• กองทัพโดรนเขมร สงครามคลื่นความถี่ ที่คนไทยต้องจับตา (2/8/68)
    Khmer Drone Army: A Frequency War Thailand Must Watch

    #TruthFromThailand
    #CambodiaNoCeasefire
    #CambodianDeception
    #Hunsenfiredfirst
    #กัมพูชายิงก่อน
    #สงครามไซเบอร์
    #สงครามโดรน
    #จับตาเขมร
    #สงครามใหม่
    #ข่าวด่วนชายแดน
    #News1 #Shorts #เปิดโปงความจริง
    กองทัพโดรนเขมร สงครามคลื่นความถี่ ที่คนไทยต้องจับตา (2/8/68) Khmer Drone Army: A Frequency War Thailand Must Watch #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #CambodianDeception #Hunsenfiredfirst #กัมพูชายิงก่อน #สงครามไซเบอร์ #สงครามโดรน #จับตาเขมร #สงครามใหม่ #ข่าวด่วนชายแดน #News1 #Shorts #เปิดโปงความจริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ระบบโลกใหม่หลังสงครามโลกครั้งต่อไปจะถูกกำหนดโดยผลลัพธ์ของสงคราม ความเสียหายที่เกิดขึ้น และการจัดระเบียบอำนาจใหม่โดยผู้ชนะ หากเกิดขึ้นจริง สงครามโลกครั้งต่อไปอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายด้าน ดังนี้:

    ### 1. **การเมืองระหว่างประเทศ**
    - **การล่มสลายของระเบียบโลกเดิม**: สหภาพยุโรป (EU), NATO, หรือสหประชาชาติ (UN) อาจถูกปรับโครงสร้างหรือแทนที่ด้วยองค์กรระหว่างประเทศใหม่ที่ควบคุมโดยมหาอำนาจผู้ชนะ
    - **การขึ้นมาของขั้วอำนาจใหม่**: หากสงครามเป็นแบบ "หลายฝ่าย" (เช่น สหรัฐฯ vs จีน vs รัสเซีย) อาจเกิดระบบหลายขั้วอำนาจ หรือหากมีผู้ชนะเดี่ยว อาจเกิดระบบจักรวรรดิใหม่
    - **รัฐบาลโลก (Global Government)**: ความเสียหายรุนแรงอาจผลักดันให้เกิดการรวมอำนาจภายใต้หน่วยงานกลางเพื่อป้องกันสงครามครั้งใหม่

    ### 2. **เศรษฐกิจโลก**
    - **ระบบการเงินใหม่**: สกุลเงินหลัก (ดอลลาร์สหรัฐ, ยูโร) อาจถูกแทนที่ด้วยสกุลดิจิทัลหรือระบบที่ควบคุมโดยมหาอำนาจ
    - **การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสงคราม**: แผน Marshall Plan ฉบับใหม่อาจถูกนำมาใช้เพื่อสร้างประเทศที่เสียหาย
    - **การควบคุมทรัพยากร**: พลังงาน อาหาร และเทคโนโลยีอาจถูกกระจายใหม่ตามผลประโยชน์ของผู้ชนะ

    ### 3. **เทคโนโลยีและความมั่นคง**
    - **การควบคุมเทคโนโลยีทำลายล้างสูง**: AI, อาวุธชีวภาพ หรือนิวเคลียร์อาจถูกควบคุมโดยกฎหมายระหว่างประเทศที่เข้มงวดขึ้น
    - **การเฝ้าระวังระดับโลก**: รัฐบาลอาจใช้ระบบตรวจสอบประชากรแบบเรียลไทม์เพื่อป้องกันความไม่สงบ

    ### 4. **สังคมและวัฒนธรรม**
    - **การรวมหรือแบ่งแยกวัฒนธรรม**: วัฒนธรรมของผู้ชนะอาจถูกส่งเสริม ในขณะที่วัฒนธรรมของ "ฝ่ายแพ้" อาจถูกกดทับ
    - **การย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่**: จากการทำลายล้างของสงคราม ผู้คนอาจอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยมากขึ้น

    ### 5. **สิ่งแวดล้อม**
    - **ความพยายามฟื้นฟูโลก**: หากสงครามก่อความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม (เช่น สงครามนิวเคลียร์) อาจมีโครงการฟื้นฟูขนาดใหญ่
    - **พลังงานสะอาด**: การพึ่งพาพลังงานฟอสซิลอาจลดลง หากโครงสร้างพื้นฐานถูกทำลายและต้องสร้างใหม่ทั้งหมด

    ### 6. **เสถียรภาพในระยะยาว**
    - **ความขัดแย้งแฝง**: แม้สงครามจะจบ แต่ความไม่พอใจของฝ่ายแพ้อาจนำไปสู่การก่อการร้ายหรือสงครามตัวแทน
    - **ระบบป้องกันสงครามใหม่**: อาจมีการสร้างกลไกป้องกันสงครามโลกครั้งที่ 4 เช่น ข้อตกลงควบคุมอาวุธที่เข้มงวดขึ้น

    ### สถานการณ์สมมติ (ตัวอย่าง)
    - **หากสงครามเป็นสงครามเย็น 2.0**: โลกอาจแบ่งเป็น 2 ขั้วอำนาจ (สหรัฐฯ-ยุโรป vs จีน-รัสเซีย) โดยมีการแข่งขันทางเทคโนโลยีแทนการทำสงครามโดยตรง
    - **หากเป็นสงครามนิวเคลียร์จำกัด**: มหาอำนาจอาจสูญเสียอำนาจ เกิดภาวะสุญญากาศทางการเมือง และประเทศเล็กๆ อาจขึ้นมามีบทามมากขึ้น
    - **หากเป็นสงครามโลกแบบดั้งเดิม**: อาจเกิดการล่มสลายของรัฐชาติ และแทนที่ด้วยเขตปกครองแบบภูมิภาคที่ควบคุมโดยกองทัพ

    ### บทสรุป
    ระบบโลกใหม่จะขึ้นอยู่กับว่า **"ใครชนะ และแพ้อย่างไร"** แต่สิ่งที่แน่นอนคือ สงครามโลกครั้งต่อไปจะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ เนื่องจากเทคโนโลยีและความเชื่อมโยงของโลกที่เปลี่ยนไป อาจไม่มีผู้ชนะที่แท้จริง แต่เป็นโลกที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันฟื้นฟูจากความเสียหายอันมหาศาล
    ระบบโลกใหม่หลังสงครามโลกครั้งต่อไปจะถูกกำหนดโดยผลลัพธ์ของสงคราม ความเสียหายที่เกิดขึ้น และการจัดระเบียบอำนาจใหม่โดยผู้ชนะ หากเกิดขึ้นจริง สงครามโลกครั้งต่อไปอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายด้าน ดังนี้: ### 1. **การเมืองระหว่างประเทศ** - **การล่มสลายของระเบียบโลกเดิม**: สหภาพยุโรป (EU), NATO, หรือสหประชาชาติ (UN) อาจถูกปรับโครงสร้างหรือแทนที่ด้วยองค์กรระหว่างประเทศใหม่ที่ควบคุมโดยมหาอำนาจผู้ชนะ - **การขึ้นมาของขั้วอำนาจใหม่**: หากสงครามเป็นแบบ "หลายฝ่าย" (เช่น สหรัฐฯ vs จีน vs รัสเซีย) อาจเกิดระบบหลายขั้วอำนาจ หรือหากมีผู้ชนะเดี่ยว อาจเกิดระบบจักรวรรดิใหม่ - **รัฐบาลโลก (Global Government)**: ความเสียหายรุนแรงอาจผลักดันให้เกิดการรวมอำนาจภายใต้หน่วยงานกลางเพื่อป้องกันสงครามครั้งใหม่ ### 2. **เศรษฐกิจโลก** - **ระบบการเงินใหม่**: สกุลเงินหลัก (ดอลลาร์สหรัฐ, ยูโร) อาจถูกแทนที่ด้วยสกุลดิจิทัลหรือระบบที่ควบคุมโดยมหาอำนาจ - **การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสงคราม**: แผน Marshall Plan ฉบับใหม่อาจถูกนำมาใช้เพื่อสร้างประเทศที่เสียหาย - **การควบคุมทรัพยากร**: พลังงาน อาหาร และเทคโนโลยีอาจถูกกระจายใหม่ตามผลประโยชน์ของผู้ชนะ ### 3. **เทคโนโลยีและความมั่นคง** - **การควบคุมเทคโนโลยีทำลายล้างสูง**: AI, อาวุธชีวภาพ หรือนิวเคลียร์อาจถูกควบคุมโดยกฎหมายระหว่างประเทศที่เข้มงวดขึ้น - **การเฝ้าระวังระดับโลก**: รัฐบาลอาจใช้ระบบตรวจสอบประชากรแบบเรียลไทม์เพื่อป้องกันความไม่สงบ ### 4. **สังคมและวัฒนธรรม** - **การรวมหรือแบ่งแยกวัฒนธรรม**: วัฒนธรรมของผู้ชนะอาจถูกส่งเสริม ในขณะที่วัฒนธรรมของ "ฝ่ายแพ้" อาจถูกกดทับ - **การย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่**: จากการทำลายล้างของสงคราม ผู้คนอาจอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยมากขึ้น ### 5. **สิ่งแวดล้อม** - **ความพยายามฟื้นฟูโลก**: หากสงครามก่อความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม (เช่น สงครามนิวเคลียร์) อาจมีโครงการฟื้นฟูขนาดใหญ่ - **พลังงานสะอาด**: การพึ่งพาพลังงานฟอสซิลอาจลดลง หากโครงสร้างพื้นฐานถูกทำลายและต้องสร้างใหม่ทั้งหมด ### 6. **เสถียรภาพในระยะยาว** - **ความขัดแย้งแฝง**: แม้สงครามจะจบ แต่ความไม่พอใจของฝ่ายแพ้อาจนำไปสู่การก่อการร้ายหรือสงครามตัวแทน - **ระบบป้องกันสงครามใหม่**: อาจมีการสร้างกลไกป้องกันสงครามโลกครั้งที่ 4 เช่น ข้อตกลงควบคุมอาวุธที่เข้มงวดขึ้น ### สถานการณ์สมมติ (ตัวอย่าง) - **หากสงครามเป็นสงครามเย็น 2.0**: โลกอาจแบ่งเป็น 2 ขั้วอำนาจ (สหรัฐฯ-ยุโรป vs จีน-รัสเซีย) โดยมีการแข่งขันทางเทคโนโลยีแทนการทำสงครามโดยตรง - **หากเป็นสงครามนิวเคลียร์จำกัด**: มหาอำนาจอาจสูญเสียอำนาจ เกิดภาวะสุญญากาศทางการเมือง และประเทศเล็กๆ อาจขึ้นมามีบทามมากขึ้น - **หากเป็นสงครามโลกแบบดั้งเดิม**: อาจเกิดการล่มสลายของรัฐชาติ และแทนที่ด้วยเขตปกครองแบบภูมิภาคที่ควบคุมโดยกองทัพ ### บทสรุป ระบบโลกใหม่จะขึ้นอยู่กับว่า **"ใครชนะ และแพ้อย่างไร"** แต่สิ่งที่แน่นอนคือ สงครามโลกครั้งต่อไปจะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ เนื่องจากเทคโนโลยีและความเชื่อมโยงของโลกที่เปลี่ยนไป อาจไม่มีผู้ชนะที่แท้จริง แต่เป็นโลกที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันฟื้นฟูจากความเสียหายอันมหาศาล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 516 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดูดีขึ้นมาหน่อย!"

    ทรัมป์ประกาศแต่งตั้ง Tulsi Gabbard ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (Director of National Intelligence)

    หลังจากมีการประกาศรายชื่อรัฐมนตรีและทีมงานของทรัมป์ผ่านมาได้สองสามวัน ยังไม่ถูกใจชาวโปรรัสเซียสักเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้คงพอยิ้มได้ เมื่อทรัมป์ประกาศรายชื่อ "ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ" คนใหม่ คือ "พันตรีหญิง ทูลซี แกบบาร์ด"

    ทูลซี่ แกบบาร์ด เป็นอดีต สส.พรรคเดโมแครตจากรัฐฮาวาย และทหารผ่านศึกในสงครามซีเรีย เธอลาออกจากพรรคเดโมแครตในปี 2022 โดยให้เหตุผลว่า "พรรคกำลังตกอยู่ภายใต้การควบคุมโดยสมบูรณ์ของกลุ่มผู้กระหายสงคราม"

    แกบบาร์ด หันมาสนับสนุนทรัมป์ ซึ่งอยู่พรรครีพับลิกันอย่างเต็มตัว ในการสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งนี้ เธอกล่าวชื่นชมนโยบายต่างประเทศที่เป็นเอกเทศและไม่ไปวุ่นวายกับภูมิรัฐศาสตร์โลกของทรัมป์ โดยระบุว่า “เราเห็นสิ่งนี้ผ่านวาระแรกของเขาในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาไม่เพียงแต่ไม่ก่อสงครามใหม่ใดๆ แต่ยังลงมือปฏิบัติเพื่อลดระดับความรุนแรงและป้องกันสงครามอีกด้วย”

    เธอยังวิจารณ์ รัฐบาลไบเดนว่า “ทำให้สหรัฐต้องเผชิญกับสงครามหลายครั้งในหลายแนวรบในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก… และโลกเข้าใกล้การเกิดสงครามนิวเคลียร์ไปทุกขณะอย่างที่ไม่เคยเป็นก่อน”

    แกบบาร์ด ต่อต้านนโยบายการให้เงินทุนแก่กองทัพยูเครนของประธานาธิบดี โจ ไบเดน มาโดยตลอด และยังวิจารณ์ไบเดนว่า สามารถป้องกันไม่ให้กิดสงครามในยูเครนได้ตั้งแต่แรก เพียงแค่บอกกับเซเลนสกีไปตรงๆว่า ยูเครนจะไม่มีโอกาสเข้าเป็นสมาชิกนาโต เพราะความจริงคือยูเครนไม่มีโอกาสสักนิดเดียวที่จะเข้าใกล้การเป็นสมาชิกนาโต แต่ไบเดนเลือกที่จะไม่ทำแบบนั้น ในความจริงผู้นำนาโตและสหรัฐอาจต้องการให้รัสเซียบุกยูเครน เพียงเพื่อต้องการใช้มาตรการคว่ำบาตรมหาโหดต่อรัสเซีย เพียงเพื่อต้องการหยุดรัสเซียไม่ให้พัฒนาไปได้เร็วเท่าทุกวันนี้

    นอกจากนี้เธอยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกคือ:
    - มีจุดยืนต่อต้านสงครามในตะวันออกกลาง อย่างชัดเจน
    - เธอเดินทางไปประเทศซีเรีย เพื่อสืบสวนว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนจริงหรือไม่ ซึ่งผลปรากฏว่าไม่เป็นความจริง จนตัวเธอถูกสื่อกระแสหลักในสหรัฐฯ กล่าวหาว่าเข้าข้าง “รัฐบาลเผด็จการซีเรีย”
    - เมื่อปี 2017 เธอออกมาเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะว่า รัฐบาลสหรัฐฯคือผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มไอซิส กลุ่มอัลเคด้า และกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มอื่นๆในซีเรีย
    - เมื่อ 4 เดือนที่แล้ว Tulsi Gabbard ถูกรัฐบาล Biden/Harris จัดให้อยู่ในรายชื่อเฝ้าระวังการก่อการร้ายภายในประเทศ และตอนนี้ เธอเป็นผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติคนต่อไปเรียบร้อยแล้ว
    - เธออยู่ในรายชื่อบนเว็บไซต์ Myrotvorets ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของยูเครน ซึ่งมักจะระบุรายชื่อบุคคลที่ต่อต้านยูเครน และเป็นที่ต้องการตัวในยูเครน โดยถูกกล่าวหาว่าเธอเป็นสายลับของรัสเซีย
    - ก่อนสงครามยูเครน-รัสเซียจะเริ่มต้นขึ้น เธอเคยวิจารณ์รัฐบาลยูเครนอย่างรุนแรง โดยเรียกเซเลนสกีว่าเป็น "เผด็จ" และเรียกร้องให้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย เธอยังคงยืนยันคำพูดของเธอ แม้ว่ารัสเซียเริ่มบุกยูเครนไปแล้วก็ตาม
    "ดูดีขึ้นมาหน่อย!" ทรัมป์ประกาศแต่งตั้ง Tulsi Gabbard ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (Director of National Intelligence) หลังจากมีการประกาศรายชื่อรัฐมนตรีและทีมงานของทรัมป์ผ่านมาได้สองสามวัน ยังไม่ถูกใจชาวโปรรัสเซียสักเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้คงพอยิ้มได้ เมื่อทรัมป์ประกาศรายชื่อ "ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ" คนใหม่ คือ "พันตรีหญิง ทูลซี แกบบาร์ด" ทูลซี่ แกบบาร์ด เป็นอดีต สส.พรรคเดโมแครตจากรัฐฮาวาย และทหารผ่านศึกในสงครามซีเรีย เธอลาออกจากพรรคเดโมแครตในปี 2022 โดยให้เหตุผลว่า "พรรคกำลังตกอยู่ภายใต้การควบคุมโดยสมบูรณ์ของกลุ่มผู้กระหายสงคราม" แกบบาร์ด หันมาสนับสนุนทรัมป์ ซึ่งอยู่พรรครีพับลิกันอย่างเต็มตัว ในการสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งนี้ เธอกล่าวชื่นชมนโยบายต่างประเทศที่เป็นเอกเทศและไม่ไปวุ่นวายกับภูมิรัฐศาสตร์โลกของทรัมป์ โดยระบุว่า “เราเห็นสิ่งนี้ผ่านวาระแรกของเขาในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาไม่เพียงแต่ไม่ก่อสงครามใหม่ใดๆ แต่ยังลงมือปฏิบัติเพื่อลดระดับความรุนแรงและป้องกันสงครามอีกด้วย” เธอยังวิจารณ์ รัฐบาลไบเดนว่า “ทำให้สหรัฐต้องเผชิญกับสงครามหลายครั้งในหลายแนวรบในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก… และโลกเข้าใกล้การเกิดสงครามนิวเคลียร์ไปทุกขณะอย่างที่ไม่เคยเป็นก่อน” แกบบาร์ด ต่อต้านนโยบายการให้เงินทุนแก่กองทัพยูเครนของประธานาธิบดี โจ ไบเดน มาโดยตลอด และยังวิจารณ์ไบเดนว่า สามารถป้องกันไม่ให้กิดสงครามในยูเครนได้ตั้งแต่แรก เพียงแค่บอกกับเซเลนสกีไปตรงๆว่า ยูเครนจะไม่มีโอกาสเข้าเป็นสมาชิกนาโต เพราะความจริงคือยูเครนไม่มีโอกาสสักนิดเดียวที่จะเข้าใกล้การเป็นสมาชิกนาโต แต่ไบเดนเลือกที่จะไม่ทำแบบนั้น ในความจริงผู้นำนาโตและสหรัฐอาจต้องการให้รัสเซียบุกยูเครน เพียงเพื่อต้องการใช้มาตรการคว่ำบาตรมหาโหดต่อรัสเซีย เพียงเพื่อต้องการหยุดรัสเซียไม่ให้พัฒนาไปได้เร็วเท่าทุกวันนี้ นอกจากนี้เธอยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกคือ: - มีจุดยืนต่อต้านสงครามในตะวันออกกลาง อย่างชัดเจน - เธอเดินทางไปประเทศซีเรีย เพื่อสืบสวนว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนจริงหรือไม่ ซึ่งผลปรากฏว่าไม่เป็นความจริง จนตัวเธอถูกสื่อกระแสหลักในสหรัฐฯ กล่าวหาว่าเข้าข้าง “รัฐบาลเผด็จการซีเรีย” - เมื่อปี 2017 เธอออกมาเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะว่า รัฐบาลสหรัฐฯคือผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มไอซิส กลุ่มอัลเคด้า และกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มอื่นๆในซีเรีย - เมื่อ 4 เดือนที่แล้ว Tulsi Gabbard ถูกรัฐบาล Biden/Harris จัดให้อยู่ในรายชื่อเฝ้าระวังการก่อการร้ายภายในประเทศ และตอนนี้ เธอเป็นผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติคนต่อไปเรียบร้อยแล้ว 🔥 - เธออยู่ในรายชื่อบนเว็บไซต์ Myrotvorets ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของยูเครน ซึ่งมักจะระบุรายชื่อบุคคลที่ต่อต้านยูเครน และเป็นที่ต้องการตัวในยูเครน โดยถูกกล่าวหาว่าเธอเป็นสายลับของรัสเซีย - ก่อนสงครามยูเครน-รัสเซียจะเริ่มต้นขึ้น เธอเคยวิจารณ์รัฐบาลยูเครนอย่างรุนแรง โดยเรียกเซเลนสกีว่าเป็น "เผด็จ" และเรียกร้องให้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย เธอยังคงยืนยันคำพูดของเธอ แม้ว่ารัสเซียเริ่มบุกยูเครนไปแล้วก็ตาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 670 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮิซบอลเลาะห์-ฮามาสยิงจรวดโจมตีเมืองไฮฟาและกรุงเทลอาวีฟ นครใหญ่อันดับ 3 และอันดับ 1 ของอิสราเอลเมื่อเช้าวันจันทร์ (7 ต.ค.) ขณะที่รัฐยิวรำลึกครบรอบ 1 ปีฮามาสบุกโจมตีภาคใต้อิสราเอลแบบช็อกโลก ควบคู่กับการวางแผนขยายปฏิบัติการภาคพื้นดินในภาคใต้ของเลบานอนเพื่อบดขยี้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ทางด้านกองกำลังคุดส์ของอิหร่านระบุ เอสมาอิล กานี ผู้บัญชาการระดับสูงของตน “สบายดี” หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเขาอยู่ในบริเวณที่ถูกอิสราเอลบอมบ์ในกรุงเบรุตและขาดการติดต่อตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
    .
    ฮิซบอลเลาะห์ กลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านและเป็นพันธมิตรกับกลุ่มฮามาสในกาซา แถลงในวันจันทร์ว่า ยิงขีปนาวุธ “ฟาดี 1” เข้าโจมตีฐานทัพของอิสราเอลทางตอนใต้ของเมืองไฮฟา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของอิสราเอล และเมืองทิเบเรียส ที่อยู่ห่างออกไป 65 กม.
    .
    ตำรวจอิสราเอลยืนยันว่า มีจรวดยิงไปที่เมืองท่าไฮฟาจริง และสื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บ 10 คน
    .
    ด้านกองทัพอิสราเอลแถลงว่า มีจรวด 5 ลูกยิงจากเลบานอนไปที่ไฮฟา แต่อิสราเอลได้ยิงสกัดทำให้มีชิ้นส่วนจรวดตกลงในบริเวณดังกล่าว และกองทัพกำลังสอบสวนเหตุการณ์นี้อยู่
    .
    คำแถลงยังยืนยันว่า ทิเบเรียสถูกโจมตีด้วยจรวด 15 ลูก แต่บางลูกถูกสกัดได้ ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีจรวดอีก 5 ลูกโจมตีใส่เมืองดังกล่าว ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ สำหรับตำรวจบอกว่า ตึกบางแห่งเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวนหนึ่ง
    .
    กองทัพอิสราเอลสำทับว่า มีจรวดอย่างน้อย 4 ลูกยิงมาจากกาซา หลังจากอิสราเอลเริ่มพิธีรำลึกครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์ฮามาสบุกโจมตีภาคใต้ของรัฐยิวเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ได้เพียงไม่กี่นาที และกองทัพได้ตอบโต้ด้วยการโจมตีสถานที่ยิงจรวดของฮามาส รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานการก่อการร้ายใต้ดินในกาซา
    .
    นอกจากนี้ทางเหนือและตอนกลางของอิสราเอลที่เคยเป็นเป้าการโจมตีด้วยจรวดจากเลบานอนและกาซาเป็นประจำทุกวัน ยังมีรายงานเสียงไซเรนดังระงม
    .
    ขณะเดียวกัน ฝ่ายติดอาวุธของกลุ่มฮามาสออกคำแถลงระบุว่า นักรบของตนได้ยิงจรวดโจมตี “กิจกรรมการชุมนุมของศัตรู” ใกล้ชายแดนกาซา และในเวลาต่อมายังเผยว่า ยิงจรวดโจมตีนครเทลอาวีฟด้วย
    .
    กองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลได้รับคำสั่งให้อยู่ในภาวะเตรียมพร้อมเต็มที่ทั่วประเทศในวันจันทร์ และประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซ็อก ของรัฐยิว เป็นประธานเริ่มพิธีรำลึกครบรอบ 1 ปี ด้วยการยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตเมื่อเวลา 6.29 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ฮามาสเริ่มโจมตีคิบบุซไรม์ ซึ่งในขณะนั้นเป็นสถานที่จัดเทศกาลดนตรีโนวา และมีผู้ถูกฮามาสสังหารไปอย่างน้อย 370 คน
    .
    ทางด้านเทลอาวีฟ ครอบครัวตัวประกันและพวกผู้สนับสนุนได้จัดการชุมนุมตั้งแต่เช้าตรู่เรียกร้องให้ช่วยตัวประกันกลับบ้านอย่างปลอดภัย อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกันนั้นมีการประกาศว่า พบตัวประกันอีกคนที่ถูกจับไปจากเทศกาลดนตรีโนวาเสียชีวิต
    .
    พิธีรำลึกคราวนี้เกิดขึ้นขณะที่อิสราเอลยังคงสู้รบในกาซาและเปิดสงครามใหม่เข้าสู่ตอนเหนือของเลบานอนเพื่อมุ่งกวาดล้างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ รวมทั้งกำลังเตรียมการตอบโต้อิหร่านที่ยิงขีปนาวุธหลายร้อยลูกโจมตีอิสราเอลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จุดชนวนความกังวลว่า อาจเกิดสงครามเต็มรูปแบบทั่วตะวันออกกลาง และดึงอเมริกาตลอดจนถึงอิหร่านเข้าตะลุมบอนด้วย
    .
    นับจากเดือนที่แล้ว อิสราเอลระดมโจมตีที่มั่นของฮิซบอลเลาะห์ทั่วเลบานอนและเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดิน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,110 คน และประชาชนกว่าล้านคนต้องทิ้งบ้านเรือน
    .
    กองทัพอิสราเอลบอกว่า เมื่อราวเที่ยงคืนวันอาทิตย์ (6 ต.ค.) ได้โจมตีพื้นที่ตอนใต้เมืองหลวงเบรุตของเลบานอน ซึ่งพวกเขาอ้างว่าเป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของฮิซบอลเลาะห์ รวมทั้งโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายฮิซบอลเลาะห์ทางใต้ของเลบานอน และหุบเขาเบกา ทางตะวันออก
    .
    ด้านเจ้าหน้าที่ของเลบานอนกล่าวว่า อิสราเอลถล่มโจมตีใกล้สนามบินนานาชาติในกรุงเบรุตเพื่อขัดขวางไม่ให้หน่วยกู้ภัยเข้าไปค้นหาฮาเชม ซาฟิดดีน ผู้ที่คาดว่าจะได้รับแต่งตั้งเป็นผู้นำฮิซบอลเลาะห์คนใหม่ และมีข่าวว่า ขาดการติดต่อตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้วหลังจากอิสราเอลโจมตีบริเวณดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ (4 ต.ค.)
    .
    อย่างไรก็ตาม สำหรับอิสมาอิล กานี ผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังคุดส์ของอิหร่านที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า อยู่ที่ตอนใต้ของเบรุตระหว่างการโจมตีของอิสราเอลและขาดการติดต่อไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ อิราจ มาสเจดี รองผู้บัญชาการคุดส์ ยืนยันว่า กานี “สบายดี” และอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000095608
    ..............
    Sondhi X

    ฮิซบอลเลาะห์-ฮามาสยิงจรวดโจมตีเมืองไฮฟาและกรุงเทลอาวีฟ นครใหญ่อันดับ 3 และอันดับ 1 ของอิสราเอลเมื่อเช้าวันจันทร์ (7 ต.ค.) ขณะที่รัฐยิวรำลึกครบรอบ 1 ปีฮามาสบุกโจมตีภาคใต้อิสราเอลแบบช็อกโลก ควบคู่กับการวางแผนขยายปฏิบัติการภาคพื้นดินในภาคใต้ของเลบานอนเพื่อบดขยี้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ทางด้านกองกำลังคุดส์ของอิหร่านระบุ เอสมาอิล กานี ผู้บัญชาการระดับสูงของตน “สบายดี” หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเขาอยู่ในบริเวณที่ถูกอิสราเอลบอมบ์ในกรุงเบรุตและขาดการติดต่อตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว . ฮิซบอลเลาะห์ กลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านและเป็นพันธมิตรกับกลุ่มฮามาสในกาซา แถลงในวันจันทร์ว่า ยิงขีปนาวุธ “ฟาดี 1” เข้าโจมตีฐานทัพของอิสราเอลทางตอนใต้ของเมืองไฮฟา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของอิสราเอล และเมืองทิเบเรียส ที่อยู่ห่างออกไป 65 กม. . ตำรวจอิสราเอลยืนยันว่า มีจรวดยิงไปที่เมืองท่าไฮฟาจริง และสื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บ 10 คน . ด้านกองทัพอิสราเอลแถลงว่า มีจรวด 5 ลูกยิงจากเลบานอนไปที่ไฮฟา แต่อิสราเอลได้ยิงสกัดทำให้มีชิ้นส่วนจรวดตกลงในบริเวณดังกล่าว และกองทัพกำลังสอบสวนเหตุการณ์นี้อยู่ . คำแถลงยังยืนยันว่า ทิเบเรียสถูกโจมตีด้วยจรวด 15 ลูก แต่บางลูกถูกสกัดได้ ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีจรวดอีก 5 ลูกโจมตีใส่เมืองดังกล่าว ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ สำหรับตำรวจบอกว่า ตึกบางแห่งเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวนหนึ่ง . กองทัพอิสราเอลสำทับว่า มีจรวดอย่างน้อย 4 ลูกยิงมาจากกาซา หลังจากอิสราเอลเริ่มพิธีรำลึกครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์ฮามาสบุกโจมตีภาคใต้ของรัฐยิวเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ได้เพียงไม่กี่นาที และกองทัพได้ตอบโต้ด้วยการโจมตีสถานที่ยิงจรวดของฮามาส รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานการก่อการร้ายใต้ดินในกาซา . นอกจากนี้ทางเหนือและตอนกลางของอิสราเอลที่เคยเป็นเป้าการโจมตีด้วยจรวดจากเลบานอนและกาซาเป็นประจำทุกวัน ยังมีรายงานเสียงไซเรนดังระงม . ขณะเดียวกัน ฝ่ายติดอาวุธของกลุ่มฮามาสออกคำแถลงระบุว่า นักรบของตนได้ยิงจรวดโจมตี “กิจกรรมการชุมนุมของศัตรู” ใกล้ชายแดนกาซา และในเวลาต่อมายังเผยว่า ยิงจรวดโจมตีนครเทลอาวีฟด้วย . กองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลได้รับคำสั่งให้อยู่ในภาวะเตรียมพร้อมเต็มที่ทั่วประเทศในวันจันทร์ และประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซ็อก ของรัฐยิว เป็นประธานเริ่มพิธีรำลึกครบรอบ 1 ปี ด้วยการยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตเมื่อเวลา 6.29 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ฮามาสเริ่มโจมตีคิบบุซไรม์ ซึ่งในขณะนั้นเป็นสถานที่จัดเทศกาลดนตรีโนวา และมีผู้ถูกฮามาสสังหารไปอย่างน้อย 370 คน . ทางด้านเทลอาวีฟ ครอบครัวตัวประกันและพวกผู้สนับสนุนได้จัดการชุมนุมตั้งแต่เช้าตรู่เรียกร้องให้ช่วยตัวประกันกลับบ้านอย่างปลอดภัย อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกันนั้นมีการประกาศว่า พบตัวประกันอีกคนที่ถูกจับไปจากเทศกาลดนตรีโนวาเสียชีวิต . พิธีรำลึกคราวนี้เกิดขึ้นขณะที่อิสราเอลยังคงสู้รบในกาซาและเปิดสงครามใหม่เข้าสู่ตอนเหนือของเลบานอนเพื่อมุ่งกวาดล้างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ รวมทั้งกำลังเตรียมการตอบโต้อิหร่านที่ยิงขีปนาวุธหลายร้อยลูกโจมตีอิสราเอลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จุดชนวนความกังวลว่า อาจเกิดสงครามเต็มรูปแบบทั่วตะวันออกกลาง และดึงอเมริกาตลอดจนถึงอิหร่านเข้าตะลุมบอนด้วย . นับจากเดือนที่แล้ว อิสราเอลระดมโจมตีที่มั่นของฮิซบอลเลาะห์ทั่วเลบานอนและเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดิน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,110 คน และประชาชนกว่าล้านคนต้องทิ้งบ้านเรือน . กองทัพอิสราเอลบอกว่า เมื่อราวเที่ยงคืนวันอาทิตย์ (6 ต.ค.) ได้โจมตีพื้นที่ตอนใต้เมืองหลวงเบรุตของเลบานอน ซึ่งพวกเขาอ้างว่าเป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของฮิซบอลเลาะห์ รวมทั้งโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายฮิซบอลเลาะห์ทางใต้ของเลบานอน และหุบเขาเบกา ทางตะวันออก . ด้านเจ้าหน้าที่ของเลบานอนกล่าวว่า อิสราเอลถล่มโจมตีใกล้สนามบินนานาชาติในกรุงเบรุตเพื่อขัดขวางไม่ให้หน่วยกู้ภัยเข้าไปค้นหาฮาเชม ซาฟิดดีน ผู้ที่คาดว่าจะได้รับแต่งตั้งเป็นผู้นำฮิซบอลเลาะห์คนใหม่ และมีข่าวว่า ขาดการติดต่อตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้วหลังจากอิสราเอลโจมตีบริเวณดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ (4 ต.ค.) . อย่างไรก็ตาม สำหรับอิสมาอิล กานี ผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังคุดส์ของอิหร่านที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า อยู่ที่ตอนใต้ของเบรุตระหว่างการโจมตีของอิสราเอลและขาดการติดต่อไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ อิราจ มาสเจดี รองผู้บัญชาการคุดส์ ยืนยันว่า กานี “สบายดี” และอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000095608 .............. Sondhi X
    Sad
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1262 มุมมอง 0 รีวิว