• นักวิจัยชาวจีนได้พัฒนาเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลชนิดใหม่ที่เรียกว่า "Molecular HDD" ซึ่งใช้โมเลกุลอินทรีย์เป็นตัวกลางในการจัดเก็บและเข้ารหัสข้อมูล เทคโนโลยีนี้เปิดโอกาสให้เกิดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูงเป็นพิเศษ และช่วยลดความต้องการพื้นที่จัดเก็บ รวมถึงลดการใช้พลังงานอย่างมาก

    ข้อมูลใน Molecular HDD ถูกอ่านและเขียนโดยใช้กล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม (Atomic Force Microscope - AFM) ที่สามารถเปลี่ยนสถานะทางไฟฟ้าของโมเลกุลเพื่อบันทึกข้อมูล เทคโนโลยีนี้สามารถรองรับสถานะการนำไฟฟ้าได้ถึง 96 สถานะต่อหน่วย (เทียบเท่ากับการเก็บข้อมูล 6 บิต) ซึ่งคล้ายกับเทคโนโลยี NAND แบบหลายระดับเซลล์ (Multi-Level Cell NAND)

    == จุดเด่นและความท้าทาย ==
    - พลังงานต่ำ: ระบบนี้ไม่ต้องใช้สนามแม่เหล็กแรงสูงหรือความร้อนในการเขียนข้อมูล ทำให้การอ่านและเขียนข้อมูลใช้พลังงานเพียงระดับ pW/บิต
    - ความหนาแน่นสูง: Molecular HDD สามารถเก็บข้อมูลได้ประมาณ 9.6Gbit ต่อตารางนิ้ว ซึ่งใกล้เคียงกับฮาร์ดดิสก์ที่ใช้เทคโนโลยี HDMR (Heat-Assisted Magnetic Recording) ที่จะวางจำหน่ายในอนาคต
    - การเข้ารหัสในตัว: รองรับการเข้ารหัสข้อมูลด้วยการดำเนินการ XOR ที่โมเลกุลโดยตรง เช่น การเข้ารหัสภาพโมเสกของ Mogao Grottoes ที่ข้อมูลของแต่ละพิกเซลถูกเข้ารหัสและถอดรหัสในระดับโมเลกุล

    อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังมีข้อจำกัดสำคัญ เช่น อายุการใช้งานที่สั้นของปลายกล้อง AFM ซึ่งสามารถใช้งานได้เพียง 50-200 ชั่วโมงในการใช้งานเป็นครั้งคราว และ 5-50 ชั่วโมงในการใช้งานต่อเนื่อง นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับ HDMR ซึ่งคาดว่าจะพร้อมสำหรับการผลิตในปี 2030 Molecular HDD อาจใช้เวลานานกว่าที่จะปรับปรุงและเข้าถึงระดับการผลิตเชิงพาณิชย์

    หากปัญหาด้านความทนทานของปลายกล้อง AFM ได้รับการแก้ไข เทคโนโลยี Molecular HDD อาจก้าวเข้าสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ในฐานะตัวเลือกใหม่ที่สามารถเก็บข้อมูลได้ในความจุสูงกว่าฮาร์ดดิสก์รุ่นปัจจุบัน รวมถึงมีศักยภาพสำหรับการจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกอย่างปลอดภัยในยุคดิจิทัล

    https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/chinese-researchers-reveal-self-encrypting-molecular-hdd-technology-supporting-100tb-capacities
    นักวิจัยชาวจีนได้พัฒนาเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลชนิดใหม่ที่เรียกว่า "Molecular HDD" ซึ่งใช้โมเลกุลอินทรีย์เป็นตัวกลางในการจัดเก็บและเข้ารหัสข้อมูล เทคโนโลยีนี้เปิดโอกาสให้เกิดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูงเป็นพิเศษ และช่วยลดความต้องการพื้นที่จัดเก็บ รวมถึงลดการใช้พลังงานอย่างมาก ข้อมูลใน Molecular HDD ถูกอ่านและเขียนโดยใช้กล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม (Atomic Force Microscope - AFM) ที่สามารถเปลี่ยนสถานะทางไฟฟ้าของโมเลกุลเพื่อบันทึกข้อมูล เทคโนโลยีนี้สามารถรองรับสถานะการนำไฟฟ้าได้ถึง 96 สถานะต่อหน่วย (เทียบเท่ากับการเก็บข้อมูล 6 บิต) ซึ่งคล้ายกับเทคโนโลยี NAND แบบหลายระดับเซลล์ (Multi-Level Cell NAND) == จุดเด่นและความท้าทาย == - พลังงานต่ำ: ระบบนี้ไม่ต้องใช้สนามแม่เหล็กแรงสูงหรือความร้อนในการเขียนข้อมูล ทำให้การอ่านและเขียนข้อมูลใช้พลังงานเพียงระดับ pW/บิต - ความหนาแน่นสูง: Molecular HDD สามารถเก็บข้อมูลได้ประมาณ 9.6Gbit ต่อตารางนิ้ว ซึ่งใกล้เคียงกับฮาร์ดดิสก์ที่ใช้เทคโนโลยี HDMR (Heat-Assisted Magnetic Recording) ที่จะวางจำหน่ายในอนาคต - การเข้ารหัสในตัว: รองรับการเข้ารหัสข้อมูลด้วยการดำเนินการ XOR ที่โมเลกุลโดยตรง เช่น การเข้ารหัสภาพโมเสกของ Mogao Grottoes ที่ข้อมูลของแต่ละพิกเซลถูกเข้ารหัสและถอดรหัสในระดับโมเลกุล อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังมีข้อจำกัดสำคัญ เช่น อายุการใช้งานที่สั้นของปลายกล้อง AFM ซึ่งสามารถใช้งานได้เพียง 50-200 ชั่วโมงในการใช้งานเป็นครั้งคราว และ 5-50 ชั่วโมงในการใช้งานต่อเนื่อง นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับ HDMR ซึ่งคาดว่าจะพร้อมสำหรับการผลิตในปี 2030 Molecular HDD อาจใช้เวลานานกว่าที่จะปรับปรุงและเข้าถึงระดับการผลิตเชิงพาณิชย์ หากปัญหาด้านความทนทานของปลายกล้อง AFM ได้รับการแก้ไข เทคโนโลยี Molecular HDD อาจก้าวเข้าสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ในฐานะตัวเลือกใหม่ที่สามารถเก็บข้อมูลได้ในความจุสูงกว่าฮาร์ดดิสก์รุ่นปัจจุบัน รวมถึงมีศักยภาพสำหรับการจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกอย่างปลอดภัยในยุคดิจิทัล https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/chinese-researchers-reveal-self-encrypting-molecular-hdd-technology-supporting-100tb-capacities
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews
  • ศาลรัฐบาลกลางในซานฟรานซิสโกได้สั่งยกฟ้องคดีที่ยื่นฟ้องต่อ Intel โดยกลุ่มผู้ถือหุ้น ซึ่งกล่าวหาว่าบริษัทและผู้บริหารปกปิดปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นในแผนกผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในปี 2023 คดีนี้ถูกตัดสินว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่ชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดของบริษัท อย่างไรก็ตาม การยกฟ้องนี้เป็นการยกฟ้องแบบ ไม่ตัดสิทธิ์ ซึ่งหมายความว่าผู้ฟ้องร้องสามารถกลับมายื่นคดีใหม่ได้ หากมีหลักฐานที่ชัดเจนและแข็งแกร่งมากขึ้น

    เรื่องราวเริ่มต้นในปี 2023 เมื่อ Intel เปิดเผยว่าแผนกใหม่ที่ชื่อว่า Intel Foundry มีผลขาดทุนกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่บริษัทเปลี่ยนโครงสร้างการรายงานผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2024 ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยในเดือนเมษายน 2024 ซึ่งนำไปสู่การตกของหุ้น Intel และมูลค่าตลาดที่ลดลงถึง 32 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียว

    นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังอ้างว่าคำกล่าวของ CEO และ CFO ในขณะนั้นเกี่ยวกับ "ความต้องการที่เติบโต" ของธุรกิจ Intel Foundry อาจเป็นการหลอกลวง อย่างไรก็ตาม ศาลระบุว่าคำกล่าวเหล่านี้เป็นการสื่อถึงความสัมพันธ์กับลูกค้ารายบุคคลเท่านั้น และไม่ได้สื่อถึงสุขภาพทางการเงินของบริษัทในภาพรวม

    ผู้พิพากษาชี้ว่าการลดลงของราคาหุ้น Intel อันเป็นผลจากการประกาศเลิกจ้างและการระงับเงินปันผลในกลางปี 2024 ไม่เพียงพอที่จะเป็นหลักฐานของการฉ้อโกง นอกจากนี้ Intel ยังเคยเปิดเผยแนวทางการลดต้นทุนและการปรับโครงสร้างอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว

    แม้ว่าศาลจะยกฟ้องคดีในครั้งนี้ Intel อาจต้องเตรียมพร้อมสำหรับการยื่นฟ้องรอบใหม่หากผู้ถือหุ้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่สนับสนุนข้อกล่าวหาได้สำเร็จ การต่อสู้ในศาลนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความโปร่งใสในธุรกิจใหญ่ที่มีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นจำนวนมาก

    สถานการณ์นี้ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของ Intel อาจได้รับผลกระทบในระยะสั้น แต่ก็สะท้อนถึงความสำคัญของการสื่อสารและความโปร่งใสต่อผู้ถือหุ้นในธุรกิจขนาดใหญ่ ทั้งนี้ คำตัดสินของศาลยังเปิดช่องทางให้ Intel และนักลงทุนมีโอกาสปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างกัน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-shareholder-lawsuit-dismissed-complaints-stemmed-from-single-day-usd32b-devaluation-in-2024
    ศาลรัฐบาลกลางในซานฟรานซิสโกได้สั่งยกฟ้องคดีที่ยื่นฟ้องต่อ Intel โดยกลุ่มผู้ถือหุ้น ซึ่งกล่าวหาว่าบริษัทและผู้บริหารปกปิดปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นในแผนกผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในปี 2023 คดีนี้ถูกตัดสินว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่ชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดของบริษัท อย่างไรก็ตาม การยกฟ้องนี้เป็นการยกฟ้องแบบ ไม่ตัดสิทธิ์ ซึ่งหมายความว่าผู้ฟ้องร้องสามารถกลับมายื่นคดีใหม่ได้ หากมีหลักฐานที่ชัดเจนและแข็งแกร่งมากขึ้น เรื่องราวเริ่มต้นในปี 2023 เมื่อ Intel เปิดเผยว่าแผนกใหม่ที่ชื่อว่า Intel Foundry มีผลขาดทุนกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่บริษัทเปลี่ยนโครงสร้างการรายงานผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2024 ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยในเดือนเมษายน 2024 ซึ่งนำไปสู่การตกของหุ้น Intel และมูลค่าตลาดที่ลดลงถึง 32 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียว นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังอ้างว่าคำกล่าวของ CEO และ CFO ในขณะนั้นเกี่ยวกับ "ความต้องการที่เติบโต" ของธุรกิจ Intel Foundry อาจเป็นการหลอกลวง อย่างไรก็ตาม ศาลระบุว่าคำกล่าวเหล่านี้เป็นการสื่อถึงความสัมพันธ์กับลูกค้ารายบุคคลเท่านั้น และไม่ได้สื่อถึงสุขภาพทางการเงินของบริษัทในภาพรวม ผู้พิพากษาชี้ว่าการลดลงของราคาหุ้น Intel อันเป็นผลจากการประกาศเลิกจ้างและการระงับเงินปันผลในกลางปี 2024 ไม่เพียงพอที่จะเป็นหลักฐานของการฉ้อโกง นอกจากนี้ Intel ยังเคยเปิดเผยแนวทางการลดต้นทุนและการปรับโครงสร้างอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว แม้ว่าศาลจะยกฟ้องคดีในครั้งนี้ Intel อาจต้องเตรียมพร้อมสำหรับการยื่นฟ้องรอบใหม่หากผู้ถือหุ้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่สนับสนุนข้อกล่าวหาได้สำเร็จ การต่อสู้ในศาลนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความโปร่งใสในธุรกิจใหญ่ที่มีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นจำนวนมาก สถานการณ์นี้ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของ Intel อาจได้รับผลกระทบในระยะสั้น แต่ก็สะท้อนถึงความสำคัญของการสื่อสารและความโปร่งใสต่อผู้ถือหุ้นในธุรกิจขนาดใหญ่ ทั้งนี้ คำตัดสินของศาลยังเปิดช่องทางให้ Intel และนักลงทุนมีโอกาสปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างกัน https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-shareholder-lawsuit-dismissed-complaints-stemmed-from-single-day-usd32b-devaluation-in-2024
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • รวมบุญด้วยกันครับผม
    รวมบุญด้วยกันครับผม
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • บริษัท Cortical Labs ในออสเตรเลียได้เปิดตัว CL1 ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ชีวภาพตัวแรกของโลกที่ผสมผสานเซลล์สมองมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยีซิลิคอนแบบดั้งเดิม CL1 ถูกเปิดตัวครั้งแรกในงาน Mobile World Congress ที่บาร์เซโลนา และถูกพัฒนามาเพื่อใช้ในการศึกษาความเป็นไปได้ของ AI และ Machine Learning ที่มีความใกล้เคียงกับสมองของมนุษย์

    CL1 ใช้ชิปซิลิคอนที่มีเซลล์สมองมนุษย์เพาะเลี้ยงอยู่บนพื้นผิว เซลล์สมองเหล่านี้สามารถตอบสนองต่อสัญญาณไฟฟ้าและสร้างเครือข่ายที่ประมวลผลข้อมูลในลักษณะเดียวกับสมองมนุษย์ สิ่งที่น่าสนใจคือ ระบบนี้สามารถสื่อสารสองทางได้ โดยใช้สัญญาณไฟฟ้ากระตุ้นเซลล์สมอง และเก็บข้อมูลการตอบสนองเพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อ

    เพื่อให้เซลล์สมองเหล่านี้ยังคงทำงานได้ดี CL1 มาพร้อมระบบช่วยชีวิตที่ควบคุมอุณหภูมิ การแลกเปลี่ยนก๊าซ และเงื่อนไขที่จำเป็นอื่น ๆ

    CL1 ถูกออกแบบมาเพื่อเรียนรู้และปรับตัว เช่นเดียวกับสมองมนุษย์ ตัวอย่างที่เคยมีการทดลอง เช่น การฝึกเซลล์สมองให้เล่นวิดีโอเกมพื้นฐาน สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์ชีวภาพสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในด้านที่ AI แบบเดิมยังไม่สมบูรณ์ เช่น การจดจำรูปแบบและการตัดสินใจในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน

    นอกจากนี้ ความสามารถของเซลล์สมองในการปรับตัวทำให้เกิดศักยภาพใหม่ ๆ ในการประยุกต์ใช้งาน เช่น การพัฒนาหุ่นยนต์ที่ฉลาดยิ่งขึ้น หรือระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน

    ปัญหาและข้อควรระวัง
    - ความซับซ้อนในการผลิต: การสร้างและดูแลระบบ CL1 ต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนและยังไม่สามารถผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้
    - ปัญหาด้านจริยธรรม: แม้ว่าเซลล์สมองที่ใช้จะถูกเพาะเลี้ยงในห้องแล็บและไม่มีสติสัมปชัญญะ แต่ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีนี้อาจต้องการกรอบกฎหมายและจริยธรรมที่ชัดเจนในอนาคต เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ชีวภาพมนุษย์

    CL1 จะพร้อมจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ $35,000 เหมาะสำหรับองค์กรและสถาบันวิจัยที่ต้องการทดสอบหรือสำรวจการใช้งานคอมพิวเตอร์ชีวภาพในเชิงลึก

    CL1 ถือเป็นก้าวใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเทคโนโลยีชีวภาพและ AI ซึ่งอาจช่วยพัฒนาอนาคตของการเรียนรู้และการประมวลผลข้อมูล หากคุณสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CL1 และความเป็นไปได้ในอนาคตของเทคโนโลยีนี้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/worlds-first-body-in-a-box-biological-computer-uses-human-brain-cells-with-silicon-based-computing
    บริษัท Cortical Labs ในออสเตรเลียได้เปิดตัว CL1 ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ชีวภาพตัวแรกของโลกที่ผสมผสานเซลล์สมองมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยีซิลิคอนแบบดั้งเดิม CL1 ถูกเปิดตัวครั้งแรกในงาน Mobile World Congress ที่บาร์เซโลนา และถูกพัฒนามาเพื่อใช้ในการศึกษาความเป็นไปได้ของ AI และ Machine Learning ที่มีความใกล้เคียงกับสมองของมนุษย์ CL1 ใช้ชิปซิลิคอนที่มีเซลล์สมองมนุษย์เพาะเลี้ยงอยู่บนพื้นผิว เซลล์สมองเหล่านี้สามารถตอบสนองต่อสัญญาณไฟฟ้าและสร้างเครือข่ายที่ประมวลผลข้อมูลในลักษณะเดียวกับสมองมนุษย์ สิ่งที่น่าสนใจคือ ระบบนี้สามารถสื่อสารสองทางได้ โดยใช้สัญญาณไฟฟ้ากระตุ้นเซลล์สมอง และเก็บข้อมูลการตอบสนองเพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อ เพื่อให้เซลล์สมองเหล่านี้ยังคงทำงานได้ดี CL1 มาพร้อมระบบช่วยชีวิตที่ควบคุมอุณหภูมิ การแลกเปลี่ยนก๊าซ และเงื่อนไขที่จำเป็นอื่น ๆ CL1 ถูกออกแบบมาเพื่อเรียนรู้และปรับตัว เช่นเดียวกับสมองมนุษย์ ตัวอย่างที่เคยมีการทดลอง เช่น การฝึกเซลล์สมองให้เล่นวิดีโอเกมพื้นฐาน สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์ชีวภาพสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในด้านที่ AI แบบเดิมยังไม่สมบูรณ์ เช่น การจดจำรูปแบบและการตัดสินใจในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน นอกจากนี้ ความสามารถของเซลล์สมองในการปรับตัวทำให้เกิดศักยภาพใหม่ ๆ ในการประยุกต์ใช้งาน เช่น การพัฒนาหุ่นยนต์ที่ฉลาดยิ่งขึ้น หรือระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน ปัญหาและข้อควรระวัง - ความซับซ้อนในการผลิต: การสร้างและดูแลระบบ CL1 ต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนและยังไม่สามารถผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้ - ปัญหาด้านจริยธรรม: แม้ว่าเซลล์สมองที่ใช้จะถูกเพาะเลี้ยงในห้องแล็บและไม่มีสติสัมปชัญญะ แต่ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีนี้อาจต้องการกรอบกฎหมายและจริยธรรมที่ชัดเจนในอนาคต เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ชีวภาพมนุษย์ CL1 จะพร้อมจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ $35,000 เหมาะสำหรับองค์กรและสถาบันวิจัยที่ต้องการทดสอบหรือสำรวจการใช้งานคอมพิวเตอร์ชีวภาพในเชิงลึก CL1 ถือเป็นก้าวใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเทคโนโลยีชีวภาพและ AI ซึ่งอาจช่วยพัฒนาอนาคตของการเรียนรู้และการประมวลผลข้อมูล หากคุณสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CL1 และความเป็นไปได้ในอนาคตของเทคโนโลยีนี้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/worlds-first-body-in-a-box-biological-computer-uses-human-brain-cells-with-silicon-based-computing
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    World's first 'body in a box' biological computer uses human brain cells with silicon-based computing
    Cortical Labs said the CL1 will be available from June, priced at around $35,000.
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • ในงาน Mobile World Congress 2025 ที่ผ่านมา AMD ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Cisco, Nokia และ Jio Platforms เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มที่เรียกว่า Open Telecom AI Platform โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในโครงสร้างโทรคมนาคมเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดต้นทุนการดำเนินงาน และสร้างเครือข่ายที่มีความชาญฉลาด

    == องค์ประกอบและบทบาทของพันธมิตร ==
    - AMD: สนับสนุนด้วยโซลูชันการประมวลผลประสิทธิภาพสูง เช่น CPU EPYC, GPU Instinct และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ปรับเปลี่ยนได้
    - Cisco: มาพร้อมโซลูชันเครือข่ายและการวิเคราะห์ AI เช่น Cisco Agile Services Networking และ Splunk Analytics
    - Nokia: เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายไร้สาย การขนส่งข้อมูลผ่าน IP และบรอดแบนด์
    - Jio Platforms: เป็นผู้นำในแพลตฟอร์มนี้ พร้อมแสดงต้นแบบและนำไปใช้งานในตลาดโทรคมนาคมทั่วโลก

    แพลตฟอร์มนี้จะรวม AI เข้ากับทุกระดับของโครงสร้างโทรคมนาคม โดยใช้อัลกอริทึมที่ล้ำสมัย เช่น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) เพื่อบริหารจัดการเครือข่ายให้สามารถปรับตัวได้เองในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง

    การเปิดตัว Open APIs จะช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถทำงานร่วมกับโครงสร้างโทรคมนาคมเดิมได้อย่างราบรื่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน

    == เป้าหมายและประโยชน์ ==
    - เพิ่มความปลอดภัย: ระบบจะสามารถตรวจจับความเสี่ยงได้อัตโนมัติและปรับการทำงานเพื่อป้องกันการโจมตี
    - ลดต้นทุน: การใช้ AI ในการบริหารจัดการเครือข่ายช่วยลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน
    - ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น: ผู้ให้บริการสามารถปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้

    ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ AMD ในตลาดโทรคมนาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ Intel มีบทบาทนำหน้าอย่างชัดเจนในเทคโนโลยี 5G และการพัฒนาระบบโทรคมนาคม แพลตฟอร์มนี้ยังสะท้อนถึงการใช้ AI เพื่อสร้างโครงสร้างเครือข่ายที่มีความยืดหยุ่นและชาญฉลาด พร้อมเพิ่มโอกาสใหม่ในการนำเทคโนโลยีไปใช้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/amd-teams-up-with-cisco-nokia-and-jio-platforms-for-open-telecom-ai-platform
    ในงาน Mobile World Congress 2025 ที่ผ่านมา AMD ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Cisco, Nokia และ Jio Platforms เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มที่เรียกว่า Open Telecom AI Platform โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในโครงสร้างโทรคมนาคมเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดต้นทุนการดำเนินงาน และสร้างเครือข่ายที่มีความชาญฉลาด == องค์ประกอบและบทบาทของพันธมิตร == - AMD: สนับสนุนด้วยโซลูชันการประมวลผลประสิทธิภาพสูง เช่น CPU EPYC, GPU Instinct และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ปรับเปลี่ยนได้ - Cisco: มาพร้อมโซลูชันเครือข่ายและการวิเคราะห์ AI เช่น Cisco Agile Services Networking และ Splunk Analytics - Nokia: เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายไร้สาย การขนส่งข้อมูลผ่าน IP และบรอดแบนด์ - Jio Platforms: เป็นผู้นำในแพลตฟอร์มนี้ พร้อมแสดงต้นแบบและนำไปใช้งานในตลาดโทรคมนาคมทั่วโลก แพลตฟอร์มนี้จะรวม AI เข้ากับทุกระดับของโครงสร้างโทรคมนาคม โดยใช้อัลกอริทึมที่ล้ำสมัย เช่น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) เพื่อบริหารจัดการเครือข่ายให้สามารถปรับตัวได้เองในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง การเปิดตัว Open APIs จะช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถทำงานร่วมกับโครงสร้างโทรคมนาคมเดิมได้อย่างราบรื่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน == เป้าหมายและประโยชน์ == - เพิ่มความปลอดภัย: ระบบจะสามารถตรวจจับความเสี่ยงได้อัตโนมัติและปรับการทำงานเพื่อป้องกันการโจมตี - ลดต้นทุน: การใช้ AI ในการบริหารจัดการเครือข่ายช่วยลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน - ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น: ผู้ให้บริการสามารถปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ AMD ในตลาดโทรคมนาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ Intel มีบทบาทนำหน้าอย่างชัดเจนในเทคโนโลยี 5G และการพัฒนาระบบโทรคมนาคม แพลตฟอร์มนี้ยังสะท้อนถึงการใช้ AI เพื่อสร้างโครงสร้างเครือข่ายที่มีความยืดหยุ่นและชาญฉลาด พร้อมเพิ่มโอกาสใหม่ในการนำเทคโนโลยีไปใช้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/amd-teams-up-with-cisco-nokia-and-jio-platforms-for-open-telecom-ai-platform
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD teams up with Cisco, Nokia, and Jio Platforms for Open Telecom AI platform
    Promises to improve network security while cutting operational costs.
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • ทำไมต้องเรียนภาษาอินโดนีเซีย (Bahasa Indonesia)

    ความน่าสนใจของภาษาอินโดนีเซีย
    1. เรียนง่าย – ไม่มีการผันกริยา ไม่มีเพศของคำ และไม่มีโทนเสียง
    2. ใช้แพร่หลาย – เป็นภาษาทางการของอินโดนีเซีย (ประชากรกว่า 270 ล้านคน) และเข้าใจได้ในมาเลเซีย บรูไน และสิงคโปร์
    3. มีคำคล้ายภาษาอังกฤษ – เช่น “gratis” (ฟรี), “polisi” (ตำรวจ), “kantor” (สำนักงาน)
    4. โอกาสทางธุรกิจและการท่องเที่ยว – ช่วยให้เดินทางและทำงานในอินโดนีเซียได้สะดวกขึ้น
    5. ใช้ตัวอักษรโรมัน – อ่านง่าย ไม่ต้องเรียนตัวอักษรใหม่

    สนุกและง่ายขนาดนี้ มาเริ่มเรียนกันเลย! 🇹🇭❤️🇮🇩 #ไทยคำอินโดคำ
    ทำไมต้องเรียนภาษาอินโดนีเซีย (Bahasa Indonesia) ความน่าสนใจของภาษาอินโดนีเซีย 1. เรียนง่าย – ไม่มีการผันกริยา ไม่มีเพศของคำ และไม่มีโทนเสียง 2. ใช้แพร่หลาย – เป็นภาษาทางการของอินโดนีเซีย (ประชากรกว่า 270 ล้านคน) และเข้าใจได้ในมาเลเซีย บรูไน และสิงคโปร์ 3. มีคำคล้ายภาษาอังกฤษ – เช่น “gratis” (ฟรี), “polisi” (ตำรวจ), “kantor” (สำนักงาน) 4. โอกาสทางธุรกิจและการท่องเที่ยว – ช่วยให้เดินทางและทำงานในอินโดนีเซียได้สะดวกขึ้น 5. ใช้ตัวอักษรโรมัน – อ่านง่าย ไม่ต้องเรียนตัวอักษรใหม่ สนุกและง่ายขนาดนี้ มาเริ่มเรียนกันเลย! 🇹🇭❤️🇮🇩 #ไทยคำอินโดคำ
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • Doug Ford นายกรัฐมนตรีประจำจังหวัดออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา เพิ่งประกาศยกเลิกสัญญา มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ กับ Starlink ของ SpaceX การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากนโยบายของอดีตประธานาธิบดี Trump ที่เรียกเก็บภาษีสินค้าจากแคนาดาถึง 25% นอกจากนี้ Ford ยังตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีไฟฟ้าที่ส่งออกไปยังรัฐนิวยอร์ก มิชิแกน และมินนิโซตาอีกด้วย

    แม้ว่าจะมีการขู่ยกเลิกในอดีต แต่ Ford ได้ตัดสินใจเดินหน้าสัญญาในครั้งแรกหลัง Trump ชะลอการเรียกเก็บภาษี อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ Ford ยืนยันชัดเจนว่าการยกเลิกเป็นการตัดสินใจถาวร ไม่ว่าภาษีจะถูกยกเลิกหรือไม่ก็ตาม

    นอกจากออนแทรีโอแล้ว อิตาลีเองก็มีแนวโน้มที่จะยกเลิกดีลกับ Starlink เช่นกัน อิตาลีเคยพิจารณาใช้เครือข่ายดาวเทียมของ Starlink มูลค่ากว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ เพื่อให้บริการด้านการสื่อสารทางทหารและสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงในนโยบายของสหรัฐฯ เกี่ยวกับ NATO และความมั่นคงในยุโรป ทำให้อิตาลีพิจารณาเลือกทางเลือกอื่น เช่น Eutelsat จากฝรั่งเศส ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและมีเครือข่ายดาวเทียมเป็นอันดับสองรองจาก SpaceX

    นายกรัฐมนตรี Giorgia Meloni ของอิตาลีกล่าวว่า ความไม่แน่นอนจากนโยบายของทำเนียบขาวเกี่ยวกับการสนับสนุนยูเครนส่งผลให้รัฐบาลต้องการแผนสำรองที่มั่นคงกว่าเดิม

    แม้ว่า SpaceX อาจเสียรายได้จากอิตาลีและออนแทรีโอ แต่ Elon Musk ได้แสดงปฏิกิริยาอย่างไม่กังวล โดยโพสต์ข้อความว่า "Oh well" ลงใน X (แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขาเอง) แสดงถึงความมั่นใจในสถานะทางการเงินของบริษัทที่มีดาวเทียมจำนวนมหาศาลที่ระดับวงโคจรต่ำกว่า 550 กิโลเมตร

    การยกเลิกดีลนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ การตัดสินใจของอิตาลีที่จะพิจารณา Eutelsat อาจทำให้ยุโรปเสริมความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยีในอนาคต และลดการพึ่งพาบริษัทอเมริกันที่ไม่แน่นอนในด้านการสนับสนุน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/ontario-cancels-starlink-deal-over-us-tariffs-italy-may-follow-due-to-us-pullback-from-europe
    Doug Ford นายกรัฐมนตรีประจำจังหวัดออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา เพิ่งประกาศยกเลิกสัญญา มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ กับ Starlink ของ SpaceX การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากนโยบายของอดีตประธานาธิบดี Trump ที่เรียกเก็บภาษีสินค้าจากแคนาดาถึง 25% นอกจากนี้ Ford ยังตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีไฟฟ้าที่ส่งออกไปยังรัฐนิวยอร์ก มิชิแกน และมินนิโซตาอีกด้วย แม้ว่าจะมีการขู่ยกเลิกในอดีต แต่ Ford ได้ตัดสินใจเดินหน้าสัญญาในครั้งแรกหลัง Trump ชะลอการเรียกเก็บภาษี อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ Ford ยืนยันชัดเจนว่าการยกเลิกเป็นการตัดสินใจถาวร ไม่ว่าภาษีจะถูกยกเลิกหรือไม่ก็ตาม นอกจากออนแทรีโอแล้ว อิตาลีเองก็มีแนวโน้มที่จะยกเลิกดีลกับ Starlink เช่นกัน อิตาลีเคยพิจารณาใช้เครือข่ายดาวเทียมของ Starlink มูลค่ากว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ เพื่อให้บริการด้านการสื่อสารทางทหารและสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงในนโยบายของสหรัฐฯ เกี่ยวกับ NATO และความมั่นคงในยุโรป ทำให้อิตาลีพิจารณาเลือกทางเลือกอื่น เช่น Eutelsat จากฝรั่งเศส ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและมีเครือข่ายดาวเทียมเป็นอันดับสองรองจาก SpaceX นายกรัฐมนตรี Giorgia Meloni ของอิตาลีกล่าวว่า ความไม่แน่นอนจากนโยบายของทำเนียบขาวเกี่ยวกับการสนับสนุนยูเครนส่งผลให้รัฐบาลต้องการแผนสำรองที่มั่นคงกว่าเดิม แม้ว่า SpaceX อาจเสียรายได้จากอิตาลีและออนแทรีโอ แต่ Elon Musk ได้แสดงปฏิกิริยาอย่างไม่กังวล โดยโพสต์ข้อความว่า "Oh well" ลงใน X (แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขาเอง) แสดงถึงความมั่นใจในสถานะทางการเงินของบริษัทที่มีดาวเทียมจำนวนมหาศาลที่ระดับวงโคจรต่ำกว่า 550 กิโลเมตร การยกเลิกดีลนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ การตัดสินใจของอิตาลีที่จะพิจารณา Eutelsat อาจทำให้ยุโรปเสริมความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยีในอนาคต และลดการพึ่งพาบริษัทอเมริกันที่ไม่แน่นอนในด้านการสนับสนุน https://www.tomshardware.com/tech-industry/ontario-cancels-starlink-deal-over-us-tariffs-italy-may-follow-due-to-us-pullback-from-europe
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Ontario cancels Starlink deal over US tariffs — Italy may follow due to US pullback from Europe
    Trump policies are causing some countries to second-guess their Starlink contracts.
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • พิชัย รมว.พาณิชย์ แนะปลูกกล้วยแทนข้าว 07/03/68 #พิชัย #รมว.พาณิชย์ #ปลูกกล้วยแทนข้าว #ราคาข้าว #ชาวนา #เกษตรกร
    พิชัย รมว.พาณิชย์ แนะปลูกกล้วยแทนข้าว 07/03/68 #พิชัย #รมว.พาณิชย์ #ปลูกกล้วยแทนข้าว #ราคาข้าว #ชาวนา #เกษตรกร
    Haha
    Like
    12
    0 Comments 0 Shares 868 Views 37 0 Reviews
  • Brother ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ชื่อดัง ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเฟิร์มแวร์ (firmware) ของเครื่องพิมพ์ของตนออกแบบมาเพื่อปิดกั้นการใช้หมึกและตลับโทนเนอร์จากผู้ผลิตรายอื่น Louis Rossmann ผู้สร้างเนื้อหาบน YouTube ได้เผยแพร่วิดีโอที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของ Brother และกล่าวว่า Brother อาจใช้นโยบายที่จำกัดการใช้งานเครื่องพิมพ์เพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์

    Brother ชี้แจงอย่างหนักแน่นว่า การอัปเดตเฟิร์มแวร์ไม่ได้มีเจตนาที่จะบล็อกการใช้งานหมึกหรือตลับโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของ Brother โดยให้เหตุผลว่า หากเครื่องพิมพ์แสดงข้อความเกี่ยวกับการตรวจสอบ "Brother Genuine" นั้นเป็นเพียงกระบวนการแก้ไขปัญหาในอุปกรณ์ ไม่ใช่การบังคับให้ใช้เฉพาะหมึกของ Brother

    นอกจากนี้ Brother ยังระบุว่า คุณภาพของตลับหมึกที่ไม่ใช่ของ Brother อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจผิดว่าการพิมพ์มีคุณภาพต่ำ เนื่องจากไม่สามารถการันตีคุณภาพเมื่อใช้หมึกจากผู้ผลิตรายอื่นได้

    ผู้ใช้งานหลายคนรู้สึกว่ากระบวนการ "Brother Genuine Check" มีความกดดัน เนื่องจากมีการร้องขอให้เปลี่ยนไปใช้หมึกที่ได้รับการรับรองของ Brother ในสถานการณ์ที่ต้องการการแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม Brother ได้ยืนยันว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเครื่องพิมพ์โดยตรง

    สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความท้าทายของผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ในการสร้างสมดุลระหว่างการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของตนเองและการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้น หาก Brother สามารถสร้างมาตรฐานที่ชัดเจนและโปร่งใส อาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ได้อย่างยั่งยืน

    https://www.tomshardware.com/peripherals/printers/brother-denies-firmware-blocks-third-party-toner-and-ink-use
    Brother ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ชื่อดัง ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเฟิร์มแวร์ (firmware) ของเครื่องพิมพ์ของตนออกแบบมาเพื่อปิดกั้นการใช้หมึกและตลับโทนเนอร์จากผู้ผลิตรายอื่น Louis Rossmann ผู้สร้างเนื้อหาบน YouTube ได้เผยแพร่วิดีโอที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของ Brother และกล่าวว่า Brother อาจใช้นโยบายที่จำกัดการใช้งานเครื่องพิมพ์เพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์ Brother ชี้แจงอย่างหนักแน่นว่า การอัปเดตเฟิร์มแวร์ไม่ได้มีเจตนาที่จะบล็อกการใช้งานหมึกหรือตลับโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของ Brother โดยให้เหตุผลว่า หากเครื่องพิมพ์แสดงข้อความเกี่ยวกับการตรวจสอบ "Brother Genuine" นั้นเป็นเพียงกระบวนการแก้ไขปัญหาในอุปกรณ์ ไม่ใช่การบังคับให้ใช้เฉพาะหมึกของ Brother นอกจากนี้ Brother ยังระบุว่า คุณภาพของตลับหมึกที่ไม่ใช่ของ Brother อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจผิดว่าการพิมพ์มีคุณภาพต่ำ เนื่องจากไม่สามารถการันตีคุณภาพเมื่อใช้หมึกจากผู้ผลิตรายอื่นได้ ผู้ใช้งานหลายคนรู้สึกว่ากระบวนการ "Brother Genuine Check" มีความกดดัน เนื่องจากมีการร้องขอให้เปลี่ยนไปใช้หมึกที่ได้รับการรับรองของ Brother ในสถานการณ์ที่ต้องการการแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม Brother ได้ยืนยันว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเครื่องพิมพ์โดยตรง สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความท้าทายของผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ในการสร้างสมดุลระหว่างการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของตนเองและการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้น หาก Brother สามารถสร้างมาตรฐานที่ชัดเจนและโปร่งใส อาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ได้อย่างยั่งยืน https://www.tomshardware.com/peripherals/printers/brother-denies-firmware-blocks-third-party-toner-and-ink-use
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Brother denies firmware blocks third-party toner and ink use
    The printer firm says its machines only perform a Brother Genuine check when troubleshooting.
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • หลังจากมาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสแสดงท่าทีแข็งกร้าวด้วยการประกาศปกป้องยูเครนและพันธมิตรยุโรปด้วยนิวเคลียร์ ประธานาธิบดีปูตินแสดงความเห็นเรื่องนี้ว่า "ยังมีคนที่ต้องการจะกลับไปสู่ยุคของนโปเลียน พวกเขาลืมไปแล้วว่ามันจบลงอย่างไร" วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ!
    หลังจากมาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสแสดงท่าทีแข็งกร้าวด้วยการประกาศปกป้องยูเครนและพันธมิตรยุโรปด้วยนิวเคลียร์ ประธานาธิบดีปูตินแสดงความเห็นเรื่องนี้ว่า "ยังมีคนที่ต้องการจะกลับไปสู่ยุคของนโปเลียน พวกเขาลืมไปแล้วว่ามันจบลงอย่างไร" วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ!
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • 🔴 ใครชักใย แก็งปั่นอุยกูร์ ? Ep283 (live)
    SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep283 (live)
    ความจริงเรื่อง อุยกูร์ แค่ไทยส่งกลับทำไมถึงเรื่องใหญ๋ระดับโลก ฟัง ครบ จบ ที่นี้ที่เดียว

    #ThaiTimes #SONDHITALK #ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง #EP283 #Live #อุยกูร์ #ไทยส่งกลับอุยกูร์ #Liveสด #วิเคราะห์ข่าว #ข่าวเด่น #การเมืองโลก #เปิดโปงความจริง #ใครอยู่เบื้องหลัง #ฟังครบจบที่นี่
    0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • ประโยคในชีวิตประจำวันภาษาอินโดนีเซีย พร้อมคำอ่านและคำแปลภาษาไทย

    1. Selamat pagi! → สวัสดีตอนเช้า!
    (เซอลามัต ปากี!)

    2. Apa kabar? → สบายดีไหม?
    (อะปา กาบาร์?)

    3. Saya baik, terima kasih. → ฉันสบายดี ขอบคุณ
    (ซายา บายัก, เตอรีมา กาซิห์.)

    4. Siapa nama kamu? → คุณชื่ออะไร?
    (เซียปา นามา กามู?)

    5. Nama saya … Mook → ฉันชื่อ …มุก
    (นามา ซายา …)

    6. Berapa harganya? → ราคาเท่าไร?
    (เบอราปา ฮาร์กานยา?)

    7. Di mana toilet? → ห้องน้ำอยู่ที่ไหน?
    (ดี มานา ทอยเลต?)

    8. Saya tidak mengerti. → ฉันไม่เข้าใจ
    (ซายา ตีดัก เมิงเกอร์ตี.)

    9. Tolong bantu saya. → กรุณาช่วยฉันด้วย
    (โตลง บันตู ซายา.)

    10. Sampai jumpa lagi! → แล้วพบกันใหม่!
    (ซัมไป จุมปา ลากี!)

    หวังว่าจะช่วยให้คุณใช้ในชีวิตประจำวันได้นะครับ
    #ไทยคำอินโดคำ
    ประโยคในชีวิตประจำวันภาษาอินโดนีเซีย พร้อมคำอ่านและคำแปลภาษาไทย 1. Selamat pagi! → สวัสดีตอนเช้า! (เซอลามัต ปากี!) 2. Apa kabar? → สบายดีไหม? (อะปา กาบาร์?) 3. Saya baik, terima kasih. → ฉันสบายดี ขอบคุณ (ซายา บายัก, เตอรีมา กาซิห์.) 4. Siapa nama kamu? → คุณชื่ออะไร? (เซียปา นามา กามู?) 5. Nama saya … Mook → ฉันชื่อ …มุก (นามา ซายา …) 6. Berapa harganya? → ราคาเท่าไร? (เบอราปา ฮาร์กานยา?) 7. Di mana toilet? → ห้องน้ำอยู่ที่ไหน? (ดี มานา ทอยเลต?) 8. Saya tidak mengerti. → ฉันไม่เข้าใจ (ซายา ตีดัก เมิงเกอร์ตี.) 9. Tolong bantu saya. → กรุณาช่วยฉันด้วย (โตลง บันตู ซายา.) 10. Sampai jumpa lagi! → แล้วพบกันใหม่! (ซัมไป จุมปา ลากี!) หวังว่าจะช่วยให้คุณใช้ในชีวิตประจำวันได้นะครับ #ไทยคำอินโดคำ
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • Intel ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตชิปชั้นนำของโลก ได้แถลงแผนการในอนาคตที่แสดงให้เห็นถึงการรักษาความร่วมมือกับ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) แม้ว่า Intel กำลังมุ่งเน้นการพัฒนาสายการผลิตของตนเองโดยเฉพาะในเทคโนโลยีล่าสุดที่เรียกว่า 18A fabrication technology

    John Pitzer รองประธานฝ่ายวางแผนและนักลงทุนสัมพันธ์ของ Intel ระบุว่า การทำงานร่วมกับ TSMC ช่วยสร้างการแข่งขันที่ดีระหว่าง TSMC และโรงงานผลิตชิปภายในของ Intel (Intel Foundry) ซึ่งในระยะยาวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต แม้ว่า Intel จะผลิตโปรเซสเซอร์รุ่นสำคัญในโรงงานของตนเอง แต่ชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีรุ่นเก่าหรือที่เฉพาะเจาะจง เช่น ชิปควบคุมที่มีมูลค่า 10–15 ดอลลาร์ จะยังคงผลิตกับ TSMC เนื่องจาก Intel ไม่มีสายการผลิตสำหรับเทคโนโลยีเหล่านี้

    เดิม Intel มีเป้าหมายลดการพึ่งพา TSMC ให้เป็นศูนย์ แต่เปลี่ยนแผนในช่วงปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าลดการผลิตภายนอกให้อยู่ระหว่าง 15-20% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดแทนที่จะยุติความร่วมมืออย่างสิ้นเชิง

    Intel มีแผนจะใช้โรงงาน Fab 52 และ Fab 62 ในรัฐแอริโซนา สหรัฐฯ สำหรับการผลิตโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ 'Panther Lake' ที่ใช้เทคโนโลยี 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้า และคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท เนื่องจากลดการพึ่งพาโรงงานภายนอก

    การคงความร่วมมือกับ TSMC สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของ Intel ในการปรับตัวให้เหมาะกับตลาดที่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าบริษัทจะมุ่งมั่นพัฒนาสายการผลิตภายใน แต่การทำงานร่วมกับ TSMC ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโต นอกจากนี้ ยังแสดงถึงความสำคัญของการมีซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-will-keep-using-tsmcs-services-even-when-18a-is-ramped-up-it-is-a-good-supplier
    Intel ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตชิปชั้นนำของโลก ได้แถลงแผนการในอนาคตที่แสดงให้เห็นถึงการรักษาความร่วมมือกับ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) แม้ว่า Intel กำลังมุ่งเน้นการพัฒนาสายการผลิตของตนเองโดยเฉพาะในเทคโนโลยีล่าสุดที่เรียกว่า 18A fabrication technology John Pitzer รองประธานฝ่ายวางแผนและนักลงทุนสัมพันธ์ของ Intel ระบุว่า การทำงานร่วมกับ TSMC ช่วยสร้างการแข่งขันที่ดีระหว่าง TSMC และโรงงานผลิตชิปภายในของ Intel (Intel Foundry) ซึ่งในระยะยาวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต แม้ว่า Intel จะผลิตโปรเซสเซอร์รุ่นสำคัญในโรงงานของตนเอง แต่ชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีรุ่นเก่าหรือที่เฉพาะเจาะจง เช่น ชิปควบคุมที่มีมูลค่า 10–15 ดอลลาร์ จะยังคงผลิตกับ TSMC เนื่องจาก Intel ไม่มีสายการผลิตสำหรับเทคโนโลยีเหล่านี้ เดิม Intel มีเป้าหมายลดการพึ่งพา TSMC ให้เป็นศูนย์ แต่เปลี่ยนแผนในช่วงปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าลดการผลิตภายนอกให้อยู่ระหว่าง 15-20% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดแทนที่จะยุติความร่วมมืออย่างสิ้นเชิง Intel มีแผนจะใช้โรงงาน Fab 52 และ Fab 62 ในรัฐแอริโซนา สหรัฐฯ สำหรับการผลิตโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ 'Panther Lake' ที่ใช้เทคโนโลยี 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้า และคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท เนื่องจากลดการพึ่งพาโรงงานภายนอก การคงความร่วมมือกับ TSMC สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของ Intel ในการปรับตัวให้เหมาะกับตลาดที่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าบริษัทจะมุ่งมั่นพัฒนาสายการผลิตภายใน แต่การทำงานร่วมกับ TSMC ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโต นอกจากนี้ ยังแสดงถึงความสำคัญของการมีซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-will-keep-using-tsmcs-services-even-when-18a-is-ramped-up-it-is-a-good-supplier
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Intel will keep using TSMC's services even when 18A is ramped up: 'It is a good supplier'
    The question is, what percentage of Intel's products will be outsourced?
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • มีรายงานที่ระบุว่า GPU ของ Nvidia ในกลุ่ม RTX 50 Series สำหรับแล็ปท็อป อาจประสบปัญหาการขาดหน่วยประมวลผล ROPs (Render Output Units) ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการแสดงผลเช่นเดียวกับปัญหาที่พบใน GPU สำหรับเดสก์ท็อปในซีรีส์เดียวกัน อย่างไรก็ตาม Nvidia ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันผ่านการตอบคำถามของสำนักข่าว The Verge ว่า GPU สำหรับแล็ปท็อปไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้

    ROPs (Render Output Units) เป็นส่วนสำคัญในกระบวนการเรนเดอร์กราฟิก โดยช่วยในการประมวลผลภาพขั้นสุดท้ายก่อนแสดงผลบนหน้าจอ หาก GPU มีจำนวน ROPs น้อยกว่าที่ควร ระบบอาจแสดงผลช้าลงและลดประสิทธิภาพโดยรวมของ GPU ลงได้ถึง 11% ตามที่มีการทดสอบใน TimeSpy

    ข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่า Nvidia ได้ร้องขอให้ผู้ผลิตแล็ปท็อปในภูมิภาคเอเชียตรวจสอบอุปกรณ์ที่อาจมี GPU ที่ประสบปัญหาดังกล่าว โดยผู้ผลิตบางรายรายงานว่าปัญหานี้ส่งผลกระทบเพียง "ล็อตแรก" ของการผลิต อย่างไรก็ตาม Nvidia ยืนยันว่าสถานการณ์นี้ไม่มีผลกับ GPU ของแล็ปท็อปในซีรีส์ RTX 50 อีกต่อไปแล้ว หรือหากเคยมีปัญหาก็อาจได้รับการแก้ไขแล้วก่อนที่ข่าวจะแพร่ออกไป

    แม้ว่าปัญหาเรื่อง ROPs จะถูกปฏิเสธโดย Nvidia แต่ GPU ในซีรีส์ RTX 50 ยังคงประสบปัญหาในด้านซัพพลายเชนที่ส่งผลให้การเปิดตัวอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ต้องถูกเลื่อนจากมกราคมเป็นมีนาคม และรุ่นกลางและล่างถูกเลื่อนจากมีนาคมไปเป็นเมษายน

    ปัญหาที่คล้ายกันเคยเกิดขึ้นกับ RTX 5090 และ RTX 5080 ซึ่ง Nvidia ยืนยันว่ามีหน่วย ROPs น้อยกว่าที่โฆษณาไว้ โดยเรื่องนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่บ่งบอกถึงความซับซ้อนในกระบวนการผลิต GPU และความสำคัญของการตรวจสอบคุณภาพก่อนการจัดจำหน่าย

    ไม่ว่าจะมีปัญหาหรือไม่ในอดีต Nvidia ยังคงเผชิญกับความท้าทายในซัพพลายเชนและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในซีรีส์ RTX 50 การจัดการที่ดีและโปร่งใสสามารถช่วยลดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัทได้

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-denies-allegations-that-laptop-rtx-50-gpus-are-also-missing-rops
    มีรายงานที่ระบุว่า GPU ของ Nvidia ในกลุ่ม RTX 50 Series สำหรับแล็ปท็อป อาจประสบปัญหาการขาดหน่วยประมวลผล ROPs (Render Output Units) ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการแสดงผลเช่นเดียวกับปัญหาที่พบใน GPU สำหรับเดสก์ท็อปในซีรีส์เดียวกัน อย่างไรก็ตาม Nvidia ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันผ่านการตอบคำถามของสำนักข่าว The Verge ว่า GPU สำหรับแล็ปท็อปไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ ROPs (Render Output Units) เป็นส่วนสำคัญในกระบวนการเรนเดอร์กราฟิก โดยช่วยในการประมวลผลภาพขั้นสุดท้ายก่อนแสดงผลบนหน้าจอ หาก GPU มีจำนวน ROPs น้อยกว่าที่ควร ระบบอาจแสดงผลช้าลงและลดประสิทธิภาพโดยรวมของ GPU ลงได้ถึง 11% ตามที่มีการทดสอบใน TimeSpy ข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่า Nvidia ได้ร้องขอให้ผู้ผลิตแล็ปท็อปในภูมิภาคเอเชียตรวจสอบอุปกรณ์ที่อาจมี GPU ที่ประสบปัญหาดังกล่าว โดยผู้ผลิตบางรายรายงานว่าปัญหานี้ส่งผลกระทบเพียง "ล็อตแรก" ของการผลิต อย่างไรก็ตาม Nvidia ยืนยันว่าสถานการณ์นี้ไม่มีผลกับ GPU ของแล็ปท็อปในซีรีส์ RTX 50 อีกต่อไปแล้ว หรือหากเคยมีปัญหาก็อาจได้รับการแก้ไขแล้วก่อนที่ข่าวจะแพร่ออกไป แม้ว่าปัญหาเรื่อง ROPs จะถูกปฏิเสธโดย Nvidia แต่ GPU ในซีรีส์ RTX 50 ยังคงประสบปัญหาในด้านซัพพลายเชนที่ส่งผลให้การเปิดตัวอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ต้องถูกเลื่อนจากมกราคมเป็นมีนาคม และรุ่นกลางและล่างถูกเลื่อนจากมีนาคมไปเป็นเมษายน ปัญหาที่คล้ายกันเคยเกิดขึ้นกับ RTX 5090 และ RTX 5080 ซึ่ง Nvidia ยืนยันว่ามีหน่วย ROPs น้อยกว่าที่โฆษณาไว้ โดยเรื่องนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่บ่งบอกถึงความซับซ้อนในกระบวนการผลิต GPU และความสำคัญของการตรวจสอบคุณภาพก่อนการจัดจำหน่าย ไม่ว่าจะมีปัญหาหรือไม่ในอดีต Nvidia ยังคงเผชิญกับความท้าทายในซัพพลายเชนและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในซีรีส์ RTX 50 การจัดการที่ดีและโปร่งใสสามารถช่วยลดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัทได้ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-denies-allegations-that-laptop-rtx-50-gpus-are-also-missing-rops
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia denies allegations that laptop RTX 50 GPUs are also missing ROPs
    Nvidia claims laptop Blackwell GPUs are not affected by the missing ROPs problem seen on its latest desktop cards.
    0 Comments 0 Shares 111 Views 0 Reviews
  • AMD ได้เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ RX 9070 และ RX 9070 XT ซึ่งทำงานบนสถาปัตยกรรม RDNA 4 โดย RX 9070 ถูกตั้งราคาสุดคุ้มที่ $549 ซึ่งเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์ อย่างไรก็ตาม ข่าวล่าสุดชี้ว่า ราคานี้จะมีให้เฉพาะสำหรับชุดล็อตแรกของการ์ดจอนี้เท่านั้น หลังจากนี้ ผู้ผลิตและร้านค้าต่าง ๆ จะมีสิทธิ์กำหนดราคาใหม่ที่อาจสูงขึ้น

    ในกรณีนี้ ผู้ค้าปลีกจากหลายประเทศ เช่น สวีเดน และสหราชอาณาจักร ได้เปิดเผยว่า การ์ดจอ RX 9070 จะคงราคา MSRP ($549) เฉพาะสำหรับล็อตแรกของการผลิตเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ร้าน Inet.se ในสวีเดนได้ชี้แจงว่าหลังจากล็อตแรกหมด ราคาจะถูกปรับเพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตบางราย เช่น PowerColor ซึ่งได้ยืนยันว่า สินค้าจากล็อตสองจะมีราคาสูงขึ้น และไม่สามารถขายในราคามาตรฐานได้อีก

    ปัจจุบัน RX 9070 มีราคาถูกกว่า RX 9070 XT เพียง $50 (XT ราคา $599) การที่ RX 9070 มีราคาที่ใกล้เคียงกับ XT ทำให้ความน่าสนใจลดลง หากเกมเมอร์พลาดโอกาสล็อตแรกในราคา $549 ก็อาจต้องจ่ายแพงขึ้น ซึ่งในกรณีนี้ RX 9070 XT อาจดูคุ้มค่ากว่า เกมเมอร์ที่ต้องการ RX 9070 ในราคามาตรฐานควรรีบตัดสินใจซื้อในล็อตแรกก่อนที่ราคาจะปรับขึ้น

    การตั้งราคาของ RX 9070 ที่ต่ำกว่า NVIDIA RTX ซีรีส์ 50 แสดงให้เห็นว่า AMD พยายามแข่งขันในตลาดการ์ดจอกลุ่มราคาประหยัด แต่นโยบายการปรับราคานี้อาจสร้างความสับสนและส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจของผู้บริโภคในระยะยาว

    การ์ดจอ RX 9070 รุ่นแรกในราคาสุดคุ้มนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์ที่มองหาประสิทธิภาพสูงในราคาสมเหตุสมผล หากคุณสนใจและอยากเป็นเจ้าของ อย่าลืมติดตามร้านค้าต่าง ๆ ที่ยังมีล็อตแรกเหลืออยู่

    https://www.techradar.com/computing/gpu/bad-news-pc-gamers-it-seems-amds-aggressively-low-price-for-its-radeon-rx-9070-gpu-will-only-be-for-a-limited-time
    AMD ได้เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ RX 9070 และ RX 9070 XT ซึ่งทำงานบนสถาปัตยกรรม RDNA 4 โดย RX 9070 ถูกตั้งราคาสุดคุ้มที่ $549 ซึ่งเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์ อย่างไรก็ตาม ข่าวล่าสุดชี้ว่า ราคานี้จะมีให้เฉพาะสำหรับชุดล็อตแรกของการ์ดจอนี้เท่านั้น หลังจากนี้ ผู้ผลิตและร้านค้าต่าง ๆ จะมีสิทธิ์กำหนดราคาใหม่ที่อาจสูงขึ้น ในกรณีนี้ ผู้ค้าปลีกจากหลายประเทศ เช่น สวีเดน และสหราชอาณาจักร ได้เปิดเผยว่า การ์ดจอ RX 9070 จะคงราคา MSRP ($549) เฉพาะสำหรับล็อตแรกของการผลิตเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ร้าน Inet.se ในสวีเดนได้ชี้แจงว่าหลังจากล็อตแรกหมด ราคาจะถูกปรับเพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตบางราย เช่น PowerColor ซึ่งได้ยืนยันว่า สินค้าจากล็อตสองจะมีราคาสูงขึ้น และไม่สามารถขายในราคามาตรฐานได้อีก ปัจจุบัน RX 9070 มีราคาถูกกว่า RX 9070 XT เพียง $50 (XT ราคา $599) การที่ RX 9070 มีราคาที่ใกล้เคียงกับ XT ทำให้ความน่าสนใจลดลง หากเกมเมอร์พลาดโอกาสล็อตแรกในราคา $549 ก็อาจต้องจ่ายแพงขึ้น ซึ่งในกรณีนี้ RX 9070 XT อาจดูคุ้มค่ากว่า เกมเมอร์ที่ต้องการ RX 9070 ในราคามาตรฐานควรรีบตัดสินใจซื้อในล็อตแรกก่อนที่ราคาจะปรับขึ้น การตั้งราคาของ RX 9070 ที่ต่ำกว่า NVIDIA RTX ซีรีส์ 50 แสดงให้เห็นว่า AMD พยายามแข่งขันในตลาดการ์ดจอกลุ่มราคาประหยัด แต่นโยบายการปรับราคานี้อาจสร้างความสับสนและส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจของผู้บริโภคในระยะยาว การ์ดจอ RX 9070 รุ่นแรกในราคาสุดคุ้มนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์ที่มองหาประสิทธิภาพสูงในราคาสมเหตุสมผล หากคุณสนใจและอยากเป็นเจ้าของ อย่าลืมติดตามร้านค้าต่าง ๆ ที่ยังมีล็อตแรกเหลืออยู่ https://www.techradar.com/computing/gpu/bad-news-pc-gamers-it-seems-amds-aggressively-low-price-for-its-radeon-rx-9070-gpu-will-only-be-for-a-limited-time
    0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • ทีมนักวิจัยจาก Nisos ได้เผยแพร่รายงานที่น่าตกใจเกี่ยวกับเครือข่ายของแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือที่กำลังปลอมแปลงตัวตนเพื่อสมัครงานในบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ทั้งในเอเชียและตะวันตก การกระทำนี้มุ่งเน้นหารายได้เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของรัฐบาลเกาหลีเหนือ

    วิธีการที่แฮกเกอร์ใช้
    1) สร้างตัวตนปลอม: แฮกเกอร์ใช้ GitHub และเนื้อหาผลงานจากบัญชีเก่าเพื่อสร้างโปรไฟล์ที่ดูเหมือนจริง
    2) เทคนิคการปลอมแปลง: ใช้รูปภาพที่ผ่านการตัดต่อ (Photoshop) และโปรไฟล์ที่ไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าสงสัย
    3) การสมัครงานในบริษัทเล็ก: เป้าหมายคือบริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่า 50 คน ทำให้ง่ายต่อการแทรกซึมข้อมูล

    การจ้างงานช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบภายในของบริษัท เป้าหมายไม่เพียงแค่ขโมยข้อมูลที่สำคัญ แต่ยังรวมถึงเงินทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฮกเกอร์กลุ่มนี้มุ่งเน้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนและคริปโตเคอเรนซี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีประวัติการโจรกรรมครั้งใหญ่ในวงการนี้

    แม้จะไม่สามารถระบุตัวตนได้แน่นอน แต่พฤติกรรมและรูปแบบการโจมตีที่แสดงออกมามีลักษณะใกล้เคียงกับกลุ่ม Lazarus ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ และเคยเกี่ยวข้องกับการโจมตีด้วยมัลแวร์และการสร้างบริษัทปลอมเพื่อหลอกลวงนักพัฒนาซอฟต์แวร์

    การป้องกันและข้อควรรู้
    ผู้ว่าจ้างควรระวังข้อมูลที่ดูผิดปกติในโปรไฟล์ผู้สมัคร เช่น:
    - การใช้รูปภาพที่ดูไม่สมจริง
    - ไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดีย หรืออีเมลที่คล้ายคลึงกันทั้งหมด
    - พิจารณาการตรวจสอบประวัติผู้สมัครอย่างละเอียด

    เรื่องนี้ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงความซับซ้อนในโลกไซเบอร์ แต่ยังเตือนให้บริษัทในวงการเทคโนโลยีเพิ่มการตรวจสอบและตื่นตัวกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกเมื่อ

    https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-fake-job-hackers-are-going-the-extra-mile-to-make-sure-their-scams-seem-legit
    ทีมนักวิจัยจาก Nisos ได้เผยแพร่รายงานที่น่าตกใจเกี่ยวกับเครือข่ายของแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือที่กำลังปลอมแปลงตัวตนเพื่อสมัครงานในบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ทั้งในเอเชียและตะวันตก การกระทำนี้มุ่งเน้นหารายได้เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของรัฐบาลเกาหลีเหนือ วิธีการที่แฮกเกอร์ใช้ 1) สร้างตัวตนปลอม: แฮกเกอร์ใช้ GitHub และเนื้อหาผลงานจากบัญชีเก่าเพื่อสร้างโปรไฟล์ที่ดูเหมือนจริง 2) เทคนิคการปลอมแปลง: ใช้รูปภาพที่ผ่านการตัดต่อ (Photoshop) และโปรไฟล์ที่ไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าสงสัย 3) การสมัครงานในบริษัทเล็ก: เป้าหมายคือบริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่า 50 คน ทำให้ง่ายต่อการแทรกซึมข้อมูล การจ้างงานช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบภายในของบริษัท เป้าหมายไม่เพียงแค่ขโมยข้อมูลที่สำคัญ แต่ยังรวมถึงเงินทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฮกเกอร์กลุ่มนี้มุ่งเน้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนและคริปโตเคอเรนซี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีประวัติการโจรกรรมครั้งใหญ่ในวงการนี้ แม้จะไม่สามารถระบุตัวตนได้แน่นอน แต่พฤติกรรมและรูปแบบการโจมตีที่แสดงออกมามีลักษณะใกล้เคียงกับกลุ่ม Lazarus ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ และเคยเกี่ยวข้องกับการโจมตีด้วยมัลแวร์และการสร้างบริษัทปลอมเพื่อหลอกลวงนักพัฒนาซอฟต์แวร์ การป้องกันและข้อควรรู้ ผู้ว่าจ้างควรระวังข้อมูลที่ดูผิดปกติในโปรไฟล์ผู้สมัคร เช่น: - การใช้รูปภาพที่ดูไม่สมจริง - ไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดีย หรืออีเมลที่คล้ายคลึงกันทั้งหมด - พิจารณาการตรวจสอบประวัติผู้สมัครอย่างละเอียด เรื่องนี้ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงความซับซ้อนในโลกไซเบอร์ แต่ยังเตือนให้บริษัทในวงการเทคโนโลยีเพิ่มการตรวจสอบและตื่นตัวกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกเมื่อ https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-fake-job-hackers-are-going-the-extra-mile-to-make-sure-their-scams-seem-legit
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้ออัลปาก้า.....เลข.....2.....3.....6.....*****

    *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....*****

    *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....*****
    *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....*****
    *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....*****

    *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....*****

    #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้ออัลปาก้า.....เลข.....2.....3.....6.....***** *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....***** *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....***** *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....***** *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....***** *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....***** #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อหาต่อบุคคล 12 คน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการโจมตีไซเบอร์ต่อองค์กรและหน่วยงานกว่า 100 แห่งในสหรัฐฯ รวมถึงกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ (US Treasury) คดีนี้เผยให้เห็นถึงการโจมตีของแฮกเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐบาลจีน ซึ่งอาจมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนการควบคุมและเซ็นเซอร์ในประเด็น "เสรีภาพในการแสดงออก" และ "ศาสนา"

    ในกลุ่มบุคคลที่ถูกตั้งข้อหา มีสองคนที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่เรียกว่า Silk Typhoon ซึ่ง Microsoft ระบุว่าเป็นผู้โจมตีหลักในเหตุการณ์แฮกกระทรวงการคลังช่วงปลายปี 2024 การโจมตีครั้งนั้นถูกมองว่าเป็นตัวอย่างสำคัญของการใช้กลยุทธ์แบบ "รัฐสนับสนุน" ในการขโมยข้อมูลสำคัญระดับประเทศ

    ผู้กระทำผิดบางรายทำงานในลักษณะของ แฮกเกอร์รับจ้าง โดยถูกว่าจ้างจากองค์กร Anxum Information Technology Co. Ltd. (หรือที่เรียกกันว่า “i-Soon”) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ (MPS) และกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ (MSS) ของจีน ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับการตอบแทนสูงถึง 75,000 ดอลลาร์ต่ออีเมลที่ถูกแฮกสำเร็จ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแหล่งเงินทุนที่รัฐบาลจีนมอบให้กับการดำเนินการไซเบอร์นี้

    FBI และหน่วยงานอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ยังคงทำงานอย่างหนักในการปกป้องระบบไซเบอร์ของประเทศ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ Bryan Vorndran จากฝ่ายไซเบอร์ของ FBI ได้กล่าวถึงความสำคัญในการป้องกันภัยคุกคามจากต่างประเทศ พร้อมทั้งเสนอรางวัลสูงถึง 10 ล้านดอลลาร์สำหรับผู้ที่ให้ข้อมูลนำไปสู่การจับกุมแฮกเกอร์ที่เกี่ยวข้อง

    สิ่งที่น่ากังวลคือ การโจมตีครั้งนี้ไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อองค์กรหรือรัฐบาลในเชิงเทคนิค แต่ยังเกี่ยวข้องกับประเด็นสิทธิมนุษยชนและความมั่นคงระดับโลกอีกด้วย การเผชิญกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐเป็นสัญญาณเตือนให้ทั่วโลกต้องร่วมมือกันในด้านกฎหมายและเทคโนโลยี เพื่อรับมือกับปัญหาในระดับสากล

    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-who-targeted-key-us-infrastructure-charged-by-justice-department
    กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อหาต่อบุคคล 12 คน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการโจมตีไซเบอร์ต่อองค์กรและหน่วยงานกว่า 100 แห่งในสหรัฐฯ รวมถึงกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ (US Treasury) คดีนี้เผยให้เห็นถึงการโจมตีของแฮกเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐบาลจีน ซึ่งอาจมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนการควบคุมและเซ็นเซอร์ในประเด็น "เสรีภาพในการแสดงออก" และ "ศาสนา" ในกลุ่มบุคคลที่ถูกตั้งข้อหา มีสองคนที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่เรียกว่า Silk Typhoon ซึ่ง Microsoft ระบุว่าเป็นผู้โจมตีหลักในเหตุการณ์แฮกกระทรวงการคลังช่วงปลายปี 2024 การโจมตีครั้งนั้นถูกมองว่าเป็นตัวอย่างสำคัญของการใช้กลยุทธ์แบบ "รัฐสนับสนุน" ในการขโมยข้อมูลสำคัญระดับประเทศ ผู้กระทำผิดบางรายทำงานในลักษณะของ แฮกเกอร์รับจ้าง โดยถูกว่าจ้างจากองค์กร Anxum Information Technology Co. Ltd. (หรือที่เรียกกันว่า “i-Soon”) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ (MPS) และกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ (MSS) ของจีน ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับการตอบแทนสูงถึง 75,000 ดอลลาร์ต่ออีเมลที่ถูกแฮกสำเร็จ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแหล่งเงินทุนที่รัฐบาลจีนมอบให้กับการดำเนินการไซเบอร์นี้ FBI และหน่วยงานอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ยังคงทำงานอย่างหนักในการปกป้องระบบไซเบอร์ของประเทศ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ Bryan Vorndran จากฝ่ายไซเบอร์ของ FBI ได้กล่าวถึงความสำคัญในการป้องกันภัยคุกคามจากต่างประเทศ พร้อมทั้งเสนอรางวัลสูงถึง 10 ล้านดอลลาร์สำหรับผู้ที่ให้ข้อมูลนำไปสู่การจับกุมแฮกเกอร์ที่เกี่ยวข้อง สิ่งที่น่ากังวลคือ การโจมตีครั้งนี้ไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อองค์กรหรือรัฐบาลในเชิงเทคนิค แต่ยังเกี่ยวข้องกับประเด็นสิทธิมนุษยชนและความมั่นคงระดับโลกอีกด้วย การเผชิญกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐเป็นสัญญาณเตือนให้ทั่วโลกต้องร่วมมือกันในด้านกฎหมายและเทคโนโลยี เพื่อรับมือกับปัญหาในระดับสากล https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-who-targeted-key-us-infrastructure-charged-by-justice-department
    WWW.TECHRADAR.COM
    Chinese hackers who targeted key US infrastructure charged by Justice Department
    12 individuals accused of playing a ‘key role’ in recent cyberattacks
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • Xiaomi กำลังสร้างกระแสในวงการยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีนด้วยรถ SUV รุ่น SU7 ที่ขายดีกว่า Tesla Model 3 และมีแผนที่จะเปิดตัว SUV ใหม่ที่ท้าชนกับ Tesla Model Y ระดับโลก

    ในระหว่างเดือนเมษายน 2024 ถึงมกราคม 2025 Xiaomi สามารถขายรถ SU7 ได้มากกว่า Tesla Model 3 ถึง 10,000 คัน ทั้งที่เพิ่งเริ่มต้นผลิตรถยนต์เป็นครั้งแรก นี่เป็นจุดพลิกสำคัญในตลาด EV ของจีน ซึ่ง Tesla เคยครองใจผู้บริโภคในฐานะแบรนด์หรูจากต่างประเทศ การขยายตัวของ Xiaomi ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มความนิยมของผู้บริโภคจีนที่กำลังมองหาตัวเลือกในประเทศที่มีราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

    นอกจากความสำเร็จของ SU7 รุ่นมาตรฐาน Xiaomi ยังได้เปิดตัว SU7 Ultra ที่มีกำลังมหาศาลถึง 1,517 แรงม้าและวิ่งได้ไกลถึง 510 ไมล์ต่อการชาร์จ เป็นตัวเลือกที่ประหยัดกว่า Porsche Taycan Turbo GT ถึง $200,000 นี่เป็นการบุกเบิกเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่เน้นความคุ้มค่าและสมรรถนะไปพร้อมกัน

    William Lu ประธานของ Xiaomi ได้ประกาศในงาน Mobile World Congress ว่าบริษัทมีแผนเปิดตัวรถ SUV รุ่น YU7 ที่จะออกสู่ตลาดโลกในอนาคต YU7 มีคุณสมบัติที่ท้าทายแบรนด์หรูอย่าง Mercedes-Benz, BMW, และ Porsche ด้วยเทคโนโลยี Lidar ที่ล้ำสมัย สมรรถนะ 691 แรงม้า และความสามารถขับขี่อัตโนมัติ ทำให้มีความพร้อมสำหรับการแข่งขันในตลาด EV ระดับโลก

    ยอดขายที่ลดลงของ Tesla ในจีนแสดงถึงความเปลี่ยนแปลงของความต้องการในตลาด ซึ่งเน้นไปที่ความคุ้มค่าแทนที่จะเป็นแบรนด์หรู ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ Xiaomi และแผนบุกตลาดโลก ความสำเร็จนี้อาจกลายเป็น "ตัวป่วน" สำหรับแบรนด์ระดับพรีเมียมในอุตสาหกรรมรถยนต์

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/xiaomis-ev-is-racing-ahead-of-tesla-in-china-and-its-planning-a-global-model-y-rival-next
    Xiaomi กำลังสร้างกระแสในวงการยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีนด้วยรถ SUV รุ่น SU7 ที่ขายดีกว่า Tesla Model 3 และมีแผนที่จะเปิดตัว SUV ใหม่ที่ท้าชนกับ Tesla Model Y ระดับโลก ในระหว่างเดือนเมษายน 2024 ถึงมกราคม 2025 Xiaomi สามารถขายรถ SU7 ได้มากกว่า Tesla Model 3 ถึง 10,000 คัน ทั้งที่เพิ่งเริ่มต้นผลิตรถยนต์เป็นครั้งแรก นี่เป็นจุดพลิกสำคัญในตลาด EV ของจีน ซึ่ง Tesla เคยครองใจผู้บริโภคในฐานะแบรนด์หรูจากต่างประเทศ การขยายตัวของ Xiaomi ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มความนิยมของผู้บริโภคจีนที่กำลังมองหาตัวเลือกในประเทศที่มีราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น นอกจากความสำเร็จของ SU7 รุ่นมาตรฐาน Xiaomi ยังได้เปิดตัว SU7 Ultra ที่มีกำลังมหาศาลถึง 1,517 แรงม้าและวิ่งได้ไกลถึง 510 ไมล์ต่อการชาร์จ เป็นตัวเลือกที่ประหยัดกว่า Porsche Taycan Turbo GT ถึง $200,000 นี่เป็นการบุกเบิกเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่เน้นความคุ้มค่าและสมรรถนะไปพร้อมกัน William Lu ประธานของ Xiaomi ได้ประกาศในงาน Mobile World Congress ว่าบริษัทมีแผนเปิดตัวรถ SUV รุ่น YU7 ที่จะออกสู่ตลาดโลกในอนาคต YU7 มีคุณสมบัติที่ท้าทายแบรนด์หรูอย่าง Mercedes-Benz, BMW, และ Porsche ด้วยเทคโนโลยี Lidar ที่ล้ำสมัย สมรรถนะ 691 แรงม้า และความสามารถขับขี่อัตโนมัติ ทำให้มีความพร้อมสำหรับการแข่งขันในตลาด EV ระดับโลก ยอดขายที่ลดลงของ Tesla ในจีนแสดงถึงความเปลี่ยนแปลงของความต้องการในตลาด ซึ่งเน้นไปที่ความคุ้มค่าแทนที่จะเป็นแบรนด์หรู ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ Xiaomi และแผนบุกตลาดโลก ความสำเร็จนี้อาจกลายเป็น "ตัวป่วน" สำหรับแบรนด์ระดับพรีเมียมในอุตสาหกรรมรถยนต์ https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/xiaomis-ev-is-racing-ahead-of-tesla-in-china-and-its-planning-a-global-model-y-rival-next
    0 Comments 0 Shares 127 Views 0 Reviews
  • Micron ได้เผยต้นแบบ SSD PCIe 6.x รุ่นล่าสุดในงาน DesignCon 2025 ซึ่งกลายเป็นฮาร์ดไดรฟ์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วในการอ่านข้อมูลแบบลำดับสูงถึง 27GB/s นี่ถือว่าเร็วกว่า PCIe 5.0 SSD ที่เร็วที่สุดในปัจจุบันถึงสองเท่าเลยทีเดียว!

    ความสำเร็จนี้ได้รับการสนับสนุนโดย Astera Labs’ Scorpio P-Series Fabric Switch ซึ่งทำให้ SSD สามารถถ่ายโอนข้อมูลระหว่างหน่วยจัดเก็บข้อมูล (storage), โปรเซสเซอร์, และ GPU ได้อย่างราบรื่นแบบไร้รอยต่อ ตัวอย่างในงานยังใช้เทคโนโลยี NVIDIA Magnum IO GPUDirect Storage เพื่อเปิดทางลัดการส่งข้อมูลระหว่าง SSD และ GPU โดยไม่ต้องผ่าน CPU ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วได้อย่างมาก

    == ข้อดีของ PCIe 6.x ==
    - แบนด์วิธสูง: PCIe 6.x มีแบนด์วิธแบบสองทางสูงถึง 256GB/s เมื่อใช้งานในโหมด x16 lane ทำให้ลดปัญหาคอขวดในงานด้าน AI และคลาวด์ที่ต้องการการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก
    - ศักยภาพในอนาคต: เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงขึ้นในงานที่ซับซ้อน เช่น การฝึกสอน AI และการทำงานเชิงวิเคราะห์ข้อมูล

    แม้ว่าต้นแบบ SSD PCIe 6.x จะแสดงศักยภาพที่น่าประทับใจ แต่ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะออกสู่ตลาด เนื่องจากอุตสาหกรรมยังต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สอดคล้อง เช่น CPU, GPU, และอินเตอร์เฟซเครือข่ายที่รองรับการทำงานของ PCIe 6.x

    https://www.techradar.com/pro/micron-just-demoed-the-worlds-fastest-ssd-with-pcie-6-x-tech-a-sequential-read-speed-of-27gb-s-and-yes-its-just-a-prototype-for-now
    Micron ได้เผยต้นแบบ SSD PCIe 6.x รุ่นล่าสุดในงาน DesignCon 2025 ซึ่งกลายเป็นฮาร์ดไดรฟ์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วในการอ่านข้อมูลแบบลำดับสูงถึง 27GB/s นี่ถือว่าเร็วกว่า PCIe 5.0 SSD ที่เร็วที่สุดในปัจจุบันถึงสองเท่าเลยทีเดียว! ความสำเร็จนี้ได้รับการสนับสนุนโดย Astera Labs’ Scorpio P-Series Fabric Switch ซึ่งทำให้ SSD สามารถถ่ายโอนข้อมูลระหว่างหน่วยจัดเก็บข้อมูล (storage), โปรเซสเซอร์, และ GPU ได้อย่างราบรื่นแบบไร้รอยต่อ ตัวอย่างในงานยังใช้เทคโนโลยี NVIDIA Magnum IO GPUDirect Storage เพื่อเปิดทางลัดการส่งข้อมูลระหว่าง SSD และ GPU โดยไม่ต้องผ่าน CPU ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วได้อย่างมาก == ข้อดีของ PCIe 6.x == - แบนด์วิธสูง: PCIe 6.x มีแบนด์วิธแบบสองทางสูงถึง 256GB/s เมื่อใช้งานในโหมด x16 lane ทำให้ลดปัญหาคอขวดในงานด้าน AI และคลาวด์ที่ต้องการการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก - ศักยภาพในอนาคต: เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงขึ้นในงานที่ซับซ้อน เช่น การฝึกสอน AI และการทำงานเชิงวิเคราะห์ข้อมูล แม้ว่าต้นแบบ SSD PCIe 6.x จะแสดงศักยภาพที่น่าประทับใจ แต่ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะออกสู่ตลาด เนื่องจากอุตสาหกรรมยังต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สอดคล้อง เช่น CPU, GPU, และอินเตอร์เฟซเครือข่ายที่รองรับการทำงานของ PCIe 6.x https://www.techradar.com/pro/micron-just-demoed-the-worlds-fastest-ssd-with-pcie-6-x-tech-a-sequential-read-speed-of-27gb-s-and-yes-its-just-a-prototype-for-now
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • เต็มคาราเบล!!
    สัญญาณแจ้งเตือนของยูเครน บ่งบอกถึงการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่นับตั้งแต่ต้นปี 2025!

    🔴 มีรายงานการโจมตีแบบผสมผสาน – ขีปนาวุธร่อน ขีปนาวุธพิสัยไกล และโดรน
    • รายงานระบุว่าเป้าหมายความเร็วสูงกำลังมุ่งหน้าสู่ฐานทัพทหารและโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน
    • มีรายงานตรวจพบเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95MS จำนวน 10 ลำ กำลังบินอยู่กลางอากาศ
    • มีรายงานขีปนาวุธร่อน Kalibr ถูกปล่อยจากทะเลดำ คาดว่าจะเข้าสู่น่านฟ้าของยูเครนภายใน 20-30 นาที
    • มีรายงานขีปนาวุธร่อน Kh-101/Kh-555 ที่ปล่อยจากเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ Tu-95MS จะถึงชายแดนของยูเครนภายในเวลา 05:10 - 06:10 น. ตามเวลามอสโก
    • มีรายงานขีปนาวุธร่อน Kalibr ถูกตรวจพบในภูมิภาค Kherson มุ่งหน้าสู่โอเดสซา (Odessa)
    • มีรายงานขีปนาวุธร่อน Kalibr อีกกลุ่ม มุ่งหน้าสู่ Krivoy Rog

    🔴 และยังมีรายงานตรวจพบขีปนาวุธร่อน ตามภูมิภาคต่อไป:
    • ทะเลดำ → ภูมิภาค Nikolaev
    • ภูมิภาค Kherson → ภูมิภาค Nikolaev
    • ภูมิภาค Kherson → Krivoy Rog
    • ภูมิภาค Dnepropetrovsk → ภูมิภาค Kirovograd
    • รายงานการระเบิดในโอเดสซา หลังจากขีปนาวุธโจมตีเป้าหมาย
    • พบขีปนาวุธเหนือภูมิภาค Kharkov และ Poltava
    • ขีปนาวุธ Kalibrs บินเหนือ Alexandria มุ่งหน้าสู่ภูมิภาค Cherkasy และ Poltava
    • ตรวจพบขีปนาวุธมุ่งหน้าสู่ Mirgorod ในภูมิภาค Poltava
    • ขีปนาวุธร่อน Kalibr หลายลูกบินข้ามภูมิภาค Odessa มุ่งหน้าสู่ Vinnytsia และ Cherkassy

    🔴 ขณะนี้เริ่มทะยอยมีรายงานผลกระทบและการโจมตีอย่างต่อเนื่อง


    เต็มคาราเบล!! สัญญาณแจ้งเตือนของยูเครน บ่งบอกถึงการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่นับตั้งแต่ต้นปี 2025! 🔴 มีรายงานการโจมตีแบบผสมผสาน – ขีปนาวุธร่อน ขีปนาวุธพิสัยไกล และโดรน • รายงานระบุว่าเป้าหมายความเร็วสูงกำลังมุ่งหน้าสู่ฐานทัพทหารและโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน • มีรายงานตรวจพบเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95MS จำนวน 10 ลำ กำลังบินอยู่กลางอากาศ • มีรายงานขีปนาวุธร่อน Kalibr ถูกปล่อยจากทะเลดำ คาดว่าจะเข้าสู่น่านฟ้าของยูเครนภายใน 20-30 นาที • มีรายงานขีปนาวุธร่อน Kh-101/Kh-555 ที่ปล่อยจากเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ Tu-95MS จะถึงชายแดนของยูเครนภายในเวลา 05:10 - 06:10 น. ตามเวลามอสโก • มีรายงานขีปนาวุธร่อน Kalibr ถูกตรวจพบในภูมิภาค Kherson มุ่งหน้าสู่โอเดสซา (Odessa) • มีรายงานขีปนาวุธร่อน Kalibr อีกกลุ่ม มุ่งหน้าสู่ Krivoy Rog 🔴 และยังมีรายงานตรวจพบขีปนาวุธร่อน ตามภูมิภาคต่อไป: • ทะเลดำ → ภูมิภาค Nikolaev • ภูมิภาค Kherson → ภูมิภาค Nikolaev • ภูมิภาค Kherson → Krivoy Rog • ภูมิภาค Dnepropetrovsk → ภูมิภาค Kirovograd • รายงานการระเบิดในโอเดสซา หลังจากขีปนาวุธโจมตีเป้าหมาย • พบขีปนาวุธเหนือภูมิภาค Kharkov และ Poltava • ขีปนาวุธ Kalibrs บินเหนือ Alexandria มุ่งหน้าสู่ภูมิภาค Cherkasy และ Poltava • ตรวจพบขีปนาวุธมุ่งหน้าสู่ Mirgorod ในภูมิภาค Poltava • ขีปนาวุธร่อน Kalibr หลายลูกบินข้ามภูมิภาค Odessa มุ่งหน้าสู่ Vinnytsia และ Cherkassy 🔴 ขณะนี้เริ่มทะยอยมีรายงานผลกระทบและการโจมตีอย่างต่อเนื่อง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 42 Views 0 Reviews
  • ประตูเปิดทางทิศใต้

    เดือนนี้ ปัญหาที่คาราคาซังมานาน จะยังคงแก้ไม่ตก หาทางออกไม่ได้ ส่งผลให้คิดวิตกจนเกิดเป็นความ เครียด เป็นผู้นำหรือเป็นพ่อควรระมัดระวัง เพราะมีเกณฑ์จะประสบพบเหตุร้ายที่ไม่คาดคิด จะถูกลวงหลอก ให้เสียหาย เอกสารสัญญาที่มีผลผูกพันทางด้านกฏหมายก็ควรละเอียดรอบคอบด้วยเช่นกัน เพราะมีโอกาส จะผิดพลาด ให้ถูกฟ้องร้องฟ้องศาล เกิดคดีความวุ่นวาย อีกทั้งลูกน้องบริวารและผู้มีอำนาจจะสร้างปัญหา ให้เดือดร้อน ส่วนเรื่องของการเงินการทองก็ยังคงอับโชคต้องทำใจไปอีกสักพัก ที่ต้องห่วงใยและใส่ใจคือ สุขภาพร่างกาย จะปีนป่ายขึ้นที่สูงที่ใด ควรมีสิ่งป้องกันภัยจากอุบัติเหตุตกจากที่สูง รวมทั้งควรใส่ใจดูแล ระบบสมอง กระดูก และระบบทางเดินหายใจ จะได้ไม่ป่วยเจ็บจนต้องรักษาพยาบาล

    เสริมมงคล : โมบายโลหะ 4/9 เส้น
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศใต้ เดือนนี้ ปัญหาที่คาราคาซังมานาน จะยังคงแก้ไม่ตก หาทางออกไม่ได้ ส่งผลให้คิดวิตกจนเกิดเป็นความ เครียด เป็นผู้นำหรือเป็นพ่อควรระมัดระวัง เพราะมีเกณฑ์จะประสบพบเหตุร้ายที่ไม่คาดคิด จะถูกลวงหลอก ให้เสียหาย เอกสารสัญญาที่มีผลผูกพันทางด้านกฏหมายก็ควรละเอียดรอบคอบด้วยเช่นกัน เพราะมีโอกาส จะผิดพลาด ให้ถูกฟ้องร้องฟ้องศาล เกิดคดีความวุ่นวาย อีกทั้งลูกน้องบริวารและผู้มีอำนาจจะสร้างปัญหา ให้เดือดร้อน ส่วนเรื่องของการเงินการทองก็ยังคงอับโชคต้องทำใจไปอีกสักพัก ที่ต้องห่วงใยและใส่ใจคือ สุขภาพร่างกาย จะปีนป่ายขึ้นที่สูงที่ใด ควรมีสิ่งป้องกันภัยจากอุบัติเหตุตกจากที่สูง รวมทั้งควรใส่ใจดูแล ระบบสมอง กระดูก และระบบทางเดินหายใจ จะได้ไม่ป่วยเจ็บจนต้องรักษาพยาบาล เสริมมงคล : โมบายโลหะ 4/9 เส้น ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews