Online Influence ออกแบบให้คนคลิก รวมเทคนิคให้คนซื้อ
หนังสือที่ให้คำนิยามตนเองว่า เป็นหนังสือออกแบบพฤติกรรมมนุษย์ ซึ่งก็คือที่มาของการออกแบบหน้าเวปไซท์ ร้านค้าออนไลน์ การยิงโฆษณา และอื่นๆ เพื่อให้คนที่เห็น เข้าชม และดำเนินตามความต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมทั้งเหตุผลและหลักการอย่างละเอียดพร้อมภาพประกอบ แน่นอนหนังสือเล่มนี้เหมาะมากสำหรับนักออกบบแพลตฟอร์ม แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานนี้โดยตรงก็ได้รู้เหตุผลต่างๆด้วย
ผู้เขียนเป็นนักจิตวิทยาและนักออกแบบพฤิตกรรมมนุษย์ชาวดัชต์ เขามีบริษัทออกแบบและยังเป็นอาจารย์สอนเรื่องการออกแบบพฤติกรรมอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เป็นตำราวิชาการที่ใช้ในการใช้ออกแบบพฤติกรรมในแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้งานได้จริง
ผู้เขียนนำเอาหลักการทางจิตวิทยาโดยอาศัยหลักของปรมาจารย์ทางจิตวิทยาไม่กี่คน แล้วนำหลักการเหล่านี้มาอธิบายหลักการ และนำหลักการที่หลอมรวมแล้วนำมาอธิบายและใช้ในการออกแบบพฤติกรรม ปรมาจารย์ที่ว่านี้ได้แก่ รอเบิร์ต ชับดีนี (เขียนหนังสือ กลยุทธ์โน้มน้าวและจูงใจคน , บีเจ ฟ็อกก์ (เขียนหนังสือ Tiny Habits) , แดเนีล คาห์เนอมัน (เขียนหนังสือ Thinking Fast and Slow) และ แดน อารีลีย์(เขียนหนังสือ พฤติกรรมพยากรณ์) เป็นต้น
การเร้าให้คนแสดงพฤติกรรมต่างๆออกมาตามหลักของ บีเจ ฟ็อกก์ คือ ต้องมีแรงกระตุ้น , มีแรงจูงใจให้มากเพียงพอ , และการให้เกิดพฤติกรรมนั้นๆต้องทำได้ง่าย เมื่อหลักการสามอย่างนี้เกิดขึ้นพร้อมกัน สามารถทำให้เราสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่เป็นเป้าหมายทำตามที่เราต้องการได้
การใช้หลักการของหนังสือ Thinking Fast and Slow ที่ใช้ระบบของสมองที่ 1 ซึ่งก็คือการตอบสนองในรู้แบบอัตโนมัติและอยู่ภายใต้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ในการชักจูงเป้าหมายให้ทำในสิ่งที่เราออกแบบไว้ทันที โดยไม่ให้ระบบที่สองขอองสมองทำงาน (ระบบที่สองของสมองคือการคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ หาเหตุผลมาประกอบ) การออกแบบพฤติกรรมในลักษณะนี้ในเล่มบอกว่าให้ออกแบบให้เด็กอายุเจ็ดขวบสนใจ ซึ่งเด็กอายุเจ็ดขวบนี้มักจะใช้สมองระบบที่ 1 ในการตัดสินใจเป็นหลัก
นอกจากนี้ยังใช้หลักการของ รอเบิร์ต ชับดีนี ทั้ง 7 ข้อ ได้แก่ การตอบแทนซึ่งกันและกัน , การทำตามคำมั่นและการรักษาจุดยืน , ข้อพิสูจน์ของสังคม , ความชอบ , ความรู้ความเชี่ยวชาญ , ความหายาก และความเป็นกลุ่มเดียวกัน
หลักการข้างต้นของปรมาจารย์ทางด้านจิตวิทยา อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์มในการใช้งานปัจจุบันของมนุษย์เราเกือบทั้งหมด เราสามารถเจอได้ทุกวัน ทุกแพลตฟอร์มที่ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น การออกแบบแพลตฟอร์มให้เรียบง่าย ใช้คำพูดกระชับ , ให้ทำขั้นตอนสมัครให้สั้นแบ่งเป็นช่วงๆ , มีหลอดความสำเร็จว่าทำไปในขั้นตอนไปมากเท่าไหร่แล้ว , การใช้คำพูดชวนสงสัยเพื่อให้คลิกเข้าไปอ่าน , การให้รางวัลในการช่วยตอบแบบสอบถาม , การลดราคาสินค้า , การตั้งราคาสินค้า , หลักการใช้คำพูดเพื่อให้ลูกค้าเขียนรีวิว , การสร้างตัวเปรียบเทียบราคา , การเว้นช่องในแต่ละส่วนของหน้าเวปไซท์ , การลดความสับสนให้ผู้เข้าชม , หลักการใช้รูปในการโฆษณา , หลักการถ่ายคลิปเพื่อโฆษณา
ท้ายเล่มมีเรื่องของการทำอย่างไรให้ลูกค้าปิดตะกร้าซื้อของก่อนที่จะเปลี่ยนใจ และหลักการวิเคราะเปรียบเทียบ ข้อดีข้อเสียของการสร้างหน้าเวปในสองรูปแบบที่ต่างกัน หลักการเลือกยิงโฆษณาให้คุ้มค่าและตรงเป้าหมาย
ถึงไม่ใช้ผู้ที่จะนำไปใช้ออกแบบพฤติกรรมในงานโฆษณาหรือการตลาด แต่การได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ทำให้ได้รูปเหตุผลและสาเหตุใหนการออกแบบ รวมไปถึงทำให้ไม่ตกเป็นเหยื่อของการออกแบบพฤิตกรรมของนักออกแบบเหล่านั้น
#OnlineInfluence #ออกแบบให้คนคลิกรวมเทคนิคให้คนซื้อ #รีวิวหนังสือ
หนังสือที่ให้คำนิยามตนเองว่า เป็นหนังสือออกแบบพฤติกรรมมนุษย์ ซึ่งก็คือที่มาของการออกแบบหน้าเวปไซท์ ร้านค้าออนไลน์ การยิงโฆษณา และอื่นๆ เพื่อให้คนที่เห็น เข้าชม และดำเนินตามความต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมทั้งเหตุผลและหลักการอย่างละเอียดพร้อมภาพประกอบ แน่นอนหนังสือเล่มนี้เหมาะมากสำหรับนักออกบบแพลตฟอร์ม แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานนี้โดยตรงก็ได้รู้เหตุผลต่างๆด้วย
ผู้เขียนเป็นนักจิตวิทยาและนักออกแบบพฤิตกรรมมนุษย์ชาวดัชต์ เขามีบริษัทออกแบบและยังเป็นอาจารย์สอนเรื่องการออกแบบพฤติกรรมอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เป็นตำราวิชาการที่ใช้ในการใช้ออกแบบพฤติกรรมในแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้งานได้จริง
ผู้เขียนนำเอาหลักการทางจิตวิทยาโดยอาศัยหลักของปรมาจารย์ทางจิตวิทยาไม่กี่คน แล้วนำหลักการเหล่านี้มาอธิบายหลักการ และนำหลักการที่หลอมรวมแล้วนำมาอธิบายและใช้ในการออกแบบพฤติกรรม ปรมาจารย์ที่ว่านี้ได้แก่ รอเบิร์ต ชับดีนี (เขียนหนังสือ กลยุทธ์โน้มน้าวและจูงใจคน , บีเจ ฟ็อกก์ (เขียนหนังสือ Tiny Habits) , แดเนีล คาห์เนอมัน (เขียนหนังสือ Thinking Fast and Slow) และ แดน อารีลีย์(เขียนหนังสือ พฤติกรรมพยากรณ์) เป็นต้น
การเร้าให้คนแสดงพฤติกรรมต่างๆออกมาตามหลักของ บีเจ ฟ็อกก์ คือ ต้องมีแรงกระตุ้น , มีแรงจูงใจให้มากเพียงพอ , และการให้เกิดพฤติกรรมนั้นๆต้องทำได้ง่าย เมื่อหลักการสามอย่างนี้เกิดขึ้นพร้อมกัน สามารถทำให้เราสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่เป็นเป้าหมายทำตามที่เราต้องการได้
การใช้หลักการของหนังสือ Thinking Fast and Slow ที่ใช้ระบบของสมองที่ 1 ซึ่งก็คือการตอบสนองในรู้แบบอัตโนมัติและอยู่ภายใต้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ในการชักจูงเป้าหมายให้ทำในสิ่งที่เราออกแบบไว้ทันที โดยไม่ให้ระบบที่สองขอองสมองทำงาน (ระบบที่สองของสมองคือการคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ หาเหตุผลมาประกอบ) การออกแบบพฤติกรรมในลักษณะนี้ในเล่มบอกว่าให้ออกแบบให้เด็กอายุเจ็ดขวบสนใจ ซึ่งเด็กอายุเจ็ดขวบนี้มักจะใช้สมองระบบที่ 1 ในการตัดสินใจเป็นหลัก
นอกจากนี้ยังใช้หลักการของ รอเบิร์ต ชับดีนี ทั้ง 7 ข้อ ได้แก่ การตอบแทนซึ่งกันและกัน , การทำตามคำมั่นและการรักษาจุดยืน , ข้อพิสูจน์ของสังคม , ความชอบ , ความรู้ความเชี่ยวชาญ , ความหายาก และความเป็นกลุ่มเดียวกัน
หลักการข้างต้นของปรมาจารย์ทางด้านจิตวิทยา อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์มในการใช้งานปัจจุบันของมนุษย์เราเกือบทั้งหมด เราสามารถเจอได้ทุกวัน ทุกแพลตฟอร์มที่ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น การออกแบบแพลตฟอร์มให้เรียบง่าย ใช้คำพูดกระชับ , ให้ทำขั้นตอนสมัครให้สั้นแบ่งเป็นช่วงๆ , มีหลอดความสำเร็จว่าทำไปในขั้นตอนไปมากเท่าไหร่แล้ว , การใช้คำพูดชวนสงสัยเพื่อให้คลิกเข้าไปอ่าน , การให้รางวัลในการช่วยตอบแบบสอบถาม , การลดราคาสินค้า , การตั้งราคาสินค้า , หลักการใช้คำพูดเพื่อให้ลูกค้าเขียนรีวิว , การสร้างตัวเปรียบเทียบราคา , การเว้นช่องในแต่ละส่วนของหน้าเวปไซท์ , การลดความสับสนให้ผู้เข้าชม , หลักการใช้รูปในการโฆษณา , หลักการถ่ายคลิปเพื่อโฆษณา
ท้ายเล่มมีเรื่องของการทำอย่างไรให้ลูกค้าปิดตะกร้าซื้อของก่อนที่จะเปลี่ยนใจ และหลักการวิเคราะเปรียบเทียบ ข้อดีข้อเสียของการสร้างหน้าเวปในสองรูปแบบที่ต่างกัน หลักการเลือกยิงโฆษณาให้คุ้มค่าและตรงเป้าหมาย
ถึงไม่ใช้ผู้ที่จะนำไปใช้ออกแบบพฤติกรรมในงานโฆษณาหรือการตลาด แต่การได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ทำให้ได้รูปเหตุผลและสาเหตุใหนการออกแบบ รวมไปถึงทำให้ไม่ตกเป็นเหยื่อของการออกแบบพฤิตกรรมของนักออกแบบเหล่านั้น
#OnlineInfluence #ออกแบบให้คนคลิกรวมเทคนิคให้คนซื้อ #รีวิวหนังสือ
Online Influence ออกแบบให้คนคลิก รวมเทคนิคให้คนซื้อ
หนังสือที่ให้คำนิยามตนเองว่า เป็นหนังสือออกแบบพฤติกรรมมนุษย์ ซึ่งก็คือที่มาของการออกแบบหน้าเวปไซท์ ร้านค้าออนไลน์ การยิงโฆษณา และอื่นๆ เพื่อให้คนที่เห็น เข้าชม และดำเนินตามความต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมทั้งเหตุผลและหลักการอย่างละเอียดพร้อมภาพประกอบ แน่นอนหนังสือเล่มนี้เหมาะมากสำหรับนักออกบบแพลตฟอร์ม แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานนี้โดยตรงก็ได้รู้เหตุผลต่างๆด้วย
ผู้เขียนเป็นนักจิตวิทยาและนักออกแบบพฤิตกรรมมนุษย์ชาวดัชต์ เขามีบริษัทออกแบบและยังเป็นอาจารย์สอนเรื่องการออกแบบพฤติกรรมอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เป็นตำราวิชาการที่ใช้ในการใช้ออกแบบพฤติกรรมในแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้งานได้จริง
ผู้เขียนนำเอาหลักการทางจิตวิทยาโดยอาศัยหลักของปรมาจารย์ทางจิตวิทยาไม่กี่คน แล้วนำหลักการเหล่านี้มาอธิบายหลักการ และนำหลักการที่หลอมรวมแล้วนำมาอธิบายและใช้ในการออกแบบพฤติกรรม ปรมาจารย์ที่ว่านี้ได้แก่ รอเบิร์ต ชับดีนี (เขียนหนังสือ กลยุทธ์โน้มน้าวและจูงใจคน , บีเจ ฟ็อกก์ (เขียนหนังสือ Tiny Habits) , แดเนีล คาห์เนอมัน (เขียนหนังสือ Thinking Fast and Slow) และ แดน อารีลีย์(เขียนหนังสือ พฤติกรรมพยากรณ์) เป็นต้น
การเร้าให้คนแสดงพฤติกรรมต่างๆออกมาตามหลักของ บีเจ ฟ็อกก์ คือ ต้องมีแรงกระตุ้น , มีแรงจูงใจให้มากเพียงพอ , และการให้เกิดพฤติกรรมนั้นๆต้องทำได้ง่าย เมื่อหลักการสามอย่างนี้เกิดขึ้นพร้อมกัน สามารถทำให้เราสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่เป็นเป้าหมายทำตามที่เราต้องการได้
การใช้หลักการของหนังสือ Thinking Fast and Slow ที่ใช้ระบบของสมองที่ 1 ซึ่งก็คือการตอบสนองในรู้แบบอัตโนมัติและอยู่ภายใต้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ในการชักจูงเป้าหมายให้ทำในสิ่งที่เราออกแบบไว้ทันที โดยไม่ให้ระบบที่สองขอองสมองทำงาน (ระบบที่สองของสมองคือการคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ หาเหตุผลมาประกอบ) การออกแบบพฤติกรรมในลักษณะนี้ในเล่มบอกว่าให้ออกแบบให้เด็กอายุเจ็ดขวบสนใจ ซึ่งเด็กอายุเจ็ดขวบนี้มักจะใช้สมองระบบที่ 1 ในการตัดสินใจเป็นหลัก
นอกจากนี้ยังใช้หลักการของ รอเบิร์ต ชับดีนี ทั้ง 7 ข้อ ได้แก่ การตอบแทนซึ่งกันและกัน , การทำตามคำมั่นและการรักษาจุดยืน , ข้อพิสูจน์ของสังคม , ความชอบ , ความรู้ความเชี่ยวชาญ , ความหายาก และความเป็นกลุ่มเดียวกัน
หลักการข้างต้นของปรมาจารย์ทางด้านจิตวิทยา อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์มในการใช้งานปัจจุบันของมนุษย์เราเกือบทั้งหมด เราสามารถเจอได้ทุกวัน ทุกแพลตฟอร์มที่ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น การออกแบบแพลตฟอร์มให้เรียบง่าย ใช้คำพูดกระชับ , ให้ทำขั้นตอนสมัครให้สั้นแบ่งเป็นช่วงๆ , มีหลอดความสำเร็จว่าทำไปในขั้นตอนไปมากเท่าไหร่แล้ว , การใช้คำพูดชวนสงสัยเพื่อให้คลิกเข้าไปอ่าน , การให้รางวัลในการช่วยตอบแบบสอบถาม , การลดราคาสินค้า , การตั้งราคาสินค้า , หลักการใช้คำพูดเพื่อให้ลูกค้าเขียนรีวิว , การสร้างตัวเปรียบเทียบราคา , การเว้นช่องในแต่ละส่วนของหน้าเวปไซท์ , การลดความสับสนให้ผู้เข้าชม , หลักการใช้รูปในการโฆษณา , หลักการถ่ายคลิปเพื่อโฆษณา
ท้ายเล่มมีเรื่องของการทำอย่างไรให้ลูกค้าปิดตะกร้าซื้อของก่อนที่จะเปลี่ยนใจ และหลักการวิเคราะเปรียบเทียบ ข้อดีข้อเสียของการสร้างหน้าเวปในสองรูปแบบที่ต่างกัน หลักการเลือกยิงโฆษณาให้คุ้มค่าและตรงเป้าหมาย
ถึงไม่ใช้ผู้ที่จะนำไปใช้ออกแบบพฤติกรรมในงานโฆษณาหรือการตลาด แต่การได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ทำให้ได้รูปเหตุผลและสาเหตุใหนการออกแบบ รวมไปถึงทำให้ไม่ตกเป็นเหยื่อของการออกแบบพฤิตกรรมของนักออกแบบเหล่านั้น
#OnlineInfluence #ออกแบบให้คนคลิกรวมเทคนิคให้คนซื้อ #รีวิวหนังสือ
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
20 มุมมอง
0 รีวิว