• “ทะลุขีดจำกัด! DDR5 ทำลายสถิติโลกใหม่ที่ 13,211 MT/s”

    สถิติโลกใหม่! DDR5 ทะลุ 13,211 MT/s ด้วยเมนบอร์ด Z890 AORUS Tachyon ICE โอเวอร์คล็อกเกอร์ AiMax ทำลายสถิติโลก DDR5 ด้วยความเร็ว 13,211 MT/s โดยใช้เมนบอร์ด GIGABYTE Z890 AORUS Tachyon ICE และระบบระบายความร้อนด้วยไนโตรเจนเหลว

    ในเวลาเพียงไม่กี่วันหลังจากสถิติเก่าถูกตั้งไว้ที่ 13,153 MT/s โดยโอเวอร์คล็อกเกอร์ชื่อ Saltycroissant ล่าสุด AiMax ได้ทำลายสถิติอีกครั้งด้วยความเร็ว 13,211 MT/s ซึ่งถือเป็นความเร็วสูงสุดที่ DDR5 เคยทำได้บนแพลตฟอร์มทั่วไป

    การโอเวอร์คล็อกครั้งนี้ใช้เมนบอร์ด GIGABYTE Z890 AORUS Tachyon ICE ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเมนบอร์ดที่ออกแบบมาเพื่อการโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำโดยเฉพาะ โดย AiMax ใช้แรม Patriot Viper Xtreme 5 ขนาด 24GB ร่วมกับ Intel Core Ultra 7 265K และระบบระบายความร้อนด้วย ไนโตรเจนเหลว ทั้ง CPU และ RAM

    แม้ความเร็วจะเพิ่มขึ้นเพียง 58 MT/s จากสถิติก่อนหน้า แต่การรักษาค่า latency ที่ CL68-127-127-127-2 ถือว่าเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง เพราะ latency มักจะเพิ่มขึ้นเมื่อความเร็วสูงขึ้น

    การโอเวอร์คล็อกระดับนี้ต้องใช้การตั้งค่าหน่วยความจำแบบ single-channel เพื่อความเสถียร และต้องอาศัยวงจรเมนบอร์ดที่ยอดเยี่ยม รวมถึงคอนโทรลเลอร์หน่วยความจำที่แข็งแกร่ง

    AiMax ทำลายสถิติ DDR5 ที่ 13,211 MT/s
    ใช้เมนบอร์ด GIGABYTE Z890 AORUS Tachyon ICE
    ใช้แรม Patriot Viper Xtreme 5 ขนาด 24GB
    ใช้ CPU Intel Core Ultra 7 265K
    ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยไนโตรเจนเหลว

    ความสำเร็จด้านเทคนิค
    ความเร็วสูงสุดที่ DDR5 เคยทำได้บนแพลตฟอร์มทั่วไป
    latency ยังคงอยู่ที่ CL68-127-127-127-2
    ใช้การตั้งค่าแบบ single-channel เพื่อความเสถียร

    ความโดดเด่นของเมนบอร์ด Z890 AORUS Tachyon ICE
    ได้รับการยอมรับในวงการโอเวอร์คล็อก
    มีวงจรที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความเร็วสูง
    มีผู้ใช้หลายรายติดอันดับ Top 10 ด้วยเมนบอร์ดรุ่นนี้

    https://wccftech.com/ddr5-overclocking-world-record-broken-again-13211-mt-s-using-z890-aorus-tachyon-ice/
    🚀 “ทะลุขีดจำกัด! DDR5 ทำลายสถิติโลกใหม่ที่ 13,211 MT/s” สถิติโลกใหม่! DDR5 ทะลุ 13,211 MT/s ด้วยเมนบอร์ด Z890 AORUS Tachyon ICE โอเวอร์คล็อกเกอร์ AiMax ทำลายสถิติโลก DDR5 ด้วยความเร็ว 13,211 MT/s โดยใช้เมนบอร์ด GIGABYTE Z890 AORUS Tachyon ICE และระบบระบายความร้อนด้วยไนโตรเจนเหลว ในเวลาเพียงไม่กี่วันหลังจากสถิติเก่าถูกตั้งไว้ที่ 13,153 MT/s โดยโอเวอร์คล็อกเกอร์ชื่อ Saltycroissant ล่าสุด AiMax ได้ทำลายสถิติอีกครั้งด้วยความเร็ว 13,211 MT/s ซึ่งถือเป็นความเร็วสูงสุดที่ DDR5 เคยทำได้บนแพลตฟอร์มทั่วไป การโอเวอร์คล็อกครั้งนี้ใช้เมนบอร์ด GIGABYTE Z890 AORUS Tachyon ICE ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเมนบอร์ดที่ออกแบบมาเพื่อการโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำโดยเฉพาะ โดย AiMax ใช้แรม Patriot Viper Xtreme 5 ขนาด 24GB ร่วมกับ Intel Core Ultra 7 265K และระบบระบายความร้อนด้วย ไนโตรเจนเหลว ทั้ง CPU และ RAM แม้ความเร็วจะเพิ่มขึ้นเพียง 58 MT/s จากสถิติก่อนหน้า แต่การรักษาค่า latency ที่ CL68-127-127-127-2 ถือว่าเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง เพราะ latency มักจะเพิ่มขึ้นเมื่อความเร็วสูงขึ้น การโอเวอร์คล็อกระดับนี้ต้องใช้การตั้งค่าหน่วยความจำแบบ single-channel เพื่อความเสถียร และต้องอาศัยวงจรเมนบอร์ดที่ยอดเยี่ยม รวมถึงคอนโทรลเลอร์หน่วยความจำที่แข็งแกร่ง ✅ AiMax ทำลายสถิติ DDR5 ที่ 13,211 MT/s ➡️ ใช้เมนบอร์ด GIGABYTE Z890 AORUS Tachyon ICE ➡️ ใช้แรม Patriot Viper Xtreme 5 ขนาด 24GB ➡️ ใช้ CPU Intel Core Ultra 7 265K ➡️ ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยไนโตรเจนเหลว ✅ ความสำเร็จด้านเทคนิค ➡️ ความเร็วสูงสุดที่ DDR5 เคยทำได้บนแพลตฟอร์มทั่วไป ➡️ latency ยังคงอยู่ที่ CL68-127-127-127-2 ➡️ ใช้การตั้งค่าแบบ single-channel เพื่อความเสถียร ✅ ความโดดเด่นของเมนบอร์ด Z890 AORUS Tachyon ICE ➡️ ได้รับการยอมรับในวงการโอเวอร์คล็อก ➡️ มีวงจรที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความเร็วสูง ➡️ มีผู้ใช้หลายรายติดอันดับ Top 10 ด้วยเมนบอร์ดรุ่นนี้ https://wccftech.com/ddr5-overclocking-world-record-broken-again-13211-mt-s-using-z890-aorus-tachyon-ice/
    WCCFTECH.COM
    DDR5 Overclocking World Record Broken Again; 13211 MT/s Using Z890 AORUS Tachyon ICE
    A new overclocker just made history by reaching a whopping 13211 MT/s using his DDR5 Patriot memory on GIGABYTE Z890 Aorus Tachyon ICE.
    0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • หัวข้อข่าว: “จีนทุบสถิติโลก! โชว์โดรนเกือบ 16,000 ลำกลางฟ้า – ศิลปะดิจิทัลที่แทนพลุได้อย่างน่าทึ่ง”

    จีนจัดแสดงโชว์โดรนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เมืองหลิ่วหยาง ด้วยจำนวนโดรนถึง 15,947 ลำ พร้อมคว้าสองสถิติกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด และเปลี่ยนภาพจำของการเฉลิมฉลองจากพลุสู่แสงดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ.

    เมืองหลิ่วหยาง ซึ่งมีชื่อเสียงว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งพลุ” ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการจัดโชว์โดรนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยใช้โดรนเกือบ 16,000 ลำบินพร้อมกันในรูปแบบแสงสีที่ออกแบบด้วยซอฟต์แวร์แทนการจุดพลุแบบดั้งเดิม

    โชว์นี้มีชื่อว่า “A Firework Belonging to Me” ซึ่งเน้นการใช้เทคโนโลยี RTK (Real-Time Kinematic) และระบบ mesh networking เพื่อควบคุมโดรนให้บินตามเส้นทางที่แม่นยำแบบเรียลไทม์ สร้างภาพต่างๆ เช่น “Sky Tree” ดอกไม้ และหอคอยลอยฟ้า

    นอกจากความงดงามแล้ว โชว์นี้ยังคว้าสองสถิติโลก ได้แก่:
    จำนวนโดรนที่ควบคุมจากคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวมากที่สุด
    จำนวนโดรนที่ปล่อยพลุพร้อมกันมากที่สุด (7,496 ลำ)

    แม้จะเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ แต่โชว์ลักษณะนี้ก็มีความเสี่ยง เช่น การสื่อสารผิดพลาดหรือสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งเคยเกิดเหตุโดรนตกใส่ผู้ชมในโชว์ก่อนหน้านี้

    สิ่งที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยีที่ใช้ในโชว์นี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านอื่น เช่น การทำแผนที่ การส่งสัญญาณ หรือแม้แต่การใช้งานทางทหาร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังของการควบคุมแบบรวมศูนย์ในระดับมหภาค

    จีนจัดโชว์โดรนใหญ่ที่สุดในโลกที่เมืองหลิ่วหยาง
    ใช้โดรน 15,947 ลำบินพร้อมกันในโชว์ “A Firework Belonging to Me”

    คว้าสองสถิติกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด
    จำนวนโดรนที่ควบคุมจากคอมพิวเตอร์เดียวมากที่สุด
    จำนวนโดรนที่ปล่อยพลุพร้อมกันมากที่สุด (7,496 ลำ)

    ใช้เทคโนโลยี RTK และ mesh networking เพื่อควบคุมแบบเรียลไทม์
    เพิ่มความแม่นยำในการบินและลดความผิดพลาด

    เปลี่ยนการเฉลิมฉลองจากพลุสู่แสงดิจิทัล
    ลดมลพิษทางอากาศและเสียงจากการจุดพลุ

    มีการออกแบบภาพลอยฟ้า เช่น Sky Tree และดอกไม้
    สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชมด้วยศิลปะดิจิทัล

    เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ในงานอื่นๆ ได้
    เช่น การทำแผนที่ การส่งสัญญาณ หรือการใช้งานทางทหาร

    https://www.techradar.com/pro/china-smashes-drone-display-world-record-nearly-16-000-drones-take-to-the-sky-in-incredible-display
    🇨🇳🚁 หัวข้อข่าว: “จีนทุบสถิติโลก! โชว์โดรนเกือบ 16,000 ลำกลางฟ้า – ศิลปะดิจิทัลที่แทนพลุได้อย่างน่าทึ่ง” จีนจัดแสดงโชว์โดรนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เมืองหลิ่วหยาง ด้วยจำนวนโดรนถึง 15,947 ลำ พร้อมคว้าสองสถิติกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด และเปลี่ยนภาพจำของการเฉลิมฉลองจากพลุสู่แสงดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ. เมืองหลิ่วหยาง ซึ่งมีชื่อเสียงว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งพลุ” ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการจัดโชว์โดรนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยใช้โดรนเกือบ 16,000 ลำบินพร้อมกันในรูปแบบแสงสีที่ออกแบบด้วยซอฟต์แวร์แทนการจุดพลุแบบดั้งเดิม โชว์นี้มีชื่อว่า “A Firework Belonging to Me” ซึ่งเน้นการใช้เทคโนโลยี RTK (Real-Time Kinematic) และระบบ mesh networking เพื่อควบคุมโดรนให้บินตามเส้นทางที่แม่นยำแบบเรียลไทม์ สร้างภาพต่างๆ เช่น “Sky Tree” ดอกไม้ และหอคอยลอยฟ้า นอกจากความงดงามแล้ว โชว์นี้ยังคว้าสองสถิติโลก ได้แก่: 🎗️ จำนวนโดรนที่ควบคุมจากคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวมากที่สุด 🎗️ จำนวนโดรนที่ปล่อยพลุพร้อมกันมากที่สุด (7,496 ลำ) แม้จะเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ แต่โชว์ลักษณะนี้ก็มีความเสี่ยง เช่น การสื่อสารผิดพลาดหรือสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งเคยเกิดเหตุโดรนตกใส่ผู้ชมในโชว์ก่อนหน้านี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยีที่ใช้ในโชว์นี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านอื่น เช่น การทำแผนที่ การส่งสัญญาณ หรือแม้แต่การใช้งานทางทหาร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังของการควบคุมแบบรวมศูนย์ในระดับมหภาค ✅ จีนจัดโชว์โดรนใหญ่ที่สุดในโลกที่เมืองหลิ่วหยาง ➡️ ใช้โดรน 15,947 ลำบินพร้อมกันในโชว์ “A Firework Belonging to Me” ✅ คว้าสองสถิติกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด ➡️ จำนวนโดรนที่ควบคุมจากคอมพิวเตอร์เดียวมากที่สุด ➡️ จำนวนโดรนที่ปล่อยพลุพร้อมกันมากที่สุด (7,496 ลำ) ✅ ใช้เทคโนโลยี RTK และ mesh networking เพื่อควบคุมแบบเรียลไทม์ ➡️ เพิ่มความแม่นยำในการบินและลดความผิดพลาด ✅ เปลี่ยนการเฉลิมฉลองจากพลุสู่แสงดิจิทัล ➡️ ลดมลพิษทางอากาศและเสียงจากการจุดพลุ ✅ มีการออกแบบภาพลอยฟ้า เช่น Sky Tree และดอกไม้ ➡️ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชมด้วยศิลปะดิจิทัล ✅ เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ในงานอื่นๆ ได้ ➡️ เช่น การทำแผนที่ การส่งสัญญาณ หรือการใช้งานทางทหาร https://www.techradar.com/pro/china-smashes-drone-display-world-record-nearly-16-000-drones-take-to-the-sky-in-incredible-display
    WWW.TECHRADAR.COM
    China lit the sky with 16,000 drones, fusing art, software, and precision
    16,000 drones followed a precise RTK-guided path for real-time accuracy.
    0 Comments 0 Shares 213 Views 0 Reviews
  • TrashBench ใช้น้ำยาหล่อเย็นรถยนต์ทำลายสถิติ Overclock บน Intel Arc B580 ด้วยอุณหภูมิ -17°C

    นักโอเวอร์คล็อกชื่อ TrashBench สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการใช้ปั๊มน้ำบ่อปลาและน้ำยาหล่อเย็นรถยนต์แช่แข็งแทนไนโตรเจนเหลว เพื่อดันประสิทธิภาพของ Intel Arc B580 จนทำลายสถิติระดับโลก!

    TrashBench ไม่ได้ใช้วิธีสุดล้ำอย่างไนโตรเจนเหลว แต่กลับเลือกวิธีบ้านๆ ที่ได้ผลเกินคาด — เขาใช้ปั๊มน้ำบ่อปลาและน้ำยาหล่อเย็นรถยนต์แบบ 50/50 glycol mix ที่แช่แข็งไว้ในตู้เย็นจนได้อุณหภูมิ -17°C แล้วนำไปหมุนเวียนผ่านชุดระบายความร้อนของการ์ดจอ Intel Arc B580

    ผลลัพธ์คือความเร็ว GPU พุ่งจาก 2,850 MHz (แบบเดิม) ไปถึง 3,316 MHz พร้อมคะแนน 3DMark Time Spy สูงถึง 16,631 ซึ่งมากกว่าค่ามาตรฐานถึง 12% และเฟรมเรตในเกมเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 16% แม้ว่าอุณหภูมิจะค่อยๆ สูงขึ้นระหว่างการทดสอบ

    เทคนิค Overclock แบบ DIY สุดแหวกแนว
    ใช้ปั๊มน้ำบ่อปลาและน้ำยาหล่อเย็นรถยนต์แทนไนโตรเจนเหลว
    น้ำยา glycol mix แช่แข็งจนได้อุณหภูมิ -17°C
    GPU Intel Arc B580 ทำความเร็วได้ถึง 3,316 MHz
    คะแนน 3DMark Time Spy สูงถึง 16,631 (เพิ่มขึ้น 12%)
    เฟรมเรตในเกมเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 16% เช่น Cyberpunk 2077, Forza Horizon 5, Monster Hunter Wilds
    ใช้ 3D printer สร้างขาเมาท์สำหรับบล็อกน้ำ
    น้ำยา antifreeze ยังคงสถานะของเหลวจนถึง -25°C

    สาระเพิ่มเติมจากวงการ Overclock
    การใช้ของเหลวแช่แข็งแบบบ้านๆ เริ่มได้รับความนิยมในกลุ่ม DIY
    การ์ดจอ Intel Arc B580 มีศักยภาพในการ Overclock สูง
    การระบายความร้อนแบบ sub-zero ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้จริง
    TrashBench เป็นหนึ่งในนักโอเวอร์คล็อกที่เน้นวิธีสร้างสรรค์มากกว่าการใช้เงินเยอะ

    ข้อควรระวังในการทำตาม
    การใช้ของเหลวแช่แข็งต้องระวังการควบแน่นและไฟฟ้าลัดวงจร
    ต้องมีฉนวนกันความชื้นที่ดีเพื่อป้องกันอุปกรณ์เสียหาย
    การใช้น้ำยารถยนต์อาจมีสารเคมีที่กัดกร่อนวัสดุบางชนิด
    ไม่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นหรือไม่มีประสบการณ์ด้านฮาร์ดแวร์

    TrashBench พิสูจน์ให้เห็นว่า “ความคิดสร้างสรรค์” สำคัญไม่แพ้ “งบประมาณ” ในโลกของการโอเวอร์คล็อก — และบางครั้งของที่มีอยู่ในโรงรถก็อาจพาคุณไปสู่สถิติโลกได้เลย

    https://www.tomshardware.com/pc-components/overclocking/gpu-overclocker-uses-car-coolant-and-pond-pump-to-cool-intel-arc-b580-achieves-17c-temperature-16-percent-performance-uplift-and-gpu-benchmark-record
    ❄️ TrashBench ใช้น้ำยาหล่อเย็นรถยนต์ทำลายสถิติ Overclock บน Intel Arc B580 ด้วยอุณหภูมิ -17°C นักโอเวอร์คล็อกชื่อ TrashBench สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการใช้ปั๊มน้ำบ่อปลาและน้ำยาหล่อเย็นรถยนต์แช่แข็งแทนไนโตรเจนเหลว เพื่อดันประสิทธิภาพของ Intel Arc B580 จนทำลายสถิติระดับโลก! TrashBench ไม่ได้ใช้วิธีสุดล้ำอย่างไนโตรเจนเหลว แต่กลับเลือกวิธีบ้านๆ ที่ได้ผลเกินคาด — เขาใช้ปั๊มน้ำบ่อปลาและน้ำยาหล่อเย็นรถยนต์แบบ 50/50 glycol mix ที่แช่แข็งไว้ในตู้เย็นจนได้อุณหภูมิ -17°C แล้วนำไปหมุนเวียนผ่านชุดระบายความร้อนของการ์ดจอ Intel Arc B580 ผลลัพธ์คือความเร็ว GPU พุ่งจาก 2,850 MHz (แบบเดิม) ไปถึง 3,316 MHz พร้อมคะแนน 3DMark Time Spy สูงถึง 16,631 ซึ่งมากกว่าค่ามาตรฐานถึง 12% และเฟรมเรตในเกมเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 16% แม้ว่าอุณหภูมิจะค่อยๆ สูงขึ้นระหว่างการทดสอบ ✅ เทคนิค Overclock แบบ DIY สุดแหวกแนว ➡️ ใช้ปั๊มน้ำบ่อปลาและน้ำยาหล่อเย็นรถยนต์แทนไนโตรเจนเหลว ➡️ น้ำยา glycol mix แช่แข็งจนได้อุณหภูมิ -17°C ➡️ GPU Intel Arc B580 ทำความเร็วได้ถึง 3,316 MHz ➡️ คะแนน 3DMark Time Spy สูงถึง 16,631 (เพิ่มขึ้น 12%) ➡️ เฟรมเรตในเกมเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 16% เช่น Cyberpunk 2077, Forza Horizon 5, Monster Hunter Wilds ➡️ ใช้ 3D printer สร้างขาเมาท์สำหรับบล็อกน้ำ ➡️ น้ำยา antifreeze ยังคงสถานะของเหลวจนถึง -25°C ✅ สาระเพิ่มเติมจากวงการ Overclock ➡️ การใช้ของเหลวแช่แข็งแบบบ้านๆ เริ่มได้รับความนิยมในกลุ่ม DIY ➡️ การ์ดจอ Intel Arc B580 มีศักยภาพในการ Overclock สูง ➡️ การระบายความร้อนแบบ sub-zero ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้จริง ➡️ TrashBench เป็นหนึ่งในนักโอเวอร์คล็อกที่เน้นวิธีสร้างสรรค์มากกว่าการใช้เงินเยอะ ‼️ ข้อควรระวังในการทำตาม ⛔ การใช้ของเหลวแช่แข็งต้องระวังการควบแน่นและไฟฟ้าลัดวงจร ⛔ ต้องมีฉนวนกันความชื้นที่ดีเพื่อป้องกันอุปกรณ์เสียหาย ⛔ การใช้น้ำยารถยนต์อาจมีสารเคมีที่กัดกร่อนวัสดุบางชนิด ⛔ ไม่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นหรือไม่มีประสบการณ์ด้านฮาร์ดแวร์ TrashBench พิสูจน์ให้เห็นว่า “ความคิดสร้างสรรค์” สำคัญไม่แพ้ “งบประมาณ” ในโลกของการโอเวอร์คล็อก — และบางครั้งของที่มีอยู่ในโรงรถก็อาจพาคุณไปสู่สถิติโลกได้เลย https://www.tomshardware.com/pc-components/overclocking/gpu-overclocker-uses-car-coolant-and-pond-pump-to-cool-intel-arc-b580-achieves-17c-temperature-16-percent-performance-uplift-and-gpu-benchmark-record
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • ♣ นายปริเยศ พิริยะมาสกุล ญาติสนิทนายกฯ อนุทิน เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็น ที่ปรึกษารมช.คลังเมื่อวานนี้เอง ยังไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็ต้องกระเด็นจากตำแหน่ง เพราะนายวรภัคชิงลาออก

    อาจกลายเป็นสถิติโลกเลยก็ได้ ที่ปรึกษารัฐมนตรีที่มีอายุการดำรงตำแหน่งสั้นที่สุดในโลก

    ญาตินายกฯคนนี้ใช้ นามสกุลเดียวกับญาติที่ถือหุ้นใหญ่ แรนโชชาญวีร์ รีสอร์ท เขาใหญ่ร่วมกับน้องสาวนายกฯอนุทิน
    #7ดอกจิก
    ♣ นายปริเยศ พิริยะมาสกุล ญาติสนิทนายกฯ อนุทิน เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็น ที่ปรึกษารมช.คลังเมื่อวานนี้เอง ยังไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็ต้องกระเด็นจากตำแหน่ง เพราะนายวรภัคชิงลาออก อาจกลายเป็นสถิติโลกเลยก็ได้ ที่ปรึกษารัฐมนตรีที่มีอายุการดำรงตำแหน่งสั้นที่สุดในโลก ญาตินายกฯคนนี้ใช้ นามสกุลเดียวกับญาติที่ถือหุ้นใหญ่ แรนโชชาญวีร์ รีสอร์ท เขาใหญ่ร่วมกับน้องสาวนายกฯอนุทิน #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 207 Views 0 Reviews
  • “TrashBench แปลง RTX 5050 เป็น ‘5050 Ti’ ด้วยมือ — ทำลายสถิติโลก 3DMark หลายรายการ แต่แลกมาด้วยการหมดประกัน”

    ในโลกของนักโมดิฟายฮาร์ดแวร์ มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ยอมรับข้อจำกัดจากโรงงาน ล่าสุด TrashBench ยูทูบเบอร์สายฮาร์ดคอร์ ได้โชว์การอัปเกรด GeForce RTX 5050 ให้กลายเป็น “RTX 5050 Ti” ด้วยวิธีที่ไม่ธรรมดา — ทั้งการเปลี่ยนฮีตซิงก์, ติดตั้งพัดลมใหม่, และแฟลช BIOS เพื่อปลดล็อกพลังที่ซ่อนอยู่

    เขาเริ่มจากการถอดฮีตซิงก์เดิมของ RTX 5050 แล้วนำของ RTX 5060 ที่ใหญ่กว่าอย่างชัดเจนมาใส่แทน โดยต้องเจาะและปรับแต่งให้พอดีกับ PCB เดิม จากนั้นติดตั้งพัดลม GAMDIAS เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน ก่อนจะใช้โปรแกรม NVFLASH แฟลช BIOS ใหม่ ซึ่งทำให้ GPU ทำงานได้แรงขึ้นถึง 3.3GHz — สูงกว่าค่ามาตรฐานเดิมถึง 500MHz

    ผลลัพธ์คือประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับ RTX 5050 เดิม และลดช่องว่างกับ RTX 5060 ที่เคยแรงกว่าถึง 33% เหลือเพียงราว 17% เท่านั้น ที่สำคัญ TrashBench ยังทำลายสถิติโลกในหลายการทดสอบ เช่น Time Spy (11,715 คะแนน), Steel Nomad (2,703 คะแนน), และ Port Royal (7,001 คะแนน — เป็นคนแรกที่ทะลุ 7,000)

    แม้จะดูน่าทึ่ง แต่การโมดิฟายเช่นนี้ย่อมมีข้อแลกเปลี่ยน — การหมดประกัน, ความเสี่ยงด้านความร้อน, และความไม่แน่นอนของระบบในระยะยาว ซึ่ง TrashBench ก็ยอมรับว่า “ไม่ใช่ทุกคนควรทำแบบนี้” และแนะนำให้คนทั่วไปเพิ่มงบอีก $50 เพื่อซื้อ RTX 5060 ไปเลยจะคุ้มกว่า

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    TrashBench โมดิฟาย RTX 5050 ด้วยฮีตซิงก์ของ RTX 5060 และพัดลม GAMDIAS
    ใช้โปรแกรม NVFLASH แฟลช BIOS เพื่อปลดล็อกประสิทธิภาพ
    GPU ทำงานได้ที่ 3.3GHz สูงกว่าค่ามาตรฐานเดิม 500MHz
    ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับ RTX 5050 เดิม
    ลดช่องว่างกับ RTX 5060 จาก 33% เหลือประมาณ 17%
    ทำลายสถิติโลกใน 3DMark หลายรายการ เช่น Time Spy, Steel Nomad, Port Royal
    TrashBench เป็นยูทูบเบอร์สายฮาร์ดแวร์ที่มีชื่อเสียงด้านการโอเวอร์คล็อก
    แนะนำให้คนทั่วไปซื้อ RTX 5060 โดยไม่ต้องโมดิฟาย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    NVFLASH เป็นเครื่องมือแฟลช BIOS สำหรับการ์ดจอ NVIDIA โดยเฉพาะ
    การเปลี่ยนฮีตซิงก์ช่วยให้ GPU ทำงานที่ความถี่สูงขึ้นโดยไม่ร้อนเกินไป
    Port Royal เป็นการทดสอบ ray tracing ที่ใช้วัดประสิทธิภาพการ์ดจอรุ่นใหม่
    Steel Nomad เป็น benchmark ใหม่ที่เน้นการทดสอบการเรนเดอร์แบบหนัก
    การ์ดจอที่โอเวอร์คล็อกได้ดีมักต้องมีระบบระบายความร้อนที่เหนือกว่ามาตรฐาน

    https://wccftech.com/user-upgrades-geforce-rtx-5050-to-rtx-5050-ti-breaks-multiple-world-records/
    ⚙️ “TrashBench แปลง RTX 5050 เป็น ‘5050 Ti’ ด้วยมือ — ทำลายสถิติโลก 3DMark หลายรายการ แต่แลกมาด้วยการหมดประกัน” ในโลกของนักโมดิฟายฮาร์ดแวร์ มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ยอมรับข้อจำกัดจากโรงงาน ล่าสุด TrashBench ยูทูบเบอร์สายฮาร์ดคอร์ ได้โชว์การอัปเกรด GeForce RTX 5050 ให้กลายเป็น “RTX 5050 Ti” ด้วยวิธีที่ไม่ธรรมดา — ทั้งการเปลี่ยนฮีตซิงก์, ติดตั้งพัดลมใหม่, และแฟลช BIOS เพื่อปลดล็อกพลังที่ซ่อนอยู่ เขาเริ่มจากการถอดฮีตซิงก์เดิมของ RTX 5050 แล้วนำของ RTX 5060 ที่ใหญ่กว่าอย่างชัดเจนมาใส่แทน โดยต้องเจาะและปรับแต่งให้พอดีกับ PCB เดิม จากนั้นติดตั้งพัดลม GAMDIAS เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน ก่อนจะใช้โปรแกรม NVFLASH แฟลช BIOS ใหม่ ซึ่งทำให้ GPU ทำงานได้แรงขึ้นถึง 3.3GHz — สูงกว่าค่ามาตรฐานเดิมถึง 500MHz ผลลัพธ์คือประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับ RTX 5050 เดิม และลดช่องว่างกับ RTX 5060 ที่เคยแรงกว่าถึง 33% เหลือเพียงราว 17% เท่านั้น ที่สำคัญ TrashBench ยังทำลายสถิติโลกในหลายการทดสอบ เช่น Time Spy (11,715 คะแนน), Steel Nomad (2,703 คะแนน), และ Port Royal (7,001 คะแนน — เป็นคนแรกที่ทะลุ 7,000) แม้จะดูน่าทึ่ง แต่การโมดิฟายเช่นนี้ย่อมมีข้อแลกเปลี่ยน — การหมดประกัน, ความเสี่ยงด้านความร้อน, และความไม่แน่นอนของระบบในระยะยาว ซึ่ง TrashBench ก็ยอมรับว่า “ไม่ใช่ทุกคนควรทำแบบนี้” และแนะนำให้คนทั่วไปเพิ่มงบอีก $50 เพื่อซื้อ RTX 5060 ไปเลยจะคุ้มกว่า ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ TrashBench โมดิฟาย RTX 5050 ด้วยฮีตซิงก์ของ RTX 5060 และพัดลม GAMDIAS ➡️ ใช้โปรแกรม NVFLASH แฟลช BIOS เพื่อปลดล็อกประสิทธิภาพ ➡️ GPU ทำงานได้ที่ 3.3GHz สูงกว่าค่ามาตรฐานเดิม 500MHz ➡️ ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับ RTX 5050 เดิม ➡️ ลดช่องว่างกับ RTX 5060 จาก 33% เหลือประมาณ 17% ➡️ ทำลายสถิติโลกใน 3DMark หลายรายการ เช่น Time Spy, Steel Nomad, Port Royal ➡️ TrashBench เป็นยูทูบเบอร์สายฮาร์ดแวร์ที่มีชื่อเสียงด้านการโอเวอร์คล็อก ➡️ แนะนำให้คนทั่วไปซื้อ RTX 5060 โดยไม่ต้องโมดิฟาย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ NVFLASH เป็นเครื่องมือแฟลช BIOS สำหรับการ์ดจอ NVIDIA โดยเฉพาะ ➡️ การเปลี่ยนฮีตซิงก์ช่วยให้ GPU ทำงานที่ความถี่สูงขึ้นโดยไม่ร้อนเกินไป ➡️ Port Royal เป็นการทดสอบ ray tracing ที่ใช้วัดประสิทธิภาพการ์ดจอรุ่นใหม่ ➡️ Steel Nomad เป็น benchmark ใหม่ที่เน้นการทดสอบการเรนเดอร์แบบหนัก ➡️ การ์ดจอที่โอเวอร์คล็อกได้ดีมักต้องมีระบบระบายความร้อนที่เหนือกว่ามาตรฐาน https://wccftech.com/user-upgrades-geforce-rtx-5050-to-rtx-5050-ti-breaks-multiple-world-records/
    WCCFTECH.COM
    User Upgrades GeForce RTX 5050 To RTX 5050 "Ti"; Breaks Multiple World Records
    A user modded his GeForce RTX 5050 by replacing its cooler and flashing its BIOS, closing the gap between RTX 5050 and RTX 5060.
    0 Comments 0 Shares 312 Views 0 Reviews
  • “12 โมเด็ม 56K รวมพลังสตรีม YouTube ได้จริง — ย้อนยุค Dial-Up ด้วยเทคโนโลยี Multilink PPP”

    ในยุคที่อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกลายเป็นเรื่องธรรมดา กลุ่ม YouTuber จากช่อง The Serial Port ได้ทดลองสิ่งที่หลายคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้: สตรีม YouTube ด้วยโมเด็ม 56K แบบ Dial-Up โดยใช้เทคนิคการรวมสัญญาณที่เรียกว่า Multilink PPP (MPPP) เพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่เร็วพอสำหรับการดูวิดีโอในปี 2025

    พวกเขาเริ่มจากการใช้คอมพิวเตอร์ IBM รุ่นปี 2001 ที่รัน Windows ME และเชื่อมต่อโมเด็ม 2 ตัวเข้าด้วยกัน ซึ่งสามารถใช้งานได้จริง แต่เมื่อพยายามเพิ่มจำนวนโมเด็ม ระบบเริ่มมีปัญหาเรื่องไดรเวอร์และพอร์ต COM ที่ชนกัน จึงเปลี่ยนมาใช้ IBM ThinkCentre รุ่นปี 2004 ที่รัน Windows XP ซึ่งสามารถจัดการกับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้ดีกว่า

    หลังจากติดตั้งการ์ดขยายพอร์ตแบบใหม่และปรับแต่ง DIP switch ของโมเด็ม พวกเขาสามารถเชื่อมต่อโมเด็มได้ถึง 12 ตัวพร้อมกัน และสร้างการเชื่อมต่อที่มีความเร็วรวม 668.8 kbps ซึ่งถือว่าเร็วกว่า Dial-Up ปกติถึง 12 เท่า และสามารถสตรีม YouTube ที่ความละเอียด 240p ได้โดยไม่กระตุก

    แม้จะเป็นการทดลองที่ดูย้อนยุค แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเทคโนโลยี Multilink PPP ที่เคยถูกใช้ในยุคก่อน ADSL และ ISDN เพื่อเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์หลัก

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ทีมงานใช้โมเด็ม 56K จำนวน 12 ตัวรวมสัญญาณผ่าน Multilink PPP
    ใช้คอมพิวเตอร์ IBM ThinkCentre ปี 2004 ที่รัน Windows XP
    ความเร็วรวมที่ได้คือ 668.8 kbps ซึ่งสามารถสตรีม YouTube ได้จริง
    ใช้การ์ดขยายพอร์ต serial และปรับ DIP switch เพื่อให้โมเด็มทำงานพร้อมกัน
    Windows XP สามารถจัดการการเชื่อมต่อพร้อมกันได้ดีกว่า Windows ME
    Multilink PPP เป็นเทคโนโลยีที่รวมแบนด์วิดท์จากหลายโมเด็มให้เป็นช่องสัญญาณเดียว
    FCC เคยกำหนดว่าอินเทอร์เน็ต 200 kbps ถือว่าเป็น “บรอดแบนด์” ในปี 2000
    การทดลองนี้อาจเป็นสถิติโลก เพราะไม่พบการใช้โมเด็มมากกว่า 4 ตัวพร้อมกันในอดีต

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Multilink PPP เคยถูกใช้ในอุปกรณ์เชิงพาณิชย์ เช่น Diamond Shotgun PCI card
    โมเด็ม 56K ใช้เสียงในการเชื่อมต่อผ่านสายโทรศัพท์ ซึ่งมีเสียง “สตรีม” ที่เป็นเอกลักษณ์
    การรวมโมเด็มหลายตัวต้องใช้ ISP ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ digital modem
    ในยุคก่อน ADSL การดาวน์โหลด MP3 อาจใช้เวลานานถึง 20 นาที
    ปัจจุบัน FCC กำหนดว่าอินเทอร์เน็ตต้องมีความเร็ว 100 Mbps ขึ้นไปถึงจะเรียกว่า “บรอดแบนด์”

    https://www.tomshardware.com/networking/enthusiasts-bond-twelve-56k-dial-up-modems-together-to-set-dial-up-broadband-records-a-dozen-screeching-boxes-achieve-record-668-kbps-download-speeds
    📞 “12 โมเด็ม 56K รวมพลังสตรีม YouTube ได้จริง — ย้อนยุค Dial-Up ด้วยเทคโนโลยี Multilink PPP” ในยุคที่อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกลายเป็นเรื่องธรรมดา กลุ่ม YouTuber จากช่อง The Serial Port ได้ทดลองสิ่งที่หลายคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้: สตรีม YouTube ด้วยโมเด็ม 56K แบบ Dial-Up โดยใช้เทคนิคการรวมสัญญาณที่เรียกว่า Multilink PPP (MPPP) เพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่เร็วพอสำหรับการดูวิดีโอในปี 2025 พวกเขาเริ่มจากการใช้คอมพิวเตอร์ IBM รุ่นปี 2001 ที่รัน Windows ME และเชื่อมต่อโมเด็ม 2 ตัวเข้าด้วยกัน ซึ่งสามารถใช้งานได้จริง แต่เมื่อพยายามเพิ่มจำนวนโมเด็ม ระบบเริ่มมีปัญหาเรื่องไดรเวอร์และพอร์ต COM ที่ชนกัน จึงเปลี่ยนมาใช้ IBM ThinkCentre รุ่นปี 2004 ที่รัน Windows XP ซึ่งสามารถจัดการกับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้ดีกว่า หลังจากติดตั้งการ์ดขยายพอร์ตแบบใหม่และปรับแต่ง DIP switch ของโมเด็ม พวกเขาสามารถเชื่อมต่อโมเด็มได้ถึง 12 ตัวพร้อมกัน และสร้างการเชื่อมต่อที่มีความเร็วรวม 668.8 kbps ซึ่งถือว่าเร็วกว่า Dial-Up ปกติถึง 12 เท่า และสามารถสตรีม YouTube ที่ความละเอียด 240p ได้โดยไม่กระตุก แม้จะเป็นการทดลองที่ดูย้อนยุค แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเทคโนโลยี Multilink PPP ที่เคยถูกใช้ในยุคก่อน ADSL และ ISDN เพื่อเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์หลัก ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ทีมงานใช้โมเด็ม 56K จำนวน 12 ตัวรวมสัญญาณผ่าน Multilink PPP ➡️ ใช้คอมพิวเตอร์ IBM ThinkCentre ปี 2004 ที่รัน Windows XP ➡️ ความเร็วรวมที่ได้คือ 668.8 kbps ซึ่งสามารถสตรีม YouTube ได้จริง ➡️ ใช้การ์ดขยายพอร์ต serial และปรับ DIP switch เพื่อให้โมเด็มทำงานพร้อมกัน ➡️ Windows XP สามารถจัดการการเชื่อมต่อพร้อมกันได้ดีกว่า Windows ME ➡️ Multilink PPP เป็นเทคโนโลยีที่รวมแบนด์วิดท์จากหลายโมเด็มให้เป็นช่องสัญญาณเดียว ➡️ FCC เคยกำหนดว่าอินเทอร์เน็ต 200 kbps ถือว่าเป็น “บรอดแบนด์” ในปี 2000 ➡️ การทดลองนี้อาจเป็นสถิติโลก เพราะไม่พบการใช้โมเด็มมากกว่า 4 ตัวพร้อมกันในอดีต ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Multilink PPP เคยถูกใช้ในอุปกรณ์เชิงพาณิชย์ เช่น Diamond Shotgun PCI card ➡️ โมเด็ม 56K ใช้เสียงในการเชื่อมต่อผ่านสายโทรศัพท์ ซึ่งมีเสียง “สตรีม” ที่เป็นเอกลักษณ์ ➡️ การรวมโมเด็มหลายตัวต้องใช้ ISP ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ digital modem ➡️ ในยุคก่อน ADSL การดาวน์โหลด MP3 อาจใช้เวลานานถึง 20 นาที ➡️ ปัจจุบัน FCC กำหนดว่าอินเทอร์เน็ตต้องมีความเร็ว 100 Mbps ขึ้นไปถึงจะเรียกว่า “บรอดแบนด์” https://www.tomshardware.com/networking/enthusiasts-bond-twelve-56k-dial-up-modems-together-to-set-dial-up-broadband-records-a-dozen-screeching-boxes-achieve-record-668-kbps-download-speeds
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Enthusiasts bond twelve 56K modems together to set dial-up broadband records — a dozen screeching boxes achieve record 668 kbps download speeds
    Multilink PPP worked well on an era-appropriate Windows XP PC, after progress using an earlier Windows ME box stalled.
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • “แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ได้นานแค่ไหน? เทียบอายุการใช้งานกับรถน้ำมันแบบตรงไปตรงมา”

    ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กลายเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคทั่วโลก คำถามที่ยังค้างคาใจหลายคนคือ “แบตเตอรี่ของรถ EV จะอยู่ได้นานแค่ไหน?” และ “มันจะคุ้มค่ากว่ารถน้ำมันจริงหรือ?” ล่าสุดมีการศึกษาหลายฉบับที่ช่วยให้เราเห็นภาพชัดขึ้น

    งานวิจัยจาก Nature Energy วิเคราะห์ข้อมูลจากรถกว่า 29 ล้านคันในสหราชอาณาจักรช่วงปี 2005–2022 พบว่าแบตเตอรี่ของรถ EV มีแนวโน้มใช้งานได้นานขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉลี่ยแบตเตอรี่เสื่อมเพียง 1.8% ต่อปี เทียบกับ 2.3% ในปี 2019 ขณะที่ผู้ผลิตอย่าง Tesla ระบุว่าแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้นานถึง 10–20 ปี และ Nissan ก็ยืนยันว่าแบตเตอรี่เกือบทั้งหมดที่ผลิตยังคงใช้งานอยู่

    แม้รถน้ำมันจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยที่ 200,000 ไมล์ แต่ก็มีกรณีสุดโต่ง เช่น Toyota Tacoma ที่วิ่งได้ถึง 2 ล้านไมล์ โดยเจ้าของขับส่งยาให้โรงพยาบาลวันละ 100,000 ไมล์ต่อปี ส่วนฝั่ง EV ก็มี Tesla Model S ที่วิ่งไปแล้วกว่า 155,000 ไมล์ โดยเจ้าของในเยอรมนีตั้งเป้าทำลายสถิติโลกที่ 3.26 ล้านไมล์

    อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักของ EV คือ “ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่” ที่ยังสูงอยู่ โดยเฉพาะ Tesla ที่อาจต้องจ่ายถึง $10,000–$20,000 ต่อครั้ง และเจ้าของรถที่วิ่งไกลมากอาจต้องเปลี่ยนแบตหลายครั้งในช่วงอายุรถ ขณะที่เครื่องยนต์ของรถน้ำมันมีค่าซ่อมเฉลี่ยอยู่ที่ $2,000–$10,000 เท่านั้น

    ข่าวดีคือราคาของแบตเตอรี่ EV ลดลงอย่างต่อเนื่อง จาก $400/kWh ในปี 2012 เหลือเพียง $111/kWh ในปี 2024 และมีแนวโน้มลดลงอีกในอนาคต ซึ่งอาจทำให้ EV กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าทั้งในด้านค่าใช้จ่ายและการดูแลรักษา

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    แบตเตอรี่รถ EV เสื่อมเฉลี่ยเพียง 1.8% ต่อปี ลดลงจาก 2.3% ในปี 2019
    Tesla ระบุว่าแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้นาน 10–20 ปี
    Nissan ยืนยันว่าแบตเตอรี่เกือบทั้งหมดที่ผลิตยังคงใช้งานอยู่
    รถน้ำมันมีอายุเฉลี่ย 200,000 ไมล์ แต่บางคันวิ่งได้ถึง 2 ล้านไมล์
    Tesla Model S คันหนึ่งวิ่งไปแล้วกว่า 155,000 ไมล์ และตั้งเป้าทำลายสถิติโลก
    ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ Tesla อยู่ที่ $10,000–$20,000 ต่อครั้ง
    ค่าเปลี่ยนเครื่องยนต์รถน้ำมันอยู่ที่ $2,000–$10,000
    ราคาของแบตเตอรี่ EV ลดลงจาก $400/kWh เหลือ $111/kWh ในปี 2024
    คาดว่าในปี 2030 ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่จะลดลงเหลือ $3,375–$5,000

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    รถ EV มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหวน้อยกว่ารถน้ำมัน ทำให้ค่าบำรุงรักษาน้อยกว่า
    EV ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือดูแลระบบไอเสีย
    แบตเตอรี่ LFP (Lithium Iron Phosphate) มีราคาถูกลงถึง $56/kWh ในบางรุ่น
    การชาร์จที่บ้านมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการเติมน้ำมันอย่างมาก
    EV ได้รับเครดิตภาษีสูงสุดถึง $7,500 ในสหรัฐฯ ทำให้ราคาซื้อจริงลดลง

    https://www.slashgear.com/1977447/electric-vehicle-vs-gas-car-battery-lifespan/
    🔋 “แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ได้นานแค่ไหน? เทียบอายุการใช้งานกับรถน้ำมันแบบตรงไปตรงมา” ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กลายเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคทั่วโลก คำถามที่ยังค้างคาใจหลายคนคือ “แบตเตอรี่ของรถ EV จะอยู่ได้นานแค่ไหน?” และ “มันจะคุ้มค่ากว่ารถน้ำมันจริงหรือ?” ล่าสุดมีการศึกษาหลายฉบับที่ช่วยให้เราเห็นภาพชัดขึ้น งานวิจัยจาก Nature Energy วิเคราะห์ข้อมูลจากรถกว่า 29 ล้านคันในสหราชอาณาจักรช่วงปี 2005–2022 พบว่าแบตเตอรี่ของรถ EV มีแนวโน้มใช้งานได้นานขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉลี่ยแบตเตอรี่เสื่อมเพียง 1.8% ต่อปี เทียบกับ 2.3% ในปี 2019 ขณะที่ผู้ผลิตอย่าง Tesla ระบุว่าแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้นานถึง 10–20 ปี และ Nissan ก็ยืนยันว่าแบตเตอรี่เกือบทั้งหมดที่ผลิตยังคงใช้งานอยู่ แม้รถน้ำมันจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยที่ 200,000 ไมล์ แต่ก็มีกรณีสุดโต่ง เช่น Toyota Tacoma ที่วิ่งได้ถึง 2 ล้านไมล์ โดยเจ้าของขับส่งยาให้โรงพยาบาลวันละ 100,000 ไมล์ต่อปี ส่วนฝั่ง EV ก็มี Tesla Model S ที่วิ่งไปแล้วกว่า 155,000 ไมล์ โดยเจ้าของในเยอรมนีตั้งเป้าทำลายสถิติโลกที่ 3.26 ล้านไมล์ อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักของ EV คือ “ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่” ที่ยังสูงอยู่ โดยเฉพาะ Tesla ที่อาจต้องจ่ายถึง $10,000–$20,000 ต่อครั้ง และเจ้าของรถที่วิ่งไกลมากอาจต้องเปลี่ยนแบตหลายครั้งในช่วงอายุรถ ขณะที่เครื่องยนต์ของรถน้ำมันมีค่าซ่อมเฉลี่ยอยู่ที่ $2,000–$10,000 เท่านั้น ข่าวดีคือราคาของแบตเตอรี่ EV ลดลงอย่างต่อเนื่อง จาก $400/kWh ในปี 2012 เหลือเพียง $111/kWh ในปี 2024 และมีแนวโน้มลดลงอีกในอนาคต ซึ่งอาจทำให้ EV กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าทั้งในด้านค่าใช้จ่ายและการดูแลรักษา ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ แบตเตอรี่รถ EV เสื่อมเฉลี่ยเพียง 1.8% ต่อปี ลดลงจาก 2.3% ในปี 2019 ➡️ Tesla ระบุว่าแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้นาน 10–20 ปี ➡️ Nissan ยืนยันว่าแบตเตอรี่เกือบทั้งหมดที่ผลิตยังคงใช้งานอยู่ ➡️ รถน้ำมันมีอายุเฉลี่ย 200,000 ไมล์ แต่บางคันวิ่งได้ถึง 2 ล้านไมล์ ➡️ Tesla Model S คันหนึ่งวิ่งไปแล้วกว่า 155,000 ไมล์ และตั้งเป้าทำลายสถิติโลก ➡️ ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ Tesla อยู่ที่ $10,000–$20,000 ต่อครั้ง ➡️ ค่าเปลี่ยนเครื่องยนต์รถน้ำมันอยู่ที่ $2,000–$10,000 ➡️ ราคาของแบตเตอรี่ EV ลดลงจาก $400/kWh เหลือ $111/kWh ในปี 2024 ➡️ คาดว่าในปี 2030 ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่จะลดลงเหลือ $3,375–$5,000 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ รถ EV มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหวน้อยกว่ารถน้ำมัน ทำให้ค่าบำรุงรักษาน้อยกว่า ➡️ EV ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือดูแลระบบไอเสีย ➡️ แบตเตอรี่ LFP (Lithium Iron Phosphate) มีราคาถูกลงถึง $56/kWh ในบางรุ่น ➡️ การชาร์จที่บ้านมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการเติมน้ำมันอย่างมาก ➡️ EV ได้รับเครดิตภาษีสูงสุดถึง $7,500 ในสหรัฐฯ ทำให้ราคาซื้อจริงลดลง https://www.slashgear.com/1977447/electric-vehicle-vs-gas-car-battery-lifespan/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    How Long Do Electric Vehicle Batteries Last Vs. Gas Cars? - SlashGear
    One common question that EV skeptics may have is how long do the batteries last when compared to a gas car. Scientific studies show that they last quite a bit.
    0 Comments 0 Shares 315 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก Ironwood: เมื่อ Google สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ “ฉลาดและยืดหยุ่น” ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

    ในงาน Hot Chips 2025 Google ได้เปิดเผยรายละเอียดของ Ironwood TPU ซึ่งเป็นชิปรุ่นที่ 7 ของตระกูล Tensor Processing Unit โดยออกแบบมาเพื่อรองรับงาน inference ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ไม่ใช่การเทรนโมเดลเหมือนรุ่นก่อน ๆ

    แต่ละชิป Ironwood มีสถาปัตยกรรมแบบ dual-die ให้กำลังประมวลผล FP8 สูงถึง 4,614 TFLOPs และมาพร้อมกับหน่วยความจำ HBM3e ขนาด 192GB ต่อชิป โดยมีแบนด์วิดธ์สูงถึง 7.3TB/s

    ระบบสามารถขยายได้ถึง 9,216 ชิปต่อหนึ่ง pod โดยไม่ต้องใช้ glue logic และมี I/O bandwidth รวมถึง 1.2TBps ทำให้สามารถสร้างระบบที่มี shared memory ขนาด 1.77PB ได้—ซึ่งถือเป็นสถิติโลกใหม่สำหรับระบบ multi-CPU ที่ใช้ shared memory

    การเชื่อมต่อระหว่างแร็คใช้ optical circuit switch ที่สามารถ reconfigure ได้เมื่อมี node เสีย พร้อมระบบ checkpoint recovery และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เช่น root of trust, built-in self test, และการตรวจจับ silent data corruption

    Ironwood ยังใช้ AI ในการออกแบบตัวเอง เช่น การ optimize ALU circuits และ floorplan พร้อมเพิ่ม SparseCore รุ่นที่ 4 เพื่อเร่งงาน embedding และ collective operations เช่น recommendation engine

    ระบบระบายความร้อนใช้ cold plate รุ่นที่ 3 ของ Google ซึ่งเป็น liquid cooling แบบเต็มรูปแบบ และมีการปรับแรงดันไฟฟ้าและความถี่แบบ dynamic เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ให้ดีกว่ารุ่น Trillium ถึง 2 เท่า

    สเปกหลักของ Ironwood TPU
    Dual-die architecture ให้ 4,614 TFLOPs FP8 ต่อชิป
    หน่วยความจำ HBM3e ขนาด 192GB ต่อชิป พร้อมแบนด์วิดธ์ 7.3TB/s
    รองรับการขยายถึง 9,216 ชิปต่อ pod ด้วย I/O bandwidth 1.2TBps

    สถิติโลกด้าน shared memory
    ระบบมี shared memory ขนาด 1.77PB แบบ addressable โดยตรง
    ใช้ optical circuit switch เชื่อมต่อแร็คแบบ dynamic
    รองรับ workload recovery และ node reconfiguration

    ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและเสถียรภาพ
    มี root of trust, built-in self test, และ logic repair
    ตรวจจับและป้องกัน silent data corruption
    ออกแบบเพื่อ RAS: reliability, availability, serviceability

    การออกแบบด้วย AI และการใช้งาน
    ใช้ AI ในการ optimize ALU และ floorplan
    เพิ่ม SparseCore รุ่นที่ 4 สำหรับ embedding และ collective ops
    รองรับงาน inference เช่น LLM, recommendation, simulation

    ระบบระบายความร้อนและประสิทธิภาพ
    ใช้ cold plate liquid cooling รุ่นที่ 3 ของ Google
    ปรับแรงดันและความถี่แบบ dynamic เพื่อเพิ่ม efficiency
    ประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีกว่ารุ่น Trillium ถึง 2 เท่า

    https://www.techradar.com/pro/googles-most-powerful-supercomputer-ever-has-a-combined-memory-of-1-77pb-apparently-a-new-world-record-for-shared-memory-multi-cpu-setups
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Ironwood: เมื่อ Google สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ “ฉลาดและยืดหยุ่น” ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในงาน Hot Chips 2025 Google ได้เปิดเผยรายละเอียดของ Ironwood TPU ซึ่งเป็นชิปรุ่นที่ 7 ของตระกูล Tensor Processing Unit โดยออกแบบมาเพื่อรองรับงาน inference ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ไม่ใช่การเทรนโมเดลเหมือนรุ่นก่อน ๆ แต่ละชิป Ironwood มีสถาปัตยกรรมแบบ dual-die ให้กำลังประมวลผล FP8 สูงถึง 4,614 TFLOPs และมาพร้อมกับหน่วยความจำ HBM3e ขนาด 192GB ต่อชิป โดยมีแบนด์วิดธ์สูงถึง 7.3TB/s ระบบสามารถขยายได้ถึง 9,216 ชิปต่อหนึ่ง pod โดยไม่ต้องใช้ glue logic และมี I/O bandwidth รวมถึง 1.2TBps ทำให้สามารถสร้างระบบที่มี shared memory ขนาด 1.77PB ได้—ซึ่งถือเป็นสถิติโลกใหม่สำหรับระบบ multi-CPU ที่ใช้ shared memory การเชื่อมต่อระหว่างแร็คใช้ optical circuit switch ที่สามารถ reconfigure ได้เมื่อมี node เสีย พร้อมระบบ checkpoint recovery และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เช่น root of trust, built-in self test, และการตรวจจับ silent data corruption Ironwood ยังใช้ AI ในการออกแบบตัวเอง เช่น การ optimize ALU circuits และ floorplan พร้อมเพิ่ม SparseCore รุ่นที่ 4 เพื่อเร่งงาน embedding และ collective operations เช่น recommendation engine ระบบระบายความร้อนใช้ cold plate รุ่นที่ 3 ของ Google ซึ่งเป็น liquid cooling แบบเต็มรูปแบบ และมีการปรับแรงดันไฟฟ้าและความถี่แบบ dynamic เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ให้ดีกว่ารุ่น Trillium ถึง 2 เท่า ✅ สเปกหลักของ Ironwood TPU ➡️ Dual-die architecture ให้ 4,614 TFLOPs FP8 ต่อชิป ➡️ หน่วยความจำ HBM3e ขนาด 192GB ต่อชิป พร้อมแบนด์วิดธ์ 7.3TB/s ➡️ รองรับการขยายถึง 9,216 ชิปต่อ pod ด้วย I/O bandwidth 1.2TBps ✅ สถิติโลกด้าน shared memory ➡️ ระบบมี shared memory ขนาด 1.77PB แบบ addressable โดยตรง ➡️ ใช้ optical circuit switch เชื่อมต่อแร็คแบบ dynamic ➡️ รองรับ workload recovery และ node reconfiguration ✅ ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและเสถียรภาพ ➡️ มี root of trust, built-in self test, และ logic repair ➡️ ตรวจจับและป้องกัน silent data corruption ➡️ ออกแบบเพื่อ RAS: reliability, availability, serviceability ✅ การออกแบบด้วย AI และการใช้งาน ➡️ ใช้ AI ในการ optimize ALU และ floorplan ➡️ เพิ่ม SparseCore รุ่นที่ 4 สำหรับ embedding และ collective ops ➡️ รองรับงาน inference เช่น LLM, recommendation, simulation ✅ ระบบระบายความร้อนและประสิทธิภาพ ➡️ ใช้ cold plate liquid cooling รุ่นที่ 3 ของ Google ➡️ ปรับแรงดันและความถี่แบบ dynamic เพื่อเพิ่ม efficiency ➡️ ประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีกว่ารุ่น Trillium ถึง 2 เท่า https://www.techradar.com/pro/googles-most-powerful-supercomputer-ever-has-a-combined-memory-of-1-77pb-apparently-a-new-world-record-for-shared-memory-multi-cpu-setups
    0 Comments 0 Shares 381 Views 0 Reviews
  • จากอัมพาตสู่การควบคุมดิจิทัลด้วย “ความคิด”

    ย้อนกลับไปในปี 2016 Noland Arbaugh ประสบอุบัติเหตุจากการดำน้ำ ทำให้เขาเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงไหล่ลงไป และใช้ชีวิตบนรถเข็นมานานหลายปี จนกระทั่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 เขากลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ได้รับการฝังชิปสมองจาก Neuralink บริษัทของ Elon Musk

    การผ่าตัดใช้เวลาน้อยกว่าสองชั่วโมง โดยหุ่นยนต์ของ Neuralink ฝังชิปขนาดเท่าเหรียญเข้าไปในสมอง พร้อมเชื่อมเส้นใยขนาดเล็กกว่าเส้นผมกว่า 1,000 เส้นเข้ากับเซลล์ประสาทในสมองส่วนควบคุมการเคลื่อนไหว

    ผลลัพธ์คือ Arbaugh สามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยความคิด เช่น เล่น Mario Kart, เปิด–ปิดเครื่องฟอกอากาศ, ควบคุมทีวี และพิมพ์ข้อความโดยไม่ต้องขยับร่างกายเลยแม้แต่นิ้วเดียว

    เขาใช้ระบบนี้วันละประมาณ 10 ชั่วโมง และบอกว่า “ง่ายมาก” ในการเรียนรู้วิธีใช้งาน วันแรกที่ลองใช้ เขาสามารถทำลายสถิติโลกปี 2017 ด้านความเร็วและความแม่นยำในการควบคุมเคอร์เซอร์ด้วย BCI

    แม้จะมีปัญหาในช่วงแรก เช่น เส้นใยบางส่วนหลุดออกจากเนื้อสมอง ทำให้ประสิทธิภาพลดลง แต่ทีม Neuralink ก็สามารถปรับแต่งระบบให้กลับมาใช้งานได้เกือบเต็มรูปแบบ

    ปัจจุบัน Arbaugh กลับไปเรียนที่วิทยาลัยในรัฐแอริโซนา และเริ่มวางแผนเปิดธุรกิจของตัวเอง พร้อมรับงานพูดในที่สาธารณะ เขาบอกว่า “ผมรู้สึกว่าตัวเองมีศักยภาพอีกครั้ง” และเชื่อว่าการทดลองนี้จะช่วยคนอื่นได้ในอนาคต แม้จะมีความเสี่ยงก็ตาม

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Noland Arbaugh เป็นมนุษย์คนแรกที่ได้รับการฝังชิปสมองจาก Neuralink ในปี 2024
    การผ่าตัดใช้หุ่นยนต์ฝังชิปและเชื่อมเส้นใยกว่า 1,000 เส้นเข้ากับเซลล์ประสาท
    ชิปสามารถแปลสัญญาณสมองเป็นคำสั่งดิจิทัลเพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ
    Arbaugh สามารถเล่นเกม, พิมพ์ข้อความ, และควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยความคิด
    ใช้งานระบบวันละประมาณ 10 ชั่วโมง และเรียนรู้ได้ง่าย
    วันแรกที่ใช้งาน Arbaugh ทำลายสถิติโลกด้านการควบคุมเคอร์เซอร์ด้วย BCI
    ปัจจุบันเขากลับไปเรียนและเริ่มวางแผนเปิดธุรกิจของตัวเอง
    เขาเชื่อว่าการทดลองนี้จะช่วยคนอื่นได้ แม้จะมีความเสี่ยง
    Neuralink ใช้ระบบชาร์จแบบไร้สายผ่านหมวกที่ฝังขดลวดไว้
    ระบบได้รับการปรับปรุงให้สามารถใช้งานขณะชาร์จได้แล้ว

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    BCI (Brain-Computer Interface) เป็นเทคโนโลยีที่มีการศึกษามานานกว่า 50 ปี
    บริษัทอื่น เช่น Synchron และ Blackrock Neurotech ก็มีการทดลองฝังชิปสมองเช่นกัน
    Neuralink ใช้การฝังใน motor cortex ซึ่งเป็นบริเวณควบคุมการเคลื่อนไหวโดยตรง
    ชิปของ Neuralink เป็นแบบไร้สาย ต่างจากบางบริษัทที่ยังใช้สายเชื่อมต่อผ่านกะโหลก
    การฝังชิปสมองอาจเป็นก้าวสำคัญในการฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพาตและโรคทางระบบประสาท

    https://fortune.com/2025/08/23/neuralink-participant-1-noland-arbaugh-18-months-post-surgery-life-changed-elon-musk/
    🧠 จากอัมพาตสู่การควบคุมดิจิทัลด้วย “ความคิด” ย้อนกลับไปในปี 2016 Noland Arbaugh ประสบอุบัติเหตุจากการดำน้ำ ทำให้เขาเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงไหล่ลงไป และใช้ชีวิตบนรถเข็นมานานหลายปี จนกระทั่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 เขากลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ได้รับการฝังชิปสมองจาก Neuralink บริษัทของ Elon Musk การผ่าตัดใช้เวลาน้อยกว่าสองชั่วโมง โดยหุ่นยนต์ของ Neuralink ฝังชิปขนาดเท่าเหรียญเข้าไปในสมอง พร้อมเชื่อมเส้นใยขนาดเล็กกว่าเส้นผมกว่า 1,000 เส้นเข้ากับเซลล์ประสาทในสมองส่วนควบคุมการเคลื่อนไหว ผลลัพธ์คือ Arbaugh สามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยความคิด เช่น เล่น Mario Kart, เปิด–ปิดเครื่องฟอกอากาศ, ควบคุมทีวี และพิมพ์ข้อความโดยไม่ต้องขยับร่างกายเลยแม้แต่นิ้วเดียว เขาใช้ระบบนี้วันละประมาณ 10 ชั่วโมง และบอกว่า “ง่ายมาก” ในการเรียนรู้วิธีใช้งาน วันแรกที่ลองใช้ เขาสามารถทำลายสถิติโลกปี 2017 ด้านความเร็วและความแม่นยำในการควบคุมเคอร์เซอร์ด้วย BCI แม้จะมีปัญหาในช่วงแรก เช่น เส้นใยบางส่วนหลุดออกจากเนื้อสมอง ทำให้ประสิทธิภาพลดลง แต่ทีม Neuralink ก็สามารถปรับแต่งระบบให้กลับมาใช้งานได้เกือบเต็มรูปแบบ ปัจจุบัน Arbaugh กลับไปเรียนที่วิทยาลัยในรัฐแอริโซนา และเริ่มวางแผนเปิดธุรกิจของตัวเอง พร้อมรับงานพูดในที่สาธารณะ เขาบอกว่า “ผมรู้สึกว่าตัวเองมีศักยภาพอีกครั้ง” และเชื่อว่าการทดลองนี้จะช่วยคนอื่นได้ในอนาคต แม้จะมีความเสี่ยงก็ตาม 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Noland Arbaugh เป็นมนุษย์คนแรกที่ได้รับการฝังชิปสมองจาก Neuralink ในปี 2024 ➡️ การผ่าตัดใช้หุ่นยนต์ฝังชิปและเชื่อมเส้นใยกว่า 1,000 เส้นเข้ากับเซลล์ประสาท ➡️ ชิปสามารถแปลสัญญาณสมองเป็นคำสั่งดิจิทัลเพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ➡️ Arbaugh สามารถเล่นเกม, พิมพ์ข้อความ, และควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยความคิด ➡️ ใช้งานระบบวันละประมาณ 10 ชั่วโมง และเรียนรู้ได้ง่าย ➡️ วันแรกที่ใช้งาน Arbaugh ทำลายสถิติโลกด้านการควบคุมเคอร์เซอร์ด้วย BCI ➡️ ปัจจุบันเขากลับไปเรียนและเริ่มวางแผนเปิดธุรกิจของตัวเอง ➡️ เขาเชื่อว่าการทดลองนี้จะช่วยคนอื่นได้ แม้จะมีความเสี่ยง ➡️ Neuralink ใช้ระบบชาร์จแบบไร้สายผ่านหมวกที่ฝังขดลวดไว้ ➡️ ระบบได้รับการปรับปรุงให้สามารถใช้งานขณะชาร์จได้แล้ว ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ BCI (Brain-Computer Interface) เป็นเทคโนโลยีที่มีการศึกษามานานกว่า 50 ปี ➡️ บริษัทอื่น เช่น Synchron และ Blackrock Neurotech ก็มีการทดลองฝังชิปสมองเช่นกัน ➡️ Neuralink ใช้การฝังใน motor cortex ซึ่งเป็นบริเวณควบคุมการเคลื่อนไหวโดยตรง ➡️ ชิปของ Neuralink เป็นแบบไร้สาย ต่างจากบางบริษัทที่ยังใช้สายเชื่อมต่อผ่านกะโหลก ➡️ การฝังชิปสมองอาจเป็นก้าวสำคัญในการฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพาตและโรคทางระบบประสาท https://fortune.com/2025/08/23/neuralink-participant-1-noland-arbaugh-18-months-post-surgery-life-changed-elon-musk/
    FORTUNE.COM
    Neuralink’s first study participant says his whole life has changed
    Noland Arbaugh became P1 at Neuralink last year and it’s opened up a host of opportunities for him.
    0 Comments 0 Shares 341 Views 0 Reviews
  • เมื่อซีพียูทะลุ 9 GHz และมนุษย์ยังไม่หยุดท้าทายขีดจำกัด

    ในโลกของการโอเวอร์คล็อก ซีพียูที่เร็วที่สุดไม่ใช่แค่เรื่องของประสิทธิภาพ แต่เป็นการแสดงออกถึงความกล้าท้าทายขีดจำกัดของเทคโนโลยี และล่าสุด นักโอเวอร์คล็อกจากจีนชื่อ wytiwx ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการดัน Intel Core i9-14900KF ไปถึง 9,130.33 MHz หรือ 9.13 GHz ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดที่เคยมีการบันทึกอย่างเป็นทางการ

    การทำลายสถิตินี้ใช้เทคนิคสุดขั้ว — ระบายความร้อนด้วย “ฮีเลียมเหลว” ซึ่งเย็นกว่าลิควิดไนโตรเจน และต้องใช้แรงดันไฟสูงถึง 1.388V เพื่อให้ซีพียูเสถียรในสภาวะสุดโต่งนี้ โดยใช้เมนบอร์ด ASUS ROG Maximus Z790 Apex ที่ออกแบบมาเพื่อการโอเวอร์คล็อกโดยเฉพาะ พร้อมแรม DDR5-5744 จาก Corsair และการ์ดจอ RTX 3050 เพื่อให้ระบบทำงานครบถ้วน

    ก่อนหน้านี้ สถิติสูงสุดอยู่ที่ 9.117 GHz โดย Elmor และ 9.121 GHz โดย wytiwx เองในรอบก่อน แต่ครั้งนี้เขาแซงตัวเองไปอีก 13 MHz ซึ่งในโลกของโอเวอร์คล็อก นั่นถือว่า “เยอะมาก”

    แม้จะเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง แต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องเข้าใจ — การโอเวอร์คล็อกระดับนี้ไม่สามารถใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้ และอาจทำให้ชิปเสียหายถาวมหากไม่ควบคุมอย่างถูกต้อง

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    wytiwx นักโอเวอร์คล็อกจากจีนทำลายสถิติโลกด้วยการดัน Core i9-14900KF ไปถึง 9.13 GHz
    ใช้ฮีเลียมเหลวในการระบายความร้อน ซึ่งเย็นกว่าลิควิดไนโตรเจน
    ใช้แรงดันไฟ 1.388V เพื่อให้ซีพียูเสถียรในสภาวะสุดขั้ว
    เมนบอร์ดที่ใช้คือ ASUS ROG Maximus Z790 Apex พร้อมแรม Corsair DDR5-5744
    การ์ดจอที่ใช้คือ RTX 3050 และพาวเวอร์ซัพพลาย Corsair HX1200i
    สถิติใหม่แซงสถิติเดิมของ Core i9-14900KS ไป 13 MHz
    สถิตินี้ได้รับการรับรองโดย HWBot และ CPU-Z
    ซีพียูรุ่น Raptor Lake Refresh มีศักยภาพในการโอเวอร์คล็อกสูงกว่ารุ่นก่อน
    AMD เคยครองสถิติด้วย FX-8370 ที่ 8.722 GHz นานถึง 9 ปี
    Intel Raptor Lake ยังเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักโอเวอร์คล็อกทั่วโลก

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ฮีเลียมเหลวมีจุดเดือดต่ำกว่าลิควิดไนโตรเจนมาก ทำให้สามารถลดอุณหภูมิได้ถึง -269°C
    HWBot เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้บันทึกและรับรองสถิติการโอเวอร์คล็อกระดับโลก
    การโอเวอร์คล็อกระดับ extreme ต้องใช้ระบบไฟฟ้าและความเย็นที่ออกแบบเฉพาะ
    CPU-Z เป็นเครื่องมือมาตรฐานในการตรวจสอบความเร็วและแรงดันของซีพียู
    การโอเวอร์คล็อกแบบนี้มักใช้ Windows 7 เพราะมี latency ต่ำและเสถียรกว่าในบางกรณี

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/core-i9-14900kf-overclocked-to-9-13-ghz-to-become-the-highest-clocked-cpu-of-all-time-13-mhz-faster-than-the-previous-record-holder
    ⚡ เมื่อซีพียูทะลุ 9 GHz และมนุษย์ยังไม่หยุดท้าทายขีดจำกัด ในโลกของการโอเวอร์คล็อก ซีพียูที่เร็วที่สุดไม่ใช่แค่เรื่องของประสิทธิภาพ แต่เป็นการแสดงออกถึงความกล้าท้าทายขีดจำกัดของเทคโนโลยี และล่าสุด นักโอเวอร์คล็อกจากจีนชื่อ wytiwx ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการดัน Intel Core i9-14900KF ไปถึง 9,130.33 MHz หรือ 9.13 GHz ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดที่เคยมีการบันทึกอย่างเป็นทางการ การทำลายสถิตินี้ใช้เทคนิคสุดขั้ว — ระบายความร้อนด้วย “ฮีเลียมเหลว” ซึ่งเย็นกว่าลิควิดไนโตรเจน และต้องใช้แรงดันไฟสูงถึง 1.388V เพื่อให้ซีพียูเสถียรในสภาวะสุดโต่งนี้ โดยใช้เมนบอร์ด ASUS ROG Maximus Z790 Apex ที่ออกแบบมาเพื่อการโอเวอร์คล็อกโดยเฉพาะ พร้อมแรม DDR5-5744 จาก Corsair และการ์ดจอ RTX 3050 เพื่อให้ระบบทำงานครบถ้วน ก่อนหน้านี้ สถิติสูงสุดอยู่ที่ 9.117 GHz โดย Elmor และ 9.121 GHz โดย wytiwx เองในรอบก่อน แต่ครั้งนี้เขาแซงตัวเองไปอีก 13 MHz ซึ่งในโลกของโอเวอร์คล็อก นั่นถือว่า “เยอะมาก” แม้จะเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง แต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องเข้าใจ — การโอเวอร์คล็อกระดับนี้ไม่สามารถใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้ และอาจทำให้ชิปเสียหายถาวมหากไม่ควบคุมอย่างถูกต้อง 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ wytiwx นักโอเวอร์คล็อกจากจีนทำลายสถิติโลกด้วยการดัน Core i9-14900KF ไปถึง 9.13 GHz ➡️ ใช้ฮีเลียมเหลวในการระบายความร้อน ซึ่งเย็นกว่าลิควิดไนโตรเจน ➡️ ใช้แรงดันไฟ 1.388V เพื่อให้ซีพียูเสถียรในสภาวะสุดขั้ว ➡️ เมนบอร์ดที่ใช้คือ ASUS ROG Maximus Z790 Apex พร้อมแรม Corsair DDR5-5744 ➡️ การ์ดจอที่ใช้คือ RTX 3050 และพาวเวอร์ซัพพลาย Corsair HX1200i ➡️ สถิติใหม่แซงสถิติเดิมของ Core i9-14900KS ไป 13 MHz ➡️ สถิตินี้ได้รับการรับรองโดย HWBot และ CPU-Z ➡️ ซีพียูรุ่น Raptor Lake Refresh มีศักยภาพในการโอเวอร์คล็อกสูงกว่ารุ่นก่อน ➡️ AMD เคยครองสถิติด้วย FX-8370 ที่ 8.722 GHz นานถึง 9 ปี ➡️ Intel Raptor Lake ยังเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักโอเวอร์คล็อกทั่วโลก ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ฮีเลียมเหลวมีจุดเดือดต่ำกว่าลิควิดไนโตรเจนมาก ทำให้สามารถลดอุณหภูมิได้ถึง -269°C ➡️ HWBot เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้บันทึกและรับรองสถิติการโอเวอร์คล็อกระดับโลก ➡️ การโอเวอร์คล็อกระดับ extreme ต้องใช้ระบบไฟฟ้าและความเย็นที่ออกแบบเฉพาะ ➡️ CPU-Z เป็นเครื่องมือมาตรฐานในการตรวจสอบความเร็วและแรงดันของซีพียู ➡️ การโอเวอร์คล็อกแบบนี้มักใช้ Windows 7 เพราะมี latency ต่ำและเสถียรกว่าในบางกรณี https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/core-i9-14900kf-overclocked-to-9-13-ghz-to-become-the-highest-clocked-cpu-of-all-time-13-mhz-faster-than-the-previous-record-holder
    0 Comments 0 Shares 219 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากขั้วเย็น: เมื่อ 96 คอร์ของ AMD ถูกดันทะลุ 6GHz ด้วยไนโตรเจนเหลว

    ในเดือนกรกฎาคม 2025 ทีมโอเวอร์คล็อกของ ASUS นำโดย CENS ได้ใช้เมนบอร์ด Pro WS WRX90E-SAGE SE ร่วมกับซีพียู AMD Ryzen Threadripper Pro 9995WX ซึ่งมีถึง 96 คอร์ 192 เธรด ดันความเร็วขึ้นไปแตะระดับเกือบ 6GHz บนทุกคอร์ ด้วยการใช้ไนโตรเจนเหลวในการระบายความร้อน

    ผลลัพธ์คือคะแนน Cinebench R23 สูงถึง 227,817 คะแนน ซึ่งเป็นสถิติโลกใหม่ที่แซงหน้ารุ่นก่อนถึง 8% แม้จะใช้ความเร็วต่ำกว่าเดิม 300MHz! และยังมีการทำลายสถิติอีก 7 รายการใน Geekbench, 7-Zip, HWBOT x265 และ Y-cruncher รวมแล้ว ASUS ทำลายสถิติได้ถึง 46 รายการจากซีพียูรุ่นนี้

    AMD Ryzen Threadripper Pro 9995WX ถูกโอเวอร์คล็อกแตะเกือบ 6GHz บนทุกคอร์
    ใช้เมนบอร์ด ASUS Pro WS WRX90E-SAGE SE และไนโตรเจนเหลว
    ความเร็วคงที่ระหว่าง 5.75GHz–5.95GHz บนทุกคอร์

    ทำลายสถิติโลก Cinebench R23 ด้วยคะแนน 227,817
    สูงกว่ารุ่นก่อน (7995WX) ที่เคยทำได้ 210,702 คะแนน
    เพิ่มขึ้นกว่า 8% แม้ใช้ความเร็วต่ำกว่า

    รวมสถิติโลกทั้งหมด 8 รายการ และอันดับหนึ่งอีก 38 รายการ
    ครอบคลุม Cinebench, Geekbench, 7-Zip, HWBOT x265 และ Y-cruncher
    ผู้ทำสถิติได้แก่ CENS, SEBY, OGS และทีม ASUS

    สเปกของ 9995WX: 96 คอร์, 192 เธรด, 5.4GHz boost, 384MB L3 cache, 350W TDP
    รองรับ PCIe Gen5 144 เลน และ DDR5 ECC 8-channel
    ผลิตบนเทคโนโลยี 4nm โดย TSMC

    เมนบอร์ด ASUS Pro WS WRX90E-SAGE SE รองรับการโอเวอร์คล็อกระดับสุดขั้ว
    มี VRM แบบ (16x2)+3+3+3 stages พร้อมพัดลมคู่
    รองรับ LN2 mode, ปุ่ม Safe Boot, และจุดวัดไฟ 7 จุด

    ราคาของ 9995WX อยู่ที่ประมาณ $11,699 (ประมาณ 430,000 บาท)
    วางจำหน่ายแล้วใน Amazon และ Newegg
    ใช้ในเวิร์กสเตชันระดับสูงและงาน AI หนักๆ

    https://www.techradar.com/pro/frozen-amd-threadripper-pro-9995wx-cpu-breaks-flurry-of-world-records-a-6ghz-processor-is-pretty-cool-literally
    🔥 เรื่องเล่าจากขั้วเย็น: เมื่อ 96 คอร์ของ AMD ถูกดันทะลุ 6GHz ด้วยไนโตรเจนเหลว ในเดือนกรกฎาคม 2025 ทีมโอเวอร์คล็อกของ ASUS นำโดย CENS ได้ใช้เมนบอร์ด Pro WS WRX90E-SAGE SE ร่วมกับซีพียู AMD Ryzen Threadripper Pro 9995WX ซึ่งมีถึง 96 คอร์ 192 เธรด ดันความเร็วขึ้นไปแตะระดับเกือบ 6GHz บนทุกคอร์ ด้วยการใช้ไนโตรเจนเหลวในการระบายความร้อน ผลลัพธ์คือคะแนน Cinebench R23 สูงถึง 227,817 คะแนน ซึ่งเป็นสถิติโลกใหม่ที่แซงหน้ารุ่นก่อนถึง 8% แม้จะใช้ความเร็วต่ำกว่าเดิม 300MHz! และยังมีการทำลายสถิติอีก 7 รายการใน Geekbench, 7-Zip, HWBOT x265 และ Y-cruncher รวมแล้ว ASUS ทำลายสถิติได้ถึง 46 รายการจากซีพียูรุ่นนี้ ✅ AMD Ryzen Threadripper Pro 9995WX ถูกโอเวอร์คล็อกแตะเกือบ 6GHz บนทุกคอร์ ➡️ ใช้เมนบอร์ด ASUS Pro WS WRX90E-SAGE SE และไนโตรเจนเหลว ➡️ ความเร็วคงที่ระหว่าง 5.75GHz–5.95GHz บนทุกคอร์ ✅ ทำลายสถิติโลก Cinebench R23 ด้วยคะแนน 227,817 ➡️ สูงกว่ารุ่นก่อน (7995WX) ที่เคยทำได้ 210,702 คะแนน ➡️ เพิ่มขึ้นกว่า 8% แม้ใช้ความเร็วต่ำกว่า ✅ รวมสถิติโลกทั้งหมด 8 รายการ และอันดับหนึ่งอีก 38 รายการ ➡️ ครอบคลุม Cinebench, Geekbench, 7-Zip, HWBOT x265 และ Y-cruncher ➡️ ผู้ทำสถิติได้แก่ CENS, SEBY, OGS และทีม ASUS ✅ สเปกของ 9995WX: 96 คอร์, 192 เธรด, 5.4GHz boost, 384MB L3 cache, 350W TDP ➡️ รองรับ PCIe Gen5 144 เลน และ DDR5 ECC 8-channel ➡️ ผลิตบนเทคโนโลยี 4nm โดย TSMC ✅ เมนบอร์ด ASUS Pro WS WRX90E-SAGE SE รองรับการโอเวอร์คล็อกระดับสุดขั้ว ➡️ มี VRM แบบ (16x2)+3+3+3 stages พร้อมพัดลมคู่ ➡️ รองรับ LN2 mode, ปุ่ม Safe Boot, และจุดวัดไฟ 7 จุด ✅ ราคาของ 9995WX อยู่ที่ประมาณ $11,699 (ประมาณ 430,000 บาท) ➡️ วางจำหน่ายแล้วใน Amazon และ Newegg ➡️ ใช้ในเวิร์กสเตชันระดับสูงและงาน AI หนักๆ https://www.techradar.com/pro/frozen-amd-threadripper-pro-9995wx-cpu-breaks-flurry-of-world-records-a-6ghz-processor-is-pretty-cool-literally
    WWW.TECHRADAR.COM
    ASUS overclocker pushes 9995WX to 5.95GHz and breaks eight world records
    The overclocked chip claimed eight world records, and first-place benchmark results
    0 Comments 0 Shares 294 Views 0 Reviews
  • สร้างประวัติศาสตร์! "กริพเพ่น" ของไทย ใช้อาวุธจริงครั้งแรกในโลก โจมตีเป้าหมายรบจริงชายแดนไทย-กัมพูชา
    https://www.thai-tai.tv/news/20564/
    .
    #กริพเพ่น #Gripen #JAS39Gripen #กองทัพอากาศไทย #ทอไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #การรบจริง #อาวุธจริง #สถิติโลก #ป้องกันประเทศ #ไทยไท

    สร้างประวัติศาสตร์! "กริพเพ่น" ของไทย ใช้อาวุธจริงครั้งแรกในโลก โจมตีเป้าหมายรบจริงชายแดนไทย-กัมพูชา https://www.thai-tai.tv/news/20564/ . #กริพเพ่น #Gripen #JAS39Gripen #กองทัพอากาศไทย #ทอไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #การรบจริง #อาวุธจริง #สถิติโลก #ป้องกันประเทศ #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 390 Views 0 Reviews
  • ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า CAMM2 (Compression Attached Memory Module 2) คือฟอร์มแฟกเตอร์ใหม่ที่จะมาแทน SO-DIMM และ UDIMM ที่เราใช้กันบนโน้ตบุ๊กและพีซีในปัจจุบัน → มันบางกว่า เสียบแน่นกว่า ต้านทานสัญญาณน้อยกว่า และเร็วกว่าเยอะ! → ผลคือ “โอเวอร์คล็อกได้ดีกว่า” และใช้ในอุปกรณ์บางเฉียบหรือโมดูล AI ที่ต้องการพื้นที่คุมความร้อน

    G.Skill ใช้โมดูล CAMM2 DDR5 ขนาด 64GB บนเมนบอร์ด ASUS ROG Maximus Z890 Hero รุ่นพิเศษที่ดัดแปลงให้รองรับ CAMM2 โดยจับคู่กับ Intel Core Ultra 7 265K → แล้วจัดการโอเวอร์คล็อกจนไปถึง DDR5-10000 MT/s และรัน Memtest แบบเสถียรได้!

    แม้สถิติโลกตอนนี้จะยังสูงกว่า (DDR5-12054 โดย saltycroissant) แต่ความต่างคือ สถิตินั้นใช้แบบ DIMM ปกติ + air cooling, ขณะที่ CAMM2 ยังมีศักยภาพเหลืออีกเยอะ — ถ้าทำตลาดจริงเมื่อไหร่ อาจเป็นมาตรฐานใหม่ของหน่วยความจำยุคถัดไปเลยก็ได้

    G.Skill ทำลายสถิติโอเวอร์คล็อกของ CAMM2 ได้ถึง DDR5-10000 MT/s  
    • ใช้กับแรม CAMM2 ความจุ 64GB  
    • ทดสอบบนเมนบอร์ด ASUS Maximus Z890 Hero ที่ดัดแปลงพิเศษ  
    • จับคู่กับซีพียู Intel Core Ultra 7 265K  
    • ผ่านการทดสอบเสถียรด้วย Memtest

    CAMM2 คือฟอร์มแฟกเตอร์หน่วยความจำแบบใหม่แทน SO-DIMM/UDIMM  
    • บางกว่า เร็วกว่า มีศักยภาพ overclock สูง  
    • ถูกนำเสนอครั้งแรกกลางปี 2024  
    • มีแค่ Crucial ที่เริ่มขาย LPCAMM2 LPDDR5X-7500 (32/64GB)

    เหมาะกับโน้ตบุ๊ก/แท็บเล็ตที่ไม่อยากใช้ RAM แบบฝัง (soldered)  
    • ช่วยให้ซ่อม–อัปเกรดได้ง่ายขึ้น  
    • ลดต้นทุนผลิต เพราะใช้สายการผลิตเดียวได้หลายขนาด

    G.Skill, Kingston, TeamGroup เริ่มโชว์ CAMM2 ที่ Computex 2025 แล้ว  
    • แต่ยังไม่มีเมนบอร์ด consumer รุ่น CAMM2 วางจำหน่ายทั่วไป

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ddr5/g-skill-pushing-new-camm2-ddr5-memory-modules-to-the-overclocking-limit-hits-ddr5-10000-speeds-on-modified-asus-motherboard
    ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า CAMM2 (Compression Attached Memory Module 2) คือฟอร์มแฟกเตอร์ใหม่ที่จะมาแทน SO-DIMM และ UDIMM ที่เราใช้กันบนโน้ตบุ๊กและพีซีในปัจจุบัน → มันบางกว่า เสียบแน่นกว่า ต้านทานสัญญาณน้อยกว่า และเร็วกว่าเยอะ! → ผลคือ “โอเวอร์คล็อกได้ดีกว่า” และใช้ในอุปกรณ์บางเฉียบหรือโมดูล AI ที่ต้องการพื้นที่คุมความร้อน G.Skill ใช้โมดูล CAMM2 DDR5 ขนาด 64GB บนเมนบอร์ด ASUS ROG Maximus Z890 Hero รุ่นพิเศษที่ดัดแปลงให้รองรับ CAMM2 โดยจับคู่กับ Intel Core Ultra 7 265K → แล้วจัดการโอเวอร์คล็อกจนไปถึง DDR5-10000 MT/s และรัน Memtest แบบเสถียรได้! แม้สถิติโลกตอนนี้จะยังสูงกว่า (DDR5-12054 โดย saltycroissant) แต่ความต่างคือ สถิตินั้นใช้แบบ DIMM ปกติ + air cooling, ขณะที่ CAMM2 ยังมีศักยภาพเหลืออีกเยอะ — ถ้าทำตลาดจริงเมื่อไหร่ อาจเป็นมาตรฐานใหม่ของหน่วยความจำยุคถัดไปเลยก็ได้ ✅ G.Skill ทำลายสถิติโอเวอร์คล็อกของ CAMM2 ได้ถึง DDR5-10000 MT/s   • ใช้กับแรม CAMM2 ความจุ 64GB   • ทดสอบบนเมนบอร์ด ASUS Maximus Z890 Hero ที่ดัดแปลงพิเศษ   • จับคู่กับซีพียู Intel Core Ultra 7 265K   • ผ่านการทดสอบเสถียรด้วย Memtest ✅ CAMM2 คือฟอร์มแฟกเตอร์หน่วยความจำแบบใหม่แทน SO-DIMM/UDIMM   • บางกว่า เร็วกว่า มีศักยภาพ overclock สูง   • ถูกนำเสนอครั้งแรกกลางปี 2024   • มีแค่ Crucial ที่เริ่มขาย LPCAMM2 LPDDR5X-7500 (32/64GB) ✅ เหมาะกับโน้ตบุ๊ก/แท็บเล็ตที่ไม่อยากใช้ RAM แบบฝัง (soldered)   • ช่วยให้ซ่อม–อัปเกรดได้ง่ายขึ้น   • ลดต้นทุนผลิต เพราะใช้สายการผลิตเดียวได้หลายขนาด ✅ G.Skill, Kingston, TeamGroup เริ่มโชว์ CAMM2 ที่ Computex 2025 แล้ว   • แต่ยังไม่มีเมนบอร์ด consumer รุ่น CAMM2 วางจำหน่ายทั่วไป https://www.tomshardware.com/pc-components/ddr5/g-skill-pushing-new-camm2-ddr5-memory-modules-to-the-overclocking-limit-hits-ddr5-10000-speeds-on-modified-asus-motherboard
    0 Comments 0 Shares 402 Views 0 Reviews
  • Intel สร้างสถิติใหม่ในการโอเวอร์คล็อก GPU ด้วยกราฟิกแบบฝัง
    ที่งาน Computex 2025 นักโอเวอร์คล็อก SkatterBencher ได้ทำลายสถิติโลกด้านความเร็วของ GPU โดยใช้ กราฟิกแบบฝังของ Intel แทนที่จะเป็นการ์ดจอแยก เช่น RTX 5090 หรือ RX 9070 XT

    SkatterBencher ใช้ Core Ultra 9 285K และสามารถ โอเวอร์คล็อกกราฟิกแบบฝังไปถึง 4.25 GHz โดยใช้ แรงดันไฟฟ้า 1.7V และอุณหภูมิ -170°C

    ก่อนหน้านี้ เขาสามารถ โอเวอร์คล็อกได้ถึง 3.1 GHz ที่ 1.3V แต่พบว่า Arrow Lake มีศักยภาพในการโอเวอร์คล็อกสูงขึ้นเมื่ออุณหภูมิลดลง โดยที่ -150°C ความเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 3.6 GHz

    ข้อมูลจากข่าว
    - SkatterBencher ทำลายสถิติโลกด้านความเร็วของ GPU ด้วยกราฟิกแบบฝังของ Intel
    - ใช้ Core Ultra 9 285K และโอเวอร์คล็อกไปถึง 4.25 GHz
    - แรงดันไฟฟ้า 1.7V และอุณหภูมิ -170°C ช่วยให้สามารถเพิ่มความเร็วได้สูงสุด
    - Arrow Lake มีศักยภาพในการโอเวอร์คล็อกสูงขึ้นเมื่ออุณหภูมิลดลง
    - การโอเวอร์คล็อกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเกม เช่น Counter-Strike 2 จาก 50 FPS เป็น 86 FPS

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การโอเวอร์คล็อกที่ระดับนี้ต้องใช้ไนโตรเจนเหลว (LN2) ซึ่งไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    - แรงดันไฟฟ้าเกิน 1.5V อาจลดอายุการใช้งานของโปรเซสเซอร์อย่างรวดเร็ว
    - การเพิ่มความเร็วเกิน 4 GHz ไม่ได้ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
    - ต้องใช้เมนบอร์ดระดับสูง เช่น Asus ROG Z890 Apex เพื่อรองรับการโอเวอร์คล็อกขั้นสูง

    การทำลายสถิตินี้แสดงให้เห็นว่า กราฟิกแบบฝังของ Intel มีศักยภาพในการโอเวอร์คล็อกสูงกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะส่งผลต่อการออกแบบโปรเซสเซอร์ในอนาคตหรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/overclocking/gpu-frequency-overclocking-world-record-broken-using-integrated-intel-graphics-arrow-lake-outpaces-discrete-gpus-in-clock-speed-competition
    🚀 Intel สร้างสถิติใหม่ในการโอเวอร์คล็อก GPU ด้วยกราฟิกแบบฝัง ที่งาน Computex 2025 นักโอเวอร์คล็อก SkatterBencher ได้ทำลายสถิติโลกด้านความเร็วของ GPU โดยใช้ กราฟิกแบบฝังของ Intel แทนที่จะเป็นการ์ดจอแยก เช่น RTX 5090 หรือ RX 9070 XT SkatterBencher ใช้ Core Ultra 9 285K และสามารถ โอเวอร์คล็อกกราฟิกแบบฝังไปถึง 4.25 GHz โดยใช้ แรงดันไฟฟ้า 1.7V และอุณหภูมิ -170°C ก่อนหน้านี้ เขาสามารถ โอเวอร์คล็อกได้ถึง 3.1 GHz ที่ 1.3V แต่พบว่า Arrow Lake มีศักยภาพในการโอเวอร์คล็อกสูงขึ้นเมื่ออุณหภูมิลดลง โดยที่ -150°C ความเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 3.6 GHz ✅ ข้อมูลจากข่าว - SkatterBencher ทำลายสถิติโลกด้านความเร็วของ GPU ด้วยกราฟิกแบบฝังของ Intel - ใช้ Core Ultra 9 285K และโอเวอร์คล็อกไปถึง 4.25 GHz - แรงดันไฟฟ้า 1.7V และอุณหภูมิ -170°C ช่วยให้สามารถเพิ่มความเร็วได้สูงสุด - Arrow Lake มีศักยภาพในการโอเวอร์คล็อกสูงขึ้นเมื่ออุณหภูมิลดลง - การโอเวอร์คล็อกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเกม เช่น Counter-Strike 2 จาก 50 FPS เป็น 86 FPS ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การโอเวอร์คล็อกที่ระดับนี้ต้องใช้ไนโตรเจนเหลว (LN2) ซึ่งไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป - แรงดันไฟฟ้าเกิน 1.5V อาจลดอายุการใช้งานของโปรเซสเซอร์อย่างรวดเร็ว - การเพิ่มความเร็วเกิน 4 GHz ไม่ได้ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ - ต้องใช้เมนบอร์ดระดับสูง เช่น Asus ROG Z890 Apex เพื่อรองรับการโอเวอร์คล็อกขั้นสูง การทำลายสถิตินี้แสดงให้เห็นว่า กราฟิกแบบฝังของ Intel มีศักยภาพในการโอเวอร์คล็อกสูงกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะส่งผลต่อการออกแบบโปรเซสเซอร์ในอนาคตหรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/overclocking/gpu-frequency-overclocking-world-record-broken-using-integrated-intel-graphics-arrow-lake-outpaces-discrete-gpus-in-clock-speed-competition
    0 Comments 0 Shares 335 Views 0 Reviews
  • Xu Yang นักศึกษาจีนทำลายสถิติโลกด้านความเร็วของไมโครโดรน

    Xu Yang นักศึกษาชาวจีน สร้างสถิติโลกใหม่สำหรับไมโครโดรน โดยโดรนของเขา สามารถบินด้วยความเร็วสูงถึง 340.78 กม./ชม. (211.75 ไมล์/ชม.) ซึ่งเทียบเท่ากับความเร็วของรถไฟความเร็วสูง

    Xu Yang ใช้ใบพัดที่ออกแบบเองผ่านการพิมพ์ 3 มิติ
    - ช่วยให้ โดรนของเขามีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำลายสถิติ

    ไมโครโดรนของเขามีน้ำหนักต่ำกว่า 250 กรัม
    - ทำให้ สามารถบินได้เร็วขึ้นโดยลดแรงต้านอากาศ

    สถิตินี้ได้รับการรับรองจาก Guinness World Records
    - เป็น สถิติใหม่สำหรับโดรนควอดคอปเตอร์ขนาดเล็กที่ควบคุมจากระยะไกล

    Xu Yang ได้รับความช่วยเหลือจากนักแข่งโดรนมืออาชีพในการพัฒนาเทคโนโลยี
    - ทำให้ สามารถปรับปรุงการออกแบบให้เหมาะสมกับการแข่งขัน

    ไมโครโดรนกำลังกลายเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจมากขึ้น
    - อาจมีการนำไปใช้ใน การแข่งขันกีฬาและการพัฒนาเทคโนโลยีการบิน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/16/chinese-student-xu-yang-breaks-impossible-microdrone-world-speed-record
    Xu Yang นักศึกษาจีนทำลายสถิติโลกด้านความเร็วของไมโครโดรน Xu Yang นักศึกษาชาวจีน สร้างสถิติโลกใหม่สำหรับไมโครโดรน โดยโดรนของเขา สามารถบินด้วยความเร็วสูงถึง 340.78 กม./ชม. (211.75 ไมล์/ชม.) ซึ่งเทียบเท่ากับความเร็วของรถไฟความเร็วสูง ✅ Xu Yang ใช้ใบพัดที่ออกแบบเองผ่านการพิมพ์ 3 มิติ - ช่วยให้ โดรนของเขามีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำลายสถิติ ✅ ไมโครโดรนของเขามีน้ำหนักต่ำกว่า 250 กรัม - ทำให้ สามารถบินได้เร็วขึ้นโดยลดแรงต้านอากาศ ✅ สถิตินี้ได้รับการรับรองจาก Guinness World Records - เป็น สถิติใหม่สำหรับโดรนควอดคอปเตอร์ขนาดเล็กที่ควบคุมจากระยะไกล ✅ Xu Yang ได้รับความช่วยเหลือจากนักแข่งโดรนมืออาชีพในการพัฒนาเทคโนโลยี - ทำให้ สามารถปรับปรุงการออกแบบให้เหมาะสมกับการแข่งขัน ✅ ไมโครโดรนกำลังกลายเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจมากขึ้น - อาจมีการนำไปใช้ใน การแข่งขันกีฬาและการพัฒนาเทคโนโลยีการบิน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/16/chinese-student-xu-yang-breaks-impossible-microdrone-world-speed-record
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Chinese student Xu Yang breaks ‘impossible’ microdrone world speed record
    With help from other drone speedsters, Xu comes up with his own 3D-printed propellers for his superfast small quadcopter.
    0 Comments 0 Shares 375 Views 0 Reviews
  • ช่างฟ้อนน้ำตารินเปิดใจดราม่าผ้าซิ่นผิดสี ถูกห้ามร่วมฟ้อน 729 ปี สมโภชเชียงใหม่ทำสถิติโลก สุดช้ำโดนคำพูดเหยียดว่าจะเป็นจุดด่างพร้อยของการจัดงาน ทั้งๆ ที่ตั้งใจซ้อมเตรียมพร้อมมาอย่างดีและเดินทางมาไกลเพื่อเข้าร่วมด้วยหัวใจเกินร้อย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000037027

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ช่างฟ้อนน้ำตารินเปิดใจดราม่าผ้าซิ่นผิดสี ถูกห้ามร่วมฟ้อน 729 ปี สมโภชเชียงใหม่ทำสถิติโลก สุดช้ำโดนคำพูดเหยียดว่าจะเป็นจุดด่างพร้อยของการจัดงาน ทั้งๆ ที่ตั้งใจซ้อมเตรียมพร้อมมาอย่างดีและเดินทางมาไกลเพื่อเข้าร่วมด้วยหัวใจเกินร้อย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000037027 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Sad
    Like
    5
    1 Comments 0 Shares 800 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Fudan ในเซี่ยงไฮ้ได้เปิดตัวอุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชที่ทำลายสถิติความเร็วในการเขียนข้อมูล โดยอุปกรณ์นี้มีชื่อว่า PoX ซึ่งสามารถเขียนข้อมูลได้ในเวลาเพียง 400 พิโควินาที หรือ สี่ร้อยล้านล้านส่วนของวินาที นับว่าเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบเซมิคอนดักเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก ความสำเร็จนี้มีผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่

    PoX เป็นอุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชที่เร็วที่สุดในโลก
    - สามารถเขียนข้อมูลได้ในเวลาเพียง 400 พิโควินาที
    - ทำงานได้ถึง 25 พันล้านครั้งต่อวินาที ซึ่งเร็วกว่าสถิติโลกก่อนหน้าถึง 100,000 เท่า

    PoX ใช้กราฟีนเป็นวัสดุหลักในการพัฒนา
    - กราฟีนมีคุณสมบัติทางไฟฟ้าที่โดดเด่นและช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล
    - ใช้โครงสร้าง Dirac band และเทคนิค super-injection เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    PoX มีผลกระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI
    - ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่เป็นไปอย่างรวดเร็วและลดการใช้พลังงาน
    - เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบ AI ที่ต้องการการประมวลผลแบบเรียลไทม์

    PoX ช่วยลดปัญหาคอขวดด้านการถ่ายโอนข้อมูล
    - การพัฒนา PoX ช่วยแก้ปัญหาที่หน่วยความจำแบบไม่ลบข้อมูล (non-volatile memory) เผชิญมานานหลายทศวรรษ

    https://www.techspot.com/news/107614-new-graphene-based-flash-memory-writes-data-400.html
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Fudan ในเซี่ยงไฮ้ได้เปิดตัวอุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชที่ทำลายสถิติความเร็วในการเขียนข้อมูล โดยอุปกรณ์นี้มีชื่อว่า PoX ซึ่งสามารถเขียนข้อมูลได้ในเวลาเพียง 400 พิโควินาที หรือ สี่ร้อยล้านล้านส่วนของวินาที นับว่าเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบเซมิคอนดักเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก ความสำเร็จนี้มีผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ✅ PoX เป็นอุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชที่เร็วที่สุดในโลก - สามารถเขียนข้อมูลได้ในเวลาเพียง 400 พิโควินาที - ทำงานได้ถึง 25 พันล้านครั้งต่อวินาที ซึ่งเร็วกว่าสถิติโลกก่อนหน้าถึง 100,000 เท่า ✅ PoX ใช้กราฟีนเป็นวัสดุหลักในการพัฒนา - กราฟีนมีคุณสมบัติทางไฟฟ้าที่โดดเด่นและช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล - ใช้โครงสร้าง Dirac band และเทคนิค super-injection เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ✅ PoX มีผลกระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI - ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่เป็นไปอย่างรวดเร็วและลดการใช้พลังงาน - เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบ AI ที่ต้องการการประมวลผลแบบเรียลไทม์ ✅ PoX ช่วยลดปัญหาคอขวดด้านการถ่ายโอนข้อมูล - การพัฒนา PoX ช่วยแก้ปัญหาที่หน่วยความจำแบบไม่ลบข้อมูล (non-volatile memory) เผชิญมานานหลายทศวรรษ https://www.techspot.com/news/107614-new-graphene-based-flash-memory-writes-data-400.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New graphene-based flash memory writes data in 400 picoseconds, shattering all speed records
    To put this achievement into perspective, PoX can perform 25 billion operations per second – surpassing the previous world record for similar technology by a factor of 100,000.
    0 Comments 0 Shares 302 Views 0 Reviews
  • สตง.ฉาวทะลุสถิติโลก ถล่มไว 8 วิ ไกลจุดไหว ปลอมลายเซ็นกระจาย วิศวกร 85 ผู้บริหารหน้าด้าน คนแฉ-สาปแช่งเพียบ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    สตง.ฉาวทะลุสถิติโลก ถล่มไว 8 วิ ไกลจุดไหว ปลอมลายเซ็นกระจาย วิศวกร 85 ผู้บริหารหน้าด้าน คนแฉ-สาปแช่งเพียบ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 Comments 0 Shares 280 Views 0 Reviews
  • ไขกลไก! 8 วินาทีวิกฤต ของตึก สตง. ถล่มแบบเพนเค้ก เป็นสถิติโลก
    https://www.thai-tai.tv/news/18175/
    ไขกลไก! 8 วินาทีวิกฤต ของตึก สตง. ถล่มแบบเพนเค้ก เป็นสถิติโลก https://www.thai-tai.tv/news/18175/
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติชี้ตึก สตง.ถล่มทำ 2 สถิติโลก 1) ตึกสูงที่สุดที่ถล่มเพราะแผ่นดินไหว 2) ตึกที่อยู่ไกลศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากที่สุดที่ถล่ม"มีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศให้ข้อมูลที่น่าสนใจกับผมว่า อาคาร สตง.ที่ถล่ม จัดเป็นอาคารสูงที่อยู่ระยะไกลที่สุดที่มันพังจากแผ่นดินไหว เมื่อเทียบกับสถิติทั่วโลก และยังเป็นอาคารที่สูงที่สุดที่ถล่มจากแผ่นดินไหวด้วย คือทั้งสูงที่สุดและอยู่ไกลจากแผ่นดินไหวมากที่สุด เพราะฉะนั้นเรามีสถิติโลกสถิติใหม่ในครั้งนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ภูมิใจนัก แต่มันชี้ให้เห็นว่าปัญหาแผ่นดินไหวของไทยอยู่ในระดับที่ต้องใส่ใจพอสมควร"ศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย ผ.อ. ศูนย์วิจัยแผ่นดินไหว สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ2 เมษายน 2568
    ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติชี้ตึก สตง.ถล่มทำ 2 สถิติโลก 1) ตึกสูงที่สุดที่ถล่มเพราะแผ่นดินไหว 2) ตึกที่อยู่ไกลศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากที่สุดที่ถล่ม"มีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศให้ข้อมูลที่น่าสนใจกับผมว่า อาคาร สตง.ที่ถล่ม จัดเป็นอาคารสูงที่อยู่ระยะไกลที่สุดที่มันพังจากแผ่นดินไหว เมื่อเทียบกับสถิติทั่วโลก และยังเป็นอาคารที่สูงที่สุดที่ถล่มจากแผ่นดินไหวด้วย คือทั้งสูงที่สุดและอยู่ไกลจากแผ่นดินไหวมากที่สุด เพราะฉะนั้นเรามีสถิติโลกสถิติใหม่ในครั้งนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ภูมิใจนัก แต่มันชี้ให้เห็นว่าปัญหาแผ่นดินไหวของไทยอยู่ในระดับที่ต้องใส่ใจพอสมควร"ศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย ผ.อ. ศูนย์วิจัยแผ่นดินไหว สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ2 เมษายน 2568
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • HiCookie สร้างสถิติโลกใหม่ในการโอเวอร์คล็อก DDR5 ด้วยความเร็ว 12,752 MT/s โดยใช้หน่วยความจำ V-Color และเมนบอร์ด Gigabyte การทดลองครั้งนี้เน้นการดึงศักยภาพสูงสุดของฮาร์ดแวร์ผ่านการตั้งค่าที่ละเอียดและใช้น้ำแข็งแห้งในการระบายความร้อน แม้ว่าสถิตินี้จะไม่เสถียรพอสำหรับงานทั่วไป แต่แสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์ม Intel Z890 มีศักยภาพในด้านหน่วยความจำอย่างน่าประทับใจ

    HiCookie เป็นชื่อที่รู้จักกันดีในวงการโอเวอร์คล็อกระดับโลก โดยเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการโอเวอร์คล็อกที่ทำงานร่วมกับ Gigabyte

    รายละเอียดการตั้งค่าทดลอง:
    - HiCookie ใช้เพียง 2 คอร์จากทั้งหมด 24 คอร์ของ CPU และลดความถี่ของ CPU เหลือเพียง 420 MHz เพื่อลดปัญหาคอขวด (bottleneck) ที่อาจเกิดขึ้นกับหน่วยความจำ.
    - มีการใช้ DIMM ขนาด 24GB เพียงโมดูลเดียว พร้อมตั้งค่าเวลาตอบสนองที่ 68-127-127-127-2T และใช้น้ำแข็งแห้ง (liquid nitrogen) ในการระบายความร้อนเพื่อควบคุมอุณหภูมิ.

    ความสำคัญของสถิตินี้:
    - แม้สถิติการโอเวอร์คล็อกเช่นนี้อาจไม่เสถียรพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ช่วยผลักดันขีดความสามารถของฮาร์ดแวร์และเผยให้เห็นประสิทธิภาพสูงสุดที่อุปกรณ์สามารถทำได้.

    ผลกระทบต่อวงการ:
    - แพลตฟอร์ม Intel Z890 ถูกวิจารณ์เรื่องความสามารถในการโอเวอร์คล็อก CPU ที่จำกัด แต่กลับโดดเด่นในด้านการรองรับการโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำ ทำให้มีการสร้างสถิติโลกมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา.

    การแข่งขันในวงการโอเวอร์คล็อก:
    - ก่อนหน้านี้ HiCookie เคยทำสถิติไว้ที่ 12,726 MT/s แต่ถูกแซงหน้าโดย Splave ที่ทำได้ 12,735 MT/s ทำให้การสร้างสถิติใหม่นี้เป็นการแย่งคืนตำแหน่งผู้นำ.

    https://www.techspot.com/news/107237-ddr5-memory-overclocked-eye-popping-12752-mts-new.html
    HiCookie สร้างสถิติโลกใหม่ในการโอเวอร์คล็อก DDR5 ด้วยความเร็ว 12,752 MT/s โดยใช้หน่วยความจำ V-Color และเมนบอร์ด Gigabyte การทดลองครั้งนี้เน้นการดึงศักยภาพสูงสุดของฮาร์ดแวร์ผ่านการตั้งค่าที่ละเอียดและใช้น้ำแข็งแห้งในการระบายความร้อน แม้ว่าสถิตินี้จะไม่เสถียรพอสำหรับงานทั่วไป แต่แสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์ม Intel Z890 มีศักยภาพในด้านหน่วยความจำอย่างน่าประทับใจ HiCookie เป็นชื่อที่รู้จักกันดีในวงการโอเวอร์คล็อกระดับโลก โดยเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการโอเวอร์คล็อกที่ทำงานร่วมกับ Gigabyte รายละเอียดการตั้งค่าทดลอง: - HiCookie ใช้เพียง 2 คอร์จากทั้งหมด 24 คอร์ของ CPU และลดความถี่ของ CPU เหลือเพียง 420 MHz เพื่อลดปัญหาคอขวด (bottleneck) ที่อาจเกิดขึ้นกับหน่วยความจำ. - มีการใช้ DIMM ขนาด 24GB เพียงโมดูลเดียว พร้อมตั้งค่าเวลาตอบสนองที่ 68-127-127-127-2T และใช้น้ำแข็งแห้ง (liquid nitrogen) ในการระบายความร้อนเพื่อควบคุมอุณหภูมิ. ความสำคัญของสถิตินี้: - แม้สถิติการโอเวอร์คล็อกเช่นนี้อาจไม่เสถียรพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ช่วยผลักดันขีดความสามารถของฮาร์ดแวร์และเผยให้เห็นประสิทธิภาพสูงสุดที่อุปกรณ์สามารถทำได้. ผลกระทบต่อวงการ: - แพลตฟอร์ม Intel Z890 ถูกวิจารณ์เรื่องความสามารถในการโอเวอร์คล็อก CPU ที่จำกัด แต่กลับโดดเด่นในด้านการรองรับการโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำ ทำให้มีการสร้างสถิติโลกมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา. การแข่งขันในวงการโอเวอร์คล็อก: - ก่อนหน้านี้ HiCookie เคยทำสถิติไว้ที่ 12,726 MT/s แต่ถูกแซงหน้าโดย Splave ที่ทำได้ 12,735 MT/s ทำให้การสร้างสถิติใหม่นี้เป็นการแย่งคืนตำแหน่งผู้นำ. https://www.techspot.com/news/107237-ddr5-memory-overclocked-eye-popping-12752-mts-new.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    DDR5 memory overclocked to an eye-popping 12,752 MT/s in new world record
    The world record has been validated by both CPU-Z and HWBOT, and the shared screenshots reveal that the setup was uniquely tuned for extreme overclocking. The record...
    0 Comments 0 Shares 348 Views 0 Reviews
  • Lily Phillips (ลิลี่ ฟิลลิปส์) ชาวอังกฤษ วัย 23 ปี ประกาศข่าวดีว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ หลังจบคอนเทนต์มีเซ็กซ์กับผู้ชาย 100 คน ชาวเน็ตหวังว่าคงไม่ใช่เรื่องอำกันเล่นนะ

    จากกรณี ก่อนหน้านี้ เมื่อดาราสาว Only Fans อย่าง Lily Phillips (ลิลี่ ฟิลลิปส์) ชาวอังกฤษ วัย 23 ปี ที่ตัดสินใจสร้างหนังในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยการมีความสัมพันธ์กับผู้ชายกว่าร้อยคนภายใน 1 วันเท่านั้น และเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม OnlyFans ของเธอ นอกจากนี้ เธอยังคงวางแผนที่จะทำลายสถิติโลกด้วยการมีเซ็กส์กับผู้ชาย 1,000 คนในหนึ่งวัน เธอวางแผนที่จะทำสิ่งนี้ที่ไหนสักแห่งในอังกฤษ

    ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ลีลี ฟิลลิปส์ ได้โพสต์ภาพของตัวเธอเองกำลังยืนลูบท้องของตัวเองและภาพที่ตรวจครรภ์ ที่ขึ้น 2 ขีดลงใน IG ส่วนตัว พร้อมกับระบุข้อความว่า“Baby Phillips coming 2025”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000016911

    #MGROnline #babyphillips2025
    Lily Phillips (ลิลี่ ฟิลลิปส์) ชาวอังกฤษ วัย 23 ปี ประกาศข่าวดีว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ หลังจบคอนเทนต์มีเซ็กซ์กับผู้ชาย 100 คน ชาวเน็ตหวังว่าคงไม่ใช่เรื่องอำกันเล่นนะ • จากกรณี ก่อนหน้านี้ เมื่อดาราสาว Only Fans อย่าง Lily Phillips (ลิลี่ ฟิลลิปส์) ชาวอังกฤษ วัย 23 ปี ที่ตัดสินใจสร้างหนังในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยการมีความสัมพันธ์กับผู้ชายกว่าร้อยคนภายใน 1 วันเท่านั้น และเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม OnlyFans ของเธอ นอกจากนี้ เธอยังคงวางแผนที่จะทำลายสถิติโลกด้วยการมีเซ็กส์กับผู้ชาย 1,000 คนในหนึ่งวัน เธอวางแผนที่จะทำสิ่งนี้ที่ไหนสักแห่งในอังกฤษ • ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ลีลี ฟิลลิปส์ ได้โพสต์ภาพของตัวเธอเองกำลังยืนลูบท้องของตัวเองและภาพที่ตรวจครรภ์ ที่ขึ้น 2 ขีดลงใน IG ส่วนตัว พร้อมกับระบุข้อความว่า“Baby Phillips coming 2025” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000016911 • #MGROnline #babyphillips2025
    0 Comments 0 Shares 668 Views 0 Reviews
  • ราคาทองทะลุสถิติโลก
    ราคาทองทะลุสถิติโลก
    Like
    Wow
    3
    0 Comments 0 Shares 304 Views 0 Reviews
  • เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2025 นักโอเวอร์คล็อกชาวจีนที่ใช้ชื่อว่า "wytiwx" ได้ทำลายสถิติโลกด้วยการโอเวอร์คล็อกโปรเซสเซอร์ Intel i9-14900KF ที่ความถี่ 9.12 GHz ซึ่งเป็นการทำลายสถิติเดิมของ Elmor ที่เคยทำไว้ที่ 9.08 GHz

    การโอเวอร์คล็อกครั้งนี้ใช้โปรเซสเซอร์ Intel i9-14900KF ที่มีการปิดการทำงานของ E-cores ทั้งหมดและปิดการทำงานของ Hyperthreading โดยใช้เมนบอร์ด Asus ROG Maximus Z790 Apex และหน่วยความจำ DDR5 ขนาด 16GB การทดสอบนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 ซึ่งเป็นการเลือกที่น่าสนใจ

    โปรเซสเซอร์ Intel i9-14900KF เป็นโปรเซสเซอร์ที่ไม่มี iGPU และมี 24 คอร์ (8 P-cores และ 16 E-cores) และ 32 เธรด โดยมีความถี่เทอร์โบสูงสุดที่ 6 GHz จากโรงงาน การโอเวอร์คล็อกครั้งนี้ใช้แรงดันไฟฟ้า 1.387V และมีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้การระบายความร้อนด้วยไนโตรเจนเหลวหรือฮีเลียมเหลว

    การทำลายสถิติโลกครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการโอเวอร์คล็อกของโปรเซสเซอร์ Intel i9-14900KF และเป็นการท้าทายให้ Elmor กลับมาทำลายสถิติอีกครั้ง

    การโอเวอร์คล็อกที่ทำลายสถิติโลกนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการโอเวอร์คล็อกของโปรเซสเซอร์ Intel และเป็นการท้าทายให้ชุมชนนักโอเวอร์คล็อกทั่วโลกพยายามทำลายสถิติใหม่ ๆ ต่อไป

    ลุงว่าที่เขาใช้ Win 7 เพราะมันเบากว่า Windows 10 หรือ 11 ทำให้สามารถลดความหน่วงของระบบและเพิ่มประสิทธิภาพในการโอเวอร์คล็อกได้

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-i9-14900kf-overclocker-clinches-cpu-frequency-world-record-at-9-12-ghz-wytiwx-joins-elmor-as-the-only-person-to-push-a-cpu-past-9-ghz
    เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2025 นักโอเวอร์คล็อกชาวจีนที่ใช้ชื่อว่า "wytiwx" ได้ทำลายสถิติโลกด้วยการโอเวอร์คล็อกโปรเซสเซอร์ Intel i9-14900KF ที่ความถี่ 9.12 GHz ซึ่งเป็นการทำลายสถิติเดิมของ Elmor ที่เคยทำไว้ที่ 9.08 GHz การโอเวอร์คล็อกครั้งนี้ใช้โปรเซสเซอร์ Intel i9-14900KF ที่มีการปิดการทำงานของ E-cores ทั้งหมดและปิดการทำงานของ Hyperthreading โดยใช้เมนบอร์ด Asus ROG Maximus Z790 Apex และหน่วยความจำ DDR5 ขนาด 16GB การทดสอบนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 ซึ่งเป็นการเลือกที่น่าสนใจ โปรเซสเซอร์ Intel i9-14900KF เป็นโปรเซสเซอร์ที่ไม่มี iGPU และมี 24 คอร์ (8 P-cores และ 16 E-cores) และ 32 เธรด โดยมีความถี่เทอร์โบสูงสุดที่ 6 GHz จากโรงงาน การโอเวอร์คล็อกครั้งนี้ใช้แรงดันไฟฟ้า 1.387V และมีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้การระบายความร้อนด้วยไนโตรเจนเหลวหรือฮีเลียมเหลว การทำลายสถิติโลกครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการโอเวอร์คล็อกของโปรเซสเซอร์ Intel i9-14900KF และเป็นการท้าทายให้ Elmor กลับมาทำลายสถิติอีกครั้ง การโอเวอร์คล็อกที่ทำลายสถิติโลกนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการโอเวอร์คล็อกของโปรเซสเซอร์ Intel และเป็นการท้าทายให้ชุมชนนักโอเวอร์คล็อกทั่วโลกพยายามทำลายสถิติใหม่ ๆ ต่อไป ลุงว่าที่เขาใช้ Win 7 เพราะมันเบากว่า Windows 10 หรือ 11 ทำให้สามารถลดความหน่วงของระบบและเพิ่มประสิทธิภาพในการโอเวอร์คล็อกได้ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-i9-14900kf-overclocker-clinches-cpu-frequency-world-record-at-9-12-ghz-wytiwx-joins-elmor-as-the-only-person-to-push-a-cpu-past-9-ghz
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Overclocker grabs CPU frequency world record with 14900KF at 9.12 GHz
    Elmor finally gets dethroned, but the Core i9 remains the frequency king.
    0 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
  • คอมพิวเตอร์ Thelio Astra จาก System76 เป็นคอมพิวเตอร์ Arm ที่เร็วที่สุดในโลก โดยใช้ CPU Ampere Altra Max 128-core ซึ่งทำลายสถิติโลกใน Cinebench 2024 คอมพิวเตอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ยานยนต์ และมีราคาเริ่มต้นที่ $3,299

    คอมพิวเตอร์ Thelio Astra จาก System76 ได้รับการทดสอบโดย Jeff Geerling และทำคะแนนได้มากกว่า 5,000 คะแนนใน Cinebench 2024 คอมพิวเตอร์นี้มี CPU 128-core, RAM 512GB, และพื้นที่เก็บข้อมูล 1TB พร้อมกับการ์ดจอ Nvidia RTX A400 workstation อย่างไรก็ตาม การใช้ Windows บนระบบนี้ยังมีปัญหาเนื่องจาก Nvidia ยังไม่มีไดรเวอร์สำหรับ Windows บน Arm

    https://www.tomshardware.com/software/linux/worlds-fastest-arm-pc-put-to-the-test-128-core-ampere-altra-max-cpu-claims-128-core-cinebench-2024-world-record
    คอมพิวเตอร์ Thelio Astra จาก System76 เป็นคอมพิวเตอร์ Arm ที่เร็วที่สุดในโลก โดยใช้ CPU Ampere Altra Max 128-core ซึ่งทำลายสถิติโลกใน Cinebench 2024 คอมพิวเตอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ยานยนต์ และมีราคาเริ่มต้นที่ $3,299 คอมพิวเตอร์ Thelio Astra จาก System76 ได้รับการทดสอบโดย Jeff Geerling และทำคะแนนได้มากกว่า 5,000 คะแนนใน Cinebench 2024 คอมพิวเตอร์นี้มี CPU 128-core, RAM 512GB, และพื้นที่เก็บข้อมูล 1TB พร้อมกับการ์ดจอ Nvidia RTX A400 workstation อย่างไรก็ตาม การใช้ Windows บนระบบนี้ยังมีปัญหาเนื่องจาก Nvidia ยังไม่มีไดรเวอร์สำหรับ Windows บน Arm https://www.tomshardware.com/software/linux/worlds-fastest-arm-pc-put-to-the-test-128-core-ampere-altra-max-cpu-claims-128-core-cinebench-2024-world-record
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    World's fastest Arm PC put to the test
    This tower of power from System76 is designed for automotive software devs and starts at $3,299.
    0 Comments 0 Shares 298 Views 0 Reviews
More Results