TCP: เสาหลักของอินเทอร์เน็ต
บทความ “The Internet is Cool. Thank you, TCP” อธิบายว่า TCP (Transmission Control Protocol) คือกลไกสำคัญที่ทำให้ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตถูกส่งอย่างเชื่อถือได้ แม้เครือข่ายจะมีปัญหา เช่น การสูญหายของแพ็กเก็ตหรือการจัดลำดับผิด TCP มีหน้าที่จัดการการส่งซ้ำ ตรวจสอบความถูกต้อง และรักษาลำดับข้อมูล ทำให้บริการอย่าง HTTP, SMTP, SSH ทำงานได้อย่างราบรื่น
Flow Control และ Congestion Control
TCP ไม่เพียงแต่รับประกันความถูกต้อง แต่ยังมีระบบ Flow Control เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องปลายทางรับข้อมูลเกินความสามารถ และ Congestion Control เพื่อหลีกเลี่ยงการล่มของเครือข่าย ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ “Congestion Collapse” ปี 1986 ที่ทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตตกลงเหลือเพียง 40 bps ก่อนที่ TCP จะถูกปรับปรุงให้มีการ “back off” และ “play nice” เพื่อแก้ปัญหา
ตัวอย่างโค้ด TCP Server
ผู้เขียนยกตัวอย่างการสร้าง TCP Server ด้วยภาษา C ที่สามารถรับข้อความจาก client และส่งกลับข้อความ “You sent: …” เพื่อแสดงให้เห็นการทำงานแบบ duplex bidirectional link ซึ่งทั้งสองฝั่งสามารถส่งข้อมูลได้อิสระ ไม่จำเป็นต้องเป็นเพียง request/response เท่านั้น
กลไกภายใน TCP
TCP มีโครงสร้าง header ที่ซับซ้อน เช่น Sequence Number, Acknowledgment Number, Flags (SYN, ACK, FIN, RST) และ Window Size ซึ่งทั้งหมดทำงานร่วมกันเพื่อให้การเชื่อมต่อมีความน่าเชื่อถือ ตัวอย่างที่โด่งดังคือ 3-way handshake ที่ใช้ในการเริ่มต้นการเชื่อมต่อ และ 4-way handshake ที่ใช้ในการปิดการเชื่อมต่อ
สรุปสาระสำคัญ
TCP คือโปรโตคอลที่ทำให้ข้อมูลส่งได้อย่างเชื่อถือ
ใช้ในบริการหลัก เช่น HTTP, SMTP, SSH
มีระบบตรวจสอบและส่งซ้ำเพื่อแก้ปัญหาการสูญหาย
Flow Control และ Congestion Control
ป้องกันการส่งข้อมูลเกินความสามารถของเครื่องปลายทาง
แก้ปัญหา Congestion Collapse ปี 1986
ตัวอย่างโค้ด TCP Server
ใช้ภาษา C สร้าง server ที่ตอบกลับข้อความ
แสดงการทำงานแบบ duplex bidirectional link
กลไกภายใน TCP
มี Sequence Number และ Acknowledgment Number เพื่อรักษาลำดับข้อมูล
ใช้ 3-way handshake และ 4-way handshake ในการเชื่อมต่อและปิดการเชื่อมต่อ
ความเสี่ยงหากไม่มี TCP
นักพัฒนาต้องเขียนระบบตรวจสอบและส่งซ้ำเอง
เครือข่ายอาจเกิดการล่มหรือข้อมูลผิดพลาดบ่อยครั้ง
https://cefboud.com/posts/tcp-deep-dive-internals/
บทความ “The Internet is Cool. Thank you, TCP” อธิบายว่า TCP (Transmission Control Protocol) คือกลไกสำคัญที่ทำให้ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตถูกส่งอย่างเชื่อถือได้ แม้เครือข่ายจะมีปัญหา เช่น การสูญหายของแพ็กเก็ตหรือการจัดลำดับผิด TCP มีหน้าที่จัดการการส่งซ้ำ ตรวจสอบความถูกต้อง และรักษาลำดับข้อมูล ทำให้บริการอย่าง HTTP, SMTP, SSH ทำงานได้อย่างราบรื่น
Flow Control และ Congestion Control
TCP ไม่เพียงแต่รับประกันความถูกต้อง แต่ยังมีระบบ Flow Control เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องปลายทางรับข้อมูลเกินความสามารถ และ Congestion Control เพื่อหลีกเลี่ยงการล่มของเครือข่าย ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ “Congestion Collapse” ปี 1986 ที่ทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตตกลงเหลือเพียง 40 bps ก่อนที่ TCP จะถูกปรับปรุงให้มีการ “back off” และ “play nice” เพื่อแก้ปัญหา
ตัวอย่างโค้ด TCP Server
ผู้เขียนยกตัวอย่างการสร้าง TCP Server ด้วยภาษา C ที่สามารถรับข้อความจาก client และส่งกลับข้อความ “You sent: …” เพื่อแสดงให้เห็นการทำงานแบบ duplex bidirectional link ซึ่งทั้งสองฝั่งสามารถส่งข้อมูลได้อิสระ ไม่จำเป็นต้องเป็นเพียง request/response เท่านั้น
กลไกภายใน TCP
TCP มีโครงสร้าง header ที่ซับซ้อน เช่น Sequence Number, Acknowledgment Number, Flags (SYN, ACK, FIN, RST) และ Window Size ซึ่งทั้งหมดทำงานร่วมกันเพื่อให้การเชื่อมต่อมีความน่าเชื่อถือ ตัวอย่างที่โด่งดังคือ 3-way handshake ที่ใช้ในการเริ่มต้นการเชื่อมต่อ และ 4-way handshake ที่ใช้ในการปิดการเชื่อมต่อ
สรุปสาระสำคัญ
TCP คือโปรโตคอลที่ทำให้ข้อมูลส่งได้อย่างเชื่อถือ
ใช้ในบริการหลัก เช่น HTTP, SMTP, SSH
มีระบบตรวจสอบและส่งซ้ำเพื่อแก้ปัญหาการสูญหาย
Flow Control และ Congestion Control
ป้องกันการส่งข้อมูลเกินความสามารถของเครื่องปลายทาง
แก้ปัญหา Congestion Collapse ปี 1986
ตัวอย่างโค้ด TCP Server
ใช้ภาษา C สร้าง server ที่ตอบกลับข้อความ
แสดงการทำงานแบบ duplex bidirectional link
กลไกภายใน TCP
มี Sequence Number และ Acknowledgment Number เพื่อรักษาลำดับข้อมูล
ใช้ 3-way handshake และ 4-way handshake ในการเชื่อมต่อและปิดการเชื่อมต่อ
ความเสี่ยงหากไม่มี TCP
นักพัฒนาต้องเขียนระบบตรวจสอบและส่งซ้ำเอง
เครือข่ายอาจเกิดการล่มหรือข้อมูลผิดพลาดบ่อยครั้ง
https://cefboud.com/posts/tcp-deep-dive-internals/
🌐 TCP: เสาหลักของอินเทอร์เน็ต
บทความ “The Internet is Cool. Thank you, TCP” อธิบายว่า TCP (Transmission Control Protocol) คือกลไกสำคัญที่ทำให้ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตถูกส่งอย่างเชื่อถือได้ แม้เครือข่ายจะมีปัญหา เช่น การสูญหายของแพ็กเก็ตหรือการจัดลำดับผิด TCP มีหน้าที่จัดการการส่งซ้ำ ตรวจสอบความถูกต้อง และรักษาลำดับข้อมูล ทำให้บริการอย่าง HTTP, SMTP, SSH ทำงานได้อย่างราบรื่น
📶 Flow Control และ Congestion Control
TCP ไม่เพียงแต่รับประกันความถูกต้อง แต่ยังมีระบบ Flow Control เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องปลายทางรับข้อมูลเกินความสามารถ และ Congestion Control เพื่อหลีกเลี่ยงการล่มของเครือข่าย ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ “Congestion Collapse” ปี 1986 ที่ทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตตกลงเหลือเพียง 40 bps ก่อนที่ TCP จะถูกปรับปรุงให้มีการ “back off” และ “play nice” เพื่อแก้ปัญหา
💻 ตัวอย่างโค้ด TCP Server
ผู้เขียนยกตัวอย่างการสร้าง TCP Server ด้วยภาษา C ที่สามารถรับข้อความจาก client และส่งกลับข้อความ “You sent: …” เพื่อแสดงให้เห็นการทำงานแบบ duplex bidirectional link ซึ่งทั้งสองฝั่งสามารถส่งข้อมูลได้อิสระ ไม่จำเป็นต้องเป็นเพียง request/response เท่านั้น
🔑 กลไกภายใน TCP
TCP มีโครงสร้าง header ที่ซับซ้อน เช่น Sequence Number, Acknowledgment Number, Flags (SYN, ACK, FIN, RST) และ Window Size ซึ่งทั้งหมดทำงานร่วมกันเพื่อให้การเชื่อมต่อมีความน่าเชื่อถือ ตัวอย่างที่โด่งดังคือ 3-way handshake ที่ใช้ในการเริ่มต้นการเชื่อมต่อ และ 4-way handshake ที่ใช้ในการปิดการเชื่อมต่อ
📌 สรุปสาระสำคัญ
✅ TCP คือโปรโตคอลที่ทำให้ข้อมูลส่งได้อย่างเชื่อถือ
➡️ ใช้ในบริการหลัก เช่น HTTP, SMTP, SSH
➡️ มีระบบตรวจสอบและส่งซ้ำเพื่อแก้ปัญหาการสูญหาย
✅ Flow Control และ Congestion Control
➡️ ป้องกันการส่งข้อมูลเกินความสามารถของเครื่องปลายทาง
➡️ แก้ปัญหา Congestion Collapse ปี 1986
✅ ตัวอย่างโค้ด TCP Server
➡️ ใช้ภาษา C สร้าง server ที่ตอบกลับข้อความ
➡️ แสดงการทำงานแบบ duplex bidirectional link
✅ กลไกภายใน TCP
➡️ มี Sequence Number และ Acknowledgment Number เพื่อรักษาลำดับข้อมูล
➡️ ใช้ 3-way handshake และ 4-way handshake ในการเชื่อมต่อและปิดการเชื่อมต่อ
‼️ ความเสี่ยงหากไม่มี TCP
⛔ นักพัฒนาต้องเขียนระบบตรวจสอบและส่งซ้ำเอง
⛔ เครือข่ายอาจเกิดการล่มหรือข้อมูลผิดพลาดบ่อยครั้ง
https://cefboud.com/posts/tcp-deep-dive-internals/
0 Comments
0 Shares
14 Views
0 Reviews