0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
118 มุมมอง
0 รีวิว
รายการ
ค้นพบผู้คนใหม่ๆ สร้างการเชื่อมต่อใหม่ๆ และรู้จักเพื่อนใหม่
- กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อกดถูกใจ แชร์ และแสดงความคิดเห็น!
- ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน “นายกฯ แพทองธาร” พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน ตุ๊กตาแบร์บริก 9 ตัว ทองคํา-เครื่องประดับพรึบ เสื้อผ้า 167 ชุดมูลค่าเกือบ 27 ล้าน พบมีที่ดินปทุมธานี 3 แปลง และที่ฮอกไกโด 2 แปลง บ้านเช่าที่ลอนดอน 2 หลัง กู้เงินแม่-พี่ชาย-พี่สาว วันเดียวกันถึง 6 รายการ กว่า 2.8 พันล้าน มีรายได้ปีละ 265 ล้าน
•
วันนี้(3ม.ค.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 โดย น.ส.แพทองธาร แจ้งสถานภาพอยู่กินกันฉันสามีภริยากับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 13,993,826,903 บาท แบ่งเป็นของ น.ส.แพทองธาร 13,846,208,451 บาท เป็นของนายปิฎก 147,118,452 บาท เป็นของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 500,000 บาท มีหนี้สินรวม 4,441,159,711 บาท แบ่งเป็นหนี้สินของ น.ส.แพทองธาร 4,439,980,600 บาท ซึ่งเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 5,458,262 บาท และเป็นหนี้สินอื่น 4,434,522,338 บาท เป็นหนี้สินของคู่สมรส 1,179,110 บาท
•
โดย น.ส.แพทองธาร แจ้งว่ามีรายได้ต่อปี 265,567,322 บาท แบ่งเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส 3,409,682 บาท เงินปันผล 259,267,639 บาท ดอกเบี้ย 2,000,000 บาท ค่าเช่า 890,000 บาท และมีรายจ่ายต่อปี 57,720,000 บาท โดยมีรายการที่น่าสนใจคือ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 45,000,000 บาท ค่าเบี้ยประกันภัย 1,200,000 บาท ค่าใช้จ่ายครัวเรือน 7,000,000 บาท ค่าเล่าเรียนบุตร 1,000,000 บาท ค่าท่องเที่ยว 2,000,000 บาท
•
ทรัพย์สินของ น.ส.แพทองธาร แบ่งเป็นเงินสด 7,272,743 บาท เงินฝาก 1,081,187,216 บาทเงินลงทุน 11,007,772,574 บาท เงินให้กู้ยืม 15,238,714 บาท ที่ดิน 724,922,982 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 168,615,386 บาท ยานพาหนะ 66,770,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 358,789,334 บาท ทรัพย์สินอื่น 415,639,500 บาท
•
คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000000569
•
#MGROnline #แพทองธาร #บัญชีทรัพย์สิน
ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน “นายกฯ แพทองธาร” พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน ตุ๊กตาแบร์บริก 9 ตัว ทองคํา-เครื่องประดับพรึบ เสื้อผ้า 167 ชุดมูลค่าเกือบ 27 ล้าน พบมีที่ดินปทุมธานี 3 แปลง และที่ฮอกไกโด 2 แปลง บ้านเช่าที่ลอนดอน 2 หลัง กู้เงินแม่-พี่ชาย-พี่สาว วันเดียวกันถึง 6 รายการ กว่า 2.8 พันล้าน มีรายได้ปีละ 265 ล้าน • วันนี้(3ม.ค.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 โดย น.ส.แพทองธาร แจ้งสถานภาพอยู่กินกันฉันสามีภริยากับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 13,993,826,903 บาท แบ่งเป็นของ น.ส.แพทองธาร 13,846,208,451 บาท เป็นของนายปิฎก 147,118,452 บาท เป็นของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 500,000 บาท มีหนี้สินรวม 4,441,159,711 บาท แบ่งเป็นหนี้สินของ น.ส.แพทองธาร 4,439,980,600 บาท ซึ่งเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 5,458,262 บาท และเป็นหนี้สินอื่น 4,434,522,338 บาท เป็นหนี้สินของคู่สมรส 1,179,110 บาท • โดย น.ส.แพทองธาร แจ้งว่ามีรายได้ต่อปี 265,567,322 บาท แบ่งเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส 3,409,682 บาท เงินปันผล 259,267,639 บาท ดอกเบี้ย 2,000,000 บาท ค่าเช่า 890,000 บาท และมีรายจ่ายต่อปี 57,720,000 บาท โดยมีรายการที่น่าสนใจคือ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 45,000,000 บาท ค่าเบี้ยประกันภัย 1,200,000 บาท ค่าใช้จ่ายครัวเรือน 7,000,000 บาท ค่าเล่าเรียนบุตร 1,000,000 บาท ค่าท่องเที่ยว 2,000,000 บาท • ทรัพย์สินของ น.ส.แพทองธาร แบ่งเป็นเงินสด 7,272,743 บาท เงินฝาก 1,081,187,216 บาทเงินลงทุน 11,007,772,574 บาท เงินให้กู้ยืม 15,238,714 บาท ที่ดิน 724,922,982 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 168,615,386 บาท ยานพาหนะ 66,770,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 358,789,334 บาท ทรัพย์สินอื่น 415,639,500 บาท • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000000569 • #MGROnline #แพทองธาร #บัญชีทรัพย์สิน0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 926 มุมมอง 0 รีวิว - 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
- ♣ อีกเดือนกว่าถึงซักฟอกรัฐบาล แต่วิโรจน์ประกาศฟันสุริยะ ตามใบสั่งธนาธร แต่ละเส้นนักโทษชั้น14 และบทบาทครอบงำเพื่อไทย สะท้อนภาพ น้ำข้นกว่าเลือดในยุคพรรคประชาชน
#7ดอกจิก
♣ อีกเดือนกว่าถึงซักฟอกรัฐบาล แต่วิโรจน์ประกาศฟันสุริยะ ตามใบสั่งธนาธร แต่ละเส้นนักโทษชั้น14 และบทบาทครอบงำเพื่อไทย สะท้อนภาพ น้ำข้นกว่าเลือดในยุคพรรคประชาชน #7ดอกจิก0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 886 มุมมอง 0 รีวิว - คนไทยมีมากกว่า 71 ล้านคน ถูกดำเนินคดีผิด 112 จำนวน 68 คน ปล่อยตัว 34 คน คุยเพราะอดอาหารทำร้ายตัวเอง 1 เหลือคุมขัง 33 คน แต่ปั่นกระแสเรียกร้องไม่หยุด ทำไมอีก 71 ล้านคนไม่ถูกดำเนินคดี ลองถามบิดามารดาพวกเมิงซิ
#คิงส์โพธิ์แดง
#คิงส์โพธิ์แดงสำรองคนไทยมีมากกว่า 71 ล้านคน ถูกดำเนินคดีผิด 112 จำนวน 68 คน ปล่อยตัว 34 คน คุยเพราะอดอาหารทำร้ายตัวเอง 1 เหลือคุมขัง 33 คน แต่ปั่นกระแสเรียกร้องไม่หยุด ทำไมอีก 71 ล้านคนไม่ถูกดำเนินคดี ลองถามบิดามารดาพวกเมิงซิ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว2
- บึกถึกทน 03/01/68 #เหงียน ชวน เซิน #ทีมชาติเวียดนาม #อาเซียนคัพ 2024 #ศึกฟุตบอล0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2053 มุมมอง 105 0 รีวิว4
- M&DM&D0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 907 มุมมอง 35 0 รีวิว
- นายกรัฐมนตรีพร้อมสามี เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระสังฆราชฯ เนื่องในวันปีใหม่ เผย ประทานพรให้แข็งแรง ดูแลบ้านเมืองให้สงบ บอกได้รับน้ำมนต์รู้สึกสบายใจ
•
เช้าวันนี้(3 ม.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ณ พระตำหนักสมเด็จพระสังฆราช และอาคารสัมฤทธิ์ ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถนนเฟื่องนคร เขตพระนคร กรุงเทพฯ รับประทานพรเนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต และการทำงาน
•
โดยนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงในเวลา 09.25 น. สวมชุดไทยเรือนต้น สีฟ้าคราม จากนั้นได้วางพวงมาลัยถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้านข้างพระอุโบสถ จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคู่สมรส ได้เข้ากราบสักการะ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราชฯ ที่อาคารสัมฤทธิ์วิทยากร ก่อนเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระตำหนักอรุณ และสักการะพระประธานในพระอุโบสถ
•
ต่อมาเวลา 10.20 น. นายกรัฐมนตรีเปิดเผยกับสื่อมวลชน ว่า สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้ประทานพร ขอให้สุขภาพแข็งแรง และขอให้ทำงานรักษาความสงบสุข ไม่อยากให้มีขึ้นๆ ลง ซึ่งเป็นความตั้งใจของตนอยู่แล้วที่อยากให้ประเทศชาติสงบสุข จึงรู้สึกสบายใจหลังได้รับน้ำมนต์ ซึ่งตนก็อยากให้สื่อเข้าไปรับน้ำมนต์ด้วยเพราะปีนี้ทำงานหนักมาด้วยกัน
•
คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000000580
•
#MGROnline #สมเด็จพระสังฆราชฯนายกรัฐมนตรีพร้อมสามี เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระสังฆราชฯ เนื่องในวันปีใหม่ เผย ประทานพรให้แข็งแรง ดูแลบ้านเมืองให้สงบ บอกได้รับน้ำมนต์รู้สึกสบายใจ • เช้าวันนี้(3 ม.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ณ พระตำหนักสมเด็จพระสังฆราช และอาคารสัมฤทธิ์ ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถนนเฟื่องนคร เขตพระนคร กรุงเทพฯ รับประทานพรเนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต และการทำงาน • โดยนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงในเวลา 09.25 น. สวมชุดไทยเรือนต้น สีฟ้าคราม จากนั้นได้วางพวงมาลัยถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้านข้างพระอุโบสถ จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคู่สมรส ได้เข้ากราบสักการะ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราชฯ ที่อาคารสัมฤทธิ์วิทยากร ก่อนเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระตำหนักอรุณ และสักการะพระประธานในพระอุโบสถ • ต่อมาเวลา 10.20 น. นายกรัฐมนตรีเปิดเผยกับสื่อมวลชน ว่า สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้ประทานพร ขอให้สุขภาพแข็งแรง และขอให้ทำงานรักษาความสงบสุข ไม่อยากให้มีขึ้นๆ ลง ซึ่งเป็นความตั้งใจของตนอยู่แล้วที่อยากให้ประเทศชาติสงบสุข จึงรู้สึกสบายใจหลังได้รับน้ำมนต์ ซึ่งตนก็อยากให้สื่อเข้าไปรับน้ำมนต์ด้วยเพราะปีนี้ทำงานหนักมาด้วยกัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000000580 • #MGROnline #สมเด็จพระสังฆราชฯ0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1115 มุมมอง 0 รีวิว - 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
-
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
-
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
- อบรมอาสาตำรวจจีน ฉาวอธิบายไม่เคลียร์ ภาพพจน์โปลิศไทยพัง
.
กลายเป็นเรื่องอลหม่านที่ต่างฝ่ายต่างโยนกันไปมาแล้วสำหรับกรณีที่ 'ทนายแจม' ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์พร้อมภาพประกาศข้อความภาษาจีน ลักษณะเป็นการเปิดรับสมัครคนจีนมาอบรม ‘อาสาตำรวจคนจีน’ อ้างต้นสังกัดทั้งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 โดย มีค่าใช้จ่ายต่อหัวคนละ 38,000 บาท
.
ภาพที่ปรากฏออกมามีการอ้างว่าเป็นการดำเนินการของ Dr. Zhang Li ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนานาชาติ มหาวิทยาลัยสยาม ร่วมกับกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ถ้าเป็นการอบรมให้ความรู้ทั่วไปก็คงไม่เป็นอะไร แต่นี่มีข้อมูลออกมาว่ามีการแจกใบประกาศและป้ายห้อยคอที่มีตราสัญลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้กับผู้สำเร็จการอบรม ทำให้ถูกตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในเรื่องนี้
.
พอเรื่องเริ่มแดงขึ้นมาแทนที่สังคมจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ มหาวิทยาลัยสยาม แต่กลับปรากฏว่าแต่ละฝ่ายเลือกที่จะตอบคำถามแบบไม่ตอบคำถามที่ไร้ซึ่งคำอธิบายใดๆทั้งสิ้น
.
สำนักตำรวจแห่งชาติ ก็ออกมาอ้างแค่ว่าได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรเท่านั้น ซึ่งการระบุในทำนองนี้แม้จะเป็นการทำให้ปัญหาถูกปัดพ้นตัวออกไป แต่ก็ยังมีคำถามตามมาว่าจำเป็นหรือไม่ที่ต้องมอบใบประกาศและป้ายห้อยคอเช่นนั้น
.
พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 ชี้แจงว่า"เบื้องต้น ได้เห็นพยานหลักฐาน เป็นจดหมายเชิญจากทางมหาวิทยาลัย ฝึกอบรมนักศึกษานานาชาติมหาวิทยาลัยสยาม เขาขอความอนุเคราะห์วิทยากรพิเศษไปบรรยาย จึงได้ส่งรองผู้กำกับสืบสวนไปบรรยาย และ ปรากฏตามสื่อ ไปบรรยาย เข้ารับการอบรมจริง แต่ไม่ทราบว่ากี่วัน เบื้องต้นไปบรรยายเพียง 1 วัน"
.
ขณะที่ ในฝั่งของผู้บริหารมหาวิทยาลัยสยามเองก็ยังไม่ให้ความชัดเจนเช่นเดียวกัน โดยผู้บริหารมหาวิทยาลัยบางรายออกมาระบุว่าไม่ได้มีการเก็บค่าใช้จ่ายในการอบรม หรือแม้แต่อำนาจหน้าที่ของDr. Zhang Li ภายในมหาวิทยาลัยสยามนั้นก็ยังเป็นประเด็นที่ผู้บริหารก็ออกมายืนยันว่าไม่มีตำแหน่งผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนานาชาติแต่อย่างใด และที่สำคัญมหาวิทยาลัยสยามเองอาจถูกนำชื่อไปแอบอ้างหรือไม่ ภายหลังพบว่าเอกสารที่มีการเผยแพร่ออกมานั้นเขียนขื่อว่าของมหาวิทยาลัยสยามเป็น 'มหาลัยสยาม' ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักการใช้ภาษาไทย
.
ประเด็นใหญ่และสำคัญของเรื่องนี้ คือ ข้อห่วงกังวลที่ว่าจะมีการนำเอาใบประกาศหรือตราสัญลักษณ์ของทางราชการนี้ที่ได้รับจากการอบรมนำไปแอบอ้างเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบหรือใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งในการก่ออาชญากรรมหรือไม่
.
ทั้งนี้ เป็นเพราะต่างทราบกันดีว่าปัจจุบันมีคนจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ทั้งการเดินทางมาในรูปแบบของนักท่องเที่ยว ประกอบธุรกิจ หรือ นักศึกษาตามโครงการต่างๆของสถาบันอุดมศึกษาหลายแห่ง ไม่เพียงเท่านี้ ที่ผ่านมาก็เคยเกิดเหตุการณ์ที่มีคนจีนแฝงตัวเข้ามาก่ออาชญากรรมในหลายรูปแบบ รวมไปถึงการตั้งตัวเป็นมาเฟียเสียเองเพื่อประทุษร้ายคนจีนในประเทศไทย หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า 'แก๊งจีนเทา' หลายกรณีตำรวจไทยก็ตามจับได้ แต่ยังมีอีกหลายกรณีที่ตำรวจไทยยังตามไม่ถึงต้นตอ
.
ดังนั้น การอบรมในลักษณะนี้ อาจเป็นช่องทางหนึ่งที่ให้มีการแอบอ้างเอาชื่อของหน่วยงานภาครัฐของไทยไปกระทำความผิดตามกฎหมายอย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะกับเหยื่อที่คนจีนที่เพิ่งเข้ามาในประเทศไทยที่ยังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของขบวนการนอกกฎหมายเท่าใดนัก
.
ประเทศไทยกำลังเดินไปได้สวยในฐานะเป็นประเทศปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก อย่าให้ภาพลักษณ์ที่ดีต้องเสียไปเพราะการกระทำในลักษณะเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างนี้ ทางออกที่ดีที่สุดในเบื้องต้นที่จะทำได้ในเวลานี้ คือ การที่ทุกฝ่ายออกมาชี้แจงให้เกิดความชัดเจน เพื่อปิดโอกาสของผู้ไม่หวังดีนำเรื่องนี้ไปแสวงหาประโยชน์ในทางที่ผิดต่อไป
..........
Sondhi Xอบรมอาสาตำรวจจีน ฉาวอธิบายไม่เคลียร์ ภาพพจน์โปลิศไทยพัง . กลายเป็นเรื่องอลหม่านที่ต่างฝ่ายต่างโยนกันไปมาแล้วสำหรับกรณีที่ 'ทนายแจม' ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์พร้อมภาพประกาศข้อความภาษาจีน ลักษณะเป็นการเปิดรับสมัครคนจีนมาอบรม ‘อาสาตำรวจคนจีน’ อ้างต้นสังกัดทั้งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 โดย มีค่าใช้จ่ายต่อหัวคนละ 38,000 บาท . ภาพที่ปรากฏออกมามีการอ้างว่าเป็นการดำเนินการของ Dr. Zhang Li ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนานาชาติ มหาวิทยาลัยสยาม ร่วมกับกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ถ้าเป็นการอบรมให้ความรู้ทั่วไปก็คงไม่เป็นอะไร แต่นี่มีข้อมูลออกมาว่ามีการแจกใบประกาศและป้ายห้อยคอที่มีตราสัญลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้กับผู้สำเร็จการอบรม ทำให้ถูกตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในเรื่องนี้ . พอเรื่องเริ่มแดงขึ้นมาแทนที่สังคมจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ มหาวิทยาลัยสยาม แต่กลับปรากฏว่าแต่ละฝ่ายเลือกที่จะตอบคำถามแบบไม่ตอบคำถามที่ไร้ซึ่งคำอธิบายใดๆทั้งสิ้น . สำนักตำรวจแห่งชาติ ก็ออกมาอ้างแค่ว่าได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรเท่านั้น ซึ่งการระบุในทำนองนี้แม้จะเป็นการทำให้ปัญหาถูกปัดพ้นตัวออกไป แต่ก็ยังมีคำถามตามมาว่าจำเป็นหรือไม่ที่ต้องมอบใบประกาศและป้ายห้อยคอเช่นนั้น . พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 ชี้แจงว่า"เบื้องต้น ได้เห็นพยานหลักฐาน เป็นจดหมายเชิญจากทางมหาวิทยาลัย ฝึกอบรมนักศึกษานานาชาติมหาวิทยาลัยสยาม เขาขอความอนุเคราะห์วิทยากรพิเศษไปบรรยาย จึงได้ส่งรองผู้กำกับสืบสวนไปบรรยาย และ ปรากฏตามสื่อ ไปบรรยาย เข้ารับการอบรมจริง แต่ไม่ทราบว่ากี่วัน เบื้องต้นไปบรรยายเพียง 1 วัน" . ขณะที่ ในฝั่งของผู้บริหารมหาวิทยาลัยสยามเองก็ยังไม่ให้ความชัดเจนเช่นเดียวกัน โดยผู้บริหารมหาวิทยาลัยบางรายออกมาระบุว่าไม่ได้มีการเก็บค่าใช้จ่ายในการอบรม หรือแม้แต่อำนาจหน้าที่ของDr. Zhang Li ภายในมหาวิทยาลัยสยามนั้นก็ยังเป็นประเด็นที่ผู้บริหารก็ออกมายืนยันว่าไม่มีตำแหน่งผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนานาชาติแต่อย่างใด และที่สำคัญมหาวิทยาลัยสยามเองอาจถูกนำชื่อไปแอบอ้างหรือไม่ ภายหลังพบว่าเอกสารที่มีการเผยแพร่ออกมานั้นเขียนขื่อว่าของมหาวิทยาลัยสยามเป็น 'มหาลัยสยาม' ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักการใช้ภาษาไทย . ประเด็นใหญ่และสำคัญของเรื่องนี้ คือ ข้อห่วงกังวลที่ว่าจะมีการนำเอาใบประกาศหรือตราสัญลักษณ์ของทางราชการนี้ที่ได้รับจากการอบรมนำไปแอบอ้างเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบหรือใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งในการก่ออาชญากรรมหรือไม่ . ทั้งนี้ เป็นเพราะต่างทราบกันดีว่าปัจจุบันมีคนจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ทั้งการเดินทางมาในรูปแบบของนักท่องเที่ยว ประกอบธุรกิจ หรือ นักศึกษาตามโครงการต่างๆของสถาบันอุดมศึกษาหลายแห่ง ไม่เพียงเท่านี้ ที่ผ่านมาก็เคยเกิดเหตุการณ์ที่มีคนจีนแฝงตัวเข้ามาก่ออาชญากรรมในหลายรูปแบบ รวมไปถึงการตั้งตัวเป็นมาเฟียเสียเองเพื่อประทุษร้ายคนจีนในประเทศไทย หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า 'แก๊งจีนเทา' หลายกรณีตำรวจไทยก็ตามจับได้ แต่ยังมีอีกหลายกรณีที่ตำรวจไทยยังตามไม่ถึงต้นตอ . ดังนั้น การอบรมในลักษณะนี้ อาจเป็นช่องทางหนึ่งที่ให้มีการแอบอ้างเอาชื่อของหน่วยงานภาครัฐของไทยไปกระทำความผิดตามกฎหมายอย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะกับเหยื่อที่คนจีนที่เพิ่งเข้ามาในประเทศไทยที่ยังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของขบวนการนอกกฎหมายเท่าใดนัก . ประเทศไทยกำลังเดินไปได้สวยในฐานะเป็นประเทศปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก อย่าให้ภาพลักษณ์ที่ดีต้องเสียไปเพราะการกระทำในลักษณะเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างนี้ ทางออกที่ดีที่สุดในเบื้องต้นที่จะทำได้ในเวลานี้ คือ การที่ทุกฝ่ายออกมาชี้แจงให้เกิดความชัดเจน เพื่อปิดโอกาสของผู้ไม่หวังดีนำเรื่องนี้ไปแสวงหาประโยชน์ในทางที่ผิดต่อไป .......... Sondhi X0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2201 มุมมอง 1 รีวิว
10
- พระแก้วขาวเพชรน้ำค้าง วัดสุปัฏนารามวรวิหารพระแก้วขาวเพชรน้ำค้าง วัดสุปัฏนารามวรวิหาร0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
- ทุกข์ก็มีต้นสายปลายเหตุมา อะไรจะเกิดทุกข์ก็อย่าไปใกล้หรือไปทำทุกข์ก็มีต้นสายปลายเหตุมา อะไรจะเกิดทุกข์ก็อย่าไปใกล้หรือไปทำ0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
- ♣อาชญากรการเมืองในร่างประธานสภาฯ เป็นเดือดเป็นร้อนแทนพวกพ้องนักโกงเมือง
#7ดอกจิก♣อาชญากรการเมืองในร่างประธานสภาฯ เป็นเดือดเป็นร้อนแทนพวกพ้องนักโกงเมือง #7ดอกจิก0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว1
- ♣ พรรคประชาชน เมินใช้หัวหน้าเท้ง ระดมแกนนำและสส.ในพื้นที่ ช่วยหาเสียงศึกชิงนายก อบจ. หวังลบภาพ "สบตาผู้ประสบภัย" ของเท้ง
#7ดอกจิก
♣ พรรคประชาชน เมินใช้หัวหน้าเท้ง ระดมแกนนำและสส.ในพื้นที่ ช่วยหาเสียงศึกชิงนายก อบจ. หวังลบภาพ "สบตาผู้ประสบภัย" ของเท้ง #7ดอกจิก0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 416 มุมมอง 0 รีวิว1
- พี่คิงส์มีเรื่องขอกับแฟนเพจทุกคน กรณีจะมีการไลฟ์ 28 อย่าไปขัดขวางเด็ดขาดให้เค้าไลฟ์ไปนะครับ
เชื่อพี่คิงส์
#คิงส์โพธิ์แดง
#คิงส์โพธิ์แดงสำรองพี่คิงส์มีเรื่องขอกับแฟนเพจทุกคน กรณีจะมีการไลฟ์ 28 อย่าไปขัดขวางเด็ดขาดให้เค้าไลฟ์ไปนะครับ เชื่อพี่คิงส์ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว - อัพเดทข่าวสำคัญวันนี้ ขณะนี้ ข้อมูลมิ๊จฉ๋าชีพแฝด ผ. ได้ถึงกระทรงการต่างประเทศแล้ว
#คิงส์โพธิ์แดง
#คิงส์โพธิ์แดงสำรองอัพเดทข่าวสำคัญวันนี้ ขณะนี้ ข้อมูลมิ๊จฉ๋าชีพแฝด ผ. ได้ถึงกระทรงการต่างประเทศแล้ว #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว