0 Comments
0 Shares
183 Views
0 Reviews
Directory
Discover new people, create new connections and make new friends
- Please log in to like, share and comment!
-
- ไมค์ วอลท์ซ ถูกไล่ออกเพราะทำงานให้อิสราเอลมากเกินไป และยังพยายามผลักดันให้สหรัฐฯ ทำสงครามกับอิหร่าน
- The Washington Post รายงาน
เดอะวอชิงตันโพสต์รายงานว่า ไมค์ วอลท์ซ ถูกไล่ออกเพราะเขามีการติดต่อสื่อสารอย่างสม่ำเสมอและเปิดเผยบ่อยเกินไปกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล เกี่ยวกับการดำเนินการทางทหารต่ออิหร่าน
เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลทรัมป์เชื่อว่าเขากำลังพยายาม "เปลี่ยนกระแสให้สนับสนุนการดำเนินการทางทหาร" และกำลังให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับอิสราเอล ในขณะที่ทรัมป์ต้องการแนวทางการเจรจาทาวการทูตมากกว่าไมค์ วอลท์ซ ถูกไล่ออกเพราะทำงานให้อิสราเอลมากเกินไป และยังพยายามผลักดันให้สหรัฐฯ ทำสงครามกับอิหร่าน - The Washington Post รายงาน เดอะวอชิงตันโพสต์รายงานว่า ไมค์ วอลท์ซ ถูกไล่ออกเพราะเขามีการติดต่อสื่อสารอย่างสม่ำเสมอและเปิดเผยบ่อยเกินไปกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล เกี่ยวกับการดำเนินการทางทหารต่ออิหร่าน เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลทรัมป์เชื่อว่าเขากำลังพยายาม "เปลี่ยนกระแสให้สนับสนุนการดำเนินการทางทหาร" และกำลังให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับอิสราเอล ในขณะที่ทรัมป์ต้องการแนวทางการเจรจาทาวการทูตมากกว่า0 Comments 0 Shares 243 Views 0 Reviews - ญี่ปุ่นไม่หมู! อเมริกางง เจรจาไม่ง่ายอย่างที่คิด!
รมว คลังญี่ปุ่นขู่ขายทิ้งพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ญี่ปุ่นอาจใช้พันธบัตรสหรัฐที่ถือครองมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นไม้ตายในการเจรจาการค้ากับวอชิงตัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นกล้าแข็งข้อกับสหรัฐ นับตั้งแต่พ่ายแพ้ในสงครามโลก
แม้ว่ารัฐมนตรีคลัง คัตสึโนบุ คาโตะ จะไม่ได้บอกว่าจะขายพันธบัตรที่ถืออยู่ แต่คำพูดของเขามีการพูดถึงส่วนนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งที่ญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรสหรัฐมากที่สุด
นอกจากนี้ สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการเสนอผ่อนปรนมาตรการภาษีของสหรัฐที่ไม่รวมสินค้ายานยนต์และสินค้าเกษตรอีกด้วยเข้ามาในการผ่อนปรนครั้งนี้อีกด้วยญี่ปุ่นไม่หมู! อเมริกางง เจรจาไม่ง่ายอย่างที่คิด! รมว คลังญี่ปุ่นขู่ขายทิ้งพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ญี่ปุ่นอาจใช้พันธบัตรสหรัฐที่ถือครองมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นไม้ตายในการเจรจาการค้ากับวอชิงตัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นกล้าแข็งข้อกับสหรัฐ นับตั้งแต่พ่ายแพ้ในสงครามโลก แม้ว่ารัฐมนตรีคลัง คัตสึโนบุ คาโตะ จะไม่ได้บอกว่าจะขายพันธบัตรที่ถืออยู่ แต่คำพูดของเขามีการพูดถึงส่วนนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งที่ญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรสหรัฐมากที่สุด นอกจากนี้ สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการเสนอผ่อนปรนมาตรการภาษีของสหรัฐที่ไม่รวมสินค้ายานยนต์และสินค้าเกษตรอีกด้วยเข้ามาในการผ่อนปรนครั้งนี้อีกด้วย0 Comments 0 Shares 592 Views 0 Reviews - ..ช่วงแลกโปรโมตจนชวนนึกว่าสินค้าราคาถูกจริง,เอาเข้าจริงๆ แพงกว่าแอปอื่นๆอีก,หลอกลวงแจกนั้นนี้ตรึมผ่านมุกของขวัญต่างๆ สุดท้ายโคตรตระหนี่ขี้เหนียวกว่าแอปใดๆอีก,สไตล์ฝรั่งขี้เหยียวเอาแต่ได้ไม่ยอมเสียเปรียบลูกค้าเลย,ใครยังใช้บริการอยู่ไม่ควายก็วัวหรือแกะแพะตัวโคตรสะพานควายเลย,ขนาดสไตล์จะแจกฟรีของขวัญยังไม่ยอมให้ฟรีง่ายๆ มันบอกนัยยะของแอปพื้นฐานเลยว่าลูกค้าไม่สำคัญอะไรต่อแอปมัน,ยิ่งเทียบราคาแอปเดิมที่มาก่อนในไทยยังราคาถูกกว่าอีก คุณภาพสินค้าดีไม่ต่างกัน เผลอๆสินค้าตัวเดียวกันอีก รูปภาพโชว์ก็เกือบอันเดียวกัน,รายละเอียดต่างๆแง่มุมบ่งบอกลักษณะสรรพคุณสินค้าก็ไม่บอกรายละเอียดอะไร,มีกั๊ก ไม่เปิดเผยในการแสดงออกถึงความจริงจังบอกค่าจริงในตัวสินค้าเลย,บอกลวกๆพอไม่ทีนั้นล่ะ,หรือแทบไม่กล้าตัดสินใจด้วย,กึ่งๆลวงๆอีก สามารถกดพลาดเป้าได้ง่ายๆแบบแปลกๆก็ว่า,คือไม่ชัดเจนในการนำเสนอด้วย,ถ้าแบบแขกเสนอขายของก็บอกสไตล์ๆพร้อมให้เหยื่อรีบซื้อรีบหนีออกจากบ้านคนซื้อนั้นล่ะ คนซื้อพร้อมเจอความซวยก็ว่า เอาตังเข้ากระเป๋าก่อนประมาณนั้น,หลักๆคือราคาสินค้าไม่ได้ถูกจริงนั้นล่ะ,ต่างจากช่วงมาโปรตอนแรกๆ,ถ้าใครไปทดลองเล่นเกมส์มันโยนหินถามจริตนิสัยสันดานคนผลิตแอปดูก่อนจะซึ้งเลย,555ทดลองไปเล่นดูแล้ว ตอนแรกก็ไม่เชื่อที่เขาบอก หากอยากรู้สันดานพื้นฐานคนทำแอป ก่อนไปเสียตังใช้บริการแอปมัน ลองไปเล่นๆดู มันสุดยอดแห่งความเหี้ยเลยล่ะ สไตล์สันดานฝรั่งเลย หรือคนจีนบางคนที่ขี้เหนียวสุดๆ,ยิ่งใกล้สำเร็จ มันก็ไม่ยอมให้ได้สินค้ามันง่ายๆแบบฟรีๆนะ อาทิจาก100ลดเป็น50แต้ม,จาก1แต้มพร้อมจบ มันลดเป็น0.1แต้ม จาก0.10แต้ม มันลดเป็น0.01แต้มกันเลย,จนถึงกว่าจะได้จบเกมส์คือ0.00ล่ะจึงจะชนะมัน ไม่ต้องการของฟรีหรอก แต่ต้องการดูว่าแอปที่ไม่สุจริตจริงใจจริงต่อลูกค้ามันมีมุกสไตล์ปรากฎจริตสันดานเชิญชวนล่อลวงคนไปใช้แอปมันบ้าง.
..สรุป ส่วนตัวนะ ถือว่าไม่ผ่านตกประเมิน ไม่ซื่อสัตย์จริงใจต่อลูกค้าแม้สไตล์แจกของขวัญยังไร้ความซื่อสัตย์ ไม่ซื่อตามเกมส์ที่มันสร้างออกมาเชิญชวนคนไปเล่น,ต่างจากแอปปี้ๆด้าๆในไทยเดิมๆ ยังถือว่าจริงใจต่อลูกค้ากว่า แจกก็แจกจริง ลดก็ลดจริงสำหรับคนใช้ที่เข้าไปใหม่หรือคนเก่าๆ,ไม่เล่นจิตวิทยาเกินงามหรือระยำล่อลวงผู้คนแบบนั้น.,ป๊อบอัพกะขายสินค้าก็เหลือเกินกวน&รำคาญสุดๆ,สินค้าก็ไม่ถูกจริงอย่างที่โฆษณาเปิดตัวคุยโม้แบบก่อนนั้นจริงด้วย,ไม่รักษามาตราฐานเดิม ไม่น่าเชื่อถือไปถึงตัวสินค้าที่เสนอการขายด้วย,แถมเบื้องลึกคนทำก็มาจากคนdeep stateด้วย,แค่แตกมุกอ้างคนละงานสร้างเท่านั้น เผลอเดอะแก๊งเดียวกันนั้นล่ะ.
.. Temu หยุดส่งสินค้าจากจีนไปสหรัฐฯ อ้างภาษีศุลกากรสูง
..ช่วงแลกโปรโมตจนชวนนึกว่าสินค้าราคาถูกจริง,เอาเข้าจริงๆ แพงกว่าแอปอื่นๆอีก,หลอกลวงแจกนั้นนี้ตรึมผ่านมุกของขวัญต่างๆ สุดท้ายโคตรตระหนี่ขี้เหนียวกว่าแอปใดๆอีก,สไตล์ฝรั่งขี้เหยียวเอาแต่ได้ไม่ยอมเสียเปรียบลูกค้าเลย,ใครยังใช้บริการอยู่ไม่ควายก็วัวหรือแกะแพะตัวโคตรสะพานควายเลย,ขนาดสไตล์จะแจกฟรีของขวัญยังไม่ยอมให้ฟรีง่ายๆ มันบอกนัยยะของแอปพื้นฐานเลยว่าลูกค้าไม่สำคัญอะไรต่อแอปมัน,ยิ่งเทียบราคาแอปเดิมที่มาก่อนในไทยยังราคาถูกกว่าอีก คุณภาพสินค้าดีไม่ต่างกัน เผลอๆสินค้าตัวเดียวกันอีก รูปภาพโชว์ก็เกือบอันเดียวกัน,รายละเอียดต่างๆแง่มุมบ่งบอกลักษณะสรรพคุณสินค้าก็ไม่บอกรายละเอียดอะไร,มีกั๊ก ไม่เปิดเผยในการแสดงออกถึงความจริงจังบอกค่าจริงในตัวสินค้าเลย,บอกลวกๆพอไม่ทีนั้นล่ะ,หรือแทบไม่กล้าตัดสินใจด้วย,กึ่งๆลวงๆอีก สามารถกดพลาดเป้าได้ง่ายๆแบบแปลกๆก็ว่า,คือไม่ชัดเจนในการนำเสนอด้วย,ถ้าแบบแขกเสนอขายของก็บอกสไตล์ๆพร้อมให้เหยื่อรีบซื้อรีบหนีออกจากบ้านคนซื้อนั้นล่ะ คนซื้อพร้อมเจอความซวยก็ว่า เอาตังเข้ากระเป๋าก่อนประมาณนั้น,หลักๆคือราคาสินค้าไม่ได้ถูกจริงนั้นล่ะ,ต่างจากช่วงมาโปรตอนแรกๆ,ถ้าใครไปทดลองเล่นเกมส์มันโยนหินถามจริตนิสัยสันดานคนผลิตแอปดูก่อนจะซึ้งเลย,555ทดลองไปเล่นดูแล้ว ตอนแรกก็ไม่เชื่อที่เขาบอก หากอยากรู้สันดานพื้นฐานคนทำแอป ก่อนไปเสียตังใช้บริการแอปมัน ลองไปเล่นๆดู มันสุดยอดแห่งความเหี้ยเลยล่ะ สไตล์สันดานฝรั่งเลย หรือคนจีนบางคนที่ขี้เหนียวสุดๆ,ยิ่งใกล้สำเร็จ มันก็ไม่ยอมให้ได้สินค้ามันง่ายๆแบบฟรีๆนะ อาทิจาก100ลดเป็น50แต้ม,จาก1แต้มพร้อมจบ มันลดเป็น0.1แต้ม จาก0.10แต้ม มันลดเป็น0.01แต้มกันเลย,จนถึงกว่าจะได้จบเกมส์คือ0.00ล่ะจึงจะชนะมัน ไม่ต้องการของฟรีหรอก แต่ต้องการดูว่าแอปที่ไม่สุจริตจริงใจจริงต่อลูกค้ามันมีมุกสไตล์ปรากฎจริตสันดานเชิญชวนล่อลวงคนไปใช้แอปมันบ้าง. ..สรุป ส่วนตัวนะ ถือว่าไม่ผ่านตกประเมิน ไม่ซื่อสัตย์จริงใจต่อลูกค้าแม้สไตล์แจกของขวัญยังไร้ความซื่อสัตย์ ไม่ซื่อตามเกมส์ที่มันสร้างออกมาเชิญชวนคนไปเล่น,ต่างจากแอปปี้ๆด้าๆในไทยเดิมๆ ยังถือว่าจริงใจต่อลูกค้ากว่า แจกก็แจกจริง ลดก็ลดจริงสำหรับคนใช้ที่เข้าไปใหม่หรือคนเก่าๆ,ไม่เล่นจิตวิทยาเกินงามหรือระยำล่อลวงผู้คนแบบนั้น.,ป๊อบอัพกะขายสินค้าก็เหลือเกินกวน&รำคาญสุดๆ,สินค้าก็ไม่ถูกจริงอย่างที่โฆษณาเปิดตัวคุยโม้แบบก่อนนั้นจริงด้วย,ไม่รักษามาตราฐานเดิม ไม่น่าเชื่อถือไปถึงตัวสินค้าที่เสนอการขายด้วย,แถมเบื้องลึกคนทำก็มาจากคนdeep stateด้วย,แค่แตกมุกอ้างคนละงานสร้างเท่านั้น เผลอเดอะแก๊งเดียวกันนั้นล่ะ. .. Temu หยุดส่งสินค้าจากจีนไปสหรัฐฯ อ้างภาษีศุลกากรสูง0 Comments 0 Shares 564 Views 0 Reviews - เสริมพลัง OKRs ด้วย NLP: ขับเคลื่อนเป้าหมาย เริ่มที่ 'ตัวเรา' สู่องค์กร
OD with OKRs and NLP
ในโลกธุรกิจปัจจุบัน การมีเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้เป็นสิ่งสำคัญ OKRs (Objectives and Key Results) หรือ "หลักการตั้งเป้าหมายและวัดผลลัพธ์" ได้กลายเป็นเครื่องมือที่หลายองค์กรเลือกใช้ เปรียบเสมือน "เข็มทิศนำทาง" ให้องค์กรก้าวไปสู่เป้าหมายที่ท้าทายและสร้างแรงบันดาลใจ
.
แต่
การจะทำให้ OKR เกิดผลสำเร็จจริง ๆ จนเป็นการ "ลงมือทำที่เห็นผล" นั้น ไม่ใช่แค่การมีเครื่องมือที่ดีเท่านั้น หัวใจสำคัญกลับอยู่ที่ "การเปลี่ยนแปลงที่ตัวเราเอง"
.
ผู้นำและสมาชิกในทีมต้องเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนทัศนคติและสภาวะภายใน ("BEING" หรือ "การตระหนักรู้ในตนเอง") ให้พร้อมเติบโต ซึ่ง NLP (Neuro - Linguistic Programming) หรือ "ศาสตร์การเข้าใจและปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดและภาษา" คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยเสริมพลังในมิติภายในนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อ OKRs และ NLP ทำงานร่วมกัน จะเกิดพลังทวีคูณ ขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้อย่างแท้จริง
.
(อ่านต่อใน Comment และโพสต์ในลิงค์ https://www.facebook.com/share/p/15WjjCLacJ/ และ https://lnkd.in/gCab5Ys8)
www.10-xconsulting.com
www.lifealignmentor.comเสริมพลัง OKRs ด้วย NLP: ขับเคลื่อนเป้าหมาย เริ่มที่ 'ตัวเรา' สู่องค์กร OD with OKRs and NLP ในโลกธุรกิจปัจจุบัน การมีเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้เป็นสิ่งสำคัญ OKRs (Objectives and Key Results) หรือ "หลักการตั้งเป้าหมายและวัดผลลัพธ์" ได้กลายเป็นเครื่องมือที่หลายองค์กรเลือกใช้ เปรียบเสมือน "เข็มทิศนำทาง" ให้องค์กรก้าวไปสู่เป้าหมายที่ท้าทายและสร้างแรงบันดาลใจ . แต่ การจะทำให้ OKR เกิดผลสำเร็จจริง ๆ จนเป็นการ "ลงมือทำที่เห็นผล" นั้น ไม่ใช่แค่การมีเครื่องมือที่ดีเท่านั้น หัวใจสำคัญกลับอยู่ที่ "การเปลี่ยนแปลงที่ตัวเราเอง" . ผู้นำและสมาชิกในทีมต้องเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนทัศนคติและสภาวะภายใน ("BEING" หรือ "การตระหนักรู้ในตนเอง") ให้พร้อมเติบโต ซึ่ง NLP (Neuro - Linguistic Programming) หรือ "ศาสตร์การเข้าใจและปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดและภาษา" คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยเสริมพลังในมิติภายในนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อ OKRs และ NLP ทำงานร่วมกัน จะเกิดพลังทวีคูณ ขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้อย่างแท้จริง . (อ่านต่อใน Comment และโพสต์ในลิงค์ https://www.facebook.com/share/p/15WjjCLacJ/ และ https://lnkd.in/gCab5Ys8) www.10-xconsulting.com www.lifealignmentor.com0 Comments 0 Shares 654 Views 0 Reviews - ..โลกใครนะ.,เดอะแก๊งพวกมัน ต่างทำสัญลักษณ์สื่อออกมาจริงๆ..โลกใครนะ.,เดอะแก๊งพวกมัน ต่างทำสัญลักษณ์สื่อออกมาจริงๆ0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
- ..ยุคการต่อสู้เพื่อส่งสารให้คนไทยเรารับรู้ด้วยประชาชนของเราเอง ชาวบ้านๆธรรมดานี้ล่ะ,
..ซึ่งจริงๆแท้ๆมันคือหน้าที่ตรงของรัฐฐะของประเทศไทยต้องทำสิ่งนี้รอบทิศทั่วไทยกระจายค่าจริงมากมายหลากหลายมิติมุมมองและเชิงรุกในการสยบศึกภัยอันตรายจริงเหล่านี้,แต่รัฐฐะไทยเองแท้ๆเช่นกัน ไม่จริงใจใดๆเลยเพื่อกระจายค่าความจริงอย่างเป็นทางการบอกประชาชนคนไทยตนทั้งประเทศ.&อย่างรวดเร็วทันที...ยุคการต่อสู้เพื่อส่งสารให้คนไทยเรารับรู้ด้วยประชาชนของเราเอง ชาวบ้านๆธรรมดานี้ล่ะ, ..ซึ่งจริงๆแท้ๆมันคือหน้าที่ตรงของรัฐฐะของประเทศไทยต้องทำสิ่งนี้รอบทิศทั่วไทยกระจายค่าจริงมากมายหลากหลายมิติมุมมองและเชิงรุกในการสยบศึกภัยอันตรายจริงเหล่านี้,แต่รัฐฐะไทยเองแท้ๆเช่นกัน ไม่จริงใจใดๆเลยเพื่อกระจายค่าความจริงอย่างเป็นทางการบอกประชาชนคนไทยตนทั้งประเทศ.&อย่างรวดเร็วทันที.0 Comments 0 Shares 238 Views 0 0 Reviews - เซเลนสกีประกาศจะไม่รับประกันความปลอดภัยให้กับชาวต่างชาติที่เดินทางไปรัสเซียในวันที่ 9 พฤษภาคม
“จุดยืนของเราง่ายมากสำหรับทุกประเทศที่วางแผนจะเดินทางไปรัสเซียในช่วงวันที่ 9 พฤษภาคม เราไม่สามารถรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในดินแดนของรัสเซียได้” เซเลนสกีกล่าวระหว่างการแถลงข่าวตามรายงานของอินเตอร์แฟกซ์-ยูเครน
นอกจากนี้ เซเลนสกียังปฏิเสธแนวคิดการหยุดยิง 3 วันด้วย:
"การหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขเป็นรูปแบบที่ชาวอเมริกันเสนอ และเรากำลังปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะเริ่มในวันนี้หรือวันอื่นก็ตาม—โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเร็วๆ นี้—นั่นคือแนวทางที่เรากำลังดำเนินการอยู่ ลองหยุดยิง 30 วันกันเถอะ ทำไมถึงเป็น 30 วัน? เพราะในเวลาเพียง 3 วัน 5 วัน หรือ 7 วัน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้มันมีความหมายอะัไรขึเ้นมา" เซเลนสกีกล่าวกับนักข่าวเซเลนสกีประกาศจะไม่รับประกันความปลอดภัยให้กับชาวต่างชาติที่เดินทางไปรัสเซียในวันที่ 9 พฤษภาคม “จุดยืนของเราง่ายมากสำหรับทุกประเทศที่วางแผนจะเดินทางไปรัสเซียในช่วงวันที่ 9 พฤษภาคม เราไม่สามารถรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในดินแดนของรัสเซียได้” เซเลนสกีกล่าวระหว่างการแถลงข่าวตามรายงานของอินเตอร์แฟกซ์-ยูเครน นอกจากนี้ เซเลนสกียังปฏิเสธแนวคิดการหยุดยิง 3 วันด้วย: "การหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขเป็นรูปแบบที่ชาวอเมริกันเสนอ และเรากำลังปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะเริ่มในวันนี้หรือวันอื่นก็ตาม—โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเร็วๆ นี้—นั่นคือแนวทางที่เรากำลังดำเนินการอยู่ ลองหยุดยิง 30 วันกันเถอะ ทำไมถึงเป็น 30 วัน? เพราะในเวลาเพียง 3 วัน 5 วัน หรือ 7 วัน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้มันมีความหมายอะัไรขึเ้นมา" เซเลนสกีกล่าวกับนักข่าว0 Comments 0 Shares 250 Views 0 Reviews - World Military and Political (การทหารและการเมืองโลก) added video News and Politicsสำนักข่าว RT รายงานว่า จากเหตุการณ์การโจมตีทางอากาศอย่างรุนแรงของอิสราเอลต่อดินแดนซีเรียเมื่อคืนที่ผ่านมา
มีรายงานว่าเครื่องบินรบตุรกีทำการสกัดกั้นเครื่องบินของอิสราเอลที่ทิ้งระเบิดโจมตีรัฐบาลซีเรียสำนักข่าว RT รายงานว่า จากเหตุการณ์การโจมตีทางอากาศอย่างรุนแรงของอิสราเอลต่อดินแดนซีเรียเมื่อคืนที่ผ่านมา มีรายงานว่าเครื่องบินรบตุรกีทำการสกัดกั้นเครื่องบินของอิสราเอลที่ทิ้งระเบิดโจมตีรัฐบาลซีเรีย0 Comments 0 Shares 269 Views 21 0 Reviews - ..แม้ถูกตัดตอนถีบออกไปก็ยังไม่ชัดเจนอะไรว่าจะไม่สานงานต่อเนื่องต่อไปได้ของแผนagendaมัน,
..สงครามที่แท้จริงคือทำลายดอลล่าร์แบบdeep stateทำลายเงินปอนด์อังกฤษแล้วยกเงินดอลล่าร์สร้างโลกยุคใหม่ในสมัยจังหวะนั้น,และเมื่อดอลล่าร์เกมส์!!! เป็นธรรมดาต้องเปลี่ยนสู่ยุคใหม่ต่อไป คือย้ายดอลล่าร์ที่พังไปสู่ตังหยวนแทนนั้นเอง,เงินหยวนจะถูกทำให้เป็นแบบเงินปอนด์เป็นแบบดอลล่าร์นำสากลนำกติกาโลก,deep stateโลกลงมติแล้วว่าจะใช้จีนเป็นฐานทัพใหม่ของโลกยุคต่อไปแทนอเมริกา ที่อเมริกาเองเคยแทนอังกฤษมาแล้ว,และเผด็จการแบบคอมมิวนิสต์เป็นลักษณะธาตุแท้จริงที่เข้ากับจริตสันดานเดิมแท้จริงของdeep stateมัน,ปกครอง&ควบคุมชาวโลกได้ง่ายด้วย,แค่ผลลงานขังคนในตึกแบบอิสระภาพเสรีคนจีนสมัยโควิดสิ้นสุดไปง่ายๆทำได้แบบนั้นถูกตาถูกใจdeep stateนักล่ะ,
..เมื่อควบคุมตังได้แล้ว ทั้งโลกจะเป็นทาสแห่งการถูกควบคุมของรูปแบบนี้อีกทันที,เหมือนดอลล่าร์สมัยก่อน ชี้นำทิศทางทั้งโลกแบบนั้นนั้นล่ะในช่วงสมัยเวลานั้นๆ,
..ตังดิจิดัลหยวนมาแน่นอน,จีนปูทางการค้าขายรอนานแล้ว,ทั้งโลกค้าขายกับจีน ก็ต้องมุกใช้ตังหยวนจีนแน่นอนในการค้าขายเป็นหลัก,ตังชาติอื่นๆเป็นลอง เพราะคอมมิวนิสต์ก็คือคอมมิวนิสต์เผด็จการ สแกนจ่ายสแกนจ่ายตรึมๆนั้นล่ะ
..ยุคอุตสาหกรรมใหม่ คุณค่าความเป็นมนุษย์โลกจะเข้าสู่กระบวนลดค่าด้อยค่าเร็วๆนี้แล้ว,หากไม่เปลี่ยนตัวผู้นำทันทีช่วงเวลนี้,..แม้ถูกตัดตอนถีบออกไปก็ยังไม่ชัดเจนอะไรว่าจะไม่สานงานต่อเนื่องต่อไปได้ของแผนagendaมัน, ..สงครามที่แท้จริงคือทำลายดอลล่าร์แบบdeep stateทำลายเงินปอนด์อังกฤษแล้วยกเงินดอลล่าร์สร้างโลกยุคใหม่ในสมัยจังหวะนั้น,และเมื่อดอลล่าร์เกมส์!!! เป็นธรรมดาต้องเปลี่ยนสู่ยุคใหม่ต่อไป คือย้ายดอลล่าร์ที่พังไปสู่ตังหยวนแทนนั้นเอง,เงินหยวนจะถูกทำให้เป็นแบบเงินปอนด์เป็นแบบดอลล่าร์นำสากลนำกติกาโลก,deep stateโลกลงมติแล้วว่าจะใช้จีนเป็นฐานทัพใหม่ของโลกยุคต่อไปแทนอเมริกา ที่อเมริกาเองเคยแทนอังกฤษมาแล้ว,และเผด็จการแบบคอมมิวนิสต์เป็นลักษณะธาตุแท้จริงที่เข้ากับจริตสันดานเดิมแท้จริงของdeep stateมัน,ปกครอง&ควบคุมชาวโลกได้ง่ายด้วย,แค่ผลลงานขังคนในตึกแบบอิสระภาพเสรีคนจีนสมัยโควิดสิ้นสุดไปง่ายๆทำได้แบบนั้นถูกตาถูกใจdeep stateนักล่ะ, ..เมื่อควบคุมตังได้แล้ว ทั้งโลกจะเป็นทาสแห่งการถูกควบคุมของรูปแบบนี้อีกทันที,เหมือนดอลล่าร์สมัยก่อน ชี้นำทิศทางทั้งโลกแบบนั้นนั้นล่ะในช่วงสมัยเวลานั้นๆ, ..ตังดิจิดัลหยวนมาแน่นอน,จีนปูทางการค้าขายรอนานแล้ว,ทั้งโลกค้าขายกับจีน ก็ต้องมุกใช้ตังหยวนจีนแน่นอนในการค้าขายเป็นหลัก,ตังชาติอื่นๆเป็นลอง เพราะคอมมิวนิสต์ก็คือคอมมิวนิสต์เผด็จการ สแกนจ่ายสแกนจ่ายตรึมๆนั้นล่ะ ..ยุคอุตสาหกรรมใหม่ คุณค่าความเป็นมนุษย์โลกจะเข้าสู่กระบวนลดค่าด้อยค่าเร็วๆนี้แล้ว,หากไม่เปลี่ยนตัวผู้นำทันทีช่วงเวลนี้,0 Comments 0 Shares 427 Views 0 0 Reviews - ฉันยังคงไม่เชื่อเลยว่าบทสรุปสั้นๆ ของวาระ Great Reset ของ WEF ที่ไร้ที่ตินี้ได้รับอนุญาตให้ออกอากาศทาง Fox News ได้จริง
"WEF เป็นองค์กรการเมืองที่คลั่งไคล้ซึ่งใช้ความกลัวและการหลอกลวง เช่น ความตื่นตระหนกเรื่องโควิด หรือการหลอกลวงเรื่องภาวะโลกร้อน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้คนคิดว่าพวกเขาเป็นผู้กอบกู้ แต่ที่จริงแล้ว สิ่งที่คุณทำอยู่ก็คือการช่วยให้พวกเขาบรรลุเป้าหมาย ซึ่งจริงๆ แล้วคือการเคลื่อนไหวฟาสซิสต์สาธารณะ-เอกชนระดับโลก และการผสมผสานระหว่างรัฐบาลใหญ่ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ [และ] เงินจำนวนมาก เพื่อสร้างชนชั้นปกครองที่ปกครองโดยเทคโนโลยี ซึ่งก็คือพวกเขานั่นเอง"
"พวกเขาต้องการสร้างระบบศักดินา 2.0 ซึ่งเราเป็นข้ารับใช้ และพวกเขาเป็นขุนนางที่ปกครองเรา... นั่นคือสิ่งที่พวกเขากำลังมุ่งหวัง"
ฉันยังคงไม่เชื่อเลยว่าบทสรุปสั้นๆ ของวาระ Great Reset ของ WEF ที่ไร้ที่ตินี้ได้รับอนุญาตให้ออกอากาศทาง Fox News ได้จริง "WEF เป็นองค์กรการเมืองที่คลั่งไคล้ซึ่งใช้ความกลัวและการหลอกลวง เช่น ความตื่นตระหนกเรื่องโควิด หรือการหลอกลวงเรื่องภาวะโลกร้อน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้คนคิดว่าพวกเขาเป็นผู้กอบกู้ แต่ที่จริงแล้ว สิ่งที่คุณทำอยู่ก็คือการช่วยให้พวกเขาบรรลุเป้าหมาย ซึ่งจริงๆ แล้วคือการเคลื่อนไหวฟาสซิสต์สาธารณะ-เอกชนระดับโลก และการผสมผสานระหว่างรัฐบาลใหญ่ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ [และ] เงินจำนวนมาก เพื่อสร้างชนชั้นปกครองที่ปกครองโดยเทคโนโลยี ซึ่งก็คือพวกเขานั่นเอง" "พวกเขาต้องการสร้างระบบศักดินา 2.0 ซึ่งเราเป็นข้ารับใช้ และพวกเขาเป็นขุนนางที่ปกครองเรา... นั่นคือสิ่งที่พวกเขากำลังมุ่งหวัง"0 Comments 0 Shares 276 Views 0 Reviews - ๔ พฤษภาคม วันฉัตรมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 🙏🏼
วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
หลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” 🙏🏼๔ พฤษภาคม วันฉัตรมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 🙏🏼✨ วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” 🙏🏼✨0 Comments 0 Shares 644 Views 0 Reviews1
- ๔ พฤษภาคม วันฉัตรมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 🙏🏼
วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
หลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” 🙏🏼๔ พฤษภาคม วันฉัตรมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 🙏🏼✨ วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” 🙏🏼✨0 Comments 0 Shares 669 Views 0 Reviews1
- ๔ พฤษภาคม วันฉัตรมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 🙏🏼
วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
หลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” 🙏🏼๔ พฤษภาคม วันฉัตรมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 🙏🏼✨ วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” 🙏🏼✨0 Comments 0 Shares 747 Views 0 Reviews2
- อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาเหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นอนัตตา
สัทธรรมลำดับที่ : 206
ชื่อบทธรรม :- เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นอนัตตา
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=206
เนื้อความทั้งหมด :-
--เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นอนัตตา
--ภิกษุ ท. ! รูป เป็นอนัตตา.
ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของรูป ก็เป็นอนัตตา,
รูป ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นอนัตตาแล้ว จักเป็น อัตตาได้อย่างไร ;
--ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอนัตตา.
ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของเวทนา ก็เป็นอนัตตา,
เวทนา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นอนัตตาแล้ว จักเป็นอัตตาได้อย่างไร ;
--ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นอนัตตา.
ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของสัญญา ก็เป็นอนัตตา,
สัญญา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นอนัตตาแล้ว จักเป็นอัตตาได้อย่างไร ;
--ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นอนัตตา.
ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัยเพื่อการบังเกิดขึ้นของสังขารทั้งหลาย ก็เป็นอนัตตา,
สังขาร ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นอนัตตาแล้ว จักเป็นอัตตาได้อย่างไร ;
--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอนัตตา.
http://etipitaka.com/read/pali/17/30/?keywords=วิญฺญาณ+อนตฺตา
ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของวิญญาณ ก็เป็นอนัตตา,
วิญญาณ ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นอนัตตาแล้ว จักเป็นอัตตาได้อย่างไร
แล.-
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/23/47.
http://etipitaka.com/read/thai/17/23/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%97
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๓๐/๔๗.
http://etipitaka.com/read/pali/17/30/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%97
ศึกษาเพิ่มเติม....
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=206
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15&id=206
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15
ลำดับสาธยายธรรม : 15 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_15.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาเหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นอนัตตา สัทธรรมลำดับที่ : 206 ชื่อบทธรรม :- เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นอนัตตา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=206 เนื้อความทั้งหมด :- --เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นอนัตตา --ภิกษุ ท. ! รูป เป็นอนัตตา. ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของรูป ก็เป็นอนัตตา, รูป ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นอนัตตาแล้ว จักเป็น อัตตาได้อย่างไร ; --ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอนัตตา. ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของเวทนา ก็เป็นอนัตตา, เวทนา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นอนัตตาแล้ว จักเป็นอัตตาได้อย่างไร ; --ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นอนัตตา. ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของสัญญา ก็เป็นอนัตตา, สัญญา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นอนัตตาแล้ว จักเป็นอัตตาได้อย่างไร ; --ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นอนัตตา. ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัยเพื่อการบังเกิดขึ้นของสังขารทั้งหลาย ก็เป็นอนัตตา, สังขาร ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นอนัตตาแล้ว จักเป็นอัตตาได้อย่างไร ; --ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอนัตตา. http://etipitaka.com/read/pali/17/30/?keywords=วิญฺญาณ+อนตฺตา ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของวิญญาณ ก็เป็นอนัตตา, วิญญาณ ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นอนัตตาแล้ว จักเป็นอัตตาได้อย่างไร แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/23/47. http://etipitaka.com/read/thai/17/23/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๓๐/๔๗. http://etipitaka.com/read/pali/17/30/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%97 ศึกษาเพิ่มเติม.... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=206 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15&id=206 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15 ลำดับสาธยายธรรม : 15 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_15.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นอนัตตา-เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นอนัตตา ภิกษุ ท. ! รูป เป็นอนัตตา. ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของรูป ก็เป็นอนัตตา, รูป ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นอนัตตาแล้ว จักเป็น อัตตาได้อย่างไร ; ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอนัตตา. ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของเวทนา ก็เป็นอนัตตา, เวทนา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นอนัตตาแล้ว จักเป็นอัตตาได้อย่างไร ; ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นอนัตตา. ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของสัญญา ก็เป็นอนัตตา, สัญญา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นอนัตตาแล้ว จักเป็นอัตตาได้อย่างไร ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นอนัตตา. ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัยเพื่อการบังเกิดขึ้นของสังขารทั้งหลาย ก็เป็นอนัตตา, สังขาร ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นอนัตตาแล้ว จักเป็นอัตตาได้อย่างไร ; ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอนัตตา. ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของวิญญาณ ก็เป็นอนัตตา, วิญญาณ ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นอนัตตาแล้ว จักเป็นอัตตาได้อย่างไร แล.0 Comments 0 Shares 200 Views 0 Reviews - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าภาระหรือของหนักคือยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า
สัทธรรมลำดับที่ : 207
ชื่อบทธรรม :- เบญจขันธ์เป็นภาระที่หนัก
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=207
เนื้อความทั้งหมด :-
--เบญจขันธ์เป็นภาระที่หนัก
--ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงภาระ (ของหนัก)... แก่พวกเธอ.
เธอทั้งหลาย จงฟังข้อนั้น.
--ภิกษุ ท. ! อะไรเล่า เป็นของหนัก ?
--ภิกษุ ท. ! อุปาทานขันธ์ทั้งห้า นั้นแหละ #เรากล่าวว่าเป็นของหนัก.
http://etipitaka.com/read/pali/17/32/?keywords=ภารนิกฺเขปนญฺจ
ห้าอย่างเหล่าไหนเล่า ? ห้าอย่างคือ
ขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือ รูป,
ขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือ เวทนา,
ขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือ สัญญา,
ขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือ สังขาร,
และขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือ วิญญาณ.
--ภิกษุ ท. ! นี้ เราเรียกว่า ของหนัก แล.-
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/25/49.
http://etipitaka.com/read/thai/17/25/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%99
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๓๒/๔๙.
http://etipitaka.com/read/pali/17/32/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%99
ศึกษาเพิ่มเติม..
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=207
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15&id=207
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15
ลำดับสาธยายธรรม : 15 ฟังเสียง....
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_15.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าภาระหรือของหนักคือยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า สัทธรรมลำดับที่ : 207 ชื่อบทธรรม :- เบญจขันธ์เป็นภาระที่หนัก https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=207 เนื้อความทั้งหมด :- --เบญจขันธ์เป็นภาระที่หนัก --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงภาระ (ของหนัก)... แก่พวกเธอ. เธอทั้งหลาย จงฟังข้อนั้น. --ภิกษุ ท. ! อะไรเล่า เป็นของหนัก ? --ภิกษุ ท. ! อุปาทานขันธ์ทั้งห้า นั้นแหละ #เรากล่าวว่าเป็นของหนัก. http://etipitaka.com/read/pali/17/32/?keywords=ภารนิกฺเขปนญฺจ ห้าอย่างเหล่าไหนเล่า ? ห้าอย่างคือ ขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือ รูป, ขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือ เวทนา, ขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือ สัญญา, ขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือ สังขาร, และขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือ วิญญาณ. --ภิกษุ ท. ! นี้ เราเรียกว่า ของหนัก แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/25/49. http://etipitaka.com/read/thai/17/25/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๓๒/๔๙. http://etipitaka.com/read/pali/17/32/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม.. https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=207 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15&id=207 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15 ลำดับสาธยายธรรม : 15 ฟังเสียง.... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_15.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- เบญจขันธ์เป็นภาระที่หนัก-เบญจขันธ์เป็นภาระที่หนัก ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงภาระ (ของหนัก)... แก่พวกเธอ. เธอทั้งหลาย จงฟังข้อนั้น. ภิกษุ ท. ! อะไรเล่า เป็นของหนัก ? ภิกษุ ท. ! อุปาทานขันธ์ทั้งห้า นั้นแหละ เรากล่าวว่าเป็นของหนัก. ห้าอย่างเหล่าไหนเล่า ? ห้าอย่างคือ ขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือ รูป, ขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือ เวทนา, ขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือ สัญญา, ขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือ สังขาร, และขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือ วิญญาณ. ภิกษุ ท. ! นี้ เราเรียกว่า ของหนัก แล.0 Comments 0 Shares 239 Views 0 Reviews - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอาการดับแห่งความทุกข์--(อีกปริยายหนึ่ง)
สัทธรรมลำดับที่ : 612
ชื่อบทธรรม :- อาการดับแห่งความทุกข์
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=612
เนื้อความทั้งหมด :-
--อาการดับแห่งความทุกข์--(อีกปริยายหนึ่ง)
--ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้น
ย่อมไม่เพลิดเพลิน ย่อมไม่พร่ำสรรเสริญ ย่อมไม่เมาหมกอยู่ซึ่ง รูป.
เมื่อภิกษุนั้น ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมกอยู่ ซึ่งรูป,
นันทิ (ความเพลิน) ใด ในรูป, นันทินั้นย่อมดับไป.
เพราะความดับแห่งนันทิของภิกษุนั้น จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ;
http://etipitaka.com/read/pali/17/19/?keywords=นนฺทินิโรธา+อุปาทานนิโรโธ
เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ;
เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ;
เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล ชรามรณะ
โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น
: #ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.
http://etipitaka.com/read/pali/17/19/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+นิโรโธ
(ในกรณีแห่ง เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ
ก็มีข้อความที่ตรัสอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่ง รูป... ).-
#ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/14/29.
http://etipitaka.com/read/thai/17/14/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๙/๒๙.
http://etipitaka.com/read/pali/17/19/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=612
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=612
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42
ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอาการดับแห่งความทุกข์--(อีกปริยายหนึ่ง) สัทธรรมลำดับที่ : 612 ชื่อบทธรรม :- อาการดับแห่งความทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=612 เนื้อความทั้งหมด :- --อาการดับแห่งความทุกข์--(อีกปริยายหนึ่ง) --ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้น ย่อมไม่เพลิดเพลิน ย่อมไม่พร่ำสรรเสริญ ย่อมไม่เมาหมกอยู่ซึ่ง รูป. เมื่อภิกษุนั้น ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมกอยู่ ซึ่งรูป, นันทิ (ความเพลิน) ใด ในรูป, นันทินั้นย่อมดับไป. เพราะความดับแห่งนันทิของภิกษุนั้น จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; http://etipitaka.com/read/pali/17/19/?keywords=นนฺทินิโรธา+อุปาทานนิโรโธ เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น : #ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. http://etipitaka.com/read/pali/17/19/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+นิโรโธ (ในกรณีแห่ง เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ ก็มีข้อความที่ตรัสอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่ง รูป... ).- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/14/29. http://etipitaka.com/read/thai/17/14/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๙/๒๙. http://etipitaka.com/read/pali/17/19/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=612 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=612 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42 ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- อาการดับแห่งความทุกข์-อาการดับแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง) ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้น ย่อมไม่เพลิดเพลิน ย่อมไม่พร่ำสรรเสริญ ย่อมไม่เมาหมกอยู่ซึ่ง รูป. เมื่อภิกษุนั้น ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมกอยู่ ซึ่งรูป, นันทิ (ความเพลิน) ใด ในรูป, นันทินั้นย่อมดับไป. เพราะความดับแห่งนันทิของภิกษุนั้น จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น : ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. (ในกรณีแห่ง เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ ก็มีข้อความที่ตรัสอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งรูป).0 Comments 0 Shares 364 Views 0 Reviews - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาคุณค่าของมรรค-อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งตัวพรหมจรรย์
สัทธรรมลำดับที่ : 980
ชื่อบทธรรม :-คุณค่าของมรรค-อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งตัวพรหมจรรย์
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=980
เนื้อความทั้งหมด :-
--หมวด ค. ว่าด้วย คุณค่าของมรรค
--อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งตัวพรหมจรรย์
--“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า ‘พรหมจรรย์ พรหมจรรย์’ ดังนี้
http://etipitaka.com/read/pali/19/9/?keywords=พฺรหฺมจริยํ
พรหมจรรย์ เป็นอย่างไรเล่า พระเจ้าข้า ?
และที่สุดแห่งพหรมจรรย์ คืออะไรพระเจ้าข้า ?”
--ภิกษุ ! #อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้แลคือพรหมจรรย์;
กล่าวคือ
สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ
สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ.
--ภิกษุ !
ความสิ้นแห่งราคะ (ราคกฺขโย)
ความสิ้นแห่งโทสะ (โทสกฺขโย)
ความสิ้นแห่งโมหะ (โมหกฺขโย)
: นี้คือ #ที่สุดแห่งพรหมจรรย์ แล.-
http://etipitaka.com/read/pali/19/9/?keywords=พฺรหฺมจริยํ
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/7/29 - 30.
http://etipitaka.com/read/thai/19/7/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๙/๒๙ - ๓๐.
http://etipitaka.com/read/pali/19/9/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=980
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84&id=980
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84
ลำดับสาธยายธรรม : 84 ฟังเสียงอ่าน...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_84.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาคุณค่าของมรรค-อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งตัวพรหมจรรย์ สัทธรรมลำดับที่ : 980 ชื่อบทธรรม :-คุณค่าของมรรค-อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งตัวพรหมจรรย์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=980 เนื้อความทั้งหมด :- --หมวด ค. ว่าด้วย คุณค่าของมรรค --อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งตัวพรหมจรรย์ --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า ‘พรหมจรรย์ พรหมจรรย์’ ดังนี้ http://etipitaka.com/read/pali/19/9/?keywords=พฺรหฺมจริยํ พรหมจรรย์ เป็นอย่างไรเล่า พระเจ้าข้า ? และที่สุดแห่งพหรมจรรย์ คืออะไรพระเจ้าข้า ?” --ภิกษุ ! #อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้แลคือพรหมจรรย์; กล่าวคือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. --ภิกษุ ! ความสิ้นแห่งราคะ (ราคกฺขโย) ความสิ้นแห่งโทสะ (โทสกฺขโย) ความสิ้นแห่งโมหะ (โมหกฺขโย) : นี้คือ #ที่สุดแห่งพรหมจรรย์ แล.- http://etipitaka.com/read/pali/19/9/?keywords=พฺรหฺมจริยํ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/7/29 - 30. http://etipitaka.com/read/thai/19/7/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๙/๒๙ - ๓๐. http://etipitaka.com/read/pali/19/9/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=980 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84&id=980 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84 ลำดับสาธยายธรรม : 84 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_84.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- หมวด ค. ว่าด้วย คุณค่าของมรรค-อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งตัวพรหมจรรย์-(ในสูตรถัดไป (๒๔/๒๓๘/๑๑๔). ทรงแสดงสิ่งที่เรียกว่า อธรรม ด้วยมิจฉัตตะ, ทรงแสดงสิ่งที่เรียกว่า ธรรม ด้วยสัมมัตตะ; ทรงแสดงสิ่งที่เรียกว่า อนรรถ ด้วยบาปอกุศลธรรมต่างๆ ที่เกิดจากมิจฉัตตะแต่ละอย่างๆ เป็นปัจจัย, และทรงแสดงสิ่งที่เรียกว่า อรรถ ด้วยกุศลธรรมต่างๆ ที่เกิดแต่สัมมัตตะแต่ละอย่างๆ เป็นปัจจัย. ในสูตรอื่นอีก (๒๔/๒๗๓/๑๖๐) ทรงแสดง อธรรม และ อนรรถ ด้วยอกุศลกัมมบถสิบ และทรงแสดง ธรรม และ อรรถ ด้วยกุศลกัมมบถสิบ. ในอีกสูตรหนึ่ง (๒๔/๒๘๑/๑๖๒) ทรงแสดง อธรรม ด้วยอกุศลกัมมบถ แสดง ธรรม ด้วยกุศลกัมมบถ แสดง อนรรถ ด้วยวิบากแห่งอกุศลกัมมบถ และแสดง อรรถ ด้วยวิบากแห่งกุศลกัมมบถ). หมวด ค. ว่าด้วย คุณค่าของมรรค อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งตัวพรหมจรรย์ “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า ‘พรหมจรรย์ พรหมจรรย์’ ดังนี้ พรหมจรรย์ เป็นอย่างไรเล่า พระเจ้าข้า ? และที่สุดแห่งพหรมจรรย์ คืออะไรพระเจ้าข้า ?” ภิกษุ ! อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้แล คือพรหมจรรย์; กล่าวคือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. ภิกษุ ! ความสิ้นแห่งราคะ (ราคกฺขโย) ความสิ้นแห่งโทสะ (โทสกฺขโย) ความสิ้นแห่งโมหะ (โมหกฺขโย) : นี้คือ ที่สุดแห่งพรหมจรรย์ แล.0 Comments 0 Shares 296 Views 0 Reviews - https://youtu.be/f_txdsCHVG0?si=qto2TvdTtLPJNUyu
0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews - https://youtube.com/shorts/mX9ykWHWDbA?si=iuOhl6X68vy8EyHA
0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews - https://youtu.be/zDj0-Bsqwok?si=2KIbBh7byzYAW84d
0 Comments 0 Shares 69 Views 0 Reviews - https://youtu.be/gsv05tEqu0g?si=XFzBlbU3Hg8v0CMY
0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews - จากนักวิจัย AI ไทยที่ MIT ถึงบอร์ด AI เเห่งชาติ:ในฐานะที่พีพีเป็นนักวิจัย AI จากประเทศไทยที่ทำวิจัยใน frontier ของ Human-AI Interaction ที่ MIT เเละมีโอกาสร่วมมือกับบริษัทเเละสถาบัน AI ชั้นนำหลายๆที่ พีพีคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะนำประสบการณ์เเละสิ่งที่ตัวเองได้เรียนรู้เขียนออกมาเป็นไอเดียเผื่อจะเป็นประโยชน์กับบอร์ด AI เเห่งชาติ การที่รัฐบาลที่เล็งเห็นความสำคัญของ AI ในประเทศไทยเเละได้ตั้งบอร์ด AI เเห่งชาติ ซึ่งเป็นก้าวเเรกที่สำคัญมากๆ พีพีเลยอยากเเชร์มุมมองของ AI ในอนาคตจากในฝั่งงานวิจัย การศึกษา เเละชวนให้เห็นถึงคนไทยเก่งๆ ที่น่าจะช่วยกันสร้างอนาคตได้ครับ1) เราควรมอง AI อย่างไรในอนาคต?โดยส่วนตัวมองว่าพลังของ AI ไม่ใช่ตัวมันเองเเต่คือการที่ AI ไปเชื่อมกับสิ่งต่างๆ เเบบเดียวกับที่ internet หรือ social media กลายไปเป็น platform ที่อยู่ตรงกลางระหว่างมนุษย์กับ reality AI จะมีบทบาทอยู่เบื้องหลังอาหารที่เรากิน คนที่เราคบ สิ่งที่เราเสพ ความเชื่อที่เราเชื่อ ดังนั้นเราต้องตั้งคำถามว่าเราจะออกเเบบ AI ที่เป็นตัวบงการประสบการณ์ของมนุษย์เเบบไหน? เราต้องมอง AI ไม่ใช่เเค่โครงสร้างพื้นฐานอย่าง server หรือ data center เเต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประสบการณ์ความเป็นมนุษย์ การมองเเบบนี้ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับ AI ในมิติที่มากกว่าเเค่ “Artificial Intelligence” เเต่รวมไปถึง: AI ในฐานะ "Augmented Intuition” หรือ สัญชาติญาณใหม่ของมนุษย์ ที่อาจจะทำให้มนุษย์คิดได้ไกลขึ้นหรือเเคบลงขึ้นอยู่กับการออกเเบบวิธีการที่มนุษย์สัมพันกับ AI ตัวอย่าง เช่น งานวิจัยที่พีพีทำที่ MIT ใน project “Wearable Reasoner” ซึ่งเป็น AI ที่กระตุ้น critical thinking ของคนเวลาเจอข้อมูลต่างๆ ผ่านกระบวนการ nudging Choawalit Chotwattanaphong หรือ AI ในฐานะ "Addictive Intelligence” หรือสิ่งเสพติดที่รู้จักมนุษย์คนนั้นดีกว่าตัวเค้าเอง เช่น AI companion ที่ถูกออกเเบบมาเเทนที่ความสัมพันธ์มนุษย์ เป็น romance scammer เเบบใหม่ที่อันตรายมาก [2] ซึ่งเป็นหัวข้อที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุด OpenAI ได้ทำวิจัยร่วมกับ MIT ในการศึกษาผลกระทบของเทคโนโลยีนี้ในวงกว้าง [3]เเละ AI ในฐานะ “Algorithmic Inequality” หรือตัวเร่งความเหลื่อมล้ำในสังคม งานวิจัยของ ดร Nattavudh Powdthavee โชว์ให้เห็นว่าในไทย AI คัดเลือกคนเข้าทำงานจากนามสกุลเเทนที่จะเป็นความสามารถซึ่งจะทำให้ช่องว่างระหว่างชนชั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆ [4]ดังนั้นเวลาเรามอง AI เราต้องมองให้ไกลว่าเทคโนโลยี หรือ ธุรกิจเเต่มองให้เห็นผลกระทบต่อประสบการณ์ของมนุษย์ในหลายๆมิติ โดยเฉพาะมิติทางการศึกษาที่จะเป็นรากฐานของประเทศ2) เราควรออกเเบบการศึกษาในยุค AI อย่างไร?การที่หลายประเทศเข้าถึง internet ได้เเต่ไม่ได้ทำให้ทุกประเทศพัฒนาเท่ากัน ส่วนนึงเป็นเพราะผลลัพธ์ของเทคโนโลยีขึ้นกับวิธีที่คนใช้ด้วย ดังนั้น AI จะทำให้คนมีศักยภาพมากขึ้นหรือน้อยลงขึ้นกับ HI หรือ Human Intelligence ด้วย การศึกษาในยุค AI ควรมองไปไกลกว่าเเค่การใช้เป็น หรือ การสร้างคนเข้าสู่อุตสาหกรรม เพราะเครื่องมือเหล่านี้จะเปลี่ยนเร็วขึ้นเรื่อยๆ เเละอุตสาหกรรมวันนี้จะไม่ใช่อุตสาหกรรมในวันข้างหน้า Steve Jobs เคยกล่าวว่า technology is a bicycle for the mind ทุกๆเครื่องมือคือสิ่งที่สมองขับเคลื่อนไปเร็วขึ้น สิ่งที่เราต้องช่วยให้เด็กๆได้ขบคิดคือเค้าจะจะขับ AI ไปไหน เเละขับอย่างไรไม่ให้ชน การศึกษาในอนาคตในยุคที่ AI ทำให้เด็กๆเป็น “Cyborg Generation” คือคนที่ความคิดเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีตลอดเวลา เราควร focus ที่การทำให้เด็กๆมีความเป็นมนุษย์ รู้จักตัวเองมี meta-cognitive thinking คือคิดเกี่ยวกับการคิดได้ลึกซึ้งขึ้น เข้าใจว่าสิ่งภายนอกส่งผลกับความรู้สึกภายในอย่างไร เเละมีความกล้าที่จะนำความคิดนั้นออกมาเเสดงออกอย่างสร้างสรรค์ สิ่งนี้เเทบจะไม่เกี่ยวกับ AI เลยเเต่จะเป็นพื้นฐานให้เค้ารับมือกับโลกที่เปลี่ยนไปได้ เมื่อโตขึ้นเราควรส่งเสริมให้เด็กๆ มองเห็นศักยภาพตัวเองกับโจทย์ที่ท้าทาย ซึ่งโจทย์เหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น climate change, ความเหลื่อมล้ำ, ปัญหาต่างๆจะไม่เเก้ตัวเอง เเละ AI ก็จะไม่เเก้สิ่งนี้ด้วยตัวมันเอง เราไม่ควรให้เด็กมองตัวเองผ่านอาชีพเเคบๆ ว่าเป็นหมอ วิศวะ หรืออะไรก็เเล้วเเต่ เเต่มองเป็นคนที่มีศักยภาพที่สามารถจะใช้เครื่องมือขยายศักยภาพตัวเองไปเเก้ปัญหาใหญ่ๆ เเละสร้างสิ่งที่มีคุณค่าได้ สิ่งสุดท้ายเลยคือเราต้องช่วยให้เด็กๆ ไม่ติดกับดักใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสพติด AI ที่ถูกออกเเบบมาให้มีความเสพติดมากขึ้น หรือ การรู้สึกหมดพลังเพราะเก่งไม่เท่ากับ AI เราต้องสร้าง narrative ใหม่ที่ช่วยให้เด็กรู้ทันกับความท้าทายในวันข้างหน้า3) ทิศทางของ AI ในอนาคต เเละไทย?เมื่อมองภาพใหญ่กว่านั้นว่าสิ่งที่จะเป็น next frontier ของ AI คืออะไร หลายๆคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องของ agent หรือ physical AI เเต่โดยส่วนตัวคิดว่าทั้ง agent หรือ physical AI เป็นปลายทาง สิ่งที่พื้นฐานที่สุดคือเรื่องของ mechanistic interpretability [5] หรือการพยายามเข้าใจ AI ลงไปในระดับกลไกผ่านการศึกษา cluster ของ neural networks ใน large models ซึ่งพีพีคิดว่าสิ่งนี้สำคัญเพราะไม่ใช่เเค่เราจะเข้าใจ model มากขึ้นเเต่จะทำให้เราควบคุมโมเดลได้ดีขึ้นด้วย เช่น ถ้าเรารู้ว่า cluster ทำหน้าทีอะไร เราก็จะเช็คได้ว่ามี cluster ของ neurons ไม่พึงประสงค์ทำงานรึเปล่า (อาจจะลด hallucination ได้) หรือ เราสามารถปิด neuron cluster ในส่วนที่ไม่จำเป็นออกได้จะทำให้ลดทรัพยากรณ์เเละนำมาสู่ model ขนาดเล็กที่เป็นมิตรกับสิ่งเเวดล้อมขึ้นได้ นี่คือเหตุผลว่าตอนนี้ยักใหญ่ในวงการ AI หลายๆที่เเข่งกันทำ interpretability เพราะมันจะลด lost, เพิ่ม trust, เเละ robutness ได้ อย่างที่ CEO ของ Anthropic ประกาศว่าจะต้องเปิด blackbox ของ AI ให้ได้ภายในปี 2027 [6]ในไทยการวิจัยด้านนี้อาจจะทำได้ยากเพราะต้องการ compute มหาศาล เเละโจทย์นี้เป็นโจทย์ใหญ่ของระดับโลก ดังนั้นสิ่งที่เราควรสนใจอาจจะเป็นเรื่องของ research เเละ innovation ที่ connect AI เพื่อเข้ามา enhance อุตสาหกรรมไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้นผ่าน network ของ AI services ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว หรือ อาหาร วัฒนธรรม เเละ creative industry โดยสิ่งที่เราต้องทำคือต้องคิดเเตกต่างเเละไม่ยึดกับ AI เเบบเดิมๆที่เป็นมาพีพีได้รับเชิญจากทั้งรัฐบาลเเละเอกชนให้ไปเเชร์งานวิจัยเกี่ยวกับ Human-AI Interaction ที่เกาหลี 3 ครั้งในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีความตื่นตัวเรื่อง AI กับ creative industry มาก ครั้งเเรกเป็นงานของรัฐบาลที่ focus เรื่อง AI & cultural innovation เเละอีกสองครั้งเป็นงานของ Busan International Fim Festival เเละ Busan AI Fim Festival ซึ่งทำให้เห็นว่าเกาหลีมองเรื่องของ AI ในฐานะ creative medium เเบบใหม่ที่จะสร้างงานสร้างสรรค์เเบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน (ไม่ใช่เเค่การเอา AI มาเเทนที่สื่อเเบบเดิม) เช่นการสร้าง interactive cinema ที่ทำให้ character ในภาพยนต์หรือ series ออกมาอยู่ในโลกจริงร่วมกับคนดูได้ เเถมยังกลายเป็น interfaces ที่ช่วยขายสินค้าเเละวัฒนธรรมเกาหลีได้อีก นี่เป็นตัวอย่างของการมอง AI เเละ network ของ AI เป็น infrastructure ที่ connect กับวัฒนธรรมเเละ soft power ได้ครับในไทยเองก็มีโปรเจคที่พีพีเกี่ยวข้องอยู่อย่าง Cyber Subin กับพี่ Pichet Klunchun [7] ที่พยายามใช้ AI ถอดรหัสวัฒนธรรมไทยออกมาซึ่งถูกเชิญไปนำเสนอเเละโชว์ทั่วโลกในฐานะงาน AI ที่เชื่อมโยงกับการสร้างศิลปะเเละวัฒนธรรมเเบบใหม่ ดังนั้นพีพีโดยส่วนตัวค่อนข้าง optimistic ว่าไทยสามารถมีบทบาทต่อวงการ AI โลกเเละสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้นได้ในประเทศได้ถ้าได้รับการสนับสนุนที่ถูกต้อง เพราะไทยมีคนไทยเก่งๆ อีกมากมายที่อยู่เบื้องหลังวงการ AI ระดับโลกอย่าง ดร Supasorn Aek Suwajanakorn ที่เป็น pioneer ของ generative AI คนเเรกๆของโลก มี TED talk ที่คนดูเป็นล้าน [8] หรือ วีระ บุญจริง ที่เป็นคนอยู่เบื้องหลัง Siri ที่กลายมาเป็น conversational AI ที่มีคนใช้ทั่วโลกอย่าง Apple [9] ล่าสุดพีพีไปงานประชุม Human-Computer Interaction ที่สำคัญที่สุดในสาขาเจอคนไทยเก่งๆ หลายคนที่อยู่ทั่วโลก หรือ ในภาคเอกชนก็คนเก่งๆ มากมายอย่างพี่ผลักดันวงการ AI ใน industry ของไทย ดังนั้นก็อยากฝากไปถึงบอร์ด AI เเห่งชาตินะครับว่าประเทศไทยจะมีอนาคตทางด้าน AI ได้เเน่ๆ ถ้าเรามอง AI ให้ครบทุกมิติ ออกเเบบการศึกษาในยุค AI เเบบ all of education เเละ education for all เเละรวมพลังเอาคนเก่งๆ มาช่วยกันครับ คิดว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำถ้าตั้งใจให้เกิด impact จริงๆ เชื่อว่าจะพลิกประเทศไทยได้ครับ เพราะคำว่า Th[AI]land จะขาด AI ไปไม่ได้ครับ เป็นกำลังใจให้ครับ Choawalit Chotwattanaphong https://www.media.mit.edu/projects/wearable-reasoner/overview/[2] https://mit-serc.pubpub.org/pub/iopjyxcx/release/2[3] https://openai.com/index/affective-use-study/[4] https://ui.adsabs.harvard.edu/abs/2025arXiv250119407P/abstract[5] https://www.neelnanda.io/mechanistic-interpretability/glossary[6] https://techsauce.co/news/anthropic-aims-to-unlock-ai-black-box-by-2027[7] https://cybersubin.media.mit.edu/[8] https://www.ted.com/speakers/supasorn_suwajanakorn[9] https://www.salika.co/2018/10/16/siri-artificial-intelligence-thai-owned/จากนักวิจัย AI ไทยที่ MIT ถึงบอร์ด AI เเห่งชาติ:ในฐานะที่พีพีเป็นนักวิจัย AI จากประเทศไทยที่ทำวิจัยใน frontier ของ Human-AI Interaction ที่ MIT เเละมีโอกาสร่วมมือกับบริษัทเเละสถาบัน AI ชั้นนำหลายๆที่ พีพีคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะนำประสบการณ์เเละสิ่งที่ตัวเองได้เรียนรู้เขียนออกมาเป็นไอเดียเผื่อจะเป็นประโยชน์กับบอร์ด AI เเห่งชาติ การที่รัฐบาลที่เล็งเห็นความสำคัญของ AI ในประเทศไทยเเละได้ตั้งบอร์ด AI เเห่งชาติ ซึ่งเป็นก้าวเเรกที่สำคัญมากๆ พีพีเลยอยากเเชร์มุมมองของ AI ในอนาคตจากในฝั่งงานวิจัย การศึกษา เเละชวนให้เห็นถึงคนไทยเก่งๆ ที่น่าจะช่วยกันสร้างอนาคตได้ครับ1) เราควรมอง AI อย่างไรในอนาคต?โดยส่วนตัวมองว่าพลังของ AI ไม่ใช่ตัวมันเองเเต่คือการที่ AI ไปเชื่อมกับสิ่งต่างๆ เเบบเดียวกับที่ internet หรือ social media กลายไปเป็น platform ที่อยู่ตรงกลางระหว่างมนุษย์กับ reality AI จะมีบทบาทอยู่เบื้องหลังอาหารที่เรากิน คนที่เราคบ สิ่งที่เราเสพ ความเชื่อที่เราเชื่อ ดังนั้นเราต้องตั้งคำถามว่าเราจะออกเเบบ AI ที่เป็นตัวบงการประสบการณ์ของมนุษย์เเบบไหน? เราต้องมอง AI ไม่ใช่เเค่โครงสร้างพื้นฐานอย่าง server หรือ data center เเต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประสบการณ์ความเป็นมนุษย์ การมองเเบบนี้ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับ AI ในมิติที่มากกว่าเเค่ “Artificial Intelligence” เเต่รวมไปถึง: AI ในฐานะ "Augmented Intuition” หรือ สัญชาติญาณใหม่ของมนุษย์ ที่อาจจะทำให้มนุษย์คิดได้ไกลขึ้นหรือเเคบลงขึ้นอยู่กับการออกเเบบวิธีการที่มนุษย์สัมพันกับ AI ตัวอย่าง เช่น งานวิจัยที่พีพีทำที่ MIT ใน project “Wearable Reasoner” ซึ่งเป็น AI ที่กระตุ้น critical thinking ของคนเวลาเจอข้อมูลต่างๆ ผ่านกระบวนการ nudging [1] หรือ AI ในฐานะ "Addictive Intelligence” หรือสิ่งเสพติดที่รู้จักมนุษย์คนนั้นดีกว่าตัวเค้าเอง เช่น AI companion ที่ถูกออกเเบบมาเเทนที่ความสัมพันธ์มนุษย์ เป็น romance scammer เเบบใหม่ที่อันตรายมาก [2] ซึ่งเป็นหัวข้อที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุด OpenAI ได้ทำวิจัยร่วมกับ MIT ในการศึกษาผลกระทบของเทคโนโลยีนี้ในวงกว้าง [3]เเละ AI ในฐานะ “Algorithmic Inequality” หรือตัวเร่งความเหลื่อมล้ำในสังคม งานวิจัยของ ดร Nattavudh Powdthavee โชว์ให้เห็นว่าในไทย AI คัดเลือกคนเข้าทำงานจากนามสกุลเเทนที่จะเป็นความสามารถซึ่งจะทำให้ช่องว่างระหว่างชนชั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆ [4]ดังนั้นเวลาเรามอง AI เราต้องมองให้ไกลว่าเทคโนโลยี หรือ ธุรกิจเเต่มองให้เห็นผลกระทบต่อประสบการณ์ของมนุษย์ในหลายๆมิติ โดยเฉพาะมิติทางการศึกษาที่จะเป็นรากฐานของประเทศ2) เราควรออกเเบบการศึกษาในยุค AI อย่างไร?การที่หลายประเทศเข้าถึง internet ได้เเต่ไม่ได้ทำให้ทุกประเทศพัฒนาเท่ากัน ส่วนนึงเป็นเพราะผลลัพธ์ของเทคโนโลยีขึ้นกับวิธีที่คนใช้ด้วย ดังนั้น AI จะทำให้คนมีศักยภาพมากขึ้นหรือน้อยลงขึ้นกับ HI หรือ Human Intelligence ด้วย การศึกษาในยุค AI ควรมองไปไกลกว่าเเค่การใช้เป็น หรือ การสร้างคนเข้าสู่อุตสาหกรรม เพราะเครื่องมือเหล่านี้จะเปลี่ยนเร็วขึ้นเรื่อยๆ เเละอุตสาหกรรมวันนี้จะไม่ใช่อุตสาหกรรมในวันข้างหน้า Steve Jobs เคยกล่าวว่า technology is a bicycle for the mind ทุกๆเครื่องมือคือสิ่งที่สมองขับเคลื่อนไปเร็วขึ้น สิ่งที่เราต้องช่วยให้เด็กๆได้ขบคิดคือเค้าจะจะขับ AI ไปไหน เเละขับอย่างไรไม่ให้ชน การศึกษาในอนาคตในยุคที่ AI ทำให้เด็กๆเป็น “Cyborg Generation” คือคนที่ความคิดเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีตลอดเวลา เราควร focus ที่การทำให้เด็กๆมีความเป็นมนุษย์ รู้จักตัวเองมี meta-cognitive thinking คือคิดเกี่ยวกับการคิดได้ลึกซึ้งขึ้น เข้าใจว่าสิ่งภายนอกส่งผลกับความรู้สึกภายในอย่างไร เเละมีความกล้าที่จะนำความคิดนั้นออกมาเเสดงออกอย่างสร้างสรรค์ สิ่งนี้เเทบจะไม่เกี่ยวกับ AI เลยเเต่จะเป็นพื้นฐานให้เค้ารับมือกับโลกที่เปลี่ยนไปได้ เมื่อโตขึ้นเราควรส่งเสริมให้เด็กๆ มองเห็นศักยภาพตัวเองกับโจทย์ที่ท้าทาย ซึ่งโจทย์เหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น climate change, ความเหลื่อมล้ำ, ปัญหาต่างๆจะไม่เเก้ตัวเอง เเละ AI ก็จะไม่เเก้สิ่งนี้ด้วยตัวมันเอง เราไม่ควรให้เด็กมองตัวเองผ่านอาชีพเเคบๆ ว่าเป็นหมอ วิศวะ หรืออะไรก็เเล้วเเต่ เเต่มองเป็นคนที่มีศักยภาพที่สามารถจะใช้เครื่องมือขยายศักยภาพตัวเองไปเเก้ปัญหาใหญ่ๆ เเละสร้างสิ่งที่มีคุณค่าได้ สิ่งสุดท้ายเลยคือเราต้องช่วยให้เด็กๆ ไม่ติดกับดักใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสพติด AI ที่ถูกออกเเบบมาให้มีความเสพติดมากขึ้น หรือ การรู้สึกหมดพลังเพราะเก่งไม่เท่ากับ AI เราต้องสร้าง narrative ใหม่ที่ช่วยให้เด็กรู้ทันกับความท้าทายในวันข้างหน้า3) ทิศทางของ AI ในอนาคต เเละไทย?เมื่อมองภาพใหญ่กว่านั้นว่าสิ่งที่จะเป็น next frontier ของ AI คืออะไร หลายๆคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องของ agent หรือ physical AI เเต่โดยส่วนตัวคิดว่าทั้ง agent หรือ physical AI เป็นปลายทาง สิ่งที่พื้นฐานที่สุดคือเรื่องของ mechanistic interpretability [5] หรือการพยายามเข้าใจ AI ลงไปในระดับกลไกผ่านการศึกษา cluster ของ neural networks ใน large models ซึ่งพีพีคิดว่าสิ่งนี้สำคัญเพราะไม่ใช่เเค่เราจะเข้าใจ model มากขึ้นเเต่จะทำให้เราควบคุมโมเดลได้ดีขึ้นด้วย เช่น ถ้าเรารู้ว่า cluster ทำหน้าทีอะไร เราก็จะเช็คได้ว่ามี cluster ของ neurons ไม่พึงประสงค์ทำงานรึเปล่า (อาจจะลด hallucination ได้) หรือ เราสามารถปิด neuron cluster ในส่วนที่ไม่จำเป็นออกได้จะทำให้ลดทรัพยากรณ์เเละนำมาสู่ model ขนาดเล็กที่เป็นมิตรกับสิ่งเเวดล้อมขึ้นได้ นี่คือเหตุผลว่าตอนนี้ยักใหญ่ในวงการ AI หลายๆที่เเข่งกันทำ interpretability เพราะมันจะลด lost, เพิ่ม trust, เเละ robutness ได้ อย่างที่ CEO ของ Anthropic ประกาศว่าจะต้องเปิด blackbox ของ AI ให้ได้ภายในปี 2027 [6]ในไทยการวิจัยด้านนี้อาจจะทำได้ยากเพราะต้องการ compute มหาศาล เเละโจทย์นี้เป็นโจทย์ใหญ่ของระดับโลก ดังนั้นสิ่งที่เราควรสนใจอาจจะเป็นเรื่องของ research เเละ innovation ที่ connect AI เพื่อเข้ามา enhance อุตสาหกรรมไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้นผ่าน network ของ AI services ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว หรือ อาหาร วัฒนธรรม เเละ creative industry โดยสิ่งที่เราต้องทำคือต้องคิดเเตกต่างเเละไม่ยึดกับ AI เเบบเดิมๆที่เป็นมาพีพีได้รับเชิญจากทั้งรัฐบาลเเละเอกชนให้ไปเเชร์งานวิจัยเกี่ยวกับ Human-AI Interaction ที่เกาหลี 3 ครั้งในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีความตื่นตัวเรื่อง AI กับ creative industry มาก ครั้งเเรกเป็นงานของรัฐบาลที่ focus เรื่อง AI & cultural innovation เเละอีกสองครั้งเป็นงานของ Busan International Fim Festival เเละ Busan AI Fim Festival ซึ่งทำให้เห็นว่าเกาหลีมองเรื่องของ AI ในฐานะ creative medium เเบบใหม่ที่จะสร้างงานสร้างสรรค์เเบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน (ไม่ใช่เเค่การเอา AI มาเเทนที่สื่อเเบบเดิม) เช่นการสร้าง interactive cinema ที่ทำให้ character ในภาพยนต์หรือ series ออกมาอยู่ในโลกจริงร่วมกับคนดูได้ เเถมยังกลายเป็น interfaces ที่ช่วยขายสินค้าเเละวัฒนธรรมเกาหลีได้อีก นี่เป็นตัวอย่างของการมอง AI เเละ network ของ AI เป็น infrastructure ที่ connect กับวัฒนธรรมเเละ soft power ได้ครับในไทยเองก็มีโปรเจคที่พีพีเกี่ยวข้องอยู่อย่าง Cyber Subin กับพี่ Pichet Klunchun [7] ที่พยายามใช้ AI ถอดรหัสวัฒนธรรมไทยออกมาซึ่งถูกเชิญไปนำเสนอเเละโชว์ทั่วโลกในฐานะงาน AI ที่เชื่อมโยงกับการสร้างศิลปะเเละวัฒนธรรมเเบบใหม่ ดังนั้นพีพีโดยส่วนตัวค่อนข้าง optimistic ว่าไทยสามารถมีบทบาทต่อวงการ AI โลกเเละสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้นได้ในประเทศได้ถ้าได้รับการสนับสนุนที่ถูกต้อง เพราะไทยมีคนไทยเก่งๆ อีกมากมายที่อยู่เบื้องหลังวงการ AI ระดับโลกอย่าง ดร Supasorn Aek Suwajanakorn ที่เป็น pioneer ของ generative AI คนเเรกๆของโลก มี TED talk ที่คนดูเป็นล้าน [8] หรือ วีระ บุญจริง ที่เป็นคนอยู่เบื้องหลัง Siri ที่กลายมาเป็น conversational AI ที่มีคนใช้ทั่วโลกอย่าง Apple [9] ล่าสุดพีพีไปงานประชุม Human-Computer Interaction ที่สำคัญที่สุดในสาขาเจอคนไทยเก่งๆ หลายคนที่อยู่ทั่วโลก หรือ ในภาคเอกชนก็คนเก่งๆ มากมายอย่างพี่ผลักดันวงการ AI ใน industry ของไทย ดังนั้นก็อยากฝากไปถึงบอร์ด AI เเห่งชาตินะครับว่าประเทศไทยจะมีอนาคตทางด้าน AI ได้เเน่ๆ ถ้าเรามอง AI ให้ครบทุกมิติ ออกเเบบการศึกษาในยุค AI เเบบ all of education เเละ education for all เเละรวมพลังเอาคนเก่งๆ มาช่วยกันครับ คิดว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำถ้าตั้งใจให้เกิด impact จริงๆ เชื่อว่าจะพลิกประเทศไทยได้ครับ เพราะคำว่า Th[AI]land จะขาด AI ไปไม่ได้ครับ เป็นกำลังใจให้ครับ [1] https://www.media.mit.edu/projects/wearable-reasoner/overview/[2] https://mit-serc.pubpub.org/pub/iopjyxcx/release/2[3] https://openai.com/index/affective-use-study/[4] https://ui.adsabs.harvard.edu/abs/2025arXiv250119407P/abstract[5] https://www.neelnanda.io/mechanistic-interpretability/glossary[6] https://techsauce.co/news/anthropic-aims-to-unlock-ai-black-box-by-2027[7] https://cybersubin.media.mit.edu/[8] https://www.ted.com/speakers/supasorn_suwajanakorn[9] https://www.salika.co/2018/10/16/siri-artificial-intelligence-thai-owned/0 Comments 0 Shares 1103 Views 0 Reviews1
- คำพูด...และความคิด...
Cr.Wiwan Boonyaคำพูด...และความคิด... Cr.Wiwan Boonya0 Comments 0 Shares 88 Views 0 Reviews