• https://www.youtube.com/watch?v=4cbYTHIphoM
    บทสนทนาเทศกาลลอยกระทง
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเทศกาลลอยกระทง
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #ลอยกระทง

    The conversations from the clip :

    Boy: This is incredible! The river is full of glowing krathongs, and there’s so much happening around us.
    Girl: I know! Look at all the food stalls. The smell of grilled satay and pad Thai is amazing!
    Boy: I’m definitely going to try some food later. But first, let’s float our krathongs. Have you made a wish?
    Girl: Yes, I wished for peace and happiness in my life. What about you?
    Boy: I wished for a wonderful year of travel and adventure! This festival feels so magical.
    Girl: It really does! The atmosphere is so lively with all the lights, the music, and the crowds. I love it!
    Boy: Me too! And the traditional Thai dance performances are so beautiful. Do you want to watch one later?
    Girl: Absolutely! I also want to try those sugarcane juice drinks. They look so refreshing.
    Boy: I had one earlier! It’s sweet and so refreshing after the hot weather. We should get another one.
    Girl: I definitely will. And look over there! There’s a game booth where you can throw rings at bottles. It looks fun!
    Boy: I’ve never played that game before. Do you want to try it?
    Girl: Let’s do it! I’m feeling lucky tonight. Oh, look, they’re also selling glowing toys and lanterns!
    Boy: That would make such a cute souvenir. We should get one before we leave.
    Girl: For sure! This is such an unforgettable experience. I’m so glad we’re here together.

    เด็กผู้ชาย: นี่มันน่าทึ่งจริง ๆ! แม่น้ำเต็มไปด้วยกระทงเรืองแสง แถมยังมีอะไรเกิดขึ้นรอบตัวเราเต็มไปหมดเลย
    เด็กผู้หญิง: ใช่เลย! ดูสิ มีร้านขายอาหารเต็มไปหมด กลิ่นของสะเต๊ะย่างกับผัดไทยหอมมาก!
    เด็กผู้ชาย: ฉันจะลองชิมอาหารทีหลังแน่นอน แต่ก่อนอื่นเรามาลอยกระทงกันก่อน คุณอธิษฐานหรือยัง?
    เด็กผู้หญิง: อธิษฐานแล้ว ฉันขอให้ชีวิตมีแต่ความสงบสุขและความสุข แล้วคุณล่ะ?
    เด็กผู้ชาย: ฉันขอให้ปีนี้เป็นปีแห่งการเดินทางและการผจญภัยที่ยอดเยี่ยม! เทศกาลนี้ให้ความรู้สึกมหัศจรรย์มากเลย
    เด็กผู้หญิง: จริงด้วย! บรรยากาศคึกคักไปด้วยแสงไฟ เสียงดนตรี และผู้คนมากมาย ฉันชอบจัง!
    เด็กผู้ชาย: ฉันก็เหมือนกัน! การแสดงรำไทยแบบดั้งเดิมก็สวยงามมาก คุณอยากดูไหม?
    เด็กผู้หญิง: อยากมาก! ฉันก็อยากลองน้ำอ้อยที่ขายอยู่ด้วย ดูแล้วน่าจะสดชื่นมาก ๆ
    เด็กผู้ชาย: ฉันเพิ่งลองไปตอนบ่ายเอง! รสหวานและสดชื่นสุด ๆ หลังจากเจออากาศร้อน เราน่าจะซื้อมาดื่มกันอีกนะ
    เด็กผู้หญิง: แน่นอน เดี๋ยวจะไปซื้อเลย ดูนั่นสิ! มีซุ้มเกมที่ให้โยนห่วงใส่ขวดด้วย ดูสนุกนะ!
    เด็กผู้ชาย: ฉันยังไม่เคยเล่นเกมนี้เลย คุณอยากลองไหม?
    เด็กผู้หญิง: ลองกันเถอะ! คืนนี้รู้สึกโชคดีจัง โอ้ ดูนั่นสิ! พวกเขายังขายของเล่นและโคมไฟเรืองแสงด้วยนะ!
    เด็กผู้ชาย: อันนั้นเป็นของที่ระลึกที่น่ารักมาก เราควรจะซื้อติดมือก่อนกลับบ้าน
    เด็กผู้หญิง: แน่นอน! นี่เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมจริง ๆ ฉันดีใจมากที่เราได้มาอยู่ที่นี่ด้วยกัน

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Incredible (อิน-เครด-ดิเบิล) adj. แปลว่า น่าทึ่ง
    River (ริฟ-เวอะ) n. แปลว่า แม่น้ำ
    Glowing (โกล-วิง) adj. แปลว่า ส่องแสง
    Stall (สตอล) n. แปลว่า ร้านเล็ก ๆ
    Smell (สเมล) n./v. แปลว่า กลิ่น / ได้กลิ่น
    Grilled (กริล-ด) adj. แปลว่า ย่าง
    Magical (แมจ-จิ-เคิล) adj. แปลว่า มหัศจรรย์
    Atmosphere (แอท-เมิส-เฟียร์) n. แปลว่า บรรยากาศ
    Crowds (เคราดส์) n. แปลว่า ฝูงชน
    Performance (เพอะ-ฟอร์-เมินซ) n. แปลว่า การแสดง
    Refreshing (รี-เฟรช-ชิง) adj. แปลว่า สดชื่น
    Weather (เวธ-เธอะ) n. แปลว่า สภาพอากาศ
    Booth (บูธ) n. แปลว่า ซุ้ม / บูธ
    Lucky (ลัค-คี) adj. แปลว่า โชคดี
    Unforgettable (อัน-เฟอะ-เก็ท-ทะ-เบิล) adj. แปลว่า น่าจดจำ / ไม่มีวันลืม
    https://www.youtube.com/watch?v=4cbYTHIphoM บทสนทนาเทศกาลลอยกระทง (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเทศกาลลอยกระทง มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #ลอยกระทง The conversations from the clip : Boy: This is incredible! The river is full of glowing krathongs, and there’s so much happening around us. Girl: I know! Look at all the food stalls. The smell of grilled satay and pad Thai is amazing! Boy: I’m definitely going to try some food later. But first, let’s float our krathongs. Have you made a wish? Girl: Yes, I wished for peace and happiness in my life. What about you? Boy: I wished for a wonderful year of travel and adventure! This festival feels so magical. Girl: It really does! The atmosphere is so lively with all the lights, the music, and the crowds. I love it! Boy: Me too! And the traditional Thai dance performances are so beautiful. Do you want to watch one later? Girl: Absolutely! I also want to try those sugarcane juice drinks. They look so refreshing. Boy: I had one earlier! It’s sweet and so refreshing after the hot weather. We should get another one. Girl: I definitely will. And look over there! There’s a game booth where you can throw rings at bottles. It looks fun! Boy: I’ve never played that game before. Do you want to try it? Girl: Let’s do it! I’m feeling lucky tonight. Oh, look, they’re also selling glowing toys and lanterns! Boy: That would make such a cute souvenir. We should get one before we leave. Girl: For sure! This is such an unforgettable experience. I’m so glad we’re here together. เด็กผู้ชาย: นี่มันน่าทึ่งจริง ๆ! แม่น้ำเต็มไปด้วยกระทงเรืองแสง แถมยังมีอะไรเกิดขึ้นรอบตัวเราเต็มไปหมดเลย เด็กผู้หญิง: ใช่เลย! ดูสิ มีร้านขายอาหารเต็มไปหมด กลิ่นของสะเต๊ะย่างกับผัดไทยหอมมาก! เด็กผู้ชาย: ฉันจะลองชิมอาหารทีหลังแน่นอน แต่ก่อนอื่นเรามาลอยกระทงกันก่อน คุณอธิษฐานหรือยัง? เด็กผู้หญิง: อธิษฐานแล้ว ฉันขอให้ชีวิตมีแต่ความสงบสุขและความสุข แล้วคุณล่ะ? เด็กผู้ชาย: ฉันขอให้ปีนี้เป็นปีแห่งการเดินทางและการผจญภัยที่ยอดเยี่ยม! เทศกาลนี้ให้ความรู้สึกมหัศจรรย์มากเลย เด็กผู้หญิง: จริงด้วย! บรรยากาศคึกคักไปด้วยแสงไฟ เสียงดนตรี และผู้คนมากมาย ฉันชอบจัง! เด็กผู้ชาย: ฉันก็เหมือนกัน! การแสดงรำไทยแบบดั้งเดิมก็สวยงามมาก คุณอยากดูไหม? เด็กผู้หญิง: อยากมาก! ฉันก็อยากลองน้ำอ้อยที่ขายอยู่ด้วย ดูแล้วน่าจะสดชื่นมาก ๆ เด็กผู้ชาย: ฉันเพิ่งลองไปตอนบ่ายเอง! รสหวานและสดชื่นสุด ๆ หลังจากเจออากาศร้อน เราน่าจะซื้อมาดื่มกันอีกนะ เด็กผู้หญิง: แน่นอน เดี๋ยวจะไปซื้อเลย ดูนั่นสิ! มีซุ้มเกมที่ให้โยนห่วงใส่ขวดด้วย ดูสนุกนะ! เด็กผู้ชาย: ฉันยังไม่เคยเล่นเกมนี้เลย คุณอยากลองไหม? เด็กผู้หญิง: ลองกันเถอะ! คืนนี้รู้สึกโชคดีจัง โอ้ ดูนั่นสิ! พวกเขายังขายของเล่นและโคมไฟเรืองแสงด้วยนะ! เด็กผู้ชาย: อันนั้นเป็นของที่ระลึกที่น่ารักมาก เราควรจะซื้อติดมือก่อนกลับบ้าน เด็กผู้หญิง: แน่นอน! นี่เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมจริง ๆ ฉันดีใจมากที่เราได้มาอยู่ที่นี่ด้วยกัน Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Incredible (อิน-เครด-ดิเบิล) adj. แปลว่า น่าทึ่ง River (ริฟ-เวอะ) n. แปลว่า แม่น้ำ Glowing (โกล-วิง) adj. แปลว่า ส่องแสง Stall (สตอล) n. แปลว่า ร้านเล็ก ๆ Smell (สเมล) n./v. แปลว่า กลิ่น / ได้กลิ่น Grilled (กริล-ด) adj. แปลว่า ย่าง Magical (แมจ-จิ-เคิล) adj. แปลว่า มหัศจรรย์ Atmosphere (แอท-เมิส-เฟียร์) n. แปลว่า บรรยากาศ Crowds (เคราดส์) n. แปลว่า ฝูงชน Performance (เพอะ-ฟอร์-เมินซ) n. แปลว่า การแสดง Refreshing (รี-เฟรช-ชิง) adj. แปลว่า สดชื่น Weather (เวธ-เธอะ) n. แปลว่า สภาพอากาศ Booth (บูธ) n. แปลว่า ซุ้ม / บูธ Lucky (ลัค-คี) adj. แปลว่า โชคดี Unforgettable (อัน-เฟอะ-เก็ท-ทะ-เบิล) adj. แปลว่า น่าจดจำ / ไม่มีวันลืม
    0 Comments 0 Shares 430 Views 0 Reviews
  • 13-11-67/01 : หมี CNN / เล่าสู่กันฟัง" EP.12 ตอน "มหาวิบัติกรมตำหนวด กากีผยอง" เอาให้สุดซอย กฎหมาเหนือกฎหมาย อยู่ที่ใครอุ้ม? แฉอีเหลี่ยม หักหลังอีเหลี่ยม เพื่อหวังกลับมาชิมิ? กระแสปั่น อีโจ๊กยังไม่เละ ลุ้นกลับมาพร้อมเยียวยา จริงดิ? ช้าก่อน หากคุณโทรหาเราภายใน 3 นาที เราจะมีโปรไฟไหม้ มา 1 ตายยกคอก เรื่องเหี้ยๆ ไม่เคยพ้นอีกากีเสนียดแผ่นดินฉิงๆ สงสารตำหนวดชั้นผู้น้อย ตำหนวดดีดี ที่ต้องอยู่ในดงโจร เพราะมันเป็นโจรกันทั้งกรมไงล่ะ ใครล่ะ สร้างระบบโจรนี้ มรึงต้องย้อนกลับไป ปีที่อีเหลี่ยมเข้ามาจัดระเบียบกรมอีกากีใหม่หมด ทั้งหมดคือแผน CIA ทำลายรากฐาน ต้องปรับโครงสร้างก่อน ความยุติธรรมชั้นต้น สำนวน เริ่มจากอีกากี แล้วปล่อยเชื้อชั่วเข้ากรมอัยกวยต่อ ใช่! เหี้ย C มันจ้องบ่อนทำลายความมั่นคงไทย ผ่านทุกขบวนการยุติธรรม เมื่อต้นน้ำมันเหี้ย รับใช้โจร อย่าหวังจะขาวสะอาด ความยุติธรรมมีแต่ในการ์ตูน เพราะมันอยู่ที่เด็กใคร? แต่อย่าได้หนักใจไป นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว ปัจจุบัน เชื้อชั่ว เชื้อเหี้ย ในกรมกากีเสนียดแผ่นดิน ออกลายหมดเกลี้ยง อีตำหนวดชั้นผู้ใหญ่ดาหน้าโดนคุกกันทั่ว เอี่ยมทุนสีเทา ธุรกิจมืด ซ่องโจร บ่อนการพนัน ไม่มีอะไรที่เหี้ย จัญไร ที่ตำหนวดไม่รู้ รู้หมดทุกจุด รู้ทุกอย่าง รู้ว่าของใคร? แต่ที่ไม่ทำห่าอะไร เพราะเงินมันอุดปากอยู่ อยากเลื่อนตำแหน่ง อยากรวย อยากหิวแสง ต้องมีนายใหญ่แบ็คอัพถึงจะรุ่ง อีกรมตำหนวดเนี่ย เป็นเหมือนกันหมดทั้งโลก โดยเฉพาะประเทศคลั่งประชาธิปไตย กฎหมามักจะมาก่อนกฎหมายเสมอ มรึงฆ่าคนตาย จ่าย 100 ล้าน วัดครึ่งนึง กรรมการครึ่งนึง ผ่านไป 1 ปี เรื่องจบ หายเงียบ อีชั่วก็ไปทำชั่วต่อไงล่ะ ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน? แต่ยามที่แสงทำงาน จะลากไอ้อีสารพัดเหี้ยทั้งหมด เข้าตาราง ความจริงจะโผล่มา กระแสปัญญาชนจะก่อเกิด อีตำหนวดหมดราคา สภาพไม่ต่างกับโจร? กรมอัยกวยที่หนักแผ่นดิน จะถูกล้างบางในพศ.นี้ ทุกความระบำอัปรีย์จัญไรทั้งหลายที่มรึงประสบมา จะถูกล้างทั้งหมด โดยการ "แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ" ฉบับวังและชาติมาก่อนประชาธิปไตยตอแหล เอาให้สุดซอย สุดติ่งกระดิ่งเหี้ยกันไปเลย ประชาชนหมดศรัทธากับขบวนการยุติธรรมต้นน้ำของไทยแล้ว แสงถึงต้องออกโรงเอง งวดนี้ ตายยกโคตรเหี้ย ทั้งขบวนการ ไม่ใช่ใครอื่น ส้นตรีนบู๊ทตรีนโตเข้ามาชำระล้างให้เอง เมื่อมรึงอยู่กันดีดีไม่ได้ ต้องหาเรื่องให้ชาวบ้านเดือดร้อน อันธพาลครองเมือง ก็อย่าได้เสพสุขกันอีกต่อไป สั้นๆ คือทหารจัดระเบียบกรมตำหนวดใหม่หมด ไม่สิ ต้องเรียก "ผู้ใหญ่สั่งตรงมาเอง" เห็นแสงปลายอุโมงค์ชัดเจน มันโดดเด่นมว๊าก! ไม่ว่าจะอีโจ๊กคนอร์ อีขาใหญ่แค่ไหน ก็แค่ขี้ตรีนกองทัพ ฟังๆ ชัด จากปากณัชชาน่ะจ๊ะ "ขี้ตรีนกองทัพ" รถถังออก GMC ผุด โผล่ทุบทั้งสถานีก็เคยมาแล้ว ใหญ่แค่ไหน ก็ไม่พ้นอวสานเซลล์แมน ดีออก? ไม่แปลกที่อีเหลี่ยมถูกหักหลังยับ ทั้งพรรคร่วม ทั้งลูกน้องเก่า ทั้งคนใกล้ชิด เพราะหน้าที่ขี้ข้าคือเอาตัวรอดจ๊ะ..นายจ๋า ขายนายตัวเอง เพื่อไต่เต้าสูงกว่า หรือความอยู่รอดถาวร สันดานขี้ข้า เป็นเช่นนี้ทั่วแกแลคซี่ เผานายเก่าแลกผลงาน จะฆ่าเหี้ย ต้องให้เหี้ยลงมือกันเอง ไม่ต้องเปลืองแรงขยี้ ไม่ต้องเปลืองคนดีดีให้ติดเสนียด สรุปกลกามกรมตำหนวด ปล่อยเหี้ยตัวเล็ก เพื่องับเหี้ยตัวใหญ่ ตัวบงการ เสร็จกิจแล้วค่อยเชือดทีหลัง นี่มันไม่ใช่เรื่องใหม่เลย แผนพิชัยสงคราม ใช้กันบ่อย อีโจ๊กคนอร์สุดท้ายก็ไม่รอดอยู่ดี เล่นให้เป็น อ่านเกมส์ให้ขาด จะไม่ต๊กกะใจ! ถามสั้นๆ เผาอีเหลี่ยมชาติชั่ว กับเผาอีโจ๊กคนอร์ มรึงอยากให้ใครตายห่าก่อนกันล่ะ? กลวิธีเค้ามี วิธีการไม่สำคัญ เป้าหมายสำเร็จคือชัยชนะ! ใครล่ะ จะฆ่านายใหญ่ได้ หากไม่ใช่ขี้ข้าใกล้ตัว? มหากาพย์ชั้น 14 ก็จะตายห่ายกโคตรเหี้ยก็เพราะเหตุผลนี้เช่นกัน ศรีธนญชัยเดินหมากหลายชั้น ธรรมดาซะที่ไหนกันล่ะ? ไม่อยากพูด แม้แต่ชั้นระดับผู้พิพากษา ก็ถูกเช็คบิลได้เช่นกัน หากมีพิรุจ อุ้มเหี้ย หลักฐานเค้ามี แค่รอเหยื่อดิ้น ชั่วโมงนี้ ไม่มีใครไว้ใจใครได้อีกแล้ว เหี้ยหักหลังกันเกลื่อน? นี่ล่ะ วังวนเหี้ยแท้จริง! เอ้า..เห้ย ไม่ตรงปกนี่หว่า จะข้ามรุ่นล่อลุงสนธิ ข่าวปล่อยอีเดชอบแดร๊กถั่วดำ ออกมากลางโซเชี่ยล ฮาแตก ชอบไม้ป่าเดียวกันเหรอจ๊ะ..ตะเอง ดูทรงแล้ว สายเหลืองนี่หว่า? 555+ ยังไม่ทันจะเริ่ม ก็เสียหมา เสียทรงซะแว๊ว อยากโดนแฉอีกเหรอจ๊ะ? งวดนี้ อีเด ถูกจัดหนักแน่ เสี้ยนจัดน่ะมรึง! ด้านอีต้มตุ๊ด เยี่ยวแตก ขนาดอีทนายสายบัวตอแหลยังพลิกลิ้น ชิ่งหนีดีกว่า โอกาสตายร่วมสูง หลังอีนุ อีสา ถูกจับมารีด(นมวัว) คายออกหมดเปลือก จะเหลือเหี้ยอะไรอีกเนี่ย สรุปคือ 39 ล้านคือดอกฆ่าจริง 71 ล้านแค่ดอกโหมโรง เพ่อ้อยไม่ถอนฟ้อง ไปสุดซอยเท่านั้น อีเมียดิ้นพล่าน กูไม่รู้ ไม่เกี่ยว สายเกินปุยมุย? เชิญไปอวดรวยกันต่อในคุกน่ะจ๊ะ สายเบ็ดรอมรึงอยู่เพี๊ยบ ข้ามมาดูโลกตอแหลกันต่อ : อีเสี้ยนยาชะตาขาด หมดหนทาง อ้อนอีทรัมปป์ ยกแผ่นดินให้เลย แค่ต่อลมหายใจกูหน่อย? อีทรัมปป์คงสนแผ่นดินเน่าๆ เนี่ยน่ะ เพราะรู้อยู่แล้ว ยังไงรัสเซียเขมือบแน่ ถามส้นตรีนปูตินรึยัง? พวกมรึงมีปัญญาเหรอ? เกมส์อยู่ในมือใคร? ใครกำหนดทิศทางโลกทุกวันนี้ ใช่มรึงเหรอ? จีนเขยิบ รัสเซียขยับ โลกตามทันที ยังไม่สำเหนียก อีทรัมปป์มันมาเพื่อแตกอเมริกา ไม่ได้มากู้อเมริกา แล้วใยกู้ต้องมาช่วยกู้แผ่นดินเน่ามรึงด้วยล่ะ อีเสี้ยนยาจ๋า? ชั่วโมงนี้ ใครกล้าชนรัฐบุรุษปูติน สีจิ้นผิง ไม่มี? แค่ BRICS ยังแห่กันตามหมดทั้งโลก มรึงมัน NOBODY แล้ว ไอ้สัส! พอก่อน พอได้แล้ว อียิวขี้แตกแล้ว โดนทั้งซูเปอร์โซนิค ตามด้วยไฮเปอร์โซนิค แบบลืมหายใจ ถามจริง มรึงมีเยอะเกินไปป่ะ? อะไรน่ะ ยังเหลืออีกเป็นล้านลูก ไอ้สัส! ผลิตออกมาเยอะเกินปุยมั้ย? เอาไปยิงหมาเหรอ? สาย HARDCORE บ่นยับ? ทำไมไม่ฆ่าล้างโคตรมันไปเลย 24 ชม. รอเหี้ยอะไรอยู่ ยึดแผ่นดินแม่งให้เกลี้ยง คำถามนี้ ต้องไปดูว่า ขั้วใหม่ รัสเซีย จีน อิหร่าน โสมแดง เค้าต้องการอะไรแท้จริง "หาใช่ชัยชนะในสมรภูมิ" แต่เป็นทุบหม้อข้าวเหี้ย ทำลายคลังแสง คลังเงิน ไอ้อีตะวันตกจนไม่เหลือเหี้ยอะไรอีก เมื่อหมดตูด มรึงก็แค่ "ไอ้ยาจก" ไม่มีจะแดร๊ก แล้วจะมีปัญญาทำเหี้ยอะไรต่อได้อีก ทุบที่หม้อข้าว นี่คือยุทธศาสตร์หลัก ที่ขั้วใหม่ทำอยู่ อย่าลืมน่ะว่า เหือบครึ่งปีแล้ว ที่ท่าเรือไฮฟา ไม่มีสินค้าเข้ามาเลย เรือขนส่งเข้าไม่ถึง ความช่วยเหลือเข้าไม่ได้ แม้แต่กองเรือเหี้ยยังไม่กล้าเข้ามาผ่านทะเลแดง แปลว่าอะไร ยุทธศาสตร์ อิหร่าน รัสเซีย จีน ครองน่านน้ำ น่านฟ้าไว้หมดแล้ว ภาษาทหารคือ ยึดเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแบบคุณยายละม่อม แต่ไม่ต้องรีบฆ่า บีบให้มันอดอยาก ปากแห้งไปเรื่อยๆ เพื่อดึงขี้ข้าที่หิวโซย้ายขั้วนั่นเอง เมื่อแขนขาถูกหั่น เหี้ยก็จบ ไม่มีเครื่องมือให้ใช้ต่ออีกแล้ว อีโง่ยุโรปก็เช่นกัน หลังอีเบียร์ อีเศษฝรั่ง อีอัสซูรี่ หมดตูดไปเยอะ เศรษฐกิจพังยับทั้งยุโรป ชาติเล็กๆ แข็งข้อขึ้นมาทันที จะรีบย้ายขั้วไปเกาะรัสเซีย เพราะมั่นคง และมั่นใจกว่าเยอะ แผนแตก EU NATO จึงก่อเกิด เงินไม่มี พลังงานไม่เหลือ ใครจะตามมรึงกันอีกล่ะ? 10 ชาติยุโรปสัญญาปากเปล่ากันแล้ว ไปพร้อมกันทั้งยวง เครมลินเตรียมเปิดวังต้อนรับเสมอ? กลับบ้านเถอะลูก รักรออยู่!

    ปล.มาตามนัด! กูว่าแล้ว ยังไม่ทันจะสาบานตน อีมรัมปป์เรียกโพยแต่หัววัน เตรียมหั่นนายพลทิ้ง เปลืองภาษี เปลืองงบ ตั้งคณะกรรมการโละนายพล(โดยเฉพาะหมารับใช้อีลา ซึ่งมีเพี๊ยบ) เตรียมงัดข้ออีตาเพน กูเดาทางถูกเสมอ? ยังไม่จบ ไอ้อีตัวไหน ใครที่ลากทรัมปปืเข้าคุก ยัดข้อหา ใส่ร้าย ป้ายสี ล่อกู 100 กว่าคดี มรึงเตรียมโดนโละเช่นกัน ผู้พิพากษาเหรอ รัฐไหนเหรอ ใหญ่แค่ไหนเหรอ อีทรัมปป์จะเชือดเหี้ยให้เหี้ยดู เพราะอำนาจกูคือประกาศิต เบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ชำระแค้นก่อน คือทรัมปป์ งานสร้าง TRUMP LAND คือเรื่องต่อไป ข้ามวิกแป๊บ : อย่าดูแค่เปลือก ดร.อาทิตย์(ตัวชงมาเอง) ถามสั้นๆ ข้องใจทำไม ‘พระบรมราชโองการ-คำพิพากษาศาลฎีกา’ ไม่มีความหมาย? ขัดขืน ฝ่าฝืนเพี๊ยบ ดอกนี้ ชงให้ทุกคดีที่อีเหลี่ยม อีลูกสาวร่าน ทำโดยตรง เค้ารู้กัน ศาลรับลูก 15 คดีในมือ โดนทุกดอก "ประหารชีวิตยังน้อยไป" ตัวชงมา ตัวตบรับ มันคือ "ยาเร่ง" บีบให้เหี้ยทั้งหมดเผ่นหนีให้หมด ก่อนศาลจะฟันดาบลงมา จะหนีไม่ทันแล้วน่ะ? ไม่มีบังเอิญ มีแต่บังอาจ กระแสต่อต้านคอรัปชั่นแรงเกินห้ามใจ มันโดดเด่นเสียเหลือเกินช่วงนี้ เพราะแสงอีกแล้วครับท่าน! ทุนเทา ทุนม่วง ตายห่า ศพเกลื่อนศาล ลาก่อน "อีฟิล์มโกดัก" คิดผิด ชีวิตจบ เงิน อำนาจ ตัณหา พามรึงไปตายห่า ใครเล่นการเมือง ชีวิตมีอันเป็นไปหมด ดาราอยากเกิด ไฮโซอยากดัง แตะสิ่งปนเปื้อน สลัดไม่ออก ถูกกลืนเหมือนกันหมด วังวนการเมืองคืออาจมเสนียดแผ่นดิน ใครลองได้เสพ หลงใหลอำนาจ ตายห่าหมดเกลี้ยง? ไอ้สัส! กลัวไทยไม่ดัง ก่อการร้ายอ้าง เตรียมสอยอียิวในเกาะพงัน FULL MOON PARTY ทำไมต้องเลือกงานนี้ เพราะมันดังไประดับโลก หากเป็นข่าว อียิวตายห่ากลางวงปาร์ตี้ กราดยิง ระเบิดลง ดังพลุแตกแน่ แล้วทำไม ถึงบอกล่วงหน้า? จะดึงไทยเข้าร่วมสงครามครูเสดด้วยเหรอจ๊ะ? ตำหนวดไทยเก่ง มรึงช่วยโฆษณาให้ กูยินดี ถามว่าคนทั้งโลกแห่มา เค้าสนมั้ย? คนมันมาเพื่อจะเล่นยา ระเบิดลงหัวก็ไม่กลัวดอก? FULL MOON PARTY แท้จริงคืออะไร? SEX DRUG DRINK DANCE PARTY มันคืองานมั่วสุดสวิงริงโก้อีโต้บั๊ม? ฝรั่งมันชอบ ใครสนกราดยิงกันล่ะ? เพราะกูเมายาอยู่ ไม่รู้เรื่อง? โปรดสังเกตุ อียิวพยายามจะลากไทยเข้ามามีเอี่ยวทุกเรื่อง มรึงรักกูมากมายขนาดนี้เชียวเหรอ น้ำลายหยดมาตั้งแต่ปีพศ.2475 สิน่ะ แห้วแดร๊ก เพราะสมเด็จย่า? สื่อใครลง สื่อใครแฉ นั่นแหละ ตัวปล่อยแผน? แผนเก่าๆ เน่าๆ ยังกล้ามาใช้? หน่วยความมั่นคงเค้ารู้หมดเกลี้ยง เชิญเข้ามาเหอะ เดี๋ยวกูจะให้มรึงมั่วยาเต็มที่ จนลืมกลับบ้านกันไปเลย? รัสเซีย เล่นเกมส์ จับมืออีทรัมปป์ บับให้อีเสี้ยนยาเลือกตั้ง แน่นอนว่า "โปรรัสเซียมาชัวร์ ไม่ต้องเดา" เพราะชาวยูเครนที่เหลือตายห่าเพราะสงครามไปเยอะแล้ว ใครยังอยากจะรบกันต่ออีก นีโอนาซีในยูเครนตายเกลื่อน ปูตินสั่งเน้น เก็บไอ้อีนีโอนาซีทุกตัว ไม่ต้องปราณี ไม่ต้องถามเยอะ เห็นปุ๊บ สอยทันที หนักแผ่นดิน! แผนสร้างปชต.ตอแหลใหม่ แค่เกมส์บังหน้า รัสเซียเค้าวางหมากล่อเหยื่อไว้หมดแล้ว ประกาศ 4 แคว้นเป็นของรัสเซียโดนสมบูรณ์ เลือกตั้งมา คืออีเสี้ยนยาเตรียมเผ่นแน่ ถูกสั่งเก็บจากทั่วโลก อีทรัมปป์ไม่ได้สนใจแผ่นดินยูเครน แต่สนใจว่ารัสเซียจะยอมถอยให้เรื่องอะไรได้บ้าง ข้อดีของอีทรัมปป์คือ ทุกอย่างเจรจาได้หมด แม้แต่ขายลูก ขายเมีย พ่อค้าตัวจริง! ขั้วใหม่ชนะไปแล้ว ตั้งแต่อีทรัมปป์มา แสดงให้โลกเห็นว่า คนเบื่อหน่ายสงคราม และอเมริกาและตะวันตก คือต้นตอของความวินาศฉิบหายทั้งหมด NATO ไร้ราคา ส่วน EU ถังแตกยับเยิน หมดสภาพทั้งคู่ โลกรอแค่ ขั้วใหม่ "ปิดเกมส์" เท่านั้น

    ปล.2 คำถามแก้เครียด? คุณคิดว่าสาวยุคไหน SEXY ที่สุด? 60 'S/70 'S/80 'S/90 'S/00-20 'S

    หมี CNN(อะไรก็ไปไวมาไวเสมอ เพราะแสงทำงานเร็ว ไม่มีอะไรที่จะหนีรอดแสงไปได้ ยามเมื่อสาดส่อง เหี้ยจัญไรทั้งสากลโลกทั้งหลายกำลังถูกแสงแผดเผาทั้งเป็น สงครามจะหยุดขยายวงกว้าง แต่จะเกิดสงครามภายในกันเอง เพราะเกมส์มันถึงทางตันแล้ว หากไม่อยากตายหมู่ ตายยกทวีป ทางรอดเดียวคือ "เคลียร์กันเอง" เมื่อภายในจบ ถึงจะได้ข้อสรุป อยู่ในแผนขั้วใหม่ทั้งสิ้น จีน รัสเซีย ถึงยังไม่ลงมือเองซักกะที รอเหี้ยกัดกันให้พอใจ เหลือตัวสุดท้ายค่อยมาคุยกับกู หมากล้อมจีนชนะ หมากรุกพิฆาตเอาอยู่)
    13 พฤศจิกายน 67
    12.22 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatch
    13-11-67/01 : หมี CNN / เล่าสู่กันฟัง" EP.12 ตอน "มหาวิบัติกรมตำหนวด กากีผยอง" เอาให้สุดซอย กฎหมาเหนือกฎหมาย อยู่ที่ใครอุ้ม? แฉอีเหลี่ยม หักหลังอีเหลี่ยม เพื่อหวังกลับมาชิมิ? กระแสปั่น อีโจ๊กยังไม่เละ ลุ้นกลับมาพร้อมเยียวยา จริงดิ? ช้าก่อน หากคุณโทรหาเราภายใน 3 นาที เราจะมีโปรไฟไหม้ มา 1 ตายยกคอก เรื่องเหี้ยๆ ไม่เคยพ้นอีกากีเสนียดแผ่นดินฉิงๆ สงสารตำหนวดชั้นผู้น้อย ตำหนวดดีดี ที่ต้องอยู่ในดงโจร เพราะมันเป็นโจรกันทั้งกรมไงล่ะ ใครล่ะ สร้างระบบโจรนี้ มรึงต้องย้อนกลับไป ปีที่อีเหลี่ยมเข้ามาจัดระเบียบกรมอีกากีใหม่หมด ทั้งหมดคือแผน CIA ทำลายรากฐาน ต้องปรับโครงสร้างก่อน ความยุติธรรมชั้นต้น สำนวน เริ่มจากอีกากี แล้วปล่อยเชื้อชั่วเข้ากรมอัยกวยต่อ ใช่! เหี้ย C มันจ้องบ่อนทำลายความมั่นคงไทย ผ่านทุกขบวนการยุติธรรม เมื่อต้นน้ำมันเหี้ย รับใช้โจร อย่าหวังจะขาวสะอาด ความยุติธรรมมีแต่ในการ์ตูน เพราะมันอยู่ที่เด็กใคร? แต่อย่าได้หนักใจไป นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว ปัจจุบัน เชื้อชั่ว เชื้อเหี้ย ในกรมกากีเสนียดแผ่นดิน ออกลายหมดเกลี้ยง อีตำหนวดชั้นผู้ใหญ่ดาหน้าโดนคุกกันทั่ว เอี่ยมทุนสีเทา ธุรกิจมืด ซ่องโจร บ่อนการพนัน ไม่มีอะไรที่เหี้ย จัญไร ที่ตำหนวดไม่รู้ รู้หมดทุกจุด รู้ทุกอย่าง รู้ว่าของใคร? แต่ที่ไม่ทำห่าอะไร เพราะเงินมันอุดปากอยู่ อยากเลื่อนตำแหน่ง อยากรวย อยากหิวแสง ต้องมีนายใหญ่แบ็คอัพถึงจะรุ่ง อีกรมตำหนวดเนี่ย เป็นเหมือนกันหมดทั้งโลก โดยเฉพาะประเทศคลั่งประชาธิปไตย กฎหมามักจะมาก่อนกฎหมายเสมอ มรึงฆ่าคนตาย จ่าย 100 ล้าน วัดครึ่งนึง กรรมการครึ่งนึง ผ่านไป 1 ปี เรื่องจบ หายเงียบ อีชั่วก็ไปทำชั่วต่อไงล่ะ ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน? แต่ยามที่แสงทำงาน จะลากไอ้อีสารพัดเหี้ยทั้งหมด เข้าตาราง ความจริงจะโผล่มา กระแสปัญญาชนจะก่อเกิด อีตำหนวดหมดราคา สภาพไม่ต่างกับโจร? กรมอัยกวยที่หนักแผ่นดิน จะถูกล้างบางในพศ.นี้ ทุกความระบำอัปรีย์จัญไรทั้งหลายที่มรึงประสบมา จะถูกล้างทั้งหมด โดยการ "แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ" ฉบับวังและชาติมาก่อนประชาธิปไตยตอแหล เอาให้สุดซอย สุดติ่งกระดิ่งเหี้ยกันไปเลย ประชาชนหมดศรัทธากับขบวนการยุติธรรมต้นน้ำของไทยแล้ว แสงถึงต้องออกโรงเอง งวดนี้ ตายยกโคตรเหี้ย ทั้งขบวนการ ไม่ใช่ใครอื่น ส้นตรีนบู๊ทตรีนโตเข้ามาชำระล้างให้เอง เมื่อมรึงอยู่กันดีดีไม่ได้ ต้องหาเรื่องให้ชาวบ้านเดือดร้อน อันธพาลครองเมือง ก็อย่าได้เสพสุขกันอีกต่อไป สั้นๆ คือทหารจัดระเบียบกรมตำหนวดใหม่หมด ไม่สิ ต้องเรียก "ผู้ใหญ่สั่งตรงมาเอง" เห็นแสงปลายอุโมงค์ชัดเจน มันโดดเด่นมว๊าก! ไม่ว่าจะอีโจ๊กคนอร์ อีขาใหญ่แค่ไหน ก็แค่ขี้ตรีนกองทัพ ฟังๆ ชัด จากปากณัชชาน่ะจ๊ะ "ขี้ตรีนกองทัพ" รถถังออก GMC ผุด โผล่ทุบทั้งสถานีก็เคยมาแล้ว ใหญ่แค่ไหน ก็ไม่พ้นอวสานเซลล์แมน ดีออก? ไม่แปลกที่อีเหลี่ยมถูกหักหลังยับ ทั้งพรรคร่วม ทั้งลูกน้องเก่า ทั้งคนใกล้ชิด เพราะหน้าที่ขี้ข้าคือเอาตัวรอดจ๊ะ..นายจ๋า ขายนายตัวเอง เพื่อไต่เต้าสูงกว่า หรือความอยู่รอดถาวร สันดานขี้ข้า เป็นเช่นนี้ทั่วแกแลคซี่ เผานายเก่าแลกผลงาน จะฆ่าเหี้ย ต้องให้เหี้ยลงมือกันเอง ไม่ต้องเปลืองแรงขยี้ ไม่ต้องเปลืองคนดีดีให้ติดเสนียด สรุปกลกามกรมตำหนวด ปล่อยเหี้ยตัวเล็ก เพื่องับเหี้ยตัวใหญ่ ตัวบงการ เสร็จกิจแล้วค่อยเชือดทีหลัง นี่มันไม่ใช่เรื่องใหม่เลย แผนพิชัยสงคราม ใช้กันบ่อย อีโจ๊กคนอร์สุดท้ายก็ไม่รอดอยู่ดี เล่นให้เป็น อ่านเกมส์ให้ขาด จะไม่ต๊กกะใจ! ถามสั้นๆ เผาอีเหลี่ยมชาติชั่ว กับเผาอีโจ๊กคนอร์ มรึงอยากให้ใครตายห่าก่อนกันล่ะ? กลวิธีเค้ามี วิธีการไม่สำคัญ เป้าหมายสำเร็จคือชัยชนะ! ใครล่ะ จะฆ่านายใหญ่ได้ หากไม่ใช่ขี้ข้าใกล้ตัว? มหากาพย์ชั้น 14 ก็จะตายห่ายกโคตรเหี้ยก็เพราะเหตุผลนี้เช่นกัน ศรีธนญชัยเดินหมากหลายชั้น ธรรมดาซะที่ไหนกันล่ะ? ไม่อยากพูด แม้แต่ชั้นระดับผู้พิพากษา ก็ถูกเช็คบิลได้เช่นกัน หากมีพิรุจ อุ้มเหี้ย หลักฐานเค้ามี แค่รอเหยื่อดิ้น ชั่วโมงนี้ ไม่มีใครไว้ใจใครได้อีกแล้ว เหี้ยหักหลังกันเกลื่อน? นี่ล่ะ วังวนเหี้ยแท้จริง! เอ้า..เห้ย ไม่ตรงปกนี่หว่า จะข้ามรุ่นล่อลุงสนธิ ข่าวปล่อยอีเดชอบแดร๊กถั่วดำ ออกมากลางโซเชี่ยล ฮาแตก ชอบไม้ป่าเดียวกันเหรอจ๊ะ..ตะเอง ดูทรงแล้ว สายเหลืองนี่หว่า? 555+ ยังไม่ทันจะเริ่ม ก็เสียหมา เสียทรงซะแว๊ว อยากโดนแฉอีกเหรอจ๊ะ? งวดนี้ อีเด ถูกจัดหนักแน่ เสี้ยนจัดน่ะมรึง! ด้านอีต้มตุ๊ด เยี่ยวแตก ขนาดอีทนายสายบัวตอแหลยังพลิกลิ้น ชิ่งหนีดีกว่า โอกาสตายร่วมสูง หลังอีนุ อีสา ถูกจับมารีด(นมวัว) คายออกหมดเปลือก จะเหลือเหี้ยอะไรอีกเนี่ย สรุปคือ 39 ล้านคือดอกฆ่าจริง 71 ล้านแค่ดอกโหมโรง เพ่อ้อยไม่ถอนฟ้อง ไปสุดซอยเท่านั้น อีเมียดิ้นพล่าน กูไม่รู้ ไม่เกี่ยว สายเกินปุยมุย? เชิญไปอวดรวยกันต่อในคุกน่ะจ๊ะ สายเบ็ดรอมรึงอยู่เพี๊ยบ ข้ามมาดูโลกตอแหลกันต่อ : อีเสี้ยนยาชะตาขาด หมดหนทาง อ้อนอีทรัมปป์ ยกแผ่นดินให้เลย แค่ต่อลมหายใจกูหน่อย? อีทรัมปป์คงสนแผ่นดินเน่าๆ เนี่ยน่ะ เพราะรู้อยู่แล้ว ยังไงรัสเซียเขมือบแน่ ถามส้นตรีนปูตินรึยัง? พวกมรึงมีปัญญาเหรอ? เกมส์อยู่ในมือใคร? ใครกำหนดทิศทางโลกทุกวันนี้ ใช่มรึงเหรอ? จีนเขยิบ รัสเซียขยับ โลกตามทันที ยังไม่สำเหนียก อีทรัมปป์มันมาเพื่อแตกอเมริกา ไม่ได้มากู้อเมริกา แล้วใยกู้ต้องมาช่วยกู้แผ่นดินเน่ามรึงด้วยล่ะ อีเสี้ยนยาจ๋า? ชั่วโมงนี้ ใครกล้าชนรัฐบุรุษปูติน สีจิ้นผิง ไม่มี? แค่ BRICS ยังแห่กันตามหมดทั้งโลก มรึงมัน NOBODY แล้ว ไอ้สัส! พอก่อน พอได้แล้ว อียิวขี้แตกแล้ว โดนทั้งซูเปอร์โซนิค ตามด้วยไฮเปอร์โซนิค แบบลืมหายใจ ถามจริง มรึงมีเยอะเกินไปป่ะ? อะไรน่ะ ยังเหลืออีกเป็นล้านลูก ไอ้สัส! ผลิตออกมาเยอะเกินปุยมั้ย? เอาไปยิงหมาเหรอ? สาย HARDCORE บ่นยับ? ทำไมไม่ฆ่าล้างโคตรมันไปเลย 24 ชม. รอเหี้ยอะไรอยู่ ยึดแผ่นดินแม่งให้เกลี้ยง คำถามนี้ ต้องไปดูว่า ขั้วใหม่ รัสเซีย จีน อิหร่าน โสมแดง เค้าต้องการอะไรแท้จริง "หาใช่ชัยชนะในสมรภูมิ" แต่เป็นทุบหม้อข้าวเหี้ย ทำลายคลังแสง คลังเงิน ไอ้อีตะวันตกจนไม่เหลือเหี้ยอะไรอีก เมื่อหมดตูด มรึงก็แค่ "ไอ้ยาจก" ไม่มีจะแดร๊ก แล้วจะมีปัญญาทำเหี้ยอะไรต่อได้อีก ทุบที่หม้อข้าว นี่คือยุทธศาสตร์หลัก ที่ขั้วใหม่ทำอยู่ อย่าลืมน่ะว่า เหือบครึ่งปีแล้ว ที่ท่าเรือไฮฟา ไม่มีสินค้าเข้ามาเลย เรือขนส่งเข้าไม่ถึง ความช่วยเหลือเข้าไม่ได้ แม้แต่กองเรือเหี้ยยังไม่กล้าเข้ามาผ่านทะเลแดง แปลว่าอะไร ยุทธศาสตร์ อิหร่าน รัสเซีย จีน ครองน่านน้ำ น่านฟ้าไว้หมดแล้ว ภาษาทหารคือ ยึดเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแบบคุณยายละม่อม แต่ไม่ต้องรีบฆ่า บีบให้มันอดอยาก ปากแห้งไปเรื่อยๆ เพื่อดึงขี้ข้าที่หิวโซย้ายขั้วนั่นเอง เมื่อแขนขาถูกหั่น เหี้ยก็จบ ไม่มีเครื่องมือให้ใช้ต่ออีกแล้ว อีโง่ยุโรปก็เช่นกัน หลังอีเบียร์ อีเศษฝรั่ง อีอัสซูรี่ หมดตูดไปเยอะ เศรษฐกิจพังยับทั้งยุโรป ชาติเล็กๆ แข็งข้อขึ้นมาทันที จะรีบย้ายขั้วไปเกาะรัสเซีย เพราะมั่นคง และมั่นใจกว่าเยอะ แผนแตก EU NATO จึงก่อเกิด เงินไม่มี พลังงานไม่เหลือ ใครจะตามมรึงกันอีกล่ะ? 10 ชาติยุโรปสัญญาปากเปล่ากันแล้ว ไปพร้อมกันทั้งยวง เครมลินเตรียมเปิดวังต้อนรับเสมอ? กลับบ้านเถอะลูก รักรออยู่! ปล.มาตามนัด! กูว่าแล้ว ยังไม่ทันจะสาบานตน อีมรัมปป์เรียกโพยแต่หัววัน เตรียมหั่นนายพลทิ้ง เปลืองภาษี เปลืองงบ ตั้งคณะกรรมการโละนายพล(โดยเฉพาะหมารับใช้อีลา ซึ่งมีเพี๊ยบ) เตรียมงัดข้ออีตาเพน กูเดาทางถูกเสมอ? ยังไม่จบ ไอ้อีตัวไหน ใครที่ลากทรัมปปืเข้าคุก ยัดข้อหา ใส่ร้าย ป้ายสี ล่อกู 100 กว่าคดี มรึงเตรียมโดนโละเช่นกัน ผู้พิพากษาเหรอ รัฐไหนเหรอ ใหญ่แค่ไหนเหรอ อีทรัมปป์จะเชือดเหี้ยให้เหี้ยดู เพราะอำนาจกูคือประกาศิต เบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ชำระแค้นก่อน คือทรัมปป์ งานสร้าง TRUMP LAND คือเรื่องต่อไป ข้ามวิกแป๊บ : อย่าดูแค่เปลือก ดร.อาทิตย์(ตัวชงมาเอง) ถามสั้นๆ ข้องใจทำไม ‘พระบรมราชโองการ-คำพิพากษาศาลฎีกา’ ไม่มีความหมาย? ขัดขืน ฝ่าฝืนเพี๊ยบ ดอกนี้ ชงให้ทุกคดีที่อีเหลี่ยม อีลูกสาวร่าน ทำโดยตรง เค้ารู้กัน ศาลรับลูก 15 คดีในมือ โดนทุกดอก "ประหารชีวิตยังน้อยไป" ตัวชงมา ตัวตบรับ มันคือ "ยาเร่ง" บีบให้เหี้ยทั้งหมดเผ่นหนีให้หมด ก่อนศาลจะฟันดาบลงมา จะหนีไม่ทันแล้วน่ะ? ไม่มีบังเอิญ มีแต่บังอาจ กระแสต่อต้านคอรัปชั่นแรงเกินห้ามใจ มันโดดเด่นเสียเหลือเกินช่วงนี้ เพราะแสงอีกแล้วครับท่าน! ทุนเทา ทุนม่วง ตายห่า ศพเกลื่อนศาล ลาก่อน "อีฟิล์มโกดัก" คิดผิด ชีวิตจบ เงิน อำนาจ ตัณหา พามรึงไปตายห่า ใครเล่นการเมือง ชีวิตมีอันเป็นไปหมด ดาราอยากเกิด ไฮโซอยากดัง แตะสิ่งปนเปื้อน สลัดไม่ออก ถูกกลืนเหมือนกันหมด วังวนการเมืองคืออาจมเสนียดแผ่นดิน ใครลองได้เสพ หลงใหลอำนาจ ตายห่าหมดเกลี้ยง? ไอ้สัส! กลัวไทยไม่ดัง ก่อการร้ายอ้าง เตรียมสอยอียิวในเกาะพงัน FULL MOON PARTY ทำไมต้องเลือกงานนี้ เพราะมันดังไประดับโลก หากเป็นข่าว อียิวตายห่ากลางวงปาร์ตี้ กราดยิง ระเบิดลง ดังพลุแตกแน่ แล้วทำไม ถึงบอกล่วงหน้า? จะดึงไทยเข้าร่วมสงครามครูเสดด้วยเหรอจ๊ะ? ตำหนวดไทยเก่ง มรึงช่วยโฆษณาให้ กูยินดี ถามว่าคนทั้งโลกแห่มา เค้าสนมั้ย? คนมันมาเพื่อจะเล่นยา ระเบิดลงหัวก็ไม่กลัวดอก? FULL MOON PARTY แท้จริงคืออะไร? SEX DRUG DRINK DANCE PARTY มันคืองานมั่วสุดสวิงริงโก้อีโต้บั๊ม? ฝรั่งมันชอบ ใครสนกราดยิงกันล่ะ? เพราะกูเมายาอยู่ ไม่รู้เรื่อง? โปรดสังเกตุ อียิวพยายามจะลากไทยเข้ามามีเอี่ยวทุกเรื่อง มรึงรักกูมากมายขนาดนี้เชียวเหรอ น้ำลายหยดมาตั้งแต่ปีพศ.2475 สิน่ะ แห้วแดร๊ก เพราะสมเด็จย่า? สื่อใครลง สื่อใครแฉ นั่นแหละ ตัวปล่อยแผน? แผนเก่าๆ เน่าๆ ยังกล้ามาใช้? หน่วยความมั่นคงเค้ารู้หมดเกลี้ยง เชิญเข้ามาเหอะ เดี๋ยวกูจะให้มรึงมั่วยาเต็มที่ จนลืมกลับบ้านกันไปเลย? รัสเซีย เล่นเกมส์ จับมืออีทรัมปป์ บับให้อีเสี้ยนยาเลือกตั้ง แน่นอนว่า "โปรรัสเซียมาชัวร์ ไม่ต้องเดา" เพราะชาวยูเครนที่เหลือตายห่าเพราะสงครามไปเยอะแล้ว ใครยังอยากจะรบกันต่ออีก นีโอนาซีในยูเครนตายเกลื่อน ปูตินสั่งเน้น เก็บไอ้อีนีโอนาซีทุกตัว ไม่ต้องปราณี ไม่ต้องถามเยอะ เห็นปุ๊บ สอยทันที หนักแผ่นดิน! แผนสร้างปชต.ตอแหลใหม่ แค่เกมส์บังหน้า รัสเซียเค้าวางหมากล่อเหยื่อไว้หมดแล้ว ประกาศ 4 แคว้นเป็นของรัสเซียโดนสมบูรณ์ เลือกตั้งมา คืออีเสี้ยนยาเตรียมเผ่นแน่ ถูกสั่งเก็บจากทั่วโลก อีทรัมปป์ไม่ได้สนใจแผ่นดินยูเครน แต่สนใจว่ารัสเซียจะยอมถอยให้เรื่องอะไรได้บ้าง ข้อดีของอีทรัมปป์คือ ทุกอย่างเจรจาได้หมด แม้แต่ขายลูก ขายเมีย พ่อค้าตัวจริง! ขั้วใหม่ชนะไปแล้ว ตั้งแต่อีทรัมปป์มา แสดงให้โลกเห็นว่า คนเบื่อหน่ายสงคราม และอเมริกาและตะวันตก คือต้นตอของความวินาศฉิบหายทั้งหมด NATO ไร้ราคา ส่วน EU ถังแตกยับเยิน หมดสภาพทั้งคู่ โลกรอแค่ ขั้วใหม่ "ปิดเกมส์" เท่านั้น ปล.2 คำถามแก้เครียด? คุณคิดว่าสาวยุคไหน SEXY ที่สุด? 60 'S/70 'S/80 'S/90 'S/00-20 'S หมี CNN(อะไรก็ไปไวมาไวเสมอ เพราะแสงทำงานเร็ว ไม่มีอะไรที่จะหนีรอดแสงไปได้ ยามเมื่อสาดส่อง เหี้ยจัญไรทั้งสากลโลกทั้งหลายกำลังถูกแสงแผดเผาทั้งเป็น สงครามจะหยุดขยายวงกว้าง แต่จะเกิดสงครามภายในกันเอง เพราะเกมส์มันถึงทางตันแล้ว หากไม่อยากตายหมู่ ตายยกทวีป ทางรอดเดียวคือ "เคลียร์กันเอง" เมื่อภายในจบ ถึงจะได้ข้อสรุป อยู่ในแผนขั้วใหม่ทั้งสิ้น จีน รัสเซีย ถึงยังไม่ลงมือเองซักกะที รอเหี้ยกัดกันให้พอใจ เหลือตัวสุดท้ายค่อยมาคุยกับกู หมากล้อมจีนชนะ หมากรุกพิฆาตเอาอยู่) 13 พฤศจิกายน 67 12.22 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatch
    0 Comments 0 Shares 656 Views 0 Reviews
  • ใครคือ ริชาร์ด เกรเนลล์ รัฐมนตรีต่างประเทศที่ทรัมป์เลือก?

    อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติและเอกอัครราชทูตประจำเยอรมนี รายงานระบุว่า ริชาร์ด เกรเนลล์ ติดอยู่ในรายชื่อผู้รับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ – ตำแหน่งที่มีหน้าที่ให้คำปรึกษาประธานาธิบดีเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศและดำเนินการตามการตัดสินใจ

    ถ้อยแถลงและการกระทำต่อสาธารณะของเกรเนลล์ ให้เบาะแสเกี่ยวกับแนวทางนโยบายต่างประเทศที่เขาอาจมอบให้โดนัลด์ ทรัมป์:

    🔸 ผู้สมัครรายนี้เชื่อว่ามีความปรารถนาเช่นเดียวกับทรัมป์ที่ต้องการยุติความขัดแย้งในยูเครน ในเดือนกรกฎาคม, เขาพูดถึง "เขตปกครองตนเอง" ในพื้นที่ขัดแย้ง, และกล่าวว่าเคียฟไม่ควรคาดหวังว่าจะเข้าร่วมนาโตในเร็วๆนี้

    🔸 มีรายงานว่า Grenell เข้าร่วมการประชุมระหว่างทรัมป์กับ Zelensky ในเดือนกันยายน

    🔸 “[ทรัมป์] ได้แสดงให้เห็นว่าเขารู้วิธีที่จะนำทั้งสองฝ่ายมาเจรจากัน เขาทำมาอย่างต่อเนื่อง อาหรับและอิสราเอล, รัสเซียและยูเครน จะเป็นรายต่อไป” เกรเนลล์กล่าวในบทความ FP ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์นี้เกี่ยวกับ “แผนนโยบายต่างประเทศของทรัมป์”

    🔸 สื่อของยูเครนเกรงว่าการแต่งตั้งเกรเนลล์จะ "ให้ความสำคัญกับความปรารถนาของทรัมป์ที่จะยุติสงครามอย่างรวดเร็ว, แม้ว่าจะหมายถึงการยอมประนีประนอมที่สำคัญสำหรับยูเครนก็ตาม"

    🔸 ตำแหน่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ Grenell หูเบากับรัสเซีย ในปี ๒๐๑๙, ขณะที่ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำเยอรมนี, Grenell ได้ขู่บริษัทในยุโรปซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยการคว่ำบาตรเนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการท่อส่งก๊าซ Nord Stream ๒ จนทำให้บรรดานักการเมืองเยอรมันประณามเขาว่าเป็น “เจ้าหน้าที่ยึดครอง” และเรียกร้องให้ขับไล่เขาออกไป

    “วิกฤตยูเครนยังคงเป็นประเด็นสำคัญในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ, โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทรัมป์อยู่ในอำนาจ” นักวิเคราะห์การเมือง Massimiliano Bonne กล่าวกับ Sputnik โดยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้ง Grenell ที่อาจเกิดขึ้น

    “ในช่วงบริหารชุดก่อน, ทรัมป์มีทัศนคติที่คลุมเครือต่อรัสเซีย แม้จะมีความตึงเครียดในยุโรปตะวันออกก็ตาม, รัฐบาลชุดใหม่นี้อาจพบว่าตัวเองต้องรับมือกับความขัดแย้งที่ยืดเยื้อระหว่างเคียฟและมอสโกว์, ซึ่งต้องรักษาสมดุลระหว่างการสนับสนุนยูเครนและหลีกเลี่ยงการยกระดับปัญหาโดยตรงกับรัสเซีย” บอนเน่กล่าว
    .
    WHO IS POTENTIAL TRUMP SEC. STATE PICK RICHARD GRENELL?

    Ex-director of national intelligence and ambassador to Germany Richard Grenell has reportedly made the shortlist of potential candidates for the job of secretary of state – a post entailing responsibility for advising the president on foreign policy and carrying out his decisions.

    Grenell’s public statements and actions provide clues about the kind of foreign policy guidance he might give Donald Trump:

    🔸 The candidate is thought to share Trump’s desire to end the conflict in Ukraine. In July, he spitballed so-called “autonomous regions” in the conflict area, and said Kiev shouldn’t expect to join NATO anytime soon.

    🔸 Grenell reportedly sat in on Trump’s meeting with Zelensky in September.

    🔸 “[Trump] has shown he knows how to bring both sides to the table. He’s done it consistently. Arabs and Israelis, Russians and Ukrainians will be next,” Grenell said in a FP piece published this week on “Trump’s foreign policy plan.”

    🔸 Ukrainian media fear Grenell’s appointment would “prioritize Trump’s desire to end the war quickly, even if it means making significant concessions for Ukraine.”

    🔸 These positions don’t make Grenell a softy on Russia. In 2019, while serving as ambassador to Germany, Grenell repeatedly threatened European companies with sanctions over their involvement in the Nord Stream 2 gas pipeline project, prompting German politicians to brand him an “occupation officer” and to demand his expulsion.

    “The Ukraine crisis remains a crucial issue in US foreign policy, especially with Trump in power,” political analyst Massimiliano Bonne told Sputnik, commenting on Grenell’s potential appointment.

    “During his previous administration, Trump had adopted an ambivalent attitude towards Russia, despite the tensions in Eastern Europe. The new administration could find itself dealing with a protracted conflict between Kiev and Moscow, striking a difficult balance between supporting Ukraine and avoiding a direct escalation with Russia,” Bonne said.
    .
    3:00 AM · Nov 9, 2024 · 3,855 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1854977191844385066
    ใครคือ ริชาร์ด เกรเนลล์ รัฐมนตรีต่างประเทศที่ทรัมป์เลือก? อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติและเอกอัครราชทูตประจำเยอรมนี รายงานระบุว่า ริชาร์ด เกรเนลล์ ติดอยู่ในรายชื่อผู้รับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ – ตำแหน่งที่มีหน้าที่ให้คำปรึกษาประธานาธิบดีเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศและดำเนินการตามการตัดสินใจ ถ้อยแถลงและการกระทำต่อสาธารณะของเกรเนลล์ ให้เบาะแสเกี่ยวกับแนวทางนโยบายต่างประเทศที่เขาอาจมอบให้โดนัลด์ ทรัมป์: 🔸 ผู้สมัครรายนี้เชื่อว่ามีความปรารถนาเช่นเดียวกับทรัมป์ที่ต้องการยุติความขัดแย้งในยูเครน ในเดือนกรกฎาคม, เขาพูดถึง "เขตปกครองตนเอง" ในพื้นที่ขัดแย้ง, และกล่าวว่าเคียฟไม่ควรคาดหวังว่าจะเข้าร่วมนาโตในเร็วๆนี้ 🔸 มีรายงานว่า Grenell เข้าร่วมการประชุมระหว่างทรัมป์กับ Zelensky ในเดือนกันยายน 🔸 “[ทรัมป์] ได้แสดงให้เห็นว่าเขารู้วิธีที่จะนำทั้งสองฝ่ายมาเจรจากัน เขาทำมาอย่างต่อเนื่อง อาหรับและอิสราเอล, รัสเซียและยูเครน จะเป็นรายต่อไป” เกรเนลล์กล่าวในบทความ FP ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์นี้เกี่ยวกับ “แผนนโยบายต่างประเทศของทรัมป์” 🔸 สื่อของยูเครนเกรงว่าการแต่งตั้งเกรเนลล์จะ "ให้ความสำคัญกับความปรารถนาของทรัมป์ที่จะยุติสงครามอย่างรวดเร็ว, แม้ว่าจะหมายถึงการยอมประนีประนอมที่สำคัญสำหรับยูเครนก็ตาม" 🔸 ตำแหน่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ Grenell หูเบากับรัสเซีย ในปี ๒๐๑๙, ขณะที่ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำเยอรมนี, Grenell ได้ขู่บริษัทในยุโรปซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยการคว่ำบาตรเนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการท่อส่งก๊าซ Nord Stream ๒ จนทำให้บรรดานักการเมืองเยอรมันประณามเขาว่าเป็น “เจ้าหน้าที่ยึดครอง” และเรียกร้องให้ขับไล่เขาออกไป “วิกฤตยูเครนยังคงเป็นประเด็นสำคัญในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ, โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทรัมป์อยู่ในอำนาจ” นักวิเคราะห์การเมือง Massimiliano Bonne กล่าวกับ Sputnik โดยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้ง Grenell ที่อาจเกิดขึ้น “ในช่วงบริหารชุดก่อน, ทรัมป์มีทัศนคติที่คลุมเครือต่อรัสเซีย แม้จะมีความตึงเครียดในยุโรปตะวันออกก็ตาม, รัฐบาลชุดใหม่นี้อาจพบว่าตัวเองต้องรับมือกับความขัดแย้งที่ยืดเยื้อระหว่างเคียฟและมอสโกว์, ซึ่งต้องรักษาสมดุลระหว่างการสนับสนุนยูเครนและหลีกเลี่ยงการยกระดับปัญหาโดยตรงกับรัสเซีย” บอนเน่กล่าว . WHO IS POTENTIAL TRUMP SEC. STATE PICK RICHARD GRENELL? Ex-director of national intelligence and ambassador to Germany Richard Grenell has reportedly made the shortlist of potential candidates for the job of secretary of state – a post entailing responsibility for advising the president on foreign policy and carrying out his decisions. Grenell’s public statements and actions provide clues about the kind of foreign policy guidance he might give Donald Trump: 🔸 The candidate is thought to share Trump’s desire to end the conflict in Ukraine. In July, he spitballed so-called “autonomous regions” in the conflict area, and said Kiev shouldn’t expect to join NATO anytime soon. 🔸 Grenell reportedly sat in on Trump’s meeting with Zelensky in September. 🔸 “[Trump] has shown he knows how to bring both sides to the table. He’s done it consistently. Arabs and Israelis, Russians and Ukrainians will be next,” Grenell said in a FP piece published this week on “Trump’s foreign policy plan.” 🔸 Ukrainian media fear Grenell’s appointment would “prioritize Trump’s desire to end the war quickly, even if it means making significant concessions for Ukraine.” 🔸 These positions don’t make Grenell a softy on Russia. In 2019, while serving as ambassador to Germany, Grenell repeatedly threatened European companies with sanctions over their involvement in the Nord Stream 2 gas pipeline project, prompting German politicians to brand him an “occupation officer” and to demand his expulsion. “The Ukraine crisis remains a crucial issue in US foreign policy, especially with Trump in power,” political analyst Massimiliano Bonne told Sputnik, commenting on Grenell’s potential appointment. “During his previous administration, Trump had adopted an ambivalent attitude towards Russia, despite the tensions in Eastern Europe. The new administration could find itself dealing with a protracted conflict between Kiev and Moscow, striking a difficult balance between supporting Ukraine and avoiding a direct escalation with Russia,” Bonne said. . 3:00 AM · Nov 9, 2024 · 3,855 Views https://x.com/SputnikInt/status/1854977191844385066
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 423 Views 0 Reviews
  • The Wait Is Over! Learn If You Should Use “‘Til” or “Till”

    If you feel like until has just too many letters or syllables, good news: you’ve got options. But should you use ’til or till? And what’s the difference, anyway?

    By the end of this article, you’ll know the differences between until, till, and ’til, including in terms of origin, level of formality, and use.

    Quick summary
    Until, till, and ’til all mean the same thing. The informal contraction ’til is a shortening of until that’s typically only used in informal contexts. The word till is a separate word altogether—it’s actually older than until. Till isn’t informal, but it can seem that way due to the informality of ’til, which sounds exactly the same.

    ’til vs. till
    The word ’til is a shortening of until that, like many contractions, is typically reserved for informal contexts. It’s sometimes spelled without the apostrophe, especially in casual use. (Technically speaking, ’til is an example of the linguistic process known as aphesis, which involves the disappearance or loss of an unstressed initial vowel or syllable.)

    Till is sometimes seen as a misspelling of ’til, but that’s not the case. It’s actually a separate word altogether with a variety of meanings, one of which means the same exact thing as ’til.

    till or until
    Till and until are completely interchangeable—they mean the same exact thing and can be used in all the same ways, including as a conjunction or preposition. They both have a very long history of use in English, but in fact till is even older than until: the first records of till come from before 900, with the first records of until coming in the 1100s. (Until and till are based on the same root.)

    Even though they’re interchangeable, till may seem more informal than until to some people because it’s so similar to the shortening ’til. For this reason, some people avoid using till in formal contexts. Still, you can never really go wrong using till.

    The occasional rendering of ’till with an apostrophe (certainly influenced by ’til) is generally considered a misspelling—and frankly unnecessary, since till is right there to use.

    Examples of ’til, till, and until used in a sentence
    Until, till, and ’til are interchangeable in meaning, but people often choose which one they use based on how formal they want to be. This means that ’til is typically being avoided in formal contexts, which sometimes leads to the avoidance of till as well. Still, in any of the examples below, any one of the terms could be used if formality were not a consideration.

    - I thought it was a great offer until I realized there are no benefits attached.
    - I stay up till midnight every so often, but rarely any later.
    - The sign says “Open ’til midnight,” so we’ve still got time.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    The Wait Is Over! Learn If You Should Use “‘Til” or “Till” If you feel like until has just too many letters or syllables, good news: you’ve got options. But should you use ’til or till? And what’s the difference, anyway? By the end of this article, you’ll know the differences between until, till, and ’til, including in terms of origin, level of formality, and use. Quick summary Until, till, and ’til all mean the same thing. The informal contraction ’til is a shortening of until that’s typically only used in informal contexts. The word till is a separate word altogether—it’s actually older than until. Till isn’t informal, but it can seem that way due to the informality of ’til, which sounds exactly the same. ’til vs. till The word ’til is a shortening of until that, like many contractions, is typically reserved for informal contexts. It’s sometimes spelled without the apostrophe, especially in casual use. (Technically speaking, ’til is an example of the linguistic process known as aphesis, which involves the disappearance or loss of an unstressed initial vowel or syllable.) Till is sometimes seen as a misspelling of ’til, but that’s not the case. It’s actually a separate word altogether with a variety of meanings, one of which means the same exact thing as ’til. till or until Till and until are completely interchangeable—they mean the same exact thing and can be used in all the same ways, including as a conjunction or preposition. They both have a very long history of use in English, but in fact till is even older than until: the first records of till come from before 900, with the first records of until coming in the 1100s. (Until and till are based on the same root.) Even though they’re interchangeable, till may seem more informal than until to some people because it’s so similar to the shortening ’til. For this reason, some people avoid using till in formal contexts. Still, you can never really go wrong using till. The occasional rendering of ’till with an apostrophe (certainly influenced by ’til) is generally considered a misspelling—and frankly unnecessary, since till is right there to use. Examples of ’til, till, and until used in a sentence Until, till, and ’til are interchangeable in meaning, but people often choose which one they use based on how formal they want to be. This means that ’til is typically being avoided in formal contexts, which sometimes leads to the avoidance of till as well. Still, in any of the examples below, any one of the terms could be used if formality were not a consideration. - I thought it was a great offer until I realized there are no benefits attached. - I stay up till midnight every so often, but rarely any later. - The sign says “Open ’til midnight,” so we’ve still got time. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 Comments 0 Shares 233 Views 0 Reviews
  • 🇷🇺🇮🇩 กองทัพเรือรัสเซีย, อินโดนีเซีย เตรียมจัดการซ้อมรบร่วมครั้งแรกภายใต้รหัส "ออร์รูดา ๒๐๒๔"

    กองทัพเรือรัสเซียและอินโดนีเซียจะจัดการซ้อมรบร่วมกันครั้งแรก, ภายใต้รหัส "ออร์รูดา ๒๐๒๔," ที่สุราบายาและทะเลชวา ระหว่างวันที่ ๔-๘ พฤศจิกายน การซ้อมรบดังกล่าวประกาศเมื่อเดือนสิงหาคม และจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่อินโดนีเซียได้รับเอกราชเมื่อ ๗๙ ปีที่แล้ว

    🔸นกสองตัว
    รหัส "ออร์รูดา" มาจากการผสมระหว่างนกอินทรีรัสเซียและนกในตำนานของอินโดนีเซียอย่างการูด้า, ซึ่งสื่อถึงความแข็งแกร่งและความตั้งใจของทั้งสองประเทศที่จะจัดการซ้อมรบแบบ "ปีกชนปีก"

    🔸กองเรือแปซิฟิกเดินทางมาถึง
    เมื่อวันอาทิตย์, กองเรือจากกองเรือแปซิฟิกของกองทัพเรือรัสเซีย, ซึ่งรวมถึงเรือคอร์เวต Gromkiy, Rezky, ฮีโร่ของสหพันธรัฐรัสเซีย Aldar Tsydenzhapov, และเรือสนับสนุน Pechenga, ได้เดินทางเข้าสู่สุราบายาอย่างเป็นมิตร เอกอัครราชทูตรัสเซีย Sergey Tolchenov เข้าร่วมพิธีต้อนรับ, ซึ่งมีการเต้นรำแบบดั้งเดิมด้วย

    🔸กิจกรรมที่วางแผนไว้, ติดตามอย่างใกล้ชิด
    "Orruda ๒๐๒๔" จะมีเวทีที่ท่าเรือและทางทะเลในสุราบายาและทะเลชวา เอกอัครราชทูตเน้นย้ำว่าการซ้อมรบเป็นกิจกรรมประจำสำหรับประเทศพันธมิตร, ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่บุคคลที่สาม อย่างไรก็ตาม, ผู้สังเกตการณ์คาดว่าจะติดตามการซ้อมรบอย่างใกล้ชิด

    ผู้บัญชาการ Alexey Antsiferov กล่าวว่าการซ้อมรบครั้งนี้จะแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของรัสเซียที่จะให้ความช่วยเหลืออินโดนีเซีย และแสดงความหวังว่าการซ้อมรบครั้งนี้จะกลายเป็นกิจกรรมประจำปีและขยายขนาดขึ้น
    .
    🇷🇺🇮🇩 RUSSIAN, INDONESIAN NAVIES TO HOLD FIRST EVER JOINT EXERCISES 'ORRUDA 2024'

    The navies of Russia and Indonesia will hold their first joint exercises, codenamed "Orruda 2024," in Surabaya and the Java Sea from November 4 to 8. The drills were announced in August and will be the first since Indonesia gained independence 79 years ago.

    🔸Two Birds
    The codename "Orruda" combines the Russian eagle and the Indonesian mythical bird Garuda, symbolizing strength and the intention of the two countries to conduct the drills "wing to wing."

    🔸Pacific Fleet Arrival
    On Sunday, a detachment from the Russian Navy's Pacific Fleet, including the corvettes Gromkiy, Rezky, Hero of the Russian Federation Aldar Tsydenzhapov, and the support ship Pechenga, made a friendly entry into Surabaya. Russian Ambassador Sergey Tolchenov attended the welcoming ceremony, which featured traditional dances.

    🔸Planned Event, Monitored Closely
    "Orruda 2024" will include port and naval stages in Surabaya and the Java Sea. The ambassador stressed the exercises are a routine event for partner nations, not aimed at any third party. Despite this, observers are expected to monitor the exercises closely.

    Commander Alexey Antsiferov noted these drills would show Russia's readiness to assist Indonesia and expressed hope that they would become annual and grow in scale.
    .
    Last edited 10:56 AM · Nov 4, 2024 · 2,754 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1853285176706531387
    🇷🇺🇮🇩 กองทัพเรือรัสเซีย, อินโดนีเซีย เตรียมจัดการซ้อมรบร่วมครั้งแรกภายใต้รหัส "ออร์รูดา ๒๐๒๔" กองทัพเรือรัสเซียและอินโดนีเซียจะจัดการซ้อมรบร่วมกันครั้งแรก, ภายใต้รหัส "ออร์รูดา ๒๐๒๔," ที่สุราบายาและทะเลชวา ระหว่างวันที่ ๔-๘ พฤศจิกายน การซ้อมรบดังกล่าวประกาศเมื่อเดือนสิงหาคม และจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่อินโดนีเซียได้รับเอกราชเมื่อ ๗๙ ปีที่แล้ว 🔸นกสองตัว รหัส "ออร์รูดา" มาจากการผสมระหว่างนกอินทรีรัสเซียและนกในตำนานของอินโดนีเซียอย่างการูด้า, ซึ่งสื่อถึงความแข็งแกร่งและความตั้งใจของทั้งสองประเทศที่จะจัดการซ้อมรบแบบ "ปีกชนปีก" 🔸กองเรือแปซิฟิกเดินทางมาถึง เมื่อวันอาทิตย์, กองเรือจากกองเรือแปซิฟิกของกองทัพเรือรัสเซีย, ซึ่งรวมถึงเรือคอร์เวต Gromkiy, Rezky, ฮีโร่ของสหพันธรัฐรัสเซีย Aldar Tsydenzhapov, และเรือสนับสนุน Pechenga, ได้เดินทางเข้าสู่สุราบายาอย่างเป็นมิตร เอกอัครราชทูตรัสเซีย Sergey Tolchenov เข้าร่วมพิธีต้อนรับ, ซึ่งมีการเต้นรำแบบดั้งเดิมด้วย 🔸กิจกรรมที่วางแผนไว้, ติดตามอย่างใกล้ชิด "Orruda ๒๐๒๔" จะมีเวทีที่ท่าเรือและทางทะเลในสุราบายาและทะเลชวา เอกอัครราชทูตเน้นย้ำว่าการซ้อมรบเป็นกิจกรรมประจำสำหรับประเทศพันธมิตร, ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่บุคคลที่สาม อย่างไรก็ตาม, ผู้สังเกตการณ์คาดว่าจะติดตามการซ้อมรบอย่างใกล้ชิด ผู้บัญชาการ Alexey Antsiferov กล่าวว่าการซ้อมรบครั้งนี้จะแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของรัสเซียที่จะให้ความช่วยเหลืออินโดนีเซีย และแสดงความหวังว่าการซ้อมรบครั้งนี้จะกลายเป็นกิจกรรมประจำปีและขยายขนาดขึ้น . 🇷🇺🇮🇩 RUSSIAN, INDONESIAN NAVIES TO HOLD FIRST EVER JOINT EXERCISES 'ORRUDA 2024' The navies of Russia and Indonesia will hold their first joint exercises, codenamed "Orruda 2024," in Surabaya and the Java Sea from November 4 to 8. The drills were announced in August and will be the first since Indonesia gained independence 79 years ago. 🔸Two Birds The codename "Orruda" combines the Russian eagle and the Indonesian mythical bird Garuda, symbolizing strength and the intention of the two countries to conduct the drills "wing to wing." 🔸Pacific Fleet Arrival On Sunday, a detachment from the Russian Navy's Pacific Fleet, including the corvettes Gromkiy, Rezky, Hero of the Russian Federation Aldar Tsydenzhapov, and the support ship Pechenga, made a friendly entry into Surabaya. Russian Ambassador Sergey Tolchenov attended the welcoming ceremony, which featured traditional dances. 🔸Planned Event, Monitored Closely "Orruda 2024" will include port and naval stages in Surabaya and the Java Sea. The ambassador stressed the exercises are a routine event for partner nations, not aimed at any third party. Despite this, observers are expected to monitor the exercises closely. Commander Alexey Antsiferov noted these drills would show Russia's readiness to assist Indonesia and expressed hope that they would become annual and grow in scale. . Last edited 10:56 AM · Nov 4, 2024 · 2,754 Views https://x.com/SputnikInt/status/1853285176706531387
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • 🇨🇳สีจิ้นผิงเรียกร้องให้สมาชิกกลุ่ม BRICS มีบทบาทนำในการปฏิรูประบบการกำกับดูแลเศรษฐกิจโลก

    นอกจากสมาชิกในกลุ่มแล้ว, การประชุมในรูปแบบการติดต่อ/BRICS+ ยังมีผู้แทนจากประเทศต่างๆในเอเชีย, แอฟริกา, ตะวันออกกลาง, และละตินอเมริกาเข้าร่วมด้วย ผู้นำจากประเทศ CIS, รวมถึงตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศ เช่น สหประชาชาติ, ก็เข้าร่วมด้วย

    สีม่วงเป็นสีที่นิยมใช้ผูกเน็คไทมากที่สุดในหมู่หัวหน้าคณะผู้แทนต่างประเทศในวันนี้ เชื่อกันว่าสีม่วงเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นใจ, ดังนั้นอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

    #BRICS2024
    .
    🇨🇳XI JINPING CALLS ON BRICS MEMBERS TO PLAY LEADING ROLE IN REFORMING GLOBAL ECONOMIC GOVERNANCE SYSTEM

    In addition to members of the group, the meeting in the outreach/BRICS+ format is also attended by delegations from various countries in Asia, Africa, the Middle East, and Latin America. Leaders from CIS countries, as well as representatives of international organizations such as the UN, are also in attendance.

    Purple is the most popular color for ties among the foreign delegation heads today. It’s believed that purple symbolizes a person's confidence, so maybe it’s not a coincidence.

    #BRICS2024
    .
    3:42 PM · Oct 24, 2024 · 5,846 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1849370973100737013
    🇨🇳สีจิ้นผิงเรียกร้องให้สมาชิกกลุ่ม BRICS มีบทบาทนำในการปฏิรูประบบการกำกับดูแลเศรษฐกิจโลก นอกจากสมาชิกในกลุ่มแล้ว, การประชุมในรูปแบบการติดต่อ/BRICS+ ยังมีผู้แทนจากประเทศต่างๆในเอเชีย, แอฟริกา, ตะวันออกกลาง, และละตินอเมริกาเข้าร่วมด้วย ผู้นำจากประเทศ CIS, รวมถึงตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศ เช่น สหประชาชาติ, ก็เข้าร่วมด้วย สีม่วงเป็นสีที่นิยมใช้ผูกเน็คไทมากที่สุดในหมู่หัวหน้าคณะผู้แทนต่างประเทศในวันนี้ เชื่อกันว่าสีม่วงเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นใจ, ดังนั้นอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ #BRICS2024 . 🇨🇳XI JINPING CALLS ON BRICS MEMBERS TO PLAY LEADING ROLE IN REFORMING GLOBAL ECONOMIC GOVERNANCE SYSTEM In addition to members of the group, the meeting in the outreach/BRICS+ format is also attended by delegations from various countries in Asia, Africa, the Middle East, and Latin America. Leaders from CIS countries, as well as representatives of international organizations such as the UN, are also in attendance. Purple is the most popular color for ties among the foreign delegation heads today. It’s believed that purple symbolizes a person's confidence, so maybe it’s not a coincidence. #BRICS2024 . 3:42 PM · Oct 24, 2024 · 5,846 Views https://x.com/SputnikInt/status/1849370973100737013
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 311 Views 57 0 Reviews
  • การประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS ที่เมืองคาซานแสดงให้เห็นถึงการถ่วงดุลกับกลุ่ม G7 ที่กำลังประสบปัญหา

    Paolo Raffone, ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยด้านกิจการภูมิรัฐศาสตร์ CIPI Foundation ซึ่งตั้งอยู่ในบรัสเซลส์

    จากมุมมองเชิงยุทธศาสตร์, กลุ่ม BRICS ที่เมืองคาซานแสดงให้เห็นถึงการถ่วงดุลกับกลุ่ม G7, ที่กำลังประสบปัญหา ในช่วงเวลาที่มีสมาชิกหลักหลายคนจากการประชุมสองปีครั้งของเครือจักรภพ [เลือก] กลุ่ม BRICS แทน, 🤣และในช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปกำลังสร้างความหวาดกลัวให้กับความไม่แน่นอนของสถาบันในประเทศและระหว่างประเทศของตนเอง🤣

    การเข้าร่วมของเลขาธิการสหประชาชาติ, กูเตอร์เรส, ยืนยันเจตนารมณ์ที่สันติและร่วมมือกันภายในระบบพหุภาคี 🤣นักวิจารณ์อุดมการณ์ของกลุ่ม BRICS ต่างผิดหวังที่ไม่มีการได้ยินหรือเขียนแถลงการณ์ที่เป็นการยั่วยุใดๆ🤣

    คำประกาศ [การประชุมสุดยอดที่เมืองคาซาน] ระบุอย่างเงียบๆแต่เด็ดขาดว่า แม้กลุ่มผู้มีอำนาจสูงสุดจะคัดค้าน แต่เส้นทางสู่การมีตัวแทนและความรับผิดชอบที่สมดุลยิ่งขึ้นในกิจการโลกก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้อีกต่อไป มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาไม่ใช่เรื่องของทิศทางหรือผลลัพธ์
    #BRICS2024
    .
    BRICS SUMMIT IN KAZAN PROVES A COUNTERBALANCE TO THE AILING G7

    Paolo Raffone, director of the Brussels-based CIPI Foundation geopolitical affairs think tank

    From a strategic point of view, BRICS in Kazan counterbalance the ailing G7, at a time that sees several key members of the ongoing bi-annual meeting of The Commonwealth [choosing] BRICS instead, and when the US and the EU are peddling of fear in the uncertainty of their own national and international institutions.

    The attendance by the UN Secretary general, Guterres, confirms their peaceful and cooperative intentions within the multilateral system. To the dismay of the ideological critics of BRICS no incendiary statements were heard or written.

    The [Kazan Summit] declaration is quietly but resolutely stating that despite the hegemons’ opposition the path towards a more balanced representation and responsibility in world affairs cannot be stopped anymore. It’s just a matter of time not of direction and outcome.
    #BRICS2024
    .
    1:10 AM · Oct 24, 2024 · 3,192 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1849151432210989399
    การประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS ที่เมืองคาซานแสดงให้เห็นถึงการถ่วงดุลกับกลุ่ม G7 ที่กำลังประสบปัญหา Paolo Raffone, ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยด้านกิจการภูมิรัฐศาสตร์ CIPI Foundation ซึ่งตั้งอยู่ในบรัสเซลส์ จากมุมมองเชิงยุทธศาสตร์, กลุ่ม BRICS ที่เมืองคาซานแสดงให้เห็นถึงการถ่วงดุลกับกลุ่ม G7, ที่กำลังประสบปัญหา ในช่วงเวลาที่มีสมาชิกหลักหลายคนจากการประชุมสองปีครั้งของเครือจักรภพ [เลือก] กลุ่ม BRICS แทน, 🤣และในช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปกำลังสร้างความหวาดกลัวให้กับความไม่แน่นอนของสถาบันในประเทศและระหว่างประเทศของตนเอง🤣 การเข้าร่วมของเลขาธิการสหประชาชาติ, กูเตอร์เรส, ยืนยันเจตนารมณ์ที่สันติและร่วมมือกันภายในระบบพหุภาคี 🤣นักวิจารณ์อุดมการณ์ของกลุ่ม BRICS ต่างผิดหวังที่ไม่มีการได้ยินหรือเขียนแถลงการณ์ที่เป็นการยั่วยุใดๆ🤣 คำประกาศ [การประชุมสุดยอดที่เมืองคาซาน] ระบุอย่างเงียบๆแต่เด็ดขาดว่า แม้กลุ่มผู้มีอำนาจสูงสุดจะคัดค้าน แต่เส้นทางสู่การมีตัวแทนและความรับผิดชอบที่สมดุลยิ่งขึ้นในกิจการโลกก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้อีกต่อไป มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาไม่ใช่เรื่องของทิศทางหรือผลลัพธ์ #BRICS2024 . BRICS SUMMIT IN KAZAN PROVES A COUNTERBALANCE TO THE AILING G7 Paolo Raffone, director of the Brussels-based CIPI Foundation geopolitical affairs think tank From a strategic point of view, BRICS in Kazan counterbalance the ailing G7, at a time that sees several key members of the ongoing bi-annual meeting of The Commonwealth [choosing] BRICS instead, and when the US and the EU are peddling of fear in the uncertainty of their own national and international institutions. The attendance by the UN Secretary general, Guterres, confirms their peaceful and cooperative intentions within the multilateral system. To the dismay of the ideological critics of BRICS no incendiary statements were heard or written. The [Kazan Summit] declaration is quietly but resolutely stating that despite the hegemons’ opposition the path towards a more balanced representation and responsibility in world affairs cannot be stopped anymore. It’s just a matter of time not of direction and outcome. #BRICS2024 . 1:10 AM · Oct 24, 2024 · 3,192 Views https://x.com/SputnikInt/status/1849151432210989399
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 133 Views 0 Reviews
  • EP4 นี้ขออนุญาตนำเสนอประเด็นในเรื่องสิ่งกีดขวางในการเดินอากาศของอากาศยานบริเวณใกล้เคียงสนามบิน ซึ่งเป็นเพียงข้อสังเกตที่มีอยู่จากข้อมูลที่ปรากฎในเว็ปไซต์ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)

    จากข้อมูลที่ประกาศอยู่ในการแก้ไขเอกสารแถลงข่าวการบินประเทศไทย (AIP Amendment: AMDT) ในหัวข้อสิ่งกีดขวาง (Aerodrome Obstacles) ทางการบินของสนามบินสุวรรณภูมิ - AD2-VTBS -1-13, 31 OCT 24 (https://aip.caat.or.th/2024-10-31-AIRAC/html/index-en-GB.html) ที่จะมีผลในวันที่ 31 ต.ค.67 นี้ มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนสิ่งกีดขวางทั้งในแนวขึ้นลงและแนวบินวนเข้าสู่สนามบินที่น่าจะมีนัยยะสำคัญต่อการเดินทางทางอากาศเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้จำนวนสิ่งกีดขวางที่เป็นอุปสรรคต่อการบินที่มีการปรับปรุงข้อมูลครั้งก่อนเมื่อ 2 พ.ย. 67 จำนวนค่าพิกัดสิ่งกีดขวางที่นับได้มีประมาณ 17 รายการ แต่ครั้งนี้เพิ่มขึ้นมาจากเดิมถึงประมาณ 160 รายการ โดยมากแล้วก็จะเป็นตึกที่พักอาศัยหรือคอนโดและเสาส่งสัญญาณแรงสูง แต่กระนั้นก็ตามก็มีป้ายโฆษณาปรากฏอยู่ในหัวข้อสิ่งกีดขวางทางการบินใน AIP Thailand ของสนามบินนี้ด้วยเช่นกัน

    ข้อมูลอ้างอิงตามมาตรฐานที่ระบุในข้อกำหนด กพท. ฉบับที่ 37 ในหมวด 4 เรื่องสิ่งกีดขวาง (Obstacles) ข้อ 245 ระบุว่า “เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำให้การปฏิบัติการของอากาศยานเป็นไปอย่างปลอดภัยและป้องกันไม่ให้สนามบินต้องหยุดดำเนินการจากการขยายตัวของสิ่งกีดขวางโดยรอบสนามบิน สนามบินต้องมีพื้นผิวจำกัดสิ่งกีดขวาง” (Obstacle Limitation Surfaces: OLS) ที่มีการกำหนดเงื่อนไขหรือขอบเขตของวัตถุที่จะยื่นเข้าไปในห้วงอากาศไม่ให้เป็นสิ่งกีดขวางทางการบินได้ ทั้งภาครัฐในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 59 และ 60 ของ พรบ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497ฯ ผู้พิจารณาอนุญาต หรือจำกัดความสูงของตึกอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใดใน OLS รอบนอกสนามบินและตัวผู้ดำเนินการสนามบินเองจะต้องเฝ้าระวังไม่ให้มีสิ่งใดยื่นล้ำเข้าไปในเขตปลอดภัยการเดินอากาศเกินกว่าที่มาตรฐานกำหนดได้เพื่อวัตถุประสงค์ตามหมวดนี้ แต่จำนวนสิ่งกีดขวางที่ปรากฎอยู่ในขณะนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าจะสอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ของทั้งสองหน่วยงานนี้หรือไม่ (หากมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนประการใดต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้)

    สนามบินเก่าไคตั๊กของฮ่องกงที่อยู่ท่ามกลางสภาพภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาและอาคารอพาร์ทเม้นท์สูงๆจำนวนมาก (ภาพประกอบจากเฟสบุค Historic Photographs) ที่ปัจจุบันสนามบินมีการถูกยกเลิกการใช้งานไปแล้วก็น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีที่อธิบายความหมายและวัตถุประสงค์ของการควบคุมและจำกัดสิ่งกีดขวางทางการบินรอบสนามบินนี้ได้

    จากจำนวนสิ่งกีดขวางที่เพิ่มขึ้นมาจากเดิมขนาดนี้อาจจะส่งผลกระทบโดยตรงหรือโดยอ้อมต่อการจัดการจราจรทางอากาศในเขตใกล้เคียงสนามบินซึ่งหมายรวมถึงการออกแบบวิธีปฎิบัติการบินของหน่วยงานที่รับผิดชอบที่จะต้องหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางเหล่านี้ให้มีระยะที่ปลอดภัยเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอันตรายใดๆต่อการปฏิบัติการบินในการเข้าหรือออกจากสนามบิน นอกจากนี้ก็อาจจะมีผลต่อการจัดการการรองรับจำนวนเที่ยวบินให้มีประสิทธิภาพตามการคาดการณ์ปริมาณการรองรับของสนามบินตามที่มีการตั้งเป้ากันไว้ด้วยเช่นกัน การมุ่งหมายจะเป็นศูนย์กลางทางการบินในภูมิภาคนี้หรือ Regional Aviation Hub จะได้รับผลกระทบไปด้วยหรือไม่ ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบคงพอจะอธิบายหรือตอบประเด็นข้อสังเกตนี้ได้

    โดยทั่วไปแล้ว แผนแม่บทสนามบินของทุกๆแห่งย่อมมีการวางแผนกำหนดขีดความสามารถการรองรับปริมาณจราจรทางอากาศในอนาคตไว้ในระยะต่างๆไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนทางวิ่ง ทางขับ หลุมจอดอากาศยาน หรืออาคารผู้โดยสาร/อาคารเทียบเครื่องบิน การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอื่นเพื่อรองรับแผนดังกล่าวเช่นการควบคุมสิ่งกีดขวางโดยรอบของสนามบิน การดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมทางเสียง การออกแบบการเดินทางของผู้โดยสารจากสนามบินไปตามจุดต่างๆ หรือการวางยุทธศาสต์ของสนามบิน ฯลฯเพื่อให้สอดคล้องและรองรับปริมาณเที่ยวบินอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพตามแผนฯเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนการก่อสร้างสนามบินแล้ว ในคู่มือการควบคุมสิ่งกีดขวาง (Guidance Material for Control of Obstacles) ลงวันที่ 30 มิ.ย. 2565 ของ กพท. หน้าที่ของผู้ดำเนินการสนามบิน (Aerodrome Operator’s Responsibilities) ด้านการควบคุมสิ่งกีดขวางระบุไว้อย่างชัดเจน สิ่งกีดขวางที่มีการระบุพิกัดตำแหน่งและความสูงแล้วสนามบินจะต้องมีการเฝ้าระวังไม่ให้มีสิ่งกีดขวางใหม่เกิดขึ้น ติดตาม และประสานกับเจ้าของอาคารหรือเจ้าของเสาส่งสัญญาณ ฯลฯ ในเรื่องการใช้การได้ของไฟแสดงสถานะของสิ่งกีดขวางนั้นๆในช่วงเวลากลางคืนหรือช่วงทัศนะวิสัยต่ำว่ายังคงใช้งานได้เพื่อลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อการปฏิบัติการบิน

    ในปี ค.ศ. 2021 จากคะแนนการตรวจสอบด้านมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศหรือ ICAO ในการกำกับดูแลด้านสนามบินของประเทศไทยซึ่งน่าจะรวมถึงเรื่องการควบคุมสิ่งกีดขวางด้วย มีผลคะแนนที่ 49.59% ในขณะที่เกณฑ์เฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 63.1% ในครั้งหน้าที่จะมีการตรวจติดตามในต้นปีหน้าตามกำหนดการเดิมในเดือน ม.ค.68 เรื่องดังกล่าวนี้จะมีผลต่อการตรวจสอบของ ICAO ด้วยหรือไม่ก็เป็นประเด็นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาทบทวน

    ในทางปฏิบัติเมื่อมีข้อมูลหรือสิ่งกีดขวางใหม่แบบถาวรเกิดขึ้นที่จะต้องลงประกาศแก้ไขใน AIP Thailand ที่มีรอบตารางการประกาศและวันที่มีผลบังคับใช้ (42วันหลังวันประกาศข้อมูล) ถูกกำหนดไว้ตามมาตรฐานซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน หากไม่ได้มีการแจ้งข้อมูลด้วยวิธีการอื่นใดที่รวดเร็วกว่านี้เช่นประกาศผู้ทำการในอากาศหรือ NOTAM PERM (Notice to airmen, Permanents) หรือ ประกาศเพิ่มเติมเอกสารแถลงข่าวการบิน (AIP Supplement ที่เป็นแบบ Non-AIRAC) ก็อาจจะมีผลต่อการเดินอากาศในเขตบริเวณใกล้เคียงสนามบินได้แต่เข้าใจว่าคงมีการดำเนินการไปแล้ว

    ข้อมูลข้างต้นสามารถค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็ปไซต์ของ กพท. https://www.caat.or.th
    EP4 นี้ขออนุญาตนำเสนอประเด็นในเรื่องสิ่งกีดขวางในการเดินอากาศของอากาศยานบริเวณใกล้เคียงสนามบิน ซึ่งเป็นเพียงข้อสังเกตที่มีอยู่จากข้อมูลที่ปรากฎในเว็ปไซต์ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จากข้อมูลที่ประกาศอยู่ในการแก้ไขเอกสารแถลงข่าวการบินประเทศไทย (AIP Amendment: AMDT) ในหัวข้อสิ่งกีดขวาง (Aerodrome Obstacles) ทางการบินของสนามบินสุวรรณภูมิ - AD2-VTBS -1-13, 31 OCT 24 (https://aip.caat.or.th/2024-10-31-AIRAC/html/index-en-GB.html) ที่จะมีผลในวันที่ 31 ต.ค.67 นี้ มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนสิ่งกีดขวางทั้งในแนวขึ้นลงและแนวบินวนเข้าสู่สนามบินที่น่าจะมีนัยยะสำคัญต่อการเดินทางทางอากาศเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้จำนวนสิ่งกีดขวางที่เป็นอุปสรรคต่อการบินที่มีการปรับปรุงข้อมูลครั้งก่อนเมื่อ 2 พ.ย. 67 จำนวนค่าพิกัดสิ่งกีดขวางที่นับได้มีประมาณ 17 รายการ แต่ครั้งนี้เพิ่มขึ้นมาจากเดิมถึงประมาณ 160 รายการ โดยมากแล้วก็จะเป็นตึกที่พักอาศัยหรือคอนโดและเสาส่งสัญญาณแรงสูง แต่กระนั้นก็ตามก็มีป้ายโฆษณาปรากฏอยู่ในหัวข้อสิ่งกีดขวางทางการบินใน AIP Thailand ของสนามบินนี้ด้วยเช่นกัน ข้อมูลอ้างอิงตามมาตรฐานที่ระบุในข้อกำหนด กพท. ฉบับที่ 37 ในหมวด 4 เรื่องสิ่งกีดขวาง (Obstacles) ข้อ 245 ระบุว่า “เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำให้การปฏิบัติการของอากาศยานเป็นไปอย่างปลอดภัยและป้องกันไม่ให้สนามบินต้องหยุดดำเนินการจากการขยายตัวของสิ่งกีดขวางโดยรอบสนามบิน สนามบินต้องมีพื้นผิวจำกัดสิ่งกีดขวาง” (Obstacle Limitation Surfaces: OLS) ที่มีการกำหนดเงื่อนไขหรือขอบเขตของวัตถุที่จะยื่นเข้าไปในห้วงอากาศไม่ให้เป็นสิ่งกีดขวางทางการบินได้ ทั้งภาครัฐในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 59 และ 60 ของ พรบ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497ฯ ผู้พิจารณาอนุญาต หรือจำกัดความสูงของตึกอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใดใน OLS รอบนอกสนามบินและตัวผู้ดำเนินการสนามบินเองจะต้องเฝ้าระวังไม่ให้มีสิ่งใดยื่นล้ำเข้าไปในเขตปลอดภัยการเดินอากาศเกินกว่าที่มาตรฐานกำหนดได้เพื่อวัตถุประสงค์ตามหมวดนี้ แต่จำนวนสิ่งกีดขวางที่ปรากฎอยู่ในขณะนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าจะสอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ของทั้งสองหน่วยงานนี้หรือไม่ (หากมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนประการใดต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้) สนามบินเก่าไคตั๊กของฮ่องกงที่อยู่ท่ามกลางสภาพภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาและอาคารอพาร์ทเม้นท์สูงๆจำนวนมาก (ภาพประกอบจากเฟสบุค Historic Photographs) ที่ปัจจุบันสนามบินมีการถูกยกเลิกการใช้งานไปแล้วก็น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีที่อธิบายความหมายและวัตถุประสงค์ของการควบคุมและจำกัดสิ่งกีดขวางทางการบินรอบสนามบินนี้ได้ จากจำนวนสิ่งกีดขวางที่เพิ่มขึ้นมาจากเดิมขนาดนี้อาจจะส่งผลกระทบโดยตรงหรือโดยอ้อมต่อการจัดการจราจรทางอากาศในเขตใกล้เคียงสนามบินซึ่งหมายรวมถึงการออกแบบวิธีปฎิบัติการบินของหน่วยงานที่รับผิดชอบที่จะต้องหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางเหล่านี้ให้มีระยะที่ปลอดภัยเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอันตรายใดๆต่อการปฏิบัติการบินในการเข้าหรือออกจากสนามบิน นอกจากนี้ก็อาจจะมีผลต่อการจัดการการรองรับจำนวนเที่ยวบินให้มีประสิทธิภาพตามการคาดการณ์ปริมาณการรองรับของสนามบินตามที่มีการตั้งเป้ากันไว้ด้วยเช่นกัน การมุ่งหมายจะเป็นศูนย์กลางทางการบินในภูมิภาคนี้หรือ Regional Aviation Hub จะได้รับผลกระทบไปด้วยหรือไม่ ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบคงพอจะอธิบายหรือตอบประเด็นข้อสังเกตนี้ได้ โดยทั่วไปแล้ว แผนแม่บทสนามบินของทุกๆแห่งย่อมมีการวางแผนกำหนดขีดความสามารถการรองรับปริมาณจราจรทางอากาศในอนาคตไว้ในระยะต่างๆไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนทางวิ่ง ทางขับ หลุมจอดอากาศยาน หรืออาคารผู้โดยสาร/อาคารเทียบเครื่องบิน การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอื่นเพื่อรองรับแผนดังกล่าวเช่นการควบคุมสิ่งกีดขวางโดยรอบของสนามบิน การดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมทางเสียง การออกแบบการเดินทางของผู้โดยสารจากสนามบินไปตามจุดต่างๆ หรือการวางยุทธศาสต์ของสนามบิน ฯลฯเพื่อให้สอดคล้องและรองรับปริมาณเที่ยวบินอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพตามแผนฯเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนการก่อสร้างสนามบินแล้ว ในคู่มือการควบคุมสิ่งกีดขวาง (Guidance Material for Control of Obstacles) ลงวันที่ 30 มิ.ย. 2565 ของ กพท. หน้าที่ของผู้ดำเนินการสนามบิน (Aerodrome Operator’s Responsibilities) ด้านการควบคุมสิ่งกีดขวางระบุไว้อย่างชัดเจน สิ่งกีดขวางที่มีการระบุพิกัดตำแหน่งและความสูงแล้วสนามบินจะต้องมีการเฝ้าระวังไม่ให้มีสิ่งกีดขวางใหม่เกิดขึ้น ติดตาม และประสานกับเจ้าของอาคารหรือเจ้าของเสาส่งสัญญาณ ฯลฯ ในเรื่องการใช้การได้ของไฟแสดงสถานะของสิ่งกีดขวางนั้นๆในช่วงเวลากลางคืนหรือช่วงทัศนะวิสัยต่ำว่ายังคงใช้งานได้เพื่อลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อการปฏิบัติการบิน ในปี ค.ศ. 2021 จากคะแนนการตรวจสอบด้านมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศหรือ ICAO ในการกำกับดูแลด้านสนามบินของประเทศไทยซึ่งน่าจะรวมถึงเรื่องการควบคุมสิ่งกีดขวางด้วย มีผลคะแนนที่ 49.59% ในขณะที่เกณฑ์เฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 63.1% ในครั้งหน้าที่จะมีการตรวจติดตามในต้นปีหน้าตามกำหนดการเดิมในเดือน ม.ค.68 เรื่องดังกล่าวนี้จะมีผลต่อการตรวจสอบของ ICAO ด้วยหรือไม่ก็เป็นประเด็นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาทบทวน ในทางปฏิบัติเมื่อมีข้อมูลหรือสิ่งกีดขวางใหม่แบบถาวรเกิดขึ้นที่จะต้องลงประกาศแก้ไขใน AIP Thailand ที่มีรอบตารางการประกาศและวันที่มีผลบังคับใช้ (42วันหลังวันประกาศข้อมูล) ถูกกำหนดไว้ตามมาตรฐานซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน หากไม่ได้มีการแจ้งข้อมูลด้วยวิธีการอื่นใดที่รวดเร็วกว่านี้เช่นประกาศผู้ทำการในอากาศหรือ NOTAM PERM (Notice to airmen, Permanents) หรือ ประกาศเพิ่มเติมเอกสารแถลงข่าวการบิน (AIP Supplement ที่เป็นแบบ Non-AIRAC) ก็อาจจะมีผลต่อการเดินอากาศในเขตบริเวณใกล้เคียงสนามบินได้แต่เข้าใจว่าคงมีการดำเนินการไปแล้ว ข้อมูลข้างต้นสามารถค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็ปไซต์ของ กพท. https://www.caat.or.th
    1 Comments 2 Shares 96 Views 0 Reviews
  • Words To Use Instead Of “Congratulations”

    Congratulations!
    Joyful times go hand in hand with congratulations. When addressing graduates, newlyweds, or anyone with good news, a hearty “Congratulations!” or a swift “Congrats!” is in order. Congratulants, “people who congratulate,” have been using the pluralized expression congratulations, which stems from the Latin gratus meaning “pleasing,” since the 1600s.

    The singular noun meaning “the act of congratulating” has been around since the late 1500s.

    Props!
    When congratulations are in order, the term props might come up. This slang shortening of proper arose in the 1990s and refers to respect and esteem.

    In addition to giving and receiving props as recognition, you can do someone a prop to help them out. In the 1995 film Clueless, Cher notices that Josh is dancing with Tai, despite the fact that he never dances, to make her feel included. Cher explains: “He’s doing her a prop so she won’t feel left out.”

    Way to go!
    If you admire someone’s grit and hustle, you can use this sporty method of congratulations. This active phrase has been traced back to the 1940s, when it was used in sports to congratulate a person or team on a great performance. In the 1960s, it began to be used more generally to refer to any kind of achievement.

    If “Way to go!” doesn’t do it for you, some peppy alternatives include “Great job,” “Nice going,” “You rock,” and “You rule!”

    Nailed it!
    This handy phrase really hits the nail on the head when you want to give someone their due. Nailed it has been traced back to at least the 1970s and metaphorically refers to the act of successfully hitting a nail with a hammer.

    In slang, we use a variety of other congratulatory phrases that also refer to forceful impacts or metaphorical violence such as “Killed it,” “Crushed it,” “Destroyed it,” and “Slayed it!”

    social media cheers

    Like, follow, and subscribe! Social media platforms all have different ways of congratulating somebody and letting them now how awesome their content is. These include:

    Twitter: the heart or a retweet
    Facebook: the thumbs-up on Facebook
    Instagram: the like
    YouTube: like, share, subscribe to a channel; hitting the bell icon
    TikTok: like and follow
    Snapchat: take a screenshot for later
    Reddit: upvote; give Reddit Gold/Platinum; or a badge
    Tumblr: reblog
    Twitch: subscribe to a channel and/or give a donation

    GG (Good Game)
    Shorthand for “good game” in the world of esports, GG is used to congratulate a victorious opponent.

    Additionally, it’s used to politely concede a match or admit defeat, most commonly in the realm of professional StarCraft. It’s all about the humble loss. Not everybody is a good sport, though, and the phrase GG EZ (“easy,” as in an easy win) is often used in a mean-spirited way to put down a defeated opponent.

    Three cheers!
    Three cheers is generally followed by “for” and the name of the person or thing being celebrated.

    A person being cheers-ed might also respond to a toast of three cheers with the word … cheers, which, especially in the UK, can mean “thanks.” That’s a lot of cheers.

    The term cheer entered English in the late 12th or early 13th century, and ultimately comes from the Greek word kárā meaning “head.”

    Hip, hip, hooray!
    For some Victorian flair, opt for the ever-cheery hip, hip, hooray (or hurrah). This expression of uncertain origin surfaced in the early 1800s, though the exclamation hip had been used since the mid-1700s. Hip repeated three times was used as a noun in the 1800s to refer to a collective cheer.

    But, let’s not forget about hooray, a variant of hurrah. This exclamation dates from the late 1600s and is very similar to shouts in German, Danish, Swedish, and even Russian. Someone’s last hurrah is their “final moment or occasion of glory or achievement.”

    Kudos!
    Though it sounds colloquial, kudos finds its roots in the hallowed halls of academic institutions. At the turn of the 1800s, academics transliterated the Greek kydos, meaning “praise or renown.” By the 1920s, kudos had spread beyond the walls of universities and into the columns of newspapers.

    Don’t be fooled by the S at the end of kudos; the word is, in fact, a singular noun. However, enough English speakers have erroneously interpreted it as plural for so long that already by the 1930s, the back formation singular kudo arose. Grammar sticklers avoid using kudo as a singular and kudos as a plural, though both forms can be found in popular usage.

    Hats off!
    The phrase hats off, while often said to graduates wearing the illustrious cap and gown, has nothing to do with the tradition of tossing hats in the air in celebration. This phrase, dating back to the 1600s, harks back to the custom of uncovering the head as a sign of respect.

    Etiquette expert Emily Post advised gentlemen on the many situations in which they must remove hats to maintain politeness. In 1922 she wrote: “A gentleman takes off his hat and holds it in his hand when a lady enters the elevator.” He also lifts his hat whenever he asks a question or says “Excuse me.” You know, maybe we could all stand a little formality these days …

    a round of applause
    The act of clapping one’s hands together to show acclaim is actually much older than you might think. Scholars are unsure of the exact origin, but we have evidence that even the ancient Romans would show their appreciation by clapping their hands. In fact, the word plaudits (which means an expression of approval) comes from the Latin verb plaudere, meaning to clap one’s hands. The verb applause is also based on this Latin verb.

    Today, the highest form of applause is the standing ovation, where every member of the audience rises to their feet and applauds. Any performer who manages to please an audience enough to cause them to stretch their legs a bit certainly deserves a big hand.

    congratulatory emoji
    Sometimes, it is better to use pictures rather than words to congratulate someone. In texting and on social media, many different emoji are used to give somebody a pat on the back after a job well done. The Clapping Hands emoji 👏 is used to refer to a round of applause and the Trophy emoji 🏆 references the shiny knickknacks we give to people who have accomplished something.

    The Party Popper emoji 🎉, Confetti Ball emoji 🎊, Partying Face emoji 🥳, and Bottle with Popping Cork emoji 🍾 are also commonly used to congratulate someone. These party animals refer to the act of throwing a party in celebration of an achievement and the stuff you are likely to find at such a shindig.

    Mazel tov!
    This expression of congratulations and best wishes comes from the Hebrew term literally meaning “good luck.” Though many reserve the English good luck for before a big event, you can cheer mazel tov to wish someone good fortune or to say congratulations.

    Mazel tov appeared in the 1600s spelled as missal tob but was rendered in English as mazel tov by the 1900s. Whatever transliteration you prefer, the term has been lovingly said ever since.

    Felicitations!
    If you want to stand out from the crowd of people offering their congratulations, try roaring felicitations. This less common expression of congratulations ultimately comes from the Latin felix, “happy.” English speakers have been using the singular form of this term (meaning “an act of congratulation”) since the early 1700s.

    So, if you want to be original (or sound old-fashioned) in wishing your congratulations, reach for a felicitous felicitations!

    congratulatory adjectives
    You don’t have to think too hard when it comes to saying congratulations. Sometimes, a single adjective will do. All you need to do is shout “Fantastic!”, “Stupendous!”, “Amazing!”, “Incredible!”, or “Spectacular!” This is just the tip of the iceberg when it comes to celebratory adjectives, though. You can use our handy thesaurus to find many more impressive synonyms of these words that you can shout out when you want to signal how much someone has impressed you.

    Keep going!
    What’s more powerful than simply saying congratulations? Encouraging someone to keep pushing ahead and to accomplish more. You’re not only celebrating the accomplishment at hand, but also showing enthusiasm for their future. Keep going!

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Words To Use Instead Of “Congratulations” Congratulations! Joyful times go hand in hand with congratulations. When addressing graduates, newlyweds, or anyone with good news, a hearty “Congratulations!” or a swift “Congrats!” is in order. Congratulants, “people who congratulate,” have been using the pluralized expression congratulations, which stems from the Latin gratus meaning “pleasing,” since the 1600s. The singular noun meaning “the act of congratulating” has been around since the late 1500s. Props! When congratulations are in order, the term props might come up. This slang shortening of proper arose in the 1990s and refers to respect and esteem. In addition to giving and receiving props as recognition, you can do someone a prop to help them out. In the 1995 film Clueless, Cher notices that Josh is dancing with Tai, despite the fact that he never dances, to make her feel included. Cher explains: “He’s doing her a prop so she won’t feel left out.” Way to go! If you admire someone’s grit and hustle, you can use this sporty method of congratulations. This active phrase has been traced back to the 1940s, when it was used in sports to congratulate a person or team on a great performance. In the 1960s, it began to be used more generally to refer to any kind of achievement. If “Way to go!” doesn’t do it for you, some peppy alternatives include “Great job,” “Nice going,” “You rock,” and “You rule!” Nailed it! This handy phrase really hits the nail on the head when you want to give someone their due. Nailed it has been traced back to at least the 1970s and metaphorically refers to the act of successfully hitting a nail with a hammer. In slang, we use a variety of other congratulatory phrases that also refer to forceful impacts or metaphorical violence such as “Killed it,” “Crushed it,” “Destroyed it,” and “Slayed it!” social media cheers Like, follow, and subscribe! Social media platforms all have different ways of congratulating somebody and letting them now how awesome their content is. These include: Twitter: the heart or a retweet Facebook: the thumbs-up on Facebook Instagram: the like YouTube: like, share, subscribe to a channel; hitting the bell icon TikTok: like and follow Snapchat: take a screenshot for later Reddit: upvote; give Reddit Gold/Platinum; or a badge Tumblr: reblog Twitch: subscribe to a channel and/or give a donation GG (Good Game) Shorthand for “good game” in the world of esports, GG is used to congratulate a victorious opponent. Additionally, it’s used to politely concede a match or admit defeat, most commonly in the realm of professional StarCraft. It’s all about the humble loss. Not everybody is a good sport, though, and the phrase GG EZ (“easy,” as in an easy win) is often used in a mean-spirited way to put down a defeated opponent. Three cheers! Three cheers is generally followed by “for” and the name of the person or thing being celebrated. A person being cheers-ed might also respond to a toast of three cheers with the word … cheers, which, especially in the UK, can mean “thanks.” That’s a lot of cheers. The term cheer entered English in the late 12th or early 13th century, and ultimately comes from the Greek word kárā meaning “head.” Hip, hip, hooray! For some Victorian flair, opt for the ever-cheery hip, hip, hooray (or hurrah). This expression of uncertain origin surfaced in the early 1800s, though the exclamation hip had been used since the mid-1700s. Hip repeated three times was used as a noun in the 1800s to refer to a collective cheer. But, let’s not forget about hooray, a variant of hurrah. This exclamation dates from the late 1600s and is very similar to shouts in German, Danish, Swedish, and even Russian. Someone’s last hurrah is their “final moment or occasion of glory or achievement.” Kudos! Though it sounds colloquial, kudos finds its roots in the hallowed halls of academic institutions. At the turn of the 1800s, academics transliterated the Greek kydos, meaning “praise or renown.” By the 1920s, kudos had spread beyond the walls of universities and into the columns of newspapers. Don’t be fooled by the S at the end of kudos; the word is, in fact, a singular noun. However, enough English speakers have erroneously interpreted it as plural for so long that already by the 1930s, the back formation singular kudo arose. Grammar sticklers avoid using kudo as a singular and kudos as a plural, though both forms can be found in popular usage. Hats off! The phrase hats off, while often said to graduates wearing the illustrious cap and gown, has nothing to do with the tradition of tossing hats in the air in celebration. This phrase, dating back to the 1600s, harks back to the custom of uncovering the head as a sign of respect. Etiquette expert Emily Post advised gentlemen on the many situations in which they must remove hats to maintain politeness. In 1922 she wrote: “A gentleman takes off his hat and holds it in his hand when a lady enters the elevator.” He also lifts his hat whenever he asks a question or says “Excuse me.” You know, maybe we could all stand a little formality these days … a round of applause The act of clapping one’s hands together to show acclaim is actually much older than you might think. Scholars are unsure of the exact origin, but we have evidence that even the ancient Romans would show their appreciation by clapping their hands. In fact, the word plaudits (which means an expression of approval) comes from the Latin verb plaudere, meaning to clap one’s hands. The verb applause is also based on this Latin verb. Today, the highest form of applause is the standing ovation, where every member of the audience rises to their feet and applauds. Any performer who manages to please an audience enough to cause them to stretch their legs a bit certainly deserves a big hand. congratulatory emoji Sometimes, it is better to use pictures rather than words to congratulate someone. In texting and on social media, many different emoji are used to give somebody a pat on the back after a job well done. The Clapping Hands emoji 👏 is used to refer to a round of applause and the Trophy emoji 🏆 references the shiny knickknacks we give to people who have accomplished something. The Party Popper emoji 🎉, Confetti Ball emoji 🎊, Partying Face emoji 🥳, and Bottle with Popping Cork emoji 🍾 are also commonly used to congratulate someone. These party animals refer to the act of throwing a party in celebration of an achievement and the stuff you are likely to find at such a shindig. Mazel tov! This expression of congratulations and best wishes comes from the Hebrew term literally meaning “good luck.” Though many reserve the English good luck for before a big event, you can cheer mazel tov to wish someone good fortune or to say congratulations. Mazel tov appeared in the 1600s spelled as missal tob but was rendered in English as mazel tov by the 1900s. Whatever transliteration you prefer, the term has been lovingly said ever since. Felicitations! If you want to stand out from the crowd of people offering their congratulations, try roaring felicitations. This less common expression of congratulations ultimately comes from the Latin felix, “happy.” English speakers have been using the singular form of this term (meaning “an act of congratulation”) since the early 1700s. So, if you want to be original (or sound old-fashioned) in wishing your congratulations, reach for a felicitous felicitations! congratulatory adjectives You don’t have to think too hard when it comes to saying congratulations. Sometimes, a single adjective will do. All you need to do is shout “Fantastic!”, “Stupendous!”, “Amazing!”, “Incredible!”, or “Spectacular!” This is just the tip of the iceberg when it comes to celebratory adjectives, though. You can use our handy thesaurus to find many more impressive synonyms of these words that you can shout out when you want to signal how much someone has impressed you. Keep going! What’s more powerful than simply saying congratulations? Encouraging someone to keep pushing ahead and to accomplish more. You’re not only celebrating the accomplishment at hand, but also showing enthusiasm for their future. Keep going! Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 364 Views 0 Reviews
  • 2024.04.13-15 📸 พิธีกรงานสงกรานต์ขอนแก่น 2024 เวทีแข่งขัน Cover Dance

    ความใฝ่ฝันที่ผมฝันมาตั้งแต่สมัยเรียน มันได้เกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว และนี่คือการเริ่มต้นการทำหน้าที่ในฐานะ "พิธีกร" อย่างเป็นทางการครั้งแรกในชีวิต แถมเป็นงานใหญ่ระดับจังหวัดด้วย เพราะนี่คืองานสงกรานต์ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น ในส่วนของเวทีสภาวัฒนธรรม ซึ่งผมรับผิดชอบในการดำเนินงานแข่งขันเต้น Cover Dance ตลอดทั้ง 3 วัน และแน่นอน ขึ้นชื่อว่าครั้งแรก ความผิดพลาดบนเวทีต้องมีอยู่แล้ว ผมเองก็รู้ตัวดี ทั้งตื่นเต้น พูดผิดไปบ้าง ขึ้นผิดคิวก็เกิดขึ้นแล้ว 555 แต่ผมก็สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ จนสามารถดำเนินงานได้อย่างลื่นไหลและสวยงามทั้ง 3 วัน
    นี่คือประสบการณ์ครั้งใหญ่ที่ผมได้รับ ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการเป็นพิธีกรในครั้งแรกนี้ ผมรู้สึกดีใจและสนุกสนานมาก เห็นทุกคนมีความสุขและสนุกไปกับผม ผมเองก็มีความสุขมากเช่นกันครับ
    และที่ขาดไม่ได้ ต้องขอขอบคุณ "ครูปริม สุจิตรา เขตสมุทร" Infinity dance studio Khonkaen รวมถึง พี่ ๆ น้อง ๆ และทีมงานทุกคน ที่ไว้ใจผมและให้โอกาสผมได้มาลองทำสิ่งใหม่ ๆ บนเวทีแห่งนี้ ผมน้อมรับทุกคำติชมจากทุกคน และจะนำไปปรับใช้ พัฒนาตัวเองให้เก่งยิ่งขึ้นต่อไป และเมื่อโอกาสครั้งต่อไปนั้นได้มาถึง ผมก็พร้อมทำอย่างเต็มที่เช่นกัน
    ขอบคุณคร้าบบบ 🙏😊
    MC.M-KK ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ววว🎉
    2024.04.13-15 📸 พิธีกรงานสงกรานต์ขอนแก่น 2024 เวทีแข่งขัน Cover Dance ความใฝ่ฝันที่ผมฝันมาตั้งแต่สมัยเรียน มันได้เกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว และนี่คือการเริ่มต้นการทำหน้าที่ในฐานะ "พิธีกร" อย่างเป็นทางการครั้งแรกในชีวิต แถมเป็นงานใหญ่ระดับจังหวัดด้วย เพราะนี่คืองานสงกรานต์ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น ในส่วนของเวทีสภาวัฒนธรรม ซึ่งผมรับผิดชอบในการดำเนินงานแข่งขันเต้น Cover Dance ตลอดทั้ง 3 วัน และแน่นอน ขึ้นชื่อว่าครั้งแรก ความผิดพลาดบนเวทีต้องมีอยู่แล้ว ผมเองก็รู้ตัวดี ทั้งตื่นเต้น พูดผิดไปบ้าง ขึ้นผิดคิวก็เกิดขึ้นแล้ว 555 แต่ผมก็สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ จนสามารถดำเนินงานได้อย่างลื่นไหลและสวยงามทั้ง 3 วัน นี่คือประสบการณ์ครั้งใหญ่ที่ผมได้รับ ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการเป็นพิธีกรในครั้งแรกนี้ ผมรู้สึกดีใจและสนุกสนานมาก เห็นทุกคนมีความสุขและสนุกไปกับผม ผมเองก็มีความสุขมากเช่นกันครับ และที่ขาดไม่ได้ ต้องขอขอบคุณ "ครูปริม สุจิตรา เขตสมุทร" Infinity dance studio Khonkaen รวมถึง พี่ ๆ น้อง ๆ และทีมงานทุกคน ที่ไว้ใจผมและให้โอกาสผมได้มาลองทำสิ่งใหม่ ๆ บนเวทีแห่งนี้ ผมน้อมรับทุกคำติชมจากทุกคน และจะนำไปปรับใช้ พัฒนาตัวเองให้เก่งยิ่งขึ้นต่อไป และเมื่อโอกาสครั้งต่อไปนั้นได้มาถึง ผมก็พร้อมทำอย่างเต็มที่เช่นกัน ขอบคุณคร้าบบบ 🙏😊 MC.M-KK ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ววว🎉
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • 🔥🔥รัฐบาลอินโดนีเซีย ได้แจ้งให้ แอปเปิ้ล Apple และ กูกเกิ้ล Google
    ปิดกั้นแอพเตมู Temu ของจีน เพื่อปิดกั้นบริษัทอีคอมเมิร์ซฟาสต์แฟชั่น
    ไม่ให้สามารถดาวน์โหลด หรือ เชื่อมต่อได้ เพื่อปกป้องวิสาหกิจขนาดกลาง
    และขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ที่มีนับล้านทั่วประเทศ

    โดยการเติบโตอย่างรวดเร็วของเตมู Temu กระตุ้นให้เกิดการตรวจสอบ
    อย่างละเอียดถี่ถ้วน เกี่ยวกับรูปแบบธุรกิจต้นทุนต่ำของบริษัท
    ในการส่งพัสดุจากจีน ไปยังลูกค้าโดยตรง ในหลายๆประเทศ

    รูปแบบธุรกิจของเตมู Temu ซึ่งเชื่อมต่อผู้บริโภคโดยตรงกับโรงงานในจีน
    เพื่อลดราคาอย่างมีนัยสำคัญคือ "การแข่งขันที่ไม่ดีต่อธุรกิจขนาดเล็ก"

    และก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียได้บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
    ไบแดนซ์ ByteDance ของจีนอย่างติ๊กต่อก TikTok ปิดบริการ
    อีคอมเมิร์ซในประเทศเมื่อปีที่แล้ว เพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ค้า
    ในประเทศและผู้ใช้งาน ทำให้หลายเดือนต่อมาติ๊กต่อก TikTok
    ก็ตกลงที่จะซื้อหุ้นส่วนใหญ่ในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีโกโต GoTo's
    ของอินโดนีเซีย เพื่อให้คงอยู่ในตลาดอีคอมเมิร์ซ
    ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แห่งนี้ไว้ได้

    ที่มา : Reuters

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #TEMU #thaitimes
    🔥🔥รัฐบาลอินโดนีเซีย ได้แจ้งให้ แอปเปิ้ล Apple และ กูกเกิ้ล Google ปิดกั้นแอพเตมู Temu ของจีน เพื่อปิดกั้นบริษัทอีคอมเมิร์ซฟาสต์แฟชั่น ไม่ให้สามารถดาวน์โหลด หรือ เชื่อมต่อได้ เพื่อปกป้องวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ที่มีนับล้านทั่วประเทศ โดยการเติบโตอย่างรวดเร็วของเตมู Temu กระตุ้นให้เกิดการตรวจสอบ อย่างละเอียดถี่ถ้วน เกี่ยวกับรูปแบบธุรกิจต้นทุนต่ำของบริษัท ในการส่งพัสดุจากจีน ไปยังลูกค้าโดยตรง ในหลายๆประเทศ รูปแบบธุรกิจของเตมู Temu ซึ่งเชื่อมต่อผู้บริโภคโดยตรงกับโรงงานในจีน เพื่อลดราคาอย่างมีนัยสำคัญคือ "การแข่งขันที่ไม่ดีต่อธุรกิจขนาดเล็ก" และก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียได้บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ไบแดนซ์ ByteDance ของจีนอย่างติ๊กต่อก TikTok ปิดบริการ อีคอมเมิร์ซในประเทศเมื่อปีที่แล้ว เพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ค้า ในประเทศและผู้ใช้งาน ทำให้หลายเดือนต่อมาติ๊กต่อก TikTok ก็ตกลงที่จะซื้อหุ้นส่วนใหญ่ในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีโกโต GoTo's ของอินโดนีเซีย เพื่อให้คงอยู่ในตลาดอีคอมเมิร์ซ ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แห่งนี้ไว้ได้ ที่มา : Reuters #หุ้นติดดอย #การลงทุน #TEMU #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 451 Views 0 Reviews
  • #เด็กมีแวว โชว์บนเวทีของ 4 สาว ทีม Baby Black Cat บนเวที FortuneTown Cover Dance 2024 รุ่น Junior (อายุ 7-15 ปี)
    #FortuneTownCoverDance #สยามเด็กเล่น #babyblackcat #coverdance #Junior #Thaitimes #Thaitimesเยาวชน
    #เด็กมีแวว โชว์บนเวทีของ 4 สาว ทีม Baby Black Cat บนเวที FortuneTown Cover Dance 2024 รุ่น Junior (อายุ 7-15 ปี) #FortuneTownCoverDance #สยามเด็กเล่น #babyblackcat #coverdance #Junior #Thaitimes #Thaitimesเยาวชน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 633 Views 247 0 Reviews
  • Are you or someone you love suffering from sleepless nights?

    Have you ever stayed up all night watching someone you love struggle to sleep? I have, and this is how I cared for my daughter without relying on medication...


    Whether it’s your child, partner, parent, or a dear friend, watching someone you care about struggle with insomnia is heartbreaking. I’ve been there too, as a father caring for my daughter. I’ve shared my journey and the knowledge I gained in The Secret of Insomnia. If you’re seeking hope or guidance, I encourage you to read this personal review. Sometimes, understanding and sharing experiences can make all the difference.

    If you're interested in learning more, please read A Personal Review of "The Secret of Insomnia" below:

    A Personal Review of "The Secret of Insomnia"

    As the author of this book, I feel a deep responsibility to write this review—not for my own benefit, but to help others who may be struggling with a loved one suffering from insomnia.

    I used the knowledge in this book to care for my 8-year-old daughter, who had difficulty sleeping at night. I deeply understand the pain of watching someone you love, especially your own child, experience sleeplessness. My daughter began to have trouble sleeping after her mother—my beloved wife—passed away when she was just 6 years old.

    At first, she managed to sleep well enough. But after about a year, she began to experience issues. She found it difficult to fall asleep and often stayed awake until the early morning. Sometimes, she would wake up at 1 or 2 a.m., and it would take her hours—sometimes between 2 to 6 hours—to fall back asleep. Over time, she developed what I call "unconscious bedtime anxiety," a dangerous stage in insomnia. If someone begins to fear sleep without realizing it, the situation can quickly spiral out of control.

    Knowing this, I felt an immense sense of responsibility to prevent her from reaching that stage. I committed myself to understanding and creating knowledge to help her before things worsened. This sense of duty led me to write "The Secret of Insomnia," a book I describe as "Truth from Phenomena," shaped by my direct observations and experiences with my daughter's sleeplessness. Every method, every process detailed in this book stems from the responsibility I felt in addressing my daughter's insomnia.

    Today, although my daughter’s condition has improved significantly, there are still moments when new emotional challenges arise. When she carries heavy emotional burdens, it affects her ability to sleep, and the insomnia returns. During these times, I guide her back to the knowledge within this book. Together, we reflect and apply the lessons, helping her to navigate through the insomnia. Throughout this journey, I have never relied on medication—only the methods developed in this book.

    Although I am the author, I use the knowledge in this book as a reader as well. That’s why I’m writing this review—not to promote the book, but to give hope to those suffering from insomnia, whether it’s yourself or someone you love. I hope this knowledge can guide you or your loved ones through this suffering.

    Lastly, I want to thank every reader who has taken the time to understand this book, even though it’s not always easy. It contains complexities, including scientific insights from Future Frontier Science, but for those willing to persevere, the knowledge within can be transformative.

    I would also like to extend my heartfelt gratitude to the person who rated this book 4 stars last night. I had been anxiously waiting, wondering if anyone would find value in the book. Your review gave me the courage to write this—not just as the author, but as a father who uses this knowledge to care for his daughter, who is the heart of my love and my late wife’s legacy.

    With Conscientious Responsibility,
    Ekarach Chandon


    If you’d like to purchase the book, you can click the link here: The Secret of Insomnia.

    https://www.amazon.com/dp/B0CRKSVV3H
    Are you or someone you love suffering from sleepless nights? Have you ever stayed up all night watching someone you love struggle to sleep? I have, and this is how I cared for my daughter without relying on medication... Whether it’s your child, partner, parent, or a dear friend, watching someone you care about struggle with insomnia is heartbreaking. I’ve been there too, as a father caring for my daughter. I’ve shared my journey and the knowledge I gained in The Secret of Insomnia. If you’re seeking hope or guidance, I encourage you to read this personal review. Sometimes, understanding and sharing experiences can make all the difference. If you're interested in learning more, please read A Personal Review of "The Secret of Insomnia" below: A Personal Review of "The Secret of Insomnia" As the author of this book, I feel a deep responsibility to write this review—not for my own benefit, but to help others who may be struggling with a loved one suffering from insomnia. I used the knowledge in this book to care for my 8-year-old daughter, who had difficulty sleeping at night. I deeply understand the pain of watching someone you love, especially your own child, experience sleeplessness. My daughter began to have trouble sleeping after her mother—my beloved wife—passed away when she was just 6 years old. At first, she managed to sleep well enough. But after about a year, she began to experience issues. She found it difficult to fall asleep and often stayed awake until the early morning. Sometimes, she would wake up at 1 or 2 a.m., and it would take her hours—sometimes between 2 to 6 hours—to fall back asleep. Over time, she developed what I call "unconscious bedtime anxiety," a dangerous stage in insomnia. If someone begins to fear sleep without realizing it, the situation can quickly spiral out of control. Knowing this, I felt an immense sense of responsibility to prevent her from reaching that stage. I committed myself to understanding and creating knowledge to help her before things worsened. This sense of duty led me to write "The Secret of Insomnia," a book I describe as "Truth from Phenomena," shaped by my direct observations and experiences with my daughter's sleeplessness. Every method, every process detailed in this book stems from the responsibility I felt in addressing my daughter's insomnia. Today, although my daughter’s condition has improved significantly, there are still moments when new emotional challenges arise. When she carries heavy emotional burdens, it affects her ability to sleep, and the insomnia returns. During these times, I guide her back to the knowledge within this book. Together, we reflect and apply the lessons, helping her to navigate through the insomnia. Throughout this journey, I have never relied on medication—only the methods developed in this book. Although I am the author, I use the knowledge in this book as a reader as well. That’s why I’m writing this review—not to promote the book, but to give hope to those suffering from insomnia, whether it’s yourself or someone you love. I hope this knowledge can guide you or your loved ones through this suffering. Lastly, I want to thank every reader who has taken the time to understand this book, even though it’s not always easy. It contains complexities, including scientific insights from Future Frontier Science, but for those willing to persevere, the knowledge within can be transformative. I would also like to extend my heartfelt gratitude to the person who rated this book 4 stars last night. I had been anxiously waiting, wondering if anyone would find value in the book. Your review gave me the courage to write this—not just as the author, but as a father who uses this knowledge to care for his daughter, who is the heart of my love and my late wife’s legacy. With Conscientious Responsibility, Ekarach Chandon If you’d like to purchase the book, you can click the link here: The Secret of Insomnia. https://www.amazon.com/dp/B0CRKSVV3H
    The Secrets of Insomnia: Self-Training for Healing,: Guided Strategies for Overcoming Sleeplessness (Derivative Knowledge Applied Truth from New ... Guide for Everyday Life Solutions.) [Chandon, Ekarach, Chandon Mooksombud, Mesa] on Amazon.com. *FREE* shipping on qualifying offers. The Secrets of Insomnia: Self-Training for Healing,: Guided Strategies for Overcoming Sleeplessness (Derivative Knowledge Applied Truth from New ... Guide for Everyday Life Solutions.)
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • ขอแสดงความยินดีกับน้องๆ ทีม Project S ที่ชนะเลิศ 🥇 ในการแข่งขัน FortuneTown 𝗖𝗼𝘃𝗲𝗿 𝗗𝗮𝗻𝗰𝗲 รุ่น Junior (อายุ 7-15 ปี)

    รวมทั้งทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทุกทีม
    🥈#babyblackcat
    🥉#jikasooo
    🥉U-Girls Junior (Upperhand Studio)
    🥉Upper Gals (Upperhand Studio)

    #FortuneTownCoverDance #CoverDance #Dance #ugirlsjunior #uppergals #สยามเด็กเล่น #FortuneEventSpace
    #thaitimes #thaitimesเยาวชน
    ขอแสดงความยินดีกับน้องๆ ทีม Project S ที่ชนะเลิศ 🥇 ในการแข่งขัน FortuneTown 𝗖𝗼𝘃𝗲𝗿 𝗗𝗮𝗻𝗰𝗲 รุ่น Junior (อายุ 7-15 ปี) รวมทั้งทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทุกทีม 🥈#babyblackcat 🥉#jikasooo 🥉U-Girls Junior (Upperhand Studio) 🥉Upper Gals (Upperhand Studio) #FortuneTownCoverDance #CoverDance #Dance #ugirlsjunior #uppergals #สยามเด็กเล่น #FortuneEventSpace #thaitimes #thaitimesเยาวชน
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 862 Views 335 0 Reviews
  • ความหวังของชาวไทย ที่ " เป็นไปไม่ได้ "

    บทสัมภาษณ์ของนักข่าว(ต่างชาติ)ที่ถามท่านนายกหญิงคนที่๒ของไทย ว่า
    " How much would you be relying on your father guidance and advice in this new job? "

    ท่านนายก ตอบว่า " I just wish that I could work together with everybody and including my Dad as well "
    แปลได้ว่า " ดิฉันหวัง(อย่าง ลมๆ..แล้งๆ) ว่า สามารถร่วมงานกับทุกคนรวมถึงพ่อของฉันได้ "

    สังเกต คำว่า wish + Past Simple Tense มีความหมาย "เป็นไปไม่ได้"

    -----------------------------------------
    ตามหลักไวยากรณ์(ที่ถูกต้อง) ท่านนายก ควรใช้ hope + Simple Present Tense จะมีความหมายถึงอนาคตที่มีโอกาสเป็นจริงในอนาคต.
    .
    .
    พัชรี ว่องไววิทย์
    Sep1st, 2024
    Minnesota, USA.
    ความหวังของชาวไทย ที่ " เป็นไปไม่ได้ " บทสัมภาษณ์ของนักข่าว(ต่างชาติ)ที่ถามท่านนายกหญิงคนที่๒ของไทย ว่า " How much would you be relying on your father guidance and advice in this new job? " ท่านนายก ตอบว่า " I just wish that I could work together with everybody and including my Dad as well " แปลได้ว่า " ดิฉันหวัง(อย่าง ลมๆ..แล้งๆ) ว่า สามารถร่วมงานกับทุกคนรวมถึงพ่อของฉันได้ " สังเกต คำว่า wish + Past Simple Tense มีความหมาย "เป็นไปไม่ได้" ----------------------------------------- ตามหลักไวยากรณ์(ที่ถูกต้อง) ท่านนายก ควรใช้ hope + Simple Present Tense จะมีความหมายถึงอนาคตที่มีโอกาสเป็นจริงในอนาคต. . . พัชรี ว่องไววิทย์ Sep1st, 2024 Minnesota, USA.
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • ♣ นักเรียนยังมีคะแนน Attendance ขาดเรียนเกินลิมิตไม่ได้เรียนต่อ ไม่ได้ต่อวีซ่า นักการเมืองไร้สำนึกก็ควรโดนเช่นกัน
    #7ดอกจิก
    ♣ นักเรียนยังมีคะแนน Attendance ขาดเรียนเกินลิมิตไม่ได้เรียนต่อ ไม่ได้ต่อวีซ่า นักการเมืองไร้สำนึกก็ควรโดนเช่นกัน #7ดอกจิก
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 233 Views 0 Reviews
  • กิจกรรม Cover Dance แกนนำต้านภัยยาเสพติด ของน้องๆ โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ที่ได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์
    #สยามเด็กเล่น #แกนนำ #นักเรียน #โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ #coverdance #thaitimes #thaitimesเยาวชน #thaitimesสยามโสภา
    กิจกรรม Cover Dance แกนนำต้านภัยยาเสพติด ของน้องๆ โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ที่ได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ #สยามเด็กเล่น #แกนนำ #นักเรียน #โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ #coverdance #thaitimes #thaitimesเยาวชน #thaitimesสยามโสภา
    Like
    Love
    8
    0 Comments 0 Shares 1544 Views 647 0 Reviews
  • #thaitimesข่าวกิจกรรม
    🗓️ Date: วันที่ 29 ก.ย. 67
    🕔 Time: 17.00 - 19.00 น.
    》》กลับมาแล้วงาน
    Yaowarat Swing Dance 2024 Runway Edition!
    》》เนรมิตถนนเยาวราชให้กลายเป็นรันเวย์พรมแดงสุดเก๋! 🔥
    ☆The Hop Bangkok จับมือ ททท. และพันธมิตร ชวนทุกคนมาร้องเล่น เต้นรำใจกลางเยาวราช 💃🏼🕺🏻 พร้อมปูรันเวย์พรมแดงให้ทุกคนหยิบเสื้อผ้าวินเทจสีสันสดใสในยุค 80s 🪩 มาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเพลงแจ๊สจากศิลปินส่งตรงจากเบอร์ลินไปกับวง David Hermlin Trio 🎙️ พร้อมทัพนักเต้นนานาชาติกว่า 20 ประเทศ ที่มาร่วมสร้างสรรค์สีสันกลางรันเวย์เยาวราชให้น่าจดจำไม่รู้ลืม
    💫 ไฮไลท์ภายในงาน
    💃สอนเต้นสวิงแดนซ์ มาเดี่ยวมาคู่มากลุ่มก็สนุกได้
    👗หยิบเสื้อผ้ายุค 80s สีสดใสพร้อมเฉิดฉายบนรันเวย์
    🎶ดื่มด่ำกับวงทรีโอหนุ่มหล่อส่งตรงเบอร์ลิน David Hermlin Trio
    🎉กิจกรรมสนุก ๆ เพียบ
    📣 งานนี้เปิดสาธารณะไม่เสียค่าใช้จ่าย
    📍 Location: หน้าโรงแรมเซี่ยงไฮ้ แมนชั่น กรุงเทพฯ
    ☆ข้อมูลจาก
    ข่าวสารท่องเที่ยว ททท.
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/s29PSCXsb9nvEJhV/?mibextid=qi2Omg
    ■■■■■■■■■■■
    #สวิงไปทุกที่ #Everywhereisrunway #Yaowaratswingdance2024
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    #thaitimesข่าวกิจกรรม 🗓️ Date: วันที่ 29 ก.ย. 67 🕔 Time: 17.00 - 19.00 น. 》》กลับมาแล้วงาน Yaowarat Swing Dance 2024 Runway Edition! 》》เนรมิตถนนเยาวราชให้กลายเป็นรันเวย์พรมแดงสุดเก๋! 🔥 ☆The Hop Bangkok จับมือ ททท. และพันธมิตร ชวนทุกคนมาร้องเล่น เต้นรำใจกลางเยาวราช 💃🏼🕺🏻 พร้อมปูรันเวย์พรมแดงให้ทุกคนหยิบเสื้อผ้าวินเทจสีสันสดใสในยุค 80s 🪩 มาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเพลงแจ๊สจากศิลปินส่งตรงจากเบอร์ลินไปกับวง David Hermlin Trio 🎙️ พร้อมทัพนักเต้นนานาชาติกว่า 20 ประเทศ ที่มาร่วมสร้างสรรค์สีสันกลางรันเวย์เยาวราชให้น่าจดจำไม่รู้ลืม 💫 ไฮไลท์ภายในงาน 💃สอนเต้นสวิงแดนซ์ มาเดี่ยวมาคู่มากลุ่มก็สนุกได้ 👗หยิบเสื้อผ้ายุค 80s สีสดใสพร้อมเฉิดฉายบนรันเวย์ 🎶ดื่มด่ำกับวงทรีโอหนุ่มหล่อส่งตรงเบอร์ลิน David Hermlin Trio 🎉กิจกรรมสนุก ๆ เพียบ 📣 งานนี้เปิดสาธารณะไม่เสียค่าใช้จ่าย 📍 Location: หน้าโรงแรมเซี่ยงไฮ้ แมนชั่น กรุงเทพฯ ☆ข้อมูลจาก ข่าวสารท่องเที่ยว ททท. ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/s29PSCXsb9nvEJhV/?mibextid=qi2Omg ■■■■■■■■■■■ #สวิงไปทุกที่ #Everywhereisrunway #Yaowaratswingdance2024 #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 1397 Views 0 Reviews
  • How To Create Atmosphere & Mood In Your Writing To Engage Your Readers

    Hill House, not sane, stood by itself against its hills, holding darkness within; it had stood so for eighty years and might stand for eighty more. Within, walls continued upright, bricks met neatly, floors were firm, and doors were sensibly shut; silence lay steadily against the wood and stone of Hill House, and whatever walked there, walked alone…
    —The Haunting of Hill House (1959), Shirley Jackson

    After reading that opening, we bet you’re wondering what happens next. The best authors and writers always find a way to draw their readers in, get them invested in the work, and leave them desperate to read the next sentence, the next paragraph, the next page.

    How do they do this?

    Writers have many tools in their toolboxes to make their work compelling, but a huge part of what draws us into stories is atmosphere and mood. Authors like Shirley Jackson use language, descriptions, and other devices to pull readers into a different world. Through atmosphere and mood, authors establish a tone for their work, create ambience, and evoke emotions. Keep reading to learn how the pros establish atmosphere and mood in their work, and to get some tried and true strategies for creating this magic in your own writing.

    What are atmosphere and mood?

    Atmosphere is “the dominant mood or emotional tone of a work of art, as of a play or novel.” If you think of your story, essay or other writing as a room, what does your reader feel upon walking into that room? That’s an easy way to consider the overall atmosphere of your piece. While the importance of atmosphere is commonly associated with poetry and fiction, it is also vital to adding depth to personal essays and other types of nonfiction writing as well.

    Mood is a part and parcel of atmosphere, but they aren’t necessarily the same thing or always in lock step. Mood describes “a state or quality of feeling at a particular time,” and the mood of a story, poem, or essay can shift depending on the events, characters, setting, or changing information.

    Atmosphere and mood work together, but they aren’t always in agreement. A story may have a suffocating or foreboding atmosphere, but within that atmosphere, readers can still experience feelings of joy, wonder, sadness, or hope.

    Examples of atmosphere and mood

    Now that you understand the basics of what mood and atmosphere are, let’s look at a few examples to see how atmosphere and mood work in action.

    1. “The Raven” by Edgar Allen Poe

    Once upon a midnight dreary, while I pondered, weak and weary,
    Over many a quaint and curious volume of forgotten lore –
    While I nodded, nearly napping, suddenly there came a tapping,
    As of someone gently rapping, rapping at my chamber door …

    Why it works

    In just a few lines, Poe creates an atmosphere of suspense for the reader. It’s late at night, there’s a strange knocking at the door, and it’s reasonable to suspect something mysterious or even dangerous is waiting on the other side. In this example, the atmosphere is created not only by the setting, but also by the language used. Words like dreary, weary, curious, and lore help to create an atmosphere that feels spooky and mystical. And the rhythm of the poetry also gives the lines an intriguing musicality. The end result is the reader wants to know who is knocking just as much as the main character does.

    2. “Shipping Out” by David Foster Wallace

    “I have now seen sucrose beaches and water a very bright blue. I have seen an all-red leisure suit with flared lapels. I have smelled suntan lotion spread over 2,100 pounds of hot flesh. I have been addressed as ‘Mon’ in three different nations. I have seen 500 upscale Americans dance Electric Slide. I have seen sunsets that looked computer-enhanced. I have (very briefly) joined a conga line.”

    Why it works

    In this non-fiction travelogue, David Foster Wallace is talking about his experiences on luxury cruises. He opens by placing the reader directly onto a cruise ship. In the span of a paragraph, the reader experiences awe, curiosity, amusement, disgust, wonder, and excitement. Yet Wallace uses formal language (“I have seen”) and repetition (there’s that anaphora for you) to ironic effect. This creates an interesting juxtaposition of the elements of a tall tale with a bit of anthropological distance. This example, in particular, shows how mood can function independently from the atmosphere, and how both can change abruptly with the use of language.

    Why atmosphere and mood matter

    Atmosphere and mood are important because crafting an engaging story or essay involves more than just retelling events or facts in order. In order to draw readers in and get them invested in your writing, your work needs dimension. Atmosphere and mood work together to create that by:

    - Communicating important details that place the reader in a scene.
    - Making characters feel more real.
    - Reinforcing themes and tone.
    - Communicating genre elements.
    - Solidifying world-building, or the fictional universe in which a story or poem takes place.

    And, perhaps most important, atmosphere and mood are both tools for getting readers invested in the plot or details of a piece of writing. Mood helps them identify with characters in fiction, and atmosphere helps them become immersed in the narrative or information. Both are essential to writing something people want to read.

    Tips for establishing and creating atmosphere in your writing

    When you sit down to write, here are some important things to consider to help you easily add mood and atmosphere to your piece.

    Choose your words carefully.
    Think about how you want readers to feel when they read your work. What language and descriptions can you include to evoke those emotions? While you’re in the process of examining your language, try your best to avoid clichés. “It was a dark and stormy night” has been used so many times that it won’t do much to draw your reader into a scene. In fact, cliché phrases can sometimes even pull the reader out of the work and distract them. That’s not what you want!

    Deploy strong imagery.

    “Show, don’t tell” is probably among the most repeated pieces of writing advice, but that’s because it works. If you just say a house looks old, that may not pull the reader into the house. Instead, talk about the mossy, rotting floorboards and the peeling wallpaper. Use imagery to build a world around the person reading.

    Be detailed.

    If you’re writing a story or poem, offer specific details about the setting and time period. Drop careful hints about what is coming to build tension and anticipation. If you’re working on an essay, make sure each detail is thorough and succinct. Most importantly, make sure any main component of your story or argument is thoroughly fleshed out to paint the clearest picture possible for the reader.

    Incorporate literary devices.

    Similes, metaphors, alliteration, hyperbole, and other literary devices can be especially helpful in developing atmosphere and mood. Of course, if you’re writing a more formal essay, you should use your judgment as to whether or not literary devices are a good fit for the piece, but a well-placed metaphor can go far in helping you make an important point.

    Make use of your characters and dialogue.

    Atmosphere and mood aren’t only created in descriptions of the setting. You can also use character descriptions, their words, and their actions to add to the mood or atmosphere you’re trying to create. For example, if you’re writing a horror story, you might describe your character’s shaky dialogue and uneven breathing. Perhaps they’re even pale with fright or have wide eyes. Readers can easily experience the atmosphere through characters.

    Good spelling counts, too

    Now that you know more about crafting mood and atmosphere in your writing, you’re ready to get started. But those aren’t the only elements of good writing to consider. Work on your next story, poem, or essay using Thesaurus.com’ Grammar Coach™. It will help you spot spelling errors and overused words and help you take your writing to the next level in real time.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    How To Create Atmosphere & Mood In Your Writing To Engage Your Readers Hill House, not sane, stood by itself against its hills, holding darkness within; it had stood so for eighty years and might stand for eighty more. Within, walls continued upright, bricks met neatly, floors were firm, and doors were sensibly shut; silence lay steadily against the wood and stone of Hill House, and whatever walked there, walked alone… —The Haunting of Hill House (1959), Shirley Jackson After reading that opening, we bet you’re wondering what happens next. The best authors and writers always find a way to draw their readers in, get them invested in the work, and leave them desperate to read the next sentence, the next paragraph, the next page. How do they do this? Writers have many tools in their toolboxes to make their work compelling, but a huge part of what draws us into stories is atmosphere and mood. Authors like Shirley Jackson use language, descriptions, and other devices to pull readers into a different world. Through atmosphere and mood, authors establish a tone for their work, create ambience, and evoke emotions. Keep reading to learn how the pros establish atmosphere and mood in their work, and to get some tried and true strategies for creating this magic in your own writing. What are atmosphere and mood? Atmosphere is “the dominant mood or emotional tone of a work of art, as of a play or novel.” If you think of your story, essay or other writing as a room, what does your reader feel upon walking into that room? That’s an easy way to consider the overall atmosphere of your piece. While the importance of atmosphere is commonly associated with poetry and fiction, it is also vital to adding depth to personal essays and other types of nonfiction writing as well. Mood is a part and parcel of atmosphere, but they aren’t necessarily the same thing or always in lock step. Mood describes “a state or quality of feeling at a particular time,” and the mood of a story, poem, or essay can shift depending on the events, characters, setting, or changing information. Atmosphere and mood work together, but they aren’t always in agreement. A story may have a suffocating or foreboding atmosphere, but within that atmosphere, readers can still experience feelings of joy, wonder, sadness, or hope. Examples of atmosphere and mood Now that you understand the basics of what mood and atmosphere are, let’s look at a few examples to see how atmosphere and mood work in action. 1. “The Raven” by Edgar Allen Poe Once upon a midnight dreary, while I pondered, weak and weary, Over many a quaint and curious volume of forgotten lore – While I nodded, nearly napping, suddenly there came a tapping, As of someone gently rapping, rapping at my chamber door … Why it works In just a few lines, Poe creates an atmosphere of suspense for the reader. It’s late at night, there’s a strange knocking at the door, and it’s reasonable to suspect something mysterious or even dangerous is waiting on the other side. In this example, the atmosphere is created not only by the setting, but also by the language used. Words like dreary, weary, curious, and lore help to create an atmosphere that feels spooky and mystical. And the rhythm of the poetry also gives the lines an intriguing musicality. The end result is the reader wants to know who is knocking just as much as the main character does. 2. “Shipping Out” by David Foster Wallace “I have now seen sucrose beaches and water a very bright blue. I have seen an all-red leisure suit with flared lapels. I have smelled suntan lotion spread over 2,100 pounds of hot flesh. I have been addressed as ‘Mon’ in three different nations. I have seen 500 upscale Americans dance Electric Slide. I have seen sunsets that looked computer-enhanced. I have (very briefly) joined a conga line.” Why it works In this non-fiction travelogue, David Foster Wallace is talking about his experiences on luxury cruises. He opens by placing the reader directly onto a cruise ship. In the span of a paragraph, the reader experiences awe, curiosity, amusement, disgust, wonder, and excitement. Yet Wallace uses formal language (“I have seen”) and repetition (there’s that anaphora for you) to ironic effect. This creates an interesting juxtaposition of the elements of a tall tale with a bit of anthropological distance. This example, in particular, shows how mood can function independently from the atmosphere, and how both can change abruptly with the use of language. Why atmosphere and mood matter Atmosphere and mood are important because crafting an engaging story or essay involves more than just retelling events or facts in order. In order to draw readers in and get them invested in your writing, your work needs dimension. Atmosphere and mood work together to create that by: - Communicating important details that place the reader in a scene. - Making characters feel more real. - Reinforcing themes and tone. - Communicating genre elements. - Solidifying world-building, or the fictional universe in which a story or poem takes place. And, perhaps most important, atmosphere and mood are both tools for getting readers invested in the plot or details of a piece of writing. Mood helps them identify with characters in fiction, and atmosphere helps them become immersed in the narrative or information. Both are essential to writing something people want to read. Tips for establishing and creating atmosphere in your writing When you sit down to write, here are some important things to consider to help you easily add mood and atmosphere to your piece. Choose your words carefully. Think about how you want readers to feel when they read your work. What language and descriptions can you include to evoke those emotions? While you’re in the process of examining your language, try your best to avoid clichés. “It was a dark and stormy night” has been used so many times that it won’t do much to draw your reader into a scene. In fact, cliché phrases can sometimes even pull the reader out of the work and distract them. That’s not what you want! Deploy strong imagery. “Show, don’t tell” is probably among the most repeated pieces of writing advice, but that’s because it works. If you just say a house looks old, that may not pull the reader into the house. Instead, talk about the mossy, rotting floorboards and the peeling wallpaper. Use imagery to build a world around the person reading. Be detailed. If you’re writing a story or poem, offer specific details about the setting and time period. Drop careful hints about what is coming to build tension and anticipation. If you’re working on an essay, make sure each detail is thorough and succinct. Most importantly, make sure any main component of your story or argument is thoroughly fleshed out to paint the clearest picture possible for the reader. Incorporate literary devices. Similes, metaphors, alliteration, hyperbole, and other literary devices can be especially helpful in developing atmosphere and mood. Of course, if you’re writing a more formal essay, you should use your judgment as to whether or not literary devices are a good fit for the piece, but a well-placed metaphor can go far in helping you make an important point. Make use of your characters and dialogue. Atmosphere and mood aren’t only created in descriptions of the setting. You can also use character descriptions, their words, and their actions to add to the mood or atmosphere you’re trying to create. For example, if you’re writing a horror story, you might describe your character’s shaky dialogue and uneven breathing. Perhaps they’re even pale with fright or have wide eyes. Readers can easily experience the atmosphere through characters. Good spelling counts, too Now that you know more about crafting mood and atmosphere in your writing, you’re ready to get started. But those aren’t the only elements of good writing to consider. Work on your next story, poem, or essay using Thesaurus.com’ Grammar Coach™. It will help you spot spelling errors and overused words and help you take your writing to the next level in real time. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 Comments 0 Shares 351 Views 0 Reviews
  • #dance #popping #fyp 🥰🥰
    #dance #popping #fyp 🥰🥰
    0 Comments 0 Shares 150 Views 56 0 Reviews
  • Yury Revich - Russian Dance from Swan Lake (Tchaikovsky)
    Yury Revich - Russian Dance from Swan Lake (Tchaikovsky)
    0 Comments 0 Shares 207 Views 58 0 Reviews
  • งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 26 เฉลิมพระเกียรติ “บัลเลต์สวอนเลค” วันที่ 13 -15 ก.ย.2567 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

    งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 26 (Bangkok’s 26th International Festival of Dance & Music) ที่จัดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2542 ในครั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในการเปิดโลกทัศน์ให้กับคนไทย ด้วยศิลปะระดับโลกผ่านการแสดงแขนงต่าง ๆ เช่น บัลเลต์ การเต้นร่วมสมัย รวมไปถึงดนตรีคลาสสิก ระหว่างวันที่ 7 กันยายนถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2567 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

    ขอเชิญรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
    เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแสดงบัลเลย์ งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 26 เรื่องสวอนเลค ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในวันศุกร์ที่
    13 กันยายน 2567 สำหรับการแสดงสวอนเลค (Swan Lake by Bolshoi Ballet) ของคณะบัลเลต์ชั้นนำจากมอสโกที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ได้เปิดการแสดงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศไทย จัดเต็มกับนักแสดงกว่า 170 ชีวิต พร้อมวงออร์เคสตราบรรเลงสด เพื่อการแสดง Swan Lake บัลเลต์ยอดนิยมสูงสุดตลอดกาล ที่ถือกำเนิด ณ บอลชอยบัลเลต์เมื่อเกือบ 150 ปีมาแล้ว เรื่องราวของ Swan Lake ได้แรงบันดาลใจมาจากนิทานพื้นบ้านทางฝั่งเยอรมันและรัสเซีย เล่าถึงซิคฟรีด เจ้าชายหนุ่มรูปงามที่เพิ่งอายุเต็ม 21 ปี มารดาของพระองค์อยากให้ลูกชายสมรสเป็นฝั่งเป็นฝา ซิคฟรีดไม่อยากมีครอบครัว ชอบที่จะผจญภัยในป่า เขาพบกับโอเด็ต – สาวงามผู้ต้องคำสาปให้กลายเป็นหงส์ สิ่งเดียวที่จะทำลายคำสาปได้คือคำสัญญาแห่งรักแท้จากชายผู้ไม่เคยรักใครมาก่อน ซีคฟรีดชวนโอเด็ตมางานเต้นรำเลือกคู่ของพระองค์ เพื่อจะได้ทรงกล่าวสัญญารัก แต่กลับถูกพ่อมดรอธบาร์ตซ้อนแผน เปลี่ยนให้ลูกสาวมีรูปกายเหมือนโอเด็ต ซีดฟรีดเข้าใจผิดจึงสาบานรักกับเธอแทน โอเด็ตใจสลาย คำสาปของเธอไม่อาจถอนได้อีก เธอจึงเลือกกระโดดลงหน้าผาเพื่อจบชีวิต ซีคฟรีดกระโดดตามลงไป ทั้งคู่ได้ครองรักกันบนสวรรค์และด้วยการเสียสละของทั้งสอง คำสาปของพ่อมดจึงสลาย หงส์ตัวอื่นในทะเลสาบกลับมาอยู่ในร่างของมนุษย์

    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยนาท กรมประชาสัมพันธ์
    งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 26 เฉลิมพระเกียรติ “บัลเลต์สวอนเลค” วันที่ 13 -15 ก.ย.2567 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 26 (Bangkok’s 26th International Festival of Dance & Music) ที่จัดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2542 ในครั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในการเปิดโลกทัศน์ให้กับคนไทย ด้วยศิลปะระดับโลกผ่านการแสดงแขนงต่าง ๆ เช่น บัลเลต์ การเต้นร่วมสมัย รวมไปถึงดนตรีคลาสสิก ระหว่างวันที่ 7 กันยายนถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2567 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ขอเชิญรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแสดงบัลเลย์ งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 26 เรื่องสวอนเลค ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2567 สำหรับการแสดงสวอนเลค (Swan Lake by Bolshoi Ballet) ของคณะบัลเลต์ชั้นนำจากมอสโกที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ได้เปิดการแสดงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศไทย จัดเต็มกับนักแสดงกว่า 170 ชีวิต พร้อมวงออร์เคสตราบรรเลงสด เพื่อการแสดง Swan Lake บัลเลต์ยอดนิยมสูงสุดตลอดกาล ที่ถือกำเนิด ณ บอลชอยบัลเลต์เมื่อเกือบ 150 ปีมาแล้ว เรื่องราวของ Swan Lake ได้แรงบันดาลใจมาจากนิทานพื้นบ้านทางฝั่งเยอรมันและรัสเซีย เล่าถึงซิคฟรีด เจ้าชายหนุ่มรูปงามที่เพิ่งอายุเต็ม 21 ปี มารดาของพระองค์อยากให้ลูกชายสมรสเป็นฝั่งเป็นฝา ซิคฟรีดไม่อยากมีครอบครัว ชอบที่จะผจญภัยในป่า เขาพบกับโอเด็ต – สาวงามผู้ต้องคำสาปให้กลายเป็นหงส์ สิ่งเดียวที่จะทำลายคำสาปได้คือคำสัญญาแห่งรักแท้จากชายผู้ไม่เคยรักใครมาก่อน ซีคฟรีดชวนโอเด็ตมางานเต้นรำเลือกคู่ของพระองค์ เพื่อจะได้ทรงกล่าวสัญญารัก แต่กลับถูกพ่อมดรอธบาร์ตซ้อนแผน เปลี่ยนให้ลูกสาวมีรูปกายเหมือนโอเด็ต ซีดฟรีดเข้าใจผิดจึงสาบานรักกับเธอแทน โอเด็ตใจสลาย คำสาปของเธอไม่อาจถอนได้อีก เธอจึงเลือกกระโดดลงหน้าผาเพื่อจบชีวิต ซีคฟรีดกระโดดตามลงไป ทั้งคู่ได้ครองรักกันบนสวรรค์และด้วยการเสียสละของทั้งสอง คำสาปของพ่อมดจึงสลาย หงส์ตัวอื่นในทะเลสาบกลับมาอยู่ในร่างของมนุษย์ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยนาท กรมประชาสัมพันธ์
    Love
    Like
    7
    0 Comments 1 Shares 743 Views 0 Reviews
  • "🎉 Festival Spotlight 🎉 Experience the color and excitement of [Festival Name] through our latest photo and video coverage. From the traditional dances to the elaborate costumes, immerse yourself in this cultural celebration. 📸💃"
    "🎉 Festival Spotlight 🎉 Experience the color and excitement of [Festival Name] through our latest photo and video coverage. From the traditional dances to the elaborate costumes, immerse yourself in this cultural celebration. 📸💃"
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 162 Views 1 Reviews
  • สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์สากลผ้าไหมพื้นเรียบ
    ลายปักดอกคาร์เนชั่น สีและดอกไม้ประจำราชอาณาจักรสเปน

    ดอกคาร์เนชั่นสีแดง เป็นดอกไม้ประจำชาติที่อยู่คู่กับประเทศสเปนมาหลายร้อยปี เรามักคุ้นภาพนักเต้นระบำฟลามิงโก้ประดับดอกไม้สีแดงอยู่บนเรือนผม ดอกไม้ที่ว่ามีตำนานความรักของกษัตริย์และราชินีซ่อนอยู่ เรื่องนี้ย้อนกลับไปในศตวรรษที่๑๖ เมื่อกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ ๑ แห่งสเปนได้นำดอกคาร์เนชั่นสีแดงเข้ามาปลูกในสเปนเพื่อเป็นเครื่องหมายแทนความรักของพระองค์กับราชินีอิซาเบลล่า

    อิซาเบลล่าเกิดในปี ๑๕๐๓ พระองค์เป็นลูกสาวคนโตของอิมมานูเอลที่ ๑ กษัตริย์แห่งโปรตุเกส ในยุคที่สเปนและโปรตุเกสมั่งคั่งยิ่งใหญ่ ชีวิตของอิซาเบลล่าสมบูรณ์แบบไม่มีบกพร่องและเมื่อถึงวัยที่ต้องแต่งงาน พระมารดาของพระองค์ก็ประกาศชัดว่าลูกสาวคนนี้จะต้องแต่งงานกับกษัตริย์หรือลูกชายสายตรงของกษัตริย์เท่านั้น
    ตัวเลือกอันดับ ๑ ของอิซาเบลล่าคือพระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๑ กษัตริย์ของสเปนซึ่งมีพระเกียรติสมกันถึงขั้นที่ประกาศกล้าว่าถ้าไม่ได้สมรสกับกษัตริย์สเปนก็จะขอครองตนโสดตลอดชีพ ปรากฏว่าการจับคู่กันเพื่ออำนาจนำมาสู่ความรักดังเทพนิยาย ชาร์ลส์ตกหลุมรักอิซาเบลล่าตั้งแต่แรกเห็น ขุนนางที่มีโอกาสได้ร่วมงานสมรสสุดยิ่งใหญ่บรรยายความสัมพันธ์ของทั้งสองว่า “ราวกับว่าทั้งคู่เกิดมาเพื่อกันและกัน ความรักของชาร์ลส์และอินซาเบลล่าสวยงามสดใสดังกุหลาบสีแดง”
    -----
    HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEAR ROYAL ATTIRE IN THAI SILK
    CARNATIONS FLOWER OF THE KINGDOM OF SPAIN
    .
    THE RED CANATION has been the national flower of Spain for hundreds of years. We are familiar with the image of flamenco dancers with red flowers in their hair. The flower has a hidden legend of the love of a king and queen. This story dates back to the 16th century when King Charles I of Spain brought red carnations to Spain to symbolize his love for Queen Isabella.
    .
    Isabella was born in 1503. She was the eldest daughter of King Immanuel I of Portugal. At a time when Spain and Portugal were very wealthy, Isabella’s life was perfect and when it came time to marry, her mother made it clear that her daughter would marry the king or the king’s direct son. Isabella’s first choice was King Charles I, King of Spain, whose dignity was so great that he boldly declared that if he did not marry the king of Spain, he would remain single for life. It turned out that their power-for-power match led to a fairytale love. Charles fell in love with Isabella at first sight. A nobleman who had the opportunity to attend the grand wedding described their relationship as “as if they were made for each other. The love of Charles and Isabella was as beautiful and radiant as a red rose.”
    ____________________________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์สากลผ้าไหมพื้นเรียบ ลายปักดอกคาร์เนชั่น สีและดอกไม้ประจำราชอาณาจักรสเปน ดอกคาร์เนชั่นสีแดง เป็นดอกไม้ประจำชาติที่อยู่คู่กับประเทศสเปนมาหลายร้อยปี เรามักคุ้นภาพนักเต้นระบำฟลามิงโก้ประดับดอกไม้สีแดงอยู่บนเรือนผม ดอกไม้ที่ว่ามีตำนานความรักของกษัตริย์และราชินีซ่อนอยู่ เรื่องนี้ย้อนกลับไปในศตวรรษที่๑๖ เมื่อกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ ๑ แห่งสเปนได้นำดอกคาร์เนชั่นสีแดงเข้ามาปลูกในสเปนเพื่อเป็นเครื่องหมายแทนความรักของพระองค์กับราชินีอิซาเบลล่า อิซาเบลล่าเกิดในปี ๑๕๐๓ พระองค์เป็นลูกสาวคนโตของอิมมานูเอลที่ ๑ กษัตริย์แห่งโปรตุเกส ในยุคที่สเปนและโปรตุเกสมั่งคั่งยิ่งใหญ่ ชีวิตของอิซาเบลล่าสมบูรณ์แบบไม่มีบกพร่องและเมื่อถึงวัยที่ต้องแต่งงาน พระมารดาของพระองค์ก็ประกาศชัดว่าลูกสาวคนนี้จะต้องแต่งงานกับกษัตริย์หรือลูกชายสายตรงของกษัตริย์เท่านั้น ตัวเลือกอันดับ ๑ ของอิซาเบลล่าคือพระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๑ กษัตริย์ของสเปนซึ่งมีพระเกียรติสมกันถึงขั้นที่ประกาศกล้าว่าถ้าไม่ได้สมรสกับกษัตริย์สเปนก็จะขอครองตนโสดตลอดชีพ ปรากฏว่าการจับคู่กันเพื่ออำนาจนำมาสู่ความรักดังเทพนิยาย ชาร์ลส์ตกหลุมรักอิซาเบลล่าตั้งแต่แรกเห็น ขุนนางที่มีโอกาสได้ร่วมงานสมรสสุดยิ่งใหญ่บรรยายความสัมพันธ์ของทั้งสองว่า “ราวกับว่าทั้งคู่เกิดมาเพื่อกันและกัน ความรักของชาร์ลส์และอินซาเบลล่าสวยงามสดใสดังกุหลาบสีแดง” ----- HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEAR ROYAL ATTIRE IN THAI SILK CARNATIONS FLOWER OF THE KINGDOM OF SPAIN . THE RED CANATION has been the national flower of Spain for hundreds of years. We are familiar with the image of flamenco dancers with red flowers in their hair. The flower has a hidden legend of the love of a king and queen. This story dates back to the 16th century when King Charles I of Spain brought red carnations to Spain to symbolize his love for Queen Isabella. . Isabella was born in 1503. She was the eldest daughter of King Immanuel I of Portugal. At a time when Spain and Portugal were very wealthy, Isabella’s life was perfect and when it came time to marry, her mother made it clear that her daughter would marry the king or the king’s direct son. Isabella’s first choice was King Charles I, King of Spain, whose dignity was so great that he boldly declared that if he did not marry the king of Spain, he would remain single for life. It turned out that their power-for-power match led to a fairytale love. Charles fell in love with Isabella at first sight. A nobleman who had the opportunity to attend the grand wedding described their relationship as “as if they were made for each other. The love of Charles and Isabella was as beautiful and radiant as a red rose.” ____________________________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Love
    7
    0 Comments 0 Shares 598 Views 0 Reviews
  • New Words We Created Because Of Coronavirus

    We’re rounding out 2020, and the coronavirus continues to shape our lives and language. While we once hoped we could toss the year’s coronacoinages out the door, that’s clearly not going to be the case right now: the coronavirus continues to surge to new levels.

    It seems like years (not months) ago that we learned our first COVID-19 terms, like social distancing and flatten the curve. We had to process so much, in so little time; we had to become experts about important differences: epidemic vs. pandemic, quarantine vs. isolation, and respirator vs. ventilators. The conversation continued with contagious vs. infectious and what antibodies do.

    Many of the words we’ve continued to add to our vocabularies address the ongoing nature of our situation. Maybe we long for the Before Times or have embraced cluttercore as we cope. The ups and downs of this life haven’t been easy (it’s a coronacoaster, to be honest), but the new vocabulary has helped us stay safe and informed during these scary times. And what better way to bring some welcome humor and humility to our lives in the bunker than some wordplay?

    Here’s our ongoing roundup of some of the new slang terms born of this unique, unprecedented time in modern life—a time of upheaval that some more jokingly call the coronapocalypse (corona apocalypse) or coronageddon (corona armageddon).


    the Before Times

    Are you walking around in a constant state of nostalgia? Then the term Before Times is for you. This humorous (and yes, dark) take on life pre-pandemic makes it clear that we’ve lived through an apocalyptic rupture point that separates old and new.

    The Before Times has long been a trope in science fiction, and linguist Ben Zimmer traces this specific phrase back to 1960s Star Trek, though some variations (beforetime) appear in early texts like the Bible.

    Example: Remember in the Before Times, when we packed together in movie theaters for a fun time? Seems like a different world now!


    rona

    Rona—often in the phrase the rona—is an informal shortening of coronavirus. Coronavirus is popularly shortened to corona, which was apparently further clipped to rona.

    Rona is often used as a playful or ironic way to refer to COVID-19, especially when commenting on more relatable, humorous challenges of social distancing during the pandemic.

    It is generally not meant, however, to be flippant about the very serious loss and disruption COVID-19 has wreaked—nor diminish the life-saving service of so many essential workers, from grocery clerks to nurses. It’s a bit of gallows humor.

    Some people have personified the virus as Miss Rona or Aunt Rona. And la rona (meant as “the rona”) has emerged in some Spanish-language contexts.

    Other informal shortenings? Just as coronavirus has been shortened to corona and rona, so quarantine has been shortened to quar—and even pandemic to panny.

    Example: Yeah, I don’t know about you, but homeschooling my kids during the rona ends up in a lot of Frozen 2.


    cornteen

    Cornteen is an intentional misspelling of quarantine, often used in ironic commentary on what it’s like to be at home during the coronavirus pandemic. It may have originated as an actual misspelling of quarantine. (Hey, quarantine wasn’t exactly a word most of us used every day until COVID-19.)

    Cornteen is occasionally used to joke about how quarantine is pronounced in various regional accents. Some people visually pun on cornteen by substituting the corn emoji, 🌽, for the corn- part of the word; others pun on the -teen to mean “teenager.”


    doomscrolling

    Life under the rona has meant that it’s even harder to peel our eyes away from our phones and computers, constantly refreshing our feeds for the latest news about the pandemic.

    At least there’s a word for that: doomscrolling, also doomscrolling. The term has been notably used—and popularized in part by her exhortations to a take a break from doing it—by Quartz reporter Karen K. Ho.

    Scrolling refers to scrolling down on our smartphones for the latest posts on social media. And doom … well, a lot of the news we’re seeing online feels full of gloom and doom.

    Example: I was up to 2 a.m. last night doomscrolling about coronavirus news in my state.

    A related slang term is doomsurfing, or compulsively surfing the internet for upsetting news.


    coronasomnia

    Staying up late, again? Waking up at 4am to doomscroll? Can’t remember your last good night of sleep? You’re not the only one. The term coronasomnia refers to—what else?—the insomnia that’s afflicting so many of us during the pandemic.

    Doctors and pharmacists have seen a measurable increase in the number of people suffering symptoms of insomnia or whose symptoms have worsened since the quarantine began. Some estimates suggest some 20 to 30 percent of the population—including children—may be impacted.

    One doctor coined the term “FED UP” to describe the worries of this stressful time. It stands for “financial stress, emotional stress, distance from others, unpredictability, and personal and professional concerns.” Yikes. Sounds like that’s another term for the dictionary.


    coronacoaster

    If you’re suffering from coronasomnia, you’ll likely understand this next word without much of an explanation.

    Coronacoaster is one of the many new COVID-inspired coinages that use corona (short for coronavirus) as a kind of combining form. It blends corona and rollercoaster to describe the emotional experience of life during the pandemic. Did you bake cookies and then sob like a baby while masking up for the 10,000th time? You’re on the coaster!

    Example: The coronacoaster has been exhausting this week. I started crying during my weekly family Zoom and couldn’t stop.


    coronacut

    The hilariously bad haircut we give ourselves under lockdown.

    This was one of the first coronacoinages out there—proving that sometimes we worry most about the little things … or that we’re all pretty vain.

    It feels like so long ago since we first heard this term, which only goes to show how slang changes as our experience of the pandemic changes.


    cluttercore

    A “messy aesthetic,” especially in terms of embracing one’s books, knickknacks, and other stuff at home and sharing it on social media.

    While coronacut reminds us of our struggles during the earliest days of the pandemic, this term reflects the ongoing evolution of quarantine life.

    Cluttercore emerged as a maximalist, anti-Kondo approach in early 2020 before any lockdowns, but the pandemic really helped popularize the term. (As of October, videos with the hashtag #cluttercore had more than two million views.) This combining form blends clutter (“a disorderly heap or assemblage”) with -core, which names a kind of aesthetic, social movement, or lifestyle. Cluttercore is similar to terms like cottagecore, normcore, and gorpcore.

    “The pandemic has forced us to reevaluate what we have, make better use of objects and space … and also see their value, often for the first time,” says Jennifer Howard, author of Clutter: An Untidy History.


    covidiot

    A blend of COVID-19 and idiot, covidiot is a slang insult for someone who disregards healthy and safety guidelines about the novel coronavirus.

    Some signs of covidiocy are: not washing your hands regularly, hanging out in groups of people, standing within six feet of a stranger at the grocery, hoarding items like toilet paper and hand sanitizer all to yourself.

    Example: Don’t be a covidiot by visiting the beach today! It’s super crowded.


    quaranteam

    The (very limited) group of people you see during self-isolation; one of the many slang terms that plays on quarantine.

    Whether you call it a germ pod, a COVID bubble, or your quaranteam, this is the group of people you voluntarily choose to socialize with or even live with during the quarantine. Basically, your pod chooses to isolate together, promising not to have close contact (within six feet) with anyone outside the pod. This form of contact clustering (yet another term used by epidemiologists to describe the situation) allows you to socialize while also staying safe.

    Quaranteam is a blend of quarantine and team, and sounds like quarantine—it’s a punning blend, as we’ve seen throughout this slideshow

    Example: Our quaranteam is going camping next weekend. We’re tired of all the binge-watching and baking.


    moronavirus

    Another term for a covidiot. The wordplay, here, centers on the word moron.

    Example: My roommate is being such a moronavirus. He went down to the beach with a huge group of friends.

    Calling someone a covidiot or moronavirus is a form of quarantine shaming. That’s slang for publicly criticizing someone for not following health and safety guidelines (quarantine being a shorthand for policies in place requiring people to stay at home except where necessary in many places across the country and world).


    quarantini

    How do you take your quarantini? Dirty, dry? Shaken, stirred? Vodka, gin?

    Quarantini is a slang term for a cocktail people drink at home while under quarantine during—and because of—the coronavirus.

    The term is a blend of quarantine and martini, a cocktail made with gin or vodka and dry vermouth, usually served with a green olive or a twist of lemon peel.

    The original quarantini referred to a martini-like cocktail mixed with vitamin C-based dietary supplements—a concoction that predates the novel coronavirus.

    Quarantini has spread as a more general term for alcoholic beverages consumed at home during the pandemic.

    Example: Frozen pizza in the oven? Paw Patrol queued up? Think it’s time for a quarantini.


    coronarita

    The margarita answer to a quarantini—served with, what else, a Corona-brand beer.

    A margarita is a cocktail made of tequila, lime or lemon juice, and an orange-flavored liqueur, usually served in a salt-rimmed glass.


    virtual happy hour

    When someone might drink a quarantini or coronarita.

    Because many people are working from home to help, they are letting off steam at the end of a long day of doomscrolling by holding virtual happy hours over Zoom, FaceTime, Google Hangouts, and other video conferencing or chat applications.

    Happy hour is a cocktail hour or longer period at a bar, during which drinks are served at reduced prices or with free snacks. It’s also used as a shorthand for drinks, generally with colleagues or friends, at the end of the workday, especially near the end of the work week.


    walktail

    When you want to take your quarantini or coronita outside on a walk (not that we’re condoning that), then you’d have a walktail.

    With so many quarantining at home with nothing to do—and nowhere to drink with the bars closed—some people have taken to swigging while sauntering, according to a New York Times article that identified this new trend. A walktail combines the words walk and cocktail, and bar owners are reporting increased alcohol to-go sales as a result. People are drinking and walking their neighborhoods, walking their pets, or just hosting happy hours in the backyard.

    Now, readers, do keep in mind: almost everywhere in the US it’s illegal to carry an “open container,” so most people disguise their walktails in discreet containers. Or you can also go bold, like the woman who dressed up in her bridal gown to dance in the street.


    Zoom-bombing

    This one’s a more serious entry. When using Zoom or similar services, be wary of Zoom-bombing. This is when uninvited guests to a virtual meeting disrupt it with various obscene, violent, or offensive images or words.

    Bombing, here, is based on photobombing, or when people ruin a photograph by appearing in the image without the photographer’s knowledge, often in some dramatic or comical way.


    Zoom mom

    A demographic of moms who are constantly using Zoom.

    They used to be called soccer moms, but COVID-19 changed that. Now, these so-called Zoom moms are described as spending a lot of time using Zoom for work, their children’s schooling, or simply to chat with their friends who are also stuck at home. In a May 22 article, Zoom moms were identified as a potentially powerful voting bloc that could influence the 2020 elections.

    Example: If the updated back to school plans aren’t released soon, the Zoom moms may revolt.


    Zoom fatigue

    The exhaustion that sets in while living life over Zoom.

    Fatigue is a “weariness from bodily or mental exertion,” and people began to cling to the term Zoom fatigue pretty quickly in April. Experts note that this sense of exhaustion is a real phenomenon caused by the amount of information processed face-to-face on Zoom without any non-verbal cues. Conversations and meetings cause conflicting emotions, without allowing people to relax as they would in person.

    Zoom fatigue ties into the larger phenomenon of “pandemic fatigue”: months into the pandemic and we are feeling the emotional, social, and psychological toll even as we try to grasp the loss of our lives and livelihood.


    Zoom town

    A place where housing sales are booming due to buyers who work remotely and are willing to live farther from the office.

    Example: The realtor convinced us to look at several homes in a nearby Zoom town, and I couldn’t help but imagine an idyllic life in the suburbs—complete with backyard barbecues and a two-car garage.

    Competition for homes in Zoom towns in suburbs and areas surrounding city centers is heating up as workers embrace remote work and ditch their commutes. Prices in these areas are often lower than in tighter urban markets. Zoom town is a play on Zoom (which of course, can also mean “to move quickly”) and boom town, a noun meaning “a town that has grown very rapidly as a result of sudden prosperity.”


    quarantine and chill

    Netflix and chill, but for the coronavirus era.

    Quarantine and chill is used for various ways people are hunkering down and spending free time at home during the coronavirus, especially with a romantic partner while marathoning streaming services.

    Be careful when you search for quarantine and chill on social media, though: some people use the phrase when posting revealing selfies.

    Example: My hubby and I are in an epic tournament of Rummy 500. Winner each night gets to pick the movie. #Quarantineandchill


    coronials, quaranteens, coronababies

    When two people get really cozy while quarantine-and-chilling, they may, you know …

    Babies being conceived while people are cooped up at home during the coronavirus have been dubbed coronababies. And when these babies get older, they will become the quaranteens, a pun on quarantine and teen(ager).

    The hypothetical new generation of children conceived during COVID-19 has cleverly been crowned the coronials, a play on corona(virus) and millennials.


    covidivorce

    The experience for other couples under COVID-19 quarantine may not be so snuggly. Being in extended isolation with loved ones can strain a relationship.

    Enter covidivorce, or divorces filed as a result of a couple’s experience during COVID-19.


    zumping

    The experience of COVID-19 isn’t just taxing on couples who live together. People who are dating are also reconsidering their relationships during the pandemic—and sometimes zumping each other.

    A blend of dump and Zoom (the popular video service), zumping is when you break up with someone over a video conferencing service. At least they didn’t just text? (Hey, you can do better, anyways).


    turbo relationship

    While some people are breaking up over Zoom due to quarantining, sheltering in place means others are turbocharging their relationship.

    The quarantine required couples to face a tough choice: break up or, er, shack up. According to some therapists, many couples who sped up the traditional courtship to live together during these conditions are reporting positive relationships and strong levels of commitment.

    Turbo ultimately derives from a Latin word meaning “whirlwind”—and turbo relationships may certainly get people’s minds, and hearts, spinning?


    COVID-10

    For some, quarantining at home during COVID-19 may result in a less movement—and more snacking—than they are used to.

    COVID-10, also referred to as the COVID-15 or even the COVID-19, is a riff on the numerals of COVID-19 and the freshman 15, an expression for the weight some people (are said to) gain during their first year of college. (Hey, gotta stock up on some supplies to help flatten the curve. And gotta take up delicious hobbies to stay engaged!)

    See also the German Coronaspeck, weight gained during the coronavirus pandemic, a play on Kummerspeck, or weight gained as a result of emotional eating.


    coronacation

    Coronavirus-compelled staycations, due to cancelled classes, shifts, and the like. It’s usually an ironic term—just ask parents working from home while teaching their kids.

    Example: My teen thinks he’s getting a coronacation since his school has moved online. Oh, wait until he sees how I am going to keep him busy with the Learning At Home resources.


    drive-by, drive-in

    So if you can’t take that dream vacation you’d always wanted … how about a drive-by birthday party instead?

    Social distancing has inspired a lot of creative adaptations for our celebrations—and equally unique terms for them. We’ve been introduced to drive-by graduations, weddings, and birthdays, as well as drive-in concerts and campaign rallies during the lead up to the election.

    Generally drive-in refers to “a place of business or public facility designed to accommodate patrons who sit in their automobiles.” The adjective is “relating to, or characteristic of such an establishment.” Drive-by is “occurring while driving past a person, object, etc.”

    Example: The four friends jumped in the car and barely made it to the drive-in concert on time.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    New Words We Created Because Of Coronavirus We’re rounding out 2020, and the coronavirus continues to shape our lives and language. While we once hoped we could toss the year’s coronacoinages out the door, that’s clearly not going to be the case right now: the coronavirus continues to surge to new levels. It seems like years (not months) ago that we learned our first COVID-19 terms, like social distancing and flatten the curve. We had to process so much, in so little time; we had to become experts about important differences: epidemic vs. pandemic, quarantine vs. isolation, and respirator vs. ventilators. The conversation continued with contagious vs. infectious and what antibodies do. Many of the words we’ve continued to add to our vocabularies address the ongoing nature of our situation. Maybe we long for the Before Times or have embraced cluttercore as we cope. The ups and downs of this life haven’t been easy (it’s a coronacoaster, to be honest), but the new vocabulary has helped us stay safe and informed during these scary times. And what better way to bring some welcome humor and humility to our lives in the bunker than some wordplay? Here’s our ongoing roundup of some of the new slang terms born of this unique, unprecedented time in modern life—a time of upheaval that some more jokingly call the coronapocalypse (corona apocalypse) or coronageddon (corona armageddon). the Before Times Are you walking around in a constant state of nostalgia? Then the term Before Times is for you. This humorous (and yes, dark) take on life pre-pandemic makes it clear that we’ve lived through an apocalyptic rupture point that separates old and new. The Before Times has long been a trope in science fiction, and linguist Ben Zimmer traces this specific phrase back to 1960s Star Trek, though some variations (beforetime) appear in early texts like the Bible. Example: Remember in the Before Times, when we packed together in movie theaters for a fun time? Seems like a different world now! rona Rona—often in the phrase the rona—is an informal shortening of coronavirus. Coronavirus is popularly shortened to corona, which was apparently further clipped to rona. Rona is often used as a playful or ironic way to refer to COVID-19, especially when commenting on more relatable, humorous challenges of social distancing during the pandemic. It is generally not meant, however, to be flippant about the very serious loss and disruption COVID-19 has wreaked—nor diminish the life-saving service of so many essential workers, from grocery clerks to nurses. It’s a bit of gallows humor. Some people have personified the virus as Miss Rona or Aunt Rona. And la rona (meant as “the rona”) has emerged in some Spanish-language contexts. Other informal shortenings? Just as coronavirus has been shortened to corona and rona, so quarantine has been shortened to quar—and even pandemic to panny. Example: Yeah, I don’t know about you, but homeschooling my kids during the rona ends up in a lot of Frozen 2. cornteen Cornteen is an intentional misspelling of quarantine, often used in ironic commentary on what it’s like to be at home during the coronavirus pandemic. It may have originated as an actual misspelling of quarantine. (Hey, quarantine wasn’t exactly a word most of us used every day until COVID-19.) Cornteen is occasionally used to joke about how quarantine is pronounced in various regional accents. Some people visually pun on cornteen by substituting the corn emoji, 🌽, for the corn- part of the word; others pun on the -teen to mean “teenager.” doomscrolling Life under the rona has meant that it’s even harder to peel our eyes away from our phones and computers, constantly refreshing our feeds for the latest news about the pandemic. At least there’s a word for that: doomscrolling, also doomscrolling. The term has been notably used—and popularized in part by her exhortations to a take a break from doing it—by Quartz reporter Karen K. Ho. Scrolling refers to scrolling down on our smartphones for the latest posts on social media. And doom … well, a lot of the news we’re seeing online feels full of gloom and doom. Example: I was up to 2 a.m. last night doomscrolling about coronavirus news in my state. A related slang term is doomsurfing, or compulsively surfing the internet for upsetting news. coronasomnia Staying up late, again? Waking up at 4am to doomscroll? Can’t remember your last good night of sleep? You’re not the only one. The term coronasomnia refers to—what else?—the insomnia that’s afflicting so many of us during the pandemic. Doctors and pharmacists have seen a measurable increase in the number of people suffering symptoms of insomnia or whose symptoms have worsened since the quarantine began. Some estimates suggest some 20 to 30 percent of the population—including children—may be impacted. One doctor coined the term “FED UP” to describe the worries of this stressful time. It stands for “financial stress, emotional stress, distance from others, unpredictability, and personal and professional concerns.” Yikes. Sounds like that’s another term for the dictionary. coronacoaster If you’re suffering from coronasomnia, you’ll likely understand this next word without much of an explanation. Coronacoaster is one of the many new COVID-inspired coinages that use corona (short for coronavirus) as a kind of combining form. It blends corona and rollercoaster to describe the emotional experience of life during the pandemic. Did you bake cookies and then sob like a baby while masking up for the 10,000th time? You’re on the coaster! Example: The coronacoaster has been exhausting this week. I started crying during my weekly family Zoom and couldn’t stop. coronacut The hilariously bad haircut we give ourselves under lockdown. This was one of the first coronacoinages out there—proving that sometimes we worry most about the little things … or that we’re all pretty vain. It feels like so long ago since we first heard this term, which only goes to show how slang changes as our experience of the pandemic changes. cluttercore A “messy aesthetic,” especially in terms of embracing one’s books, knickknacks, and other stuff at home and sharing it on social media. While coronacut reminds us of our struggles during the earliest days of the pandemic, this term reflects the ongoing evolution of quarantine life. Cluttercore emerged as a maximalist, anti-Kondo approach in early 2020 before any lockdowns, but the pandemic really helped popularize the term. (As of October, videos with the hashtag #cluttercore had more than two million views.) This combining form blends clutter (“a disorderly heap or assemblage”) with -core, which names a kind of aesthetic, social movement, or lifestyle. Cluttercore is similar to terms like cottagecore, normcore, and gorpcore. “The pandemic has forced us to reevaluate what we have, make better use of objects and space … and also see their value, often for the first time,” says Jennifer Howard, author of Clutter: An Untidy History. covidiot A blend of COVID-19 and idiot, covidiot is a slang insult for someone who disregards healthy and safety guidelines about the novel coronavirus. Some signs of covidiocy are: not washing your hands regularly, hanging out in groups of people, standing within six feet of a stranger at the grocery, hoarding items like toilet paper and hand sanitizer all to yourself. Example: Don’t be a covidiot by visiting the beach today! It’s super crowded. quaranteam The (very limited) group of people you see during self-isolation; one of the many slang terms that plays on quarantine. Whether you call it a germ pod, a COVID bubble, or your quaranteam, this is the group of people you voluntarily choose to socialize with or even live with during the quarantine. Basically, your pod chooses to isolate together, promising not to have close contact (within six feet) with anyone outside the pod. This form of contact clustering (yet another term used by epidemiologists to describe the situation) allows you to socialize while also staying safe. Quaranteam is a blend of quarantine and team, and sounds like quarantine—it’s a punning blend, as we’ve seen throughout this slideshow Example: Our quaranteam is going camping next weekend. We’re tired of all the binge-watching and baking. moronavirus Another term for a covidiot. The wordplay, here, centers on the word moron. Example: My roommate is being such a moronavirus. He went down to the beach with a huge group of friends. Calling someone a covidiot or moronavirus is a form of quarantine shaming. That’s slang for publicly criticizing someone for not following health and safety guidelines (quarantine being a shorthand for policies in place requiring people to stay at home except where necessary in many places across the country and world). quarantini How do you take your quarantini? Dirty, dry? Shaken, stirred? Vodka, gin? Quarantini is a slang term for a cocktail people drink at home while under quarantine during—and because of—the coronavirus. The term is a blend of quarantine and martini, a cocktail made with gin or vodka and dry vermouth, usually served with a green olive or a twist of lemon peel. The original quarantini referred to a martini-like cocktail mixed with vitamin C-based dietary supplements—a concoction that predates the novel coronavirus. Quarantini has spread as a more general term for alcoholic beverages consumed at home during the pandemic. Example: Frozen pizza in the oven? Paw Patrol queued up? Think it’s time for a quarantini. coronarita The margarita answer to a quarantini—served with, what else, a Corona-brand beer. A margarita is a cocktail made of tequila, lime or lemon juice, and an orange-flavored liqueur, usually served in a salt-rimmed glass. virtual happy hour When someone might drink a quarantini or coronarita. Because many people are working from home to help, they are letting off steam at the end of a long day of doomscrolling by holding virtual happy hours over Zoom, FaceTime, Google Hangouts, and other video conferencing or chat applications. Happy hour is a cocktail hour or longer period at a bar, during which drinks are served at reduced prices or with free snacks. It’s also used as a shorthand for drinks, generally with colleagues or friends, at the end of the workday, especially near the end of the work week. walktail When you want to take your quarantini or coronita outside on a walk (not that we’re condoning that), then you’d have a walktail. With so many quarantining at home with nothing to do—and nowhere to drink with the bars closed—some people have taken to swigging while sauntering, according to a New York Times article that identified this new trend. A walktail combines the words walk and cocktail, and bar owners are reporting increased alcohol to-go sales as a result. People are drinking and walking their neighborhoods, walking their pets, or just hosting happy hours in the backyard. Now, readers, do keep in mind: almost everywhere in the US it’s illegal to carry an “open container,” so most people disguise their walktails in discreet containers. Or you can also go bold, like the woman who dressed up in her bridal gown to dance in the street. Zoom-bombing This one’s a more serious entry. When using Zoom or similar services, be wary of Zoom-bombing. This is when uninvited guests to a virtual meeting disrupt it with various obscene, violent, or offensive images or words. Bombing, here, is based on photobombing, or when people ruin a photograph by appearing in the image without the photographer’s knowledge, often in some dramatic or comical way. Zoom mom A demographic of moms who are constantly using Zoom. They used to be called soccer moms, but COVID-19 changed that. Now, these so-called Zoom moms are described as spending a lot of time using Zoom for work, their children’s schooling, or simply to chat with their friends who are also stuck at home. In a May 22 article, Zoom moms were identified as a potentially powerful voting bloc that could influence the 2020 elections. Example: If the updated back to school plans aren’t released soon, the Zoom moms may revolt. Zoom fatigue The exhaustion that sets in while living life over Zoom. Fatigue is a “weariness from bodily or mental exertion,” and people began to cling to the term Zoom fatigue pretty quickly in April. Experts note that this sense of exhaustion is a real phenomenon caused by the amount of information processed face-to-face on Zoom without any non-verbal cues. Conversations and meetings cause conflicting emotions, without allowing people to relax as they would in person. Zoom fatigue ties into the larger phenomenon of “pandemic fatigue”: months into the pandemic and we are feeling the emotional, social, and psychological toll even as we try to grasp the loss of our lives and livelihood. Zoom town A place where housing sales are booming due to buyers who work remotely and are willing to live farther from the office. Example: The realtor convinced us to look at several homes in a nearby Zoom town, and I couldn’t help but imagine an idyllic life in the suburbs—complete with backyard barbecues and a two-car garage. Competition for homes in Zoom towns in suburbs and areas surrounding city centers is heating up as workers embrace remote work and ditch their commutes. Prices in these areas are often lower than in tighter urban markets. Zoom town is a play on Zoom (which of course, can also mean “to move quickly”) and boom town, a noun meaning “a town that has grown very rapidly as a result of sudden prosperity.” quarantine and chill Netflix and chill, but for the coronavirus era. Quarantine and chill is used for various ways people are hunkering down and spending free time at home during the coronavirus, especially with a romantic partner while marathoning streaming services. Be careful when you search for quarantine and chill on social media, though: some people use the phrase when posting revealing selfies. Example: My hubby and I are in an epic tournament of Rummy 500. Winner each night gets to pick the movie. #Quarantineandchill coronials, quaranteens, coronababies When two people get really cozy while quarantine-and-chilling, they may, you know … Babies being conceived while people are cooped up at home during the coronavirus have been dubbed coronababies. And when these babies get older, they will become the quaranteens, a pun on quarantine and teen(ager). The hypothetical new generation of children conceived during COVID-19 has cleverly been crowned the coronials, a play on corona(virus) and millennials. covidivorce The experience for other couples under COVID-19 quarantine may not be so snuggly. Being in extended isolation with loved ones can strain a relationship. Enter covidivorce, or divorces filed as a result of a couple’s experience during COVID-19. zumping The experience of COVID-19 isn’t just taxing on couples who live together. People who are dating are also reconsidering their relationships during the pandemic—and sometimes zumping each other. A blend of dump and Zoom (the popular video service), zumping is when you break up with someone over a video conferencing service. At least they didn’t just text? (Hey, you can do better, anyways). turbo relationship While some people are breaking up over Zoom due to quarantining, sheltering in place means others are turbocharging their relationship. The quarantine required couples to face a tough choice: break up or, er, shack up. According to some therapists, many couples who sped up the traditional courtship to live together during these conditions are reporting positive relationships and strong levels of commitment. Turbo ultimately derives from a Latin word meaning “whirlwind”—and turbo relationships may certainly get people’s minds, and hearts, spinning? COVID-10 For some, quarantining at home during COVID-19 may result in a less movement—and more snacking—than they are used to. COVID-10, also referred to as the COVID-15 or even the COVID-19, is a riff on the numerals of COVID-19 and the freshman 15, an expression for the weight some people (are said to) gain during their first year of college. (Hey, gotta stock up on some supplies to help flatten the curve. And gotta take up delicious hobbies to stay engaged!) See also the German Coronaspeck, weight gained during the coronavirus pandemic, a play on Kummerspeck, or weight gained as a result of emotional eating. coronacation Coronavirus-compelled staycations, due to cancelled classes, shifts, and the like. It’s usually an ironic term—just ask parents working from home while teaching their kids. Example: My teen thinks he’s getting a coronacation since his school has moved online. Oh, wait until he sees how I am going to keep him busy with the Learning At Home resources. drive-by, drive-in So if you can’t take that dream vacation you’d always wanted … how about a drive-by birthday party instead? Social distancing has inspired a lot of creative adaptations for our celebrations—and equally unique terms for them. We’ve been introduced to drive-by graduations, weddings, and birthdays, as well as drive-in concerts and campaign rallies during the lead up to the election. Generally drive-in refers to “a place of business or public facility designed to accommodate patrons who sit in their automobiles.” The adjective is “relating to, or characteristic of such an establishment.” Drive-by is “occurring while driving past a person, object, etc.” Example: The four friends jumped in the car and barely made it to the drive-in concert on time. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 Comments 0 Shares 1143 Views 0 Reviews
More Results