• 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • เห็นคลิปนึง รับการสนับสนุนจากเฟส ธุรกิจล้างรถอัตโนมัติ บรรยายสรรพคุณแสนวิเศษ และดูเหมือนภูมิใจมาก ผมอยากบอกว่า ผมทำรายงานเรื่องนี้ ตั้งแต่ปี 2531 ในระดับมหาวิทยาลัย...ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งใหม่เลย...มันเข้ามาเกิน 35 ปีแล้ว...คนก็แห่ไปลองใช้กันมากมาย ..ตัวเองก็ด้วย... ผลของมันไม่เป็นที่น่าพอใจ คือ รถเป็นรอยขนแมว คือ วัสดุที่ใช้ปั่น มันคือ โพลีเมอร์ ซึ่งแข็ง..บางเคสมีกระจกมองข้างหลุด อันโน้นหัก อันนี้แตก..จุดโน่นจุดนี้ไม่สะอาด เครื่องมันไม่มีตา เหมือนคนนี่....สุดท้ายกิจการประเภทนี้...ปิดตัวเป็นแถบ........ล้างด้วยมืออย่างเดิม... บูสเพจ ทำคนเกิด และทำคนพัง ได้เหมือนกัน ต้องใช้ให้พอดี.....
    เห็นคลิปนึง รับการสนับสนุนจากเฟส ธุรกิจล้างรถอัตโนมัติ บรรยายสรรพคุณแสนวิเศษ และดูเหมือนภูมิใจมาก ผมอยากบอกว่า ผมทำรายงานเรื่องนี้ ตั้งแต่ปี 2531 ในระดับมหาวิทยาลัย...ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งใหม่เลย...มันเข้ามาเกิน 35 ปีแล้ว...คนก็แห่ไปลองใช้กันมากมาย ..ตัวเองก็ด้วย... ผลของมันไม่เป็นที่น่าพอใจ คือ รถเป็นรอยขนแมว คือ วัสดุที่ใช้ปั่น มันคือ โพลีเมอร์ ซึ่งแข็ง..บางเคสมีกระจกมองข้างหลุด อันโน้นหัก อันนี้แตก..จุดโน่นจุดนี้ไม่สะอาด เครื่องมันไม่มีตา เหมือนคนนี่....สุดท้ายกิจการประเภทนี้...ปิดตัวเป็นแถบ........ล้างด้วยมืออย่างเดิม... บูสเพจ ทำคนเกิด และทำคนพัง ได้เหมือนกัน ต้องใช้ให้พอดี.....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‼ ️🇷SheSheer GUR ของยูเครนอ้างว่ารัสเซียโจมตี Dnepropetrovsk ไม่ใช่ด้วย Oreshnik แต่ด้วยระบบขีปนาวุธ Kedr ▪️เวลาบินของขีปนาวุธรัสเซียนี้ตั้งแต่วินาทีที่ปล่อยในภูมิภาคแอสตราคานจนกระทั่งโจมตีเมืองดนีโปรเปตรอฟสค์คือ 15 นาที ตามข้อมูลของหน่วยข่าวกรองกองทัพยูเครน ▪️มีการติดตั้งหัวรบหกหัวรบบนขีปนาวุธ แต่ละหัวรบติดตั้งระบบย่อยหกลูก ▪️ความเร็วในช่วงสุดท้ายของวิถีมากกว่า 11 มัค ▪️การทดสอบระบบขีปนาวุธ Kedr เกิดขึ้นที่สถานที่ทดสอบกลางเฉพาะเจาะจงกลางแห่งที่ 4 ของสหพันธรัฐรัสเซีย (Kapustin Yar ภูมิภาค Astrakhan) ในเดือนตุลาคม 2566 และมิถุนายน 2567
    ‼ ️🇷SheSheer GUR ของยูเครนอ้างว่ารัสเซียโจมตี Dnepropetrovsk ไม่ใช่ด้วย Oreshnik แต่ด้วยระบบขีปนาวุธ Kedr ▪️เวลาบินของขีปนาวุธรัสเซียนี้ตั้งแต่วินาทีที่ปล่อยในภูมิภาคแอสตราคานจนกระทั่งโจมตีเมืองดนีโปรเปตรอฟสค์คือ 15 นาที ตามข้อมูลของหน่วยข่าวกรองกองทัพยูเครน ▪️มีการติดตั้งหัวรบหกหัวรบบนขีปนาวุธ แต่ละหัวรบติดตั้งระบบย่อยหกลูก ▪️ความเร็วในช่วงสุดท้ายของวิถีมากกว่า 11 มัค ▪️การทดสอบระบบขีปนาวุธ Kedr เกิดขึ้นที่สถานที่ทดสอบกลางเฉพาะเจาะจงกลางแห่งที่ 4 ของสหพันธรัฐรัสเซีย (Kapustin Yar ภูมิภาค Astrakhan) ในเดือนตุลาคม 2566 และมิถุนายน 2567
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‼ ️🇷SheSheer GUR ของยูเครนอ้างว่ารัสเซียโจมตี Dnepropetrovsk ไม่ใช่ด้วย Oreshnik แต่ด้วยระบบขีปนาวุธ Kedr ▪️เวลาบินของขีปนาวุธรัสเซียนี้ตั้งแต่วินาทีที่ปล่อยในภูมิภาคแอสตราคานจนกระทั่งโจมตีเมืองดนีโปรเปตรอฟสค์คือ 15 นาที ตามข้อมูลของหน่วยข่าวกรองกองทัพยูเครน ▪️มีการติดตั้งหัวรบหกหัวรบบนขีปนาวุธ แต่ละหัวรบติดตั้งระบบย่อยหกลูก ▪️ความเร็วในช่วงสุดท้ายของวิถีมากกว่า 11 มัค ▪️การทดสอบระบบขีปนาวุธ Kedr เกิดขึ้นที่สถานที่ทดสอบกลางเฉพาะเจาะจงกลางแห่งที่ 4 ของสหพันธรัฐรัสเซีย (Kapustin Yar ภูมิภาค Astrakhan) ในเดือนตุลาคม 2566 และมิถุนายน 2567
    ‼ ️🇷SheSheer GUR ของยูเครนอ้างว่ารัสเซียโจมตี Dnepropetrovsk ไม่ใช่ด้วย Oreshnik แต่ด้วยระบบขีปนาวุธ Kedr ▪️เวลาบินของขีปนาวุธรัสเซียนี้ตั้งแต่วินาทีที่ปล่อยในภูมิภาคแอสตราคานจนกระทั่งโจมตีเมืองดนีโปรเปตรอฟสค์คือ 15 นาที ตามข้อมูลของหน่วยข่าวกรองกองทัพยูเครน ▪️มีการติดตั้งหัวรบหกหัวรบบนขีปนาวุธ แต่ละหัวรบติดตั้งระบบย่อยหกลูก ▪️ความเร็วในช่วงสุดท้ายของวิถีมากกว่า 11 มัค ▪️การทดสอบระบบขีปนาวุธ Kedr เกิดขึ้นที่สถานที่ทดสอบกลางเฉพาะเจาะจงกลางแห่งที่ 4 ของสหพันธรัฐรัสเซีย (Kapustin Yar ภูมิภาค Astrakhan) ในเดือนตุลาคม 2566 และมิถุนายน 2567
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‼ ️🇷SheSheer GUR ของยูเครนอ้างว่ารัสเซียโจมตี Dnepropetrovsk ไม่ใช่ด้วย Oreshnik แต่ด้วยระบบขีปนาวุธ Kedr ▪️เวลาบินของขีปนาวุธรัสเซียนี้ตั้งแต่วินาทีที่ปล่อยในภูมิภาคแอสตราคานจนกระทั่งโจมตีเมืองดนีโปรเปตรอฟสค์คือ 15 นาที ตามข้อมูลของหน่วยข่าวกรองกองทัพยูเครน ▪️มีการติดตั้งหัวรบหกหัวรบบนขีปนาวุธ แต่ละหัวรบติดตั้งระบบย่อยหกลูก ▪️ความเร็วในช่วงสุดท้ายของวิถีมากกว่า 11 มัค ▪️การทดสอบระบบขีปนาวุธ Kedr เกิดขึ้นที่สถานที่ทดสอบกลางเฉพาะเจาะจงกลางแห่งที่ 4 ของสหพันธรัฐรัสเซีย (Kapustin Yar ภูมิภาค Astrakhan) ในเดือนตุลาคม 2566 และมิถุนายน 2567
    ‼ ️🇷SheSheer GUR ของยูเครนอ้างว่ารัสเซียโจมตี Dnepropetrovsk ไม่ใช่ด้วย Oreshnik แต่ด้วยระบบขีปนาวุธ Kedr ▪️เวลาบินของขีปนาวุธรัสเซียนี้ตั้งแต่วินาทีที่ปล่อยในภูมิภาคแอสตราคานจนกระทั่งโจมตีเมืองดนีโปรเปตรอฟสค์คือ 15 นาที ตามข้อมูลของหน่วยข่าวกรองกองทัพยูเครน ▪️มีการติดตั้งหัวรบหกหัวรบบนขีปนาวุธ แต่ละหัวรบติดตั้งระบบย่อยหกลูก ▪️ความเร็วในช่วงสุดท้ายของวิถีมากกว่า 11 มัค ▪️การทดสอบระบบขีปนาวุธ Kedr เกิดขึ้นที่สถานที่ทดสอบกลางเฉพาะเจาะจงกลางแห่งที่ 4 ของสหพันธรัฐรัสเซีย (Kapustin Yar ภูมิภาค Astrakhan) ในเดือนตุลาคม 2566 และมิถุนายน 2567
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • หน่วยข่าวกรองกลาโหมของยูเครน (GUR) ระบุว่า เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน แท้จริงแล้วรัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีป Kedr ICBM (ไม่ใช่ Oreshnik MRBM) โจมตีที่เมืองดนิโปร

    "Oreshnik" เป็นเพียงแค่ชื่อรหัสของงานทดสอบวิจัยขีปนาวุธประเภทนี้ระบบนี้จริงๆมันเรียกว่า "Kedr" (Кедр) - บูดานอฟ ผู้อำนวยการ GUR ของยูเครนกล่าว

    ขีปนาวุธใช้เวลาเพียง 15 นาทีในการเดินทางจากเมืองอัสตราคาน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกไกลของรัสเซียไปยังเมืองดนิโปร

    ขีปนาวุธดังกล่าวติดตั้งหัวรบแบบธรรมดา 6 หัวรบ แต่ละหัวรบบรรจุลูกระเบิดย่อย 6 ลูก และจะเร่งความเร็วสูงสุดก่อนเข้าใกล้เป้าหมายเกินมัค 11 หรือประมาณ 13,600 กิโลเมตต่อชั่วโมง

    บูดานอฟยังกล่าวอีกว่า รัสเซียเคยทำการทดสอบขีปนาวุธประเภทนี้ที่สนามทดสอบ Kapustin Yar ของรัสเซีย ในภูมิภาค Astrakhan เมื่อเดือนตุลาคม 2023 และมิถุนายน 2024 โดยที่ขีปนาวุธ Kedr เป็นอาวุธยุทธศาสตร์ชนิดใหม่ที่รัสเซียกำลังพัฒนา โดยมีจุดประสงค์เพื่อทดแทนระบบขีปนาวุธ RS-24 Yars ที่มีอยู่

    นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าขีปนาวุธข้ามทวีป Kedr ICBM เป็นอาวุธยุทธศาสตร์ชนิดใหม่ที่กำลังได้รับการพัฒนา โดยมีจุดประสงค์เพื่อทดแทนระบบขีปนาวุธ RS-24 Yars ที่ให้ประจำการในกองกำลังขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ในช่วงเปลี่ยนปี 2030
    หน่วยข่าวกรองกลาโหมของยูเครน (GUR) ระบุว่า เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน แท้จริงแล้วรัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีป Kedr ICBM (ไม่ใช่ Oreshnik MRBM) โจมตีที่เมืองดนิโปร "Oreshnik" เป็นเพียงแค่ชื่อรหัสของงานทดสอบวิจัยขีปนาวุธประเภทนี้ระบบนี้จริงๆมันเรียกว่า "Kedr" (Кедр) - บูดานอฟ ผู้อำนวยการ GUR ของยูเครนกล่าว ขีปนาวุธใช้เวลาเพียง 15 นาทีในการเดินทางจากเมืองอัสตราคาน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกไกลของรัสเซียไปยังเมืองดนิโปร ขีปนาวุธดังกล่าวติดตั้งหัวรบแบบธรรมดา 6 หัวรบ แต่ละหัวรบบรรจุลูกระเบิดย่อย 6 ลูก และจะเร่งความเร็วสูงสุดก่อนเข้าใกล้เป้าหมายเกินมัค 11 หรือประมาณ 13,600 กิโลเมตต่อชั่วโมง บูดานอฟยังกล่าวอีกว่า รัสเซียเคยทำการทดสอบขีปนาวุธประเภทนี้ที่สนามทดสอบ Kapustin Yar ของรัสเซีย ในภูมิภาค Astrakhan เมื่อเดือนตุลาคม 2023 และมิถุนายน 2024 โดยที่ขีปนาวุธ Kedr เป็นอาวุธยุทธศาสตร์ชนิดใหม่ที่รัสเซียกำลังพัฒนา โดยมีจุดประสงค์เพื่อทดแทนระบบขีปนาวุธ RS-24 Yars ที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าขีปนาวุธข้ามทวีป Kedr ICBM เป็นอาวุธยุทธศาสตร์ชนิดใหม่ที่กำลังได้รับการพัฒนา โดยมีจุดประสงค์เพื่อทดแทนระบบขีปนาวุธ RS-24 Yars ที่ให้ประจำการในกองกำลังขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ในช่วงเปลี่ยนปี 2030
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • อยากมีโอกาสสอนหลานเรื่องกรรมดีกรรมชั่วการมีกตเวทิตาความละอายเกรงกลัวต่อบาป
    อยากมีโอกาสสอนหลานเรื่องกรรมดีกรรมชั่วการมีกตเวทิตาความละอายเกรงกลัวต่อบาป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมเขียนคำว่า จุดคุ้มทุนบ่อยๆ ขยายความแบบเข้าใจง่ายๆ คือ คุณต้องประมาณสิ่งนี้ก่อนการลงทุน..ยกตัวอย่าง สมมุติ อพาร์ทเมนต์ก็ได้ จะมีกี่ห้องก็ตามแต่ คุณเอารายได้ ที่หักค่าใช้จ่ายต่างๆแล้ว..เหลือเดือนเท่าไร ปีเท่าไร ..สมมุติ เหลือปีละ 3 แสน..ตามที่เขายึดถือกันในธุรกิจประเภทนี้คือ 9-10 ปี ...ฉะนั้น มูลค่าการลงทุน ก็ไม่ควรเกิน 30 ล้าน......เอาแบบถูกอีกอย่าง เจียนเจ้าใจง่ายๆ เช่น เครื่องชั่งน้ำหนักหนอดเหรียญที่ละบาท..ราคา 1 หมื่น...คิดง่ายๆ คือ ต้องมีคนใช้ 1 หมื่นครั้ง คุณถึงจะได้ทุนคืน..นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายประจำ คือค่าเข่าที่วาง ค่าไฟ หรือค่าใช้จ่ายผันแปร กรณีตู้เสีย และพ้นระยะรับประกันไปแล้ว ไม่รับว่า อาจมีมือดีมาทุบทำลายอีก...ทีนี้ ก็เป็นดุลพินิจของคุณแล้ว...ว่า น่าทำ หรือควรทำ..ไหม...อีกตัวอย่าง หลานสาว มาปรึกษาเปิดร้านกาแฟในปั๊ม ผมถามทำเล มูลค่าการลงทุน จุดคุ้มเป็นไง....รายจ่ายประจำเท่าไร..มีเงินสำรองแค่ไหน กรณีที่มันขายไม่ได้ในช่วงแรก..และอื่นๆ ...มีคำตอบกลับมา แค่เรื่อง ทำเลที่ตั้งกับเงินลงทุน 3.5 แสน..ผมบอกไปเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ก่อนบวกลบคูณหารแบบที่ไม่คิดเข้าข้างตนเองแล้วค่อยทำ....สรุปหายไป...แล้วก็ทำ...ลงทุน 3 แสนห้า...ขายได้วันละไม่กี่ร้อย ค่าเช่า ค่าลูกน้องยังไม่พอเลย..ดันทุรังไปได้ 4 เดือน cash flow ไม่มี..ตุย..3 แสนละลายเล่น...
    ผมเขียนคำว่า จุดคุ้มทุนบ่อยๆ ขยายความแบบเข้าใจง่ายๆ คือ คุณต้องประมาณสิ่งนี้ก่อนการลงทุน..ยกตัวอย่าง สมมุติ อพาร์ทเมนต์ก็ได้ จะมีกี่ห้องก็ตามแต่ คุณเอารายได้ ที่หักค่าใช้จ่ายต่างๆแล้ว..เหลือเดือนเท่าไร ปีเท่าไร ..สมมุติ เหลือปีละ 3 แสน..ตามที่เขายึดถือกันในธุรกิจประเภทนี้คือ 9-10 ปี ...ฉะนั้น มูลค่าการลงทุน ก็ไม่ควรเกิน 30 ล้าน......เอาแบบถูกอีกอย่าง เจียนเจ้าใจง่ายๆ เช่น เครื่องชั่งน้ำหนักหนอดเหรียญที่ละบาท..ราคา 1 หมื่น...คิดง่ายๆ คือ ต้องมีคนใช้ 1 หมื่นครั้ง คุณถึงจะได้ทุนคืน..นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายประจำ คือค่าเข่าที่วาง ค่าไฟ หรือค่าใช้จ่ายผันแปร กรณีตู้เสีย และพ้นระยะรับประกันไปแล้ว ไม่รับว่า อาจมีมือดีมาทุบทำลายอีก...ทีนี้ ก็เป็นดุลพินิจของคุณแล้ว...ว่า น่าทำ หรือควรทำ..ไหม...อีกตัวอย่าง หลานสาว มาปรึกษาเปิดร้านกาแฟในปั๊ม ผมถามทำเล มูลค่าการลงทุน จุดคุ้มเป็นไง....รายจ่ายประจำเท่าไร..มีเงินสำรองแค่ไหน กรณีที่มันขายไม่ได้ในช่วงแรก..และอื่นๆ ...มีคำตอบกลับมา แค่เรื่อง ทำเลที่ตั้งกับเงินลงทุน 3.5 แสน..ผมบอกไปเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ก่อนบวกลบคูณหารแบบที่ไม่คิดเข้าข้างตนเองแล้วค่อยทำ....สรุปหายไป...แล้วก็ทำ...ลงทุน 3 แสนห้า...ขายได้วันละไม่กี่ร้อย ค่าเช่า ค่าลูกน้องยังไม่พอเลย..ดันทุรังไปได้ 4 เดือน cash flow ไม่มี..ตุย..3 แสนละลายเล่น...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากกรณีที่เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ออกรายการสนธิเล่าเรื่อง เพื่อเปิดโปงพฤติกรรมของ นายแพทย์บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้เพื่อกู้เงินผ่านเอเย่นต์ จนได้รับความเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะมีผู้เสียหายที่ถูกนายแพทย์คนดัง ฉ้อโกงฯ เงิน ผ่านกลโกงการทำธุรกรรม ชักชวนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อีกหลายราย จนอาจทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างนับหมื่นล้าน กระทั่งมีรายงานด้วยว่าขณะนี้ นายแพทย์บุญ วนาสิน น่าจะหลบหนีคดีไปยังต่างประเทศแล้ว.ความคืบหน้าเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 22 พ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 และ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่ง บก.น.1 ที่ 285/2567 ลงวันที่ 11 พ.ย.67 ไปขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา จนสามารถนำมาสู่การออกหมายจับ นายแพทย์บุญ วนาสิน รวมถึงผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการ และมีพฤติการณ์ เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ได้ 9 คน ได้แก่.1.นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5645/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน, ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็คนั้น.2.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี เลขาส่วนตัว นายแพทย์บุญ ซี่งเป็นผู้จัดการเรื่องการเงิน และการบัญชีสัญญากู้เงินทั้งหมด ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5646/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.3.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน ตามคำสั่ง น.ส.จิดาภา อาทิ การจ่ายเงินให้กับผู้เสียหาย เป็นผู้จ่ายเช็ค พร้อมทั้งติดต่อตัวแทนต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5647/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.4.นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค เป็นผู้ถือหุ้น THG ซึ่งนำมาค้ำประกันในสัญญากู้ต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5648/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.5.น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ และ นางจารุวรรณ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ และ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5649/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.6.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน และมอบหมายให้คนนำสัญญากู้ยืม ทำสัญญาค้ำประกัน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5650/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.7.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด ร่วมกับนางอัจจิมา เป็นผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน ผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5651/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.8.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน เป็นผู้จัดทำเอกสารเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาค้ำประกัน หนังสือส่งมอบเช็ค สัญญาซื้อและขายหุ้นคืนและหนังสือชำระหนี้ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5652/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.9.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ สัญญาค้ำประกัน และเป็นผู้นำสัญญามามอบให้ผู้เสียหาย ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5653/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในห้วงวันที่ 2-4 ก.พ.66 นายแพทย์บุญ ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง โดยออกสื่อสารธารณะแพร่ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยกล่าวอ้างการลงทุนที่น่าสนใจ จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ .1.โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า พื้นที่ 7 ไร่ งบลงทุน 4,๐๐๐ ล้านบาท (ทันสมัยที่สุดในเอเชีย) 2.โครงการเวสเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ 5 ไร่เศษ งบลงทุนประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท (อาคารที่พักสูง 52 ชั้น รองรับผู้สูงวัย 400 ห้อง).3.โครงการสร้างโรงพยาบาลใน สปป.ลาว จำนวน 3 แห่ง (ในเวียงจันทร์ 2 แห่ง, จำปาสัก 1 แห่ง) 4.โครงการเข้าร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลในเวียดนาม โดยใช้งบลงทุน ประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท และ 5.โครงการสร้างเมดิคอล อินเทลลิเจน (Medical Intelligen) ซึ่งทำหน้าที่ด้านไอที ใช้งบประมาณ 1๐๐ ล้านบาท โดยหากมีการร่วมลงทุน ในปี 66 อ้างว่าจะได้กำไร 7๐๐ ล้านบาท และในปี 67 อ้างว่าจะได้กำไรเพิ่มขึ้นเป็น  1,000 ล้านบาท.จากนั้นจึงมีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรวงการแพทย์ หลายร้อยราย หลงเชื่อเพราะ นายแพทย์บุญ และครอบครัว มีบริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายแห่ง จึงเข้าร่วมลงทุน ผ่านการติดต่อจากตัวแทน (โบรกเกอร์) บริษัทหลักทรัพย์ เป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุน ให้นายแพทย์บุญ และครอบครัว.ตลอดจนการลงทุนในลักษณะโครงการที่เสนอให้ลงทุนในรูปแบบที่ นายแพทย์บุญ ทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยกับผู้เสียหาย และได้จ่ายเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ พร้อมทั้งเช็คเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยล่วงหน้า ในชื่อนายแพทย์บุญ วนาสิน พร้อมทั้งมี นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน บุคคลในครอบครัวเป็น ผู้ค้ำประกันตามสัญญา.นอกจากนี้ นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน ทั้งสองคนยังเซ็นต์สลักหลังในเช็คทุกใบของนายแพทย์บุญ วนาสิน มอบให้แก่ผู้ให้กู้ โดยในช่วงแรกมีการให้ดอกเบี้ย แต่ต่อมาไม่มีการชำระแต่อย่างใด ในส่วนเช็คที่ออกไว้ เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินตามวันเวลาที่สั่งจ่าย ปรากฎว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จนกระทั่งต่อมาจากการตรวจสอบพบว่า นายแพทย์บุญ ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทย ในวันที่ 29 ก.ย.67 เวลา 14.25 น. โดยสายการบินคาร์เธฯออกไปประเทศจีน โดยมีพฤติการณ์หลบหนี.ซึ่งในกรณี ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.66 – ต.ค.67 มีกลุ่มผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 แล้วจำนวน 527 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย กว่า 7,564,433,637 บาท (เจ็ดพันห้าร้อยหกสิบสี่ล้านสี่แสนสามหมื่นสามพันหกร้อยสามสิบเจ็ดบาท) โดยในทันทีที่ศาลอนุมติหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จึงได้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา เอาไว้ได้แล้ว จำนวน 6 ราย  คือ.1.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี 2.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี 3.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี 4.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี 5.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี และ 6.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ยังเหลือที่ยังหลบหนีไปได้อีก 3 ราย คือ นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ กับ นางจารุวรรณ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลเห็นควรอนุมัติให้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวนี้ไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ DSI เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ โดยจะแถลงความคืบหน้าให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป (จบ 3/3)......Sondhi X
    จากกรณีที่เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ออกรายการสนธิเล่าเรื่อง เพื่อเปิดโปงพฤติกรรมของ นายแพทย์บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้เพื่อกู้เงินผ่านเอเย่นต์ จนได้รับความเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะมีผู้เสียหายที่ถูกนายแพทย์คนดัง ฉ้อโกงฯ เงิน ผ่านกลโกงการทำธุรกรรม ชักชวนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อีกหลายราย จนอาจทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างนับหมื่นล้าน กระทั่งมีรายงานด้วยว่าขณะนี้ นายแพทย์บุญ วนาสิน น่าจะหลบหนีคดีไปยังต่างประเทศแล้ว.ความคืบหน้าเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 22 พ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 และ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่ง บก.น.1 ที่ 285/2567 ลงวันที่ 11 พ.ย.67 ไปขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา จนสามารถนำมาสู่การออกหมายจับ นายแพทย์บุญ วนาสิน รวมถึงผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการ และมีพฤติการณ์ เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ได้ 9 คน ได้แก่.1.นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5645/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน, ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็คนั้น.2.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี เลขาส่วนตัว นายแพทย์บุญ ซี่งเป็นผู้จัดการเรื่องการเงิน และการบัญชีสัญญากู้เงินทั้งหมด ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5646/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.3.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน ตามคำสั่ง น.ส.จิดาภา อาทิ การจ่ายเงินให้กับผู้เสียหาย เป็นผู้จ่ายเช็ค พร้อมทั้งติดต่อตัวแทนต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5647/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.4.นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค เป็นผู้ถือหุ้น THG ซึ่งนำมาค้ำประกันในสัญญากู้ต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5648/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.5.น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ และ นางจารุวรรณ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ และ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5649/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.6.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน และมอบหมายให้คนนำสัญญากู้ยืม ทำสัญญาค้ำประกัน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5650/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.7.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด ร่วมกับนางอัจจิมา เป็นผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน ผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5651/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.8.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน เป็นผู้จัดทำเอกสารเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาค้ำประกัน หนังสือส่งมอบเช็ค สัญญาซื้อและขายหุ้นคืนและหนังสือชำระหนี้ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5652/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.9.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ สัญญาค้ำประกัน และเป็นผู้นำสัญญามามอบให้ผู้เสียหาย ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5653/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในห้วงวันที่ 2-4 ก.พ.66 นายแพทย์บุญ ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง โดยออกสื่อสารธารณะแพร่ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยกล่าวอ้างการลงทุนที่น่าสนใจ จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ .1.โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า พื้นที่ 7 ไร่ งบลงทุน 4,๐๐๐ ล้านบาท (ทันสมัยที่สุดในเอเชีย) 2.โครงการเวสเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ 5 ไร่เศษ งบลงทุนประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท (อาคารที่พักสูง 52 ชั้น รองรับผู้สูงวัย 400 ห้อง).3.โครงการสร้างโรงพยาบาลใน สปป.ลาว จำนวน 3 แห่ง (ในเวียงจันทร์ 2 แห่ง, จำปาสัก 1 แห่ง) 4.โครงการเข้าร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลในเวียดนาม โดยใช้งบลงทุน ประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท และ 5.โครงการสร้างเมดิคอล อินเทลลิเจน (Medical Intelligen) ซึ่งทำหน้าที่ด้านไอที ใช้งบประมาณ 1๐๐ ล้านบาท โดยหากมีการร่วมลงทุน ในปี 66 อ้างว่าจะได้กำไร 7๐๐ ล้านบาท และในปี 67 อ้างว่าจะได้กำไรเพิ่มขึ้นเป็น  1,000 ล้านบาท.จากนั้นจึงมีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรวงการแพทย์ หลายร้อยราย หลงเชื่อเพราะ นายแพทย์บุญ และครอบครัว มีบริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายแห่ง จึงเข้าร่วมลงทุน ผ่านการติดต่อจากตัวแทน (โบรกเกอร์) บริษัทหลักทรัพย์ เป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุน ให้นายแพทย์บุญ และครอบครัว.ตลอดจนการลงทุนในลักษณะโครงการที่เสนอให้ลงทุนในรูปแบบที่ นายแพทย์บุญ ทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยกับผู้เสียหาย และได้จ่ายเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ พร้อมทั้งเช็คเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยล่วงหน้า ในชื่อนายแพทย์บุญ วนาสิน พร้อมทั้งมี นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน บุคคลในครอบครัวเป็น ผู้ค้ำประกันตามสัญญา.นอกจากนี้ นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน ทั้งสองคนยังเซ็นต์สลักหลังในเช็คทุกใบของนายแพทย์บุญ วนาสิน มอบให้แก่ผู้ให้กู้ โดยในช่วงแรกมีการให้ดอกเบี้ย แต่ต่อมาไม่มีการชำระแต่อย่างใด ในส่วนเช็คที่ออกไว้ เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินตามวันเวลาที่สั่งจ่าย ปรากฎว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จนกระทั่งต่อมาจากการตรวจสอบพบว่า นายแพทย์บุญ ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทย ในวันที่ 29 ก.ย.67 เวลา 14.25 น. โดยสายการบินคาร์เธฯออกไปประเทศจีน โดยมีพฤติการณ์หลบหนี.ซึ่งในกรณี ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.66 – ต.ค.67 มีกลุ่มผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 แล้วจำนวน 527 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย กว่า 7,564,433,637 บาท (เจ็ดพันห้าร้อยหกสิบสี่ล้านสี่แสนสามหมื่นสามพันหกร้อยสามสิบเจ็ดบาท) โดยในทันทีที่ศาลอนุมติหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จึงได้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา เอาไว้ได้แล้ว จำนวน 6 ราย  คือ.1.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี 2.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี 3.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี 4.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี 5.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี และ 6.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ยังเหลือที่ยังหลบหนีไปได้อีก 3 ราย คือ นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ กับ นางจารุวรรณ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลเห็นควรอนุมัติให้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวนี้ไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ DSI เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ โดยจะแถลงความคืบหน้าให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป (จบ 3/3)......Sondhi X
    Like
    Yay
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 713 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกี่ยวกับป้ายทะเบียน...วิธีคำนวณของผู้เขียน คือ เอาเฉพาะตัวเลขเท่านั้น...ตัวอักษรไม่มีการกำหนดค่าเป็นตัวเลขแต่อย่างใด...มาดูวิธีคิดกัน...ตัวอักษร กำหนดเป็นตัวเลขได้ตั้งแต่เมื่อใด ..ใครคิดทฤษฎีนี้ ..อ้างอิงจากหลักการใด .ตำราหรือหนังสือ บทความในอดีต ของผู้รู้แจ้งคนใด แล้ว ทุกชาติมีภาษาต่างกัน กำหนดอย่างไร แทนค่าอย่างไร...ด้วยหลักคิดเหล่านี้ ผู้เขียนไม่มีสิ่งสนับสนุนให้เชื่อแนวคิดนี้ได้เลย...แต่ตัวเลข 0-9 มันมาตรฐานทั้งโลก...แต่นี่คือนิสัยคนไทย..ใครบัญญัติขึ้นมาด้วยเหตุผลใด มีความรู้หรืออะไรแฝงอยู่ไหม...ไม่รู้อะไรสักอย่าง....แต่เชื่อ...และถ่ายทอดต่อ....บางคนการันตีตามไปด้วย....
    เกี่ยวกับป้ายทะเบียน...วิธีคำนวณของผู้เขียน คือ เอาเฉพาะตัวเลขเท่านั้น...ตัวอักษรไม่มีการกำหนดค่าเป็นตัวเลขแต่อย่างใด...มาดูวิธีคิดกัน...ตัวอักษร กำหนดเป็นตัวเลขได้ตั้งแต่เมื่อใด ..ใครคิดทฤษฎีนี้ ..อ้างอิงจากหลักการใด .ตำราหรือหนังสือ บทความในอดีต ของผู้รู้แจ้งคนใด แล้ว ทุกชาติมีภาษาต่างกัน กำหนดอย่างไร แทนค่าอย่างไร...ด้วยหลักคิดเหล่านี้ ผู้เขียนไม่มีสิ่งสนับสนุนให้เชื่อแนวคิดนี้ได้เลย...แต่ตัวเลข 0-9 มันมาตรฐานทั้งโลก...แต่นี่คือนิสัยคนไทย..ใครบัญญัติขึ้นมาด้วยเหตุผลใด มีความรู้หรืออะไรแฝงอยู่ไหม...ไม่รู้อะไรสักอย่าง....แต่เชื่อ...และถ่ายทอดต่อ....บางคนการันตีตามไปด้วย....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว