• 77 ปี ลอบสังหาร “มหาตมา คานธี” นักต่อสู้ผู้ไร้อาวุธ ผู้บุกเบิกแนวคิด “สัตยาเคราะห์”

    “ตาต่อตาฟันต่อฟัน จะทำให้ทั้งโลกมืดบอด” มหาตมา คานธี

    ย้อนไปเมื่อ 77 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2491 นับเป็นวันที่โลกต้องจารึก เมื่อ "มหาตมา คานธี" ผู้นำทางจิตวิญญาณ และนักต่อสู้เพื่อเอกราชของอินเดีย ถูกลอบสังหารขณะอายุ 78 ปี ภายในบริเวณบ้านพิรลา ในกรุงนิวเดลี เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงเป็นจุดสิ้นสุดของชีวิต บุคคลผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ของประวัติศาสตร์อินเดีย และขบวนการเคลื่อนไหว เพื่อสิทธิพลเมืองทั่วโลก

    โศกนาฏกรรมแห่งสันติ วันสุดท้ายของมหาตมา คานธี
    ช่วงเย็นของวันที่ 30 มกราคม 2491 "มหาตมา คานธี" เดินไปยังสวนหลังบ้านพิรลา ซึ่งเป็นสถานที่ ที่เขาใช้จัดการสวดภาวนา เป็นประจำทุกเย็น ท่ามกลางฝูงชน ที่มารอฟังคำสอนของเขา "นถูราม โคฑเส" ชายวัย 30 ปี ผู้เป็นสมาชิกกลุ่มชาตินิยมฮินดู ได้แฝงตัวเข้ามาในฝูงชน และเมื่อคานธี เดินลงจากปะรำพิธี โคฑเสก็ฉวยโอกาส ก้าวออกมากั้นทาง แล้วลั่นไกปืน สามนัดยิงเข้าที่อก และท้องของคานธีระยะเผาขน

    เสียงปืนนั้น เปรียบเสมือนเสียงสะเทือน แห่งประวัติศาสตร์...
    "มหาตมา คานธี" ทรุดลงกับพื้น และกล่าวเพียงว่า "เฮ ราม" (โอ้ พระเจ้า!) ก่อนหมดสติ และจากไปในที่สุด

    เหตุใดโคฑเส จึงลอบสังหารคานธี?
    "นถูราม โคฑเส" เป็นนักชาตินิยมฮินดู และเป็นสมาชิกของ ราษฏรียสวยัมเสวักสงฆ์ (RSS) กลุ่มขวาจัด ที่สนับสนุนการปกครองโดยชาวฮินดู โคฑเสเชื่อว่า คานธีให้ความช่วยเหลือชาวมุสลิม มากเกินไป และมีบทบาทสำคัญ ในการสนับสนุน การแยกดินแดนอินเดีย และปากีสถาน

    เขาเห็นว่าคานธีเป็นอุปสรรค ต่อความเป็นเอกภาพ ของชาวฮินดูในอินเดีย และการที่คานธี เรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียส่งเงิน 550 ล้านรูปี ให้กับปากีสถาน ยิ่งทำให้เขาโกรธแค้น

    หลังการสังหาร โคฑเสถูกจับกุมทันที และถูกนำตัวขึ้นศาล พร้อมกับผู้สมรู้ร่วมคิดอีกหลายคน ในที่สุด เขาถูกตัดสินประหารชีวิต และถูกแขวนคอ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2492

    บุรุษผู้เปลี่ยนแปลงโลกด้วยสันติวิธี ต้นกำเนิดของนักต่อสู้ผู้ยิ่งใหญ่
    "มหาตมา คานธี" หรือ "โมหนทาส กรมจันท์ คานธี" เกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2412 ที่รัฐคุชราต ประเทศอินเดีย เติบโตมาในครอบครัวชาวฮินดู และเดินทางไปศึกษากฎหมายที่ อินเนอร์เทมเพิล ลอนดอน ก่อนกลับมาอินเดีย

    ค้นพบ “สัตยาเคราะห์” บนแผ่นดินแอฟริกาใต้
    ขณะที่คานธีทำงานเป็นทนาย ในแอฟริกาใต้ เขาประสบเหตุการณ์เหยียดเชื้อชาติ เมื่อเขาถูกไล่ออกจากตู้รถไฟชั้นหนึ่ง เพียงเพราะเป็นชาวอินเดีย เหตุการณ์นี้ ทำให้คานธี ตระหนักถึงความอยุติธรรม และจุดประกายให้เขาต่อสู้ เพื่อสิทธิพลเมือง

    คานธีพัฒนาแนวคิด “สัตยาเคราะห์” (Satyagraha) ซึ่งหมายถึง “การยึดมั่นในสัจจะ” หรือ “การต่อต้านโดยสันติวิธี” โดยมุ่งเน้นการใช้ความจริง ความรัก และความไม่รุนแรง เป็นอาวุธหลัก

    สัตยาเคราะห์ พลังแห่งสัจจะและสันติ
    สัตยาเคราะห์เป็นหัวใจสำคัญ ในการต่อสู้ของคานธี เพื่อปลดแอกอินเดียจากอังกฤษ โดยมีหลักการสำคัญ ได้แก่

    1. อหิงสา (Ahimsa) การไม่ใช้ความรุนแรง
    คานธีเชื่อว่า ความรุนแรงก่อให้เกิดความเกลียดชัง และการแก้แค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุด

    2. สัจจะ (Satya) ความจริง
    เขาเชื่อว่าความจริงคือสิ่งสูงสุด และคนที่ยึดมั่นในความจริง จะได้รับชัยชนะเสมอ

    3. ตบะ (Tapasya) ความอดทนและเสียสละ
    คานธีอดอาหารประท้วงหลายครั้ง เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ให้กับคนทุกศาสนา

    ขบวนการอิสระของอินเดีย จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์
    เดินขบวนเกลือ (Salt March) ปี 2473
    คานธีนำประชาชนเดินเท้า เป็นระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร เพื่อประท้วงกฎหมายภาษีเกลือ ของอังกฤษ ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนการต่อต้าน ที่ทรงพลังที่สุด

    ขบวนการ “ออกจากอินเดีย” (Quit India Movement) ปี 2485
    คานธีเรียกร้องให้อังกฤษ ถอนตัวจากอินเดีย โดยไม่มีเงื่อนไข ทำให้อังกฤษจับกุมเขา และผู้สนับสนุนจำนวนมาก

    ในที่สุด วันที่ 15 สิงหาคม 2490 อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ แต่ต้องแลกมา ด้วยการแบ่งประเทศเป็นอินเดีย และปากีสถาน ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้ง และการอพยพครั้งใหญ่

    มรดกของมหาตมา คานธี อิทธิพลต่อโลก
    แม้จะถูกลอบสังหาร แต่แนวคิดของคานธี ได้เป็นแรงบันดาลใจ ให้ขบวนการเรียกร้องสิทธิพลเมือง ทั่วโลก เช่น

    ✅ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ขบวนการสิทธิพลเมือง ของคนผิวดำในอเมริกา
    ✅ เนลสัน แมนเดลา การต่อต้านการแบ่งแยกสีผิว ในแอฟริกาใต้
    ✅ ดาไลลามะ การต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ ของทิเบต

    คานธี กับบทเรียนแห่งสันติ
    การลอบสังหารมหาตมา คานธี เป็นโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ แต่แนวคิดของเขายังคงอยู่ และเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้คนทั่วโลก

    🌏 ความจริงและสันติวิธี เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในการเปลี่ยนแปลงโลก
    🙏 อหิงสา ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือความกล้าหาญ ในการให้อภัย
    💡 สัตยาเคราะห์ เป็นเครื่องมือแห่งการต่อสู้ เพื่อความยุติธรรม

    77 ปี ผ่านไป... ชื่อของคานธี ยังคงเป็นสัญลักษณ์ แห่งสันติภาพ 🕊️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 300857 ม.ค. 2568

    #MahatmaGandhi #Gandhi77Years #Satyagraha #อหิงสา #สันติวิธี #IndiaIndependence #PeaceMovement #QuitIndia #GandhiPhilosophy #GandhiLegacy
    77 ปี ลอบสังหาร “มหาตมา คานธี” นักต่อสู้ผู้ไร้อาวุธ ผู้บุกเบิกแนวคิด “สัตยาเคราะห์” “ตาต่อตาฟันต่อฟัน จะทำให้ทั้งโลกมืดบอด” มหาตมา คานธี ย้อนไปเมื่อ 77 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2491 นับเป็นวันที่โลกต้องจารึก เมื่อ "มหาตมา คานธี" ผู้นำทางจิตวิญญาณ และนักต่อสู้เพื่อเอกราชของอินเดีย ถูกลอบสังหารขณะอายุ 78 ปี ภายในบริเวณบ้านพิรลา ในกรุงนิวเดลี เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงเป็นจุดสิ้นสุดของชีวิต บุคคลผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ของประวัติศาสตร์อินเดีย และขบวนการเคลื่อนไหว เพื่อสิทธิพลเมืองทั่วโลก โศกนาฏกรรมแห่งสันติ วันสุดท้ายของมหาตมา คานธี ช่วงเย็นของวันที่ 30 มกราคม 2491 "มหาตมา คานธี" เดินไปยังสวนหลังบ้านพิรลา ซึ่งเป็นสถานที่ ที่เขาใช้จัดการสวดภาวนา เป็นประจำทุกเย็น ท่ามกลางฝูงชน ที่มารอฟังคำสอนของเขา "นถูราม โคฑเส" ชายวัย 30 ปี ผู้เป็นสมาชิกกลุ่มชาตินิยมฮินดู ได้แฝงตัวเข้ามาในฝูงชน และเมื่อคานธี เดินลงจากปะรำพิธี โคฑเสก็ฉวยโอกาส ก้าวออกมากั้นทาง แล้วลั่นไกปืน สามนัดยิงเข้าที่อก และท้องของคานธีระยะเผาขน เสียงปืนนั้น เปรียบเสมือนเสียงสะเทือน แห่งประวัติศาสตร์... "มหาตมา คานธี" ทรุดลงกับพื้น และกล่าวเพียงว่า "เฮ ราม" (โอ้ พระเจ้า!) ก่อนหมดสติ และจากไปในที่สุด เหตุใดโคฑเส จึงลอบสังหารคานธี? "นถูราม โคฑเส" เป็นนักชาตินิยมฮินดู และเป็นสมาชิกของ ราษฏรียสวยัมเสวักสงฆ์ (RSS) กลุ่มขวาจัด ที่สนับสนุนการปกครองโดยชาวฮินดู โคฑเสเชื่อว่า คานธีให้ความช่วยเหลือชาวมุสลิม มากเกินไป และมีบทบาทสำคัญ ในการสนับสนุน การแยกดินแดนอินเดีย และปากีสถาน เขาเห็นว่าคานธีเป็นอุปสรรค ต่อความเป็นเอกภาพ ของชาวฮินดูในอินเดีย และการที่คานธี เรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียส่งเงิน 550 ล้านรูปี ให้กับปากีสถาน ยิ่งทำให้เขาโกรธแค้น หลังการสังหาร โคฑเสถูกจับกุมทันที และถูกนำตัวขึ้นศาล พร้อมกับผู้สมรู้ร่วมคิดอีกหลายคน ในที่สุด เขาถูกตัดสินประหารชีวิต และถูกแขวนคอ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2492 บุรุษผู้เปลี่ยนแปลงโลกด้วยสันติวิธี ต้นกำเนิดของนักต่อสู้ผู้ยิ่งใหญ่ "มหาตมา คานธี" หรือ "โมหนทาส กรมจันท์ คานธี" เกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2412 ที่รัฐคุชราต ประเทศอินเดีย เติบโตมาในครอบครัวชาวฮินดู และเดินทางไปศึกษากฎหมายที่ อินเนอร์เทมเพิล ลอนดอน ก่อนกลับมาอินเดีย ค้นพบ “สัตยาเคราะห์” บนแผ่นดินแอฟริกาใต้ ขณะที่คานธีทำงานเป็นทนาย ในแอฟริกาใต้ เขาประสบเหตุการณ์เหยียดเชื้อชาติ เมื่อเขาถูกไล่ออกจากตู้รถไฟชั้นหนึ่ง เพียงเพราะเป็นชาวอินเดีย เหตุการณ์นี้ ทำให้คานธี ตระหนักถึงความอยุติธรรม และจุดประกายให้เขาต่อสู้ เพื่อสิทธิพลเมือง คานธีพัฒนาแนวคิด “สัตยาเคราะห์” (Satyagraha) ซึ่งหมายถึง “การยึดมั่นในสัจจะ” หรือ “การต่อต้านโดยสันติวิธี” โดยมุ่งเน้นการใช้ความจริง ความรัก และความไม่รุนแรง เป็นอาวุธหลัก สัตยาเคราะห์ พลังแห่งสัจจะและสันติ สัตยาเคราะห์เป็นหัวใจสำคัญ ในการต่อสู้ของคานธี เพื่อปลดแอกอินเดียจากอังกฤษ โดยมีหลักการสำคัญ ได้แก่ 1. อหิงสา (Ahimsa) การไม่ใช้ความรุนแรง คานธีเชื่อว่า ความรุนแรงก่อให้เกิดความเกลียดชัง และการแก้แค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุด 2. สัจจะ (Satya) ความจริง เขาเชื่อว่าความจริงคือสิ่งสูงสุด และคนที่ยึดมั่นในความจริง จะได้รับชัยชนะเสมอ 3. ตบะ (Tapasya) ความอดทนและเสียสละ คานธีอดอาหารประท้วงหลายครั้ง เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ให้กับคนทุกศาสนา ขบวนการอิสระของอินเดีย จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ เดินขบวนเกลือ (Salt March) ปี 2473 คานธีนำประชาชนเดินเท้า เป็นระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร เพื่อประท้วงกฎหมายภาษีเกลือ ของอังกฤษ ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนการต่อต้าน ที่ทรงพลังที่สุด ขบวนการ “ออกจากอินเดีย” (Quit India Movement) ปี 2485 คานธีเรียกร้องให้อังกฤษ ถอนตัวจากอินเดีย โดยไม่มีเงื่อนไข ทำให้อังกฤษจับกุมเขา และผู้สนับสนุนจำนวนมาก ในที่สุด วันที่ 15 สิงหาคม 2490 อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ แต่ต้องแลกมา ด้วยการแบ่งประเทศเป็นอินเดีย และปากีสถาน ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้ง และการอพยพครั้งใหญ่ มรดกของมหาตมา คานธี อิทธิพลต่อโลก แม้จะถูกลอบสังหาร แต่แนวคิดของคานธี ได้เป็นแรงบันดาลใจ ให้ขบวนการเรียกร้องสิทธิพลเมือง ทั่วโลก เช่น ✅ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ขบวนการสิทธิพลเมือง ของคนผิวดำในอเมริกา ✅ เนลสัน แมนเดลา การต่อต้านการแบ่งแยกสีผิว ในแอฟริกาใต้ ✅ ดาไลลามะ การต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ ของทิเบต คานธี กับบทเรียนแห่งสันติ การลอบสังหารมหาตมา คานธี เป็นโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ แต่แนวคิดของเขายังคงอยู่ และเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้คนทั่วโลก 🌏 ความจริงและสันติวิธี เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในการเปลี่ยนแปลงโลก 🙏 อหิงสา ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือความกล้าหาญ ในการให้อภัย 💡 สัตยาเคราะห์ เป็นเครื่องมือแห่งการต่อสู้ เพื่อความยุติธรรม 77 ปี ผ่านไป... ชื่อของคานธี ยังคงเป็นสัญลักษณ์ แห่งสันติภาพ 🕊️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 300857 ม.ค. 2568 #MahatmaGandhi #Gandhi77Years #Satyagraha #อหิงสา #สันติวิธี #IndiaIndependence #PeaceMovement #QuitIndia #GandhiPhilosophy #GandhiLegacy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP 30 อธิบายจาก FM LPF

    Caacitnace calculate
    https://www.daycounter.com/Calculators/Plate-Capacitor-Calculator.phtml

    Impdeance control
    https://emclab.mst.edu/resources/tools/pcb-trace-impedance-calculator/microstrip/
    EP 30 อธิบายจาก FM LPF Caacitnace calculate https://www.daycounter.com/Calculators/Plate-Capacitor-Calculator.phtml Impdeance control https://emclab.mst.edu/resources/tools/pcb-trace-impedance-calculator/microstrip/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 27 0 รีวิว
  • 1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัตยาเคราะห์ : Satyagraha

    เขาเดินไปข้างหน้า แม้ไร้โล่ไร้ดาบ แค่เพียงใจที่กร้าวแกร่ง แรงศรัทธาที่ไม่ดับ เผชิญหน้าความมืดมน ด้วยมือเปล่าอันอ่อนโยน แต่พลังที่ซ่อนในใจ ยิ่งใหญ่เกินจะโค่น

    เสียงภาวนาดังก้องกลางลาน ท่ามกลางความร้าวราน เขายังยืนหยัดมั่นค' แม้กระสุนสามนัดนั้น พรากลมหายใจ แต่แนวคิดของเขา จะไม่มีวันจมหาย

    สัตยาเคราะห์ คือแสงที่ไม่อาจดับ เปลวไฟในหัวใจที่ไม่มีวันหลับ รักและสันติ คือเกราะอันแข็งแรง โค่นเผด็จการ โดยไม่ต้องใช้แรง

    จากอินเดียก้องสู่โลกหล้า เสียงของเขายังกังวาน ศรัทธาไม่เคยสูญ แม้ร่างจะลับจากดวงตา อหิงสาไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือพลังอันยิ่งใหญ่ เปลี่ยนโลกนี้ด้วยรัก แทนที่ความเกลียดชังในใจ

    แม้เธอยิงฉันให้ล้มลง แต่เธอไม่มีวันฆ่าความจริงไปได้ เพราะเมล็ดพันธุ์แห่งเสรีภาพ จะเติบโตอยู่กลางหัวใจคน

    สัตยาเคราะห์ ยังเป็นตำนาน ก้องกังวาน ไม่มีวันเลือนหาย มหาตมา คานธu จากไปด้วยร่างกาย แต่จิตวิญญาณของเขา ยังอยู่ตลอดไป

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 300859 ม.ค. 2568

    #สัตยาเคราะห์ #มหาตมะคานธี #อหิงสา #พลังแห่งรัก #ต่อต้านความอยุติธรรม #เสรีภาพ #สันติวิธี #อินเดีย #ประวัติศาสตร์ #เสียงของความจริง
    สัตยาเคราะห์ : Satyagraha เขาเดินไปข้างหน้า แม้ไร้โล่ไร้ดาบ แค่เพียงใจที่กร้าวแกร่ง แรงศรัทธาที่ไม่ดับ เผชิญหน้าความมืดมน ด้วยมือเปล่าอันอ่อนโยน แต่พลังที่ซ่อนในใจ ยิ่งใหญ่เกินจะโค่น เสียงภาวนาดังก้องกลางลาน ท่ามกลางความร้าวราน เขายังยืนหยัดมั่นค' แม้กระสุนสามนัดนั้น พรากลมหายใจ แต่แนวคิดของเขา จะไม่มีวันจมหาย สัตยาเคราะห์ คือแสงที่ไม่อาจดับ เปลวไฟในหัวใจที่ไม่มีวันหลับ รักและสันติ คือเกราะอันแข็งแรง โค่นเผด็จการ โดยไม่ต้องใช้แรง จากอินเดียก้องสู่โลกหล้า เสียงของเขายังกังวาน ศรัทธาไม่เคยสูญ แม้ร่างจะลับจากดวงตา อหิงสาไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือพลังอันยิ่งใหญ่ เปลี่ยนโลกนี้ด้วยรัก แทนที่ความเกลียดชังในใจ แม้เธอยิงฉันให้ล้มลง แต่เธอไม่มีวันฆ่าความจริงไปได้ เพราะเมล็ดพันธุ์แห่งเสรีภาพ จะเติบโตอยู่กลางหัวใจคน สัตยาเคราะห์ ยังเป็นตำนาน ก้องกังวาน ไม่มีวันเลือนหาย มหาตมา คานธu จากไปด้วยร่างกาย แต่จิตวิญญาณของเขา ยังอยู่ตลอดไป ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 300859 ม.ค. 2568 #สัตยาเคราะห์ #มหาตมะคานธี #อหิงสา #พลังแห่งรัก #ต่อต้านความอยุติธรรม #เสรีภาพ #สันติวิธี #อินเดีย #ประวัติศาสตร์ #เสียงของความจริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการอัพเดตเล็กๆ แต่ Feature นี้ลุงก็รออยู่นาน

    การอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ในแอป Google Photos ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ โดยฟีเจอร์ใหม่นี้คือการ "พลิกภาพ" หรือ "mirror" ซึ่งเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่ควรมีตั้งแต่แรก แต่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในแอป Google Photos สำหรับ Android ส่วนผู้ใช้ iOS สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้จากแอป Photos ของ iOS เองก่อนที่จะอัปโหลดภาพไปยัง Google Photos

    ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์ในการเพิ่มความสมดุลและความสมมาตรให้กับภาพ หรือแก้ไขทิศทางของวัตถุในภาพ นอกจากนี้ Google Photos ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ "Ask Photos" ซึ่งใช้ AI ช่วยค้นหาภาพและให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพ เช่น บอกชื่ออาหารในภาพ ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในขั้นทดลองและเปิดให้ผู้ใช้บางกลุ่มในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

    การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เหล่านี้ทำให้ Google Photos เป็นแอปที่มีความสามารถมากขึ้นและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น

    https://www.zdnet.com/article/google-photos-just-got-a-useful-editing-feature-that-shouldve-existed-since-the-beginning/
    มีการอัพเดตเล็กๆ แต่ Feature นี้ลุงก็รออยู่นาน การอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ในแอป Google Photos ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ โดยฟีเจอร์ใหม่นี้คือการ "พลิกภาพ" หรือ "mirror" ซึ่งเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่ควรมีตั้งแต่แรก แต่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในแอป Google Photos สำหรับ Android ส่วนผู้ใช้ iOS สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้จากแอป Photos ของ iOS เองก่อนที่จะอัปโหลดภาพไปยัง Google Photos ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์ในการเพิ่มความสมดุลและความสมมาตรให้กับภาพ หรือแก้ไขทิศทางของวัตถุในภาพ นอกจากนี้ Google Photos ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ "Ask Photos" ซึ่งใช้ AI ช่วยค้นหาภาพและให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพ เช่น บอกชื่ออาหารในภาพ ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในขั้นทดลองและเปิดให้ผู้ใช้บางกลุ่มในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เหล่านี้ทำให้ Google Photos เป็นแอปที่มีความสามารถมากขึ้นและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น https://www.zdnet.com/article/google-photos-just-got-a-useful-editing-feature-that-shouldve-existed-since-the-beginning/
    WWW.ZDNET.COM
    Google Photos just got a useful editing feature that should've existed since the beginning
    It might not be the flashiest feature, but it does come in handy when you need it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI มาแรงอย่างปฏิเสธไม่ได้ Goldman Sachs ได้ว่าจ้าง Daniel Marcu จาก Amazon.comมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์ระดับโลก เพื่อช่วยพัฒนาและปรับปรุงแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท ก่อนหน้านี้ Marcu เคยดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายบริการเว็บและความรู้ใน Alexa Information และ Amazon Artificial General Intelligence

    การว่าจ้าง Marcu เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Goldman Sachs ในการใช้โซลูชันปัญญาประดิษฐ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงเทคโนโลยีของบริษัท นอกจากนี้ Goldman Sachs ยังได้เปิดตัวผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ที่เรียกว่า GS AI assistant ให้กับพนักงานประมาณ 10,000 คน โดยมีเป้าหมายที่จะให้พนักงานทุกคนในบริษัทใช้ในปีนี้

    Marcu มีประสบการณ์มากกว่าสามทศวรรษในองค์กรวิจัยและพัฒนา รวมถึงตำแหน่งผู้นำในสถาบันการศึกษา สตาร์ทอัพ และบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติขนาดใหญ่ เขายังเคยทำงานที่ Information Sciences Institute และ University of Southern California กว่า 20 ปี

    การว่าจ้าง Marcu แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Goldman Sachs ในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดการเงิน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/30/goldman-sachs-hires-amazon-exec-in-senior-ai-engineering-role
    AI มาแรงอย่างปฏิเสธไม่ได้ Goldman Sachs ได้ว่าจ้าง Daniel Marcu จาก Amazon.comมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์ระดับโลก เพื่อช่วยพัฒนาและปรับปรุงแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท ก่อนหน้านี้ Marcu เคยดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายบริการเว็บและความรู้ใน Alexa Information และ Amazon Artificial General Intelligence การว่าจ้าง Marcu เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Goldman Sachs ในการใช้โซลูชันปัญญาประดิษฐ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงเทคโนโลยีของบริษัท นอกจากนี้ Goldman Sachs ยังได้เปิดตัวผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ที่เรียกว่า GS AI assistant ให้กับพนักงานประมาณ 10,000 คน โดยมีเป้าหมายที่จะให้พนักงานทุกคนในบริษัทใช้ในปีนี้ Marcu มีประสบการณ์มากกว่าสามทศวรรษในองค์กรวิจัยและพัฒนา รวมถึงตำแหน่งผู้นำในสถาบันการศึกษา สตาร์ทอัพ และบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติขนาดใหญ่ เขายังเคยทำงานที่ Information Sciences Institute และ University of Southern California กว่า 20 ปี การว่าจ้าง Marcu แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Goldman Sachs ในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดการเงิน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/30/goldman-sachs-hires-amazon-exec-in-senior-ai-engineering-role
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Goldman Sachs hires Amazon exec in senior AI engineering role
    NEW YORK (Reuters) - Goldman Sachs has hired Daniel Marcu from Amazon.com as its global head of artificial intelligence engineering and science to help develop and refine artificial intelligence platforms and products, according to a memo seen by Reuters.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • IBM สามารถทำกำไรได้เกินคาดในไตรมาสที่สี่ของปี 2024 โดยมีการเติบโตที่แข็งแกร่งในส่วนของซอฟต์แวร์ เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ได้เพิ่มการใช้จ่ายด้าน IT เพื่อปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่มีการสร้างข้อมูลจำนวนมาก การเติบโตของรายได้ในส่วนซอฟต์แวร์นี้เป็นการเพิ่มขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในรอบห้าปี

    IBM ยังได้คาดการณ์การเติบโตของรายได้อย่างน้อย 5% ในปีงบประมาณ 2025 ซึ่งสูงกว่าการเพิ่มขึ้น 3% ที่เห็นในปี 2024. นอกจากนี้ IBM ยังได้เปิดตัวโมเดล AI ตระกูล "Granite" เป็นโอเพ่นซอร์สในเดือนพฤษภาคม ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งเช่น Microsoft ที่เรียกเก็บเงินสำหรับการเข้าถึงโมเดลของพวกเขา

    อย่างไรก็ตาม รายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาของ IBM ลดลงประมาณ 2% ในไตรมาสนี้ เนื่องจากบริษัทต่างๆ มุ่งเน้นการใช้จ่ายในข้อตกลงที่ปรึกษาระยะยาวที่เกี่ยวข้องกับการรวม AI เข้ากับธุรกิจของพวกเขา

    การเติบโตของรายได้ในส่วนซอฟต์แวร์และการเปิดตัวโมเดล AI ตระกูล "Granite" เป็นโอเพ่นซอร์ส แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ IBM ในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/30/ibm-beats-profit-estimates-as-software-business-surges-on-ai-shift
    IBM สามารถทำกำไรได้เกินคาดในไตรมาสที่สี่ของปี 2024 โดยมีการเติบโตที่แข็งแกร่งในส่วนของซอฟต์แวร์ เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ได้เพิ่มการใช้จ่ายด้าน IT เพื่อปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่มีการสร้างข้อมูลจำนวนมาก การเติบโตของรายได้ในส่วนซอฟต์แวร์นี้เป็นการเพิ่มขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในรอบห้าปี IBM ยังได้คาดการณ์การเติบโตของรายได้อย่างน้อย 5% ในปีงบประมาณ 2025 ซึ่งสูงกว่าการเพิ่มขึ้น 3% ที่เห็นในปี 2024. นอกจากนี้ IBM ยังได้เปิดตัวโมเดล AI ตระกูล "Granite" เป็นโอเพ่นซอร์สในเดือนพฤษภาคม ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งเช่น Microsoft ที่เรียกเก็บเงินสำหรับการเข้าถึงโมเดลของพวกเขา อย่างไรก็ตาม รายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาของ IBM ลดลงประมาณ 2% ในไตรมาสนี้ เนื่องจากบริษัทต่างๆ มุ่งเน้นการใช้จ่ายในข้อตกลงที่ปรึกษาระยะยาวที่เกี่ยวข้องกับการรวม AI เข้ากับธุรกิจของพวกเขา การเติบโตของรายได้ในส่วนซอฟต์แวร์และการเปิดตัวโมเดล AI ตระกูล "Granite" เป็นโอเพ่นซอร์ส แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ IBM ในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/30/ibm-beats-profit-estimates-as-software-business-surges-on-ai-shift
    WWW.THESTAR.COM.MY
    IBM beats profit estimates as AI shift boosts software performance, shares surge
    (Reuters) -IBM surpassed fourth-quarter profit estimates on Wednesday, driven by robust demand in its software unit as businesses ramped up IT spending, sending the company's shares soaring about 10% in extended trading.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • Western Digital คาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาสที่สามจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากความต้องการที่ลดลงจากลูกค้าด้านคลาวด์และองค์กร สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการกู้ยืมที่สูงและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้ธุรกิจลดการลงทุน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการชิปหน่วยความจำหลังจากที่มีการเติบโตอย่างมากในช่วงการระบาดของโรค

    Western Digital คาดว่ารายได้ในไตรมาสที่สามจะอยู่ในช่วง 3.75 พันล้านดอลลาร์ถึง 3.95 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทคาดว่ากำไรต่อหุ้นที่ปรับแล้วจะอยู่ในช่วง 90 เซนต์ถึง 1.20 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.47 ดอลลาร์

    ในไตรมาสที่สอง รายได้ของบริษัทอยู่ที่ 4.29 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.26 พันล้านดอลลาร์. กำไรต่อหุ้นที่ปรับแล้วอยู่ที่ 1.77 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.78 ดอลลาร์

    การลดลงของความต้องการชิปหน่วยความจำนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อ Western Digital เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อคู่แข่งอย่าง Seagate Technology ที่คาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาสที่สามจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เช่นกัน

    การคาดการณ์รายได้ที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่บริษัทต้องเผชิญในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและต้นทุนการกู้ยืมที่สูง ซึ่งทำให้ธุรกิจต่างๆ ลดการลงทุนในเทคโนโลยีและชิปหน่วยความจำ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/30/western-digital-expects-third-quarter-revenue-below-estimates-on-weak-demand
    Western Digital คาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาสที่สามจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากความต้องการที่ลดลงจากลูกค้าด้านคลาวด์และองค์กร สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการกู้ยืมที่สูงและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้ธุรกิจลดการลงทุน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการชิปหน่วยความจำหลังจากที่มีการเติบโตอย่างมากในช่วงการระบาดของโรค Western Digital คาดว่ารายได้ในไตรมาสที่สามจะอยู่ในช่วง 3.75 พันล้านดอลลาร์ถึง 3.95 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทคาดว่ากำไรต่อหุ้นที่ปรับแล้วจะอยู่ในช่วง 90 เซนต์ถึง 1.20 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.47 ดอลลาร์ ในไตรมาสที่สอง รายได้ของบริษัทอยู่ที่ 4.29 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.26 พันล้านดอลลาร์. กำไรต่อหุ้นที่ปรับแล้วอยู่ที่ 1.77 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.78 ดอลลาร์ การลดลงของความต้องการชิปหน่วยความจำนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อ Western Digital เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อคู่แข่งอย่าง Seagate Technology ที่คาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาสที่สามจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เช่นกัน การคาดการณ์รายได้ที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่บริษัทต้องเผชิญในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและต้นทุนการกู้ยืมที่สูง ซึ่งทำให้ธุรกิจต่างๆ ลดการลงทุนในเทคโนโลยีและชิปหน่วยความจำ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/30/western-digital-expects-third-quarter-revenue-below-estimates-on-weak-demand
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Western Digital expects third-quarter revenue below estimates on weak demand
    (Reuters) - Data storage products maker Western Digital Corp forecast third-quarter revenue below Wall Street estimates on Wednesday, as it expects decreased demand from cloud and corporate customers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple Silicon ถูกพบว่ามีช่องโหว่ต่อการโจมตีแบบ side-channel speculative execution ที่เรียกว่า "FLOP" และ "SLAP" ซึ่งถูกค้นพบโดยทีมนักวิจัยจาก Georgia Institute of Technology และ Ruhr University Bochum

    การโจมตีแบบ FLOP (False Load Output Prediction) และ SLAP (Speculative Load Address Prediction) ใช้ประโยชน์จากการคาดเดาของ CPU ในการประมวลผลข้อมูลล่วงหน้า ซึ่งสามารถทำให้ข้อมูลสำคัญเช่น อีเมล ประวัติการท่องเว็บ ข้อมูลบัตรเครดิต และประวัติตำแหน่งถูกขโมยได้

    Apple ได้รับทราบถึงช่องโหว่นี้และขอบคุณนักวิจัยที่ช่วยให้เข้าใจถึงภัยคุกคามนี้มากขึ้น แต่ Apple เชื่อว่าช่องโหว่นี้ไม่เป็นภัยคุกคามทันทีต่อผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการโจมตีนี้สามารถปิดการใช้งาน JavaScript ใน Safari บนอุปกรณ์ Apple ของตนได้ แต่จะทำให้เกิดปัญหาความเข้ากันได้กับเว็บไซต์หลายแห่ง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/apple-silicon-is-vulnerable-to-side-channel-speculative-execution-attacks-flop-and-slap
    Apple Silicon ถูกพบว่ามีช่องโหว่ต่อการโจมตีแบบ side-channel speculative execution ที่เรียกว่า "FLOP" และ "SLAP" ซึ่งถูกค้นพบโดยทีมนักวิจัยจาก Georgia Institute of Technology และ Ruhr University Bochum การโจมตีแบบ FLOP (False Load Output Prediction) และ SLAP (Speculative Load Address Prediction) ใช้ประโยชน์จากการคาดเดาของ CPU ในการประมวลผลข้อมูลล่วงหน้า ซึ่งสามารถทำให้ข้อมูลสำคัญเช่น อีเมล ประวัติการท่องเว็บ ข้อมูลบัตรเครดิต และประวัติตำแหน่งถูกขโมยได้ Apple ได้รับทราบถึงช่องโหว่นี้และขอบคุณนักวิจัยที่ช่วยให้เข้าใจถึงภัยคุกคามนี้มากขึ้น แต่ Apple เชื่อว่าช่องโหว่นี้ไม่เป็นภัยคุกคามทันทีต่อผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการโจมตีนี้สามารถปิดการใช้งาน JavaScript ใน Safari บนอุปกรณ์ Apple ของตนได้ แต่จะทำให้เกิดปัญหาความเข้ากันได้กับเว็บไซต์หลายแห่ง https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/apple-silicon-is-vulnerable-to-side-channel-speculative-execution-attacks-flop-and-slap
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Apple silicon is vulnerable to side-channel speculative execution attacks "FLOP" and "SLAP"
    False Load Output Prediction and Speculative Load Address Prediction allow for data leaks without malware infection
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว