• https://youtu.be/bCsJIZzPYm8?si=csHDP9sZi6SF7RSY
    https://youtu.be/bCsJIZzPYm8?si=csHDP9sZi6SF7RSY
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/Zsr1kP1-UBo?si=LQAKe9SW0TEW1ZG_
    https://youtube.com/shorts/Zsr1kP1-UBo?si=LQAKe9SW0TEW1ZG_
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/nxzAh9480po?si=LivWnHdf5mLpxtsz
    https://youtu.be/nxzAh9480po?si=LivWnHdf5mLpxtsz
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/Z-vPo5TagMU?si=HBngEmGnvy-u_KXO
    https://youtu.be/Z-vPo5TagMU?si=HBngEmGnvy-u_KXO
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/E1CgT8I3v3Q?si=4wuD3twhugSAGvgg
    https://youtu.be/E1CgT8I3v3Q?si=4wuD3twhugSAGvgg
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/3gvN-jxXH6k?si=eZKBVxqWYTq9JgS3
    https://youtube.com/shorts/3gvN-jxXH6k?si=eZKBVxqWYTq9JgS3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/eDgh-0MKIuk?si=N-_vcHyPDtHs-dyV
    https://youtu.be/eDgh-0MKIuk?si=N-_vcHyPDtHs-dyV
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/KWCz1QCj4mk?si=OpgqCfw1tbWnbXE5
    https://youtube.com/shorts/KWCz1QCj4mk?si=OpgqCfw1tbWnbXE5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/tCQdRP8Y374?si=ZgJIu1e1ZERO_Pyv
    https://youtu.be/tCQdRP8Y374?si=ZgJIu1e1ZERO_Pyv
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกไทยตัวตลกเขมร
    นายกไทยตัวตลกเขมร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเหตุของความเกิดแห่งโลก(ธาตุ)​มนุษย์(ปัญจุปาทานขันธ์)
    สัทธรรมลำดับที่ : 298
    ชื่อบทธรรม :- อาการเกิดขึ้นแห่งโลก
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=298
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อาการเกิดขึ้นแห่งโลก
    --ภิกษุ ท. ! การก่อขึ้นแห่งโลก (#ปัญจุปาทานขันธ์) เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย ตา ด้วย รูปด้วย จึงเกิดจักขุวิญญาณขึ้น ;
    การประจวบพร้อม (แห่งตา+รูป+จักขุวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ;
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมี เวทนา ;
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    นี่คือ #การก่อขึ้นแห่งโลก.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย หู ด้วย เสียงด้วย จึงเกิดโสตวิญญาณขึ้น ;
    การประจวบพร้อม (แห่งหู+เสียง+โสตวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ;
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    นี่คือ #การก่อขึ้นแห่งโลก.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย จมูก ด้วยกลิ่นด้วย จึงเกิดฆานวิญญาณขึ้น ;
    การประจวบพร้อม (แห่งจมูก+กลิ่น+ฆานวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ;
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    นี่คือ #การก่อขึ้นแห่งโลก.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย ลิ้น ด้วย รสด้วย จึงเกิดชิวหาวิญญาณขึ้น;
    การประจวบพร้อม(แห่งลิ้น+รส+ชิวหาวิญญาณ)ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ;
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    นี่คือ #การก่อขึ้นแห่งโลก.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย กาย ด้วย โผฏฐัพพะด้วย จึงเกิดกายวิญญาณขึ้น ;
    การประจวบพร้อม (แห่งกาย+โผฏฐัพพะ+กายวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ;
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    นี่คือ #การก่อขึ้นแห่งโลก.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย ใจ ด้วย ธรรมารมณ์ด้วย จึงเกิดมโนวิญญาณขึ้น ;
    การประจวบพร้อม (แห่งใจ+ธรรมารมณ์+มโนวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ;
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก.
    --ภิกษุ ท. ! นี่คือ #การก่อขึ้นแห่งโลก(โลกสฺส สมุทโย)​ แล.-
    http://etipitaka.com/read/pali/18/108/?keywords=โลกสฺส+สมุทโย

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/90/156.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/90/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๐๘/๑๕๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/108/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%96
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=298
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20&id=298
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20
    ลำดับสาธยายธรรม : 20 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_20.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเหตุของความเกิดแห่งโลก(ธาตุ)​มนุษย์(ปัญจุปาทานขันธ์) สัทธรรมลำดับที่ : 298 ชื่อบทธรรม :- อาการเกิดขึ้นแห่งโลก https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=298 เนื้อความทั้งหมด :- --อาการเกิดขึ้นแห่งโลก --ภิกษุ ท. ! การก่อขึ้นแห่งโลก (#ปัญจุปาทานขันธ์) เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย ตา ด้วย รูปด้วย จึงเกิดจักขุวิญญาณขึ้น ; การประจวบพร้อม (แห่งตา+รูป+จักขุวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมี เวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ #การก่อขึ้นแห่งโลก. --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย หู ด้วย เสียงด้วย จึงเกิดโสตวิญญาณขึ้น ; การประจวบพร้อม (แห่งหู+เสียง+โสตวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ #การก่อขึ้นแห่งโลก. --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย จมูก ด้วยกลิ่นด้วย จึงเกิดฆานวิญญาณขึ้น ; การประจวบพร้อม (แห่งจมูก+กลิ่น+ฆานวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ #การก่อขึ้นแห่งโลก. --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย ลิ้น ด้วย รสด้วย จึงเกิดชิวหาวิญญาณขึ้น; การประจวบพร้อม(แห่งลิ้น+รส+ชิวหาวิญญาณ)ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ #การก่อขึ้นแห่งโลก. --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย กาย ด้วย โผฏฐัพพะด้วย จึงเกิดกายวิญญาณขึ้น ; การประจวบพร้อม (แห่งกาย+โผฏฐัพพะ+กายวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ #การก่อขึ้นแห่งโลก. --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย ใจ ด้วย ธรรมารมณ์ด้วย จึงเกิดมโนวิญญาณขึ้น ; การประจวบพร้อม (แห่งใจ+ธรรมารมณ์+มโนวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก. --ภิกษุ ท. ! นี่คือ #การก่อขึ้นแห่งโลก(โลกสฺส สมุทโย)​ แล.- http://etipitaka.com/read/pali/18/108/?keywords=โลกสฺส+สมุทโย #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/90/156. http://etipitaka.com/read/thai/18/90/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๐๘/๑๕๖. http://etipitaka.com/read/pali/18/108/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%96 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=298 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20&id=298 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20 ลำดับสาธยายธรรม : 20 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_20.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อาการเกิดขึ้นแห่งโลก
    -อาการเกิดขึ้นแห่งโลก ภิกษุ ท. ! การก่อขึ้นแห่งโลก (ปัญจุปาทานขันธ์) เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย ตา ด้วย รูปด้วย จึงเกิดจักขุวิญญาณขึ้น ; การประจวบพร้อม (แห่งตา+รูป+จักขุวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมี เวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก. ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย หู ด้วย เสียงด้วย จึงเกิดโสตวิญญาณขึ้น ; การประจวบพร้อม (แห่งหู+เสียง+โสตวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก. ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย จมูก ด้วยกลิ่นด้วย จึงเกิดฆานวิญญาณขึ้น ; การประจวบพร้อม (แห่งจมูก+กลิ่น+ฆานวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก. ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย ลิ้น ด้วย รสด้วย จึงเกิดชิวหาวิญญาณขึ้น ; การประจวบพร้อม (แห่งลิ้น+รส+ชิวหาวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก. ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย กาย ด้วย โผฏฐัพพะด้วย จึงเกิดกายวิญญาณขึ้น ; การประจวบพร้อม (แห่งกาย+โผฏฐัพพะ+กายวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก. ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัย ใจ ด้วย ธรรมารมณ์ด้วย จึงเกิดมโนวิญญาณขึ้น ; การประจวบพร้อม (แห่งใจ+ธรรมารมณ์+มโนวิญญาณ) ทั้งสามอย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก. ภิกษุ ท. ! นี่คือ การก่อขึ้นแห่งโลก แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาวิธีการบ่มวิมุตติให้ถึงที่สุด
    สัทธรรมลำดับที่ : 666
    ชื่อบทธรรม :- วิธีการบ่มวิมุตติให้ถึงที่สุด
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=666
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --วิธีการบ่มวิมุตติให้ถึงที่สุด
    --เมฆิยะ ! ธรรมทั้งหลาย ๕ ประการ เป็นไปเพื่อความสุกรอบ (ปริปาก) ของเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ. ห้าประการอย่างไรเล่า? ห้าประการคือ :-
    ๑. เมฆิยะ ! ในกรณีนี้ ภิกษุเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี
    : เมฆิยะ ! นี้เป็นธรรมข้อหนึ่ง เป็นไปเพื่อความสุกรอบของเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ.
    ๒. เมฆิยะ ! ข้ออื่นยังมีอีก, คือภิกษุเป็นผู้มีศีล สำรวมแล้วด้วยการสำรวมในปาติโมกข์ ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้มีประมาณน้อย สมาทานอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย :
    +--เมฆิยะ ! นี้ เป็นธรรมข้อที่สอง เป็นไปเพื่อความสุกรอบของเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ.
    ๓. เมฆิยะ ! ข้ออื่นยังมีอีก, คือ ภิกษุเป็นผู้ได้ตามปรารถนา ได้ไม่ยาก ได้ไม่ลำบาก ซึ่งธรรมกถาอันเป็นเครื่องขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง เป็นที่สบาย แก่การเปิดโล่งแห่งจิต คือ
    อัปปิจฉกถา (ให้ปรารถนาน้อย)
    สันตุฏฐิกถา (ให้สันโดษ)
    ปวิเวกกถา (ให้สงัด)
    อสังสัคคกถา (ให้ไม่คลุกคลีด้วยหมู่)
    วิริยารัมภกถา (ให้ปรารภเพียร)
    สีลกถา (ให้มีศีล)
    สมาธิกถา (ให้มีสมาธิ)
    ปัญญากถา (ให้มีปัญญา)
    วิมุตติกถา (ให้เกิดวิมุตติ)
    วิมุตติญาณทัสสนกถา (ให้เกิดวิมุตติญาณทัสสนะ) :
    +--เมฆิยะ ! นี้เป็นธรรมข้อที่สาม เป็นไปเพื่อความสุกรอบของเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ.
    ๔. เมฆิยะ ! ข้ออื่นยังมีอีก คือภิกษุเป็นผู้มีความเพียรอันปรารภแล้ว
    เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย เพื่อยังกุศลธรรมทั้งหลายให้ถึงพร้อม
    เป็นผู้มีกำลังมีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย :
    +--เมฆิยะ ! นี้เป็นธรรมข้อที่สี่ เป็นไปเพื่อความสุกรอบของเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ.
    ๕. เมฆิยะ ! ข้ออื่นยังมีอีก คือภิกษุ เป็นผู้ มีปัญญา ประกอบด้วยปัญญาเป็นเครื่องถึงธรรมสัจจะแห่งการตั้งขึ้นและการตั้งอยู่ไม่ได้ อันเป็นอริยะ เป็นเครื่องชำแรกกิเลส ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ :
    +--เมฆิยะ ! นี้เป็นธรรมข้อที่ห้า เป็นไปเพื่อความสุกรอบแห่งเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ.

    --เมฆิยะ ! เมื่อภิกษุเป็นผู้มีมิตรดี สหายดี เพื่อนดี,
    ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่เธอพึงหวังได้ คือ
    จักเป็นผู้มีศีล ฯลฯ,
    จักได้โดยง่ายซึ่งธรรมกถา ฯลฯ,
    จักเป็นผู้ปรารภความเพียร ฯลฯ,
    จักเป็นผู้มีปัญญา ฯลฯ.
    +--เมฆิยะ ! ภิกษุนั้น ตั้งอยู่ในธรรม ๕ ประการเหล่านี้แล้ว

    พึงเจริญธรรมสี่ประการให้ยิ่งขึ้นไป คือ :-
    ๑--เจริญ อสุภะ เพื่อ ละราคะ.
    ๒--เจริญ เมตตา เพื่อ ละพยาบาท.
    ๓--เจริญ อานาปานสติ เพื่อ ตัดเสียซึ่งวิตก.
    ๔--เจริญ อนิจจสัญญา เพื่อ ถอนอัส๎มิมานะ ;
    กล่าวคือ
    เมื่อเจริญอนิจจสัญญา อนัตตาสัญญาย่อมมั่นคง.
    ผู้มีอนัตตสัญญา ย่อมถึงซึ่งการถอนอัส๎มิมานะ คือ #นิพพานในทิฏฐธรรม
    นั่นเทียว.-
    http://etipitaka.com/read/pali/23/371/?keywords=ทิฏฺเฐว+ธมฺเม+นิพฺพานนฺติ
    (--ธรรมะ ๕ ประการแห่งสูตรนี้เรียกในสูตรนี้ว่า “#เครื่องบ่มวิมุตติ”
    ในสูตรอื่น (นวก. อํ. ๒๓/๓๖๔/๒๐๕)
    http://etipitaka.com/read/pali/23/364/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%95
    เรียกว่า “#ที่ตั้งอาศัยแห่งการเจริญสัมโพธิปักขิยธรรม” ก็มี
    )

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นวก. อํ. 23/288/207.
    http://etipitaka.com/read/thai/23/288/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%97
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นวก. อํ. ๒๓/๓๖๙/๒๐๗.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/366/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%97
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=666
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46&id=666
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46
    ลำดับสาธยายธรรม : 46 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_46.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาวิธีการบ่มวิมุตติให้ถึงที่สุด สัทธรรมลำดับที่ : 666 ชื่อบทธรรม :- วิธีการบ่มวิมุตติให้ถึงที่สุด https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=666 เนื้อความทั้งหมด :- --วิธีการบ่มวิมุตติให้ถึงที่สุด --เมฆิยะ ! ธรรมทั้งหลาย ๕ ประการ เป็นไปเพื่อความสุกรอบ (ปริปาก) ของเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ. ห้าประการอย่างไรเล่า? ห้าประการคือ :- ๑. เมฆิยะ ! ในกรณีนี้ ภิกษุเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี : เมฆิยะ ! นี้เป็นธรรมข้อหนึ่ง เป็นไปเพื่อความสุกรอบของเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ. ๒. เมฆิยะ ! ข้ออื่นยังมีอีก, คือภิกษุเป็นผู้มีศีล สำรวมแล้วด้วยการสำรวมในปาติโมกข์ ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้มีประมาณน้อย สมาทานอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย : +--เมฆิยะ ! นี้ เป็นธรรมข้อที่สอง เป็นไปเพื่อความสุกรอบของเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ. ๓. เมฆิยะ ! ข้ออื่นยังมีอีก, คือ ภิกษุเป็นผู้ได้ตามปรารถนา ได้ไม่ยาก ได้ไม่ลำบาก ซึ่งธรรมกถาอันเป็นเครื่องขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง เป็นที่สบาย แก่การเปิดโล่งแห่งจิต คือ อัปปิจฉกถา (ให้ปรารถนาน้อย) สันตุฏฐิกถา (ให้สันโดษ) ปวิเวกกถา (ให้สงัด) อสังสัคคกถา (ให้ไม่คลุกคลีด้วยหมู่) วิริยารัมภกถา (ให้ปรารภเพียร) สีลกถา (ให้มีศีล) สมาธิกถา (ให้มีสมาธิ) ปัญญากถา (ให้มีปัญญา) วิมุตติกถา (ให้เกิดวิมุตติ) วิมุตติญาณทัสสนกถา (ให้เกิดวิมุตติญาณทัสสนะ) : +--เมฆิยะ ! นี้เป็นธรรมข้อที่สาม เป็นไปเพื่อความสุกรอบของเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ. ๔. เมฆิยะ ! ข้ออื่นยังมีอีก คือภิกษุเป็นผู้มีความเพียรอันปรารภแล้ว เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย เพื่อยังกุศลธรรมทั้งหลายให้ถึงพร้อม เป็นผู้มีกำลังมีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย : +--เมฆิยะ ! นี้เป็นธรรมข้อที่สี่ เป็นไปเพื่อความสุกรอบของเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ. ๕. เมฆิยะ ! ข้ออื่นยังมีอีก คือภิกษุ เป็นผู้ มีปัญญา ประกอบด้วยปัญญาเป็นเครื่องถึงธรรมสัจจะแห่งการตั้งขึ้นและการตั้งอยู่ไม่ได้ อันเป็นอริยะ เป็นเครื่องชำแรกกิเลส ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ : +--เมฆิยะ ! นี้เป็นธรรมข้อที่ห้า เป็นไปเพื่อความสุกรอบแห่งเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ. --เมฆิยะ ! เมื่อภิกษุเป็นผู้มีมิตรดี สหายดี เพื่อนดี, ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่เธอพึงหวังได้ คือ จักเป็นผู้มีศีล ฯลฯ, จักได้โดยง่ายซึ่งธรรมกถา ฯลฯ, จักเป็นผู้ปรารภความเพียร ฯลฯ, จักเป็นผู้มีปัญญา ฯลฯ. +--เมฆิยะ ! ภิกษุนั้น ตั้งอยู่ในธรรม ๕ ประการเหล่านี้แล้ว พึงเจริญธรรมสี่ประการให้ยิ่งขึ้นไป คือ :- ๑--เจริญ อสุภะ เพื่อ ละราคะ. ๒--เจริญ เมตตา เพื่อ ละพยาบาท. ๓--เจริญ อานาปานสติ เพื่อ ตัดเสียซึ่งวิตก. ๔--เจริญ อนิจจสัญญา เพื่อ ถอนอัส๎มิมานะ ; กล่าวคือ เมื่อเจริญอนิจจสัญญา อนัตตาสัญญาย่อมมั่นคง. ผู้มีอนัตตสัญญา ย่อมถึงซึ่งการถอนอัส๎มิมานะ คือ #นิพพานในทิฏฐธรรม นั่นเทียว.- http://etipitaka.com/read/pali/23/371/?keywords=ทิฏฺเฐว+ธมฺเม+นิพฺพานนฺติ (--ธรรมะ ๕ ประการแห่งสูตรนี้เรียกในสูตรนี้ว่า “#เครื่องบ่มวิมุตติ” ในสูตรอื่น (นวก. อํ. ๒๓/๓๖๔/๒๐๕) http://etipitaka.com/read/pali/23/364/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%95 เรียกว่า “#ที่ตั้งอาศัยแห่งการเจริญสัมโพธิปักขิยธรรม” ก็มี ) #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นวก. อํ. 23/288/207. http://etipitaka.com/read/thai/23/288/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นวก. อํ. ๒๓/๓๖๙/๒๐๗. http://etipitaka.com/read/pali/23/366/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%97 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=666 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46&id=666 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46 ลำดับสาธยายธรรม : 46 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_46.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - วิธีการบ่มวิมุตติให้ถึงที่สุด
    -วิธีการบ่มวิมุตติให้ถึงที่สุด เมฆิยะ ! ธรรมทั้งหลาย ๕ ประการ เป็นไปเพื่อความสุกรอบ (ปริปาก) ของเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ. ห้าประการอย่างไรเล่า? ห้าประการคือ : ๑. เมฆิยะ ! ในกรณีนี้ ภิกษุเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี : เมฆิยะ ! นี้เป็นธรรมข้อหนึ่ง เป็นไปเพื่อความสุกรอบของเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ. ๒. เมฆิยะ ! ข้ออื่นยังมีอีก, คือภิกษุเป็นผู้มีศีล สำรวมแล้วด้วยการสำรวมในปาติโมกข์ ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้มีประมาณน้อย สมาทานอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย : เมฆิยะ ! นี้ เป็นธรรมข้อที่สอง เป็นไปเพื่อความสุกรอบของเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ. ๓. เมฆิยะ ! ข้ออื่นยังมีอีก, คือ ภิกษุเป็นผู้ได้ตามปรารถนา ได้ไม่ยาก ได้ไม่ลำบาก ซึ่งธรรมกถาอันเป็นเครื่องขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง เป็นที่สบาย แก่การเปิดโล่งแห่งจิต คืออัปปิจฉกถา (ให้ปรารถนาน้อย) สันตุฏฐิกถา (ให้สันโดษ) ปวิเวกกถา (ให้สงัด) อสังสัคคกถา (ให้ไม่คลุกคลีด้วยหมู่) วิริยารัมภกถา (ให้ปรารภเพียร) สีลกถา (ให้มีศีล) สมาธิกถา (ให้มีสมาธิ) ปัญญากถา (ให้มีปัญญา) วิมุตติกถา (ให้เกิดวิมุตติ) วิมุตติญาณทัสสนกถา (ให้เกิดวิมุตติญาณทัสสนะ) : เมฆิยะ ! นี้เป็นธรรมข้อที่สาม เป็นไปเพื่อความสุกรอบของเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ. ๔. เมฆิยะ ! ข้ออื่นยังมีอีก คือภิกษุเป็นผู้มีความเพียรอันปรารภแล้ว เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย เพื่อยังกุศลธรรมทั้งหลายให้ถึงพร้อม เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย : เมฆิยะ ! นี้เป็นธรรมข้อที่สี่ เป็นไปเพื่อความสุกรอบของเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ. ๕. เมฆิยะ ! ข้ออื่นยังมีอีก คือภิกษุ เป็นผู้ มีปัญญา ประกอบด้วยปัญญาเป็นเครื่องถึงธรรมสัจจะแห่งการตั้งขึ้นและการตั้งอยู่ไม่ได้ อันเป็นอริยะ เป็นเครื่องชำแรกกิเลส ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ : เมฆิยะ ! นี้เป็นธรรมข้อที่ห้า เป็นไปเพื่อความสุกรอบแห่งเจโตวิมุตติที่ยังไม่สุกรอบ. เมฆิยะ ! เมื่อภิกษุเป็นผู้มีมิตรดี สหายดี เพื่อนดี, ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่เธอพึงหวังได้ คือจักเป็นผู้มีศีล ฯลฯ, จักได้โดยง่ายซึ่งธรรมกถา ฯลฯ, จักเป็นผู้ปรารภความเพียร ฯลฯ, จักเป็นผู้มีปัญญา ฯลฯ. เมฆิยะ ! ภิกษุนั้น ตั้งอยู่ในธรรม ๕ ประการเหล่านี้แล้ว พึงเจริญธรรมสี่ประการให้ยิ่งขึ้นไป คือ : เจริญ อสุภะ เพื่อ ละราคะ. เจริญ เมตตา เพื่อ ละพยาบาท. เจริญ อานาปานสติ เพื่อ ตัดเสียซึ่งวิตก. เจริญ อนิจจสัญญา เพื่อ ถอนอัส๎มิมานะ ; กล่าวคือ เมื่อเจริญอนิจจสัญญา อนัตตาสัญญาย่อมมั่นคง. ผู้มีอนัตตสัญญา ย่อมถึงซึ่งการถอนอัส๎มิมานะ คือ นิพพานในทิฏฐธรรม นั่นเทียว.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​องค์แห่งมรรคที่เป็นเสขะของเสขบุคคล
    สัทธรรมลำดับที่ : 1034
    ชื่อบทธรรม :- องค์แห่งมรรคที่เป็นเสขะของเสขบุคคล
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1034
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --องค์แห่งมรรคที่เป็นเสขะของเสขบุคคล
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า
    ‘เสขะ (บุคคล) เสขะ (บุคคล)’ ดังนี้;
    บุคคล เป็นเสขะ ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไรเล่า พระเจ้าข้า ?”
    --ภิกษุ ! บุคคลในกรณีนี้ :-
    ๑--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาทิฏฐิ อันเป็นเสขะ
    ๒--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาสังกัปปะ อันเป็นเสขะ
    ๓--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาวาจา อันเป็นเสขะ
    ๔--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมากัมมันตะ อันเป็นเสขะ
    ๕--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาอาชีวะ อันเป็นเสขะ
    ๖--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาวายามะ อันเป็นเสขะ
    ๗--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาสติ อันเป็นเสขะ
    ๘--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาสมาธิ อันเป็นเสขะ.
    --ภิกษุ ! ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล #บุคคลชื่อว่าเป็นเสขะ.-
    http://etipitaka.com/read/pali/19/18/?keywords=เสกฺโข

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/13/51.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/13/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๑๗/๕๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/17/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%91
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1034
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=90&id=1034
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=90
    ลำดับสาธยายธรรม : 90 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_90.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​องค์แห่งมรรคที่เป็นเสขะของเสขบุคคล สัทธรรมลำดับที่ : 1034 ชื่อบทธรรม :- องค์แห่งมรรคที่เป็นเสขะของเสขบุคคล https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1034 เนื้อความทั้งหมด :- --องค์แห่งมรรคที่เป็นเสขะของเสขบุคคล --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า ‘เสขะ (บุคคล) เสขะ (บุคคล)’ ดังนี้; บุคคล เป็นเสขะ ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไรเล่า พระเจ้าข้า ?” --ภิกษุ ! บุคคลในกรณีนี้ :- ๑--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาทิฏฐิ อันเป็นเสขะ ๒--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาสังกัปปะ อันเป็นเสขะ ๓--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาวาจา อันเป็นเสขะ ๔--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมากัมมันตะ อันเป็นเสขะ ๕--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาอาชีวะ อันเป็นเสขะ ๖--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาวายามะ อันเป็นเสขะ ๗--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาสติ อันเป็นเสขะ ๘--เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาสมาธิ อันเป็นเสขะ. --ภิกษุ ! ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล #บุคคลชื่อว่าเป็นเสขะ.- http://etipitaka.com/read/pali/19/18/?keywords=เสกฺโข #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/13/51. http://etipitaka.com/read/thai/19/13/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๑๗/๕๑. http://etipitaka.com/read/pali/19/17/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%91 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1034 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=90&id=1034 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=90 ลำดับสาธยายธรรม : 90 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_90.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - องค์แห่งมรรคที่เป็นเสขะของเสขบุคคล
    -องค์แห่งมรรคที่เป็นเสขะของเสขบุคคล “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า ‘เสขะ (บุคคล) เสขะ (บุคคล)’ ดังนี้; บุคคล เป็นเสขะ ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไรเล่า พระเจ้าข้า ?” ภิกษุ ! บุคคลในกรณีนี้ : เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาทิฏฐิ อันเป็นเสขะ เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาสังกัปปะ อันเป็นเสขะ เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาวาจา อันเป็นเสขะ เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมากัมมันตะ อันเป็นเสขะ เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาอาชีวะ อันเป็นเสขะ เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาวายามะ อันเป็นเสขะ เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาสติ อันเป็นเสขะ เป็นผู้ประกอบด้วย สัมมาสมาธิ อันเป็นเสขะ. ภิกษุ ! ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล บุคคลชื่อว่าเป็นเสขะ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • #28มิ.ย 2568พบกันอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ#see you.😊🤝❤🇹🇭❤🤝📣✌
    #28มิ.ย 2568พบกันอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ#see you.😊🤝❤🇹🇭❤🤝📣✌
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • #ไม่มีแผ่นดินสิ้นชาติ ใจคนผงาดลุกขึ้นสู้✌
    #ไม่มีแผ่นดินสิ้นชาติ ใจคนผงาดลุกขึ้นสู้✌
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/DkkxWsQG2pQ?si=fq3zjyIlk_jfzPNA
    https://youtu.be/DkkxWsQG2pQ?si=fq3zjyIlk_jfzPNA
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌿 อย่าทำบาปกับพ่อแม่ แล้วหวังให้ชีวิตเป็นบุญ

    หลายคนเผลอคิดว่า
    ‘แค่ไม่ทำร้ายใครก็ไม่เป็นไร’
    แต่กลับลืมไปว่า
    จงใจทำให้คนที่รักเรามากที่สุดเสียใจ
    คือ อกุศลจิตระดับลึก
    ที่เปิดทางให้ชีวิตชักนำอัปมงคลทั้งหลายเข้ามาไม่หยุด

    🔻 รู้ว่าท่านเป็นห่วง
    ก็ยิ่งทำให้เขาห่วงให้สะใจ
    พาเพื่อนแย่ๆ มาให้ดู
    กินเหล้าเมาก่อนขับรถให้ท่านเห็น
    พอท่านเตือน ก็แทงใจดำกลับ
    อ้างว่า “ไม่อยากเกิดมาในบ้านโกโรโกโส”
    นี่แหละ…จิตที่เห็นผิดเป็นชอบ
    และดึงดูดเวรกรรมให้ตามติดไปทุกทาง

    👣 เพราะพ่อแม่คือ รากของชีวิต
    ถ้าแกล้งทำร้ายราก
    อย่าหวังว่าลำต้นจะมั่นคง
    ผลไม้แห่งชีวิตจะหวานชื่นได้เลย

    ✨ ในทางตรงข้าม
    ถ้าจงใจทำให้ท่านเป็นสุขด้วยสติ
    แม้จะไม่ตามใจในทางผิด
    แต่หาทางที่ละมุนละม่อม
    พยายามพูดดีๆ ให้เลิกของมึนเมา
    เลือกทางที่ไม่เบียดเบียนตัวเอง
    แม้โดนด่า โดนเหน็บ ก็ให้ระลึกไว้เสมอว่า...

    "เจตนากุศลของเราคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สุด"
    เพราะนี่คือการทำดีโดยไม่ปรุงหวังให้ใครพอใจ
    แต่ปรารถนาให้ท่านพ้นทุกข์จริงๆ

    🧘‍♂️ หากจะขัดใจพ่อแม่เพื่อเลือกทางธรรม
    เพื่อคนรักที่ดี
    เพื่ออนาคตที่ไม่ผิดศีลธรรม
    แล้วท่านไม่พอใจ
    จงแยกให้ออกว่า
    เราผิดเพราะขัดใจท่านในทางผิด
    หรือ
    ท่านผิดเพราะอยากให้เราตามใจในทางผิด

    🔍 ดูให้ดีๆ ว่า
    วาจาเราเคยแทงใจดำท่านด้วยอารมณ์หรือไม่?
    ถ้าไม่…
    แต่ท่านยังทุกข์เพราะเราไม่ตามใจ
    ให้รู้ว่าเป็น กรรมของท่านที่ยึด
    ไม่ใช่กรรมของเราที่ชั่ว

    🙏 พระพุทธเจ้าตรัสว่า
    การตอบแทนคุณพ่อแม่ คือบุญสูงสุด
    ไม่ใช่ตามใจไปในทางเสื่อม
    แต่คือการช่วยท่าน พลิกจากมิจฉาทิฏฐิเป็นสัมมาทิฏฐิ
    ให้ท่านตื่นจากโมหะ แล้วเห็นว่าชีวิตมีทางดีให้เลือกได้

    🕯️ จงจำไว้ว่า…
    ใครที่ทำพ่อแม่ทุกข์ด้วยความสะใจ
    ชีวิตเขาจะมีแต่เรื่องมืดๆ ดึงให้เขว ให้หลง
    แต่ใครที่ทำพ่อแม่สุขด้วยสติ
    แม้เดินทางลำบาก ก็จะไม่หลงผิด
    แม้พลาด ก็มีแรงกลับขึ้นเสมอ

    #ธรรมะครอบครัว
    #กตัญญูคือรากแห่งบุญ
    #ทำบุญกับพ่อแม่ให้ถูกทาง
    #ไม่ใช่แค่ตามใจ แต่คือดึงขึ้นจากความหลง
    🌿 อย่าทำบาปกับพ่อแม่ แล้วหวังให้ชีวิตเป็นบุญ หลายคนเผลอคิดว่า ‘แค่ไม่ทำร้ายใครก็ไม่เป็นไร’ แต่กลับลืมไปว่า จงใจทำให้คนที่รักเรามากที่สุดเสียใจ คือ อกุศลจิตระดับลึก ที่เปิดทางให้ชีวิตชักนำอัปมงคลทั้งหลายเข้ามาไม่หยุด 🔻 รู้ว่าท่านเป็นห่วง ก็ยิ่งทำให้เขาห่วงให้สะใจ พาเพื่อนแย่ๆ มาให้ดู กินเหล้าเมาก่อนขับรถให้ท่านเห็น พอท่านเตือน ก็แทงใจดำกลับ อ้างว่า “ไม่อยากเกิดมาในบ้านโกโรโกโส” นี่แหละ…จิตที่เห็นผิดเป็นชอบ และดึงดูดเวรกรรมให้ตามติดไปทุกทาง 👣 เพราะพ่อแม่คือ รากของชีวิต ถ้าแกล้งทำร้ายราก อย่าหวังว่าลำต้นจะมั่นคง ผลไม้แห่งชีวิตจะหวานชื่นได้เลย ✨ ในทางตรงข้าม ถ้าจงใจทำให้ท่านเป็นสุขด้วยสติ แม้จะไม่ตามใจในทางผิด แต่หาทางที่ละมุนละม่อม พยายามพูดดีๆ ให้เลิกของมึนเมา เลือกทางที่ไม่เบียดเบียนตัวเอง แม้โดนด่า โดนเหน็บ ก็ให้ระลึกไว้เสมอว่า... "เจตนากุศลของเราคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สุด" เพราะนี่คือการทำดีโดยไม่ปรุงหวังให้ใครพอใจ แต่ปรารถนาให้ท่านพ้นทุกข์จริงๆ 🧘‍♂️ หากจะขัดใจพ่อแม่เพื่อเลือกทางธรรม เพื่อคนรักที่ดี เพื่ออนาคตที่ไม่ผิดศีลธรรม แล้วท่านไม่พอใจ จงแยกให้ออกว่า เราผิดเพราะขัดใจท่านในทางผิด หรือ ท่านผิดเพราะอยากให้เราตามใจในทางผิด 🔍 ดูให้ดีๆ ว่า วาจาเราเคยแทงใจดำท่านด้วยอารมณ์หรือไม่? ถ้าไม่… แต่ท่านยังทุกข์เพราะเราไม่ตามใจ ให้รู้ว่าเป็น กรรมของท่านที่ยึด ไม่ใช่กรรมของเราที่ชั่ว 🙏 พระพุทธเจ้าตรัสว่า การตอบแทนคุณพ่อแม่ คือบุญสูงสุด ไม่ใช่ตามใจไปในทางเสื่อม แต่คือการช่วยท่าน พลิกจากมิจฉาทิฏฐิเป็นสัมมาทิฏฐิ ให้ท่านตื่นจากโมหะ แล้วเห็นว่าชีวิตมีทางดีให้เลือกได้ 🕯️ จงจำไว้ว่า… ใครที่ทำพ่อแม่ทุกข์ด้วยความสะใจ ชีวิตเขาจะมีแต่เรื่องมืดๆ ดึงให้เขว ให้หลง แต่ใครที่ทำพ่อแม่สุขด้วยสติ แม้เดินทางลำบาก ก็จะไม่หลงผิด แม้พลาด ก็มีแรงกลับขึ้นเสมอ #ธรรมะครอบครัว #กตัญญูคือรากแห่งบุญ #ทำบุญกับพ่อแม่ให้ถูกทาง #ไม่ใช่แค่ตามใจ แต่คือดึงขึ้นจากความหลง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sir Hun, if you change your mind will call a doggy. Disclose it surgely.
    Sir Hun, if you change your mind will call a doggy. Disclose it surgely.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • บุญ...
    Cr.Wiwan Boonya
    บุญ... Cr.Wiwan Boonya
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว