• ย้อน คำพูดเป็นนาย 'รักษาการนายกฯ' บุคคลที่ล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ จุดต่ำสุดของประเทศไทย?
    https://www.thai-tai.tv/news/19929/
    .
    #รักษาการนายกฯ #สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ #คำพูดเป็นนาย #การเมืองไทย #ความน่าเชื่อถือ #แพทองธาร #สุญญากาศทางการเมือง #นายกฯพักปฏิบัติหน้าที่ #มาร์คพิตบูล
    ย้อน คำพูดเป็นนาย 'รักษาการนายกฯ' บุคคลที่ล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ จุดต่ำสุดของประเทศไทย? https://www.thai-tai.tv/news/19929/ . #รักษาการนายกฯ #สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ #คำพูดเป็นนาย #การเมืองไทย #ความน่าเชื่อถือ #แพทองธาร #สุญญากาศทางการเมือง #นายกฯพักปฏิบัติหน้าที่ #มาร์คพิตบูล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้นึกได้ว่าเคยได้รับช็อป เกียร์ และแหวน เพราะความสามารถในการจับกลุ่มพากันกัดฟันสู้ทนฝ่าฟัน ร้องเพลงลั่น คอแทบแห้ง กว่าจะได้มาไม่ใช่ง่ายๆ ตอนรับเนกไทไม่ได้ยืนอย่างลำบาก แต่ตอนรับการสวมช็อป แหวน เกียร์ จากรุ่นพี่ ผมพยายามยืนให้นิ่งที่สุดเพื่อฝึกสมาธิสั่นตัว ทำให้กลายเป็นที่จดจำตลอดกาล สุดท้ายเวลาที่ผมดิ่งดาวน์ลง ผมนึกถึงรุ่นพี่ นึกถึงความยากลำบากที่ทำให้ได้เสื้อช็อป เกียร์ แหวน ทำให้ผมมีแรงฮึดสู้ชีวิตต่อ และสิ่งที่ได้มาจากความพยายาม มุมานะ มุ่งมั่น บากบั่น อดทน อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ก็มีค่ากว่าเงินเดือนอยู่เสมอ เงินเดือนน้อย เงินเดือนมาก ไม่เกี่ยว หารายได้ต่อเดือนมากกว่าเงินเดือนขั้นต่ำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ดังนั้นผมตั้งตั้งมั่น ตั้งปณิธานในการฝึกฝน เคี่ยวเข็ญตัวเองเพื่อให้ไปสู่จุดที่ผมมองว่าสำเร็จแล้ว หลังเรียนจบผมคิดว่ายังไม่สำเร็จทั้งหลักสูตร เลยต้องเรียนรู้สิ่งที่ขาดหายไป และเรียนรู้เพิ่มเติม จนกว่าจะครบครันในองค์ความรู้และภูมิความรู้
    ผมยอมรับว่าเคยโชว์ภูมิทั้งๆที่ภูมิความรู้ไม่น้อยและไม่ขวนวายให้มากกว่านี้ สุดท้ายผมไม่โชว์ภูมิ อวดภูมิ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการรับงานรับจ้างออนไลน์ รีโมท
    วันนี้นึกได้ว่าเคยได้รับช็อป เกียร์ และแหวน เพราะความสามารถในการจับกลุ่มพากันกัดฟันสู้ทนฝ่าฟัน ร้องเพลงลั่น คอแทบแห้ง กว่าจะได้มาไม่ใช่ง่ายๆ ตอนรับเนกไทไม่ได้ยืนอย่างลำบาก แต่ตอนรับการสวมช็อป แหวน เกียร์ จากรุ่นพี่ ผมพยายามยืนให้นิ่งที่สุดเพื่อฝึกสมาธิสั่นตัว ทำให้กลายเป็นที่จดจำตลอดกาล สุดท้ายเวลาที่ผมดิ่งดาวน์ลง ผมนึกถึงรุ่นพี่ นึกถึงความยากลำบากที่ทำให้ได้เสื้อช็อป เกียร์ แหวน ทำให้ผมมีแรงฮึดสู้ชีวิตต่อ และสิ่งที่ได้มาจากความพยายาม มุมานะ มุ่งมั่น บากบั่น อดทน อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ก็มีค่ากว่าเงินเดือนอยู่เสมอ เงินเดือนน้อย เงินเดือนมาก ไม่เกี่ยว หารายได้ต่อเดือนมากกว่าเงินเดือนขั้นต่ำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ดังนั้นผมตั้งตั้งมั่น ตั้งปณิธานในการฝึกฝน เคี่ยวเข็ญตัวเองเพื่อให้ไปสู่จุดที่ผมมองว่าสำเร็จแล้ว หลังเรียนจบผมคิดว่ายังไม่สำเร็จทั้งหลักสูตร เลยต้องเรียนรู้สิ่งที่ขาดหายไป และเรียนรู้เพิ่มเติม จนกว่าจะครบครันในองค์ความรู้และภูมิความรู้ ผมยอมรับว่าเคยโชว์ภูมิทั้งๆที่ภูมิความรู้ไม่น้อยและไม่ขวนวายให้มากกว่านี้ สุดท้ายผมไม่โชว์ภูมิ อวดภูมิ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการรับงานรับจ้างออนไลน์ รีโมท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภูมิใจไทยลุยฝ่ายค้าน! จ่อซักฟอกนายกฯ 3 ก.ค. ชวนพรรคร่วมฝ่ายค้านลงชื่อครบ 99 เสียงตาม ม.151 มั่นใจคลิปเสียงเด็ด พิสูจน์นายกฯ ไร้ความน่าเชื่อถือ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000059630

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes

    ภูมิใจไทยลุยฝ่ายค้าน! จ่อซักฟอกนายกฯ 3 ก.ค. ชวนพรรคร่วมฝ่ายค้านลงชื่อครบ 99 เสียงตาม ม.151 มั่นใจคลิปเสียงเด็ด พิสูจน์นายกฯ ไร้ความน่าเชื่อถือ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000059630 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 387 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนชี้ปฏิบัติการโจมตีฐานที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์อิหร่านทำให้สหรัฐฯ หมดความน่าเชื่อถือในสายตาชาวโลก และปักกิ่งมีความกังวลว่าสถานการณ์อาจจะลุกลามบานปลายจน "ควบคุมไม่อยู่"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000058759

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    จีนชี้ปฏิบัติการโจมตีฐานที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์อิหร่านทำให้สหรัฐฯ หมดความน่าเชื่อถือในสายตาชาวโลก และปักกิ่งมีความกังวลว่าสถานการณ์อาจจะลุกลามบานปลายจน "ควบคุมไม่อยู่" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000058759 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Angry
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 994 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้เป็นครั้งแรกที่จะเขียนบทความนี้ทุกตัวอักษรจากหัวใจล้วนๆ ไม่มีอ้างอิงข้อมูลใดๆ ไม่มีการหาข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม เพราะส่วนตัวคิดว่า คงถึงเวลาที่เราต้องเรียก "สติ" กัน แม้ว่าการส่งเสียงผ่านกลุ่มนี้ อาจจะเงียบกริบ แต่อย่างน้อยๆ คนที่แวะผ่านมาเห็น ขอจงโปรดใช้วิจารณญานในการ ค.ว.ย. กรณีตระกูลฮุน

    ผมหมายถึง "คิด . วิเคระห์ . แยกแยะ" โปรดอย่างคิดเป็นอื่น

    คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่คุณอุ๊งอิ๊งได้ทำลงเป็น เป็นความผิดพลาดที่ไม่สมควรอภัยอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะด้วยเจตนาดีหรือร้ายอย่างใด สิ่งที่ทำลงไป ไม่อาจเรียกว่าเป็น "การกระทำที่ผ่านการคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว" ได้เลย

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฐานะผู้นำประเทศที่ทุกๆ การกระทำ คือสิ่งแสดงสถานะตัวแทนและผู้นำประเทศ และไม่ว่าจะด้วยการกล่าวอ้างใดๆ ของคนที่เห็นว่านายกฯ ทำอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ยิ่งช่วย ก็ยิ่งตอกย้ำว่า ลูกสาวคนสุดท้อง ของคุณทักษิณ ยังไม่มีวุฒิภาวะ และความสามารถเพียงพอใจการเป็นผู้นำประเทศ

    โดยเฉพาะการนำเรื่อง "ประเด็นปัญหาระหว่างประเทศ" ไปคุยผ่าน "ความสัมพันธ์ส่วนตัว" ไม่ว่าคนที่คุยด้วยนั้น จะเป็นผู้นำประเทศคู่กรณีตัวจริง หรือ ตัวจริง ก็ตาม (ผมหมายถึง เป็นโดยตำแหน่ง หรือเป็นโดยการยอมรับ) หรือแม้กระทั่ง เป็นการคุยเพื่อหวังดีต่อประเทศจริงๆ หรือเพียงหวังดีต่อเก้าอี้ตนเองก็ตาม

    นี่คือเรื่องของ "ประเทศ" ที่ไม่ใช่ "ธุรกิจส่วนตัว" ที่ไปคุยกันบนกรีนสนามกอล์ฟ หรือจบที่คลับหรือเลานจ์สักที่่ คุยนอกรอบให้ลงตัว แล้วค่อยไปจบในห้องประชุม การพูดคุยในฐานะประเทศ ต่อให้ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว ก็พึงมีคนระวังหลังให้เสมอ ไม่ว่าจะมีอำนาจตัดสินใจหรือไม่ ก็ต้องมีคนช่วยเวลาคุย ไม่ใช่ กำลังจะนอนแล้ว โทรหาอังเคิลซะหน่อย เผื่อเคลียร์ได้

    ผมไม่เคยเชื่อว่าระหว่าง Donald Trump และ Vladimir Putin จะโทรคุยกันโดยอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือแม้แต่ระหว่าง Vladimir Putin กับ 习近平 (สีจิ้นผิง) จะคุยกันบนความสัมพันธ์ส่วนตัว

    และเมื่อตัดสินใจผิดพลาด เปลี่ยนการพูดคุยที่ควรจะมีแบบแผนและจริงจัง เป็นวาทกรรมก่อนนอน ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา เมื่อคู่สนทนา จริงจังในทุกๆ บริบท

    สรุป ไม่ว่าสายซัพพอร์ตของ น้องอิ๊ง จะพยายามแก้ต่างด้วยเหตุความหวังดีต่อประเทศอย่างไร มันก็ยิ่งตอกย้ำว่า น้องอิ๊ง ไม่เหมาะกับการเป็นผู้นำอยู่ดี - รู้สึกอย่างไรบ้างครับ เมื่อบทสนทนาหนักๆ กลายเป็นเรื่องคุยก่อนนอน

    แต่!!

    สิ่งที่น่ากลัวกว่าท่านนายกฯ ก็คือ ท่านพ่อนายกฯ ที่ไม่ใช่พ่อนายกฯ เมืองไทย แต่เป็นพ่อนายกฯ เขมร ผู้นำตระกูลฮุน ที่กำลัง "เซาะกร่อนบ่อนทำลาย" ความน่าเชื่อถือของประเทศไทยบนเวทีโลกไปทุกวัน ดูจากสิ่งที่กำลังตามต่อมาจากหลังจาก คลิปเสียงเวอร์ชั่นเต็ม 17 นาทีถูกปล่อยออกมา

    สิ่งที่ท่านผู้นำฮุนกระทำ และบัญชาการให้องคาพยบของเหล่าชนชั้นนำของกัมพูชาทำก็คือ การเขย่าประเทศไทยให้แรงที่สุดเท่าที่จะแรงได้ เพื่อสร้างแต้มต่อไม่ว่าจะมากหรือน้อยเพียงใดให้กับการต่ออายุการกดขี่ข่มเหงคนกัมพูชาให้นานที่สุด

    โดยมีเป้าหมายในการเป็น "คิมอิลซุง" หรือ "คิมจองอิล" ของราชวงศ์กัมพูชาให้จงได้ โดยอาศัยเพียงความชาตินิยมของคนกัมพูชา ที่ยังไม่หลุดพ้นจากภาพจำของการตกเป็นเมืองขึ้นของสยามตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา ตั้งแต่นครวัดนครธมถูกอโยธยาเผา เรื่อยมาจนกระทั่งเขมรได้รับการปลดปล่อยจากไทย ด้วยปลายกระบอกปืนของฝรั่งเศส แต่ก็ถูกกดโดยเหล่าเสนาอำมาตย์ที่คอยยกไทยให้เป็นศัตรูผ่านตำราเรียนอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับที่ตำราเรียนประวัติศาสตร์ไทย ยังคงตอกย้ำการเสียกรุงให้พม่า 2 ครั้งมาโดยตลอด

    ยังดีที่คนไทย ได้รับโอกาสมากกว่า เราจึงหลุดพ้นการกดขี่และเรียกร้องสิทธิเสรีภาพจากผู้ปกครองได้มากกว่าคนกัมพูชา แม้ว่าไทยจะลุ่มๆ ดอนๆ ทางด้านประชาธิปไตยมาตลอด 92 ปี จนถึงวันที่เขียนเรื่องนี้

    แต่คนกัมพูชา ยังไม่หลุดพ้นจากเรื่องนั้น ทั้งปัญหาสงครามกลางเมืองและการช่วงชิงอำนาจที่พึ่งยุติไปเมื่อก่อนโลโซปกแดงไม่กี่ปี แถมซ้ำด้วยการที่กลุ่มชนชั้นนำของประเทศกัมพูขากดหัวประชาชนตัวเองต่อเนื่องยาวนาน ยิ่งทำให้คนกัมพูชายังมองภาพรวมไม่ออก

    ซึ่งก็ไม่ค่อยต่างกันคนไทยเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยๆ เราก็มีเสรีมากกว่าในการพูด พรรคฝ่ายค้านของประเทศเรา ก็ยังด่ารัฐบาลได้ทุกวัน ไม่ต้องติดคุก หรือไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นที่ไหน

    ดูได้จาก ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ "ไทย" ได้ดิบได้ดี ชาวกัมพูชาบางส่วน ก็จะแปลงสัญชาติเป็น "เคลมโบเดีย" ทันที และเป็นกับไทย และไทยเท่านั้น ไม่มีลาว ไม่มีเวียดนามที่มีพรมแดนติดกับกัมพูชาเหมือนกัน และเจริญกว่ากัมพูชาเหมือนกันแม้แต่น้อย

    ตราบใดก็ตามที่ คนกัมพูชา ยังไม่หลุดกับดักของชนชั้้นนำ ที่พยายามเอาเรื่องความรู้สึกต่ำต้อยทางเชื่อชาติเมื่อเทียบกับไทย มาเป็นอาวุธเหนี่ยวไกฝังกระสุนลงหัวประชาชนกัมพูชา ตราบนั้น การที่ตระกูลฮุน และชนชั้นนำของกัมพูชา จะใช้ไทยเป็นเครื่องมือก็จะไม่มีวันจบไม่มีวันสิ้น

    และวันนี้ คนไทย กำลังเล่นเกมตระกูลฮุนอยู่

    เรากำลังเสริมภาพลักษณ์ให้ "ฮุนเซน" กลายเป็นรัฐบุรุษแห่งชาติกัมพูชา ดังที่คนกัมพูชากำลังได้ชม "ลูกชายใต้แสงจันทร์วันเพ็ญ" (หรือบางคนเรียกว่า "ลูกชายใต้เดือนเพ็ญ") ผ่านทางสถานีโทรทัศน์กัมพูชาในทุกวัน

    คนไทยเรา แค่ต้องฟังเพลง "เราจะทำตามสัญญา" ก็ปิดทีวี เปิด YouTube หรือ Netflix ดูกันหมดแล้ว แต่นี่ละครทั้งเรื่อง คนกัมพูชามีทางเลือกอะไรบ้าง?

    สิ่งที่เราควรทำในนาทีนี้คือ Status Quo หรือ ตรึงทุกอย่างไว้กับที่ให้นานที่สุด เพราะตระกูลฮุน กำลังเล่นเกมที่เรียกว่า Rally Round the Flag หรือการสร้างภาพการคลั่งชาติ ประคองคะแนนนิยม

    ยิ่งฝ่ายตรงข้ามในเกม ร้อนระอุเท่าไหร่ ตระกูลฮุน ก็จะยิ่งได้ ได้ และ ได้ ได้โดยไม่หยุดหย่อน และหากผันเกมให้เป็นความบาดหมางระหว่างเชื้อชาติได้ ตระกูลฮุนจะยิ่งครอง และกดหัวคนกัมพูชาไปได้อีกหลาย Generation

    และเราก็จะเดือดร้อนไปอีกหลาย Generation เช่นกัน และไม่เพียงแต่ชีวิตประชาชนและทหารหาญที่จะต้องเสียไปในวันนี้ หากการปั่นกระแสเพื่อรักษาอำนาจของตระกูลฮุน จุดติดขึ้นมาจริงๆ ประชาชนและทหารหาญที่ คนรักอิ๊ง นำมากล่าวอ้างว่า ต้องการปกป้องนัก ปกป้องหนา ก็จะยิ่งต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามทีจะไม่มีวันสิ้นสุด

    ไม่ต่างจาก ฉนวนกาซ่า ที่ ปาเลสไตน์ ปะทะกับ อิสราเอล ตามที่ ฮุนเซน กล่าวและหวังไว้ว่ามันจะเกิด

    สิ่งที่ต้องทำในเวลานี้จึงควรเป็นการตั้งสติอย่างมาก และมากที่สุด หยุดเต้นตามเพลงกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาร้องเพลง เต้นรำ ปิดปราสาทในเขตพื้นที่พิพาท หรือการกระทำใดๆ ก็ตาม แม้กระทั่งทหารไทยที่กำลังได้รับแรงเชียร์อย่างมหาศาลให้รบ ก็ควรทิ้งกระบอกปืนไว้ที่ต้้ง แล้วจัดการกับปัญหาต่างๆ ด้วยความอดทนอย่างถึงที่สุด แม้ว่าจะทนไม่ได้ ทนไม่ไหว ก็ต้องทน

    ยิ่งฮุนเซน ไม่สามารถบีบให้กระสุนไทย ฝังในร่างกายคนกัมพูชาได้เท่าไร่

    ยิ่งฮุนเซน ไม่สามารถบีบให้หมัดทหารไทย อัดหน้านักแสดงตุ๊กตาทองรักชาติกัมพูชาที่พยายามยั่วยุในพื้นที่พิพาทรายวันได้เท่าไหร่

    ฮุนเซนก็จะยิ่งอึดอัดกับกระแสที่จะค่อยๆ ตีกลับมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

    เมื่อใดก็ตามที่คนไทยสามารถสร้างภาพให้คนกัมพูชาเห็นได้ว่า ฮุนเซน ไม่เท่าไหร่ ไม่ได้ดี ไม่ได้เจ๋ง ซ้ำยังอ่อนด้อย เพราะไม่เคยสร้างความเจริญใดๆ ให้ประเทศเค้าเอง นอกจากความมั่งคั่งของตัวเอง และเป็นเพียงนายใหม่ที่มากดหัวคนกัมพูชามากกว่า สยามในประวัติศาสตร์ และฝรั่งเศสในอดีต

    เพราะฮุนเซนเป็นคนชาติเดียวกันกับคนกัมพูชา ที่ต้องระเหเร่ร่อนมาหางานทำในเมืองไทยเพื่อชีวิตที่่ดีกว่า ไม่สามารถมีชีวิตที่ดีในประเทศตัวเองได้

    ยิ่งภาพความ "ไร้สมรรถภาพ" และ "ไร้ฝีมือ" เกิดขึ้นกับ ฮุนเซน และตระกูลฮุนมากเท่าไหร่ ...เราก็จะใกล้กับความสงบมากขึ้นเท่านั้น

    ณ เวลานี้ จึงไม่ใช่เวลา ส่งทหารเป็นผู้มีอำนาจ หรือต่อให้ส่งอำนาจให้ทหาร ก็ไม่ใช่เวลาที่ทหารจะใช้อำนาจ แต่ต้องเป็นการใช้โอบกอดคนกัมพูชา

    ถ้าเค้าส่งคมมาร้องรำ เราก็เนียนร้องเพลงไทยไปข้างๆ เขาเลย ถือธงชาติ 2 ประเทศเคียงกัน ทำให้รู้สึกว่า คนที่อยู่บริเวณนั้น คือ "คน" เหมือนๆ กัน ที่ต่างก็พูดเขมรได้ พูดไทยเป็นด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนคนที่ทำผิดพลาดไป ในตอนนี้ จะลงดาบประหารเลย หรือว่าจะเก็บเอาไว้ด่าเล่นเพลินๆ ก่อน ก็แล้วแต่ท่านจะพิจารณา

    แต่ได้โปรด อย่าหยิบยื่นกระสุนให้ทหารเลย

    หวังว่าเสียงนี้จะเพียงพอที่จะทำให้คนที่แวะเข้ามาอ่าน ได้หยุดความสะใจ และเลือกทางเดินให้กับประเทศอย่างมีวิจารณญาน
    วันนี้เป็นครั้งแรกที่จะเขียนบทความนี้ทุกตัวอักษรจากหัวใจล้วนๆ ไม่มีอ้างอิงข้อมูลใดๆ ไม่มีการหาข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม เพราะส่วนตัวคิดว่า คงถึงเวลาที่เราต้องเรียก "สติ" กัน แม้ว่าการส่งเสียงผ่านกลุ่มนี้ อาจจะเงียบกริบ แต่อย่างน้อยๆ คนที่แวะผ่านมาเห็น ขอจงโปรดใช้วิจารณญานในการ ค.ว.ย. กรณีตระกูลฮุน ผมหมายถึง "คิด . วิเคระห์ . แยกแยะ" โปรดอย่างคิดเป็นอื่น คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่คุณอุ๊งอิ๊งได้ทำลงเป็น เป็นความผิดพลาดที่ไม่สมควรอภัยอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะด้วยเจตนาดีหรือร้ายอย่างใด สิ่งที่ทำลงไป ไม่อาจเรียกว่าเป็น "การกระทำที่ผ่านการคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว" ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฐานะผู้นำประเทศที่ทุกๆ การกระทำ คือสิ่งแสดงสถานะตัวแทนและผู้นำประเทศ และไม่ว่าจะด้วยการกล่าวอ้างใดๆ ของคนที่เห็นว่านายกฯ ทำอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ยิ่งช่วย ก็ยิ่งตอกย้ำว่า ลูกสาวคนสุดท้อง ของคุณทักษิณ ยังไม่มีวุฒิภาวะ และความสามารถเพียงพอใจการเป็นผู้นำประเทศ โดยเฉพาะการนำเรื่อง "ประเด็นปัญหาระหว่างประเทศ" ไปคุยผ่าน "ความสัมพันธ์ส่วนตัว" ไม่ว่าคนที่คุยด้วยนั้น จะเป็นผู้นำประเทศคู่กรณีตัวจริง หรือ ตัวจริง ก็ตาม (ผมหมายถึง เป็นโดยตำแหน่ง หรือเป็นโดยการยอมรับ) หรือแม้กระทั่ง เป็นการคุยเพื่อหวังดีต่อประเทศจริงๆ หรือเพียงหวังดีต่อเก้าอี้ตนเองก็ตาม นี่คือเรื่องของ "ประเทศ" ที่ไม่ใช่ "ธุรกิจส่วนตัว" ที่ไปคุยกันบนกรีนสนามกอล์ฟ หรือจบที่คลับหรือเลานจ์สักที่่ คุยนอกรอบให้ลงตัว แล้วค่อยไปจบในห้องประชุม การพูดคุยในฐานะประเทศ ต่อให้ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว ก็พึงมีคนระวังหลังให้เสมอ ไม่ว่าจะมีอำนาจตัดสินใจหรือไม่ ก็ต้องมีคนช่วยเวลาคุย ไม่ใช่ กำลังจะนอนแล้ว โทรหาอังเคิลซะหน่อย เผื่อเคลียร์ได้ ผมไม่เคยเชื่อว่าระหว่าง Donald Trump และ Vladimir Putin จะโทรคุยกันโดยอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือแม้แต่ระหว่าง Vladimir Putin กับ 习近平 (สีจิ้นผิง) จะคุยกันบนความสัมพันธ์ส่วนตัว และเมื่อตัดสินใจผิดพลาด เปลี่ยนการพูดคุยที่ควรจะมีแบบแผนและจริงจัง เป็นวาทกรรมก่อนนอน ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา เมื่อคู่สนทนา จริงจังในทุกๆ บริบท สรุป ไม่ว่าสายซัพพอร์ตของ น้องอิ๊ง จะพยายามแก้ต่างด้วยเหตุความหวังดีต่อประเทศอย่างไร มันก็ยิ่งตอกย้ำว่า น้องอิ๊ง ไม่เหมาะกับการเป็นผู้นำอยู่ดี - รู้สึกอย่างไรบ้างครับ เมื่อบทสนทนาหนักๆ กลายเป็นเรื่องคุยก่อนนอน แต่!! สิ่งที่น่ากลัวกว่าท่านนายกฯ ก็คือ ท่านพ่อนายกฯ ที่ไม่ใช่พ่อนายกฯ เมืองไทย แต่เป็นพ่อนายกฯ เขมร ผู้นำตระกูลฮุน ที่กำลัง "เซาะกร่อนบ่อนทำลาย" ความน่าเชื่อถือของประเทศไทยบนเวทีโลกไปทุกวัน ดูจากสิ่งที่กำลังตามต่อมาจากหลังจาก คลิปเสียงเวอร์ชั่นเต็ม 17 นาทีถูกปล่อยออกมา สิ่งที่ท่านผู้นำฮุนกระทำ และบัญชาการให้องคาพยบของเหล่าชนชั้นนำของกัมพูชาทำก็คือ การเขย่าประเทศไทยให้แรงที่สุดเท่าที่จะแรงได้ เพื่อสร้างแต้มต่อไม่ว่าจะมากหรือน้อยเพียงใดให้กับการต่ออายุการกดขี่ข่มเหงคนกัมพูชาให้นานที่สุด โดยมีเป้าหมายในการเป็น "คิมอิลซุง" หรือ "คิมจองอิล" ของราชวงศ์กัมพูชาให้จงได้ โดยอาศัยเพียงความชาตินิยมของคนกัมพูชา ที่ยังไม่หลุดพ้นจากภาพจำของการตกเป็นเมืองขึ้นของสยามตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา ตั้งแต่นครวัดนครธมถูกอโยธยาเผา เรื่อยมาจนกระทั่งเขมรได้รับการปลดปล่อยจากไทย ด้วยปลายกระบอกปืนของฝรั่งเศส แต่ก็ถูกกดโดยเหล่าเสนาอำมาตย์ที่คอยยกไทยให้เป็นศัตรูผ่านตำราเรียนอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับที่ตำราเรียนประวัติศาสตร์ไทย ยังคงตอกย้ำการเสียกรุงให้พม่า 2 ครั้งมาโดยตลอด ยังดีที่คนไทย ได้รับโอกาสมากกว่า เราจึงหลุดพ้นการกดขี่และเรียกร้องสิทธิเสรีภาพจากผู้ปกครองได้มากกว่าคนกัมพูชา แม้ว่าไทยจะลุ่มๆ ดอนๆ ทางด้านประชาธิปไตยมาตลอด 92 ปี จนถึงวันที่เขียนเรื่องนี้ แต่คนกัมพูชา ยังไม่หลุดพ้นจากเรื่องนั้น ทั้งปัญหาสงครามกลางเมืองและการช่วงชิงอำนาจที่พึ่งยุติไปเมื่อก่อนโลโซปกแดงไม่กี่ปี แถมซ้ำด้วยการที่กลุ่มชนชั้นนำของประเทศกัมพูขากดหัวประชาชนตัวเองต่อเนื่องยาวนาน ยิ่งทำให้คนกัมพูชายังมองภาพรวมไม่ออก ซึ่งก็ไม่ค่อยต่างกันคนไทยเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยๆ เราก็มีเสรีมากกว่าในการพูด พรรคฝ่ายค้านของประเทศเรา ก็ยังด่ารัฐบาลได้ทุกวัน ไม่ต้องติดคุก หรือไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นที่ไหน ดูได้จาก ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ "ไทย" ได้ดิบได้ดี ชาวกัมพูชาบางส่วน ก็จะแปลงสัญชาติเป็น "เคลมโบเดีย" ทันที และเป็นกับไทย และไทยเท่านั้น ไม่มีลาว ไม่มีเวียดนามที่มีพรมแดนติดกับกัมพูชาเหมือนกัน และเจริญกว่ากัมพูชาเหมือนกันแม้แต่น้อย ตราบใดก็ตามที่ คนกัมพูชา ยังไม่หลุดกับดักของชนชั้้นนำ ที่พยายามเอาเรื่องความรู้สึกต่ำต้อยทางเชื่อชาติเมื่อเทียบกับไทย มาเป็นอาวุธเหนี่ยวไกฝังกระสุนลงหัวประชาชนกัมพูชา ตราบนั้น การที่ตระกูลฮุน และชนชั้นนำของกัมพูชา จะใช้ไทยเป็นเครื่องมือก็จะไม่มีวันจบไม่มีวันสิ้น และวันนี้ คนไทย กำลังเล่นเกมตระกูลฮุนอยู่ เรากำลังเสริมภาพลักษณ์ให้ "ฮุนเซน" กลายเป็นรัฐบุรุษแห่งชาติกัมพูชา ดังที่คนกัมพูชากำลังได้ชม "ลูกชายใต้แสงจันทร์วันเพ็ญ" (หรือบางคนเรียกว่า "ลูกชายใต้เดือนเพ็ญ") ผ่านทางสถานีโทรทัศน์กัมพูชาในทุกวัน คนไทยเรา แค่ต้องฟังเพลง "เราจะทำตามสัญญา" ก็ปิดทีวี เปิด YouTube หรือ Netflix ดูกันหมดแล้ว แต่นี่ละครทั้งเรื่อง คนกัมพูชามีทางเลือกอะไรบ้าง? สิ่งที่เราควรทำในนาทีนี้คือ Status Quo หรือ ตรึงทุกอย่างไว้กับที่ให้นานที่สุด เพราะตระกูลฮุน กำลังเล่นเกมที่เรียกว่า Rally Round the Flag หรือการสร้างภาพการคลั่งชาติ ประคองคะแนนนิยม ยิ่งฝ่ายตรงข้ามในเกม ร้อนระอุเท่าไหร่ ตระกูลฮุน ก็จะยิ่งได้ ได้ และ ได้ ได้โดยไม่หยุดหย่อน และหากผันเกมให้เป็นความบาดหมางระหว่างเชื้อชาติได้ ตระกูลฮุนจะยิ่งครอง และกดหัวคนกัมพูชาไปได้อีกหลาย Generation และเราก็จะเดือดร้อนไปอีกหลาย Generation เช่นกัน และไม่เพียงแต่ชีวิตประชาชนและทหารหาญที่จะต้องเสียไปในวันนี้ หากการปั่นกระแสเพื่อรักษาอำนาจของตระกูลฮุน จุดติดขึ้นมาจริงๆ ประชาชนและทหารหาญที่ คนรักอิ๊ง นำมากล่าวอ้างว่า ต้องการปกป้องนัก ปกป้องหนา ก็จะยิ่งต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามทีจะไม่มีวันสิ้นสุด ไม่ต่างจาก ฉนวนกาซ่า ที่ ปาเลสไตน์ ปะทะกับ อิสราเอล ตามที่ ฮุนเซน กล่าวและหวังไว้ว่ามันจะเกิด สิ่งที่ต้องทำในเวลานี้จึงควรเป็นการตั้งสติอย่างมาก และมากที่สุด หยุดเต้นตามเพลงกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาร้องเพลง เต้นรำ ปิดปราสาทในเขตพื้นที่พิพาท หรือการกระทำใดๆ ก็ตาม แม้กระทั่งทหารไทยที่กำลังได้รับแรงเชียร์อย่างมหาศาลให้รบ ก็ควรทิ้งกระบอกปืนไว้ที่ต้้ง แล้วจัดการกับปัญหาต่างๆ ด้วยความอดทนอย่างถึงที่สุด แม้ว่าจะทนไม่ได้ ทนไม่ไหว ก็ต้องทน ยิ่งฮุนเซน ไม่สามารถบีบให้กระสุนไทย ฝังในร่างกายคนกัมพูชาได้เท่าไร่ ยิ่งฮุนเซน ไม่สามารถบีบให้หมัดทหารไทย อัดหน้านักแสดงตุ๊กตาทองรักชาติกัมพูชาที่พยายามยั่วยุในพื้นที่พิพาทรายวันได้เท่าไหร่ ฮุนเซนก็จะยิ่งอึดอัดกับกระแสที่จะค่อยๆ ตีกลับมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เมื่อใดก็ตามที่คนไทยสามารถสร้างภาพให้คนกัมพูชาเห็นได้ว่า ฮุนเซน ไม่เท่าไหร่ ไม่ได้ดี ไม่ได้เจ๋ง ซ้ำยังอ่อนด้อย เพราะไม่เคยสร้างความเจริญใดๆ ให้ประเทศเค้าเอง นอกจากความมั่งคั่งของตัวเอง และเป็นเพียงนายใหม่ที่มากดหัวคนกัมพูชามากกว่า สยามในประวัติศาสตร์ และฝรั่งเศสในอดีต เพราะฮุนเซนเป็นคนชาติเดียวกันกับคนกัมพูชา ที่ต้องระเหเร่ร่อนมาหางานทำในเมืองไทยเพื่อชีวิตที่่ดีกว่า ไม่สามารถมีชีวิตที่ดีในประเทศตัวเองได้ ยิ่งภาพความ "ไร้สมรรถภาพ" และ "ไร้ฝีมือ" เกิดขึ้นกับ ฮุนเซน และตระกูลฮุนมากเท่าไหร่ ...เราก็จะใกล้กับความสงบมากขึ้นเท่านั้น ณ เวลานี้ จึงไม่ใช่เวลา ส่งทหารเป็นผู้มีอำนาจ หรือต่อให้ส่งอำนาจให้ทหาร ก็ไม่ใช่เวลาที่ทหารจะใช้อำนาจ แต่ต้องเป็นการใช้โอบกอดคนกัมพูชา ถ้าเค้าส่งคมมาร้องรำ เราก็เนียนร้องเพลงไทยไปข้างๆ เขาเลย ถือธงชาติ 2 ประเทศเคียงกัน ทำให้รู้สึกว่า คนที่อยู่บริเวณนั้น คือ "คน" เหมือนๆ กัน ที่ต่างก็พูดเขมรได้ พูดไทยเป็นด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนคนที่ทำผิดพลาดไป ในตอนนี้ จะลงดาบประหารเลย หรือว่าจะเก็บเอาไว้ด่าเล่นเพลินๆ ก่อน ก็แล้วแต่ท่านจะพิจารณา แต่ได้โปรด อย่าหยิบยื่นกระสุนให้ทหารเลย หวังว่าเสียงนี้จะเพียงพอที่จะทำให้คนที่แวะเข้ามาอ่าน ได้หยุดความสะใจ และเลือกทางเดินให้กับประเทศอย่างมีวิจารณญาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวก่อมะเร็งอีกตัว,ไม่รู้เข้ามาไทยมากมายในประเภทไหนบ้าง,อย.เราขาดความน่าเชื่อถือไปมาก,ไม่เหมือนในอดีตที่อีลิทยังควบคุมลำบากอยู่.

    ..ระวัง: เนื้อสเต็กจากเครื่องพิมพ์ (เนื้อปลอม) ในร้านค้าโดยไม่เปิดเผย
    เนื้อแฟรงเกนเบิร์กที่ผลิตในห้องแล็ปซึ่งก่อให้เกิดมะเร็งในซูเปอร์มาร์เก็ต
    ตัวก่อมะเร็งอีกตัว,ไม่รู้เข้ามาไทยมากมายในประเภทไหนบ้าง,อย.เราขาดความน่าเชื่อถือไปมาก,ไม่เหมือนในอดีตที่อีลิทยังควบคุมลำบากอยู่. ..ระวัง: เนื้อสเต็กจากเครื่องพิมพ์ (เนื้อปลอม) ในร้านค้าโดยไม่เปิดเผย เนื้อแฟรงเกนเบิร์กที่ผลิตในห้องแล็ปซึ่งก่อให้เกิดมะเร็งในซูเปอร์มาร์เก็ต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • การอัปเกรดควอนตัมทำให้การสร้างตัวเลขสุ่มสามารถตรวจสอบได้
    นักวิจัยจาก National Institute of Standards and Technology (NIST) ในสหรัฐฯ ได้พัฒนาเทคนิคใหม่สำหรับการสร้างตัวเลขสุ่ม (Random Number Generation - RNG) ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างสมบูรณ์ โดยใช้ ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ ร่วมกับ บล็อกเชน เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ.

    รายละเอียดเทคโนโลยีใหม่
    ใช้ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ เพื่อสร้างตัวเลขสุ่มที่แท้จริง โดยอาศัยคุณสมบัติของอนุภาคที่เชื่อมโยงกัน.
    เพิ่มระบบบล็อกเชนเพื่อบันทึกค่าที่สร้างขึ้น ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าข้อมูลไม่ถูกแก้ไข.
    พัฒนาโปรโตคอลชื่อ Twine เพื่อใช้บันทึกค่าแฮชของตัวเลขสุ่มลงในบล็อกเชน.
    เปิดตัวบริการ CURBy (University of Colorado Randomness Beacon) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    ระบบ RNG ทั่วไปอาจไม่สามารถตรวจสอบได้ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการใช้งานด้านความปลอดภัย.
    การใช้บล็อกเชนช่วยเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็อาจมีข้อจำกัดด้านความเร็วและต้นทุนในการดำเนินการ.
    การนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการทำธุรกรรมออนไลน์ อาจต้องมีการทดสอบเพิ่มเติม.

    แนวทางการนำไปใช้
    ใช้ในระบบเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสาร.
    นำไปใช้ในเกมออนไลน์และการพนัน เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์เป็นแบบสุ่มจริง.
    ใช้ในงานวิจัยด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ที่ต้องการตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี RNG
    IBM กำลังพัฒนาเครื่องควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุด คาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2029.
    การโจรกรรมคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นจากช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของระบบ RNG.
    การใช้ตัวเลขสุ่มที่ไม่ปลอดภัยอาจนำไปสู่การแฮ็กข้อมูล โดยเฉพาะในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง.

    https://www.techspot.com/news/108329-researchers-develop-first-fully-traceable-quantum-random-number.html
    การอัปเกรดควอนตัมทำให้การสร้างตัวเลขสุ่มสามารถตรวจสอบได้ นักวิจัยจาก National Institute of Standards and Technology (NIST) ในสหรัฐฯ ได้พัฒนาเทคนิคใหม่สำหรับการสร้างตัวเลขสุ่ม (Random Number Generation - RNG) ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างสมบูรณ์ โดยใช้ ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ ร่วมกับ บล็อกเชน เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ. รายละเอียดเทคโนโลยีใหม่ ✅ ใช้ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ เพื่อสร้างตัวเลขสุ่มที่แท้จริง โดยอาศัยคุณสมบัติของอนุภาคที่เชื่อมโยงกัน. ✅ เพิ่มระบบบล็อกเชนเพื่อบันทึกค่าที่สร้างขึ้น ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าข้อมูลไม่ถูกแก้ไข. ✅ พัฒนาโปรโตคอลชื่อ Twine เพื่อใช้บันทึกค่าแฮชของตัวเลขสุ่มลงในบล็อกเชน. ✅ เปิดตัวบริการ CURBy (University of Colorado Randomness Beacon) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ ระบบ RNG ทั่วไปอาจไม่สามารถตรวจสอบได้ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการใช้งานด้านความปลอดภัย. ‼️ การใช้บล็อกเชนช่วยเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็อาจมีข้อจำกัดด้านความเร็วและต้นทุนในการดำเนินการ. ‼️ การนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการทำธุรกรรมออนไลน์ อาจต้องมีการทดสอบเพิ่มเติม. แนวทางการนำไปใช้ ✅ ใช้ในระบบเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสาร. ✅ นำไปใช้ในเกมออนไลน์และการพนัน เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์เป็นแบบสุ่มจริง. ✅ ใช้ในงานวิจัยด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ที่ต้องการตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี RNG ✅ IBM กำลังพัฒนาเครื่องควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุด คาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2029. ✅ การโจรกรรมคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นจากช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของระบบ RNG. ‼️ การใช้ตัวเลขสุ่มที่ไม่ปลอดภัยอาจนำไปสู่การแฮ็กข้อมูล โดยเฉพาะในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง. https://www.techspot.com/news/108329-researchers-develop-first-fully-traceable-quantum-random-number.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Quantum upgrade makes random number generation fully traceable
    Physicists at the National Institute of Standards and Technology in Boulder, Colorado, have upgraded their previously developed quantum-based method for true random number generation. Thanks to the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวล่าสุดเผยว่า มีแอป VPN ฟรีกว่า 17 รายการใน App Store ของ Apple และ Google Play Store ที่มีความเกี่ยวข้องกับจีน โดยบางแอปอาจมีความเชื่อมโยงกับบริษัท Qihoo 360 ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีสายสัมพันธ์กับกองทัพจีน เรื่องนี้ถูกค้นพบโดย Tech Transparency Project (TTP) ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า Apple และ Google อาจได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากแอปเหล่านี้ ด้วย

    VPN ฟรีที่มีความเกี่ยวข้องกับจีน
    - แอป VPN ฟรีอย่าง Turbo VPN, VPN Proxy Master, Thunder VPN, Snap VPN และ Signal Secure VPN มีสายสัมพันธ์กับ Qihoo 360 ซึ่งถูกลงโทษโดยสหรัฐฯ ในปี 2020
    - ยังพบว่า อีก 11 แอป VPN ที่มีเจ้าของเป็นชาวจีนยังคงมีอยู่ใน App Store ของสหรัฐฯ ได้แก่ X-VPN, Ostrich VPN, VPNIFY, VPN Proxy OvpnSpider และอื่นๆ
    - Google Play Store ก็มีแอปที่เกี่ยวข้องกับจีนเช่นกัน รวมถึง Turbo VPN, VPN Proxy Master, Snap VPN และ Signal Secure VPN

    Apple และ Google อาจได้รับรายได้จากแอปเหล่านี้
    - แอป VPN บางตัวใน App Store มีการขาย การสมัครสมาชิกและบริการเพิ่มเติมในแอป ซึ่งหมายความว่า Apple และ Google อาจได้รับส่วนแบ่งรายได้
    - แอปบางตัวใน Google Play Store มีโฆษณา เช่น Turbo VPN

    ไม่มีการตอบกลับจากบริษัทที่เกี่ยวข้อง
    - Apple ระบุว่ามีแนวทางเข้มงวดเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลในแอป VPN
    - อย่างไรก็ตาม Apple ไม่ได้จำกัดการแจกจ่ายแอปตามประเทศของผู้ให้บริการ
    - Qihoo 360 และนักพัฒนาแอป VPN ที่ถูกกล่าวถึงไม่ได้ตอบกลับข้อเรียกร้องของ TTP

    ข้อมูลเพิ่มเติมและคำเตือน
    ความเสี่ยงของผู้ใช้ VPN ฟรี
    - VPN ที่มีเจ้าของเป็นชาวจีนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่กำหนดให้เก็บข้อมูล และอาจต้องแบ่งปันข้อมูลกับรัฐบาลจีน
    - แม้ว่า VPN จะถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่หากมีเจ้าของที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลต่างประเทศ อาจเกิดความเสี่ยงต่อข้อมูลส่วนบุคคล
    - VPN ฟรีบางตัวอาจมีโฆษณาหรือฟีเจอร์ที่ซ่อนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

    แนวทางในการเลือกใช้ VPN ที่ปลอดภัย
    - ควรเลือกใช้ VPN ที่มีนโยบาย "ไม่บันทึกข้อมูล" (No-Log Policy) และมีบริษัทที่สามารถตรวจสอบประวัติความน่าเชื่อถือได้
    - VPN ที่ได้รับการแนะนำว่าปลอดภัย ได้แก่ Privado VPN และ Proton VPN ซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่มีความโปร่งใส
    - หลีกเลี่ยงแอป VPN ฟรีที่ไม่เปิดเผยข้อมูลบริษัทผู้ให้บริการ

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/these-free-vpns-may-have-ties-to-chinas-military-and-they-are-still-hidden-in-apple-and-google-app-stores
    ข่าวล่าสุดเผยว่า มีแอป VPN ฟรีกว่า 17 รายการใน App Store ของ Apple และ Google Play Store ที่มีความเกี่ยวข้องกับจีน โดยบางแอปอาจมีความเชื่อมโยงกับบริษัท Qihoo 360 ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีสายสัมพันธ์กับกองทัพจีน เรื่องนี้ถูกค้นพบโดย Tech Transparency Project (TTP) ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า Apple และ Google อาจได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากแอปเหล่านี้ ด้วย ✅ VPN ฟรีที่มีความเกี่ยวข้องกับจีน - แอป VPN ฟรีอย่าง Turbo VPN, VPN Proxy Master, Thunder VPN, Snap VPN และ Signal Secure VPN มีสายสัมพันธ์กับ Qihoo 360 ซึ่งถูกลงโทษโดยสหรัฐฯ ในปี 2020 - ยังพบว่า อีก 11 แอป VPN ที่มีเจ้าของเป็นชาวจีนยังคงมีอยู่ใน App Store ของสหรัฐฯ ได้แก่ X-VPN, Ostrich VPN, VPNIFY, VPN Proxy OvpnSpider และอื่นๆ - Google Play Store ก็มีแอปที่เกี่ยวข้องกับจีนเช่นกัน รวมถึง Turbo VPN, VPN Proxy Master, Snap VPN และ Signal Secure VPN ✅ Apple และ Google อาจได้รับรายได้จากแอปเหล่านี้ - แอป VPN บางตัวใน App Store มีการขาย การสมัครสมาชิกและบริการเพิ่มเติมในแอป ซึ่งหมายความว่า Apple และ Google อาจได้รับส่วนแบ่งรายได้ - แอปบางตัวใน Google Play Store มีโฆษณา เช่น Turbo VPN ✅ ไม่มีการตอบกลับจากบริษัทที่เกี่ยวข้อง - Apple ระบุว่ามีแนวทางเข้มงวดเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลในแอป VPN - อย่างไรก็ตาม Apple ไม่ได้จำกัดการแจกจ่ายแอปตามประเทศของผู้ให้บริการ - Qihoo 360 และนักพัฒนาแอป VPN ที่ถูกกล่าวถึงไม่ได้ตอบกลับข้อเรียกร้องของ TTP 🚨 ข้อมูลเพิ่มเติมและคำเตือน ‼️ ความเสี่ยงของผู้ใช้ VPN ฟรี - VPN ที่มีเจ้าของเป็นชาวจีนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่กำหนดให้เก็บข้อมูล และอาจต้องแบ่งปันข้อมูลกับรัฐบาลจีน - แม้ว่า VPN จะถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่หากมีเจ้าของที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลต่างประเทศ อาจเกิดความเสี่ยงต่อข้อมูลส่วนบุคคล - VPN ฟรีบางตัวอาจมีโฆษณาหรือฟีเจอร์ที่ซ่อนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ‼️ แนวทางในการเลือกใช้ VPN ที่ปลอดภัย - ควรเลือกใช้ VPN ที่มีนโยบาย "ไม่บันทึกข้อมูล" (No-Log Policy) และมีบริษัทที่สามารถตรวจสอบประวัติความน่าเชื่อถือได้ - VPN ที่ได้รับการแนะนำว่าปลอดภัย ได้แก่ Privado VPN และ Proton VPN ซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่มีความโปร่งใส - หลีกเลี่ยงแอป VPN ฟรีที่ไม่เปิดเผยข้อมูลบริษัทผู้ให้บริการ https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/these-free-vpns-may-have-ties-to-chinas-military-and-they-are-still-hidden-in-apple-and-google-app-stores
    WWW.TECHRADAR.COM
    These free VPNs may have ties to China’s military – and they are still hidden in Apple and Google app stores
    New research reveals 17 VPN apps with undisclosed Chinese ownership, and big tech may be making a profit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • มติแพทยสภาซ้ำเติม ไม่มีใครอยากเป็นหมอ : [NEWS UPDATE]

    นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ เผยถึงการชี้แจงที่ประชุมแพทยสภา ประเด็นเห็นต่าง(วีโต้)มติแพทยสภา ลงโทษแพทย์ 3 คน ที่เกี่ยวข้องกับการรักษา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่ได้เป็นการขู่กรรมการแพทยสภาก่อนลงมติ แค่หวังดีกลัวองค์กรถูกลดความน่าเชื่อถือ ส่วนเอกสารที่แนบให้แพทยสภาที่มีคำว่า “ตีวัวกระทบคราด” ก็หมายความเช่นนั้น เหมือนโกรธอีกคนหนึ่ง แต่ไปตีอีกคนหนึ่ง คนที่ถูกตีก็เจ็บ และสะเทือนไปทั้งระบบกับหมอที่เกิดมาใหม่ เดี๋ยวจะไม่มีใครมาทำหน้าที่ตรงนี้ พวกเราก็เดือดร้อน ขณะนี้ยังขาดหมออีกกว่า 30,000 คน หวั่นบทลงโทษเกิดบรรทัดฐาน กระทบหมอรุ่นใหม่ ไม่มีใครอยากเป็นแพทย์ ซ้ำเติมปัญหาหมอขาดแคลน

    -"ทักษิณ"ร้อนรุ่มยื้อเวลา

    -ไลฟ์สดพิจารณางบ 2569

    -เทรนด์เบลเยียมเลี้ยงแมว

    -กองทัพปลุกใจทหาร
    มติแพทยสภาซ้ำเติม ไม่มีใครอยากเป็นหมอ : [NEWS UPDATE] นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ เผยถึงการชี้แจงที่ประชุมแพทยสภา ประเด็นเห็นต่าง(วีโต้)มติแพทยสภา ลงโทษแพทย์ 3 คน ที่เกี่ยวข้องกับการรักษา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่ได้เป็นการขู่กรรมการแพทยสภาก่อนลงมติ แค่หวังดีกลัวองค์กรถูกลดความน่าเชื่อถือ ส่วนเอกสารที่แนบให้แพทยสภาที่มีคำว่า “ตีวัวกระทบคราด” ก็หมายความเช่นนั้น เหมือนโกรธอีกคนหนึ่ง แต่ไปตีอีกคนหนึ่ง คนที่ถูกตีก็เจ็บ และสะเทือนไปทั้งระบบกับหมอที่เกิดมาใหม่ เดี๋ยวจะไม่มีใครมาทำหน้าที่ตรงนี้ พวกเราก็เดือดร้อน ขณะนี้ยังขาดหมออีกกว่า 30,000 คน หวั่นบทลงโทษเกิดบรรทัดฐาน กระทบหมอรุ่นใหม่ ไม่มีใครอยากเป็นแพทย์ ซ้ำเติมปัญหาหมอขาดแคลน -"ทักษิณ"ร้อนรุ่มยื้อเวลา -ไลฟ์สดพิจารณางบ 2569 -เทรนด์เบลเยียมเลี้ยงแมว -กองทัพปลุกใจทหาร
    Like
    Haha
    5
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 530 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • Wikipedia ระงับฟีเจอร์สรุปบทความด้วย AI หลังถูกต่อต้านจากบรรณาธิการ
    Wikimedia Foundation ได้ ระงับการทดลองใช้ AI-generated summaries บน Wikipedia หลังจากได้รับ เสียงคัดค้านอย่างหนักจากบรรณาธิการอาสาสมัคร โดยฟีเจอร์นี้ใช้ Aya ซึ่งเป็นโมเดล AI จาก Cohere

    การทดลองนี้ เปิดให้ใช้งานแบบ opt-in บนเวอร์ชันมือถือเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แต่บรรณาธิการ Wikipedia แสดงความกังวลว่าฟีเจอร์นี้อาจทำลายความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์

    ข้อมูลจากข่าว
    - Wikipedia ทดลองใช้ AI-generated summaries โดยใช้โมเดล Aya จาก Cohere
    - การทดลองเปิดให้ใช้งานแบบ opt-in บนเวอร์ชันมือถือเป็นเวลา 2 สัปดาห์
    - บรรณาธิการ Wikipedia คัดค้านอย่างหนัก โดยให้เหตุผลว่าฟีเจอร์นี้อาจทำลายความน่าเชื่อถือ
    - บรรณาธิการบางคนกังวลว่า AI จะทำให้ Wikipedia สูญเสียรูปแบบการแก้ไขร่วมกันของมนุษย์
    - Wikimedia Foundation ระบุว่าจะไม่เปิดตัวฟีเจอร์นี้โดยไม่มีการมีส่วนร่วมจากบรรณาธิการ

    ความกังวลเกี่ยวกับ AI-generated summaries
    บรรณาธิการ Wikipedia กลัวว่า AI อาจให้ข้อมูลที่ผิดพลาด เช่นเดียวกับกรณีของ Google AI Overviews ที่เคยแนะนำให้ใส่กาวบนพิซซ่า หรือ Apple AI ที่เคยแจ้งข่าวผิดพลาดเกี่ยวกับการเสียชีวิตของบุคคล

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - AI-generated summaries อาจให้ข้อมูลที่ผิดพลาดและส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของ Wikipedia
    - บรรณาธิการกังวลว่า AI อาจทำให้ Wikipedia สูญเสียรูปแบบการแก้ไขร่วมกันของมนุษย์
    - ต้องติดตามว่า Wikimedia Foundation จะพัฒนา AI summaries ให้มีระบบตรวจสอบที่ดีขึ้นหรือไม่
    - Wikipedia อาจต้องหาวิธีใช้ AI โดยไม่กระทบต่อหลักการความเป็นกลางของเนื้อหา

    https://www.neowin.net/news/wikipedia-suffers-backlash-from-human-editors-over-ai-summaries-prompting-feature-pause/
    📚 Wikipedia ระงับฟีเจอร์สรุปบทความด้วย AI หลังถูกต่อต้านจากบรรณาธิการ Wikimedia Foundation ได้ ระงับการทดลองใช้ AI-generated summaries บน Wikipedia หลังจากได้รับ เสียงคัดค้านอย่างหนักจากบรรณาธิการอาสาสมัคร โดยฟีเจอร์นี้ใช้ Aya ซึ่งเป็นโมเดล AI จาก Cohere การทดลองนี้ เปิดให้ใช้งานแบบ opt-in บนเวอร์ชันมือถือเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แต่บรรณาธิการ Wikipedia แสดงความกังวลว่าฟีเจอร์นี้อาจทำลายความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Wikipedia ทดลองใช้ AI-generated summaries โดยใช้โมเดล Aya จาก Cohere - การทดลองเปิดให้ใช้งานแบบ opt-in บนเวอร์ชันมือถือเป็นเวลา 2 สัปดาห์ - บรรณาธิการ Wikipedia คัดค้านอย่างหนัก โดยให้เหตุผลว่าฟีเจอร์นี้อาจทำลายความน่าเชื่อถือ - บรรณาธิการบางคนกังวลว่า AI จะทำให้ Wikipedia สูญเสียรูปแบบการแก้ไขร่วมกันของมนุษย์ - Wikimedia Foundation ระบุว่าจะไม่เปิดตัวฟีเจอร์นี้โดยไม่มีการมีส่วนร่วมจากบรรณาธิการ 🔥 ความกังวลเกี่ยวกับ AI-generated summaries บรรณาธิการ Wikipedia กลัวว่า AI อาจให้ข้อมูลที่ผิดพลาด เช่นเดียวกับกรณีของ Google AI Overviews ที่เคยแนะนำให้ใส่กาวบนพิซซ่า หรือ Apple AI ที่เคยแจ้งข่าวผิดพลาดเกี่ยวกับการเสียชีวิตของบุคคล ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - AI-generated summaries อาจให้ข้อมูลที่ผิดพลาดและส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของ Wikipedia - บรรณาธิการกังวลว่า AI อาจทำให้ Wikipedia สูญเสียรูปแบบการแก้ไขร่วมกันของมนุษย์ - ต้องติดตามว่า Wikimedia Foundation จะพัฒนา AI summaries ให้มีระบบตรวจสอบที่ดีขึ้นหรือไม่ - Wikipedia อาจต้องหาวิธีใช้ AI โดยไม่กระทบต่อหลักการความเป็นกลางของเนื้อหา https://www.neowin.net/news/wikipedia-suffers-backlash-from-human-editors-over-ai-summaries-prompting-feature-pause/
    WWW.NEOWIN.NET
    Wikipedia suffers backlash from human editors over AI summaries, prompting feature pause
    Wikipedia was testing an AI summaries feature similar to Google's AI Overviews but has now paused it following editor outcry.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัดขู่แพทยสภาเตือน "ตีวัวกระทบคราด" : [THE MESSAGE]
    นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ เผยถึงการชี้แจงที่ประชุมแพทยสภา ประเด็นเห็นต่าง(วีโต้)มติแพทยสภา ลงโทษแพทย์ 3 คน ที่เกี่ยวข้องกับการรักษา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่ได้เป็นการขู่กรรมการแพทยสภาก่อนลงมติ แค่หวังดีกลัวองค์กรถูกลดความน่าเชื่อถือ ส่วนเอกสารที่แนบให้แพทยสภาที่มีคำว่า “ตีวัวกระทบคราด” ก็หมายความเช่นนั้น เหมือนโกรธอีกคนหนึ่ง แต่ไปตีอีกคนหนึ่ง คนที่ถูกตีก็เจ็บ และสะเทือนไปทั้งระบบกับหมอที่เกิดมาใหม่ เดี๋ยวจะไม่มีใครมาทำหน้าที่ตรงนี้ พวกเราก็เดือดร้อน ขณะนี้ยังขาดหมออีกกว่า 30,000 คน
    ปัดขู่แพทยสภาเตือน "ตีวัวกระทบคราด" : [THE MESSAGE] นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ เผยถึงการชี้แจงที่ประชุมแพทยสภา ประเด็นเห็นต่าง(วีโต้)มติแพทยสภา ลงโทษแพทย์ 3 คน ที่เกี่ยวข้องกับการรักษา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่ได้เป็นการขู่กรรมการแพทยสภาก่อนลงมติ แค่หวังดีกลัวองค์กรถูกลดความน่าเชื่อถือ ส่วนเอกสารที่แนบให้แพทยสภาที่มีคำว่า “ตีวัวกระทบคราด” ก็หมายความเช่นนั้น เหมือนโกรธอีกคนหนึ่ง แต่ไปตีอีกคนหนึ่ง คนที่ถูกตีก็เจ็บ และสะเทือนไปทั้งระบบกับหมอที่เกิดมาใหม่ เดี๋ยวจะไม่มีใครมาทำหน้าที่ตรงนี้ พวกเราก็เดือดร้อน ขณะนี้ยังขาดหมออีกกว่า 30,000 คน
    Angry
    Like
    Haha
    4
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 510 มุมมอง 31 0 รีวิว
  • ..กลรบผีบ้าอะไรของคนรัฐบาลไทยเสือกไม่ประกาศปิดด่าน,ปิดด่านก่อนปิดพรมแดนทั้งหมดก่อน,แล้วส่งเขมรทั้งหมดที่อยู่ในไทยกลับประเทศเขมรไปทั้งหมด,ผีบ้าอะไรเสือกปล่อยคนเขมรที่ตนกำลังจะรบกับคนเขมรแท้ๆรัฐบาลเขมรแท้ๆปล่อยคนเขมรอยู่ที่ไทยได้อย่างไร,ถ้าคนเขมรนั้นคือไส้ศึกพร้อมระเบิดเมืองภายในประเทศไทยทุกเมื่อล่ะจะเกิดอะไรขึ้น,นี้คือผีบ้าปกครองประเทศแท้ๆ,ขาดคุณสมบัติปกป้องประเทศไทยและเป็นผู้นำประเทศชัดเจน,ภาวะสงครามสมควรปลดถีบผู้นำไร้ปัญญาฝีมือไร้วุฒิภาวะนี้ออกไปเถอะ,และผิดตั้งแต่แรกด้วยเสือกให้เป็นรัฐบาลได้ไงด้วยเมื่อแพ้การเลือกตั้ง,และจริงๆต้องเลือกตั้งใหม่ทั้งหมดทันที,เมื่อพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งเป็นรัฐบาลมาเป็นนายกฯได้,ลากยาวว่าพรรคก้าวไกลจะล้มสถาบันฯ ,ตอนนี้จริงๆยิ่งกว่าล้มสถาบันอีก เหยียบหน้าสถาบันให้อับอายแก่ชาวโลกด้วยทั้งทำลายชื่อเสียงภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือสถาบันอย่างมีนัยยะสำคัญด้วย,จะรบกันเสือกให้ข้าวให้น้ำให้เสบียงให้ทางให้ถนนมันไปมาอยู่ปกติ ผีบ้าอะไรเขาทำกันแบบนั้น,
    ..ต้องรอให้ชีวิตคนไทยตายก่อนมั้ย,ถ้าไง ให้สส.สว.พรรคการเมืองรัฐบาลเดินทางเข้าพื้นที่ใกล้ชิดให้ดูหน่อย,อย่าอยู่ในเมืองหลวงในกะลาในกรุงหากใจเย็นไม่เดือดร้อนในอธิปไตยความรักชาติหวงแหนชาติดินแดนเขตตนให้ประชาชนตนอยู่อาศัย,หน้างานยังขี้ขลาดกวาดกลัวจะกล้าไปดู,นักการเมืองมันกากจริงๆ,ระบบเล่นการเมืองแบบนี้สมควรถูกพักงานด้วยการยึดอำนาจโดยทหารของพระราชาโดยทหารของประชาชนผู้รักชาติไทยรักบ้านเมืองตนอย่างแท้จริง มิใช่รักผลประโยชน์ตนในดินแดนเขมรกลัวผลกระทบกำไรตนและเจ้าสัวตนหรือเดอะแก๊งตน.,สมควรไล่รัฐบาลนี้ได้แล้วจริงๆโดยทหารยึดอำนาจนี้ดีที่สุดเพราะจะได้กวาดล้างคนไม่ดีของแผ่นดินไทยจริงจังในครัังเดียวพร้อมกันในกาลสมัยยุคนี้พอดีเลย.

    https://youtu.be/_8vF18mJjjY?si=6K9oe9wq66YFcaqP
    ..กลรบผีบ้าอะไรของคนรัฐบาลไทยเสือกไม่ประกาศปิดด่าน,ปิดด่านก่อนปิดพรมแดนทั้งหมดก่อน,แล้วส่งเขมรทั้งหมดที่อยู่ในไทยกลับประเทศเขมรไปทั้งหมด,ผีบ้าอะไรเสือกปล่อยคนเขมรที่ตนกำลังจะรบกับคนเขมรแท้ๆรัฐบาลเขมรแท้ๆปล่อยคนเขมรอยู่ที่ไทยได้อย่างไร,ถ้าคนเขมรนั้นคือไส้ศึกพร้อมระเบิดเมืองภายในประเทศไทยทุกเมื่อล่ะจะเกิดอะไรขึ้น,นี้คือผีบ้าปกครองประเทศแท้ๆ,ขาดคุณสมบัติปกป้องประเทศไทยและเป็นผู้นำประเทศชัดเจน,ภาวะสงครามสมควรปลดถีบผู้นำไร้ปัญญาฝีมือไร้วุฒิภาวะนี้ออกไปเถอะ,และผิดตั้งแต่แรกด้วยเสือกให้เป็นรัฐบาลได้ไงด้วยเมื่อแพ้การเลือกตั้ง,และจริงๆต้องเลือกตั้งใหม่ทั้งหมดทันที,เมื่อพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งเป็นรัฐบาลมาเป็นนายกฯได้,ลากยาวว่าพรรคก้าวไกลจะล้มสถาบันฯ ,ตอนนี้จริงๆยิ่งกว่าล้มสถาบันอีก เหยียบหน้าสถาบันให้อับอายแก่ชาวโลกด้วยทั้งทำลายชื่อเสียงภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือสถาบันอย่างมีนัยยะสำคัญด้วย,จะรบกันเสือกให้ข้าวให้น้ำให้เสบียงให้ทางให้ถนนมันไปมาอยู่ปกติ ผีบ้าอะไรเขาทำกันแบบนั้น, ..ต้องรอให้ชีวิตคนไทยตายก่อนมั้ย,ถ้าไง ให้สส.สว.พรรคการเมืองรัฐบาลเดินทางเข้าพื้นที่ใกล้ชิดให้ดูหน่อย,อย่าอยู่ในเมืองหลวงในกะลาในกรุงหากใจเย็นไม่เดือดร้อนในอธิปไตยความรักชาติหวงแหนชาติดินแดนเขตตนให้ประชาชนตนอยู่อาศัย,หน้างานยังขี้ขลาดกวาดกลัวจะกล้าไปดู,นักการเมืองมันกากจริงๆ,ระบบเล่นการเมืองแบบนี้สมควรถูกพักงานด้วยการยึดอำนาจโดยทหารของพระราชาโดยทหารของประชาชนผู้รักชาติไทยรักบ้านเมืองตนอย่างแท้จริง มิใช่รักผลประโยชน์ตนในดินแดนเขมรกลัวผลกระทบกำไรตนและเจ้าสัวตนหรือเดอะแก๊งตน.,สมควรไล่รัฐบาลนี้ได้แล้วจริงๆโดยทหารยึดอำนาจนี้ดีที่สุดเพราะจะได้กวาดล้างคนไม่ดีของแผ่นดินไทยจริงจังในครัังเดียวพร้อมกันในกาลสมัยยุคนี้พอดีเลย. https://youtu.be/_8vF18mJjjY?si=6K9oe9wq66YFcaqP
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จะให้เราเจรจากับผู้ก่อการร้ายได้อย่างไร!!”

    — ปูตินพูดอย่างไม่อ้อมค้อมต่อเหตุการณ์ที่ยูเครนโจมตีรัสเซียหลายครั้ง ซึ่งบ่งบอกว่าการเจรจาของทั้งสองฝ่ายไม่น่าจะเกิดขึ้นอีกในเวลาอันใกล้นี้

    ปูตินยังกล่าวต่ออีกว่า:

    ยูเครนเป็นที่รู้จักทั่วโลกว่าเป็นระบอบการปกครองที่ฉ้อฉล ไร้ความน่าเชื่อถือ แต่ยังมีหน้ามาวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น

    เคียฟกำลังกลายเป็นองค์กรก่อการร้ายข้ามชาติ เพราะพวกเขาพ่ายแพ้ในสนามรบมากขึ้นเรื่อยๆ


    ประธานาธิบดีรัสเซียยืนยันว่าอาชญากรรมทั้งหมดที่ระบอบเคียฟก่อขึ้นนั้นมุ่งเป้าไปที่การขัดขวางกระบวนการเจรจา

    เกี่ยวกับการโจมตีล่าสุดของยูเครนในดินแดนรัสเซีย ปูตินยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในจังหวัดบรันสค์และคูร์สค์เป็นการโจมตีพลเรือนโดยเจตนา ซึ่งตามมาตรฐานสากลถือเป็นการก่อการร้าย

    ในบริบทนี้ ประธานาธิบดียืนกรานว่าการโจมตีพลเรือนทั้งหมดที่ยูเครนก่อขึ้นนั้นแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าระบอบเคียฟ ซึ่งนำโดยวลาดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำที่ไร้ความชอบธรรม "ค่อยๆ เสื่อมถอยลงเป็นองค์กรก่อการร้าย" ในขณะที่ผู้สนับสนุนกำลังกลายเป็น "ผู้สมรู้ร่วมคิดกับผู้ก่อการร้าย"

    ปูตินยังตั้งคำถามว่าการประชุมเพื่อหาทางสันติในการแก้ไขวิกฤตยูเครนจะจัดขึ้นได้อย่างไรภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ เมื่อผู้นำของเคียฟพยายามข่มขู่รัสเซียด้วยวิธีการ "ก่อการร้าย"

    “จะให้เราเจรจากับผู้ก่อการร้ายได้อย่างไร!!” — ปูตินพูดอย่างไม่อ้อมค้อมต่อเหตุการณ์ที่ยูเครนโจมตีรัสเซียหลายครั้ง ซึ่งบ่งบอกว่าการเจรจาของทั้งสองฝ่ายไม่น่าจะเกิดขึ้นอีกในเวลาอันใกล้นี้ ปูตินยังกล่าวต่ออีกว่า: ยูเครนเป็นที่รู้จักทั่วโลกว่าเป็นระบอบการปกครองที่ฉ้อฉล ไร้ความน่าเชื่อถือ แต่ยังมีหน้ามาวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น เคียฟกำลังกลายเป็นองค์กรก่อการร้ายข้ามชาติ เพราะพวกเขาพ่ายแพ้ในสนามรบมากขึ้นเรื่อยๆ ประธานาธิบดีรัสเซียยืนยันว่าอาชญากรรมทั้งหมดที่ระบอบเคียฟก่อขึ้นนั้นมุ่งเป้าไปที่การขัดขวางกระบวนการเจรจา เกี่ยวกับการโจมตีล่าสุดของยูเครนในดินแดนรัสเซีย ปูตินยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในจังหวัดบรันสค์และคูร์สค์เป็นการโจมตีพลเรือนโดยเจตนา ซึ่งตามมาตรฐานสากลถือเป็นการก่อการร้าย ในบริบทนี้ ประธานาธิบดียืนกรานว่าการโจมตีพลเรือนทั้งหมดที่ยูเครนก่อขึ้นนั้นแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าระบอบเคียฟ ซึ่งนำโดยวลาดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำที่ไร้ความชอบธรรม "ค่อยๆ เสื่อมถอยลงเป็นองค์กรก่อการร้าย" ในขณะที่ผู้สนับสนุนกำลังกลายเป็น "ผู้สมรู้ร่วมคิดกับผู้ก่อการร้าย" ปูตินยังตั้งคำถามว่าการประชุมเพื่อหาทางสันติในการแก้ไขวิกฤตยูเครนจะจัดขึ้นได้อย่างไรภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ เมื่อผู้นำของเคียฟพยายามข่มขู่รัสเซียด้วยวิธีการ "ก่อการร้าย"
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • Microsoft กับแนวคิดใหม่ในการเปลี่ยนแปลงการใช้งานอินเทอร์เน็ต
    Microsoft กำลังพัฒนา "open agentic web" ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ที่ใช้ AI agents เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานบนอินเทอร์เน็ตได้โดยอัตโนมัติ เช่น ค้นหาข้อมูล, จองตั๋วเครื่องบิน และจัดการเอกสาร

    Microsoft เชื่อว่า AI จะเปลี่ยนแปลงอินเทอร์เน็ตอย่างมหาศาล เช่นเดียวกับที่ โทรศัพท์มือถือเปลี่ยนแปลงโลกในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยแนวคิดใหม่นี้จะช่วยให้ AI agents สามารถโต้ตอบกันเองและทำงานแทนผู้ใช้

    ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ต้องการ วางแผนการเดินทาง AI agent จะสามารถค้นหา เที่ยวบิน, โรงแรม และกิจกรรม ที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ

    ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft กำลังพัฒนา "open agentic web" ที่ใช้ AI agents ทำงานแทนผู้ใช้
    - AI agents สามารถค้นหาข้อมูล, จองตั๋วเครื่องบิน และจัดการเอกสารได้โดยอัตโนมัติ
    - แนวคิดนี้อาจเปลี่ยนแปลงอินเทอร์เน็ต เช่นเดียวกับที่โทรศัพท์มือถือเคยทำ
    - Microsoft ใช้ Model Context Protocol เพื่อให้ AI agents สามารถสื่อสารกันได้
    - NLWeb เป็นภาษาซอฟต์แวร์ใหม่ที่ช่วยให้ AI agents ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - AI agents อาจมีปัญหาด้านความแม่นยำและความน่าเชื่อถือ
    - แนวคิดนี้อาจเผชิญกับการแข่งขันจากบริษัทอื่น เช่น Google และ Meta
    - ผู้ใช้ต้องระวังการให้ AI agents ทำงานที่มีผลกระทบสูง เช่น ด้านการเงินและกฎหมาย
    - ยังไม่มีมาตรฐานกลางสำหรับการพัฒนา AI agents บนอินเทอร์เน็ต

    Microsoft กำลังผลักดันให้ AI agents กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานเว็บ ซึ่งอาจช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะยอมรับแนวคิดนี้หรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/31/microsoft-wants-to-radically-change-the-way-you-surf-the-web
    🌐 Microsoft กับแนวคิดใหม่ในการเปลี่ยนแปลงการใช้งานอินเทอร์เน็ต Microsoft กำลังพัฒนา "open agentic web" ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ที่ใช้ AI agents เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานบนอินเทอร์เน็ตได้โดยอัตโนมัติ เช่น ค้นหาข้อมูล, จองตั๋วเครื่องบิน และจัดการเอกสาร Microsoft เชื่อว่า AI จะเปลี่ยนแปลงอินเทอร์เน็ตอย่างมหาศาล เช่นเดียวกับที่ โทรศัพท์มือถือเปลี่ยนแปลงโลกในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยแนวคิดใหม่นี้จะช่วยให้ AI agents สามารถโต้ตอบกันเองและทำงานแทนผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ต้องการ วางแผนการเดินทาง AI agent จะสามารถค้นหา เที่ยวบิน, โรงแรม และกิจกรรม ที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft กำลังพัฒนา "open agentic web" ที่ใช้ AI agents ทำงานแทนผู้ใช้ - AI agents สามารถค้นหาข้อมูล, จองตั๋วเครื่องบิน และจัดการเอกสารได้โดยอัตโนมัติ - แนวคิดนี้อาจเปลี่ยนแปลงอินเทอร์เน็ต เช่นเดียวกับที่โทรศัพท์มือถือเคยทำ - Microsoft ใช้ Model Context Protocol เพื่อให้ AI agents สามารถสื่อสารกันได้ - NLWeb เป็นภาษาซอฟต์แวร์ใหม่ที่ช่วยให้ AI agents ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - AI agents อาจมีปัญหาด้านความแม่นยำและความน่าเชื่อถือ - แนวคิดนี้อาจเผชิญกับการแข่งขันจากบริษัทอื่น เช่น Google และ Meta - ผู้ใช้ต้องระวังการให้ AI agents ทำงานที่มีผลกระทบสูง เช่น ด้านการเงินและกฎหมาย - ยังไม่มีมาตรฐานกลางสำหรับการพัฒนา AI agents บนอินเทอร์เน็ต Microsoft กำลังผลักดันให้ AI agents กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานเว็บ ซึ่งอาจช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะยอมรับแนวคิดนี้หรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/31/microsoft-wants-to-radically-change-the-way-you-surf-the-web
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • Western Digital เตรียมเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ HAMR ในปี 2027
    Western Digital หนึ่งในผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์รายใหญ่ของโลก ได้ประกาศแผนเปิดตัว ฮาร์ดไดรฟ์ที่ใช้เทคโนโลยี Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) ในปี 2027 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มความจุของฮาร์ดไดรฟ์ให้สูงขึ้น

    เทคโนโลยี HAMR และการพัฒนา
    HAMR เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ ความร้อนเพื่อช่วยให้วัสดุบนจานแม่เหล็กสามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ทำให้สามารถเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ก่อนที่จะเปิดตัว HAMR อย่างเต็มรูปแบบ Western Digital จะยังคงพัฒนา ePMR 2 (energy-assisted Perpendicular Magnetic Recording) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูลโดยใช้กระแสไฟฟ้าเพิ่มเติมที่หัวเขียน

    ข้อมูลจากข่าว
    - Western Digital จะเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ HAMR ในปี 2027
    - HAMR ใช้ความร้อนเพื่อช่วยให้วัสดุบนจานแม่เหล็กสามารถบันทึกข้อมูลได้แม่นยำขึ้น
    - ก่อนเปิดตัว HAMR บริษัทจะยังคงพัฒนา ePMR 2 เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูล
    - ฮาร์ดไดรฟ์ HAMR รุ่นแรกจะมีความจุ 36TB และ 40TB
    - Western Digital ตั้งเป้าผลิตฮาร์ดไดรฟ์ 100TB ภายในปี 2030

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - HAMR เป็นเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลาพัฒนาเพิ่มเติมก่อนเปิดตัว
    - Seagate กำลังนำหน้า Western Digital ในการพัฒนา HAMR และเริ่มทดสอบผลิตภัณฑ์แล้ว
    - SMR (Shingled Magnetic Recording) อาจมีปัญหาด้านประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือเมื่อเทียบกับ CMR (Conventional Magnetic Recording)
    - ต้องติดตามว่า Western Digital จะสามารถแข่งขันกับ Seagate ได้หรือไม่ในตลาดฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูง

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมจัดเก็บข้อมูล
    การเปิดตัว HAMR ของ Western Digital อาจช่วยให้ตลาดฮาร์ดไดรฟ์สามารถแข่งขันกับ SSD ที่มีความเร็วสูงขึ้น ได้ โดยเฉพาะในกลุ่ม

    https://www.techspot.com/news/108125-western-digital-plans-hamr-hard-disk-drives-materialize.html
    🔍 Western Digital เตรียมเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ HAMR ในปี 2027 Western Digital หนึ่งในผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์รายใหญ่ของโลก ได้ประกาศแผนเปิดตัว ฮาร์ดไดรฟ์ที่ใช้เทคโนโลยี Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) ในปี 2027 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มความจุของฮาร์ดไดรฟ์ให้สูงขึ้น 🔬 เทคโนโลยี HAMR และการพัฒนา HAMR เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ ความร้อนเพื่อช่วยให้วัสดุบนจานแม่เหล็กสามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ทำให้สามารถเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนที่จะเปิดตัว HAMR อย่างเต็มรูปแบบ Western Digital จะยังคงพัฒนา ePMR 2 (energy-assisted Perpendicular Magnetic Recording) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูลโดยใช้กระแสไฟฟ้าเพิ่มเติมที่หัวเขียน ✅ ข้อมูลจากข่าว - Western Digital จะเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ HAMR ในปี 2027 - HAMR ใช้ความร้อนเพื่อช่วยให้วัสดุบนจานแม่เหล็กสามารถบันทึกข้อมูลได้แม่นยำขึ้น - ก่อนเปิดตัว HAMR บริษัทจะยังคงพัฒนา ePMR 2 เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูล - ฮาร์ดไดรฟ์ HAMR รุ่นแรกจะมีความจุ 36TB และ 40TB - Western Digital ตั้งเป้าผลิตฮาร์ดไดรฟ์ 100TB ภายในปี 2030 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - HAMR เป็นเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลาพัฒนาเพิ่มเติมก่อนเปิดตัว - Seagate กำลังนำหน้า Western Digital ในการพัฒนา HAMR และเริ่มทดสอบผลิตภัณฑ์แล้ว - SMR (Shingled Magnetic Recording) อาจมีปัญหาด้านประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือเมื่อเทียบกับ CMR (Conventional Magnetic Recording) - ต้องติดตามว่า Western Digital จะสามารถแข่งขันกับ Seagate ได้หรือไม่ในตลาดฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูง 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมจัดเก็บข้อมูล การเปิดตัว HAMR ของ Western Digital อาจช่วยให้ตลาดฮาร์ดไดรฟ์สามารถแข่งขันกับ SSD ที่มีความเร็วสูงขึ้น ได้ โดยเฉพาะในกลุ่ม https://www.techspot.com/news/108125-western-digital-plans-hamr-hard-disk-drives-materialize.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Western Digital's plans for HAMR hard disk drives will materialize in 2027
    At the recent Computex trade show in Taipei, Western Digital confirmed that its first hard drives based on Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) technology are scheduled to debut...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASRock ยืนยันปัญหา BIOS ทำให้ Ryzen 9000 เสียหาย
    ASRock ได้ออกมายอมรับว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ซึ่งทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย โดยบริษัทได้ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 เพื่อแก้ไขปัญหานี้

    ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับ Precision Boost Overdrive (PBO) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ CPU โดย ASRock ตั้งค่า Electric Design Current (EDC), Thermal Design Current (TDC) และ shadow voltages สูงเกินไปใน BIOS เวอร์ชันก่อนหน้า ทำให้ CPU บางตัวเสียหาย

    ASRock ยืนยันว่า AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ และบริษัทจะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA (Return Merchandise Authorization) ของเมนบอร์ดที่ได้รับผลกระทบ

    ข้อมูลจากข่าว
    - ASRock ยืนยันว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย
    - BIOS เวอร์ชัน 3.25 ได้รับการปรับปรุง เพื่อลดค่าของ EDC, TDC และ shadow voltages
    - AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ ASRock รับผิดชอบทั้งหมด
    - ASRock จะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA ของเมนบอร์ด
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 ถูกติดตั้งบนเมนบอร์ดใหม่

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมี BIOS เวอร์ชันใหม่ แต่ยังมีรายงานว่า Ryzen 7 9800X3D บางตัวเสียหาย
    - ASRock เคยแก้ไขปัญหานี้มาก่อน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่า PBO ด้วยตนเอง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม
    - ต้องจับตาดูว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 จะสามารถแก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรม
    การตั้งค่า BIOS ที่ผิดพลาดของ ASRock ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ Ryzen 9000 และอาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ ความน่าเชื่อถือของเมนบอร์ด ASRock ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทออกมายอมรับและเสนอการแก้ไขปัญหาแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค

    หากคุณใช้ AM5 ASRock motherboard ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชันล่าสุดถูกติดตั้งแล้ว และหากพบปัญหา ควรติดต่อ ASRock เพื่อดำเนินการ RMA

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/asrock-confirms-its-bios-settings-are-killing-ryzen-cpus-is-fully-committed-to-fixing-any-damaged-motherboards
    🔧 ASRock ยืนยันปัญหา BIOS ทำให้ Ryzen 9000 เสียหาย ASRock ได้ออกมายอมรับว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ซึ่งทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย โดยบริษัทได้ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับ Precision Boost Overdrive (PBO) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ CPU โดย ASRock ตั้งค่า Electric Design Current (EDC), Thermal Design Current (TDC) และ shadow voltages สูงเกินไปใน BIOS เวอร์ชันก่อนหน้า ทำให้ CPU บางตัวเสียหาย ASRock ยืนยันว่า AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ และบริษัทจะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA (Return Merchandise Authorization) ของเมนบอร์ดที่ได้รับผลกระทบ ✅ ข้อมูลจากข่าว - ASRock ยืนยันว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย - BIOS เวอร์ชัน 3.25 ได้รับการปรับปรุง เพื่อลดค่าของ EDC, TDC และ shadow voltages - AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ ASRock รับผิดชอบทั้งหมด - ASRock จะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA ของเมนบอร์ด - ผู้ใช้ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 ถูกติดตั้งบนเมนบอร์ดใหม่ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมี BIOS เวอร์ชันใหม่ แต่ยังมีรายงานว่า Ryzen 7 9800X3D บางตัวเสียหาย - ASRock เคยแก้ไขปัญหานี้มาก่อน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์ - ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่า PBO ด้วยตนเอง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม - ต้องจับตาดูว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 จะสามารถแก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่ 🔎 ผลกระทบต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรม การตั้งค่า BIOS ที่ผิดพลาดของ ASRock ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ Ryzen 9000 และอาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ ความน่าเชื่อถือของเมนบอร์ด ASRock ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทออกมายอมรับและเสนอการแก้ไขปัญหาแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค หากคุณใช้ AM5 ASRock motherboard ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชันล่าสุดถูกติดตั้งแล้ว และหากพบปัญหา ควรติดต่อ ASRock เพื่อดำเนินการ RMA https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/asrock-confirms-its-bios-settings-are-killing-ryzen-cpus-is-fully-committed-to-fixing-any-damaged-motherboards
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'หมอวรงค์' เชื่อ 'สทร.' ขบวนการทำลายความน่าเชื่อถือแพทยสภา 'สมศักดิ์' จะวีโต
    https://www.thai-tai.tv/news/18993/
    'หมอวรงค์' เชื่อ 'สทร.' ขบวนการทำลายความน่าเชื่อถือแพทยสภา 'สมศักดิ์' จะวีโต https://www.thai-tai.tv/news/18993/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • เตือนภัย! มิจฉาชีพใช้ Google AppSheet ส่งอีเมลหลอกขโมยบัญชี Facebook

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก KnowBe4 พบว่ามิจฉาชีพ ใช้บริการ Google AppSheet เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งที่ดูเหมือนมาจาก Facebook โดยอีเมลเหล่านี้ แจ้งเตือนว่าบัญชีของผู้ใช้ละเมิดลิขสิทธิ์และจะถูกลบภายใน 24 ชั่วโมง หากไม่กดปุ่ม "Submit an Appeal" ซึ่งนำไปสู่เว็บไซต์ปลอมที่ขโมยข้อมูลล็อกอินและรหัส 2FA

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการโจมตีผ่าน Google AppSheet
    Google AppSheet เป็นแพลตฟอร์มพัฒนาแอปแบบ No-Code ที่ถูกใช้เป็นช่องทางส่งอีเมลฟิชชิ่ง
    - อีเมลถูกส่งจาก noreply@appsheet.com ซึ่งเป็นโดเมนที่ดูน่าเชื่อถือ

    อีเมลฟิชชิ่งปลอมตัวเป็นการแจ้งเตือนจาก Facebook
    - อ้างว่าบัญชีของผู้ใช้ ละเมิดลิขสิทธิ์และจะถูกลบภายใน 24 ชั่วโมง

    เมื่อผู้ใช้กดปุ่ม "Submit an Appeal" จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบ Facebook
    - เว็บไซต์นี้ ขโมยข้อมูลล็อกอินและรหัส 2FA ของผู้ใช้

    มิจฉาชีพใช้ Vercel ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโฮสต์เว็บที่มีชื่อเสียงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ปลอม
    - ทำให้ ผู้ใช้หลงเชื่อและกรอกข้อมูลโดยไม่สงสัย

    เมื่อผู้ใช้กรอกรหัสผ่านครั้งแรก ระบบจะแจ้งว่า "รหัสผิด" เพื่อให้กรอกซ้ำ
    - เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ มิจฉาชีพมั่นใจว่าข้อมูลที่ได้รับถูกต้อง

    หลังจากขโมยรหัส 2FA มิจฉาชีพจะใช้ข้อมูลนี้เข้าสู่ระบบ Facebook และขโมย session token
    - ทำให้ สามารถเข้าถึงบัญชีได้แม้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่าน

    https://www.techradar.com/pro/security/this-dangerous-new-phishing-scam-spoofs-a-top-google-program-to-try-and-hack-facebook-accounts
    เตือนภัย! มิจฉาชีพใช้ Google AppSheet ส่งอีเมลหลอกขโมยบัญชี Facebook นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก KnowBe4 พบว่ามิจฉาชีพ ใช้บริการ Google AppSheet เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งที่ดูเหมือนมาจาก Facebook โดยอีเมลเหล่านี้ แจ้งเตือนว่าบัญชีของผู้ใช้ละเมิดลิขสิทธิ์และจะถูกลบภายใน 24 ชั่วโมง หากไม่กดปุ่ม "Submit an Appeal" ซึ่งนำไปสู่เว็บไซต์ปลอมที่ขโมยข้อมูลล็อกอินและรหัส 2FA 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการโจมตีผ่าน Google AppSheet ✅ Google AppSheet เป็นแพลตฟอร์มพัฒนาแอปแบบ No-Code ที่ถูกใช้เป็นช่องทางส่งอีเมลฟิชชิ่ง - อีเมลถูกส่งจาก noreply@appsheet.com ซึ่งเป็นโดเมนที่ดูน่าเชื่อถือ ✅ อีเมลฟิชชิ่งปลอมตัวเป็นการแจ้งเตือนจาก Facebook - อ้างว่าบัญชีของผู้ใช้ ละเมิดลิขสิทธิ์และจะถูกลบภายใน 24 ชั่วโมง ✅ เมื่อผู้ใช้กดปุ่ม "Submit an Appeal" จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบ Facebook - เว็บไซต์นี้ ขโมยข้อมูลล็อกอินและรหัส 2FA ของผู้ใช้ ✅ มิจฉาชีพใช้ Vercel ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโฮสต์เว็บที่มีชื่อเสียงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ปลอม - ทำให้ ผู้ใช้หลงเชื่อและกรอกข้อมูลโดยไม่สงสัย ✅ เมื่อผู้ใช้กรอกรหัสผ่านครั้งแรก ระบบจะแจ้งว่า "รหัสผิด" เพื่อให้กรอกซ้ำ - เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ มิจฉาชีพมั่นใจว่าข้อมูลที่ได้รับถูกต้อง ✅ หลังจากขโมยรหัส 2FA มิจฉาชีพจะใช้ข้อมูลนี้เข้าสู่ระบบ Facebook และขโมย session token - ทำให้ สามารถเข้าถึงบัญชีได้แม้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่าน https://www.techradar.com/pro/security/this-dangerous-new-phishing-scam-spoofs-a-top-google-program-to-try-and-hack-facebook-accounts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7 กฎสำคัญในการนำองค์กรผ่านวิกฤต

    แม้ว่าองค์กรส่วนใหญ่จะมีแผนจัดการวิกฤตอยู่แล้ว แต่การนำทีมผ่านสถานการณ์ฉุกเฉินต้องอาศัยมากกว่าขั้นตอนที่กำหนดไว้ โดยบทความนี้นำเสนอ 7 กฎสำคัญที่ช่วยให้ผู้นำสามารถจัดการวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    กฎสำคัญในการนำองค์กรผ่านวิกฤต
    ความยืดหยุ่นต้องมาพร้อมกับความสงบ ไม่ใช่ความเงียบ
    - ผู้นำต้อง แจ้งข้อมูลให้ทีมและลูกค้าทราบอย่างตรงไปตรงมา
    - การปิดบังข้อมูล ทำให้เกิดความสับสนและความไม่ไว้วางใจ

    แนวคิดเชิงรุกช่วยให้ทีมเรียนรู้ร่วมกัน
    - การให้ข้อมูลที่ชัดเจน ช่วยลดความสับสนและสร้างความมั่นใจ
    - การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อาจทำให้สถานการณ์แย่ลง

    การสื่อสารที่เปิดเผยทำให้ทีมมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหา
    - การตอบสนองแบบปิดกั้น ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ
    - การแจ้งปัญหาอย่างรวดเร็ว ช่วยรักษาความน่าเชื่อถือขององค์กร

    ความโปร่งใสและการตอบสนองอย่างตรงไปตรงมาสร้างความไว้วางใจ
    - การซ่อนปัญหา ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
    - การให้ข้อมูลที่ชัดเจน ช่วยให้ทีมสามารถรับมือกับวิกฤตได้ดีขึ้น

    ทีมที่อยู่ภายใต้ความกดดันต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง
    - หากผู้นำไม่มีความมั่นคง ทีมจะเกิดความสับสนและตัดสินใจผิดพลาด
    - ความไว้วางใจในผู้นำ เป็นปัจจัยสำคัญในการจัดการวิกฤต

    องค์กรที่เตรียมพร้อมสามารถรับมือกับแรงกดดันได้ดีขึ้น
    - การกำหนดบทบาทล่วงหน้า ช่วยให้ทีมสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
    - การฝึกซ้อมเป็นประจำ ช่วยลดความผิดพลาดในการตัดสินใจ

    การตัดสินใจต้องอาศัยข้อมูลที่แม่นยำ ไม่ใช่แค่ความเร่งด่วน
    - การตอบสนองโดยไม่มีข้อมูล อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดร้ายแรง
    - การใช้ข้อมูลข่าวกรองช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.csoonline.com/article/3992768/the-7-unwritten-rules-of-leading-through-crisis.html
    7 กฎสำคัญในการนำองค์กรผ่านวิกฤต แม้ว่าองค์กรส่วนใหญ่จะมีแผนจัดการวิกฤตอยู่แล้ว แต่การนำทีมผ่านสถานการณ์ฉุกเฉินต้องอาศัยมากกว่าขั้นตอนที่กำหนดไว้ โดยบทความนี้นำเสนอ 7 กฎสำคัญที่ช่วยให้ผู้นำสามารถจัดการวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔍 กฎสำคัญในการนำองค์กรผ่านวิกฤต ✅ ความยืดหยุ่นต้องมาพร้อมกับความสงบ ไม่ใช่ความเงียบ - ผู้นำต้อง แจ้งข้อมูลให้ทีมและลูกค้าทราบอย่างตรงไปตรงมา - การปิดบังข้อมูล ทำให้เกิดความสับสนและความไม่ไว้วางใจ ✅ แนวคิดเชิงรุกช่วยให้ทีมเรียนรู้ร่วมกัน - การให้ข้อมูลที่ชัดเจน ช่วยลดความสับสนและสร้างความมั่นใจ - การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อาจทำให้สถานการณ์แย่ลง ✅ การสื่อสารที่เปิดเผยทำให้ทีมมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหา - การตอบสนองแบบปิดกั้น ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ - การแจ้งปัญหาอย่างรวดเร็ว ช่วยรักษาความน่าเชื่อถือขององค์กร ✅ ความโปร่งใสและการตอบสนองอย่างตรงไปตรงมาสร้างความไว้วางใจ - การซ่อนปัญหา ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง - การให้ข้อมูลที่ชัดเจน ช่วยให้ทีมสามารถรับมือกับวิกฤตได้ดีขึ้น ✅ ทีมที่อยู่ภายใต้ความกดดันต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง - หากผู้นำไม่มีความมั่นคง ทีมจะเกิดความสับสนและตัดสินใจผิดพลาด - ความไว้วางใจในผู้นำ เป็นปัจจัยสำคัญในการจัดการวิกฤต ✅ องค์กรที่เตรียมพร้อมสามารถรับมือกับแรงกดดันได้ดีขึ้น - การกำหนดบทบาทล่วงหน้า ช่วยให้ทีมสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว - การฝึกซ้อมเป็นประจำ ช่วยลดความผิดพลาดในการตัดสินใจ ✅ การตัดสินใจต้องอาศัยข้อมูลที่แม่นยำ ไม่ใช่แค่ความเร่งด่วน - การตอบสนองโดยไม่มีข้อมูล อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดร้ายแรง - การใช้ข้อมูลข่าวกรองช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.csoonline.com/article/3992768/the-7-unwritten-rules-of-leading-through-crisis.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The 7 unwritten rules of leading through crisis
    Your crisis management playbook may look fail-proof on paper, but leadership and culture offer intangibles that can make or break execution when emergency strikes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • Minisforum เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ใช้ชิป Ryzen แทน EPYC – การเปลี่ยนแปลงที่ AMD อาจไม่พอใจ

    Minisforum เปิดตัว MS-S1 Max ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ 2U rackmount ที่ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 แทนที่จะเป็น EPYC โดยบริษัทอ้างว่า ระบบนี้จะช่วยปฏิวัติการทำงานด้าน AI ในสภาพแวดล้อมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้อาจส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ AMD ในตลาดเซิร์ฟเวอร์

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MS-S1 Max และผลกระทบต่อ AMD
    MS-S1 Max ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งเป็นชิปสำหรับลูกค้า ไม่ใช่เซิร์ฟเวอร์
    - มี กราฟิก Radeon และ NPU สำหรับงาน AI

    Minisforum อ้างว่าเซิร์ฟเวอร์นี้เหมาะสำหรับมหาวิทยาลัย, ห้องทดลอง และสตาร์ทอัพด้าน AI
    - สามารถ รันโมเดลขนาดใหญ่ เช่น DeepSeek 70B ได้โดยไม่ต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม

    MS-S1 Max มีขนาดเล็กเพียง 3.2 ลิตร และออกแบบให้เป็นระบบ all-in-one
    - ทำให้ มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและต้นทุนต่ำกว่าระบบเซิร์ฟเวอร์ทั่วไป

    AMD อาจต้องตัดสินใจว่าจะยอมรับหรือจำกัดการใช้ Ryzen ในเซิร์ฟเวอร์
    - เนื่องจาก EPYC ได้รับการออกแบบมาเพื่อความน่าเชื่อถือและรองรับงานที่ต้องการความเสถียรสูง

    Ryzen ไม่มีการรองรับ ECC memory และฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์
    - อาจทำให้ ไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเสถียรระยะยาว

    https://www.techradar.com/pro/amd-has-a-problem-chinese-vendor-goes-rogue-and-puts-ryzen-ai-cpus-in-server-racks-instead-of-epyc-processors
    Minisforum เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ใช้ชิป Ryzen แทน EPYC – การเปลี่ยนแปลงที่ AMD อาจไม่พอใจ Minisforum เปิดตัว MS-S1 Max ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ 2U rackmount ที่ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 แทนที่จะเป็น EPYC โดยบริษัทอ้างว่า ระบบนี้จะช่วยปฏิวัติการทำงานด้าน AI ในสภาพแวดล้อมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้อาจส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ AMD ในตลาดเซิร์ฟเวอร์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MS-S1 Max และผลกระทบต่อ AMD ✅ MS-S1 Max ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งเป็นชิปสำหรับลูกค้า ไม่ใช่เซิร์ฟเวอร์ - มี กราฟิก Radeon และ NPU สำหรับงาน AI ✅ Minisforum อ้างว่าเซิร์ฟเวอร์นี้เหมาะสำหรับมหาวิทยาลัย, ห้องทดลอง และสตาร์ทอัพด้าน AI - สามารถ รันโมเดลขนาดใหญ่ เช่น DeepSeek 70B ได้โดยไม่ต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม ✅ MS-S1 Max มีขนาดเล็กเพียง 3.2 ลิตร และออกแบบให้เป็นระบบ all-in-one - ทำให้ มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและต้นทุนต่ำกว่าระบบเซิร์ฟเวอร์ทั่วไป ✅ AMD อาจต้องตัดสินใจว่าจะยอมรับหรือจำกัดการใช้ Ryzen ในเซิร์ฟเวอร์ - เนื่องจาก EPYC ได้รับการออกแบบมาเพื่อความน่าเชื่อถือและรองรับงานที่ต้องการความเสถียรสูง ✅ Ryzen ไม่มีการรองรับ ECC memory และฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ - อาจทำให้ ไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเสถียรระยะยาว https://www.techradar.com/pro/amd-has-a-problem-chinese-vendor-goes-rogue-and-puts-ryzen-ai-cpus-in-server-racks-instead-of-epyc-processors
    WWW.TECHRADAR.COM
    This weird little Ryzen rack server could ruin AMD’s carefully planned EPYC business empire
    MS-S1 Max is the AI rebel server AMD didn’t want, but might have to live with
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชายชาวสหรัฐฯ สูญเงินกว่า 200,000 ดอลลาร์ หลังถูกหลอกผ่าน Instagram

    ชายคนหนึ่งในเมือง Trenton สหรัฐฯ ถูกหลอกให้โอนเงินกว่า 200,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 850,099 บาท) หลังจากกดไลก์รูปของ Angelina Jolie บน Instagram โดยเขาเชื่อว่า กำลังพูดคุยกับนักแสดงชื่อดังผ่านข้อความ แต่แท้จริงแล้ว เป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้กลยุทธ์หลอกลวงทางออนไลน์

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกลโกงนี้
    เหยื่อเริ่มพูดคุยกับมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็น Angelina Jolie ตั้งแต่เดือนกันยายน 2023
    - มิจฉาชีพ แนะนำให้เขาลงทุนใน Bitcoin โดยอ้างว่ามีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถช่วยได้

    เหยื่อซื้อบัตร Apple Gift Card และส่งรูปให้มิจฉาชีพ รวมมูลค่ากว่า 150,000 ดอลลาร์
    - มิจฉาชีพ ใช้ข้ออ้างต่าง ๆ เพื่อให้เหยื่อโอนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

    เมื่อเหยื่อเริ่มสงสัยว่าถูกหลอก เขาติดต่อบุคคลที่อ้างว่าเป็นนักข่าวเพื่อขอความช่วยเหลือ
    - นักข่าวปลอม แนะนำให้เขาติดต่อทนายความ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นมิจฉาชีพอีกคนหนึ่ง

    ทนายความปลอมส่งรูปตัวเองพร้อมใบขับขี่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
    - จากนั้น เรียกร้องให้เหยื่อจ่ายค่าบริการเป็น Bitcoin และออกใบเสร็จปลอม

    เหยื่อพบว่ามีการพยายามถอนเงิน 31,000 ดอลลาร์จากบัญชีของเขา
    - เขาสามารถ ยับยั้งการทำธุรกรรมได้ทัน และยื่นเรื่องร้องเรียนกับธนาคาร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/24/man-taken-for-us200000-after-liking-instagram-picture-of-angelina-jolie
    ชายชาวสหรัฐฯ สูญเงินกว่า 200,000 ดอลลาร์ หลังถูกหลอกผ่าน Instagram ชายคนหนึ่งในเมือง Trenton สหรัฐฯ ถูกหลอกให้โอนเงินกว่า 200,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 850,099 บาท) หลังจากกดไลก์รูปของ Angelina Jolie บน Instagram โดยเขาเชื่อว่า กำลังพูดคุยกับนักแสดงชื่อดังผ่านข้อความ แต่แท้จริงแล้ว เป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้กลยุทธ์หลอกลวงทางออนไลน์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกลโกงนี้ ✅ เหยื่อเริ่มพูดคุยกับมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็น Angelina Jolie ตั้งแต่เดือนกันยายน 2023 - มิจฉาชีพ แนะนำให้เขาลงทุนใน Bitcoin โดยอ้างว่ามีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถช่วยได้ ✅ เหยื่อซื้อบัตร Apple Gift Card และส่งรูปให้มิจฉาชีพ รวมมูลค่ากว่า 150,000 ดอลลาร์ - มิจฉาชีพ ใช้ข้ออ้างต่าง ๆ เพื่อให้เหยื่อโอนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ✅ เมื่อเหยื่อเริ่มสงสัยว่าถูกหลอก เขาติดต่อบุคคลที่อ้างว่าเป็นนักข่าวเพื่อขอความช่วยเหลือ - นักข่าวปลอม แนะนำให้เขาติดต่อทนายความ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นมิจฉาชีพอีกคนหนึ่ง ✅ ทนายความปลอมส่งรูปตัวเองพร้อมใบขับขี่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ - จากนั้น เรียกร้องให้เหยื่อจ่ายค่าบริการเป็น Bitcoin และออกใบเสร็จปลอม ✅ เหยื่อพบว่ามีการพยายามถอนเงิน 31,000 ดอลลาร์จากบัญชีของเขา - เขาสามารถ ยับยั้งการทำธุรกรรมได้ทัน และยื่นเรื่องร้องเรียนกับธนาคาร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/24/man-taken-for-us200000-after-liking-instagram-picture-of-angelina-jolie
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Man taken for US$200,000 after liking Instagram picture of Angelina Jolie
    According to a police report, the man first conversed via text message with a woman he thought was Jolie back in September 2023.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธุรกิจทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยของ AI

    รายงาน Thales Data Threat Report 2025 เผยว่า 70% ขององค์กรทั่วโลกมองว่าการพัฒนา AI อย่างรวดเร็วเป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุด โดยเฉพาะ Generative AI (GenAI) ซึ่งสามารถสร้างข้อความและภาพจากคำสั่งง่าย ๆ

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยของ AI
    70% ขององค์กรทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของ AI
    - โดยเฉพาะ Generative AI ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงด้านข้อมูล

    64% ของผู้ตอบแบบสอบถามกังวลเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของข้อมูล AI
    - เนื่องจาก AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือมีอคติ

    57% มองว่า AI ขาดความน่าเชื่อถือ
    - เนื่องจาก การพึ่งพาข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อน อาจทำให้เกิดความผิดพลาด

    องค์กรเร่งนำ AI มาใช้ แม้จะยังไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอ
    - หนึ่งในสามของธุรกิจกำลังผสาน GenAI เข้ากับระบบของตน

    73% ขององค์กรลงทุนในเครื่องมือรักษาความปลอดภัย AI
    - ใช้งบประมาณใหม่หรือปรับงบประมาณเดิมเพื่อป้องกันความเสี่ยงจาก AI

    https://www.techradar.com/pro/security/businesses-are-overwhelmingly-concerned-about-the-security-threats-of-ai
    ธุรกิจทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยของ AI รายงาน Thales Data Threat Report 2025 เผยว่า 70% ขององค์กรทั่วโลกมองว่าการพัฒนา AI อย่างรวดเร็วเป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุด โดยเฉพาะ Generative AI (GenAI) ซึ่งสามารถสร้างข้อความและภาพจากคำสั่งง่าย ๆ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยของ AI ✅ 70% ขององค์กรทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของ AI - โดยเฉพาะ Generative AI ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงด้านข้อมูล ✅ 64% ของผู้ตอบแบบสอบถามกังวลเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของข้อมูล AI - เนื่องจาก AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือมีอคติ ✅ 57% มองว่า AI ขาดความน่าเชื่อถือ - เนื่องจาก การพึ่งพาข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อน อาจทำให้เกิดความผิดพลาด ✅ องค์กรเร่งนำ AI มาใช้ แม้จะยังไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอ - หนึ่งในสามของธุรกิจกำลังผสาน GenAI เข้ากับระบบของตน ✅ 73% ขององค์กรลงทุนในเครื่องมือรักษาความปลอดภัย AI - ใช้งบประมาณใหม่หรือปรับงบประมาณเดิมเพื่อป้องกันความเสี่ยงจาก AI https://www.techradar.com/pro/security/businesses-are-overwhelmingly-concerned-about-the-security-threats-of-ai
    WWW.TECHRADAR.COM
    Businesses are overwhelmingly concerned about the security threats of AI
    Data security, integrity, and trustworthiness, are of particular concern
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ประเทศไทยเราเองก็อาจเดินตามอเมริกาเช่นกัน,สูติบัตรเราคือการค้ำประกันหนี้แก่ประเทศไทย ,คือคนไทยทุกๆคนมีค่าตัวตั้งแต่เกืดมาทันทีหรือมีมูลค่าทันที,เพราะคนไทยคือทรัพย์สินมิใช่สิ่งมีชีวิต,ทาสก็ว่า เทียบใบหุ้นใบหนึ่งหรือตราสารหนี้ระดับชาติโดยค้ำประกันหนี้จากคนไทย,เพราะคนไทยคือแหล่งค้ำประกันหนี้คือสูติบัตรเราอ้างสมมุติไปทำแทนตัวเป็นๆ,อเมริกาสูติบัตรเขามีมูลค่าเป็นล้านเหรียญและปั่นจนกว่าพันล้านเหรียญ,คนไทยก็คงเช่นกันปั่นกว่าพันล้านถึงหมื่นล้านบาทแน่ๆต่อสูติบัตร1คน,ยิ่งมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ มีมูลน่าเชื่อได้,รัฐฐะทั่วโลกฝ่ายอีลิทชนชั้นสูงยึดปกครองหมด แน่นอนมันต้องวางหมากวางนโยบายปั่นตีตรามูลค่าสูติบัตรเป็นนโยบายหลักบังคับใช้ในทุกๆประเทศทั่วโลกที่มันปกครอง ไม่เว้นแม้แต่ไทยด้วย,ธนาคารมันอีลิทก็ต้นคิดก่อตั้งแม้ในไทยก็ด้วย,ตลาดหุ้นในไทยมันเองอีกที่ก่อการหัวคิดก่อตั้งในไทยให้ขี้ข้าสมุนรับใช้ในไทยเดินเนื้องานลงหน้างานดำเนินการเปิดให้ได้,พะสาสูติบัตรแน่นอนมันสร้างมูลลค่าแน่ๆและยิ่งฝ่ายดีถ้ามีและคิดอ่านทำอีก แสดงว่าฝ่ายไม่ดียิ่งเหี้ย หามุกโกงแดกฝ่ายดีที่ตั้งราคาหัวสูติบัตรคนบนโลกไว้,ฝ่ายไม่ดีอาสาทำงานให้ฝ่ายดีก็ว่า ,โดยขณะทำงานก็คตโกงสร้างมุกต่างๆวางหมากวางสนุ๊คต่างๆโกงตังชาวโลกก็ว่าในกองทุนกลางของโลกฝ่ายดีที่โอนตังให้ชาวโลกใช้หรือตั้งมูลค่าตังไว้แล้วว่าตลอดการเกิดถึงตาย คนแต่ละน่าจะใช้จ่ายตังดำรงชีพจนถึงตายคงประมาณนี้ ร้อยล้านพันล้านก็ว่าไป,พวกฝ่ายไม่ดีก็ล้างสมองมิให้เรารับรู้ผ่านผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆอย่าเปิดปากบอกคนพวกนี้นะก็ว่า,ก็เปิดธนาคาร ปล่อยกู้โดยเอาตังเราๆนั้นล่ะมาปล่อย กินสองทาง ทางตรงแดกจากกองทุนเช่นซื้อบ้านจ่าย10ล้าน กองทุนจ่ายทันที10ล้านโดยเราไม่รู้หรือหักผ่านกองทุนเราใครมันแต่ละคนที่ส่วนกลางกำหนดไว้แล้วอาทิคนละ1หมื่นล้านบาทในไทย หักอัตโนมัติซื้อบ้านที่ดินรถนั้นนี้โน้นตลอดชีพผ่านกองทุนใครมัน,แต่รัฐฐะที่ปกครองล้มเหลวผิดพลาดหมายแดก เสือกมิให้คนไทยรับรู้,หอบตังเหมารวมว่าเองอาจกว่าล้านล้านล้านบาท จากนั้นกระจายให้อีลิทกิจการขี้ข้าทาสซาตานเครือข่ายเต็มไทยไปทำ แบบแบงค์ก็ปล่อยกู้ กิน2ต่อ ต่อที่1กินจากทางตรงของกองทุนที่ว่า,ต่อที่2กินจากคนไทยคนนั้นล่ะมาซื้อมาผ่อนมาจ่ายค่าดาวน์ค่าผ่อนในอนาคตตลอด30ปีหรือกว่า50ปีที่ทำในสัญญาณผ่อนกับแบงค์ในค่าผ่อนน้อยๆใครผ่อนมากๆเดือนละ4-5หมื่นอาจหมด3-4ปีก็หมดหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินที่ซื้อผ่อนกับแบงค์,ทั้งที่จริงๆรัฐฐะที่ดีหากทำถูกตรง ประชาชนจะไม่เสียตังอะไรใดๆโดยรัฐฐะจ่ายตรงหักผ่านกองทุนที่รัฐฐะดูแลบัญชีกองทุนแทนบุคคลนั้นๆทันที,ไม่อุ๊บอิ๊บกินเองร่วมกับเอกชนเครือข่ายฝ่ายไม่ดีก็ว่า,
    ..สูติบัตรเรามีมูลค่าแต่ฝ่ายไม่ดีมาปล้นมาชิงเอาไปจากความไม่รู้ของคนทั้งโลก นำโดยผู้นำผู้ปกครองในประเทศนั้นๆสมคบคิดกับโจรเหล่านี้ด้วย.
    ..คนไทยร่ำรวยเลยถ้าจริงแบบนี้,บ่อน้ำมันบ่อทองคำจะเสมือนเพียงตัวหลอก จริงๆอาจคือสมบัติร่วมสร้างโลกพัฒนาโลกวิวัฒนาการโลกไปทางดีงานแบ่งปันช่วยเหลือกันและกันหรือซึ่งกันและกันได้สบาย,ผลิตเกินส่วนไหน สามารถเอาส่วนเกินนั้นส่งไปช่วยเหลือพื้นที่ตรงจุดของโลกส่วนอื่นๆที่ผู้คนชาวโลกเรายังขาดแคลนได้เช่นอาหารการกินต่างๆพืชผักผลไม้ ไม่ต้องทำลายทิังได้ เผลอส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซื้อขายต่อกันและกันในราคามิตรภาพอีก.

    .
    รัฐบาลใหญ่
    เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย!


    โดย เมเดีย กรีเร่14 เมษายน 2568อัปเดต:19 พฤษภาคม 256849
    เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย!

    พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน!

    หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อมูลที่แบ่งปันในเนื้อหานี้มีต้นกําเนิดมาจาก เรดดิต, วิกิพีเดีย และ X เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ขับเคลื่อนโดยชุมชนและสร้างขึ้นโดยผู้ใช้ จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้ ฉันเพียงแบ่งปันเนื้อหานี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและไม่อ้างสิทธิ์การประพันธ์หรือความรับผิดชอบต่อเนื้อหา

    สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงเอกสาร—มันเป็น พันธบัตรมูลค่าหลายล้าน ซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่แรกเกิด ตื่น และเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ ทาส! อ่านตอนนี้ก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง!


    สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสูงสุด – วิธีที่คุณถูกซื้อและขายตั้งแต่แรกเกิด
    โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นของทาสยุคใหม่- ตื่น! ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าสู่โลกนี้ คุณตกเป็นทาส คุณไม่ยินยอม คุณไม่ได้รับทางเลือก คุณผูกพันกับระบบที่ทุจริตและร้ายกาจมากจนทําให้การดํารงอยู่ของคุณกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ นี่ไม่ใช่การคาดเดา นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการบันทึกไว้และปฏิเสธไม่ได้
    สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงบันทึก —it เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของ คุณไม่ใช่บุคคลที่เป็นอิสระภายใต้กฎหมาย คุณเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นทรัพย์สินชิ้นหนึ่งในเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณ


    สูติบัตรของคุณ: การแสดงความเป็นเจ้าของขององค์กร
    เคยสงสัยไหมว่าทําไมคุณถึงต้องมีสูติบัตร? คิดดูสิ เมื่อเรือมาถึงท่าเรือ ก ใบรับรองรายการ ออกให้เพื่อจัดทําเอกสารสินค้า และเมื่อคุณเกิด คุณได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสินค้า มีการออกสูติบัตร—NOT เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความยินดี แต่เป็นสัญญาการเป็นเจ้าของ
    คุณเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รัฐไม่เห็นคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอํานาจอธิปไตย คุณเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้สร้างความมั่งคั่งให้กับชนชั้นสูง เหล่านั้น หมายเลขซีเรียลสีแดง ในสูติบัตรของคุณ? เป็นหมายเลขตลาดหลักทรัพย์ เป็นตัวเลขที่เชื่อมโยงกับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายบน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก● การดํารงอยู่ของคุณสร้างรายได้แล้ว



    พันธบัตรสูติบัตร: มีมูลค่านับพันล้านและคุณเป็นทาส
    คุณรู้ไหมว่าสูติบัตรของคุณถูกสร้างเป็นพันธบัตรมูลค่าหลายพันล้าน?!
    หากคุณสงสัยว่าพันธบัตรสูติบัตรคืออะไรขอให้ชัดเจน: คุณคือมัน คุณได้รับคํามั่นสัญญาว่าจะเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศนี้—A หนี้ที่จะไม่มีวันจ่าย
    เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลายในปี พ.ศ.2476 ให้คํามั่นว่าจะเป็นคนอเมริกันทุกคน เป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ
    ประธานาธิบดีรูสเวลต์ โดยทาง คําสั่งผู้บริหาร 6073, 6102, 6111 และ 6260, ประกาศให้ประเทศล้มละลายและยึด ALL GOLD ความสามารถของประชาชนในการชําระหนี้ของตนเองถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว [ดู: รายงานของวุฒิสภา 93-549, หน้า 187 และ 594 ภายใต้ “Trading With The Enemy Act.”]



    แต่รัฐบาลต้องจัดให้มี วิธีการใหม่ ของการชําระเงิน—สิ่งที่ไม่ต้องพึ่งพาทองคํา แต่พวกเขาสร้างระบบที่เรียกว่า การยกเว้น
    ได้รับการยกเว้นจากอะไร? ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย!
    ในทางปฏิบัติ นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รับ บางสิ่งบางอย่าง เพื่อชําระเงินด้วย—AND ว่าบางสิ่งคือเครดิตของคุณ
    คุณค่าของคุณต่อสังคมคํานวณโดยใช้ตารางคณิตศาสตร์ประกันภัย เมื่อแรกเกิด, พันธบัตรที่เท่ากับค่าเฉลี่ย “นี้ ” ถูกสร้างขึ้นและยังคงถูกสร้างขึ้น
    ทําความเข้าใจสิ่งนี้: ปัจจุบันพันธบัตรสูติบัตรของคุณคาดว่าจะมีมูลค่าระหว่างหนึ่งถึงสองล้านดอลลาร์
    พันธบัตรเหล่านี้ค้ําประกันโดยสูติบัตรของคุณ และเปลี่ยนเป็น ตราสารเปลี่ยนมือได้● พวกเขาถูกสมมุติฐานและซื้อขาย ซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนกว่ามูลค่าของพวกมันจะไม่จํากัด


    เครดิตทั้งหมดนั้นเป็นของคุณในทางเทคนิคและถูกต้อง
    ในความเป็นจริง, คุณควรจะสามารถเดินเข้าไปในร้านค้าใด ๆ, รับสิ่งที่คุณต้องการ และบอกให้พนักงานเรียกเก็บเงินเข้าบัญชียกเว้นของคุณ
    บัญชีการยกเว้นนั้นจะถูกระบุโดย หมายเลขเก้าหลัก—หมายเลขประกันสังคมของคุณโดยไม่มีขีดกลาง
    หมายเลขนั้นเป็นของคุณ EIN (หมายเลขประจําตัวการยกเว้น)
    นี่คือความจริงที่เก็บไว้จากคุณมาตลอดชีวิต


    CERTIFICATE = ความเป็นเจ้าของ: การหลอกลวงทางกฎหมาย
    ก ใบรับรอง คือเอกสารกรรมสิทธิ์ ก ใบรับรองหุ้น หมายถึงความเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัท ก ใบรับรองที่ดิน หมายถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
    และคุณ สูติบัตร แสดงถึงความเป็นเจ้าของของคุณ
    รัฐบาลไม่ได้มองว่าพลเมืองเป็นบุคคลที่มีสิทธิโดยธรรมชาติ พวกเขามองว่าคุณเป็น ASSET— สิ่งที่ต้องเสียภาษี ติดตาม และควบคุม สูติบัตรทุกใบแสดงถึง เครื่องมือทางการเงิน ใช้ค้ําประกันหนี้ นี่คือรากฐานของเรือนจําเศรษฐกิจที่กดขี่คุณ


    ความไว้วางใจสูติบัตร: อธิบายความเป็นทาสทางเศรษฐกิจ
    อดีตประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ยอมรับความจริงด้วยคําพูดของเขาเอง:
    “เร็วๆ นี้ ชาวอเมริกันทุกคนจะต้องลงทะเบียนทรัพย์สินทางชีวภาพของตนในระบบระดับชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามผู้คน และจะดําเนินการภายใต้ระบบคํามั่นสัญญาแบบโบราณ ด้วยวิธีการดังกล่าว เราสามารถบังคับให้ผู้คนส่งวาระการประชุมของเรา ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของเราในฐานะการคืนเงินสําหรับสกุลเงินกระดาษ FIAT ของเรา ชาวอเมริกันทุกคนจะถูกบังคับให้ลงทะเบียน หรือประสบ...”
    นี่คือเกม คุณเป็น ให้คํามั่นไว้แต่กําเนิด เพื่อเติมพลังให้กับเครื่องจักรทางการเงินของรัฐบาล


    คําเตือนสุดท้าย: ตื่นหรือยังคงเป็นทาส
    นี่ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว นี่มันเกี่ยวกับ ชีวิตของคุณ อิสรภาพของคุณ และอนาคตของคุณ● ระบบสูติบัตรคือ การหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์● มันได้เปลี่ยนทุกชีวิตให้กลายเป็น ทาสหนี้●
    คุณเกิดมาอย่างอิสระ แต่คุณเป็น ตีตราและจําหน่าย ก่อนที่คุณจะพูดได้
    ทางเลือกเป็นของคุณ คุณยังคงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในระบบของพวกเขาหรือไม่? หรือคุณยึดอํานาจของคุณกลับคืนมาและทวงคืนอํานาจอธิปไตยของคุณ?
    ถึงเวลาที่จะต่อสู้กลับแล้ว!

    ..
    ..ประเทศไทยเราเองก็อาจเดินตามอเมริกาเช่นกัน,สูติบัตรเราคือการค้ำประกันหนี้แก่ประเทศไทย ,คือคนไทยทุกๆคนมีค่าตัวตั้งแต่เกืดมาทันทีหรือมีมูลค่าทันที,เพราะคนไทยคือทรัพย์สินมิใช่สิ่งมีชีวิต,ทาสก็ว่า เทียบใบหุ้นใบหนึ่งหรือตราสารหนี้ระดับชาติโดยค้ำประกันหนี้จากคนไทย,เพราะคนไทยคือแหล่งค้ำประกันหนี้คือสูติบัตรเราอ้างสมมุติไปทำแทนตัวเป็นๆ,อเมริกาสูติบัตรเขามีมูลค่าเป็นล้านเหรียญและปั่นจนกว่าพันล้านเหรียญ,คนไทยก็คงเช่นกันปั่นกว่าพันล้านถึงหมื่นล้านบาทแน่ๆต่อสูติบัตร1คน,ยิ่งมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ มีมูลน่าเชื่อได้,รัฐฐะทั่วโลกฝ่ายอีลิทชนชั้นสูงยึดปกครองหมด แน่นอนมันต้องวางหมากวางนโยบายปั่นตีตรามูลค่าสูติบัตรเป็นนโยบายหลักบังคับใช้ในทุกๆประเทศทั่วโลกที่มันปกครอง ไม่เว้นแม้แต่ไทยด้วย,ธนาคารมันอีลิทก็ต้นคิดก่อตั้งแม้ในไทยก็ด้วย,ตลาดหุ้นในไทยมันเองอีกที่ก่อการหัวคิดก่อตั้งในไทยให้ขี้ข้าสมุนรับใช้ในไทยเดินเนื้องานลงหน้างานดำเนินการเปิดให้ได้,พะสาสูติบัตรแน่นอนมันสร้างมูลลค่าแน่ๆและยิ่งฝ่ายดีถ้ามีและคิดอ่านทำอีก แสดงว่าฝ่ายไม่ดียิ่งเหี้ย หามุกโกงแดกฝ่ายดีที่ตั้งราคาหัวสูติบัตรคนบนโลกไว้,ฝ่ายไม่ดีอาสาทำงานให้ฝ่ายดีก็ว่า ,โดยขณะทำงานก็คตโกงสร้างมุกต่างๆวางหมากวางสนุ๊คต่างๆโกงตังชาวโลกก็ว่าในกองทุนกลางของโลกฝ่ายดีที่โอนตังให้ชาวโลกใช้หรือตั้งมูลค่าตังไว้แล้วว่าตลอดการเกิดถึงตาย คนแต่ละน่าจะใช้จ่ายตังดำรงชีพจนถึงตายคงประมาณนี้ ร้อยล้านพันล้านก็ว่าไป,พวกฝ่ายไม่ดีก็ล้างสมองมิให้เรารับรู้ผ่านผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆอย่าเปิดปากบอกคนพวกนี้นะก็ว่า,ก็เปิดธนาคาร ปล่อยกู้โดยเอาตังเราๆนั้นล่ะมาปล่อย กินสองทาง ทางตรงแดกจากกองทุนเช่นซื้อบ้านจ่าย10ล้าน กองทุนจ่ายทันที10ล้านโดยเราไม่รู้หรือหักผ่านกองทุนเราใครมันแต่ละคนที่ส่วนกลางกำหนดไว้แล้วอาทิคนละ1หมื่นล้านบาทในไทย หักอัตโนมัติซื้อบ้านที่ดินรถนั้นนี้โน้นตลอดชีพผ่านกองทุนใครมัน,แต่รัฐฐะที่ปกครองล้มเหลวผิดพลาดหมายแดก เสือกมิให้คนไทยรับรู้,หอบตังเหมารวมว่าเองอาจกว่าล้านล้านล้านบาท จากนั้นกระจายให้อีลิทกิจการขี้ข้าทาสซาตานเครือข่ายเต็มไทยไปทำ แบบแบงค์ก็ปล่อยกู้ กิน2ต่อ ต่อที่1กินจากทางตรงของกองทุนที่ว่า,ต่อที่2กินจากคนไทยคนนั้นล่ะมาซื้อมาผ่อนมาจ่ายค่าดาวน์ค่าผ่อนในอนาคตตลอด30ปีหรือกว่า50ปีที่ทำในสัญญาณผ่อนกับแบงค์ในค่าผ่อนน้อยๆใครผ่อนมากๆเดือนละ4-5หมื่นอาจหมด3-4ปีก็หมดหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินที่ซื้อผ่อนกับแบงค์,ทั้งที่จริงๆรัฐฐะที่ดีหากทำถูกตรง ประชาชนจะไม่เสียตังอะไรใดๆโดยรัฐฐะจ่ายตรงหักผ่านกองทุนที่รัฐฐะดูแลบัญชีกองทุนแทนบุคคลนั้นๆทันที,ไม่อุ๊บอิ๊บกินเองร่วมกับเอกชนเครือข่ายฝ่ายไม่ดีก็ว่า, ..สูติบัตรเรามีมูลค่าแต่ฝ่ายไม่ดีมาปล้นมาชิงเอาไปจากความไม่รู้ของคนทั้งโลก นำโดยผู้นำผู้ปกครองในประเทศนั้นๆสมคบคิดกับโจรเหล่านี้ด้วย. ..คนไทยร่ำรวยเลยถ้าจริงแบบนี้,บ่อน้ำมันบ่อทองคำจะเสมือนเพียงตัวหลอก จริงๆอาจคือสมบัติร่วมสร้างโลกพัฒนาโลกวิวัฒนาการโลกไปทางดีงานแบ่งปันช่วยเหลือกันและกันหรือซึ่งกันและกันได้สบาย,ผลิตเกินส่วนไหน สามารถเอาส่วนเกินนั้นส่งไปช่วยเหลือพื้นที่ตรงจุดของโลกส่วนอื่นๆที่ผู้คนชาวโลกเรายังขาดแคลนได้เช่นอาหารการกินต่างๆพืชผักผลไม้ ไม่ต้องทำลายทิังได้ เผลอส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซื้อขายต่อกันและกันในราคามิตรภาพอีก. . รัฐบาลใหญ่ เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย! โดย เมเดีย กรีเร่14 เมษายน 2568อัปเดต:19 พฤษภาคม 256849 เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย! พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน! หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อมูลที่แบ่งปันในเนื้อหานี้มีต้นกําเนิดมาจาก เรดดิต, วิกิพีเดีย และ X เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ขับเคลื่อนโดยชุมชนและสร้างขึ้นโดยผู้ใช้ จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้ ฉันเพียงแบ่งปันเนื้อหานี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและไม่อ้างสิทธิ์การประพันธ์หรือความรับผิดชอบต่อเนื้อหา สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงเอกสาร—มันเป็น พันธบัตรมูลค่าหลายล้าน ซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่แรกเกิด ตื่น และเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ ทาส! อ่านตอนนี้ก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง! สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสูงสุด – วิธีที่คุณถูกซื้อและขายตั้งแต่แรกเกิด โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นของทาสยุคใหม่- ตื่น! ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าสู่โลกนี้ คุณตกเป็นทาส คุณไม่ยินยอม คุณไม่ได้รับทางเลือก คุณผูกพันกับระบบที่ทุจริตและร้ายกาจมากจนทําให้การดํารงอยู่ของคุณกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ นี่ไม่ใช่การคาดเดา นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการบันทึกไว้และปฏิเสธไม่ได้ สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงบันทึก —it เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของ คุณไม่ใช่บุคคลที่เป็นอิสระภายใต้กฎหมาย คุณเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นทรัพย์สินชิ้นหนึ่งในเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณ สูติบัตรของคุณ: การแสดงความเป็นเจ้าของขององค์กร เคยสงสัยไหมว่าทําไมคุณถึงต้องมีสูติบัตร? คิดดูสิ เมื่อเรือมาถึงท่าเรือ ก ใบรับรองรายการ ออกให้เพื่อจัดทําเอกสารสินค้า และเมื่อคุณเกิด คุณได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสินค้า มีการออกสูติบัตร—NOT เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความยินดี แต่เป็นสัญญาการเป็นเจ้าของ คุณเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รัฐไม่เห็นคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอํานาจอธิปไตย คุณเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้สร้างความมั่งคั่งให้กับชนชั้นสูง เหล่านั้น หมายเลขซีเรียลสีแดง ในสูติบัตรของคุณ? เป็นหมายเลขตลาดหลักทรัพย์ เป็นตัวเลขที่เชื่อมโยงกับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายบน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก● การดํารงอยู่ของคุณสร้างรายได้แล้ว พันธบัตรสูติบัตร: มีมูลค่านับพันล้านและคุณเป็นทาส คุณรู้ไหมว่าสูติบัตรของคุณถูกสร้างเป็นพันธบัตรมูลค่าหลายพันล้าน?! หากคุณสงสัยว่าพันธบัตรสูติบัตรคืออะไรขอให้ชัดเจน: คุณคือมัน คุณได้รับคํามั่นสัญญาว่าจะเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศนี้—A หนี้ที่จะไม่มีวันจ่าย เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลายในปี พ.ศ.2476 ให้คํามั่นว่าจะเป็นคนอเมริกันทุกคน เป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ ประธานาธิบดีรูสเวลต์ โดยทาง คําสั่งผู้บริหาร 6073, 6102, 6111 และ 6260, ประกาศให้ประเทศล้มละลายและยึด ALL GOLD ความสามารถของประชาชนในการชําระหนี้ของตนเองถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว [ดู: รายงานของวุฒิสภา 93-549, หน้า 187 และ 594 ภายใต้ “Trading With The Enemy Act.”] แต่รัฐบาลต้องจัดให้มี วิธีการใหม่ ของการชําระเงิน—สิ่งที่ไม่ต้องพึ่งพาทองคํา แต่พวกเขาสร้างระบบที่เรียกว่า การยกเว้น ได้รับการยกเว้นจากอะไร? ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย! ในทางปฏิบัติ นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รับ บางสิ่งบางอย่าง เพื่อชําระเงินด้วย—AND ว่าบางสิ่งคือเครดิตของคุณ คุณค่าของคุณต่อสังคมคํานวณโดยใช้ตารางคณิตศาสตร์ประกันภัย เมื่อแรกเกิด, พันธบัตรที่เท่ากับค่าเฉลี่ย “นี้ ” ถูกสร้างขึ้นและยังคงถูกสร้างขึ้น ทําความเข้าใจสิ่งนี้: ปัจจุบันพันธบัตรสูติบัตรของคุณคาดว่าจะมีมูลค่าระหว่างหนึ่งถึงสองล้านดอลลาร์ พันธบัตรเหล่านี้ค้ําประกันโดยสูติบัตรของคุณ และเปลี่ยนเป็น ตราสารเปลี่ยนมือได้● พวกเขาถูกสมมุติฐานและซื้อขาย ซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนกว่ามูลค่าของพวกมันจะไม่จํากัด เครดิตทั้งหมดนั้นเป็นของคุณในทางเทคนิคและถูกต้อง ในความเป็นจริง, คุณควรจะสามารถเดินเข้าไปในร้านค้าใด ๆ, รับสิ่งที่คุณต้องการ และบอกให้พนักงานเรียกเก็บเงินเข้าบัญชียกเว้นของคุณ บัญชีการยกเว้นนั้นจะถูกระบุโดย หมายเลขเก้าหลัก—หมายเลขประกันสังคมของคุณโดยไม่มีขีดกลาง หมายเลขนั้นเป็นของคุณ EIN (หมายเลขประจําตัวการยกเว้น) นี่คือความจริงที่เก็บไว้จากคุณมาตลอดชีวิต CERTIFICATE = ความเป็นเจ้าของ: การหลอกลวงทางกฎหมาย ก ใบรับรอง คือเอกสารกรรมสิทธิ์ ก ใบรับรองหุ้น หมายถึงความเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัท ก ใบรับรองที่ดิน หมายถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และคุณ สูติบัตร แสดงถึงความเป็นเจ้าของของคุณ รัฐบาลไม่ได้มองว่าพลเมืองเป็นบุคคลที่มีสิทธิโดยธรรมชาติ พวกเขามองว่าคุณเป็น ASSET— สิ่งที่ต้องเสียภาษี ติดตาม และควบคุม สูติบัตรทุกใบแสดงถึง เครื่องมือทางการเงิน ใช้ค้ําประกันหนี้ นี่คือรากฐานของเรือนจําเศรษฐกิจที่กดขี่คุณ ความไว้วางใจสูติบัตร: อธิบายความเป็นทาสทางเศรษฐกิจ อดีตประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ยอมรับความจริงด้วยคําพูดของเขาเอง: “เร็วๆ นี้ ชาวอเมริกันทุกคนจะต้องลงทะเบียนทรัพย์สินทางชีวภาพของตนในระบบระดับชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามผู้คน และจะดําเนินการภายใต้ระบบคํามั่นสัญญาแบบโบราณ ด้วยวิธีการดังกล่าว เราสามารถบังคับให้ผู้คนส่งวาระการประชุมของเรา ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของเราในฐานะการคืนเงินสําหรับสกุลเงินกระดาษ FIAT ของเรา ชาวอเมริกันทุกคนจะถูกบังคับให้ลงทะเบียน หรือประสบ...” นี่คือเกม คุณเป็น ให้คํามั่นไว้แต่กําเนิด เพื่อเติมพลังให้กับเครื่องจักรทางการเงินของรัฐบาล คําเตือนสุดท้าย: ตื่นหรือยังคงเป็นทาส นี่ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว นี่มันเกี่ยวกับ ชีวิตของคุณ อิสรภาพของคุณ และอนาคตของคุณ● ระบบสูติบัตรคือ การหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์● มันได้เปลี่ยนทุกชีวิตให้กลายเป็น ทาสหนี้● คุณเกิดมาอย่างอิสระ แต่คุณเป็น ตีตราและจําหน่าย ก่อนที่คุณจะพูดได้ ทางเลือกเป็นของคุณ คุณยังคงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในระบบของพวกเขาหรือไม่? หรือคุณยึดอํานาจของคุณกลับคืนมาและทวงคืนอํานาจอธิปไตยของคุณ? ถึงเวลาที่จะต่อสู้กลับแล้ว! ..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 645 มุมมอง 0 รีวิว
  • JPMorgan Chase เปิดให้ลูกค้าซื้อ Bitcoin แต่ยังไม่รับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล

    JPMorgan Chase ประกาศในงาน Investor Day ว่าจะเปิดให้ลูกค้าซื้อ Bitcoin ได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของธนาคารที่เคยมีท่าทีต่อต้านคริปโต อย่างไรก็ตาม CEO Jamie Dimon ยังคงสงสัยในความน่าเชื่อถือของ Bitcoin และยืนยันว่าธนาคารจะไม่รับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการสนับสนุน Bitcoin ของ JPMorgan Chase
    ลูกค้าสามารถซื้อ Bitcoin และดูรายการธุรกรรมในบัญชีของตน
    - แต่ JPMorgan จะไม่รับฝาก Bitcoin หรือให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล

    CEO Jamie Dimon ยังคงมีมุมมองเชิงลบต่อ Bitcoin และคริปโตเคอร์เรนซี
    - เขาเคยกล่าวว่า Bitcoin "ไร้ค่า" และหากมีอำนาจ เขาจะปิดอุตสาหกรรมคริปโต

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจาก FDIC ปรับแนวทางให้สถาบันการเงินสามารถทำธุรกรรมคริปโตได้โดยไม่ต้องขออนุญาตล่วงหน้า
    - ทำให้ ธนาคารสามารถให้บริการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลได้ง่ายขึ้น

    JPMorgan Chase ตามรอย Morgan Stanley และธนาคารอื่น ๆ ที่เริ่มสนับสนุน Bitcoin
    - แสดงให้เห็นว่า การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในภาคการเงินกำลังเพิ่มขึ้น

    Bitcoin มีมูลค่ามากกว่า $105,000 ซึ่งสูงกว่าระดับต่ำสุดในปี 2022 ที่ประมาณ $16,000
    - แต่ยังต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลเล็กน้อย

    https://www.techradar.com/pro/jpmorgan-will-now-let-clients-buy-bitcoin
    JPMorgan Chase เปิดให้ลูกค้าซื้อ Bitcoin แต่ยังไม่รับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล JPMorgan Chase ประกาศในงาน Investor Day ว่าจะเปิดให้ลูกค้าซื้อ Bitcoin ได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของธนาคารที่เคยมีท่าทีต่อต้านคริปโต อย่างไรก็ตาม CEO Jamie Dimon ยังคงสงสัยในความน่าเชื่อถือของ Bitcoin และยืนยันว่าธนาคารจะไม่รับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการสนับสนุน Bitcoin ของ JPMorgan Chase ✅ ลูกค้าสามารถซื้อ Bitcoin และดูรายการธุรกรรมในบัญชีของตน - แต่ JPMorgan จะไม่รับฝาก Bitcoin หรือให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ✅ CEO Jamie Dimon ยังคงมีมุมมองเชิงลบต่อ Bitcoin และคริปโตเคอร์เรนซี - เขาเคยกล่าวว่า Bitcoin "ไร้ค่า" และหากมีอำนาจ เขาจะปิดอุตสาหกรรมคริปโต ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจาก FDIC ปรับแนวทางให้สถาบันการเงินสามารถทำธุรกรรมคริปโตได้โดยไม่ต้องขออนุญาตล่วงหน้า - ทำให้ ธนาคารสามารถให้บริการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลได้ง่ายขึ้น ✅ JPMorgan Chase ตามรอย Morgan Stanley และธนาคารอื่น ๆ ที่เริ่มสนับสนุน Bitcoin - แสดงให้เห็นว่า การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในภาคการเงินกำลังเพิ่มขึ้น ✅ Bitcoin มีมูลค่ามากกว่า $105,000 ซึ่งสูงกว่าระดับต่ำสุดในปี 2022 ที่ประมาณ $16,000 - แต่ยังต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลเล็กน้อย https://www.techradar.com/pro/jpmorgan-will-now-let-clients-buy-bitcoin
    WWW.TECHRADAR.COM
    JPMorgan will now let clients buy Bitcoin
    JPMorgan Chase will let clients buy Bitcoin
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • 8 ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มักถูกมองข้ามในการนำ AI มาใช้

    องค์กรต่าง ๆ เร่งนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่กลับละเลยการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบ AI ก่อนใช้งานจริง ส่งผลให้เกิด ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจนำไปสู่การละเมิดข้อมูลและการโจมตีทางไซเบอร์

    8 ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มักถูกมองข้ามในการนำ AI มาใช้
    การเปิดเผยข้อมูล (Data Exposure)
    - AI มักจัดการข้อมูลจำนวนมาก แต่หากไม่มีการทดสอบที่เหมาะสม อาจเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ ผ่าน API ที่ไม่ปลอดภัยหรือการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต

    ช่องโหว่ในโมเดล (Model-Level Vulnerabilities)
    - รวมถึง Prompt Injection, Jailbreaks และ Adversarial Attacks ซึ่งทำให้ AI สามารถถูกหลอกให้ให้ข้อมูลที่ไม่ควรเปิดเผยหรือทำงานผิดพลาด

    ความสมบูรณ์ของโมเดลและการโจมตีเชิงรุก (Model Integrity and Adversarial Attacks)
    - AI สามารถถูกโจมตีผ่าน Data Poisoning หรือการปรับแต่งข้อมูลนำเข้า ทำให้ AI ตัดสินใจผิดพลาด

    ความเสี่ยงจากการผสานรวม (Systemic Integration Risks)
    - AI มักถูกใช้งานร่วมกับระบบอื่น ๆ ผ่าน API หรือ Plugin หากไม่มีการทดสอบที่ดี อาจเกิดการรั่วไหลของข้อมูลหรือการเพิ่มสิทธิ์โดยไม่ได้ตั้งใจ

    ข้อบกพร่องด้านการควบคุมการเข้าถึง (Access Control Failures)
    - การตั้งค่าที่ผิดพลาดอาจทำให้ ผู้ใช้หรือแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบ AI ได้มากกว่าที่ตั้งใจไว้ เช่น API Key ที่ไม่ได้รับการปกป้อง

    ข้อผิดพลาดในระหว่างการทำงาน (Runtime Security Failures)
    - AI อาจมี พฤติกรรมที่ไม่คาดคิดในระหว่างการใช้งานจริง เช่น ข้อมูลล้นออกจากบริบท หรือการสะท้อนผลลัพธ์ที่ผิดพลาด

    การละเมิดข้อกำหนดและการกำกับดูแล (Compliance Violations)
    - AI อาจ ละเมิดกฎหมายด้านข้อมูลส่วนบุคคลหรือมาตรฐานความปลอดภัย หากไม่ได้รับการตรวจสอบก่อนใช้งาน

    ผลกระทบต่อการดำเนินงานโดยรวม (Broader Operational Impacts)
    - ช่องโหว่ทางเทคนิคที่ไม่ได้รับการแก้ไข อาจส่งผลกระทบต่อองค์กรในด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ

    https://www.csoonline.com/article/3988355/8-security-risks-overlooked-in-the-rush-to-implement-ai.html
    8 ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มักถูกมองข้ามในการนำ AI มาใช้ องค์กรต่าง ๆ เร่งนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่กลับละเลยการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบ AI ก่อนใช้งานจริง ส่งผลให้เกิด ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจนำไปสู่การละเมิดข้อมูลและการโจมตีทางไซเบอร์ 📌 8 ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มักถูกมองข้ามในการนำ AI มาใช้ ✅ การเปิดเผยข้อมูล (Data Exposure) - AI มักจัดการข้อมูลจำนวนมาก แต่หากไม่มีการทดสอบที่เหมาะสม อาจเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ ผ่าน API ที่ไม่ปลอดภัยหรือการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต ✅ ช่องโหว่ในโมเดล (Model-Level Vulnerabilities) - รวมถึง Prompt Injection, Jailbreaks และ Adversarial Attacks ซึ่งทำให้ AI สามารถถูกหลอกให้ให้ข้อมูลที่ไม่ควรเปิดเผยหรือทำงานผิดพลาด ✅ ความสมบูรณ์ของโมเดลและการโจมตีเชิงรุก (Model Integrity and Adversarial Attacks) - AI สามารถถูกโจมตีผ่าน Data Poisoning หรือการปรับแต่งข้อมูลนำเข้า ทำให้ AI ตัดสินใจผิดพลาด ✅ ความเสี่ยงจากการผสานรวม (Systemic Integration Risks) - AI มักถูกใช้งานร่วมกับระบบอื่น ๆ ผ่าน API หรือ Plugin หากไม่มีการทดสอบที่ดี อาจเกิดการรั่วไหลของข้อมูลหรือการเพิ่มสิทธิ์โดยไม่ได้ตั้งใจ ✅ ข้อบกพร่องด้านการควบคุมการเข้าถึง (Access Control Failures) - การตั้งค่าที่ผิดพลาดอาจทำให้ ผู้ใช้หรือแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบ AI ได้มากกว่าที่ตั้งใจไว้ เช่น API Key ที่ไม่ได้รับการปกป้อง ✅ ข้อผิดพลาดในระหว่างการทำงาน (Runtime Security Failures) - AI อาจมี พฤติกรรมที่ไม่คาดคิดในระหว่างการใช้งานจริง เช่น ข้อมูลล้นออกจากบริบท หรือการสะท้อนผลลัพธ์ที่ผิดพลาด ✅ การละเมิดข้อกำหนดและการกำกับดูแล (Compliance Violations) - AI อาจ ละเมิดกฎหมายด้านข้อมูลส่วนบุคคลหรือมาตรฐานความปลอดภัย หากไม่ได้รับการตรวจสอบก่อนใช้งาน ✅ ผลกระทบต่อการดำเนินงานโดยรวม (Broader Operational Impacts) - ช่องโหว่ทางเทคนิคที่ไม่ได้รับการแก้ไข อาจส่งผลกระทบต่อองค์กรในด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ https://www.csoonline.com/article/3988355/8-security-risks-overlooked-in-the-rush-to-implement-ai.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    8 security risks overlooked in the rush to implement AI
    Nearly two-thirds of companies fail to vet the security implications of AI tools before deploying them. Stressing security fundamentals from the outset can cut down the risks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts