• 🔴Live SONDHITALK Ep278

    SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep278 (live) ศาลยกคำร้องทีมจำลองเหตุการณ์ตกเรือ ไม่ละเมิดอำนาจศาล กับคนบนเรือที่พูดกี่ครั้งก็ไม่เหมือนกัน ใครกันแน่บิดเบือนความยุติธรรมคดีแตงโม?
    🔴Live SONDHITALK Ep278 SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep278 (live) ศาลยกคำร้องทีมจำลองเหตุการณ์ตกเรือ ไม่ละเมิดอำนาจศาล กับคนบนเรือที่พูดกี่ครั้งก็ไม่เหมือนกัน ใครกันแน่บิดเบือนความยุติธรรมคดีแตงโม?
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    134
    38 ความคิดเห็น 4 การแบ่งปัน 1148 มุมมอง 16 รีวิว
  • เล่าเรื่องTikTok@thestatestimesearth #thestatestimesearth #PM2_5 #ไทย #จีน #ว่างว่างก็แวะมา
    เล่าเรื่องTikTok@thestatestimesearth #thestatestimesearth #PM2_5 #ไทย #จีน #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • “The Bayou - มฤตยูงาบ” การกลับมาของภาพยนตร์จระเข้สายพันธุ์ใหม่ที่โหดอำมหิตกว่าเดิม

    จาก “Alligator” (1980), “Dark Age” (1988), “Lake Placid” (1999), “Primeval” (2007), “Rogue” (2008), “Black Water” (2008) และ “Crawl” (2019) หลังทิ้งช่วงมา 6 ปีเต็ม บัดนี้ถึงเวลาแล้วกับการกลับมาของ “จระเข้สายพันธุ์ใหม่” ที่ทั้งว่องไว, ปราดเปรียว และ “งาบ” ทุกอย่างที่ขวางหน้าในผลงานของ “เจมส์ แฮร์ริส” ผู้สร้างสรรค์ “47 Meters Down ทั้ง 2 ภาค” และ Falls“ ภายใต้การกำกับฯ ของ แมทธิว นินาเบอร์ “The Bayou - มฤตยูงาบ“

    “เรามีหนังฉลามมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลังจากความสำเร็จของ Jaws โดย Steven Spielberg แต่เรากลับมีภาพยนตร์เกี่ยวกับจระเข้น้อยมาก แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามผมคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่หนังเกี่ยวกับจระเข้จะทำให้คนดูได้กลับมาตื่นตัวกับความน่าสะพรึงกลัวของมันอีกครั้ง” ผู้กำกับฯ แมทธิว นินาเบอร์ กล่าว

    “The Bayou - มฤตยูงาบ” บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่ชวนกันไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว ก่อนที่ความสุขจะกลายเป็นหายนะไปอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อเครื่องบินเช่าเหมาลำของพวกเขาเกิดขัดข้องและตกลงสู่หนองน้ำที่มี “บางสิ่ง” ที่มีขนาดใหญ่และกำลังหิวโหยรอคอยเหยื่อของมันอยู่!!!!

    เตรียมพบกับความตื่นเต้น-ระทึกขวัญครั้งใหม่จาก
    “The Bayou - มฤตยูงาบ” โดย Movie Copyright (Thailand)
    27 กุมภาพันธ์นี้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น!!!!
    “The Bayou - มฤตยูงาบ” การกลับมาของภาพยนตร์จระเข้สายพันธุ์ใหม่ที่โหดอำมหิตกว่าเดิม จาก “Alligator” (1980), “Dark Age” (1988), “Lake Placid” (1999), “Primeval” (2007), “Rogue” (2008), “Black Water” (2008) และ “Crawl” (2019) หลังทิ้งช่วงมา 6 ปีเต็ม บัดนี้ถึงเวลาแล้วกับการกลับมาของ “จระเข้สายพันธุ์ใหม่” ที่ทั้งว่องไว, ปราดเปรียว และ “งาบ” ทุกอย่างที่ขวางหน้าในผลงานของ “เจมส์ แฮร์ริส” ผู้สร้างสรรค์ “47 Meters Down ทั้ง 2 ภาค” และ Falls“ ภายใต้การกำกับฯ ของ แมทธิว นินาเบอร์ “The Bayou - มฤตยูงาบ“ “เรามีหนังฉลามมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลังจากความสำเร็จของ Jaws โดย Steven Spielberg แต่เรากลับมีภาพยนตร์เกี่ยวกับจระเข้น้อยมาก แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามผมคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่หนังเกี่ยวกับจระเข้จะทำให้คนดูได้กลับมาตื่นตัวกับความน่าสะพรึงกลัวของมันอีกครั้ง” ผู้กำกับฯ แมทธิว นินาเบอร์ กล่าว “The Bayou - มฤตยูงาบ” บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่ชวนกันไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว ก่อนที่ความสุขจะกลายเป็นหายนะไปอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อเครื่องบินเช่าเหมาลำของพวกเขาเกิดขัดข้องและตกลงสู่หนองน้ำที่มี “บางสิ่ง” ที่มีขนาดใหญ่และกำลังหิวโหยรอคอยเหยื่อของมันอยู่!!!! เตรียมพบกับความตื่นเต้น-ระทึกขวัญครั้งใหม่จาก “The Bayou - มฤตยูงาบ” โดย Movie Copyright (Thailand) 27 กุมภาพันธ์นี้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น!!!!
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 29-1-68
    .
    ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ สุขสันต์วันตรุษจีนแฟน ๆ รายการทุกท่าน วันนี้คุณสนธิจะมาเล่าเรื่องเบาๆ กันก่อน เกี่ยวกับอาหารเช้า แมว ก่อนที่จะเรื่องบ้านเมืองเรื่องอื่นๆ ต่อ พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=EVrMQhX38vg
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk
    สนธิเล่าเรื่อง 29-1-68 . ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ สุขสันต์วันตรุษจีนแฟน ๆ รายการทุกท่าน วันนี้คุณสนธิจะมาเล่าเรื่องเบาๆ กันก่อน เกี่ยวกับอาหารเช้า แมว ก่อนที่จะเรื่องบ้านเมืองเรื่องอื่นๆ ต่อ พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=EVrMQhX38vg . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 29-1-68
    .
    ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ สุขสันต์วันตรุษจีนแฟน ๆ รายการทุกท่าน วันนี้คุณสนธิจะมาเล่าเรื่องเบาๆ กันก่อน เกี่ยวกับอาหารเช้า แมว ก่อนที่จะเรื่องบ้านเมืองเรื่องอื่นๆ ต่อ พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
    https://www.youtube.com/watch?v=EVrMQhX38vg

    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk
    สนธิเล่าเรื่อง 29-1-68 . ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ สุขสันต์วันตรุษจีนแฟน ๆ รายการทุกท่าน วันนี้คุณสนธิจะมาเล่าเรื่องเบาๆ กันก่อน เกี่ยวกับอาหารเช้า แมว ก่อนที่จะเรื่องบ้านเมืองเรื่องอื่นๆ ต่อ พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง https://www.youtube.com/watch?v=EVrMQhX38vg #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk
    Like
    Love
    Yay
    Haha
    70
    8 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1605 มุมมอง 4 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง - 27-01-68

    https://www.youtube.com/watch?v=Pdqulon6h84
    สนธิเล่าเรื่อง - 27-01-68 https://www.youtube.com/watch?v=Pdqulon6h84
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 27-01-68
    .
    สวัสดีเช้าวันจันทร์ วันนี้ค่าฝุ่นในกรุงเทพในภาพรวมลดลงมาหน่อยแล้ว จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพูดถึงเรื่องการทำงานของผู้ว่าฯ กทม. คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เสียหน่อย และอัพเดตถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี และการศึกษาของโลกล่าสุด ที่ต้องบอกเลยว่าน่าสนใจแน่นอน
    https://www.youtube.com/watch?v=Pdqulon6h84
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #SondhiTalk
    สนธิเล่าเรื่อง 27-01-68 . สวัสดีเช้าวันจันทร์ วันนี้ค่าฝุ่นในกรุงเทพในภาพรวมลดลงมาหน่อยแล้ว จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพูดถึงเรื่องการทำงานของผู้ว่าฯ กทม. คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เสียหน่อย และอัพเดตถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี และการศึกษาของโลกล่าสุด ที่ต้องบอกเลยว่าน่าสนใจแน่นอน https://www.youtube.com/watch?v=Pdqulon6h84 . #สนธิเล่าเรื่อง #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #SondhiTalk
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    Wow
    81
    9 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 1896 มุมมอง 5 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 27-01-68
    .
    สวัสดีเช้าวันจันทร์ วันนี้ค่าฝุ่นในกรุงเทพในภาพรวมลดลงมาหน่อยแล้ว แต่แถว ๆ บ้านพระอาทิตย์ เขตพระนคร นั้นดัชนีค่า AQI ยังอยู่ในระดับสูงมากอยู่ (ราว ๆ 150) วันนี้คุณสนธิจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพูดถึงเรื่องการทำงานของผู้ว่าฯ กทม. คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เสียหน่อย นอกจากนี้สำหรับใครที่สนใจเรื่องเทคโนโลยี และการศึกษา คุณสนธิจะอัพเดตถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี และการศึกษาของโลกล่าสุด ที่ต้องบอกเลยว่าน่าสนใจแน่นอน
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=Pdqulon6h84
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #SondhiTalk
    สนธิเล่าเรื่อง 27-01-68 . สวัสดีเช้าวันจันทร์ วันนี้ค่าฝุ่นในกรุงเทพในภาพรวมลดลงมาหน่อยแล้ว แต่แถว ๆ บ้านพระอาทิตย์ เขตพระนคร นั้นดัชนีค่า AQI ยังอยู่ในระดับสูงมากอยู่ (ราว ๆ 150) วันนี้คุณสนธิจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพูดถึงเรื่องการทำงานของผู้ว่าฯ กทม. คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เสียหน่อย นอกจากนี้สำหรับใครที่สนใจเรื่องเทคโนโลยี และการศึกษา คุณสนธิจะอัพเดตถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี และการศึกษาของโลกล่าสุด ที่ต้องบอกเลยว่าน่าสนใจแน่นอน . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=Pdqulon6h84 . #สนธิเล่าเรื่อง #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #SondhiTalk
    Like
    Love
    7
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • เล่าเรื่องTikTok@phee.mor #พี่หมอ #หมอวรงค์ #วิถีไทย #ท่องเที่ยว #ไทย #ว่างว่างก็แวะมา
    เล่าเรื่องTikTok@phee.mor #พี่หมอ #หมอวรงค์ #วิถีไทย #ท่องเที่ยว #ไทย #ว่างว่างก็แวะมา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • #สนุกจังตังอยู่ครบ

    ความสนุกที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ กับแค่โครงเรื่องแนวคลาสสิกที่ให้คนกลุ่มหนึ่ง ติดอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่อาจติดต่อกับคนอื่นได้ แล้วมีการตายเกิดขึ้นทีละราย ทว่าเล่มนี้มีการรื้อโครงสร้างแนวเก่าออก แล้วก่อขึ้นใหม่โดยรูปแบบภายนอกยังคงคล้ายเดิม ทว่าภายในนั้นมีความดัดแปลงให้แตกต่างไป นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่น่าพอใจยิ่ง

    ผมกำลังพูดถึง #ฆาตกรรมปิดตายบนภูเขาหิมะ ผลงานของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ ฝีมือแปลโดย สุรีรัตน์ งามสง่าพงษ์
    จัดพิมพ์โดย สนพ.ไดฟุกุ เมื่อกรกฎาคม 2566 ความหนา 240 หน้า ราคา 270 บาท ต้นฉบับพิมพ์ตั้งแต่ปี 2539 นับถึงปัจจุบันก็เฉียด 30 ปีเข้าแล้ว

    อ่านจบก่อนและค่อนข้างชอบ จึงลองไปอ่านความเห็นคนอื่นดูบ้าง รู้สึกเสียงแตกเป็นสองฝั่ง มีไม่น้อยค่อนไปในทางไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก ซึ่งก็แล้วแต่ความเห็นของคนอ่าน ในส่วนของผมเองมีเหตุผลที่ชอบซึ่งจะได้เขียนถึงต่อไป

    เบื้องต้นขอเล่าเนื้อหาโดยสรุปดังนี้

    ชายหนุ่มหญิงสาว 7 คน (แบ่งเป็นชาย4หญิง3) ที่ผ่านการออดิชันเพื่อจะรับบทแสดงนำในละครเวทีของคณะละครแห่งหนึ่ง ได้รับจดหมายจากผกก.ละครที่ส่งถึงทุกคนว่าให้มารวมตัวกันที่บ้านพักหลังหนึ่งบนภูเขาเป็นเวลา 4 วัน เพื่อฝึกซ้อมพิเศษตามวันเวลานัดที่ระบุ ถ้าใครไม่มาหรือมาช้าจะถูกตัดสิทธิ์ และห้ามบอกใครทั้งนั้น

    ที่บ้านพัก ทั้ง7คนได้พบกับเจ้าของบ้านที่รออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ให้ทราบว่ามีห้องอะไรในเกสต์เฮาส์บ้าง มีวัตถุดิบทำอาหารไว้ให้พอสำหรับ 4 วัน แต่ผู้มาพักต้องทำอาหารเอง ไม่มีใครมาคอยดูแลให้ทั้งสิ้น ทั้ง7ต้องอยู่ตามลำพัง เป็นเงื่อนไขที่ทางคนกลางของ ผกก.ที่ติดต่อมาแจ้งไว้ ก่อนออกจากบ้านพักเขาทิ้งท้ายว่าหากมีเหตุฉุกเฉินให้โทรศัพท์ถึงเขาได้ เขาอยู่อีกที่หนึ่งซึ่งห่างไปไม่ไกลนัก

    ขณะทั้ง7กำลังไม่สบอารมณ์ในสิ่งที่เจ้าของบ้านพักแจ้ง และจับกลุ่มสนทนา ปรากฏว่ามีจดหมายจากผกก.มาส่ง แจ้งรายละเอียดว่าตลอด 4 วันนี้ ให้ทุกคนถือเสมือนหนึ่งอยู่ในเหตุการณ์ที่มีหิมะตกหนัก ไม่สามารถออกไปไหนและสายสัญญาณโทรศัพท์ถูกหิมะหล่นทับไม่อาจติดต่อใคร และจะมีการฆาตกรรมเกิดขึ้น โดยให้แต่ละคนจำลองสถานการณ์เอาเองว่าจะทำอย่างไร ถ้ามีฆาตกรฆ่าคนตายไปทีละคน ทั้งหมดถือเป็นการฝึกซ้อมและทดสอบที่จะนำมาใช้ในการวัดผล โดยห้ามติดต่อหาใครทั้งนั้น ห้ามออกไปไหนจนกว่าจะครบกำหนด ใครฝ่าฝืนถือว่าสละสิทธิ์โดยปริยาย ด้วยเหตุนี้ยิ่งทำให้ทั้ง7คนทุ่มเถียงถึงคำสั่งแปลกพิสดารของผกก. แต่ในที่สุดก็จำต้องยอมรับและปฏิบัติตาม

    หลังเลือกห้องกันแล้วว่าใครจะพักห้องไหน มีทั้งห้องเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ มีห้องสันทนาการ ห้องนั่งเล่นรวม ห้องอาหาร ห้องครัว ห้องสุขาและอาบน้ำ และห้องอื่น ๆ ทุกคนใช้ชีวิตไปตามอัธยาศัย แล้วก็เกิดเหตุน่ากลัวขึ้นในคืนวันแรก สมาชิกในกลุ่มคนหนึ่งหายตัวไปในเช้าวันถัดมา และมีกระดาษที่เขียนคำอธิบายไว้ว่าบุคคลคนนั้นถูกฆ่าตายแล้วด้วยวิธีการใด และต้องหายตัวไปเหมือนถูกตัดออกจากการแข่งขัน สมาชิกที่เหลือจึงเริ่มตื่นตัวขึ้น แม้ไม่รู้ว่าเพื่อนคนดังกล่าวไปแอบอยู่ที่ใดระหว่างที่ยังไม่ครบ4วัน คนที่เหลือต้องพยายามหาทางคาดเดาตัวคนร้ายให้ได้

    ในระหว่างคนทั้ง6ที่เหลือ ก็มีความสัมพันธ์ส่วนตัวพัวพันกันอยู่ มีชายอย่างน้อยสามคนที่ชอบหญิงคนหนึ่งในกลุ่ม จึงมีการพูดจาเชิงข่มหรือดูถูกเหยียดหยาม ส่วนหญิงอีกคนดูจะมีใจให้กับชายอีกคนที่ชอบผู้หญิงอีกคน มันช่างยุ่งเหยิงดีแท้ และแล้วก็มีการตายเกิดขึ้นอีกในคืนวันถัดมาโดยไม่มีใครทราบจนล่วงเข้าวันใหม่ ยังคงมีกระดาษเขียนรายละเอียดที่ระบุว่าผู้ตายถูกฆ่าแบบไหน และคนในกลุ่มก็หายตัวไปอีกหนึ่ง เหลือเพียง 5 คน ทำให้เกิดการทุ่มเถียงกันมากขึ้น มีคนหนึ่งเริ่มเสนอแนวคิดที่น่ากลัวว่า คนที่หายตัวไปนั้นอาจไม่ใช่การซ้อมแสดงละคร แต่ได้ถูกฆ่าตายไปแล้วจริง ๆ

    ความจริงเบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดคืออะไรกันแน่ หาคำตอบได้ใน ฆาตกรรมปิดตายบนภูเขาหิมะครับ

    ..............

    ความจริงเล่มนี้ตัวละครไม่เยอะ มีกล่าวถึงคนอื่นที่เกี่ยวข้องบ้างเล็กน้อยคือผกก. ,เจ้าของบ้านพัก,และตัวละครอีกหนึ่งคนซึ่งจะถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังคนในกลุ่มได้เข้าพักในบ้านไปแล้วระยะหนึ่ง ดังนั้นสำหรับผม ถือว่าเรื่องนี้มีความง่ายกว่าเรื่องอื่น ๆ ที่เคยอ่านมาในการจดจำตัวละคร เรียกว่าพยายามท่องจำเอาตั้งแต่เริ่มเลย พร้อมกับดูผังบ้านชั้น1 และชั้น2ประกอบไปด้วย เพื่อจำว่าใครพักอยู่ห้องไหนบ้าง แม้รายละเอียดของผังบ้านที่ให้มาจะไม่ได้มีรายละเอียดมากนัก แค่วาดแบ่งเป็นขนาดให้เห็นอย่างหยาบ ๆ ว่าห้องไหนคือห้องอะไร มีเฟอร์นิเจอร์ใดตั้งอยู่บ้างเท่าที่จำเป็น ตำแหน่งของประตูหน้าต่างก็บอกเฉพาะบางตำแหน่งเท่านั้น ไม่ได้แสดงครบทุกห้อง และมองเห็นบางจุดที่รู้สึกติดใจตั้งแต่ทีแรกว่าตำแหน่งนั้นคืออะไร ทำไมไม่ระบุรายละเอียดให้ทราบ พออ่านจนใกล้จบจึงถึงบางอ้อ ที่แท้จุดที่เราสงสัยเป็นส่วนสำคัญของปริศนาแห่งคดีในเล่มนี้ด้วยสิ

    ขอกล่าวถึงเหตุผลที่ชอบนะครับ หลักเลยคือเห็นถึงความตั้งใจของผู้เขียน ที่อยากจะทำให้เกิดการเล่าเรื่องแนวใหม่ที่แตกต่างไปจากการเล่ารูปแบบเดิมที่เคยใช้กันมาในนิยายรุ่นเก่าของนักเขียนดังหลายคนทางฝากตะวันตก แม้จะสร้างสถานการณ์ให้มีคนมาอยู่รวมกันในที่ซึ่งเหมือนหนีไปไหนไม่ได้ แล้วตายไปทีละคนเช่นโครงเรื่องแนวคลาสสิก แต่ก็ใส่รายละเอียดที่ทำให้ต่างตรงที่คราวนี้ ทุกอย่างถูกกำหนดบังคับจากกฎกติกาที่ระบุในจม. ทำให้เหยื่อมีความสับสนระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าคือความจริงหรือคือการแสดงละครตามสิ่งที่ผกก.ต้องการกันแน่

    ที่สร้างสรรค์อย่างมากคือใช้วิธีการเล่าสองรูปแบบสลับกันไปตลอดทั้งเรื่อง คือเล่าในมุมมองพระเจ้าที่เราเข้าใจเอาเองแต่แรกว่าคือมุมมองสายตาของนักเขียน ทว่าเฉลยตอนท้ายที่เข้าสู่ช่วงไขคดีว่าที่แท้เป็นมุมมองพระเจ้าก็จริง แต่ไม่ใช่สายตาผู้เขียน หากแต่เป็นใคร หากได้อ่านเองแล้วก็จะรู้ จุดนี้ผมถือว่ายอดเยี่ยมมาก ส่วนอีกมุมมองหนึ่งจะเป็นการเล่าผ่านสายตาและความคิดของตัวละครตัวหนึ่งที่อยู่ในกลุ่ม7คน คล้ายทำนองบันทึกการคุยกับตัวเองว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น มีใครทำอะไร ใครคุยว่าอย่างไรบ้าง โดยในส่วนนี้จะมีสอดแทรกความเห็นส่วนตัวของคนดังกล่าวทำให้คนอ่านทราบมุมมองของเขาอย่างใกล้ชิด และเป็นตัวละครสำคัญที่เหมือนเป็นตัวขับเคลื่อนให้เรื่องเดินหน้าต่อไป และตัวละครตัวนี้เองที่ภายหลัง ก็คล้ายจะสถาปนาตนเองเป็นผู้ทำหน้าที่แทนนักสืบในการคลี่คลายปริศนาทั้งหมดด้วย

    เรื่องจะถูกแบ่งเล่าเป็น 4 วัน ในแต่ละวันมีอะไรเกิดขึ้นบ้างจนกระทั่งจบวัน จึงเริ่มต้นบทใหม่ในวันถัดไป ดังที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้คือ ตั้งใจท่องจำชื่อตัวละครทั้ง7และจำผังบ้านไว้ในหัวคร่าว ๆ ดังนั้นตอนอ่านที่ผู้เขียนบรรยายเล่าถึงช่วงที่ระบุถึงตัวละครกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนในห้องใด และการเล่าถึงสภาพภายในของบ้านพักว่ามีอะไรตั้งอยู่จุดไหนอย่างไร ผมจึงมองเห็นภาพเป็นสามมิติได้ไม่ยากนัก นับว่าผู้เขียนออกแบบและคิดผังบ้านหลังนี้มาได้ไม่เลว จึงสอดรับเข้ากันกับเหตุผลที่ประกอบในการกระทำของตัวละครต่าง ๆ อย่างกลมกลืน

    ด้วยความที่ส่วนตัวผมเคยผ่านการ try out จนได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของคนที่ได้รับการฝึกฝนเพื่อแสดงละครเวที รวมถึงเคยอยู่ในฐานะของผู้ที่ฝึกฝนการแสดงให้กับรุ่นน้องในคณะสมัยเรียนมาก่อน ดังนั้นจึงค่อนข้างเข้าใจในความรู้สึกของเหล่าตัวละครที่แสดงบทบาทลีลาในเรื่อง ว่าทำไมถึงคิดหรือพูดและทำอะไรลงไปดังที่ปรากฏนั้น ซึ่งไม่แปลกแต่ประการใด จึงถือว่าเล่มนี้เป็นอีกเล่มหนึ่งของผู้เขียน ที่มีมุมมองการเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์ได้น่าสนใจไม่แพ้เรื่องตุ๊กตาปิเอโรในคฤหาสน์กางเขนเช่นกัน

    ด้านสำนวนการแปลอ่านได้เพลินไม่มีสะดุดติดขัด บางคำพูดของบทสนทนาก็ทำให้รู้สึกฮาเหมือนกัน เป็นเรื่องที่น่าจะเครียด แต่กลับอ่านแล้วผ่อนคลายสบาย ๆ และอยากรู้ว่าที่แท้แล้วเรื่องราวเป็นอย่างไรกันแน่ ชอบบทสรุปของเรื่องในตอนท้ายที่ต่างไปจากนิยายแนวนี้ที่อ่านผ่านมาทั้งหมด นับว่าเป็นตอนจบที่ผมมีความสุขมากจริง ๆ ครับ โดยเฉพาะกลอุบายที่ใช้ ช่างน่าประทับใจยิ่ง

    #รีวิวหนังสือ
    #นิยายแปล
    #นิยายญี่ปุ่น
    #บทความ
    #เรื่องแปล
    #ฃาตกรรม
    #สืบสวน
    #thaitimes
    #ละครเวที
    #ไขปริศนา
    #สนุกจังตังอยู่ครบ ความสนุกที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ กับแค่โครงเรื่องแนวคลาสสิกที่ให้คนกลุ่มหนึ่ง ติดอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่อาจติดต่อกับคนอื่นได้ แล้วมีการตายเกิดขึ้นทีละราย ทว่าเล่มนี้มีการรื้อโครงสร้างแนวเก่าออก แล้วก่อขึ้นใหม่โดยรูปแบบภายนอกยังคงคล้ายเดิม ทว่าภายในนั้นมีความดัดแปลงให้แตกต่างไป นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่น่าพอใจยิ่ง ผมกำลังพูดถึง #ฆาตกรรมปิดตายบนภูเขาหิมะ ผลงานของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ ฝีมือแปลโดย สุรีรัตน์ งามสง่าพงษ์ จัดพิมพ์โดย สนพ.ไดฟุกุ เมื่อกรกฎาคม 2566 ความหนา 240 หน้า ราคา 270 บาท ต้นฉบับพิมพ์ตั้งแต่ปี 2539 นับถึงปัจจุบันก็เฉียด 30 ปีเข้าแล้ว อ่านจบก่อนและค่อนข้างชอบ จึงลองไปอ่านความเห็นคนอื่นดูบ้าง รู้สึกเสียงแตกเป็นสองฝั่ง มีไม่น้อยค่อนไปในทางไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก ซึ่งก็แล้วแต่ความเห็นของคนอ่าน ในส่วนของผมเองมีเหตุผลที่ชอบซึ่งจะได้เขียนถึงต่อไป เบื้องต้นขอเล่าเนื้อหาโดยสรุปดังนี้ ชายหนุ่มหญิงสาว 7 คน (แบ่งเป็นชาย4หญิง3) ที่ผ่านการออดิชันเพื่อจะรับบทแสดงนำในละครเวทีของคณะละครแห่งหนึ่ง ได้รับจดหมายจากผกก.ละครที่ส่งถึงทุกคนว่าให้มารวมตัวกันที่บ้านพักหลังหนึ่งบนภูเขาเป็นเวลา 4 วัน เพื่อฝึกซ้อมพิเศษตามวันเวลานัดที่ระบุ ถ้าใครไม่มาหรือมาช้าจะถูกตัดสิทธิ์ และห้ามบอกใครทั้งนั้น ที่บ้านพัก ทั้ง7คนได้พบกับเจ้าของบ้านที่รออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ให้ทราบว่ามีห้องอะไรในเกสต์เฮาส์บ้าง มีวัตถุดิบทำอาหารไว้ให้พอสำหรับ 4 วัน แต่ผู้มาพักต้องทำอาหารเอง ไม่มีใครมาคอยดูแลให้ทั้งสิ้น ทั้ง7ต้องอยู่ตามลำพัง เป็นเงื่อนไขที่ทางคนกลางของ ผกก.ที่ติดต่อมาแจ้งไว้ ก่อนออกจากบ้านพักเขาทิ้งท้ายว่าหากมีเหตุฉุกเฉินให้โทรศัพท์ถึงเขาได้ เขาอยู่อีกที่หนึ่งซึ่งห่างไปไม่ไกลนัก ขณะทั้ง7กำลังไม่สบอารมณ์ในสิ่งที่เจ้าของบ้านพักแจ้ง และจับกลุ่มสนทนา ปรากฏว่ามีจดหมายจากผกก.มาส่ง แจ้งรายละเอียดว่าตลอด 4 วันนี้ ให้ทุกคนถือเสมือนหนึ่งอยู่ในเหตุการณ์ที่มีหิมะตกหนัก ไม่สามารถออกไปไหนและสายสัญญาณโทรศัพท์ถูกหิมะหล่นทับไม่อาจติดต่อใคร และจะมีการฆาตกรรมเกิดขึ้น โดยให้แต่ละคนจำลองสถานการณ์เอาเองว่าจะทำอย่างไร ถ้ามีฆาตกรฆ่าคนตายไปทีละคน ทั้งหมดถือเป็นการฝึกซ้อมและทดสอบที่จะนำมาใช้ในการวัดผล โดยห้ามติดต่อหาใครทั้งนั้น ห้ามออกไปไหนจนกว่าจะครบกำหนด ใครฝ่าฝืนถือว่าสละสิทธิ์โดยปริยาย ด้วยเหตุนี้ยิ่งทำให้ทั้ง7คนทุ่มเถียงถึงคำสั่งแปลกพิสดารของผกก. แต่ในที่สุดก็จำต้องยอมรับและปฏิบัติตาม หลังเลือกห้องกันแล้วว่าใครจะพักห้องไหน มีทั้งห้องเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ มีห้องสันทนาการ ห้องนั่งเล่นรวม ห้องอาหาร ห้องครัว ห้องสุขาและอาบน้ำ และห้องอื่น ๆ ทุกคนใช้ชีวิตไปตามอัธยาศัย แล้วก็เกิดเหตุน่ากลัวขึ้นในคืนวันแรก สมาชิกในกลุ่มคนหนึ่งหายตัวไปในเช้าวันถัดมา และมีกระดาษที่เขียนคำอธิบายไว้ว่าบุคคลคนนั้นถูกฆ่าตายแล้วด้วยวิธีการใด และต้องหายตัวไปเหมือนถูกตัดออกจากการแข่งขัน สมาชิกที่เหลือจึงเริ่มตื่นตัวขึ้น แม้ไม่รู้ว่าเพื่อนคนดังกล่าวไปแอบอยู่ที่ใดระหว่างที่ยังไม่ครบ4วัน คนที่เหลือต้องพยายามหาทางคาดเดาตัวคนร้ายให้ได้ ในระหว่างคนทั้ง6ที่เหลือ ก็มีความสัมพันธ์ส่วนตัวพัวพันกันอยู่ มีชายอย่างน้อยสามคนที่ชอบหญิงคนหนึ่งในกลุ่ม จึงมีการพูดจาเชิงข่มหรือดูถูกเหยียดหยาม ส่วนหญิงอีกคนดูจะมีใจให้กับชายอีกคนที่ชอบผู้หญิงอีกคน มันช่างยุ่งเหยิงดีแท้ และแล้วก็มีการตายเกิดขึ้นอีกในคืนวันถัดมาโดยไม่มีใครทราบจนล่วงเข้าวันใหม่ ยังคงมีกระดาษเขียนรายละเอียดที่ระบุว่าผู้ตายถูกฆ่าแบบไหน และคนในกลุ่มก็หายตัวไปอีกหนึ่ง เหลือเพียง 5 คน ทำให้เกิดการทุ่มเถียงกันมากขึ้น มีคนหนึ่งเริ่มเสนอแนวคิดที่น่ากลัวว่า คนที่หายตัวไปนั้นอาจไม่ใช่การซ้อมแสดงละคร แต่ได้ถูกฆ่าตายไปแล้วจริง ๆ ความจริงเบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดคืออะไรกันแน่ หาคำตอบได้ใน ฆาตกรรมปิดตายบนภูเขาหิมะครับ .............. ความจริงเล่มนี้ตัวละครไม่เยอะ มีกล่าวถึงคนอื่นที่เกี่ยวข้องบ้างเล็กน้อยคือผกก. ,เจ้าของบ้านพัก,และตัวละครอีกหนึ่งคนซึ่งจะถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังคนในกลุ่มได้เข้าพักในบ้านไปแล้วระยะหนึ่ง ดังนั้นสำหรับผม ถือว่าเรื่องนี้มีความง่ายกว่าเรื่องอื่น ๆ ที่เคยอ่านมาในการจดจำตัวละคร เรียกว่าพยายามท่องจำเอาตั้งแต่เริ่มเลย พร้อมกับดูผังบ้านชั้น1 และชั้น2ประกอบไปด้วย เพื่อจำว่าใครพักอยู่ห้องไหนบ้าง แม้รายละเอียดของผังบ้านที่ให้มาจะไม่ได้มีรายละเอียดมากนัก แค่วาดแบ่งเป็นขนาดให้เห็นอย่างหยาบ ๆ ว่าห้องไหนคือห้องอะไร มีเฟอร์นิเจอร์ใดตั้งอยู่บ้างเท่าที่จำเป็น ตำแหน่งของประตูหน้าต่างก็บอกเฉพาะบางตำแหน่งเท่านั้น ไม่ได้แสดงครบทุกห้อง และมองเห็นบางจุดที่รู้สึกติดใจตั้งแต่ทีแรกว่าตำแหน่งนั้นคืออะไร ทำไมไม่ระบุรายละเอียดให้ทราบ พออ่านจนใกล้จบจึงถึงบางอ้อ ที่แท้จุดที่เราสงสัยเป็นส่วนสำคัญของปริศนาแห่งคดีในเล่มนี้ด้วยสิ ขอกล่าวถึงเหตุผลที่ชอบนะครับ หลักเลยคือเห็นถึงความตั้งใจของผู้เขียน ที่อยากจะทำให้เกิดการเล่าเรื่องแนวใหม่ที่แตกต่างไปจากการเล่ารูปแบบเดิมที่เคยใช้กันมาในนิยายรุ่นเก่าของนักเขียนดังหลายคนทางฝากตะวันตก แม้จะสร้างสถานการณ์ให้มีคนมาอยู่รวมกันในที่ซึ่งเหมือนหนีไปไหนไม่ได้ แล้วตายไปทีละคนเช่นโครงเรื่องแนวคลาสสิก แต่ก็ใส่รายละเอียดที่ทำให้ต่างตรงที่คราวนี้ ทุกอย่างถูกกำหนดบังคับจากกฎกติกาที่ระบุในจม. ทำให้เหยื่อมีความสับสนระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าคือความจริงหรือคือการแสดงละครตามสิ่งที่ผกก.ต้องการกันแน่ ที่สร้างสรรค์อย่างมากคือใช้วิธีการเล่าสองรูปแบบสลับกันไปตลอดทั้งเรื่อง คือเล่าในมุมมองพระเจ้าที่เราเข้าใจเอาเองแต่แรกว่าคือมุมมองสายตาของนักเขียน ทว่าเฉลยตอนท้ายที่เข้าสู่ช่วงไขคดีว่าที่แท้เป็นมุมมองพระเจ้าก็จริง แต่ไม่ใช่สายตาผู้เขียน หากแต่เป็นใคร หากได้อ่านเองแล้วก็จะรู้ จุดนี้ผมถือว่ายอดเยี่ยมมาก ส่วนอีกมุมมองหนึ่งจะเป็นการเล่าผ่านสายตาและความคิดของตัวละครตัวหนึ่งที่อยู่ในกลุ่ม7คน คล้ายทำนองบันทึกการคุยกับตัวเองว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น มีใครทำอะไร ใครคุยว่าอย่างไรบ้าง โดยในส่วนนี้จะมีสอดแทรกความเห็นส่วนตัวของคนดังกล่าวทำให้คนอ่านทราบมุมมองของเขาอย่างใกล้ชิด และเป็นตัวละครสำคัญที่เหมือนเป็นตัวขับเคลื่อนให้เรื่องเดินหน้าต่อไป และตัวละครตัวนี้เองที่ภายหลัง ก็คล้ายจะสถาปนาตนเองเป็นผู้ทำหน้าที่แทนนักสืบในการคลี่คลายปริศนาทั้งหมดด้วย เรื่องจะถูกแบ่งเล่าเป็น 4 วัน ในแต่ละวันมีอะไรเกิดขึ้นบ้างจนกระทั่งจบวัน จึงเริ่มต้นบทใหม่ในวันถัดไป ดังที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้คือ ตั้งใจท่องจำชื่อตัวละครทั้ง7และจำผังบ้านไว้ในหัวคร่าว ๆ ดังนั้นตอนอ่านที่ผู้เขียนบรรยายเล่าถึงช่วงที่ระบุถึงตัวละครกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนในห้องใด และการเล่าถึงสภาพภายในของบ้านพักว่ามีอะไรตั้งอยู่จุดไหนอย่างไร ผมจึงมองเห็นภาพเป็นสามมิติได้ไม่ยากนัก นับว่าผู้เขียนออกแบบและคิดผังบ้านหลังนี้มาได้ไม่เลว จึงสอดรับเข้ากันกับเหตุผลที่ประกอบในการกระทำของตัวละครต่าง ๆ อย่างกลมกลืน ด้วยความที่ส่วนตัวผมเคยผ่านการ try out จนได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของคนที่ได้รับการฝึกฝนเพื่อแสดงละครเวที รวมถึงเคยอยู่ในฐานะของผู้ที่ฝึกฝนการแสดงให้กับรุ่นน้องในคณะสมัยเรียนมาก่อน ดังนั้นจึงค่อนข้างเข้าใจในความรู้สึกของเหล่าตัวละครที่แสดงบทบาทลีลาในเรื่อง ว่าทำไมถึงคิดหรือพูดและทำอะไรลงไปดังที่ปรากฏนั้น ซึ่งไม่แปลกแต่ประการใด จึงถือว่าเล่มนี้เป็นอีกเล่มหนึ่งของผู้เขียน ที่มีมุมมองการเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์ได้น่าสนใจไม่แพ้เรื่องตุ๊กตาปิเอโรในคฤหาสน์กางเขนเช่นกัน ด้านสำนวนการแปลอ่านได้เพลินไม่มีสะดุดติดขัด บางคำพูดของบทสนทนาก็ทำให้รู้สึกฮาเหมือนกัน เป็นเรื่องที่น่าจะเครียด แต่กลับอ่านแล้วผ่อนคลายสบาย ๆ และอยากรู้ว่าที่แท้แล้วเรื่องราวเป็นอย่างไรกันแน่ ชอบบทสรุปของเรื่องในตอนท้ายที่ต่างไปจากนิยายแนวนี้ที่อ่านผ่านมาทั้งหมด นับว่าเป็นตอนจบที่ผมมีความสุขมากจริง ๆ ครับ โดยเฉพาะกลอุบายที่ใช้ ช่างน่าประทับใจยิ่ง #รีวิวหนังสือ #นิยายแปล #นิยายญี่ปุ่น #บทความ #เรื่องแปล #ฃาตกรรม #สืบสวน #thaitimes #ละครเวที #ไขปริศนา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทศกาลตรุษจีนใกล้เข้ามาทุกที ยังไม่ทันเปลี่ยนจากปีมังกรเป็นปีงู ผู้ผลิตไพ่ชาวจีนก็เข็นไพ่ธีมงูออกมาแลกแต๊ะเอียกันล่วงหน้าแล้วครับ

    'The Spiritual Snake Tarot' เป็นไพ่ทาโรต์ชุดใหม่ล่าสุดในเครือ บ. Chengdu Innerlit Culture Communication หรือชื่อเดิมคือ Chengdu Arcana เจ้าเดียวกับที่ทำไพ่ Stars Lighting Up the Night Tarot ทั้งยังปล่อยไพ่ทาโรต์ธีมปีนักษัตรออกมาแล้ว 2 ปีติดกัน ได้แก่ The Sage Rabbit Tarot เมื่อปี 2023 และ Lóng Tarot ในปีที่แล้ว

    'The Spiritual Snake Tarot' ไม่ใช่แค่ไพ่ทาโรต์ที่ทำในธีมงู แต่เป็นงูในบริบทของตำนานความเชื่อและวัฒนธรรมจีน หน้าไพ่แต่ละใบมีฉากเป็นประเทศจีนในยุคโบราณแบบตามนิยายกำลังภายใน และทุกใบจะมีงูอยู่ในภาพเสมอ บางใบก็เป็นตัวละครในตำนานหรือคติชนของจีนที่เป็นคนครึ่งงูหรืองูจำแลงกายเป็นคน เช่น ในไพ่ Magician เป็นผู้หญิงที่มีร่างกายท่อนล่างเป็นงู ซึ่งผู้สร้างไพ่ก็น่าจะสื่อว่าเป็นพระแม่หนี่วา

    ไพ่ในสำรับมี 78 ใบตามขนบทาโรต์มาตรฐาน ไพ่ชุดหลักไม่ได้ระบุชัดว่าอ้างอิงถึงตำนานเทพหรือเรื่องเล่าอะไรบ้าง (แต่ใครที่พอจะคุ้นเคยกับตำนานจีนอยู่บ้างก็อาจจะคุ้น ๆ กับตัวละครบางตัว) ส่วนไพ่ชุดรองแต่ละตระกูลจะถ่ายทอดเนื้อเรื่องจากนิทานคติชนของจีนที่เกี่ยวข้องกับงู 4 เรื่อง เรื่องที่ดังสุดและเชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นมาไม่เวอร์ชันใดก็เวอร์ชันหนึ่งคือตำนานของนางพญางูขาวไป๋ซู่เจินในไพ่ตระกูลถ้วย สำหรับไพ่ตระกูลดาบจะเป็นเรื่องราวของหญิงสาวผู้กล้านามหลี่จี้ที่อาสาตัวไปปราบงูยักษ์ (โครงเรื่องคล้าย ๆ เทพซูซาโนะโอะปราบงูยามาตะโนะโอโรจิของญี่ปุ่น เพียงแต่เปลี่ยนให้หญิงที่ควรจะเป็นหนึ่งในเครื่องสังเวยกลายเป็นคนฆ่างูแทน) ไพ่ตระกูลไม้เท้าเล่าตำนานของพญางูดำที่เป็นเทพแห่งขุนเขา ส่วนไพ่ตระกูลเหรียญเป็นเรื่องของกษัตริย์แห่งรัฐสุยช่วยชีวิตงูศักดิ์สิทธิ์และได้รับรางวัลตอบแทนเป็นไข่มุกแสงจันทร์

    สเปกไพ่จัดว่าอยู่ในระดับปานกลาง ไพ่พิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตมันเคลือบลินิน หนา 350 gsm ไม่ไถขอบ ลายหลังไพ่มีความสมมาตร ดังนั้นใช้อ่านไพ่แบบกลับหัวได้ บรรจุในกล่องแข็งจั่วปังแบบฝาครอบ มีคู่มือเล่มเล็กเนื้อหาภาษาจีนและอังกฤษ อธิบายความหมายไพ่แต่ละใบทั้งแบบตั้งตรงและกลับหัวสั้น ๆ ในส่วนของไพ่ชุดรองแต่ละตระกูลจะมีการเล่าเรื่องย่อของนิทานคติชนที่เป็น Reference (ตามที่ว่าไว้ในย่อหน้าข้างบน)

    หน้าไพ่โดยรวมสามารถอ่านแบบทาโรต์กึ่งออราเคิลได้ แต่สำหรับคนที่อาจจะไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับหนังหรือซีรีส์จีนโบราณกำลังภายใน ก็อาจจะสตั๊นไปเมื่อเห็นหน้าไพ่บางใบเช่นกัน (โดยเฉพาะไพ่ชุดรองที่อ้างอิงเนื้อเรื่องตำนานนิทานต่าง ๆ) ดังนั้นยึดเอาความหมายไพ่ตามระบบไว้ก็ไม่เสียหายครับ
    เทศกาลตรุษจีนใกล้เข้ามาทุกที ยังไม่ทันเปลี่ยนจากปีมังกรเป็นปีงู ผู้ผลิตไพ่ชาวจีนก็เข็นไพ่ธีมงูออกมาแลกแต๊ะเอียกันล่วงหน้าแล้วครับ 'The Spiritual Snake Tarot' เป็นไพ่ทาโรต์ชุดใหม่ล่าสุดในเครือ บ. Chengdu Innerlit Culture Communication หรือชื่อเดิมคือ Chengdu Arcana เจ้าเดียวกับที่ทำไพ่ Stars Lighting Up the Night Tarot ทั้งยังปล่อยไพ่ทาโรต์ธีมปีนักษัตรออกมาแล้ว 2 ปีติดกัน ได้แก่ The Sage Rabbit Tarot เมื่อปี 2023 และ Lóng Tarot ในปีที่แล้ว 'The Spiritual Snake Tarot' ไม่ใช่แค่ไพ่ทาโรต์ที่ทำในธีมงู แต่เป็นงูในบริบทของตำนานความเชื่อและวัฒนธรรมจีน หน้าไพ่แต่ละใบมีฉากเป็นประเทศจีนในยุคโบราณแบบตามนิยายกำลังภายใน และทุกใบจะมีงูอยู่ในภาพเสมอ บางใบก็เป็นตัวละครในตำนานหรือคติชนของจีนที่เป็นคนครึ่งงูหรืองูจำแลงกายเป็นคน เช่น ในไพ่ Magician เป็นผู้หญิงที่มีร่างกายท่อนล่างเป็นงู ซึ่งผู้สร้างไพ่ก็น่าจะสื่อว่าเป็นพระแม่หนี่วา ไพ่ในสำรับมี 78 ใบตามขนบทาโรต์มาตรฐาน ไพ่ชุดหลักไม่ได้ระบุชัดว่าอ้างอิงถึงตำนานเทพหรือเรื่องเล่าอะไรบ้าง (แต่ใครที่พอจะคุ้นเคยกับตำนานจีนอยู่บ้างก็อาจจะคุ้น ๆ กับตัวละครบางตัว) ส่วนไพ่ชุดรองแต่ละตระกูลจะถ่ายทอดเนื้อเรื่องจากนิทานคติชนของจีนที่เกี่ยวข้องกับงู 4 เรื่อง เรื่องที่ดังสุดและเชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นมาไม่เวอร์ชันใดก็เวอร์ชันหนึ่งคือตำนานของนางพญางูขาวไป๋ซู่เจินในไพ่ตระกูลถ้วย สำหรับไพ่ตระกูลดาบจะเป็นเรื่องราวของหญิงสาวผู้กล้านามหลี่จี้ที่อาสาตัวไปปราบงูยักษ์ (โครงเรื่องคล้าย ๆ เทพซูซาโนะโอะปราบงูยามาตะโนะโอโรจิของญี่ปุ่น เพียงแต่เปลี่ยนให้หญิงที่ควรจะเป็นหนึ่งในเครื่องสังเวยกลายเป็นคนฆ่างูแทน) ไพ่ตระกูลไม้เท้าเล่าตำนานของพญางูดำที่เป็นเทพแห่งขุนเขา ส่วนไพ่ตระกูลเหรียญเป็นเรื่องของกษัตริย์แห่งรัฐสุยช่วยชีวิตงูศักดิ์สิทธิ์และได้รับรางวัลตอบแทนเป็นไข่มุกแสงจันทร์ สเปกไพ่จัดว่าอยู่ในระดับปานกลาง ไพ่พิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตมันเคลือบลินิน หนา 350 gsm ไม่ไถขอบ ลายหลังไพ่มีความสมมาตร ดังนั้นใช้อ่านไพ่แบบกลับหัวได้ บรรจุในกล่องแข็งจั่วปังแบบฝาครอบ มีคู่มือเล่มเล็กเนื้อหาภาษาจีนและอังกฤษ อธิบายความหมายไพ่แต่ละใบทั้งแบบตั้งตรงและกลับหัวสั้น ๆ ในส่วนของไพ่ชุดรองแต่ละตระกูลจะมีการเล่าเรื่องย่อของนิทานคติชนที่เป็น Reference (ตามที่ว่าไว้ในย่อหน้าข้างบน) หน้าไพ่โดยรวมสามารถอ่านแบบทาโรต์กึ่งออราเคิลได้ แต่สำหรับคนที่อาจจะไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับหนังหรือซีรีส์จีนโบราณกำลังภายใน ก็อาจจะสตั๊นไปเมื่อเห็นหน้าไพ่บางใบเช่นกัน (โดยเฉพาะไพ่ชุดรองที่อ้างอิงเนื้อเรื่องตำนานนิทานต่าง ๆ) ดังนั้นยึดเอาความหมายไพ่ตามระบบไว้ก็ไม่เสียหายครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔴 SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep277 (live)
    คดีแตงโม “อุบัติเหตุ หรือ ฆาตกรรม” ความหวังอยู่ที่ DSI ความจริงจะต้องปรากฏ เพราะความจริงมีหนึ่งเดียว งานนี้สุดซอย!!
    🔴 SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep277 (live) คดีแตงโม “อุบัติเหตุ หรือ ฆาตกรรม” ความหวังอยู่ที่ DSI ความจริงจะต้องปรากฏ เพราะความจริงมีหนึ่งเดียว งานนี้สุดซอย!!
    Like
    Love
    Wow
    Haha
    Yay
    118
    24 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 3827 มุมมอง 6 รีวิว
  • เล่าเรื่องTikTok@newsonetiktok #news1 #mgronline #sondhitalk #ยามเช้าริมเจ้าพระยา #โกงพ่อมึงสิ #พ่อมึงสิโกง #ว่างว่างก็แวะมา
    เล่าเรื่องTikTok@newsonetiktok #news1 #mgronline #sondhitalk #ยามเช้าริมเจ้าพระยา #โกงพ่อมึงสิ #พ่อมึงสิโกง #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 537 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • 24/1/68

    ในประเทศญี่ปุ่นไม่มีวันครู
    …วันหนึ่งฉันถามเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่นของฉัน ครู
    ยามาโมตะว่า
    - คุณฉลองวันครูในประเทศญี่ปุ่นอย่างไร

    เขาแปลกใจกับคำถามของฉันและตอบว่า

    - เราไม่มีวันครู
    เมื่อฉันได้ยินคำตอบของเขา ฉันไม่แน่ใจว่าควรเชื่อเขาหรือไม่ ความคิดแวบเข้ามาในหัวของฉัน: "ทำไมประเทศที่ก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ถึงไม่เคารพครูและงานของพวกเขา"
    ***
    ครั้งหนึ่งหลังเลิกงาน ยามาโมตะเชิญฉันไปบ้านเขา เราขึ้นรถไฟใต้ดินเพราะว่ามันอยู่ไกลมาก เป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วนตอนเย็น และตู้โดยสารในรถไฟใต้ดินก็แน่นมาก ฉันหาที่ยืนได้โดยจับราวบันไดแน่น ทันใดนั้น ชายชราที่นั่งข้างฉันก็เสนอที่นั่งให้ฉัน ฉันไม่เข้าใจพฤติกรรมที่น่าเคารพของชายชราคนนั้น จึงปฏิเสธ แต่เขายังคงยืนกราน ฉันจึงถูกบังคับให้นั่งลง เมื่อเราออกจากรถไฟใต้ดิน ฉันขอให้ยามาโมตะอธิบายว่า ผู้ชายคนที่มีเคราสีขาว เค้าทำแบบนั้นทำไมยามาโมตะยิ้มและชี้ไปที่ป้ายชื่อครูที่ฉันสวมอยู่และพูดว่า :

    - ชายชราคนนี้หลังจากเห็นป้ายชื่อครูที่ติดอยู่บนตัวคุณ และเพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อสถานะของคุณ เขาจึงเสนอที่นั่งให้คุณ
    เนื่องจากฉันมาที่ บ้านคุณยามาโมตะเป็นครั้งแรก ฉันจึงรู้สึกไม่สบายใจที่จะไปที่นั่นโดยไม่ได้ทำอะไรเลย จึงคิดจะซื้อของขวัญ ฉันจึงเล่าความคิดของฉันให้ยามาโมตะฟัง เขาสนับสนุนแนวคิดนี้และบอกว่ามีร้านค้าสำหรับครูอยู่อีกเล็กน้อย ซึ่งคุณสามารถซื้อของได้ในราคาลดพิเศษ อีกครั้ง ฉันอดไม่ได้ที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง :

    - สิทธิพิเศษมีให้เฉพาะกับครูเท่านั้นหรือ ฉันถาม
    ยามาโมตะยืนยันคำพูดของฉันโดยกล่าวว่า :
    - ในญี่ปุ่น การสอนเป็นอาชีพที่ได้รับความเคารพมากที่สุด และครูคือบุคคลที่ได้รับความเคารพมากที่สุด ผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นมีความสุขมากเมื่อครูมาที่ร้านของพวกเขา พวกเขาคิดว่าเป็นเกียรติ
    ***
    ระหว่างที่ฉันอยู่ที่ญี่ปุ่น ฉันสังเกตเห็นหลายครั้งว่าคนญี่ปุ่นให้ความเคารพครูอย่างสูงสุด พวกเขามีที่นั่งพิเศษที่จัดสรรให้ในรถไฟใต้ดิน มีร้านค้าพิเศษสำหรับพวกเขา ครูที่นั่นไม่ต้องเข้าคิวเพื่อซื้อตั๋วสำหรับการขนส่งประเภทใดๆ... นั่นคือเหตุผลที่ครูชาวญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องมีวันพิเศษ (เพราะทุกวันในชีวิตของพวกเขาคือการเฉลิมฉลอง)
    โปรดเผยแพร่เรื่องราวนี้ให้ทุกคนได้รู้ ปล่อยให้สังคมเติบโตขึ้นเพื่อชื่นชมครูในระดับนี้ เล่าเรื่องนี้อีกครั้งให้เพื่อนร่วมงานของคุณฟังเพื่อให้พวกเขาภาคภูมิใจ
    ครูของฉัน ฉันขอคารวะ
    24/1/68 ในประเทศญี่ปุ่นไม่มีวันครู …วันหนึ่งฉันถามเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่นของฉัน ครู ยามาโมตะว่า - คุณฉลองวันครูในประเทศญี่ปุ่นอย่างไร เขาแปลกใจกับคำถามของฉันและตอบว่า - เราไม่มีวันครู เมื่อฉันได้ยินคำตอบของเขา ฉันไม่แน่ใจว่าควรเชื่อเขาหรือไม่ ความคิดแวบเข้ามาในหัวของฉัน: "ทำไมประเทศที่ก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ถึงไม่เคารพครูและงานของพวกเขา" *** ครั้งหนึ่งหลังเลิกงาน ยามาโมตะเชิญฉันไปบ้านเขา เราขึ้นรถไฟใต้ดินเพราะว่ามันอยู่ไกลมาก เป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วนตอนเย็น และตู้โดยสารในรถไฟใต้ดินก็แน่นมาก ฉันหาที่ยืนได้โดยจับราวบันไดแน่น ทันใดนั้น ชายชราที่นั่งข้างฉันก็เสนอที่นั่งให้ฉัน ฉันไม่เข้าใจพฤติกรรมที่น่าเคารพของชายชราคนนั้น จึงปฏิเสธ แต่เขายังคงยืนกราน ฉันจึงถูกบังคับให้นั่งลง เมื่อเราออกจากรถไฟใต้ดิน ฉันขอให้ยามาโมตะอธิบายว่า ผู้ชายคนที่มีเคราสีขาว เค้าทำแบบนั้นทำไมยามาโมตะยิ้มและชี้ไปที่ป้ายชื่อครูที่ฉันสวมอยู่และพูดว่า : - ชายชราคนนี้หลังจากเห็นป้ายชื่อครูที่ติดอยู่บนตัวคุณ และเพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อสถานะของคุณ เขาจึงเสนอที่นั่งให้คุณ เนื่องจากฉันมาที่ บ้านคุณยามาโมตะเป็นครั้งแรก ฉันจึงรู้สึกไม่สบายใจที่จะไปที่นั่นโดยไม่ได้ทำอะไรเลย จึงคิดจะซื้อของขวัญ ฉันจึงเล่าความคิดของฉันให้ยามาโมตะฟัง เขาสนับสนุนแนวคิดนี้และบอกว่ามีร้านค้าสำหรับครูอยู่อีกเล็กน้อย ซึ่งคุณสามารถซื้อของได้ในราคาลดพิเศษ อีกครั้ง ฉันอดไม่ได้ที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง : - สิทธิพิเศษมีให้เฉพาะกับครูเท่านั้นหรือ ฉันถาม ยามาโมตะยืนยันคำพูดของฉันโดยกล่าวว่า : - ในญี่ปุ่น การสอนเป็นอาชีพที่ได้รับความเคารพมากที่สุด และครูคือบุคคลที่ได้รับความเคารพมากที่สุด ผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นมีความสุขมากเมื่อครูมาที่ร้านของพวกเขา พวกเขาคิดว่าเป็นเกียรติ *** ระหว่างที่ฉันอยู่ที่ญี่ปุ่น ฉันสังเกตเห็นหลายครั้งว่าคนญี่ปุ่นให้ความเคารพครูอย่างสูงสุด พวกเขามีที่นั่งพิเศษที่จัดสรรให้ในรถไฟใต้ดิน มีร้านค้าพิเศษสำหรับพวกเขา ครูที่นั่นไม่ต้องเข้าคิวเพื่อซื้อตั๋วสำหรับการขนส่งประเภทใดๆ... นั่นคือเหตุผลที่ครูชาวญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องมีวันพิเศษ (เพราะทุกวันในชีวิตของพวกเขาคือการเฉลิมฉลอง) โปรดเผยแพร่เรื่องราวนี้ให้ทุกคนได้รู้ ปล่อยให้สังคมเติบโตขึ้นเพื่อชื่นชมครูในระดับนี้ เล่าเรื่องนี้อีกครั้งให้เพื่อนร่วมงานของคุณฟังเพื่อให้พวกเขาภาคภูมิใจ ครูของฉัน ฉันขอคารวะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • เล่าเรื่องTikTok@wang_gao7 #วังเก่า #โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน #รัชกาลที่10 #เริ่มที่ตัวเรา #ว่างว่างก็แวะมา
    เล่าเรื่องTikTok@wang_gao7 #วังเก่า #โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน #รัชกาลที่10 #เริ่มที่ตัวเรา #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • เล่าเรื่องTikTok@wang_gao7 #วังเก่า #โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน #ว่างว่างก็แวะมา
    เล่าเรื่องTikTok@wang_gao7 #วังเก่า #โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • เล่าเรื่องTikTok@manoottangwal #มนุษย์ต่างวัย #ได้ดิบได้ดี #ท่องเที่ยว #ไทย #ว่างว่างก็แวะมา
    เล่าเรื่องTikTok@manoottangwal #มนุษย์ต่างวัย #ได้ดิบได้ดี #ท่องเที่ยว #ไทย #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • เล่าเรื่องTikTok@pordee_offcial #pordeeproduct #mannature #สมุนไพร #ไทย #สุขภาพ #news1 #ว่างว่างก็แวะมา
    เล่าเรื่องTikTok@pordee_offcial #pordeeproduct #mannature #สมุนไพร #ไทย #สุขภาพ #news1 #ว่างว่างก็แวะมา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • บทความถึงท่านพ่อหลวง(ในหลวงรัชกาลที่ ๙)ฉบับที่ 4
    นี่ก็เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่มีการบอกเล่าเรื่องราวถึงท่านพ่อหลวง(ในหลวงรัชกาลที่ ๙)อีกบทเพลงหนึ่งนะครับ
    ในยูทูปที่ชื่อ An Everlasting Light - international artists record in honor of H.M. King Bhumibol of Thailand
    บทความถึงท่านพ่อหลวง(ในหลวงรัชกาลที่ ๙)ฉบับที่ 4 นี่ก็เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่มีการบอกเล่าเรื่องราวถึงท่านพ่อหลวง(ในหลวงรัชกาลที่ ๙)อีกบทเพลงหนึ่งนะครับ ในยูทูปที่ชื่อ An Everlasting Light - international artists record in honor of H.M. King Bhumibol of Thailand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศ ๆ
    แบรนด์ศิษย์เกษตรมีมาสคอตแล้วนะ น้องมีชื่อว่า "วรุณศิริ"
    .....
    พี่ที่เป็นพาร์ทเนอร์ด้านการออกแบบ เป็นผู้ออกแบบให้และตั้งชื่อให้ด้วย พี่เขาบอกว่า
    วรุณศิริ =ความมั่งคั่งจากเทพเจ้าแห่งสายน้ำ
    ....
    น้องวรุณศิริมีต้นแบบมาจากตัวนาก เหตุที่ ศิษย์เกษตรเลือกตัวนากเพราะเป็นสัตว์ที่มีนิสัยใช้ชีวิตด้วยความสุขและมีความฉลาด
    ....
    ต่อไปนี้น้องวรุณศิริจะเป็นตัวแทนเล่าเรื่องราวของแบรนด์ศิษย์เกษตรนะครับ รอติดตามผลงานกันได้เลย อ่อ...ประชาสัมพันธ์เลยก็แล้วกัน ผลงานแรกของน้องวรุณศิริจะออกวางจำหน่ายเดือนหน้า เป็นหนังสืออีบุ๊กเรื่อง
    "คู่มือรับเหมาตัดหญ้าให้มีรายได้มากกว่างานประจำ"
    #ถ้าน้องน่ารักก็ช่วยกดไลค์กดหัวจงหัวใจให้บ้างนะ555
    ประกาศ ๆ แบรนด์ศิษย์เกษตรมีมาสคอตแล้วนะ น้องมีชื่อว่า "วรุณศิริ" ..... พี่ที่เป็นพาร์ทเนอร์ด้านการออกแบบ เป็นผู้ออกแบบให้และตั้งชื่อให้ด้วย พี่เขาบอกว่า วรุณศิริ =ความมั่งคั่งจากเทพเจ้าแห่งสายน้ำ .... น้องวรุณศิริมีต้นแบบมาจากตัวนาก เหตุที่ ศิษย์เกษตรเลือกตัวนากเพราะเป็นสัตว์ที่มีนิสัยใช้ชีวิตด้วยความสุขและมีความฉลาด .... ต่อไปนี้น้องวรุณศิริจะเป็นตัวแทนเล่าเรื่องราวของแบรนด์ศิษย์เกษตรนะครับ รอติดตามผลงานกันได้เลย อ่อ...ประชาสัมพันธ์เลยก็แล้วกัน ผลงานแรกของน้องวรุณศิริจะออกวางจำหน่ายเดือนหน้า เป็นหนังสืออีบุ๊กเรื่อง "คู่มือรับเหมาตัดหญ้าให้มีรายได้มากกว่างานประจำ" #ถ้าน้องน่ารักก็ช่วยกดไลค์กดหัวจงหัวใจให้บ้างนะ555
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศ ๆ
    วันนี้ lit nit ขอเปิดตัวมาสคอตของแบรนด์ศิษย์เกษตร น้องมีชื่อว่า "วรุณศิริ"
    .....
    พี่ที่เป็นพาร์ทเนอร์ด้านการออกแบบของ lit nit เป็นผู้ออกแบบให้และตั้งชื่อให้ด้วย พี่เขาบอกว่า
    วรุณศิริ =ความมั่งคั่งจากเทพเจ้าแห่งสายน้ำ
    ....
    น้องวรุณศิริมีต้นแบบมาจากตัวนาก เหตุที่ lit nit เลือกตัวนากเพราะเป็นสัตว์ที่มีนิสัยใช้ชีวิตด้วยความสุขและมีความฉลาด
    ....
    ต่อไปนี้น้องวรุณศิริจะเป็นตัวแทนเล่าเรื่องราวของแบรนด์ศิษย์เกษตรนะครับ รอติดตามผลงานกันได้เลย อ่อ...ประชาสัมพันธ์เลยก็แล้วกัน ผลงานแรกของน้องวรุณศิริจะออกวางจำหน่ายเดือนหน้า เป็นหนังสืออีบุ๊กเรื่อง
    "คู่มือรับเหมาตัดหญ้าให้มีรายได้มากกว่างานประจำ"
    #ถ้าน้องน่ารักก็ช่วยกดไลค์กดหัวจงหัวใจให้บ้างนะ555
    ประกาศ ๆ วันนี้ lit nit ขอเปิดตัวมาสคอตของแบรนด์ศิษย์เกษตร น้องมีชื่อว่า "วรุณศิริ" ..... พี่ที่เป็นพาร์ทเนอร์ด้านการออกแบบของ lit nit เป็นผู้ออกแบบให้และตั้งชื่อให้ด้วย พี่เขาบอกว่า วรุณศิริ =ความมั่งคั่งจากเทพเจ้าแห่งสายน้ำ .... น้องวรุณศิริมีต้นแบบมาจากตัวนาก เหตุที่ lit nit เลือกตัวนากเพราะเป็นสัตว์ที่มีนิสัยใช้ชีวิตด้วยความสุขและมีความฉลาด .... ต่อไปนี้น้องวรุณศิริจะเป็นตัวแทนเล่าเรื่องราวของแบรนด์ศิษย์เกษตรนะครับ รอติดตามผลงานกันได้เลย อ่อ...ประชาสัมพันธ์เลยก็แล้วกัน ผลงานแรกของน้องวรุณศิริจะออกวางจำหน่ายเดือนหน้า เป็นหนังสืออีบุ๊กเรื่อง "คู่มือรับเหมาตัดหญ้าให้มีรายได้มากกว่างานประจำ" #ถ้าน้องน่ารักก็ช่วยกดไลค์กดหัวจงหัวใจให้บ้างนะ555
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • เล่าเรื่องTikTok@storymyqueen #พระราชินีสุทิดา #queenofthailand #ทรงพระเจริญ #ว่างว่างก็แวะมา
    เล่าเรื่องTikTok@storymyqueen #พระราชินีสุทิดา #queenofthailand #ทรงพระเจริญ #ว่างว่างก็แวะมา
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 3 1 รีวิว
  • เล่าเรื่องTikTok@phee_mor #หมอวรงค์ #ชุมชน #วิถีไทย #ท่องเที่ยว #บ้านหนองนาเกลือ #ว่างว่างก็แวะมา
    เล่าเรื่องTikTok@phee_mor #หมอวรงค์ #ชุมชน #วิถีไทย #ท่องเที่ยว #บ้านหนองนาเกลือ #ว่างว่างก็แวะมา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • เล่าเรื่องTikTok@jayvanasuwan #พ่อเลี้ยงเจจากดาวอังคาร #mgronline #news1 #หมอบี #ว่างว่างก็แวะมา
    เล่าเรื่องTikTok@jayvanasuwan #พ่อเลี้ยงเจจากดาวอังคาร #mgronline #news1 #หมอบี #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • เล่าเรื่องTikTok@onechampth #onechampionshipthailand #oneลุมพินี #มวย #ไทย #ว่างว่างก็แวะมา
    เล่าเรื่องTikTok@onechampth #onechampionshipthailand #oneลุมพินี #มวย #ไทย #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 2 0 รีวิว
Pages Boosts