Into The Magic Shop เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ (2025/046)
หนังสือดีที่เล่าจากเรื่องจริงของชีวิต อาจารย์ศัลยแพทย์ประสาทมือหนึ่งของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แต่ถ้าหากกลับไปดูชีวิตของผู้เขียนในช่วงอายุ 12ปี ที่เขาเล่าชีวิตในเล่ม เขาไม่น่าแม้แต่จะคิดว่าตัวเองสามารถเป็นหมอได้ ด้วยครอบครัวที่แหลกสลายคุณพ่อติดเหล้าหนักมาก หาเงินมาจุนเจือครอบครัวได้บ้างไม่ได้บ้าง และทำร้ายคุณแม่ จนทำให้คุณแม่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และกินยาเกินขนาดเพื่อจบชีวิตตัวเอง ลูกๆทั้งสามคนได้กินข้าวบ้าง ไม่ได้กินข้าวบ้าง บางที่ต้องไปขออาหารจากเพื่อน สภาพจิตของลูกๆทุกคนย่ำแย่
ผู้เขียนมีเรื่องยึดเหนี่ยวเรื่องเดียวคือการเล่นมายากล และชีวิตของเขาได้เปลี่ยนไปเมื่อปลอกนิ้วมือสำหรับเล่นมายากลหายไป เขาคิดว่าพี่ชายหยิบของเขาไป เขาขี่จักรยานท่ามกลางความร้อนในมืองแลงคาสเตอร์ แคลิฟอเนีย จนไปหยุดที่ร้านขายอุปกรณ์มายากลร้านหนึ่ง เขาผลักประตู้เข้า แต่ไม่พบเจ้าของร้าน เขาพบคุณแม่ของเจ้าของร้าน เธอชื่อว่ารูธเธอเห็นผู้เขียนที่เป็นเด็กชายวัยสอบสองขวบ ที่มีแววตาอมทุกข์ เธอบอกว่าเธอจะอยู่ที่ร้านลูกชายเธอหกอาทิตย์และเธออยากสอนมายากลทางจิตใจให้กับผู้เขียน ต่อมาเขาทำตามมายากลที่คุณยายสอน…เขาประสบความสำเร็จและล้มเหลวในชีวิตจากมายากลนี้
เด็กชายคนหนึ่งได้รับคำสอนที่จัดการความรู้สึกและพิจารณาจิตใจ ชายคุณยายซึ่งรู้จักกันที่ร้านขายอุปกรณ์เล่นมายากล เธอบอกว่าเธอได้รับการสอนเวทมนตร์นี้มาอีกทีและเธอให้สัญญากับคนที่สอนเธอว่าเธอจะต้องถ่ายทอดเวทมนตร์นี้ เธอเลือกแล้วที่จะสอนเวทมนตร์นี้ให้กับผู้เขียน ซึ่งมีชีวิตที่มีความทุกข์มาก หาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้ เพราะอยู่ในความควบคุมของคุณพ่อและคุณแม่ เขารู้สึกเจ็บจี๊ด ทนไม่ได้ทุกครั้งที่คุณพ่อของเขาเมาเหล้ากลับมา และอาละวาดอย่างหนักซึ่งเป็นแบบนี้ทุกครั้ง คุณแม่ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากในสถานการณ์นี้ คุณยายรูธสอนอะไรกับผู้เขียนในตอนเป็นเด็กอายุ 12ปี
การสอนของคุณยายรูธไม่ได้เอาเรื่องที่ยากมาสอนให้กับผู้เขียนเลย(แต่ทำยากมาก) นั่นคือการมีสติ มีสมาธิ รู้จักฟังร่างกายจากอาการต่างๆ และทำความเข้าใจกับอาการเหล่านั้น และสมาธิเพื่อให้จิตใจและร่างการเยือกเย็นลง รวมถึงรายละเอียดในการสอนอีกหลายอย่าง
ในท้ายที่สุดถึงผู้เขียนจะเข้าใจหลักสอนละทำการสอนได้เป็นอย่างดี โดยที่ชีวิตของตัวเขาเริ่มดีขึ้น แต่เขากลับพบว่าชีวิตที่ดีขึ้นของเขาไม่ได้ทำให้คนรอบข้างพัฒนาให้ดีขึ้นได้เลย จึงเป็นข้อสรุปว่าการทำตามเวทมนตร์เหล่านี้จะให้ผลดีได้ด้วยตัวเอง ส่วนคนอื่นถ้าไม่ทำก็ไม่ได้รับผลดี
คุณหมอผู้เขียนเล่าเรื่องราวชีวิตของเขาพร้อมกับการทำตามเวทมนตร์ของคุณยายรูธจนได้ดิบได้ดีได้สิ่งที่ต้องการ แต่มันไม่ได้ง่ายเลยที่เขาทำมาจนสำเร็จหากแต่เขายังคงยึดมั่นในคำสอนของคุณยายรูธโดยไม่คำนึงถึงอุปสรรคที่เขาต้องเผชิญ และถ้าเขาทิ้งคำสอนเหล่านั้นเขาจะรับผลในการใช้ชีวิตของเขาอย่างไร … มีคำตอบในเล่มครับ
#IntoTheMagicShop #เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ #รีวิวหนังสือ
หนังสือดีที่เล่าจากเรื่องจริงของชีวิต อาจารย์ศัลยแพทย์ประสาทมือหนึ่งของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แต่ถ้าหากกลับไปดูชีวิตของผู้เขียนในช่วงอายุ 12ปี ที่เขาเล่าชีวิตในเล่ม เขาไม่น่าแม้แต่จะคิดว่าตัวเองสามารถเป็นหมอได้ ด้วยครอบครัวที่แหลกสลายคุณพ่อติดเหล้าหนักมาก หาเงินมาจุนเจือครอบครัวได้บ้างไม่ได้บ้าง และทำร้ายคุณแม่ จนทำให้คุณแม่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และกินยาเกินขนาดเพื่อจบชีวิตตัวเอง ลูกๆทั้งสามคนได้กินข้าวบ้าง ไม่ได้กินข้าวบ้าง บางที่ต้องไปขออาหารจากเพื่อน สภาพจิตของลูกๆทุกคนย่ำแย่
ผู้เขียนมีเรื่องยึดเหนี่ยวเรื่องเดียวคือการเล่นมายากล และชีวิตของเขาได้เปลี่ยนไปเมื่อปลอกนิ้วมือสำหรับเล่นมายากลหายไป เขาคิดว่าพี่ชายหยิบของเขาไป เขาขี่จักรยานท่ามกลางความร้อนในมืองแลงคาสเตอร์ แคลิฟอเนีย จนไปหยุดที่ร้านขายอุปกรณ์มายากลร้านหนึ่ง เขาผลักประตู้เข้า แต่ไม่พบเจ้าของร้าน เขาพบคุณแม่ของเจ้าของร้าน เธอชื่อว่ารูธเธอเห็นผู้เขียนที่เป็นเด็กชายวัยสอบสองขวบ ที่มีแววตาอมทุกข์ เธอบอกว่าเธอจะอยู่ที่ร้านลูกชายเธอหกอาทิตย์และเธออยากสอนมายากลทางจิตใจให้กับผู้เขียน ต่อมาเขาทำตามมายากลที่คุณยายสอน…เขาประสบความสำเร็จและล้มเหลวในชีวิตจากมายากลนี้
เด็กชายคนหนึ่งได้รับคำสอนที่จัดการความรู้สึกและพิจารณาจิตใจ ชายคุณยายซึ่งรู้จักกันที่ร้านขายอุปกรณ์เล่นมายากล เธอบอกว่าเธอได้รับการสอนเวทมนตร์นี้มาอีกทีและเธอให้สัญญากับคนที่สอนเธอว่าเธอจะต้องถ่ายทอดเวทมนตร์นี้ เธอเลือกแล้วที่จะสอนเวทมนตร์นี้ให้กับผู้เขียน ซึ่งมีชีวิตที่มีความทุกข์มาก หาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้ เพราะอยู่ในความควบคุมของคุณพ่อและคุณแม่ เขารู้สึกเจ็บจี๊ด ทนไม่ได้ทุกครั้งที่คุณพ่อของเขาเมาเหล้ากลับมา และอาละวาดอย่างหนักซึ่งเป็นแบบนี้ทุกครั้ง คุณแม่ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากในสถานการณ์นี้ คุณยายรูธสอนอะไรกับผู้เขียนในตอนเป็นเด็กอายุ 12ปี
การสอนของคุณยายรูธไม่ได้เอาเรื่องที่ยากมาสอนให้กับผู้เขียนเลย(แต่ทำยากมาก) นั่นคือการมีสติ มีสมาธิ รู้จักฟังร่างกายจากอาการต่างๆ และทำความเข้าใจกับอาการเหล่านั้น และสมาธิเพื่อให้จิตใจและร่างการเยือกเย็นลง รวมถึงรายละเอียดในการสอนอีกหลายอย่าง
ในท้ายที่สุดถึงผู้เขียนจะเข้าใจหลักสอนละทำการสอนได้เป็นอย่างดี โดยที่ชีวิตของตัวเขาเริ่มดีขึ้น แต่เขากลับพบว่าชีวิตที่ดีขึ้นของเขาไม่ได้ทำให้คนรอบข้างพัฒนาให้ดีขึ้นได้เลย จึงเป็นข้อสรุปว่าการทำตามเวทมนตร์เหล่านี้จะให้ผลดีได้ด้วยตัวเอง ส่วนคนอื่นถ้าไม่ทำก็ไม่ได้รับผลดี
คุณหมอผู้เขียนเล่าเรื่องราวชีวิตของเขาพร้อมกับการทำตามเวทมนตร์ของคุณยายรูธจนได้ดิบได้ดีได้สิ่งที่ต้องการ แต่มันไม่ได้ง่ายเลยที่เขาทำมาจนสำเร็จหากแต่เขายังคงยึดมั่นในคำสอนของคุณยายรูธโดยไม่คำนึงถึงอุปสรรคที่เขาต้องเผชิญ และถ้าเขาทิ้งคำสอนเหล่านั้นเขาจะรับผลในการใช้ชีวิตของเขาอย่างไร … มีคำตอบในเล่มครับ
#IntoTheMagicShop #เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ #รีวิวหนังสือ
Into The Magic Shop เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ (2025/046)
หนังสือดีที่เล่าจากเรื่องจริงของชีวิต อาจารย์ศัลยแพทย์ประสาทมือหนึ่งของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แต่ถ้าหากกลับไปดูชีวิตของผู้เขียนในช่วงอายุ 12ปี ที่เขาเล่าชีวิตในเล่ม เขาไม่น่าแม้แต่จะคิดว่าตัวเองสามารถเป็นหมอได้ ด้วยครอบครัวที่แหลกสลายคุณพ่อติดเหล้าหนักมาก หาเงินมาจุนเจือครอบครัวได้บ้างไม่ได้บ้าง และทำร้ายคุณแม่ จนทำให้คุณแม่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และกินยาเกินขนาดเพื่อจบชีวิตตัวเอง ลูกๆทั้งสามคนได้กินข้าวบ้าง ไม่ได้กินข้าวบ้าง บางที่ต้องไปขออาหารจากเพื่อน สภาพจิตของลูกๆทุกคนย่ำแย่
ผู้เขียนมีเรื่องยึดเหนี่ยวเรื่องเดียวคือการเล่นมายากล และชีวิตของเขาได้เปลี่ยนไปเมื่อปลอกนิ้วมือสำหรับเล่นมายากลหายไป เขาคิดว่าพี่ชายหยิบของเขาไป เขาขี่จักรยานท่ามกลางความร้อนในมืองแลงคาสเตอร์ แคลิฟอเนีย จนไปหยุดที่ร้านขายอุปกรณ์มายากลร้านหนึ่ง เขาผลักประตู้เข้า แต่ไม่พบเจ้าของร้าน เขาพบคุณแม่ของเจ้าของร้าน เธอชื่อว่ารูธเธอเห็นผู้เขียนที่เป็นเด็กชายวัยสอบสองขวบ ที่มีแววตาอมทุกข์ เธอบอกว่าเธอจะอยู่ที่ร้านลูกชายเธอหกอาทิตย์และเธออยากสอนมายากลทางจิตใจให้กับผู้เขียน ต่อมาเขาทำตามมายากลที่คุณยายสอน…เขาประสบความสำเร็จและล้มเหลวในชีวิตจากมายากลนี้
เด็กชายคนหนึ่งได้รับคำสอนที่จัดการความรู้สึกและพิจารณาจิตใจ ชายคุณยายซึ่งรู้จักกันที่ร้านขายอุปกรณ์เล่นมายากล เธอบอกว่าเธอได้รับการสอนเวทมนตร์นี้มาอีกทีและเธอให้สัญญากับคนที่สอนเธอว่าเธอจะต้องถ่ายทอดเวทมนตร์นี้ เธอเลือกแล้วที่จะสอนเวทมนตร์นี้ให้กับผู้เขียน ซึ่งมีชีวิตที่มีความทุกข์มาก หาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้ เพราะอยู่ในความควบคุมของคุณพ่อและคุณแม่ เขารู้สึกเจ็บจี๊ด ทนไม่ได้ทุกครั้งที่คุณพ่อของเขาเมาเหล้ากลับมา และอาละวาดอย่างหนักซึ่งเป็นแบบนี้ทุกครั้ง คุณแม่ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากในสถานการณ์นี้ คุณยายรูธสอนอะไรกับผู้เขียนในตอนเป็นเด็กอายุ 12ปี
การสอนของคุณยายรูธไม่ได้เอาเรื่องที่ยากมาสอนให้กับผู้เขียนเลย(แต่ทำยากมาก) นั่นคือการมีสติ มีสมาธิ รู้จักฟังร่างกายจากอาการต่างๆ และทำความเข้าใจกับอาการเหล่านั้น และสมาธิเพื่อให้จิตใจและร่างการเยือกเย็นลง รวมถึงรายละเอียดในการสอนอีกหลายอย่าง
ในท้ายที่สุดถึงผู้เขียนจะเข้าใจหลักสอนละทำการสอนได้เป็นอย่างดี โดยที่ชีวิตของตัวเขาเริ่มดีขึ้น แต่เขากลับพบว่าชีวิตที่ดีขึ้นของเขาไม่ได้ทำให้คนรอบข้างพัฒนาให้ดีขึ้นได้เลย จึงเป็นข้อสรุปว่าการทำตามเวทมนตร์เหล่านี้จะให้ผลดีได้ด้วยตัวเอง ส่วนคนอื่นถ้าไม่ทำก็ไม่ได้รับผลดี
คุณหมอผู้เขียนเล่าเรื่องราวชีวิตของเขาพร้อมกับการทำตามเวทมนตร์ของคุณยายรูธจนได้ดิบได้ดีได้สิ่งที่ต้องการ แต่มันไม่ได้ง่ายเลยที่เขาทำมาจนสำเร็จหากแต่เขายังคงยึดมั่นในคำสอนของคุณยายรูธโดยไม่คำนึงถึงอุปสรรคที่เขาต้องเผชิญ และถ้าเขาทิ้งคำสอนเหล่านั้นเขาจะรับผลในการใช้ชีวิตของเขาอย่างไร … มีคำตอบในเล่มครับ
#IntoTheMagicShop #เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ #รีวิวหนังสือ
0 Comments
0 Shares
16 Views
0 Reviews