World Expo Revisted ย้อนรอายประวัติศาสตร์ยุคอุตสาหกรรมผ่านงานนิทรรศการโลก
เรื่องนี้ไม่เคยรู้… ผู้เขียนเล่าเรื่องงาน World Expo โดยเล่าถึงประวัติความเป็นมา และหยิบเอางาน World Expo ที่เด่นๆ ประมาณ 10ครั้ง มาเล่าถึงที่มาที่ไป การเลือกสถานที่จัดงาน(ซึ่งใหญ่โตมาก) และสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สร้างขึ้นเพื่องาน World Expo โดยเฉพาะ เช่น Crystal Palace , หอ ไอเฟล หรือ อาคารอะโตเมียมที่เบลเยี่ยม นอกจากนี้ผู้เขียนที่เขียนเรื่องเก่งมากๆ ยังโยงเรื่องราวในประวัติศาสตร์ในช่วงนั้นๆมาเล่าประกบคู่กับงาน World Expo ได้อย่างไหลลื่น สนุก และเต็มไปด้วยสาระทางประวัติศาสตร์
หนังสือเล่มนี้บอกเราถึงเรื่องที่ไม่เคยรู้มากก่อน เช่น งาน World Expo ที่มีจัดขึ้นทุกๆ 5ปี และกว่าแต่ละประเทศที่จะได้จัดงานนี้ต้องได้รับการตัดสินผ่าน สำนักนิทรรศการระหว่างประเทศ (BIE) ซึ่งเป็นองค์กรจัดการงาน World Expo
งาน World Expo จะต้องจัดอย่างน้อย 6เดือน และมีผู้เข้าชมครั้งหนึ่งหลายสิบล้านคน โดยการจัดงานจะเป็นงานที่มีธีมงานชัดเจน เพื่อจะแสดงให้เห็นศักยภาพของประเทศนั้นๆ เช่นในครั้งแรกที่จัดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ จัดขึ้นในปี ค.ศ.1851 (173ปีที่แล้ว) อังกฤษแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมเครื่องจักรไอน้ำที่โดดเด่นเป็นต้น
งาน World Expo ที่ผู้เขียนหยิบมาเล่าให้อ่านได้แก่ London 1851 , Philadelphia 1876(ครบรอบ 100ปี จากการประกาศอิศรภาพ) , Paris 1889 , Chcago 1893 (ครบรอบ 400ปี ที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสค้นพบอเมริกา) , San Fancisco 1915 , New York 1939 , Brussels 1958 , Seattle 1962 , Osaka 1970 และ Shanghai 2010 เพื่อปูทางไปกับงาน World Expo ที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งที่ Osaka 2025
นอกจากรายละเอียดเกี่ยวกับงาน World Expo แล้ว ทางผู้เขียนยังสอดแทรกเกร็ดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น เรื่องราวของ Crystal Palace ที่สร้างขึ้นที่ลอนดอนจนมาเป็นสโมสรฟุตบอล , เรื่องราวของการถกเถียงก่อนจะสร้างหอไอเฟล , เหตุการณ์ก่อนที่อเมริการจะประกาศอิสรภาพ , การปฎิวัติที่ฝรั่งเศส , การสร้างคลองปานามา และอื่นๆอีกมากมาย
หนังสือเล่มนี้เหมาะมากๆที่จะเป็นความรู้พื่นฐานที่จะต่อยอดความสนใจในเรื่องงาน World Expo เป็นอย่างดี
#WorldExpoRevisted #ย้อนรอายประวัติศาสตร์ยุคอุตสาหกรรมผ่านงานนิทรรศการโลก #รีวิวหนังสือ
เรื่องนี้ไม่เคยรู้… ผู้เขียนเล่าเรื่องงาน World Expo โดยเล่าถึงประวัติความเป็นมา และหยิบเอางาน World Expo ที่เด่นๆ ประมาณ 10ครั้ง มาเล่าถึงที่มาที่ไป การเลือกสถานที่จัดงาน(ซึ่งใหญ่โตมาก) และสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สร้างขึ้นเพื่องาน World Expo โดยเฉพาะ เช่น Crystal Palace , หอ ไอเฟล หรือ อาคารอะโตเมียมที่เบลเยี่ยม นอกจากนี้ผู้เขียนที่เขียนเรื่องเก่งมากๆ ยังโยงเรื่องราวในประวัติศาสตร์ในช่วงนั้นๆมาเล่าประกบคู่กับงาน World Expo ได้อย่างไหลลื่น สนุก และเต็มไปด้วยสาระทางประวัติศาสตร์
หนังสือเล่มนี้บอกเราถึงเรื่องที่ไม่เคยรู้มากก่อน เช่น งาน World Expo ที่มีจัดขึ้นทุกๆ 5ปี และกว่าแต่ละประเทศที่จะได้จัดงานนี้ต้องได้รับการตัดสินผ่าน สำนักนิทรรศการระหว่างประเทศ (BIE) ซึ่งเป็นองค์กรจัดการงาน World Expo
งาน World Expo จะต้องจัดอย่างน้อย 6เดือน และมีผู้เข้าชมครั้งหนึ่งหลายสิบล้านคน โดยการจัดงานจะเป็นงานที่มีธีมงานชัดเจน เพื่อจะแสดงให้เห็นศักยภาพของประเทศนั้นๆ เช่นในครั้งแรกที่จัดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ จัดขึ้นในปี ค.ศ.1851 (173ปีที่แล้ว) อังกฤษแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมเครื่องจักรไอน้ำที่โดดเด่นเป็นต้น
งาน World Expo ที่ผู้เขียนหยิบมาเล่าให้อ่านได้แก่ London 1851 , Philadelphia 1876(ครบรอบ 100ปี จากการประกาศอิศรภาพ) , Paris 1889 , Chcago 1893 (ครบรอบ 400ปี ที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสค้นพบอเมริกา) , San Fancisco 1915 , New York 1939 , Brussels 1958 , Seattle 1962 , Osaka 1970 และ Shanghai 2010 เพื่อปูทางไปกับงาน World Expo ที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งที่ Osaka 2025
นอกจากรายละเอียดเกี่ยวกับงาน World Expo แล้ว ทางผู้เขียนยังสอดแทรกเกร็ดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น เรื่องราวของ Crystal Palace ที่สร้างขึ้นที่ลอนดอนจนมาเป็นสโมสรฟุตบอล , เรื่องราวของการถกเถียงก่อนจะสร้างหอไอเฟล , เหตุการณ์ก่อนที่อเมริการจะประกาศอิสรภาพ , การปฎิวัติที่ฝรั่งเศส , การสร้างคลองปานามา และอื่นๆอีกมากมาย
หนังสือเล่มนี้เหมาะมากๆที่จะเป็นความรู้พื่นฐานที่จะต่อยอดความสนใจในเรื่องงาน World Expo เป็นอย่างดี
#WorldExpoRevisted #ย้อนรอายประวัติศาสตร์ยุคอุตสาหกรรมผ่านงานนิทรรศการโลก #รีวิวหนังสือ
World Expo Revisted ย้อนรอายประวัติศาสตร์ยุคอุตสาหกรรมผ่านงานนิทรรศการโลก
เรื่องนี้ไม่เคยรู้… ผู้เขียนเล่าเรื่องงาน World Expo โดยเล่าถึงประวัติความเป็นมา และหยิบเอางาน World Expo ที่เด่นๆ ประมาณ 10ครั้ง มาเล่าถึงที่มาที่ไป การเลือกสถานที่จัดงาน(ซึ่งใหญ่โตมาก) และสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สร้างขึ้นเพื่องาน World Expo โดยเฉพาะ เช่น Crystal Palace , หอ ไอเฟล หรือ อาคารอะโตเมียมที่เบลเยี่ยม นอกจากนี้ผู้เขียนที่เขียนเรื่องเก่งมากๆ ยังโยงเรื่องราวในประวัติศาสตร์ในช่วงนั้นๆมาเล่าประกบคู่กับงาน World Expo ได้อย่างไหลลื่น สนุก และเต็มไปด้วยสาระทางประวัติศาสตร์
หนังสือเล่มนี้บอกเราถึงเรื่องที่ไม่เคยรู้มากก่อน เช่น งาน World Expo ที่มีจัดขึ้นทุกๆ 5ปี และกว่าแต่ละประเทศที่จะได้จัดงานนี้ต้องได้รับการตัดสินผ่าน สำนักนิทรรศการระหว่างประเทศ (BIE) ซึ่งเป็นองค์กรจัดการงาน World Expo
งาน World Expo จะต้องจัดอย่างน้อย 6เดือน และมีผู้เข้าชมครั้งหนึ่งหลายสิบล้านคน โดยการจัดงานจะเป็นงานที่มีธีมงานชัดเจน เพื่อจะแสดงให้เห็นศักยภาพของประเทศนั้นๆ เช่นในครั้งแรกที่จัดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ จัดขึ้นในปี ค.ศ.1851 (173ปีที่แล้ว) อังกฤษแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมเครื่องจักรไอน้ำที่โดดเด่นเป็นต้น
งาน World Expo ที่ผู้เขียนหยิบมาเล่าให้อ่านได้แก่ London 1851 , Philadelphia 1876(ครบรอบ 100ปี จากการประกาศอิศรภาพ) , Paris 1889 , Chcago 1893 (ครบรอบ 400ปี ที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสค้นพบอเมริกา) , San Fancisco 1915 , New York 1939 , Brussels 1958 , Seattle 1962 , Osaka 1970 และ Shanghai 2010 เพื่อปูทางไปกับงาน World Expo ที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งที่ Osaka 2025
นอกจากรายละเอียดเกี่ยวกับงาน World Expo แล้ว ทางผู้เขียนยังสอดแทรกเกร็ดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น เรื่องราวของ Crystal Palace ที่สร้างขึ้นที่ลอนดอนจนมาเป็นสโมสรฟุตบอล , เรื่องราวของการถกเถียงก่อนจะสร้างหอไอเฟล , เหตุการณ์ก่อนที่อเมริการจะประกาศอิสรภาพ , การปฎิวัติที่ฝรั่งเศส , การสร้างคลองปานามา และอื่นๆอีกมากมาย
หนังสือเล่มนี้เหมาะมากๆที่จะเป็นความรู้พื่นฐานที่จะต่อยอดความสนใจในเรื่องงาน World Expo เป็นอย่างดี
#WorldExpoRevisted #ย้อนรอายประวัติศาสตร์ยุคอุตสาหกรรมผ่านงานนิทรรศการโลก #รีวิวหนังสือ
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
13 มุมมอง
0 รีวิว