• ..ยอมรับว่าเบื่อหน่ายทัังระบบข้าราชการพลเรือนและข้าราชการแบบส่วนท้องถิ่นมา อบต.อบท.อบจ.เหี้ยหมด ตลอดผู้ใหญ่บ้านก็ด้วย ซื้อเสียงหมด พรรคการเมืองระดับชาติคุมหมด,กำนันผีบ้าก็ไม่เลือกตั้งตรงอีก,สมบัติชาติ ทรัพยากรระดับท้องถิ่นใครมันสมควรไปสร้างประโยชน์สาธารณะระดับประเทศแบบบ่อน้ำมันในพื้นที่ อบต.อบท.อบจ.อำเภอ จังหวัดนั้นๆอะไรจะไม่เห็นจริงได้ไง,นำพาประชาชนเรียกร้องห้ามเปืดสัมปทานยกให้ต่างชาติสิ,เอาสื่อหลักมาตีแผ่ความจริงก็ไม่ทำ ทั้งผู้ว่า นายอำเภอนั้นๆ ปิดปากเงียบร่วมกับอบต.อบท.อบจ.นัันๆอีก,ไม่รวมบ่อทองคำด้วย,ถ้าค่ายบางระจันมีจริง แต่ละอบต.อบท.อบจ.นายอำเภอผู้ว่านั้นๆต้องเปิดค่ายบางระจันรบเลย เต็มตรึมทั่วบนแผ่นดิน สร้างกองทัพมวลชนปลุกคนไทยพื้นที่อื่นๆมารู้จะมากมายขนาดไหน,นี้คือวิถีปกครองที่ผิดพลาดและล้มเหลว,ชาติไทยดำรงมั่นคงดักดานในความยากจนเกินพอแล้วจริงๆ ร.5เราคือตัวอย่างที่ดีชัดเจน จนต่างชาติหวาดกลัวในภูมิภาคนี้ เกินหน้าชาติใดๆก็ว่า เกาหลีใต้ยังขี้เล็บเราเลยสมัยนั้น.,ฝรั่งมันกลัวเราจึงตัดขาเราทุกๆรูปแบบ.จึงฝรั่งได้มุกสำเร็จในยุคกบฎคณะ2475 ประชุมกองโจรกบฎก็ทำที่ชาติฝรั่งมันอำนวยสถานที่ทัังประสานงานและก่อการอำนวยสร้าง,
    ..แม้ข้ามเดือนนี้ไปก็ไม่ต้องการข้าม ถีบๆลงไปเถอะทั้งหมดพวกหนักแผ่นดินไทย.,ทุบทิ้งกลางเดือนนี้ยิ่งดี.

    https://youtube.com/shorts/NLiCRW-2iG4?si=9YNOkJvL7sfljW3Y
    ..ยอมรับว่าเบื่อหน่ายทัังระบบข้าราชการพลเรือนและข้าราชการแบบส่วนท้องถิ่นมา อบต.อบท.อบจ.เหี้ยหมด ตลอดผู้ใหญ่บ้านก็ด้วย ซื้อเสียงหมด พรรคการเมืองระดับชาติคุมหมด,กำนันผีบ้าก็ไม่เลือกตั้งตรงอีก,สมบัติชาติ ทรัพยากรระดับท้องถิ่นใครมันสมควรไปสร้างประโยชน์สาธารณะระดับประเทศแบบบ่อน้ำมันในพื้นที่ อบต.อบท.อบจ.อำเภอ จังหวัดนั้นๆอะไรจะไม่เห็นจริงได้ไง,นำพาประชาชนเรียกร้องห้ามเปืดสัมปทานยกให้ต่างชาติสิ,เอาสื่อหลักมาตีแผ่ความจริงก็ไม่ทำ ทั้งผู้ว่า นายอำเภอนั้นๆ ปิดปากเงียบร่วมกับอบต.อบท.อบจ.นัันๆอีก,ไม่รวมบ่อทองคำด้วย,ถ้าค่ายบางระจันมีจริง แต่ละอบต.อบท.อบจ.นายอำเภอผู้ว่านั้นๆต้องเปิดค่ายบางระจันรบเลย เต็มตรึมทั่วบนแผ่นดิน สร้างกองทัพมวลชนปลุกคนไทยพื้นที่อื่นๆมารู้จะมากมายขนาดไหน,นี้คือวิถีปกครองที่ผิดพลาดและล้มเหลว,ชาติไทยดำรงมั่นคงดักดานในความยากจนเกินพอแล้วจริงๆ ร.5เราคือตัวอย่างที่ดีชัดเจน จนต่างชาติหวาดกลัวในภูมิภาคนี้ เกินหน้าชาติใดๆก็ว่า เกาหลีใต้ยังขี้เล็บเราเลยสมัยนั้น.,ฝรั่งมันกลัวเราจึงตัดขาเราทุกๆรูปแบบ.จึงฝรั่งได้มุกสำเร็จในยุคกบฎคณะ2475 ประชุมกองโจรกบฎก็ทำที่ชาติฝรั่งมันอำนวยสถานที่ทัังประสานงานและก่อการอำนวยสร้าง, ..แม้ข้ามเดือนนี้ไปก็ไม่ต้องการข้าม ถีบๆลงไปเถอะทั้งหมดพวกหนักแผ่นดินไทย.,ทุบทิ้งกลางเดือนนี้ยิ่งดี. https://youtube.com/shorts/NLiCRW-2iG4?si=9YNOkJvL7sfljW3Y
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..น่าสงสารตัวเองแบบเราๆประชาชนคนธรรมดาจริงๆนะ ไม่มีบำนาญบำเหน็จสวัสดิการอะไรมากล้นเหลือมากมายแบบข้าราชการ,แต่ละวันพวกเราๆไทบ้านคนธรรมดา หาตังได้100บาทต่อวันจะได้จริงมั้ยนั้นยังแสนลำบากเลย,,หอบสังขารหายใจบนแผ่นดินไทยตนเองที่ถูกปล้นชิงของมีค่าทำตังมากมายบนแผ่นดินไทยตนจากพวกต่างชาติต่างประเทศกมากพอแล้ว&ไม่สมควรที่คนไทยถูกปล้นความมั่งคั่งร่ำรวยด้วยแบบปล้นบ่อน้ำมันเราโดยใช้กฎหมายสัมปทานผูกขาดไป,ปล้นบ่อทองคำเราไปจากใบอนุญาตผีบ้าต่างๆผูกขาดไป,
    ..เป็นข้าราชการขุนนางนี้สบายจริงๆตังแต่ยุคศักดินา,ปัจจุบันร่ำรวยเงินทองนักในพวกหัวๆชนชั้นปกครองทัังหลาย,ระบบปกครองเรามีปัญหาจริงๆ&ผิดพลาดอย่างมากด้วย,โกงปล้นผูกขาดแย่งชิงประชาชนแบบใดๆชนชั้นปกครองใหญ่ๆโตๆรอดตายหมดแล้วก็กลับมาก่อชั่วเลวสร้างกระแสชั่ววงจรอุบาทก์ต่อเนื่องต่อไปมากมายบนสังคมชุมชนไทยเราเอง,
    ..ตัง100-300บาท มากมายประชาชนคนทัังประเทศใช้เลี้ยงคนในครอบครัวเขาต่อไปอาจหลายวัน,โดยเฉพาะพ่อแม่ปู่ย่าตายายรับภาระเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานๆเขา,ชาติอื่นเหี้ยใดใครชั่งมันแต่ชาติไทยเราเอง ต้องสิ้นสุดความเหี้ยอัปรีย์จัญไรนี้จริงๆ,หนทางเดียวคือยึดคืนทรัพยากรมีค่ามากมายทั้งหมดที่เป็นวัตถุดิบสู่การพ้นยากจนและทำให้ทุกๆคนไทยเราร่ำรวยยั่งยืนได้กลับคืนมาอย่างจริงจัง,หากเป็นเพราะระบบล้มเหลวก็จำเป็นต้องทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่.
    ..จริงๆข้าราชการไทยสมควรได้แค่เงินเดือนก็พอ,สวัสดิการใดๆสมควรเสมอเท่าประชาชนธรรมดา อาทิ30บาทรักษาทุกๆโรค เพียงตนในตำแหน่งหน้าที่พัฒนาการรักษาที่ดีปกติเสมอสม่ำไว้จะมารักษาสไตล์คนธรรมดาที่อยู่บนแผ่นดินไทยเหมือนกันก็ทำได้,ก็คนไทยธรรมดานี้เองเข้าไปทำงานในระบบราชการแค่นั้น,
    ..ปัจจุบันเลอะเทอะผีบ้ามาก,การบริหารตังก็ต้องบริหารเองสิ ใช้จ่ายเลอะเทอะใข่ที่ไหน,ประชาชนพ้น60เกษียณสถานะประชาชนมั้ย,ข้าราชการพ้น60หรือพ้น65หรือ70เอาแต่จะกำหนดก็ว่า,ก็กลับมาเป็นประชาชนนี้ถูกแล้ว ทำงานเพื่อประชาชนมันคือหน้าที่ปกติอยู่แล้ว ประชาชนก็ร่วมกันสามัคคีปกป้องชาติไทยจากศัตรูเช่นกัน ใช่เหลือยามใดๆ,ต่างคนต่างร่วมด้วยช่วยกัน,แต่เมื่อพิจารณาดูดีๆแล้ว สุดท้ายซวยคือประชาชน สถานะยากจน ไร้ร่ำรวยมีตังใช้ดำรงชีพพอดีก็หามีไม่,ยามแก่ชราก็ต้องอาศัยลูกหลานกำลังคนรุ่นต่อไป เงินทองลูกหลานเลี้ยงดูที่หามาตามสไตล์บริหารจัดการชาวบ้าน,มีสติปัญญาดีก็ทำนั้นนี้มีตังเข้าบ้านมากมายตามปัจเจกใครมันทำ,
    ..อดีตวีระบุรุษคือราชการไทยจริงๆ แต่นึกว่าจะดีขึ้น ระบบราชการถูกสร้างขึ้นจากคณะกบฎ2475 จริงๆหากต้องการให้ชาติประชาชนคนในชาติอยู่ดีมีสุขมีสติปัญญาดีต้องปกครองมุ่งไปเพื่อความเจริญอย่างจริงใจต่อชาติประชาชนจริงๆ พบโอกาสใดๆ สามารถนำพาทุกๆคนไทยอัพเรเวลสู่พ้นฐานะยากจนสมควรเร่งรีบดำเนินการทำ,พบบ่อทองบ่อน้ำมันแม้อดีตเรายากจนจริง,อนาคตแสดงว่าเราจะร่ำรวยไปด้วยกันทุกๆคน ผู้ปกครองไม่ควรทรยศประชาชนยกความร่ำรวยพ้นยากจนนี้ให้ชาติอื่นเมืองอื่นคนอื่นไปแบบที่เห็นชัดเจนในปัจจุบัน,ซึ่งในอดีตที่กล้าทำเพราะมั่นใจว่าปกปิดการกระทำชั่วตนได้,และมากมายสาระพัดอย่างที่เป็นไปในทางเพิ่มบัตรคนจนแก่คนไทย.
    https://youtube.com/watch?v=wGTNUnR4QVs&si=Ne_NwpWyQeEAltGW
    ..น่าสงสารตัวเองแบบเราๆประชาชนคนธรรมดาจริงๆนะ ไม่มีบำนาญบำเหน็จสวัสดิการอะไรมากล้นเหลือมากมายแบบข้าราชการ,แต่ละวันพวกเราๆไทบ้านคนธรรมดา หาตังได้100บาทต่อวันจะได้จริงมั้ยนั้นยังแสนลำบากเลย,,หอบสังขารหายใจบนแผ่นดินไทยตนเองที่ถูกปล้นชิงของมีค่าทำตังมากมายบนแผ่นดินไทยตนจากพวกต่างชาติต่างประเทศกมากพอแล้ว&ไม่สมควรที่คนไทยถูกปล้นความมั่งคั่งร่ำรวยด้วยแบบปล้นบ่อน้ำมันเราโดยใช้กฎหมายสัมปทานผูกขาดไป,ปล้นบ่อทองคำเราไปจากใบอนุญาตผีบ้าต่างๆผูกขาดไป, ..เป็นข้าราชการขุนนางนี้สบายจริงๆตังแต่ยุคศักดินา,ปัจจุบันร่ำรวยเงินทองนักในพวกหัวๆชนชั้นปกครองทัังหลาย,ระบบปกครองเรามีปัญหาจริงๆ&ผิดพลาดอย่างมากด้วย,โกงปล้นผูกขาดแย่งชิงประชาชนแบบใดๆชนชั้นปกครองใหญ่ๆโตๆรอดตายหมดแล้วก็กลับมาก่อชั่วเลวสร้างกระแสชั่ววงจรอุบาทก์ต่อเนื่องต่อไปมากมายบนสังคมชุมชนไทยเราเอง, ..ตัง100-300บาท มากมายประชาชนคนทัังประเทศใช้เลี้ยงคนในครอบครัวเขาต่อไปอาจหลายวัน,โดยเฉพาะพ่อแม่ปู่ย่าตายายรับภาระเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานๆเขา,ชาติอื่นเหี้ยใดใครชั่งมันแต่ชาติไทยเราเอง ต้องสิ้นสุดความเหี้ยอัปรีย์จัญไรนี้จริงๆ,หนทางเดียวคือยึดคืนทรัพยากรมีค่ามากมายทั้งหมดที่เป็นวัตถุดิบสู่การพ้นยากจนและทำให้ทุกๆคนไทยเราร่ำรวยยั่งยืนได้กลับคืนมาอย่างจริงจัง,หากเป็นเพราะระบบล้มเหลวก็จำเป็นต้องทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่. ..จริงๆข้าราชการไทยสมควรได้แค่เงินเดือนก็พอ,สวัสดิการใดๆสมควรเสมอเท่าประชาชนธรรมดา อาทิ30บาทรักษาทุกๆโรค เพียงตนในตำแหน่งหน้าที่พัฒนาการรักษาที่ดีปกติเสมอสม่ำไว้จะมารักษาสไตล์คนธรรมดาที่อยู่บนแผ่นดินไทยเหมือนกันก็ทำได้,ก็คนไทยธรรมดานี้เองเข้าไปทำงานในระบบราชการแค่นั้น, ..ปัจจุบันเลอะเทอะผีบ้ามาก,การบริหารตังก็ต้องบริหารเองสิ ใช้จ่ายเลอะเทอะใข่ที่ไหน,ประชาชนพ้น60เกษียณสถานะประชาชนมั้ย,ข้าราชการพ้น60หรือพ้น65หรือ70เอาแต่จะกำหนดก็ว่า,ก็กลับมาเป็นประชาชนนี้ถูกแล้ว ทำงานเพื่อประชาชนมันคือหน้าที่ปกติอยู่แล้ว ประชาชนก็ร่วมกันสามัคคีปกป้องชาติไทยจากศัตรูเช่นกัน ใช่เหลือยามใดๆ,ต่างคนต่างร่วมด้วยช่วยกัน,แต่เมื่อพิจารณาดูดีๆแล้ว สุดท้ายซวยคือประชาชน สถานะยากจน ไร้ร่ำรวยมีตังใช้ดำรงชีพพอดีก็หามีไม่,ยามแก่ชราก็ต้องอาศัยลูกหลานกำลังคนรุ่นต่อไป เงินทองลูกหลานเลี้ยงดูที่หามาตามสไตล์บริหารจัดการชาวบ้าน,มีสติปัญญาดีก็ทำนั้นนี้มีตังเข้าบ้านมากมายตามปัจเจกใครมันทำ, ..อดีตวีระบุรุษคือราชการไทยจริงๆ แต่นึกว่าจะดีขึ้น ระบบราชการถูกสร้างขึ้นจากคณะกบฎ2475 จริงๆหากต้องการให้ชาติประชาชนคนในชาติอยู่ดีมีสุขมีสติปัญญาดีต้องปกครองมุ่งไปเพื่อความเจริญอย่างจริงใจต่อชาติประชาชนจริงๆ พบโอกาสใดๆ สามารถนำพาทุกๆคนไทยอัพเรเวลสู่พ้นฐานะยากจนสมควรเร่งรีบดำเนินการทำ,พบบ่อทองบ่อน้ำมันแม้อดีตเรายากจนจริง,อนาคตแสดงว่าเราจะร่ำรวยไปด้วยกันทุกๆคน ผู้ปกครองไม่ควรทรยศประชาชนยกความร่ำรวยพ้นยากจนนี้ให้ชาติอื่นเมืองอื่นคนอื่นไปแบบที่เห็นชัดเจนในปัจจุบัน,ซึ่งในอดีตที่กล้าทำเพราะมั่นใจว่าปกปิดการกระทำชั่วตนได้,และมากมายสาระพัดอย่างที่เป็นไปในทางเพิ่มบัตรคนจนแก่คนไทย. https://youtube.com/watch?v=wGTNUnR4QVs&si=Ne_NwpWyQeEAltGW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..น่าสงสารไทบ้าน&ชาวนาตาดำๆแบบคนไทยเราจริงๆ,ไร้การส่งเสริมสนับสนุนชาวนาจริง,ปุ๋ยแพง ต้นทุนแพง ราคาขายให้พ่อค้าก็ได้แค่ราคากิโลกรัมละไม่กี่บาท จนราคาข้าวตกต่ำมากๆในปัจจุบัน กก.ละ800บาทแบบเห็ดเผาะก็ไม่,กก.ละ40บาทแบบพ่อค้าคนกลางอัดใส่ถุงขายส่งก็ไม่ เดินกดราคากันไม่เกิน10บาทต่อกก. 15บาทต่อกก.หรือ15,000บาทต่อตันของข้าวนาปีปัจจุบันก็ไร้เห็น,อวยให้แต่นายทุนนอมินีต่างชาติพวกทำนาปรังก็ว่า ซึ่งเอาเข้าจริงๆนะนาปรังส่วนใหญ่จริงๆคือของต่างชาติส่วนมากทำ,คนไทยจริงๆไม่เท่าไรบวกกดราคาข้าวนาปรังคนไทยแท้ๆที่ไม่ใช่นอมินีต่างชาติอีก,
    ..อ้างp.m2.5เพื่อควบคุมวิถีคนเกษตรชาวไทยเรา ไปเพิ่มต้นทุนการผลิตอีก ไทบ้านส่วนมากเขาอยู่โคกอยู่ลุ่มกระทบหมด เอาตังที่ไหนไปจ้างกำจัดไถ่ฟางกัน ปั่นนาก็ใช้ตัง ไถ่ฟางปั่นฟางแช่น้ำก็ใช้ตัง ค่าน้ำมันดูดน้ำอีก บางพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่มีน้ำหรอก พวกหินแฮ่ดินนาดินแดงยิ่งโหดโคกภูเต็มๆวัวควายก็ไม่มี อัดขายฟางก็ใช้ตัง คนซื้อจริงก็ไม่กี่ที่กี่เขตแหล่งวัวควายนั้นๆ จะฟางก็เถอะ หญ้าในนาในคันนาเขาอีกตรึม ลำบากแน่นอนเมื่อฤดูการทำนาใหม่มาถึง,สิบปีร้อยปีไม่มีปัญหาp.m.2.5ชาวนาก็ทำนาปกติเรื่อยมา จริงๆคืออุตสาหกรรมต่างหากบวกพ่นพิษเต็มท้องฟ้าอีกที่เจาะจงคนเมืองกรุง คนอำนาจกรุงที่โง่เขลาก็เสือกออกกฎหมายกดขี่ประชาชนควบคุมสบายใจทำลายวิถีพึ่งพาตนเองในตัวช่วยนายทุนนะสิ,เกษตรคือแหล่งหาอาหารของทุกๆชีวิต บ้านใดเมืองใดทำลายวิถีเกษตรตนแสดงว่าบ้านเมืองนั้นล่มสะลายล้มเหลวในการปกครองของตนทันที ประชาชนจะสิ้นการดูแลพึ่งพาตนเองหาเลี้ยงชีพดำรงชีพแก่ตนเองไม่ได้ กำแพงบีบกั้นเพิ่มทางปิดมากขึ้นเรื่อยๆทุนสามานย์จะได้ประโยชน์ในที่สุดทั้งขีัข้าทาสแรงงานทาสวังวนตังเพื่อซื้อกินอยู่จะอยู่ในการควบคุมของมัน เพราะร้านที่ซื้อกินอยู่ก็ร้านพวกนายทุนอีก ไม่มีร้านชาวบ้านเลยสักร้าน อาหารไก่หมูก็ไม่มีชาวบ้านไหนปลูกเลี้ยงไก่หมูมาขายในชุมชนได้อีกเพราะนายทุนเขียนกฎหมายสร้างกำแพงเงื่อนไขการเลี้ยงไก่เลี้ยงหมูมาขายแข่งกันตนดักไว้หมดแล้ว,ชาวบ้านจะอิสระทำนั้นนี้แบบเดิมๆฝันไปเลย,พืชผักอาหารรัฐฐะเองคือคนทรยศประชาชนในครอบคีัวตนเอง,ไม่ควบคุมพ่อค้าคนกลางที่เอาเปรียบกดขี่ราคาสินค้าเกษตรคนไทยตน ไม่ส่งเสริมสนับสนุนเทคโนโลยีต้นทุนต่ำใดๆให้เข้าถึงสะดวกสบายในกระบวนการผลิตทำสร้างแหล่งอาหาร ต้นทุนรอบด้านคนเกษตรไทยถูกปั่นราคาจนสูงขึ้นจากนายทุนกำหนดราคาเอง มันยังกก.ละ0.90บาทเลยพะสาอย่างอื่น เดิมในอดีตสูงสุงกว่า5บาทต่อกก.,ที่ดินมากมายจริงๆรัฐควรปฏิรูปกฎหมายที่ดินกันจริงๆฉีกกฎหมายเก่าทั้งหมดทิ้งไป เขียนใหม่ว่า อาทิเช่น ชาวบ้านคนไทยสามารถมีที่ดินได้สูงสุดคนละไม่เกิน30ไร่รวมกันทุกๆแปลงทุกๆพื้นที่ครอบครองทั่วประเทศไทย,เอกชนบริษัทต่างๆก็ด้วยไม่ว่าสถานะกิจการอะไรใดๆแบบมหาชนก็ชั่ง สามารถมีที่ดินได้ไม่เกิน100ไร่ทุกๆกรณีในการดำเนินกิจการทำตังทำค้าขายใดๆ,ต่างชาติใดๆคนต่างชาติใดทุกๆกรณี ไม่มีสิทธิถือครองมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินไทยทุกๆกรณี,แม้เช่าที่ดินก็ต้องได้รับอนุญาตจากชุมชนท้องถิ่นนั้นๆลงประชามติทุกๆปีประเมินสิทธิ์ว่าไม่เป็นภัยอันตรายต่อชุมชนนั้นๆตลอดถึงความมั่นคงของชาติด้วย,ปัจจุบันเลอะเทอะมาก โรงงานจีนโรงงานต่างชาติเต็มแผ่นดินไทยไปหมดคือต้นเหตุp.m2.5ที่แท้จริงและมุกชื่อนี้มีการเรียกมาไม่กี่ปีนี้เองอีกด้วย ปูทางเพื้อควบคุมผ่านกฎหมายคาร์บอนเครดิตที่พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจัดวางแผนควบคุมคนไทยทั้งประเทศแค่นั้น,
    ..จริงๆดูชัดๆแบบมหาภาคคือต้องการทำลายแหล่งอาหารคนไทยด้านการเกษตรภายในชาติไทยทั้งหมดนี้ล่ะมิให้สามารถพึ่งพาตนเองได้,โดยรัฐบาลเลวทายาทคณะกบฎ2475ปูสร้างทำไว้ถึงปัจจุบันแค่นั้น เช่นนั้นบ่อน้ำมันไทยจะยกให้ต่างชาติทำสินค้าแพงทั้งแผ่นดินได้อย่างไร,โจมตีอาหารคู่ขนานทำลายโจมตีภายในด้านอื่นๆให้ประเทศไทยเราอ่อนแอลงย่อมง่ายมากในยุคปัจจุบันนี้ที่ขนาดอดีตนายกคนเก่ายังหลุดไปเพราะข้อหาไม่ซื่อสัตย์นี้เอง,คาสิโนจะเอาให้ได้อีก ,ปั่นป่วนสร้างโกลาหลความไม่สงบสุขรอบทิศเพราะตัดกำลังการตั้งรับคนเจ้าหน้าที่คนดีคนไทยเราอีกให้แตกทัพไปตั้งขบวนตั้งรับศึกหลายทิศทางให้สับสนให้ได้,ตัดกำลังก็ว่า,จึงจริงๆเมื่อไร้ความเกรงใจและทรยศชาติไทยแผ่นดินไทยชัดเจนขนาดนี้แล้ว ตัดตอนถีบลงจากอำนาจที่ถือที่สร้างปั่นป่วนไปวันๆนี้ลงเถอะ ,ความสงบสุขมากมายหลายด้านมิติจะกลับมาแล้วเคลียร์กำจัดปัญหาอื่นๆทิ้งทีละตัวได้อย่างง่ายดายในอนาคตแน่นอน,
    ..ในมุมการอาหารความมั่นคงทางชีวิตด้านอาหารคนไทย เช่นข้าวคือหัวใจหลักคนไทยโดยพื้นฐานของชาติแล้วต้องนายกพระราชทานให้รีบเร่งช่วยเหลือส่งเสริมสายงานเกษตรอย่างเต็มที่ ยุบธกส.ทิ้งไปเลย ยุบกระทรวงเกษตรด้วยล้างอำนาจตำแหน่งอิทธิพลเก่าทั้งหมดได้ทันที,ตั้งกระทรวงพืช&สัตว์ไทยแทน,ตรงตัวเลย ค่อยแยกย่อยลงไป ยุบสภาเกษตรกรแห่งชาติทิ้งด้วย ไร้ค่าราคา,ไม่สร้างประโยชน์จริงอะไร สิ้นเปลืองงบหลวง,ตั้งกองทุนตลาดชุมชนสากลแต่ละหมู่บ้านขึ้นทุกๆหมู่บ้านเป็นเครือข่ายจริงจังใน7-8หมื่นหมู่บ้านชุมชนนั้นทั้งตลาดออฟไลน์และออนไลน์ช่วยสร้างระบบให้ในตัวรองรับการค้าขายชาวบ้านทั่วไทยระดับสากลทั่วโลกก็ได้อีก,ขายสินค้าเกษตรร่วมกันเป็นหลัก&สินค้าอุปโภคบริโภคอื่นทั้งหมดทั้งหลายอิสระเสรีส่งเสริมสัมมาอาชีพคนไทยเป็นรองร่วมกันเป็นเครือข่าย แน่นอนเม็ดเงินมหาศาลกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีสะพัดจะหมุนเวียนจริงในเครือข่ายชุมชนคนไทยเราจริง พึ่งพาตนเองเป็นเครือข่ายกันและกัน สู่ชาติพึ่งพาตนเองได้ทันทีด้วย ทุกๆคนไทยจะยืนด้วยขาตนเองในทุกๆสัมมาอาชีพโดยมีฐานที่แข็งแกร่งด้านความมั่นคงทางอาหารเราอยู่พื้นรองรับไว้หมดว่าทุกๆคนไทยมีอาหารราคาถูกไม่แพงกินตลอดชีวิตแน่นอนคู่ขนานความร่ำรวยมั่งคั่งทางวัตถุธาตุบวกศีลธรรมดีงามในใจคนไทยเรามีเป็นพื้นฐานปกติดีอยู่แล้วอีกด้วย,ใครจะมาสร้างชาติไทยได้ดีเยี่ยมจริงกว่าคนไทยเราล่ะบนแผ่นดินไทยเราเองนี้อีกด้วย.
    https://youtube.com/shorts/dvQ5mdyo9EM?si=dTfhGMXBP1h1rzkH
    ..น่าสงสารไทบ้าน&ชาวนาตาดำๆแบบคนไทยเราจริงๆ,ไร้การส่งเสริมสนับสนุนชาวนาจริง,ปุ๋ยแพง ต้นทุนแพง ราคาขายให้พ่อค้าก็ได้แค่ราคากิโลกรัมละไม่กี่บาท จนราคาข้าวตกต่ำมากๆในปัจจุบัน กก.ละ800บาทแบบเห็ดเผาะก็ไม่,กก.ละ40บาทแบบพ่อค้าคนกลางอัดใส่ถุงขายส่งก็ไม่ เดินกดราคากันไม่เกิน10บาทต่อกก. 15บาทต่อกก.หรือ15,000บาทต่อตันของข้าวนาปีปัจจุบันก็ไร้เห็น,อวยให้แต่นายทุนนอมินีต่างชาติพวกทำนาปรังก็ว่า ซึ่งเอาเข้าจริงๆนะนาปรังส่วนใหญ่จริงๆคือของต่างชาติส่วนมากทำ,คนไทยจริงๆไม่เท่าไรบวกกดราคาข้าวนาปรังคนไทยแท้ๆที่ไม่ใช่นอมินีต่างชาติอีก, ..อ้างp.m2.5เพื่อควบคุมวิถีคนเกษตรชาวไทยเรา ไปเพิ่มต้นทุนการผลิตอีก ไทบ้านส่วนมากเขาอยู่โคกอยู่ลุ่มกระทบหมด เอาตังที่ไหนไปจ้างกำจัดไถ่ฟางกัน ปั่นนาก็ใช้ตัง ไถ่ฟางปั่นฟางแช่น้ำก็ใช้ตัง ค่าน้ำมันดูดน้ำอีก บางพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่มีน้ำหรอก พวกหินแฮ่ดินนาดินแดงยิ่งโหดโคกภูเต็มๆวัวควายก็ไม่มี อัดขายฟางก็ใช้ตัง คนซื้อจริงก็ไม่กี่ที่กี่เขตแหล่งวัวควายนั้นๆ จะฟางก็เถอะ หญ้าในนาในคันนาเขาอีกตรึม ลำบากแน่นอนเมื่อฤดูการทำนาใหม่มาถึง,สิบปีร้อยปีไม่มีปัญหาp.m.2.5ชาวนาก็ทำนาปกติเรื่อยมา จริงๆคืออุตสาหกรรมต่างหากบวกพ่นพิษเต็มท้องฟ้าอีกที่เจาะจงคนเมืองกรุง คนอำนาจกรุงที่โง่เขลาก็เสือกออกกฎหมายกดขี่ประชาชนควบคุมสบายใจทำลายวิถีพึ่งพาตนเองในตัวช่วยนายทุนนะสิ,เกษตรคือแหล่งหาอาหารของทุกๆชีวิต บ้านใดเมืองใดทำลายวิถีเกษตรตนแสดงว่าบ้านเมืองนั้นล่มสะลายล้มเหลวในการปกครองของตนทันที ประชาชนจะสิ้นการดูแลพึ่งพาตนเองหาเลี้ยงชีพดำรงชีพแก่ตนเองไม่ได้ กำแพงบีบกั้นเพิ่มทางปิดมากขึ้นเรื่อยๆทุนสามานย์จะได้ประโยชน์ในที่สุดทั้งขีัข้าทาสแรงงานทาสวังวนตังเพื่อซื้อกินอยู่จะอยู่ในการควบคุมของมัน เพราะร้านที่ซื้อกินอยู่ก็ร้านพวกนายทุนอีก ไม่มีร้านชาวบ้านเลยสักร้าน อาหารไก่หมูก็ไม่มีชาวบ้านไหนปลูกเลี้ยงไก่หมูมาขายในชุมชนได้อีกเพราะนายทุนเขียนกฎหมายสร้างกำแพงเงื่อนไขการเลี้ยงไก่เลี้ยงหมูมาขายแข่งกันตนดักไว้หมดแล้ว,ชาวบ้านจะอิสระทำนั้นนี้แบบเดิมๆฝันไปเลย,พืชผักอาหารรัฐฐะเองคือคนทรยศประชาชนในครอบคีัวตนเอง,ไม่ควบคุมพ่อค้าคนกลางที่เอาเปรียบกดขี่ราคาสินค้าเกษตรคนไทยตน ไม่ส่งเสริมสนับสนุนเทคโนโลยีต้นทุนต่ำใดๆให้เข้าถึงสะดวกสบายในกระบวนการผลิตทำสร้างแหล่งอาหาร ต้นทุนรอบด้านคนเกษตรไทยถูกปั่นราคาจนสูงขึ้นจากนายทุนกำหนดราคาเอง มันยังกก.ละ0.90บาทเลยพะสาอย่างอื่น เดิมในอดีตสูงสุงกว่า5บาทต่อกก.,ที่ดินมากมายจริงๆรัฐควรปฏิรูปกฎหมายที่ดินกันจริงๆฉีกกฎหมายเก่าทั้งหมดทิ้งไป เขียนใหม่ว่า อาทิเช่น ชาวบ้านคนไทยสามารถมีที่ดินได้สูงสุดคนละไม่เกิน30ไร่รวมกันทุกๆแปลงทุกๆพื้นที่ครอบครองทั่วประเทศไทย,เอกชนบริษัทต่างๆก็ด้วยไม่ว่าสถานะกิจการอะไรใดๆแบบมหาชนก็ชั่ง สามารถมีที่ดินได้ไม่เกิน100ไร่ทุกๆกรณีในการดำเนินกิจการทำตังทำค้าขายใดๆ,ต่างชาติใดๆคนต่างชาติใดทุกๆกรณี ไม่มีสิทธิถือครองมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินไทยทุกๆกรณี,แม้เช่าที่ดินก็ต้องได้รับอนุญาตจากชุมชนท้องถิ่นนั้นๆลงประชามติทุกๆปีประเมินสิทธิ์ว่าไม่เป็นภัยอันตรายต่อชุมชนนั้นๆตลอดถึงความมั่นคงของชาติด้วย,ปัจจุบันเลอะเทอะมาก โรงงานจีนโรงงานต่างชาติเต็มแผ่นดินไทยไปหมดคือต้นเหตุp.m2.5ที่แท้จริงและมุกชื่อนี้มีการเรียกมาไม่กี่ปีนี้เองอีกด้วย ปูทางเพื้อควบคุมผ่านกฎหมายคาร์บอนเครดิตที่พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจัดวางแผนควบคุมคนไทยทั้งประเทศแค่นั้น, ..จริงๆดูชัดๆแบบมหาภาคคือต้องการทำลายแหล่งอาหารคนไทยด้านการเกษตรภายในชาติไทยทั้งหมดนี้ล่ะมิให้สามารถพึ่งพาตนเองได้,โดยรัฐบาลเลวทายาทคณะกบฎ2475ปูสร้างทำไว้ถึงปัจจุบันแค่นั้น เช่นนั้นบ่อน้ำมันไทยจะยกให้ต่างชาติทำสินค้าแพงทั้งแผ่นดินได้อย่างไร,โจมตีอาหารคู่ขนานทำลายโจมตีภายในด้านอื่นๆให้ประเทศไทยเราอ่อนแอลงย่อมง่ายมากในยุคปัจจุบันนี้ที่ขนาดอดีตนายกคนเก่ายังหลุดไปเพราะข้อหาไม่ซื่อสัตย์นี้เอง,คาสิโนจะเอาให้ได้อีก ,ปั่นป่วนสร้างโกลาหลความไม่สงบสุขรอบทิศเพราะตัดกำลังการตั้งรับคนเจ้าหน้าที่คนดีคนไทยเราอีกให้แตกทัพไปตั้งขบวนตั้งรับศึกหลายทิศทางให้สับสนให้ได้,ตัดกำลังก็ว่า,จึงจริงๆเมื่อไร้ความเกรงใจและทรยศชาติไทยแผ่นดินไทยชัดเจนขนาดนี้แล้ว ตัดตอนถีบลงจากอำนาจที่ถือที่สร้างปั่นป่วนไปวันๆนี้ลงเถอะ ,ความสงบสุขมากมายหลายด้านมิติจะกลับมาแล้วเคลียร์กำจัดปัญหาอื่นๆทิ้งทีละตัวได้อย่างง่ายดายในอนาคตแน่นอน, ..ในมุมการอาหารความมั่นคงทางชีวิตด้านอาหารคนไทย เช่นข้าวคือหัวใจหลักคนไทยโดยพื้นฐานของชาติแล้วต้องนายกพระราชทานให้รีบเร่งช่วยเหลือส่งเสริมสายงานเกษตรอย่างเต็มที่ ยุบธกส.ทิ้งไปเลย ยุบกระทรวงเกษตรด้วยล้างอำนาจตำแหน่งอิทธิพลเก่าทั้งหมดได้ทันที,ตั้งกระทรวงพืช&สัตว์ไทยแทน,ตรงตัวเลย ค่อยแยกย่อยลงไป ยุบสภาเกษตรกรแห่งชาติทิ้งด้วย ไร้ค่าราคา,ไม่สร้างประโยชน์จริงอะไร สิ้นเปลืองงบหลวง,ตั้งกองทุนตลาดชุมชนสากลแต่ละหมู่บ้านขึ้นทุกๆหมู่บ้านเป็นเครือข่ายจริงจังใน7-8หมื่นหมู่บ้านชุมชนนั้นทั้งตลาดออฟไลน์และออนไลน์ช่วยสร้างระบบให้ในตัวรองรับการค้าขายชาวบ้านทั่วไทยระดับสากลทั่วโลกก็ได้อีก,ขายสินค้าเกษตรร่วมกันเป็นหลัก&สินค้าอุปโภคบริโภคอื่นทั้งหมดทั้งหลายอิสระเสรีส่งเสริมสัมมาอาชีพคนไทยเป็นรองร่วมกันเป็นเครือข่าย แน่นอนเม็ดเงินมหาศาลกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีสะพัดจะหมุนเวียนจริงในเครือข่ายชุมชนคนไทยเราจริง พึ่งพาตนเองเป็นเครือข่ายกันและกัน สู่ชาติพึ่งพาตนเองได้ทันทีด้วย ทุกๆคนไทยจะยืนด้วยขาตนเองในทุกๆสัมมาอาชีพโดยมีฐานที่แข็งแกร่งด้านความมั่นคงทางอาหารเราอยู่พื้นรองรับไว้หมดว่าทุกๆคนไทยมีอาหารราคาถูกไม่แพงกินตลอดชีวิตแน่นอนคู่ขนานความร่ำรวยมั่งคั่งทางวัตถุธาตุบวกศีลธรรมดีงามในใจคนไทยเรามีเป็นพื้นฐานปกติดีอยู่แล้วอีกด้วย,ใครจะมาสร้างชาติไทยได้ดีเยี่ยมจริงกว่าคนไทยเราล่ะบนแผ่นดินไทยเราเองนี้อีกด้วย. https://youtube.com/shorts/dvQ5mdyo9EM?si=dTfhGMXBP1h1rzkH
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เหนื่อยจริงๆ " เรา..ประชาชน " เนี่ย!!! .มันเขามาปกครองเพื่อปั่นป่วนจริงๆ&สร้างโกลาหลทั่วไทยบวกทำให้แย่ทั่วทิศทุกๆมิติสัมมาอาชีพและความมั่นคงของชาติให้พังพินาศ.
    ..มโน แบบส่วนตัวจริงๆเลยนะ..พึ่งอะไรหน่วยไหนไม่ได้แล้วล่ะ จากภาพที่ฉายออกมาทัังหมด แค่กลหมากไม่ฟันจริงจัง ยืดเวลาให้ก็นานเกินพอแล้วจนมาถึงต้นปี68นี้,หากสำนึกดีจริงๆหลังอดีตนายกฯคนไม่ซื่อสัตย์สิ้นสภาพไปจากที่มาจากพรรคไหนไม่รู้แต่งตั้งนายกฯไม่ซื่อสัตย์มารับตำแหน่ง จริงๆสมควรเสียสิทธิ์ในนามพรรคด้วยจะเอาคนพรรคตนมาเป็นนายกฯคนต่อไปจากพรรคตนที่เสนอคนไม่ซื่อสัตย์มาแล้วชุดแรกควรตัดสิทธิ์การจัดตัังรัฐบาลด้วย,นี้คือกฎหมายการเลือกตัังล้มเหลว ส่งผลให้ทิศทางของทั้งประเทศตรงดิ่งลงสู่นรก&หายนะใหญ่ทัังชาติไปด้วยแบบปัจจุบัน เช่นบ่อนคาสิโนนี้ล่ะที่ไม่มีในนโยบายการหาเสียงเลือกตั้งหลักของพรรคเลยก็ว่า,ตุลาพิวัฒน์หรือวิวัฒน์อะไรอาจพึ่งพาอะไรไม่ได้เลย ดีๆอาจdeep stateข้ามโลกยึดครองควบคุมทั้งหมดอีกล่ะในไทย ปิระมิทการครองครบงำโลกก็บอกชัดเจนแล้วว่า deep stateปกครองกำกับดูแลการปกครองทั่วโลกในแต่ละชาติจริงๆไปแล้ว ศาล กฎหมาย ทหาร ตำรวจ สภา. &ทั้งหมดล้วนdeep stateฝังคนของมันยึดครองหมดแล้ว ทางการทหารจีน เขาเรียกว่าสายลับ บ่อนทำลายระบบปกครองจีนแทรกซึมไว้หมดแล้ว,เชือดนิ่มๆคือใช้สาวสวยนาตาดีไปยึดทำครอบครัวกลืนกินเสียเลยก็ว่ากับพวกกุมอำนาจปกครองของชาติไทยอาจปูทางปูพื้นมาตั้งแต่คณะกบฎ2475แล้วล่ะ,จนมาถึงปัจจุบัน มันผสมพันธุ์สืบทายาทอสูรมารซาตานลัทธิตาเดียวเต็มตระกูลแล้ว ลูกหลานใฝ่ดีไปรับรู้เห็น รับไม่ได้ กบฎทรยศตระกูลจนเป็นบ้าเป็นบอเสียสติในลัทธิมืดไปด้วยก็ว่า,พวกนี้จะอมบ้านิดๆถึงระดับสูงก็ว่า,บำบัดกันเลยล่ะจึงเกิดโรคบาลจิตเวชออกมาเพื่อรักษาสภาพจิตลูกหลานตระกูลมัน สร้างเพื่อประชาชนคือข้ออ้างล่ะ,แบบกฎหมายปัญญาอ่อนมากมายเขียนออกมาเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์มันล่ะ อาทิ ห้ามเปิดเผยหน้าเจ้าสัวอีลิทพวกกูหากเป็นข่าวเรื่องเอามันส์เด็กซึ่งพวกซาตานมันชอบเลยล่ะแรปทีเลี่ยนสอนดีจนบอกต่อแก่คนอิสลามเอามันเด็กๆได้ไม่ผิด 6-8ขวบก็มีโน้น แพะแกะยังเอาได้ล่ะ,แรปทีเลี่ยนสอนดีเลยจนเป็นศาสนามัน,หรือไม่เปิดเผยชื่อกิจการการค้าตน แบบพนักงานธนาคารดูดตังประชาชนโอนเข้าบัญชีตนเฉยๆที่เป็นข่าวตรึม มันกลัวเสียชื่อเสียงเป็นต้น หรือกฎหมายหมิ่นประมาทด่าเสียๆหายๆไม่ได้ ด่าถูกใจตรงใจชั่วมันแท้ๆมันรับไม่ได้เลยไปเขียนกฎหมายห้ามด่าห้ามหมิ่นมัน,หรือกฎหมายชุมนุม ถ้าจะขับไล่กูแบบเปิดเผยต้องมาขออนุญาตคนชั่วๆเลวๆแบบกูก่อน กูผิดจริงที่มรึงไปรู้มาแต่ไม่มีหลักฐานก็เถอะ ต้องมาขอกูนะมันว่า,นี้คือกฎหมายปัญญาอ่อนมีนัยยะเลวชั่วประมาณนี้ล่ะ เอาประชาชนเป็นข้ออ้างหมดล่ะเพื่อทำเลวขั่ว ไม่ต่างจากลับมาก ลับที่สุดนั้นล่ะ คนดีๆเขาไม่มีความลับหรอก ทำสัญญาmouอะไรต่างกล้าบอกเปิดเผยต่อประชาชนเพราะกระทบระดับชาติ,แบบปล่อยสัญญาสัมปทานบ่อปิโตรเลียมนั้นล่ะ ไม่เอาเข้าสภาบอกประชาชนทั้งเชิงบวกเชิงลบหรือให้ประชาชนร่วมลงมติเลย คนกระทรวงแอบทำเองมันใช้ไม่ได้ ผลกระทบคือของแพงทั้งแผ่นดินไทย เสียอธิปไตยบ่อน้ำมันไปตกแก่คนอื่น,นี้คือการปกครองในฝ่ายรัฐฐะปกครองที่ผิดพลาดและไม่แก้ไขปรุงปรับฉีกสัญญาทิ้ง&โมฆะสิ่งอยุติธรรมนี้ทิ้งไปใดๆเลย,ถือว่าแบบปกครองของระบบคณะกบฎ2475นี้ล้มเหลวใช้ไม่ได้ต้องเปลี่ยนระบบการปกครองใหม่ที่มิใช่แบบของฝรั่ง.
    ..ถึงตอนนี้ มโนว่า ไม่มีใครสามารถจัดการโทนี่ได้หรือทั้งครอบครัวทั้งพรรคโทนี่,เพราะdeep state ข้ามโลกแบบตระกูล13โลกนำโดยท่านหลอดกาแฟต่างๆโดยเฉพาะไชล์ดๆแบบblackrockหมายตาภาคใต้ไทยเอยทั้งภาคโดยเฉพาะขุดคลองคอดกระ&แลนด์บริดจ์ก็ว่า ตังมหาศาลส่งเข้าdeep stateโลกจะขนาดไหน ทั้งบ่อนออนไลน์ คาสิโนเรือสำราญขนาดใหญ่ฮับโลกและสาระพัดฮับ รวมถึงศูนย์กลางจักรวาลอยู่ที่ไทย ตังและโคตรๆพลังงานอยู่ที่นี้ของโลกยุคใหม่ มันจะขนาดไหน มันเร่งสุดกำลังแน่นอน จึงอาจรอดถึง99%เลย,มีแค่วิธีเดียวตัดตอนได้ทัน ตัดการเชื่อมจิตเลวชั่วมิให้deep stateข้ามโลกจูนสัญญาณเข้าถึงระบบในไทยได้ แบบผีร้ายเข้าบ้านไม่ได้ก็สิ้นฤทธิ์เช่นกันเพราะขาดตัวเชื่อมพลังชั่วเลวร่างทรงให้มันก่อการในบ้านเราได้ จบสิ้นซากเลยล่ะ จากนั้นค่อยตามไล่ล่าผีร้ายนี้กับเพื่อนบ้านทั่วโลกถีบพวกมันออกจากโลกเราให้สิ้นซากจริงๆก็ว่าต่อไป,
    ..การตัดตอนที่ดีอีกทางคือยกเลิกการเลือก อบต.อบท.อบจ.นี้ไปก่อน,เทศบาลตำบล &เมือง&นคร หากยุติพักงานเลื่อนออกไปก่อน ไม่เสียหายอะไรเลย ,หรือโมฆะการเลือกตั้งทั้งประเทศ,เพราะใช้ตังหมดๆหน่วยล่ะ,deep stateโลก สั่งยึดไทยผ่านdeep stateสาขาไทยย่อมส่งตังมามหาศาลสบายๆ อาจเศษตังแต่10ล้านล้านบาททุกๆหน่วยเลือกตั้งก็เหลือล้นแล้ว, อาทิแจกคนเลือกตั้งคนละ1,000ถ้วนหน้าในชุมชนปกติธรรมดาสัก40ล้านคนก็แค่4หมื่นล้านบาทเอง,เขตหน่วยพิเศษให้คนละ5,000บาทต่อหัวคนกาคะแนนสัก20ล้านคนก็100,000ล้านบาทเอง,ง่ายๆซื้อประเทศไทยผ่านการเลือกตั้งท้องถิ่นมาง่ายมากจริง ไม่ถึง1ล้านล้านบาทเลย,เหลือ9ล้านล้านบาทบริหารจัดการซื้อคนทรยศในหน่วยงานระบบราชการยิ่งสบายหมด,ไม่รวมเจ้าสัวนายทุนเดิมๆที่เป็นขี้ข้าทาสรับใช้คำสั่งปกติอยู่แล้ว,โอนตังผ่านขี้ข้านี้ลงถึงหัวคะแนนแจกตังตรงๆก็ได้หรือพวกเดินปล่อยเงินกู้นอกระบบในไทยก็ลูกน้องมันหมด,คือdeep stateเล่นหนักแน่นอน จะยึดไทยเบ็ดเสร็จเลย ล้มสถาบันให้สิ้นซากด้วยแน่นอน ดูdeep state จีนสิ มันสั่งนำเข้ามาไทยตรึมมากมายก็ว่า คนตรึมเต็มประเทศไทย โรงงานจีนของสาขาdeep stateจีน ผสมพันธุ์จับมือกับdeep stateสาขาไทยแลกเปลี่ยนคน&นำเข้าคนจีนอย่างสบายใจเดอะแก๊งมันเลยก็ว่า,
    ..จึงต้องจบเรื่องนี้ทันทีคือจบรัฐบาลนี้ ตัดตอนรัฐบาลนี้ในการมีอยู่ทันที อาจก่อน11พ.ค.ยิ่งดี เพราะจะไม่มีการเลือกตั้งทันทีได้ เพราะเมื่อสิ้นสภาพรัฐบาล งานย่อยๆต่างๆต้องโมฆะเลื่อนออกไปทันทีแบบไม่มีกำหนดโดยว่าตามมารยาท ,ถ้ายึดอำนาจจากทหารพระราชาคงไม่ต้องพูดหากันเลย,อำนาจทางทหารสามารถระงับการเลือกตั้งใดๆทั้งหมดได้แน่นอน,ชาติไทยจึงจะพอมีทางก้าวเดินต่อไปได้.,เรามีการปกครองที่ผิดพลาดและสะท้อนว่าล้มเหลวด้วยชัดเจนแล้วในปัจจุบันจากระบบธุรการราชการไทยที่คณะกบฎ2475วางสวมใส่ตัวให้เป็นชุดเดินโชว์ที่อุบาทก์ขายหน้าไปทั่วโลก, แบบมุกพวกdeep stateหรือagendaมันมักพูดว่า "การไม่มีอะไรเลย คุณจะพบว่ามีความสุข" คือคุณไม่ต้องเป็นเจ้าของอะไรๆ จะมีแต่รอยยิ้มแทนพะนะ แบบไม่ได้เป็นเจ้าของบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยตนเอง ไม่ได้เป็นเจ้าของเนื้อปิโตรเลียมที่ดูดออกมาใดๆเลยสักหยด คุณจะยิ้มอย่างคนผีบ้าและมีความสุข(,บนราคาสินค้า&ของแพงทัังแผ่นดินก็ว่า)
    https://youtube.com/watch?v=jzW7mW4jt5U&si=sl7fg0-LDLp5ZsVN
    ..เหนื่อยจริงๆ " เรา..ประชาชน " เนี่ย!!! .มันเขามาปกครองเพื่อปั่นป่วนจริงๆ&สร้างโกลาหลทั่วไทยบวกทำให้แย่ทั่วทิศทุกๆมิติสัมมาอาชีพและความมั่นคงของชาติให้พังพินาศ. ..มโน แบบส่วนตัวจริงๆเลยนะ..พึ่งอะไรหน่วยไหนไม่ได้แล้วล่ะ จากภาพที่ฉายออกมาทัังหมด แค่กลหมากไม่ฟันจริงจัง ยืดเวลาให้ก็นานเกินพอแล้วจนมาถึงต้นปี68นี้,หากสำนึกดีจริงๆหลังอดีตนายกฯคนไม่ซื่อสัตย์สิ้นสภาพไปจากที่มาจากพรรคไหนไม่รู้แต่งตั้งนายกฯไม่ซื่อสัตย์มารับตำแหน่ง จริงๆสมควรเสียสิทธิ์ในนามพรรคด้วยจะเอาคนพรรคตนมาเป็นนายกฯคนต่อไปจากพรรคตนที่เสนอคนไม่ซื่อสัตย์มาแล้วชุดแรกควรตัดสิทธิ์การจัดตัังรัฐบาลด้วย,นี้คือกฎหมายการเลือกตัังล้มเหลว ส่งผลให้ทิศทางของทั้งประเทศตรงดิ่งลงสู่นรก&หายนะใหญ่ทัังชาติไปด้วยแบบปัจจุบัน เช่นบ่อนคาสิโนนี้ล่ะที่ไม่มีในนโยบายการหาเสียงเลือกตั้งหลักของพรรคเลยก็ว่า,ตุลาพิวัฒน์หรือวิวัฒน์อะไรอาจพึ่งพาอะไรไม่ได้เลย ดีๆอาจdeep stateข้ามโลกยึดครองควบคุมทั้งหมดอีกล่ะในไทย ปิระมิทการครองครบงำโลกก็บอกชัดเจนแล้วว่า deep stateปกครองกำกับดูแลการปกครองทั่วโลกในแต่ละชาติจริงๆไปแล้ว ศาล กฎหมาย ทหาร ตำรวจ สภา. &ทั้งหมดล้วนdeep stateฝังคนของมันยึดครองหมดแล้ว ทางการทหารจีน เขาเรียกว่าสายลับ บ่อนทำลายระบบปกครองจีนแทรกซึมไว้หมดแล้ว,เชือดนิ่มๆคือใช้สาวสวยนาตาดีไปยึดทำครอบครัวกลืนกินเสียเลยก็ว่ากับพวกกุมอำนาจปกครองของชาติไทยอาจปูทางปูพื้นมาตั้งแต่คณะกบฎ2475แล้วล่ะ,จนมาถึงปัจจุบัน มันผสมพันธุ์สืบทายาทอสูรมารซาตานลัทธิตาเดียวเต็มตระกูลแล้ว ลูกหลานใฝ่ดีไปรับรู้เห็น รับไม่ได้ กบฎทรยศตระกูลจนเป็นบ้าเป็นบอเสียสติในลัทธิมืดไปด้วยก็ว่า,พวกนี้จะอมบ้านิดๆถึงระดับสูงก็ว่า,บำบัดกันเลยล่ะจึงเกิดโรคบาลจิตเวชออกมาเพื่อรักษาสภาพจิตลูกหลานตระกูลมัน สร้างเพื่อประชาชนคือข้ออ้างล่ะ,แบบกฎหมายปัญญาอ่อนมากมายเขียนออกมาเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์มันล่ะ อาทิ ห้ามเปิดเผยหน้าเจ้าสัวอีลิทพวกกูหากเป็นข่าวเรื่องเอามันส์เด็กซึ่งพวกซาตานมันชอบเลยล่ะแรปทีเลี่ยนสอนดีจนบอกต่อแก่คนอิสลามเอามันเด็กๆได้ไม่ผิด 6-8ขวบก็มีโน้น แพะแกะยังเอาได้ล่ะ,แรปทีเลี่ยนสอนดีเลยจนเป็นศาสนามัน,หรือไม่เปิดเผยชื่อกิจการการค้าตน แบบพนักงานธนาคารดูดตังประชาชนโอนเข้าบัญชีตนเฉยๆที่เป็นข่าวตรึม มันกลัวเสียชื่อเสียงเป็นต้น หรือกฎหมายหมิ่นประมาทด่าเสียๆหายๆไม่ได้ ด่าถูกใจตรงใจชั่วมันแท้ๆมันรับไม่ได้เลยไปเขียนกฎหมายห้ามด่าห้ามหมิ่นมัน,หรือกฎหมายชุมนุม ถ้าจะขับไล่กูแบบเปิดเผยต้องมาขออนุญาตคนชั่วๆเลวๆแบบกูก่อน กูผิดจริงที่มรึงไปรู้มาแต่ไม่มีหลักฐานก็เถอะ ต้องมาขอกูนะมันว่า,นี้คือกฎหมายปัญญาอ่อนมีนัยยะเลวชั่วประมาณนี้ล่ะ เอาประชาชนเป็นข้ออ้างหมดล่ะเพื่อทำเลวขั่ว ไม่ต่างจากลับมาก ลับที่สุดนั้นล่ะ คนดีๆเขาไม่มีความลับหรอก ทำสัญญาmouอะไรต่างกล้าบอกเปิดเผยต่อประชาชนเพราะกระทบระดับชาติ,แบบปล่อยสัญญาสัมปทานบ่อปิโตรเลียมนั้นล่ะ ไม่เอาเข้าสภาบอกประชาชนทั้งเชิงบวกเชิงลบหรือให้ประชาชนร่วมลงมติเลย คนกระทรวงแอบทำเองมันใช้ไม่ได้ ผลกระทบคือของแพงทั้งแผ่นดินไทย เสียอธิปไตยบ่อน้ำมันไปตกแก่คนอื่น,นี้คือการปกครองในฝ่ายรัฐฐะปกครองที่ผิดพลาดและไม่แก้ไขปรุงปรับฉีกสัญญาทิ้ง&โมฆะสิ่งอยุติธรรมนี้ทิ้งไปใดๆเลย,ถือว่าแบบปกครองของระบบคณะกบฎ2475นี้ล้มเหลวใช้ไม่ได้ต้องเปลี่ยนระบบการปกครองใหม่ที่มิใช่แบบของฝรั่ง. ..ถึงตอนนี้ มโนว่า ไม่มีใครสามารถจัดการโทนี่ได้หรือทั้งครอบครัวทั้งพรรคโทนี่,เพราะdeep state ข้ามโลกแบบตระกูล13โลกนำโดยท่านหลอดกาแฟต่างๆโดยเฉพาะไชล์ดๆแบบblackrockหมายตาภาคใต้ไทยเอยทั้งภาคโดยเฉพาะขุดคลองคอดกระ&แลนด์บริดจ์ก็ว่า ตังมหาศาลส่งเข้าdeep stateโลกจะขนาดไหน ทั้งบ่อนออนไลน์ คาสิโนเรือสำราญขนาดใหญ่ฮับโลกและสาระพัดฮับ รวมถึงศูนย์กลางจักรวาลอยู่ที่ไทย ตังและโคตรๆพลังงานอยู่ที่นี้ของโลกยุคใหม่ มันจะขนาดไหน มันเร่งสุดกำลังแน่นอน จึงอาจรอดถึง99%เลย,มีแค่วิธีเดียวตัดตอนได้ทัน ตัดการเชื่อมจิตเลวชั่วมิให้deep stateข้ามโลกจูนสัญญาณเข้าถึงระบบในไทยได้ แบบผีร้ายเข้าบ้านไม่ได้ก็สิ้นฤทธิ์เช่นกันเพราะขาดตัวเชื่อมพลังชั่วเลวร่างทรงให้มันก่อการในบ้านเราได้ จบสิ้นซากเลยล่ะ จากนั้นค่อยตามไล่ล่าผีร้ายนี้กับเพื่อนบ้านทั่วโลกถีบพวกมันออกจากโลกเราให้สิ้นซากจริงๆก็ว่าต่อไป, ..การตัดตอนที่ดีอีกทางคือยกเลิกการเลือก อบต.อบท.อบจ.นี้ไปก่อน,เทศบาลตำบล &เมือง&นคร หากยุติพักงานเลื่อนออกไปก่อน ไม่เสียหายอะไรเลย ,หรือโมฆะการเลือกตั้งทั้งประเทศ,เพราะใช้ตังหมดๆหน่วยล่ะ,deep stateโลก สั่งยึดไทยผ่านdeep stateสาขาไทยย่อมส่งตังมามหาศาลสบายๆ อาจเศษตังแต่10ล้านล้านบาททุกๆหน่วยเลือกตั้งก็เหลือล้นแล้ว, อาทิแจกคนเลือกตั้งคนละ1,000ถ้วนหน้าในชุมชนปกติธรรมดาสัก40ล้านคนก็แค่4หมื่นล้านบาทเอง,เขตหน่วยพิเศษให้คนละ5,000บาทต่อหัวคนกาคะแนนสัก20ล้านคนก็100,000ล้านบาทเอง,ง่ายๆซื้อประเทศไทยผ่านการเลือกตั้งท้องถิ่นมาง่ายมากจริง ไม่ถึง1ล้านล้านบาทเลย,เหลือ9ล้านล้านบาทบริหารจัดการซื้อคนทรยศในหน่วยงานระบบราชการยิ่งสบายหมด,ไม่รวมเจ้าสัวนายทุนเดิมๆที่เป็นขี้ข้าทาสรับใช้คำสั่งปกติอยู่แล้ว,โอนตังผ่านขี้ข้านี้ลงถึงหัวคะแนนแจกตังตรงๆก็ได้หรือพวกเดินปล่อยเงินกู้นอกระบบในไทยก็ลูกน้องมันหมด,คือdeep stateเล่นหนักแน่นอน จะยึดไทยเบ็ดเสร็จเลย ล้มสถาบันให้สิ้นซากด้วยแน่นอน ดูdeep state จีนสิ มันสั่งนำเข้ามาไทยตรึมมากมายก็ว่า คนตรึมเต็มประเทศไทย โรงงานจีนของสาขาdeep stateจีน ผสมพันธุ์จับมือกับdeep stateสาขาไทยแลกเปลี่ยนคน&นำเข้าคนจีนอย่างสบายใจเดอะแก๊งมันเลยก็ว่า, ..จึงต้องจบเรื่องนี้ทันทีคือจบรัฐบาลนี้ ตัดตอนรัฐบาลนี้ในการมีอยู่ทันที อาจก่อน11พ.ค.ยิ่งดี เพราะจะไม่มีการเลือกตั้งทันทีได้ เพราะเมื่อสิ้นสภาพรัฐบาล งานย่อยๆต่างๆต้องโมฆะเลื่อนออกไปทันทีแบบไม่มีกำหนดโดยว่าตามมารยาท ,ถ้ายึดอำนาจจากทหารพระราชาคงไม่ต้องพูดหากันเลย,อำนาจทางทหารสามารถระงับการเลือกตั้งใดๆทั้งหมดได้แน่นอน,ชาติไทยจึงจะพอมีทางก้าวเดินต่อไปได้.,เรามีการปกครองที่ผิดพลาดและสะท้อนว่าล้มเหลวด้วยชัดเจนแล้วในปัจจุบันจากระบบธุรการราชการไทยที่คณะกบฎ2475วางสวมใส่ตัวให้เป็นชุดเดินโชว์ที่อุบาทก์ขายหน้าไปทั่วโลก, แบบมุกพวกdeep stateหรือagendaมันมักพูดว่า "การไม่มีอะไรเลย คุณจะพบว่ามีความสุข" คือคุณไม่ต้องเป็นเจ้าของอะไรๆ จะมีแต่รอยยิ้มแทนพะนะ แบบไม่ได้เป็นเจ้าของบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยตนเอง ไม่ได้เป็นเจ้าของเนื้อปิโตรเลียมที่ดูดออกมาใดๆเลยสักหยด คุณจะยิ้มอย่างคนผีบ้าและมีความสุข(,บนราคาสินค้า&ของแพงทัังแผ่นดินก็ว่า) https://youtube.com/watch?v=jzW7mW4jt5U&si=sl7fg0-LDLp5ZsVN
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญแซยิด หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม ปี2538
    เหรียญแซยิด หลวงปู่คำพันธ์ ( ตอกโค๊ต "ช" ) วัดธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม ปี2538 // รุ่นนี้มีประสบการณ์สูง // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ @"

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ค้าขายดี เลื่อนยศ มหาเสน่ห์ โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** หลวงปู่คำพันธ์ บรรพชา เป็นสามเณร วันที่ ๗ กันยายน ๒๔๗๕ (อายุ ๑๗ ปี) บวชเป็นสามเณร ที่วัดศรีบุญเรือง บ.หนองหอย ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม โดยมีพระอาจารย์เชื่อม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ศึกษาอักษรธรรม และหนังสือสูตรคาม แบบโบราณ และฝึกปฏิบัติกัมมัฎฐาน อาจารย์ผู้สอนกรรมฐาน หลวงปู่ได้มีโอกาสฟังธรรมการปฏิบัติ จาก พระอาจารย์เสาร์ กันตะสีโล >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญแซยิด หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม ปี2538 เหรียญแซยิด หลวงปู่คำพันธ์ ( ตอกโค๊ต "ช" ) วัดธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม ปี2538 // รุ่นนี้มีประสบการณ์สูง // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ @" ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ค้าขายดี เลื่อนยศ มหาเสน่ห์ โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** หลวงปู่คำพันธ์ บรรพชา เป็นสามเณร วันที่ ๗ กันยายน ๒๔๗๕ (อายุ ๑๗ ปี) บวชเป็นสามเณร ที่วัดศรีบุญเรือง บ.หนองหอย ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม โดยมีพระอาจารย์เชื่อม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ศึกษาอักษรธรรม และหนังสือสูตรคาม แบบโบราณ และฝึกปฏิบัติกัมมัฎฐาน อาจารย์ผู้สอนกรรมฐาน หลวงปู่ได้มีโอกาสฟังธรรมการปฏิบัติ จาก พระอาจารย์เสาร์ กันตะสีโล >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..คนยุคน้ำหมากเราก็เหนื่อยเป็นนะ,จะมั่วแต่มาออกมาไล่มาชุมนุมประกาศความชั่วเลวเป็นตัวแทนความดีเหี้ยนี้ไม่นานหรอก,มันบ่งบอกถึงระบบมันชั่วเลวชัดเจนจึงควบคุมคนชั่วเลวไม่ได้จริง,ระบบปกครองล้มเหลวจนเดือดร้อนประชาชนตนดำๆทั่วประเทศต้องมาทวงคืนความเป็นธรรมแทนคนไทยร่วมกันแทน,ในขณะตัวแทนพวกกาเลทอกตั้งอวดอวยตนกราบไหว้ก่อนกาเลือกบอกว่าจะเป็นตัวแทนที่ดีเสือกกระทำชั่ว,คนในระบบแบบคนข้าราชการก็ไม่ทำอะไรสร้างดุลความยุติธรรม,มองตาปริบๆในวงราชการตนเองนั่งคาตำแหน่งอำนาจกระจายเต็มแผ่นดินไทยตั้งแต่ระดับผู้ว่า,นายอำเภอคนราชการท้องถิ่นซึ่งชัดเจนว่าอยุติธรรมเต็มแผ่นดินเพียงใดในปัญหาประจำท้องถิ่นตนแต่ล่ะที่ พบเจอค่าจริงมากมาย แต่หดเป็นเต่าไม่บอกความจริงประชาชนเลยก็คนราชการนี้ล่ะ,บ่อน้ำมันบ่อทองคำมากมายเต็มประเทศระดับผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.รับรู้หมดล่ะ,อะไรไม่ดีก็ไม่คิดอ่านส่งเสริมให้ดี,อะไรดีก็ตัดตอนทำให้แย่,มันคือการปกครองแบบใด,บ่อนพนันเลวๆรู้ว่าชั่ว มีผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.กี่คนออกมาประกาศจุดยืนปกป้องประเทศให้พ้นอบายมุขในสิ่งชั่ว,นึกเล่นๆสิผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.ร่วมกันตีแผ่บอกค่าจริงที่เลวชั่วสาระพัดร่วมกัน ใครประชาชนที่ไหนจะมืดบอดอีก ตนในฐานะพ่อเมืองพ่อบ้านที่อวดอวยอ้างนักกลับไม่ออกมาสู้ อ้างผิดวิถีคนใต้ปกครองพะนะ ถ้าวิถีปกครองเหี้ยๆนี้ปิดปากให้อบายมุขสิ่งเลวชั่วเจริญรุ่งเรืองก็อย่ามีวิถีปกครองแบบนำพาประชาชนให้มืดบอดเลย บรรลุรู้เองพะนะ คงไม่จำเป็นต้องมีผู้ว่านายเภออบต.อบจ.ประดับแผ่นดินไทยสิ้นเปลืองงบประมาณประเทศที่แม้ความชั่วเลวก็ออกมาสู้รบกับข้าศึกชั่วเลวนี้แบบเปิดเผยชี้บอกเลวชั่วต่อทหารตนไม่ได้ว่ารบกับข้าศึกทำไม สู้เพื่ออะไรในนานแม่ทัพนำหน้ารบ,เสือกหลบมืดใต้ดินที่เกรงกลัวข้าศึกศัตรูแต่พอเงินเดือนออกสวัสดิโบนัสมารีบเร่งเบิกเร่งรับโอนเต็มๆ มันใช้ไม่ได้นะ,เราต้องล้างทุบทำลายวิถีปกครองที่ส่งเสริมความชั่วเลวเถอะ,ตนถูกปล้นก็ไม่สู้กลับเอาคืน,ตนถูกหลอกก็ไม่บอกความจริงให้หายโง่ไม่พาคนตามโง่ไปด้วย ฉีกความโง่ทิ้ง,แบบฉีกสัญญาทาสฉีกกฎหมายเลวชั่วที่ปล้นบ่อน้ำมันเราไปแบบฉีกรัฐธรรมนูญที่ทหารยึดอำนาจแล้วทำเสียของมาก,ไม่เป็นประโยชน์จริงอะไรต่อการสร้างชาติ นึกว่าจะเอาวัตถุดิบสร้างชาติคืนทั้งหมดได้เช่นสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายทีีเอกชนต่างชาติผูกขาดไปและคนทรยศเอกชนไทยเองยึดเอาผูกขาดเอาไปก็ด้วยให้ตกเป็นของกลางสร้างชาติจริงในอนาคตต่อยอดสิ่งต่างๆมากมายต่อไป,กาก&กระจอกมาก,ฝีมือไม่ถึง,เสียเวลาและเสียของจนก่อปัญหาไม่จบสิ้นถึงปัจจุบัน,ปัญหาทั้งหมดคือพวกปกครองพวกได้อำนาจไปปกครองที่ไร้ฝีมือ นำพาประเทศสู่ความฉิบหายทั่วประเทศ เจริญแบบเป็นทาสขี้ข้าวัตถุต่างชาติ เขาทุบทำลายตนเมื่อใดก็ไร้ความเจริญเพราะเจริญแบบปลอมๆ,ไม่สร้างรากฐานความเจริญที่แท้จริงจากคนของแผ่นดินไทยตนก่อน,ทุกๆคนไทยเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ ยืนด้วยขาตนเองจริง ร่ำรวยทางวัตถุแม้ไม่มากแต่ความว่าสิ้นชาติไทยจะไม่มีบนแผ่นดินไทยต่อคนไทยเราทุกๆคนและพลิกสู่เจริญวัตถุธาตุร่ำรวยทั้งทางกายและจิตวิญญาณที่ดีงามฝ่ายเดียวด้วยคู่ขนานโลกยุคล้ำๆต่างๆปรับเข้าลงตัวต่อโลกได้อย่างสบาย.
    ..ปัจจุบันสมควรจบจริง ภาคนักการเมืองแบบนี้และแบบภาคก่อนคณะกบฎ2475ก็คงรับการปกครองแบบนั้นไม่ได้ในสไตล์ศักดินาขี้ข้าทาสไพร่รับใช้แบบนั้น,วิถีปกครองเราต้องธรรมาธิปไตยสไตล์ธรรมะฝ่ายกุศลธรรมนำหน้าจริงๆจึงพอก้าวต่อไปได้,ทุกๆคนไทยจะมีธรรมดีปกครองในใจใครมันบนจริตสันดานปรับปรุงตนให้ดีขึ้นเรื่อยๆร่วมกันได้,ตรงข้ามทุกๆคนไทยขาดธรรมดี วุ่นวายทั้งชุมชนสังคมแบบในปัจจุบันนี้แน่นอน ทำร้ายกันแบบไร้สติคิดอ่านล่ะ,จึงต้องเคลียร์พื้นที่อย่างรวดเร็ว,ใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยต้องถีบออกจากประเทศไทยทั้งหมดทันที ความโกลาหลจากคนต่างบ้านต่างเมืองจะหมดไปจะเหลือแค่จัดการกันเองภายในล้วนๆ, นโยบายเร่งด่วนคือใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยกรุณาบินกลับประเทศตนเองทั้งหมดทันที,สนับสนุนส่งไปเกาะใดๆพักคนพวกนี้ได้,หรือติดต่อประเทศที่สามรับไปดูแลแทนแบบพวกสงครามพม่า,ไม่ใช่ภาระเราต้องแบกรับปัญหาที่บ้านเมืองมันเองก่อการกันเอง.แล้วมาสร้างความไม่สงบสุขแก่คนของแผ่นดินไทยในบ้านเมืองไทยเราด้วย,กิจการไหนเสียดายต่างด้าวกรุณาย้ายฐานการผลิตไปตั้งโรงงานที่ประเทศต่างด้าวนั้นเลยบวกตัดเครดิตในภาครัฐทั้งหมดที่รัฐส่งเสริมสนับสนุนทิ้งทั้งหมด ข้อหาส่งเสริมต่างด้าวสร้างภัยความมั่นคงไม่สงบต่อชุมชนสังคมรอบกิจการโรงงานและคนไทยร่วมทั้งประเทศ,
    ..แม้ฝรั่งหรือคนต่างชาติใดๆจะอาศัยต่างด้าวสร้างเป็นมือที่สามหรือใดๆจะก่อการลำบากหรือยากหรือไม่ได้เป็นเพียงอาศัยคนทรยศคนไทยอย่างเดียวแล้วแค่นั้นหรือมันก่อการเองของต่างชาตินั้นๆ.ตัดตอนปัญหาสาระพัดเลยล่ะหรือหมอพยาบาลที่ดูแลต่างด้าวมากกว่าคนไทย งบมากมาย ทรัพยากรจำกัดหลากหลายที่ต่างชาติต่างด้าวนี้มาแย่งชิงการใช้ขณะดำรงชีวิตไม่ให้ตายในไทยจะลดลงมหาศาลเป็นจำนวนมากทันที,ฝ่ายการเมืองเลวชั่วจะใช้ต่างด้าวมาปั่นป่วนใดๆก็จบเกมส์ด้วย,ความสงบสุขมากมายที่ผิดปกติไปเพราะต่างชาติต่างด้าวนี้ล่ะคือตัวปัญหาซึ่งคนชั่วสามารถวางสนุ็คใช้ในแผนการต่างๆมันได้,กิจการที่อาศัยทาสแรงงานต่างด้าวค้ากำไรจะตายลงไป,คนกิจการจริงจะอาศัยสัมมาครอบครัวใครมันทำการค้าขายแต่พอดีตามกำลังแรงตนใครมันไม่เอาเปรียบกันก็ว่า,สัมมาอาชีพมากมายจะค้าขายกันพอดีกำลังไม่กอบโกยรวบเอามากองแต่หน้าตักตนเอง,แรงตนกับคนในครอบครัวปกติทำรายได้10-100ล้าน โลภอยากได้มากๆตัดสัมมาอาชีพคนอื่นที่สามารถทำได้ไปยึดผูกขาดทำเองหมดจนตังกว่าแสนล้านหรือล้านล้านบาทจากแรงงานต่างด้าวนำเข้าหรือใครคนอื่นแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้,ตนครอบครัวใครมันทำได้เท่าไรก็เอาแต่พอดี ปล่อยคนอื่นๆร่ำรวยมีสุขบ้างในแต่ละท้องที่ จรรโจงชุมชนสังคมทั่วไทย ยืนร่วมกันด้วยขาตนเองร่วมกันในสัมมาอาชีพต่างๆบนแผ่นดินไทยตน,ซึ่งปัจจุบันเหี้ยภายในไม่พอ ไปเชิญชวนต่างชาติมายึดครองแผ่นดินไทยตนด้วย,แล้วฉลาดอวดโง่ว่านำพานักลงทุนมาลงแดกเต็มประเทศไทยได้.,วิถีปกครองนี้เลวชั่วและคือภัยความมั่นคงของประเทศไทยเราอย่างชัดเจน.

    https://m.youtube.com/watch?v=9krnTyEP7pQ
    ..คนยุคน้ำหมากเราก็เหนื่อยเป็นนะ,จะมั่วแต่มาออกมาไล่มาชุมนุมประกาศความชั่วเลวเป็นตัวแทนความดีเหี้ยนี้ไม่นานหรอก,มันบ่งบอกถึงระบบมันชั่วเลวชัดเจนจึงควบคุมคนชั่วเลวไม่ได้จริง,ระบบปกครองล้มเหลวจนเดือดร้อนประชาชนตนดำๆทั่วประเทศต้องมาทวงคืนความเป็นธรรมแทนคนไทยร่วมกันแทน,ในขณะตัวแทนพวกกาเลทอกตั้งอวดอวยตนกราบไหว้ก่อนกาเลือกบอกว่าจะเป็นตัวแทนที่ดีเสือกกระทำชั่ว,คนในระบบแบบคนข้าราชการก็ไม่ทำอะไรสร้างดุลความยุติธรรม,มองตาปริบๆในวงราชการตนเองนั่งคาตำแหน่งอำนาจกระจายเต็มแผ่นดินไทยตั้งแต่ระดับผู้ว่า,นายอำเภอคนราชการท้องถิ่นซึ่งชัดเจนว่าอยุติธรรมเต็มแผ่นดินเพียงใดในปัญหาประจำท้องถิ่นตนแต่ล่ะที่ พบเจอค่าจริงมากมาย แต่หดเป็นเต่าไม่บอกความจริงประชาชนเลยก็คนราชการนี้ล่ะ,บ่อน้ำมันบ่อทองคำมากมายเต็มประเทศระดับผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.รับรู้หมดล่ะ,อะไรไม่ดีก็ไม่คิดอ่านส่งเสริมให้ดี,อะไรดีก็ตัดตอนทำให้แย่,มันคือการปกครองแบบใด,บ่อนพนันเลวๆรู้ว่าชั่ว มีผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.กี่คนออกมาประกาศจุดยืนปกป้องประเทศให้พ้นอบายมุขในสิ่งชั่ว,นึกเล่นๆสิผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.ร่วมกันตีแผ่บอกค่าจริงที่เลวชั่วสาระพัดร่วมกัน ใครประชาชนที่ไหนจะมืดบอดอีก ตนในฐานะพ่อเมืองพ่อบ้านที่อวดอวยอ้างนักกลับไม่ออกมาสู้ อ้างผิดวิถีคนใต้ปกครองพะนะ ถ้าวิถีปกครองเหี้ยๆนี้ปิดปากให้อบายมุขสิ่งเลวชั่วเจริญรุ่งเรืองก็อย่ามีวิถีปกครองแบบนำพาประชาชนให้มืดบอดเลย บรรลุรู้เองพะนะ คงไม่จำเป็นต้องมีผู้ว่านายเภออบต.อบจ.ประดับแผ่นดินไทยสิ้นเปลืองงบประมาณประเทศที่แม้ความชั่วเลวก็ออกมาสู้รบกับข้าศึกชั่วเลวนี้แบบเปิดเผยชี้บอกเลวชั่วต่อทหารตนไม่ได้ว่ารบกับข้าศึกทำไม สู้เพื่ออะไรในนานแม่ทัพนำหน้ารบ,เสือกหลบมืดใต้ดินที่เกรงกลัวข้าศึกศัตรูแต่พอเงินเดือนออกสวัสดิโบนัสมารีบเร่งเบิกเร่งรับโอนเต็มๆ มันใช้ไม่ได้นะ,เราต้องล้างทุบทำลายวิถีปกครองที่ส่งเสริมความชั่วเลวเถอะ,ตนถูกปล้นก็ไม่สู้กลับเอาคืน,ตนถูกหลอกก็ไม่บอกความจริงให้หายโง่ไม่พาคนตามโง่ไปด้วย ฉีกความโง่ทิ้ง,แบบฉีกสัญญาทาสฉีกกฎหมายเลวชั่วที่ปล้นบ่อน้ำมันเราไปแบบฉีกรัฐธรรมนูญที่ทหารยึดอำนาจแล้วทำเสียของมาก,ไม่เป็นประโยชน์จริงอะไรต่อการสร้างชาติ นึกว่าจะเอาวัตถุดิบสร้างชาติคืนทั้งหมดได้เช่นสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายทีีเอกชนต่างชาติผูกขาดไปและคนทรยศเอกชนไทยเองยึดเอาผูกขาดเอาไปก็ด้วยให้ตกเป็นของกลางสร้างชาติจริงในอนาคตต่อยอดสิ่งต่างๆมากมายต่อไป,กาก&กระจอกมาก,ฝีมือไม่ถึง,เสียเวลาและเสียของจนก่อปัญหาไม่จบสิ้นถึงปัจจุบัน,ปัญหาทั้งหมดคือพวกปกครองพวกได้อำนาจไปปกครองที่ไร้ฝีมือ นำพาประเทศสู่ความฉิบหายทั่วประเทศ เจริญแบบเป็นทาสขี้ข้าวัตถุต่างชาติ เขาทุบทำลายตนเมื่อใดก็ไร้ความเจริญเพราะเจริญแบบปลอมๆ,ไม่สร้างรากฐานความเจริญที่แท้จริงจากคนของแผ่นดินไทยตนก่อน,ทุกๆคนไทยเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ ยืนด้วยขาตนเองจริง ร่ำรวยทางวัตถุแม้ไม่มากแต่ความว่าสิ้นชาติไทยจะไม่มีบนแผ่นดินไทยต่อคนไทยเราทุกๆคนและพลิกสู่เจริญวัตถุธาตุร่ำรวยทั้งทางกายและจิตวิญญาณที่ดีงามฝ่ายเดียวด้วยคู่ขนานโลกยุคล้ำๆต่างๆปรับเข้าลงตัวต่อโลกได้อย่างสบาย. ..ปัจจุบันสมควรจบจริง ภาคนักการเมืองแบบนี้และแบบภาคก่อนคณะกบฎ2475ก็คงรับการปกครองแบบนั้นไม่ได้ในสไตล์ศักดินาขี้ข้าทาสไพร่รับใช้แบบนั้น,วิถีปกครองเราต้องธรรมาธิปไตยสไตล์ธรรมะฝ่ายกุศลธรรมนำหน้าจริงๆจึงพอก้าวต่อไปได้,ทุกๆคนไทยจะมีธรรมดีปกครองในใจใครมันบนจริตสันดานปรับปรุงตนให้ดีขึ้นเรื่อยๆร่วมกันได้,ตรงข้ามทุกๆคนไทยขาดธรรมดี วุ่นวายทั้งชุมชนสังคมแบบในปัจจุบันนี้แน่นอน ทำร้ายกันแบบไร้สติคิดอ่านล่ะ,จึงต้องเคลียร์พื้นที่อย่างรวดเร็ว,ใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยต้องถีบออกจากประเทศไทยทั้งหมดทันที ความโกลาหลจากคนต่างบ้านต่างเมืองจะหมดไปจะเหลือแค่จัดการกันเองภายในล้วนๆ, นโยบายเร่งด่วนคือใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยกรุณาบินกลับประเทศตนเองทั้งหมดทันที,สนับสนุนส่งไปเกาะใดๆพักคนพวกนี้ได้,หรือติดต่อประเทศที่สามรับไปดูแลแทนแบบพวกสงครามพม่า,ไม่ใช่ภาระเราต้องแบกรับปัญหาที่บ้านเมืองมันเองก่อการกันเอง.แล้วมาสร้างความไม่สงบสุขแก่คนของแผ่นดินไทยในบ้านเมืองไทยเราด้วย,กิจการไหนเสียดายต่างด้าวกรุณาย้ายฐานการผลิตไปตั้งโรงงานที่ประเทศต่างด้าวนั้นเลยบวกตัดเครดิตในภาครัฐทั้งหมดที่รัฐส่งเสริมสนับสนุนทิ้งทั้งหมด ข้อหาส่งเสริมต่างด้าวสร้างภัยความมั่นคงไม่สงบต่อชุมชนสังคมรอบกิจการโรงงานและคนไทยร่วมทั้งประเทศ, ..แม้ฝรั่งหรือคนต่างชาติใดๆจะอาศัยต่างด้าวสร้างเป็นมือที่สามหรือใดๆจะก่อการลำบากหรือยากหรือไม่ได้เป็นเพียงอาศัยคนทรยศคนไทยอย่างเดียวแล้วแค่นั้นหรือมันก่อการเองของต่างชาตินั้นๆ.ตัดตอนปัญหาสาระพัดเลยล่ะหรือหมอพยาบาลที่ดูแลต่างด้าวมากกว่าคนไทย งบมากมาย ทรัพยากรจำกัดหลากหลายที่ต่างชาติต่างด้าวนี้มาแย่งชิงการใช้ขณะดำรงชีวิตไม่ให้ตายในไทยจะลดลงมหาศาลเป็นจำนวนมากทันที,ฝ่ายการเมืองเลวชั่วจะใช้ต่างด้าวมาปั่นป่วนใดๆก็จบเกมส์ด้วย,ความสงบสุขมากมายที่ผิดปกติไปเพราะต่างชาติต่างด้าวนี้ล่ะคือตัวปัญหาซึ่งคนชั่วสามารถวางสนุ็คใช้ในแผนการต่างๆมันได้,กิจการที่อาศัยทาสแรงงานต่างด้าวค้ากำไรจะตายลงไป,คนกิจการจริงจะอาศัยสัมมาครอบครัวใครมันทำการค้าขายแต่พอดีตามกำลังแรงตนใครมันไม่เอาเปรียบกันก็ว่า,สัมมาอาชีพมากมายจะค้าขายกันพอดีกำลังไม่กอบโกยรวบเอามากองแต่หน้าตักตนเอง,แรงตนกับคนในครอบครัวปกติทำรายได้10-100ล้าน โลภอยากได้มากๆตัดสัมมาอาชีพคนอื่นที่สามารถทำได้ไปยึดผูกขาดทำเองหมดจนตังกว่าแสนล้านหรือล้านล้านบาทจากแรงงานต่างด้าวนำเข้าหรือใครคนอื่นแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้,ตนครอบครัวใครมันทำได้เท่าไรก็เอาแต่พอดี ปล่อยคนอื่นๆร่ำรวยมีสุขบ้างในแต่ละท้องที่ จรรโจงชุมชนสังคมทั่วไทย ยืนร่วมกันด้วยขาตนเองร่วมกันในสัมมาอาชีพต่างๆบนแผ่นดินไทยตน,ซึ่งปัจจุบันเหี้ยภายในไม่พอ ไปเชิญชวนต่างชาติมายึดครองแผ่นดินไทยตนด้วย,แล้วฉลาดอวดโง่ว่านำพานักลงทุนมาลงแดกเต็มประเทศไทยได้.,วิถีปกครองนี้เลวชั่วและคือภัยความมั่นคงของประเทศไทยเราอย่างชัดเจน. https://m.youtube.com/watch?v=9krnTyEP7pQ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..บ่อน้ำมันไทยที่ข้าราชการประจำระดับนั่งตำแหน่งสูงๆมากมายทั่วประเทศไม่มีความกล้าหาญนำพาคืนความมั่งคั่งแก่ประชาชนคนไทยได้,ผู้ว่าฯและนายอำเภอแต่ละจังหวัดแต่ละท้องที่ตนที่รู้เห็นความจริงทุกๆอย่างยังปิดตาลงได้&ไม่เคยลงประกาศประชุมพูดคุยบอกเล่าความจริงแก่ประชาชนอย่างจริงใจแบบจัดประชุมคืน&มอบโฉนดที่ดินคืนสิทธิ์แก่ประชาชนเลย,บ่อน้ำมันเป็นอะไรยิ่งกว่าที่ดินประชาชนเช่นกันมันคือการพ้นยากจนคนไทยได้ มีสิทธิในการทำกินสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยแก่ทุกๆคนในประเทศไทยได้เหมือนมีที่ดินทำกินสร้างสุขปากท้องคนนั้นเอง,ไม่รวมบ่อทองคำแหล่งทรัพยากรผูกขาดต่างๆที่เสียสิทธิไปเช่นบ่อน้ำมัน.,และแม้ทหารยึดอำนาจเองก็ไม่เคยคิดอ่านประกาศความจริง&จริงใจจริงต่อคนไทยทั้งประเทศ,ขาติเราเจริญวัตถุเพื่อตอบสนองโคตรเหง้าไม่กี่ตระกูลให้มั่งคั่งร่ำรวยอย่างบ้าคลั่งชนิดเห็นแก่ตัวโคตรๆมาอย่างยาวนานจริงๆและพร้อมทำลายขายชาติขายแผ่นดินไทยสมคบคิดต่างชาติก่อชั่วใส่แผ่นดินและประชาชนอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง.,คือวิถีปกครองที่ชั่วเลวยิ่งนักในคราบเผด็จการประชาธิปไตยส่งออกของฝรั่งร่วมกับคณะกบฎ2475.

    ....ทวนราคาน้ำมันในอดีตยุค2565ที่เบนซิน95แบบไม่ผสมเอทานอลลิตรละ52-53กว่าบาทต่อลิตร ถือว่าแพงมากเช่นกัน.

    ราคาน้ำมันวันนี้ 6 มิถุนายน 2565 เช็กราคาทุกชนิด ล่าสุดลิตรละกี่บาทแล้ว

    Date Time: 6 มิ.ย. 2565 10:00 น.

    "ราคาน้ำมันวันนี้" 6 มิ.ย. 65 เช็กราคาน้ำมันทุกชนิด กลุ่มเบนซิน, โซฮอล์, ดีเซล ล่าสุดราคาลิตรละเท่าไร เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง 4 ปั๊มน้ำมัน
    "ราคาน้ำมันวันนี้" 6 มิ.ย. 65 เช็กราคาน้ำมันทุกชนิด กลุ่มเบนซิน, โซฮอล์, ดีเซล ล่าสุดราคาลิตรละเท่าไร เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง 4 ปั๊มน้ำมัน
    วันที่ 6 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานการอัปเดตราคาน้ำมัน กลุ่มเบนซิน, แก๊สโซฮอล์ และดีเซล ล่าสุด จากเว็บไซต์ บมจ.บางจากปิโตรเลียม, เว็บไซต์ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน), เว็บไซต์ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด และ Esso Thailand โดยมีราคาดังนี้

    ราคาน้ำมันปั๊ม "เชลล์"
    เชลล์ ฟิวเซฟ แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 44.54 บาท/ลิตร
    เชลล์ ฟิวเซฟ แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 45.38 บาท/ลิตร
    เชลล์ ฟิวเซฟ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 45.65 บาท/ลิตร

    เชลล์ วี-เพาเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 53.14 บาท/ลิตร

    เชลล์ ดีเซล B20 อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร
    เชลล์ ฟิวเซฟ ดีเซล อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร
    เชลล์ ฟิวเซฟ ดีเซล B7 อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร
    เชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร
    เชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล B7 อยู่ที่ 49.39 บาท/ลิตร



    ราคาน้ำมันปั๊ม "เอสโซ่"
    เอ็กซ์ตร้า แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 44.34 บาท/ลิตร
    เอ็กซ์ตร้า แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 45.18 บาท/ลิตร
    ซูเปอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 45.45 บาท/ลิตร
    ดีเซล อยู่ที่ 33.34 บาท/ลิตร
    ดีเซล B7 อยู่ที่ 33.34 บาท/ลิตร

    ซูพรีมพลัส แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 52.94 บาท/ลิตร

    ซูพรีมพลัส ดีเซล B7 อยู่ที่ 47.66 บาท/ลิตร



    ราคาน้ำมันปั๊ม "ปตท."
    ดีเซลพรีเมียม B7 อยู่ที่ 44.36 บาท/ลิตร
    ดีเซล S B7 อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร
    ดีเซล อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร
    ดีเซล B20 อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร

    เบนซิน อยู่ที่ 52.06 บาท/ลิตร

    แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 44.65 บาท/ลิตร
    แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 44.38 บาท/ลิตร
    แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 43.54 บาท/ลิตร
    แก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 37.24 บาท/ลิตร


    ราคาน้ำมันปั๊ม "บางจาก"
    แก๊สโซฮอล์ 95S EVO อยู่ที่ 44.65 บาท/ลิตร
    แก๊สโซฮอล์ 91S EV อยู่ที่ 44.38 บาท/ลิตร
    แก๊สโซฮอล์ E20S EVO อยู่ที่ 43.54 บาท/ลิตร
    แก๊สโซฮอล์ E85S EVO อยู่ที่ 37.24 บาท/ลิตร
    ไฮดีเซล B20S อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร
    ไฮดีเซล S อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร
    ไฮดีเซล S B7 อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร
    ไฮพรีเมียมดีเซล S B7 อยู่ที่ 44.36 บาท/ลิตร


    อย่างไรก็ตาม ราคาข้างต้นเป็นราคากลางที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งอาจมีความแตกต่างในแต่ละพื้นที่.



    ..บ่อน้ำมันไทยที่ข้าราชการประจำระดับนั่งตำแหน่งสูงๆมากมายทั่วประเทศไม่มีความกล้าหาญนำพาคืนความมั่งคั่งแก่ประชาชนคนไทยได้,ผู้ว่าฯและนายอำเภอแต่ละจังหวัดแต่ละท้องที่ตนที่รู้เห็นความจริงทุกๆอย่างยังปิดตาลงได้&ไม่เคยลงประกาศประชุมพูดคุยบอกเล่าความจริงแก่ประชาชนอย่างจริงใจแบบจัดประชุมคืน&มอบโฉนดที่ดินคืนสิทธิ์แก่ประชาชนเลย,บ่อน้ำมันเป็นอะไรยิ่งกว่าที่ดินประชาชนเช่นกันมันคือการพ้นยากจนคนไทยได้ มีสิทธิในการทำกินสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยแก่ทุกๆคนในประเทศไทยได้เหมือนมีที่ดินทำกินสร้างสุขปากท้องคนนั้นเอง,ไม่รวมบ่อทองคำแหล่งทรัพยากรผูกขาดต่างๆที่เสียสิทธิไปเช่นบ่อน้ำมัน.,และแม้ทหารยึดอำนาจเองก็ไม่เคยคิดอ่านประกาศความจริง&จริงใจจริงต่อคนไทยทั้งประเทศ,ขาติเราเจริญวัตถุเพื่อตอบสนองโคตรเหง้าไม่กี่ตระกูลให้มั่งคั่งร่ำรวยอย่างบ้าคลั่งชนิดเห็นแก่ตัวโคตรๆมาอย่างยาวนานจริงๆและพร้อมทำลายขายชาติขายแผ่นดินไทยสมคบคิดต่างชาติก่อชั่วใส่แผ่นดินและประชาชนอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง.,คือวิถีปกครองที่ชั่วเลวยิ่งนักในคราบเผด็จการประชาธิปไตยส่งออกของฝรั่งร่วมกับคณะกบฎ2475. ....ทวนราคาน้ำมันในอดีตยุค2565ที่เบนซิน95แบบไม่ผสมเอทานอลลิตรละ52-53กว่าบาทต่อลิตร ถือว่าแพงมากเช่นกัน. ราคาน้ำมันวันนี้ 6 มิถุนายน 2565 เช็กราคาทุกชนิด ล่าสุดลิตรละกี่บาทแล้ว Date Time: 6 มิ.ย. 2565 10:00 น. "ราคาน้ำมันวันนี้" 6 มิ.ย. 65 เช็กราคาน้ำมันทุกชนิด กลุ่มเบนซิน, โซฮอล์, ดีเซล ล่าสุดราคาลิตรละเท่าไร เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง 4 ปั๊มน้ำมัน "ราคาน้ำมันวันนี้" 6 มิ.ย. 65 เช็กราคาน้ำมันทุกชนิด กลุ่มเบนซิน, โซฮอล์, ดีเซล ล่าสุดราคาลิตรละเท่าไร เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง 4 ปั๊มน้ำมัน วันที่ 6 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานการอัปเดตราคาน้ำมัน กลุ่มเบนซิน, แก๊สโซฮอล์ และดีเซล ล่าสุด จากเว็บไซต์ บมจ.บางจากปิโตรเลียม, เว็บไซต์ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน), เว็บไซต์ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด และ Esso Thailand โดยมีราคาดังนี้ ราคาน้ำมันปั๊ม "เชลล์" เชลล์ ฟิวเซฟ แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 44.54 บาท/ลิตร เชลล์ ฟิวเซฟ แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 45.38 บาท/ลิตร เชลล์ ฟิวเซฟ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 45.65 บาท/ลิตร เชลล์ วี-เพาเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 53.14 บาท/ลิตร เชลล์ ดีเซล B20 อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร เชลล์ ฟิวเซฟ ดีเซล อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร เชลล์ ฟิวเซฟ ดีเซล B7 อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร เชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร เชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล B7 อยู่ที่ 49.39 บาท/ลิตร ราคาน้ำมันปั๊ม "เอสโซ่" เอ็กซ์ตร้า แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 44.34 บาท/ลิตร เอ็กซ์ตร้า แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 45.18 บาท/ลิตร ซูเปอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 45.45 บาท/ลิตร ดีเซล อยู่ที่ 33.34 บาท/ลิตร ดีเซล B7 อยู่ที่ 33.34 บาท/ลิตร ซูพรีมพลัส แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 52.94 บาท/ลิตร ซูพรีมพลัส ดีเซล B7 อยู่ที่ 47.66 บาท/ลิตร ราคาน้ำมันปั๊ม "ปตท." ดีเซลพรีเมียม B7 อยู่ที่ 44.36 บาท/ลิตร ดีเซล S B7 อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร ดีเซล อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร ดีเซล B20 อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร เบนซิน อยู่ที่ 52.06 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 44.65 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 44.38 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 43.54 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 37.24 บาท/ลิตร ราคาน้ำมันปั๊ม "บางจาก" แก๊สโซฮอล์ 95S EVO อยู่ที่ 44.65 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91S EV อยู่ที่ 44.38 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ E20S EVO อยู่ที่ 43.54 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ E85S EVO อยู่ที่ 37.24 บาท/ลิตร ไฮดีเซล B20S อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร ไฮดีเซล S อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร ไฮดีเซล S B7 อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร ไฮพรีเมียมดีเซล S B7 อยู่ที่ 44.36 บาท/ลิตร อย่างไรก็ตาม ราคาข้างต้นเป็นราคากลางที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งอาจมีความแตกต่างในแต่ละพื้นที่.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 411 มุมมอง 0 รีวิว
  • 9 ปี สิ้น “บรรหาร ศิลปอาชา” 🐉 มังกรสุพรรณ นายกฯ ผู้สร้างเมืองด้วยมือปลาไหลใส่สเก็ต รวยอันดับสอง รองจากทักษิณ ชายผู้พลิกเมือง “สุพรรณบุรี” จนกลายเป็น “บรรหารบุรี”

    📅 เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 แวดวงการเมืองไทย ต้องพบกับความสูญเสียครั้งสำคัญ เมื่อ “นายบรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 ถึงแก่อนิจกรรมด้วยภาวะภูมิแพ้ และหอบหืดกำเริบ ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ รวมอายุได้ 83 ปี 247 วัน

    แม้เวลาจะผ่านมา 9 ปี แต่ชื่อของบรรหารก็ยังคงดังก้อง ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทั้งในฐานะนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล นายกฯ ที่สู้จนได้เป็นผู้นำประเทศ และ “เจ้าพ่อเมืองสุพรรณ” ผู้ปั้นเมืองทั้งเมืองด้วยความตั้งใจ และสายสัมพันธ์ทางการเมืองอันแน่นหนา

    🧠 จะพาคุณย้อนรอยชีวิต และผลงานของชายผู้ได้ฉายาว่า “ปลาไหลใส่สเก็ต” อย่างบรรหาร พร้อมเจาะลึกทุกมิติที่ควรรู้ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และมรดกที่ทิ้งไว้ให้เมืองสุพรรณบุรี 🇹🇭

    👦 ชีวิตวัยเด็กของ "เต็กเซียง แซ่เบ๊" เด็กชายแห่งท่าพี่เลี้ยง บรรหารเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีชื่อเดิมว่า “เต็กเซียง แซ่เบ๊” (馬德祥)

    👨‍👩‍👧‍👦 เป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 6 คน ของครอบครัวชาวจีนแต้จิ๋ว ที่ทำธุรกิจร้านขายสิ่งทอชื่อ “ย่งหยูฮง” พ่อแม่คือ "เซ่งกิม" และ "สายเอ็ง แซ่เบ๊" ซึ่งปลูกฝังความขยันขันแข็ง และแนวคิดแบบพ่อค้า ให้แก่บรรหารตั้งแต่วัยเยาว์

    แม้จะเรียนถึงแค่ระดับมัธยมต้น ที่โรงเรียนวัฒนศิลป์วิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ต้องหยุดเรียนเพราะสงครามโลก ครั้งที่สอง จึงเลือกเดินทางสายนักธุรกิจ สร้างฐานะด้วยตนเองจากงานรับเหมาก่อสร้าง จนในที่สุดกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ ผู้ก่อตั้งบริษัทมากมาย เช่น

    🏗️ บริษัทสหศรีชัยก่อสร้าง จำกัด
    ⚗️ บริษัทบี.เอส.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
    🧪 บริษัทคอสติกไทย จำกัด จำหน่ายเคมีภัณฑ์

    จากเด็กชายในเมืองเล็ก ๆ สู่เจ้าของอาณาจักรธุรกิจ และผู้นำประเทศ บรรหารถือเป็นตัวอย่าง ของคนที่สร้างทุกอย่างจากศูนย์ 💪

    🏛️ ก้าวแรกสู่การเมือง จากเทศบาลเมือง สู่สภาผู้แทนราษฎร เส้นทางการเมืองของบรรหาร เริ่มต้นในฐานะ “สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี” จากการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2516 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. 2518 และลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุพรรณบุรีในปี พ.ศ. 2519 ซึ่งเขาชนะทุกครั้งที่ลงสมัคร รวมทั้งสิ้น 11 สมัย! 🗳️

    🏆 จากพลังแห่งความนิยมในพื้นที่สุพรรณบุรี บรรหารก้าวขึ้นสู่เวทีใหญ่ เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 🚆

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🏢

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 🌾

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 💰

    บรรหารได้รับสมญานามว่า “มังกรสุพรรณ” ด้วยพลังในการควบคุมพื้นที่อย่างแน่นหนา และ “ปลาไหลใส่สเก็ต” ด้วยสไตล์ทางการเมือง ที่ลื่นไหลยืดหยุ่น

    👑 สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 📌 ปี พ.ศ. 2538 บรรหาร ศิลปอาชา ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ของประเทศไทย พร้อมควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

    🎯 ผลงานสำคัญที่เกิดขึ้นในรัฐบาลบรรหาร ได้แก่ ริเริ่มร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540, เป็นเจ้าภาพ ASEM และ ASEAN Summitm การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่เชียงใหม่, การจัดงานเกษตรอุตสาหกรรมโลก WORLDTECH’95 และการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

    แม้การบริหารของบรรหาร ถูกฝ่ายค้านวิจารณ์อย่างหนัก จนต้องยุบสภาในปี พ.ศ. 2539 แต่ผลงานจำนวนมาก ก็ยังถูกพูดถึงจนถึงปัจจุบัน

    💸 รวยจริง ไม่ต้องโชว์ บรรหารกับทรัพย์สินมหาศาล 📈 จากรายงานของสำนักข่าวอิศรา “บรรหาร” ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “นายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด เป็นอันดับ 2” รองจาก “ทักษิณ ชินวัตร” โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจาก

    ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 🏗️

    ธุรกิจเคมีภัณฑ์ 📦

    อสังหาริมทรัพย์ทั้งในเมือง และต่างจังหวัด 🏢

    ของสะสม เช่น พระเครื่อง นาฬิกาหรู รถยนต์หรู ⌚🚗

    แต่สิ่งที่ทำให้บรรหาร ได้รับความเคารพคือ “การใช้เงินเป็น” ไม่ใช่ “โชว์หรู” ใช้ทรัพย์สินเพื่อพัฒนา ไม่ใช่เพื่อสร้างภาพลักษณ์

    🌸 มรดกที่ทิ้งไว้ "บรรหารบุรี" เมืองต้นแบบของจังหวัดนิยม เมืองสุพรรณบุรีในวันนี้ กลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบ “จังหวัดนิยม” (Provincial Identity) ซึ่งนักวิชาการญี่ปุ่น "Yoshinori Nishizaki" อธิบายไว้ชัดเจนว่า

    “บรรหารสามารถสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้เมือง ผ่านโครงการต่างๆ ที่จับต้องได้จริง จนกลายเป็นแรงศรัทธาทางการเมือง”

    🧱 ตัวอย่างผลงานในสุพรรณบุรี เช่น หอคอยเมืองสุพรรณ, ถนนคุณภาพระดับประเทศ, โรงเรียนบรรหารแจ่มใส, โรงพยาบาล, ศูนย์ราชการรวมศูนย์, พิพิธภัณฑ์, หอเกียรติยศ และศาลหลักเมือง

    สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้คนมองเห็นว่า “นักการเมืองที่ดี” คือคนที่ “พัฒนาชุมชน” ไม่ใช่แค่พูดสวยหรูบนเวที

    📌 บทเรียนจากชีวิตบรรหาร สัจจะ และกตัญญู หากถามถึงคุณธรรมสำคัญในชีวิตของบรรหาร มีอยู่ 2 คำ ที่บรรหารยึดมั่นเสมอ คือ

    “สัจจะ” คำพูดต้องรักษาให้ได้

    “กตัญญู” ต่อบ้านเกิด และผู้มีพระคุณ

    นี่คือสิ่งที่ทำให้ชื่อของบรรหาร ยังถูกพูดถึงแม้เวลาผ่านไปหลายปี และยังเป็นแบบอย่างให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่ ได้ศึกษาเรียนรู้

    📜 มังกรสุพรรณ ผู้ล่องด้วยสัจจะ "บรรหาร ศิลปอาชา" ไม่ใช่แค่ “อดีตนายกรัฐมนตรี” แต่คือชายที่หล่อหลอมเมืองสุพรรณบุรี ให้กลายเป็นพื้นที่พิเศษ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 🐉

    จากชายที่เกิดในครอบครัวพ่อค้า สู่ผู้พัฒนาจังหวัดด้วยวิสัยทัศน์

    จากนักธุรกิจที่สร้างตัวเอง สู่ผู้นำที่เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองไทย 🇹🇭

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231016 เม.ย. 2568

    🔖 #บรรหารศิลปอาชา #นายกรัฐมนตรีไทย #มังกรสุพรรณ #บรรหารบุรี #ปลาไหลใส่สเก็ต #สุพรรณบุรี #การเมืองไทย #พัฒนาท้องถิ่น #จังหวัดนิยม #บุคคลสำคัญ
    9 ปี สิ้น “บรรหาร ศิลปอาชา” 🐉 มังกรสุพรรณ นายกฯ ผู้สร้างเมืองด้วยมือปลาไหลใส่สเก็ต รวยอันดับสอง รองจากทักษิณ ชายผู้พลิกเมือง “สุพรรณบุรี” จนกลายเป็น “บรรหารบุรี” 📅 เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 แวดวงการเมืองไทย ต้องพบกับความสูญเสียครั้งสำคัญ เมื่อ “นายบรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 ถึงแก่อนิจกรรมด้วยภาวะภูมิแพ้ และหอบหืดกำเริบ ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ รวมอายุได้ 83 ปี 247 วัน แม้เวลาจะผ่านมา 9 ปี แต่ชื่อของบรรหารก็ยังคงดังก้อง ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทั้งในฐานะนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล นายกฯ ที่สู้จนได้เป็นผู้นำประเทศ และ “เจ้าพ่อเมืองสุพรรณ” ผู้ปั้นเมืองทั้งเมืองด้วยความตั้งใจ และสายสัมพันธ์ทางการเมืองอันแน่นหนา 🧠 จะพาคุณย้อนรอยชีวิต และผลงานของชายผู้ได้ฉายาว่า “ปลาไหลใส่สเก็ต” อย่างบรรหาร พร้อมเจาะลึกทุกมิติที่ควรรู้ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และมรดกที่ทิ้งไว้ให้เมืองสุพรรณบุรี 🇹🇭 👦 ชีวิตวัยเด็กของ "เต็กเซียง แซ่เบ๊" เด็กชายแห่งท่าพี่เลี้ยง บรรหารเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีชื่อเดิมว่า “เต็กเซียง แซ่เบ๊” (馬德祥) 👨‍👩‍👧‍👦 เป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 6 คน ของครอบครัวชาวจีนแต้จิ๋ว ที่ทำธุรกิจร้านขายสิ่งทอชื่อ “ย่งหยูฮง” พ่อแม่คือ "เซ่งกิม" และ "สายเอ็ง แซ่เบ๊" ซึ่งปลูกฝังความขยันขันแข็ง และแนวคิดแบบพ่อค้า ให้แก่บรรหารตั้งแต่วัยเยาว์ แม้จะเรียนถึงแค่ระดับมัธยมต้น ที่โรงเรียนวัฒนศิลป์วิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ต้องหยุดเรียนเพราะสงครามโลก ครั้งที่สอง จึงเลือกเดินทางสายนักธุรกิจ สร้างฐานะด้วยตนเองจากงานรับเหมาก่อสร้าง จนในที่สุดกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ ผู้ก่อตั้งบริษัทมากมาย เช่น 🏗️ บริษัทสหศรีชัยก่อสร้าง จำกัด ⚗️ บริษัทบี.เอส.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 🧪 บริษัทคอสติกไทย จำกัด จำหน่ายเคมีภัณฑ์ จากเด็กชายในเมืองเล็ก ๆ สู่เจ้าของอาณาจักรธุรกิจ และผู้นำประเทศ บรรหารถือเป็นตัวอย่าง ของคนที่สร้างทุกอย่างจากศูนย์ 💪 🏛️ ก้าวแรกสู่การเมือง จากเทศบาลเมือง สู่สภาผู้แทนราษฎร เส้นทางการเมืองของบรรหาร เริ่มต้นในฐานะ “สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี” จากการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2516 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. 2518 และลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุพรรณบุรีในปี พ.ศ. 2519 ซึ่งเขาชนะทุกครั้งที่ลงสมัคร รวมทั้งสิ้น 11 สมัย! 🗳️ 🏆 จากพลังแห่งความนิยมในพื้นที่สุพรรณบุรี บรรหารก้าวขึ้นสู่เวทีใหญ่ เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 🚆 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🏢 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 🌾 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 💰 บรรหารได้รับสมญานามว่า “มังกรสุพรรณ” ด้วยพลังในการควบคุมพื้นที่อย่างแน่นหนา และ “ปลาไหลใส่สเก็ต” ด้วยสไตล์ทางการเมือง ที่ลื่นไหลยืดหยุ่น 👑 สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 📌 ปี พ.ศ. 2538 บรรหาร ศิลปอาชา ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ของประเทศไทย พร้อมควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🎯 ผลงานสำคัญที่เกิดขึ้นในรัฐบาลบรรหาร ได้แก่ ริเริ่มร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540, เป็นเจ้าภาพ ASEM และ ASEAN Summitm การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่เชียงใหม่, การจัดงานเกษตรอุตสาหกรรมโลก WORLDTECH’95 และการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ แม้การบริหารของบรรหาร ถูกฝ่ายค้านวิจารณ์อย่างหนัก จนต้องยุบสภาในปี พ.ศ. 2539 แต่ผลงานจำนวนมาก ก็ยังถูกพูดถึงจนถึงปัจจุบัน 💸 รวยจริง ไม่ต้องโชว์ บรรหารกับทรัพย์สินมหาศาล 📈 จากรายงานของสำนักข่าวอิศรา “บรรหาร” ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “นายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด เป็นอันดับ 2” รองจาก “ทักษิณ ชินวัตร” โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจาก ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 🏗️ ธุรกิจเคมีภัณฑ์ 📦 อสังหาริมทรัพย์ทั้งในเมือง และต่างจังหวัด 🏢 ของสะสม เช่น พระเครื่อง นาฬิกาหรู รถยนต์หรู ⌚🚗 แต่สิ่งที่ทำให้บรรหาร ได้รับความเคารพคือ “การใช้เงินเป็น” ไม่ใช่ “โชว์หรู” ใช้ทรัพย์สินเพื่อพัฒนา ไม่ใช่เพื่อสร้างภาพลักษณ์ 🌸 มรดกที่ทิ้งไว้ "บรรหารบุรี" เมืองต้นแบบของจังหวัดนิยม เมืองสุพรรณบุรีในวันนี้ กลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบ “จังหวัดนิยม” (Provincial Identity) ซึ่งนักวิชาการญี่ปุ่น "Yoshinori Nishizaki" อธิบายไว้ชัดเจนว่า “บรรหารสามารถสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้เมือง ผ่านโครงการต่างๆ ที่จับต้องได้จริง จนกลายเป็นแรงศรัทธาทางการเมือง” 🧱 ตัวอย่างผลงานในสุพรรณบุรี เช่น หอคอยเมืองสุพรรณ, ถนนคุณภาพระดับประเทศ, โรงเรียนบรรหารแจ่มใส, โรงพยาบาล, ศูนย์ราชการรวมศูนย์, พิพิธภัณฑ์, หอเกียรติยศ และศาลหลักเมือง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้คนมองเห็นว่า “นักการเมืองที่ดี” คือคนที่ “พัฒนาชุมชน” ไม่ใช่แค่พูดสวยหรูบนเวที 📌 บทเรียนจากชีวิตบรรหาร สัจจะ และกตัญญู หากถามถึงคุณธรรมสำคัญในชีวิตของบรรหาร มีอยู่ 2 คำ ที่บรรหารยึดมั่นเสมอ คือ “สัจจะ” คำพูดต้องรักษาให้ได้ “กตัญญู” ต่อบ้านเกิด และผู้มีพระคุณ นี่คือสิ่งที่ทำให้ชื่อของบรรหาร ยังถูกพูดถึงแม้เวลาผ่านไปหลายปี และยังเป็นแบบอย่างให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่ ได้ศึกษาเรียนรู้ 📜 มังกรสุพรรณ ผู้ล่องด้วยสัจจะ "บรรหาร ศิลปอาชา" ไม่ใช่แค่ “อดีตนายกรัฐมนตรี” แต่คือชายที่หล่อหลอมเมืองสุพรรณบุรี ให้กลายเป็นพื้นที่พิเศษ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 🐉 จากชายที่เกิดในครอบครัวพ่อค้า สู่ผู้พัฒนาจังหวัดด้วยวิสัยทัศน์ จากนักธุรกิจที่สร้างตัวเอง สู่ผู้นำที่เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองไทย 🇹🇭 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231016 เม.ย. 2568 🔖 #บรรหารศิลปอาชา #นายกรัฐมนตรีไทย #มังกรสุพรรณ #บรรหารบุรี #ปลาไหลใส่สเก็ต #สุพรรณบุรี #การเมืองไทย #พัฒนาท้องถิ่น #จังหวัดนิยม #บุคคลสำคัญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 689 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..จริงช่วงเวลานี้ นายกฯพระราชทานต้องเบอร์1 &ยืนพื้นก่อกำเนิดจริงๆจึงจะพลิกชาติกอบกู้อธิปไตยของแผ่นดินไทยจริงๆได้,เป็นต้นว่ายึดคืนสมบัติทรัพยากรธรรมชาติมีค่าจากที่เอกชนไทยและเอกชนต่างชาติผูกขาดทั้งหมดไปเอากลับคืนมาทั้งหมดได้,เพื่อแผ่นดินไทยจะมีสิทธิ์100%จริงในวัตถุดิบของตนเพื่อการสร้างชาติไทยของแท้และของจริงในอนาคตมิใช่แบบในปัจจุบัน.,บ่อน้ำมันไม่เป็นของตนเลยถูกบังคับไปให้สัมปทานบ่อน้ำมันอีก,บ่อทองคำก็ไม่ขุดเข้าคลังกลางตนเองให้เข้มแข็งถูกปล้นชิงยกให้เขาไปอีก แค่สองอย่างนี้ เด็กๆเยาวชนไทยเล่าเรียนฟรีๆไม่ต้องกู้ตัง กยศ.เรียนเป็นหนี้ก็ได้ คนเป็นหนีัเรียน อนาคตล่ารายชื่อตั้งพรรคขึ้นไปเป็นนายกฯเองบริหารเองยึดประเทศคืนก็น่าจะได้ น่าจะไม่ต่ำกว่า10-20ล้านคน รวมพ่อแม่ญาติพี่น้องเขาด้วย สบายต่อการตั้งพรรค การเลือกกานายกฯกาตรงเลือกตรงได้สบาย."พรรคปลดหนี้" นโยบาย ล้างหนี้คนไทยทุกๆคนโดยเฉพาะหนี้เล่าเรียนลูกหลานคนไทย เรียนฟรีตามใจต้องการ ยุบ กยศ.ก็ว่า.พวกโกงกินขายชาติถ้าเอาจริงๆนะตังที่สูญเสียไปกับคนพวกนี้เยอะมาก,บ่อน้ำมัน บ่อทองคำ ขายเองตังเข้าแผ่นดินไทยมหาศาลแน่นอนในนามรัฐบาลพรรคปลดหนี้.

    ..นักการเมืองจะมาทางสายใครก็ไม่สมควรในช่วงวิกฤติสงครามพันทางทั่วโลกนี้ อาทิฝรั่งจะรบกับเอเชียก็ว่า ทัังทางตังคือเศรษฐกิจ และทางตังเพื่อฆ่าเจ้าหนี้แบบจีนโดยอเมริกาสั่งล้างเจ้าหนีัจีนเองก็ว่า จนสาระพัดสงครามจะสงครามเข็มเชื้อโรค สงครามระเบิดบูมกันจริงๆแบบตัวแทนสู่w3.

    ..คือถ้ายุติบทบาทนักเลือกตั้งไม่ได้คือหยุดมิให้ภาคนักการเมืองสรัางความวุ่นวายโกลาหลไม่สิ้นสุดหรือหยุดละครลิงทั้งสภาไม่ทัน ไม่จริงจังพังงานพวกแหกตาปาหี่ให้ชาติเสียอธิปไตยไปเรื่อยๆไม่ได้ เช่น เสียอธิปไตยที่ดินให้ต่างชาติซื้อได้ไร่ละ40ล้านบาท ใช้สิทธิ์boiครองได้35ไร่ต่อคน ,เช่าที่ดินบนแผ่นดินไทยได้99ปี หรือสิทธิ์อธิปไตยเหนือการปกครองผ่านการลงทุน&ย้ายฐานมาลงทุนในไทย เป็นต้น เหล่านี้ล้วนฝีมือภาคนักการเมืองอ้างใช้ผ่านสภาก่อการให้ชอบทั้งสิ้น,หากทั้งแผ่นดินไทยเราไม่เห็นภัยร้ายนี้ให้ชัดเจนจะล่มสลายสิ้นชาติไทยแน่นอนหรือกลืนกินสิ้นก็ว่า,ซึ่งน่าเสียดายมาก ด้วยเวลาในปัจจุบันเรายุติสิ่งชั่วเลวนี้ได้ ตัดตอนมันได้,คืนอิสระภาพอธิปไตยสู่ทุกๆคนไทยและแผ่นดินไทยได้จริง มิใช่พึงพิงไม่กี่โคตรเหง้าไม่กี่เชื้อวงศ์ตระกูล,ถึงเวลาที่คนไทยได้รับการกระจายความมั่งคั่งและความร่ำรวยทั้งทางวัตถุธาตุทางโลกและร่ำรวยเจริญจิจเจริญใจหรือยกจิตยกใจคู่ขนานความมั่งคั่งร่ำรวยทางกายได้แล้ว,มิให้จมปรักในความยากจนกายทุกข์ใจดักดานมั่นคงในปัจจุบันหรือตั้งใจปกครองด้วยวิถีคณะกบฎ2475นี้มั่นคงดักดานนั้นเอง.,

    ..วิถีปกครองต้องเปลี่ยนแปลงจริงๆ ที่มิใช่แบบฝรั่งตัดให้เราใส่หรือซาตานแรปทีเลี่ยนออกแบบให้ใส่,ยุคเราอารยะใจอารยะทางสติปัญญาสมควรแก่จังหวะเวลาแล้ว,สู่เรเวลที่สูงกว่าเดิม.

    ...https://youtube.com/watch?v=0BrIO_fWjiI&si=NUqsDjAoSlrOLCIK


    ..จริงช่วงเวลานี้ นายกฯพระราชทานต้องเบอร์1 &ยืนพื้นก่อกำเนิดจริงๆจึงจะพลิกชาติกอบกู้อธิปไตยของแผ่นดินไทยจริงๆได้,เป็นต้นว่ายึดคืนสมบัติทรัพยากรธรรมชาติมีค่าจากที่เอกชนไทยและเอกชนต่างชาติผูกขาดทั้งหมดไปเอากลับคืนมาทั้งหมดได้,เพื่อแผ่นดินไทยจะมีสิทธิ์100%จริงในวัตถุดิบของตนเพื่อการสร้างชาติไทยของแท้และของจริงในอนาคตมิใช่แบบในปัจจุบัน.,บ่อน้ำมันไม่เป็นของตนเลยถูกบังคับไปให้สัมปทานบ่อน้ำมันอีก,บ่อทองคำก็ไม่ขุดเข้าคลังกลางตนเองให้เข้มแข็งถูกปล้นชิงยกให้เขาไปอีก แค่สองอย่างนี้ เด็กๆเยาวชนไทยเล่าเรียนฟรีๆไม่ต้องกู้ตัง กยศ.เรียนเป็นหนี้ก็ได้ คนเป็นหนีัเรียน อนาคตล่ารายชื่อตั้งพรรคขึ้นไปเป็นนายกฯเองบริหารเองยึดประเทศคืนก็น่าจะได้ น่าจะไม่ต่ำกว่า10-20ล้านคน รวมพ่อแม่ญาติพี่น้องเขาด้วย สบายต่อการตั้งพรรค การเลือกกานายกฯกาตรงเลือกตรงได้สบาย."พรรคปลดหนี้" นโยบาย ล้างหนี้คนไทยทุกๆคนโดยเฉพาะหนี้เล่าเรียนลูกหลานคนไทย เรียนฟรีตามใจต้องการ ยุบ กยศ.ก็ว่า.พวกโกงกินขายชาติถ้าเอาจริงๆนะตังที่สูญเสียไปกับคนพวกนี้เยอะมาก,บ่อน้ำมัน บ่อทองคำ ขายเองตังเข้าแผ่นดินไทยมหาศาลแน่นอนในนามรัฐบาลพรรคปลดหนี้. ..นักการเมืองจะมาทางสายใครก็ไม่สมควรในช่วงวิกฤติสงครามพันทางทั่วโลกนี้ อาทิฝรั่งจะรบกับเอเชียก็ว่า ทัังทางตังคือเศรษฐกิจ และทางตังเพื่อฆ่าเจ้าหนี้แบบจีนโดยอเมริกาสั่งล้างเจ้าหนีัจีนเองก็ว่า จนสาระพัดสงครามจะสงครามเข็มเชื้อโรค สงครามระเบิดบูมกันจริงๆแบบตัวแทนสู่w3. ..คือถ้ายุติบทบาทนักเลือกตั้งไม่ได้คือหยุดมิให้ภาคนักการเมืองสรัางความวุ่นวายโกลาหลไม่สิ้นสุดหรือหยุดละครลิงทั้งสภาไม่ทัน ไม่จริงจังพังงานพวกแหกตาปาหี่ให้ชาติเสียอธิปไตยไปเรื่อยๆไม่ได้ เช่น เสียอธิปไตยที่ดินให้ต่างชาติซื้อได้ไร่ละ40ล้านบาท ใช้สิทธิ์boiครองได้35ไร่ต่อคน ,เช่าที่ดินบนแผ่นดินไทยได้99ปี หรือสิทธิ์อธิปไตยเหนือการปกครองผ่านการลงทุน&ย้ายฐานมาลงทุนในไทย เป็นต้น เหล่านี้ล้วนฝีมือภาคนักการเมืองอ้างใช้ผ่านสภาก่อการให้ชอบทั้งสิ้น,หากทั้งแผ่นดินไทยเราไม่เห็นภัยร้ายนี้ให้ชัดเจนจะล่มสลายสิ้นชาติไทยแน่นอนหรือกลืนกินสิ้นก็ว่า,ซึ่งน่าเสียดายมาก ด้วยเวลาในปัจจุบันเรายุติสิ่งชั่วเลวนี้ได้ ตัดตอนมันได้,คืนอิสระภาพอธิปไตยสู่ทุกๆคนไทยและแผ่นดินไทยได้จริง มิใช่พึงพิงไม่กี่โคตรเหง้าไม่กี่เชื้อวงศ์ตระกูล,ถึงเวลาที่คนไทยได้รับการกระจายความมั่งคั่งและความร่ำรวยทั้งทางวัตถุธาตุทางโลกและร่ำรวยเจริญจิจเจริญใจหรือยกจิตยกใจคู่ขนานความมั่งคั่งร่ำรวยทางกายได้แล้ว,มิให้จมปรักในความยากจนกายทุกข์ใจดักดานมั่นคงในปัจจุบันหรือตั้งใจปกครองด้วยวิถีคณะกบฎ2475นี้มั่นคงดักดานนั้นเอง., ..วิถีปกครองต้องเปลี่ยนแปลงจริงๆ ที่มิใช่แบบฝรั่งตัดให้เราใส่หรือซาตานแรปทีเลี่ยนออกแบบให้ใส่,ยุคเราอารยะใจอารยะทางสติปัญญาสมควรแก่จังหวะเวลาแล้ว,สู่เรเวลที่สูงกว่าเดิม. ...https://youtube.com/watch?v=0BrIO_fWjiI&si=NUqsDjAoSlrOLCIK
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 629 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เอาจริงๆนะ ยุบสภามันดีจริงแต่ไม่สุด.,นายกฯต้องมาจากการเลือกตั้งตรงโดยประชาชนกาเลือกตรงๆเองทั่วประเทศ,และสามารถกาประเมินผลงานทั่วประเทศได้เช่นกันในทุกๆปี ตกประเมินไม่ผ่าน,ต้องออกไปด้วย,เลือกตั้งใหม่ทันที ไม่ใช่ส่งไม้ต่อแบบระยำๆในปัจจุบัน ซึ่งคณะเขียนกฎหมายการเลือกตั้งที่ใช้กาเลือกในปัจจุบัน เขียนออกมากากมาก,ผิดวัตถุประสงค์ตรงการเลือกตั้งชัดเจน,ไม่เลือกตรงจากประชาชน ผีบ้าให้พรรคอวดอวยเสนอเฉยๆ,สรุปเป็นวิธีการที่แย่มากของคณะเขียนทั้งหมดน่าจะปูทางกากๆมาจากรัฐบาลทหารนี้ล่ะอยากคงอำนาจตนไว้ก็ว่า สุดท้ายก็แพ้จนพรรคก้าวไกลได้เป็นแต่ถูกถีบออกจึงตกมันส์มาถึงพรรคเพื่อไทย,

    ..กลไกบริหารชาติเราก็กากด้วย ฉีกกฎหมายรัฐธรรมนูญแต่ไม่ฉีกกฎหมายทาสฝรั่งอื่นๆที่เอาเปรียบแผ่นดินไทยด้วย จะเป็นกฎหมายลูกต่างๆก็ว่ามิใช่แม่แบบๆกฎหมายหลักของชาติ เช่นกฎกระทรวง ทบวง กรมของการตีตราเป็นทาสขึ้น เมื่อฉีกแม่บททิ้ง พวกนี้ต้องโมฆะด้วยอัตโนมัติ นั้นคือต้องเขียนใหม่ได้หมดหรือเก็บมาใช้ทั้งฉบับได้ตามคนยึดอำนาจเห็นดีเห็นงาม,เห็นว่าเป็นเบี้ยล่างขี้ข้าทาสเขาซึ่งกฎหมายกระทรวงผีบ้าไปรับรองออกบังคับใช้ไปแล้ว ในบริบทการยึดอำนาจสามารถโมฆะอัตโนมัติแล้ว,ไม่มีผลบังคับซึ่งในกฎกระทรวงทั่วราชอาณาจักร ของจริงคือคนยึดอำนาจล้างไพ่ละลายทุกๆข้อกฎหมายและเขียนให้ยุติธรรมหรือปรับแก้ไขใหม่ได้ทั่วราชอาณาจักรทั้งหมดได้,แต่ทหารที่ยึดอำนาจไร้ฝีมือ มือไม่ถึง หรือขี้ข้าทายาทกบฎคณะ2475จึงปกป้องผลประโยชน์ทุนต่างชาติที่บรรพบุรุษกบฎ2475ตนดำรงรักษาไว้ ให้มั่นคงดำรงอยู่ให้ชาติไทยต้องมีสถานะสิ้นอธิปไตยตนทางนัยยะลับลึกต่อไป เช่น ผีบ้าปฏิบัติไม่ยึดคืนบ่อน้ำมันตนทั้งหมดคืนสู่แผ่นดินไทยเพราะยึดอำนาจแล้ว กฎหมายทุกกระทรวงย่อมล้างไพ่หมดโมฆะทุกๆข้อกฎหมาย จึงสามารถใช้โอกาสนี้โมฆะสัมปทานทาสที่ลงนามทั้งหมดได้ทันทีของทุกๆmouที่ราชอาณาจักรเสียเปรียบหรือถูกปล้นชิงแย่งชิงไปในมุกบุญคุณมุกmouทาสต่างๆได้หมด.
    ..บ้านเมืองไทยเราต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขใหม่ทั้งหมดจริงๆ,หน้าซื่อใจสรรพสัตว์ชั่วร้ายมีมากเกินไปในวงการชนชั้นปกครองในปัจจุบัน จนเสียอธิปไตยอย่างเจตนาจงใจสมคบคิดแบบไร้สำนึกดีต่อประชาชนตนและผืนแผ่นดินไทยตน ตย.ง่ายๆคือสุมหัวออกกฎหมายให้ต่างชาติเช่าที่ดิน99ปีหรือถือสิทธิ์&ครอบครอง&ซื้อที่ดินไร่ละ40ล้านบาทตามที่เป็นข่าวในอดีตที่ผ่านๆมา ทำได้อย่างสบายใจเลยนะดูสิ,นี้คนปกครองประเทศนะ คนเขียนคนยกมือตีตราออกกฎหมายนะ,
    ..ต่างชาติมาเที่ยวคือมาเที่ยว แต่ห้ามยุ่งเกี่ยวในผืนแผ่นดินไทย,มาลงทุนย้ายบ้านย้ายฐานๆจริงๆก็ไม่สมควร,คนไทยสมควรสร้างโรงงาน สร้างฐานบนแผ่นดินตนเอง100%จึงจะถูกควร,จ้างงานก็ต้องจ้างคนไทยก่อน,จนคนไทยทุกๆคนมีงานทำ มีรายได้ มีเวลางาน มีเวลาพัก พึ่งพาตนเองเต็มสูบครบคน,ขาดไม่พอจึงเอาคนอื่นมาช่วย,เราสามารถปูพื้นฐานสิ่งดีๆได้หมดจริงนะ,ยุคนีัยุคล้ำๆอีก เชิญคนต่างชาติมาตอนไหนได้หมดแต่มิใช่มายึดครองแทนคนไทยตน.,นี้คือวิถีปกครองที่กาก ประชาชนยากจนมีบัตรคนจนเพิ่มเสือกไม่แก้ไข,ร่ำรวยผูกขาดเป็นโคตรๆเหง้าๆไม่กี่ชาติเชื้อโคตรวงศ์ตระกูลไม่กี่ตัว.,นี้คือการปกครองที่ล้มเหลวแม้วัตถุธาตุล้ำๆสะดวกสบาย,แต่คนไทยโดยมากทั่วประเทศกลับเสียดุล ถูกปล้นชิงด้านเงินตราจากวิถีปกครองที่ล้มเหลวแบบระยำๆบัดสบผ่านกฎหมายทาสที่ไม่เคยฉีกทิ้งทัังฉบับใดๆแบบฉีกรัฐธรรมนูญเลย.
    https://youtube.com/watch?v=_SmZTWbMhLA&si=rsuxJw6GHFQ2_dPV
    ..เอาจริงๆนะ ยุบสภามันดีจริงแต่ไม่สุด.,นายกฯต้องมาจากการเลือกตั้งตรงโดยประชาชนกาเลือกตรงๆเองทั่วประเทศ,และสามารถกาประเมินผลงานทั่วประเทศได้เช่นกันในทุกๆปี ตกประเมินไม่ผ่าน,ต้องออกไปด้วย,เลือกตั้งใหม่ทันที ไม่ใช่ส่งไม้ต่อแบบระยำๆในปัจจุบัน ซึ่งคณะเขียนกฎหมายการเลือกตั้งที่ใช้กาเลือกในปัจจุบัน เขียนออกมากากมาก,ผิดวัตถุประสงค์ตรงการเลือกตั้งชัดเจน,ไม่เลือกตรงจากประชาชน ผีบ้าให้พรรคอวดอวยเสนอเฉยๆ,สรุปเป็นวิธีการที่แย่มากของคณะเขียนทั้งหมดน่าจะปูทางกากๆมาจากรัฐบาลทหารนี้ล่ะอยากคงอำนาจตนไว้ก็ว่า สุดท้ายก็แพ้จนพรรคก้าวไกลได้เป็นแต่ถูกถีบออกจึงตกมันส์มาถึงพรรคเพื่อไทย, ..กลไกบริหารชาติเราก็กากด้วย ฉีกกฎหมายรัฐธรรมนูญแต่ไม่ฉีกกฎหมายทาสฝรั่งอื่นๆที่เอาเปรียบแผ่นดินไทยด้วย จะเป็นกฎหมายลูกต่างๆก็ว่ามิใช่แม่แบบๆกฎหมายหลักของชาติ เช่นกฎกระทรวง ทบวง กรมของการตีตราเป็นทาสขึ้น เมื่อฉีกแม่บททิ้ง พวกนี้ต้องโมฆะด้วยอัตโนมัติ นั้นคือต้องเขียนใหม่ได้หมดหรือเก็บมาใช้ทั้งฉบับได้ตามคนยึดอำนาจเห็นดีเห็นงาม,เห็นว่าเป็นเบี้ยล่างขี้ข้าทาสเขาซึ่งกฎหมายกระทรวงผีบ้าไปรับรองออกบังคับใช้ไปแล้ว ในบริบทการยึดอำนาจสามารถโมฆะอัตโนมัติแล้ว,ไม่มีผลบังคับซึ่งในกฎกระทรวงทั่วราชอาณาจักร ของจริงคือคนยึดอำนาจล้างไพ่ละลายทุกๆข้อกฎหมายและเขียนให้ยุติธรรมหรือปรับแก้ไขใหม่ได้ทั่วราชอาณาจักรทั้งหมดได้,แต่ทหารที่ยึดอำนาจไร้ฝีมือ มือไม่ถึง หรือขี้ข้าทายาทกบฎคณะ2475จึงปกป้องผลประโยชน์ทุนต่างชาติที่บรรพบุรุษกบฎ2475ตนดำรงรักษาไว้ ให้มั่นคงดำรงอยู่ให้ชาติไทยต้องมีสถานะสิ้นอธิปไตยตนทางนัยยะลับลึกต่อไป เช่น ผีบ้าปฏิบัติไม่ยึดคืนบ่อน้ำมันตนทั้งหมดคืนสู่แผ่นดินไทยเพราะยึดอำนาจแล้ว กฎหมายทุกกระทรวงย่อมล้างไพ่หมดโมฆะทุกๆข้อกฎหมาย จึงสามารถใช้โอกาสนี้โมฆะสัมปทานทาสที่ลงนามทั้งหมดได้ทันทีของทุกๆmouที่ราชอาณาจักรเสียเปรียบหรือถูกปล้นชิงแย่งชิงไปในมุกบุญคุณมุกmouทาสต่างๆได้หมด. ..บ้านเมืองไทยเราต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขใหม่ทั้งหมดจริงๆ,หน้าซื่อใจสรรพสัตว์ชั่วร้ายมีมากเกินไปในวงการชนชั้นปกครองในปัจจุบัน จนเสียอธิปไตยอย่างเจตนาจงใจสมคบคิดแบบไร้สำนึกดีต่อประชาชนตนและผืนแผ่นดินไทยตน ตย.ง่ายๆคือสุมหัวออกกฎหมายให้ต่างชาติเช่าที่ดิน99ปีหรือถือสิทธิ์&ครอบครอง&ซื้อที่ดินไร่ละ40ล้านบาทตามที่เป็นข่าวในอดีตที่ผ่านๆมา ทำได้อย่างสบายใจเลยนะดูสิ,นี้คนปกครองประเทศนะ คนเขียนคนยกมือตีตราออกกฎหมายนะ, ..ต่างชาติมาเที่ยวคือมาเที่ยว แต่ห้ามยุ่งเกี่ยวในผืนแผ่นดินไทย,มาลงทุนย้ายบ้านย้ายฐานๆจริงๆก็ไม่สมควร,คนไทยสมควรสร้างโรงงาน สร้างฐานบนแผ่นดินตนเอง100%จึงจะถูกควร,จ้างงานก็ต้องจ้างคนไทยก่อน,จนคนไทยทุกๆคนมีงานทำ มีรายได้ มีเวลางาน มีเวลาพัก พึ่งพาตนเองเต็มสูบครบคน,ขาดไม่พอจึงเอาคนอื่นมาช่วย,เราสามารถปูพื้นฐานสิ่งดีๆได้หมดจริงนะ,ยุคนีัยุคล้ำๆอีก เชิญคนต่างชาติมาตอนไหนได้หมดแต่มิใช่มายึดครองแทนคนไทยตน.,นี้คือวิถีปกครองที่กาก ประชาชนยากจนมีบัตรคนจนเพิ่มเสือกไม่แก้ไข,ร่ำรวยผูกขาดเป็นโคตรๆเหง้าๆไม่กี่ชาติเชื้อโคตรวงศ์ตระกูลไม่กี่ตัว.,นี้คือการปกครองที่ล้มเหลวแม้วัตถุธาตุล้ำๆสะดวกสบาย,แต่คนไทยโดยมากทั่วประเทศกลับเสียดุล ถูกปล้นชิงด้านเงินตราจากวิถีปกครองที่ล้มเหลวแบบระยำๆบัดสบผ่านกฎหมายทาสที่ไม่เคยฉีกทิ้งทัังฉบับใดๆแบบฉีกรัฐธรรมนูญเลย. https://youtube.com/watch?v=_SmZTWbMhLA&si=rsuxJw6GHFQ2_dPV
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 617 มุมมอง 0 รีวิว

  • ..ไม่ใช่เลื่อน ต้องฉีกทิ้งทั้งหมด,จับบ่อนเถื่อน หวยใต้ดิน หวยเกินราคาของคนเดินขายหวยที่ลงทะเบียนเปิดเผยชัดเจนก่อนเถอะ,และยาบ้าที่คนขายคนผลิตใครโรงงานไหนผลิตออกมาขายยาบ้าจับมาลงทะเบียนให้ได้ก่อนเถอะ,เจ้าหน้าที่พื้นที่ทั้งหมดตลอดคนข้าราชการรู้กันหมดล่ะ,
    ..การเด็ดขาดกับคนต้นเหตุของปัญหา เรรไม่เด็ดขาดเลย ไม่เปิดโปง ปกปิดให้ด้วย แฉก็ไม่แฉชี้ชัดก็ด้วย,จับเพียงพวกสมุน.
    ..ง่ายมากจะจัดการพวกเถื่อนๆบนแผ่นดินไทย สิ่งแรกคือผลักดันคนที่ไม่ใช่คนไทยออกไปทั้งหมดทุกๆกรณี ใครมีไว้ให้อาศัยหรือใช้แรงงานถือว่ามีความผิด,ชุมชนสังคมนั้นๆจะการข่าวดีเยี่ยมหมด,ต่างชาติต่าวด้าวที่ไม่ใช่คนไทยออกไปหมด จะเหลือคนไทยล้วนๆยิ่งระมัดระวังภัยที่ผิดปกติมันง่ายแสนง่ายเลยล่ะ,ตรวจสอบสืบสวนติดตามจับกุมการกระทำไม่ดีก็แยกแยะชัดเจนรวดเร็วมาลงโทษได้ทันกาล,ไร้มือปั่นป่วนที่สร้างความผิดปกติมากมายลงได้หลายมิติของชุมชนสังคมไทยเราทันที เจ้าหน้าที่เราก็ไม่เหนื่อย กลับบ้านใครมันสร้างสุขในครอบครัวตามปกติ,นี้อะไรมั่วไปหมดเลอะเทอะไปหมด,ปกครองให้คนไทยยากจน ดิ้นรนจนบ้าคลั่ง ยากจนคือตังใช้จ่ายในชีวิตมีปัญหา ที่ระบบรัฐมุ่งใช้ระบบตังแลกเปลี่ยนกันและควบคุมกลไกสังคมด้วยตังด้วย,กฎหมายต่างๆก็ออกมาเพื่อแย่งชิงตังจากประชาชน เสียค่าปรับนั้นนี้ตรึม ขึ้นศาลก็เสียตัง สร้างแค่ความยุติธรรมยังคือภาระคนเรียกร้องหาความเป็นธรรมเสียตังใช้ตังนั่นล่ะ
    ..ปรับใบขับขี่ปรับขนส่งสมัยก่อนๆตรึม ประชาชนมีหน้าที่เสียค่าปรับตามกฎหมาย นี้ไง กฎหมายที่ดูดตังประชาชน ระบบใช้ตัง .ลองไม่เสียตังดูสิจะลดภาระประชาชนมากแค่ไหน,เอาตังไปเลี้ยงครอบครัวเขาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากมายแค่ไหน,ภาษีต่างๆอีก,สาระพัดกฎหมายมากสาระพัดมุกดูดตังประชาชน,พอประชาชนจะมีชีวิตดีหน่อยกลับไปบริหารปกครองเป็นไปเพื่ออย่างดีมีสุขแก่ประชาชน บ่อน้ำมันอีกล่ะคือตัวอย่างที่ดี,เสือกรัฐบาลในอดีตยกสัมปทานบ่อปิโตรเลียมบ่อน้ำมันให้เจ้าอื่น,ปกติรัฐบาลต้องแสดงสมองปัญญาความสามารถทำกิจการน้ำมันเองได้,แม้หมดอายุสัมปทานก็ไร้ปัญญาความสามารถคิดสมองหมาปัญญาควายสรรพสัตว์ไร้สมองไม่ตั้งใจก่อการทำเองเพื่อประชาชนคนไทยต้นทุนพลังงานน้ำมันราคาลดลง,ทำเองกลั่นเองขายเองลดต้นทุนค่าครองชีพประชาชนมันขาดทุนชาติเสียจะล้มสะลายตรงไหน,น้ำมันลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านคนไทยต้นทุนต่ำทันทีภายในชาติไทย ขนส่งขนส่งสินค้าไม่แพง ราคาสินค้าทั่วไทยจะลดลงทันที ทุกๆอย่างจะไม่แพง การพึ่งพาตนเองจะสูงสุดในคนไทยเรา,ส่งขายในตลาดราคาโลกจะไร้ปัญญาคิดอ่านไม่ได้เหรอ,เรามีผู้ปกครองที่กากขี้ขลาดไม่กล้าหาญเผชิญหน้าอะไรกับชาติมหาอำนาจหรือต่างชาติเลยเป็นบ๋อยสถุนมากในอดีตเรื่อยมา.
    ..ทหารประชาชนสมควรยึดอำนาจพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินจริง,มีแต่ทหารฝ่ายการเมืองยึดอำนาจมากว่า10ครั้งชาติมีแต่จะพังพินาศขายชาติขายที่ดินไร่ละ40ล้านบาทพะนะแก่ต่างชาติ เช่าที่ดินได้99ปีอีก,ฉีกรัฐธรรมนูญโคตรเก่งสามารถและเหี้ยกับประชาชน,ฉีกกฎหมายปล้นชาติไทยปล้นชิงธิปไตยไทยเสือกไม่ฉีก อาทิฉีกกฎหมายสัมปทานบ่อน้ำมันทั้งหมด ฉีกmouทั้งลับๆแบะแจ้งที่ทรยศแผ่นดินเป็นทาสถูกเขาต่างชาติเอาเปรียบทิ้งไปและโมฆะทั้งหมด,เราจะได้คืนวัตถุดิบพัฒนาชาติไทยคืนมา100%ทันที.

    ..ระบบปกครองไทยสไตล์ไทยเราเขียนเองสร้างกันเองได้ เหี้ยไปใช้ระบบปกครองคณะกบฎ2475ส่งออกสุมหัวกับฝรั่งทำไม.,เมื่อพิจารณาแล้วว่าสมบูรณญาสิทธิราชย์ไม่ดีและของคณะกบฎ2475สอบตกไม่ผ่านสู่ยุคสมัยล้ำๆก็สร้างระบบใหม่เองเลย
    ..คือระบบจักรวาลที่สากลใช้ปกครองทั่วจักรวาลเป็นส่วนใหญ่ของทางสายกลาง มิติสูงๆก็ยอมรับ คนเลวชั่วคนสัตว์นรกรับไม่ได้เป็นปกติแน่นอนคือ #ระบบธรรมาธิปไตย ธรรมะฝ่ายดีเป็นเครื่องครองใจในสัมมาชีวิตชอบของทุกๆคนไทยก็ว่า.,ภัยใดๆจะละเว้นซึ่งกระทำไม่ดีต่อกันและกันทันที,เจริญทัังกายวัตถุธาตุและเจริญทั้งทางจิตวิญญาณจะเติบโตเบ่งบานในชนเผ่าไทยเราทุกๆคนแน่นอน.สงครามใดๆเราจะชนะสิ้น,มิตรดีสหายดีทั่วมหาจักรวาลเอายานบินมาช่วยรบตรึมล่ะ.
    ..นายกฯพระราชทานภาคมหาชนน่าจะเหมาะสมที่สุด.
    ..
    #นายกฯพระราชทาน
    ..
    https://m.youtube.com/watch?v=B_IzmPwSQ9I&pp=0gcJCX4JAYcqIYzv
    ..ไม่ใช่เลื่อน ต้องฉีกทิ้งทั้งหมด,จับบ่อนเถื่อน หวยใต้ดิน หวยเกินราคาของคนเดินขายหวยที่ลงทะเบียนเปิดเผยชัดเจนก่อนเถอะ,และยาบ้าที่คนขายคนผลิตใครโรงงานไหนผลิตออกมาขายยาบ้าจับมาลงทะเบียนให้ได้ก่อนเถอะ,เจ้าหน้าที่พื้นที่ทั้งหมดตลอดคนข้าราชการรู้กันหมดล่ะ, ..การเด็ดขาดกับคนต้นเหตุของปัญหา เรรไม่เด็ดขาดเลย ไม่เปิดโปง ปกปิดให้ด้วย แฉก็ไม่แฉชี้ชัดก็ด้วย,จับเพียงพวกสมุน. ..ง่ายมากจะจัดการพวกเถื่อนๆบนแผ่นดินไทย สิ่งแรกคือผลักดันคนที่ไม่ใช่คนไทยออกไปทั้งหมดทุกๆกรณี ใครมีไว้ให้อาศัยหรือใช้แรงงานถือว่ามีความผิด,ชุมชนสังคมนั้นๆจะการข่าวดีเยี่ยมหมด,ต่างชาติต่าวด้าวที่ไม่ใช่คนไทยออกไปหมด จะเหลือคนไทยล้วนๆยิ่งระมัดระวังภัยที่ผิดปกติมันง่ายแสนง่ายเลยล่ะ,ตรวจสอบสืบสวนติดตามจับกุมการกระทำไม่ดีก็แยกแยะชัดเจนรวดเร็วมาลงโทษได้ทันกาล,ไร้มือปั่นป่วนที่สร้างความผิดปกติมากมายลงได้หลายมิติของชุมชนสังคมไทยเราทันที เจ้าหน้าที่เราก็ไม่เหนื่อย กลับบ้านใครมันสร้างสุขในครอบครัวตามปกติ,นี้อะไรมั่วไปหมดเลอะเทอะไปหมด,ปกครองให้คนไทยยากจน ดิ้นรนจนบ้าคลั่ง ยากจนคือตังใช้จ่ายในชีวิตมีปัญหา ที่ระบบรัฐมุ่งใช้ระบบตังแลกเปลี่ยนกันและควบคุมกลไกสังคมด้วยตังด้วย,กฎหมายต่างๆก็ออกมาเพื่อแย่งชิงตังจากประชาชน เสียค่าปรับนั้นนี้ตรึม ขึ้นศาลก็เสียตัง สร้างแค่ความยุติธรรมยังคือภาระคนเรียกร้องหาความเป็นธรรมเสียตังใช้ตังนั่นล่ะ ..ปรับใบขับขี่ปรับขนส่งสมัยก่อนๆตรึม ประชาชนมีหน้าที่เสียค่าปรับตามกฎหมาย นี้ไง กฎหมายที่ดูดตังประชาชน ระบบใช้ตัง .ลองไม่เสียตังดูสิจะลดภาระประชาชนมากแค่ไหน,เอาตังไปเลี้ยงครอบครัวเขาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากมายแค่ไหน,ภาษีต่างๆอีก,สาระพัดกฎหมายมากสาระพัดมุกดูดตังประชาชน,พอประชาชนจะมีชีวิตดีหน่อยกลับไปบริหารปกครองเป็นไปเพื่ออย่างดีมีสุขแก่ประชาชน บ่อน้ำมันอีกล่ะคือตัวอย่างที่ดี,เสือกรัฐบาลในอดีตยกสัมปทานบ่อปิโตรเลียมบ่อน้ำมันให้เจ้าอื่น,ปกติรัฐบาลต้องแสดงสมองปัญญาความสามารถทำกิจการน้ำมันเองได้,แม้หมดอายุสัมปทานก็ไร้ปัญญาความสามารถคิดสมองหมาปัญญาควายสรรพสัตว์ไร้สมองไม่ตั้งใจก่อการทำเองเพื่อประชาชนคนไทยต้นทุนพลังงานน้ำมันราคาลดลง,ทำเองกลั่นเองขายเองลดต้นทุนค่าครองชีพประชาชนมันขาดทุนชาติเสียจะล้มสะลายตรงไหน,น้ำมันลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านคนไทยต้นทุนต่ำทันทีภายในชาติไทย ขนส่งขนส่งสินค้าไม่แพง ราคาสินค้าทั่วไทยจะลดลงทันที ทุกๆอย่างจะไม่แพง การพึ่งพาตนเองจะสูงสุดในคนไทยเรา,ส่งขายในตลาดราคาโลกจะไร้ปัญญาคิดอ่านไม่ได้เหรอ,เรามีผู้ปกครองที่กากขี้ขลาดไม่กล้าหาญเผชิญหน้าอะไรกับชาติมหาอำนาจหรือต่างชาติเลยเป็นบ๋อยสถุนมากในอดีตเรื่อยมา. ..ทหารประชาชนสมควรยึดอำนาจพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินจริง,มีแต่ทหารฝ่ายการเมืองยึดอำนาจมากว่า10ครั้งชาติมีแต่จะพังพินาศขายชาติขายที่ดินไร่ละ40ล้านบาทพะนะแก่ต่างชาติ เช่าที่ดินได้99ปีอีก,ฉีกรัฐธรรมนูญโคตรเก่งสามารถและเหี้ยกับประชาชน,ฉีกกฎหมายปล้นชาติไทยปล้นชิงธิปไตยไทยเสือกไม่ฉีก อาทิฉีกกฎหมายสัมปทานบ่อน้ำมันทั้งหมด ฉีกmouทั้งลับๆแบะแจ้งที่ทรยศแผ่นดินเป็นทาสถูกเขาต่างชาติเอาเปรียบทิ้งไปและโมฆะทั้งหมด,เราจะได้คืนวัตถุดิบพัฒนาชาติไทยคืนมา100%ทันที. ..ระบบปกครองไทยสไตล์ไทยเราเขียนเองสร้างกันเองได้ เหี้ยไปใช้ระบบปกครองคณะกบฎ2475ส่งออกสุมหัวกับฝรั่งทำไม.,เมื่อพิจารณาแล้วว่าสมบูรณญาสิทธิราชย์ไม่ดีและของคณะกบฎ2475สอบตกไม่ผ่านสู่ยุคสมัยล้ำๆก็สร้างระบบใหม่เองเลย ..คือระบบจักรวาลที่สากลใช้ปกครองทั่วจักรวาลเป็นส่วนใหญ่ของทางสายกลาง มิติสูงๆก็ยอมรับ คนเลวชั่วคนสัตว์นรกรับไม่ได้เป็นปกติแน่นอนคือ #ระบบธรรมาธิปไตย ธรรมะฝ่ายดีเป็นเครื่องครองใจในสัมมาชีวิตชอบของทุกๆคนไทยก็ว่า.,ภัยใดๆจะละเว้นซึ่งกระทำไม่ดีต่อกันและกันทันที,เจริญทัังกายวัตถุธาตุและเจริญทั้งทางจิตวิญญาณจะเติบโตเบ่งบานในชนเผ่าไทยเราทุกๆคนแน่นอน.สงครามใดๆเราจะชนะสิ้น,มิตรดีสหายดีทั่วมหาจักรวาลเอายานบินมาช่วยรบตรึมล่ะ. ..นายกฯพระราชทานภาคมหาชนน่าจะเหมาะสมที่สุด. .. #นายกฯพระราชทาน .. https://m.youtube.com/watch?v=B_IzmPwSQ9I&pp=0gcJCX4JAYcqIYzv
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 605 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..น่าเป็นห่วงลูกหลานเราคนไทยมาก,ถูกล้างสมอง ถูกนำพา ชี้ไปในทางที่ผิดเสียมากจากการป้อนโปรแกรมค่าเท็จสาระพัดใส่สมองและปกปิดซ่อนอำพรางการรอหักหลังและทรยศไว้.
    ..ถ้าระบบนักการเมืองที่ไม่รักประชาชนรักชาติยังมีเต็มระบบและไม่ทำลายทิ้ง มันคือภัยอันตรายชัดเจนมาก
    ..พรรคร่วมทั้งหมดคือภัยของชาติเช่นกัน ไม่สำนึกชั่วดีอะไร ไม่แสดงออกถึงความซื่อสัตย์จริงใจจริงต่อประชาชนและการบริหารบ้านเมืองในทางที่ชอบธรรม เป็นไปเพื่ออธรรมอย่างไม่น่าให้อภัย,ถ้าจริงใจต้องร่วมใจกันลาออกไปจากพรรคร่วมรัฐบาล ลาออกไปทุกๆพรรคร่วม ถ้าพรรคไหนยังอยู่ เมื่อถึงเวลานั้น,เป้าชัดเจนของคนทรยศประชาชนเยาวชนไทยลูกหลานอนาคตไทยจะแสดงฝ่ายชัดเจนแบบคณะกบฎ2475ที่ร่วมกับฝรั่งสูบเลือดความมั่งคั่งร่ำรวยของคนไทยเราไปทุกๆคนนั้นล่ะแบบสัมปทานบ่อน้ำมันบ่อทองคำแค่2อย่างนี้มีชัดเจนมาก.คนเหล่านี้คือคนทรยศรุ่นปัจจุบันทำร้ายทำลายชุมชนสังคมไทยที่ร่วมกันสร้างและรักษาสิ่งดีงามต่างๆนั้นให้พังพินาศลง,คนเหล่านีัต้องเด็ดขาดอย่างให้มีชีวิตมาสร้างกระแสชั่วเลวทวนกระแสดีปั่นป่วนสร้างความโกลาหลมากมายหลากหลายแนวศึกรบกับข้าศึกศัตรูแผ่นดินไทยมากมายขนาดนี้.โตครเหง้าตระกูลชั่วเลวนี้มีไว้เพื่อหนักแผ่นดินไทยทำไม อยู่ไปแม้ลูกหลานมันเองยังสั่งสอนให้เป็นคนดีงามไม่ได้,เดือนร้อนคนไทยทุกๆคนไปด้วยทั้งทางค่าใช้จ่ายแบบราคาน้ำมันแพงทั้งแผ่นดินไทยจากการใช้อำนาจตนกระทำตกลงในทางที่ชั่วเลว,มิติอื่นๆอีกมากมายเป็นต้น,เมื่อคือตัวแทนคนอำนาจทั้งชาติคือพรรคการเมืองทั้งหมดที่เข้าร่วมบริหารแผ่นดินไทย ผลกระทบนี้ส่งผลร้ายแรงในเวลาข้างหน้า แบบบ่อน้ำมัน บ่อทองคำซึ่งขุดทำเองเอาทองคำเข้าทุนสำรองประเทศฝ่ายเดียวตลอดการขุดเจาะพบเจอได้หมด ชาติมันย่อมแข็งแกร่งแน่นอน นี้อะไรเขาจะปล้นจะชิงจะยึดเอาก็ใจหมายกให้เขาไปขี้ขลาดสิ้นดี,แม้เสียอธิปไตยไปอย่างชัดเจนใครคือศัตรูของเรา ฮ่องกงของจีน จีนรู้ว่าฝรั่งคือศัตรูที่เลวของเขา,สุดท้ายเอกราชอิสระใดๆก็ต้องกอบกู้คืนได้เช่นพระเจ้าตากสินกระทำ,การปกครองเราล้มเหลวจริงๆ ธรรมดาประชาชนมิควรมาออกชุมนุนประท้วงขับไล่คนเลวชั่วต่อชาติแบบนี้,พึงสำนึกผิดว่าบริหารผิดพลาดไม่ซื่อสัตย์ก็มีจริตสำนึกสันดานดีลาออกไปให้คนดีคนเก่งมาบริหารต่อไปแทนตน,เสือกนั่งขวางคลองถ่วงความเจริญดีงามของคนทั้งชาติ,ชาติมิใช่ร้านแผงขายผักขายปลาขายขนมที่สร้างผลกระทบมากมายมหาศาลทั้งแผ่นดินไทยได้ แค่ลงนามคำสั่งที่ผิดพลาดอันเดียว มันสิ้นชาติได้เลยนะ,เสือกไม่สำนึกแห่งวิถีผู้นำ ภาวะผู้นำผู้ปกครองห่าอะไร,ชาติไทยจึงสมควรล้างแผ่นดินไทยนี้ใหม่ทั้งระบบ ,สิ่งต้องจัดการก่อนคือพวกพรรคการเมืองและนักการเมืองทั้งหมดในสภาฯต้องพักงานชั่วคราวสัก10-20ปีทันที.และสแกนค้นหาค่าจริงดีงาม ใครคือคนทรยศไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนต่อแผ่นดินไทยสมควรกำจัดออกไป.,เช่นนั้นคนพวกนี้จะก่อความพังพินาศด้วยความอวิชาไม่หยุดสิ้นตัดตอนมิให้มีชีวิตอาจสร้างสังคมชุมชนคนไทยสงบตลอดกาล ลดประชากรคนพวกนี้จะไม่มีใครมาอยู่กล้าขาสั่นสร้างชั่วเลวในปัจจุบันได้.
    ..ต้องจบในรุ่นนี้จริงๆ มันมากเกินพอแล้ว จบที่ตัวต้นเหตุทัังหมดด้วยคือพวกต่างชาติที่แทรกแซงหมายปล้นชิงยึดครองประเทศไทยเราทรัพยากรชาติไทยเราเป็นของมันล่อเลี้ยงคนต่างชาติของเผ่ามันที่มิใช่ใช้ล่อเลี้ยงพัฒนาชาติไทยบนต้นทุนชีวิตที่ไม่ลำบาก ง่ายสะดวกสบายราคาถูกไม่แพง เห็นอกเห็นใจในคนไทยตน .,มันกลับปล้นชิงไปหมด เช่นไทยนี้ชัดเจนเรื่องบ่อน้ำมันนี้ล่ะ ไม่เช่นนั้นเราสามารถขายลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านสบายๆ ซึ่งเรามีบ่อน้ำมันมากกว่าเขา คุณภาพดีกว่าเขา ซาอุฯเองคงไม่ผีบ้าอยากสร้างคลังเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ในไทยหรอก,โรงกลั่นก็มากกว่าอิหร่าน,ยิ่งไทยกับพม่าจับมือเป็นระบบปกครองธรรมาธิปไตยได้นะ คนพม่ากลับชาติเขาทั้งหมดพัฒนาชาติใครมันสงบสันติสุขร่วมกัน ฝรั่งที่หมายปองบ่อน้ำมันพม่าไม่ได้กินแน่นอน,รวมทั้งไทยที่มีน้ำมันชาติกว่าพันปีก็ไม่หมดด้วย.,เรามีคนทรยศที่ไม่เคยกำจัดสิ้นซากจริงสักที,เก็บไว้สร้างโกลาหลในไทยให้มั่นคงยั่งยืนจริงๆ,ฝ่ายมืดนี้ถ้าคนไทยจะกำจัดจริงๆสิ้นชากแน่นอนบนแผ่นดินไทยรวมถึงสมุนรับใช้ระดมทุน เอาทุนเลวๆชั่วมายึดครองไทยด้วย.

    https://m.youtube.com/watch?v=MOy1QziNlt0
    ..น่าเป็นห่วงลูกหลานเราคนไทยมาก,ถูกล้างสมอง ถูกนำพา ชี้ไปในทางที่ผิดเสียมากจากการป้อนโปรแกรมค่าเท็จสาระพัดใส่สมองและปกปิดซ่อนอำพรางการรอหักหลังและทรยศไว้. ..ถ้าระบบนักการเมืองที่ไม่รักประชาชนรักชาติยังมีเต็มระบบและไม่ทำลายทิ้ง มันคือภัยอันตรายชัดเจนมาก ..พรรคร่วมทั้งหมดคือภัยของชาติเช่นกัน ไม่สำนึกชั่วดีอะไร ไม่แสดงออกถึงความซื่อสัตย์จริงใจจริงต่อประชาชนและการบริหารบ้านเมืองในทางที่ชอบธรรม เป็นไปเพื่ออธรรมอย่างไม่น่าให้อภัย,ถ้าจริงใจต้องร่วมใจกันลาออกไปจากพรรคร่วมรัฐบาล ลาออกไปทุกๆพรรคร่วม ถ้าพรรคไหนยังอยู่ เมื่อถึงเวลานั้น,เป้าชัดเจนของคนทรยศประชาชนเยาวชนไทยลูกหลานอนาคตไทยจะแสดงฝ่ายชัดเจนแบบคณะกบฎ2475ที่ร่วมกับฝรั่งสูบเลือดความมั่งคั่งร่ำรวยของคนไทยเราไปทุกๆคนนั้นล่ะแบบสัมปทานบ่อน้ำมันบ่อทองคำแค่2อย่างนี้มีชัดเจนมาก.คนเหล่านี้คือคนทรยศรุ่นปัจจุบันทำร้ายทำลายชุมชนสังคมไทยที่ร่วมกันสร้างและรักษาสิ่งดีงามต่างๆนั้นให้พังพินาศลง,คนเหล่านีัต้องเด็ดขาดอย่างให้มีชีวิตมาสร้างกระแสชั่วเลวทวนกระแสดีปั่นป่วนสร้างความโกลาหลมากมายหลากหลายแนวศึกรบกับข้าศึกศัตรูแผ่นดินไทยมากมายขนาดนี้.โตครเหง้าตระกูลชั่วเลวนี้มีไว้เพื่อหนักแผ่นดินไทยทำไม อยู่ไปแม้ลูกหลานมันเองยังสั่งสอนให้เป็นคนดีงามไม่ได้,เดือนร้อนคนไทยทุกๆคนไปด้วยทั้งทางค่าใช้จ่ายแบบราคาน้ำมันแพงทั้งแผ่นดินไทยจากการใช้อำนาจตนกระทำตกลงในทางที่ชั่วเลว,มิติอื่นๆอีกมากมายเป็นต้น,เมื่อคือตัวแทนคนอำนาจทั้งชาติคือพรรคการเมืองทั้งหมดที่เข้าร่วมบริหารแผ่นดินไทย ผลกระทบนี้ส่งผลร้ายแรงในเวลาข้างหน้า แบบบ่อน้ำมัน บ่อทองคำซึ่งขุดทำเองเอาทองคำเข้าทุนสำรองประเทศฝ่ายเดียวตลอดการขุดเจาะพบเจอได้หมด ชาติมันย่อมแข็งแกร่งแน่นอน นี้อะไรเขาจะปล้นจะชิงจะยึดเอาก็ใจหมายกให้เขาไปขี้ขลาดสิ้นดี,แม้เสียอธิปไตยไปอย่างชัดเจนใครคือศัตรูของเรา ฮ่องกงของจีน จีนรู้ว่าฝรั่งคือศัตรูที่เลวของเขา,สุดท้ายเอกราชอิสระใดๆก็ต้องกอบกู้คืนได้เช่นพระเจ้าตากสินกระทำ,การปกครองเราล้มเหลวจริงๆ ธรรมดาประชาชนมิควรมาออกชุมนุนประท้วงขับไล่คนเลวชั่วต่อชาติแบบนี้,พึงสำนึกผิดว่าบริหารผิดพลาดไม่ซื่อสัตย์ก็มีจริตสำนึกสันดานดีลาออกไปให้คนดีคนเก่งมาบริหารต่อไปแทนตน,เสือกนั่งขวางคลองถ่วงความเจริญดีงามของคนทั้งชาติ,ชาติมิใช่ร้านแผงขายผักขายปลาขายขนมที่สร้างผลกระทบมากมายมหาศาลทั้งแผ่นดินไทยได้ แค่ลงนามคำสั่งที่ผิดพลาดอันเดียว มันสิ้นชาติได้เลยนะ,เสือกไม่สำนึกแห่งวิถีผู้นำ ภาวะผู้นำผู้ปกครองห่าอะไร,ชาติไทยจึงสมควรล้างแผ่นดินไทยนี้ใหม่ทั้งระบบ ,สิ่งต้องจัดการก่อนคือพวกพรรคการเมืองและนักการเมืองทั้งหมดในสภาฯต้องพักงานชั่วคราวสัก10-20ปีทันที.และสแกนค้นหาค่าจริงดีงาม ใครคือคนทรยศไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนต่อแผ่นดินไทยสมควรกำจัดออกไป.,เช่นนั้นคนพวกนี้จะก่อความพังพินาศด้วยความอวิชาไม่หยุดสิ้นตัดตอนมิให้มีชีวิตอาจสร้างสังคมชุมชนคนไทยสงบตลอดกาล ลดประชากรคนพวกนี้จะไม่มีใครมาอยู่กล้าขาสั่นสร้างชั่วเลวในปัจจุบันได้. ..ต้องจบในรุ่นนี้จริงๆ มันมากเกินพอแล้ว จบที่ตัวต้นเหตุทัังหมดด้วยคือพวกต่างชาติที่แทรกแซงหมายปล้นชิงยึดครองประเทศไทยเราทรัพยากรชาติไทยเราเป็นของมันล่อเลี้ยงคนต่างชาติของเผ่ามันที่มิใช่ใช้ล่อเลี้ยงพัฒนาชาติไทยบนต้นทุนชีวิตที่ไม่ลำบาก ง่ายสะดวกสบายราคาถูกไม่แพง เห็นอกเห็นใจในคนไทยตน .,มันกลับปล้นชิงไปหมด เช่นไทยนี้ชัดเจนเรื่องบ่อน้ำมันนี้ล่ะ ไม่เช่นนั้นเราสามารถขายลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านสบายๆ ซึ่งเรามีบ่อน้ำมันมากกว่าเขา คุณภาพดีกว่าเขา ซาอุฯเองคงไม่ผีบ้าอยากสร้างคลังเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ในไทยหรอก,โรงกลั่นก็มากกว่าอิหร่าน,ยิ่งไทยกับพม่าจับมือเป็นระบบปกครองธรรมาธิปไตยได้นะ คนพม่ากลับชาติเขาทั้งหมดพัฒนาชาติใครมันสงบสันติสุขร่วมกัน ฝรั่งที่หมายปองบ่อน้ำมันพม่าไม่ได้กินแน่นอน,รวมทั้งไทยที่มีน้ำมันชาติกว่าพันปีก็ไม่หมดด้วย.,เรามีคนทรยศที่ไม่เคยกำจัดสิ้นซากจริงสักที,เก็บไว้สร้างโกลาหลในไทยให้มั่นคงยั่งยืนจริงๆ,ฝ่ายมืดนี้ถ้าคนไทยจะกำจัดจริงๆสิ้นชากแน่นอนบนแผ่นดินไทยรวมถึงสมุนรับใช้ระดมทุน เอาทุนเลวๆชั่วมายึดครองไทยด้วย. https://m.youtube.com/watch?v=MOy1QziNlt0
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 615 มุมมอง 0 รีวิว

  • ..จริงๆไม่รู้ว่า สายทางปกครองสายภาคสภาการเมืองการเลือกตั้ง สามารถตั้งประเด็นเข้าข่ายผิดคุณสมบัติพรรคการเมืองที่ร่วมกันทั้งหมดได้สิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลมั้ยนะ คือหลอกลวงประชาชนเต็มๆ ไม่มีในนโยบายหาเสียงหลักใดๆเลย,แอบซ่อน&ปิดบังเพื่อผลประโยชน์ทางการเลือกตั้งชัดเจนด้วย เพราะใส่ลงไปในนโยบายหลักว่าพรรคตนจะเปิดบ่อนคาสิโนบนแผ่นดินไทยและอยู่ในหลักการเชิงนโยบายหลักด้วย,ฝันเลยคนไทยเกือบทั่วประเทศจะไม่เลือกและไม่กาคะแนนเสียงให้จึงปกปิดแอบซ่อนอำพรางการใหญ่ไว้จนตนเองมีโอกาสตั้งรัฐบาลจึงเปิดมุกนี้เดินหน้าเต็มที่ นี้คือทั้งพรรคขาดจิตสำนึกชั่วดี ไร้ความซื่อตรงิไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนในการเลือกตั้งอย่างเจตนาจงใจกระทำ,ผ่านกฎหมายไทยถ้าไม่สามารถยุบพรรคก่อการทั้งหมดที่เป็นภัยร้ายมากมายหลายมิติและทำทีมองไม่เห็นก็อย่างเก็บไว้ในอนาคตเลย,ยุบไปด้วยทั้งหมดเช่นกันเป็นภัยต่อชาติไทยเอง แม้สำนึกพื้นฐานด้านเข้าใจว่าอะไรไม่ดี อะไรไม่ควร อะไรดียังไม่รู้เรื่องผ่านกฎหมายไทยคนราชการฝ่ายกฎหมายอย่ามีหนักแผ่นดินไทยเลย.
    ..จริงๆสามารถเข้าข่ายยุบพรรคหลักและพรรคร่วมมากมายหลายข่องทางมั้ยนะ ขนาดอดีตนานกฯเศรษฐาแค่กรณีไม่ซื่อสัตย์ยังหลุดพ้นเลย,
    ..การปกครองวิถีอำนาจการปกครองเราล้มเหลวจริงๆตกประเมินสอบตกทั้งหมด.โมฆะวิถีปกครองที่คณะกบฎ2475ทำขึ้นมาเถอะ,จะสิ้นชาติไทยแล้วนี้.

    https://m.youtube.com/watch?v=YVRE9x3v5o0
    ..จริงๆไม่รู้ว่า สายทางปกครองสายภาคสภาการเมืองการเลือกตั้ง สามารถตั้งประเด็นเข้าข่ายผิดคุณสมบัติพรรคการเมืองที่ร่วมกันทั้งหมดได้สิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลมั้ยนะ คือหลอกลวงประชาชนเต็มๆ ไม่มีในนโยบายหาเสียงหลักใดๆเลย,แอบซ่อน&ปิดบังเพื่อผลประโยชน์ทางการเลือกตั้งชัดเจนด้วย เพราะใส่ลงไปในนโยบายหลักว่าพรรคตนจะเปิดบ่อนคาสิโนบนแผ่นดินไทยและอยู่ในหลักการเชิงนโยบายหลักด้วย,ฝันเลยคนไทยเกือบทั่วประเทศจะไม่เลือกและไม่กาคะแนนเสียงให้จึงปกปิดแอบซ่อนอำพรางการใหญ่ไว้จนตนเองมีโอกาสตั้งรัฐบาลจึงเปิดมุกนี้เดินหน้าเต็มที่ นี้คือทั้งพรรคขาดจิตสำนึกชั่วดี ไร้ความซื่อตรงิไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนในการเลือกตั้งอย่างเจตนาจงใจกระทำ,ผ่านกฎหมายไทยถ้าไม่สามารถยุบพรรคก่อการทั้งหมดที่เป็นภัยร้ายมากมายหลายมิติและทำทีมองไม่เห็นก็อย่างเก็บไว้ในอนาคตเลย,ยุบไปด้วยทั้งหมดเช่นกันเป็นภัยต่อชาติไทยเอง แม้สำนึกพื้นฐานด้านเข้าใจว่าอะไรไม่ดี อะไรไม่ควร อะไรดียังไม่รู้เรื่องผ่านกฎหมายไทยคนราชการฝ่ายกฎหมายอย่ามีหนักแผ่นดินไทยเลย. ..จริงๆสามารถเข้าข่ายยุบพรรคหลักและพรรคร่วมมากมายหลายข่องทางมั้ยนะ ขนาดอดีตนานกฯเศรษฐาแค่กรณีไม่ซื่อสัตย์ยังหลุดพ้นเลย, ..การปกครองวิถีอำนาจการปกครองเราล้มเหลวจริงๆตกประเมินสอบตกทั้งหมด.โมฆะวิถีปกครองที่คณะกบฎ2475ทำขึ้นมาเถอะ,จะสิ้นชาติไทยแล้วนี้. https://m.youtube.com/watch?v=YVRE9x3v5o0
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว

  • ..มันพิสูจน์แล้วว่าการปกครองของคณะกบฎ2475ตกประเมินใช้ได้ไม่ดีต่อการพัฒนาและสร้างประชาชนให้พ้นทุกข์ยากยากจนได้จริง.ล้มเหลววิถีการปกครอง
    ..มันพิสูจน์แล้วว่าการปกครองของคณะกบฎ2475ตกประเมินใช้ได้ไม่ดีต่อการพัฒนาและสร้างประชาชนให้พ้นทุกข์ยากยากจนได้จริง.ล้มเหลววิถีการปกครอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • 243 ปี สำเร็จโทษ “พระเจ้าตาก” กษัตริย์ผู้กอบกู้ นักรบผู้เดียวดาย สู่ตำนานมหาราช เบื้องหลังความจริงของวันประหาร ที่ยังเป็นปริศนา

    📌 เรื่องราวสุดลึกซึ้งของ "พระเจ้าตากสินมหาราช" วีรกษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราช สู่ฉากอวสานที่ยังคลุมเครือ หลังผ่านมา 243 ปี ความจริงของวันสำเร็จโทษ ยังรอการค้นหา ข้อเท็จจริงและปริศนา ที่ยังรอการคลี่คลาย ✨

    🔥 "พระเจ้าตาก" ตำนานนักรบผู้เดียวดาย ที่ยังไม่ถูกลืม วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ถือเป็นหนึ่งในวันสำคัญ ของประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭 วันนั้นไม่ใช่เพียงการเริ่มต้นราชวงศ์จักรีเท่านั้น แต่ยังเป็นวันที่ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” หรือ “พระเจ้ากรุงธนบุรี” เสด็จสวรรคตอย่างเป็นทางการ... หรืออาจจะไม่?

    243 ปี ผ่านไป เรื่องราวของพระองค์ยังคงเป็นที่ถกเถียง 😢 ทั้งในแวดวงวิชาการ ประวัติศาสตร์ และสังคมไทยโดยรวม เพราะแม้จะได้รับการยกย่อง ให้เป็นวีรกษัตริย์ผู้กอบกู้ชาติ แต่จุดจบของพระองค์ กลับเต็มไปด้วยข้อสงสัย ความคลุมเครือ และคำถามที่ไม่เคยได้รับคำตอบอย่างแท้จริง

    ย้อนเวลากลับไปสำรวจเรื่องราวของ "พระเจ้าตากสิน" ตั้งแต่วีรกรรมกู้ชาติ ไปจนถึงวาระสุดท้ายในชีวิต เพื่อค้นหาความจริง และความหมายที่ซ่อนอยู่ในตำนานของพระองค์

    👑 "พระเจ้าตากสิน" กษัตริย์เพียงพระองค์เดียวแห่งกรุงธนบุรี

    🌊 จากนายทหาร สู่กษัตริย์ผู้กอบกู้ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" หรือพระเจ้ากรุงธนบุรี มีพระนามเดิมว่า "สิน" เป็นบุตรของชาวจีนแต้จิ๋ว โดยทรงเข้ารับราชการในสมัย "สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์" รัชกาลสุดท้ายแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง

    เมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า ในปี พ.ศ. 2310 พระยาตากคือผู้นำที่ยืนหยัด และฝ่าทัพพม่าออกไปตั้งหลักที่จันทบุรี 🐎 พร้อมกับรวบรวมผู้คนและกำลังพล จนสามารถกลับมากู้ชาติ และยึดกรุงศรีอยุธยาคืนจากพม่า ได้ภายในเวลาเพียง 7 เดือน ✨

    หลังจากนั้น ทรงย้ายราชธานีมาตั้งที่กรุงธนบุรี พร้อมปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ และสถาปนา “อาณาจักรธนบุรี” 🏰

    🌟 พระราชกรณียกิจที่ยิ่งใหญ่ "พระเจ้าตากสิน" มิได้เป็นเพียงนักรบ แต่ทรงเป็นนักปกครอง ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล พระองค์ทรงฟื้นฟูบ้านเมืองหลังสงคราม อย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ศาสนา และวัฒนธรรม 🎨📚

    🔸 ส่งเสริมการค้ากับจีนและต่างประเทศ

    🔸 ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา โดยให้มีการอุปสมบทพระสงฆ์ใหม่จำนวนมาก

    🔸 ส่งเสริมวรรณกรรม และการศึกษา

    🔸 รวบรวมดินแดนที่แตกแยก กลับเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

    พระองค์ยังได้รับ การถวายพระราชสมัญญานามว่า “มหาราช” โดยรัฐบาลไทยได้กำหนดให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี เป็น “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ 💖

    ⚔️ จุดจบที่เป็นปริศนา วาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสิน แม้พระองค์จะทรงกู้ชาติ และสร้างบ้านแปงเมือง แต่พระเจ้าตากก็ต้องเผชิญกับความขัดแย้งภายใน และการทรยศจากผู้ใกล้ชิด

    ในปี พ.ศ. 2325 พระยาสรรค์กับพวกได้ก่อการกบฏ อ้างว่าพระเจ้าตากสินมีพระสติวิปลาส ทำให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ต่อมาคือรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี ยกทัพกลับจากเขมรเข้ากรุงธนบุรี และสั่งสำเร็จโทษพระเจ้าตากสินโดยการ “ตัดศีรษะ” ที่ป้อมวิไชยประสิทธิ์ ในวันที่ 6 เมษายน 2325 👑

    🕯️ พระชนมพรรษา 48 ปี ครองราชย์รวม 15 ปี

    แต่ความจริงเป็นเช่นนั้นจริงหรือ? หลักฐานและคำบอกเล่าต่างๆ กลับชี้ไปในทิศทางที่แตกต่างกัน...

    📚 พงศาวดาร หลากหลายข้อสันนิษฐาน

    1️⃣ ฉบับพระราชหัตถเลขา ประหารโดยตัดศีรษะ เล่าว่า... พระเจ้าตากถูกตัดศีรษะโดยเพชฌฆาต ไม่มีการใช้คำว่า “สวรรคต” แต่ใช้คำว่า “ถึงแก่พิราลัย” แสดงว่าอาจถูกริดรอนพระยศ ก่อนที่สำเร็จโทษ

    2️⃣ ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ม็อบพาไปสำเร็จ ณ ป้อมท้ายเมือง ระบุว่า... “ทแกล้วทหารทั้งปวงมีใจเจ็บแค้น นำเอาพระเจ้าแผ่นดินไปสำเร็จ ณ ป้อมท้ายเมือง” โดยไม่ระบุวิธี

    3️⃣ สมเด็จฯ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ชนหมู่มากฆ่าพระองค์ กล่าวว่า... “ชนทั้งหลายมีความโกรธ ชวนกันกำจัดเสียจากราชสมบัติ แล้วพิฆาฎฆ่าเสีย”

    4️⃣ พระยาทัศดาจัตุรงค์ หัวใจวายเฉียบพลัน เขียนว่า... “เกิดวิกลดลจิตประจุบัน ท้าวดับชีวัน” ซึ่งแปลว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยอาการหัวใจวาย

    🕵️‍♂️ เรื่องเล่าหลัง 2475 สร้างตำนานใหม่ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 เรื่องราวของพระเจ้าตาก ถูกนำมาผลิตซ้ำในรูปแบบใหม่ โดยเน้นไปที่... การเป็นวีรกษัตริย์ของประชาชน อาทิ วรรณกรรมเรื่อง “ใครฆ่าพระเจ้าตากสิน” ของภิกษุณีโพธิสัตว์ "วรมัย กบิลสิงห์" ซึ่งอ้างว่า “พระองค์ไม่ถูกประหาร แต่สับเปลี่ยนตัวกับนายมั่น”

    🔍 จุดมุ่งหมายคือ การสร้างความรู้สึกร่วมของคนไทย สร้างอุดมการณ์ประชาธิปไตย และเน้นความสามัคคีแห่งชาติ 🇹🇭

    🧠 ข้อวิเคราะห์ คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ

    ❓ พระเจ้าตากเสียสติจริงหรือ? เอกสารหลายฉบับระบุว่า พระองค์มีพระสติวิปลาส แต่บทสนทนาก่อนประหารที่ว่า “ขอเข้าเฝ้าสนทนาอีกสักสองสามคำ” นั้นชัดเจน และเต็มไปด้วยสติสัมปชัญญะ 🤔

    ❓ มีการสับเปลี่ยนตัวจริงหรือ? ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนใด ๆ รองรับ แต่แนวคิดนี้ ปรากฏอย่างแพร่หลายในวรรณกรรม และความเชื่อของประชาชน

    📜 วันที่พระองค์ถูกลืม? วันที่ 6 เมษายน ถูกกำหนดให้เป็น "วันจักรี" เพื่อระลึกถึงการสถาปนาราชวงศ์จักรี โดยไม่มีการกล่าวถึงพระเจ้าตากเลย ทั้งที่วันเดียวกันนั้น คือวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์เช่นกัน

    ทำให้เกิดคำถามในใจใครหลายคนว่า พระเจ้าตากถูก “กลบ” จากประวัติศาสตร์หรือไม่? 😢

    🛕 พระเจ้าตากในความทรงจำของประชาชน แม้ประวัติศาสตร์ทางการจะบอกว่า พระองค์ถูกประหารชีวิต แต่ในความเชื่อของประชาชนทั่วไป พระเจ้าตากยังคงเป็น “วีรกษัตริย์ผู้ไม่เคยพ่าย” 🙏

    มีการสักการะพระบรมรูปที่วงเวียนใหญ่ คนไทยเชื้อสายจีนเรียกพระองค์ว่า “แต่อ่วงกง” มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับพระองค์

    🧾 จากความจริง...สู่ตำนาน 243 ปีผ่านไป...วาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสินมหาราช ยังคงเต็มไปด้วยคำถาม ปริศนา และความรู้สึกค้างคาใจ ของคนไทยจำนวนมาก

    แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ... พระเจ้าตากมิใช่เพียงนักรบผู้เดียวดาย แต่คือบุคคลผู้เปลี่ยนชะตากรรมของแผ่นดินนี้ ไว้ในช่วงเวลาที่ยากที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 060744 เม.ย. 2568

    📱 #พระเจ้าตาก #สมเด็จพระเจ้าตากสิน #ประวัติศาสตร์ไทย #243ปีพระเจ้าตาก #ตำนานพระเจ้าตาก #วันประหารพระเจ้าตาก #วันจักรี #ราชวงศ์ธนบุรี #วีรกษัตริย์ไทย #กษัตริย์ผู้กอบกู้
    243 ปี สำเร็จโทษ “พระเจ้าตาก” กษัตริย์ผู้กอบกู้ นักรบผู้เดียวดาย สู่ตำนานมหาราช เบื้องหลังความจริงของวันประหาร ที่ยังเป็นปริศนา 📌 เรื่องราวสุดลึกซึ้งของ "พระเจ้าตากสินมหาราช" วีรกษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราช สู่ฉากอวสานที่ยังคลุมเครือ หลังผ่านมา 243 ปี ความจริงของวันสำเร็จโทษ ยังรอการค้นหา ข้อเท็จจริงและปริศนา ที่ยังรอการคลี่คลาย ✨ 🔥 "พระเจ้าตาก" ตำนานนักรบผู้เดียวดาย ที่ยังไม่ถูกลืม วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ถือเป็นหนึ่งในวันสำคัญ ของประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭 วันนั้นไม่ใช่เพียงการเริ่มต้นราชวงศ์จักรีเท่านั้น แต่ยังเป็นวันที่ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” หรือ “พระเจ้ากรุงธนบุรี” เสด็จสวรรคตอย่างเป็นทางการ... หรืออาจจะไม่? 243 ปี ผ่านไป เรื่องราวของพระองค์ยังคงเป็นที่ถกเถียง 😢 ทั้งในแวดวงวิชาการ ประวัติศาสตร์ และสังคมไทยโดยรวม เพราะแม้จะได้รับการยกย่อง ให้เป็นวีรกษัตริย์ผู้กอบกู้ชาติ แต่จุดจบของพระองค์ กลับเต็มไปด้วยข้อสงสัย ความคลุมเครือ และคำถามที่ไม่เคยได้รับคำตอบอย่างแท้จริง ย้อนเวลากลับไปสำรวจเรื่องราวของ "พระเจ้าตากสิน" ตั้งแต่วีรกรรมกู้ชาติ ไปจนถึงวาระสุดท้ายในชีวิต เพื่อค้นหาความจริง และความหมายที่ซ่อนอยู่ในตำนานของพระองค์ 👑 "พระเจ้าตากสิน" กษัตริย์เพียงพระองค์เดียวแห่งกรุงธนบุรี 🌊 จากนายทหาร สู่กษัตริย์ผู้กอบกู้ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" หรือพระเจ้ากรุงธนบุรี มีพระนามเดิมว่า "สิน" เป็นบุตรของชาวจีนแต้จิ๋ว โดยทรงเข้ารับราชการในสมัย "สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์" รัชกาลสุดท้ายแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง เมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า ในปี พ.ศ. 2310 พระยาตากคือผู้นำที่ยืนหยัด และฝ่าทัพพม่าออกไปตั้งหลักที่จันทบุรี 🐎 พร้อมกับรวบรวมผู้คนและกำลังพล จนสามารถกลับมากู้ชาติ และยึดกรุงศรีอยุธยาคืนจากพม่า ได้ภายในเวลาเพียง 7 เดือน ✨ หลังจากนั้น ทรงย้ายราชธานีมาตั้งที่กรุงธนบุรี พร้อมปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ และสถาปนา “อาณาจักรธนบุรี” 🏰 🌟 พระราชกรณียกิจที่ยิ่งใหญ่ "พระเจ้าตากสิน" มิได้เป็นเพียงนักรบ แต่ทรงเป็นนักปกครอง ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล พระองค์ทรงฟื้นฟูบ้านเมืองหลังสงคราม อย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ศาสนา และวัฒนธรรม 🎨📚 🔸 ส่งเสริมการค้ากับจีนและต่างประเทศ 🔸 ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา โดยให้มีการอุปสมบทพระสงฆ์ใหม่จำนวนมาก 🔸 ส่งเสริมวรรณกรรม และการศึกษา 🔸 รวบรวมดินแดนที่แตกแยก กลับเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พระองค์ยังได้รับ การถวายพระราชสมัญญานามว่า “มหาราช” โดยรัฐบาลไทยได้กำหนดให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี เป็น “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ 💖 ⚔️ จุดจบที่เป็นปริศนา วาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสิน แม้พระองค์จะทรงกู้ชาติ และสร้างบ้านแปงเมือง แต่พระเจ้าตากก็ต้องเผชิญกับความขัดแย้งภายใน และการทรยศจากผู้ใกล้ชิด ในปี พ.ศ. 2325 พระยาสรรค์กับพวกได้ก่อการกบฏ อ้างว่าพระเจ้าตากสินมีพระสติวิปลาส ทำให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ต่อมาคือรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี ยกทัพกลับจากเขมรเข้ากรุงธนบุรี และสั่งสำเร็จโทษพระเจ้าตากสินโดยการ “ตัดศีรษะ” ที่ป้อมวิไชยประสิทธิ์ ในวันที่ 6 เมษายน 2325 👑 🕯️ พระชนมพรรษา 48 ปี ครองราชย์รวม 15 ปี แต่ความจริงเป็นเช่นนั้นจริงหรือ? หลักฐานและคำบอกเล่าต่างๆ กลับชี้ไปในทิศทางที่แตกต่างกัน... 📚 พงศาวดาร หลากหลายข้อสันนิษฐาน 1️⃣ ฉบับพระราชหัตถเลขา ประหารโดยตัดศีรษะ เล่าว่า... พระเจ้าตากถูกตัดศีรษะโดยเพชฌฆาต ไม่มีการใช้คำว่า “สวรรคต” แต่ใช้คำว่า “ถึงแก่พิราลัย” แสดงว่าอาจถูกริดรอนพระยศ ก่อนที่สำเร็จโทษ 2️⃣ ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ม็อบพาไปสำเร็จ ณ ป้อมท้ายเมือง ระบุว่า... “ทแกล้วทหารทั้งปวงมีใจเจ็บแค้น นำเอาพระเจ้าแผ่นดินไปสำเร็จ ณ ป้อมท้ายเมือง” โดยไม่ระบุวิธี 3️⃣ สมเด็จฯ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ชนหมู่มากฆ่าพระองค์ กล่าวว่า... “ชนทั้งหลายมีความโกรธ ชวนกันกำจัดเสียจากราชสมบัติ แล้วพิฆาฎฆ่าเสีย” 4️⃣ พระยาทัศดาจัตุรงค์ หัวใจวายเฉียบพลัน เขียนว่า... “เกิดวิกลดลจิตประจุบัน ท้าวดับชีวัน” ซึ่งแปลว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยอาการหัวใจวาย 🕵️‍♂️ เรื่องเล่าหลัง 2475 สร้างตำนานใหม่ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 เรื่องราวของพระเจ้าตาก ถูกนำมาผลิตซ้ำในรูปแบบใหม่ โดยเน้นไปที่... การเป็นวีรกษัตริย์ของประชาชน อาทิ วรรณกรรมเรื่อง “ใครฆ่าพระเจ้าตากสิน” ของภิกษุณีโพธิสัตว์ "วรมัย กบิลสิงห์" ซึ่งอ้างว่า “พระองค์ไม่ถูกประหาร แต่สับเปลี่ยนตัวกับนายมั่น” 🔍 จุดมุ่งหมายคือ การสร้างความรู้สึกร่วมของคนไทย สร้างอุดมการณ์ประชาธิปไตย และเน้นความสามัคคีแห่งชาติ 🇹🇭 🧠 ข้อวิเคราะห์ คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓ พระเจ้าตากเสียสติจริงหรือ? เอกสารหลายฉบับระบุว่า พระองค์มีพระสติวิปลาส แต่บทสนทนาก่อนประหารที่ว่า “ขอเข้าเฝ้าสนทนาอีกสักสองสามคำ” นั้นชัดเจน และเต็มไปด้วยสติสัมปชัญญะ 🤔 ❓ มีการสับเปลี่ยนตัวจริงหรือ? ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนใด ๆ รองรับ แต่แนวคิดนี้ ปรากฏอย่างแพร่หลายในวรรณกรรม และความเชื่อของประชาชน 📜 วันที่พระองค์ถูกลืม? วันที่ 6 เมษายน ถูกกำหนดให้เป็น "วันจักรี" เพื่อระลึกถึงการสถาปนาราชวงศ์จักรี โดยไม่มีการกล่าวถึงพระเจ้าตากเลย ทั้งที่วันเดียวกันนั้น คือวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์เช่นกัน ทำให้เกิดคำถามในใจใครหลายคนว่า พระเจ้าตากถูก “กลบ” จากประวัติศาสตร์หรือไม่? 😢 🛕 พระเจ้าตากในความทรงจำของประชาชน แม้ประวัติศาสตร์ทางการจะบอกว่า พระองค์ถูกประหารชีวิต แต่ในความเชื่อของประชาชนทั่วไป พระเจ้าตากยังคงเป็น “วีรกษัตริย์ผู้ไม่เคยพ่าย” 🙏 มีการสักการะพระบรมรูปที่วงเวียนใหญ่ คนไทยเชื้อสายจีนเรียกพระองค์ว่า “แต่อ่วงกง” มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับพระองค์ 🧾 จากความจริง...สู่ตำนาน 243 ปีผ่านไป...วาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสินมหาราช ยังคงเต็มไปด้วยคำถาม ปริศนา และความรู้สึกค้างคาใจ ของคนไทยจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ... พระเจ้าตากมิใช่เพียงนักรบผู้เดียวดาย แต่คือบุคคลผู้เปลี่ยนชะตากรรมของแผ่นดินนี้ ไว้ในช่วงเวลาที่ยากที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 060744 เม.ย. 2568 📱 #พระเจ้าตาก #สมเด็จพระเจ้าตากสิน #ประวัติศาสตร์ไทย #243ปีพระเจ้าตาก #ตำนานพระเจ้าตาก #วันประหารพระเจ้าตาก #วันจักรี #ราชวงศ์ธนบุรี #วีรกษัตริย์ไทย #กษัตริย์ผู้กอบกู้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 805 มุมมอง 0 รีวิว
  • การคอร์รัปชั่น เริ่มตั้งแต่2475 ยุคโจรคณะราษฏร์ ปล้นพระราชอำนาจ โกงที่หลวง ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มาขายให้กันเองและซื้อถูกๆมาเป็นของตน และเมื่อมีนักการเมืองมาจนถึงปัจจุบัน บ้านเมืองกลับด้อยพัฒนาและตามหลังประเทศพัฒนาทั้งหลาย ทั้งที่ยุคก่อนที่จะมีนักการเมือง ประเทศเราอยู่แถวหน้าของเอเชียในเรื่องความเจริญ แต่ตอนนี้ถูกประเทศที่เคยตามหลังเราแซงหน้าแทบหมดทั้งเอเชียละ

    นักการเมืองโกงคือที่มาของข้าราชการฉ้อฉลและเป็นปัญหาของการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าได้ทัดเทียมประเทศที่เขาเจริญแล้วได้

    นักการเมืองโกงไทยเราคือปัญหาของชาติ และคนโกงไม่ทำให้เราได้อะไรเลย มีแต่เสีย นอกจากได้กลายเป็นเหยื่อเบี้ยให้นักการเมืองหลอกใช้ นักการเมืองโกงก็ไม่ต่างจากคอลเซนเตอร์หรือหลอกชวนลงทุนแชร์ลูกโซ่หละฮะ นโยบายคือการโฆษณาชวนเชื่อหลอกว่าจะให้ได้นั่นนี่ รวยๆๆ เพื่อให้ลงทุน หรือลงคะแนน สุดท้ายก็ไม่ตรงปก หลอกให้เลือก หรือหลอกแดรกเงินหมดบัญชีแหละครับ

    นักการเมืองโกง ข้าราชการฉ้อฉล นายทุนการเมืองทุจริต ควรได้รับโทษหนักสุด ตามความผิดที่ควรได้รับ ประหาsและจำคุกตลอดชีวิต โดยไม่มีการลดโทษใดๆ เมื่อนั้นแหละบ้านเมืองจึงจะเจริญ ประชาชนจึงจะได้รับผลประโยชน์ยั่งยืนที่ดีงามได้ เสพติดพรรคการเมืองนักการเมืองจนสิ้นคิดไม่รู้แยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ ก็เหมือนบัวใต้ตมที่โผล่ไม่พ้นน้ำแหละครับมนุษย์ฮะ

    หากปล่อยให้มีนักการเมืองเป็นอย่างที่มีที่เห็น ณ บัดนาว บ้านเมืองคงเละเทะและบรรลัย ไม่อาจพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าอยู่ดีกินดีได้เลย มีแต่จะถอยหลังลงคลองเน่าเหม็นเท่านั้น

    นักการเมืองทุกระดับควรต้องมีจริยธรรมที่สูง มีความเป็นจิตอาสาและเสียสละซื่อสัตย์สุจริตเท่านั้นจึงจะเป็นผลดีต่อประเทศชาติประชาชนแท้จริงฮะครับ

    คุณภาพประชากรที่รู้แยกแยะดีชั่วถูกผิดได้ บ่งบอกถึงความเจริญของชาติบ้านเมืองได้ดีครับฮะ

    สำนึกดี มีคุณธรรมจริยธรรมดี สังคมบ้านเมืองดี ฮะครับ

    มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    การคอร์รัปชั่น เริ่มตั้งแต่2475 ยุคโจรคณะราษฏร์ ปล้นพระราชอำนาจ โกงที่หลวง ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มาขายให้กันเองและซื้อถูกๆมาเป็นของตน และเมื่อมีนักการเมืองมาจนถึงปัจจุบัน บ้านเมืองกลับด้อยพัฒนาและตามหลังประเทศพัฒนาทั้งหลาย ทั้งที่ยุคก่อนที่จะมีนักการเมือง ประเทศเราอยู่แถวหน้าของเอเชียในเรื่องความเจริญ แต่ตอนนี้ถูกประเทศที่เคยตามหลังเราแซงหน้าแทบหมดทั้งเอเชียละ นักการเมืองโกงคือที่มาของข้าราชการฉ้อฉลและเป็นปัญหาของการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าได้ทัดเทียมประเทศที่เขาเจริญแล้วได้ นักการเมืองโกงไทยเราคือปัญหาของชาติ และคนโกงไม่ทำให้เราได้อะไรเลย มีแต่เสีย นอกจากได้กลายเป็นเหยื่อเบี้ยให้นักการเมืองหลอกใช้ นักการเมืองโกงก็ไม่ต่างจากคอลเซนเตอร์หรือหลอกชวนลงทุนแชร์ลูกโซ่หละฮะ นโยบายคือการโฆษณาชวนเชื่อหลอกว่าจะให้ได้นั่นนี่ รวยๆๆ เพื่อให้ลงทุน หรือลงคะแนน สุดท้ายก็ไม่ตรงปก หลอกให้เลือก หรือหลอกแดรกเงินหมดบัญชีแหละครับ นักการเมืองโกง ข้าราชการฉ้อฉล นายทุนการเมืองทุจริต ควรได้รับโทษหนักสุด ตามความผิดที่ควรได้รับ ประหาsและจำคุกตลอดชีวิต โดยไม่มีการลดโทษใดๆ เมื่อนั้นแหละบ้านเมืองจึงจะเจริญ ประชาชนจึงจะได้รับผลประโยชน์ยั่งยืนที่ดีงามได้ เสพติดพรรคการเมืองนักการเมืองจนสิ้นคิดไม่รู้แยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ ก็เหมือนบัวใต้ตมที่โผล่ไม่พ้นน้ำแหละครับมนุษย์ฮะ หากปล่อยให้มีนักการเมืองเป็นอย่างที่มีที่เห็น ณ บัดนาว บ้านเมืองคงเละเทะและบรรลัย ไม่อาจพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าอยู่ดีกินดีได้เลย มีแต่จะถอยหลังลงคลองเน่าเหม็นเท่านั้น นักการเมืองทุกระดับควรต้องมีจริยธรรมที่สูง มีความเป็นจิตอาสาและเสียสละซื่อสัตย์สุจริตเท่านั้นจึงจะเป็นผลดีต่อประเทศชาติประชาชนแท้จริงฮะครับ คุณภาพประชากรที่รู้แยกแยะดีชั่วถูกผิดได้ บ่งบอกถึงความเจริญของชาติบ้านเมืองได้ดีครับฮะ สำนึกดี มีคุณธรรมจริยธรรมดี สังคมบ้านเมืองดี ฮะครับ มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 379 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อสาน รุ่นแรก วัดเขาค้างคาว จ.นครสวรรค์ ปี2540
    เหรียญหลวงพ่อสาน รุ่นแรก วัดเขาค้างคาว ต.หัวถนน อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ปี2540 //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง กันเสนียดจัญไร ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง เพื่อเพิ่มพูนเมตตามหานิยม

    ** วัดเขาค้างคาว ตั้งวัด เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๕ ตำบลหัวถนน อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อสาน รุ่นแรก วัดเขาค้างคาว จ.นครสวรรค์ ปี2540 เหรียญหลวงพ่อสาน รุ่นแรก วัดเขาค้างคาว ต.หัวถนน อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ปี2540 //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง กันเสนียดจัญไร ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง เพื่อเพิ่มพูนเมตตามหานิยม ** วัดเขาค้างคาว ตั้งวัด เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๕ ตำบลหัวถนน อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • 27-03-68/03 : หมี CNN / "เสือกเฉพาะเรื่อง" EP2

    "เปิดแผนสวรรค์ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่มรึงเองยังไม่กล้าจะคิด?" หลายคนไม่เชื่อ หลายคนหมดศรัทธากับแผ่นดินนี้ แต่ช้าก่อน โปรดฟัง และคิดตามนี้ โลกยุคเก่านำโดยสหรัฐและฝูงเหี้ย ใช้ปชต.ตอแหลบังคับให้ชาติประเทศที่ 3 หรือด้อยพัฒนา ต้องปฎิบัติตามเพื่อคำว่า "สากล" มาดูปีนี้ พศ.นี้ 2025 ใครนำโลก ใครคือขั้วใหม่ รัสเซีย จีน เค้าเป็นปชต.เต็มรูปแบบมั้ยล่ะ? ตอบว่าไม่ ทุกอย่างรัสเซียใช้สภาดูม่าออกกฎหมายบังคับทั้งประเทศ จีนใช้พรรคคอมมิวนิสต์จีน ปกครองแผ่นดินมายาวนาน หลังปฎิวัติใหญ่สำเร็จ ดังนั้น รูปแบบการปกครองจึงต้องเปลี่ยนไปตามเจ้ามือโลกใหม่ไงล่ะ ถามว่า หากมรึงเป็นปชต.จ๋า จะเอาแต่โหวดอย่างเดียว เค้าก็ไม่ว่ามรึงดอก ตราบใดที่มรึงยังไม่ขัดแข้งขัดขาเค้า หรือรับใช้เป็นขี้ข้าเหี้ยขั้วเก่าไม่เลิก เค้าก็ไม่เอามรึงไงล่ะ เพราะวัตถุดิบโลก อาหารโลก พลังงานโลก อยู่ในมือขั้วใหม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว ใครกล้างัดกันล่ะ ขนาดสหรัฐ และยุโรป ยังต้องกราบตรีน ดังนั้น ในอดีต สยามประเทศปกครองโดยกษัตริย์ จนมาถึงยุคปล้นพระราชอำนาจ พศ.2475 ครั้นไทยเราจะกลับไปใช้การปกครองเดิม ถามว่าเจ้ามือโลกใหม่จะมีปัญหามั้ย? ตอบว่าไม่ แถมเชิญให้ไว เข้าใจยัง? ทุกอย่างในโลก มันอยู่ที่เจ้ามือ ไอ้สัส! เมือไทยนำโด่ง เปลี่ยนการปกครอง กลับไปใช้ระบบกษัตริย์ ยุโรป และแอฟริกา อาจจะตามมาทันที เพราะเบื่อการเมืองบัดซบมาเต็มกลืนแล้ว ตอนนี้ ทราบหรือไม่ ยุโรปจะมีการนำระบบกษัตริย์กลับมาอีกครั้ง หลัง EU แตกจ๊ะ เพราะอะไร เพราะเจ้ามือเก่ามันไม่อยู่แล้วไง เจ้ามือเก่าไม่มีเงินจ่ายแล้ว ปชต.อยู่ได้เพราะเงินจ๊ะ เมื่อ BRICS กลายเป็นศูนย์กลางโลก ใยต้องกังวลว่าจะต้องเป็นการปกครองแบบใดอีก เพราะทุกชาติถูกปลดแอกจากเหี้ยหมดแล้ว มรึงยังจะอยากเป็นทาสไปตลอดชีวิตรึไง ทุกชาติจะหันกลับมาใช้การปกครองที่เหมาะกับตัวเอง โดยมีรัสเซีย จีน ให้การสนับสนุน สิ่งที่มรึงมองไม่เห็นแต่กูมองเห็น เป็นเพราะ "เจ้ามือ" ไงล่ะ หัวนำ ใครก็ตาม หัวเหี้ย โลกก็เหี้ย หัวดี โลกก็สดใส ยิ่งการเมืองปาหี่บ้านเรา ยิ่งมีกระแสโหยหา "มอบพระราชอำนาจคืนให้พ่อท่าน" อย่าเอาอีกเลย ไอ้นักการเมืองหัวกวยเนี่ย? เอามาให้แดร๊กแผ่นดิน กินหัวคิวไม่เลิกเหรอ? ส่วนอีควายไทยบัดซบ 24 ล้านตัว จะเงิบแดร๊ก เมื่อคนทั้งแผ่นดิน ยกมือกราบไหว้ "ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน" มรึงจะกลายเป็นส่วนเกินของสังคมทันที ปชต.จะหายสาปสูญไปตลอดกาล ทุกอย่างอยู่ที่เจ้ามือจ๊ะ ไม่ได้เปลี่ยนเพราะอยากจะเปลี่ยน แต่เปลี่ยนเพราะเหี้ยมันตาย และเจ้ามือใหม่ ไม่ต้องการปชต.ตอแหล ชัดน่ะ? ที่มาว่าทำไม มรึงถึงยังไม่เชื่อในสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ เพราะกูพูดในสิ่งที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า อันมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงโลกนั่นเอง โลกนำ สยามตาม เข้าใจตรงกันน่ะ? ส่วนเรื่องผนวกดินแดนเพิ่ม กูไม่ได้พูดเล่น เอามันส์ เมื่อไทยเป็นฮับ อยากได้เงินบาทไทยที่แข็งโป๊กมั้ย ที่นิยมใช้กันทั้งอาเซียน ก็ย้ายเข้ามาอยู่ร่วมกัน เริ่มแรก อาจจะเป็นรัฐอิสระ ที่แยกตัวออกมาจากพม่า และบางส่วนจากอีขะแมร์ บางส่วนจากลาว แต่ต่อไป หากไทยรุ่งเรืองจนขีดสุด ใครล่ะ ไม่อยากจะเป็นเมืองใต้อาณัติที่มีอนาคตสดใสรออยู่ มันจะมาเอง มรึงไม่ต้องไปไล่ล่าอะไรทั้งนั้น ของมันดี ใครก็อยากจะเข้า BRICS นี่แหละ จะทำให้ไทยรวมแผ่นดินพ่อเดิม ยุคพ่อร.5 กลับมา เหมือนที่ปูตินจะได้อดีตโซเวียตเดิมกลับมา เหมือนที่สีจิ้นผิงจะได้ไต้หวันกลับมาอีกครั้ง ทุกอย่างมันมาทิศทางเดียวกันหมด อะไรที่เป็นของเรา มันก็คือของเราอยู่วันยันค่ำ ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ 100 ปี ก็ตาม?

    หมี CNN(ความกังวลของมรึง มันอยู่ในอกพ่ออยู่หัว นับตั้งแต่รัชกาลที่ 3 มานานแล้ว พ่อสอนลูก ส่งไม้ต่อ แล้วเมื่อถึงเวลา ยุคศิวิไล ไทยเราจะได้ผนวกรวมแผ่นดินเดิมกลับคืนสู่ดินแดนสุวรรณภูมิอีกครั้ง วันนี้ มรึงยังไม่เชื่อ แต่อีกไม่นาน มรึงจะเริ่มเห็นแสงสีทองตามที่กูบอก ไม่มีผิด เพราะกูนั่งไทม์แมชชีนไปกับโดราเอมอน ไปดูมาแล้ว อะไรน่ะ โนบิตะได้แต่งงานกับชิซูกะหรือไม่ อ๋อ..เสร็จอีโดราเอม่อนจ๊ะ 555+)
    27 มีนาคม 68
    17.24 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    27-03-68/03 : หมี CNN / "เสือกเฉพาะเรื่อง" EP2 "เปิดแผนสวรรค์ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่มรึงเองยังไม่กล้าจะคิด?" หลายคนไม่เชื่อ หลายคนหมดศรัทธากับแผ่นดินนี้ แต่ช้าก่อน โปรดฟัง และคิดตามนี้ โลกยุคเก่านำโดยสหรัฐและฝูงเหี้ย ใช้ปชต.ตอแหลบังคับให้ชาติประเทศที่ 3 หรือด้อยพัฒนา ต้องปฎิบัติตามเพื่อคำว่า "สากล" มาดูปีนี้ พศ.นี้ 2025 ใครนำโลก ใครคือขั้วใหม่ รัสเซีย จีน เค้าเป็นปชต.เต็มรูปแบบมั้ยล่ะ? ตอบว่าไม่ ทุกอย่างรัสเซียใช้สภาดูม่าออกกฎหมายบังคับทั้งประเทศ จีนใช้พรรคคอมมิวนิสต์จีน ปกครองแผ่นดินมายาวนาน หลังปฎิวัติใหญ่สำเร็จ ดังนั้น รูปแบบการปกครองจึงต้องเปลี่ยนไปตามเจ้ามือโลกใหม่ไงล่ะ ถามว่า หากมรึงเป็นปชต.จ๋า จะเอาแต่โหวดอย่างเดียว เค้าก็ไม่ว่ามรึงดอก ตราบใดที่มรึงยังไม่ขัดแข้งขัดขาเค้า หรือรับใช้เป็นขี้ข้าเหี้ยขั้วเก่าไม่เลิก เค้าก็ไม่เอามรึงไงล่ะ เพราะวัตถุดิบโลก อาหารโลก พลังงานโลก อยู่ในมือขั้วใหม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว ใครกล้างัดกันล่ะ ขนาดสหรัฐ และยุโรป ยังต้องกราบตรีน ดังนั้น ในอดีต สยามประเทศปกครองโดยกษัตริย์ จนมาถึงยุคปล้นพระราชอำนาจ พศ.2475 ครั้นไทยเราจะกลับไปใช้การปกครองเดิม ถามว่าเจ้ามือโลกใหม่จะมีปัญหามั้ย? ตอบว่าไม่ แถมเชิญให้ไว เข้าใจยัง? ทุกอย่างในโลก มันอยู่ที่เจ้ามือ ไอ้สัส! เมือไทยนำโด่ง เปลี่ยนการปกครอง กลับไปใช้ระบบกษัตริย์ ยุโรป และแอฟริกา อาจจะตามมาทันที เพราะเบื่อการเมืองบัดซบมาเต็มกลืนแล้ว ตอนนี้ ทราบหรือไม่ ยุโรปจะมีการนำระบบกษัตริย์กลับมาอีกครั้ง หลัง EU แตกจ๊ะ เพราะอะไร เพราะเจ้ามือเก่ามันไม่อยู่แล้วไง เจ้ามือเก่าไม่มีเงินจ่ายแล้ว ปชต.อยู่ได้เพราะเงินจ๊ะ เมื่อ BRICS กลายเป็นศูนย์กลางโลก ใยต้องกังวลว่าจะต้องเป็นการปกครองแบบใดอีก เพราะทุกชาติถูกปลดแอกจากเหี้ยหมดแล้ว มรึงยังจะอยากเป็นทาสไปตลอดชีวิตรึไง ทุกชาติจะหันกลับมาใช้การปกครองที่เหมาะกับตัวเอง โดยมีรัสเซีย จีน ให้การสนับสนุน สิ่งที่มรึงมองไม่เห็นแต่กูมองเห็น เป็นเพราะ "เจ้ามือ" ไงล่ะ หัวนำ ใครก็ตาม หัวเหี้ย โลกก็เหี้ย หัวดี โลกก็สดใส ยิ่งการเมืองปาหี่บ้านเรา ยิ่งมีกระแสโหยหา "มอบพระราชอำนาจคืนให้พ่อท่าน" อย่าเอาอีกเลย ไอ้นักการเมืองหัวกวยเนี่ย? เอามาให้แดร๊กแผ่นดิน กินหัวคิวไม่เลิกเหรอ? ส่วนอีควายไทยบัดซบ 24 ล้านตัว จะเงิบแดร๊ก เมื่อคนทั้งแผ่นดิน ยกมือกราบไหว้ "ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน" มรึงจะกลายเป็นส่วนเกินของสังคมทันที ปชต.จะหายสาปสูญไปตลอดกาล ทุกอย่างอยู่ที่เจ้ามือจ๊ะ ไม่ได้เปลี่ยนเพราะอยากจะเปลี่ยน แต่เปลี่ยนเพราะเหี้ยมันตาย และเจ้ามือใหม่ ไม่ต้องการปชต.ตอแหล ชัดน่ะ? ที่มาว่าทำไม มรึงถึงยังไม่เชื่อในสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ เพราะกูพูดในสิ่งที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า อันมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงโลกนั่นเอง โลกนำ สยามตาม เข้าใจตรงกันน่ะ? ส่วนเรื่องผนวกดินแดนเพิ่ม กูไม่ได้พูดเล่น เอามันส์ เมื่อไทยเป็นฮับ อยากได้เงินบาทไทยที่แข็งโป๊กมั้ย ที่นิยมใช้กันทั้งอาเซียน ก็ย้ายเข้ามาอยู่ร่วมกัน เริ่มแรก อาจจะเป็นรัฐอิสระ ที่แยกตัวออกมาจากพม่า และบางส่วนจากอีขะแมร์ บางส่วนจากลาว แต่ต่อไป หากไทยรุ่งเรืองจนขีดสุด ใครล่ะ ไม่อยากจะเป็นเมืองใต้อาณัติที่มีอนาคตสดใสรออยู่ มันจะมาเอง มรึงไม่ต้องไปไล่ล่าอะไรทั้งนั้น ของมันดี ใครก็อยากจะเข้า BRICS นี่แหละ จะทำให้ไทยรวมแผ่นดินพ่อเดิม ยุคพ่อร.5 กลับมา เหมือนที่ปูตินจะได้อดีตโซเวียตเดิมกลับมา เหมือนที่สีจิ้นผิงจะได้ไต้หวันกลับมาอีกครั้ง ทุกอย่างมันมาทิศทางเดียวกันหมด อะไรที่เป็นของเรา มันก็คือของเราอยู่วันยันค่ำ ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ 100 ปี ก็ตาม? หมี CNN(ความกังวลของมรึง มันอยู่ในอกพ่ออยู่หัว นับตั้งแต่รัชกาลที่ 3 มานานแล้ว พ่อสอนลูก ส่งไม้ต่อ แล้วเมื่อถึงเวลา ยุคศิวิไล ไทยเราจะได้ผนวกรวมแผ่นดินเดิมกลับคืนสู่ดินแดนสุวรรณภูมิอีกครั้ง วันนี้ มรึงยังไม่เชื่อ แต่อีกไม่นาน มรึงจะเริ่มเห็นแสงสีทองตามที่กูบอก ไม่มีผิด เพราะกูนั่งไทม์แมชชีนไปกับโดราเอมอน ไปดูมาแล้ว อะไรน่ะ โนบิตะได้แต่งงานกับชิซูกะหรือไม่ อ๋อ..เสร็จอีโดราเอม่อนจ๊ะ 555+) 27 มีนาคม 68 17.24 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 731 มุมมอง 0 รีวิว
  • 26 มีนาคม 2568-ศ.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์บทวิเคราะห์น่าสนใจว่า"ทางสองแพร่งการเมืองไทย"หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 ตลอด 92 ปี เรามีรัฐประหารถึง 13 ครั้ง ถ้าเทียบกับรัฐประหารทั่วโลก พบว่า ในศตวรรษที่ยี่สิบ ไทยเป็นประเทศที่ทำรัฐประหารเป็นอันดับสองของโลก อันดับหนึ่งคือ อาร์เจนตินา และ กรีซ ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด อาร์เจนตินาและกรีซ ไม่ทำรัฐประหาร แต่ไทยยังอยู่ในอันดับต้นๆ นั่นคือ อันดับสามของโลกถ้าเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียน เราก็ยังเป็นประเทศที่ทำรัฐประหารมากที่สุดอยู่ดี นั่นคือ แพร่งแรก คือ แพร่งรัฐประหาร----------------- แต่ในอีกมุมหนึ่ง แม้ว่าประเทศในกลุ่มอาเซียนจะทำรัฐประหารน้อยกว่าไทยมาก หรือบางประเทศไม่มีรัฐประหารเลย แต่ปรากฏการณ์ที่น่าสังเกตคือ ประเทศในกลุ่มอาเซียนมีผู้นำที่อยู่ในอำนาจยาวนานมาก (ดูรูปแนบ: นับถึง ปี ค.ศ. 2021 และในกรณีของพม่า หากนับช่วงเวลาของนายพลเนวิน จะต้องบวกไปอีก 25 ปี)ในขณะที่ไทยเรา แม้ว่าจะมีรัฐประหารมากที่สุด แต่ผู้นำไทยกลับไม่ได้อยู่ในอำนาจยาวนานเหมือนประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีสองช่วง รวมแล้วประมาณ 15 ปีจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรีสามช่วง รวมแล้ว 11 ปี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีสองช่วง รวมแล้ว 9 ปีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี 8 ปี ผู้นำไทยที่อยู่ในอำนาจยาวนานที่สุด ก็ยังน้อยกว่าผู้นำที่อยู่ในอำนาจยาวนานในอาเซียน (ดูรูป)---------------------------- การเปลี่ยนรัฐบาลโดยการทำรัฐประหารย่อมไม่ใช่วิธีการที่จะสร้างการเมืองให้มั่นคงและมีเสถียรภาพในระยะยาวได้แต่การทำรัฐประหารทำให้ผู้นำไทยไม่สามารถอยู่ในอำนาจยาวนานเหมือนผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน------------ ผู้เขียนเชื่อว่า หลังจากรัฐประหาร 22 พฤษภาฯ 2557 ประเทศเราจะปลอดจากการทำรัฐประหารตลอดไปแต่ก็น่าคิดว่า การเมืองไทยอาจจะต้องเข้าสู่แพร่งที่สอง เหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ ?นั่นคือ มีผู้นำหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งที่เป็นรัฐบาลสืบเนื่องยาวนาน แต่ถ้าไทยไม่ต้องตกอยู่ในแพร่งที่สองดังกล่าว และพรรคการเมืองผลัดเปลี่ยนเป็นรัฐบาล ก็แปลว่า การเมืองไทยหลุดออกจากทางสองแพร่งที่ว่านี้ได้————-
    26 มีนาคม 2568-ศ.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์บทวิเคราะห์น่าสนใจว่า"ทางสองแพร่งการเมืองไทย"หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 ตลอด 92 ปี เรามีรัฐประหารถึง 13 ครั้ง ถ้าเทียบกับรัฐประหารทั่วโลก พบว่า ในศตวรรษที่ยี่สิบ ไทยเป็นประเทศที่ทำรัฐประหารเป็นอันดับสองของโลก อันดับหนึ่งคือ อาร์เจนตินา และ กรีซ ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด อาร์เจนตินาและกรีซ ไม่ทำรัฐประหาร แต่ไทยยังอยู่ในอันดับต้นๆ นั่นคือ อันดับสามของโลกถ้าเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียน เราก็ยังเป็นประเทศที่ทำรัฐประหารมากที่สุดอยู่ดี นั่นคือ แพร่งแรก คือ แพร่งรัฐประหาร----------------- แต่ในอีกมุมหนึ่ง แม้ว่าประเทศในกลุ่มอาเซียนจะทำรัฐประหารน้อยกว่าไทยมาก หรือบางประเทศไม่มีรัฐประหารเลย แต่ปรากฏการณ์ที่น่าสังเกตคือ ประเทศในกลุ่มอาเซียนมีผู้นำที่อยู่ในอำนาจยาวนานมาก (ดูรูปแนบ: นับถึง ปี ค.ศ. 2021 และในกรณีของพม่า หากนับช่วงเวลาของนายพลเนวิน จะต้องบวกไปอีก 25 ปี)ในขณะที่ไทยเรา แม้ว่าจะมีรัฐประหารมากที่สุด แต่ผู้นำไทยกลับไม่ได้อยู่ในอำนาจยาวนานเหมือนประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีสองช่วง รวมแล้วประมาณ 15 ปีจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรีสามช่วง รวมแล้ว 11 ปี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีสองช่วง รวมแล้ว 9 ปีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี 8 ปี ผู้นำไทยที่อยู่ในอำนาจยาวนานที่สุด ก็ยังน้อยกว่าผู้นำที่อยู่ในอำนาจยาวนานในอาเซียน (ดูรูป)---------------------------- การเปลี่ยนรัฐบาลโดยการทำรัฐประหารย่อมไม่ใช่วิธีการที่จะสร้างการเมืองให้มั่นคงและมีเสถียรภาพในระยะยาวได้แต่การทำรัฐประหารทำให้ผู้นำไทยไม่สามารถอยู่ในอำนาจยาวนานเหมือนผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน------------ ผู้เขียนเชื่อว่า หลังจากรัฐประหาร 22 พฤษภาฯ 2557 ประเทศเราจะปลอดจากการทำรัฐประหารตลอดไปแต่ก็น่าคิดว่า การเมืองไทยอาจจะต้องเข้าสู่แพร่งที่สอง เหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ ?นั่นคือ มีผู้นำหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งที่เป็นรัฐบาลสืบเนื่องยาวนาน แต่ถ้าไทยไม่ต้องตกอยู่ในแพร่งที่สองดังกล่าว และพรรคการเมืองผลัดเปลี่ยนเป็นรัฐบาล ก็แปลว่า การเมืองไทยหลุดออกจากทางสองแพร่งที่ว่านี้ได้————-
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 394 มุมมอง 0 รีวิว
  • 199 ปี ทัพลาวพ่าย ถอยร่นจากโคราช ย่าโมตั้งการ์ดสู้ เจ้าอนุวงศ์เผ่นกระเจิง

    ย้อนรอยศึกสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ไทย-ลาว กับเรื่องราววีรกรรมของท้าวสุรนารี และบทสรุปของการปะทะ ที่ยังคงถกเถียงถึงทุกวันนี้ ⚔️

    📝 ย้อนไปเมื่อ 199 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2369 เหตุการณ์ "สงครามปราบเจ้าอนุวงศ์" หรือที่รู้จักกันว่า "วีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์" นำโดย "ท้าวสุรนารี" หรือ "คุณหญิงโม" วีรสตรีแห่งเมืองโคราช ที่ถูกยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ และการเสียสละของหญิงไทย ในการปกป้องบ้านเมืองจากการรุกรานของกองทัพเวียงจันทน์ ภายใต้การนำของเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์นครเวียงจันทน์องค์สุดท้าย

    📜 แต่เบื้องหลังเรื่องเล่าแห่งวีรกรรมครั้งนี้ ยังมีหลายแง่มุมที่ซับซ้อน ทั้งในมิติประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการเมือง ทั้งในสายตาของไทยและลาว

    🌾 บริบททางประวัติศาสตร์ ชนวนเหตุความขัดแย้ง สถานการณ์บ้านเมืองก่อนสงคราม ช่วงปลายรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ราชอาณาจักรสยาม กำลังเผชิญปัญหาภายในหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความไม่สงบ ในหัวเมืองทางเหนือและอีสาน รวมถึงภัยคุกคามจากจักรวรรดิอังกฤษ ที่กำลังแผ่อิทธิพลเข้ามา ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    ในปี พ.ศ. 2367 รัชกาลที่ 2 สวรรคต กองทัพและระบบการปกครองสยาม กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านอำนาจ ไปสู่รัชสมัยของรัชกาลที่ 3 เจ้าอนุวงศ์ ซึ่งเคยมีความสัมพันธ์อันดี ในฐานะประเทศราช กลับรู้สึกไม่พอใจ ที่คำขอส่งตัวชาวลาวและเชลยศึก ที่ถูกกวาดต้อนในอดีตไม่เป็นผล จึงมองเห็นโอกาส ในการกอบกู้เอกราชของนครเวียงจันทน์

    เป้าหมายของเจ้าอนุวงศ์ มีพระราชปณิธานแน่วแน่ ที่จะปลดปล่อยนครเวียงจันทน์ จากการเป็นประเทศราชของสยาม โดยเชื่อว่าช่วงเปลี่ยนผ่านรัชสมัยนี้ สยามจะอ่อนแอลง นำมาสู่แผนการยกทัพมาตีเมืองนครราชสีมา และกรุงเทพมหานครในที่สุด 🚩

    ⚔️ ศึกทุ่งสัมฤทธิ์ บทบาทของท้าวสุรนารี กองทัพลาวยึดเมืองนครราชสีมา วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2369 เจ้าอนุวงศ์ยกทัพเข้ายึดเมืองนครราชสีมาโดยง่าย เนื่องจากพระยาปลัดทองคำ ผู้รักษาเมืองไม่อยู่ ชาวเมืองถูกกวาดต้อนเป็นเชลย รวมถึงคุณหญิงโม และราชบริพาร ถูกนำไปยังเวียงจันทน์ ผ่านเส้นทางเมืองพิมาย

    แผนปลดแอกของคุณหญิงโม วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2369 ระหว่างการเดินทาง คุณหญิงโมร่วมมือกับนางสาวบุญเหลือ และชาวบ้านคิดแผนปลดแอก โดยหลอกล่อให้ทหารลาวประมาท จนในคืนวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2369 ที่ทุ่งสัมฤทธิ์ แขวงพิมาย ชาวนครราชสีมาร่วมกันลุกฮือยึดอาวุธ ทำให้กองทัพลาวแตกพ่าย

    🔥 จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้น เมื่อนางสาวบุญเหลือ จุดไฟเผากองเกวียนที่บรรทุกดินปืน ส่งผลให้เกิดระเบิดครั้งใหญ่ ทำให้เพี้ยรามพิชัยและทหารลาว เสียชีวิตจำนวนมาก สถานที่นี้จึงถูกเรียกว่า "หนองหัวลาว" จวบจนปัจจุบัน

    🏹 เจ้าอนุวงศ์ถอยทัพ ผลกระทบในระดับภูมิภาค การถอยร่นของเจ้าอนุวงศ์ เมื่อกองทัพจากกรุงเทพฯ นำโดย กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพย์ เดินทัพถึงนครราชสีมา เจ้าอนุวงศ์จึงตัดสินใจ ถอนกำลังกลับนครเวียงจันทน์ ในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2369 เพราะเกรงว่าศึกนี้จะยืดเยื้อ จนไม่สามารถรับมือกับกองทัพสยาม ที่กำลังมุ่งหน้ามา

    ผลลัพธ์ของสงคราม ภายหลังการถอยทัพ เจ้าอนุวงศ์และราชวงศ์เวียงจันทน์ ไม่สามารถตั้งตัวรับมือศึกได้ กองทัพสยามตีเวียงจันทน์แตก และอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญ อาทิ พระบาง, พระแซกคำ, พระสุก, พระใส มายังกรุงเทพฯ 🏯

    นครเวียงจันทน์สิ้นสุดความเป็นอิสระ และถูกลดฐานะ เป็นหัวเมืองประเทศราชของสยาม

    🌸 ยกย่องวีรกรรมของท้าวสุรนารี ท้าวสุรนารีได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้คุณหญิงโมเป็นท้าวสุรนารี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2370 พร้อมพระราชทานเครื่องยศทองคำ 👑 ได้รับการยกย่องให้เป็นวีรสตรีปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน

    สร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ในปี พ.ศ. 2477 ชาวนครราชสีมาได้ร่วมใจกันสร้าง อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ที่ประตูชุมพล พร้อมนำอัฐิประดิษฐาน ที่ฐานอนุสาวรีย์ อนุสาวรีย์นี้กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจ ของคนโคราชจนถึงปัจจุบัน

    📚 ประเด็นข้อถกเถียงทางประวัติศาสตร์ มุมมองของนักประวัติศาสตร์ แม้ตำนานท้าวสุรนารี จะเป็นที่ยอมรับในไทย แต่เอกสารลาว กลับไม่มีบันทึกเรื่องทุ่งสัมฤทธิ์ หรือการกระทำของท้าวสุรนารี กับนางสาวบุญเหลือ ก่อนปี พ.ศ. 2475 นักวิชาการบางคนตั้งข้อสงสัยว่า วีรกรรมนี้อาจเกิดขึ้นจริง แต่ถูกขยายความ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองในภายหลัง

    วีรกรรมหรือภาพสร้าง? หนังสือการเมืองในอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดย "สายพิน แก้วงามประเสริฐ" ได้ตั้งคำถาม ต่อบทบาทของท้าวสุรนารี ว่าถูกนำมาใช้เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ชาติ และการเมืองในยุคสมัยหนึ่ง 🎭

    แต่ไม่ว่าอย่างไร ท้าวสุรนารีก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ และการเสียสละ

    🔮 เจ้าอนุวงศ์ในสายตาประวัติศาสตร์ลาว ในสายตาชาวลาว "เจ้าอนุวงศ์" ถือเป็นมหาวีรกษัตริย์ ผู้พยายามกอบกู้เอกราชจากสยาม แม้จะพ่ายแพ้ แต่พระองค์ยังได้รับการยกย่อง ในฐานะนักสู้เพื่อเสรีภาพของลาว 🇱🇦

    ทว่าการมองต่างมุมของทั้งสองฝ่าย แสดงถึงความซับซ้อนของประวัติศาสตร์ ที่ถูกเล่าและจดจำแตกต่างกัน

    🏛️ เหตุการณ์ในปี พ.ศ. 2369 ไม่ใช่เพียงแค่สงครามแย่งชิงอำนาจ แต่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ของภูมิภาคอีสานและลุ่มแม่น้ำโขง ประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนนี้สอนให้เราเข้าใจว่า "ผู้ชนะ" ไม่ได้เป็นเพียงคนที่รอด แต่เป็นผู้ที่เขียนเรื่องเล่า ในประวัติศาสตร์ด้วย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231634 มี.ค. 2568

    📱 #ท้าวสุรนารี #ย่าโมโคราช #วีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ #ประวัติศาสตร์ไทย #เจ้าอนุวงศ์ #สงครามไทยลาว #โคราชต้องรู้ #อนุสาวรีย์ย่าโม #เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ #199ปีทุ่งสัมฤทธิ์
    199 ปี ทัพลาวพ่าย ถอยร่นจากโคราช ย่าโมตั้งการ์ดสู้ เจ้าอนุวงศ์เผ่นกระเจิง ย้อนรอยศึกสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ไทย-ลาว กับเรื่องราววีรกรรมของท้าวสุรนารี และบทสรุปของการปะทะ ที่ยังคงถกเถียงถึงทุกวันนี้ ⚔️ 📝 ย้อนไปเมื่อ 199 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2369 เหตุการณ์ "สงครามปราบเจ้าอนุวงศ์" หรือที่รู้จักกันว่า "วีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์" นำโดย "ท้าวสุรนารี" หรือ "คุณหญิงโม" วีรสตรีแห่งเมืองโคราช ที่ถูกยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ และการเสียสละของหญิงไทย ในการปกป้องบ้านเมืองจากการรุกรานของกองทัพเวียงจันทน์ ภายใต้การนำของเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์นครเวียงจันทน์องค์สุดท้าย 📜 แต่เบื้องหลังเรื่องเล่าแห่งวีรกรรมครั้งนี้ ยังมีหลายแง่มุมที่ซับซ้อน ทั้งในมิติประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการเมือง ทั้งในสายตาของไทยและลาว 🌾 บริบททางประวัติศาสตร์ ชนวนเหตุความขัดแย้ง สถานการณ์บ้านเมืองก่อนสงคราม ช่วงปลายรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ราชอาณาจักรสยาม กำลังเผชิญปัญหาภายในหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความไม่สงบ ในหัวเมืองทางเหนือและอีสาน รวมถึงภัยคุกคามจากจักรวรรดิอังกฤษ ที่กำลังแผ่อิทธิพลเข้ามา ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี พ.ศ. 2367 รัชกาลที่ 2 สวรรคต กองทัพและระบบการปกครองสยาม กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านอำนาจ ไปสู่รัชสมัยของรัชกาลที่ 3 เจ้าอนุวงศ์ ซึ่งเคยมีความสัมพันธ์อันดี ในฐานะประเทศราช กลับรู้สึกไม่พอใจ ที่คำขอส่งตัวชาวลาวและเชลยศึก ที่ถูกกวาดต้อนในอดีตไม่เป็นผล จึงมองเห็นโอกาส ในการกอบกู้เอกราชของนครเวียงจันทน์ เป้าหมายของเจ้าอนุวงศ์ มีพระราชปณิธานแน่วแน่ ที่จะปลดปล่อยนครเวียงจันทน์ จากการเป็นประเทศราชของสยาม โดยเชื่อว่าช่วงเปลี่ยนผ่านรัชสมัยนี้ สยามจะอ่อนแอลง นำมาสู่แผนการยกทัพมาตีเมืองนครราชสีมา และกรุงเทพมหานครในที่สุด 🚩 ⚔️ ศึกทุ่งสัมฤทธิ์ บทบาทของท้าวสุรนารี กองทัพลาวยึดเมืองนครราชสีมา วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2369 เจ้าอนุวงศ์ยกทัพเข้ายึดเมืองนครราชสีมาโดยง่าย เนื่องจากพระยาปลัดทองคำ ผู้รักษาเมืองไม่อยู่ ชาวเมืองถูกกวาดต้อนเป็นเชลย รวมถึงคุณหญิงโม และราชบริพาร ถูกนำไปยังเวียงจันทน์ ผ่านเส้นทางเมืองพิมาย แผนปลดแอกของคุณหญิงโม วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2369 ระหว่างการเดินทาง คุณหญิงโมร่วมมือกับนางสาวบุญเหลือ และชาวบ้านคิดแผนปลดแอก โดยหลอกล่อให้ทหารลาวประมาท จนในคืนวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2369 ที่ทุ่งสัมฤทธิ์ แขวงพิมาย ชาวนครราชสีมาร่วมกันลุกฮือยึดอาวุธ ทำให้กองทัพลาวแตกพ่าย 🔥 จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้น เมื่อนางสาวบุญเหลือ จุดไฟเผากองเกวียนที่บรรทุกดินปืน ส่งผลให้เกิดระเบิดครั้งใหญ่ ทำให้เพี้ยรามพิชัยและทหารลาว เสียชีวิตจำนวนมาก สถานที่นี้จึงถูกเรียกว่า "หนองหัวลาว" จวบจนปัจจุบัน 🏹 เจ้าอนุวงศ์ถอยทัพ ผลกระทบในระดับภูมิภาค การถอยร่นของเจ้าอนุวงศ์ เมื่อกองทัพจากกรุงเทพฯ นำโดย กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพย์ เดินทัพถึงนครราชสีมา เจ้าอนุวงศ์จึงตัดสินใจ ถอนกำลังกลับนครเวียงจันทน์ ในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2369 เพราะเกรงว่าศึกนี้จะยืดเยื้อ จนไม่สามารถรับมือกับกองทัพสยาม ที่กำลังมุ่งหน้ามา ผลลัพธ์ของสงคราม ภายหลังการถอยทัพ เจ้าอนุวงศ์และราชวงศ์เวียงจันทน์ ไม่สามารถตั้งตัวรับมือศึกได้ กองทัพสยามตีเวียงจันทน์แตก และอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญ อาทิ พระบาง, พระแซกคำ, พระสุก, พระใส มายังกรุงเทพฯ 🏯 นครเวียงจันทน์สิ้นสุดความเป็นอิสระ และถูกลดฐานะ เป็นหัวเมืองประเทศราชของสยาม 🌸 ยกย่องวีรกรรมของท้าวสุรนารี ท้าวสุรนารีได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้คุณหญิงโมเป็นท้าวสุรนารี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2370 พร้อมพระราชทานเครื่องยศทองคำ 👑 ได้รับการยกย่องให้เป็นวีรสตรีปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน สร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ในปี พ.ศ. 2477 ชาวนครราชสีมาได้ร่วมใจกันสร้าง อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ที่ประตูชุมพล พร้อมนำอัฐิประดิษฐาน ที่ฐานอนุสาวรีย์ อนุสาวรีย์นี้กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจ ของคนโคราชจนถึงปัจจุบัน 📚 ประเด็นข้อถกเถียงทางประวัติศาสตร์ มุมมองของนักประวัติศาสตร์ แม้ตำนานท้าวสุรนารี จะเป็นที่ยอมรับในไทย แต่เอกสารลาว กลับไม่มีบันทึกเรื่องทุ่งสัมฤทธิ์ หรือการกระทำของท้าวสุรนารี กับนางสาวบุญเหลือ ก่อนปี พ.ศ. 2475 นักวิชาการบางคนตั้งข้อสงสัยว่า วีรกรรมนี้อาจเกิดขึ้นจริง แต่ถูกขยายความ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองในภายหลัง วีรกรรมหรือภาพสร้าง? หนังสือการเมืองในอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดย "สายพิน แก้วงามประเสริฐ" ได้ตั้งคำถาม ต่อบทบาทของท้าวสุรนารี ว่าถูกนำมาใช้เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ชาติ และการเมืองในยุคสมัยหนึ่ง 🎭 แต่ไม่ว่าอย่างไร ท้าวสุรนารีก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ และการเสียสละ 🔮 เจ้าอนุวงศ์ในสายตาประวัติศาสตร์ลาว ในสายตาชาวลาว "เจ้าอนุวงศ์" ถือเป็นมหาวีรกษัตริย์ ผู้พยายามกอบกู้เอกราชจากสยาม แม้จะพ่ายแพ้ แต่พระองค์ยังได้รับการยกย่อง ในฐานะนักสู้เพื่อเสรีภาพของลาว 🇱🇦 ทว่าการมองต่างมุมของทั้งสองฝ่าย แสดงถึงความซับซ้อนของประวัติศาสตร์ ที่ถูกเล่าและจดจำแตกต่างกัน 🏛️ เหตุการณ์ในปี พ.ศ. 2369 ไม่ใช่เพียงแค่สงครามแย่งชิงอำนาจ แต่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ของภูมิภาคอีสานและลุ่มแม่น้ำโขง ประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนนี้สอนให้เราเข้าใจว่า "ผู้ชนะ" ไม่ได้เป็นเพียงคนที่รอด แต่เป็นผู้ที่เขียนเรื่องเล่า ในประวัติศาสตร์ด้วย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231634 มี.ค. 2568 📱 #ท้าวสุรนารี #ย่าโมโคราช #วีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ #ประวัติศาสตร์ไทย #เจ้าอนุวงศ์ #สงครามไทยลาว #โคราชต้องรู้ #อนุสาวรีย์ย่าโม #เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ #199ปีทุ่งสัมฤทธิ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1130 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17 กุมภาพันธ์ พ ศ 2498
    วันประหารชีวิต สามนักโทษกรณีสวรรคต

    หลังจากศึกษาค้นคว้าข้อมูลแล้ว เห็นว่า

    “มีผู้จงใจทั้งในอดีตและปัจจุบัน พยายามสื่อสารให้เข้าใจว่า รัชกาลที่เก้าเป็นผู้ปฏิเสธการขอพระราชทานอภัยลดโทษประหารชีวิตของสามนักโทษคดีสวรรคตรัชกาลที่ 8”

    ————

    "ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของนักโทษคดีสวรรคตรัชกาลที่แปด"


    ผู้เขียนขอนำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของนักโทษคดีสวรรคตรัชกาลที่แปด

    เพราะมีสื่อต่างๆที่นำเสนอข้อมูลบางตอนที่ “อาจจะ” ทำให้ผู้รับสารเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน หากไม่อ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วน

    สื่อต่างๆที่ว่านี้ ได้แก่

    1. THE STANDARD TEAM เรื่อง “17 กุมภาพันธ์ 2498 – ประหารชีวิต ชิต, บุศย์, เฉลียว จำเลยคดีสวรรคตในหลวง ร.8” เผยแพร่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 มีข้อความดังนี้:

    “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2478 ขณะมีพระชนมพรรษาเพียง 9 พรรษา พระองค์สวรรคตด้วยพระแสงปืนอย่างมีเงื่อนงำเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2489

    ต่อมาศาลฎีกาได้พิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยทั้ง 3 คน คือ เฉลียว ปทุมรส, ชิต สิงหเสนี และ บุศย์ ปัทมศริน อ้างอิงจากแถลงการณ์กระทรวงมหาดไทย ดังนี้

    แถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทย ตามที่ศาลฎีกาได้พิพากษาลงโทษประหารชีวิตนายเฉลียว ปทุมรส นายชิต สิงหเสนีย์ และนายบุศย์ ปัทมะศิรินทร์ จำเลยในคดีต้องหาว่าประทุษร้ายต่อองค์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล และจำเลยทั้งสามได้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษนั้น

    บัดนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ยกฎีกาของจำเลยทั้งสามเสีย

    ทางราชทัณฑ์จึงได้นำตัวจำเลยทั้งสาม ไปประหารชีวิตตามคำพิพากษา ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2498 เวลา 05.00 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง ต่อหน้าคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวางเป็นประธานกรรมการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายแพทย์เชื้อ พัฒนเจริญ และนายหลอม บุญอ่อน รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าแผนกควบคุมเรือนจำกลางบางขวางเป็นกรรมการ ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยเป็นการเสร็จไปแล้ว จึงขอแถลงมาให้ทราบทั่วกันกระทรวงมหาดไทย วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2498”

    ................

    2. สถาบันปรีดี พนมยงค์ เรื่อง “สามจำเลยผู้บริสุทธิ์” โดย สุพจน์ ด่านตระกูล เผยแพร่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 มีข้อความบางตอนดังนี้

    “หลังจากที่ศาลฎีกาได้พิพากษาลงโทษให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสามคน เมื่อ 12 ตุลาคม 2497 แล้ว ต่อมาในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2497 จำเลยทั้งสามได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ฎีกาดังกล่าวได้ตกไปในที่สุด

    เกี่ยวกับการยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของจำเลยทั้งสามนั้น พล.ต. อนันต์ พิบูลสงคราม (บุตรชายของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม) ได้เขียนไว้ในหนังสือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม พิมพ์ที่โรงพิมพ์ศูนย์การพิมพ์ เมื่อปี พ.ศ. 2519 มีความตอนหนึ่งเป็นบทสนทนาระหว่าง พล.ต. อนันต์ พิบูลสงคราม (ผู้เขียน) กับ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งขณะนั้นลี้ภัยการเมืองอยู่ในประเทศญี่ปุ่นว่าดังนี้

    ‘...ข้าพเจ้าจึงระงับใจไม่ได้ที่ต้องเรียนถาม จอมพล ป. พิบูลสงคราม วันหนึ่งที่ประเทศญี่ปุ่นว่า ในฐานะที่เวลานั้น (พ.ศ. 2498-ผู้เขียน) ท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ เหตุใดท่านจึงไม่ขอพระราชทานอภัยโทษให้จำเลยสามคนที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต

    ท่านตอบข้าพเจ้าทันทีอย่างหนักแน่นว่า พ่อได้ขอพระราชทานอภัยโทษขึ้นไปถึงสามครั้ง ได้พยายามทำหน้าที่ของพ่อจนถึงที่สุดแล้ว

    ในอดีตที่ผ่านมา มีน้อยครั้งที่จอมพล ป. พิบูลสงคราม ต้องเสียใจบ้างเมื่อทำอะไรไม่สำเร็จ

    แต่ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นครั้งใดที่ทนจะเสียใจหนักยิ่งไปกว่าที่ข้าพเจ้ากำลังเห็นท่านครั้งนั้น

    ขณะเมื่อได้ตอบคำถามของข้าพเจ้าจบ ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมและสนเท่ห์ใจไม่เปลี่ยนแปลง’ (จากหนังสือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม หน้า 647)

    และก็สอดคล้องกับหนังสือแจกงานศพของนายชิต สิงหเสนี ที่บุตรสาวของท่านได้บันทึกไว้ในหนังสือนั้น มีความว่า ‘ภายหลังที่พ่อถูกประหารชีวิตแล้ว จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ส่งนายฉาย วิโรจน์ศิริ เลขานุการส่วนตัวของท่านไปหาพวกเรา แจ้งให้ทราบว่ารัฐบาลยินดีจะให้การอุปการะความเป็นอยู่การศึกษาแก่พวกเราทุกประการ พวกเราปรึกษาหารือกัน และในที่สุดตกลงรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล เพื่อเป็นเครื่องยืนยันในความบริสุทธิ์ของพ่อ รัฐบาลจึงให้ความช่วยเหลือแก่พวกเรา ความช่วยเหลือนี้เพิ่งมายกเลิกในสมัยรัฐบาล จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์’”

    ..................

    3. “ปัจฉิมวาจาของ ๓ นักโทษประหาร” มีข้อความบางตอนดังนี้:

    “หลังจากที่ศาลฎีกาได้พิพากษาลงโทษให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง ๓ คน เมื่อ ๑๒ ตุลาคม ๒๔๙๗ แล้วต่อมาในวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๔๙๗ จำเลยทั้ง ๓ ได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ฎีกาดังกล่าวได้ตกไปในที่สุด

    เกี่ยวกับการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของจำเลยทั้ง ๓ นั้น พล.ต. อนันต์ พิบูลสงคราม (บุตรชายของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม) ได้เขียนไว้ในหนังสือ "จอมพล ป. พิบูลสงคราม" พิมพ์ที่โรงพิมพ์ศูนย์การพิมพ์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๙ มีความตอนหนึ่งเป็นบทสนทนาระหว่าง พล.ต. อนันต์ พิบูลสงคราม (ผู้เขียน) กับจอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งขณะนั้นลี้ภัยการเมืองอยู่ในประเทศญี่ปุ่นว่าดังนี้

    ‘...ข้าพเจ้าจึงระงับใจไม่ได้ที่ต้องเรียนถามจอมพล ป. พิบูลสงคราม วันหนึ่งที่ประเทศญี่ปุ่นว่า ในฐานะที่เวลานั้น (พ.ศ. ๒๔๙๘-ผู้เขียน) ท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ เหตุใดท่านจึงไม่ขอพระราชทานอภัยโทษให้จำเลยสามคนที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต ท่านตอบข้าพเจ้าทันทีอย่างหนักแน่นว่า พ่อได้ขอพระราชทานอภัยโทษขึ้นไปถึงสามครั้ง ได้พยายามทำหน้าที่ของพ่อจนถึงที่สุดแล้ว ในอดีตที่ผ่านมา มีน้อยครั้งที่จอมพล ป. พิบูลสงคราม ต้องเสียใจบ้างเมื่อทำอะไรไม่สำเร็จ แต่ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นครั้งใดที่ท่านจะเสียใจหนักยิ่งไปกว่าที่ข้าพเจ้ากำลังเห็นท่านครั้งนั้น ขณะเมื่อได้ตอบคำถามของข้าพเจ้าจบ ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมและสนเท่ห์ใจไม่เปลี่ยนแปลง’ (จากหนังสือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม หน้า ๖๘๗)

    และก็สอดคล้องกับหนังสือแจกงานศพของนายชิต สิงหเสนี ที่บุตรสาวของท่านได้บันทึกไว้ในหนังสือนั้น มีความว่า ‘ภายหลังที่พ่อถูกประหารชีวิตแล้ว จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ส่งนายฉาย วิโรจน์ศิริ เลขานุการส่วนตัวของท่านไปหาพวกเรา แจ้งให้ทราบว่ารัฐบาลยินดีจะให้การอุปการะความเป็นอยู่การศึกษาแก่พวกเราทุกประการ พวกเราปรึกษาหารือกัน และในที่สุด ตกลงรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล เพื่อเป็นเครื่องยืนยันในความบริสุทธิ์ของพ่อ รัฐบาลจึงให้ความช่วยเหลือแก่พวกเรา ความช่วยเหลือนี้พึ่งมายกเลิกในสมัยรัฐบาล จอมพล สฤษดิ์ ธนรัชต์’”

    ----------

    ผู้เขียนได้สืบค้นเงื่อนไขการขอพระราชทานอภัยโทษในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ พบว่า บทบัญญัติแห่งธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.ศ. 2475 ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 นั้น ทำให้พระราชฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ต้องถูกลิดรอนลงจากเดิม

    จากการใช้พระราชอำนาจที่เด็ดขาดและเป็นอิสระมาสู่การใช้พระราชอำนาจตามขอบเขตในรัฐธรรมนูญแล้ว

    ยังทำให้แนวความคิดและรูปแบบของการใช้พระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย

    ต่อมาเมื่อมีการประกาศใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเมื่อพุทธศักราช 2477 โดยได้กำหนดรูปแบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการในการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษไว้ในภาค 7 ว่าด้วยอภัยโทษเปลี่ยนโทษหนักเป็นเบา และลดโทษมาตรา 259 ถึงมาตรา 267 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้ถวายความเห็นและคำแนะนำเท่านั้น

    ซึ่งพระมหากษัตริย์/ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มักลงมติให้อภัยโทษหรือระงับฎีกาตามความเห็นของคณะรัฐมนตรีเสมอ

    แม้ว่าในบางกรณีความเห็นของกระทรวงมหาดไทยขัดแย้งกับความเห็นของคณะรัฐมนตรีก็ตาม (สรุปและเรียบเรียงจากหัวข้อ พระราชทานอภัยโทษ ฐานข้อมูล สถาบันพระปกเกล้า)

    ………

    ในการขอพระราชทานอภัยลดโทษของนักโทษคดีสวรรคตรัชกาลที่แปด ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น คือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย

    —————-

    ผู้เขียนได้ไปสืบค้นรายงานการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ ๘๕/๒๔๙๗ วันพุธที่ ๘ ธันวาคม ๒๔๙๗ มีข้อความทั้งหมดที่เกี่ยวกับกรณีการขอพระราชทานอภัยลดโทษของนักโทษคดีสวรรคตรัชกาลที่แปด ดังนี้:


    “๙. เรื่อง นักโทษเด็ดขาดชาย เฉลียว ปทุมรส นักโทษเด็ดขาดชาย ชิต สิงหเสนี และนักโทษเด็ดขาดชาย บุศย์ ปัทมศริน ขอพระราชทานอภัยลดโทษ (กระทรวงมหาดไทยนำส่งฎีกาพร้อมด้วยเอกสารการสอบสวนของนักโทษเด็ดขาดชาย เฉลียว ปทุมรส นักโทษเด็ดขาดชาย ชิต สิงหเสนี และนักโทษเด็ดขาดชาย บุศย์ ปัทมศริน เรือนจำกลาง บางขวาง ต้องโทษฐานสมคบกันกระทำการประทุษร้ายต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๘ (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล) กำหนดโทษประหารชีวิต ขอพระราชทานชีวิตให้คงไว้ มา

    น.ช. เฉลียว ฯ อ้างว่า ตนยังมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดไป ไม่เคยคิดที่จะหมิ่มพระบรมเดชานุภาพอย่างใด ขณะนี้ครอบครัวขาดผู้อุปการะ

    น.ช. ชิต ฯ อ้างว่า บรรพบุรุษในตระกูลของตน ซึ่งมีเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์) เป็นต้นตระกูล ตลอดจนบิดา ได้เคยรับราชการสนองพระเดชพระคุณมาด้วยความจงรักภักดี ซื่อสัตย์สุจริต

    ส่วน น.ช. บุศย์ ฯ อ้างว่า ชีวิตของตนได้เติบโตขึ้นมาก็โดยความอุปการะในพระบรมราชตระกูลที่ได้ทรงชุบเลี้ยง การเข้ารับราชการจึงเป็นไปด้วยความจงรักภักดี

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (จอมพล ป พิบูลสงคราม) ได้สอบสวนพิจารณาแล้ว ไม่เห็นควรขอพระราชทานอภัยลดโทษได้ให้โดยอ้างว่า เรื่องนี้เป็นการประทุษร้ายแก่บุคคลสำคัญของประเทศตามหลักการของกระทรวงมหาดไทย

    ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบด้วยแล้วนั้น จะไม่ขอพระราชทานอภัยโทษให้ ควรยกฎีกาเสีย)

    มติ - เห็นชอบด้วยตามกระทรวงมหาดไทย ให้นำความกราบบังคมทูลได้.”

    (นอกจาก จอมพล ป จะเป็น รมต มหาดไทยแล้ว ยังเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย)

    ------------

    จากข้อความในรายงานการประชุมคณะรัฐมนตรีข้างต้นและจากการเปลี่ยนแปลงพระราชฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ที่ถูกลิดรอนลงจากเดิมหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง

    พระมหากษัตริย์จึงไม่มีพระราชอำนาจที่เด็ดขาดและเป็นอิสระ

    แต่ทรงใช้พระราชอำนาจตามขอบเขตในรัฐธรรมนูญ

    ซึ่งพระมหากษัตริย์/ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มักลงมติให้อภัยโทษหรือระงับฎีกาตามความเห็นของคณะรัฐมนตรีเสมอ

    ขณะเดียวกัน จากคำบอกเล่าของ พล.ต. อนันต์ พิบูลสงคราม ที่กล่าวถึง จอมพล ป. พิบูลสงคราม ผู้เป็นบิดาว่า “…ท่านตอบข้าพเจ้าทันทีอย่างหนักแน่นว่า พ่อได้ขอพระราชทานอภัยโทษขึ้นไปถึงสามครั้ง…”

    ……….

    ผู้เขียนใคร่เรียนขอว่า ถ้ามีใครมีหลักฐานการขอพระราชอภัยโทษอีกสองครั้ง โปรดกรุณานำมาเผยแพร่ด้วย

    จักเป็นประโยชน์ต่อวงการวิชาการประวัติศาสตร์ รัฐศาสตร์และต่อสาธารณชน

    ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

    ป ล หลังจากศึกษาค้นคว้าข้อมูลแล้ว เห็นว่า มีผู้จงใจทั้งในอดีตและปัจจุบัน ให้รัชกาลที่เก้าเป็นผู้รับผิดชอบการปฏิเสธการขอพระราชทานอภัยลดโทษประหารชีวิตของสามนักโทษ

    ที่มา : เฟซบุ๊ก Chaiyan Chaiyaporn
    ของ ศาสตราจารย์ ไชยันต์ ไชยพร
    17 กุมภาพันธ์ พ ศ 2498 วันประหารชีวิต สามนักโทษกรณีสวรรคต หลังจากศึกษาค้นคว้าข้อมูลแล้ว เห็นว่า “มีผู้จงใจทั้งในอดีตและปัจจุบัน พยายามสื่อสารให้เข้าใจว่า รัชกาลที่เก้าเป็นผู้ปฏิเสธการขอพระราชทานอภัยลดโทษประหารชีวิตของสามนักโทษคดีสวรรคตรัชกาลที่ 8” ———— "ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของนักโทษคดีสวรรคตรัชกาลที่แปด" ผู้เขียนขอนำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของนักโทษคดีสวรรคตรัชกาลที่แปด เพราะมีสื่อต่างๆที่นำเสนอข้อมูลบางตอนที่ “อาจจะ” ทำให้ผู้รับสารเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน หากไม่อ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วน สื่อต่างๆที่ว่านี้ ได้แก่ 1. THE STANDARD TEAM เรื่อง “17 กุมภาพันธ์ 2498 – ประหารชีวิต ชิต, บุศย์, เฉลียว จำเลยคดีสวรรคตในหลวง ร.8” เผยแพร่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 มีข้อความดังนี้: “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2478 ขณะมีพระชนมพรรษาเพียง 9 พรรษา พระองค์สวรรคตด้วยพระแสงปืนอย่างมีเงื่อนงำเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2489 ต่อมาศาลฎีกาได้พิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยทั้ง 3 คน คือ เฉลียว ปทุมรส, ชิต สิงหเสนี และ บุศย์ ปัทมศริน อ้างอิงจากแถลงการณ์กระทรวงมหาดไทย ดังนี้ แถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทย ตามที่ศาลฎีกาได้พิพากษาลงโทษประหารชีวิตนายเฉลียว ปทุมรส นายชิต สิงหเสนีย์ และนายบุศย์ ปัทมะศิรินทร์ จำเลยในคดีต้องหาว่าประทุษร้ายต่อองค์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล และจำเลยทั้งสามได้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษนั้น บัดนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ยกฎีกาของจำเลยทั้งสามเสีย ทางราชทัณฑ์จึงได้นำตัวจำเลยทั้งสาม ไปประหารชีวิตตามคำพิพากษา ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2498 เวลา 05.00 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง ต่อหน้าคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวางเป็นประธานกรรมการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายแพทย์เชื้อ พัฒนเจริญ และนายหลอม บุญอ่อน รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าแผนกควบคุมเรือนจำกลางบางขวางเป็นกรรมการ ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยเป็นการเสร็จไปแล้ว จึงขอแถลงมาให้ทราบทั่วกันกระทรวงมหาดไทย วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2498” ................ 2. สถาบันปรีดี พนมยงค์ เรื่อง “สามจำเลยผู้บริสุทธิ์” โดย สุพจน์ ด่านตระกูล เผยแพร่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 มีข้อความบางตอนดังนี้ “หลังจากที่ศาลฎีกาได้พิพากษาลงโทษให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสามคน เมื่อ 12 ตุลาคม 2497 แล้ว ต่อมาในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2497 จำเลยทั้งสามได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ฎีกาดังกล่าวได้ตกไปในที่สุด เกี่ยวกับการยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของจำเลยทั้งสามนั้น พล.ต. อนันต์ พิบูลสงคราม (บุตรชายของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม) ได้เขียนไว้ในหนังสือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม พิมพ์ที่โรงพิมพ์ศูนย์การพิมพ์ เมื่อปี พ.ศ. 2519 มีความตอนหนึ่งเป็นบทสนทนาระหว่าง พล.ต. อนันต์ พิบูลสงคราม (ผู้เขียน) กับ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งขณะนั้นลี้ภัยการเมืองอยู่ในประเทศญี่ปุ่นว่าดังนี้ ‘...ข้าพเจ้าจึงระงับใจไม่ได้ที่ต้องเรียนถาม จอมพล ป. พิบูลสงคราม วันหนึ่งที่ประเทศญี่ปุ่นว่า ในฐานะที่เวลานั้น (พ.ศ. 2498-ผู้เขียน) ท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ เหตุใดท่านจึงไม่ขอพระราชทานอภัยโทษให้จำเลยสามคนที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต ท่านตอบข้าพเจ้าทันทีอย่างหนักแน่นว่า พ่อได้ขอพระราชทานอภัยโทษขึ้นไปถึงสามครั้ง ได้พยายามทำหน้าที่ของพ่อจนถึงที่สุดแล้ว ในอดีตที่ผ่านมา มีน้อยครั้งที่จอมพล ป. พิบูลสงคราม ต้องเสียใจบ้างเมื่อทำอะไรไม่สำเร็จ แต่ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นครั้งใดที่ทนจะเสียใจหนักยิ่งไปกว่าที่ข้าพเจ้ากำลังเห็นท่านครั้งนั้น ขณะเมื่อได้ตอบคำถามของข้าพเจ้าจบ ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมและสนเท่ห์ใจไม่เปลี่ยนแปลง’ (จากหนังสือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม หน้า 647) และก็สอดคล้องกับหนังสือแจกงานศพของนายชิต สิงหเสนี ที่บุตรสาวของท่านได้บันทึกไว้ในหนังสือนั้น มีความว่า ‘ภายหลังที่พ่อถูกประหารชีวิตแล้ว จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ส่งนายฉาย วิโรจน์ศิริ เลขานุการส่วนตัวของท่านไปหาพวกเรา แจ้งให้ทราบว่ารัฐบาลยินดีจะให้การอุปการะความเป็นอยู่การศึกษาแก่พวกเราทุกประการ พวกเราปรึกษาหารือกัน และในที่สุดตกลงรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล เพื่อเป็นเครื่องยืนยันในความบริสุทธิ์ของพ่อ รัฐบาลจึงให้ความช่วยเหลือแก่พวกเรา ความช่วยเหลือนี้เพิ่งมายกเลิกในสมัยรัฐบาล จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์’” .................. 3. “ปัจฉิมวาจาของ ๓ นักโทษประหาร” มีข้อความบางตอนดังนี้: “หลังจากที่ศาลฎีกาได้พิพากษาลงโทษให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง ๓ คน เมื่อ ๑๒ ตุลาคม ๒๔๙๗ แล้วต่อมาในวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๔๙๗ จำเลยทั้ง ๓ ได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ฎีกาดังกล่าวได้ตกไปในที่สุด เกี่ยวกับการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของจำเลยทั้ง ๓ นั้น พล.ต. อนันต์ พิบูลสงคราม (บุตรชายของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม) ได้เขียนไว้ในหนังสือ "จอมพล ป. พิบูลสงคราม" พิมพ์ที่โรงพิมพ์ศูนย์การพิมพ์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๙ มีความตอนหนึ่งเป็นบทสนทนาระหว่าง พล.ต. อนันต์ พิบูลสงคราม (ผู้เขียน) กับจอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งขณะนั้นลี้ภัยการเมืองอยู่ในประเทศญี่ปุ่นว่าดังนี้ ‘...ข้าพเจ้าจึงระงับใจไม่ได้ที่ต้องเรียนถามจอมพล ป. พิบูลสงคราม วันหนึ่งที่ประเทศญี่ปุ่นว่า ในฐานะที่เวลานั้น (พ.ศ. ๒๔๙๘-ผู้เขียน) ท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ เหตุใดท่านจึงไม่ขอพระราชทานอภัยโทษให้จำเลยสามคนที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต ท่านตอบข้าพเจ้าทันทีอย่างหนักแน่นว่า พ่อได้ขอพระราชทานอภัยโทษขึ้นไปถึงสามครั้ง ได้พยายามทำหน้าที่ของพ่อจนถึงที่สุดแล้ว ในอดีตที่ผ่านมา มีน้อยครั้งที่จอมพล ป. พิบูลสงคราม ต้องเสียใจบ้างเมื่อทำอะไรไม่สำเร็จ แต่ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นครั้งใดที่ท่านจะเสียใจหนักยิ่งไปกว่าที่ข้าพเจ้ากำลังเห็นท่านครั้งนั้น ขณะเมื่อได้ตอบคำถามของข้าพเจ้าจบ ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมและสนเท่ห์ใจไม่เปลี่ยนแปลง’ (จากหนังสือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม หน้า ๖๘๗) และก็สอดคล้องกับหนังสือแจกงานศพของนายชิต สิงหเสนี ที่บุตรสาวของท่านได้บันทึกไว้ในหนังสือนั้น มีความว่า ‘ภายหลังที่พ่อถูกประหารชีวิตแล้ว จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ส่งนายฉาย วิโรจน์ศิริ เลขานุการส่วนตัวของท่านไปหาพวกเรา แจ้งให้ทราบว่ารัฐบาลยินดีจะให้การอุปการะความเป็นอยู่การศึกษาแก่พวกเราทุกประการ พวกเราปรึกษาหารือกัน และในที่สุด ตกลงรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล เพื่อเป็นเครื่องยืนยันในความบริสุทธิ์ของพ่อ รัฐบาลจึงให้ความช่วยเหลือแก่พวกเรา ความช่วยเหลือนี้พึ่งมายกเลิกในสมัยรัฐบาล จอมพล สฤษดิ์ ธนรัชต์’” ---------- ผู้เขียนได้สืบค้นเงื่อนไขการขอพระราชทานอภัยโทษในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ พบว่า บทบัญญัติแห่งธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.ศ. 2475 ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 นั้น ทำให้พระราชฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ต้องถูกลิดรอนลงจากเดิม จากการใช้พระราชอำนาจที่เด็ดขาดและเป็นอิสระมาสู่การใช้พระราชอำนาจตามขอบเขตในรัฐธรรมนูญแล้ว ยังทำให้แนวความคิดและรูปแบบของการใช้พระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย ต่อมาเมื่อมีการประกาศใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเมื่อพุทธศักราช 2477 โดยได้กำหนดรูปแบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการในการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษไว้ในภาค 7 ว่าด้วยอภัยโทษเปลี่ยนโทษหนักเป็นเบา และลดโทษมาตรา 259 ถึงมาตรา 267 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้ถวายความเห็นและคำแนะนำเท่านั้น ซึ่งพระมหากษัตริย์/ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มักลงมติให้อภัยโทษหรือระงับฎีกาตามความเห็นของคณะรัฐมนตรีเสมอ แม้ว่าในบางกรณีความเห็นของกระทรวงมหาดไทยขัดแย้งกับความเห็นของคณะรัฐมนตรีก็ตาม (สรุปและเรียบเรียงจากหัวข้อ พระราชทานอภัยโทษ ฐานข้อมูล สถาบันพระปกเกล้า) ……… ในการขอพระราชทานอภัยลดโทษของนักโทษคดีสวรรคตรัชกาลที่แปด ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น คือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย —————- ผู้เขียนได้ไปสืบค้นรายงานการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ ๘๕/๒๔๙๗ วันพุธที่ ๘ ธันวาคม ๒๔๙๗ มีข้อความทั้งหมดที่เกี่ยวกับกรณีการขอพระราชทานอภัยลดโทษของนักโทษคดีสวรรคตรัชกาลที่แปด ดังนี้: “๙. เรื่อง นักโทษเด็ดขาดชาย เฉลียว ปทุมรส นักโทษเด็ดขาดชาย ชิต สิงหเสนี และนักโทษเด็ดขาดชาย บุศย์ ปัทมศริน ขอพระราชทานอภัยลดโทษ (กระทรวงมหาดไทยนำส่งฎีกาพร้อมด้วยเอกสารการสอบสวนของนักโทษเด็ดขาดชาย เฉลียว ปทุมรส นักโทษเด็ดขาดชาย ชิต สิงหเสนี และนักโทษเด็ดขาดชาย บุศย์ ปัทมศริน เรือนจำกลาง บางขวาง ต้องโทษฐานสมคบกันกระทำการประทุษร้ายต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๘ (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล) กำหนดโทษประหารชีวิต ขอพระราชทานชีวิตให้คงไว้ มา น.ช. เฉลียว ฯ อ้างว่า ตนยังมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดไป ไม่เคยคิดที่จะหมิ่มพระบรมเดชานุภาพอย่างใด ขณะนี้ครอบครัวขาดผู้อุปการะ น.ช. ชิต ฯ อ้างว่า บรรพบุรุษในตระกูลของตน ซึ่งมีเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์) เป็นต้นตระกูล ตลอดจนบิดา ได้เคยรับราชการสนองพระเดชพระคุณมาด้วยความจงรักภักดี ซื่อสัตย์สุจริต ส่วน น.ช. บุศย์ ฯ อ้างว่า ชีวิตของตนได้เติบโตขึ้นมาก็โดยความอุปการะในพระบรมราชตระกูลที่ได้ทรงชุบเลี้ยง การเข้ารับราชการจึงเป็นไปด้วยความจงรักภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (จอมพล ป พิบูลสงคราม) ได้สอบสวนพิจารณาแล้ว ไม่เห็นควรขอพระราชทานอภัยลดโทษได้ให้โดยอ้างว่า เรื่องนี้เป็นการประทุษร้ายแก่บุคคลสำคัญของประเทศตามหลักการของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบด้วยแล้วนั้น จะไม่ขอพระราชทานอภัยโทษให้ ควรยกฎีกาเสีย) มติ - เห็นชอบด้วยตามกระทรวงมหาดไทย ให้นำความกราบบังคมทูลได้.” (นอกจาก จอมพล ป จะเป็น รมต มหาดไทยแล้ว ยังเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย) ------------ จากข้อความในรายงานการประชุมคณะรัฐมนตรีข้างต้นและจากการเปลี่ยนแปลงพระราชฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ที่ถูกลิดรอนลงจากเดิมหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พระมหากษัตริย์จึงไม่มีพระราชอำนาจที่เด็ดขาดและเป็นอิสระ แต่ทรงใช้พระราชอำนาจตามขอบเขตในรัฐธรรมนูญ ซึ่งพระมหากษัตริย์/ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มักลงมติให้อภัยโทษหรือระงับฎีกาตามความเห็นของคณะรัฐมนตรีเสมอ ขณะเดียวกัน จากคำบอกเล่าของ พล.ต. อนันต์ พิบูลสงคราม ที่กล่าวถึง จอมพล ป. พิบูลสงคราม ผู้เป็นบิดาว่า “…ท่านตอบข้าพเจ้าทันทีอย่างหนักแน่นว่า พ่อได้ขอพระราชทานอภัยโทษขึ้นไปถึงสามครั้ง…” ………. ผู้เขียนใคร่เรียนขอว่า ถ้ามีใครมีหลักฐานการขอพระราชอภัยโทษอีกสองครั้ง โปรดกรุณานำมาเผยแพร่ด้วย จักเป็นประโยชน์ต่อวงการวิชาการประวัติศาสตร์ รัฐศาสตร์และต่อสาธารณชน ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ ป ล หลังจากศึกษาค้นคว้าข้อมูลแล้ว เห็นว่า มีผู้จงใจทั้งในอดีตและปัจจุบัน ให้รัชกาลที่เก้าเป็นผู้รับผิดชอบการปฏิเสธการขอพระราชทานอภัยลดโทษประหารชีวิตของสามนักโทษ ที่มา : เฟซบุ๊ก Chaiyan Chaiyaporn ของ ศาสตราจารย์ ไชยันต์ ไชยพร
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1095 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17/1/68

    https://thaipublica.org
    Integrated Resort ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons
    กาสิโนซีรีส์ตอนที่แล้ว(จากบ่อน 1.0 ถึงกาสิโน 5.0) ได้พูดถึงวิวัฒนาการของบ่อนพนันในบ้านเรา

    จากยุค 1.0 "ยุคบ่อนบ้าน" ที่มีมาแต่อดีตกาล

    มายุค 2.0 "ยุคบ่อนเบี้ย" ที่ยาวนานจากสมัยอยุธยาจนถึงรัตน โกสินทร์ตอนต้นมาถึงยุค

    3.0 "ยุคของการปิดบ่อน" ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 ที่ต้องใช้เวลานานร่วม 30 ปีกว่าจะปิดบ่อนเบี้ยได้ทั่วราชอาณาจักร

    และมาถึงยุค 4.0 "ยุคของกาสิโนโดยรัฐบาล" หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร ในปี พ.ศ.2475 ที่นำมาสู่การออกพ.ร.บ.การพนันในปี พ.ศ.2478 และนำมาสู่การทดลองเปิดกาสิโน 11 แห่งทั่วประเทศในปี 2481 ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ แต่กลับมาเปิดจริงจังในอีก 7 ปีต่อมาในปี 2488
    ที่ปราณบุรี ที่เปิดได้เพียง 82 วันก็ต้องปิดตัวลง เพราะ "เอาไม่อยู่"กับปัญหาสังคมที่เกิดตามมา

    ก้าวสู่ยุค 5.0 "ยุคกาสิโนโดยกลุ่มทุน" กรณีศึกษาที่ทั่วโลกยอมรับมากที่สุด คือ "สิงคโปร์" มีเรื่องเล่าพาดพิงถึงชีวิตของบุคคล 2 คน คนแรกคือ "ลีกวนยู" แห่งสิงคโปร์ คนที่สอง คือ "สแตนลีย์ โฮ" แห่งมาเก้า คนหนึ่งคือผู้นำประเทศ คนหนึ่งคือเจ้าพ่อกาสิโน คนหนึ่งปฏิเสธกาสิโน คนหนึ่งร่ำรวยเพราะกาสิโน ทั้งคู่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่างกันเพียง 2 ปีสแตนลีย์ โฮ เกิดก่อนเมื่อปี พ.ศ.2464 ที่ฮ่องกงในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจากภาวะสงครามโลกทำให้ครอบครัวเขาได้รับผลกระทบ โฮไม่ทันได้เรียนจบมหาวิทยาลัยก็ต้องเลิกเรียน ชีวิตต้องระหกระเหิน จนต้องลี้ภัยมาทำมาค้าขายอยู่ที่มาเก้า
    อายุ 27 ปี โฮได้แต่งงานกับลูกสาวของทนายความใหญ่ในมาเก้าที่มีสายสัมพันธ์กับเจ้าอาณานิคมโปรตุเกส

    10 ปีต่อมาพ่อตาได้ใช้เส้นสายช่วยให้โฮได้สัมปาทานกาสิโนในมาเก้า เป็นสัมปทานผูกขาดที่ยาวนานถึง 40 ปี สแตนลีย์ โฮ จึงเป็นเจ้าพ่อกาสิโนในมาเก้ามาจนถึงปี 2002 จนหมดอายุสัมปทาน เขาเป็นเจ้าของกาสิโนถึง 19 แห่ง

    การได้รับสัมปทานคือจุดสำคัญที่ทำให้โฮกลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมา
    จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ โฮกล่าวว่า "ผมไม่เล่นพนัน" และเตือนด้วยว่า "อย่าหวังรวยจากการพนัน มันเป็นแค่เกมเท่านั้น"
    โฮจึงเหมือนคนปลูกผักที่ไม่กินผักที่ตัวเองปลูก เพราะรู้ดีว่ามันมีสารพิษ

    ด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจกาสิโน ทำให้โฮมองหาลู่ทางขยายอาณาจักรธุรกิจของตนเอง และพบที่หนึ่งที่น่าสนใจ เป็นประเทศเกิดใหม่ที่เพิ่งได้รับเอกราชและกำลังสร้างชาติ นั่นคือ สิงค โปร์ ที่มีผู้นำชื่อ "ลึกวนยู"

    วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรท์ เขียนถึงเรื่องราวการสร้างชาติสิงคโปร์ของลึกวนยูในหนังสือ "สร้างชาติจากศูนย์" ว่า ปี พ.ศ.2508 เกาะสิงคโปร์ถูกมาเลเซียปฏิเสธ "ไม่ให้ไปต่อ" ไม่รับสิงคโปร์เป็นรัฐหนึ่งของสหพันธรัฐมาเลเซียอีกต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ลีกวน ยู ที่ขณะนั้นอยู่ในวัยเพียง 35 ปี และเพิ่งชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้บริหารรัฐสิงคโปร์ได้เพียง 2 ปีคาดไม่ถึงว่าจะถูกมาเลเซียตัดขาด เป็นเอกราชที่ไม่ได้ปรารถนา

    เพราะสิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ เป็นเพียงเมืองท่าที่เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพกับยุงณ เวลานั้น ลีกวนยู กล่าวว่า "สิงคโปร์ไม่ควรจะดำรงอยู่ เราไม่มีฐาน ไม่มีพื้นที่ ไม่มีเงินทุน ไม่มีวัตถุดิบอะไรเลยที่จะสร้างประเทศ" สิงคโปร์มีแต่ความเป็นเมืองท่าและมีคน
    ในอดีตสมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษ สิงคโปร์เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพ และแน่นอนเต็มไปด้วยการเล่นพนัน 3 ปีหลังจากเป็นเอกราช ลีกวนยูประกาศให้การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
    วินทร์ เรียววาริณ เล่าว่า "ลีกวนยูมองเห็นหายนะของการพนันมาตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาติดพนัน และขอเครื่องทองของแม่ไปจำนำเพื่อเล่นการพนัน ลีกวนยูจึงไม่เคยเล่นการพนัน และต่อต้านเรื่องนี้"

    ลีกวนยู จึงปฏิเสธข้อเสนอขอสร้างกาสิโนในสิงคโปร์ของสแตนลีย์ โฮ อย่างไม่สนใจใยดี และประกาศว่า "ขอสร้างชาติด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และจะไม่ขอพึ่งเงินจากการพนัน"

    สิงคโปร์เองในสมัยนั้นน่าจะไม่ต่างจากมาเก๊า ตรงที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นเมืองท่า หรืออาจจะไม่ต่างจากสปป.ลาวหรือกัมพูชา ที่บอบซ้ำกับสงครามคอมมิวนิสต์
    เพียงแต่ ลีกวนยู ไม่เลือกง้อเงินพนัน ขณะที่ผู้ปกครองมาเก้า ลาว และกัมพูชาคิดต่างออกไป ลีกวนยู ตั้งใจจะทำให้สิงคโปร์เป็น "First World Oasis" เป็นจุดแวะพักจุดแรกของชาวตะวันตกที่เดินทางมาทวีปเอเซียไม่น่าเชื่อว่า เพียง 8 ปีหลังจากได้รับเอกราชที่คาดไม่ถึง ลีกวนยู และชาวสิงคโปร์ทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาตัวเองเป็นเมืองท่าปลอดภาษี เป็นศูนย์กลางการบินและการเดินเรือ เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า และเป็นศูนย์กลางการเงิน

    ความสำเร็จของสิงคโปร์ นอกจากการทำงานหนักแล้วก็คือ

    * การมุ่งสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน

    * การบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาด ไม่มีสองมาตรฐาน

    * การปราบคอรัปชั้นอย่างจริงจัง

    * และการให้ความสำคัญกับ "การพัฒนาคน" เพราะทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียวที่สิงคโปร์มีคือ "คน"การพยายามสร้างตัวเองให้เป็น "First World Oasis" ทำให้สิงคโปร์พยายามสร้างจุดดึงดูด นักท่องเที่ยวด้วย

    * โปรเจคมากมาย ถมทะเลเพื่อสร้างสนามบิน ถมทะเลเพื่อสร้างอ่าว ปลูกต้นไม้ทั้งเกาะให้เป็น "อุทยานนคร" และสร้างเมืองให้สะอาดและปลอดภัย สิงคโปร์จึงเต็มไปด้วย "ข้อห้ามและค่าปรับ" จนถูกกระแนะกระแหนว่า "Singapore is Fine country"

    จวบจนปลายทศวรรษ 1990 เมื่อทำทุกอย่างจนแทบไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว จนประเทศมีระบบที่มีประสิทธิภาพและสะอาดมากจนเป็น ที่เลื่องลือ สิงคโปร์จึงยอมรับข้อเสนอเรื่องการเปิด "Integrated Resort" หรือรีสอร์ตแบบบูรณาการที่รวมเอากิจการหลาย ๆ อย่างไว้ด้วยกัน รวมทั้งกาสิโน
    แต่นั่นไม่ใช่ในสมัยของลีกวนยู เป็นยุคของผู้นำรุ่นที่ 3 ที่มีชื่อว่า "ลีเซียนลุง" บุตรชายของเขาเอง ซึ่งลึกวนยู ก็ยังคงไม่เห็นด้วยกับการหวังเงินจากการพนันเช่นเคย

    สิ่งที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลีกวนยู ยอมให้ลูกชายที่เป็นนายกรัฐมนตรีเปิดกาสิโน คือ งานวิจัยเพราะใช่ว่าชาวสิงคโปร์ทั้งหมดจะเห็นด้วยกับโปรเจคนี้ ถึงขนาดฝ่ายคัดค้านกดดันให้ ลีเซียนลุง จัดทำประชามติ แต่เขาปฏิเสธ ด้วย

    ข่าวจากทั่วทุกสารทิศทั่วโลกต่างรายงานถึงผลกระทบจากการมีกาสิโน
    ที่สหรัฐอเมริกา การเปิดกาสิโนมากมายที่เมืองแอตแลนติกซิตี้ มลรัฐนิวเจอร์ชีย์ ตามรอยของลาสเวกัส ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมในพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในปีเดียว และ

    ปัจจุบันกาสิโนหลายแห่งทะยอยปิดตัวลง
    ที่มาเก้า เมื่อมีการเปิดกาสิโนเพิ่มขึ้นจาก 19 แห่งในยุคสแตนลีย์ โฮ ขยายเป็น 35 แห่งในยุคหลัง กาสิโนนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาประชากรแออัด ปัญหาจราจร มลพิษทางอากาศ เงินเฟ้อพุ่ง ค่าครองชีพและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น ยังก่อให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยในสังคมตามมา สำนักงานตำรวจของมาเก้า เปิดเผยว่าอาชญากรรมเกี่ยวกับการพนัน เพิ่มขึ้นถึง 37.8% ในช่วงเวลาเพียง 3ปี

    ที่สปป.ลาว รัฐบาลมีกฎหมายห้ามไม่ให้คนลาวเข้าเล่นการพนันในกาสิโนเด็ดขาด แต่การบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ ทำให้กาสิโนตามตะเข็บชายแดนรอบประเทศกลายเป็นสถานที่คุ้นเคยของประชาชนลาว ที่ "คิงส์โรมัน" สถานกาสิโนชื่อดัง พบว่านักพนันกว่า 60% ที่เข้าไปเล่นเป็นนักพนันชาวลาว

    เช่นเดียวกับที่กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาไม่อนุญาตให้คนกัมพูชาเข้ากาสิโน แต่พบว่าคนกัมพูชา ในท้องถิ่นที่กาสิโนตั้งอยู่ต่างกรูกันเข้าไปเล่น
    นี่คือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ กับมาเก๊า สปป.ลาว กัมพูชา รวมถึงสหรัฐอเมริกา

    กาสิโนในยุค 5.0 จึงเป็นความท้าทายของผู้บริหารประเทศว่า จะสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ กับความสงบสุขทางสังคมได้อย่างไร?
    17/1/68 https://thaipublica.org Integrated Resort ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons กาสิโนซีรีส์ตอนที่แล้ว(จากบ่อน 1.0 ถึงกาสิโน 5.0) ได้พูดถึงวิวัฒนาการของบ่อนพนันในบ้านเรา จากยุค 1.0 "ยุคบ่อนบ้าน" ที่มีมาแต่อดีตกาล มายุค 2.0 "ยุคบ่อนเบี้ย" ที่ยาวนานจากสมัยอยุธยาจนถึงรัตน โกสินทร์ตอนต้นมาถึงยุค 3.0 "ยุคของการปิดบ่อน" ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 ที่ต้องใช้เวลานานร่วม 30 ปีกว่าจะปิดบ่อนเบี้ยได้ทั่วราชอาณาจักร และมาถึงยุค 4.0 "ยุคของกาสิโนโดยรัฐบาล" หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร ในปี พ.ศ.2475 ที่นำมาสู่การออกพ.ร.บ.การพนันในปี พ.ศ.2478 และนำมาสู่การทดลองเปิดกาสิโน 11 แห่งทั่วประเทศในปี 2481 ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ แต่กลับมาเปิดจริงจังในอีก 7 ปีต่อมาในปี 2488 ที่ปราณบุรี ที่เปิดได้เพียง 82 วันก็ต้องปิดตัวลง เพราะ "เอาไม่อยู่"กับปัญหาสังคมที่เกิดตามมา ก้าวสู่ยุค 5.0 "ยุคกาสิโนโดยกลุ่มทุน" กรณีศึกษาที่ทั่วโลกยอมรับมากที่สุด คือ "สิงคโปร์" มีเรื่องเล่าพาดพิงถึงชีวิตของบุคคล 2 คน คนแรกคือ "ลีกวนยู" แห่งสิงคโปร์ คนที่สอง คือ "สแตนลีย์ โฮ" แห่งมาเก้า คนหนึ่งคือผู้นำประเทศ คนหนึ่งคือเจ้าพ่อกาสิโน คนหนึ่งปฏิเสธกาสิโน คนหนึ่งร่ำรวยเพราะกาสิโน ทั้งคู่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่างกันเพียง 2 ปีสแตนลีย์ โฮ เกิดก่อนเมื่อปี พ.ศ.2464 ที่ฮ่องกงในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจากภาวะสงครามโลกทำให้ครอบครัวเขาได้รับผลกระทบ โฮไม่ทันได้เรียนจบมหาวิทยาลัยก็ต้องเลิกเรียน ชีวิตต้องระหกระเหิน จนต้องลี้ภัยมาทำมาค้าขายอยู่ที่มาเก้า อายุ 27 ปี โฮได้แต่งงานกับลูกสาวของทนายความใหญ่ในมาเก้าที่มีสายสัมพันธ์กับเจ้าอาณานิคมโปรตุเกส 10 ปีต่อมาพ่อตาได้ใช้เส้นสายช่วยให้โฮได้สัมปาทานกาสิโนในมาเก้า เป็นสัมปทานผูกขาดที่ยาวนานถึง 40 ปี สแตนลีย์ โฮ จึงเป็นเจ้าพ่อกาสิโนในมาเก้ามาจนถึงปี 2002 จนหมดอายุสัมปทาน เขาเป็นเจ้าของกาสิโนถึง 19 แห่ง การได้รับสัมปทานคือจุดสำคัญที่ทำให้โฮกลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมา จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ โฮกล่าวว่า "ผมไม่เล่นพนัน" และเตือนด้วยว่า "อย่าหวังรวยจากการพนัน มันเป็นแค่เกมเท่านั้น" โฮจึงเหมือนคนปลูกผักที่ไม่กินผักที่ตัวเองปลูก เพราะรู้ดีว่ามันมีสารพิษ ด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจกาสิโน ทำให้โฮมองหาลู่ทางขยายอาณาจักรธุรกิจของตนเอง และพบที่หนึ่งที่น่าสนใจ เป็นประเทศเกิดใหม่ที่เพิ่งได้รับเอกราชและกำลังสร้างชาติ นั่นคือ สิงค โปร์ ที่มีผู้นำชื่อ "ลึกวนยู" วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรท์ เขียนถึงเรื่องราวการสร้างชาติสิงคโปร์ของลึกวนยูในหนังสือ "สร้างชาติจากศูนย์" ว่า ปี พ.ศ.2508 เกาะสิงคโปร์ถูกมาเลเซียปฏิเสธ "ไม่ให้ไปต่อ" ไม่รับสิงคโปร์เป็นรัฐหนึ่งของสหพันธรัฐมาเลเซียอีกต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ลีกวน ยู ที่ขณะนั้นอยู่ในวัยเพียง 35 ปี และเพิ่งชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้บริหารรัฐสิงคโปร์ได้เพียง 2 ปีคาดไม่ถึงว่าจะถูกมาเลเซียตัดขาด เป็นเอกราชที่ไม่ได้ปรารถนา เพราะสิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ เป็นเพียงเมืองท่าที่เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพกับยุงณ เวลานั้น ลีกวนยู กล่าวว่า "สิงคโปร์ไม่ควรจะดำรงอยู่ เราไม่มีฐาน ไม่มีพื้นที่ ไม่มีเงินทุน ไม่มีวัตถุดิบอะไรเลยที่จะสร้างประเทศ" สิงคโปร์มีแต่ความเป็นเมืองท่าและมีคน ในอดีตสมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษ สิงคโปร์เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพ และแน่นอนเต็มไปด้วยการเล่นพนัน 3 ปีหลังจากเป็นเอกราช ลีกวนยูประกาศให้การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย วินทร์ เรียววาริณ เล่าว่า "ลีกวนยูมองเห็นหายนะของการพนันมาตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาติดพนัน และขอเครื่องทองของแม่ไปจำนำเพื่อเล่นการพนัน ลีกวนยูจึงไม่เคยเล่นการพนัน และต่อต้านเรื่องนี้" ลีกวนยู จึงปฏิเสธข้อเสนอขอสร้างกาสิโนในสิงคโปร์ของสแตนลีย์ โฮ อย่างไม่สนใจใยดี และประกาศว่า "ขอสร้างชาติด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และจะไม่ขอพึ่งเงินจากการพนัน" สิงคโปร์เองในสมัยนั้นน่าจะไม่ต่างจากมาเก๊า ตรงที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นเมืองท่า หรืออาจจะไม่ต่างจากสปป.ลาวหรือกัมพูชา ที่บอบซ้ำกับสงครามคอมมิวนิสต์ เพียงแต่ ลีกวนยู ไม่เลือกง้อเงินพนัน ขณะที่ผู้ปกครองมาเก้า ลาว และกัมพูชาคิดต่างออกไป ลีกวนยู ตั้งใจจะทำให้สิงคโปร์เป็น "First World Oasis" เป็นจุดแวะพักจุดแรกของชาวตะวันตกที่เดินทางมาทวีปเอเซียไม่น่าเชื่อว่า เพียง 8 ปีหลังจากได้รับเอกราชที่คาดไม่ถึง ลีกวนยู และชาวสิงคโปร์ทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาตัวเองเป็นเมืองท่าปลอดภาษี เป็นศูนย์กลางการบินและการเดินเรือ เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า และเป็นศูนย์กลางการเงิน ความสำเร็จของสิงคโปร์ นอกจากการทำงานหนักแล้วก็คือ * การมุ่งสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน * การบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาด ไม่มีสองมาตรฐาน * การปราบคอรัปชั้นอย่างจริงจัง * และการให้ความสำคัญกับ "การพัฒนาคน" เพราะทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียวที่สิงคโปร์มีคือ "คน"การพยายามสร้างตัวเองให้เป็น "First World Oasis" ทำให้สิงคโปร์พยายามสร้างจุดดึงดูด นักท่องเที่ยวด้วย * โปรเจคมากมาย ถมทะเลเพื่อสร้างสนามบิน ถมทะเลเพื่อสร้างอ่าว ปลูกต้นไม้ทั้งเกาะให้เป็น "อุทยานนคร" และสร้างเมืองให้สะอาดและปลอดภัย สิงคโปร์จึงเต็มไปด้วย "ข้อห้ามและค่าปรับ" จนถูกกระแนะกระแหนว่า "Singapore is Fine country" จวบจนปลายทศวรรษ 1990 เมื่อทำทุกอย่างจนแทบไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว จนประเทศมีระบบที่มีประสิทธิภาพและสะอาดมากจนเป็น ที่เลื่องลือ สิงคโปร์จึงยอมรับข้อเสนอเรื่องการเปิด "Integrated Resort" หรือรีสอร์ตแบบบูรณาการที่รวมเอากิจการหลาย ๆ อย่างไว้ด้วยกัน รวมทั้งกาสิโน แต่นั่นไม่ใช่ในสมัยของลีกวนยู เป็นยุคของผู้นำรุ่นที่ 3 ที่มีชื่อว่า "ลีเซียนลุง" บุตรชายของเขาเอง ซึ่งลึกวนยู ก็ยังคงไม่เห็นด้วยกับการหวังเงินจากการพนันเช่นเคย สิ่งที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลีกวนยู ยอมให้ลูกชายที่เป็นนายกรัฐมนตรีเปิดกาสิโน คือ งานวิจัยเพราะใช่ว่าชาวสิงคโปร์ทั้งหมดจะเห็นด้วยกับโปรเจคนี้ ถึงขนาดฝ่ายคัดค้านกดดันให้ ลีเซียนลุง จัดทำประชามติ แต่เขาปฏิเสธ ด้วย ข่าวจากทั่วทุกสารทิศทั่วโลกต่างรายงานถึงผลกระทบจากการมีกาสิโน ที่สหรัฐอเมริกา การเปิดกาสิโนมากมายที่เมืองแอตแลนติกซิตี้ มลรัฐนิวเจอร์ชีย์ ตามรอยของลาสเวกัส ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมในพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในปีเดียว และ ปัจจุบันกาสิโนหลายแห่งทะยอยปิดตัวลง ที่มาเก้า เมื่อมีการเปิดกาสิโนเพิ่มขึ้นจาก 19 แห่งในยุคสแตนลีย์ โฮ ขยายเป็น 35 แห่งในยุคหลัง กาสิโนนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาประชากรแออัด ปัญหาจราจร มลพิษทางอากาศ เงินเฟ้อพุ่ง ค่าครองชีพและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น ยังก่อให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยในสังคมตามมา สำนักงานตำรวจของมาเก้า เปิดเผยว่าอาชญากรรมเกี่ยวกับการพนัน เพิ่มขึ้นถึง 37.8% ในช่วงเวลาเพียง 3ปี ที่สปป.ลาว รัฐบาลมีกฎหมายห้ามไม่ให้คนลาวเข้าเล่นการพนันในกาสิโนเด็ดขาด แต่การบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ ทำให้กาสิโนตามตะเข็บชายแดนรอบประเทศกลายเป็นสถานที่คุ้นเคยของประชาชนลาว ที่ "คิงส์โรมัน" สถานกาสิโนชื่อดัง พบว่านักพนันกว่า 60% ที่เข้าไปเล่นเป็นนักพนันชาวลาว เช่นเดียวกับที่กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาไม่อนุญาตให้คนกัมพูชาเข้ากาสิโน แต่พบว่าคนกัมพูชา ในท้องถิ่นที่กาสิโนตั้งอยู่ต่างกรูกันเข้าไปเล่น นี่คือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ กับมาเก๊า สปป.ลาว กัมพูชา รวมถึงสหรัฐอเมริกา กาสิโนในยุค 5.0 จึงเป็นความท้าทายของผู้บริหารประเทศว่า จะสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ กับความสงบสุขทางสังคมได้อย่างไร?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1495 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักการเมือง คิดถึงผลประโยชน์ตนเอง นับแต่ พ.ศ. 2475 ระบอบการเลือกตั้งทำอะไรดีกว่า พ่อปกครองลูก บ้าง

    https://youtu.be/i6baIRQda5o?si=TjDUmHyjiKWcsPZD
    นักการเมือง คิดถึงผลประโยชน์ตนเอง นับแต่ พ.ศ. 2475 ระบอบการเลือกตั้งทำอะไรดีกว่า พ่อปกครองลูก บ้าง https://youtu.be/i6baIRQda5o?si=TjDUmHyjiKWcsPZD
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • 29 ปี สิ้น “หลวงพ่อเกษม เขมโก” เจ้าแห่งราชวงศ์ทิพย์จักร พระมหาเถราจารย์ สายวิปัสสนานครลำปาง

    ย้อนไปเมื่อ 29 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2539 ถือเป็นวันที่พุทธศาสนิกชนไทย ต้องประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อหลวงพ่อเกษม เขมโก พระมหาเถราจารย์ ผู้เป็นที่เคารพรัก ได้ละสังขารลงอย่างสงบ ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลลำปาง สิริอายุ 83 ปี หลังจากที่พักรักษาอาการอาพาธ มาเป็นเวลานาน การจากไปของท่าน ไม่เพียงแต่สร้างความเศร้าโศก ให้กับชาวจังหวัดลำปางเท่านั้น แต่ยังส่งผลสะเทือน ต่อผู้เคารพศรัทธา ทั่วประเทศไทย

    ต้นกำเนิดหลวงพ่อเกษม
    "หลวงพ่อเกษม เขมโก" หรือชื่อเดิม "เจ้าเกษม ณ ลำปาง" เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2455 ตรงกับวันพุธ เดือนยี่ (เหนือ) ปีชวด ร.ศ. 131 ท่านเป็นบุตรของ เจ้าน้อยหนู ณ ลำปาง (ซึ่งภายหลังเปลี่ยนนามสกุลเป็น "มณีอรุณ") ผู้รับราชการตำแหน่งปลัดอำเภอ และเจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง ซึ่งมีเชื้อสายเจ้านาย ในราชวงศ์ทิพย์จักร โดยหลวงพ่อเกษม เขมโก ยังเป็นราชปนัดดา (หลานเหลน) ของ เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต เจ้าหลวงผู้ครองนครลำปาง องค์สุดท้าย

    บรรพชาในวัยเยาว์
    ในวัยเด็ก หลวงพ่อเกษม เขมโก ถูกเล่าขานว่า เป็นเด็กที่ซุกซนแต่ฉลาดเฉลียว มีครั้งหนึ่ง ท่านเคยปีนต้นฝรั่ง แล้วพลัดตก จนเกิดแผลเป็นที่ศีรษะ ซึ่งกลายเป็น เครื่องหมายแห่งความทรงจำ ในวัยเยาว์ เมื่อท่านอายุได้ 13 ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรครั้งแรก ที่วัดป่าดั๊ว เพื่อบวชหน้าไฟเจ้าอาวาส ที่มรณภาพ หลังจากนั้น 7 วันจึงลาสิกขา ต่อมาเมื่ออายุ 15 ปี ท่านบรรพชาอีกครั้ง และจำวัด ที่วัดบุญยืน จังหวัดลำปาง ในช่วงเวลานี้ ท่านได้เริ่มศึกษาพระปริยัติธรรม อย่างจริงจัง และสามารถสอบนักธรรมชั้นโทได้ ในปี พ.ศ. 2474

    อุปสมบท
    ในปี พ.ศ. 2475 ขณะที่ท่านอายุ 20 ปี หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดบุญวาทย์วิหาร โดยมี พระธรรมจินดานายก (ฝ่าย) เจ้าอาวาสวัดบุญวาทย์วิหาร และอดีตเจ้าคณะจังหวัดลำปาง เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้รับฉายาว่า “เขมโก” ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้มีธรรมอันเกษม”

    หลังอุปสมบท ท่านเริ่มศึกษาภาษาบาลี ที่วัดศรีล้อม และต่อมาย้ายไปศึกษาในแผนกนักธรรม ที่วัดเชียงราย ท่านสามารถสอบได้ นักธรรมชั้นเอก ในปี พ.ศ. 2479 พร้อมความรู้เชี่ยวชาญ ด้านการเขียน และแปลภาษาบาลีอย่างลึกซึ้ง ถึงแม้ว่า ท่านจะไม่สอบ เอาวุฒิทางวิชาการสูง ๆ ก็ตาม เนื่องจากเป้าหมายของท่าน คือการศึกษาค้นคว้าธรรมะ เพื่อนำไปปฏิบัติ

    วิถีแห่งวิปัสสนา
    หลังจากสำเร็จการศึกษา ด้านปริยัติธรรม หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้แสวงหาครูบาอาจารย์ ที่เชี่ยวชาญในสายวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งท่านได้พบกับ "ครูบาแก่น สุมโน" พระอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ด้านวิปัสสนากรรมฐาน ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ และเริ่มออกธุดงค์ไปยังป่าลึก เพื่อแสวงหาความวิเวก และปฏิบัติธรรม ในสถานที่สงบเงียบ

    ในระหว่างการปฏิบัติธรรม ท่านมีความเคร่งครัด ในธุดงควัตร (ข้อปฏิบัติสำหรับพระธุดงค์) โดยไม่ยึดติดกับสถานที่ หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ การฝึกสมาธิ และการเจริญวิปัสสนาของท่าน เน้นการปฏิบัติจริง เพื่อหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง

    พระสายวิปัสสนาธุระแห่งลำปาง
    ในช่วงชีวิตที่เหลือ "หลวงพ่อเกษม เขมโก" ได้ตัดสินใจปลีกวิเวก และปฏิบัติธรรม ณ สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ท่านใช้ชีวิตเรียบง่ายในสถานที่แห่งนี้ โดยไม่ยึดติดกับตำแหน่ง หรือยศศักดิ์ใด ๆ แม้กระทั่งตำแหน่ง เจ้าอาวาสที่วัดบุญยืน ซึ่งท่านได้รับแต่งตั้ง ท่านก็ได้ลาออก เพื่อมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรม ตามแนวทางของท่านเอง

    ศรัทธาประชาชน
    ด้วยความสมถะ และการปฏิบัติที่เคร่งครัด "หลวงพ่อเกษม เขมโก" ได้รับความเคารพนับถือ จากประชาชนทั่วประเทศ รวมถึงสมาชิกราชวงศ์ไทย เช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งเคยเสด็จ ไปทรงนมัสการหลวงพ่อเกษม ด้วยพระองค์เอง

    ละสังขารปาฏิหาริย์สรีระ
    หลวงพ่อเกษม เขมโก ละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2539 เวลา 19:40 น. ณ โรงพยาบาลลำปาง สร้างความอาลัยอย่างยิ่ง ให้กับสานุศิษย์ทั่วประเทศ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ สรีระของหลวงพ่อเกษม ไม่เน่าเปื่อย และยังคงสภาพสมบูรณ์ ทำให้ผู้ที่เคารพศรัทธา ยังคงเดินทาง มากราบไหว้สรีระของท่าน ณ สุสานไตรลักษณ์ จนถึงปัจจุบัน

    ปณิธานแห่งความเรียบง่าย
    คำสอนของหลวงพ่อเกษม เขมโก เน้นความเรียบง่ายในชีวิต และการยึดมั่นในธรรมะ ท่านสอนให้พุทธศาสนิกชน ละความยึดติดกับวัตถุ และกิเลส รวมถึงการเจริญวิปัสสนา เพื่อความสงบสุข และหลุดพ้น

    มรดกธรรมที่ยังคงอยู่
    แม้จะผ่านมา 29 ปีแล้ว หลังการละสังขารของ หลวงพ่อเกษม เขมโก แต่ความศรัทธา และคำสอนของท่าน ยังคงสืบทอดมาถึงปัจจุบัน ท่านเป็นแบบอย่างของพระสงฆ์ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และเป็นสมบัติล้ำค่า ของพระพุทธศาสนาไทย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 150927 ม.ค. 2568

    #หลวงพ่อเกษมเขมโก #พระเกจิอาจารย์ #สายวิปัสสนา #ศรัทธา #ปาฏิหาริย์ #ลำปาง #พระมหาเถราจารย์ #ธรรมะ #พุทธศาสนาไทย #ประวัติศาสตร์
    29 ปี สิ้น “หลวงพ่อเกษม เขมโก” เจ้าแห่งราชวงศ์ทิพย์จักร พระมหาเถราจารย์ สายวิปัสสนานครลำปาง ย้อนไปเมื่อ 29 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2539 ถือเป็นวันที่พุทธศาสนิกชนไทย ต้องประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อหลวงพ่อเกษม เขมโก พระมหาเถราจารย์ ผู้เป็นที่เคารพรัก ได้ละสังขารลงอย่างสงบ ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลลำปาง สิริอายุ 83 ปี หลังจากที่พักรักษาอาการอาพาธ มาเป็นเวลานาน การจากไปของท่าน ไม่เพียงแต่สร้างความเศร้าโศก ให้กับชาวจังหวัดลำปางเท่านั้น แต่ยังส่งผลสะเทือน ต่อผู้เคารพศรัทธา ทั่วประเทศไทย ต้นกำเนิดหลวงพ่อเกษม "หลวงพ่อเกษม เขมโก" หรือชื่อเดิม "เจ้าเกษม ณ ลำปาง" เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2455 ตรงกับวันพุธ เดือนยี่ (เหนือ) ปีชวด ร.ศ. 131 ท่านเป็นบุตรของ เจ้าน้อยหนู ณ ลำปาง (ซึ่งภายหลังเปลี่ยนนามสกุลเป็น "มณีอรุณ") ผู้รับราชการตำแหน่งปลัดอำเภอ และเจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง ซึ่งมีเชื้อสายเจ้านาย ในราชวงศ์ทิพย์จักร โดยหลวงพ่อเกษม เขมโก ยังเป็นราชปนัดดา (หลานเหลน) ของ เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต เจ้าหลวงผู้ครองนครลำปาง องค์สุดท้าย บรรพชาในวัยเยาว์ ในวัยเด็ก หลวงพ่อเกษม เขมโก ถูกเล่าขานว่า เป็นเด็กที่ซุกซนแต่ฉลาดเฉลียว มีครั้งหนึ่ง ท่านเคยปีนต้นฝรั่ง แล้วพลัดตก จนเกิดแผลเป็นที่ศีรษะ ซึ่งกลายเป็น เครื่องหมายแห่งความทรงจำ ในวัยเยาว์ เมื่อท่านอายุได้ 13 ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรครั้งแรก ที่วัดป่าดั๊ว เพื่อบวชหน้าไฟเจ้าอาวาส ที่มรณภาพ หลังจากนั้น 7 วันจึงลาสิกขา ต่อมาเมื่ออายุ 15 ปี ท่านบรรพชาอีกครั้ง และจำวัด ที่วัดบุญยืน จังหวัดลำปาง ในช่วงเวลานี้ ท่านได้เริ่มศึกษาพระปริยัติธรรม อย่างจริงจัง และสามารถสอบนักธรรมชั้นโทได้ ในปี พ.ศ. 2474 อุปสมบท ในปี พ.ศ. 2475 ขณะที่ท่านอายุ 20 ปี หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดบุญวาทย์วิหาร โดยมี พระธรรมจินดานายก (ฝ่าย) เจ้าอาวาสวัดบุญวาทย์วิหาร และอดีตเจ้าคณะจังหวัดลำปาง เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้รับฉายาว่า “เขมโก” ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้มีธรรมอันเกษม” หลังอุปสมบท ท่านเริ่มศึกษาภาษาบาลี ที่วัดศรีล้อม และต่อมาย้ายไปศึกษาในแผนกนักธรรม ที่วัดเชียงราย ท่านสามารถสอบได้ นักธรรมชั้นเอก ในปี พ.ศ. 2479 พร้อมความรู้เชี่ยวชาญ ด้านการเขียน และแปลภาษาบาลีอย่างลึกซึ้ง ถึงแม้ว่า ท่านจะไม่สอบ เอาวุฒิทางวิชาการสูง ๆ ก็ตาม เนื่องจากเป้าหมายของท่าน คือการศึกษาค้นคว้าธรรมะ เพื่อนำไปปฏิบัติ วิถีแห่งวิปัสสนา หลังจากสำเร็จการศึกษา ด้านปริยัติธรรม หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้แสวงหาครูบาอาจารย์ ที่เชี่ยวชาญในสายวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งท่านได้พบกับ "ครูบาแก่น สุมโน" พระอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ด้านวิปัสสนากรรมฐาน ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ และเริ่มออกธุดงค์ไปยังป่าลึก เพื่อแสวงหาความวิเวก และปฏิบัติธรรม ในสถานที่สงบเงียบ ในระหว่างการปฏิบัติธรรม ท่านมีความเคร่งครัด ในธุดงควัตร (ข้อปฏิบัติสำหรับพระธุดงค์) โดยไม่ยึดติดกับสถานที่ หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ การฝึกสมาธิ และการเจริญวิปัสสนาของท่าน เน้นการปฏิบัติจริง เพื่อหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง พระสายวิปัสสนาธุระแห่งลำปาง ในช่วงชีวิตที่เหลือ "หลวงพ่อเกษม เขมโก" ได้ตัดสินใจปลีกวิเวก และปฏิบัติธรรม ณ สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ท่านใช้ชีวิตเรียบง่ายในสถานที่แห่งนี้ โดยไม่ยึดติดกับตำแหน่ง หรือยศศักดิ์ใด ๆ แม้กระทั่งตำแหน่ง เจ้าอาวาสที่วัดบุญยืน ซึ่งท่านได้รับแต่งตั้ง ท่านก็ได้ลาออก เพื่อมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรม ตามแนวทางของท่านเอง ศรัทธาประชาชน ด้วยความสมถะ และการปฏิบัติที่เคร่งครัด "หลวงพ่อเกษม เขมโก" ได้รับความเคารพนับถือ จากประชาชนทั่วประเทศ รวมถึงสมาชิกราชวงศ์ไทย เช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งเคยเสด็จ ไปทรงนมัสการหลวงพ่อเกษม ด้วยพระองค์เอง ละสังขารปาฏิหาริย์สรีระ หลวงพ่อเกษม เขมโก ละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2539 เวลา 19:40 น. ณ โรงพยาบาลลำปาง สร้างความอาลัยอย่างยิ่ง ให้กับสานุศิษย์ทั่วประเทศ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ สรีระของหลวงพ่อเกษม ไม่เน่าเปื่อย และยังคงสภาพสมบูรณ์ ทำให้ผู้ที่เคารพศรัทธา ยังคงเดินทาง มากราบไหว้สรีระของท่าน ณ สุสานไตรลักษณ์ จนถึงปัจจุบัน ปณิธานแห่งความเรียบง่าย คำสอนของหลวงพ่อเกษม เขมโก เน้นความเรียบง่ายในชีวิต และการยึดมั่นในธรรมะ ท่านสอนให้พุทธศาสนิกชน ละความยึดติดกับวัตถุ และกิเลส รวมถึงการเจริญวิปัสสนา เพื่อความสงบสุข และหลุดพ้น มรดกธรรมที่ยังคงอยู่ แม้จะผ่านมา 29 ปีแล้ว หลังการละสังขารของ หลวงพ่อเกษม เขมโก แต่ความศรัทธา และคำสอนของท่าน ยังคงสืบทอดมาถึงปัจจุบัน ท่านเป็นแบบอย่างของพระสงฆ์ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และเป็นสมบัติล้ำค่า ของพระพุทธศาสนาไทย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 150927 ม.ค. 2568 #หลวงพ่อเกษมเขมโก #พระเกจิอาจารย์ #สายวิปัสสนา #ศรัทธา #ปาฏิหาริย์ #ลำปาง #พระมหาเถราจารย์ #ธรรมะ #พุทธศาสนาไทย #ประวัติศาสตร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1167 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10 ปีพ.ศ.ส่อแวววุ่นในปีพ.ศ.2568

    จากการล่วงเกินองค์เทพเจ้าเฝ้าดูแลดวงชะตา“太歲爺”(ไท๊ส่วยเอี๊ย) ประจำปีจร 2568 มะเส็งไม้“乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ ที่มีพระนามว่า“吳遂大星軍”(โง้วซุ้ยไต่แชกุง) ส่งผลกระทบต่อเจ้าพิธีใน 10 รอบอายุปีเกิดของ 4 นักษัตร ทั้งกุน มะเส็ง วอก และขาล ที่เรียกขานกันว่า“太歲壓祭主”(ไท๊ส่วยเอี๊ยบจี่จู้)

    1. ท่านที่มีอายุ 93 ปี เกิดปี พ.ศ.2475 壬申 (ปีวอกน้ำ ธาตุทอง)
    2. ท่านที่มีอายุ 84 ปี เกิดปี พ.ศ.2484 辛巳 (ปีมะเส็งทอง ธาตุทอง)
    3. ท่านที่มีอายุ 75 ปี เกิดปี พ.ศ.2493 庚寅 (ปีขาลทอง ธาตุไม้)
    4. ท่านที่มีอายุ 66 ปี เกิดปี พ.ศ.2502 己亥 (ปีกุนดิน ธาตุไม้)
    5. ท่านที่มีอายุ 60 ปี เกิดปี พ.ศ.2508 乙巳 (ปีมะเส็งไม้ ธาตุไฟ)
    6. ท่านที่มีอายุ 51 ปี เกิดปี พ.ศ.2517 甲寅 (ปีขาลไม้ ธาตุน้ำ)
    7. ท่านที่มีอายุ 42 ปี เกิดปี พ.ศ.2526 癸亥 (ปีกุนน้ำ ธาตุน้ำ)
    8. ท่านที่มีอายุ 33 ปี เกิดปี พ.ศ.2535 壬申 (ปีวอกน้ำ ธาตุทอง)
    9. ท่านที่มีอายุ 24 ปี เกิดปี พ.ศ.2544 辛巳 (ปีมะเส็งทอง ธาตุทอง)
    10. ท่านที่มีอายุ 15 ปี เกิดปี พ.ศ.2553 庚寅 (ปีขาลทอง ธาตุไม้)

    ทั้ง 10 รอบอายุปีเกิดที่กล่าวมาข้างต้น จึงควรหลีกเลี่ยงการเป็นประธาน เจ้าภาพ เจ้าพิธีที่สำคัญ อย่างเช่นการเข้าร่วมพิธีงานศพ หากไม่สามารถละเว้นได้ก็ควรงดการส่งศพ หรือห้ามดูหน้าศพ หรือพิธีฝังศพ เพราะการกระทำการดังกล่าวเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นต่อองค์เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา ประจำปี 太歲爺 (ไท๊ส่วยเอี๊ย) “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) ที่จรมาประจำในปีพ.ศ.2568 นี้ ซึ่งจะนำพาความอัปมงคลทั้งหลายทั้งปวงมาสู่ตนได้
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    10 ปีพ.ศ.ส่อแวววุ่นในปีพ.ศ.2568 จากการล่วงเกินองค์เทพเจ้าเฝ้าดูแลดวงชะตา“太歲爺”(ไท๊ส่วยเอี๊ย) ประจำปีจร 2568 มะเส็งไม้“乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ ที่มีพระนามว่า“吳遂大星軍”(โง้วซุ้ยไต่แชกุง) ส่งผลกระทบต่อเจ้าพิธีใน 10 รอบอายุปีเกิดของ 4 นักษัตร ทั้งกุน มะเส็ง วอก และขาล ที่เรียกขานกันว่า“太歲壓祭主”(ไท๊ส่วยเอี๊ยบจี่จู้) 1. ท่านที่มีอายุ 93 ปี เกิดปี พ.ศ.2475 壬申 (ปีวอกน้ำ ธาตุทอง) 2. ท่านที่มีอายุ 84 ปี เกิดปี พ.ศ.2484 辛巳 (ปีมะเส็งทอง ธาตุทอง) 3. ท่านที่มีอายุ 75 ปี เกิดปี พ.ศ.2493 庚寅 (ปีขาลทอง ธาตุไม้) 4. ท่านที่มีอายุ 66 ปี เกิดปี พ.ศ.2502 己亥 (ปีกุนดิน ธาตุไม้) 5. ท่านที่มีอายุ 60 ปี เกิดปี พ.ศ.2508 乙巳 (ปีมะเส็งไม้ ธาตุไฟ) 6. ท่านที่มีอายุ 51 ปี เกิดปี พ.ศ.2517 甲寅 (ปีขาลไม้ ธาตุน้ำ) 7. ท่านที่มีอายุ 42 ปี เกิดปี พ.ศ.2526 癸亥 (ปีกุนน้ำ ธาตุน้ำ) 8. ท่านที่มีอายุ 33 ปี เกิดปี พ.ศ.2535 壬申 (ปีวอกน้ำ ธาตุทอง) 9. ท่านที่มีอายุ 24 ปี เกิดปี พ.ศ.2544 辛巳 (ปีมะเส็งทอง ธาตุทอง) 10. ท่านที่มีอายุ 15 ปี เกิดปี พ.ศ.2553 庚寅 (ปีขาลทอง ธาตุไม้) ทั้ง 10 รอบอายุปีเกิดที่กล่าวมาข้างต้น จึงควรหลีกเลี่ยงการเป็นประธาน เจ้าภาพ เจ้าพิธีที่สำคัญ อย่างเช่นการเข้าร่วมพิธีงานศพ หากไม่สามารถละเว้นได้ก็ควรงดการส่งศพ หรือห้ามดูหน้าศพ หรือพิธีฝังศพ เพราะการกระทำการดังกล่าวเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นต่อองค์เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา ประจำปี 太歲爺 (ไท๊ส่วยเอี๊ย) “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) ที่จรมาประจำในปีพ.ศ.2568 นี้ ซึ่งจะนำพาความอัปมงคลทั้งหลายทั้งปวงมาสู่ตนได้ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts