ยกหิน 10ตัน ออกจากอก ด้วยคำพูดเปลี่ยนชีวิต (2025/012)
เขียนโดยหมอจิตวิทยา และนักเขียนหนังสือโด่งดังหลายเล่มเช่น Output คุณหมอชิอน ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากคนไข้ที่มาปรึกษาและลงเคสต่างๆไว้ในช่อง Youtube ประมาณ 4,000 เคสได้ เพื่อให้การอธิบายเรื่องความทุกข์ให้เข้าใจง่ายคุณหมอจึงไม่ได้อ้างอิงงานวิจัยในแบบที่เคยทำมา ทำให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องความทุกข์ได้ดีขึ้น โดยคุณหมอไม่ได้อ้างอิงความเชื่อใดๆเลย เป็นทฤษฎีจากความคิดคุณหมอเองล้วนๆ โดยสรุปได้ว่าคำพูดหรือการพูดในสิ่งลดความกังวล หรือได้ถ่ายทอดออกมาเป็นการลดความทุกข์อย่างหนึ่งในหลายๆวิธีของคุณหมอผู้แต่งเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้
เล่มนี้คุณหมอเขียนหนังสือไม่เหมือนจากที่เคยเขียนเพราะเดิมทีคุณหมอจะเขียนเชิงอรรถงานวิจัยต่างๆไว้โดยตลอด แต่เล่มนี้เขาใช้ภาษาง่ายๆที่เป็นบทสรุปทางความคิดแล้วนำมาเสนอให้พวกเราอ่านกัน ดังนั้นพวกเราจะสามารถเข้าใจความทุกข์ได้ง่ายขึ้น
ความทุกข์มีองค์ประกอบ 3อย่างดังนี้ 1)มีความรู้สึกเชิงลบเช่นความเจ็บปวด ทรมาน 2)ไม่รู้วิธีรับมือ มืดไปหมด และ 3)ไม่อยากคิดอะไร นิ่งเฉยหยุดคิด เพราะรู้สึกสิ้นหวัง
เดิมทีความคิดของพวกเราคือการแก้ไขความทุกข์คือการขจัดปัญหาทิ้งไป คุณหมออธิบายว่าความเป็นเราไม่สามารถขจัดตัวปัญหาไปได้ หรืออธิบายได้อีกแบบว่าในโลกนี้ไมไ่ด้มีเฉพาะสีดำและสีขาว ยังมีเฉดสีเทาซึ่งก็มีเทาอ่อน เทาเข้ม การจัดการความทุกข์ถ้ามองการกำจัดต้นเหตุของความทุกข์ซึ่งมันจะยากมาก และแทบจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นคุณหมอแนะนำให้เริ่มจัดการสิ่งที่สามารถทำได้ก่อน ซึ่งจะทำให้เกิดกระบวนการคิดและหาทางออก ซึ่งดีกว่าคิดไม่ออกและหมดทางแก้ไข ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากไม่พอใจเจ้านาย การกำจัดต้นเหตุก็คือ ให้เจ้านายหายไปหรือไม่ก็ตัวเราหายไป ซึ่งถ้าคิดแบบนี้ความคิดก็จะนิ่งและหาทางออกไม่ได้ แต่ถ้าหากคิดทำสิ่งที่ทำได้ อย่างเช่นพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นเพื่อเพิ่มความไว้ใจจากหัวหน้า , สื่อสารกับหัวหน้าให้มากขึ้น , ระบายความทุกข์ให้เพื่อนสนิทฟัง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้สามารถทำได้เลยและอาจจะค่อยๆลดความทุกข์จาก 100% ลงมาได้
3แกนแห่งความทุกข์
1.แกนแห่งความควบคุมได้ กำจัดความทุกข์ด้วยความควบคุมได้ หามุมมองที่จัดการต้นเหตุของความทุกข์ ในเพียงบางจุดที่ทำได้ รวมไปถึงการหนีออกจากความทุกข์นซึ่งแก้ไขความทุกข์ได้
2.แกนแห่งเวลา สนใจที่ปัจจุบันแล้วความทุกข์จะหายไป ความทุกข์ส่วนมากเกิดจากการคิดถึงเรื่องที่เป็นความทุกข์ในอดีต บางคนเรื่องผ่านไปเป็นปีแล้วก็ยังนำความทุกข์มาคิดใส่ใจ แบบนี้ก็ไม่สามารถหลุดจากความทุกข์ได้
3.แกนแห่งตัวเอง ถ้าเปลี่ยนตัวเองได้ความทุกข์ก็จะหายไป เราไม่สามารถเปลี่ยนอดีตและคนอื่นได้ แต่เราเปลี่ยนตัวเองและอนาคตได้
มีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับความทุกข์และการกำจัดทุกข์ในมุมมองคุณหมอจิตแพทย์ที่เป็นนักเขียนด้วย ถ้าหากมีใครรู้สึกว่าความทุกข์มันตัวใหญ่เกินไป หนังสือเล่มนี้อาจจะช่วยให้บรรเทาทุกข์ได้
#ยกหิน10ตันออกจากอก #ด้วยคำพูดเปลี่ยนชีวิต #ยกหิน10ตันออกจากอกด้วยคำพูดเปลี่ยนชีวิต #รีวิวหนังสือ
เขียนโดยหมอจิตวิทยา และนักเขียนหนังสือโด่งดังหลายเล่มเช่น Output คุณหมอชิอน ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากคนไข้ที่มาปรึกษาและลงเคสต่างๆไว้ในช่อง Youtube ประมาณ 4,000 เคสได้ เพื่อให้การอธิบายเรื่องความทุกข์ให้เข้าใจง่ายคุณหมอจึงไม่ได้อ้างอิงงานวิจัยในแบบที่เคยทำมา ทำให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องความทุกข์ได้ดีขึ้น โดยคุณหมอไม่ได้อ้างอิงความเชื่อใดๆเลย เป็นทฤษฎีจากความคิดคุณหมอเองล้วนๆ โดยสรุปได้ว่าคำพูดหรือการพูดในสิ่งลดความกังวล หรือได้ถ่ายทอดออกมาเป็นการลดความทุกข์อย่างหนึ่งในหลายๆวิธีของคุณหมอผู้แต่งเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้
เล่มนี้คุณหมอเขียนหนังสือไม่เหมือนจากที่เคยเขียนเพราะเดิมทีคุณหมอจะเขียนเชิงอรรถงานวิจัยต่างๆไว้โดยตลอด แต่เล่มนี้เขาใช้ภาษาง่ายๆที่เป็นบทสรุปทางความคิดแล้วนำมาเสนอให้พวกเราอ่านกัน ดังนั้นพวกเราจะสามารถเข้าใจความทุกข์ได้ง่ายขึ้น
ความทุกข์มีองค์ประกอบ 3อย่างดังนี้ 1)มีความรู้สึกเชิงลบเช่นความเจ็บปวด ทรมาน 2)ไม่รู้วิธีรับมือ มืดไปหมด และ 3)ไม่อยากคิดอะไร นิ่งเฉยหยุดคิด เพราะรู้สึกสิ้นหวัง
เดิมทีความคิดของพวกเราคือการแก้ไขความทุกข์คือการขจัดปัญหาทิ้งไป คุณหมออธิบายว่าความเป็นเราไม่สามารถขจัดตัวปัญหาไปได้ หรืออธิบายได้อีกแบบว่าในโลกนี้ไมไ่ด้มีเฉพาะสีดำและสีขาว ยังมีเฉดสีเทาซึ่งก็มีเทาอ่อน เทาเข้ม การจัดการความทุกข์ถ้ามองการกำจัดต้นเหตุของความทุกข์ซึ่งมันจะยากมาก และแทบจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นคุณหมอแนะนำให้เริ่มจัดการสิ่งที่สามารถทำได้ก่อน ซึ่งจะทำให้เกิดกระบวนการคิดและหาทางออก ซึ่งดีกว่าคิดไม่ออกและหมดทางแก้ไข ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากไม่พอใจเจ้านาย การกำจัดต้นเหตุก็คือ ให้เจ้านายหายไปหรือไม่ก็ตัวเราหายไป ซึ่งถ้าคิดแบบนี้ความคิดก็จะนิ่งและหาทางออกไม่ได้ แต่ถ้าหากคิดทำสิ่งที่ทำได้ อย่างเช่นพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นเพื่อเพิ่มความไว้ใจจากหัวหน้า , สื่อสารกับหัวหน้าให้มากขึ้น , ระบายความทุกข์ให้เพื่อนสนิทฟัง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้สามารถทำได้เลยและอาจจะค่อยๆลดความทุกข์จาก 100% ลงมาได้
3แกนแห่งความทุกข์
1.แกนแห่งความควบคุมได้ กำจัดความทุกข์ด้วยความควบคุมได้ หามุมมองที่จัดการต้นเหตุของความทุกข์ ในเพียงบางจุดที่ทำได้ รวมไปถึงการหนีออกจากความทุกข์นซึ่งแก้ไขความทุกข์ได้
2.แกนแห่งเวลา สนใจที่ปัจจุบันแล้วความทุกข์จะหายไป ความทุกข์ส่วนมากเกิดจากการคิดถึงเรื่องที่เป็นความทุกข์ในอดีต บางคนเรื่องผ่านไปเป็นปีแล้วก็ยังนำความทุกข์มาคิดใส่ใจ แบบนี้ก็ไม่สามารถหลุดจากความทุกข์ได้
3.แกนแห่งตัวเอง ถ้าเปลี่ยนตัวเองได้ความทุกข์ก็จะหายไป เราไม่สามารถเปลี่ยนอดีตและคนอื่นได้ แต่เราเปลี่ยนตัวเองและอนาคตได้
มีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับความทุกข์และการกำจัดทุกข์ในมุมมองคุณหมอจิตแพทย์ที่เป็นนักเขียนด้วย ถ้าหากมีใครรู้สึกว่าความทุกข์มันตัวใหญ่เกินไป หนังสือเล่มนี้อาจจะช่วยให้บรรเทาทุกข์ได้
#ยกหิน10ตันออกจากอก #ด้วยคำพูดเปลี่ยนชีวิต #ยกหิน10ตันออกจากอกด้วยคำพูดเปลี่ยนชีวิต #รีวิวหนังสือ
ยกหิน 10ตัน ออกจากอก ด้วยคำพูดเปลี่ยนชีวิต (2025/012)
เขียนโดยหมอจิตวิทยา และนักเขียนหนังสือโด่งดังหลายเล่มเช่น Output คุณหมอชิอน ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากคนไข้ที่มาปรึกษาและลงเคสต่างๆไว้ในช่อง Youtube ประมาณ 4,000 เคสได้ เพื่อให้การอธิบายเรื่องความทุกข์ให้เข้าใจง่ายคุณหมอจึงไม่ได้อ้างอิงงานวิจัยในแบบที่เคยทำมา ทำให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องความทุกข์ได้ดีขึ้น โดยคุณหมอไม่ได้อ้างอิงความเชื่อใดๆเลย เป็นทฤษฎีจากความคิดคุณหมอเองล้วนๆ โดยสรุปได้ว่าคำพูดหรือการพูดในสิ่งลดความกังวล หรือได้ถ่ายทอดออกมาเป็นการลดความทุกข์อย่างหนึ่งในหลายๆวิธีของคุณหมอผู้แต่งเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้
เล่มนี้คุณหมอเขียนหนังสือไม่เหมือนจากที่เคยเขียนเพราะเดิมทีคุณหมอจะเขียนเชิงอรรถงานวิจัยต่างๆไว้โดยตลอด แต่เล่มนี้เขาใช้ภาษาง่ายๆที่เป็นบทสรุปทางความคิดแล้วนำมาเสนอให้พวกเราอ่านกัน ดังนั้นพวกเราจะสามารถเข้าใจความทุกข์ได้ง่ายขึ้น
ความทุกข์มีองค์ประกอบ 3อย่างดังนี้ 1)มีความรู้สึกเชิงลบเช่นความเจ็บปวด ทรมาน 2)ไม่รู้วิธีรับมือ มืดไปหมด และ 3)ไม่อยากคิดอะไร นิ่งเฉยหยุดคิด เพราะรู้สึกสิ้นหวัง
เดิมทีความคิดของพวกเราคือการแก้ไขความทุกข์คือการขจัดปัญหาทิ้งไป คุณหมออธิบายว่าความเป็นเราไม่สามารถขจัดตัวปัญหาไปได้ หรืออธิบายได้อีกแบบว่าในโลกนี้ไมไ่ด้มีเฉพาะสีดำและสีขาว ยังมีเฉดสีเทาซึ่งก็มีเทาอ่อน เทาเข้ม การจัดการความทุกข์ถ้ามองการกำจัดต้นเหตุของความทุกข์ซึ่งมันจะยากมาก และแทบจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นคุณหมอแนะนำให้เริ่มจัดการสิ่งที่สามารถทำได้ก่อน ซึ่งจะทำให้เกิดกระบวนการคิดและหาทางออก ซึ่งดีกว่าคิดไม่ออกและหมดทางแก้ไข ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากไม่พอใจเจ้านาย การกำจัดต้นเหตุก็คือ ให้เจ้านายหายไปหรือไม่ก็ตัวเราหายไป ซึ่งถ้าคิดแบบนี้ความคิดก็จะนิ่งและหาทางออกไม่ได้ แต่ถ้าหากคิดทำสิ่งที่ทำได้ อย่างเช่นพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นเพื่อเพิ่มความไว้ใจจากหัวหน้า , สื่อสารกับหัวหน้าให้มากขึ้น , ระบายความทุกข์ให้เพื่อนสนิทฟัง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้สามารถทำได้เลยและอาจจะค่อยๆลดความทุกข์จาก 100% ลงมาได้
3แกนแห่งความทุกข์
1.แกนแห่งความควบคุมได้ กำจัดความทุกข์ด้วยความควบคุมได้ หามุมมองที่จัดการต้นเหตุของความทุกข์ ในเพียงบางจุดที่ทำได้ รวมไปถึงการหนีออกจากความทุกข์นซึ่งแก้ไขความทุกข์ได้
2.แกนแห่งเวลา สนใจที่ปัจจุบันแล้วความทุกข์จะหายไป ความทุกข์ส่วนมากเกิดจากการคิดถึงเรื่องที่เป็นความทุกข์ในอดีต บางคนเรื่องผ่านไปเป็นปีแล้วก็ยังนำความทุกข์มาคิดใส่ใจ แบบนี้ก็ไม่สามารถหลุดจากความทุกข์ได้
3.แกนแห่งตัวเอง ถ้าเปลี่ยนตัวเองได้ความทุกข์ก็จะหายไป เราไม่สามารถเปลี่ยนอดีตและคนอื่นได้ แต่เราเปลี่ยนตัวเองและอนาคตได้
มีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับความทุกข์และการกำจัดทุกข์ในมุมมองคุณหมอจิตแพทย์ที่เป็นนักเขียนด้วย ถ้าหากมีใครรู้สึกว่าความทุกข์มันตัวใหญ่เกินไป หนังสือเล่มนี้อาจจะช่วยให้บรรเทาทุกข์ได้
#ยกหิน10ตันออกจากอก #ด้วยคำพูดเปลี่ยนชีวิต #ยกหิน10ตันออกจากอกด้วยคำพูดเปลี่ยนชีวิต #รีวิวหนังสือ
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
19 มุมมอง
0 รีวิว