลอดภัย ✅ TikTok Challenge ที่เป็นอันตรายเคยเกิดขึ้นมาก่อน - เช่น "Benadryl Challenge" ที่ทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรง และ "Devious Licks" ที่ส่งเสริมการทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/09/us-schools-warn-against-new-tiktok-challenge-making-computers-smoke
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US schools warn against new TikTok challenge: making computers smoke
    Wake County and school systems across the US are sending out warnings about a new TikTok challenge that has students setting their laptop computers on fire.
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • กลุ่มผู้นำด้านเทคโนโลยีกว่า 250 คน กำลังผลักดันให้ วิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์และ AI กลายเป็น หลักสูตรบังคับในโรงเรียน K-12 ทั่วสหรัฐฯ ผ่านแคมเปญ "Unlock8" ที่นำโดย Code.org และ CSforALL

    แคมเปญนี้เน้นย้ำถึง งานวิจัยใหม่ที่แสดงให้เห็นว่า การเรียน วิทยาการคอมพิวเตอร์ในระดับมัธยมปลาย สามารถช่วยเพิ่ม รายได้ในช่วงต้นอาชีพได้ถึง 8% โดยไม่ขึ้นอยู่กับสายงานที่นักเรียนเลือก นอกจากนี้ รายงานของ World Economic Forum ยังระบุว่า ทักษะด้าน AI และข้อมูลเป็นที่ต้องการมากที่สุดในอีก 5 ปีข้างหน้า

    แม้ว่ารัฐต่าง ๆ ในสหรัฐฯ จะพยายามขยายการเข้าถึงการศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ แต่ปัจจุบันมีเพียง 12 รัฐเท่านั้นที่กำหนดให้เป็นวิชาบังคับสำหรับการจบการศึกษา ส่งผลให้ มีนักเรียนเพียง 6.4% ที่ลงเรียนวิชานี้ในปีที่ผ่านมา

    ✅ กลุ่มผู้นำด้านเทคโนโลยีกว่า 250 คนสนับสนุนให้ CS และ AI เป็นหลักสูตรบังคับ
    - นำโดย Code.org และ CSforALL
    - เน้นให้ นักเรียนทุกคนมีทักษะที่จำเป็นสำหรับโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI

    ✅ งานวิจัยใหม่ชี้ว่าการเรียน CS ในมัธยมปลายช่วยเพิ่มรายได้ในช่วงต้นอาชีพ
    - เพิ่มรายได้ได้ถึง 8% โดยไม่ขึ้นอยู่กับสายงานที่เลือก
    - World Economic Forum ระบุว่า AI และข้อมูลเป็นทักษะที่ต้องการมากที่สุดในอีก 5 ปีข้างหน้า

    ✅ สถานะของการศึกษาด้าน CS ในสหรัฐฯ
    - 39 รัฐมีงบประมาณสนับสนุนการศึกษาด้าน CS (เพิ่มขึ้นจาก 9 รัฐในปี 2017)
    - แต่มีเพียง 12 รัฐที่กำหนดให้ CS เป็นวิชาบังคับสำหรับการจบการศึกษา

    ✅ การสนับสนุนจากผู้นำด้านเทคโนโลยี
    - Satya Nadella (Microsoft), Brian Chesky (Airbnb), Dara Khosrowshahi (Uber) และ Steve Ballmer (อดีต CEO Microsoft) ลงนามในจดหมายเปิดผนึกสนับสนุนแคมเปญนี้

    https://www.techspot.com/news/107800-over-250-tech-leaders-push-computer-science-ai.html
    กลุ่มผู้นำด้านเทคโนโลยีกว่า 250 คน กำลังผลักดันให้ วิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์และ AI กลายเป็น หลักสูตรบังคับในโรงเรียน K-12 ทั่วสหรัฐฯ ผ่านแคมเปญ "Unlock8" ที่นำโดย Code.org และ CSforALL แคมเปญนี้เน้นย้ำถึง งานวิจัยใหม่ที่แสดงให้เห็นว่า การเรียน วิทยาการคอมพิวเตอร์ในระดับมัธยมปลาย สามารถช่วยเพิ่ม รายได้ในช่วงต้นอาชีพได้ถึง 8% โดยไม่ขึ้นอยู่กับสายงานที่นักเรียนเลือก นอกจากนี้ รายงานของ World Economic Forum ยังระบุว่า ทักษะด้าน AI และข้อมูลเป็นที่ต้องการมากที่สุดในอีก 5 ปีข้างหน้า แม้ว่ารัฐต่าง ๆ ในสหรัฐฯ จะพยายามขยายการเข้าถึงการศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ แต่ปัจจุบันมีเพียง 12 รัฐเท่านั้นที่กำหนดให้เป็นวิชาบังคับสำหรับการจบการศึกษา ส่งผลให้ มีนักเรียนเพียง 6.4% ที่ลงเรียนวิชานี้ในปีที่ผ่านมา ✅ กลุ่มผู้นำด้านเทคโนโลยีกว่า 250 คนสนับสนุนให้ CS และ AI เป็นหลักสูตรบังคับ - นำโดย Code.org และ CSforALL - เน้นให้ นักเรียนทุกคนมีทักษะที่จำเป็นสำหรับโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI ✅ งานวิจัยใหม่ชี้ว่าการเรียน CS ในมัธยมปลายช่วยเพิ่มรายได้ในช่วงต้นอาชีพ - เพิ่มรายได้ได้ถึง 8% โดยไม่ขึ้นอยู่กับสายงานที่เลือก - World Economic Forum ระบุว่า AI และข้อมูลเป็นทักษะที่ต้องการมากที่สุดในอีก 5 ปีข้างหน้า ✅ สถานะของการศึกษาด้าน CS ในสหรัฐฯ - 39 รัฐมีงบประมาณสนับสนุนการศึกษาด้าน CS (เพิ่มขึ้นจาก 9 รัฐในปี 2017) - แต่มีเพียง 12 รัฐที่กำหนดให้ CS เป็นวิชาบังคับสำหรับการจบการศึกษา ✅ การสนับสนุนจากผู้นำด้านเทคโนโลยี - Satya Nadella (Microsoft), Brian Chesky (Airbnb), Dara Khosrowshahi (Uber) และ Steve Ballmer (อดีต CEO Microsoft) ลงนามในจดหมายเปิดผนึกสนับสนุนแคมเปญนี้ https://www.techspot.com/news/107800-over-250-tech-leaders-push-computer-science-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Over 250 tech leaders push for computer science and AI course requirements in US schools
    The campaign emphasizes new research showing that taking just one high school computer science course can boost early career earnings by eight percent, regardless of a graduate's...
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
  • Microsoft กำลังใช้ AI ในการเขียนโค้ดมากขึ้น โดย Satya Nadella ซีอีโอของบริษัทเปิดเผยว่า 20-30% ของโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft ถูกเขียนโดย AI และบางโปรเจ็กต์อาจใช้ AI ในการเขียนโค้ดทั้งหมด

    Nadella ได้เข้าร่วมงาน LlamaCon ร่วมกับ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนา AI และการมีส่วนร่วมในระบบโอเพ่นซอร์ส โดยเขาระบุว่า AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ด โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากและมีรูปแบบที่คาดเดาได้

    แม้ว่า AI จะช่วยให้การพัฒนาโค้ดมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับ ผลกระทบต่อโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่ เนื่องจาก AI สามารถลดจำนวนงานระดับเริ่มต้นลง อย่างไรก็ตาม Nadella ย้ำว่า AI ยังต้องการการตรวจสอบจากนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แน่ใจว่าโค้ดที่สร้างขึ้นสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง

    Microsoft พบว่า AI สามารถสร้างโค้ด Python ได้ดีกว่า C++ เนื่องจาก Python มีโครงสร้างที่ง่ายกว่า, รองรับ dynamic typing และมีระบบจัดการหน่วยความจำที่ดีกว่า ขณะที่ C++ เป็นภาษาที่เกี่ยวข้องกับโค้ดระดับต่ำ ซึ่งยากต่อการทำให้เป็นอัตโนมัติ

    ✅ AI เขียนโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft
    - 20-30% ของโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft ถูกเขียนโดย AI
    - บางโปรเจ็กต์อาจใช้ AI ในการเขียนโค้ดทั้งหมด

    ✅ การพัฒนา AI ในระบบโอเพ่นซอร์ส
    - Nadella และ Zuckerberg พูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนา AI ในงาน LlamaCon
    - AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ด โดยเฉพาะงานที่มีรูปแบบที่คาดเดาได้

    ✅ ผลกระทบต่อโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่
    - AI อาจลดจำนวนงานระดับเริ่มต้นลง
    - นักพัฒนาที่มีประสบการณ์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบโค้ด

    ✅ ความแตกต่างระหว่าง Python และ C++ ในการใช้ AI
    - AI สามารถสร้างโค้ด Python ได้ดีกว่า C++
    - Python มีโครงสร้างที่ง่ายกว่าและมีระบบจัดการหน่วยความจำที่ดีกว่า

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/microsofts-ceo-reveals-that-ai-writes-up-to-30-percent-of-its-code-some-projects-may-have-all-of-its-code-written-by-ai
    Microsoft กำลังใช้ AI ในการเขียนโค้ดมากขึ้น โดย Satya Nadella ซีอีโอของบริษัทเปิดเผยว่า 20-30% ของโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft ถูกเขียนโดย AI และบางโปรเจ็กต์อาจใช้ AI ในการเขียนโค้ดทั้งหมด Nadella ได้เข้าร่วมงาน LlamaCon ร่วมกับ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนา AI และการมีส่วนร่วมในระบบโอเพ่นซอร์ส โดยเขาระบุว่า AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ด โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากและมีรูปแบบที่คาดเดาได้ แม้ว่า AI จะช่วยให้การพัฒนาโค้ดมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับ ผลกระทบต่อโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่ เนื่องจาก AI สามารถลดจำนวนงานระดับเริ่มต้นลง อย่างไรก็ตาม Nadella ย้ำว่า AI ยังต้องการการตรวจสอบจากนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แน่ใจว่าโค้ดที่สร้างขึ้นสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง Microsoft พบว่า AI สามารถสร้างโค้ด Python ได้ดีกว่า C++ เนื่องจาก Python มีโครงสร้างที่ง่ายกว่า, รองรับ dynamic typing และมีระบบจัดการหน่วยความจำที่ดีกว่า ขณะที่ C++ เป็นภาษาที่เกี่ยวข้องกับโค้ดระดับต่ำ ซึ่งยากต่อการทำให้เป็นอัตโนมัติ ✅ AI เขียนโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft - 20-30% ของโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft ถูกเขียนโดย AI - บางโปรเจ็กต์อาจใช้ AI ในการเขียนโค้ดทั้งหมด ✅ การพัฒนา AI ในระบบโอเพ่นซอร์ส - Nadella และ Zuckerberg พูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนา AI ในงาน LlamaCon - AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ด โดยเฉพาะงานที่มีรูปแบบที่คาดเดาได้ ✅ ผลกระทบต่อโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่ - AI อาจลดจำนวนงานระดับเริ่มต้นลง - นักพัฒนาที่มีประสบการณ์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบโค้ด ✅ ความแตกต่างระหว่าง Python และ C++ ในการใช้ AI - AI สามารถสร้างโค้ด Python ได้ดีกว่า C++ - Python มีโครงสร้างที่ง่ายกว่าและมีระบบจัดการหน่วยความจำที่ดีกว่า https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/microsofts-ceo-reveals-that-ai-writes-up-to-30-percent-of-its-code-some-projects-may-have-all-of-its-code-written-by-ai
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่าง Sam Altman CEO ของ OpenAI และ Satya Nadella CEO ของ Microsoft ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความร่วมมือระหว่างสองบริษัท โดย Microsoft ได้ลงทุน $13 พันล้าน ใน OpenAI ตั้งแต่ปี 2019 และช่วยผลักดันให้ ChatGPT มีผู้ใช้งานเกือบ หนึ่งพันล้านคน

    อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งเริ่มปรากฏชัดขึ้น โดยเฉพาะในเรื่อง ทรัพยากรการประมวลผล ที่ Microsoft จัดหาให้ OpenAI และการเข้าถึงโมเดล AI ของ OpenAI ที่ Microsoft ต้องการใช้สำหรับ Copilot นอกจากนี้ Altman ยังคงยืนยันว่า AGI (Artificial General Intelligence) กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ซึ่ง Nadella ไม่เห็นด้วย

    อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ แผนการปรับโครงสร้างของ OpenAI ให้เป็นบริษัท for-profit ที่เป็นอิสระ ซึ่ง Microsoft อาจใช้สิทธิ์ในการ ขัดขวางการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งอาจทำให้ OpenAI สูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์

    ✅ การลงทุนของ Microsoft ใน OpenAI
    - Microsoft ลงทุน $13 พันล้านใน OpenAI ตั้งแต่ปี 2019
    - ช่วยให้ ChatGPT มีผู้ใช้งานเกือบหนึ่งพันล้านคน

    ✅ ความขัดแย้งเรื่องทรัพยากรการประมวลผล
    - Microsoft จัดหาเซิร์ฟเวอร์ให้ OpenAI แต่มีข้อจำกัดในการเข้าถึง
    - OpenAI ต้องการทรัพยากรเพิ่มขึ้นเพื่อพัฒนาโมเดล AI

    ✅ ความเห็นต่างเกี่ยวกับ AGI
    - Altman เชื่อว่า AGI กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้
    - Nadella ไม่เห็นด้วยและไม่พอใจที่ Altman ยืนยันเรื่องนี้ต่อสาธารณะ

    ✅ แผนการปรับโครงสร้างของ OpenAI
    - OpenAI ต้องการเปลี่ยนเป็นบริษัท for-profit ที่เป็นอิสระ
    - Microsoft อาจใช้สิทธิ์ในการขัดขวางการเปลี่ยนแปลงนี้

    https://www.techspot.com/news/107724-sources-detail-growing-rift-between-sam-altman-satya.html
    บทความนี้กล่าวถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่าง Sam Altman CEO ของ OpenAI และ Satya Nadella CEO ของ Microsoft ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความร่วมมือระหว่างสองบริษัท โดย Microsoft ได้ลงทุน $13 พันล้าน ใน OpenAI ตั้งแต่ปี 2019 และช่วยผลักดันให้ ChatGPT มีผู้ใช้งานเกือบ หนึ่งพันล้านคน อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งเริ่มปรากฏชัดขึ้น โดยเฉพาะในเรื่อง ทรัพยากรการประมวลผล ที่ Microsoft จัดหาให้ OpenAI และการเข้าถึงโมเดล AI ของ OpenAI ที่ Microsoft ต้องการใช้สำหรับ Copilot นอกจากนี้ Altman ยังคงยืนยันว่า AGI (Artificial General Intelligence) กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ซึ่ง Nadella ไม่เห็นด้วย อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ แผนการปรับโครงสร้างของ OpenAI ให้เป็นบริษัท for-profit ที่เป็นอิสระ ซึ่ง Microsoft อาจใช้สิทธิ์ในการ ขัดขวางการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งอาจทำให้ OpenAI สูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ ✅ การลงทุนของ Microsoft ใน OpenAI - Microsoft ลงทุน $13 พันล้านใน OpenAI ตั้งแต่ปี 2019 - ช่วยให้ ChatGPT มีผู้ใช้งานเกือบหนึ่งพันล้านคน ✅ ความขัดแย้งเรื่องทรัพยากรการประมวลผล - Microsoft จัดหาเซิร์ฟเวอร์ให้ OpenAI แต่มีข้อจำกัดในการเข้าถึง - OpenAI ต้องการทรัพยากรเพิ่มขึ้นเพื่อพัฒนาโมเดล AI ✅ ความเห็นต่างเกี่ยวกับ AGI - Altman เชื่อว่า AGI กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ - Nadella ไม่เห็นด้วยและไม่พอใจที่ Altman ยืนยันเรื่องนี้ต่อสาธารณะ ✅ แผนการปรับโครงสร้างของ OpenAI - OpenAI ต้องการเปลี่ยนเป็นบริษัท for-profit ที่เป็นอิสระ - Microsoft อาจใช้สิทธิ์ในการขัดขวางการเปลี่ยนแปลงนี้ https://www.techspot.com/news/107724-sources-detail-growing-rift-between-sam-altman-satya.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    There's a growing rift between Sam Altman and Satya Nadella – Microsoft could block OpenAI's for-profit restructuring
    Microsoft helped push OpenAI to the top of the multi-billion-dollar AI industry by investing $13 billion into the firm since 2019. ChatGPT is closing in on one...
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • บริษัทโมเดอร์นาถูกปรับเป็นเงินเกือบ 44,000 ปอนด์ หรือเกือบสองล้านบาท หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลยาตามใบสั่งแพทย์ของอังกฤษ (Prescription Medicines Code of Practice Authority - PMCPA) พบว่าบริษัทยาชื่อดังแห่งนี้ ก่อความเสียหายในด้านความน่าเชื่อถือต่ออุตสาหกรรมยาของอังกฤษ ด้วยการ ใช้เงิน-ตุ๊กตาหมีล่อเด็กๆร่วมทดลองวัคซีนโควิด

    เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2023 มีการเผยแพร่โฆษณาประชาสัมพันธ์ซึ่งใช้มุ่งเป้าหมายเด็กตั้งแต่อายุ 12 ปี ให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยการทดลองวัคซีนโควิด โดยเสนอมอบสิ่งจูงใจเป็น "ตุ๊กตาหมี" พร้อม พร้อมเงินสด 1,500 ปอนด์ (ประมาณ 67,000 บาท) และยังมีการเผยแพร่บทความบนสื่อสังคมออนไลน์เพื่อชักจูงและโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับแผนงานนี้อีกด้วย

    บทความที่ถูกกล่าวหา มีอยู่ 3 บทความที่เป็นการแฝงโฆษณาเกินจริง ซึ่งเป็นการเขียนร่วมกันโดยผู้บริหารของบริษัท Moderna และอดีตรัฐมนตรี Nadhim Zahawi (ถูกไล่ออกเพราะฉ้อโกงภาษี)


    แม้ว่าทางโมเดอร์นาจะพยายามชี้แจงว่า ทางบริษัทได้ดำเนินการยับยั้งการกระทำอย่างทันท่วงทีหลังจากได้รับแจ้งในเดือนมกราคม 2024 อย่างไรก็ตามจากหลักฐานของ PMCPA พบว่าพวกผู้บริหารของโมเดอร์นาได้รับแจ้งตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 แล้ว แต่กลับนิ่งเฉย


    ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า โมเดอร์นาอาจถูกพักสถานภาพสมาชิกหรือไม่ก็โดนขับไล่ออกจากสมาคมอุตสาหกรรมยาของอังกฤษ (Association of the British Pharmaceutical Industry - ABPI) หลังละเมิดกฎระเบียบหลายครั้ง
    บริษัทโมเดอร์นาถูกปรับเป็นเงินเกือบ 44,000 ปอนด์ หรือเกือบสองล้านบาท หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลยาตามใบสั่งแพทย์ของอังกฤษ (Prescription Medicines Code of Practice Authority - PMCPA) พบว่าบริษัทยาชื่อดังแห่งนี้ ก่อความเสียหายในด้านความน่าเชื่อถือต่ออุตสาหกรรมยาของอังกฤษ ด้วยการ ใช้เงิน-ตุ๊กตาหมีล่อเด็กๆร่วมทดลองวัคซีนโควิด เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2023 มีการเผยแพร่โฆษณาประชาสัมพันธ์ซึ่งใช้มุ่งเป้าหมายเด็กตั้งแต่อายุ 12 ปี ให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยการทดลองวัคซีนโควิด โดยเสนอมอบสิ่งจูงใจเป็น "ตุ๊กตาหมี" พร้อม พร้อมเงินสด 1,500 ปอนด์ (ประมาณ 67,000 บาท) และยังมีการเผยแพร่บทความบนสื่อสังคมออนไลน์เพื่อชักจูงและโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับแผนงานนี้อีกด้วย บทความที่ถูกกล่าวหา มีอยู่ 3 บทความที่เป็นการแฝงโฆษณาเกินจริง ซึ่งเป็นการเขียนร่วมกันโดยผู้บริหารของบริษัท Moderna และอดีตรัฐมนตรี Nadhim Zahawi (ถูกไล่ออกเพราะฉ้อโกงภาษี) แม้ว่าทางโมเดอร์นาจะพยายามชี้แจงว่า ทางบริษัทได้ดำเนินการยับยั้งการกระทำอย่างทันท่วงทีหลังจากได้รับแจ้งในเดือนมกราคม 2024 อย่างไรก็ตามจากหลักฐานของ PMCPA พบว่าพวกผู้บริหารของโมเดอร์นาได้รับแจ้งตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 แล้ว แต่กลับนิ่งเฉย ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า โมเดอร์นาอาจถูกพักสถานภาพสมาชิกหรือไม่ก็โดนขับไล่ออกจากสมาคมอุตสาหกรรมยาของอังกฤษ (Association of the British Pharmaceutical Industry - ABPI) หลังละเมิดกฎระเบียบหลายครั้ง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 289 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงปัญหาการใช้ AI ในการโกงการแข่งขันเขียนโค้ดที่มหาวิทยาลัย Waterloo ประเทศแคนาดา โดยการแข่งขัน Canadian Computing Competition (CCC) ซึ่งเป็นการแข่งขันที่มีชื่อเสียงและช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ชนะเข้าสู่โปรแกรมคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย รวมถึงการเป็นตัวแทนของแคนาดาในเวทีระดับนานาชาติ

    ในปี 2025 มหาวิทยาลัยตัดสินใจไม่เผยแพร่ผลการแข่งขัน เนื่องจากพบว่ามีผู้เข้าร่วมใช้ AI ในการเขียนโค้ด ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎการแข่งขัน การใช้ AI เช่น Copilot ใน GitHub ทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถโกงได้โดยไม่ต้องปิดโปรแกรม

    มหาวิทยาลัย Waterloo วางแผนที่จะเพิ่มมาตรการป้องกันในอนาคต เช่น การปรับปรุงเทคโนโลยี การเพิ่มการดูแล และการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างนักเรียนและครู

    ✅ การแข่งขัน Canadian Computing Competition (CCC)
    - เป็นการแข่งขันที่มีชื่อเสียงและช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ชนะเข้าสู่โปรแกรมคอมพิวเตอร์และวิศวกรรม
    - ผู้ชนะสามารถเป็นตัวแทนของแคนาดาในเวทีระดับนานาชาติ

    ✅ การใช้ AI ในการโกง
    - พบว่าผู้เข้าร่วมใช้ AI เช่น Copilot ใน GitHub ในการเขียนโค้ด
    - การใช้ AI ถือเป็นการละเมิดกฎการแข่งขัน

    ✅ มาตรการป้องกันในอนาคต
    - การปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อป้องกันการโกง
    - การเพิ่มการดูแลและการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างนักเรียนและครู

    ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขัน
    - มหาวิทยาลัยตัดสินใจไม่เผยแพร่ผลการแข่งขันในปี 2025

    https://www.techspot.com/news/107701-ai-cheating-forces-university-waterloo-withhold-coding-competition.html
    บทความนี้กล่าวถึงปัญหาการใช้ AI ในการโกงการแข่งขันเขียนโค้ดที่มหาวิทยาลัย Waterloo ประเทศแคนาดา โดยการแข่งขัน Canadian Computing Competition (CCC) ซึ่งเป็นการแข่งขันที่มีชื่อเสียงและช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ชนะเข้าสู่โปรแกรมคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย รวมถึงการเป็นตัวแทนของแคนาดาในเวทีระดับนานาชาติ ในปี 2025 มหาวิทยาลัยตัดสินใจไม่เผยแพร่ผลการแข่งขัน เนื่องจากพบว่ามีผู้เข้าร่วมใช้ AI ในการเขียนโค้ด ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎการแข่งขัน การใช้ AI เช่น Copilot ใน GitHub ทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถโกงได้โดยไม่ต้องปิดโปรแกรม มหาวิทยาลัย Waterloo วางแผนที่จะเพิ่มมาตรการป้องกันในอนาคต เช่น การปรับปรุงเทคโนโลยี การเพิ่มการดูแล และการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างนักเรียนและครู ✅ การแข่งขัน Canadian Computing Competition (CCC) - เป็นการแข่งขันที่มีชื่อเสียงและช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ชนะเข้าสู่โปรแกรมคอมพิวเตอร์และวิศวกรรม - ผู้ชนะสามารถเป็นตัวแทนของแคนาดาในเวทีระดับนานาชาติ ✅ การใช้ AI ในการโกง - พบว่าผู้เข้าร่วมใช้ AI เช่น Copilot ใน GitHub ในการเขียนโค้ด - การใช้ AI ถือเป็นการละเมิดกฎการแข่งขัน ✅ มาตรการป้องกันในอนาคต - การปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อป้องกันการโกง - การเพิ่มการดูแลและการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างนักเรียนและครู ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขัน - มหาวิทยาลัยตัดสินใจไม่เผยแพร่ผลการแข่งขันในปี 2025 https://www.techspot.com/news/107701-ai-cheating-forces-university-waterloo-withhold-coding-competition.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    University cancels publication of coding competition results over AI cheating fears
    Those who do well in the University of Waterloo's CCC are often accepted into the University's prestigious computing and engineering programs, or are even selected to represent...
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • 91 ปี “เนสซี” เผยโฉม 🐉 สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ ตำนานลวงโลก หรือปริศนาแห่งความจริง?

    จากภาพลวงตา สู่ปริศนาระดับโลก ✨ ตำนานแห่งทะเลสาบล็อคเนสส์ ที่แม้ถูกแฉว่า "หลอกลวง" แต่ก็ยังไม่มีใครหยุดตามหาได้

    ✨ ตำนานที่ยังมีชีวิต ทุกคนคงเคยได้ยินชื่อ "เนสซี" 🐲 หรือ สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ (Loch Ness Monster) อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะผ่านสารคดี รายการทีวี หนังสือพิมพ์ หรือแม้แต่การ์ตูน เนสซีได้กลายเป็น สัญลักษณ์ของความลึกลับ ที่ดึงดูดจินตนาการของคนทั่วโลก มานานกว่า 9 ทศวรรษ 🕰️

    ปีนี้ พ.ศ. 2568 เป็นวาระครบ 91 ปี ของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ทำให้ชื่อของเนสซี กลายเป็นตำนานระดับโลก นั่นคือ ภาพถ่าย “Surgeon's Photograph” อันโด่งดังในปี 2477 ซึ่งกลายเป็น "หลักฐาน" แรก ที่ทำให้คนทั้งโลกเชื่อว่า สัตว์ประหลาดในทะเลสาบมีอยู่จริง...

    แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความจริงบางอย่างก็ค่อยๆ ปรากฏ จนกลายเป็นคำถามว่า… “เนสซี” มีอยู่จริง หรือเป็นแค่ เรื่องแต่ง?

    🐉 "เนสซี" หรือ Loch Ness Monster เป็นชื่อเรียกของสัตว์ประหลาดลึกลับ ที่เชื่อกันว่า อาศัยอยู่ในทะเลสาบล็อคเนสส์ (Loch Ness) ทางตอนเหนือของประเทศสก็อตแลนด์ ลักษณะที่ถูกบรรยายมักเป็นสัตว์คอยาว 🦕 ตัวใหญ่คล้ายไดโนเสาร์น้ำโบราณ

    จุดเริ่มต้นของตำนานนี้ มาจากเหตุการณ์ในวันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2477 เมื่อ "โรเบิร์ต เคนเน็ธ วิลสัน" (Robert Kenneth Wilson) สูตินรีแพทย์ชาวอังกฤษ ได้ถ่ายภาพที่ดูเหมือนหัว และคอของสัตว์ประหลาดโผล่พ้นผิวน้ำ ภาพนี้ถูกตีพิมพ์ไปทั่วโลกในชื่อว่า “Surgeon’s Photograph” 📸 และกลายเป็นไวรัลในยุคนั้น!

    ภาพนั้นคือสิ่งที่เปลี่ยน เรื่องเล่าในท้องถิ่น ให้กลายเป็นข่าวระดับโลกทันที แต่กว่า 60 ปี ต่อมา ความจริงก็ถูกเปิดเผย… 📜

    🕵️‍♂️ ภาพปลอมที่สร้างความเชื่อทั้งโลก ในปี 2541 ความจริงที่สะเทือนโลกก็เปิดเผยโดย "คริสเตียน สเปอร์ลิง" (Christian Spurling) หนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับภาพถ่ายว่า แท้จริงแล้วภาพนั้นคือ “ของปลอม” ❌

    พวกเขาใช้หุ่นจำลอง ติดกับเรือดำน้ำของเล่น แล้วจัดฉากถ่ายภาพเพื่อหลอกผู้คน ซึ่งพวกเขาทำเพราะต้องการ “เอาคืน” สื่อที่เคยทำให้ญาติของเขาเสียชื่อเสียง

    แม้จะเป็นเรื่องโกหก... แต่กลับไม่มีใครหยุดตามหา "เนสซี" ได้เลย 🧭

    🔍 ไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ยังคงมี “ความเชื่อ” จนถึงปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ ยังไม่สามารถหาหลักฐานชัดเจนว่า เนสซีมีตัวตนอยู่จริง ไม่ว่าจะเป็น...

    🦴 โครงกระดูก

    🐋 ซากสัตว์

    📷 ภาพถ่าย หรือวิดีโอที่ชัด 100%

    🧬 DNA ของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ชนิดใหม่

    แต่ในทางกลับกัน “เนสซี” ก็ไม่ใช่แค่เรื่องเล่านิทาน เพราะยังมี... 📚 หลักฐานและข้อเท็จจริง ที่ทำให้คนยังเชื่อ

    ✅ รายงานการพบเห็นกว่า 1,100 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2476 จนถึงปัจจุบัน มีการบันทึกการพบเห็น "เนสซี" มากกว่า 1,159 ครั้ง และบางครั้งยังมีภาพถ่าย วิดีโอ หรือการจับสัญญาณแปลกๆ จากโซนาร์

    ✅ ภาพถ่ายและคลิปที่ยังอธิบายไม่ได้ แม้บางภาพจะไม่ชัดเจน หรือเป็นของปลอม แต่ก็มีหลายภาพ ที่ยังไม่สามารถหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้ จนถึงปัจจุบัน

    ✅ โซนาร์จับวัตถุขนาดใหญ่ใต้น้ำ มีรายงานว่า โซนาร์ตรวจจับวัตถุเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ ในทะเลสาบได้ โดยเฉพาะบริเวณจุดลึกกลางทะเลสาบ

    ✅ นักวิทยาศาสตร์บางส่วน “ไม่ปฏิเสธ” นักวิจัยบางคนยังเชื่อว่า อาจมีสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ถูกค้นพบ อาศัยอยู่ในทะเลสาบ ที่กว้างและลึกแห่งนี้

    🔬 ทฤษฎีปลาไหลยักษ์ คำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุด? ในปี 2562 มีการศึกษาด้วยวิธี eDNA (Environmental DNA) จากทีมของ "ศาสตราจารย์ Neil Gemmell" ที่เก็บตัวอย่างน้ำกว่า 250 จุดในทะเลสาบล็อกเนสส์ เพื่อดูว่ามี DNA ของสิ่งมีชีวิตชนิดใดอยู่บ้าง

    ผลลัพธ์คือ พบ DNA ของ ปลาไหลยุโรป (European Eel) จำนวนมาก แต่ไม่พบ DNA ของไดโนเสาร์ หรือสัตว์เลื้อยคลานโบราณ อีกทั้งยังไม่พบหลักฐาน ของสัตว์ทะเลขนาดใหญ่เช่น วาฬ

    📌 ความเป็นไปได้ ของทฤษฎีปลาไหลยักษ์คือ มีรูปร่างคล้ายที่พยานบรรยาย มีอยู่จริงในทะเลสาบ และมีพฤติกรรมว่ายน้ำลึกลับ

    📌 แต่ก็มีข้อโต้แย้งคือ ไม่เคยพบปลาไหลที่ยาวกว่า 2 เมตรจริงๆ ปลาไหลไม่ค่อยโผล่พ้นน้ำแบบสัตว์คอยาว หากมีปลาไหลยักษ์อยู่จริง ควรมีคนถ่ายภาพได้ชัดกว่านี้

    🌍 จุดที่พบเห็น "เนสซี" บ่อยที่สุด

    🏰 Urquhart Bay ใกล้ปราสาท Urquhart จุดชมวิวที่ได้รับรายงานพบเห็น มากที่สุดในประวัติศาสตร์

    ใกล้หมู่บ้าน Drumnadrochit มีพิพิธภัณฑ์ Loch Ness Centre และมีผู้เชี่ยวชาญประจำ

    ใจกลางทะเลสาบ ลึกกว่า 200 เมตร โซนาร์ตรวจพบวัตถุลึกลับบ่อยครั้ง

    ริมทะเลสาบฝั่งเมือง Inverness มีถนน A82 เลียบทะเลสาบ ผ่านผู้คนมาก ทำให้มีรายงานมากในอดีต

    🧠 ปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา? นักวิทยาศาสตร์หลายคนเสนอว่า เนสซีอาจเป็นผลของปรากฏการณ์ ที่เรียกว่า Pareidolia คือ... “สมองของมนุษย์พยายามตีความภาพที่ไม่ชัดเจน ให้กลายเป็นสิ่งที่คุ้นเคย เช่น รูปสัตว์ หน้าคน หรือร่างลึกลับ” 👀 บวกกับความลึกลับ บรรยากาศหมอกปกคลุม และการคาดหวัง ก็ทำให้ผู้คน "เชื่อ" ได้ง่ายขึ้น

    📖 10 ข้อเท็จจริงที่ไม่ใช่แค่ตำนาน
    1. ทะเลสาบล็อคเนสส์ยาว 37 กม. ลึกเกือบ 230 เมตร
    2. ภาพ "Surgeon's Photograph" ถูกพิสูจน์ว่าเป็นของปลอม
    3. ตรวจพบ eDNA ของปลาไหลในปริมาณมาก
    4. ใช้โซนาร์ตรวจสอบหลายรอบ แต่ยังไม่พบสัตว์ประหลาด
    5. ล็อคเนสส์ไม่มีทางเชื่อมกับทะเล เปิดโอกาสการมีสัตว์ทะเลต่ำ
    6. รายงานพบเห็นเพิ่มขึ้น หลังมีถนนเลียบทะเลสาบ
    7. BBC เคยทำสารคดีพิสูจน์เรื่องนี้โดยตรง
    5. หลายกรณีพบว่าเป็นฟองอากาศ ท่อนไม้ หรือนกน้ำ
    9. การพบเห็นล่าสุดยังมีอยู่ทุกปี
    10. เนสซีเป็นตัวดึงดูดการท่องเที่ยวสำคัญ ของสก็อตแลนด์ 💰

    🎯 ตำนานอมตะที่ยังไม่มีบทจบ “เนสซี” ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่า แต่เป็นสัญลักษณ์ของ ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ ที่ไม่เคยหยุดตามหาความจริง 🔍

    แม้จะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเนสซีมีอยู่จริง แต่ “ปริศนา” นี้ก็ยังไม่มีใครไขได้ทั้งหมด

    นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ “เนสซี” ยังคง มีชีวิตในจินตนาการของผู้คน และอาจจะยังอยู่ในคลื่นลึก ของทะเลสาบล็อคเนสส์... หรือในหัวใจของคนที่อยากเชื่อว่า “สิ่งลึกลับ” ยังมีอยู่จริงในโลกใบนี้ 🌍💙

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 191553 เม.ย. 2568

    📣 #Nessie #LochNessMonster #เนสซี #ตำนานเนสซี #สัตว์ประหลาดล็อคเนสส์
    #LochNess #MysteryOfNessie #ค้นหาความจริง #เนสซีมีอยู่จริงไหม #ภาพหลอนหรือตัวจริง
    91 ปี “เนสซี” เผยโฉม 🐉 สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ ตำนานลวงโลก หรือปริศนาแห่งความจริง? จากภาพลวงตา สู่ปริศนาระดับโลก ✨ ตำนานแห่งทะเลสาบล็อคเนสส์ ที่แม้ถูกแฉว่า "หลอกลวง" แต่ก็ยังไม่มีใครหยุดตามหาได้ ✨ ตำนานที่ยังมีชีวิต ทุกคนคงเคยได้ยินชื่อ "เนสซี" 🐲 หรือ สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ (Loch Ness Monster) อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะผ่านสารคดี รายการทีวี หนังสือพิมพ์ หรือแม้แต่การ์ตูน เนสซีได้กลายเป็น สัญลักษณ์ของความลึกลับ ที่ดึงดูดจินตนาการของคนทั่วโลก มานานกว่า 9 ทศวรรษ 🕰️ ปีนี้ พ.ศ. 2568 เป็นวาระครบ 91 ปี ของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ทำให้ชื่อของเนสซี กลายเป็นตำนานระดับโลก นั่นคือ ภาพถ่าย “Surgeon's Photograph” อันโด่งดังในปี 2477 ซึ่งกลายเป็น "หลักฐาน" แรก ที่ทำให้คนทั้งโลกเชื่อว่า สัตว์ประหลาดในทะเลสาบมีอยู่จริง... แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความจริงบางอย่างก็ค่อยๆ ปรากฏ จนกลายเป็นคำถามว่า… “เนสซี” มีอยู่จริง หรือเป็นแค่ เรื่องแต่ง? 🐉 "เนสซี" หรือ Loch Ness Monster เป็นชื่อเรียกของสัตว์ประหลาดลึกลับ ที่เชื่อกันว่า อาศัยอยู่ในทะเลสาบล็อคเนสส์ (Loch Ness) ทางตอนเหนือของประเทศสก็อตแลนด์ ลักษณะที่ถูกบรรยายมักเป็นสัตว์คอยาว 🦕 ตัวใหญ่คล้ายไดโนเสาร์น้ำโบราณ จุดเริ่มต้นของตำนานนี้ มาจากเหตุการณ์ในวันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2477 เมื่อ "โรเบิร์ต เคนเน็ธ วิลสัน" (Robert Kenneth Wilson) สูตินรีแพทย์ชาวอังกฤษ ได้ถ่ายภาพที่ดูเหมือนหัว และคอของสัตว์ประหลาดโผล่พ้นผิวน้ำ ภาพนี้ถูกตีพิมพ์ไปทั่วโลกในชื่อว่า “Surgeon’s Photograph” 📸 และกลายเป็นไวรัลในยุคนั้น! ภาพนั้นคือสิ่งที่เปลี่ยน เรื่องเล่าในท้องถิ่น ให้กลายเป็นข่าวระดับโลกทันที แต่กว่า 60 ปี ต่อมา ความจริงก็ถูกเปิดเผย… 📜 🕵️‍♂️ ภาพปลอมที่สร้างความเชื่อทั้งโลก ในปี 2541 ความจริงที่สะเทือนโลกก็เปิดเผยโดย "คริสเตียน สเปอร์ลิง" (Christian Spurling) หนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับภาพถ่ายว่า แท้จริงแล้วภาพนั้นคือ “ของปลอม” ❌ พวกเขาใช้หุ่นจำลอง ติดกับเรือดำน้ำของเล่น แล้วจัดฉากถ่ายภาพเพื่อหลอกผู้คน ซึ่งพวกเขาทำเพราะต้องการ “เอาคืน” สื่อที่เคยทำให้ญาติของเขาเสียชื่อเสียง แม้จะเป็นเรื่องโกหก... แต่กลับไม่มีใครหยุดตามหา "เนสซี" ได้เลย 🧭 🔍 ไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ยังคงมี “ความเชื่อ” จนถึงปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ ยังไม่สามารถหาหลักฐานชัดเจนว่า เนสซีมีตัวตนอยู่จริง ไม่ว่าจะเป็น... 🦴 โครงกระดูก 🐋 ซากสัตว์ 📷 ภาพถ่าย หรือวิดีโอที่ชัด 100% 🧬 DNA ของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ชนิดใหม่ แต่ในทางกลับกัน “เนสซี” ก็ไม่ใช่แค่เรื่องเล่านิทาน เพราะยังมี... 📚 หลักฐานและข้อเท็จจริง ที่ทำให้คนยังเชื่อ ✅ รายงานการพบเห็นกว่า 1,100 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2476 จนถึงปัจจุบัน มีการบันทึกการพบเห็น "เนสซี" มากกว่า 1,159 ครั้ง และบางครั้งยังมีภาพถ่าย วิดีโอ หรือการจับสัญญาณแปลกๆ จากโซนาร์ ✅ ภาพถ่ายและคลิปที่ยังอธิบายไม่ได้ แม้บางภาพจะไม่ชัดเจน หรือเป็นของปลอม แต่ก็มีหลายภาพ ที่ยังไม่สามารถหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้ จนถึงปัจจุบัน ✅ โซนาร์จับวัตถุขนาดใหญ่ใต้น้ำ มีรายงานว่า โซนาร์ตรวจจับวัตถุเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ ในทะเลสาบได้ โดยเฉพาะบริเวณจุดลึกกลางทะเลสาบ ✅ นักวิทยาศาสตร์บางส่วน “ไม่ปฏิเสธ” นักวิจัยบางคนยังเชื่อว่า อาจมีสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ถูกค้นพบ อาศัยอยู่ในทะเลสาบ ที่กว้างและลึกแห่งนี้ 🔬 ทฤษฎีปลาไหลยักษ์ คำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุด? ในปี 2562 มีการศึกษาด้วยวิธี eDNA (Environmental DNA) จากทีมของ "ศาสตราจารย์ Neil Gemmell" ที่เก็บตัวอย่างน้ำกว่า 250 จุดในทะเลสาบล็อกเนสส์ เพื่อดูว่ามี DNA ของสิ่งมีชีวิตชนิดใดอยู่บ้าง ผลลัพธ์คือ พบ DNA ของ ปลาไหลยุโรป (European Eel) จำนวนมาก แต่ไม่พบ DNA ของไดโนเสาร์ หรือสัตว์เลื้อยคลานโบราณ อีกทั้งยังไม่พบหลักฐาน ของสัตว์ทะเลขนาดใหญ่เช่น วาฬ 📌 ความเป็นไปได้ ของทฤษฎีปลาไหลยักษ์คือ มีรูปร่างคล้ายที่พยานบรรยาย มีอยู่จริงในทะเลสาบ และมีพฤติกรรมว่ายน้ำลึกลับ 📌 แต่ก็มีข้อโต้แย้งคือ ไม่เคยพบปลาไหลที่ยาวกว่า 2 เมตรจริงๆ ปลาไหลไม่ค่อยโผล่พ้นน้ำแบบสัตว์คอยาว หากมีปลาไหลยักษ์อยู่จริง ควรมีคนถ่ายภาพได้ชัดกว่านี้ 🌍 จุดที่พบเห็น "เนสซี" บ่อยที่สุด 🏰 Urquhart Bay ใกล้ปราสาท Urquhart จุดชมวิวที่ได้รับรายงานพบเห็น มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ใกล้หมู่บ้าน Drumnadrochit มีพิพิธภัณฑ์ Loch Ness Centre และมีผู้เชี่ยวชาญประจำ ใจกลางทะเลสาบ ลึกกว่า 200 เมตร โซนาร์ตรวจพบวัตถุลึกลับบ่อยครั้ง ริมทะเลสาบฝั่งเมือง Inverness มีถนน A82 เลียบทะเลสาบ ผ่านผู้คนมาก ทำให้มีรายงานมากในอดีต 🧠 ปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา? นักวิทยาศาสตร์หลายคนเสนอว่า เนสซีอาจเป็นผลของปรากฏการณ์ ที่เรียกว่า Pareidolia คือ... “สมองของมนุษย์พยายามตีความภาพที่ไม่ชัดเจน ให้กลายเป็นสิ่งที่คุ้นเคย เช่น รูปสัตว์ หน้าคน หรือร่างลึกลับ” 👀 บวกกับความลึกลับ บรรยากาศหมอกปกคลุม และการคาดหวัง ก็ทำให้ผู้คน "เชื่อ" ได้ง่ายขึ้น 📖 10 ข้อเท็จจริงที่ไม่ใช่แค่ตำนาน 1. ทะเลสาบล็อคเนสส์ยาว 37 กม. ลึกเกือบ 230 เมตร 2. ภาพ "Surgeon's Photograph" ถูกพิสูจน์ว่าเป็นของปลอม 3. ตรวจพบ eDNA ของปลาไหลในปริมาณมาก 4. ใช้โซนาร์ตรวจสอบหลายรอบ แต่ยังไม่พบสัตว์ประหลาด 5. ล็อคเนสส์ไม่มีทางเชื่อมกับทะเล เปิดโอกาสการมีสัตว์ทะเลต่ำ 6. รายงานพบเห็นเพิ่มขึ้น หลังมีถนนเลียบทะเลสาบ 7. BBC เคยทำสารคดีพิสูจน์เรื่องนี้โดยตรง 5. หลายกรณีพบว่าเป็นฟองอากาศ ท่อนไม้ หรือนกน้ำ 9. การพบเห็นล่าสุดยังมีอยู่ทุกปี 10. เนสซีเป็นตัวดึงดูดการท่องเที่ยวสำคัญ ของสก็อตแลนด์ 💰 🎯 ตำนานอมตะที่ยังไม่มีบทจบ “เนสซี” ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่า แต่เป็นสัญลักษณ์ของ ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ ที่ไม่เคยหยุดตามหาความจริง 🔍 แม้จะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเนสซีมีอยู่จริง แต่ “ปริศนา” นี้ก็ยังไม่มีใครไขได้ทั้งหมด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ “เนสซี” ยังคง มีชีวิตในจินตนาการของผู้คน และอาจจะยังอยู่ในคลื่นลึก ของทะเลสาบล็อคเนสส์... หรือในหัวใจของคนที่อยากเชื่อว่า “สิ่งลึกลับ” ยังมีอยู่จริงในโลกใบนี้ 🌍💙 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 191553 เม.ย. 2568 📣 #Nessie #LochNessMonster #เนสซี #ตำนานเนสซี #สัตว์ประหลาดล็อคเนสส์ #LochNess #MysteryOfNessie #ค้นหาความจริง #เนสซีมีอยู่จริงไหม #ภาพหลอนหรือตัวจริง
    0 Comments 0 Shares 639 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้ปลดพนักงานสองคนที่มีส่วนร่วมในการประท้วงระหว่างงานฉลองครบรอบ 50 ปีของบริษัท โดยพนักงานเหล่านี้แสดงความไม่พอใจต่อการที่ Microsoft มีสัญญาทางธุรกิจกับรัฐบาลอิสราเอล ซึ่งพวกเขาอ้างว่าเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน

    🛑 การประท้วงในงานสำคัญ: พนักงานคนหนึ่งชื่อ Ibtihal Aboussad ขัดจังหวะการนำเสนอของหัวหน้าฝ่าย AI ของ Microsoft และส่งอีเมลถึงพนักงานหลายพันคน รวมถึงผู้บริหารระดับสูง เพื่อเรียกร้องให้ยุติสัญญากับรัฐบาลอิสราเอล

    🛑 การประท้วงเพิ่มเติม: พนักงานอีกคน Vaniya Agrawal ขัดจังหวะคำพูดของ CEO Satya Nadella ในงานอื่น พร้อมส่งอีเมลวิจารณ์ว่า Microsoft เป็น "ผู้ผลิตอาวุธดิจิทัล"

    📋 การละเมิดนโยบายบริษัท: Microsoft ระบุว่าการกระทำของพนักงานทั้งสองเป็นการละเมิดนโยบายที่ตั้งใจสร้างความวุ่นวายและดึงความสนใจในทางที่ไม่เหมาะสม

    ❌ การปลดพนักงานทันที: บริษัทตัดสินใจยุติสัญญาจ้างงานของพนักงานทั้งสองทันที โดยระบุว่าเป็นการตอบสนองที่เหมาะสมต่อพฤติกรรมดังกล่าว

    https://www.techspot.com/news/107478-microsoft-fires-engineers-who-protested-israeli-military-use.html
    Microsoft ได้ปลดพนักงานสองคนที่มีส่วนร่วมในการประท้วงระหว่างงานฉลองครบรอบ 50 ปีของบริษัท โดยพนักงานเหล่านี้แสดงความไม่พอใจต่อการที่ Microsoft มีสัญญาทางธุรกิจกับรัฐบาลอิสราเอล ซึ่งพวกเขาอ้างว่าเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน 🛑 การประท้วงในงานสำคัญ: พนักงานคนหนึ่งชื่อ Ibtihal Aboussad ขัดจังหวะการนำเสนอของหัวหน้าฝ่าย AI ของ Microsoft และส่งอีเมลถึงพนักงานหลายพันคน รวมถึงผู้บริหารระดับสูง เพื่อเรียกร้องให้ยุติสัญญากับรัฐบาลอิสราเอล 🛑 การประท้วงเพิ่มเติม: พนักงานอีกคน Vaniya Agrawal ขัดจังหวะคำพูดของ CEO Satya Nadella ในงานอื่น พร้อมส่งอีเมลวิจารณ์ว่า Microsoft เป็น "ผู้ผลิตอาวุธดิจิทัล" 📋 การละเมิดนโยบายบริษัท: Microsoft ระบุว่าการกระทำของพนักงานทั้งสองเป็นการละเมิดนโยบายที่ตั้งใจสร้างความวุ่นวายและดึงความสนใจในทางที่ไม่เหมาะสม ❌ การปลดพนักงานทันที: บริษัทตัดสินใจยุติสัญญาจ้างงานของพนักงานทั้งสองทันที โดยระบุว่าเป็นการตอบสนองที่เหมาะสมต่อพฤติกรรมดังกล่าว https://www.techspot.com/news/107478-microsoft-fires-engineers-who-protested-israeli-military-use.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft fires engineers over AI protest at 50th-anniversary event
    One of the employees, Ibtihal Aboussad, interrupted a presentation by Mustafa Suleyman, Microsoft's head of AI, during the anniversary event. Following the incident, she sent an email...
    0 Comments 0 Shares 212 Views 0 Reviews
  • Roskomnadzor กำลังขยายสงครามการเซ็นเซอร์ VPN ด้วยคำสั่งให้ลบแอปออกจาก Google Play Store แต่ Google เลือกที่จะต้านคำสั่งและรักษาแอป VPN ไว้จำนวนมาก เหตุการณ์นี้แสดงถึงความท้าทายระหว่างเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตและการปราบปรามในประเทศ

    ✅ การต้านทานของ Google: ในขณะที่ Roskomnadzorพยายามปิดกั้นการใช้งาน VPN เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเซ็นเซอร์ Google ยังไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งส่วนใหญ่ โดยในขณะนี้มีเพียง 6 แอป VPN ที่ถูกลบจาก Play Store ในรัสเซีย

    ✅ การตอบสนองที่แตกต่างของ Apple: ในปี 2024 Apple ได้ลบ VPN ออกจาก App Store ในรัสเซียถึง 60 แอป ซึ่งแสดงถึงระดับการปฏิบัติตามที่สูงกว่า Google

    ✅ ผลกระทบต่อเสรีภาพทางดิจิทัล: VPN ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยผู้ใช้งานในรัสเซียหลบหลีกการเซ็นเซอร์และการเฝ้าระวัง แต่การที่ Roskomnadzorออกคำสั่งให้ลบแอปเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการปราบปรามที่เข้มงวดต่อความพยายามในการเข้าถึงเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ต

    ✅ การสนับสนุนจากองค์กรอิสระ: GreatFire’s AppCensorship Project เรียกร้องให้ Google และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีมีความโปร่งใสและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลบแอป รวมถึงการเพิ่มการกำกับดูแลเพื่อช่วยปกป้องเสรีภาพทางดิจิทัล

    ✅ การตัดสินใจของนักพัฒนา: นักพัฒนาบางราย เช่น Avast VPN เลือกที่จะหยุดให้บริการในรัสเซียโดยไม่รอคำสั่งจากรัฐบาล สะท้อนถึงแรงกดดันที่เกิดขึ้น

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-demands-212-vpns-are-removed-from-the-play-store-but-google-is-resisting
    Roskomnadzor กำลังขยายสงครามการเซ็นเซอร์ VPN ด้วยคำสั่งให้ลบแอปออกจาก Google Play Store แต่ Google เลือกที่จะต้านคำสั่งและรักษาแอป VPN ไว้จำนวนมาก เหตุการณ์นี้แสดงถึงความท้าทายระหว่างเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตและการปราบปรามในประเทศ ✅ การต้านทานของ Google: ในขณะที่ Roskomnadzorพยายามปิดกั้นการใช้งาน VPN เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเซ็นเซอร์ Google ยังไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งส่วนใหญ่ โดยในขณะนี้มีเพียง 6 แอป VPN ที่ถูกลบจาก Play Store ในรัสเซีย ✅ การตอบสนองที่แตกต่างของ Apple: ในปี 2024 Apple ได้ลบ VPN ออกจาก App Store ในรัสเซียถึง 60 แอป ซึ่งแสดงถึงระดับการปฏิบัติตามที่สูงกว่า Google ✅ ผลกระทบต่อเสรีภาพทางดิจิทัล: VPN ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยผู้ใช้งานในรัสเซียหลบหลีกการเซ็นเซอร์และการเฝ้าระวัง แต่การที่ Roskomnadzorออกคำสั่งให้ลบแอปเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการปราบปรามที่เข้มงวดต่อความพยายามในการเข้าถึงเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ต ✅ การสนับสนุนจากองค์กรอิสระ: GreatFire’s AppCensorship Project เรียกร้องให้ Google และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีมีความโปร่งใสและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลบแอป รวมถึงการเพิ่มการกำกับดูแลเพื่อช่วยปกป้องเสรีภาพทางดิจิทัล ✅ การตัดสินใจของนักพัฒนา: นักพัฒนาบางราย เช่น Avast VPN เลือกที่จะหยุดให้บริการในรัสเซียโดยไม่รอคำสั่งจากรัฐบาล สะท้อนถึงแรงกดดันที่เกิดขึ้น https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-demands-212-vpns-are-removed-from-the-play-store-but-google-is-resisting
    WWW.TECHRADAR.COM
    Russia demands over 200 VPNs are removed from the Play Store – but Google is resisting
    Of the 212, AppCensorship only found 6 VPN apps unavailable on Russia's Google Play
    0 Comments 0 Shares 280 Views 0 Reviews
  • Nvidia อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ได้บางส่วน เนื่องจากการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ในเม็กซิโกที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี USMCA แม้มาตรการภาษีนี้จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมอุตสาหกรรม แต่ Nvidia ยังคงแสดงความพร้อมในการรับมือผ่านการขยายโรงงานในเม็กซิโก

    ✅ โรงงานผลิตในเม็กซิโกช่วยลดผลกระทบทางการเงิน:
    - Nvidia ได้รับการวิเคราะห์ว่าผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ AI ที่สร้างขึ้นใน เม็กซิโก อาจได้รับการยกเว้นจากภาษีใหม่ เนื่องจากการปฏิบัติตาม USMCA (United States-Mexico-Canada Agreement) ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่ให้ข้อยกเว้นพิเศษสำหรับสินค้าที่ผลิตในเม็กซิโก

    ✅ บทบาทของ Nvidia ในอุตสาหกรรม AI:
    - Nvidia ถือเป็นกำลังสำคัญในการผลิตฮาร์ดแวร์ที่รองรับงาน AI โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ DGX และ HGX ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตในเม็กซิโกและไต้หวัน

    ✅ ท่าทีของ CEO Nvidia:
    - Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ระบุว่ามาตรการภาษีนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบในระยะสั้น เนื่องจากการขยายฐานการผลิตในเม็กซิโก ซึ่งยังคงดำเนินการโดยพันธมิตรหลักอย่าง Foxconn

    https://www.techspot.com/news/107465-nvidia-ai-servers-coming-mexico-could-partially-exempt.html
    Nvidia อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ได้บางส่วน เนื่องจากการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ในเม็กซิโกที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี USMCA แม้มาตรการภาษีนี้จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมอุตสาหกรรม แต่ Nvidia ยังคงแสดงความพร้อมในการรับมือผ่านการขยายโรงงานในเม็กซิโก ✅ โรงงานผลิตในเม็กซิโกช่วยลดผลกระทบทางการเงิน: - Nvidia ได้รับการวิเคราะห์ว่าผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ AI ที่สร้างขึ้นใน เม็กซิโก อาจได้รับการยกเว้นจากภาษีใหม่ เนื่องจากการปฏิบัติตาม USMCA (United States-Mexico-Canada Agreement) ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่ให้ข้อยกเว้นพิเศษสำหรับสินค้าที่ผลิตในเม็กซิโก ✅ บทบาทของ Nvidia ในอุตสาหกรรม AI: - Nvidia ถือเป็นกำลังสำคัญในการผลิตฮาร์ดแวร์ที่รองรับงาน AI โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ DGX และ HGX ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตในเม็กซิโกและไต้หวัน ✅ ท่าทีของ CEO Nvidia: - Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ระบุว่ามาตรการภาษีนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบในระยะสั้น เนื่องจากการขยายฐานการผลิตในเม็กซิโก ซึ่งยังคงดำเนินการโดยพันธมิตรหลักอย่าง Foxconn https://www.techspot.com/news/107465-nvidia-ai-servers-coming-mexico-could-partially-exempt.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia AI servers coming from Mexico could be partially exempt from Trump's tariffs
    The technology industry is still grappling with the aftermath of the new economic policy imposed by the US administration on its traditional partners and competitors. Meanwhile, analysts...
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • 👉กลุ่มไลน์ "ล้างพิษ ยาฉีด"
    https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

    ✅กองทัพมด หน่วย tiktok พิทักษ์สิทธิ์
    👌https://www.tiktok.com/@atapol01?_t=8Y6TRf0erHl&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@adithepchawla?_t=8bQwcnslqev&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@seed.of.soul?_t=8Vzx2VjSksc&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@james_93287?_t=8W5iUcIZnMX&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@ayrin_rk?_t=8W5inPpaIV7&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@lin18019?_t=8W5ir3xJmkc&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@benabna?_t=8WBl93aGgwj&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@stopthaicontrol?_t=8WBlyoW46mf&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@useryssde4acjp?_t=8WJSJWXCQwT&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@mint_ch0011?_t=8Y6SriTe1JK&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@use454pithaksid?_t=8Y6TeqaGEKo&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@meelap1999s?_t=8YBsrz6Mnar&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@grown_999?_t=8YK6jdXReuv&_r=1 (ถูกแบนแล้ว)
    👌https://www.tiktok.com/@peaceofsmile?_t=8YNPxgROGS9&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@rumrung?_t=8YTUSadUxfe&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@patt_2329?_t=8YcGgDYYTyM&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@act694?_t=8YnINhkjdty&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@yayabonitachiquita?_t=8ZAAcEjH9qz&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@pattharawatthantanadol?_t=8aJXyEBfZ1G&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@siamdetox?_t=8azHGX77G9C&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@blue_lemon.soda?_t=8bnCn6U1XTb&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@awaken.th?_t=8bvooDIrljD&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@aoyso1?_t=8c7aqyLuHBK&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@amonwan_1961?_t=8cEOFxxygsc&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@yingi.cds?_t=8cEOe7lEAgJ&_r=1
    👌 https://www.tiktok.com/@vickylamer?_t=8caaRDq6SUk&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@pedam1968?_t=8ce4i3rzdMQ&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@user3xupk2qx4r?_t=8crQMqkvZl1&_r=1
    👌https://www.tiktok.com/@sanwatwanyangkorn?_t=8dT68a0OeRU&_r=1

    #มดล้มช้าง
    #ปลุกคนไทยจากโควิดลวงโลก
    #กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์และเครือข่าย
    👉กลุ่มไลน์ "ล้างพิษ ยาฉีด" https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default ✅กองทัพมด หน่วย tiktok พิทักษ์สิทธิ์ 👌https://www.tiktok.com/@atapol01?_t=8Y6TRf0erHl&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@adithepchawla?_t=8bQwcnslqev&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@seed.of.soul?_t=8Vzx2VjSksc&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@james_93287?_t=8W5iUcIZnMX&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@ayrin_rk?_t=8W5inPpaIV7&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@lin18019?_t=8W5ir3xJmkc&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@benabna?_t=8WBl93aGgwj&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@stopthaicontrol?_t=8WBlyoW46mf&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@useryssde4acjp?_t=8WJSJWXCQwT&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@mint_ch0011?_t=8Y6SriTe1JK&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@use454pithaksid?_t=8Y6TeqaGEKo&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@meelap1999s?_t=8YBsrz6Mnar&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@grown_999?_t=8YK6jdXReuv&_r=1 (ถูกแบนแล้ว) 👌https://www.tiktok.com/@peaceofsmile?_t=8YNPxgROGS9&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@rumrung?_t=8YTUSadUxfe&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@patt_2329?_t=8YcGgDYYTyM&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@act694?_t=8YnINhkjdty&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@yayabonitachiquita?_t=8ZAAcEjH9qz&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@pattharawatthantanadol?_t=8aJXyEBfZ1G&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@siamdetox?_t=8azHGX77G9C&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@blue_lemon.soda?_t=8bnCn6U1XTb&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@awaken.th?_t=8bvooDIrljD&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@aoyso1?_t=8c7aqyLuHBK&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@amonwan_1961?_t=8cEOFxxygsc&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@yingi.cds?_t=8cEOe7lEAgJ&_r=1 👌 https://www.tiktok.com/@vickylamer?_t=8caaRDq6SUk&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@pedam1968?_t=8ce4i3rzdMQ&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@user3xupk2qx4r?_t=8crQMqkvZl1&_r=1 👌https://www.tiktok.com/@sanwatwanyangkorn?_t=8dT68a0OeRU&_r=1 #มดล้มช้าง #ปลุกคนไทยจากโควิดลวงโลก #กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์และเครือข่าย
    LINE.ME
    ล้างพิษ ยาฉีด
    ห้องนี้มีจุดประสงค์เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของผู้ที่ล้างพิษด้วยแนวทางต่าง ๆ เรื่องจากอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีด เช่น หายใจติดขัด เจ็บหน้าอก แผลพุพอง ซึมเศร้า panic ผมร่วง ฯลฯ ห้องนี้จัดขึ้นโดยไม่มีผลประโยชน์ใดๆ แอบแฝง มีจุดประสงค์เดียวคือให้คนไทยรอด และตื่นรู้ พร้อมที่ออกมาต่อสู้เพื่อตนเอง ครอบครัวและสังคมต่อไป หากท่านมีอาการใดๆหลังฉีด หรือ หากมีประสบการณืที่ดัขึ้นจากการใช้แนงทางใดกรุณาแชร์ไว้ในห้องนี้เพื่อเป็นวิทยาทาน ห้องนี้มีไว้เพื่อแชร์ประสบการล้างพิษเท่านั้น ข้อมูลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ทางแอดมินขอ อนุญาตลบ ขอให้ทุกท่านช่วยเข้าไปกรอกแบบฟอร์มเพื่อเข้าร่วมกลุ่ม “ล้างพิษ ยาฉีด” ที่แปะไว้ในโน้ตกลุ่ม ขอให้ทุกท่านกลับมามีสุขภาพดี ตามปกติ ได้อีกครั้ง❤️
    0 Comments 0 Shares 540 Views 0 Reviews
  • Microsoft ฉลองครบรอบ 50 ปีโดยมีการรวมตัวของอดีตและปัจจุบันซีอีโอทั้งสามที่พูดคุยในบทสัมภาษณ์พิเศษนำโดย Copilot งานนี้ยังมีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ของ Bing ที่ชื่อ Copilot Search ซึ่งช่วยให้การค้นหาด้วย AI ตอบสนองและให้ข้อมูลที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Microsoft ยังปล่อยทรัพยากรพิเศษ เช่น วอลเปเปอร์และพื้นหลังใน Microsoft Teams เพื่อตอบแทนผู้ใช้

    ✅ ซีอีโอทั้งสามแชร์มุมมองเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของ Microsoft
    - ในการสัมภาษณ์นี้ Copilot ไม่เพียงแต่ถามคำถามที่เกี่ยวกับมุมมองของซีอีโอ แต่ยังสร้างบรรยากาศที่มีความสนุกสนาน เช่น การแซวกันเล็กน้อยท้ายบทสนทนา

    ✅ Microsoft เปิดตัวทรัพยากรพิเศษเพื่อฉลองวันครบรอบ
    - พื้นหลัง Microsoft Teams แบบฉลองครบรอบ 50 ปี
    - วอลเปเปอร์สำหรับ Windows และมือถือที่ออกแบบเฉพาะงานนี้
    - Backdrops ที่ใช้ใน Microsoft Designer และ คลังวิดีโอใน Microsoft Clipchamp

    ✅ เปิดตัว Copilot Search ใน Bing—ตอบสนองและให้ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI
    - ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ สำรวจคำค้นหาด้วยคำถามติดตามผลและลิงก์เว็บที่เกี่ยวข้อง
    - นี่คือแนวทางใหม่ที่ Microsoft ตั้งใจให้เป็นคู่แข่งกับ Google AI Mode

    ✅ GitHub CEO Thomas Dohmke เพิ่มความน่าตื่นเต้น
    - โพสต์ใน X (Twitter เดิม) โดยบอกว่า งานนี้จะมีประกาศสำคัญสำหรับนักพัฒนา

    ติดตาม Video ได้ที่นี่ครับ --> https://www.msn.com/en-us/news/technology/Copilot-Reunites-Gates-Ballmer-and-Nadella/vi-AA1CgCqc?ocid=socialshare#details

    https://www.neowin.net/news/microsoft-ceos-unite-for-an-exclusive-copilot-interview/
    Microsoft ฉลองครบรอบ 50 ปีโดยมีการรวมตัวของอดีตและปัจจุบันซีอีโอทั้งสามที่พูดคุยในบทสัมภาษณ์พิเศษนำโดย Copilot งานนี้ยังมีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ของ Bing ที่ชื่อ Copilot Search ซึ่งช่วยให้การค้นหาด้วย AI ตอบสนองและให้ข้อมูลที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Microsoft ยังปล่อยทรัพยากรพิเศษ เช่น วอลเปเปอร์และพื้นหลังใน Microsoft Teams เพื่อตอบแทนผู้ใช้ ✅ ซีอีโอทั้งสามแชร์มุมมองเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของ Microsoft - ในการสัมภาษณ์นี้ Copilot ไม่เพียงแต่ถามคำถามที่เกี่ยวกับมุมมองของซีอีโอ แต่ยังสร้างบรรยากาศที่มีความสนุกสนาน เช่น การแซวกันเล็กน้อยท้ายบทสนทนา ✅ Microsoft เปิดตัวทรัพยากรพิเศษเพื่อฉลองวันครบรอบ - พื้นหลัง Microsoft Teams แบบฉลองครบรอบ 50 ปี - วอลเปเปอร์สำหรับ Windows และมือถือที่ออกแบบเฉพาะงานนี้ - Backdrops ที่ใช้ใน Microsoft Designer และ คลังวิดีโอใน Microsoft Clipchamp ✅ เปิดตัว Copilot Search ใน Bing—ตอบสนองและให้ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI - ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ สำรวจคำค้นหาด้วยคำถามติดตามผลและลิงก์เว็บที่เกี่ยวข้อง - นี่คือแนวทางใหม่ที่ Microsoft ตั้งใจให้เป็นคู่แข่งกับ Google AI Mode ✅ GitHub CEO Thomas Dohmke เพิ่มความน่าตื่นเต้น - โพสต์ใน X (Twitter เดิม) โดยบอกว่า งานนี้จะมีประกาศสำคัญสำหรับนักพัฒนา ติดตาม Video ได้ที่นี่ครับ --> https://www.msn.com/en-us/news/technology/Copilot-Reunites-Gates-Ballmer-and-Nadella/vi-AA1CgCqc?ocid=socialshare#details https://www.neowin.net/news/microsoft-ceos-unite-for-an-exclusive-copilot-interview/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft CEOs unite for an exclusive Copilot interview
    Microsoft is celebrating its 50th anniversary with an interview featuring Satya Nadella, Steve Ballmer and Bill Gates.
    0 Comments 0 Shares 288 Views 0 Reviews
  • OpenAI เปิดให้ใช้ ChatGPT Plus ฟรีสำหรับนักศึกษาวิทยาลัยในสหรัฐฯ และแคนาดาจนถึงเดือนพฤษภาคม นักศึกษาต้องยืนยันตัวตนผ่าน SheerID หากมีบัญชี ChatGPT Plus อยู่แล้ว จะได้รับเครดิตการใช้งานเพิ่ม สองเดือน ฟีเจอร์พิเศษที่นักศึกษาได้รับรวมถึง การใช้ GPT-4.5, โหมดเสียงขั้นสูง และการสร้าง Custom GPTs ขณะนี้ OpenAI กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นมหาศาล

    ✅ ChatGPT Plus เปิดให้ใช้งานฟรีสำหรับนักศึกษาทั้งแบบเต็มเวลาและพาร์ทไทม์
    - นักศึกษาต้องผ่านระบบ SheerID Verification เพื่อยืนยันสถานะ
    - หากมีบัญชี ChatGPT Plus อยู่แล้ว จะได้รับเครดิตการใช้งานฟรีสองเดือน

    ✅ สิทธิ์ที่นักศึกษาได้รับจาก ChatGPT Plus
    - ขยายขีดจำกัดการส่งข้อความและวิเคราะห์ข้อมูล
    - สามารถใช้โหมดเสียงขั้นสูง พร้อมวิดีโอและแชร์หน้าจอ
    - เข้าถึง GPT-4.5 ซึ่งเป็นโมเดลที่ใหญ่ที่สุดของ OpenAI
    - สามารถสร้าง Custom GPTs และใช้ Sora Video Generation

    ✅ OpenAI กำลังเผชิญความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐาน
    - ผู้ใช้ ChatGPT เพิ่มขึ้นถึง 500 ล้านคนต่อสัปดาห์ ทำให้เซิร์ฟเวอร์รองรับการใช้งานหนัก
    - CEO Sam Altman ขอความช่วยเหลือในการหา GPU เพิ่มเพื่อรองรับบริการ

    ✅ ChatGPT กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในภาคการศึกษา
    - การให้บริการฟรีแก่นักศึกษาอาจช่วยขยายฐานผู้ใช้และทำให้ AI มีบทบาทมากขึ้นในมหาวิทยาลัย
    - นักศึกษาสามารถใช้ AI เพื่อ วิเคราะห์ข้อมูล, เขียนเอกสาร และช่วยแก้โจทย์วิจัย

    https://www.neowin.net/news/chatgpt-plus-is-now-free-for-college-students-in-the-us-and-canada/
    OpenAI เปิดให้ใช้ ChatGPT Plus ฟรีสำหรับนักศึกษาวิทยาลัยในสหรัฐฯ และแคนาดาจนถึงเดือนพฤษภาคม นักศึกษาต้องยืนยันตัวตนผ่าน SheerID หากมีบัญชี ChatGPT Plus อยู่แล้ว จะได้รับเครดิตการใช้งานเพิ่ม สองเดือน ฟีเจอร์พิเศษที่นักศึกษาได้รับรวมถึง การใช้ GPT-4.5, โหมดเสียงขั้นสูง และการสร้าง Custom GPTs ขณะนี้ OpenAI กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นมหาศาล ✅ ChatGPT Plus เปิดให้ใช้งานฟรีสำหรับนักศึกษาทั้งแบบเต็มเวลาและพาร์ทไทม์ - นักศึกษาต้องผ่านระบบ SheerID Verification เพื่อยืนยันสถานะ - หากมีบัญชี ChatGPT Plus อยู่แล้ว จะได้รับเครดิตการใช้งานฟรีสองเดือน ✅ สิทธิ์ที่นักศึกษาได้รับจาก ChatGPT Plus - ขยายขีดจำกัดการส่งข้อความและวิเคราะห์ข้อมูล - สามารถใช้โหมดเสียงขั้นสูง พร้อมวิดีโอและแชร์หน้าจอ - เข้าถึง GPT-4.5 ซึ่งเป็นโมเดลที่ใหญ่ที่สุดของ OpenAI - สามารถสร้าง Custom GPTs และใช้ Sora Video Generation ✅ OpenAI กำลังเผชิญความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐาน - ผู้ใช้ ChatGPT เพิ่มขึ้นถึง 500 ล้านคนต่อสัปดาห์ ทำให้เซิร์ฟเวอร์รองรับการใช้งานหนัก - CEO Sam Altman ขอความช่วยเหลือในการหา GPU เพิ่มเพื่อรองรับบริการ ✅ ChatGPT กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในภาคการศึกษา - การให้บริการฟรีแก่นักศึกษาอาจช่วยขยายฐานผู้ใช้และทำให้ AI มีบทบาทมากขึ้นในมหาวิทยาลัย - นักศึกษาสามารถใช้ AI เพื่อ วิเคราะห์ข้อมูล, เขียนเอกสาร และช่วยแก้โจทย์วิจัย https://www.neowin.net/news/chatgpt-plus-is-now-free-for-college-students-in-the-us-and-canada/
    WWW.NEOWIN.NET
    ChatGPT Plus is now free for college students in the US and Canada
    To further expand its user base, OpenAI is offering free ChatGPT Plus subscriptions to students, while also facing infrastructure challenges due to the high demand.
    0 Comments 0 Shares 285 Views 0 Reviews
  • เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Microsoft ฉลองครบรอบ 50 ปี ของบริษัท และ บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง ได้ทำให้การเฉลิมฉลองนี้พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการ เผยแพร่โค้ดต้นฉบับของ Altair BASIC ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์แรกของ Microsoft

    ✅ Altair BASIC เป็นซอฟต์แวร์ที่ปูทางให้ Microsoft เติบโต
    - ซอฟต์แวร์นี้ถูกพัฒนาโดย บิล เกตส์ และพอล อัลเลน ในปี 1975
    - เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมคอมพิวเตอร์ Altair 8800 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยชิป Intel 8080

    ✅ โค้ดต้นฉบับมีความยาวถึง 157 หน้า
    - เขียนในภาษา Intel 8080 Assembly ซึ่งเป็นภาษาระดับล่างที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง
    - เกตส์กล่าวว่าเป็น “โค้ดที่เจ๋งที่สุด” ที่เขาเคยเขียน

    ✅ Microsoft ในยุคแรกใช้ชื่อว่า "Micro-Soft"
    - ในช่วงต้นของการก่อตั้ง Microsoft ยังใช้เครื่องหมายขีดกลางในชื่อ (Micro-Soft) ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นชื่อที่เรารู้จักในปัจจุบัน

    ✅ Microsoft พัฒนาไปไกลจากจุดเริ่มต้น
    - จากการสร้าง Altair BASIC ไมโครซอฟท์ขยายไปสู่ Windows, Office, Xbox และ AI
    - เกตส์กล่าวถึงผลงานของ Steve Ballmer, Satya Nadella และพนักงานทุกคนที่ช่วยพัฒนา Microsoft ตลอด 50 ปี

    https://www.neowin.net/news/before-office-windows-xbox-bill-gates-shares-original-microsoft-code-on-its-50th-year/
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Microsoft ฉลองครบรอบ 50 ปี ของบริษัท และ บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง ได้ทำให้การเฉลิมฉลองนี้พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการ เผยแพร่โค้ดต้นฉบับของ Altair BASIC ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์แรกของ Microsoft ✅ Altair BASIC เป็นซอฟต์แวร์ที่ปูทางให้ Microsoft เติบโต - ซอฟต์แวร์นี้ถูกพัฒนาโดย บิล เกตส์ และพอล อัลเลน ในปี 1975 - เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมคอมพิวเตอร์ Altair 8800 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยชิป Intel 8080 ✅ โค้ดต้นฉบับมีความยาวถึง 157 หน้า - เขียนในภาษา Intel 8080 Assembly ซึ่งเป็นภาษาระดับล่างที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง - เกตส์กล่าวว่าเป็น “โค้ดที่เจ๋งที่สุด” ที่เขาเคยเขียน ✅ Microsoft ในยุคแรกใช้ชื่อว่า "Micro-Soft" - ในช่วงต้นของการก่อตั้ง Microsoft ยังใช้เครื่องหมายขีดกลางในชื่อ (Micro-Soft) ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นชื่อที่เรารู้จักในปัจจุบัน ✅ Microsoft พัฒนาไปไกลจากจุดเริ่มต้น - จากการสร้าง Altair BASIC ไมโครซอฟท์ขยายไปสู่ Windows, Office, Xbox และ AI - เกตส์กล่าวถึงผลงานของ Steve Ballmer, Satya Nadella และพนักงานทุกคนที่ช่วยพัฒนา Microsoft ตลอด 50 ปี https://www.neowin.net/news/before-office-windows-xbox-bill-gates-shares-original-microsoft-code-on-its-50th-year/
    WWW.NEOWIN.NET
    "Before Office, Windows, Xbox", Bill Gates shares original Microsoft code on its 50th year
    Microsoft's co-founder Bill Gates has shared the original Altair Basic source code that led to the formation of the tech giant that it is today.
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • **ผ้าไหมทอลายสูจิ่น เทคนิคการทออันเป็นมรดกทางภูมิปัญญาวัฒนธรรม**

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราตามรอย <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ไปยังแหล่งผลิตของผ้าไหมสูจิ่น (蜀锦) หรือเมืองอี้โจวในเรื่องซึ่งก็คือเมืองเฉิงตูนั่นเอง Storyฯ ได้กล่าวไว้ว่าผ้าไหมสูจิ่นเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดผ้าไหมทอลายของจีน และเทคนิคการทอผ้าสูจิ่นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจีนเมื่อปี 2006 วันนี้มาคุยกันต่อค่ะ

    ประวัติการทอผ้าไหมจีนมีมายาวนานหลายพันปี แต่เทคนิคการทอผ้าสูจิ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนี้มีมาอย่างน้อยตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 206 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) โดยมีหลักฐานจากการขุดพบเครื่องทอโบราณจากหลุมฝังศพสมัยราชวงศ์ฮั่น และใช้เวลานานมากในการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมัน เนื่องจากเอกสารข้อมูลที่หลงเหลือเกี่ยวกับมันมีน้อยมากอันสืบเนื่องจากเมืองเฉิงตูและเขตพื้นที่ทอผ้าได้รับความเสียหายจากไฟสงครามเมื่อแมนจูเข้ายึด ปัจจุบันมีการจำลองขึ้นใหม่จนใช้การได้จริง จัดเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู (Chengdu Shu Brocade And Embroidery Museum) (ดูรูปประกอบ 2)

    นอกจากนี้ยังมีการขุดพบผ้าไหมทอลายสูจิ่นในพื้นที่แถบซินเกียงที่สะท้อนถึงความสามารถในการทอผ้าลายซับซ้อนในสมัยฮั่น โดยผลงานที่โด่งดังมากที่สุดคือผ้าหุ้มข้อมือที่มีชื่อเรียกว่า ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่จงกั๋ว’ (五星出东方利中国/ Five Stars Rising in the East) ผ้าผืนนี้มีสีสันสดใสโดยเน้นสีที่เป็นตัวแทนของห้าดาว (ห้าธาตุ) มีลายสัตว์มงคลและตัวอักษร ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่ตงกั๋ว’ และเนื่องด้วยมีการค้นพบเศษผ้าอื่นที่มีลายต่อเนื่องกัน ผู้เชี่ยวชาญจึงวิเคราะห์ไว้ว่าผ้าผืนเต็มประกอบด้วยตัวอักษรยี่สิบอักษร เป็นผ้าทอเนื้อละเอียดมาก ภายในผ้าหนึ่งตารางเซ็นติเมตรมีด้ายยืนทับซ้อนกันทั้งสิ้นกว่า 200 เส้น!

    ต่อมาในสมัยถังและซ่ง เครื่องทอผ้าถูกพัฒนาให้ทอลายที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้นและมีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น โดยมีการบรรยายลักษณะไว้ในบันทึก ‘เทียนกงคายอู้’ (天工开物 /The Exploitation of the Works of Nature) ซึ่งเป็นหนังสือสมัยหมิงจัดทำขึ้นโดยซ่งอิงซิงเมื่อปีค.ศ. 1637 เพื่อบันทึกถึงกว่า 300 อาชีพที่เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและกรรมวิธีการผลิตที่เกี่ยวข้อง (ดูรูปประกอบ 3) ปัจจุบันมีเครื่องโบราณจริงจากสมัยชิงแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู

    เครื่องทอที่ว่านี้ต้องใช้ช่างทอสองคนพร้อมกัน คนหนึ่งนั่งข้างบนบังคับกลุ่มเส้นไหมเพื่อจัดลายทอ อีกคนหนึ่งนั่งข้างล่างทำหน้าที่ทอและดูแลเรื่องเฉดสี รวมแล้วมีเส้นไหมกว่าหมื่นเส้นที่ต้องบังคับ มีขนาดเล็กคือ ‘เสี่ยวฮวาโหลว’ และขนาดใหญ่คือ ‘ต้าฮวาโหลว’ โดยต้าฮวาโหลวมีความสูงถึงห้าเมตร

    แม้แต่อาจารย์ผู้มีประสบการณ์มาหลายสิบปียังสามารถทอได้เพียงไม่เกินสิบเซ็นติเมตรต่อวันด้วยมันต้องใช้แรงและโฟกัสมาก และความยากที่สุดของการทอผ้าไหมสูจิ่นด้วยเครื่องอย่างนี้คือการเอาลายที่ดีไซน์บนภาพวาดแปลงออกมาเป็นการเรียงเส้นไหมนั่งเอง เล่าอย่างนี้อาจนึกภาพไม่ออก เพื่อนเพจลองดูคลิปสั้นนี้ก็จะพอเห็นภาพค่ะ https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M และหากใครพอมีเวลาก็ลองดูสาระคดียาวประมาณ 15 นาทีมีซับภาษาอังกฤษ ก็จะเห็นความซับซ้อนของการทอผ้าสูจิ่นอย่างเต็มรูปแบบ... https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s

    เอกลักษณ์ของผ้าสูจิ่นคือลายทอพื้นเมือง เทคนิคการทอลายทับซ้อนได้หลายชั้นและมีสีสันที่สดใส โดยมีชื่อเรียกจำแนกชนิดย่อยไปได้อีกตามลายทอ อธิบายเช่นนี้ก็คงจะยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง แต่ในรูปประกอบ 1 ก็พอจะเห็นบางส่วนของลายทอต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในซีรีส์ <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://m.bjnews.com.cn/detail/1732938607168793.html
    https://www.facebook.com/permalink.php/?story_fbid=1083381463798209&id=100063790956424
    https://j.021east.com/p/1652758642049238
    https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html
    https://www.ccmapp.cn/news/detail?id=bd8d36d9-2b59-4fa0-b8e9-7d8b65852db3&categoryid=&categoryname=最新资讯
    https://www.chinasilkmuseum.com/cs/info_164.aspx?itemid=26725
    https://www.researchgate.net/figure/Traditional-Chinese-drawbar-silk-loom-Roads-to-Zanadu_fig4_284551990
    https://news.qq.com/rain/a/20241229A059DQ00
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s
    https://www.youtube.com/watch?v=1zNDpGNh_Z4&t=1197s
    https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html

    #ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ #ผ้าไหมจีน #ผ้าไหมจิ่น #สูจิ่น #เฉิงตู #สามก๊ก #สี่สุดยอดผ้าไหมจีน #เครื่องทอผ้าจีนโบราณ #สาระจีน
    **ผ้าไหมทอลายสูจิ่น เทคนิคการทออันเป็นมรดกทางภูมิปัญญาวัฒนธรรม** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราตามรอย <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ไปยังแหล่งผลิตของผ้าไหมสูจิ่น (蜀锦) หรือเมืองอี้โจวในเรื่องซึ่งก็คือเมืองเฉิงตูนั่นเอง Storyฯ ได้กล่าวไว้ว่าผ้าไหมสูจิ่นเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดผ้าไหมทอลายของจีน และเทคนิคการทอผ้าสูจิ่นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจีนเมื่อปี 2006 วันนี้มาคุยกันต่อค่ะ ประวัติการทอผ้าไหมจีนมีมายาวนานหลายพันปี แต่เทคนิคการทอผ้าสูจิ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนี้มีมาอย่างน้อยตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 206 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) โดยมีหลักฐานจากการขุดพบเครื่องทอโบราณจากหลุมฝังศพสมัยราชวงศ์ฮั่น และใช้เวลานานมากในการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมัน เนื่องจากเอกสารข้อมูลที่หลงเหลือเกี่ยวกับมันมีน้อยมากอันสืบเนื่องจากเมืองเฉิงตูและเขตพื้นที่ทอผ้าได้รับความเสียหายจากไฟสงครามเมื่อแมนจูเข้ายึด ปัจจุบันมีการจำลองขึ้นใหม่จนใช้การได้จริง จัดเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู (Chengdu Shu Brocade And Embroidery Museum) (ดูรูปประกอบ 2) นอกจากนี้ยังมีการขุดพบผ้าไหมทอลายสูจิ่นในพื้นที่แถบซินเกียงที่สะท้อนถึงความสามารถในการทอผ้าลายซับซ้อนในสมัยฮั่น โดยผลงานที่โด่งดังมากที่สุดคือผ้าหุ้มข้อมือที่มีชื่อเรียกว่า ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่จงกั๋ว’ (五星出东方利中国/ Five Stars Rising in the East) ผ้าผืนนี้มีสีสันสดใสโดยเน้นสีที่เป็นตัวแทนของห้าดาว (ห้าธาตุ) มีลายสัตว์มงคลและตัวอักษร ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่ตงกั๋ว’ และเนื่องด้วยมีการค้นพบเศษผ้าอื่นที่มีลายต่อเนื่องกัน ผู้เชี่ยวชาญจึงวิเคราะห์ไว้ว่าผ้าผืนเต็มประกอบด้วยตัวอักษรยี่สิบอักษร เป็นผ้าทอเนื้อละเอียดมาก ภายในผ้าหนึ่งตารางเซ็นติเมตรมีด้ายยืนทับซ้อนกันทั้งสิ้นกว่า 200 เส้น! ต่อมาในสมัยถังและซ่ง เครื่องทอผ้าถูกพัฒนาให้ทอลายที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้นและมีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น โดยมีการบรรยายลักษณะไว้ในบันทึก ‘เทียนกงคายอู้’ (天工开物 /The Exploitation of the Works of Nature) ซึ่งเป็นหนังสือสมัยหมิงจัดทำขึ้นโดยซ่งอิงซิงเมื่อปีค.ศ. 1637 เพื่อบันทึกถึงกว่า 300 อาชีพที่เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและกรรมวิธีการผลิตที่เกี่ยวข้อง (ดูรูปประกอบ 3) ปัจจุบันมีเครื่องโบราณจริงจากสมัยชิงแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู เครื่องทอที่ว่านี้ต้องใช้ช่างทอสองคนพร้อมกัน คนหนึ่งนั่งข้างบนบังคับกลุ่มเส้นไหมเพื่อจัดลายทอ อีกคนหนึ่งนั่งข้างล่างทำหน้าที่ทอและดูแลเรื่องเฉดสี รวมแล้วมีเส้นไหมกว่าหมื่นเส้นที่ต้องบังคับ มีขนาดเล็กคือ ‘เสี่ยวฮวาโหลว’ และขนาดใหญ่คือ ‘ต้าฮวาโหลว’ โดยต้าฮวาโหลวมีความสูงถึงห้าเมตร แม้แต่อาจารย์ผู้มีประสบการณ์มาหลายสิบปียังสามารถทอได้เพียงไม่เกินสิบเซ็นติเมตรต่อวันด้วยมันต้องใช้แรงและโฟกัสมาก และความยากที่สุดของการทอผ้าไหมสูจิ่นด้วยเครื่องอย่างนี้คือการเอาลายที่ดีไซน์บนภาพวาดแปลงออกมาเป็นการเรียงเส้นไหมนั่งเอง เล่าอย่างนี้อาจนึกภาพไม่ออก เพื่อนเพจลองดูคลิปสั้นนี้ก็จะพอเห็นภาพค่ะ https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M และหากใครพอมีเวลาก็ลองดูสาระคดียาวประมาณ 15 นาทีมีซับภาษาอังกฤษ ก็จะเห็นความซับซ้อนของการทอผ้าสูจิ่นอย่างเต็มรูปแบบ... https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s เอกลักษณ์ของผ้าสูจิ่นคือลายทอพื้นเมือง เทคนิคการทอลายทับซ้อนได้หลายชั้นและมีสีสันที่สดใส โดยมีชื่อเรียกจำแนกชนิดย่อยไปได้อีกตามลายทอ อธิบายเช่นนี้ก็คงจะยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง แต่ในรูปประกอบ 1 ก็พอจะเห็นบางส่วนของลายทอต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในซีรีส์ <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://m.bjnews.com.cn/detail/1732938607168793.html https://www.facebook.com/permalink.php/?story_fbid=1083381463798209&id=100063790956424 https://j.021east.com/p/1652758642049238 https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html https://www.ccmapp.cn/news/detail?id=bd8d36d9-2b59-4fa0-b8e9-7d8b65852db3&categoryid=&categoryname=最新资讯 https://www.chinasilkmuseum.com/cs/info_164.aspx?itemid=26725 https://www.researchgate.net/figure/Traditional-Chinese-drawbar-silk-loom-Roads-to-Zanadu_fig4_284551990 https://news.qq.com/rain/a/20241229A059DQ00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s https://www.youtube.com/watch?v=1zNDpGNh_Z4&t=1197s https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html #ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ #ผ้าไหมจีน #ผ้าไหมจิ่น #สูจิ่น #เฉิงตู #สามก๊ก #สี่สุดยอดผ้าไหมจีน #เครื่องทอผ้าจีนโบราณ #สาระจีน
    3 Comments 0 Shares 1093 Views 0 Reviews
  • ความฉ้อฉลเกี่ยวกับแร่ธาตุ

    มันเป็นการโกหกที่ยิ่งใหญ่ซึ่งนำพาผู้คนและบุคลากรทางการแพทย์ไปสู่หายนะแห่งสุขภาพ

    มันเริ่มต้นด้วยคำว่า “แคลเซียมจำเป็นมากสำหรับกระดูกที่แข็งแรง”

    แพทย์เกือบจะทุกคนและผู้คนส่วนใหญ่ถูกฝังรากลึกจากความฉ้อฉลนี้ เราทุกคนเลยต้องดำดิ่งไปกับความเชื่อที่ว่า..ถ้าเราขาดแคลเซียมกระดูกของเราจะกลายเป็นผุยผง.. นี่เป็นการหลอกลวงและไม่เคยเป็นความจริง

    ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานที่สอนกันอยู่ในมหาวิทยาลัยทั่วโลกได้บอกเราถึงความผิดพลาดของระบบความเชื่อ

    แต่ก่อนที่จะไปไกลกว่านี้ผมอยากให้คุณรับรู้ว่า แคลเซียมเป็นเพียงแค่ 1ใน12แร่ธาตุที่ทำให้กระดูกแข็งแรง เมื่อใครสักคนได้รับคำวินิจฉัยว่าเป็นโรคกระดกพรุน ( Osteoporosis) นั่นหมายถึงการสูญเสียแร่ธาตุของกระดูก ไม่ใช่เพียงแค่ขาดแคลเซียมและถ้าคุณได้รับการแนะนำให้เสริมเพียงแค่แคลเซียมเพื่อบำรุงกระดูกจนเกินขนาดไม่ว่าจะได้มาในรูปแบบของ..นม..ตามคำแนะนำแพทย์หรือในรูปแบบอาหารเสริม..นั่นหมายถึงคุณกำลังได้รับสัญญาณแห่ง”ความตาย” เหตุเพราะแคลเซียมทำให้”แข็งตัว”....แม่จ้าว...แล้วมันจะทำให้ส่วนใดของร่างกายแข็งตัวได้บ้าง และถ้ามันเกินขนาดจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเรา

    -นิ่วกรวยไต
    -นิ่วถุงน้ำดี
    -หินปูนเกาะในหลอดเลือด
    -หินปูนเกาะกระดูก
    -หินปูนเกาะเต้านม
    -การฝากของแคลเซียมในเนื้อเยื่อ
    -เซลล์สมองผิดปกติ
    -เนื้อสมองหดตัว
    -สมองเสื่อม
    ........................................................
    อะไรนำไปสู่สิ่งโกหกที่ทำให้เราต้องจ่ายเงินเพราะมัน
    ..........................................................

    ความรู้ที่ผิดพลาดที่ถูกฝังรากลึกจากทุกวงการและต่อไปนี้คือความจริงที่ได้เพิ่มรายละเอียดมากขึ้น

    -แคลเซียมกับการทำงานของต่อมหมวกไต

    แคลเซียมที่มากเกินไปจะไปกดการทำงานของต่อมหมวกไตในวัตถุประสงค์เพื่อให้ไตกักเก็บแมกนีเซียมเพิ่มขึ้นเพื่อรักษาสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย ผลของการทำเช่นนี้ก็คือ โซเดียมและโพแทสเซียมจะถูกขับออกทางปัสสาวะเป็นจำนวนมากซึ่งส่งผลต่อแร่ธาตุสองชนิดนี้ในเซลล์เป็นอย่างมาก

    !! ในความเป็นจริง :

    -โซเดียมมีความจำเป็นในการสร้างกรดในกระเพาะอาหาร การย่อยโปรตีน การขนส่งน้ำตาลกลูโคสและกรดอะมิโนเข้าสู่เซลล์และเนื้อเยื่อ(ยกเว้น เซลล์ไขมัน)

    -โพแทสเซียมจำเป็นสำหรับการทำงานของฮอร์โมนไทรอยด์และช่วยรักษาไว้ซึ่งประจุของผนังเซลล์

    แร่ธาตุเหล่านี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการกำหนดอัตราการเต้นของหัวใจ มันเป็นตัวกำหนดให้กล้ามเนื้อและใยประสาทสื่อสารกันเมื่อพวกเขาต้องการแร่ธาตุสองตัวนี้ นอกจากนี้ทั้งสองยังช่วยรักษาความคงที่ของความดันโลหิตอีกด้วย ความไม่สมดุลหรือการขาดแร่ธาตุเหล่านี้นำไปสู่ความผิดพลาดเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าที่เซลล์ของหัวใจ

    !! ไม่ยากเลยที่จะจินตนาการว่าเมื่อร่างกายขาดโซเดียมและโพแทสเซียมแล้วจะเกิดอะไรตามมา...กรดอะมิโนถูกจำกัดและเมื่อเซลล์ขาดกรดอะมิโน ร่างกายก็ไม่สามารถเจริญเติบโตและซ่อมแซมตัวเองได้และเมื่อเซลล์ขาดกลูโคส เซลล์ก็ขาดซึ่งพลังงาน ความอ่อนล้าหมดแรงของร่างกายโดยรวมก็ตามมา

    !! ในความเป็นจริง ร่างกายจำเป็นต้องได้รับการบริจาคประจุลบจากแร่ธาตุในทุกปฏิกิริยาชีวเคมีที่เกิดขึ้นในเซลล์ ดังนั้นการขาดซึ่งแร่ธาตุจึงสามารถนำไปสู่หลายอาการของร่างกายได้
    ............................................................................................
    เมื่อคุณอ่านจบ...คุณคิดถึงใคร !!
    …………………………………………………
    ในขณะที่แทบทุกจะโรงเรียนได้มอบ"นม"ที่บอกว่าเพิ่มแคลเซียมให้แก่เด็กเพื่อที่พวกเขาเหล่านั้นจะได้สูงใหญ่โดยไม่ได้คำนึงถึงสมดุลของแร่ธาตุ นั่นหมายถึงกำลังทำให้สมองเด็กฝ่อลงหรือไม่ สอนยากสอนเย็น ขาดสมาธิและนำไปสู่โรคอื่นในอนาคตหรือไม่

    นั่นคือสิ่งที่ผมคิดเมื่อเขียนบทความจบ

    ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

    สวัสดี

    ขอบคุณ Dr.Robert Thompson,MD. และ Kathleen Barnes.

    Cr. Santi Manadee
    ความฉ้อฉลเกี่ยวกับแร่ธาตุ มันเป็นการโกหกที่ยิ่งใหญ่ซึ่งนำพาผู้คนและบุคลากรทางการแพทย์ไปสู่หายนะแห่งสุขภาพ มันเริ่มต้นด้วยคำว่า “แคลเซียมจำเป็นมากสำหรับกระดูกที่แข็งแรง” แพทย์เกือบจะทุกคนและผู้คนส่วนใหญ่ถูกฝังรากลึกจากความฉ้อฉลนี้ เราทุกคนเลยต้องดำดิ่งไปกับความเชื่อที่ว่า..ถ้าเราขาดแคลเซียมกระดูกของเราจะกลายเป็นผุยผง.. นี่เป็นการหลอกลวงและไม่เคยเป็นความจริง ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานที่สอนกันอยู่ในมหาวิทยาลัยทั่วโลกได้บอกเราถึงความผิดพลาดของระบบความเชื่อ แต่ก่อนที่จะไปไกลกว่านี้ผมอยากให้คุณรับรู้ว่า แคลเซียมเป็นเพียงแค่ 1ใน12แร่ธาตุที่ทำให้กระดูกแข็งแรง เมื่อใครสักคนได้รับคำวินิจฉัยว่าเป็นโรคกระดกพรุน ( Osteoporosis) นั่นหมายถึงการสูญเสียแร่ธาตุของกระดูก ไม่ใช่เพียงแค่ขาดแคลเซียมและถ้าคุณได้รับการแนะนำให้เสริมเพียงแค่แคลเซียมเพื่อบำรุงกระดูกจนเกินขนาดไม่ว่าจะได้มาในรูปแบบของ..นม..ตามคำแนะนำแพทย์หรือในรูปแบบอาหารเสริม..นั่นหมายถึงคุณกำลังได้รับสัญญาณแห่ง”ความตาย” เหตุเพราะแคลเซียมทำให้”แข็งตัว”....แม่จ้าว...แล้วมันจะทำให้ส่วนใดของร่างกายแข็งตัวได้บ้าง และถ้ามันเกินขนาดจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเรา -นิ่วกรวยไต -นิ่วถุงน้ำดี -หินปูนเกาะในหลอดเลือด -หินปูนเกาะกระดูก -หินปูนเกาะเต้านม -การฝากของแคลเซียมในเนื้อเยื่อ -เซลล์สมองผิดปกติ -เนื้อสมองหดตัว -สมองเสื่อม ........................................................ อะไรนำไปสู่สิ่งโกหกที่ทำให้เราต้องจ่ายเงินเพราะมัน .......................................................... ความรู้ที่ผิดพลาดที่ถูกฝังรากลึกจากทุกวงการและต่อไปนี้คือความจริงที่ได้เพิ่มรายละเอียดมากขึ้น -แคลเซียมกับการทำงานของต่อมหมวกไต แคลเซียมที่มากเกินไปจะไปกดการทำงานของต่อมหมวกไตในวัตถุประสงค์เพื่อให้ไตกักเก็บแมกนีเซียมเพิ่มขึ้นเพื่อรักษาสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย ผลของการทำเช่นนี้ก็คือ โซเดียมและโพแทสเซียมจะถูกขับออกทางปัสสาวะเป็นจำนวนมากซึ่งส่งผลต่อแร่ธาตุสองชนิดนี้ในเซลล์เป็นอย่างมาก !! ในความเป็นจริง : -โซเดียมมีความจำเป็นในการสร้างกรดในกระเพาะอาหาร การย่อยโปรตีน การขนส่งน้ำตาลกลูโคสและกรดอะมิโนเข้าสู่เซลล์และเนื้อเยื่อ(ยกเว้น เซลล์ไขมัน) -โพแทสเซียมจำเป็นสำหรับการทำงานของฮอร์โมนไทรอยด์และช่วยรักษาไว้ซึ่งประจุของผนังเซลล์ แร่ธาตุเหล่านี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการกำหนดอัตราการเต้นของหัวใจ มันเป็นตัวกำหนดให้กล้ามเนื้อและใยประสาทสื่อสารกันเมื่อพวกเขาต้องการแร่ธาตุสองตัวนี้ นอกจากนี้ทั้งสองยังช่วยรักษาความคงที่ของความดันโลหิตอีกด้วย ความไม่สมดุลหรือการขาดแร่ธาตุเหล่านี้นำไปสู่ความผิดพลาดเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าที่เซลล์ของหัวใจ !! ไม่ยากเลยที่จะจินตนาการว่าเมื่อร่างกายขาดโซเดียมและโพแทสเซียมแล้วจะเกิดอะไรตามมา...กรดอะมิโนถูกจำกัดและเมื่อเซลล์ขาดกรดอะมิโน ร่างกายก็ไม่สามารถเจริญเติบโตและซ่อมแซมตัวเองได้และเมื่อเซลล์ขาดกลูโคส เซลล์ก็ขาดซึ่งพลังงาน ความอ่อนล้าหมดแรงของร่างกายโดยรวมก็ตามมา !! ในความเป็นจริง ร่างกายจำเป็นต้องได้รับการบริจาคประจุลบจากแร่ธาตุในทุกปฏิกิริยาชีวเคมีที่เกิดขึ้นในเซลล์ ดังนั้นการขาดซึ่งแร่ธาตุจึงสามารถนำไปสู่หลายอาการของร่างกายได้ ............................................................................................ เมื่อคุณอ่านจบ...คุณคิดถึงใคร !! ………………………………………………… ในขณะที่แทบทุกจะโรงเรียนได้มอบ"นม"ที่บอกว่าเพิ่มแคลเซียมให้แก่เด็กเพื่อที่พวกเขาเหล่านั้นจะได้สูงใหญ่โดยไม่ได้คำนึงถึงสมดุลของแร่ธาตุ นั่นหมายถึงกำลังทำให้สมองเด็กฝ่อลงหรือไม่ สอนยากสอนเย็น ขาดสมาธิและนำไปสู่โรคอื่นในอนาคตหรือไม่ นั่นคือสิ่งที่ผมคิดเมื่อเขียนบทความจบ ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง สวัสดี ขอบคุณ Dr.Robert Thompson,MD. และ Kathleen Barnes. Cr. Santi Manadee
    0 Comments 0 Shares 807 Views 0 Reviews
  • 2/
    รัสเซียถล่มเมือง Dobropillia ทางเหนือของ Pokrovsk ส่งผลให้ฝ่ายยูเครนเสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 50 ราย อาคารสูง 5 ชั้น จำนวน 8 หลัง ที่มีทั้งศูนย์การค้า ร้านขายปลีก ที่พักอาศัย และรถยนต์ 30 คัน ได้รับความเสียหาย

    เซเลนสกีโวยวายว่านี่คือการยิงจากขีปนาวุธพิสัยไกลของรัสเซียจำนวน 2 ลูก ใส่พื้นที่พลเรือน

    แต่จากสื่อในพื้นที่ระบุว่า การโจมตีของรัสเซียครั้งนี้น่าจะมาจากการโจมตีผสมผสานด้วยขีปนาวุธ Iskander-M, ระบบจรวดหลายลำกล้อง Tornado-S ติดหัวรบคลัสเตอร์ และโดรน Geran-2
    2/ รัสเซียถล่มเมือง Dobropillia ทางเหนือของ Pokrovsk ส่งผลให้ฝ่ายยูเครนเสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 50 ราย อาคารสูง 5 ชั้น จำนวน 8 หลัง ที่มีทั้งศูนย์การค้า ร้านขายปลีก ที่พักอาศัย และรถยนต์ 30 คัน ได้รับความเสียหาย เซเลนสกีโวยวายว่านี่คือการยิงจากขีปนาวุธพิสัยไกลของรัสเซียจำนวน 2 ลูก ใส่พื้นที่พลเรือน แต่จากสื่อในพื้นที่ระบุว่า การโจมตีของรัสเซียครั้งนี้น่าจะมาจากการโจมตีผสมผสานด้วยขีปนาวุธ Iskander-M, ระบบจรวดหลายลำกล้อง Tornado-S ติดหัวรบคลัสเตอร์ และโดรน Geran-2
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 431 Views 23 0 Reviews
  • 1/
    รัสเซียถล่มเมือง Dobropillia ทางเหนือของ Pokrovsk ส่งผลให้ฝ่ายยูเครนเสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 50 ราย อาคารสูง 5 ชั้น จำนวน 8 หลัง ที่มีทั้งศูนย์การค้า ร้านขายปลีก ที่พักอาศัย และรถยนต์ 30 คัน ได้รับความเสียหาย

    เซเลนสกีโวยวายว่านี่คือการยิงจากขีปนาวุธพิสัยไกลของรัสเซียจำนวน 2 ลูก ใส่พื้นที่พลเรือน

    แต่จากสื่อในพื้นที่ระบุว่า การโจมตีของรัสเซียครั้งนี้น่าจะมาจากการโจมตีผสมผสานด้วยขีปนาวุธ Iskander-M, ระบบจรวดหลายลำกล้อง Tornado-S ติดหัวรบคลัสเตอร์ และโดรน Geran-2
    1/ รัสเซียถล่มเมือง Dobropillia ทางเหนือของ Pokrovsk ส่งผลให้ฝ่ายยูเครนเสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 50 ราย อาคารสูง 5 ชั้น จำนวน 8 หลัง ที่มีทั้งศูนย์การค้า ร้านขายปลีก ที่พักอาศัย และรถยนต์ 30 คัน ได้รับความเสียหาย เซเลนสกีโวยวายว่านี่คือการยิงจากขีปนาวุธพิสัยไกลของรัสเซียจำนวน 2 ลูก ใส่พื้นที่พลเรือน แต่จากสื่อในพื้นที่ระบุว่า การโจมตีของรัสเซียครั้งนี้น่าจะมาจากการโจมตีผสมผสานด้วยขีปนาวุธ Iskander-M, ระบบจรวดหลายลำกล้อง Tornado-S ติดหัวรบคลัสเตอร์ และโดรน Geran-2
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 350 Views 0 Reviews
  • ตามรอยเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านเส้นทางสายไหม

    สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> คงจำได้ว่าฉากหลังของเรื่องคือการค้าอัญมณีในสมัยถัง ซึ่งเส้นทางการเดินทางมีทั้งการเดินเรือทะเลและข้ามทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ ชวนให้ Storyฯ งงไม่น้อยเลยลองไปหาข้อมูลดู

    มีบทสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์ท่านหนึ่งของมหาวิทยาลัยเหอหนานกล่าวไว้ว่าจริงๆ แล้วซีรีส์เรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> นี้คือการเดินทางผ่านเส้นทางสายไหม ซึ่งก็ตรงกับตอนจบของเรื่องที่กล่าวถึงการพัฒนาด้านการค้าผ่านเส้นทางสายไหม

    Storyฯ เลยลองเอาการเดินทางของพระเอกนางเอกจากในซีรีส์มาปักหมุดลง เราลองมาดูกันค่ะ

    มีบทความและแผนที่เกี่ยวกับเส้นทางสายไหมจำนวนไม่น้อยในหลากหลายภาษา ดังนั้น Storyฯ ขอไม่ลงรายละเอียด แต่จากการเปรียบเทียบดู Storyฯ พบว่ามีความแตกต่างกันบ้าง จึงขอใช้เวอร์ชั่นที่แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์หนิงเซี่ยกู้หยวนเป็นหลักเพราะถือว่าเป็นไปตามข้อมูลประวัติศาสตร์ที่จีนบันทึกเอง (ดูรูปประกอบ 2) เราจะเห็นว่าเส้นทางสายไหมมีเส้นทางบกและเส้นทางทะเล และเส้นทางบกไม่ได้จบลงที่เมืองฉางอัน (ซีอันปัจจุบัน) อย่างที่หลายคนเข้าใจ หากแต่มีการเชื่อมต่อไปจรดทะเลเชื่อมต่อเข้ากับเส้นทางทะเล

    Storyฯ ลองใส่ข้อมูลอื่นเพิ่มเข้าไปในแผนที่เต็มนี้ (ดูรูปประกอบ 1) ก่อนอื่นคือใส่แผนที่ของราชวงศ์ถังซ้อนลงไปเพื่อให้เห็นภาพอาณาเขตโดยคร่าว ทั้งนี้ตลอดสามร้อยกว่าปีการปกครองของถังในเขตซีอวี้ (ซินเกียงปัจจุบัน) แตกต่างกันไป เลยลองใช้แผนที่ของช่วงประมาณปีค.ศ. 700 ก็จะเห็นเขตพื้นที่ซีอวี้ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือที่มีเมืองตุนหวงเป็นเสมือนประตูทางผ่าน จากนั้นใส่เขตพื้นที่มณฑลหยางโจวในสมัยนั้นซึ่งอยู่ทางใต้ของแผนที่ติดทะเล (คือเส้นประเล็กๆ) (หมายเหตุ เส้นขอบทั้งหมดอาจไม่เป๊ะด้วยข้อจำกัดการวาดของ Storyฯ เอง)

    เมื่อใส่เสร็จแล้วก็เห็นได้เลยว่าตวนอู่และเยี่ยจื่อจิงของเราในเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> เขาเดินทางตามเส้นทางสายใหม่จริงๆ

    เริ่มกันที่ด้านล่างของแผนที่ซึ่งเป็นแถบพื้นที่เหอผู่อันเป็นแหล่งเก็บมุกทะเล (ปัจจุบันเรียกเป๋ยไห่ คือพื้นที่สีแดง) ที่นี่เป็นฉากเริ่มต้นของเรื่อง (ย้อนอ่านเรื่องการเก็บมุกได้จากบทความสัปดาห์ที่แล้ว) จากนั้นเดินทางผ่านกวางเจาขึ้นเหนือและสู้รบปรบมือกับคนตระกูลชุยและศัตรูอื่นเป็นระยะตั้งแต่เมืองซ่าวโจวถึงเมืองอู่หลิง จากนั้นเดินทางเรื่อยขึ้นไปจนถึงเมืองเปี้ยนโจวซึ่งคือเมืองไคฟงปัจจุบัน แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านนครฉางอัน ข้ามเขตทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ซึ่งการเข้าเขตซีอวี้ในสมัยนั้นจะผ่านเมืองตุนหวง ณ จุดนี้ เรื่องราวผ่านไปแล้วประมาณ 1/3 ของเรื่อง

    หลังจากนั้นเหล่าตัวละครกลับมาจากซีอวี้แล้วเดินทางมาถึงเมืองหยางโจวข้ามผ่านระยะทางอย่างไกลได้อย่างไรไม่ทราบได้ Storyฯ ดูจากแผนที่แล้วน่าจะย้อนกลับมาทางเมืองเปี้ยนเฉิงและจากจุดนั้นมีเส้นทาง (ที่ไม่ใช่เส้นทางสายไหมและไม่ได้วาดไว้ในรูปประกอบ) เชื่อมลงมายังเมืองหยางโจว ซึ่งมีทั้งเส้นทางบกและเส้นทางคลองใหญ่ต้าอวิ้นเหอที่สามารถใช้ได้ (หมายเหตุ เส้นทางต้าอวิ้นเหอมีการเปลี่ยนแปลงไปในยุคสมัยหมิงเป็นต้นมา) และเรื่องราวที่เหลือของเรื่องก็จะมีฉากหลังอยู่ที่การค้าอัญมณีที่เมืองหยางโจวนี้

    ในเรื่องมีกล่าวถึงอัญมณีหนึ่งที่น่าสนใจชื่อว่า ‘เซ่อเซ่อ’ (瑟瑟 ไม่แน่ใจว่าแปลซับไทยไว้ว่าอย่างไร) ซึ่งเป็นพลอยประเภท Beryl Stone มีสีเขียวฟ้าและฟ้า บอกว่าเป็นพลอยที่มีค่าหายากมาก ในความเป็นจริง Beryl Stone แบ่งเป็นประเภทย่อยอีกตามสี แต่เรามักเรียกรวมพลอยสีฟ้าเขียวว่าพลอยอะความารีน (Aquamarine) และในละครมีการกล่าวว่าพลอยเซ่อเซ่อเกรดดีส่วนใหญ่มาจากเขตซีอวี้ แต่แถวหยางโจวก็พอให้หาซื้อได้ ซึ่งเป็นข้อมูลจริงตามประวัติศาสตร์ เพราะพลอยเซ่อเซ่อในจีนหาได้ในสามพื้นที่หลักคือซินเกียง (ซีอวี้) ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ และที่ยูนนานและหูเป่ย (ไม่ไกลจากเมืองอู่หลิงในภาพ ซึ่งเป็นจุดที่น้องชุยสือจิ่วของเราถูกจับขังในเหมือง)

    เมืองหยางโจวเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการคมนาคมทั้งทางบกและทางเรือของจีนโบราณ จึงไม่แปลกที่เรามักเห็นในซีรีส์และนิยายจีนโบราณกล่าวถึงหยางโจวว่าเป็นเขตค้าขายมีตระกูลพ่อค้าร่ำรวย ที่นี่ไม่เพียงเป็นจุดเชื่อมเส้นทางสายไหมทางบกและทะเลโดยผ่านแม่น้ำแยงซีเกียง และยังมีคลองต้าอวิ้นเหอเชื่อมขึ้นเหนือ ในสมัยถังที่นี่เป็นศูนย์กลางการค้าเสบียงอาหาร เกลือและเหล็กไปยังพื้นที่ต่างๆ ของจีน อีกทั้งค้าขายส่งออกผ้าไหมและงานกระเบื้องรวมถึงนำเข้าสินค้าหลากชนิดผ่านเส้นทางบกและเรือ นอกจากนี้ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องงานช่างงานฝีมือและมีการพบเจอซากเรือสมัยถังพร้อมเครื่องประดับมากมายที่แสดงให้เห็นว่าในสมัยถังมีการค้าขายเครื่องประดับด้วยเช่นกัน

    หวังว่าเพื่อนเพจจะเห็นภาพแล้วว่าการเดินเรื่องของ <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านพื้นที่ไหนบ้าง และทำไมเหล่าคู่อริทางการค้าจึงพบหน้ากันบ่อย... เพราะทุกคนล้วนค้าขายและใช้เส้นทางสายไหมกันนั่นเอง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://m.bjnews.com.cn/detail/1730788116168379.html
    https://www.chinadiscovery.com/assets/images/silk-road/history/tang-silk-road-map-llsboc-qunar.jpg
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.163.com/dy/article/JG5GE87L0512D3VJ.html
    https://www.163.com/dy/article/JGCT7TAP0530WJTO.html
    https://baike.baidu.com/item/扬州市
    https://turnstone.ca/rom186be.htm

    #ม่านมุกม่านหยก #เส้นทางสายไหม #พลอยจีน #หยางโจว #สาระจีน
    ตามรอยเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านเส้นทางสายไหม สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> คงจำได้ว่าฉากหลังของเรื่องคือการค้าอัญมณีในสมัยถัง ซึ่งเส้นทางการเดินทางมีทั้งการเดินเรือทะเลและข้ามทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ ชวนให้ Storyฯ งงไม่น้อยเลยลองไปหาข้อมูลดู มีบทสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์ท่านหนึ่งของมหาวิทยาลัยเหอหนานกล่าวไว้ว่าจริงๆ แล้วซีรีส์เรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> นี้คือการเดินทางผ่านเส้นทางสายไหม ซึ่งก็ตรงกับตอนจบของเรื่องที่กล่าวถึงการพัฒนาด้านการค้าผ่านเส้นทางสายไหม Storyฯ เลยลองเอาการเดินทางของพระเอกนางเอกจากในซีรีส์มาปักหมุดลง เราลองมาดูกันค่ะ มีบทความและแผนที่เกี่ยวกับเส้นทางสายไหมจำนวนไม่น้อยในหลากหลายภาษา ดังนั้น Storyฯ ขอไม่ลงรายละเอียด แต่จากการเปรียบเทียบดู Storyฯ พบว่ามีความแตกต่างกันบ้าง จึงขอใช้เวอร์ชั่นที่แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์หนิงเซี่ยกู้หยวนเป็นหลักเพราะถือว่าเป็นไปตามข้อมูลประวัติศาสตร์ที่จีนบันทึกเอง (ดูรูปประกอบ 2) เราจะเห็นว่าเส้นทางสายไหมมีเส้นทางบกและเส้นทางทะเล และเส้นทางบกไม่ได้จบลงที่เมืองฉางอัน (ซีอันปัจจุบัน) อย่างที่หลายคนเข้าใจ หากแต่มีการเชื่อมต่อไปจรดทะเลเชื่อมต่อเข้ากับเส้นทางทะเล Storyฯ ลองใส่ข้อมูลอื่นเพิ่มเข้าไปในแผนที่เต็มนี้ (ดูรูปประกอบ 1) ก่อนอื่นคือใส่แผนที่ของราชวงศ์ถังซ้อนลงไปเพื่อให้เห็นภาพอาณาเขตโดยคร่าว ทั้งนี้ตลอดสามร้อยกว่าปีการปกครองของถังในเขตซีอวี้ (ซินเกียงปัจจุบัน) แตกต่างกันไป เลยลองใช้แผนที่ของช่วงประมาณปีค.ศ. 700 ก็จะเห็นเขตพื้นที่ซีอวี้ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือที่มีเมืองตุนหวงเป็นเสมือนประตูทางผ่าน จากนั้นใส่เขตพื้นที่มณฑลหยางโจวในสมัยนั้นซึ่งอยู่ทางใต้ของแผนที่ติดทะเล (คือเส้นประเล็กๆ) (หมายเหตุ เส้นขอบทั้งหมดอาจไม่เป๊ะด้วยข้อจำกัดการวาดของ Storyฯ เอง) เมื่อใส่เสร็จแล้วก็เห็นได้เลยว่าตวนอู่และเยี่ยจื่อจิงของเราในเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> เขาเดินทางตามเส้นทางสายใหม่จริงๆ เริ่มกันที่ด้านล่างของแผนที่ซึ่งเป็นแถบพื้นที่เหอผู่อันเป็นแหล่งเก็บมุกทะเล (ปัจจุบันเรียกเป๋ยไห่ คือพื้นที่สีแดง) ที่นี่เป็นฉากเริ่มต้นของเรื่อง (ย้อนอ่านเรื่องการเก็บมุกได้จากบทความสัปดาห์ที่แล้ว) จากนั้นเดินทางผ่านกวางเจาขึ้นเหนือและสู้รบปรบมือกับคนตระกูลชุยและศัตรูอื่นเป็นระยะตั้งแต่เมืองซ่าวโจวถึงเมืองอู่หลิง จากนั้นเดินทางเรื่อยขึ้นไปจนถึงเมืองเปี้ยนโจวซึ่งคือเมืองไคฟงปัจจุบัน แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านนครฉางอัน ข้ามเขตทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ซึ่งการเข้าเขตซีอวี้ในสมัยนั้นจะผ่านเมืองตุนหวง ณ จุดนี้ เรื่องราวผ่านไปแล้วประมาณ 1/3 ของเรื่อง หลังจากนั้นเหล่าตัวละครกลับมาจากซีอวี้แล้วเดินทางมาถึงเมืองหยางโจวข้ามผ่านระยะทางอย่างไกลได้อย่างไรไม่ทราบได้ Storyฯ ดูจากแผนที่แล้วน่าจะย้อนกลับมาทางเมืองเปี้ยนเฉิงและจากจุดนั้นมีเส้นทาง (ที่ไม่ใช่เส้นทางสายไหมและไม่ได้วาดไว้ในรูปประกอบ) เชื่อมลงมายังเมืองหยางโจว ซึ่งมีทั้งเส้นทางบกและเส้นทางคลองใหญ่ต้าอวิ้นเหอที่สามารถใช้ได้ (หมายเหตุ เส้นทางต้าอวิ้นเหอมีการเปลี่ยนแปลงไปในยุคสมัยหมิงเป็นต้นมา) และเรื่องราวที่เหลือของเรื่องก็จะมีฉากหลังอยู่ที่การค้าอัญมณีที่เมืองหยางโจวนี้ ในเรื่องมีกล่าวถึงอัญมณีหนึ่งที่น่าสนใจชื่อว่า ‘เซ่อเซ่อ’ (瑟瑟 ไม่แน่ใจว่าแปลซับไทยไว้ว่าอย่างไร) ซึ่งเป็นพลอยประเภท Beryl Stone มีสีเขียวฟ้าและฟ้า บอกว่าเป็นพลอยที่มีค่าหายากมาก ในความเป็นจริง Beryl Stone แบ่งเป็นประเภทย่อยอีกตามสี แต่เรามักเรียกรวมพลอยสีฟ้าเขียวว่าพลอยอะความารีน (Aquamarine) และในละครมีการกล่าวว่าพลอยเซ่อเซ่อเกรดดีส่วนใหญ่มาจากเขตซีอวี้ แต่แถวหยางโจวก็พอให้หาซื้อได้ ซึ่งเป็นข้อมูลจริงตามประวัติศาสตร์ เพราะพลอยเซ่อเซ่อในจีนหาได้ในสามพื้นที่หลักคือซินเกียง (ซีอวี้) ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ และที่ยูนนานและหูเป่ย (ไม่ไกลจากเมืองอู่หลิงในภาพ ซึ่งเป็นจุดที่น้องชุยสือจิ่วของเราถูกจับขังในเหมือง) เมืองหยางโจวเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการคมนาคมทั้งทางบกและทางเรือของจีนโบราณ จึงไม่แปลกที่เรามักเห็นในซีรีส์และนิยายจีนโบราณกล่าวถึงหยางโจวว่าเป็นเขตค้าขายมีตระกูลพ่อค้าร่ำรวย ที่นี่ไม่เพียงเป็นจุดเชื่อมเส้นทางสายไหมทางบกและทะเลโดยผ่านแม่น้ำแยงซีเกียง และยังมีคลองต้าอวิ้นเหอเชื่อมขึ้นเหนือ ในสมัยถังที่นี่เป็นศูนย์กลางการค้าเสบียงอาหาร เกลือและเหล็กไปยังพื้นที่ต่างๆ ของจีน อีกทั้งค้าขายส่งออกผ้าไหมและงานกระเบื้องรวมถึงนำเข้าสินค้าหลากชนิดผ่านเส้นทางบกและเรือ นอกจากนี้ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องงานช่างงานฝีมือและมีการพบเจอซากเรือสมัยถังพร้อมเครื่องประดับมากมายที่แสดงให้เห็นว่าในสมัยถังมีการค้าขายเครื่องประดับด้วยเช่นกัน หวังว่าเพื่อนเพจจะเห็นภาพแล้วว่าการเดินเรื่องของ <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านพื้นที่ไหนบ้าง และทำไมเหล่าคู่อริทางการค้าจึงพบหน้ากันบ่อย... เพราะทุกคนล้วนค้าขายและใช้เส้นทางสายไหมกันนั่นเอง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://m.bjnews.com.cn/detail/1730788116168379.html https://www.chinadiscovery.com/assets/images/silk-road/history/tang-silk-road-map-llsboc-qunar.jpg Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.163.com/dy/article/JG5GE87L0512D3VJ.html https://www.163.com/dy/article/JGCT7TAP0530WJTO.html https://baike.baidu.com/item/扬州市 https://turnstone.ca/rom186be.htm #ม่านมุกม่านหยก #เส้นทางสายไหม #พลอยจีน #หยางโจว #สาระจีน
    M.BJNEWS.COM.CN
    赵露思、刘宇宁新剧《珠帘玉幕》今日卫视开播
    赵露思、刘宇宁新剧《珠帘玉幕》今日卫视开播
    0 Comments 0 Shares 1191 Views 0 Reviews
  • 🚩ทัวร์แคนาดา 14 วัน 11 คืน

    ✈️เดินทางโดย : BR-อีวีเอ แอร์

    📍 Grand Tour Canada : สะพานคาปิลาโน - ยอดเขาซัลเฟอร์ - ทะเลสาบหลุยส์ - โคลัมเบีย ไอซ์ฟิลด์ - เมืองเคเบกซิตี้ - Montmorency Fairmont Le Château Frontenac - น้ำตก Montmorency - ออตตาวา - ล่องเรือชมทะเลสาบ 1000 เกาะ - เที่ยวชมเมืองโตรอนโต้ - ล่องเรือ Hornblower ชมวิวน้ำตกไนแองการ่า - ช้อปปิ้งที่ Outlets Collection at Niagara

    🏢 พัก Fairmont Chateau Lake Luise 2 คืน,
    🏢 พัก Fairmont Le Chateau Frontenec 1 คืน,
    🏢 พักโรงแรมวิวน้ำตกไนแองการ่า 1 คืน / พิเศษ ทานอาหารบน Skylon Tower

    🅿️ 31 พ.ค. - 13 มิ.ย. 68 // 30 ส.ค. - 2 ก.ย. // 8 - 21 ต.ค. 68 ท่านละ 255,000

    ⭕️ระดับทัวร์ : ระดับสูง
    ⭕️รหัสทัวร์ : Z11884
    ⭕️ราคาเริ่มต้น : ฿255,000

    🏢โรงแรม : 4 ดาว

    ✔️คลิกดูโปรแกรม PDF : 78s.me/e82c67

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e80576

    ดูทัวร์แคนาดาทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/688874

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์แคนาดา #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    🚩ทัวร์แคนาดา 14 วัน 11 คืน ✈️เดินทางโดย : BR-อีวีเอ แอร์ 📍 Grand Tour Canada : สะพานคาปิลาโน - ยอดเขาซัลเฟอร์ - ทะเลสาบหลุยส์ - โคลัมเบีย ไอซ์ฟิลด์ - เมืองเคเบกซิตี้ - Montmorency Fairmont Le Château Frontenac - น้ำตก Montmorency - ออตตาวา - ล่องเรือชมทะเลสาบ 1000 เกาะ - เที่ยวชมเมืองโตรอนโต้ - ล่องเรือ Hornblower ชมวิวน้ำตกไนแองการ่า - ช้อปปิ้งที่ Outlets Collection at Niagara 🏢 พัก Fairmont Chateau Lake Luise 2 คืน, 🏢 พัก Fairmont Le Chateau Frontenec 1 คืน, 🏢 พักโรงแรมวิวน้ำตกไนแองการ่า 1 คืน / พิเศษ ทานอาหารบน Skylon Tower 🅿️ 31 พ.ค. - 13 มิ.ย. 68 // 30 ส.ค. - 2 ก.ย. // 8 - 21 ต.ค. 68 ท่านละ 255,000 ⭕️ระดับทัวร์ : ระดับสูง ⭕️รหัสทัวร์ : Z11884 ⭕️ราคาเริ่มต้น : ฿255,000 🏢โรงแรม : 4 ดาว ✔️คลิกดูโปรแกรม PDF : 78s.me/e82c67 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e80576 ดูทัวร์แคนาดาทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/688874 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์แคนาดา #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 Comments 0 Shares 574 Views 0 Reviews
  • Sam Altman CEO ของ OpenAI ได้กล่าวว่าการเปิดตัวของ GPT-4.5 ต้องถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากขาดแคลนหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) ที่จำเป็นต่อการใช้งานโมเดลนี้ อย่างไรก็ตาม มีการเตรียมส่งมอบ GPUs หลายหมื่นตัวในสัปดาห์หน้าเพื่อรองรับการขยายโมเดล GPT-4.5 ให้แก่ผู้ใช้ทั่วไป

    เรื่องที่น่าสนใจคือ OpenAI และ Microsoft กำลังสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่มีมูลค่าสูงถึง 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังมีโครงการขยายศูนย์ข้อมูลอื่น ๆ ทั่วโลกที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการประมวลผล AI อย่างมากมาย

    นอกจากนั้น บริษัทผู้ผลิตชิป Nvidia ก็กำลังมีความต้องการสูงเนื่องจากหน่วยประมวลผลรุ่น Blackwell ของพวกเขาถูกขายหมดจนถึงเดือนตุลาคมปีนี้ การขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ Microsoft CEO Satya Nadella กล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการสร้างระบบ AI มากเกินไป แต่ในขณะเดียวกันโมเดล AI ก็กำลังพัฒนาและต้องการพลังการประมวลผลมากขึ้นเรื่อย ๆ

    ความเป็นจริงที่น่าตื่นเต้นคือการพัฒนา AI อย่าง GPT-4.5 ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก แต่มีค่าใช้จ่ายสูงอย่างมากเช่นกัน ทำให้การใช้งานโมเดลนี้จะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการพัฒนา AI ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/openai-has-run-out-of-gpus-says-sam-altman-gpt-4-5-rollout-delayed-due-to-lack-of-processing-power
    Sam Altman CEO ของ OpenAI ได้กล่าวว่าการเปิดตัวของ GPT-4.5 ต้องถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากขาดแคลนหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) ที่จำเป็นต่อการใช้งานโมเดลนี้ อย่างไรก็ตาม มีการเตรียมส่งมอบ GPUs หลายหมื่นตัวในสัปดาห์หน้าเพื่อรองรับการขยายโมเดล GPT-4.5 ให้แก่ผู้ใช้ทั่วไป เรื่องที่น่าสนใจคือ OpenAI และ Microsoft กำลังสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่มีมูลค่าสูงถึง 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังมีโครงการขยายศูนย์ข้อมูลอื่น ๆ ทั่วโลกที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการประมวลผล AI อย่างมากมาย นอกจากนั้น บริษัทผู้ผลิตชิป Nvidia ก็กำลังมีความต้องการสูงเนื่องจากหน่วยประมวลผลรุ่น Blackwell ของพวกเขาถูกขายหมดจนถึงเดือนตุลาคมปีนี้ การขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ Microsoft CEO Satya Nadella กล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการสร้างระบบ AI มากเกินไป แต่ในขณะเดียวกันโมเดล AI ก็กำลังพัฒนาและต้องการพลังการประมวลผลมากขึ้นเรื่อย ๆ ความเป็นจริงที่น่าตื่นเต้นคือการพัฒนา AI อย่าง GPT-4.5 ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก แต่มีค่าใช้จ่ายสูงอย่างมากเช่นกัน ทำให้การใช้งานโมเดลนี้จะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการพัฒนา AI ในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/openai-has-run-out-of-gpus-says-sam-altman-gpt-4-5-rollout-delayed-due-to-lack-of-processing-power
    0 Comments 0 Shares 363 Views 0 Reviews
  • สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลของแคนาดาได้เปิดการสอบสวนเกี่ยวกับ X ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เป็นเจ้าของโดย Elon Musk เพื่อดูว่า X ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของชาวแคนาดาในการฝึกอบรมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างถูกต้องตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวของแคนาดาหรือไม่ การสอบสวนนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการร้องเรียนถึงการใช้ข้อมูลของผู้ใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมที่เหมาะสม

    สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลของแคนาดากล่าวว่าจะมุ่งเน้นการสอบสวนในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวของรัฐบาลกลาง โดยเฉพาะเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้งาน และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของชาวแคนาดาเพื่อฝึกอบรมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ โดยยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะของการร้องเรียนนี้

    Brian Masse สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค New Democratic Party (NDP) กล่าวว่ายินดีที่เห็นสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลเปิดการสอบสวนเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลของ X และเน้นว่าความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในช่วงเวลาที่อัลกอริทึมอาจถูกบิดเบือนเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท็จ

    การสอบสวนนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ ในเรื่องการค้า การรักษาความปลอดภัยชายแดน และภาษีบริการดิจิทัลที่มีผลต่อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน Elon Musk ที่ได้รับมอบหมายให้ลดขนาดรัฐบาลของสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี Donald Trump ได้สัญญาว่าจะดำเนินการตามภาษี 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก เนื่องจากปัญหายาเสพติดที่ยังคงเข้ามาในสหรัฐฯ จากประเทศเหล่านี้

    X ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเดิมชื่อ Twitter มีโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ชื่อว่า Grok ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้ใช้งานเพื่อทำงานต่าง ๆ เช่น ตอบคำถาม แก้ปัญหา และระดมความคิด Grok-3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของโมเดลนี้ เพิ่งเปิดตัวให้กับสมาชิกระดับ Premium+ บน X

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/28/canada039s-privacy-watchdog-opens-investigation-into-x-following-complaint
    สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลของแคนาดาได้เปิดการสอบสวนเกี่ยวกับ X ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เป็นเจ้าของโดย Elon Musk เพื่อดูว่า X ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของชาวแคนาดาในการฝึกอบรมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างถูกต้องตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวของแคนาดาหรือไม่ การสอบสวนนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการร้องเรียนถึงการใช้ข้อมูลของผู้ใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมที่เหมาะสม สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลของแคนาดากล่าวว่าจะมุ่งเน้นการสอบสวนในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวของรัฐบาลกลาง โดยเฉพาะเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้งาน และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของชาวแคนาดาเพื่อฝึกอบรมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ โดยยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะของการร้องเรียนนี้ Brian Masse สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค New Democratic Party (NDP) กล่าวว่ายินดีที่เห็นสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลเปิดการสอบสวนเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลของ X และเน้นว่าความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในช่วงเวลาที่อัลกอริทึมอาจถูกบิดเบือนเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท็จ การสอบสวนนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ ในเรื่องการค้า การรักษาความปลอดภัยชายแดน และภาษีบริการดิจิทัลที่มีผลต่อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน Elon Musk ที่ได้รับมอบหมายให้ลดขนาดรัฐบาลของสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี Donald Trump ได้สัญญาว่าจะดำเนินการตามภาษี 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก เนื่องจากปัญหายาเสพติดที่ยังคงเข้ามาในสหรัฐฯ จากประเทศเหล่านี้ X ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเดิมชื่อ Twitter มีโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ชื่อว่า Grok ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้ใช้งานเพื่อทำงานต่าง ๆ เช่น ตอบคำถาม แก้ปัญหา และระดมความคิด Grok-3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของโมเดลนี้ เพิ่งเปิดตัวให้กับสมาชิกระดับ Premium+ บน X https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/28/canada039s-privacy-watchdog-opens-investigation-into-x-following-complaint
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Canada watchdog probing X's use of personal data in AI models' training
    TORONTO (Reuters) - Canada's privacy watchdog has opened an investigation into X, the social media platform owned by billionaire tech mogul Elon Musk, on whether its use of Canadians' personal data to train artificial intelligence (AI) models broke privacy rules.
    0 Comments 0 Shares 417 Views 0 Reviews
More Results