อริยสาวกพึงศึกษาว่าบุคคลใดยังหลงเพลิดเพลินในขันธ์ห้าอยู่ ด้วยการไม่ละนิวรณ์ห้าประการซึ่งเหตุแห่งทุกข์
สัทธรรมลำดับที่ : 322
ชื่อบทธรรม :- ละราคะโทสะโมหะก่อนละชาติชรามรณะ
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=322
เนื้อความทั้งหมด :-
นิทเทศ ๘ ว่าด้วยกิเลสทั้งหลายในฐานะสมุทัย
--(มี ๑๕ เรื่อง)
--ละราคะโทสะโมหะก่อนละชาติชรามรณะ
--ภิกษุ ท. ! บุคคล
เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ ราคะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑

0-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ ชาติ ๑ ชรา ๑ มรณะ ๑.
--ภิกษุ ท. ! บุคคล
เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ
สักกายทิฏฐิ (ความเห็นว่ากายของตน) ๑
วิจิกิจฉา (ความลังเลในธรรมที่ไม่ควรลังเล) ๑
สีลัพพตปรามาส(การลูบคลำศีลและวัตรอย่างปราศจากเหตุผล) ๑

1-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ
ราคะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑.
--ภิกษุ ท. ! บุคคล
เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ
อโยนิโสมนสิการ (ความทำในใจไม่แยบคาย) ๑
กุมมัคคเสวนา (การพัวพันอยู่ในทิฏฐิอันชั่ว) ๑
เจตโสลีนัตตา (ความมีจิตหดหู่) ๑

2-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ
สักกายทิฏฐิ ๑ วิจิกิจฉา ๑ สีลัพพตปรามาส ๑.
--ภิกษุ ท. ! บุคคล
เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ
มุฏฐสัจจะ (ความมีสติอันลืมหลง) ๑
อสัมปชัญญะ (ความปราศจากสัมปชัญญะ) ๑
เจตโสวิกเขปะ (ความส่ายแห่งจิต) ๑

3-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ
อโยนิโสมนสิการ ๑ กุมมัคคเสวนา ๑ เจตโสลีนัตตา ๑.
--ภิกษุ ท. ! บุคคลเมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ
อริยานังอทัสสนกัม๎ยตา (ความไม่อยากเห็นพระอริยเจ้า) ๑
อริยธัมมังอโสตุกัม๎ยตา (ความไม่อยากฟังธรรมธรรมของพระอริยเจ้า) ๑
อุปารัมภจิตตตา (ความมีจิตเที่ยวเกาะเกี่ยว) ๑

4-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ
มุฏฐสัจจะ ๑ อสัมปชัญญะ ๑ เจตโสวิกเขปะ ๑.
--ภิกษุ ท. ! บุคคล
เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ
อุทธัจจะ (ความฟุ้งซ่าน) ๑
อสังวระ (ความไม่สำรวม) ๑
ทุสสีล๎ยะ (ความทุศีล) ๑

5-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ
อริยานังอทัสสนกัม๎ยตา ๑
อริยธัมมังอโสตุกัม๎ยตา ๑
อุปารัมภจิตตตา ๑.
--ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ
อสัทธิยะ (ความไม่มีสัทธา) ๑
อวทัญญุตา (ความไม่เป็นวทัญญู) ๑
โกสัชชะ (ความเกียจคร้าน) ๑

6-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ
อุทธัจจะ ๑ อสังวระ ๑ ทุสสีล๎ยะ ๑.
--ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ
อนาทริยะ (ความไม่เอื้อเฟื้อในบุคคลและธรรมอันควรเอื้อเฟื้อ) ๑
โทวจัสสตา (ความเป็นคนว่ายาก) ๑
ปาปมิตตตา (ความมีมิตรชั่ว) ๑

7-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ
อสัทธิยะ ๑ อวทัญญุตา ๑ โกสัชชะ ๑.
--ภิกษุ ท. ! บุคคล
เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ
อหิริกะ (ความไม่ละอายในสิ่งที่ควรละอาย) ๑
http://etipitaka.com/read/pali/24/156/?keywords=อหิริก
อโนตตัปปะ (ความไม่กลัวในสิ่งที่ควรกลัว) ๑
http://etipitaka.com/read/pali/24/156/?keywords=อโนตฺตปฺป
ปมาทะ (ความประมาท) ๑
http://etipitaka.com/read/pali/24/156/?keywords=ปมาท
8-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ
อนาทริยะ ๑ โทวจัสสตา ๑ ปาปมิตตตา ๑ :
--ภิกษุ ท. ! บุคคลนี้ เป็นผู้ มีอหิริกะ มีอโนตตัปปะ มีปมาทะ แล้ว.

8-เขาเมื่อเป็นผู้ มีอหิริกะ มีอโนตตัปปะ มีปมาทะอยู่แล้ว ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง
อนาทริยะ ๑ โทวจัสสตา ๑ ปาปมิตตตา ๑ ;
7-เขาเมื่อเป็นผู้ ... มีปาปมิตตตา ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง
อสัทธิยะ ๑ อวทัญญุตา ๑ โกสัชชะ ๑ ;
6-เขาเมื่อเป็นผู้ ... มีโกสัชชะ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง
อุทธัจจะ ๑ อสังวระ ๑ ทุสสีล๎ยะ ๑ ;
5-เขาเมื่อเป็นผู้ มีทุสสีล๎ยะ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง
อริยานังอทัสสนกัม๎ยตา ๑ อริยธัมมังอโสตุกัม๎ยตา ๑ อุปารัมภจิตตตา ๑ ;
4-เขาเมื่อเป็นผู้ ... มีอุปารัมภจิตตตา ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง
มุฏฐสัจจะ ๑ อสัมปชัญญะ ๑ เจตโสวิกเขปะ ๑ ;
3-เขาเมื่อเป็ผผู้ มีเจตโสวิกเขปะ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง
อโยนิโสมนสิการ ๑ กุมมัคคเสวนา ๑ เจตโสลีนัตตา ๑ ;
2-เขาเมื่อเป็นผู้ ... มีเจตโสลีนัตตา ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง
สักกายทิฏฐิ ๑ สีลัพพตปรามาส ๑ วิจิกิจฉา ๑;
1-เขาเมื่อเป็นผู้ ... มีวิจิกิจฉา ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง
ราคะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑ ;
+--เขาเมื่อไม่ละซึ่ง
ราคะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑
0-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง
ชาติ ๑ ชรา ๑ มรณะ ๑.

(ต่อไปได้ตรัสข้อความเกี่ยวกับปฏิปักขนัยฝ่ายตรงกันข้าม
อันเป็นฝ่ายที่ทำให้ละชาติ-ชรา-มรณะ ได้
ผู้อ่านสามารถเทียบเคียงได้เอง จึงมิได้นำมากล่าวไว้ในที่นี้
).-

#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/127-130/76.
http://etipitaka.com/read/thai/24/127/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%96
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๑๕๔-๑๕๗/๗๖.
http://etipitaka.com/read/pali/24/154/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%96
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=322
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22&id=322
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22
ลำดับสาธยายธรรม : 22 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_22.mp3
อริยสาวกพึงศึกษาว่าบุคคลใดยังหลงเพลิดเพลินในขันธ์ห้าอยู่ ด้วยการไม่ละนิวรณ์ห้าประการซึ่งเหตุแห่งทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 322 ชื่อบทธรรม :- ละราคะโทสะโมหะก่อนละชาติชรามรณะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=322 เนื้อความทั้งหมด :- นิทเทศ ๘ ว่าด้วยกิเลสทั้งหลายในฐานะสมุทัย --(มี ๑๕ เรื่อง) --ละราคะโทสะโมหะก่อนละชาติชรามรณะ --ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ ราคะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑ 0-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ ชาติ ๑ ชรา ๑ มรณะ ๑. --ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ สักกายทิฏฐิ (ความเห็นว่ากายของตน) ๑ วิจิกิจฉา (ความลังเลในธรรมที่ไม่ควรลังเล) ๑ สีลัพพตปรามาส(การลูบคลำศีลและวัตรอย่างปราศจากเหตุผล) ๑ 1-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ ราคะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑. --ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ อโยนิโสมนสิการ (ความทำในใจไม่แยบคาย) ๑ กุมมัคคเสวนา (การพัวพันอยู่ในทิฏฐิอันชั่ว) ๑ เจตโสลีนัตตา (ความมีจิตหดหู่) ๑ 2-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ สักกายทิฏฐิ ๑ วิจิกิจฉา ๑ สีลัพพตปรามาส ๑. --ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ มุฏฐสัจจะ (ความมีสติอันลืมหลง) ๑ อสัมปชัญญะ (ความปราศจากสัมปชัญญะ) ๑ เจตโสวิกเขปะ (ความส่ายแห่งจิต) ๑ 3-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ อโยนิโสมนสิการ ๑ กุมมัคคเสวนา ๑ เจตโสลีนัตตา ๑. --ภิกษุ ท. ! บุคคลเมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ อริยานังอทัสสนกัม๎ยตา (ความไม่อยากเห็นพระอริยเจ้า) ๑ อริยธัมมังอโสตุกัม๎ยตา (ความไม่อยากฟังธรรมธรรมของพระอริยเจ้า) ๑ อุปารัมภจิตตตา (ความมีจิตเที่ยวเกาะเกี่ยว) ๑ 4-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ มุฏฐสัจจะ ๑ อสัมปชัญญะ ๑ เจตโสวิกเขปะ ๑. --ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ อุทธัจจะ (ความฟุ้งซ่าน) ๑ อสังวระ (ความไม่สำรวม) ๑ ทุสสีล๎ยะ (ความทุศีล) ๑ 5-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ อริยานังอทัสสนกัม๎ยตา ๑ อริยธัมมังอโสตุกัม๎ยตา ๑ อุปารัมภจิตตตา ๑. --ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ อสัทธิยะ (ความไม่มีสัทธา) ๑ อวทัญญุตา (ความไม่เป็นวทัญญู) ๑ โกสัชชะ (ความเกียจคร้าน) ๑ 6-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ อุทธัจจะ ๑ อสังวระ ๑ ทุสสีล๎ยะ ๑. --ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ อนาทริยะ (ความไม่เอื้อเฟื้อในบุคคลและธรรมอันควรเอื้อเฟื้อ) ๑ โทวจัสสตา (ความเป็นคนว่ายาก) ๑ ปาปมิตตตา (ความมีมิตรชั่ว) ๑ 7-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ อสัทธิยะ ๑ อวทัญญุตา ๑ โกสัชชะ ๑. --ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ อหิริกะ (ความไม่ละอายในสิ่งที่ควรละอาย) ๑ http://etipitaka.com/read/pali/24/156/?keywords=อหิริก อโนตตัปปะ (ความไม่กลัวในสิ่งที่ควรกลัว) ๑ http://etipitaka.com/read/pali/24/156/?keywords=อโนตฺตปฺป ปมาทะ (ความประมาท) ๑ http://etipitaka.com/read/pali/24/156/?keywords=ปมาท 8-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ อนาทริยะ ๑ โทวจัสสตา ๑ ปาปมิตตตา ๑ : --ภิกษุ ท. ! บุคคลนี้ เป็นผู้ มีอหิริกะ มีอโนตตัปปะ มีปมาทะ แล้ว. 8-เขาเมื่อเป็นผู้ มีอหิริกะ มีอโนตตัปปะ มีปมาทะอยู่แล้ว ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง อนาทริยะ ๑ โทวจัสสตา ๑ ปาปมิตตตา ๑ ; 7-เขาเมื่อเป็นผู้ ... มีปาปมิตตตา ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง อสัทธิยะ ๑ อวทัญญุตา ๑ โกสัชชะ ๑ ; 6-เขาเมื่อเป็นผู้ ... มีโกสัชชะ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง อุทธัจจะ ๑ อสังวระ ๑ ทุสสีล๎ยะ ๑ ; 5-เขาเมื่อเป็นผู้ มีทุสสีล๎ยะ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง อริยานังอทัสสนกัม๎ยตา ๑ อริยธัมมังอโสตุกัม๎ยตา ๑ อุปารัมภจิตตตา ๑ ; 4-เขาเมื่อเป็นผู้ ... มีอุปารัมภจิตตตา ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง มุฏฐสัจจะ ๑ อสัมปชัญญะ ๑ เจตโสวิกเขปะ ๑ ; 3-เขาเมื่อเป็ผผู้ มีเจตโสวิกเขปะ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง อโยนิโสมนสิการ ๑ กุมมัคคเสวนา ๑ เจตโสลีนัตตา ๑ ; 2-เขาเมื่อเป็นผู้ ... มีเจตโสลีนัตตา ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง สักกายทิฏฐิ ๑ สีลัพพตปรามาส ๑ วิจิกิจฉา ๑; 1-เขาเมื่อเป็นผู้ ... มีวิจิกิจฉา ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง ราคะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑ ; +--เขาเมื่อไม่ละซึ่ง ราคะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑ 0-ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่ง ชาติ ๑ ชรา ๑ มรณะ ๑. (ต่อไปได้ตรัสข้อความเกี่ยวกับปฏิปักขนัยฝ่ายตรงกันข้าม อันเป็นฝ่ายที่ทำให้ละชาติ-ชรา-มรณะ ได้ ผู้อ่านสามารถเทียบเคียงได้เอง จึงมิได้นำมากล่าวไว้ในที่นี้ ).- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/127-130/76. http://etipitaka.com/read/thai/24/127/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๑๕๔-๑๕๗/๗๖. http://etipitaka.com/read/pali/24/154/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%96 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=322 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22&id=322 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22 ลำดับสาธยายธรรม : 22 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_22.mp3
WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
- นิทเทศ ๗
-นิทเทศ ๗ ว่าด้วยทิฏฐิเกี่ยวกับตัณหา จบ นิทเทศ ๘ ว่าด้วยกิเลสทั้งหลายในฐานะสมุทัย (มี ๑๕ เรื่อง) ละราคะโทสะโมหะก่อนละชาติชรามรณะ ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ ราคะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ ชาติ ๑ ชรา ๑ มรณะ ๑. ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ สักกายทิฏฐิ (ความเห็นว่ากายของตน) ๑ วิจิกิจฉา (ความลังเลในธรรมที่ไม่ควรลังเล) ๑ สีลัพพตปรามาส(การลูบคลำศีลและวัตรอย่างปราศจากเหตุผล) ๑ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือราคะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑. ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ อโยนิโสมนสิการ (ความทำในใจไม่แยบคาย) ๑ กุมมัคคเสวนา (การพัวพันอยู่ในทิฏฐิอันชั่ว) ๑ เจตโสลีนัตตา (ความมีจิตหดหู่) ๑ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ สักกายทิฏฐิ ๑ วิจิกิจฉา ๑ สีลัพพตปรามาส ๑. ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ มุฏฐสัจจะ (ความมีสติอันลืมหลง) ๑ อสัมปชัญญะ (ความปราศจากสัมปชัญญะ) ๑ เจตโสวิกเขปะ (ความส่ายแห่งจิต) ๑ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ อโยนิโสมนสิการ ๑ กุมมัคคเสวนา ๑ เจตโสลีนัตตา ๑. ภิกษุ ท. ! บุคคลเมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ อริยานังอทัสสนกัม๎ยตา (ความไม่อยากเห็นพระอริยเจ้า) ๑ อริยธัมมังอโสตุกัม๎ยตา (ความไม่อยากฟังธรรมธรรมของพระอริยเจ้า) ๑ อุปารัมภจิตตตา (ความมีจิตเที่ยวเกาะเกี่ยว) ๑ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ มุฏฐสัจจะ ๑ อสัมปชัญญะ ๑ เจตโสวิกเขปะ ๑. ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ อุทธัจจะ (ความฟุ้งซ่าน) ๑ อสังวระ (ความไม่สำรวม) ๑ ทุสสีล๎ยะ (ความทุศีล) ๑ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ อริยานังอทัสสนกัม๎ยตา ๑ อริยธัมมังอโสตุกัม๎ยตา ๑ อุปารัมภจิตตตา ๑. ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ อสัทธิยะ (ความไม่มีสัทธา) ๑ อวทัญญุตา (ความไม่เป็นวทัญญู) ๑ โกสัชชะ (ความเกียจคร้าน) ๑ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ อุทธัจจะ ๑ อสังวระ ๑ ทุสสีล๎ยะ ๑. ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ อนาทริยะ (ความไม่เอื้อเฟื้อในบุคคลและธรรมอันควรเอื้อเฟื้อ) ๑ โทวจัสสตา (ความเป็นคนว่ายาก) ๑ ปาปมิตตตา (ความมีมิตรชั่ว) ๑ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ อสัทธิยะ ๑ อวทัญญุตา ๑ โกสัชชะ ๑. ภิกษุ ท. ! บุคคล เมื่อไม่ละซึ่งธรรมสาม คือ อหิริกะ (ความไม่ละอายในสิ่งที่ควรละอาย) ๑ อโนตตัปปะ (ความไม่กลัวในสิ่งที่ควรกลัว) ๑ ปมาทะ (ความประมาท) ๑ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งธรรมสาม คือ อนาทริยะ ๑ โทวจัสสตา ๑ ปาปมิตตตา ๑ : ภิกษุ ท. ! บุคคลนี้ เป็นผู้มี อหิริกะ มีอโนตตัปปะ มีปมาทะ แล้ว. เขาเมื่อเป็นผู้ มีปมาทะอยู่แล้ว ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งอนาทริยะ ๑ โทวจัสสตา ๑ ปาปมิตตตา ๑ ; เขาเมื่อเป็นผู้ มีปาปมิตตตา ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งอสัทธิยะ ๑ อวทัญญุตา ๑ โกสัชชะ ๑ ; เขาเมื่อเป็นผู้ มีโกสัชชะ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งอุทธัจจะ ๑ อสังวระ ๑ ทุสสีล๎ยะ ๑ ; เขาเมื่อเป็นผู้ มีทุสสีล๎ยะ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งอริยานังอทัสสนกัม๎ยตา ๑ อริยธัมมังอโสตุกัม๎ยตา ๑ อุปารัมภจิตตตา ๑ ; เขาเมื่อเป็นผู้ มีอุปารัมภจิตตตา ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งมุฏฐสัจจะ ๑ อสัมปชัญญะ ๑ เจตโสวิกเขปะ ๑ ; เขาเมื่อเป็ผผู้ มีเจตโสวิกเขปะ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งอโยนิโสมนสิการ ๑ กุมมัคคเสวนา ๑ เจตโสลีนัตตา ๑ ; เขาเมื่อเป็นผู้ มีเจตโสลีนัตตา ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งสักกายทิฏฐิ ๑ วิจิกิจฉา ๑ สีลัพพตปรามาส ๑ ; เขาเมื่อเป็นผู้ มีวิจิกิจฉา ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งราคะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑ ; เขาเมื่อไม่ละซึ่งราคะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑ ก็ไม่อาจเพื่อละซึ่งชาติ ๑ ชรา ๑ มรณะ ๑. (ต่อไปได้ตรัสข้อความเกี่ยวกับปฏิปักขนัยฝ่ายตรงกันข้าม อันเป็นฝ่ายที่ทำให้ละชาติ-ชรา-มรณะ ได้ ผู้อ่านสามารถเทียบเคียงได้เอง จึงมิได้นำมากล่าวไว้ในที่นี้).
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว