• ระเบียบโลกใหม่ ระบบสาธารณสุข ความเป็นความตายของคนไทย (UNCUT)

    ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เรื่องสุขภาพความเป็นความตายประชาชน เรื่องจริงที่พูดไม่ได้ในทางสาธารณะ แต่เรามีคลิป UNCUT รับชมเต็มๆ แบบไม่ตัด

    #ความจริงมีหนึ่งเดียว #หมอธีรวัะฒน์ #วัคซีน #สารพิษ #หมอเหี้ย #ระบบสาธาณะสุข
    ระเบียบโลกใหม่ ระบบสาธารณสุข ความเป็นความตายของคนไทย (UNCUT) ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เรื่องสุขภาพความเป็นความตายประชาชน เรื่องจริงที่พูดไม่ได้ในทางสาธารณะ แต่เรามีคลิป UNCUT รับชมเต็มๆ แบบไม่ตัด #ความจริงมีหนึ่งเดียว #หมอธีรวัะฒน์ #วัคซีน #สารพิษ #หมอเหี้ย #ระบบสาธาณะสุข
    Like
    Love
    Wow
    17
    5 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 720 มุมมอง 241 3 รีวิว
  • เปิดที่มาของเหตุการณ์ แอม ไซยาไนด์...
    เบื้องหลังคําสั่งประหารชีวิตแอมไซยาไนด์ ส่วนหนึ่งขอยกความดีความชอบให้ห้องแล็บที่ มัดแอมจนดิ้นไม่หลุด คนที่ทุ่มเททํางานในห้องแล็บนั้นก็คือ อาจารย์อ๊อด รศ.ดร.วีระชัย ประธานหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อาจารย์อ๊อดเล่าว่าต้องพิสูจน์หลักฐานกว่า 800ชิ้น ที่ทางตํารวจส่งมาให้ช่วยตรวจหาสารพิษไซยาไนด์ผ่านระบบเครื่องมือไฮเทค ของห้องแล็บเคมี บวกกับบุคลากรที่มีความชํานาญการซึ่งก็มี อ อ๊อด เป็นหัวหน้าทีม ผลก็คือการพบสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ ทั้งในรถในบ้านของแอมไซยาไนด์รวมถึงในยาของกลางที่แอมไซยาไนด์ แอบยัดไส้ให้เพื่อนกิน
    เป็นหลักฐานสําคัญนํามาสู่การฟ้องแอมไซยาไนด์คดีฆ่าคนตายถึง14 ศพและเกือบตายอีกหนึ่งคน ที่พีคกว่านั้นทีมอาจารย์อ๊อดยังตรวจพบยาถอนพิษไซยาไนด์ในบ้านของแอมด้วย สารตัวนี้มีชื่อว่าโซเดียมไพโอซัลเฟต พอฉีดสารนี้เข้าเส้นเลือดมันจะช่วยถอนพิษสุดโหดของไซยาไนด์ได้ทันท่วงที เรื่องนี้ทำให้รู้ว่า หมอพิษก็กลัวตายเพราะพิษ จึงต้องมียาแก้พิษติดไว้ใกล้มือเมื่อนําไปประกอบกับหลักฐานอื่นๆ ที่ตํารวจเสาะหามาได้ คดีของก้อยนางสาวศิริพร ขันธ์วงศ์ ซึ่งถือเป็นคดีนําร่องของซีรี่ย์แอมไซยาไนด์ จึงได้ผลออกมาเป็นคําสั่งประหารชีวิตสถานเดียว
    ความอันตรายอีกอย่างของ ไซยาไนด์ คือมันเป็นสารราคาถูกที่เคยซื้อได้ทั่วไปในอินเทอร์เน็ต เนื่องจากมันใช้แพร่หลายในอุตสาหกรรมอัญมณีทองรูปพรรณ แม้จะเป็นสารควบคุมแต่ดันมีข้อแม้ว่า ต้องซื้อเกิน1 ตันโน่นเลย จึงจะเข้าเกณฑ์ ต้องขออนุญาตจากทางราชการตรงนี้จึงเป็นช่องว่างให้โพแทสเซียมไซยาไนด์เป็นสารซื้อง่ายขายคล่องไปอยู่ในมืออาชญากรได้ง่าย ความที่ไม่มีสี ไม่มีรสไม่มีกลิ่นขนาดผสมลงในเครื่องดื่ม คนดื่มก็ไม่รู้ว่ามีพิษใช้ปริมาณน้อยนิดแค่100 มิลลิกรัม ก็ปลิดชีวิตคนได้แล้ว
    เหตุจูงใจก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการพนันออนไลน์ ที่แพร่หลายมากในสังคมไทย แอมไซยาไนด์เป็นทาสการพนันออนไลน์ เที่ยวหยิบยืมเงินคนรู้จักไปทั่วจนมีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงเกิดไอเดียใช้ยาพิษฆ่าล้างหนี้เหยื่อของเธอล้วนแต่เป็นเจ้าหนี้เป็นเพื่อน เป็นผัว เป็นคนที่ไว้ใจกันทั้งสิ้น อุทาหรณ์จากคดีนี้บอกว่าการคบเพื่อนต้องพยายามอยู่ให้ไกลจากพวกผีพนัน หรืออย่าให้คนร้อนเงิน มาเป็นลูกหนี้ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ

    เปิดที่มาของเหตุการณ์ แอม ไซยาไนด์... เบื้องหลังคําสั่งประหารชีวิตแอมไซยาไนด์ ส่วนหนึ่งขอยกความดีความชอบให้ห้องแล็บที่ มัดแอมจนดิ้นไม่หลุด คนที่ทุ่มเททํางานในห้องแล็บนั้นก็คือ อาจารย์อ๊อด รศ.ดร.วีระชัย ประธานหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อาจารย์อ๊อดเล่าว่าต้องพิสูจน์หลักฐานกว่า 800ชิ้น ที่ทางตํารวจส่งมาให้ช่วยตรวจหาสารพิษไซยาไนด์ผ่านระบบเครื่องมือไฮเทค ของห้องแล็บเคมี บวกกับบุคลากรที่มีความชํานาญการซึ่งก็มี อ อ๊อด เป็นหัวหน้าทีม ผลก็คือการพบสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ ทั้งในรถในบ้านของแอมไซยาไนด์รวมถึงในยาของกลางที่แอมไซยาไนด์ แอบยัดไส้ให้เพื่อนกิน เป็นหลักฐานสําคัญนํามาสู่การฟ้องแอมไซยาไนด์คดีฆ่าคนตายถึง14 ศพและเกือบตายอีกหนึ่งคน ที่พีคกว่านั้นทีมอาจารย์อ๊อดยังตรวจพบยาถอนพิษไซยาไนด์ในบ้านของแอมด้วย สารตัวนี้มีชื่อว่าโซเดียมไพโอซัลเฟต พอฉีดสารนี้เข้าเส้นเลือดมันจะช่วยถอนพิษสุดโหดของไซยาไนด์ได้ทันท่วงที เรื่องนี้ทำให้รู้ว่า หมอพิษก็กลัวตายเพราะพิษ จึงต้องมียาแก้พิษติดไว้ใกล้มือเมื่อนําไปประกอบกับหลักฐานอื่นๆ ที่ตํารวจเสาะหามาได้ คดีของก้อยนางสาวศิริพร ขันธ์วงศ์ ซึ่งถือเป็นคดีนําร่องของซีรี่ย์แอมไซยาไนด์ จึงได้ผลออกมาเป็นคําสั่งประหารชีวิตสถานเดียว ความอันตรายอีกอย่างของ ไซยาไนด์ คือมันเป็นสารราคาถูกที่เคยซื้อได้ทั่วไปในอินเทอร์เน็ต เนื่องจากมันใช้แพร่หลายในอุตสาหกรรมอัญมณีทองรูปพรรณ แม้จะเป็นสารควบคุมแต่ดันมีข้อแม้ว่า ต้องซื้อเกิน1 ตันโน่นเลย จึงจะเข้าเกณฑ์ ต้องขออนุญาตจากทางราชการตรงนี้จึงเป็นช่องว่างให้โพแทสเซียมไซยาไนด์เป็นสารซื้อง่ายขายคล่องไปอยู่ในมืออาชญากรได้ง่าย ความที่ไม่มีสี ไม่มีรสไม่มีกลิ่นขนาดผสมลงในเครื่องดื่ม คนดื่มก็ไม่รู้ว่ามีพิษใช้ปริมาณน้อยนิดแค่100 มิลลิกรัม ก็ปลิดชีวิตคนได้แล้ว เหตุจูงใจก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการพนันออนไลน์ ที่แพร่หลายมากในสังคมไทย แอมไซยาไนด์เป็นทาสการพนันออนไลน์ เที่ยวหยิบยืมเงินคนรู้จักไปทั่วจนมีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงเกิดไอเดียใช้ยาพิษฆ่าล้างหนี้เหยื่อของเธอล้วนแต่เป็นเจ้าหนี้เป็นเพื่อน เป็นผัว เป็นคนที่ไว้ใจกันทั้งสิ้น อุทาหรณ์จากคดีนี้บอกว่าการคบเพื่อนต้องพยายามอยู่ให้ไกลจากพวกผีพนัน หรืออย่าให้คนร้อนเงิน มาเป็นลูกหนี้ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีสารพิษปนเปื้อนดินและน้ำในคลอง เพราะมีคนใช้สารพิษฆ่าหญ้าและแมลงในกระบวนการเกษตร โดยขาดจิตสำนึกและไร้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่มีหน้าที่ในพื้นที่
    สารพิณเหล่านั้น ก็ย้อนมาฆ่ามนุษย์ด้วยกันเองแบบผ่อนส่ง นี้คือ
    "เวรกรรม" ประการหนึ่ง
    มีสารพิษปนเปื้อนดินและน้ำในคลอง เพราะมีคนใช้สารพิษฆ่าหญ้าและแมลงในกระบวนการเกษตร โดยขาดจิตสำนึกและไร้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่มีหน้าที่ในพื้นที่ สารพิณเหล่านั้น ก็ย้อนมาฆ่ามนุษย์ด้วยกันเองแบบผ่อนส่ง นี้คือ "เวรกรรม" ประการหนึ่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพิ่งเสร็จงานที่ช่วงแรกผมคิดว่ามันยาก พอทำจริงๆมันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยแฮะ ไม่มีอะไรยากไปกว่าตัวเราจะทำเรื่องยากๆเล่นของยากๆไม่ได้ ผมเล่นของยากบ่อย เลยรู้สึกยิ่งเล่นยิ่งเพลินจริงๆ และเล่นของยากด้วยการปลูกผักปลอดสารพิษ แต่จะปลูกหลายชนิด ไม่ผูกขาดชนิดเดียว คือผมควรจะใช้ชีวิตให้สมราคาเกียรตินิยมอันดับ 1 ที่เป็นรองเหรียญทองเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เข้าพิธีรับปริญญา ส่วนเกียรตินิยมระดับเดียวกับผมที่ได้มากกว่าผมหรือน้อยกว่าผมหลายคนก็ไม่ค่อยจะมารับปริญญา ผมเหมือนเป็นรองเหรียญทองเท่านั้นแหละ แต่ผมจะพยายามใช้ชีวิตและสร้างเนื้อสร้างตัวให้สมราคากับที่ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 วิศวกรรมสารสนเทศก็แล้วกันนะครับ เป็นนายตัวเองก็ค่อยๆขยับไปทีละนิดๆดีกว่าไม่ขยับอะไรเลย ขยับ วางแผน ขยับ จนใกล้ถึง จุดหมายที่ผมคาดไว้ครับ
    เพิ่งเสร็จงานที่ช่วงแรกผมคิดว่ามันยาก พอทำจริงๆมันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยแฮะ ไม่มีอะไรยากไปกว่าตัวเราจะทำเรื่องยากๆเล่นของยากๆไม่ได้ ผมเล่นของยากบ่อย เลยรู้สึกยิ่งเล่นยิ่งเพลินจริงๆ และเล่นของยากด้วยการปลูกผักปลอดสารพิษ แต่จะปลูกหลายชนิด ไม่ผูกขาดชนิดเดียว คือผมควรจะใช้ชีวิตให้สมราคาเกียรตินิยมอันดับ 1 ที่เป็นรองเหรียญทองเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เข้าพิธีรับปริญญา ส่วนเกียรตินิยมระดับเดียวกับผมที่ได้มากกว่าผมหรือน้อยกว่าผมหลายคนก็ไม่ค่อยจะมารับปริญญา ผมเหมือนเป็นรองเหรียญทองเท่านั้นแหละ แต่ผมจะพยายามใช้ชีวิตและสร้างเนื้อสร้างตัวให้สมราคากับที่ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 วิศวกรรมสารสนเทศก็แล้วกันนะครับ เป็นนายตัวเองก็ค่อยๆขยับไปทีละนิดๆดีกว่าไม่ขยับอะไรเลย ขยับ วางแผน ขยับ จนใกล้ถึง จุดหมายที่ผมคาดไว้ครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • #หม่อน #สเปรด #ไม่มีสารพิษ #กสิกรรมธรรมชาติ ปลูกเอง แปรรูปเอง ทานเอง มีเหลือ ก็แบ่งปัน #พอเพียง #พอกินพอใช้พออยู่พอร่วมเย็น #ทำตามพ่อสอน
    #หม่อน #สเปรด #ไม่มีสารพิษ #กสิกรรมธรรมชาติ ปลูกเอง แปรรูปเอง ทานเอง มีเหลือ ก็แบ่งปัน #พอเพียง #พอกินพอใช้พออยู่พอร่วมเย็น #ทำตามพ่อสอน
    Yay
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • "The Chinese Revolution"

    ฉันเป็นชาวจีน(รุ่นใหม่) ที่อุตส่าห์ตะแบง ข้ามน้ำ ข้ามทะเล..ไปเรียนหนังสือกลับมา เริ่มมีเหตุผล(มากขึ้น) สได้ก่อการปฏิวัติกับครอบครัว โดยไม่ยอมเซ่นไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ ด้วยสุราและเนื้อสัตว์...แต่ยังคงเซ่นไหว้ตามพิธีดั้งเดิม ด้วยพืชผัก ผลไม้ ไม่จุดธูป ไม่จุดเทียน แต่ใช้เทียนและธูปไฟฟ้า โอนเงินทองไปสู่ปรภพด้วยบริการทางออนไลน์ เป็นผลสำเร็จมาแล้วหลายครอบครัว

    เป็นที่ทราบโดยชัดเจนว่า #มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ซึ่งสามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์

    1) ชนิดของฟัน
    ธรรมชาติสร้างฟันมนุษย์เป็นฟันซี่เรียงแถว สำหรับกัด บด เคี้ยว #แตกต่างจากสัตว์กินเนื้อที่มีเขี้ยวสำหรับการฉีก ล่าเหยื่อ

    2) ความเป็นกรด-ด่างของน้ำลาย
    มนุษย์มีน้ำลายที่เป็นด่างสำหรับย่อยแป้งและเซลลูโลสจากพืช #ต่างจากน้ำลายสัตว์กินเนื้อที่เป็นกรด สัตว์กินเนื้อไม่ได้ล่าเหยื่อทุกวัน การล่าแต่ละครั้งสามารถกินได้หลายวัน น้ำลายที่เป็นกรดธรรมชาติประทานมาให้เพื่อใช้ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์จากบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้(ล่าเหยื่อ) และใช้ในการย่อยเนื้อสัตว์ที่บูดเน่า.

    3) ชนิดของกรดในกระเพาะอาหาร
    มนุษย์มีน้ำย่อยที่เป็นกรดอ่อน สำหรับการย่อยเซลลูโลสและแป้งในกลุ่มอะมีโลส และมีปริมาณน้ำย่อย(น้อย)ไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์
    #ต่างจากน้ำย่อยในกระเพาะสัตว์กินเนื้อ ที่เป็นเอ็มไซม์เพ็พซินและทริปซิน เป็นกรดอย่างแรงกว่า20เท่าและมีปริมาณมากกว่าน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของมนุษย์ 5เท่า สำหรับการย่อยเนื้อสัตว์และกระดูกโดยเฉพาะ

    4) สัดส่วนความยาวของลำไส้ ต่อ ความยาวลำตัว
    (ความยาวลำตัว=ความยาวปากถึงรูตูด)

    มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ธรรมชาติจึงออกแบบให้มีลำไส้ยาว 7-10เท่าของความยาวลำตัว เพื่อดูดซึมสารอาหารจากพืชได้สำเร็จใน 4-6ชั่วโมง หากมนุษย์กินเนื้อสัตว์ กระเพาะไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้หมด ต่อจากนั้น..เป็นหน้าที่ของลำไส้ใช้เวลาย่อยและดูดซึมเนื้อสัตว์ 48-72ชั่วโมง ทำให้เกิดการบูดเน่า เกิดสารพิษ และจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ แก๊สที่มีพิษ ซึ่งทำให้บั่นทอนสุขภาพ อายุสั้นด้วยโรคต่างๆและโรคมะเร็ง

    #ต่างจากลำไส้สัตว์กินเนื้อที่มีความยาวไม่เกิน3เท่าของความยาวลำตัว กิน ย่อย ถ่ายรวดเร็วไม่มีปัญหาเรื่องความเป็นพิษในลำไส้.

    ครอบครัว..ให้ความเข้าใจและหันมากินผัก ผลไม้ ทำให้มีสุขภาพที่ดี มีอายุยืน(อายุขัยวัฒนา) กันทุกๆคน เมื่อจากโลกนี้ไปก็จะไปมีชิวิตนิรันดร์ในสายคริสต์ก็ไปอยู่บนสวรรค์กับพระผู้เป็นเจ้า สายพุทธศาสนาจะเข้าสู่โหมดนิพพาน(Nirvana)ได้ไม่ยากนัก เมื่อถือศีล(บริสุทธิ์)ย่อมเกิดสมาธิได้ไม่ยากนักเพราะไม่มีความพยาบาทอาฆาตแค้นจากชีวิตสัตว์มารบกวน จึงเกิดแสงสว่างแห่งปัญญานำไปตามทางสายเอกเข้าสู่นิพพานดับสูญ..ไม่ต้องเป็นสัมภเวสี ทนทุกข์ทรมาน เร่ร่อน ขอส่วนบุญตามสถานที่ต่างๆ หรือ วนเวียน ว่าย ตาย เกิด..อยู่เช่นนี้ ไม่เบื่อ บ้างหรือ?

    พระพุทธเจ้า ห้ามกินเนื้อสัตว์(อกัปปิยมังสะ) 10 ชนิด
    #และสัตว์ที่กินได้ต้องไม่เป็น ปวัตตมังสะ(ฆ่าเพื่อตน) และไม่เป็นอุททิสมังสะ(ฆ่าเพื่อผู้อื่น) หมายความว่า #เป็นสัตว์ที่ตายเองไม่ใช่สัตว์ทื่ถูกฆ่า จึงจะกินได้.

    ***แปลเป็นไทยว่า "สัตว์ที่ตายเอง ไม่ใช่สัตว์ที่ถูกฆ่า"
    ดังนั้น..การกินเนื้อสัตว์ ผิดทั้งพระและโยม นะจ๊ะ(ชาวพุทธ)

    สัตว์..มันก็คิดได้ คิดเป็น มนุษย์ลากมันเข้าหลักประหาร สัตว์มันรู้ มันรักตัว กลัวตาย มันร้องไห้ ดิ้นรน ไม่สงสารมันบ้างหรือไร?

    สัตว์มันมองดูมนุษย์เซ่นไหว้ เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ
    ตรุษจีน สาร์ทจีน..ฆ่าพวกกูไหว้เจ้า --->ได้บุญ
    พอปลายปีเทศกาลกินเจ..ไม่ฆ่าพวกกู-->ได้บุญ
    อย่าให้สัตว์พูดว่า "ตกลงพวกมึง จะเอายังงัยกับชีวิตของพวกมึง" !!!

    อมตะวาจา ของ Yeo MING กล่าวว่า
    "When the buying stops, the killing can too"
    อาจแปลได้ว่า "ผู้กินเนื้อสัตว์..คือหุ้นส่วนร่วมฆ่า" เช่นเดียวกัน ค่ะ
    .
    .
    Pachäree Wõng
    November20,2024
    Sausalito, California.
    "The Chinese Revolution" ฉันเป็นชาวจีน(รุ่นใหม่) ที่อุตส่าห์ตะแบง ข้ามน้ำ ข้ามทะเล..ไปเรียนหนังสือกลับมา เริ่มมีเหตุผล(มากขึ้น) สได้ก่อการปฏิวัติกับครอบครัว โดยไม่ยอมเซ่นไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ ด้วยสุราและเนื้อสัตว์...แต่ยังคงเซ่นไหว้ตามพิธีดั้งเดิม ด้วยพืชผัก ผลไม้ ไม่จุดธูป ไม่จุดเทียน แต่ใช้เทียนและธูปไฟฟ้า โอนเงินทองไปสู่ปรภพด้วยบริการทางออนไลน์ เป็นผลสำเร็จมาแล้วหลายครอบครัว เป็นที่ทราบโดยชัดเจนว่า #มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ซึ่งสามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ 1) ชนิดของฟัน ธรรมชาติสร้างฟันมนุษย์เป็นฟันซี่เรียงแถว สำหรับกัด บด เคี้ยว #แตกต่างจากสัตว์กินเนื้อที่มีเขี้ยวสำหรับการฉีก ล่าเหยื่อ 2) ความเป็นกรด-ด่างของน้ำลาย มนุษย์มีน้ำลายที่เป็นด่างสำหรับย่อยแป้งและเซลลูโลสจากพืช #ต่างจากน้ำลายสัตว์กินเนื้อที่เป็นกรด สัตว์กินเนื้อไม่ได้ล่าเหยื่อทุกวัน การล่าแต่ละครั้งสามารถกินได้หลายวัน น้ำลายที่เป็นกรดธรรมชาติประทานมาให้เพื่อใช้ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์จากบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้(ล่าเหยื่อ) และใช้ในการย่อยเนื้อสัตว์ที่บูดเน่า. 3) ชนิดของกรดในกระเพาะอาหาร มนุษย์มีน้ำย่อยที่เป็นกรดอ่อน สำหรับการย่อยเซลลูโลสและแป้งในกลุ่มอะมีโลส และมีปริมาณน้ำย่อย(น้อย)ไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ #ต่างจากน้ำย่อยในกระเพาะสัตว์กินเนื้อ ที่เป็นเอ็มไซม์เพ็พซินและทริปซิน เป็นกรดอย่างแรงกว่า20เท่าและมีปริมาณมากกว่าน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของมนุษย์ 5เท่า สำหรับการย่อยเนื้อสัตว์และกระดูกโดยเฉพาะ 4) สัดส่วนความยาวของลำไส้ ต่อ ความยาวลำตัว (ความยาวลำตัว=ความยาวปากถึงรูตูด) มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ธรรมชาติจึงออกแบบให้มีลำไส้ยาว 7-10เท่าของความยาวลำตัว เพื่อดูดซึมสารอาหารจากพืชได้สำเร็จใน 4-6ชั่วโมง หากมนุษย์กินเนื้อสัตว์ กระเพาะไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้หมด ต่อจากนั้น..เป็นหน้าที่ของลำไส้ใช้เวลาย่อยและดูดซึมเนื้อสัตว์ 48-72ชั่วโมง ทำให้เกิดการบูดเน่า เกิดสารพิษ และจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ แก๊สที่มีพิษ ซึ่งทำให้บั่นทอนสุขภาพ อายุสั้นด้วยโรคต่างๆและโรคมะเร็ง #ต่างจากลำไส้สัตว์กินเนื้อที่มีความยาวไม่เกิน3เท่าของความยาวลำตัว กิน ย่อย ถ่ายรวดเร็วไม่มีปัญหาเรื่องความเป็นพิษในลำไส้. ครอบครัว..ให้ความเข้าใจและหันมากินผัก ผลไม้ ทำให้มีสุขภาพที่ดี มีอายุยืน(อายุขัยวัฒนา) กันทุกๆคน เมื่อจากโลกนี้ไปก็จะไปมีชิวิตนิรันดร์ในสายคริสต์ก็ไปอยู่บนสวรรค์กับพระผู้เป็นเจ้า สายพุทธศาสนาจะเข้าสู่โหมดนิพพาน(Nirvana)ได้ไม่ยากนัก เมื่อถือศีล(บริสุทธิ์)ย่อมเกิดสมาธิได้ไม่ยากนักเพราะไม่มีความพยาบาทอาฆาตแค้นจากชีวิตสัตว์มารบกวน จึงเกิดแสงสว่างแห่งปัญญานำไปตามทางสายเอกเข้าสู่นิพพานดับสูญ..ไม่ต้องเป็นสัมภเวสี ทนทุกข์ทรมาน เร่ร่อน ขอส่วนบุญตามสถานที่ต่างๆ หรือ วนเวียน ว่าย ตาย เกิด..อยู่เช่นนี้ ไม่เบื่อ บ้างหรือ? พระพุทธเจ้า ห้ามกินเนื้อสัตว์(อกัปปิยมังสะ) 10 ชนิด #และสัตว์ที่กินได้ต้องไม่เป็น ปวัตตมังสะ(ฆ่าเพื่อตน) และไม่เป็นอุททิสมังสะ(ฆ่าเพื่อผู้อื่น) หมายความว่า #เป็นสัตว์ที่ตายเองไม่ใช่สัตว์ทื่ถูกฆ่า จึงจะกินได้. ***แปลเป็นไทยว่า "สัตว์ที่ตายเอง ไม่ใช่สัตว์ที่ถูกฆ่า" ดังนั้น..การกินเนื้อสัตว์ ผิดทั้งพระและโยม นะจ๊ะ(ชาวพุทธ) สัตว์..มันก็คิดได้ คิดเป็น มนุษย์ลากมันเข้าหลักประหาร สัตว์มันรู้ มันรักตัว กลัวตาย มันร้องไห้ ดิ้นรน ไม่สงสารมันบ้างหรือไร? สัตว์มันมองดูมนุษย์เซ่นไหว้ เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ ตรุษจีน สาร์ทจีน..ฆ่าพวกกูไหว้เจ้า --->ได้บุญ พอปลายปีเทศกาลกินเจ..ไม่ฆ่าพวกกู-->ได้บุญ อย่าให้สัตว์พูดว่า "ตกลงพวกมึง จะเอายังงัยกับชีวิตของพวกมึง" !!! อมตะวาจา ของ Yeo MING กล่าวว่า "When the buying stops, the killing can too" อาจแปลได้ว่า "ผู้กินเนื้อสัตว์..คือหุ้นส่วนร่วมฆ่า" เช่นเดียวกัน ค่ะ . . Pachäree Wõng November20,2024 Sausalito, California.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 560 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถั่วแดง(แช่น้ำ)..อาหารลดน้ำหนัก


    เมื่อนำถั่วแดง(หลวง)..มาซาว ล้างน้ำสะอาดหลายๆรอบ แล้วแช่ในน้ำอาคาไลน์ pH=8.5 เป็นเวลา 12 ชั่วโมง โดยไม่ผ่านความร้อน #ถั่วถูกกระตุ้นด้วยความชื้น ทำให้เกิดเอ็นไซม์การงอก ดูดน้ำเข้าไปเกิดปฏิกิริยาทางชีวเคมี เปลี่ยนสารอาหารภายในเมล็ด เช่น #เปลี่ยนโปรตีนให้เป็นกรดอะมีโน #เปลี่ยนแป้งให้เป็นกลูโคส วิตามิน และเกลือเเร่ต่างๆ

    น้ำด่าง ทำหน้าเป็นตัวทำละลายที่ดีมากกว่าน้ำก๊อก ช่วยล้างกำจัด #สารพิษป้องกันเมล็ด เช่น Phytic acid, Polyphenol และ #ทำลายเอ็นไซม์ที่ไม่ดี..ออกไป #เปลี่ยนโปรตีนให้อยู่ในรูปที่ร่างกายคนเรา ดูดซึม นำไปใช้ได้เมล็ดถั่วจะ #ปล่อยเอ็นไซม์Lipase ออกมาช่วยให้ร่างกายเราสามารถย่อยไขมันตัวดี ทำลายไขมันตัวร้าย ร่างกายจึงปลอดภัยจากปัญหาไขมันในเส้นเลือด โรคหลอดเลือดและหัวใจ.

    เมื่อแช่ครบเวลา ถั่วจะนิ่ม มีรสมัน หากมั่นใจในกระบวนการปลอดเชื้อ ไม่มีจุลินทรีย์อื่น ให้ล้างน้ำเปล่า กินดิบๆได้สารอาหาร และ #มีเอ็นไซม์(พลังชีวิต)ครบถ้วน

    ถ้าไม่มั่นใจในความสะอาด ให้ต้มถั่วให้เดือด..ป้องกันโรคท้องเสีย ท้องเดิน โดยกินแบบDead Food แนะนำให้ใช้กระบวนการลดค่าน้ำตาลและพาสเจอร์ไรซ์ โดยเติมน้ำมันมะพร้าวในขณะที่ต้ม (สัดส่วน = 1ช้อนโต๊ะ ต่อ ถั่ว 1 ถ้วย) พอต้มถั่วสุก ทิ้งไว้ให้เย็น นำเข้าตู้เย็น แช่เย็น 12 ชั่วโมง แล้วนำมาอุ่นกิน จะทำให้แป้งในเมล็ดถั่ว เปลี่ยนเป็นโมเลกุลที่ซับซ้อน ย่อยยาก #ป้องกันการดูดซึมในลำไส้เล็ก #เป็นอาหารชั้นดีของโปรไบโอติกแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ และแบคทีเรียเหล่านี้จะขับถ่ายออกมาเป็นกรด ซึ่ง #สามารถทำลายและยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคนานาชนิดได้ ที่เรียกว่า.."ภูมิคุ้มกัน"(นั่นเอง).
    

    จุดสำคัญ คือ คุณสมบัติที่เส้นใยอาหารสูงดูดซับน้ำและพองตัวได้ดี ทำให้รู้สึกอิ่มทน อิ่มนาน ลดอาการหิวโหย กินจุบกินจิบ..ลงได้
    .
    .
    Pachäree Wõng
    November20, 2024
    Sausalito, California.
    ถั่วแดง(แช่น้ำ)..อาหารลดน้ำหนัก เมื่อนำถั่วแดง(หลวง)..มาซาว ล้างน้ำสะอาดหลายๆรอบ แล้วแช่ในน้ำอาคาไลน์ pH=8.5 เป็นเวลา 12 ชั่วโมง โดยไม่ผ่านความร้อน #ถั่วถูกกระตุ้นด้วยความชื้น ทำให้เกิดเอ็นไซม์การงอก ดูดน้ำเข้าไปเกิดปฏิกิริยาทางชีวเคมี เปลี่ยนสารอาหารภายในเมล็ด เช่น #เปลี่ยนโปรตีนให้เป็นกรดอะมีโน #เปลี่ยนแป้งให้เป็นกลูโคส วิตามิน และเกลือเเร่ต่างๆ น้ำด่าง ทำหน้าเป็นตัวทำละลายที่ดีมากกว่าน้ำก๊อก ช่วยล้างกำจัด #สารพิษป้องกันเมล็ด เช่น Phytic acid, Polyphenol และ #ทำลายเอ็นไซม์ที่ไม่ดี..ออกไป #เปลี่ยนโปรตีนให้อยู่ในรูปที่ร่างกายคนเรา ดูดซึม นำไปใช้ได้เมล็ดถั่วจะ #ปล่อยเอ็นไซม์Lipase ออกมาช่วยให้ร่างกายเราสามารถย่อยไขมันตัวดี ทำลายไขมันตัวร้าย ร่างกายจึงปลอดภัยจากปัญหาไขมันในเส้นเลือด โรคหลอดเลือดและหัวใจ. เมื่อแช่ครบเวลา ถั่วจะนิ่ม มีรสมัน หากมั่นใจในกระบวนการปลอดเชื้อ ไม่มีจุลินทรีย์อื่น ให้ล้างน้ำเปล่า กินดิบๆได้สารอาหาร และ #มีเอ็นไซม์(พลังชีวิต)ครบถ้วน ถ้าไม่มั่นใจในความสะอาด ให้ต้มถั่วให้เดือด..ป้องกันโรคท้องเสีย ท้องเดิน โดยกินแบบDead Food แนะนำให้ใช้กระบวนการลดค่าน้ำตาลและพาสเจอร์ไรซ์ โดยเติมน้ำมันมะพร้าวในขณะที่ต้ม (สัดส่วน = 1ช้อนโต๊ะ ต่อ ถั่ว 1 ถ้วย) พอต้มถั่วสุก ทิ้งไว้ให้เย็น นำเข้าตู้เย็น แช่เย็น 12 ชั่วโมง แล้วนำมาอุ่นกิน จะทำให้แป้งในเมล็ดถั่ว เปลี่ยนเป็นโมเลกุลที่ซับซ้อน ย่อยยาก #ป้องกันการดูดซึมในลำไส้เล็ก #เป็นอาหารชั้นดีของโปรไบโอติกแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ และแบคทีเรียเหล่านี้จะขับถ่ายออกมาเป็นกรด ซึ่ง #สามารถทำลายและยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคนานาชนิดได้ ที่เรียกว่า.."ภูมิคุ้มกัน"(นั่นเอง).  จุดสำคัญ คือ คุณสมบัติที่เส้นใยอาหารสูงดูดซับน้ำและพองตัวได้ดี ทำให้รู้สึกอิ่มทน อิ่มนาน ลดอาการหิวโหย กินจุบกินจิบ..ลงได้ . . Pachäree Wõng November20, 2024 Sausalito, California.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 438 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นาฬิกาชีวิต จังหวะเวลาที่กำหนดสุขภาพ
    ทุกวัน..จะชอบเขียนเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ คือ ไม่กินเนื้อสัตว์ ละเว้นการเบียดเบียนตามหลักพุทธศาสนา คือ ถือศีลข้อที่๑(บริสุทธิ์) ทำให้เลือดในร่างกายไม่เป็นกรด ปัญหาเรื่องกระดูกพรุนไม่เกิด และมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ไม่ต้องเป็นภาระทางราชการ หรือ ต้องสูญเสียเงินทองมากมายเมื่อเข้าสู่วัยชรา.
    วันนี้..ที่บ้านมีพะโล้ฟองเต้าหู้ กับ ผักกาดจอ หม้อใหญ่ๆ เป็นอาหารหลัก ทำเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คงกินได้หลายวัน
    วันนี้จึงไม่โม้เรื่องอาหาร เพราะเคยเขียนเผยแพร่แล้ว
    วันนี้พูดเรื่องสำคัญ..มากเท่ากับเรื่องอาหาร คือ
    วินัย ของ การทำงานในร่างกาย ปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ ถูกที่ ถูกเวลา ตลอดเวลา ๒๔ชั่วโมง ก็ สำคัญมาก ซึ่งวันนี้ จะนำเสนอให้ทราบ ดังนี้
    เหตุผลตามธรรมชาติ
    #ทำไมต้องนอนสามทุ่มตื่นตีสาม?
    ต้องดื่มน้ำหลังตื่นนอน ขับถ่ายของเสีย กินอาหารให้ตรงเวลา
    #ทำไมเวลาเก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมงเช้า(ห้ามนอน..เด็ดขาด)
    บ่ายโมงถึงบ่ายสามไม่ควรกินอาหาร
    #บ่ายสามถึงห้าโมงเย็นเป็นเวลาออกกำลังกาย
    --->สามทุ่ม(ต้อง)เข้านอน(ห่มผ้า)ให้อบอุ่น ไม่ควรอาบน้ำเย็น
    #สี่ทุ่มถึงตีสามคือเวลาของฮอร์โมนเมลาโทนิน(หลั่ง)
    --->ต้อง(ห่มผ้า)นอนหลับให้สนิท และ ปิดไฟให้มืด
    จึงจะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง มีอายุขัยที่ยืนยาว 120 ปี
    #นาฬิกาชีวิต คือ การดูแลรักษาสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัด ให้มีสุขภาพที่ดีอายุยืนนาน ตามศาสตร์การแพทย์จีน อายุรเวทของอินเดีย และอียิปต์โบราณได้ค้นพบ และบันทึกตรงกันว่า
    #อวัยวะในร่างกายมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ #อวัยวะตัน --->หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ และไต #อวัยวะกลวง --->กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ และ ระบบความร้อนในร่างกาย
    ทั้งหมดรวมได้ 12 อวัยวะ ควบคุมการไหลเวียนด้วยพลังชีวิตที่เรียกว่า.. “ #ลมปราณ” หมุนเวียนเป็นวัฏจักรทุก 2 ชั่วโมง ตามลำดับ
    ดังนั้นใน 1วัน=12อวัยวะX2ชั่วโมง จึงเท่ากับ 24ชั่วโมง (พอดีเป๊ะ)
    นี่แหละ คือ วัฏจักรของการทำงาน(ตามปกติ)ของอวัยวะในร่างกายมนุษย์ ที่เรียกว่า #นาฬิกาชีวิต นั่นเอง ค่ะ
    #ตารางการเดินลมปราณในแต่ละวัน จึงเป็นการดูแลสุขภาพอย่างง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับ..”นาฬิกาชีวิต” ได้ดังนี้...
    เวลา 01.00-03.00น. ควรเป็นเวลาของ #ตับ มีหน้าที่เป็นโรงงานกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ดังนั้นในช่วงเวลานี้ร่างกาย #ควรนอนหลับให้สนิทเพื่อให้ตับได้ขจัดสารพิษออกจากร่างกายหากไม่หลับในช่วงนี้จะทำให้สะสมพิษทำให้เกิดอาการเพลีย เหนื่อยง่าย
    โรคต่างที่เกิดจากพิษสารเคมีสะสมจะทำให้ป่วยง่าย+เรื้อรัง-ตายอย่างเวทนาและทุกข์ทรมาน นะคะ(ขอ บอก)
    เวลา 03.00-05.00น. #ควรตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น ฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก..ลึกๆ ช้าๆ..สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังกายยืดเส้น ยืดสาย ทำให้สุขภาพปอดและร่างกายโดยรวมจะดีไปด้วย
    #การดื่มน้ำอุ่นในช่วงนี้และการซิทอัป--->จะกระตุ้น(เร่ง)การทำงานของลำไส้ใหญ่ ซึ่งทำงานในช่วงต่อไป..
    เวลา 05.00-07.00น. เป็นช่วงเวลาของ #การทำงานลำไส้ใหญ่ บีบรัดตัวได้ดีที่สุด เป็นเวลาขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย การไม่ขับถ่ายในช่วงเวลานี้ทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดซึมกลับไป สะสมสารพิษ สะสม ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เวลา 05.45-06.00น.เป็นเวลาที่ดีที่สุด ของ #การฝึกสมาธิ เพราะในขณะที่ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำ&แปรงฟัน..เสร็จ ปลอดโปร่ง..#โล่งทั้งกายและใจไม่มีเรื่องเครียด เรื่องงานมากวนใจ ฝึกนั่งสมาธิในช่วงนี้(ทุกวัน)สามารถเข้าถึงสมาธิได้สำเร็จ(ง่าย)มาก..ค่ะ
    เวลา 07.00-09.00น. คือช่วงเวลาของ #กระเพาะอาหาร ต้องกินอาหารเช้าเป็นมื้อหลักที่มีสารอาหารอย่างครบถ้วน หากไม่กินมื้อเช้า(มื้อสำคัญ)จะเป็นโรคกระเพาะอย่างรวดเร็ว และสะสมเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในระยะยาว
    เวลา 09.00-011.00น. เป็นเวลาของ #ม้าม ควบคุมเม็ดเลือดขาว กำจัดเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ ดังนั้นผู้ที่นอนในช่วงนี้จะส่งผลให้ม้ามอ่อนแอ มี #ภูมิคุ้มกันโรคต่ำ ติดเชื้อเป็นโรคต่างๆได้ง่าย
    เวลา 11.00-13.00น. ช่วงพักเที่ยง เป็นช่วงเวลาของ #หัวใจ ควรพักผ่อน..สบายๆ งดน้ำชา กาแฟ หลีกเลี่ยงความเครียดซึ่งทำให้หัวใจเต้นแรง ทำงานหนักเกิน ส่งผลให้หัวใจวายได้อย่างง่ายๆ ในช่วงเวลาเที่ยง จ๊ะ
    เวลา 13.00-15.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ลำไส้เล็ก ในช่วงนี้ร่างกายส่งพลังงานทั้งหมดไปยังลำไส้เล็กเพื่อการดูดซึม #การกินอาหารในช่วงนี้จะไปขัดขวางโอกาสทองของระบบดูดซีมที่ต้องแบ่งพลังงานไปใช้ในการย่อยในกระเพาะอาหาร ช่วงนี้สมองในส่วนความจำจะทำงานได้ดีที่สุดในรอบวัน
    เวลา 15.00-17.00น. เวลาของ #กระเพาะปัสสาวะ และการขับเหงื่อ #จึงควรออกกำลังกายอย่างหนัก หรือ เหมาะกับการอบซาวน่าเพื่อให้เหงื่อออก สำหรับหนุ่มสาวที่ทำงานในช่วงนี้ ก็สามารถใช้ท่าการออกกำลังกายในสำนักงาน หรือเดินไป-มา ขึ้น-ลงบันได เพื่อส่งเสริมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะได้..เช่นกัน
    เวลา 17.00-19.00น. #ช่วงเวลาของไต มีหน้าที่รักษาสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย โดยกำจัดส่วนเกินออกทางปัสสาวะและเหงื่อ #เวลาช่วงนี้จึงควรทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง ไม่หลับ เป็นช่วงCool Down หรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ต่อจากการออกกำลังกายอย่างหนัก..ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
    เวลา 19.00-21.00น. ช่วงนี้เป็นเวลาที่ #เยื่อหุ้มหัวใจ..บางที่สุด จึงควรระวังอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ ตกใจ โกรธ เสียใจ การที่ทำให้ตื่นตัวมากๆส่งผลให้เยื่อหุ้มหัวใจฉีกขาดได้ง่าย ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงควรปิดโทรศัพท์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ
    เวลา 21.00-23.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ระบบความร้อนในร่างกาย ซึ่งตามธรรมชาติ..ในช่วงเวลานี้อากาศเริ่มเย็น ร่างกายคนเราต้องสร้างความร้อนขึ้น จึงไม่ควรอาบน้ำหรือดื่มน้ำเย็น และควรเข้านอนในช่วงเวลานี้ ควรดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วก่อนนอนเพื่อส่งเสริมการทำงานของถุงน้ำดีในเวลาถัดไป.
    เวลา 23.00-01.00น. เวลาของ #ถุงน้ำดี ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่หลับ ร่างกายจะอยู่ในสภาพที่ขาดน้ำ อวัยวะต่างๆจะดึงน้ำจากถุงน้ำดี..แล้วนำไปใช้ หากน้ำในถุงน้ำดีข้นเกินไปอาจส่งผลให้อวัยวะต่างๆทำงานผิดปกติได้ #หากไม่นอนในช่วงนี้จะเกิดถุงไขมันใต้ตา และไขมันพอกตับ
    .
    .
    เจริญธรรม สำนึกดี
    Pachäree Wõng
    November21, 2024
    Sausalito, California.
    #นาฬิกาชีวิต จังหวะเวลาที่กำหนดสุขภาพ ทุกวัน..จะชอบเขียนเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ คือ ไม่กินเนื้อสัตว์ ละเว้นการเบียดเบียนตามหลักพุทธศาสนา คือ ถือศีลข้อที่๑(บริสุทธิ์) ทำให้เลือดในร่างกายไม่เป็นกรด ปัญหาเรื่องกระดูกพรุนไม่เกิด และมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ไม่ต้องเป็นภาระทางราชการ หรือ ต้องสูญเสียเงินทองมากมายเมื่อเข้าสู่วัยชรา. วันนี้..ที่บ้านมีพะโล้ฟองเต้าหู้ กับ ผักกาดจอ หม้อใหญ่ๆ เป็นอาหารหลัก ทำเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คงกินได้หลายวัน วันนี้จึงไม่โม้เรื่องอาหาร เพราะเคยเขียนเผยแพร่แล้ว วันนี้พูดเรื่องสำคัญ..มากเท่ากับเรื่องอาหาร คือ วินัย ของ การทำงานในร่างกาย ปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ ถูกที่ ถูกเวลา ตลอดเวลา ๒๔ชั่วโมง ก็ สำคัญมาก ซึ่งวันนี้ จะนำเสนอให้ทราบ ดังนี้ เหตุผลตามธรรมชาติ #ทำไมต้องนอนสามทุ่มตื่นตีสาม? ต้องดื่มน้ำหลังตื่นนอน ขับถ่ายของเสีย กินอาหารให้ตรงเวลา #ทำไมเวลาเก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมงเช้า(ห้ามนอน..เด็ดขาด) บ่ายโมงถึงบ่ายสามไม่ควรกินอาหาร #บ่ายสามถึงห้าโมงเย็นเป็นเวลาออกกำลังกาย --->สามทุ่ม(ต้อง)เข้านอน(ห่มผ้า)ให้อบอุ่น ไม่ควรอาบน้ำเย็น #สี่ทุ่มถึงตีสามคือเวลาของฮอร์โมนเมลาโทนิน(หลั่ง) --->ต้อง(ห่มผ้า)นอนหลับให้สนิท และ ปิดไฟให้มืด จึงจะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง มีอายุขัยที่ยืนยาว 120 ปี #นาฬิกาชีวิต คือ การดูแลรักษาสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัด ให้มีสุขภาพที่ดีอายุยืนนาน ตามศาสตร์การแพทย์จีน อายุรเวทของอินเดีย และอียิปต์โบราณได้ค้นพบ และบันทึกตรงกันว่า #อวัยวะในร่างกายมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ #อวัยวะตัน --->หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ และไต #อวัยวะกลวง --->กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ และ ระบบความร้อนในร่างกาย ทั้งหมดรวมได้ 12 อวัยวะ ควบคุมการไหลเวียนด้วยพลังชีวิตที่เรียกว่า.. “ #ลมปราณ” หมุนเวียนเป็นวัฏจักรทุก 2 ชั่วโมง ตามลำดับ ดังนั้นใน 1วัน=12อวัยวะX2ชั่วโมง จึงเท่ากับ 24ชั่วโมง (พอดีเป๊ะ) นี่แหละ คือ วัฏจักรของการทำงาน(ตามปกติ)ของอวัยวะในร่างกายมนุษย์ ที่เรียกว่า #นาฬิกาชีวิต นั่นเอง ค่ะ #ตารางการเดินลมปราณในแต่ละวัน จึงเป็นการดูแลสุขภาพอย่างง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับ..”นาฬิกาชีวิต” ได้ดังนี้... เวลา 01.00-03.00น. ควรเป็นเวลาของ #ตับ มีหน้าที่เป็นโรงงานกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ดังนั้นในช่วงเวลานี้ร่างกาย #ควรนอนหลับให้สนิทเพื่อให้ตับได้ขจัดสารพิษออกจากร่างกายหากไม่หลับในช่วงนี้จะทำให้สะสมพิษทำให้เกิดอาการเพลีย เหนื่อยง่าย โรคต่างที่เกิดจากพิษสารเคมีสะสมจะทำให้ป่วยง่าย+เรื้อรัง-ตายอย่างเวทนาและทุกข์ทรมาน นะคะ(ขอ บอก) เวลา 03.00-05.00น. #ควรตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น ฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก..ลึกๆ ช้าๆ..สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังกายยืดเส้น ยืดสาย ทำให้สุขภาพปอดและร่างกายโดยรวมจะดีไปด้วย #การดื่มน้ำอุ่นในช่วงนี้และการซิทอัป--->จะกระตุ้น(เร่ง)การทำงานของลำไส้ใหญ่ ซึ่งทำงานในช่วงต่อไป.. เวลา 05.00-07.00น. เป็นช่วงเวลาของ #การทำงานลำไส้ใหญ่ บีบรัดตัวได้ดีที่สุด เป็นเวลาขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย การไม่ขับถ่ายในช่วงเวลานี้ทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดซึมกลับไป สะสมสารพิษ สะสม ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เวลา 05.45-06.00น.เป็นเวลาที่ดีที่สุด ของ #การฝึกสมาธิ เพราะในขณะที่ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำ&แปรงฟัน..เสร็จ ปลอดโปร่ง..#โล่งทั้งกายและใจไม่มีเรื่องเครียด เรื่องงานมากวนใจ ฝึกนั่งสมาธิในช่วงนี้(ทุกวัน)สามารถเข้าถึงสมาธิได้สำเร็จ(ง่าย)มาก..ค่ะ เวลา 07.00-09.00น. คือช่วงเวลาของ #กระเพาะอาหาร ต้องกินอาหารเช้าเป็นมื้อหลักที่มีสารอาหารอย่างครบถ้วน หากไม่กินมื้อเช้า(มื้อสำคัญ)จะเป็นโรคกระเพาะอย่างรวดเร็ว และสะสมเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในระยะยาว เวลา 09.00-011.00น. เป็นเวลาของ #ม้าม ควบคุมเม็ดเลือดขาว กำจัดเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ ดังนั้นผู้ที่นอนในช่วงนี้จะส่งผลให้ม้ามอ่อนแอ มี #ภูมิคุ้มกันโรคต่ำ ติดเชื้อเป็นโรคต่างๆได้ง่าย เวลา 11.00-13.00น. ช่วงพักเที่ยง เป็นช่วงเวลาของ #หัวใจ ควรพักผ่อน..สบายๆ งดน้ำชา กาแฟ หลีกเลี่ยงความเครียดซึ่งทำให้หัวใจเต้นแรง ทำงานหนักเกิน ส่งผลให้หัวใจวายได้อย่างง่ายๆ ในช่วงเวลาเที่ยง จ๊ะ เวลา 13.00-15.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ลำไส้เล็ก ในช่วงนี้ร่างกายส่งพลังงานทั้งหมดไปยังลำไส้เล็กเพื่อการดูดซึม #การกินอาหารในช่วงนี้จะไปขัดขวางโอกาสทองของระบบดูดซีมที่ต้องแบ่งพลังงานไปใช้ในการย่อยในกระเพาะอาหาร ช่วงนี้สมองในส่วนความจำจะทำงานได้ดีที่สุดในรอบวัน เวลา 15.00-17.00น. เวลาของ #กระเพาะปัสสาวะ และการขับเหงื่อ #จึงควรออกกำลังกายอย่างหนัก หรือ เหมาะกับการอบซาวน่าเพื่อให้เหงื่อออก สำหรับหนุ่มสาวที่ทำงานในช่วงนี้ ก็สามารถใช้ท่าการออกกำลังกายในสำนักงาน หรือเดินไป-มา ขึ้น-ลงบันได เพื่อส่งเสริมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะได้..เช่นกัน เวลา 17.00-19.00น. #ช่วงเวลาของไต มีหน้าที่รักษาสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย โดยกำจัดส่วนเกินออกทางปัสสาวะและเหงื่อ #เวลาช่วงนี้จึงควรทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง ไม่หลับ เป็นช่วงCool Down หรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ต่อจากการออกกำลังกายอย่างหนัก..ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เวลา 19.00-21.00น. ช่วงนี้เป็นเวลาที่ #เยื่อหุ้มหัวใจ..บางที่สุด จึงควรระวังอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ ตกใจ โกรธ เสียใจ การที่ทำให้ตื่นตัวมากๆส่งผลให้เยื่อหุ้มหัวใจฉีกขาดได้ง่าย ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงควรปิดโทรศัพท์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ เวลา 21.00-23.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ระบบความร้อนในร่างกาย ซึ่งตามธรรมชาติ..ในช่วงเวลานี้อากาศเริ่มเย็น ร่างกายคนเราต้องสร้างความร้อนขึ้น จึงไม่ควรอาบน้ำหรือดื่มน้ำเย็น และควรเข้านอนในช่วงเวลานี้ ควรดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วก่อนนอนเพื่อส่งเสริมการทำงานของถุงน้ำดีในเวลาถัดไป. เวลา 23.00-01.00น. เวลาของ #ถุงน้ำดี ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่หลับ ร่างกายจะอยู่ในสภาพที่ขาดน้ำ อวัยวะต่างๆจะดึงน้ำจากถุงน้ำดี..แล้วนำไปใช้ หากน้ำในถุงน้ำดีข้นเกินไปอาจส่งผลให้อวัยวะต่างๆทำงานผิดปกติได้ #หากไม่นอนในช่วงนี้จะเกิดถุงไขมันใต้ตา และไขมันพอกตับ . . เจริญธรรม สำนึกดี Pachäree Wõng November21, 2024 Sausalito, California.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 865 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔸️นับตั้งแต่ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา ปริมาณอะลูมิเนียมในวัคซีนสำหรับเด็กเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่าของปริมาณทั้งหมด
    ในขณะเดียวกัน การวินิจฉัยโรคออทิซึมก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 27,000%
    https://thepeoplesvoice.tv/aluminum-levels-in-childhood.../
    ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของอะลูมิเนียมในวัคซีนมักเกี่ยวข้องกับบทบาทของอะลูมิเนียมในฐานะสารเสริมภูมิคุ้มกัน—ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น—การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างส่วนประกอบของวัคซีนและอัตราการเกิดออทิซึมที่เพิ่มมากขึ้น
    อัตราการเกิดโรคออทิซึมในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980 เมื่อครั้งนั้น อัตราการวินิจฉัยโรคออทิซึมโดยประมาณอยู่ที่ 1 ใน 10,000 เด็ก ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 อัตราดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 150 และข้อมูลล่าสุดจากปี 2023 ระบุว่าอัตราดังกล่าวอยู่ที่ 1 ใน 36 เด็ก
    ดร. คริส เอ็กซ์ลีย์ จากมหาวิทยาลัยคีลในอังกฤษและเพื่อนร่วมงานได้ตีพิมพ์งานวิจัยที่ทำการศึกษาเนื้อเยื่อสมองของผู้ป่วยออทิสติกเป็นครั้งแรก เพื่อตรวจสอบระดับอะลูมิเนียม (หมายเหตุ: ในสหราชอาณาจักรผู้ป่วยสะกดคำว่า “อะลูมิเนียม” เป็น “อะลูมิเนียม”) ที่พบในเนื้อเยื่อสมอง
    สำหรับใครก็ตามที่พยายามจะโน้มน้าวโลกให้เชื่อว่า “วิทยาศาสตร์ได้รับการพิสูจน์แล้วและวัคซีนไม่ได้ทำให้เกิดโรคออทิซึม” ผลการศึกษานี้ขัดแย้งกับคำกล่าวนี้อย่างมาก
    ในโพสต์บล็อกที่เขียนโดยศาสตราจารย์เอ็กซ์ลีย์ในวันที่ผลการศึกษาของเขาได้รับการตีพิมพ์
    เขาได้อธิบายผลลัพธ์อันล้ำสมัยดังต่อไปนี้:
    “…ในขณะที่ปริมาณอะลูมิเนียมในสมองของผู้ป่วยออทิสติกทั้ง 5 รายนั้นสูงอย่างน่าตกใจ แต่ตำแหน่งในเนื้อเยื่อสมองต่างหากที่เป็นจุดสังเกตที่โดดเด่น…หลักฐานใหม่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอะลูมิเนียมเข้าสู่สมองของผู้ป่วย ASD [กลุ่มอาการออทิสติก] ผ่านทางเซลล์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบซึ่งมีอะลูมิเนียมสะสมอยู่ในเลือดและ/หรือน้ำเหลือง ซึ่งก็เหมือนกับที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในโมโนไซต์ที่บริเวณที่ฉีดวัคซีนรวมถึงสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียม”
    คำพูดของดร. เอ็กซ์ลีย์รวมถึงการอ้างถึง “โมโนไซต์ที่บริเวณฉีด” และความจริงที่ว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างโมโนไซต์เหล่านี้กับอะลูมิเนียมได้รับการพิสูจน์แล้วในวิทยาศาสตร์ที่ตีพิมพ์ก่อนหน้านี้
    ฉันรู้ว่ามันฟังดูเป็นเทคนิคมาก แต่ลองฟังฉันก่อน
    “โมโนไซต์” คือเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ซึ่งโมโนไซต์ชนิดหนึ่งคือ “แมคโครฟาจ” แมคโครฟาจอาจเปรียบได้กับมนุษย์ขยะในระบบภูมิคุ้มกันที่คอยกัดกินสิ่งแปลกปลอม เศษเซลล์ ฯลฯ
    อย่างที่คุณจะสังเกตเห็นในอีกไม่ช้านี้ ดูเหมือนว่าแมคโครฟาจจะมีบทบาทสำคัญและร้ายแรงในการกระตุ้นให้เกิดออทิซึม โดยทำหน้าที่นำอะลูมิเนียมที่มนุษย์สร้างขึ้นซึ่งฉีดจากวัคซีนโดยตรงเข้าไปในสมอง ซึ่งสามารถขัดขวางการพัฒนาของสมองและกระตุ้นให้เกิดออทิซึมได้
    การศึกษาวิจัยของดร. เอ็กซ์ลีย์เรื่อง “ อะลูมิเนียมในเนื้อเยื่อสมองและออทิซึม ” ถือได้ว่าเป็นชิ้นส่วนสุดท้ายของปริศนาที่เริ่มประกอบเข้าด้วยกันในปี 2004 และได้รับความสนใจมากขึ้นหลังปี 2010 ซึ่งช่วยส่งเสริมความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์อย่างมากว่าวัคซีนสามารถกระตุ้นให้เกิดออทิซึมได้อย่างไร
    ไทม์ไลน์นี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตระหนัก เนื่องจากศาลวัคซีนในสหรัฐฯ ได้ยกฟ้องสมมติฐานเกี่ยวกับวัคซีน-ออทิซึมในปี 2009 นานก่อนที่สิ่งที่ฉันจะอธิบายต่อไปนี้จะเกิดขึ้นเสียอีก
    วิทยาศาสตร์คือความต่อเนื่อง ความจริงที่ปรากฏผ่านการศึกษาหลาย ๆ อย่างซึ่งมักต้องนำมาประกอบเข้าด้วยกันก่อนจึงจะมองเห็นภาพรวมได้ชัดเจน และบางครั้งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อาจดำเนินไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งถึงจุดที่ความจริงที่ปรากฏปรากฏขึ้นในลักษณะที่ไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป
    ในความเห็นของฉัน การศึกษาของดร. เอ็กซ์ลีย์ให้ข้อมูลเพียงส่วนเดียวที่ขาดหายไปจากคำอธิบายที่รัดกุมเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชายของฉันและเด็กอีกหลายๆ คน และได้ให้ "ความน่าจะเป็นทางชีววิทยา" แก่ผู้ที่ไม่เชื่อทั้งหมดว่าวัคซีนที่ฉีดเข้าที่ไหล่ของทารกสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคออทิซึมได้อย่างไร
    สำหรับชาวอเมริกัน การแข่งขันเพื่อค้นหาสาเหตุของโรคออทิซึมทั้งหมดนั้นน่าจะชนะได้ในต่างแดน ดังที่คุณจะเห็นในไม่ช้านี้ วิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่อธิบายสาเหตุของโรคออทิซึมมาจากต่างประเทศ แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จาก Caltech จะเป็นคนผลักโดมิโนตัวแรกไปเมื่อปี 2549 ก็ตาม
    ทำไมถึงมีอะลูมิเนียมอยู่ในวัคซีน?
    อะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบสำคัญของวัคซีนส่วนใหญ่ที่ให้กับเด็ก อะลูมิเนียมทำหน้าที่เป็น “สารเสริมภูมิคุ้มกัน” ซึ่งหมายความว่าอะลูมิเนียมทำหน้าที่ “ปลุก” ระบบภูมิคุ้มกันให้ตื่นขึ้น กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจดจำ “แอนติเจน” ในวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่างๆ ที่วัคซีนทำหน้าที่ป้องกันโรค
    ปริมาณอะลูมิเนียมในวัคซีนที่ให้กับเด็ก ๆพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเริ่มตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 ด้วยสาเหตุสองประการ: 1) มีการเพิ่มวัคซีนเข้าไปในตารางวัคซีนสำหรับเด็กมากขึ้น และ 2) อัตราการฉีดวัคซีนสำหรับวัคซีนทุกชนิดที่ให้กับเด็กเพิ่มขึ้น (จาก 50–60% ของเด็ก ๆ ที่ได้รับวัคซีนในช่วงกลางทศวรรษ 1980 เป็นมากกว่า 90% ในปัจจุบัน)
    ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 เด็กจะได้รับอะลูมิเนียมจากวัคซีน 1,250 ไมโครกรัมภายในอายุ 18 เดือนหากได้รับวัคซีนครบถ้วน ปัจจุบัน ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 4,925 ไมโครกรัม ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่าจากปริมาณอะลูมิเนียมทั้งหมด
    คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ในผลการศึกษาที่ยอดเยี่ยม ซึ่งตีพิมพ์โดย Neil Miller
    ที่น่าประหลาดใจก็คือ อะลูมิเนียมไม่เคยผ่านการทดสอบทางชีวภาพเพื่อพิจารณาถึงความปลอดภัยในการฉีดเข้าไปในทารก เนื่องจากอะลูมิเนียมได้รับการ "ยกเว้น" ไว้ในมาตรฐานความปลอดภัยสมัยใหม่ของเรา นักวิทยาศาสตร์ชาวแคนาดา ดร. คริส ชอว์ และ ดร. ลูซิจา ทอมเยโนวิช ได้กล่าวถึงการละเว้นนี้ในการศึกษาวิจัยเชิงวิจารณ์ที่พวกเขาตีพิมพ์ในปี 2011 ในวารสารCurrent Medicinal Chemistryชื่อว่า “ สารเสริมฤทธิ์วัคซีนอะลูมิเนียม: ปลอดภัยหรือไม่ ” พวกเขาเขียนว่า:
    “อะลูมิเนียมเป็นสารพิษต่อระบบประสาทที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากการทดลองและเป็นสารเสริมฤทธิ์วัคซีนที่ใช้กันทั่วไป แม้ว่าจะมีการใช้สารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมอย่างแพร่หลายมานานเกือบ 90 ปีแล้ว แต่ความเข้าใจของวิทยาศาสตร์การแพทย์เกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมยังคงต่ำอย่างน่าตกใจนอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับพิษวิทยาและเภสัชจลนศาสตร์ของสารประกอบเหล่านี้อย่างขาดแคลน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล แม้จะเป็นเช่นนั้น แนวคิดที่ว่าอะลูมิเนียมในวัคซีนนั้นปลอดภัยก็ยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางอย่างไรก็ตาม การวิจัยเชิงทดลองแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมมีศักยภาพในการทำให้เกิดความผิดปกติทางภูมิคุ้มกันที่ร้ายแรงในมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อะลูมิเนียมในรูปแบบสารเสริมฤทธิ์มีความเสี่ยงต่อภูมิคุ้มกันตนเอง การอักเสบของสมองในระยะยาว และภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาทที่เกี่ยวข้อง และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างกว้างขวางและรุนแรง”
    ICANตัดสินใจทดสอบความสามารถของ CDC และ NIH ในการผลิตงานวิจัยใดๆ เพื่อแสดงให้เห็นความปลอดภัยของสารเสริมฤทธิ์วัคซีนผ่านการฟ้องร้องภายใต้ FOIA ตอนนี้ฉันเดาว่าคุณคงรู้ว่าคดีจบลงอย่างไร... อ่านบทความฉบับสมบูรณ์
    “คำตอบของ CDC และ NIH ต่อคำร้องขอภายใต้พระราชบัญญัติเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล (FOIA) ของ ICAN เกี่ยวกับสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมเผยให้เห็นการยอมรับที่น่าตกตะลึง นั่นคือ พวกเขาไม่มีการศึกษาแม้แต่ชิ้นเดียวที่จะสนับสนุนความปลอดภัยในการแนะนำให้ฉีดสารพิษต่อเซลล์และระบบประสาทนี้ซ้ำๆ เป็นส่วนหนึ่งของตารางการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กของ CDC”
    🔸️นับตั้งแต่ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา ปริมาณอะลูมิเนียมในวัคซีนสำหรับเด็กเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่าของปริมาณทั้งหมด ในขณะเดียวกัน การวินิจฉัยโรคออทิซึมก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 27,000% https://thepeoplesvoice.tv/aluminum-levels-in-childhood.../ ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของอะลูมิเนียมในวัคซีนมักเกี่ยวข้องกับบทบาทของอะลูมิเนียมในฐานะสารเสริมภูมิคุ้มกัน—ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น—การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างส่วนประกอบของวัคซีนและอัตราการเกิดออทิซึมที่เพิ่มมากขึ้น อัตราการเกิดโรคออทิซึมในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980 เมื่อครั้งนั้น อัตราการวินิจฉัยโรคออทิซึมโดยประมาณอยู่ที่ 1 ใน 10,000 เด็ก ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 อัตราดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 150 และข้อมูลล่าสุดจากปี 2023 ระบุว่าอัตราดังกล่าวอยู่ที่ 1 ใน 36 เด็ก ดร. คริส เอ็กซ์ลีย์ จากมหาวิทยาลัยคีลในอังกฤษและเพื่อนร่วมงานได้ตีพิมพ์งานวิจัยที่ทำการศึกษาเนื้อเยื่อสมองของผู้ป่วยออทิสติกเป็นครั้งแรก เพื่อตรวจสอบระดับอะลูมิเนียม (หมายเหตุ: ในสหราชอาณาจักรผู้ป่วยสะกดคำว่า “อะลูมิเนียม” เป็น “อะลูมิเนียม”) ที่พบในเนื้อเยื่อสมอง สำหรับใครก็ตามที่พยายามจะโน้มน้าวโลกให้เชื่อว่า “วิทยาศาสตร์ได้รับการพิสูจน์แล้วและวัคซีนไม่ได้ทำให้เกิดโรคออทิซึม” ผลการศึกษานี้ขัดแย้งกับคำกล่าวนี้อย่างมาก ในโพสต์บล็อกที่เขียนโดยศาสตราจารย์เอ็กซ์ลีย์ในวันที่ผลการศึกษาของเขาได้รับการตีพิมพ์ เขาได้อธิบายผลลัพธ์อันล้ำสมัยดังต่อไปนี้: “…ในขณะที่ปริมาณอะลูมิเนียมในสมองของผู้ป่วยออทิสติกทั้ง 5 รายนั้นสูงอย่างน่าตกใจ แต่ตำแหน่งในเนื้อเยื่อสมองต่างหากที่เป็นจุดสังเกตที่โดดเด่น…หลักฐานใหม่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอะลูมิเนียมเข้าสู่สมองของผู้ป่วย ASD [กลุ่มอาการออทิสติก] ผ่านทางเซลล์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบซึ่งมีอะลูมิเนียมสะสมอยู่ในเลือดและ/หรือน้ำเหลือง ซึ่งก็เหมือนกับที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในโมโนไซต์ที่บริเวณที่ฉีดวัคซีนรวมถึงสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียม” คำพูดของดร. เอ็กซ์ลีย์รวมถึงการอ้างถึง “โมโนไซต์ที่บริเวณฉีด” และความจริงที่ว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างโมโนไซต์เหล่านี้กับอะลูมิเนียมได้รับการพิสูจน์แล้วในวิทยาศาสตร์ที่ตีพิมพ์ก่อนหน้านี้ ฉันรู้ว่ามันฟังดูเป็นเทคนิคมาก แต่ลองฟังฉันก่อน “โมโนไซต์” คือเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ซึ่งโมโนไซต์ชนิดหนึ่งคือ “แมคโครฟาจ” แมคโครฟาจอาจเปรียบได้กับมนุษย์ขยะในระบบภูมิคุ้มกันที่คอยกัดกินสิ่งแปลกปลอม เศษเซลล์ ฯลฯ อย่างที่คุณจะสังเกตเห็นในอีกไม่ช้านี้ ดูเหมือนว่าแมคโครฟาจจะมีบทบาทสำคัญและร้ายแรงในการกระตุ้นให้เกิดออทิซึม โดยทำหน้าที่นำอะลูมิเนียมที่มนุษย์สร้างขึ้นซึ่งฉีดจากวัคซีนโดยตรงเข้าไปในสมอง ซึ่งสามารถขัดขวางการพัฒนาของสมองและกระตุ้นให้เกิดออทิซึมได้ การศึกษาวิจัยของดร. เอ็กซ์ลีย์เรื่อง “ อะลูมิเนียมในเนื้อเยื่อสมองและออทิซึม ” ถือได้ว่าเป็นชิ้นส่วนสุดท้ายของปริศนาที่เริ่มประกอบเข้าด้วยกันในปี 2004 และได้รับความสนใจมากขึ้นหลังปี 2010 ซึ่งช่วยส่งเสริมความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์อย่างมากว่าวัคซีนสามารถกระตุ้นให้เกิดออทิซึมได้อย่างไร ไทม์ไลน์นี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตระหนัก เนื่องจากศาลวัคซีนในสหรัฐฯ ได้ยกฟ้องสมมติฐานเกี่ยวกับวัคซีน-ออทิซึมในปี 2009 นานก่อนที่สิ่งที่ฉันจะอธิบายต่อไปนี้จะเกิดขึ้นเสียอีก วิทยาศาสตร์คือความต่อเนื่อง ความจริงที่ปรากฏผ่านการศึกษาหลาย ๆ อย่างซึ่งมักต้องนำมาประกอบเข้าด้วยกันก่อนจึงจะมองเห็นภาพรวมได้ชัดเจน และบางครั้งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อาจดำเนินไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งถึงจุดที่ความจริงที่ปรากฏปรากฏขึ้นในลักษณะที่ไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป ในความเห็นของฉัน การศึกษาของดร. เอ็กซ์ลีย์ให้ข้อมูลเพียงส่วนเดียวที่ขาดหายไปจากคำอธิบายที่รัดกุมเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชายของฉันและเด็กอีกหลายๆ คน และได้ให้ "ความน่าจะเป็นทางชีววิทยา" แก่ผู้ที่ไม่เชื่อทั้งหมดว่าวัคซีนที่ฉีดเข้าที่ไหล่ของทารกสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคออทิซึมได้อย่างไร สำหรับชาวอเมริกัน การแข่งขันเพื่อค้นหาสาเหตุของโรคออทิซึมทั้งหมดนั้นน่าจะชนะได้ในต่างแดน ดังที่คุณจะเห็นในไม่ช้านี้ วิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่อธิบายสาเหตุของโรคออทิซึมมาจากต่างประเทศ แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จาก Caltech จะเป็นคนผลักโดมิโนตัวแรกไปเมื่อปี 2549 ก็ตาม ทำไมถึงมีอะลูมิเนียมอยู่ในวัคซีน? อะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบสำคัญของวัคซีนส่วนใหญ่ที่ให้กับเด็ก อะลูมิเนียมทำหน้าที่เป็น “สารเสริมภูมิคุ้มกัน” ซึ่งหมายความว่าอะลูมิเนียมทำหน้าที่ “ปลุก” ระบบภูมิคุ้มกันให้ตื่นขึ้น กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจดจำ “แอนติเจน” ในวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่างๆ ที่วัคซีนทำหน้าที่ป้องกันโรค ปริมาณอะลูมิเนียมในวัคซีนที่ให้กับเด็ก ๆพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเริ่มตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 ด้วยสาเหตุสองประการ: 1) มีการเพิ่มวัคซีนเข้าไปในตารางวัคซีนสำหรับเด็กมากขึ้น และ 2) อัตราการฉีดวัคซีนสำหรับวัคซีนทุกชนิดที่ให้กับเด็กเพิ่มขึ้น (จาก 50–60% ของเด็ก ๆ ที่ได้รับวัคซีนในช่วงกลางทศวรรษ 1980 เป็นมากกว่า 90% ในปัจจุบัน) ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 เด็กจะได้รับอะลูมิเนียมจากวัคซีน 1,250 ไมโครกรัมภายในอายุ 18 เดือนหากได้รับวัคซีนครบถ้วน ปัจจุบัน ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 4,925 ไมโครกรัม ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่าจากปริมาณอะลูมิเนียมทั้งหมด คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ในผลการศึกษาที่ยอดเยี่ยม ซึ่งตีพิมพ์โดย Neil Miller ที่น่าประหลาดใจก็คือ อะลูมิเนียมไม่เคยผ่านการทดสอบทางชีวภาพเพื่อพิจารณาถึงความปลอดภัยในการฉีดเข้าไปในทารก เนื่องจากอะลูมิเนียมได้รับการ "ยกเว้น" ไว้ในมาตรฐานความปลอดภัยสมัยใหม่ของเรา นักวิทยาศาสตร์ชาวแคนาดา ดร. คริส ชอว์ และ ดร. ลูซิจา ทอมเยโนวิช ได้กล่าวถึงการละเว้นนี้ในการศึกษาวิจัยเชิงวิจารณ์ที่พวกเขาตีพิมพ์ในปี 2011 ในวารสารCurrent Medicinal Chemistryชื่อว่า “ สารเสริมฤทธิ์วัคซีนอะลูมิเนียม: ปลอดภัยหรือไม่ ” พวกเขาเขียนว่า: “อะลูมิเนียมเป็นสารพิษต่อระบบประสาทที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากการทดลองและเป็นสารเสริมฤทธิ์วัคซีนที่ใช้กันทั่วไป แม้ว่าจะมีการใช้สารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมอย่างแพร่หลายมานานเกือบ 90 ปีแล้ว แต่ความเข้าใจของวิทยาศาสตร์การแพทย์เกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมยังคงต่ำอย่างน่าตกใจนอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับพิษวิทยาและเภสัชจลนศาสตร์ของสารประกอบเหล่านี้อย่างขาดแคลน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล แม้จะเป็นเช่นนั้น แนวคิดที่ว่าอะลูมิเนียมในวัคซีนนั้นปลอดภัยก็ยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางอย่างไรก็ตาม การวิจัยเชิงทดลองแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมมีศักยภาพในการทำให้เกิดความผิดปกติทางภูมิคุ้มกันที่ร้ายแรงในมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อะลูมิเนียมในรูปแบบสารเสริมฤทธิ์มีความเสี่ยงต่อภูมิคุ้มกันตนเอง การอักเสบของสมองในระยะยาว และภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาทที่เกี่ยวข้อง และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างกว้างขวางและรุนแรง” ICANตัดสินใจทดสอบความสามารถของ CDC และ NIH ในการผลิตงานวิจัยใดๆ เพื่อแสดงให้เห็นความปลอดภัยของสารเสริมฤทธิ์วัคซีนผ่านการฟ้องร้องภายใต้ FOIA ตอนนี้ฉันเดาว่าคุณคงรู้ว่าคดีจบลงอย่างไร... อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ “คำตอบของ CDC และ NIH ต่อคำร้องขอภายใต้พระราชบัญญัติเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล (FOIA) ของ ICAN เกี่ยวกับสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมเผยให้เห็นการยอมรับที่น่าตกตะลึง นั่นคือ พวกเขาไม่มีการศึกษาแม้แต่ชิ้นเดียวที่จะสนับสนุนความปลอดภัยในการแนะนำให้ฉีดสารพิษต่อเซลล์และระบบประสาทนี้ซ้ำๆ เป็นส่วนหนึ่งของตารางการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กของ CDC”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 482 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥สูตรพอลลิตินสำหรับปรับสมดุลระบบลำไส้และระบบเลือดในผู้ป่วยมะเร็งการดูแลระบบลำไส้และระบบเลือดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง เนื่องจากส่งผลโดยตรงต่อภูมิคุ้มกัน การฟื้นฟูร่างกาย และการตอบสนองต่อการรักษา สูตรนี้จึงออกแบบมาเพื่อช่วยฟื้นฟูและเสริมสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้:---💥ส่วนผสมสำคัญ ในสูตรปรับสมดุล1. วิทกราส (Wheatgrass)ล้างสารพิษในเลือดและระบบน้ำเหลืองเพิ่มการสร้างเม็ดเลือดแดงและออกซิเจนในร่างกายลดการอักเสบและสนับสนุนการฟื้นฟูระบบย่อยอาหาร2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix)ซินไบโอติกซ์ที่ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ส่งเสริมการดูดซึมสารอาหารและสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบลำไส้3. พอลลิทอล (Pollitol)อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ฟื้นฟูระบบเลือด และช่วยลดการอักเสบในร่างกายเสริมสร้างพลังงานและสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูร่างกาย4. พอลลิตัน (Pollitan)ช่วยฟื้นฟูและบำรุงเซลล์ในระดับลึกส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่และซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายเสริมระบบไหลเวียนเลือดและการขนส่งออกซิเจน5. พอลลิแทป (Pollitap)ช่วยปรับสมดุลระบบเลือด เพิ่มการไหลเวียนและออกซิเจนบำรุงระบบประสาทและเพิ่มพลังงานในเซลล์ช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อและภูมิคุ้มกัน---🌿คุณประโยชน์เด่นของสูตรนี้👉ปรับสมดุลระบบลำไส้: สนับสนุนสุขภาพจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น👉เสริมระบบเลือด: ช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด เสริมการสร้างเม็ดเลือดแดง และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของการรักษามะเร็ง👉ลดการอักเสบ: ช่วยลดการอักเสบในลำไส้และระบบเลือด ฟื้นฟูเซลล์ที่เสียหายจากมะเร็ง👉เพิ่มพลังงานและการฟื้นฟู: เสริมสร้างพลังงานในระดับเซลล์เพื่อรองรับการรักษาและฟื้นฟูร่างกายคำแนะนำควรใช้ พอลลิติน ควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์แบบหลัก และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็ง.📌สนใจสั่งซื้อ กดที่ลิงค์https://www.myhmpm.com/shopping/?sp_code=H00020333ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD#ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    🔥สูตรพอลลิตินสำหรับปรับสมดุลระบบลำไส้และระบบเลือดในผู้ป่วยมะเร็งการดูแลระบบลำไส้และระบบเลือดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง เนื่องจากส่งผลโดยตรงต่อภูมิคุ้มกัน การฟื้นฟูร่างกาย และการตอบสนองต่อการรักษา สูตรนี้จึงออกแบบมาเพื่อช่วยฟื้นฟูและเสริมสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้:---💥ส่วนผสมสำคัญ ในสูตรปรับสมดุล1. วิทกราส (Wheatgrass)ล้างสารพิษในเลือดและระบบน้ำเหลืองเพิ่มการสร้างเม็ดเลือดแดงและออกซิเจนในร่างกายลดการอักเสบและสนับสนุนการฟื้นฟูระบบย่อยอาหาร2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix)ซินไบโอติกซ์ที่ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ส่งเสริมการดูดซึมสารอาหารและสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบลำไส้3. พอลลิทอล (Pollitol)อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ฟื้นฟูระบบเลือด และช่วยลดการอักเสบในร่างกายเสริมสร้างพลังงานและสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูร่างกาย4. พอลลิตัน (Pollitan)ช่วยฟื้นฟูและบำรุงเซลล์ในระดับลึกส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่และซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายเสริมระบบไหลเวียนเลือดและการขนส่งออกซิเจน5. พอลลิแทป (Pollitap)ช่วยปรับสมดุลระบบเลือด เพิ่มการไหลเวียนและออกซิเจนบำรุงระบบประสาทและเพิ่มพลังงานในเซลล์ช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อและภูมิคุ้มกัน---🌿คุณประโยชน์เด่นของสูตรนี้👉ปรับสมดุลระบบลำไส้: สนับสนุนสุขภาพจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น👉เสริมระบบเลือด: ช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด เสริมการสร้างเม็ดเลือดแดง และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของการรักษามะเร็ง👉ลดการอักเสบ: ช่วยลดการอักเสบในลำไส้และระบบเลือด ฟื้นฟูเซลล์ที่เสียหายจากมะเร็ง👉เพิ่มพลังงานและการฟื้นฟู: เสริมสร้างพลังงานในระดับเซลล์เพื่อรองรับการรักษาและฟื้นฟูร่างกายคำแนะนำควรใช้ พอลลิติน ควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์แบบหลัก และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็ง.📌สนใจสั่งซื้อ กดที่ลิงค์https://www.myhmpm.com/shopping/?sp_code=H00020333ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD#ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 418 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☘️สูตรพอลลิตินสำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ ประกอบด้วยสารอาหารที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบย่อยอาหาร ลดการอักเสบ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย ดังนี้:1. วิทกราส (Wheatgrass)ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย รวมถึงระบบน้ำเหลืองและทางเดินอาหารอุดมด้วยคลอโรฟิลล์ ช่วยลดการอักเสบ และส่งเสริมการฟื้นฟูเซลล์2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix)เป็นซินไบโอติกซ์ ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ส่งเสริมสุขภาพลำไส้และการดูดซึมสารอาหาร ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ3. พอลลิทอล (Pollitol)มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเสื่อมของเซลล์และบรรเทาอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหารช่วยเพิ่มพลังงานและสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน4. พอลลิแคน (Pollikan)เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบในร่างกาย และช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งสนับสนุนการซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย5. พอลลิแทป (Pollitap)ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ฟื้นฟูเนื้อเยื่อและเซลล์ที่เสียหายจากการรักษาบำรุงระบบประสาทและช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย6. พอลเลนพลัส (Pollen Plus)สารสกัดจากเกสรดอกไม้ อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง และเพิ่มพลังงานในชีวิตประจำวัน7. พอลลิเน๊กซ์ (Pollinex)ช่วยลดความเครียด เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยฟื้นฟูพลังงานในร่างกายส่งเสริมการทำงานของเซลล์และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น☘️คุณประโยชน์สำคัญของสูตรนี้สำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้✅สนับสนุนการทำงานของระบบย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร✅ลดการอักเสบในลำไส้และระบบทางเดินอาหาร✅ฟื้นฟูเซลล์และเนื้อเยื่อที่เสียหาย✅เพิ่มพลังงานและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงสูตรนี้เหมาะสำหรับการดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและฟื้นฟูสุขภาพอย่างยั่งยืน.ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD#ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    ☘️สูตรพอลลิตินสำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ ประกอบด้วยสารอาหารที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบย่อยอาหาร ลดการอักเสบ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย ดังนี้:1. วิทกราส (Wheatgrass)ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย รวมถึงระบบน้ำเหลืองและทางเดินอาหารอุดมด้วยคลอโรฟิลล์ ช่วยลดการอักเสบ และส่งเสริมการฟื้นฟูเซลล์2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix)เป็นซินไบโอติกซ์ ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ส่งเสริมสุขภาพลำไส้และการดูดซึมสารอาหาร ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ3. พอลลิทอล (Pollitol)มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเสื่อมของเซลล์และบรรเทาอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหารช่วยเพิ่มพลังงานและสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน4. พอลลิแคน (Pollikan)เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบในร่างกาย และช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งสนับสนุนการซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย5. พอลลิแทป (Pollitap)ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ฟื้นฟูเนื้อเยื่อและเซลล์ที่เสียหายจากการรักษาบำรุงระบบประสาทและช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย6. พอลเลนพลัส (Pollen Plus)สารสกัดจากเกสรดอกไม้ อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง และเพิ่มพลังงานในชีวิตประจำวัน7. พอลลิเน๊กซ์ (Pollinex)ช่วยลดความเครียด เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยฟื้นฟูพลังงานในร่างกายส่งเสริมการทำงานของเซลล์และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น☘️คุณประโยชน์สำคัญของสูตรนี้สำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้✅สนับสนุนการทำงานของระบบย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร✅ลดการอักเสบในลำไส้และระบบทางเดินอาหาร✅ฟื้นฟูเซลล์และเนื้อเยื่อที่เสียหาย✅เพิ่มพลังงานและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงสูตรนี้เหมาะสำหรับการดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและฟื้นฟูสุขภาพอย่างยั่งยืน.ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD#ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 447 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☘️สูตรพอลลิตินสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดมีส่วนผสมที่เน้นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย ลดการอักเสบ และสนับสนุนการฟื้นฟูสุขภาพ ดังนี้:1. วิทกราส (Wheatgrass) - อุดมด้วยคลอโรฟิลล์ ช่วยขับสารพิษในเลือดและระบบน้ำเหลือง เพิ่มเม็ดเลือดแดง ลดการอักเสบ และสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix) - ซินไบโอติกซ์ที่ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ เสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ3. พอลลิทอล (Pollitol) - มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์และลดการอักเสบ ฟื้นฟูร่างกายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน4. พอลลิแคน (Pollikan) - เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และป้องกันการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง5. พอลลิแทป (Pollitap) - ช่วยฟื้นฟูเซลล์ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และบำรุงเซลล์ที่เสียหายจากการรักษามะเร็ง6. พอลเลนพลัส (Pollen Plus) - สารสกัดจากเกสรพืชที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยเพิ่มพลังงานและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง7. พอลลิเน๊กซ์ (Pollinex) - ช่วยลดความเครียด เสริมภูมิคุ้มกัน และเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้นสูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และฟื้นฟูสุขภาพให้แข็งแรง📌สนใจสั่งซื้อ กดที่ลิงค์https://www.myhmpm.com/shopping/?sp_code=H00020333ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD#ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    ☘️สูตรพอลลิตินสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดมีส่วนผสมที่เน้นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย ลดการอักเสบ และสนับสนุนการฟื้นฟูสุขภาพ ดังนี้:1. วิทกราส (Wheatgrass) - อุดมด้วยคลอโรฟิลล์ ช่วยขับสารพิษในเลือดและระบบน้ำเหลือง เพิ่มเม็ดเลือดแดง ลดการอักเสบ และสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix) - ซินไบโอติกซ์ที่ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ เสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ3. พอลลิทอล (Pollitol) - มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์และลดการอักเสบ ฟื้นฟูร่างกายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน4. พอลลิแคน (Pollikan) - เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และป้องกันการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง5. พอลลิแทป (Pollitap) - ช่วยฟื้นฟูเซลล์ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และบำรุงเซลล์ที่เสียหายจากการรักษามะเร็ง6. พอลเลนพลัส (Pollen Plus) - สารสกัดจากเกสรพืชที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยเพิ่มพลังงานและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง7. พอลลิเน๊กซ์ (Pollinex) - ช่วยลดความเครียด เสริมภูมิคุ้มกัน และเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้นสูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และฟื้นฟูสุขภาพให้แข็งแรง📌สนใจสั่งซื้อ กดที่ลิงค์https://www.myhmpm.com/shopping/?sp_code=H00020333ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD#ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 493 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีโอ-คลีน1
    สารบำบัดเลน
    ลดปัญหาพื้นบ่อเน่าเสีย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
    ตะกอนสารอินทรีย์หรือเลนที่ก้นบ่อกุ้ง จาก ขี้กุ้ง เศษอาหารเหลือ และซากแพลงก์ตอน ทำให้
    พื้นบ่อเสื่อมโทรม เป็นแหล่งสะสมของสารพิษเช่น แอมโมเนีย ไนไตรท์ และก๊าซไข่เน่า
    ส่งผลเสียต่อสุขภาพกุ้งและคุณภาพน้ำ ทำให้กุ้งเครียด อ่อนแอ กินอาหารลดลง
    มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคสูงขึ้นเช่น โรคตับ โรคขี้ขาว โรคเหงือกดำ ซูโอแทมเนียม
    โรคเรืองแสง ซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคตัวแดงจุดขาว
    ผลิตจากสารธรรมชาติ ผ่านกระบวนการผลิตให้มีคุณสมบัติย่อยสลายเลนก้นบ่อ
    ลดปัญหากุ้งซุกกองเลนในเวลาที่ ฝนตก อุณหภูมิต่ำ ซึ่งทำให้เกิดโรคเหงือกดำ กุ้งกินอาหารลด อ่อนแอ ตัวหลวม ติดเชื้อแบคทีเรียและโปรโตซัว
    *ช่วยย่อยสลายขี้กุ้ง กำจัดและลดปริมาณเลนที่พื้นบ่อ ทำให้พื้นบ่อสะอาด
    *ป้องกันพื้นบ่อเน่าเสีย ช่วยลดกลิ่นเหม็นซึ่งเกิดจากการหมักหมมของของเสีย
    *ช่วยลดแอมโมเนีย ป้องกันการสะสมและการเกิดไนไตรท์ ช่วยกำจัดก๊าซไข่เน่า
    *ช่วยให้สิ่งแวดล้อมในบ่อเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกุ้ง มีความปลอดภัยต่อกุ้ง และสิ่งแวดล้อม
    อัตราการใช้:
    *เตรียมบ่อ:กรณีบ่อไม่ได้ดันขี้เลนออก 5-10กก./ไร่ บริเวณกองเลน
    *ระหว่างการเลี้ยง:เพื่อลดการสะสมของเลนกลางบ่อ 2-3 กก./ไร่ ทุก 7-10 วัน
    ***หว่านในแนวเลน หรือบริเวณกลางบ่อโดยไม่ต้องละลายน้ำ หรือเฉพาะจุดที่มีของเสียสะสม
    บรรจุ 5 กก.ราคา 350.-บาท
    สนใจต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่
    ปูมทองจีโอ
    👍👍👍👍👍👍👍👍👍
    🌹🌳🌴🌾🌿🍀🐠🐟
    📲 081-6633435
    👉💖Line ID:jee_ex15
    https://line.me/ti/p/1vOPz_sRCe
    👍👍👍👍👍👍👍👍👍
    จีโอ-คลีน1 สารบำบัดเลน ลดปัญหาพื้นบ่อเน่าเสีย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ตะกอนสารอินทรีย์หรือเลนที่ก้นบ่อกุ้ง จาก ขี้กุ้ง เศษอาหารเหลือ และซากแพลงก์ตอน ทำให้ พื้นบ่อเสื่อมโทรม เป็นแหล่งสะสมของสารพิษเช่น แอมโมเนีย ไนไตรท์ และก๊าซไข่เน่า ส่งผลเสียต่อสุขภาพกุ้งและคุณภาพน้ำ ทำให้กุ้งเครียด อ่อนแอ กินอาหารลดลง มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคสูงขึ้นเช่น โรคตับ โรคขี้ขาว โรคเหงือกดำ ซูโอแทมเนียม โรคเรืองแสง ซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคตัวแดงจุดขาว ผลิตจากสารธรรมชาติ ผ่านกระบวนการผลิตให้มีคุณสมบัติย่อยสลายเลนก้นบ่อ ลดปัญหากุ้งซุกกองเลนในเวลาที่ ฝนตก อุณหภูมิต่ำ ซึ่งทำให้เกิดโรคเหงือกดำ กุ้งกินอาหารลด อ่อนแอ ตัวหลวม ติดเชื้อแบคทีเรียและโปรโตซัว *ช่วยย่อยสลายขี้กุ้ง กำจัดและลดปริมาณเลนที่พื้นบ่อ ทำให้พื้นบ่อสะอาด *ป้องกันพื้นบ่อเน่าเสีย ช่วยลดกลิ่นเหม็นซึ่งเกิดจากการหมักหมมของของเสีย *ช่วยลดแอมโมเนีย ป้องกันการสะสมและการเกิดไนไตรท์ ช่วยกำจัดก๊าซไข่เน่า *ช่วยให้สิ่งแวดล้อมในบ่อเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกุ้ง มีความปลอดภัยต่อกุ้ง และสิ่งแวดล้อม อัตราการใช้: *เตรียมบ่อ:กรณีบ่อไม่ได้ดันขี้เลนออก 5-10กก./ไร่ บริเวณกองเลน *ระหว่างการเลี้ยง:เพื่อลดการสะสมของเลนกลางบ่อ 2-3 กก./ไร่ ทุก 7-10 วัน ***หว่านในแนวเลน หรือบริเวณกลางบ่อโดยไม่ต้องละลายน้ำ หรือเฉพาะจุดที่มีของเสียสะสม บรรจุ 5 กก.ราคา 350.-บาท สนใจต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ ปูมทองจีโอ 👍👍👍👍👍👍👍👍👍 🌹🌳🌴🌾🌿🍀🐠🐟 📲 081-6633435 👉💖Line ID:jee_ex15 https://line.me/ti/p/1vOPz_sRCe 👍👍👍👍👍👍👍👍👍
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • นานม่แล้ว ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว (ไม่มีสารพิษ)
    นานม่แล้ว ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว (ไม่มีสารพิษ)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..
    ..วันแรกที่ระเบิด: คำสั่งผู้บริหารของทรัมป์และเคนเนดีทำลายล้างสถานะเดิมและกำหนดสุขภาพ เสรีภาพ และรัฐบาลของอเมริกาใหม่!

    ข่าวด่วน: ทรัมป์และเคนเนดีออกคำสั่งผู้บริหารชุดใหญ่ตั้งแต่วันแรก! คำสั่งฉีดวัคซีนถูกทำลาย FDA และ CDC ถูกยกเลิก ห้ามใช้ส่วนผสมที่เป็นพิษ จีเอ็มโอ และการรับรองอย่างเป็นทางการถึงอันตรายจากวัคซีน ยุคใหม่ของสุขภาพและเสรีภาพเขย่าอเมริกา!

    บูม: คำสั่งฉีดวัคซีนถูกทำลาย! คำสั่งฉีดวัคซีนหมดไปแล้ว! ทรัมป์และเคนเนดีทำลายคำสั่งด้วยคำสั่งอันทรงพลังเพียงคำสั่งเดียว ยุติการควบคุมหลายปีของบริษัทยาขนาดใหญ่ เสรีภาพทางการแพทย์กลับมาแล้ว! ชาวอเมริกันเรียกร้องสิทธิในการเลือกคืนมา—ไม่มีการบังคับให้ปฏิบัติตามอีกต่อไป เสรีภาพส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่ไม่สามารถต่อรองได้!

    เสียงปืน! กฎหมายคุ้มครองวัคซีนปี 1986: ประวัติศาสตร์! บริษัทยาขนาดใหญ่ไม่มีการหลบซ่อนอีกต่อไป! ทรัมป์และเคนเนดีได้ยกเลิกพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ได้รับอันตรายจากวัคซีนปี 1986 ทำลายกำแพงภูมิคุ้มกันที่บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ซ่อนอยู่ ความยุติธรรมกลับมาอีกครั้งเมื่อประชาชนได้รับสิทธิในการเรียกร้องความรับผิดชอบจากบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้อีกครั้ง

    ปัง! การห้ามใช้ฟลูออไรด์กำลังครอบงำประเทศชาติ! ไม่มีฟลูออไรด์ในน้ำประปาอีกต่อไป! การห้ามใช้ฟลูออไรด์ในน้ำของทรัมป์และเคนเนดีทำให้ยุคของการแพทย์จำนวนมากสิ้นสุดลงโดยไม่ได้รับความยินยอม ปล่อยให้คนอเมริกันดื่มน้ำบริสุทธิ์และฟรี! คาดหวังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สู่การใช้น้ำธรรมชาติที่สะอาดทั่วประเทศ

    บูม! FDA, CDC และ FTC ปรับเปลี่ยนใหม่—ไม่ พังทลาย! ทรัมป์และเคนเนดีไม่ได้แค่ปฏิรูปเท่านั้น—พวกเขาทำลาย FDA, CDC และ FTC รื้อถอนระบบราชการ นี่คือระบบราชการที่ไร้ประสิทธิภาพ! หน่วยงานใหม่ที่รับผิดชอบจะรายงานต่อประชาชนและปกป้องสุขภาพโดยไม่ต้องมีเงื่อนไขจากบริษัท

    ปัง! ส่วนผสมที่เป็นพิษถูกห้ามในอาหาร—การปฏิวัติสุขภาพ! บอกลาสารเติมแต่งที่เป็นอันตรายได้เลย! สีสังเคราะห์ สารกันบูด และสารพิษหมดไปจากอาหารอเมริกันแล้ว นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นการปฏิวัติอาหารที่นำโดยทรัมป์และเคนเนดีเพื่อปกป้องสุขภาพ

    ฟ้าร้อง! การบาดเจ็บและการเสียชีวิตจากวัคซีนได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ ทรัมป์และเคนเนดีโจมตีอย่างเงียบๆ ในที่สุดก็ยอมรับการบาดเจ็บและการเสียชีวิตจากวัคซีน ไม่มีการปฏิเสธหรือการหลอกลวงอีกต่อไป เหยื่อจะได้รับการรับฟัง การชดเชยดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับความยุติธรรม

    ระเบิด! จีเอ็มโอและยาฆ่าแมลงที่เป็นพิษถูกห้าม—อเมริกาเปลี่ยนเป็นออร์แกนิก! การห้ามจีเอ็มโอและยาฆ่าแมลงของทรัมป์และเคนเนดีส่งสารอันกึกก้อง: อเมริกาเปลี่ยนเป็นออร์แกนิก สุขภาพมีความสำคัญมากกว่าผลกำไร และภาคการเกษตรก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล!

    การประท้วงครั้งสุดท้าย: การยอมรับความเชื่อมโยงระหว่างออทิสติกกับวัคซีน—ระเบิดความจริง ทรัมป์และเคนเนดีพูดถึงความเชื่อมโยงระหว่างออทิสติกกับวัคซีนอย่างกล้าหาญ โดยท้าทายสถานะทางการแพทย์ปัจจุบัน การศึกษาวิจัยอิสระจะเพิ่มมากขึ้น และโปรแกรมสำหรับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจะขยายตัว พิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลนี้เป็นผู้นำความจริงและความโปร่งใส

    ตอนจบที่ยิ่งใหญ่: การยกเลิก FDA, CDC, FTC—จุดจบของยุคสมัย! นี่คือตอนจบ: การโจมตีครั้งสุดท้ายที่ทำลายล้างสถานะเดิม ทรัมป์และเคนเนดีโค่นล้มยักษ์ใหญ่ในระบบราชการ ถ่ายโอนอำนาจให้กับประชาชน

    อเมริกา เตรียมตัวไว้ให้ดี—การเปลี่ยนแปลงกำลังมาถึงแล้ว!
    .. ..วันแรกที่ระเบิด: คำสั่งผู้บริหารของทรัมป์และเคนเนดีทำลายล้างสถานะเดิมและกำหนดสุขภาพ เสรีภาพ และรัฐบาลของอเมริกาใหม่! ข่าวด่วน: ทรัมป์และเคนเนดีออกคำสั่งผู้บริหารชุดใหญ่ตั้งแต่วันแรก! คำสั่งฉีดวัคซีนถูกทำลาย FDA และ CDC ถูกยกเลิก ห้ามใช้ส่วนผสมที่เป็นพิษ จีเอ็มโอ และการรับรองอย่างเป็นทางการถึงอันตรายจากวัคซีน ยุคใหม่ของสุขภาพและเสรีภาพเขย่าอเมริกา! บูม: คำสั่งฉีดวัคซีนถูกทำลาย! คำสั่งฉีดวัคซีนหมดไปแล้ว! ทรัมป์และเคนเนดีทำลายคำสั่งด้วยคำสั่งอันทรงพลังเพียงคำสั่งเดียว ยุติการควบคุมหลายปีของบริษัทยาขนาดใหญ่ เสรีภาพทางการแพทย์กลับมาแล้ว! ชาวอเมริกันเรียกร้องสิทธิในการเลือกคืนมา—ไม่มีการบังคับให้ปฏิบัติตามอีกต่อไป เสรีภาพส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่ไม่สามารถต่อรองได้! เสียงปืน! กฎหมายคุ้มครองวัคซีนปี 1986: ประวัติศาสตร์! บริษัทยาขนาดใหญ่ไม่มีการหลบซ่อนอีกต่อไป! ทรัมป์และเคนเนดีได้ยกเลิกพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ได้รับอันตรายจากวัคซีนปี 1986 ทำลายกำแพงภูมิคุ้มกันที่บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ซ่อนอยู่ ความยุติธรรมกลับมาอีกครั้งเมื่อประชาชนได้รับสิทธิในการเรียกร้องความรับผิดชอบจากบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้อีกครั้ง ปัง! การห้ามใช้ฟลูออไรด์กำลังครอบงำประเทศชาติ! ไม่มีฟลูออไรด์ในน้ำประปาอีกต่อไป! การห้ามใช้ฟลูออไรด์ในน้ำของทรัมป์และเคนเนดีทำให้ยุคของการแพทย์จำนวนมากสิ้นสุดลงโดยไม่ได้รับความยินยอม ปล่อยให้คนอเมริกันดื่มน้ำบริสุทธิ์และฟรี! คาดหวังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สู่การใช้น้ำธรรมชาติที่สะอาดทั่วประเทศ บูม! FDA, CDC และ FTC ปรับเปลี่ยนใหม่—ไม่ พังทลาย! ทรัมป์และเคนเนดีไม่ได้แค่ปฏิรูปเท่านั้น—พวกเขาทำลาย FDA, CDC และ FTC รื้อถอนระบบราชการ นี่คือระบบราชการที่ไร้ประสิทธิภาพ! หน่วยงานใหม่ที่รับผิดชอบจะรายงานต่อประชาชนและปกป้องสุขภาพโดยไม่ต้องมีเงื่อนไขจากบริษัท ปัง! ส่วนผสมที่เป็นพิษถูกห้ามในอาหาร—การปฏิวัติสุขภาพ! บอกลาสารเติมแต่งที่เป็นอันตรายได้เลย! สีสังเคราะห์ สารกันบูด และสารพิษหมดไปจากอาหารอเมริกันแล้ว นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นการปฏิวัติอาหารที่นำโดยทรัมป์และเคนเนดีเพื่อปกป้องสุขภาพ ฟ้าร้อง! การบาดเจ็บและการเสียชีวิตจากวัคซีนได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ ทรัมป์และเคนเนดีโจมตีอย่างเงียบๆ ในที่สุดก็ยอมรับการบาดเจ็บและการเสียชีวิตจากวัคซีน ไม่มีการปฏิเสธหรือการหลอกลวงอีกต่อไป เหยื่อจะได้รับการรับฟัง การชดเชยดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับความยุติธรรม ระเบิด! จีเอ็มโอและยาฆ่าแมลงที่เป็นพิษถูกห้าม—อเมริกาเปลี่ยนเป็นออร์แกนิก! การห้ามจีเอ็มโอและยาฆ่าแมลงของทรัมป์และเคนเนดีส่งสารอันกึกก้อง: อเมริกาเปลี่ยนเป็นออร์แกนิก สุขภาพมีความสำคัญมากกว่าผลกำไร และภาคการเกษตรก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล! การประท้วงครั้งสุดท้าย: การยอมรับความเชื่อมโยงระหว่างออทิสติกกับวัคซีน—ระเบิดความจริง ทรัมป์และเคนเนดีพูดถึงความเชื่อมโยงระหว่างออทิสติกกับวัคซีนอย่างกล้าหาญ โดยท้าทายสถานะทางการแพทย์ปัจจุบัน การศึกษาวิจัยอิสระจะเพิ่มมากขึ้น และโปรแกรมสำหรับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจะขยายตัว พิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลนี้เป็นผู้นำความจริงและความโปร่งใส ตอนจบที่ยิ่งใหญ่: การยกเลิก FDA, CDC, FTC—จุดจบของยุคสมัย! นี่คือตอนจบ: การโจมตีครั้งสุดท้ายที่ทำลายล้างสถานะเดิม ทรัมป์และเคนเนดีโค่นล้มยักษ์ใหญ่ในระบบราชการ ถ่ายโอนอำนาจให้กับประชาชน อเมริกา เตรียมตัวไว้ให้ดี—การเปลี่ยนแปลงกำลังมาถึงแล้ว!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 385 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..อนาคตเทคโนโลยีจะก้าวกระโดดเป็นอันมาก ยิ่งทรัมป์ฝ่ายแสงชนะเปิดเผยตัวตนเอง, จะเริ่มการปลดปล่อยอิสระเสรีเป็นอันมากกว่าอดีตทวีคูณหลายเท่า,เพราะจริงๆโลกเราสมควรอัพเรเวลสู่คนมิติทะลุ5Dนานแล้ว,ขั้นใช้โทรจิตพูดคุยกันทั่วโลกนานแล้วแต่ซาตานปกครองทั้งดัดแปลงDNAเรา ปิดระบบหยั่งรู้เราอีกด้วยสารพิษต่างๆในการใช้ชีวิตประจำวันเรา ทั้งดิ้นรนตามระบบทาสตังซาตานอย่างบ้าคลั่งเกินไปจนลืมย้อนพิจารณากายในจิตในของตนใครมัน,หากทรัมป์และคณะผู้นำผิวโลกปฏิบัติสำเร็จ เทคโนโลยีต่างๆที่จะมาย่อมวางใจได้เพราะฝ่ายดีควบคุมมิใช่เผด็จการซาตานแรปทีเลี่ยนกิ่งก่าคุม,และค่าจริงของจักรวาลจะเริ่มอุบัติสู่ปฐมบทของจริงนับแต่นี้เป็นต้นไป ใครจิตเลว จริตชั่วอาจต้องถูกย้ายไปดวงดาวอื่นที่ค่าจริตเสมอกันโดยยานอวกาศขนส่งฝ่ายกาแล็กติก,ทะลุหลุมดำสู่ดวงดาวอื่นโลกอื่นต่อไปวาล์ปไป รูหนอนอะไรก็แล้วแต่ต่อไป,จะมีกระบวนการจัดการคัดแยกคงเร็วๆนี้,การเรียนรู้ใหม่ค่าจริงใหม่ของโลกของจักรวาลจะบังเกิดค่าจริงเปิดโลกเปิดจักรวาลกันจริงๆ ใครปราถนาย้ายดวงดาวไปอาศัยอยู่ไหนก็จะตามเจตจำนงเสรีท่านๆ,จิตระลึกเองว่ามาจากดวงดาวไหนก็คงกลับบ้านใครดาวมัน ใครลงมาเกิดเพื่อทำภาระกิจ จบงานก็กลับบ้านใครดาวมันที่อาสาลงมาช่วยโลกในกายเนื้อมนุษย์นี้.,หรืออยู่เล่นต่อไปสักระยะจนจบอายุขัยก็ตามสบายหรือไปช่วยเหลือดวงดาวอื่นก็คงตามแต่ภาระสัญญากับสภาจักรวาลท่าน.,ถ้าผลชนะจบจริง ทรัมป์ขึ้นจริง,ที่เหลือก็แค่มาดูค่าจริงว่า ของปลอมหรือของแท้,แค่นั้น ของปลอมคือซวยหนักหนาสาหัสกว่าเดิมอีก,ของจริง คนทั้งโลกได้เป็นนีโอแน่ๆเพราะจะบินไปทั่วจักรวาลด้วยความตื่นรู้ว่ามันสุดยอดขนาดไหนเมื่อเปิดประตูหน้าต่างสู่โลกภายนอกที่มิใช่มนุษย์โลกเพียงเผ่าพันธุ์เราเท่านั้นในระบบจักรวาลเล็ก จักรวาลกลางและมหาจักรวาลนี้ เบื่อจะท่องเที่ยวเลยล่ะ.,น่าสนใจมากค่าจริงนับจากนี้,จึงสมควรจบจริงๆความไม่สงบวุ่นวายบนโลกเราที่ฝ่ายมืดก่อตลอดมาที่ยึดครองโลกใบนี้ไป.
    ..อนาคตเทคโนโลยีจะก้าวกระโดดเป็นอันมาก ยิ่งทรัมป์ฝ่ายแสงชนะเปิดเผยตัวตนเอง, จะเริ่มการปลดปล่อยอิสระเสรีเป็นอันมากกว่าอดีตทวีคูณหลายเท่า,เพราะจริงๆโลกเราสมควรอัพเรเวลสู่คนมิติทะลุ5Dนานแล้ว,ขั้นใช้โทรจิตพูดคุยกันทั่วโลกนานแล้วแต่ซาตานปกครองทั้งดัดแปลงDNAเรา ปิดระบบหยั่งรู้เราอีกด้วยสารพิษต่างๆในการใช้ชีวิตประจำวันเรา ทั้งดิ้นรนตามระบบทาสตังซาตานอย่างบ้าคลั่งเกินไปจนลืมย้อนพิจารณากายในจิตในของตนใครมัน,หากทรัมป์และคณะผู้นำผิวโลกปฏิบัติสำเร็จ เทคโนโลยีต่างๆที่จะมาย่อมวางใจได้เพราะฝ่ายดีควบคุมมิใช่เผด็จการซาตานแรปทีเลี่ยนกิ่งก่าคุม,และค่าจริงของจักรวาลจะเริ่มอุบัติสู่ปฐมบทของจริงนับแต่นี้เป็นต้นไป ใครจิตเลว จริตชั่วอาจต้องถูกย้ายไปดวงดาวอื่นที่ค่าจริตเสมอกันโดยยานอวกาศขนส่งฝ่ายกาแล็กติก,ทะลุหลุมดำสู่ดวงดาวอื่นโลกอื่นต่อไปวาล์ปไป รูหนอนอะไรก็แล้วแต่ต่อไป,จะมีกระบวนการจัดการคัดแยกคงเร็วๆนี้,การเรียนรู้ใหม่ค่าจริงใหม่ของโลกของจักรวาลจะบังเกิดค่าจริงเปิดโลกเปิดจักรวาลกันจริงๆ ใครปราถนาย้ายดวงดาวไปอาศัยอยู่ไหนก็จะตามเจตจำนงเสรีท่านๆ,จิตระลึกเองว่ามาจากดวงดาวไหนก็คงกลับบ้านใครดาวมัน ใครลงมาเกิดเพื่อทำภาระกิจ จบงานก็กลับบ้านใครดาวมันที่อาสาลงมาช่วยโลกในกายเนื้อมนุษย์นี้.,หรืออยู่เล่นต่อไปสักระยะจนจบอายุขัยก็ตามสบายหรือไปช่วยเหลือดวงดาวอื่นก็คงตามแต่ภาระสัญญากับสภาจักรวาลท่าน.,ถ้าผลชนะจบจริง ทรัมป์ขึ้นจริง,ที่เหลือก็แค่มาดูค่าจริงว่า ของปลอมหรือของแท้,แค่นั้น ของปลอมคือซวยหนักหนาสาหัสกว่าเดิมอีก,ของจริง คนทั้งโลกได้เป็นนีโอแน่ๆเพราะจะบินไปทั่วจักรวาลด้วยความตื่นรู้ว่ามันสุดยอดขนาดไหนเมื่อเปิดประตูหน้าต่างสู่โลกภายนอกที่มิใช่มนุษย์โลกเพียงเผ่าพันธุ์เราเท่านั้นในระบบจักรวาลเล็ก จักรวาลกลางและมหาจักรวาลนี้ เบื่อจะท่องเที่ยวเลยล่ะ.,น่าสนใจมากค่าจริงนับจากนี้,จึงสมควรจบจริงๆความไม่สงบวุ่นวายบนโลกเราที่ฝ่ายมืดก่อตลอดมาที่ยึดครองโลกใบนี้ไป.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • ขอให้ พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา
    จนกว่าจะมีการสอบสวนปัญหาการปนเปื้อนของสารพิษในวัคซีนดังกล่าว

    https://www.facebook.com/share/19YzdjFF6k/

    วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

    เรียน พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร
    สำเนาเรียน คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และ สำนักข่าว สื่อมวลชนทุกสำนัก

    ตามที่รัฐบาลไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข อันเป็นหน่วยงานภาครัฐในการกำกับดูแลของท่าน ได้อนุญาตให้ฉีดวัคซีนโควิดชนิดmRNA ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของบริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และ สไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของบริษัทโมเดอร์นา(Moderna) นั้น ขณะนี้มีข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าวัคซีนทั้งสองยี่ห้อดังกล่าว มีการปนเปื้อนสารพันธุกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ที่ได้รับ อาทิ สารพันธุกรรมก่อมะเร็ง สารพันธุกรรมที่ทำให้ดื้อยาปฏิชีวนะฯลฯ การปนเปื้อนดังกล่าวเป็นการกระทำผิดสัญญาที่บริษัททั้งสองได้ทำไว้กับรัฐบาลไทยอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ที่ได้รับวัคซีนสองยี่ห้อดังกล่าว และก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐในฐานะคู่สัญญา

    ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันนี้การระบาดของโรคโควิด ๑๙ ได้ยุติลงแล้ว เชื้อโควิดได้กลายพันธุ์จนหมดความรุนแรงแล้ว ประชากรส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติแล้ว และมียารักษาโรคโควิด ๑๙ ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะอนุญาตให้ฉีดวัคซีนดังกล่าวอีก จึงขอให้ท่านสั่งให้มีการระงับการฉีดวัคซีน ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของ บริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และสไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของ บริษัทโมเดอร์นา (Moderna) ไว้ก่อน พร้อมทั้งดำเนินการสอบสวนกรณีที่บริษัททั้งสองจงใจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จตามที่ระบุไว้ในสัญญาที่ได้ทำไว้กับรัฐบาล
    ทั้งนี้หากท่านมิได้ดำเนินการดังกล่าว จนก่อให้เกิดผลเสียต่อประชาชนผู้บริโภค และต่อรัฐบาล ท่านอาจเข้าข่ายการกระทำผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นการกระทำผิดอาญา และต้องรับผิดชอบความเสียหายทางละเมิดได้

    อนึ่งจากฐานข้อมูลประชาราษฎร์ ของกระทรวงมหาดไทย พบว่า ตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๗ ถึงสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา คนไทยเสียชีวิตทั้งสิ้น ๔๒๔,๒๗๘ ราย หรือเพิ่มขึ้น ๒๒% จากค่าเฉลี่ยห้าปีก่อนการระบาดของโควิด การเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวอาจเกิดจากการฉีดวัคซีน mRNAที่มีการปนเปื้อนของยีนก่อมะเร็ง การระงับการฉีดวัคซีนmRNAทันทีจึงเป็นสิ่งที่ท่านต้องดำเนินการทันทีจนกว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนต่อไป

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    เอกสารอ้างอิง
    1. จดหมาย ขอติดตามความคืบหน้าในการเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/file/d/1AFg_Ilr8vyPjJtUeM277UX6tl3yGNB5c/view?usp=drivesdk

    2. จดหมาย คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” ลงวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    3. สถิติการเสียชีวิต เป็นเวลาสามปีติดต่อกันที่คนไทยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ มากกว่าช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด คนไทยตายเพิ่มขึ้นทั้งที่การระบาดของโควิดยุติลง
    ตายเพิ่มขึ้นทั้งที่โกหกว่า วัคซีนโควิดจะลดอัตราการตาย ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567
    https://drive.google.com/file/d/122EJw-wrGa0GTD-hJSho0IC-U3ROJU4Z/view?usp=drive_link


    ❇ ข้อมูลสำคัญ

    Vaccine warning to Prime Minister
    https://youtu.be/EDv1b4pg9RE?si=zoHznuiVMayaK430
    Australians Demand Answers!
    https://russellbroadbent.com.au/australiansdemandanswers/
    DNA contamination in vaccines
    https://youtu.be/ICNdzPC2ExY?si=3zNT4fHwGCgVOXGs
    Prime Minister urged to ‘immediately suspend’ mRNA injections
    https://blog.maryannedemasi.com/p/prime-minister-urged-to-immediately?utm_campaign=post&utm_medium=web

    Report from Canadian virologist, Dr. David J. Speicher
    https://www.dropbox.com/scl/fi/sb20elb520v6a1saxg9lj/240909-D-Speicher-Report.pdf?rlkey=dutcvd85gh80ebfs2ucdmorba&e=1&st=rglgjcfq&dl=0

    Proof, DNA contamination report
    https://youtu.be/p-qU6jq8wv8?si=YTkGTRDRzhO4hpLQ

    นายแพทย์​โจเซฟ​ ลาดาโป​ นายแพทย์​ใหญ่​ แห่ง​มลรัฐ​ฟลอริด้า​ สหรัฐอเมริกา​ ประกาศ​ว่า​ การ​ฉีดวัคซีน​ mRNA​ทั้ง​ของไฟเซอร์​และโมเดอนา เป็น​การกระทำ​ที่ผิดศีลธรรม​ ขัดจรรยาบรรณ​ทาง​การแพทย์​ เนื่องจาก​พบว่า​มีการปนเปื้อน​ของ​ DNA ในวัคซีน​เหล่านี้​ที่เกินมาตรฐาน​ความปลอดภัย​ DNA ดังกล่าว​สามารถ​เข้าไป​แทรกในสารพันธุกรรม​ของมนุษย​์​ ทำให้เกิด​การกลายพันธุ์​และความผิดปกติ​ หลาย​อย่างรวมทั้ง​ก่อมะเร็ง​ได้​
    นอกจากนี้​ไขมันนาโน​ซึ่ง​เป็น​ส่วนประกอบ​สำคัญ​ของ​วัคซีน​mRNA​ ก็​ยังทำให้​เกิด​ผลเสีย​ต่อ​ร่างกาย​มากมาย
    ทั้ง​นี้​ข้อสรุป​ดังกล่าว​อยู่​บนพื้นฐาน​ข้อมูล​จาก​การวิจัย
    https://rumble.com/v44yso0-dr.-joseph-ladapo-i-am-calling-for-a-halt-to-the-use-of-mrna-covid-19-vacci.html
    https://vigilantnews.com/post/dr-ladapo-prepared-to-ban-mrna-covid-19-vaccines-in-florida/?amp=1
    ขอให้ พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา จนกว่าจะมีการสอบสวนปัญหาการปนเปื้อนของสารพิษในวัคซีนดังกล่าว https://www.facebook.com/share/19YzdjFF6k/ วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เรียน พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร สำเนาเรียน คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และ สำนักข่าว สื่อมวลชนทุกสำนัก ตามที่รัฐบาลไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข อันเป็นหน่วยงานภาครัฐในการกำกับดูแลของท่าน ได้อนุญาตให้ฉีดวัคซีนโควิดชนิดmRNA ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของบริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และ สไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของบริษัทโมเดอร์นา(Moderna) นั้น ขณะนี้มีข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าวัคซีนทั้งสองยี่ห้อดังกล่าว มีการปนเปื้อนสารพันธุกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ที่ได้รับ อาทิ สารพันธุกรรมก่อมะเร็ง สารพันธุกรรมที่ทำให้ดื้อยาปฏิชีวนะฯลฯ การปนเปื้อนดังกล่าวเป็นการกระทำผิดสัญญาที่บริษัททั้งสองได้ทำไว้กับรัฐบาลไทยอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ที่ได้รับวัคซีนสองยี่ห้อดังกล่าว และก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐในฐานะคู่สัญญา ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันนี้การระบาดของโรคโควิด ๑๙ ได้ยุติลงแล้ว เชื้อโควิดได้กลายพันธุ์จนหมดความรุนแรงแล้ว ประชากรส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติแล้ว และมียารักษาโรคโควิด ๑๙ ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะอนุญาตให้ฉีดวัคซีนดังกล่าวอีก จึงขอให้ท่านสั่งให้มีการระงับการฉีดวัคซีน ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของ บริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และสไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของ บริษัทโมเดอร์นา (Moderna) ไว้ก่อน พร้อมทั้งดำเนินการสอบสวนกรณีที่บริษัททั้งสองจงใจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จตามที่ระบุไว้ในสัญญาที่ได้ทำไว้กับรัฐบาล ทั้งนี้หากท่านมิได้ดำเนินการดังกล่าว จนก่อให้เกิดผลเสียต่อประชาชนผู้บริโภค และต่อรัฐบาล ท่านอาจเข้าข่ายการกระทำผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นการกระทำผิดอาญา และต้องรับผิดชอบความเสียหายทางละเมิดได้ อนึ่งจากฐานข้อมูลประชาราษฎร์ ของกระทรวงมหาดไทย พบว่า ตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๗ ถึงสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา คนไทยเสียชีวิตทั้งสิ้น ๔๒๔,๒๗๘ ราย หรือเพิ่มขึ้น ๒๒% จากค่าเฉลี่ยห้าปีก่อนการระบาดของโควิด การเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวอาจเกิดจากการฉีดวัคซีน mRNAที่มีการปนเปื้อนของยีนก่อมะเร็ง การระงับการฉีดวัคซีนmRNAทันทีจึงเป็นสิ่งที่ท่านต้องดำเนินการทันทีจนกว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนต่อไป กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เอกสารอ้างอิง 1. จดหมาย ขอติดตามความคืบหน้าในการเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ https://drive.google.com/file/d/1AFg_Ilr8vyPjJtUeM277UX6tl3yGNB5c/view?usp=drivesdk 2. จดหมาย คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” ลงวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ 3. สถิติการเสียชีวิต เป็นเวลาสามปีติดต่อกันที่คนไทยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ มากกว่าช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด คนไทยตายเพิ่มขึ้นทั้งที่การระบาดของโควิดยุติลง ตายเพิ่มขึ้นทั้งที่โกหกว่า วัคซีนโควิดจะลดอัตราการตาย ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567 https://drive.google.com/file/d/122EJw-wrGa0GTD-hJSho0IC-U3ROJU4Z/view?usp=drive_link ❇ ข้อมูลสำคัญ Vaccine warning to Prime Minister https://youtu.be/EDv1b4pg9RE?si=zoHznuiVMayaK430 Australians Demand Answers! https://russellbroadbent.com.au/australiansdemandanswers/ DNA contamination in vaccines https://youtu.be/ICNdzPC2ExY?si=3zNT4fHwGCgVOXGs Prime Minister urged to ‘immediately suspend’ mRNA injections https://blog.maryannedemasi.com/p/prime-minister-urged-to-immediately?utm_campaign=post&utm_medium=web Report from Canadian virologist, Dr. David J. Speicher https://www.dropbox.com/scl/fi/sb20elb520v6a1saxg9lj/240909-D-Speicher-Report.pdf?rlkey=dutcvd85gh80ebfs2ucdmorba&e=1&st=rglgjcfq&dl=0 Proof, DNA contamination report https://youtu.be/p-qU6jq8wv8?si=YTkGTRDRzhO4hpLQ นายแพทย์​โจเซฟ​ ลาดาโป​ นายแพทย์​ใหญ่​ แห่ง​มลรัฐ​ฟลอริด้า​ สหรัฐอเมริกา​ ประกาศ​ว่า​ การ​ฉีดวัคซีน​ mRNA​ทั้ง​ของไฟเซอร์​และโมเดอนา เป็น​การกระทำ​ที่ผิดศีลธรรม​ ขัดจรรยาบรรณ​ทาง​การแพทย์​ เนื่องจาก​พบว่า​มีการปนเปื้อน​ของ​ DNA ในวัคซีน​เหล่านี้​ที่เกินมาตรฐาน​ความปลอดภัย​ DNA ดังกล่าว​สามารถ​เข้าไป​แทรกในสารพันธุกรรม​ของมนุษย​์​ ทำให้เกิด​การกลายพันธุ์​และความผิดปกติ​ หลาย​อย่างรวมทั้ง​ก่อมะเร็ง​ได้​ นอกจากนี้​ไขมันนาโน​ซึ่ง​เป็น​ส่วนประกอบ​สำคัญ​ของ​วัคซีน​mRNA​ ก็​ยังทำให้​เกิด​ผลเสีย​ต่อ​ร่างกาย​มากมาย ทั้ง​นี้​ข้อสรุป​ดังกล่าว​อยู่​บนพื้นฐาน​ข้อมูล​จาก​การวิจัย https://rumble.com/v44yso0-dr.-joseph-ladapo-i-am-calling-for-a-halt-to-the-use-of-mrna-covid-19-vacci.html https://vigilantnews.com/post/dr-ladapo-prepared-to-ban-mrna-covid-19-vaccines-in-florida/?amp=1
    Like
    Love
    11
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 793 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚩 ขอให้ พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา
    จนกว่าจะมีการสอบสวนปัญหาการปนเปื้อนของสารพิษในวัคซีนดังกล่าว

    วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

    เรียน พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร
    สำเนาเรียน คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และ สำนักข่าว สื่อมวลชนทุกสำนัก

    ตามที่รัฐบาลไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข อันเป็นหน่วยงานภาครัฐในการกำกับดูแลของท่าน ได้อนุญาตให้ฉีดวัคซีนโควิดชนิดmRNA ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของบริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และ สไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของบริษัทโมเดอร์นา(Moderna) นั้น ขณะนี้มีข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าวัคซีนทั้งสองยี่ห้อดังกล่าว มีการปนเปื้อนสารพันธุกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ที่ได้รับ อาทิ สารพันธุกรรมก่อมะเร็ง สารพันธุกรรมที่ทำให้ดื้อยาปฏิชีวนะฯลฯ การปนเปื้อนดังกล่าวเป็นการกระทำผิดสัญญาที่บริษัททั้งสองได้ทำไว้กับรัฐบาลไทยอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ที่ได้รับวัคซีนสองยี่ห้อดังกล่าว และก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐในฐานะคู่สัญญา

    ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันนี้การระบาดของโรคโควิด ๑๙ ได้ยุติลงแล้ว เชื้อโควิดได้กลายพันธุ์จนหมดความรุนแรงแล้ว ประชากรส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติแล้ว และมียารักษาโรคโควิด ๑๙ ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะอนุญาตให้ฉีดวัคซีนดังกล่าวอีก จึงขอให้ท่านสั่งให้มีการระงับการฉีดวัคซีน ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของ บริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และสไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของ บริษัทโมเดอร์นา (Moderna) ไว้ก่อน พร้อมทั้งดำเนินการสอบสวนกรณีที่บริษัททั้งสองจงใจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จตามที่ระบุไว้ในสัญญาที่ได้ทำไว้กับรัฐบาล
    ทั้งนี้หากท่านมิได้ดำเนินการดังกล่าว จนก่อให้เกิดผลเสียต่อประชาชนผู้บริโภค และต่อรัฐบาล ท่านอาจเข้าข่ายการกระทำผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นการกระทำผิดอาญา และต้องรับผิดชอบความเสียหายทางละเมิดได้

    อนึ่งจากฐานข้อมูลประชาราษฎร์ ของกระทรวงมหาดไทย พบว่า ตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๗ ถึงสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา คนไทยเสียชีวิตทั้งสิ้น ๔๒๔,๒๗๘ ราย หรือเพิ่มขึ้น ๒๒% จากค่าเฉลี่ยห้าปีก่อนการระบาดของโควิด การเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวอาจเกิดจากการฉีดวัคซีน mRNAที่มีการปนเปื้อนของยีนก่อมะเร็ง การระงับการฉีดวัคซีนmRNAทันทีจึงเป็นสิ่งที่ท่านต้องดำเนินการทันทีจนกว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนต่อไป

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    เอกสารอ้างอิง
    1. จดหมาย ขอติดตามความคืบหน้าในการเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/file/d/1AFg_Ilr8vyPjJtUeM277UX6tl3yGNB5c/view?usp=drivesdk

    2. จดหมาย คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” ลงวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk

    3. สถิติการเสียชีวิต เป็นเวลาสามปีติดต่อกันที่คนไทยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ มากกว่าช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด คนไทยตายเพิ่มขึ้นทั้งที่การระบาดของโควิดยุติลง
    ตายเพิ่มขึ้นทั้งที่โกหกว่า วัคซีนโควิดจะลดอัตราการตาย ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567
    https://drive.google.com/file/d/122EJw-wrGa0GTD-hJSho0IC-U3ROJU4Z/view?usp=drive_link


    ❇ ข้อมูลสำคัญ

    Vaccine warning to Prime Minister
    https://youtu.be/EDv1b4pg9RE?si=zoHznuiVMayaK430
    Australians Demand Answers!
    https://russellbroadbent.com.au/australiansdemandanswers/
    DNA contamination in vaccines
    https://youtu.be/ICNdzPC2ExY?si=3zNT4fHwGCgVOXGs
    Prime Minister urged to ‘immediately suspend’ mRNA injections
    https://blog.maryannedemasi.com/p/prime-minister-urged-to-immediately?utm_campaign=post&utm_medium=web

    Report from Canadian virologist, Dr. David J. Speicher
    https://www.dropbox.com/scl/fi/sb20elb520v6a1saxg9lj/240909-D-Speicher-Report.pdf?rlkey=dutcvd85gh80ebfs2ucdmorba&e=1&st=rglgjcfq&dl=0

    Proof, DNA contamination report
    https://youtu.be/p-qU6jq8wv8?si=YTkGTRDRzhO4hpLQ

    นายแพทย์​โจเซฟ​ ลาดาโป​ นายแพทย์​ใหญ่​ แห่ง​มลรัฐ​ฟลอริด้า​ สหรัฐอเมริกา​ ประกาศ​ว่า​ การ​ฉีดวัคซีน​ mRNA​ทั้ง​ของไฟเซอร์​และโมเดอนา เป็น​การกระทำ​ที่ผิดศีลธรรม​ ขัดจรรยาบรรณ​ทาง​การแพทย์​ เนื่องจาก​พบว่า​มีการปนเปื้อน​ของ​ DNA ในวัคซีน​เหล่านี้​ที่เกินมาตรฐาน​ความปลอดภัย​ DNA ดังกล่าว​สามารถ​เข้าไป​แทรกในสารพันธุกรรม​ของมนุษย​์​ ทำให้เกิด​การกลายพันธุ์​และความผิดปกติ​ หลาย​อย่างรวมทั้ง​ก่อมะเร็ง​ได้​
    นอกจากนี้​ไขมันนาโน​ซึ่ง​เป็น​ส่วนประกอบ​สำคัญ​ของ​วัคซีน​mRNA​ ก็​ยังทำให้​เกิด​ผลเสีย​ต่อ​ร่างกาย​มากมาย
    ทั้ง​นี้​ข้อสรุป​ดังกล่าว​อยู่​บนพื้นฐาน​ข้อมูล​จาก​การวิจัย
    https://rumble.com/v44yso0-dr.-joseph-ladapo-i-am-calling-for-a-halt-to-the-use-of-mrna-covid-19-vacci.html
    https://vigilantnews.com/post/dr-ladapo-prepared-to-ban-mrna-covid-19-vaccines-in-florida/?amp=1
    🚩 ขอให้ พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา จนกว่าจะมีการสอบสวนปัญหาการปนเปื้อนของสารพิษในวัคซีนดังกล่าว วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เรียน พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร สำเนาเรียน คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และ สำนักข่าว สื่อมวลชนทุกสำนัก ตามที่รัฐบาลไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข อันเป็นหน่วยงานภาครัฐในการกำกับดูแลของท่าน ได้อนุญาตให้ฉีดวัคซีนโควิดชนิดmRNA ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของบริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และ สไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของบริษัทโมเดอร์นา(Moderna) นั้น ขณะนี้มีข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าวัคซีนทั้งสองยี่ห้อดังกล่าว มีการปนเปื้อนสารพันธุกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ที่ได้รับ อาทิ สารพันธุกรรมก่อมะเร็ง สารพันธุกรรมที่ทำให้ดื้อยาปฏิชีวนะฯลฯ การปนเปื้อนดังกล่าวเป็นการกระทำผิดสัญญาที่บริษัททั้งสองได้ทำไว้กับรัฐบาลไทยอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ที่ได้รับวัคซีนสองยี่ห้อดังกล่าว และก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐในฐานะคู่สัญญา ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันนี้การระบาดของโรคโควิด ๑๙ ได้ยุติลงแล้ว เชื้อโควิดได้กลายพันธุ์จนหมดความรุนแรงแล้ว ประชากรส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติแล้ว และมียารักษาโรคโควิด ๑๙ ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะอนุญาตให้ฉีดวัคซีนดังกล่าวอีก จึงขอให้ท่านสั่งให้มีการระงับการฉีดวัคซีน ยี่ห้อโคเมอร์เนตี (Comirnaty) ของ บริษัทไฟเซอร์(Pfizer) และสไปก์แวกซ์ (Spikevax) ของ บริษัทโมเดอร์นา (Moderna) ไว้ก่อน พร้อมทั้งดำเนินการสอบสวนกรณีที่บริษัททั้งสองจงใจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จตามที่ระบุไว้ในสัญญาที่ได้ทำไว้กับรัฐบาล ทั้งนี้หากท่านมิได้ดำเนินการดังกล่าว จนก่อให้เกิดผลเสียต่อประชาชนผู้บริโภค และต่อรัฐบาล ท่านอาจเข้าข่ายการกระทำผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นการกระทำผิดอาญา และต้องรับผิดชอบความเสียหายทางละเมิดได้ อนึ่งจากฐานข้อมูลประชาราษฎร์ ของกระทรวงมหาดไทย พบว่า ตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๗ ถึงสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา คนไทยเสียชีวิตทั้งสิ้น ๔๒๔,๒๗๘ ราย หรือเพิ่มขึ้น ๒๒% จากค่าเฉลี่ยห้าปีก่อนการระบาดของโควิด การเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวอาจเกิดจากการฉีดวัคซีน mRNAที่มีการปนเปื้อนของยีนก่อมะเร็ง การระงับการฉีดวัคซีนmRNAทันทีจึงเป็นสิ่งที่ท่านต้องดำเนินการทันทีจนกว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนต่อไป กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เอกสารอ้างอิง 1. จดหมาย ขอติดตามความคืบหน้าในการเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ https://drive.google.com/file/d/1AFg_Ilr8vyPjJtUeM277UX6tl3yGNB5c/view?usp=drivesdk 2. จดหมาย คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” ลงวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk 3. สถิติการเสียชีวิต เป็นเวลาสามปีติดต่อกันที่คนไทยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ มากกว่าช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด คนไทยตายเพิ่มขึ้นทั้งที่การระบาดของโควิดยุติลง ตายเพิ่มขึ้นทั้งที่โกหกว่า วัคซีนโควิดจะลดอัตราการตาย ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567 https://drive.google.com/file/d/122EJw-wrGa0GTD-hJSho0IC-U3ROJU4Z/view?usp=drive_link ❇ ข้อมูลสำคัญ Vaccine warning to Prime Minister https://youtu.be/EDv1b4pg9RE?si=zoHznuiVMayaK430 Australians Demand Answers! https://russellbroadbent.com.au/australiansdemandanswers/ DNA contamination in vaccines https://youtu.be/ICNdzPC2ExY?si=3zNT4fHwGCgVOXGs Prime Minister urged to ‘immediately suspend’ mRNA injections https://blog.maryannedemasi.com/p/prime-minister-urged-to-immediately?utm_campaign=post&utm_medium=web Report from Canadian virologist, Dr. David J. Speicher https://www.dropbox.com/scl/fi/sb20elb520v6a1saxg9lj/240909-D-Speicher-Report.pdf?rlkey=dutcvd85gh80ebfs2ucdmorba&e=1&st=rglgjcfq&dl=0 Proof, DNA contamination report https://youtu.be/p-qU6jq8wv8?si=YTkGTRDRzhO4hpLQ นายแพทย์​โจเซฟ​ ลาดาโป​ นายแพทย์​ใหญ่​ แห่ง​มลรัฐ​ฟลอริด้า​ สหรัฐอเมริกา​ ประกาศ​ว่า​ การ​ฉีดวัคซีน​ mRNA​ทั้ง​ของไฟเซอร์​และโมเดอนา เป็น​การกระทำ​ที่ผิดศีลธรรม​ ขัดจรรยาบรรณ​ทาง​การแพทย์​ เนื่องจาก​พบว่า​มีการปนเปื้อน​ของ​ DNA ในวัคซีน​เหล่านี้​ที่เกินมาตรฐาน​ความปลอดภัย​ DNA ดังกล่าว​สามารถ​เข้าไป​แทรกในสารพันธุกรรม​ของมนุษย​์​ ทำให้เกิด​การกลายพันธุ์​และความผิดปกติ​ หลาย​อย่างรวมทั้ง​ก่อมะเร็ง​ได้​ นอกจากนี้​ไขมันนาโน​ซึ่ง​เป็น​ส่วนประกอบ​สำคัญ​ของ​วัคซีน​mRNA​ ก็​ยังทำให้​เกิด​ผลเสีย​ต่อ​ร่างกาย​มากมาย ทั้ง​นี้​ข้อสรุป​ดังกล่าว​อยู่​บนพื้นฐาน​ข้อมูล​จาก​การวิจัย https://rumble.com/v44yso0-dr.-joseph-ladapo-i-am-calling-for-a-halt-to-the-use-of-mrna-covid-19-vacci.html https://vigilantnews.com/post/dr-ladapo-prepared-to-ban-mrna-covid-19-vaccines-in-florida/?amp=1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 560 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลจาก Biothai

    ถ้าไม่กล้ากิน ไชน์มัสแคน ผลไม้นำเข้าจากจีน และผลไม้อื่นใดที่เสี่ยงต่อสารพิษตกค้าง

    นี่เลย #ส้มโอ โดยจากการตรวจหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในส้มโอ 16 ตัวอย่าง ไม่เจอสารเคมีเลย 15 ตัวอย่าง ส่วนอีก 1 ตัวอย่างพบการตกค้างเล็กน้อยในระดับไม่เกินมาตรฐาน จากการตรวจหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชกว่า 500 ชนิด โดยห้องปฏิบัติการในประเทศสหราชอาณาจักร ของ เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) !
    ข้อมูลจาก Biothai ถ้าไม่กล้ากิน ไชน์มัสแคน ผลไม้นำเข้าจากจีน และผลไม้อื่นใดที่เสี่ยงต่อสารพิษตกค้าง นี่เลย #ส้มโอ โดยจากการตรวจหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในส้มโอ 16 ตัวอย่าง ไม่เจอสารเคมีเลย 15 ตัวอย่าง ส่วนอีก 1 ตัวอย่างพบการตกค้างเล็กน้อยในระดับไม่เกินมาตรฐาน จากการตรวจหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชกว่า 500 ชนิด โดยห้องปฏิบัติการในประเทศสหราชอาณาจักร ของ เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) !
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความรู้จากโค๊ชนาตาลี
    https://www.facebook.com/Natalie.Proenca
    https://www.facebook.com/loveandlightawakening/
    https://www.youtube.com/@HealthCoachNatalie
    https://www.youtube.com/@awakenwithnatalie
    https://healthcoachnatalie.podia.com

    ✍️รายการ On the way With Chom EP.11 คุณชมพู่ อารยา สัมภาษณ์ โค้ชนาตาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านการดีท็อกซ์ต้านมะเร็ง มาคุยเกี่ยวกับการดีท็อกซ์ร่างกาย
    Facebook 👉 https://www.facebook.com/watch/?v=884245786743330
    Youtube 👉 https://youtu.be/19y5ZYGuKtA
    ✍️LIVE: 40 วิธีดีท็อกซ์ ถ้าคุณไม่อยากแก่เร็ว ห้ามพลาด
    https://www.youtube.com/live/TXQIPnmuZCs?si=bYh7DZVpT7jI2Z5A
    ✍️LIVE: คลิปดีท็อกซ์ปลิวอีกแล้ว! ห้ามพลาดไลฟ์นี้จะเอามาเล่าใหม่
    https://www.youtube.com/live/6eI1jiYjJZ8?si=tpxkIrxPf_f2jBAv
    ✍️Live: ดีท็อกซ์แบบไหนดีที่สุด และผลข้างเคียงที่คุณอาจจะต้องเจอ
    https://www.youtube.com/live/CTrDtjNb4oA?si=v8-3WTko-q3_8qV3
    ✍️LIVE: ถาม-ตอบเรื่องดีท็อกซ์และการบำบัดมะเร็ง
    https://www.youtube.com/live/bXF18zTQB6w?si=JJrbrw-bW_24uPhz
    ✍️🍹สูตรลับน้ำผักฟื้นฟูเซลล์และทำให้ร่างกายเป็นด่าง
    https://www.youtube.com/live/L7BRekpGRjI?si=2dm95slGs74rxx8A
    ✍️🧬รหัสโค้ดในดีเอ็นเอของมนุษย์ไม่ใช่เป็นของ GOD องค์ใดองค์หนึ่ง
    รหัสลับใน DNA ของคุณ มีความหมายซ่อนอยู่ในนั้นที่คุณต้องรู้
    https://www.youtube.com/live/eElgfF8V60Y?si=1XZQPkd7caVDfWY3
    ✍️Live: ซ่อมแซม DNA ด้วยเบต้ากลูแคน ได้จริงหรือ?
    https://www.youtube.com/live/ekNMQ7tHJ3Y?si=G6EPmOWfgExeWxu2
    ✍️ดีท็อกซ์แล้วอาการแย่ลงอาจเป็นเพราะเหตุนี้
    https://www.youtube.com/live/ToCiFmRYnkU?si=PYBJaK9ufUyRZJM_
    ✍️LIVE: วิตามินที่ควรพกไปทานช่วงเดินทาง
    https://www.youtube.com/live/Robzgp_IbPM?si=xk6hdNAQ-YMqB_x-
    ✍️ วิธี Energy Testing หาคำตอบด้วยตัวเองว่าอาหารและวิตามินอะไรที่คุณควรทาน วิธีที่คุณดูแลตัวเอง และใช้ subconscious จิตใต้สำนึก ตอบคำถามให้คุณได้อย่างแม่นยำ
    https://www.youtube.com/live/ia6UtLF42qo?si=J-crrMvxrlMp9oWf
    ✍️LIVE: รีชาร์จเซลล์ด้วย Energy Medicine - PEMF เทคโนโลยีใหม่สำหรับการบำบัดแห่งอนาคต
    https://www.youtube.com/live/h07Zdq2tYu8?si=7puWTAbO670fmAvb
    ✍️LIVE: TOP 11 ผักผลไม้และวิตามินที่ต้องทานในช่วงล้างพิษ
    https://www.youtube.com/live/ud843OO0AlQ?si=pb6WoVO_o4tYRGwC
    ✍️แจกสูตรลับน้ำผักดีท็อกซ์ที่ใช้มานานเกือบ 100 ปีแล้ว
    https://www.youtube.com/live/wJY6nbrFws4?si=guHGzPFOb46SfDAo
    ✍️QUANTUM HEALING การบำบัดในอนาคต
    EP.1 : https://www.youtube.com/live/SNVSfGGzWhQ?si=cpDnTB9SF0Z7rEL2
    EP2 : https://www.youtube.com/live/OYP9ooNsUEc?si=pFy-FA4yYyK8noC9
    EP3 : https://www.youtube.com/live/jGsUeYwLh0s?si=tbRgokDiKvDpA8l0
    ✍️LIVE: เทคโนโลยีใหม่ใช้รักษามาถึงแล้ว
    https://www.youtube.com/live/t_wWeVRsxMM?si=JF8diTyOPnyE6A9_
    ✍️มะเร็งสัมพันธ์กับจักระอย่างไร
    https://www.youtube.com/live/ASOHtPGOkXk?si=OdiQfFqUTSRHswtQ
    ✍️11สิ่งดีท็อกซ์สารพิษที่ธรรมชาติให้มา
    https://www.youtube.com/live/xcLYydbGdkQ?si=BZKfdkKfMMl9onca
    ✍️เคล็ดลับในการทานอาหารต้านมะเร็งที่ทำได้ตลอดกาล
    https://www.youtube.com/live/t6AuYN8xiHk?si=KoGucdbzRE9JxcSr
    ✍️เวิร์คช็อป #ดีท็อกซ์#ล้างพิษ พิชิตโรคแบบองค์รวม” กับโค้ชนาตาลีและทีมแพทย์จาก NOVAVIDA INTEGRATIVE MEDICAL CENTER
    https://youtu.be/tCZW6L6Xyuw?si=yppE4dPOk6IZ1mYD
    ✍️ความเป็นกรดและด่างในร่างกาย
    EP1 : ร่างงกายเราเป็นกรดได้อย่างไร และตอนท้ายสรุปด้วย 5 วิธีง่ายๆ ทำร่างกายให้เป็นด่างด้วยตัวคุณเอง
    https://youtu.be/mEw95s-2oRo?si=-7D8OVrKCKL2S-c4
    EP2 : การตรวจความเป็น กรด และด่าง
    https://youtu.be/hk1WrDffDPc?si=lHUsiXRR5huganWt
    ✍️Saffron ช่วย #ต้านมะเร็ง #ลดความเครียด และ #บำรุงสมอง ช่วยเรื่อง #อัลไซเมอร์ และ #โรคซึมเศร้า
    https://youtu.be/LB--y5lVQfk?si=Hg9y4DIl2ldQdJQa
    ✍️ทำไมต้องเจอเรื่องร้ายๆในชีวิต
    https://youtu.be/WrzE7dRMnTA?si=BVWAz1X8xHyQZmjX
    ✍️พลังบำบัดมหัศจรรย์ด้วยรหัสโค้ดเปลี่ยนคลื่นความถี่ - Star Magic Healing | สัมภาษณ์ Jerry Sargeant ชาวอังกฤษ ร่วมกับอ.ทีน่า
    https://youtu.be/1Wduzh_KhqQ?si=4rQI9hZbA26_D5BK
    ✍️#โจดิสเพนซา #คุณคือพลาซีโบ #สมาธิบำบัด
    ซีรีย์หนังสือเสียงเพื่อเป็นกำลังใจและเพิ่มความรู้ให้คุณ
    https://youtu.be/-3RBDQPj-74?si=sOxQF0AFuRMsli1V
    ✍️Pure Sound Crystal Singing Bowls 432 Hz Solfeggio melody #HealingVibration
    คลิปนี้เป็นเสียงของของคริสตัลโบล์ล้วนๆค่ะ ช่วยกำจัดอารมณ์วิตกกังวลได้อย่างดี
    https://youtu.be/NH5s5N3p_JM?si=173EG3GkKxleXn3Z
    ✍️#crystalsingingbowls เสียงเพลงเบาๆด้วยคลื่นความถี่ Frequency 432 Hz จาก crystal singing bowls เพลงสายทิพย์, Solfeggio Tuning forks และคลื่น 528 Hz จากเสียงเพลง binaural จะช่วยให้คุณผ่อนคลายและหลับสบาย
    https://youtu.be/sg2SS8go_P4?si=GaMPzPvusqQNvHgL
    ✍️#เสียงนำสมาธิ #manifest #ประตูมิติ
    ยังไม่สายที่จะทำสมาธิเพื่อเปิดรับพลังงานจากประตูมิติไลออน (Lion's Gate) กำลังเปิดรอคุณอยู่
    Lion's Gate ของปีนี้แรงกว่าปีที่แล้วค่ะ
    https://youtu.be/AJKysmti6tc?si=nf_g3BS2nuxvts1B
    ✍️เลือกเครื่องปั่นอย่างไรให้เหมาะกับตัวคุณ
    https://youtu.be/c7Gddf0XEp8?si=n2MzRZGp4T5RWs7W
    ✍️การสัมภาษณ์พญ.ณัฐณิชา การลพ จาก Novavida Integrative Medical Center มาให้ความรู้เรื่องการตรวจหามะเร็ง
    https://youtu.be/DS_ptQiSR-c?si=vVijM6ntBAoDzTQi
    ✍️ Finding Your Quantum True-Self “จูนพลังจิตควอนตัมหาตัวเองให้เจอ”
    https://youtu.be/uXXggX1ShoE?si=VCJVz-Cw2HCJNaf1
    ✍️สั่งจิตพิชิตมะเร็ง สิ่งสำคัญที่สุด
    https://youtu.be/T8ytSEd83zI?si=Fc3HlW30G7CnadUg
    ✍️#ตื่นรู้ #HU ครั้งแรกที่โค้ชนาตาลี สนทนากับลูกชายเรื่องการตื่นรู้ และแชร์ประสบการณ์จากการส่ง HU
    https://youtu.be/TMcW2bO_UT4?si=CmEJZiJXKaGCA7-M
    ✍️หลักฐานยืนยัน #DNA มนุษย์ถูกตัดต่อสองแสนปีที่แล้ว DNA ของมนุษย์ถูกเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร และ DNA ส่วนไหนที่ทำให้มนุษย์ต่างจากลิง
    https://youtu.be/SopVb_CQ2TY?si=snl5CfT1d1vHjWQe
    ✍️เพิ่งรู้ว่าเป็นมะเร็ง อยากได้กำลังใจให้ทำแบบนี้
    https://youtu.be/MIhClkNYQHs?si=qZNQqGEU8EhWzU6u
    ✍️วิธีติดตั้ง Glider กับส้อมเสียง OM
    https://youtu.be/OUtgNNesKjU?si=lJT5SGKEaJhP9Rdn
    ✍️คุณเคยสังเกตตัวเองมั้ยคะว่าคุณหายใจอย่างไร และมันสำคัญมากขนาดไหน ถ้าคุณหายใจผิดวิธีเป็นเวลานานๆ อาจทำให้คุณป่วยเป็นโรคได้หลายโรคค่ะ วิดีโอนี้เป็นการแนะนำวิธีปฏิบัติการหายใจให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยอ้างอิงจากหนังสือ “BREATH” เขียนโดย James Nestor https://youtu.be/wg01GqrPAsI?si=VyacPESRGh3f-z3S
    ✍️วิธีซ่อมแซม DNA ด้วยความรักและเทคนิค Freeze Frame
    https://youtu.be/54R-eA8vqsI?si=yKFSSp_Ya77dEJNH
    ✍️วิธีเปิดดีเอ็นเอที่ถูกปิดไว้นานแสนนานด้วยหลักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
    https://youtu.be/mkoPczNxBKY?si=tnKHn1FVLgBBkKor
    ✍️เปิดตาที่สามแล้วคุณจะมีพลังพิเศษ แอบรู้ความลับของต่อมไพเนียลที่คุณต้องรู้
    ✅ คลิปนี้บอกความลับของต่อมไพเนียลที่ถูกค้นพบไม่นานนี้เอง
    ✅ รูปปั้นของชาวอียิปต์โบราณพยายามจะบอกความลับอะไรกับคนสมัยใหม่
    ✅ วิธีสร้างสาร DMT ด้วยตัวคุณเอง
    ✅ และอาหารที่ช่วยล้างหินปูนที่เกาะต่อมไพเนียล
    https://youtu.be/2Yi_2QvU7qI?si=bn1XNJHYwWnTcDe2
    ✍️ความลับของกฎแรงดึงดูด ต้องเรียงลำดับขั้นตอน
    https://youtu.be/nAmM0XZRsxI?si=kQd8H3pELJDtVn0v
    ✍️สมาธิเปิดดีเอ็นเอ HU+528Hz+Light Language+ปรับจักระทั้ง7+ต้อนรับโลกใหม่(New Earth)
    https://youtu.be/AaGi_tIhOTc?si=pEGh3ALzBvgJXDv0
    ✍️ใครที่อยากจะหยุดทานเนื้อสัตว์แต่ยังทำไม่ได้ โค้ชนาตาลีมีเทคนิคที่ทำได้จริงของตัวเองมาแชร์ค่ะ
    https://youtu.be/bnNSUwjLBEo?si=EX1-D_f6W1fTlf0c
    ✍️ชาวไทยใหญ่ท่านหนึ่งกำจัดโรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก Bell’s palsy ก้อนที่คอและอีกหลายโรคด้วยตัวเอง
    https://youtu.be/dVsPMkbCu_M?si=guwpxCqiSTBQP-oz
    ✍️สังคมใหม่ไม่ใช้เงิน ตลาดนัดออนไลน์ให้แลกเปลี่ยนสิ่งของโดยไม่ใช้เงิน
    https://youtu.be/iyXat83u7lA?si=ayC45Nu98XYKlHgc
    https://m.facebook.com/groups/1076808563215591/?ref=sharehttps://m.facebook.com/groups/1076808563215591/?ref=share&exp=93fa
    ✍️วิธีใช้ส้อมเสียง
    EP1 : https://youtu.be/J4FM5fSCIxU?si=b_yFf5wGVAjy7f2n
    EP2 : https://youtu.be/qvw_RcZJtPk?si=PqBEn3D8zeAVsu15
    ✍️การถอดจิต ความสามารถที่มนุษย์เราทุกคนควรจะมี Remote Viewing ประสบการณ์ดูไกลกับคุณนิมิต ภูติรัช
    https://youtu.be/5Ulzw-CGtkw?si=AYjhn6ULYM2eIB1O
    ✍️FC คุณปุ๊กมีชีวิตที่ดีขึ้นหลังการเป็นมะเร็งเต้านม คุณก็ทำได้เช่นกัน
    https://youtu.be/Q-92FdVArA0?si=VL7bX5f5cdas8hxT
    ✍️เคสคุณแอ้ว เอาชนะมะเร็งปากมดลูก ไม่คี…ไม่ฉาย…
    https://youtu.be/-zzf8ySllkw?si=c4uUWJBJU1tsGEnZ
    ✍️ คำถามเกี่ยวกับมะเร็ง ตอบโดย พญ.ณัฐณิชา Nanovida
    EP1 : การรักษามะเร็งทางเลือกใหม่ https://youtu.be/xLqEVY2YGak?si=ubuB14AdLQea1RT3
    EP2 : ใช้สมุนไพรและดื่มน้ำผักช่วงรับคีโมได้หรือไม่ https://youtu.be/9SJzxNwYaGU?si=FqYgHWb3FFvIQC1D
    ✍️วิธีปล่อยวาง อย่ายึดติดกับร่างกายของเรา กำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็ง
    https://youtu.be/Bp4qVYAYuLM?si=a2FIoqaqdGAp6sqd
    ✍️ไลฟ์สดโค๊ชนาตาลี การใช้ไอโอดีนดีท็อกซ์สารอะลูมิเนียมและล้างพิษวัคซีน
    https://www.youtube.com/live/54P3wpqp40U?si=oietvXlFz7d40gK1
    ความรู้จากโค๊ชนาตาลี https://www.facebook.com/Natalie.Proenca https://www.facebook.com/loveandlightawakening/ https://www.youtube.com/@HealthCoachNatalie https://www.youtube.com/@awakenwithnatalie https://healthcoachnatalie.podia.com ✍️รายการ On the way With Chom EP.11 คุณชมพู่ อารยา สัมภาษณ์ โค้ชนาตาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านการดีท็อกซ์ต้านมะเร็ง มาคุยเกี่ยวกับการดีท็อกซ์ร่างกาย Facebook 👉 https://www.facebook.com/watch/?v=884245786743330 Youtube 👉 https://youtu.be/19y5ZYGuKtA ✍️LIVE: 40 วิธีดีท็อกซ์ ถ้าคุณไม่อยากแก่เร็ว ห้ามพลาด https://www.youtube.com/live/TXQIPnmuZCs?si=bYh7DZVpT7jI2Z5A ✍️LIVE: คลิปดีท็อกซ์ปลิวอีกแล้ว! ห้ามพลาดไลฟ์นี้จะเอามาเล่าใหม่ https://www.youtube.com/live/6eI1jiYjJZ8?si=tpxkIrxPf_f2jBAv ✍️Live: ดีท็อกซ์แบบไหนดีที่สุด และผลข้างเคียงที่คุณอาจจะต้องเจอ https://www.youtube.com/live/CTrDtjNb4oA?si=v8-3WTko-q3_8qV3 ✍️LIVE: ถาม-ตอบเรื่องดีท็อกซ์และการบำบัดมะเร็ง https://www.youtube.com/live/bXF18zTQB6w?si=JJrbrw-bW_24uPhz ✍️🍹สูตรลับน้ำผักฟื้นฟูเซลล์และทำให้ร่างกายเป็นด่าง https://www.youtube.com/live/L7BRekpGRjI?si=2dm95slGs74rxx8A ✍️🧬รหัสโค้ดในดีเอ็นเอของมนุษย์ไม่ใช่เป็นของ GOD องค์ใดองค์หนึ่ง รหัสลับใน DNA ของคุณ มีความหมายซ่อนอยู่ในนั้นที่คุณต้องรู้ https://www.youtube.com/live/eElgfF8V60Y?si=1XZQPkd7caVDfWY3 ✍️Live: ซ่อมแซม DNA ด้วยเบต้ากลูแคน ได้จริงหรือ? https://www.youtube.com/live/ekNMQ7tHJ3Y?si=G6EPmOWfgExeWxu2 ✍️ดีท็อกซ์แล้วอาการแย่ลงอาจเป็นเพราะเหตุนี้ https://www.youtube.com/live/ToCiFmRYnkU?si=PYBJaK9ufUyRZJM_ ✍️LIVE: วิตามินที่ควรพกไปทานช่วงเดินทาง https://www.youtube.com/live/Robzgp_IbPM?si=xk6hdNAQ-YMqB_x- ✍️ วิธี Energy Testing หาคำตอบด้วยตัวเองว่าอาหารและวิตามินอะไรที่คุณควรทาน วิธีที่คุณดูแลตัวเอง และใช้ subconscious จิตใต้สำนึก ตอบคำถามให้คุณได้อย่างแม่นยำ https://www.youtube.com/live/ia6UtLF42qo?si=J-crrMvxrlMp9oWf ✍️LIVE: รีชาร์จเซลล์ด้วย Energy Medicine - PEMF เทคโนโลยีใหม่สำหรับการบำบัดแห่งอนาคต https://www.youtube.com/live/h07Zdq2tYu8?si=7puWTAbO670fmAvb ✍️LIVE: TOP 11 ผักผลไม้และวิตามินที่ต้องทานในช่วงล้างพิษ https://www.youtube.com/live/ud843OO0AlQ?si=pb6WoVO_o4tYRGwC ✍️แจกสูตรลับน้ำผักดีท็อกซ์ที่ใช้มานานเกือบ 100 ปีแล้ว https://www.youtube.com/live/wJY6nbrFws4?si=guHGzPFOb46SfDAo ✍️QUANTUM HEALING การบำบัดในอนาคต EP.1 : https://www.youtube.com/live/SNVSfGGzWhQ?si=cpDnTB9SF0Z7rEL2 EP2 : https://www.youtube.com/live/OYP9ooNsUEc?si=pFy-FA4yYyK8noC9 EP3 : https://www.youtube.com/live/jGsUeYwLh0s?si=tbRgokDiKvDpA8l0 ✍️LIVE: เทคโนโลยีใหม่ใช้รักษามาถึงแล้ว https://www.youtube.com/live/t_wWeVRsxMM?si=JF8diTyOPnyE6A9_ ✍️มะเร็งสัมพันธ์กับจักระอย่างไร https://www.youtube.com/live/ASOHtPGOkXk?si=OdiQfFqUTSRHswtQ ✍️11สิ่งดีท็อกซ์สารพิษที่ธรรมชาติให้มา https://www.youtube.com/live/xcLYydbGdkQ?si=BZKfdkKfMMl9onca ✍️เคล็ดลับในการทานอาหารต้านมะเร็งที่ทำได้ตลอดกาล https://www.youtube.com/live/t6AuYN8xiHk?si=KoGucdbzRE9JxcSr ✍️เวิร์คช็อป #ดีท็อกซ์ “ #ล้างพิษ พิชิตโรคแบบองค์รวม” กับโค้ชนาตาลีและทีมแพทย์จาก NOVAVIDA INTEGRATIVE MEDICAL CENTER https://youtu.be/tCZW6L6Xyuw?si=yppE4dPOk6IZ1mYD ✍️ความเป็นกรดและด่างในร่างกาย EP1 : ร่างงกายเราเป็นกรดได้อย่างไร และตอนท้ายสรุปด้วย 5 วิธีง่ายๆ ทำร่างกายให้เป็นด่างด้วยตัวคุณเอง https://youtu.be/mEw95s-2oRo?si=-7D8OVrKCKL2S-c4 EP2 : การตรวจความเป็น กรด และด่าง https://youtu.be/hk1WrDffDPc?si=lHUsiXRR5huganWt ✍️Saffron ช่วย #ต้านมะเร็ง #ลดความเครียด และ #บำรุงสมอง ช่วยเรื่อง #อัลไซเมอร์ และ #โรคซึมเศร้า https://youtu.be/LB--y5lVQfk?si=Hg9y4DIl2ldQdJQa ✍️ทำไมต้องเจอเรื่องร้ายๆในชีวิต https://youtu.be/WrzE7dRMnTA?si=BVWAz1X8xHyQZmjX ✍️พลังบำบัดมหัศจรรย์ด้วยรหัสโค้ดเปลี่ยนคลื่นความถี่ - Star Magic Healing | สัมภาษณ์ Jerry Sargeant ชาวอังกฤษ ร่วมกับอ.ทีน่า https://youtu.be/1Wduzh_KhqQ?si=4rQI9hZbA26_D5BK ✍️#โจดิสเพนซา #คุณคือพลาซีโบ #สมาธิบำบัด ซีรีย์หนังสือเสียงเพื่อเป็นกำลังใจและเพิ่มความรู้ให้คุณ https://youtu.be/-3RBDQPj-74?si=sOxQF0AFuRMsli1V ✍️Pure Sound Crystal Singing Bowls 432 Hz Solfeggio melody #HealingVibration คลิปนี้เป็นเสียงของของคริสตัลโบล์ล้วนๆค่ะ ช่วยกำจัดอารมณ์วิตกกังวลได้อย่างดี https://youtu.be/NH5s5N3p_JM?si=173EG3GkKxleXn3Z ✍️#crystalsingingbowls เสียงเพลงเบาๆด้วยคลื่นความถี่ Frequency 432 Hz จาก crystal singing bowls เพลงสายทิพย์, Solfeggio Tuning forks และคลื่น 528 Hz จากเสียงเพลง binaural จะช่วยให้คุณผ่อนคลายและหลับสบาย https://youtu.be/sg2SS8go_P4?si=GaMPzPvusqQNvHgL ✍️#เสียงนำสมาธิ #manifest #ประตูมิติ ยังไม่สายที่จะทำสมาธิเพื่อเปิดรับพลังงานจากประตูมิติไลออน (Lion's Gate) กำลังเปิดรอคุณอยู่ Lion's Gate ของปีนี้แรงกว่าปีที่แล้วค่ะ https://youtu.be/AJKysmti6tc?si=nf_g3BS2nuxvts1B ✍️เลือกเครื่องปั่นอย่างไรให้เหมาะกับตัวคุณ https://youtu.be/c7Gddf0XEp8?si=n2MzRZGp4T5RWs7W ✍️การสัมภาษณ์พญ.ณัฐณิชา การลพ จาก Novavida Integrative Medical Center มาให้ความรู้เรื่องการตรวจหามะเร็ง https://youtu.be/DS_ptQiSR-c?si=vVijM6ntBAoDzTQi ✍️ Finding Your Quantum True-Self “จูนพลังจิตควอนตัมหาตัวเองให้เจอ” https://youtu.be/uXXggX1ShoE?si=VCJVz-Cw2HCJNaf1 ✍️สั่งจิตพิชิตมะเร็ง สิ่งสำคัญที่สุด https://youtu.be/T8ytSEd83zI?si=Fc3HlW30G7CnadUg ✍️#ตื่นรู้ #HU ครั้งแรกที่โค้ชนาตาลี สนทนากับลูกชายเรื่องการตื่นรู้ และแชร์ประสบการณ์จากการส่ง HU https://youtu.be/TMcW2bO_UT4?si=CmEJZiJXKaGCA7-M ✍️หลักฐานยืนยัน #DNA มนุษย์ถูกตัดต่อสองแสนปีที่แล้ว DNA ของมนุษย์ถูกเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร และ DNA ส่วนไหนที่ทำให้มนุษย์ต่างจากลิง https://youtu.be/SopVb_CQ2TY?si=snl5CfT1d1vHjWQe ✍️เพิ่งรู้ว่าเป็นมะเร็ง อยากได้กำลังใจให้ทำแบบนี้ https://youtu.be/MIhClkNYQHs?si=qZNQqGEU8EhWzU6u ✍️วิธีติดตั้ง Glider กับส้อมเสียง OM https://youtu.be/OUtgNNesKjU?si=lJT5SGKEaJhP9Rdn ✍️คุณเคยสังเกตตัวเองมั้ยคะว่าคุณหายใจอย่างไร และมันสำคัญมากขนาดไหน ถ้าคุณหายใจผิดวิธีเป็นเวลานานๆ อาจทำให้คุณป่วยเป็นโรคได้หลายโรคค่ะ วิดีโอนี้เป็นการแนะนำวิธีปฏิบัติการหายใจให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยอ้างอิงจากหนังสือ “BREATH” เขียนโดย James Nestor https://youtu.be/wg01GqrPAsI?si=VyacPESRGh3f-z3S ✍️วิธีซ่อมแซม DNA ด้วยความรักและเทคนิค Freeze Frame https://youtu.be/54R-eA8vqsI?si=yKFSSp_Ya77dEJNH ✍️วิธีเปิดดีเอ็นเอที่ถูกปิดไว้นานแสนนานด้วยหลักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ https://youtu.be/mkoPczNxBKY?si=tnKHn1FVLgBBkKor ✍️เปิดตาที่สามแล้วคุณจะมีพลังพิเศษ แอบรู้ความลับของต่อมไพเนียลที่คุณต้องรู้ ✅ คลิปนี้บอกความลับของต่อมไพเนียลที่ถูกค้นพบไม่นานนี้เอง ✅ รูปปั้นของชาวอียิปต์โบราณพยายามจะบอกความลับอะไรกับคนสมัยใหม่ ✅ วิธีสร้างสาร DMT ด้วยตัวคุณเอง ✅ และอาหารที่ช่วยล้างหินปูนที่เกาะต่อมไพเนียล https://youtu.be/2Yi_2QvU7qI?si=bn1XNJHYwWnTcDe2 ✍️ความลับของกฎแรงดึงดูด ต้องเรียงลำดับขั้นตอน https://youtu.be/nAmM0XZRsxI?si=kQd8H3pELJDtVn0v ✍️สมาธิเปิดดีเอ็นเอ HU+528Hz+Light Language+ปรับจักระทั้ง7+ต้อนรับโลกใหม่(New Earth) https://youtu.be/AaGi_tIhOTc?si=pEGh3ALzBvgJXDv0 ✍️ใครที่อยากจะหยุดทานเนื้อสัตว์แต่ยังทำไม่ได้ โค้ชนาตาลีมีเทคนิคที่ทำได้จริงของตัวเองมาแชร์ค่ะ https://youtu.be/bnNSUwjLBEo?si=EX1-D_f6W1fTlf0c ✍️ชาวไทยใหญ่ท่านหนึ่งกำจัดโรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก Bell’s palsy ก้อนที่คอและอีกหลายโรคด้วยตัวเอง https://youtu.be/dVsPMkbCu_M?si=guwpxCqiSTBQP-oz ✍️สังคมใหม่ไม่ใช้เงิน ตลาดนัดออนไลน์ให้แลกเปลี่ยนสิ่งของโดยไม่ใช้เงิน https://youtu.be/iyXat83u7lA?si=ayC45Nu98XYKlHgc https://m.facebook.com/groups/1076808563215591/?ref=sharehttps://m.facebook.com/groups/1076808563215591/?ref=share&exp=93fa ✍️วิธีใช้ส้อมเสียง EP1 : https://youtu.be/J4FM5fSCIxU?si=b_yFf5wGVAjy7f2n EP2 : https://youtu.be/qvw_RcZJtPk?si=PqBEn3D8zeAVsu15 ✍️การถอดจิต ความสามารถที่มนุษย์เราทุกคนควรจะมี Remote Viewing ประสบการณ์ดูไกลกับคุณนิมิต ภูติรัช https://youtu.be/5Ulzw-CGtkw?si=AYjhn6ULYM2eIB1O ✍️FC คุณปุ๊กมีชีวิตที่ดีขึ้นหลังการเป็นมะเร็งเต้านม คุณก็ทำได้เช่นกัน https://youtu.be/Q-92FdVArA0?si=VL7bX5f5cdas8hxT ✍️เคสคุณแอ้ว เอาชนะมะเร็งปากมดลูก ไม่คี…ไม่ฉาย… https://youtu.be/-zzf8ySllkw?si=c4uUWJBJU1tsGEnZ ✍️ คำถามเกี่ยวกับมะเร็ง ตอบโดย พญ.ณัฐณิชา Nanovida EP1 : การรักษามะเร็งทางเลือกใหม่ https://youtu.be/xLqEVY2YGak?si=ubuB14AdLQea1RT3 EP2 : ใช้สมุนไพรและดื่มน้ำผักช่วงรับคีโมได้หรือไม่ https://youtu.be/9SJzxNwYaGU?si=FqYgHWb3FFvIQC1D ✍️วิธีปล่อยวาง อย่ายึดติดกับร่างกายของเรา กำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็ง https://youtu.be/Bp4qVYAYuLM?si=a2FIoqaqdGAp6sqd ✍️ไลฟ์สดโค๊ชนาตาลี การใช้ไอโอดีนดีท็อกซ์สารอะลูมิเนียมและล้างพิษวัคซีน https://www.youtube.com/live/54P3wpqp40U?si=oietvXlFz7d40gK1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 837 มุมมอง 0 รีวิว
  • การสังหารหมู่กำลังดำเนินไป: ชนชั้นสูงกำลังทำให้โลกลดจำนวนประชากรอย่างแข็งขัน—คลาว ชะแว๊บ, Chemtrails และอาวุธชีวภาพ: แผนของ WEF ที่จะกวาดล้างผู้คนนับพันล้านถูกเปิดโปง!

    วาระการลดจำนวนประชากรของ WEF ไม่ใช่ภัยคุกคามที่อยู่ห่างไกล แต่มันเกิดขึ้นที่นี่และตอนนี้ในทุกวิกฤตที่เขย่าโลกของเรา นี่คือสงครามเต็มรูปแบบกับมนุษยชาติ และคุณคือเป้าหมาย

    พวกเขาได้ปลดปล่อยอาวุธที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดเรา—อย่างช้าๆ แอบๆ และไม่ลดละ W0rld Ec0n0my F0room, คลาว ชะแว๊บ และผู้ควบคุมเงาของพวกเขาได้วางแผนชั่วร้ายที่ซ่อนเร้นอยู่ในที่แจ้งชัด

    การปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ? นี่ไม่ใช่ "การหว่านเมฆ"; พวกเขากำลังบงการพายุ ภัยแล้ง ไฟป่าด้วยเทคโนโลยีระดับทหารเพื่อทำให้ประเทศไม่มั่นคง ทำลายพืชผล และทำให้มวลชนอดอยาก ทุกพายุเฮอริเคน ทุกภัยพิบัติ—ออกแบบมาเพื่อควบคุมจำนวนประชากร
    การย้ายถิ่นฐานอย่างผิดกฎหมาย? ไม่ใช่เรื่องของ “ผู้ลี้ภัย” แต่เป็นการรุกรานที่ออกแบบมาให้ระบบทำงานหนักเกินไปและทำให้เศรษฐกิจไม่มั่นคง ทำให้มีคนต่อต้านน้อยลง ความวุ่นวาย ความไม่มั่นคง และการเกิดน้อยลง—เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน

    ฟลูออไรด์ในน้ำของคุณ? มันไม่เหมาะกับฟันของคุณ การสัมผัสเป็นเวลานานจะทำให้ไอคิวลดลง ลดการเจริญพันธุ์ และรับรองการปฏิบัติตาม คนรุ่นต่อรุ่นกำลังกลายเป็นแกะที่เป็นหมันและเชื่อง และระดับไอคิวก็ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อภาวะมีบุตรยากเพิ่มขึ้น

    ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการรวมกลุ่ม (DEI) ไม่เกี่ยวกับความยุติธรรม แต่เป็นอาวุธทางจิตวิทยาเพื่อแบ่งแยกสังคม ทำลายค่านิยม และหยุดการเติบโตของประชากร นี่คือสงครามเพื่อความสามัคคีและครอบครัว

    มาพูดถึงจีเอ็มโอกันดีกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่พืชผลที่ไม่เป็นอันตราย แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างอาวุธเพื่อทำลายสุขภาพและความอุดมสมบูรณ์ โรคเรื้อรังไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรแห่งความตายที่ขับเคลื่อนโดยบริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่ ซึ่งขายโรคและ "การรักษา"

    Chemtrails? ร่องรอยบนท้องฟ้าเหล่านั้นไม่ใช่เชื้อเพลิงเครื่องบิน แต่เป็นการโจมตีด้วยละอองลอยที่มีสารพิษร้ายแรง เช่น แบเรียมและอะลูมิเนียม โปรยปรายลงมาบนเมือง ทุกลมหายใจทำให้เราเข้าใกล้หลุมศพก่อนวัยอันควร ทำให้ประชากรป่วยและปฏิบัติตาม

    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แต่เป็นกลวิธีควบคุม ตำนานเรื่องรอยเท้าคาร์บอนมีไว้เพื่อทำให้เรารู้สึกผิดและตกอยู่ในความยากจน ทำให้เราต้องพึ่งพาระบบของชนชั้นนำ พวกเขากำลังทำให้เราเป็นทาสภายใต้หน้ากากของลัทธิอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

    ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่เป็นเพียงการทดลอง แต่ตอนนี้พวกเขากำลังทำให้ความยากจนทั่วโลกแย่ลง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตที่อยู่อาศัย ราคาอาหารที่ถูกบิดเบือน เงินเฟ้อ พวกเขาต้องการให้เราหมดตัวและไม่สามารถต้านทานได้

    และเครื่องมือที่อันตรายที่สุด? อาวุธชีวภาพ โรค "อุบัติใหม่"? การปล่อยโรคตามแผน โควิดเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น คลื่นลูกต่อไปจะมุ่งเป้าไปที่เครื่องหมายทางพันธุกรรม ซึ่งจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด ในขณะเดียวกัน พวกเขายังต้องนั่งหลบภัยอย่างปลอดภัยในบังเกอร์ โดยเฝ้าดูความโกลาหลที่เกิดขึ้น

    อาณาจักรสื่อของพวกเขายกย่องความเสื่อมโทรม โรคทางจิต การล่มสลายของครอบครัว ฮอลลีวูด เครื่องจักรโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขาทั้งหมดเข้ามาเกี่ยวข้องและผลักดันวัฒนธรรมแห่งความเสื่อมโทรม

    แผนการลดจำนวนประชากรโลกในปี 2000 กำลังดำเนินไป โดยมีรากฐานที่หยั่งรากลึก—ตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ คิสซิงเจอร์ สโมสรแห่งโรม คลาว ชะแว๊บ ซึ่งเป็นใบหน้าล่าสุดของวาระนี้ เป็นผู้สานต่อ

    นี่ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นเรื่องจริง และมันอยู่ที่นี่ ตื่นได้แล้ว! พายุมาถึงแล้ว และมันกำลังมาหาเราทุกคน
    การสังหารหมู่กำลังดำเนินไป: ชนชั้นสูงกำลังทำให้โลกลดจำนวนประชากรอย่างแข็งขัน—คลาว ชะแว๊บ, Chemtrails และอาวุธชีวภาพ: แผนของ WEF ที่จะกวาดล้างผู้คนนับพันล้านถูกเปิดโปง! วาระการลดจำนวนประชากรของ WEF ไม่ใช่ภัยคุกคามที่อยู่ห่างไกล แต่มันเกิดขึ้นที่นี่และตอนนี้ในทุกวิกฤตที่เขย่าโลกของเรา นี่คือสงครามเต็มรูปแบบกับมนุษยชาติ และคุณคือเป้าหมาย พวกเขาได้ปลดปล่อยอาวุธที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดเรา—อย่างช้าๆ แอบๆ และไม่ลดละ W0rld Ec0n0my F0room, คลาว ชะแว๊บ และผู้ควบคุมเงาของพวกเขาได้วางแผนชั่วร้ายที่ซ่อนเร้นอยู่ในที่แจ้งชัด การปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ? นี่ไม่ใช่ "การหว่านเมฆ"; พวกเขากำลังบงการพายุ ภัยแล้ง ไฟป่าด้วยเทคโนโลยีระดับทหารเพื่อทำให้ประเทศไม่มั่นคง ทำลายพืชผล และทำให้มวลชนอดอยาก ทุกพายุเฮอริเคน ทุกภัยพิบัติ—ออกแบบมาเพื่อควบคุมจำนวนประชากร การย้ายถิ่นฐานอย่างผิดกฎหมาย? ไม่ใช่เรื่องของ “ผู้ลี้ภัย” แต่เป็นการรุกรานที่ออกแบบมาให้ระบบทำงานหนักเกินไปและทำให้เศรษฐกิจไม่มั่นคง ทำให้มีคนต่อต้านน้อยลง ความวุ่นวาย ความไม่มั่นคง และการเกิดน้อยลง—เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน ฟลูออไรด์ในน้ำของคุณ? มันไม่เหมาะกับฟันของคุณ การสัมผัสเป็นเวลานานจะทำให้ไอคิวลดลง ลดการเจริญพันธุ์ และรับรองการปฏิบัติตาม คนรุ่นต่อรุ่นกำลังกลายเป็นแกะที่เป็นหมันและเชื่อง และระดับไอคิวก็ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อภาวะมีบุตรยากเพิ่มขึ้น ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการรวมกลุ่ม (DEI) ไม่เกี่ยวกับความยุติธรรม แต่เป็นอาวุธทางจิตวิทยาเพื่อแบ่งแยกสังคม ทำลายค่านิยม และหยุดการเติบโตของประชากร นี่คือสงครามเพื่อความสามัคคีและครอบครัว มาพูดถึงจีเอ็มโอกันดีกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่พืชผลที่ไม่เป็นอันตราย แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างอาวุธเพื่อทำลายสุขภาพและความอุดมสมบูรณ์ โรคเรื้อรังไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรแห่งความตายที่ขับเคลื่อนโดยบริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่ ซึ่งขายโรคและ "การรักษา" Chemtrails? ร่องรอยบนท้องฟ้าเหล่านั้นไม่ใช่เชื้อเพลิงเครื่องบิน แต่เป็นการโจมตีด้วยละอองลอยที่มีสารพิษร้ายแรง เช่น แบเรียมและอะลูมิเนียม โปรยปรายลงมาบนเมือง ทุกลมหายใจทำให้เราเข้าใกล้หลุมศพก่อนวัยอันควร ทำให้ประชากรป่วยและปฏิบัติตาม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แต่เป็นกลวิธีควบคุม ตำนานเรื่องรอยเท้าคาร์บอนมีไว้เพื่อทำให้เรารู้สึกผิดและตกอยู่ในความยากจน ทำให้เราต้องพึ่งพาระบบของชนชั้นนำ พวกเขากำลังทำให้เราเป็นทาสภายใต้หน้ากากของลัทธิอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่เป็นเพียงการทดลอง แต่ตอนนี้พวกเขากำลังทำให้ความยากจนทั่วโลกแย่ลง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตที่อยู่อาศัย ราคาอาหารที่ถูกบิดเบือน เงินเฟ้อ พวกเขาต้องการให้เราหมดตัวและไม่สามารถต้านทานได้ และเครื่องมือที่อันตรายที่สุด? อาวุธชีวภาพ โรค "อุบัติใหม่"? การปล่อยโรคตามแผน โควิดเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น คลื่นลูกต่อไปจะมุ่งเป้าไปที่เครื่องหมายทางพันธุกรรม ซึ่งจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด ในขณะเดียวกัน พวกเขายังต้องนั่งหลบภัยอย่างปลอดภัยในบังเกอร์ โดยเฝ้าดูความโกลาหลที่เกิดขึ้น อาณาจักรสื่อของพวกเขายกย่องความเสื่อมโทรม โรคทางจิต การล่มสลายของครอบครัว ฮอลลีวูด เครื่องจักรโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขาทั้งหมดเข้ามาเกี่ยวข้องและผลักดันวัฒนธรรมแห่งความเสื่อมโทรม แผนการลดจำนวนประชากรโลกในปี 2000 กำลังดำเนินไป โดยมีรากฐานที่หยั่งรากลึก—ตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ คิสซิงเจอร์ สโมสรแห่งโรม คลาว ชะแว๊บ ซึ่งเป็นใบหน้าล่าสุดของวาระนี้ เป็นผู้สานต่อ นี่ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นเรื่องจริง และมันอยู่ที่นี่ ตื่นได้แล้ว! พายุมาถึงแล้ว และมันกำลังมาหาเราทุกคน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 400 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนที่ชอบ swab บ่อยๆ อดทนอ่านสักนิดนะ
    อันนี้เค้าแปลไทยมาให้แล้ว บรรทัดต่อบรรทัด
    ว่ามันอันตรายยังไง แบบไหน เพราะอะไร
    ⏩เหตุใดหน่วยงานภาครัฐจึงยังดึงดันที่จะบังคับใช้ TR-PCT test เป็น Gold Standard ในการวินิจฉัยผู้ติดเชื้อโkวิdให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และบ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะบ่อยได้ในบุคคลเดิม
    ⏩ทั้งที่เทคนิคนี้ได้รับการพิสูจน์อย่างกว้างขวางโดยนักวิทยาศาตร์และบุคลากรทางการแพทย์กว่าห้าหมื่นคนทั่วโลกแล้วว่าเป็นวิธีที่เชื่อถือไม่ได้
    ⏩ให้ผลบวกลวง หรือ False Positive มหาศาลกว่า 90% และแม้แต่ Dr. Kary Mullis ผู้คิดค้นเทคนิคนี้เอง
    ยังยืนกรานออกสื่อหลายครั้งว่ามันไม่เที่ยงตรงและนำไปสู่การแปลผลผิดพลาดได้
    ❓เหตุใดจึงเลือกวิธีล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะของพวกเราอย่างมากทั้งที่สามารถทำได้ง่ายจากการตรวจวิเคราะห์น้ำลาย
    📌การสอดไม้ Swab เข้าไปกว้านลึกถึงเพดานจมูกสามารถสร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อพังผืดที่ห่อหุ้ม Olfactory Nerve
    📌ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและอายุขัยของมนุษย์ เนื่องจาก olfactory nerve เป็นปราการด่านหนึ่งในสองของกะโหลกศรีษะ
    ⏩ซึ่งเชื่อมระหว่างโพรงจมูกกับสมอง ที่ไวรัสและแบคทีเรียสามารถเดินทางข้าม blood-brain barrier เข้าสู่สมองได้
    📌นอกจากนี้ olfactory nerve ยังเป็นเซลล์ชนิดเดียวในกะโหลกศรีษะที่มี stem cells เรียกว่า olfactory ensheathing cells ที่ล้อมรอบเซลล์รับกลิ่น olfactory sensory axons ส่วนที่ยื่นออกมาจากเซลล์ประสาท neuron
    ⏩ทำหน้าที่ส่งผ่านกระแสประสาทจากเซลล์ร่างกาย พวกมันทำหน้าที่ปกป้อง olfactory nerve และช่วยการสร้างเซลล์ใหม่เมื่อเกิดความบาดเจ็บเสียหาย (สเต็มเซลล์ชนิดนี้มีความพิเศษมากจนถูกนำไปใช้ในการซ่อมแซมไขสันหลังบาดเจ็บและรักษาโรคทางสมองหลายชนิดในการแพทย์ปัจจุบันอย่างประสบความสำเร็จ)
    ⏩นอกจากนี้ olfactory ensheathing cells ยังช่วยเป็นภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด
    ✅เนื่องจากมันประพฤติตัวเป็น phagocytic กล่าวคือ จับกินและย่อยสลายเชื้อโรคได้
    📌ดังนั้น มันจึงเป็นปราการสำคัญที่ช่วยป้องกันสมองโดยระบบภูมิคุ้มกันธรรมชาติของร่างกาย โดยเซลล์ประสาท Olfactory และ neuron bulb มีอายุขัย 4-8 เดือน
    ก่อนจะถูกแทนที่อย่างต่อเนื่องด้วย neuron stem cell อย่าง olfactory ensheathing cells
    ⏩มันช่วยส่งเสริมการอยู่รอดของเซลล์ประสาทและช่วยในการขยายตัวของ axon
    📌จากงานวิจัยล่าสุด แสดงให้เห็นว่า หาก olfactory ensheathing cells สูญเสียความสามารถในการสร้างใหม่หรือซ่อมแซมตัวเองไป
    ‼️จะทำให้โอกาสการเสียชีวิตภายใน 5 ปี ในผู้ใหญ่วัย 57 – 85 ปี เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 4 เท่าตัว
    📌การทำงานของ olfactory จึงเสมือนเป็นเครื่องทำนายความสามารถในการดำรงชีวิตภายใน 5 ปี เป็นสัญญาณเตือนเมื่อการสร้างใหม่ของเซลล์ช้าลง และใช้เป็นเครื่องบ่งชี้เมื่อมีการสะสมสารพิษที่สัมผัสจากสิ่งแวดล้อม
    ‼️ Olfactory nerve ที่เสียหายเสมือนป้อมปราการสู่สมองถูกทำลาย ทำให้ง่ายต่อการถูกโจมตีด้วยสิ่งแปลกปลอมและส่งผลอันตรายถึงแก่ชีวิต
    📌การ swab PCR เป็นระยะ จนทำลายความสามารถในการสร้างใหม่ต่อ Olfactory nerve ทำให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในผู้ใหญ่อายุ 57 – 85 ปี ซึ่งเป็นประชากรกลุ่มผู้สูงอายุ
    ‼️การทดสอบ PCR test มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเสียหายครั้งแล้วครั้งเล่าต่อ Olfactory nerve
    📌ทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    ⏩ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อนี้ได้ถูกนำไปสนับสนุนให้รัฐบาลยกระดับมาตรการต่อโรคระบาดยิ่งขึ้น
    📌เมื่อมีผู้ถูกทดสอบโดย PCR เพิ่มขึ้น เซลล์ป้องกันจึงถูกทำลายมากขึ้นและมีผู้ติดเชื้อหลากหลายชนิดเพิ่มขึ้นในครั้งต่อมา
    😔โดยจะถูกตีความต่อไปว่า เกิดการติดเชื้อจากไวรัสโkวิdด้วยการเพิ่มจำนวน Cycle ใน thermal cycler จนกว่าเปอร์เซ็นต์จะเพิ่มจนให้ผลเป็นบวก
    ⏩เพื่อสรุปว่าเป็นโkวิdตามต้องการ
    📌อาจมีการโต้แย้งว่า การทดสอบ swab ช่องจมูกที่ถูกต้อง ควรกวาดเป็นมุมสูงไม่เกิน 30 องศา จากแนวระนาบเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเส้นประสาทรับกลิ่น
    📌แต่ในตำแหน่งดังกล่าวนี้ ไม้ Swab จะไปไปสัมผัสเส้นประสาท Trigeminal แทน ซึ่งเป็น blood-brain barrier เข้าสู่สมองปราการที่สอง
    ‼️ส่งผลต่อการรับรสและการมองเห็น
    📌นอกจากนี้ เพื่อเป็นการทำลายประสาทรับกลิ่นและรส ไม้ swab ไม่จำเป็นต้องไปสัมผัสโดนจนก่ออันตรายต่อเซลล์ประสาท Trigeminal หรือ Olfactory โดยตรงเลย
    ⁉️แค่ลำพังการสร้างความระคายเคืองต่อเยื่อเมือกในโพรงจมูก ก็สามารถส่งผลกระทบต่ออวัยวะทั้งระบบ Limbic
    📌เนื่องจากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก
    ‼️สิ่งนี้สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดผู้ป่วยโควิดจึงสูญเสียการตอบสนองทางพฤติกรรมที่ควบคุมโดยระบบ Limbic เช่น การนอนหลับ ความเหนื่อยล้า การรับรู้ การปรับตัว การเคลื่อนไหว ความจำ เป็นต้น
    📌นอกจากปลายของไม้ swab มีเขี้ยวขรุขระ ประกอบกับวิธีการสอดที่ลึกและการหมุนที่กว้างอย่างรุนแรง
    ⏩ถูกออกแบบมาเพื่อขีดข่วนสร้างความเสียหายให้เยื่อยุผิวมากที่สุดแล้ว
    ‼️ยังพบว่ามีการใช้สารเคมี ethylene oxide ที่รู้จักกันดีว่าเป็นสารก่อมะเร็ง
    📌ถูกนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อใน PCR swab test ก่ออันตรายกับเยื่อเมือกโพรงจมูกซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่มีความไวต่อการแพ้
    📌ร่วมกับมาตรการบังคับใช้ให้สวมหน้ากากอนามัยทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง
    📌จึงเป็นการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียและไวรัสให้เข้าสู่สมองผ่าน Olfactory nerve และ Trigeminal neve ที่เสียหายให้มากยิ่งขึ้น
    📌จากผลการศึกษาหลายร้อยชิ้น แสดงให้เห็นว่าภายใต้หน้ากากอนามัยเป็นแหล่งปนเปื้อนแบคทีเรียและเชื้อราจำนวนมาก เมื่อสวมใส่เป็นเวลานาน
    📌และหลายงานวิจัยยืนยันว่าการใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของระบบทางเดินหายใจสั้นลง และความเหนื่อยล้าอย่างมีนัยสำคัญ (P<0.05)
    ⏩ในหน้ากาก N95 ออกซิเจนลดลง 72%, คาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น 82%, อาการปวดหัว 60%, ความบกพร่องของการหายในอุณหภูมิและความชื้นที่เพิ่มขึ้น 100%.
    📌นอกจากนี้ หลายการศึกษาพบว่า
    การใส่หน้ากากอนามัย ไม่สามารถปิดกั้นการแพร่กระจายของละอองไวรัสได้อย่างสมบูรณ์แม้ขณะปิดสนิท จึงไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ
    📌ในปี 2020 เด็กและวัยรุ่นส่วนใหญ่รอดพ้นการการทดสอบ PCR มีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีอาการแสดงการติดเชื้อโควิดเลย
    📌กระทั่งปี 2021 เมื่อมีการทดสอบเชิงรุก พวกเขาก็เริ่มแสดงอาการ ที่เกิดจากโkวิdทันที
    📌ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการสร้างความเสียหายต่อสมองโดยจงใจ
    ‼️ความบกพร่องในการทำงานของศูนย์กลางการหายใจในสมอง Medula oblongata ก่อให้เกิดภาวะหายใจลำบาก Dyspnoea โดยที่ไม่มีการติดเชื้อหรือรอยโรคใดที่ปอด แต่เป็นความเสียหายทางสมองและระบบประสาท
    เราเรียบเรียงใหม่จากส่วนหนึ่งในบทความ PCR Tests and the Depopulation Program by Kevin Galalae, 10 October 2021
    Cr : Ramone Jira
    คนที่ชอบ swab บ่อยๆ อดทนอ่านสักนิดนะ อันนี้เค้าแปลไทยมาให้แล้ว บรรทัดต่อบรรทัด ว่ามันอันตรายยังไง แบบไหน เพราะอะไร ⏩เหตุใดหน่วยงานภาครัฐจึงยังดึงดันที่จะบังคับใช้ TR-PCT test เป็น Gold Standard ในการวินิจฉัยผู้ติดเชื้อโkวิdให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และบ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะบ่อยได้ในบุคคลเดิม ⏩ทั้งที่เทคนิคนี้ได้รับการพิสูจน์อย่างกว้างขวางโดยนักวิทยาศาตร์และบุคลากรทางการแพทย์กว่าห้าหมื่นคนทั่วโลกแล้วว่าเป็นวิธีที่เชื่อถือไม่ได้ ⏩ให้ผลบวกลวง หรือ False Positive มหาศาลกว่า 90% และแม้แต่ Dr. Kary Mullis ผู้คิดค้นเทคนิคนี้เอง ยังยืนกรานออกสื่อหลายครั้งว่ามันไม่เที่ยงตรงและนำไปสู่การแปลผลผิดพลาดได้ ❓เหตุใดจึงเลือกวิธีล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะของพวกเราอย่างมากทั้งที่สามารถทำได้ง่ายจากการตรวจวิเคราะห์น้ำลาย 📌การสอดไม้ Swab เข้าไปกว้านลึกถึงเพดานจมูกสามารถสร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อพังผืดที่ห่อหุ้ม Olfactory Nerve 📌ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและอายุขัยของมนุษย์ เนื่องจาก olfactory nerve เป็นปราการด่านหนึ่งในสองของกะโหลกศรีษะ ⏩ซึ่งเชื่อมระหว่างโพรงจมูกกับสมอง ที่ไวรัสและแบคทีเรียสามารถเดินทางข้าม blood-brain barrier เข้าสู่สมองได้ 📌นอกจากนี้ olfactory nerve ยังเป็นเซลล์ชนิดเดียวในกะโหลกศรีษะที่มี stem cells เรียกว่า olfactory ensheathing cells ที่ล้อมรอบเซลล์รับกลิ่น olfactory sensory axons ส่วนที่ยื่นออกมาจากเซลล์ประสาท neuron ⏩ทำหน้าที่ส่งผ่านกระแสประสาทจากเซลล์ร่างกาย พวกมันทำหน้าที่ปกป้อง olfactory nerve และช่วยการสร้างเซลล์ใหม่เมื่อเกิดความบาดเจ็บเสียหาย (สเต็มเซลล์ชนิดนี้มีความพิเศษมากจนถูกนำไปใช้ในการซ่อมแซมไขสันหลังบาดเจ็บและรักษาโรคทางสมองหลายชนิดในการแพทย์ปัจจุบันอย่างประสบความสำเร็จ) ⏩นอกจากนี้ olfactory ensheathing cells ยังช่วยเป็นภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด ✅เนื่องจากมันประพฤติตัวเป็น phagocytic กล่าวคือ จับกินและย่อยสลายเชื้อโรคได้ 📌ดังนั้น มันจึงเป็นปราการสำคัญที่ช่วยป้องกันสมองโดยระบบภูมิคุ้มกันธรรมชาติของร่างกาย โดยเซลล์ประสาท Olfactory และ neuron bulb มีอายุขัย 4-8 เดือน ก่อนจะถูกแทนที่อย่างต่อเนื่องด้วย neuron stem cell อย่าง olfactory ensheathing cells ⏩มันช่วยส่งเสริมการอยู่รอดของเซลล์ประสาทและช่วยในการขยายตัวของ axon 📌จากงานวิจัยล่าสุด แสดงให้เห็นว่า หาก olfactory ensheathing cells สูญเสียความสามารถในการสร้างใหม่หรือซ่อมแซมตัวเองไป ‼️จะทำให้โอกาสการเสียชีวิตภายใน 5 ปี ในผู้ใหญ่วัย 57 – 85 ปี เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 4 เท่าตัว 📌การทำงานของ olfactory จึงเสมือนเป็นเครื่องทำนายความสามารถในการดำรงชีวิตภายใน 5 ปี เป็นสัญญาณเตือนเมื่อการสร้างใหม่ของเซลล์ช้าลง และใช้เป็นเครื่องบ่งชี้เมื่อมีการสะสมสารพิษที่สัมผัสจากสิ่งแวดล้อม ‼️ Olfactory nerve ที่เสียหายเสมือนป้อมปราการสู่สมองถูกทำลาย ทำให้ง่ายต่อการถูกโจมตีด้วยสิ่งแปลกปลอมและส่งผลอันตรายถึงแก่ชีวิต 📌การ swab PCR เป็นระยะ จนทำลายความสามารถในการสร้างใหม่ต่อ Olfactory nerve ทำให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในผู้ใหญ่อายุ 57 – 85 ปี ซึ่งเป็นประชากรกลุ่มผู้สูงอายุ ‼️การทดสอบ PCR test มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเสียหายครั้งแล้วครั้งเล่าต่อ Olfactory nerve 📌ทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ⏩ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อนี้ได้ถูกนำไปสนับสนุนให้รัฐบาลยกระดับมาตรการต่อโรคระบาดยิ่งขึ้น 📌เมื่อมีผู้ถูกทดสอบโดย PCR เพิ่มขึ้น เซลล์ป้องกันจึงถูกทำลายมากขึ้นและมีผู้ติดเชื้อหลากหลายชนิดเพิ่มขึ้นในครั้งต่อมา 😔โดยจะถูกตีความต่อไปว่า เกิดการติดเชื้อจากไวรัสโkวิdด้วยการเพิ่มจำนวน Cycle ใน thermal cycler จนกว่าเปอร์เซ็นต์จะเพิ่มจนให้ผลเป็นบวก ⏩เพื่อสรุปว่าเป็นโkวิdตามต้องการ 📌อาจมีการโต้แย้งว่า การทดสอบ swab ช่องจมูกที่ถูกต้อง ควรกวาดเป็นมุมสูงไม่เกิน 30 องศา จากแนวระนาบเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเส้นประสาทรับกลิ่น 📌แต่ในตำแหน่งดังกล่าวนี้ ไม้ Swab จะไปไปสัมผัสเส้นประสาท Trigeminal แทน ซึ่งเป็น blood-brain barrier เข้าสู่สมองปราการที่สอง ‼️ส่งผลต่อการรับรสและการมองเห็น 📌นอกจากนี้ เพื่อเป็นการทำลายประสาทรับกลิ่นและรส ไม้ swab ไม่จำเป็นต้องไปสัมผัสโดนจนก่ออันตรายต่อเซลล์ประสาท Trigeminal หรือ Olfactory โดยตรงเลย ⁉️แค่ลำพังการสร้างความระคายเคืองต่อเยื่อเมือกในโพรงจมูก ก็สามารถส่งผลกระทบต่ออวัยวะทั้งระบบ Limbic 📌เนื่องจากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก ‼️สิ่งนี้สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดผู้ป่วยโควิดจึงสูญเสียการตอบสนองทางพฤติกรรมที่ควบคุมโดยระบบ Limbic เช่น การนอนหลับ ความเหนื่อยล้า การรับรู้ การปรับตัว การเคลื่อนไหว ความจำ เป็นต้น 📌นอกจากปลายของไม้ swab มีเขี้ยวขรุขระ ประกอบกับวิธีการสอดที่ลึกและการหมุนที่กว้างอย่างรุนแรง ⏩ถูกออกแบบมาเพื่อขีดข่วนสร้างความเสียหายให้เยื่อยุผิวมากที่สุดแล้ว ‼️ยังพบว่ามีการใช้สารเคมี ethylene oxide ที่รู้จักกันดีว่าเป็นสารก่อมะเร็ง 📌ถูกนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อใน PCR swab test ก่ออันตรายกับเยื่อเมือกโพรงจมูกซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่มีความไวต่อการแพ้ 📌ร่วมกับมาตรการบังคับใช้ให้สวมหน้ากากอนามัยทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง 📌จึงเป็นการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียและไวรัสให้เข้าสู่สมองผ่าน Olfactory nerve และ Trigeminal neve ที่เสียหายให้มากยิ่งขึ้น 📌จากผลการศึกษาหลายร้อยชิ้น แสดงให้เห็นว่าภายใต้หน้ากากอนามัยเป็นแหล่งปนเปื้อนแบคทีเรียและเชื้อราจำนวนมาก เมื่อสวมใส่เป็นเวลานาน 📌และหลายงานวิจัยยืนยันว่าการใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของระบบทางเดินหายใจสั้นลง และความเหนื่อยล้าอย่างมีนัยสำคัญ (P<0.05) ⏩ในหน้ากาก N95 ออกซิเจนลดลง 72%, คาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น 82%, อาการปวดหัว 60%, ความบกพร่องของการหายในอุณหภูมิและความชื้นที่เพิ่มขึ้น 100%. 📌นอกจากนี้ หลายการศึกษาพบว่า การใส่หน้ากากอนามัย ไม่สามารถปิดกั้นการแพร่กระจายของละอองไวรัสได้อย่างสมบูรณ์แม้ขณะปิดสนิท จึงไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ 📌ในปี 2020 เด็กและวัยรุ่นส่วนใหญ่รอดพ้นการการทดสอบ PCR มีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีอาการแสดงการติดเชื้อโควิดเลย 📌กระทั่งปี 2021 เมื่อมีการทดสอบเชิงรุก พวกเขาก็เริ่มแสดงอาการ ที่เกิดจากโkวิdทันที 📌ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการสร้างความเสียหายต่อสมองโดยจงใจ ‼️ความบกพร่องในการทำงานของศูนย์กลางการหายใจในสมอง Medula oblongata ก่อให้เกิดภาวะหายใจลำบาก Dyspnoea โดยที่ไม่มีการติดเชื้อหรือรอยโรคใดที่ปอด แต่เป็นความเสียหายทางสมองและระบบประสาท เราเรียบเรียงใหม่จากส่วนหนึ่งในบทความ PCR Tests and the Depopulation Program by Kevin Galalae, 10 October 2021 Cr : Ramone Jira
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 404 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณถูกหลอกมาตลอดเกี่ยวกับฟลูออไรด์หรือเปล่า?
    ไม่มีอะไรเทียบได้กับน้ำใสๆ เย็นๆ สักแก้วดับกระหายของคุณ แต่คราวหน้าที่คุณเปิดก๊อกน้ำ คุณอาจต้องการตั้งคำถามว่าจริงหรือไม่ น้ำนั้นเป็นพิษเกินกว่าจะดื่มได้ ถ้าน้ำของคุณมีฟลูออไรด์ผสมอยู่ คำตอบน่าจะเป็น "จริง" แม้ว่า "เจ้าหน้าที่" ด้านสุขภาพออกมาประกาศว่า "ปลอดภัย" และ "เป็นธรรมชาติ" ก็ไม่มีอะไรจะมากไปกว่าความจริงได้
    เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่เราได้รับคำโกหก คำโกหกที่นำไปสู่การเสียชีวิตของชาวอเมริกันหลายแสนคน และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงอีกหลายสิบล้านคน การโกหกนี้เรียกว่า "การผสมฟลูออไรด์" กระบวนการที่เราเชื่อว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการปกป้องฟันจากฟันผุ อันที่จริงแล้วเป็นการฉ้อโกง ในคำพูดของ Dr. Robert Carton อดีตนักวิทยาศาสตร์ของ EPA “ฟลูออไรด์เป็นกรณีที่ใหญ่ที่สุดของการฉ้อโกงทางวิทยาศาสตร์ของศตวรรษนี้ หรือไม่ก็ตลอดกาล”
    “กระบวนการปั่น” เริ่มต้นขึ้น
    ในปี ค.ศ. 1920 การผลิตอะลูมิเนียมซึ่งส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมกระป๋องที่กำลังเฟื่องฟู แต่ก็ยังเป็นผู้ผลิตขยะฟลูออไรด์ที่เป็นพิษรายใหญ่ ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ใหญ่ที่สุดคือค่าใช้จ่ายในการกำจัดของเสียอันตรายอย่างปลอดภัยซึ่งแพงมาก อุตสาหกรรมนี้จึงได้ทำการตลาดและขายของเสียที่เป็นพิษ (โซเดียมฟลูออไรด์) เพื่อใช้ผลิตเป็นยาฆ่าแมลงและยาฆ่าหนู แต่ทว่าพวกเขาต้องการตลาดที่ใหญ่กว่านั้น... มนุษย์ไง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีอุปสรรคอยู่เล็กน้อย
    ในวารสารสมาคมทันตกรรมอเมริกันวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1944 ADA เตือนว่า “โอกาสที่จะเกิดอันตราย (จากฟลูออไรด์) มีมากกว่าประโยชน์ในทางที่ดี” แต่ในปี 1947 Oscar R. Ewing (ซึ่งเป็นทนายความของ ALCOA มาเป็นเวลานาน) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้เขารับผิดชอบด้านบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา และแล้วภายใต้การนำของเขา แคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ระดับชาติจึงเริ่มต้นขึ้น
    นักยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์สำหรับแคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Edwin L. Bernays หลานชายของ Sigmund Freud หรือที่รู้จักในชื่อ "เจ้าพ่อแห่งการปั่น" Bernays เป็นผู้บุกเบิกการประยุกต์ใช้ทฤษฎีของ Freud มาใช้กับการโฆษณาและ "ความจริงครึ่งเดียวของรัฐบาล"
    ในหนังสือ "โฆษณาชวนเชื่อ" ของเขา Bernays ได้อ้างว่าความคิดเห็นสาธารณะซึ่งใช้วิทยาศาสตร์บงการเป็นกุญแจสำคัญ เขากล่าวว่า "คนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งมีอิทธิพลควบคุมจิตใจของสาธารณชน" แคมเปญฟลูออไรด์ของรัฐบาลเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยั่งยืนที่สุดของเขา
    เทคนิคของเบอร์เนย์นั้นเรียบง่าย แสร้งทำเป็นว่ามีงานวิจัยที่น่าพอใจโดยใช้วลีเช่น "การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็น ... " หรือ "การวิจัยพิสูจน์แล้ว ... " หรือ "ผู้วิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้พบ ... " (แต่ไม่เคยพูดอ้างอิงถึงสิ่งใดเลย) พูดให้นานพอและดังพอ แล้วในที่สุดผู้คนจะเชื่อมัน หากใครสงสัยหรือซักไซ้เรื่องโกหกนี้ ก็โจมตีหน้าที่การงานและ/หรือสติปัญญาของพวกเขา
    แล้ว "งานศึกษา" ล่ะ?
    ไม่มี "งานศึกษาทางวิทยาศาสตร์" ที่พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์ปลอดภัยเลยหรือ? ในช่วงทศวรรษที่ 1940 นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า ผู้คนจะมีสุขภาพฟันโดยรวมที่ดีขึ้น (โดยส่วนใหญ่เป็นฟันผุน้อยกว่า) หากพวกเขาอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีฟลูออรีนในระดับที่สูงขึ้นตามธรรมชาติ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้เกิดคำถามเรื่อง “การศึกษาวิจัย” และมีความกังวลอย่างมากว่าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเพียงการประดิษฐ์ขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีความผูกพันกับบริษัทที่มีส่วนได้เสียในการขายฟลูออไรด์ การปั้นแต่งข้อมูลในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับสุขภาพ มีบริษัทจำนวนหนึ่งที่จะได้รับผลประโยชน์จากสุขภาพที่ย่ำแย่ของสาธารณชน
    ตรงกันข้ามกับความเห็นส่วนใหญ่ ฟลูออไรด์กลับไม่ได้หยุดฟันผุเลย จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์เป็นพิษต่อระบบประสาทและทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิด และโรคกระดูกพรุน ฟลูออไรด์ยังทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหารและระบบทางเดินหายใจ รวมถึงตับไตและสมอง และอาจนำไปสู่ความบกพร่องทางการเรียนรู้ ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีความบกพร่องในการอ่าน สมาธิสั้น และออทิสติก
    ในปี 2012 นักวิจัยของฮาร์วาร์ดรายงานว่าการศึกษา 26 จาก 27 ชิ้นที่พวกเขาทบทวนพบว่าไอคิวในวัยเด็กลดลงเมื่อความเข้มข้นของฟลูออไรด์เพิ่มขึ้น รายงานปี 2006 จากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติได้ทบทวนการศึกษาหลายร้อยชิ้นที่เชื่อมโยงน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับความเสียหายทางระบบประสาท ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ และ … ใช่แล้ว …. โรคมะเร็ง
    ในปี 1955 วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์รายงานว่าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้น 400% ในช่วงหลายปีหลังจากที่น้ำในซานฟรานซิสโกเริ่มได้รับการผสมฟลูออไรด์ ต่อมาในปี 1977 สภาคองเกรสได้สั่งให้หน่วยงานบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาดำเนินการศึกษาในสัตว์เพื่อพิจารณาว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดมะเร็งหรือไม่ หลังจากวิเคราะห์ผลการศึกษาในหนูแล้ว พบว่าหนูที่ดื่มน้ำฟลูออไรด์มีเนื้องอกและมะเร็งเพิ่มขึ้นในเซลล์สความัสในช่องปาก ก่อตัวเป็นรูปแบบที่พบได้ยากของมะเร็งกระดูกที่เรียกว่า osteosarcoma และพบว่ามีเนื้องอกในเซลล์ต่อมไทรอยด์ฟอลลิคูลาร์เพิ่มขึ้น
    การค้นพบที่สำคัญที่สุดคือการเกิดขึ้นของมะเร็งตับรูปแบบที่หายากมาก มะเร็งตับในหนูเพศผู้และเพศเมียที่ได้รับฟลูออไรด์ นอกจากนี้ในปี 1977 ยังแสดงให้เห็นว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งประมาณ 10,000 รายในการศึกษาทางระบาดวิทยาโดย Dr. Dean Burk อดีตหัวหน้าแผนกไซโตเคมี ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ Dr. John Yiamouyiannis แม้จะมีการค้นพบในปี 1977 แต่ก็ไม่ได้เต็มใจที่จะเปิดเผยจนกระทั่งปี 1989
    ในปี 2006 ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นักวิจัยระบุถึงความเชื่อมโยงระหว่างฟลูออไรด์กับ osteosarcoma การศึกษานี้นำโดย Dr. Elise Bassin และตีพิมพ์ออนไลน์ใน Cancer Causes and Control (วารสารทางการของศูนย์ป้องกันมะเร็งฮาร์วาร์ด) พบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างมากระหว่างน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับ osteocarcoma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกที่หายากและมักเสียชีวิตในเด็กชาย การศึกษายืนยันโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) และแผนกสุขภาพของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งพบอัตราการเกิดมะเร็งกระดูกที่เพิ่มขึ้นในเด็กผู้ชายที่ดื่มน้ำประปาที่มีฟลูออไรด์ ผลการวิจัยยืนยันผลการศึกษาของรัฐบาลก่อนหน้าในปี 1990 ที่เกี่ยวข้องกับหนูที่ได้รับฟลูออไรด์
    แต่ยังมีอีก...
    เมื่อเข้าไปในร่างกายของคุณ ฟลูออไรด์จะทำลายเอนไซม์ของคุณด้วยการเปลี่ยนรูปร่าง ร่างกายของคุณต้องอาศัยเอ็นไซม์หลายพันชนิดเพื่อทำปฏิกิริยาของเซลล์จำนวนมาก ถ้าไม่มีเอ็นไซม์ เราทุกคนคงตายกันหมด เอ็นไซม์เป็นเหมือนกุญแจที่เข้ากับระบบล็อคภายในเซลล์ของคุณ อย่างไรก็ตาม เมื่อฟลูออไรด์ทำลายรูปร่างของ "กุญแจ" มันจะไม่เข้ากับตัวล็อคอีกต่อไป และร่างกายของคุณไม่รู้จักเอ็นไซม์อีกต่อไป เอนไซม์ที่เสียหายเหล่านี้สามารถนำไปสู่การสลายคอลลาเจน ความเสียหายของดีเอ็นเอ ความเสียหายของเนื้อเยื่อ และการกดภูมิคุ้มกัน
    ในช่วงต้นปี 2010 มีเรื่องราวสองเรื่องในอินเดียเปิดเผยว่าเด็ก ๆ ตาบอดและพิการบางส่วน อันเป็นผลมาจากการเติมฟลูออไรด์ลงในน้ำดื่มของพวกเขา และในหมู่บ้าน Gaudiyan ของอินเดีย ประชากรมากกว่าครึ่งมีความผิดปกติของกระดูก ทำให้มีความพิการทางร่างกาย เด็กเกิดมาปกติดี แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มดื่มน้ำที่มีฟลูออไรด์ พวกเขาก็เริ่มมีความพิการที่มือและเท้า
    เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2010 นิตยสาร Time ระบุว่าฟลูออไรด์เป็นหนึ่งใน "สารพิษในครัวเรือน 10 อันดับแรก" และอธิบายว่าฟลูออไรด์ "เป็นพิษต่อระบบประสาทและอาจเกิดเนื้องอกได้หากกลืนเข้าไป" มีการบอกความจริงนี้ในเกือบทุกประเทศในโลก (รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย) มันผิดกฎหมายที่จะ "ให้ยาขนานใหญ่" กับประชากรทั้งหมดด้วยสารที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นพิษ
    ด้วยความจริงที่ว่าฟลูออไรด์สามารถสะสมในร่างกายได้ จึงเป็นเหตุให้กฎหมายแห่งสหรัฐอเมริกาได้กำหนดให้กรมการแพทย์ทหารตั้งค่า "ระดับสารปนเปื้อนสูงสุด" (MCL) สำหรับปริมาณฟลูออไรด์ในแหล่งน้ำสาธารณะตามที่ EPA กำหนด มันทำให้ผมสับสนจากการที่ทันตแพทย์ที่ถูกล้างสมองหลายพันคนประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าฟลูออไรด์เป็น "สารอาหารมหัศจรรย์" ที่ป้องกันฟันผุและส่งเสริมสุขภาพฟันและเหงือก ผมขอตั้งคำถามหน่อยนะ สารพิษสะสมและผลิตภัณฑ์จากขยะพิษจะเรียกว่า “สารอาหาร” ได้อย่างไร
    เป็นความโชคร้าย หากคุณต้องใช้ชีวิตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย หรือแคนาดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในระดับสูง (มีความเป็นไปได้มากที่การผสมฟลูออไรด์ในน้ำจะเป็นเรื่องปกติ) หมายความว่ามีการตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพของคุณโดยที่คุณไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้เลย
    จากเกือบ 320 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ประมาณ 72% บริโภคน้ำที่มีฟลูออไรด์อย่างสม่ำเสมอ และจากข้อมูลของ CDC รัฐทั้งหมด 50 รัฐ ได้ผสมฟลูออไรด์ลงในแหล่งน้ำ
    แล้วคุณจะทำอะไรได้บ้าง?
    การกรองแบบ Reverse Osmosis ถือว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดฟลูออไรด์ออกจากน้ำ เกลือฟลูออไรด์จะเข้าไปแทนที่ไอโอดีนซึ่งต่อมไทรอยด์จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน การเสริมไอโอดีนในอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเสริมด้วยอัตราส่วนแมกนีเซียมต่อแคลเซียมสูงจะให้แร่ธาตุที่ช่วยขจัดฟลูออไรด์ นอกจากนี้ วิตามิน K2 ที่สกัดจากเอนไซม์ในถั่วเน่าญี่ปุ่น ยังช่วยป้องกันการกลายเป็นหินปูนฟลูออไรด์ในอวัยวะที่มีเนื้อเยื่ออ่อน เช่น หลอดเลือดแดงและสมอง
    ใช่แล้ว... อีกอย่างที่คุณทำได้คือหยุดใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ คุณเคยอ่านฉลากหรือไม่? ผมแนะนำให้คุณอ่านซะ ในปี 1997 องค์การอาหารและยาได้สั่งให้ผู้ผลิตยาสีฟันเพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับพิษจากยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ทั้งหมดที่จำหน่ายในสหรัฐฯ คำเตือนดังกล่าวระบุว่าควรเก็บให้ห่างจากเด็ก ผมสงสัยว่าเพราะเหตุใดกัน อาจเป็นเพราะถ้าเด็กเล็กกินยาสีฟันทั้งหลอด ปริมาณเท่านี้อาจทำให้ถึงตายได้!
    บทสรุป
    ในช่วงต้นปี 2010 มีภูเขาไฟระเบิดขนาดใหญ่ในประเทศไอซ์แลนด์ สัตว์ในไอซ์แลนด์ตอนใต้มีความเสี่ยงที่จะเป็นพิษจากฟลูออไรด์ หากพวกมันสูดดมหรือกลืนกินเถ้าจากการปะทุ พิษจากฟลูออไรด์สามารถนำไปสู่การมีเลือดออกภายใน ความเสียหายของกระดูกในระยะยาว และการสูญเสียฟัน ตามข่าวบีบีซี (19 เมษายน 2010): "ฟลูออไรด์ในเถ้าสร้างกรดในกระเพาะของสัตว์ กัดกร่อนลำไส้และทำให้เลือดออก นอกจากนี้ยังจับกับแคลเซียมในกระแสเลือดและหลังจากได้รับสารหนักในช่วงเวลาหลายวันทำให้กระดูกเปราะบางแม้กระทั่งทำให้ฟันผุ" คนส่วนใหญ่ไม่เคย "เชื่อมโยงจุดต่างๆ" ระหว่างพิษอันน่าสลดใจของสัตว์เหล่านี้อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ทางธรรมชาติ กับพิษของมนุษย์จากการได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปในแต่ละวัน
    มีงานศึกษาซึ่งทบทวนโดยคณะผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 500 ชิ้นที่บันทึกถึงผลข้างเคียงของฟลูออไรด์ตั้งแต่มะเร็งไปจนถึงความเสียหายต่อสมอง แต่ถึงกระนั้น เขตเทศบาลต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาก็ซื้อผลิตภัณฑ์นี้จริงๆ แล้วหยดลงในแหล่งน้ำสาธารณะ Dr. Charles G. Heyd อดีตประธานของ AMA กล่าวว่า "ผมรู้สึกตกใจที่ได้เห็นการใช้น้ำเป็นพาหนะส่งยา ฟลูออไรด์เป็นสารพิษกัดกร่อนซึ่งจะส่งผลร้ายแรงในระยะยาว ความพยายามใดๆ ที่จะใช้น้ำในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่น่าประณาม"
    ระบบมันเสียหายไปแล้ว ระบบการดูแลสุขภาพของเรา อุตสาหกรรมยา รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล สื่อของเรา และแม้แต่ภาคเทคโนโลยีล้วนได้รับความเสียหาย เรากำลังอยู่ในระหว่างสงครามข้อมูล โดยมีการปกปิดและการเซ็นเซอร์ในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ชมตัวอย่างสารคดีชุดใหม่ของเรา: PROPAGANDA EXPOSED! ค้นพบความจริงที่ Big Pharma และ Mainstream Media ไม่ต้องการให้คุณเห็น ดูฟรี 100%… และอาจช่วยชีวิตคุณได้
    https://go.propaganda-exposed.com/?a_bid=f9f117e3...
    ผู้เขียน : Ty Bollinger
    ‼ รวมลิสต์รายชื่อยี่ห้อยาสีฟันที่ไม่มี ❌สารฟลูaaไรด์❌ โดยโค๊ชนาตาลี
    🦷 1. ยาสีฟัน Doctor V (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี)
    🦷 2. ยาสีฟัน Grants Of Australia
    🦷 3. ยาสีฟัน Sparkle White (ทุกรุ่น)
    🦷 4. ยาสีฟันเอมไทย (AimThai)
    🦷 5. ยาสีฟันน้ำมันมะพร้าว (Tropicana)
    🦷 6. ยาสีฟันสมุนไพรโครงการหลวง เฮอร์เบิลทูธเพสท์
    🦷 7. ยาสีฟัน Curaprox (Enzycal Zero)
    🦷 8. ยาสีฟัน ยาสีฟันโคโค่เมท (Cocomate toothpaste)
    🦷 9. ยาสีฟันก๊กเลี้ยง (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี สังเกตฝากล่องด้านใน)
    🦷 10. ยาสีเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 11. ยาสีฟันดอกบัวคู่ (แก้ไข สูตรดั้งเดิม,สูตรเซนซิที,สูตรเกลือสมุนไพร,สูตรเฟรชแอนด์คูล = ไม่มี สูตรเอเวอร์เฟรชและสูตรฟ้าทลายโจร = มี)
    🦷 12. ยาสีฟันสมุนไพรวาซ Wazz
    🦷 13. ยาสีฟันใจฟ้า
    🦷 14. ยาสีฟัน Dentiste (แค่บางรุ่น ควรอ่านฉลากก่อนซื้อ)
    🦷 15. ยาสีฟัน Thieves Young Living
    🦷 16. ยาสีฟัน Mama's Choice สูตรธรรมชาติ
    🦷 17. ยาสีฟันเพียวรีน (Pureen Maternity Toothpaste)
    🦷 18. ยาสีฟันเด็กเพียวรีน Pureen kids (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 19. ยาสีฟันเด็กเอมไทย กรีน คิดส์ ออร์แกนิค (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 20. ยาสีฟันเด็ก Mama's Choice (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 21. ยาสีฟันเด็ก ดอกบัวคู่คิด (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 22. ยาสีฟันเจสัน Jason Since 1956
    🦷 23. ยาสีฟันซองวิเศษนิยม (มีในร้านสะดวกซื้อ)
    🦷 24. ยาสีฟันสมุนไพรทิพย์นิยม
    🦷 25. ยาสีฟันวันเดอร์สไมล์ (Wonder Smile)
    🦷 26. ยาสีฟันเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 27. ยาสีฟันเทโซโร่ เฟรช
    🦷 28. ยาสีฟันไอวิศน์ (IVISN)
    🦷 29. ยาสีฟันนกไทย 5 ดาว 4A สูตรดั้งเดิม
    ขอเพิ่มเติม
    🦷 30.ยาสีฟันคอลบาเด้นท์ (Kolbadent)
    🦷 31. ยาสีฟันพาโรดอนแทกซ์ (Parodontax)
    🦷 32. ยาสีฟันเดนตาเมท (Denta mate)
    🦷 33. เกลือสีฟันทรีออร์คิดส์
    🦷 34. ยาสีฟัน Sante ของอ.สันติ มาะดี(หมอนอกกะลา)
    🦷 35. ยาสีฟันรุ่งอรุณ
    🦷 36. ยาสีฟันไบโอมิเนอรัลส์
    (ยี่ห้อนี้ต้องขอขอบคุณครับดร.(ผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง) ที่มาช่วยกิจกรรมกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้เคลื่อนไหวช่วยคนไทยในการจัดกิจกรรม แอดไลน์ด้วย QR Code ในภาพเมื่อท่านแจ้งแอดมินตอนสั่งซื้อว่ามาจากกลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ กำไรจะถูกหักเข้ากองทุนสำหรับกิจกรรมกลุ่ม)
    เป็นต้น
    https://youtube.com/shorts/cj_brYDAlBM?si=waEMU4F2I0-CWcny
    ขอบคุณเจ้าของบทความต่างๆ
    คุณถูกหลอกมาตลอดเกี่ยวกับฟลูออไรด์หรือเปล่า? ไม่มีอะไรเทียบได้กับน้ำใสๆ เย็นๆ สักแก้วดับกระหายของคุณ แต่คราวหน้าที่คุณเปิดก๊อกน้ำ คุณอาจต้องการตั้งคำถามว่าจริงหรือไม่ น้ำนั้นเป็นพิษเกินกว่าจะดื่มได้ ถ้าน้ำของคุณมีฟลูออไรด์ผสมอยู่ คำตอบน่าจะเป็น "จริง" แม้ว่า "เจ้าหน้าที่" ด้านสุขภาพออกมาประกาศว่า "ปลอดภัย" และ "เป็นธรรมชาติ" ก็ไม่มีอะไรจะมากไปกว่าความจริงได้ เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่เราได้รับคำโกหก คำโกหกที่นำไปสู่การเสียชีวิตของชาวอเมริกันหลายแสนคน และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงอีกหลายสิบล้านคน การโกหกนี้เรียกว่า "การผสมฟลูออไรด์" กระบวนการที่เราเชื่อว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการปกป้องฟันจากฟันผุ อันที่จริงแล้วเป็นการฉ้อโกง ในคำพูดของ Dr. Robert Carton อดีตนักวิทยาศาสตร์ของ EPA “ฟลูออไรด์เป็นกรณีที่ใหญ่ที่สุดของการฉ้อโกงทางวิทยาศาสตร์ของศตวรรษนี้ หรือไม่ก็ตลอดกาล” “กระบวนการปั่น” เริ่มต้นขึ้น ในปี ค.ศ. 1920 การผลิตอะลูมิเนียมซึ่งส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมกระป๋องที่กำลังเฟื่องฟู แต่ก็ยังเป็นผู้ผลิตขยะฟลูออไรด์ที่เป็นพิษรายใหญ่ ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ใหญ่ที่สุดคือค่าใช้จ่ายในการกำจัดของเสียอันตรายอย่างปลอดภัยซึ่งแพงมาก อุตสาหกรรมนี้จึงได้ทำการตลาดและขายของเสียที่เป็นพิษ (โซเดียมฟลูออไรด์) เพื่อใช้ผลิตเป็นยาฆ่าแมลงและยาฆ่าหนู แต่ทว่าพวกเขาต้องการตลาดที่ใหญ่กว่านั้น... มนุษย์ไง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีอุปสรรคอยู่เล็กน้อย ในวารสารสมาคมทันตกรรมอเมริกันวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1944 ADA เตือนว่า “โอกาสที่จะเกิดอันตราย (จากฟลูออไรด์) มีมากกว่าประโยชน์ในทางที่ดี” แต่ในปี 1947 Oscar R. Ewing (ซึ่งเป็นทนายความของ ALCOA มาเป็นเวลานาน) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้เขารับผิดชอบด้านบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา และแล้วภายใต้การนำของเขา แคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ระดับชาติจึงเริ่มต้นขึ้น นักยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์สำหรับแคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Edwin L. Bernays หลานชายของ Sigmund Freud หรือที่รู้จักในชื่อ "เจ้าพ่อแห่งการปั่น" Bernays เป็นผู้บุกเบิกการประยุกต์ใช้ทฤษฎีของ Freud มาใช้กับการโฆษณาและ "ความจริงครึ่งเดียวของรัฐบาล" ในหนังสือ "โฆษณาชวนเชื่อ" ของเขา Bernays ได้อ้างว่าความคิดเห็นสาธารณะซึ่งใช้วิทยาศาสตร์บงการเป็นกุญแจสำคัญ เขากล่าวว่า "คนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งมีอิทธิพลควบคุมจิตใจของสาธารณชน" แคมเปญฟลูออไรด์ของรัฐบาลเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยั่งยืนที่สุดของเขา เทคนิคของเบอร์เนย์นั้นเรียบง่าย แสร้งทำเป็นว่ามีงานวิจัยที่น่าพอใจโดยใช้วลีเช่น "การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็น ... " หรือ "การวิจัยพิสูจน์แล้ว ... " หรือ "ผู้วิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้พบ ... " (แต่ไม่เคยพูดอ้างอิงถึงสิ่งใดเลย) พูดให้นานพอและดังพอ แล้วในที่สุดผู้คนจะเชื่อมัน หากใครสงสัยหรือซักไซ้เรื่องโกหกนี้ ก็โจมตีหน้าที่การงานและ/หรือสติปัญญาของพวกเขา แล้ว "งานศึกษา" ล่ะ? ไม่มี "งานศึกษาทางวิทยาศาสตร์" ที่พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์ปลอดภัยเลยหรือ? ในช่วงทศวรรษที่ 1940 นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า ผู้คนจะมีสุขภาพฟันโดยรวมที่ดีขึ้น (โดยส่วนใหญ่เป็นฟันผุน้อยกว่า) หากพวกเขาอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีฟลูออรีนในระดับที่สูงขึ้นตามธรรมชาติ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้เกิดคำถามเรื่อง “การศึกษาวิจัย” และมีความกังวลอย่างมากว่าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเพียงการประดิษฐ์ขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีความผูกพันกับบริษัทที่มีส่วนได้เสียในการขายฟลูออไรด์ การปั้นแต่งข้อมูลในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับสุขภาพ มีบริษัทจำนวนหนึ่งที่จะได้รับผลประโยชน์จากสุขภาพที่ย่ำแย่ของสาธารณชน ตรงกันข้ามกับความเห็นส่วนใหญ่ ฟลูออไรด์กลับไม่ได้หยุดฟันผุเลย จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์เป็นพิษต่อระบบประสาทและทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิด และโรคกระดูกพรุน ฟลูออไรด์ยังทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหารและระบบทางเดินหายใจ รวมถึงตับไตและสมอง และอาจนำไปสู่ความบกพร่องทางการเรียนรู้ ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีความบกพร่องในการอ่าน สมาธิสั้น และออทิสติก ในปี 2012 นักวิจัยของฮาร์วาร์ดรายงานว่าการศึกษา 26 จาก 27 ชิ้นที่พวกเขาทบทวนพบว่าไอคิวในวัยเด็กลดลงเมื่อความเข้มข้นของฟลูออไรด์เพิ่มขึ้น รายงานปี 2006 จากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติได้ทบทวนการศึกษาหลายร้อยชิ้นที่เชื่อมโยงน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับความเสียหายทางระบบประสาท ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ และ … ใช่แล้ว …. โรคมะเร็ง ในปี 1955 วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์รายงานว่าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้น 400% ในช่วงหลายปีหลังจากที่น้ำในซานฟรานซิสโกเริ่มได้รับการผสมฟลูออไรด์ ต่อมาในปี 1977 สภาคองเกรสได้สั่งให้หน่วยงานบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาดำเนินการศึกษาในสัตว์เพื่อพิจารณาว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดมะเร็งหรือไม่ หลังจากวิเคราะห์ผลการศึกษาในหนูแล้ว พบว่าหนูที่ดื่มน้ำฟลูออไรด์มีเนื้องอกและมะเร็งเพิ่มขึ้นในเซลล์สความัสในช่องปาก ก่อตัวเป็นรูปแบบที่พบได้ยากของมะเร็งกระดูกที่เรียกว่า osteosarcoma และพบว่ามีเนื้องอกในเซลล์ต่อมไทรอยด์ฟอลลิคูลาร์เพิ่มขึ้น การค้นพบที่สำคัญที่สุดคือการเกิดขึ้นของมะเร็งตับรูปแบบที่หายากมาก มะเร็งตับในหนูเพศผู้และเพศเมียที่ได้รับฟลูออไรด์ นอกจากนี้ในปี 1977 ยังแสดงให้เห็นว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งประมาณ 10,000 รายในการศึกษาทางระบาดวิทยาโดย Dr. Dean Burk อดีตหัวหน้าแผนกไซโตเคมี ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ Dr. John Yiamouyiannis แม้จะมีการค้นพบในปี 1977 แต่ก็ไม่ได้เต็มใจที่จะเปิดเผยจนกระทั่งปี 1989 ในปี 2006 ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นักวิจัยระบุถึงความเชื่อมโยงระหว่างฟลูออไรด์กับ osteosarcoma การศึกษานี้นำโดย Dr. Elise Bassin และตีพิมพ์ออนไลน์ใน Cancer Causes and Control (วารสารทางการของศูนย์ป้องกันมะเร็งฮาร์วาร์ด) พบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างมากระหว่างน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับ osteocarcoma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกที่หายากและมักเสียชีวิตในเด็กชาย การศึกษายืนยันโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) และแผนกสุขภาพของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งพบอัตราการเกิดมะเร็งกระดูกที่เพิ่มขึ้นในเด็กผู้ชายที่ดื่มน้ำประปาที่มีฟลูออไรด์ ผลการวิจัยยืนยันผลการศึกษาของรัฐบาลก่อนหน้าในปี 1990 ที่เกี่ยวข้องกับหนูที่ได้รับฟลูออไรด์ แต่ยังมีอีก... เมื่อเข้าไปในร่างกายของคุณ ฟลูออไรด์จะทำลายเอนไซม์ของคุณด้วยการเปลี่ยนรูปร่าง ร่างกายของคุณต้องอาศัยเอ็นไซม์หลายพันชนิดเพื่อทำปฏิกิริยาของเซลล์จำนวนมาก ถ้าไม่มีเอ็นไซม์ เราทุกคนคงตายกันหมด เอ็นไซม์เป็นเหมือนกุญแจที่เข้ากับระบบล็อคภายในเซลล์ของคุณ อย่างไรก็ตาม เมื่อฟลูออไรด์ทำลายรูปร่างของ "กุญแจ" มันจะไม่เข้ากับตัวล็อคอีกต่อไป และร่างกายของคุณไม่รู้จักเอ็นไซม์อีกต่อไป เอนไซม์ที่เสียหายเหล่านี้สามารถนำไปสู่การสลายคอลลาเจน ความเสียหายของดีเอ็นเอ ความเสียหายของเนื้อเยื่อ และการกดภูมิคุ้มกัน ในช่วงต้นปี 2010 มีเรื่องราวสองเรื่องในอินเดียเปิดเผยว่าเด็ก ๆ ตาบอดและพิการบางส่วน อันเป็นผลมาจากการเติมฟลูออไรด์ลงในน้ำดื่มของพวกเขา และในหมู่บ้าน Gaudiyan ของอินเดีย ประชากรมากกว่าครึ่งมีความผิดปกติของกระดูก ทำให้มีความพิการทางร่างกาย เด็กเกิดมาปกติดี แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มดื่มน้ำที่มีฟลูออไรด์ พวกเขาก็เริ่มมีความพิการที่มือและเท้า เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2010 นิตยสาร Time ระบุว่าฟลูออไรด์เป็นหนึ่งใน "สารพิษในครัวเรือน 10 อันดับแรก" และอธิบายว่าฟลูออไรด์ "เป็นพิษต่อระบบประสาทและอาจเกิดเนื้องอกได้หากกลืนเข้าไป" มีการบอกความจริงนี้ในเกือบทุกประเทศในโลก (รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย) มันผิดกฎหมายที่จะ "ให้ยาขนานใหญ่" กับประชากรทั้งหมดด้วยสารที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นพิษ ด้วยความจริงที่ว่าฟลูออไรด์สามารถสะสมในร่างกายได้ จึงเป็นเหตุให้กฎหมายแห่งสหรัฐอเมริกาได้กำหนดให้กรมการแพทย์ทหารตั้งค่า "ระดับสารปนเปื้อนสูงสุด" (MCL) สำหรับปริมาณฟลูออไรด์ในแหล่งน้ำสาธารณะตามที่ EPA กำหนด มันทำให้ผมสับสนจากการที่ทันตแพทย์ที่ถูกล้างสมองหลายพันคนประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าฟลูออไรด์เป็น "สารอาหารมหัศจรรย์" ที่ป้องกันฟันผุและส่งเสริมสุขภาพฟันและเหงือก ผมขอตั้งคำถามหน่อยนะ สารพิษสะสมและผลิตภัณฑ์จากขยะพิษจะเรียกว่า “สารอาหาร” ได้อย่างไร เป็นความโชคร้าย หากคุณต้องใช้ชีวิตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย หรือแคนาดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในระดับสูง (มีความเป็นไปได้มากที่การผสมฟลูออไรด์ในน้ำจะเป็นเรื่องปกติ) หมายความว่ามีการตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพของคุณโดยที่คุณไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้เลย จากเกือบ 320 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ประมาณ 72% บริโภคน้ำที่มีฟลูออไรด์อย่างสม่ำเสมอ และจากข้อมูลของ CDC รัฐทั้งหมด 50 รัฐ ได้ผสมฟลูออไรด์ลงในแหล่งน้ำ แล้วคุณจะทำอะไรได้บ้าง? การกรองแบบ Reverse Osmosis ถือว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดฟลูออไรด์ออกจากน้ำ เกลือฟลูออไรด์จะเข้าไปแทนที่ไอโอดีนซึ่งต่อมไทรอยด์จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน การเสริมไอโอดีนในอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเสริมด้วยอัตราส่วนแมกนีเซียมต่อแคลเซียมสูงจะให้แร่ธาตุที่ช่วยขจัดฟลูออไรด์ นอกจากนี้ วิตามิน K2 ที่สกัดจากเอนไซม์ในถั่วเน่าญี่ปุ่น ยังช่วยป้องกันการกลายเป็นหินปูนฟลูออไรด์ในอวัยวะที่มีเนื้อเยื่ออ่อน เช่น หลอดเลือดแดงและสมอง ใช่แล้ว... อีกอย่างที่คุณทำได้คือหยุดใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ คุณเคยอ่านฉลากหรือไม่? ผมแนะนำให้คุณอ่านซะ ในปี 1997 องค์การอาหารและยาได้สั่งให้ผู้ผลิตยาสีฟันเพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับพิษจากยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ทั้งหมดที่จำหน่ายในสหรัฐฯ คำเตือนดังกล่าวระบุว่าควรเก็บให้ห่างจากเด็ก ผมสงสัยว่าเพราะเหตุใดกัน อาจเป็นเพราะถ้าเด็กเล็กกินยาสีฟันทั้งหลอด ปริมาณเท่านี้อาจทำให้ถึงตายได้! บทสรุป ในช่วงต้นปี 2010 มีภูเขาไฟระเบิดขนาดใหญ่ในประเทศไอซ์แลนด์ สัตว์ในไอซ์แลนด์ตอนใต้มีความเสี่ยงที่จะเป็นพิษจากฟลูออไรด์ หากพวกมันสูดดมหรือกลืนกินเถ้าจากการปะทุ พิษจากฟลูออไรด์สามารถนำไปสู่การมีเลือดออกภายใน ความเสียหายของกระดูกในระยะยาว และการสูญเสียฟัน ตามข่าวบีบีซี (19 เมษายน 2010): "ฟลูออไรด์ในเถ้าสร้างกรดในกระเพาะของสัตว์ กัดกร่อนลำไส้และทำให้เลือดออก นอกจากนี้ยังจับกับแคลเซียมในกระแสเลือดและหลังจากได้รับสารหนักในช่วงเวลาหลายวันทำให้กระดูกเปราะบางแม้กระทั่งทำให้ฟันผุ" คนส่วนใหญ่ไม่เคย "เชื่อมโยงจุดต่างๆ" ระหว่างพิษอันน่าสลดใจของสัตว์เหล่านี้อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ทางธรรมชาติ กับพิษของมนุษย์จากการได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปในแต่ละวัน มีงานศึกษาซึ่งทบทวนโดยคณะผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 500 ชิ้นที่บันทึกถึงผลข้างเคียงของฟลูออไรด์ตั้งแต่มะเร็งไปจนถึงความเสียหายต่อสมอง แต่ถึงกระนั้น เขตเทศบาลต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาก็ซื้อผลิตภัณฑ์นี้จริงๆ แล้วหยดลงในแหล่งน้ำสาธารณะ Dr. Charles G. Heyd อดีตประธานของ AMA กล่าวว่า "ผมรู้สึกตกใจที่ได้เห็นการใช้น้ำเป็นพาหนะส่งยา ฟลูออไรด์เป็นสารพิษกัดกร่อนซึ่งจะส่งผลร้ายแรงในระยะยาว ความพยายามใดๆ ที่จะใช้น้ำในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่น่าประณาม" ระบบมันเสียหายไปแล้ว ระบบการดูแลสุขภาพของเรา อุตสาหกรรมยา รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล สื่อของเรา และแม้แต่ภาคเทคโนโลยีล้วนได้รับความเสียหาย เรากำลังอยู่ในระหว่างสงครามข้อมูล โดยมีการปกปิดและการเซ็นเซอร์ในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ชมตัวอย่างสารคดีชุดใหม่ของเรา: PROPAGANDA EXPOSED! ค้นพบความจริงที่ Big Pharma และ Mainstream Media ไม่ต้องการให้คุณเห็น ดูฟรี 100%… และอาจช่วยชีวิตคุณได้ https://go.propaganda-exposed.com/?a_bid=f9f117e3... ผู้เขียน : Ty Bollinger ‼ รวมลิสต์รายชื่อยี่ห้อยาสีฟันที่ไม่มี ❌สารฟลูaaไรด์❌ โดยโค๊ชนาตาลี 🦷 1. ยาสีฟัน Doctor V (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี) 🦷 2. ยาสีฟัน Grants Of Australia 🦷 3. ยาสีฟัน Sparkle White (ทุกรุ่น) 🦷 4. ยาสีฟันเอมไทย (AimThai) 🦷 5. ยาสีฟันน้ำมันมะพร้าว (Tropicana) 🦷 6. ยาสีฟันสมุนไพรโครงการหลวง เฮอร์เบิลทูธเพสท์ 🦷 7. ยาสีฟัน Curaprox (Enzycal Zero) 🦷 8. ยาสีฟัน ยาสีฟันโคโค่เมท (Cocomate toothpaste) 🦷 9. ยาสีฟันก๊กเลี้ยง (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี สังเกตฝากล่องด้านใน) 🦷 10. ยาสีเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒 🦷 11. ยาสีฟันดอกบัวคู่ (แก้ไข สูตรดั้งเดิม,สูตรเซนซิที,สูตรเกลือสมุนไพร,สูตรเฟรชแอนด์คูล = ไม่มี สูตรเอเวอร์เฟรชและสูตรฟ้าทลายโจร = มี) 🦷 12. ยาสีฟันสมุนไพรวาซ Wazz 🦷 13. ยาสีฟันใจฟ้า 🦷 14. ยาสีฟัน Dentiste (แค่บางรุ่น ควรอ่านฉลากก่อนซื้อ) 🦷 15. ยาสีฟัน Thieves Young Living 🦷 16. ยาสีฟัน Mama's Choice สูตรธรรมชาติ 🦷 17. ยาสีฟันเพียวรีน (Pureen Maternity Toothpaste) 🦷 18. ยาสีฟันเด็กเพียวรีน Pureen kids (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 19. ยาสีฟันเด็กเอมไทย กรีน คิดส์ ออร์แกนิค (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 20. ยาสีฟันเด็ก Mama's Choice (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 21. ยาสีฟันเด็ก ดอกบัวคู่คิด (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 22. ยาสีฟันเจสัน Jason Since 1956 🦷 23. ยาสีฟันซองวิเศษนิยม (มีในร้านสะดวกซื้อ) 🦷 24. ยาสีฟันสมุนไพรทิพย์นิยม 🦷 25. ยาสีฟันวันเดอร์สไมล์ (Wonder Smile) 🦷 26. ยาสีฟันเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒 🦷 27. ยาสีฟันเทโซโร่ เฟรช 🦷 28. ยาสีฟันไอวิศน์ (IVISN) 🦷 29. ยาสีฟันนกไทย 5 ดาว 4A สูตรดั้งเดิม ขอเพิ่มเติม 🦷 30.ยาสีฟันคอลบาเด้นท์ (Kolbadent) 🦷 31. ยาสีฟันพาโรดอนแทกซ์ (Parodontax) 🦷 32. ยาสีฟันเดนตาเมท (Denta mate) 🦷 33. เกลือสีฟันทรีออร์คิดส์ 🦷 34. ยาสีฟัน Sante ของอ.สันติ มาะดี(หมอนอกกะลา) 🦷 35. ยาสีฟันรุ่งอรุณ 🦷 36. ยาสีฟันไบโอมิเนอรัลส์ (ยี่ห้อนี้ต้องขอขอบคุณครับดร.(ผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง) ที่มาช่วยกิจกรรมกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้เคลื่อนไหวช่วยคนไทยในการจัดกิจกรรม แอดไลน์ด้วย QR Code ในภาพเมื่อท่านแจ้งแอดมินตอนสั่งซื้อว่ามาจากกลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ กำไรจะถูกหักเข้ากองทุนสำหรับกิจกรรมกลุ่ม) เป็นต้น https://youtube.com/shorts/cj_brYDAlBM?si=waEMU4F2I0-CWcny ขอบคุณเจ้าของบทความต่างๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 771 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพแรก
    ซ้าย ไม่มี ฟลูออไรด์
    ขวา มี ฟลูออไรด์
    โลกคือมายา #ลวงทั้งโลก
    ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ ⁉️
    ท่านสามารถดาวน์โหลดรายงานการวิจัยที่ว่าด้วยฟลูออไรด์ต่อการลดความสามารถทางปัญญาในเด็กได้ถึง 32 หน้าฟรี ๆ ที่นี่
    https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3491930/
    Source :
    https://youtu.be/KLsjwWo1F2I
    --------------------------------------------------
    โดยทั่วไป #ฟลูออไรด์ เป็นสารทำลายต่อมไร้ท่อเนื่องจากฟลูออไรด์เป็นฮาไลด์ (halide)เช่นกัน มันจึงแข่งขันกับฮาไลด์ตัวอื่นที่ตัวรับเดียวกันในต่อมไทรอยด์ และที่อื่นๆ เพื่อจับกับไอโอดีน สิ่งนี้จะยับยั้งการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งส่งผลให้มีฮอร์โมนไทรอยด์ในระดับต่ำ
    มีการพิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อ
    แต่ความจริงข้อนี้ถูกละเลยโดยหน่วยงาน และสมาคมที่ยังคงส่งเสริมการใช้ฟลูออไรด์ต่อไป
    จากรายงานของ National Research Council of the National Academies ในปี 2549
    ฟลูออไรด์ "เป็นตัวทำลายต่อมไร้ท่อในแง่กว้างโดยปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อที่เป็นปกติ"
    ฟังก์ชั่นที่เปลี่ยนแปลงนี้สามารถเกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์ พาราไทรอยด์ และต่อมไพเนียลรวมถึงต่อมหมวกไต ตับอ่อน และต่อมใต้สมอง
    ต่อมไทรอยด์ของคุณ และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ในการรักษาอัตราการเผาผลาญโดยรวมของร่างกาย ควบคุมการเจริญเติบโตและการพัฒนาตามปกติ เนื่องจากเซลล์ที่มีการเผาผลาญทั้งหมดต้องการฮอร์โมนไทรอยด์เพื่อการทำงานที่เหมาะสม
    การหยุดชะงักของระบบนี้ อาจมีผลกระทบที่หลากหลายต่อแทบทุกระบบในร่างกายของคุณ ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ถือเป็นหนึ่งในโรคที่พบมากที่สุดของโรคต่อมไร้ท่อ
    การใช้ฟลูออไรด์ในอดีต เป็นการแทรกแซงทางการแพทย์สำหรับ Hyperthyroid
    จนถึงปี 1970 นักวิทยาศาสตร์ในยุโรปได้กำหนดให้ใช้ฟลูออไรด์ เพื่อลดอัตราการเผาผลาญพื้นฐานในผู้ป่วยที่มีต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป ผลการศึกษาทางคลินิกที่ตีพิมพ์งานหนึ่งรายงานว่า
    ปริมาณฟลูออไรด์เพียง 2 - 3 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่มากนัก ถ้าได้รับอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอที่จะลดกิจกรรมของต่อมไทรอยด์ในผู้ป่วยได้
    การใช้ฟลูออไรด์เพื่อการรักษาต่อมไทรอยด์ได้รับการกระตุ้นโดยการวิจัยที่เริ่มต้นในปี 1800 ซึ่งเชื่อมโยงการบริโภคฟลูออไรด์กับคอพอก การบวมของต่อมไทรอยด์ที่เกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์
    ในรายงานเมื่อปี 2549 Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards, the National Research Council (NRC) รายงานว่า
    "ข้อมูลหลายบรรทัด แสดงถึงผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์" โดยเฉพาะรายงานที่กล่าวถึงการวิจัยแสดงให้เห็นว่า
    "การได้รับฟลูออไรด์ในมนุษย์นั้นมีความสัมพันธ์กับความเข้มข้นของ TSH ที่เพิ่มขึ้น เพิ่มความแพร่หลายของคอพอก และเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ T4 และ T3" นอกจากนั้นยังมีผลที่คล้ายกันใน T4 และ T3 รายงานในสัตว์ทดลอง
    นอกจากนี้ NRC ยังกล่าวถึงงานวิจัยที่เชื่อมโยงฟลูออไรด์ กับผลกระทบต่อกิจกรรมของพาราไธรอยด์ การด้อยค่าของการทนต่อกลูโคส และระยะเวลาของการคงไว้ซึ่งสภาวะทางเพศ
    จากการค้นพบเหล่านี้ คณะกรรมการ NRC แนะนำว่า "ผลกระทบของฟลูออไรด์ในแง่มุมต่างๆ ต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อ ควรได้รับการตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับบทบาทที่เป็นไปได้ในการพัฒนาโรคต่างๆ
    อย่างไรก็ตามผู้เสนอให้ใช้ฟลูออไรด์ยังคงเพิกเฉยต่อวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบที่เป็นอันตราย
    ฟลูออไรด์จำนวนเล็กน้อย เปลี่ยนการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณได้อย่างน่าประหลาดใจ
    การทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลงนั้นเกี่ยวข้องกับการได้รับฟลูออไรด์ในระดับต่ำถึง 0.05 - 0.1 มก. ฟลูออไรด์ต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวัน (มก. / กก. / วัน) หรือ 0.03 มก. / กก. / วัน
    สำหรับผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม (154 ปอนด์) หมายความว่าฟลูออไรด์ 3.5 มก. ต่อวัน (หรือฟลูออไรด์ 0.7 มก. ต่อวันที่มีการขาดไอโอดีน) อาจทำให้ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
    การวิเคราะห์โดยหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ประมาณการว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันโดยทั่วไปบริโภคฟลูออไรด์เกือบ 3 มิลลิกรัมทุกวัน และบางคนบริโภคเป็นประจำวันละ 6 มก. ขึ้นไป
    สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 14 กิโลกรัม (30 ปอนด์) ฟลูออไรด์ที่ได้รับมากกว่า 0.7 มก. ต่อวัน (หรือ 0.14 มก. ต่อวันหากขาดไอโอดีน) ทำให้เด็กเสี่ยงต่อความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ
    และ EPA (2010) ได้ทำการประเมินว่าเด็กที่อยู่ในช่วงน้ำหนักนี้ (อายุ 1- 3 ปี) ได้บริโภคฟลูออไรด์มากกว่า 1.5 มก. ในแต่ละวัน หรือมากกว่า 2 เท่า ของจำนวนที่จำเป็นในการกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลง การได้รับอย่างต่อเนื่องเหล่านี้อาจมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งและตลอดชีวิตต่อพัฒนาการทางสติปัญญา ทางสังคม ทางเพศ และทางกายภาพโดยรวมของเด็ก
    การศึกษาจำนวนมากพบว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับฟลูออไรด์ในระดับค่อนข้างต่ำถึงปานกลาง และการลด IQ ในเด็ก แม้แต่ระดับฟลูออไรด์ที่น้อยกว่า 1.0 มก. / ล. ก็มีความสัมพันธ์กับ IQ ที่ลดลง และความถี่ที่เพิ่มขึ้นของภาวะไทรอยด์ทำงานในเด็กที่มีอาการขาดสารไอโอดีน
    การพิจารณาอย่างจริงจัง ว่าต่อมไทรอยด์ของคุณอาจเป็นเนื้อเยื่อที่บอบบางที่สุดในร่างกายของคุณต่อฟลูออไรด์ ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อคุณ
    ฟลูออไรด์สะสมในต่อมไทรอยด์ของคุณมากกว่าเนื้อเยื่ออ่อนอื่นๆ
    ฟลูออไรด์อาจขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณโดยตรง หรือโดยอ้อมด้วยการกระทำที่เป็นไปได้ รวมถึงความสามารถของฟลูออไรด์ในการเลียนแบบฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH)
    - ทำลาย G-proteins ที่ละเอียดอ่อนซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยการสร้างของตัวรับฮอร์โมนในร่างกายของคุณ
    -ทำลายเซลล์ของต่อมไทรอยด์ของคุณ
    -ทำลาย DNA ของคุณ
    -รบกวนการแปลงจากไทรอยด์ฮอร์โมน (T4) ที่ไม่ได้ใช้งานไปเป็นแบบฟอร์มที่ต้องใช้งาน (T3)
    จากข้อมูลของ PubMed Health พบว่าผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี มีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดภาวะพร่อง หรือภาวะไทรอยด์ต่ำ เกือบ 4% ของประชากรสหรัฐอเมริกา
    มากกว่า 11 ล้านคน มีภาวะไทรอยด์ทำงานหนักเกินจริง นอกจากนี้ 10% ของประชากรทั่วไป 21 ล้านคน มีภาวะพร่องที่ไม่แสดงอาการซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาต่อมาของภาวะพร่องไทรอยด์
    แม้จะมีอุบัติการณ์สูงขึ้นในประชากรที่มีอายุมากกว่า แต่อัตราการเกิดภาวะพร่องของ hypothyroidism ทารกแรกเกิดเพิ่มขึ้นเกือบ 75% ในช่วง 2ทศวรรษที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ส่งผลกระทบต่อ 1 ในทุกๆ 2,370 ของการเกิดภาวะพร่องในทารกแรกเกิดที่ไม่ได้รับการรักษา สามารถนำไปสู่ภาวะปัญญาอ่อน การชะลอการเจริญเติบโต และปัญหาหัวใจ
    เด็กที่เป็นโรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติมาแต่กำเนิด หรือเยาวชน ได้รับรายงานว่ามีการล่าช้าของการงอกของฟัน หรือข้อบกพร่องในการเคลือบฟัน แม้ว่าการเชื่อมต่อระหว่างการค้นพบเหล่านี้กับผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อไทรอยด์ยังไม่ได้ทำการศึกษา
    สิ่งที่เกี่ยวข้องอย่างยิ่ง คือความสัมพันธ์แบบผกผันระหว่างความรุนแรงของอาการที่ไม่แสดงอาการในหญิงตั้งครรภ์และ IQ ที่ลดลงของบุตรหลาน
    การพร่องของมารดายังได้รับการเสนอให้เป็นสาเหตุ หรือผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาออทิสติก
    ศักยภาพของฟลูออไรด์ที่จะส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ยังเป็นสิ่งจำเป็นอีกหลายประการ
    ดังนั้นวิธีการใช้ฟลูออไรด์วิธีการแบบไม่เจาะจง / การเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มสาธารณะโดยเจตนา / การผสมเข้าไปในยาสีฟัน / การเคลือบฟันด้วยฟลูออไรด์ เป็นปัญหาอย่างยิ่ง
    เนื่องจากจะทำให้ร่างกายของคุณสัมผัสกับสารที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ โดยไม่คำนึงถึงความต้องการ หรือความอ่อนไหวส่วนตัว และเป็นการละเมิดหลักการสำคัญของเภสัชวิทยาสมัยใหม่
    -----------------------------------
    Andersson M, de Benoist B,Delange F, Zupan J. 2007.Prevention and control of iodine deficiency in pregnant and lactating women and in children less
    Bharaktiya S, et al., 2010.Hypothyroidism. Medscape Reference.
    Delange F. 2004. Optimal iodine nutrition during pregnancy, lactation and neonatal period. Int J Endocrinol Metab 89:3851.
    Drugs.com. Undated. Top-selling drugs of 2009.
    IOM (Institute of Medicine). 2001. Dietary Reference Intakes for Vitamin A, Vitamin K, Arsenic, Boron, Chromium, Copper, Iodine, Iron, Manganese
    Larsen PR, Davies TF, Schlumberger MJ, Hay ID. 2002. Thyroid physiology and diagnostic evaluation of patients with thyroid disorders. Pp. 331-373
    PubMed Health. 2009. Neonatal hypothyroidism.
    PubMed Health. 2010. Hypothyroidism.
    Wang H, Yang Z, Zhou B, et al. 2009. Fluoride-induced thyroid dysfunction in rats: roles of dietary protein and calcium level. Toxicol Ind Health
    Zimmermann MB. 2009. Iodine deficiency in pregnancy and the effects of maternal iodine supplementation on the offspring: a review. Am J Clin Nutr
    1 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 507 pp.
    2 Maumené E. 1854. Compt Rend Acad Sci 39:538. May W. 1935. Antagonismus Zwischen Jod und Fluor im Organismus. Klinische Wochenschrift 14:790-92.
    3 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC.
    4 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC.
    5 EPA (U.S. Environmental Protection Agency). 2010. Fluoride: Exposure and Relative Source Contribution Analysis.
    6 Connett P, Beck J, Micklem HS. 2010. The Case Against Fluoride. How Hazardous Waste Ended Up in Our Drinking Water and the Bad Science
    7 Lin FF, Aihaiti HX, Zhao J, et al. 1991. The relationship of a low-iodine and high-fluoride environment to subclinical cretinism in Xinjiang.
    8 ICCIDD (International Council for the Control of Iodine Deficiency Disorders). 2011. Iodine Deficiency.
    9 Hollowell JG, Staehling NW, Hannon WH, et al. 1998. Iodine nutrition in the United States. Trends and public health implications: iodine excretion
    10 Lee SL, et al. 2009. Iodine Deficiency. Medscape Reference.
    11 Caldwell KL, Miller GA, Wang RY, et al. 2008. Iodine status of the U.S. population, National Health and Nutrition Examination Survey 2003-2004.
    12 Shashi A. 1988. Biochemical effects of Fluoride on thyroid gland duringexperimental fluorosis. Fluoride 21:127–130.
    13 Monsour PA, Kruger BJ. 1985. Effect of fluoride on soft tissue in vertebrates. Fluoride 18:53-61. / Call RA, Greenwood DA, LeCheminant H, et al. 1965.
    14 Ge Y, Ning H, Wang S, Wang J. 2005. DNA damage in thyroid gland cells of rats exposed to long-term intake of high fluoride and low iodine. Fluoride
    15 Gas'kov A, Savchenkov MF, Lushkov NN. 2005. [The specific features of the development of iodine deficiencies in children living under pollution]
    16 Aoki Y, Belin RM, Clickner R, et al. 2007. Serum TSH and total T4 in the United States population
    17 Olney RS, Grosse SD, Vogt RF. 2010. Prevalence of Congenital Hypothyroidism—Current Trends and Future Directions: Workshop Summary. Pediatrics 125
    18 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC.
    19 Klein RZ, Sargent JD, Larsen PR, et al. 2001. Relation of severity of maternal hypothyroidism to cognitive development in offspring. J Med Screen
    20 Román GC. 2007. Autism: Transient in utero hypothyroxinemia related to maternal flavonoid ingestion during pregnancy.
    Biological Trace Element Research :
    https://www.researchgate.net/.../345973053_In_Vitro...
    ✨✨✨✨✨✨✨
    ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58
    https://youtu.be/AYAJJSOmdJo
    ✨✨✨✨✨✨✨
    ปฏิวัติสุขภาพกับอ.ปานเทพ เรื่อง ฟลูออไรด์ ภัยเงียบในน้ำดื่มน้ำใช้ยาสีฟัน
    https://youtu.be/741TFbVWJwQ
    https://youtu.be/s-ElDeuDl1I
    https://youtu.be/Y5Ad9L-B21c
    https://youtu.be/1KgS-_E05YE
    https://youtu.be/KLsjwWo1F2I
    ✨✨✨✨✨✨✨
    ฟลูออไรด์ในยาสีฟัน โดย อ.สันติ มานะดี
    https://www.facebook.com/10000435.../posts/1352913331530352/
    ✨✨✨✨✨✨✨
    สารฟลูโอไรด์ ( Fluoride )
    Little Girl Healthy SHOP - สินค้าส่งตรงจากอเมริกา
    กราฟแสดงระดับความรุนแรงของสารตะกั่ว สารหนูและฟลูโอไรด์
    ค่าระดับความเป็นพิษของฟลูโอไรด์ที่พุ่งแรงแซงสารตะกั่วไปอยู่ที่ระดับ 4 เกือบๆ 5 นั่นแปลว่า มันเป็นพิษมากจนถึงขั้นรุนแรง! ยิ่งถ้าบ้านใครมียาฆ่าหนูและแมลงสาบลองพลิกดูที่ส่วนผสมข้างกล่อง คุณอาจจะช็อกตาค้างมากกว่านี้ เพราะสิ่งเดียวที่เป็นส่วนผสมในยาเบื่อหนูคือฟลูโอไรด์
    ซึ่งความจริงแล้ว ฟลูออไรด์ได้นำมาใช้ครั้งแรกในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อใช้เป็นยาเบื่อหนู ถามว่า.. แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ในยาสีฟันล่ะ?
    จริงๆแล้วฟลูออไรด์ที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและฟันอย่างแท้จริงมันคือ “แคลเซียมฟลูออไรด์ “ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ที่ผสมอยู่ในยาสีฟันมันคือ "โซเดียมฟลูออไรด์"
    เป็นสารพิษที่ผลิตขึ้นในโรงงานซึ่งมีราคาถูกกว่า
    และถ้าใครที่คิดว่าฟลููโอไรด์ช่วยให้ฟันแข็งแรงป้องกันฟันผุ แบบที่เคยได้ยินกันจนคุ้นหูคุ้นตาในโฆษณาทีวีตั้งแต่เด็กๆคงต้องคิดใหม่ เพราะมันกลับเป็นตัวการทำให้เกิดฟันตกกระที่เรียกว่า Dental Fluorosis เกิดเป็นรอยกระดำกระด่างที่ผิวฟันจากการสะสมของสารพิษฟลูโอไรด์ในระยะยาว แถมยังมีผลต่อกระดูกทำให้กระดูกพรุนด้วย ข้อมูลจากวารสารการแพทย์ของรัฐนิวอิงแลนด์ สหรัฐอเมริกา รายงานว่า มีการใช้สารฟลูออไรด์เพื่อรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) แต่ผลกลับกลายเป็นว่า อัตราการเกิดกระดูกตะโพกร้าวสูงขึ้นกว่าปกติ
    และในปี 1993 นักวิทยาศาสตร์จากองค์การป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาต่อต้านการเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มและอาหาร นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นได้ยืนยันว่า ฟลูออไรด์ไม่ได้ป้องกันฟันผุ ผลตรงกันข้าม กลับมีเหตุการณ์แน่ชัดว่า มันเป็นตัวก่อมะเร็งได้ http://www.biowish.net/pages/med.htm
    เคยมีนักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองผสมฟลูโอไรด์ในน้ำของค่ายกักกันที่รัซเซียในยุคคอมมิวนิสต์และอีกที่ในช่วงยุคนาซีที่เยอร์มัน มีจุดประสงค์ในการทดลองเพื่อจะดูว่าถ้านักโทษผู้โชคร้ายทั้งหลายกินน้ำผสมฟลูโอไรด์เข้าไปแล้วนักโทษจะเป็นยังไง
    ผลปรากฎว่า อารมณ์รุนแรงของนักโทษลดลงอย่างเห็นได้ชัด เปลี่ยนจากนักโทษโหดๆเป็นแมวหง่าวนั่งหงอย ไม่แยแสต่อสิ่งรอบข้างใดๆ ไม่ยกพวกตีกันเหมือนก่อน
    ฟังแล้วดูเหมือนจะดีใช่ไหมคะ.. แต่ความจริงแล้วมันน่ากลัวซะมากกว่า เพราะว่าฟลูโอไรด์มันมีผลโดยตรงต่อสมองน่ะสิ โดยมันเข้าไปทำลายต่อมไพนีล (Pineal gland) หรือเรียกว่าดวงตาที่ 3 ที่ทำหน้าที่ควบคุมร่างกาย โดยทำงานร่วมกับต่อมไฮโปทารามัส (Hypothalamus) ซึ่งเป็นต่อมไร้ท่อทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารณ์ต่างๆ เช่นความหิว ความกระหาย ความต้องการทางเพศ ความคิดสร้างสรรค์ และเป็นเหมือนนาฬิกาชีวิตซึ่งควบคุมอายุของมนุษย์
    ดังนั้นเมื่อต่อมนี้โดนทำลาย จึงทำให้เกิดความท้อแท้ หมดแรงจูงใจ ขาดความคิดริเริ่ม เป็นตัวลดไอคิว ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ และเนื่องจากการทดลองที่ประสบความสำเร็จของรัฐบาลครั้งนั้น ปัจจุบันนี้ฟลูโอไรด์เลยมาอยู่ในยาสีฟันให้เราใช้กันทุกวัน เปรียบได้กับอาวุธของรัฐบาลในการทำให้ประชาชนโง่และเป็นการควบคุมประชากรไปในตัว ในบางประเทศอย่างไอร์แลนด์ อเมริกา ถึงกับโดนมัดมือชกให้กินน้ำผสมยาพิษฟลูโอไรด์กันเลยทีเดียว
    โดยผสมมันลงในน้ำประปาสาธารณะ โดยอ้างว่าหวังดีอยากป้องกันโรคฟันผุให้ประชาชน แต่มีการพิสูจน์แล้วโดยเปรียบเทียบสุขภาพฟันของคนอังกฤษและอเมริกัน ปรากฎว่าสุขภาพฟันไม่ต่างกันเลยทั้งๆที่น้ำในประเทศอังกฤษไม่มีการฟลูโอไรด์ลงในน้ำ การกระทำที่มีนัยยะแอบแฝงแบบนี้เลยสร้างความไม่พอใจให้หลายๆคนในหลายประเทศที่ไม่เต็มใจจะโดนวางยาพิษในน้ำก๊อกที่ทำให้โง่และเป็นโรค แถมการเอาน้ำไปต้มให้เดือดก็ไม่ได้ช่วยอะไรยกเว้นเพิ่มความแรงของสารพิษให้สูงขึ้นอึก 7 เท่าตัว
    เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมยาสีฟันที่มีผสมฟลูโอไรด์ต้องมีคำเตือนแปะอยู่ข้างหลอดว่าห้ามกลืน ถ้าใครเผลอกลืนต้องรีบพบแพทย์!! อะไรก็ตามที่ทำมาให้ใช้ได้ในปาก มันควรที่จะปลอดภัยมากกว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคไม่ใช่หรือ? โดยเฉพาะยาสีฟันที่เราเอาใส่ปากเป็นสิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายทุกๆวัน บางคนอาจคิดว่าอีคนเขียนนี่วิตกจริตฟุ้งซ่านมากไปป่ะ? ไม่มีใครเค้าโง่กลืนยาสีฟันหรอก แค่ใส่ปากแปรงๆแล้วก็บ้วนทิ้่ง โอเค ก็จริงอยู่ที่ไม่มีใครกลืนมันแบบตั้งใจ แต่มีใครแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์บ้างล่ะ ว่ามันไม่ได้แอบตกค้างอยู่ตามซอกฟันซอกเหงือกให้คุณกลืนลงท้องทั้งคืน บวกกับอีกรอบตอนเช้า โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อาจจะกลืนมันลงไปโดยไม่ตั้งใจถ้าไม่มีผู้ปกครองดูแล เชื่อหรือไม่ว่าฟลูโอไรด์เพียง 200 มิลลิกรัม หรือปริมาณยาสีฟันบีบออกมาเท่ากับความยาวของแปรงสีฟันนั้นสามารถฆ่าเด็กเล็กได้เลย และฆาตกรตัวจริงไม่ใช่ยาสีฟันแต่คือฟลูโอไรด์เพียวๆเลยหล่ะ จากรายงานของสมาคมศูนย์ควบคุมพิษอเมริกาบอกว่า ในปี 1994 มีคนตายจากฟลูออไรด์ที่ผสมในอาหารเสริมแล้วด้วย! Fluoride Alert .Org
    แคลเซียมฟลูออไรด์เป็นธาตุที่จำเป็น พบเป็นส่วนใหญ่ในกระดูก และเคลือบฟัน ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง และทำให้ฟันทนต่อการผุมากขึ้น แคลเซียมฟลูออไรด์อาจช่วยป้องกันโรคปริทันต์ด้วย และป้องกันโรคกระดูกพรุน แคลเซียมฟลูออไรด์พบในธรรมชาติ ในรูปของแคลเซียมคลอไรด์ มีอยู่ในพืชทุกชนิด สัตว์ น้ำ และ ดิน
    โซเดียมฟลูออไรด์ (Sodium Fluoride) เป็นสารอนินทรีย์ที่เกิดจากธาตุฟลูออรีน (Fluorine) ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางได้นำเอาโซเดียมฟลูออไรด์ไปผสมกับผลิตภัณฑ์ ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากด้วยโซเดียมฟลูออไรด์
    การได้รับฟลูออรีน จะเกิดการสะสมของฟลูออรีนไว้ในร่างกายทีละน้อย จะทำให้เกิดความเสียหายและข้อบกพร่องขึ้นกับระบบโครงกระดูกและฟันสำหรับความผิดปกติของฟัน
    เกิดขึ้นโดยฟันจะมีลักษณะเป็นจุดสีขาวขุ่นๆ ซึ่งเดิมมีลักษณะใส นอกจากนี้ยังทำให้ฟันไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ฟันจึงมักชำรุดแตกบิ่นง่าย ส่วนในระบบโครงกระดูกอาการที่พบคือ กระดูกจะเจริญเร็วมาก ซึ่งอาจจะสังเกตได้จากกระดูกขา กราม กระดูกซี่โครง ขากระเผลก เดินลำบาก ซึ่งเป็นผลจากการเจริญมากเกินไปของกระดูกหรือเกิดจากที่หินปูนไปจับกับเอ็นและข้อต่อของขา จึงทำให้ขาแข็ง ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นอาการแบบถาวร
    แหล่งอาหาร แคลเซียมฟลูออไรด์ ตามธรรมชาติ
    1. ข้าวต่างๆ
    2. ผลไม้ เช่น แอปเปิล องุ่น ลูกแพร์ กล้วย และเชอร์รี่
    3. ผักต่างๆ เช่น หัวแครอท กระเทียม หัวบีท ผักใบเขียว กระจับ ถั่ว ข้าวโพด หัวไชเท้า มะเขือ หัวหอม มันฝรั่ง
    4. เนย เนยแข็ง เนยเหลว ไข่
    5. เมล็ดทานตะวัน
    6. อื่นๆ เช่น อาหารทะเล ถั่วเหลือง ปลา น้ำทะเล น้ำกระด้าง น้ำผึ้ง ชาดำ แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของฟลูออไรด์คือ อาหารทะเล
    #สารฟลูออไรด์ในยาสีฟันก่อให้เกิดมะเร็ง จริงหรือไม่?
    ☠️☠️
    ทำไมเด็กในอเมริกาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับ 1 นักวิจัยหลายๆท่านที่อเมริกา รวมทั้ง Charlotte Gerson ได้ไปทดสอบและพิสูจน์แล้วว่า ยาสีฟันที่ขายกันอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปรวมทั้งยี่ห้อที่เราใช้กันอยู่ทุกวันมีส่วนผสมของ ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง
    Charlotte ให้ผู้ป่วยที่มารับการรักษามะเร็งที่คลีนิคของเธอทุกคนเลิกใช้ยาสีฟันที่ผสมสารฟลูออไรด์ เธอยังบอกอีกว่าไม่แปลกใจเลยว่าปัจจุบันนี้ทำไมเด็กในอเมริกาเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น เพราะยาสีฟันที่ใช้กันอยู่ ผสม สารฟลูออไรด์ แล้วยังใส่รสชาติเหมือนขนมหวานให้เด็กๆติดใจและอยากจะใช้ยาสีฟันแบบนี้
    🚑🚑
    เธอบอกความจริงว่าถ้าผู้บริโภคไม่มีใครป่วยเป็นโรคอะไรเลยแล้วผู้ผลิตยาจะทำธุรกิจได้กำไรจากที่ไหน ลองไปดูสิคะผู้ผลิตสิ่งเหล่านี้บางทีก็เป็นบริษัทเดียวกันกับผู้ผลิตยานั่นเอง ผลิตภัณฑ์ที่หมอฟันใช้กับคนไข้ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาบ้วนปาก หรือแม้แต่สิ่งที่ใช้อุดฟันล้วนแล้วเป็นสารก่อมะเร็งทั้งนั้น
    🎗🎗
    ใครที่เป็นมะเร็งอยู่ก็ดูยาสีฟันกันหน่อยนะคะ
    ⛑⛑
    (ปีนี้ 2018 Charlotte Gerson เธออายุ 96 ปียังแข็งแรงและเดินสายสัมมนาเรื่องมะเร็ง นับถือจริงๆ)
    ด้วยความปรารถนาดี
    ...โค้ชนาตาลี
    ❤️❤️
    อ่านต่อ...
    From the book: Never Fear Cancer again by Raymond Francis
    ..........
    Fluoride Fluoride both switches on and drives cancer. Federal health officials continue to call fluoridation one of the ten great public-health achievements of the twentieth century, while it has long been known as one of our greatest public-health blunders. The scientific evidence that fluoride causes cancer is overwhelming, and this has been known for decades, despite attempts to obscure it.
    💉💉
    For example, recorded in the Congressional Record of 21 July 1976, the chief chemist of the National Cancer Institute, Dr. Dean Burke, stated before Congress, “In point of fact, fluoride causes more cancer death, and causes it faster than any other chemical.”
    ☠️☠️
    Fluoride is a general cellular poison, doing catastrophic biological damage that is beyond the scope of this chapter to describe, yet many of us are now ingesting daily amounts that far exceed even the government’s inadequate safety standards. Hundreds of studies have found a connection between fluoride and cancer; cities that fluoridate their water have significantly more cancer deaths than cities that do not fluoridate.
    ☠️☠️
    ***Fluoride causes cancer by reacting with enzymes, changing their shape and disabling them.***
    ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️

    ด้วยรักและยาสีฟัน
    เวชหนุ่ม
    ภาพแรก ซ้าย ไม่มี ฟลูออไรด์ ขวา มี ฟลูออไรด์ โลกคือมายา #ลวงทั้งโลก ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ ⁉️ ท่านสามารถดาวน์โหลดรายงานการวิจัยที่ว่าด้วยฟลูออไรด์ต่อการลดความสามารถทางปัญญาในเด็กได้ถึง 32 หน้าฟรี ๆ ที่นี่ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3491930/ Source : https://youtu.be/KLsjwWo1F2I -------------------------------------------------- โดยทั่วไป #ฟลูออไรด์ เป็นสารทำลายต่อมไร้ท่อเนื่องจากฟลูออไรด์เป็นฮาไลด์ (halide)เช่นกัน มันจึงแข่งขันกับฮาไลด์ตัวอื่นที่ตัวรับเดียวกันในต่อมไทรอยด์ และที่อื่นๆ เพื่อจับกับไอโอดีน สิ่งนี้จะยับยั้งการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งส่งผลให้มีฮอร์โมนไทรอยด์ในระดับต่ำ มีการพิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อ แต่ความจริงข้อนี้ถูกละเลยโดยหน่วยงาน และสมาคมที่ยังคงส่งเสริมการใช้ฟลูออไรด์ต่อไป จากรายงานของ National Research Council of the National Academies ในปี 2549 ฟลูออไรด์ "เป็นตัวทำลายต่อมไร้ท่อในแง่กว้างโดยปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อที่เป็นปกติ" ฟังก์ชั่นที่เปลี่ยนแปลงนี้สามารถเกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์ พาราไทรอยด์ และต่อมไพเนียลรวมถึงต่อมหมวกไต ตับอ่อน และต่อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์ของคุณ และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ในการรักษาอัตราการเผาผลาญโดยรวมของร่างกาย ควบคุมการเจริญเติบโตและการพัฒนาตามปกติ เนื่องจากเซลล์ที่มีการเผาผลาญทั้งหมดต้องการฮอร์โมนไทรอยด์เพื่อการทำงานที่เหมาะสม การหยุดชะงักของระบบนี้ อาจมีผลกระทบที่หลากหลายต่อแทบทุกระบบในร่างกายของคุณ ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ถือเป็นหนึ่งในโรคที่พบมากที่สุดของโรคต่อมไร้ท่อ การใช้ฟลูออไรด์ในอดีต เป็นการแทรกแซงทางการแพทย์สำหรับ Hyperthyroid จนถึงปี 1970 นักวิทยาศาสตร์ในยุโรปได้กำหนดให้ใช้ฟลูออไรด์ เพื่อลดอัตราการเผาผลาญพื้นฐานในผู้ป่วยที่มีต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป ผลการศึกษาทางคลินิกที่ตีพิมพ์งานหนึ่งรายงานว่า ปริมาณฟลูออไรด์เพียง 2 - 3 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่มากนัก ถ้าได้รับอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอที่จะลดกิจกรรมของต่อมไทรอยด์ในผู้ป่วยได้ การใช้ฟลูออไรด์เพื่อการรักษาต่อมไทรอยด์ได้รับการกระตุ้นโดยการวิจัยที่เริ่มต้นในปี 1800 ซึ่งเชื่อมโยงการบริโภคฟลูออไรด์กับคอพอก การบวมของต่อมไทรอยด์ที่เกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ในรายงานเมื่อปี 2549 Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards, the National Research Council (NRC) รายงานว่า "ข้อมูลหลายบรรทัด แสดงถึงผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์" โดยเฉพาะรายงานที่กล่าวถึงการวิจัยแสดงให้เห็นว่า "การได้รับฟลูออไรด์ในมนุษย์นั้นมีความสัมพันธ์กับความเข้มข้นของ TSH ที่เพิ่มขึ้น เพิ่มความแพร่หลายของคอพอก และเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ T4 และ T3" นอกจากนั้นยังมีผลที่คล้ายกันใน T4 และ T3 รายงานในสัตว์ทดลอง นอกจากนี้ NRC ยังกล่าวถึงงานวิจัยที่เชื่อมโยงฟลูออไรด์ กับผลกระทบต่อกิจกรรมของพาราไธรอยด์ การด้อยค่าของการทนต่อกลูโคส และระยะเวลาของการคงไว้ซึ่งสภาวะทางเพศ จากการค้นพบเหล่านี้ คณะกรรมการ NRC แนะนำว่า "ผลกระทบของฟลูออไรด์ในแง่มุมต่างๆ ต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อ ควรได้รับการตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับบทบาทที่เป็นไปได้ในการพัฒนาโรคต่างๆ อย่างไรก็ตามผู้เสนอให้ใช้ฟลูออไรด์ยังคงเพิกเฉยต่อวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบที่เป็นอันตราย ฟลูออไรด์จำนวนเล็กน้อย เปลี่ยนการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณได้อย่างน่าประหลาดใจ การทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลงนั้นเกี่ยวข้องกับการได้รับฟลูออไรด์ในระดับต่ำถึง 0.05 - 0.1 มก. ฟลูออไรด์ต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวัน (มก. / กก. / วัน) หรือ 0.03 มก. / กก. / วัน สำหรับผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม (154 ปอนด์) หมายความว่าฟลูออไรด์ 3.5 มก. ต่อวัน (หรือฟลูออไรด์ 0.7 มก. ต่อวันที่มีการขาดไอโอดีน) อาจทำให้ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ การวิเคราะห์โดยหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ประมาณการว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันโดยทั่วไปบริโภคฟลูออไรด์เกือบ 3 มิลลิกรัมทุกวัน และบางคนบริโภคเป็นประจำวันละ 6 มก. ขึ้นไป สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 14 กิโลกรัม (30 ปอนด์) ฟลูออไรด์ที่ได้รับมากกว่า 0.7 มก. ต่อวัน (หรือ 0.14 มก. ต่อวันหากขาดไอโอดีน) ทำให้เด็กเสี่ยงต่อความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ และ EPA (2010) ได้ทำการประเมินว่าเด็กที่อยู่ในช่วงน้ำหนักนี้ (อายุ 1- 3 ปี) ได้บริโภคฟลูออไรด์มากกว่า 1.5 มก. ในแต่ละวัน หรือมากกว่า 2 เท่า ของจำนวนที่จำเป็นในการกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลง การได้รับอย่างต่อเนื่องเหล่านี้อาจมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งและตลอดชีวิตต่อพัฒนาการทางสติปัญญา ทางสังคม ทางเพศ และทางกายภาพโดยรวมของเด็ก การศึกษาจำนวนมากพบว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับฟลูออไรด์ในระดับค่อนข้างต่ำถึงปานกลาง และการลด IQ ในเด็ก แม้แต่ระดับฟลูออไรด์ที่น้อยกว่า 1.0 มก. / ล. ก็มีความสัมพันธ์กับ IQ ที่ลดลง และความถี่ที่เพิ่มขึ้นของภาวะไทรอยด์ทำงานในเด็กที่มีอาการขาดสารไอโอดีน การพิจารณาอย่างจริงจัง ว่าต่อมไทรอยด์ของคุณอาจเป็นเนื้อเยื่อที่บอบบางที่สุดในร่างกายของคุณต่อฟลูออไรด์ ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อคุณ ฟลูออไรด์สะสมในต่อมไทรอยด์ของคุณมากกว่าเนื้อเยื่ออ่อนอื่นๆ ฟลูออไรด์อาจขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณโดยตรง หรือโดยอ้อมด้วยการกระทำที่เป็นไปได้ รวมถึงความสามารถของฟลูออไรด์ในการเลียนแบบฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH) - ทำลาย G-proteins ที่ละเอียดอ่อนซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยการสร้างของตัวรับฮอร์โมนในร่างกายของคุณ -ทำลายเซลล์ของต่อมไทรอยด์ของคุณ -ทำลาย DNA ของคุณ -รบกวนการแปลงจากไทรอยด์ฮอร์โมน (T4) ที่ไม่ได้ใช้งานไปเป็นแบบฟอร์มที่ต้องใช้งาน (T3) จากข้อมูลของ PubMed Health พบว่าผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี มีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดภาวะพร่อง หรือภาวะไทรอยด์ต่ำ เกือบ 4% ของประชากรสหรัฐอเมริกา มากกว่า 11 ล้านคน มีภาวะไทรอยด์ทำงานหนักเกินจริง นอกจากนี้ 10% ของประชากรทั่วไป 21 ล้านคน มีภาวะพร่องที่ไม่แสดงอาการซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาต่อมาของภาวะพร่องไทรอยด์ แม้จะมีอุบัติการณ์สูงขึ้นในประชากรที่มีอายุมากกว่า แต่อัตราการเกิดภาวะพร่องของ hypothyroidism ทารกแรกเกิดเพิ่มขึ้นเกือบ 75% ในช่วง 2ทศวรรษที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ส่งผลกระทบต่อ 1 ในทุกๆ 2,370 ของการเกิดภาวะพร่องในทารกแรกเกิดที่ไม่ได้รับการรักษา สามารถนำไปสู่ภาวะปัญญาอ่อน การชะลอการเจริญเติบโต และปัญหาหัวใจ เด็กที่เป็นโรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติมาแต่กำเนิด หรือเยาวชน ได้รับรายงานว่ามีการล่าช้าของการงอกของฟัน หรือข้อบกพร่องในการเคลือบฟัน แม้ว่าการเชื่อมต่อระหว่างการค้นพบเหล่านี้กับผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อไทรอยด์ยังไม่ได้ทำการศึกษา สิ่งที่เกี่ยวข้องอย่างยิ่ง คือความสัมพันธ์แบบผกผันระหว่างความรุนแรงของอาการที่ไม่แสดงอาการในหญิงตั้งครรภ์และ IQ ที่ลดลงของบุตรหลาน การพร่องของมารดายังได้รับการเสนอให้เป็นสาเหตุ หรือผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาออทิสติก ศักยภาพของฟลูออไรด์ที่จะส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ยังเป็นสิ่งจำเป็นอีกหลายประการ ดังนั้นวิธีการใช้ฟลูออไรด์วิธีการแบบไม่เจาะจง / การเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มสาธารณะโดยเจตนา / การผสมเข้าไปในยาสีฟัน / การเคลือบฟันด้วยฟลูออไรด์ เป็นปัญหาอย่างยิ่ง เนื่องจากจะทำให้ร่างกายของคุณสัมผัสกับสารที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ โดยไม่คำนึงถึงความต้องการ หรือความอ่อนไหวส่วนตัว และเป็นการละเมิดหลักการสำคัญของเภสัชวิทยาสมัยใหม่ ----------------------------------- Andersson M, de Benoist B,Delange F, Zupan J. 2007.Prevention and control of iodine deficiency in pregnant and lactating women and in children less Bharaktiya S, et al., 2010.Hypothyroidism. Medscape Reference. Delange F. 2004. Optimal iodine nutrition during pregnancy, lactation and neonatal period. Int J Endocrinol Metab 89:3851. Drugs.com. Undated. Top-selling drugs of 2009. IOM (Institute of Medicine). 2001. Dietary Reference Intakes for Vitamin A, Vitamin K, Arsenic, Boron, Chromium, Copper, Iodine, Iron, Manganese Larsen PR, Davies TF, Schlumberger MJ, Hay ID. 2002. Thyroid physiology and diagnostic evaluation of patients with thyroid disorders. Pp. 331-373 PubMed Health. 2009. Neonatal hypothyroidism. PubMed Health. 2010. Hypothyroidism. Wang H, Yang Z, Zhou B, et al. 2009. Fluoride-induced thyroid dysfunction in rats: roles of dietary protein and calcium level. Toxicol Ind Health Zimmermann MB. 2009. Iodine deficiency in pregnancy and the effects of maternal iodine supplementation on the offspring: a review. Am J Clin Nutr 1 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 507 pp. 2 Maumené E. 1854. Compt Rend Acad Sci 39:538. May W. 1935. Antagonismus Zwischen Jod und Fluor im Organismus. Klinische Wochenschrift 14:790-92. 3 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 4 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 5 EPA (U.S. Environmental Protection Agency). 2010. Fluoride: Exposure and Relative Source Contribution Analysis. 6 Connett P, Beck J, Micklem HS. 2010. The Case Against Fluoride. How Hazardous Waste Ended Up in Our Drinking Water and the Bad Science 7 Lin FF, Aihaiti HX, Zhao J, et al. 1991. The relationship of a low-iodine and high-fluoride environment to subclinical cretinism in Xinjiang. 8 ICCIDD (International Council for the Control of Iodine Deficiency Disorders). 2011. Iodine Deficiency. 9 Hollowell JG, Staehling NW, Hannon WH, et al. 1998. Iodine nutrition in the United States. Trends and public health implications: iodine excretion 10 Lee SL, et al. 2009. Iodine Deficiency. Medscape Reference. 11 Caldwell KL, Miller GA, Wang RY, et al. 2008. Iodine status of the U.S. population, National Health and Nutrition Examination Survey 2003-2004. 12 Shashi A. 1988. Biochemical effects of Fluoride on thyroid gland duringexperimental fluorosis. Fluoride 21:127–130. 13 Monsour PA, Kruger BJ. 1985. Effect of fluoride on soft tissue in vertebrates. Fluoride 18:53-61. / Call RA, Greenwood DA, LeCheminant H, et al. 1965. 14 Ge Y, Ning H, Wang S, Wang J. 2005. DNA damage in thyroid gland cells of rats exposed to long-term intake of high fluoride and low iodine. Fluoride 15 Gas'kov A, Savchenkov MF, Lushkov NN. 2005. [The specific features of the development of iodine deficiencies in children living under pollution] 16 Aoki Y, Belin RM, Clickner R, et al. 2007. Serum TSH and total T4 in the United States population 17 Olney RS, Grosse SD, Vogt RF. 2010. Prevalence of Congenital Hypothyroidism—Current Trends and Future Directions: Workshop Summary. Pediatrics 125 18 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 19 Klein RZ, Sargent JD, Larsen PR, et al. 2001. Relation of severity of maternal hypothyroidism to cognitive development in offspring. J Med Screen 20 Román GC. 2007. Autism: Transient in utero hypothyroxinemia related to maternal flavonoid ingestion during pregnancy. Biological Trace Element Research : https://www.researchgate.net/.../345973053_In_Vitro... ✨✨✨✨✨✨✨ ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58 https://youtu.be/AYAJJSOmdJo ✨✨✨✨✨✨✨ ปฏิวัติสุขภาพกับอ.ปานเทพ เรื่อง ฟลูออไรด์ ภัยเงียบในน้ำดื่มน้ำใช้ยาสีฟัน https://youtu.be/741TFbVWJwQ https://youtu.be/s-ElDeuDl1I https://youtu.be/Y5Ad9L-B21c https://youtu.be/1KgS-_E05YE https://youtu.be/KLsjwWo1F2I ✨✨✨✨✨✨✨ ฟลูออไรด์ในยาสีฟัน โดย อ.สันติ มานะดี https://www.facebook.com/10000435.../posts/1352913331530352/ ✨✨✨✨✨✨✨ สารฟลูโอไรด์ ( Fluoride ) Little Girl Healthy SHOP - สินค้าส่งตรงจากอเมริกา กราฟแสดงระดับความรุนแรงของสารตะกั่ว สารหนูและฟลูโอไรด์ ค่าระดับความเป็นพิษของฟลูโอไรด์ที่พุ่งแรงแซงสารตะกั่วไปอยู่ที่ระดับ 4 เกือบๆ 5 นั่นแปลว่า มันเป็นพิษมากจนถึงขั้นรุนแรง! ยิ่งถ้าบ้านใครมียาฆ่าหนูและแมลงสาบลองพลิกดูที่ส่วนผสมข้างกล่อง คุณอาจจะช็อกตาค้างมากกว่านี้ เพราะสิ่งเดียวที่เป็นส่วนผสมในยาเบื่อหนูคือฟลูโอไรด์ ซึ่งความจริงแล้ว ฟลูออไรด์ได้นำมาใช้ครั้งแรกในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อใช้เป็นยาเบื่อหนู ถามว่า.. แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ในยาสีฟันล่ะ? จริงๆแล้วฟลูออไรด์ที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและฟันอย่างแท้จริงมันคือ “แคลเซียมฟลูออไรด์ “ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ที่ผสมอยู่ในยาสีฟันมันคือ "โซเดียมฟลูออไรด์" เป็นสารพิษที่ผลิตขึ้นในโรงงานซึ่งมีราคาถูกกว่า และถ้าใครที่คิดว่าฟลููโอไรด์ช่วยให้ฟันแข็งแรงป้องกันฟันผุ แบบที่เคยได้ยินกันจนคุ้นหูคุ้นตาในโฆษณาทีวีตั้งแต่เด็กๆคงต้องคิดใหม่ เพราะมันกลับเป็นตัวการทำให้เกิดฟันตกกระที่เรียกว่า Dental Fluorosis เกิดเป็นรอยกระดำกระด่างที่ผิวฟันจากการสะสมของสารพิษฟลูโอไรด์ในระยะยาว แถมยังมีผลต่อกระดูกทำให้กระดูกพรุนด้วย ข้อมูลจากวารสารการแพทย์ของรัฐนิวอิงแลนด์ สหรัฐอเมริกา รายงานว่า มีการใช้สารฟลูออไรด์เพื่อรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) แต่ผลกลับกลายเป็นว่า อัตราการเกิดกระดูกตะโพกร้าวสูงขึ้นกว่าปกติ และในปี 1993 นักวิทยาศาสตร์จากองค์การป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาต่อต้านการเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มและอาหาร นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นได้ยืนยันว่า ฟลูออไรด์ไม่ได้ป้องกันฟันผุ ผลตรงกันข้าม กลับมีเหตุการณ์แน่ชัดว่า มันเป็นตัวก่อมะเร็งได้ http://www.biowish.net/pages/med.htm เคยมีนักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองผสมฟลูโอไรด์ในน้ำของค่ายกักกันที่รัซเซียในยุคคอมมิวนิสต์และอีกที่ในช่วงยุคนาซีที่เยอร์มัน มีจุดประสงค์ในการทดลองเพื่อจะดูว่าถ้านักโทษผู้โชคร้ายทั้งหลายกินน้ำผสมฟลูโอไรด์เข้าไปแล้วนักโทษจะเป็นยังไง ผลปรากฎว่า อารมณ์รุนแรงของนักโทษลดลงอย่างเห็นได้ชัด เปลี่ยนจากนักโทษโหดๆเป็นแมวหง่าวนั่งหงอย ไม่แยแสต่อสิ่งรอบข้างใดๆ ไม่ยกพวกตีกันเหมือนก่อน ฟังแล้วดูเหมือนจะดีใช่ไหมคะ.. แต่ความจริงแล้วมันน่ากลัวซะมากกว่า เพราะว่าฟลูโอไรด์มันมีผลโดยตรงต่อสมองน่ะสิ โดยมันเข้าไปทำลายต่อมไพนีล (Pineal gland) หรือเรียกว่าดวงตาที่ 3 ที่ทำหน้าที่ควบคุมร่างกาย โดยทำงานร่วมกับต่อมไฮโปทารามัส (Hypothalamus) ซึ่งเป็นต่อมไร้ท่อทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารณ์ต่างๆ เช่นความหิว ความกระหาย ความต้องการทางเพศ ความคิดสร้างสรรค์ และเป็นเหมือนนาฬิกาชีวิตซึ่งควบคุมอายุของมนุษย์ ดังนั้นเมื่อต่อมนี้โดนทำลาย จึงทำให้เกิดความท้อแท้ หมดแรงจูงใจ ขาดความคิดริเริ่ม เป็นตัวลดไอคิว ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ และเนื่องจากการทดลองที่ประสบความสำเร็จของรัฐบาลครั้งนั้น ปัจจุบันนี้ฟลูโอไรด์เลยมาอยู่ในยาสีฟันให้เราใช้กันทุกวัน เปรียบได้กับอาวุธของรัฐบาลในการทำให้ประชาชนโง่และเป็นการควบคุมประชากรไปในตัว ในบางประเทศอย่างไอร์แลนด์ อเมริกา ถึงกับโดนมัดมือชกให้กินน้ำผสมยาพิษฟลูโอไรด์กันเลยทีเดียว โดยผสมมันลงในน้ำประปาสาธารณะ โดยอ้างว่าหวังดีอยากป้องกันโรคฟันผุให้ประชาชน แต่มีการพิสูจน์แล้วโดยเปรียบเทียบสุขภาพฟันของคนอังกฤษและอเมริกัน ปรากฎว่าสุขภาพฟันไม่ต่างกันเลยทั้งๆที่น้ำในประเทศอังกฤษไม่มีการฟลูโอไรด์ลงในน้ำ การกระทำที่มีนัยยะแอบแฝงแบบนี้เลยสร้างความไม่พอใจให้หลายๆคนในหลายประเทศที่ไม่เต็มใจจะโดนวางยาพิษในน้ำก๊อกที่ทำให้โง่และเป็นโรค แถมการเอาน้ำไปต้มให้เดือดก็ไม่ได้ช่วยอะไรยกเว้นเพิ่มความแรงของสารพิษให้สูงขึ้นอึก 7 เท่าตัว เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมยาสีฟันที่มีผสมฟลูโอไรด์ต้องมีคำเตือนแปะอยู่ข้างหลอดว่าห้ามกลืน ถ้าใครเผลอกลืนต้องรีบพบแพทย์!! อะไรก็ตามที่ทำมาให้ใช้ได้ในปาก มันควรที่จะปลอดภัยมากกว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคไม่ใช่หรือ? โดยเฉพาะยาสีฟันที่เราเอาใส่ปากเป็นสิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายทุกๆวัน บางคนอาจคิดว่าอีคนเขียนนี่วิตกจริตฟุ้งซ่านมากไปป่ะ? ไม่มีใครเค้าโง่กลืนยาสีฟันหรอก แค่ใส่ปากแปรงๆแล้วก็บ้วนทิ้่ง โอเค ก็จริงอยู่ที่ไม่มีใครกลืนมันแบบตั้งใจ แต่มีใครแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์บ้างล่ะ ว่ามันไม่ได้แอบตกค้างอยู่ตามซอกฟันซอกเหงือกให้คุณกลืนลงท้องทั้งคืน บวกกับอีกรอบตอนเช้า โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อาจจะกลืนมันลงไปโดยไม่ตั้งใจถ้าไม่มีผู้ปกครองดูแล เชื่อหรือไม่ว่าฟลูโอไรด์เพียง 200 มิลลิกรัม หรือปริมาณยาสีฟันบีบออกมาเท่ากับความยาวของแปรงสีฟันนั้นสามารถฆ่าเด็กเล็กได้เลย และฆาตกรตัวจริงไม่ใช่ยาสีฟันแต่คือฟลูโอไรด์เพียวๆเลยหล่ะ จากรายงานของสมาคมศูนย์ควบคุมพิษอเมริกาบอกว่า ในปี 1994 มีคนตายจากฟลูออไรด์ที่ผสมในอาหารเสริมแล้วด้วย! Fluoride Alert .Org แคลเซียมฟลูออไรด์เป็นธาตุที่จำเป็น พบเป็นส่วนใหญ่ในกระดูก และเคลือบฟัน ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง และทำให้ฟันทนต่อการผุมากขึ้น แคลเซียมฟลูออไรด์อาจช่วยป้องกันโรคปริทันต์ด้วย และป้องกันโรคกระดูกพรุน แคลเซียมฟลูออไรด์พบในธรรมชาติ ในรูปของแคลเซียมคลอไรด์ มีอยู่ในพืชทุกชนิด สัตว์ น้ำ และ ดิน โซเดียมฟลูออไรด์ (Sodium Fluoride) เป็นสารอนินทรีย์ที่เกิดจากธาตุฟลูออรีน (Fluorine) ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางได้นำเอาโซเดียมฟลูออไรด์ไปผสมกับผลิตภัณฑ์ ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากด้วยโซเดียมฟลูออไรด์ การได้รับฟลูออรีน จะเกิดการสะสมของฟลูออรีนไว้ในร่างกายทีละน้อย จะทำให้เกิดความเสียหายและข้อบกพร่องขึ้นกับระบบโครงกระดูกและฟันสำหรับความผิดปกติของฟัน เกิดขึ้นโดยฟันจะมีลักษณะเป็นจุดสีขาวขุ่นๆ ซึ่งเดิมมีลักษณะใส นอกจากนี้ยังทำให้ฟันไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ฟันจึงมักชำรุดแตกบิ่นง่าย ส่วนในระบบโครงกระดูกอาการที่พบคือ กระดูกจะเจริญเร็วมาก ซึ่งอาจจะสังเกตได้จากกระดูกขา กราม กระดูกซี่โครง ขากระเผลก เดินลำบาก ซึ่งเป็นผลจากการเจริญมากเกินไปของกระดูกหรือเกิดจากที่หินปูนไปจับกับเอ็นและข้อต่อของขา จึงทำให้ขาแข็ง ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นอาการแบบถาวร แหล่งอาหาร แคลเซียมฟลูออไรด์ ตามธรรมชาติ 1. ข้าวต่างๆ 2. ผลไม้ เช่น แอปเปิล องุ่น ลูกแพร์ กล้วย และเชอร์รี่ 3. ผักต่างๆ เช่น หัวแครอท กระเทียม หัวบีท ผักใบเขียว กระจับ ถั่ว ข้าวโพด หัวไชเท้า มะเขือ หัวหอม มันฝรั่ง 4. เนย เนยแข็ง เนยเหลว ไข่ 5. เมล็ดทานตะวัน 6. อื่นๆ เช่น อาหารทะเล ถั่วเหลือง ปลา น้ำทะเล น้ำกระด้าง น้ำผึ้ง ชาดำ แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของฟลูออไรด์คือ อาหารทะเล #สารฟลูออไรด์ในยาสีฟันก่อให้เกิดมะเร็ง จริงหรือไม่? ☠️☠️ ทำไมเด็กในอเมริกาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับ 1 นักวิจัยหลายๆท่านที่อเมริกา รวมทั้ง Charlotte Gerson ได้ไปทดสอบและพิสูจน์แล้วว่า ยาสีฟันที่ขายกันอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปรวมทั้งยี่ห้อที่เราใช้กันอยู่ทุกวันมีส่วนผสมของ ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง Charlotte ให้ผู้ป่วยที่มารับการรักษามะเร็งที่คลีนิคของเธอทุกคนเลิกใช้ยาสีฟันที่ผสมสารฟลูออไรด์ เธอยังบอกอีกว่าไม่แปลกใจเลยว่าปัจจุบันนี้ทำไมเด็กในอเมริกาเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น เพราะยาสีฟันที่ใช้กันอยู่ ผสม สารฟลูออไรด์ แล้วยังใส่รสชาติเหมือนขนมหวานให้เด็กๆติดใจและอยากจะใช้ยาสีฟันแบบนี้ 🚑🚑 เธอบอกความจริงว่าถ้าผู้บริโภคไม่มีใครป่วยเป็นโรคอะไรเลยแล้วผู้ผลิตยาจะทำธุรกิจได้กำไรจากที่ไหน ลองไปดูสิคะผู้ผลิตสิ่งเหล่านี้บางทีก็เป็นบริษัทเดียวกันกับผู้ผลิตยานั่นเอง ผลิตภัณฑ์ที่หมอฟันใช้กับคนไข้ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาบ้วนปาก หรือแม้แต่สิ่งที่ใช้อุดฟันล้วนแล้วเป็นสารก่อมะเร็งทั้งนั้น 🎗🎗 ใครที่เป็นมะเร็งอยู่ก็ดูยาสีฟันกันหน่อยนะคะ ⛑⛑ (ปีนี้ 2018 Charlotte Gerson เธออายุ 96 ปียังแข็งแรงและเดินสายสัมมนาเรื่องมะเร็ง นับถือจริงๆ) ด้วยความปรารถนาดี ...โค้ชนาตาลี ❤️❤️ อ่านต่อ... From the book: Never Fear Cancer again by Raymond Francis .......... Fluoride Fluoride both switches on and drives cancer. Federal health officials continue to call fluoridation one of the ten great public-health achievements of the twentieth century, while it has long been known as one of our greatest public-health blunders. The scientific evidence that fluoride causes cancer is overwhelming, and this has been known for decades, despite attempts to obscure it. 💉💉 For example, recorded in the Congressional Record of 21 July 1976, the chief chemist of the National Cancer Institute, Dr. Dean Burke, stated before Congress, “In point of fact, fluoride causes more cancer death, and causes it faster than any other chemical.” ☠️☠️ Fluoride is a general cellular poison, doing catastrophic biological damage that is beyond the scope of this chapter to describe, yet many of us are now ingesting daily amounts that far exceed even the government’s inadequate safety standards. Hundreds of studies have found a connection between fluoride and cancer; cities that fluoridate their water have significantly more cancer deaths than cities that do not fluoridate. ☠️☠️ ***Fluoride causes cancer by reacting with enzymes, changing their shape and disabling them.*** ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ด้วยรักและยาสีฟัน เวชหนุ่ม
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 915 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 สัญญาณที่บ่งชี้ว่า ร่างกายเรา #เริ่มไม่แข็งแรงอย่างที่เราคิด และ #จำเป็นต้องเริ่มดูแลร่างกาย

    แม้ว่าเราจะรู้สึกว่า #แข็งแรงดี แต่บางครั้งร่างกายก็ส่งสัญญาณบอกเราโดยที่เราอาจไม่สังเกตเห็น สิ่งเหล่านี้เป็น สัญญาณเริ่มต้น ที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณอาจเริ่มเสื่อมลง และ คุณควรเริ่มให้ความสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นแล้ว

    1. เริ่ม #อ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย

    หากคุณพบว่า "ตัวเองเหนื่อยง่ายขึ้น" จาก "กิจวัตรที่เคยทำได้โดยไม่เหนื่อย" เช่น การเดินขึ้นบันได การทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่า ระบบหัวใจและหลอดเลือดอาจเริ่มเสื่อมลง

    การเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนมักเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่เพียงพอหรือการทำงานของหัวใจที่อ่อนแอลง การเริ่มใส่ใจในเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการจะช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้นได้ (North & Sinclair, 2012).

    2. เริ่ม #ฟื้นฟูร่างกายช้าลง

    ถ้าคุณสังเกตว่า "การบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ" เช่น แผลถลอก รอยฟกช้ำ หรือ "อาการเมื่อยล้าจากการออกกำลังกาย" "ฟื้นตัวช้า กว่าที่เคยเป็น" นั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม

    การฟื้นตัวช้าลงบ่งชี้ถึงการเสื่อมของระบบซ่อมแซมร่างกาย คุณอาจต้องเริ่มดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย (Garber et al., 2011).

    3. เริ่ม #มีปัญหาการนอนหลับ

    การนอนหลับเป็นกระบวนการที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง หากคุณเริ่มมีปัญหาการนอน เช่น "การนอนไม่หลับ" "หลับไม่สนิท" หรือ "การตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ" นี่อาจเป็นสัญญาณว่า ร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะเครียดมากเกินไป

    โดยเฉพาะแม้ว่าในวันที่คุณไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล แต่ก็ยังนอนไม่หลับ นั่นหมายความว่า สภาวะเครียดของคุณ เป็น "ความเครียดทางกาย" ที่อาจมีสาเหตุหลักมาจากสิ่งพิษที่ร่างกายสะสมเริ่มมากพอจนไปรบกวนระบบประสาทของคุณ

    ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบประสาทและระบบฮอร์โมน การจัดการกับความเครียด และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน เป็นเรื่องสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย (Lee et al., 2003).

    หากคุณพบว่าร่างกายเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ อาจเป็นเวลาที่ควรเริ่มใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปรับปรุงโภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและป้องกันโรคในระยะยาว

    --------

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือ คู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพร่างกายของคุณ ได้ผลมากขึ้น

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษและอนุภาคโลหะหนักที่อาจสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อและอวัยวะที่สำคัญ เช่น ตับและไต เมื่อสิ่งพิษในร่างกายลดลง ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความเครียดทางกายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น

    นอกจากนี้ คลอเรลล่ายังอุดมไปด้วย CGF (Chlorella Growth Factor) ซึ่งช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์และสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการใช้งานหนักหรือต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้า ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น (Merchant, 2001; Yamaguchi et al., 2011).

    #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการอักเสบขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการใช้งานร่างกายเป็นประจำ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารฟิโคไซยานิน (Phycocyanin) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหลังการออกกำลังกายหรือความเหนื่อยล้า

    อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นเช่นโปรตีนและวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วขึ้น (Bermejo et al., 2008; Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดี ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 สัญญาณที่บ่งชี้ว่า ร่างกายเรา #เริ่มไม่แข็งแรงอย่างที่เราคิด และ #จำเป็นต้องเริ่มดูแลร่างกาย แม้ว่าเราจะรู้สึกว่า #แข็งแรงดี แต่บางครั้งร่างกายก็ส่งสัญญาณบอกเราโดยที่เราอาจไม่สังเกตเห็น สิ่งเหล่านี้เป็น สัญญาณเริ่มต้น ที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณอาจเริ่มเสื่อมลง และ คุณควรเริ่มให้ความสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นแล้ว 1. เริ่ม #อ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย หากคุณพบว่า "ตัวเองเหนื่อยง่ายขึ้น" จาก "กิจวัตรที่เคยทำได้โดยไม่เหนื่อย" เช่น การเดินขึ้นบันได การทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่า ระบบหัวใจและหลอดเลือดอาจเริ่มเสื่อมลง การเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนมักเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่เพียงพอหรือการทำงานของหัวใจที่อ่อนแอลง การเริ่มใส่ใจในเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการจะช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้นได้ (North & Sinclair, 2012). 2. เริ่ม #ฟื้นฟูร่างกายช้าลง ถ้าคุณสังเกตว่า "การบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ" เช่น แผลถลอก รอยฟกช้ำ หรือ "อาการเมื่อยล้าจากการออกกำลังกาย" "ฟื้นตัวช้า กว่าที่เคยเป็น" นั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม การฟื้นตัวช้าลงบ่งชี้ถึงการเสื่อมของระบบซ่อมแซมร่างกาย คุณอาจต้องเริ่มดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย (Garber et al., 2011). 3. เริ่ม #มีปัญหาการนอนหลับ การนอนหลับเป็นกระบวนการที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง หากคุณเริ่มมีปัญหาการนอน เช่น "การนอนไม่หลับ" "หลับไม่สนิท" หรือ "การตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ" นี่อาจเป็นสัญญาณว่า ร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะเครียดมากเกินไป โดยเฉพาะแม้ว่าในวันที่คุณไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล แต่ก็ยังนอนไม่หลับ นั่นหมายความว่า สภาวะเครียดของคุณ เป็น "ความเครียดทางกาย" ที่อาจมีสาเหตุหลักมาจากสิ่งพิษที่ร่างกายสะสมเริ่มมากพอจนไปรบกวนระบบประสาทของคุณ ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบประสาทและระบบฮอร์โมน การจัดการกับความเครียด และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน เป็นเรื่องสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย (Lee et al., 2003). หากคุณพบว่าร่างกายเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ อาจเป็นเวลาที่ควรเริ่มใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปรับปรุงโภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและป้องกันโรคในระยะยาว -------- คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือ คู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพร่างกายของคุณ ได้ผลมากขึ้น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษและอนุภาคโลหะหนักที่อาจสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อและอวัยวะที่สำคัญ เช่น ตับและไต เมื่อสิ่งพิษในร่างกายลดลง ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความเครียดทางกายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น นอกจากนี้ คลอเรลล่ายังอุดมไปด้วย CGF (Chlorella Growth Factor) ซึ่งช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์และสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการใช้งานหนักหรือต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้า ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น (Merchant, 2001; Yamaguchi et al., 2011). #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการอักเสบขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการใช้งานร่างกายเป็นประจำ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารฟิโคไซยานิน (Phycocyanin) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหลังการออกกำลังกายหรือความเหนื่อยล้า อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นเช่นโปรตีนและวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วขึ้น (Bermejo et al., 2008; Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดี ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 686 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts