อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ามีวิถีภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก
สัทธรรมลำดับที่ : 650
ชื่อบทธรรม :- ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=650
เนื้อความทั้งหมด :-
--ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก
“ข้าแต่พระองค์เจริญ ! ข้าพระองค์เป็นคนชรา
เป็นคนแก่คนเฒ่ามานาน ผ่านวัยมาตามลำดับ.
+--ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมโดยย่อ ขอพระสุคตจงทรงแสดงธรรมโดยย่อ
ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึงรู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า
+--ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึงเป็นทายาทแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า
เถิดพระเจ้าข้า !”
http://etipitaka.com/read/pali/18/90/?keywords=มาลุกฺยปุตฺต
--มาลุงก๎ยบุตร ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร คือ
รูปทั้งหลาย อันรู้สึกกันได้ทางตา เป็นรูปที่ท่านไม่ได้เห็น ไม่เคยเห็น
ที่ท่านกำลังเห็นอยู่ก็ไม่มี ที่ท่านคิดว่าท่านควรจะได้เห็นก็ไม่มี ดังนี้แล้ว
ความพอใจก็ดี ความกำหนัดก็ดี ความรักก็ดี ในรูปเหล่านั้น ย่อมมีแก่ท่านหรือ ?
“ข้อนั้นหามิได้ พระเจ้าข้า !”
(ต่อไปนี้ ได้มีการตรัสถาม และการทูลตอบ
ในทำนองเดียวกันนี้ทุกตัวอักษรผิดกันแต่ชื่อของสิ่งที่นำมากล่าว คือ
ในกรณีแห่ง เสียงอันรู้สึกกันได้ทางหู
ในกรณีแห่ง กลิ่นอันรู้สึกกันได้ทางจมูก
ในกรณีแห่ง รสอันรู้สึกกันได้ทางลิ้น
ในกรณีแห่ง โผฏฐัพพะอันรู้สึกกันได้ทางผิวกาย และ
ในกรณีแห่ง ธรรมารมณ์อันรู้สึกกันได้ทางมโน
).
--มาลุงก๎ยบุตร ! ในบรรดาสิ่งที่ท่าน พึงเห็น พึงฟัง พึงรู้สึก พึงรู้แจ้ง เหล่านั้น :
+--ใน สิ่งที่ท่านเห็นแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าเห็น ;
+--ใน สิ่งที่ท่านฟังแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าได้ยิน ;
+--ใน สิ่งที่ท่านรู้สึกแล้ว (ทางจมูก, ลิ้น, กาย) จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้สึก ;
+--ใน สิ่งที่ท่านรู้แจ้งแล้ว (ทางวิญญาณ) ก็จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้แจ้ง.
--มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดแล ในบรรดาธรรมเหล่านั้น : เมื่อ
สิ่งที่เห็นแล้วสักว่าเห็น,
สิ่งที่ฟังแล้วสักว่าได้ยิน,
สิ่งที่รู้สึกแล้วสักว่ารู้สึก,
สิ่งที่รู้แจ้งแล้วสักว่ารู้แจ้ง,
ดังนี้แล้ว ;
--มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อนั้น ตัวท่านย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น ;
--มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีเพราะเหตุนั้น, เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในที่นั้น ๆ ;
--มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีในที่นั้น ๆ,
เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในโลกอื่น ไม่มีในระหว่างโลกทั้งสอง
: นั่นแหละ
#คือที่สุดแห่งความทุกข์ ดังนี้.
+--“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิต
อันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดาร
ดังต่อไปนี้ :-
+--เห็นรูปแล้วสติหลงลืม ทำในใจซึ่งรูปนิมิตว่าน่ารัก มีจิตกำหนัดแก่กล้าแล้ว
เสวยอารมณ์นั้นอยู่ ความสยบมัวเมาย่อมครอบงำบุคคลนั้น.
เวทนาอันเกิดจากรูป เป็นอเนกประการ ย่อมเจริญแก่เขานั้น.
อภิชฌาและวิหิงสา ย่อมเข้าไปกลุ้มรุมจิตของเขา.
เมื่อสะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่ายังไกลจากนิพพาน.
(ในกรณีแห่ง
การฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย
รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ
ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน
).
+--บุคคลนั้นไม่กำหนัดในรูปทั้งหลาย เห็นรูปแล้ว มีสติเฉพาะ
มีจิตไม่กำหนัดเสวยอารมณ์อยู่ ความสยบมัวเมาย่อมไม่ครอบงำบุคคลนั้น.
เมื่อเขาเห็นอยู่ซึ่งรูปตามที่เป็นจริง เสวยเวทนาอยู่ ทุกข์ก็สิ้นไป ๆ ไม่เพิ่มพูนขึ้น
เขามีสติประพฤติอยู่ด้วยอาการอย่างนี้.
เมื่อไม่สะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่าอยู่ใกล้ต่อนิพพาน.
(ในกรณีแห่งการ
ฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย
รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ
ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน
).
+--ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิต
อันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดารอย่างนี้ พระเจ้าข้า !”
+--พระผู้มีพระภาค ทรงรับรองความข้อนั้น ว่าเป็นการถูกต้อง.
ท่านมาลุงก๎ยบุตรหลีกออกสู่ที่สงัดกระทำความเพียร
ได้เป็นอรหันต์องค์หนึ่งในศาสนานี้.-
http://etipitaka.com/read/pali/18/95/?keywords=มาลุกฺยปุตฺโต+อรหตํ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. 18/23-28/132-139.
http://etipitaka.com/read/thai/18/23/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%92
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. ๑๘/๙๐-๙๕/๑๓๒-๑๓๙.
http://etipitaka.com/read/pali/18/90/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%92
ศึกษาเพิ่มเติม…
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=650 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=650
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44
ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3 อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ามีวิถีภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก
สัทธรรมลำดับที่ : 650
ชื่อบทธรรม :- ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=650
เนื้อความทั้งหมด :-
--ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก
“ข้าแต่พระองค์เจริญ ! ข้าพระองค์เป็นคนชรา
เป็นคนแก่คนเฒ่ามานาน ผ่านวัยมาตามลำดับ.
+--ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมโดยย่อ ขอพระสุคตจงทรงแสดงธรรมโดยย่อ
ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึงรู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า
+--ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึงเป็นทายาทแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า
เถิดพระเจ้าข้า !”
http://etipitaka.com/read/pali/18/90/?keywords=มาลุกฺยปุตฺต
--มาลุงก๎ยบุตร ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร คือ
รูปทั้งหลาย อันรู้สึกกันได้ทางตา เป็นรูปที่ท่านไม่ได้เห็น ไม่เคยเห็น
ที่ท่านกำลังเห็นอยู่ก็ไม่มี ที่ท่านคิดว่าท่านควรจะได้เห็นก็ไม่มี ดังนี้แล้ว
ความพอใจก็ดี ความกำหนัดก็ดี ความรักก็ดี ในรูปเหล่านั้น ย่อมมีแก่ท่านหรือ ?
“ข้อนั้นหามิได้ พระเจ้าข้า !”
(ต่อไปนี้ ได้มีการตรัสถาม และการทูลตอบ
ในทำนองเดียวกันนี้ทุกตัวอักษรผิดกันแต่ชื่อของสิ่งที่นำมากล่าว คือ
ในกรณีแห่ง เสียงอันรู้สึกกันได้ทางหู
ในกรณีแห่ง กลิ่นอันรู้สึกกันได้ทางจมูก
ในกรณีแห่ง รสอันรู้สึกกันได้ทางลิ้น
ในกรณีแห่ง โผฏฐัพพะอันรู้สึกกันได้ทางผิวกาย และ
ในกรณีแห่ง ธรรมารมณ์อันรู้สึกกันได้ทางมโน
).
--มาลุงก๎ยบุตร ! ในบรรดาสิ่งที่ท่าน พึงเห็น พึงฟัง พึงรู้สึก พึงรู้แจ้ง เหล่านั้น :
+--ใน สิ่งที่ท่านเห็นแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าเห็น ;
+--ใน สิ่งที่ท่านฟังแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าได้ยิน ;
+--ใน สิ่งที่ท่านรู้สึกแล้ว (ทางจมูก, ลิ้น, กาย) จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้สึก ;
+--ใน สิ่งที่ท่านรู้แจ้งแล้ว (ทางวิญญาณ) ก็จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้แจ้ง.
--มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดแล ในบรรดาธรรมเหล่านั้น : เมื่อ
สิ่งที่เห็นแล้วสักว่าเห็น,
สิ่งที่ฟังแล้วสักว่าได้ยิน,
สิ่งที่รู้สึกแล้วสักว่ารู้สึก,
สิ่งที่รู้แจ้งแล้วสักว่ารู้แจ้ง,
ดังนี้แล้ว ;
--มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อนั้น ตัวท่านย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น ;
--มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีเพราะเหตุนั้น, เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในที่นั้น ๆ ;
--มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีในที่นั้น ๆ,
เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในโลกอื่น ไม่มีในระหว่างโลกทั้งสอง
: นั่นแหละ #คือที่สุดแห่งความทุกข์ ดังนี้.
+--“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิต
อันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดาร
ดังต่อไปนี้ :-
+--เห็นรูปแล้วสติหลงลืม ทำในใจซึ่งรูปนิมิตว่าน่ารัก มีจิตกำหนัดแก่กล้าแล้ว
เสวยอารมณ์นั้นอยู่ ความสยบมัวเมาย่อมครอบงำบุคคลนั้น.
เวทนาอันเกิดจากรูป เป็นอเนกประการ ย่อมเจริญแก่เขานั้น.
อภิชฌาและวิหิงสา ย่อมเข้าไปกลุ้มรุมจิตของเขา.
เมื่อสะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่ายังไกลจากนิพพาน.
(ในกรณีแห่ง
การฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย
รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ
ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน
).
+--บุคคลนั้นไม่กำหนัดในรูปทั้งหลาย เห็นรูปแล้ว มีสติเฉพาะ
มีจิตไม่กำหนัดเสวยอารมณ์อยู่ ความสยบมัวเมาย่อมไม่ครอบงำบุคคลนั้น.
เมื่อเขาเห็นอยู่ซึ่งรูปตามที่เป็นจริง เสวยเวทนาอยู่ ทุกข์ก็สิ้นไป ๆ ไม่เพิ่มพูนขึ้น
เขามีสติประพฤติอยู่ด้วยอาการอย่างนี้.
เมื่อไม่สะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่าอยู่ใกล้ต่อนิพพาน.
(ในกรณีแห่งการ
ฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย
รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ
ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน
).
+--ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิต
อันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดารอย่างนี้ พระเจ้าข้า !”
+--พระผู้มีพระภาค ทรงรับรองความข้อนั้น ว่าเป็นการถูกต้อง.
ท่านมาลุงก๎ยบุตรหลีกออกสู่ที่สงัดกระทำความเพียร
ได้เป็นอรหันต์องค์หนึ่งในศาสนานี้.-
http://etipitaka.com/read/pali/18/95/?keywords=มาลุกฺยปุตฺโต+อรหตํ
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. 18/23-28/132-139.
http://etipitaka.com/read/thai/18/23/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%92
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. ๑๘/๙๐-๙๕/๑๓๒-๑๓๙.
http://etipitaka.com/read/pali/18/90/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%92
ศึกษาเพิ่มเติม…
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=650
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=650
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44
ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3