• ชม live #สนธิเล่าเรื่อง 12/03/2568 ทาง YT ค่ะ #SondhiTalk #SondhiX
    https://www.youtube.com/live/BsejsSA1nX8
    ชม live #สนธิเล่าเรื่อง 12/03/2568 ทาง YT ค่ะ #SondhiTalk #SondhiX https://www.youtube.com/live/BsejsSA1nX8
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 12-3-68
    .
    รายการสนธิเล่าเรื่องวันนี้เป็น Medley หลายๆ เรื่องเพราะในช่วงไม่กี่วันมานี้มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา ไม่ว่าจะเป็นกรณีการเซ็นคำสั่งไล่ออก "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล, เรื่องวุ่น ๆ ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในยุค พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ซึ่งมาดามแป้ง นวลพรรณต้องเข้ามาแก้ไข, การทุจริตในกองทุนประกันสังคม รวมไปถึงปัญหาการเมือง ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและอีกหลาย ๆ เรื่องที่ไม่พูดไม่ได้
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=BsejsSA1nX8
    .
    #SondhiTalk #สนธิเล่าเรื่อง #บิ๊กโจ๊ก #สมาคมฟุตบอล #มาดามแป้ง #กองทุนประกันสังคม
    สนธิเล่าเรื่อง 12-3-68 . รายการสนธิเล่าเรื่องวันนี้เป็น Medley หลายๆ เรื่องเพราะในช่วงไม่กี่วันมานี้มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา ไม่ว่าจะเป็นกรณีการเซ็นคำสั่งไล่ออก "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล, เรื่องวุ่น ๆ ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในยุค พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ซึ่งมาดามแป้ง นวลพรรณต้องเข้ามาแก้ไข, การทุจริตในกองทุนประกันสังคม รวมไปถึงปัญหาการเมือง ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและอีกหลาย ๆ เรื่องที่ไม่พูดไม่ได้ . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=BsejsSA1nX8 . #SondhiTalk #สนธิเล่าเรื่อง #บิ๊กโจ๊ก #สมาคมฟุตบอล #มาดามแป้ง #กองทุนประกันสังคม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 12-3-68

    วันนี้เป็น Medley หลายๆ เรื่องเพราะในช่วงไม่กี่วันมานี้มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา ไม่ว่าจะเป็นกรณีการเซ็นคำสั่งไล่ออก "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล, เรื่องวุ่น ๆ ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในยุค พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ซึ่งมาดามแป้ง นวลพรรณต้องเข้ามาแก้ไข, การทุจริตในกองทุนประกันสังคม รวมไปถึงปัญหาการเมือง ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและอีกหลาย ๆ เรื่องที่ไม่พูดไม่ได้
    https://www.youtube.com/watch?v=BsejsSA1nX8

    #SondhiTalk #สนธิเล่าเรื่อง #บิ๊กโจ๊ก #สมาคมฟุตบอล #มาดามแป้ง #กองทุนประกันสังคม
    สนธิเล่าเรื่อง 12-3-68 วันนี้เป็น Medley หลายๆ เรื่องเพราะในช่วงไม่กี่วันมานี้มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา ไม่ว่าจะเป็นกรณีการเซ็นคำสั่งไล่ออก "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล, เรื่องวุ่น ๆ ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในยุค พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ซึ่งมาดามแป้ง นวลพรรณต้องเข้ามาแก้ไข, การทุจริตในกองทุนประกันสังคม รวมไปถึงปัญหาการเมือง ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและอีกหลาย ๆ เรื่องที่ไม่พูดไม่ได้ https://www.youtube.com/watch?v=BsejsSA1nX8 #SondhiTalk #สนธิเล่าเรื่อง #บิ๊กโจ๊ก #สมาคมฟุตบอล #มาดามแป้ง #กองทุนประกันสังคม
    Like
    Love
    12
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 402 มุมมอง 2 รีวิว
  • ภาพวิดีโอช่วงเวลาที่สมาชิกหน่วยรบพิเศษ Akhmat ของรัสเซีย ซึ่งเป็นอีกหน่วยหนึ่งที่เข้าร่วมภารกิจเสี่ยงชีวิตมุดท่อก๊าซในพื้นที่เขตรอบเมืองซูดจา(Sudzha) กำลังเคลื่อนตัวไปในทิศทางใกล้หมู่บ้าน Kubatkin ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางที่หน่วยนี้รับผิดชอบ หลังเพิ่งออกมาจากท่อก๊าซ

    ภารกิจครั้งนี้ นอกจากหน่วยพิเศษ Akhmat แล้ว ยังประกอบไปด้วยกองกำลังพิเศษของกองพลที่ 11 , กองพลทหารผ่านศึก และกองพลวอสตอก (Vostok)
    ภาพวิดีโอช่วงเวลาที่สมาชิกหน่วยรบพิเศษ Akhmat ของรัสเซีย ซึ่งเป็นอีกหน่วยหนึ่งที่เข้าร่วมภารกิจเสี่ยงชีวิตมุดท่อก๊าซในพื้นที่เขตรอบเมืองซูดจา(Sudzha) กำลังเคลื่อนตัวไปในทิศทางใกล้หมู่บ้าน Kubatkin ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางที่หน่วยนี้รับผิดชอบ หลังเพิ่งออกมาจากท่อก๊าซ ภารกิจครั้งนี้ นอกจากหน่วยพิเศษ Akhmat แล้ว ยังประกอบไปด้วยกองกำลังพิเศษของกองพลที่ 11 , กองพลทหารผ่านศึก และกองพลวอสตอก (Vostok)
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ ในวันอังคาร (11 มี.ค.) เห็นพ้องคืนความช่วยเหลือด้านการทหารและแบ่งปันข่าวกรองกับยูเครน ตามหลังการเจรจาที่เคียฟบอกว่ายอมรับข้อเสนอของสหรัฐฯ สำหรับการหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน ในความขัดแย้งกับรัสเซีย และเวลานี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของมอสโก

    อ่านต่อ..https://sondhitalk.com/detail/9680000023696
    สหรัฐฯ ในวันอังคาร (11 มี.ค.) เห็นพ้องคืนความช่วยเหลือด้านการทหารและแบ่งปันข่าวกรองกับยูเครน ตามหลังการเจรจาที่เคียฟบอกว่ายอมรับข้อเสนอของสหรัฐฯ สำหรับการหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน ในความขัดแย้งกับรัสเซีย และเวลานี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของมอสโก อ่านต่อ..https://sondhitalk.com/detail/9680000023696
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน ประกาศชัดเจนว่า จะไม่มีการเจรจากับสหรัฐเกิดขึ้น ภายหลังจากที่ทรัมป์กล่าวเมื่อวันก่อนว่า อิหร่านมีเพียงสองทางเลือก ในการเจรจานิวเคลียร์คือ จะใช้วิธีการคุยกัน หรือ จะใมช้วิธีการทางทหาร

    เปเซชเคียน กล่าวว่า คำพูดของทรัมป์คือการข่มขู่อิหร่าน และเมื่อเริ่มต้นด้วยการข่มขู่ การเจรจาจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน

    เมื่อวันที่ 9 มีนาคม "คาเมเนอี" ผู้นำสูงสุดอิหร่าน เพิ่งกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าใช้วิธีการข่มเหงรังแกผู้อื่น โดยใช้การเจรจาเป็นเครื่องมือบังหน้า โดยตั้งเงื่อนไขที่อิหร่านไม่สามารถทำได้ เพื่อบังคับให้อิหร่านทำตามที่ต้องการ มากกว่าจะมุ่งแสวงหาทางออกร่วมกัน และหากอิหร่านไม่ยอมทำตาม สหรัฐก็จะฉวยโอกาสนี้กล่าวหาอิหร่านว่าไม่ให้ความร่วมมือ และหาทางทำร้ายอิหร่านด้วยวิธีการต่างๆนานาๆ
    ประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน ประกาศชัดเจนว่า จะไม่มีการเจรจากับสหรัฐเกิดขึ้น ภายหลังจากที่ทรัมป์กล่าวเมื่อวันก่อนว่า อิหร่านมีเพียงสองทางเลือก ในการเจรจานิวเคลียร์คือ จะใช้วิธีการคุยกัน หรือ จะใมช้วิธีการทางทหาร เปเซชเคียน กล่าวว่า คำพูดของทรัมป์คือการข่มขู่อิหร่าน และเมื่อเริ่มต้นด้วยการข่มขู่ การเจรจาจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน เมื่อวันที่ 9 มีนาคม "คาเมเนอี" ผู้นำสูงสุดอิหร่าน เพิ่งกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าใช้วิธีการข่มเหงรังแกผู้อื่น โดยใช้การเจรจาเป็นเครื่องมือบังหน้า โดยตั้งเงื่อนไขที่อิหร่านไม่สามารถทำได้ เพื่อบังคับให้อิหร่านทำตามที่ต้องการ มากกว่าจะมุ่งแสวงหาทางออกร่วมกัน และหากอิหร่านไม่ยอมทำตาม สหรัฐก็จะฉวยโอกาสนี้กล่าวหาอิหร่านว่าไม่ให้ความร่วมมือ และหาทางทำร้ายอิหร่านด้วยวิธีการต่างๆนานาๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • แว่นตาอัจฉริยะ Amazon Echo Frames รุ่นที่ 3 เป็นอุปกรณ์ที่รวมฟีเจอร์ AI ผู้ช่วย Alexa ไว้ในแว่นตาดีไซน์เรียบง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งการควบคุมบ้านอัจฉริยะ รับสายโทรศัพท์ ฟังพอดแคสต์ หรือแม้แต่จัดการข้อความ นอกจากนี้ ยังมีดีไซน์น้ำหนักเบาและอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยปัจจุบันวางจำหน่ายในราคาลดพิเศษที่ $180

    จุดเด่นของแว่นตารุ่นนี้คือ การออกแบบที่เน้นความเรียบง่าย จนดูเหมือนแว่นสายตาปกติ ต่างจาก Meta Ray-Ban ที่มีฟีเจอร์กล้องถ่ายรูปในตัว ซึ่งอาจทำให้ถูกตั้งคำถามในเรื่องความเป็นส่วนตัวเมื่อใช้งานในที่สาธารณะ เช่น ในสนามบินหรือที่ทำงาน นอกจากนี้ Echo Frames ยังเน้นการใช้งานด้านเสียง เช่น การฟังเพลงหรือพอดแคสต์ โดยเน้นช่วงความถี่กลางและสูง จึงเหมาะสำหรับเนื้อหาแบบเสียงล้วนมากกว่าดนตรีที่ซับซ้อน

    สิ่งที่ควรทราบคือ ระบบชาร์จของแว่นตานี้ออกแบบมาเป็นฐานวางเฉพาะ แตกต่างจากการใช้งาน USB-C ทั่วไป ซึ่งอาจทำให้ไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้บางราย อีกทั้งยังไม่มีฟีเจอร์การแสดงผล XR หรือ AI กล้องที่หลายคนคาดหวัง

    อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาที่เข้าถึงได้และการผสมผสาน Alexa ในตัว ทำให้แว่นนี้เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทดลองใช้แว่นอัจฉริยะ รวมถึงผู้ที่สนใจระบบบ้านอัจฉริยะที่ Alexa รองรับอย่างกว้างขวาง

    https://www.zdnet.com/article/these-alexa-enabled-smart-glasses-beat-the-meta-ray-bans-in-key-ways-and-theyre-on-sale-for-180-now/
    แว่นตาอัจฉริยะ Amazon Echo Frames รุ่นที่ 3 เป็นอุปกรณ์ที่รวมฟีเจอร์ AI ผู้ช่วย Alexa ไว้ในแว่นตาดีไซน์เรียบง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งการควบคุมบ้านอัจฉริยะ รับสายโทรศัพท์ ฟังพอดแคสต์ หรือแม้แต่จัดการข้อความ นอกจากนี้ ยังมีดีไซน์น้ำหนักเบาและอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยปัจจุบันวางจำหน่ายในราคาลดพิเศษที่ $180 จุดเด่นของแว่นตารุ่นนี้คือ การออกแบบที่เน้นความเรียบง่าย จนดูเหมือนแว่นสายตาปกติ ต่างจาก Meta Ray-Ban ที่มีฟีเจอร์กล้องถ่ายรูปในตัว ซึ่งอาจทำให้ถูกตั้งคำถามในเรื่องความเป็นส่วนตัวเมื่อใช้งานในที่สาธารณะ เช่น ในสนามบินหรือที่ทำงาน นอกจากนี้ Echo Frames ยังเน้นการใช้งานด้านเสียง เช่น การฟังเพลงหรือพอดแคสต์ โดยเน้นช่วงความถี่กลางและสูง จึงเหมาะสำหรับเนื้อหาแบบเสียงล้วนมากกว่าดนตรีที่ซับซ้อน สิ่งที่ควรทราบคือ ระบบชาร์จของแว่นตานี้ออกแบบมาเป็นฐานวางเฉพาะ แตกต่างจากการใช้งาน USB-C ทั่วไป ซึ่งอาจทำให้ไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้บางราย อีกทั้งยังไม่มีฟีเจอร์การแสดงผล XR หรือ AI กล้องที่หลายคนคาดหวัง อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาที่เข้าถึงได้และการผสมผสาน Alexa ในตัว ทำให้แว่นนี้เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทดลองใช้แว่นอัจฉริยะ รวมถึงผู้ที่สนใจระบบบ้านอัจฉริยะที่ Alexa รองรับอย่างกว้างขวาง https://www.zdnet.com/article/these-alexa-enabled-smart-glasses-beat-the-meta-ray-bans-in-key-ways-and-theyre-on-sale-for-180-now/
    WWW.ZDNET.COM
    These Alexa-enabled smart glasses beat the Meta Ray-Bans in key ways, and they're on sale for $180 now
    The Amazon Echo Frames (3rd Gen) may be the most subtle-looking pair of smart glasses on the market, and they're $90 off now.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้พูดถึงสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวสมาร์ทโฟนหรือผู้ใช้งาน หากชาร์จแบตเตอรี่ในสถานที่และสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม พร้อมแนะนำวิธีป้องกันความเสี่ยงเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของเรา

    ในบ้าน:
    1) ไม่ควรชาร์จสมาร์ทโฟนบนพื้นผิวที่ติดไฟง่าย เช่น เตียง หมอน หรือโซฟา เนื่องจากอุปกรณ์อาจร้อนเกินไปและก่อให้เกิดไฟไหม้ได้
    2) หลีกเลี่ยงการชาร์จในห้องน้ำ เพราะความชื้นสามารถทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่าย
    3) ห้ามเสียบชาร์จในปลั๊กที่มีอุปกรณ์อื่นต่ออยู่เต็มปลั๊กพ่วง เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้
    4) ไม่ควรชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืน เนื่องจากการชาร์จเป็นเวลานานอาจทำให้อุปกรณ์ร้อนเกินไป และส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่

    นอกบ้าน:
    1) หลีกเลี่ยงการชาร์จสมาร์ทโฟนในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง เช่น ในรถหรือริมหน้าต่าง เพราะความร้อนจะเพิ่มความเสี่ยงที่แบตเตอรี่จะระเบิด
    2) หลีกเลี่ยงการใช้สถานีชาร์จสาธารณะ เช่น ที่สถานีรถไฟหรือสนามบิน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์แบบ "Juice Jacking" ซึ่งแฮกเกอร์อาจติดตั้งมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลผ่านพอร์ต USB สาธารณะได้

    เคล็ดลับเพิ่มเติม:
    1) ใช้ที่ชาร์จคุณภาพดีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานแทนการใช้พอร์ตสาธารณะ
    2) หมั่นตรวจสอบสถานที่และอุปกรณ์ก่อนการชาร์จ เพื่อความปลอดภัยของอุปกรณ์และข้อมูลสำคัญ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/12/don039t-charge-your-smartphone-in-these-places
    บทความนี้พูดถึงสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวสมาร์ทโฟนหรือผู้ใช้งาน หากชาร์จแบตเตอรี่ในสถานที่และสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม พร้อมแนะนำวิธีป้องกันความเสี่ยงเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของเรา ในบ้าน: 1) ไม่ควรชาร์จสมาร์ทโฟนบนพื้นผิวที่ติดไฟง่าย เช่น เตียง หมอน หรือโซฟา เนื่องจากอุปกรณ์อาจร้อนเกินไปและก่อให้เกิดไฟไหม้ได้ 2) หลีกเลี่ยงการชาร์จในห้องน้ำ เพราะความชื้นสามารถทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่าย 3) ห้ามเสียบชาร์จในปลั๊กที่มีอุปกรณ์อื่นต่ออยู่เต็มปลั๊กพ่วง เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ 4) ไม่ควรชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืน เนื่องจากการชาร์จเป็นเวลานานอาจทำให้อุปกรณ์ร้อนเกินไป และส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ นอกบ้าน: 1) หลีกเลี่ยงการชาร์จสมาร์ทโฟนในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง เช่น ในรถหรือริมหน้าต่าง เพราะความร้อนจะเพิ่มความเสี่ยงที่แบตเตอรี่จะระเบิด 2) หลีกเลี่ยงการใช้สถานีชาร์จสาธารณะ เช่น ที่สถานีรถไฟหรือสนามบิน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์แบบ "Juice Jacking" ซึ่งแฮกเกอร์อาจติดตั้งมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลผ่านพอร์ต USB สาธารณะได้ เคล็ดลับเพิ่มเติม: 1) ใช้ที่ชาร์จคุณภาพดีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานแทนการใช้พอร์ตสาธารณะ 2) หมั่นตรวจสอบสถานที่และอุปกรณ์ก่อนการชาร์จ เพื่อความปลอดภัยของอุปกรณ์และข้อมูลสำคัญ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/12/don039t-charge-your-smartphone-in-these-places
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Don't charge your smartphone in these places
    To avoid smartphone risks such as overheating, short-circuiting or even data hacks when charging your device, it is essential to avoid certain places and situations, whether at home or elsewhere.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันอังคาร (11 มี.ค.) เปิดเผยว่าเขาจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นสำหรับสินค้านำเข้าจากแคนาดา เพิ่มเพดานภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมสู่ระดับ 50% พร้อมเน้นย้ำถึงความต้องการผนวกประเทศแห่งนี้ ระบุหนทางเดียวที่คลี่คลายการเผชิญหน้าทางภาษี ก็คือแคนาดาเข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา

    อ่านต่อ..https://sondhitalk.com/detail/9680000023699
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันอังคาร (11 มี.ค.) เปิดเผยว่าเขาจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นสำหรับสินค้านำเข้าจากแคนาดา เพิ่มเพดานภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมสู่ระดับ 50% พร้อมเน้นย้ำถึงความต้องการผนวกประเทศแห่งนี้ ระบุหนทางเดียวที่คลี่คลายการเผชิญหน้าทางภาษี ก็คือแคนาดาเข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา อ่านต่อ..https://sondhitalk.com/detail/9680000023699
    Like
    Love
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องนี้เกี่ยวกับความขัดแย้งทางกฎหมายและความคิดเห็นระหว่าง Elon Musk ซีอีโอของ Tesla และ Sam Altman หัวหน้าของ OpenAI ซึ่งทั้งสองคนเคยร่วมก่อตั้ง OpenAI ในปี 2015 แต่ภายหลัง Musk ได้ออกจากองค์กรเนื่องจากความคิดเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของบริษัท

    Musk ฟ้อง OpenAI โดยอ้างว่าบริษัทได้เบี่ยงเบนจากเป้าหมายเดิมที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีเป้าหมายเพื่อมนุษยชาติ แต่ในปัจจุบัน OpenAI ได้เปลี่ยนไปสู่การเป็นหน่วยงานเพื่อผลกำไรที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้น Musk ยังกล่าวว่าเขาได้ลงทุนกว่า $44 ล้านใน OpenAI ด้วยความเชื่อว่าจะยังคงเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร

    ในทางกลับกัน OpenAI ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของ Musk โดยระบุว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรองรับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม AI และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า Musk ต้องการควบคุมองค์กรหรือรวม OpenAI กับ Tesla เพื่อประโยชน์ส่วนตัว

    หากศาลตัดสินให้ Musk ชนะ มันอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อ OpenAI รวมถึงพันธมิตรธุรกิจ เช่น Microsoft ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม หาก OpenAI ชนะคดี อาจมีการเรียกค่าเสียหายจาก Musk และการดำเนินธุรกิจของ OpenAI ก็จะดำเนินต่อไปอย่างไร้ปัญหา

    เรื่องนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการสร้างสมดุลระหว่างวิสัยทัศน์เพื่อส่วนรวมและการแข่งขันในตลาดธุรกิจ AI

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/12/elon-musk039s-feud-with-openai-ceo-sam-altman-explained
    เรื่องนี้เกี่ยวกับความขัดแย้งทางกฎหมายและความคิดเห็นระหว่าง Elon Musk ซีอีโอของ Tesla และ Sam Altman หัวหน้าของ OpenAI ซึ่งทั้งสองคนเคยร่วมก่อตั้ง OpenAI ในปี 2015 แต่ภายหลัง Musk ได้ออกจากองค์กรเนื่องจากความคิดเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของบริษัท Musk ฟ้อง OpenAI โดยอ้างว่าบริษัทได้เบี่ยงเบนจากเป้าหมายเดิมที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีเป้าหมายเพื่อมนุษยชาติ แต่ในปัจจุบัน OpenAI ได้เปลี่ยนไปสู่การเป็นหน่วยงานเพื่อผลกำไรที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้น Musk ยังกล่าวว่าเขาได้ลงทุนกว่า $44 ล้านใน OpenAI ด้วยความเชื่อว่าจะยังคงเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ในทางกลับกัน OpenAI ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของ Musk โดยระบุว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรองรับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม AI และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า Musk ต้องการควบคุมองค์กรหรือรวม OpenAI กับ Tesla เพื่อประโยชน์ส่วนตัว หากศาลตัดสินให้ Musk ชนะ มันอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อ OpenAI รวมถึงพันธมิตรธุรกิจ เช่น Microsoft ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม หาก OpenAI ชนะคดี อาจมีการเรียกค่าเสียหายจาก Musk และการดำเนินธุรกิจของ OpenAI ก็จะดำเนินต่อไปอย่างไร้ปัญหา เรื่องนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการสร้างสมดุลระหว่างวิสัยทัศน์เพื่อส่วนรวมและการแข่งขันในตลาดธุรกิจ AI https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/12/elon-musk039s-feud-with-openai-ceo-sam-altman-explained
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Elon Musk's feud with OpenAI CEO Sam Altman, explained
    A bitter rift between two Silicon Valley billionaires could shape the future of the fast-growing artificial intelligence industry.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • X-37B ยานอวกาศลับของกองทัพอวกาศสหรัฐฯ เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจครั้งที่ 7 หลังจากลอยอยู่ในวงโคจรยาวนานถึง 434 วัน ยานลำนี้มีขนาดเล็กกว่ายานกระสวยอวกาศทั่วไปและใช้พลังงานจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดพิเศษที่ช่วยให้สามารถอยู่ในอวกาศได้นานเป็นร้อยวัน โดยภารกิจนี้มุ่งเน้นไปที่การทดสอบและทดลองเทคโนโลยีหลากหลาย รวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของรังสีในอวกาศ และการเพิ่มประสิทธิภาพของการเปลี่ยนวงโคจรโดยใช้ "aerobraking" ซึ่งใช้แรงเสียดทานของชั้นบรรยากาศเพื่อลดการใช้พลังงาน

    แม้ว่ารายละเอียดของการทดลองและภารกิจของ X-37B จะยังคงเป็นความลับ แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่ายานลำนี้อาจมีบทบาทสำคัญในด้านการเฝ้าระวัง การทดสอบเทคโนโลยีทางทหาร หรือแม้กระทั่งการพัฒนาความพร้อมในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศในอวกาศ

    น่าสนใจที่ยานอวกาศลำนี้ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในยุคที่อวกาศกลายเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูง การวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้าน "space domain awareness" หรือการเฝ้าระวังอวกาศได้ถูกชี้ว่าเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินการในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยดาวเทียมและเศษซากต่าง ๆ ซึ่งสิ่งนี้อาจส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการดำรงความปลอดภัยในอวกาศในอนาคต

    การลงจอดของ X-37B ที่ฐานทัพในแคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ถือเป็นอีกก้าวที่ช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพอวกาศสหรัฐฯ สำหรับภารกิจครั้งต่อไป OTV-8 แม้ยังไม่มีรายละเอียด แต่ดูเหมือนจะเป็นอีกบทพิสูจน์ความสามารถของมนุษย์ในการก้าวเข้าสู่อนาคตที่เกี่ยวข้องกับอวกาศอย่างยั่งยืน

    https://www.techspot.com/news/107098-mysterious-x-37b-spaceplane-lands-following-434-day.html
    X-37B ยานอวกาศลับของกองทัพอวกาศสหรัฐฯ เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจครั้งที่ 7 หลังจากลอยอยู่ในวงโคจรยาวนานถึง 434 วัน ยานลำนี้มีขนาดเล็กกว่ายานกระสวยอวกาศทั่วไปและใช้พลังงานจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดพิเศษที่ช่วยให้สามารถอยู่ในอวกาศได้นานเป็นร้อยวัน โดยภารกิจนี้มุ่งเน้นไปที่การทดสอบและทดลองเทคโนโลยีหลากหลาย รวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของรังสีในอวกาศ และการเพิ่มประสิทธิภาพของการเปลี่ยนวงโคจรโดยใช้ "aerobraking" ซึ่งใช้แรงเสียดทานของชั้นบรรยากาศเพื่อลดการใช้พลังงาน แม้ว่ารายละเอียดของการทดลองและภารกิจของ X-37B จะยังคงเป็นความลับ แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่ายานลำนี้อาจมีบทบาทสำคัญในด้านการเฝ้าระวัง การทดสอบเทคโนโลยีทางทหาร หรือแม้กระทั่งการพัฒนาความพร้อมในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศในอวกาศ น่าสนใจที่ยานอวกาศลำนี้ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในยุคที่อวกาศกลายเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูง การวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้าน "space domain awareness" หรือการเฝ้าระวังอวกาศได้ถูกชี้ว่าเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินการในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยดาวเทียมและเศษซากต่าง ๆ ซึ่งสิ่งนี้อาจส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการดำรงความปลอดภัยในอวกาศในอนาคต การลงจอดของ X-37B ที่ฐานทัพในแคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ถือเป็นอีกก้าวที่ช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพอวกาศสหรัฐฯ สำหรับภารกิจครั้งต่อไป OTV-8 แม้ยังไม่มีรายละเอียด แต่ดูเหมือนจะเป็นอีกบทพิสูจน์ความสามารถของมนุษย์ในการก้าวเข้าสู่อนาคตที่เกี่ยวข้องกับอวกาศอย่างยั่งยืน https://www.techspot.com/news/107098-mysterious-x-37b-spaceplane-lands-following-434-day.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US Space Force's secretive X-37B returns to Earth after 434 days
    Mission seven launched aboard a SpaceX Falcon Heavy on December 28, 2023, taking off from Launch Complex 39A at NASA's Kennedy Space Center in Florida. The spaceplane...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวแนวโน้มล่าสุดในตลาดสมาร์ทวอทช์ที่ได้พบกับการชะลอตัวเป็นครั้งแรกในปี 2024 โดยมีการจัดส่งลดลงถึง 7% ซึ่งสะท้อนถึงความท้าทายสำหรับผู้ผลิตสมาร์ทวอทช์ทั่วโลก รวมถึง Apple ที่ยังคงครองตำแหน่งผู้นำในตลาด แต่ยอดขายลดลงถึง 19% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

    หนึ่งในสาเหตุสำคัญของการลดลงนี้ คือการอัปเดตฟีเจอร์ที่มีน้อยในรุ่น Apple Watch Series 10 และการไม่มีรุ่น Ultra 3 ในตลาด รวมถึงการขาดรุ่น SE ใหม่ตั้งแต่ปี 2022 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าอาจเป็นเพราะความกังวลเรื่องต้นทุน ในขณะที่ Apple คาดว่าจะออก Apple Watch SE รุ่นใหม่ในปีนี้

    ด้านการกระจายตลาด สมาร์ทวอทช์หนึ่งในสี่ของการจัดส่งในปีที่ผ่านมาอยู่ในประเทศจีน โดยแซงหน้าอินเดียและอเมริกาเหนือที่ตามมาเล็กน้อย นอกจากนี้ ตลาดสมาร์ทวอทช์สำหรับเด็กที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัย เช่น ติดตามตำแหน่งของลูกหลาน ยังเป็นเซกเมนต์เดียวที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้ บริษัทอย่าง Imoo ได้รับความนิยมในกลุ่มนี้ และกระตุ้นให้แบรนด์อื่น ๆ เช่น Fitbit และ Noise เริ่มขยายไลน์สินค้าสำหรับเด็กมากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/107100-global-smartwatch-shipments-dipped-7-2024-marking-first.html
    ข่าวแนวโน้มล่าสุดในตลาดสมาร์ทวอทช์ที่ได้พบกับการชะลอตัวเป็นครั้งแรกในปี 2024 โดยมีการจัดส่งลดลงถึง 7% ซึ่งสะท้อนถึงความท้าทายสำหรับผู้ผลิตสมาร์ทวอทช์ทั่วโลก รวมถึง Apple ที่ยังคงครองตำแหน่งผู้นำในตลาด แต่ยอดขายลดลงถึง 19% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หนึ่งในสาเหตุสำคัญของการลดลงนี้ คือการอัปเดตฟีเจอร์ที่มีน้อยในรุ่น Apple Watch Series 10 และการไม่มีรุ่น Ultra 3 ในตลาด รวมถึงการขาดรุ่น SE ใหม่ตั้งแต่ปี 2022 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าอาจเป็นเพราะความกังวลเรื่องต้นทุน ในขณะที่ Apple คาดว่าจะออก Apple Watch SE รุ่นใหม่ในปีนี้ ด้านการกระจายตลาด สมาร์ทวอทช์หนึ่งในสี่ของการจัดส่งในปีที่ผ่านมาอยู่ในประเทศจีน โดยแซงหน้าอินเดียและอเมริกาเหนือที่ตามมาเล็กน้อย นอกจากนี้ ตลาดสมาร์ทวอทช์สำหรับเด็กที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัย เช่น ติดตามตำแหน่งของลูกหลาน ยังเป็นเซกเมนต์เดียวที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้ บริษัทอย่าง Imoo ได้รับความนิยมในกลุ่มนี้ และกระตุ้นให้แบรนด์อื่น ๆ เช่น Fitbit และ Noise เริ่มขยายไลน์สินค้าสำหรับเด็กมากขึ้น https://www.techspot.com/news/107100-global-smartwatch-shipments-dipped-7-2024-marking-first.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Apple Watch faces first major decline as smartwatch shipments drop 7%
    According to Counterpoint senior research analyst Anshika Jain, Apple Watch experienced a decline in its 10th year on the market thanks in part to minimal feature upgrades...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลการศึกษาเกี่ยวกับความแม่นยำของเครื่องมือค้นหาที่ใช้ AI โดย Tow Center for Digital Journalism พบว่า AI เหล่านี้มีอัตราความผิดพลาดสูงถึง 60% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ในยุคที่เทคโนโลยี AI ขยายตัว

    การศึกษาได้เลือกบทความข่าว 200 ชิ้นจาก 20 สำนักข่าว เพื่อทดสอบความแม่นยำของเครื่องมือค้นหา AI รวมถึง ChatGPT, Copilot, Perplexity และ Grok โดยการให้ AI ตอบคำถามและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เช่น การอ้างอิงถึงบทความ ชื่อสำนักข่าว และ URL ที่เกี่ยวข้อง ผลลัพธ์ชี้ว่า AI มักจะรายงานข้อมูลที่ผิดพลาด แต่ยังคงแสดงความมั่นใจในคำตอบนั้น ๆ ทำให้เกิดข้อวิจารณ์ว่าเป็น "ศิลปะแห่งการหลอกลวงที่ดูน่าเชื่อถือ"

    นอกจากนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ChatGPT สามารถตอบคำถามทุกชุดข้อมูลได้ครบถ้วน แต่คำตอบกลับ "ถูกต้องอย่างสมบูรณ์" เพียง 28% และ "ผิดพลาดทั้งหมด" สูงถึง 57% ในขณะที่ AI อื่น ๆ เช่น Copilot และ Grok มีอัตราความผิดพลาดสูงขึ้นถึง 70% และ 94% ตามลำดับ

    จุดสำคัญของข่าวนี้คือการเรียกร้องให้บริษัทผู้พัฒนา AI เพิ่มความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อความแม่นยำของข้อมูลที่ให้กับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อผู้ใช้งานต้องเสียค่าบริการรายเดือนซึ่งอาจสูงถึง $200 ต่อเดือน ความคิดเห็นของสาธารณชนแตกออกเป็นสองทาง บางคนชื่นชมความรวดเร็วและอินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่าย แต่คนอื่น ๆ ตั้งคำถามว่าเราควรเชื่อถือ AI ในการค้นหาข้อมูลมากแค่ไหน

    https://www.techspot.com/news/107101-new-study-finds-ai-search-tools-60-percent.html
    ผลการศึกษาเกี่ยวกับความแม่นยำของเครื่องมือค้นหาที่ใช้ AI โดย Tow Center for Digital Journalism พบว่า AI เหล่านี้มีอัตราความผิดพลาดสูงถึง 60% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ในยุคที่เทคโนโลยี AI ขยายตัว การศึกษาได้เลือกบทความข่าว 200 ชิ้นจาก 20 สำนักข่าว เพื่อทดสอบความแม่นยำของเครื่องมือค้นหา AI รวมถึง ChatGPT, Copilot, Perplexity และ Grok โดยการให้ AI ตอบคำถามและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เช่น การอ้างอิงถึงบทความ ชื่อสำนักข่าว และ URL ที่เกี่ยวข้อง ผลลัพธ์ชี้ว่า AI มักจะรายงานข้อมูลที่ผิดพลาด แต่ยังคงแสดงความมั่นใจในคำตอบนั้น ๆ ทำให้เกิดข้อวิจารณ์ว่าเป็น "ศิลปะแห่งการหลอกลวงที่ดูน่าเชื่อถือ" นอกจากนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ChatGPT สามารถตอบคำถามทุกชุดข้อมูลได้ครบถ้วน แต่คำตอบกลับ "ถูกต้องอย่างสมบูรณ์" เพียง 28% และ "ผิดพลาดทั้งหมด" สูงถึง 57% ในขณะที่ AI อื่น ๆ เช่น Copilot และ Grok มีอัตราความผิดพลาดสูงขึ้นถึง 70% และ 94% ตามลำดับ จุดสำคัญของข่าวนี้คือการเรียกร้องให้บริษัทผู้พัฒนา AI เพิ่มความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อความแม่นยำของข้อมูลที่ให้กับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อผู้ใช้งานต้องเสียค่าบริการรายเดือนซึ่งอาจสูงถึง $200 ต่อเดือน ความคิดเห็นของสาธารณชนแตกออกเป็นสองทาง บางคนชื่นชมความรวดเร็วและอินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่าย แต่คนอื่น ๆ ตั้งคำถามว่าเราควรเชื่อถือ AI ในการค้นหาข้อมูลมากแค่ไหน https://www.techspot.com/news/107101-new-study-finds-ai-search-tools-60-percent.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI search engines fail accuracy test, study finds 60% error rate
    The Tow Center for Digital Journalism recently studied eight AI search engines, including ChatGPT Search, Perplexity, Perplexity Pro, Gemini, DeepSeek Search, Grok-2 Search, Grok-3 Search, and Copilot....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่จาก AMD อย่าง RX 9070 XT และ RX 9070 ซึ่งกำลังได้รับความสนใจในวงการเกมและเทคโนโลยี ด้วยความสามารถที่โดดเด่นในการแข่งขันกับคู่แข่งรุ่นใหญ่ของ Nvidia อย่าง RTX 5080 และการปรับแต่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากกว่าค่ามาตรฐาน

    จุดเด่นสำคัญ:
    1) การ์ด RX 9070 XT สามารถเอาชนะ RTX 5080 ได้ในด้านการประสิทธิภาพเฟรมเรต (FPS) โดยเฉพาะในเกม Cyberpunk 2077 เมื่อปรับลดแรงดันไฟฟ้า (Undervolting) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 10% โดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนความเร็วของ GPU โดยตรง

    2) มีการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านการโอเวอร์คล็อก (Overclocking) อย่าง Der8auer และ Alva Jonathan ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการ์ด AMD ในการเพิ่มเฟรมเรตได้อย่างน่าประทับใจ โดยใช้เทคนิคปรับแรงดันไฟฟ้าลดลง ทำให้ GPU ทำงานได้ที่ความเร็ว 3.36 GHz โดยใช้พลังงานต่ำลง

    เทคโนโลยีและผลลัพธ์:
    - AMD Radeon Software ช่วยให้การปรับแรงดันไฟฟ้าทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตัวการ์ดสามารถทำงานได้อย่างเสถียร แม้ภายใต้การเพิ่มพลังงานถึง 110% จากปกติ

    - อย่างไรก็ตาม การ์ดเหล่านี้ถูกตั้งราคาขายเกินกว่ามาตรฐาน MSRP ในตลาด เช่น รุ่น RX 9070 XT PowerColor Red Devil ที่เริ่มต้นที่ $799 สูงกว่าราคามาตรฐานถึง $200

    แม้ว่าความสามารถด้านการเพิ่มประสิทธิภาพจะโดดเด่น แต่ยังมีประเด็นที่อาจทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจยาก เช่น การจัดจำหน่ายที่จำกัดและราคาที่สูง นอกจากนี้ การปรับแต่งในบางกรณี เช่น การเพิ่มความเร็ว VRAM อาจไม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่กลับทำให้เกมทำงานช้าลงเนื่องจากการแก้ไขข้อผิดพลาดของ VRAM ที่ซับซ้อนขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/undervolted-rx-9070-xt-beats-rtx-5080-rx-9070-and-9070-xt-models-with-heavy-coolers-have-massive-oc-headroom
    ข่าวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่จาก AMD อย่าง RX 9070 XT และ RX 9070 ซึ่งกำลังได้รับความสนใจในวงการเกมและเทคโนโลยี ด้วยความสามารถที่โดดเด่นในการแข่งขันกับคู่แข่งรุ่นใหญ่ของ Nvidia อย่าง RTX 5080 และการปรับแต่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากกว่าค่ามาตรฐาน จุดเด่นสำคัญ: 1) การ์ด RX 9070 XT สามารถเอาชนะ RTX 5080 ได้ในด้านการประสิทธิภาพเฟรมเรต (FPS) โดยเฉพาะในเกม Cyberpunk 2077 เมื่อปรับลดแรงดันไฟฟ้า (Undervolting) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 10% โดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนความเร็วของ GPU โดยตรง 2) มีการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านการโอเวอร์คล็อก (Overclocking) อย่าง Der8auer และ Alva Jonathan ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการ์ด AMD ในการเพิ่มเฟรมเรตได้อย่างน่าประทับใจ โดยใช้เทคนิคปรับแรงดันไฟฟ้าลดลง ทำให้ GPU ทำงานได้ที่ความเร็ว 3.36 GHz โดยใช้พลังงานต่ำลง เทคโนโลยีและผลลัพธ์: - AMD Radeon Software ช่วยให้การปรับแรงดันไฟฟ้าทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตัวการ์ดสามารถทำงานได้อย่างเสถียร แม้ภายใต้การเพิ่มพลังงานถึง 110% จากปกติ - อย่างไรก็ตาม การ์ดเหล่านี้ถูกตั้งราคาขายเกินกว่ามาตรฐาน MSRP ในตลาด เช่น รุ่น RX 9070 XT PowerColor Red Devil ที่เริ่มต้นที่ $799 สูงกว่าราคามาตรฐานถึง $200 แม้ว่าความสามารถด้านการเพิ่มประสิทธิภาพจะโดดเด่น แต่ยังมีประเด็นที่อาจทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจยาก เช่น การจัดจำหน่ายที่จำกัดและราคาที่สูง นอกจากนี้ การปรับแต่งในบางกรณี เช่น การเพิ่มความเร็ว VRAM อาจไม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่กลับทำให้เกมทำงานช้าลงเนื่องจากการแก้ไขข้อผิดพลาดของ VRAM ที่ซับซ้อนขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/undervolted-rx-9070-xt-beats-rtx-5080-rx-9070-and-9070-xt-models-with-heavy-coolers-have-massive-oc-headroom
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta กำลังพัฒนาทิศทางใหม่ในการจัดการข้อมูลในศูนย์ข้อมูล ด้วยการนำ QLC flash storage มาใช้แทนฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) แบบดั้งเดิมที่มีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพไม่ตามทันความจุที่เพิ่มขึ้น

    == ปัญหาของฮาร์ดดิสก์ในปัจจุบัน ==
    ปัจจุบัน HDD ยังคงเป็นตัวเลือกหลักในศูนย์ข้อมูล เนื่องจากราคาถูกและประหยัดพลังงานมากกว่า TLC flash อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพการรับส่งข้อมูล (I/O) ต่อเทราไบต์กลับลดลงเรื่อย ๆ เมื่อความจุเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ข้อมูลที่ต้องการถูกเรียกใช้งานบ่อย ถูกย้ายไปอยู่ใน TLC flash หรือจำเป็นต้องใช้พื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้น

    == ทำไมต้องเป็น QLC flash? ==
    Meta มองว่า QLC (Quad-Level Cell) flash เป็นทางสายกลางระหว่าง HDD และ TLC SSD โดยเทคโนโลยีนี้รองรับการประมวลผลข้อมูลที่ต้องการการจัดเก็บขนาดใหญ่และการเข้าถึงที่รวดเร็ว ทั้งยังใช้พลังงานน้อยกว่าเนื่องจากลดกิจกรรมการเขียนข้อมูล ทำให้ QLC เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาว

    == การพัฒนาสำหรับอนาคต ==
    Meta ตั้งเป้าให้ QLC flash สามารถรองรับความจุสูงสุดถึง 512TB โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาโครงสร้างใหม่อย่าง U.2-15mm และ Pure Storage’s DirectFlash Module เพื่อประยุกต์ใช้ QLC กับศูนย์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาซอฟต์แวร์จัดการข้อมูลให้เหมาะสมกับข้อจำกัดของ QLC เช่น ความแตกต่างของความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูล

    == ผลกระทบต่อ AI และศูนย์ข้อมูล ==
    นักวิเคราะห์มองว่า QLC flash มีบทบาทสำคัญในงานที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น การประมวลผลข้อมูลแบบแบตช์ใน pipeline ของโมเดล AI ที่ต้องการการจัดเก็บข้อมูลประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ การประหยัดพลังงานยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

    นี่เป็นอีกก้าวสำคัญของ Meta ที่กำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคใหม่ของการจัดการข้อมูลในศูนย์ข้อมูล

    https://www.techradar.com/pro/facebook-engineers-say-that-bigger-hard-disk-drives-is-making-one-critical-metric-far-far-worse
    Meta กำลังพัฒนาทิศทางใหม่ในการจัดการข้อมูลในศูนย์ข้อมูล ด้วยการนำ QLC flash storage มาใช้แทนฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) แบบดั้งเดิมที่มีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพไม่ตามทันความจุที่เพิ่มขึ้น == ปัญหาของฮาร์ดดิสก์ในปัจจุบัน == ปัจจุบัน HDD ยังคงเป็นตัวเลือกหลักในศูนย์ข้อมูล เนื่องจากราคาถูกและประหยัดพลังงานมากกว่า TLC flash อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพการรับส่งข้อมูล (I/O) ต่อเทราไบต์กลับลดลงเรื่อย ๆ เมื่อความจุเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ข้อมูลที่ต้องการถูกเรียกใช้งานบ่อย ถูกย้ายไปอยู่ใน TLC flash หรือจำเป็นต้องใช้พื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้น == ทำไมต้องเป็น QLC flash? == Meta มองว่า QLC (Quad-Level Cell) flash เป็นทางสายกลางระหว่าง HDD และ TLC SSD โดยเทคโนโลยีนี้รองรับการประมวลผลข้อมูลที่ต้องการการจัดเก็บขนาดใหญ่และการเข้าถึงที่รวดเร็ว ทั้งยังใช้พลังงานน้อยกว่าเนื่องจากลดกิจกรรมการเขียนข้อมูล ทำให้ QLC เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาว == การพัฒนาสำหรับอนาคต == Meta ตั้งเป้าให้ QLC flash สามารถรองรับความจุสูงสุดถึง 512TB โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาโครงสร้างใหม่อย่าง U.2-15mm และ Pure Storage’s DirectFlash Module เพื่อประยุกต์ใช้ QLC กับศูนย์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาซอฟต์แวร์จัดการข้อมูลให้เหมาะสมกับข้อจำกัดของ QLC เช่น ความแตกต่างของความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูล == ผลกระทบต่อ AI และศูนย์ข้อมูล == นักวิเคราะห์มองว่า QLC flash มีบทบาทสำคัญในงานที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น การประมวลผลข้อมูลแบบแบตช์ใน pipeline ของโมเดล AI ที่ต้องการการจัดเก็บข้อมูลประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ การประหยัดพลังงานยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว นี่เป็นอีกก้าวสำคัญของ Meta ที่กำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคใหม่ของการจัดการข้อมูลในศูนย์ข้อมูล https://www.techradar.com/pro/facebook-engineers-say-that-bigger-hard-disk-drives-is-making-one-critical-metric-far-far-worse
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • Patch Tuesday ของ Microsoft เดือนมีนาคม 2025 ซึ่งเป็นวันอัปเดตระบบความปลอดภัยที่สำคัญ โดยในครั้งนี้ Microsoft ได้แก้ไขข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยทั้งหมด 57 รายการ ซึ่งรวมถึง 6 ช่องโหว่ Zero-Day ที่ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง และอีก 1 รายการที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

    == ช่องโหว่ Zero-Day ที่สำคัญ ==
    - CVE-2025-24983: เป็นช่องโหว่ที่ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์เป็นระดับ SYSTEM ผ่านระบบย่อย Win32 Kernel
    - CVE-2025-24984: เกิดจาก NTFS Information Disclosure ทำให้ผู้โจมตีสามารถดึงข้อมูลจากหน่วยความจำได้โดยการใช้ USB ที่ถูกดัดแปลง
    - CVE-2025-24985: ช่องโหว่จาก Fast FAT File System Driver ที่อาจนำไปสู่การโจมตีแบบ Remote Code Execution (RCE) ผ่านไฟล์ VHD ที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ
    - CVE-2025-24991 และ CVE-2025-24993: เป็นช่องโหว่ที่ใช้ประโยชน์จาก NTFS ซึ่งนำไปสู่การโจมตีแบบอ่านข้อมูลและ RCE

    Microsoft ยังได้แก้ไขช่องโหว่ใน Microsoft Management Console (CVE-2025-26633) ที่เกี่ยวข้องกับการข้ามผ่านมาตรการความปลอดภัย รวมถึงข้อบกพร่องใน Microsoft Access (CVE-2025-26630) ซึ่งสามารถถูกโจมตีผ่านไฟล์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ

    การอัปเดตเหล่านี้มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากช่องโหว่เหล่านี้อาจถูกใช้โจมตีในลักษณะ phishing หรือการหลอกลวงทางโซเชียล ผู้ใช้งาน Windows ควรติดตั้งอัปเดตความปลอดภัยล่าสุดทันทีเพื่อลดความเสี่ยง

    https://www.bleepingcomputer.com/news/microsoft/microsoft-march-2025-patch-tuesday-fixes-7-zero-days-57-flaws/
    Patch Tuesday ของ Microsoft เดือนมีนาคม 2025 ซึ่งเป็นวันอัปเดตระบบความปลอดภัยที่สำคัญ โดยในครั้งนี้ Microsoft ได้แก้ไขข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยทั้งหมด 57 รายการ ซึ่งรวมถึง 6 ช่องโหว่ Zero-Day ที่ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง และอีก 1 รายการที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ == ช่องโหว่ Zero-Day ที่สำคัญ == - CVE-2025-24983: เป็นช่องโหว่ที่ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์เป็นระดับ SYSTEM ผ่านระบบย่อย Win32 Kernel - CVE-2025-24984: เกิดจาก NTFS Information Disclosure ทำให้ผู้โจมตีสามารถดึงข้อมูลจากหน่วยความจำได้โดยการใช้ USB ที่ถูกดัดแปลง - CVE-2025-24985: ช่องโหว่จาก Fast FAT File System Driver ที่อาจนำไปสู่การโจมตีแบบ Remote Code Execution (RCE) ผ่านไฟล์ VHD ที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ - CVE-2025-24991 และ CVE-2025-24993: เป็นช่องโหว่ที่ใช้ประโยชน์จาก NTFS ซึ่งนำไปสู่การโจมตีแบบอ่านข้อมูลและ RCE Microsoft ยังได้แก้ไขช่องโหว่ใน Microsoft Management Console (CVE-2025-26633) ที่เกี่ยวข้องกับการข้ามผ่านมาตรการความปลอดภัย รวมถึงข้อบกพร่องใน Microsoft Access (CVE-2025-26630) ซึ่งสามารถถูกโจมตีผ่านไฟล์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ การอัปเดตเหล่านี้มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากช่องโหว่เหล่านี้อาจถูกใช้โจมตีในลักษณะ phishing หรือการหลอกลวงทางโซเชียล ผู้ใช้งาน Windows ควรติดตั้งอัปเดตความปลอดภัยล่าสุดทันทีเพื่อลดความเสี่ยง https://www.bleepingcomputer.com/news/microsoft/microsoft-march-2025-patch-tuesday-fixes-7-zero-days-57-flaws/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Microsoft March 2025 Patch Tuesday fixes 7 zero-days, 57 flaws
    Today is Microsoft's March 2025 Patch Tuesday, which includes security updates for 57 flaws, including six actively exploited zero-day vulnerabilities.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่าหวั่นไหวใจจ๋าใจจงอย่าหวั่นไหว
    หยุดร้องไห้ได้ไหมประเดี๋ยวใครมาเห็น
    อายเขาไหมใจจ๋านั่งน้ำตากระเซ็น
    ทั้งเช้าสายบ่ายเย็นไม่ว่างเว้นเศร้าใจ
    โอ้น้ำเอ๋ยน้ำตาจงหยุดอย่าไหลหลั่ง
    ให้มันคั่งคับอกที่มันหมกไหม้
    กลบให้หมดซดสิ้นทั้งสูดกลิ่นดมไอ
    กลืนเสียให้หมดเกลี้ยงเอาให้มันเพียงพอ
    อย่าหวั่นไหวใจจ๋าใจจงอย่าหวาดหวั่น
    อย่าคร้ามครั่นคลอนแคลนจงหนักแน่นเถิดหนอ
    อย่าโยกโยนโอนเอนอย่าโงนเงนงอ
    ลุกขึ้นมาสู้ต่อจงอย่าท้อเลยใจ
    อย่าหวั่นไหวใจจ๋าใจจงอย่าหวั่นไหว หยุดร้องไห้ได้ไหมประเดี๋ยวใครมาเห็น อายเขาไหมใจจ๋านั่งน้ำตากระเซ็น ทั้งเช้าสายบ่ายเย็นไม่ว่างเว้นเศร้าใจ โอ้น้ำเอ๋ยน้ำตาจงหยุดอย่าไหลหลั่ง ให้มันคั่งคับอกที่มันหมกไหม้ กลบให้หมดซดสิ้นทั้งสูดกลิ่นดมไอ กลืนเสียให้หมดเกลี้ยงเอาให้มันเพียงพอ อย่าหวั่นไหวใจจ๋าใจจงอย่าหวาดหวั่น อย่าคร้ามครั่นคลอนแคลนจงหนักแน่นเถิดหนอ อย่าโยกโยนโอนเอนอย่าโงนเงนงอ ลุกขึ้นมาสู้ต่อจงอย่าท้อเลยใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้นำยุโรปต่างออกมาขานรับข้อตกลงหยุดยิง 30 วัน และมีโอกาสขยายเวลาออกไปได้อีก หากมีข้อตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่าย

    เซเลนสกี แสดงความยินดีต่อข้อเสนอหยุดยิง 30 วัน ที่ตกลงกันในที่ประชุมยูเครนและสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ที่กินเวลายาวนานกว่า 8 ชั่วโมง โดยจัดขึ้นที่เมืองเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ เซเลนสกีไม่ได้เข้าร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ประชุมมีข้อสรุปหยุดยิง 30 วัน เซเลนสกีได้กล่าวแสดงยอมรับข้อตกลงนั้น และร่วมแสดงความยินดีต่อการเจรจาที่เป็นไปอย่างราบรื่น

    "ระหว่างการเจรจาในวันนี้ เราสร้างการหยุดยิงเต็มรูปแบบเป็นเวลา 30 วัน ที่ไม่ใช่แค่การหยุดใช้ขีปนาวุธ โดรน และระเบิดทางอากาศ ไม่เพียงแต่ดําเนินการหยุดยิงอย่างสมบูรณ์ตามแนวหน้าทั้งหมด แต่ยังรับรองความปลอดภัยในทะเลดํา ยูเครนยินดีกับข้อเสนอนี้ เรามองว่าเป็นข้อเสนอใน "เชิงบวก" และพร้อมที่จะทําตามขั้นตอนนี้ ฝ่ายอเมริกันเข้าใจข้อโต้แย้งของเราและยอมรับข้อเสนอของเรา ผมอยากจะขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ สําหรับการสนทนาที่ดีระหว่างทีมของเราทั้งสอง"
    -โวโลดิมีร์ เซเลนสกี-

    หลังการประชุมเสร็จสิ้น สหรัฐแถลงว่าจะยกเลิกการหยุดแบ่งปันข่าวกรองและกลับมาให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ยูเครนอีกครั้งในทันที! นอกจากนี้ สหรัฐฯและยูเครนยังตกลงที่จะสรุปข้อตกลงแร่หายากโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อีกด้วย

    ทางด้าน Antonio Costa ประธานมนตรียุโรป และ เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ร่วมแสดงความยินดีต่อข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 30 วันในครั้งนี้ด้วย

    ขณะที่ โดนัลด์ ทัสก์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ กล่าวว่ายุโรปพร้อมส่งเสริมให้ทั้งสองพร้อมบรรลุข้อตกลงสันติภาพอย่างยั่งยืนต่อไป
    ผู้นำยุโรปต่างออกมาขานรับข้อตกลงหยุดยิง 30 วัน และมีโอกาสขยายเวลาออกไปได้อีก หากมีข้อตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่าย เซเลนสกี แสดงความยินดีต่อข้อเสนอหยุดยิง 30 วัน ที่ตกลงกันในที่ประชุมยูเครนและสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ที่กินเวลายาวนานกว่า 8 ชั่วโมง โดยจัดขึ้นที่เมืองเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ เซเลนสกีไม่ได้เข้าร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ประชุมมีข้อสรุปหยุดยิง 30 วัน เซเลนสกีได้กล่าวแสดงยอมรับข้อตกลงนั้น และร่วมแสดงความยินดีต่อการเจรจาที่เป็นไปอย่างราบรื่น "ระหว่างการเจรจาในวันนี้ เราสร้างการหยุดยิงเต็มรูปแบบเป็นเวลา 30 วัน ที่ไม่ใช่แค่การหยุดใช้ขีปนาวุธ โดรน และระเบิดทางอากาศ ไม่เพียงแต่ดําเนินการหยุดยิงอย่างสมบูรณ์ตามแนวหน้าทั้งหมด แต่ยังรับรองความปลอดภัยในทะเลดํา ยูเครนยินดีกับข้อเสนอนี้ เรามองว่าเป็นข้อเสนอใน "เชิงบวก" และพร้อมที่จะทําตามขั้นตอนนี้ ฝ่ายอเมริกันเข้าใจข้อโต้แย้งของเราและยอมรับข้อเสนอของเรา ผมอยากจะขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ สําหรับการสนทนาที่ดีระหว่างทีมของเราทั้งสอง" -โวโลดิมีร์ เซเลนสกี- หลังการประชุมเสร็จสิ้น สหรัฐแถลงว่าจะยกเลิกการหยุดแบ่งปันข่าวกรองและกลับมาให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ยูเครนอีกครั้งในทันที! นอกจากนี้ สหรัฐฯและยูเครนยังตกลงที่จะสรุปข้อตกลงแร่หายากโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อีกด้วย ทางด้าน Antonio Costa ประธานมนตรียุโรป และ เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ร่วมแสดงความยินดีต่อข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 30 วันในครั้งนี้ด้วย ขณะที่ โดนัลด์ ทัสก์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ กล่าวว่ายุโรปพร้อมส่งเสริมให้ทั้งสองพร้อมบรรลุข้อตกลงสันติภาพอย่างยั่งยืนต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฏิกิริยาตอบสนองจากทางฝั่งรัสเซียรายแรก

    “รัสเซียจะไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิง 30 วัน เพราะจะทำให้ยูเครนสามารถรวบรวมกำลังพลและเสริมกำลังใหม่ได้ การหยุดยิงชั่วคราวเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้”
    — วิกเตอร์ โซโบเลฟ รองผู้แทนสภาดูมาของรัสเซีย
    ปฏิกิริยาตอบสนองจากทางฝั่งรัสเซียรายแรก “รัสเซียจะไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิง 30 วัน เพราะจะทำให้ยูเครนสามารถรวบรวมกำลังพลและเสริมกำลังใหม่ได้ การหยุดยิงชั่วคราวเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้” — วิกเตอร์ โซโบเลฟ รองผู้แทนสภาดูมาของรัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว