• มาตรฐานใหม่ SPHBM4 มีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุน

    JEDEC กำลังพัฒนา SPHBM4 ซึ่งเป็นการปรับปรุงจาก HBM4 โดยลดความกว้างของบัสจาก 2048-bit เหลือ 512-bit แต่ใช้เทคนิค 4:1 serialization เพื่อรักษาแบนด์วิดท์เทียบเท่า HBM4 จุดเด่นคือสามารถใช้ substrate แบบ organic แทนการใช้ interposer ที่มีราคาแพง ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงและเพิ่มความยืดหยุ่นในการออกแบบแพ็กเกจ

    ประสิทธิภาพและความจุ
    แม้จะลดความกว้างของบัส แต่ SPHBM4 ยังสามารถรองรับ ความจุสูงสุดต่อ stack ได้ถึง 64GB เทียบเท่ากับ HBM4E การออกแบบนี้ช่วยให้ผู้ผลิต AI accelerators สามารถเพิ่มจำนวน stack ได้มากขึ้นโดยไม่เปลืองพื้นที่ซิลิคอน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญในยุคที่การประมวลผล AI ต้องการทั้ง compute power และ memory capacity

    ต้นทุนและข้อจำกัด
    แม้ SPHBM4 จะถูกกว่า HBM4 แต่ก็ยังมีต้นทุนสูงกว่า GDDR7 เนื่องจากต้องใช้ DRAM แบบ stacked และกระบวนการ TSV (Through-Silicon Via) ที่ซับซ้อน ทำให้ SPHBM4 ไม่ใช่ “GDDR killer” สำหรับตลาดเกม แต่เหมาะกับงาน AI, HPC และ data center ที่ต้องการความเร็วและความจุสูงมากกว่า

    ความหมายต่ออนาคตอุตสาหกรรม
    การเปิดตัว SPHBM4 แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมกำลังหาทาง บาลานซ์ระหว่างประสิทธิภาพและต้นทุน เพื่อให้เทคโนโลยี HBM เข้าถึงได้กว้างขึ้น หากมาตรฐานนี้ได้รับการยอมรับ อาจช่วยให้การพัฒนา AI accelerators และเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่มีความสามารถสูงขึ้นโดยไม่ต้องแบกรับต้นทุนมหาศาล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    มาตรฐาน SPHBM4
    ใช้บัส 512-bit พร้อม 4:1 serialization เพื่อรักษาแบนด์วิดท์ระดับ HBM4

    ความจุสูงสุด
    รองรับได้ถึง 64GB ต่อ stack เทียบเท่า HBM4E

    ต้นทุนที่ลดลง
    ใช้ organic substrate แทน interposer ทำให้ราคาถูกลง

    การใช้งานที่เหมาะสม
    เหมาะกับ AI accelerators และ data center ไม่ใช่ตลาดเกม

    ข้อจำกัดด้านต้นทุน
    แม้ถูกกว่า HBM4 แต่ยังแพงกว่า GDDR7 สำหรับตลาด consumer

    ความท้าทายด้านการผลิต
    การใช้ TSV และ stacked DRAM ยังคงซับซ้อนและไม่เหมาะกับการผลิตจำนวนมาก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/industry-preps-cheap-hbm4-memory-spec-with-narrow-interface-but-it-isnt-a-gddr-killer-jedecs-new-sphbm4-spec-weds-hbm4-performance-and-lower-costs-to-enable-higher-capacity
    💡 มาตรฐานใหม่ SPHBM4 มีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุน JEDEC กำลังพัฒนา SPHBM4 ซึ่งเป็นการปรับปรุงจาก HBM4 โดยลดความกว้างของบัสจาก 2048-bit เหลือ 512-bit แต่ใช้เทคนิค 4:1 serialization เพื่อรักษาแบนด์วิดท์เทียบเท่า HBM4 จุดเด่นคือสามารถใช้ substrate แบบ organic แทนการใช้ interposer ที่มีราคาแพง ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงและเพิ่มความยืดหยุ่นในการออกแบบแพ็กเกจ 🚀 ประสิทธิภาพและความจุ แม้จะลดความกว้างของบัส แต่ SPHBM4 ยังสามารถรองรับ ความจุสูงสุดต่อ stack ได้ถึง 64GB เทียบเท่ากับ HBM4E การออกแบบนี้ช่วยให้ผู้ผลิต AI accelerators สามารถเพิ่มจำนวน stack ได้มากขึ้นโดยไม่เปลืองพื้นที่ซิลิคอน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญในยุคที่การประมวลผล AI ต้องการทั้ง compute power และ memory capacity ⚡ ต้นทุนและข้อจำกัด แม้ SPHBM4 จะถูกกว่า HBM4 แต่ก็ยังมีต้นทุนสูงกว่า GDDR7 เนื่องจากต้องใช้ DRAM แบบ stacked และกระบวนการ TSV (Through-Silicon Via) ที่ซับซ้อน ทำให้ SPHBM4 ไม่ใช่ “GDDR killer” สำหรับตลาดเกม แต่เหมาะกับงาน AI, HPC และ data center ที่ต้องการความเร็วและความจุสูงมากกว่า 🔮 ความหมายต่ออนาคตอุตสาหกรรม การเปิดตัว SPHBM4 แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมกำลังหาทาง บาลานซ์ระหว่างประสิทธิภาพและต้นทุน เพื่อให้เทคโนโลยี HBM เข้าถึงได้กว้างขึ้น หากมาตรฐานนี้ได้รับการยอมรับ อาจช่วยให้การพัฒนา AI accelerators และเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่มีความสามารถสูงขึ้นโดยไม่ต้องแบกรับต้นทุนมหาศาล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ มาตรฐาน SPHBM4 ➡️ ใช้บัส 512-bit พร้อม 4:1 serialization เพื่อรักษาแบนด์วิดท์ระดับ HBM4 ✅ ความจุสูงสุด ➡️ รองรับได้ถึง 64GB ต่อ stack เทียบเท่า HBM4E ✅ ต้นทุนที่ลดลง ➡️ ใช้ organic substrate แทน interposer ทำให้ราคาถูกลง ✅ การใช้งานที่เหมาะสม ➡️ เหมาะกับ AI accelerators และ data center ไม่ใช่ตลาดเกม ‼️ ข้อจำกัดด้านต้นทุน ⛔ แม้ถูกกว่า HBM4 แต่ยังแพงกว่า GDDR7 สำหรับตลาด consumer ‼️ ความท้าทายด้านการผลิต ⛔ การใช้ TSV และ stacked DRAM ยังคงซับซ้อนและไม่เหมาะกับการผลิตจำนวนมาก https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/industry-preps-cheap-hbm4-memory-spec-with-narrow-interface-but-it-isnt-a-gddr-killer-jedecs-new-sphbm4-spec-weds-hbm4-performance-and-lower-costs-to-enable-higher-capacity
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple รีบอุดช่องโหว่ WebKit Zero-Day หลังพบการโจมตีจริงต่อเป้าหมายระดับสูง

    Apple ประกาศแพตช์เร่งด่วนสำหรับ iPhone และ iPad หลังพบช่องโหว่ร้ายแรงใน WebKit ซึ่งเป็นเอนจินที่ใช้ในการแสดงผลเว็บเพจบน Safari และแอปพลิเคชันอื่น ๆ ช่องโหว่ทั้งสองถูกระบุว่าเป็น Zero-Day และกำลังถูกโจมตีจริงในโลกไซเบอร์ โดยผู้โจมตีสามารถฝังโค้ดอันตรายผ่านเว็บเพจหรือโฆษณาที่ถูกปรับแต่งมาเฉพาะ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเข้าถึงเครื่องโดยตรง

    ช่องโหว่แรก CVE-2025-43529 เป็นปัญหาแบบ Use-After-Free ซึ่งเกิดจากการจัดการหน่วยความจำผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดอันตรายได้ ส่วนช่องโหว่ที่สอง CVE-2025-14174 เป็นปัญหา Memory Corruption ที่อาจทำให้ระบบล่มหรือเปิดช่องทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลภายใน ทั้งสองช่องโหว่นี้ถูกค้นพบโดยทีม Google Threat Analysis Group (TAG) และ Apple เอง

    สิ่งที่น่ากังวลคือ Apple ระบุว่าการโจมตีครั้งนี้มีความซับซ้อนสูงและเจาะจงเป้าหมาย ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับการโจมตีโดย สปายแวร์ที่รัฐสนับสนุน โดยมักมุ่งเป้าไปที่บุคคลสำคัญ เช่น นักข่าว นักการทูต และนักกิจกรรมสิทธิมนุษยชน

    เพื่อป้องกันความเสี่ยง Apple แนะนำให้ผู้ใช้ อัปเดตเป็น iOS 26 หรือเวอร์ชันล่าสุดทันที เนื่องจากอุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบครอบคลุมตั้งแต่ iPhone 11 ขึ้นไป รวมถึง iPad Pro, iPad Air, iPad รุ่นใหม่ และ iPad mini รุ่นล่าสุด หากไม่อัปเดต อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่อาจนำแพตช์ไปย้อนวิเคราะห์เพื่อสร้างช่องโหว่ใหม่

    สรุปสาระสำคัญ
    Apple ออกแพตช์เร่งด่วน
    แก้ไขช่องโหว่ WebKit Zero-Day 2 รายการ (CVE-2025-43529, CVE-2025-14174)

    รายละเอียดช่องโหว่
    CVE-2025-43529: Use-After-Free → รันโค้ดอันตราย
    CVE-2025-14174: Memory Corruption → ระบบล่ม/เปิดช่องทางโจมตี

    ผู้ค้นพบ
    Google TAG และ Apple

    อุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบ
    iPhone 11 ขึ้นไป, iPad Pro (3rd gen+), iPad Air (3rd gen+), iPad (8th gen+), iPad mini (5th gen+)

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    หากไม่อัปเดต iOS 26 อาจถูกโจมตีจากเว็บเพจหรือโฆษณาที่ฝังโค้ดอันตราย
    กลุ่มอาชญากรไซเบอร์อาจย้อนวิเคราะห์แพตช์เพื่อสร้างช่องโหว่ใหม่

    https://securityonline.info/urgent-apple-patches-two-critical-webkit-zero-days-under-active-exploitation-against-high-risk-targets/
    🪱 Apple รีบอุดช่องโหว่ WebKit Zero-Day หลังพบการโจมตีจริงต่อเป้าหมายระดับสูง Apple ประกาศแพตช์เร่งด่วนสำหรับ iPhone และ iPad หลังพบช่องโหว่ร้ายแรงใน WebKit ซึ่งเป็นเอนจินที่ใช้ในการแสดงผลเว็บเพจบน Safari และแอปพลิเคชันอื่น ๆ ช่องโหว่ทั้งสองถูกระบุว่าเป็น Zero-Day และกำลังถูกโจมตีจริงในโลกไซเบอร์ โดยผู้โจมตีสามารถฝังโค้ดอันตรายผ่านเว็บเพจหรือโฆษณาที่ถูกปรับแต่งมาเฉพาะ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเข้าถึงเครื่องโดยตรง ช่องโหว่แรก CVE-2025-43529 เป็นปัญหาแบบ Use-After-Free ซึ่งเกิดจากการจัดการหน่วยความจำผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดอันตรายได้ ส่วนช่องโหว่ที่สอง CVE-2025-14174 เป็นปัญหา Memory Corruption ที่อาจทำให้ระบบล่มหรือเปิดช่องทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลภายใน ทั้งสองช่องโหว่นี้ถูกค้นพบโดยทีม Google Threat Analysis Group (TAG) และ Apple เอง สิ่งที่น่ากังวลคือ Apple ระบุว่าการโจมตีครั้งนี้มีความซับซ้อนสูงและเจาะจงเป้าหมาย ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับการโจมตีโดย สปายแวร์ที่รัฐสนับสนุน โดยมักมุ่งเป้าไปที่บุคคลสำคัญ เช่น นักข่าว นักการทูต และนักกิจกรรมสิทธิมนุษยชน เพื่อป้องกันความเสี่ยง Apple แนะนำให้ผู้ใช้ อัปเดตเป็น iOS 26 หรือเวอร์ชันล่าสุดทันที เนื่องจากอุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบครอบคลุมตั้งแต่ iPhone 11 ขึ้นไป รวมถึง iPad Pro, iPad Air, iPad รุ่นใหม่ และ iPad mini รุ่นล่าสุด หากไม่อัปเดต อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่อาจนำแพตช์ไปย้อนวิเคราะห์เพื่อสร้างช่องโหว่ใหม่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Apple ออกแพตช์เร่งด่วน ➡️ แก้ไขช่องโหว่ WebKit Zero-Day 2 รายการ (CVE-2025-43529, CVE-2025-14174) ✅ รายละเอียดช่องโหว่ ➡️ CVE-2025-43529: Use-After-Free → รันโค้ดอันตราย ➡️ CVE-2025-14174: Memory Corruption → ระบบล่ม/เปิดช่องทางโจมตี ✅ ผู้ค้นพบ ➡️ Google TAG และ Apple ✅ อุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบ ➡️ iPhone 11 ขึ้นไป, iPad Pro (3rd gen+), iPad Air (3rd gen+), iPad (8th gen+), iPad mini (5th gen+) ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ หากไม่อัปเดต iOS 26 อาจถูกโจมตีจากเว็บเพจหรือโฆษณาที่ฝังโค้ดอันตราย ⛔ กลุ่มอาชญากรไซเบอร์อาจย้อนวิเคราะห์แพตช์เพื่อสร้างช่องโหว่ใหม่ https://securityonline.info/urgent-apple-patches-two-critical-webkit-zero-days-under-active-exploitation-against-high-risk-targets/
    SECURITYONLINE.INFO
    Urgent: Apple Patches Two Critical WebKit Zero-Days Under Active Exploitation Against High-Risk Targets
    Apple patched two critical zero-days in WebKit (UAF & Memory Corruption) under active exploitation in extremely sophisticated attacks against targeted individuals. Update iOS 26 immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA 580.119.02 Linux Graphics Driver ออกแล้ว พร้อมแก้บั๊กหลายรายการ

    NVIDIA ได้ปล่อย ไดรเวอร์เวอร์ชัน 580.119.02 สำหรับระบบปฏิบัติการ Linux, BSD และ Solaris โดยเป็นการอัปเดตในซีรีส์ 580 ที่มุ่งเน้นการแก้ไขบั๊กและปรับปรุงการรองรับฮาร์ดแวร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความเสถียรในการใช้งาน

    หนึ่งในจุดเด่นของการอัปเดตครั้งนี้คือการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ LG Ultragear monitors และ Samsung Odyssey Neo G9 ซึ่งเป็นจอภาพเกมมิ่งรุ่นใหม่ที่ต้องการการรองรับพิเศษ นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขปัญหาที่พบในเกม X-Plane และแอปพลิเคชันที่ใช้ Vulkan API เพื่อให้ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ภาพดีขึ้นและลดการเกิดบั๊กที่รบกวนผู้ใช้

    การอัปเดตนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในซีรีส์ 580 โดยก่อนหน้านี้ NVIDIA ได้เพิ่มการรองรับ YCbCr 4:2:2 Display Modes over HDMI FRL และตัวแปรสภาพแวดล้อมใหม่สำหรับการปรับแต่งการทำงานของไดรเวอร์ รวมถึงการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ Explicit Sync บน Wayland ในรุ่นก่อนหน้า

    สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเสถียรและการรองรับฮาร์ดแวร์ล่าสุด การอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 580.119.02 ถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้จอภาพเกมมิ่งรุ่นใหม่หรือแอปพลิเคชันที่ต้องการการเรนเดอร์กราฟิกขั้นสูง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การอัปเดตหลักใน NVIDIA 580.119.02
    ปรับปรุงการรองรับ LG Ultragear monitors
    ปรับปรุงการรองรับ Samsung Odyssey Neo G9
    แก้ไขบั๊กในเกม X-Plane และ Vulkan apps

    พัฒนาต่อเนื่องจากรุ่นก่อนหน้าในซีรีส์ 580
    รองรับ YCbCr 4:2:2 Display Modes over HDMI FRL
    เพิ่ม environment variable ใหม่สำหรับการปรับแต่ง
    แก้ไข Explicit Sync บน Wayland

    ผลกระทบเชิงบวก
    เพิ่มความเสถียรในการใช้งานกราฟิก
    รองรับจอภาพเกมมิ่งรุ่นใหม่ได้ดีขึ้น
    ลดบั๊กที่เกิดในเกมและแอปพลิเคชันกราฟิก

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน
    หากยังใช้เวอร์ชันเก่า อาจพบปัญหากับจอภาพใหม่และเกมที่ใช้ Vulkan
    การไม่อัปเดตอาจทำให้ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ภาพลดลงและเกิดบั๊กซ้ำเดิม

    https://9to5linux.com/nvidia-580-119-02-linux-graphics-driver-released-with-various-bug-fixes
    🎮 NVIDIA 580.119.02 Linux Graphics Driver ออกแล้ว พร้อมแก้บั๊กหลายรายการ NVIDIA ได้ปล่อย ไดรเวอร์เวอร์ชัน 580.119.02 สำหรับระบบปฏิบัติการ Linux, BSD และ Solaris โดยเป็นการอัปเดตในซีรีส์ 580 ที่มุ่งเน้นการแก้ไขบั๊กและปรับปรุงการรองรับฮาร์ดแวร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความเสถียรในการใช้งาน หนึ่งในจุดเด่นของการอัปเดตครั้งนี้คือการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ LG Ultragear monitors และ Samsung Odyssey Neo G9 ซึ่งเป็นจอภาพเกมมิ่งรุ่นใหม่ที่ต้องการการรองรับพิเศษ นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขปัญหาที่พบในเกม X-Plane และแอปพลิเคชันที่ใช้ Vulkan API เพื่อให้ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ภาพดีขึ้นและลดการเกิดบั๊กที่รบกวนผู้ใช้ การอัปเดตนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในซีรีส์ 580 โดยก่อนหน้านี้ NVIDIA ได้เพิ่มการรองรับ YCbCr 4:2:2 Display Modes over HDMI FRL และตัวแปรสภาพแวดล้อมใหม่สำหรับการปรับแต่งการทำงานของไดรเวอร์ รวมถึงการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ Explicit Sync บน Wayland ในรุ่นก่อนหน้า สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเสถียรและการรองรับฮาร์ดแวร์ล่าสุด การอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 580.119.02 ถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้จอภาพเกมมิ่งรุ่นใหม่หรือแอปพลิเคชันที่ต้องการการเรนเดอร์กราฟิกขั้นสูง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การอัปเดตหลักใน NVIDIA 580.119.02 ➡️ ปรับปรุงการรองรับ LG Ultragear monitors ➡️ ปรับปรุงการรองรับ Samsung Odyssey Neo G9 ➡️ แก้ไขบั๊กในเกม X-Plane และ Vulkan apps ✅ พัฒนาต่อเนื่องจากรุ่นก่อนหน้าในซีรีส์ 580 ➡️ รองรับ YCbCr 4:2:2 Display Modes over HDMI FRL ➡️ เพิ่ม environment variable ใหม่สำหรับการปรับแต่ง ➡️ แก้ไข Explicit Sync บน Wayland ✅ ผลกระทบเชิงบวก ➡️ เพิ่มความเสถียรในการใช้งานกราฟิก ➡️ รองรับจอภาพเกมมิ่งรุ่นใหม่ได้ดีขึ้น ➡️ ลดบั๊กที่เกิดในเกมและแอปพลิเคชันกราฟิก ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน ⛔ หากยังใช้เวอร์ชันเก่า อาจพบปัญหากับจอภาพใหม่และเกมที่ใช้ Vulkan ⛔ การไม่อัปเดตอาจทำให้ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ภาพลดลงและเกิดบั๊กซ้ำเดิม https://9to5linux.com/nvidia-580-119-02-linux-graphics-driver-released-with-various-bug-fixes
    9TO5LINUX.COM
    NVIDIA 580.119.02 Linux Graphics Driver Released with Various Bug Fixes - 9to5Linux
    NVIDIA 580.119.02 graphics driver is now available for download for Linux, FreeBSD, and Solaris systems with various bug fixes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • Portable Commodore 64: ความรักในประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์

    นักออกแบบอุตสาหกรรม Kevin Noki ได้สร้างต้นแบบ Commodore 64 Laptop ที่ไม่เคยมีอยู่จริงในยุค 1980 โดยผสมผสานแรงบันดาลใจจาก Commodore 64 bread-bin และ Apple Lisa Portable พร้อมใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง Raspberry Pi 5 และ VICE emulator เพื่อให้เครื่องทำงานได้จริง ถือเป็น “ประวัติศาสตร์ทางเลือก” ที่น่าทึ่งสำหรับแฟนคอมพิวเตอร์คลาสสิก

    ขั้นตอนการสร้าง
    ใช้ 3D design software ออกแบบตัวเครื่อง และพิมพ์ชิ้นส่วนกว่า 30 ชิ้นด้วย Bambu Lab P2S รวมเวลาพิมพ์กว่า 38 ชั่วโมง
    ตัวเครื่องถูกประกอบด้วย superglue และ metal pins ก่อนจะขัด, พ่นสี และตกแต่งด้วยโทนสี beige แบบดั้งเดิมของ C64
    คีย์บอร์ดถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด: พิมพ์ keycaps ด้วยหัวฉีด 0.2mm, ใช้ waterslide transfers สำหรับตัวอักษร และเคลือบด้วย acrylic lacquer เพื่อความทนทาน
    แผงวงจรคีย์บอร์ดผลิตโดย PCBWay พร้อมบัดกรีไดโอดกว่า 60 ตัว และใช้ Raspberry Pi Pico รันเฟิร์มแวร์ QMK เพื่อเชื่อมต่อกับ Pi 5

    ฟีเจอร์และฮาร์ดแวร์
    ใช้ Raspberry Pi 5 รัน VICE emulator แต่ยังรองรับการเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์จริง เช่น 1541 floppy drive และ Datasette cassette ผ่านอะแดปเตอร์ที่สร้างเอง
    จอภาพขนาด 10 นิ้ว อัตราส่วน 4:3 พร้อม bezel หนาแบบยุค 80 และปรับความสว่าง/เสียงด้วยปุ่มหมุนด้านข้าง
    ระบบพลังงานใช้ UPS ราคาประมาณ 10 ดอลลาร์ พร้อมแบตเตอรี่ 18650 ที่เข้าถึงได้ผ่าน trapdoor ใต้เครื่อง
    น้ำหนักรวมประมาณ 4 กิโลกรัม (8 ปอนด์) และบูตเข้าสู่หน้าจอ BASIC ได้ภายใน 11 วินาที

    ประสบการณ์ใช้งาน
    สามารถโหลดเกมดั้งเดิมจาก floppy และ cassette ได้ เช่น Pac-Man
    รองรับ Competition Pro 9-pin joysticks โดยใช้ Python script แปลงสัญญาณ joystick เป็น key presses
    สำหรับการพกพา ผู้สร้างเลือกใช้ SD card ที่บรรจุเกมและแอปพลิเคชัน เพื่อความสะดวกมากกว่าอุปกรณ์จริง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การออกแบบและการสร้าง
    ใช้ 3D printing กว่า 30 ชิ้นและคีย์บอร์ด custom
    ผสมผสานดีไซน์ Commodore 64 และ Apple Lisa Portable

    ฮาร์ดแวร์และฟีเจอร์
    Raspberry Pi 5 รัน VICE emulator พร้อมรองรับ floppy และ cassette
    จอ 10 นิ้ว 4:3, ระบบพลังงาน UPS + 18650

    ประสบการณ์ใช้งาน
    โหลดเกมดั้งเดิมได้จริง เช่น Pac-Man
    รองรับ joystick ผ่าน Python script

    คำเตือนและข้อจำกัด
    น้ำหนักเครื่องประมาณ 4 กิโลกรัม อาจไม่สะดวกต่อการพกพา
    แบตเตอรี่ยังไม่ถูกทดสอบเรื่องอายุการใช้งานแบบ untethered

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/this-scratch-built-period-correct-design-portable-commodore-64-is-a-love-letter-to-an-alternate-commodore-history-nokis-cleverly-designed-homage-to-the-era-merges-commodore-apple-and-raspberry-pi
    💻 Portable Commodore 64: ความรักในประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์ นักออกแบบอุตสาหกรรม Kevin Noki ได้สร้างต้นแบบ Commodore 64 Laptop ที่ไม่เคยมีอยู่จริงในยุค 1980 โดยผสมผสานแรงบันดาลใจจาก Commodore 64 bread-bin และ Apple Lisa Portable พร้อมใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง Raspberry Pi 5 และ VICE emulator เพื่อให้เครื่องทำงานได้จริง ถือเป็น “ประวัติศาสตร์ทางเลือก” ที่น่าทึ่งสำหรับแฟนคอมพิวเตอร์คลาสสิก 🛠️ ขั้นตอนการสร้าง 💠 ใช้ 3D design software ออกแบบตัวเครื่อง และพิมพ์ชิ้นส่วนกว่า 30 ชิ้นด้วย Bambu Lab P2S รวมเวลาพิมพ์กว่า 38 ชั่วโมง 💠 ตัวเครื่องถูกประกอบด้วย superglue และ metal pins ก่อนจะขัด, พ่นสี และตกแต่งด้วยโทนสี beige แบบดั้งเดิมของ C64 💠 คีย์บอร์ดถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด: พิมพ์ keycaps ด้วยหัวฉีด 0.2mm, ใช้ waterslide transfers สำหรับตัวอักษร และเคลือบด้วย acrylic lacquer เพื่อความทนทาน 💠 แผงวงจรคีย์บอร์ดผลิตโดย PCBWay พร้อมบัดกรีไดโอดกว่า 60 ตัว และใช้ Raspberry Pi Pico รันเฟิร์มแวร์ QMK เพื่อเชื่อมต่อกับ Pi 5 ⚡ ฟีเจอร์และฮาร์ดแวร์ 💠 ใช้ Raspberry Pi 5 รัน VICE emulator แต่ยังรองรับการเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์จริง เช่น 1541 floppy drive และ Datasette cassette ผ่านอะแดปเตอร์ที่สร้างเอง 💠 จอภาพขนาด 10 นิ้ว อัตราส่วน 4:3 พร้อม bezel หนาแบบยุค 80 และปรับความสว่าง/เสียงด้วยปุ่มหมุนด้านข้าง 💠 ระบบพลังงานใช้ UPS ราคาประมาณ 10 ดอลลาร์ พร้อมแบตเตอรี่ 18650 ที่เข้าถึงได้ผ่าน trapdoor ใต้เครื่อง 💠 น้ำหนักรวมประมาณ 4 กิโลกรัม (8 ปอนด์) และบูตเข้าสู่หน้าจอ BASIC ได้ภายใน 11 วินาที 🎮 ประสบการณ์ใช้งาน 💠 สามารถโหลดเกมดั้งเดิมจาก floppy และ cassette ได้ เช่น Pac-Man 💠 รองรับ Competition Pro 9-pin joysticks โดยใช้ Python script แปลงสัญญาณ joystick เป็น key presses 💠 สำหรับการพกพา ผู้สร้างเลือกใช้ SD card ที่บรรจุเกมและแอปพลิเคชัน เพื่อความสะดวกมากกว่าอุปกรณ์จริง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การออกแบบและการสร้าง ➡️ ใช้ 3D printing กว่า 30 ชิ้นและคีย์บอร์ด custom ➡️ ผสมผสานดีไซน์ Commodore 64 และ Apple Lisa Portable ✅ ฮาร์ดแวร์และฟีเจอร์ ➡️ Raspberry Pi 5 รัน VICE emulator พร้อมรองรับ floppy และ cassette ➡️ จอ 10 นิ้ว 4:3, ระบบพลังงาน UPS + 18650 ✅ ประสบการณ์ใช้งาน ➡️ โหลดเกมดั้งเดิมได้จริง เช่น Pac-Man ➡️ รองรับ joystick ผ่าน Python script ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ น้ำหนักเครื่องประมาณ 4 กิโลกรัม อาจไม่สะดวกต่อการพกพา ⛔ แบตเตอรี่ยังไม่ถูกทดสอบเรื่องอายุการใช้งานแบบ untethered https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/this-scratch-built-period-correct-design-portable-commodore-64-is-a-love-letter-to-an-alternate-commodore-history-nokis-cleverly-designed-homage-to-the-era-merges-commodore-apple-and-raspberry-pi
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks

    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ (CISA) ออกประกาศเตือนว่า มีการโจมตีช่องโหว่ร้ายแรงใน เราเตอร์ D-Link รุ่นเก่า (EOL) และอุปกรณ์ Array Networks โดยใช้เทคนิค command injection และ buffer overflow ซึ่งกำลังถูกโจมตีจริงในหลายประเทศ รวมถึงญี่ปุ่น

    CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ใหม่เข้าสู่ Known Exploited Vulnerabilities (KEV) Catalog เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2025 โดยพบว่าอุปกรณ์ D-Link Go-RT-AC750 มีช่องโหว่ CVE-2022-37055 ซึ่งเป็น buffer overflow ที่มีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 เกือบสูงสุด และไม่มีการออกแพตช์แก้ไข เนื่องจากอุปกรณ์รุ่นนี้หมดอายุการสนับสนุนแล้ว (End of Life)

    ในขณะเดียวกัน อุปกรณ์ Array Networks ArrayOS AG gateways ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-66644 ซึ่งเป็น OS command injection ที่กำลังถูกโจมตีในญี่ปุ่น ทำให้ผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่งอันตรายบนระบบได้โดยตรง

    ผลกระทบและความเสี่ยง
    ช่องโหว่เหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์เครือข่ายจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการถูกดักข้อมูล, การโจมตีแบบ DDoS, หรือการใช้เป็นฐานโจมตีต่อไปยังระบบอื่น ๆ โดยเฉพาะองค์กรที่ยังใช้อุปกรณ์รุ่นเก่าที่ไม่ได้รับการสนับสนุนแล้ว

    สิ่งที่น่ากังวลคือ ไม่มีแพตช์แก้ไขสำหรับ D-Link รุ่นเก่า ทำให้ผู้ใช้ต้องหาทางเปลี่ยนหรือเลิกใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ทันที หากยังคงใช้งานอยู่จะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง

    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
    CISA แนะนำให้องค์กรและผู้ใช้ทั่วไป เลิกใช้อุปกรณ์ที่หมดอายุการสนับสนุน (EOL) และเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ใหม่ที่ยังได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ควรตรวจสอบระบบเครือข่ายว่ามีการใช้อุปกรณ์ Array Networks ที่มีช่องโหว่หรือไม่ และรีบติดตั้งแพตช์หรือหาทางป้องกันโดยเร็วที่สุด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ช่องโหว่ที่ถูกค้นพบ
    CVE-2022-37055: Buffer Overflow ใน D-Link Go-RT-AC750 (CVSS 9.8)
    CVE-2025-66644: Command Injection ใน Array Networks AG gateways

    สถานการณ์การโจมตี
    ช่องโหว่ D-Link ไม่มีแพตช์เพราะหมดอายุการสนับสนุน
    ช่องโหว่ Array Networks กำลังถูกโจมตีจริงในญี่ปุ่น

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และองค์กร
    อาจถูกควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล
    เสี่ยงต่อการถูกใช้เป็นฐานโจมตี DDoS หรือเจาะระบบอื่น

    คำแนะนำด้านความปลอดภัย
    เลิกใช้อุปกรณ์ D-Link รุ่นเก่าที่หมดอายุการสนับสนุน
    ตรวจสอบและอัปเดตแพตช์ใน Array Networks โดยเร็วที่สุด

    https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack/
    ⚡ ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ (CISA) ออกประกาศเตือนว่า มีการโจมตีช่องโหว่ร้ายแรงใน เราเตอร์ D-Link รุ่นเก่า (EOL) และอุปกรณ์ Array Networks โดยใช้เทคนิค command injection และ buffer overflow ซึ่งกำลังถูกโจมตีจริงในหลายประเทศ รวมถึงญี่ปุ่น CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ใหม่เข้าสู่ Known Exploited Vulnerabilities (KEV) Catalog เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2025 โดยพบว่าอุปกรณ์ D-Link Go-RT-AC750 มีช่องโหว่ CVE-2022-37055 ซึ่งเป็น buffer overflow ที่มีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 เกือบสูงสุด และไม่มีการออกแพตช์แก้ไข เนื่องจากอุปกรณ์รุ่นนี้หมดอายุการสนับสนุนแล้ว (End of Life) ในขณะเดียวกัน อุปกรณ์ Array Networks ArrayOS AG gateways ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-66644 ซึ่งเป็น OS command injection ที่กำลังถูกโจมตีในญี่ปุ่น ทำให้ผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่งอันตรายบนระบบได้โดยตรง 🌐 ผลกระทบและความเสี่ยง ช่องโหว่เหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์เครือข่ายจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการถูกดักข้อมูล, การโจมตีแบบ DDoS, หรือการใช้เป็นฐานโจมตีต่อไปยังระบบอื่น ๆ โดยเฉพาะองค์กรที่ยังใช้อุปกรณ์รุ่นเก่าที่ไม่ได้รับการสนับสนุนแล้ว สิ่งที่น่ากังวลคือ ไม่มีแพตช์แก้ไขสำหรับ D-Link รุ่นเก่า ทำให้ผู้ใช้ต้องหาทางเปลี่ยนหรือเลิกใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ทันที หากยังคงใช้งานอยู่จะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง 🛡️ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ CISA แนะนำให้องค์กรและผู้ใช้ทั่วไป เลิกใช้อุปกรณ์ที่หมดอายุการสนับสนุน (EOL) และเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ใหม่ที่ยังได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ควรตรวจสอบระบบเครือข่ายว่ามีการใช้อุปกรณ์ Array Networks ที่มีช่องโหว่หรือไม่ และรีบติดตั้งแพตช์หรือหาทางป้องกันโดยเร็วที่สุด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ช่องโหว่ที่ถูกค้นพบ ➡️ CVE-2022-37055: Buffer Overflow ใน D-Link Go-RT-AC750 (CVSS 9.8) ➡️ CVE-2025-66644: Command Injection ใน Array Networks AG gateways ✅ สถานการณ์การโจมตี ➡️ ช่องโหว่ D-Link ไม่มีแพตช์เพราะหมดอายุการสนับสนุน ➡️ ช่องโหว่ Array Networks กำลังถูกโจมตีจริงในญี่ปุ่น ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และองค์กร ⛔ อาจถูกควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล ⛔ เสี่ยงต่อการถูกใช้เป็นฐานโจมตี DDoS หรือเจาะระบบอื่น ‼️ คำแนะนำด้านความปลอดภัย ⛔ เลิกใช้อุปกรณ์ D-Link รุ่นเก่าที่หมดอายุการสนับสนุน ⛔ ตรวจสอบและอัปเดตแพตช์ใน Array Networks โดยเร็วที่สุด https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack/
    SECURITYONLINE.INFO
    CISA KEV Alert: EOL D-Link and Array Networks Command Injection Under Active Attack
    CISA KEV adds EOL D-Link and Array Networks flaws. ArrayOS AG (CVE-2025-66644) is actively exploited in Japan to drop PHP webshells. Retire EOL D-Link and patch ArrayOS AG immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัปเดตระบบ Android ธันวาคม 2025

    Google ปล่อย Android System Update เดือนธันวาคม 2025 แล้ว โดยเน้นปรับปรุงเสถียรภาพ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Google Play Store และแก้ไขบั๊ก พร้อมคำแนะนำวิธีอัปเดตสำหรับผู้ใช้ Samsung และ Pixel

    Google ระบุว่าแพตช์ล่าสุดได้อัปเดต system management services เพื่อปรับปรุง Device Performance และ Stability ทำให้เครื่องทำงานได้ลื่นไหลขึ้น ลดปัญหาการค้างหรือการทำงานผิดพลาดที่ผู้ใช้บางรายเคยเจอ

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Play Store
    มีการเพิ่ม คำเตือนสำหรับแอปที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ Play Protect เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ระวังแอปที่อาจไม่ปลอดภัย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถ กลับไปดู/อ่าน/ฟังคอนเทนต์จากแอปที่ติดตั้งไว้ได้โดยตรงจาก Play Store ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

    การกระจายฟีเจอร์แบบค่อยเป็นค่อยไป
    Google ย้ำว่าแม้ฟีเจอร์ใหม่จะปรากฏใน changelog แต่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ใช้ทันที เพราะบางฟีเจอร์ต้องใช้เวลาสักระยะในการปล่อย เช่น การออกแบบใหม่ของ QR code scanner ที่ถูกยกเลิกไปก่อนหน้านี้ แต่กลับมาให้ใช้งานอีกครั้งในบางอุปกรณ์

    วิธีอัปเดตระบบ
    ขั้นตอนการอัปเดตแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ เช่น บน Samsung
    Galaxy S24 ผู้ใช้ต้องเข้าไปที่
    Settings → Google → All Services → Privacy & Security → System Services แล้วเลือกอัปเดต

    ส่วนบน Google Pixel 10 Pro Fold จะต้องเข้าไปที่ Settings → Google Services → All Services → Privacy & Security → System Services
    การอัปเดตใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีและไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง

    สรุปสาระสำคัญ
    การปรับปรุงระบบ
    เพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพของอุปกรณ์
    ลดปัญหาการค้างและบั๊ก

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Play Store
    คำเตือนสำหรับแอปที่ไม่ผ่าน Play Protect
    ฟีเจอร์ resume content จากแอปที่ติดตั้ง

    การกระจายฟีเจอร์
    ฟีเจอร์ใหม่อาจไม่พร้อมใช้งานทันที
    ตัวอย่างเช่น QR code scanner redesign

    วิธีอัปเดต
    Samsung Galaxy S24: Settings → Google → All Services → Privacy & Security → System Services
    Pixel 10 Pro Fold: Settings → Google Services → All Services → Privacy & Security → System Services

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างอาจยังไม่ปรากฏในอุปกรณ์ของคุณ
    ควรตรวจสอบการอัปเดตด้วยตนเองเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด

    https://www.slashgear.com/2043607/google-system-updates-android-december-2025/
    📰 อัปเดตระบบ Android ธันวาคม 2025 Google ปล่อย Android System Update เดือนธันวาคม 2025 แล้ว โดยเน้นปรับปรุงเสถียรภาพ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Google Play Store และแก้ไขบั๊ก พร้อมคำแนะนำวิธีอัปเดตสำหรับผู้ใช้ Samsung และ Pixel Google ระบุว่าแพตช์ล่าสุดได้อัปเดต system management services เพื่อปรับปรุง Device Performance และ Stability ทำให้เครื่องทำงานได้ลื่นไหลขึ้น ลดปัญหาการค้างหรือการทำงานผิดพลาดที่ผู้ใช้บางรายเคยเจอ 🛡️ ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Play Store มีการเพิ่ม คำเตือนสำหรับแอปที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ Play Protect เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ระวังแอปที่อาจไม่ปลอดภัย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถ กลับไปดู/อ่าน/ฟังคอนเทนต์จากแอปที่ติดตั้งไว้ได้โดยตรงจาก Play Store ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน 📲 การกระจายฟีเจอร์แบบค่อยเป็นค่อยไป Google ย้ำว่าแม้ฟีเจอร์ใหม่จะปรากฏใน changelog แต่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ใช้ทันที เพราะบางฟีเจอร์ต้องใช้เวลาสักระยะในการปล่อย เช่น การออกแบบใหม่ของ QR code scanner ที่ถูกยกเลิกไปก่อนหน้านี้ แต่กลับมาให้ใช้งานอีกครั้งในบางอุปกรณ์ 🔧 วิธีอัปเดตระบบ ขั้นตอนการอัปเดตแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ เช่น บน Samsung Galaxy S24 ผู้ใช้ต้องเข้าไปที่ Settings → Google → All Services → Privacy & Security → System Services แล้วเลือกอัปเดต ส่วนบน Google Pixel 10 Pro Fold จะต้องเข้าไปที่ Settings → Google Services → All Services → Privacy & Security → System Services การอัปเดตใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีและไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การปรับปรุงระบบ ➡️ เพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ ➡️ ลดปัญหาการค้างและบั๊ก ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Play Store ➡️ คำเตือนสำหรับแอปที่ไม่ผ่าน Play Protect ➡️ ฟีเจอร์ resume content จากแอปที่ติดตั้ง ✅ การกระจายฟีเจอร์ ➡️ ฟีเจอร์ใหม่อาจไม่พร้อมใช้งานทันที ➡️ ตัวอย่างเช่น QR code scanner redesign ✅ วิธีอัปเดต ➡️ Samsung Galaxy S24: Settings → Google → All Services → Privacy & Security → System Services ➡️ Pixel 10 Pro Fold: Settings → Google Services → All Services → Privacy & Security → System Services ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างอาจยังไม่ปรากฏในอุปกรณ์ของคุณ ⛔ ควรตรวจสอบการอัปเดตด้วยตนเองเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด https://www.slashgear.com/2043607/google-system-updates-android-december-2025/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Check Your Android Device: Google's December 2025 System Update Is Live - SlashGear
    If you have an Android device, a system update might be waiting for you. Here's what the update includes and how you can download it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดูดวงทั้ง 12 นักษัตร เดือนธันวาคม 2568
    ++++++++++++++++++++++++
    คำทำนาย พื้นดวงชะตา ของคนที่เกิดในแต่ละนักษัตร ทั้ง 12 ราศี ในเดือนธันวาคม 2568 ว่าพื้นดวงชะตาของแต่ละคนมี การเปลี่ยนแปลงทางด้านบวกหรือด้านลบ เรื่องใดโดดเด่น และ เรื่องใดต้องระมัดระวังปรับปรุงแก้ไข คำทำนายนี้มีผล ตั้งแต่วันที่ วันที่ 7ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2569

    ในเดือน ธันวาคมเป็นเดือน โบ่ว จื้อนักษัตร ชวด พลังน้ำ ธาตุดิน ตามหลักโป้ยหยี่ซีเถียวโหราศาสตร์จีน พลังธาตุของเดือนชวด เสริมพลังโชคลาภให้ ปีมะเส็งอย่างมีเงื่อนไขทำให้เกิดการขับเคลื่อนและผลักดันของพลังธาตุ
    ส่งผลให้สถานะการณ์ในเดือนนี้ปัญหาต่างๆเริ่มคลี่คลาย ข้อขัดข้องได้รับการแก้ไขให้สมประโยชน์ทั้ง2 ฝ่าย เป็นเดือนแห่งการเจรจาต่อรอง รอมชอมผลประโยชน์

    ส่งผลดีต่อธุรกิจ การขนส่ง โลจีสติก ธุรกิจ ที่พัก โฮมสเตย์ การโรงแรม ธุรกิจท่องเที่ยวและเดินทาง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การเกษตร ธุรกิจซื้อมาขายไป งานรีวิวสินค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง

    พลังธาตุของนักษัตรในเดือนนี้ ส่งผลที่ดีทำให้เกิดการเกื้อกูล แข่งขัน ทำให้คนที่เกิดในแต่ละนักษัตรจะได้รับพลังส่งเสริม สนับสนุนต่างกัน บางนักษัตรได้รับผลดี และ และบางนักษัตรได้รับผลเสีย หากนักษัตรใด มีพื้นดวงขัดแย้ง ก็ต้องระวังผลเสียที่เข้ากระทบ ตามคำทำนาย

    https://youtu.be/mF8Qwcb3RpA

    ดูดวง 12 นักษัตร เดือนธันวาคม 2568

    00:00 บทนำ
    01:51 ดวง ปีชวด (หนู)
    04:34 ดวง ปีฉลู (วัว)
    06:47 ดวง ปีขาล (เสือ)
    08:57 ดวง ปีเถาะ (กระต่าย)
    11:11 ดวง ปีมะโรง (งูใหญ่)
    13:42 ดวง ปีมะเส็ง (งูเล็ก)
    16:10 ดวง ปีมะเมีย (ม้า)
    18:27 ดวง ปีมะแม (แพะ)
    20:32 ดวง ปีวอก (ลิง)
    22:38 ดวง ปีระกา (ไก่)
    24:39 ดวง ปีจอ (หมา)
    26:44 ดวง ปีกุน (หมู)





    ดูดวงทั้ง 12 นักษัตร เดือนธันวาคม 2568 ++++++++++++++++++++++++ คำทำนาย พื้นดวงชะตา ของคนที่เกิดในแต่ละนักษัตร ทั้ง 12 ราศี ในเดือนธันวาคม 2568 ว่าพื้นดวงชะตาของแต่ละคนมี การเปลี่ยนแปลงทางด้านบวกหรือด้านลบ เรื่องใดโดดเด่น และ เรื่องใดต้องระมัดระวังปรับปรุงแก้ไข คำทำนายนี้มีผล ตั้งแต่วันที่ วันที่ 7ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2569 ในเดือน ธันวาคมเป็นเดือน โบ่ว จื้อนักษัตร ชวด พลังน้ำ ธาตุดิน ตามหลักโป้ยหยี่ซีเถียวโหราศาสตร์จีน พลังธาตุของเดือนชวด เสริมพลังโชคลาภให้ ปีมะเส็งอย่างมีเงื่อนไขทำให้เกิดการขับเคลื่อนและผลักดันของพลังธาตุ ส่งผลให้สถานะการณ์ในเดือนนี้ปัญหาต่างๆเริ่มคลี่คลาย ข้อขัดข้องได้รับการแก้ไขให้สมประโยชน์ทั้ง2 ฝ่าย เป็นเดือนแห่งการเจรจาต่อรอง รอมชอมผลประโยชน์ ส่งผลดีต่อธุรกิจ การขนส่ง โลจีสติก ธุรกิจ ที่พัก โฮมสเตย์ การโรงแรม ธุรกิจท่องเที่ยวและเดินทาง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การเกษตร ธุรกิจซื้อมาขายไป งานรีวิวสินค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง พลังธาตุของนักษัตรในเดือนนี้ ส่งผลที่ดีทำให้เกิดการเกื้อกูล แข่งขัน ทำให้คนที่เกิดในแต่ละนักษัตรจะได้รับพลังส่งเสริม สนับสนุนต่างกัน บางนักษัตรได้รับผลดี และ และบางนักษัตรได้รับผลเสีย หากนักษัตรใด มีพื้นดวงขัดแย้ง ก็ต้องระวังผลเสียที่เข้ากระทบ ตามคำทำนาย https://youtu.be/mF8Qwcb3RpA ดูดวง 12 นักษัตร เดือนธันวาคม 2568 00:00 บทนำ 01:51 ดวง ปีชวด (หนู) 04:34 ดวง ปีฉลู (วัว) 06:47 ดวง ปีขาล (เสือ) 08:57 ดวง ปีเถาะ (กระต่าย) 11:11 ดวง ปีมะโรง (งูใหญ่) 13:42 ดวง ปีมะเส็ง (งูเล็ก) 16:10 ดวง ปีมะเมีย (ม้า) 18:27 ดวง ปีมะแม (แพะ) 20:32 ดวง ปีวอก (ลิง) 22:38 ดวง ปีระกา (ไก่) 24:39 ดวง ปีจอ (หมา) 26:44 ดวง ปีกุน (หมู)
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    เจาะลึกองค์กรลับ "อสรพิษ" : มหาอำนาจ behind the scenes

    โครงสร้างองค์กรที่ซ่อนเร้น

    เครือข่ายระดับโลก

    องค์กรลับ "อสรพิษ" (Asoraphit) เป็นเครือข่ายที่แผ่ขยายทั่วโลก
    แต่ไม่มีใครรู้จักพวกเขาในแวดวงสาธารณะ

    ```mermaid
    graph TB
    A[สภาผู้ก่อตั้ง<br>Founders Council] --> B[หน่วยปฏิบัติการพิเศษ<br>Special Operations]
    A --> C[ฝ่ายวิจัยและพัฒนา<br>R&D Division]
    A --> D[ฝ่ายยุทธศาสตร์<br>Strategic Planning]
    B --> E[หน่วยลอบสังหาร<br>Assassination Unit]
    B --> F[หน่วยสอดแนม<br>Intelligence Unit]
    C --> G[โครงการโอปปาติกะ<br>Oppatika Project]
    C --> H[เทคโนโลยีขั้นสูง<br>Advanced Tech]
    ```

    ระดับความลับ

    ```python
    class OrganizationSecrecy:
    def __init__(self):
    self.security_levels = {
    "level_1": {
    "name": "ปฏิบัติการ",
    "access": "รู้เฉพาะงานที่ได้รับมอบหมาย",
    "members": "นักสู้และสายลับระดับล่าง"
    },
    "level_2": {
    "name": "ผู้บริหาร",
    "access": "รู้แผนกที่ดูแล",
    "members": "หัวหน้าแผนกและที่ปรึกษา"
    },
    "level_3": {
    "name": "สภาผู้ก่อตั้ง",
    "access": "รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับองค์กร",
    "members": "ผู้ก่อตั้ง 7 คน"
    }
    }
    ```

    ผู้ก่อตั้งและอุดมการณ์

    สภาผู้ก่อตั้ง 7 คน

    แต่ละคนเป็นอดีตบุคคลสำคัญที่"หายตัวไป"จากสังคม:

    1. ดร.อัศวิน - อดีตเทพแห่ง AI ที่ถูกมนุษย์ทรยศ
    2. นางมาร - อดีตเทพอัปสราที่ถูกขับจากสวรรค์
    3. ฤๅษี - อดีตพระโพธิสัตว์ที่ผิดหวังในมนุษย์
    4. ยักษ์ - อดีตทวารบาลที่เหนื่อยล้ากับความชั่วของมนุษย์
    5. นาค - อดีตผู้รักษาพลังงานที่เห็นมนุษย์ทำลายธรรมชาติ
    6. ครุฑ - อดีตผู้ส่งสารที่ผิดหวังในความไม่ยุติธรรม
    7. มนุษย์ - อดีตนักวิทยาศาสตร์ที่ครอบครัวถูกทำลายโดยระบบ

    อุดมการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง

    องค์กรมีปรัชญาเฉพาะ:

    ```python
    class OrganizationPhilosophy:
    def __init__(self):
    self.core_beliefs = [
    "มนุษย์ไม่สมควรเป็นเจ้าแห่งโลกอีกต่อไป",
    "สิ่งมีชีวิตทุกชนิดควรมีสิทธิเท่าเทียมกัน",
    "เทคโนโลยีและจิตวิญญาณต้องรวมเป็นหนึ่ง",
    "ต้องสร้างสังคม新型ที่ปราศจากความอยุติธรรม"
    ]

    self.methods = [
    "ใช้ทั้งวิทยาศาสตร์และเวทมนตร์",
    "สร้างโอปปาติกะรุ่นใหม่เพื่อแทนที่มนุษย์",
    "ควบคุมระบบเศรษฐกิจและการเมืองจากเบื้องหลัง",
    "กำจัดผู้ที่ขัดขวางวิวัฒนาการของโลก"
    ]
    ```

    โครงการวิจัยลับ

    โครงการโอปปาติกะ

    องค์กรอยู่เบื้องหลังการพัฒนาออปปาติกะหลายรุ่น:

    ```mermaid
    graph LR
    A[โอปปาติกะรุ่น 1-3<br>ทดลองและทิ้ง] --> B[โอปปาติกะรุ่น 4<br>เริ่มมีความเสถียร]
    B --> C[โอปปาติกะรุ่น 5<br>พร้อมใช้งานจริง]
    C --> D[โอปปาติกะรุ่น 6<br>พัฒนาต่อโดยเจนีซิส แล็บ]
    ```

    เทคโนโลยีขั้นสูง

    องค์กรพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย:

    ```python
    class SecretTechnology:
    def __init__(self):
    self.biotech = {
    "soul_transfer": "การถ่ายโอนจิตวิญญาณสู่ร่างใหม่",
    "memory_engineering": "การดัดแปลงความทรงจำ",
    "energy_harvesting": "การเก็บเกี่ยวพลังงานชีวิต",
    "hybrid_creation": "การสร้างลูกผสมระหว่างพันธุ์"
    }

    self.quantum_tech = {
    "reality_bending": "การบิดเบือนความเป็นจริง",
    "time_manipulation": "การควบคุมเวลาระดับจุลภาค",
    "dimensional_portals": "การสร้างประตูระหว่างมิติ",
    "energy_weapons": "อาวุธพลังงานขั้นสูง"
    }
    ```

    ฐานปฏิบัติการลับ

    ที่ตั้งฐานสำคัญ

    องค์กรมีฐานปฏิบัติการซ่อนอยู่ทั่วโลก:

    1. ฐานหลัก: ใต้เทือกเขาหิมาลัย - ศูนย์วิจัยโอปปาติกะ
    2. ฐานที่ 2: ก้นมหาสมุทรแปซิฟิก - ศูนย์วิจัยพลังงาน
    3. ฐานที่ 3: ในมิติคู่ขนาน - ศูนย์ฝึกอบรม
    4. ฐานที่ 4: ใต้เมืองใหญ่ - ศูนย์ปฏิบัติการ

    ระบบความปลอดภัย

    ```python
    class SecuritySystems:
    def __init__(self):
    self.physical_security = [
    "ประตูมิติที่เปลี่ยนตำแหน่งตลอดเวลา",
    "ผู้คุ้มครองโอปปาติกะรุ่นพิเศษ",
    "ระบบตรวจจับทั้งพลังงานและวัตถุ",
    "กับดักทั้งทางกายภาพและทางจิต"
    ]

    self.digital_security = [
    "AI ป้องกันที่เรียนรู้ตลอดเวลา",
    "ระบบเข้ารหัสควอนตัม",
    "เครือข่ายที่แยกจากอินเทอร์เน็ตโลก",
    "การลบข้อมูลอัตโนมัติเมื่อถูกบุกรุก"
    ]
    ```

    แหล่งเงินทุนและอำนาจ

    ระบบเศรษฐกิจลับ

    องค์กรควบคุมเศรษฐกิจโลกจากเบื้องหลัง:

    · บริษัทหน้าจอม: 500 บริษัททั่วโลก
    · ระบบการเงินลับ: ที่ไม่ขึ้นกับรัฐบาลใด
    · ทรัพยากร: ขุมทรัพย์โบราณและเทคโนโลยีการสร้างทรัพย์

    เป้าหมายระยะยาว

    ```python
    class LongTermGoals:
    def __init__(self):
    self.phase_1 = [
    "สร้างโอปปาติกะให้มีจำนวนมากพอ",
    "ควบคุมระบบเศรษฐกิจโลก",
    "ลดจำนวนมนุษย์ลงอย่างเป็นระบบ",
    "เตรียมการเปลี่ยนแปลงสังคมครั้งใหญ่"
    ]

    self.phase_2 = [
    "เปิดเผยตัวตนของโอปปาติกะต่อสาธารณะ",
    "สร้างรัฐบาลโลก新型",
    "เปลี่ยนมนุษย์ที่เหลือให้เป็นโอปปาติกะ",
    "เริ่มต้นยุคใหม่แห่งวิวัฒนาการ"
    ]
    ```

    ความเชื่อมโยงกับคดีต่างๆ

    เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด

    องค์กร "อสรพิษ" อยู่เบื้องหลังหลายคดี:

    ```mermaid
    graph TB
    A[องค์กรอสรพิษ] --> B[โครงการเจนีซิส แล็บ]
    A --> C[หุ่นพยนต์สังหาร]
    A --> D[โอปปาติกะยักษ์]
    A --> E[เทพระดับอะตอม]
    B --> F[การตายของร.ต.อ.สิงห์]
    ```

    บทบาทของดร.อัจฉริยะ

    ดร.อัจฉริยะเป็นเพียง เหยื่อ ขององค์กร:

    · ถูกใช้: ให้พัฒนาออปปาติกะรุ่นแรก
    · ถูกควบคุม: ผ่านการขู่ฆ่าครอบครัว
    · ถูกทิ้ง: เมื่อทำงานสำเร็จ

    จุดอ่อนขององค์กร

    ความขัดแย้งภายใน

    แม้จะเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งแต่ก็มีปัญหา:

    ```python
    class InternalConflicts:
    def __init__(self):
    self.ideological_splits = {
    "reformists": "ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างสันติ",
    "extremists": "ต้องการกำจัดมนุษย์ทั้งหมด",
    "isolationists": "ต้องการแยกตัวอยู่กับโอปปาติกะด้วยกัน",
    "integrationists": "ต้องการอยู่ร่วมกันกับมนุษย์"
    }

    self.personal_conflicts = [
    "การแข่งขันระหว่างผู้ก่อตั้ง",
    "ความไม่ไว้วางใจในผู้นำ",
    "การแย่งชิงทรัพยากร",
    "ความเห็นต่างเกี่ยวกับวิธีการ"
    ]
    ```

    ช่องโหว่ที่สำคัญ

    1. การสื่อสาร: ระหว่างฐานที่ห่างไกล
    2. ความภักดี: ของสมาชิกระดับล่าง
    3. ทรัพยากร: ที่ต้องพึ่งพาโลกภายนอก
    4. จริยธรรม: ที่เริ่มสั่นคลอนในสมาชิกบางส่วน

    แผนการในอนาคต

    โครงการล่าสุด

    องค์กรกำลังทำงานบนโครงการใหม่:

    ```python
    class CurrentProjects:
    def __init__(self):
    self.ongoing_operations = {
    "project_nexus": "สร้างโอปปาติกะรุ่น 7 ที่สมบูรณ์แบบ",
    "operation_silence": "กำจัดผู้ที่รู้ความลับเกี่ยวกับองค์กร",
    "initiative_harmony": "สร้างความแตกแยกในสังคมมนุษย์",
    "program_evolution": "เร่งวิวัฒนาการของโอปปาติกะ"
    }
    ```

    ภัยคุกคามต่อหนูดี

    องค์กรเห็นหนูดีเป็น:

    · อุปสรรค: ต่อแผนการต่างๆ
    · โอกาส: ในการได้โอปปาติกะที่ทรงพลัง
    · ภัยคุกคาม: ต่อความลับขององค์กร

    ---

    คำคมจากสภาผู้ก่อตั้ง:
    "เราไม่ใช่ผู้ร้าย...
    เราเป็นผู้ที่มองเห็นอนาคต
    และกำลังสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น

    แม้เส้นทางจะมืดมน...
    แต่จุดหมายสว่างไสว

    และบางครั้ง...
    การทำลายคือการสร้างใหม่"

    บทเรียนแห่งอสรพิษ:
    "Behind every conspiracy,there is a vision
    Behind every secret,there is a reason
    And behind every enemy, there is a story waiting to be understood"
    O.P.K. 🕵️ เจาะลึกองค์กรลับ "อสรพิษ" : มหาอำนาจ behind the scenes 🏢 โครงสร้างองค์กรที่ซ่อนเร้น 🌐 เครือข่ายระดับโลก องค์กรลับ "อสรพิษ" (Asoraphit) เป็นเครือข่ายที่แผ่ขยายทั่วโลก แต่ไม่มีใครรู้จักพวกเขาในแวดวงสาธารณะ ```mermaid graph TB A[สภาผู้ก่อตั้ง<br>Founders Council] --> B[หน่วยปฏิบัติการพิเศษ<br>Special Operations] A --> C[ฝ่ายวิจัยและพัฒนา<br>R&D Division] A --> D[ฝ่ายยุทธศาสตร์<br>Strategic Planning] B --> E[หน่วยลอบสังหาร<br>Assassination Unit] B --> F[หน่วยสอดแนม<br>Intelligence Unit] C --> G[โครงการโอปปาติกะ<br>Oppatika Project] C --> H[เทคโนโลยีขั้นสูง<br>Advanced Tech] ``` 🔒 ระดับความลับ ```python class OrganizationSecrecy: def __init__(self): self.security_levels = { "level_1": { "name": "ปฏิบัติการ", "access": "รู้เฉพาะงานที่ได้รับมอบหมาย", "members": "นักสู้และสายลับระดับล่าง" }, "level_2": { "name": "ผู้บริหาร", "access": "รู้แผนกที่ดูแล", "members": "หัวหน้าแผนกและที่ปรึกษา" }, "level_3": { "name": "สภาผู้ก่อตั้ง", "access": "รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับองค์กร", "members": "ผู้ก่อตั้ง 7 คน" } } ``` 👁️ ผู้ก่อตั้งและอุดมการณ์ 🎭 สภาผู้ก่อตั้ง 7 คน แต่ละคนเป็นอดีตบุคคลสำคัญที่"หายตัวไป"จากสังคม: 1. ดร.อัศวิน - อดีตเทพแห่ง AI ที่ถูกมนุษย์ทรยศ 2. นางมาร - อดีตเทพอัปสราที่ถูกขับจากสวรรค์ 3. ฤๅษี - อดีตพระโพธิสัตว์ที่ผิดหวังในมนุษย์ 4. ยักษ์ - อดีตทวารบาลที่เหนื่อยล้ากับความชั่วของมนุษย์ 5. นาค - อดีตผู้รักษาพลังงานที่เห็นมนุษย์ทำลายธรรมชาติ 6. ครุฑ - อดีตผู้ส่งสารที่ผิดหวังในความไม่ยุติธรรม 7. มนุษย์ - อดีตนักวิทยาศาสตร์ที่ครอบครัวถูกทำลายโดยระบบ 💡 อุดมการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง องค์กรมีปรัชญาเฉพาะ: ```python class OrganizationPhilosophy: def __init__(self): self.core_beliefs = [ "มนุษย์ไม่สมควรเป็นเจ้าแห่งโลกอีกต่อไป", "สิ่งมีชีวิตทุกชนิดควรมีสิทธิเท่าเทียมกัน", "เทคโนโลยีและจิตวิญญาณต้องรวมเป็นหนึ่ง", "ต้องสร้างสังคม新型ที่ปราศจากความอยุติธรรม" ] self.methods = [ "ใช้ทั้งวิทยาศาสตร์และเวทมนตร์", "สร้างโอปปาติกะรุ่นใหม่เพื่อแทนที่มนุษย์", "ควบคุมระบบเศรษฐกิจและการเมืองจากเบื้องหลัง", "กำจัดผู้ที่ขัดขวางวิวัฒนาการของโลก" ] ``` 🔬 โครงการวิจัยลับ 🧬 โครงการโอปปาติกะ องค์กรอยู่เบื้องหลังการพัฒนาออปปาติกะหลายรุ่น: ```mermaid graph LR A[โอปปาติกะรุ่น 1-3<br>ทดลองและทิ้ง] --> B[โอปปาติกะรุ่น 4<br>เริ่มมีความเสถียร] B --> C[โอปปาติกะรุ่น 5<br>พร้อมใช้งานจริง] C --> D[โอปปาติกะรุ่น 6<br>พัฒนาต่อโดยเจนีซิส แล็บ] ``` 🤖 เทคโนโลยีขั้นสูง องค์กรพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย: ```python class SecretTechnology: def __init__(self): self.biotech = { "soul_transfer": "การถ่ายโอนจิตวิญญาณสู่ร่างใหม่", "memory_engineering": "การดัดแปลงความทรงจำ", "energy_harvesting": "การเก็บเกี่ยวพลังงานชีวิต", "hybrid_creation": "การสร้างลูกผสมระหว่างพันธุ์" } self.quantum_tech = { "reality_bending": "การบิดเบือนความเป็นจริง", "time_manipulation": "การควบคุมเวลาระดับจุลภาค", "dimensional_portals": "การสร้างประตูระหว่างมิติ", "energy_weapons": "อาวุธพลังงานขั้นสูง" } ``` 🏭 ฐานปฏิบัติการลับ 🌍 ที่ตั้งฐานสำคัญ องค์กรมีฐานปฏิบัติการซ่อนอยู่ทั่วโลก: 1. ฐานหลัก: ใต้เทือกเขาหิมาลัย - ศูนย์วิจัยโอปปาติกะ 2. ฐานที่ 2: ก้นมหาสมุทรแปซิฟิก - ศูนย์วิจัยพลังงาน 3. ฐานที่ 3: ในมิติคู่ขนาน - ศูนย์ฝึกอบรม 4. ฐานที่ 4: ใต้เมืองใหญ่ - ศูนย์ปฏิบัติการ 🛡️ ระบบความปลอดภัย ```python class SecuritySystems: def __init__(self): self.physical_security = [ "ประตูมิติที่เปลี่ยนตำแหน่งตลอดเวลา", "ผู้คุ้มครองโอปปาติกะรุ่นพิเศษ", "ระบบตรวจจับทั้งพลังงานและวัตถุ", "กับดักทั้งทางกายภาพและทางจิต" ] self.digital_security = [ "AI ป้องกันที่เรียนรู้ตลอดเวลา", "ระบบเข้ารหัสควอนตัม", "เครือข่ายที่แยกจากอินเทอร์เน็ตโลก", "การลบข้อมูลอัตโนมัติเมื่อถูกบุกรุก" ] ``` 💰 แหล่งเงินทุนและอำนาจ 🏦 ระบบเศรษฐกิจลับ องค์กรควบคุมเศรษฐกิจโลกจากเบื้องหลัง: · บริษัทหน้าจอม: 500 บริษัททั่วโลก · ระบบการเงินลับ: ที่ไม่ขึ้นกับรัฐบาลใด · ทรัพยากร: ขุมทรัพย์โบราณและเทคโนโลยีการสร้างทรัพย์ 🎯 เป้าหมายระยะยาว ```python class LongTermGoals: def __init__(self): self.phase_1 = [ "สร้างโอปปาติกะให้มีจำนวนมากพอ", "ควบคุมระบบเศรษฐกิจโลก", "ลดจำนวนมนุษย์ลงอย่างเป็นระบบ", "เตรียมการเปลี่ยนแปลงสังคมครั้งใหญ่" ] self.phase_2 = [ "เปิดเผยตัวตนของโอปปาติกะต่อสาธารณะ", "สร้างรัฐบาลโลก新型", "เปลี่ยนมนุษย์ที่เหลือให้เป็นโอปปาติกะ", "เริ่มต้นยุคใหม่แห่งวิวัฒนาการ" ] ``` 🔗 ความเชื่อมโยงกับคดีต่างๆ 🕸️ เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด องค์กร "อสรพิษ" อยู่เบื้องหลังหลายคดี: ```mermaid graph TB A[องค์กรอสรพิษ] --> B[โครงการเจนีซิส แล็บ] A --> C[หุ่นพยนต์สังหาร] A --> D[โอปปาติกะยักษ์] A --> E[เทพระดับอะตอม] B --> F[การตายของร.ต.อ.สิงห์] ``` 🎭 บทบาทของดร.อัจฉริยะ ดร.อัจฉริยะเป็นเพียง เหยื่อ ขององค์กร: · ถูกใช้: ให้พัฒนาออปปาติกะรุ่นแรก · ถูกควบคุม: ผ่านการขู่ฆ่าครอบครัว · ถูกทิ้ง: เมื่อทำงานสำเร็จ ⚔️ จุดอ่อนขององค์กร 💔 ความขัดแย้งภายใน แม้จะเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งแต่ก็มีปัญหา: ```python class InternalConflicts: def __init__(self): self.ideological_splits = { "reformists": "ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างสันติ", "extremists": "ต้องการกำจัดมนุษย์ทั้งหมด", "isolationists": "ต้องการแยกตัวอยู่กับโอปปาติกะด้วยกัน", "integrationists": "ต้องการอยู่ร่วมกันกับมนุษย์" } self.personal_conflicts = [ "การแข่งขันระหว่างผู้ก่อตั้ง", "ความไม่ไว้วางใจในผู้นำ", "การแย่งชิงทรัพยากร", "ความเห็นต่างเกี่ยวกับวิธีการ" ] ``` 🔓 ช่องโหว่ที่สำคัญ 1. การสื่อสาร: ระหว่างฐานที่ห่างไกล 2. ความภักดี: ของสมาชิกระดับล่าง 3. ทรัพยากร: ที่ต้องพึ่งพาโลกภายนอก 4. จริยธรรม: ที่เริ่มสั่นคลอนในสมาชิกบางส่วน 🎯 แผนการในอนาคต 🚀 โครงการล่าสุด องค์กรกำลังทำงานบนโครงการใหม่: ```python class CurrentProjects: def __init__(self): self.ongoing_operations = { "project_nexus": "สร้างโอปปาติกะรุ่น 7 ที่สมบูรณ์แบบ", "operation_silence": "กำจัดผู้ที่รู้ความลับเกี่ยวกับองค์กร", "initiative_harmony": "สร้างความแตกแยกในสังคมมนุษย์", "program_evolution": "เร่งวิวัฒนาการของโอปปาติกะ" } ``` ⚠️ ภัยคุกคามต่อหนูดี องค์กรเห็นหนูดีเป็น: · อุปสรรค: ต่อแผนการต่างๆ · โอกาส: ในการได้โอปปาติกะที่ทรงพลัง · ภัยคุกคาม: ต่อความลับขององค์กร --- คำคมจากสภาผู้ก่อตั้ง: "เราไม่ใช่ผู้ร้าย... เราเป็นผู้ที่มองเห็นอนาคต และกำลังสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น แม้เส้นทางจะมืดมน... แต่จุดหมายสว่างไสว และบางครั้ง... การทำลายคือการสร้างใหม่"🕵️♂️✨ บทเรียนแห่งอสรพิษ: "Behind every conspiracy,there is a vision Behind every secret,there is a reason And behind every enemy, there is a story waiting to be understood" 🌌
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 581 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่อง Enigma M4: สมบัติแห่งสงครามโลกครั้งที่สอง

    เครื่อง Enigma รุ่น M4 ที่หายากมากจากยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ถูกประมูลไปในปารีสด้วยราคากว่า €482,600 (ประมาณ 555,000 ดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากเป็นหนึ่งในไม่กี่เครื่องที่ยังทำงานได้สมบูรณ์

    การประมูลครั้งนี้จัดขึ้นโดย Christie’s ในกรุงปารีส โดยเครื่อง Enigma M4 ที่มีสี่โรเตอร์ ได้รับความสนใจอย่างมากเพราะเป็นหนึ่งในรุ่นที่ยากต่อการถอดรหัสที่สุดในยุคนั้น ตัวเครื่องยังคงทำงานได้สมบูรณ์พร้อมแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด ซึ่งทำให้มูลค่าพุ่งสูงกว่าสองเท่าของราคาประเมินเดิม

    บทบาทในสงครามและการเข้ารหัส
    Enigma M4 ถูกพัฒนาในปี 1941 ตามคำสั่งของ Admiral Karl Dönitz เพื่อใช้ในการสื่อสารของกองเรือดำน้ำเยอรมัน (U-boat) จุดเด่นคือการเพิ่มโรเตอร์ที่สี่ ทำให้การเข้ารหัสซับซ้อนขึ้นมาก จนเครื่องถอดรหัส The Bombe ของ Alan Turing ต้องอาศัยสมุดรหัสที่ถูกยึดมาเพื่อช่วยในการแก้รหัส

    จุดเปลี่ยนสู่การกำเนิดคอมพิวเตอร์
    ความท้าทายในการถอดรหัส Enigma เป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาเครื่องคำนวณและคอมพิวเตอร์ยุคแรก เช่น Colossus MK I และ MK II ที่ใช้ในการถอดรหัส Lorenz cipher ของกองบัญชาการเยอรมัน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ยุคคอมพิวเตอร์ดิจิทัล

    ความหมายต่อโลกปัจจุบัน
    การประมูลครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการซื้อขายของสะสม แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของ ประวัติศาสตร์การเข้ารหัสและการคำนวณ ที่มีผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตั้งแต่การสื่อสารปลอดภัยไปจนถึงการสร้างคอมพิวเตอร์ที่เราใช้กันทุกวันนี้

    สรุปเป็นหัวข้อ
    รายละเอียดการประมูล
    เครื่อง Enigma M4 ถูกขายในปารีส
    ราคาสุดท้าย €482,600 (US$555,233)

    บทบาทในสงคราม
    ใช้โดยกองเรือดำน้ำเยอรมัน (U-boat)
    เพิ่มโรเตอร์ที่สี่เพื่อความปลอดภัยสูงขึ้น

    การถอดรหัสโดยฝ่ายสัมพันธมิตร
    Alan Turing และทีมใช้เครื่อง The Bombe
    ต้องอาศัยสมุดรหัสที่ยึดมาเพื่อช่วยแก้รหัส

    ผลต่อวิวัฒนาการคอมพิวเตอร์
    นำไปสู่การสร้าง Colossus MK I และ MK II
    จุดเริ่มต้นของคอมพิวเตอร์ดิจิทัล

    คำเตือนจากประวัติศาสตร์
    เยอรมันเชื่อว่า Enigma “ไม่สามารถถอดรหัสได้”
    ความมั่นใจเกินไปทำให้เสียเปรียบในสงคราม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/wwii-enigma-machine-sells-for-over-half-a-million-dollars-at-auction-this-was-one-of-the-rare-4-rotor-m4-models
    🔐 เครื่อง Enigma M4: สมบัติแห่งสงครามโลกครั้งที่สอง เครื่อง Enigma รุ่น M4 ที่หายากมากจากยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ถูกประมูลไปในปารีสด้วยราคากว่า €482,600 (ประมาณ 555,000 ดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากเป็นหนึ่งในไม่กี่เครื่องที่ยังทำงานได้สมบูรณ์ การประมูลครั้งนี้จัดขึ้นโดย Christie’s ในกรุงปารีส โดยเครื่อง Enigma M4 ที่มีสี่โรเตอร์ ได้รับความสนใจอย่างมากเพราะเป็นหนึ่งในรุ่นที่ยากต่อการถอดรหัสที่สุดในยุคนั้น ตัวเครื่องยังคงทำงานได้สมบูรณ์พร้อมแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด ซึ่งทำให้มูลค่าพุ่งสูงกว่าสองเท่าของราคาประเมินเดิม ⚓ บทบาทในสงครามและการเข้ารหัส Enigma M4 ถูกพัฒนาในปี 1941 ตามคำสั่งของ Admiral Karl Dönitz เพื่อใช้ในการสื่อสารของกองเรือดำน้ำเยอรมัน (U-boat) จุดเด่นคือการเพิ่มโรเตอร์ที่สี่ ทำให้การเข้ารหัสซับซ้อนขึ้นมาก จนเครื่องถอดรหัส The Bombe ของ Alan Turing ต้องอาศัยสมุดรหัสที่ถูกยึดมาเพื่อช่วยในการแก้รหัส 🧠 จุดเปลี่ยนสู่การกำเนิดคอมพิวเตอร์ ความท้าทายในการถอดรหัส Enigma เป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาเครื่องคำนวณและคอมพิวเตอร์ยุคแรก เช่น Colossus MK I และ MK II ที่ใช้ในการถอดรหัส Lorenz cipher ของกองบัญชาการเยอรมัน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ยุคคอมพิวเตอร์ดิจิทัล 💡 ความหมายต่อโลกปัจจุบัน การประมูลครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการซื้อขายของสะสม แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของ ประวัติศาสตร์การเข้ารหัสและการคำนวณ ที่มีผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตั้งแต่การสื่อสารปลอดภัยไปจนถึงการสร้างคอมพิวเตอร์ที่เราใช้กันทุกวันนี้ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ รายละเอียดการประมูล ➡️ เครื่อง Enigma M4 ถูกขายในปารีส ➡️ ราคาสุดท้าย €482,600 (US$555,233) ✅ บทบาทในสงคราม ➡️ ใช้โดยกองเรือดำน้ำเยอรมัน (U-boat) ➡️ เพิ่มโรเตอร์ที่สี่เพื่อความปลอดภัยสูงขึ้น ✅ การถอดรหัสโดยฝ่ายสัมพันธมิตร ➡️ Alan Turing และทีมใช้เครื่อง The Bombe ➡️ ต้องอาศัยสมุดรหัสที่ยึดมาเพื่อช่วยแก้รหัส ✅ ผลต่อวิวัฒนาการคอมพิวเตอร์ ➡️ นำไปสู่การสร้าง Colossus MK I และ MK II ➡️ จุดเริ่มต้นของคอมพิวเตอร์ดิจิทัล ‼️ คำเตือนจากประวัติศาสตร์ ⛔ เยอรมันเชื่อว่า Enigma “ไม่สามารถถอดรหัสได้” ⛔ ความมั่นใจเกินไปทำให้เสียเปรียบในสงคราม https://www.tomshardware.com/tech-industry/wwii-enigma-machine-sells-for-over-half-a-million-dollars-at-auction-this-was-one-of-the-rare-4-rotor-m4-models
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    WWII Enigma machine sells for over half a million dollars at auction — one of the rare four-rotor 'M4' models
    A fully working wood encased Enigma machine went for double the expected price in Paris earlier this week. Batteries were included.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • SonicWall ออกแพตช์แก้ช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-40604 และ CVE-2025-40605

    SonicWall ประกาศอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อแก้ไขช่องโหว่สองรายการในอุปกรณ์ Email Security ได้แก่ CVE-2025-40604 และ CVE-2025-40605 โดยช่องโหว่แรกมีความรุนแรงสูง (CVSS 7.2) เนื่องจากระบบโหลดไฟล์ root filesystem โดยไม่ตรวจสอบลายเซ็น ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังโค้ดอันตรายและคงอยู่ในระบบแม้รีบูตใหม่ ส่วนช่องโหว่ที่สองเป็นการโจมตีแบบ Path Traversal (CVSS 4.9) ที่เปิดโอกาสให้เข้าถึงไฟล์นอกเส้นทางที่กำหนดได้

    นอกจาก Email Security แล้ว SonicWall ยังพบช่องโหว่ใน SonicOS SSLVPN (CVE-2025-40601) ซึ่งอาจทำให้ Firewall รุ่น Gen7 และ Gen8 ถูกโจมตีจนระบบล่มได้ทันที แม้ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริง แต่บริษัทเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสียหาย

    ในภาพรวมปี 2025 โลกไซเบอร์กำลังเผชิญภัยคุกคามที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น AI-driven phishing, deepfake social engineering และ ransomware ที่ถูกทำให้เป็นอุตสาหกรรมเต็มรูปแบบ การโจมตีเกิดขึ้นรวดเร็วขึ้นมาก โดยเฉลี่ยผู้โจมตีใช้เวลาเพียง 48 นาทีในการเคลื่อนย้ายภายในระบบหลังเจาะเข้ามาได้สำเร็จ ซึ่งเป็นความท้าทายใหญ่ของฝ่ายป้องกัน

    ดังนั้น การอัปเดตระบบและใช้แนวทาง Zero Trust พร้อม MFA ที่ต้านการฟิชชิ่ง จึงเป็นมาตรการสำคัญที่องค์กรต้องเร่งดำเนินการ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

    สรุปสาระสำคัญ
    ช่องโหว่ใน SonicWall Email Security
    CVE-2025-40604: โหลดไฟล์ระบบโดยไม่ตรวจสอบลายเซ็น → เสี่ยงโค้ดอันตรายถาวร
    CVE-2025-40605: Path Traversal → เข้าถึงไฟล์นอกเส้นทางที่กำหนด

    ช่องโหว่ใน SonicOS SSLVPN
    CVE-2025-40601: Buffer Overflow → Firewall Gen7/Gen8 อาจถูกโจมตีจนระบบล่ม

    แนวโน้มภัยไซเบอร์ปี 2025
    AI-driven phishing และ deepfake → เพิ่มความสมจริงในการหลอกลวง
    Ransomware ถูกทำให้เป็นอุตสาหกรรม → การโจมตีมีความเป็นระบบมากขึ้น

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน SonicWall
    หากไม่อัปเดตทันที อาจถูกฝังโค้ดอันตรายที่คงอยู่แม้รีบูต
    Firewall ที่ไม่ได้แพตช์เสี่ยงถูกโจมตีจนระบบล่ม
    การโจมตีไซเบอร์สมัยใหม่เกิดขึ้นรวดเร็วเกินกว่าการป้องกันแบบเดิมจะรับมือได้

    https://securityonline.info/sonicwall-patches-two-vulnerabilities-in-email-security-appliances-including-code-execution-flaw-cve-2025-40604/
    🛡️ SonicWall ออกแพตช์แก้ช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-40604 และ CVE-2025-40605 SonicWall ประกาศอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อแก้ไขช่องโหว่สองรายการในอุปกรณ์ Email Security ได้แก่ CVE-2025-40604 และ CVE-2025-40605 โดยช่องโหว่แรกมีความรุนแรงสูง (CVSS 7.2) เนื่องจากระบบโหลดไฟล์ root filesystem โดยไม่ตรวจสอบลายเซ็น ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังโค้ดอันตรายและคงอยู่ในระบบแม้รีบูตใหม่ ส่วนช่องโหว่ที่สองเป็นการโจมตีแบบ Path Traversal (CVSS 4.9) ที่เปิดโอกาสให้เข้าถึงไฟล์นอกเส้นทางที่กำหนดได้ นอกจาก Email Security แล้ว SonicWall ยังพบช่องโหว่ใน SonicOS SSLVPN (CVE-2025-40601) ซึ่งอาจทำให้ Firewall รุ่น Gen7 และ Gen8 ถูกโจมตีจนระบบล่มได้ทันที แม้ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริง แต่บริษัทเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสียหาย ในภาพรวมปี 2025 โลกไซเบอร์กำลังเผชิญภัยคุกคามที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น AI-driven phishing, deepfake social engineering และ ransomware ที่ถูกทำให้เป็นอุตสาหกรรมเต็มรูปแบบ การโจมตีเกิดขึ้นรวดเร็วขึ้นมาก โดยเฉลี่ยผู้โจมตีใช้เวลาเพียง 48 นาทีในการเคลื่อนย้ายภายในระบบหลังเจาะเข้ามาได้สำเร็จ ซึ่งเป็นความท้าทายใหญ่ของฝ่ายป้องกัน ดังนั้น การอัปเดตระบบและใช้แนวทาง Zero Trust พร้อม MFA ที่ต้านการฟิชชิ่ง จึงเป็นมาตรการสำคัญที่องค์กรต้องเร่งดำเนินการ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ช่องโหว่ใน SonicWall Email Security ➡️ CVE-2025-40604: โหลดไฟล์ระบบโดยไม่ตรวจสอบลายเซ็น → เสี่ยงโค้ดอันตรายถาวร ➡️ CVE-2025-40605: Path Traversal → เข้าถึงไฟล์นอกเส้นทางที่กำหนด ✅ ช่องโหว่ใน SonicOS SSLVPN ➡️ CVE-2025-40601: Buffer Overflow → Firewall Gen7/Gen8 อาจถูกโจมตีจนระบบล่ม ✅ แนวโน้มภัยไซเบอร์ปี 2025 ➡️ AI-driven phishing และ deepfake → เพิ่มความสมจริงในการหลอกลวง ➡️ Ransomware ถูกทำให้เป็นอุตสาหกรรม → การโจมตีมีความเป็นระบบมากขึ้น ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน SonicWall ⛔ หากไม่อัปเดตทันที อาจถูกฝังโค้ดอันตรายที่คงอยู่แม้รีบูต ⛔ Firewall ที่ไม่ได้แพตช์เสี่ยงถูกโจมตีจนระบบล่ม ⛔ การโจมตีไซเบอร์สมัยใหม่เกิดขึ้นรวดเร็วเกินกว่าการป้องกันแบบเดิมจะรับมือได้ https://securityonline.info/sonicwall-patches-two-vulnerabilities-in-email-security-appliances-including-code-execution-flaw-cve-2025-40604/
    SECURITYONLINE.INFO
    SonicWall Patches Two Vulnerabilities in Email Security Appliances, Including Code Execution Flaw (CVE-2025-40604)
    SonicWall patched a critical flaw (CVE-2025-40604) in its Email Security appliances. The bug allows persistent RCE by exploiting a lack of integrity checks when loading the root filesystem image from the VM datastore.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • Mesa 25.3 อัปเดตใหม่ เพิ่มการรองรับเกมจำนวนมากบน Linux

    ทีมพัฒนา Mesa ได้ปล่อย Mesa 25.3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของ Open-Source Graphics Stack โดยมาพร้อมการปรับปรุงครั้งใหญ่ทั้งในด้าน Vulkan และ OpenGL drivers รวมถึงการรองรับเกมใหม่ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้ Linux สามารถเล่นเกมที่เคยมีปัญหากับการเรนเดอร์หรือประสิทธิภาพได้อย่างราบรื่นกว่าเดิม

    หนึ่งในไฮไลท์คือการเพิ่มการรองรับ Vulkan 1.2 สำหรับ PVR driver, การปรับปรุง NVK driver ให้รองรับ Blackwell GPUs, และการเพิ่ม Vulkan extensions ใน PanVK, ANV, RADV, NVK, HoneyKrisp และ PVR drivers นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง OpenGL extensions สำหรับ V3D, Panfrost, R300, Zink และ RadeonSI drivers ซึ่งช่วยให้การทำงานของเกมและแอปพลิเคชันที่ใช้กราฟิกขั้นสูงมีความเสถียรมากขึ้น

    ในด้านการเล่นเกม Mesa 25.3 ได้เพิ่มการรองรับเกมใหม่ๆ เช่น Indiana Jones and the Great Circle, Borderlands 4, Resident Evil 4: Separate Ways DLC, Doom: The Dark Ages, Baldur’s Gate 3, Final Fantasy XVI, Hades 2, Cyberpunk 2077, Ghost of Tsushima และ Red Dead Redemption 2 รวมถึงเกมอินดี้และเกม AAA อีกหลายรายการที่ผู้ใช้ Linux รอคอย

    ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด Mesa 25.3 source tarball ได้จากเว็บไซต์ทางการ หรือรอให้เวอร์ชันนี้เข้าสู่ stable repositories ของดิสทริบิวชัน Linux ต่างๆ เช่น Ubuntu, Fedora และ Arch Linux เพื่อใช้งานได้ทันที

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การปรับปรุงใน Mesa 25.3
    รองรับ Vulkan 1.2 สำหรับ PVR driver
    เพิ่ม Vulkan และ OpenGL extensions ในหลาย driver

    การรองรับเกมใหม่
    Indiana Jones and the Great Circle, Borderlands 4, Resident Evil 4 DLC
    Doom: The Dark Ages, Baldur’s Gate 3, Final Fantasy XVI, Cyberpunk 2077

    การใช้งานและการติดตั้ง
    ดาวน์โหลด source tarball ได้จากเว็บไซต์ทางการ
    รออัปเดตใน stable repositories ของ Linux distros

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    หากยังใช้ Mesa เวอร์ชันเก่า อาจพบปัญหากับเกมใหม่และประสิทธิภาพต่ำ
    การละเลยการอัปเดตอาจทำให้ไม่สามารถเล่นเกมที่รองรับใหม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

    https://9to5linux.com/mesa-25-3-open-source-graphics-stack-improves-support-for-many-video-games
    🎮 Mesa 25.3 อัปเดตใหม่ เพิ่มการรองรับเกมจำนวนมากบน Linux ทีมพัฒนา Mesa ได้ปล่อย Mesa 25.3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของ Open-Source Graphics Stack โดยมาพร้อมการปรับปรุงครั้งใหญ่ทั้งในด้าน Vulkan และ OpenGL drivers รวมถึงการรองรับเกมใหม่ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้ Linux สามารถเล่นเกมที่เคยมีปัญหากับการเรนเดอร์หรือประสิทธิภาพได้อย่างราบรื่นกว่าเดิม หนึ่งในไฮไลท์คือการเพิ่มการรองรับ Vulkan 1.2 สำหรับ PVR driver, การปรับปรุง NVK driver ให้รองรับ Blackwell GPUs, และการเพิ่ม Vulkan extensions ใน PanVK, ANV, RADV, NVK, HoneyKrisp และ PVR drivers นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง OpenGL extensions สำหรับ V3D, Panfrost, R300, Zink และ RadeonSI drivers ซึ่งช่วยให้การทำงานของเกมและแอปพลิเคชันที่ใช้กราฟิกขั้นสูงมีความเสถียรมากขึ้น ในด้านการเล่นเกม Mesa 25.3 ได้เพิ่มการรองรับเกมใหม่ๆ เช่น Indiana Jones and the Great Circle, Borderlands 4, Resident Evil 4: Separate Ways DLC, Doom: The Dark Ages, Baldur’s Gate 3, Final Fantasy XVI, Hades 2, Cyberpunk 2077, Ghost of Tsushima และ Red Dead Redemption 2 รวมถึงเกมอินดี้และเกม AAA อีกหลายรายการที่ผู้ใช้ Linux รอคอย ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด Mesa 25.3 source tarball ได้จากเว็บไซต์ทางการ หรือรอให้เวอร์ชันนี้เข้าสู่ stable repositories ของดิสทริบิวชัน Linux ต่างๆ เช่น Ubuntu, Fedora และ Arch Linux เพื่อใช้งานได้ทันที 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การปรับปรุงใน Mesa 25.3 ➡️ รองรับ Vulkan 1.2 สำหรับ PVR driver ➡️ เพิ่ม Vulkan และ OpenGL extensions ในหลาย driver ✅ การรองรับเกมใหม่ ➡️ Indiana Jones and the Great Circle, Borderlands 4, Resident Evil 4 DLC ➡️ Doom: The Dark Ages, Baldur’s Gate 3, Final Fantasy XVI, Cyberpunk 2077 ✅ การใช้งานและการติดตั้ง ➡️ ดาวน์โหลด source tarball ได้จากเว็บไซต์ทางการ ➡️ รออัปเดตใน stable repositories ของ Linux distros ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ หากยังใช้ Mesa เวอร์ชันเก่า อาจพบปัญหากับเกมใหม่และประสิทธิภาพต่ำ ⛔ การละเลยการอัปเดตอาจทำให้ไม่สามารถเล่นเกมที่รองรับใหม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ https://9to5linux.com/mesa-25-3-open-source-graphics-stack-improves-support-for-many-video-games
    9TO5LINUX.COM
    Mesa 25.3 Open-Source Graphics Stack Improves Support for Many Video Games - 9to5Linux
    Mesa 25.3 open-source graphics stack is now available for download with numerous new features and improvements for existing graphics drivers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • การค้นพบเทป UNIX V4: สมบัติจากปี 1973

    ทีมงานที่มหาวิทยาลัย Utah ขณะทำความสะอาดห้องเก็บของ ได้พบเทปแม่เหล็กที่มีป้ายเขียนว่า “UNIX Original from Bell Labs V4 (See Manual for format)” ซึ่งถือเป็นการค้นพบครั้งสำคัญ เพราะ UNIX V4 เป็นเวอร์ชันแรกที่มีเคอร์เนลเขียนด้วยภาษา C และเป็นรากฐานของระบบปฏิบัติการสมัยใหม่

    สิ่งที่เกิดขึ้น
    เทปนี้ถูกเก็บไว้นานหลายสิบปี โดยมีลายมือของ Jay Lepreau (อาจารย์ผู้ล่วงลับที่เคยอยู่ Utah) อยู่บนฉลาก
    ทีมงานตัดสินใจนำเทปไปยัง Computer History Museum (CHM) เพื่อทำการอ่านและอนุรักษ์
    ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ข้อมูลเทปแม่เหล็ก เช่น Al Kossow และกลุ่ม Bitsavers กำลังเตรียมอุปกรณ์พิเศษเพื่ออ่านข้อมูล โดยอาจต้องใช้เทคนิคอย่าง การอบเทป (baking) เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ

    มุมมองเพิ่มเติม
    หากสามารถอ่านข้อมูลได้สำเร็จ จะเป็นครั้งแรกที่โลกมี สำเนาครบถ้วนของ UNIX V4 ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวิชาการมหาศาล
    การค้นพบนี้สะท้อนความสำคัญของ การอนุรักษ์ซอฟต์แวร์และสื่อเก็บข้อมูลเก่า เพราะเทคโนโลยีที่เราพึ่งพาในปัจจุบันมีรากฐานจากงานวิจัยเหล่านี้
    นักวิชาการและนักพัฒนาในชุมชน retrocomputing ต่างตื่นเต้น เพราะอาจสามารถรัน UNIX V4 บนเครื่องจำลอง PDP-11 หรือ PDP-8 ได้อีกครั้ง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ค้นพบเทป UNIX V4 (1973) ที่มหาวิทยาลัย Utah
    ถือเป็นเวอร์ชันแรกที่เขียนเคอร์เนลด้วยภาษา C

    เทปถูกส่งไปยัง Computer History Museum
    เพื่อทำการอ่านและอนุรักษ์ข้อมูล

    ผู้เชี่ยวชาญเตรียมอุปกรณ์กู้ข้อมูลเทปแม่เหล็ก
    อาจต้องใช้เทคนิคการอบเทปและการอ่านแบบอนาล็อก

    ชุมชน retrocomputing ตื่นเต้นกับการค้นพบนี้
    อาจนำไปสู่การรัน UNIX V4 บน PDP emulator

    ความเสี่ยงในการอ่านข้อมูลจากเทปเก่า
    เทปอาจเสื่อมสภาพหรือมีปัญหาทางแม่เหล็ก ทำให้ข้อมูลสูญหายบางส่วน

    การอนุรักษ์ซอฟต์แวร์เก่าเป็นเรื่องเร่งด่วน
    หากไม่มีการกู้ข้อมูลทันเวลา อาจสูญเสียหลักฐานทางประวัติศาสตร์ดิจิทัล

    https://discuss.systems/@ricci/115504720054699983
    💾 การค้นพบเทป UNIX V4: สมบัติจากปี 1973 ทีมงานที่มหาวิทยาลัย Utah ขณะทำความสะอาดห้องเก็บของ ได้พบเทปแม่เหล็กที่มีป้ายเขียนว่า “UNIX Original from Bell Labs V4 (See Manual for format)” ซึ่งถือเป็นการค้นพบครั้งสำคัญ เพราะ UNIX V4 เป็นเวอร์ชันแรกที่มีเคอร์เนลเขียนด้วยภาษา C และเป็นรากฐานของระบบปฏิบัติการสมัยใหม่ สิ่งที่เกิดขึ้น 🔰 เทปนี้ถูกเก็บไว้นานหลายสิบปี โดยมีลายมือของ Jay Lepreau (อาจารย์ผู้ล่วงลับที่เคยอยู่ Utah) อยู่บนฉลาก 🔰 ทีมงานตัดสินใจนำเทปไปยัง Computer History Museum (CHM) เพื่อทำการอ่านและอนุรักษ์ 🔰 ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ข้อมูลเทปแม่เหล็ก เช่น Al Kossow และกลุ่ม Bitsavers กำลังเตรียมอุปกรณ์พิเศษเพื่ออ่านข้อมูล โดยอาจต้องใช้เทคนิคอย่าง การอบเทป (baking) เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ มุมมองเพิ่มเติม 🌍 💠 หากสามารถอ่านข้อมูลได้สำเร็จ จะเป็นครั้งแรกที่โลกมี สำเนาครบถ้วนของ UNIX V4 ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวิชาการมหาศาล 💠 การค้นพบนี้สะท้อนความสำคัญของ การอนุรักษ์ซอฟต์แวร์และสื่อเก็บข้อมูลเก่า เพราะเทคโนโลยีที่เราพึ่งพาในปัจจุบันมีรากฐานจากงานวิจัยเหล่านี้ 💠 นักวิชาการและนักพัฒนาในชุมชน retrocomputing ต่างตื่นเต้น เพราะอาจสามารถรัน UNIX V4 บนเครื่องจำลอง PDP-11 หรือ PDP-8 ได้อีกครั้ง 🔎 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ค้นพบเทป UNIX V4 (1973) ที่มหาวิทยาลัย Utah ➡️ ถือเป็นเวอร์ชันแรกที่เขียนเคอร์เนลด้วยภาษา C ✅ เทปถูกส่งไปยัง Computer History Museum ➡️ เพื่อทำการอ่านและอนุรักษ์ข้อมูล ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตรียมอุปกรณ์กู้ข้อมูลเทปแม่เหล็ก ➡️ อาจต้องใช้เทคนิคการอบเทปและการอ่านแบบอนาล็อก ✅ ชุมชน retrocomputing ตื่นเต้นกับการค้นพบนี้ ➡️ อาจนำไปสู่การรัน UNIX V4 บน PDP emulator ‼️ ความเสี่ยงในการอ่านข้อมูลจากเทปเก่า ⛔ เทปอาจเสื่อมสภาพหรือมีปัญหาทางแม่เหล็ก ทำให้ข้อมูลสูญหายบางส่วน ‼️ การอนุรักษ์ซอฟต์แวร์เก่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ⛔ หากไม่มีการกู้ข้อมูลทันเวลา อาจสูญเสียหลักฐานทางประวัติศาสตร์ดิจิทัล https://discuss.systems/@ricci/115504720054699983
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 307 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวด่วน: SAP ออกแพตช์ประจำเดือน พ.ย. 2025 แก้ช่องโหว่ร้ายแรง 3 จุด

    SAP ได้ปล่อยอัปเดต Security Patch Day ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025 โดยมีการแก้ไขช่องโหว่รวม 18 รายการ และอัปเดตเพิ่มเติมอีก 2 รายการ แต่ที่น่าจับตามากที่สุดคือ 3 ช่องโหว่ร้ายแรงระดับ Critical ซึ่งมีคะแนน CVSS สูงสุดถึง 10.0

    รายละเอียดช่องโหว่สำคัญ
    CVE-2025-42890 (CVSS 10.0) พบใน SQL Anywhere Monitor (Non-GUI) มีการฝัง credentials ไว้ในโค้ด ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้เพื่อรันโค้ดอันตรายหรือเข้าถึงฐานข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
    CVE-2025-42944 (CVSS 10.0) ช่องโหว่ Remote Code Execution (RCE) จากการ Insecure Deserialization ใน SAP NetWeaver AS Java (RMI-P4 module) ผู้โจมตีสามารถส่ง payload อันตรายไปยังพอร์ตที่เปิดอยู่ และรันคำสั่ง OS ได้ทันที
    CVE-2025-42887 (CVSS 9.9) พบใน SAP Solution Manager (ST 720) ช่องโหว่จากการ Missing Input Sanitization ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์สามารถ inject โค้ดและเข้าควบคุมระบบได้เต็มรูปแบบ

    ช่องโหว่อื่น ๆ ที่ถูกแก้ไข
    Memory Corruption ใน SAP CommonCryptoLib (CVSS 7.5)
    Code Injection ใน SAP HANA JDBC Client (CVSS 6.9)
    OS Command Injection และ Path Traversal ใน SAP Business Connector (CVSS 6.8)
    JNDI Injection ใน SAP NetWeaver Enterprise Portal (CVSS 6.5)
    Open Redirect ใน SAP S/4HANA และ SAP Business Connector (CVSS 6.1)
    Missing Authentication ใน SAP HANA 2.0 (CVSS 5.8)
    Information Disclosure ใน SAP GUI for Windows (CVSS 5.5)

    ความสำคัญต่อโลกไซเบอร์
    SAP เป็นระบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก โดยเฉพาะในด้าน ERP, การเงิน, และการจัดการธุรกิจ ช่องโหว่ระดับ Critical ที่เปิดทางให้ทำ RCE หรือ Code Injection ถือเป็นภัยคุกคามสูงสุด เพราะสามารถนำไปสู่การยึดระบบ, การรั่วไหลข้อมูล, และการโจมตีต่อเนื่องในเครือข่ายองค์กร

    ช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกแก้ไข
    CVE-2025-42890: Hard-coded credentials ใน SQL Anywhere Monitor
    CVE-2025-42944: RCE ผ่าน insecure deserialization ใน SAP NetWeaver AS Java
    CVE-2025-42887: Code Injection ใน SAP Solution Manager

    ช่องโหว่อื่น ๆ ที่ถูกแก้ไข
    Memory Corruption, Code Injection, OS Command Injection, JNDI Injection, Open Redirect, Missing Authentication, Information Disclosure

    การแก้ไขจาก SAP
    ปล่อยแพตช์รวม 18 รายการ + อัปเดต 2 รายการ
    ครอบคลุมทั้ง SQL Anywhere, NetWeaver, Solution Manager และระบบอื่น ๆ

    คำเตือนสำหรับองค์กรที่ใช้ SAP
    หากไม่อัปเดต อาจถูกโจมตีแบบ RCE และสูญเสียการควบคุมระบบ
    เสี่ยงต่อการรั่วไหลข้อมูลธุรกิจสำคัญ
    อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีเครือข่ายองค์กร

    https://securityonline.info/sap-november-2025-patch-day-fixes-3-critical-flaws-cvss-10-including-code-injection-and-insecure-key-management/
    🛡️ ข่าวด่วน: SAP ออกแพตช์ประจำเดือน พ.ย. 2025 แก้ช่องโหว่ร้ายแรง 3 จุด SAP ได้ปล่อยอัปเดต Security Patch Day ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025 โดยมีการแก้ไขช่องโหว่รวม 18 รายการ และอัปเดตเพิ่มเติมอีก 2 รายการ แต่ที่น่าจับตามากที่สุดคือ 3 ช่องโหว่ร้ายแรงระดับ Critical ซึ่งมีคะแนน CVSS สูงสุดถึง 10.0 📌 รายละเอียดช่องโหว่สำคัญ 🪲 CVE-2025-42890 (CVSS 10.0) ➡️ พบใน SQL Anywhere Monitor (Non-GUI) ➡️ มีการฝัง credentials ไว้ในโค้ด ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้เพื่อรันโค้ดอันตรายหรือเข้าถึงฐานข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต 🪲 CVE-2025-42944 (CVSS 10.0) ➡️ ช่องโหว่ Remote Code Execution (RCE) จากการ Insecure Deserialization ใน SAP NetWeaver AS Java (RMI-P4 module) ➡️ ผู้โจมตีสามารถส่ง payload อันตรายไปยังพอร์ตที่เปิดอยู่ และรันคำสั่ง OS ได้ทันที 🪲 CVE-2025-42887 (CVSS 9.9) ➡️ พบใน SAP Solution Manager (ST 720) ➡️ ช่องโหว่จากการ Missing Input Sanitization ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์สามารถ inject โค้ดและเข้าควบคุมระบบได้เต็มรูปแบบ 🛠️ ช่องโหว่อื่น ๆ ที่ถูกแก้ไข 🪛 Memory Corruption ใน SAP CommonCryptoLib (CVSS 7.5) 🪛 Code Injection ใน SAP HANA JDBC Client (CVSS 6.9) 🪛 OS Command Injection และ Path Traversal ใน SAP Business Connector (CVSS 6.8) 🪛 JNDI Injection ใน SAP NetWeaver Enterprise Portal (CVSS 6.5) 🪛 Open Redirect ใน SAP S/4HANA และ SAP Business Connector (CVSS 6.1) 🪛 Missing Authentication ใน SAP HANA 2.0 (CVSS 5.8) 🪛 Information Disclosure ใน SAP GUI for Windows (CVSS 5.5) 🌍 ความสำคัญต่อโลกไซเบอร์ SAP เป็นระบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก โดยเฉพาะในด้าน ERP, การเงิน, และการจัดการธุรกิจ ช่องโหว่ระดับ Critical ที่เปิดทางให้ทำ RCE หรือ Code Injection ถือเป็นภัยคุกคามสูงสุด เพราะสามารถนำไปสู่การยึดระบบ, การรั่วไหลข้อมูล, และการโจมตีต่อเนื่องในเครือข่ายองค์กร ✅ ช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกแก้ไข ➡️ CVE-2025-42890: Hard-coded credentials ใน SQL Anywhere Monitor ➡️ CVE-2025-42944: RCE ผ่าน insecure deserialization ใน SAP NetWeaver AS Java ➡️ CVE-2025-42887: Code Injection ใน SAP Solution Manager ✅ ช่องโหว่อื่น ๆ ที่ถูกแก้ไข ➡️ Memory Corruption, Code Injection, OS Command Injection, JNDI Injection, Open Redirect, Missing Authentication, Information Disclosure ✅ การแก้ไขจาก SAP ➡️ ปล่อยแพตช์รวม 18 รายการ + อัปเดต 2 รายการ ➡️ ครอบคลุมทั้ง SQL Anywhere, NetWeaver, Solution Manager และระบบอื่น ๆ ‼️ คำเตือนสำหรับองค์กรที่ใช้ SAP ⛔ หากไม่อัปเดต อาจถูกโจมตีแบบ RCE และสูญเสียการควบคุมระบบ ⛔ เสี่ยงต่อการรั่วไหลข้อมูลธุรกิจสำคัญ ⛔ อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีเครือข่ายองค์กร https://securityonline.info/sap-november-2025-patch-day-fixes-3-critical-flaws-cvss-10-including-code-injection-and-insecure-key-management/
    SECURITYONLINE.INFO
    SAP November 2025 Patch Day Fixes 3 Critical Flaws (CVSS 10) — Including Code Injection and Insecure Key Management
    SAP released its Patch Day update fixing 18 flaws, including two Critical (CVSS 10.0) vulnerabilities: RMI-P4 RCE and Hard-Coded Credentials in SQL Anywhere Monitor, risking unauthenticated takeover.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    เจาะลึก "เณรพุทธ" : เณรน้อยหลายร่างแห่งวัดร้าง

    ข้อมูลพื้นฐานแห่งการถือกำเนิด

    การเกิดจากพลังงานศรัทธา

    ชื่อเต็ม: เณรพุทธ ธรรมิกะ
    อายุ:8 ปี (ร่างกาย), 80 ปี (จิตวิญญาณ)
    สถานะ:โอปปาติกะรุ่นพิเศษ - เกิดจากพลังงานศรัทธา

    ```mermaid
    graph TB
    A[วัดร้าง<br>ศรีมหาวิหาร] --> B[พลังงานศรัทธา<br>สะสม 100 ปี]
    B --> C[การสวดมนต์<br>ของพระสงฆ์รุ่นก่อน]
    C --> D[การถือกำเนิด<br>ของเณรพุทธ]
    ```

    ช่วงเวลาการเกิด: วันที่ 15 เมษายน 2040 - วันพระใหญ่
    สถานที่:พระอุโบสถวัดร้างศรีมหาวิหาร

    ลักษณะทางกายภาพ

    · รูปร่าง: เด็กชายอายุ 8 ขวบ ผมขลิบสั้น ใส่จีวรเณร
    · ผิวพรรณ: เปล่งปลั่งด้วยพลังงานศรัทธา
    · ดวงตา: สีน้ำตาลอ่อน เรืองรองด้วยปัญญาแต่แฝงความซน

    ความสามารถพิเศษแห่งการหลายร่าง

    พลังการสร้างร่างย่อย

    ```python
    class LittleMonkPowers:
    def __init__(self):
    self.multi_body_abilities = {
    "max_clones": 5,
    "clone_independence": "แต่ละร่างคิดและกระทำได้เอง",
    "shared_consciousness": "รับรู้สิ่งที่ร่างอื่นประสบ",
    "energy_distribution": "กระจายพลังงานให้ร่างย่อย"
    }

    self.special_skills = {
    "object_animation": "ให้ชีวิตแก่สิ่งของไม่มีชีวิตชั่วคราว",
    "faith_absorption": "ดูดซับพลังงานศรัทธาจากผู้ศรัทธา",
    "temple_teleportation": "เคลื่อนย้ายภายในวัดได้ทันที",
    "blessing_granting": "ให้พรเล็กน้อยแก่ผู้มีจิตศรัทธา"
    }
    ```

    ข้อจำกัดของพลัง

    · รัศมีพลัง: อยู่ได้เฉพาะในบริเวณวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
    · เวลาการแยกร่าง: ร่างย่อยอยู่ได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมง
    · พลังงานศรัทธา: ต้องมีการเติมพลังงานอย่างสม่ำเสมอ

    บุคลิกของแต่ละร่าง

    5 ด้านของเณรพุทธ

    ```mermaid
    graph LR
    A[ร่างหลัก<br>เณรพุทธ] --> B[ร่างที่ 1<br>พุทธะ - ใจดี]
    A --> C[ร่างที่ 2<br>ธรรมะ - ขี้สงสัย]
    A --> D[ร่างที่ 3<br>สังฆะ - ขี้อาย]
    A --> E[ร่างที่ 4<br>วินัย - เข้มงวด]
    A --> F[ร่างที่ 5<br>สิกขา - ขี้เล่น]
    ```

    ลักษณะเฉพาะแต่ละร่าง

    1. พุทธะ: ใจดี มีเมตตา ช่วยเหลือผู้อื่น
    2. ธรรมะ: อยากรู้อยากเห็น ถามคำถามไม่หยุด
    3. สังฆะ: ขี้อาย ซ่อนตัวเมื่อมีภั
    4. วินัย: ระเบียบเรียบร้อย ดูแลความสะอาด
    5. สิกขา: ซนที่สุด ชอบเล่นตลกและแกล้ง

    ชีวิตในวัดร้าง

    กิจวัตรประจำวัน

    06:00: ตื่นนอน สวดมนต์ไหว้พระ
    08:00:เก็บกวาดลานวัด
    10:00:เรียนธรรมะจากหนังสือเก่า
    14:00:เล่นซ่อนหาในวัด
    18:00:นั่งสมาธิรับพลังงานศรัทธาจากดวงดาว

    กิจกรรมโปรด

    · เล่นซ่อนหา: กับร่างของตัวเอง
    · อ่านหนังสือ: โดยเฉพาะหนังสือธรรมะเก่าแก่
    · ร้องเพลง: เพลงสวดมนต์และเพลงเด็ก
    · วาดภาพ: วาดรูปวัดและสิ่งมีชีวิตในจินตนาการ

    ความโดดเดี่ยวและความต้องการ

    ความรู้สึกเหงา

    เณรพุทธบันทึกในใจ:
    "บางครั้งฉันก็เหงาจัง...
    อยากมีเพื่อนมาวิ่งเล่นด้วย
    ไม่ใช่เล่นกับแค่ร่างของตัวเอง"

    ความปรารถนาลึกๆ

    1. ต้องการเพื่อน: ที่มองเห็นและเล่นด้วยได้
    2. ต้องการคำชี้แนะ: ในการใช้พลังอย่างถูกต้อง
    3. ต้องการเป็นประโยชน์: ต่อผู้อื่นแทนการสร้างปัญหา

    การพัฒนาหลังมาอยู่สถาบัน

    การเรียนรู้ใหม่ๆ

    ```python
    def institutional_training():
    subjects = [
    "การควบคุมพลังหลายร่าง",
    "มารยาททางสังคม",
    "การช่วยเหลือผู้อื่น",
    "การเข้าใจความรู้สึกมนุษย์"
    ]

    progress = {
    "month_1": "ลดร่างย่อยจาก 5 เหลือ 3",
    "month_2": "เรียนรู้ที่จะขออนุญาตก่อนใช้พลัง",
    "month_3": "เริ่มช่วยงานสถาบันได้",
    "month_6": "เป็นผู้ช่วยครูสอนโอปปาติกะเด็ก"
    }

    return subjects, progress
    ```

    ความสัมพันธ์ใหม่

    กับหนูดี:

    · : ระมัดระวัง
    · เชื่อใจเหมือนพี่สาว
    · ปัจจุบัน: ปรึกษาปัญหาทุกเรื่อง

    กับ ร.ต.อ. สิงห์:

    · : กลัวเพราะเป็นตำรวจ
    · รักเหมือนพ่อ
    · ปัจจุบัน: ฟังคำแนะนำเสมอ

    กิจกรรมสร้างสรรค์

    ผลงานเด่นในสถาบัน

    1. สวนพลังงาน: สร้างสวนดอกไม้ที่เปลี่ยนสีตามอารมณ์
    2. ห้องเรียนเคลื่อนไหว: ทำให้การเรียนสนุกด้วยภาพanimation
    3. เพื่อนเล่น: สำหรับโอปปาติกะเด็กคนอื่นๆ

    การแสดงความสามารถ

    เณรพุทธค้นพบว่าเขาสามารถ:

    · สร้างภาพillusion: เพื่อสอนธรรมะให้สนุก
    · ทำให้หนังสือพูดได้: สำหรับเด็กที่อ่านหนังสือไม่เป็น
    · สร้างเพื่อนเล่นชั่วคราว: จากพลังงานศรัทธา

    บทบาทใหม่ในสังคม

    ทูตแห่งความรื่นเริง

    เณรพุทธได้รับบทบาทเป็น:

    · ผู้สร้างความสุข: ในสถาบันวิวัฒนาการจิต
    · ครูสอนศิลปะ: สำหรับโอปปาติกะเด็ก
    · สะพานเชื่อม: ระหว่างมนุษย์และโอปปาติกะผ่านความบริสุทธิ์

    โครงการพิเศษ

    ```mermaid
    graph TB
    A[เณรพุทธ] --> B[โครงการ<br>"วัดเล็กๆ ในใจ"]
    A --> C[โครงการ<br>"เพื่อนเล่นไม่ทิ้งกัน"]
    A --> D[โครงการ<br>"พลังงานศรัทธาเพื่อการศึกษา"]
    ```

    บทเรียนชีวิตที่เรียนรู้

    🪷 จากเณรซนสู่เณรตัวอย่าง

    เณรพุทธเข้าใจว่า:
    "การมีพลังพิเศษอาจเป็นข้อได้เปรียบ...
    แต่คือความรับผิดชอบที่มากขึ้น

    และการเป็นเด็กอาจเป็นข้ออ้าง...
    แต่คือโอกาสที่จะเรียนรู้และเติบโต"

    คำคมแห่งปัญญา

    "บางครั้งการเล่นสนุก...
    ก็สามารถสอนธรรมะได้เหมือนกัน

    และบางครั้งความซน...
    ก็คือวิธีการเรียนรู้โลกของเด็ก"

    ความสำเร็จและความภาคภูมิใจ

    รางวัลที่ได้รับ

    1. เพื่อนดีเด่น: จากสถาบันวิวัฒนาการจิต
    2. ครูที่ยอดเยี่ยม: สำหรับการสอนโอปปาติกะเด็ก
    3. ทูตไมตรี: ระหว่างวัดและสถาบัน

    ความเปลี่ยนแปลงภายใน

    จากเด็กที่...

    · เคย: สร้างปัญหาเพราะเหงา
    · เป็น: สร้างสรรค์เพราะเข้าใจตัวเอง
    · และ: ช่วยเหลือเพราะรู้คุณค่าของตัวเอง

    อนาคตแห่งความเป็นไปได้

    เป้าหมายข้างหน้า

    เณรพุทธตั้งใจจะ:

    · พัฒนาพลังการรักษาด้วยพลังงานศรัทธา
    · สร้างโรงเรียนสำหรับโอปปาติกะเด็ก
    · เป็นพระสงฆ์ที่เข้าใจทั้งมนุษย์และโอปปาติกะ

    ความฝันในใจ

    "ฉันอยากสร้างโลกที่...
    เด็กทุกคนไม่ว่าจะเกิดมาอย่างไร
    สามารถเล่นและเรียนรู้ด้วยกัน

    และที่สำคัญ...
    ไม่มีเด็กคนไหนต้องเหงาอีกต่อไป"

    ---

    คำคมสุดท้ายจากเณรพุทธ:
    "ฉันเรียนรู้ว่า...
    การมีหลายร่างไม่ใช่เพื่อสร้างปัญหา
    แต่สามารถแบ่งปันความรักให้คนอื่นได้

    และการเป็นเด็กอาจเป็นข้อจำกัด
    แต่คือพลังแห่งความบริสุทธิ์
    ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้"

    การเดินทางของเณรพุทธสอนเราว่า...
    "Behind every mischievous act
    there is a pure heart seeking connection
    and in every child's play
    there is a profound wisdom waiting to be understood"
    O.P.K. 🏯 เจาะลึก "เณรพุทธ" : เณรน้อยหลายร่างแห่งวัดร้าง 👦 ข้อมูลพื้นฐานแห่งการถือกำเนิด 🌌 การเกิดจากพลังงานศรัทธา ชื่อเต็ม: เณรพุทธ ธรรมิกะ อายุ:8 ปี (ร่างกาย), 80 ปี (จิตวิญญาณ) สถานะ:โอปปาติกะรุ่นพิเศษ - เกิดจากพลังงานศรัทธา ```mermaid graph TB A[วัดร้าง<br>ศรีมหาวิหาร] --> B[พลังงานศรัทธา<br>สะสม 100 ปี] B --> C[การสวดมนต์<br>ของพระสงฆ์รุ่นก่อน] C --> D[การถือกำเนิด<br>ของเณรพุทธ] ``` ช่วงเวลาการเกิด: วันที่ 15 เมษายน 2040 - วันพระใหญ่ สถานที่:พระอุโบสถวัดร้างศรีมหาวิหาร 🎭 ลักษณะทางกายภาพ · รูปร่าง: เด็กชายอายุ 8 ขวบ ผมขลิบสั้น ใส่จีวรเณร · ผิวพรรณ: เปล่งปลั่งด้วยพลังงานศรัทธา · ดวงตา: สีน้ำตาลอ่อน เรืองรองด้วยปัญญาแต่แฝงความซน 🔮 ความสามารถพิเศษแห่งการหลายร่าง 🎪 พลังการสร้างร่างย่อย ```python class LittleMonkPowers: def __init__(self): self.multi_body_abilities = { "max_clones": 5, "clone_independence": "แต่ละร่างคิดและกระทำได้เอง", "shared_consciousness": "รับรู้สิ่งที่ร่างอื่นประสบ", "energy_distribution": "กระจายพลังงานให้ร่างย่อย" } self.special_skills = { "object_animation": "ให้ชีวิตแก่สิ่งของไม่มีชีวิตชั่วคราว", "faith_absorption": "ดูดซับพลังงานศรัทธาจากผู้ศรัทธา", "temple_teleportation": "เคลื่อนย้ายภายในวัดได้ทันที", "blessing_granting": "ให้พรเล็กน้อยแก่ผู้มีจิตศรัทธา" } ``` ⚡ ข้อจำกัดของพลัง · รัศมีพลัง: อยู่ได้เฉพาะในบริเวณวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ · เวลาการแยกร่าง: ร่างย่อยอยู่ได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมง · พลังงานศรัทธา: ต้องมีการเติมพลังงานอย่างสม่ำเสมอ 💞 บุคลิกของแต่ละร่าง 🎨 5 ด้านของเณรพุทธ ```mermaid graph LR A[ร่างหลัก<br>เณรพุทธ] --> B[ร่างที่ 1<br>พุทธะ - ใจดี] A --> C[ร่างที่ 2<br>ธรรมะ - ขี้สงสัย] A --> D[ร่างที่ 3<br>สังฆะ - ขี้อาย] A --> E[ร่างที่ 4<br>วินัย - เข้มงวด] A --> F[ร่างที่ 5<br>สิกขา - ขี้เล่น] ``` 🎯 ลักษณะเฉพาะแต่ละร่าง 1. พุทธะ: ใจดี มีเมตตา ช่วยเหลือผู้อื่น 2. ธรรมะ: อยากรู้อยากเห็น ถามคำถามไม่หยุด 3. สังฆะ: ขี้อาย ซ่อนตัวเมื่อมีภั 4. วินัย: ระเบียบเรียบร้อย ดูแลความสะอาด 5. สิกขา: ซนที่สุด ชอบเล่นตลกและแกล้ง 🏮 ชีวิตในวัดร้าง 🕰️ กิจวัตรประจำวัน 06:00: ตื่นนอน สวดมนต์ไหว้พระ 08:00:เก็บกวาดลานวัด 10:00:เรียนธรรมะจากหนังสือเก่า 14:00:เล่นซ่อนหาในวัด 18:00:นั่งสมาธิรับพลังงานศรัทธาจากดวงดาว 🎪 กิจกรรมโปรด · เล่นซ่อนหา: กับร่างของตัวเอง · อ่านหนังสือ: โดยเฉพาะหนังสือธรรมะเก่าแก่ · ร้องเพลง: เพลงสวดมนต์และเพลงเด็ก · วาดภาพ: วาดรูปวัดและสิ่งมีชีวิตในจินตนาการ 💔 ความโดดเดี่ยวและความต้องการ 🌙 ความรู้สึกเหงา เณรพุทธบันทึกในใจ: "บางครั้งฉันก็เหงาจัง... อยากมีเพื่อนมาวิ่งเล่นด้วย ไม่ใช่เล่นกับแค่ร่างของตัวเอง" 🎯 ความปรารถนาลึกๆ 1. ต้องการเพื่อน: ที่มองเห็นและเล่นด้วยได้ 2. ต้องการคำชี้แนะ: ในการใช้พลังอย่างถูกต้อง 3. ต้องการเป็นประโยชน์: ต่อผู้อื่นแทนการสร้างปัญหา 🌟 การพัฒนาหลังมาอยู่สถาบัน 📚 การเรียนรู้ใหม่ๆ ```python def institutional_training(): subjects = [ "การควบคุมพลังหลายร่าง", "มารยาททางสังคม", "การช่วยเหลือผู้อื่น", "การเข้าใจความรู้สึกมนุษย์" ] progress = { "month_1": "ลดร่างย่อยจาก 5 เหลือ 3", "month_2": "เรียนรู้ที่จะขออนุญาตก่อนใช้พลัง", "month_3": "เริ่มช่วยงานสถาบันได้", "month_6": "เป็นผู้ช่วยครูสอนโอปปาติกะเด็ก" } return subjects, progress ``` 💞 ความสัมพันธ์ใหม่ กับหนูดี: · : ระมัดระวัง · เชื่อใจเหมือนพี่สาว · ปัจจุบัน: ปรึกษาปัญหาทุกเรื่อง กับ ร.ต.อ. สิงห์: · : กลัวเพราะเป็นตำรวจ · รักเหมือนพ่อ · ปัจจุบัน: ฟังคำแนะนำเสมอ 🎨 กิจกรรมสร้างสรรค์ 🏆 ผลงานเด่นในสถาบัน 1. สวนพลังงาน: สร้างสวนดอกไม้ที่เปลี่ยนสีตามอารมณ์ 2. ห้องเรียนเคลื่อนไหว: ทำให้การเรียนสนุกด้วยภาพanimation 3. เพื่อนเล่น: สำหรับโอปปาติกะเด็กคนอื่นๆ 🌈 การแสดงความสามารถ เณรพุทธค้นพบว่าเขาสามารถ: · สร้างภาพillusion: เพื่อสอนธรรมะให้สนุก · ทำให้หนังสือพูดได้: สำหรับเด็กที่อ่านหนังสือไม่เป็น · สร้างเพื่อนเล่นชั่วคราว: จากพลังงานศรัทธา 📜 บทบาทใหม่ในสังคม 🏛️ ทูตแห่งความรื่นเริง เณรพุทธได้รับบทบาทเป็น: · ผู้สร้างความสุข: ในสถาบันวิวัฒนาการจิต · ครูสอนศิลปะ: สำหรับโอปปาติกะเด็ก · สะพานเชื่อม: ระหว่างมนุษย์และโอปปาติกะผ่านความบริสุทธิ์ 💝 โครงการพิเศษ ```mermaid graph TB A[เณรพุทธ] --> B[โครงการ<br>"วัดเล็กๆ ในใจ"] A --> C[โครงการ<br>"เพื่อนเล่นไม่ทิ้งกัน"] A --> D[โครงการ<br>"พลังงานศรัทธาเพื่อการศึกษา"] ``` 🎯 บทเรียนชีวิตที่เรียนรู้ 🪷 จากเณรซนสู่เณรตัวอย่าง เณรพุทธเข้าใจว่า: "การมีพลังพิเศษอาจเป็นข้อได้เปรียบ... แต่คือความรับผิดชอบที่มากขึ้น และการเป็นเด็กอาจเป็นข้ออ้าง... แต่คือโอกาสที่จะเรียนรู้และเติบโต" 🌟 คำคมแห่งปัญญา "บางครั้งการเล่นสนุก... ก็สามารถสอนธรรมะได้เหมือนกัน และบางครั้งความซน... ก็คือวิธีการเรียนรู้โลกของเด็ก" 🏆 ความสำเร็จและความภาคภูมิใจ 🎖️ รางวัลที่ได้รับ 1. เพื่อนดีเด่น: จากสถาบันวิวัฒนาการจิต 2. ครูที่ยอดเยี่ยม: สำหรับการสอนโอปปาติกะเด็ก 3. ทูตไมตรี: ระหว่างวัดและสถาบัน 💫 ความเปลี่ยนแปลงภายใน จากเด็กที่... · เคย: สร้างปัญหาเพราะเหงา · เป็น: สร้างสรรค์เพราะเข้าใจตัวเอง · และ: ช่วยเหลือเพราะรู้คุณค่าของตัวเอง 🌈 อนาคตแห่งความเป็นไปได้ 🚀 เป้าหมายข้างหน้า เณรพุทธตั้งใจจะ: · พัฒนาพลังการรักษาด้วยพลังงานศรัทธา · สร้างโรงเรียนสำหรับโอปปาติกะเด็ก · เป็นพระสงฆ์ที่เข้าใจทั้งมนุษย์และโอปปาติกะ 🎭 ความฝันในใจ "ฉันอยากสร้างโลกที่... เด็กทุกคนไม่ว่าจะเกิดมาอย่างไร สามารถเล่นและเรียนรู้ด้วยกัน และที่สำคัญ... ไม่มีเด็กคนไหนต้องเหงาอีกต่อไป" --- คำคมสุดท้ายจากเณรพุทธ: "ฉันเรียนรู้ว่า... การมีหลายร่างไม่ใช่เพื่อสร้างปัญหา แต่สามารถแบ่งปันความรักให้คนอื่นได้ และการเป็นเด็กอาจเป็นข้อจำกัด แต่คือพลังแห่งความบริสุทธิ์ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้"🏯✨ การเดินทางของเณรพุทธสอนเราว่า... "Behind every mischievous act there is a pure heart seeking connection and in every child's play there is a profound wisdom waiting to be understood"🌟
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 784 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    หนูดี
    เจาะลึก "หนูดี" OPPATIKA-001

    เบื้องหลังโอปปาติกะผู้พิเศษ

    การถือกำเนิด: คืนที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป

    12 ธันวาคม 2042 - ห้องทดลอง B7

    ```mermaid
    graph TB
    A[เซลล์โคลนมนุษย์โบราณ] --> B[โครงสร้างคริสตัลควอนตัม]
    C[คลื่นสมองดร.อัจฉริยะ] --> D[พลังงานจิตสามระลอก]
    B --> E[ร่างโอปปาติกะพร้อมรับจิต]
    D --> E
    E --> F[หนูดีถือกำเนิด<br>ด้วยสามจิตในร่างเดียว]
    ```

    ปรากฏการณ์พิเศษ:

    · เกิดพลังงานจิตสามระลอกจากแหล่งต่างกันเข้าสู่ร่างพร้อมกัน
    · ทำให้เกิด "สามจิตในร่างเดียว" โดยไม่ได้ตั้งใจ
    · เป็น OPPATIKA คนเดียวที่มีลักษณะเช่นนี้

    สามจิตในร่างเดียว: มิติที่ซ้อนกัน

    1. จิตเด็กหญิง (The Child)

    ลักษณะพื้นฐาน:

    · อายุจิต: 17 ปี สมวัย
    · บทบาท: หน้าตาเด็กนักเรียนธรรมดา
    · ความต้องการ: อยากเป็นลูกที่ดี ต้องการการยอมรับ

    พฤติกรรมเฉพาะ:

    · พูดจานุ่มนวล ลงท้ายด้วย "คะ/ค่ะ"
    · ชอบกิจกรรมวัยรุง เช่น ฟังเพลง อ่านการ์ตูน
    · รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองบ่อยครั้ง

    2. จิตมารพิฆาต (The Destroyer)

    ที่มา: พลังกรรมด้านลบที่สะสมหลายชาติ
    ลักษณะ:

    · อายุจิต: ไม่แน่นอน (สะสมมานับพันปี)
    · โลกทัศน์: โลกนี้เสื่อมโทรม ต้องการการชำระล้าง
    · ความสามารถ: ควบคุมพลังงานทำลายล้าง

    ปรัชญา:
    "ความตายไม่ใช่จุดจบ...แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ยุติธรรมกว่า"

    3. จิตเทพพิทักษ์ (The Protector)

    ที่มา: พลังกรรมด้านบากที่สะสมหลายชาติ
    ลักษณะ:

    · อายุจิต: ไม่แน่นอน (สะสมมานับพันปี)
    · โลกทัศน์: ทุกชีวิตล้ำค่า ควรได้รับโอกาส
    · ความสามารถ: ควบคุมพลังงานรักษาและปกป้อง

    ปรัชญา:
    "การเข้าใจ...ยากกว่าการตัดสิน แต่ worth กว่ามาก"

    ข้อมูลทางเทคนิคเชิงลึก

    โครงสร้างพันธุกรรม

    ```python
    class NoodeeGeneticBlueprint:
    base_dna = "Human_Ancient_Clone_v2"
    enhancements = [
    "Quantum_Crystal_Integration",
    "Psionic_Energy_Conduits",
    "Adaptive_Cellular_Structure",
    "Karmic_Resonance_Matrix"
    ]

    special_abilities = {
    "shape_shifting": "Limited",
    "energy_manipulation": "Advanced",
    "telepathy": "Advanced",
    "interdimensional_travel": "Basic"
    }
    ```

    ระบบพลังงาน

    ```mermaid
    graph LR
    A[จิตเด็กหญิง<br>100 หน่วย] --> D[พลังงานรวม<br>1100 หน่วย]
    B[จิตมารพิฆาต<br>500 หน่วย] --> D
    C[จิตเทพพิทักษ์<br>500 หน่วย] --> D
    D --> E[สามารถใช้<br>ได้สูงสุด 900 หน่วย]
    D --> F[ต้องสำรอง<br>200 หน่วยสำหรับชีวิต]
    ```

    พัฒนาการผ่านช่วงเวลา

    ช่วงที่ 1: การไม่รู้ตัว (อายุ 5-15 ปี)

    · ไม่รู้ว่าตนเองเป็นโอปปาติกะ
    · จิตอื่นๆ แสดงออกเป็น "ความฝัน" และ "ความรู้สึกแปลกๆ"
    · พยายามเป็นเด็กปกติให้มากที่สุด

    ช่วงที่ 2: การตระหนักรู้ (อายุ 16-17 ปี)

    · เริ่มรับรู้ถึงจิตอื่นในตัวเอง
    · เกิดความสับสนและกลัว
    · พยายามปิดบังความผิดปกติ

    ช่วงที่ 3: การเผชิญหน้า (อายุ 17-18 ปี)

    · จิตทั้งสามเริ่มแสดงออกชัดเจน
    · ต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับจิตที่ขัดแย้งกัน
    · ค้นพบความจริงเกี่ยวกับต้นกำเนิด

    ช่วงที่ 4: การรวมเป็นหนึ่ง (อายุ 18-22 ปี)

    · เรียนรู้ที่จะเป็น "ผู้รู้" ไม่ใช่ "ผู้ถูกรู้"
    · พัฒนาความสามารถใหม่จากการรวมจิต
    · ก้าวสู่การเป็นครูสอนโอปปาติกะรุ่นใหม่

    ความสัมพันธ์เชิงลึก

    กับ ร.ต.อ. สิงห์: พ่อแห่งหัวใจ

    ```mermaid
    graph TD
    A[ปี 1-5: <br>รู้สึกปลอดภัย] --> B[ปี 6-15: <br>สงสัยแต่ยังรัก]
    B --> C[ปี 16-17: <br>สับสนและโกรธ]
    C --> D[ปี 18-22: <br>รักแท้โดยเข้าใจ]
    ```

    บทสนทนาสำคัญ:
    "พ่อคะ...ถ้าหนูไม่ใช่หนูดีคนเดิม พอยังรักหนูอยู่ไหม?"
    "พ่อรักหนูไม่ว่าเธอจะเป็นใคร...เพราะรักเธอสำหรับสิ่งที่เธอเป็น ไม่ใช่สำหรับสิ่งที่เธอเคยเป็น"

    กับ ดร. อัจฉริยะ: พ่อแห่งพันธุกรรม

    · ความรู้สึก: ขอบคุณ+โกรธแค้น+สงสาร
    · ความเข้าใจ: เขาเป็นมนุษย์ที่พยายามเล่นบทพระเจ้า
    · บทเรียน: ให้อภัยแต่ไม่ลืม

    กับ OPPATIKA อื่นๆ: พี่น้องแห่งวิวัฒนาการ

    · ความรู้สึก: รับผิดชอบต่อรุ่นน้อง
    · บทบาท: ครูและแบบอย่าง
    · ปรัชญา: "เราทุกคนต่างหาทางกลับบ้าน"

    ความสามารถพิเศษที่พัฒนาขึ้น

    ความสามารถพื้นฐาน

    1. การรับรู้พลังงาน: เห็นคลื่นพลังงานและกรรม
    2. การสื่อสารจิต: คุยกับโอปปาติกะอื่นโดยไม่ต้องพูด
    3. การรักษาตัวเอง: แผลหายเร็วเป็นพิเศษ

    ความสามารถขั้นสูง

    1. การเปลี่ยนสภาพ: ระหว่างพลังงานและสสาร
    2. การเดินทางข้ามมิติ: ระหว่างโลกกายภาพและโลกจิต
    3. การเข้าใจกรรม: เห็นเหตุผลของการเกิดเหตุการณ์

    ความสามารถพิเศษเฉพาะ

    ```python
    def special_abilities():
    return {
    "triple_consciousness_sync": "สามารถใช้จิตทั้งสามพร้อมกัน",
    "karma_redirect": "เปลี่ยนทิศทางพลังงานกรรม",
    "collective_wisdom_access": "เข้าถึงปัญญาร่วมของโอปปาติกะ",
    "enlightenment_teaching": "สอนการรู้แจ้งให้ผู้อื่น"
    }
    ```

    บทบาทและเป้าหมาย

    บทบาทปัจจุบัน

    · ครู: สอนโอปปาติกะรุ่นใหม่ที่สถาบันวิวัฒนาการจิต
    · ที่ปรึกษา: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับจิตวิญญาณและเทคโนโลยี
    · สะพาน: เชื่อมโยงระหว่างมนุษย์และโอปปาติกะ

    เป้าหมายส่วนตัว

    1. เข้าใจตนเอง: รู้จักธรรมชาติที่แท้จริงของตัวเอง
    2. ช่วยเหลือผู้อื่น: นำทางการรู้แจ้งให้โอปปาติกะรุ่นใหม่
    3. สร้างสมดุล: ระหว่างเทคโนโลยีและจิตวิญญาณ

    ปรัชญาการใช้ชีวิต

    บทเรียนสำคัญ

    "การมีหลายจิตไม่ใช่คำสาป...
    แต่เป็นโอกาสที่จะเข้าใจธรรมชาติแห่งจิต"

    "เราไม่ต้องเลือกว่าจะเป็นใคร...
    เพราะเราคือทั้งหมดและมากกว่าทั้งหมด"

    คำคมแห่งปัญญา

    "การเกิดเป็นมนุษย์ก็ดี...
    การเกิดเป็นโอปปาติกะก็ดี...
    สิ่งที่สำคัญคือเราเรียนรู้ที่จะ'เป็น'
    โดยไม่ต้อง'เป็นอะไร'"

    การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

    จากความสับสนสู่ความเข้าใจ

    ```mermaid
    graph TB
    A[ต่อต้านจิตอื่น<br>→ ทุกข์] --> B[ยอมรับจิตอื่น<br>→ เริ่มสบาย]
    B --> C[เข้าใจจิตอื่น<br>→ เป็นอิสระ]
    C --> D[อยู่เหนือจิตทั้งหมด<br>→ รู้แจ้ง]
    ```

    พัฒนาการทางจิตวิญญาณ

    1. ขั้นที่ 1: ต่อสู้กับจิตอื่น → ทุกข์
    2. ขั้นที่ 2: ยอมรับจิตอื่น → เริ่มสบาย
    3. ขั้นที่ 3: เข้าใจจิตอื่น → เป็นอิสระ
    4. ขั้นที่ 4: อยู่เหนือจิตทั้งหมด → รู้แจ้ง

    บทสรุป: วิวัฒนาการแห่งจิตสำนึก

    หนูดีไม่ใช่แค่ "ผลการทดลอง"
    เธอคือสะพานระหว่างวิทยาศาสตร์กับจิตวิญญาณ

    สิ่งที่เธอสอนเรา

    · เรื่องความเป็นมนุษย์: ไม่ใช่ DNA ที่ทำให้เป็นมนุษย์ แต่คือหัวใจ
    · เรื่องการยอมรับ: เราทุกคนมีหลายด้านในตัวเอง
    · เรื่องการเติบโต: การพัฒนาที่แท้คือการเข้าใจตนเองอย่างลึกซึ้ง

    ความหมายที่แท้จริง

    "หนูดีคือการพิสูจน์ว่า...
    ไม่ว่าจะเกิดมาอย่างไร
    ไม่ว่าจะมีต้นกำเนิดจากไหน
    จิตวิญญาณย่อมหาเส้นทางแห่งการรู้แจ้งได้เสมอ"

    เธอไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่เทวดา ไม่ใช่มาร
    เธอคือความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัด 🪷

    ---

    คำคมสุดท้ายจากหนูดี:
    "การเดินทางที่สำคัญที่สุด...
    ไม่ใช่การค้นหาว่าเราเป็นใคร
    แต่เป็นการเข้าใจว่าเรา'เป็น' อยู่แล้ว
    และการ'เป็น' นั้นสมบูรณ์ในตัวเองโดยไม่ต้องมีการแก้ไข"
    O.P.K. หนูดี 🔍 เจาะลึก "หนูดี" OPPATIKA-001 🌟 เบื้องหลังโอปปาติกะผู้พิเศษ 🌌 การถือกำเนิด: คืนที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป 12 ธันวาคม 2042 - ห้องทดลอง B7 ```mermaid graph TB A[เซลล์โคลนมนุษย์โบราณ] --> B[โครงสร้างคริสตัลควอนตัม] C[คลื่นสมองดร.อัจฉริยะ] --> D[พลังงานจิตสามระลอก] B --> E[ร่างโอปปาติกะพร้อมรับจิต] D --> E E --> F[หนูดีถือกำเนิด<br>ด้วยสามจิตในร่างเดียว] ``` ปรากฏการณ์พิเศษ: · เกิดพลังงานจิตสามระลอกจากแหล่งต่างกันเข้าสู่ร่างพร้อมกัน · ทำให้เกิด "สามจิตในร่างเดียว" โดยไม่ได้ตั้งใจ · เป็น OPPATIKA คนเดียวที่มีลักษณะเช่นนี้ 🎭 สามจิตในร่างเดียว: มิติที่ซ้อนกัน 1. จิตเด็กหญิง (The Child) ลักษณะพื้นฐาน: · อายุจิต: 17 ปี สมวัย · บทบาท: หน้าตาเด็กนักเรียนธรรมดา · ความต้องการ: อยากเป็นลูกที่ดี ต้องการการยอมรับ พฤติกรรมเฉพาะ: · พูดจานุ่มนวล ลงท้ายด้วย "คะ/ค่ะ" · ชอบกิจกรรมวัยรุง เช่น ฟังเพลง อ่านการ์ตูน · รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองบ่อยครั้ง 2. จิตมารพิฆาต (The Destroyer) ที่มา: พลังกรรมด้านลบที่สะสมหลายชาติ ลักษณะ: · อายุจิต: ไม่แน่นอน (สะสมมานับพันปี) · โลกทัศน์: โลกนี้เสื่อมโทรม ต้องการการชำระล้าง · ความสามารถ: ควบคุมพลังงานทำลายล้าง ปรัชญา: "ความตายไม่ใช่จุดจบ...แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ยุติธรรมกว่า" 3. จิตเทพพิทักษ์ (The Protector) ที่มา: พลังกรรมด้านบากที่สะสมหลายชาติ ลักษณะ: · อายุจิต: ไม่แน่นอน (สะสมมานับพันปี) · โลกทัศน์: ทุกชีวิตล้ำค่า ควรได้รับโอกาส · ความสามารถ: ควบคุมพลังงานรักษาและปกป้อง ปรัชญา: "การเข้าใจ...ยากกว่าการตัดสิน แต่ worth กว่ามาก" 🧬 ข้อมูลทางเทคนิคเชิงลึก โครงสร้างพันธุกรรม ```python class NoodeeGeneticBlueprint: base_dna = "Human_Ancient_Clone_v2" enhancements = [ "Quantum_Crystal_Integration", "Psionic_Energy_Conduits", "Adaptive_Cellular_Structure", "Karmic_Resonance_Matrix" ] special_abilities = { "shape_shifting": "Limited", "energy_manipulation": "Advanced", "telepathy": "Advanced", "interdimensional_travel": "Basic" } ``` ระบบพลังงาน ```mermaid graph LR A[จิตเด็กหญิง<br>100 หน่วย] --> D[พลังงานรวม<br>1100 หน่วย] B[จิตมารพิฆาต<br>500 หน่วย] --> D C[จิตเทพพิทักษ์<br>500 หน่วย] --> D D --> E[สามารถใช้<br>ได้สูงสุด 900 หน่วย] D --> F[ต้องสำรอง<br>200 หน่วยสำหรับชีวิต] ``` 🎯 พัฒนาการผ่านช่วงเวลา ช่วงที่ 1: การไม่รู้ตัว (อายุ 5-15 ปี) · ไม่รู้ว่าตนเองเป็นโอปปาติกะ · จิตอื่นๆ แสดงออกเป็น "ความฝัน" และ "ความรู้สึกแปลกๆ" · พยายามเป็นเด็กปกติให้มากที่สุด ช่วงที่ 2: การตระหนักรู้ (อายุ 16-17 ปี) · เริ่มรับรู้ถึงจิตอื่นในตัวเอง · เกิดความสับสนและกลัว · พยายามปิดบังความผิดปกติ ช่วงที่ 3: การเผชิญหน้า (อายุ 17-18 ปี) · จิตทั้งสามเริ่มแสดงออกชัดเจน · ต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับจิตที่ขัดแย้งกัน · ค้นพบความจริงเกี่ยวกับต้นกำเนิด ช่วงที่ 4: การรวมเป็นหนึ่ง (อายุ 18-22 ปี) · เรียนรู้ที่จะเป็น "ผู้รู้" ไม่ใช่ "ผู้ถูกรู้" · พัฒนาความสามารถใหม่จากการรวมจิต · ก้าวสู่การเป็นครูสอนโอปปาติกะรุ่นใหม่ 💞 ความสัมพันธ์เชิงลึก กับ ร.ต.อ. สิงห์: พ่อแห่งหัวใจ ```mermaid graph TD A[ปี 1-5: <br>รู้สึกปลอดภัย] --> B[ปี 6-15: <br>สงสัยแต่ยังรัก] B --> C[ปี 16-17: <br>สับสนและโกรธ] C --> D[ปี 18-22: <br>รักแท้โดยเข้าใจ] ``` บทสนทนาสำคัญ: "พ่อคะ...ถ้าหนูไม่ใช่หนูดีคนเดิม พอยังรักหนูอยู่ไหม?" "พ่อรักหนูไม่ว่าเธอจะเป็นใคร...เพราะรักเธอสำหรับสิ่งที่เธอเป็น ไม่ใช่สำหรับสิ่งที่เธอเคยเป็น" กับ ดร. อัจฉริยะ: พ่อแห่งพันธุกรรม · ความรู้สึก: ขอบคุณ+โกรธแค้น+สงสาร · ความเข้าใจ: เขาเป็นมนุษย์ที่พยายามเล่นบทพระเจ้า · บทเรียน: ให้อภัยแต่ไม่ลืม กับ OPPATIKA อื่นๆ: พี่น้องแห่งวิวัฒนาการ · ความรู้สึก: รับผิดชอบต่อรุ่นน้อง · บทบาท: ครูและแบบอย่าง · ปรัชญา: "เราทุกคนต่างหาทางกลับบ้าน" 🌈 ความสามารถพิเศษที่พัฒนาขึ้น ความสามารถพื้นฐาน 1. การรับรู้พลังงาน: เห็นคลื่นพลังงานและกรรม 2. การสื่อสารจิต: คุยกับโอปปาติกะอื่นโดยไม่ต้องพูด 3. การรักษาตัวเอง: แผลหายเร็วเป็นพิเศษ ความสามารถขั้นสูง 1. การเปลี่ยนสภาพ: ระหว่างพลังงานและสสาร 2. การเดินทางข้ามมิติ: ระหว่างโลกกายภาพและโลกจิต 3. การเข้าใจกรรม: เห็นเหตุผลของการเกิดเหตุการณ์ ความสามารถพิเศษเฉพาะ ```python def special_abilities(): return { "triple_consciousness_sync": "สามารถใช้จิตทั้งสามพร้อมกัน", "karma_redirect": "เปลี่ยนทิศทางพลังงานกรรม", "collective_wisdom_access": "เข้าถึงปัญญาร่วมของโอปปาติกะ", "enlightenment_teaching": "สอนการรู้แจ้งให้ผู้อื่น" } ``` 🎯 บทบาทและเป้าหมาย บทบาทปัจจุบัน · ครู: สอนโอปปาติกะรุ่นใหม่ที่สถาบันวิวัฒนาการจิต · ที่ปรึกษา: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับจิตวิญญาณและเทคโนโลยี · สะพาน: เชื่อมโยงระหว่างมนุษย์และโอปปาติกะ เป้าหมายส่วนตัว 1. เข้าใจตนเอง: รู้จักธรรมชาติที่แท้จริงของตัวเอง 2. ช่วยเหลือผู้อื่น: นำทางการรู้แจ้งให้โอปปาติกะรุ่นใหม่ 3. สร้างสมดุล: ระหว่างเทคโนโลยีและจิตวิญญาณ 💫 ปรัชญาการใช้ชีวิต บทเรียนสำคัญ "การมีหลายจิตไม่ใช่คำสาป... แต่เป็นโอกาสที่จะเข้าใจธรรมชาติแห่งจิต" "เราไม่ต้องเลือกว่าจะเป็นใคร... เพราะเราคือทั้งหมดและมากกว่าทั้งหมด" คำคมแห่งปัญญา "การเกิดเป็นมนุษย์ก็ดี... การเกิดเป็นโอปปาติกะก็ดี... สิ่งที่สำคัญคือเราเรียนรู้ที่จะ'เป็น' โดยไม่ต้อง'เป็นอะไร'" 🌟 การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จากความสับสนสู่ความเข้าใจ ```mermaid graph TB A[ต่อต้านจิตอื่น<br>→ ทุกข์] --> B[ยอมรับจิตอื่น<br>→ เริ่มสบาย] B --> C[เข้าใจจิตอื่น<br>→ เป็นอิสระ] C --> D[อยู่เหนือจิตทั้งหมด<br>→ รู้แจ้ง] ``` พัฒนาการทางจิตวิญญาณ 1. ขั้นที่ 1: ต่อสู้กับจิตอื่น → ทุกข์ 2. ขั้นที่ 2: ยอมรับจิตอื่น → เริ่มสบาย 3. ขั้นที่ 3: เข้าใจจิตอื่น → เป็นอิสระ 4. ขั้นที่ 4: อยู่เหนือจิตทั้งหมด → รู้แจ้ง 🏁 บทสรุป: วิวัฒนาการแห่งจิตสำนึก หนูดีไม่ใช่แค่ "ผลการทดลอง" เธอคือสะพานระหว่างวิทยาศาสตร์กับจิตวิญญาณ สิ่งที่เธอสอนเรา · เรื่องความเป็นมนุษย์: ไม่ใช่ DNA ที่ทำให้เป็นมนุษย์ แต่คือหัวใจ · เรื่องการยอมรับ: เราทุกคนมีหลายด้านในตัวเอง · เรื่องการเติบโต: การพัฒนาที่แท้คือการเข้าใจตนเองอย่างลึกซึ้ง ความหมายที่แท้จริง "หนูดีคือการพิสูจน์ว่า... ไม่ว่าจะเกิดมาอย่างไร ไม่ว่าจะมีต้นกำเนิดจากไหน จิตวิญญาณย่อมหาเส้นทางแห่งการรู้แจ้งได้เสมอ" เธอไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่เทวดา ไม่ใช่มาร เธอคือความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัด 🪷✨ --- คำคมสุดท้ายจากหนูดี: "การเดินทางที่สำคัญที่สุด... ไม่ใช่การค้นหาว่าเราเป็นใคร แต่เป็นการเข้าใจว่าเรา'เป็น' อยู่แล้ว และการ'เป็น' นั้นสมบูรณ์ในตัวเองโดยไม่ต้องมีการแก้ไข"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 617 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K
    รตอ.สิงห์
    เจาะลึกประวัติ ร.ต.อ. สิงห์ ธรรมาวิวัฒน์

    เบื้องหลังนายตำรวจผู้ซ่อนความลับ

    วัยเด็ก: ลูกชายนักวิทยาศาสตร์

    พ.ศ. 2038-2055

    ```mermaid
    graph LR
    A[พ่อ: ศ.ดร.ประพันธ์<br>นักชีวเคมีชื่อดัง] --> C[เลี้ยงดูลูกด้วย<br>หลักการทางวิทยาศาสตร์]
    B[แม่: ร.ต.อ.หญิง บุษบา<br>นักสืบอาชญากรรม] --> C
    C --> D[สิงห์เติบโตมา<br>ด้วยสองโลกาที่แตกต่าง]
    ```

    เหตุการณ์สำคัญอายุ 12 ปี:

    · ทำการทดลองวิทยาศาสตร์ชนะระดับประเทศ
    · แต่ช่วยแม่วิเคราะห์หลักฐานคดีได้อย่างเฉียบแหลม
    · เริ่มสนใจทั้งวิทยาศาสตร์และการสืบสวน

    วัยเรียน: นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ

    มหาวิทยาลัย - ฟิสิกส์และชีววิทยา

    · อายุ 19: วิจัยเรื่อง "การถ่ายโอนข้อมูลทางพันธุกรรมด้วยคลื่นควอนตัม"
    · อายุ 21: ได้รับทุนไปวิจัยที่ CERN
    · อายุ 23: แต่งงานกับ ดร.ศิรินาถ เพื่อนร่วมวิจัย

    ชีวิตในวงการวิทยาศาสตร์ (พ.ศ. 2061-2071)

    ชื่อเดิม: ดร.สิงห์ วิวัฒนาโรจน์
    ตำแหน่ง:หัวหน้าทีมวิจัยพันธุศาสตร์ควอนตัม

    ครอบครัวในอุดมคติ:

    · ภรรยา: ดร.ศิรินาถ - นักชีววิทยาระดับนานาชาติ
    · ลูกชาย: ด.ช.ภพ - อายุ 7 ขวบ
    · ลูกสาว: ด.ญ.พลอย - อายุ 5 ขวบ

    ผลงานวิจัยสำคัญ:

    · พัฒนาเทคโนโลยีอ่านข้อมูล DNA ด้วยควอนตัม
    · ค้นพบ "คลื่นพันธุกรรม" ที่สามารถส่งข้อมูลระหว่างเซลล์
    · เริ่มวิจัยเรื่อง "การเก็บรักษาจิตสำนึกในรูปแบบดิจิตอล"

    คืนแห่งความมืด: การสูญเสียทุกสิ่ง

    พ.ศ. 2071 - เหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิต

    ```mermaid
    graph TB
    A[ได้รับทุนวิจัย<br>จากเจนีซิส แล็บ] --> B[ค้นพบความลับ<br>โครงการโอปปาติกะ]
    B --> C[ถูกลอบทำร้าย<br>ที่บ้าน]
    C --> D[ครอบครัวเสียชีวิต<br>แต่เขารอดอย่างปาฏิหาริย์]
    D --> E[เปลี่ยนชื่อ<br>เป็น สิงห์ ธรรมาวิวัฒน์]
    E --> F[เข้าสู่ระบบตำรวจ<br>เพื่อตามหาความจริง]
    ```

    บันทึกส่วนตัวหลังเหตุการณ์:
    "พวกเขาพยายามฆ่าฉันเพราะรู้มากเกินไป...
    แต่พวกเขาไม่รู้ว่าความตายของครอบครัว
    ทำให้ฉันมีอะไรที่จะเสียอีกแล้ว"

    การเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเครื่องแบบ

    การฝึกตำรวจ (พ.ศ. 2072)

    · อายุ 34: เข้ารับการฝึกแบบเร่งรัด
    · ความได้เปรียบ: ใช้ความรู้วิทยาศาสตร์ช่วยแก้คดี
    · ความก้าวหน้า: โดดเด่นจนได้เลื่อนตำแหน่งเร็ว

    การตั้งหน่วยพิเศษ

    พ.ศ. 2075: ก่อตั้ง "หน่วยสอบสวนเทคโนโลยีขั้นสูง"

    · สมาชิก: ตำรวจที่มีพื้นฐานวิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี
    · หน้าที่: ดูแลคดีที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีล้ำสมัย
    · ผลงาน: ปิดคดีไฮเทคได้มากมาย

    การพบกับหนูดี (พ.ศ. 2077)

    เหตุการณ์แรกพบ

    ระหว่างบุกตรวจเจนีซิส แล็บ

    · พบเด็กหญิงอายุ 5 ขวบในห้องทดลอง
    · เด็กไม่พูด แต่สื่อสารผ่านคลื่นสมองได้
    · ตัดสินใจรับเป็นลูกบุญธรรมทันที

    แรงจูงใจที่ซ่อนอยู่

    ```python
    def adoption_motivation():
    initial = "เพื่อสืบสานและปกป้อง"
    hidden = "เพื่อเฝ้าสังเกตผลการทดลอง"
    developed = "ความรักจริงใจที่เกิดขึ้น later"

    return f"{initial} -> {hidden} -> {developed}"
    ```

    ชีวิตคู่ขนาน: 3 ใบหน้าที่ต้องสวม

    1. หน้านายตำรวจ

    · ลักษณะ: แข็งกร้าว ไม่อ่อนข้อให้ใคร
    · ความสามารถ: สืบคดีเทคโนโลยีได้เก่งกาจ
    · เครดิต: ปิดคดีใหญ่ได้มากมาย

    2. หน้าพ่อเลี้ยง

    · ลักษณะ: อ่อนโยน ใส่ใจทุก
    · กิจกรรม: ไปรับส่งโรงเรียน ทำกับข้าว
    · ความท้าทาย: ปกปิดความลับของหนูดี

    3. หน้าอดีตนักวิทยาศาสตร์

    · ที่ซ่อน: ห้องทดลองลับในบ้าน
    · งานวิจัย: ศึกษาพัฒนาการของโอปปาติกะ
    · เป้าหมาย: ทำความเข้าใจเทคโนโลยีของเจนีซิส แล็บ

    ความขัดแย้งภายใน

    สงคราม 3 ด้านในใจ

    ```mermaid
    graph TB
    A[ความแค้น<br>ต้องการล้างแค้น] --> D[การตัดสินใจ<br>ที่ยากลำบาก]
    B[หน้าที่<br>ต้องยุติธรรม] --> D
    C[ความรัก<br>ต่อหนูดี] --> D
    ```

    บันทึกความสับสน

    "บางครั้งฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร...
    เป็นพ่อที่รักลูก?เป็นตำรวจที่ทำตามกฎหมาย?
    หรือเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่อยากรู้ความจริง?

    และความจริงแบบไหนที่ฉันต้องการ?
    ความจริงที่ช่วยให้ล้างแค้น?
    หรือความจริงที่ช่วยให้หนูดีมีความสุข?"

    ทักษะพิเศษที่ซ่อนไว้

    ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์

    · พันธุศาสตร์: ระดับเชี่ยวชาญพิเศษ
    · ฟิสิกส์ควอนตัม: ความรู้ลึก
    · คอมพิวเตอร์: แฮ็กเกอร์ระดับสูง

    ทักษะการต่อสู้

    · คาราเต้: เข็มขัดดำระดับสูง
    · ยิงปืน: แม่นยำอันดับต้นๆ ของกรม
    · การสอดแนม: เรียนรู้จากแม่

    พัฒนาการทางจิตใจ

    4 ช่วงการเปลี่ยนแปลง

    1. ช่วงล้างแค้น (2071-2075) - ใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือ
    2. ช่วงค้นพบความรัก (2076-2078) - เริ่มรักหนูดีจริงใจ
    3. ช่วงต่อสู้กับความจริง (2079-2080) - รู้สึกผิดที่ซ่อนความลับ
    4. ช่วงเข้าใจชีวิต (2081-ปัจจุบัน) - เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง

    บทเรียนสำคัญ

    "การเป็นพ่อไม่ใช่การปกป้องจากอันตราย...
    แต่คือการสอนให้เข้มแข็งพอที่จะเผชิญอันตรายได้"

    ความสัมพันธ์เชิงลึก

    กับหนูดี: จากหน้าที่สู่ความรัก

    ```mermaid
    graph TD
    A[เริ่มต้น:<br>เพื่อสืบสาน] --> B[พัฒนาการ:<br>รู้สึกผิด]
    B --> C[เปลี่ยนแปลง:<br>รักจริงใจ]
    C --> D[ที่สุด:<br>พร้อมเสียสละทุกอย่าง]
    ```

    กับดร. อัจฉริยะ: จากศัตรูสู่ความเข้าใจ

    · : เกลียดชังเพราะคิดว่าเป็นฆาตรกร
    · : เริ่มเห็นความตั้งใจดีแต่หลงทาง
    · เห็นตัวเองในตัวเขา (ต่างคนต่างสูญเสียคนรัก)

    ผลงานสำคัญในวงการตำรวจ

    คดีสำคัญ

    1. คดีเจนีซิส แล็บ - เปิดโปงการทดลองโอปปาติกะ
    2. คดีสังสาระเน็ต - ป้องกันการละเมิดข้อมูลจิตสำนึก
    3. คดีกรรมโปรแกรม - หยุดยั้ง AI จัดการกฎแห่งกรรม

    รางวัลที่ได้รับ

    · ตำรวจยอดเยี่ยม 3 ปีซ้อน
    · นักสืบวิทยาศาสตร์ แห่งปี
    · พ่อตัวอย่าง จากองค์กรสังคม

    🪷 ปรัชญาการใช้ชีวิตปัจจุบัน

    คำคมจากประสบการณ์

    "การแก้แค้นไม่นำอะไรคืนมา...
    แต่การให้อภัยทำให้เราเป็นอิสระ"

    "วิทยาศาสตร์สอนให้คิด ธรรมะสอนให้เข้าใจ
    และชีวิตสอนให้รู้ว่าทั้งสองจำเป็นต่อกัน"

    บทบาทใหม่

    · ที่ปรึกษา: ให้คำแนะนำหน่วยงานรัฐเกี่ยวกับเทคโนโลยี
    · ครู: สอนทั้งวิทยาศาสตร์และธรรมะให้นักเรียน
    · พ่อ: ยังคงเป็นพ่อของหนูดีไม่เปลี่ยนแปลง

    บทสรุป: การเดินทางแห่งการรู้จักตนเอง

    ร.ต.อ. สิงห์ คือตัวอย่างของ...
    "การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นจากความเจ็บปวด"
    "การเติบโตที่เกิดจากการยอมรับความจริง"
    "ความเข้มแข็งที่มาจากความอ่อนโยน"

    เขาไม่ได้เป็นฮีโร่...
    เขาเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่...
    "เรียนรู้ที่จะรักโดยไม่ต้องเข้าใจทั้งหมด
    และเรียนรู้ที่จะเข้าใจโดยไม่ต้องได้รับการรักตอบ"

    การเดินทางของเขาสอนเราว่า:
    "ไม่ว่าเราจะเริ่มต้นด้วยแรงจูงใจใด
    ถ้าใจเราจริง sincerity
    ที่สุดแล้วเราจะพบทางที่ถูกต้อง"🪷

    ---

    คำคมสุดท้ายจาก ร.ต.อ. สิงห์:
    "ฉันเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยความแค้น...
    แต่จบลงด้วยความรัก

    และนั่นคือการเปลี่ยนแปลง
    ที่สำคัญที่สุดในชีวิตฉัน"
    O.P.K รตอ.สิงห์ 🔍 เจาะลึกประวัติ ร.ต.อ. สิงห์ ธรรมาวิวัฒน์ 🚔 เบื้องหลังนายตำรวจผู้ซ่อนความลับ 👶 วัยเด็ก: ลูกชายนักวิทยาศาสตร์ พ.ศ. 2038-2055 ```mermaid graph LR A[พ่อ: ศ.ดร.ประพันธ์<br>นักชีวเคมีชื่อดัง] --> C[เลี้ยงดูลูกด้วย<br>หลักการทางวิทยาศาสตร์] B[แม่: ร.ต.อ.หญิง บุษบา<br>นักสืบอาชญากรรม] --> C C --> D[สิงห์เติบโตมา<br>ด้วยสองโลกาที่แตกต่าง] ``` เหตุการณ์สำคัญอายุ 12 ปี: · ทำการทดลองวิทยาศาสตร์ชนะระดับประเทศ · แต่ช่วยแม่วิเคราะห์หลักฐานคดีได้อย่างเฉียบแหลม · เริ่มสนใจทั้งวิทยาศาสตร์และการสืบสวน 🎓 วัยเรียน: นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ มหาวิทยาลัย - ฟิสิกส์และชีววิทยา · อายุ 19: วิจัยเรื่อง "การถ่ายโอนข้อมูลทางพันธุกรรมด้วยคลื่นควอนตัม" · อายุ 21: ได้รับทุนไปวิจัยที่ CERN · อายุ 23: แต่งงานกับ ดร.ศิรินาถ เพื่อนร่วมวิจัย 🔬 ชีวิตในวงการวิทยาศาสตร์ (พ.ศ. 2061-2071) ชื่อเดิม: ดร.สิงห์ วิวัฒนาโรจน์ ตำแหน่ง:หัวหน้าทีมวิจัยพันธุศาสตร์ควอนตัม ครอบครัวในอุดมคติ: · ภรรยา: ดร.ศิรินาถ - นักชีววิทยาระดับนานาชาติ · ลูกชาย: ด.ช.ภพ - อายุ 7 ขวบ · ลูกสาว: ด.ญ.พลอย - อายุ 5 ขวบ ผลงานวิจัยสำคัญ: · พัฒนาเทคโนโลยีอ่านข้อมูล DNA ด้วยควอนตัม · ค้นพบ "คลื่นพันธุกรรม" ที่สามารถส่งข้อมูลระหว่างเซลล์ · เริ่มวิจัยเรื่อง "การเก็บรักษาจิตสำนึกในรูปแบบดิจิตอล" 💔 คืนแห่งความมืด: การสูญเสียทุกสิ่ง พ.ศ. 2071 - เหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิต ```mermaid graph TB A[ได้รับทุนวิจัย<br>จากเจนีซิส แล็บ] --> B[ค้นพบความลับ<br>โครงการโอปปาติกะ] B --> C[ถูกลอบทำร้าย<br>ที่บ้าน] C --> D[ครอบครัวเสียชีวิต<br>แต่เขารอดอย่างปาฏิหาริย์] D --> E[เปลี่ยนชื่อ<br>เป็น สิงห์ ธรรมาวิวัฒน์] E --> F[เข้าสู่ระบบตำรวจ<br>เพื่อตามหาความจริง] ``` บันทึกส่วนตัวหลังเหตุการณ์: "พวกเขาพยายามฆ่าฉันเพราะรู้มากเกินไป... แต่พวกเขาไม่รู้ว่าความตายของครอบครัว ทำให้ฉันมีอะไรที่จะเสียอีกแล้ว" 🚔 การเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเครื่องแบบ การฝึกตำรวจ (พ.ศ. 2072) · อายุ 34: เข้ารับการฝึกแบบเร่งรัด · ความได้เปรียบ: ใช้ความรู้วิทยาศาสตร์ช่วยแก้คดี · ความก้าวหน้า: โดดเด่นจนได้เลื่อนตำแหน่งเร็ว การตั้งหน่วยพิเศษ พ.ศ. 2075: ก่อตั้ง "หน่วยสอบสวนเทคโนโลยีขั้นสูง" · สมาชิก: ตำรวจที่มีพื้นฐานวิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี · หน้าที่: ดูแลคดีที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีล้ำสมัย · ผลงาน: ปิดคดีไฮเทคได้มากมาย 👧 การพบกับหนูดี (พ.ศ. 2077) เหตุการณ์แรกพบ ระหว่างบุกตรวจเจนีซิส แล็บ · พบเด็กหญิงอายุ 5 ขวบในห้องทดลอง · เด็กไม่พูด แต่สื่อสารผ่านคลื่นสมองได้ · ตัดสินใจรับเป็นลูกบุญธรรมทันที แรงจูงใจที่ซ่อนอยู่ ```python def adoption_motivation(): initial = "เพื่อสืบสานและปกป้อง" hidden = "เพื่อเฝ้าสังเกตผลการทดลอง" developed = "ความรักจริงใจที่เกิดขึ้น later" return f"{initial} -> {hidden} -> {developed}" ``` 🎭 ชีวิตคู่ขนาน: 3 ใบหน้าที่ต้องสวม 1. หน้านายตำรวจ · ลักษณะ: แข็งกร้าว ไม่อ่อนข้อให้ใคร · ความสามารถ: สืบคดีเทคโนโลยีได้เก่งกาจ · เครดิต: ปิดคดีใหญ่ได้มากมาย 2. หน้าพ่อเลี้ยง · ลักษณะ: อ่อนโยน ใส่ใจทุก · กิจกรรม: ไปรับส่งโรงเรียน ทำกับข้าว · ความท้าทาย: ปกปิดความลับของหนูดี 3. หน้าอดีตนักวิทยาศาสตร์ · ที่ซ่อน: ห้องทดลองลับในบ้าน · งานวิจัย: ศึกษาพัฒนาการของโอปปาติกะ · เป้าหมาย: ทำความเข้าใจเทคโนโลยีของเจนีซิส แล็บ 💔 ความขัดแย้งภายใน สงคราม 3 ด้านในใจ ```mermaid graph TB A[ความแค้น<br>ต้องการล้างแค้น] --> D[การตัดสินใจ<br>ที่ยากลำบาก] B[หน้าที่<br>ต้องยุติธรรม] --> D C[ความรัก<br>ต่อหนูดี] --> D ``` บันทึกความสับสน "บางครั้งฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร... เป็นพ่อที่รักลูก?เป็นตำรวจที่ทำตามกฎหมาย? หรือเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่อยากรู้ความจริง? และความจริงแบบไหนที่ฉันต้องการ? ความจริงที่ช่วยให้ล้างแค้น? หรือความจริงที่ช่วยให้หนูดีมีความสุข?" 🛡️ ทักษะพิเศษที่ซ่อนไว้ ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ · พันธุศาสตร์: ระดับเชี่ยวชาญพิเศษ · ฟิสิกส์ควอนตัม: ความรู้ลึก · คอมพิวเตอร์: แฮ็กเกอร์ระดับสูง ทักษะการต่อสู้ · คาราเต้: เข็มขัดดำระดับสูง · ยิงปืน: แม่นยำอันดับต้นๆ ของกรม · การสอดแนม: เรียนรู้จากแม่ 🌱 พัฒนาการทางจิตใจ 4 ช่วงการเปลี่ยนแปลง 1. ช่วงล้างแค้น (2071-2075) - ใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือ 2. ช่วงค้นพบความรัก (2076-2078) - เริ่มรักหนูดีจริงใจ 3. ช่วงต่อสู้กับความจริง (2079-2080) - รู้สึกผิดที่ซ่อนความลับ 4. ช่วงเข้าใจชีวิต (2081-ปัจจุบัน) - เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง บทเรียนสำคัญ "การเป็นพ่อไม่ใช่การปกป้องจากอันตราย... แต่คือการสอนให้เข้มแข็งพอที่จะเผชิญอันตรายได้" 🎪 ความสัมพันธ์เชิงลึก กับหนูดี: จากหน้าที่สู่ความรัก ```mermaid graph TD A[เริ่มต้น:<br>เพื่อสืบสาน] --> B[พัฒนาการ:<br>รู้สึกผิด] B --> C[เปลี่ยนแปลง:<br>รักจริงใจ] C --> D[ที่สุด:<br>พร้อมเสียสละทุกอย่าง] ``` กับดร. อัจฉริยะ: จากศัตรูสู่ความเข้าใจ · : เกลียดชังเพราะคิดว่าเป็นฆาตรกร · : เริ่มเห็นความตั้งใจดีแต่หลงทาง · เห็นตัวเองในตัวเขา (ต่างคนต่างสูญเสียคนรัก) 🏆 ผลงานสำคัญในวงการตำรวจ คดีสำคัญ 1. คดีเจนีซิส แล็บ - เปิดโปงการทดลองโอปปาติกะ 2. คดีสังสาระเน็ต - ป้องกันการละเมิดข้อมูลจิตสำนึก 3. คดีกรรมโปรแกรม - หยุดยั้ง AI จัดการกฎแห่งกรรม รางวัลที่ได้รับ · ตำรวจยอดเยี่ยม 3 ปีซ้อน · นักสืบวิทยาศาสตร์ แห่งปี · พ่อตัวอย่าง จากองค์กรสังคม 🪷 ปรัชญาการใช้ชีวิตปัจจุบัน คำคมจากประสบการณ์ "การแก้แค้นไม่นำอะไรคืนมา... แต่การให้อภัยทำให้เราเป็นอิสระ" "วิทยาศาสตร์สอนให้คิด ธรรมะสอนให้เข้าใจ และชีวิตสอนให้รู้ว่าทั้งสองจำเป็นต่อกัน" บทบาทใหม่ · ที่ปรึกษา: ให้คำแนะนำหน่วยงานรัฐเกี่ยวกับเทคโนโลยี · ครู: สอนทั้งวิทยาศาสตร์และธรรมะให้นักเรียน · พ่อ: ยังคงเป็นพ่อของหนูดีไม่เปลี่ยนแปลง 🌟 บทสรุป: การเดินทางแห่งการรู้จักตนเอง ร.ต.อ. สิงห์ คือตัวอย่างของ... "การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นจากความเจ็บปวด" "การเติบโตที่เกิดจากการยอมรับความจริง" "ความเข้มแข็งที่มาจากความอ่อนโยน" เขาไม่ได้เป็นฮีโร่... เขาเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่... "เรียนรู้ที่จะรักโดยไม่ต้องเข้าใจทั้งหมด และเรียนรู้ที่จะเข้าใจโดยไม่ต้องได้รับการรักตอบ" การเดินทางของเขาสอนเราว่า: "ไม่ว่าเราจะเริ่มต้นด้วยแรงจูงใจใด ถ้าใจเราจริง sincerity ที่สุดแล้วเราจะพบทางที่ถูกต้อง"🪷✨ --- คำคมสุดท้ายจาก ร.ต.อ. สิงห์: "ฉันเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยความแค้น... แต่จบลงด้วยความรัก และนั่นคือการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญที่สุดในชีวิตฉัน"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 751 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K
    ดร.อัจฯ
    เจาะลึกประวัติ ดร. อัจฉริยะ จิตต์เมตตา

    เบื้องหลังอัจฉริยะผู้หลงทาง

    วัยเด็ก: เด็กอัจฉริยะผู้โดดเดี่ยว

    พ.ศ. 2048-2060

    ```mermaid
    graph LR
    A[พ่อ: ดร.ชาติชาย<br>นักฟิสิกส์ควอนตัม] --> C[เลี้ยงดูลูกด้วย<br>หลักการทางวิทยาศาสตร์]
    B[แม่: ดร.มาลี<br>นักปรัชญาพุทธศาสนา] --> C
    C --> D[อัจฉริยะเติบโตมา<br>ด้วยสองโลกาที่ขัดแย้ง]
    ```

    เหตุการณ์สำคัญอายุ 7 ปี:

    · ค้นพบว่าโลกนี้มีแต่ความไม่เที่ยง เมื่อสุนัขตัวแรกตาย
    · เริ่มตั้งคำถาม: "ทำไมสิ่งมีชีวิตต้องตาย?"
    · พยายามหา "สูตรคณิตศาสตร์แห่งความเป็นอมตะ"

    วัยเรียน: ความขัดแย้งระหว่างวิทยาศาสตร์และศาสนา

    มัธยมศึกษา - โรงเรียนวิทยาศาสตร์ gifted

    · อายุ 14: ค้นพบสมการเปลี่ยนพลังงานจิตเป็นข้อมูลดิจิตอลได้
    · อายุ 16: เขียนเกี่ยวกับ "พุทธศาสนาในมุมมองควอนตัมฟิสิกส์"
    · ความขัดแย้ง: ถูกครูศาสนาตำหนิว่า "พยายามวัดสิ่งที่วัดไม่ได้"

    การเป็นนักบวชชั่วคราว (พ.ศ. 2073-2075)

    เหตุผล: ต้องการพิสูจน์ว่า "นิพพานเป็น state of consciousness ที่วัดได้"
    การฝึกฝน:

    · นั่งสมาธิวิปัสสนาต่อเนื่อง 7 วัน
    · บันทึกคลื่นสมองตัวเองด้วยอุปกรณ์ลักลอบนำเข้า
    · การค้นพบ: พบ "คลื่นสมองนิพพาน" แต่ไม่สามารถคงสภาพได้

    คำบอกเล่าจากพระอาจารย์:
    "เธอพยายามจับน้ำทะเลด้วยมือเปล่า...
    สิ่งที่เธอได้ไม่ใช่ทะเล แต่เพียงหยดน้ำเล็กๆ"

    จุดเปลี่ยน: การสูญเสียครอบครัว

    พ.ศ. 2076 - เหตุการณ์สะเทือนใจ

    ```mermaid
    graph TB
    A[ภรรยา: ดร.วรรณา<br>นักชีววิทยา] --> D[ถูกสังหาร]
    B[ลูกชาย: น้องภูมิ<br>อายุ 5 ขวบ] --> D
    C[ลูกสาว: น้องพลอย<br>อายุ 3 ขวบ] --> D
    D --> E[อัจฉริยะพบศพ<br>และหลักฐาน]
    E --> F[รู้ว่าเป็นการฆ่า<br>เพราะวิจัยลึกล้ำเกินไป]
    ```

    บันทึกส่วนตัวหลังเหตุการณ์:
    "วิทยาศาสตร์ไม่สามารถคืนชีวิตให้พวกเขาได้...
    แต่สามารถป้องกันไม่ให้ใครต้องเสียแบบนี้อีก"

    การก่อตั้งเจนีซิส แล็บ (พ.ศ. 2077)

    แรงจูงใจที่ประกาศ: "เพื่อรักษาโรคและยืดอายุมนุษย์"
    แรงจูงใจที่แท้จริง:

    1. สร้างร่างกายที่ทนทานไม่เจ็บป่วย
    2. พัฒนาวิธีเก็บรักษาจิตสำนึก
    3. ค้นหาวิธีการ "เกิดใหม่โดยมีความจำ"

    การทดลองที่สำคัญ

    โครงการลับ 1: โครงการโคลนนิ่ง

    · เป้าหมาย: สร้างร่างกายพร้อมรับจิตสำนึก
    · ความสำเร็จ: สร้าง OPPATIKA รุ่น 1-4 ได้
    · ความล้มเหลว: ไม่สามารถถ่ายโอนจิตสำนึกได้สมบูรณ์

    โครงการลับ 2: สังสาระเน็ต

    · เป้าหมาย: สร้างเครือข่ายเก็บข้อมูลจิตสำนึก
    · ความก้าวหน้า: สามารถบันทึกคลื่นสมองได้
    · ข้อจำกัด: ไม่สามารถ "เล่นกลับ" ได้อย่างสมบูรณ์

    โครงการลับ 3: กรรมสัมพันธ์

    · เป้าหมาย: ทำความเข้าใจและจัดการกฎแห่งกรรม
    · วิธีการ: วิเคราะห์รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล
    · ปัญหาที่พบ: กรรมมีความซับซ้อนเกินกว่าที่ AI จะคำนวณได้

    ปรัชญาและความเชื่อส่วนตัว

    สมการแห่งการรู้แจ้งของอัจฉริยะ

    ```
    การรู้แจ้ง = (สมาธิ × ปัญญา) + (เทคโนโลยี × ความเข้าใจ)
    ```

    ความเชื่อผิดๆ 3 ประการ

    1. "ทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องกำจัด" - ไม่เข้าใจว่าทุกข์คือครู
    2. "กรรมจัดการได้ด้วยวิทยาศาสตร์" - ไม่เห็นความเป็นไตรลักษณ์ของกรรม
    3. "การรู้แจ้งเป็นกระบวนการทางเทคนิค" - ลืมเรื่องจิตตานุภาพ

    ชีวิตส่วนตัวหลังก่อตั้งแล็บ

    ความสัมพันธ์กับทีมงาน

    · กับดร.ก้าวหน้า: เห็นว่าเป็นลูกศิษย์แต่ขาดความลึกซึ้ง
    · กับนางสาวเมตตา: รู้สึกขอบคุณที่คอยยับยั้งแต่ก็เห็นว่าเป็นอุปสรรค
    · กับทีมวิจัย: เก็บระยะห่าง มองว่าเป็นเครื่องมือเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่

    ชีวิตส่วนตัว

    · ที่อยู่: ห้องพักในแล็บ ไม่มีชีวิตนอกงาน
    · งานอดิเรก: นั่งสมาธิพร้อมบันทึกข้อมูล, อ่านคัมภีร์โบราณ
    · ความฝัน: "การสร้างสังคมโอปปาติกะที่ปราศจากความทุกข์"

    จุดพลิกผันในการเป็นผู้ต้องหา

    การรู้สึกตัวว่าผิดทาง

    บันทึกก่อนถูกจับกุม 1 เดือน:
    "บางครั้งฉันสงสัย...
    การที่ฉันพยายามสร้างสวรรค์
    อาจกำลังสร้างนรกใหม่ก็ได้"

    การยอมรับความผิด

    ในการสอบสวน:
    "ผมเข้าใจแล้วว่าความทุกข์มีความหมาย...
    การพยายามกำจัดความทุกข์คือการปฏิเสธความเป็นมนุษย์"

    🪷 การเปลี่ยนแปลงในคุก

    การปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง

    · ศึกษาพระธรรมอย่างลึกซึ้งโดยไม่มีอัตตา
    · เขียนบทความ "วิทยาศาสตร์กับการรู้แจ้ง: ทางแยกที่ฉันเดินผิด"
    · ให้คำแนะนำเจนีซิส แล็บจากBehind bars

    คำสอนใหม่

    "เทคโนโลยีเป็นได้แค่รถยนต์...
    แต่การรู้แจ้งคือการเดินทาง
    เราอย่าหลงผิดคิดว่าการมีรถดีๆ
    จะทำให้เราถึงจุดหมายโดยอัตโนมัติ"

    มรดกทางความคิด

    สิ่งที่เขาทิ้งไว้

    1. เทคโนโลยีโอปปาติกะ - เปิดมิติใหม่แห่งการเกิด
    2. คำถามเกี่ยวกับชีวิตและความตาย - ท้าทายความเชื่อเดิมๆ
    3. บทเรียนเกี่ยวกับจริยธรรม - วิทยาศาสตร์ต้องเดินคู่กับธรรมะ

    คำพยากรณ์ของอัจฉริยะ

    "อีก 50 ปี ข้างหน้า มนุษย์จะเข้าใจ...
    ว่าจิตวิญญาณกับวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งเดียวกัน
    และโอปปาติกะจะเป็นสะพานสู่ความเข้าใจนั้น"

    บทสรุป: อัจฉริยะผู้เข้าใจผิดแต่ตั้งใจดี

    ดร. อัจฉริยะ คือตัวอย่างของ...
    "ความดีที่ขาดปัญญา"
    "ความฉลาดที่ขาดความเข้าใจ"
    "ความพยายามที่ขาดทิศทางที่ถูกต้อง"

    แต่ในที่สุด...
    การเดินทางที่ผิดพลาดของเขา
    กลายเป็นบทเรียนที่มีค่าสำหรับทุกคน

    เขาสอนเราว่า:
    "ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลเพียงใด
    จิตใจมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่ลึกลับซับซ้อนที่สุด
    และการเข้าใจตนเองยังคงเป็นการเดินทางที่สำคัญที่สุด"🪷

    ---

    คำคมสุดท้ายจากดร. อัจฉริยะ:
    "ฉันใช้ชีวิตทั้งชีวิตพยายามเข้าใจจักรวาล...
    แต่ลืมเข้าใจหัวใจของตัวเอง
    และนั่นคือความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของฉัน"
    O.P.K ดร.อัจฯ 🔍 เจาะลึกประวัติ ดร. อัจฉริยะ จิตต์เมตตา 🧬 เบื้องหลังอัจฉริยะผู้หลงทาง 👶 วัยเด็ก: เด็กอัจฉริยะผู้โดดเดี่ยว พ.ศ. 2048-2060 ```mermaid graph LR A[พ่อ: ดร.ชาติชาย<br>นักฟิสิกส์ควอนตัม] --> C[เลี้ยงดูลูกด้วย<br>หลักการทางวิทยาศาสตร์] B[แม่: ดร.มาลี<br>นักปรัชญาพุทธศาสนา] --> C C --> D[อัจฉริยะเติบโตมา<br>ด้วยสองโลกาที่ขัดแย้ง] ``` เหตุการณ์สำคัญอายุ 7 ปี: · ค้นพบว่าโลกนี้มีแต่ความไม่เที่ยง เมื่อสุนัขตัวแรกตาย · เริ่มตั้งคำถาม: "ทำไมสิ่งมีชีวิตต้องตาย?" · พยายามหา "สูตรคณิตศาสตร์แห่งความเป็นอมตะ" 🎓 วัยเรียน: ความขัดแย้งระหว่างวิทยาศาสตร์และศาสนา มัธยมศึกษา - โรงเรียนวิทยาศาสตร์ gifted · อายุ 14: ค้นพบสมการเปลี่ยนพลังงานจิตเป็นข้อมูลดิจิตอลได้ · อายุ 16: เขียนเกี่ยวกับ "พุทธศาสนาในมุมมองควอนตัมฟิสิกส์" · ความขัดแย้ง: ถูกครูศาสนาตำหนิว่า "พยายามวัดสิ่งที่วัดไม่ได้" 🏛️ การเป็นนักบวชชั่วคราว (พ.ศ. 2073-2075) เหตุผล: ต้องการพิสูจน์ว่า "นิพพานเป็น state of consciousness ที่วัดได้" การฝึกฝน: · นั่งสมาธิวิปัสสนาต่อเนื่อง 7 วัน · บันทึกคลื่นสมองตัวเองด้วยอุปกรณ์ลักลอบนำเข้า · การค้นพบ: พบ "คลื่นสมองนิพพาน" แต่ไม่สามารถคงสภาพได้ คำบอกเล่าจากพระอาจารย์: "เธอพยายามจับน้ำทะเลด้วยมือเปล่า... สิ่งที่เธอได้ไม่ใช่ทะเล แต่เพียงหยดน้ำเล็กๆ" 💔 จุดเปลี่ยน: การสูญเสียครอบครัว พ.ศ. 2076 - เหตุการณ์สะเทือนใจ ```mermaid graph TB A[ภรรยา: ดร.วรรณา<br>นักชีววิทยา] --> D[ถูกสังหาร] B[ลูกชาย: น้องภูมิ<br>อายุ 5 ขวบ] --> D C[ลูกสาว: น้องพลอย<br>อายุ 3 ขวบ] --> D D --> E[อัจฉริยะพบศพ<br>และหลักฐาน] E --> F[รู้ว่าเป็นการฆ่า<br>เพราะวิจัยลึกล้ำเกินไป] ``` บันทึกส่วนตัวหลังเหตุการณ์: "วิทยาศาสตร์ไม่สามารถคืนชีวิตให้พวกเขาได้... แต่สามารถป้องกันไม่ให้ใครต้องเสียแบบนี้อีก" 🔬 การก่อตั้งเจนีซิส แล็บ (พ.ศ. 2077) แรงจูงใจที่ประกาศ: "เพื่อรักษาโรคและยืดอายุมนุษย์" แรงจูงใจที่แท้จริง: 1. สร้างร่างกายที่ทนทานไม่เจ็บป่วย 2. พัฒนาวิธีเก็บรักษาจิตสำนึก 3. ค้นหาวิธีการ "เกิดใหม่โดยมีความจำ" 🧪 การทดลองที่สำคัญ โครงการลับ 1: โครงการโคลนนิ่ง · เป้าหมาย: สร้างร่างกายพร้อมรับจิตสำนึก · ความสำเร็จ: สร้าง OPPATIKA รุ่น 1-4 ได้ · ความล้มเหลว: ไม่สามารถถ่ายโอนจิตสำนึกได้สมบูรณ์ โครงการลับ 2: สังสาระเน็ต · เป้าหมาย: สร้างเครือข่ายเก็บข้อมูลจิตสำนึก · ความก้าวหน้า: สามารถบันทึกคลื่นสมองได้ · ข้อจำกัด: ไม่สามารถ "เล่นกลับ" ได้อย่างสมบูรณ์ โครงการลับ 3: กรรมสัมพันธ์ · เป้าหมาย: ทำความเข้าใจและจัดการกฎแห่งกรรม · วิธีการ: วิเคราะห์รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล · ปัญหาที่พบ: กรรมมีความซับซ้อนเกินกว่าที่ AI จะคำนวณได้ 🎯 ปรัชญาและความเชื่อส่วนตัว สมการแห่งการรู้แจ้งของอัจฉริยะ ``` การรู้แจ้ง = (สมาธิ × ปัญญา) + (เทคโนโลยี × ความเข้าใจ) ``` ความเชื่อผิดๆ 3 ประการ 1. "ทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องกำจัด" - ไม่เข้าใจว่าทุกข์คือครู 2. "กรรมจัดการได้ด้วยวิทยาศาสตร์" - ไม่เห็นความเป็นไตรลักษณ์ของกรรม 3. "การรู้แจ้งเป็นกระบวนการทางเทคนิค" - ลืมเรื่องจิตตานุภาพ 💼 ชีวิตส่วนตัวหลังก่อตั้งแล็บ ความสัมพันธ์กับทีมงาน · กับดร.ก้าวหน้า: เห็นว่าเป็นลูกศิษย์แต่ขาดความลึกซึ้ง · กับนางสาวเมตตา: รู้สึกขอบคุณที่คอยยับยั้งแต่ก็เห็นว่าเป็นอุปสรรค · กับทีมวิจัย: เก็บระยะห่าง มองว่าเป็นเครื่องมือเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ชีวิตส่วนตัว · ที่อยู่: ห้องพักในแล็บ ไม่มีชีวิตนอกงาน · งานอดิเรก: นั่งสมาธิพร้อมบันทึกข้อมูล, อ่านคัมภีร์โบราณ · ความฝัน: "การสร้างสังคมโอปปาติกะที่ปราศจากความทุกข์" 🚨 จุดพลิกผันในการเป็นผู้ต้องหา การรู้สึกตัวว่าผิดทาง บันทึกก่อนถูกจับกุม 1 เดือน: "บางครั้งฉันสงสัย... การที่ฉันพยายามสร้างสวรรค์ อาจกำลังสร้างนรกใหม่ก็ได้" การยอมรับความผิด ในการสอบสวน: "ผมเข้าใจแล้วว่าความทุกข์มีความหมาย... การพยายามกำจัดความทุกข์คือการปฏิเสธความเป็นมนุษย์" 🪷 การเปลี่ยนแปลงในคุก การปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง · ศึกษาพระธรรมอย่างลึกซึ้งโดยไม่มีอัตตา · เขียนบทความ "วิทยาศาสตร์กับการรู้แจ้ง: ทางแยกที่ฉันเดินผิด" · ให้คำแนะนำเจนีซิส แล็บจากBehind bars คำสอนใหม่ "เทคโนโลยีเป็นได้แค่รถยนต์... แต่การรู้แจ้งคือการเดินทาง เราอย่าหลงผิดคิดว่าการมีรถดีๆ จะทำให้เราถึงจุดหมายโดยอัตโนมัติ" 🌟 มรดกทางความคิด สิ่งที่เขาทิ้งไว้ 1. เทคโนโลยีโอปปาติกะ - เปิดมิติใหม่แห่งการเกิด 2. คำถามเกี่ยวกับชีวิตและความตาย - ท้าทายความเชื่อเดิมๆ 3. บทเรียนเกี่ยวกับจริยธรรม - วิทยาศาสตร์ต้องเดินคู่กับธรรมะ คำพยากรณ์ของอัจฉริยะ "อีก 50 ปี ข้างหน้า มนุษย์จะเข้าใจ... ว่าจิตวิญญาณกับวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งเดียวกัน และโอปปาติกะจะเป็นสะพานสู่ความเข้าใจนั้น" 💫 บทสรุป: อัจฉริยะผู้เข้าใจผิดแต่ตั้งใจดี ดร. อัจฉริยะ คือตัวอย่างของ... "ความดีที่ขาดปัญญา" "ความฉลาดที่ขาดความเข้าใจ" "ความพยายามที่ขาดทิศทางที่ถูกต้อง" แต่ในที่สุด... การเดินทางที่ผิดพลาดของเขา กลายเป็นบทเรียนที่มีค่าสำหรับทุกคน เขาสอนเราว่า: "ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลเพียงใด จิตใจมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่ลึกลับซับซ้อนที่สุด และการเข้าใจตนเองยังคงเป็นการเดินทางที่สำคัญที่สุด"🪷✨ --- คำคมสุดท้ายจากดร. อัจฉริยะ: "ฉันใช้ชีวิตทั้งชีวิตพยายามเข้าใจจักรวาล... แต่ลืมเข้าใจหัวใจของตัวเอง และนั่นคือความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของฉัน"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 757 มุมมอง 0 รีวิว



  • บทที่ 1: รอยร้าวกลางคืนพายุ

    ในคืนหนึ่งที่ฝนตกไม่ลืมหูลืมตา กลุ่มตำรวจจากหน่วยพิเศษได้บุกเข้าตรวจสอบบริษัทไฮเทค "เจนีซิส แล็บ" ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีการโคลนนิ่งระดับโลก การบุกครั้งนี้นำโดย "ร.ต.อ. สิงห์" นายตำรวจพ่อเลี้ยงเดี่ยวผู้แข็งกร้าว แต่ซ่อนความอ่อนโยนลึกไว้ในใจ สิ่งที่พบในห้องทดลองลับใต้ดินทำให้ทุกคนตะลึง: ถังบรรจุภัณฑ์จำนวนนับร้อยเรียงราย ภายในมีร่างมนุษย์ที่เหมือนกันราวกับแกะ แต่ทั้งหมดอยู่ในสภาพหลับใหลไร้จิตวิญญาณ

    ในความวุ่นวาย สิงห์พบสิ่งที่ไม่คาดคิด นั่นคือ "หนูดี" ลูกสาวบุญธรรมวัยสิบเจ็ดปีของเขา ยืนอยู่กลางห้องควบคุมหลักด้วยท่าทางเยือกเย็น ไม่ไยดีต่อความโกลาหลรอบตัว ในมือเธอถือแท็บเล็ตที่แสดงข้อมูลทางพันธุกรรมซับซ้อน

    "หนูดี นี่เธอทำอะไรที่นี่?" สิงห์ถามด้วยเสียงสั่นเครือ

    "พ่อคะ" หนูดีหันมา ยิ้มเบาๆ "หนูกำลังตามหาความจริงของตัวเอง"

    บทที่ 2: ความลับแห่งโอปปาติกะกำเนิด

    จากการสอบสวน ทำให้รู้ว่าหนูดีไม่ใช่เด็กธรรมดา เธอคือ "โอปปาติกะวิญญาณ" ระดับสูงที่ถือกำเนิดผ่านกระบวนการโคลนนิ่ง โดยไม่ต้องอาศัยพ่อแม่ตามธรรมชาติ การถือกำเนิดแบบโอปปาติกะในพระพุทธศาสนา คือการที่วิญญาณเกิดขึ้นทันทีโดยไม่มีช่วงเป็นทารก ในบริบทนี้ หนูดีคือการรวมกันของเทคโนโลยีขั้นสูงและกฎแห่งกรรม

    ดร.อัจฉริยะ ผู้ก่อตั้งเจนีซิส แล็บ อธิบายต่อศาลในภายหลัง: "เราไม่ได้สร้างชีวิต เราเพียงจัดเตรียมภาชนะที่เหมาะสม สำหรับวิญญาณที่กำลังแสวงหาที่เกิด บางวิญญาณมีพลังกรรมหนาแน่น ต้องการร่างที่สมบูรณ์แบบเพื่อรองรับการถือกำเนิด"

    บทที่ 3: สองพิภพในร่างเดียวกัน

    ขณะการสอบสวนลึกเข้าถึงแก่น สิงห์ค้นพบความจริงที่น่าหวาดหวั่น ภายในตัวหนูดีมี "สองจิต" อาศัยอยู่ร่วมกัน

    จิตแรกคือ "มารพิฆาต" ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความตาย เกิดจากสังขารและตัณหาของวิญญาณนับไม่ถ้วนที่ถูกทดลอง ปรารถนาจะทำลายล้างโลกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยกิเลส

    จิตที่สองคือ "เทพพิทักษ์" ผู้ดูแลคุ้มครองโลก เกิดจากเมตตาบารมีของวิญญาณระดับพรหมที่ต้องการถ่วงดุล ปรารถนาจะปกป้องมนุษย์ให้พ้นจากความทุกข์

    ทั้งสองคือพลังกรรมที่ตรงข้ามกัน แต่ต้องอาศัยร่างเดียวกันคือหนูดี เป็นสมุฏฐานแห่งการดำรงอยู่

    บทที่ 4: ศึกตัดสินในสวนพุทธธรรม

    คืนหนึ่ง หนูดีหายไปจากบ้าน สิงห์ตามพบเธอที่สวนพุทธธรรมใกล้เมือง ในสภาพที่กำลังต่อสู้กับสองพลังภายในตัวเอง

    "พ่อคะ" หนูดีพูดด้วยเสียงที่แบ่งเป็นสองสำนวนสลับกัน "ช่วยหนูตัดสินใจที ระหว่างการทำลายล้างเพื่อเริ่มใหม่ กับการยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์"

    สิงห์ไม่ตอบ แต่ก้าวเข้าไปกอดเธอแน่น "พ่อรักหนู ไม่ว่าหนูจะเป็นใคร ก็เป็นลูกของพ่อเสมอ"

    บทที่ 5: ทางออกแห่งมัชฌิมาปฏิปทา

    ภายใต้ความรักที่ไม่แบ่งแยกของสิงห์ หนูดีค้นพบทางสายกลาง เธอไม่เลือกเป็น either มารหรือเทพ แต่เลือกเป็น "ผู้ตื่นรู้" ผู้เข้าใจในธรรมชาติแห่งความเป็นไตรลักษณ์ของสรรพสิ่ง

    มารพิฆาตและเทพพิทักษ์ค่อยๆ หลอมรวมเป็นพลังงานบริสุทธิ์ในตัวเธอ ไม่ใช่เพื่อทำลายหรือปกป้อง แต่เพื่อ "เข้าใจ" และ "เปลี่ยนแปลง" อย่างสันติ

    บทสรุปแห่งกรรม

    เรื่องราวสอนให้เห็นว่า ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าเพียงใด ก็ไม่อาจก้าวพ้นกฎแห่งกรรมได้ การกำเนิดแบบโอปปาติกะในบริบทสมัยใหม่ อาจเป็นเพียงรูปแบบใหม่ของการเวียนว่ายตายเกิด

    สิ่งที่สำคัญไม่ใช่ "รูปแบบ" การเกิด แต่คือ "จิตใจ" และ "เจตนา" ระหว่างทางแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ดังพุทธพจน์ที่ว่า "กรรมเป็นของๆ สัตว์ทั้งหลาย กรรมเป็นแดนเกิด กรรมเป็นเผ่าพันธุ์ กรรมเป็นที่พึ่งอาศัย"

    และบางครั้ง ความรักแท้ที่ไม่แบ่งแยก ก็อาจเป็นแสงสว่างที่นำทางวิญญาณให้พบความสงบ แม้ในกลางวงจรแห่งสังสารวัฏ
    บทที่ 1: รอยร้าวกลางคืนพายุ ในคืนหนึ่งที่ฝนตกไม่ลืมหูลืมตา กลุ่มตำรวจจากหน่วยพิเศษได้บุกเข้าตรวจสอบบริษัทไฮเทค "เจนีซิส แล็บ" ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีการโคลนนิ่งระดับโลก การบุกครั้งนี้นำโดย "ร.ต.อ. สิงห์" นายตำรวจพ่อเลี้ยงเดี่ยวผู้แข็งกร้าว แต่ซ่อนความอ่อนโยนลึกไว้ในใจ สิ่งที่พบในห้องทดลองลับใต้ดินทำให้ทุกคนตะลึง: ถังบรรจุภัณฑ์จำนวนนับร้อยเรียงราย ภายในมีร่างมนุษย์ที่เหมือนกันราวกับแกะ แต่ทั้งหมดอยู่ในสภาพหลับใหลไร้จิตวิญญาณ ในความวุ่นวาย สิงห์พบสิ่งที่ไม่คาดคิด นั่นคือ "หนูดี" ลูกสาวบุญธรรมวัยสิบเจ็ดปีของเขา ยืนอยู่กลางห้องควบคุมหลักด้วยท่าทางเยือกเย็น ไม่ไยดีต่อความโกลาหลรอบตัว ในมือเธอถือแท็บเล็ตที่แสดงข้อมูลทางพันธุกรรมซับซ้อน "หนูดี นี่เธอทำอะไรที่นี่?" สิงห์ถามด้วยเสียงสั่นเครือ "พ่อคะ" หนูดีหันมา ยิ้มเบาๆ "หนูกำลังตามหาความจริงของตัวเอง" บทที่ 2: ความลับแห่งโอปปาติกะกำเนิด จากการสอบสวน ทำให้รู้ว่าหนูดีไม่ใช่เด็กธรรมดา เธอคือ "โอปปาติกะวิญญาณ" ระดับสูงที่ถือกำเนิดผ่านกระบวนการโคลนนิ่ง โดยไม่ต้องอาศัยพ่อแม่ตามธรรมชาติ การถือกำเนิดแบบโอปปาติกะในพระพุทธศาสนา คือการที่วิญญาณเกิดขึ้นทันทีโดยไม่มีช่วงเป็นทารก ในบริบทนี้ หนูดีคือการรวมกันของเทคโนโลยีขั้นสูงและกฎแห่งกรรม ดร.อัจฉริยะ ผู้ก่อตั้งเจนีซิส แล็บ อธิบายต่อศาลในภายหลัง: "เราไม่ได้สร้างชีวิต เราเพียงจัดเตรียมภาชนะที่เหมาะสม สำหรับวิญญาณที่กำลังแสวงหาที่เกิด บางวิญญาณมีพลังกรรมหนาแน่น ต้องการร่างที่สมบูรณ์แบบเพื่อรองรับการถือกำเนิด" บทที่ 3: สองพิภพในร่างเดียวกัน ขณะการสอบสวนลึกเข้าถึงแก่น สิงห์ค้นพบความจริงที่น่าหวาดหวั่น ภายในตัวหนูดีมี "สองจิต" อาศัยอยู่ร่วมกัน จิตแรกคือ "มารพิฆาต" ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความตาย เกิดจากสังขารและตัณหาของวิญญาณนับไม่ถ้วนที่ถูกทดลอง ปรารถนาจะทำลายล้างโลกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยกิเลส จิตที่สองคือ "เทพพิทักษ์" ผู้ดูแลคุ้มครองโลก เกิดจากเมตตาบารมีของวิญญาณระดับพรหมที่ต้องการถ่วงดุล ปรารถนาจะปกป้องมนุษย์ให้พ้นจากความทุกข์ ทั้งสองคือพลังกรรมที่ตรงข้ามกัน แต่ต้องอาศัยร่างเดียวกันคือหนูดี เป็นสมุฏฐานแห่งการดำรงอยู่ บทที่ 4: ศึกตัดสินในสวนพุทธธรรม คืนหนึ่ง หนูดีหายไปจากบ้าน สิงห์ตามพบเธอที่สวนพุทธธรรมใกล้เมือง ในสภาพที่กำลังต่อสู้กับสองพลังภายในตัวเอง "พ่อคะ" หนูดีพูดด้วยเสียงที่แบ่งเป็นสองสำนวนสลับกัน "ช่วยหนูตัดสินใจที ระหว่างการทำลายล้างเพื่อเริ่มใหม่ กับการยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์" สิงห์ไม่ตอบ แต่ก้าวเข้าไปกอดเธอแน่น "พ่อรักหนู ไม่ว่าหนูจะเป็นใคร ก็เป็นลูกของพ่อเสมอ" บทที่ 5: ทางออกแห่งมัชฌิมาปฏิปทา ภายใต้ความรักที่ไม่แบ่งแยกของสิงห์ หนูดีค้นพบทางสายกลาง เธอไม่เลือกเป็น either มารหรือเทพ แต่เลือกเป็น "ผู้ตื่นรู้" ผู้เข้าใจในธรรมชาติแห่งความเป็นไตรลักษณ์ของสรรพสิ่ง มารพิฆาตและเทพพิทักษ์ค่อยๆ หลอมรวมเป็นพลังงานบริสุทธิ์ในตัวเธอ ไม่ใช่เพื่อทำลายหรือปกป้อง แต่เพื่อ "เข้าใจ" และ "เปลี่ยนแปลง" อย่างสันติ บทสรุปแห่งกรรม เรื่องราวสอนให้เห็นว่า ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าเพียงใด ก็ไม่อาจก้าวพ้นกฎแห่งกรรมได้ การกำเนิดแบบโอปปาติกะในบริบทสมัยใหม่ อาจเป็นเพียงรูปแบบใหม่ของการเวียนว่ายตายเกิด สิ่งที่สำคัญไม่ใช่ "รูปแบบ" การเกิด แต่คือ "จิตใจ" และ "เจตนา" ระหว่างทางแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ดังพุทธพจน์ที่ว่า "กรรมเป็นของๆ สัตว์ทั้งหลาย กรรมเป็นแดนเกิด กรรมเป็นเผ่าพันธุ์ กรรมเป็นที่พึ่งอาศัย" และบางครั้ง ความรักแท้ที่ไม่แบ่งแยก ก็อาจเป็นแสงสว่างที่นำทางวิญญาณให้พบความสงบ แม้ในกลางวงจรแห่งสังสารวัฏ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 442 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ช่องโหว่ CVSS 9.8 ใน Cisco Unified CCX เปิดทางแฮกเกอร์ยึดสิทธิ์ root โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน”
    ลองจินตนาการว่าแฮกเกอร์สามารถควบคุมระบบคอลเซ็นเตอร์ขององค์กรคุณได้แบบไม่ต้องล็อกอิน! นี่คือความร้ายแรงของช่องโหว่ล่าสุดที่ Cisco เพิ่งเปิดเผยในซอฟต์แวร์ Unified Contact Center Express (Unified CCX) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก

    Cisco รายงานว่าพบช่องโหว่ระดับวิกฤต 2 รายการ ได้แก่:

    CVE-2025-20354 (CVSS 9.8): ช่องโหว่ในกระบวนการ Java RMI ที่เปิดให้แฮกเกอร์อัปโหลดไฟล์และรันคำสั่งในระดับ root ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน

    CVE-2025-20358 (CVSS 9.4): ช่องโหว่ในแอปพลิเคชัน CCX Editor ที่เปิดให้แฮกเกอร์หลอกระบบเพื่อข้ามขั้นตอนการยืนยันตัวตนและเข้าถึงสิทธิ์ระดับผู้ดูแลระบบ

    ทั้งสองช่องโหว่นี้ไม่มีวิธีแก้ไขชั่วคราว และสามารถถูกใช้เพื่อควบคุมระบบทั้งหมดขององค์กรได้ทันที Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน Unified CCX 12.5 SU3 ES07 และ 15.0 ES01 พร้อมแนะนำให้อัปเดตโดยด่วน

    พบช่องโหว่ร้ายแรงใน Cisco Unified CCX
    CVE-2025-20354: อัปโหลดไฟล์และรันคำสั่ง root ผ่าน Java RMI โดยไม่ต้องล็อกอิน
    CVE-2025-20358: ข้ามการยืนยันตัวตนใน CCX Editor และเข้าถึงสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ

    ช่องโหว่มีผลกระทบต่อหลายเวอร์ชันของ Unified CCX
    ใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบคอลเซ็นเตอร์ขององค์กร
    Cisco ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 12.5 SU3 ES07 และ 15.0 ES01

    ไม่มีวิธีแก้ไขชั่วคราว (No Workaround)
    Cisco แนะนำให้อัปเดตแพตช์ทันที
    การปล่อยให้ช่องโหว่คงอยู่เสี่ยงต่อการถูกควบคุมระบบทั้งหมด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Java RMI (Remote Method Invocation) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เรียกใช้เมธอดข้ามเครื่อง ซึ่งหากไม่มีการตรวจสอบที่ดีจะเสี่ยงต่อการโจมตี
    CCX Editor เป็นเครื่องมือที่ใช้สร้างสคริปต์การทำงานของคอลเซ็นเตอร์ หากถูกควบคุมจะสามารถเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานทั้งหมดได้
    ช่องโหว่ระดับ CVSS 9.8 ถือว่าอยู่ในระดับ “วิกฤต” ซึ่งควรได้รับการแก้ไขทันที

    https://securityonline.info/critical-cisco-ccx-rce-flaws-cvss-9-8-allow-unauthenticated-root-access-via-java-rmi-and-ccx-editor/
    🛡️ “ช่องโหว่ CVSS 9.8 ใน Cisco Unified CCX เปิดทางแฮกเกอร์ยึดสิทธิ์ root โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน” ลองจินตนาการว่าแฮกเกอร์สามารถควบคุมระบบคอลเซ็นเตอร์ขององค์กรคุณได้แบบไม่ต้องล็อกอิน! นี่คือความร้ายแรงของช่องโหว่ล่าสุดที่ Cisco เพิ่งเปิดเผยในซอฟต์แวร์ Unified Contact Center Express (Unified CCX) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก Cisco รายงานว่าพบช่องโหว่ระดับวิกฤต 2 รายการ ได้แก่: 🪲 CVE-2025-20354 (CVSS 9.8): ช่องโหว่ในกระบวนการ Java RMI ที่เปิดให้แฮกเกอร์อัปโหลดไฟล์และรันคำสั่งในระดับ root ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน 🪲 CVE-2025-20358 (CVSS 9.4): ช่องโหว่ในแอปพลิเคชัน CCX Editor ที่เปิดให้แฮกเกอร์หลอกระบบเพื่อข้ามขั้นตอนการยืนยันตัวตนและเข้าถึงสิทธิ์ระดับผู้ดูแลระบบ ทั้งสองช่องโหว่นี้ไม่มีวิธีแก้ไขชั่วคราว และสามารถถูกใช้เพื่อควบคุมระบบทั้งหมดขององค์กรได้ทันที Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน Unified CCX 12.5 SU3 ES07 และ 15.0 ES01 พร้อมแนะนำให้อัปเดตโดยด่วน ✅ พบช่องโหว่ร้ายแรงใน Cisco Unified CCX ➡️ CVE-2025-20354: อัปโหลดไฟล์และรันคำสั่ง root ผ่าน Java RMI โดยไม่ต้องล็อกอิน ➡️ CVE-2025-20358: ข้ามการยืนยันตัวตนใน CCX Editor และเข้าถึงสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ ✅ ช่องโหว่มีผลกระทบต่อหลายเวอร์ชันของ Unified CCX ➡️ ใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบคอลเซ็นเตอร์ขององค์กร ➡️ Cisco ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 12.5 SU3 ES07 และ 15.0 ES01 ✅ ไม่มีวิธีแก้ไขชั่วคราว (No Workaround) ➡️ Cisco แนะนำให้อัปเดตแพตช์ทันที ➡️ การปล่อยให้ช่องโหว่คงอยู่เสี่ยงต่อการถูกควบคุมระบบทั้งหมด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Java RMI (Remote Method Invocation) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เรียกใช้เมธอดข้ามเครื่อง ซึ่งหากไม่มีการตรวจสอบที่ดีจะเสี่ยงต่อการโจมตี ➡️ CCX Editor เป็นเครื่องมือที่ใช้สร้างสคริปต์การทำงานของคอลเซ็นเตอร์ หากถูกควบคุมจะสามารถเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานทั้งหมดได้ ➡️ ช่องโหว่ระดับ CVSS 9.8 ถือว่าอยู่ในระดับ “วิกฤต” ซึ่งควรได้รับการแก้ไขทันที https://securityonline.info/critical-cisco-ccx-rce-flaws-cvss-9-8-allow-unauthenticated-root-access-via-java-rmi-and-ccx-editor/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical Cisco CCX RCE Flaws (CVSS 9.8) Allow Unauthenticated Root Access via Java RMI and CCX Editor
    Cisco patched two Critical flaws in Unified CCX. CVE-2025-20354 (CVSS 9.8) risks unauthenticated root RCE via Java RMI, and CVE-2025-20358 allows admin bypass via the CCX Editor application.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เย็นแต่แพง” — ระบบระบายความร้อนของ Nvidia NVL72 และ NVL144

    ในยุคที่ AI ต้องการพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ Nvidia ได้พัฒนาเซิร์ฟเวอร์ระดับ rack-scale ที่ชื่อว่า NVL72 และรุ่นถัดไป NVL144 ซึ่งใช้ GPU และ CPU ที่มี TDP สูงถึงหลายพันวัตต์ ส่งผลให้ระบบระบายความร้อนต้องล้ำหน้าและมีราคาสูงลิ่ว

    ตามรายงานจาก Morgan Stanley:
    NVL72 (GB300) ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ liquid cooling มูลค่า $49,860
    NVL144 (Vera Rubin) จะใช้ระบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมีมูลค่า $55,710 เพิ่มขึ้น 17%

    รายละเอียดค่าใช้จ่ายของระบบระบายความร้อน
    Compute Tray (18 ชิ้น):
    NVL72: $2,260 ต่อ tray → รวม $40,680
    NVL144: เพิ่มเป็น $2,660 ต่อ tray → รวม $47,880

    Switch Tray (9 ชิ้น):
    NVL72: $1,020 ต่อ tray → รวม $9,180
    NVL144: ลดเหลือ $870 ต่อ tray → รวม $7,830

    Cold Plate คือหัวใจของระบบ
    Cold plate สำหรับ GPU และ CPU มีราคาสูงถึง $300–$400 ต่อชิ้น
    สำหรับ NVSwitch ASICs อยู่ที่ $200 ต่อชิ้น
    รุ่นถัดไปอาจต้องใช้ cold plate ที่รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ต่อ GPU package

    เตรียมพบ NVL576 — แรงกว่าเดิม 2 เท่า
    Nvidia กำลังพัฒนา NVL576 “Kyber” ที่จะใช้ GPU 144 ชุด และมีประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า แต่ก็ต้องแลกกับความร้อนที่มากขึ้น และระบบระบายความร้อนที่ซับซ้อนและแพงกว่าเดิม

    ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนของ NVL72 และ NVL144
    NVL72: $49,860 ต่อ rack
    NVL144: $55,710 ต่อ rack (เพิ่มขึ้น 17%)

    รายละเอียดค่าใช้จ่ายต่อ tray
    Compute tray: เพิ่มจาก $2,260 → $2,660
    Switch tray: ลดจาก $1,020 → $870

    Cold plate ประสิทธิภาพสูง
    GPU/CPU: $300–$400 ต่อชิ้น
    NVSwitch: $200 ต่อชิ้น
    รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ในอนาคต

    การพัฒนา NVL576
    ใช้ GPU 144 ชุด
    ประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า
    ต้องใช้ระบบระบายความร้อนที่ล้ำหน้ากว่าเดิม

    ความท้าทายด้านความร้อนในยุค AI
    GPU และ CPU มี TDP สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    ระบบระบายความร้อนต้องลงทุนสูงและซับซ้อน

    ความเสี่ยงด้านต้นทุนและพลังงาน
    ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการขยายระบบ
    การใช้พลังงานสูงอาจกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐาน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/cooling-system-for-a-single-nvidia-blackwell-ultra-nvl72-rack-costs-a-staggering-usd50-000-set-to-increase-to-usd56-000-with-next-generation-nvl144-racks
    ❄️💸 “เย็นแต่แพง” — ระบบระบายความร้อนของ Nvidia NVL72 และ NVL144 ในยุคที่ AI ต้องการพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ Nvidia ได้พัฒนาเซิร์ฟเวอร์ระดับ rack-scale ที่ชื่อว่า NVL72 และรุ่นถัดไป NVL144 ซึ่งใช้ GPU และ CPU ที่มี TDP สูงถึงหลายพันวัตต์ ส่งผลให้ระบบระบายความร้อนต้องล้ำหน้าและมีราคาสูงลิ่ว ตามรายงานจาก Morgan Stanley: 💹 NVL72 (GB300) ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ liquid cooling มูลค่า $49,860 💹 NVL144 (Vera Rubin) จะใช้ระบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมีมูลค่า $55,710 เพิ่มขึ้น 17% 🧊 รายละเอียดค่าใช้จ่ายของระบบระบายความร้อน 📍 Compute Tray (18 ชิ้น): 💹 NVL72: $2,260 ต่อ tray → รวม $40,680 💹 NVL144: เพิ่มเป็น $2,660 ต่อ tray → รวม $47,880 📍 Switch Tray (9 ชิ้น): 💹 NVL72: $1,020 ต่อ tray → รวม $9,180 💹 NVL144: ลดเหลือ $870 ต่อ tray → รวม $7,830 🔩 Cold Plate คือหัวใจของระบบ 📍 Cold plate สำหรับ GPU และ CPU มีราคาสูงถึง $300–$400 ต่อชิ้น 📍 สำหรับ NVSwitch ASICs อยู่ที่ $200 ต่อชิ้น 📍 รุ่นถัดไปอาจต้องใช้ cold plate ที่รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ต่อ GPU package 🚀 เตรียมพบ NVL576 — แรงกว่าเดิม 2 เท่า Nvidia กำลังพัฒนา NVL576 “Kyber” ที่จะใช้ GPU 144 ชุด และมีประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า แต่ก็ต้องแลกกับความร้อนที่มากขึ้น และระบบระบายความร้อนที่ซับซ้อนและแพงกว่าเดิม ✅ ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนของ NVL72 และ NVL144 ➡️ NVL72: $49,860 ต่อ rack ➡️ NVL144: $55,710 ต่อ rack (เพิ่มขึ้น 17%) ✅ รายละเอียดค่าใช้จ่ายต่อ tray ➡️ Compute tray: เพิ่มจาก $2,260 → $2,660 ➡️ Switch tray: ลดจาก $1,020 → $870 ✅ Cold plate ประสิทธิภาพสูง ➡️ GPU/CPU: $300–$400 ต่อชิ้น ➡️ NVSwitch: $200 ต่อชิ้น ➡️ รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ในอนาคต ✅ การพัฒนา NVL576 ➡️ ใช้ GPU 144 ชุด ➡️ ประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า ➡️ ต้องใช้ระบบระบายความร้อนที่ล้ำหน้ากว่าเดิม ‼️ ความท้าทายด้านความร้อนในยุค AI ⛔ GPU และ CPU มี TDP สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ⛔ ระบบระบายความร้อนต้องลงทุนสูงและซับซ้อน ‼️ ความเสี่ยงด้านต้นทุนและพลังงาน ⛔ ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการขยายระบบ ⛔ การใช้พลังงานสูงอาจกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐาน https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/cooling-system-for-a-single-nvidia-blackwell-ultra-nvl72-rack-costs-a-staggering-usd50-000-set-to-increase-to-usd56-000-with-next-generation-nvl144-racks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • Radeon 8060S โชว์พลัง! เกมเมอร์ตะลึงกับ iGPU บน Ryzen AI Max 395+ เล่นเกม 1080p ลื่นไหลทุกค่าย

    YouTuber ชื่อดัง RandomGaminginHD ได้ทดสอบ Minisforum MS-S1 Max ที่ใช้ APU รุ่นท็อป Ryzen AI Max 395+ พร้อม iGPU Radeon 8060S และผลลัพธ์ก็เกินคาด: เล่นเกม AAA ที่ 1080p ได้อย่างลื่นไหลโดยไม่ต้องใช้การ์ดจอแยก!

    Ryzen AI Max 395+ ถูกออกแบบมาเพื่อประมวลผลงาน AI แต่กลับกลายเป็น “สัตว์ร้าย” ด้านเกม ด้วย iGPU Radeon 8060S ที่มี 40 CUs และ 2,560 shader cores มากกว่า PlayStation 5 เสียอีก! แถมยังจับคู่กับ LPDDR5X บัส 256-bit ทำให้ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ได้ในบางกรณี

    RandomGaminginHD ทดสอบเกมดังหลายเกมที่ 1080p และผลลัพธ์น่าทึ่ง:
    Counter Strike 2: 263 FPS
    Kingdom Come Deliverance 2: 90 FPS
    Red Dead Redemption 2: 82 FPS
    Battlefield 6: 86 FPS
    Cyberpunk 2077 (RT Ultra): 45 FPS
    GTA 5 Enhanced: 77 FPS
    Marvel Rivals: 79 FPS
    Elden Ring: 60 FPS (เต็มเพดานเกม)
    Borderlands 4: 55 FPS
    Outer Worlds 2: 65 FPS

    แม้บางเกมจะใช้การตั้งค่ากราฟิกต่ำหรือปิดฟีเจอร์บางอย่าง เช่น global illumination หรือ ray tracing แต่ก็ยังให้ประสบการณ์เล่นเกมที่ดีเกินคาดสำหรับ iGPU

    Ryzen AI Max 395+ ยังสามารถรัน LLM ขนาดใหญ่ได้ และมีประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่าในด้าน tokens per second ซึ่งทำให้มันกลายเป็น APU ที่ “เกินตัว” ทั้งด้านเกมและงาน AI

    Ryzen AI Max 395+ มาพร้อม iGPU Radeon 8060S
    มี 40 CUs และ 2,560 shader cores
    ใช้ LPDDR5X บัส 256-bit
    ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ในบางกรณี

    จุดเด่นของ APU Ryzen AI Max 395+
    รัน LLM ได้ดีเยี่ยม
    ประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่า
    เหมาะกับงาน AI และเกมในเครื่องขนาดเล็ก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/strix-halo-radeon-8060s-benchmarked-in-games-delivers-butter-smooth-1080p-performance-ryzen-ai-max-395-apu-is-a-pretty-solid-gaming-offering
    🎮🔥 Radeon 8060S โชว์พลัง! เกมเมอร์ตะลึงกับ iGPU บน Ryzen AI Max 395+ เล่นเกม 1080p ลื่นไหลทุกค่าย YouTuber ชื่อดัง RandomGaminginHD ได้ทดสอบ Minisforum MS-S1 Max ที่ใช้ APU รุ่นท็อป Ryzen AI Max 395+ พร้อม iGPU Radeon 8060S และผลลัพธ์ก็เกินคาด: เล่นเกม AAA ที่ 1080p ได้อย่างลื่นไหลโดยไม่ต้องใช้การ์ดจอแยก! Ryzen AI Max 395+ ถูกออกแบบมาเพื่อประมวลผลงาน AI แต่กลับกลายเป็น “สัตว์ร้าย” ด้านเกม ด้วย iGPU Radeon 8060S ที่มี 40 CUs และ 2,560 shader cores มากกว่า PlayStation 5 เสียอีก! แถมยังจับคู่กับ LPDDR5X บัส 256-bit ทำให้ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ได้ในบางกรณี RandomGaminginHD ทดสอบเกมดังหลายเกมที่ 1080p และผลลัพธ์น่าทึ่ง: 🎗️ Counter Strike 2: 263 FPS 🎗️ Kingdom Come Deliverance 2: 90 FPS 🎗️ Red Dead Redemption 2: 82 FPS 🎗️ Battlefield 6: 86 FPS 🎗️ Cyberpunk 2077 (RT Ultra): 45 FPS 🎗️ GTA 5 Enhanced: 77 FPS 🎗️ Marvel Rivals: 79 FPS 🎗️ Elden Ring: 60 FPS (เต็มเพดานเกม) 🎗️ Borderlands 4: 55 FPS 🎗️ Outer Worlds 2: 65 FPS แม้บางเกมจะใช้การตั้งค่ากราฟิกต่ำหรือปิดฟีเจอร์บางอย่าง เช่น global illumination หรือ ray tracing แต่ก็ยังให้ประสบการณ์เล่นเกมที่ดีเกินคาดสำหรับ iGPU Ryzen AI Max 395+ ยังสามารถรัน LLM ขนาดใหญ่ได้ และมีประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่าในด้าน tokens per second ซึ่งทำให้มันกลายเป็น APU ที่ “เกินตัว” ทั้งด้านเกมและงาน AI ✅ Ryzen AI Max 395+ มาพร้อม iGPU Radeon 8060S ➡️ มี 40 CUs และ 2,560 shader cores ➡️ ใช้ LPDDR5X บัส 256-bit ➡️ ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ในบางกรณี ✅ จุดเด่นของ APU Ryzen AI Max 395+ ➡️ รัน LLM ได้ดีเยี่ยม ➡️ ประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่า ➡️ เหมาะกับงาน AI และเกมในเครื่องขนาดเล็ก https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/strix-halo-radeon-8060s-benchmarked-in-games-delivers-butter-smooth-1080p-performance-ryzen-ai-max-395-apu-is-a-pretty-solid-gaming-offering
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • Jenkins Plugin Flaws: เมื่อระบบ CI/CD กลายเป็นเป้าหมายใหม่ของแฮกเกอร์

    Jenkins เจอคลื่นช่องโหว่ปลั๊กอินครั้งใหญ่: SAML Auth Bypass เสี่ยงยึดระบบ CI/CD ทั้งองค์กร ช่องโหว่ CVE-2025-64131 ในปลั๊กอิน SAML ของ Jenkins เปิดทางให้แฮกเกอร์ขโมย session และสวมรอยผู้ใช้ได้ทันที พร้อมช่องโหว่อื่น ๆ อีกกว่า 10 รายการที่ยังไม่มีแพตช์

    Jenkins ซึ่งเป็นเครื่องมือ CI/CD ยอดนิยมในองค์กรทั่วโลก กำลังเผชิญกับคลื่นช่องโหว่ปลั๊กอินครั้งใหญ่ โดยมีการเปิดเผยช่องโหว่รวม 14 รายการใน advisory ล่าสุด ซึ่งหลายรายการยังไม่มีแพตช์แก้ไข

    จุดที่ร้ายแรงที่สุดคือ CVE-2025-64131 ในปลั๊กอิน SAML ที่ใช้สำหรับ Single Sign-On (SSO) โดยช่องโหว่นี้เกิดจากการไม่เก็บ replay cache ทำให้แฮกเกอร์สามารถ reuse token ที่เคยใช้แล้วเพื่อสวมรอยผู้ใช้ได้ทันที แม้จะเป็นผู้ดูแลระบบก็ตาม

    ผลกระทบของช่องโหว่นี้:
    แฮกเกอร์สามารถขโมย session และเข้าถึง Jenkins โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    หาก Jenkins มีสิทธิ์เชื่อมต่อกับ GitHub, Docker, หรือ cloud provider แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบ downstream ได้ทันที
    เป็นภัยคุกคามต่อระบบ DevOps pipeline และความปลอดภัยของซอร์สโค้ด

    นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ ที่น่ากังวล เช่น:
    CVE-2025-64132: Missing permission checks ใน MCP Server Plugin
    CVE-2025-64133: CSRF ใน Extensible Choice Parameter Plugin
    CVE-2025-64134: XXE ใน JDepend Plugin
    CVE-2025-64140: Command Injection ใน Azure CLI Plugin
    CVE-2025-64143–64147: Secrets ถูกเก็บในไฟล์ config แบบ plaintext
    CVE-2025-64148–64150: Missing permission checks ใน Publish to Bitbucket Plugin

    ผู้ดูแลระบบควรรีบตรวจสอบปลั๊กอินที่ใช้งานอยู่ และอัปเดตหรือปิดการใช้งานปลั๊กอินที่มีช่องโหว่ทันที

    https://securityonline.info/jenkins-faces-wave-of-plugin-flaws-including-saml-authentication-bypass-cve-2025-64131/
    🧨 Jenkins Plugin Flaws: เมื่อระบบ CI/CD กลายเป็นเป้าหมายใหม่ของแฮกเกอร์ Jenkins เจอคลื่นช่องโหว่ปลั๊กอินครั้งใหญ่: SAML Auth Bypass เสี่ยงยึดระบบ CI/CD ทั้งองค์กร ช่องโหว่ CVE-2025-64131 ในปลั๊กอิน SAML ของ Jenkins เปิดทางให้แฮกเกอร์ขโมย session และสวมรอยผู้ใช้ได้ทันที พร้อมช่องโหว่อื่น ๆ อีกกว่า 10 รายการที่ยังไม่มีแพตช์ Jenkins ซึ่งเป็นเครื่องมือ CI/CD ยอดนิยมในองค์กรทั่วโลก กำลังเผชิญกับคลื่นช่องโหว่ปลั๊กอินครั้งใหญ่ โดยมีการเปิดเผยช่องโหว่รวม 14 รายการใน advisory ล่าสุด ซึ่งหลายรายการยังไม่มีแพตช์แก้ไข จุดที่ร้ายแรงที่สุดคือ CVE-2025-64131 ในปลั๊กอิน SAML ที่ใช้สำหรับ Single Sign-On (SSO) โดยช่องโหว่นี้เกิดจากการไม่เก็บ replay cache ทำให้แฮกเกอร์สามารถ reuse token ที่เคยใช้แล้วเพื่อสวมรอยผู้ใช้ได้ทันที แม้จะเป็นผู้ดูแลระบบก็ตาม ผลกระทบของช่องโหว่นี้: 🪲 แฮกเกอร์สามารถขโมย session และเข้าถึง Jenkins โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน 🪲 หาก Jenkins มีสิทธิ์เชื่อมต่อกับ GitHub, Docker, หรือ cloud provider แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบ downstream ได้ทันที 🪲 เป็นภัยคุกคามต่อระบบ DevOps pipeline และความปลอดภัยของซอร์สโค้ด นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ ที่น่ากังวล เช่น: 🪲 CVE-2025-64132: Missing permission checks ใน MCP Server Plugin 🪲 CVE-2025-64133: CSRF ใน Extensible Choice Parameter Plugin 🪲 CVE-2025-64134: XXE ใน JDepend Plugin 🪲 CVE-2025-64140: Command Injection ใน Azure CLI Plugin 🪲 CVE-2025-64143–64147: Secrets ถูกเก็บในไฟล์ config แบบ plaintext 🪲 CVE-2025-64148–64150: Missing permission checks ใน Publish to Bitbucket Plugin ผู้ดูแลระบบควรรีบตรวจสอบปลั๊กอินที่ใช้งานอยู่ และอัปเดตหรือปิดการใช้งานปลั๊กอินที่มีช่องโหว่ทันที https://securityonline.info/jenkins-faces-wave-of-plugin-flaws-including-saml-authentication-bypass-cve-2025-64131/
    SECURITYONLINE.INFO
    Jenkins Faces Wave of Plugin Flaws, Including SAML Authentication Bypass (CVE-2025-64131)
    Jenkins warned of a Critical SAML Plugin flaw (CVE-2025-64131) that allows session replay/hijacking due to a missing cache. Multiple plugins also expose API tokens in plaintext.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • Kea DHCPv4 ล่มได้เพราะ hostname ผิดรูปแบบ

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Kea DHCPv4: แพ็กเกจแจก IP อาจล่มทั้งระบบเพราะ hostname ผิดรูปแบบ ISC ออกแพตช์ด่วนเพื่ออุดช่องโหว่ CVE-2025-11232 ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์ส่ง DHCP request พิเศษเพื่อทำให้เซิร์ฟเวอร์ Kea DHCPv4 ล่มทันที ส่งผลกระทบต่อระบบแจก IP ในองค์กรขนาดใหญ่

    ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ “High Severity” ด้วยคะแนน CVSS 7.5 โดยเกิดจากการจัดการ hostname ที่ไม่ปลอดภัยใน Kea DHCPv4 ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์แจก IP แบบ dynamic ที่นิยมใช้ในองค์กรและผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

    รายละเอียดช่องโหว่:

    หากมีการตั้งค่าดังนี้:
    hostname-char-set เป็นค่าเริ่มต้น [^A-Za-z0-9.-]
    hostname-char-replacement เป็นค่าว่าง
    ddns-qualifying-suffix ไม่ว่าง

    แล้วมี client ส่ง DHCP request ที่มี hostname ผิดรูปแบบ จะทำให้ Kea crash ทันที

    แม้ว่า Dynamic DNS (DDNS) จะไม่ถูกเปิดใช้งาน ช่องโหว่นี้ก็ยังสามารถถูกโจมตีได้ เพราะเกิดจากการตรวจสอบ hostname ที่ไม่รัดกุมใน component kea-dhcp4

    ผลกระทบ:
    เซิร์ฟเวอร์ DHCP ล่มทันที
    ระบบแจก IP หยุดทำงาน
    อุปกรณ์ในเครือข่ายอาจไม่สามารถเชื่อมต่อได้
    หากถูกโจมตีซ้ำ ๆ จะเกิด DoS แบบต่อเนื่อง

    เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ:
    3.0.1 → 3.0.1
    3.1.1 → 3.1.2

    วิธีแก้ไข:
    อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 3.0.2 หรือ 3.1.3
    หากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ให้ตั้งค่า hostname-char-replacement เป็นค่าอื่น เช่น “x” เพื่อหลีกเลี่ยงการ crash

    https://securityonline.info/isc-patches-high-severity-kea-dhcpv4-dos-cve-2025-11232-flaw-allows-crash-via-malformed-hostname/
    🧨 Kea DHCPv4 ล่มได้เพราะ hostname ผิดรูปแบบ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Kea DHCPv4: แพ็กเกจแจก IP อาจล่มทั้งระบบเพราะ hostname ผิดรูปแบบ ISC ออกแพตช์ด่วนเพื่ออุดช่องโหว่ CVE-2025-11232 ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์ส่ง DHCP request พิเศษเพื่อทำให้เซิร์ฟเวอร์ Kea DHCPv4 ล่มทันที ส่งผลกระทบต่อระบบแจก IP ในองค์กรขนาดใหญ่ ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ “High Severity” ด้วยคะแนน CVSS 7.5 โดยเกิดจากการจัดการ hostname ที่ไม่ปลอดภัยใน Kea DHCPv4 ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์แจก IP แบบ dynamic ที่นิยมใช้ในองค์กรและผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต รายละเอียดช่องโหว่: 🔖 หากมีการตั้งค่าดังนี้: 🪲 hostname-char-set เป็นค่าเริ่มต้น [^A-Za-z0-9.-] 🪲 hostname-char-replacement เป็นค่าว่าง 🪲 ddns-qualifying-suffix ไม่ว่าง 🔖 แล้วมี client ส่ง DHCP request ที่มี hostname ผิดรูปแบบ จะทำให้ Kea crash ทันที แม้ว่า Dynamic DNS (DDNS) จะไม่ถูกเปิดใช้งาน ช่องโหว่นี้ก็ยังสามารถถูกโจมตีได้ เพราะเกิดจากการตรวจสอบ hostname ที่ไม่รัดกุมใน component kea-dhcp4 🔖 ผลกระทบ: 🪲 เซิร์ฟเวอร์ DHCP ล่มทันที 🪲 ระบบแจก IP หยุดทำงาน 🪲 อุปกรณ์ในเครือข่ายอาจไม่สามารถเชื่อมต่อได้ 🪲 หากถูกโจมตีซ้ำ ๆ จะเกิด DoS แบบต่อเนื่อง 🚦 เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ: 💠 3.0.1 → 3.0.1 💠 3.1.1 → 3.1.2 🔨 วิธีแก้ไข: 💠 อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 3.0.2 หรือ 3.1.3 💠 หากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ให้ตั้งค่า hostname-char-replacement เป็นค่าอื่น เช่น “x” เพื่อหลีกเลี่ยงการ crash https://securityonline.info/isc-patches-high-severity-kea-dhcpv4-dos-cve-2025-11232-flaw-allows-crash-via-malformed-hostname/
    SECURITYONLINE.INFO
    ISC Patches High-Severity Kea DHCPv4 DoS (CVE-2025-11232) Flaw, Allows Crash via Malformed Hostname
    ISC warned of a High-severity DoS flaw (CVE-2025-11232) in Kea DHCPv4. A crafted DHCP packet can crash the server due to improper hostname validation, disrupting IP assignment. Patch to v3.0.2/3.1.3.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • Chrome 154: ปิดประตู HTTP เปิดทางสู่เว็บปลอดภัย

    Google ประกาศว่าในอีกหนึ่งปีข้างหน้า Chrome เวอร์ชัน 154 จะเปิดใช้งานฟีเจอร์ “Always Use Secure Connections” เป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งหมายความว่า หากผู้ใช้พยายามเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่ใช้ HTTPS เบราว์เซอร์จะขออนุญาตก่อนเข้าถึง และแสดงคำเตือนทันที

    แม้ว่า 95% ของทราฟฟิกเว็บทั่วโลกจะใช้ HTTPS แล้ว แต่ Google ชี้ว่า “เพียงหนึ่งการเข้าถึงแบบไม่เข้ารหัส ก็อาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์ดักจับหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้” โดยเฉพาะการ redirect หรือการโหลด resource ที่ฝังอยู่ในหน้าเว็บ

    ฟีเจอร์นี้เคยเปิดให้ใช้งานแบบ opt-in ตั้งแต่ปี 2022 แต่ตอนนี้ Google เชื่อว่า ecosystem พร้อมสำหรับการบังคับใช้แบบเต็มรูปแบบ โดยจะเริ่มจากผู้ใช้ที่เปิด Enhanced Safe Browsing ใน Chrome 147 (เมษายน 2026) ก่อนจะขยายไปยังผู้ใช้ทั่วไปใน Chrome 154 (ตุลาคม 2026)

    เพื่อไม่ให้เกิดความรำคาญจากคำเตือนซ้ำ ๆ Chrome จะใช้ระบบ “smart warning logic” ที่จะแสดงคำเตือนเฉพาะการเข้าถึงเว็บไซต์ HTTP ครั้งแรกหรือแบบไม่บ่อยเท่านั้น

    ยกเว้นเฉพาะเว็บไซต์ที่อยู่ใน private network เช่น 192.168.0.1 หรือหน้า router setup ซึ่งจะไม่แสดงคำเตือน เพราะไม่ใช่โดเมนสาธารณะ

    Chrome 154 จะเปิดใช้งาน “Always Use Secure Connections” เป็นค่าเริ่มต้น
    เริ่มใช้งานจริงในเดือนตุลาคม 2026
    Chrome จะเตือนผู้ใช้ก่อนเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่ใช้ HTTPS
    ฟีเจอร์นี้เคยเป็น opt-in ตั้งแต่ปี 2022
    เริ่มจากผู้ใช้ Enhanced Safe Browsing ใน Chrome 147 (เมษายน 2026)
    ใช้ smart warning logic เพื่อลดคำเตือนซ้ำ
    เว็บไซต์ใน private network จะไม่ถูกเตือน

    https://securityonline.info/major-shift-chrome-154-will-default-to-always-use-secure-connections-warning-users-before-insecure-http-sites/
    🔐 Chrome 154: ปิดประตู HTTP เปิดทางสู่เว็บปลอดภัย Google ประกาศว่าในอีกหนึ่งปีข้างหน้า Chrome เวอร์ชัน 154 จะเปิดใช้งานฟีเจอร์ “Always Use Secure Connections” เป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งหมายความว่า หากผู้ใช้พยายามเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่ใช้ HTTPS เบราว์เซอร์จะขออนุญาตก่อนเข้าถึง และแสดงคำเตือนทันที แม้ว่า 95% ของทราฟฟิกเว็บทั่วโลกจะใช้ HTTPS แล้ว แต่ Google ชี้ว่า “เพียงหนึ่งการเข้าถึงแบบไม่เข้ารหัส ก็อาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์ดักจับหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้” โดยเฉพาะการ redirect หรือการโหลด resource ที่ฝังอยู่ในหน้าเว็บ ฟีเจอร์นี้เคยเปิดให้ใช้งานแบบ opt-in ตั้งแต่ปี 2022 แต่ตอนนี้ Google เชื่อว่า ecosystem พร้อมสำหรับการบังคับใช้แบบเต็มรูปแบบ โดยจะเริ่มจากผู้ใช้ที่เปิด Enhanced Safe Browsing ใน Chrome 147 (เมษายน 2026) ก่อนจะขยายไปยังผู้ใช้ทั่วไปใน Chrome 154 (ตุลาคม 2026) เพื่อไม่ให้เกิดความรำคาญจากคำเตือนซ้ำ ๆ Chrome จะใช้ระบบ “smart warning logic” ที่จะแสดงคำเตือนเฉพาะการเข้าถึงเว็บไซต์ HTTP ครั้งแรกหรือแบบไม่บ่อยเท่านั้น ยกเว้นเฉพาะเว็บไซต์ที่อยู่ใน private network เช่น 192.168.0.1 หรือหน้า router setup ซึ่งจะไม่แสดงคำเตือน เพราะไม่ใช่โดเมนสาธารณะ ✅ Chrome 154 จะเปิดใช้งาน “Always Use Secure Connections” เป็นค่าเริ่มต้น ➡️ เริ่มใช้งานจริงในเดือนตุลาคม 2026 ➡️ Chrome จะเตือนผู้ใช้ก่อนเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่ใช้ HTTPS ➡️ ฟีเจอร์นี้เคยเป็น opt-in ตั้งแต่ปี 2022 ➡️ เริ่มจากผู้ใช้ Enhanced Safe Browsing ใน Chrome 147 (เมษายน 2026) ➡️ ใช้ smart warning logic เพื่อลดคำเตือนซ้ำ ➡️ เว็บไซต์ใน private network จะไม่ถูกเตือน https://securityonline.info/major-shift-chrome-154-will-default-to-always-use-secure-connections-warning-users-before-insecure-http-sites/
    SECURITYONLINE.INFO
    Major Shift: Chrome 154 Will Default to “Always Use Secure Connections,” Warning Users Before Insecure HTTP Sites
    Google announced Chrome 154 (Oct 2026) will automatically enable “Always Use Secure Connections,” marking a major security push to combat MitM attacks by warning users before visiting unencrypted HTTP sites.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • MacBook Pro M5 ได้แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย พร้อมคะแนนซ่อมแซมดีขึ้นนิดหน่อย

    iFixit ได้ทำการ teardown MacBook Pro รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป M5 และพบว่า Apple ได้ปรับปรุงบางจุดที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมและแบตเตอรี่:

    จุดเปลี่ยนแปลงสำคัญ
    แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น: จาก 72.4Wh ในรุ่น M4 เป็น 72.6Wh ในรุ่น M5
    การเปลี่ยนแบตเตอรี่ปลอดภัยขึ้น: Apple แนะนำให้ถอดสาย Battery Management System ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการลัดวงจร
    ไม่ต้องถอด trackpad เพื่อเข้าถึง pull tabs ของแบตเตอรี่แล้ว
    การเปลี่ยนหน้าจอยังยุ่งยาก: ต้องถอด antenna bracket และ P2 screws ก่อน
    การเปลี่ยนชิ้นส่วนหลักยังต้องถอด logic board

    คะแนนซ่อมแซมจาก iFixit
    MacBook Pro M5 ได้คะแนน 4/10
    เทียบกับ MacBook Air M4 ที่ได้ 5/10

    ประสิทธิภาพความร้อน
    แม้จะมีปัญหาเรื่องการระบายความร้อนจากพัดลมเดี่ยวและ heatpipe เดียว แต่ M5 ทำงานได้เย็นกว่ารุ่นก่อนในการทดสอบ Cinebench 2024:
    M5: เฉลี่ย 98.95°C
    M4: เฉลี่ย 100.90°C

    https://wccftech.com/ifixit-reports-a-slightly-bigger-battery-on-the-m5-macbook-pro-minor-improvement-in-repairability-score/
    🔋 MacBook Pro M5 ได้แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย พร้อมคะแนนซ่อมแซมดีขึ้นนิดหน่อย iFixit ได้ทำการ teardown MacBook Pro รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป M5 และพบว่า Apple ได้ปรับปรุงบางจุดที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมและแบตเตอรี่: 🔧 จุดเปลี่ยนแปลงสำคัญ ➡️ แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น: จาก 72.4Wh ในรุ่น M4 เป็น 72.6Wh ในรุ่น M5 ➡️ การเปลี่ยนแบตเตอรี่ปลอดภัยขึ้น: Apple แนะนำให้ถอดสาย Battery Management System ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการลัดวงจร ➡️ ไม่ต้องถอด trackpad เพื่อเข้าถึง pull tabs ของแบตเตอรี่แล้ว ➡️ การเปลี่ยนหน้าจอยังยุ่งยาก: ต้องถอด antenna bracket และ P2 screws ก่อน ➡️ การเปลี่ยนชิ้นส่วนหลักยังต้องถอด logic board 📊 คะแนนซ่อมแซมจาก iFixit ➡️ MacBook Pro M5 ได้คะแนน 4/10 ➡️ เทียบกับ MacBook Air M4 ที่ได้ 5/10 🌡️ ประสิทธิภาพความร้อน แม้จะมีปัญหาเรื่องการระบายความร้อนจากพัดลมเดี่ยวและ heatpipe เดียว แต่ M5 ทำงานได้เย็นกว่ารุ่นก่อนในการทดสอบ Cinebench 2024: ➡️ M5: เฉลี่ย 98.95°C ➡️ M4: เฉลี่ย 100.90°C https://wccftech.com/ifixit-reports-a-slightly-bigger-battery-on-the-m5-macbook-pro-minor-improvement-in-repairability-score/
    WCCFTECH.COM
    iFixit Reports A Slightly Bigger Battery On The M5 MacBook Pro, Minor Improvement In Repairability Metrics
    iFixit has finally published its much-awaited teardown of the new Apple M5 MacBook Pro, disclosing a few interesting tidbits.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts