• พุทธรักษางามตาท้าแดดฝน
    มิจำนนอดทนฝืนยืนหยัดสู้
    แดดแผดเผาเท่าใดใครย่อมรู้
    รวมเป็นหมู่ผู้ไม่แพ้แลตะลึง

    ภาพแปลงดอกพุทธรักษา ถ่ายไว้ประมาณ 8 ปีที่แล้ว ณ โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ ท่ายาง เพชรบุรี

    #พุทธรักษา
    #ดอกไม้
    #thaitimes
    #บทกวี
    #กลอน
    #ชั่งหัวมัน
    #เพชรบุรี
    #โครงการพระราชดำริ
    พุทธรักษางามตาท้าแดดฝน มิจำนนอดทนฝืนยืนหยัดสู้ แดดแผดเผาเท่าใดใครย่อมรู้ รวมเป็นหมู่ผู้ไม่แพ้แลตะลึง ภาพแปลงดอกพุทธรักษา ถ่ายไว้ประมาณ 8 ปีที่แล้ว ณ โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ ท่ายาง เพชรบุรี #พุทธรักษา #ดอกไม้ #thaitimes #บทกวี #กลอน #ชั่งหัวมัน #เพชรบุรี #โครงการพระราชดำริ
    Like
    Love
    Yay
    5
    0 Comments 1 Shares 701 Views 1 Reviews
  • #คุยแบบกลางๆอยู่ข้างพี่น้องชาวไทย
    #ทองแม่ตั๊กบทพิสูจน์ธรรมะหรืออธรรม
    สวัสดีครับ แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง
    สำหรับคนที่ตามข่าวนี้ และรู้จักแม่ตั๊ก ก็จะมีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน
    โดยสังเกตุได้จาก จะมี 2 ด้าน นั่นเพราะประสบการณ์ของแต่ละคนที่เจอนั้นต่างกัน
    เรื่องนี้ เริ่มตั้งแต่มีข่าวเรื่องคนเอาทองแม่ตั๊ก ซึ่งพี่คิงส์ขออนุญาตแฟนเพจ จะไม่เรียกว่าแม่อีก ขอเรียกชื่อว่า ตั๊ก เป็นอันเข้าใจ ส่วนเหตุผลคือ ไม่ใช่แม่กรรู แต่ก็ไม่ได้หมายถึงการด้อยค่าแต่อย่างใด ยังคงให้เกียรติคนที่รู้จักในฝั่งที่มีประสบการณ์ที่ดี และนับถือกันจริงๆอยู่
    -พี่คิงส์ต้องบอกว่า นี่คือ บทพิสูจน์ทั้งคนที่เป็นคู่กรณี และประชาชนไทย เพราะถือว่าเป็นสิ่งใหม่มาก ที่เรายังไม่เคยเจอเคสแบบนี้
    คำว่าไม่เคยเจอ ไม่ใช่เราไม่เคยเจอทอง ที่ไม่สามารถขายที่ร้านทองได้ แต่เราไม่เคยเจอ การที่่คนรู้จักตั๊ก ในมุมที่ต่างกันสุดขั้ว
    มุมมองที่ 1 เป็นคนที่มีน้ำใจ ช่วยเหลือคน และมีบุญคุณกับคนจำนวนมากมาย
    กับมุมมองที่ 2 เป็นแม่ค้าที่ให้โอกาสลูกทีม ได้ลืมตาอ้าปาก มีน้ำใจจนหลายคนเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้
    มีมุมมองที่ 3 นั่นคือลูกค้าที่เคยรับสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาดีและไม่เคยมีปัญหาที่มีความคลุมเคลืออย่างที่เป็นข่าว
    มุมมองที่ 4 คือลูกค้าที่พบประสบการณ์ที่ไม่ดี โดยเฉพาะเรื่องทองไม่ลอกไม่ดำ แต่จำนำไม่ได้
    ซึ่งจากการขุด สืบ ข้อมูลตามสไตล์พี่คิงส์ ได้สอบถามคนที่ผ่านประสบการณ์มาทั้ง 4 มุม
    คำถามว่า ทำไม พี่คิงส์ต้องเริ่มจากจุดนี้
    เพราะถ้าใครจำได้ วันแรก พี่คิงส์เคยโพสเรื่องนี้ไป
    แม่ตั๊ก กามิจ ดอกไม้สีทอง ถ้ายังจำกันได้
    โดยหลังจากโพสไม่นาน มีแฟนเพจคิงส์ที่เป็นด้อมแพนด้านี่แหละ
    ทักมาหลายคนมาก ต่างเล่าประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
    พี่คิงส์ จึงลบข้อมูลที่โพสบางส่วน เพื่อหาข้อมูล ว่าเพราะอะไร จึงมีคนออกมาปกป้อง ที่พี่คิงส์ก็มั่นใจว่า เค้าเป็นแฟนเพจพี่คิงส์จริงๆ เพราะมีประวัตคุยแชทกับพี่คิงส์มาก่อนหน้านานแล้ว
    ดังนั้น พี่คิงส์คิดว่า เรามาทำความเข้าใจในธุรกิจของตั๊กก่อน
    1. มีบริษัท จริง มีสินค้าจริง
    2. มีทักษะการสื่อสารที่ดี ใช้โซเชียลชำนาญ ไม่แพ้พิมรี่พาย แต่มีระบบเครือข่ายไดเร็คที่แข็งแกร่งกว่ามาก
    3. สินค้าส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา
    4. ปัญหาคือทองที่นำไปขายไม่ได้ อันนี้ชัดเจน
    พอเรามองส่วนนี้ เรามาดูผลจาก 3 ข้อแรกก่อน
    ในสามข้อแรก ตั๊ก ได้นำรายได้จากผลกำไรที่พี่คิงส์สืบแล้วไม่มีอะไรคลุมเคลือ แต่มีรายได้มหาศาลจากการขายจริง และยังเชื่อว่าสืบพิสูจน์ได้
    1. เปิดให้คนที่ไม่มีทุน มาทำธุรกิจ และหลายคน เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้
    2. นำเงินไปทำพีอาร์ ที่เป็น CHR ช่วยเหลือคนจริง และมีจำนวนมากด้วย
    ดังนั้น เฉพาะสองส่วนนี้ เวลาที่ตั๊ก มีปัญหากับมวลชนหรือสื่อ
    จึงมีคนที่เคยได้รับความช่วยเหลือ ออกปกป้องด้วยความบริสุทธิ์ใจ แบบไม่มีการจ้างวานแต่อย่างใด และพี่คิงส์บอกเลยว่า สองกลุ่มนี้ จำนวนมากอย่างที่แฟนเพจอาจจะคาดไม่ถึง
    คราวนี้ เรามาดูผลจากข้อที่ 4 และพิสูจน์ความจริง ใครที่คิดว่า อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คือใกล้จบแล้วพี่คิงส์เตือนไว้ก่อนเลยว่า เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ป่ะ เราไปกันต่อ
    เรื่องของทอง ต้องยอมรับความจริงให้ได้่
    1. ทองที่ตั๊กขาย ไม่ใช่ทอง
    2. บางชิ้น เป็นโลหะ บางชิ้น เป็นกระดาษพ่นโลหะ บางชิ้นเป็นพลาสติกเคลือบโลหะ และบางชิ้น มีส่วนผสมของทองน้อยมากๆจนไม่มีใครสะกัดออกมาเพื่อชั่งน้ำหนักได้แม้แต่เป็นการหลอมก็ตาม และในบางชิ้นที่กล่าวไปแล้ว บางอย่างเป็นของแถมที่ตั๊กเองก็พูดยืนยันว่า เป็นทองคำบริสุทธิ์ 99.99
    3. ในส่วนของดอกไม้สีทอง ได้มีการนำตรวจพิสูจน์แล้วว่า เป็นดอกไม้สีทองที่เคลือบด้วยสารคล้ายฟิล์มสีทอง และพี่คิงส์ก็สืบต่ออีกว่า ดอกไม้สีทองแบบนี้ เหมือนกันเป๊ะๆ มันมาจากไหน ก็ได้ข้อมูลว่า มันคือดอกไม้สำหรับการปักเค้กวันเกิด ที่จีนจำหน่ายผ่านแอพประมาณ 1.2 หยวน
    เราเข้าใจตัวสินค้าที่มีปัญหาก็จะไปต่อกันได้
    คำถามคือ การขายทองที่ไม่แท้นี้ ดำเนินกิจการมานานมากแล้วใช้มั๊ย ก็ต้องบอกว่า นานพอสมควรเลยและส่วนต่างกำไรนั้นก็มหาศาล
    แต่มีจุดสำคัญคือ
    1. ตั๊กจะประกาศซื้อขายแลกเปลี่ยน หมายความว่า ถ้าคุณไม่โอเค ตั๊กยินดีซื้อคืน ในเรทที่หักไปประมาณ 60เปอร์เซ็น+- ซึ่งตั๊กก็ประกาศและทำตามนั้นจริง ไม่มีผลัดผ่อนแต่อย่างใด
    2. กรณีของคน ที่มีปัญหาหนักๆจริงๆ ด้วยความที่ตั๊กมีธุรกิจหลายตัวและสร้างรายได้มหาศาลมาก่อนจับเรื่องทอง การคืนแบบเต็มจำนวน หรือจะมีส่วนในการชดใช้เยียวยาเพิ่มแต่ละรายตามตกลงนั้น ตั๊กก็ยินดีคืนแบบไม่มีผลัดผ่อน แต่อย่างใด
    ดังนั้น จากสองกรณีนี้ จึงจบได้ ไม่มีปัญหาและคนที่โดยเฉพาะรักตั๊กอยู่แล้ว ก็ยิ่งมีมุมมองว่า ตั๊กไม่ได้ผิดอะไรเลย ก็ทำตามที่สัญญา
    ในส่วนที่นำไปขายที่ร้านทองไม่ได้ ตั๊กก็พูดย้ำในไลฟ์เช่นกันว่า ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ คือที่ตั๊ก ไม่ใช่ที่อื่น
    จึงดูแล้ว ทุกอย่างก็เหมือนจะชัด แต่มันก็ยังไม่ชัด อย่างไรไม่รู้ในสายตาของคนจำนวนไม่น้อยเช่นกัน
    และเราจะเห็นจากข้อมูลข่าวอีกว่า สุดท้าย ตั๊กยินดีที่จะคืนเต็มจำนวนกับทุกราย ซึ่งให้นำของแถมคืนให้ครบ หากไม่คบ จะมีการหักไปบางชิ้นถึงหมื่น ก็กลายเป็นปมกลับมาให้พี่หนุ่มเอง รู้สึกว่าจบแบบนี้ยังไม่โอเค
    ซึ่งพี่คิงส์บอกเลยว่า สุดท้าย ตั๊กก็จะคืนเต็มจำนวนแม้ว่าของแถมจะขาดหายไปก็ตาม ถ้าลูกค้าไม่ยอมจริงๆ
    สุดท้าย ลูกค้าที่ซื้อไป และเกิดความเสียหาย สิ่งที่ต้องการไม่ใช่การเอาเรื่อง สิ่งที่ต้องการจริงๆคือการได้รับการชดใช้ แค่นั้นก็เพียงพอแบบไม่ต้องการติดใจเอาความอีกต่อไป
    ดังนั้น เรื่องนี้จะเป็นตำนานบทใหม่ ที่มีความยากในการแยกว่า สุดท้าย ตั๊กคือธรรมมะ หรืออธรรม
    ถ้าจะมองว่าธรรมมะ ก็ไม่น่าจะนำทองที่ไม่แท้มาจำหน่าย
    ถ้ามองว่าอธรรม ตั๊กก็พร้อมรับจบทุกรายโดยคืนเต็มจำนวน
    ความเสียหายจึงไม่เกิด และพี่คิงส์ก็เชื่อว่าลูกค้าตั๊กเองก็จะไม่ลดด้วย
    จากเหตุหลายปัจจัยที่ประกอบกันที่แจ้งไว้ตั้งแต่ต้น
    นี่แหละ แม้แต่พี่คิงส์ ได้นำเสนอมาถึงจุดนี้
    ก็เชื่อว่าแฟนเพจเอง ก็ยังอึนๆ มึนๆ และไม่สามารถให้ข้อสรุปได้เช่นกัน
    ว่าเราจะเสื่อในสิ่งที่เฮ็ด หรือเราจะเฮ็ดในสิ่งที่เสื่อ
    หรือช่วยตอบพี่คิงส์ใต้โพสได้มั๊ยว่า แฟนเพจคิงคิดว่า
    ตั๊ก คือแบบไหนกันแน่
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คุยแบบกลางๆอยู่ข้างพี่น้องชาวไทย #ทองแม่ตั๊กบทพิสูจน์ธรรมะหรืออธรรม สวัสดีครับ แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง สำหรับคนที่ตามข่าวนี้ และรู้จักแม่ตั๊ก ก็จะมีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน โดยสังเกตุได้จาก จะมี 2 ด้าน นั่นเพราะประสบการณ์ของแต่ละคนที่เจอนั้นต่างกัน เรื่องนี้ เริ่มตั้งแต่มีข่าวเรื่องคนเอาทองแม่ตั๊ก ซึ่งพี่คิงส์ขออนุญาตแฟนเพจ จะไม่เรียกว่าแม่อีก ขอเรียกชื่อว่า ตั๊ก เป็นอันเข้าใจ ส่วนเหตุผลคือ ไม่ใช่แม่กรรู แต่ก็ไม่ได้หมายถึงการด้อยค่าแต่อย่างใด ยังคงให้เกียรติคนที่รู้จักในฝั่งที่มีประสบการณ์ที่ดี และนับถือกันจริงๆอยู่ -พี่คิงส์ต้องบอกว่า นี่คือ บทพิสูจน์ทั้งคนที่เป็นคู่กรณี และประชาชนไทย เพราะถือว่าเป็นสิ่งใหม่มาก ที่เรายังไม่เคยเจอเคสแบบนี้ คำว่าไม่เคยเจอ ไม่ใช่เราไม่เคยเจอทอง ที่ไม่สามารถขายที่ร้านทองได้ แต่เราไม่เคยเจอ การที่่คนรู้จักตั๊ก ในมุมที่ต่างกันสุดขั้ว มุมมองที่ 1 เป็นคนที่มีน้ำใจ ช่วยเหลือคน และมีบุญคุณกับคนจำนวนมากมาย กับมุมมองที่ 2 เป็นแม่ค้าที่ให้โอกาสลูกทีม ได้ลืมตาอ้าปาก มีน้ำใจจนหลายคนเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ มีมุมมองที่ 3 นั่นคือลูกค้าที่เคยรับสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาดีและไม่เคยมีปัญหาที่มีความคลุมเคลืออย่างที่เป็นข่าว มุมมองที่ 4 คือลูกค้าที่พบประสบการณ์ที่ไม่ดี โดยเฉพาะเรื่องทองไม่ลอกไม่ดำ แต่จำนำไม่ได้ ซึ่งจากการขุด สืบ ข้อมูลตามสไตล์พี่คิงส์ ได้สอบถามคนที่ผ่านประสบการณ์มาทั้ง 4 มุม คำถามว่า ทำไม พี่คิงส์ต้องเริ่มจากจุดนี้ เพราะถ้าใครจำได้ วันแรก พี่คิงส์เคยโพสเรื่องนี้ไป แม่ตั๊ก กามิจ ดอกไม้สีทอง ถ้ายังจำกันได้ โดยหลังจากโพสไม่นาน มีแฟนเพจคิงส์ที่เป็นด้อมแพนด้านี่แหละ ทักมาหลายคนมาก ต่างเล่าประสบการณ์ที่แตกต่างกัน พี่คิงส์ จึงลบข้อมูลที่โพสบางส่วน เพื่อหาข้อมูล ว่าเพราะอะไร จึงมีคนออกมาปกป้อง ที่พี่คิงส์ก็มั่นใจว่า เค้าเป็นแฟนเพจพี่คิงส์จริงๆ เพราะมีประวัตคุยแชทกับพี่คิงส์มาก่อนหน้านานแล้ว ดังนั้น พี่คิงส์คิดว่า เรามาทำความเข้าใจในธุรกิจของตั๊กก่อน 1. มีบริษัท จริง มีสินค้าจริง 2. มีทักษะการสื่อสารที่ดี ใช้โซเชียลชำนาญ ไม่แพ้พิมรี่พาย แต่มีระบบเครือข่ายไดเร็คที่แข็งแกร่งกว่ามาก 3. สินค้าส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา 4. ปัญหาคือทองที่นำไปขายไม่ได้ อันนี้ชัดเจน พอเรามองส่วนนี้ เรามาดูผลจาก 3 ข้อแรกก่อน ในสามข้อแรก ตั๊ก ได้นำรายได้จากผลกำไรที่พี่คิงส์สืบแล้วไม่มีอะไรคลุมเคลือ แต่มีรายได้มหาศาลจากการขายจริง และยังเชื่อว่าสืบพิสูจน์ได้ 1. เปิดให้คนที่ไม่มีทุน มาทำธุรกิจ และหลายคน เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ 2. นำเงินไปทำพีอาร์ ที่เป็น CHR ช่วยเหลือคนจริง และมีจำนวนมากด้วย ดังนั้น เฉพาะสองส่วนนี้ เวลาที่ตั๊ก มีปัญหากับมวลชนหรือสื่อ จึงมีคนที่เคยได้รับความช่วยเหลือ ออกปกป้องด้วยความบริสุทธิ์ใจ แบบไม่มีการจ้างวานแต่อย่างใด และพี่คิงส์บอกเลยว่า สองกลุ่มนี้ จำนวนมากอย่างที่แฟนเพจอาจจะคาดไม่ถึง คราวนี้ เรามาดูผลจากข้อที่ 4 และพิสูจน์ความจริง ใครที่คิดว่า อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คือใกล้จบแล้วพี่คิงส์เตือนไว้ก่อนเลยว่า เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ป่ะ เราไปกันต่อ เรื่องของทอง ต้องยอมรับความจริงให้ได้่ 1. ทองที่ตั๊กขาย ไม่ใช่ทอง 2. บางชิ้น เป็นโลหะ บางชิ้น เป็นกระดาษพ่นโลหะ บางชิ้นเป็นพลาสติกเคลือบโลหะ และบางชิ้น มีส่วนผสมของทองน้อยมากๆจนไม่มีใครสะกัดออกมาเพื่อชั่งน้ำหนักได้แม้แต่เป็นการหลอมก็ตาม และในบางชิ้นที่กล่าวไปแล้ว บางอย่างเป็นของแถมที่ตั๊กเองก็พูดยืนยันว่า เป็นทองคำบริสุทธิ์ 99.99 3. ในส่วนของดอกไม้สีทอง ได้มีการนำตรวจพิสูจน์แล้วว่า เป็นดอกไม้สีทองที่เคลือบด้วยสารคล้ายฟิล์มสีทอง และพี่คิงส์ก็สืบต่ออีกว่า ดอกไม้สีทองแบบนี้ เหมือนกันเป๊ะๆ มันมาจากไหน ก็ได้ข้อมูลว่า มันคือดอกไม้สำหรับการปักเค้กวันเกิด ที่จีนจำหน่ายผ่านแอพประมาณ 1.2 หยวน เราเข้าใจตัวสินค้าที่มีปัญหาก็จะไปต่อกันได้ คำถามคือ การขายทองที่ไม่แท้นี้ ดำเนินกิจการมานานมากแล้วใช้มั๊ย ก็ต้องบอกว่า นานพอสมควรเลยและส่วนต่างกำไรนั้นก็มหาศาล แต่มีจุดสำคัญคือ 1. ตั๊กจะประกาศซื้อขายแลกเปลี่ยน หมายความว่า ถ้าคุณไม่โอเค ตั๊กยินดีซื้อคืน ในเรทที่หักไปประมาณ 60เปอร์เซ็น+- ซึ่งตั๊กก็ประกาศและทำตามนั้นจริง ไม่มีผลัดผ่อนแต่อย่างใด 2. กรณีของคน ที่มีปัญหาหนักๆจริงๆ ด้วยความที่ตั๊กมีธุรกิจหลายตัวและสร้างรายได้มหาศาลมาก่อนจับเรื่องทอง การคืนแบบเต็มจำนวน หรือจะมีส่วนในการชดใช้เยียวยาเพิ่มแต่ละรายตามตกลงนั้น ตั๊กก็ยินดีคืนแบบไม่มีผลัดผ่อน แต่อย่างใด ดังนั้น จากสองกรณีนี้ จึงจบได้ ไม่มีปัญหาและคนที่โดยเฉพาะรักตั๊กอยู่แล้ว ก็ยิ่งมีมุมมองว่า ตั๊กไม่ได้ผิดอะไรเลย ก็ทำตามที่สัญญา ในส่วนที่นำไปขายที่ร้านทองไม่ได้ ตั๊กก็พูดย้ำในไลฟ์เช่นกันว่า ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ คือที่ตั๊ก ไม่ใช่ที่อื่น จึงดูแล้ว ทุกอย่างก็เหมือนจะชัด แต่มันก็ยังไม่ชัด อย่างไรไม่รู้ในสายตาของคนจำนวนไม่น้อยเช่นกัน และเราจะเห็นจากข้อมูลข่าวอีกว่า สุดท้าย ตั๊กยินดีที่จะคืนเต็มจำนวนกับทุกราย ซึ่งให้นำของแถมคืนให้ครบ หากไม่คบ จะมีการหักไปบางชิ้นถึงหมื่น ก็กลายเป็นปมกลับมาให้พี่หนุ่มเอง รู้สึกว่าจบแบบนี้ยังไม่โอเค ซึ่งพี่คิงส์บอกเลยว่า สุดท้าย ตั๊กก็จะคืนเต็มจำนวนแม้ว่าของแถมจะขาดหายไปก็ตาม ถ้าลูกค้าไม่ยอมจริงๆ สุดท้าย ลูกค้าที่ซื้อไป และเกิดความเสียหาย สิ่งที่ต้องการไม่ใช่การเอาเรื่อง สิ่งที่ต้องการจริงๆคือการได้รับการชดใช้ แค่นั้นก็เพียงพอแบบไม่ต้องการติดใจเอาความอีกต่อไป ดังนั้น เรื่องนี้จะเป็นตำนานบทใหม่ ที่มีความยากในการแยกว่า สุดท้าย ตั๊กคือธรรมมะ หรืออธรรม ถ้าจะมองว่าธรรมมะ ก็ไม่น่าจะนำทองที่ไม่แท้มาจำหน่าย ถ้ามองว่าอธรรม ตั๊กก็พร้อมรับจบทุกรายโดยคืนเต็มจำนวน ความเสียหายจึงไม่เกิด และพี่คิงส์ก็เชื่อว่าลูกค้าตั๊กเองก็จะไม่ลดด้วย จากเหตุหลายปัจจัยที่ประกอบกันที่แจ้งไว้ตั้งแต่ต้น นี่แหละ แม้แต่พี่คิงส์ ได้นำเสนอมาถึงจุดนี้ ก็เชื่อว่าแฟนเพจเอง ก็ยังอึนๆ มึนๆ และไม่สามารถให้ข้อสรุปได้เช่นกัน ว่าเราจะเสื่อในสิ่งที่เฮ็ด หรือเราจะเฮ็ดในสิ่งที่เสื่อ หรือช่วยตอบพี่คิงส์ใต้โพสได้มั๊ยว่า แฟนเพจคิงคิดว่า ตั๊ก คือแบบไหนกันแน่ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 441 Views 1 Reviews
  • ☆เบตง (จีน: 勿洞)
    เป็นเทศบาลเมืองในอำเภอเบตง
    จังหวัดยะลา
    ภาคใต้ของประเทศไทย
    ติดกับเขตแดนประเทศมาเลเซีย
    มีพื้นที่ทั้งหมด 78 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมตำบลเบตงทั้งตำบล และมีประชากรในปี พ.ศ. 2548
    จำนวน 24,688 คน

    เบตงเป็นเทศบาลเมืองที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของประเทศไทย
    สมญา: เมืองในหมอกและดอกไม้งาม
    คำขวัญ: เบตงใต้สุดแดนสยาม เมืองงามน่าอยู่
    คู่การลงทุน หนุนการท่องเที่ยว
    ประชาชนกลมเกลียว ยึดเหนี่ยววัฒนธรรม
    ค้ำจุนประเพณี ใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า
    ■■■■■■■■■■■■■■■■
    #เบตง #ยะลา #ใต้สุดแดนสยาม #ยะลาน่าเที่ยว #มะนาวก้าวเดิน
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ☆เบตง (จีน: 勿洞) เป็นเทศบาลเมืองในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ภาคใต้ของประเทศไทย ติดกับเขตแดนประเทศมาเลเซีย มีพื้นที่ทั้งหมด 78 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมตำบลเบตงทั้งตำบล และมีประชากรในปี พ.ศ. 2548 จำนวน 24,688 คน เบตงเป็นเทศบาลเมืองที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของประเทศไทย สมญา: เมืองในหมอกและดอกไม้งาม คำขวัญ: เบตงใต้สุดแดนสยาม เมืองงามน่าอยู่ คู่การลงทุน หนุนการท่องเที่ยว ประชาชนกลมเกลียว ยึดเหนี่ยววัฒนธรรม ค้ำจุนประเพณี ใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า ■■■■■■■■■■■■■■■■ #เบตง #ยะลา #ใต้สุดแดนสยาม #ยะลาน่าเที่ยว #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 920 Views 414 0 Reviews
  • 27 กันยายน 2567 -เปลว สีเงิน ผู้เขียนคอลัมน์”คนปลายซอย“ วิพากษ์วิจารณ์ ”พริษฐ วัชรสินธุ“'สส.พรรคประชาชน ที่เสนอ ๗ แพ็กเกจ" แก้รัฐธรรมนูญ เตือนอย่าบ้า "ประชาธิปไตย-เผด็จการ" โดยไม่รู้จักแยกแยะด้วยเหตุและผลให้มากนัก เนื้อหาในบทความระบุว่า

    "นายพริษฐ์ วัชรสินธุ" ที่แสนจะน่าระอา

    ถ้าเป็นดอกไม้ ก็เป็นดอกไม้พลาสติก มีสี มีฟอร์ม

    แต่...ไม่มีกลิ่น!

    จึงแห้งแล้ง ไม่มีเสน่ห์ ไร้ราคา ค่าแค่มาลัยพลาสติกสวมจอมปลวก ไม่มีวาสนาขึ้นหิ้งบูชาพระ หรืองามสง่าคู่แจกันห้องรับแขก

    หรือถ้าเป็นม้าแข่ง

    ก็เป็น "ม้าพันทาง" วิชาความรู้ปรัชญาการเมืองตามกากตำราฝรั่งเป็น "กะบังตา" สวม

    ก็ไม่เห็นซ้าย-ไม่เห็นขวา เข้าใจว่า โลกนี้ มีแต่ข้างหน้า เป็นทางไปทางเดียวตามตำราบอก ก็วิ่งทื่อตะบึงตรงไป

    หมายถึงว่า อะไรที่ผิดไปจากตำรากูเรียน มันไม่ใช่...มันต้องผิดไปทั้งหมด!

    ดูๆ ไปก็น่าเวทนา...

    ยิ่งเห็นออกมายืนตาแข็งเหมือนตาปลาแช่น้ำยาตามห้องเย็น ท่องตำราประชาธิปไตยว่ากล่าว

    เสนอ "๗ แพ็กเกจ" แก้รัฐธรรมนูญเมื่อวาน (๒๖ ก.ย.๖๗) นี้ด้วยแล้ว

    ต้องร้องว่า...เฮ้อ!

    เป็นอะไรมากมั้ย คุณไอติม ถ้าไม่ไหวกับการแบกตำราละก็ ดื่มนม แล้วกินยานอนพักซะบ้างก็ดีนะ

    คุณตั้งค่ามาตรฐานว่า กฎหมายที่มาจาก สส.-สว. "ระบบรัฐสภา" เท่านั้นที่เป็น "ประชาธิปไตย" ยึดโยงประชาชน

    นอกนั้น ไม่ใช่...ไม่เป็นประชาธิปไตย

    เช่น กฎหมายยุค คสช.หรือยุครัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

    คุณปฏิเสธ "รังเกียจ-ไม่ยอมรับ" ทั้งหมด!

    พร้อม "สวมกะบังตา" ฝรั่ง ชี้เป็นทางที่พรรคส้มจะชักลากไปเมื่อวาน ว่า

    "พรรค ปชน.ยืนยันมาตลอดว่า รัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ มีปัญหาเรื่องความชอบธรรมทางประชาธิปไตย

    ทั้งที่มา กระบวนการ และเนื้อหา

    ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องเดินหน้า ๒ เส้นทางแบบคู่ขนาน นั่นคือ

    -การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีความชอบธรรมทางประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด โดย ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด กับอีกเส้นทาง คือ

    -การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในประเด็นที่สำคัญและจำเป็นเร่งด่วน

    พรรค ปชน.จึงนำเสนอแนวคิด, ประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา โดยแบ่งชุดประเด็นออกเป็น ๗ แพ็กเกจ

    แพ็กเกจที่ ๑ “ลบล้างผลพวงรัฐประหาร

    แพ็กเกจที่ ๒ “ตีกรอบอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ, องค์กรอิสระ

    แพ็กเกจที่ ๓ “เพิ่มกลไกตรวจสอบการทุจริต”

    แพ็กเกจที่ ๔ “คุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน”

    แพ็กเกจที่ ๕ “ปฏิรูปกองทัพ”

    แพ็กเกจที่ ๖ “ยกระดับประสิทธิภาพรัฐสภา”

    แพ็กเกจที่ ๗ “ปรับเกณฑ์เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ”

    ฮึ่ๆ...

    ฟัง "ประชาธิปไตย" ที่พริษฐ์ยกเทิดทูนเป็นประทีปไร้แสงนำทางมืดบอดแล้ว

    นึกถึง "นิทานธรรม" ของหลวงปู่ชา "พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท)" วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี

    ท่านพูดฝรั่งไม่ได้ซักคำ....

    แต่ท่านนำพุทธธรรมไปสอนฝรั่งในยุโรป ในสหรัฐฯ ในเอเชีย จนมีคน "ต่างชาติ-ต่างภาษา" ทั้งฝรั่งและคนเอเชีย ขอบวชเป็นพระ

    มีวัดและสำนักสงฆ์ในสายหลวงปู่ชาเกิดขึ้นในประเทศต่างๆ ไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ แห่ง

    "หลวงปู่ชา" เป็นพระผู้เผยแผ่คำสอนพระพุทธองค์ไปยังตะวันตกเป็นรูปแรกๆ ก็พูดได้เช่นนั้น

    จนทุกวันนี้ พระพุทธศาสนาไปตั้งมั่นในยุโรปชนิด "เคร่งครัด-มั่นคง" ด้านปฏิบัติมุ่งตรง "แก่นพุทธธรรม" ยิ่งกว่าตามวัดในเมืองไทยหลายๆ แห่งด้วยซ้ำ

    เคยมีคนนำเรื่องการเมืองไปถามและแสดงทัศนะเกี่ยวกับประชาธิปไตยกับ "หลวงปู่ชา"

    พุทธศาสนา เป็นศาสนาของคนมีปัญญา

    ฉะนั้น "หลวงปู่ชา" ท่านจะไม่สอนคนตรงๆ แต่จะสอนผ่านอุปมา-อุปไมยเป็น "อุบายธรรม" ให้คนฟังใช้ปัญญาแทงทะลุเอาเอง

    อย่างกรณีโยมผู้นี้....

    เข้าไปกราบหลวงปู่แล้วพูดว่า

    "หลวงพ่อครับ ผมว่ามีประชาธิปไตยก็ดีนะครับ ผู้คนจะได้เคารพในการตัดสินใจของคนหมู่มากเป็นหลัก"

    "มันก็ไม่ถูกต้องเสมอไปหรอกโยม" หลวงปู่ชาท่านว่า โยมก็ย้อนถามว่า "ไม่ถูกต้องยังไงครับ?"

    หลวงปู่ชา ท่านก็กล่าวเป็นอุบายธรรมว่า....

    "ยกตัวอย่างมีแมลงวัน ๒๐ ตัว มีแมลงผึ้ง ๑๐ ตัว แมลงวัน ๒๐ ตัวบอกว่า "อุจจาระหอมหวาน อร่อยดี"

    แต่แมลงผึ้ง ๑๐ ตัว บอกว่า "น้ำผึ้งหอมหวาน อร่อยดี"

    ถ้าพูดตามหลักประชาธิปไตย "แมลงวันชนะ" แมลงผึ้ง เพราะคะแนนเสียง "มากกว่า"

    แมลงผึ้งแพ้ เพราะคะแนนเสียง "น้อยกว่า"

    เราเป็นมนุษย์ ชื่อว่าเป็น "สัตว์ประเสริฐ" มีปัญญามากกว่าสัตว์เหล่านั้น เราควรจะเชื่อใครดี?"

    "นิทานธรรม" เรื่องนี้ มีเผยแพร่ทั่วไป ผู้มีปัญญาก็จะตีความปริศนาธรรมนั้นเข้าใจ ตามที่หลวงปู่ยกเรื่องแมลงวันกับผึ้งเป็นอุปมา-อุปไมย

    หมายถึง "การตัดสินด้วย "หลักประชาธิปไตย" บางครั้งก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป ถ้าไม่เอาหลัก "ธรรมาธิปไตย" เข้าไปตัดสิน"

    แล้วพริษฐ์ ....คุณเป็น "ผึ้ง" หรือ "แมลงวัน" ล่ะ?

    ดีกรี "ปรัชญาการเมืองและเศรษฐศาสตร์" เหรียญทอง ออกซฟอร์ด มีปัญญาแยกแยะได้แน่!

    แต่ในการแยกแยะ ก่อนอื่น ต้องเข้าใจ "สถานะ" ให้ชัด ว่าเราเป็นแมลงวันหรือผึ้ง

    หรือเป็นคนใน "สถานะมนุษย์"?

    เมื่อรู้สถานะ พริษฐ์ ก็คือ "สัตว์ประเสริฐ" ต้องมีปัญญามากกว่าสัตว์แน่นอน

    ฉะนั้น ไหน "ประชาธิปไตย" หรือ "ไม่ประชาธิปไตย" ต้องเข้าใจว่าจะชี้ขาดด้วยมือในระบบรัฐสภา "ประชาธิปไตยเลือกตั้ง" หรือในระบบ "เผด็จการประชาธิปไตย" ตายตัวไม่ได้

    ต้องใช้ "ธรรมาธิปไตย" เป็นเครื่องตัดสินชี้ขาด!

    นี่ไม่ใช่เอะอะ ผมลากเข้าวัดนะ

    ต้องเข้าใจ "ธรรมะ" คือธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป ไม่มีอะไร "เป็นอยู่อย่างนั้นนิรันดร์"

    หรือพูดอีกที "ความหมุนเวียน-เปลี่ยนแปลง" นั่นแหละนิรันดร์

    ทุกสิ่ง ประกอบด้วยกาล ด้วยเวลา ด้วยสถานะ เมื่อถึงพร้อมแล้ว มันหมุนเวียน-เปลี่ยนผัน จากรูปแบบหนึ่งไปสู่อีกรูปแบบหนึ่ง ตามเหตุ-ปัจจัย ที่มันต้องเป็นด้วยตัวของมันเอง

    พริษฐ์ไม่ต้องเป็น "จอห์น ล็อก" บิดาแห่งประชาธิปไตยในศตวรรษที่ ๒๑ หรอก

    เป็นแฟน "ออนล็อกหยุ่น" ดีกว่า....

    ไปนั่งกิน breakfast ที่นั่นบ่อยๆ จะเป็นหนทางสร้างสมประสบการณ์ประชาธิปไตย จาก "หลายชีวิต-หลากรุ่น"

    บางที การได้สัมผัสวิถีประชาธิปไตยไทยแท้ๆ อาจทำให้ "ดอกไม้พลาสติก" มีกลิ่นหอมขึ้นมาก็ได้

    ทฤษฎี-หลักการตามตำรา นำมาชี้ขาด "ประชาธิปไตย-เผด็จการ" โดดๆ ไม่ได้หรอก

    มันต้องประกอบด้วย "ประสบการณ์" เพราะสังคมหนึ่งๆ มีทั้งประชาชนผึ้ง ทั้งประชาชนแมลงวัน

    ฉะนั้น บางเรื่องจะใช้ "จำนวนมาก" ถือเป็นประชาธิปไตย

    นั่นมันหลักการ "พลเมืองแมลง"

    มันไม่ถูก-ไม่ชอบธรรมตามหลัก "พลเมืองมนุษย์"

    อย่างจะเขียนกฎหมายให้ง่ายต่อการแยก "ราชอาณาจักร" ไปเป็นสาธารณรัฐ

    เขียนกฎหมาย ไม่เน้น "ศีลธรรม-จริยธรรม" ให้เข้าง่าย กินง่าย-โกงง่าย-อยู่ง่าย

    แค่ "มือมาก" ในระบบสภายกให้ ก็หมายความว่า เหล่านั้น เป็นประชาธิปไตยถูกต้องแล้ว

    ถูกตามประชาธิปไตยแมลงวันละก็ใช่

    แต่มัน "ไม่ถูกต้อง-ไม่ชอบธรรม" ตามประชาธิปไตยมนุษย์ ที่ต้องมี "ธรรม" เป็นแกนในกฎ-กติกาสังคม

    พริษฐ์ ว่า "กฎหมายที่มีขณะนี้ "คสช.เขียน" ไม่เป็นประชาธิปไตย ต้องรื้อทิ้งทั้งหมด"

    ถ้าอย่างนั้น.....

    ระบอบประชาธิปไตยที่ "คณะราษฎร" สถาปนาเมื่อ ปี ๒๔๗๕ ก็ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นประชาธิปไตย ต้องรื้อทิ้ง เพราะไม่ได้มาตามระบบรัฐสภา

    หากแต่มาจาก "คณะราษฎร" ใช้กำลังไปปล้นพระราชอำนาจจาก "พระมหากษัตริย์" มา

    นั่นเท่ากับคณะราษฎร เป็นเผด็จการ!

    และที่พริษฐ์บอก "รังเกียจ-ปฏิเสธ" ทุกกฎหมาย-ทุกคำสั่งของ คสช.ต้องยกเลิก เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ยึดโยงประชาชน

    งั้น พริษฐ์และพรรคส้ม ต้องพ้นสภาพ สส.ไปวันนี้เลย

    เพราะ พวกคุณทุกคน ถือกำเนิดมาจากรัฐธรรมนูญเผด็จการ ที่ให้มีเลือกตั้ง เมื่อรังเกียจ ให้ยกเลิกกฎหมายนั้น

    สส.พวกคุณและพรรคส้ม ก็ไม่มีกฎหมายรองรับ เป็น สส.ไม่ได้แล้ว!

    เห็นมั้ย พริษฐ์..."ความรู้ท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด" การพูดเอาเท่ ขาดประสบการณ์โลกจริง แยกเหตุ-แยกผล ไม่ได้ ก็ฉิบหายตัวเอง

    อย่าคิดต่ำกว่าหนอนในถังขี้เลย...พริษฐ์

    หนอน กินขี้เลี้ยงชีวิต มันรู้บุญคุณ มันไม่เคยเนรคุณถังขี้

    แต่พริษฐ์ เป็นมนุษย์ มีสมองคิดด้วยจิตสำนึกเหนือหนอน ฉะนั้น อย่าบ้า "ประชาธิปไตย-เผด็จการ" โดยไม่รู้จักแยกแยะด้วยเหตุและผลให้มากนัก

    จะปฏิรูปกองทัพ เลิกเกณฑ์ทหาร มีสงครามค่อยเกณฑ์

    พริษฐ์...หิวข้าวตอนไหน ค่อยไปทำตอนนั้น อย่างนั้นหรือ?

    นี่ถ้าวันนี้ไม่มีทหารละก็นะ

    พริษฐ์และคณะส้มต้องไปโกยเลนให้ชาวบ้านที่แม่สายแทน...เอามั้ย?

    กลับบ้าน อาบน้ำ ประแป้ง แล้วกินนมนอน ซะไป...พริษฐ์?!

    -เปลว สีเงิน

    ๒๗ กันยายน ๒๕๖๗

    คนปลายซอย

    ที่มา : https://www.thaipost.net/columnist-people/663854/?#m1kerm3y94d8my69xxm

    #Thaitimes
    27 กันยายน 2567 -เปลว สีเงิน ผู้เขียนคอลัมน์”คนปลายซอย“ วิพากษ์วิจารณ์ ”พริษฐ วัชรสินธุ“'สส.พรรคประชาชน ที่เสนอ ๗ แพ็กเกจ" แก้รัฐธรรมนูญ เตือนอย่าบ้า "ประชาธิปไตย-เผด็จการ" โดยไม่รู้จักแยกแยะด้วยเหตุและผลให้มากนัก เนื้อหาในบทความระบุว่า "นายพริษฐ์ วัชรสินธุ" ที่แสนจะน่าระอา ถ้าเป็นดอกไม้ ก็เป็นดอกไม้พลาสติก มีสี มีฟอร์ม แต่...ไม่มีกลิ่น! จึงแห้งแล้ง ไม่มีเสน่ห์ ไร้ราคา ค่าแค่มาลัยพลาสติกสวมจอมปลวก ไม่มีวาสนาขึ้นหิ้งบูชาพระ หรืองามสง่าคู่แจกันห้องรับแขก หรือถ้าเป็นม้าแข่ง ก็เป็น "ม้าพันทาง" วิชาความรู้ปรัชญาการเมืองตามกากตำราฝรั่งเป็น "กะบังตา" สวม ก็ไม่เห็นซ้าย-ไม่เห็นขวา เข้าใจว่า โลกนี้ มีแต่ข้างหน้า เป็นทางไปทางเดียวตามตำราบอก ก็วิ่งทื่อตะบึงตรงไป หมายถึงว่า อะไรที่ผิดไปจากตำรากูเรียน มันไม่ใช่...มันต้องผิดไปทั้งหมด! ดูๆ ไปก็น่าเวทนา... ยิ่งเห็นออกมายืนตาแข็งเหมือนตาปลาแช่น้ำยาตามห้องเย็น ท่องตำราประชาธิปไตยว่ากล่าว เสนอ "๗ แพ็กเกจ" แก้รัฐธรรมนูญเมื่อวาน (๒๖ ก.ย.๖๗) นี้ด้วยแล้ว ต้องร้องว่า...เฮ้อ! เป็นอะไรมากมั้ย คุณไอติม ถ้าไม่ไหวกับการแบกตำราละก็ ดื่มนม แล้วกินยานอนพักซะบ้างก็ดีนะ คุณตั้งค่ามาตรฐานว่า กฎหมายที่มาจาก สส.-สว. "ระบบรัฐสภา" เท่านั้นที่เป็น "ประชาธิปไตย" ยึดโยงประชาชน นอกนั้น ไม่ใช่...ไม่เป็นประชาธิปไตย เช่น กฎหมายยุค คสช.หรือยุครัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง คุณปฏิเสธ "รังเกียจ-ไม่ยอมรับ" ทั้งหมด! พร้อม "สวมกะบังตา" ฝรั่ง ชี้เป็นทางที่พรรคส้มจะชักลากไปเมื่อวาน ว่า "พรรค ปชน.ยืนยันมาตลอดว่า รัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ มีปัญหาเรื่องความชอบธรรมทางประชาธิปไตย ทั้งที่มา กระบวนการ และเนื้อหา ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องเดินหน้า ๒ เส้นทางแบบคู่ขนาน นั่นคือ -การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีความชอบธรรมทางประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด โดย ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด กับอีกเส้นทาง คือ -การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในประเด็นที่สำคัญและจำเป็นเร่งด่วน พรรค ปชน.จึงนำเสนอแนวคิด, ประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา โดยแบ่งชุดประเด็นออกเป็น ๗ แพ็กเกจ แพ็กเกจที่ ๑ “ลบล้างผลพวงรัฐประหาร แพ็กเกจที่ ๒ “ตีกรอบอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ, องค์กรอิสระ แพ็กเกจที่ ๓ “เพิ่มกลไกตรวจสอบการทุจริต” แพ็กเกจที่ ๔ “คุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน” แพ็กเกจที่ ๕ “ปฏิรูปกองทัพ” แพ็กเกจที่ ๖ “ยกระดับประสิทธิภาพรัฐสภา” แพ็กเกจที่ ๗ “ปรับเกณฑ์เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ฮึ่ๆ... ฟัง "ประชาธิปไตย" ที่พริษฐ์ยกเทิดทูนเป็นประทีปไร้แสงนำทางมืดบอดแล้ว นึกถึง "นิทานธรรม" ของหลวงปู่ชา "พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท)" วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี ท่านพูดฝรั่งไม่ได้ซักคำ.... แต่ท่านนำพุทธธรรมไปสอนฝรั่งในยุโรป ในสหรัฐฯ ในเอเชีย จนมีคน "ต่างชาติ-ต่างภาษา" ทั้งฝรั่งและคนเอเชีย ขอบวชเป็นพระ มีวัดและสำนักสงฆ์ในสายหลวงปู่ชาเกิดขึ้นในประเทศต่างๆ ไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ แห่ง "หลวงปู่ชา" เป็นพระผู้เผยแผ่คำสอนพระพุทธองค์ไปยังตะวันตกเป็นรูปแรกๆ ก็พูดได้เช่นนั้น จนทุกวันนี้ พระพุทธศาสนาไปตั้งมั่นในยุโรปชนิด "เคร่งครัด-มั่นคง" ด้านปฏิบัติมุ่งตรง "แก่นพุทธธรรม" ยิ่งกว่าตามวัดในเมืองไทยหลายๆ แห่งด้วยซ้ำ เคยมีคนนำเรื่องการเมืองไปถามและแสดงทัศนะเกี่ยวกับประชาธิปไตยกับ "หลวงปู่ชา" พุทธศาสนา เป็นศาสนาของคนมีปัญญา ฉะนั้น "หลวงปู่ชา" ท่านจะไม่สอนคนตรงๆ แต่จะสอนผ่านอุปมา-อุปไมยเป็น "อุบายธรรม" ให้คนฟังใช้ปัญญาแทงทะลุเอาเอง อย่างกรณีโยมผู้นี้.... เข้าไปกราบหลวงปู่แล้วพูดว่า "หลวงพ่อครับ ผมว่ามีประชาธิปไตยก็ดีนะครับ ผู้คนจะได้เคารพในการตัดสินใจของคนหมู่มากเป็นหลัก" "มันก็ไม่ถูกต้องเสมอไปหรอกโยม" หลวงปู่ชาท่านว่า โยมก็ย้อนถามว่า "ไม่ถูกต้องยังไงครับ?" หลวงปู่ชา ท่านก็กล่าวเป็นอุบายธรรมว่า.... "ยกตัวอย่างมีแมลงวัน ๒๐ ตัว มีแมลงผึ้ง ๑๐ ตัว แมลงวัน ๒๐ ตัวบอกว่า "อุจจาระหอมหวาน อร่อยดี" แต่แมลงผึ้ง ๑๐ ตัว บอกว่า "น้ำผึ้งหอมหวาน อร่อยดี" ถ้าพูดตามหลักประชาธิปไตย "แมลงวันชนะ" แมลงผึ้ง เพราะคะแนนเสียง "มากกว่า" แมลงผึ้งแพ้ เพราะคะแนนเสียง "น้อยกว่า" เราเป็นมนุษย์ ชื่อว่าเป็น "สัตว์ประเสริฐ" มีปัญญามากกว่าสัตว์เหล่านั้น เราควรจะเชื่อใครดี?" "นิทานธรรม" เรื่องนี้ มีเผยแพร่ทั่วไป ผู้มีปัญญาก็จะตีความปริศนาธรรมนั้นเข้าใจ ตามที่หลวงปู่ยกเรื่องแมลงวันกับผึ้งเป็นอุปมา-อุปไมย หมายถึง "การตัดสินด้วย "หลักประชาธิปไตย" บางครั้งก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป ถ้าไม่เอาหลัก "ธรรมาธิปไตย" เข้าไปตัดสิน" แล้วพริษฐ์ ....คุณเป็น "ผึ้ง" หรือ "แมลงวัน" ล่ะ? ดีกรี "ปรัชญาการเมืองและเศรษฐศาสตร์" เหรียญทอง ออกซฟอร์ด มีปัญญาแยกแยะได้แน่! แต่ในการแยกแยะ ก่อนอื่น ต้องเข้าใจ "สถานะ" ให้ชัด ว่าเราเป็นแมลงวันหรือผึ้ง หรือเป็นคนใน "สถานะมนุษย์"? เมื่อรู้สถานะ พริษฐ์ ก็คือ "สัตว์ประเสริฐ" ต้องมีปัญญามากกว่าสัตว์แน่นอน ฉะนั้น ไหน "ประชาธิปไตย" หรือ "ไม่ประชาธิปไตย" ต้องเข้าใจว่าจะชี้ขาดด้วยมือในระบบรัฐสภา "ประชาธิปไตยเลือกตั้ง" หรือในระบบ "เผด็จการประชาธิปไตย" ตายตัวไม่ได้ ต้องใช้ "ธรรมาธิปไตย" เป็นเครื่องตัดสินชี้ขาด! นี่ไม่ใช่เอะอะ ผมลากเข้าวัดนะ ต้องเข้าใจ "ธรรมะ" คือธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป ไม่มีอะไร "เป็นอยู่อย่างนั้นนิรันดร์" หรือพูดอีกที "ความหมุนเวียน-เปลี่ยนแปลง" นั่นแหละนิรันดร์ ทุกสิ่ง ประกอบด้วยกาล ด้วยเวลา ด้วยสถานะ เมื่อถึงพร้อมแล้ว มันหมุนเวียน-เปลี่ยนผัน จากรูปแบบหนึ่งไปสู่อีกรูปแบบหนึ่ง ตามเหตุ-ปัจจัย ที่มันต้องเป็นด้วยตัวของมันเอง พริษฐ์ไม่ต้องเป็น "จอห์น ล็อก" บิดาแห่งประชาธิปไตยในศตวรรษที่ ๒๑ หรอก เป็นแฟน "ออนล็อกหยุ่น" ดีกว่า.... ไปนั่งกิน breakfast ที่นั่นบ่อยๆ จะเป็นหนทางสร้างสมประสบการณ์ประชาธิปไตย จาก "หลายชีวิต-หลากรุ่น" บางที การได้สัมผัสวิถีประชาธิปไตยไทยแท้ๆ อาจทำให้ "ดอกไม้พลาสติก" มีกลิ่นหอมขึ้นมาก็ได้ ทฤษฎี-หลักการตามตำรา นำมาชี้ขาด "ประชาธิปไตย-เผด็จการ" โดดๆ ไม่ได้หรอก มันต้องประกอบด้วย "ประสบการณ์" เพราะสังคมหนึ่งๆ มีทั้งประชาชนผึ้ง ทั้งประชาชนแมลงวัน ฉะนั้น บางเรื่องจะใช้ "จำนวนมาก" ถือเป็นประชาธิปไตย นั่นมันหลักการ "พลเมืองแมลง" มันไม่ถูก-ไม่ชอบธรรมตามหลัก "พลเมืองมนุษย์" อย่างจะเขียนกฎหมายให้ง่ายต่อการแยก "ราชอาณาจักร" ไปเป็นสาธารณรัฐ เขียนกฎหมาย ไม่เน้น "ศีลธรรม-จริยธรรม" ให้เข้าง่าย กินง่าย-โกงง่าย-อยู่ง่าย แค่ "มือมาก" ในระบบสภายกให้ ก็หมายความว่า เหล่านั้น เป็นประชาธิปไตยถูกต้องแล้ว ถูกตามประชาธิปไตยแมลงวันละก็ใช่ แต่มัน "ไม่ถูกต้อง-ไม่ชอบธรรม" ตามประชาธิปไตยมนุษย์ ที่ต้องมี "ธรรม" เป็นแกนในกฎ-กติกาสังคม พริษฐ์ ว่า "กฎหมายที่มีขณะนี้ "คสช.เขียน" ไม่เป็นประชาธิปไตย ต้องรื้อทิ้งทั้งหมด" ถ้าอย่างนั้น..... ระบอบประชาธิปไตยที่ "คณะราษฎร" สถาปนาเมื่อ ปี ๒๔๗๕ ก็ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นประชาธิปไตย ต้องรื้อทิ้ง เพราะไม่ได้มาตามระบบรัฐสภา หากแต่มาจาก "คณะราษฎร" ใช้กำลังไปปล้นพระราชอำนาจจาก "พระมหากษัตริย์" มา นั่นเท่ากับคณะราษฎร เป็นเผด็จการ! และที่พริษฐ์บอก "รังเกียจ-ปฏิเสธ" ทุกกฎหมาย-ทุกคำสั่งของ คสช.ต้องยกเลิก เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ยึดโยงประชาชน งั้น พริษฐ์และพรรคส้ม ต้องพ้นสภาพ สส.ไปวันนี้เลย เพราะ พวกคุณทุกคน ถือกำเนิดมาจากรัฐธรรมนูญเผด็จการ ที่ให้มีเลือกตั้ง เมื่อรังเกียจ ให้ยกเลิกกฎหมายนั้น สส.พวกคุณและพรรคส้ม ก็ไม่มีกฎหมายรองรับ เป็น สส.ไม่ได้แล้ว! เห็นมั้ย พริษฐ์..."ความรู้ท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด" การพูดเอาเท่ ขาดประสบการณ์โลกจริง แยกเหตุ-แยกผล ไม่ได้ ก็ฉิบหายตัวเอง อย่าคิดต่ำกว่าหนอนในถังขี้เลย...พริษฐ์ หนอน กินขี้เลี้ยงชีวิต มันรู้บุญคุณ มันไม่เคยเนรคุณถังขี้ แต่พริษฐ์ เป็นมนุษย์ มีสมองคิดด้วยจิตสำนึกเหนือหนอน ฉะนั้น อย่าบ้า "ประชาธิปไตย-เผด็จการ" โดยไม่รู้จักแยกแยะด้วยเหตุและผลให้มากนัก จะปฏิรูปกองทัพ เลิกเกณฑ์ทหาร มีสงครามค่อยเกณฑ์ พริษฐ์...หิวข้าวตอนไหน ค่อยไปทำตอนนั้น อย่างนั้นหรือ? นี่ถ้าวันนี้ไม่มีทหารละก็นะ พริษฐ์และคณะส้มต้องไปโกยเลนให้ชาวบ้านที่แม่สายแทน...เอามั้ย? กลับบ้าน อาบน้ำ ประแป้ง แล้วกินนมนอน ซะไป...พริษฐ์?! -เปลว สีเงิน ๒๗ กันยายน ๒๕๖๗ คนปลายซอย ที่มา : https://www.thaipost.net/columnist-people/663854/?#m1kerm3y94d8my69xxm #Thaitimes
    Like
    Love
    9
    0 Comments 0 Shares 836 Views 0 Reviews
  • #อันนี้อย่าไปว่าน้องน้ำยาขัดส้วมเลย
    ก็จริงอยู่ พี่คิงส์ขยี้แรง
    น้องน้ำยาขัดส้วมไม่พอใจเป็นธรรมดา
    ก็พี่คิงส์อะดิ ดันไปเปิดเรื่องหญ่าาายของน้อง
    ว่าไปปริ๊นไวนิลไซต์ 1/1 รูปอิเหม็น
    แปะไว้ในห้องน้ำ และสำเร็จโทษตัวเองทุกวัน
    ถึงขนาดต้องแอบไปสมัครยูซผี หลบๆซ่อนๆ
    เป็นนินจา อาสุจิ๊ เลย พี่คิงส์เคยดูการ์ตูนเรื่องนี้ตอนเด็กๆ
    ที่ชอบพูดว่า นิน นิน นิน
    เอาน่า เป็ด อย่าไปเขินเลย
    มันก็เป็นการผ่อนคลายสำหรับสายหี่นแบบเอ็งนั่นแหละ
    อิเหม็นส่งดอกไม้เป็นของขวัญมาให้ วอร์เทอร์เอ็งก็วอร์คแล้ว
    เอ็งมันช่างเป็นชายที่อ่อนไหวซะเหลือเกิน
    นิน นิน นิน ปิ๊ด ก๊าบๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #อันนี้อย่าไปว่าน้องน้ำยาขัดส้วมเลย ก็จริงอยู่ พี่คิงส์ขยี้แรง น้องน้ำยาขัดส้วมไม่พอใจเป็นธรรมดา ก็พี่คิงส์อะดิ ดันไปเปิดเรื่องหญ่าาายของน้อง ว่าไปปริ๊นไวนิลไซต์ 1/1 รูปอิเหม็น แปะไว้ในห้องน้ำ และสำเร็จโทษตัวเองทุกวัน ถึงขนาดต้องแอบไปสมัครยูซผี หลบๆซ่อนๆ เป็นนินจา อาสุจิ๊ เลย พี่คิงส์เคยดูการ์ตูนเรื่องนี้ตอนเด็กๆ ที่ชอบพูดว่า นิน นิน นิน เอาน่า เป็ด อย่าไปเขินเลย มันก็เป็นการผ่อนคลายสำหรับสายหี่นแบบเอ็งนั่นแหละ อิเหม็นส่งดอกไม้เป็นของขวัญมาให้ วอร์เทอร์เอ็งก็วอร์คแล้ว เอ็งมันช่างเป็นชายที่อ่อนไหวซะเหลือเกิน นิน นิน นิน ปิ๊ด ก๊าบๆ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 434 Views 0 Reviews
  • #ทุยหน้ากระนูยแปลว่าทุยน่ารัก
    จากการหาข้อมูลถึงกระบวนการฟอกให้ขาวกับกลุ่มทุนดาร์คในประเทศ
    ต้องยอมรับในกลอุบายของกลุ่มนี้จริงๆ
    ปั้นนางเอกตกงานให้กลายเป็นขวัญใจคนไทย
    จากสตอรี่และการแสดง ที่เข้าถึงบทบาทสุดๆ
    และถึงแม้ว่า จะสร้างวีรกรรม จนดาราชายไทย
    ไม่สามารถให้ไปต่อได้ เพื่อปกป้องคนไทย
    จากกลุ่มเงินดาร์ค ที่อาศัยช่องโหว่ในการพีเคบิ๊กแม๊ต
    ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทั้งฝั่งยุโรป และเอเชียรวมถึงตะวันออกกลาง
    เป็นข่าวโด่งดังที่ทั่วโลกต่างตื่นตัว
    แต่ก็มิวาย ด้วยพลังงบประมาณทุนดาร์ผ่านเอเจนซี่
    และมีคนอย่างโจมณฑนี ที่ยอมแลกทุกอย่างได้
    เพียงเพื่อผลประโยชน์ โดยไม่สนใจชะตากรรมของคนไทย
    และตัวเองต้องไปร่วมสร้างกรรมบาป จากที่มาของเงินดาร์ค
    แต่ข้อมูลส่วนหนึ่ง ที่ต้องพูดถึงก็คือ
    มีคำถามที่พี่คิงส์ตั้งโจทย์ไว้แต่แรก
    ว่าโจ เอเจนซี่ และกามิจ ใช้วิธีการไหน
    ที่ทำให้ทุย ยอมที่จะให้จูงจมูก
    หัวๆทำแบบได้ค่าตอบแทนแบบฉ่ำๆ
    แต่ไอ่พวกทุย008นี่ ไม่ได้ห่านอะไรเลย
    แต่ออกแรงเล่นงานแน๊กได้ทุกวี่วัน
    ไม่ว่าหัวดำหัวหงอก งานการไม่ทำหาแต่เรื่องให้แน๊กชาลี
    ยิ่งขุด ยิ่งพบว่า โจมณฑนี ใช้วิธีการกำหนดเป้า
    โดยจะส่ง 3 สิ่ง ให้ทุยที่ทุ่มเทในการเล่นงานแน๊กชาลี
    1. ให้ข้อมูลที่ผ่านการบิดเบือน และให้ร้าย โดยให้ทุกคนโพส
    เป็นเสียงเดียวกัน
    2. ให้ทีมยูซผี เข้ามาร่วมคอมเม้นซัพพอต เพื่อให้เพจ หรือช่องดูมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งถ้ากดเข้าไปดูโปรไฟล์ จะเห็นชัดเจนว่า ทิพย์
    และข้อที่ 3 คือคำตอบของคำถามว่าทำไม ทุยยอมพลี เพื่อ
    เพียงแค่สก็อยกิมจิไร้ค่า ที่วันนี้รู้นะ ว่าที่ผ่านมาคือการแสดง
    อิเหวิงไปออกทีวีที่เกาหลี ก็พูดชัดเจน เอเจนซี่ก็นั่งข้างๆ
    แต่ที่ยอม มาจากการสร้างทุย ให้น่ากระนูย
    จริงๆแล้ว มันเริ่มเทคนิคนี้จากห้อง DC
    โดย โจจะกำหนดเป้า MVp ที่กระเป๋าหนัก รู้พื้นเพว่าคนนี้ มีศักยภาพในการเปย์หนักๆ เมื่อกำหนดเป้าได้แล้ว และสร้างสถานการณ์จากเชียร์ชาลี และกามิจ มาดูความน่ารักของสองคน แต่เมื่อชาลี เบรคเรื่องบิ๊กแม็ต และไม่อยากให้แฟนคลับของเค้า ต้องเสียเงินมากมาย ให้พอได้สนุกๆกัน
    ซึ่งจุดนี้ ถือเป็นความขุ่นเคืองให้กับทั้งโจ เอเจนซี่ รวมถึงทุนดาร์ค ที่เวลานั้น พีเค อิเหวิงจัดบิ๊กแม็ตบ่อยมาก การฟอกที่สอดแทรกเข้ามาและทำการตกแต่งบัญชี กำลังไปได้สวย
    เมื่อโจ ได้คุยกับเอเจนซี่ จึงจะต้องแก้เกมส์ ด้วยการสร้างสตอรี่ใหม่
    ให้เป็นการบอกเล่าฉีกไปอีกทาง ว่าอิเหวิง เป็นเ..ยื่อ และชาลี เป็นตัวร้าย เป็นโ..คจิต
    หลังจากนั้น โจจะทำการชี้เป้าให้อิเหวิงทักเข้าไปในช่องแชทส่วนตัวของ Mvp คนนั้น แล้วส่งข้อความถึงลักษณะที่อ่อย "ฉันอยู่กับชาลีไม่มีความสุขเลย ฉันขอบคุณคุณมากๆที่อยู่เคียงข้างฉันเสมอ" แฟนเพจลองคิดดู ทั้งการปั้นแต่งสตอรี่ของโจ ที่ทำให้อิเหวิง หรืออิเหม็น เป็นดังเทพธิดา
    แล้วเธอคนนั้นทักส่วนตัวมาถึงฉัน ซึ่งเปย์ได้แทบไม่อั้น จะเกิดอะไรขึ้น
    นั่นไง ไม่มีการแสดงความรักใดที่ชัดไปกว่าการส่งของขวัญ ความบังลัยจึงเกิดกับหลายครอบครัว
    และวิธีการเดียวกันนี้นี่เอง
    ทั้งๆที่อิเหวิงเอง อ่านภาษาไทยไม่ออก ฟังก็ไม่รู้เรื่อง ทั้งๆที่คนเกาหลี หรือคนต่างชาติ มาอยู่ประเทศไทยที่เค้าอยากเรียนรู้ภาษาไทยจริงๆ แค่ไม่เกินสามเดือน ก็พูดได้แล้ว แต่นี่ มาเจ็ดแปดเดือน ภาษาไทยยังไม่ได้เท่าเด็กอนุบาลสามเลย ตอนมารู้แค่ไหน ตอนนี้แม่มรู้เท่าเดิม ไม่มีพัฒนาการห่านอะไรส่วนทางกับที่ซุยว่าเรียนได้เอบวก สรุปเอบวกที่ทุยเป็นซุยขรี้สิงอะ
    มันเกรดการเรียน หรือเป็นผลเลือดไม่แน่ใจ
    มาต่อกันที่ สรุปว่า มันก็ยังอ่านภาษาไทยฟังภาษาไทยไม่ออก
    แต่สามารถรู้เป้าว่า ทุยพลี ที่ไม่ได้สะตุ้งสะตางค์
    แต่เล่นแน๊กแรงๆ แบบไม่กลัวกฏมงกฏหะมายอะไรเลย
    แล้วทำยังไงครับ "ส่งติ๊กเกอร์ ดอกไม้ ของขวัญ" เป็นการส่งกำลังใจ
    อย่างที่ไอ่โจ มันให้สัมภาษณ์ ก็ไม่ผิดหรอกที่บอกว่า
    อิเหวิง ไม่เคยทำอะไรไม่เคยพูดถึงชาลีไม่ดีเลย
    ก็ใช่ ก็ถูก ก็เมิงอยู่เบื้องหลัง ในการเชียร์นี่ไง
    ใช้ปากทุยพลีพูด แล้วทุยพลีที่ไม่ตังค์อะนะ
    พออิเหวิงทักมาเท่านั้นแหละ โอ๊ย โพสโชว์กันใหญ่
    หารู้ไม่ นั่นแหละหลักฐานตัวดีเลย ฟังภาษาไทยไม่ออก
    อ่านภาษาไทยไม่ได้ แล้วเมิงรู้ได้ไง ว่าคนไทยพิมพ์ห่านอะไร
    ถูกเป้าทุยพลีทุกตัว ไม่พลาดแม้แต่ตัวเดียว
    จนบางคน ทนไม่ไหว ควักตังค์เก็บ ที่กำลังร่อยหรอ
    เพราะวันๆไม่ทำงานทำการ ไปเข้าร้านสติ๊กเกอร์
    สั่งปริ๊นไวนิลรูปอิเหวิง 2 พีช ไว้ในห้องน้ำ
    เอาไว้สำเร็จโทษตัวเอง โครตไปกันใหญ่เลย
    เชื่อมั๊ย แม้กระทั่ง วัยรุ่นทรงเอ ที่ออกอาการพูดแบบคลั่งๆอะ
    ยังได้เลย ไอ่สติ๊กเกอร์จากแชทส่วนตัวอิเหวิง
    หรือลุงแก่ๆ ที่ชื่อเพจ ต้องสอนให้คนประดิษฐ์นั่นนี่
    แต่เอามาใช่ให้ร้ายแน๊ก แบบรัวๆ ทุกวันอีกตะหาก
    หรือจะคนหน้าลอยที่เหมือนทางแป้งผิดเบอร์
    คิวขมวดตลอดเวลา ที่พูดวนไปวนมา
    ทำเหมือนมีของ แต่ไม่มีห่านอะไรเลยอะนะ
    ยังได้ติ๊กเกอร์ ได้ของขวัญส่วนตัวจากอิเหวิงเลย
    เป็นไง ถ้าโจมณฑนีไม่ชี้เป้า จะไม่มีทางที่อิเหวิง
    จะส่งแชทส่วนตัวแบบนี้ไปแน่นอน เพราะมันฟังม่ายออก อิฉัด
    อย่างบาปเลย ล้อเล่นกับหัวใจทุย
    พี่คิงส์ จึงต้องไปหาข้อมูลเพื่อปลอบใจทุยทุกคน
    โดยเฉพาะทุยพลี ที่อาลาวาด เสี่ยงซึ่งซังเตอย่างมาก
    แล้วจะมีเดินเข้าคอกเป็นทิวแถวอีกไม่นาน
    คำนั้น เป็นภาษาไทย+ภาษาขแมร์
    ซึ่งตรงกับบุคลิกที่มีความจริงใจต่อน้องกามินอย่างมาก
    เทิดทูนขนาด เรียกนายหญิงกันตลอดว่า
    ทุยหน้ากระนูย ก็เอาไว้เรียกกันทักกันระหว่าง
    ทุยกับทุยครับ มันแปลว่า
    "ทุยน่ารัก" ครับ
    ราตรีสวัสดิ์ ทุยหน้ากระนูย
    ราตรีสวัสดิ์ แฟนเพจที่พี่คิงส์รักสุดใจ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ทุยหน้ากระนูยแปลว่าทุยน่ารัก จากการหาข้อมูลถึงกระบวนการฟอกให้ขาวกับกลุ่มทุนดาร์คในประเทศ ต้องยอมรับในกลอุบายของกลุ่มนี้จริงๆ ปั้นนางเอกตกงานให้กลายเป็นขวัญใจคนไทย จากสตอรี่และการแสดง ที่เข้าถึงบทบาทสุดๆ และถึงแม้ว่า จะสร้างวีรกรรม จนดาราชายไทย ไม่สามารถให้ไปต่อได้ เพื่อปกป้องคนไทย จากกลุ่มเงินดาร์ค ที่อาศัยช่องโหว่ในการพีเคบิ๊กแม๊ต ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทั้งฝั่งยุโรป และเอเชียรวมถึงตะวันออกกลาง เป็นข่าวโด่งดังที่ทั่วโลกต่างตื่นตัว แต่ก็มิวาย ด้วยพลังงบประมาณทุนดาร์ผ่านเอเจนซี่ และมีคนอย่างโจมณฑนี ที่ยอมแลกทุกอย่างได้ เพียงเพื่อผลประโยชน์ โดยไม่สนใจชะตากรรมของคนไทย และตัวเองต้องไปร่วมสร้างกรรมบาป จากที่มาของเงินดาร์ค แต่ข้อมูลส่วนหนึ่ง ที่ต้องพูดถึงก็คือ มีคำถามที่พี่คิงส์ตั้งโจทย์ไว้แต่แรก ว่าโจ เอเจนซี่ และกามิจ ใช้วิธีการไหน ที่ทำให้ทุย ยอมที่จะให้จูงจมูก หัวๆทำแบบได้ค่าตอบแทนแบบฉ่ำๆ แต่ไอ่พวกทุย008นี่ ไม่ได้ห่านอะไรเลย แต่ออกแรงเล่นงานแน๊กได้ทุกวี่วัน ไม่ว่าหัวดำหัวหงอก งานการไม่ทำหาแต่เรื่องให้แน๊กชาลี ยิ่งขุด ยิ่งพบว่า โจมณฑนี ใช้วิธีการกำหนดเป้า โดยจะส่ง 3 สิ่ง ให้ทุยที่ทุ่มเทในการเล่นงานแน๊กชาลี 1. ให้ข้อมูลที่ผ่านการบิดเบือน และให้ร้าย โดยให้ทุกคนโพส เป็นเสียงเดียวกัน 2. ให้ทีมยูซผี เข้ามาร่วมคอมเม้นซัพพอต เพื่อให้เพจ หรือช่องดูมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งถ้ากดเข้าไปดูโปรไฟล์ จะเห็นชัดเจนว่า ทิพย์ และข้อที่ 3 คือคำตอบของคำถามว่าทำไม ทุยยอมพลี เพื่อ เพียงแค่สก็อยกิมจิไร้ค่า ที่วันนี้รู้นะ ว่าที่ผ่านมาคือการแสดง อิเหวิงไปออกทีวีที่เกาหลี ก็พูดชัดเจน เอเจนซี่ก็นั่งข้างๆ แต่ที่ยอม มาจากการสร้างทุย ให้น่ากระนูย จริงๆแล้ว มันเริ่มเทคนิคนี้จากห้อง DC โดย โจจะกำหนดเป้า MVp ที่กระเป๋าหนัก รู้พื้นเพว่าคนนี้ มีศักยภาพในการเปย์หนักๆ เมื่อกำหนดเป้าได้แล้ว และสร้างสถานการณ์จากเชียร์ชาลี และกามิจ มาดูความน่ารักของสองคน แต่เมื่อชาลี เบรคเรื่องบิ๊กแม็ต และไม่อยากให้แฟนคลับของเค้า ต้องเสียเงินมากมาย ให้พอได้สนุกๆกัน ซึ่งจุดนี้ ถือเป็นความขุ่นเคืองให้กับทั้งโจ เอเจนซี่ รวมถึงทุนดาร์ค ที่เวลานั้น พีเค อิเหวิงจัดบิ๊กแม็ตบ่อยมาก การฟอกที่สอดแทรกเข้ามาและทำการตกแต่งบัญชี กำลังไปได้สวย เมื่อโจ ได้คุยกับเอเจนซี่ จึงจะต้องแก้เกมส์ ด้วยการสร้างสตอรี่ใหม่ ให้เป็นการบอกเล่าฉีกไปอีกทาง ว่าอิเหวิง เป็นเ..ยื่อ และชาลี เป็นตัวร้าย เป็นโ..คจิต หลังจากนั้น โจจะทำการชี้เป้าให้อิเหวิงทักเข้าไปในช่องแชทส่วนตัวของ Mvp คนนั้น แล้วส่งข้อความถึงลักษณะที่อ่อย "ฉันอยู่กับชาลีไม่มีความสุขเลย ฉันขอบคุณคุณมากๆที่อยู่เคียงข้างฉันเสมอ" แฟนเพจลองคิดดู ทั้งการปั้นแต่งสตอรี่ของโจ ที่ทำให้อิเหวิง หรืออิเหม็น เป็นดังเทพธิดา แล้วเธอคนนั้นทักส่วนตัวมาถึงฉัน ซึ่งเปย์ได้แทบไม่อั้น จะเกิดอะไรขึ้น นั่นไง ไม่มีการแสดงความรักใดที่ชัดไปกว่าการส่งของขวัญ ความบังลัยจึงเกิดกับหลายครอบครัว และวิธีการเดียวกันนี้นี่เอง ทั้งๆที่อิเหวิงเอง อ่านภาษาไทยไม่ออก ฟังก็ไม่รู้เรื่อง ทั้งๆที่คนเกาหลี หรือคนต่างชาติ มาอยู่ประเทศไทยที่เค้าอยากเรียนรู้ภาษาไทยจริงๆ แค่ไม่เกินสามเดือน ก็พูดได้แล้ว แต่นี่ มาเจ็ดแปดเดือน ภาษาไทยยังไม่ได้เท่าเด็กอนุบาลสามเลย ตอนมารู้แค่ไหน ตอนนี้แม่มรู้เท่าเดิม ไม่มีพัฒนาการห่านอะไรส่วนทางกับที่ซุยว่าเรียนได้เอบวก สรุปเอบวกที่ทุยเป็นซุยขรี้สิงอะ มันเกรดการเรียน หรือเป็นผลเลือดไม่แน่ใจ มาต่อกันที่ สรุปว่า มันก็ยังอ่านภาษาไทยฟังภาษาไทยไม่ออก แต่สามารถรู้เป้าว่า ทุยพลี ที่ไม่ได้สะตุ้งสะตางค์ แต่เล่นแน๊กแรงๆ แบบไม่กลัวกฏมงกฏหะมายอะไรเลย แล้วทำยังไงครับ "ส่งติ๊กเกอร์ ดอกไม้ ของขวัญ" เป็นการส่งกำลังใจ อย่างที่ไอ่โจ มันให้สัมภาษณ์ ก็ไม่ผิดหรอกที่บอกว่า อิเหวิง ไม่เคยทำอะไรไม่เคยพูดถึงชาลีไม่ดีเลย ก็ใช่ ก็ถูก ก็เมิงอยู่เบื้องหลัง ในการเชียร์นี่ไง ใช้ปากทุยพลีพูด แล้วทุยพลีที่ไม่ตังค์อะนะ พออิเหวิงทักมาเท่านั้นแหละ โอ๊ย โพสโชว์กันใหญ่ หารู้ไม่ นั่นแหละหลักฐานตัวดีเลย ฟังภาษาไทยไม่ออก อ่านภาษาไทยไม่ได้ แล้วเมิงรู้ได้ไง ว่าคนไทยพิมพ์ห่านอะไร ถูกเป้าทุยพลีทุกตัว ไม่พลาดแม้แต่ตัวเดียว จนบางคน ทนไม่ไหว ควักตังค์เก็บ ที่กำลังร่อยหรอ เพราะวันๆไม่ทำงานทำการ ไปเข้าร้านสติ๊กเกอร์ สั่งปริ๊นไวนิลรูปอิเหวิง 2 พีช ไว้ในห้องน้ำ เอาไว้สำเร็จโทษตัวเอง โครตไปกันใหญ่เลย เชื่อมั๊ย แม้กระทั่ง วัยรุ่นทรงเอ ที่ออกอาการพูดแบบคลั่งๆอะ ยังได้เลย ไอ่สติ๊กเกอร์จากแชทส่วนตัวอิเหวิง หรือลุงแก่ๆ ที่ชื่อเพจ ต้องสอนให้คนประดิษฐ์นั่นนี่ แต่เอามาใช่ให้ร้ายแน๊ก แบบรัวๆ ทุกวันอีกตะหาก หรือจะคนหน้าลอยที่เหมือนทางแป้งผิดเบอร์ คิวขมวดตลอดเวลา ที่พูดวนไปวนมา ทำเหมือนมีของ แต่ไม่มีห่านอะไรเลยอะนะ ยังได้ติ๊กเกอร์ ได้ของขวัญส่วนตัวจากอิเหวิงเลย เป็นไง ถ้าโจมณฑนีไม่ชี้เป้า จะไม่มีทางที่อิเหวิง จะส่งแชทส่วนตัวแบบนี้ไปแน่นอน เพราะมันฟังม่ายออก อิฉัด อย่างบาปเลย ล้อเล่นกับหัวใจทุย พี่คิงส์ จึงต้องไปหาข้อมูลเพื่อปลอบใจทุยทุกคน โดยเฉพาะทุยพลี ที่อาลาวาด เสี่ยงซึ่งซังเตอย่างมาก แล้วจะมีเดินเข้าคอกเป็นทิวแถวอีกไม่นาน คำนั้น เป็นภาษาไทย+ภาษาขแมร์ ซึ่งตรงกับบุคลิกที่มีความจริงใจต่อน้องกามินอย่างมาก เทิดทูนขนาด เรียกนายหญิงกันตลอดว่า ทุยหน้ากระนูย ก็เอาไว้เรียกกันทักกันระหว่าง ทุยกับทุยครับ มันแปลว่า "ทุยน่ารัก" ครับ ราตรีสวัสดิ์ ทุยหน้ากระนูย ราตรีสวัสดิ์ แฟนเพจที่พี่คิงส์รักสุดใจ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 573 Views 0 Reviews
  • #อุ๊ยอุ๊ยอุ๊ย
    ขอมอบบทเพลงให้คุณลุง
    "เรียกพี่ด้ายหมายยย แล้วพี่จะให้ยูนิหมื่นเก้า ถ้าเรียกอาลดไปดอกไม้อย่าว่า เรียกลุงเลิกกัน บลาๆๆๆๆ"
    เอ้า ลุง พี่คิงส์เชียร์ "ฝันให้ไกล แล้วไปให้เหม็น" จัดไป
    พ่อหนุ่มคลั่งรัก
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #อุ๊ยอุ๊ยอุ๊ย ขอมอบบทเพลงให้คุณลุง "เรียกพี่ด้ายหมายยย แล้วพี่จะให้ยูนิหมื่นเก้า ถ้าเรียกอาลดไปดอกไม้อย่าว่า เรียกลุงเลิกกัน บลาๆๆๆๆ" เอ้า ลุง พี่คิงส์เชียร์ "ฝันให้ไกล แล้วไปให้เหม็น" จัดไป พ่อหนุ่มคลั่งรัก #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Wow
    1
    0 Comments 0 Shares 325 Views 0 Reviews
  • #มิน่าาาาาาาาาาาาาาาา
    ฝากบอกด้วย ดอกไม้ที่อิเหวิงส่งให้ทางแชตส่วนตัว
    มันส่งให้ทุกคนที่เล่นงานแน๊ก ไม่ใช่มันคนเดียว
    ไปไกล ฝันเวิ้ง ฝันว้าง ฝันนี่เปียกซกเลย
    อี๊ยยยย แหวะ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #มิน่าาาาาาาาาาาาาาาา ฝากบอกด้วย ดอกไม้ที่อิเหวิงส่งให้ทางแชตส่วนตัว มันส่งให้ทุกคนที่เล่นงานแน๊ก ไม่ใช่มันคนเดียว ไปไกล ฝันเวิ้ง ฝันว้าง ฝันนี่เปียกซกเลย อี๊ยยยย แหวะ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 370 Views 0 Reviews
  • #ถึงแม้จะลองตัดเหตุผลเรื่องทุนดาร์คและขบกฟอก
    ก็ยังมองไม่เห็น ว่ามีความเหมาะสมตรงไหนซักตรงจริงๆ
    อิหยำเป อิลำยอง อิไม่อาบน้ำ อิสก็อยกิมจิ อิเด็กเสี่ยยาครูซ่า
    วงหน่อยได้ไหม เหมาะสมตรงไหนซักตรง
    ยังอดคิดไม่ได้ ผญ คนนี้เหรอ
    ที่ทั้งลุงแก่ๆ ทั้งวัยกลางคนคลั่งไคล้
    นี่ถ้าไม่ใช่เครือข่ายโจสร้างมโนภาพช่วยนะ
    เอาจริงๆ สก็อยไทยยังงามและสะอาดกว่าเยอะ
    แอบขำตรงที่ เล่นน้องแน๊กแบบไม่กลัวซังเต
    พออิโจให้อิเหวิงส่งดอกไม้มาเท่านั้นแหละ
    ฝันนี่เปียกซกเลยทีเดียว อี๋
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ถึงแม้จะลองตัดเหตุผลเรื่องทุนดาร์คและขบกฟอก ก็ยังมองไม่เห็น ว่ามีความเหมาะสมตรงไหนซักตรงจริงๆ อิหยำเป อิลำยอง อิไม่อาบน้ำ อิสก็อยกิมจิ อิเด็กเสี่ยยาครูซ่า วงหน่อยได้ไหม เหมาะสมตรงไหนซักตรง ยังอดคิดไม่ได้ ผญ คนนี้เหรอ ที่ทั้งลุงแก่ๆ ทั้งวัยกลางคนคลั่งไคล้ นี่ถ้าไม่ใช่เครือข่ายโจสร้างมโนภาพช่วยนะ เอาจริงๆ สก็อยไทยยังงามและสะอาดกว่าเยอะ แอบขำตรงที่ เล่นน้องแน๊กแบบไม่กลัวซังเต พออิโจให้อิเหวิงส่งดอกไม้มาเท่านั้นแหละ ฝันนี่เปียกซกเลยทีเดียว อี๋ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 384 Views 0 Reviews
  • #แหก-โจมณฑานี
    #เปิดความเชื่อมโยงโจมณฑนีเอเจนซี่และกลุ่มเงินดาร์ค
    เชื่อว่ามีแฟนเพจบางท่าน จะเห็นข้อความวาทะกรรม ว่าพี่คิงส์ มีปัญหาอะไรกับโจ มณฑานีมาก่อนหรือไม่ จึงพุ่งเป้าไปที่โจ ลองมาดูข้อมูลนี้กันนะครับ
    ความเกี่ยวข้องของโจมณฑานี จากเรื่องนี้ ที่ปฏิเสธไม่ได้
    1. โจ มณฑนี คือคนที่สื่อสารกับกามิน เอเจนซี่ จากเพียงไม่กี่คนที่ติดต่อได้จริง
    2. โจ มณฑนี คือคนที่แน๊กชาลี ให้เกียรติด้วยการเชิญเข้าไป ให้ทั้งซักถาม อธิบาย และให้ดูหลักฐาน
    3. โจ มณฑนี คือคนเดียว ที่เมื่อกลับออกมา ได้สื่อสารบิดเบือน กับสิ่งที่แน๊กได้อธิบาย
    4. โจ มณฑนี ยังคงกลับมาให้ร้ายแน๊ก โดยให้กลับไปดู โพสที่โจขู่ววเพจคิงส์โพธิ์แดง และสนธิในตอนท้าย จะมีแฮชแท็ก ชื่อของโ-ร-ค ทางจิต ที่โจยัดเยียดให้แน็กมาตลอด
    5. โจ มณฑนี คือคนที่ค่อยชี้ซ้าย ชี้ขวา ให้กับกลุ่ม DC เหมือนเป็นตัวแทนของกามิจ มีการชี้ชวนให้ไปเปย์ของขวัญให้กามิจทุกครั้ง โดยเฉพาะที่มีการพีเค
    6. โจ มณฑนี ได้แสดงจุดยืน ในการให้ข้อมูลต่างๆ ที่สร้างความชิงชังให้คนในกลุ่ม DC มีอคิตกับน้องแน๊ก เหมือนเป็นการสะกดจิตประจำวัน
    7. จากเดิม ที่แน๊ก ยังไม่ตัดสินใจในการหยุดความสัมพันธ์กับกามิน เพื่อปกป้องแฟนคลับของเค้า ในเดือนแรกๆโจเองก็ยังดูปกติ หากสังเกตุจุดเริ่มต้นการใส่ความแน๊กชาลี คือตั้งแต่ที่แน๊กได้ออกมาเตือนแฟนคลับ และขวางกามิจว่าไม่ควรจัดพีเค มันคือการขัดผลประโยชน์ของกลุ่มฟ-อ-ก-อย่างชัดแจ้ง คำถามคือ ถ้าโจไม่รู้ไม่เห็น ทำไมโจต้องเริ่มแผนในการให้ร้ายแน็กตั้งแต่เวลานั้น
    8. จะพบว่า กามิจ ใช้วิธีการ อ่อย คนที่เป็น MVP ระดับเทพที่เปย์หลักแสนหลักล้าน ด้วยการทักส่วนตัว โดยมีการให้วาทะกรรมลักษณะที่ให้เข้าใจว่า กามิจไม่มีความสุขที่อยู่กับชาลี และเหมือนกามิจมีใจให้กับ MVP คำถามคือ กามิจ ไม่รู้ภาษาไทย ใคร คือคนชี้เป้า ใครคือคนแต่งบท ถ้าไม่ใช่การทำงานร่วมกันระหว่างโจ กับเอเจนซี่
    9. คิงส์โพธิ์แดง ได้ให้ข้อมูล จนบรรดาหัวๆของกลุ่ม โจ มณฑนี ปฏิเสธไม่ได้ ว่าเวลานี้ สหรัฐ ไต้หวัน จีน และหลายๆประเทศในโซยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง ต่างทำการล้างบาง ข บ ก.ฟอก ที่ต่างมาจากการสอดแทรกเงินดาร์ค ผ่านการจัดบิ๊กแม๊ต และการส่งของขวัญทุกที่
    10. จากข้อ 9 แล้วทำไม ลักษณะของการทำงานระหว่าง โจมณฑานี เอเจนซี่ กามิจ จึงตรงกับประเทศตามข้อ 9 ทุกประการ
    11. จากปรากฏคลิปล่าสุด ที่มีเกรียนคีย์บอร์ด ที่เป็นแค่เบี้ย แต่อยากได้ชื่อเสียงจากเหตุการณ์นี้ ทำทีอาลา-วาต เพื่อให้ทุกคนพุ่งเป้าสนใจ จนหลุดเฉลยความจริง ว่ามีคนหนึ่งในบรรดาที่น้องแน๊ก ให้เข้าไปบ้านคู้บอนเพื่ออธิบายได้แอบอัดคลิปเสียงไว้ และหนึ่งในคนที่คนผู้นั้นมาเปิดให้ฟังคือ เกรียนคีบอร์ด ชื่อย่อ ป. คำถามคือ โจ มณฑนี ได้รับเชิญ จากความไว้เนื้อเชื่อใจ ของแน๊กและครอบครัว แต่สิ่งที่โจทำ ไม่ได้ต่างจากคำว่าไส้ศึก
    12. ส่วนที่มีความเชื่อมโยง ระหว่าง ยูซผี เทรนทิพย์ ที่ถูกสร้างขึ้น หลักฐานสำคัญคือ เวลาที่ยูซผี มีการโพสข้อความ เพื่อมุ่งเล่นงานน้องชาลี มันมีความเป็นตีมเดียวกัน และสำนวนเป็นลายเซ็นต์ของโจมณฑานีล้วนๆ
    13. การสร้างยูซผี หรือการทำเทรนทิพย์ พี่คิงส์มีความรู้เรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งการดำเนินการลักษณะนี้ ไม่ใช่แค่การเพิ่มยอดวิว ยอดไลค์ ยอดแชร์ ด้วยเรทถูกๆอย่างที่ทุกคนเข้าใจ แต่มันต้องสร้างระบบขึ้นมา ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ และซอฟแวร์ และอุปกรณ์ otp ที่เป็นอุปกรณ์เดียวกับพวก ค..ลเซ็..เ..อร์ งบลงทุนที่จะปั๊มได้หลักแสนแบบนี้ และสามารถสู้กับระบบตรวจของแพลตฟอร์มได้ ต้องใช้เงินมหาศาล เพราะคือการป้อนคำสั่งเดียว ข้อความชุดเดียว และผ่านการเจนเนอเรตผ่านเอไอ เพื่อให้ไม่ถูกจับได้ว่า ข้อความนี้มาจากต้นฉบับเดียวกัน
    14. จากข้อที่ 13 นี้ คำถามคือ โจมณฑานี จะมีเงินมากขนาดนี้ได้อย่างไร ในการนำมาทำเทรนทิพย์ และยูซผี ยังไม่ถึงกองงานที่ทำแบบลูทีน ถึงแม้จะจ้างคนละไม่ถึงหมื่น แต่จำนวนหลายสิบคน โจ ทำเรื่องนี้คนเดียวได้อย่างไร นี่คือหลักฐานสำคัญที่เชื่อมโยง ซึ่งหากจะดูคำอ้างครั้งล่าสุด ที่พยายามปล่อยผ่านข้อความของยูซผีในแอพฟ้า ว่าฟอกมีจริง แต่เอเจนซี่กับกามิจไม่เกี่ยว รวมถึงโจ แต่มันไม่สามารถลบความจริงได้ เพราะเอเจนซี่เอง ซึ่งเป็นเอเจนซี่ที่เพิ่งเริ่มไม่นาน กับผลประโยชน์เพียงส่วนแบ่งจากค่าของขวัญ หาเหตุผลแห่งความคุ้มค่ายิ่งไม่ได้ และนี่คือสิ่งตอกย้ำว่ามาจากทุนดาร์คแน่นอน
    15. หากโจ มณฑนีจะปฏิเสธอีกว่า การปลุกปั่นให้สมาชิกกลุ่ม DC เปย์ และเป็นตัวหลักในการพีอาร์ให้เกิดบิ๊กแม๊ต ไม่เกี่ยวข้องกับการฟอก คำถามคือ หลังจากเพจคิงส์โพธิ์แดง ได้สาวถึงข บ ก จนสื่อหลักนำไปตีแผ่ ทำไมบิ๊กแม๊ตจึงหายไปจากสาระบบ ในเวลาเดียวกัน
    16. หลังจากการทำแคมเปญ รวมพลังทืบทุยเมื่อคืนนี้ เพื่อให้แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง และคนไทยทุกคนร่วมรวบรวมข้อมูลส่งให้ทางเพจ เพื่อดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทั้งโพส และคอมเม้นที่ให้ร้ายน้องชาลี คำถามคือ บรรดา ขบก.เหล่านี้ ทำไมต้องลบเพจ ลบโพส ลบคอมเม้น หากเชื่อว่าสิ่งที่ตนเองสื่อสารเป็นความถูกต้อง จนบางเพจ ต้องออกมาขอโทษ กลับลำ ว่าเข้าใจผิดจึงลบโพส
    17. พบสิ่งผิดปกติสำคัญที่ตรงกันอีก 1 เรื่อง คือบรรดาคนที่ออกตัว คุ-กคามน้องแน๊ก ทางโซเชียล ด้วยความลืมตัว ได้ทำการโพสว่า แต่ละคนต่างได้รับดอกไม้เป็นของขวัญจากกามิจ ในช่องทางส่วนตัวมันบ่งบอกว่า 17.1 กลุ่มนี้ติดต่อกับกามิจโดยตลอด 17.2 กามิจเห็นด้วยและชื่นชมในการที่กลุ่มนี้ออกมาให้ร้าย และเล่นงานแน๊ก
    18. จากข้อ 17 จึงเป็นจุดเชื่อมโยงอีกว่า ทุกครั้งที่โจขยับ กลุ่มเบี้ยเพจเหล่านี้ จะออกมาโพสในตีมเดียวกันกับโจมณฑนี และกามิน อ่านภาษไทยไม่ออก คำถามว่า ใครคือคนชี้เป้า ในการส่งดอกไม้เพื่อสร้างกำลังใจจากกามินสู่เครือข่ายที่ให้ร้ายชาลี
    19. โจ มณฑนี อ้างว่าพี่ชายกามินต้องการ ฟ้-อ-ง คนไทย ก็ยิ่งเป็นการยืนยันว่า ทุกการเคลื่อนไหวของโจ มณฑานี มีการรับรู้รับทราบ และผ่านกระบวนการวางแผนจากฝั่งเกาหลี และฝั่งไทยคือโจมณฑนี
    20. นอกจากทางโซเชียล ยังพบว่า มีการอัดเงินสนับสนุนให้กับ สนข.บางช่อง ที่ไม่สามารถเชื่อได้ว่า สิ่งที่นำเสนอมาจากความเขลาของบรรณาธิการข่าว เช่น รอบล่าสุด ทั้งๆที่มีประสบการณ์จากรอบที่แล้ว ที่ลงสื่อตามแนวทางของโจมณฑานีสื่อสาร โชว์เทรนทิพย์ อ้างว่ากระแสกลับไปที่กามิจ ทั้งๆที่คนไทยต่างคอมเม้นท้วงใต้โพส ว่ามันคือเทรนทิพย์ ซึ่ง สนข. เองก็สามารถเข้าไปแหกตาดูด้วยตัวเองได้ ว่ามันจริงหรือไม่ และเมื่อคืน เทรนทิพย์ที่แบนน้องแน็กก็หลุดไปแล้ว แต่เช้านี้ก็ยังประกาศข่าว ว่าแน๊กถูกแบนอีก แทนที่มีข่าวที่ใหญ่และใหม่กว่าคือการทะลุล้านวิวภายใน 20 กว่าชม. แต่ไม่ออก จึงมีความมั่นใจว่า นอกเหนือจาก ทางโซเชียลแล้ว ก็ยังมีสื่อบางสื่อที่ได้รับเงินจากกลุ่มเงินดาร์คผ่านโจมณฑานี ในการสร้างข่าวให้เกิดกระแส อย่างไม่มีความเขินอายในการลงข่าว กับอีกกลุ่มคือ สื่อที่ขาดสมองในการนำเสนอ แต่สื่อที่ดี ก็ยังมีอีกมาก ที่รู้เท่าทันว่าเทรนทิพย์จากยูซผี มันเช็คได้ สร้างกระแสได้ โดยไม่ต้องมีความจริงมาเกี่ยวข้อ
    โดยยังมีข้อมูลอีกมาก ที่ยิ่งขุด ก็ยิ่งชี้ลูกศรของเครือข่ายไปยัง โจ มณฑานี ว่าเป็นระดับหัว ในประเทศไทย ที่ร่วมมือกับเอเจนซี่ และกลุ่มทุนดาร์ค เพราะทุกอย่างมร่องรอยให้ย้อนสืบเสมอ โดยเฉพาะ การที่ปปงเริ่มลงมาจับงานนี้ การย้อนรอยกลับไปตั้งแต่ต้น จะทำให้เห็นเส้นเงินจากกลุ่มทุนดาร์ค ที่มีความผิดปกติ เข้าสู่กลุ่มเครือข่ายที่อยู่ในประเทศไทย
    20.ข้อนี้ พอไหม สำหรับสิ่งที่โจมณฑนี อ้างแบบหน้าซื่อ ใจคด ตี สองหน้า และน่าเสียใจแค่ไหน ที่น้องแน๊กไว้ใจ ให้เกียรติเสมอ ถึงขนาดเชิญเข้าไปที่บ้าน เพื่ออธิบาย และยังมองโลกในแง่ดีว่า ที่โจ เล่นงานน้องเพียงเพราะเข้าใจผิด แต่โจ กลับปฏิเสธแม้กระทั่งน้องแน๊ก เปิดห-ลั-ก-ฐ—าน--ให้ดู โจเป็นคนเดียวที่รับไม่ได้ ไม่ยอมแม้แต่จะเปิดตาดูหลั-ก-ฐ-าน-นั้น และยับแอบอัดเสียง เพื่อส่งต่อให้กามิน เอเจนซี่ได้รับรู้ และยังตัดเฉพาะบางส่วน เพื่อให้บรรดาเบี้ยระดับล่าง แบบ ป. ยังได้ยิน
    แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง เมื่อได้อ่านทั้ง 20 ข้อนี้ ท่านคิดว่า คิงส์ฯมีปัญหาส่วนตัวกับ โจมณฑนี หรือ
    คิงส์โพธิ์แดง ออกตัวทำงานนี้ เพื่อปกป้องน้องแน๊กชาลี และชาวไทยทุกคน
    เชิญตัดสินใจได้ ผมเคารพมุมมองและการตัดสินใจจากทุกท่าน
    แต่ยืนยันที่จะไม่หยุดทั้งขุด และรวบรวม-ห-ลั-ก-ฐ-า-น
    ถ้าปล่อยไว้ กลุ่มเงินดาร์ค จะใช้ไทย เป็นฐานในการฟอก ที่แหล่งเงินนั้นจะมาจากน้ำตาของคนไทยทั้งชาติ
    คิงส์โพธิ์แดง ยอมไม่ได้
    สัญญา
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #แหก-โจมณฑานี #เปิดความเชื่อมโยงโจมณฑนีเอเจนซี่และกลุ่มเงินดาร์ค เชื่อว่ามีแฟนเพจบางท่าน จะเห็นข้อความวาทะกรรม ว่าพี่คิงส์ มีปัญหาอะไรกับโจ มณฑานีมาก่อนหรือไม่ จึงพุ่งเป้าไปที่โจ ลองมาดูข้อมูลนี้กันนะครับ ความเกี่ยวข้องของโจมณฑานี จากเรื่องนี้ ที่ปฏิเสธไม่ได้ 1. โจ มณฑนี คือคนที่สื่อสารกับกามิน เอเจนซี่ จากเพียงไม่กี่คนที่ติดต่อได้จริง 2. โจ มณฑนี คือคนที่แน๊กชาลี ให้เกียรติด้วยการเชิญเข้าไป ให้ทั้งซักถาม อธิบาย และให้ดูหลักฐาน 3. โจ มณฑนี คือคนเดียว ที่เมื่อกลับออกมา ได้สื่อสารบิดเบือน กับสิ่งที่แน๊กได้อธิบาย 4. โจ มณฑนี ยังคงกลับมาให้ร้ายแน๊ก โดยให้กลับไปดู โพสที่โจขู่ววเพจคิงส์โพธิ์แดง และสนธิในตอนท้าย จะมีแฮชแท็ก ชื่อของโ-ร-ค ทางจิต ที่โจยัดเยียดให้แน็กมาตลอด 5. โจ มณฑนี คือคนที่ค่อยชี้ซ้าย ชี้ขวา ให้กับกลุ่ม DC เหมือนเป็นตัวแทนของกามิจ มีการชี้ชวนให้ไปเปย์ของขวัญให้กามิจทุกครั้ง โดยเฉพาะที่มีการพีเค 6. โจ มณฑนี ได้แสดงจุดยืน ในการให้ข้อมูลต่างๆ ที่สร้างความชิงชังให้คนในกลุ่ม DC มีอคิตกับน้องแน๊ก เหมือนเป็นการสะกดจิตประจำวัน 7. จากเดิม ที่แน๊ก ยังไม่ตัดสินใจในการหยุดความสัมพันธ์กับกามิน เพื่อปกป้องแฟนคลับของเค้า ในเดือนแรกๆโจเองก็ยังดูปกติ หากสังเกตุจุดเริ่มต้นการใส่ความแน๊กชาลี คือตั้งแต่ที่แน๊กได้ออกมาเตือนแฟนคลับ และขวางกามิจว่าไม่ควรจัดพีเค มันคือการขัดผลประโยชน์ของกลุ่มฟ-อ-ก-อย่างชัดแจ้ง คำถามคือ ถ้าโจไม่รู้ไม่เห็น ทำไมโจต้องเริ่มแผนในการให้ร้ายแน็กตั้งแต่เวลานั้น 8. จะพบว่า กามิจ ใช้วิธีการ อ่อย คนที่เป็น MVP ระดับเทพที่เปย์หลักแสนหลักล้าน ด้วยการทักส่วนตัว โดยมีการให้วาทะกรรมลักษณะที่ให้เข้าใจว่า กามิจไม่มีความสุขที่อยู่กับชาลี และเหมือนกามิจมีใจให้กับ MVP คำถามคือ กามิจ ไม่รู้ภาษาไทย ใคร คือคนชี้เป้า ใครคือคนแต่งบท ถ้าไม่ใช่การทำงานร่วมกันระหว่างโจ กับเอเจนซี่ 9. คิงส์โพธิ์แดง ได้ให้ข้อมูล จนบรรดาหัวๆของกลุ่ม โจ มณฑนี ปฏิเสธไม่ได้ ว่าเวลานี้ สหรัฐ ไต้หวัน จีน และหลายๆประเทศในโซยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง ต่างทำการล้างบาง ข บ ก.ฟอก ที่ต่างมาจากการสอดแทรกเงินดาร์ค ผ่านการจัดบิ๊กแม๊ต และการส่งของขวัญทุกที่ 10. จากข้อ 9 แล้วทำไม ลักษณะของการทำงานระหว่าง โจมณฑานี เอเจนซี่ กามิจ จึงตรงกับประเทศตามข้อ 9 ทุกประการ 11. จากปรากฏคลิปล่าสุด ที่มีเกรียนคีย์บอร์ด ที่เป็นแค่เบี้ย แต่อยากได้ชื่อเสียงจากเหตุการณ์นี้ ทำทีอาลา-วาต เพื่อให้ทุกคนพุ่งเป้าสนใจ จนหลุดเฉลยความจริง ว่ามีคนหนึ่งในบรรดาที่น้องแน๊ก ให้เข้าไปบ้านคู้บอนเพื่ออธิบายได้แอบอัดคลิปเสียงไว้ และหนึ่งในคนที่คนผู้นั้นมาเปิดให้ฟังคือ เกรียนคีบอร์ด ชื่อย่อ ป. คำถามคือ โจ มณฑนี ได้รับเชิญ จากความไว้เนื้อเชื่อใจ ของแน๊กและครอบครัว แต่สิ่งที่โจทำ ไม่ได้ต่างจากคำว่าไส้ศึก 12. ส่วนที่มีความเชื่อมโยง ระหว่าง ยูซผี เทรนทิพย์ ที่ถูกสร้างขึ้น หลักฐานสำคัญคือ เวลาที่ยูซผี มีการโพสข้อความ เพื่อมุ่งเล่นงานน้องชาลี มันมีความเป็นตีมเดียวกัน และสำนวนเป็นลายเซ็นต์ของโจมณฑานีล้วนๆ 13. การสร้างยูซผี หรือการทำเทรนทิพย์ พี่คิงส์มีความรู้เรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งการดำเนินการลักษณะนี้ ไม่ใช่แค่การเพิ่มยอดวิว ยอดไลค์ ยอดแชร์ ด้วยเรทถูกๆอย่างที่ทุกคนเข้าใจ แต่มันต้องสร้างระบบขึ้นมา ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ และซอฟแวร์ และอุปกรณ์ otp ที่เป็นอุปกรณ์เดียวกับพวก ค..ลเซ็..เ..อร์ งบลงทุนที่จะปั๊มได้หลักแสนแบบนี้ และสามารถสู้กับระบบตรวจของแพลตฟอร์มได้ ต้องใช้เงินมหาศาล เพราะคือการป้อนคำสั่งเดียว ข้อความชุดเดียว และผ่านการเจนเนอเรตผ่านเอไอ เพื่อให้ไม่ถูกจับได้ว่า ข้อความนี้มาจากต้นฉบับเดียวกัน 14. จากข้อที่ 13 นี้ คำถามคือ โจมณฑานี จะมีเงินมากขนาดนี้ได้อย่างไร ในการนำมาทำเทรนทิพย์ และยูซผี ยังไม่ถึงกองงานที่ทำแบบลูทีน ถึงแม้จะจ้างคนละไม่ถึงหมื่น แต่จำนวนหลายสิบคน โจ ทำเรื่องนี้คนเดียวได้อย่างไร นี่คือหลักฐานสำคัญที่เชื่อมโยง ซึ่งหากจะดูคำอ้างครั้งล่าสุด ที่พยายามปล่อยผ่านข้อความของยูซผีในแอพฟ้า ว่าฟอกมีจริง แต่เอเจนซี่กับกามิจไม่เกี่ยว รวมถึงโจ แต่มันไม่สามารถลบความจริงได้ เพราะเอเจนซี่เอง ซึ่งเป็นเอเจนซี่ที่เพิ่งเริ่มไม่นาน กับผลประโยชน์เพียงส่วนแบ่งจากค่าของขวัญ หาเหตุผลแห่งความคุ้มค่ายิ่งไม่ได้ และนี่คือสิ่งตอกย้ำว่ามาจากทุนดาร์คแน่นอน 15. หากโจ มณฑนีจะปฏิเสธอีกว่า การปลุกปั่นให้สมาชิกกลุ่ม DC เปย์ และเป็นตัวหลักในการพีอาร์ให้เกิดบิ๊กแม๊ต ไม่เกี่ยวข้องกับการฟอก คำถามคือ หลังจากเพจคิงส์โพธิ์แดง ได้สาวถึงข บ ก จนสื่อหลักนำไปตีแผ่ ทำไมบิ๊กแม๊ตจึงหายไปจากสาระบบ ในเวลาเดียวกัน 16. หลังจากการทำแคมเปญ รวมพลังทืบทุยเมื่อคืนนี้ เพื่อให้แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง และคนไทยทุกคนร่วมรวบรวมข้อมูลส่งให้ทางเพจ เพื่อดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทั้งโพส และคอมเม้นที่ให้ร้ายน้องชาลี คำถามคือ บรรดา ขบก.เหล่านี้ ทำไมต้องลบเพจ ลบโพส ลบคอมเม้น หากเชื่อว่าสิ่งที่ตนเองสื่อสารเป็นความถูกต้อง จนบางเพจ ต้องออกมาขอโทษ กลับลำ ว่าเข้าใจผิดจึงลบโพส 17. พบสิ่งผิดปกติสำคัญที่ตรงกันอีก 1 เรื่อง คือบรรดาคนที่ออกตัว คุ-กคามน้องแน๊ก ทางโซเชียล ด้วยความลืมตัว ได้ทำการโพสว่า แต่ละคนต่างได้รับดอกไม้เป็นของขวัญจากกามิจ ในช่องทางส่วนตัวมันบ่งบอกว่า 17.1 กลุ่มนี้ติดต่อกับกามิจโดยตลอด 17.2 กามิจเห็นด้วยและชื่นชมในการที่กลุ่มนี้ออกมาให้ร้าย และเล่นงานแน๊ก 18. จากข้อ 17 จึงเป็นจุดเชื่อมโยงอีกว่า ทุกครั้งที่โจขยับ กลุ่มเบี้ยเพจเหล่านี้ จะออกมาโพสในตีมเดียวกันกับโจมณฑนี และกามิน อ่านภาษไทยไม่ออก คำถามว่า ใครคือคนชี้เป้า ในการส่งดอกไม้เพื่อสร้างกำลังใจจากกามินสู่เครือข่ายที่ให้ร้ายชาลี 19. โจ มณฑนี อ้างว่าพี่ชายกามินต้องการ ฟ้-อ-ง คนไทย ก็ยิ่งเป็นการยืนยันว่า ทุกการเคลื่อนไหวของโจ มณฑานี มีการรับรู้รับทราบ และผ่านกระบวนการวางแผนจากฝั่งเกาหลี และฝั่งไทยคือโจมณฑนี 20. นอกจากทางโซเชียล ยังพบว่า มีการอัดเงินสนับสนุนให้กับ สนข.บางช่อง ที่ไม่สามารถเชื่อได้ว่า สิ่งที่นำเสนอมาจากความเขลาของบรรณาธิการข่าว เช่น รอบล่าสุด ทั้งๆที่มีประสบการณ์จากรอบที่แล้ว ที่ลงสื่อตามแนวทางของโจมณฑานีสื่อสาร โชว์เทรนทิพย์ อ้างว่ากระแสกลับไปที่กามิจ ทั้งๆที่คนไทยต่างคอมเม้นท้วงใต้โพส ว่ามันคือเทรนทิพย์ ซึ่ง สนข. เองก็สามารถเข้าไปแหกตาดูด้วยตัวเองได้ ว่ามันจริงหรือไม่ และเมื่อคืน เทรนทิพย์ที่แบนน้องแน็กก็หลุดไปแล้ว แต่เช้านี้ก็ยังประกาศข่าว ว่าแน๊กถูกแบนอีก แทนที่มีข่าวที่ใหญ่และใหม่กว่าคือการทะลุล้านวิวภายใน 20 กว่าชม. แต่ไม่ออก จึงมีความมั่นใจว่า นอกเหนือจาก ทางโซเชียลแล้ว ก็ยังมีสื่อบางสื่อที่ได้รับเงินจากกลุ่มเงินดาร์คผ่านโจมณฑานี ในการสร้างข่าวให้เกิดกระแส อย่างไม่มีความเขินอายในการลงข่าว กับอีกกลุ่มคือ สื่อที่ขาดสมองในการนำเสนอ แต่สื่อที่ดี ก็ยังมีอีกมาก ที่รู้เท่าทันว่าเทรนทิพย์จากยูซผี มันเช็คได้ สร้างกระแสได้ โดยไม่ต้องมีความจริงมาเกี่ยวข้อ โดยยังมีข้อมูลอีกมาก ที่ยิ่งขุด ก็ยิ่งชี้ลูกศรของเครือข่ายไปยัง โจ มณฑานี ว่าเป็นระดับหัว ในประเทศไทย ที่ร่วมมือกับเอเจนซี่ และกลุ่มทุนดาร์ค เพราะทุกอย่างมร่องรอยให้ย้อนสืบเสมอ โดยเฉพาะ การที่ปปงเริ่มลงมาจับงานนี้ การย้อนรอยกลับไปตั้งแต่ต้น จะทำให้เห็นเส้นเงินจากกลุ่มทุนดาร์ค ที่มีความผิดปกติ เข้าสู่กลุ่มเครือข่ายที่อยู่ในประเทศไทย 20.ข้อนี้ พอไหม สำหรับสิ่งที่โจมณฑนี อ้างแบบหน้าซื่อ ใจคด ตี สองหน้า และน่าเสียใจแค่ไหน ที่น้องแน๊กไว้ใจ ให้เกียรติเสมอ ถึงขนาดเชิญเข้าไปที่บ้าน เพื่ออธิบาย และยังมองโลกในแง่ดีว่า ที่โจ เล่นงานน้องเพียงเพราะเข้าใจผิด แต่โจ กลับปฏิเสธแม้กระทั่งน้องแน๊ก เปิดห-ลั-ก-ฐ—าน--ให้ดู โจเป็นคนเดียวที่รับไม่ได้ ไม่ยอมแม้แต่จะเปิดตาดูหลั-ก-ฐ-าน-นั้น และยับแอบอัดเสียง เพื่อส่งต่อให้กามิน เอเจนซี่ได้รับรู้ และยังตัดเฉพาะบางส่วน เพื่อให้บรรดาเบี้ยระดับล่าง แบบ ป. ยังได้ยิน แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง เมื่อได้อ่านทั้ง 20 ข้อนี้ ท่านคิดว่า คิงส์ฯมีปัญหาส่วนตัวกับ โจมณฑนี หรือ คิงส์โพธิ์แดง ออกตัวทำงานนี้ เพื่อปกป้องน้องแน๊กชาลี และชาวไทยทุกคน เชิญตัดสินใจได้ ผมเคารพมุมมองและการตัดสินใจจากทุกท่าน แต่ยืนยันที่จะไม่หยุดทั้งขุด และรวบรวม-ห-ลั-ก-ฐ-า-น ถ้าปล่อยไว้ กลุ่มเงินดาร์ค จะใช้ไทย เป็นฐานในการฟอก ที่แหล่งเงินนั้นจะมาจากน้ำตาของคนไทยทั้งชาติ คิงส์โพธิ์แดง ยอมไม่ได้ สัญญา #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 1251 Views 0 Reviews
  • วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๗.๐๘ น.
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เนื่องใน “วันมหิดล” ประจำปี ๒๕๖๗ ณ โรงพยาบาลศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
    เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง ศาสตราจารย์อภิชาติ อัศวรมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศาสตราจารย์ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ศาสตราจารย์ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพวงมาลาส่วนพระองค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ณ ศาลาศิริราช ๑๐๐ ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพุ่มดอกไม้ส่วนพระองค์ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพุ่มดอกไม้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพุ่มดอกไม้ส่วนพระองค์ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รองศาสตราจารย์ นันทกร ทองแตง รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและองค์กรสัมพันธ์เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กราบบังคมทูลรายงาน และกราบบังคมทูลเบิกผู้ให้การสนับสนุนการจัดงาน ผู้มีอุปการคุณ และผู้ทำคุณประโยชน์ แก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานโล่ที่ระลึกและของที่ระลึกตามลำดับ สมควรแก่เวลา จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
    “วันมหิดล” ตรงกับวันที่ ๒๔ กันยายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” และ “พระบิดาแห่งการสาธารณสุขไทย” ด้วยทรงประกอบพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะในด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ทรงอุทิศกำลังพระวรกาย และพระปรีชาสามารถ ตลอดจนทรัพย์สินส่วนพระองค์เพื่อการแพทย์ไทย ส่งผลให้กิจการแพทย์และสาธารณสุขของไทยเจริญก้าวหน้า อีกทั้งได้ประกาศยกย่องจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ การแพทย์ การพยาบาลและการสาธารณสุข เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา ในการวางรากฐานระบบการศึกษาที่เป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์ การสาธารณสุขของประเทศให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าตราบจนทุกวันนี้
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : พระลาน
    วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๗.๐๘ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เนื่องใน “วันมหิดล” ประจำปี ๒๕๖๗ ณ โรงพยาบาลศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง ศาสตราจารย์อภิชาติ อัศวรมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศาสตราจารย์ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ศาสตราจารย์ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพวงมาลาส่วนพระองค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ณ ศาลาศิริราช ๑๐๐ ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพุ่มดอกไม้ส่วนพระองค์ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพุ่มดอกไม้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพุ่มดอกไม้ส่วนพระองค์ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รองศาสตราจารย์ นันทกร ทองแตง รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและองค์กรสัมพันธ์เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กราบบังคมทูลรายงาน และกราบบังคมทูลเบิกผู้ให้การสนับสนุนการจัดงาน ผู้มีอุปการคุณ และผู้ทำคุณประโยชน์ แก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานโล่ที่ระลึกและของที่ระลึกตามลำดับ สมควรแก่เวลา จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ “วันมหิดล” ตรงกับวันที่ ๒๔ กันยายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” และ “พระบิดาแห่งการสาธารณสุขไทย” ด้วยทรงประกอบพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะในด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ทรงอุทิศกำลังพระวรกาย และพระปรีชาสามารถ ตลอดจนทรัพย์สินส่วนพระองค์เพื่อการแพทย์ไทย ส่งผลให้กิจการแพทย์และสาธารณสุขของไทยเจริญก้าวหน้า อีกทั้งได้ประกาศยกย่องจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ การแพทย์ การพยาบาลและการสาธารณสุข เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา ในการวางรากฐานระบบการศึกษาที่เป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์ การสาธารณสุขของประเทศให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าตราบจนทุกวันนี้ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : พระลาน
    Love
    5
    0 Comments 0 Shares 221 Views 0 Reviews
  • #ชัดพอมั๊ยทำแบ๊วไร้เดียวสาแค่อยากให้สองคนกลับมารักกัน
    #เบื้องหลังเล่นงานลับหลังรัวๆ
    #ไม่เคยมีความจริงใจ
    #ยืนยันว่าโจคือหัวขบวนเล่นงานแน๊กทางโซเชียล
    น้ำยาล้างส้วมอะเด็กปลายแถว
    ที่โจจะเท ก็เทไม่ได้
    เพราะเป็นทุยที่กำลังหน้ามืดตามัวว
    กินดอกไม้ที่อิเหม็นส่งให้
    เป็นกำลังใจให้มีชีวีต่อไปได้ในแต่ละวัน
    นี่แหละโจ
    "โจ จะทำให้ทุกอย่างพัง"
    รวมถึงตัวโจเองด้วยนะ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ชัดพอมั๊ยทำแบ๊วไร้เดียวสาแค่อยากให้สองคนกลับมารักกัน #เบื้องหลังเล่นงานลับหลังรัวๆ #ไม่เคยมีความจริงใจ #ยืนยันว่าโจคือหัวขบวนเล่นงานแน๊กทางโซเชียล น้ำยาล้างส้วมอะเด็กปลายแถว ที่โจจะเท ก็เทไม่ได้ เพราะเป็นทุยที่กำลังหน้ามืดตามัวว กินดอกไม้ที่อิเหม็นส่งให้ เป็นกำลังใจให้มีชีวีต่อไปได้ในแต่ละวัน นี่แหละโจ "โจ จะทำให้ทุกอย่างพัง" รวมถึงตัวโจเองด้วยนะ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 617 Views 0 Reviews
  • #โจงานงอกหาทางลงแต่คุมทุยไม่ได้
    เพจคิงส์โพธิ์แดงพบว่า โจ มณฑานี พยายามหาทางลง
    คุยกับบรรดาทุยหัวรุงแรง ว่าให้หยุดได้แล้ว
    แต่ พลังแห่งการสะกดจิตของโจที่สร้างวาทะกรรม
    มานานหลายเดือน มันฝังลงไปในดีเอ็นเอ
    ทำให้มนุษย์ กลายเป็นทุยโดยสมบูรณ์
    โดยพบว่า เมื่อคืนนี้ เป็นคืนแห่งความสุข
    ของคนไทยจำนวนมาก ที่ได้ฟังเพลงดี
    และได้ยินเสียงน้องชายแห่งชาติ
    ร้องเพลง คืองานดีมาก
    กับการร่วมงานกับวันเดอร์เฟรม
    ที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างน่าขนลุก
    แต่น่าเวทนา ที่มีชนกลุ่มหนึ่ง
    กลุ่มเล็กๆ กลุ่มเท่าหะมอยหมา
    คุ้ม คลั่ง ไประดมเล่นงานวันเดอร์เฟรม
    กับแค่เลือกใส่เสื้อในเอ็มวี มีดอกไม้
    ก็แปลความหมายได้ตลกโปกฮา
    เป็นที่ขบขันกันอย่างมาก
    อยากให้อิเหม็นมาเล่นเอ็มวีคนเดียว
    คิดได้ไง ไม่สงสารทีมงานที่ต้องทนกลิ่นเลยเหรอ
    น้ำท่าไม่อาบ ซกมกขนาดนั้น
    ที่สำคัญ ดังได้ด้วยตัวเอง แล้วจะมาเล่นเอ็มวีในไทยเพื่อ
    ประเด็นไม่ใช่เค้าเลือกแน๊ก ประเด็นคือต่อให้แน๊กไม่เล่น
    เค้าก็ไม่เอาอิเน่ามา ตอนนี้ใครเค้าก็รู้
    ว่ายูซผี เทรนทิพย์ทั้งนั้น พวกเมิงต้มสื่อได้แค่รอบเดียวแค่นั้นแหละ
    ตอนนี้ สื่อเค้าไม่แลตาแล้ว ไอ่ ฟาย
    เป็นไง สุดท้าย แบนยังไง ให้ยอดวิไปครึ่งล้านในคืนเดียว
    ตื่นเถิด ทุยไทย
    น่าเสียดาย ที่พวกทุยไม่ได้มีความสุขเหมือนคนไทยส่วนใหญ่
    ที่ได้รื่นรม
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #savecharlie
    #savethailand
    #โจงานงอกหาทางลงแต่คุมทุยไม่ได้ เพจคิงส์โพธิ์แดงพบว่า โจ มณฑานี พยายามหาทางลง คุยกับบรรดาทุยหัวรุงแรง ว่าให้หยุดได้แล้ว แต่ พลังแห่งการสะกดจิตของโจที่สร้างวาทะกรรม มานานหลายเดือน มันฝังลงไปในดีเอ็นเอ ทำให้มนุษย์ กลายเป็นทุยโดยสมบูรณ์ โดยพบว่า เมื่อคืนนี้ เป็นคืนแห่งความสุข ของคนไทยจำนวนมาก ที่ได้ฟังเพลงดี และได้ยินเสียงน้องชายแห่งชาติ ร้องเพลง คืองานดีมาก กับการร่วมงานกับวันเดอร์เฟรม ที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างน่าขนลุก แต่น่าเวทนา ที่มีชนกลุ่มหนึ่ง กลุ่มเล็กๆ กลุ่มเท่าหะมอยหมา คุ้ม คลั่ง ไประดมเล่นงานวันเดอร์เฟรม กับแค่เลือกใส่เสื้อในเอ็มวี มีดอกไม้ ก็แปลความหมายได้ตลกโปกฮา เป็นที่ขบขันกันอย่างมาก อยากให้อิเหม็นมาเล่นเอ็มวีคนเดียว คิดได้ไง ไม่สงสารทีมงานที่ต้องทนกลิ่นเลยเหรอ น้ำท่าไม่อาบ ซกมกขนาดนั้น ที่สำคัญ ดังได้ด้วยตัวเอง แล้วจะมาเล่นเอ็มวีในไทยเพื่อ ประเด็นไม่ใช่เค้าเลือกแน๊ก ประเด็นคือต่อให้แน๊กไม่เล่น เค้าก็ไม่เอาอิเน่ามา ตอนนี้ใครเค้าก็รู้ ว่ายูซผี เทรนทิพย์ทั้งนั้น พวกเมิงต้มสื่อได้แค่รอบเดียวแค่นั้นแหละ ตอนนี้ สื่อเค้าไม่แลตาแล้ว ไอ่ ฟาย เป็นไง สุดท้าย แบนยังไง ให้ยอดวิไปครึ่งล้านในคืนเดียว ตื่นเถิด ทุยไทย น่าเสียดาย ที่พวกทุยไม่ได้มีความสุขเหมือนคนไทยส่วนใหญ่ ที่ได้รื่นรม #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #savecharlie #savethailand
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 583 Views 0 Reviews
  • #ชัดพอมั๊ยทุยไทยไร้สมอง
    ทีมโจ เชี่ยมจิต ทำถึง
    ซากดจิตตัวเองว่ายูซผีเป็นยูซจริง
    ซากดจิตตัวเองว่า เทรนทิพย์คือเทรนจริง
    เลยคิดว่าทำอะไรก็ได้
    ถึงขนาดเลยเถิดไปแบน สินค้าที่ให้น้องเป็นพรีเซนเตอร์
    คือ เคยถามตัวเองกันมั๊ย ทำอะไรกันอยู่
    ปกป้องสก็อยกิมจิ หวังดมกลิ่นกิมจิ๊
    กันขนาดนั้นเลย พี่คิงส์ก็บอกไปแล้ว
    ไอ่ที่มันส่งดอกไม้ของขวัญในแช็ตส่วนตัว
    ของคนที่เล่นงานแน๊กอะ มันส่งให้ทุกคนที่เล่นงานแน๊ก
    ไม่ใช่เมิงคนเดียว เข้าใจตัวเองผิดว่าอิเหม็นรัก
    อารายของพวกเมิง
    พวก MvP เจอกันมาหมดแล้ว
    ทักส่วนตัว บอกไม่มีความสุขที่ได้อยู่กับแน๊ก
    อาหวังก็เกิดดิ อุ๊ย น้องกามิจชอบกรรรู
    เปย์หมดตรรรูด
    เฮ้อ ไม่ไหวจะเคลีย
    ทุยแล้ว ทุยอยู่ ทุยต่อไป
    ให้อิโจ จูงจมูกมาได้ตั้งหลายเดือน
    นี่ตั้งท่าไปแบน สินค้าเค้าอีก
    สติ สตังค์ ไม่เหลือ พวกเมิง
    สินค้าทุกตัวที่เมิงแบน
    เค้ามีหลักฐาน พวกเมิงโดนทั้งแผง
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ชัดพอมั๊ยทุยไทยไร้สมอง ทีมโจ เชี่ยมจิต ทำถึง ซากดจิตตัวเองว่ายูซผีเป็นยูซจริง ซากดจิตตัวเองว่า เทรนทิพย์คือเทรนจริง เลยคิดว่าทำอะไรก็ได้ ถึงขนาดเลยเถิดไปแบน สินค้าที่ให้น้องเป็นพรีเซนเตอร์ คือ เคยถามตัวเองกันมั๊ย ทำอะไรกันอยู่ ปกป้องสก็อยกิมจิ หวังดมกลิ่นกิมจิ๊ กันขนาดนั้นเลย พี่คิงส์ก็บอกไปแล้ว ไอ่ที่มันส่งดอกไม้ของขวัญในแช็ตส่วนตัว ของคนที่เล่นงานแน๊กอะ มันส่งให้ทุกคนที่เล่นงานแน๊ก ไม่ใช่เมิงคนเดียว เข้าใจตัวเองผิดว่าอิเหม็นรัก อารายของพวกเมิง พวก MvP เจอกันมาหมดแล้ว ทักส่วนตัว บอกไม่มีความสุขที่ได้อยู่กับแน๊ก อาหวังก็เกิดดิ อุ๊ย น้องกามิจชอบกรรรู เปย์หมดตรรรูด เฮ้อ ไม่ไหวจะเคลีย ทุยแล้ว ทุยอยู่ ทุยต่อไป ให้อิโจ จูงจมูกมาได้ตั้งหลายเดือน นี่ตั้งท่าไปแบน สินค้าเค้าอีก สติ สตังค์ ไม่เหลือ พวกเมิง สินค้าทุกตัวที่เมิงแบน เค้ามีหลักฐาน พวกเมิงโดนทั้งแผง อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 563 Views 0 Reviews
  • #อันนี้อึ้งจริงส่งให้แบบไม่เลือกหน้าแค่ให้ร้ายชาลีก็พอ
    คำพูด โจมณฑานีลอยมาเลย
    "นี่ก็เพิ่งได้คุยกับน้อง น้องโดนขนาดนี้น้องยังไม่เคยว่าอะไรชาลีเลย"
    อ้าว ก็เมิงส่งดอกไม้ส่งของขวัญให้ไอ่พวกที่เล่นงานแน๊กนี่
    ทำแบ๊วนะ อิเหม็น
    เบื้องหลังพฤติกรรมคลั่งของทุยตัวหลักก็มาจากสิ่งนี้นี่เอง
    ดอกไม้ของขวัญที่ส่งให้ดุจน้ำทิพย์ชะโลมกาย
    มีชีวีไปได้อีกวัน แต่ละคนก็คิดว่า
    อิเหวิงส่งให้ตัวเองคนเดียว แบบประมาณว่า
    เป็นคนพิเศษอะไรงี้
    ที่ไหนได้ ส่งให้ทุกคน
    อิฉัด ต้มได้แม้กระทั่งลุงหน้าลอย
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #อันนี้อึ้งจริงส่งให้แบบไม่เลือกหน้าแค่ให้ร้ายชาลีก็พอ คำพูด โจมณฑานีลอยมาเลย "นี่ก็เพิ่งได้คุยกับน้อง น้องโดนขนาดนี้น้องยังไม่เคยว่าอะไรชาลีเลย" อ้าว ก็เมิงส่งดอกไม้ส่งของขวัญให้ไอ่พวกที่เล่นงานแน๊กนี่ ทำแบ๊วนะ อิเหม็น เบื้องหลังพฤติกรรมคลั่งของทุยตัวหลักก็มาจากสิ่งนี้นี่เอง ดอกไม้ของขวัญที่ส่งให้ดุจน้ำทิพย์ชะโลมกาย มีชีวีไปได้อีกวัน แต่ละคนก็คิดว่า อิเหวิงส่งให้ตัวเองคนเดียว แบบประมาณว่า เป็นคนพิเศษอะไรงี้ ที่ไหนได้ ส่งให้ทุกคน อิฉัด ต้มได้แม้กระทั่งลุงหน้าลอย #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 501 Views 0 Reviews
  • #แฟนเพจคิงส์ขอมาเรื่องดอกไม้สีทองอยากรู้ว่าสรุปยังไง
    เรื่องดอกไม้สีทองของแยกเป็น 2 เรื่อง
    เรื่องแรก ดอกไม้สีทองจากร้านที่เรียกตัวเองว่า แม่ตั๊ก
    แม่ใครไม่รู้แต่ไม่ใช่แม่กรรรูละกัน
    แม่ตั๊ก แม่ค้าออนไลน์ ที่ไลฟ์มาหลายปี
    เรียกได้ว่ามีคนเชื่อถือไม่น้อย จึงเอฟกันรัวๆ
    ดอกไม้สีทองนี้ ถ้าสังเกตุดีๆ จะมีใบรับประกัน
    เป็นภาษาจีน สรุปคือ ดอกไม้สีทองนี้
    มีอยู่ในแอพดัง ไม่ลอกไม่ดำ แต่จำนำไม่ได้เพราะอะไร
    นั่นก็เพราะมันไม่ใช่ทอง บางรุ่นด้านในคล้ายพลาสติก
    บางรุ่นด้านในเป็นส่วนผสมของทองแดง เงิน และชุบด้วยทอง
    แต่ตั๊กก็รับคืน
    แต่ฉันคืนในเรทที่ประมาณ 33% ของเรทที่ระบายออกไป
    ดังนั้น นี่คือข้อมูลนะครับนะ
    ส่วน ดอกสีทองที่สอง
    คือนางสุวรรณมาลี คชสารสมสู่
    อย่างที่เห็นในภาพ นี่ก็ไม่แท้
    ทั้งความแบ๊ว ความใส่ ความเรียบร้อยและความโก๊ะ
    ที่บรรดาทุยจินตนาการ มโนกันไป
    โดยหารู้ไม่ เราทุกคนต่างเห็นซีนแรกของนาง
    คือการแสดงการกินมาม่า และซีเรียล
    ต้องอดๆ อยากๆ และไลฟ์ 23 ชม.
    เพื่อหาทุนเรียน
    แม้จะเอ๊ะ ในรอยสักแปลกๆ
    แต่ บรรดา โจ และทีมก็มักจะมี
    คำบรรยายอันสวยหรูไว้ให้
    ทำให้คนไทยต่างมองข้ามไป
    เห็นเพียงบทบาทที่นางแสดง
    แต่ภาพที่คุณเห็น อาจมีคำถามว่า ถ่ายตอนไหนนะ
    ทำไม มีท่าทีแบบนี้นะ
    อันนี้พี่คิงส์บอกเลย เพราะได้โพสดักทุยให้มาคอนเฟิร์ม
    กันเถียงไว้ โดยเค้ายืนยันว่า มันคือภาพเมื่อวันที่ 22 กุมพาพันธ์ ปี 2023
    นั่นแปลว่า เป็นภาพที่โพสไว้ในไอจี ปีที่แล้ว ก่อนที่จะมานั่งแสดง
    ละคร ที่เราเห็นเมื่อต้นปี
    ในระยะเวลานั้น ก่อนหน้าภาพนี้ อิเหวิง
    หรือสุวรรณมาลี คชสารสมสู่ ไปอยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นแรมเดือน
    ในฐานะนักแสดงตกงาน ที่ไม่มีใครจ้าง
    สนุกสนานหลงอยู่กับสล็อทญี่ปุ่น หรือปาจิงโกะ
    ถึงขนาดไปสักสัญลัษณ์ปาจิงโกะเต็มตัว
    เชื่อว่า ณ เวลานั้น คงไม่คิดกลับมาเป็นแดนเซอร์
    หรือ ดาราตัวประกอบอีกแล้ว ด้วยอายุสามสิบ
    ซึ่งมีดาราตัวประกอบรุ่นใหม่ๆที่ใสกว่า เก่งกว่าเกิดขึ้นมากมาย
    แต่ไม่รู้ จังหวะนรกภูมิยังไง ที่กำลังขุดอยู่
    มารู้จักการไลฟ์ตต. มีเอเจนซี่คอยกำกับดูแล
    และสุดท้ายกลายเป็นตัวแสดงหลัก
    ให้บรรดาเงินดาร์คเข้ามาใช้ในการผ่านในการฟอก
    ด้วยการพีเคบิ๊กแม็ต โดยแน๊กชาลีห้ามอย่างไร นางไม่เคยฟัง
    เพราะทุกอย่างถูกวางแผนโดยระบบ
    ที่กลุ่มทุนดาร์คสร้างไว้
    เหมือนกับที่ได้ทำในสหรัฐ ไต้หวัน จีน ตุรกี ที่ขณะนี้
    มีการกวาดบ้านกันขนานใหญ่ดังที่พี่คิงส์ได้ให้ข้อมูล
    ไปอ่านตามที่แปะไว้ใต้โพส เรื่องทุนดาร์คและการกวาดเรียบ
    ในประเทศที่พี่คิงส์แจ้งไว้
    ดังนั้น ทุยไทย เลิกมโนได้แล้ว
    อย่าให้ โจมณฑานี สร้างโลกที่บิดเบี้ยว
    เห็นผิดเป็นชอบ ทำตัวระรานคนไทยด้วยกัน
    โจหวังเพียงงบที่จะมาสร้างกระแส ผ่านยูซผี ผ่านเทรนทิพย์
    และลูกค้าโรงเรียนเถี่อน ที่สอนความงมงาย
    ผลประโยชน์ตัวเองล้วนๆ
    ส่วนทุย บางตัวก็ได้เศษกระดูก
    และหลายตัว ก็ได้แค่อิสุวรรณมาลีคชสาร
    ส่งดอกไม้ให้ ชมเลยว่า ให้ร้ายแน๊กชาลีเก่งมาก
    แค่นี้ พวกนี้ก็ถวายหัวให้ อันนี้ดูหลักต๋านที่พี่คิงส์โพสไปก่อนหน้า
    ดังนั้นนี่คือข้อสรุป ของสุวรรณมาลี
    ที่ไม่แท้ทั้งคู่ จะได้ตามข่าวกันทันนะ
    และเรื่องสำคัญที่แฟนเพจร้องกันลั่นคือ
    วันนี้ กดไลค์ไม่ทัน อ่านไม่ทัน
    พี่คิงส์ก็ต้องขอโทษที่รัวจริงๆแหละ
    ทำไงได้ เครื่องขุดมันทำงาน
    ท่ามกลางความท้าทายของ โจ มณฑานี
    ชอบนัก อะไรที่เป็นคำขู่วว
    กรรูขุดยันก้นเหว
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #แฟนเพจคิงส์ขอมาเรื่องดอกไม้สีทองอยากรู้ว่าสรุปยังไง เรื่องดอกไม้สีทองของแยกเป็น 2 เรื่อง เรื่องแรก ดอกไม้สีทองจากร้านที่เรียกตัวเองว่า แม่ตั๊ก แม่ใครไม่รู้แต่ไม่ใช่แม่กรรรูละกัน แม่ตั๊ก แม่ค้าออนไลน์ ที่ไลฟ์มาหลายปี เรียกได้ว่ามีคนเชื่อถือไม่น้อย จึงเอฟกันรัวๆ ดอกไม้สีทองนี้ ถ้าสังเกตุดีๆ จะมีใบรับประกัน เป็นภาษาจีน สรุปคือ ดอกไม้สีทองนี้ มีอยู่ในแอพดัง ไม่ลอกไม่ดำ แต่จำนำไม่ได้เพราะอะไร นั่นก็เพราะมันไม่ใช่ทอง บางรุ่นด้านในคล้ายพลาสติก บางรุ่นด้านในเป็นส่วนผสมของทองแดง เงิน และชุบด้วยทอง แต่ตั๊กก็รับคืน แต่ฉันคืนในเรทที่ประมาณ 33% ของเรทที่ระบายออกไป ดังนั้น นี่คือข้อมูลนะครับนะ ส่วน ดอกสีทองที่สอง คือนางสุวรรณมาลี คชสารสมสู่ อย่างที่เห็นในภาพ นี่ก็ไม่แท้ ทั้งความแบ๊ว ความใส่ ความเรียบร้อยและความโก๊ะ ที่บรรดาทุยจินตนาการ มโนกันไป โดยหารู้ไม่ เราทุกคนต่างเห็นซีนแรกของนาง คือการแสดงการกินมาม่า และซีเรียล ต้องอดๆ อยากๆ และไลฟ์ 23 ชม. เพื่อหาทุนเรียน แม้จะเอ๊ะ ในรอยสักแปลกๆ แต่ บรรดา โจ และทีมก็มักจะมี คำบรรยายอันสวยหรูไว้ให้ ทำให้คนไทยต่างมองข้ามไป เห็นเพียงบทบาทที่นางแสดง แต่ภาพที่คุณเห็น อาจมีคำถามว่า ถ่ายตอนไหนนะ ทำไม มีท่าทีแบบนี้นะ อันนี้พี่คิงส์บอกเลย เพราะได้โพสดักทุยให้มาคอนเฟิร์ม กันเถียงไว้ โดยเค้ายืนยันว่า มันคือภาพเมื่อวันที่ 22 กุมพาพันธ์ ปี 2023 นั่นแปลว่า เป็นภาพที่โพสไว้ในไอจี ปีที่แล้ว ก่อนที่จะมานั่งแสดง ละคร ที่เราเห็นเมื่อต้นปี ในระยะเวลานั้น ก่อนหน้าภาพนี้ อิเหวิง หรือสุวรรณมาลี คชสารสมสู่ ไปอยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นแรมเดือน ในฐานะนักแสดงตกงาน ที่ไม่มีใครจ้าง สนุกสนานหลงอยู่กับสล็อทญี่ปุ่น หรือปาจิงโกะ ถึงขนาดไปสักสัญลัษณ์ปาจิงโกะเต็มตัว เชื่อว่า ณ เวลานั้น คงไม่คิดกลับมาเป็นแดนเซอร์ หรือ ดาราตัวประกอบอีกแล้ว ด้วยอายุสามสิบ ซึ่งมีดาราตัวประกอบรุ่นใหม่ๆที่ใสกว่า เก่งกว่าเกิดขึ้นมากมาย แต่ไม่รู้ จังหวะนรกภูมิยังไง ที่กำลังขุดอยู่ มารู้จักการไลฟ์ตต. มีเอเจนซี่คอยกำกับดูแล และสุดท้ายกลายเป็นตัวแสดงหลัก ให้บรรดาเงินดาร์คเข้ามาใช้ในการผ่านในการฟอก ด้วยการพีเคบิ๊กแม็ต โดยแน๊กชาลีห้ามอย่างไร นางไม่เคยฟัง เพราะทุกอย่างถูกวางแผนโดยระบบ ที่กลุ่มทุนดาร์คสร้างไว้ เหมือนกับที่ได้ทำในสหรัฐ ไต้หวัน จีน ตุรกี ที่ขณะนี้ มีการกวาดบ้านกันขนานใหญ่ดังที่พี่คิงส์ได้ให้ข้อมูล ไปอ่านตามที่แปะไว้ใต้โพส เรื่องทุนดาร์คและการกวาดเรียบ ในประเทศที่พี่คิงส์แจ้งไว้ ดังนั้น ทุยไทย เลิกมโนได้แล้ว อย่าให้ โจมณฑานี สร้างโลกที่บิดเบี้ยว เห็นผิดเป็นชอบ ทำตัวระรานคนไทยด้วยกัน โจหวังเพียงงบที่จะมาสร้างกระแส ผ่านยูซผี ผ่านเทรนทิพย์ และลูกค้าโรงเรียนเถี่อน ที่สอนความงมงาย ผลประโยชน์ตัวเองล้วนๆ ส่วนทุย บางตัวก็ได้เศษกระดูก และหลายตัว ก็ได้แค่อิสุวรรณมาลีคชสาร ส่งดอกไม้ให้ ชมเลยว่า ให้ร้ายแน๊กชาลีเก่งมาก แค่นี้ พวกนี้ก็ถวายหัวให้ อันนี้ดูหลักต๋านที่พี่คิงส์โพสไปก่อนหน้า ดังนั้นนี่คือข้อสรุป ของสุวรรณมาลี ที่ไม่แท้ทั้งคู่ จะได้ตามข่าวกันทันนะ และเรื่องสำคัญที่แฟนเพจร้องกันลั่นคือ วันนี้ กดไลค์ไม่ทัน อ่านไม่ทัน พี่คิงส์ก็ต้องขอโทษที่รัวจริงๆแหละ ทำไงได้ เครื่องขุดมันทำงาน ท่ามกลางความท้าทายของ โจ มณฑานี ชอบนัก อะไรที่เป็นคำขู่วว กรรูขุดยันก้นเหว #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 585 Views 0 Reviews
  • #ให้ร้ายน้องแน๊กขนาดนี้เลยไม่ซั่วทำไม่ได้นะ
    เนื้อความต้นโพสให้ร้ายน้องแบบนี้ครับ
    "ชั้นคือหนึ่งในคนที่บักฮอลแลนด์มันส่งรูปให้ดูค่ะและชั้นไม่เคยเอาไปโพสต์ที่ไหน เพราะสงสารผู้หญิง ทุกวันนี้ชั้นยัง งง อยู่เลยว่า มันส่งมาทำไม แกมขู่ววอีกว่า ถ้ารูปกหลุดจะฟ้-อ-ง-ศ-า-ล"
    สำนวนกากมาก เอาเอไอเจน แล้วไปปล่อยข่าวแบบนี้ทุกแพลตฟอร์ม
    #ขู่จะเล่นคนอื่นแบบไม่ดูเงาหัวตัวเอง
    นี่คือหลักต๋าน 1ในพันสำหรับการทำงาน
    ที่เป็นเครือข่ายของโจ มณฑานี
    ส่งไม้ต่อกันเป็นทอดๆ นำเรื่องบิดเบือนให้ร้าย
    ไปส่งต่อ จนคิดว่าตัวเองทำสิ่งที่ถูกต้อง
    เพจ Per อะไรนั่นน่ะ เมื่อเช้า
    โพสโชว์ ว่าอิกามิจส่งดอกไม้มาให้
    นั่นคือ กามิจจะส่งดอกไม้หรือของขวัญ
    ไปให้ทีมงานเครือข่ายโจทุกคน
    ทำให้เข้าใจว่า อิเหม็นรับรู้ความทุ่มเท
    ยิ่งทำให้พวกนี้คิดมโนว่า ตัวเองพิเศษ
    หารู้ไม่ ว่ามันก็ส่งแบบนี้กับทุกตัวที่ให้ร้ายแน๊ก
    ไม่ต่างกับ สวัสดีวันจันทร์แหละ
    #ชี้เป้าให้ครอบครัวน้องแน๊กนะ #รวบรวมหลักต๋านกันต่อไปครับ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ให้ร้ายน้องแน๊กขนาดนี้เลยไม่ซั่วทำไม่ได้นะ เนื้อความต้นโพสให้ร้ายน้องแบบนี้ครับ "ชั้นคือหนึ่งในคนที่บักฮอลแลนด์มันส่งรูปให้ดูค่ะและชั้นไม่เคยเอาไปโพสต์ที่ไหน เพราะสงสารผู้หญิง ทุกวันนี้ชั้นยัง งง อยู่เลยว่า มันส่งมาทำไม แกมขู่ววอีกว่า ถ้ารูปกหลุดจะฟ้-อ-ง-ศ-า-ล" สำนวนกากมาก เอาเอไอเจน แล้วไปปล่อยข่าวแบบนี้ทุกแพลตฟอร์ม #ขู่จะเล่นคนอื่นแบบไม่ดูเงาหัวตัวเอง นี่คือหลักต๋าน 1ในพันสำหรับการทำงาน ที่เป็นเครือข่ายของโจ มณฑานี ส่งไม้ต่อกันเป็นทอดๆ นำเรื่องบิดเบือนให้ร้าย ไปส่งต่อ จนคิดว่าตัวเองทำสิ่งที่ถูกต้อง เพจ Per อะไรนั่นน่ะ เมื่อเช้า โพสโชว์ ว่าอิกามิจส่งดอกไม้มาให้ นั่นคือ กามิจจะส่งดอกไม้หรือของขวัญ ไปให้ทีมงานเครือข่ายโจทุกคน ทำให้เข้าใจว่า อิเหม็นรับรู้ความทุ่มเท ยิ่งทำให้พวกนี้คิดมโนว่า ตัวเองพิเศษ หารู้ไม่ ว่ามันก็ส่งแบบนี้กับทุกตัวที่ให้ร้ายแน๊ก ไม่ต่างกับ สวัสดีวันจันทร์แหละ #ชี้เป้าให้ครอบครัวน้องแน๊กนะ #รวบรวมหลักต๋านกันต่อไปครับ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 493 Views 0 Reviews
  • จะบอกติ่งๆทั้งหลายว่า……โหด……มัน……ฮานิดหน่อย ไม่มีใครเกินพี่ปูคนนี้….

    ตอนสิบสอง……สู่บัลลังก์อำนาจ ด้วยการผ่านอุปสรรคที่เกิดขึ้นรายวัน……ไม่ว่าบู๊……ว่าบุ๋น……!!!

    ประธานาธิบดีบุชได้โทรกลับมา ปูตินได้แสดงความเสียใจและเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ
    ความโกรธ ความชังอเมริกันที่นาโต้ไปบอมบ์ที่ Kosovo ก็พักไว้ก่อน
    ประชาชนชาวรัสเซียได้นำดอกไม้ไปวางเพื่อแสดงความเสียใจที่หน้าสถานทูตอเมริกาเป็นกองพะเนิน
    ปูตินได้ย้ำกับปธน. บุช ว่า……
    “ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย โหดร้ายเช่นนี้ ……เราจะยืนหยัดสู้ไปด้วยกัน……”
    ที่ลึกๆแล้ว……ปูตินมีความประทับใจในประธานาธิบดีบุชอยู่เป็นทุน
    เนื่องจากตอนที่บุชหาเสียงในปี 1999 (คู่แข่งคือ นาย Al Gore)
    เขาได้ประกาศนโยบายว่า ……จะไม่ยุ่งกับสงครามเชเชน..…

    เมื่อทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทั้งคู่จึงได้พบกันเป็นครั้วแรกใน เดือนมิถุนายน
    2001 ที่ Ljubljana, Slovenia
    คราวนี้ต่างคนต่างเตรียมตัวมาดี ในการ(แอบ) อ่านประวัติส่วนตัวของคู่สนทนากันมา เช่น
    ปูตินชวนบุชคุยถึงเรื่องรักบี้ (เพราะเป็นกีฬาโปรดสมัยหนุ่ม)
    แต่บุชมาเหนือกว่า……เขาถามปูตินถึงเรื่อง”กางเขน” ที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น้อยคนจะทราบ
    เล่นเอาปูติน…งงไปพักนึง(นับว่าการข่าวของอเมริกันนั้น เชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง

    ต่อภายหลังเมื่อมีคนถามบุช…ว่า คิดว่าคนอย่างปูตินเป็นอย่างไร?
    เขาตอบว่า เป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนที่มั่นคงกับการเห็นชาติพัฒนาไปในทางที่ดี ผมชอบเขานะ……ได้เขิญเขามาเที่ยวที่บ้านไร่ในเท็กซัสด้วย”
    ทั้งๆที่งานนี้……มีแต่คนสงสัยว่า จะเชื่อปูตินได้ยังไง ในเมื่อ KGB เก่าพวกนี้
    เขาไม่เคยพูดความจริงอะไรกับใคร……

    ในช่วงของการขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ปูตินเดินทางไปทั่วรัสเซีย
    และอีก 18 ประเทศ ที่มีลุดมิลาเคียงคู่ไปด้วย เป็นการประกาศกลายๆ
    ว่าโลกได้ปลอดจากสงครามเย็นไปแล้ว และตอนนี้รัสเซียพร้อมที่จะเปิดกว้างกับการที่จะก้าวสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาอย่างเต็มสูบ

    ในปี 2001 ปูตินปิดหน่วยงาน(โซเวียต) ที่ คิวบา, เวียดนาม
    พร้อมทั้งหันมาพัฒนากองทัพเต็มรูปแบบ และเพิ่มประสิทธิภาพทางฝั่งเหนือของคอร์เคซัส ในการที่จะส่ายตาหากลุ่มอิสลามหัวรุนแรง

    หลังจากวิกฤต 9/11 ปูตินอ่อนข้อให้กับการขยายเขตแดนของนาโต้ ที่ก้าวเข้ามากวาด Lithuania, Latvia, Estonia ที่อยู่ติดกับรัสเซีย
    บางครั้งปูตินยังเคยบอกว่า……รัสเซียเองก็สนใจที่จะเข้าร่วมในนาโต้ด้วยเช่นกัน (ไม่รู้ว่าประชด หรือ พูดจริง)
    อเมริกาได้เปิดฉากทำสงครามล้างแค้นกับกลุ่มอัลเคดะห์ และ กลุ่มตาลีบัน
    ในอาฟกานิสถาน ในเดือนตุลาคม ที่ปูตินได้ช่วยทั้งเงินและอาวุธ
    ช่วยกองทัพอัฟกันในการต่อต้านกับตาลีบัน
    และได้โอนอ่อน…ไม่ขัดขวางเมื่อกองทัพอเมริกันมาตั้งฐานที่ Uzbekistan และ Kyrgyzstan
    ซึ่งนี่คือประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่กองทัพอเมริกันได้เข้ามาเหยียบในแผ่นดินฝั่งนี้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง

    หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุกับเรือดำน้ำ Kursk ปูตินได้หันมาจี้เรื่องกองทัพด้วยตัวเอง เขาปลดพวกนายพลเช้าชามเย็นชามออกไปเป็นแผง
    เพิ่มเงินเดือนให้กับทหารรุ่นใหม่ พร้อมสวัสดิการอัดแน่น
    ทำเพลงชาติให้มีเนื้อเพลงคำร้อง ให้ทันสมัย ให้พ้นไปจากเงาของโซเวียต
    เพราะตอนที่นักกีฬารัสเซียไปแข่งในโอลิมปิคที่ซิดนีย์ ในปี 2000
    ได้เหรียญมากันทุกชนิด แต่เวลาขึ้นแท่นรับเหรียญ ไม่สามารถร้องเพลงชาติได้ เพราะมีแต่ดนตรี
    ชาวรัสเชี่ยนเริ่มมีชีวิตชีวากับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ และชื่นชมปูตินที่เขาได้พูดถึงก้าวใหม่นี้ว่า
    “ใครก็ตามที่ไม่รู้สึกรู้สมกับความล่มสลายของโซเวียต คือคนไม่มีหัวใจ
    และใครก็ตามที่ไม่อยากก้าวไปข้างหน้า…คือคนไม่มีสมอง…”

    การปฏิวัติทางด้านกองทัพ เขาได้แต่งตั้ง Sergei Ivanov (KGB เพื่อนเก่าและร่วมมหาวิทยาลัย เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ และ สวีดิช)
    ขึ้นมาคุมกำลัง เป็น รัฐมนตรีกลาโหม
    และฝ่ายงบประมาณกองทัพ คือ Lyubov Kudelina เพื่อมาดูแลเรื่องเงิน
    ส่วนนายพลที่มีประวัติมือไม่สะอาด เช่นYevgeny Adamov (สมัยเยลซิน)
    ที่มีส่วนพัวพันกับเปอร์เซ็นต์ในงบสร้างฐานนิวเคลียร์ พร้อมกับคนอื่นๆ
    ถูกส่งเข้าเก็บกรุนายพลที่ไร้สมรรถภาพ…

    รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ อิวานอฟ ทำงานเร็วทันใจ เพียงสามวันหลังจากเหตุการณ์ 9/11 เขาได้ส่งสัญญาณให้ปูตินทราบว่า อเมริกากำลังขยายกำลังของนาโต้เข้ามาในส่วนของฝั่งชายขอบเอเซียกลาง (กลุ่มประเทศที่ลงท้ายด้วยคำว่า สถาน ทั้งหลาย)
    แต่ปูติน……มองเห็นว่า การสร้างสัมพันธภาพอันดีกับบุช คือสิ่งจำเป็น
    อย่างอื่นค่อยมาว่ากันทีหลัง…
    และการที่จะสร้างสัมพันธไมตรีอันดี อย่างแรกเลยที่เขาจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการเรียนภาษาอังกฤษวันละหนึ่งชั่วโมงที่สถาบัน
    American Diplomacy and Commerce และเขาได้ใช้เป็นครั้งแรกในการสนทนากับบุช ในภาษาอังกฤษสำเนียงรัสเซียปนเยอรมันว่า
    “ผมเห็นว่าคุณตั้งชื่อลูกสาวตามชื่อแม่ และ แม่ยายของคุณ……”
    “นั่นซิ…ก็ผมมันเป็นนักการเมืองชั้นเยี่ยมไงล่ะ..”
    “เออ……ใช่จริงๆ เพราะของผมก็เหมือนกัน..”
    แล้วสองคนก็หัวเราะเฮฮากันไป

    สองคนนี้ได้พบกันอีกครั้งเมื่อการประชุม Asia-Pacific Economic Cooperation Summit ที่เซี่ยงไฮ้ ในเดือนตุลาคม
    และได้คุยกันถึงเรื่องการสร้าง(จำนวน) ซ้อม(ยิง) นิวเคลียร์ที่ยังไม่ชัดเจน
    ที่ทำให้ประธานาธิบดีบุช ต้องเชิญปูตินไปยังทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกาในเดือน พฤศจิกายน
    เขาได้ไปเยี่ยมไร่ของบุชที่เท๊กซัสเป็นการส่วนตัว มีการเลี้ยงปิ้งย่าง บาร์บีคิว ปูตินได้กล่าวว่า
    “ผมไม่เคยไปเยี่ยมเยียนผู้คนไหนถึงในบ้านเลย…นับว่าเป็นโชคดีที่ได้มาถึงที่นี่ “
    และเขาได้ไปดูตึกที่ถล่มทลายและได้แสดงความอาลัย

    แต่.…เพียงสามอาทิตย์ต่อมา บุชได้โทรศัพท์มาถึงปูติน บอกว่า
    นโยบายทางเพนตากอนได้มีมติให้อเมริกาถอนตัวไม่เข้าร่วมกับโครงการ
    ABM (Anti-Ballistic Missile)
    เท่ากับว่า….ปูตินถูกอเมริกาเทอย่างหน้าตาเฉย…ทั้งๆที่เริ่มต้นทำท่าจะดี..

    การก่อกวนในเชเชนหลังจากสงครามยังไม่หยุด กลุ่มหัวรุนแรงได้เริ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ปูตินได้ประกาศว่า ต้องยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น
    จึงทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำเป็นขบวนการใต้ดิน
    ที่ทำให้เกิดการจับคนดูเป็นตัวประกันที่ โรงละคร Palace of Culture ในกรุงมอสโคว์ วันที่ 24 ตุลาคม 2002 ที่กำลังแสดงละครย้อนยุคที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาล บัตรใบละ 15 ดอลล่าร์ (เทียบเท่า ที่นับว่าแพงมาก)
    โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายแต่งกายเป็นคนงาน ขึ้นไปบนเวที
    ท่ามกลางความสับสนของคนดู ที่คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง
    แต่.…คณะผู้ก่อการร้ายในการนำของ Movsar Barayev** ได้กราดกระสุน AK-47 ขึ้นไปบนเพดาน และประกาศว่า ประตูทุกบานได้มีสลักระเบิดผูกติดอยู่
    ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมสีดำ ได้ก้าวเข้ามาอยู่กลางกลุ่มคนดู
    และเปิดเสื้อคลุมให้เห็นว่า ข้างในนั้น ร่างของเธอได้ผูกติดระเบิดเอาไว้
    พร้อมที่จะดึงสลัก หากว่า……มีเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้ามา
    ทั้งประกาศก้องว่า….ในนามพระอัลลาห์ พวกเราตายหนึ่ง แต่จะเกิดร้อย
    และถ้าใครมีโทรศัพท์……ให้โทรไปบอกครอบครัวได้เลยว่า
    ต้องตายเพราะสงครามเชเชน และถ้าอยากรอด……หนทางเดียวคือรัสเซียต้องถอนทัพออกไป เลิกสงครามทันที…!!!

    ปูตินอยู่ในสภาพที่หลังชนกำแพง จากที่กองทัพทำสงครามยืดเยื้อในเชเชน……หน่วย FSB ที่ทำงานประสาอะไรปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายเข้ามาถึงในมอสโคว์
    เขายกเลิกแผนการเดินทางทั้งหมด (ที่จะไป เยอรมัน,โปรตุเกส และ เม๊กซิโก)
    เรียกหน่วยข่าวกรอง บรรดาสายลับทั้งหลาย และตัวหัวหน้า Nikolai Patrushev เข้ามาพบโดยด่วน เตรียมการบุกโรงละคร
    เรียกหน่วยคอมมานโดให้เตรียมพร้อม
    คนค้าน……คือ นายกรัฐมนตรี Mikhaïl Kasyanov ด้วยเกรงว่าการทำอย่างนี้เสี่ยงเกินไป ผู้บริสุทธิ์อาจจะได้รับเคราะห์
    ปูตินบอกว่า “ถ้าป๊อด……ก็ออกไปห่างๆเลย……”
    เขาได้ส่งท่านนายกรัฐมนตรีมิเกล ออกไปประชุมแทนในตามรายชื่อประเทศ…จะได้ไม่ต้องมารับรู้อะไร

    ข้างในโรงละคร…ในกลุ่มคนดู ก็มีบุคคลสำคัญหลายคนในหลายวงการ
    ส่วนผู้ที่ได้ถูกปล่อยตัวออกมา คือ กลุ่มเด็กเล็กจำนวน 39 คน ที่ได้ให้การว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น ที่เติบโตมากับสงครามในคอร์เคซัส ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก
    เมื่อถูกถามว่า “ที่อยากให้เลิกสงคราม หมายความว่าอะไร..เพื่อ..?”
    คนกลุ่มนั้น ตอบไม่ได้ ลังเล ไม่แน่ใจ……
    ในวันที่สองของการจับตัวประกัน ที่ทุกคนเริ่มอ่อนล้า หิวโหย กระหาย
    วิตก……
    กลุ่มก่อการร้ายได้สังหารคนไปหลายคน ที่พยายามหาทางออก
    เจ้าหน้าที่ได้เจรจาขอให้มีการส่งอาหารและน้ำได้สำเร็จ

    ตีห้าของวันรุ่งขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังหลับ อ่อนแรง เตรียมพร้อมกับการที่จะเจรจาในตอนสิบโมงเช้า ตามที่เครมลินได้ส่งข่าวมา
    ทางหน่วยคอมมานโดที่ได้เจาะอุโมงค์ใต้ดินเข้าไปจากอาคารข้างๆ และได้ติดไมโครโฟนดักฟังจนรู้ตำแหน่งของผู้ก่อการร้าย
    กังวลที่สุด คือ อาคารทั้งหลังอาจจะระเบิดขึ้นมาได้
    ปูตินได้สั่งการเด็ดขาดว่า……จับตายทั้งหมดเท่านั้น……!!
    การใช้ ยาสลบ fentanyl ที่เป็นอาวุธชนิดหนึ่งของ FSB ได้ทำการแสดงฝีมือ คือ ฉีดส่งเข้าไปในท่อระบายอากาศ ที่ทำให้ทุกคนหลับแบบร่วงผล็อย
    แต่กลุ่มที่ระวังอยู่ด้านนอก มีการปะทะดุเดือด กลุ่มผู้ก่อการร้าย 41 คน
    มีกระสุนเจาะที่สมอง…… ตัวหัวหน้า Barayev ได้ถูกสังหารในวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง
    แต่ตัวประกันได้เสียชีวิตไปกว่าร้อยคน จากการโดนสังหารของผู้ก่อการร้าย และ บางคนเสียชีวิตเพราะสารยาสลบ เพราะมีอายุ และสุขภาพที่ไม่ดี

    ปูตินได้ออกโทรทัศน์ เพื่อทำการขอโทษประชาชนที่เขาไม่สามารถรักษาชีวิตได้ทุกคน ……แต่รัสเซียจะไม่ยอมให้หน้าไหนมาหยาม..!!

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันได้บอกกับปูตินว่าสงครามได้มาในรูปแบบใหม่
    ที่ได้ก้าวล่วงเข้ามาก่อกวนในประเทศ และที่นอกประเทศในขอบชายแดน
    ก็ขยายวงขึ้นเพราะการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกแผ่นดิน ปูตินไม่มีทางอื่น นอกจากต้องหักเท่านั้น……ไม่มีงอ
    ข่าวนี้……ทำให้ Aslan Maskhadov หัวหน้ากบฎเชเชนที่ได้ใช้ตัวแทนในโคเปนเฮเกน มาเสนอการเจรจาสันติภาพแบบไม่มีเงื่อนไข
    แต่ทางเครมลิน……ปฏิเสธ ไม่เจรจา แถมยังประกาศจับตัวแทนเจรจา Ahmed Zakayev(อดีตรองนายกรัฐมนตรีเชเชน และ เป็นฝ่ายโปรกบฏ)
    เดนมาร์ก……จับตัวให้ แต่ไม่ส่งให้รัสเซีย เพราะข้อกล่าวหาทางรัสเซียที่พัวพันไปในเรื่องโรงละครด้วย

    คนที่ออกมารับหน้าในเรื่องโรงละคร คือ Shamil Basayev**(หัวหน้าใหญ่กลุ่มกบฏเชเชน) ที่ออกมาประกาศกร้าวว่า “นี่คือบทเรียนที่รัสเซียสมควรได้รับ..”
    ปูตินรับคำขู่ด้วยการขานรับ เล่นงานเชเชนหนักขึ้น
    ฝ่ายโลกเสรีได้ยิงคำถามในเรื่องการใช้อาวุธด้วยการฝังทุ่นระเบิดไปทั่ว
    เขาตอบว่า “ ในวินาทีนี้ ใครก็ตามที่นับถือศาสนาคริสต์ ล้วนแต่ตกอยู่ในอันตราย แต่ถ้าจะเปลี่ยนเป็นมุสลิม……ก็ไม่รอด เพราะเขาเชื่อว่าการตายคือการไปพบพระเจ้า…ไม่ใช่หรือ……?!!
    และต่อด้วยภาษานักเลงสุดๆ กับนักข่าวที่ถาม (จนบางคนไม่กล้าแปล…)
    ว่า……

    “ ถ้าคุณตัดสินใจอยากจะเป็นมุสลิมอย่างที่พวกเขาเป็น และพร้อมที่จะไปพบกับพระเจ้า…ขอเชิญไปที่มอสโคว์ เพราะพวกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยเต็มตัว และรับรองได้ว่า เรามีสารพัดวิธีที่คุณจะไม่เติบโตต่อไปอีก………”

    **Shamil Basayev ผู้ก่อการร้ายตัวยง ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร้ายที่ทั้งโลกต้องการตัว เขาเป็นคนวางแผนเรื่องโรงละคร และการวางระเบิดเครื่องบินรัสเซีย เขาได้ถูกสังหารด้วยระเบิดกับดักที่มากับรถบรรทุก ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2006

    Wiwanda W. Vichit
    จะบอกติ่งๆทั้งหลายว่า……โหด……มัน……ฮานิดหน่อย ไม่มีใครเกินพี่ปูคนนี้…. ตอนสิบสอง……สู่บัลลังก์อำนาจ ด้วยการผ่านอุปสรรคที่เกิดขึ้นรายวัน……ไม่ว่าบู๊……ว่าบุ๋น……!!! ประธานาธิบดีบุชได้โทรกลับมา ปูตินได้แสดงความเสียใจและเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ ความโกรธ ความชังอเมริกันที่นาโต้ไปบอมบ์ที่ Kosovo ก็พักไว้ก่อน ประชาชนชาวรัสเซียได้นำดอกไม้ไปวางเพื่อแสดงความเสียใจที่หน้าสถานทูตอเมริกาเป็นกองพะเนิน ปูตินได้ย้ำกับปธน. บุช ว่า…… “ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย โหดร้ายเช่นนี้ ……เราจะยืนหยัดสู้ไปด้วยกัน……” ที่ลึกๆแล้ว……ปูตินมีความประทับใจในประธานาธิบดีบุชอยู่เป็นทุน เนื่องจากตอนที่บุชหาเสียงในปี 1999 (คู่แข่งคือ นาย Al Gore) เขาได้ประกาศนโยบายว่า ……จะไม่ยุ่งกับสงครามเชเชน..… เมื่อทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทั้งคู่จึงได้พบกันเป็นครั้วแรกใน เดือนมิถุนายน 2001 ที่ Ljubljana, Slovenia คราวนี้ต่างคนต่างเตรียมตัวมาดี ในการ(แอบ) อ่านประวัติส่วนตัวของคู่สนทนากันมา เช่น ปูตินชวนบุชคุยถึงเรื่องรักบี้ (เพราะเป็นกีฬาโปรดสมัยหนุ่ม) แต่บุชมาเหนือกว่า……เขาถามปูตินถึงเรื่อง”กางเขน” ที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น้อยคนจะทราบ เล่นเอาปูติน…งงไปพักนึง(นับว่าการข่าวของอเมริกันนั้น เชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง ต่อภายหลังเมื่อมีคนถามบุช…ว่า คิดว่าคนอย่างปูตินเป็นอย่างไร? เขาตอบว่า เป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนที่มั่นคงกับการเห็นชาติพัฒนาไปในทางที่ดี ผมชอบเขานะ……ได้เขิญเขามาเที่ยวที่บ้านไร่ในเท็กซัสด้วย” ทั้งๆที่งานนี้……มีแต่คนสงสัยว่า จะเชื่อปูตินได้ยังไง ในเมื่อ KGB เก่าพวกนี้ เขาไม่เคยพูดความจริงอะไรกับใคร…… ในช่วงของการขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ปูตินเดินทางไปทั่วรัสเซีย และอีก 18 ประเทศ ที่มีลุดมิลาเคียงคู่ไปด้วย เป็นการประกาศกลายๆ ว่าโลกได้ปลอดจากสงครามเย็นไปแล้ว และตอนนี้รัสเซียพร้อมที่จะเปิดกว้างกับการที่จะก้าวสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาอย่างเต็มสูบ ในปี 2001 ปูตินปิดหน่วยงาน(โซเวียต) ที่ คิวบา, เวียดนาม พร้อมทั้งหันมาพัฒนากองทัพเต็มรูปแบบ และเพิ่มประสิทธิภาพทางฝั่งเหนือของคอร์เคซัส ในการที่จะส่ายตาหากลุ่มอิสลามหัวรุนแรง หลังจากวิกฤต 9/11 ปูตินอ่อนข้อให้กับการขยายเขตแดนของนาโต้ ที่ก้าวเข้ามากวาด Lithuania, Latvia, Estonia ที่อยู่ติดกับรัสเซีย บางครั้งปูตินยังเคยบอกว่า……รัสเซียเองก็สนใจที่จะเข้าร่วมในนาโต้ด้วยเช่นกัน (ไม่รู้ว่าประชด หรือ พูดจริง) อเมริกาได้เปิดฉากทำสงครามล้างแค้นกับกลุ่มอัลเคดะห์ และ กลุ่มตาลีบัน ในอาฟกานิสถาน ในเดือนตุลาคม ที่ปูตินได้ช่วยทั้งเงินและอาวุธ ช่วยกองทัพอัฟกันในการต่อต้านกับตาลีบัน และได้โอนอ่อน…ไม่ขัดขวางเมื่อกองทัพอเมริกันมาตั้งฐานที่ Uzbekistan และ Kyrgyzstan ซึ่งนี่คือประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่กองทัพอเมริกันได้เข้ามาเหยียบในแผ่นดินฝั่งนี้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุกับเรือดำน้ำ Kursk ปูตินได้หันมาจี้เรื่องกองทัพด้วยตัวเอง เขาปลดพวกนายพลเช้าชามเย็นชามออกไปเป็นแผง เพิ่มเงินเดือนให้กับทหารรุ่นใหม่ พร้อมสวัสดิการอัดแน่น ทำเพลงชาติให้มีเนื้อเพลงคำร้อง ให้ทันสมัย ให้พ้นไปจากเงาของโซเวียต เพราะตอนที่นักกีฬารัสเซียไปแข่งในโอลิมปิคที่ซิดนีย์ ในปี 2000 ได้เหรียญมากันทุกชนิด แต่เวลาขึ้นแท่นรับเหรียญ ไม่สามารถร้องเพลงชาติได้ เพราะมีแต่ดนตรี ชาวรัสเชี่ยนเริ่มมีชีวิตชีวากับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ และชื่นชมปูตินที่เขาได้พูดถึงก้าวใหม่นี้ว่า “ใครก็ตามที่ไม่รู้สึกรู้สมกับความล่มสลายของโซเวียต คือคนไม่มีหัวใจ และใครก็ตามที่ไม่อยากก้าวไปข้างหน้า…คือคนไม่มีสมอง…” การปฏิวัติทางด้านกองทัพ เขาได้แต่งตั้ง Sergei Ivanov (KGB เพื่อนเก่าและร่วมมหาวิทยาลัย เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ และ สวีดิช) ขึ้นมาคุมกำลัง เป็น รัฐมนตรีกลาโหม และฝ่ายงบประมาณกองทัพ คือ Lyubov Kudelina เพื่อมาดูแลเรื่องเงิน ส่วนนายพลที่มีประวัติมือไม่สะอาด เช่นYevgeny Adamov (สมัยเยลซิน) ที่มีส่วนพัวพันกับเปอร์เซ็นต์ในงบสร้างฐานนิวเคลียร์ พร้อมกับคนอื่นๆ ถูกส่งเข้าเก็บกรุนายพลที่ไร้สมรรถภาพ… รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ อิวานอฟ ทำงานเร็วทันใจ เพียงสามวันหลังจากเหตุการณ์ 9/11 เขาได้ส่งสัญญาณให้ปูตินทราบว่า อเมริกากำลังขยายกำลังของนาโต้เข้ามาในส่วนของฝั่งชายขอบเอเซียกลาง (กลุ่มประเทศที่ลงท้ายด้วยคำว่า สถาน ทั้งหลาย) แต่ปูติน……มองเห็นว่า การสร้างสัมพันธภาพอันดีกับบุช คือสิ่งจำเป็น อย่างอื่นค่อยมาว่ากันทีหลัง… และการที่จะสร้างสัมพันธไมตรีอันดี อย่างแรกเลยที่เขาจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการเรียนภาษาอังกฤษวันละหนึ่งชั่วโมงที่สถาบัน American Diplomacy and Commerce และเขาได้ใช้เป็นครั้งแรกในการสนทนากับบุช ในภาษาอังกฤษสำเนียงรัสเซียปนเยอรมันว่า “ผมเห็นว่าคุณตั้งชื่อลูกสาวตามชื่อแม่ และ แม่ยายของคุณ……” “นั่นซิ…ก็ผมมันเป็นนักการเมืองชั้นเยี่ยมไงล่ะ..” “เออ……ใช่จริงๆ เพราะของผมก็เหมือนกัน..” แล้วสองคนก็หัวเราะเฮฮากันไป สองคนนี้ได้พบกันอีกครั้งเมื่อการประชุม Asia-Pacific Economic Cooperation Summit ที่เซี่ยงไฮ้ ในเดือนตุลาคม และได้คุยกันถึงเรื่องการสร้าง(จำนวน) ซ้อม(ยิง) นิวเคลียร์ที่ยังไม่ชัดเจน ที่ทำให้ประธานาธิบดีบุช ต้องเชิญปูตินไปยังทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกาในเดือน พฤศจิกายน เขาได้ไปเยี่ยมไร่ของบุชที่เท๊กซัสเป็นการส่วนตัว มีการเลี้ยงปิ้งย่าง บาร์บีคิว ปูตินได้กล่าวว่า “ผมไม่เคยไปเยี่ยมเยียนผู้คนไหนถึงในบ้านเลย…นับว่าเป็นโชคดีที่ได้มาถึงที่นี่ “ และเขาได้ไปดูตึกที่ถล่มทลายและได้แสดงความอาลัย แต่.…เพียงสามอาทิตย์ต่อมา บุชได้โทรศัพท์มาถึงปูติน บอกว่า นโยบายทางเพนตากอนได้มีมติให้อเมริกาถอนตัวไม่เข้าร่วมกับโครงการ ABM (Anti-Ballistic Missile) เท่ากับว่า….ปูตินถูกอเมริกาเทอย่างหน้าตาเฉย…ทั้งๆที่เริ่มต้นทำท่าจะดี.. การก่อกวนในเชเชนหลังจากสงครามยังไม่หยุด กลุ่มหัวรุนแรงได้เริ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ปูตินได้ประกาศว่า ต้องยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น จึงทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำเป็นขบวนการใต้ดิน ที่ทำให้เกิดการจับคนดูเป็นตัวประกันที่ โรงละคร Palace of Culture ในกรุงมอสโคว์ วันที่ 24 ตุลาคม 2002 ที่กำลังแสดงละครย้อนยุคที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาล บัตรใบละ 15 ดอลล่าร์ (เทียบเท่า ที่นับว่าแพงมาก) โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายแต่งกายเป็นคนงาน ขึ้นไปบนเวที ท่ามกลางความสับสนของคนดู ที่คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง แต่.…คณะผู้ก่อการร้ายในการนำของ Movsar Barayev** ได้กราดกระสุน AK-47 ขึ้นไปบนเพดาน และประกาศว่า ประตูทุกบานได้มีสลักระเบิดผูกติดอยู่ ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมสีดำ ได้ก้าวเข้ามาอยู่กลางกลุ่มคนดู และเปิดเสื้อคลุมให้เห็นว่า ข้างในนั้น ร่างของเธอได้ผูกติดระเบิดเอาไว้ พร้อมที่จะดึงสลัก หากว่า……มีเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้ามา ทั้งประกาศก้องว่า….ในนามพระอัลลาห์ พวกเราตายหนึ่ง แต่จะเกิดร้อย และถ้าใครมีโทรศัพท์……ให้โทรไปบอกครอบครัวได้เลยว่า ต้องตายเพราะสงครามเชเชน และถ้าอยากรอด……หนทางเดียวคือรัสเซียต้องถอนทัพออกไป เลิกสงครามทันที…!!! ปูตินอยู่ในสภาพที่หลังชนกำแพง จากที่กองทัพทำสงครามยืดเยื้อในเชเชน……หน่วย FSB ที่ทำงานประสาอะไรปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายเข้ามาถึงในมอสโคว์ เขายกเลิกแผนการเดินทางทั้งหมด (ที่จะไป เยอรมัน,โปรตุเกส และ เม๊กซิโก) เรียกหน่วยข่าวกรอง บรรดาสายลับทั้งหลาย และตัวหัวหน้า Nikolai Patrushev เข้ามาพบโดยด่วน เตรียมการบุกโรงละคร เรียกหน่วยคอมมานโดให้เตรียมพร้อม คนค้าน……คือ นายกรัฐมนตรี Mikhaïl Kasyanov ด้วยเกรงว่าการทำอย่างนี้เสี่ยงเกินไป ผู้บริสุทธิ์อาจจะได้รับเคราะห์ ปูตินบอกว่า “ถ้าป๊อด……ก็ออกไปห่างๆเลย……” เขาได้ส่งท่านนายกรัฐมนตรีมิเกล ออกไปประชุมแทนในตามรายชื่อประเทศ…จะได้ไม่ต้องมารับรู้อะไร ข้างในโรงละคร…ในกลุ่มคนดู ก็มีบุคคลสำคัญหลายคนในหลายวงการ ส่วนผู้ที่ได้ถูกปล่อยตัวออกมา คือ กลุ่มเด็กเล็กจำนวน 39 คน ที่ได้ให้การว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น ที่เติบโตมากับสงครามในคอร์เคซัส ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก เมื่อถูกถามว่า “ที่อยากให้เลิกสงคราม หมายความว่าอะไร..เพื่อ..?” คนกลุ่มนั้น ตอบไม่ได้ ลังเล ไม่แน่ใจ…… ในวันที่สองของการจับตัวประกัน ที่ทุกคนเริ่มอ่อนล้า หิวโหย กระหาย วิตก…… กลุ่มก่อการร้ายได้สังหารคนไปหลายคน ที่พยายามหาทางออก เจ้าหน้าที่ได้เจรจาขอให้มีการส่งอาหารและน้ำได้สำเร็จ ตีห้าของวันรุ่งขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังหลับ อ่อนแรง เตรียมพร้อมกับการที่จะเจรจาในตอนสิบโมงเช้า ตามที่เครมลินได้ส่งข่าวมา ทางหน่วยคอมมานโดที่ได้เจาะอุโมงค์ใต้ดินเข้าไปจากอาคารข้างๆ และได้ติดไมโครโฟนดักฟังจนรู้ตำแหน่งของผู้ก่อการร้าย กังวลที่สุด คือ อาคารทั้งหลังอาจจะระเบิดขึ้นมาได้ ปูตินได้สั่งการเด็ดขาดว่า……จับตายทั้งหมดเท่านั้น……!! การใช้ ยาสลบ fentanyl ที่เป็นอาวุธชนิดหนึ่งของ FSB ได้ทำการแสดงฝีมือ คือ ฉีดส่งเข้าไปในท่อระบายอากาศ ที่ทำให้ทุกคนหลับแบบร่วงผล็อย แต่กลุ่มที่ระวังอยู่ด้านนอก มีการปะทะดุเดือด กลุ่มผู้ก่อการร้าย 41 คน มีกระสุนเจาะที่สมอง…… ตัวหัวหน้า Barayev ได้ถูกสังหารในวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง แต่ตัวประกันได้เสียชีวิตไปกว่าร้อยคน จากการโดนสังหารของผู้ก่อการร้าย และ บางคนเสียชีวิตเพราะสารยาสลบ เพราะมีอายุ และสุขภาพที่ไม่ดี ปูตินได้ออกโทรทัศน์ เพื่อทำการขอโทษประชาชนที่เขาไม่สามารถรักษาชีวิตได้ทุกคน ……แต่รัสเซียจะไม่ยอมให้หน้าไหนมาหยาม..!! เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันได้บอกกับปูตินว่าสงครามได้มาในรูปแบบใหม่ ที่ได้ก้าวล่วงเข้ามาก่อกวนในประเทศ และที่นอกประเทศในขอบชายแดน ก็ขยายวงขึ้นเพราะการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกแผ่นดิน ปูตินไม่มีทางอื่น นอกจากต้องหักเท่านั้น……ไม่มีงอ ข่าวนี้……ทำให้ Aslan Maskhadov หัวหน้ากบฎเชเชนที่ได้ใช้ตัวแทนในโคเปนเฮเกน มาเสนอการเจรจาสันติภาพแบบไม่มีเงื่อนไข แต่ทางเครมลิน……ปฏิเสธ ไม่เจรจา แถมยังประกาศจับตัวแทนเจรจา Ahmed Zakayev(อดีตรองนายกรัฐมนตรีเชเชน และ เป็นฝ่ายโปรกบฏ) เดนมาร์ก……จับตัวให้ แต่ไม่ส่งให้รัสเซีย เพราะข้อกล่าวหาทางรัสเซียที่พัวพันไปในเรื่องโรงละครด้วย คนที่ออกมารับหน้าในเรื่องโรงละคร คือ Shamil Basayev**(หัวหน้าใหญ่กลุ่มกบฏเชเชน) ที่ออกมาประกาศกร้าวว่า “นี่คือบทเรียนที่รัสเซียสมควรได้รับ..” ปูตินรับคำขู่ด้วยการขานรับ เล่นงานเชเชนหนักขึ้น ฝ่ายโลกเสรีได้ยิงคำถามในเรื่องการใช้อาวุธด้วยการฝังทุ่นระเบิดไปทั่ว เขาตอบว่า “ ในวินาทีนี้ ใครก็ตามที่นับถือศาสนาคริสต์ ล้วนแต่ตกอยู่ในอันตราย แต่ถ้าจะเปลี่ยนเป็นมุสลิม……ก็ไม่รอด เพราะเขาเชื่อว่าการตายคือการไปพบพระเจ้า…ไม่ใช่หรือ……?!! และต่อด้วยภาษานักเลงสุดๆ กับนักข่าวที่ถาม (จนบางคนไม่กล้าแปล…) ว่า…… “ ถ้าคุณตัดสินใจอยากจะเป็นมุสลิมอย่างที่พวกเขาเป็น และพร้อมที่จะไปพบกับพระเจ้า…ขอเชิญไปที่มอสโคว์ เพราะพวกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยเต็มตัว และรับรองได้ว่า เรามีสารพัดวิธีที่คุณจะไม่เติบโตต่อไปอีก………” **Shamil Basayev ผู้ก่อการร้ายตัวยง ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร้ายที่ทั้งโลกต้องการตัว เขาเป็นคนวางแผนเรื่องโรงละคร และการวางระเบิดเครื่องบินรัสเซีย เขาได้ถูกสังหารด้วยระเบิดกับดักที่มากับรถบรรทุก ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2006 Wiwanda W. Vichit
    0 Comments 0 Shares 491 Views 0 Reviews
  • #สุขใดรึจะเท่าทุยไทยเปย์ฉ่ำ
    ขณะที่ทุยหลายตัว แค่ได้ดอกไม้อิเหม็นส่งให้
    กรี๊ดแทบสลบ ที่ไหนได้ อิเหม็นน้ำไม่อาบ
    ส่งให้ทุยไทยทุกตัวที่เล่นงานชาลี
    ส่งให้เหมือนกับ สวัสดีวันจันทร์ของไทยเรานั่นแหละ
    หลงเหลือเกิ๊น แสดงแบ๊วๆ โก๊ะๆ
    ก็อิแค่ สก็อยกิมจิ ลำยองเกาหลี
    ติดพานัน จนสักแต่ลายปาจิงโกะ
    น้ำไม่อาบได้เป็นสิบๆวัน กลิ่นคงแรงบังลัย
    ทุยช๊อบ ชอบ
    มันน่าฉงฉาน ตรงไหน เอาปากกามาวงให้กรรรูที
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #สุขใดรึจะเท่าทุยไทยเปย์ฉ่ำ ขณะที่ทุยหลายตัว แค่ได้ดอกไม้อิเหม็นส่งให้ กรี๊ดแทบสลบ ที่ไหนได้ อิเหม็นน้ำไม่อาบ ส่งให้ทุยไทยทุกตัวที่เล่นงานชาลี ส่งให้เหมือนกับ สวัสดีวันจันทร์ของไทยเรานั่นแหละ หลงเหลือเกิ๊น แสดงแบ๊วๆ โก๊ะๆ ก็อิแค่ สก็อยกิมจิ ลำยองเกาหลี ติดพานัน จนสักแต่ลายปาจิงโกะ น้ำไม่อาบได้เป็นสิบๆวัน กลิ่นคงแรงบังลัย ทุยช๊อบ ชอบ มันน่าฉงฉาน ตรงไหน เอาปากกามาวงให้กรรรูที #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    Yay
    15
    2 Comments 0 Shares 661 Views 0 Reviews
  • เพจนี้ไงที่กามินส่งดอกไม้เป็นกำลังใจ
    #ในการให้ร้ายชาลีแบบฉ่ำมาก
    คงชื่นชมผลงานแหละ เล่นงานแน๊กขนาดนี้
    มีสมาชิกร่วมคอมเม้นขนาดนี้
    ไม่ให้รางวัลได้ยังไง ดอกไม้ในห้องส่วนตัว
    แอดมินเพจหัวใจนี่ชื่นบานไปเลย
    ที่แท้ อิเหวิงติดต่อกับพวกให้ร้ายแน็กตลอดนี่
    ทำแบ๊ว 555
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    เพจนี้ไงที่กามินส่งดอกไม้เป็นกำลังใจ #ในการให้ร้ายชาลีแบบฉ่ำมาก คงชื่นชมผลงานแหละ เล่นงานแน๊กขนาดนี้ มีสมาชิกร่วมคอมเม้นขนาดนี้ ไม่ให้รางวัลได้ยังไง ดอกไม้ในห้องส่วนตัว แอดมินเพจหัวใจนี่ชื่นบานไปเลย ที่แท้ อิเหวิงติดต่อกับพวกให้ร้ายแน็กตลอดนี่ ทำแบ๊ว 555 #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    Yay
    8
    0 Comments 0 Shares 906 Views 0 Reviews
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,525
    วันอาทิตย์: แรม ๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๗ (22 September 2024)

    Photo Album 1/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    01. วัดเขาหลักชัย อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    02. วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    03. วัดคลองบางเดื่อ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    04. วัดคลองเรือ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    05. วัดควนสงฆ์ อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    06. วัดจำปาสะเอิง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    07ใ วัดเจติยาคีรีวิหาร อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    08. วัดดงพลับ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    09. วัดดอกไม้ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    10. วัดดอนสังข์วนาราม อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๓ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,525 วันอาทิตย์: แรม ๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๗ (22 September 2024) Photo Album 1/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 01. วัดเขาหลักชัย อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 02. วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 03. วัดคลองบางเดื่อ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 04. วัดคลองเรือ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 05. วัดควนสงฆ์ อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 06. วัดจำปาสะเอิง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 07ใ วัดเจติยาคีรีวิหาร อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 08. วัดดงพลับ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 09. วัดดอกไม้ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 10. วัดดอนสังข์วนาราม อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๓ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,525
    วันอาทิตย์: แรม ๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๗ (22 September 2024)

    Photo Album 1/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    01. วัดเขาหลักชัย อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    02. วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    03. วัดคลองบางเดื่อ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    04. วัดคลองเรือ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    05. วัดควนสงฆ์ อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    06. วัดจำปาสะเอิง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    07ใ วัดเจติยาคีรีวิหาร อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    08. วัดดงพลับ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    09. วัดดอกไม้ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    10. วัดดอนสังข์วนาราม อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
    (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๓ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,525 วันอาทิตย์: แรม ๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๗ (22 September 2024) Photo Album 1/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 01. วัดเขาหลักชัย อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 02. วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 03. วัดคลองบางเดื่อ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 04. วัดคลองเรือ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 05. วัดควนสงฆ์ อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 06. วัดจำปาสะเอิง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 07ใ วัดเจติยาคีรีวิหาร อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 08. วัดดงพลับ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 09. วัดดอกไม้ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) 10. วัดดอนสังข์วนาราม อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด (ทอดกฐินสามัคคี 20 ต.ค.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๓ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • ย้อนกลับไปสักยี่สิบกว่าปีได้ สมัยเรียนอยู่ราม เพื่อนเอาหนังสือมาให้ยืมอ่าน คล้ายว่าอยากชวนให้ฉันอ่านด้วย
    "นี้อ่านเรื่องนี้สิ ดีนะ"
    ชื่อหนังสือ จากดวงตาดอกไม้ สู่ดวงใจแป่นดิน จำได้เลือนลางว่าเป็นสองเล่มคู่กัน แต่เป็นสองช่วงเวลา สองเหตุการณ์ ของคุณชไมพร แสงกระจ่าง
    เป็นเหตุการณ์ช่วงเดือนตุลา และพฤษภา
    ตอนจบทุกคนออกจากป่า เมื่อออกมาแล้วก็เหมือนความคิดเปลี่ยนไป อุดมการณ์ที่เคยยึดมั่นก็สั่นคลอน บางคนได้แต่มองดูความเปลี่ยแปลงนี้ด้วยหัวใจแตกสลาย
    ฉันเองอ่านจบก็ร้องไห้เช่นกัน เข้าใจตัวละครอย่างสุดซึ้ง
    อุดมการณ์มันกินไม่ได้ แล้วที่ต่อสู้มาเพื่ออะไร ช่างว่าเปล่าสิ้นดี

    ทุกครั้งที่มีการแจกเงิน ไม่ว่ารัฐบาลไหน นโยบายดีเช่นไร ฉันก็รังเกียจเงินพวกนี้ ได้เคยร่วมสังฆกรรม
    "ก็ทำไมไม่พึ่งลำแข้งตัวเองล่ะ"

    หลายวันก่อนลูกค้าประจำมาซื้อแป้งสาลี เธอชวนดูแขนของเธอที่มันบวม นิ้วมือทุกนี้วที่อวบเป่ง เกิดจากการตรากตรำนั่งปั้นแป้งทำขนมอยู่หลายชั่วโมงต่อวัน เสร๊จก็รีบเอาออกไปขาย เวลานนอนของเธอมีแค่สามชั่งโมงต้องตื่นมาเริ่มงานใหม่ พ่อของเธอป่วยหนักถึงขั้นต้องตัดขา แต่จนใจ เพราะหากตัดขาต้องเป็นภาระลูกอีก ยอมกัดฟันอดทนเจ็บไม่ไปรักษา ตัวเธอเองมีหนี้ที่ถูกโกงจากจำนวนล้านพยายามชดใช้ จนเหลือแค่หลักแสนต้นๆ เมื่อเล่าถึงตรงนี้เธอเปรยๆ ถ้าได้เงินหมื่นที่รัฐบาลแจกคงช่วยได้ไม่ใช่น้อย เธอตั้งตารออยู่

    ฉันสะอึก จุกจนแน่นอก เหมือนถูกอะไรทุบหัวจนมึน ความรู้สึกเก่าก่อนนั่นย้อนมา
    ฉันรังเกียจ เพราะฉันไม่มีหนี้ ไม่เคยหิวจนแสบไส้ ไม่เคยคัดสน เจ็บป่วยก็มีที่ดีๆ รักษาได้ทันท่วงทีจนหาย มันต่างกับเธอที่อับจนทุกหนทาง เงินหมื่นเหมือนฝนกลางทะเลทราย
    คบ้อยหลังเธอ ฉันร้องไห้ เห็นใจเธอก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่ง สมเพชตัวเอง ฉันไร้เดียงสาเพียงนี้เชียวหรือ
    "อุดมการณ์มันกินไม่ได้"
    ย้อนกลับไปสักยี่สิบกว่าปีได้ สมัยเรียนอยู่ราม เพื่อนเอาหนังสือมาให้ยืมอ่าน คล้ายว่าอยากชวนให้ฉันอ่านด้วย "นี้อ่านเรื่องนี้สิ ดีนะ" ชื่อหนังสือ จากดวงตาดอกไม้ สู่ดวงใจแป่นดิน จำได้เลือนลางว่าเป็นสองเล่มคู่กัน แต่เป็นสองช่วงเวลา สองเหตุการณ์ ของคุณชไมพร แสงกระจ่าง เป็นเหตุการณ์ช่วงเดือนตุลา และพฤษภา ตอนจบทุกคนออกจากป่า เมื่อออกมาแล้วก็เหมือนความคิดเปลี่ยนไป อุดมการณ์ที่เคยยึดมั่นก็สั่นคลอน บางคนได้แต่มองดูความเปลี่ยแปลงนี้ด้วยหัวใจแตกสลาย ฉันเองอ่านจบก็ร้องไห้เช่นกัน เข้าใจตัวละครอย่างสุดซึ้ง อุดมการณ์มันกินไม่ได้ แล้วที่ต่อสู้มาเพื่ออะไร ช่างว่าเปล่าสิ้นดี ทุกครั้งที่มีการแจกเงิน ไม่ว่ารัฐบาลไหน นโยบายดีเช่นไร ฉันก็รังเกียจเงินพวกนี้ ได้เคยร่วมสังฆกรรม "ก็ทำไมไม่พึ่งลำแข้งตัวเองล่ะ" หลายวันก่อนลูกค้าประจำมาซื้อแป้งสาลี เธอชวนดูแขนของเธอที่มันบวม นิ้วมือทุกนี้วที่อวบเป่ง เกิดจากการตรากตรำนั่งปั้นแป้งทำขนมอยู่หลายชั่วโมงต่อวัน เสร๊จก็รีบเอาออกไปขาย เวลานนอนของเธอมีแค่สามชั่งโมงต้องตื่นมาเริ่มงานใหม่ พ่อของเธอป่วยหนักถึงขั้นต้องตัดขา แต่จนใจ เพราะหากตัดขาต้องเป็นภาระลูกอีก ยอมกัดฟันอดทนเจ็บไม่ไปรักษา ตัวเธอเองมีหนี้ที่ถูกโกงจากจำนวนล้านพยายามชดใช้ จนเหลือแค่หลักแสนต้นๆ เมื่อเล่าถึงตรงนี้เธอเปรยๆ ถ้าได้เงินหมื่นที่รัฐบาลแจกคงช่วยได้ไม่ใช่น้อย เธอตั้งตารออยู่ ฉันสะอึก จุกจนแน่นอก เหมือนถูกอะไรทุบหัวจนมึน ความรู้สึกเก่าก่อนนั่นย้อนมา ฉันรังเกียจ เพราะฉันไม่มีหนี้ ไม่เคยหิวจนแสบไส้ ไม่เคยคัดสน เจ็บป่วยก็มีที่ดีๆ รักษาได้ทันท่วงทีจนหาย มันต่างกับเธอที่อับจนทุกหนทาง เงินหมื่นเหมือนฝนกลางทะเลทราย คบ้อยหลังเธอ ฉันร้องไห้ เห็นใจเธอก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่ง สมเพชตัวเอง ฉันไร้เดียงสาเพียงนี้เชียวหรือ "อุดมการณ์มันกินไม่ได้"
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • ดอกไม้เมืองหนาว ที่ระยอง
    ดอกไม้เมืองหนาว ที่ระยอง
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 217 Views 155 0 Reviews
  • Newsstory : ขุดความ "ง่าว" ขิ่นแก้วตา อภิปรายแทรกแซงการเมืองพม่า ราวกับตัวเองอยู่ในทุ่งดอกไม้
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #แก้วตา #ธิษะณา #ขิ่นแก้วตา
    Newsstory : ขุดความ "ง่าว" ขิ่นแก้วตา อภิปรายแทรกแซงการเมืองพม่า ราวกับตัวเองอยู่ในทุ่งดอกไม้ #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #แก้วตา #ธิษะณา #ขิ่นแก้วตา
    Like
    Sad
    8
    0 Comments 0 Shares 2451 Views 1785 0 Reviews
  • กิจกรรมงานฝีมือ Handmade by u
    ที่ชั้น 2 ตั้งฮั่วเส็ง บางลำพู
    สอนฟรีหลากหลายงานฝีมือ อาทิ ถักกระเป๋าสวยสไตล์ต่อชิ้น ถักหมวกสลับสี ถักตุ๊กตา & ชุดเสื้อผ้าตุ๊กตา ประดิษฐ์ดอกไม้จากผ้าใยไหม ฯลฯ
    ไม่ต้องจอง ไม่ต้องลงทะเบียน สอนเวลา 10.00-18.00น.

    #ตั้งฮั่วเส็ง #Handicraft #Workshop
    #สยามโสภา #งานฝีมือ #บางลำพู #thaitimes #ผู้สุงอายุ #thaitimesฝึกอาชีพ
    กิจกรรมงานฝีมือ Handmade by u ที่ชั้น 2 ตั้งฮั่วเส็ง บางลำพู สอนฟรีหลากหลายงานฝีมือ อาทิ ถักกระเป๋าสวยสไตล์ต่อชิ้น ถักหมวกสลับสี ถักตุ๊กตา & ชุดเสื้อผ้าตุ๊กตา ประดิษฐ์ดอกไม้จากผ้าใยไหม ฯลฯ ไม่ต้องจอง ไม่ต้องลงทะเบียน สอนเวลา 10.00-18.00น. #ตั้งฮั่วเส็ง #Handicraft #Workshop #สยามโสภา #งานฝีมือ #บางลำพู #thaitimes #ผู้สุงอายุ #thaitimesฝึกอาชีพ
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 1491 Views 626 0 Reviews
  • แซ่บครับ น้ำดอกไม้
    แซ่บครับ น้ำดอกไม้
    0 Comments 0 Shares 22 Views 0 Reviews
  • คุณ ชานน สัมพันธารักษ์ กรรมการผู้จัดการ
    บริษัท ไฮ ไลค์ เอเจนซี่ จำกัด
    มอบช่อดอกไม้ แสดงความยินดี
    ให้กับคุณสุนันทา สิ่งสรรเสริญ
    ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ
    บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน)
    หรือ SA ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร
    เนื่องในโอกาสที่จัดงานแถลงข่าว
    THE SUSTAINOVATIVE LIVING by Siamese asset
    เพื่อเปิดตัวพรีเซนเตอร์ อาโป-ณัฐวิญญ์ ตัวแทนคนรุ่นใหม่
    ที่มาทำหน้าที่ส่งต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแบบของตนเอง
    พร้อมจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านที่อยู่อาศัย
    ภายใต้แนวคิด Siamese Asset Asset of Life
    สร้างกำไรให้ทุกการใช้ชีวิต
    ณ ลานอีเดน ชั้น 1 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์
    .
    หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้าน
    Digital PR & Marketing Solutions
    เรายินดีและพร้อมสำหรับคุณ
    TEL: 086-424-7935, 092-426-9741
    .
    #HILIKEAGENCY #PRAGENCY #DigitalPR #Marketing
    #ประชาสัมพันธ์ #PRESSCONFERENCE #PUBLICRELATIONS
    #pragencyในไทย #PRAgencyThailand
    คุณ ชานน สัมพันธารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮ ไลค์ เอเจนซี่ จำกัด มอบช่อดอกไม้ แสดงความยินดี ให้กับคุณสุนันทา สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เนื่องในโอกาสที่จัดงานแถลงข่าว THE SUSTAINOVATIVE LIVING by Siamese asset เพื่อเปิดตัวพรีเซนเตอร์ อาโป-ณัฐวิญญ์ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ ที่มาทำหน้าที่ส่งต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแบบของตนเอง พร้อมจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านที่อยู่อาศัย ภายใต้แนวคิด Siamese Asset Asset of Life สร้างกำไรให้ทุกการใช้ชีวิต ณ ลานอีเดน ชั้น 1 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ . หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Digital PR & Marketing Solutions เรายินดีและพร้อมสำหรับคุณ TEL: 086-424-7935, 092-426-9741 . #HILIKEAGENCY #PRAGENCY #DigitalPR #Marketing #ประชาสัมพันธ์ #PRESSCONFERENCE #PUBLICRELATIONS #pragencyในไทย #PRAgencyThailand
    0 Comments 1 Shares 456 Views 0 Reviews
  • #ไต้หวันก็เผชิญกับสถานการณ์เดียวกันกับประเทศไทย
    แต่มีการดำเนินการทางก-ฏ-ห-ม-า-ย-แล้ว
    รายละเอียดดังนี้
    ------------------------------------
    "มีคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งในไต้หวัน ได้ใช้ Sh..p..e หาลูกค้าเพื่อทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินใต้ดินที่ผิ-ด-ก-ฎ-ห-ม-า-ยระหว่างไต้หวันและจีน โดยพวกเขาเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมนี้ วิธีการคือ เมื่อลูกค้าสั่งซื้อและชำระเงินด้วยเงินดอลลาร์ไต้หวัน คู่สามีภรรยานี้จะเติม "เหรียญ D-o--u-y-i-n" ให้กับลูกค้าตามเรทแลกเปลี่ยนที่ตกลงกันไว้ ในระยะเวลา 3 ปี พวกเขาฟอกรวมมูลค่าสูงถึง 170 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ศ-า-ลชั้นต้นได้ตั-ดสิ-นให้สามีรับโทษจำ 7 ปีครึ่ง และภรรยา 4 ปี ทั้งสองสามารถอุทธรณ์ได้ โดยคดีนี้ถือเป็นกรณีแรกในไต้หวันที่มีการใช้เหรียญ D-o--u-y-i-n ในการฟอกและถูกตั-ด-สิ-น-ล-งโ-ท-ษ
    ใน D-o--u-y-i-n (TT) ผู้ใช้ไม่เพียงแค่สามารถดูวิดีโอ แต่ยังสามารถชมการถ่ายทอดสดได้
    #หากใช้เงินเติมเหรียญก็สามารถแลกเป็นของขวัญเสมือนจริงได้ เช่น "ส่งดอกไม้ ส่งรถสปอร์ต" เพื่อสนับสนุนผู้ที่ถ่ายทอดสดและมีปฏิสัมพันธ์ในรูปแบบอื่น
    ผู้ถ่ายทอดสดประเภทการดูดวง Abby อธิบายว่า "ผู้ชมอาจรู้สึกว่าฉันพูดได้แม่นยำ จึงมีความรู้สึกพิเศษ และส่งของขวัญเสมือนจริงได้ เหรียญเสมือนนี้สามารถใช้ในการ #ให้ของขวัญหรือถอนออกมาเป็นเงินสดได้"
    #การให้ของขวัญในห้องถ่ายทอดสดไม่เพียงแต่สนับสนุนผู้ถ่ายทอดสด
    #แต่ยังสามารถเปลี่ยนเป็นรายได้จริงได้
    อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยกรณีแรกที่มีการใช้D-o--u-y-i-nในการฟ-อ-ก-โดยผู้กระทำความผิดถูกตั-ด-สิ-น-ล-ง-โท-ษ-จา-ก-ศ-า-ล
    เมื่อค้นหาคำว่า "บริการจัดซื้อ สอนการเติมเงิน" จะพบข้อมูลมากมาย คู่สามีภรรยาที่มีนามสกุล Yuan ได้ใช้ Sh..p..e โฆษณาในลักษณะนี้ และให้บริการแลกเปลี่ยนเงินให้กับลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยนเงินหยวน โดยให้ลูกค้าสั่งซื้อและจ่ายเงินด้วยดอลลาร์ไต้หวัน จากนั้นจะทำการเติมเหรียญ D-o--u-y-i-n ในบัญชี D-o--u-y-i-n ของลูกค้า หรือเติมคะแนนในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เช่น W-e-C-h-a-t หรือ A-l-i-p-a-y ตามเรทที่ตกลงกัน
    ศ-า-ลได้ตัดสินว่าทั้งคู่มีการดำเนินธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินใ--ต้-ดิ-น โดยในระยะเวลา 3 ปี ฟอกรวมมูลค่า 170 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บก็เกิน 3.31 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน
    ประธานแผนกอ-า-ญ-าศ-าล-สู-งสุ-ดนิวไทเป Chen Zhengwei กล่าวว่าผู้ใช้เหรียญ D-o--u-y-i-n สามารถใช้ในการสนับสนุนผู้ถ่ายทอดสดได้ แม้ว่าจะไม่ใช่สกุลเงินที่ถูกกฎหมาย แต่การแลกเปลี่ยนเหรียญ D-o--u-y-i-nเป็นเงินหยวนนั้นไม่มีความแตกต่างจากการแลกเงินดอลลาร์ไต้หวันเป็นเงินหยวนในรูปแบบปกติ
    แม้ว่าสามีจะแก้ต่างว่าเป็นเพียงการทำธุรกรรมปกติ และภรรยาก็กล่าวว่าไม่ทราบเรื่อง แต่-ศา-ลไม่ให้ความเชื่อถือ และตัดสินว่าการกระทำของทั้งคู่ได้ทำให้ทรัพย์สินของประชาชนถูกโอนออกไป โดยศ-า-ลชั้นต้นตั-ด-สิ-นให้สามี 7 ปีครึ่ง และภรรยา 4 ปี
    -------------------------------------------------
    เมกา ตุรกี ไต้หวัน เดี๋ยวเปิดของจีน
    ส่วนไทย เร็วๆนี้
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ไต้หวันก็เผชิญกับสถานการณ์เดียวกันกับประเทศไทย แต่มีการดำเนินการทางก-ฏ-ห-ม-า-ย-แล้ว รายละเอียดดังนี้ ------------------------------------ "มีคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งในไต้หวัน ได้ใช้ Sh..p..e หาลูกค้าเพื่อทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินใต้ดินที่ผิ-ด-ก-ฎ-ห-ม-า-ยระหว่างไต้หวันและจีน โดยพวกเขาเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมนี้ วิธีการคือ เมื่อลูกค้าสั่งซื้อและชำระเงินด้วยเงินดอลลาร์ไต้หวัน คู่สามีภรรยานี้จะเติม "เหรียญ D-o--u-y-i-n" ให้กับลูกค้าตามเรทแลกเปลี่ยนที่ตกลงกันไว้ ในระยะเวลา 3 ปี พวกเขาฟอกรวมมูลค่าสูงถึง 170 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ศ-า-ลชั้นต้นได้ตั-ดสิ-นให้สามีรับโทษจำ 7 ปีครึ่ง และภรรยา 4 ปี ทั้งสองสามารถอุทธรณ์ได้ โดยคดีนี้ถือเป็นกรณีแรกในไต้หวันที่มีการใช้เหรียญ D-o--u-y-i-n ในการฟอกและถูกตั-ด-สิ-น-ล-งโ-ท-ษ ใน D-o--u-y-i-n (TT) ผู้ใช้ไม่เพียงแค่สามารถดูวิดีโอ แต่ยังสามารถชมการถ่ายทอดสดได้ #หากใช้เงินเติมเหรียญก็สามารถแลกเป็นของขวัญเสมือนจริงได้ เช่น "ส่งดอกไม้ ส่งรถสปอร์ต" เพื่อสนับสนุนผู้ที่ถ่ายทอดสดและมีปฏิสัมพันธ์ในรูปแบบอื่น ผู้ถ่ายทอดสดประเภทการดูดวง Abby อธิบายว่า "ผู้ชมอาจรู้สึกว่าฉันพูดได้แม่นยำ จึงมีความรู้สึกพิเศษ และส่งของขวัญเสมือนจริงได้ เหรียญเสมือนนี้สามารถใช้ในการ #ให้ของขวัญหรือถอนออกมาเป็นเงินสดได้" #การให้ของขวัญในห้องถ่ายทอดสดไม่เพียงแต่สนับสนุนผู้ถ่ายทอดสด #แต่ยังสามารถเปลี่ยนเป็นรายได้จริงได้ อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยกรณีแรกที่มีการใช้D-o--u-y-i-nในการฟ-อ-ก-โดยผู้กระทำความผิดถูกตั-ด-สิ-น-ล-ง-โท-ษ-จา-ก-ศ-า-ล เมื่อค้นหาคำว่า "บริการจัดซื้อ สอนการเติมเงิน" จะพบข้อมูลมากมาย คู่สามีภรรยาที่มีนามสกุล Yuan ได้ใช้ Sh..p..e โฆษณาในลักษณะนี้ และให้บริการแลกเปลี่ยนเงินให้กับลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยนเงินหยวน โดยให้ลูกค้าสั่งซื้อและจ่ายเงินด้วยดอลลาร์ไต้หวัน จากนั้นจะทำการเติมเหรียญ D-o--u-y-i-n ในบัญชี D-o--u-y-i-n ของลูกค้า หรือเติมคะแนนในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เช่น W-e-C-h-a-t หรือ A-l-i-p-a-y ตามเรทที่ตกลงกัน ศ-า-ลได้ตัดสินว่าทั้งคู่มีการดำเนินธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินใ--ต้-ดิ-น โดยในระยะเวลา 3 ปี ฟอกรวมมูลค่า 170 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บก็เกิน 3.31 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ประธานแผนกอ-า-ญ-าศ-าล-สู-งสุ-ดนิวไทเป Chen Zhengwei กล่าวว่าผู้ใช้เหรียญ D-o--u-y-i-n สามารถใช้ในการสนับสนุนผู้ถ่ายทอดสดได้ แม้ว่าจะไม่ใช่สกุลเงินที่ถูกกฎหมาย แต่การแลกเปลี่ยนเหรียญ D-o--u-y-i-nเป็นเงินหยวนนั้นไม่มีความแตกต่างจากการแลกเงินดอลลาร์ไต้หวันเป็นเงินหยวนในรูปแบบปกติ แม้ว่าสามีจะแก้ต่างว่าเป็นเพียงการทำธุรกรรมปกติ และภรรยาก็กล่าวว่าไม่ทราบเรื่อง แต่-ศา-ลไม่ให้ความเชื่อถือ และตัดสินว่าการกระทำของทั้งคู่ได้ทำให้ทรัพย์สินของประชาชนถูกโอนออกไป โดยศ-า-ลชั้นต้นตั-ด-สิ-นให้สามี 7 ปีครึ่ง และภรรยา 4 ปี ------------------------------------------------- เมกา ตุรกี ไต้หวัน เดี๋ยวเปิดของจีน ส่วนไทย เร็วๆนี้ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    8
    0 Comments 0 Shares 1473 Views 1 Reviews
  • งานท่องเที่ยวฤดูหนาวสวนดอกไม้ และงานกาชาด ณ บริเวณลานพระพุถถทธมหาราชกิตเฉลิมบ้านห้วยนกแล ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ระหว่างวันที่ 14 - 22 ธันวาคม พ.ศ. 2567
    งานท่องเที่ยวฤดูหนาวสวนดอกไม้ และงานกาชาด ณ บริเวณลานพระพุถถทธมหาราชกิตเฉลิมบ้านห้วยนกแล ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ระหว่างวันที่ 14 - 22 ธันวาคม พ.ศ. 2567
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 187 Views 0 Reviews
  • ชื่อพระ : พระผงรูปเหมือน"รุ่นปลดหนี้"พระอาจารย์ชุมพร (หลวงพ่อชุมพร) วัดป่าอรุณธรรม จ.กาฬสินธุ์ หลังมังกร

    ราละเอียด : เนื้อข้าวก้นบาตรในพรรษา ว่านเกษรดอกไม้ และผสมเกษาของหลวงพ่อ จำนวนสร้าง 3,000 องค์

    ราคา : 1,950 บาท (รวมส่ง)
    ชื่อพระ : พระผงรูปเหมือน"รุ่นปลดหนี้"พระอาจารย์ชุมพร (หลวงพ่อชุมพร) วัดป่าอรุณธรรม จ.กาฬสินธุ์ หลังมังกร ราละเอียด : เนื้อข้าวก้นบาตรในพรรษา ว่านเกษรดอกไม้ และผสมเกษาของหลวงพ่อ จำนวนสร้าง 3,000 องค์ ราคา : 1,950 บาท (รวมส่ง)
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • เหล่าติ่งทั้งหลาย…………มาช่วยส่งกำลังใจให้พี่ปูหน่อยเร้วววว……!!!

    ตอนสี่……เข้ามาจนใกล้……แต่ยังไปไม่ถึง……!!!

    และแล้ว ปูตินก็ได้ดินทางมาสู่ Dresden เยอรมันตะวันออกเพียงลำพังในเดือนสิงหาคม 1985 เพราะลุดมิลายังต้องเลี้ยงดูลูกเล็ก มาเรีย (หรือ มาช่า) จนกว่าจะโตอีกนิดนึง
    เขาเข้าเริ่มงานในสำนักงานฝ่ายความมั่นคงของโซเวียต
    ที่เป็นที่ทำงานเดียวกับ KGB
    ปูตินกลายเป็น “Little Volodya” ในหมู่ของเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา เพราะในหน่วยได้มีชื่อ Vladimir อยู่แล้วสองคน
    คนหนึ่งในหนวด ก็เป็น Mustahios Volodya
    อีกคนหนึ่งร่างยักษ์ ก็เป็น “Big Volodya”
    เขาเริ่มสับสนกับการทำงานในที่นี้ เพราะ เขาไม่ใช่ “Comrade Platov” อย่างควรจะเป็นในระบบของ KGB
    แต่กลายมาเป็น นายทหารธรรมดา ยศพันตรี แปะอกหรา…
    แล้วนี่มันเป็นสายลับชนิดไหนในโลก………!!!

    ต่อมาหลังจากที่เรียนรู้งาน เขาจึงทราบว่า การทำงานแบบอินเตอร์นี้ เขามาอย่างเปิดเผยพร้อมโปรไฟล์ พร้อมพาสปอร์ต
    ก็ต้องเล่นไปตามเกมส์
    งานใต้ดิน……จะแยกออกไปอีกสายหนึ่ง เรียกว่า Stasi (The Ministry for State Security หรือ Staatsischerheitdiest)
    ที่เป็นหน่วยงานของเยอรมันฝ่ายคอมมิวนิสต์ ก่อตั้งในปี 1950
    สำนักงานใหญ่อยู่ที่ Lichtenberg, East Germany
    ที่ทางรัสเซียจะสั่งการลงไปอีกชั้นหนึ่ง ปูตินจึงกลายมาเป็นทหารนั่งออฟฟิศ คอยประสานกับหน่วยสตาซี
    สำนักงานของ Stasi, Dresden ก็อยู่บนชั้นสองในอาคารเดียวกัน หัวหน้าหน่วย ชื่อว่า Horst Böhm
    วันดีคืนดีก็กวักมือชวนกันไปเล่นฟุตบอล แมช ระหว่าง Stasi vs KGB

    การประสานงานนี้ แม้ว่าพันตรีปูตินจะเชี่ยวชาญในภาษาเยอรมัน แต่ปัญหาอื่นๆก็ตามมาคือการสื่อสารภาษาชาวบ้านในชีวิตประจำวัน ศัพท์แสลง ที่เขาไม่คุ้นเคย
    ทางหน่วยสตาซี จึงส่งเจ้าหน้าที่มาเปิดทำการสอนอย่างติวเข้ม
    และอีกปัญหาหนึ่ง คือ เหล่าทหารเกณฑ์โซเวียตที่ได้มาประจำการในเยอรมัน ต่างกันหลุดวินัย เพราะเปรียบเทียบได้ว่า
    มาสู่เมืองสวรรค์ ดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ นุ่กางเกงยีนส์ ดูหนังโป๊
    หรือแม้แต่เหล่านายทหารอีลีทที่มาอยู่ทั้งครอบครัว ก็ใช้จ่ายแบบฟุ้งเฟ้อ เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าสารพัด บางคนก็ส่งกลับไปขายในตลาดมืดที่โซเวียต

    ปูตินจึงเปรียบเสมือนกับได้เข้ามาอยู่ในโลกใหม่ เขาเองได้รับเงินเดือนเป็นเงินสดเทียบเท่า หนึ่งร้อยยูเอสดอลล่าร์ (นับว่ามากโข)
    ใครต่อใครบอกเขาว่า การที่ได้มาประจำการที่นี่ คือ สุดยอดของความสุข แต่สำหรับเขานั้น……มันไม่ใช่..!!

    ลุดมิลาและลูกน้อยได้มาถึงในช่วงปลายปี เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์เข้ามา พบกับตะกร้าใส่กล้วยหอมวางอยู่บนโต๊ะอาหารโด่เด่………ไม่มีแม้แต่ช่อดอกไม้……!!!
    เพียงแค่นั้น เธอก็พอที่จะรู้แล้วว่า……ทุกอย่างจะไม่ใช่เป็นอย่างที่เคยคิด……!!

    เจ้านายสายตรงของปูติน คือ Colonel Lazar Matveyev ที่เข้ากันได้ดีกับปูตินเป็นปี่เป็นขลุ่ย เพราะมีประวัติการเป็นมาคล้ายๆกัน และชื่นชมในตัวลุดมิลา ที่เป็นหญิงฉลาด คล่องแคล่ว ไหวพริบดี
    ปูตินใช้ชีวิตอย่างง่ายๆสบายๆในเดรสเดน และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาไม่ได้ซ้อมยูโดอย่างที่ทำเป็นประจำ อีกทั้งไม่เคยหยิบจับอะไรในเรื่องงานบ้าน ลุดมิลาได้ตั้งครรภ์ที่สอง
    เธอทำทุกอย่างในบ้าน
    รวมทั้งต้องเอาใจสามีที่ค่อนข้าง”เยอะ” ในเรื่องอาการการกิน
    อะไรที่ไม่ชอบ เขาจะไม่แตะเลย
    พอเธอบ่นเข้า……เขางัดเอาคติของรัสเซียโบราณขึ้นมาพูดลอยๆ……ว่า……ผู้หญิงยิ่งเอาใจ ยิ่งเคยตัว..!!!!
    และเขาไม่เคยจำวันครบรอบแต่งงานได้……
    ตอนที่ลุดมิลาจะต้องไปคลอดลูกคนเล็กนอนโรงพยาบาลต่อด้วยการพักฟื้นหลายวัน
    ปูตินจะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งเลี้ยงลูก ทำความสะอาด หุงหา ที่เขาบอกว่าเป็นงานที่หนักที่สุดในชีวิต
    ทั้งนี้ทั้งนั้น หลายคนจับในน้ำเสียงได้ว่า เขาผิดหวังมากที่ไม่ได้ลูกชาย……
    ทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างสบายเพราะได้ออกไปเที่ยวในวันหยุด มีเครื่องซักผ้า มีสเตอริโอ และมีเกมส์ทีวี (รุ่น Atari) เล่น
    แต่ลุดมิลาไม่มีความสุขเท่าที่ควร เพราะเธอไม่มีเพื่อน
    คบคุยกับใครเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้ เหมือนมีคนคอยจับจ้องอยู่ตลอดเวลา สามีก็ไม่เคยเล่าเรื่องอะไรให้ฟังเลย
    แต่ปูตินก็มีเหตุผล……เพราะในหน่วยของเขาก็มีสายลับจากเยอรมันตะวันตกแฝงเข้ามา เท่าที่รู้คือ ล่ามที่เข้ามาทำการแปลให้ เป็นผู้หญิง (จาก BND = Bundesnachrichtendient) ที่มีโค้ดของตัวเองว่า BALCONY ที่เข้ามาทำตัวสนิทสนมกับลุดมิลา จนเธอเชื่อใจ ยอมนินทาสามีให้ฟังว่า เป็นคนเข้มระเบียบ
    มีแอบเจ้าชู้ และชีวิตครอบครัวเริ่มมีปัญหา

    ปี 1986 ที่โซเวียตเริ่มมีปัญหาภายในเพราะสภาพเศรษฐกิจ
    ส่วนภายนอกคือความกดดันจากองค์กร NATO จนท่านผู้นำ
    Mikhail Gorbachev ยอมอ่อนข้อให้ในเรื่องเครียดๆของสงครามเย็น
    ปี 1987 ปูตินได้เลื่อนยศเป็น พันโท และเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการ นั่นหมายถึงเป็นเบอร์สองขององค์กร ใน Dresden ที่ต้องคอยควบคุมพฤติกรรมทุกย่างก้าวของผู้ใต้บังคับบัญชา ที่เข้มถึงขนาดห้ามมีการถ่ายรูปภายในบริเวณ
    สถานการณ์เริ่มอึมครึมในระหว่างกลุ่ม KGB และ Stasi
    เพราะกลุ่มสายลับตะวันตกเริ่มมีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องทางตะวันออกมากขึ้น มันบ่งบอกถึงสัญญาณอะไรบางอย่าง
    และ……นั่นคือ การลงนามระหว่างโรนัล รีแกน กับ กอร์บาเชฟ ในเรื่องสนธิสัญญาสันติภาพในขีปนาวุธนิวเคลียร์ในยุโรป
    (จำกัดจำนวน ถ้ามีเกิน ทำลายทิ้ง) ที่เกิดขึ้นในเดือนต่อมา

    สัญญาณนั้นชี้ไปในทางทิศที่ว่า สงครามเย็นอาจจะจบสิ้นในไม่ช้า เพราะกอร์บาเชฟได้เห็นแล้วว่าโซเวียตยังล้าหลังจากยุโรปไปมาก ควรจะต้องเปิดใจปรับปรุงให้เป็นคอมมิวนิสต์ที่พัฒนาและยอมรับความจริง
    เพียงแต่……เหล่าสีแดงเข้ม ไม่เข้าใจ และไม่พอใจ เห็นต่างกับนโยบายของท่านผู้นำ
    เมื่อโซเวียตเริ่มอ่อนกำลัง ปี 1989 ฮังการีได้เปิดพรมแดนที่ติดกับออสเตรีย ให้คนต่างเดินทางไปมาหาสู่ได้
    นั่นคือที่มาของความระส่ำระสายในเยอรมันตะวันออก ที่ต่างเรียกร้องให้เปิดพรมแดน รวมทั้งเบอร์ลิน
    มีการเดินขบวนเรียกร้อง มีการลุกฮือก่อการวุ่นวายที่นั่นที่นี่
    ผู้พันปูตินเริ่มรู้สึกว่า หน่วยของเขาเริ่มถูกตัดรอนไปจากมอสโคว์ เพราะไม่ว่าจะส่งรายงานอะไรไปก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา
    อ่านบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้…?!!

    ในที่สุดกำแพงเบอร์ลินได้ถูกทะลายลงในคืนวันที่ 9 พฤศจิกายน 1989 เกิดการชุมนุมขึ้นในทุกหย่อมหญ้าของแผ่นดิน
    ใน Dresden วันที่ 5 ธันวาคม ที่คนจำนวนร้อยๆได้มุ่งหน้ามาที่สำนักงาน KGB ผู้พันปูตินได้มองเห็นการเคลื่อนตัวมาจากชั้นบนของอาคาร
    จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมา…มวลชนเพิ่มเป็นจำนวนพัน……เมื่อถึงหน้าประตู ทุกคนอยู่ในสภาพคลั่ง โกรธแค้น ขว้างปา ด่าทอ
    เสียงคนตะโกนว่า ……ในอาคารมีช่องทางลับที่จะมุ่งไปสู่โรเมเนีย…มีคุกที่ทรมานนักโทษให้จมน้ำอยู่ครึ่งตัว…
    ตอนนั้น……ผู้พันปูตินขำไม่ออก……กับเรื่องเพ้อเจ้อที่แต่งกันขึ้นมาเพื่อที่จะเกลียดชังโซเวียต
    ที่ขำไม่ออก……เพราะเขาทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากมอสโคว์
    ซึ่ง……ไม่ว่าจะส่งโทรเลขไปกี่ครั้ง แต่……ไม่มีคำตอบใดๆกลับมา……!!
    ณ. นาทีนั้น เขาได้รู้ได้ทันทีว่า…ไม่มีโซเวียตอีกต่อไป ระบอบระบบทุกอย่างได้ล่มลงหมดแล้ว

    เขาตัดสินใจแต่งเครื่องแบบออกไป ไม่มีอาวุธ (เขาเอาปืนและบัตรประจำตัวสายลับไว้ในเซฟ) ออกพบกับฝูงชนเมื่อเวลาเที่ยงคืน พร้อมกับทหารอีกหยิบมือ เป็นการเจรจาที่มีรั้วเหล็กกั้น
    ฝ่ายมวลชนพยายามที่จะผลักประตูเข้ามา……
    ผู้พันปูตินประกาศด้วยภาษาเยอรมันที่ชัดเจน จนทุกคนประหลาดใจ ว่า…
    “สถานที่นี้เป็นของรัฐบาลโซเวียต ที่ฝ่ายมั่นคงข้างในได้มีการเตรียมพร้อมรับมือด้วยอาวุธ…หากว่ามีการล่วงล้ำเข้ามา
    ทุกคนรอฟังคำสั่งและสัญญาณจากผมเท่านั้น……กรุณารักษาความสงบ……”
    ได้ผลเกินร้อย……ทุกคนสงบลง เสียงโห่ร้องกลายเป็นการสนทนาสู่กันเบาๆ
    แล้ว……ผู้พันปูตินก็เดินหันหลังกลับเข้าไป…!!!

    ทุกอย่างที่ว่ามา……ไม่มีทั้งสิ้น ไม่มีกำลังพล ไม่มีอาวุธ มีแต่เจ้าหน้าที่เด็กๆที่ช่วยกันทำลายเผาเอกสารสำคัญกันทั้งวันทั้งคืน
    แต่……การที่ไม่ได้รับคำตอบใดๆจากมอสโคว์………ยังเป็นฝันร้ายของผู้พันปูตินจนถึงทุกวันนี้……!!!

    เดือนกุมภาพันธ์ 1990 ผู้พันปูตินและลุดมิลาได้เตรียมตัวจัดกระเป๋า หีบห่อสัมภาระกลับสู่โซเวียต เขามีเงินเก็บไม่มากนักจากเงินเดือนที่ได้รับ ข้าวของจะถูกส่งกลับไปทางเรือ ส่วนเขา ลุดมิลาและลูกทั้งสองจะกลับทางรถไฟสู่มอสโคว์
    ระหว่างเดินทางกลับ เสื้อโค้ดและกระเป๋าถือของลุดมิลาถูกขโมยในระหว่างทาง……

    การกลับเข้าสู่ดินแดนของโซเวียตในครั้งนี้ ที่เขาต้องเจอกับความขาดแคลนไปในทุกสิ่ง ผู้คนที่ต้องใช้คูปองสงเคราะห์ในการซื้ออาหาร ข้าวของขาดตลาด การว่างงาน……
    แม้แต่ตัวผู้พันปูตินเอง ตั้งแต่ต้นปี 1990 จนผ่านมาสามเดือนก็ยังไม่ได้รับเงินเดือน……ส่วนอาคารสงเคราะห์ที่จะเป็นที่อยู่อาศัยก็ยังไม่มี เพราะทุกแห่งเต็มไปหมด ถ้าจะรอก็ต้องใช้เวลาเป็นปี
    แต่ตัวปูตินเอง……เขาหมดความมั่นใจในการบริหารงานของรัฐบาลโซเวียต แม้ว่าจะถูกเสนองานใหม่ให้ในมอสโคว์
    ก็ยังปฏิเสธ……เขาอยากกลับไปที่เลนินกราดบ้านเกิด อย่างน้อยก็ไปอยู่กับพ่อแม่ได้…

    ที่เลนินกราด……เขาได้งานใหม่ (แต่ยังเป็น KGB) ในหน้าที่คณบดี ฝ่ายการเมืองต่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัย
    เลนินกราด (ที่เขาจบมา) หน้าที่ของเขาคือ ส่ายตาสอดส่องนักศึกษาและคนแปลกหน้า เท่ากับว่า เขาทำหน้าที่เช่นเดียวกับ Oleg Kalugin คนที่เคยนำเขาเข้าสู่ KGB เมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษากฎหมายเมื่อปี 1975
    ปูตินเคยบ่นปรับทุกข์กับเพื่อนรัก Sergei Roldugin ว่าเขาอยากลาออกจากการเป็น KGB
    แต่คำตอบที่ได้รับคือ ……”นายเคยเห็นหรือได้ยินคำว่า อดีตสายลับบ้างไหม……ไม่เคยละซิ เพราะถ้านายเป็น KGB แล้ว นายก็จะเป็นตลอดไป ต่อให้ไม่ได้อยู่ในองค์กร แต่นายก็ยังเป็น……เพราะ……มันคือจิตวิญญาณ……!!!”

    ที่มหาวิทยาลัย มีนักกฎหมายรุ่นพี่ที่จบจากที่เดียวกัน Anatoly Sobchak ที่เป็นผู้ที่เลื่อมใสระบอบประชาธิปไตยโดยใช้กฎหมายบังคับ เขาชอบเล่นการเมือง (เป็นฝ่ายตรงข้ามกับคอมมิวนิสต์)
    อนาโตลี มีความเลื่อมใสในกลุ่มนักกฏหมายไฟแรงที่หนึ่งในนั้น คือ Boris Yeltzin ที่ได้เป็นถึงหนึ่งคณะมนตรีในมอสโคว์
    อนาโตลี ต้องการใช้กฎหมายแบบระบบสากล คือ ไม่ว่าทหาร หรือ KGB ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเช่นคนอื่นๆ หากว่ามีความผิด ดังที่เขาพยายามที่จะขัดค้นในเรื่องการสังหารหมู่ในชนกลุ่มน้อยที่เกิดขึ้นในลิธัวเนีย, อาร์เมเนีย และ อาเซอร์ไบจาน

    อนาโตลี ได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรี เลนินกราด……
    เขามีความรู้ มีความสามารถทางด้านวิชาการ เป็นนักพูดที่ดี
    แต่ไม่มีประสบการณ์กับชาวบ้าน และ การเป็นนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยในบ้านเมืองที่ยังถูกควบคุมในระบอบคอมมิวนิสต์นั้น มันไม่น่าจะง่าย……
    เขาจึงติดต่อไปที่ Oleg Kalugin หัวหน้าหน่วยสายลับผู้เป็นเพื่อนรัก เพื่อช่วยหาคนที่ไว้ใจได้ รอบรู้ ให้มาช่วยงาน
    โอเลก……ได้ให้รายชื่อไปสองสามคน แต่ อนาโตลี บอกว่า
    มันชัดเจนไปเพราะผู้คนรู้จักแล้ว เขาอยากได้คนที่โนเนม และเป็นคนธรรมดาๆมากกว่า
    ชื่อของ Vladimir Putin จึงถูกเสนอขึ้นไป
    อนาโตลี……รับข้อเสนอนี้ทันที เพราะนอกจากคุณสมบัติล้นเหลือแล้ว ยังเป็นรุ่นน้องที่จบมาจากที่เดียวกันด้วย

    ในเดือนพฤษภาคม ปูตินไปพบกับอนาโตลี ในที่ทำงานที่
    Mariinsky Palace ที่อนาโตลีได้บอกให้เขาเข้ามาทำงานในวันจันทร์ได้เลย……
    ปูติน……ตอบว่า……
    “เดี๋ยวก่อนครับ……ก่อนที่ท่านจะตัดสินใจ ผมต้องขอเรียนให้ทราบก่อนว่า นอกจากจะเป็นคณบดีที่มหาวิทยาลัยแล้ว……
    งานหลัก……ผมยังเป็น KGB อีกด้วย”

    เป็นการประจันหน้ากันระหว่าง อนาโตลี ผู้ใฝ่ประชาธิปไตย กับ
    วลาดิเมียร์ ปูติน สายลับใต้ดินตัวเก่งของโซเวียต…!!!

    ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงัน……แต่เพียงอึดใจเดียว
    อนาโตลีได้เข้ามาตบบ่าปูติน และบอกว่า…
    “KGB ก็ KGB ซิวะ………ไม่เห็นแปลกตรงไหนเลยนี่………!!!!

    Wiwanda W. Vichit
    เหล่าติ่งทั้งหลาย…………มาช่วยส่งกำลังใจให้พี่ปูหน่อยเร้วววว……!!! ตอนสี่……เข้ามาจนใกล้……แต่ยังไปไม่ถึง……!!! และแล้ว ปูตินก็ได้ดินทางมาสู่ Dresden เยอรมันตะวันออกเพียงลำพังในเดือนสิงหาคม 1985 เพราะลุดมิลายังต้องเลี้ยงดูลูกเล็ก มาเรีย (หรือ มาช่า) จนกว่าจะโตอีกนิดนึง เขาเข้าเริ่มงานในสำนักงานฝ่ายความมั่นคงของโซเวียต ที่เป็นที่ทำงานเดียวกับ KGB ปูตินกลายเป็น “Little Volodya” ในหมู่ของเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา เพราะในหน่วยได้มีชื่อ Vladimir อยู่แล้วสองคน คนหนึ่งในหนวด ก็เป็น Mustahios Volodya อีกคนหนึ่งร่างยักษ์ ก็เป็น “Big Volodya” เขาเริ่มสับสนกับการทำงานในที่นี้ เพราะ เขาไม่ใช่ “Comrade Platov” อย่างควรจะเป็นในระบบของ KGB แต่กลายมาเป็น นายทหารธรรมดา ยศพันตรี แปะอกหรา… แล้วนี่มันเป็นสายลับชนิดไหนในโลก………!!! ต่อมาหลังจากที่เรียนรู้งาน เขาจึงทราบว่า การทำงานแบบอินเตอร์นี้ เขามาอย่างเปิดเผยพร้อมโปรไฟล์ พร้อมพาสปอร์ต ก็ต้องเล่นไปตามเกมส์ งานใต้ดิน……จะแยกออกไปอีกสายหนึ่ง เรียกว่า Stasi (The Ministry for State Security หรือ Staatsischerheitdiest) ที่เป็นหน่วยงานของเยอรมันฝ่ายคอมมิวนิสต์ ก่อตั้งในปี 1950 สำนักงานใหญ่อยู่ที่ Lichtenberg, East Germany ที่ทางรัสเซียจะสั่งการลงไปอีกชั้นหนึ่ง ปูตินจึงกลายมาเป็นทหารนั่งออฟฟิศ คอยประสานกับหน่วยสตาซี สำนักงานของ Stasi, Dresden ก็อยู่บนชั้นสองในอาคารเดียวกัน หัวหน้าหน่วย ชื่อว่า Horst Böhm วันดีคืนดีก็กวักมือชวนกันไปเล่นฟุตบอล แมช ระหว่าง Stasi vs KGB การประสานงานนี้ แม้ว่าพันตรีปูตินจะเชี่ยวชาญในภาษาเยอรมัน แต่ปัญหาอื่นๆก็ตามมาคือการสื่อสารภาษาชาวบ้านในชีวิตประจำวัน ศัพท์แสลง ที่เขาไม่คุ้นเคย ทางหน่วยสตาซี จึงส่งเจ้าหน้าที่มาเปิดทำการสอนอย่างติวเข้ม และอีกปัญหาหนึ่ง คือ เหล่าทหารเกณฑ์โซเวียตที่ได้มาประจำการในเยอรมัน ต่างกันหลุดวินัย เพราะเปรียบเทียบได้ว่า มาสู่เมืองสวรรค์ ดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ นุ่กางเกงยีนส์ ดูหนังโป๊ หรือแม้แต่เหล่านายทหารอีลีทที่มาอยู่ทั้งครอบครัว ก็ใช้จ่ายแบบฟุ้งเฟ้อ เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าสารพัด บางคนก็ส่งกลับไปขายในตลาดมืดที่โซเวียต ปูตินจึงเปรียบเสมือนกับได้เข้ามาอยู่ในโลกใหม่ เขาเองได้รับเงินเดือนเป็นเงินสดเทียบเท่า หนึ่งร้อยยูเอสดอลล่าร์ (นับว่ามากโข) ใครต่อใครบอกเขาว่า การที่ได้มาประจำการที่นี่ คือ สุดยอดของความสุข แต่สำหรับเขานั้น……มันไม่ใช่..!! ลุดมิลาและลูกน้อยได้มาถึงในช่วงปลายปี เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์เข้ามา พบกับตะกร้าใส่กล้วยหอมวางอยู่บนโต๊ะอาหารโด่เด่………ไม่มีแม้แต่ช่อดอกไม้……!!! เพียงแค่นั้น เธอก็พอที่จะรู้แล้วว่า……ทุกอย่างจะไม่ใช่เป็นอย่างที่เคยคิด……!! เจ้านายสายตรงของปูติน คือ Colonel Lazar Matveyev ที่เข้ากันได้ดีกับปูตินเป็นปี่เป็นขลุ่ย เพราะมีประวัติการเป็นมาคล้ายๆกัน และชื่นชมในตัวลุดมิลา ที่เป็นหญิงฉลาด คล่องแคล่ว ไหวพริบดี ปูตินใช้ชีวิตอย่างง่ายๆสบายๆในเดรสเดน และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาไม่ได้ซ้อมยูโดอย่างที่ทำเป็นประจำ อีกทั้งไม่เคยหยิบจับอะไรในเรื่องงานบ้าน ลุดมิลาได้ตั้งครรภ์ที่สอง เธอทำทุกอย่างในบ้าน รวมทั้งต้องเอาใจสามีที่ค่อนข้าง”เยอะ” ในเรื่องอาการการกิน อะไรที่ไม่ชอบ เขาจะไม่แตะเลย พอเธอบ่นเข้า……เขางัดเอาคติของรัสเซียโบราณขึ้นมาพูดลอยๆ……ว่า……ผู้หญิงยิ่งเอาใจ ยิ่งเคยตัว..!!!! และเขาไม่เคยจำวันครบรอบแต่งงานได้…… ตอนที่ลุดมิลาจะต้องไปคลอดลูกคนเล็กนอนโรงพยาบาลต่อด้วยการพักฟื้นหลายวัน ปูตินจะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งเลี้ยงลูก ทำความสะอาด หุงหา ที่เขาบอกว่าเป็นงานที่หนักที่สุดในชีวิต ทั้งนี้ทั้งนั้น หลายคนจับในน้ำเสียงได้ว่า เขาผิดหวังมากที่ไม่ได้ลูกชาย…… ทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างสบายเพราะได้ออกไปเที่ยวในวันหยุด มีเครื่องซักผ้า มีสเตอริโอ และมีเกมส์ทีวี (รุ่น Atari) เล่น แต่ลุดมิลาไม่มีความสุขเท่าที่ควร เพราะเธอไม่มีเพื่อน คบคุยกับใครเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้ เหมือนมีคนคอยจับจ้องอยู่ตลอดเวลา สามีก็ไม่เคยเล่าเรื่องอะไรให้ฟังเลย แต่ปูตินก็มีเหตุผล……เพราะในหน่วยของเขาก็มีสายลับจากเยอรมันตะวันตกแฝงเข้ามา เท่าที่รู้คือ ล่ามที่เข้ามาทำการแปลให้ เป็นผู้หญิง (จาก BND = Bundesnachrichtendient) ที่มีโค้ดของตัวเองว่า BALCONY ที่เข้ามาทำตัวสนิทสนมกับลุดมิลา จนเธอเชื่อใจ ยอมนินทาสามีให้ฟังว่า เป็นคนเข้มระเบียบ มีแอบเจ้าชู้ และชีวิตครอบครัวเริ่มมีปัญหา ปี 1986 ที่โซเวียตเริ่มมีปัญหาภายในเพราะสภาพเศรษฐกิจ ส่วนภายนอกคือความกดดันจากองค์กร NATO จนท่านผู้นำ Mikhail Gorbachev ยอมอ่อนข้อให้ในเรื่องเครียดๆของสงครามเย็น ปี 1987 ปูตินได้เลื่อนยศเป็น พันโท และเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการ นั่นหมายถึงเป็นเบอร์สองขององค์กร ใน Dresden ที่ต้องคอยควบคุมพฤติกรรมทุกย่างก้าวของผู้ใต้บังคับบัญชา ที่เข้มถึงขนาดห้ามมีการถ่ายรูปภายในบริเวณ สถานการณ์เริ่มอึมครึมในระหว่างกลุ่ม KGB และ Stasi เพราะกลุ่มสายลับตะวันตกเริ่มมีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องทางตะวันออกมากขึ้น มันบ่งบอกถึงสัญญาณอะไรบางอย่าง และ……นั่นคือ การลงนามระหว่างโรนัล รีแกน กับ กอร์บาเชฟ ในเรื่องสนธิสัญญาสันติภาพในขีปนาวุธนิวเคลียร์ในยุโรป (จำกัดจำนวน ถ้ามีเกิน ทำลายทิ้ง) ที่เกิดขึ้นในเดือนต่อมา สัญญาณนั้นชี้ไปในทางทิศที่ว่า สงครามเย็นอาจจะจบสิ้นในไม่ช้า เพราะกอร์บาเชฟได้เห็นแล้วว่าโซเวียตยังล้าหลังจากยุโรปไปมาก ควรจะต้องเปิดใจปรับปรุงให้เป็นคอมมิวนิสต์ที่พัฒนาและยอมรับความจริง เพียงแต่……เหล่าสีแดงเข้ม ไม่เข้าใจ และไม่พอใจ เห็นต่างกับนโยบายของท่านผู้นำ เมื่อโซเวียตเริ่มอ่อนกำลัง ปี 1989 ฮังการีได้เปิดพรมแดนที่ติดกับออสเตรีย ให้คนต่างเดินทางไปมาหาสู่ได้ นั่นคือที่มาของความระส่ำระสายในเยอรมันตะวันออก ที่ต่างเรียกร้องให้เปิดพรมแดน รวมทั้งเบอร์ลิน มีการเดินขบวนเรียกร้อง มีการลุกฮือก่อการวุ่นวายที่นั่นที่นี่ ผู้พันปูตินเริ่มรู้สึกว่า หน่วยของเขาเริ่มถูกตัดรอนไปจากมอสโคว์ เพราะไม่ว่าจะส่งรายงานอะไรไปก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา อ่านบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้…?!! ในที่สุดกำแพงเบอร์ลินได้ถูกทะลายลงในคืนวันที่ 9 พฤศจิกายน 1989 เกิดการชุมนุมขึ้นในทุกหย่อมหญ้าของแผ่นดิน ใน Dresden วันที่ 5 ธันวาคม ที่คนจำนวนร้อยๆได้มุ่งหน้ามาที่สำนักงาน KGB ผู้พันปูตินได้มองเห็นการเคลื่อนตัวมาจากชั้นบนของอาคาร จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมา…มวลชนเพิ่มเป็นจำนวนพัน……เมื่อถึงหน้าประตู ทุกคนอยู่ในสภาพคลั่ง โกรธแค้น ขว้างปา ด่าทอ เสียงคนตะโกนว่า ……ในอาคารมีช่องทางลับที่จะมุ่งไปสู่โรเมเนีย…มีคุกที่ทรมานนักโทษให้จมน้ำอยู่ครึ่งตัว… ตอนนั้น……ผู้พันปูตินขำไม่ออก……กับเรื่องเพ้อเจ้อที่แต่งกันขึ้นมาเพื่อที่จะเกลียดชังโซเวียต ที่ขำไม่ออก……เพราะเขาทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากมอสโคว์ ซึ่ง……ไม่ว่าจะส่งโทรเลขไปกี่ครั้ง แต่……ไม่มีคำตอบใดๆกลับมา……!! ณ. นาทีนั้น เขาได้รู้ได้ทันทีว่า…ไม่มีโซเวียตอีกต่อไป ระบอบระบบทุกอย่างได้ล่มลงหมดแล้ว เขาตัดสินใจแต่งเครื่องแบบออกไป ไม่มีอาวุธ (เขาเอาปืนและบัตรประจำตัวสายลับไว้ในเซฟ) ออกพบกับฝูงชนเมื่อเวลาเที่ยงคืน พร้อมกับทหารอีกหยิบมือ เป็นการเจรจาที่มีรั้วเหล็กกั้น ฝ่ายมวลชนพยายามที่จะผลักประตูเข้ามา…… ผู้พันปูตินประกาศด้วยภาษาเยอรมันที่ชัดเจน จนทุกคนประหลาดใจ ว่า… “สถานที่นี้เป็นของรัฐบาลโซเวียต ที่ฝ่ายมั่นคงข้างในได้มีการเตรียมพร้อมรับมือด้วยอาวุธ…หากว่ามีการล่วงล้ำเข้ามา ทุกคนรอฟังคำสั่งและสัญญาณจากผมเท่านั้น……กรุณารักษาความสงบ……” ได้ผลเกินร้อย……ทุกคนสงบลง เสียงโห่ร้องกลายเป็นการสนทนาสู่กันเบาๆ แล้ว……ผู้พันปูตินก็เดินหันหลังกลับเข้าไป…!!! ทุกอย่างที่ว่ามา……ไม่มีทั้งสิ้น ไม่มีกำลังพล ไม่มีอาวุธ มีแต่เจ้าหน้าที่เด็กๆที่ช่วยกันทำลายเผาเอกสารสำคัญกันทั้งวันทั้งคืน แต่……การที่ไม่ได้รับคำตอบใดๆจากมอสโคว์………ยังเป็นฝันร้ายของผู้พันปูตินจนถึงทุกวันนี้……!!! เดือนกุมภาพันธ์ 1990 ผู้พันปูตินและลุดมิลาได้เตรียมตัวจัดกระเป๋า หีบห่อสัมภาระกลับสู่โซเวียต เขามีเงินเก็บไม่มากนักจากเงินเดือนที่ได้รับ ข้าวของจะถูกส่งกลับไปทางเรือ ส่วนเขา ลุดมิลาและลูกทั้งสองจะกลับทางรถไฟสู่มอสโคว์ ระหว่างเดินทางกลับ เสื้อโค้ดและกระเป๋าถือของลุดมิลาถูกขโมยในระหว่างทาง…… การกลับเข้าสู่ดินแดนของโซเวียตในครั้งนี้ ที่เขาต้องเจอกับความขาดแคลนไปในทุกสิ่ง ผู้คนที่ต้องใช้คูปองสงเคราะห์ในการซื้ออาหาร ข้าวของขาดตลาด การว่างงาน…… แม้แต่ตัวผู้พันปูตินเอง ตั้งแต่ต้นปี 1990 จนผ่านมาสามเดือนก็ยังไม่ได้รับเงินเดือน……ส่วนอาคารสงเคราะห์ที่จะเป็นที่อยู่อาศัยก็ยังไม่มี เพราะทุกแห่งเต็มไปหมด ถ้าจะรอก็ต้องใช้เวลาเป็นปี แต่ตัวปูตินเอง……เขาหมดความมั่นใจในการบริหารงานของรัฐบาลโซเวียต แม้ว่าจะถูกเสนองานใหม่ให้ในมอสโคว์ ก็ยังปฏิเสธ……เขาอยากกลับไปที่เลนินกราดบ้านเกิด อย่างน้อยก็ไปอยู่กับพ่อแม่ได้… ที่เลนินกราด……เขาได้งานใหม่ (แต่ยังเป็น KGB) ในหน้าที่คณบดี ฝ่ายการเมืองต่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัย เลนินกราด (ที่เขาจบมา) หน้าที่ของเขาคือ ส่ายตาสอดส่องนักศึกษาและคนแปลกหน้า เท่ากับว่า เขาทำหน้าที่เช่นเดียวกับ Oleg Kalugin คนที่เคยนำเขาเข้าสู่ KGB เมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษากฎหมายเมื่อปี 1975 ปูตินเคยบ่นปรับทุกข์กับเพื่อนรัก Sergei Roldugin ว่าเขาอยากลาออกจากการเป็น KGB แต่คำตอบที่ได้รับคือ ……”นายเคยเห็นหรือได้ยินคำว่า อดีตสายลับบ้างไหม……ไม่เคยละซิ เพราะถ้านายเป็น KGB แล้ว นายก็จะเป็นตลอดไป ต่อให้ไม่ได้อยู่ในองค์กร แต่นายก็ยังเป็น……เพราะ……มันคือจิตวิญญาณ……!!!” ที่มหาวิทยาลัย มีนักกฎหมายรุ่นพี่ที่จบจากที่เดียวกัน Anatoly Sobchak ที่เป็นผู้ที่เลื่อมใสระบอบประชาธิปไตยโดยใช้กฎหมายบังคับ เขาชอบเล่นการเมือง (เป็นฝ่ายตรงข้ามกับคอมมิวนิสต์) อนาโตลี มีความเลื่อมใสในกลุ่มนักกฏหมายไฟแรงที่หนึ่งในนั้น คือ Boris Yeltzin ที่ได้เป็นถึงหนึ่งคณะมนตรีในมอสโคว์ อนาโตลี ต้องการใช้กฎหมายแบบระบบสากล คือ ไม่ว่าทหาร หรือ KGB ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเช่นคนอื่นๆ หากว่ามีความผิด ดังที่เขาพยายามที่จะขัดค้นในเรื่องการสังหารหมู่ในชนกลุ่มน้อยที่เกิดขึ้นในลิธัวเนีย, อาร์เมเนีย และ อาเซอร์ไบจาน อนาโตลี ได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรี เลนินกราด…… เขามีความรู้ มีความสามารถทางด้านวิชาการ เป็นนักพูดที่ดี แต่ไม่มีประสบการณ์กับชาวบ้าน และ การเป็นนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยในบ้านเมืองที่ยังถูกควบคุมในระบอบคอมมิวนิสต์นั้น มันไม่น่าจะง่าย…… เขาจึงติดต่อไปที่ Oleg Kalugin หัวหน้าหน่วยสายลับผู้เป็นเพื่อนรัก เพื่อช่วยหาคนที่ไว้ใจได้ รอบรู้ ให้มาช่วยงาน โอเลก……ได้ให้รายชื่อไปสองสามคน แต่ อนาโตลี บอกว่า มันชัดเจนไปเพราะผู้คนรู้จักแล้ว เขาอยากได้คนที่โนเนม และเป็นคนธรรมดาๆมากกว่า ชื่อของ Vladimir Putin จึงถูกเสนอขึ้นไป อนาโตลี……รับข้อเสนอนี้ทันที เพราะนอกจากคุณสมบัติล้นเหลือแล้ว ยังเป็นรุ่นน้องที่จบมาจากที่เดียวกันด้วย ในเดือนพฤษภาคม ปูตินไปพบกับอนาโตลี ในที่ทำงานที่ Mariinsky Palace ที่อนาโตลีได้บอกให้เขาเข้ามาทำงานในวันจันทร์ได้เลย…… ปูติน……ตอบว่า…… “เดี๋ยวก่อนครับ……ก่อนที่ท่านจะตัดสินใจ ผมต้องขอเรียนให้ทราบก่อนว่า นอกจากจะเป็นคณบดีที่มหาวิทยาลัยแล้ว…… งานหลัก……ผมยังเป็น KGB อีกด้วย” เป็นการประจันหน้ากันระหว่าง อนาโตลี ผู้ใฝ่ประชาธิปไตย กับ วลาดิเมียร์ ปูติน สายลับใต้ดินตัวเก่งของโซเวียต…!!! ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงัน……แต่เพียงอึดใจเดียว อนาโตลีได้เข้ามาตบบ่าปูติน และบอกว่า… “KGB ก็ KGB ซิวะ………ไม่เห็นแปลกตรงไหนเลยนี่………!!!! Wiwanda W. Vichit
    0 Comments 0 Shares 2676 Views 0 Reviews
  • งานกิน เที่ยว ใช้ มหกรรมคอนเสิร์ต และอาหาร เฟอร์นิเจอร์ ไม้ดอกไม้ประดับ ณ บริเวณถนนเทศบาล สาย 7 อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 27 กันยายน ถึงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2567
    งานกิน เที่ยว ใช้ มหกรรมคอนเสิร์ต และอาหาร เฟอร์นิเจอร์ ไม้ดอกไม้ประดับ ณ บริเวณถนนเทศบาล สาย 7 อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 27 กันยายน ถึงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2567
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews


  • ตอนหนึ่ง………จากเด็กหลังห้อง……สู่นักศึกษากฏหมายยูโดสายดำ……!!

    ก็จะเล่าเรื่องของท่านผู้นำ Vladimir Vladimirovich Putin ตามที่เคยเกริ่นไว้นานมาแล้วนะคะ

    วลาดิเมียร์ ปูติน ถือกำเนิดในวันที่ 7 ตุลาคม 1952
    ที่เลนินกราด (เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก) สหภาพโซเวียต


    เขาเกิดขึ้นมาในครอบครัวที่ทั้งบิดา มารดา (Vladimir และ Maria) ที่ค่อนข้างทนุถนอมปูตินน้อย ที่มีชื่อเล่นๆว่า Volodya
    (โวโลเดียร์)
    เพราะบุตรชายคนนี้ คือผู้ที่จะสืบทอดวงศ์ตระกูลเพียงคนเดียว
    หลังจากที่ได้สูญเสียบุตรชายไปสองคนก่อนหน้านี้ เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง
    วลาดิเมียร์ผู้พ่อเคยรับราชการทหารเรือ ในหน่วยเรือดำน้ำ เมื่อถูกปลดประจำการ เขาและมาเรียก็ปักหลักลงฐานอยู่ในเลนินกราดเช่นเดิม ไม่ได้ย้ายไปไหน
    ทางรัฐบาลได้จัดที่อยู่อาศัยให้ในอาคารสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เลขที่ 12 ถนน Baskov ที่เป็นอาคารเก่าๆ มีสี่ห้องนอน แต่เขาต้องแบ่งกันอยู่กันอีกครอบครัวหนึ่ง
    ทั้งหมดยังต้องใช้เตาผิงฟืนเพื่อความอบอุ่น
    มาเรีย……ไม่ได้มีความรู้มากมาย ทำงานสารพัด ตั้งแต่รับล้างหลอดแก้วในแล็บ……ส่งขนมปัง สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ คือ ต้องมีเวลาดูแลบุตรชายให้ดีที่สุด
    คู่สามีภรรยาที่เป็นเพื่อนร่วมแฟลต เป็นชาวยิว (เคร่งปฏิบัติ)
    ปูตินน้อย จึงเป็นละอ่อนคนเดียวในหมู่เพื่อนบ้าน
    เมื่อเขามีอายุได้เจ็ดอาทิตย์ มาเรีย และ บาบาอันยา (เพื่อนบ้าน) ได้พากันแอบเอาเขาไปทำพิธีล้างบาปในพิธีของออโธดอกซ์ ซึ่งเป็นความลับ (เพราะในยุคของคอมมิวนิสต์ พิธีทางศาสนาต่างๆต้องแอบซ่อน)
    เรื่องนี้ แม้แต่บิดาของเขาก็ไม่รู้ เป็นความลับดำมืด จนเมื่อสี่สิบปีต่อมา มาเรียได้นำกางเขนเล็กๆมาให้กับปูติน และเล่าเรื่องราวให้ฟัง ย้ำกับเขาว่า ถ้ามีโอกาสไปที่เยรูซาเล็ม ช่วยเอากางเขนนี้ ไปสวดที่ Church of the Holy Sepulcher ด้วย
    เลยพอเดาได้……ว่า มาเรียมีเชื้อสายเป็นยิวออโธดอกซ์ ที่ลบเลือนหายไปตามวิถีการเมืองและกาลเวลา
    นามสกุลเดิมของเธอ คือ Shelomova (ที่รากมาจาก Solomon
    ที่เป็นนามสกุลของยิว)

    ปูตินน้อยเป็นเด็กเฮี้ยวพอสมควร อายุเพียงเก้าขวบ เขาและเพื่อนพากันขึ้นรถไฟไปเที่ยวในชนบท กลับมาก็เจอกับพ่อที่ถือเข็มขัดรอไว้ในมือ……
    จากนั้นมา แม้แต่จะเดินไปหัวมุมถนน เขายังต้องขออนุญาต
    ความสัมพันธ์ในบ้าน ค่อนข้างที่จะเคร่งครัด ไม่มีการกอดจูบ
    หรือป้อนคำหวานใส่กัน
    วันเปิดเรียน……นักเรียนอื่นๆเขาจะนำช่อดอกไม้ไปให้ครู
    แต่ปูตินยกไปให้ครูทั้งกระถาง
    เขาเป็นที่ขำขันของเหล่าเพื่อนๆ เพราะตัวเล็ก แข้งขาลีบ
    เดินเป๋ๆ การเรียนไม่ค่อยดี
    จนครูต้องไปพบกับผู้ปกครอง เพื่อแนะนำว่า เด็กคนนี้หัวดีมาก แต่ไม่เอาใจใส่การเรียนเท่าที่ควร
    วลาดิเมียร์ผู้พ่อ ย้อนถามครูไปว่า
    “แล้วจะให้ผมทำยังไง……ฆ่ามันทิ้งงั้นเหรอ?”
    แต่ทั้งคู่ก็รับปากว่า จะเอาใจใส่ให้มากกว่านี้

    สิ่งแรกเลยที่ปูตินต้องพบ……คือ พ่อพาเขาไปเรียนชกมวย
    ที่ปูตินไม่สนใจในเรื่องชกๆต่อยๆ เขาไปสนใจใน sambo มากกว่า (แซมโบ คือ การผสมผสานระหว่างยูโด กับมวยปล้ำ)
    ซึ่งเขามาได้ถูกทาง เพราะโค้ชได้เข้าไปพบกับ วลาดิเมียร์ และ มาเรีย เพื่อรับรองว่าจะไม่มีอันตรายใดๆ ปูตินน้อยมีความสามารถพิเศษในศาสตร์ด้านนี้

    ปูตินน้อยเข้าสู่วัยสิบสาม อยู่ชั้นมัธยมที่หนึ่ง
    เขาเริ่มมีทีมกลุ่มนักกีฬายูโดที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน จากที่เดินติ๋มๆในละแวกที่อาศัยล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยอบายมุข เหล้า บุหรี่
    ปูตินน้อย……สามารถเดินสบตาได้ทุกคน
    การเรียนเขาดีขึ้นมาก เขาได้รับเลือกขึ้นเป็นหัวหน้านักเรียนในชั้นมัธยมปีที่สอง
    พอมัธยมแปด เขาได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนโรงเรียนไปเข้าในสมาคมยุวคอมมิวนิสต์ และนี่คือบันไดขั้นแรกสำหรับการก้าวเข้าสู่สังคมโลกภายนอกโรงเรียน

    สิ่งที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของปูตินน้อย คือ ภาพยนตร์เรื่อง “The Sword and the Shield “ ที่เป็นเริ่องเกี่ยวกับ Major Aleksandr Belov ที่เป็น KGB ที่ไปทำงานสืบราชการลับในหน่วย SS ของนาซี ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นขาวดำ ยาวถึงห้าชั่วโมง แต่ปูตินน้อยสามารถดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไม่มีวันเบื่อหน่าย

    เขาบอกกับตัวเองว่า……สักวันหนึ่ง……เขาจะเป็นสายลับ KGB ให้ได้…!!!!

    เขาเริ่มดำเนินการตามฝัน เพราะ สำนักงานใหญ่ KGB ก็อยู่ในเลนินกราด ในตอนนั้นใครๆเรียกว่า The Big House
    เขาไปที่นั่น…ต้องใช้ความพยายามถึงสามครั้งกว่าจะหาทางเข้าเจอ เพื่อที่จะขอใบสมัคร…
    เจ้าหน้าที่ที่มาคุยด้วย มองเขาด้วยความสมเพช ได้บอกกับเขาว่า……ที่นี่….ไม่รับหน่วยอาสา ถ้าจะมาสมัคร ต้องไปเรียนหนังสือให้มากกว่านี้ เพราะเรารับคนที่เคยเป็นทหาร หรือจบจากมหาวิทยาลัย ……
    ปูตินน้อยไม่ละความพยายาม เขาถามไปว่า ถ้าเรียนมหาวิทยาลัย ต้องเรียนสาขาไหน ถึงจะมีสิทธิ
    คนตอบตอบอย่างเสียไปที…ว่า……กฎหมายมั้ง……!!!

    กฎหมาย……คำนั้นคำเดียว…ที่เขาจำได้แม่น……ที่เหลือคือเขาต้องไปหว่านล้อมพ่อแม่ ที่ตั้งเป้าหมายให้เขาเรียนพวกการบิน หรือเทคนิคต่างๆ หรือแต่โค้ชยูโดที่พยายามหว่านล้อมให้ไปเป็นตำรวจ……ที่เขาไม่ชอบเลย……!!

    ตั้งแต่เขามีความมุ่งมั่นที่จะเป็น KGB ให้ได้นั้น ปูตินน้อยเปลี่ยนไป เขาเริ่มสนใจข่าวต่างประเทศ ข่าวการเมือง ฟังเพลง The Beatles ข้างเตียง
    แขวนภาพของ Jan Karlovich Berzin (ผอ. KGB คนแรกในยุคบอลเชวิค)

    ส่วนเรื่องสาวๆในวัยทีนก็ต้องมีบ้าง เขาและ Vera Brileva
    เพื่อนนักเรียนเคยมีการจูบกันตามเกมส์ที่เล่นหมุนปากขวด
    (แบบเด็กๆ) Vera เคยไปหาเขาที่บ้าน ในขณะที่เขากำลังอ่านหนังสือ ……เธอเริ่มต้นด้วยคำทักทายว่า…
    “เธอจำไม่ได้เหรอ…ว่า…..???
    แต่ปูตินลุกขึ้นยืน และตัดบทอย่างไม่มีเยื่อใยว่า……
    “ชั้นจะจำในสิ่งที่ควรจำเท่านั้น………”

    ปูตินเรียนจบภาคการศึกษาที่เขาทำเกรดได้ดี ในวิชาภาษาเยอรมัน ประวัติศาสตร์ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
    จนได้รับเลือกเข้าไปเป็นนักศึกษาใน Leningrad State University ที่เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโซเวียต ยูเนี่ยน
    เพราะการรับนักศึกษานั้น โอกาสคือ สี่สิบต่อหนึ่ง

    และ……สาขาที่เขาเลือก คือ นิติศาสตร์…………!!!

    Wiwanda W. Vichit
    ตอนหนึ่ง………จากเด็กหลังห้อง……สู่นักศึกษากฏหมายยูโดสายดำ……!! ก็จะเล่าเรื่องของท่านผู้นำ Vladimir Vladimirovich Putin ตามที่เคยเกริ่นไว้นานมาแล้วนะคะ วลาดิเมียร์ ปูติน ถือกำเนิดในวันที่ 7 ตุลาคม 1952 ที่เลนินกราด (เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก) สหภาพโซเวียต เขาเกิดขึ้นมาในครอบครัวที่ทั้งบิดา มารดา (Vladimir และ Maria) ที่ค่อนข้างทนุถนอมปูตินน้อย ที่มีชื่อเล่นๆว่า Volodya (โวโลเดียร์) เพราะบุตรชายคนนี้ คือผู้ที่จะสืบทอดวงศ์ตระกูลเพียงคนเดียว หลังจากที่ได้สูญเสียบุตรชายไปสองคนก่อนหน้านี้ เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง วลาดิเมียร์ผู้พ่อเคยรับราชการทหารเรือ ในหน่วยเรือดำน้ำ เมื่อถูกปลดประจำการ เขาและมาเรียก็ปักหลักลงฐานอยู่ในเลนินกราดเช่นเดิม ไม่ได้ย้ายไปไหน ทางรัฐบาลได้จัดที่อยู่อาศัยให้ในอาคารสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เลขที่ 12 ถนน Baskov ที่เป็นอาคารเก่าๆ มีสี่ห้องนอน แต่เขาต้องแบ่งกันอยู่กันอีกครอบครัวหนึ่ง ทั้งหมดยังต้องใช้เตาผิงฟืนเพื่อความอบอุ่น มาเรีย……ไม่ได้มีความรู้มากมาย ทำงานสารพัด ตั้งแต่รับล้างหลอดแก้วในแล็บ……ส่งขนมปัง สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ คือ ต้องมีเวลาดูแลบุตรชายให้ดีที่สุด คู่สามีภรรยาที่เป็นเพื่อนร่วมแฟลต เป็นชาวยิว (เคร่งปฏิบัติ) ปูตินน้อย จึงเป็นละอ่อนคนเดียวในหมู่เพื่อนบ้าน เมื่อเขามีอายุได้เจ็ดอาทิตย์ มาเรีย และ บาบาอันยา (เพื่อนบ้าน) ได้พากันแอบเอาเขาไปทำพิธีล้างบาปในพิธีของออโธดอกซ์ ซึ่งเป็นความลับ (เพราะในยุคของคอมมิวนิสต์ พิธีทางศาสนาต่างๆต้องแอบซ่อน) เรื่องนี้ แม้แต่บิดาของเขาก็ไม่รู้ เป็นความลับดำมืด จนเมื่อสี่สิบปีต่อมา มาเรียได้นำกางเขนเล็กๆมาให้กับปูติน และเล่าเรื่องราวให้ฟัง ย้ำกับเขาว่า ถ้ามีโอกาสไปที่เยรูซาเล็ม ช่วยเอากางเขนนี้ ไปสวดที่ Church of the Holy Sepulcher ด้วย เลยพอเดาได้……ว่า มาเรียมีเชื้อสายเป็นยิวออโธดอกซ์ ที่ลบเลือนหายไปตามวิถีการเมืองและกาลเวลา นามสกุลเดิมของเธอ คือ Shelomova (ที่รากมาจาก Solomon ที่เป็นนามสกุลของยิว) ปูตินน้อยเป็นเด็กเฮี้ยวพอสมควร อายุเพียงเก้าขวบ เขาและเพื่อนพากันขึ้นรถไฟไปเที่ยวในชนบท กลับมาก็เจอกับพ่อที่ถือเข็มขัดรอไว้ในมือ…… จากนั้นมา แม้แต่จะเดินไปหัวมุมถนน เขายังต้องขออนุญาต ความสัมพันธ์ในบ้าน ค่อนข้างที่จะเคร่งครัด ไม่มีการกอดจูบ หรือป้อนคำหวานใส่กัน วันเปิดเรียน……นักเรียนอื่นๆเขาจะนำช่อดอกไม้ไปให้ครู แต่ปูตินยกไปให้ครูทั้งกระถาง เขาเป็นที่ขำขันของเหล่าเพื่อนๆ เพราะตัวเล็ก แข้งขาลีบ เดินเป๋ๆ การเรียนไม่ค่อยดี จนครูต้องไปพบกับผู้ปกครอง เพื่อแนะนำว่า เด็กคนนี้หัวดีมาก แต่ไม่เอาใจใส่การเรียนเท่าที่ควร วลาดิเมียร์ผู้พ่อ ย้อนถามครูไปว่า “แล้วจะให้ผมทำยังไง……ฆ่ามันทิ้งงั้นเหรอ?” แต่ทั้งคู่ก็รับปากว่า จะเอาใจใส่ให้มากกว่านี้ สิ่งแรกเลยที่ปูตินต้องพบ……คือ พ่อพาเขาไปเรียนชกมวย ที่ปูตินไม่สนใจในเรื่องชกๆต่อยๆ เขาไปสนใจใน sambo มากกว่า (แซมโบ คือ การผสมผสานระหว่างยูโด กับมวยปล้ำ) ซึ่งเขามาได้ถูกทาง เพราะโค้ชได้เข้าไปพบกับ วลาดิเมียร์ และ มาเรีย เพื่อรับรองว่าจะไม่มีอันตรายใดๆ ปูตินน้อยมีความสามารถพิเศษในศาสตร์ด้านนี้ ปูตินน้อยเข้าสู่วัยสิบสาม อยู่ชั้นมัธยมที่หนึ่ง เขาเริ่มมีทีมกลุ่มนักกีฬายูโดที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน จากที่เดินติ๋มๆในละแวกที่อาศัยล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยอบายมุข เหล้า บุหรี่ ปูตินน้อย……สามารถเดินสบตาได้ทุกคน การเรียนเขาดีขึ้นมาก เขาได้รับเลือกขึ้นเป็นหัวหน้านักเรียนในชั้นมัธยมปีที่สอง พอมัธยมแปด เขาได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนโรงเรียนไปเข้าในสมาคมยุวคอมมิวนิสต์ และนี่คือบันไดขั้นแรกสำหรับการก้าวเข้าสู่สังคมโลกภายนอกโรงเรียน สิ่งที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของปูตินน้อย คือ ภาพยนตร์เรื่อง “The Sword and the Shield “ ที่เป็นเริ่องเกี่ยวกับ Major Aleksandr Belov ที่เป็น KGB ที่ไปทำงานสืบราชการลับในหน่วย SS ของนาซี ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นขาวดำ ยาวถึงห้าชั่วโมง แต่ปูตินน้อยสามารถดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไม่มีวันเบื่อหน่าย เขาบอกกับตัวเองว่า……สักวันหนึ่ง……เขาจะเป็นสายลับ KGB ให้ได้…!!!! เขาเริ่มดำเนินการตามฝัน เพราะ สำนักงานใหญ่ KGB ก็อยู่ในเลนินกราด ในตอนนั้นใครๆเรียกว่า The Big House เขาไปที่นั่น…ต้องใช้ความพยายามถึงสามครั้งกว่าจะหาทางเข้าเจอ เพื่อที่จะขอใบสมัคร… เจ้าหน้าที่ที่มาคุยด้วย มองเขาด้วยความสมเพช ได้บอกกับเขาว่า……ที่นี่….ไม่รับหน่วยอาสา ถ้าจะมาสมัคร ต้องไปเรียนหนังสือให้มากกว่านี้ เพราะเรารับคนที่เคยเป็นทหาร หรือจบจากมหาวิทยาลัย …… ปูตินน้อยไม่ละความพยายาม เขาถามไปว่า ถ้าเรียนมหาวิทยาลัย ต้องเรียนสาขาไหน ถึงจะมีสิทธิ คนตอบตอบอย่างเสียไปที…ว่า……กฎหมายมั้ง……!!! กฎหมาย……คำนั้นคำเดียว…ที่เขาจำได้แม่น……ที่เหลือคือเขาต้องไปหว่านล้อมพ่อแม่ ที่ตั้งเป้าหมายให้เขาเรียนพวกการบิน หรือเทคนิคต่างๆ หรือแต่โค้ชยูโดที่พยายามหว่านล้อมให้ไปเป็นตำรวจ……ที่เขาไม่ชอบเลย……!! ตั้งแต่เขามีความมุ่งมั่นที่จะเป็น KGB ให้ได้นั้น ปูตินน้อยเปลี่ยนไป เขาเริ่มสนใจข่าวต่างประเทศ ข่าวการเมือง ฟังเพลง The Beatles ข้างเตียง แขวนภาพของ Jan Karlovich Berzin (ผอ. KGB คนแรกในยุคบอลเชวิค) ส่วนเรื่องสาวๆในวัยทีนก็ต้องมีบ้าง เขาและ Vera Brileva เพื่อนนักเรียนเคยมีการจูบกันตามเกมส์ที่เล่นหมุนปากขวด (แบบเด็กๆ) Vera เคยไปหาเขาที่บ้าน ในขณะที่เขากำลังอ่านหนังสือ ……เธอเริ่มต้นด้วยคำทักทายว่า… “เธอจำไม่ได้เหรอ…ว่า…..??? แต่ปูตินลุกขึ้นยืน และตัดบทอย่างไม่มีเยื่อใยว่า…… “ชั้นจะจำในสิ่งที่ควรจำเท่านั้น………” ปูตินเรียนจบภาคการศึกษาที่เขาทำเกรดได้ดี ในวิชาภาษาเยอรมัน ประวัติศาสตร์ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ จนได้รับเลือกเข้าไปเป็นนักศึกษาใน Leningrad State University ที่เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโซเวียต ยูเนี่ยน เพราะการรับนักศึกษานั้น โอกาสคือ สี่สิบต่อหนึ่ง และ……สาขาที่เขาเลือก คือ นิติศาสตร์…………!!! Wiwanda W. Vichit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 582 Views 0 Reviews
  • #มีเป็นร้อยล้านได้จากคนไทย
    #เย้ยท้าทายให้อันฟอล
    อดีตด้อมไทยก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
    ยอดฟอลดิ่ง เอเจนซี่กิมจิเบรคสัญญา
    ที่มาของการบีบน้ำตา
    ทั้งๆที่ผ่านมา ยโส กร้าวมาก
    หลังกอบโกยไปมากมาย
    ออกอาการดี๊ด๊า หลุดปาก
    คนไทย ห-ล-อ-ก ง่าย
    และมีคนเกาหลีมาแปลคำชี้แจง
    ที่ไม่ภาษาดอกไม้ที่แต่งเติมให้ดูดี
    จึงรู้ว่า อิเหวิง มันเย้ยคนไทยแค่ไหน
    มั่นหน้ามั่นโหนก ว่าดังได้เพราะฝึมือตัวเองล้วนๆ
    ปรากฏเมื่อยอดฟอลตกวูบ
    พูดเองไอ่ที่สร้างตอรี่ว่าลำบากหาตังค่าเทอม
    นั่นก็มีเอเจนซี่ดูแลก่อนมาไทย ได้เดือนละเจ็ดแปดหมื่น
    ต้มคนไทยไปรอบ
    มาตอนนี้ยังมีเปิดรัวๆว่าเป็นอิลำยอง
    แถมด้วยมีผัวร่วมวางแผนอยู่เกาหลี
    จะเหลือรึ ก็ไม่แคร์คนไทยไง
    ปากดีว่าไม่ชอบก็อันฟอลไง แล้วจะร้องหาพ่องเหรอ
    เอเจนซี่เกาหลี
    ก็เริ่มจะไม่เซ็นสัญญาใหม่ที่รับปากอิเหวิง
    เป็นที่มาของการเปลี่ยนท่าที
    ออกมาบีบน้ำตา หวังได้กระแสคนไทย
    กลับไปง่าวแล้วต่ออยู่และง่าวต่อไป
    ไม่ต้องห่วงนะอิเหวิง สก็อยกิมจิ
    ไม่ทันกรูหรอก
    ใครเป็นด้อมสื่อสารกับอิเหวิงได้
    พี่คิงส์ฝากถามหน่อยดิ
    เมื่อไหร่ เมิงจะเอาผัวมาเปิดตัว
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #มีเป็นร้อยล้านได้จากคนไทย #เย้ยท้าทายให้อันฟอล อดีตด้อมไทยก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ยอดฟอลดิ่ง เอเจนซี่กิมจิเบรคสัญญา ที่มาของการบีบน้ำตา ทั้งๆที่ผ่านมา ยโส กร้าวมาก หลังกอบโกยไปมากมาย ออกอาการดี๊ด๊า หลุดปาก คนไทย ห-ล-อ-ก ง่าย และมีคนเกาหลีมาแปลคำชี้แจง ที่ไม่ภาษาดอกไม้ที่แต่งเติมให้ดูดี จึงรู้ว่า อิเหวิง มันเย้ยคนไทยแค่ไหน มั่นหน้ามั่นโหนก ว่าดังได้เพราะฝึมือตัวเองล้วนๆ ปรากฏเมื่อยอดฟอลตกวูบ พูดเองไอ่ที่สร้างตอรี่ว่าลำบากหาตังค่าเทอม นั่นก็มีเอเจนซี่ดูแลก่อนมาไทย ได้เดือนละเจ็ดแปดหมื่น ต้มคนไทยไปรอบ มาตอนนี้ยังมีเปิดรัวๆว่าเป็นอิลำยอง แถมด้วยมีผัวร่วมวางแผนอยู่เกาหลี จะเหลือรึ ก็ไม่แคร์คนไทยไง ปากดีว่าไม่ชอบก็อันฟอลไง แล้วจะร้องหาพ่องเหรอ เอเจนซี่เกาหลี ก็เริ่มจะไม่เซ็นสัญญาใหม่ที่รับปากอิเหวิง เป็นที่มาของการเปลี่ยนท่าที ออกมาบีบน้ำตา หวังได้กระแสคนไทย กลับไปง่าวแล้วต่ออยู่และง่าวต่อไป ไม่ต้องห่วงนะอิเหวิง สก็อยกิมจิ ไม่ทันกรูหรอก ใครเป็นด้อมสื่อสารกับอิเหวิงได้ พี่คิงส์ฝากถามหน่อยดิ เมื่อไหร่ เมิงจะเอาผัวมาเปิดตัว อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    1
    1 Comments 0 Shares 349 Views 0 Reviews
  • ใครเขาถวายน้ำ ถวายดอกไม้บนหิ้งพระดีหมด อย่าไปห้ามตำหนิหรือห้ามเขามันคือความดีของเขา บุญของเขา
    ใครเขาถวายน้ำ ถวายดอกไม้บนหิ้งพระดีหมด อย่าไปห้ามตำหนิหรือห้ามเขามันคือความดีของเขา บุญของเขา
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์สากลผ้าไหมพื้นเรียบ
    ลายปักดอกคาร์เนชั่น สีและดอกไม้ประจำราชอาณาจักรสเปน

    ดอกคาร์เนชั่นสีแดง เป็นดอกไม้ประจำชาติที่อยู่คู่กับประเทศสเปนมาหลายร้อยปี เรามักคุ้นภาพนักเต้นระบำฟลามิงโก้ประดับดอกไม้สีแดงอยู่บนเรือนผม ดอกไม้ที่ว่ามีตำนานความรักของกษัตริย์และราชินีซ่อนอยู่ เรื่องนี้ย้อนกลับไปในศตวรรษที่๑๖ เมื่อกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ ๑ แห่งสเปนได้นำดอกคาร์เนชั่นสีแดงเข้ามาปลูกในสเปนเพื่อเป็นเครื่องหมายแทนความรักของพระองค์กับราชินีอิซาเบลล่า

    อิซาเบลล่าเกิดในปี ๑๕๐๓ พระองค์เป็นลูกสาวคนโตของอิมมานูเอลที่ ๑ กษัตริย์แห่งโปรตุเกส ในยุคที่สเปนและโปรตุเกสมั่งคั่งยิ่งใหญ่ ชีวิตของอิซาเบลล่าสมบูรณ์แบบไม่มีบกพร่องและเมื่อถึงวัยที่ต้องแต่งงาน พระมารดาของพระองค์ก็ประกาศชัดว่าลูกสาวคนนี้จะต้องแต่งงานกับกษัตริย์หรือลูกชายสายตรงของกษัตริย์เท่านั้น
    ตัวเลือกอันดับ ๑ ของอิซาเบลล่าคือพระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๑ กษัตริย์ของสเปนซึ่งมีพระเกียรติสมกันถึงขั้นที่ประกาศกล้าว่าถ้าไม่ได้สมรสกับกษัตริย์สเปนก็จะขอครองตนโสดตลอดชีพ ปรากฏว่าการจับคู่กันเพื่ออำนาจนำมาสู่ความรักดังเทพนิยาย ชาร์ลส์ตกหลุมรักอิซาเบลล่าตั้งแต่แรกเห็น ขุนนางที่มีโอกาสได้ร่วมงานสมรสสุดยิ่งใหญ่บรรยายความสัมพันธ์ของทั้งสองว่า “ราวกับว่าทั้งคู่เกิดมาเพื่อกันและกัน ความรักของชาร์ลส์และอินซาเบลล่าสวยงามสดใสดังกุหลาบสีแดง”
    -----
    HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEAR ROYAL ATTIRE IN THAI SILK
    CARNATIONS FLOWER OF THE KINGDOM OF SPAIN
    .
    THE RED CANATION has been the national flower of Spain for hundreds of years. We are familiar with the image of flamenco dancers with red flowers in their hair. The flower has a hidden legend of the love of a king and queen. This story dates back to the 16th century when King Charles I of Spain brought red carnations to Spain to symbolize his love for Queen Isabella.
    .
    Isabella was born in 1503. She was the eldest daughter of King Immanuel I of Portugal. At a time when Spain and Portugal were very wealthy, Isabella’s life was perfect and when it came time to marry, her mother made it clear that her daughter would marry the king or the king’s direct son. Isabella’s first choice was King Charles I, King of Spain, whose dignity was so great that he boldly declared that if he did not marry the king of Spain, he would remain single for life. It turned out that their power-for-power match led to a fairytale love. Charles fell in love with Isabella at first sight. A nobleman who had the opportunity to attend the grand wedding described their relationship as “as if they were made for each other. The love of Charles and Isabella was as beautiful and radiant as a red rose.”
    ____________________________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์สากลผ้าไหมพื้นเรียบ ลายปักดอกคาร์เนชั่น สีและดอกไม้ประจำราชอาณาจักรสเปน ดอกคาร์เนชั่นสีแดง เป็นดอกไม้ประจำชาติที่อยู่คู่กับประเทศสเปนมาหลายร้อยปี เรามักคุ้นภาพนักเต้นระบำฟลามิงโก้ประดับดอกไม้สีแดงอยู่บนเรือนผม ดอกไม้ที่ว่ามีตำนานความรักของกษัตริย์และราชินีซ่อนอยู่ เรื่องนี้ย้อนกลับไปในศตวรรษที่๑๖ เมื่อกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ ๑ แห่งสเปนได้นำดอกคาร์เนชั่นสีแดงเข้ามาปลูกในสเปนเพื่อเป็นเครื่องหมายแทนความรักของพระองค์กับราชินีอิซาเบลล่า อิซาเบลล่าเกิดในปี ๑๕๐๓ พระองค์เป็นลูกสาวคนโตของอิมมานูเอลที่ ๑ กษัตริย์แห่งโปรตุเกส ในยุคที่สเปนและโปรตุเกสมั่งคั่งยิ่งใหญ่ ชีวิตของอิซาเบลล่าสมบูรณ์แบบไม่มีบกพร่องและเมื่อถึงวัยที่ต้องแต่งงาน พระมารดาของพระองค์ก็ประกาศชัดว่าลูกสาวคนนี้จะต้องแต่งงานกับกษัตริย์หรือลูกชายสายตรงของกษัตริย์เท่านั้น ตัวเลือกอันดับ ๑ ของอิซาเบลล่าคือพระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๑ กษัตริย์ของสเปนซึ่งมีพระเกียรติสมกันถึงขั้นที่ประกาศกล้าว่าถ้าไม่ได้สมรสกับกษัตริย์สเปนก็จะขอครองตนโสดตลอดชีพ ปรากฏว่าการจับคู่กันเพื่ออำนาจนำมาสู่ความรักดังเทพนิยาย ชาร์ลส์ตกหลุมรักอิซาเบลล่าตั้งแต่แรกเห็น ขุนนางที่มีโอกาสได้ร่วมงานสมรสสุดยิ่งใหญ่บรรยายความสัมพันธ์ของทั้งสองว่า “ราวกับว่าทั้งคู่เกิดมาเพื่อกันและกัน ความรักของชาร์ลส์และอินซาเบลล่าสวยงามสดใสดังกุหลาบสีแดง” ----- HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEAR ROYAL ATTIRE IN THAI SILK CARNATIONS FLOWER OF THE KINGDOM OF SPAIN . THE RED CANATION has been the national flower of Spain for hundreds of years. We are familiar with the image of flamenco dancers with red flowers in their hair. The flower has a hidden legend of the love of a king and queen. This story dates back to the 16th century when King Charles I of Spain brought red carnations to Spain to symbolize his love for Queen Isabella. . Isabella was born in 1503. She was the eldest daughter of King Immanuel I of Portugal. At a time when Spain and Portugal were very wealthy, Isabella’s life was perfect and when it came time to marry, her mother made it clear that her daughter would marry the king or the king’s direct son. Isabella’s first choice was King Charles I, King of Spain, whose dignity was so great that he boldly declared that if he did not marry the king of Spain, he would remain single for life. It turned out that their power-for-power match led to a fairytale love. Charles fell in love with Isabella at first sight. A nobleman who had the opportunity to attend the grand wedding described their relationship as “as if they were made for each other. The love of Charles and Isabella was as beautiful and radiant as a red rose.” ____________________________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Love
    6
    0 Comments 0 Shares 433 Views 0 Reviews

  • SHAW SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก]
    เพลง สุดจะคิดถึง
    https://youtu.be/a4llVMd5_kU?si=mDGwpz-dO2XkUl8-
    คำร้อง - ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก
    ทำนอง - ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก
    เรียบเรียง - อ.สุพิษ เล็บขาว / ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก
    มิกซ์ดาวน์ - ครูแต๊ะ / ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก
    มาสเตอร์ - ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก
    โปรดิวเซอร์ - ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก
    ถ่ายทำ/กล้อง/ตัดต่อ - รวย จังชอว์

    สุดจะคิดถึง
    A1.ป่านนี้ไม่รู้ตัวเธอจะเป็นอย่างไร อยู่ไหนรู้ไหมหัวใจฉันคิดถึงเธอ
    ภาพจำไม่เคยเลือนลาง ทุกอย่างยังวางที่เดิม มุมเดิมที่เคยมีกัน เหมือนยังมีเรา
    A2.ดอกไม้ที่ในแจกัน เตียงนอนของเรายังอยู่
    ชุดนอนหมอนข้างหมอนคู่ วางอยู่ คู่เคียงกัน
    ในวันที่ขาดเธอไป แต่หัวใจไม่เคยเดินไปไหน หยุดใจเอาไว้ที่เธอ...ตั้งแต่วันมีเรา
    B.HOOK คิดถึงกลิ่นตัวของเธอ คิดถึงใบหน้าของเธอ คิดถึงรอยยิ้มของเธอ
    คิดถึงน้ำเสียงของเธอ คิดถึงอ้อมกอดของเธอ คิดถึงหัวไหล่ของเธอ อกอุ่นที่เคยซบนอน สุดจะคิดถึง
    A3.ร้านที่เราเคยไป ไอศครีมที่ชอบเหมือนกัน
    อาหารที่ทานด้วยกัน วันนี้ยังสั่งเหมือนเคย
    คำพูดซึ้งๆเชยๆ เอ่ยมาทุกครั้งต้องยิ้ม อิ่มเอมหัวใจ ทุกครา คิดถึงเวลาสองเรา
    SOLO …B/A3.
    วันที่ยังมีเรา มีแต่ความงดงาม
    วันนี้เราไกลกัน สุดจะคิดถึง

    #newsingle #shawsherryduck #newsongs
    #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต#Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord
    SHAW SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก] เพลง สุดจะคิดถึง https://youtu.be/a4llVMd5_kU?si=mDGwpz-dO2XkUl8- คำร้อง - ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก ทำนอง - ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก เรียบเรียง - อ.สุพิษ เล็บขาว / ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก มิกซ์ดาวน์ - ครูแต๊ะ / ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก มาสเตอร์ - ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก โปรดิวเซอร์ - ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก ถ่ายทำ/กล้อง/ตัดต่อ - รวย จังชอว์ สุดจะคิดถึง A1.ป่านนี้ไม่รู้ตัวเธอจะเป็นอย่างไร อยู่ไหนรู้ไหมหัวใจฉันคิดถึงเธอ ภาพจำไม่เคยเลือนลาง ทุกอย่างยังวางที่เดิม มุมเดิมที่เคยมีกัน เหมือนยังมีเรา A2.ดอกไม้ที่ในแจกัน เตียงนอนของเรายังอยู่ ชุดนอนหมอนข้างหมอนคู่ วางอยู่ คู่เคียงกัน ในวันที่ขาดเธอไป แต่หัวใจไม่เคยเดินไปไหน หยุดใจเอาไว้ที่เธอ...ตั้งแต่วันมีเรา B.HOOK คิดถึงกลิ่นตัวของเธอ คิดถึงใบหน้าของเธอ คิดถึงรอยยิ้มของเธอ คิดถึงน้ำเสียงของเธอ คิดถึงอ้อมกอดของเธอ คิดถึงหัวไหล่ของเธอ อกอุ่นที่เคยซบนอน สุดจะคิดถึง A3.ร้านที่เราเคยไป ไอศครีมที่ชอบเหมือนกัน อาหารที่ทานด้วยกัน วันนี้ยังสั่งเหมือนเคย คำพูดซึ้งๆเชยๆ เอ่ยมาทุกครั้งต้องยิ้ม อิ่มเอมหัวใจ ทุกครา คิดถึงเวลาสองเรา SOLO …B/A3. วันที่ยังมีเรา มีแต่ความงดงาม วันนี้เราไกลกัน สุดจะคิดถึง #newsingle #shawsherryduck #newsongs #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต​ #Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 430 Views 0 Reviews
  • เขาไม่ง้อ เขาค้อก็ได้..
    ที่เที่ยวเขาค้อ ฉบับอัปเดต
    เที่ยวฟิน เช็กอินได้ตลอดทั้งปี

    1. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
    ถ้ามาเที่ยวเขาค้อแล้วไม่ได้แวะมาไหว้พระที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ถือว่ามาไม่ถึงเขาค้ออย่างแน่นอน เพราะวัดนี้เป็นวัดสำคัญของเขาค้อ และเป็นวัดที่ชาวพุทธนิยมมากราบไหว้สักการะ เพราะมีมหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ตั้งอยู่โดดเด่นบนเนินเขา และเจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต สีทอง ที่ประดับประดาด้วยลูกแก้วและกระเบื้องเครื่องเบญจรงค์ นอกจากจะเป็นพุทธศาสนสถานที่มีความสำคัญแล้ว ยังถือเป็นที่เที่ยวของอำเภอเขาค้อที่ผู้คนนิยมไปแวะเช็กอินถ่ายรูป ชมความสวยงามกันอีกด้วย

    2. พระตำหนักเขาค้อ
    จุดสูงสุดของเขาค้อ สามารถมองเห็นวิวเขาค้อได้แบบครอบคลุม และยังจะได้ดื่มด่ำกับความงดงามของสวนดอกไม้และพืชนานาพรรณ พร้อมทั้งมีป่าสนสูงใหญ่สวยงามอุดมสมบูรณ์ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ในช่วงวันหยุดยาวทางเจ้าหน้าที่จะเปิดพื้นที่ให้เข้ามากางเต็นท์ได้ด้วย

    3. ภูแก้วพีค - Phukaew Peak
    ร้านกาแฟและจุดชมวิวที่ตั้งอยู่ภายในภูแก้วรีสอร์ต & แอดเวนเจอร์ ปาร์ค เขาค้อ เป็นจุดชมวิวที่อยู่บนจุดที่สูงที่สุดของรีสอร์ต สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเขาค้อได้แบบพาโนรามา เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยมาก บริเวณลานชมวิวมีพื้นที่กว้างขวางและจุดถ่ายภาพที่สวยงามหลายจุด ทั้งจุดชมวิวอุ้งมือยักษ์ที่เป็นทางเดินแบบยกสูงลอยฟ้า ลานและระเบียงชมวิวต่าง ๆ มาที่เดียวนอกจากจะได้ชมวิวในมุมสูงแบบสวยงามแล้ว รับรองว่าได้ภาพสวยถูกใจกลับไปแน่นอน

    #เขาค้อ
    #เพชรบูรณ์
    #ท่องเที่ยว
    เขาไม่ง้อ เขาค้อก็ได้.. ที่เที่ยวเขาค้อ ฉบับอัปเดต เที่ยวฟิน เช็กอินได้ตลอดทั้งปี 1. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ถ้ามาเที่ยวเขาค้อแล้วไม่ได้แวะมาไหว้พระที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ถือว่ามาไม่ถึงเขาค้ออย่างแน่นอน เพราะวัดนี้เป็นวัดสำคัญของเขาค้อ และเป็นวัดที่ชาวพุทธนิยมมากราบไหว้สักการะ เพราะมีมหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ตั้งอยู่โดดเด่นบนเนินเขา และเจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต สีทอง ที่ประดับประดาด้วยลูกแก้วและกระเบื้องเครื่องเบญจรงค์ นอกจากจะเป็นพุทธศาสนสถานที่มีความสำคัญแล้ว ยังถือเป็นที่เที่ยวของอำเภอเขาค้อที่ผู้คนนิยมไปแวะเช็กอินถ่ายรูป ชมความสวยงามกันอีกด้วย 2. พระตำหนักเขาค้อ จุดสูงสุดของเขาค้อ สามารถมองเห็นวิวเขาค้อได้แบบครอบคลุม และยังจะได้ดื่มด่ำกับความงดงามของสวนดอกไม้และพืชนานาพรรณ พร้อมทั้งมีป่าสนสูงใหญ่สวยงามอุดมสมบูรณ์ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ในช่วงวันหยุดยาวทางเจ้าหน้าที่จะเปิดพื้นที่ให้เข้ามากางเต็นท์ได้ด้วย 3. ภูแก้วพีค - Phukaew Peak ร้านกาแฟและจุดชมวิวที่ตั้งอยู่ภายในภูแก้วรีสอร์ต & แอดเวนเจอร์ ปาร์ค เขาค้อ เป็นจุดชมวิวที่อยู่บนจุดที่สูงที่สุดของรีสอร์ต สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเขาค้อได้แบบพาโนรามา เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยมาก บริเวณลานชมวิวมีพื้นที่กว้างขวางและจุดถ่ายภาพที่สวยงามหลายจุด ทั้งจุดชมวิวอุ้งมือยักษ์ที่เป็นทางเดินแบบยกสูงลอยฟ้า ลานและระเบียงชมวิวต่าง ๆ มาที่เดียวนอกจากจะได้ชมวิวในมุมสูงแบบสวยงามแล้ว รับรองว่าได้ภาพสวยถูกใจกลับไปแน่นอน #เขาค้อ #เพชรบูรณ์ #ท่องเที่ยว
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 290 Views 0 Reviews
  • ดอกไม้พลาสติก
    Lyrics
    Recordings
    ③ เพลง ดอกไม้พลาติก
    ② ศิลปิน เรวัติ พุทธินันท์
    ① By…..Up2You
    .
    .


    เวลาดูดอกไม้ปลอมๆ
    บางดอกดูสวยเกินกว่าใคร
    ดูดูไปมันไร้คุณค่า
    เพราะว่าเป็นพลาสติก
    ถึงแต่งเติมสีเข้าไป
    ไม่จับใจเหมือนของจริง

    เวลาดูผู้หญิงบางคน
    ที่แต่งเติมสวยเพียงอย่างเดียว
    ใครๆ เจอก็เหลียวมองเธอ
    เพราะหน้าตาและรูปกาย
    อาจจะสวยจริง แต่เสียดาย
    ที่หัวใจไม่สวยเลย


    หลายๆ คนไม่รู้ไม่เคยลองคิด
    แท้ๆ เธอก็เหมือนไม่มีชีวิต
    คิดๆ ดูจะเห็นเธอเป็นเพียง
    ดอกไม้ พลาสติก
    ถึงสวยก็ทำด้วยพลาสติก
    ฮื้อ ฮือ..พลาสติก
    จึงเป็นเพียงสิ่งปลอมๆ
    ดอกไม้พลาสติก Lyrics Recordings ③ เพลง ดอกไม้พลาติก ② ศิลปิน เรวัติ พุทธินันท์ ① By…..Up2You . . เวลาดูดอกไม้ปลอมๆ บางดอกดูสวยเกินกว่าใคร ดูดูไปมันไร้คุณค่า เพราะว่าเป็นพลาสติก ถึงแต่งเติมสีเข้าไป ไม่จับใจเหมือนของจริง เวลาดูผู้หญิงบางคน ที่แต่งเติมสวยเพียงอย่างเดียว ใครๆ เจอก็เหลียวมองเธอ เพราะหน้าตาและรูปกาย อาจจะสวยจริง แต่เสียดาย ที่หัวใจไม่สวยเลย หลายๆ คนไม่รู้ไม่เคยลองคิด แท้ๆ เธอก็เหมือนไม่มีชีวิต คิดๆ ดูจะเห็นเธอเป็นเพียง ดอกไม้ พลาสติก ถึงสวยก็ทำด้วยพลาสติก ฮื้อ ฮือ..พลาสติก จึงเป็นเพียงสิ่งปลอมๆ
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • สมัยที่ผมยังเด็ก...

       บ้านไม้เก่าแก่หลังหนึ่ง ตั้งอยู่ริมน้ำสายใหญ่ เป็นบ้านไม้ที่ทีอายุร่วม 80 ปี ด้านหน้าบ้าน ติดถนนเลียบริมนำ้ หันไปทางทิศ ตะวันตก ส่วนหลังบ้าน ติดแม่นำสายใหญ่ และแน่นอน ฉันเองก็เติบโตขึ้นมา ในบ้านหลังนี้ ครอบครัวของเราอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มานาน ตั้งแต่อาก๋ง อาม่า รวมถึงพ่อ แม่ และพี่น้องของฉันด้วย

    มันเป็นบ้านไม้ ชั้นเดียวเป็นเรื่องปกติที่ บ้านไม้อายุขนาดนี้ คงไม่มีการจัดแบ่ง พื้นที่ใช้สอยได้ดีนัก ตัวบ้านแบ่งเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ โดยเป็นโถง ขนาดพอสมควร ซึ่งปัจจุบัน คงจะเรียกกันตามภาษาฝรั่งว่า ลิฟวิ่งรูม ก็คงจะำงบึได้ แต่เอาเถอะไม่ว่าจะเรียกอย่างไร มันก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันมาตลอด 10 กว่าปี ของการเติบโตในบ้านหลังนั้น แต่น่าจะเป็นเรื่องตลกที่บ้านโบราณจะมี ลิฟวิ่งรูม ชิ้นที่2
    เนื่องจากว่าพื้นที่ๆถัดจากโถง ลงไป1 ก้าว มันเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ชิ้นที่ 2 พวกเราได้ใช้พื้นที่นี้ เป็นส่วนทานอาหาร สำหรับอาม่าใช้เป็น ห้องสมุด และสำหรับแม่ มันกลายเป็น พื้นที่เย็บปักถักร้อย และทำงานอื่นๆ พูดถึงพื้นที่ทานอาหารแล้ว น่าจะเป็นส่วนรับประทานอาหารที่สวยที่สุดในโลก...
       เพราะทุกมื้อเช้าของพวกเราจะต้องทานอาหารเช้าไปพร้อมกับ แสงอ่อนๆของอาทิตย์ยามเช้า แต่ อาจจะเป็นเพราะว่าฉันยังเด็ก เกินกว่าจะมองเห็นความสวยงามของธรรมชาติ ฉันเองกลับคิดว่า มันแย่จังที่มีแสงแดดมาแยงตายามเช้าและมันยังร้อนมากอีกด้วย...

    สุดพื้นที่อเนกประสงค์ เป็นหน้าต่างกระจก กรอบบานเป็นไม้ วางเรียงกันไปตลอดแนวของตัวบ้าน และส่วนริมหน้าต่างนี่เอง ถ้ามองออกไปที่หน้าต่างจะมองเห็น แม่น้ำสายใหญ่ ถัดจากหน้าต่างออกไป จะเป็นส่วนของระเบียง ซึ่งกลายเป็น สวนดอกไม้ลอยฟ้า ของอาม่าฉันเอง
    ภายในตัวบ้าน ด้านซ้ายมือของทางเดินจะเป็นส่วนที่ฉัน หวาดกลัวที่สุด ฉันเรียกมันว่า ห้องมืด จริงๆแล้วมันก็เป็นแค่ ห้อง อย่าเรียกว่า ห้องดีกว่า น่าจะเป็นพื้นที่เก็บของ เพียงแต่ว่าทุกครั้งที่ ฉันได้เข้าไปนั้น น้อยครั้งเหลือเกินที่จะมีการเปิดไฟส่องสว่าง ทำให้ในความรู้สึกของเด็กน้อยอย่างฉัน รู้สึกหวาดกลัวทุกครั้งที่เฉียดใกล้ ถ้าเดินผ่านส่วนห้องมืดไป ติดกันนั้นจะเป็นห้องนอนของอาม่า ซึ่งยาวไปจนสุดตัวบ้านติดริมน้ำแต่ แต่ห้องอาม่าจะถูกแบ่งช่วงสุดท้ายเป็นห้องเก็บของเล็กๆจะมีตู้กับข้าว อาหารแห้ง และเป็นพื้นที่ทางสัญจร ไปที่ที่สำหรับตากผ้า ริมหน้าต่าง และยังมีส่วนของห้องนอนแม่บ้านซึ่งอยู่ติดกับห้องมืด

    ทางด้านขวา ของตัวบ้านส่วนแรกจะเป็น ห้องเก็บของ(อีกแล้ว) ซึ่งแต่เดิม ห้องส่วนนี้ เคยเป็นห้องนอนของ บีเอ 2 ห้อง แล้วต่อมาก็เลยกลายมาเป็นห้องเก็บของ
    เข้ามาก็เป็นห้องนอน ของพ่อ และแม่ ของฉัน ถัดมาก็เป็นส่วนของห้องนอนเด็กๆ
    และสุดท้ายก็เป็น ส่วนของห้องน้ำ

    คงจะงงแล้วสิว่าห้องครัวอยู่ตรงไหน มันอยู่ชั้นล่างครับ ไม่ผิดแน่ครับ ชั้นล่างแน่นอน !
    อ้าว ไหนบอกว่าเป็นบ้านชั้นเดียวไงหละ!!!

        คือมันเป็นอย่างนี้ บังเอิญว่า บ้านหลังนี้อยู่ริมแม่น้ำ ดังนั้น ตัวบ้านจริงๆเป็นบ้านชั้นเดียว แต่มีการต่อเติม บนส่วนของตลิ่ง นานวันเข้าเลยกลายเป็นส่วนถาวร ของบ้านไป ชั้นล่างนี้แหละ เป็นส่วนครัว และส่วนเก็บอุปกรณ์ และผลิตผลทางการเกษตร

         ส่วนพื้นที่ใช้สอยนี้ ในส่วนตัวของฉันคิดว่า บ้านที่อยู่ริมน้ำน่าจะมีแทบทุกบ้าน เหตุเพราะว่าหลังผ่านฤดูน้ำหลากแล้ว ช่วงน้ำลด น้ำจะพาเอาดินที่อุดม มาทับถมที่ตลิ่ง แล้วตลิ่งแถวบ้านฉันก็เป็นตลิ่งที่ค่อนข้างกว้าง หลังช่วงออกพรรษาแล้ว ลมหนาวเริ่มโชยมาก็จะเห็นชาวบ้านลงไปทำสวน ปลูกผัก กันอยู่ครึกโครม ซึ่งบ้านของฉันก็รวมอยู่ในนั้นด้วย.....
    สมัยที่ผมยังเด็ก...    บ้านไม้เก่าแก่หลังหนึ่ง ตั้งอยู่ริมน้ำสายใหญ่ เป็นบ้านไม้ที่ทีอายุร่วม 80 ปี ด้านหน้าบ้าน ติดถนนเลียบริมนำ้ หันไปทางทิศ ตะวันตก ส่วนหลังบ้าน ติดแม่นำสายใหญ่ และแน่นอน ฉันเองก็เติบโตขึ้นมา ในบ้านหลังนี้ ครอบครัวของเราอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มานาน ตั้งแต่อาก๋ง อาม่า รวมถึงพ่อ แม่ และพี่น้องของฉันด้วย มันเป็นบ้านไม้ ชั้นเดียวเป็นเรื่องปกติที่ บ้านไม้อายุขนาดนี้ คงไม่มีการจัดแบ่ง พื้นที่ใช้สอยได้ดีนัก ตัวบ้านแบ่งเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ โดยเป็นโถง ขนาดพอสมควร ซึ่งปัจจุบัน คงจะเรียกกันตามภาษาฝรั่งว่า ลิฟวิ่งรูม ก็คงจะำงบึได้ แต่เอาเถอะไม่ว่าจะเรียกอย่างไร มันก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันมาตลอด 10 กว่าปี ของการเติบโตในบ้านหลังนั้น แต่น่าจะเป็นเรื่องตลกที่บ้านโบราณจะมี ลิฟวิ่งรูม ชิ้นที่2 เนื่องจากว่าพื้นที่ๆถัดจากโถง ลงไป1 ก้าว มันเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ชิ้นที่ 2 พวกเราได้ใช้พื้นที่นี้ เป็นส่วนทานอาหาร สำหรับอาม่าใช้เป็น ห้องสมุด และสำหรับแม่ มันกลายเป็น พื้นที่เย็บปักถักร้อย และทำงานอื่นๆ พูดถึงพื้นที่ทานอาหารแล้ว น่าจะเป็นส่วนรับประทานอาหารที่สวยที่สุดในโลก...    เพราะทุกมื้อเช้าของพวกเราจะต้องทานอาหารเช้าไปพร้อมกับ แสงอ่อนๆของอาทิตย์ยามเช้า แต่ อาจจะเป็นเพราะว่าฉันยังเด็ก เกินกว่าจะมองเห็นความสวยงามของธรรมชาติ ฉันเองกลับคิดว่า มันแย่จังที่มีแสงแดดมาแยงตายามเช้าและมันยังร้อนมากอีกด้วย... สุดพื้นที่อเนกประสงค์ เป็นหน้าต่างกระจก กรอบบานเป็นไม้ วางเรียงกันไปตลอดแนวของตัวบ้าน และส่วนริมหน้าต่างนี่เอง ถ้ามองออกไปที่หน้าต่างจะมองเห็น แม่น้ำสายใหญ่ ถัดจากหน้าต่างออกไป จะเป็นส่วนของระเบียง ซึ่งกลายเป็น สวนดอกไม้ลอยฟ้า ของอาม่าฉันเอง ภายในตัวบ้าน ด้านซ้ายมือของทางเดินจะเป็นส่วนที่ฉัน หวาดกลัวที่สุด ฉันเรียกมันว่า ห้องมืด จริงๆแล้วมันก็เป็นแค่ ห้อง อย่าเรียกว่า ห้องดีกว่า น่าจะเป็นพื้นที่เก็บของ เพียงแต่ว่าทุกครั้งที่ ฉันได้เข้าไปนั้น น้อยครั้งเหลือเกินที่จะมีการเปิดไฟส่องสว่าง ทำให้ในความรู้สึกของเด็กน้อยอย่างฉัน รู้สึกหวาดกลัวทุกครั้งที่เฉียดใกล้ ถ้าเดินผ่านส่วนห้องมืดไป ติดกันนั้นจะเป็นห้องนอนของอาม่า ซึ่งยาวไปจนสุดตัวบ้านติดริมน้ำแต่ แต่ห้องอาม่าจะถูกแบ่งช่วงสุดท้ายเป็นห้องเก็บของเล็กๆจะมีตู้กับข้าว อาหารแห้ง และเป็นพื้นที่ทางสัญจร ไปที่ที่สำหรับตากผ้า ริมหน้าต่าง และยังมีส่วนของห้องนอนแม่บ้านซึ่งอยู่ติดกับห้องมืด ทางด้านขวา ของตัวบ้านส่วนแรกจะเป็น ห้องเก็บของ(อีกแล้ว) ซึ่งแต่เดิม ห้องส่วนนี้ เคยเป็นห้องนอนของ บีเอ 2 ห้อง แล้วต่อมาก็เลยกลายมาเป็นห้องเก็บของ เข้ามาก็เป็นห้องนอน ของพ่อ และแม่ ของฉัน ถัดมาก็เป็นส่วนของห้องนอนเด็กๆ และสุดท้ายก็เป็น ส่วนของห้องน้ำ คงจะงงแล้วสิว่าห้องครัวอยู่ตรงไหน มันอยู่ชั้นล่างครับ ไม่ผิดแน่ครับ ชั้นล่างแน่นอน ! อ้าว ไหนบอกว่าเป็นบ้านชั้นเดียวไงหละ!!!     คือมันเป็นอย่างนี้ บังเอิญว่า บ้านหลังนี้อยู่ริมแม่น้ำ ดังนั้น ตัวบ้านจริงๆเป็นบ้านชั้นเดียว แต่มีการต่อเติม บนส่วนของตลิ่ง นานวันเข้าเลยกลายเป็นส่วนถาวร ของบ้านไป ชั้นล่างนี้แหละ เป็นส่วนครัว และส่วนเก็บอุปกรณ์ และผลิตผลทางการเกษตร      ส่วนพื้นที่ใช้สอยนี้ ในส่วนตัวของฉันคิดว่า บ้านที่อยู่ริมน้ำน่าจะมีแทบทุกบ้าน เหตุเพราะว่าหลังผ่านฤดูน้ำหลากแล้ว ช่วงน้ำลด น้ำจะพาเอาดินที่อุดม มาทับถมที่ตลิ่ง แล้วตลิ่งแถวบ้านฉันก็เป็นตลิ่งที่ค่อนข้างกว้าง หลังช่วงออกพรรษาแล้ว ลมหนาวเริ่มโชยมาก็จะเห็นชาวบ้านลงไปทำสวน ปลูกผัก กันอยู่ครึกโครม ซึ่งบ้านของฉันก็รวมอยู่ในนั้นด้วย.....
    0 Comments 0 Shares 283 Views 0 Reviews
  • สวนดอกไม้สวยมาฝากครับ
    สวนดอกไม้สวยมาฝากครับ
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 148 Views 93 0 Reviews
  • #อานิสงส์ของการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ

    อานิสงส์ใหญ่ การบูชาพระบรมสารีริกธาตุ แม้เราไม่เกิดทันเห็นพระพุทธเจ้า แต่การที่เราได้บูชา ประหนึ่งเราได้บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้นเมื่อยังมีพระชนม์ชีพ

    การที่เราได้เคารพเลื่อมใสการที่เราได้เกี่ยวเนื่องกับพุทธองค์ การบูชายิ่งกว่าอามิสบูชาได้บุญไม่เท่าปฏิบัติบูชา แต่เหมือนเป็นการปิดประตูอบาย ความไม่ดี ทุกทิศทุกแห่ง ทำให้เป็นการเปิดประตูสวรรค์ เวียนอยู่ในสุคติภูมิได้อย่างเดียวเหมือนกัน

    พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากอินเดีย
    และแม้จะเป็นสิ่งที่ยังเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธองค์ หรือพระบรมสารีริกธาตุ หรือแม้พระอรหันตธาตุทั้งหลายที่ได้มีโอกาสเก็บรักษาไว้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นประทีป โคมไฟ ดอกไม้ของหอม หรือพวงมาลัยทั้งหลาย ทำการระลึกถึงบูชาให้เราได้มีบุญกับท่าน ให้เราได้สร้างบุญบารมีในร่มเงาพระพุทธศาสนาไปทุกชาติทุกภพ

    น้อมกราบ สาธุธรรม
    🙏🙏🙏
    #อานิสงส์ของการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ อานิสงส์ใหญ่ การบูชาพระบรมสารีริกธาตุ แม้เราไม่เกิดทันเห็นพระพุทธเจ้า แต่การที่เราได้บูชา ประหนึ่งเราได้บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้นเมื่อยังมีพระชนม์ชีพ การที่เราได้เคารพเลื่อมใสการที่เราได้เกี่ยวเนื่องกับพุทธองค์ การบูชายิ่งกว่าอามิสบูชาได้บุญไม่เท่าปฏิบัติบูชา แต่เหมือนเป็นการปิดประตูอบาย ความไม่ดี ทุกทิศทุกแห่ง ทำให้เป็นการเปิดประตูสวรรค์ เวียนอยู่ในสุคติภูมิได้อย่างเดียวเหมือนกัน พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากอินเดีย และแม้จะเป็นสิ่งที่ยังเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธองค์ หรือพระบรมสารีริกธาตุ หรือแม้พระอรหันตธาตุทั้งหลายที่ได้มีโอกาสเก็บรักษาไว้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นประทีป โคมไฟ ดอกไม้ของหอม หรือพวงมาลัยทั้งหลาย ทำการระลึกถึงบูชาให้เราได้มีบุญกับท่าน ให้เราได้สร้างบุญบารมีในร่มเงาพระพุทธศาสนาไปทุกชาติทุกภพ น้อมกราบ สาธุธรรม 🙏🙏🙏
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 231 Views 45 0 Reviews
  • #อานิสงส์ของการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ

    อานิสงส์ใหญ่ การบูชาพระบรมสารีริกธาตุ แม้เราไม่เกิดทันเห็นพระพุทธเจ้า แต่การที่เราได้บูชา ประหนึ่งเราได้บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้นเมื่อยังมีพระชนม์ชีพ

    การที่เราได้เคารพเลื่อมใสการที่เราได้เกี่ยวเนื่องกับพุทธองค์ การบูชายิ่งกว่าอามิสบูชาได้บุญไม่เท่าปฏิบัติบูชา แต่เหมือนเป็นการปิดประตูอบาย ความไม่ดี ทุกทิศทุกแห่ง ทำให้เป็นการเปิดประตูสวรรค์ เวียนอยู่ในสุคติภูมิได้อย่างเดียวเหมือนกัน

    พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากอินเดีย
    และแม้จะเป็นสิ่งที่ยังเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธองค์ หรือพระบรมสารีริกธาตุ หรือแม้พระอรหันตธาตุทั้งหลายที่ได้มีโอกาสเก็บรักษาไว้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นประทีป โคมไฟ ดอกไม้ของหอม หรือพวงมาลัยทั้งหลาย ทำการระลึกถึงบูชาให้เราได้มีบุญกับท่าน ให้เราได้สร้างบุญบารมีในร่มเงาพระพุทธศาสนาไปทุกชาติทุกภพ

    น้อมกราบ สาธุ
    🙏🙏🏻🙏
    #อานิสงส์ของการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ อานิสงส์ใหญ่ การบูชาพระบรมสารีริกธาตุ แม้เราไม่เกิดทันเห็นพระพุทธเจ้า แต่การที่เราได้บูชา ประหนึ่งเราได้บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้นเมื่อยังมีพระชนม์ชีพ การที่เราได้เคารพเลื่อมใสการที่เราได้เกี่ยวเนื่องกับพุทธองค์ การบูชายิ่งกว่าอามิสบูชาได้บุญไม่เท่าปฏิบัติบูชา แต่เหมือนเป็นการปิดประตูอบาย ความไม่ดี ทุกทิศทุกแห่ง ทำให้เป็นการเปิดประตูสวรรค์ เวียนอยู่ในสุคติภูมิได้อย่างเดียวเหมือนกัน พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากอินเดีย และแม้จะเป็นสิ่งที่ยังเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธองค์ หรือพระบรมสารีริกธาตุ หรือแม้พระอรหันตธาตุทั้งหลายที่ได้มีโอกาสเก็บรักษาไว้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นประทีป โคมไฟ ดอกไม้ของหอม หรือพวงมาลัยทั้งหลาย ทำการระลึกถึงบูชาให้เราได้มีบุญกับท่าน ให้เราได้สร้างบุญบารมีในร่มเงาพระพุทธศาสนาไปทุกชาติทุกภพ น้อมกราบ สาธุ 🙏🙏🏻🙏
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 228 Views 80 0 Reviews
  • "แพทองธาร" รับ "ลุงป้อม" ส่งดอกไม้แสดงความยินดีจริง โยนปัญหาภายใน พปชร.จัดการกันเอง ยอมรับเข้มคุณสมบัติรัฐมนตรี หากพรรคร่วมส่งคนสุ่มเสี่ยงก็ต้องเช็คแล้วเช็คอีก ขณะสัดส่วน "เพื่อไทย" ยังไม่เคาะ ขอคุยวันนี้
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000076601

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "แพทองธาร" รับ "ลุงป้อม" ส่งดอกไม้แสดงความยินดีจริง โยนปัญหาภายใน พปชร.จัดการกันเอง ยอมรับเข้มคุณสมบัติรัฐมนตรี หากพรรคร่วมส่งคนสุ่มเสี่ยงก็ต้องเช็คแล้วเช็คอีก ขณะสัดส่วน "เพื่อไทย" ยังไม่เคาะ ขอคุยวันนี้ อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000076601 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 1735 Views 0 Reviews
  • วันนี้ 20 สิงหา เป็นวันคล้ายวันเกิดของพระสำคัญยิ่งรูปหนึ่งของเมืองไทย หลายท่านอาจยังไม่รู้ lit nit เองก็ไม่รู้ เพียงแต่เมื่อคืนบังเอิญหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านก่อนนอน จึงทำให้ได้รู้และนำมาเล่าสู่กันฟัง
    ....
    หนังสือเล่มนี้เป็นประวัติของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระบ้าน ๆ ที่ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและศาสนาอย่างมหาศาล สถาบันพระมหากษัตริย์ให้ความเคารพนับถืออย่างยิ่ง เมื่อท่านจากไปในหลวง ร.9 ทรงไปรดน้ำศพ (ตามประเพณีแล้วเมื่อพระราชารดน้ำศพผู้ใดก็จะไม่มีการให้ใครคนอื่นมารดน้ำศพต่อ แต่วันนั้นในหลวงทรงงดประเพณีนี้เพื่อให้ลูกศิษย์และประชาชนได้มีโอกาสทำความเคารพและขอขมาหลวงปู่) พระพันปีหลวงที่ขณะนั้นเป็นราชินีและเชื้อพระวงศ์ได้ทรงจัดดอกไม้หน้าศพด้วยพระองค์เอง หรือแม้แต่หนังสือในรูปซึ่งพิมพ์แจกในในงานพระทานเพลิงศพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ ก็โปรดเกล้าพระราชทานพระราชนิพนธ์โคลงด้นวิวิธมาลี "อาจาราศิรวาท" แด่หนังสือเล่มนี้ด้วย
    ....
    หนังสือเล่มนี้ทำให้ lit nit ได้คำตอบที่เด็ก ๆ เขียนคำถามมาว่า
    "ทำไมเรียกพระพุทธเจ้าว่าพระพุทธเจ้า ?"
    #เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความดีงามของพระอาจารย์
    วันนี้ 20 สิงหา เป็นวันคล้ายวันเกิดของพระสำคัญยิ่งรูปหนึ่งของเมืองไทย หลายท่านอาจยังไม่รู้ lit nit เองก็ไม่รู้ เพียงแต่เมื่อคืนบังเอิญหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านก่อนนอน จึงทำให้ได้รู้และนำมาเล่าสู่กันฟัง .... หนังสือเล่มนี้เป็นประวัติของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระบ้าน ๆ ที่ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและศาสนาอย่างมหาศาล สถาบันพระมหากษัตริย์ให้ความเคารพนับถืออย่างยิ่ง เมื่อท่านจากไปในหลวง ร.9 ทรงไปรดน้ำศพ (ตามประเพณีแล้วเมื่อพระราชารดน้ำศพผู้ใดก็จะไม่มีการให้ใครคนอื่นมารดน้ำศพต่อ แต่วันนั้นในหลวงทรงงดประเพณีนี้เพื่อให้ลูกศิษย์และประชาชนได้มีโอกาสทำความเคารพและขอขมาหลวงปู่) พระพันปีหลวงที่ขณะนั้นเป็นราชินีและเชื้อพระวงศ์ได้ทรงจัดดอกไม้หน้าศพด้วยพระองค์เอง หรือแม้แต่หนังสือในรูปซึ่งพิมพ์แจกในในงานพระทานเพลิงศพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ ก็โปรดเกล้าพระราชทานพระราชนิพนธ์โคลงด้นวิวิธมาลี "อาจาราศิรวาท" แด่หนังสือเล่มนี้ด้วย .... หนังสือเล่มนี้ทำให้ lit nit ได้คำตอบที่เด็ก ๆ เขียนคำถามมาว่า "ทำไมเรียกพระพุทธเจ้าว่าพระพุทธเจ้า ?" #เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความดีงามของพระอาจารย์
    0 Comments 0 Shares 331 Views 0 Reviews
  • สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยอมรินทร์ ผ้าไหมพื้นเรียบ
    พระภูษาผ้ายกไหม ลายลายประจำยามตาข่ายถมเกสร ยกเชิงทอง

    ลายประจำยาม เป็นแม่ลายสำคัญอีกแม่ลายหนึ่ง ของการเขียนภาพไทย โดยรูปทรงทั่วไปจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตรงกลางเป็นรูปวงกลม มีสี่กลีบคล้ายกับดอกไม้ และกลีบทั้งสี่ก็มาจากรูปทรงของ แม่ลายกระจังตาอ้อยนั่นเอง ซึ่งแม่ลายประจำยามนี้ สามารถแตกแขนง ออกไปได้อีกมากมาย โดยการใส่ไส้ซ้อนเข้าไป จนดูหรูหรามากขึ้น และรูปทรงยังสามารถ เปลี่ยนจากสี่เหลี่ยมจัตุรัส เป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนได้อีกด้วย ซึ่งทำให้เกิดความงาม ที่แตกต่างไปอีกแบบหนึ่ง
    ----
    HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEARS THAI NATIONAL ATTIRE IN THAI AMARIN
    THAI DESIGN MOTIF METAL-THREAD BROCADE
    .
    This pattern is another important pattern in Thai painting. The general shape is a square with a circle in the center and four petals similar to a flower. The four petals come from the shape of the Krajan Ta Oi pattern. The pattern can be expanded in many ways by adding a layered filling to make it look more luxurious. The shape can also be changed from a square to a diamond shape.
    _______________________
    #thairoyalfamily
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินี
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยอมรินทร์ ผ้าไหมพื้นเรียบ พระภูษาผ้ายกไหม ลายลายประจำยามตาข่ายถมเกสร ยกเชิงทอง ลายประจำยาม เป็นแม่ลายสำคัญอีกแม่ลายหนึ่ง ของการเขียนภาพไทย โดยรูปทรงทั่วไปจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตรงกลางเป็นรูปวงกลม มีสี่กลีบคล้ายกับดอกไม้ และกลีบทั้งสี่ก็มาจากรูปทรงของ แม่ลายกระจังตาอ้อยนั่นเอง ซึ่งแม่ลายประจำยามนี้ สามารถแตกแขนง ออกไปได้อีกมากมาย โดยการใส่ไส้ซ้อนเข้าไป จนดูหรูหรามากขึ้น และรูปทรงยังสามารถ เปลี่ยนจากสี่เหลี่ยมจัตุรัส เป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนได้อีกด้วย ซึ่งทำให้เกิดความงาม ที่แตกต่างไปอีกแบบหนึ่ง ---- HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEARS THAI NATIONAL ATTIRE IN THAI AMARIN THAI DESIGN MOTIF METAL-THREAD BROCADE . This pattern is another important pattern in Thai painting. The general shape is a square with a circle in the center and four petals similar to a flower. The four petals come from the shape of the Krajan Ta Oi pattern. The pattern can be expanded in many ways by adding a layered filling to make it look more luxurious. The shape can also be changed from a square to a diamond shape. _______________________ #thairoyalfamily #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินี Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 551 Views 0 Reviews
  • ♣ เจี๊ยบ ก้าวไกล ปลุกระดมมวลชน ชุมนุมต่อต้านคำสั่งยุบพรรคในหลายจังหวัด ยังไงก็วางดอกไม้จันทน์แล้วเผาเสร็จค่อยประท้วง
    #7ดอกจิก
    #เจี๊ยบอมรัตน์
    ♣ เจี๊ยบ ก้าวไกล ปลุกระดมมวลชน ชุมนุมต่อต้านคำสั่งยุบพรรคในหลายจังหวัด ยังไงก็วางดอกไม้จันทน์แล้วเผาเสร็จค่อยประท้วง #7ดอกจิก #เจี๊ยบอมรัตน์
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
  • เมื่อตอนใกล้รุ่งเป็นฝันที่น่ารักมาก
    ฝันว่ามีเหตุให้ได้กุมารทองมาจากชายแก่คนหนึ่ง ได้มาถึง 3 คนเลยทีเดียว เป็นเด็กหญิงหนึ่งคนน่ารักมากจำชื่อไม่ได้แต่จำได้ว่าชื่อแปลว่าดอกไม้ เด็กชายอีกคนตัวอ้วนช่างพูดช่างถาม ชื่ออะไรก็จำไม่ได้รู้แต่ว่าเป็นชื่อไทย ๆ ส่วนคนสุดท้ายเด็กชายคนนี้ไม่ได้พูดอะไรดูเรียบร้อยหน้าตาฉายแววฉลาดปราดเปรื่อง ชื่ออะไรก็จำไม่ได้อีกเช่นกัน เด็กทั้งสามเข้ามารายล้อม lit nit คนหนึ่งนั่งตัก คนหนึ่งกอดคอ อีกคนนั่งข้าง ๆ ดูวุ่นวายดีมาก
    ....
    นั่นแหละฝันประมาณนี้ ส่วนภาพที่ใช้ประกอบไม่เกี่ยวอะไรกัน เหตุที่ใช้ภาพนี้เพราะ lit nit ยังไม่เคยมีภาพที่ถ่ายกับกุมารทอง ถ้าวันไหนเจอตัวเป็น ๆ จะขอถ่ายรูปเอามาให้ดูก็แล้วกัน
    #ตอนนี้ขอไปนั่งจิบแฟนึกทบทวนชื่อกับเลขที่ไอ้หนูอ้วนมันให้มาก่อนนะ^^
    เมื่อตอนใกล้รุ่งเป็นฝันที่น่ารักมาก ฝันว่ามีเหตุให้ได้กุมารทองมาจากชายแก่คนหนึ่ง ได้มาถึง 3 คนเลยทีเดียว เป็นเด็กหญิงหนึ่งคนน่ารักมากจำชื่อไม่ได้แต่จำได้ว่าชื่อแปลว่าดอกไม้ เด็กชายอีกคนตัวอ้วนช่างพูดช่างถาม ชื่ออะไรก็จำไม่ได้รู้แต่ว่าเป็นชื่อไทย ๆ ส่วนคนสุดท้ายเด็กชายคนนี้ไม่ได้พูดอะไรดูเรียบร้อยหน้าตาฉายแววฉลาดปราดเปรื่อง ชื่ออะไรก็จำไม่ได้อีกเช่นกัน เด็กทั้งสามเข้ามารายล้อม lit nit คนหนึ่งนั่งตัก คนหนึ่งกอดคอ อีกคนนั่งข้าง ๆ ดูวุ่นวายดีมาก .... นั่นแหละฝันประมาณนี้ ส่วนภาพที่ใช้ประกอบไม่เกี่ยวอะไรกัน เหตุที่ใช้ภาพนี้เพราะ lit nit ยังไม่เคยมีภาพที่ถ่ายกับกุมารทอง ถ้าวันไหนเจอตัวเป็น ๆ จะขอถ่ายรูปเอามาให้ดูก็แล้วกัน #ตอนนี้ขอไปนั่งจิบแฟนึกทบทวนชื่อกับเลขที่ไอ้หนูอ้วนมันให้มาก่อนนะ^^
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 250 Views 0 Reviews
  • 🍂 มุมมอง..ที่งดงาม

    เรื่องจริงที่เกิดขึ้นที่อเมริกา
    วันหนึ่งคุณแม่ผิวขาวพาลูกชายอายุ 6 ขวบออกจากบ้าน เธอได้เรียกรถแท๊กซี่มาคันหนึ่ง ปรากฏว่า..คนขับเป็นชายผิวดำ

    เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยพบกับคนดำมาก่อน เมื่อได้พบเจอกับชายผิวดำก็รู้สึกกลัว พร้อมกันนั้นก็ได้ถามคุณแม่ออกไปว่า
    "ชายคนนี้เป็นคนชั่วร้ายใช่ไหมครับ
    ทำไมถึงได้ตัวดำขนาดนี้?"

    ชายผิวดำเมื่อได้ฟังก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ในขณะเดียวกันนั้น คุณแม่ผิวขาวก็ได้บอกกับลูกชายว่า..
    "คุณลุงไม่ใช่คนชั่วร้ายจ้า คุณลุงเป็นคนดี"
    เด็กน้อยเงียบไปสักครู่แล้วถามต่อไปว่า
    "ถ้าไม่ได้เป็นคนชั่วร้าย เขาต้องทำอะไรที่เลวร้ายแน่ๆ ไม่งั้นพระเจ้าไม่ลงโทษเขาอย่างนี้หรอก! "
    เมื่อชายคนดำได้ยินน้ำตาก็คลอเบ้า

    เขาอยากรู้ว่าแม่ของเด็กน้อย จะตอบลูกของนางว่าอย่างไร?

    คุณแม่ตอบลูกชายไปว่า...
    "คุณลุงเป็นคนดีและไม่ได้ทำอะไรเลวร้ายเลย ดอกไม้ที่อยู่ในสวนหลังบ้านของเรา
    มีทั้งสีแดง สีขาว สีเหลือง...... ใช่ไหมจ๊ะ? "
    "ใช่ครับ ๆ"
    "แล้วเมล็ดพันธุ์ของดอกไม้ต่างก็เป็นสีดำใช่ไหมจ๊ะ?"
    เด็กน้อยคิดสักครู่หนึ่งก็ตอบออกไปว่า..
    "ใช่ครับ มันเป็นสีดำ"

    "เมล็ดพันธุ์สีดำ ออกดอกสีสันงดงาม ทำให้โลกนี้มีสีสันหลากหลายใช่ไหมจ๊ะ?"

    "ใช่ครับ" เด็กน้อยรู้สึกเข้าใจในทันที
    "ถ้าอย่างนั้นคุณลุงคนขับรถก็ไม่ใช่คนเลวร้ายนะสิครับ ขอบคุณคุณลุงมากครับ เพราะคุณลุงทำให้โลกนี้มีสีสัน ผมจะอธิษฐานให้คุณลุงครับ" เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสาทำการอธิษฐานให้คุณลุงในทันที

    คนขับแท๊กซี่ร้องไห้ออกมาไม่หยุด พลางคิดในใจ
    "คนดำถูกดูถูกจากคนทั้งโลก แต่มาวันนี้ คำสอนของคุณแม่ผิวขาว ที่สอนลูกของเธอ ทำให้ลูกของเธอไม่กลัวฉันอีกต่อไป
    อีกทั้งอธิษฐานเพื่อฉันอีก ต้องขอบคุณเธอจริงๆ"

    เมื่อถึงจุดหมาย ชายผิวดำไม่ยอมรับเงินค่ารถ เขาบอกกับเธอว่า...
    "ตอนเป็นเด็กผมก็เคยถามคำถามนี้กับแม่
    แม่บอกกับผมว่า พวกเราคือคนดำ ถูกสาปมาให้เป็นคนชนชั้นต่ำ หากแม่ตอบผมเหมือนที่คุณตอบลูกของคุณ ชีวิตผมคงไม่เป็นเหมือนวันนี้"

    ……………………………………………………

    แบ่งปันความรัก มอบรักยิ่งใหญ่
    ให้กับทุกคน ทุกสิ่ง เท่าที่ทำได้
    โลกจะสดใสขึ้นเยอะเลย

    .........................................................

    เรื่องราวมากมายในชีวิต
    ....จากเพจ คนเฒ่าเล่าเรื่องโดยธิดา
    🍂 มุมมอง..ที่งดงาม เรื่องจริงที่เกิดขึ้นที่อเมริกา วันหนึ่งคุณแม่ผิวขาวพาลูกชายอายุ 6 ขวบออกจากบ้าน เธอได้เรียกรถแท๊กซี่มาคันหนึ่ง ปรากฏว่า..คนขับเป็นชายผิวดำ เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยพบกับคนดำมาก่อน เมื่อได้พบเจอกับชายผิวดำก็รู้สึกกลัว พร้อมกันนั้นก็ได้ถามคุณแม่ออกไปว่า "ชายคนนี้เป็นคนชั่วร้ายใช่ไหมครับ ทำไมถึงได้ตัวดำขนาดนี้?" ชายผิวดำเมื่อได้ฟังก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ในขณะเดียวกันนั้น คุณแม่ผิวขาวก็ได้บอกกับลูกชายว่า.. "คุณลุงไม่ใช่คนชั่วร้ายจ้า คุณลุงเป็นคนดี" เด็กน้อยเงียบไปสักครู่แล้วถามต่อไปว่า "ถ้าไม่ได้เป็นคนชั่วร้าย เขาต้องทำอะไรที่เลวร้ายแน่ๆ ไม่งั้นพระเจ้าไม่ลงโทษเขาอย่างนี้หรอก! " เมื่อชายคนดำได้ยินน้ำตาก็คลอเบ้า เขาอยากรู้ว่าแม่ของเด็กน้อย จะตอบลูกของนางว่าอย่างไร? คุณแม่ตอบลูกชายไปว่า... "คุณลุงเป็นคนดีและไม่ได้ทำอะไรเลวร้ายเลย ดอกไม้ที่อยู่ในสวนหลังบ้านของเรา มีทั้งสีแดง สีขาว สีเหลือง...... ใช่ไหมจ๊ะ? " "ใช่ครับ ๆ" "แล้วเมล็ดพันธุ์ของดอกไม้ต่างก็เป็นสีดำใช่ไหมจ๊ะ?" เด็กน้อยคิดสักครู่หนึ่งก็ตอบออกไปว่า.. "ใช่ครับ มันเป็นสีดำ" "เมล็ดพันธุ์สีดำ ออกดอกสีสันงดงาม ทำให้โลกนี้มีสีสันหลากหลายใช่ไหมจ๊ะ?" "ใช่ครับ" เด็กน้อยรู้สึกเข้าใจในทันที "ถ้าอย่างนั้นคุณลุงคนขับรถก็ไม่ใช่คนเลวร้ายนะสิครับ ขอบคุณคุณลุงมากครับ เพราะคุณลุงทำให้โลกนี้มีสีสัน ผมจะอธิษฐานให้คุณลุงครับ" เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสาทำการอธิษฐานให้คุณลุงในทันที คนขับแท๊กซี่ร้องไห้ออกมาไม่หยุด พลางคิดในใจ "คนดำถูกดูถูกจากคนทั้งโลก แต่มาวันนี้ คำสอนของคุณแม่ผิวขาว ที่สอนลูกของเธอ ทำให้ลูกของเธอไม่กลัวฉันอีกต่อไป อีกทั้งอธิษฐานเพื่อฉันอีก ต้องขอบคุณเธอจริงๆ" เมื่อถึงจุดหมาย ชายผิวดำไม่ยอมรับเงินค่ารถ เขาบอกกับเธอว่า... "ตอนเป็นเด็กผมก็เคยถามคำถามนี้กับแม่ แม่บอกกับผมว่า พวกเราคือคนดำ ถูกสาปมาให้เป็นคนชนชั้นต่ำ หากแม่ตอบผมเหมือนที่คุณตอบลูกของคุณ ชีวิตผมคงไม่เป็นเหมือนวันนี้" …………………………………………………… แบ่งปันความรัก มอบรักยิ่งใหญ่ ให้กับทุกคน ทุกสิ่ง เท่าที่ทำได้ โลกจะสดใสขึ้นเยอะเลย ......................................................... เรื่องราวมากมายในชีวิต ....จากเพจ คนเฒ่าเล่าเรื่องโดยธิดา
    0 Comments 0 Shares 437 Views 0 Reviews
More Results