จัดการ วิตกกังวล วัยรุ่น Anxiety Relief For Teens (2025/098)
คู่มือการจัดการความวิตกกังวลสำหรับวัยรุ่น แต่ในความจริงเนื้อหาในหนังสือนั้นสำหรับวัยรุ่นอ่านได้ และผู้ใหญ่ได้อ่านก็ยิ่งดี
ถึงแม้หนังสือจะพุ่งเป้าไปที่ชีวิตของวัยรุ่น ศัพท์ บริบทต่างๆ สามารถดึงดูดวัยรุ่นให้เข้าไปอ่านหนังเล่มนี้ได้อย่างดี เพราะเริ่มจากการทำเช็คลิสต์ปัญหาใกล้ตัวที่เป็นเรื่องของความวิตกกังวลของเหล่าวัยรุ่น และเมื่อผมจินตนาการย้อนกลับไปตอนเป็นวัยรุ่นและลองทำเช็คลิสต์ในช่วงแรกของเนื้อหา ปรากฎว่าในตอนนั้นผมมีความวิตกกังวลไม่น้อยที่ตรงกับในหัวข้อเหล่านี้ และหนังสือเล่มนี้จี้ประเด็นและหาทางแก้ให้ครับ
ถ้าสมัยก่อนมีหนังสือแบบนี้และที่สำคัญวัยรุ่นสามารถเข้าถึงและตั้งใจอ่านหนังสือเล่มนี้คงจะมีเกิดผลดีกับโลกนี้ไม่น้อยเลย
ผมจะรีวิวในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่แล้วอ่านหนังสือเล่มนี้นะครับ ผู้เขียนยกประเด็นที่โดนใจวัยรุ่นโดยใช้ภาษาที่สื่อสารง่ายๆ ไม่มีศัพท์ทางจิตวิทยาที่ทำให้เป็นอุปสรรคในการเข้าถึง โดยเริ่มจากประเด็นของปัญหาของความวิตกกังวล ซึ่งเป็นเรื่องการทำงานของสมองและการทำงานนี้พวกเราและวัยรุ่นสามารถฝึกได้ เปลี่ยนแนวทางการคิด การวางเป้าหมายได้
ต่อมาผู้เขียนได้อธิบายถึงโครงสร้างของความวิตกกังวลว่ามีส่วนประกอบสามอย่างหลังจากถูกกระตุ้นโดยสถานการณ์ต่างๆ คือ ความคิด(คิดจินตนาการในทางที่ไม่ดี) , พฤติกรรม(หนีหรือหลีกเลี่ยง) และ ปฎิกิริยาทางกาย(เหงื่ออก,ใจสั่น) ผู้เขียนสามารถอธิบายให้เข้าใจได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญมากๆของเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้คือ วิธีจัดการความวิตกกังวล โดยเริ่มจากความเข้าใจ การฝึกสติ และลงมือทำ โดยที่การลงมือทำ เป็นเรื่องที่ทำเรื่องง่ายๆ ทำตามลำดับขั้นตอนและค่อยๆเพิ่มความท้าทายไปเรื่อยๆ ในท้ายเล่มผู้เขียนอธิบายถึงอาการทางร่างกายที่เกิดจากความวิตกกังวล อย่างเช่นอาการแพนิกซึ่งไม่ใช่อาการที่ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตเลย มันเป็นแค่อาการที่เกิดตอนวิตกกังวลมากๆเท่านั้น ไม่ใช่อาการถาวร
ถึงแม้อาการวิตกกังวลที่เป็นตัวอย่างในหนังสือจะเป็นอาการที่ค่อนข้างหนักหนา แต่การแก้ไขปัญหาเรื่องความวิตกกังวลได้ตอนที่มันยังไม่ลุกลามใหญ่โตย่อมดีกว่า ส่วนที่ผมชอบในหนังเล่มนี้คือ ผู้เขียนแนะนำการฝึกสติ(สมาธิ) ในหลายรูปแบบมากๆ และเรื่องจัดการเกี่ยวกับความกลัว …ผมคิดว่าจะนำมาเป็นแนวทางในชีวิตประจำวันต่อไป
#จัดการวิตกกังวลวัยรุ่น #AnxietyReliefForTeens #รีวิวหนังสือ
คู่มือการจัดการความวิตกกังวลสำหรับวัยรุ่น แต่ในความจริงเนื้อหาในหนังสือนั้นสำหรับวัยรุ่นอ่านได้ และผู้ใหญ่ได้อ่านก็ยิ่งดี
ถึงแม้หนังสือจะพุ่งเป้าไปที่ชีวิตของวัยรุ่น ศัพท์ บริบทต่างๆ สามารถดึงดูดวัยรุ่นให้เข้าไปอ่านหนังเล่มนี้ได้อย่างดี เพราะเริ่มจากการทำเช็คลิสต์ปัญหาใกล้ตัวที่เป็นเรื่องของความวิตกกังวลของเหล่าวัยรุ่น และเมื่อผมจินตนาการย้อนกลับไปตอนเป็นวัยรุ่นและลองทำเช็คลิสต์ในช่วงแรกของเนื้อหา ปรากฎว่าในตอนนั้นผมมีความวิตกกังวลไม่น้อยที่ตรงกับในหัวข้อเหล่านี้ และหนังสือเล่มนี้จี้ประเด็นและหาทางแก้ให้ครับ
ถ้าสมัยก่อนมีหนังสือแบบนี้และที่สำคัญวัยรุ่นสามารถเข้าถึงและตั้งใจอ่านหนังสือเล่มนี้คงจะมีเกิดผลดีกับโลกนี้ไม่น้อยเลย
ผมจะรีวิวในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่แล้วอ่านหนังสือเล่มนี้นะครับ ผู้เขียนยกประเด็นที่โดนใจวัยรุ่นโดยใช้ภาษาที่สื่อสารง่ายๆ ไม่มีศัพท์ทางจิตวิทยาที่ทำให้เป็นอุปสรรคในการเข้าถึง โดยเริ่มจากประเด็นของปัญหาของความวิตกกังวล ซึ่งเป็นเรื่องการทำงานของสมองและการทำงานนี้พวกเราและวัยรุ่นสามารถฝึกได้ เปลี่ยนแนวทางการคิด การวางเป้าหมายได้
ต่อมาผู้เขียนได้อธิบายถึงโครงสร้างของความวิตกกังวลว่ามีส่วนประกอบสามอย่างหลังจากถูกกระตุ้นโดยสถานการณ์ต่างๆ คือ ความคิด(คิดจินตนาการในทางที่ไม่ดี) , พฤติกรรม(หนีหรือหลีกเลี่ยง) และ ปฎิกิริยาทางกาย(เหงื่ออก,ใจสั่น) ผู้เขียนสามารถอธิบายให้เข้าใจได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญมากๆของเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้คือ วิธีจัดการความวิตกกังวล โดยเริ่มจากความเข้าใจ การฝึกสติ และลงมือทำ โดยที่การลงมือทำ เป็นเรื่องที่ทำเรื่องง่ายๆ ทำตามลำดับขั้นตอนและค่อยๆเพิ่มความท้าทายไปเรื่อยๆ ในท้ายเล่มผู้เขียนอธิบายถึงอาการทางร่างกายที่เกิดจากความวิตกกังวล อย่างเช่นอาการแพนิกซึ่งไม่ใช่อาการที่ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตเลย มันเป็นแค่อาการที่เกิดตอนวิตกกังวลมากๆเท่านั้น ไม่ใช่อาการถาวร
ถึงแม้อาการวิตกกังวลที่เป็นตัวอย่างในหนังสือจะเป็นอาการที่ค่อนข้างหนักหนา แต่การแก้ไขปัญหาเรื่องความวิตกกังวลได้ตอนที่มันยังไม่ลุกลามใหญ่โตย่อมดีกว่า ส่วนที่ผมชอบในหนังเล่มนี้คือ ผู้เขียนแนะนำการฝึกสติ(สมาธิ) ในหลายรูปแบบมากๆ และเรื่องจัดการเกี่ยวกับความกลัว …ผมคิดว่าจะนำมาเป็นแนวทางในชีวิตประจำวันต่อไป
#จัดการวิตกกังวลวัยรุ่น #AnxietyReliefForTeens #รีวิวหนังสือ
จัดการ วิตกกังวล วัยรุ่น Anxiety Relief For Teens (2025/098)
คู่มือการจัดการความวิตกกังวลสำหรับวัยรุ่น แต่ในความจริงเนื้อหาในหนังสือนั้นสำหรับวัยรุ่นอ่านได้ และผู้ใหญ่ได้อ่านก็ยิ่งดี
ถึงแม้หนังสือจะพุ่งเป้าไปที่ชีวิตของวัยรุ่น ศัพท์ บริบทต่างๆ สามารถดึงดูดวัยรุ่นให้เข้าไปอ่านหนังเล่มนี้ได้อย่างดี เพราะเริ่มจากการทำเช็คลิสต์ปัญหาใกล้ตัวที่เป็นเรื่องของความวิตกกังวลของเหล่าวัยรุ่น และเมื่อผมจินตนาการย้อนกลับไปตอนเป็นวัยรุ่นและลองทำเช็คลิสต์ในช่วงแรกของเนื้อหา ปรากฎว่าในตอนนั้นผมมีความวิตกกังวลไม่น้อยที่ตรงกับในหัวข้อเหล่านี้ และหนังสือเล่มนี้จี้ประเด็นและหาทางแก้ให้ครับ
ถ้าสมัยก่อนมีหนังสือแบบนี้และที่สำคัญวัยรุ่นสามารถเข้าถึงและตั้งใจอ่านหนังสือเล่มนี้คงจะมีเกิดผลดีกับโลกนี้ไม่น้อยเลย
ผมจะรีวิวในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่แล้วอ่านหนังสือเล่มนี้นะครับ ผู้เขียนยกประเด็นที่โดนใจวัยรุ่นโดยใช้ภาษาที่สื่อสารง่ายๆ ไม่มีศัพท์ทางจิตวิทยาที่ทำให้เป็นอุปสรรคในการเข้าถึง โดยเริ่มจากประเด็นของปัญหาของความวิตกกังวล ซึ่งเป็นเรื่องการทำงานของสมองและการทำงานนี้พวกเราและวัยรุ่นสามารถฝึกได้ เปลี่ยนแนวทางการคิด การวางเป้าหมายได้
ต่อมาผู้เขียนได้อธิบายถึงโครงสร้างของความวิตกกังวลว่ามีส่วนประกอบสามอย่างหลังจากถูกกระตุ้นโดยสถานการณ์ต่างๆ คือ ความคิด(คิดจินตนาการในทางที่ไม่ดี) , พฤติกรรม(หนีหรือหลีกเลี่ยง) และ ปฎิกิริยาทางกาย(เหงื่ออก,ใจสั่น) ผู้เขียนสามารถอธิบายให้เข้าใจได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญมากๆของเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้คือ วิธีจัดการความวิตกกังวล โดยเริ่มจากความเข้าใจ การฝึกสติ และลงมือทำ โดยที่การลงมือทำ เป็นเรื่องที่ทำเรื่องง่ายๆ ทำตามลำดับขั้นตอนและค่อยๆเพิ่มความท้าทายไปเรื่อยๆ ในท้ายเล่มผู้เขียนอธิบายถึงอาการทางร่างกายที่เกิดจากความวิตกกังวล อย่างเช่นอาการแพนิกซึ่งไม่ใช่อาการที่ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตเลย มันเป็นแค่อาการที่เกิดตอนวิตกกังวลมากๆเท่านั้น ไม่ใช่อาการถาวร
ถึงแม้อาการวิตกกังวลที่เป็นตัวอย่างในหนังสือจะเป็นอาการที่ค่อนข้างหนักหนา แต่การแก้ไขปัญหาเรื่องความวิตกกังวลได้ตอนที่มันยังไม่ลุกลามใหญ่โตย่อมดีกว่า ส่วนที่ผมชอบในหนังเล่มนี้คือ ผู้เขียนแนะนำการฝึกสติ(สมาธิ) ในหลายรูปแบบมากๆ และเรื่องจัดการเกี่ยวกับความกลัว …ผมคิดว่าจะนำมาเป็นแนวทางในชีวิตประจำวันต่อไป
#จัดการวิตกกังวลวัยรุ่น #AnxietyReliefForTeens #รีวิวหนังสือ
0 Comments
0 Shares
3 Views
0 Reviews