• The Science Behind the Tablet—How Oral Solid Dosage Forms Are Engineered

    Oral solid dosage forms are often perceived as simple, everyday objects, yet each tablet and capsule represents a complex engineering marvel. The creation of these pharmaceuticals relies on a deep understanding of chemistry, physics, and human biology. The ultimate goal is to ensure that when a patient takes a pill, it behaves in a predictable and beneficial way inside the body.


    Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/oral-solid-dosage-pharmaceutical-market-24531
    The Science Behind the Tablet—How Oral Solid Dosage Forms Are Engineered Oral solid dosage forms are often perceived as simple, everyday objects, yet each tablet and capsule represents a complex engineering marvel. The creation of these pharmaceuticals relies on a deep understanding of chemistry, physics, and human biology. The ultimate goal is to ensure that when a patient takes a pill, it behaves in a predictable and beneficial way inside the body. Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/oral-solid-dosage-pharmaceutical-market-24531
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Oral Solid Dosage Pharmaceutical Market Growth Report 2035
    Oral Solid Dosage Pharmaceutical Market growth is projected to reach USD 1508.59 Billion, at a 6.92% CAGR by driving industry size analysis, 2025 to 2035
    0 Comments 0 Shares 4 Views 0 Reviews
  • "ไมโครพลาสติก: พาหะใหม่ของเชื้อโรคและดื้อยา"

    งานวิจัยจาก University of Exeter และ Plymouth Marine Laboratory ในสหราชอาณาจักรเผยว่า ไมโครพลาสติกไม่เพียงแต่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคและแบคทีเรียดื้อยา โดยพบว่าบนพื้นผิวของไมโครพลาสติกเกิดการสร้าง biofilm หรือที่เรียกว่า "plastisphere" ซึ่งเป็นชั้นจุลชีพที่ช่วยให้เชื้อโรคเจริญเติบโตและอยู่รอดได้นานขึ้น

    ผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
    การทดลองในแม่น้ำ Truro ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษพบว่า ไมโครพลาสติกที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลและโรงบำบัดน้ำเสียมีการสะสมเชื้อโรคที่อันตรายมากกว่า เช่น Flavobacteriia และ Sphingobacteriia รวมถึงยีนจากแบคทีเรียดื้อยาที่แพร่กระจายได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นอย่างไม้หรือแก้ว ซึ่งหมายความว่าไมโครพลาสติกอาจเป็นตัวกลางในการแพร่กระจายเชื้อโรคเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารและสิ่งแวดล้อม

    ความเสี่ยงระดับโลก
    นักวิจัยเตือนว่า ไมโครพลาสติกไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่เป็นภัยต่อสาธารณสุข เพราะสามารถนำเชื้อโรคเข้าสู่ระบบนิเวศและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่รักษายากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการรั่วไหลของพลาสติกจากโรงบำบัดน้ำเสีย ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังสัตว์น้ำและมนุษย์

    ข้อแนะนำและการป้องกัน
    ทีมวิจัยแนะนำให้มีมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการรั่วไหลของพลาสติก เช่น bio-beads ที่ใช้ในโรงบำบัดน้ำเสีย รวมถึงการจัดการขยะพลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังแนะนำว่า อาสาสมัครที่ทำกิจกรรมเก็บขยะชายหาดควรสวมถุงมือและล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรม เพื่อป้องกันการสัมผัสเชื้อโรคที่อาจสะสมอยู่บนพลาสติก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไมโครพลาสติกสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคและแบคทีเรียดื้อยา
    เกิด biofilm หรือ "plastisphere" ที่ช่วยให้เชื้อโรคอยู่รอด

    การทดลองพบเชื้อโรคอันตรายสะสมมากขึ้นใกล้โรงพยาบาลและโรงบำบัดน้ำเสีย
    Flavobacteriia และ Sphingobacteriia พบมากบนไมโครพลาสติก

    ไมโครพลาสติกเป็นภัยต่อสาธารณสุข ไม่ใช่แค่สิ่งแวดล้อม
    อาจแพร่เชื้อโรคเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารและสัตว์น้ำ

    ทีมวิจัยเสนอให้ควบคุมการรั่วไหลของพลาสติกจากโรงบำบัดน้ำเสีย
    bio-beads ต้องมีการจัดการที่รัดกุม

    ไมโครพลาสติกอาจเพิ่มการแพร่กระจายเชื้อโรคดื้อยา
    ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อยากขึ้นและเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์

    การสัมผัสพลาสติกที่ปนเปื้อนเชื้อโรคอาจเป็นอันตรายต่ออาสาสมัครเก็บขยะ
    ควรสวมถุงมือและล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรม

    https://www.sciencealert.com/microplastics-can-spread-dangerous-pathogens-scientists-warn
    🧪 "ไมโครพลาสติก: พาหะใหม่ของเชื้อโรคและดื้อยา" งานวิจัยจาก University of Exeter และ Plymouth Marine Laboratory ในสหราชอาณาจักรเผยว่า ไมโครพลาสติกไม่เพียงแต่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคและแบคทีเรียดื้อยา โดยพบว่าบนพื้นผิวของไมโครพลาสติกเกิดการสร้าง biofilm หรือที่เรียกว่า "plastisphere" ซึ่งเป็นชั้นจุลชีพที่ช่วยให้เชื้อโรคเจริญเติบโตและอยู่รอดได้นานขึ้น 🦠 ผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การทดลองในแม่น้ำ Truro ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษพบว่า ไมโครพลาสติกที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลและโรงบำบัดน้ำเสียมีการสะสมเชื้อโรคที่อันตรายมากกว่า เช่น Flavobacteriia และ Sphingobacteriia รวมถึงยีนจากแบคทีเรียดื้อยาที่แพร่กระจายได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นอย่างไม้หรือแก้ว ซึ่งหมายความว่าไมโครพลาสติกอาจเป็นตัวกลางในการแพร่กระจายเชื้อโรคเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารและสิ่งแวดล้อม 🌍 ความเสี่ยงระดับโลก นักวิจัยเตือนว่า ไมโครพลาสติกไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่เป็นภัยต่อสาธารณสุข เพราะสามารถนำเชื้อโรคเข้าสู่ระบบนิเวศและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่รักษายากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการรั่วไหลของพลาสติกจากโรงบำบัดน้ำเสีย ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังสัตว์น้ำและมนุษย์ ⚠️ ข้อแนะนำและการป้องกัน ทีมวิจัยแนะนำให้มีมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการรั่วไหลของพลาสติก เช่น bio-beads ที่ใช้ในโรงบำบัดน้ำเสีย รวมถึงการจัดการขยะพลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังแนะนำว่า อาสาสมัครที่ทำกิจกรรมเก็บขยะชายหาดควรสวมถุงมือและล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรม เพื่อป้องกันการสัมผัสเชื้อโรคที่อาจสะสมอยู่บนพลาสติก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไมโครพลาสติกสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคและแบคทีเรียดื้อยา ➡️ เกิด biofilm หรือ "plastisphere" ที่ช่วยให้เชื้อโรคอยู่รอด ✅ การทดลองพบเชื้อโรคอันตรายสะสมมากขึ้นใกล้โรงพยาบาลและโรงบำบัดน้ำเสีย ➡️ Flavobacteriia และ Sphingobacteriia พบมากบนไมโครพลาสติก ✅ ไมโครพลาสติกเป็นภัยต่อสาธารณสุข ไม่ใช่แค่สิ่งแวดล้อม ➡️ อาจแพร่เชื้อโรคเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารและสัตว์น้ำ ✅ ทีมวิจัยเสนอให้ควบคุมการรั่วไหลของพลาสติกจากโรงบำบัดน้ำเสีย ➡️ bio-beads ต้องมีการจัดการที่รัดกุม ‼️ ไมโครพลาสติกอาจเพิ่มการแพร่กระจายเชื้อโรคดื้อยา ⛔ ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อยากขึ้นและเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์ ‼️ การสัมผัสพลาสติกที่ปนเปื้อนเชื้อโรคอาจเป็นอันตรายต่ออาสาสมัครเก็บขยะ ⛔ ควรสวมถุงมือและล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรม https://www.sciencealert.com/microplastics-can-spread-dangerous-pathogens-scientists-warn
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Microplastics Can Spread Dangerous Pathogens, Scientists Warn
    Scientists are hard at work trying to assess the scale of our microplastic pollution problem and the likely health impacts.
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • "Ozempic สำหรับแมว: ความหวังใหม่ของสัตวแพทย์"

    มากกว่าครึ่งของแมวเลี้ยงทั่วโลกมีน้ำหนักเกิน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคข้อเสื่อม เบาหวาน และโรคหัวใจ ล่าสุด OKAVA Pharmaceuticals ได้ประกาศเริ่มการทดลองทางคลินิกของ OKV-119 ยาแบบฝังใต้ผิวหนังที่ปล่อยสารออกฤทธิ์ต่อเนื่องนานถึง 6 เดือน ยานี้เป็น GLP-1 receptor agonist คล้ายกับ Ozempic และ Wegovy ที่ใช้ในมนุษย์ โดยออกแบบมาเพื่อเลียนแบบผลของการอดอาหาร เช่น เพิ่มความไวต่ออินซูลิน ลดมวลไขมัน และปรับสมดุลพลังงาน

    กลไกและการทดลอง
    OKV-119 จะถูกฝังใต้ผิวหนังและค่อย ๆ ปล่อยยาเข้าสู่ร่างกายแมว ทำให้เจ้าของไม่ต้องยุ่งยากกับการให้ยาทุกวัน การทดลองเบื้องต้นในแมวสุขภาพดีแสดงให้เห็นว่ายามีความปลอดภัย และปัจจุบันกำลังทดสอบในแมวที่มีภาวะอ้วน โดยจะติดตามผลนาน 12 สัปดาห์เพื่อดูว่าสามารถช่วยให้แมวกลับมามีน้ำหนักที่เหมาะสมได้หรือไม่

    ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต
    แมวที่มีน้ำหนักเกินเพียงไม่กี่กิโลกรัมก็อาจมีคุณภาพชีวิตลดลงอย่างมาก การใช้ยาแบบฝังนี้อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังและยืดอายุขัยของสัตว์เลี้ยง ขณะเดียวกันยังช่วยเจ้าของที่มักประสบปัญหาในการควบคุมอาหารแมว โดยเฉพาะพฤติกรรม “free feeding” ที่ปล่อยให้แมวเข้าถึงอาหารได้ตลอดเวลา

    ข้อควรระวังและคำแนะนำ
    แม้การทดลองนี้จะเป็นความหวังใหม่ แต่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นและมีแมวจำนวนเล็กน้อยที่ได้รับการทดสอบเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญยังคงแนะนำให้เจ้าของ ลดการให้อาหารนอกมื้อและใช้ของเล่นเสริมพฤติกรรมการล่า เพื่อช่วยให้แมวลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ยา OKV-119 ถูกพัฒนาสำหรับแมวอ้วน
    เป็น GLP-1 receptor agonist คล้าย Ozempic

    ระบบฝังใต้ผิวหนังปล่อยยาได้นานถึง 6 เดือน
    ลดภาระการให้ยาทุกวัน

    การทดลองเบื้องต้นแสดงความปลอดภัยในแมวสุขภาพดี
    กำลังทดสอบในแมวอ้วนเป็นเวลา 12 สัปดาห์

    เป้าหมายคือช่วยลดน้ำหนักและปรับสมดุลการเผาผลาญ
    ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานและโรคหัวใจ

    การทดลองยังอยู่ในระยะเริ่มต้น
    มีแมวจำนวนเล็กน้อยที่ได้รับการทดสอบ

    เจ้าของไม่ควรพึ่งยาเพียงอย่างเดียว
    ควรควบคุมอาหารและใช้กิจกรรมเสริมพฤติกรรมการล่า

    https://www.sciencealert.com/ozempic-for-cats-is-coming-and-vets-are-testing-it-on-overweight-pets
    🐱 "Ozempic สำหรับแมว: ความหวังใหม่ของสัตวแพทย์" มากกว่าครึ่งของแมวเลี้ยงทั่วโลกมีน้ำหนักเกิน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคข้อเสื่อม เบาหวาน และโรคหัวใจ ล่าสุด OKAVA Pharmaceuticals ได้ประกาศเริ่มการทดลองทางคลินิกของ OKV-119 ยาแบบฝังใต้ผิวหนังที่ปล่อยสารออกฤทธิ์ต่อเนื่องนานถึง 6 เดือน ยานี้เป็น GLP-1 receptor agonist คล้ายกับ Ozempic และ Wegovy ที่ใช้ในมนุษย์ โดยออกแบบมาเพื่อเลียนแบบผลของการอดอาหาร เช่น เพิ่มความไวต่ออินซูลิน ลดมวลไขมัน และปรับสมดุลพลังงาน 🧪 กลไกและการทดลอง OKV-119 จะถูกฝังใต้ผิวหนังและค่อย ๆ ปล่อยยาเข้าสู่ร่างกายแมว ทำให้เจ้าของไม่ต้องยุ่งยากกับการให้ยาทุกวัน การทดลองเบื้องต้นในแมวสุขภาพดีแสดงให้เห็นว่ายามีความปลอดภัย และปัจจุบันกำลังทดสอบในแมวที่มีภาวะอ้วน โดยจะติดตามผลนาน 12 สัปดาห์เพื่อดูว่าสามารถช่วยให้แมวกลับมามีน้ำหนักที่เหมาะสมได้หรือไม่ 🌍 ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต แมวที่มีน้ำหนักเกินเพียงไม่กี่กิโลกรัมก็อาจมีคุณภาพชีวิตลดลงอย่างมาก การใช้ยาแบบฝังนี้อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังและยืดอายุขัยของสัตว์เลี้ยง ขณะเดียวกันยังช่วยเจ้าของที่มักประสบปัญหาในการควบคุมอาหารแมว โดยเฉพาะพฤติกรรม “free feeding” ที่ปล่อยให้แมวเข้าถึงอาหารได้ตลอดเวลา ⚠️ ข้อควรระวังและคำแนะนำ แม้การทดลองนี้จะเป็นความหวังใหม่ แต่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นและมีแมวจำนวนเล็กน้อยที่ได้รับการทดสอบเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญยังคงแนะนำให้เจ้าของ ลดการให้อาหารนอกมื้อและใช้ของเล่นเสริมพฤติกรรมการล่า เพื่อช่วยให้แมวลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ยา OKV-119 ถูกพัฒนาสำหรับแมวอ้วน ➡️ เป็น GLP-1 receptor agonist คล้าย Ozempic ✅ ระบบฝังใต้ผิวหนังปล่อยยาได้นานถึง 6 เดือน ➡️ ลดภาระการให้ยาทุกวัน ✅ การทดลองเบื้องต้นแสดงความปลอดภัยในแมวสุขภาพดี ➡️ กำลังทดสอบในแมวอ้วนเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ✅ เป้าหมายคือช่วยลดน้ำหนักและปรับสมดุลการเผาผลาญ ➡️ ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานและโรคหัวใจ ‼️ การทดลองยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ⛔ มีแมวจำนวนเล็กน้อยที่ได้รับการทดสอบ ‼️ เจ้าของไม่ควรพึ่งยาเพียงอย่างเดียว ⛔ ควรควบคุมอาหารและใช้กิจกรรมเสริมพฤติกรรมการล่า https://www.sciencealert.com/ozempic-for-cats-is-coming-and-vets-are-testing-it-on-overweight-pets
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    'Ozempic' For Cats Is Coming, And Vets Are Testing It on Overweight Pets
    More than half of the world's pet cats are overweight, experts estimate, and soon, these chubby felines may be treated with a drug similar to Ozempic.
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • "การนอนหลับ: กุญแจสำคัญของอายุยืนยาว"

    งานวิจัยจาก Oregon Health & Science University (OHSU) ระหว่างปี 2019–2025 พบว่า การนอนหลับไม่เพียงพอเป็นตัวแปรที่สัมพันธ์กับอายุขัยสั้นลงอย่างชัดเจน โดยมีความเชื่อมโยงที่แรงกว่าการรับประทานอาหารหรือการออกกำลังกายเสียอีก และมีเพียงการสูบบุหรี่เท่านั้นที่มีผลรุนแรงกว่า การนอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อคืนถูกจัดว่าเป็น “การนอนหลับไม่เพียงพอ” และมีผลต่อสุขภาพในระยะยาว

    ผลกระทบต่อสมองและร่างกาย
    การขาดการนอนหลับเพียงคืนเดียวสามารถกระทบต่อระบบประสาทและภูมิคุ้มกันได้ทันที ในระยะยาวยังสัมพันธ์กับโรคอ้วนและเบาหวาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ลดอายุขัยลงอย่างมีนัยสำคัญ นักวิจัยชี้ว่า การนอนหลับที่ดีช่วยให้สมองฟื้นฟูวงจรการทำงานและร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรงขึ้น

    ข้อมูลเชิงสังคมและเศรษฐกิจ
    ผลการศึกษาในหลายรัฐของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า พื้นที่ที่ประชากรนอนหลับไม่เพียงพอมีอายุขัยเฉลี่ยต่ำกว่า ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่หรือชนบท ข้อมูลนี้สะท้อนว่าการนอนหลับไม่ใช่เรื่องของรายได้หรือสถานะทางสังคม แต่เป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ

    พฤติกรรมยุคดิจิทัลและการแก้ไข
    นักวิจัยแนะนำให้เลี่ยงพฤติกรรม “doomscrolling” ก่อนนอน และหันมาใช้กิจกรรมผ่อนคลาย เช่น โยคะหรือไทเก็ก เพื่อปรับคุณภาพการนอน การนอน 7–9 ชั่วโมงต่อคืนถูกยืนยันว่าเป็นมาตรฐานที่เหมาะสมที่สุดต่อสุขภาพและอายุขัย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การนอนหลับเพียงพอสัมพันธ์กับอายุขัยที่ยืนยาว
    นอน 7–9 ชั่วโมงต่อคืนเป็นมาตรฐานที่แนะนำ

    ผลกระทบของการนอนต่อสุขภาพมีมากกว่าการออกกำลังกายและอาหาร
    มีเพียงการสูบบุหรี่ที่มีผลรุนแรงกว่า

    การนอนหลับช่วยฟื้นฟูสมองและระบบภูมิคุ้มกัน
    ลดความเสี่ยงโรคอ้วนและเบาหวาน

    พื้นที่ที่ประชากรนอนน้อยมีอายุขัยเฉลี่ยต่ำกว่า
    ไม่ขึ้นกับรายได้หรือสถานะทางสังคม

    การนอนหลับไม่เพียงพอเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง
    โรคอ้วน เบาหวาน และโรคหัวใจ

    พฤติกรรมดิจิทัล เช่น doomscrolling ทำให้คุณภาพการนอนลดลง
    ส่งผลต่อสมอง ภูมิคุ้มกัน และสุขภาพจิต

    https://www.sciencealert.com/one-critical-factor-predicts-longevity-better-than-diet-or-exercise-study-says
    🛌 "การนอนหลับ: กุญแจสำคัญของอายุยืนยาว" งานวิจัยจาก Oregon Health & Science University (OHSU) ระหว่างปี 2019–2025 พบว่า การนอนหลับไม่เพียงพอเป็นตัวแปรที่สัมพันธ์กับอายุขัยสั้นลงอย่างชัดเจน โดยมีความเชื่อมโยงที่แรงกว่าการรับประทานอาหารหรือการออกกำลังกายเสียอีก และมีเพียงการสูบบุหรี่เท่านั้นที่มีผลรุนแรงกว่า การนอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อคืนถูกจัดว่าเป็น “การนอนหลับไม่เพียงพอ” และมีผลต่อสุขภาพในระยะยาว 🧠 ผลกระทบต่อสมองและร่างกาย การขาดการนอนหลับเพียงคืนเดียวสามารถกระทบต่อระบบประสาทและภูมิคุ้มกันได้ทันที ในระยะยาวยังสัมพันธ์กับโรคอ้วนและเบาหวาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ลดอายุขัยลงอย่างมีนัยสำคัญ นักวิจัยชี้ว่า การนอนหลับที่ดีช่วยให้สมองฟื้นฟูวงจรการทำงานและร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรงขึ้น 🌍 ข้อมูลเชิงสังคมและเศรษฐกิจ ผลการศึกษาในหลายรัฐของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า พื้นที่ที่ประชากรนอนหลับไม่เพียงพอมีอายุขัยเฉลี่ยต่ำกว่า ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่หรือชนบท ข้อมูลนี้สะท้อนว่าการนอนหลับไม่ใช่เรื่องของรายได้หรือสถานะทางสังคม แต่เป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ 📱 พฤติกรรมยุคดิจิทัลและการแก้ไข นักวิจัยแนะนำให้เลี่ยงพฤติกรรม “doomscrolling” ก่อนนอน และหันมาใช้กิจกรรมผ่อนคลาย เช่น โยคะหรือไทเก็ก เพื่อปรับคุณภาพการนอน การนอน 7–9 ชั่วโมงต่อคืนถูกยืนยันว่าเป็นมาตรฐานที่เหมาะสมที่สุดต่อสุขภาพและอายุขัย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การนอนหลับเพียงพอสัมพันธ์กับอายุขัยที่ยืนยาว ➡️ นอน 7–9 ชั่วโมงต่อคืนเป็นมาตรฐานที่แนะนำ ✅ ผลกระทบของการนอนต่อสุขภาพมีมากกว่าการออกกำลังกายและอาหาร ➡️ มีเพียงการสูบบุหรี่ที่มีผลรุนแรงกว่า ✅ การนอนหลับช่วยฟื้นฟูสมองและระบบภูมิคุ้มกัน ➡️ ลดความเสี่ยงโรคอ้วนและเบาหวาน ✅ พื้นที่ที่ประชากรนอนน้อยมีอายุขัยเฉลี่ยต่ำกว่า ➡️ ไม่ขึ้นกับรายได้หรือสถานะทางสังคม ‼️ การนอนหลับไม่เพียงพอเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง ⛔ โรคอ้วน เบาหวาน และโรคหัวใจ ‼️ พฤติกรรมดิจิทัล เช่น doomscrolling ทำให้คุณภาพการนอนลดลง ⛔ ส่งผลต่อสมอง ภูมิคุ้มกัน และสุขภาพจิต https://www.sciencealert.com/one-critical-factor-predicts-longevity-better-than-diet-or-exercise-study-says
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    One Critical Factor Predicts Longevity Better Than Diet or Exercise, Study Says
    What you gain in a day by staying up late might be curtailing how long you live, according to a new study linking insufficient sleep to a lower life expectancy.
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251212 #TechRadar

    Adobe เปิด Photoshop ฟรีใน ChatGPT
    ตอนนี้ใครๆ ก็สามารถใช้ Photoshop ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิกเลย เพราะ Adobe ได้รวมเอา Photoshop, Express และ Acrobat เข้าไปอยู่ใน ChatGPT ให้ใช้งานฟรีทั้งหมด เพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการด้วยภาษาธรรมชาติ ระบบก็จะช่วยแก้ไขภาพหรือสร้างเอกสารให้ทันที เช่น การปรับแสงสี ใส่เอฟเฟกต์ หรือแม้แต่รวมไฟล์ PDF หลายไฟล์เป็นหนึ่งเดียว จุดเด่นคือมีตัวเลือกปรับแต่งผ่านแถบควบคุม ทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขได้ตามใจโดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมเต็มรูปแบบ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ ChatGPT ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างเนื้อหา แต่กลายเป็นพื้นที่ทำงานด้านการออกแบบและเอกสารครบวงจร
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/adobe-photoshop-is-now-built-into-chatgpt-for-free-and-you-dont-need-graphic-design-skills-to-use-it

    Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome
    Google ได้ปล่อยการอัปเดตเพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงบน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ นี่ถือเป็นครั้งที่ 8 ของปีที่บริษัทต้องแก้ Zero-Day โดยช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการหน่วยความจำใน LibANGLE ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ การอัปเดตได้ทยอยปล่อยให้ผู้ใช้แล้ว และ Google ยังคงไม่เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกเพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์นำไปใช้ต่อ
    https://www.techradar.com/pro/security/google-releases-emergency-fix-for-yet-another-zero-day

    สายการบินรัสเซีย Aeroflot ถูกโจมตีผ่านบริษัทซอฟต์แวร์ภายนอก
    เหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ที่ทำให้สายการบิน Aeroflot ต้องหยุดบินหลายสิบเที่ยวเมื่อเดือนกรกฎาคม ถูกเปิดเผยว่าเกิดจากการโจมตีแบบ Supply Chain ผ่านบริษัท Bakka Soft ที่พัฒนาแอปและระบบให้กับสายการบิน โดยผู้โจมตีใช้ช่องโหว่ที่ไม่มีการป้องกันด้วย 2FA และติดตั้งมัลแวร์จำนวนมากในระบบ ทำให้เที่ยวบินต้องหยุดชะงักและสร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์ แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่รายงานนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก
    https://www.techradar.com/pro/security/russian-airline-hack-came-through-third-party-tech-vendor

    สวิตเซอร์แลนด์ถอยร่างกฎหมายขยายการสอดส่อง หลังถูกต้านหนัก
    รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ต้องกลับมาทบทวนร่างกฎหมายที่ต้องการขยายการสอดส่องจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมไปยังแพลตฟอร์มอื่น เช่น แอปแชท โซเชียลมีเดีย และ VPN หลังจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากบริษัทเทคโนโลยีและนักการเมืองท้องถิ่น ผู้ให้บริการอย่าง Proton และ Threema ชี้ว่ากฎหมายนี้จะกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและการเข้ารหัสที่ปลอดภัย แม้การถอยครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะชั่วคราว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ารัฐบาลยังคงมีความตั้งใจจะผลักดันการสอดส่องต่อไป
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/switzerland-will-revise-proposed-law-change-after-backlash-from-tech-industry

    Disney จับมือ OpenAI เปิดทางให้ Sora ใช้ตัวละครดัง
    Disney สร้างความฮือฮาด้วยการเซ็นสัญญา 3 ปีร่วมกับ OpenAI เพื่อให้ Sora ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถใช้ตัวละครจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ได้ พร้อมลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI นี่ถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีครั้งใหญ่ เพราะที่ผ่านมา Disney เข้มงวดมากกับการใช้ตัวละครของตน การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้แฟนๆ สามารถสร้างคอนเทนต์ที่มี Mickey Mouse, Elsa หรือแม้แต่ตัวละครจาก Star Wars ปรากฏในผลงาน AI ได้ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/disney-and-openai-are-set-to-open-the-vault-to-sora-yet-an-ai-mickey-feels-like-magic-lost

    Nvidia พัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อติดตามชิปหลังพบการลักลอบ
    หลังจากมีการค้นพบการลักลอบขนส่งชิป Nvidia ได้ออกซอฟต์แวร์ใหม่ที่ช่วยติดตามเส้นทางการเคลื่อนไหวของชิป เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าชิปแต่ละตัวถูกส่งไปที่ใดบ้าง เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการนำชิปไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ถูกควบคุมหรือประเทศที่มีข้อจำกัดทางการค้า ถือเป็นการเสริมความปลอดภัยและความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    https://www.techradar.com/pro/nvidia-develops-new-software-to-help-track-chips-following-smuggling-discovery

    Mullvad ยุติการสนับสนุน OpenVPN บนเดสก์ท็อป หันไปใช้ WireGuard แทน
    บริการ VPN ชื่อดัง Mullvad ประกาศเลิกใช้ OpenVPN บนเดสก์ท็อปทั้งหมด และบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ WireGuard ซึ่งมีความเร็วและความปลอดภัยสูงกว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเพราะ WireGuard มีโครงสร้างที่ทันสมัยและง่ายต่อการบำรุงรักษา ทำให้ Mullvad สามารถให้บริการที่เสถียรและปลอดภัยมากขึ้น แม้ผู้ใช้บางรายอาจต้องปรับตัว แต่บริษัทเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นผลดีในระยะยาว
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/mullvad-retires-openvpn-support-on-desktop-pushing-all-users-to-wireguard

    ICO ปรับ LastPass 1.2 ล้านปอนด์ หลังข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล
    สำนักงานคุ้มครองข้อมูลของสหราชอาณาจักร (ICO) ได้สั่งปรับ LastPass เป็นเงิน 1.2 ล้านปอนด์ จากเหตุการณ์ข้อมูลผู้ใช้กว่า 1.6 ล้านรายถูกละเมิดในปี 2022 โดยการโจมตีเกิดจากการที่แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำรองของบริษัทผ่านบัญชีพนักงานที่ถูกเจาะ การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล และเป็นการเตือนให้บริษัทด้านความปลอดภัยต้องรักษามาตรฐานสูงสุด
    https://www.techradar.com/pro/security/ico-levies-gbp1-2-million-fine-against-lastpass-data-breach-compromised-info-on-1-6-million-users

    โครงสร้างพื้นฐาน HPC และ AI กำลังบรรจบกัน
    บทความนี้พูดถึงการที่โครงสร้างพื้นฐานด้าน High Performance Computing (HPC) และ AI กำลังถูกพัฒนาให้ทำงานร่วมกันมากขึ้น เพื่อรองรับงานที่ต้องใช้การประมวลผลมหาศาล เช่น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก แนวโน้มนี้ทำให้เกิดสถาปัตยกรรมใหม่ที่สามารถรองรับทั้งงาน HPC และ AI ได้ในระบบเดียว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน
    https://www.techradar.com/pro/hpc-and-ai-converging-infrastructures

    ค่าใช้จ่ายแฝงจากช่องว่างด้าน Cloud Sovereignty
    รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าการที่หลายองค์กรยังไม่สามารถควบคุมข้อมูลบนคลาวด์ได้อย่างสมบูรณ์ ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแฝงจำนวนมาก ทั้งในด้านความเสี่ยงทางกฎหมาย ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อบังคับ การขาดความเป็นอิสระในการจัดการข้อมูลทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อป้องกันหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเป็นการกระตุ้นให้หลายองค์กรหันมาให้ความสำคัญกับ Cloud Sovereignty มากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/quantifying-the-hidden-costs-of-cloud-sovereignty-gaps

    หุ้น Oracle ร่วงหลังเผยแผนลงทุน AI เพิ่มอีก 15 พันล้านดอลลาร์
    ราคาหุ้นของ Oracle ตกลงทันทีหลังบริษัทประกาศว่าจะเพิ่มงบลงทุนด้าน AI อีก 15 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนกังวลว่าการใช้จ่ายมหาศาลนี้อาจกระทบต่อผลกำไรระยะสั้น แม้บริษัทเชื่อว่าการลงทุนจะช่วยเสริมศักยภาพด้านคลาวด์และแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่ได้ในอนาคต แต่ตลาดกลับตอบสนองด้วยความระมัดระวัง ทำให้หุ้นปรับตัวลงอย่างเห็นได้ชัด
    https://www.techradar.com/pro/oracle-shares-drop-after-usd15bn-higher-ai-spending-revealed

    แฮกเกอร์ใช้ฟีเจอร์ของ Mimecast แจกฟิชชิ่งลิงก์นับพัน
    มีการค้นพบว่าฟีเจอร์ Secure-Link ของ Mimecast ถูกนำไปใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อส่งฟิชชิ่งอีเมลจำนวนมาก โดยฟีเจอร์ที่ควรจะช่วยป้องกันกลับถูกใช้เป็นช่องทางให้ผู้โจมตีสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้หลงเชื่อและกรอกข้อมูลส่วนตัว การโจมตีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่แม้แต่เครื่องมือด้านความปลอดภัยก็อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-distribute-thousands-of-phishing-attacks-through-mimecasts-secure-link-feature

    OpenAI ดึงตัว CEO ของ Slack มาเป็น Chief Revenue Officer
    OpenAI ประกาศแต่งตั้ง Lidiane Jones อดีต CEO ของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการสร้างรายได้และการขยายธุรกิจ การย้ายครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะ Jones มีประสบการณ์ในการบริหารแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาล และคาดว่าจะช่วยให้ OpenAI สามารถต่อยอดโมเดลธุรกิจได้อย่างมั่นคง
    https://www.techradar.com/pro/open-ai-poaches-slack-ceo-as-its-chief-revenue-officer

    ทดลองใช้ Photoshop ใน ChatGPT – ฟีเจอร์ฟรีที่ทรงพลัง
    ผู้เขียนบทความได้ลองใช้ Photoshop ที่ถูกรวมเข้ามาใน ChatGPT และพบว่ามันใช้งานง่ายมาก เพียงอัปโหลดภาพแล้วพิมพ์คำสั่ง เช่น “ทำให้ภาพเป็นขาวดำ” ระบบก็จะแสดงผลพร้อมแถบปรับความเข้มให้เลือกต่อทันที นอกจากนี้ยังสามารถใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น Halftone หรือ Glitch ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิก ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/i-tried-photoshop-in-chatgpt-its-an-awesome-free-ai-superpower

    Google DeepMind จับมือรัฐบาลอังกฤษเพื่อวิจัยพลังงานสะอาดและวิทยาศาสตร์
    Google DeepMind ได้ลงนามความร่วมมือกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อพัฒนาโครงการด้านวิทยาศาสตร์และพลังงานสะอาด โดยตั้งเป้าที่จะใช้ AI ในการค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การผลิตพลังงานที่มีประสิทธิภาพและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เชิงลึก ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงบทบาทของ AI ที่ไม่เพียงแต่ใช้ในธุรกิจ แต่ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาสำคัญระดับโลกได้
    https://www.techradar.com/pro/google-deepmind-partners-with-the-uk-government-for-science-breakthroughs-cleaner-energy

    Opera Neon เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ AI Subscription
    Opera ได้เปิดตัว Opera Neon ซึ่งเป็นบริการ AI subscription ที่มาพร้อมฟีเจอร์หลากหลายสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสามารถเพิ่มเติมจากเบราว์เซอร์ทั่วไป ผู้เขียนบทความมองว่าบริการนี้คุ้มค่าที่จะจ่าย เพราะมันรวมเครื่องมือ AI ที่ช่วยทั้งการทำงานและความบันเทิง เช่น การสร้างคอนเทนต์ การช่วยค้นหา และการปรับแต่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ถือเป็นการยกระดับเบราว์เซอร์ให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีมูลค่าเพิ่ม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neon-is-now-available-and-i-think-its-an-ai-subscription-worth-paying-for

    มือถือ Android รุ่นใหม่สำหรับคนที่คิดถึง Xperia Play และ N-Gage
    มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ยังคิดถึงเครื่องเล่นเกมมือถือยุคเก่าอย่าง Xperia Play และ Nokia N-Gage โดยมือถือรุ่นนี้มาพร้อมปุ่มควบคุมเกมแบบจริงจัง ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้อย่างสะดวกและสนุกเหมือนเครื่องเล่นเกมพกพาในอดีต ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนสมัยใหม่กับความ怀旧ของเกมเมอร์ยุคก่อน
    https://www.techradar.com/phones/android/this-new-android-phone-is-designed-for-everyone-who-misses-the-xperia-play-and-n-gage

    Microsoft ปรับปรุง Windows 11 และ Phone Link ให้ดีขึ้น
    Microsoft ได้หยุดการอัปเดตที่ทำให้ Windows 11 มีปัญหาบ่อยครั้ง และหันมาเน้นการปรับปรุงฟีเจอร์ Phone Link ให้ใช้งานร่วมกับแอป Android ได้ดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อมือถือกับคอมพิวเตอร์ได้สะดวกขึ้น เช่น การใช้แอป Android บน PC โดยตรง ถือเป็นการพัฒนาเพื่อให้ Windows 11 มีเสถียรภาพและตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-stops-breaking-windows-11-instead-it-just-made-phone-link-even-better-with-android-apps

    NordVPN ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากผู้ตรวจสอบอิสระอีกครั้ง
    NordVPN ได้รับการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อยืนยันความปลอดภัยของระบบ และผลการตรวจสอบก็ออกมาว่าบริการยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดไว้ได้ การตรวจสอบนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ว่า VPN ที่พวกเขาใช้นั้นมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยจริง
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/independent-auditors-inspect-nordvpns-security-once-again-heres-what-they-found

    Android เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ช่วยชีวิต – แชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัย
    Android ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัยในกรณีฉุกเฉิน ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิต โดยทีมกู้ภัยสามารถเห็นสถานการณ์จริงผ่านกล้องมือถือของผู้ประสบเหตุ ทำให้สามารถให้คำแนะนำหรือเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้โดยตรง
    https://www.techradar.com/phones/android/android-just-got-a-life-saving-upgrade-that-lets-you-share-live-video-with-emergency-rescuers-heres-how-it-works

    ข้อมูลลูกค้า 16TB รั่วไหลจากบริษัทด้านการตลาด
    มีการค้นพบการรั่วไหลของข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 16TB ซึ่งเป็นข้อมูลลูกค้าจำนวนมหาศาลจากบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการสร้างฐานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยข้อมูลติดต่อและรายละเอียดเชิงธุรกิจที่อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในกรณีข้อมูลรั่วไหลที่ใหญ่ที่สุด และเป็นการเตือนให้องค์กรต้องเข้มงวดกับการจัดการข้อมูลมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/16tb-of-corporate-intelligence-data-exposed-in-one-of-the-largest-lead-generation-dataset-leaks
    📌📡🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📡📌 #รวมข่าวIT #20251212 #TechRadar 🖌️ Adobe เปิด Photoshop ฟรีใน ChatGPT ตอนนี้ใครๆ ก็สามารถใช้ Photoshop ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิกเลย เพราะ Adobe ได้รวมเอา Photoshop, Express และ Acrobat เข้าไปอยู่ใน ChatGPT ให้ใช้งานฟรีทั้งหมด เพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการด้วยภาษาธรรมชาติ ระบบก็จะช่วยแก้ไขภาพหรือสร้างเอกสารให้ทันที เช่น การปรับแสงสี ใส่เอฟเฟกต์ หรือแม้แต่รวมไฟล์ PDF หลายไฟล์เป็นหนึ่งเดียว จุดเด่นคือมีตัวเลือกปรับแต่งผ่านแถบควบคุม ทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขได้ตามใจโดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมเต็มรูปแบบ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ ChatGPT ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างเนื้อหา แต่กลายเป็นพื้นที่ทำงานด้านการออกแบบและเอกสารครบวงจร 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/adobe-photoshop-is-now-built-into-chatgpt-for-free-and-you-dont-need-graphic-design-skills-to-use-it 🛡️ Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome Google ได้ปล่อยการอัปเดตเพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงบน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ นี่ถือเป็นครั้งที่ 8 ของปีที่บริษัทต้องแก้ Zero-Day โดยช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการหน่วยความจำใน LibANGLE ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ การอัปเดตได้ทยอยปล่อยให้ผู้ใช้แล้ว และ Google ยังคงไม่เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกเพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์นำไปใช้ต่อ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/google-releases-emergency-fix-for-yet-another-zero-day ✈️ สายการบินรัสเซีย Aeroflot ถูกโจมตีผ่านบริษัทซอฟต์แวร์ภายนอก เหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ที่ทำให้สายการบิน Aeroflot ต้องหยุดบินหลายสิบเที่ยวเมื่อเดือนกรกฎาคม ถูกเปิดเผยว่าเกิดจากการโจมตีแบบ Supply Chain ผ่านบริษัท Bakka Soft ที่พัฒนาแอปและระบบให้กับสายการบิน โดยผู้โจมตีใช้ช่องโหว่ที่ไม่มีการป้องกันด้วย 2FA และติดตั้งมัลแวร์จำนวนมากในระบบ ทำให้เที่ยวบินต้องหยุดชะงักและสร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์ แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่รายงานนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/russian-airline-hack-came-through-third-party-tech-vendor 🇨🇭 สวิตเซอร์แลนด์ถอยร่างกฎหมายขยายการสอดส่อง หลังถูกต้านหนัก รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ต้องกลับมาทบทวนร่างกฎหมายที่ต้องการขยายการสอดส่องจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมไปยังแพลตฟอร์มอื่น เช่น แอปแชท โซเชียลมีเดีย และ VPN หลังจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากบริษัทเทคโนโลยีและนักการเมืองท้องถิ่น ผู้ให้บริการอย่าง Proton และ Threema ชี้ว่ากฎหมายนี้จะกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและการเข้ารหัสที่ปลอดภัย แม้การถอยครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะชั่วคราว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ารัฐบาลยังคงมีความตั้งใจจะผลักดันการสอดส่องต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/switzerland-will-revise-proposed-law-change-after-backlash-from-tech-industry 🎬 Disney จับมือ OpenAI เปิดทางให้ Sora ใช้ตัวละครดัง Disney สร้างความฮือฮาด้วยการเซ็นสัญญา 3 ปีร่วมกับ OpenAI เพื่อให้ Sora ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถใช้ตัวละครจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ได้ พร้อมลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI นี่ถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีครั้งใหญ่ เพราะที่ผ่านมา Disney เข้มงวดมากกับการใช้ตัวละครของตน การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้แฟนๆ สามารถสร้างคอนเทนต์ที่มี Mickey Mouse, Elsa หรือแม้แต่ตัวละครจาก Star Wars ปรากฏในผลงาน AI ได้ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/disney-and-openai-are-set-to-open-the-vault-to-sora-yet-an-ai-mickey-feels-like-magic-lost 💻 Nvidia พัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อติดตามชิปหลังพบการลักลอบ หลังจากมีการค้นพบการลักลอบขนส่งชิป Nvidia ได้ออกซอฟต์แวร์ใหม่ที่ช่วยติดตามเส้นทางการเคลื่อนไหวของชิป เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าชิปแต่ละตัวถูกส่งไปที่ใดบ้าง เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการนำชิปไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ถูกควบคุมหรือประเทศที่มีข้อจำกัดทางการค้า ถือเป็นการเสริมความปลอดภัยและความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/nvidia-develops-new-software-to-help-track-chips-following-smuggling-discovery 🔒 Mullvad ยุติการสนับสนุน OpenVPN บนเดสก์ท็อป หันไปใช้ WireGuard แทน บริการ VPN ชื่อดัง Mullvad ประกาศเลิกใช้ OpenVPN บนเดสก์ท็อปทั้งหมด และบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ WireGuard ซึ่งมีความเร็วและความปลอดภัยสูงกว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเพราะ WireGuard มีโครงสร้างที่ทันสมัยและง่ายต่อการบำรุงรักษา ทำให้ Mullvad สามารถให้บริการที่เสถียรและปลอดภัยมากขึ้น แม้ผู้ใช้บางรายอาจต้องปรับตัว แต่บริษัทเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นผลดีในระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/mullvad-retires-openvpn-support-on-desktop-pushing-all-users-to-wireguard 💰 ICO ปรับ LastPass 1.2 ล้านปอนด์ หลังข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล สำนักงานคุ้มครองข้อมูลของสหราชอาณาจักร (ICO) ได้สั่งปรับ LastPass เป็นเงิน 1.2 ล้านปอนด์ จากเหตุการณ์ข้อมูลผู้ใช้กว่า 1.6 ล้านรายถูกละเมิดในปี 2022 โดยการโจมตีเกิดจากการที่แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำรองของบริษัทผ่านบัญชีพนักงานที่ถูกเจาะ การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล และเป็นการเตือนให้บริษัทด้านความปลอดภัยต้องรักษามาตรฐานสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ico-levies-gbp1-2-million-fine-against-lastpass-data-breach-compromised-info-on-1-6-million-users ⚙️ โครงสร้างพื้นฐาน HPC และ AI กำลังบรรจบกัน บทความนี้พูดถึงการที่โครงสร้างพื้นฐานด้าน High Performance Computing (HPC) และ AI กำลังถูกพัฒนาให้ทำงานร่วมกันมากขึ้น เพื่อรองรับงานที่ต้องใช้การประมวลผลมหาศาล เช่น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก แนวโน้มนี้ทำให้เกิดสถาปัตยกรรมใหม่ที่สามารถรองรับทั้งงาน HPC และ AI ได้ในระบบเดียว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/hpc-and-ai-converging-infrastructures ☁️ ค่าใช้จ่ายแฝงจากช่องว่างด้าน Cloud Sovereignty รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าการที่หลายองค์กรยังไม่สามารถควบคุมข้อมูลบนคลาวด์ได้อย่างสมบูรณ์ ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแฝงจำนวนมาก ทั้งในด้านความเสี่ยงทางกฎหมาย ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อบังคับ การขาดความเป็นอิสระในการจัดการข้อมูลทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อป้องกันหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเป็นการกระตุ้นให้หลายองค์กรหันมาให้ความสำคัญกับ Cloud Sovereignty มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/quantifying-the-hidden-costs-of-cloud-sovereignty-gaps 📉 หุ้น Oracle ร่วงหลังเผยแผนลงทุน AI เพิ่มอีก 15 พันล้านดอลลาร์ ราคาหุ้นของ Oracle ตกลงทันทีหลังบริษัทประกาศว่าจะเพิ่มงบลงทุนด้าน AI อีก 15 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนกังวลว่าการใช้จ่ายมหาศาลนี้อาจกระทบต่อผลกำไรระยะสั้น แม้บริษัทเชื่อว่าการลงทุนจะช่วยเสริมศักยภาพด้านคลาวด์และแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่ได้ในอนาคต แต่ตลาดกลับตอบสนองด้วยความระมัดระวัง ทำให้หุ้นปรับตัวลงอย่างเห็นได้ชัด 🔗 https://www.techradar.com/pro/oracle-shares-drop-after-usd15bn-higher-ai-spending-revealed 🎣 แฮกเกอร์ใช้ฟีเจอร์ของ Mimecast แจกฟิชชิ่งลิงก์นับพัน มีการค้นพบว่าฟีเจอร์ Secure-Link ของ Mimecast ถูกนำไปใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อส่งฟิชชิ่งอีเมลจำนวนมาก โดยฟีเจอร์ที่ควรจะช่วยป้องกันกลับถูกใช้เป็นช่องทางให้ผู้โจมตีสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้หลงเชื่อและกรอกข้อมูลส่วนตัว การโจมตีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่แม้แต่เครื่องมือด้านความปลอดภัยก็อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-distribute-thousands-of-phishing-attacks-through-mimecasts-secure-link-feature 👔 OpenAI ดึงตัว CEO ของ Slack มาเป็น Chief Revenue Officer OpenAI ประกาศแต่งตั้ง Lidiane Jones อดีต CEO ของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการสร้างรายได้และการขยายธุรกิจ การย้ายครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะ Jones มีประสบการณ์ในการบริหารแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาล และคาดว่าจะช่วยให้ OpenAI สามารถต่อยอดโมเดลธุรกิจได้อย่างมั่นคง 🔗 https://www.techradar.com/pro/open-ai-poaches-slack-ceo-as-its-chief-revenue-officer 🖼️ ทดลองใช้ Photoshop ใน ChatGPT – ฟีเจอร์ฟรีที่ทรงพลัง ผู้เขียนบทความได้ลองใช้ Photoshop ที่ถูกรวมเข้ามาใน ChatGPT และพบว่ามันใช้งานง่ายมาก เพียงอัปโหลดภาพแล้วพิมพ์คำสั่ง เช่น “ทำให้ภาพเป็นขาวดำ” ระบบก็จะแสดงผลพร้อมแถบปรับความเข้มให้เลือกต่อทันที นอกจากนี้ยังสามารถใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น Halftone หรือ Glitch ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิก ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/i-tried-photoshop-in-chatgpt-its-an-awesome-free-ai-superpower ⚡ Google DeepMind จับมือรัฐบาลอังกฤษเพื่อวิจัยพลังงานสะอาดและวิทยาศาสตร์ Google DeepMind ได้ลงนามความร่วมมือกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อพัฒนาโครงการด้านวิทยาศาสตร์และพลังงานสะอาด โดยตั้งเป้าที่จะใช้ AI ในการค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การผลิตพลังงานที่มีประสิทธิภาพและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เชิงลึก ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงบทบาทของ AI ที่ไม่เพียงแต่ใช้ในธุรกิจ แต่ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาสำคัญระดับโลกได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-deepmind-partners-with-the-uk-government-for-science-breakthroughs-cleaner-energy 🎨 Opera Neon เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ AI Subscription Opera ได้เปิดตัว Opera Neon ซึ่งเป็นบริการ AI subscription ที่มาพร้อมฟีเจอร์หลากหลายสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสามารถเพิ่มเติมจากเบราว์เซอร์ทั่วไป ผู้เขียนบทความมองว่าบริการนี้คุ้มค่าที่จะจ่าย เพราะมันรวมเครื่องมือ AI ที่ช่วยทั้งการทำงานและความบันเทิง เช่น การสร้างคอนเทนต์ การช่วยค้นหา และการปรับแต่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ถือเป็นการยกระดับเบราว์เซอร์ให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีมูลค่าเพิ่ม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neon-is-now-available-and-i-think-its-an-ai-subscription-worth-paying-for 📱 มือถือ Android รุ่นใหม่สำหรับคนที่คิดถึง Xperia Play และ N-Gage มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ยังคิดถึงเครื่องเล่นเกมมือถือยุคเก่าอย่าง Xperia Play และ Nokia N-Gage โดยมือถือรุ่นนี้มาพร้อมปุ่มควบคุมเกมแบบจริงจัง ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้อย่างสะดวกและสนุกเหมือนเครื่องเล่นเกมพกพาในอดีต ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนสมัยใหม่กับความ怀旧ของเกมเมอร์ยุคก่อน 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/this-new-android-phone-is-designed-for-everyone-who-misses-the-xperia-play-and-n-gage 🔗 Microsoft ปรับปรุง Windows 11 และ Phone Link ให้ดีขึ้น Microsoft ได้หยุดการอัปเดตที่ทำให้ Windows 11 มีปัญหาบ่อยครั้ง และหันมาเน้นการปรับปรุงฟีเจอร์ Phone Link ให้ใช้งานร่วมกับแอป Android ได้ดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อมือถือกับคอมพิวเตอร์ได้สะดวกขึ้น เช่น การใช้แอป Android บน PC โดยตรง ถือเป็นการพัฒนาเพื่อให้ Windows 11 มีเสถียรภาพและตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-stops-breaking-windows-11-instead-it-just-made-phone-link-even-better-with-android-apps 🔍 NordVPN ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากผู้ตรวจสอบอิสระอีกครั้ง NordVPN ได้รับการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อยืนยันความปลอดภัยของระบบ และผลการตรวจสอบก็ออกมาว่าบริการยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดไว้ได้ การตรวจสอบนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ว่า VPN ที่พวกเขาใช้นั้นมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยจริง 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/independent-auditors-inspect-nordvpns-security-once-again-heres-what-they-found 🚨 Android เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ช่วยชีวิต – แชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัย Android ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัยในกรณีฉุกเฉิน ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิต โดยทีมกู้ภัยสามารถเห็นสถานการณ์จริงผ่านกล้องมือถือของผู้ประสบเหตุ ทำให้สามารถให้คำแนะนำหรือเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้โดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/android-just-got-a-life-saving-upgrade-that-lets-you-share-live-video-with-emergency-rescuers-heres-how-it-works 📂 ข้อมูลลูกค้า 16TB รั่วไหลจากบริษัทด้านการตลาด มีการค้นพบการรั่วไหลของข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 16TB ซึ่งเป็นข้อมูลลูกค้าจำนวนมหาศาลจากบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการสร้างฐานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยข้อมูลติดต่อและรายละเอียดเชิงธุรกิจที่อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในกรณีข้อมูลรั่วไหลที่ใหญ่ที่สุด และเป็นการเตือนให้องค์กรต้องเข้มงวดกับการจัดการข้อมูลมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/16tb-of-corporate-intelligence-data-exposed-in-one-of-the-largest-lead-generation-dataset-leaks
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251212 #securityonline


    ช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ของ WordPress
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน WordPress โดยมีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ระดับต่ำอย่าง “Subscriber” สามารถยกระดับสิทธิ์และเข้ายึดครองเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ ปัญหานี้เกิดจากฟังก์ชัน penci_update_option ที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงการตั้งค่าไซต์สำคัญโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างเข้มงวด ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนค่า เช่น เปิดให้ใครก็สมัครสมาชิกได้ และตั้งค่าให้ผู้ใช้ใหม่เป็น “Administrator” ได้ทันที นักพัฒนาของธีมได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 8.6.9.1 โดยเพิ่มการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ที่เข้าถึงฟังก์ชันดังกล่าว ผู้ดูแลเว็บไซต์ที่ใช้ธีมนี้จึงควรอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดครอง
    https://securityonline.info/cve-2025-64188-cvss-9-8-critical-soledad-theme-flaw-lets-subscribers-take-over-wordpress-sites

    แคมเปญฟิชชิ่ง Okta SSO ปลอมตัวเป็นการแจ้งผลเงินเดือน
    ในช่วงที่พนักงานกำลังรอการประเมินผลงานสิ้นปี มีการโจมตีฟิชชิ่งที่ซับซ้อนเกิดขึ้น โดยใช้การหลอกลวงผ่านอีเมลที่ปลอมเป็นฝ่าย HR หรือระบบเงินเดือน เช่น ADP หรือ Salesforce หัวข้ออีเมลมักจะเป็น “Review Your 2026 Salary & Bonus” เพื่อกระตุ้นให้เหยื่อรีบเปิด เมื่อเหยื่อเข้าสู่หน้าเว็บปลอม ระบบฟิชชิ่งนี้จะทำงานเหมือนจริงโดยใช้ proxy เชื่อมต่อกับ Okta ขององค์กร ทำให้หน้าล็อกอินดูสมจริงยิ่งขึ้น จากนั้นสคริปต์ inject.js จะดักจับรหัสผ่านและคุกกี้ session สำคัญเพื่อยึดครองบัญชี ผู้โจมตียังใช้เทคนิคซ่อนเว็บไซต์ผ่าน Cloudflare เพื่อเลี่ยงการตรวจจับ ถือเป็นการโจมตีที่อันตรายและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    https://securityonline.info/sophisticated-okta-sso-phishing-bypasses-defenses-to-steal-session-tokens-with-salary-review-lures

    ValleyRAT หลุดสู่สาธารณะ กลายเป็นอาวุธไซเบอร์ในมืออาชญากร
    ValleyRAT ซึ่งเคยเป็นเครื่องมือสอดแนมระดับสูง ตอนนี้กลายเป็นภัยคุกคามสาธารณะหลังตัวสร้าง (builder) ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ทำให้ใครก็สามารถสร้างและปรับแต่งมัลแวร์นี้ได้เอง รายงานจาก Check Point Research ระบุว่ามีการตรวจพบการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 85% ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา จุดเด่นของ ValleyRAT คือปลั๊กอิน Driver ที่ทำงานในระดับ kernel สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของ Windows 11 ได้ และยังลบไดรเวอร์ป้องกันของระบบรักษาความปลอดภัยออกไปได้ด้วย เดิมที ValleyRAT เชื่อมโยงกับกลุ่ม Silver Fox แต่เมื่อโค้ดถูกปล่อยสู่สาธารณะ การระบุแหล่งที่มาแทบเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
    https://securityonline.info/military-grade-valleyrat-goes-rogue-kernel-rootkit-builder-leak-triggers-massive-global-surge

    ช่องโหว่ GeoServer XXE ถูกโจมตีจริง เสี่ยงขโมยข้อมูลและสแกนระบบภายใน

    CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2025-58360 ของ GeoServer เข้าสู่รายการ Known Exploited Vulnerabilities เนื่องจากพบการโจมตีจริง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างคำสั่ง XML ที่อ้างอิงภายนอกเพื่ออ่านไฟล์ลับในเซิร์ฟเวอร์ หรือใช้เป็น SSRF เพื่อเข้าถึงระบบภายในที่ถูกไฟร์วอลล์ป้องกันอยู่ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ระบบล่มด้วยการโจมตีแบบ DoS ได้อีกด้วย CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ภายในวันที่ 1 มกราคม 2026 เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/cisa-kev-alert-geoserver-xxe-flaw-under-active-attack-risks-data-theft-internal-network-scanning

    Ransomware 01flip โจมตีโครงสร้างพื้นฐานใน APAC ด้วย Rust และ Sliver
    มีการค้นพบแรนซัมแวร์ใหม่ชื่อ “01flip” ที่ถูกเขียนด้วยภาษา Rust ทำให้สามารถโจมตีได้ทั้ง Windows และ Linux โดยมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น ฟิลิปปินส์และไต้หวัน กลุ่มผู้โจมตีใช้วิธีเจาะระบบด้วยช่องโหว่เก่าอย่าง CVE-2019-11580 และติดตั้ง Sliver ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพนซอร์สสำหรับควบคุมระบบจากระยะไกล น่าสนใจว่ามีโค้ดบางส่วนที่หลีกเลี่ยงการเข้ารหัสไฟล์ที่มีนามสกุล “lockbit” ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงกับกลุ่ม LockBit หรือเป็นการสร้างหลักฐานปลอม แม้จำนวนเหยื่อยังไม่มาก แต่มีการยืนยันว่ามีข้อมูลรั่วไหลไปขายในดาร์กเว็บแล้ว
    https://securityonline.info/new-01flip-ransomware-hits-apac-critical-infra-cross-platform-rust-weapon-uses-sliver-c2

    ช่องโหว่ Apache Struts 2 เสี่ยงทำเซิร์ฟเวอร์ล่ม
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Struts 2 ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กยอดนิยมสำหรับพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วย Java ช่องโหว่นี้ชื่อว่า CVE-2025-66675 เกิดจากการจัดการไฟล์อัปโหลดที่ผิดพลาด ทำให้ไฟล์ชั่วคราวไม่ถูกลบออก ส่งผลให้พื้นที่ดิสก์เต็มอย่างรวดเร็ว หากถูกโจมตีซ้ำ ๆ เซิร์ฟเวอร์อาจหยุดทำงานทันที นักวิจัยแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน Struts 6.8.0 หรือ 7.1.1 และหากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ควรตั้งโฟลเดอร์ชั่วคราวแยกไว้ หรือปิดการใช้งานฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/apache-struts-2-dos-flaw-cve-2025-66775-risks-server-crash-via-file-leak-in-multipart-request-processing

    EU ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 90% ภายในปี 2040
    สหภาพยุโรปประกาศข้อตกลงครั้งใหญ่ โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงถึง 90% เมื่อเทียบกับปี 1990 ภายในปี 2040 ถือเป็นเป้าหมายที่สูงกว่าหลายประเทศมหาอำนาจ เช่น จีน การเจรจาครั้งนี้มีทั้งเสียงคัดค้านจากบางประเทศที่กังวลเรื่องต้นทุนอุตสาหกรรม และเสียงสนับสนุนจากประเทศที่เร่งผลักดันการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ข้อตกลงนี้ยังมีการผ่อนปรน เช่น เลื่อนการเก็บภาษีคาร์บอนเชื้อเพลิงไปปี 2028 และอนุญาตให้ใช้เครดิตคาร์บอนระหว่างประเทศบางส่วน แต่โดยรวมถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ยุโรปเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050
    https://securityonline.info/eus-green-mandate-parliament-pledges-90-emissions-cut-by-2040

    Instagram เปิดฟีเจอร์ใหม่ “Your Algorithm” ให้ผู้ใช้ควบคุมฟีดได้เอง
    Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Your Algorithm” ที่ให้ผู้ใช้เห็นและปรับแต่งหัวข้อที่ระบบแนะนำในหน้า Reels ได้โดยตรง ผู้ใช้สามารถเลือกดูหัวข้อที่สนใจมากขึ้นหรือน้อยลง รวมถึงแชร์หัวข้อที่ตนสนใจไปยัง Stories ได้ ฟีเจอร์นี้ใช้ AI เป็นหลักในการปรับแต่ง และถือเป็นครั้งแรกที่ Instagram เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมการทำงานของอัลกอริทึมอย่างชัดเจน แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า Meta ใช้ AI สร้างเนื้อหาที่เกินจริง แต่การเปิดฟีเจอร์นี้ก็เป็นการเพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้
    https://securityonline.info/youre-in-control-instagram-launches-your-algorithm-feature-for-reels

    Qualcomm เข้าซื้อ Ventana เสริมทัพพัฒนา CPU RISC-V
    Qualcomm ประกาศเข้าซื้อกิจการ Ventana Micro Systems เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการพัฒนา CPU โดยเฉพาะสถาปัตยกรรม RISC-V ที่กำลังได้รับความนิยม การเข้าซื้อครั้งนี้จะช่วยให้ Qualcomm สามารถผสานความเชี่ยวชาญของ Ventana เข้ากับการพัฒนา CPU Oryon ของตนเอง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับ AI มากขึ้น นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของ Qualcomm ที่ต้องการลดการพึ่งพา Arm และสร้างอิสระทางเทคโนโลยีในระยะยาว
    https://securityonline.info/qualcomm-buys-ventana-to-double-down-on-risc-v-and-custom-oryon-cpu

    Intel แพ้คดีต่อต้านการผูกขาด ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร
    หลังจากต่อสู้คดีต่อต้านการผูกขาดกับสหภาพยุโรปยาวนานถึง 16 ปี Intel ก็แพ้การอุทธรณ์ครั้งล่าสุด ศาลตัดสินให้ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร จากเดิมที่เคยถูกปรับ 376 ล้านยูโร คดีนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2009 โดย Intel ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีให้เงินสนับสนุนผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อย่าง HP, Acer และ Lenovo เพื่อชะลอหรือหยุดการใช้ชิป AMD ถือเป็นการจำกัดการแข่งขันโดยตรง แม้ Intel เคยชนะบางส่วนของคดี แต่สุดท้ายก็ยังต้องจ่ายค่าปรับก้อนใหญ่ ซึ่งนับเป็นบทเรียนสำคัญในประวัติศาสตร์วงการเทคโนโลยี
    https://securityonline.info/16-year-battle-ends-intel-loses-appeal-must-pay-e237-million-eu-fine

    องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง
    ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026
    https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps

    Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล
    Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม
    https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig

    แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม
    กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล
    https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Zoom Rooms เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์
    Zoom ได้ออกแพตช์แก้ไขด่วนสำหรับ Zoom Rooms หลังพบช่องโหว่ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรเป็นความลับได้ โดยเฉพาะในเวอร์ชัน Windows ที่มีช่องโหว่ CVE-2025-67460 ซึ่งเกิดจากการป้องกันการ downgrade ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ระบบอาจถูกบังคับให้กลับไปใช้เวอร์ชันที่ไม่ปลอดภัย ส่วนใน macOS ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-67461 ที่เสี่ยงต่อการเปิดเผยข้อมูลผ่านการจัดการไฟล์ผิดพลาด Zoom ได้ปล่อยเวอร์ชัน 6.6.0 เพื่อแก้ไขทั้งหมด และแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-zoom-rooms-flaw-risks-privilege-escalation-via-downgrade-protection-bypass

    องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง
    ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026
    https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps

    Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล
    Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม
    https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig

    แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม
    กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล
    https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes


    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251212 #securityonline 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ของ WordPress มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน WordPress โดยมีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ระดับต่ำอย่าง “Subscriber” สามารถยกระดับสิทธิ์และเข้ายึดครองเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ ปัญหานี้เกิดจากฟังก์ชัน penci_update_option ที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงการตั้งค่าไซต์สำคัญโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างเข้มงวด ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนค่า เช่น เปิดให้ใครก็สมัครสมาชิกได้ และตั้งค่าให้ผู้ใช้ใหม่เป็น “Administrator” ได้ทันที นักพัฒนาของธีมได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 8.6.9.1 โดยเพิ่มการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ที่เข้าถึงฟังก์ชันดังกล่าว ผู้ดูแลเว็บไซต์ที่ใช้ธีมนี้จึงควรอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดครอง 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-64188-cvss-9-8-critical-soledad-theme-flaw-lets-subscribers-take-over-wordpress-sites 🎣 แคมเปญฟิชชิ่ง Okta SSO ปลอมตัวเป็นการแจ้งผลเงินเดือน ในช่วงที่พนักงานกำลังรอการประเมินผลงานสิ้นปี มีการโจมตีฟิชชิ่งที่ซับซ้อนเกิดขึ้น โดยใช้การหลอกลวงผ่านอีเมลที่ปลอมเป็นฝ่าย HR หรือระบบเงินเดือน เช่น ADP หรือ Salesforce หัวข้ออีเมลมักจะเป็น “Review Your 2026 Salary & Bonus” เพื่อกระตุ้นให้เหยื่อรีบเปิด เมื่อเหยื่อเข้าสู่หน้าเว็บปลอม ระบบฟิชชิ่งนี้จะทำงานเหมือนจริงโดยใช้ proxy เชื่อมต่อกับ Okta ขององค์กร ทำให้หน้าล็อกอินดูสมจริงยิ่งขึ้น จากนั้นสคริปต์ inject.js จะดักจับรหัสผ่านและคุกกี้ session สำคัญเพื่อยึดครองบัญชี ผู้โจมตียังใช้เทคนิคซ่อนเว็บไซต์ผ่าน Cloudflare เพื่อเลี่ยงการตรวจจับ ถือเป็นการโจมตีที่อันตรายและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-okta-sso-phishing-bypasses-defenses-to-steal-session-tokens-with-salary-review-lures 💻 ValleyRAT หลุดสู่สาธารณะ กลายเป็นอาวุธไซเบอร์ในมืออาชญากร ValleyRAT ซึ่งเคยเป็นเครื่องมือสอดแนมระดับสูง ตอนนี้กลายเป็นภัยคุกคามสาธารณะหลังตัวสร้าง (builder) ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ทำให้ใครก็สามารถสร้างและปรับแต่งมัลแวร์นี้ได้เอง รายงานจาก Check Point Research ระบุว่ามีการตรวจพบการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 85% ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา จุดเด่นของ ValleyRAT คือปลั๊กอิน Driver ที่ทำงานในระดับ kernel สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของ Windows 11 ได้ และยังลบไดรเวอร์ป้องกันของระบบรักษาความปลอดภัยออกไปได้ด้วย เดิมที ValleyRAT เชื่อมโยงกับกลุ่ม Silver Fox แต่เมื่อโค้ดถูกปล่อยสู่สาธารณะ การระบุแหล่งที่มาแทบเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป 🔗 https://securityonline.info/military-grade-valleyrat-goes-rogue-kernel-rootkit-builder-leak-triggers-massive-global-surge 🌐 ช่องโหว่ GeoServer XXE ถูกโจมตีจริง เสี่ยงขโมยข้อมูลและสแกนระบบภายใน CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2025-58360 ของ GeoServer เข้าสู่รายการ Known Exploited Vulnerabilities เนื่องจากพบการโจมตีจริง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างคำสั่ง XML ที่อ้างอิงภายนอกเพื่ออ่านไฟล์ลับในเซิร์ฟเวอร์ หรือใช้เป็น SSRF เพื่อเข้าถึงระบบภายในที่ถูกไฟร์วอลล์ป้องกันอยู่ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ระบบล่มด้วยการโจมตีแบบ DoS ได้อีกด้วย CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ภายในวันที่ 1 มกราคม 2026 เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/cisa-kev-alert-geoserver-xxe-flaw-under-active-attack-risks-data-theft-internal-network-scanning 💥 Ransomware 01flip โจมตีโครงสร้างพื้นฐานใน APAC ด้วย Rust และ Sliver มีการค้นพบแรนซัมแวร์ใหม่ชื่อ “01flip” ที่ถูกเขียนด้วยภาษา Rust ทำให้สามารถโจมตีได้ทั้ง Windows และ Linux โดยมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น ฟิลิปปินส์และไต้หวัน กลุ่มผู้โจมตีใช้วิธีเจาะระบบด้วยช่องโหว่เก่าอย่าง CVE-2019-11580 และติดตั้ง Sliver ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพนซอร์สสำหรับควบคุมระบบจากระยะไกล น่าสนใจว่ามีโค้ดบางส่วนที่หลีกเลี่ยงการเข้ารหัสไฟล์ที่มีนามสกุล “lockbit” ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงกับกลุ่ม LockBit หรือเป็นการสร้างหลักฐานปลอม แม้จำนวนเหยื่อยังไม่มาก แต่มีการยืนยันว่ามีข้อมูลรั่วไหลไปขายในดาร์กเว็บแล้ว 🔗 https://securityonline.info/new-01flip-ransomware-hits-apac-critical-infra-cross-platform-rust-weapon-uses-sliver-c2 🛡️ ช่องโหว่ Apache Struts 2 เสี่ยงทำเซิร์ฟเวอร์ล่ม มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Struts 2 ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กยอดนิยมสำหรับพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วย Java ช่องโหว่นี้ชื่อว่า CVE-2025-66675 เกิดจากการจัดการไฟล์อัปโหลดที่ผิดพลาด ทำให้ไฟล์ชั่วคราวไม่ถูกลบออก ส่งผลให้พื้นที่ดิสก์เต็มอย่างรวดเร็ว หากถูกโจมตีซ้ำ ๆ เซิร์ฟเวอร์อาจหยุดทำงานทันที นักวิจัยแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน Struts 6.8.0 หรือ 7.1.1 และหากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ควรตั้งโฟลเดอร์ชั่วคราวแยกไว้ หรือปิดการใช้งานฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/apache-struts-2-dos-flaw-cve-2025-66775-risks-server-crash-via-file-leak-in-multipart-request-processing 🌍 EU ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 90% ภายในปี 2040 สหภาพยุโรปประกาศข้อตกลงครั้งใหญ่ โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงถึง 90% เมื่อเทียบกับปี 1990 ภายในปี 2040 ถือเป็นเป้าหมายที่สูงกว่าหลายประเทศมหาอำนาจ เช่น จีน การเจรจาครั้งนี้มีทั้งเสียงคัดค้านจากบางประเทศที่กังวลเรื่องต้นทุนอุตสาหกรรม และเสียงสนับสนุนจากประเทศที่เร่งผลักดันการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ข้อตกลงนี้ยังมีการผ่อนปรน เช่น เลื่อนการเก็บภาษีคาร์บอนเชื้อเพลิงไปปี 2028 และอนุญาตให้ใช้เครดิตคาร์บอนระหว่างประเทศบางส่วน แต่โดยรวมถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ยุโรปเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 🔗 https://securityonline.info/eus-green-mandate-parliament-pledges-90-emissions-cut-by-2040 📱 Instagram เปิดฟีเจอร์ใหม่ “Your Algorithm” ให้ผู้ใช้ควบคุมฟีดได้เอง Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Your Algorithm” ที่ให้ผู้ใช้เห็นและปรับแต่งหัวข้อที่ระบบแนะนำในหน้า Reels ได้โดยตรง ผู้ใช้สามารถเลือกดูหัวข้อที่สนใจมากขึ้นหรือน้อยลง รวมถึงแชร์หัวข้อที่ตนสนใจไปยัง Stories ได้ ฟีเจอร์นี้ใช้ AI เป็นหลักในการปรับแต่ง และถือเป็นครั้งแรกที่ Instagram เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมการทำงานของอัลกอริทึมอย่างชัดเจน แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า Meta ใช้ AI สร้างเนื้อหาที่เกินจริง แต่การเปิดฟีเจอร์นี้ก็เป็นการเพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ 🔗 https://securityonline.info/youre-in-control-instagram-launches-your-algorithm-feature-for-reels 💻 Qualcomm เข้าซื้อ Ventana เสริมทัพพัฒนา CPU RISC-V Qualcomm ประกาศเข้าซื้อกิจการ Ventana Micro Systems เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการพัฒนา CPU โดยเฉพาะสถาปัตยกรรม RISC-V ที่กำลังได้รับความนิยม การเข้าซื้อครั้งนี้จะช่วยให้ Qualcomm สามารถผสานความเชี่ยวชาญของ Ventana เข้ากับการพัฒนา CPU Oryon ของตนเอง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับ AI มากขึ้น นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของ Qualcomm ที่ต้องการลดการพึ่งพา Arm และสร้างอิสระทางเทคโนโลยีในระยะยาว 🔗 https://securityonline.info/qualcomm-buys-ventana-to-double-down-on-risc-v-and-custom-oryon-cpu ⚖️ Intel แพ้คดีต่อต้านการผูกขาด ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร หลังจากต่อสู้คดีต่อต้านการผูกขาดกับสหภาพยุโรปยาวนานถึง 16 ปี Intel ก็แพ้การอุทธรณ์ครั้งล่าสุด ศาลตัดสินให้ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร จากเดิมที่เคยถูกปรับ 376 ล้านยูโร คดีนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2009 โดย Intel ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีให้เงินสนับสนุนผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อย่าง HP, Acer และ Lenovo เพื่อชะลอหรือหยุดการใช้ชิป AMD ถือเป็นการจำกัดการแข่งขันโดยตรง แม้ Intel เคยชนะบางส่วนของคดี แต่สุดท้ายก็ยังต้องจ่ายค่าปรับก้อนใหญ่ ซึ่งนับเป็นบทเรียนสำคัญในประวัติศาสตร์วงการเทคโนโลยี 🔗 https://securityonline.info/16-year-battle-ends-intel-loses-appeal-must-pay-e237-million-eu-fine 🧑‍💻 องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026 🔗 https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps 🔐 Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล 🔗 https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes 📹 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Zoom Rooms เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์ Zoom ได้ออกแพตช์แก้ไขด่วนสำหรับ Zoom Rooms หลังพบช่องโหว่ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรเป็นความลับได้ โดยเฉพาะในเวอร์ชัน Windows ที่มีช่องโหว่ CVE-2025-67460 ซึ่งเกิดจากการป้องกันการ downgrade ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ระบบอาจถูกบังคับให้กลับไปใช้เวอร์ชันที่ไม่ปลอดภัย ส่วนใน macOS ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-67461 ที่เสี่ยงต่อการเปิดเผยข้อมูลผ่านการจัดการไฟล์ผิดพลาด Zoom ได้ปล่อยเวอร์ชัน 6.6.0 เพื่อแก้ไขทั้งหมด และแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-zoom-rooms-flaw-risks-privilege-escalation-via-downgrade-protection-bypass 🧑‍💻 องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026 🔗 https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps 🔐 Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล 🔗 https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • Intel แพ้คดีผูกขาดในยุโรป ถูกปรับ 278 ล้านดอลลาร์

    Intel พยายามอุทธรณ์เพื่อยกเลิกคำตัดสินคดีผูกขาดที่ดำเนินมากว่า 16 ปี แต่ศาลทั่วไปของสหภาพยุโรป (EU General Court) ได้ตัดสินยืนตามคณะกรรมาธิการยุโรป โดยปรับเป็นเงิน 237 ล้านยูโร (278 ล้านดอลลาร์) หลังพบว่า Intel ใช้กลยุทธ์ส่วนลดและการจ่ายเงินเพื่อกีดกันคู่แข่งอย่าง AMD ระหว่างปี 2000–2008

    เส้นทางคดีที่ยืดเยื้อ
    คดีนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2009 เมื่อคณะกรรมาธิการยุโรปปรับ Intel เป็นเงินกว่า 1.06 พันล้านยูโร แต่ต่อมามีการอุทธรณ์และการพิจารณาซ้ำหลายครั้ง จนกระทั่งปี 2022 ศาลได้ยกเลิกค่าปรับเดิมเนื่องจากการวิเคราะห์ไม่ครบถ้วน ก่อนจะมีการคำนวณใหม่ในปี 2023 และล่าสุดศาลทั่วไปตัดสินให้ปรับลดลงเหลือ 278 ล้านดอลลาร์

    ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด CPU
    การตัดสินครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของ EU ในการรักษาความเป็นธรรมในตลาดเทคโนโลยี โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้บริษัทใหญ่ใช้อำนาจเหนือตลาดกีดกันคู่แข่ง AMD ซึ่งในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา AMD ค่อย ๆ เพิ่มส่วนแบ่งตลาดด้วยนวัตกรรม เช่น Ryzen และ EPYC ที่ทำให้การแข่งขันกลับมาสมดุลมากขึ้น

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการเทคโนโลยีและกฎหมาย
    กรณีนี้เป็นหนึ่งในหลายคดีที่ EU ใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าเพื่อควบคุมบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น การบังคับให้ Microsoft เสนอ “browser choice” หรือการปรับ Google เรื่องการจัดอันดับผลการค้นหา การตัดสินต่อ Intel จึงเป็นสัญญาณว่า EU จะยังคงเข้มงวดต่อบริษัทเทคโนโลยีที่มีอำนาจเหนือตลาด

    สรุปสาระสำคัญ
    Intel ถูกปรับ 278 ล้านดอลลาร์โดยศาลทั่วไปของ EU
    หลังพบว่ากีดกัน AMD ระหว่างปี 2000–2008

    คดีเริ่มตั้งแต่ปี 2009
    เดิมถูกปรับ 1.06 พันล้านยูโร ก่อนลดลง

    AMD ได้ประโยชน์จากการแข่งขันที่เป็นธรรม
    Ryzen และ EPYC ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาด

    ความเสี่ยงต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี
    EU อาจใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าเข้มงวดต่อไป

    ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ Intel
    ถูกมองว่าใช้อำนาจเหนือตลาดในทางที่ไม่เป็นธรรม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-fails-to-get-eu-antitrust-ruling-overturned-in-longstanding-16-year-amd-competition-case-chipmaker-sees-usd1-2-billion-fine-reduced-to-usd278-million
    ⚖️ Intel แพ้คดีผูกขาดในยุโรป ถูกปรับ 278 ล้านดอลลาร์ Intel พยายามอุทธรณ์เพื่อยกเลิกคำตัดสินคดีผูกขาดที่ดำเนินมากว่า 16 ปี แต่ศาลทั่วไปของสหภาพยุโรป (EU General Court) ได้ตัดสินยืนตามคณะกรรมาธิการยุโรป โดยปรับเป็นเงิน 237 ล้านยูโร (278 ล้านดอลลาร์) หลังพบว่า Intel ใช้กลยุทธ์ส่วนลดและการจ่ายเงินเพื่อกีดกันคู่แข่งอย่าง AMD ระหว่างปี 2000–2008 🏛️ เส้นทางคดีที่ยืดเยื้อ คดีนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2009 เมื่อคณะกรรมาธิการยุโรปปรับ Intel เป็นเงินกว่า 1.06 พันล้านยูโร แต่ต่อมามีการอุทธรณ์และการพิจารณาซ้ำหลายครั้ง จนกระทั่งปี 2022 ศาลได้ยกเลิกค่าปรับเดิมเนื่องจากการวิเคราะห์ไม่ครบถ้วน ก่อนจะมีการคำนวณใหม่ในปี 2023 และล่าสุดศาลทั่วไปตัดสินให้ปรับลดลงเหลือ 278 ล้านดอลลาร์ 💻 ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด CPU การตัดสินครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของ EU ในการรักษาความเป็นธรรมในตลาดเทคโนโลยี โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้บริษัทใหญ่ใช้อำนาจเหนือตลาดกีดกันคู่แข่ง AMD ซึ่งในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา AMD ค่อย ๆ เพิ่มส่วนแบ่งตลาดด้วยนวัตกรรม เช่น Ryzen และ EPYC ที่ทำให้การแข่งขันกลับมาสมดุลมากขึ้น 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการเทคโนโลยีและกฎหมาย กรณีนี้เป็นหนึ่งในหลายคดีที่ EU ใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าเพื่อควบคุมบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น การบังคับให้ Microsoft เสนอ “browser choice” หรือการปรับ Google เรื่องการจัดอันดับผลการค้นหา การตัดสินต่อ Intel จึงเป็นสัญญาณว่า EU จะยังคงเข้มงวดต่อบริษัทเทคโนโลยีที่มีอำนาจเหนือตลาด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Intel ถูกปรับ 278 ล้านดอลลาร์โดยศาลทั่วไปของ EU ➡️ หลังพบว่ากีดกัน AMD ระหว่างปี 2000–2008 ✅ คดีเริ่มตั้งแต่ปี 2009 ➡️ เดิมถูกปรับ 1.06 พันล้านยูโร ก่อนลดลง ✅ AMD ได้ประโยชน์จากการแข่งขันที่เป็นธรรม ➡️ Ryzen และ EPYC ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาด ‼️ ความเสี่ยงต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ⛔ EU อาจใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าเข้มงวดต่อไป ‼️ ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ Intel ⛔ ถูกมองว่าใช้อำนาจเหนือตลาดในทางที่ไม่เป็นธรรม https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-fails-to-get-eu-antitrust-ruling-overturned-in-longstanding-16-year-amd-competition-case-chipmaker-sees-usd1-2-billion-fine-reduced-to-usd278-million
    0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews
  • วิกฤตราคา RAM: จาก 117 ดอลลาร์สู่กว่า 800 ดอลลาร์

    รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า Trident Z5 Neo RGB DDR5-6000 C30 32GB ที่เคยขายเพียง 117 ดอลลาร์ ตอนนี้ราคาขึ้นไปถึง 429 ดอลลาร์ในร้านค้าปกติ และถูกนำไปขายบน eBay ในราคา 836 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาจริงถึง 7 เท่า การปรับขึ้นนี้เกิดจากความต้องการหน่วยความจำมหาศาลในศูนย์ข้อมูล AI ที่ทำให้ผู้ผลิตอย่าง Samsung, SK Hynix และ Micron หันไปผลิต RAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์แทนตลาดผู้บริโภค

    Scalpers และการเก็งกำไร
    นอกจากผู้ผลิตแล้ว scalpers ก็เข้ามาเก็งกำไร โดยซื้อ RAM จากร้านค้าปกติแล้วนำไปขายต่อในราคาสูง ตัวอย่างเช่น Vengeance DDR5-5200 C38 192GB ที่เคยมีราคา 649 ดอลลาร์ ตอนนี้ถูกตั้งราคาขายใหม่ถึง 2,201 ดอลลาร์ และแม้แต่บน eBay ก็ยังมีการตั้งราคาสูงถึง 1,949 ดอลลาร์ การเก็งกำไรนี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปแทบไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล

    ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ผลิต
    บริษัทประกอบคอมพิวเตอร์อย่าง CyberPowerPC และ Maingear ต้องปรับราคาพีซีขึ้นตามต้นทุน ขณะที่ OEM อย่าง Dell และ Lenovo ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แม้ Lenovo จะมีสต็อกเพียงพอจนถึงปี 2026 แต่ผู้ผลิตรายอื่นต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Micron ยังประกาศปิดสายการผลิต RAM สำหรับผู้บริโภค (Crucial) เพื่อหันไปโฟกัสตลาดองค์กรโดยตรง

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการเทคโนโลยี
    การขาดแคลน RAM ไม่ได้กระทบแค่ผู้ใช้พีซี แต่ยังรวมถึง คอนโซลเกมและ Raspberry Pi ที่ต้องปรับราคาขึ้นเช่นกัน นักวิเคราะห์เตือนว่าอาจต้องรอจนกว่า “ฟองสบู่ AI” จะคลี่คลาย ราคาถึงจะกลับมาเป็นปกติ แต่ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด

    สรุปสาระสำคัญ
    ราคาชุด RAM พุ่งสูงกว่า 7 เท่า
    Trident Z5 Neo จาก 117 ดอลลาร์เป็น 836 ดอลลาร์บน eBay

    ผู้ผลิตหันไปผลิต RAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์
    ตลาดผู้บริโภคถูกลดความสำคัญ

    Scalpers เก็งกำไรบน eBay
    Vengeance DDR5-5200 จาก 649 ดอลลาร์เป็น 1,949 ดอลลาร์

    ธุรกิจคอมพิวเตอร์และ OEM ได้รับผลกระทบ
    CyberPowerPC, Maingear, Dell ต้องปรับราคาสูงขึ้น

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ทั่วไป
    ไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล

    ฟองสบู่ AI อาจทำให้ตลาดผันผวน
    ราคาจะกลับมาปกติได้ก็ต่อเมื่อความต้องการลดลง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/ram-scalping-takes-hold-on-ebay-some-kits-selling-for-more-than-usd2-000-price-gouged-kits-fetch-7x-their-original-value-adding-almost-double-the-markup-on-already-inflated-prices
    💻 วิกฤตราคา RAM: จาก 117 ดอลลาร์สู่กว่า 800 ดอลลาร์ รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า Trident Z5 Neo RGB DDR5-6000 C30 32GB ที่เคยขายเพียง 117 ดอลลาร์ ตอนนี้ราคาขึ้นไปถึง 429 ดอลลาร์ในร้านค้าปกติ และถูกนำไปขายบน eBay ในราคา 836 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาจริงถึง 7 เท่า การปรับขึ้นนี้เกิดจากความต้องการหน่วยความจำมหาศาลในศูนย์ข้อมูล AI ที่ทำให้ผู้ผลิตอย่าง Samsung, SK Hynix และ Micron หันไปผลิต RAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์แทนตลาดผู้บริโภค 📈 Scalpers และการเก็งกำไร นอกจากผู้ผลิตแล้ว scalpers ก็เข้ามาเก็งกำไร โดยซื้อ RAM จากร้านค้าปกติแล้วนำไปขายต่อในราคาสูง ตัวอย่างเช่น Vengeance DDR5-5200 C38 192GB ที่เคยมีราคา 649 ดอลลาร์ ตอนนี้ถูกตั้งราคาขายใหม่ถึง 2,201 ดอลลาร์ และแม้แต่บน eBay ก็ยังมีการตั้งราคาสูงถึง 1,949 ดอลลาร์ การเก็งกำไรนี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปแทบไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล 🏭 ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ผลิต บริษัทประกอบคอมพิวเตอร์อย่าง CyberPowerPC และ Maingear ต้องปรับราคาพีซีขึ้นตามต้นทุน ขณะที่ OEM อย่าง Dell และ Lenovo ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แม้ Lenovo จะมีสต็อกเพียงพอจนถึงปี 2026 แต่ผู้ผลิตรายอื่นต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Micron ยังประกาศปิดสายการผลิต RAM สำหรับผู้บริโภค (Crucial) เพื่อหันไปโฟกัสตลาดองค์กรโดยตรง 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการเทคโนโลยี การขาดแคลน RAM ไม่ได้กระทบแค่ผู้ใช้พีซี แต่ยังรวมถึง คอนโซลเกมและ Raspberry Pi ที่ต้องปรับราคาขึ้นเช่นกัน นักวิเคราะห์เตือนว่าอาจต้องรอจนกว่า “ฟองสบู่ AI” จะคลี่คลาย ราคาถึงจะกลับมาเป็นปกติ แต่ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ราคาชุด RAM พุ่งสูงกว่า 7 เท่า ➡️ Trident Z5 Neo จาก 117 ดอลลาร์เป็น 836 ดอลลาร์บน eBay ✅ ผู้ผลิตหันไปผลิต RAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์ ➡️ ตลาดผู้บริโภคถูกลดความสำคัญ ✅ Scalpers เก็งกำไรบน eBay ➡️ Vengeance DDR5-5200 จาก 649 ดอลลาร์เป็น 1,949 ดอลลาร์ ✅ ธุรกิจคอมพิวเตอร์และ OEM ได้รับผลกระทบ ➡️ CyberPowerPC, Maingear, Dell ต้องปรับราคาสูงขึ้น ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ทั่วไป ⛔ ไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล ‼️ ฟองสบู่ AI อาจทำให้ตลาดผันผวน ⛔ ราคาจะกลับมาปกติได้ก็ต่อเมื่อความต้องการลดลง https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/ram-scalping-takes-hold-on-ebay-some-kits-selling-for-more-than-usd2-000-price-gouged-kits-fetch-7x-their-original-value-adding-almost-double-the-markup-on-already-inflated-prices
    0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews
  • การลงทุน AI มูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์ กำลังเจอปัญหาชิปหมดอายุเร็ว

    อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้ลงทุนกว่า 400 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้เพื่อซื้อชิป AI และสร้างศูนย์ข้อมูล แต่เริ่มมีคำถามว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะมีอายุการใช้งานสั้นเกินไปหรือไม่ ก่อนหน้านี้บริษัทคลาวด์คาดว่าชิปและเซิร์ฟเวอร์จะใช้งานได้ราว 6 ปี แต่ปัจจุบันนักวิเคราะห์เตือนว่าอาจเหลือเพียง 2–3 ปีเท่านั้น

    ความก้าวหน้าที่เร็วเกินไปของ Nvidia และคู่แข่ง
    Nvidia เปิดตัวชิป Blackwell และประกาศรุ่นใหม่ Rubin ที่จะมาในปี 2026 ซึ่งแรงกว่าเดิมถึง 7.5 เท่า ทำให้ชิปรุ่นเก่ามูลค่าลดลงถึง 85–90% ภายใน 3–4 ปี นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านความทนทาน เพราะชิป AI ทำงานที่ความร้อนสูงจนเกิดการเสียหายบ่อยขึ้น เช่น Meta พบว่าโมเดล Llama มีอัตราความล้มเหลวถึง 9% ต่อปี

    ผลกระทบต่อกำไรและการเงินของบริษัท
    หากต้องปรับอายุการใช้งานชิปให้สั้นลง บริษัทจะต้องบันทึกค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้นทันที ซึ่งกระทบต่อกำไรและความสามารถในการระดมทุน โดยเฉพาะบริษัทที่เน้น AI อย่าง Oracle และ CoreWeave ที่มีหนี้สูงและใช้ชิปเป็นหลักประกันเงินกู้ ขณะที่ยักษ์ใหญ่เช่น Amazon, Google และ Microsoft ยังพอรับมือได้เพราะมีรายได้หลากหลาย

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการเศรษฐกิจและเทคโนโลยี
    การเสื่อมราคาของชิป AI สะท้อนถึงความเสี่ยงของ ฟองสบู่การลงทุน AI ที่นักวิเคราะห์เตือนว่าอาจคล้ายกับฟองสบู่ดอทคอมในอดีต หากบริษัทไม่สามารถสร้างรายได้จากการลงทุนมหาศาลนี้ ความสูญเสียอาจกระทบเศรษฐกิจวงกว้าง การแก้ปัญหาที่บางบริษัทเลือกคือการนำชิปรุ่นเก่าไปใช้กับงานที่ไม่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น งานสำรองหรือการประมวลผลระดับกลาง

    สรุปสาระสำคัญ
    การลงทุน AI มูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์
    ชิปและศูนย์ข้อมูลอาจหมดอายุเร็วเกินไป

    Nvidia เปิดตัวชิปรุ่นใหม่เร็ว
    Blackwell และ Rubin ทำให้ชิปรุ่นเก่ามูลค่าลดลงเร็ว

    ปัญหาความทนทานของชิป AI
    Meta พบอัตราความล้มเหลว 9% ต่อปี

    ผลกระทบต่อบริษัท AI
    Oracle และ CoreWeave เสี่ยงสูงเพราะหนี้และใช้ชิปเป็นหลักประกัน

    ความเสี่ยงฟองสบู่การลงทุน AI
    อาจคล้ายฟองสบู่ดอทคอม กระทบเศรษฐกิจวงกว้าง

    ค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น
    ทำให้กำไรลดลงและการระดมทุนยากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/12/ai039s-us400bil-problem-are-chips-getting-old-too-fast
    💸 การลงทุน AI มูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์ กำลังเจอปัญหาชิปหมดอายุเร็ว อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้ลงทุนกว่า 400 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้เพื่อซื้อชิป AI และสร้างศูนย์ข้อมูล แต่เริ่มมีคำถามว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะมีอายุการใช้งานสั้นเกินไปหรือไม่ ก่อนหน้านี้บริษัทคลาวด์คาดว่าชิปและเซิร์ฟเวอร์จะใช้งานได้ราว 6 ปี แต่ปัจจุบันนักวิเคราะห์เตือนว่าอาจเหลือเพียง 2–3 ปีเท่านั้น ⚡ ความก้าวหน้าที่เร็วเกินไปของ Nvidia และคู่แข่ง Nvidia เปิดตัวชิป Blackwell และประกาศรุ่นใหม่ Rubin ที่จะมาในปี 2026 ซึ่งแรงกว่าเดิมถึง 7.5 เท่า ทำให้ชิปรุ่นเก่ามูลค่าลดลงถึง 85–90% ภายใน 3–4 ปี นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านความทนทาน เพราะชิป AI ทำงานที่ความร้อนสูงจนเกิดการเสียหายบ่อยขึ้น เช่น Meta พบว่าโมเดล Llama มีอัตราความล้มเหลวถึง 9% ต่อปี 📉 ผลกระทบต่อกำไรและการเงินของบริษัท หากต้องปรับอายุการใช้งานชิปให้สั้นลง บริษัทจะต้องบันทึกค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้นทันที ซึ่งกระทบต่อกำไรและความสามารถในการระดมทุน โดยเฉพาะบริษัทที่เน้น AI อย่าง Oracle และ CoreWeave ที่มีหนี้สูงและใช้ชิปเป็นหลักประกันเงินกู้ ขณะที่ยักษ์ใหญ่เช่น Amazon, Google และ Microsoft ยังพอรับมือได้เพราะมีรายได้หลากหลาย 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการเศรษฐกิจและเทคโนโลยี การเสื่อมราคาของชิป AI สะท้อนถึงความเสี่ยงของ ฟองสบู่การลงทุน AI ที่นักวิเคราะห์เตือนว่าอาจคล้ายกับฟองสบู่ดอทคอมในอดีต หากบริษัทไม่สามารถสร้างรายได้จากการลงทุนมหาศาลนี้ ความสูญเสียอาจกระทบเศรษฐกิจวงกว้าง การแก้ปัญหาที่บางบริษัทเลือกคือการนำชิปรุ่นเก่าไปใช้กับงานที่ไม่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น งานสำรองหรือการประมวลผลระดับกลาง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การลงทุน AI มูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ชิปและศูนย์ข้อมูลอาจหมดอายุเร็วเกินไป ✅ Nvidia เปิดตัวชิปรุ่นใหม่เร็ว ➡️ Blackwell และ Rubin ทำให้ชิปรุ่นเก่ามูลค่าลดลงเร็ว ✅ ปัญหาความทนทานของชิป AI ➡️ Meta พบอัตราความล้มเหลว 9% ต่อปี ✅ ผลกระทบต่อบริษัท AI ➡️ Oracle และ CoreWeave เสี่ยงสูงเพราะหนี้และใช้ชิปเป็นหลักประกัน ‼️ ความเสี่ยงฟองสบู่การลงทุน AI ⛔ อาจคล้ายฟองสบู่ดอทคอม กระทบเศรษฐกิจวงกว้าง ‼️ ค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น ⛔ ทำให้กำไรลดลงและการระดมทุนยากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/12/ai039s-us400bil-problem-are-chips-getting-old-too-fast
    0 Comments 0 Shares 35 Views 0 Reviews
  • Google Maps: จากเครื่องมือค้นหา สู่ผู้กำหนดตลาด

    Lauren Leek เริ่มต้นจากการหาที่กินข้าว แต่กลับกลายเป็นงานวิจัยเต็มรูปแบบ เธอใช้ข้อมูลร้านอาหารกว่า 13,000 แห่งในลอนดอน มาสร้างโมเดล Machine Learning เพื่อวิเคราะห์ว่า Google Maps จัดอันดับร้านอาหารอย่างไร ผลลัพธ์ชี้ว่าแพลตฟอร์มไม่ได้เพียงสะท้อนความนิยม แต่ กำหนดการมองเห็นและการอยู่รอดของร้านอาหาร โดยใช้ตัวชี้วัดหลักคือ relevance, distance, และ prominence.

    วงจรสะสมความได้เปรียบ
    ระบบ “prominence” ของ Google Maps ให้รางวัลกับร้านที่มีรีวิวจำนวนมาก ความเร็วในการได้รับรีวิวสูง และการรับรู้แบรนด์ ส่งผลให้ร้านใหญ่หรือร้านที่อยู่ในพื้นที่คนพลุกพล่านได้เปรียบ ขณะที่ร้านเล็ก ๆ หรือร้านใหม่ ๆ เจอปัญหา cold-start เพราะไม่มีรีวิวมากพอที่จะถูกค้นพบ วงจรนี้คล้ายกับ “Matthew Effect” ในเศรษฐศาสตร์ ที่ผู้มีมากจะได้มากขึ้นเรื่อย ๆ

    การสร้าง Dashboard เพื่อมองทะลุอัลกอริทึม
    Lauren สร้าง London Food Dashboard โดยใช้ Gradient Boosted Decision Tree เพื่อคาดการณ์คะแนนที่ร้านควรได้ตามคุณลักษณะเชิงโครงสร้าง เช่น ประเภทอาหาร ราคา ทำเล และจำนวนรีวิว จากนั้นเปรียบเทียบกับคะแนนจริงเพื่อหาว่าร้านใดถูก “ประเมินต่ำ” หรือ “สูงเกินจริง” Dashboard นี้ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหา “underrated gems” ได้ และยังเผยให้เห็นความผิดพลาดในการจัดหมวดหมู่ร้านอาหารของ Google Maps

    ผลกระทบต่อชุมชนและนโยบาย
    การวิเคราะห์ยังขยายไปถึงระดับย่าน โดยใช้ PCA และ K-means clustering เพื่อจัดประเภทพื้นที่เป็น elite, strong, everyday, และ weak hubs. ผลลัพธ์ชี้ว่า ความหลากหลายทางอาหารของลอนดอนไม่ได้กระจายอย่างเท่าเทียม ร้านอาหารของชุมชนผู้อพยชมักอยู่ในพื้นที่ที่มีการมองเห็นต่ำกว่า ข้อค้นพบนี้นำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายว่า อัลกอริทึมของแพลตฟอร์มควรถูกตรวจสอบและเปิดเผยเหมือนตลาดการเงิน เพราะมันมีผลต่อการอยู่รอดของธุรกิจท้องถิ่นโดยตรง

    สรุปสาระสำคัญ
    Google Maps ทำหน้าที่เป็น “ตลาดกลาง”
    ใช้ตัวชี้วัด relevance, distance, prominence กำหนดการมองเห็น

    วงจรสะสมความได้เปรียบ
    ร้านใหญ่และร้านดังได้เปรียบ ร้านเล็กเจอ cold-start

    London Food Dashboard
    ใช้ ML วิเคราะห์ร้านที่ถูกประเมินต่ำหรือสูงเกินจริง

    การวิเคราะห์ระดับย่าน
    พบความเหลื่อมล้ำด้านการมองเห็นและความหลากหลายทางอาหาร

    ความเสี่ยงต่อธุรกิจเล็กและชุมชนผู้อพยพ
    อัลกอริทึมอาจทำให้ร้านใหม่หรือร้านเล็กถูกมองข้าม

    ความโปร่งใสของแพลตฟอร์ม
    ควรมีการตรวจสอบอัลกอริทึมเหมือนตลาดการเงิน

    https://laurenleek.substack.com/p/how-google-maps-quietly-allocates
    🗺️ Google Maps: จากเครื่องมือค้นหา สู่ผู้กำหนดตลาด Lauren Leek เริ่มต้นจากการหาที่กินข้าว แต่กลับกลายเป็นงานวิจัยเต็มรูปแบบ เธอใช้ข้อมูลร้านอาหารกว่า 13,000 แห่งในลอนดอน มาสร้างโมเดล Machine Learning เพื่อวิเคราะห์ว่า Google Maps จัดอันดับร้านอาหารอย่างไร ผลลัพธ์ชี้ว่าแพลตฟอร์มไม่ได้เพียงสะท้อนความนิยม แต่ กำหนดการมองเห็นและการอยู่รอดของร้านอาหาร โดยใช้ตัวชี้วัดหลักคือ relevance, distance, และ prominence. 📊 วงจรสะสมความได้เปรียบ ระบบ “prominence” ของ Google Maps ให้รางวัลกับร้านที่มีรีวิวจำนวนมาก ความเร็วในการได้รับรีวิวสูง และการรับรู้แบรนด์ ส่งผลให้ร้านใหญ่หรือร้านที่อยู่ในพื้นที่คนพลุกพล่านได้เปรียบ ขณะที่ร้านเล็ก ๆ หรือร้านใหม่ ๆ เจอปัญหา cold-start เพราะไม่มีรีวิวมากพอที่จะถูกค้นพบ วงจรนี้คล้ายกับ “Matthew Effect” ในเศรษฐศาสตร์ ที่ผู้มีมากจะได้มากขึ้นเรื่อย ๆ 🧮 การสร้าง Dashboard เพื่อมองทะลุอัลกอริทึม Lauren สร้าง London Food Dashboard โดยใช้ Gradient Boosted Decision Tree เพื่อคาดการณ์คะแนนที่ร้านควรได้ตามคุณลักษณะเชิงโครงสร้าง เช่น ประเภทอาหาร ราคา ทำเล และจำนวนรีวิว จากนั้นเปรียบเทียบกับคะแนนจริงเพื่อหาว่าร้านใดถูก “ประเมินต่ำ” หรือ “สูงเกินจริง” Dashboard นี้ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหา “underrated gems” ได้ และยังเผยให้เห็นความผิดพลาดในการจัดหมวดหมู่ร้านอาหารของ Google Maps 🌍 ผลกระทบต่อชุมชนและนโยบาย การวิเคราะห์ยังขยายไปถึงระดับย่าน โดยใช้ PCA และ K-means clustering เพื่อจัดประเภทพื้นที่เป็น elite, strong, everyday, และ weak hubs. ผลลัพธ์ชี้ว่า ความหลากหลายทางอาหารของลอนดอนไม่ได้กระจายอย่างเท่าเทียม ร้านอาหารของชุมชนผู้อพยชมักอยู่ในพื้นที่ที่มีการมองเห็นต่ำกว่า ข้อค้นพบนี้นำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายว่า อัลกอริทึมของแพลตฟอร์มควรถูกตรวจสอบและเปิดเผยเหมือนตลาดการเงิน เพราะมันมีผลต่อการอยู่รอดของธุรกิจท้องถิ่นโดยตรง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Google Maps ทำหน้าที่เป็น “ตลาดกลาง” ➡️ ใช้ตัวชี้วัด relevance, distance, prominence กำหนดการมองเห็น ✅ วงจรสะสมความได้เปรียบ ➡️ ร้านใหญ่และร้านดังได้เปรียบ ร้านเล็กเจอ cold-start ✅ London Food Dashboard ➡️ ใช้ ML วิเคราะห์ร้านที่ถูกประเมินต่ำหรือสูงเกินจริง ✅ การวิเคราะห์ระดับย่าน ➡️ พบความเหลื่อมล้ำด้านการมองเห็นและความหลากหลายทางอาหาร ‼️ ความเสี่ยงต่อธุรกิจเล็กและชุมชนผู้อพยพ ⛔ อัลกอริทึมอาจทำให้ร้านใหม่หรือร้านเล็กถูกมองข้าม ‼️ ความโปร่งใสของแพลตฟอร์ม ⛔ ควรมีการตรวจสอบอัลกอริทึมเหมือนตลาดการเงิน https://laurenleek.substack.com/p/how-google-maps-quietly-allocates
    LAURENLEEK.SUBSTACK.COM
    How Google Maps quietly allocates survival across London’s restaurants - and how I built a dashboard to see through it
    I wanted a dinner recommendation and got a research agenda instead. Using 13000+ restaurants, I rebuild its ratings with machine learning and map how algorithmic visibility actually distributes power.
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • ความยุ่งยากในการขอ Gemini API Key

    บทความเล่าประสบการณ์ของนักพัฒนาที่พยายามสมัครใช้ Gemini 3 Pro ของ Google เพื่อใช้เป็นผู้ช่วยเขียนโค้ด แต่กลับพบว่ากระบวนการสมัครและการตั้งค่าบัญชีซับซ้อนเกินไป ตั้งแต่การสร้าง API key ไปจนถึงการยืนยันบัตรเครดิตและเอกสารราชการ ซึ่งใช้เวลาหลายชั่วโมงและเต็มไปด้วยขั้นตอนที่ไม่ชัดเจน

    ระบบที่ออกแบบเพื่อองค์กรใหญ่ ไม่ใช่ผู้ใช้ทั่วไป
    Google ใช้ระบบ Google Cloud Console และ AI Studio ที่เน้นความปลอดภัยและการตรวจสอบเข้มงวด เหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ แต่สำหรับนักพัฒนารายบุคคลกลับเป็นอุปสรรค ทำให้การเข้าถึงบริการ Gemini Pro ไม่ราบรื่น ต่างจากคู่แข่งอย่าง Anthropic (Claude) และ OpenAI (ChatGPT) ที่มีระบบสมัครและชำระเงินง่ายกว่า

    ปัญหาการยืนยันและข้อผิดพลาดซ้ำซ้อน
    ผู้เขียนต้องส่งเอกสารยืนยันตัวตนและบัตรเครดิตหลายครั้ง โดยระบบยังมีข้อจำกัดเรื่องรูปแบบไฟล์ที่ไม่ชัดเจน เช่น ต้องใช้ PNG เท่านั้น นอกจากนี้ยังพบข้อผิดพลาด 403 Forbidden แม้จะผ่านการยืนยันแล้ว ทำให้เสียเวลาไปหลายชั่วโมงก่อนจะใช้งานได้จริง

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการ AI
    ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นว่า Google กำลังพัฒนา Gemini ให้เป็นแพลตฟอร์มรวมหลายบริการ ตั้งแต่ Chatbot, Workspace, Firebase ไปจนถึง Code Assist แต่ความซับซ้อนของระบบอาจทำให้เสียโอกาสในการดึงดูดนักพัฒนารายบุคคล ขณะที่คู่แข่งยังคงได้เปรียบด้วยความเรียบง่ายและความเป็นมิตรต่อผู้ใช้

    สรุปสาระสำคัญ
    ขั้นตอนการสมัคร Gemini API Key
    ต้องผ่าน Google AI Studio และ Cloud Console

    ระบบออกแบบเพื่อองค์กรใหญ่
    เน้นความปลอดภัยและการตรวจสอบเข้มงวด

    คู่แข่งอย่าง Anthropic และ OpenAI
    มีระบบสมัครและชำระเงินง่ายกว่า

    ความยุ่งยากในการยืนยันตัวตน
    ต้องส่งเอกสารและบัตรเครดิตหลายครั้ง

    ข้อผิดพลาด 403 Forbidden
    ทำให้เสียเวลาและไม่สามารถใช้งานได้ทันที

    https://ankursethi.com/blog/gemini-api-key-frustration/
    💻 ความยุ่งยากในการขอ Gemini API Key บทความเล่าประสบการณ์ของนักพัฒนาที่พยายามสมัครใช้ Gemini 3 Pro ของ Google เพื่อใช้เป็นผู้ช่วยเขียนโค้ด แต่กลับพบว่ากระบวนการสมัครและการตั้งค่าบัญชีซับซ้อนเกินไป ตั้งแต่การสร้าง API key ไปจนถึงการยืนยันบัตรเครดิตและเอกสารราชการ ซึ่งใช้เวลาหลายชั่วโมงและเต็มไปด้วยขั้นตอนที่ไม่ชัดเจน 🏢 ระบบที่ออกแบบเพื่อองค์กรใหญ่ ไม่ใช่ผู้ใช้ทั่วไป Google ใช้ระบบ Google Cloud Console และ AI Studio ที่เน้นความปลอดภัยและการตรวจสอบเข้มงวด เหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ แต่สำหรับนักพัฒนารายบุคคลกลับเป็นอุปสรรค ทำให้การเข้าถึงบริการ Gemini Pro ไม่ราบรื่น ต่างจากคู่แข่งอย่าง Anthropic (Claude) และ OpenAI (ChatGPT) ที่มีระบบสมัครและชำระเงินง่ายกว่า 🔑 ปัญหาการยืนยันและข้อผิดพลาดซ้ำซ้อน ผู้เขียนต้องส่งเอกสารยืนยันตัวตนและบัตรเครดิตหลายครั้ง โดยระบบยังมีข้อจำกัดเรื่องรูปแบบไฟล์ที่ไม่ชัดเจน เช่น ต้องใช้ PNG เท่านั้น นอกจากนี้ยังพบข้อผิดพลาด 403 Forbidden แม้จะผ่านการยืนยันแล้ว ทำให้เสียเวลาไปหลายชั่วโมงก่อนจะใช้งานได้จริง 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการ AI ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นว่า Google กำลังพัฒนา Gemini ให้เป็นแพลตฟอร์มรวมหลายบริการ ตั้งแต่ Chatbot, Workspace, Firebase ไปจนถึง Code Assist แต่ความซับซ้อนของระบบอาจทำให้เสียโอกาสในการดึงดูดนักพัฒนารายบุคคล ขณะที่คู่แข่งยังคงได้เปรียบด้วยความเรียบง่ายและความเป็นมิตรต่อผู้ใช้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ขั้นตอนการสมัคร Gemini API Key ➡️ ต้องผ่าน Google AI Studio และ Cloud Console ✅ ระบบออกแบบเพื่อองค์กรใหญ่ ➡️ เน้นความปลอดภัยและการตรวจสอบเข้มงวด ✅ คู่แข่งอย่าง Anthropic และ OpenAI ➡️ มีระบบสมัครและชำระเงินง่ายกว่า ‼️ ความยุ่งยากในการยืนยันตัวตน ⛔ ต้องส่งเอกสารและบัตรเครดิตหลายครั้ง ‼️ ข้อผิดพลาด 403 Forbidden ⛔ ทำให้เสียเวลาและไม่สามารถใช้งานได้ทันที https://ankursethi.com/blog/gemini-api-key-frustration/
    0 Comments 0 Shares 22 Views 0 Reviews
  • Disney ลงทุนครั้งใหญ่ใน OpenAI

    ดิสนีย์ประกาศลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ ใน OpenAI และทำข้อตกลงการอนุญาตใช้สิทธิ์เป็นเวลา 3 ปี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอด้วยตัวละครกว่า 200 ตัวจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ผ่านแอป Sora ที่เปิดตัวไปเมื่อกันยายนที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการที่ดิสนีย์ต้องการใช้ Generative AI ขยายการเล่าเรื่องในรูปแบบใหม่ ๆ โดยยังคงเคารพสิทธิ์ของผู้สร้างและผลงาน

    ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์
    นอกจากการอนุญาตให้ใช้ตัวละคร ดิสนีย์ยังจะนำ ChatGPT มาใช้ภายในองค์กรเพื่อสร้างเครื่องมือและประสบการณ์ใหม่ ๆ รวมถึงได้รับสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มใน OpenAI การจับมือครั้งนี้ทำให้ดิสนีย์ไม่เพียงเป็นผู้ลงทุน แต่ยังเป็น ลูกค้ารายใหญ่ ของ OpenAI ด้วย ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการผลิตคอนเทนต์และการสื่อสารภายในบริษัท

    การปกป้องลิขสิทธิ์
    ก่อนหน้านี้ ดิสนีย์เคยส่งจดหมาย Cease and Desist ไปยัง Google และ Character.AI รวมถึงฟ้อง Midjourney เรื่องการใช้ตัวละครโดยไม่ได้รับอนุญาต การลงทุนครั้งนี้จึงสะท้อนว่า ดิสนีย์ไม่ได้ปฏิเสธ AI แต่เลือกที่จะ ควบคุมและร่วมมือ กับแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างรายได้และปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาไปพร้อมกัน

    การใช้งานจริงและอนาคต
    ผู้ใช้ Sora และ ChatGPT Images จะสามารถสร้างวิดีโอและภาพด้วยตัวละครดัง เช่น Mickey Mouse, Ariel, Cinderella, Iron Man และ Darth Vader โดยจะมีการคัดเลือกคลิปบางส่วนไปเผยแพร่บน Disney+ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ไม่ครอบคลุม เสียงและหน้าตาของนักแสดงจริง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาลิขสิทธิ์และการละเมิดสิทธิ์บุคคล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Disney ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI
    ทำข้อตกลงอนุญาตใช้สิทธิ์ 3 ปีสำหรับตัวละครกว่า 200 ตัว

    ผู้ใช้ Sora และ ChatGPT Images สามารถสร้างคอนเทนต์ด้วยตัวละคร Disney
    ตัวละครที่ใช้ได้ เช่น Mickey Mouse, Ariel, Cinderella, Iron Man, Darth Vader

    Disney จะใช้ ChatGPT ภายในองค์กร
    เพื่อสร้างเครื่องมือและประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้พนักงาน

    คลิปจาก Sora จะถูกเผยแพร่บน Disney+
    ขยายการเข้าถึงคอนเทนต์ AI สู่ผู้ชมทั่วโลก

    ความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์ยังคงมีอยู่
    Disney เคยฟ้อง Midjourney และส่งจดหมายเตือน Google, Character.AI เรื่องการใช้ตัวละครโดยไม่ได้รับอนุญาต

    การใช้ตัวละครไม่ครอบคลุมเสียงและหน้าตานักแสดงจริง
    เพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดสิทธิ์บุคคลและปัญหาทางกฎหมาย

    https://www.cnbc.com/2025/12/11/disney-openai-sora-characters-video.html
    🎬 Disney ลงทุนครั้งใหญ่ใน OpenAI ดิสนีย์ประกาศลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ ใน OpenAI และทำข้อตกลงการอนุญาตใช้สิทธิ์เป็นเวลา 3 ปี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอด้วยตัวละครกว่า 200 ตัวจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ผ่านแอป Sora ที่เปิดตัวไปเมื่อกันยายนที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการที่ดิสนีย์ต้องการใช้ Generative AI ขยายการเล่าเรื่องในรูปแบบใหม่ ๆ โดยยังคงเคารพสิทธิ์ของผู้สร้างและผลงาน 🤝 ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ นอกจากการอนุญาตให้ใช้ตัวละคร ดิสนีย์ยังจะนำ ChatGPT มาใช้ภายในองค์กรเพื่อสร้างเครื่องมือและประสบการณ์ใหม่ ๆ รวมถึงได้รับสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มใน OpenAI การจับมือครั้งนี้ทำให้ดิสนีย์ไม่เพียงเป็นผู้ลงทุน แต่ยังเป็น ลูกค้ารายใหญ่ ของ OpenAI ด้วย ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการผลิตคอนเทนต์และการสื่อสารภายในบริษัท ⚖️ การปกป้องลิขสิทธิ์ ก่อนหน้านี้ ดิสนีย์เคยส่งจดหมาย Cease and Desist ไปยัง Google และ Character.AI รวมถึงฟ้อง Midjourney เรื่องการใช้ตัวละครโดยไม่ได้รับอนุญาต การลงทุนครั้งนี้จึงสะท้อนว่า ดิสนีย์ไม่ได้ปฏิเสธ AI แต่เลือกที่จะ ควบคุมและร่วมมือ กับแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างรายได้และปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาไปพร้อมกัน 📺 การใช้งานจริงและอนาคต ผู้ใช้ Sora และ ChatGPT Images จะสามารถสร้างวิดีโอและภาพด้วยตัวละครดัง เช่น Mickey Mouse, Ariel, Cinderella, Iron Man และ Darth Vader โดยจะมีการคัดเลือกคลิปบางส่วนไปเผยแพร่บน Disney+ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ไม่ครอบคลุม เสียงและหน้าตาของนักแสดงจริง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาลิขสิทธิ์และการละเมิดสิทธิ์บุคคล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Disney ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI ➡️ ทำข้อตกลงอนุญาตใช้สิทธิ์ 3 ปีสำหรับตัวละครกว่า 200 ตัว ✅ ผู้ใช้ Sora และ ChatGPT Images สามารถสร้างคอนเทนต์ด้วยตัวละคร Disney ➡️ ตัวละครที่ใช้ได้ เช่น Mickey Mouse, Ariel, Cinderella, Iron Man, Darth Vader ✅ Disney จะใช้ ChatGPT ภายในองค์กร ➡️ เพื่อสร้างเครื่องมือและประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้พนักงาน ✅ คลิปจาก Sora จะถูกเผยแพร่บน Disney+ ➡️ ขยายการเข้าถึงคอนเทนต์ AI สู่ผู้ชมทั่วโลก ‼️ ความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์ยังคงมีอยู่ ⛔ Disney เคยฟ้อง Midjourney และส่งจดหมายเตือน Google, Character.AI เรื่องการใช้ตัวละครโดยไม่ได้รับอนุญาต ‼️ การใช้ตัวละครไม่ครอบคลุมเสียงและหน้าตานักแสดงจริง ⛔ เพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดสิทธิ์บุคคลและปัญหาทางกฎหมาย https://www.cnbc.com/2025/12/11/disney-openai-sora-characters-video.html
    WWW.CNBC.COM
    Disney making $1 billion investment in OpenAI, will allow characters on Sora AI video generator
    Disney is investing in OpenAI and has licensed its iconic characters like Mickey Mouse, Ariel and Iron Man to be used in the Sora AI video generator.
    0 Comments 0 Shares 36 Views 0 Reviews
  • EP 122
    Gold Spot ทำไฮ ถ้าจะเข้าต้องรอย่อตัว ดูในคลิป
    BY.
    EP 122 Gold Spot ทำไฮ ถ้าจะเข้าต้องรอย่อตัว ดูในคลิป BY.
    0 Comments 0 Shares 7 Views 0 0 Reviews
  • AMD เปิดตัว FSR 4 “Redstone”

    AMD ได้เปิดตัว FSR 4 Redstone อย่างเป็นทางการ โดยถือเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ของระบบ FidelityFX Super Resolution ที่ใช้ Machine Learning เป็นแกนหลักในการสร้างภาพและเพิ่มเฟรมเรต ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วย Frame Generation ที่สร้างเฟรมเสริมเพื่อให้ภาพลื่นไหลขึ้น, Ray Regeneration ที่ช่วยลด Noise ในการเรนเดอร์ Ray Tracing และ Radiance Caching ที่คาดว่าจะช่วยให้การจัดการแสงในเกมสมจริงขึ้น แต่จะเริ่มถูกนำไปใช้จริงในปี 2026

    นวัตกรรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA DLSS 4 ซึ่งครองตลาดมานาน โดย AMD พยายามปิดช่องว่างด้านคุณภาพภาพและประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ AI Core ที่ฝังอยู่ในสถาปัตยกรรม RDNA 4 ของ Radeon RX 9000 Series เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้การ์ดรุ่นเก่าไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ได้

    นอกจากคุณภาพภาพที่ดีขึ้นแล้ว AMD ยังประกาศว่า กว่า 200 เกม จะรองรับ FSR Redstone ภายในสิ้นปี 2025 โดยมีเกมดังอย่าง Call of Duty: Black Ops 7, Black Myth: Wukong และ God of War Ragnarök อยู่ในรายชื่อ ซึ่งถือเป็นการขยายฐานผู้ใช้และเพิ่มความน่าสนใจให้กับการ์ดจอ Radeon รุ่นใหม่

    อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงฟีเจอร์เหล่านี้มีข้อจำกัด เนื่องจากต้องใช้ Radeon RX 9000 Series เท่านั้น และยังมีข่าวว่าราคา GPU รุ่นนี้จะปรับขึ้นในปี 2026 จากต้นทุนหน่วยความจำที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้ต้องพิจารณาทั้งประสิทธิภาพและงบประมาณก่อนตัดสินใจอัปเกรด

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน FSR Redstone
    Frame Generation: ใช้ ML สร้างเฟรมเสริมให้ภาพลื่นไหล
    Ray Regeneration: ลด Noise ใน Ray Tracing ให้ภาพคมชัดขึ้น
    Radiance Caching: ระบบจัดการแสงสมจริง คาดว่าจะใช้จริงปี 2026

    การรองรับเกม
    กว่า 200 เกมจะรองรับ FSR Redstone ภายในสิ้นปี 2025
    เกมดังที่รองรับ เช่น Call of Duty: Black Ops 7, Black Myth: Wukong, God of War Ragnarök

    ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ
    ใช้งานได้เฉพาะ Radeon RX 9000 Series (RDNA 4)
    รุ่นเก่าใช้ได้เพียง FSR 3.1 แบบ fallback

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ผู้ใช้การ์ดรุ่นเก่าไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่ได้
    ราคาการ์ดจอ RX 9000 Series มีแนวโน้มปรับขึ้นในปี 2026
    ฟีเจอร์ Radiance Caching ยังไม่พร้อมใช้งาน ต้องรอการอัปเดตเกมในอนาคต

    https://www.techpowerup.com/review/amd-fsr-4-redstone/
    📰 AMD เปิดตัว FSR 4 “Redstone” AMD ได้เปิดตัว FSR 4 Redstone อย่างเป็นทางการ โดยถือเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ของระบบ FidelityFX Super Resolution ที่ใช้ Machine Learning เป็นแกนหลักในการสร้างภาพและเพิ่มเฟรมเรต ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วย Frame Generation ที่สร้างเฟรมเสริมเพื่อให้ภาพลื่นไหลขึ้น, Ray Regeneration ที่ช่วยลด Noise ในการเรนเดอร์ Ray Tracing และ Radiance Caching ที่คาดว่าจะช่วยให้การจัดการแสงในเกมสมจริงขึ้น แต่จะเริ่มถูกนำไปใช้จริงในปี 2026 นวัตกรรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA DLSS 4 ซึ่งครองตลาดมานาน โดย AMD พยายามปิดช่องว่างด้านคุณภาพภาพและประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ AI Core ที่ฝังอยู่ในสถาปัตยกรรม RDNA 4 ของ Radeon RX 9000 Series เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้การ์ดรุ่นเก่าไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ได้ นอกจากคุณภาพภาพที่ดีขึ้นแล้ว AMD ยังประกาศว่า กว่า 200 เกม จะรองรับ FSR Redstone ภายในสิ้นปี 2025 โดยมีเกมดังอย่าง Call of Duty: Black Ops 7, Black Myth: Wukong และ God of War Ragnarök อยู่ในรายชื่อ ซึ่งถือเป็นการขยายฐานผู้ใช้และเพิ่มความน่าสนใจให้กับการ์ดจอ Radeon รุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงฟีเจอร์เหล่านี้มีข้อจำกัด เนื่องจากต้องใช้ Radeon RX 9000 Series เท่านั้น และยังมีข่าวว่าราคา GPU รุ่นนี้จะปรับขึ้นในปี 2026 จากต้นทุนหน่วยความจำที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้ต้องพิจารณาทั้งประสิทธิภาพและงบประมาณก่อนตัดสินใจอัปเกรด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน FSR Redstone ➡️ Frame Generation: ใช้ ML สร้างเฟรมเสริมให้ภาพลื่นไหล ➡️ Ray Regeneration: ลด Noise ใน Ray Tracing ให้ภาพคมชัดขึ้น ➡️ Radiance Caching: ระบบจัดการแสงสมจริง คาดว่าจะใช้จริงปี 2026 ✅ การรองรับเกม ➡️ กว่า 200 เกมจะรองรับ FSR Redstone ภายในสิ้นปี 2025 ➡️ เกมดังที่รองรับ เช่น Call of Duty: Black Ops 7, Black Myth: Wukong, God of War Ragnarök ✅ ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ ➡️ ใช้งานได้เฉพาะ Radeon RX 9000 Series (RDNA 4) ➡️ รุ่นเก่าใช้ได้เพียง FSR 3.1 แบบ fallback ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ผู้ใช้การ์ดรุ่นเก่าไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่ได้ ⛔ ราคาการ์ดจอ RX 9000 Series มีแนวโน้มปรับขึ้นในปี 2026 ⛔ ฟีเจอร์ Radiance Caching ยังไม่พร้อมใช้งาน ต้องรอการอัปเดตเกมในอนาคต https://www.techpowerup.com/review/amd-fsr-4-redstone/
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD FSR 4 Redstone Review
    AMD's FSR Redstone is finally here—and it's more than just another FSR update. With ML-powered frame generation that can match (and sometimes beat) DLSS, smarter ray tracing cleanup, and excellent driver-level support, Redstone turns FSR into a competitive performance solution.
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • EP 120
    Update GOld Spot , BITCOIN and SET too bad หลังจาก FOMC ลดดอกเบี้ย ไม่ได้ช่วยอะไร
    BY.
    EP 120 Update GOld Spot , BITCOIN and SET too bad หลังจาก FOMC ลดดอกเบี้ย ไม่ได้ช่วยอะไร BY.
    0 Comments 0 Shares 22 Views 0 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251211 #TechRadar

    UK เสริมความปลอดภัยสายเคเบิลใต้น้ำจากภัยรัสเซีย
    สหราชอาณาจักรประกาศโครงการ Atlantic Bastion เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานใต้น้ำอย่างสายเคเบิลและท่อส่งพลังงานจากการคุกคามของรัสเซีย หลังจากมีเหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลบอลติกถูกตัดหรือเสียหายหลายครั้งในช่วงสงครามรัสเซีย–ยูเครน โครงการนี้จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งเรืออัตโนมัติ เซ็นเซอร์ตรวจจับ และกองทัพเรือ โดยมีแผนเริ่มนำไปใช้จริงตั้งแต่ปี 2026 เพื่อให้การป้องกันครอบคลุมพื้นที่มหาสมุทรกว้างใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/pro/security/uk-strengthens-subsea-cables-against-russian-interference

    Europol ปราบเครือข่าย “Violence-as-a-Service”
    Europol เปิดเผยแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมที่เรียกว่า “Violence-as-a-Service” ซึ่งเป็นการจ้างคนรุ่นใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ให้ก่อเหตุรุนแรง ตั้งแต่ข่มขู่ ทรมาน ไปจนถึงฆาตกรรม เครือข่ายนี้เริ่มจากสวีเดนและแพร่ไปทั่วยุโรป จนต้องตั้งหน่วยเฉพาะกิจ GRIMM เพื่อสกัดกั้นการรับสมัครผ่านโซเชียลมีเดีย ภายใน 6 เดือนแรกสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ถึง 193 คน พร้อมยึดอาวุธและกระสุนจำนวนมาก ถือเป็นการป้องกันโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้
    https://www.techradar.com/pro/security/europol-cracks-down-on-violence-as-a-service-network

    หุ่นยนต์ไล่เตะ CEO – โลกอนาคตที่เราเซ็นรับหรือยัง
    เรื่องราวที่กำลังเป็นไวรัลคือหุ่นยนต์ T800 ของบริษัท EngineAI ที่โชว์พลังเตะใส่ CEO ของตัวเองจนกระเด็นไปไกล ทั้งหมดนี้เป็นการพิสูจน์ว่าหุ่นยนต์ไม่ได้ถูกสร้างด้วย CGI แต่ทำได้จริง หุ่นยนต์รุ่นใหม่ไม่เพียงแค่เดินหรือโต้ตอบ แต่ยังสามารถวิ่งได้ถึง 6 mph และทำท่าต่อสู้เหมือนมนุษย์ จุดประสงค์เบื้องหลังคือการโปรโมตงาน “Robot Boxing Match” ที่จะจัดขึ้นในจีน แต่ภาพที่ออกมากลับทำให้หลายคนเริ่มกังวลว่าอนาคตหุ่นยนต์อาจไม่ใช่ผู้ช่วยในบ้าน แต่กลายเป็นคู่ต่อสู้ในสังเวียนแทน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/now-weve-got-robots-that-can-chase-and-kick-us-is-this-the-robot-revolution-we-signed-up-for

    DJI FlyCart 100 – โดรนยักษ์แบกของหนัก 100 กิโลกรัม
    DJI เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ FlyCart 100 ที่ออกแบบมาเพื่อการขนส่งหนักโดยเฉพาะ สามารถแบกน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม และบินสูงถึง 6,000 เมตร พร้อมระบบวินซ์ยกของด้วยสายเคเบิล 30 เมตร มีแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนได้แบบ hot-swap และทนสภาพอากาศตั้งแต่ -20°C ถึง 40°C รวมถึงทนลมแรงและมีระบบหลบสิ่งกีดขวางด้วย LiDAR จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานในพื้นที่ก่อสร้างหรือภูเขาสูง แต่รูปลักษณ์ที่ดุดันทำให้หลายคนเปรียบเทียบกับเครื่องจักรในหนังไซไฟมากกว่าจะเป็นโดรนส่งพัสดุทั่วไป
    https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-terrifying-new-delivery-drone-is-its-most-powerful-so-far-the-flycart-100-can-carry-100kg-loads-and-climb-6-000m-mountains

    Sam Altman บน Tonight Show – AI คือพลังแห่งความเท่าเทียม
    Sam Altman CEO ของ OpenAI ไปออกรายการ Tonight Show กับ Jimmy Fallon เพื่อเล่าถึงการเติบโตของ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ เขาเปรียบ AI ว่าเป็น “พลังแห่งความเท่าเทียม” คล้ายกับการมาของสมาร์ทโฟนที่ทุกคนเข้าถึงได้เหมือนกัน แม้จะยอมรับว่ามีความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่เขาย้ำว่า AI กำลังช่วยให้คนทั่วไปมีเครื่องมือทรงพลังในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่เขียนเรซูเม่ไปจนถึงวางแผนการเดินทาง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/sam-altman-tells-jimmy-fallon-that-ai-is-the-equalizing-force-the-world-needs

    Salesforce Agentforce – เดิมพันอนาคตด้วย AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ
    Salesforce ประกาศเปิดตัว Agentforce 360 แพลตฟอร์มใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสร้าง AI Agent สำหรับงานบริการลูกค้าและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้รายได้ไตรมาสล่าสุดจะโตถึง 9% เป็น 10.3 พันล้านดอลลาร์ แต่หุ้นยังร่วงลงกว่า 29% ในปีนี้ การเปิดตัว Agentforce จึงถูกมองว่าเป็นการวางเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยมีตัวอย่างการใช้งานจริง เช่น ตำรวจ Thames Valley ที่ทดลองใช้ AI Assistant “Bobbi” ตอบคำถามทั่วไปแทนเจ้าหน้าที่ แม้ยังมีข้อกังวลเรื่องความผิดพลาด แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังเข้ามาอยู่ในงานที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นเรื่อย ๆ
    https://www.techradar.com/pro/salesforce-bets-on-agentic-ai-platform-following-cautiously-optimistic-earnings-report

    จอมอนิเตอร์ 1000Hz – เร็วเกินไปหรือเปล่า?
    ข่าวที่ทำให้สายเกมเมอร์ต้องขมวดคิ้วคือการเปิดตัวจอมอนิเตอร์ “dual-mode” ที่สามารถรีเฟรชเรตได้สูงถึง 1000Hz ฟังดูเหมือนจะเป็นการปฏิวัติ แต่หลายคนกลับมองว่ามันเกินความจำเป็น เพราะแม้แต่เกมแข่งขันระดับ eSports ส่วนใหญ่ก็ยังใช้ไม่ถึง 360Hz การกระโดดไปถึง 1000Hz จึงถูกตั้งคำถามว่าเป็นการตลาดมากกว่าความต้องการจริงของผู้เล่น อย่างไรก็ตาม มันก็สะท้อนให้เห็นว่าตลาดฮาร์ดแวร์ยังคงพยายามหาจุดขายใหม่ ๆ อยู่เสมอ
    https://www.techradar.com/computing/monitors/the-worlds-first-1-000hz-dual-mode-gaming-monitors-are-coming-but-they-sound-completely-unnecessary

    Lamborghini ชนะคดีโดเมน Lambo.com
    เรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์คือการที่ Lamborghini ฟ้องร้องเจ้าของโดเมน Lambo.com หลังจากเจ้าของพยายามขายชื่อโดเมนนี้ในราคา 75 ล้านดอลลาร์ ศาลตัดสินว่าเจ้าของกระทำโดยไม่สุจริต และสั่งให้โดเมนตกเป็นของ Lamborghini ทันที เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของชื่อแบรนด์ในโลกดิจิทัล และการที่บริษัทใหญ่พร้อมจะปกป้องทรัพย์สินทางออนไลน์ของตนอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/man-attempts-to-break-world-record-with-usd75-million-domain-name-pitch-ends-up-empty-handed-instead

    นาฬิกาฟิตเนสรุ่นใหม่ – คู่แข่ง Apple Watch SE 3
    ข่าวหลุดล่าสุดเผยว่ากำลังจะมีการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดรุ่นใหม่ ที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Apple Watch SE 3 จุดเด่นคือการออกแบบที่คล้ายคลึงกับรุ่นยอดนิยม แต่เพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายมากขึ้น ทำให้หลายคนคาดว่าจะเป็น “ภาคต่อ” ของนาฬิกาฟิตเนสที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/forget-the-apple-watch-se-3-it-looks-like-a-big-sequel-to-our-best-ever-cheap-fitness-watch-has-just-leaked

    Windows 11 ปรับเมนูคลิกขวา ลบ AI Actions ที่ไม่ใช้
    Microsoft กำลังทดสอบการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่ช่วยลดความรกใน Windows 11 โดยหากผู้ใช้ปิดการทำงานของ AI Actions ทั้งหมด เมนูคลิกขวาใน File Explorer จะไม่แสดงโฟลเดอร์ว่าง ๆ ของ AI อีกต่อไป ก่อนหน้านี้แม้ปิดแล้วก็ยังเห็นเมนูแต่ไม่มีฟังก์ชัน ซึ่งทำให้หลายคนงง การแก้ไขนี้จึงเป็นเหมือนการจัดระเบียบให้ใช้งานง่ายขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทำให้ Windows 11 ดูสะอาดตาและตรงไปตรงมา
    https://www.techradar.com/computing/windows/think-ai-actions-in-windows-11-are-pointless-microsoft-is-letting-you-banish-them-from-the-right-click-menu

    Norton VPN ปรับปรุงครั้งใหญ่ เพิ่มความเร็วและความปลอดภัย
    ปีนี้ Norton VPN เดินหน้าอัปเกรดครั้งใหญ่ ทั้งเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ความเร็วสูง 25Gbps ในหลายเมืองทั่วโลก รวมถึงเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สำหรับ P2P และเพิ่มตัวเลือก OpenVPN ทั้ง UDP และ TCP เพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้ตามความต้องการ ไม่เพียงเท่านั้น Norton ยังผ่านการตรวจสอบจากบริษัทภายนอกเกี่ยวกับโปรโตคอล Mimic ที่พัฒนาขึ้นเอง ผลคือไม่มีความเสี่ยงด้านเทคนิคและยังรองรับการเข้ารหัสที่ต้านทานคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต ทำให้บริการนี้ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองในตลาด VPN
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/faster-speeds-more-locations-norton-vpn-caps-off-a-year-of-transformation

    Samsung Galaxy S26 อาจได้ MagSafe เวอร์ชันของตัวเอง
    ข่าวลือใหม่เผยว่า Galaxy S26 จะมาพร้อมระบบแม่เหล็กคล้าย MagSafe ของ Apple ซึ่งจะเปิดทางให้มีอุปกรณ์เสริมหลากหลาย เช่น เคสแม่เหล็ก แท่นชาร์จ และที่ยึดติดรถยนต์ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน ecosystem ของ Samsung เพราะจะทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกเสริมที่สะดวกและเป็นมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น หากเป็นจริง Galaxy S26 จะกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับอุปกรณ์เสริมได้กว้างขวางที่สุดรุ่นหนึ่ง
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-s26-might-finally-be-getting-its-version-of-magsafe-here-are-8-accessories-to-expect

    Adobe จับมือ YouTube: เพิ่มเครื่องมือใหม่ให้ครีเอเตอร์
    Adobe และ YouTube ร่วมกันเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Premiere สำหรับการสร้าง YouTube Shorts โดยตรง จุดเด่นคือมีเอฟเฟกต์พิเศษ ทรานซิชัน และเทมเพลตที่ออกแบบมาเฉพาะ ทำให้การตัดต่อและอัปโหลดคลิปสั้นง่ายขึ้นมาก นอกจากนี้ยังมีระบบติดตามเทรนด์เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์เข้าใจว่าคอนเทนต์แบบไหนกำลังมาแรง ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง Adobe และ Google ที่เคยนำโมเดล AI เข้ามาใช้ในเครื่องมือสร้างสรรค์ต่าง ๆ การอัปเดตนี้ช่วยให้การทำงานของครีเอเตอร์เร็วขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/adobe-and-youtube-love-in-delivers-new-tools-for-content-creators-and-resolves-the-biggest-issue-we-had-with-adobes-free-video-editing-app

    Amazon ทุ่มงบ 35 พันล้านดอลลาร์ลงทุน AI ในอินเดีย
    Amazon ประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่ในอินเดีย มูลค่าถึง 35 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การลงทุนนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะทำให้อินเดียเป็นศูนย์กลางด้าน AI และคลาวด์ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการจ้างงานจำนวนมาก ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ของ Amazon ในตลาดเกิดใหม่
    https://www.techradar.com/pro/amazon-and-to-commit-usd35bn-into-ai-in-india

    AMD Redstone: อัปเดตใหม่ที่อาจทำให้ Nvidia ต้องกังวล
    AMD เตรียมปล่อยอัปเดต Redstone สำหรับเทคโนโลยี FSR (FidelityFX Super Resolution) ที่ใช้ในการเรนเดอร์ภาพเกมบนพีซี การอัปเดตนี้ถูกคาดว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพภาพและประสิทธิภาพให้ดีขึ้นมาก จนกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ DLSS จาก Nvidia หาก Redstone ทำได้ตามที่คาดไว้ มันอาจเปลี่ยนสมดุลการแข่งขันในตลาดกราฟิกการ์ด และทำให้ผู้เล่นเกมมีทางเลือกที่คุ้มค่ามากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-redstone-update-could-revitalize-fsr-for-pc-games-heres-why-nvidia-should-be-worried

    SAP อุดช่องโหว่ร้ายแรง 3 จุด เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ S
    AP ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยที่ถูกจัดว่าเป็นระดับวิกฤติถึง 3 จุด ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือควบคุมระบบได้ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกค้นพบและรายงานโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัย และการแก้ไขครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันว่า SAP ให้ความสำคัญกับการปกป้องลูกค้าในระดับองค์กรอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/three-critical-vulnerabilities-patched-by-sap-heres-what-we-know

    ไต้หวันบล็อกแอป RedNote จุดกระแส VPN พุ่งแรง
    รัฐบาลไต้หวันได้สั่งบล็อกการใช้งานแอป RedNote ซึ่งเป็นแอปที่ได้รับความนิยมในบางกลุ่ม ส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงการบล็อก การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดด้านการควบคุมข้อมูลและการสื่อสารในประเทศ และทำให้ตลาด VPN เติบโตขึ้นทันทีหลังจากมาตรการถูกประกาศ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/taiwan-blocks-rednote-app-sparking-vpn-surge

    Motorola โชว์มือถือพับใหม่ท้าชน Samsung Galaxy Z Fold 7
    Motorola กำลังกลับมาสู่ตลาดมือถือพับได้อีกครั้ง โดยล่าสุดได้ปล่อยทีเซอร์มือถือรุ่นใหม่ที่ตั้งใจจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Samsung Galaxy Z Fold 7 แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม ๆ แต่การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าตลาดมือถือพับได้ยังคงร้อนแรง และ Motorola ต้องการกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Samsung ที่ครองตลาดอยู่ในตอนนี้
    https://www.techradar.com/phones/motorola-phones/motorola-just-teased-a-new-foldable-to-rival-the-samsung-galaxy-z-fold-7

    Instagram เปิดให้ผู้ใช้ควบคุมอัลกอริทึมเอง
    Instagram ประกาศฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการเห็นโพสต์แบบไหน โดยสามารถปรับการแสดงผลให้เป็นไปตามความต้องการ เช่น การจัดลำดับตามเวลา หรือการเลือกเนื้อหาที่สนใจมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อวิธีที่ผู้คนใช้แพลตฟอร์ม และอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของโซเชียลมีเดียในอนาคต เพราะเป็นการคืนอำนาจการควบคุมให้กับผู้ใช้มากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/social-media/instagram-just-gave-users-algorithm-control-and-this-could-change-the-face-of-social-media

    ทำไมระบบเทคโนโลยีที่ไม่เชื่อมต่อกันกำลังบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงาน
    หลายองค์กรลงทุนในเทคโนโลยีมากมาย แต่กลับสูญเสียเงินมหาศาลเพราะระบบที่ไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้พนักงานต้องเสียเวลามากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพียงเพื่อค้นหาข้อมูลหรือแก้ปัญหาซ้ำ ๆ สิ่งนี้ไม่เพียงลดประสิทธิภาพ แต่ยังทำให้คนเก่ง ๆ หมดไฟและลาออกไปในที่สุด ทางออกคือการสร้างระบบที่เชื่อมโยงกันอย่างชาญฉลาด มีความสามารถในการแก้ไขตัวเองอัตโนมัติ และปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจแข่งขันได้ดีขึ้นและรักษาคนเก่งไว้ได้
    https://www.techradar.com/pro/why-disconnected-tech-stacks-are-undermining-your-workforce-and-how-to-fix-it

    อังกฤษยังไม่คิดทำตามออสเตรเลียเรื่องแบนโซเชียลมีเดียเด็กอายุต่ำกว่า 16
    หลังจากออสเตรเลียประกาศห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย อังกฤษถูกถามว่าจะทำตามหรือไม่ รัฐมนตรีวัฒนธรรม Lisa Nandy ยืนยันว่า “ยังไม่มีแผน” เพราะกังวลเรื่องการบังคับใช้และผลกระทบที่อาจผลักเด็กไปใช้ช่องทางอื่น แต่ก็เปิดช่องว่า หากมาตรการนี้ได้ผล อังกฤษอาจพิจารณาในอนาคต ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงระหว่างการปกป้องเยาวชนกับสิทธิความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-has-no-plans-to-replicate-australias-social-media-ban-yet

    Google Photos เพิ่มเครื่องมือใหม่สู้ CapCut
    Google Photos เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับการตัดต่อวิดีโอ โดยเพิ่ม “template” สำเร็จรูปที่มีเพลงและข้อความพร้อม ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างคลิปสั้น ๆ สไตล์ TikTok หรือ Reels ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหน้าตา editor ให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมเพิ่มฟังก์ชันใส่เพลงและข้อความลงในคลิป ฟีเจอร์เหล่านี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้ทั้งบน Android และ iOS และจะกลายเป็นเครื่องมือหลักในการตัดต่อวิดีโอบนมือถือของ Google
    https://www.techradar.com/computing/software/google-photos-takes-on-capcut-with-5-handy-new-video-editing-tools-including-a-time-saving-template-feature

    การหลอกลวงผ่าน SMS หรือ Smishing กำลังกลายเป็นภัยต่อธุรกิจ
    จากเดิมที่เป็นเพียงการหลอกผู้บริโภค ตอนนี้ Smishing หรือการส่งข้อความ SMS หลอกลวงได้พัฒนาไปถึงระดับที่คุกคามองค์กร โดยอาชญากรใช้เครื่อง “SMS Blaster” ที่สามารถส่งข้อความปลอมจำนวนมหาศาลได้ในไม่กี่วินาที ทำให้พนักงานตกเป็นเป้าหมายและอาจเผลอให้ข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลการเงิน อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและหน่วยงานกำกับดูแลกำลังหาทางป้องกัน ทั้งการบล็อกข้อความลิงก์ต้องสงสัย และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่าง RCS ที่มีระบบเข้ารหัสและการยืนยันตัวตนที่แข็งแรงกว่า
    https://www.techradar.com/pro/smishings-evolution-from-consumer-scam-to-enterprise-threat-how-industry-is-fighting-back

    CEO มองว่าเรื่องการเรียนรู้ AI ต้องฝึกเอง
    ในโลกธุรกิจปัจจุบัน AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือผู้บริหารหลายคนกลับมองว่า การเรียนรู้และการพัฒนาทักษะด้าน AI ไม่ควรพึ่งพาองค์กรจัดฝึกอบรมให้ แต่ควรเป็นความรับผิดชอบของพนักงานเองที่จะต้องหาความรู้ ฝึกฝน และพัฒนาทักษะเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เท่ากับว่าภาพลักษณ์ของการทำงานยุคใหม่คือ “ใครปรับตัวได้เร็ว คนนั้นได้เปรียบ”
    https://www.techradar.com/pro/need-ai-training-ceos-think-you-should-train-yourself

    ชิป PCIe ตัวเดียวเปลี่ยน DDR4 ให้มีพลังเพิ่มขึ้น
    มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจมากสำหรับวงการเซิร์ฟเวอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ คืออุปกรณ์ PCIe ที่สามารถทำให้หน่วยความจำ DDR4 รุ่นเก่ากลับมามีประสิทธิภาพสูงขึ้นเกือบสามเท่า โดยใช้เทคโนโลยี CXL เพื่อเชื่อมต่อและขยายความสามารถ เท่ากับว่าบริษัทใหญ่ที่มีฮาร์ดแวร์เก่าอยู่แล้วสามารถรีไซเคิลมาใช้ใหม่ได้โดยไม่ต้องลงทุนซื้อ DDR5 ในราคาสูง ถือเป็นการแก้ปัญหาขาดแคลนหน่วยความจำได้อย่างชาญฉลาด
    https://www.techradar.com/pro/this-tiny-chip-could-singlehandedly-solve-the-ram-shortage-by-allowing-hyperscalers-to-reuse-old-ddr4-memory-via-cxl-and-it-even-comes-with-an-extraordinary-feature

    HBO Max ผู้ใช้ฟ้อง Netflix ด้วยคดีใหญ่
    เกิดคดีความที่น่าสนใจในวงการสตรีมมิ่ง เมื่อผู้ใช้ HBO Max รายหนึ่งยื่นฟ้อง Netflix ในรูปแบบคดีแบบกลุ่ม โดยอ้างว่าข้อตกลงระหว่าง Netflix และ Warner Bros จะสร้างความเสียหายต่อการแข่งขัน และอาจทำให้เกิดการผูกขาดในตลาดสตรีมมิ่ง ผู้ฟ้องร้องมองว่าตนเองและผู้ใช้รายอื่นจะได้รับผลกระทบในเชิง “การเลือกที่น้อยลงและราคาที่สูงขึ้น” เรื่องนี้จึงถูกมองว่าเป็นคดีที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าของตลาดสตรีมมิ่งในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/hbo-max-subscriber-sues-netflix-in-dramatic-class-action-lawsuit-claiming-the-warner-bros-deal-will-cause-irreparable-antitrust-injury

    TunnelBear ปรับโมเดล VPN ฟรีใหม่
    TunnelBear กำลังปรับเปลี่ยนบริการ VPN ฟรีของตัวเอง เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้แบบฟรีจะไม่สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์เองได้อีกต่อไป และฟีเจอร์ SplitBear หรือ split tunneling ก็ถูกถอดออกไปเช่นกัน ผู้ใช้ฟรียังคงได้ใช้งาน 2GB ต่อเดือน แต่จะถูกสุ่มเชื่อมต่อไปยังตำแหน่งที่ระบบเลือกให้ จุดประสงค์คือเพื่อรักษาความยั่งยืนของบริการโดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาหรือขายข้อมูล ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นอาจต้องพิจารณาอัปเกรดเป็นแบบพรีเมียม
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/tunnelbear-reshapes-its-free-vpn-model-amid-rising-infrastructure-costs

    Bluesky บังคับตรวจสอบอายุ ตามกฎหมายออสเตรเลีย
    Bluesky ต้องปรับตัวตามกฎหมายใหม่ของออสเตรเลียที่ห้ามผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีเล่นโซเชียลมีเดีย จึงเริ่มบังคับตรวจสอบอายุผู้ใช้เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับ นอกจากนี้ยังมีการกลับคำสั่งบล็อกผู้ใช้ในรัฐ Mississippi ที่เคยถูกจำกัดการเข้าถึง ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้แพลตฟอร์มยังคงดำเนินงานได้ในหลายประเทศ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/bluesky-enforces-age-checks-to-comply-with-australias-under-16s-social-media-ban-and-reverses-mississippis-block

    Proton Pass เพิ่ม CLI สำหรับนักพัฒนา
    Proton Pass ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวจัดการรหัสผ่านที่ได้รับความนิยม ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่คือ Command-Line Interface (CLI) ให้นักพัฒนาสามารถดึงข้อมูลลับจาก terminal ได้โดยตรง ทำให้สามารถสร้าง workflow อัตโนมัติที่รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังคงรักษาการเข้ารหัสแบบ end-to-end และรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม CI/CD หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่มี UI ผู้ใช้ฟรีจะไม่ได้ฟีเจอร์นี้ ต้องอัปเกรดเป็นแพ็กเกจแบบเสียเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/proton-pass-just-made-it-even-easier-for-developers-to-retrieve-secrets-and-thats-a-win-for-everyone-involved

    ญี่ปุ่นเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังมีพอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD
    ในยุคที่โน้ตบุ๊กทั่วโลกตัดพอร์ตเก่า ๆ ออกไปหมด ญี่ปุ่นกลับยังคงมีตลาดที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ ล่าสุด NEC เปิดตัว VersaPro VX-R ที่ใช้ชิป Intel Core Ultra รุ่นใหม่ แต่ยังคงใส่พอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD มาให้ เหตุผลคือหลายองค์กร โรงเรียน และสถาบันในญี่ปุ่นยังใช้โปรเจกเตอร์และระบบเก็บข้อมูลแบบเก่าอยู่ ทำให้การมีพอร์ตเหล่านี้ยังจำเป็น ตัวเครื่องรองรับ Wi-Fi 7, มีระบบความปลอดภัยครบ และยังคงเป็นโน้ตบุ๊กที่ผสมผสานเทคโนโลยีใหม่กับความต้องการดั้งเดิมของตลาดญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
    https://www.techradar.com/pro/the-only-core-ultra-265u-laptop-with-a-vga-port-and-a-dvd-writer-just-launched-and-yes-it-has-to-be-in-japan

    ช่องโหว่ React2Shell ถูกแฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้โจมตี
    หลังจากที่จีนถูกพบว่าใช้ช่องโหว่ React2Shell ในการโจมตี ตอนนี้มีรายงานว่าเกาหลีเหนือก็เข้ามาใช้ช่องโหว่นี้เช่นกัน โดยพวกเขาพัฒนา malware ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ซับซ้อนกว่าเดิม ใช้ smart contract ของ Ethereum เป็นระบบควบคุม, มีวิธีฝังตัวใน Linux ถึง 5 แบบ และยังดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อทำงานต่อ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่า “critical” ระดับ 10/10 และนักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดต React เป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันที เพราะเป็นการโจมตีที่อาจกระทบผู้พัฒนาเว็บจำนวนมหาศาล
    https://www.techradar.com/pro/security/maximum-severity-react2shell-flaw-exploited-by-north-korean-hackers-in-malware-attacks

    Google เสริมเกราะป้องกัน Chrome จากการโจมตีแบบ Prompt Injection
    Google ประกาศเพิ่มระบบป้องกันใหม่ใน Chrome เพื่อรับมือกับการโจมตีที่เรียกว่า Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในเว็บเพจหรือ extension เพื่อหลอกให้ AI ทำงานผิดพลาด ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยตรวจจับและบล็อกคำสั่งที่ไม่พึงประสงค์ก่อนที่ผู้ใช้จะโดนหลอกหรือข้อมูลจะรั่วไหล ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการทำให้เบราว์เซอร์ปลอดภัยขึ้นในยุคที่ AI ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย
    https://www.techradar.com/pro/security/google-adds-prompt-injection-defenses-to-chrome

    Teamgroup เปิดตัว PD40 SSD พกพาเล็กแต่แรงด้วย USB4
    Teamgroup เปิดตัวไดรฟ์ PD40 ที่ใช้มาตรฐาน USB4 ทำให้มีความเร็วสูงมากเมื่อเทียบกับ SSD พกพาทั่วไป จุดเด่นคือขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่ยังคงให้ความเร็วระดับสูงที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ ๆ ได้ โดยตั้งใจจะเจาะตลาดที่ SSD พกพามีราคาสูงเกินไป รุ่นนี้จึงถูกวางตัวให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความสะดวกในการพกพา
    https://www.techradar.com/pro/finally-another-external-usb4-ssd-hit-the-market-and-this-one-is-likely-to-be-far-more-affordable-than-rivals

    ศึกชิงแชมป์โลก Excel 2025
    การแข่งขัน Excel World Championship ปีนี้จัดขึ้นที่ลาสเวกัส และผู้ชนะคือ Diarmuid Early ที่ถูกขนานนามว่า “LeBron James แห่ง Excel” เขาสามารถเอาชนะ Andrew Ngai แชมป์เก่าถึงสามสมัยได้ ด้วยการทำโจทย์สุดโหด ทั้งการจัดการข้อมูลมหาศาล การสร้าง Pivot Table ซับซ้อน และแม้กระทั่งโจทย์พับโมดูล Excel แบบ Origami ผู้ชนะได้รับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์ พร้อมเข็มขัดแชมป์แบบนักมวยปล้ำ ถือเป็นการยกระดับการใช้ Excel จากเครื่องมือทำงานสู่กีฬาแข่งขันที่จริงจังและสนุกสนาน
    https://www.techradar.com/pro/battle-of-the-pivot-tables-diarmuid-the-lebron-james-of-excel-defeats-three-time-champion-andrew-ngai-to-claim-the-2025-title-and-usd5-000-cash-prize

    Beelink เปิดตัว NAS จิ๋วแต่จุใจ
    Beelink เตรียมปล่อย NAS รุ่น ME Pro ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 2 ช่องและ 4 ช่องใส่ฮาร์ดดิสก์ จุดเด่นคือรุ่น 4 ช่องสามารถรองรับความจุรวมสูงสุดถึง 120TB แต่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเพียง 4 ลิตรเท่านั้น ใช้โครงสร้างแบบ Unibody ที่ช่วยประหยัดพื้นที่ภายในและทำให้เครื่องเล็กกว่าคู่แข่งมาก แม้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเรื่อง CPU หรือระบบปฏิบัติการ แต่การออกแบบนี้สะท้อนแนวทางใหม่ของ Beelink ที่ต้องการทำให้ NAS มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงความจุสูง
    https://www.techradar.com/pro/beelink-promises-a-4-liter-4-drive-nas-that-could-hold-120tb-in-the-palm-of-your-hand

    ลังเลใจระหว่าง iPhone และ Android
    นักเขียนจาก TechRadar เล่าประสบการณ์ส่วนตัวว่าใช้ iPhone มานานกว่า 4 ปีหลังจากย้ายจาก Android แต่ตอนนี้เริ่มคิดว่าจะกลับไปใช้ Android อีกครั้ง เหตุผลมาจากการเจอปัญหากับ iOS 26 และความสนใจใน Samsung Galaxy S25 Ultra ที่อยู่ตรงหน้า เขายังเปิดโพลให้ผู้อ่านช่วยตัดสินใจว่าจะควรกลับไป Android หรือไม่ พร้อมบอกว่าถ้าเปลี่ยนจริงก็อยากลอง Pixel 10 Pro หรือรุ่นเรือธงจาก Oppo และ OnePlus ถือเป็นการเปิดใจถามความเห็นจากชุมชนผู้ใช้มือถือโดยตรง
    https://www.techradar.com/phones/iphone/should-i-abandon-my-iphone-for-a-return-to-android-tell-me-what-to-do

    Imec เผยความท้าทายของ 3D Memory-on-GPU
    งานประชุม IEDM 2025 มีการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่จาก Imec ที่วางซ้อนหน่วยความจำ HBM แบบ 3D บน GPU เพื่อเพิ่มความหนาแน่นในการประมวลผลสำหรับงาน AI แม้จะให้ประสิทธิภาพสูงกว่าแบบ 2.5D แต่การจำลองความร้อนพบว่าชิปสามารถร้อนทะลุ 140°C ซึ่งเกินขีดจำกัดการทำงาน ต้องใช้วิธีลดความเร็ว GPU ลงครึ่งหนึ่งเพื่อควบคุมอุณหภูมิ แต่ก็ทำให้การฝึก AI ช้าลงถึง 28% เทคโนโลยีนี้จึงยังเป็นดาบสองคมที่ต้องหาทางแก้เรื่องความร้อนก่อนจะนำไปใช้จริงในศูนย์ข้อมูล
    https://www.techradar.com/pro/hbm-on-gpu-set-to-power-the-next-revolution-in-ai-accelerators-and-just-to-confirm-theres-no-way-this-will-come-to-your-video-card-anytime-soon
    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251211 #TechRadar 🌊 UK เสริมความปลอดภัยสายเคเบิลใต้น้ำจากภัยรัสเซีย สหราชอาณาจักรประกาศโครงการ Atlantic Bastion เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานใต้น้ำอย่างสายเคเบิลและท่อส่งพลังงานจากการคุกคามของรัสเซีย หลังจากมีเหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลบอลติกถูกตัดหรือเสียหายหลายครั้งในช่วงสงครามรัสเซีย–ยูเครน โครงการนี้จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งเรืออัตโนมัติ เซ็นเซอร์ตรวจจับ และกองทัพเรือ โดยมีแผนเริ่มนำไปใช้จริงตั้งแต่ปี 2026 เพื่อให้การป้องกันครอบคลุมพื้นที่มหาสมุทรกว้างใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/uk-strengthens-subsea-cables-against-russian-interference 🚨 Europol ปราบเครือข่าย “Violence-as-a-Service” Europol เปิดเผยแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมที่เรียกว่า “Violence-as-a-Service” ซึ่งเป็นการจ้างคนรุ่นใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ให้ก่อเหตุรุนแรง ตั้งแต่ข่มขู่ ทรมาน ไปจนถึงฆาตกรรม เครือข่ายนี้เริ่มจากสวีเดนและแพร่ไปทั่วยุโรป จนต้องตั้งหน่วยเฉพาะกิจ GRIMM เพื่อสกัดกั้นการรับสมัครผ่านโซเชียลมีเดีย ภายใน 6 เดือนแรกสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ถึง 193 คน พร้อมยึดอาวุธและกระสุนจำนวนมาก ถือเป็นการป้องกันโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-cracks-down-on-violence-as-a-service-network 🤖 หุ่นยนต์ไล่เตะ CEO – โลกอนาคตที่เราเซ็นรับหรือยัง เรื่องราวที่กำลังเป็นไวรัลคือหุ่นยนต์ T800 ของบริษัท EngineAI ที่โชว์พลังเตะใส่ CEO ของตัวเองจนกระเด็นไปไกล ทั้งหมดนี้เป็นการพิสูจน์ว่าหุ่นยนต์ไม่ได้ถูกสร้างด้วย CGI แต่ทำได้จริง หุ่นยนต์รุ่นใหม่ไม่เพียงแค่เดินหรือโต้ตอบ แต่ยังสามารถวิ่งได้ถึง 6 mph และทำท่าต่อสู้เหมือนมนุษย์ จุดประสงค์เบื้องหลังคือการโปรโมตงาน “Robot Boxing Match” ที่จะจัดขึ้นในจีน แต่ภาพที่ออกมากลับทำให้หลายคนเริ่มกังวลว่าอนาคตหุ่นยนต์อาจไม่ใช่ผู้ช่วยในบ้าน แต่กลายเป็นคู่ต่อสู้ในสังเวียนแทน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/now-weve-got-robots-that-can-chase-and-kick-us-is-this-the-robot-revolution-we-signed-up-for 🚁 DJI FlyCart 100 – โดรนยักษ์แบกของหนัก 100 กิโลกรัม DJI เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ FlyCart 100 ที่ออกแบบมาเพื่อการขนส่งหนักโดยเฉพาะ สามารถแบกน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม และบินสูงถึง 6,000 เมตร พร้อมระบบวินซ์ยกของด้วยสายเคเบิล 30 เมตร มีแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนได้แบบ hot-swap และทนสภาพอากาศตั้งแต่ -20°C ถึง 40°C รวมถึงทนลมแรงและมีระบบหลบสิ่งกีดขวางด้วย LiDAR จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานในพื้นที่ก่อสร้างหรือภูเขาสูง แต่รูปลักษณ์ที่ดุดันทำให้หลายคนเปรียบเทียบกับเครื่องจักรในหนังไซไฟมากกว่าจะเป็นโดรนส่งพัสดุทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-terrifying-new-delivery-drone-is-its-most-powerful-so-far-the-flycart-100-can-carry-100kg-loads-and-climb-6-000m-mountains 📺 Sam Altman บน Tonight Show – AI คือพลังแห่งความเท่าเทียม Sam Altman CEO ของ OpenAI ไปออกรายการ Tonight Show กับ Jimmy Fallon เพื่อเล่าถึงการเติบโตของ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ เขาเปรียบ AI ว่าเป็น “พลังแห่งความเท่าเทียม” คล้ายกับการมาของสมาร์ทโฟนที่ทุกคนเข้าถึงได้เหมือนกัน แม้จะยอมรับว่ามีความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่เขาย้ำว่า AI กำลังช่วยให้คนทั่วไปมีเครื่องมือทรงพลังในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่เขียนเรซูเม่ไปจนถึงวางแผนการเดินทาง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/sam-altman-tells-jimmy-fallon-that-ai-is-the-equalizing-force-the-world-needs 💼 Salesforce Agentforce – เดิมพันอนาคตด้วย AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ Salesforce ประกาศเปิดตัว Agentforce 360 แพลตฟอร์มใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสร้าง AI Agent สำหรับงานบริการลูกค้าและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้รายได้ไตรมาสล่าสุดจะโตถึง 9% เป็น 10.3 พันล้านดอลลาร์ แต่หุ้นยังร่วงลงกว่า 29% ในปีนี้ การเปิดตัว Agentforce จึงถูกมองว่าเป็นการวางเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยมีตัวอย่างการใช้งานจริง เช่น ตำรวจ Thames Valley ที่ทดลองใช้ AI Assistant “Bobbi” ตอบคำถามทั่วไปแทนเจ้าหน้าที่ แม้ยังมีข้อกังวลเรื่องความผิดพลาด แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังเข้ามาอยู่ในงานที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นเรื่อย ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/salesforce-bets-on-agentic-ai-platform-following-cautiously-optimistic-earnings-report 🖥️ จอมอนิเตอร์ 1000Hz – เร็วเกินไปหรือเปล่า? ข่าวที่ทำให้สายเกมเมอร์ต้องขมวดคิ้วคือการเปิดตัวจอมอนิเตอร์ “dual-mode” ที่สามารถรีเฟรชเรตได้สูงถึง 1000Hz ฟังดูเหมือนจะเป็นการปฏิวัติ แต่หลายคนกลับมองว่ามันเกินความจำเป็น เพราะแม้แต่เกมแข่งขันระดับ eSports ส่วนใหญ่ก็ยังใช้ไม่ถึง 360Hz การกระโดดไปถึง 1000Hz จึงถูกตั้งคำถามว่าเป็นการตลาดมากกว่าความต้องการจริงของผู้เล่น อย่างไรก็ตาม มันก็สะท้อนให้เห็นว่าตลาดฮาร์ดแวร์ยังคงพยายามหาจุดขายใหม่ ๆ อยู่เสมอ 🔗 https://www.techradar.com/computing/monitors/the-worlds-first-1-000hz-dual-mode-gaming-monitors-are-coming-but-they-sound-completely-unnecessary 🚗 Lamborghini ชนะคดีโดเมน Lambo.com เรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์คือการที่ Lamborghini ฟ้องร้องเจ้าของโดเมน Lambo.com หลังจากเจ้าของพยายามขายชื่อโดเมนนี้ในราคา 75 ล้านดอลลาร์ ศาลตัดสินว่าเจ้าของกระทำโดยไม่สุจริต และสั่งให้โดเมนตกเป็นของ Lamborghini ทันที เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของชื่อแบรนด์ในโลกดิจิทัล และการที่บริษัทใหญ่พร้อมจะปกป้องทรัพย์สินทางออนไลน์ของตนอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/man-attempts-to-break-world-record-with-usd75-million-domain-name-pitch-ends-up-empty-handed-instead ⌚ นาฬิกาฟิตเนสรุ่นใหม่ – คู่แข่ง Apple Watch SE 3 ข่าวหลุดล่าสุดเผยว่ากำลังจะมีการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดรุ่นใหม่ ที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Apple Watch SE 3 จุดเด่นคือการออกแบบที่คล้ายคลึงกับรุ่นยอดนิยม แต่เพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายมากขึ้น ทำให้หลายคนคาดว่าจะเป็น “ภาคต่อ” ของนาฬิกาฟิตเนสที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/forget-the-apple-watch-se-3-it-looks-like-a-big-sequel-to-our-best-ever-cheap-fitness-watch-has-just-leaked 🖥️ Windows 11 ปรับเมนูคลิกขวา ลบ AI Actions ที่ไม่ใช้ Microsoft กำลังทดสอบการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่ช่วยลดความรกใน Windows 11 โดยหากผู้ใช้ปิดการทำงานของ AI Actions ทั้งหมด เมนูคลิกขวาใน File Explorer จะไม่แสดงโฟลเดอร์ว่าง ๆ ของ AI อีกต่อไป ก่อนหน้านี้แม้ปิดแล้วก็ยังเห็นเมนูแต่ไม่มีฟังก์ชัน ซึ่งทำให้หลายคนงง การแก้ไขนี้จึงเป็นเหมือนการจัดระเบียบให้ใช้งานง่ายขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทำให้ Windows 11 ดูสะอาดตาและตรงไปตรงมา 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/think-ai-actions-in-windows-11-are-pointless-microsoft-is-letting-you-banish-them-from-the-right-click-menu 🌐 Norton VPN ปรับปรุงครั้งใหญ่ เพิ่มความเร็วและความปลอดภัย ปีนี้ Norton VPN เดินหน้าอัปเกรดครั้งใหญ่ ทั้งเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ความเร็วสูง 25Gbps ในหลายเมืองทั่วโลก รวมถึงเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สำหรับ P2P และเพิ่มตัวเลือก OpenVPN ทั้ง UDP และ TCP เพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้ตามความต้องการ ไม่เพียงเท่านั้น Norton ยังผ่านการตรวจสอบจากบริษัทภายนอกเกี่ยวกับโปรโตคอล Mimic ที่พัฒนาขึ้นเอง ผลคือไม่มีความเสี่ยงด้านเทคนิคและยังรองรับการเข้ารหัสที่ต้านทานคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต ทำให้บริการนี้ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองในตลาด VPN 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/faster-speeds-more-locations-norton-vpn-caps-off-a-year-of-transformation 📱 Samsung Galaxy S26 อาจได้ MagSafe เวอร์ชันของตัวเอง ข่าวลือใหม่เผยว่า Galaxy S26 จะมาพร้อมระบบแม่เหล็กคล้าย MagSafe ของ Apple ซึ่งจะเปิดทางให้มีอุปกรณ์เสริมหลากหลาย เช่น เคสแม่เหล็ก แท่นชาร์จ และที่ยึดติดรถยนต์ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน ecosystem ของ Samsung เพราะจะทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกเสริมที่สะดวกและเป็นมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น หากเป็นจริง Galaxy S26 จะกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับอุปกรณ์เสริมได้กว้างขวางที่สุดรุ่นหนึ่ง 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-s26-might-finally-be-getting-its-version-of-magsafe-here-are-8-accessories-to-expect 🎬 Adobe จับมือ YouTube: เพิ่มเครื่องมือใหม่ให้ครีเอเตอร์ Adobe และ YouTube ร่วมกันเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Premiere สำหรับการสร้าง YouTube Shorts โดยตรง จุดเด่นคือมีเอฟเฟกต์พิเศษ ทรานซิชัน และเทมเพลตที่ออกแบบมาเฉพาะ ทำให้การตัดต่อและอัปโหลดคลิปสั้นง่ายขึ้นมาก นอกจากนี้ยังมีระบบติดตามเทรนด์เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์เข้าใจว่าคอนเทนต์แบบไหนกำลังมาแรง ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง Adobe และ Google ที่เคยนำโมเดล AI เข้ามาใช้ในเครื่องมือสร้างสรรค์ต่าง ๆ การอัปเดตนี้ช่วยให้การทำงานของครีเอเตอร์เร็วขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/adobe-and-youtube-love-in-delivers-new-tools-for-content-creators-and-resolves-the-biggest-issue-we-had-with-adobes-free-video-editing-app 💰 Amazon ทุ่มงบ 35 พันล้านดอลลาร์ลงทุน AI ในอินเดีย Amazon ประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่ในอินเดีย มูลค่าถึง 35 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การลงทุนนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะทำให้อินเดียเป็นศูนย์กลางด้าน AI และคลาวด์ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการจ้างงานจำนวนมาก ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ของ Amazon ในตลาดเกิดใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/amazon-and-to-commit-usd35bn-into-ai-in-india 🎮 AMD Redstone: อัปเดตใหม่ที่อาจทำให้ Nvidia ต้องกังวล AMD เตรียมปล่อยอัปเดต Redstone สำหรับเทคโนโลยี FSR (FidelityFX Super Resolution) ที่ใช้ในการเรนเดอร์ภาพเกมบนพีซี การอัปเดตนี้ถูกคาดว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพภาพและประสิทธิภาพให้ดีขึ้นมาก จนกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ DLSS จาก Nvidia หาก Redstone ทำได้ตามที่คาดไว้ มันอาจเปลี่ยนสมดุลการแข่งขันในตลาดกราฟิกการ์ด และทำให้ผู้เล่นเกมมีทางเลือกที่คุ้มค่ามากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-redstone-update-could-revitalize-fsr-for-pc-games-heres-why-nvidia-should-be-worried 🛡️ SAP อุดช่องโหว่ร้ายแรง 3 จุด เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ S AP ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยที่ถูกจัดว่าเป็นระดับวิกฤติถึง 3 จุด ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือควบคุมระบบได้ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกค้นพบและรายงานโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัย และการแก้ไขครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันว่า SAP ให้ความสำคัญกับการปกป้องลูกค้าในระดับองค์กรอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/three-critical-vulnerabilities-patched-by-sap-heres-what-we-know 🌐 ไต้หวันบล็อกแอป RedNote จุดกระแส VPN พุ่งแรง รัฐบาลไต้หวันได้สั่งบล็อกการใช้งานแอป RedNote ซึ่งเป็นแอปที่ได้รับความนิยมในบางกลุ่ม ส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงการบล็อก การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดด้านการควบคุมข้อมูลและการสื่อสารในประเทศ และทำให้ตลาด VPN เติบโตขึ้นทันทีหลังจากมาตรการถูกประกาศ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/taiwan-blocks-rednote-app-sparking-vpn-surge 📱 Motorola โชว์มือถือพับใหม่ท้าชน Samsung Galaxy Z Fold 7 Motorola กำลังกลับมาสู่ตลาดมือถือพับได้อีกครั้ง โดยล่าสุดได้ปล่อยทีเซอร์มือถือรุ่นใหม่ที่ตั้งใจจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Samsung Galaxy Z Fold 7 แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม ๆ แต่การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าตลาดมือถือพับได้ยังคงร้อนแรง และ Motorola ต้องการกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Samsung ที่ครองตลาดอยู่ในตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/phones/motorola-phones/motorola-just-teased-a-new-foldable-to-rival-the-samsung-galaxy-z-fold-7 📸 Instagram เปิดให้ผู้ใช้ควบคุมอัลกอริทึมเอง Instagram ประกาศฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการเห็นโพสต์แบบไหน โดยสามารถปรับการแสดงผลให้เป็นไปตามความต้องการ เช่น การจัดลำดับตามเวลา หรือการเลือกเนื้อหาที่สนใจมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อวิธีที่ผู้คนใช้แพลตฟอร์ม และอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของโซเชียลมีเดียในอนาคต เพราะเป็นการคืนอำนาจการควบคุมให้กับผู้ใช้มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/social-media/instagram-just-gave-users-algorithm-control-and-this-could-change-the-face-of-social-media 🖥️ ทำไมระบบเทคโนโลยีที่ไม่เชื่อมต่อกันกำลังบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงาน หลายองค์กรลงทุนในเทคโนโลยีมากมาย แต่กลับสูญเสียเงินมหาศาลเพราะระบบที่ไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้พนักงานต้องเสียเวลามากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพียงเพื่อค้นหาข้อมูลหรือแก้ปัญหาซ้ำ ๆ สิ่งนี้ไม่เพียงลดประสิทธิภาพ แต่ยังทำให้คนเก่ง ๆ หมดไฟและลาออกไปในที่สุด ทางออกคือการสร้างระบบที่เชื่อมโยงกันอย่างชาญฉลาด มีความสามารถในการแก้ไขตัวเองอัตโนมัติ และปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจแข่งขันได้ดีขึ้นและรักษาคนเก่งไว้ได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-disconnected-tech-stacks-are-undermining-your-workforce-and-how-to-fix-it 🇬🇧 อังกฤษยังไม่คิดทำตามออสเตรเลียเรื่องแบนโซเชียลมีเดียเด็กอายุต่ำกว่า 16 หลังจากออสเตรเลียประกาศห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย อังกฤษถูกถามว่าจะทำตามหรือไม่ รัฐมนตรีวัฒนธรรม Lisa Nandy ยืนยันว่า “ยังไม่มีแผน” เพราะกังวลเรื่องการบังคับใช้และผลกระทบที่อาจผลักเด็กไปใช้ช่องทางอื่น แต่ก็เปิดช่องว่า หากมาตรการนี้ได้ผล อังกฤษอาจพิจารณาในอนาคต ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงระหว่างการปกป้องเยาวชนกับสิทธิความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-has-no-plans-to-replicate-australias-social-media-ban-yet 🎬 Google Photos เพิ่มเครื่องมือใหม่สู้ CapCut Google Photos เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับการตัดต่อวิดีโอ โดยเพิ่ม “template” สำเร็จรูปที่มีเพลงและข้อความพร้อม ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างคลิปสั้น ๆ สไตล์ TikTok หรือ Reels ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหน้าตา editor ให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมเพิ่มฟังก์ชันใส่เพลงและข้อความลงในคลิป ฟีเจอร์เหล่านี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้ทั้งบน Android และ iOS และจะกลายเป็นเครื่องมือหลักในการตัดต่อวิดีโอบนมือถือของ Google 🔗 https://www.techradar.com/computing/software/google-photos-takes-on-capcut-with-5-handy-new-video-editing-tools-including-a-time-saving-template-feature 📱 การหลอกลวงผ่าน SMS หรือ Smishing กำลังกลายเป็นภัยต่อธุรกิจ จากเดิมที่เป็นเพียงการหลอกผู้บริโภค ตอนนี้ Smishing หรือการส่งข้อความ SMS หลอกลวงได้พัฒนาไปถึงระดับที่คุกคามองค์กร โดยอาชญากรใช้เครื่อง “SMS Blaster” ที่สามารถส่งข้อความปลอมจำนวนมหาศาลได้ในไม่กี่วินาที ทำให้พนักงานตกเป็นเป้าหมายและอาจเผลอให้ข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลการเงิน อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและหน่วยงานกำกับดูแลกำลังหาทางป้องกัน ทั้งการบล็อกข้อความลิงก์ต้องสงสัย และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่าง RCS ที่มีระบบเข้ารหัสและการยืนยันตัวตนที่แข็งแรงกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/smishings-evolution-from-consumer-scam-to-enterprise-threat-how-industry-is-fighting-back 📚 CEO มองว่าเรื่องการเรียนรู้ AI ต้องฝึกเอง ในโลกธุรกิจปัจจุบัน AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือผู้บริหารหลายคนกลับมองว่า การเรียนรู้และการพัฒนาทักษะด้าน AI ไม่ควรพึ่งพาองค์กรจัดฝึกอบรมให้ แต่ควรเป็นความรับผิดชอบของพนักงานเองที่จะต้องหาความรู้ ฝึกฝน และพัฒนาทักษะเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เท่ากับว่าภาพลักษณ์ของการทำงานยุคใหม่คือ “ใครปรับตัวได้เร็ว คนนั้นได้เปรียบ” 🔗 https://www.techradar.com/pro/need-ai-training-ceos-think-you-should-train-yourself 💾 ชิป PCIe ตัวเดียวเปลี่ยน DDR4 ให้มีพลังเพิ่มขึ้น มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจมากสำหรับวงการเซิร์ฟเวอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ คืออุปกรณ์ PCIe ที่สามารถทำให้หน่วยความจำ DDR4 รุ่นเก่ากลับมามีประสิทธิภาพสูงขึ้นเกือบสามเท่า โดยใช้เทคโนโลยี CXL เพื่อเชื่อมต่อและขยายความสามารถ เท่ากับว่าบริษัทใหญ่ที่มีฮาร์ดแวร์เก่าอยู่แล้วสามารถรีไซเคิลมาใช้ใหม่ได้โดยไม่ต้องลงทุนซื้อ DDR5 ในราคาสูง ถือเป็นการแก้ปัญหาขาดแคลนหน่วยความจำได้อย่างชาญฉลาด 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-tiny-chip-could-singlehandedly-solve-the-ram-shortage-by-allowing-hyperscalers-to-reuse-old-ddr4-memory-via-cxl-and-it-even-comes-with-an-extraordinary-feature ⚖️ HBO Max ผู้ใช้ฟ้อง Netflix ด้วยคดีใหญ่ เกิดคดีความที่น่าสนใจในวงการสตรีมมิ่ง เมื่อผู้ใช้ HBO Max รายหนึ่งยื่นฟ้อง Netflix ในรูปแบบคดีแบบกลุ่ม โดยอ้างว่าข้อตกลงระหว่าง Netflix และ Warner Bros จะสร้างความเสียหายต่อการแข่งขัน และอาจทำให้เกิดการผูกขาดในตลาดสตรีมมิ่ง ผู้ฟ้องร้องมองว่าตนเองและผู้ใช้รายอื่นจะได้รับผลกระทบในเชิง “การเลือกที่น้อยลงและราคาที่สูงขึ้น” เรื่องนี้จึงถูกมองว่าเป็นคดีที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าของตลาดสตรีมมิ่งในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/hbo-max-subscriber-sues-netflix-in-dramatic-class-action-lawsuit-claiming-the-warner-bros-deal-will-cause-irreparable-antitrust-injury 🛡️ TunnelBear ปรับโมเดล VPN ฟรีใหม่ TunnelBear กำลังปรับเปลี่ยนบริการ VPN ฟรีของตัวเอง เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้แบบฟรีจะไม่สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์เองได้อีกต่อไป และฟีเจอร์ SplitBear หรือ split tunneling ก็ถูกถอดออกไปเช่นกัน ผู้ใช้ฟรียังคงได้ใช้งาน 2GB ต่อเดือน แต่จะถูกสุ่มเชื่อมต่อไปยังตำแหน่งที่ระบบเลือกให้ จุดประสงค์คือเพื่อรักษาความยั่งยืนของบริการโดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาหรือขายข้อมูล ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นอาจต้องพิจารณาอัปเกรดเป็นแบบพรีเมียม 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/tunnelbear-reshapes-its-free-vpn-model-amid-rising-infrastructure-costs 🚫 Bluesky บังคับตรวจสอบอายุ ตามกฎหมายออสเตรเลีย Bluesky ต้องปรับตัวตามกฎหมายใหม่ของออสเตรเลียที่ห้ามผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีเล่นโซเชียลมีเดีย จึงเริ่มบังคับตรวจสอบอายุผู้ใช้เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับ นอกจากนี้ยังมีการกลับคำสั่งบล็อกผู้ใช้ในรัฐ Mississippi ที่เคยถูกจำกัดการเข้าถึง ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้แพลตฟอร์มยังคงดำเนินงานได้ในหลายประเทศ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/bluesky-enforces-age-checks-to-comply-with-australias-under-16s-social-media-ban-and-reverses-mississippis-block 🔐 Proton Pass เพิ่ม CLI สำหรับนักพัฒนา Proton Pass ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวจัดการรหัสผ่านที่ได้รับความนิยม ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่คือ Command-Line Interface (CLI) ให้นักพัฒนาสามารถดึงข้อมูลลับจาก terminal ได้โดยตรง ทำให้สามารถสร้าง workflow อัตโนมัติที่รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังคงรักษาการเข้ารหัสแบบ end-to-end และรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม CI/CD หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่มี UI ผู้ใช้ฟรีจะไม่ได้ฟีเจอร์นี้ ต้องอัปเกรดเป็นแพ็กเกจแบบเสียเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/proton-pass-just-made-it-even-easier-for-developers-to-retrieve-secrets-and-thats-a-win-for-everyone-involved 💻 ญี่ปุ่นเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังมีพอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD ในยุคที่โน้ตบุ๊กทั่วโลกตัดพอร์ตเก่า ๆ ออกไปหมด ญี่ปุ่นกลับยังคงมีตลาดที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ ล่าสุด NEC เปิดตัว VersaPro VX-R ที่ใช้ชิป Intel Core Ultra รุ่นใหม่ แต่ยังคงใส่พอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD มาให้ เหตุผลคือหลายองค์กร โรงเรียน และสถาบันในญี่ปุ่นยังใช้โปรเจกเตอร์และระบบเก็บข้อมูลแบบเก่าอยู่ ทำให้การมีพอร์ตเหล่านี้ยังจำเป็น ตัวเครื่องรองรับ Wi-Fi 7, มีระบบความปลอดภัยครบ และยังคงเป็นโน้ตบุ๊กที่ผสมผสานเทคโนโลยีใหม่กับความต้องการดั้งเดิมของตลาดญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-only-core-ultra-265u-laptop-with-a-vga-port-and-a-dvd-writer-just-launched-and-yes-it-has-to-be-in-japan 🚨 ช่องโหว่ React2Shell ถูกแฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้โจมตี หลังจากที่จีนถูกพบว่าใช้ช่องโหว่ React2Shell ในการโจมตี ตอนนี้มีรายงานว่าเกาหลีเหนือก็เข้ามาใช้ช่องโหว่นี้เช่นกัน โดยพวกเขาพัฒนา malware ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ซับซ้อนกว่าเดิม ใช้ smart contract ของ Ethereum เป็นระบบควบคุม, มีวิธีฝังตัวใน Linux ถึง 5 แบบ และยังดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อทำงานต่อ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่า “critical” ระดับ 10/10 และนักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดต React เป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันที เพราะเป็นการโจมตีที่อาจกระทบผู้พัฒนาเว็บจำนวนมหาศาล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/maximum-severity-react2shell-flaw-exploited-by-north-korean-hackers-in-malware-attacks 🛡️ Google เสริมเกราะป้องกัน Chrome จากการโจมตีแบบ Prompt Injection Google ประกาศเพิ่มระบบป้องกันใหม่ใน Chrome เพื่อรับมือกับการโจมตีที่เรียกว่า Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในเว็บเพจหรือ extension เพื่อหลอกให้ AI ทำงานผิดพลาด ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยตรวจจับและบล็อกคำสั่งที่ไม่พึงประสงค์ก่อนที่ผู้ใช้จะโดนหลอกหรือข้อมูลจะรั่วไหล ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการทำให้เบราว์เซอร์ปลอดภัยขึ้นในยุคที่ AI ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/google-adds-prompt-injection-defenses-to-chrome 💾 Teamgroup เปิดตัว PD40 SSD พกพาเล็กแต่แรงด้วย USB4 Teamgroup เปิดตัวไดรฟ์ PD40 ที่ใช้มาตรฐาน USB4 ทำให้มีความเร็วสูงมากเมื่อเทียบกับ SSD พกพาทั่วไป จุดเด่นคือขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่ยังคงให้ความเร็วระดับสูงที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ ๆ ได้ โดยตั้งใจจะเจาะตลาดที่ SSD พกพามีราคาสูงเกินไป รุ่นนี้จึงถูกวางตัวให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความสะดวกในการพกพา 🔗 https://www.techradar.com/pro/finally-another-external-usb4-ssd-hit-the-market-and-this-one-is-likely-to-be-far-more-affordable-than-rivals 📊 ศึกชิงแชมป์โลก Excel 2025 การแข่งขัน Excel World Championship ปีนี้จัดขึ้นที่ลาสเวกัส และผู้ชนะคือ Diarmuid Early ที่ถูกขนานนามว่า “LeBron James แห่ง Excel” เขาสามารถเอาชนะ Andrew Ngai แชมป์เก่าถึงสามสมัยได้ ด้วยการทำโจทย์สุดโหด ทั้งการจัดการข้อมูลมหาศาล การสร้าง Pivot Table ซับซ้อน และแม้กระทั่งโจทย์พับโมดูล Excel แบบ Origami ผู้ชนะได้รับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์ พร้อมเข็มขัดแชมป์แบบนักมวยปล้ำ ถือเป็นการยกระดับการใช้ Excel จากเครื่องมือทำงานสู่กีฬาแข่งขันที่จริงจังและสนุกสนาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/battle-of-the-pivot-tables-diarmuid-the-lebron-james-of-excel-defeats-three-time-champion-andrew-ngai-to-claim-the-2025-title-and-usd5-000-cash-prize 💾 Beelink เปิดตัว NAS จิ๋วแต่จุใจ Beelink เตรียมปล่อย NAS รุ่น ME Pro ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 2 ช่องและ 4 ช่องใส่ฮาร์ดดิสก์ จุดเด่นคือรุ่น 4 ช่องสามารถรองรับความจุรวมสูงสุดถึง 120TB แต่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเพียง 4 ลิตรเท่านั้น ใช้โครงสร้างแบบ Unibody ที่ช่วยประหยัดพื้นที่ภายในและทำให้เครื่องเล็กกว่าคู่แข่งมาก แม้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเรื่อง CPU หรือระบบปฏิบัติการ แต่การออกแบบนี้สะท้อนแนวทางใหม่ของ Beelink ที่ต้องการทำให้ NAS มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงความจุสูง 🔗 https://www.techradar.com/pro/beelink-promises-a-4-liter-4-drive-nas-that-could-hold-120tb-in-the-palm-of-your-hand 📱 ลังเลใจระหว่าง iPhone และ Android นักเขียนจาก TechRadar เล่าประสบการณ์ส่วนตัวว่าใช้ iPhone มานานกว่า 4 ปีหลังจากย้ายจาก Android แต่ตอนนี้เริ่มคิดว่าจะกลับไปใช้ Android อีกครั้ง เหตุผลมาจากการเจอปัญหากับ iOS 26 และความสนใจใน Samsung Galaxy S25 Ultra ที่อยู่ตรงหน้า เขายังเปิดโพลให้ผู้อ่านช่วยตัดสินใจว่าจะควรกลับไป Android หรือไม่ พร้อมบอกว่าถ้าเปลี่ยนจริงก็อยากลอง Pixel 10 Pro หรือรุ่นเรือธงจาก Oppo และ OnePlus ถือเป็นการเปิดใจถามความเห็นจากชุมชนผู้ใช้มือถือโดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/should-i-abandon-my-iphone-for-a-return-to-android-tell-me-what-to-do 🔥 Imec เผยความท้าทายของ 3D Memory-on-GPU งานประชุม IEDM 2025 มีการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่จาก Imec ที่วางซ้อนหน่วยความจำ HBM แบบ 3D บน GPU เพื่อเพิ่มความหนาแน่นในการประมวลผลสำหรับงาน AI แม้จะให้ประสิทธิภาพสูงกว่าแบบ 2.5D แต่การจำลองความร้อนพบว่าชิปสามารถร้อนทะลุ 140°C ซึ่งเกินขีดจำกัดการทำงาน ต้องใช้วิธีลดความเร็ว GPU ลงครึ่งหนึ่งเพื่อควบคุมอุณหภูมิ แต่ก็ทำให้การฝึก AI ช้าลงถึง 28% เทคโนโลยีนี้จึงยังเป็นดาบสองคมที่ต้องหาทางแก้เรื่องความร้อนก่อนจะนำไปใช้จริงในศูนย์ข้อมูล 🔗 https://www.techradar.com/pro/hbm-on-gpu-set-to-power-the-next-revolution-in-ai-accelerators-and-just-to-confirm-theres-no-way-this-will-come-to-your-video-card-anytime-soon
    0 Comments 0 Shares 204 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251211 #securityonline

    Makop Ransomware กลับมาอีกครั้งพร้อมกลยุทธ์ใหม่
    ภัยคุกคามที่เคยคุ้นชื่อ Makop ransomware ได้พัฒนาวิธีการโจมตีให้ซับซ้อนขึ้น แม้จะยังใช้ช่องโหว่เดิมคือการเจาะผ่านพอร์ต RDP ที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ครั้งนี้พวกเขาเสริมเครื่องมืออย่าง GuLoader เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เพิ่มเติม และยังใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกันไวรัสในระดับ kernel ได้โดยตรง การโจมตีส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่องค์กรในอินเดีย แต่ก็พบในหลายประเทศอื่นด้วย จุดสำคัญคือ แม้จะเป็นการโจมตีที่ดู “ง่าย” แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความเสียหายรุนแรงต่อองค์กรที่ละเลยการอัปเดตและการตั้งค่าความปลอดภัย
    https://securityonline.info/makop-ransomware-evolves-guloader-and-byovd-edr-killers-used-to-attack-rdp-exposed-networks

    DeadLock Ransomware ใช้ช่องโหว่ไดรเวอร์ Baidu เจาะระบบ
    กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่หวังผลทางการเงินได้ปล่อยแรนซัมแวร์ชื่อ DeadLock โดยใช้เทคนิค BYOVD เช่นกัน คราวนี้พวกเขาอาศัยไดรเวอร์จาก Baidu Antivirus ที่มีช่องโหว่ ทำให้สามารถสั่งงานในระดับ kernel และปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันได้ทันที หลังจากนั้นยังใช้ PowerShell script ปิดบริการสำคัญ เช่น SQL Server และลบ shadow copies เพื่อกันไม่ให้เหยื่อกู้คืนข้อมูลได้ ตัวแรนซัมแวร์ถูกเขียนขึ้นใหม่ด้วย C++ และใช้วิธีเข้ารหัสเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ใช้วิธี “double extortion” แต่ให้เหยื่อติดต่อผ่านแอป Session เพื่อเจรจาจ่ายค่าไถ่เป็น Bitcoin หรือ Monero
    https://securityonline.info/deadlock-ransomware-deploys-byovd-edr-killer-by-exploiting-baidu-driver-for-kernel-level-defense-bypass

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน PCIe 6.0 เสี่ยงข้อมูลเสียหาย
    มาตรฐาน PCIe 6.0 ที่ใช้ในการส่งข้อมูลความเร็วสูงถูกพบว่ามีช่องโหว่ในกลไก IDE (Integrity and Data Encryption) ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์เข้าถึงฮาร์ดแวร์สามารถฉีดข้อมูลที่ผิดพลาดหรือเก่าเข้ามาในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-9612, 9613 และ 9614 แม้จะไม่สามารถโจมตีจากระยะไกล แต่ก็เป็นภัยใหญ่สำหรับศูนย์ข้อมูลหรือระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตอนนี้ PCI-SIG ได้ออก Draft Engineering Change Notice เพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ผลิตอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้โดยเร็ว
    https://securityonline.info/critical-pcie-6-0-flaws-risk-secure-data-integrity-via-stale-data-injection-in-ide-mechanism

    EtherRAT Malware ใช้บล็อกเชน Ethereum ซ่อนร่องรอย
    หลังจากเกิดช่องโหว่ React2Shell เพียงไม่กี่วัน นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ใช้บล็อกเชน Ethereum เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้ควบคุม โดยอาศัย smart contracts เพื่อรับคำสั่ง ทำให้แทบไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะเครือข่าย Ethereum เป็นระบบกระจายศูนย์ นอกจากนี้ EtherRAT ยังมีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือที่เคยใช้โดยกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ และถูกออกแบบให้ฝังตัวแน่นหนาในระบบ Linux ด้วยหลายวิธีการ persistence พร้อมทั้งดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อกลมกลืนกับการทำงานปกติ ถือเป็นการยกระดับการโจมตีจากช่องโหว่ React2Shell ไปสู่ระดับ APT ที่อันตรายยิ่งขึ้น
    https://securityonline.info/etherrat-malware-hijacks-ethereum-blockchain-for-covert-c2-after-react2shell-exploit

    Slack CEO ย้ายไปร่วมทีม OpenAI เป็น CRO
    OpenAI กำลังเร่งหาทางสร้างรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการประมวลผล AI ล่าสุดได้ดึง Denise Dresser ซีอีโอของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer (CRO) เพื่อดูแลกลยุทธ์รายได้และการขยายตลาดองค์กร การเข้ามาของเธอสะท้อนให้เห็นว่า OpenAI กำลังใช้แนวทางแบบ Silicon Valley อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายฐานผู้ใช้และการหาช่องทางทำเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขาย subscription หรือแม้กระทั่งโฆษณาใน ChatGPT อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการทำให้รายได้เติบโตทันกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วจากการสร้างและดูแลโครงสร้างพื้นฐาน AI
    https://securityonline.info/slack-ceo-denise-dresser-joins-openai-as-cro-to-solve-the-profitability-puzzle

    Jenkins เจอช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงถูกโจมตี DoS และ XSS
    ทีมพัฒนา Jenkins ออกประกาศเตือนครั้งใหญ่ หลังพบช่องโหว่หลายรายการที่อาจทำให้ระบบ CI/CD ถูกโจมตีจนหยุดทำงาน หรือโดนฝังสคริปต์อันตราย (XSS) โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-67635 ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ส่งคำสั่งผ่าน HTTP CLI โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทรัพยากรถูกใช้จนล่ม อีกช่องโหว่ CVE-2025-67641 ใน Coverage Plugin ก็เปิดทางให้ผู้โจมตีฝังโค้ด JavaScript ลงในรายงาน เมื่อผู้ดูแลเปิดดู รายงานนั้นจะรันสคริปต์ทันที เสี่ยงต่อการถูกขโมย session และข้อมูลสำคัญ แม้จะมีการอัปเดตแก้ไขหลายจุด เช่น การเข้ารหัส token และการปิดช่องโหว่การเห็นรหัสผ่าน แต่ยังมีบางปลั๊กอินที่ยังไม่มีแพตช์ออกมา ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดต Jenkins และปลั๊กอินที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสียหาย
    https://securityonline.info/high-severity-jenkins-flaws-risk-unauthenticated-dos-via-http-cli-and-xss-via-coverage-reports

    Gogs Zero-Day โดนเจาะกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ ผ่าน Symlink Path Traversal
    นักวิจัยจาก Wiz พบช่องโหว่ใหม่ใน Gogs (CVE-2025-8110) ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเขียนไฟล์อันตรายลงในระบบได้ง่าย ๆ ผ่านการใช้ symlink โดยช่องโหว่นี้เป็นการเลี่ยงแพตช์เก่าที่เคยแก้ไขไปแล้ว ทำให้กว่า 700 เซิร์ฟเวอร์จาก 1,400 ที่ตรวจสอบถูกเจาะสำเร็จ การโจมตีมีลักษณะเป็นแคมเปญ “smash-and-grab” คือเข้ามาเร็ว ใช้ symlink เขียนทับไฟล์สำคัญ เช่น .git/config แล้วรันคำสั่งอันตราย จากนั้นติดตั้ง payload ที่ใช้ Supershell เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์ออกมา ผู้ดูแลระบบจึงถูกแนะนำให้ปิดการสมัครสมาชิกสาธารณะ และจำกัดการเข้าถึงระบบทันที
    https://securityonline.info/gogs-zero-day-cve-2025-8110-risks-rce-for-700-servers-via-symlink-path-traversal-bypass

    GitLab พบช่องโหว่ XSS เสี่ยงโดนขโมย session ผ่าน Wiki
    GitLab ออกอัปเดตด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-12716 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 8.7) โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ Wiki ที่ผู้ใช้สามารถสร้างเพจได้ หากมีการฝังโค้ดอันตรายลงไป เมื่อผู้ใช้รายอื่นเปิดดู เพจนั้นจะรันคำสั่งแทนผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เสี่ยงต่อการถูกยึด session และสั่งงานแทนเจ้าของบัญชี นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น การ inject HTML ในรายงานช่องโหว่ และการเปิดเผยข้อมูลโครงการที่ควรเป็น private ผ่าน error message และ GraphQL query GitLab.com และ GitLab Dedicated ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ที่ใช้ self-managed instance ต้องรีบอัปเดตเวอร์ชัน 18.6.2, 18.5.4 หรือ 18.4.6 เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้
    https://securityonline.info/high-severity-gitlab-xss-flaw-cve-2025-12716-risks-session-hijack-via-malicious-wiki-pages

    Facebook ปรับโฉมใหม่ แต่ Instagram ใช้ AI ดึง SEO
    มีรายงานว่า Facebook ได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Instagram ถูกเปิดโปงว่าใช้ AI เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ดึง SEO ให้ติดอันดับการค้นหา คล้ายกับการทำ content farm โดยไม่ได้บอกผู้ใช้ตรง ๆ เรื่องนี้จึงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและจริยธรรมของ Meta ที่อาจใช้ AI เพื่อผลักดันการเข้าถึงโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ
    https://securityonline.info/facebook-gets-new-look-but-instagram-secretly-uses-ai-for-seo-bait

    SpaceX เตรียม IPO มูลค่าเป้าหมายทะลุ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
    SpaceX กำลังเดินหน้าแผน IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำลายสถิติของ Saudi Aramco ที่เคยทำไว้ในปี 2019 ที่ 29 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้ตลาดตะลึงคือการตั้งเป้ามูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แม้รายได้ของ SpaceX ในปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่า Tesla ถึง 6 เท่า แต่ความคาดหวังอยู่ที่อนาคตของ Starlink และ Starship รวมถึงแผนสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศเพื่อรองรับ AI และการสื่อสารผ่านดาวเทียม Musk เชื่อว่าการรวมพลังของ Starlink และ Starship จะขยายตลาดได้มหาศาล และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดของ SpaceX
    https://securityonline.info/spacex-ipo-targeting-a-1-5-trillion-valuation-to-fund-space-data-centers

    จีนเปิดปฏิบัติการไซเบอร์ WARP PANDA ใช้ BRICKSTORM เจาะ VMware และ Azure
    มีการเปิดโปงแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์จากจีนชื่อ WARP PANDA พวกเขาไม่ได้โจมตีแบบธรรมดา แต่เลือกเจาะเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่สำคัญอย่าง VMware vCenter และ ESXi รวมถึงระบบคลาวด์ Microsoft Azure จุดเด่นคือการใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้นเองชื่อ BRICKSTORM ซึ่งเป็น backdoor ที่แฝงตัวเหมือนโปรเซสของระบบ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเสริมอย่าง Junction และ GuestConduit ที่ช่วยควบคุมการสื่อสารในระบบเสมือนจริงได้อย่างแนบเนียน สิ่งที่น่ากังวลคือพวกเขาสามารถอยู่ในระบบได้นานเป็นปีโดยไม่ถูกพบ และยังขยายการโจมตีไปสู่บริการ Microsoft 365 เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงจูงใจเชิงรัฐมากกว่าการเงิน เพราะเป้าหมายคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน
    https://securityonline.info/chinas-warp-panda-apt-deploys-brickstorm-backdoor-to-hijack-vmware-vcenter-esxi-and-azure-cloud

    ช่องโหว่ร้ายแรง TOTOLINK AX1800 เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึง root โดยไม่ต้องล็อกอิน
    มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ที่ใช้กันแพร่หลายในบ้านและธุรกิจขนาดเล็ก ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวเพื่อเปิดบริการ Telnet โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน เมื่อ Telnet ถูกเปิดแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผลกระทบคือสามารถดักจับข้อมูล เปลี่ยนเส้นทาง DNS หรือใช้เป็นฐานโจมตีอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ที่น่ากังวลคือยังไม่มีแพตช์แก้ไขจากผู้ผลิต ทำให้ผู้ใช้ต้องป้องกันตัวเองด้วยการปิดการเข้าถึงจาก WAN และตรวจสอบการเปิดใช้งาน Telnet อย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce

    FBI และ CISA เตือนกลุ่มแฮกเกอร์สายโปรรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานผ่าน VNC ที่ไม่ปลอดภัย
    หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ รวมถึง FBI และ CISA ออกคำเตือนว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียกำลังโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ระบบน้ำ พลังงาน และอาหาร โดยใช้วิธีง่าย ๆ คือค้นหา Human-Machine Interfaces (HMI) ที่เชื่อมต่อผ่าน VNC แต่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง เมื่อเข้าถึงได้ พวกเขาจะปรับเปลี่ยนค่าการทำงาน เช่น ความเร็วปั๊ม หรือปิดระบบแจ้งเตือน ทำให้ผู้ควบคุมไม่เห็นภาพจริงของโรงงาน กลุ่มที่ถูกระบุมีทั้ง Cyber Army of Russia Reborn, NoName057(16), Z-Pentest และ Sector16 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐรัสเซีย แม้จะไม่ซับซ้อน แต่การโจมตีแบบนี้สร้างความเสียหายได้จริงและยากต่อการคาดเดา
    https://securityonline.info/fbi-cisa-warn-pro-russia-hacktivists-target-critical-infrastructure-via-unsecured-vnc-hmis

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน CCTV (CVE-2025-13607) เสี่ยงถูกแฮกดูภาพสดและขโมยรหัสผ่าน
    CISA ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อเครือข่าย โดยเฉพาะรุ่น D-Link DCS-F5614-L1 ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงการตั้งค่าและข้อมูลบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ผลคือสามารถดูภาพสดจากกล้องและขโมยรหัสผ่านผู้ดูแลเพื่อเจาะลึกเข้าไปในระบบต่อไปได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 และแม้ D-Link จะออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้แบรนด์อื่นอย่าง Securus และ Sparsh ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบและติดต่อผู้ผลิตเองเพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/critical-cctv-flaw-cve-2025-13607-risks-video-feed-hijack-credential-theft-via-missing-authentication

    ข่าวด่วน: Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome
    เรื่องนี้เป็นการอัปเดตที่สำคัญมากของ Google Chrome เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ Google จึงรีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ 143.0.7499.109/.110 เพื่ออุดช่องโหว่ โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น “Under coordination” ซึ่งหมายถึงยังอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ทำให้รายละเอียดเชิงเทคนิคยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ที่แน่ ๆ คือมีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้โจมตีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ระดับกลางอีกสองรายการ ได้แก่ปัญหาใน Password Manager และ Toolbar ที่นักวิจัยภายนอกรายงานเข้ามา พร้อมได้รับรางวัลบั๊กบาวน์ตี้รวม 4,000 ดอลลาร์ เรื่องนี้จึงเป็นการเตือนผู้ใช้ทุกคนให้รีบตรวจสอบและอัปเดต Chrome ด้วยตนเองทันที ไม่ควรรอการอัปเดตอัตโนมัติ เพราะความเสี่ยงกำลังเกิดขึ้นจริงแล้ว
    https://securityonline.info/emergency-chrome-update-google-patches-new-zero-day-under-active-attack

    นวัตกรรมใหม่: สถาปัตยกรรม AI ของ Google แรงกว่า GPT-4 ในด้านความจำ
    Google เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ Titans และกรอบแนวคิด MIRAS ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการจำข้อมูลระยะยาวของโมเดล AI แบบเดิม ๆ จุดเด่นคือสามารถ “อ่านไป จำไป” ได้เหมือนสมองมนุษย์ โดยใช้โมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานคล้ายการแยกความจำสั้นและยาวในสมองจริง ๆ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “surprise metric” กลไกที่เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่แปลกใหม่หรือไม่คาดคิด เช่นเดียวกับที่มนุษย์มักจำเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาได้ชัดเจน ผลลัพธ์คือโมเดลนี้สามารถจัดการข้อมูลยาวมหาศาลได้ถึงสองล้านโทเคน และยังทำงานได้ดีกว่า GPT-4 แม้จะมีพารามิเตอร์น้อยกว่า นอกจากนี้ MIRAS ยังเปิดทางให้สร้างโมเดลใหม่ ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน เช่นการทนต่อสัญญาณรบกวนหรือการรักษาความจำระยะยาวอย่างมั่นคง การทดสอบกับชุดข้อมูล BABILong แสดงให้เห็นว่า Titans มีศักยภาพเหนือกว่าโมเดลชั้นนำอื่น ๆ ในการดึงข้อมูลที่กระจายอยู่ในเอกสารขนาดใหญ่ ทำให้อนาคตของ AI ในการทำความเข้าใจทั้งเอกสารหรือแม้แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมดูสดใสและทรงพลังมากขึ้น
    https://securityonline.info/the-surprise-metric-googles-new-ai-architecture-outperforms-gpt-4-in-memory

    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251211 #securityonline 🛡️ Makop Ransomware กลับมาอีกครั้งพร้อมกลยุทธ์ใหม่ ภัยคุกคามที่เคยคุ้นชื่อ Makop ransomware ได้พัฒนาวิธีการโจมตีให้ซับซ้อนขึ้น แม้จะยังใช้ช่องโหว่เดิมคือการเจาะผ่านพอร์ต RDP ที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ครั้งนี้พวกเขาเสริมเครื่องมืออย่าง GuLoader เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เพิ่มเติม และยังใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกันไวรัสในระดับ kernel ได้โดยตรง การโจมตีส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่องค์กรในอินเดีย แต่ก็พบในหลายประเทศอื่นด้วย จุดสำคัญคือ แม้จะเป็นการโจมตีที่ดู “ง่าย” แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความเสียหายรุนแรงต่อองค์กรที่ละเลยการอัปเดตและการตั้งค่าความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/makop-ransomware-evolves-guloader-and-byovd-edr-killers-used-to-attack-rdp-exposed-networks 💻 DeadLock Ransomware ใช้ช่องโหว่ไดรเวอร์ Baidu เจาะระบบ กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่หวังผลทางการเงินได้ปล่อยแรนซัมแวร์ชื่อ DeadLock โดยใช้เทคนิค BYOVD เช่นกัน คราวนี้พวกเขาอาศัยไดรเวอร์จาก Baidu Antivirus ที่มีช่องโหว่ ทำให้สามารถสั่งงานในระดับ kernel และปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันได้ทันที หลังจากนั้นยังใช้ PowerShell script ปิดบริการสำคัญ เช่น SQL Server และลบ shadow copies เพื่อกันไม่ให้เหยื่อกู้คืนข้อมูลได้ ตัวแรนซัมแวร์ถูกเขียนขึ้นใหม่ด้วย C++ และใช้วิธีเข้ารหัสเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ใช้วิธี “double extortion” แต่ให้เหยื่อติดต่อผ่านแอป Session เพื่อเจรจาจ่ายค่าไถ่เป็น Bitcoin หรือ Monero 🔗 https://securityonline.info/deadlock-ransomware-deploys-byovd-edr-killer-by-exploiting-baidu-driver-for-kernel-level-defense-bypass ⚙️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน PCIe 6.0 เสี่ยงข้อมูลเสียหาย มาตรฐาน PCIe 6.0 ที่ใช้ในการส่งข้อมูลความเร็วสูงถูกพบว่ามีช่องโหว่ในกลไก IDE (Integrity and Data Encryption) ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์เข้าถึงฮาร์ดแวร์สามารถฉีดข้อมูลที่ผิดพลาดหรือเก่าเข้ามาในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-9612, 9613 และ 9614 แม้จะไม่สามารถโจมตีจากระยะไกล แต่ก็เป็นภัยใหญ่สำหรับศูนย์ข้อมูลหรือระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตอนนี้ PCI-SIG ได้ออก Draft Engineering Change Notice เพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ผลิตอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/critical-pcie-6-0-flaws-risk-secure-data-integrity-via-stale-data-injection-in-ide-mechanism 🪙 EtherRAT Malware ใช้บล็อกเชน Ethereum ซ่อนร่องรอย หลังจากเกิดช่องโหว่ React2Shell เพียงไม่กี่วัน นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ใช้บล็อกเชน Ethereum เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้ควบคุม โดยอาศัย smart contracts เพื่อรับคำสั่ง ทำให้แทบไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะเครือข่าย Ethereum เป็นระบบกระจายศูนย์ นอกจากนี้ EtherRAT ยังมีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือที่เคยใช้โดยกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ และถูกออกแบบให้ฝังตัวแน่นหนาในระบบ Linux ด้วยหลายวิธีการ persistence พร้อมทั้งดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อกลมกลืนกับการทำงานปกติ ถือเป็นการยกระดับการโจมตีจากช่องโหว่ React2Shell ไปสู่ระดับ APT ที่อันตรายยิ่งขึ้น 🔗 https://securityonline.info/etherrat-malware-hijacks-ethereum-blockchain-for-covert-c2-after-react2shell-exploit 🤝 Slack CEO ย้ายไปร่วมทีม OpenAI เป็น CRO OpenAI กำลังเร่งหาทางสร้างรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการประมวลผล AI ล่าสุดได้ดึง Denise Dresser ซีอีโอของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer (CRO) เพื่อดูแลกลยุทธ์รายได้และการขยายตลาดองค์กร การเข้ามาของเธอสะท้อนให้เห็นว่า OpenAI กำลังใช้แนวทางแบบ Silicon Valley อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายฐานผู้ใช้และการหาช่องทางทำเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขาย subscription หรือแม้กระทั่งโฆษณาใน ChatGPT อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการทำให้รายได้เติบโตทันกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วจากการสร้างและดูแลโครงสร้างพื้นฐาน AI 🔗 https://securityonline.info/slack-ceo-denise-dresser-joins-openai-as-cro-to-solve-the-profitability-puzzle 🛠️ Jenkins เจอช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงถูกโจมตี DoS และ XSS ทีมพัฒนา Jenkins ออกประกาศเตือนครั้งใหญ่ หลังพบช่องโหว่หลายรายการที่อาจทำให้ระบบ CI/CD ถูกโจมตีจนหยุดทำงาน หรือโดนฝังสคริปต์อันตราย (XSS) โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-67635 ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ส่งคำสั่งผ่าน HTTP CLI โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทรัพยากรถูกใช้จนล่ม อีกช่องโหว่ CVE-2025-67641 ใน Coverage Plugin ก็เปิดทางให้ผู้โจมตีฝังโค้ด JavaScript ลงในรายงาน เมื่อผู้ดูแลเปิดดู รายงานนั้นจะรันสคริปต์ทันที เสี่ยงต่อการถูกขโมย session และข้อมูลสำคัญ แม้จะมีการอัปเดตแก้ไขหลายจุด เช่น การเข้ารหัส token และการปิดช่องโหว่การเห็นรหัสผ่าน แต่ยังมีบางปลั๊กอินที่ยังไม่มีแพตช์ออกมา ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดต Jenkins และปลั๊กอินที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสียหาย 🔗 https://securityonline.info/high-severity-jenkins-flaws-risk-unauthenticated-dos-via-http-cli-and-xss-via-coverage-reports 🐙 Gogs Zero-Day โดนเจาะกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ ผ่าน Symlink Path Traversal นักวิจัยจาก Wiz พบช่องโหว่ใหม่ใน Gogs (CVE-2025-8110) ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเขียนไฟล์อันตรายลงในระบบได้ง่าย ๆ ผ่านการใช้ symlink โดยช่องโหว่นี้เป็นการเลี่ยงแพตช์เก่าที่เคยแก้ไขไปแล้ว ทำให้กว่า 700 เซิร์ฟเวอร์จาก 1,400 ที่ตรวจสอบถูกเจาะสำเร็จ การโจมตีมีลักษณะเป็นแคมเปญ “smash-and-grab” คือเข้ามาเร็ว ใช้ symlink เขียนทับไฟล์สำคัญ เช่น .git/config แล้วรันคำสั่งอันตราย จากนั้นติดตั้ง payload ที่ใช้ Supershell เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์ออกมา ผู้ดูแลระบบจึงถูกแนะนำให้ปิดการสมัครสมาชิกสาธารณะ และจำกัดการเข้าถึงระบบทันที 🔗 https://securityonline.info/gogs-zero-day-cve-2025-8110-risks-rce-for-700-servers-via-symlink-path-traversal-bypass 🧩 GitLab พบช่องโหว่ XSS เสี่ยงโดนขโมย session ผ่าน Wiki GitLab ออกอัปเดตด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-12716 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 8.7) โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ Wiki ที่ผู้ใช้สามารถสร้างเพจได้ หากมีการฝังโค้ดอันตรายลงไป เมื่อผู้ใช้รายอื่นเปิดดู เพจนั้นจะรันคำสั่งแทนผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เสี่ยงต่อการถูกยึด session และสั่งงานแทนเจ้าของบัญชี นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น การ inject HTML ในรายงานช่องโหว่ และการเปิดเผยข้อมูลโครงการที่ควรเป็น private ผ่าน error message และ GraphQL query GitLab.com และ GitLab Dedicated ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ที่ใช้ self-managed instance ต้องรีบอัปเดตเวอร์ชัน 18.6.2, 18.5.4 หรือ 18.4.6 เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้ 🔗 https://securityonline.info/high-severity-gitlab-xss-flaw-cve-2025-12716-risks-session-hijack-via-malicious-wiki-pages 📱 Facebook ปรับโฉมใหม่ แต่ Instagram ใช้ AI ดึง SEO มีรายงานว่า Facebook ได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Instagram ถูกเปิดโปงว่าใช้ AI เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ดึง SEO ให้ติดอันดับการค้นหา คล้ายกับการทำ content farm โดยไม่ได้บอกผู้ใช้ตรง ๆ เรื่องนี้จึงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและจริยธรรมของ Meta ที่อาจใช้ AI เพื่อผลักดันการเข้าถึงโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ 🔗 https://securityonline.info/facebook-gets-new-look-but-instagram-secretly-uses-ai-for-seo-bait 🚀 SpaceX เตรียม IPO มูลค่าเป้าหมายทะลุ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ SpaceX กำลังเดินหน้าแผน IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำลายสถิติของ Saudi Aramco ที่เคยทำไว้ในปี 2019 ที่ 29 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้ตลาดตะลึงคือการตั้งเป้ามูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แม้รายได้ของ SpaceX ในปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่า Tesla ถึง 6 เท่า แต่ความคาดหวังอยู่ที่อนาคตของ Starlink และ Starship รวมถึงแผนสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศเพื่อรองรับ AI และการสื่อสารผ่านดาวเทียม Musk เชื่อว่าการรวมพลังของ Starlink และ Starship จะขยายตลาดได้มหาศาล และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดของ SpaceX 🔗 https://securityonline.info/spacex-ipo-targeting-a-1-5-trillion-valuation-to-fund-space-data-centers 🐼 จีนเปิดปฏิบัติการไซเบอร์ WARP PANDA ใช้ BRICKSTORM เจาะ VMware และ Azure มีการเปิดโปงแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์จากจีนชื่อ WARP PANDA พวกเขาไม่ได้โจมตีแบบธรรมดา แต่เลือกเจาะเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่สำคัญอย่าง VMware vCenter และ ESXi รวมถึงระบบคลาวด์ Microsoft Azure จุดเด่นคือการใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้นเองชื่อ BRICKSTORM ซึ่งเป็น backdoor ที่แฝงตัวเหมือนโปรเซสของระบบ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเสริมอย่าง Junction และ GuestConduit ที่ช่วยควบคุมการสื่อสารในระบบเสมือนจริงได้อย่างแนบเนียน สิ่งที่น่ากังวลคือพวกเขาสามารถอยู่ในระบบได้นานเป็นปีโดยไม่ถูกพบ และยังขยายการโจมตีไปสู่บริการ Microsoft 365 เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงจูงใจเชิงรัฐมากกว่าการเงิน เพราะเป้าหมายคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน 🔗 https://securityonline.info/chinas-warp-panda-apt-deploys-brickstorm-backdoor-to-hijack-vmware-vcenter-esxi-and-azure-cloud 📡 ช่องโหว่ร้ายแรง TOTOLINK AX1800 เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึง root โดยไม่ต้องล็อกอิน มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ที่ใช้กันแพร่หลายในบ้านและธุรกิจขนาดเล็ก ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวเพื่อเปิดบริการ Telnet โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน เมื่อ Telnet ถูกเปิดแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผลกระทบคือสามารถดักจับข้อมูล เปลี่ยนเส้นทาง DNS หรือใช้เป็นฐานโจมตีอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ที่น่ากังวลคือยังไม่มีแพตช์แก้ไขจากผู้ผลิต ทำให้ผู้ใช้ต้องป้องกันตัวเองด้วยการปิดการเข้าถึงจาก WAN และตรวจสอบการเปิดใช้งาน Telnet อย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce ⚠️ FBI และ CISA เตือนกลุ่มแฮกเกอร์สายโปรรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานผ่าน VNC ที่ไม่ปลอดภัย หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ รวมถึง FBI และ CISA ออกคำเตือนว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียกำลังโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ระบบน้ำ พลังงาน และอาหาร โดยใช้วิธีง่าย ๆ คือค้นหา Human-Machine Interfaces (HMI) ที่เชื่อมต่อผ่าน VNC แต่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง เมื่อเข้าถึงได้ พวกเขาจะปรับเปลี่ยนค่าการทำงาน เช่น ความเร็วปั๊ม หรือปิดระบบแจ้งเตือน ทำให้ผู้ควบคุมไม่เห็นภาพจริงของโรงงาน กลุ่มที่ถูกระบุมีทั้ง Cyber Army of Russia Reborn, NoName057(16), Z-Pentest และ Sector16 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐรัสเซีย แม้จะไม่ซับซ้อน แต่การโจมตีแบบนี้สร้างความเสียหายได้จริงและยากต่อการคาดเดา 🔗 https://securityonline.info/fbi-cisa-warn-pro-russia-hacktivists-target-critical-infrastructure-via-unsecured-vnc-hmis 🎥 ช่องโหว่ร้ายแรงใน CCTV (CVE-2025-13607) เสี่ยงถูกแฮกดูภาพสดและขโมยรหัสผ่าน CISA ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อเครือข่าย โดยเฉพาะรุ่น D-Link DCS-F5614-L1 ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงการตั้งค่าและข้อมูลบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ผลคือสามารถดูภาพสดจากกล้องและขโมยรหัสผ่านผู้ดูแลเพื่อเจาะลึกเข้าไปในระบบต่อไปได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 และแม้ D-Link จะออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้แบรนด์อื่นอย่าง Securus และ Sparsh ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบและติดต่อผู้ผลิตเองเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/critical-cctv-flaw-cve-2025-13607-risks-video-feed-hijack-credential-theft-via-missing-authentication 🛡️ ข่าวด่วน: Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome เรื่องนี้เป็นการอัปเดตที่สำคัญมากของ Google Chrome เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ Google จึงรีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ 143.0.7499.109/.110 เพื่ออุดช่องโหว่ โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น “Under coordination” ซึ่งหมายถึงยังอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ทำให้รายละเอียดเชิงเทคนิคยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ที่แน่ ๆ คือมีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้โจมตีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ระดับกลางอีกสองรายการ ได้แก่ปัญหาใน Password Manager และ Toolbar ที่นักวิจัยภายนอกรายงานเข้ามา พร้อมได้รับรางวัลบั๊กบาวน์ตี้รวม 4,000 ดอลลาร์ เรื่องนี้จึงเป็นการเตือนผู้ใช้ทุกคนให้รีบตรวจสอบและอัปเดต Chrome ด้วยตนเองทันที ไม่ควรรอการอัปเดตอัตโนมัติ เพราะความเสี่ยงกำลังเกิดขึ้นจริงแล้ว 🔗 https://securityonline.info/emergency-chrome-update-google-patches-new-zero-day-under-active-attack 🤖 นวัตกรรมใหม่: สถาปัตยกรรม AI ของ Google แรงกว่า GPT-4 ในด้านความจำ Google เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ Titans และกรอบแนวคิด MIRAS ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการจำข้อมูลระยะยาวของโมเดล AI แบบเดิม ๆ จุดเด่นคือสามารถ “อ่านไป จำไป” ได้เหมือนสมองมนุษย์ โดยใช้โมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานคล้ายการแยกความจำสั้นและยาวในสมองจริง ๆ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “surprise metric” กลไกที่เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่แปลกใหม่หรือไม่คาดคิด เช่นเดียวกับที่มนุษย์มักจำเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาได้ชัดเจน ผลลัพธ์คือโมเดลนี้สามารถจัดการข้อมูลยาวมหาศาลได้ถึงสองล้านโทเคน และยังทำงานได้ดีกว่า GPT-4 แม้จะมีพารามิเตอร์น้อยกว่า นอกจากนี้ MIRAS ยังเปิดทางให้สร้างโมเดลใหม่ ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน เช่นการทนต่อสัญญาณรบกวนหรือการรักษาความจำระยะยาวอย่างมั่นคง การทดสอบกับชุดข้อมูล BABILong แสดงให้เห็นว่า Titans มีศักยภาพเหนือกว่าโมเดลชั้นนำอื่น ๆ ในการดึงข้อมูลที่กระจายอยู่ในเอกสารขนาดใหญ่ ทำให้อนาคตของ AI ในการทำความเข้าใจทั้งเอกสารหรือแม้แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมดูสดใสและทรงพลังมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-surprise-metric-googles-new-ai-architecture-outperforms-gpt-4-in-memory
    0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
  • จีนเริ่มจัดทำ “บัญชีรายชื่อผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ AI ที่รัฐบาลอนุมัติ”

    รัฐบาลจีนได้เพิ่มหมวดหมู่ใหม่ใน “Information Technology Innovation List (Xinchuang)” โดยรวมถึงโปรเซสเซอร์ AI ที่ผลิตในประเทศ รายชื่อแรกประกอบด้วย Cambricon และ Huawei ซึ่งจะถูกแนะนำให้หน่วยงานรัฐ, บริษัทของรัฐ และสถาบันสาธารณะเลือกใช้เป็นหลัก

    เป้าหมายของนโยบาย
    การจัดทำรายชื่อนี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งการแทนที่ชิป AI ที่ออกแบบโดยสหรัฐ เช่น Nvidia และ AMD ด้วยทางเลือกที่ผลิตในประเทศ เพื่อสร้าง ecosystem ที่จีนควบคุมเองได้ และลดความเสี่ยงจากมาตรการคว่ำบาตรหรือข้อจำกัดการส่งออก

    ความท้าทายในการเปลี่ยนผ่าน
    แม้ Cambricon และ Huawei จะมีชิป AI ของตัวเอง แต่หลายงานในภาครัฐและเอกชนยังคงพึ่งพา CUDA ของ Nvidia อย่างหนัก ทำให้การย้ายไปใช้สถาปัตยกรรมใหม่ไม่ง่าย นอกจากนี้ โรงงานผลิตชิปของจีน เช่น SMIC ยังมีข้อจำกัดด้านกำลังการผลิตและไม่สามารถแข่งขันกับ TSMC ได้เต็มที่

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    นโยบายนี้จะส่งผลให้บริษัทจีนต้องเร่งพัฒนา ecosystem ของตัวเอง ทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ขณะเดียวกันบริษัทเอกชนอย่าง Alibaba และ Tencent อาจยังเลือกใช้ Nvidia ผ่านบริการคลาวด์เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน แต่ในระยะยาว จีนตั้งใจจะสร้างความพึ่งพาตนเองให้ได้

    สรุปเป็นหัวข้อ
    รายชื่อผู้ผลิตที่อนุมัติ
    Cambricon และ Huawei ติดในบัญชี Xinchuang
    Nvidia และ AMD ไม่ถูกบรรจุ

    เป้าหมายของนโยบาย
    ลดการพึ่งพาชิปต่างชาติ
    สร้าง ecosystem AI ที่จีนควบคุมเองได้

    ความท้าทาย
    งานจำนวนมากยังพึ่งพา CUDA ของ Nvidia
    SMIC มีกำลังผลิตจำกัด ไม่เทียบเท่า TSMC

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    Alibaba และ Tencent อาจยังใช้ Nvidia ผ่านคลาวด์
    จีนเร่งพัฒนา ecosystem ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในประเทศ

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    การเปลี่ยนผ่านอาจทำให้เกิดความไม่เสถียรในระบบ
    ความเสี่ยงจากการขาดกำลังผลิตชิปขั้นสูง
    อาจกระทบต่อความสามารถแข่งขันของบริษัทจีนในระยะสั้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/china-starts-list-of-government-approved-ai-hardware-suppliers-cambricon-and-huawei-are-in-nvidia-is-not
    🇨🇳 จีนเริ่มจัดทำ “บัญชีรายชื่อผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ AI ที่รัฐบาลอนุมัติ” รัฐบาลจีนได้เพิ่มหมวดหมู่ใหม่ใน “Information Technology Innovation List (Xinchuang)” โดยรวมถึงโปรเซสเซอร์ AI ที่ผลิตในประเทศ รายชื่อแรกประกอบด้วย Cambricon และ Huawei ซึ่งจะถูกแนะนำให้หน่วยงานรัฐ, บริษัทของรัฐ และสถาบันสาธารณะเลือกใช้เป็นหลัก ⚡ เป้าหมายของนโยบาย การจัดทำรายชื่อนี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งการแทนที่ชิป AI ที่ออกแบบโดยสหรัฐ เช่น Nvidia และ AMD ด้วยทางเลือกที่ผลิตในประเทศ เพื่อสร้าง ecosystem ที่จีนควบคุมเองได้ และลดความเสี่ยงจากมาตรการคว่ำบาตรหรือข้อจำกัดการส่งออก 🖥️ ความท้าทายในการเปลี่ยนผ่าน แม้ Cambricon และ Huawei จะมีชิป AI ของตัวเอง แต่หลายงานในภาครัฐและเอกชนยังคงพึ่งพา CUDA ของ Nvidia อย่างหนัก ทำให้การย้ายไปใช้สถาปัตยกรรมใหม่ไม่ง่าย นอกจากนี้ โรงงานผลิตชิปของจีน เช่น SMIC ยังมีข้อจำกัดด้านกำลังการผลิตและไม่สามารถแข่งขันกับ TSMC ได้เต็มที่ 🔍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม นโยบายนี้จะส่งผลให้บริษัทจีนต้องเร่งพัฒนา ecosystem ของตัวเอง ทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ขณะเดียวกันบริษัทเอกชนอย่าง Alibaba และ Tencent อาจยังเลือกใช้ Nvidia ผ่านบริการคลาวด์เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน แต่ในระยะยาว จีนตั้งใจจะสร้างความพึ่งพาตนเองให้ได้ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ รายชื่อผู้ผลิตที่อนุมัติ ➡️ Cambricon และ Huawei ติดในบัญชี Xinchuang ➡️ Nvidia และ AMD ไม่ถูกบรรจุ ✅ เป้าหมายของนโยบาย ➡️ ลดการพึ่งพาชิปต่างชาติ ➡️ สร้าง ecosystem AI ที่จีนควบคุมเองได้ ✅ ความท้าทาย ➡️ งานจำนวนมากยังพึ่งพา CUDA ของ Nvidia ➡️ SMIC มีกำลังผลิตจำกัด ไม่เทียบเท่า TSMC ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ Alibaba และ Tencent อาจยังใช้ Nvidia ผ่านคลาวด์ ➡️ จีนเร่งพัฒนา ecosystem ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในประเทศ ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ การเปลี่ยนผ่านอาจทำให้เกิดความไม่เสถียรในระบบ ⛔ ความเสี่ยงจากการขาดกำลังผลิตชิปขั้นสูง ⛔ อาจกระทบต่อความสามารถแข่งขันของบริษัทจีนในระยะสั้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/china-starts-list-of-government-approved-ai-hardware-suppliers-cambricon-and-huawei-are-in-nvidia-is-not
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • Framework ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กแบบโมดูลาร์ ออกมาโจมตีคู่แข่งเรื่องราคา RAM

    Framework กล่าวว่าการอัปเกรด RAM บนโน้ตบุ๊ก Dell และ Apple มีราคาสูงเกินจริง เช่น Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บถึง 550 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB (แม้ภายหลังจะถูกแก้ไขว่าเป็นความเข้าใจผิด) ขณะที่ Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB มานานหลายปี

    จุดยืนของ Framework
    Framework ยืนยันว่าการปรับขึ้นราคาที่จะเกิดขึ้นเป็นผลจากต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น แต่จะไม่ใช้เป็นข้ออ้างในการเอาเปรียบลูกค้า โดยปัจจุบันการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB บนโน้ตบุ๊ก Framework มีค่าใช้จ่ายเพียง 80 ดอลลาร์ ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งอย่างมาก

    สถานการณ์ตลาดหน่วยความจำ
    ตลาด DRAM กำลังเผชิญภาวะขาดแคลน ทำให้ผู้ผลิตหลายราย เช่น CyberPowerPC และ Minisforum ต้องปรับขึ้นราคาสินค้าที่ใช้ RAM และ SSD โดยบางรายเพิ่มราคามากกว่า 100% ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องจ่ายแพงขึ้นทั้งในตลาดโน้ตบุ๊กและพีซี

    ความหมายต่อผู้บริโภค
    การออกมาโจมตีครั้งนี้สะท้อนถึงกลยุทธ์ของ Framework ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ “เป็นมิตรกับผู้ใช้” และโปร่งใสด้านราคา แม้จะต้องขึ้นราคาตามตลาด แต่ก็ยังพยายามรักษาความยุติธรรมในการขาย ซึ่งอาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความแตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การโจมตีคู่แข่ง
    Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บ 550 ดอลลาร์สำหรับอัปเกรด RAM
    Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB

    จุดยืนของ Framework
    จะขึ้นราคาตามต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น
    ปัจจุบันอัปเกรด 16GB → 32GB เพียง 80 ดอลลาร์

    สถานการณ์ตลาด DRAM
    ภาวะขาดแคลนทำให้หลายบริษัทขึ้นราคา
    CyberPowerPC และ Minisforum ปรับขึ้นมากกว่า 100%

    ความหมายต่อผู้บริโภค
    Framework สร้างภาพลักษณ์โปร่งใสและยุติธรรม
    แตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่ที่ถูกมองว่า “โก่งราคา”

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ราคาหน่วยความจำมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง
    ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายแพงขึ้นแม้กับแบรนด์ที่โปร่งใส
    ตลาด DRAM ยังมีความเสี่ยงจากการขาดแคลนและการเก็งกำไร

    https://www.tomshardware.com/laptops/framework-puts-dell-and-apple-on-blast-over-egregious-ram-prices-modular-laptop-maker-will-be-forced-to-increase-memory-prices-but-wont-gouge-customers-like-other-vendors
    💻 Framework ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กแบบโมดูลาร์ ออกมาโจมตีคู่แข่งเรื่องราคา RAM Framework กล่าวว่าการอัปเกรด RAM บนโน้ตบุ๊ก Dell และ Apple มีราคาสูงเกินจริง เช่น Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บถึง 550 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB (แม้ภายหลังจะถูกแก้ไขว่าเป็นความเข้าใจผิด) ขณะที่ Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB มานานหลายปี 🛠️ จุดยืนของ Framework Framework ยืนยันว่าการปรับขึ้นราคาที่จะเกิดขึ้นเป็นผลจากต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น แต่จะไม่ใช้เป็นข้ออ้างในการเอาเปรียบลูกค้า โดยปัจจุบันการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB บนโน้ตบุ๊ก Framework มีค่าใช้จ่ายเพียง 80 ดอลลาร์ ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งอย่างมาก ⚡ สถานการณ์ตลาดหน่วยความจำ ตลาด DRAM กำลังเผชิญภาวะขาดแคลน ทำให้ผู้ผลิตหลายราย เช่น CyberPowerPC และ Minisforum ต้องปรับขึ้นราคาสินค้าที่ใช้ RAM และ SSD โดยบางรายเพิ่มราคามากกว่า 100% ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องจ่ายแพงขึ้นทั้งในตลาดโน้ตบุ๊กและพีซี 🔍 ความหมายต่อผู้บริโภค การออกมาโจมตีครั้งนี้สะท้อนถึงกลยุทธ์ของ Framework ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ “เป็นมิตรกับผู้ใช้” และโปร่งใสด้านราคา แม้จะต้องขึ้นราคาตามตลาด แต่ก็ยังพยายามรักษาความยุติธรรมในการขาย ซึ่งอาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความแตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การโจมตีคู่แข่ง ➡️ Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บ 550 ดอลลาร์สำหรับอัปเกรด RAM ➡️ Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB ✅ จุดยืนของ Framework ➡️ จะขึ้นราคาตามต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น ➡️ ปัจจุบันอัปเกรด 16GB → 32GB เพียง 80 ดอลลาร์ ✅ สถานการณ์ตลาด DRAM ➡️ ภาวะขาดแคลนทำให้หลายบริษัทขึ้นราคา ➡️ CyberPowerPC และ Minisforum ปรับขึ้นมากกว่า 100% ✅ ความหมายต่อผู้บริโภค ➡️ Framework สร้างภาพลักษณ์โปร่งใสและยุติธรรม ➡️ แตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่ที่ถูกมองว่า “โก่งราคา” ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ราคาหน่วยความจำมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ⛔ ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายแพงขึ้นแม้กับแบรนด์ที่โปร่งใส ⛔ ตลาด DRAM ยังมีความเสี่ยงจากการขาดแคลนและการเก็งกำไร https://www.tomshardware.com/laptops/framework-puts-dell-and-apple-on-blast-over-egregious-ram-prices-modular-laptop-maker-will-be-forced-to-increase-memory-prices-but-wont-gouge-customers-like-other-vendors
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • Snapmaker ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D จากจีน ประกาศระดมทุน Series B ได้

    Snapmaker ยืนยันว่าได้รับเงินลงทุน Series B หลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมี Hillhouse Ventures และ Meituan เป็นผู้นำรอบ พร้อมด้วย Shunwei Capital, Longzhu Capital และนักลงทุนรายเดิมอย่าง Cowin Capital และ Orient Securities Capital การเข้ามาของ Shunwei Capital ซึ่งก่อตั้งโดย Lei Jun (CEO ของ Xiaomi) ยิ่งทำให้ดีลนี้น่าสนใจ เพราะสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายใหญ่ในอนาคตของ Snapmaker

    ผลงานและความสำเร็จที่ผ่านมา
    Snapmaker ก่อตั้งในปี 2016 และสร้างชื่อจากการเปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D แบบโมดูลาร์ที่สามารถทำงานได้ทั้งการพิมพ์ 3D, เลเซอร์คัต และ CNC โดยเฉพาะรุ่น Snapmaker 2.0 ที่เคยระดมทุนบน Kickstarter ได้กว่า 7.85 ล้านดอลลาร์ และรุ่น U1 Tool Changer ที่ทำสถิติสูงสุดในวงการ 3D Printing ด้วยยอดระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์จากผู้สนับสนุนกว่า 20,000 คน

    แผนการขยายสู่ระดับโลก
    เงินทุนใหม่จะถูกนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลัก, การดึงดูดบุคลากรระดับโลก และการสร้าง ecosystem ที่ครบวงจร Snapmaker ตั้งเป้าที่จะลดอุปสรรคในการเข้าถึงเทคโนโลยี 3D Printing และทำให้มันกลายเป็นเครื่องมือที่ทุกคนสามารถใช้ได้ ไม่ใช่แค่กลุ่มนักสร้างสรรค์หรือผู้เชี่ยวชาญ

    ความหมายต่อวงการ 3D Printing
    การลงทุนครั้งนี้สะท้อนว่าตลาด 3D Printing กำลังเข้าสู่ “arms race” ของบริษัทยักษ์ใหญ่จีน เช่น Tencent ที่สนใจ Bambu Lab และ DJI ที่ลงทุนใน Elegoo การแข่งขันนี้จะเร่งให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ และทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงเครื่องพิมพ์ที่เร็วขึ้น, ถูกลง และใช้งานง่ายขึ้น

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Snapmaker ระดมทุน Series B
    ได้เงินลงทุนหลายสิบล้านดอลลาร์
    Hillhouse Ventures และ Meituan นำรอบ

    นักลงทุนรายสำคัญ
    Shunwei Capital (ก่อตั้งโดย Lei Jun จาก Xiaomi)
    Cowin Capital และ Orient Securities Capital ร่วมลงทุนต่อเนื่อง

    ผลงานเด่นของ Snapmaker
    Snapmaker 2.0 ระดมทุน 7.85 ล้านดอลลาร์
    U1 Tool Changer ระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์

    แผนการใช้เงินทุน
    วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
    ดึงดูดบุคลากรระดับโลก
    สร้าง ecosystem ครบวงจร

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ตลาด 3D Printing จีนแข่งขันสูงจากผู้เล่นรายใหญ่
    ความเสี่ยงด้านการพึ่งพานักลงทุนรายใหญ่
    ต้องพิสูจน์ว่าสามารถขยายสู่ตลาดโลกได้จริง

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/snapmaker-raises-millions-as-chinese-big-tech-investors-pile-into-3d-printing
    💰 Snapmaker ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D จากจีน ประกาศระดมทุน Series B ได้ Snapmaker ยืนยันว่าได้รับเงินลงทุน Series B หลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมี Hillhouse Ventures และ Meituan เป็นผู้นำรอบ พร้อมด้วย Shunwei Capital, Longzhu Capital และนักลงทุนรายเดิมอย่าง Cowin Capital และ Orient Securities Capital การเข้ามาของ Shunwei Capital ซึ่งก่อตั้งโดย Lei Jun (CEO ของ Xiaomi) ยิ่งทำให้ดีลนี้น่าสนใจ เพราะสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายใหญ่ในอนาคตของ Snapmaker 🛠️ ผลงานและความสำเร็จที่ผ่านมา Snapmaker ก่อตั้งในปี 2016 และสร้างชื่อจากการเปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D แบบโมดูลาร์ที่สามารถทำงานได้ทั้งการพิมพ์ 3D, เลเซอร์คัต และ CNC โดยเฉพาะรุ่น Snapmaker 2.0 ที่เคยระดมทุนบน Kickstarter ได้กว่า 7.85 ล้านดอลลาร์ และรุ่น U1 Tool Changer ที่ทำสถิติสูงสุดในวงการ 3D Printing ด้วยยอดระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์จากผู้สนับสนุนกว่า 20,000 คน 🌍 แผนการขยายสู่ระดับโลก เงินทุนใหม่จะถูกนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลัก, การดึงดูดบุคลากรระดับโลก และการสร้าง ecosystem ที่ครบวงจร Snapmaker ตั้งเป้าที่จะลดอุปสรรคในการเข้าถึงเทคโนโลยี 3D Printing และทำให้มันกลายเป็นเครื่องมือที่ทุกคนสามารถใช้ได้ ไม่ใช่แค่กลุ่มนักสร้างสรรค์หรือผู้เชี่ยวชาญ 🔍 ความหมายต่อวงการ 3D Printing การลงทุนครั้งนี้สะท้อนว่าตลาด 3D Printing กำลังเข้าสู่ “arms race” ของบริษัทยักษ์ใหญ่จีน เช่น Tencent ที่สนใจ Bambu Lab และ DJI ที่ลงทุนใน Elegoo การแข่งขันนี้จะเร่งให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ และทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงเครื่องพิมพ์ที่เร็วขึ้น, ถูกลง และใช้งานง่ายขึ้น 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Snapmaker ระดมทุน Series B ➡️ ได้เงินลงทุนหลายสิบล้านดอลลาร์ ➡️ Hillhouse Ventures และ Meituan นำรอบ ✅ นักลงทุนรายสำคัญ ➡️ Shunwei Capital (ก่อตั้งโดย Lei Jun จาก Xiaomi) ➡️ Cowin Capital และ Orient Securities Capital ร่วมลงทุนต่อเนื่อง ✅ ผลงานเด่นของ Snapmaker ➡️ Snapmaker 2.0 ระดมทุน 7.85 ล้านดอลลาร์ ➡️ U1 Tool Changer ระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์ ✅ แผนการใช้เงินทุน ➡️ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ➡️ ดึงดูดบุคลากรระดับโลก ➡️ สร้าง ecosystem ครบวงจร ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ตลาด 3D Printing จีนแข่งขันสูงจากผู้เล่นรายใหญ่ ⛔ ความเสี่ยงด้านการพึ่งพานักลงทุนรายใหญ่ ⛔ ต้องพิสูจน์ว่าสามารถขยายสู่ตลาดโลกได้จริง https://www.tomshardware.com/3d-printing/snapmaker-raises-millions-as-chinese-big-tech-investors-pile-into-3d-printing
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • การ์ดจอเก่า AMD FirePro S10000 ปี 2012 ที่กลับมามีชีวิตใหม่

    AMD FirePro S10000 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 เป็นการ์ดจอระดับเวิร์กสเตชันที่ใช้ชิป Tahiti สองตัวบนบอร์ดเดียวกัน เดิมทีออกแบบมาเพื่อการประมวลผลเชิงวิชาชีพ เช่น CAD และงานเรนเดอร์ ไม่ใช่สำหรับเล่นเกม แต่ยูทูบเบอร์สายฮาร์ดแวร์ได้ทดลองนำมาปรับแต่งใหม่ในปี 2025 เพื่อดูว่ามันยังพอเล่นเกมได้หรือไม่ ผลคือสามารถรัน Arc Raiders ได้ที่เฟรมเรตประมาณ 40-45 FPS แม้จะใช้เพียง GPU เดียวจากสองตัวที่มีอยู่

    การปรับแต่งเพื่อเล่นเกม
    การ์ดรุ่นนี้ไม่รองรับไดรเวอร์ Adrenalin โดยตรง ทำให้ต้องแฟลช BIOS ให้กลายเป็น Radeon HD 7990 เพื่อเปิดใช้งาน CrossFire และใช้ไดรเวอร์ใหม่กว่า หลังจากปรับแต่งแล้ว ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น Crysis สามารถวิ่งได้เกิน 110 FPS โดยใช้ GPU ทั้งสองตัวพร้อมกัน ถือเป็นการพิสูจน์ว่าฮาร์ดแวร์เก่าหากได้รับการปรับแต่งก็ยังมีศักยภาพซ่อนอยู่

    ข้อจำกัดและความท้าทาย
    แม้จะทำงานได้ แต่การ์ดนี้มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ความร้อนสูง การใช้พลังงานมากถึง 375W และไม่รองรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของเกมยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ เกมใหม่ส่วนใหญ่ไม่รองรับระบบ Multi-GPU แล้ว ทำให้ศักยภาพของการ์ดถูกใช้ไม่เต็มที่ ตัวอย่างเช่น Cyberpunk 2077 ทำเฟรมเรตได้เพียง 20-30 FPS แม้จะปรับกราฟิกต่ำสุด

    มุมมองจากเกมยุคใหม่
    เมื่อเทียบกับสเปกขั้นต่ำของ Arc Raiders ที่ต้องการการ์ดระดับ GTX 1050 Ti หรือ RX 580 พร้อม RAM 12GB การ์ด FirePro S10000 แม้จะเก่า แต่ยังพอมีพลังใกล้เคียงกับการ์ดเกมมิ่งรุ่นกลางในอดีต การทดลองนี้จึงสะท้อนว่าเทคโนโลยีเก่าหากถูกปรับแต่งอย่างถูกวิธีก็ยังสามารถใช้งานได้ในโลกเกมยุคใหม่ แม้จะไม่สมบูรณ์แบบแต่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้สายโมดิฟาย

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การ์ดจอ AMD FirePro S10000
    เปิดตัวปี 2012 ใช้ชิป Tahiti สองตัว
    เดิมออกแบบเพื่อเวิร์กสเตชัน ไม่ใช่เล่นเกม

    การปรับแต่งเพื่อเล่นเกม
    แฟลช BIOS ให้กลายเป็น Radeon HD 7990
    ใช้ไดรเวอร์ Adrenalin เพื่อเปิด CrossFire

    ผลลัพธ์การทดสอบ
    Crysis วิ่งได้เกิน 110 FPS
    Arc Raiders รันได้ 40-45 FPS
    CS2 ทำได้ 120-160 FPS

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ใช้พลังงานสูงถึง 375W
    ความร้อนสูง ต้องจัดการระบบระบายอากาศ
    เกมใหม่ไม่รองรับ Multi-GPU ทำให้ศักยภาพถูกใช้ไม่เต็มที่
    เกมหนักอย่าง Cyberpunk 2077 รันได้เพียง 20-30 FPS

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/2012-amd-firepro-s10000-dual-gpu-card-runs-arc-raiders-at-playable-frame-rates-but-half-of-its-gpu-power-goes-unused-in-the-process
    🖥️ การ์ดจอเก่า AMD FirePro S10000 ปี 2012 ที่กลับมามีชีวิตใหม่ AMD FirePro S10000 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 เป็นการ์ดจอระดับเวิร์กสเตชันที่ใช้ชิป Tahiti สองตัวบนบอร์ดเดียวกัน เดิมทีออกแบบมาเพื่อการประมวลผลเชิงวิชาชีพ เช่น CAD และงานเรนเดอร์ ไม่ใช่สำหรับเล่นเกม แต่ยูทูบเบอร์สายฮาร์ดแวร์ได้ทดลองนำมาปรับแต่งใหม่ในปี 2025 เพื่อดูว่ามันยังพอเล่นเกมได้หรือไม่ ผลคือสามารถรัน Arc Raiders ได้ที่เฟรมเรตประมาณ 40-45 FPS แม้จะใช้เพียง GPU เดียวจากสองตัวที่มีอยู่ 🎮 การปรับแต่งเพื่อเล่นเกม การ์ดรุ่นนี้ไม่รองรับไดรเวอร์ Adrenalin โดยตรง ทำให้ต้องแฟลช BIOS ให้กลายเป็น Radeon HD 7990 เพื่อเปิดใช้งาน CrossFire และใช้ไดรเวอร์ใหม่กว่า หลังจากปรับแต่งแล้ว ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น Crysis สามารถวิ่งได้เกิน 110 FPS โดยใช้ GPU ทั้งสองตัวพร้อมกัน ถือเป็นการพิสูจน์ว่าฮาร์ดแวร์เก่าหากได้รับการปรับแต่งก็ยังมีศักยภาพซ่อนอยู่ ⚡ ข้อจำกัดและความท้าทาย แม้จะทำงานได้ แต่การ์ดนี้มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ความร้อนสูง การใช้พลังงานมากถึง 375W และไม่รองรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของเกมยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ เกมใหม่ส่วนใหญ่ไม่รองรับระบบ Multi-GPU แล้ว ทำให้ศักยภาพของการ์ดถูกใช้ไม่เต็มที่ ตัวอย่างเช่น Cyberpunk 2077 ทำเฟรมเรตได้เพียง 20-30 FPS แม้จะปรับกราฟิกต่ำสุด 🔍 มุมมองจากเกมยุคใหม่ เมื่อเทียบกับสเปกขั้นต่ำของ Arc Raiders ที่ต้องการการ์ดระดับ GTX 1050 Ti หรือ RX 580 พร้อม RAM 12GB การ์ด FirePro S10000 แม้จะเก่า แต่ยังพอมีพลังใกล้เคียงกับการ์ดเกมมิ่งรุ่นกลางในอดีต การทดลองนี้จึงสะท้อนว่าเทคโนโลยีเก่าหากถูกปรับแต่งอย่างถูกวิธีก็ยังสามารถใช้งานได้ในโลกเกมยุคใหม่ แม้จะไม่สมบูรณ์แบบแต่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้สายโมดิฟาย 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การ์ดจอ AMD FirePro S10000 ➡️ เปิดตัวปี 2012 ใช้ชิป Tahiti สองตัว ➡️ เดิมออกแบบเพื่อเวิร์กสเตชัน ไม่ใช่เล่นเกม ✅ การปรับแต่งเพื่อเล่นเกม ➡️ แฟลช BIOS ให้กลายเป็น Radeon HD 7990 ➡️ ใช้ไดรเวอร์ Adrenalin เพื่อเปิด CrossFire ✅ ผลลัพธ์การทดสอบ ➡️ Crysis วิ่งได้เกิน 110 FPS ➡️ Arc Raiders รันได้ 40-45 FPS ➡️ CS2 ทำได้ 120-160 FPS ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ใช้พลังงานสูงถึง 375W ⛔ ความร้อนสูง ต้องจัดการระบบระบายอากาศ ⛔ เกมใหม่ไม่รองรับ Multi-GPU ทำให้ศักยภาพถูกใช้ไม่เต็มที่ ⛔ เกมหนักอย่าง Cyberpunk 2077 รันได้เพียง 20-30 FPS https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/2012-amd-firepro-s10000-dual-gpu-card-runs-arc-raiders-at-playable-frame-rates-but-half-of-its-gpu-power-goes-unused-in-the-process
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • PeerTube: แพลตฟอร์มวิดีโอแบบกระจายศูนย์

    PeerTube ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกแทนแพลตฟอร์มวิดีโอเชิงพาณิชย์ โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ decentralized ที่ผู้ใช้สามารถโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ของตนเองและเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย ทำให้ลดการพึ่งพาบริษัทใหญ่และเพิ่มความเป็นอิสระในการเผยแพร่เนื้อหา

    การใช้งานจริงในองค์กรและสถาบัน
    แพลตฟอร์มนี้ถูกนำไปใช้โดย กระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส (มีคลิปกว่า 100,000 วิดีโอ), สภาวิจัยแห่งชาติอิตาลี, มหาวิทยาลัยและสถาบันศิลปะในเยอรมนี รวมถึงโครงการโอเพ่นซอร์สชื่อดังอย่าง Blender และ Debian สิ่งนี้สะท้อนว่า PeerTube ไม่ได้เป็นเพียงโครงการทดลอง แต่ถูกใช้จริงในระดับองค์กรและชุมชนโลก

    จุดแข็งด้านโอเพ่นซอร์สและความปลอดภัย
    PeerTube ใช้สัญญาอนุญาต AGPL-3.0 และมีการตรวจสอบตามมาตรฐาน DPG เช่น ความเป็นอิสระของแพลตฟอร์ม, การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล, และการจัดการเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม จุดนี้ทำให้ PeerTube เป็นโซลูชันที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความมั่นใจด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

    ความหมายต่อระบบนิเวศดิจิทัล
    การที่ PeerTube ได้รับการรับรองเป็น Digital Public Good หมายถึงการยอมรับว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีคุณค่าต่อสาธารณะ สามารถช่วยให้ประเทศและองค์กรต่าง ๆ มีทางเลือกในการสร้างแพลตฟอร์มวิดีโอที่ไม่ขึ้นกับบริษัทเชิงพาณิชย์ และสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียม

    สรุปสาระสำคัญ
    PeerTube เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอแบบ decentralized
    ผู้ใช้สามารถโฮสต์เซิร์ฟเวอร์เองและเชื่อมต่อเป็นเครือข่าย

    ใช้งานจริงโดยองค์กรระดับโลก
    เช่น กระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส, สภาวิจัยแห่งชาติอิตาลี, Blender, Debian

    ได้รับการรับรองเป็น Digital Public Good (DPG) ปี 2025
    ผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัย, ความโปร่งใส, และการปกป้องข้อมูล

    ใช้สัญญาอนุญาต AGPL-3.0
    เปิดให้ตรวจสอบและพัฒนาได้อย่างอิสระ

    หากไม่มีการอัปเดตต่อเนื่อง อาจเสี่ยงต่อช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    การละเลยการบำรุงรักษาอาจทำให้ระบบไม่เสถียร

    การโฮสต์ PeerTube ต้องใช้ทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์และการจัดการที่เหมาะสม
    หากขาดการดูแล อาจทำให้ประสบการณ์ผู้ใช้ไม่ดี

    https://www.digitalpublicgoods.net/r/peertube
    🎥 PeerTube: แพลตฟอร์มวิดีโอแบบกระจายศูนย์ PeerTube ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกแทนแพลตฟอร์มวิดีโอเชิงพาณิชย์ โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ decentralized ที่ผู้ใช้สามารถโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ของตนเองและเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย ทำให้ลดการพึ่งพาบริษัทใหญ่และเพิ่มความเป็นอิสระในการเผยแพร่เนื้อหา 🌍 การใช้งานจริงในองค์กรและสถาบัน แพลตฟอร์มนี้ถูกนำไปใช้โดย กระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส (มีคลิปกว่า 100,000 วิดีโอ), สภาวิจัยแห่งชาติอิตาลี, มหาวิทยาลัยและสถาบันศิลปะในเยอรมนี รวมถึงโครงการโอเพ่นซอร์สชื่อดังอย่าง Blender และ Debian สิ่งนี้สะท้อนว่า PeerTube ไม่ได้เป็นเพียงโครงการทดลอง แต่ถูกใช้จริงในระดับองค์กรและชุมชนโลก 🔐 จุดแข็งด้านโอเพ่นซอร์สและความปลอดภัย PeerTube ใช้สัญญาอนุญาต AGPL-3.0 และมีการตรวจสอบตามมาตรฐาน DPG เช่น ความเป็นอิสระของแพลตฟอร์ม, การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล, และการจัดการเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม จุดนี้ทำให้ PeerTube เป็นโซลูชันที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความมั่นใจด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว 📈 ความหมายต่อระบบนิเวศดิจิทัล การที่ PeerTube ได้รับการรับรองเป็น Digital Public Good หมายถึงการยอมรับว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีคุณค่าต่อสาธารณะ สามารถช่วยให้ประเทศและองค์กรต่าง ๆ มีทางเลือกในการสร้างแพลตฟอร์มวิดีโอที่ไม่ขึ้นกับบริษัทเชิงพาณิชย์ และสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ PeerTube เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอแบบ decentralized ➡️ ผู้ใช้สามารถโฮสต์เซิร์ฟเวอร์เองและเชื่อมต่อเป็นเครือข่าย ✅ ใช้งานจริงโดยองค์กรระดับโลก ➡️ เช่น กระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส, สภาวิจัยแห่งชาติอิตาลี, Blender, Debian ✅ ได้รับการรับรองเป็น Digital Public Good (DPG) ปี 2025 ➡️ ผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัย, ความโปร่งใส, และการปกป้องข้อมูล ✅ ใช้สัญญาอนุญาต AGPL-3.0 ➡️ เปิดให้ตรวจสอบและพัฒนาได้อย่างอิสระ ‼️ หากไม่มีการอัปเดตต่อเนื่อง อาจเสี่ยงต่อช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ⛔ การละเลยการบำรุงรักษาอาจทำให้ระบบไม่เสถียร ‼️ การโฮสต์ PeerTube ต้องใช้ทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์และการจัดการที่เหมาะสม ⛔ หากขาดการดูแล อาจทำให้ประสบการณ์ผู้ใช้ไม่ดี https://www.digitalpublicgoods.net/r/peertube
    WWW.DIGITALPUBLICGOODS.NET
    PeerTube
    PeerTube is a tool for hosting, managing, and sharing videos or live streams.
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • Vibe Coding: เมื่อ AI เขียนโค้ดแทนมนุษย์

    บทความ “If You’re Going to Vibe Code, Why Not Do It in C?” โดย Stephen Ramsay พูดถึงการเปลี่ยนแปลงของการเขียนโปรแกรมในยุคที่ AI สามารถสร้างโค้ดได้เอง ผู้เขียนตั้งคำถามว่า หาก “vibe coding” คืออนาคต ทำไมเรายังต้องใช้ภาษาโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อมนุษย์อ่าน ทั้งที่ AI ไม่จำเป็นต้องมีความสะดวกเชิงมนุษย์

    Stephen Ramsay เล่าว่าตนรักการเขียนโปรแกรมมาตั้งแต่ยุค 90 และมองว่าการเขียนโค้ดคือการแก้ปริศนาที่สนุก แต่การใช้ AI เพื่อ “vibe coding” ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกพรากความสุขไป เพราะไม่เข้าใจโค้ดที่ AI สร้างขึ้น อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า AI สามารถสร้างระบบที่ซับซ้อนและทำงานได้จริง แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็มีประสิทธิภาพเกินกว่าที่เขาคิดไว้

    บทเรียนจาก SICP และความหมายของภาษาโปรแกรม
    ผู้เขียนอ้างถึงหนังสือ Structure and Interpretation of Computer Programs ที่สอนว่า ภาษาโปรแกรมคือสื่อสำหรับมนุษย์ในการแสดงแนวคิด ไม่ใช่แค่เครื่องมือให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ดังนั้น Rust, Python, หรือ Haskell ล้วนถูกออกแบบเพื่อให้มนุษย์เข้าใจง่าย แต่สำหรับ AI ที่ทำ vibe coding สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็น เพราะ AI ไม่ต้องการ “ความสะดวกในการอ่าน” แบบมนุษย์

    ทำไมไม่ใช้ C หรือ Assembly
    Ramsay ตั้งคำถามว่า หาก AI เขียนโค้ดได้เอง ทำไมไม่ใช้ภาษาอย่าง C หรือ Assembly ที่ตรงไปตรงมาและเหมาะกับเครื่องจักรมากกว่า เขาชี้ว่า AI ไม่ค่อยผิดพลาดเรื่อง memory leak หรือ off-by-one error และเก่งกว่ามนุษย์ในการจัดการรายละเอียดเชิงเทคนิค ดังนั้นการใช้ภาษาโปรแกรมที่ “เป็นมิตรกับมนุษย์” อาจไม่จำเป็นอีกต่อไป

    แนวคิด VOPL: Vibe-Oriented Programming Language
    ท้ายที่สุด เขาเสนอแนวคิด VOPL (Vibe-Oriented Programming Language) ซึ่งอาจเป็นภาษาที่ออกแบบมาเพื่อ AI โดยเฉพาะ ไม่ใช่เพื่อมนุษย์ อาจอยู่ในรูป pseudocode ที่ AI แปลงเป็น assembly หรือเป็นภาษาที่ใกล้เคียงกับภาษามนุษย์ แต่มี idiom เฉพาะที่ช่วยให้ AI เข้าใจและสร้างโค้ดได้เร็วขึ้น นี่อาจเป็นวิวัฒนาการใหม่ของการเขียนโปรแกรมในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    Vibe coding คือการใช้ AI เขียนโค้ดแทนมนุษย์
    AI สามารถสร้างระบบที่ซับซ้อนและทำงานได้จริง

    ภาษาโปรแกรมถูกออกแบบเพื่อมนุษย์อ่าน
    แต่ AI ไม่ต้องการความสะดวกเชิงมนุษย์

    AI จัดการรายละเอียดเชิงเทคนิคได้ดีกว่ามนุษย์
    เช่น memory management และ off-by-one error

    แนวคิด VOPL เสนอให้มีภาษาใหม่เพื่อ AI โดยเฉพาะ
    อาจเป็น pseudocode หรือภาษาที่ใกล้เคียงภาษามนุษย์

    การพึ่งพา AI อาจทำให้มนุษย์สูญเสียความเข้าใจโค้ด
    เสี่ยงต่อการลดทักษะการเขียนโปรแกรมเชิงลึก

    หากไม่มีกรอบกำกับ อาจเกิดการพัฒนาโค้ดที่มนุษย์ตรวจสอบไม่ได้
    ส่งผลต่อความปลอดภัยและความโปร่งใสของระบบ

    https://stephenramsay.net/posts/vibe-coding.html
    💻 Vibe Coding: เมื่อ AI เขียนโค้ดแทนมนุษย์ บทความ “If You’re Going to Vibe Code, Why Not Do It in C?” โดย Stephen Ramsay พูดถึงการเปลี่ยนแปลงของการเขียนโปรแกรมในยุคที่ AI สามารถสร้างโค้ดได้เอง ผู้เขียนตั้งคำถามว่า หาก “vibe coding” คืออนาคต ทำไมเรายังต้องใช้ภาษาโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อมนุษย์อ่าน ทั้งที่ AI ไม่จำเป็นต้องมีความสะดวกเชิงมนุษย์ Stephen Ramsay เล่าว่าตนรักการเขียนโปรแกรมมาตั้งแต่ยุค 90 และมองว่าการเขียนโค้ดคือการแก้ปริศนาที่สนุก แต่การใช้ AI เพื่อ “vibe coding” ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกพรากความสุขไป เพราะไม่เข้าใจโค้ดที่ AI สร้างขึ้น อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า AI สามารถสร้างระบบที่ซับซ้อนและทำงานได้จริง แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็มีประสิทธิภาพเกินกว่าที่เขาคิดไว้ 📖 บทเรียนจาก SICP และความหมายของภาษาโปรแกรม ผู้เขียนอ้างถึงหนังสือ Structure and Interpretation of Computer Programs ที่สอนว่า ภาษาโปรแกรมคือสื่อสำหรับมนุษย์ในการแสดงแนวคิด ไม่ใช่แค่เครื่องมือให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ดังนั้น Rust, Python, หรือ Haskell ล้วนถูกออกแบบเพื่อให้มนุษย์เข้าใจง่าย แต่สำหรับ AI ที่ทำ vibe coding สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็น เพราะ AI ไม่ต้องการ “ความสะดวกในการอ่าน” แบบมนุษย์ ⚙️ ทำไมไม่ใช้ C หรือ Assembly Ramsay ตั้งคำถามว่า หาก AI เขียนโค้ดได้เอง ทำไมไม่ใช้ภาษาอย่าง C หรือ Assembly ที่ตรงไปตรงมาและเหมาะกับเครื่องจักรมากกว่า เขาชี้ว่า AI ไม่ค่อยผิดพลาดเรื่อง memory leak หรือ off-by-one error และเก่งกว่ามนุษย์ในการจัดการรายละเอียดเชิงเทคนิค ดังนั้นการใช้ภาษาโปรแกรมที่ “เป็นมิตรกับมนุษย์” อาจไม่จำเป็นอีกต่อไป 🌐 แนวคิด VOPL: Vibe-Oriented Programming Language ท้ายที่สุด เขาเสนอแนวคิด VOPL (Vibe-Oriented Programming Language) ซึ่งอาจเป็นภาษาที่ออกแบบมาเพื่อ AI โดยเฉพาะ ไม่ใช่เพื่อมนุษย์ อาจอยู่ในรูป pseudocode ที่ AI แปลงเป็น assembly หรือเป็นภาษาที่ใกล้เคียงกับภาษามนุษย์ แต่มี idiom เฉพาะที่ช่วยให้ AI เข้าใจและสร้างโค้ดได้เร็วขึ้น นี่อาจเป็นวิวัฒนาการใหม่ของการเขียนโปรแกรมในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Vibe coding คือการใช้ AI เขียนโค้ดแทนมนุษย์ ➡️ AI สามารถสร้างระบบที่ซับซ้อนและทำงานได้จริง ✅ ภาษาโปรแกรมถูกออกแบบเพื่อมนุษย์อ่าน ➡️ แต่ AI ไม่ต้องการความสะดวกเชิงมนุษย์ ✅ AI จัดการรายละเอียดเชิงเทคนิคได้ดีกว่ามนุษย์ ➡️ เช่น memory management และ off-by-one error ✅ แนวคิด VOPL เสนอให้มีภาษาใหม่เพื่อ AI โดยเฉพาะ ➡️ อาจเป็น pseudocode หรือภาษาที่ใกล้เคียงภาษามนุษย์ ‼️ การพึ่งพา AI อาจทำให้มนุษย์สูญเสียความเข้าใจโค้ด ⛔ เสี่ยงต่อการลดทักษะการเขียนโปรแกรมเชิงลึก ‼️ หากไม่มีกรอบกำกับ อาจเกิดการพัฒนาโค้ดที่มนุษย์ตรวจสอบไม่ได้ ⛔ ส่งผลต่อความปลอดภัยและความโปร่งใสของระบบ https://stephenramsay.net/posts/vibe-coding.html
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • “5 แกดเจ็ตสุดร้อนแรงที่โลกจับตามองในปี 2026”

    บทความนี้พูดถึง 5 แกดเจ็ตที่ถูกคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 ได้แก่ Steam Machine, Steam Frame VR Headset, iPhone Fold, AYN Odin 3, และ Retroid Pocket 6 ซึ่งแต่ละตัวมีจุดเด่นและความคาดหวังสูงจากทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักเล่นเกม

    Steam Machine และ Steam Controller
    Valve เตรียมเปิดตัว Steam Machine รุ่นใหม่ ในไตรมาสแรกปี 2026 ตัวเครื่องเป็นทรงสี่เหลี่ยมเล็ก (ถูกเรียกเล่น ๆ ว่า GabeCube) ใช้ระบบ SteamOS แทน Windows รองรับการเล่นเกม AAA ที่ 4K 60fps (ผ่าน FSR Upscaling) มีรุ่น 512GB และ 2TB จุดเด่นคือขนาดเล็ก ใช้งานได้ทั้งเป็นคอนโซลในห้องนั่งเล่นหรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องราคา (คาด $600–$800) และประสิทธิภาพจริงเมื่อเทียบกับคอนโซล.

    Steam Frame VR Headset
    Valve ยังเปิดตัว Steam Frame ซึ่งเป็น VR Headset รุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยี 6GHz Wireless Adapter ที่ให้ประสบการณ์ไร้สายแต่ใกล้เคียงการเชื่อมต่อแบบสาย และมี Foveated Streaming ที่เรนเดอร์ภาพเฉพาะจุดที่สายตามอง ทำให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่เสียคุณภาพภาพรวม ใช้ชิป ARM64 Snapdragon SoC พร้อม FEX Translation Layer ที่อาจเปิดประตูให้ PC Gaming บนสถาปัตยกรรม ARM64 เช่น Android และ macOS.

    iPhone Fold
    Apple ถูกคาดว่าจะเปิดตัว iPhone Fold ในเดือนกันยายน 2026 โดยมีดีไซน์แบบ Book-Fold ขนาด 7.8 นิ้ว (หรือรุ่น Max 8.3 นิ้ว) พร้อมจอด้านนอก 5.5 นิ้วและกล้องหลัก 48MP จุดเด่นคือความบางเพียง 4.5 มม. เมื่อกางออก และการใช้ Liquid-Metal Hinge ที่อาจทำให้ iPhone Fold เป็นรุ่นแรกที่ “ไร้รอยพับ” ราคาคาดว่าจะเกิน $2,000.

    AYN Odin 3
    ตลาดเครื่องเล่นเกมพกพา Android กำลังเติบโต และ AYN Odin 3 ที่จะเปิดตัวมกราคม 2026 เป็นที่จับตามองมากที่สุด ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite (3nm), จอ OLED 120Hz, แบต 8,000 mAh และมีระบบระบายความร้อนด้วยพัดลม รองรับการเล่นเกม Emulator ตั้งแต่ N64 ถึง PS3 และยังสามารถเล่นเกม PC AAA อย่าง The Witcher 3 ได้ที่ 40fps ผ่าน GameHub ราคาเริ่มต้น $329.

    Retroid Pocket 6
    สำหรับผู้ที่มองหาตัวเลือกที่ถูกกว่า Retroid Pocket 6 เปิดตัวพร้อมกันในมกราคม 2026 ใช้ Snapdragon 8 Gen 2, RAM สูงสุด 12GB, จอ AMOLED 5.5 นิ้ว 1080p และแบต 6,000 mAh ราคาถูกกว่า Odin 3 มาก ($229–$279) แม้ประสิทธิภาพต่ำกว่า แต่ยังสามารถเล่นเกม AAA รุ่นเก่าได้ดี เช่น Skyrim 75fps และ Tomb Raider 60fps.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Steam Machine (Q1 2026)
    SteamOS, ขนาดเล็ก, รองรับ 4K 60fps (FSR Upscaling)
    ราคา $600–$800, ยังมีข้อกังวลเรื่องประสิทธิภาพ

    Steam Frame VR Headset
    6GHz Wireless Adapter, Foveated Streaming
    ใช้ ARM64 Snapdragon SoC + FEX Translation

    iPhone Fold (Sep 2026)
    Book-Fold 7.8 นิ้ว, รุ่น Max 8.3 นิ้ว
    Liquid-Metal Hinge, บางเพียง 4.5 มม., ราคา > $2,000

    AYN Odin 3 (Jan 2026)
    Snapdragon 8 Elite, OLED 120Hz, แบต 8,000 mAh
    ราคาเริ่มต้น $329, รองรับ Emulator และ PC Gaming

    Retroid Pocket 6 (Jan 2026)
    Snapdragon 8 Gen 2, RAM 8–12GB, AMOLED 1080p
    ราคา $229–$279, เหมาะกับเกม AAA รุ่นเก่าและ Emulator

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    Steam Machine อาจไม่ถึง 60fps จริงในเกม AAA
    iPhone Fold ราคาสูงเกิน $2,000 และอาจเข้าถึงยาก
    Odin 3 ยังมีปัญหา Driver Support บางเกมไม่รันได้ดี

    https://www.slashgear.com/2047164/gadgets-2026-most-anticipated-expected-to-release/
    🎮 “5 แกดเจ็ตสุดร้อนแรงที่โลกจับตามองในปี 2026” บทความนี้พูดถึง 5 แกดเจ็ตที่ถูกคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 ได้แก่ Steam Machine, Steam Frame VR Headset, iPhone Fold, AYN Odin 3, และ Retroid Pocket 6 ซึ่งแต่ละตัวมีจุดเด่นและความคาดหวังสูงจากทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักเล่นเกม 🖥️ Steam Machine และ Steam Controller Valve เตรียมเปิดตัว Steam Machine รุ่นใหม่ ในไตรมาสแรกปี 2026 ตัวเครื่องเป็นทรงสี่เหลี่ยมเล็ก (ถูกเรียกเล่น ๆ ว่า GabeCube) ใช้ระบบ SteamOS แทน Windows รองรับการเล่นเกม AAA ที่ 4K 60fps (ผ่าน FSR Upscaling) มีรุ่น 512GB และ 2TB จุดเด่นคือขนาดเล็ก ใช้งานได้ทั้งเป็นคอนโซลในห้องนั่งเล่นหรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องราคา (คาด $600–$800) และประสิทธิภาพจริงเมื่อเทียบกับคอนโซล. 🕶️ Steam Frame VR Headset Valve ยังเปิดตัว Steam Frame ซึ่งเป็น VR Headset รุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยี 6GHz Wireless Adapter ที่ให้ประสบการณ์ไร้สายแต่ใกล้เคียงการเชื่อมต่อแบบสาย และมี Foveated Streaming ที่เรนเดอร์ภาพเฉพาะจุดที่สายตามอง ทำให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่เสียคุณภาพภาพรวม ใช้ชิป ARM64 Snapdragon SoC พร้อม FEX Translation Layer ที่อาจเปิดประตูให้ PC Gaming บนสถาปัตยกรรม ARM64 เช่น Android และ macOS. 📱 iPhone Fold Apple ถูกคาดว่าจะเปิดตัว iPhone Fold ในเดือนกันยายน 2026 โดยมีดีไซน์แบบ Book-Fold ขนาด 7.8 นิ้ว (หรือรุ่น Max 8.3 นิ้ว) พร้อมจอด้านนอก 5.5 นิ้วและกล้องหลัก 48MP จุดเด่นคือความบางเพียง 4.5 มม. เมื่อกางออก และการใช้ Liquid-Metal Hinge ที่อาจทำให้ iPhone Fold เป็นรุ่นแรกที่ “ไร้รอยพับ” ราคาคาดว่าจะเกิน $2,000. 🎮 AYN Odin 3 ตลาดเครื่องเล่นเกมพกพา Android กำลังเติบโต และ AYN Odin 3 ที่จะเปิดตัวมกราคม 2026 เป็นที่จับตามองมากที่สุด ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite (3nm), จอ OLED 120Hz, แบต 8,000 mAh และมีระบบระบายความร้อนด้วยพัดลม รองรับการเล่นเกม Emulator ตั้งแต่ N64 ถึง PS3 และยังสามารถเล่นเกม PC AAA อย่าง The Witcher 3 ได้ที่ 40fps ผ่าน GameHub ราคาเริ่มต้น $329. 🎮 Retroid Pocket 6 สำหรับผู้ที่มองหาตัวเลือกที่ถูกกว่า Retroid Pocket 6 เปิดตัวพร้อมกันในมกราคม 2026 ใช้ Snapdragon 8 Gen 2, RAM สูงสุด 12GB, จอ AMOLED 5.5 นิ้ว 1080p และแบต 6,000 mAh ราคาถูกกว่า Odin 3 มาก ($229–$279) แม้ประสิทธิภาพต่ำกว่า แต่ยังสามารถเล่นเกม AAA รุ่นเก่าได้ดี เช่น Skyrim 75fps และ Tomb Raider 60fps. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Steam Machine (Q1 2026) ➡️ SteamOS, ขนาดเล็ก, รองรับ 4K 60fps (FSR Upscaling) ➡️ ราคา $600–$800, ยังมีข้อกังวลเรื่องประสิทธิภาพ ✅ Steam Frame VR Headset ➡️ 6GHz Wireless Adapter, Foveated Streaming ➡️ ใช้ ARM64 Snapdragon SoC + FEX Translation ✅ iPhone Fold (Sep 2026) ➡️ Book-Fold 7.8 นิ้ว, รุ่น Max 8.3 นิ้ว ➡️ Liquid-Metal Hinge, บางเพียง 4.5 มม., ราคา > $2,000 ✅ AYN Odin 3 (Jan 2026) ➡️ Snapdragon 8 Elite, OLED 120Hz, แบต 8,000 mAh ➡️ ราคาเริ่มต้น $329, รองรับ Emulator และ PC Gaming ✅ Retroid Pocket 6 (Jan 2026) ➡️ Snapdragon 8 Gen 2, RAM 8–12GB, AMOLED 1080p ➡️ ราคา $229–$279, เหมาะกับเกม AAA รุ่นเก่าและ Emulator ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ Steam Machine อาจไม่ถึง 60fps จริงในเกม AAA ⛔ iPhone Fold ราคาสูงเกิน $2,000 และอาจเข้าถึงยาก ⛔ Odin 3 ยังมีปัญหา Driver Support บางเกมไม่รันได้ดี https://www.slashgear.com/2047164/gadgets-2026-most-anticipated-expected-to-release/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Of The Most Anticipated Gadgets Expected To Release In 2026 - SlashGear
    Tech in 2026 might not be as dull as it looks. From Valve’s hardware push to Apple’s foldable iPhone, these upcoming releases actually feel worth tracking.
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • “Linux Foundation เปิดตัว Agentic AI Foundation รวมยักษ์ใหญ่ผลักดัน AI อัตโนมัติ”

    การก่อตั้งและเป้าหมาย
    Linux Foundation ประกาศเปิดตัว Agentic AI Foundation (AAIF) โดยรวมบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Amazon Web Services, Anthropic, Block, Bloomberg, Cloudflare, Google, Microsoft และ OpenAI เพื่อสร้างกรอบความร่วมมือแบบเปิดในการพัฒนา Agentic AI — ระบบ AI ที่สามารถตัดสินใจและทำงานได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ในทุกขั้นตอน. เป้าหมายคือการสร้างมาตรฐานและโครงสร้างพื้นฐานที่โปร่งใส ป้องกันการผูกขาด และส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างแพลตฟอร์ม.

    เทคโนโลยีหลักที่เข้าร่วม
    AAIF เริ่มต้นด้วยการรวม 3 โปรเจกต์โอเพ่นซอร์สสำคัญ:
    Model Context Protocol (MCP) จาก Anthropic: ช่วยให้โมเดล AI เชื่อมต่อกับเครื่องมือและข้อมูลภายนอกได้อย่างปลอดภัย
    goose จาก Block: เฟรมเวิร์กสำหรับสร้าง AI agents แบบ local-first ที่ยืดหยุ่นและขยายได้
    AGENTS.md จาก OpenAI: มาตรฐาน Markdown สำหรับให้ AI coding agents ทำงานได้สอดคล้องกันในหลายระบบ

    ความสำคัญต่อวงการ AI
    การรวมโปรเจกต์เหล่านี้ภายใต้ Linux Foundation ทำให้เกิดการพัฒนาแบบ open governance ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการผูกขาดโดยบริษัทใดบริษัทหนึ่ง และเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างมาตรฐานใหม่ของ AI ที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเสถียรและปลอดภัย.

    การสนับสนุนและโครงสร้างสมาชิก
    AAIF มีสมาชิกหลายระดับ ตั้งแต่ Platinum ($350,000), Gold ($200,000), Silver ($10,000) ไปจนถึง Associate สำหรับองค์กรไม่แสวงหากำไรและสถาบันการศึกษา โดยมีเป้าหมายให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของ AI agentic ได้.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การก่อตั้ง Agentic AI Foundation (AAIF)
    เปิดตัวโดย Linux Foundation
    รวมบริษัทใหญ่ เช่น AWS, Google, Microsoft, OpenAI

    เทคโนโลยีหลักที่เข้าร่วม
    MCP จาก Anthropic: เชื่อมต่อโมเดลกับเครื่องมือภายนอก
    goose จาก Block: เฟรมเวิร์กสร้าง AI agents แบบ local-first
    AGENTS.md จาก OpenAI: มาตรฐาน Markdown สำหรับ AI coding agents

    ความสำคัญต่อวงการ AI
    พัฒนาแบบ open governance ลดการผูกขาด
    สร้างมาตรฐานใหม่ให้ AI agents ทำงานร่วมกันได้

    โครงสร้างสมาชิกและการสนับสนุน
    Platinum, Gold, Silver และ Associate สำหรับองค์กรไม่แสวงหากำไร
    เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    หากไม่มีมาตรฐานกลาง อาจเกิดการกระจายตัวและไม่สามารถทำงานร่วมกันได้
    การพัฒนา Agentic AI โดยไม่มีการกำกับดูแล อาจเสี่ยงต่อการใช้งานในทางที่ผิด
    การลงทุนสูงอาจทำให้ผู้เล่นรายเล็กเข้าถึงได้ยาก

    https://itsfoss.com/news/agentic-ai-foundation-launch/
    🤖 “Linux Foundation เปิดตัว Agentic AI Foundation รวมยักษ์ใหญ่ผลักดัน AI อัตโนมัติ” 🌐 การก่อตั้งและเป้าหมาย Linux Foundation ประกาศเปิดตัว Agentic AI Foundation (AAIF) โดยรวมบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Amazon Web Services, Anthropic, Block, Bloomberg, Cloudflare, Google, Microsoft และ OpenAI เพื่อสร้างกรอบความร่วมมือแบบเปิดในการพัฒนา Agentic AI — ระบบ AI ที่สามารถตัดสินใจและทำงานได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ในทุกขั้นตอน. เป้าหมายคือการสร้างมาตรฐานและโครงสร้างพื้นฐานที่โปร่งใส ป้องกันการผูกขาด และส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างแพลตฟอร์ม. 🛠️ เทคโนโลยีหลักที่เข้าร่วม AAIF เริ่มต้นด้วยการรวม 3 โปรเจกต์โอเพ่นซอร์สสำคัญ: 💠 Model Context Protocol (MCP) จาก Anthropic: ช่วยให้โมเดล AI เชื่อมต่อกับเครื่องมือและข้อมูลภายนอกได้อย่างปลอดภัย 💠 goose จาก Block: เฟรมเวิร์กสำหรับสร้าง AI agents แบบ local-first ที่ยืดหยุ่นและขยายได้ 💠 AGENTS.md จาก OpenAI: มาตรฐาน Markdown สำหรับให้ AI coding agents ทำงานได้สอดคล้องกันในหลายระบบ 💡 ความสำคัญต่อวงการ AI การรวมโปรเจกต์เหล่านี้ภายใต้ Linux Foundation ทำให้เกิดการพัฒนาแบบ open governance ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการผูกขาดโดยบริษัทใดบริษัทหนึ่ง และเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างมาตรฐานใหม่ของ AI ที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเสถียรและปลอดภัย. 📅 การสนับสนุนและโครงสร้างสมาชิก AAIF มีสมาชิกหลายระดับ ตั้งแต่ Platinum ($350,000), Gold ($200,000), Silver ($10,000) ไปจนถึง Associate สำหรับองค์กรไม่แสวงหากำไรและสถาบันการศึกษา โดยมีเป้าหมายให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของ AI agentic ได้. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การก่อตั้ง Agentic AI Foundation (AAIF) ➡️ เปิดตัวโดย Linux Foundation ➡️ รวมบริษัทใหญ่ เช่น AWS, Google, Microsoft, OpenAI ✅ เทคโนโลยีหลักที่เข้าร่วม ➡️ MCP จาก Anthropic: เชื่อมต่อโมเดลกับเครื่องมือภายนอก ➡️ goose จาก Block: เฟรมเวิร์กสร้าง AI agents แบบ local-first ➡️ AGENTS.md จาก OpenAI: มาตรฐาน Markdown สำหรับ AI coding agents ✅ ความสำคัญต่อวงการ AI ➡️ พัฒนาแบบ open governance ลดการผูกขาด ➡️ สร้างมาตรฐานใหม่ให้ AI agents ทำงานร่วมกันได้ ✅ โครงสร้างสมาชิกและการสนับสนุน ➡️ Platinum, Gold, Silver และ Associate สำหรับองค์กรไม่แสวงหากำไร ➡️ เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ หากไม่มีมาตรฐานกลาง อาจเกิดการกระจายตัวและไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ⛔ การพัฒนา Agentic AI โดยไม่มีการกำกับดูแล อาจเสี่ยงต่อการใช้งานในทางที่ผิด ⛔ การลงทุนสูงอาจทำให้ผู้เล่นรายเล็กเข้าถึงได้ยาก https://itsfoss.com/news/agentic-ai-foundation-launch/
    ITSFOSS.COM
    Linux Foundation Launches Agentic AI Foundation with Industry-Wide Support
    Anthropic's MCP, Block's goose, and OpenAI's AGENTS.md form the foundation of this new initiative.
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
More Results