ทำไมคุยกับคคนี้แล้วรู้สึกดีจัง
หนังสือที่เขียนโดยดีเจที่เขาบอกว่าในอดีตเขาเป็นผู้บกพร่องทางการสื่อสาร เนื้อหาหลักการไม่ได้เข้มข้นและไม่ได้เขียนเนื้อหามาเพื่อสร้างนักพูด เขาต้องเพิ่มความกล้าสื่อสารและลดความอึดอัดในการที่ต้องสื่อสารกับผู้อื่น เนื้อหาเบาๆ เมื่ออ่านแล้วได้หลักการบางอย่างจากการอ่านหนังสือเล่มนี้
เนื้อหาของหนังสือแบ่งเป็นสองส่วน เป็นภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติ ในส่วนของภาคทฤษฎี ผู้แต่งได้นำเสนอเรื่องราวพื้นฐานของการพูดคุย โดยลำดับแรกเขาบอกว่าคนที่ไม่กล้าที่จะพูดคุยเนื่องจากความกลัว ความเขินอายถ้าหากพูดอะไรผิดไป ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องจริงแต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ถ้าวิเคราะห์ดูแล้วก็จะเห็นได้ว่าเป็นการปรับปรุงตัวเอง ในข้อเท็จจริงจากการสำรวจพบว่ามีคนเพียง 6% เท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองเป็นคนพูดเก่ง ดังนั้นคนพูดไม่เก่งจึงเป็นคนจำนวนมากในสังคม
หัวข้อที่ชอบในเล่มนี้ที่สุดก็คือ ผู้เขียนแนะนำให้การพูดคุยเป็นเหมือนการเล่นเกม ผลสุดท้ายของเกมก็คือการจบเกมด้วยดี การพูดคุยก็เช่นกันการประคับประคอง การส่งบทสนทนาให้กับคู่สนทนาและการรับบทสนทนาจากคู่สนทนา ควรเป็นไปด้วยความสามัคคี แก้ไขปัญหาได้และมีความสุขทั้งสองฝ่าย ถ้าหากรู้ดังนี้แล้วก็จะปฎิบัติตัวได้ถูกต้องในการสนทนา และควรจะรู้ได้ว่าไม่ควรสนทนาแบบไหน
ส่วนในภาคปฎิบัตินั้น ผู้เขียนใชัหลักการพื้นฐานในการสื่อสารอยู่แล้ว เช่น เน้นการรับฟังอย่างตั้งใจ , การศึกษาคู่สนทนาก่อน , เน้นการตั้งคำถามแบบตอบไม่ยากเกินไป เช่น คำถามที่ทำให้ผู้ตอบตอบได้ยาก คิดนาน หรือเป็นความเห็นทางด้านการเมืองหรือชีวิตส่วนตัว บทสนทนาที่ดีความเป็นคำถามที่ตอบได้ทันทีซึ่งจะทำให้คู่สนทนารู้สึกผ่อนคลาย เป็นต้น
#ทำไมคุยกับคคนี้แล้วรู้สึกดีจัง #รีวิวหนังสือ
หนังสือที่เขียนโดยดีเจที่เขาบอกว่าในอดีตเขาเป็นผู้บกพร่องทางการสื่อสาร เนื้อหาหลักการไม่ได้เข้มข้นและไม่ได้เขียนเนื้อหามาเพื่อสร้างนักพูด เขาต้องเพิ่มความกล้าสื่อสารและลดความอึดอัดในการที่ต้องสื่อสารกับผู้อื่น เนื้อหาเบาๆ เมื่ออ่านแล้วได้หลักการบางอย่างจากการอ่านหนังสือเล่มนี้
เนื้อหาของหนังสือแบ่งเป็นสองส่วน เป็นภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติ ในส่วนของภาคทฤษฎี ผู้แต่งได้นำเสนอเรื่องราวพื้นฐานของการพูดคุย โดยลำดับแรกเขาบอกว่าคนที่ไม่กล้าที่จะพูดคุยเนื่องจากความกลัว ความเขินอายถ้าหากพูดอะไรผิดไป ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องจริงแต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ถ้าวิเคราะห์ดูแล้วก็จะเห็นได้ว่าเป็นการปรับปรุงตัวเอง ในข้อเท็จจริงจากการสำรวจพบว่ามีคนเพียง 6% เท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองเป็นคนพูดเก่ง ดังนั้นคนพูดไม่เก่งจึงเป็นคนจำนวนมากในสังคม
หัวข้อที่ชอบในเล่มนี้ที่สุดก็คือ ผู้เขียนแนะนำให้การพูดคุยเป็นเหมือนการเล่นเกม ผลสุดท้ายของเกมก็คือการจบเกมด้วยดี การพูดคุยก็เช่นกันการประคับประคอง การส่งบทสนทนาให้กับคู่สนทนาและการรับบทสนทนาจากคู่สนทนา ควรเป็นไปด้วยความสามัคคี แก้ไขปัญหาได้และมีความสุขทั้งสองฝ่าย ถ้าหากรู้ดังนี้แล้วก็จะปฎิบัติตัวได้ถูกต้องในการสนทนา และควรจะรู้ได้ว่าไม่ควรสนทนาแบบไหน
ส่วนในภาคปฎิบัตินั้น ผู้เขียนใชัหลักการพื้นฐานในการสื่อสารอยู่แล้ว เช่น เน้นการรับฟังอย่างตั้งใจ , การศึกษาคู่สนทนาก่อน , เน้นการตั้งคำถามแบบตอบไม่ยากเกินไป เช่น คำถามที่ทำให้ผู้ตอบตอบได้ยาก คิดนาน หรือเป็นความเห็นทางด้านการเมืองหรือชีวิตส่วนตัว บทสนทนาที่ดีความเป็นคำถามที่ตอบได้ทันทีซึ่งจะทำให้คู่สนทนารู้สึกผ่อนคลาย เป็นต้น
#ทำไมคุยกับคคนี้แล้วรู้สึกดีจัง #รีวิวหนังสือ
ทำไมคุยกับคคนี้แล้วรู้สึกดีจัง
หนังสือที่เขียนโดยดีเจที่เขาบอกว่าในอดีตเขาเป็นผู้บกพร่องทางการสื่อสาร เนื้อหาหลักการไม่ได้เข้มข้นและไม่ได้เขียนเนื้อหามาเพื่อสร้างนักพูด เขาต้องเพิ่มความกล้าสื่อสารและลดความอึดอัดในการที่ต้องสื่อสารกับผู้อื่น เนื้อหาเบาๆ เมื่ออ่านแล้วได้หลักการบางอย่างจากการอ่านหนังสือเล่มนี้
เนื้อหาของหนังสือแบ่งเป็นสองส่วน เป็นภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติ ในส่วนของภาคทฤษฎี ผู้แต่งได้นำเสนอเรื่องราวพื้นฐานของการพูดคุย โดยลำดับแรกเขาบอกว่าคนที่ไม่กล้าที่จะพูดคุยเนื่องจากความกลัว ความเขินอายถ้าหากพูดอะไรผิดไป ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องจริงแต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ถ้าวิเคราะห์ดูแล้วก็จะเห็นได้ว่าเป็นการปรับปรุงตัวเอง ในข้อเท็จจริงจากการสำรวจพบว่ามีคนเพียง 6% เท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองเป็นคนพูดเก่ง ดังนั้นคนพูดไม่เก่งจึงเป็นคนจำนวนมากในสังคม
หัวข้อที่ชอบในเล่มนี้ที่สุดก็คือ ผู้เขียนแนะนำให้การพูดคุยเป็นเหมือนการเล่นเกม ผลสุดท้ายของเกมก็คือการจบเกมด้วยดี การพูดคุยก็เช่นกันการประคับประคอง การส่งบทสนทนาให้กับคู่สนทนาและการรับบทสนทนาจากคู่สนทนา ควรเป็นไปด้วยความสามัคคี แก้ไขปัญหาได้และมีความสุขทั้งสองฝ่าย ถ้าหากรู้ดังนี้แล้วก็จะปฎิบัติตัวได้ถูกต้องในการสนทนา และควรจะรู้ได้ว่าไม่ควรสนทนาแบบไหน
ส่วนในภาคปฎิบัตินั้น ผู้เขียนใชัหลักการพื้นฐานในการสื่อสารอยู่แล้ว เช่น เน้นการรับฟังอย่างตั้งใจ , การศึกษาคู่สนทนาก่อน , เน้นการตั้งคำถามแบบตอบไม่ยากเกินไป เช่น คำถามที่ทำให้ผู้ตอบตอบได้ยาก คิดนาน หรือเป็นความเห็นทางด้านการเมืองหรือชีวิตส่วนตัว บทสนทนาที่ดีความเป็นคำถามที่ตอบได้ทันทีซึ่งจะทำให้คู่สนทนารู้สึกผ่อนคลาย เป็นต้น
#ทำไมคุยกับคคนี้แล้วรู้สึกดีจัง #รีวิวหนังสือ
0 Comments
0 Shares
26 Views
0 Reviews