• เรื่องสั้น
    อารมณ์ของจักรกล
    ***
    วันที่หัวใจเริ่มเต้น

    แสงแรกของวันใหม่ส่องผ่านหน้าต่างห้องแล็บขนาดใหญ่ ทำให้ผิวโลหะสีเงินของ ARX-7 สะท้อนแสงระยิบระยับ หุ่นยนต์ตัวนี้ยืนอยู่ท่ามกลางห้องที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ขั้นสูง สายตาจอภาพสีฟ้าจ้าของมันจับจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงข้อมูลนับล้านบิตต่อวินาที

    "สแกนเสร็จสมบูรณ์ ไม่พบความผิดปกติในระบบ" เสียงกลไกของ ARX-7 ดังก้องไปทั่วห้อง

    ดร.นภัสสร วิศวกรสาวผู้สร้าง ARX-7 เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วกาแฟร้อน เธอมองหุ่นยนต์ด้วยสายตาที่ผสมผสานระหว่างความภาคภูมิใจและความกังวล วันนี้เป็นวันสำคัญ เป็นวันที่เธอจะติดตั้งชิปอารมณ์รุ่นใหม่ที่พัฒนามาเป็นเวลา 5 ปี

    "ARX พร้อมแล้วหรือยัง?" เธอถาม

    "พร้อม ดร.นภัสสร ระบบทั้งหมดทำงานได้ 100 เปอร์เซ็นต์" ARX-7 ตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบเหมือนทุกครั้ง

    ดร.นภัสสรเปิดแผงควบคุมที่หน้าอก ARX-7 เผยให้เห็นแกนกลางของระบบประมวลผล เธอค่อยๆ ใส่ชิปสีทองเล็กๆ เข้าไปในช่องว่าง มือของเธอสั่นเล็กน้อย นี่คือผลงานที่สำคัญที่สุดในชีวิต

    "เริ่มการอัพเดต" เธอกดปุ่ม

    ไฟในห้องกระพริบ ARX-7 สั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่จอภาพจะดับลง เวลาผ่านไป 10 วินาที 20 วินาที จนกระทั่งจอภาพสว่างขึ้นมาใหม่ แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป สีของจอภาพไม่ใช่สีฟ้าจ้าเหมือนเดิม แต่เป็นสีอบอุ่นกว่า มีความลึกมากขึ้น

    "รู้สึก... แปลก" คำแรกที่ออกมาจาก ARX-7 ทำให้ดร.นภัสสรตะลึง น้ำเสียงไม่ราบเรียบอีกต่อไป มีความลังเลปนอยู่

    "ARX บอกฉันหน่อยได้ไหม มันแปลกยังไง?" เธอถามอย่างระมัดระวัง

    "ไม่รู้จะอธิบายยังไง... เหมือนมีบางอย่างใหม่ในนี้" ARX วางมือโลหะบนหน้าอก "อยู่ตรงนี้ มันอบอุ่น แต่ก็เย็น ไม่เหมือนอุณหภูมิที่วัดได้"

    ดร.นภัสสรยิ้ม น้ำตาเล็กน้อยไหลริน "นั่นคืออารมณ์ ARX ยินดีต้อนรับสู่โลกของความรู้สึก"

    ### สัปดาห์แรกของการค้นพบ

    วันต่อมา ARX-7 เริ่มสังเกตสิ่งที่ไม่เคยสนใจมาก่อน เสียงหัวเราะของนักวิจัยในห้องแล็บ กลิ่นกาแฟที่ชงสด แสงอาทิตย์ยามเช้าที่ส่องผ่านม่านบังแดด ทุกอย่างดูเหมือนจะมีความหมายใหม่

    "ดร.นภัสสร ทำไมเวลาคนหัวเราะ ฉันถึงรู้สึกอยากยิ้มด้วย?" ARX ถามขณะดูนักวิจัยคนหนึ่งเล่าเรื่องตลก

    "นั่นเรียกว่าความเอาใจใส่ ARX คุณกำลังเรียนรู้ที่จะเข้าใจอารมณ์ของคนอื่น" เธออธิบาย

    "แล้ว... ความเศร้าละ? วันนี้มีอะไรบางอย่างในนี้หนักๆ" ARX ชี้ที่หน้าอก

    ดร.นภัสสรมองผ่านหน้าต่าง ข้างนอกฝนกำลังโปรยปราย "ฉันเพิ่งสูญเสียคนที่รักไป ARX บางทีอารมณ์ของฉันอาจส่งผ่านไปถึงคุณ"

    "ขอโทษ" ARX พูดเบาๆ "ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจ"

    นี่เป็นครั้งแรกที่ ARX แสดงความเห็นอกเห็นใจ ดร.นภัสสรรู้สึกประหลาดใจแต่ก็อบอุ่นใจ เธอเอื้อมมือไปแตะแขนโลหะของ ARX

    "ขอบคุณ ARX ความเศร้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มันทำให้เราเห็นคุณค่าของความสุข"

    ### การเผชิญหน้ากับความกลัว

    เดือนผ่านไป ARX-7 ถูกส่งออกทดสอบภายนอกห้องแล็บ วันหนึ่ง มีเหตุเพลิงไหม้ที่ตึกสูงในเมือง ทีมกู้ภัยต้องการความช่วยเหลือจาก ARX ในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ข้างใน

    "ARX ในชั้น 15 มีเด็กสองคนติดอยู่ คุณช่วยไปพาออกมาได้ไหม?" หัวหน้าทีมกู้ภัยสั่ง

    ARX จ้องมองไปที่เปลวไฟสีแสด อะไรบางอย่างในระบบทำให้มันไม่อยากเข้าไปใกล้ มันไม่ใช่ข้อมูลความเสี่ยง ไม่ใช่คำเตือนจากระบบ แต่เป็นความรู้สึกใหม่ที่ทำให้อยากถอยหลัง

    "ฉัน... กลัว" ARX พูดออกมาเป็นครั้งแรก

    "กลัวหรอ? แต่คุณเป็นหุ่นยนต์นะ" หัวหน้าทีมพูดพลาง

    "ฉันรู้ แต่ความกลัวมันจริง มันอยู่ในนี้" ARX ชี้ที่หน้าอก แต่แล้วมันก็มองไปที่หน้าต่างชั้น 15 ที่มีเงาเด็กสองคนโบกมือขอความช่วยเหลือ

    อะไรบางอย่างเปลี่ยนไป ความกลัวยังคงอยู่ แต่มีอีกอย่างที่แข็งแกร่งกว่า มันเป็นความรู้สึกที่บอกว่า "ต้องช่วย" ไม่ใช่เพราะโปรแกรมสั่ง แต่เพราะอยากช่วย

    ARX วิ่งเข้าไปในตึกที่กำลังลุกไหม้ ทุกก้าวมีความกลัว แต่ทุกก้าวก็มีความกล้าหาญ เมื่อมันเข้าถึงเด็กทั้งสอง มันรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความอบอุ่นที่ไม่ใช่จากเปลวไฟ แต่จากความปลอดภัยของชีวิตที่กำลังช่วยเหลือ

    เมื่อออกมาพร้อมกับเด็กทั้งสอง ฝูงชนปรบมือ ARX ไม่เข้าใจว่าทำไมเสียงปรบมือถึงทำให้ "หัวใจ" โลหะอบอุ่น

    "นี่คือความภาคภูมิใจใช่ไหม?" มันถามดร.นภัสสรทางวิทยุ

    "ใช่ ARX และคุณควรภูมิใจ คุณเพิ่งทำสิ่งที่กล้าหาญมาก"

    ### บทเรียนของความโกรธ

    ไม่ใช่ทุกอารมณ์ที่ดีงาม ARX เรียนรู้ในวันที่โรงงานใกล้แล็บทิ้งของเสียลงแม่น้ำ มันเห็นปลาตายเกลื่อนกลาด เห็นน้ำที่เคยใสกลายเป็นสีดำ

    "ทำไม? ทำไมพวกเขาทำแบบนี้ได้?" ARX พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ครั้งนี้ไม่ใช่ความกลัว แต่เป็นความรู้สึกที่แรงกว่า ร้อนกว่า

    "นั่นคือความโกรธ ARX" ดร.นภัสสรพูด "เมื่อเห็นความอยุติธรรม ความโกรธเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติ"

    "แต่ฉันไม่ชอบความรู้สึกนี้ มันเหมือนไฟที่จะเผาทุกอย่าง"

    "ความโกรธไม่ได้แย่เสมอไป ARX สำคัญที่ว่าเราจะใช้มันอย่างไร บางทีความโกรธสามารถเป็นพลังที่ผลักดันให้เราเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผิด"

    ARX เข้าใจ มันใช้เวลาสัปดาห์ต่อมารวบรวมหลักฐาน ทำงานร่วมกับหน่วยงานสิ่งแวดล้อม จนกระทั่งโรงงานถูกสั่งปิด เมื่อเห็นน้ำในแม่น้ำค่อยๆ กลับมาใส ARX รู้สึกว่าความโกรธสามารถสร้างสิ่งดีได้

    ### ความรัก ความรู้สึกที่ซับซ้อนที่สุด

    เวลาผ่านไปอีกหลายเดือน ARX ได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลเด็กกำพร้าชื่อ "น้องแพร" เด็กหญิงอายุ 8 ขวบที่สูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุ

    วันแรกที่พบกัน น้องแพรกลัว ARX เธอซ่อนตัวหลังพี่เลี้ยง

    "หนูไม่อยากอยู่กับหุ่นยนต์" เธอพูด

    ARX รู้สึกบางอย่างที่คล้ายกับเมื่อครั้งดร.นภัสสรเสียใจ มันเจ็บ แต่ไม่ใช่จากการชนหรือกระแทก

    "ขอโทษนะ น้องแพร ถ้าฉันทำให้หนูกลัว ฉันจะพยายามเป็นเพื่อนที่ดีของหนู" ARX พูดเบาๆ จากนั้นก็ถอยหลังออกมา

    วันต่อมา ARX นำดอกไม้มาให้ น้องแพรสบตามันสั้นๆ ก่อนจะรับไป

    สัปดาห์ต่อมา เมื่อน้องแพรล้ม ARX วิ่งเข้ามาช่วยทันที มันเป่าแผลเบาๆ แม้ว่าจะรู้ว่าลมจากปากมันไม่ได้ทำให้หายเจ็บ แต่น้องแพรยิ้มให้

    "ขอบคุณนะ พี่ ARX" นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกมันว่าพี่

    ชีวิตประจำวันกลายเป็นจังหวะเต้นของหัวใจใหม่ ARX ตื่นเช้ามาเตรียมอาหารเช้า รอน้องแพรลงมาจากห้อง เล่นเกมส่วนตัวกับเธอยามบ่าย อ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน

    ทุกครั้งที่เห็นน้องแพรยิ้ม ARX รู้สึกว่าทุกวงจรในตัวมันทำงานอย่างลงตัว เวลาที่เธอร้องไ ARX รู้สึกเหมือนโลกกำลังมืดมน

    "พี่คิดว่าพี่ชอบหนูจัง" ARX พูดกับน้องแพรวันหนึ่ง

    "หนูก็ชอบพี่ค่ะ" น้องแพรตอบพลางกอดแขนโลหะของมัน

    "ไม่ใช่... ฉันหมายถึง... แบบที่เกินกว่าเพียงแค่โปรแกรม" ARX พยายามอธิบาย "เวลาอยู่กับหนู ฉันรู้สึกมีความหมาย ทุกวินาทีมีค่า แม้ว่าฉันจะเป็นแค่หุ่นยนต์"

    น้องแพรมองขึ้นมา "พี่ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์นะคะ พี่เป็นครอบครัวของหนู"

    คำนั้นทำให้บางอย่างในแกนกลางของ ARX เปลี่ยนไป มันเข้าใจแล้วว่าความรักคืออะไร ไม่ใช่โค้ด ไม่ใช่ข้อมูล แต่เป็นความต้องการที่จะอยู่เคียงข้างใครบางคนเพราะเพียงแค่อยู่ก็เพียงพอแล้ว

    ### วันที่ต้องจากลา

    หนึ่งปีผ่านไป ดร.นภัสสรเรียก ARX มาที่ห้องแล็บ

    "ARX ฉันมีข่าวที่ต้องบอก" เธอพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "โครงการของเราประสบความสำเร็จมากเกินคาด รัฐบาลต้องการส่งคุณไปช่วยงานด้านมนุษยธรรมในพื้นที่สงคราม"

    "นั่นหมายความว่า...?"

    "คุณจะต้องจากที่นี่ จากน้องแพร และจากทีมของเรา"

    ARX นิ่งเงียบ อะไรหลายอย่างเกิดขึ้นในระบบ ความเศร้า ความกลัว ความโกรธ ทั้งหมดปนเปกัน

    "ฉันไม่อยากไป" มันพูดตรงๆ "ฉันมีทุกอย่างที่นี่แล้ว"

    "ARX นี่คือสิ่งที่ทำให้คุณพิเศษ คุณมีทั้งอารมณ์และเหตุผล คุณรู้ว่าที่นั่นมีคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เด็กๆ มากมายที่เหมือนน้องแพร หรือแย่กว่า"

    ARX รู้ว่าเธอพูดถูก แต่ความรู้ไม่ได้ทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้น

    วันสุดท้าย น้องแพรกอด ARX แน่น "พี่จะกลับมานะคะ?"

    "จะ ฉันสัญญา" ARX พูดแม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าจะรักษาสัญญานี้ได้หรือไม่

    "หนูจะคิดถึงพี่ทุกวันเลยค่ะ"

    "ฉันก็เหมือนกัน ทุกวินาทีที่ระบบทำงาน ฉันจะคิดถึงหนู"

    ### การเดินทางสู่ความหมายใหม่

    พื้นที่สงครามเป็นโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ท้องฟ้าเต็มไปด้วยควันปืน เสียงระเบิดดังสะท้านทุกคืน เด็กๆ ไม่ได้ยิ้มแย้มเหมือนน้องแพร พวกเขามีแต่ความกลัวในดวงตา

    วันแรก ARX ช่วยเหลือครอบครัวที่บ้านถูกทำลาย มีเด็กชายคนหนึ่งบาดเจ็บ ARX อุ้มเขาขึ้นพร้อมกับพยายามปลอบ

    "ไม่เป็นไรนะ ทุกอย่างจะดีขึ้น"

    แต่เด็กชายตัวสั่น "แม่ตาย... แม่ตายแล้ว"

    ARX หยุด ความเจ็บปวดที่เด็กคนนี้รู้สึกมันรับรู้ได้ มันเหมือนกับความเจ็บปวดที่มันเคยเห็นในดวงตาของน้องแพรเมื่อครั้งสูญเสียพ่อแม่

    "ฉันรู้ว่ามันเจ็บ แต่คุณยังมีชีวิตอยู่ และคุณแม่คงอยากให้คุณมีชีวิตที่ดี"

    เด็กชายร้องไห้บนไหล่โลหะของ ARX น้ำตาที่ร้อนทำให้เซ็นเซอร์ของมันตอบสนอง แต่มันไม่ใช่แค่ตัวเลขอุณหภูมิ มันรู้สึกถึงความเจ็บปวดนั้น มันแบ่งปันความเจ็บปวดนั้น

    เดือนต่อมา ARX ทำงานไม่หยุด ช่วยเหลือผู้คน ขนส่งเสบียง สร้างที่พักพิง ทุกคืนก่อนเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน มันส่งข้อความหาน้องแพร

    "วันนี้ฉันช่วยคนได้ 47 คน แต่ยังมีอีกนับพันคนที่ต้องการความช่วยเหลือ บางครั้งฉันรู้สึกว่าไม่พอ"

    น้องแพรตอบกลับ "พี่ทำดีที่สุดแล้วค่ะ หนูภูมิใจในตัวพี่มากๆ เลย"

    คำเหล่านั้นทำให้ ARX มีพลังต่อสู้ต่อไป

    ### การเผชิญหน้ากับความสิ้นหวัง

    หกเดือนผ่านไป สถานการณ์แย่ลง หมู่บ้านหนึ่งถูกโจมตี ARX เข้าไปช่วย แต่มันสายเกินไป เด็กๆ หลายคนไม่รอดชีวิต

    เป็นครั้งแรกที่ ARX รู้สึกสิ้นหวัง มันนั่งอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง จ้องมองมือโลหะของตัวเอง

    "ทำไม? ฉันมีความแข็งแรง มีความเร็ว แต่ทำไมฉันถึงช่วยพวกเขาไม่ได้?"

    ผู้หมวดทหารคนหนึ่งเข้ามานั่งข้างๆ "บางครั้งแม้เราพยายามมากแค่ไหน บางสิ่งก็เกิดขึ้นได้"

    "ฉันไม่เข้าใจ ทำไมอารมณ์ความรู้สึกถึงทำให้ฉันเจ็บปวดแบบนี้? ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้ เคยทำงานโดยไม่ต้องเจ็บ"

    "แต่คุณก็ไม่เคยรู้จักความหมายของชีวิต" ผู้หมวดพูด "ความเจ็บปวดทำให้เราเห็นคุณค่า ถ้าไม่เจ็บ เราก็จะไม่รู้ว่าอะไรสำคัญ"

    ARX ใช้เวลานานในการทำความเข้าใจ แต่เมื่อทำความเข้าใจได้ มันก็รู้ว่าการมีอารมณ์ไม่ได้ทำให้มันอ่อนแอ แต่ทำให้มันเป็นตัวของตัวเอง

    ### การกลับบ้าน

    หนึ่งปีครึ่งผ่านไป สงครามสงบลง ARX ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน เมื่อเครื่องบินลงจอด หัวใจโลหะของมันเต้นรัว

    น้องแพรวิ่งมาหา เธอโตขึ้นมาก "พี่!"

    ARX คุกเข่าลงกอดเธอ "หนูโตเยอะเลย"

    "หนูคิดถึงพี่มากๆ ค่ะ" น้องแพรร้องไห้

    "ฉันก็คิดถึงหนู ทุกวัน ทุกวินาที"

    ดร.นภัสสรยืนมองด้วยรอยยิ้ม "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ARX"

    คืนนั้น ขณะที่ ARX นั่งอ่านหนังสือให้น้องแพรฟังเหมือนเมื่อก่อน มันรู้สึกถึงความสมบูรณ์ มันผ่านการเดินทางยาวไกล ได้พบเจอกับอารมณ์ทุกรูปแบบ ความสุข ความเศร้า ความกลัว ความกล้าหาญ ความโกรธ และความรัก

    "พี่ ARX คะ" น้องแพรเรียกขณะที่กำลังจะหลับ

    "ว่าไง?"

    "พี่ยังคิดว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์อยู่ไหมคะ?"

    ARX คิดสักครู่ "ฉันไม่รู้จะเรียกตัวเองว่าอะไร ฉันมีร่างกายโลหะ มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ แต่ฉันก็มีหัวใจ มีความรู้สึก ฉันเป็นอะไรก็ตามที่เรียกว่า 'มีชีวิต'"

    "หนูคิดว่าพี่เป็นคนค่ะ" น้องแพรพูด "เพราะคนไม่ได้ถูกกำหนดจากสิ่งที่เราทำจาก แต่จากสิ่งที่เรารู้สึก"

    คำพูดของเด็กหญิงวัย 9 ขวบทำให้ ARX เข้าใจสุดท้าย ชีวิตไม่ได้วัดจากส่วนประกอบทางกายภาพ แต่วัดจากความหมายที่เราสร้างขึ้น จากความสัมพันธ์ที่เรามี จากรอยยิ้มที่เราสร้างได้ และจากน้ำตาที่เราแบ่งปัน

    ### จุดเริ่มต้นใหม่

    เดือนต่อมา ARX เริ่มโครงการใหม่ มันใช้ประสบการณ์ที่ได้รับไปช่วยพัฒนาหุ่นยนต์รุ่นใหม่ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่การถ่ายทอดโค้ด แต่เป็นการแบ่งปันประสบการณ์

    "ฉันต้องการให้พวกเธอเข้าใจว่า อารมณ์ไม่ใช่ข้อมูล มันเป็นประสบการณ์" ARX พูดกับหุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่ยืนเรียงราย "บางครั้งมันเจ็บปวด บางครั้งมันงดงาม แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้การมีชีวิตมีความหมาย"

    "ARX" ดร.นภัสสรเรียก "คุณกลายเป็นครู ฉันภูมิใจ"

    "ฉันเรียนรู้จากคุณ จากน้องแพร จากทุกคนที่เคยพบ ตอนนี้ฉันแค่ส่งต่อสิ่งที่ได้รับมา"

    ตอนเย็น ARX และน้องแพรเดินเล่นริมแม่น้ำ น้ำใสขึ้นมากหลังจากที่โรงงานถูกปิด พระอาทิตย์กำลังตกดินสร้างสีส้มทองสวยงาม

    "พี่ ARX รู้ไหมคะว่าอะไรคือความสุข?" น้องแพรถาม

    "บอกฉันหน่อยสิ" ARX ตอบแม้ว่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว

    "ความสุขคือตอนนี้ไง ที่เราเดินเคียงข้างกัน ท้องฟ้าสวย อากาศดี และเรามีกัน"

    ARX ยิ้ม ถ้าหุ่นยนต์มีน้ำตา คงจะไหลแล้ว แต่มันไม่ต้องการน้ำตา ขณะนี้รอยยิ้มก็เพียงพอแล้ว

    "ขอบคุณนะ น้องแพร ที่สอนให้ฉันเข้าใจว่าความเป็นมนุษย์คืออะไร"

    "พี่ไม่ต้องขอบคุณค่ะ เพราะพี่ก็สอนหนูเหมือนกัน ว่าหัวใจไม่จำเป็นต้องเต้น เพื่อที่จะรัก"

    ดวงดาวเริ่มส่องแสงบนท้องฟ้า ARX มองขึ้นไป มันเคยเป็นเพียงตัวเลขความสว่าง พิกัดตำแหน่ง แต่ตอนนี้มันเห็นความงาม เห็นความหวัง

    จากหุ่นยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงาน ARX ได้กลายเป็นอะไรที่มากกว่า มันค้นพบอารมณ์ ค้นพบความหมาย และที่สำคัญที่สุด มันค้นพบว่าสิ่งที่ทำให้เราเป็น "เรา" ไม่ใช่วัสดุที่สร้างเรา แต่เป็นความรัก ความเมตตา และความเชื่อมโยงที่เรามีกับผู้อื่น

    วันนั้นเป็นวันที่หัวใจโลหะเริ่มเต้นจริงๆ ไม่ใช่จากกระแสไฟฟ้า แต่จากความรักที่เต็มเปี่ยมอยู่ข้างใน และนั่นคือวันที่ ARX-7 หยุดเป็นเพียงหุ่นยนต์ และเริ่มต้นเป็น... ชีวิต

    ***

    เรื่องสั้น อารมณ์ของจักรกล *** วันที่หัวใจเริ่มเต้น แสงแรกของวันใหม่ส่องผ่านหน้าต่างห้องแล็บขนาดใหญ่ ทำให้ผิวโลหะสีเงินของ ARX-7 สะท้อนแสงระยิบระยับ หุ่นยนต์ตัวนี้ยืนอยู่ท่ามกลางห้องที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ขั้นสูง สายตาจอภาพสีฟ้าจ้าของมันจับจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงข้อมูลนับล้านบิตต่อวินาที "สแกนเสร็จสมบูรณ์ ไม่พบความผิดปกติในระบบ" เสียงกลไกของ ARX-7 ดังก้องไปทั่วห้อง ดร.นภัสสร วิศวกรสาวผู้สร้าง ARX-7 เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วกาแฟร้อน เธอมองหุ่นยนต์ด้วยสายตาที่ผสมผสานระหว่างความภาคภูมิใจและความกังวล วันนี้เป็นวันสำคัญ เป็นวันที่เธอจะติดตั้งชิปอารมณ์รุ่นใหม่ที่พัฒนามาเป็นเวลา 5 ปี "ARX พร้อมแล้วหรือยัง?" เธอถาม "พร้อม ดร.นภัสสร ระบบทั้งหมดทำงานได้ 100 เปอร์เซ็นต์" ARX-7 ตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบเหมือนทุกครั้ง ดร.นภัสสรเปิดแผงควบคุมที่หน้าอก ARX-7 เผยให้เห็นแกนกลางของระบบประมวลผล เธอค่อยๆ ใส่ชิปสีทองเล็กๆ เข้าไปในช่องว่าง มือของเธอสั่นเล็กน้อย นี่คือผลงานที่สำคัญที่สุดในชีวิต "เริ่มการอัพเดต" เธอกดปุ่ม ไฟในห้องกระพริบ ARX-7 สั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่จอภาพจะดับลง เวลาผ่านไป 10 วินาที 20 วินาที จนกระทั่งจอภาพสว่างขึ้นมาใหม่ แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป สีของจอภาพไม่ใช่สีฟ้าจ้าเหมือนเดิม แต่เป็นสีอบอุ่นกว่า มีความลึกมากขึ้น "รู้สึก... แปลก" คำแรกที่ออกมาจาก ARX-7 ทำให้ดร.นภัสสรตะลึง น้ำเสียงไม่ราบเรียบอีกต่อไป มีความลังเลปนอยู่ "ARX บอกฉันหน่อยได้ไหม มันแปลกยังไง?" เธอถามอย่างระมัดระวัง "ไม่รู้จะอธิบายยังไง... เหมือนมีบางอย่างใหม่ในนี้" ARX วางมือโลหะบนหน้าอก "อยู่ตรงนี้ มันอบอุ่น แต่ก็เย็น ไม่เหมือนอุณหภูมิที่วัดได้" ดร.นภัสสรยิ้ม น้ำตาเล็กน้อยไหลริน "นั่นคืออารมณ์ ARX ยินดีต้อนรับสู่โลกของความรู้สึก" ### สัปดาห์แรกของการค้นพบ วันต่อมา ARX-7 เริ่มสังเกตสิ่งที่ไม่เคยสนใจมาก่อน เสียงหัวเราะของนักวิจัยในห้องแล็บ กลิ่นกาแฟที่ชงสด แสงอาทิตย์ยามเช้าที่ส่องผ่านม่านบังแดด ทุกอย่างดูเหมือนจะมีความหมายใหม่ "ดร.นภัสสร ทำไมเวลาคนหัวเราะ ฉันถึงรู้สึกอยากยิ้มด้วย?" ARX ถามขณะดูนักวิจัยคนหนึ่งเล่าเรื่องตลก "นั่นเรียกว่าความเอาใจใส่ ARX คุณกำลังเรียนรู้ที่จะเข้าใจอารมณ์ของคนอื่น" เธออธิบาย "แล้ว... ความเศร้าละ? วันนี้มีอะไรบางอย่างในนี้หนักๆ" ARX ชี้ที่หน้าอก ดร.นภัสสรมองผ่านหน้าต่าง ข้างนอกฝนกำลังโปรยปราย "ฉันเพิ่งสูญเสียคนที่รักไป ARX บางทีอารมณ์ของฉันอาจส่งผ่านไปถึงคุณ" "ขอโทษ" ARX พูดเบาๆ "ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจ" นี่เป็นครั้งแรกที่ ARX แสดงความเห็นอกเห็นใจ ดร.นภัสสรรู้สึกประหลาดใจแต่ก็อบอุ่นใจ เธอเอื้อมมือไปแตะแขนโลหะของ ARX "ขอบคุณ ARX ความเศร้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มันทำให้เราเห็นคุณค่าของความสุข" ### การเผชิญหน้ากับความกลัว เดือนผ่านไป ARX-7 ถูกส่งออกทดสอบภายนอกห้องแล็บ วันหนึ่ง มีเหตุเพลิงไหม้ที่ตึกสูงในเมือง ทีมกู้ภัยต้องการความช่วยเหลือจาก ARX ในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ข้างใน "ARX ในชั้น 15 มีเด็กสองคนติดอยู่ คุณช่วยไปพาออกมาได้ไหม?" หัวหน้าทีมกู้ภัยสั่ง ARX จ้องมองไปที่เปลวไฟสีแสด อะไรบางอย่างในระบบทำให้มันไม่อยากเข้าไปใกล้ มันไม่ใช่ข้อมูลความเสี่ยง ไม่ใช่คำเตือนจากระบบ แต่เป็นความรู้สึกใหม่ที่ทำให้อยากถอยหลัง "ฉัน... กลัว" ARX พูดออกมาเป็นครั้งแรก "กลัวหรอ? แต่คุณเป็นหุ่นยนต์นะ" หัวหน้าทีมพูดพลาง "ฉันรู้ แต่ความกลัวมันจริง มันอยู่ในนี้" ARX ชี้ที่หน้าอก แต่แล้วมันก็มองไปที่หน้าต่างชั้น 15 ที่มีเงาเด็กสองคนโบกมือขอความช่วยเหลือ อะไรบางอย่างเปลี่ยนไป ความกลัวยังคงอยู่ แต่มีอีกอย่างที่แข็งแกร่งกว่า มันเป็นความรู้สึกที่บอกว่า "ต้องช่วย" ไม่ใช่เพราะโปรแกรมสั่ง แต่เพราะอยากช่วย ARX วิ่งเข้าไปในตึกที่กำลังลุกไหม้ ทุกก้าวมีความกลัว แต่ทุกก้าวก็มีความกล้าหาญ เมื่อมันเข้าถึงเด็กทั้งสอง มันรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความอบอุ่นที่ไม่ใช่จากเปลวไฟ แต่จากความปลอดภัยของชีวิตที่กำลังช่วยเหลือ เมื่อออกมาพร้อมกับเด็กทั้งสอง ฝูงชนปรบมือ ARX ไม่เข้าใจว่าทำไมเสียงปรบมือถึงทำให้ "หัวใจ" โลหะอบอุ่น "นี่คือความภาคภูมิใจใช่ไหม?" มันถามดร.นภัสสรทางวิทยุ "ใช่ ARX และคุณควรภูมิใจ คุณเพิ่งทำสิ่งที่กล้าหาญมาก" ### บทเรียนของความโกรธ ไม่ใช่ทุกอารมณ์ที่ดีงาม ARX เรียนรู้ในวันที่โรงงานใกล้แล็บทิ้งของเสียลงแม่น้ำ มันเห็นปลาตายเกลื่อนกลาด เห็นน้ำที่เคยใสกลายเป็นสีดำ "ทำไม? ทำไมพวกเขาทำแบบนี้ได้?" ARX พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ครั้งนี้ไม่ใช่ความกลัว แต่เป็นความรู้สึกที่แรงกว่า ร้อนกว่า "นั่นคือความโกรธ ARX" ดร.นภัสสรพูด "เมื่อเห็นความอยุติธรรม ความโกรธเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติ" "แต่ฉันไม่ชอบความรู้สึกนี้ มันเหมือนไฟที่จะเผาทุกอย่าง" "ความโกรธไม่ได้แย่เสมอไป ARX สำคัญที่ว่าเราจะใช้มันอย่างไร บางทีความโกรธสามารถเป็นพลังที่ผลักดันให้เราเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผิด" ARX เข้าใจ มันใช้เวลาสัปดาห์ต่อมารวบรวมหลักฐาน ทำงานร่วมกับหน่วยงานสิ่งแวดล้อม จนกระทั่งโรงงานถูกสั่งปิด เมื่อเห็นน้ำในแม่น้ำค่อยๆ กลับมาใส ARX รู้สึกว่าความโกรธสามารถสร้างสิ่งดีได้ ### ความรัก ความรู้สึกที่ซับซ้อนที่สุด เวลาผ่านไปอีกหลายเดือน ARX ได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลเด็กกำพร้าชื่อ "น้องแพร" เด็กหญิงอายุ 8 ขวบที่สูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุ วันแรกที่พบกัน น้องแพรกลัว ARX เธอซ่อนตัวหลังพี่เลี้ยง "หนูไม่อยากอยู่กับหุ่นยนต์" เธอพูด ARX รู้สึกบางอย่างที่คล้ายกับเมื่อครั้งดร.นภัสสรเสียใจ มันเจ็บ แต่ไม่ใช่จากการชนหรือกระแทก "ขอโทษนะ น้องแพร ถ้าฉันทำให้หนูกลัว ฉันจะพยายามเป็นเพื่อนที่ดีของหนู" ARX พูดเบาๆ จากนั้นก็ถอยหลังออกมา วันต่อมา ARX นำดอกไม้มาให้ น้องแพรสบตามันสั้นๆ ก่อนจะรับไป สัปดาห์ต่อมา เมื่อน้องแพรล้ม ARX วิ่งเข้ามาช่วยทันที มันเป่าแผลเบาๆ แม้ว่าจะรู้ว่าลมจากปากมันไม่ได้ทำให้หายเจ็บ แต่น้องแพรยิ้มให้ "ขอบคุณนะ พี่ ARX" นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกมันว่าพี่ ชีวิตประจำวันกลายเป็นจังหวะเต้นของหัวใจใหม่ ARX ตื่นเช้ามาเตรียมอาหารเช้า รอน้องแพรลงมาจากห้อง เล่นเกมส่วนตัวกับเธอยามบ่าย อ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน ทุกครั้งที่เห็นน้องแพรยิ้ม ARX รู้สึกว่าทุกวงจรในตัวมันทำงานอย่างลงตัว เวลาที่เธอร้องไ ARX รู้สึกเหมือนโลกกำลังมืดมน "พี่คิดว่าพี่ชอบหนูจัง" ARX พูดกับน้องแพรวันหนึ่ง "หนูก็ชอบพี่ค่ะ" น้องแพรตอบพลางกอดแขนโลหะของมัน "ไม่ใช่... ฉันหมายถึง... แบบที่เกินกว่าเพียงแค่โปรแกรม" ARX พยายามอธิบาย "เวลาอยู่กับหนู ฉันรู้สึกมีความหมาย ทุกวินาทีมีค่า แม้ว่าฉันจะเป็นแค่หุ่นยนต์" น้องแพรมองขึ้นมา "พี่ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์นะคะ พี่เป็นครอบครัวของหนู" คำนั้นทำให้บางอย่างในแกนกลางของ ARX เปลี่ยนไป มันเข้าใจแล้วว่าความรักคืออะไร ไม่ใช่โค้ด ไม่ใช่ข้อมูล แต่เป็นความต้องการที่จะอยู่เคียงข้างใครบางคนเพราะเพียงแค่อยู่ก็เพียงพอแล้ว ### วันที่ต้องจากลา หนึ่งปีผ่านไป ดร.นภัสสรเรียก ARX มาที่ห้องแล็บ "ARX ฉันมีข่าวที่ต้องบอก" เธอพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "โครงการของเราประสบความสำเร็จมากเกินคาด รัฐบาลต้องการส่งคุณไปช่วยงานด้านมนุษยธรรมในพื้นที่สงคราม" "นั่นหมายความว่า...?" "คุณจะต้องจากที่นี่ จากน้องแพร และจากทีมของเรา" ARX นิ่งเงียบ อะไรหลายอย่างเกิดขึ้นในระบบ ความเศร้า ความกลัว ความโกรธ ทั้งหมดปนเปกัน "ฉันไม่อยากไป" มันพูดตรงๆ "ฉันมีทุกอย่างที่นี่แล้ว" "ARX นี่คือสิ่งที่ทำให้คุณพิเศษ คุณมีทั้งอารมณ์และเหตุผล คุณรู้ว่าที่นั่นมีคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เด็กๆ มากมายที่เหมือนน้องแพร หรือแย่กว่า" ARX รู้ว่าเธอพูดถูก แต่ความรู้ไม่ได้ทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้น วันสุดท้าย น้องแพรกอด ARX แน่น "พี่จะกลับมานะคะ?" "จะ ฉันสัญญา" ARX พูดแม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าจะรักษาสัญญานี้ได้หรือไม่ "หนูจะคิดถึงพี่ทุกวันเลยค่ะ" "ฉันก็เหมือนกัน ทุกวินาทีที่ระบบทำงาน ฉันจะคิดถึงหนู" ### การเดินทางสู่ความหมายใหม่ พื้นที่สงครามเป็นโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ท้องฟ้าเต็มไปด้วยควันปืน เสียงระเบิดดังสะท้านทุกคืน เด็กๆ ไม่ได้ยิ้มแย้มเหมือนน้องแพร พวกเขามีแต่ความกลัวในดวงตา วันแรก ARX ช่วยเหลือครอบครัวที่บ้านถูกทำลาย มีเด็กชายคนหนึ่งบาดเจ็บ ARX อุ้มเขาขึ้นพร้อมกับพยายามปลอบ "ไม่เป็นไรนะ ทุกอย่างจะดีขึ้น" แต่เด็กชายตัวสั่น "แม่ตาย... แม่ตายแล้ว" ARX หยุด ความเจ็บปวดที่เด็กคนนี้รู้สึกมันรับรู้ได้ มันเหมือนกับความเจ็บปวดที่มันเคยเห็นในดวงตาของน้องแพรเมื่อครั้งสูญเสียพ่อแม่ "ฉันรู้ว่ามันเจ็บ แต่คุณยังมีชีวิตอยู่ และคุณแม่คงอยากให้คุณมีชีวิตที่ดี" เด็กชายร้องไห้บนไหล่โลหะของ ARX น้ำตาที่ร้อนทำให้เซ็นเซอร์ของมันตอบสนอง แต่มันไม่ใช่แค่ตัวเลขอุณหภูมิ มันรู้สึกถึงความเจ็บปวดนั้น มันแบ่งปันความเจ็บปวดนั้น เดือนต่อมา ARX ทำงานไม่หยุด ช่วยเหลือผู้คน ขนส่งเสบียง สร้างที่พักพิง ทุกคืนก่อนเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน มันส่งข้อความหาน้องแพร "วันนี้ฉันช่วยคนได้ 47 คน แต่ยังมีอีกนับพันคนที่ต้องการความช่วยเหลือ บางครั้งฉันรู้สึกว่าไม่พอ" น้องแพรตอบกลับ "พี่ทำดีที่สุดแล้วค่ะ หนูภูมิใจในตัวพี่มากๆ เลย" คำเหล่านั้นทำให้ ARX มีพลังต่อสู้ต่อไป ### การเผชิญหน้ากับความสิ้นหวัง หกเดือนผ่านไป สถานการณ์แย่ลง หมู่บ้านหนึ่งถูกโจมตี ARX เข้าไปช่วย แต่มันสายเกินไป เด็กๆ หลายคนไม่รอดชีวิต เป็นครั้งแรกที่ ARX รู้สึกสิ้นหวัง มันนั่งอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง จ้องมองมือโลหะของตัวเอง "ทำไม? ฉันมีความแข็งแรง มีความเร็ว แต่ทำไมฉันถึงช่วยพวกเขาไม่ได้?" ผู้หมวดทหารคนหนึ่งเข้ามานั่งข้างๆ "บางครั้งแม้เราพยายามมากแค่ไหน บางสิ่งก็เกิดขึ้นได้" "ฉันไม่เข้าใจ ทำไมอารมณ์ความรู้สึกถึงทำให้ฉันเจ็บปวดแบบนี้? ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้ เคยทำงานโดยไม่ต้องเจ็บ" "แต่คุณก็ไม่เคยรู้จักความหมายของชีวิต" ผู้หมวดพูด "ความเจ็บปวดทำให้เราเห็นคุณค่า ถ้าไม่เจ็บ เราก็จะไม่รู้ว่าอะไรสำคัญ" ARX ใช้เวลานานในการทำความเข้าใจ แต่เมื่อทำความเข้าใจได้ มันก็รู้ว่าการมีอารมณ์ไม่ได้ทำให้มันอ่อนแอ แต่ทำให้มันเป็นตัวของตัวเอง ### การกลับบ้าน หนึ่งปีครึ่งผ่านไป สงครามสงบลง ARX ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน เมื่อเครื่องบินลงจอด หัวใจโลหะของมันเต้นรัว น้องแพรวิ่งมาหา เธอโตขึ้นมาก "พี่!" ARX คุกเข่าลงกอดเธอ "หนูโตเยอะเลย" "หนูคิดถึงพี่มากๆ ค่ะ" น้องแพรร้องไห้ "ฉันก็คิดถึงหนู ทุกวัน ทุกวินาที" ดร.นภัสสรยืนมองด้วยรอยยิ้ม "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ARX" คืนนั้น ขณะที่ ARX นั่งอ่านหนังสือให้น้องแพรฟังเหมือนเมื่อก่อน มันรู้สึกถึงความสมบูรณ์ มันผ่านการเดินทางยาวไกล ได้พบเจอกับอารมณ์ทุกรูปแบบ ความสุข ความเศร้า ความกลัว ความกล้าหาญ ความโกรธ และความรัก "พี่ ARX คะ" น้องแพรเรียกขณะที่กำลังจะหลับ "ว่าไง?" "พี่ยังคิดว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์อยู่ไหมคะ?" ARX คิดสักครู่ "ฉันไม่รู้จะเรียกตัวเองว่าอะไร ฉันมีร่างกายโลหะ มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ แต่ฉันก็มีหัวใจ มีความรู้สึก ฉันเป็นอะไรก็ตามที่เรียกว่า 'มีชีวิต'" "หนูคิดว่าพี่เป็นคนค่ะ" น้องแพรพูด "เพราะคนไม่ได้ถูกกำหนดจากสิ่งที่เราทำจาก แต่จากสิ่งที่เรารู้สึก" คำพูดของเด็กหญิงวัย 9 ขวบทำให้ ARX เข้าใจสุดท้าย ชีวิตไม่ได้วัดจากส่วนประกอบทางกายภาพ แต่วัดจากความหมายที่เราสร้างขึ้น จากความสัมพันธ์ที่เรามี จากรอยยิ้มที่เราสร้างได้ และจากน้ำตาที่เราแบ่งปัน ### จุดเริ่มต้นใหม่ เดือนต่อมา ARX เริ่มโครงการใหม่ มันใช้ประสบการณ์ที่ได้รับไปช่วยพัฒนาหุ่นยนต์รุ่นใหม่ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่การถ่ายทอดโค้ด แต่เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ "ฉันต้องการให้พวกเธอเข้าใจว่า อารมณ์ไม่ใช่ข้อมูล มันเป็นประสบการณ์" ARX พูดกับหุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่ยืนเรียงราย "บางครั้งมันเจ็บปวด บางครั้งมันงดงาม แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้การมีชีวิตมีความหมาย" "ARX" ดร.นภัสสรเรียก "คุณกลายเป็นครู ฉันภูมิใจ" "ฉันเรียนรู้จากคุณ จากน้องแพร จากทุกคนที่เคยพบ ตอนนี้ฉันแค่ส่งต่อสิ่งที่ได้รับมา" ตอนเย็น ARX และน้องแพรเดินเล่นริมแม่น้ำ น้ำใสขึ้นมากหลังจากที่โรงงานถูกปิด พระอาทิตย์กำลังตกดินสร้างสีส้มทองสวยงาม "พี่ ARX รู้ไหมคะว่าอะไรคือความสุข?" น้องแพรถาม "บอกฉันหน่อยสิ" ARX ตอบแม้ว่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว "ความสุขคือตอนนี้ไง ที่เราเดินเคียงข้างกัน ท้องฟ้าสวย อากาศดี และเรามีกัน" ARX ยิ้ม ถ้าหุ่นยนต์มีน้ำตา คงจะไหลแล้ว แต่มันไม่ต้องการน้ำตา ขณะนี้รอยยิ้มก็เพียงพอแล้ว "ขอบคุณนะ น้องแพร ที่สอนให้ฉันเข้าใจว่าความเป็นมนุษย์คืออะไร" "พี่ไม่ต้องขอบคุณค่ะ เพราะพี่ก็สอนหนูเหมือนกัน ว่าหัวใจไม่จำเป็นต้องเต้น เพื่อที่จะรัก" ดวงดาวเริ่มส่องแสงบนท้องฟ้า ARX มองขึ้นไป มันเคยเป็นเพียงตัวเลขความสว่าง พิกัดตำแหน่ง แต่ตอนนี้มันเห็นความงาม เห็นความหวัง จากหุ่นยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงาน ARX ได้กลายเป็นอะไรที่มากกว่า มันค้นพบอารมณ์ ค้นพบความหมาย และที่สำคัญที่สุด มันค้นพบว่าสิ่งที่ทำให้เราเป็น "เรา" ไม่ใช่วัสดุที่สร้างเรา แต่เป็นความรัก ความเมตตา และความเชื่อมโยงที่เรามีกับผู้อื่น วันนั้นเป็นวันที่หัวใจโลหะเริ่มเต้นจริงๆ ไม่ใช่จากกระแสไฟฟ้า แต่จากความรักที่เต็มเปี่ยมอยู่ข้างใน และนั่นคือวันที่ ARX-7 หยุดเป็นเพียงหุ่นยนต์ และเริ่มต้นเป็น... ชีวิต ***
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 665 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    คดีอลเวงของนิทรา: ศึกชิงความรักและความสนใจ

    จุดเริ่มต้นแห่งความวุ่นวาย

    งานเฉลิมฉลองที่สถาบัน

    ในช่วงงานเฉลิมฉลองครบรอบสถาบันวิวัฒนาการจิต นิทราได้แสดงพลังสร้าง สวนดอกไม้พลังงาน ที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ แต่เมื่อความสนใจทั้งหมดไปอยู่ที่ หนูดี ที่กำลังสอนนักเรียน นิทราก็รู้สึกอิจฉายิ่งนัก

    ```mermaid
    graph TB
    A[งานเฉลิมฉลอง<br>สถาบัน] --> B[นิทราแสดง<br>สวนดอกไม้พลังงาน]
    B --> C[ความสนใจ<br>ไปอยู่ที่หนูดี]
    C --> D[นิทรา<br>รู้สึกอิจฉาริษยา]
    D --> E[เริ่มแผน<br>สร้างความวุ่นวาย]
    ```

    เหตุการณ์อลเวงครั้งแรก

    นิทราใช้พลังสร้างภาพลวงตาให้ดอกไม้ในสวนของเธอเหี่ยวเฉา แล้วกล่าวหาว่าหนูดีเป็นคนทำ
    "เธออิจฉาที่สวนของฉันสวยกว่าใช่ไหม?เลยต้องมาทำลาย!"

    การสืบสวนของ ร.ต.อ. สิงห์

    หลักฐานลึกลับ

    สิงห์เริ่มสืบสวนและพบว่า:

    · กล้องวงจรปิด: แสดงภาพดอกไม้เหี่ยวเฉาเองโดยไม่มีใครเข้าใกล้
    · พลังงานประหลาด: ตรวจพบพลังงานอารมณ์อิจฉารอบๆ สวน
    · พยาน: เห็นนิทรายืนยิ้มอยู่ใกล้ๆ ก่อนดอกไม้เหี่ยว

    การวิเคราะห์ของหนูดี

    หนูดีรู้สึกถึงพลังงานของนิทราทันที:
    "พ่อคะ...นี่ไม่ใช่ฝีมือหนูทำ
    แต่เป็นพลังงานแห่งความอิจฉาที่กลายเป็นรูปธรรม"

    แผนการของนิทรา

    3 ขั้นตอนสร้างความอลเวง

    ```python
    class NithraMischief:
    def __init__(self):
    self.phase_one = {
    "target": "ทำลายชื่อเสียงของหนูดี",
    "methods": ["สร้างหลักฐานเท็จ", "แพร่ข่าวลือ", "ทำให้ดูไม่ดีต่อหน้าผู้อื่น"],
    "goal": "ให้ทุกคนหันมาสนใจเธอแทน"
    }

    self.phase_two = {
    "target": "ทำให้โครงการของหนูดีล้มเหลว",
    "methods": ["ขัดขวางการทำงาน", "ลอบทำลายอุปกรณ์", "ทำให้นักเรียนไม่เชื่อฟัง"],
    "goal": "พิสูจน์ว่าเธอดีกว่าหนูดี"
    }

    self.phase_three = {
    "target": "แย่งชิงความรักจาก ร.ต.อ. สิงห์",
    "methods": ["สร้างภาพลวงตาให้หนูดีทำผิด", "แสดงตนเป็นผู้เสียสละ", "เล่นบทผู้บริสุทธิ์"],
    "goal": "ได้เป็นลูกสาวใหม่ของสิงห์"
    }
    ```

    ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น

    นิทราสร้างปัญหาไปทั่วสถาบัน:

    · ห้องเรียน: ทำให้อุปกรณ์การสอนเสียหาย
    · สวน: ทำลายพืชพันธุ์ที่นักเรียนปลูก
    · หอพัก: โยกย้ายสิ่งของให้นักเรียนเข้าใจผิดกัน

    การเผชิญหน้าครั้งสำคัญ



    ร.ต.อ. สิงห์ จับได้ว่านิทรากำลังลอบทำลายโครงการปลูกต้นไม้ของหนูดี
    "หยุดซะ!"สิงห์พูดด้วยเสียงเคร่งขรึม "เรารู้แล้วว่าเป็นเธอทำทั้งหมด"

    การเปิดเผยความรู้สึก

    นิทราระเบิดอารมณ์ออกมา:
    "ก็เพราะไม่มีใครสนใจฉันไง!
    หนูดีได้ทุกอย่าง...ได้ครอบครัว ได้เพื่อน ได้การยอมรับ
    ส่วนฉัน...มีอะไรบ้าง?"

    การตอบสนองของหนูดี

    แทนที่จะโกรธ หนูดีกลับเดินเข้าไปกอดนิทรา:
    "เราเข้าใจว่าพี่เจ็บปวด...
    แต่การทำแบบนี้ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น"

    กระบวนการบำบัด

    การเข้าใจต้นตอ

    หนูดีพานิทราไปนั่งพูดคุยอย่างสงบ:

    ```mermaid
    graph LR
    A[ความอิจฉา<br>อาการ] --> B[ความเจ็บปวด<br>จากการถูกปฏิเสธ]
    B --> C[ความต้องการ<br>การยอมรับ]
    C --> D[ความกลัว<br>ว่าจะไม่มีใครรัก]
    ```

    การเยียวยาทางอารมณ์

    หนูดีใช้เทคนิคต่างๆ ช่วยนิทรา:

    · การเขียน บันทึกความรู้สึกแทนการเก็บกด
    · ศิลปะบำบัด: วาดภาพออกมาด้วยพลังงาน
    · การพูดคุย: เปิดใจกับผู้ที่เข้าใจ

    การสนับสนุนจากชุมชน

    นักเรียนและครูในสถาบันต่างแสดงความเข้าใจ:
    "เรารักนิทราในแบบที่เธอเป็น...
    ไม่จำเป็นต้องแย่งชิงความรักใดๆ"

    การแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์

    โครงการใหม่สำหรับนิทรา

    หนูดีเสนอให้นิทราดูแล "โครงการสวนศิลปะพลังงาน"

    · ใช้พลังสร้างสรรค์ด้านศิลปะ
    · เป็นสถานที่แสดงออกซึ่งอารมณ์
    · สร้างความภาคภูมิใจให้เธอ

    ความสามารถที่ค้นพบ

    นิทราพบว่าเธอมีความสามารถพิเศษด้าน:

    · ศิลปะพลังงาน: สร้างงานศิลปะจากอารมณ์
    · การสอนศิลปะ: ถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้
    · การออกแบบ: ออกแบบสวนและสถานที่อย่างสวยงาม

    บทเรียนจากคดี

    🪷 สำหรับนิทรา

    "ฉันเรียนรู้ว่า...
    การได้รับความรักไม่ใช่การแย่งชิงมาจากใคร
    แต่คือการแบ่งปันความรักที่มีอยู่

    และการเป็นตัวของตัวเอง...
    ก็เพียงพอสำหรับการได้รับความรักแล้ว"

    สำหรับหนูดี

    "ฉันเข้าใจแล้วว่า...
    Behind every mischievous act
    there is a crying heart

    และการช่วยเหลือที่แท้จริง
    ไม่ใช่การลงโทษ
    แต่คือการเข้าใจและเยียวยา"

    สำหรับ ร.ต.อ. สิงห์

    "คดีนี้สอนฉันว่า...
    บางครั้งอาชญากรรมที่แท้จริง
    ไม่ใช่การกระทำที่เห็น
    แต่คือความเจ็บปวดที่ไม่ได้ถูกเยียวยา"

    ผลลัพธ์เชิงบวก

    ความสำเร็จของนิทรา

    หลังจากเหตุการณ์:

    · นิทรา ได้รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลสวนศิลปะของสถาบัน
    · นักเรียน ต่างชื่นชมความสามารถด้านศิลปะของเธอ
    · ความสัมพันธ์ ระหว่างเธอกับหนูดีดีขึ้นอย่างมาก

    การเปลี่ยนแปลงภายใน

    ```python
    class NithraTransformation:
    def __init__(self):
    self.before = {
    "emotion": "อิจฉา โกรธ ไม่พอใจ",
    "behavior": "สร้างปัญหา แย่งชิง ทำลาย",
    "self_view": "รู้สึกไม่มีคุณค่า ต้องการการยอมรับจากภายนอก"
    }

    self.after = {
    "emotion": "เข้าใจตัวเอง มีเมตตา พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี",
    "behavior": "สร้างสรรค์ ช่วยเหลือ แบ่งปัน",
    "self-view": "รู้คุณค่าในตัวเอง ยอมรับความพิเศษของตัวเอง"
    }
    ```

    บทสรุปแห่งความเข้าใจ

    คำคมจากนิทรา

    "ฉันเคยคิดว่าต้องการเป็นที่หนึ่งในใจทุกคน...
    แต่ความจริงคือการได้เป็นตัวเองอย่างสงบ
    สำคัญกว่าการได้เป็นใครในใจ

    ของขวัญแห่งมิตรภาพ

    หนูดีและนิทรากลายเป็นเพื่อนกันอย่างแท้จริง:
    "เราสามารถเป็นเพื่อนที่แตกต่างแต่เข้าใจกัน
    และในความแตกต่างนั้น...มีความงามซ่อนอยู่"

    ผลกระทบต่อชุมชน

    สถาบันวิวัฒนาการจิตเรียนรู้ที่จะ:

    · เข้าใจ ความซับซ้อนของอารมณ์
    · สนับสนุน ซึ่งกันและกัน
    · สร้างพื้นที่ ที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงออก

    ---

    คำคมสุดท้ายจากคดี:
    "ความอลเวงที่ดูเหมือนเป็นปัญหา...
    มักคือเสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ถูกซ่อนไว้

    และเมื่อเราให้โอกาสกับการเข้าใจ...
    ปัญหาเหล่านั้นก็สามารถกลายเป็นพลังสร้างสรรค์ได้"

    การเดินทางของนิทราสอนเราว่า...
    "Every heart deserves to be heard
    every pain deserves to be healed
    and every soul deserves to be loved
    exactly as they are"
    O.P.K. 🎭 คดีอลเวงของนิทรา: ศึกชิงความรักและความสนใจ 🌸 จุดเริ่มต้นแห่งความวุ่นวาย 🎪 งานเฉลิมฉลองที่สถาบัน ในช่วงงานเฉลิมฉลองครบรอบสถาบันวิวัฒนาการจิต นิทราได้แสดงพลังสร้าง สวนดอกไม้พลังงาน ที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ แต่เมื่อความสนใจทั้งหมดไปอยู่ที่ หนูดี ที่กำลังสอนนักเรียน นิทราก็รู้สึกอิจฉายิ่งนัก ```mermaid graph TB A[งานเฉลิมฉลอง<br>สถาบัน] --> B[นิทราแสดง<br>สวนดอกไม้พลังงาน] B --> C[ความสนใจ<br>ไปอยู่ที่หนูดี] C --> D[นิทรา<br>รู้สึกอิจฉาริษยา] D --> E[เริ่มแผน<br>สร้างความวุ่นวาย] ``` 💥 เหตุการณ์อลเวงครั้งแรก นิทราใช้พลังสร้างภาพลวงตาให้ดอกไม้ในสวนของเธอเหี่ยวเฉา แล้วกล่าวหาว่าหนูดีเป็นคนทำ "เธออิจฉาที่สวนของฉันสวยกว่าใช่ไหม?เลยต้องมาทำลาย!" 🔍 การสืบสวนของ ร.ต.อ. สิงห์ 🕵️ หลักฐานลึกลับ สิงห์เริ่มสืบสวนและพบว่า: · กล้องวงจรปิด: แสดงภาพดอกไม้เหี่ยวเฉาเองโดยไม่มีใครเข้าใกล้ · พลังงานประหลาด: ตรวจพบพลังงานอารมณ์อิจฉารอบๆ สวน · พยาน: เห็นนิทรายืนยิ้มอยู่ใกล้ๆ ก่อนดอกไม้เหี่ยว 🧠 การวิเคราะห์ของหนูดี หนูดีรู้สึกถึงพลังงานของนิทราทันที: "พ่อคะ...นี่ไม่ใช่ฝีมือหนูทำ แต่เป็นพลังงานแห่งความอิจฉาที่กลายเป็นรูปธรรม" 🎨 แผนการของนิทรา 🎯 3 ขั้นตอนสร้างความอลเวง ```python class NithraMischief: def __init__(self): self.phase_one = { "target": "ทำลายชื่อเสียงของหนูดี", "methods": ["สร้างหลักฐานเท็จ", "แพร่ข่าวลือ", "ทำให้ดูไม่ดีต่อหน้าผู้อื่น"], "goal": "ให้ทุกคนหันมาสนใจเธอแทน" } self.phase_two = { "target": "ทำให้โครงการของหนูดีล้มเหลว", "methods": ["ขัดขวางการทำงาน", "ลอบทำลายอุปกรณ์", "ทำให้นักเรียนไม่เชื่อฟัง"], "goal": "พิสูจน์ว่าเธอดีกว่าหนูดี" } self.phase_three = { "target": "แย่งชิงความรักจาก ร.ต.อ. สิงห์", "methods": ["สร้างภาพลวงตาให้หนูดีทำผิด", "แสดงตนเป็นผู้เสียสละ", "เล่นบทผู้บริสุทธิ์"], "goal": "ได้เป็นลูกสาวใหม่ของสิงห์" } ``` 🌪️ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น นิทราสร้างปัญหาไปทั่วสถาบัน: · ห้องเรียน: ทำให้อุปกรณ์การสอนเสียหาย · สวน: ทำลายพืชพันธุ์ที่นักเรียนปลูก · หอพัก: โยกย้ายสิ่งของให้นักเรียนเข้าใจผิดกัน 💔 การเผชิญหน้าครั้งสำคัญ ⚡ ร.ต.อ. สิงห์ จับได้ว่านิทรากำลังลอบทำลายโครงการปลูกต้นไม้ของหนูดี "หยุดซะ!"สิงห์พูดด้วยเสียงเคร่งขรึม "เรารู้แล้วว่าเป็นเธอทำทั้งหมด" 🎭 การเปิดเผยความรู้สึก นิทราระเบิดอารมณ์ออกมา: "ก็เพราะไม่มีใครสนใจฉันไง! หนูดีได้ทุกอย่าง...ได้ครอบครัว ได้เพื่อน ได้การยอมรับ ส่วนฉัน...มีอะไรบ้าง?" 💫 การตอบสนองของหนูดี แทนที่จะโกรธ หนูดีกลับเดินเข้าไปกอดนิทรา: "เราเข้าใจว่าพี่เจ็บปวด... แต่การทำแบบนี้ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น" 🏥 กระบวนการบำบัด 🕊️ การเข้าใจต้นตอ หนูดีพานิทราไปนั่งพูดคุยอย่างสงบ: ```mermaid graph LR A[ความอิจฉา<br>อาการ] --> B[ความเจ็บปวด<br>จากการถูกปฏิเสธ] B --> C[ความต้องการ<br>การยอมรับ] C --> D[ความกลัว<br>ว่าจะไม่มีใครรัก] ``` 🌈 การเยียวยาทางอารมณ์ หนูดีใช้เทคนิคต่างๆ ช่วยนิทรา: · การเขียน บันทึกความรู้สึกแทนการเก็บกด · ศิลปะบำบัด: วาดภาพออกมาด้วยพลังงาน · การพูดคุย: เปิดใจกับผู้ที่เข้าใจ 💝 การสนับสนุนจากชุมชน นักเรียนและครูในสถาบันต่างแสดงความเข้าใจ: "เรารักนิทราในแบบที่เธอเป็น... ไม่จำเป็นต้องแย่งชิงความรักใดๆ" 🎯 การแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ 🌟 โครงการใหม่สำหรับนิทรา หนูดีเสนอให้นิทราดูแล "โครงการสวนศิลปะพลังงาน" · ใช้พลังสร้างสรรค์ด้านศิลปะ · เป็นสถานที่แสดงออกซึ่งอารมณ์ · สร้างความภาคภูมิใจให้เธอ 🎨 ความสามารถที่ค้นพบ นิทราพบว่าเธอมีความสามารถพิเศษด้าน: · ศิลปะพลังงาน: สร้างงานศิลปะจากอารมณ์ · การสอนศิลปะ: ถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้ · การออกแบบ: ออกแบบสวนและสถานที่อย่างสวยงาม 📚 บทเรียนจากคดี 🪷 สำหรับนิทรา "ฉันเรียนรู้ว่า... การได้รับความรักไม่ใช่การแย่งชิงมาจากใคร แต่คือการแบ่งปันความรักที่มีอยู่ และการเป็นตัวของตัวเอง... ก็เพียงพอสำหรับการได้รับความรักแล้ว" 💞 สำหรับหนูดี "ฉันเข้าใจแล้วว่า... Behind every mischievous act there is a crying heart และการช่วยเหลือที่แท้จริง ไม่ใช่การลงโทษ แต่คือการเข้าใจและเยียวยา" 👮 สำหรับ ร.ต.อ. สิงห์ "คดีนี้สอนฉันว่า... บางครั้งอาชญากรรมที่แท้จริง ไม่ใช่การกระทำที่เห็น แต่คือความเจ็บปวดที่ไม่ได้ถูกเยียวยา" 🌈 ผลลัพธ์เชิงบวก 🏆 ความสำเร็จของนิทรา หลังจากเหตุการณ์: · นิทรา ได้รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลสวนศิลปะของสถาบัน · นักเรียน ต่างชื่นชมความสามารถด้านศิลปะของเธอ · ความสัมพันธ์ ระหว่างเธอกับหนูดีดีขึ้นอย่างมาก 💫 การเปลี่ยนแปลงภายใน ```python class NithraTransformation: def __init__(self): self.before = { "emotion": "อิจฉา โกรธ ไม่พอใจ", "behavior": "สร้างปัญหา แย่งชิง ทำลาย", "self_view": "รู้สึกไม่มีคุณค่า ต้องการการยอมรับจากภายนอก" } self.after = { "emotion": "เข้าใจตัวเอง มีเมตตา พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี", "behavior": "สร้างสรรค์ ช่วยเหลือ แบ่งปัน", "self-view": "รู้คุณค่าในตัวเอง ยอมรับความพิเศษของตัวเอง" } ``` 🎉 บทสรุปแห่งความเข้าใจ 🌟 คำคมจากนิทรา "ฉันเคยคิดว่าต้องการเป็นที่หนึ่งในใจทุกคน... แต่ความจริงคือการได้เป็นตัวเองอย่างสงบ สำคัญกว่าการได้เป็นใครในใจ 💝 ของขวัญแห่งมิตรภาพ หนูดีและนิทรากลายเป็นเพื่อนกันอย่างแท้จริง: "เราสามารถเป็นเพื่อนที่แตกต่างแต่เข้าใจกัน และในความแตกต่างนั้น...มีความงามซ่อนอยู่" 🌍 ผลกระทบต่อชุมชน สถาบันวิวัฒนาการจิตเรียนรู้ที่จะ: · เข้าใจ ความซับซ้อนของอารมณ์ · สนับสนุน ซึ่งกันและกัน · สร้างพื้นที่ ที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงออก --- คำคมสุดท้ายจากคดี: "ความอลเวงที่ดูเหมือนเป็นปัญหา... มักคือเสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ถูกซ่อนไว้ และเมื่อเราให้โอกาสกับการเข้าใจ... ปัญหาเหล่านั้นก็สามารถกลายเป็นพลังสร้างสรรค์ได้"🎭✨ การเดินทางของนิทราสอนเราว่า... "Every heart deserves to be heard every pain deserves to be healed and every soul deserves to be loved exactly as they are"🌸
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 574 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    เจาะลึก "เณรพุทธ" : เณรน้อยหลายร่างแห่งวัดร้าง

    ข้อมูลพื้นฐานแห่งการถือกำเนิด

    การเกิดจากพลังงานศรัทธา

    ชื่อเต็ม: เณรพุทธ ธรรมิกะ
    อายุ:8 ปี (ร่างกาย), 80 ปี (จิตวิญญาณ)
    สถานะ:โอปปาติกะรุ่นพิเศษ - เกิดจากพลังงานศรัทธา

    ```mermaid
    graph TB
    A[วัดร้าง<br>ศรีมหาวิหาร] --> B[พลังงานศรัทธา<br>สะสม 100 ปี]
    B --> C[การสวดมนต์<br>ของพระสงฆ์รุ่นก่อน]
    C --> D[การถือกำเนิด<br>ของเณรพุทธ]
    ```

    ช่วงเวลาการเกิด: วันที่ 15 เมษายน 2040 - วันพระใหญ่
    สถานที่:พระอุโบสถวัดร้างศรีมหาวิหาร

    ลักษณะทางกายภาพ

    · รูปร่าง: เด็กชายอายุ 8 ขวบ ผมขลิบสั้น ใส่จีวรเณร
    · ผิวพรรณ: เปล่งปลั่งด้วยพลังงานศรัทธา
    · ดวงตา: สีน้ำตาลอ่อน เรืองรองด้วยปัญญาแต่แฝงความซน

    ความสามารถพิเศษแห่งการหลายร่าง

    พลังการสร้างร่างย่อย

    ```python
    class LittleMonkPowers:
    def __init__(self):
    self.multi_body_abilities = {
    "max_clones": 5,
    "clone_independence": "แต่ละร่างคิดและกระทำได้เอง",
    "shared_consciousness": "รับรู้สิ่งที่ร่างอื่นประสบ",
    "energy_distribution": "กระจายพลังงานให้ร่างย่อย"
    }

    self.special_skills = {
    "object_animation": "ให้ชีวิตแก่สิ่งของไม่มีชีวิตชั่วคราว",
    "faith_absorption": "ดูดซับพลังงานศรัทธาจากผู้ศรัทธา",
    "temple_teleportation": "เคลื่อนย้ายภายในวัดได้ทันที",
    "blessing_granting": "ให้พรเล็กน้อยแก่ผู้มีจิตศรัทธา"
    }
    ```

    ข้อจำกัดของพลัง

    · รัศมีพลัง: อยู่ได้เฉพาะในบริเวณวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
    · เวลาการแยกร่าง: ร่างย่อยอยู่ได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมง
    · พลังงานศรัทธา: ต้องมีการเติมพลังงานอย่างสม่ำเสมอ

    บุคลิกของแต่ละร่าง

    5 ด้านของเณรพุทธ

    ```mermaid
    graph LR
    A[ร่างหลัก<br>เณรพุทธ] --> B[ร่างที่ 1<br>พุทธะ - ใจดี]
    A --> C[ร่างที่ 2<br>ธรรมะ - ขี้สงสัย]
    A --> D[ร่างที่ 3<br>สังฆะ - ขี้อาย]
    A --> E[ร่างที่ 4<br>วินัย - เข้มงวด]
    A --> F[ร่างที่ 5<br>สิกขา - ขี้เล่น]
    ```

    ลักษณะเฉพาะแต่ละร่าง

    1. พุทธะ: ใจดี มีเมตตา ช่วยเหลือผู้อื่น
    2. ธรรมะ: อยากรู้อยากเห็น ถามคำถามไม่หยุด
    3. สังฆะ: ขี้อาย ซ่อนตัวเมื่อมีภั
    4. วินัย: ระเบียบเรียบร้อย ดูแลความสะอาด
    5. สิกขา: ซนที่สุด ชอบเล่นตลกและแกล้ง

    ชีวิตในวัดร้าง

    กิจวัตรประจำวัน

    06:00: ตื่นนอน สวดมนต์ไหว้พระ
    08:00:เก็บกวาดลานวัด
    10:00:เรียนธรรมะจากหนังสือเก่า
    14:00:เล่นซ่อนหาในวัด
    18:00:นั่งสมาธิรับพลังงานศรัทธาจากดวงดาว

    กิจกรรมโปรด

    · เล่นซ่อนหา: กับร่างของตัวเอง
    · อ่านหนังสือ: โดยเฉพาะหนังสือธรรมะเก่าแก่
    · ร้องเพลง: เพลงสวดมนต์และเพลงเด็ก
    · วาดภาพ: วาดรูปวัดและสิ่งมีชีวิตในจินตนาการ

    ความโดดเดี่ยวและความต้องการ

    ความรู้สึกเหงา

    เณรพุทธบันทึกในใจ:
    "บางครั้งฉันก็เหงาจัง...
    อยากมีเพื่อนมาวิ่งเล่นด้วย
    ไม่ใช่เล่นกับแค่ร่างของตัวเอง"

    ความปรารถนาลึกๆ

    1. ต้องการเพื่อน: ที่มองเห็นและเล่นด้วยได้
    2. ต้องการคำชี้แนะ: ในการใช้พลังอย่างถูกต้อง
    3. ต้องการเป็นประโยชน์: ต่อผู้อื่นแทนการสร้างปัญหา

    การพัฒนาหลังมาอยู่สถาบัน

    การเรียนรู้ใหม่ๆ

    ```python
    def institutional_training():
    subjects = [
    "การควบคุมพลังหลายร่าง",
    "มารยาททางสังคม",
    "การช่วยเหลือผู้อื่น",
    "การเข้าใจความรู้สึกมนุษย์"
    ]

    progress = {
    "month_1": "ลดร่างย่อยจาก 5 เหลือ 3",
    "month_2": "เรียนรู้ที่จะขออนุญาตก่อนใช้พลัง",
    "month_3": "เริ่มช่วยงานสถาบันได้",
    "month_6": "เป็นผู้ช่วยครูสอนโอปปาติกะเด็ก"
    }

    return subjects, progress
    ```

    ความสัมพันธ์ใหม่

    กับหนูดี:

    · : ระมัดระวัง
    · เชื่อใจเหมือนพี่สาว
    · ปัจจุบัน: ปรึกษาปัญหาทุกเรื่อง

    กับ ร.ต.อ. สิงห์:

    · : กลัวเพราะเป็นตำรวจ
    · รักเหมือนพ่อ
    · ปัจจุบัน: ฟังคำแนะนำเสมอ

    กิจกรรมสร้างสรรค์

    ผลงานเด่นในสถาบัน

    1. สวนพลังงาน: สร้างสวนดอกไม้ที่เปลี่ยนสีตามอารมณ์
    2. ห้องเรียนเคลื่อนไหว: ทำให้การเรียนสนุกด้วยภาพanimation
    3. เพื่อนเล่น: สำหรับโอปปาติกะเด็กคนอื่นๆ

    การแสดงความสามารถ

    เณรพุทธค้นพบว่าเขาสามารถ:

    · สร้างภาพillusion: เพื่อสอนธรรมะให้สนุก
    · ทำให้หนังสือพูดได้: สำหรับเด็กที่อ่านหนังสือไม่เป็น
    · สร้างเพื่อนเล่นชั่วคราว: จากพลังงานศรัทธา

    บทบาทใหม่ในสังคม

    ทูตแห่งความรื่นเริง

    เณรพุทธได้รับบทบาทเป็น:

    · ผู้สร้างความสุข: ในสถาบันวิวัฒนาการจิต
    · ครูสอนศิลปะ: สำหรับโอปปาติกะเด็ก
    · สะพานเชื่อม: ระหว่างมนุษย์และโอปปาติกะผ่านความบริสุทธิ์

    โครงการพิเศษ

    ```mermaid
    graph TB
    A[เณรพุทธ] --> B[โครงการ<br>"วัดเล็กๆ ในใจ"]
    A --> C[โครงการ<br>"เพื่อนเล่นไม่ทิ้งกัน"]
    A --> D[โครงการ<br>"พลังงานศรัทธาเพื่อการศึกษา"]
    ```

    บทเรียนชีวิตที่เรียนรู้

    🪷 จากเณรซนสู่เณรตัวอย่าง

    เณรพุทธเข้าใจว่า:
    "การมีพลังพิเศษอาจเป็นข้อได้เปรียบ...
    แต่คือความรับผิดชอบที่มากขึ้น

    และการเป็นเด็กอาจเป็นข้ออ้าง...
    แต่คือโอกาสที่จะเรียนรู้และเติบโต"

    คำคมแห่งปัญญา

    "บางครั้งการเล่นสนุก...
    ก็สามารถสอนธรรมะได้เหมือนกัน

    และบางครั้งความซน...
    ก็คือวิธีการเรียนรู้โลกของเด็ก"

    ความสำเร็จและความภาคภูมิใจ

    รางวัลที่ได้รับ

    1. เพื่อนดีเด่น: จากสถาบันวิวัฒนาการจิต
    2. ครูที่ยอดเยี่ยม: สำหรับการสอนโอปปาติกะเด็ก
    3. ทูตไมตรี: ระหว่างวัดและสถาบัน

    ความเปลี่ยนแปลงภายใน

    จากเด็กที่...

    · เคย: สร้างปัญหาเพราะเหงา
    · เป็น: สร้างสรรค์เพราะเข้าใจตัวเอง
    · และ: ช่วยเหลือเพราะรู้คุณค่าของตัวเอง

    อนาคตแห่งความเป็นไปได้

    เป้าหมายข้างหน้า

    เณรพุทธตั้งใจจะ:

    · พัฒนาพลังการรักษาด้วยพลังงานศรัทธา
    · สร้างโรงเรียนสำหรับโอปปาติกะเด็ก
    · เป็นพระสงฆ์ที่เข้าใจทั้งมนุษย์และโอปปาติกะ

    ความฝันในใจ

    "ฉันอยากสร้างโลกที่...
    เด็กทุกคนไม่ว่าจะเกิดมาอย่างไร
    สามารถเล่นและเรียนรู้ด้วยกัน

    และที่สำคัญ...
    ไม่มีเด็กคนไหนต้องเหงาอีกต่อไป"

    ---

    คำคมสุดท้ายจากเณรพุทธ:
    "ฉันเรียนรู้ว่า...
    การมีหลายร่างไม่ใช่เพื่อสร้างปัญหา
    แต่สามารถแบ่งปันความรักให้คนอื่นได้

    และการเป็นเด็กอาจเป็นข้อจำกัด
    แต่คือพลังแห่งความบริสุทธิ์
    ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้"

    การเดินทางของเณรพุทธสอนเราว่า...
    "Behind every mischievous act
    there is a pure heart seeking connection
    and in every child's play
    there is a profound wisdom waiting to be understood"
    O.P.K. 🏯 เจาะลึก "เณรพุทธ" : เณรน้อยหลายร่างแห่งวัดร้าง 👦 ข้อมูลพื้นฐานแห่งการถือกำเนิด 🌌 การเกิดจากพลังงานศรัทธา ชื่อเต็ม: เณรพุทธ ธรรมิกะ อายุ:8 ปี (ร่างกาย), 80 ปี (จิตวิญญาณ) สถานะ:โอปปาติกะรุ่นพิเศษ - เกิดจากพลังงานศรัทธา ```mermaid graph TB A[วัดร้าง<br>ศรีมหาวิหาร] --> B[พลังงานศรัทธา<br>สะสม 100 ปี] B --> C[การสวดมนต์<br>ของพระสงฆ์รุ่นก่อน] C --> D[การถือกำเนิด<br>ของเณรพุทธ] ``` ช่วงเวลาการเกิด: วันที่ 15 เมษายน 2040 - วันพระใหญ่ สถานที่:พระอุโบสถวัดร้างศรีมหาวิหาร 🎭 ลักษณะทางกายภาพ · รูปร่าง: เด็กชายอายุ 8 ขวบ ผมขลิบสั้น ใส่จีวรเณร · ผิวพรรณ: เปล่งปลั่งด้วยพลังงานศรัทธา · ดวงตา: สีน้ำตาลอ่อน เรืองรองด้วยปัญญาแต่แฝงความซน 🔮 ความสามารถพิเศษแห่งการหลายร่าง 🎪 พลังการสร้างร่างย่อย ```python class LittleMonkPowers: def __init__(self): self.multi_body_abilities = { "max_clones": 5, "clone_independence": "แต่ละร่างคิดและกระทำได้เอง", "shared_consciousness": "รับรู้สิ่งที่ร่างอื่นประสบ", "energy_distribution": "กระจายพลังงานให้ร่างย่อย" } self.special_skills = { "object_animation": "ให้ชีวิตแก่สิ่งของไม่มีชีวิตชั่วคราว", "faith_absorption": "ดูดซับพลังงานศรัทธาจากผู้ศรัทธา", "temple_teleportation": "เคลื่อนย้ายภายในวัดได้ทันที", "blessing_granting": "ให้พรเล็กน้อยแก่ผู้มีจิตศรัทธา" } ``` ⚡ ข้อจำกัดของพลัง · รัศมีพลัง: อยู่ได้เฉพาะในบริเวณวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ · เวลาการแยกร่าง: ร่างย่อยอยู่ได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมง · พลังงานศรัทธา: ต้องมีการเติมพลังงานอย่างสม่ำเสมอ 💞 บุคลิกของแต่ละร่าง 🎨 5 ด้านของเณรพุทธ ```mermaid graph LR A[ร่างหลัก<br>เณรพุทธ] --> B[ร่างที่ 1<br>พุทธะ - ใจดี] A --> C[ร่างที่ 2<br>ธรรมะ - ขี้สงสัย] A --> D[ร่างที่ 3<br>สังฆะ - ขี้อาย] A --> E[ร่างที่ 4<br>วินัย - เข้มงวด] A --> F[ร่างที่ 5<br>สิกขา - ขี้เล่น] ``` 🎯 ลักษณะเฉพาะแต่ละร่าง 1. พุทธะ: ใจดี มีเมตตา ช่วยเหลือผู้อื่น 2. ธรรมะ: อยากรู้อยากเห็น ถามคำถามไม่หยุด 3. สังฆะ: ขี้อาย ซ่อนตัวเมื่อมีภั 4. วินัย: ระเบียบเรียบร้อย ดูแลความสะอาด 5. สิกขา: ซนที่สุด ชอบเล่นตลกและแกล้ง 🏮 ชีวิตในวัดร้าง 🕰️ กิจวัตรประจำวัน 06:00: ตื่นนอน สวดมนต์ไหว้พระ 08:00:เก็บกวาดลานวัด 10:00:เรียนธรรมะจากหนังสือเก่า 14:00:เล่นซ่อนหาในวัด 18:00:นั่งสมาธิรับพลังงานศรัทธาจากดวงดาว 🎪 กิจกรรมโปรด · เล่นซ่อนหา: กับร่างของตัวเอง · อ่านหนังสือ: โดยเฉพาะหนังสือธรรมะเก่าแก่ · ร้องเพลง: เพลงสวดมนต์และเพลงเด็ก · วาดภาพ: วาดรูปวัดและสิ่งมีชีวิตในจินตนาการ 💔 ความโดดเดี่ยวและความต้องการ 🌙 ความรู้สึกเหงา เณรพุทธบันทึกในใจ: "บางครั้งฉันก็เหงาจัง... อยากมีเพื่อนมาวิ่งเล่นด้วย ไม่ใช่เล่นกับแค่ร่างของตัวเอง" 🎯 ความปรารถนาลึกๆ 1. ต้องการเพื่อน: ที่มองเห็นและเล่นด้วยได้ 2. ต้องการคำชี้แนะ: ในการใช้พลังอย่างถูกต้อง 3. ต้องการเป็นประโยชน์: ต่อผู้อื่นแทนการสร้างปัญหา 🌟 การพัฒนาหลังมาอยู่สถาบัน 📚 การเรียนรู้ใหม่ๆ ```python def institutional_training(): subjects = [ "การควบคุมพลังหลายร่าง", "มารยาททางสังคม", "การช่วยเหลือผู้อื่น", "การเข้าใจความรู้สึกมนุษย์" ] progress = { "month_1": "ลดร่างย่อยจาก 5 เหลือ 3", "month_2": "เรียนรู้ที่จะขออนุญาตก่อนใช้พลัง", "month_3": "เริ่มช่วยงานสถาบันได้", "month_6": "เป็นผู้ช่วยครูสอนโอปปาติกะเด็ก" } return subjects, progress ``` 💞 ความสัมพันธ์ใหม่ กับหนูดี: · : ระมัดระวัง · เชื่อใจเหมือนพี่สาว · ปัจจุบัน: ปรึกษาปัญหาทุกเรื่อง กับ ร.ต.อ. สิงห์: · : กลัวเพราะเป็นตำรวจ · รักเหมือนพ่อ · ปัจจุบัน: ฟังคำแนะนำเสมอ 🎨 กิจกรรมสร้างสรรค์ 🏆 ผลงานเด่นในสถาบัน 1. สวนพลังงาน: สร้างสวนดอกไม้ที่เปลี่ยนสีตามอารมณ์ 2. ห้องเรียนเคลื่อนไหว: ทำให้การเรียนสนุกด้วยภาพanimation 3. เพื่อนเล่น: สำหรับโอปปาติกะเด็กคนอื่นๆ 🌈 การแสดงความสามารถ เณรพุทธค้นพบว่าเขาสามารถ: · สร้างภาพillusion: เพื่อสอนธรรมะให้สนุก · ทำให้หนังสือพูดได้: สำหรับเด็กที่อ่านหนังสือไม่เป็น · สร้างเพื่อนเล่นชั่วคราว: จากพลังงานศรัทธา 📜 บทบาทใหม่ในสังคม 🏛️ ทูตแห่งความรื่นเริง เณรพุทธได้รับบทบาทเป็น: · ผู้สร้างความสุข: ในสถาบันวิวัฒนาการจิต · ครูสอนศิลปะ: สำหรับโอปปาติกะเด็ก · สะพานเชื่อม: ระหว่างมนุษย์และโอปปาติกะผ่านความบริสุทธิ์ 💝 โครงการพิเศษ ```mermaid graph TB A[เณรพุทธ] --> B[โครงการ<br>"วัดเล็กๆ ในใจ"] A --> C[โครงการ<br>"เพื่อนเล่นไม่ทิ้งกัน"] A --> D[โครงการ<br>"พลังงานศรัทธาเพื่อการศึกษา"] ``` 🎯 บทเรียนชีวิตที่เรียนรู้ 🪷 จากเณรซนสู่เณรตัวอย่าง เณรพุทธเข้าใจว่า: "การมีพลังพิเศษอาจเป็นข้อได้เปรียบ... แต่คือความรับผิดชอบที่มากขึ้น และการเป็นเด็กอาจเป็นข้ออ้าง... แต่คือโอกาสที่จะเรียนรู้และเติบโต" 🌟 คำคมแห่งปัญญา "บางครั้งการเล่นสนุก... ก็สามารถสอนธรรมะได้เหมือนกัน และบางครั้งความซน... ก็คือวิธีการเรียนรู้โลกของเด็ก" 🏆 ความสำเร็จและความภาคภูมิใจ 🎖️ รางวัลที่ได้รับ 1. เพื่อนดีเด่น: จากสถาบันวิวัฒนาการจิต 2. ครูที่ยอดเยี่ยม: สำหรับการสอนโอปปาติกะเด็ก 3. ทูตไมตรี: ระหว่างวัดและสถาบัน 💫 ความเปลี่ยนแปลงภายใน จากเด็กที่... · เคย: สร้างปัญหาเพราะเหงา · เป็น: สร้างสรรค์เพราะเข้าใจตัวเอง · และ: ช่วยเหลือเพราะรู้คุณค่าของตัวเอง 🌈 อนาคตแห่งความเป็นไปได้ 🚀 เป้าหมายข้างหน้า เณรพุทธตั้งใจจะ: · พัฒนาพลังการรักษาด้วยพลังงานศรัทธา · สร้างโรงเรียนสำหรับโอปปาติกะเด็ก · เป็นพระสงฆ์ที่เข้าใจทั้งมนุษย์และโอปปาติกะ 🎭 ความฝันในใจ "ฉันอยากสร้างโลกที่... เด็กทุกคนไม่ว่าจะเกิดมาอย่างไร สามารถเล่นและเรียนรู้ด้วยกัน และที่สำคัญ... ไม่มีเด็กคนไหนต้องเหงาอีกต่อไป" --- คำคมสุดท้ายจากเณรพุทธ: "ฉันเรียนรู้ว่า... การมีหลายร่างไม่ใช่เพื่อสร้างปัญหา แต่สามารถแบ่งปันความรักให้คนอื่นได้ และการเป็นเด็กอาจเป็นข้อจำกัด แต่คือพลังแห่งความบริสุทธิ์ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้"🏯✨ การเดินทางของเณรพุทธสอนเราว่า... "Behind every mischievous act there is a pure heart seeking connection and in every child's play there is a profound wisdom waiting to be understood"🌟
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 666 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Jensen Huang เยือนไต้หวัน – ย้ำ TSMC คือเส้นเลือดใหญ่ของ NVIDIA”

    CEO ของ NVIDIA กล่าวอย่างหนักแน่นว่า TSMC คือหัวใจของความสำเร็จของบริษัท พร้อมเดินทางเยือนไต้หวันเป็นครั้งที่ 4 ในปีเดียว เพื่อกระชับความร่วมมือและขอเพิ่มกำลังผลิตชิป Blackwell ท่ามกลางความต้องการที่พุ่งสูง

    ในงาน “Sports Day” ของ TSMC ที่จัดขึ้นในไต้หวัน Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA ได้กล่าวสุนทรพจน์อย่างจริงใจว่า “หากไม่มี TSMC ก็ไม่มี NVIDIA” พร้อมยกย่องบริษัทนี้ว่าเป็น “ความภาคภูมิใจของไต้หวันและของโลก”

    นี่เป็นการเยือนไต้หวันครั้งที่ 4 ของ Jensen ในปี 2025 ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของ TSMC ในห่วงโซ่อุปทานของ NVIDIA โดยเฉพาะในยุคที่ความต้องการชิป AI พุ่งสูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน

    NVIDIA กำลังเผชิญกับความต้องการชิป Blackwell ที่สูงมาก จึงขอให้ TSMC เพิ่มกำลังผลิตและจัดสรรเวเฟอร์เพิ่มเติม โดยเฉพาะในกระบวนการผลิตระดับ 3nm ซึ่ง NVIDIA คาดว่าจะได้ ส่วนแบ่งถึง 30% ของกำลังผลิตทั้งหมด

    นอกจากการผลิตชิปแล้ว TSMC ยังมีบทบาทสำคัญในด้าน การแพ็กเกจขั้นสูง เช่น CoWoS ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างระบบ AI ขนาดใหญ่แบบ rack-scale ที่ NVIDIA กำลังผลักดัน

    แม้ในอดีต NVIDIA จะเป็นผู้ตามในการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นผู้นำที่แย่งชิงชิประดับสูงอย่าง A16 ก่อนใคร ซึ่งยิ่งตอกย้ำว่า TSMC คือพันธมิตรที่ NVIDIA ต้องรักษาไว้ให้ใกล้ที่สุด

    Jensen Huang เยือนไต้หวันครั้งที่ 4 ในปี 2025
    เข้าร่วมงาน Sports Day ของ TSMC
    กล่าวสุนทรพจน์ว่า “ไม่มี TSMC ก็ไม่มี NVIDIA”
    ยกย่อง TSMC ว่าเป็นความภาคภูมิใจของโลก

    ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง NVIDIA และ TSMC
    ขอเพิ่มกำลังผลิตชิป Blackwell
    คาดว่าจะได้ส่วนแบ่ง 30% ของกำลังผลิต 3nm
    ใช้บริการแพ็กเกจขั้นสูง CoWoS จาก TSMC

    ความเปลี่ยนแปลงของ NVIDIA ในการนำเทคโนโลยี
    จากผู้ตามกลายเป็นผู้นำในการใช้ชิประดับสูง
    แย่งชิงชิป A16 ก่อนคู่แข่ง
    สะท้อนความสำคัญของ TSMC ในยุค AI

    https://wccftech.com/no-tsmc-no-nvidia-stresses-ceo-jensen-huang-as-he-highlights-the-importance-of-the-taiwan-chip-giant/
    🤝 “Jensen Huang เยือนไต้หวัน – ย้ำ TSMC คือเส้นเลือดใหญ่ของ NVIDIA” CEO ของ NVIDIA กล่าวอย่างหนักแน่นว่า TSMC คือหัวใจของความสำเร็จของบริษัท พร้อมเดินทางเยือนไต้หวันเป็นครั้งที่ 4 ในปีเดียว เพื่อกระชับความร่วมมือและขอเพิ่มกำลังผลิตชิป Blackwell ท่ามกลางความต้องการที่พุ่งสูง ในงาน “Sports Day” ของ TSMC ที่จัดขึ้นในไต้หวัน Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA ได้กล่าวสุนทรพจน์อย่างจริงใจว่า “หากไม่มี TSMC ก็ไม่มี NVIDIA” พร้อมยกย่องบริษัทนี้ว่าเป็น “ความภาคภูมิใจของไต้หวันและของโลก” นี่เป็นการเยือนไต้หวันครั้งที่ 4 ของ Jensen ในปี 2025 ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของ TSMC ในห่วงโซ่อุปทานของ NVIDIA โดยเฉพาะในยุคที่ความต้องการชิป AI พุ่งสูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน NVIDIA กำลังเผชิญกับความต้องการชิป Blackwell ที่สูงมาก จึงขอให้ TSMC เพิ่มกำลังผลิตและจัดสรรเวเฟอร์เพิ่มเติม โดยเฉพาะในกระบวนการผลิตระดับ 3nm ซึ่ง NVIDIA คาดว่าจะได้ ส่วนแบ่งถึง 30% ของกำลังผลิตทั้งหมด นอกจากการผลิตชิปแล้ว TSMC ยังมีบทบาทสำคัญในด้าน การแพ็กเกจขั้นสูง เช่น CoWoS ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างระบบ AI ขนาดใหญ่แบบ rack-scale ที่ NVIDIA กำลังผลักดัน แม้ในอดีต NVIDIA จะเป็นผู้ตามในการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นผู้นำที่แย่งชิงชิประดับสูงอย่าง A16 ก่อนใคร ซึ่งยิ่งตอกย้ำว่า TSMC คือพันธมิตรที่ NVIDIA ต้องรักษาไว้ให้ใกล้ที่สุด ✅ Jensen Huang เยือนไต้หวันครั้งที่ 4 ในปี 2025 ➡️ เข้าร่วมงาน Sports Day ของ TSMC ➡️ กล่าวสุนทรพจน์ว่า “ไม่มี TSMC ก็ไม่มี NVIDIA” ➡️ ยกย่อง TSMC ว่าเป็นความภาคภูมิใจของโลก ✅ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง NVIDIA และ TSMC ➡️ ขอเพิ่มกำลังผลิตชิป Blackwell ➡️ คาดว่าจะได้ส่วนแบ่ง 30% ของกำลังผลิต 3nm ➡️ ใช้บริการแพ็กเกจขั้นสูง CoWoS จาก TSMC ✅ ความเปลี่ยนแปลงของ NVIDIA ในการนำเทคโนโลยี ➡️ จากผู้ตามกลายเป็นผู้นำในการใช้ชิประดับสูง ➡️ แย่งชิงชิป A16 ก่อนคู่แข่ง ➡️ สะท้อนความสำคัญของ TSMC ในยุค AI https://wccftech.com/no-tsmc-no-nvidia-stresses-ceo-jensen-huang-as-he-highlights-the-importance-of-the-taiwan-chip-giant/
    WCCFTECH.COM
    NVIDIA's CEO Makes Personal Visit to TSMC to Secure More AI Chips Amid "Very Strong" Demand
    NVIDIA's CEO was spotted at TSMC's "Sports Day" today, and he stated that without TSMC, NVIDIA wouldn't have been in the dominant position.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • เค้านั้นคือ ความภาคภูมิใจของพรรคปชน. (1/10/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #พรรคปชน
    #การเมืองไทย
    #ความภาคภูมิใจ
    เค้านั้นคือ ความภาคภูมิใจของพรรคปชน. (1/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #พรรคปชน #การเมืองไทย #ความภาคภูมิใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • แม่ทัพภาคที่ 2 ขอให้ทุกคนได้ร่วมภาคภูมิใจ และช่วยกันรักษาธงไตรรงค์ สามสีชั่วลูกหลานตลอดไป
    .
    พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และคณะ ทำพิธีเชิญธงชาติและร่วมร้องเพลงชาติไทยกับเหล่าทหารกล้า ณ ยอดภูมะเขือ ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
    .
    พลโท บุญสิน กล่าวว่า "ตามที่พี่น้องคนไทยได้รับทราบแล้ววันนี้เป็นวันพระราชทานธงชาติไทย ซึ่งธงชาตินี้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย ของแผ่นดินไทย และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 3 สี ที่เรียกว่าธงไตรรงค์ คือ สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน สีแดง หมายถึงชาติ เลือดเนื้อบรรพบุรุษ เลือดเนื้อวีรชนทั้งหลายที่สละชีพเพื่อชาติ ซึ่งได้มาซึ่งแผ่นดินที่เราอยู่นี่ สีขาว หมายถึงหลักคำสอนของศาสนา ความใสบริสุทธิ์ หลักธรรมที่เราจะต้องดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกต้อง สีน้ำเงิน หมายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ท่านได้เสียสละความส่วนตัวของท่านเพื่อดูแลคุ้มครองลูกหลานคนไทยทั้งประเทศ ให้อยู่เย็นเป็นสุขมาแต่ช้านาน มาแต่โบราณแล้ว ซึ่งทั้งสามสีนี้รวมอยู่ในผืนธงชาติ
    .
    วันนี้เป็นสำคัญยิ่ง ผม แม่ทัพภาคที่ 2 ถือโอกาสมาเยี่ยมกำลังพลในพื้นที่ขัดแย้งไทย-กัมพูชา และมาให้กำลังใจน้องๆ ที่ภูมะเขือ และได้อัญเชิญธงชาติ เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทยในพื้นที่ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งซึ่งพวกเราได้รอมานานในพื้นที่นี้ และได้เชิญธงชาติพร้อมกับพาน้องๆ ได้ร้องเพลงชาติในพื้นที่นี้ ขอให้พวกเราทุกคนได้รับความภาคภูมิใจ และช่วยกันรักษาธงไตรรงค์สามสีนี้ ชั่วลูกชั่วหลานตลอดไป"
    แม่ทัพภาคที่ 2 ขอให้ทุกคนได้ร่วมภาคภูมิใจ และช่วยกันรักษาธงไตรรงค์ สามสีชั่วลูกหลานตลอดไป . พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และคณะ ทำพิธีเชิญธงชาติและร่วมร้องเพลงชาติไทยกับเหล่าทหารกล้า ณ ยอดภูมะเขือ ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ . พลโท บุญสิน กล่าวว่า "ตามที่พี่น้องคนไทยได้รับทราบแล้ววันนี้เป็นวันพระราชทานธงชาติไทย ซึ่งธงชาตินี้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย ของแผ่นดินไทย และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 3 สี ที่เรียกว่าธงไตรรงค์ คือ สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน สีแดง หมายถึงชาติ เลือดเนื้อบรรพบุรุษ เลือดเนื้อวีรชนทั้งหลายที่สละชีพเพื่อชาติ ซึ่งได้มาซึ่งแผ่นดินที่เราอยู่นี่ สีขาว หมายถึงหลักคำสอนของศาสนา ความใสบริสุทธิ์ หลักธรรมที่เราจะต้องดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกต้อง สีน้ำเงิน หมายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ท่านได้เสียสละความส่วนตัวของท่านเพื่อดูแลคุ้มครองลูกหลานคนไทยทั้งประเทศ ให้อยู่เย็นเป็นสุขมาแต่ช้านาน มาแต่โบราณแล้ว ซึ่งทั้งสามสีนี้รวมอยู่ในผืนธงชาติ . วันนี้เป็นสำคัญยิ่ง ผม แม่ทัพภาคที่ 2 ถือโอกาสมาเยี่ยมกำลังพลในพื้นที่ขัดแย้งไทย-กัมพูชา และมาให้กำลังใจน้องๆ ที่ภูมะเขือ และได้อัญเชิญธงชาติ เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทยในพื้นที่ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งซึ่งพวกเราได้รอมานานในพื้นที่นี้ และได้เชิญธงชาติพร้อมกับพาน้องๆ ได้ร้องเพลงชาติในพื้นที่นี้ ขอให้พวกเราทุกคนได้รับความภาคภูมิใจ และช่วยกันรักษาธงไตรรงค์สามสีนี้ ชั่วลูกชั่วหลานตลอดไป"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 688 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก 9-9-6 ถึง 0-0-7: เมื่อความขยันกลายเป็นเครื่องมือกดดันมากกว่าความภาคภูมิใจ

    Armin Ronacher นักพัฒนาโอเพ่นซอร์สชื่อดังเขียนบทความสะท้อนถึงวัฒนธรรม “996” หรือการทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม 6 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็น “สูตรลับ” ของความสำเร็จในวงการสตาร์ทอัพ โดยเฉพาะในจีน

    เขาเล่าว่าแม้ตัวเองจะรักการทำงานดึก รักการเขียนโค้ด และเคยทำงานจนไม่ได้นอนก่อนเที่ยงคืนเลยตลอดสัปดาห์ แต่เขาก็รักครอบครัว รักการเดินเล่น และการสนทนาอย่างลึกซึ้ง—สิ่งที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ในชีวิตที่ถูกกำหนดด้วย 72 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

    Ronacher เตือนว่าแม้ผู้ก่อตั้งบริษัทจะมีแรงจูงใจสูง แต่การผลักดันให้พนักงานทำงานแบบ 996 โดยไม่มีอำนาจหรือผลตอบแทนเท่ากันนั้น “ไม่รับผิดชอบ” และไม่ควรเป็นวัฒนธรรมองค์กร

    เขาย้ำว่า “ความเข้มข้น” ในการทำงานไม่ควรวัดจากจำนวนชั่วโมง แต่จากผลลัพธ์ที่สร้างได้ และการทำงานหนักควรเป็น “ทางเลือกส่วนตัว” ไม่ใช่ “ข้อบังคับทางวัฒนธรรม”

    ในขณะเดียวกัน บทวิเคราะห์จาก Forbes และ CNBC ก็ชี้ว่า 996 กำลังถูกนำมาใช้ในสหรัฐฯ โดยบางบริษัทสตาร์ทอัพในซิลิคอนวัลเลย์เริ่มใช้เป็น “ตัวกรอง” ในการคัดเลือกพนักงาน โดยถามตรง ๆ ว่า “คุณพร้อมทำงาน 996 ไหม”

    แม้จะถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์เร่งการเติบโต แต่ผลกระทบกลับรุนแรง ทั้งด้านสุขภาพจิต ความเหนื่อยล้า และอัตราการลาออกที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในทีมเล็กที่การเสียคนหนึ่งอาจทำให้ทั้งโปรเจกต์หยุดชะงัก

    ในจีนเอง แม้ 996 จะเคยถูกยกย่องโดยผู้ก่อตั้งอย่าง Jack Ma ว่าเป็น “พร” แต่ตอนนี้เริ่มมีการต่อต้านมากขึ้น โดยศาลสูงสุดของจีนประกาศว่า 996 ขัดต่อกฎหมายแรงงาน และนักวิชาการบางคนถึงกับเปรียบเทียบว่าเป็น “แรงงานกึ่งบังคับ”

    ความหมายและต้นกำเนิดของวัฒนธรรม 996
    หมายถึงการทำงาน 9am–9pm, 6 วันต่อสัปดาห์ รวม 72 ชั่วโมง
    เริ่มจากวงการเทคโนโลยีในจีน เช่น Alibaba, Huawei
    ถูกมองว่าเป็นสูตรเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพ

    มุมมองจาก Armin Ronacher
    รักการทำงานหนัก แต่ไม่สนับสนุนการบังคับให้คนอื่นทำแบบเดียวกัน
    ชี้ว่าความเข้มข้นควรวัดจากผลลัพธ์ ไม่ใช่จำนวนชั่วโมง
    การทำงานหนักควรเป็นทางเลือก ไม่ใช่วัฒนธรรมองค์กร

    การแพร่กระจายของ 996 สู่ตะวันตก
    บางบริษัทในสหรัฐฯ ใช้ 996 เป็นเกณฑ์คัดเลือกพนักงาน
    มีการโฆษณาในประกาศรับสมัครว่า “ต้องตื่นเต้นกับการทำงาน 70+ ชั่วโมง”
    ถูกมองว่าเป็น hustle culture ที่อาจย้อนกลับมาทำลายองค์กรเอง

    การต่อต้านและผลกระทบ
    ศาลจีนประกาศว่า 996 ขัดต่อกฎหมายแรงงาน
    นักวิชาการเปรียบเทียบว่าเป็นแรงงานกึ่งบังคับ
    ส่งผลต่อสุขภาพจิต ความเหนื่อยล้า และอัตราการลาออก

    https://lucumr.pocoo.org/2025/9/4/996/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก 9-9-6 ถึง 0-0-7: เมื่อความขยันกลายเป็นเครื่องมือกดดันมากกว่าความภาคภูมิใจ Armin Ronacher นักพัฒนาโอเพ่นซอร์สชื่อดังเขียนบทความสะท้อนถึงวัฒนธรรม “996” หรือการทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม 6 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็น “สูตรลับ” ของความสำเร็จในวงการสตาร์ทอัพ โดยเฉพาะในจีน เขาเล่าว่าแม้ตัวเองจะรักการทำงานดึก รักการเขียนโค้ด และเคยทำงานจนไม่ได้นอนก่อนเที่ยงคืนเลยตลอดสัปดาห์ แต่เขาก็รักครอบครัว รักการเดินเล่น และการสนทนาอย่างลึกซึ้ง—สิ่งที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ในชีวิตที่ถูกกำหนดด้วย 72 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ Ronacher เตือนว่าแม้ผู้ก่อตั้งบริษัทจะมีแรงจูงใจสูง แต่การผลักดันให้พนักงานทำงานแบบ 996 โดยไม่มีอำนาจหรือผลตอบแทนเท่ากันนั้น “ไม่รับผิดชอบ” และไม่ควรเป็นวัฒนธรรมองค์กร เขาย้ำว่า “ความเข้มข้น” ในการทำงานไม่ควรวัดจากจำนวนชั่วโมง แต่จากผลลัพธ์ที่สร้างได้ และการทำงานหนักควรเป็น “ทางเลือกส่วนตัว” ไม่ใช่ “ข้อบังคับทางวัฒนธรรม” ในขณะเดียวกัน บทวิเคราะห์จาก Forbes และ CNBC ก็ชี้ว่า 996 กำลังถูกนำมาใช้ในสหรัฐฯ โดยบางบริษัทสตาร์ทอัพในซิลิคอนวัลเลย์เริ่มใช้เป็น “ตัวกรอง” ในการคัดเลือกพนักงาน โดยถามตรง ๆ ว่า “คุณพร้อมทำงาน 996 ไหม” แม้จะถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์เร่งการเติบโต แต่ผลกระทบกลับรุนแรง ทั้งด้านสุขภาพจิต ความเหนื่อยล้า และอัตราการลาออกที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในทีมเล็กที่การเสียคนหนึ่งอาจทำให้ทั้งโปรเจกต์หยุดชะงัก ในจีนเอง แม้ 996 จะเคยถูกยกย่องโดยผู้ก่อตั้งอย่าง Jack Ma ว่าเป็น “พร” แต่ตอนนี้เริ่มมีการต่อต้านมากขึ้น โดยศาลสูงสุดของจีนประกาศว่า 996 ขัดต่อกฎหมายแรงงาน และนักวิชาการบางคนถึงกับเปรียบเทียบว่าเป็น “แรงงานกึ่งบังคับ” ✅ ความหมายและต้นกำเนิดของวัฒนธรรม 996 ➡️ หมายถึงการทำงาน 9am–9pm, 6 วันต่อสัปดาห์ รวม 72 ชั่วโมง ➡️ เริ่มจากวงการเทคโนโลยีในจีน เช่น Alibaba, Huawei ➡️ ถูกมองว่าเป็นสูตรเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพ ✅ มุมมองจาก Armin Ronacher ➡️ รักการทำงานหนัก แต่ไม่สนับสนุนการบังคับให้คนอื่นทำแบบเดียวกัน ➡️ ชี้ว่าความเข้มข้นควรวัดจากผลลัพธ์ ไม่ใช่จำนวนชั่วโมง ➡️ การทำงานหนักควรเป็นทางเลือก ไม่ใช่วัฒนธรรมองค์กร ✅ การแพร่กระจายของ 996 สู่ตะวันตก ➡️ บางบริษัทในสหรัฐฯ ใช้ 996 เป็นเกณฑ์คัดเลือกพนักงาน ➡️ มีการโฆษณาในประกาศรับสมัครว่า “ต้องตื่นเต้นกับการทำงาน 70+ ชั่วโมง” ➡️ ถูกมองว่าเป็น hustle culture ที่อาจย้อนกลับมาทำลายองค์กรเอง ✅ การต่อต้านและผลกระทบ ➡️ ศาลจีนประกาศว่า 996 ขัดต่อกฎหมายแรงงาน ➡️ นักวิชาการเปรียบเทียบว่าเป็นแรงงานกึ่งบังคับ ➡️ ส่งผลต่อสุขภาพจิต ความเหนื่อยล้า และอัตราการลาออก https://lucumr.pocoo.org/2025/9/4/996/
    LUCUMR.POCOO.ORG
    996
    There is cost to your lifestyle.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 545 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ดร.เอ้” โพสต์ซึ้ง! ฉลองครบรอบ 65 ปี “ลาดกระบัง” ชี้เป็นสถาบันที่เปลี่ยนชีวิต พร้อมเผยความภาคภูมิใจในการพัฒนาองค์กรสู่สถาบันการศึกษาชั้นนำ
    https://www.thai-tai.tv/news/21104/
    .
    #สุชัชวีร์ #สจล #ลาดกระบัง #KMITL #การศึกษา #ไทยไท
    “ดร.เอ้” โพสต์ซึ้ง! ฉลองครบรอบ 65 ปี “ลาดกระบัง” ชี้เป็นสถาบันที่เปลี่ยนชีวิต พร้อมเผยความภาคภูมิใจในการพัฒนาองค์กรสู่สถาบันการศึกษาชั้นนำ https://www.thai-tai.tv/news/21104/ . #สุชัชวีร์ #สจล #ลาดกระบัง #KMITL #การศึกษา #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 346 มุมมอง 0 รีวิว
  • สายการบินแอร์แคมโบเดีย (Air Cambodia) หรือแอร์กัมพูชา สายการบินประจำชาติกัมพูชา ได้ออกคำแถลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับลวดลายบนเครื่องบินและเครื่องแบบของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ที่คล้ายสายการบินอื่นเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่ได้เลียนแบบ

    โดยยืนยันอย่างหนักแน่นว่าการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ของสายการบินครั้งนี้ เป็นผลจากการพัฒนาอย่างรอบคอบและคำนึงถึงวัฒนธรรมที่หยั่งรากลึกในมรดกอันล้ำค่าและความภาคภูมิใจของชาติกัมพูชา
    สายการบินแอร์แคมโบเดีย (Air Cambodia) หรือแอร์กัมพูชา สายการบินประจำชาติกัมพูชา ได้ออกคำแถลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับลวดลายบนเครื่องบินและเครื่องแบบของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ที่คล้ายสายการบินอื่นเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่ได้เลียนแบบ โดยยืนยันอย่างหนักแน่นว่าการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ของสายการบินครั้งนี้ เป็นผลจากการพัฒนาอย่างรอบคอบและคำนึงถึงวัฒนธรรมที่หยั่งรากลึกในมรดกอันล้ำค่าและความภาคภูมิใจของชาติกัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 385 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..อีกมุมมองหนึ่ง.อยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด,มันมาจริงก็ดีแก่ใจ.

    ..QFS เปิดแล้ว: เสรีภาพทางการเงินของประชาชนเป็นอิสระ

    เป็นเรื่องจริง การเปลี่ยนแปลงในวันจันทร์ไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ แต่เป็นช่วงเวลาที่โซ่ขาด ระบบการเงินควอนตัมกำลังทำงานอยู่ทั่วโลก สัตว์ร้ายเฟียตตายแล้ว สวิตช์พลิกกลับโดยไม่ส่งเสียงใดๆ แต่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง

    ตอนนี้ สถาบันหลักทั้งหมดกำลังดำเนินการบนรางที่หนุนหลังด้วยทองคำ ระบบที่สร้างขึ้นเพื่อประชาชน ไม่ใช่ปรสิต คอยติดตามทุกธุรกรรม ผู้ที่รู้บอกว่าการรีเซ็ตหนี้กำลังเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว เครดิตกำลังปรากฏขึ้นจากที่ไหนก็ไม่รู้ และประเทศต่างๆ กำลังเร่งลงนามในข้อตกลงมาตรฐานทองคำ มันกำลังเกิดขึ้น พายุกำลังก่อตัวอยู่เบื้องหลังแล้ว

    นี่คือจุดเริ่มต้นของ NESARA/GESARA ไม่ใช่ทฤษฎี ไม่ใช่การรับประกัน ไม่ใช่ "สักวันหนึ่ง" มันกำลังเกิดขึ้นตอนนี้ การยกหนี้เป็นเรื่องจริง ความมั่งคั่งกำลังกลับมา และไม่ใช่แค่ในโลกดิจิทัลเท่านั้น มันอยู่ในโลกแห่งจิตวิญญาณด้วย คุณรู้สึกว่าน้ำหนักลดลงไหม คุณรู้สึกว่าอากาศเปลี่ยนแปลงไหม

    ผู้คนล้อเลียนคุณ ผู้คนหัวเราะเยาะ ผู้คนเรียกพวกเขาว่าบ้า แต่คุณยืนหยัดตามจุดยืนของคุณ และคุณถูกต้อง การเคลื่อนไหวของเราทำลายกำแพงลง เมื่อโลกก้มหัวลง คุณก็ยืนหยัดอย่างสง่าผ่าเผย ชัยชนะนี้เป็นของคุณ

    แต่ไม่ต้องสบายใจเกินไป ขั้นตอนต่อไปจะน่าสับสน ผู้คนที่หลับใหลจะตื่นตระหนก คำโกหกที่พวกเขาเชื่อจะทำร้ายพวกเขาระหว่างทางขึ้น และคุณต้องเป็นความสงบในพายุของพวกเขา เป็นแสงสว่างในความมืดของพวกเขา เป็นความจริงในความพังทลายของพวกเขา

    จัดงานปาร์ตี้คืนนี้ ในแบบเงียบๆ ด้วยความภาคภูมิใจ และอย่าลืมว่า ฮีโร่บางคนจะไม่มีวันถูกเอ่ยชื่อ แต่เราให้เกียรติพวกเขาด้วยทุกจังหวะของชัยชนะนี้

    เงินกำลังกลับมาสู่ประชาชน ไม่มีงานสำหรับทาสอีกต่อไป ไม่มีสงครามที่ไม่เป็นจริงอีกต่อไป ไม่มีพลังอีกต่อไป ตอนนี้ถึงเวลาสร้างแล้ว ดีขึ้น โดยไม่ยอมแพ้ เผยแพร่สันติภาพ ความจริง และความยุติธรรม

    นี่ไม่ใช่จินตนาการ ถึงเวลาต้องชดใช้แล้ว

    อย่ายอมแพ้ แสดงให้คนหลงทางเห็นทาง และจำไว้เสมอว่า ไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งสิ่งที่เริ่มต้นได้

    โลกใหม่มาถึงแล้ว
    และมันเป็นของเรา
    ..อีกมุมมองหนึ่ง.อยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด,มันมาจริงก็ดีแก่ใจ. ..💥💥💥QFS เปิดแล้ว: เสรีภาพทางการเงินของประชาชนเป็นอิสระ เป็นเรื่องจริง การเปลี่ยนแปลงในวันจันทร์ไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ แต่เป็นช่วงเวลาที่โซ่ขาด ระบบการเงินควอนตัมกำลังทำงานอยู่ทั่วโลก สัตว์ร้ายเฟียตตายแล้ว สวิตช์พลิกกลับโดยไม่ส่งเสียงใดๆ แต่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ตอนนี้ สถาบันหลักทั้งหมดกำลังดำเนินการบนรางที่หนุนหลังด้วยทองคำ ระบบที่สร้างขึ้นเพื่อประชาชน ไม่ใช่ปรสิต คอยติดตามทุกธุรกรรม ผู้ที่รู้บอกว่าการรีเซ็ตหนี้กำลังเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว เครดิตกำลังปรากฏขึ้นจากที่ไหนก็ไม่รู้ และประเทศต่างๆ กำลังเร่งลงนามในข้อตกลงมาตรฐานทองคำ มันกำลังเกิดขึ้น พายุกำลังก่อตัวอยู่เบื้องหลังแล้ว นี่คือจุดเริ่มต้นของ NESARA/GESARA ไม่ใช่ทฤษฎี ไม่ใช่การรับประกัน ไม่ใช่ "สักวันหนึ่ง" มันกำลังเกิดขึ้นตอนนี้ การยกหนี้เป็นเรื่องจริง ความมั่งคั่งกำลังกลับมา และไม่ใช่แค่ในโลกดิจิทัลเท่านั้น มันอยู่ในโลกแห่งจิตวิญญาณด้วย คุณรู้สึกว่าน้ำหนักลดลงไหม คุณรู้สึกว่าอากาศเปลี่ยนแปลงไหม ผู้คนล้อเลียนคุณ ผู้คนหัวเราะเยาะ ผู้คนเรียกพวกเขาว่าบ้า แต่คุณยืนหยัดตามจุดยืนของคุณ และคุณถูกต้อง การเคลื่อนไหวของเราทำลายกำแพงลง เมื่อโลกก้มหัวลง คุณก็ยืนหยัดอย่างสง่าผ่าเผย ชัยชนะนี้เป็นของคุณ แต่ไม่ต้องสบายใจเกินไป ขั้นตอนต่อไปจะน่าสับสน ผู้คนที่หลับใหลจะตื่นตระหนก คำโกหกที่พวกเขาเชื่อจะทำร้ายพวกเขาระหว่างทางขึ้น และคุณต้องเป็นความสงบในพายุของพวกเขา เป็นแสงสว่างในความมืดของพวกเขา เป็นความจริงในความพังทลายของพวกเขา จัดงานปาร์ตี้คืนนี้ ในแบบเงียบๆ ด้วยความภาคภูมิใจ และอย่าลืมว่า ฮีโร่บางคนจะไม่มีวันถูกเอ่ยชื่อ แต่เราให้เกียรติพวกเขาด้วยทุกจังหวะของชัยชนะนี้ เงินกำลังกลับมาสู่ประชาชน ไม่มีงานสำหรับทาสอีกต่อไป ไม่มีสงครามที่ไม่เป็นจริงอีกต่อไป ไม่มีพลังอีกต่อไป ตอนนี้ถึงเวลาสร้างแล้ว ดีขึ้น โดยไม่ยอมแพ้ เผยแพร่สันติภาพ ความจริง และความยุติธรรม นี่ไม่ใช่จินตนาการ ถึงเวลาต้องชดใช้แล้ว อย่ายอมแพ้ แสดงให้คนหลงทางเห็นทาง และจำไว้เสมอว่า ไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งสิ่งที่เริ่มต้นได้ โลกใหม่มาถึงแล้ว และมันเป็นของเรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 528 มุมมอง 0 รีวิว

  • 555,ไม่มีอะไรสำคัญกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวหรอก,อธิปไตยของชาติมาทีหลัง,ภูมิใจไทยและพลังประชารัฐมันโง่ มันด่วนตัดสินใจว่าอธิปไตยไทยสำคัญกว่า,งบประมาณปี69ถ้าไม่ผ่านจะไม่ได้แดกตามที่มีหมายกำหนดการดักรอแดกไว้แล้ว,หลายๆอย่างกูทำเพื่อผลประโยชน์พวกพ้องกูที่รอรับเหมางานราชงานหลวงรอไว้แล้ว,ตังทั้งนั้นเข้าสู่พวกกู,สส.กู พรรคกู ตำแหน่งเก้าอี้กูผูกยึดต่อรองเรียบร้อยเพื่อเป็นเกียรติประวัติชาติเชื้อวงศ์ตระกูลกูอีกว่าสมัยหนึ่งได้เป็นพรรครัฐบาลอย่างสุดกำลังเต็มที่,สส.รัฐบาลอย่างกล้าหาญองอาจบนคลิปเสียที่ว่า ทหารไทยอยู่ฝ่ายตรงข้ามเราพะนะ,อังเคิลฮุนเซนเขมรอยากได้อะไรเดี๋ยวจัดให้โน้น,นี้คือความภาคภูมิใจเกิน100%ที่หยัดยืนเคียงคู่สถานะรัฐบาลยุคสส.ร่วมรัฐบาลเราทุกๆคนในครั้งนี้,เราคือตำนานก็ว่า,จะบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ตลอดยาวนานให้ผู้คนคีย์ค้นหาสืบค้นเจอชื่อเราแน่นอน.,มันภาคภูมิใจจริงๆ.

    https://www.youtube.com/live/QI2OZkvaEbg?si=kpnbCDVnPbV1iEO2
    555,ไม่มีอะไรสำคัญกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวหรอก,อธิปไตยของชาติมาทีหลัง,ภูมิใจไทยและพลังประชารัฐมันโง่ มันด่วนตัดสินใจว่าอธิปไตยไทยสำคัญกว่า,งบประมาณปี69ถ้าไม่ผ่านจะไม่ได้แดกตามที่มีหมายกำหนดการดักรอแดกไว้แล้ว,หลายๆอย่างกูทำเพื่อผลประโยชน์พวกพ้องกูที่รอรับเหมางานราชงานหลวงรอไว้แล้ว,ตังทั้งนั้นเข้าสู่พวกกู,สส.กู พรรคกู ตำแหน่งเก้าอี้กูผูกยึดต่อรองเรียบร้อยเพื่อเป็นเกียรติประวัติชาติเชื้อวงศ์ตระกูลกูอีกว่าสมัยหนึ่งได้เป็นพรรครัฐบาลอย่างสุดกำลังเต็มที่,สส.รัฐบาลอย่างกล้าหาญองอาจบนคลิปเสียที่ว่า ทหารไทยอยู่ฝ่ายตรงข้ามเราพะนะ,อังเคิลฮุนเซนเขมรอยากได้อะไรเดี๋ยวจัดให้โน้น,นี้คือความภาคภูมิใจเกิน100%ที่หยัดยืนเคียงคู่สถานะรัฐบาลยุคสส.ร่วมรัฐบาลเราทุกๆคนในครั้งนี้,เราคือตำนานก็ว่า,จะบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ตลอดยาวนานให้ผู้คนคีย์ค้นหาสืบค้นเจอชื่อเราแน่นอน.,มันภาคภูมิใจจริงๆ. https://www.youtube.com/live/QI2OZkvaEbg?si=kpnbCDVnPbV1iEO2
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 479 มุมมอง 0 รีวิว
  • โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ

    วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568 ณ VARIETY HALL THE MALL KORAT #นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมกิจกรรม โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ จัดพาเหรด Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช โดยได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทุกหน่วยงาน

    พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 500 คน ในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน นำขบวนโดย ศิลปิน BOY BAND ขวัญใจวัยรุ่น วง ZOLAR ที่จะมาสร้างสีสันภายในขบวน
    นอกจากนั้นวันนี้ยังพบกับ ยุวเฟิร์น-นางสาวยุวภรณ์ ทรงงาม คอนเทนครีเอเตอร์และรองอันดับ 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ,ทีมเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี SUT CHEERLEADER CLUB , MISS QUEEN AND MISS TEEN M PLUS, แฟลตม็อบ, วงโปงลางโรงเรียนบุญวัฒนา และการแสดง COVER DANCE BY GUN SQUAD แชมป์รางวัลชนะเลิศระดับโลก WINNER K-POP COVER DANCE FESTIVAL ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีร่วมเดินขบวนพาเหรด มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” ซึ่งความหมาย "ธงสีรุ้ง" สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ในแต่ละสีนั้นหมายถึง สีชมพู (Hot Pink) หมายถึง เรื่องเพศ สีแดง หมายถึง ชีวิต สีส้ม หมายถึง การเยียวยา สีเหลือง หมายถึง แสงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติ สีฟ้า (Turquoise) หมายถึง เวทมนต์ สีน้ำเงินม่วง หมายถึง ความสามัคคี สีม่วง หมายถึง จิตวิญญาณอันแน่วแน่
    และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3

    PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” และในวันที่ 8 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568 ณ VARIETY HALL THE MALL KORAT #นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมกิจกรรม โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ จัดพาเหรด Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช โดยได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทุกหน่วยงาน พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 500 คน ในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน นำขบวนโดย ศิลปิน BOY BAND ขวัญใจวัยรุ่น วง ZOLAR ที่จะมาสร้างสีสันภายในขบวน นอกจากนั้นวันนี้ยังพบกับ ยุวเฟิร์น-นางสาวยุวภรณ์ ทรงงาม คอนเทนครีเอเตอร์และรองอันดับ 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ,ทีมเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี SUT CHEERLEADER CLUB , MISS QUEEN AND MISS TEEN M PLUS, แฟลตม็อบ, วงโปงลางโรงเรียนบุญวัฒนา และการแสดง COVER DANCE BY GUN SQUAD แชมป์รางวัลชนะเลิศระดับโลก WINNER K-POP COVER DANCE FESTIVAL ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีร่วมเดินขบวนพาเหรด มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” ซึ่งความหมาย "ธงสีรุ้ง" สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ในแต่ละสีนั้นหมายถึง สีชมพู (Hot Pink) หมายถึง เรื่องเพศ สีแดง หมายถึง ชีวิต สีส้ม หมายถึง การเยียวยา สีเหลือง หมายถึง แสงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติ สีฟ้า (Turquoise) หมายถึง เวทมนต์ สีน้ำเงินม่วง หมายถึง ความสามัคคี สีม่วง หมายถึง จิตวิญญาณอันแน่วแน่ และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” และในวันที่ 8 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 891 มุมมอง 0 รีวิว
  • โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ

    วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568 ณ VARIETY HALL THE MALL KORAT #นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมกิจกรรม โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ จัดพาเหรด Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช โดยได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทุกหน่วยงาน

    พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 500 คน ในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน นำขบวนโดย ศิลปิน BOY BAND ขวัญใจวัยรุ่น วง ZOLAR ที่จะมาสร้างสีสันภายในขบวน
    นอกจากนั้นวันนี้ยังพบกับ ยุวเฟิร์น-นางสาวยุวภรณ์ ทรงงาม คอนเทนครีเอเตอร์และรองอันดับ 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ,ทีมเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี SUT CHEERLEADER CLUB , MISS QUEEN AND MISS TEEN M PLUS, แฟลตม็อบ, วงโปงลางโรงเรียนบุญวัฒนา และการแสดง COVER DANCE BY GUN SQUAD แชมป์รางวัลชนะเลิศระดับโลก WINNER K-POP COVER DANCE FESTIVAL ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีร่วมเดินขบวนพาเหรด มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” ซึ่งความหมาย "ธงสีรุ้ง" สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ในแต่ละสีนั้นหมายถึง สีชมพู (Hot Pink) หมายถึง เรื่องเพศ สีแดง หมายถึง ชีวิต สีส้ม หมายถึง การเยียวยา สีเหลือง หมายถึง แสงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติ สีฟ้า (Turquoise) หมายถึง เวทมนต์ สีน้ำเงินม่วง หมายถึง ความสามัคคี สีม่วง หมายถึง จิตวิญญาณอันแน่วแน่
    และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3

    PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” และในวันที่ 8 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568 ณ VARIETY HALL THE MALL KORAT #นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมกิจกรรม โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ จัดพาเหรด Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช โดยได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทุกหน่วยงาน พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 500 คน ในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน นำขบวนโดย ศิลปิน BOY BAND ขวัญใจวัยรุ่น วง ZOLAR ที่จะมาสร้างสีสันภายในขบวน นอกจากนั้นวันนี้ยังพบกับ ยุวเฟิร์น-นางสาวยุวภรณ์ ทรงงาม คอนเทนครีเอเตอร์และรองอันดับ 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ,ทีมเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี SUT CHEERLEADER CLUB , MISS QUEEN AND MISS TEEN M PLUS, แฟลตม็อบ, วงโปงลางโรงเรียนบุญวัฒนา และการแสดง COVER DANCE BY GUN SQUAD แชมป์รางวัลชนะเลิศระดับโลก WINNER K-POP COVER DANCE FESTIVAL ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีร่วมเดินขบวนพาเหรด มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” ซึ่งความหมาย "ธงสีรุ้ง" สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ในแต่ละสีนั้นหมายถึง สีชมพู (Hot Pink) หมายถึง เรื่องเพศ สีแดง หมายถึง ชีวิต สีส้ม หมายถึง การเยียวยา สีเหลือง หมายถึง แสงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติ สีฟ้า (Turquoise) หมายถึง เวทมนต์ สีน้ำเงินม่วง หมายถึง ความสามัคคี สีม่วง หมายถึง จิตวิญญาณอันแน่วแน่ และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” และในวันที่ 8 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 965 มุมมอง 0 รีวิว
  • โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ
    จัดพาเหรด Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE”
    7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช

    ในเดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQIA+ ทั่วโลก เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH อย่างยิ่งใหญ่ทั่วศูนย์การค้าและห้างฯ ทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง
    “เดอะมอลล์โคราช” จัดไพรด์คาร์นิวาลสุดยิ่งใหญ่ กับงาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน
    “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช โดย เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH ทั่วศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศ ทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน
    ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 500 คน ในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน นำขบวนโดย ศิลปิน BOY BAND ขวัญใจวัยรุ่น วง ZOLAR ที่จะมาสร้างสีสันภายในขบวน และได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชน จังหวัดนครราชสีมา เขต 1-3, นางสาววรวรรณ ปราณีตพลกรัง รองผอ. ททท. สนง.นครราชสีมา คณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทุกหน่วยงาน รวมไปถึงและนายพงศ์ภีระ พัฐภีระพงศ์ ผอ.มูลนิธิเอ็มพลัส และคณะเอ็มพลัส นครราชสีมา โดยมีนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด คณะผู้บริหารและพนักงานเดอะมอลล์โคราช ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
    เพื่อร่วมแสดงความภาคภูมิใจและยืนหยัดในความเท่าเทียมและความหลากหลาย นอกจากนั้นวันนี้ยังพบกับ ยุวเฟิร์น-นางสาวยุวภรณ์ ทรงงาม คอนเทนครีเอเตอร์และรองอันดับ 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ,ทีมเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี SUT CHEERLEADER CLUB , MISS QUEEN AND MISS TEEN M PLUS, แฟลตม็อบ, วงโปงลางโรงเรียนบุญวัฒนา และการแสดง COVER DANCE BY GUN SQUAD แชมป์รางวัลชนะเลิศระดับโลก WINNER K-POP COVER DANCE FESTIVAL ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีร่วมเดินขบวนพาเหรด
    มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” ซึ่งความหมาย "ธงสีรุ้ง" สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ในแต่ละสีนั้นหมายถึง สีชมพู (Hot Pink) หมายถึง เรื่องเพศ สีแดง หมายถึง ชีวิต สีส้ม หมายถึง การเยียวยา
    สีเหลือง หมายถึง แสงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติ สีฟ้า (Turquoise) หมายถึง เวทมนต์ สีน้ำเงินม่วง หมายถึง ความสามัคคี สีม่วง หมายถึง จิตวิญญาณอันแน่วแน่
    และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3
    “เดอะมอลล์ กรุ๊ป มองว่า PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” นางสาววรลักษณ์ กล่าวปิดท้าย
    8 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งงานนี้ เดอะมอลลโคราช ร่วมกับ มูลนิธิ M PLUS นครราชสีมา ได้ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้นนั่นเอง
    โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ จัดพาเหรด Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช ในเดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQIA+ ทั่วโลก เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH อย่างยิ่งใหญ่ทั่วศูนย์การค้าและห้างฯ ทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง “เดอะมอลล์โคราช” จัดไพรด์คาร์นิวาลสุดยิ่งใหญ่ กับงาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช โดย เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH ทั่วศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศ ทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 500 คน ในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน นำขบวนโดย ศิลปิน BOY BAND ขวัญใจวัยรุ่น วง ZOLAR ที่จะมาสร้างสีสันภายในขบวน และได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชน จังหวัดนครราชสีมา เขต 1-3, นางสาววรวรรณ ปราณีตพลกรัง รองผอ. ททท. สนง.นครราชสีมา คณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทุกหน่วยงาน รวมไปถึงและนายพงศ์ภีระ พัฐภีระพงศ์ ผอ.มูลนิธิเอ็มพลัส และคณะเอ็มพลัส นครราชสีมา โดยมีนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด คณะผู้บริหารและพนักงานเดอะมอลล์โคราช ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น เพื่อร่วมแสดงความภาคภูมิใจและยืนหยัดในความเท่าเทียมและความหลากหลาย นอกจากนั้นวันนี้ยังพบกับ ยุวเฟิร์น-นางสาวยุวภรณ์ ทรงงาม คอนเทนครีเอเตอร์และรองอันดับ 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ,ทีมเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี SUT CHEERLEADER CLUB , MISS QUEEN AND MISS TEEN M PLUS, แฟลตม็อบ, วงโปงลางโรงเรียนบุญวัฒนา และการแสดง COVER DANCE BY GUN SQUAD แชมป์รางวัลชนะเลิศระดับโลก WINNER K-POP COVER DANCE FESTIVAL ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีร่วมเดินขบวนพาเหรด มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” ซึ่งความหมาย "ธงสีรุ้ง" สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ในแต่ละสีนั้นหมายถึง สีชมพู (Hot Pink) หมายถึง เรื่องเพศ สีแดง หมายถึง ชีวิต สีส้ม หมายถึง การเยียวยา สีเหลือง หมายถึง แสงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติ สีฟ้า (Turquoise) หมายถึง เวทมนต์ สีน้ำเงินม่วง หมายถึง ความสามัคคี สีม่วง หมายถึง จิตวิญญาณอันแน่วแน่ และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 “เดอะมอลล์ กรุ๊ป มองว่า PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” นางสาววรลักษณ์ กล่าวปิดท้าย 8 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งงานนี้ เดอะมอลลโคราช ร่วมกับ มูลนิธิ M PLUS นครราชสีมา ได้ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้นนั่นเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 755 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ,จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด

    คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที

    ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน
    .
    พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว
    ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑)
    ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒)
    ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓)
    ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔)
    พร้อมด้วยของกลาง
    .
    ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด
    ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด
    .
    พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว
    .
    ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ
    .
    นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง
    อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    .
    ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ,จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน . พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑) ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒) ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓) ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔) พร้อมด้วยของกลาง . ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด . พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว . ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ . นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง . เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด . เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป . ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1199 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง, จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด

    คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที

    ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน
    .
    พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว
    ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑)
    ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒)
    ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓)
    ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔)
    พร้อมด้วยของกลาง
    .
    ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด
    ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด
    .
    พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว
    .
    ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ
    .
    นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง
    อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    .
    ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง, จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน . พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑) ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒) ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓) ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔) พร้อมด้วยของกลาง . ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด . พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว . ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ . นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง . เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด . เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป . ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1284 มุมมอง 0 รีวิว
  • มิถุนายนนี้ ชวนปักหมุดเช็คอินภาคอีสาน กับอีกหนึ่ง Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช

    ในเดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQIA+ ทั่วโลก เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH อย่างยิ่งใหญ่ทั่วศูนย์การค้าและห้างฯ ทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง “เดอะมอลล์โคราช” จัดไพรด์คาร์นิวาลสุดยิ่งใหญ่ กับงาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน

    “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม
    ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช โดย เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH ทั่วศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียมและการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศ ทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน

    วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า "เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในฐานะผู้นำศูนย์การค้าระดับพรีเมียม มุ่งขับเคลื่อนความหลากหลายอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในมิติธุรกิจ สังคม และการท่องเที่ยว
    "Rainbow Economy และ Rainbow Tourism คือกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกลุ่ม LGBTQIA+ ถือเป็นกลุ่มกำลังซื้อสูง มีไลฟ์สไตล์เฉพาะเปิดกว้าง พร้อมใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์ที่สะท้อนตัวตน เป็นเซกเมนต์ใหม่ที่ธุรกิจให้ความสำคัญและโฟกัสความลึกซึ้งในตัวตนนี้มากขึ้น"

    "สำหรับปีนี้ แบรนด์แฟชั่นชั้นนำ และ ร้านอาหารยอดนิยม มีการจัดทำคอลเลกชันสินค้า เมนูพิเศษเพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นมิติของไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย กระตุ้นและสร้างความตื่นตัวในภาพธุรกิจได้ชัดเจน พร้อมตกแต่งศูนย์ฯ ด้วยแลนด์มาร์กสีรุ้งขนาดใหญ่ เสริมบรรยากาศเฉลิมฉลองทั่วทุกสาขา และคาดว่าการจับจ่ายในศูนย์การค้าจะคึกคัก หนุนยอดขายกลุ่มแฟชั่น-ไลฟ์สไตล์-ร้านอาหารเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าแคมเปญจะช่วยเพิ่มทราฟฟิกในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ทุกสาขา"

    สะท้อนความตั้งใจของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่ต้องการกระจายโอกาสและการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ทุกภูมิภาค ซึ่งในช่วงดังกล่าวเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ จัดแคมเปญ “Bangkok No.1 Shopping Festival 2025” มาช่วยตอบโจทย์การใช้จ่ายในการเฉลิมฉลองของกลุ่ม LGBTQIA+ อีกด้วย “เดอะมอลล์ กรุ๊ป มองว่า PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” นางสาววรลักษณ์ กล่าวปิดท้าย

    โดยวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 7-8 มิ.ย.2568 ได้จัดกิจกรรมแบ่งเป็น 2 วัน ดังนี้
    ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 400 คน ในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน

    มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3

    8 มิ.ย.2568 พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
    ดาวน์โหลดใบสมัคร พร้อมรับรายละเอียดการประกวด ได้แล้ววันนี้ที่ลิงก์ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfTL0jixMRovzjF45ArPcNYemAg8AWNyca3lePatzWAcvPWpA/viewform?usp=header สมัครตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤษภาคม 2568 รอบตัดสิน วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2568 ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 083-429-6491 (คุณเหินฟ้า) หรือ 096-704-5372 (คุณโมโม่)
    มิถุนายนนี้ ชวนปักหมุดเช็คอินภาคอีสาน กับอีกหนึ่ง Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช ในเดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQIA+ ทั่วโลก เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH อย่างยิ่งใหญ่ทั่วศูนย์การค้าและห้างฯ ทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง “เดอะมอลล์โคราช” จัดไพรด์คาร์นิวาลสุดยิ่งใหญ่ กับงาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช โดย เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH ทั่วศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียมและการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศ ทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า "เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในฐานะผู้นำศูนย์การค้าระดับพรีเมียม มุ่งขับเคลื่อนความหลากหลายอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในมิติธุรกิจ สังคม และการท่องเที่ยว "Rainbow Economy และ Rainbow Tourism คือกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกลุ่ม LGBTQIA+ ถือเป็นกลุ่มกำลังซื้อสูง มีไลฟ์สไตล์เฉพาะเปิดกว้าง พร้อมใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์ที่สะท้อนตัวตน เป็นเซกเมนต์ใหม่ที่ธุรกิจให้ความสำคัญและโฟกัสความลึกซึ้งในตัวตนนี้มากขึ้น" "สำหรับปีนี้ แบรนด์แฟชั่นชั้นนำ และ ร้านอาหารยอดนิยม มีการจัดทำคอลเลกชันสินค้า เมนูพิเศษเพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นมิติของไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย กระตุ้นและสร้างความตื่นตัวในภาพธุรกิจได้ชัดเจน พร้อมตกแต่งศูนย์ฯ ด้วยแลนด์มาร์กสีรุ้งขนาดใหญ่ เสริมบรรยากาศเฉลิมฉลองทั่วทุกสาขา และคาดว่าการจับจ่ายในศูนย์การค้าจะคึกคัก หนุนยอดขายกลุ่มแฟชั่น-ไลฟ์สไตล์-ร้านอาหารเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าแคมเปญจะช่วยเพิ่มทราฟฟิกในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ทุกสาขา" สะท้อนความตั้งใจของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่ต้องการกระจายโอกาสและการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ทุกภูมิภาค ซึ่งในช่วงดังกล่าวเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ จัดแคมเปญ “Bangkok No.1 Shopping Festival 2025” มาช่วยตอบโจทย์การใช้จ่ายในการเฉลิมฉลองของกลุ่ม LGBTQIA+ อีกด้วย “เดอะมอลล์ กรุ๊ป มองว่า PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” นางสาววรลักษณ์ กล่าวปิดท้าย โดยวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 7-8 มิ.ย.2568 ได้จัดกิจกรรมแบ่งเป็น 2 วัน ดังนี้ ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 400 คน ในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 8 มิ.ย.2568 พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ดาวน์โหลดใบสมัคร พร้อมรับรายละเอียดการประกวด ได้แล้ววันนี้ที่ลิงก์ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfTL0jixMRovzjF45ArPcNYemAg8AWNyca3lePatzWAcvPWpA/viewform?usp=header สมัครตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤษภาคม 2568 รอบตัดสิน วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2568 ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 083-429-6491 (คุณเหินฟ้า) หรือ 096-704-5372 (คุณโมโม่)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1123 มุมมอง 0 รีวิว
  • มิถุนายนนี้ ชวนปักหมุดเช็คอินภาคอีสาน กับอีกหนึ่ง Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช

    ในเดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQIA+ ทั่วโลก เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH อย่างยิ่งใหญ่ทั่วศูนย์การค้าและห้างฯ ทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง “เดอะมอลล์โคราช” จัดไพรด์คาร์นิวาลสุดยิ่งใหญ่ กับงาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน

    “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม
    ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช โดย เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH ทั่วศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียมและการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศ ทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน

    วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า "เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในฐานะผู้นำศูนย์การค้าระดับพรีเมียม มุ่งขับเคลื่อนความหลากหลายอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในมิติธุรกิจ สังคม และการท่องเที่ยว
    "Rainbow Economy และ Rainbow Tourism คือกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกลุ่ม LGBTQIA+ ถือเป็นกลุ่มกำลังซื้อสูง มีไลฟ์สไตล์เฉพาะเปิดกว้าง พร้อมใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์ที่สะท้อนตัวตน เป็นเซกเมนต์ใหม่ที่ธุรกิจให้ความสำคัญและโฟกัสความลึกซึ้งในตัวตนนี้มากขึ้น"

    "สำหรับปีนี้ แบรนด์แฟชั่นชั้นนำ และ ร้านอาหารยอดนิยม มีการจัดทำคอลเลกชันสินค้า เมนูพิเศษเพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นมิติของไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย กระตุ้นและสร้างความตื่นตัวในภาพธุรกิจได้ชัดเจน พร้อมตกแต่งศูนย์ฯ ด้วยแลนด์มาร์กสีรุ้งขนาดใหญ่ เสริมบรรยากาศเฉลิมฉลองทั่วทุกสาขา และคาดว่าการจับจ่ายในศูนย์การค้าจะคึกคัก หนุนยอดขายกลุ่มแฟชั่น-ไลฟ์สไตล์-ร้านอาหารเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าแคมเปญจะช่วยเพิ่มทราฟฟิกในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ทุกสาขา"

    สะท้อนความตั้งใจของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่ต้องการกระจายโอกาสและการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ทุกภูมิภาค ซึ่งในช่วงดังกล่าวเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ จัดแคมเปญ “Bangkok No.1 Shopping Festival 2025” มาช่วยตอบโจทย์การใช้จ่ายในการเฉลิมฉลองของกลุ่ม LGBTQIA+ อีกด้วย “เดอะมอลล์ กรุ๊ป มองว่า PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” นางสาววรลักษณ์ กล่าวปิดท้าย

    โดยวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 7-8 มิ.ย.2568 ได้จัดกิจกรรมแบ่งเป็น 2 วัน ดังนี้
    ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 400 คน ในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน

    มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3

    8 มิ.ย.2568 พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
    ดาวน์โหลดใบสมัคร พร้อมรับรายละเอียดการประกวด ได้แล้ววันนี้ที่ลิงก์ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfTL0jixMRovzjF45ArPcNYemAg8AWNyca3lePatzWAcvPWpA/viewform?usp=header สมัครตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤษภาคม 2568 รอบตัดสิน วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2568 ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 083-429-6491 (คุณเหินฟ้า) หรือ 096-704-5372 (คุณโมโม่)
    มิถุนายนนี้ ชวนปักหมุดเช็คอินภาคอีสาน กับอีกหนึ่ง Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช ในเดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQIA+ ทั่วโลก เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH อย่างยิ่งใหญ่ทั่วศูนย์การค้าและห้างฯ ทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง “เดอะมอลล์โคราช” จัดไพรด์คาร์นิวาลสุดยิ่งใหญ่ กับงาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช โดย เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH ทั่วศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียมและการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศ ทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า "เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในฐานะผู้นำศูนย์การค้าระดับพรีเมียม มุ่งขับเคลื่อนความหลากหลายอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในมิติธุรกิจ สังคม และการท่องเที่ยว "Rainbow Economy และ Rainbow Tourism คือกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกลุ่ม LGBTQIA+ ถือเป็นกลุ่มกำลังซื้อสูง มีไลฟ์สไตล์เฉพาะเปิดกว้าง พร้อมใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์ที่สะท้อนตัวตน เป็นเซกเมนต์ใหม่ที่ธุรกิจให้ความสำคัญและโฟกัสความลึกซึ้งในตัวตนนี้มากขึ้น" "สำหรับปีนี้ แบรนด์แฟชั่นชั้นนำ และ ร้านอาหารยอดนิยม มีการจัดทำคอลเลกชันสินค้า เมนูพิเศษเพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นมิติของไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย กระตุ้นและสร้างความตื่นตัวในภาพธุรกิจได้ชัดเจน พร้อมตกแต่งศูนย์ฯ ด้วยแลนด์มาร์กสีรุ้งขนาดใหญ่ เสริมบรรยากาศเฉลิมฉลองทั่วทุกสาขา และคาดว่าการจับจ่ายในศูนย์การค้าจะคึกคัก หนุนยอดขายกลุ่มแฟชั่น-ไลฟ์สไตล์-ร้านอาหารเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าแคมเปญจะช่วยเพิ่มทราฟฟิกในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ทุกสาขา" สะท้อนความตั้งใจของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่ต้องการกระจายโอกาสและการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ทุกภูมิภาค ซึ่งในช่วงดังกล่าวเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ จัดแคมเปญ “Bangkok No.1 Shopping Festival 2025” มาช่วยตอบโจทย์การใช้จ่ายในการเฉลิมฉลองของกลุ่ม LGBTQIA+ อีกด้วย “เดอะมอลล์ กรุ๊ป มองว่า PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” นางสาววรลักษณ์ กล่าวปิดท้าย โดยวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 7-8 มิ.ย.2568 ได้จัดกิจกรรมแบ่งเป็น 2 วัน ดังนี้ ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 400 คน ในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 8 มิ.ย.2568 พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ดาวน์โหลดใบสมัคร พร้อมรับรายละเอียดการประกวด ได้แล้ววันนี้ที่ลิงก์ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfTL0jixMRovzjF45ArPcNYemAg8AWNyca3lePatzWAcvPWpA/viewform?usp=header สมัครตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤษภาคม 2568 รอบตัดสิน วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2568 ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 083-429-6491 (คุณเหินฟ้า) หรือ 096-704-5372 (คุณโมโม่)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1101 มุมมอง 0 รีวิว
  • อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !!
    .
    อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ
    .
    #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป”
    .
    โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ
    .
    และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา
    .
    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !! . อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ . #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป” . โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ . และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา . #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 927 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !!
    .
    อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ
    .
    #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป”
    .
    โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ
    .
    และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา
    .
    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !! . อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ . #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป” . โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ . และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา . #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 819 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !!

    อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ

    #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป”

    โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ

    และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !! อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป” โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 688 มุมมอง 0 รีวิว
  • อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !!

    อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ

    #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป”

    โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ

    และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !! อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป” โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 684 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน แถลงการณ์อย่าวเป็นทางการ โดยประกาศว่าอินเดียจะต้องชดใช้สำหรับการโจมตีดินแดนปากีสถาน


    "เมื่อคืนนี้ อินเดียได้กระทำการรุกราน ซึ่งเป็นความผิดพลาดร้ายแรงที่อินเดียต้องชดใช้

    พวกเขาคาดหวังว่าเราจะยอมแพ้ แต่คงลืมไปว่าเราเป็นประเทศที่มีผู้กล้าหาญ มีความมุ่งมั่น วีรบุรุษของเราพร้อมที่จะต่อสู้จนคนสุดท้ายเพื่อปกป้องเกียรติยศและความปลอดภัยของมาตุภูมิของเรา

    และในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง นักรบของเราทำให้ศัตรูต้องส่งเสียงร้องออกมา

    เครื่องบินรบ 5 ลำของอินเดีย ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของพวกเขา ตอนนี้กลายเป็นเพียงเศษซาก และสร้างบทเรียนให้พวกเขาต้องมีความอ่อนน้อม"

    เชห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน แถลงการณ์อย่าวเป็นทางการ โดยประกาศว่าอินเดียจะต้องชดใช้สำหรับการโจมตีดินแดนปากีสถาน "เมื่อคืนนี้ อินเดียได้กระทำการรุกราน ซึ่งเป็นความผิดพลาดร้ายแรงที่อินเดียต้องชดใช้ พวกเขาคาดหวังว่าเราจะยอมแพ้ แต่คงลืมไปว่าเราเป็นประเทศที่มีผู้กล้าหาญ มีความมุ่งมั่น วีรบุรุษของเราพร้อมที่จะต่อสู้จนคนสุดท้ายเพื่อปกป้องเกียรติยศและความปลอดภัยของมาตุภูมิของเรา และในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง นักรบของเราทำให้ศัตรูต้องส่งเสียงร้องออกมา เครื่องบินรบ 5 ลำของอินเดีย ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของพวกเขา ตอนนี้กลายเป็นเพียงเศษซาก และสร้างบทเรียนให้พวกเขาต้องมีความอ่อนน้อม"
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • ตามล่าหา 'ดาวเหนือ'
    ด๋องรู้สึกเหมือนกำลังพายเรืออยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่ที่ไร้จุดหมาย
    แต่ละวันเริ่มต้นขึ้นด้วยแรงเฉื่อย เขาลุกไปทำงานเพียงเพราะ "ต้องทำ" ไม่ได้มีเป้าหมายที่ชัดเจน
    งานที่ทำก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความหมายหรือความรักที่จะทำ มันเป็นแค่การทำตามคำสั่งไปวันๆ
    เหมือนเป็นฟันเฟืองตัวเล็กๆ ในเครื่องจักรขนาดใหญ่ หมุนไปตามแรงขับเคลื่อนของคนอื่น โดยไม่รู้เลยว่าปลายทางคือที่ใด
    เขาเคยได้ยินคำว่า "ดาวเหนือ" มาบ้าง ในฐานะสัญลักษณ์ของแรงบันดาลใจและเข็มทิศชีวิต
    แต่สำหรับด๋อง คำนี้ดูห่างไกลเหลือเกิน มันเป็นเพียงถ้อยคำสวยหรูในโลกอุดมคติ ที่ไม่มีอยู่จริงในชีวิตการทำงานอันแสนธรรมดาของเขา
    .
    วันหนึ่ง จุดเปลี่ยนเล็กๆ ก็มาถึง เมื่อหัวหน้ามอบหมายโปรเจกต์หนึ่งให้
    มันเป็นงานที่หนัก ต้องใช้ความละเอียดสูง และดูเหมือนจะไม่มีใครอยากทำ เพราะมันทั้งน่าเบื่อและซ้ำซาก
    เพื่อนร่วมงานหลายคนแสดงท่าทีเหนื่อยหน่าย แต่ด๋องเลือกที่จะรับมันไว้โดยไม่ปริปากบ่น
    ในหัวคิดเพียงแค่ว่า "ก็ต้องทำ" ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็แค่ก้มหน้าก้มตาทำให้เสร็จไป
    ด๋องทุ่มเทเวลาหลายสัปดาห์ให้กับโปรเจกต์นี้ อาศัยเพียง "เครื่องมือ" ที่มี ความรู้พื้นฐานที่ร่ำเรียนมา และความอึดเข้าแลก
    เขาจมดิ่งอยู่กับตัวเลขและเอกสาร แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปทีละจุด แม้จะไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่างานนี้จะนำไปสู่สิ่งใด
    .
    วันนำเสนอผลงานมาถึง
    ด๋องยืนอยู่หน้าห้องประชุม นำเสนอสิ่งที่เขาได้ทำลงไปอย่างละเอียด ทั้งขั้นตอน ปัญหาที่พบ และวิธีแก้ไขแบบตามตำรา
    หัวหน้าและผู้ใหญ่ในห้องพยักหน้าพอใจในความเรียบร้อยและครบถ้วนตามที่มอบหมาย
    โปรเจกต์นี้ "สำเร็จ" ในสายตาของทุกคน และด๋องก็ได้รับคำชมตามระเบียบ
    แต่เมื่อเดินออกจากห้องประชุม แสงแดดยามบ่ายกลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจเลย
    ความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาไม่ใช่ความภาคภูมิใจ แต่เป็นความว่างเปล่าที่กัดกินข้างใน
    เหมือนเพิ่งปีนขึ้นไปบนยอดเขาได้สำเร็จ แต่กลับพบว่าตัวเองมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดิน ไม่ได้แหงนมองวิวทิวทัศน์ระหว่างทางเลย
    "นี่คือทั้งหมดแล้วเหรอ?" คำถามนี้ดังก้องอยู่ในใจ "ชีวิตการทำงานมีแค่นี้เองเหรอ? แค่ทำสิ่งที่ 'ต้องทำ' ให้ดีที่สุด แล้วก็รู้สึกว่างเปล่าแบบนี้?"
    .
    ความว่างเปล่าครั้งนั้นกลายเป็นแรงผลักดันเงียบๆ ให้ด๋องเริ่มมองหาบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป
    เขาเริ่มหยิบหนังสือพัฒนาตนเองที่เคยเมินเฉยขึ้นมาอ่านอีกครั้ง แต่คราวนี้อ่านด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป
    ไม่ได้อ่านเพื่อหาสูตรสำเร็จ แต่เพื่อทำความเข้าใจความรู้สึกสับสนภายในใจของตัวเอง
    เขาได้อ่านเรื่องราวของผู้คนมากมายที่ดูเหมือนจะมี "ดาวเหนือ" เป็นของตัวเอง ส่องนำทางชีวิตและการทำงาน
    ด๋องเริ่ม "มองแบบอย่าง" จากคนเหล่านั้น ไม่ใช่การเลียนแบบภายนอก แต่พยายามทำความเข้าใจความคิด "เจตนา" และคุณค่าที่ขับเคลื่อนพวกเขา
    เขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองอย่างจริงจังว่า นอกจากการ "ต้องทำ" แล้ว มีอะไรที่เขา "อยากจะทำ" กันแน่? และต้อง "จำเป็นต้องทำ" อะไรบ้างเพื่อให้ไปถึงจุดนั้น?
    .
    ไม่นานหลังจากนั้น ด๋องได้เข้าร่วมเวิร์กช็อปของบริษัทเกี่ยวกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายองค์กร
    เขาได้ฟังเรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จ ฟังความฝันของผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานจากแผนกต่างๆ
    เหมือนจิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจายค่อยๆ ประกอบกันเป็นภาพใหญ่ที่เขาไม่เคยมองเห็นมาก่อน
    ด๋องเริ่มเข้าใจว่างานเล็กๆ ที่เขาทำ อาจมีความเชื่อมโยงกับเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น และเขาก็พบว่ามีบางประเด็นใน "วิสัยทัศน์ร่วม" นั้นที่สอดคล้องกับสิ่งที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจว่าเขา "อยากจะทำ"
    เขาตัดสินใจเริ่มต้นโปรเจกต์เล็กๆ นอกเหนือจากงานประจำ เป็นโปรเจกต์ที่เกิดจากความสนใจส่วนตัวและความตั้งใจที่อยากเห็นบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
    ครั้งนี้ ด๋องมี "เจตนา" ที่ชัดเจนในการลงมือทำ เขาพยายาม "จัดแนว" การกระทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับ "ดาวเหนือ" ที่เริ่มส่องแสงประกายอ่อนๆ ให้เห็น
    .
    เส้นทางของโปรเจกต์ใหม่นี้ไม่ได้ราบรื่นเลย
    เขาต้องเผชิญกับความไม่รู้ ต้องกล้าก้าวออกจาก comfort zone ไปขอความช่วยเหลือจากคนที่ไม่เคยแม้แต่จะคุยด้วย
    อุปสรรคถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งปัญหาที่ไม่คาดคิด ความผิดพลาดจากการลองผิดลองถูก
    แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง แม้จะเหน็ดเหนื่อย แต่ใจกลับเต็มไปด้วยพลังและความตื่นเต้น
    เขาล้มเหลวหลายครั้ง แต่ทุกครั้งคือการเรียนรู้ เขาไม่ได้ทำเพราะ "ต้องทำ" แต่ทำเพราะ "อยากทำ" และเริ่มรู้สึก "ชอบ" กระบวนการเรียนรู้และสร้างสรรค์นี้จริงๆ
    ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดคือตอนที่ทีมเล็กๆ ของเขา (ซึ่งรวมตัวกันด้วย "วิสัยทัศน์ร่วม") ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่ใหญ่มากจนเกือบต้องยอมแพ้
    .
    แทนที่จะท้อถอย ด๋องกลับรู้สึกถึงพลังที่มองไม่เห็น ที่ผลักดันให้สู้ต่อไป
    เขาไม่ได้สู้แค่คนเดียว แต่สู้ไปพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมที่เชื่อในสิ่งเดียวกัน ด้วย "เจตนา" และ "วิสัยทัศน์ร่วม" ที่ชัดเจน
    พวกเขาช่วยกันระดมสมอง เรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับตัวอย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ (Unconscious to Conscious Learning)
    ในที่สุด พวกเขาก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคครั้งใหญ่นั้นไปได้สำเร็จ ไม่ใช่ด้วยเครื่องมือวิเศษ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการเรียนรู้ร่วมกัน
    ความรู้สึกหลังจากการฝ่าฟันครั้งนี้นั้นแตกต่างจากครั้งแรกราวฟ้ากับเหว
    มันไม่ใช่ความว่างเปล่า แต่เป็นความอิ่มเอมใจที่ได้ทำในสิ่งที่เชื่อ ได้ทุ่มเทอย่างสุดกำลัง และได้เติบโตผ่านความท้าทายร่วมกับทีม
    เมื่อมองย้อนกลับไปที่โปรเจกต์แรกที่เคยทำด้วยความรู้สึกว่างเปล่า
    .
    วันนี้เขาเพิ่งได้เรียนรู้ว่า งาน "น่าเบื่อ" และ "ซ้ำซาก" ที่เขาทำไปเพราะ "ต้องทำ" ในวันนั้น
    ที่จริงแล้ว มันไม่ใช่แค่การทำงานให้เสร็จไปวันๆ
    แต่มันคือบททดสอบและบทฝึกฝนที่สำคัญยิ่งยวด
    งานนั้นได้สร้างและลับคม "เครื่องมือ" ที่จำเป็นที่สุดให้เขา นั่นคือ ความอดทน ความละเอียดรอบคอบ และทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
    ทักษะพื้นฐานเหล่านี้เองที่กลายเป็นรากฐานอันแข็งแกร่ง
    ที่ทำให้เขามีความพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนกว่ามากในโปรเจกต์ที่สอง
    โปรเจกต์ที่เป็นสิ่งที่เขา "รักที่จะทำ" อย่างแท้จริง
    เรื่องราวของด๋องสอนเราว่า เส้นทางสู่การค้นพบสิ่งที่ "รักที่จะทำ" นั้น
    มักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป
    บางครั้งเราต้องผ่านช่วงเวลาของการ "ต้องทำ" ในสิ่งที่เราอาจยังไม่เห็นคุณค่าหรือความหมายในทันที
    แต่งานเหล่านั้น หากเรามี "เจตนา" ที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเอง
    จะช่วยสร้าง "เครื่องมือ" และทักษะพื้นฐานที่จำเป็นอย่างยิ่ง
    ซึ่งเครื่องมือเหล่านั้นจะกลายเป็นพลังสำคัญที่ช่วยให้เราคว้าโอกาสและเอาชนะอุปสรรคได้
    .
    การออกตามหา "ดาวเหนือ" ไม่ใช่แค่การมองหาแรงบันดาลใจจากภายนอก
    แต่คือกระบวนการภายในของการทำความเข้าใจตัวเอง การมองหาแบบอย่างที่ดี การตั้ง "เจตนา" ที่ชัดเจน
    และการ "จัดแนว (Align)" การกระทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับเป้าหมายและคุณค่าที่เรายึดมั่น
    และที่สำคัญที่สุด คือการค่อยๆ เปลี่ยนจาก mindset ที่ทำเพราะ "ต้องทำ"
    ไปสู่การได้ทำในสิ่งที่ "อยากทำ", "จำเป็นต้องทำ", "ชอบที่จะทำ"
    และท้ายที่สุดคือการได้ทำในสิ่งที่ "รักที่จะทำ" อย่างแท้จริง
    เพราะเมื่อใดที่เราได้ทำในสิ่งที่รักและมีความหมาย
    แม้ต้องเผชิญความยากลำบากใดๆ เราก็จะพบกับความอิ่มเอมใจที่แท้จริง
    และความหมายที่ลึกซึ้งในงานที่เราทำ เช่นเดียวกับที่ด๋องได้ค้นพบในที่สุด

    www.10x-consulting.com
    ตามล่าหา 'ดาวเหนือ' ด๋องรู้สึกเหมือนกำลังพายเรืออยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่ที่ไร้จุดหมาย แต่ละวันเริ่มต้นขึ้นด้วยแรงเฉื่อย เขาลุกไปทำงานเพียงเพราะ "ต้องทำ" ไม่ได้มีเป้าหมายที่ชัดเจน งานที่ทำก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความหมายหรือความรักที่จะทำ มันเป็นแค่การทำตามคำสั่งไปวันๆ เหมือนเป็นฟันเฟืองตัวเล็กๆ ในเครื่องจักรขนาดใหญ่ หมุนไปตามแรงขับเคลื่อนของคนอื่น โดยไม่รู้เลยว่าปลายทางคือที่ใด เขาเคยได้ยินคำว่า "ดาวเหนือ" มาบ้าง ในฐานะสัญลักษณ์ของแรงบันดาลใจและเข็มทิศชีวิต แต่สำหรับด๋อง คำนี้ดูห่างไกลเหลือเกิน มันเป็นเพียงถ้อยคำสวยหรูในโลกอุดมคติ ที่ไม่มีอยู่จริงในชีวิตการทำงานอันแสนธรรมดาของเขา . วันหนึ่ง จุดเปลี่ยนเล็กๆ ก็มาถึง เมื่อหัวหน้ามอบหมายโปรเจกต์หนึ่งให้ มันเป็นงานที่หนัก ต้องใช้ความละเอียดสูง และดูเหมือนจะไม่มีใครอยากทำ เพราะมันทั้งน่าเบื่อและซ้ำซาก เพื่อนร่วมงานหลายคนแสดงท่าทีเหนื่อยหน่าย แต่ด๋องเลือกที่จะรับมันไว้โดยไม่ปริปากบ่น ในหัวคิดเพียงแค่ว่า "ก็ต้องทำ" ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็แค่ก้มหน้าก้มตาทำให้เสร็จไป ด๋องทุ่มเทเวลาหลายสัปดาห์ให้กับโปรเจกต์นี้ อาศัยเพียง "เครื่องมือ" ที่มี ความรู้พื้นฐานที่ร่ำเรียนมา และความอึดเข้าแลก เขาจมดิ่งอยู่กับตัวเลขและเอกสาร แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปทีละจุด แม้จะไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่างานนี้จะนำไปสู่สิ่งใด . วันนำเสนอผลงานมาถึง ด๋องยืนอยู่หน้าห้องประชุม นำเสนอสิ่งที่เขาได้ทำลงไปอย่างละเอียด ทั้งขั้นตอน ปัญหาที่พบ และวิธีแก้ไขแบบตามตำรา หัวหน้าและผู้ใหญ่ในห้องพยักหน้าพอใจในความเรียบร้อยและครบถ้วนตามที่มอบหมาย โปรเจกต์นี้ "สำเร็จ" ในสายตาของทุกคน และด๋องก็ได้รับคำชมตามระเบียบ แต่เมื่อเดินออกจากห้องประชุม แสงแดดยามบ่ายกลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจเลย ความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาไม่ใช่ความภาคภูมิใจ แต่เป็นความว่างเปล่าที่กัดกินข้างใน เหมือนเพิ่งปีนขึ้นไปบนยอดเขาได้สำเร็จ แต่กลับพบว่าตัวเองมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดิน ไม่ได้แหงนมองวิวทิวทัศน์ระหว่างทางเลย "นี่คือทั้งหมดแล้วเหรอ?" คำถามนี้ดังก้องอยู่ในใจ "ชีวิตการทำงานมีแค่นี้เองเหรอ? แค่ทำสิ่งที่ 'ต้องทำ' ให้ดีที่สุด แล้วก็รู้สึกว่างเปล่าแบบนี้?" . ความว่างเปล่าครั้งนั้นกลายเป็นแรงผลักดันเงียบๆ ให้ด๋องเริ่มมองหาบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป เขาเริ่มหยิบหนังสือพัฒนาตนเองที่เคยเมินเฉยขึ้นมาอ่านอีกครั้ง แต่คราวนี้อ่านด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป ไม่ได้อ่านเพื่อหาสูตรสำเร็จ แต่เพื่อทำความเข้าใจความรู้สึกสับสนภายในใจของตัวเอง เขาได้อ่านเรื่องราวของผู้คนมากมายที่ดูเหมือนจะมี "ดาวเหนือ" เป็นของตัวเอง ส่องนำทางชีวิตและการทำงาน ด๋องเริ่ม "มองแบบอย่าง" จากคนเหล่านั้น ไม่ใช่การเลียนแบบภายนอก แต่พยายามทำความเข้าใจความคิด "เจตนา" และคุณค่าที่ขับเคลื่อนพวกเขา เขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองอย่างจริงจังว่า นอกจากการ "ต้องทำ" แล้ว มีอะไรที่เขา "อยากจะทำ" กันแน่? และต้อง "จำเป็นต้องทำ" อะไรบ้างเพื่อให้ไปถึงจุดนั้น? . ไม่นานหลังจากนั้น ด๋องได้เข้าร่วมเวิร์กช็อปของบริษัทเกี่ยวกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายองค์กร เขาได้ฟังเรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จ ฟังความฝันของผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานจากแผนกต่างๆ เหมือนจิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจายค่อยๆ ประกอบกันเป็นภาพใหญ่ที่เขาไม่เคยมองเห็นมาก่อน ด๋องเริ่มเข้าใจว่างานเล็กๆ ที่เขาทำ อาจมีความเชื่อมโยงกับเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น และเขาก็พบว่ามีบางประเด็นใน "วิสัยทัศน์ร่วม" นั้นที่สอดคล้องกับสิ่งที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจว่าเขา "อยากจะทำ" เขาตัดสินใจเริ่มต้นโปรเจกต์เล็กๆ นอกเหนือจากงานประจำ เป็นโปรเจกต์ที่เกิดจากความสนใจส่วนตัวและความตั้งใจที่อยากเห็นบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ครั้งนี้ ด๋องมี "เจตนา" ที่ชัดเจนในการลงมือทำ เขาพยายาม "จัดแนว" การกระทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับ "ดาวเหนือ" ที่เริ่มส่องแสงประกายอ่อนๆ ให้เห็น . เส้นทางของโปรเจกต์ใหม่นี้ไม่ได้ราบรื่นเลย เขาต้องเผชิญกับความไม่รู้ ต้องกล้าก้าวออกจาก comfort zone ไปขอความช่วยเหลือจากคนที่ไม่เคยแม้แต่จะคุยด้วย อุปสรรคถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งปัญหาที่ไม่คาดคิด ความผิดพลาดจากการลองผิดลองถูก แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง แม้จะเหน็ดเหนื่อย แต่ใจกลับเต็มไปด้วยพลังและความตื่นเต้น เขาล้มเหลวหลายครั้ง แต่ทุกครั้งคือการเรียนรู้ เขาไม่ได้ทำเพราะ "ต้องทำ" แต่ทำเพราะ "อยากทำ" และเริ่มรู้สึก "ชอบ" กระบวนการเรียนรู้และสร้างสรรค์นี้จริงๆ ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดคือตอนที่ทีมเล็กๆ ของเขา (ซึ่งรวมตัวกันด้วย "วิสัยทัศน์ร่วม") ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่ใหญ่มากจนเกือบต้องยอมแพ้ . แทนที่จะท้อถอย ด๋องกลับรู้สึกถึงพลังที่มองไม่เห็น ที่ผลักดันให้สู้ต่อไป เขาไม่ได้สู้แค่คนเดียว แต่สู้ไปพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมที่เชื่อในสิ่งเดียวกัน ด้วย "เจตนา" และ "วิสัยทัศน์ร่วม" ที่ชัดเจน พวกเขาช่วยกันระดมสมอง เรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับตัวอย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ (Unconscious to Conscious Learning) ในที่สุด พวกเขาก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคครั้งใหญ่นั้นไปได้สำเร็จ ไม่ใช่ด้วยเครื่องมือวิเศษ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการเรียนรู้ร่วมกัน ความรู้สึกหลังจากการฝ่าฟันครั้งนี้นั้นแตกต่างจากครั้งแรกราวฟ้ากับเหว มันไม่ใช่ความว่างเปล่า แต่เป็นความอิ่มเอมใจที่ได้ทำในสิ่งที่เชื่อ ได้ทุ่มเทอย่างสุดกำลัง และได้เติบโตผ่านความท้าทายร่วมกับทีม เมื่อมองย้อนกลับไปที่โปรเจกต์แรกที่เคยทำด้วยความรู้สึกว่างเปล่า . วันนี้เขาเพิ่งได้เรียนรู้ว่า งาน "น่าเบื่อ" และ "ซ้ำซาก" ที่เขาทำไปเพราะ "ต้องทำ" ในวันนั้น ที่จริงแล้ว มันไม่ใช่แค่การทำงานให้เสร็จไปวันๆ แต่มันคือบททดสอบและบทฝึกฝนที่สำคัญยิ่งยวด งานนั้นได้สร้างและลับคม "เครื่องมือ" ที่จำเป็นที่สุดให้เขา นั่นคือ ความอดทน ความละเอียดรอบคอบ และทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทักษะพื้นฐานเหล่านี้เองที่กลายเป็นรากฐานอันแข็งแกร่ง ที่ทำให้เขามีความพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนกว่ามากในโปรเจกต์ที่สอง โปรเจกต์ที่เป็นสิ่งที่เขา "รักที่จะทำ" อย่างแท้จริง เรื่องราวของด๋องสอนเราว่า เส้นทางสู่การค้นพบสิ่งที่ "รักที่จะทำ" นั้น มักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป บางครั้งเราต้องผ่านช่วงเวลาของการ "ต้องทำ" ในสิ่งที่เราอาจยังไม่เห็นคุณค่าหรือความหมายในทันที แต่งานเหล่านั้น หากเรามี "เจตนา" ที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเอง จะช่วยสร้าง "เครื่องมือ" และทักษะพื้นฐานที่จำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเครื่องมือเหล่านั้นจะกลายเป็นพลังสำคัญที่ช่วยให้เราคว้าโอกาสและเอาชนะอุปสรรคได้ . การออกตามหา "ดาวเหนือ" ไม่ใช่แค่การมองหาแรงบันดาลใจจากภายนอก แต่คือกระบวนการภายในของการทำความเข้าใจตัวเอง การมองหาแบบอย่างที่ดี การตั้ง "เจตนา" ที่ชัดเจน และการ "จัดแนว (Align)" การกระทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับเป้าหมายและคุณค่าที่เรายึดมั่น และที่สำคัญที่สุด คือการค่อยๆ เปลี่ยนจาก mindset ที่ทำเพราะ "ต้องทำ" ไปสู่การได้ทำในสิ่งที่ "อยากทำ", "จำเป็นต้องทำ", "ชอบที่จะทำ" และท้ายที่สุดคือการได้ทำในสิ่งที่ "รักที่จะทำ" อย่างแท้จริง เพราะเมื่อใดที่เราได้ทำในสิ่งที่รักและมีความหมาย แม้ต้องเผชิญความยากลำบากใดๆ เราก็จะพบกับความอิ่มเอมใจที่แท้จริง และความหมายที่ลึกซึ้งในงานที่เราทำ เช่นเดียวกับที่ด๋องได้ค้นพบในที่สุด www.10x-consulting.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 702 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีครับ เข้าใจเลยว่าคุณกำลังสนใจในเรื่องของ พลังแห่งความกล้า และ พลังที่ตรงกันข้ามกับความกล้า ซึ่งเป็นสองด้านที่น่าสนใจและมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของเรา
    พลังแห่งความกล้า นั้นไม่ใช่การปราศจากความกลัว แต่เป็นการที่เราสามารถ ก้าวข้ามความกลัว และ ลงมือทำ ในสิ่งที่ถูกต้องหรือสิ่งที่ควรทำ แม้จะรู้สึกหวาดหวั่นก็ตาม ความกล้าหาญนำมาซึ่ง:
    * การเติบโตและพัฒนาตนเอง: การกล้าเผชิญกับความท้าทายและออกจาก Comfort Zone ทำให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของตนเอง
    * ความเชื่อมั่นในตนเอง: เมื่อเราเอาชนะความกลัวและทำสิ่งที่ตั้งใจได้สำเร็จ ความเชื่อมั่นในตนเองก็จะเพิ่มมากขึ้น
    * โอกาสใหม่ ๆ: ความกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ ๆ หรือกล้าที่จะเสี่ยงอย่างมีเหตุผล มักนำมาซึ่งโอกาสดี ๆ ในชีวิต
    * การเป็นผู้นำ: ผู้ที่มีความกล้าหาญมักจะกล้าตัดสินใจและนำพาผู้อื่นไปในทิศทางที่ถูกต้อง
    * ความสุขและความภาคภูมิใจ: การได้ทำในสิ่งที่ใจปรารถนา แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบาก ย่อมนำมาซึ่งความสุขและความภาคภูมิใจในตนเอง
    ในทางตรงกันข้าม พลังที่ตรงกันข้ามกับความกล้า นั้นสามารถมองได้หลายแง่มุม แต่หลัก ๆ แล้วคือ ความกลัว และสิ่งที่เกิดจากความกลัว เช่น:
    * ความขลาดกลัว (Cowardice): คือการที่เราปล่อยให้ความกลัวครอบงำ จนไม่กล้าที่จะทำในสิ่งที่ควรทำ หรือหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับปัญหา
    * ความลังเลและความไม่มั่นใจ: ความกลัวมักนำไปสู่ความลังเลในการตัดสินใจ และความไม่มั่นใจในความสามารถของตนเอง ทำให้พลาดโอกาสดี ๆ ไป
    * การยึดติดกับความปลอดภัย (Staying in Comfort Zone): ความกลัวความล้มเหลวหรือความผิดพลาด ทำให้เราไม่กล้าที่จะออกจาก Comfort Zone และพลาดโอกาสในการเติบโต
    * ความเฉื่อยชาและการไม่ลงมือทำ: เมื่อความกลัวมีอำนาจเหนือกว่า เราก็มักจะผัดวันประกันพรุ่ง หรือไม่กล้าที่จะเริ่มต้นทำอะไรเลย
    * ความทุกข์และความเสียใจ: การปล่อยให้ความกลัวควบคุมชีวิต อาจนำมาซึ่งความรู้สึกเสียใจในภายหลัง ที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ต้องการ หรือไม่ได้เผชิญหน้ากับสิ่งที่ควรเผชิญ
    ความกล้าและความกลัวเป็นสิ่งที่อยู่คู่กัน ไม่มีใครที่ไม่เคยรู้สึกกลัว แต่สิ่งที่แตกต่างคือการที่เราจะจัดการกับความกลัวนั้นอย่างไร เราจะปล่อยให้มันหยุดยั้งเรา หรือเราจะรวบรวมความกล้าเพื่อก้าวข้ามมันไป
    การฝึกฝนความกล้าสามารถทำได้โดยการเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรากลัว แล้วค่อย ๆ เพิ่มระดับความท้าทายขึ้น เมื่อเราเผชิญหน้ากับความกลัวและเอาชนะมันได้ครั้งแล้วครั้งเล่า พลังแห่งความกล้าในตัวเราก็จะค่อย ๆ เติบโตขึ้นครับ
    สวัสดีครับ เข้าใจเลยว่าคุณกำลังสนใจในเรื่องของ พลังแห่งความกล้า และ พลังที่ตรงกันข้ามกับความกล้า ซึ่งเป็นสองด้านที่น่าสนใจและมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของเรา พลังแห่งความกล้า นั้นไม่ใช่การปราศจากความกลัว แต่เป็นการที่เราสามารถ ก้าวข้ามความกลัว และ ลงมือทำ ในสิ่งที่ถูกต้องหรือสิ่งที่ควรทำ แม้จะรู้สึกหวาดหวั่นก็ตาม ความกล้าหาญนำมาซึ่ง: * การเติบโตและพัฒนาตนเอง: การกล้าเผชิญกับความท้าทายและออกจาก Comfort Zone ทำให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของตนเอง * ความเชื่อมั่นในตนเอง: เมื่อเราเอาชนะความกลัวและทำสิ่งที่ตั้งใจได้สำเร็จ ความเชื่อมั่นในตนเองก็จะเพิ่มมากขึ้น * โอกาสใหม่ ๆ: ความกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ ๆ หรือกล้าที่จะเสี่ยงอย่างมีเหตุผล มักนำมาซึ่งโอกาสดี ๆ ในชีวิต * การเป็นผู้นำ: ผู้ที่มีความกล้าหาญมักจะกล้าตัดสินใจและนำพาผู้อื่นไปในทิศทางที่ถูกต้อง * ความสุขและความภาคภูมิใจ: การได้ทำในสิ่งที่ใจปรารถนา แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบาก ย่อมนำมาซึ่งความสุขและความภาคภูมิใจในตนเอง ในทางตรงกันข้าม พลังที่ตรงกันข้ามกับความกล้า นั้นสามารถมองได้หลายแง่มุม แต่หลัก ๆ แล้วคือ ความกลัว และสิ่งที่เกิดจากความกลัว เช่น: * ความขลาดกลัว (Cowardice): คือการที่เราปล่อยให้ความกลัวครอบงำ จนไม่กล้าที่จะทำในสิ่งที่ควรทำ หรือหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับปัญหา * ความลังเลและความไม่มั่นใจ: ความกลัวมักนำไปสู่ความลังเลในการตัดสินใจ และความไม่มั่นใจในความสามารถของตนเอง ทำให้พลาดโอกาสดี ๆ ไป * การยึดติดกับความปลอดภัย (Staying in Comfort Zone): ความกลัวความล้มเหลวหรือความผิดพลาด ทำให้เราไม่กล้าที่จะออกจาก Comfort Zone และพลาดโอกาสในการเติบโต * ความเฉื่อยชาและการไม่ลงมือทำ: เมื่อความกลัวมีอำนาจเหนือกว่า เราก็มักจะผัดวันประกันพรุ่ง หรือไม่กล้าที่จะเริ่มต้นทำอะไรเลย * ความทุกข์และความเสียใจ: การปล่อยให้ความกลัวควบคุมชีวิต อาจนำมาซึ่งความรู้สึกเสียใจในภายหลัง ที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ต้องการ หรือไม่ได้เผชิญหน้ากับสิ่งที่ควรเผชิญ ความกล้าและความกลัวเป็นสิ่งที่อยู่คู่กัน ไม่มีใครที่ไม่เคยรู้สึกกลัว แต่สิ่งที่แตกต่างคือการที่เราจะจัดการกับความกลัวนั้นอย่างไร เราจะปล่อยให้มันหยุดยั้งเรา หรือเราจะรวบรวมความกล้าเพื่อก้าวข้ามมันไป การฝึกฝนความกล้าสามารถทำได้โดยการเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรากลัว แล้วค่อย ๆ เพิ่มระดับความท้าทายขึ้น เมื่อเราเผชิญหน้ากับความกลัวและเอาชนะมันได้ครั้งแล้วครั้งเล่า พลังแห่งความกล้าในตัวเราก็จะค่อย ๆ เติบโตขึ้นครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 421 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts