• 0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • มีการเปิดตัวผู้ช่วย AI ใหม่ของบริษัท Perplexity ที่ชื่อว่า Perplexity Assistant ซึ่งสามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ Android โดยมีความสามารถในการจองโต๊ะอาหาร, เรียกรถ, และตั้งเตือนความจำได้ บริษัทนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Nvidia และ Jeff Bezos และมีแผนที่จะเปิดตัวบน iOS หากได้รับอนุญาตจาก Apple

    นอกจากนี้ OpenAI ก็ได้เปิดตัวเครื่องมือที่คล้ายกันชื่อว่า Tasks สำหรับผู้ใช้ ChatGPT Team และ Pro Apple และ Amazon ก็ไม่ยอมน้อยหน้า โดย Apple ได้รวม Apple Intelligence เข้ากับ Siri และร่วมมือกับ OpenAI ในการใช้ ChatGPT1 ส่วน Amazon ก็กำลังพัฒนาเวอร์ชันใหม่ของ Alexa ที่คาดว่าจะเปิดตัวในไม่ช้า

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/24/perplexity-debuts-ai-assistant-on-android-to-challenge-alexa-chatgpt
    มีการเปิดตัวผู้ช่วย AI ใหม่ของบริษัท Perplexity ที่ชื่อว่า Perplexity Assistant ซึ่งสามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ Android โดยมีความสามารถในการจองโต๊ะอาหาร, เรียกรถ, และตั้งเตือนความจำได้ บริษัทนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Nvidia และ Jeff Bezos และมีแผนที่จะเปิดตัวบน iOS หากได้รับอนุญาตจาก Apple นอกจากนี้ OpenAI ก็ได้เปิดตัวเครื่องมือที่คล้ายกันชื่อว่า Tasks สำหรับผู้ใช้ ChatGPT Team และ Pro Apple และ Amazon ก็ไม่ยอมน้อยหน้า โดย Apple ได้รวม Apple Intelligence เข้ากับ Siri และร่วมมือกับ OpenAI ในการใช้ ChatGPT1 ส่วน Amazon ก็กำลังพัฒนาเวอร์ชันใหม่ของ Alexa ที่คาดว่าจะเปิดตัวในไม่ช้า https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/24/perplexity-debuts-ai-assistant-on-android-to-challenge-alexa-chatgpt
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Perplexity debuts AI assistant on Android to challenge Alexa, ChatGPT
    (Reuters) - Artificial intelligence startup Perplexity launched an agent-based assistant for Android devices on Thursday as it looks to take on larger rival OpenAI's ChatGPT and incumbent assistants such as Apple's Siri and Amazon's Alexa.
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นศูนย์กลางของ AI ระดับโลก คำสั่งนี้กำหนดให้มีการสร้างแผนปฏิบัติการ AI ภายใน 180 วัน เพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองของมนุษย์, ความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ, และความมั่นคงของชาติ

    นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้สั่งให้ที่ปรึกษา AI และผู้ช่วยด้านความมั่นคงแห่งชาติทำงานเพื่อยกเลิกนโยบายและข้อบังคับที่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้วางไว้ คำสั่งของไบเดนในปี 2023 นั้นมีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงที่ AI อาจก่อให้เกิดกับผู้บริโภค, คนงาน, และความมั่นคงของชาติ

    น่าสนใจที่เห็นว่าการแข่งขันในด้าน AI ระหว่างประเทศใหญ่ๆ กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ การที่สหรัฐอเมริกาพยายามที่จะเป็นผู้นำในด้านนี้อาจส่งผลให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม, การยกเลิกนโยบายที่มุ่งเน้นความปลอดภัยอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/24/trump-orders-ai-action-plan-and-more-work-erasing-biden039s-ai-efforts
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นศูนย์กลางของ AI ระดับโลก คำสั่งนี้กำหนดให้มีการสร้างแผนปฏิบัติการ AI ภายใน 180 วัน เพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองของมนุษย์, ความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ, และความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้สั่งให้ที่ปรึกษา AI และผู้ช่วยด้านความมั่นคงแห่งชาติทำงานเพื่อยกเลิกนโยบายและข้อบังคับที่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้วางไว้ คำสั่งของไบเดนในปี 2023 นั้นมีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงที่ AI อาจก่อให้เกิดกับผู้บริโภค, คนงาน, และความมั่นคงของชาติ น่าสนใจที่เห็นว่าการแข่งขันในด้าน AI ระหว่างประเทศใหญ่ๆ กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ การที่สหรัฐอเมริกาพยายามที่จะเป็นผู้นำในด้านนี้อาจส่งผลให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม, การยกเลิกนโยบายที่มุ่งเน้นความปลอดภัยอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/24/trump-orders-ai-action-plan-and-more-work-erasing-biden039s-ai-efforts
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump orders AI action plan and more work erasing Biden's AI efforts
    WASHINGTON (Reuters) - U.S. President Donald Trump on Thursday signed an executive order related to AI to "make America the world capital in artificial intelligence," his aide told reporters in the White House's Oval Office.
    0 Comments 0 Shares 192 Views 0 Reviews
  • Meta กำลังพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับ AI chatbot ของพวกเขา ซึ่งไม่สามารถระบุชื่อประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบันได้อย่างถูกต้อง (5555+ ขออนุญาต ขำ) ปัญหานี้ถูกยกระดับเป็นเรื่องเร่งด่วนหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับการสาบานตนเป็นประธานาธิบดีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ AI chatbot ของ Meta ยังคงระบุว่าโจ ไบเดนเป็นประธานาธิบดีอยู่

    Meta ได้เริ่มกระบวนการฉุกเฉินเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งเป็นครั้งที่สามในสัปดาห์นี้ที่เกิดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงประธานาธิบดี นอกจากนี้ Meta ยังได้ทำการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์กับรัฐบาลใหม่ รวมถึงการยกเลิกโปรแกรมตรวจสอบข้อเท็จจริงในสหรัฐอเมริกา และการแต่งตั้ง Joel Kaplan เป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการทั่วโลกคนใหม่

    น่าสนใจที่เห็นว่า Meta กำลังพยายามปรับตัวและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้บริการ AI chatbot ของพวกเขามีความถูกต้องและน่าเชื่อถือมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจส่งผลให้ Meta มีความสามารถในการแข่งขันในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/24/meta-seeks-urgent-fix-to-ai-chatbot039s-confusion-on-name-of-us-president
    Meta กำลังพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับ AI chatbot ของพวกเขา ซึ่งไม่สามารถระบุชื่อประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบันได้อย่างถูกต้อง (5555+ ขออนุญาต ขำ) ปัญหานี้ถูกยกระดับเป็นเรื่องเร่งด่วนหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับการสาบานตนเป็นประธานาธิบดีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ AI chatbot ของ Meta ยังคงระบุว่าโจ ไบเดนเป็นประธานาธิบดีอยู่ Meta ได้เริ่มกระบวนการฉุกเฉินเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งเป็นครั้งที่สามในสัปดาห์นี้ที่เกิดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงประธานาธิบดี นอกจากนี้ Meta ยังได้ทำการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์กับรัฐบาลใหม่ รวมถึงการยกเลิกโปรแกรมตรวจสอบข้อเท็จจริงในสหรัฐอเมริกา และการแต่งตั้ง Joel Kaplan เป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการทั่วโลกคนใหม่ น่าสนใจที่เห็นว่า Meta กำลังพยายามปรับตัวและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้บริการ AI chatbot ของพวกเขามีความถูกต้องและน่าเชื่อถือมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจส่งผลให้ Meta มีความสามารถในการแข่งขันในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/24/meta-seeks-urgent-fix-to-ai-chatbot039s-confusion-on-name-of-us-president
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta seeks urgent fix to AI chatbot's confusion on name of US president
    NEW YORK (Reuters) - The inability of Meta's AI chatbot to identify the current president of the United States was elevated to urgent status by the Facebook owner this week, requiring a fast fix, a person familiar with the issue said.
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • วันนี้หนักกว่าเมื่อวานอีก...
    วันนี้หนักกว่าเมื่อวานอีก...
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • CERN กำลังนำเทคโนโลยีเครื่องเร่งอนุภาคมาใช้ในการรักษามะเร็งแบบใหม่ที่เรียกว่า Flash radiotherapy วิธีการนี้จะใช้การฉายรังสีที่มีความเข้มข้นสูงในเวลาไม่ถึงวินาที ซึ่งแตกต่างจากวิธีการปัจจุบันที่ใช้เวลาหลายนาที ข้อดีของวิธีนี้คือสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อที่อยู่รอบข้างมากนัก เนื่องจากเนื้อเยื่อที่แข็งแรงสามารถทนต่อรังสีที่เข้มข้นได้ดีกว่าเซลล์มะเร็ง

    การทดลองเบื้องต้นกับหนูทดลองแสดงผลลัพธ์ที่น่าพอใจ โดยหนูไม่เกิดผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยจากการฉายรังสีแบบเดิม แม้จะได้รับการฉายรังสีถึงสองรอบ CERN กำลังปรับปรุงเครื่องเร่งอนุภาคที่เดิมใช้ในการชนอนุภาคให้สามารถใช้ในการฉายรังสีสำหรับการรักษามะเร็งได้

    Dr. Billy Loo จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดกล่าวว่า Flash radiotherapy ทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อปกติน้อยกว่าการฉายรังสีแบบเดิมโดยไม่ลดประสิทธิภาพในการกำจัดเนื้องอก วิธีการนี้จะมีประโยชน์อย่างยิ่งในการรักษาบริเวณที่ละเอียดอ่อน เช่น สมอง ซึ่งปกติจะมีค่าใช้จ่ายสูงในการรักษา

    นอกจากนี้ Flash radiotherapy ยังอาจช่วยให้สามารถใช้รังสีในปริมาณที่สูงขึ้นในการรักษามะเร็งที่ยากต่อการรักษาได้ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อที่อยู่รอบข้าง การทดลองกับมนุษย์กำลังดำเนินการอยู่ในหลายโรงพยาบาลทั่วโลก เช่น โรงพยาบาลเด็กในซินซินนาติ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ที่กำลังวางแผนการทดลองระยะเริ่มต้นกับเด็กที่มีมะเร็งแพร่กระจายไปยังกระดูกหน้าอก

    อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาแบบ Flash radiotherapy มีขนาดใหญ่และมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้การเข้าถึงการรักษานี้ยังคงเป็นปัญหา CERN กำลังทำงานร่วมกับโรงพยาบาลและบริษัทต่างๆ เพื่อทำให้อุปกรณ์นี้มีราคาถูกลงและสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น

    การรักษาแบบ Flash radiotherapy นี้ยังต้องการการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิภาพ แต่ผลลัพธ์เบื้องต้นทำให้นักวิทยาศาสตร์และแพทย์มีความหวังในการพัฒนาวิธีการรักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/106466-cern-particle-accelerator-tech-reimagined-blast-cancer-under.html
    CERN กำลังนำเทคโนโลยีเครื่องเร่งอนุภาคมาใช้ในการรักษามะเร็งแบบใหม่ที่เรียกว่า Flash radiotherapy วิธีการนี้จะใช้การฉายรังสีที่มีความเข้มข้นสูงในเวลาไม่ถึงวินาที ซึ่งแตกต่างจากวิธีการปัจจุบันที่ใช้เวลาหลายนาที ข้อดีของวิธีนี้คือสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อที่อยู่รอบข้างมากนัก เนื่องจากเนื้อเยื่อที่แข็งแรงสามารถทนต่อรังสีที่เข้มข้นได้ดีกว่าเซลล์มะเร็ง การทดลองเบื้องต้นกับหนูทดลองแสดงผลลัพธ์ที่น่าพอใจ โดยหนูไม่เกิดผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยจากการฉายรังสีแบบเดิม แม้จะได้รับการฉายรังสีถึงสองรอบ CERN กำลังปรับปรุงเครื่องเร่งอนุภาคที่เดิมใช้ในการชนอนุภาคให้สามารถใช้ในการฉายรังสีสำหรับการรักษามะเร็งได้ Dr. Billy Loo จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดกล่าวว่า Flash radiotherapy ทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อปกติน้อยกว่าการฉายรังสีแบบเดิมโดยไม่ลดประสิทธิภาพในการกำจัดเนื้องอก วิธีการนี้จะมีประโยชน์อย่างยิ่งในการรักษาบริเวณที่ละเอียดอ่อน เช่น สมอง ซึ่งปกติจะมีค่าใช้จ่ายสูงในการรักษา นอกจากนี้ Flash radiotherapy ยังอาจช่วยให้สามารถใช้รังสีในปริมาณที่สูงขึ้นในการรักษามะเร็งที่ยากต่อการรักษาได้ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อที่อยู่รอบข้าง การทดลองกับมนุษย์กำลังดำเนินการอยู่ในหลายโรงพยาบาลทั่วโลก เช่น โรงพยาบาลเด็กในซินซินนาติ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ที่กำลังวางแผนการทดลองระยะเริ่มต้นกับเด็กที่มีมะเร็งแพร่กระจายไปยังกระดูกหน้าอก อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาแบบ Flash radiotherapy มีขนาดใหญ่และมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้การเข้าถึงการรักษานี้ยังคงเป็นปัญหา CERN กำลังทำงานร่วมกับโรงพยาบาลและบริษัทต่างๆ เพื่อทำให้อุปกรณ์นี้มีราคาถูกลงและสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น การรักษาแบบ Flash radiotherapy นี้ยังต้องการการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิภาพ แต่ผลลัพธ์เบื้องต้นทำให้นักวิทยาศาสตร์และแพทย์มีความหวังในการพัฒนาวิธีการรักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น https://www.techspot.com/news/106466-cern-particle-accelerator-tech-reimagined-blast-cancer-under.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    CERN's particle accelerator tech is being reimagined to blast cancer in under a second
    While it may not sound like a major leap, this approach offers one big advantage: killing cancerous cells while doing less damage to surrounding healthy tissue. This...
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/live/1WK9gUJiZQI?si=JSWBRJZSmf6vK1-m
    https://www.youtube.com/live/1WK9gUJiZQI?si=JSWBRJZSmf6vK1-m
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 54 Views 0 Reviews
  • เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกชื่อ "El Capitan" ที่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Lawrence Livermore (LLNL) ในแคลิฟอร์เนีย ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ถูกพัฒนามานานกว่าแปดปีและมีความสามารถในการประมวลผลสูงสุดถึง 2.746 exaFLOPS El Capitan ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความปลอดภัยของคลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกาและใช้ในการวิจัยที่เป็นความลับ

    El Capitan ใช้พลังงานจากซีพียูและจีพียูมากกว่า 11 ล้านคอร์ที่รวมอยู่ในตัวเร่ง AMD Instinct MI300A กว่า 43,000 ตัว. ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้สามารถทำการคำนวณได้ถึง 2.79 quintillion ครั้งต่อวินาที ซึ่งเป็นจำนวนที่มากจนถ้าคุณย้อนเวลากลับไป 2.79 quintillion วินาที คุณจะไปถึงกว่า 70 พันล้านปีก่อนการเกิดบิ๊กแบง

    นอกจากการรักษาความปลอดภัยของคลังอาวุธนิวเคลียร์แล้ว El Capitan ยังถูกใช้ในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์วัสดุและฟิสิกส์ รวมถึงงานที่เกี่ยวข้องกับ AI และการเรียนรู้ของเครื่อง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ถูกสร้างขึ้นด้วยงบประมาณประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และถูกคาดหวังว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Sierra ที่ถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 2018 ถึง 18 เท่า

    น่าสนใจที่เห็นว่าเทคโนโลยีซูเปอร์คอมพิวเตอร์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การที่ El Capitan สามารถทำการคำนวณได้ในระดับที่สูงมากนี้อาจนำไปสู่การค้นพบใหม่ๆ ที่สำคัญในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/106467-world-fastest-supercomputer-amd-powered-el-capitan-goes.html
    เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกชื่อ "El Capitan" ที่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Lawrence Livermore (LLNL) ในแคลิฟอร์เนีย ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ถูกพัฒนามานานกว่าแปดปีและมีความสามารถในการประมวลผลสูงสุดถึง 2.746 exaFLOPS El Capitan ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความปลอดภัยของคลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกาและใช้ในการวิจัยที่เป็นความลับ El Capitan ใช้พลังงานจากซีพียูและจีพียูมากกว่า 11 ล้านคอร์ที่รวมอยู่ในตัวเร่ง AMD Instinct MI300A กว่า 43,000 ตัว. ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้สามารถทำการคำนวณได้ถึง 2.79 quintillion ครั้งต่อวินาที ซึ่งเป็นจำนวนที่มากจนถ้าคุณย้อนเวลากลับไป 2.79 quintillion วินาที คุณจะไปถึงกว่า 70 พันล้านปีก่อนการเกิดบิ๊กแบง นอกจากการรักษาความปลอดภัยของคลังอาวุธนิวเคลียร์แล้ว El Capitan ยังถูกใช้ในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์วัสดุและฟิสิกส์ รวมถึงงานที่เกี่ยวข้องกับ AI และการเรียนรู้ของเครื่อง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ถูกสร้างขึ้นด้วยงบประมาณประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และถูกคาดหวังว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Sierra ที่ถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 2018 ถึง 18 เท่า น่าสนใจที่เห็นว่าเทคโนโลยีซูเปอร์คอมพิวเตอร์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การที่ El Capitan สามารถทำการคำนวณได้ในระดับที่สูงมากนี้อาจนำไปสู่การค้นพบใหม่ๆ ที่สำคัญในอนาคต https://www.techspot.com/news/106467-world-fastest-supercomputer-amd-powered-el-capitan-goes.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    World's fastest supercomputer, "El Capitan," goes online to safeguard US nuclear weapons
    El Capitan can reach a peak performance of 2.746 exaFLOPS, making it the National Nuclear Security Administration's first exascale supercomputer. It's the world's third exascale machine after...
    0 Comments 0 Shares 209 Views 0 Reviews
  • เที่ยวกับเพื่อนๆ
    เที่ยวกับเพื่อนๆ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 36 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 35 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เกี่ยวกับการค้นพบที่น่าตื่นเต้นและเป็นที่ถกเถียงกันในวงการวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ "ออกซิเจนมืด" ที่เกิดจากหินโลหะใต้ทะเลลึก ทีมวิจัยที่นำโดยศาสตราจารย์แอนดรูว์ สวีทแมน ได้ค้นพบว่า หินโลหะเหล่านี้สามารถผลิตออกซิเจนได้โดยไม่ต้องใช้แสงแดดหรือพืช ซึ่งเป็นกระบวนการที่แตกต่างจากการสังเคราะห์แสงที่เรารู้จักกันดี

    การค้นพบนี้ทำให้เกิดความขัดแย้งในวงการวิทยาศาสตร์ เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าอาจเป็นผลมาจากความผิดพลาดของอุปกรณ์หรือการวัดที่ไม่ถูกต้อง ศาสตราจารย์สวีทแมนจึงได้เริ่มโครงการวิจัยใหม่เพื่อยืนยันการค้นพบนี้ โดยมีการวางแผนการสำรวจสามครั้งเพื่อศึกษาหินโลหะที่ทำหน้าที่เป็น "แบตเตอรี่ธรณี" อย่างละเอียด

    "แบตเตอรี่ธรณี" หรือ "geobatteries" เป็นคำที่ใช้เรียกหินโลหะเหล่านี้ทำหน้าที่เหมือนแบตเตอรี่ธรรมชาติที่สามารถเก็บและปล่อยพลังงานได้

    การสำรวจครั้งแรกจะเริ่มต้นจากซานดิเอโกในเดือนมกราคม 2026 โดยใช้เงินทุนจากมูลนิธินิปปอนจำนวน 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะใช้โพรบที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อทำงานที่ระดับความลึก 12,000 เมตรใต้ทะเล โพรบเหล่านี้จะเก็บตัวอย่างน้ำและตะกอนจากพื้นทะเลเพื่อยืนยันทฤษฎีออกซิเจนมืด

    น่าสนใจที่เห็นว่าการค้นพบนี้อาจมีผลกระทบต่อการทำเหมืองใต้ทะเล เนื่องจากบริษัทเหมืองแร่บางแห่งมีความสนใจในการใช้หินโลหะเหล่านี้ในการสกัดวัตถุดิบ การผลิตออกซิเจนแบบไม่ใช้ออกซิเจนนี้อาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการทำเหมืองเหล่านี้

    ศาสตราจารย์สวีทแมนยังต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์จากนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ และอาจมีการถอนบทความวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Geoscience ในปี 2024. อย่างไรก็ตาม เขายังคงมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ว่าการผลิตออกซิเจนมืดจากพื้นทะเลเป็นปรากฏการณ์ที่แท้จริง

    https://www.techspot.com/news/106469-new-expeditions-aim-validate-groundbreaking-dark-oxygen-discovery.html
    ข่าวนี้เกี่ยวกับการค้นพบที่น่าตื่นเต้นและเป็นที่ถกเถียงกันในวงการวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ "ออกซิเจนมืด" ที่เกิดจากหินโลหะใต้ทะเลลึก ทีมวิจัยที่นำโดยศาสตราจารย์แอนดรูว์ สวีทแมน ได้ค้นพบว่า หินโลหะเหล่านี้สามารถผลิตออกซิเจนได้โดยไม่ต้องใช้แสงแดดหรือพืช ซึ่งเป็นกระบวนการที่แตกต่างจากการสังเคราะห์แสงที่เรารู้จักกันดี การค้นพบนี้ทำให้เกิดความขัดแย้งในวงการวิทยาศาสตร์ เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าอาจเป็นผลมาจากความผิดพลาดของอุปกรณ์หรือการวัดที่ไม่ถูกต้อง ศาสตราจารย์สวีทแมนจึงได้เริ่มโครงการวิจัยใหม่เพื่อยืนยันการค้นพบนี้ โดยมีการวางแผนการสำรวจสามครั้งเพื่อศึกษาหินโลหะที่ทำหน้าที่เป็น "แบตเตอรี่ธรณี" อย่างละเอียด "แบตเตอรี่ธรณี" หรือ "geobatteries" เป็นคำที่ใช้เรียกหินโลหะเหล่านี้ทำหน้าที่เหมือนแบตเตอรี่ธรรมชาติที่สามารถเก็บและปล่อยพลังงานได้ การสำรวจครั้งแรกจะเริ่มต้นจากซานดิเอโกในเดือนมกราคม 2026 โดยใช้เงินทุนจากมูลนิธินิปปอนจำนวน 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะใช้โพรบที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อทำงานที่ระดับความลึก 12,000 เมตรใต้ทะเล โพรบเหล่านี้จะเก็บตัวอย่างน้ำและตะกอนจากพื้นทะเลเพื่อยืนยันทฤษฎีออกซิเจนมืด น่าสนใจที่เห็นว่าการค้นพบนี้อาจมีผลกระทบต่อการทำเหมืองใต้ทะเล เนื่องจากบริษัทเหมืองแร่บางแห่งมีความสนใจในการใช้หินโลหะเหล่านี้ในการสกัดวัตถุดิบ การผลิตออกซิเจนแบบไม่ใช้ออกซิเจนนี้อาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการทำเหมืองเหล่านี้ ศาสตราจารย์สวีทแมนยังต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์จากนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ และอาจมีการถอนบทความวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Geoscience ในปี 2024. อย่างไรก็ตาม เขายังคงมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ว่าการผลิตออกซิเจนมืดจากพื้นทะเลเป็นปรากฏการณ์ที่แท้จริง https://www.techspot.com/news/106469-new-expeditions-aim-validate-groundbreaking-dark-oxygen-discovery.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Serendipitous discovery of "dark oxygen" sparks controversy and new expeditions
    Professor Andrew Sweetman and his colleagues set out to measure seafloor respiration but instead stumbled upon a hidden ecosystem capable of producing oxygen. The most crucial element...
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 38 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 36 Views 0 Reviews
  • Canon ได้ประกาศเปิดตัวเซ็นเซอร์ภาพ CMOS ที่มีความละเอียดสูงถึง 410 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นสถิติใหม่สำหรับเซ็นเซอร์ขนาด 35 มม. ความละเอียดนี้สูงกว่าความละเอียด Full HD ถึง 198 เท่า และสูงกว่า 8K ถึง 12 เท่า เซ็นเซอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงานที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น การเฝ้าระวัง, การถ่ายภาพอุตสาหกรรม, และการแพทย์

    เซ็นเซอร์นี้ใช้การจัดเรียงแบบ back-illuminated stacked formation ซึ่งทำให้สามารถประมวลผลสัญญาณได้อย่างรวดเร็วถึง 3,280 ล้านพิกเซลต่อวินาที นอกจากนี้ยังมีการออกแบบวงจรใหม่ที่ช่วยให้การอ่านข้อมูลเร็วขึ้น เซ็นเซอร์นี้มีทั้งรุ่นสีเต็มและรุ่นขาวดำ โดยรุ่นขาวดำจะมีฟังก์ชันการรวมพิกเซลสี่พิกเซลเป็นหนึ่งพิกเซล ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย

    Canon จะนำเซ็นเซอร์นี้ไปแสดงในงาน SPIE Photonics West ที่ซานฟรานซิสโกในวันที่ 28-30 มกราคมนี้ การพัฒนาเซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดสูงขนาดนี้จะช่วยให้การถ่ายภาพมีความคมชัดและรายละเอียดมากขึ้น และอาจนำไปสู่การพัฒนาอุปกรณ์ถ่ายภาพที่มีขนาดเล็กลงในอนาคต

    น่าสนใจที่เห็นว่าเทคโนโลยีการถ่ายภาพกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และ Canon กำลังผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ในด้านนี้ การที่สามารถใส่ความละเอียดสูงขนาดนี้ลงในเซ็นเซอร์ขนาด 35 มม. เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน และอาจมีผลกระทบต่อการพัฒนาอุปกรณ์ถ่ายภาพในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/106479-canon-pushes-limits-35mm-record-breaking-410-megapixel.html
    Canon ได้ประกาศเปิดตัวเซ็นเซอร์ภาพ CMOS ที่มีความละเอียดสูงถึง 410 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นสถิติใหม่สำหรับเซ็นเซอร์ขนาด 35 มม. ความละเอียดนี้สูงกว่าความละเอียด Full HD ถึง 198 เท่า และสูงกว่า 8K ถึง 12 เท่า เซ็นเซอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงานที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น การเฝ้าระวัง, การถ่ายภาพอุตสาหกรรม, และการแพทย์ เซ็นเซอร์นี้ใช้การจัดเรียงแบบ back-illuminated stacked formation ซึ่งทำให้สามารถประมวลผลสัญญาณได้อย่างรวดเร็วถึง 3,280 ล้านพิกเซลต่อวินาที นอกจากนี้ยังมีการออกแบบวงจรใหม่ที่ช่วยให้การอ่านข้อมูลเร็วขึ้น เซ็นเซอร์นี้มีทั้งรุ่นสีเต็มและรุ่นขาวดำ โดยรุ่นขาวดำจะมีฟังก์ชันการรวมพิกเซลสี่พิกเซลเป็นหนึ่งพิกเซล ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย Canon จะนำเซ็นเซอร์นี้ไปแสดงในงาน SPIE Photonics West ที่ซานฟรานซิสโกในวันที่ 28-30 มกราคมนี้ การพัฒนาเซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดสูงขนาดนี้จะช่วยให้การถ่ายภาพมีความคมชัดและรายละเอียดมากขึ้น และอาจนำไปสู่การพัฒนาอุปกรณ์ถ่ายภาพที่มีขนาดเล็กลงในอนาคต น่าสนใจที่เห็นว่าเทคโนโลยีการถ่ายภาพกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และ Canon กำลังผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ในด้านนี้ การที่สามารถใส่ความละเอียดสูงขนาดนี้ลงในเซ็นเซอร์ขนาด 35 มม. เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน และอาจมีผลกระทบต่อการพัฒนาอุปกรณ์ถ่ายภาพในอนาคต https://www.techspot.com/news/106479-canon-pushes-limits-35mm-record-breaking-410-megapixel.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Canon pushes the limits of 35mm with record 410-megapixel sensor
    The 410-megapixel (24,592 x 16,704 pixels) sensor boasts a resolution that is 198 times greater than Full HD, and 12 times higher than 8K. With it, users...
    0 Comments 0 Shares 157 Views 0 Reviews