• เมื่อฟ้าผ่าทะลุสู่จักรวาล: ภาพถ่าย “Gigantic Jet” สุดหายากจากสถานีอวกาศ
    เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2025 NASA astronaut Nichole Ayers ได้ถ่ายภาพปรากฏการณ์ฟ้าผ่าที่ไม่ธรรมดาจากบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ขณะบินผ่านบริเวณพายุฝนฟ้าคะนองเหนือเม็กซิโกและสหรัฐฯ ภาคตะวันตกเฉียงใต้

    ตอนแรกเธอคิดว่าเป็น “sprite” ซึ่งเป็นแสงสีแดงที่เกิดเหนือพายุ แต่หลังจากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็น “gigantic jet” ซึ่งหายากกว่ามาก และเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ Transient Luminous Events (TLEs) ที่นักวิทยาศาสตร์ยังคงศึกษาอยู่

    ปรากฏการณ์นี้คือการปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าขนาดมหาศาลจากยอดเมฆพายุขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศระดับไอโอโนสเฟียร์ สูงถึง 100 กิโลเมตร โดยมักเกิดขึ้นโดยบังเอิญ และแทบไม่มีใครได้เห็นจากพื้นโลก

    ภาพนี้ไม่เพียงสวยงาม แต่ยังให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการเชื่อมโยงระหว่างพายุฝนฟ้าคะนองกับชั้นบรรยากาศระดับสูง ซึ่งอาจมีผลต่อการสื่อสาร, การบิน และแม้แต่การศึกษาสภาพอากาศของดาวเคราะห์อื่น

    เหตุการณ์สำคัญจากสถานีอวกาศ
    Nichole Ayers ถ่ายภาพ gigantic jet ได้จาก ISS เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2025
    เดิมคิดว่าเป็น sprite แต่ยืนยันว่าเป็น gigantic jet ซึ่งหายากมาก
    เกิดจากการปลดปล่อยไฟฟ้าจากยอดเมฆพายุขึ้นสู่ชั้นไอโอโนสเฟียร์ (~100 กม.)
    ภาพถ่ายใช้กล้อง Nikon Z9 เลนส์ 50mm f/1.2, ISO 6400, ¼ sec
    จุดที่เกิดปรากฏการณ์อยู่เหนือพายุบริเวณชายแดนเม็กซิโก–เท็กซัส
    สามารถมองเห็นแสงเมืองต่าง ๆ เช่น Dallas, Austin, San Antonio และ Torreón
    ภาพนี้ให้ข้อมูลใหม่แก่โครงการ Spritacular ของ NASA
    เชิญชวนประชาชนส่งภาพ TLEs เพื่อช่วยวิจัยผ่าน Spritacular.org

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Gigantic jets เป็น TLEs ที่หายากที่สุดในกลุ่ม เช่นเดียวกับ blue jets และ ELVEs
    ISS มีเครื่องมือ Atmosphere-Space Interactions Monitor (ASIM) บันทึก TLEs ด้วยแสง, X-ray และ gamma-ray
    TLEs อาจมีผลต่อการสื่อสารวิทยุและระบบนำทาง GPS
    การศึกษา TLEs ช่วยให้เข้าใจการปลดปล่อยพลังงานในชั้นบรรยากาศโลก
    ปรากฏการณ์คล้ายกันพบในดาวพฤหัสบดีและดาวศุกร์ ทำให้การศึกษานี้มีผลต่อวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์
    นักบินบนเครื่องบินโดยสารเคยถ่ายภาพ gigantic jets ได้โดยบังเอิญ

    https://science.nasa.gov/science-research/heliophysics/a-gigantic-jet-caught-on-camera-a-spritacular-moment-for-nasa-astronaut-nicole-ayers/
    🌌 เมื่อฟ้าผ่าทะลุสู่จักรวาล: ภาพถ่าย “Gigantic Jet” สุดหายากจากสถานีอวกาศ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2025 NASA astronaut Nichole Ayers ได้ถ่ายภาพปรากฏการณ์ฟ้าผ่าที่ไม่ธรรมดาจากบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ขณะบินผ่านบริเวณพายุฝนฟ้าคะนองเหนือเม็กซิโกและสหรัฐฯ ภาคตะวันตกเฉียงใต้ ตอนแรกเธอคิดว่าเป็น “sprite” ซึ่งเป็นแสงสีแดงที่เกิดเหนือพายุ แต่หลังจากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็น “gigantic jet” ซึ่งหายากกว่ามาก และเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ Transient Luminous Events (TLEs) ที่นักวิทยาศาสตร์ยังคงศึกษาอยู่ ปรากฏการณ์นี้คือการปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าขนาดมหาศาลจากยอดเมฆพายุขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศระดับไอโอโนสเฟียร์ สูงถึง 100 กิโลเมตร โดยมักเกิดขึ้นโดยบังเอิญ และแทบไม่มีใครได้เห็นจากพื้นโลก ภาพนี้ไม่เพียงสวยงาม แต่ยังให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการเชื่อมโยงระหว่างพายุฝนฟ้าคะนองกับชั้นบรรยากาศระดับสูง ซึ่งอาจมีผลต่อการสื่อสาร, การบิน และแม้แต่การศึกษาสภาพอากาศของดาวเคราะห์อื่น ✅ เหตุการณ์สำคัญจากสถานีอวกาศ ➡️ Nichole Ayers ถ่ายภาพ gigantic jet ได้จาก ISS เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2025 ➡️ เดิมคิดว่าเป็น sprite แต่ยืนยันว่าเป็น gigantic jet ซึ่งหายากมาก ➡️ เกิดจากการปลดปล่อยไฟฟ้าจากยอดเมฆพายุขึ้นสู่ชั้นไอโอโนสเฟียร์ (~100 กม.) ➡️ ภาพถ่ายใช้กล้อง Nikon Z9 เลนส์ 50mm f/1.2, ISO 6400, ¼ sec ➡️ จุดที่เกิดปรากฏการณ์อยู่เหนือพายุบริเวณชายแดนเม็กซิโก–เท็กซัส ➡️ สามารถมองเห็นแสงเมืองต่าง ๆ เช่น Dallas, Austin, San Antonio และ Torreón ➡️ ภาพนี้ให้ข้อมูลใหม่แก่โครงการ Spritacular ของ NASA ➡️ เชิญชวนประชาชนส่งภาพ TLEs เพื่อช่วยวิจัยผ่าน Spritacular.org ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Gigantic jets เป็น TLEs ที่หายากที่สุดในกลุ่ม เช่นเดียวกับ blue jets และ ELVEs ➡️ ISS มีเครื่องมือ Atmosphere-Space Interactions Monitor (ASIM) บันทึก TLEs ด้วยแสง, X-ray และ gamma-ray ➡️ TLEs อาจมีผลต่อการสื่อสารวิทยุและระบบนำทาง GPS ➡️ การศึกษา TLEs ช่วยให้เข้าใจการปลดปล่อยพลังงานในชั้นบรรยากาศโลก ➡️ ปรากฏการณ์คล้ายกันพบในดาวพฤหัสบดีและดาวศุกร์ ทำให้การศึกษานี้มีผลต่อวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ ➡️ นักบินบนเครื่องบินโดยสารเคยถ่ายภาพ gigantic jets ได้โดยบังเอิญ https://science.nasa.gov/science-research/heliophysics/a-gigantic-jet-caught-on-camera-a-spritacular-moment-for-nasa-astronaut-nicole-ayers/
    SCIENCE.NASA.GOV
    A Gigantic Jet Caught on Camera: A Spritacular Moment for NASA Astronaut Nicole Ayers!
    On July 3, 2025, NASA astronaut Nichole Ayers captured a rare gigantic jet from the ISS—lightning shooting from a storm top into the upper atmosphere.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 1 : อำนาจทำให้คนมีเสน่ห์ ! ? !
    “Control Oil and you control nations;
control food and you control the people”
    “ควบคุมน้ำมันได้ คุณก็ควบคุมชาติต่าง ๆ ได้
ควบคุมอาหารได้ คุณก็ควบคุมประชาชนได้”
    เป็นคำพูดของนาย Henry Kissinger เมื่อช่วง ค.ศ. 1970 พูดมาเกือบ 50 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนทิศทางการเมืองระหว่างประเทศจะเป็นไปตามที่นาย Kissinger พูด
    เรื่องบังเอิญหรือล็อกเป้า!
    งั้นมาทำความรู้จักนาย Kissinger กันหน่อย จะได้รู้ว่าเป็นคนขี้โม้ หมอดู หรือคนในรู้จริง
    นาย Kissinger มีชื่อเต็มว่า Henry Alfred Kissinger ตอนเกิดใช้ชื่อว่า Heinz Alfred Kissinger เป็นคนเยอรมัน อเมริกัน เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1923 ตอนนี้ก็อายุปาเข้าไป 90 ปี นอกจากยังไม่ตายและยังปากเปราะเหมือนเดิม นาย Kissinger เป็นคนตัวเตี้ย และห่างไกลกับคำว่าเป็นคนหน้าตาดี เขาแต่งงานแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 2 แต่งกับนาง Nancy ผู้หญิงซึ่งตัวสูงกว่าเขาประมาณเกือบ 1 ฟุต เมื่อสมัยที่นาย Kissinger เรืองอำนาจ นาง Nancy เองซึ่งก็ไม่ใช่คนสวยอะไร จะมีรูปปรากฎอยู่ในนิตยสาร Vogue นานาชาติอยู่เสมอ นิตยสารนี้ นอกจากจะมีแต่รูปนางแบบระดับโลกแล้ว ผู้ที่จะได้มีภาพลงในหนังสือนี้ ก็จะต้องเป็นบุคคลที่สมัยนี้เรียกว่า Celeb คนดังว่างั้นเถอะ ตัวผัวก็ไม่หล่อ คนเป็นเมียก็ไม่สวย แต่ทั้งคู่ดังระเบิด แถมตัวผัวยังมีข่าวเสมอทางด้านส่วนตัวว่าเป็นชายเจ้าชู้ ไม่เร่ขายชาติ แต่ชอบทำลายชาติคนอื่นมากกว่า !
    เมื่อนักข่าวถามว่า ได้ข่าวว่าท่านเจ้าชู้ มีสาวควงเปลี่ยนหน้าบ่อยๆ ท่านทำได้อย่างไรนะ ในเมื่อ ขอโทษ ท่านก็ไม่ใช่คนหล่อ นาย Kissinger ตอบว่า “อำนาจก็ทำให้คนมีเสน่ห์ได้นะ” ฮา
    นาย Kissinger มีอำนาจอย่างไร ถึงทำให้สาวๆ ยอมให้ควงบ่อยๆ แต่จะถึงขนาดจัดส่งขึ้นเครื่องบินไปร่วมร้องเพลงแก้เหงา หรือเปล่ารายงานข่าวไม่ได้บอก
    นาย Kissinger เริ่มทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประเทศ และต่อมาดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงต่างประเทศ ในสมัยประธานาธิบดี Richard Nixon และเป็นต่อมาจนถึงสมัยประธานาธิบดี Gerald Ford พูดง่ายๆ เป็นคนสำคัญ ในการกำหนดทิศทางการเมืองของอเมริกาและแน่นอนของโลกด้วยในช่วงปี ค.ศ.1969 ถึง ค.ศ.1977
    ผลงานของนาย Kissinger ที่เด่นๆ ที่ประกาศอย่างเปิดเผยลงใน Google คือ การคลี่คลาย (detente) สงครามเย็นกับสหภาพโซเวียต การเริ่มสร้างสัมพันธ์กับจีน และเริ่มขบวนการเจรจาสันติภาพที่ปารีส ซึ่งเป็นผลให้ยุติสงครามเวียตนาม (ที่อเมริกาเป็นผู้ริเริ่มนั่นแหละ !) ผลงานนี้ ทำให้เขาได้รับรางวัล Nobel สาขาสันติภาพในปี ค.ศ.1973 คู่กับคู่กัด คือ นาย Le Duc Tho จากเวียตนามเหนือ แต่นาย Le Duc Tho ปฏิเสธที่จะรับรางวัล เขาเป็นคนเดียวในประวัติศาสตร์ ที่ปฏิเสธรางวัล Nobel (เยี่ยม !)
    เป็นการให้รางวัล Nobel สาขาสันติภาพ ที่ติดอันดับ 1 ใน 5 แห่งความอื้อฉาว และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากสัญญาสันติภาพของจริงกว่าจะได้ลงนาม ในปี ค.ศ. 1975 แต่ผู้เจรจาได้รับรางวัลล่วงหน้า เหมือนล็อตเตอรี่ยังไม่ออก แต่ประกาศแล้วว่าใครถูกรางวัลที่ 1 (เอ้า ตบมือให้ลูกน้องนักเล่นกลกันหน่อย)
    แต่ผลงานของนาย Kissinger ที่ไม่ได้เปิดเผย แต่อยากเล่าให้ฟังคือ “National Security Study Memorandum 200” หรือที่เรียกชื่อย่อว่า NSSM 200 ซึ่งได้จัดทำขึ้น ภายใต้การกำกับและอำนวยการสร้างโดยนาย Kissinger เอง สำเร็จเป็นเอกสารหนาเกือบ 200 หน้า เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1974
    เอกสารนี้เกี่ยวกับอะไรลึกลับซับซ้อนอะไรหนักหนา ถึงขนาดตีตราครั่งว่าจะเปิดเผยได้ โดยคำสั่งของ White House เท่านั้น เก็บแอบซ่อนไว้ 15 ปี สภาความมั่นคงของอเมริกาก็เพิ่งเอามาเปิดให้อ่านกัน เมื่อ ปี ค.ศ. 1989

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ ” ตอนที่ 1 : อำนาจทำให้คนมีเสน่ห์ ! ? ! “Control Oil and you control nations;
control food and you control the people” “ควบคุมน้ำมันได้ คุณก็ควบคุมชาติต่าง ๆ ได้
ควบคุมอาหารได้ คุณก็ควบคุมประชาชนได้” เป็นคำพูดของนาย Henry Kissinger เมื่อช่วง ค.ศ. 1970 พูดมาเกือบ 50 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนทิศทางการเมืองระหว่างประเทศจะเป็นไปตามที่นาย Kissinger พูด เรื่องบังเอิญหรือล็อกเป้า! งั้นมาทำความรู้จักนาย Kissinger กันหน่อย จะได้รู้ว่าเป็นคนขี้โม้ หมอดู หรือคนในรู้จริง นาย Kissinger มีชื่อเต็มว่า Henry Alfred Kissinger ตอนเกิดใช้ชื่อว่า Heinz Alfred Kissinger เป็นคนเยอรมัน อเมริกัน เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1923 ตอนนี้ก็อายุปาเข้าไป 90 ปี นอกจากยังไม่ตายและยังปากเปราะเหมือนเดิม นาย Kissinger เป็นคนตัวเตี้ย และห่างไกลกับคำว่าเป็นคนหน้าตาดี เขาแต่งงานแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 2 แต่งกับนาง Nancy ผู้หญิงซึ่งตัวสูงกว่าเขาประมาณเกือบ 1 ฟุต เมื่อสมัยที่นาย Kissinger เรืองอำนาจ นาง Nancy เองซึ่งก็ไม่ใช่คนสวยอะไร จะมีรูปปรากฎอยู่ในนิตยสาร Vogue นานาชาติอยู่เสมอ นิตยสารนี้ นอกจากจะมีแต่รูปนางแบบระดับโลกแล้ว ผู้ที่จะได้มีภาพลงในหนังสือนี้ ก็จะต้องเป็นบุคคลที่สมัยนี้เรียกว่า Celeb คนดังว่างั้นเถอะ ตัวผัวก็ไม่หล่อ คนเป็นเมียก็ไม่สวย แต่ทั้งคู่ดังระเบิด แถมตัวผัวยังมีข่าวเสมอทางด้านส่วนตัวว่าเป็นชายเจ้าชู้ ไม่เร่ขายชาติ แต่ชอบทำลายชาติคนอื่นมากกว่า ! เมื่อนักข่าวถามว่า ได้ข่าวว่าท่านเจ้าชู้ มีสาวควงเปลี่ยนหน้าบ่อยๆ ท่านทำได้อย่างไรนะ ในเมื่อ ขอโทษ ท่านก็ไม่ใช่คนหล่อ นาย Kissinger ตอบว่า “อำนาจก็ทำให้คนมีเสน่ห์ได้นะ” ฮา นาย Kissinger มีอำนาจอย่างไร ถึงทำให้สาวๆ ยอมให้ควงบ่อยๆ แต่จะถึงขนาดจัดส่งขึ้นเครื่องบินไปร่วมร้องเพลงแก้เหงา หรือเปล่ารายงานข่าวไม่ได้บอก นาย Kissinger เริ่มทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประเทศ และต่อมาดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงต่างประเทศ ในสมัยประธานาธิบดี Richard Nixon และเป็นต่อมาจนถึงสมัยประธานาธิบดี Gerald Ford พูดง่ายๆ เป็นคนสำคัญ ในการกำหนดทิศทางการเมืองของอเมริกาและแน่นอนของโลกด้วยในช่วงปี ค.ศ.1969 ถึง ค.ศ.1977 ผลงานของนาย Kissinger ที่เด่นๆ ที่ประกาศอย่างเปิดเผยลงใน Google คือ การคลี่คลาย (detente) สงครามเย็นกับสหภาพโซเวียต การเริ่มสร้างสัมพันธ์กับจีน และเริ่มขบวนการเจรจาสันติภาพที่ปารีส ซึ่งเป็นผลให้ยุติสงครามเวียตนาม (ที่อเมริกาเป็นผู้ริเริ่มนั่นแหละ !) ผลงานนี้ ทำให้เขาได้รับรางวัล Nobel สาขาสันติภาพในปี ค.ศ.1973 คู่กับคู่กัด คือ นาย Le Duc Tho จากเวียตนามเหนือ แต่นาย Le Duc Tho ปฏิเสธที่จะรับรางวัล เขาเป็นคนเดียวในประวัติศาสตร์ ที่ปฏิเสธรางวัล Nobel (เยี่ยม !) เป็นการให้รางวัล Nobel สาขาสันติภาพ ที่ติดอันดับ 1 ใน 5 แห่งความอื้อฉาว และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากสัญญาสันติภาพของจริงกว่าจะได้ลงนาม ในปี ค.ศ. 1975 แต่ผู้เจรจาได้รับรางวัลล่วงหน้า เหมือนล็อตเตอรี่ยังไม่ออก แต่ประกาศแล้วว่าใครถูกรางวัลที่ 1 (เอ้า ตบมือให้ลูกน้องนักเล่นกลกันหน่อย) แต่ผลงานของนาย Kissinger ที่ไม่ได้เปิดเผย แต่อยากเล่าให้ฟังคือ “National Security Study Memorandum 200” หรือที่เรียกชื่อย่อว่า NSSM 200 ซึ่งได้จัดทำขึ้น ภายใต้การกำกับและอำนวยการสร้างโดยนาย Kissinger เอง สำเร็จเป็นเอกสารหนาเกือบ 200 หน้า เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1974 เอกสารนี้เกี่ยวกับอะไรลึกลับซับซ้อนอะไรหนักหนา ถึงขนาดตีตราครั่งว่าจะเปิดเผยได้ โดยคำสั่งของ White House เท่านั้น เก็บแอบซ่อนไว้ 15 ปี สภาความมั่นคงของอเมริกาก็เพิ่งเอามาเปิดให้อ่านกัน เมื่อ ปี ค.ศ. 1989 คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว

  • ตอน 18
    อเมริกาคิดจะทำอะไร ต้องแน่ใจว่าคุมสถานการณ์ คุมเกมได้เบ็ดเสร็จ เมื่อได้เลือกไทยแลนด์แดนสวรรค์ เป็นแหล่งประทับทรง เพื่อเอาไว้จับจ้อง เตรียมต่อกรกับจีน ถึงจะไม่เป็นงานช้างแบบสู้กับคอมมี่ ตรงไปตรงมา แต่สู้กับอาเฮียตาตี่ที่ กำลังเนื้อหอม แถมจิ๊กโก๋๋ก็ทิ้งสาวไทยไปนาน จะกลับเข้ามาก็ต้องดูดีๆ เสียเชิงอาเฮียนี่มันรับไม่ได้จริงๆ นะ
    และโปรดอย่าลืมสันดานเดิมของจิ๊กโก๋๋นักเลงนักล้วง อเมริกาไม่เคยตีตั๋วใบเดียว ไม่เคยเล่นไพ่หน้าเดียว
    จากรายงานของซีไอเอ ที่เดินสายกันให้ควักไขว้ ออกอาการว่า จิ๊กโก๋๋คิดหนัก จะเลือกใครเป็นร่างทรงดี สมัยสู้คอมมี่ จอมพลคนแปลกเป็นนายก อเมริกาก็สนับสนุน 2 นายพล เอาไว้เป็นตัวเลือกคือ นายพลเผ่า กับ นายพลสฤษดิ์ ทั้งฟูมทั้งฟัก ทั้ง 2 นายพล อยากได้อะไรก็ประเคนให้ทั้งคู่ รอดูจนแน่ใจแล้วก็เคาะโป๊ก หวยออกที่นายพลสฤษดิ์ ให้เป็นผู้นำคนต่อไปของประเทศไทยแลนด์ ภายใต้การชักใยของสหรัฐ
    คราวนี้ก็เหมือนกัน อเมริกามีตัวเลือกแยะขึ้น แต่ยากขึ้น
    มองด้านความแน่นอน สัมพันธ์เก่ามีมาต่อเนื่องกว่า 50 ปี ก็มีกลุ่มนักวิ่งผลัด แต่สมัยนี้จะไปชักใย ให้ขยับขาซ้ายย้ายขาขวา อย่างเมื่อก่อนมันไม่ได้แล้วนะ ก็ดันไปตั้ง Doctrine ของตัวเองสนับสนุนประชาธิปไตยให้บานแฉ่ง แล้วถ้าเอาพี่ทหารนักวิ่งผลัดมา ป.ว. เป็นร่างทรงน่ะ ชาวบ้านเขามินินทาเอาหรือจ๊ะ ว่า ปากว่าตาขยิบ
    จะเป็นตัวเลือกหรือเปล่ายังไม่รู้ แต่เพื่อให่แน่ใจว่านักวิ่งพลัดไม่นอกใจ ปลายปี พ.ศ. 2555/ค.ศ.2012 พี่เบิ้มก็ส่งนายลีออน เพนเนตต้า (Leon Pennetta) รมว กลาโหม มานั่งจับเข่า คุณพี่สุกำพล รมว กลาโหมของไทยตอนนั้น
    อย่าลืมนะ สมันน้อย เราอุ้มเจ้าลงเปลเห่กล่อมมากว่า 50 ปีแล้ว สมันน้อยจะไปเห็นคนอื่นดีกว่าเราได้ยังไง ว่าแล้วจากจับเข่า ก็เปลี่ยนเป็นจับมือสมันน้อย แปะโป้งทำสัญญา ซึ่งแปลงเขียนเป็นแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วม (แหม! อีลูกช่างตะแบง กลัวจะเป็นหนังสือสัญญา ตามมาตรา ม190 ของรัฐธรรมนูญไง) ว่า ด้วยการเป็นหุ้นส่วนร่วมด้านความมั่นคงในศตวรรษที่ 21 ฮั่นแน่ โจ๋งครึ่มจริงๆ
    ไอ้นี่ มันเป็นการส่งสารข้าม(หัว) ไปถึงอาเฮียนี่หว่า ว่านี่เด็กของข้า ลื้ออย่ามาแหยม!
    หลังจากกำชับนักวิ่งพลัดไม่ให้แตกแถวแล้ว คราวนี้ก็ต้องมาดูนักการเมือง ที่จะใช้บริการ ซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่ 2 พรรคใหญ่ ระหว่างพรรคแมลงสาบกับพรรคของเหลี่ยมร้าย เอาไงดีล่ะ จิ๊กโก๋๋คิดไม่ตก
    พรรคแมลงสาบนี่ จิ๊กโก๋๋รู้จักดี ตั้งกะสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปู่เสนีย์เป็นหัวหน้าเสรีไทยฝ่ายสหรัฐ พรรคนี้เคยคิดอย่างไร ทำอย่างไร ตั้งแต่สมัยสงครามโลก เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น สมเป็นพรรคแมลงสาปจริง ๆ หัวสมองอยู่ในกระป๋องสี่เหลี่ยม แก้ไม่หาย อุตส่าห์ปั๊ดตะนา เปลี่ยนหัวหน้าพรรคมาจนเดี๋ยวนี้ได้ good boyหน้าหล่อสายอังกฤษ
    แต่มันก็คิดเป็น ทำเป็น แบบจวนสอบได้ ซะเกือบทุกเรื่อง ขนาดแม่ยกยังลุ้นซะจนจะ ล.ด หลายตลบแล้วจิ๊กโก๋๋จะรับไหวเหร๊อ แต่มันก็ว่าง่ายดีนะ ดูตอนกู้เงิน IMF แล้วกัน 5 5 5 พวกไอรวยมาแยะนะ อ้ายน้อย
    ไม่เอาแมลงสาบแล้วจะเอาใคร
    ก็พรรคของเหลี่ยมร้ายไง เหลี่ยมร้ายไม่สนใจอาณาเขต เหลี่ยมร้ายไม่สนใจพรมแดน เหลี่ยมร้ายไม่สนใจขนบธรรมเนียมประเพณี เหลี่ยมร้ายไม่รู้จักความดีงาม เหลี่ยมร้ายไม่รู้จักคุณค่าของ สถาบัน เหลี่ยมร้ายรู้จักแต่อำนาจ การโกหก การโกงทุกรูปแบบ และทุน ทุน ทุน ไม่ว่าจะเป็น ทุนนิยมเสรี ทุนในชาติ ทุนข้ามชาติ ประชานิยม ฯลฯ ล้วนเป็นเรื่องที่เหลี่ยมรัก เหลี่ยมโปรดทั้งนั้น อืม! น่าสนใจ ความคิดคล้ายๆ กับผู้ใดหนอ
    แถม เหลี่ยมก็เคยปลาบปลื้ม จนลืมตน วิ่งไปเชิญ วิ่งไปซบคุณพ่อจิ๊กโก๋๋ มาหลายหน คุณจิ๊กโก๋๋ตัวลูก จอมกร่าง ยิ่งแล้วใหญ่ เหลี่ยมนับเป็นเพื่อนเลยนะ ลองไปหา cable ทูตอเมริกา (ที่วิกิลีกส์ Wikileaks ขวัญใจผม อภินันทนาการแก่ชาวโลก)
    มันรายงานออกมาจ้อยๆ ว่า เหลี่ยมร้าย ปลื้มจิ๊กโก๋๋ขนาดไหน โดนดุ โดนเตือนก็ไปฟ้องคุณพ่ออเมริกันทุกครั้ง แหม ตัวอยู่ไทย แต่ใจเป็นของคุณพ่อจิ๊กโก๋๋หมดแล้ว แบบนี้ไม่เลือกเป็นร่างทรงก็ใจจืดไปหน่อยนะ…
    แต่จิ๊กโก๋๋ไม่โง่ จะใช้คนอย่างเหลี่ยมร้าย มันต้องป้อนด้วย อำนาจและเงินไปตลอด แล้วมันเกิดทำใหญ่คับเกินฟ้า ชาวประชารับไม่ได้ (ก็กำลังชุมนุมขับไล่โค่นล้มอยู่นี่ไง) จิ๊กโก๋๋ จะควบคุมไหวหรือ เอ๊ะ หรือจะเข้าทาง!
    ดูประธานาธิบดีมากอส พระเจ้าชาห์แห่งอิหร่าน มูบารักของอียิปต์ ฯลฯ เป็นตัวอย่างแล้วกัน เด็กสร้างของ จิ๊กโก๋๋ทั้งนั้น ถึงจุดหนึ่งหมดประโยชน์หรือคุมไม่ได้ จิ๊กโก๋๋ก็จัดการเก็บฉาก ให้กลับบ้านเก่ากันแทบไม่ทัน บางคนแทบไม่มีเวลาแต่งศพให้สวย
    ถ้าเหลี่ยมร้ายบังเอิญโชคดี ได้อ่านนิทานเรื่องนี้ ก็อ่านตอนนี้หลายๆ เที่ยวหน่อยนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนกัน ยังไงก็คนเคยเห็นหน้า (ทางจอทีวี ฮา) มาหลายหน แต่หนหลังๆ นี้ บอกกันไม่อ้อมค้อมนะ ดูทุเรศ จริงๆ
    บอกได้เลยว่า การประทับทรงไทยแลนด์ของจิ๊กโก๋๋ครั้งนี้ ไม่ง่ายสะดวกโยธินเหมือนสมัยสงคราม เวียต นาม คราวนั้นบ้านเรายังไม่มีกีฬาสี และสถานการณ์ก็สร้างไว้ชัดเจน ถูกเขาขู่ว่า ถ้าไม่สู้คอมมี่ พวกยูก็อาจไม่มีแผ่น ดินเหลือให้นั่งชนไก่
    แต่ตอนนี้กะตอนนู้น มันไม่เหมือนกันนะ คราวนี้ถ้าขู่ว่าจะให้เลือก ระหว่างจิ๊กโก๋๋ผมทอง กับอาเฮียตาตี่ มันก็ไม่ง่ายนะพี่เบิ้ม ระวังมันจะพลิกล็อก
    คนไทยน่ะ นับดีๆ เผลอๆ มีกว่าครึ่งประเทศ ที่มีเชื้อสายจีนปนอยู่ ถึงแม้เขาจะไปฟอกผิวขาวทำตาโต แต่เชื้อไขข้างใน มันก็ยังเชื้อสายจีนปน ถึงเวลาตรุษจีน ก็เอาเป็ดเอาไก่ไปไหว้เจ้าปิดถนนฉลองกัน แล้วใจคอยูจะให้เขาตัดขาดจากอาม้า อาก๋ง เขาง่าย ๆ หรือ จิ๊กโก๋๋คิดให้ดีๆ
    คราวนี้ถ้าจิ๊กโก๋๋คิดว่า ซอยนี้ต้องเป็นของกูคนเดียว ไม่ให้ใครเข้ามายุ่งด้วย บอกได้คำเดียวว่าเหนื่อย เหนื่อยทั้งจิ๊กโก๋๋ และเหนื่อยทั้งสมันน้อย อเมริกาเหนื่อยอย่างไร สมัยต่อสู้กับระบอบคอมมิวนิสต์ มันขู่ให้เรากลัวว่า ระบอบคอมมิวนิสต์เป็นภัยต่อประชาธิปไตย ประชาชนไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ทุกอย่างตกเป็นของรัฐ แค่นี้นายทุนเศรษฐีบ้านเราก็หน้าตก หูตูบกันหมดแล้ว ทุกคนต้องทำงานให้คอมมูน เพื่อความเท่าเทียมกัน ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ คนไทยเคยอยู่สบายๆ เช้าอยากลุกก็ลุก ไม่อยากก็นอนจนตะวันตรงท้ายทอย แล้วค่อยขยับก้นย้ายออกมา ก็ไม่มีใครว่า แล้วถ้าเป็นคอมมูน มันจะมาทำท่านอนบิดขี้เกียจอย่างนี้ได้เหรอ
    ขู่แบบนี้เข้าไปทุกวัน พออเมริกาบอกว่า ไอจะกำจัดระบอบนี้ให้ออกไปจากภูมิภาคนี้ ชาวเราก็มองเขาเหมือนเทวดามาโปรด
    แต่ตอนนี้ไม่มีผีคอมมี่ให้สร้างแล้ว ของจริงที่ไทยแลนด์ควรมองคือ อาเฮียตาตี่ ไม่ได้เดินย้ายพุงมาคนเดียว แต่เกี่ยวแขนมากับเพื่อนอีกหลายพันล้านคน ในนามของ BRICS จำได้ไหม บราซิล (Brazil) รัสเซีย (Russia) อินเดีย (India) จีน (China) และแอฟริกาใต้ (South Africa) รวมทั้งหมด เกือบ สามพันล้านคน ตลาดใหญ่นะ
    แถมตอนนี้อาเฮียฟิตจัด ตั้งกลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization) หรือ SCO กับพี่ใหญ่รัสเซียและประเทศแถบรัสเซีย ที่จีนมีอาณาเขตติดต่อกันอยู่ แปลว่าถ้าอเมริกาจะมองว่าจีนเป็นศัตรู ต้องรวมเพื่อนของศัตรู เข้าไปด้วย เข้าใจไหม
    แต่ของจริงอเมริกา มองจีนอย่างไร มีระบุไว้ในเอกสาร The National Strategy Forum Review ปี ค.ศ.2011 ว่า สัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐ ในศตวรรษที่ 21 นับว่าเป็นสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดในโลก ส่วนหนึ่งสืบเนื่องมาจากการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของจีน และการเสื่อมถอยจากการเป็นผู้นำสุดยอด ของสหรัฐในต่างประเทศ ประกอบกับการที่จีน กำลังพยายามขยายบทบาทในเอเชียแปซิฟิก โดยใช่ว่าจะเห็นพ้องกับนโยบายของสหรัฐเสมอไป ที่สำคัญดูเหมือนว่ากระแสความไม่ไว้ใจและไม่เข้าใจระหว่างประเทศทั้ง 2 จะสูงขึ้นเป็นลำดับอ่านแล้วเป็นงง
    พูดภาษาจิ๊กโก๋๋ ให้เข้าใจง่ายๆดีกว่า สรุปว่า ไอ้จิ๊กโก๋๋มันแสดงอาการหวงรางหญ้า หวงกระดูก

    คนเล่านิทาน
     ตอน 18 อเมริกาคิดจะทำอะไร ต้องแน่ใจว่าคุมสถานการณ์ คุมเกมได้เบ็ดเสร็จ เมื่อได้เลือกไทยแลนด์แดนสวรรค์ เป็นแหล่งประทับทรง เพื่อเอาไว้จับจ้อง เตรียมต่อกรกับจีน ถึงจะไม่เป็นงานช้างแบบสู้กับคอมมี่ ตรงไปตรงมา แต่สู้กับอาเฮียตาตี่ที่ กำลังเนื้อหอม แถมจิ๊กโก๋๋ก็ทิ้งสาวไทยไปนาน จะกลับเข้ามาก็ต้องดูดีๆ เสียเชิงอาเฮียนี่มันรับไม่ได้จริงๆ นะ และโปรดอย่าลืมสันดานเดิมของจิ๊กโก๋๋นักเลงนักล้วง อเมริกาไม่เคยตีตั๋วใบเดียว ไม่เคยเล่นไพ่หน้าเดียว จากรายงานของซีไอเอ ที่เดินสายกันให้ควักไขว้ ออกอาการว่า จิ๊กโก๋๋คิดหนัก จะเลือกใครเป็นร่างทรงดี สมัยสู้คอมมี่ จอมพลคนแปลกเป็นนายก อเมริกาก็สนับสนุน 2 นายพล เอาไว้เป็นตัวเลือกคือ นายพลเผ่า กับ นายพลสฤษดิ์ ทั้งฟูมทั้งฟัก ทั้ง 2 นายพล อยากได้อะไรก็ประเคนให้ทั้งคู่ รอดูจนแน่ใจแล้วก็เคาะโป๊ก หวยออกที่นายพลสฤษดิ์ ให้เป็นผู้นำคนต่อไปของประเทศไทยแลนด์ ภายใต้การชักใยของสหรัฐ คราวนี้ก็เหมือนกัน อเมริกามีตัวเลือกแยะขึ้น แต่ยากขึ้น มองด้านความแน่นอน สัมพันธ์เก่ามีมาต่อเนื่องกว่า 50 ปี ก็มีกลุ่มนักวิ่งผลัด แต่สมัยนี้จะไปชักใย ให้ขยับขาซ้ายย้ายขาขวา อย่างเมื่อก่อนมันไม่ได้แล้วนะ ก็ดันไปตั้ง Doctrine ของตัวเองสนับสนุนประชาธิปไตยให้บานแฉ่ง แล้วถ้าเอาพี่ทหารนักวิ่งผลัดมา ป.ว. เป็นร่างทรงน่ะ ชาวบ้านเขามินินทาเอาหรือจ๊ะ ว่า ปากว่าตาขยิบ จะเป็นตัวเลือกหรือเปล่ายังไม่รู้ แต่เพื่อให่แน่ใจว่านักวิ่งพลัดไม่นอกใจ ปลายปี พ.ศ. 2555/ค.ศ.2012 พี่เบิ้มก็ส่งนายลีออน เพนเนตต้า (Leon Pennetta) รมว กลาโหม มานั่งจับเข่า คุณพี่สุกำพล รมว กลาโหมของไทยตอนนั้น อย่าลืมนะ สมันน้อย เราอุ้มเจ้าลงเปลเห่กล่อมมากว่า 50 ปีแล้ว สมันน้อยจะไปเห็นคนอื่นดีกว่าเราได้ยังไง ว่าแล้วจากจับเข่า ก็เปลี่ยนเป็นจับมือสมันน้อย แปะโป้งทำสัญญา ซึ่งแปลงเขียนเป็นแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วม (แหม! อีลูกช่างตะแบง กลัวจะเป็นหนังสือสัญญา ตามมาตรา ม190 ของรัฐธรรมนูญไง) ว่า ด้วยการเป็นหุ้นส่วนร่วมด้านความมั่นคงในศตวรรษที่ 21 ฮั่นแน่ โจ๋งครึ่มจริงๆ ไอ้นี่ มันเป็นการส่งสารข้าม(หัว) ไปถึงอาเฮียนี่หว่า ว่านี่เด็กของข้า ลื้ออย่ามาแหยม! หลังจากกำชับนักวิ่งพลัดไม่ให้แตกแถวแล้ว คราวนี้ก็ต้องมาดูนักการเมือง ที่จะใช้บริการ ซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่ 2 พรรคใหญ่ ระหว่างพรรคแมลงสาบกับพรรคของเหลี่ยมร้าย เอาไงดีล่ะ จิ๊กโก๋๋คิดไม่ตก พรรคแมลงสาบนี่ จิ๊กโก๋๋รู้จักดี ตั้งกะสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปู่เสนีย์เป็นหัวหน้าเสรีไทยฝ่ายสหรัฐ พรรคนี้เคยคิดอย่างไร ทำอย่างไร ตั้งแต่สมัยสงครามโลก เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น สมเป็นพรรคแมลงสาปจริง ๆ หัวสมองอยู่ในกระป๋องสี่เหลี่ยม แก้ไม่หาย อุตส่าห์ปั๊ดตะนา เปลี่ยนหัวหน้าพรรคมาจนเดี๋ยวนี้ได้ good boyหน้าหล่อสายอังกฤษ แต่มันก็คิดเป็น ทำเป็น แบบจวนสอบได้ ซะเกือบทุกเรื่อง ขนาดแม่ยกยังลุ้นซะจนจะ ล.ด หลายตลบแล้วจิ๊กโก๋๋จะรับไหวเหร๊อ แต่มันก็ว่าง่ายดีนะ ดูตอนกู้เงิน IMF แล้วกัน 5 5 5 พวกไอรวยมาแยะนะ อ้ายน้อย ไม่เอาแมลงสาบแล้วจะเอาใคร ก็พรรคของเหลี่ยมร้ายไง เหลี่ยมร้ายไม่สนใจอาณาเขต เหลี่ยมร้ายไม่สนใจพรมแดน เหลี่ยมร้ายไม่สนใจขนบธรรมเนียมประเพณี เหลี่ยมร้ายไม่รู้จักความดีงาม เหลี่ยมร้ายไม่รู้จักคุณค่าของ สถาบัน เหลี่ยมร้ายรู้จักแต่อำนาจ การโกหก การโกงทุกรูปแบบ และทุน ทุน ทุน ไม่ว่าจะเป็น ทุนนิยมเสรี ทุนในชาติ ทุนข้ามชาติ ประชานิยม ฯลฯ ล้วนเป็นเรื่องที่เหลี่ยมรัก เหลี่ยมโปรดทั้งนั้น อืม! น่าสนใจ ความคิดคล้ายๆ กับผู้ใดหนอ แถม เหลี่ยมก็เคยปลาบปลื้ม จนลืมตน วิ่งไปเชิญ วิ่งไปซบคุณพ่อจิ๊กโก๋๋ มาหลายหน คุณจิ๊กโก๋๋ตัวลูก จอมกร่าง ยิ่งแล้วใหญ่ เหลี่ยมนับเป็นเพื่อนเลยนะ ลองไปหา cable ทูตอเมริกา (ที่วิกิลีกส์ Wikileaks ขวัญใจผม อภินันทนาการแก่ชาวโลก) มันรายงานออกมาจ้อยๆ ว่า เหลี่ยมร้าย ปลื้มจิ๊กโก๋๋ขนาดไหน โดนดุ โดนเตือนก็ไปฟ้องคุณพ่ออเมริกันทุกครั้ง แหม ตัวอยู่ไทย แต่ใจเป็นของคุณพ่อจิ๊กโก๋๋หมดแล้ว แบบนี้ไม่เลือกเป็นร่างทรงก็ใจจืดไปหน่อยนะ… แต่จิ๊กโก๋๋ไม่โง่ จะใช้คนอย่างเหลี่ยมร้าย มันต้องป้อนด้วย อำนาจและเงินไปตลอด แล้วมันเกิดทำใหญ่คับเกินฟ้า ชาวประชารับไม่ได้ (ก็กำลังชุมนุมขับไล่โค่นล้มอยู่นี่ไง) จิ๊กโก๋๋ จะควบคุมไหวหรือ เอ๊ะ หรือจะเข้าทาง! ดูประธานาธิบดีมากอส พระเจ้าชาห์แห่งอิหร่าน มูบารักของอียิปต์ ฯลฯ เป็นตัวอย่างแล้วกัน เด็กสร้างของ จิ๊กโก๋๋ทั้งนั้น ถึงจุดหนึ่งหมดประโยชน์หรือคุมไม่ได้ จิ๊กโก๋๋ก็จัดการเก็บฉาก ให้กลับบ้านเก่ากันแทบไม่ทัน บางคนแทบไม่มีเวลาแต่งศพให้สวย ถ้าเหลี่ยมร้ายบังเอิญโชคดี ได้อ่านนิทานเรื่องนี้ ก็อ่านตอนนี้หลายๆ เที่ยวหน่อยนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนกัน ยังไงก็คนเคยเห็นหน้า (ทางจอทีวี ฮา) มาหลายหน แต่หนหลังๆ นี้ บอกกันไม่อ้อมค้อมนะ ดูทุเรศ จริงๆ บอกได้เลยว่า การประทับทรงไทยแลนด์ของจิ๊กโก๋๋ครั้งนี้ ไม่ง่ายสะดวกโยธินเหมือนสมัยสงคราม เวียต นาม คราวนั้นบ้านเรายังไม่มีกีฬาสี และสถานการณ์ก็สร้างไว้ชัดเจน ถูกเขาขู่ว่า ถ้าไม่สู้คอมมี่ พวกยูก็อาจไม่มีแผ่น ดินเหลือให้นั่งชนไก่ แต่ตอนนี้กะตอนนู้น มันไม่เหมือนกันนะ คราวนี้ถ้าขู่ว่าจะให้เลือก ระหว่างจิ๊กโก๋๋ผมทอง กับอาเฮียตาตี่ มันก็ไม่ง่ายนะพี่เบิ้ม ระวังมันจะพลิกล็อก คนไทยน่ะ นับดีๆ เผลอๆ มีกว่าครึ่งประเทศ ที่มีเชื้อสายจีนปนอยู่ ถึงแม้เขาจะไปฟอกผิวขาวทำตาโต แต่เชื้อไขข้างใน มันก็ยังเชื้อสายจีนปน ถึงเวลาตรุษจีน ก็เอาเป็ดเอาไก่ไปไหว้เจ้าปิดถนนฉลองกัน แล้วใจคอยูจะให้เขาตัดขาดจากอาม้า อาก๋ง เขาง่าย ๆ หรือ จิ๊กโก๋๋คิดให้ดีๆ คราวนี้ถ้าจิ๊กโก๋๋คิดว่า ซอยนี้ต้องเป็นของกูคนเดียว ไม่ให้ใครเข้ามายุ่งด้วย บอกได้คำเดียวว่าเหนื่อย เหนื่อยทั้งจิ๊กโก๋๋ และเหนื่อยทั้งสมันน้อย อเมริกาเหนื่อยอย่างไร สมัยต่อสู้กับระบอบคอมมิวนิสต์ มันขู่ให้เรากลัวว่า ระบอบคอมมิวนิสต์เป็นภัยต่อประชาธิปไตย ประชาชนไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ทุกอย่างตกเป็นของรัฐ แค่นี้นายทุนเศรษฐีบ้านเราก็หน้าตก หูตูบกันหมดแล้ว ทุกคนต้องทำงานให้คอมมูน เพื่อความเท่าเทียมกัน ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ คนไทยเคยอยู่สบายๆ เช้าอยากลุกก็ลุก ไม่อยากก็นอนจนตะวันตรงท้ายทอย แล้วค่อยขยับก้นย้ายออกมา ก็ไม่มีใครว่า แล้วถ้าเป็นคอมมูน มันจะมาทำท่านอนบิดขี้เกียจอย่างนี้ได้เหรอ ขู่แบบนี้เข้าไปทุกวัน พออเมริกาบอกว่า ไอจะกำจัดระบอบนี้ให้ออกไปจากภูมิภาคนี้ ชาวเราก็มองเขาเหมือนเทวดามาโปรด แต่ตอนนี้ไม่มีผีคอมมี่ให้สร้างแล้ว ของจริงที่ไทยแลนด์ควรมองคือ อาเฮียตาตี่ ไม่ได้เดินย้ายพุงมาคนเดียว แต่เกี่ยวแขนมากับเพื่อนอีกหลายพันล้านคน ในนามของ BRICS จำได้ไหม บราซิล (Brazil) รัสเซีย (Russia) อินเดีย (India) จีน (China) และแอฟริกาใต้ (South Africa) รวมทั้งหมด เกือบ สามพันล้านคน ตลาดใหญ่นะ แถมตอนนี้อาเฮียฟิตจัด ตั้งกลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization) หรือ SCO กับพี่ใหญ่รัสเซียและประเทศแถบรัสเซีย ที่จีนมีอาณาเขตติดต่อกันอยู่ แปลว่าถ้าอเมริกาจะมองว่าจีนเป็นศัตรู ต้องรวมเพื่อนของศัตรู เข้าไปด้วย เข้าใจไหม แต่ของจริงอเมริกา มองจีนอย่างไร มีระบุไว้ในเอกสาร The National Strategy Forum Review ปี ค.ศ.2011 ว่า สัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐ ในศตวรรษที่ 21 นับว่าเป็นสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดในโลก ส่วนหนึ่งสืบเนื่องมาจากการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของจีน และการเสื่อมถอยจากการเป็นผู้นำสุดยอด ของสหรัฐในต่างประเทศ ประกอบกับการที่จีน กำลังพยายามขยายบทบาทในเอเชียแปซิฟิก โดยใช่ว่าจะเห็นพ้องกับนโยบายของสหรัฐเสมอไป ที่สำคัญดูเหมือนว่ากระแสความไม่ไว้ใจและไม่เข้าใจระหว่างประเทศทั้ง 2 จะสูงขึ้นเป็นลำดับอ่านแล้วเป็นงง พูดภาษาจิ๊กโก๋๋ ให้เข้าใจง่ายๆดีกว่า สรุปว่า ไอ้จิ๊กโก๋๋มันแสดงอาการหวงรางหญ้า หวงกระดูก คนเล่านิทาน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ"! พล.ท.บุญสิน เผยทุ่นระเบิด PMN-2 พบใกล้จุดทหารไทยบาดเจ็บ...ชี้เป็นเจตนาสร้างภัยคุกคาม
    https://www.thai-tai.tv/news/20880/
    .
    #แม่ทัพภาคที่2 #พลโทบุญสิน #ทหารเหยียบระเบิด #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปราสาทตาเมือนธม #ไทยไท
    "ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ"! พล.ท.บุญสิน เผยทุ่นระเบิด PMN-2 พบใกล้จุดทหารไทยบาดเจ็บ...ชี้เป็นเจตนาสร้างภัยคุกคาม https://www.thai-tai.tv/news/20880/ . #แม่ทัพภาคที่2 #พลโทบุญสิน #ทหารเหยียบระเบิด #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปราสาทตาเมือนธม #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 14
    เล่าเรื่องชาว บ้านซะหลายมื้อ กลับเข้ามาบ้านเราต่อดีกว่า เดี๋ยวท่านผู้อ่านจะงง มันจะเล่าเรื่องอะไรกันแน่นะ ก็แหมมันต้องให้เห็นภาพ บอกแล้วอย่าดูแต่สิ่งที่เห็นข้างหน้าอย่างเดียว หัดมองภาพกว้าง ภาพลึก 3 มิติบ้าง
    จิ๊กโก๋๋ไปหากินอยู่ซอยอื่น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 จนเดี๋ยวนี้ยังพล่านอยู่ เพราะฉะนั้นตั้งแต่รัฐบาลคุณป๋าจ๊อกกี้ จนมาถึงคุณน้าชาติ ขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ บ้านเราจึงแบ่งกันกินแย่งกันกัด โดยไม่มีจิ๊กโก๋๋ต่างถิ่นมาขัดคอ
    มาเกิดเหตุบังเอิญ ตอนคุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ แกจัดงานเลี้ยงบุพเฟ่ต์บ่อยไปหน่อย แถมอาหารแต่ละจาน มันก็มีพวกจิ๊กโก๋๋อยากร่วมวงรับประทานกินด้วย เรื่องบังเอิญมันถึงได้เกิด ไทยแลนด์แดนสยาม จึงมีนายกชื่อ คุณน้านัน จำได้ใช่ไหมครับ
    พอคุณน้านันเป็นนายก นอกจากจะจัดสรรเมนูอาหารให้ถูกปากแล้ว รัฐบาลคุณน้านัน ยังเป็นรัฐบาลที่ออกกฎหมาย เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ธุรกรรมการเงิน อีกมากมาย รวมทั้งการเปิดเสรีทางการเงินอีกด้วย พร้อมทั้งจัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญและเลือกตั้งใหม่ เราต้องเป็นประชาธิปไตย เราต้องมีธรรมาภิบาล ฯลฯ นโยบายของคุณน้านันนี่ ถ้าไม่เขียนออกมาเป็นภาษาไทยว่า นโยบายนายกอานันท์นี่ เผลอๆ ท่านผู้อ่านจะนึกว่ากำลังอ่าน Doctrine ต่างๆ ของพี่เบิ้มอเมริกา
    เลือกตั้งแล้ว เราก็ได้รัฐบาลปี๋ชวนเชื่องช้า รัฐบาลป๋าเติ้งปลาโหลตัวสั้นแลบลิ้นแผล็บๆ รัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว แล้วก็กลับมาปี๋ชวนเชื่องช้าอีก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนสมัยรัฐบาลทหาร พอเป็นรัฐบาลพลเรือน ก็ไม่ต่างกัน แบ่งกันกินแย่งกันกัดเหมือนเดิม
    แล้วไง จิ๊กโก๋๋ก็ยังไปวุ่นอยู่ซอยอื่น เพราะคิดว่า สมันน้อยมันเหลือแต่กระดูกแล้ว ไม่มีความหมายแล้ว สมันแดนอื่นมันน่าหม่ำกว่าแยะ
    พ.ศ.2540 (ค.ศ.1997) ช่วงรัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว เป็นนายก บริหารเก่งจนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ดังไปทั่วโลก น้อยใจยุบสภากลับบ้าน ไปนอนซบน้าเครือตู้ทองเคลื่อนที่ดีกว่า ปี๋ชวนเชื่องช้ากลับเข้ามาเป็นรัฐบาล ไทยแลนด์กระเป๋าฉีกขาดกระจุย เงินคงคลังเหลือแต่คลัง ไม่มีเงินคงเหลือ อ้ายน้อยธารินทร์รมว.คลังที่ทุกคนรอคอยยังกะเทวดามาโปรด นักเรียนเก่าฮาร์วาร์ด บอกอย่ากระนั้นเลย เราต้องไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าสถาบันเดียวกัน จิ๊กโก๋๋แถววอชิงตันน่าจะช่วยเราได้
    เป็นไปตามคาด (ไม่รู้ใครคาด) จิ๊กโก๋๋วอชิงตันบอกเสียใจนะ อ้ายน้อย ไอให้ยูยืมเงินไม่ได้หรอก แต่ไอก็ไม่ทิ้งยู ยูไปเข้าโปรแกรม IMF ล่ะกันนะ ไอจะแนะนำไปให้ อ้ายน้อยเดินหน้าขรึมกลับบ้าน บอกปี๋ชวน เขาช่วยเราโดยให้ไปกู้ IMF 5 5 5
    เงินกู้ IMF มาพร้อมกับเงื่อนไข 508 ประการ เช่นการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ที่สำคัญเกิด ปรากฏการณ์ปิด 56 ไฟแนนซ์ (เบื้องหลังการปิดไฟแนนซ์นี่ ถ้าจะต้องไปตามอ่านจากเพจคุณThanong Fanclub น่าจะดีกว่า!)
    เจ้าสัวทั้งหลายแทบจะเดินเอากระจาดปิดก้นกันเป็นแถว พ่อค้าจีนไทยเจ๊ง ตลาดหุ้นเจ๊ง ธุรกิจพัง อสังหาริม ทรัพย์ร้าง ขนาดอาเฮียนักการเงินเดินหน้าแห้งบอก ตูไปขายแซนด์วิชดีกว่า
    อืม เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เขียนเหมือนสนุก แต่มันเจ็บลึก เจ็บจริงๆ นี่ยังไม่นับเรื่องการซื้อขายทรัพย์สินของ ปรส. นะ
    ภารกิจ IMF นี่มันซับซ้อนต้องเล่ากันยาว แต่เล่ามาเท่านี้ นักฟังนิทานก็น่าจะพอเดากันออกบ้างว่า มันวางไลน์กันอย่างไร
    ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่า ไทยเคยเสียอธิปไตยให้แก่อเมริกาครั้งแรก เมื่อคราวปี พ.ศ.2505 -2515 สมัยสงครามเวียตนาม อเมริกาใช้ไทยเป็นฐานทัพ โดยไม่มีเอกสารสัญญาเป็นเรื่องเป็นราว การปฏิบัติการรบทางอากาศที่อาศัยฐานทัพ 7 แห่งในบ้านเรา อนุมัติโดยอเมริกา และทหารอเมริกันมีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ไม่ต้องขึ้นศาลไทย
    แต่ไทยก็ไม่เคยรู้ซึ้ง ถึงเล่ห์รักของเพื่อน เชื่อใจเขา จนถึงปี พ.ศ.2540 ไทยก็เสียอธิปไตยอีกครั้ง ครั้งนี้จากการปฎิเสธความช่วยเหลือไทยของประธานาธิบดีคลินตัน โดยให้ไทยเข้าโครงการ IMF แทน!
    ผลของโครงการ IMF เปิดทางให้ต่างชาติ ครอบงำธุรกิจไทยเบ็ดเสร็จ ไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ อุตสาหกรรม ที่สำคัญสถาบันการเงินไทย ถูกต่างชาติเข้ามาครอบงำ จนทุกวันนี้ มีธนาคารชื่อไทย แต่ไส้เป็นของต่าง ชาติกี่ธนาคาร คำตอบคือ เกือบหมด ไปหารายงานของตลาดหลักทรัพย์หรือธนาคารแห่งประเทศไทยอ่านซะบ้าง จะได้รู้สภาพประเทศตัวเองเป็นอย่างไร อย่าหลงเทิดทูนหัวทองตาสีฟ้ากันมากนัก เทิดทูนจนถึงกับฟอกผม ฟอกผิวนี่นะ มันยิ่งกว่างี่เง่าอีกนะ
    แต่วิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง เงินกู้ IMF ก็ไม่ทำให้สมันน้อยรู้ตัว
    ถ้าเราเคยดูหนังสารคดี discovery เราจะเห็นนิสัยของสัตว์อ่อนแอ พวกนี้ชัดเจน
    พวกมันเคยวิ่งข้ามแม่น้ำนี้แล้ว โดนจระเข้กัด ขึ้นบกเจอสิงโตตะปบ มากี่ฤดู ก็ทำมันซ้ำซากอยู่นั่น ไม่เคยคิดเปลี่ยนเส้นทาง แต่มันก็เป็นเพียงสมันน้อย ไม่มีสมองเหมือนมนุษย์
    ชนชาวไทยเคยเป็นนักสู้ บรรพบุรุษกู้บ้านรักษาเมืองมาตลอด เราถึงมีบ้านเมืองเหลืออยู่จนทุกวันนี้ มาสมัยนี้ เรามีแต่สมันน้อยกลัวภัย เซ่อกิน ไม่คิดต่อสู้ป้องกันตัวเลย รู้ว่าจระเข้คอยอยู่ในน้ำ สิงโตคอยอยู่บนฝั่ง ก็ยังดันวิ่งเข้าไปใส่ นิทานเรื่องนี้มันสอนอะไรได้บ้างไหมหนอ
    เขาว่า โชคร้ายมักมาซ้ำสอง หลังจากปี๋ชวนกะอ้ายน้อย โดนจิ๊กโก๋๋วอซิงตันหักหลังจนเดินไม่เป็น ลี้กายหายวับ ก็เกิดมีอัศวินควายดำโผล่ขึ้นมา อัศวินควายดำหน้าเหลี่ยมใช้เล่ห์ และขนมหลายพันล้านห่อ จัดการจนตัวเองได้เป็นรัฐบาล พอเป็นรัฐบาลไม่เท่าไหร่ก็ประกาศศักดา UN ไม่ใช่พ่อ (แต่เป็นปู่ ฮา ฮา) จะใช้หนี้ IMF ให้หมด ไทยจะได้เป็นไทแก่ตัว ไม่ต้องเป็นหนี้เขา ว่าแล้วก็อัดนโยบายประชานิยม มาให้ดินแดนแห่งสมันน้อยเต็มพิกัด
    สมันน้อยแค่จะคิดเอาตัวรอดไปวันๆ ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ก็คิดไม่เก่งน่ะนะ ยังมาเจอเหลี่ยมอัศวินควายดำ จะไปเหลืออะไร โอ้ย! เขาเก่งนะ เขารวยแล้วไม่โกง ฮา 500 หน
    แล้วอัศวินควายดำนี่ชาญฉลาดมาจากไหน อยู่ดีๆ ก็โผล่จากรูมาหรือไร อันนี้ต้องไปหาหนังสือประเภทรู้ทันเหลี่ยม 1,2,3,4,5 ถึง 100 มาอ่าน ก็จะได้พอรู้ประวัติ รู้พัฒนาการเล่ห์ของเหลี่ยมเขา แต่นิทานเรื่องนี้จะเล่าเรื่องที่หนังสือรู้ทัน ไม่ได้เขียนไว้ดีไหม

    คนเล่านิทาน
    ตอน 14 เล่าเรื่องชาว บ้านซะหลายมื้อ กลับเข้ามาบ้านเราต่อดีกว่า เดี๋ยวท่านผู้อ่านจะงง มันจะเล่าเรื่องอะไรกันแน่นะ ก็แหมมันต้องให้เห็นภาพ บอกแล้วอย่าดูแต่สิ่งที่เห็นข้างหน้าอย่างเดียว หัดมองภาพกว้าง ภาพลึก 3 มิติบ้าง จิ๊กโก๋๋ไปหากินอยู่ซอยอื่น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 จนเดี๋ยวนี้ยังพล่านอยู่ เพราะฉะนั้นตั้งแต่รัฐบาลคุณป๋าจ๊อกกี้ จนมาถึงคุณน้าชาติ ขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ บ้านเราจึงแบ่งกันกินแย่งกันกัด โดยไม่มีจิ๊กโก๋๋ต่างถิ่นมาขัดคอ มาเกิดเหตุบังเอิญ ตอนคุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ แกจัดงานเลี้ยงบุพเฟ่ต์บ่อยไปหน่อย แถมอาหารแต่ละจาน มันก็มีพวกจิ๊กโก๋๋อยากร่วมวงรับประทานกินด้วย เรื่องบังเอิญมันถึงได้เกิด ไทยแลนด์แดนสยาม จึงมีนายกชื่อ คุณน้านัน จำได้ใช่ไหมครับ พอคุณน้านันเป็นนายก นอกจากจะจัดสรรเมนูอาหารให้ถูกปากแล้ว รัฐบาลคุณน้านัน ยังเป็นรัฐบาลที่ออกกฎหมาย เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ธุรกรรมการเงิน อีกมากมาย รวมทั้งการเปิดเสรีทางการเงินอีกด้วย พร้อมทั้งจัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญและเลือกตั้งใหม่ เราต้องเป็นประชาธิปไตย เราต้องมีธรรมาภิบาล ฯลฯ นโยบายของคุณน้านันนี่ ถ้าไม่เขียนออกมาเป็นภาษาไทยว่า นโยบายนายกอานันท์นี่ เผลอๆ ท่านผู้อ่านจะนึกว่ากำลังอ่าน Doctrine ต่างๆ ของพี่เบิ้มอเมริกา เลือกตั้งแล้ว เราก็ได้รัฐบาลปี๋ชวนเชื่องช้า รัฐบาลป๋าเติ้งปลาโหลตัวสั้นแลบลิ้นแผล็บๆ รัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว แล้วก็กลับมาปี๋ชวนเชื่องช้าอีก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนสมัยรัฐบาลทหาร พอเป็นรัฐบาลพลเรือน ก็ไม่ต่างกัน แบ่งกันกินแย่งกันกัดเหมือนเดิม แล้วไง จิ๊กโก๋๋ก็ยังไปวุ่นอยู่ซอยอื่น เพราะคิดว่า สมันน้อยมันเหลือแต่กระดูกแล้ว ไม่มีความหมายแล้ว สมันแดนอื่นมันน่าหม่ำกว่าแยะ พ.ศ.2540 (ค.ศ.1997) ช่วงรัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว เป็นนายก บริหารเก่งจนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ดังไปทั่วโลก น้อยใจยุบสภากลับบ้าน ไปนอนซบน้าเครือตู้ทองเคลื่อนที่ดีกว่า ปี๋ชวนเชื่องช้ากลับเข้ามาเป็นรัฐบาล ไทยแลนด์กระเป๋าฉีกขาดกระจุย เงินคงคลังเหลือแต่คลัง ไม่มีเงินคงเหลือ อ้ายน้อยธารินทร์รมว.คลังที่ทุกคนรอคอยยังกะเทวดามาโปรด นักเรียนเก่าฮาร์วาร์ด บอกอย่ากระนั้นเลย เราต้องไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าสถาบันเดียวกัน จิ๊กโก๋๋แถววอชิงตันน่าจะช่วยเราได้ เป็นไปตามคาด (ไม่รู้ใครคาด) จิ๊กโก๋๋วอชิงตันบอกเสียใจนะ อ้ายน้อย ไอให้ยูยืมเงินไม่ได้หรอก แต่ไอก็ไม่ทิ้งยู ยูไปเข้าโปรแกรม IMF ล่ะกันนะ ไอจะแนะนำไปให้ อ้ายน้อยเดินหน้าขรึมกลับบ้าน บอกปี๋ชวน เขาช่วยเราโดยให้ไปกู้ IMF 5 5 5 เงินกู้ IMF มาพร้อมกับเงื่อนไข 508 ประการ เช่นการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ที่สำคัญเกิด ปรากฏการณ์ปิด 56 ไฟแนนซ์ (เบื้องหลังการปิดไฟแนนซ์นี่ ถ้าจะต้องไปตามอ่านจากเพจคุณThanong Fanclub น่าจะดีกว่า!) เจ้าสัวทั้งหลายแทบจะเดินเอากระจาดปิดก้นกันเป็นแถว พ่อค้าจีนไทยเจ๊ง ตลาดหุ้นเจ๊ง ธุรกิจพัง อสังหาริม ทรัพย์ร้าง ขนาดอาเฮียนักการเงินเดินหน้าแห้งบอก ตูไปขายแซนด์วิชดีกว่า อืม เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เขียนเหมือนสนุก แต่มันเจ็บลึก เจ็บจริงๆ นี่ยังไม่นับเรื่องการซื้อขายทรัพย์สินของ ปรส. นะ ภารกิจ IMF นี่มันซับซ้อนต้องเล่ากันยาว แต่เล่ามาเท่านี้ นักฟังนิทานก็น่าจะพอเดากันออกบ้างว่า มันวางไลน์กันอย่างไร ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่า ไทยเคยเสียอธิปไตยให้แก่อเมริกาครั้งแรก เมื่อคราวปี พ.ศ.2505 -2515 สมัยสงครามเวียตนาม อเมริกาใช้ไทยเป็นฐานทัพ โดยไม่มีเอกสารสัญญาเป็นเรื่องเป็นราว การปฏิบัติการรบทางอากาศที่อาศัยฐานทัพ 7 แห่งในบ้านเรา อนุมัติโดยอเมริกา และทหารอเมริกันมีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ไม่ต้องขึ้นศาลไทย แต่ไทยก็ไม่เคยรู้ซึ้ง ถึงเล่ห์รักของเพื่อน เชื่อใจเขา จนถึงปี พ.ศ.2540 ไทยก็เสียอธิปไตยอีกครั้ง ครั้งนี้จากการปฎิเสธความช่วยเหลือไทยของประธานาธิบดีคลินตัน โดยให้ไทยเข้าโครงการ IMF แทน! ผลของโครงการ IMF เปิดทางให้ต่างชาติ ครอบงำธุรกิจไทยเบ็ดเสร็จ ไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ อุตสาหกรรม ที่สำคัญสถาบันการเงินไทย ถูกต่างชาติเข้ามาครอบงำ จนทุกวันนี้ มีธนาคารชื่อไทย แต่ไส้เป็นของต่าง ชาติกี่ธนาคาร คำตอบคือ เกือบหมด ไปหารายงานของตลาดหลักทรัพย์หรือธนาคารแห่งประเทศไทยอ่านซะบ้าง จะได้รู้สภาพประเทศตัวเองเป็นอย่างไร อย่าหลงเทิดทูนหัวทองตาสีฟ้ากันมากนัก เทิดทูนจนถึงกับฟอกผม ฟอกผิวนี่นะ มันยิ่งกว่างี่เง่าอีกนะ แต่วิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง เงินกู้ IMF ก็ไม่ทำให้สมันน้อยรู้ตัว ถ้าเราเคยดูหนังสารคดี discovery เราจะเห็นนิสัยของสัตว์อ่อนแอ พวกนี้ชัดเจน พวกมันเคยวิ่งข้ามแม่น้ำนี้แล้ว โดนจระเข้กัด ขึ้นบกเจอสิงโตตะปบ มากี่ฤดู ก็ทำมันซ้ำซากอยู่นั่น ไม่เคยคิดเปลี่ยนเส้นทาง แต่มันก็เป็นเพียงสมันน้อย ไม่มีสมองเหมือนมนุษย์ ชนชาวไทยเคยเป็นนักสู้ บรรพบุรุษกู้บ้านรักษาเมืองมาตลอด เราถึงมีบ้านเมืองเหลืออยู่จนทุกวันนี้ มาสมัยนี้ เรามีแต่สมันน้อยกลัวภัย เซ่อกิน ไม่คิดต่อสู้ป้องกันตัวเลย รู้ว่าจระเข้คอยอยู่ในน้ำ สิงโตคอยอยู่บนฝั่ง ก็ยังดันวิ่งเข้าไปใส่ นิทานเรื่องนี้มันสอนอะไรได้บ้างไหมหนอ เขาว่า โชคร้ายมักมาซ้ำสอง หลังจากปี๋ชวนกะอ้ายน้อย โดนจิ๊กโก๋๋วอซิงตันหักหลังจนเดินไม่เป็น ลี้กายหายวับ ก็เกิดมีอัศวินควายดำโผล่ขึ้นมา อัศวินควายดำหน้าเหลี่ยมใช้เล่ห์ และขนมหลายพันล้านห่อ จัดการจนตัวเองได้เป็นรัฐบาล พอเป็นรัฐบาลไม่เท่าไหร่ก็ประกาศศักดา UN ไม่ใช่พ่อ (แต่เป็นปู่ ฮา ฮา) จะใช้หนี้ IMF ให้หมด ไทยจะได้เป็นไทแก่ตัว ไม่ต้องเป็นหนี้เขา ว่าแล้วก็อัดนโยบายประชานิยม มาให้ดินแดนแห่งสมันน้อยเต็มพิกัด สมันน้อยแค่จะคิดเอาตัวรอดไปวันๆ ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ก็คิดไม่เก่งน่ะนะ ยังมาเจอเหลี่ยมอัศวินควายดำ จะไปเหลืออะไร โอ้ย! เขาเก่งนะ เขารวยแล้วไม่โกง ฮา 500 หน แล้วอัศวินควายดำนี่ชาญฉลาดมาจากไหน อยู่ดีๆ ก็โผล่จากรูมาหรือไร อันนี้ต้องไปหาหนังสือประเภทรู้ทันเหลี่ยม 1,2,3,4,5 ถึง 100 มาอ่าน ก็จะได้พอรู้ประวัติ รู้พัฒนาการเล่ห์ของเหลี่ยมเขา แต่นิทานเรื่องนี้จะเล่าเรื่องที่หนังสือรู้ทัน ไม่ได้เขียนไว้ดีไหม คนเล่านิทาน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงชอบมากครับเวบนี้

    เรื่องเล่าจากต้นไม้แห่งเทคโนโลยี: ย้อนรอยวิวัฒนาการมนุษย์ผ่าน Historical Tech Tree

    ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเดินอยู่ในสวนขนาดมหึมา ที่แต่ละกิ่งไม้คือเทคโนโลยีหนึ่งชิ้น และทุกใบไม้คือการค้นพบใหม่ที่เชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน นี่คือแนวคิดของ “Historical Tech Tree” — เว็บไซต์อินเทอร์แอคทีฟที่สร้างโดย Étienne Fortier-Dubois เพื่อให้เราเข้าใจวิวัฒนาการของเทคโนโลยีตั้งแต่ 3 ล้านปีก่อนจนถึงปัจจุบัน

    แทนที่จะเป็นแค่ไทม์ไลน์เรียงปี เว็บไซต์นี้ใช้ “ต้นไม้เทคโนโลยี” ที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งประดิษฐ์ เช่น การค้นพบไฟนำไปสู่การหลอมโลหะ การหลอมโลหะนำไปสู่การสร้างเครื่องมือ และเครื่องมือเหล่านั้นนำไปสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม

    แนวคิดนี้ได้แรงบันดาลใจจากเกมวางแผนอย่าง Civilization ที่ใช้ “Tech Tree” เป็นกลไกในการปลดล็อกความสามารถใหม่ แต่ในโลกจริง ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไม่ได้เป็นเส้นตรงหรือมีสูตรตายตัว เว็บไซต์นี้จึงพยายามแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อน ความบังเอิญ และแรงบันดาลใจที่ผลักดันมนุษย์ให้คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ


    https://www.historicaltechtree.com/
    ลุงชอบมากครับเวบนี้ 🧠🌐 เรื่องเล่าจากต้นไม้แห่งเทคโนโลยี: ย้อนรอยวิวัฒนาการมนุษย์ผ่าน Historical Tech Tree ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเดินอยู่ในสวนขนาดมหึมา ที่แต่ละกิ่งไม้คือเทคโนโลยีหนึ่งชิ้น และทุกใบไม้คือการค้นพบใหม่ที่เชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน นี่คือแนวคิดของ “Historical Tech Tree” — เว็บไซต์อินเทอร์แอคทีฟที่สร้างโดย Étienne Fortier-Dubois เพื่อให้เราเข้าใจวิวัฒนาการของเทคโนโลยีตั้งแต่ 3 ล้านปีก่อนจนถึงปัจจุบัน แทนที่จะเป็นแค่ไทม์ไลน์เรียงปี เว็บไซต์นี้ใช้ “ต้นไม้เทคโนโลยี” ที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งประดิษฐ์ เช่น การค้นพบไฟนำไปสู่การหลอมโลหะ การหลอมโลหะนำไปสู่การสร้างเครื่องมือ และเครื่องมือเหล่านั้นนำไปสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม แนวคิดนี้ได้แรงบันดาลใจจากเกมวางแผนอย่าง Civilization ที่ใช้ “Tech Tree” เป็นกลไกในการปลดล็อกความสามารถใหม่ แต่ในโลกจริง ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไม่ได้เป็นเส้นตรงหรือมีสูตรตายตัว เว็บไซต์นี้จึงพยายามแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อน ความบังเอิญ และแรงบันดาลใจที่ผลักดันมนุษย์ให้คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ https://www.historicaltechtree.com/
    WWW.HISTORICALTECHTREE.COM
    Historical Tech Tree
    Interactive visualization of technological history
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 12
    พี่เบิ้มหายไปไหน ถึงได้ตกข่าวขนาดนั้น ก็พี่เบิ้มกำลังไปขุดเผือกขุดน้ำมันไง
    ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1973 (พ.ศ.2516) ระหว่างที่เห็นลางว่า รบกับพวกแกวนี่ท่าทางกูจะเหนื่อย เอาเครื่องบินไล่ถล่มอยู่ดีๆ มันทะลึ่งหนีลงรูไปหมด พี่เบิ้มไม่โง่นี่ จะได้มุดรูดตาม พี่เบิ้มก็เลยหาทางไปรับประทานทางอื่นต่อดีกว่า
    พี่เบิ้มก็เข้าไปยุให้อิรัก อิหร่าน มันรบกัน ป่วนเรื่องอียิปต์ อิสราเอล และซาอุหนุนคูเวต สารพัดละก็แถวนั้นมันบ่อน้ำมันทั้งนั้น
    จำง่ายๆ เวลาพี่เบิ้มเขาอยากได้อะไร …เขาก็ต้องสร้างเรื่องให้ประเทศเจ้าของบ้าน มันวุ่น มันงง แล้วในที่สุดก็เละ… เขาจะได้เข้าไปได้สะดวกโดยเจ้าของบ้านไม่รู้ตัว ก็สูตรธรรมดา จะไปขโมยของบ้านเขา รอบรั้วการป้อง กันเขาแข็งแรง จะขโมยได้ง่ายยังไง เสือใบ เสือดำ นักปล้นรุ่นโบราณของบ้านเรายังรู้เลย จะปล้นเขา ก็ต้องรอให้มันมืด มอมเหล้าเด็กแถวบ้านมันบ้าง ปล่อยหมาให้มันไปกัดกันหน้าบ้านบ้าง ปาก้อนอิฐใส่บ้าง พอเจ้า ของบ้านมันงง ก็ค่อยเขย่งเก็งกอย เข้าไปหยิบฉวยสมบัติเจ้าคุณปู่เขาออกมา ก็เท่านั้น
    ทุกเรื่องที่พี่เบิ้มเขาทำ มันก็สูตรทำนองนี้ ทั้งนั้น แต่มันสร้างเรื่อง ทำฉากให้ใหญ่โต ก็ติดนิสัยนักสร้างหนังฮอลลีวู้ดไง ถ้าเราดูอะไรแบบตรงไปตรงมา อย่าไปตื่นเต้นกับฉากมโหฬาร ถามตัวเองก่อน… ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ยใครได้ ใครเสีย วิเคราะห์เองบ้าง ก็จะมองเห็นละนะคุณโยม ไม่ต้องไปหาหมอดู ถามมันวันละ 3 ครั้งให้เสียเงินเปล่าๆ ว่าบ้านเมืองมันเราจะเป็นยังไง มันจะแย่ไหมค้า
    เอ้ากลับมาที่คุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์
    ไอ้เรื่องดาวเทียม เรื่องโทรศัพท์ 3 ล้านเลขหมาย นี่มันเรื่องใหญ่นะ ใหญ่ยังไง ก็แหม ดาวเทียมนี่ เอามาลอยตุ๊บป่องจัดวางให้ถูกองศา ส่องไปที่ไหนนี่นะ ไม่อยากพูดเลย เหมือนดูหนังโป๊ สิว ไฝ ฝ้า หูด แผล มีตรงไหนเห็นหมดแล้วไอ้การกำหนดองศา slot ของดาวเทียมนี้ มันมีองค์การที่ทำหน้าที่กำหนดตำแหน่งดาวเทียม ที่แต่ละประเทศก็มีสิทธิจองกัน
    นี่ถ้าเราให้สมันน้อย จององศาให้ถูกที่เราต้องการนะ อาเฮียกำลังนั่งแทะเม็ดกวยจี้เกาหูด ไอก็เห็นทุกช็อต เฮ้อ! แล้วจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง
    ส่วนไอ้ 3 ล้านเลขหมายนะ มันเรื่องจ้อย มันอยากจะจ้อกันทั้งวันก็ช่างหัวมันเต๊อะ
    แต่การจะใช้ 3 ล้านเลขหมายนี้นะ มันต้องวางเครือข่ายไฟเบอร์ออพติกทั้งประเทศ ทั้งใต้ดิน บนดิน ใต้น้ำ ใครกระซิบ ใครส่งข่าวอะไร ไอ้สายบ้านี่มันจับได้หมด
    แหม! มีทั้งบนฟ้า มีทั้งบนดิน ใต้ดิน บวกกับค่ายรามสูรที่ไอแกล้งทำลืม ไม่เอากลับตอนเลิกรบกับ เวียต นามนะ ไทยแลนด์ ไอไม่ต้องจ่ายค่าวิ่งผลัด อย่างเมื่อก่อน ไอก็คุมได้ เข้าใจไหมสมันน้อย
    แล้วจะปล่อยให้มันหลุดมือไปได้ยังไง ต้องเล่าให้ชัดกว่านี้มั้ย
    อ่านนิทานมาจนบัดนี้แล้วน่ะ หัดตอบโจทย์เองบ้าง ไม่ต้องไปรอใครทำหน้าฉลาดตอบให้หรอก
    แล้วมันจะบังเอิญไปหน่อยไหม อยู่ดีๆ ก็เกิดเรื่องพฤษภาทมิฬ
    คุณทหารทั้งหลายก็ลุกขึ้นมาแย่งอำนาจกัน บี้กันไปบี้กันมา เหล่าม๊อบมือถือแห่งไทยแลนด์แดนสวรรค์ ก็หน้ามุ่ยออกไปประท้วง ทั้งลุงจำลอง ลุงฉลาด แย่งกันอดข้าว อดน้ำ
    แล้วไง พอถึงเวลา ต้ายตาย ดร.อาทิตย์หน้าแฉล้ม ปล่อยให้คุณน้าสมบุญเป็นพ่อสายบัว แต่งชุดขาว ภู่ระหงส์ เหี่ยวรออยู่กับบ้าน แต่ดันไปอุ้มคุณน้านัน technocrat แห่งซิบวีนัส ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี
    คิดแล้ว ไม่แปลกใจบ้างหรือจ๊ะ เมืองไทยนี้สมกับเป็นแดนแห่ง Amazing Thailand จริ๊ง จริง คุณน้านัน ผู้ดีเก่า นี่น่าสนใจ
    สมัยสงครามเวียตนามช่วงท้าย ระหว่างที่คุณลุงถนัดออกมาอาละวาด ฟาดงวงงา เรื่องพี่เบิ้มไม่ยอมทำสัญญาจริงๆ จังๆกับไทย คุณน้านันเป็นทูตไทยประจำ UN คุณน้าเลยต้องเป็นตัวแทนฝ่ายไทยไปเจรจากับพี่เบิ้มตลอดเวลา (สมัยนั้นท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นนายกฯ)
    เสร็จการเจรจา รายงานฝ่ายอเมริกาบอก Mr. A นี่ เป็นคนที่เราจะต้องจับตามอง เขาเป็นคนที่เราจะพูดคุยได้รู้เรื่อง (เหมือนกับ Mr. P รุ่นปู่เจ้าพ่อน้ำดำเลยนะ) เอ้า! ก็อย่างว่า แล้วคุณน้านัน ก็มาเป็นนายก เป็นแล้วเป็นอีก ช่วงปี พ.ศ.2531 ถึง พ.ศ.2535 เขาว่า งานแรกที่คุณน้านัน มาจัดการก็คือเรื่องที่ค้างคา (คาใจพี่เบิ้ม!) เป็นที่เรียบร้อย
    ไอ้ 3 ล้านเลขหมาย เขาว่า (อีกแล้ว) คุณน้าเรียกมาแบ่งเค้ก เอ้ย! เจรจาเองเลยนะ บริษัทของพี่เบิ้มตกรอบ ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการ 3 ล้านเลขหมาย ไม่เป็นไรยูรับเหมาวาง fiber optic ไปแล้วกันนะ แหะแหะ สมใจนึกบางลำพู ทำท่าหงอยๆ รับ ok ok กลับไปรายงานข้ามโลกว่า We win! แล้วดาวเทียมล่ะ เสร็จโก๋ท้องถิ่นหน้าใหม่เอี่ยมเหลี่ยมพราว นายหน้าเหลี่ยมแจ้งเกิด ได้สัมปทานดาวเทียมเอาไปกอดอยู่ 15 ปี ต่อมาขายให้สิงคโปร์ กำไรบานตะเกียงไม่เสียภาษีซักกะแดง ไอ้หนุ่ยลูกป้าเหน่ง ทำงานเป็นเสมียน เงินเดือนๆ ละ 20,000 ยังเสียภาษีเดือนละ 2,000 บาทเลย เป็นงงเอาฝ่าเท้าก่ายหน้าผากรำพึง มันทำได้ไงวะ
    พูดถึงดาวเทียม ข้อมูลมันน่าสนใจ ไม่รู้ลืมกันหมดหรือยัง ไม่เล่าสู่กันฟัง มารู้ภายหลัง เดี๋ยวจะมาต่อว่ามีของดีแล้วไม่บอก
    ไอ้ดาวเทียมไทยคมนี้ นายหน้าเหลี่ยมเขาได้ไปก็จริง แต่ขบวนการมันน่าคิดนะ ตอนไปขอสัมปทานกับรัฐน่ะ
    ยังต้องให้เจ๊กระบัง ตากหน้าไปแลกเช็คอยู่เลย เอาเงินจากไหนมาคิดสร้างดาวเทียมน่ะ มันดวงละ 100, 200 บาท ซะเมื่อไหร่ ไม่ใช่ลูกโป่งนะ
    อ๋อ! ก็กู้เงินจากเอ็กซิม แบงค์ (Exim Bank, Export Import Bank) ของพี่เบิ้ม ที่สนง.ใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี ซี ซิ คร้าบ อา! มาแล้ว เริ่มเห็นหัวโผล่ๆ มาแล้วใช่ไหม เดี๋ยวนี้คนอ่านนิทานฉลาดจะตาย อ่านนิทานไปไม่เท่าไหร่ พอจะปะติดปะต่อกันได้ อิ! อิ!
    มันไม่เท่านั้นนะนาย กู้เงินจากเอ็กซิม แบงค์ แล้วยังมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้อีก เอ! แล้วธนาคารนี้มาเกี่ยวอะไร เขาถ้าจะรักฝังใจ เสียดายดาวเทียม ตอนแรกก็ทำคลอดให้ ตอนจบก็ช่วยแต่งศพให้ ..เอ๊ะ! เล่าให้มันรู้เรื่องหน่อยซีลุง
    ก็คืองี้ ตอนกู้เงินสร้างดาวเทียม ธนาคารไทยพาณิชย์ก็กรุณาค้ำประกันให้ตอนจะขายให้ Temasek ของสิงคโปร์ บริษัทลูกของไทยพาณิชย์ ก็เป็นที่ปรึกษาการเงินให้เสร็จ แล้วเพื่อไม่ให้ผิดสัญญาที่สัมปทานกำหนด เกณฑ์คนต่างด้าวถือหุ้นเอาไว้ ก็ต้องสร้างนอมินี (nominee) ไทยมาถือแทนต่างด้าว (อีนอมาอีกแล้ว) อีนอก็ดันไม่มีเงินซื้อ ไปกู้เงินจากไทยพาณิชย์ เป็นทุนมาซื้อหุ้นดาวเทียม
    บริษัทนี้ชื่อกุหลาบแก้วไงจ๊ะ ลืมกันแล้วหรือ แล้วใครเป็นประธานบริษัทกุหลาบแก้วนะ แหม! ไม่อยากบอกเล้ย ! เขาชื่อมิสเตอร์พงส์ ลูกมิสเตอร์ พี แห่งน้ำดำจ๊ะ มันก็คงเป็นเรื่องบังเอิญอีกน่ะนะ แล้วตอนนี้เรื่องมันถึงไหน ผิดถูกอย่างไร ไปตามหากันต่อเองเน้อ เอ้า ! ยังมีบังเอิญอีก แล้วธนาคารไทยพาณิชย์นี่นะ อีตอนที่ให้กุหลาบแก้วกู้เงินน่ะ ข่าวว่า ประธานธนาคารชื่อ คุณน้านัน! โอ้ย! มันบังเอิญทั้งนั้น Amazing Thailand นี่น่ะ
    แล้วตกลงไอ้ดาวเทียมไทยคม นี่มันเป็นของไอ้เหลี่ยมตั้งแต่ต้น หรือไอ้เหลี่ยมก็มีนอกันแน่ …คิดมากแล้วปวดหัวนิ
    เรื่องบ้านเมืองนี้ มันมีแยะ ตั้งกะพี่เบิ้มมันเดินยิ้ม จมูกโด่งงุ้ม ย้ายพุงไปมาในบ้านเราน่ะ ถึงว่าจะดูอะไร ดูให้ชัดๆ จะฟังอะไร ก็หัดกรอง สมองมีให้คิด ไม่ใช่มีไว้กั้นหูอย่างเดียว


    คนเล่านิทาน
    ตอน 12 พี่เบิ้มหายไปไหน ถึงได้ตกข่าวขนาดนั้น ก็พี่เบิ้มกำลังไปขุดเผือกขุดน้ำมันไง ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1973 (พ.ศ.2516) ระหว่างที่เห็นลางว่า รบกับพวกแกวนี่ท่าทางกูจะเหนื่อย เอาเครื่องบินไล่ถล่มอยู่ดีๆ มันทะลึ่งหนีลงรูไปหมด พี่เบิ้มไม่โง่นี่ จะได้มุดรูดตาม พี่เบิ้มก็เลยหาทางไปรับประทานทางอื่นต่อดีกว่า พี่เบิ้มก็เข้าไปยุให้อิรัก อิหร่าน มันรบกัน ป่วนเรื่องอียิปต์ อิสราเอล และซาอุหนุนคูเวต สารพัดละก็แถวนั้นมันบ่อน้ำมันทั้งนั้น จำง่ายๆ เวลาพี่เบิ้มเขาอยากได้อะไร …เขาก็ต้องสร้างเรื่องให้ประเทศเจ้าของบ้าน มันวุ่น มันงง แล้วในที่สุดก็เละ… เขาจะได้เข้าไปได้สะดวกโดยเจ้าของบ้านไม่รู้ตัว ก็สูตรธรรมดา จะไปขโมยของบ้านเขา รอบรั้วการป้อง กันเขาแข็งแรง จะขโมยได้ง่ายยังไง เสือใบ เสือดำ นักปล้นรุ่นโบราณของบ้านเรายังรู้เลย จะปล้นเขา ก็ต้องรอให้มันมืด มอมเหล้าเด็กแถวบ้านมันบ้าง ปล่อยหมาให้มันไปกัดกันหน้าบ้านบ้าง ปาก้อนอิฐใส่บ้าง พอเจ้า ของบ้านมันงง ก็ค่อยเขย่งเก็งกอย เข้าไปหยิบฉวยสมบัติเจ้าคุณปู่เขาออกมา ก็เท่านั้น ทุกเรื่องที่พี่เบิ้มเขาทำ มันก็สูตรทำนองนี้ ทั้งนั้น แต่มันสร้างเรื่อง ทำฉากให้ใหญ่โต ก็ติดนิสัยนักสร้างหนังฮอลลีวู้ดไง ถ้าเราดูอะไรแบบตรงไปตรงมา อย่าไปตื่นเต้นกับฉากมโหฬาร ถามตัวเองก่อน… ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ยใครได้ ใครเสีย วิเคราะห์เองบ้าง ก็จะมองเห็นละนะคุณโยม ไม่ต้องไปหาหมอดู ถามมันวันละ 3 ครั้งให้เสียเงินเปล่าๆ ว่าบ้านเมืองมันเราจะเป็นยังไง มันจะแย่ไหมค้า เอ้ากลับมาที่คุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ ไอ้เรื่องดาวเทียม เรื่องโทรศัพท์ 3 ล้านเลขหมาย นี่มันเรื่องใหญ่นะ ใหญ่ยังไง ก็แหม ดาวเทียมนี่ เอามาลอยตุ๊บป่องจัดวางให้ถูกองศา ส่องไปที่ไหนนี่นะ ไม่อยากพูดเลย เหมือนดูหนังโป๊ สิว ไฝ ฝ้า หูด แผล มีตรงไหนเห็นหมดแล้วไอ้การกำหนดองศา slot ของดาวเทียมนี้ มันมีองค์การที่ทำหน้าที่กำหนดตำแหน่งดาวเทียม ที่แต่ละประเทศก็มีสิทธิจองกัน นี่ถ้าเราให้สมันน้อย จององศาให้ถูกที่เราต้องการนะ อาเฮียกำลังนั่งแทะเม็ดกวยจี้เกาหูด ไอก็เห็นทุกช็อต เฮ้อ! แล้วจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง ส่วนไอ้ 3 ล้านเลขหมายนะ มันเรื่องจ้อย มันอยากจะจ้อกันทั้งวันก็ช่างหัวมันเต๊อะ แต่การจะใช้ 3 ล้านเลขหมายนี้นะ มันต้องวางเครือข่ายไฟเบอร์ออพติกทั้งประเทศ ทั้งใต้ดิน บนดิน ใต้น้ำ ใครกระซิบ ใครส่งข่าวอะไร ไอ้สายบ้านี่มันจับได้หมด แหม! มีทั้งบนฟ้า มีทั้งบนดิน ใต้ดิน บวกกับค่ายรามสูรที่ไอแกล้งทำลืม ไม่เอากลับตอนเลิกรบกับ เวียต นามนะ ไทยแลนด์ ไอไม่ต้องจ่ายค่าวิ่งผลัด อย่างเมื่อก่อน ไอก็คุมได้ เข้าใจไหมสมันน้อย แล้วจะปล่อยให้มันหลุดมือไปได้ยังไง ต้องเล่าให้ชัดกว่านี้มั้ย อ่านนิทานมาจนบัดนี้แล้วน่ะ หัดตอบโจทย์เองบ้าง ไม่ต้องไปรอใครทำหน้าฉลาดตอบให้หรอก แล้วมันจะบังเอิญไปหน่อยไหม อยู่ดีๆ ก็เกิดเรื่องพฤษภาทมิฬ คุณทหารทั้งหลายก็ลุกขึ้นมาแย่งอำนาจกัน บี้กันไปบี้กันมา เหล่าม๊อบมือถือแห่งไทยแลนด์แดนสวรรค์ ก็หน้ามุ่ยออกไปประท้วง ทั้งลุงจำลอง ลุงฉลาด แย่งกันอดข้าว อดน้ำ แล้วไง พอถึงเวลา ต้ายตาย ดร.อาทิตย์หน้าแฉล้ม ปล่อยให้คุณน้าสมบุญเป็นพ่อสายบัว แต่งชุดขาว ภู่ระหงส์ เหี่ยวรออยู่กับบ้าน แต่ดันไปอุ้มคุณน้านัน technocrat แห่งซิบวีนัส ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี คิดแล้ว ไม่แปลกใจบ้างหรือจ๊ะ เมืองไทยนี้สมกับเป็นแดนแห่ง Amazing Thailand จริ๊ง จริง คุณน้านัน ผู้ดีเก่า นี่น่าสนใจ สมัยสงครามเวียตนามช่วงท้าย ระหว่างที่คุณลุงถนัดออกมาอาละวาด ฟาดงวงงา เรื่องพี่เบิ้มไม่ยอมทำสัญญาจริงๆ จังๆกับไทย คุณน้านันเป็นทูตไทยประจำ UN คุณน้าเลยต้องเป็นตัวแทนฝ่ายไทยไปเจรจากับพี่เบิ้มตลอดเวลา (สมัยนั้นท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นนายกฯ) เสร็จการเจรจา รายงานฝ่ายอเมริกาบอก Mr. A นี่ เป็นคนที่เราจะต้องจับตามอง เขาเป็นคนที่เราจะพูดคุยได้รู้เรื่อง (เหมือนกับ Mr. P รุ่นปู่เจ้าพ่อน้ำดำเลยนะ) เอ้า! ก็อย่างว่า แล้วคุณน้านัน ก็มาเป็นนายก เป็นแล้วเป็นอีก ช่วงปี พ.ศ.2531 ถึง พ.ศ.2535 เขาว่า งานแรกที่คุณน้านัน มาจัดการก็คือเรื่องที่ค้างคา (คาใจพี่เบิ้ม!) เป็นที่เรียบร้อย ไอ้ 3 ล้านเลขหมาย เขาว่า (อีกแล้ว) คุณน้าเรียกมาแบ่งเค้ก เอ้ย! เจรจาเองเลยนะ บริษัทของพี่เบิ้มตกรอบ ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการ 3 ล้านเลขหมาย ไม่เป็นไรยูรับเหมาวาง fiber optic ไปแล้วกันนะ แหะแหะ สมใจนึกบางลำพู ทำท่าหงอยๆ รับ ok ok กลับไปรายงานข้ามโลกว่า We win! แล้วดาวเทียมล่ะ เสร็จโก๋ท้องถิ่นหน้าใหม่เอี่ยมเหลี่ยมพราว นายหน้าเหลี่ยมแจ้งเกิด ได้สัมปทานดาวเทียมเอาไปกอดอยู่ 15 ปี ต่อมาขายให้สิงคโปร์ กำไรบานตะเกียงไม่เสียภาษีซักกะแดง ไอ้หนุ่ยลูกป้าเหน่ง ทำงานเป็นเสมียน เงินเดือนๆ ละ 20,000 ยังเสียภาษีเดือนละ 2,000 บาทเลย เป็นงงเอาฝ่าเท้าก่ายหน้าผากรำพึง มันทำได้ไงวะ พูดถึงดาวเทียม ข้อมูลมันน่าสนใจ ไม่รู้ลืมกันหมดหรือยัง ไม่เล่าสู่กันฟัง มารู้ภายหลัง เดี๋ยวจะมาต่อว่ามีของดีแล้วไม่บอก ไอ้ดาวเทียมไทยคมนี้ นายหน้าเหลี่ยมเขาได้ไปก็จริง แต่ขบวนการมันน่าคิดนะ ตอนไปขอสัมปทานกับรัฐน่ะ ยังต้องให้เจ๊กระบัง ตากหน้าไปแลกเช็คอยู่เลย เอาเงินจากไหนมาคิดสร้างดาวเทียมน่ะ มันดวงละ 100, 200 บาท ซะเมื่อไหร่ ไม่ใช่ลูกโป่งนะ อ๋อ! ก็กู้เงินจากเอ็กซิม แบงค์ (Exim Bank, Export Import Bank) ของพี่เบิ้ม ที่สนง.ใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี ซี ซิ คร้าบ อา! มาแล้ว เริ่มเห็นหัวโผล่ๆ มาแล้วใช่ไหม เดี๋ยวนี้คนอ่านนิทานฉลาดจะตาย อ่านนิทานไปไม่เท่าไหร่ พอจะปะติดปะต่อกันได้ อิ! อิ! มันไม่เท่านั้นนะนาย กู้เงินจากเอ็กซิม แบงค์ แล้วยังมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้อีก เอ! แล้วธนาคารนี้มาเกี่ยวอะไร เขาถ้าจะรักฝังใจ เสียดายดาวเทียม ตอนแรกก็ทำคลอดให้ ตอนจบก็ช่วยแต่งศพให้ ..เอ๊ะ! เล่าให้มันรู้เรื่องหน่อยซีลุง ก็คืองี้ ตอนกู้เงินสร้างดาวเทียม ธนาคารไทยพาณิชย์ก็กรุณาค้ำประกันให้ตอนจะขายให้ Temasek ของสิงคโปร์ บริษัทลูกของไทยพาณิชย์ ก็เป็นที่ปรึกษาการเงินให้เสร็จ แล้วเพื่อไม่ให้ผิดสัญญาที่สัมปทานกำหนด เกณฑ์คนต่างด้าวถือหุ้นเอาไว้ ก็ต้องสร้างนอมินี (nominee) ไทยมาถือแทนต่างด้าว (อีนอมาอีกแล้ว) อีนอก็ดันไม่มีเงินซื้อ ไปกู้เงินจากไทยพาณิชย์ เป็นทุนมาซื้อหุ้นดาวเทียม บริษัทนี้ชื่อกุหลาบแก้วไงจ๊ะ ลืมกันแล้วหรือ แล้วใครเป็นประธานบริษัทกุหลาบแก้วนะ แหม! ไม่อยากบอกเล้ย ! เขาชื่อมิสเตอร์พงส์ ลูกมิสเตอร์ พี แห่งน้ำดำจ๊ะ มันก็คงเป็นเรื่องบังเอิญอีกน่ะนะ แล้วตอนนี้เรื่องมันถึงไหน ผิดถูกอย่างไร ไปตามหากันต่อเองเน้อ เอ้า ! ยังมีบังเอิญอีก แล้วธนาคารไทยพาณิชย์นี่นะ อีตอนที่ให้กุหลาบแก้วกู้เงินน่ะ ข่าวว่า ประธานธนาคารชื่อ คุณน้านัน! โอ้ย! มันบังเอิญทั้งนั้น Amazing Thailand นี่น่ะ แล้วตกลงไอ้ดาวเทียมไทยคม นี่มันเป็นของไอ้เหลี่ยมตั้งแต่ต้น หรือไอ้เหลี่ยมก็มีนอกันแน่ …คิดมากแล้วปวดหัวนิ เรื่องบ้านเมืองนี้ มันมีแยะ ตั้งกะพี่เบิ้มมันเดินยิ้ม จมูกโด่งงุ้ม ย้ายพุงไปมาในบ้านเราน่ะ ถึงว่าจะดูอะไร ดูให้ชัดๆ จะฟังอะไร ก็หัดกรอง สมองมีให้คิด ไม่ใช่มีไว้กั้นหูอย่างเดียว คนเล่านิทาน
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว

  • ตอน 9

    ระหว่างที่สงครามเวียตนามกำลังเริ่มเข้าขั้นโคม่า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 (ค.ศ.1967) พี่เบิ้มเริ่มเป็นฝ่ายรับ พี่เบิ้มจึงเปลี่ยนมาใช้แผน 2 (แผน 2 หน้า)
    หน้าหนึ่งก็เริ่มให้มีการเดินสายเล่นบทเจรจา ระหว่างรัฐมนตรีตปท.คนสำคัญของพี่เบิ้มกับทางเวียตนาม คนมีเสน่ห์ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ (Henry Kissinger) รมต ตปท ของพี่เบิ้มสมัยนั้น เดินทางเป็นว่าเล่น เหมือนคุณนาย คลินตัน (Clinton) ตอนรัฐบาลโอบามา (Obama 1) นั่นแหละ
    อีกหน้าหนึ่งก็ส่งให้ลูกกะเป๋งทั้งหลาย ก็ใครล่ะ นึกให้ดีนะ ลุยเข้าไปถล่มคอมมี่ต่อ (โปรดสังเกตพวกพี่เบิ้ม เวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน รมต.ตปท. ชีพจรลงเท้าทั้งนั้น ตอนนี้ก็เห็นบินกันว่อน ตามดูรอบตัวเรากันบ้างนะครับ)
    ดังนั้นปฏิบัติการลับในประเทศลาว ซึ่งฝ่ายไทยนำโดย รหัสเทพ 333 (ไปหาเอาเองนะครับว่าเป็นใคร) กับฝ่าย CIA อเมริกา จึงทำงานหนัก บินกระหน่ำถล่มคอมมิวนิสต์ที่ลาว ผลลาวแตกเป็น 2 ฝ่าย เมื่อปี พ.ศ.2518 (ค.ศ.1975) พี่น้องเจ้าลาวถูกเสี้ยมให้แตกกันเอง เจ้าสุวรรณภูมา ผู้พี่ วิ่งไปอยู่ในอ้อมกอดของพี่เบิ้มอเมริกา เจ้าสุภานุวงศ์ คนน้อง เหม็นฝรั่ง จึงไปซบกับฝ่ายจีน
    แล้วลาวก็เปลี่ยนจากประเทศที่ปกครองโดยระบอบกษัตริย์ เป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบสังคมนิยม ตั้งแต่ครั้งนั้น ฝีมือใครครับ โปรดไปศึกษาต่อน่าสนใจมาก ไม่ใช่เฉพาะที่ลาว ในสงครามเวียตนามเอง หลัง จากทุ่มเงินไปกว่าพันล้านเหรียญ (ใช้เงินมากกว่าตอนอเมริการบในสงครามโลกครั้งที่ 2 !) ใช้ทหารไปรบประมาณ 500,000 นาย เสียชีวิตไประหว่างรบทั้งหมดเกือบ 60,000 คน ยังไม่นับที่สูญหาย ทุพพลภาพทางกายและจิตใจ อเมริกาก็ออกอาการ ยืนพิงเชือก
    ปี พ.ศ.2512 (ค.ศ.1969) อเมริกาเสนอขอเจรจาสงบศึกกับเวียตนาม !!!!
    มันจะเป็นไปได้ยังไง อเมริกา (อ้างว่า) ลงทุนกับสงครามอินโดจีนมากมาย ทั้งด้านอาวุธ กำลังพล และกำลังทรัพย์ …ชาวประชาก็เป็นมึน กำลังรบกันเข้าฝัก ดันถอยทัพเสียอย่างนั้น
    ไทยแลนด์งงเป็นไก่ตาฟาง นักวิ่งผลัดวิ่งพล่านชนกันเอง เฮ้ย เฮ้ย เอาไงวะ พวก! มันเป็นไปแล้ว ก็บอกว่า เล่นแผน 2 วันที่ 25 ก.ค. พ.ศ.2512 ประธานาธิบดีนิกสันก็ประกาศ Guam Doctrine สรุปว่า พี่เบิ้มเปลี่ยนจากเหยี่ยวเป็นพิราบ (เปลี่ยนง่ายดีนะ ลูกกะเป๋งปรับตัวกันไม่ทันเลยว่ะ) จะไม่ส่งทหารไปช่วยทำสงครามกับประเทศที่ถูกรุกราน (โดยคอมมิวนิสต์)
    แต่จะให้ความช่วยเหลือประเทศพันธมิตรด้านเศรษฐกิจ (ฮั่นแน่!) และการทหารแทน
    แหม! นี่มันพิราบติดกรงเล็บเหยี่ยวนี่นา หลอกใครไม่รู้
    แล้วไงล่ะ ไทยแลนด์ตอนให้เขาเข้ามาในบ้าน ใช้เป็นฐานทัพ เขาก็ไม่ถาม ไม่เซ็นสัญญา พอเขาจะไป เขาก็ไม่ปรึกษา บทจะไปก็เก็บฉากไปซะยังงั้น  นักวิ่งผลัดก็หน้ามืดละซิ ที่นี้จะเอาไงดี เงิน MAP ที่พี่เบิ้มเขาเคยให้ปีละ 100 ล้านเหรียญ เขาก็ลดลงเหลือ 20 กว่า ล้านเหรียญ
    ต๊าย ตาย ลดเยอะนะพวกเรา เดี๋ยวตอผุด เอายังไงดี
    อเมริกาก็ยังเป็นอเมริกา ปากบอกว่าถอนทหาร ถอยทัพ แต่ตาก็ขยิบ สั่งให้ลูกกะเป๋งไปถล่มเขมร ก็บินไปจากฐานทัพในไทยนั่นแหละ …เหล่านักวิ่งผลัด ก็เลยเห็นโอกาส ยังไม่อยากให้ยี่เกปิดฉาก นายพลเจ้าของสวนทุเรียน (ไปหาชื่อกันเองแล้วกันนะ เขียนมานี่ก็เสียวหลายเรื่องแล้ว) ก็เลยรับหน้าที่ไปเจรจากับพี่เบิ้ม
    ได้ไง! ยูสั่งให้ไอบิน ไอก็บิน สั่งให้ไอถล่ม ไอก็ถล่ม บอกไม่ทำสัญญา ไอก็ O.K ทหารยูทำผู้หญิงไทยท้อง ชกไอ้หนูหน้าดำผอมเกร็งแถวอีสานจนงอม ไม่ยอมขึ้นศาลไทย ไอก็ยอมหมดแล้ว …แต่เรื่องจะมาลด MAP นี่เรื่องใหญ่นะ (ของมันเคยได้น่ะ) แล้วต่อไปนี้สั่งใครเขาก็ลำบากนะ…ทุกอย่างมันต้องใช้เงินทั้ง นั้นนะ (เอะ เดี๋ยว ๆ นี่มันเรื่องสงครามเวียตนาม หรือสงครามไพร่ครองเมืองนะ คนเล่านิทานชักงง เรื่องมันคล้ายๆ กัน 555)
    ระหว่างเจรจาต่อรองกัน การเจรจาสันติภาพที่ปารีสเกิดสะดุด ฮานอยไม่ยอม อย่านึกว่าหมูนะ พญาอินทรี ที่พยายามจะแปลงกายเป็นนกพิราบก็เลยยั๊วะ งั้นสั่งรบต่อก็ได้ (วะ) คราวนี้ไม่รบแค่ในเวียตนาม ไอ้พวกญวนแดงอยากหนุนเขมรแดงดีนัก บอมบ์เขมรแม่มซะเลย คราวนี้กำลังรำคาญพี่ไทยที่มาแบมือขอเงินเพิ่ม พี่เบิ้มก็เลยใช้เกาะกวมเป็นฐานทัพ
    เจ้าของสวนทุเรียนได้ข่าว ก็รีบถลาไปเจรจาใหม่ (เขาเรียกว่าตื๊อน่ะ ถ้าจะให้พูดตรงๆ) ยูก้อ เราก็คบกันมานาน รู้ใจกัน จะเอาอะไรก็บอก ไอก็จะพยายาม ยูบินจากกวมน่ะ  มันไกลนะ เปลืองน้ำมัน กลับมาใช้ฐานทัพเราเหมือนเดิมเหอะ แต่ไอ้ MAP น่ะ ลดเหลือ 20 ล้าน มันก็เกินไปนะ ไปคิดใหม่ไป๊!
    ไอ้นิสัยที่ชอบใช้แผน 2 (2 หน้า) ของอเมริกานี่แหละ ก็ไม่ใช่ว่า จะรอดหูรอดตาประชาชนและสื่อของตนเองได้ การปฏิบัติการลับในเขมรจึงรั่วออกไปนิวยอร์ก ไทม์ส (N.Y Times) ลงข่าวใส่สีครบ ทำให้สภาสูงของอเมริกาซักฟอกเรื่องนี้ มีการถามถึงแผนตากสิน (Project 22) และบทบาทของไทยในลาวรวมทั้ง ข้อตกลงThanant Rusk
    ถึงกับมีประโยคอมตะออกมาเกี่ยวกับไทยว่า ไทยเป็นพันธมิตรดีสุดที่เงินซื้อได้ (“the Thai are the best allies money can buy”) อันนี้ปรากฏอยู่ในรายงานของอเมริกาเอง ผมไม่ได้แต่งเติม
    เห็นชัดหรือยังเขามองผู้บริหาร หรือรัฐบาลของเราอย่างไร ที่ผ่านมามีอะไรเปลี่ยนบ้าง ได้แต่เดินกุมตามก้นเขา แบมือขอเงินเขา เขาต้มแล้วต้มอีก ยังไม่รู้ตัว ล่าสุด ยังแถมไปยืนกระแดะยิ้มเยิ้มให้เขาจนลือกันไปทั้งโลกไม่มียางเหลือเลยนะ
    ระหว่างปี พ.ศ. 2512-2516 (ค.ศ.1969-1973) การเมืองไทยเริ่มมีปัญหาอีกครั้ง
    เริ่มจากนายถนัด คอมันตร์ รมต.ตปท.ของไทยเร่งให้อเมริกาถอนฐานทัพจากไทย เนื่องจากนายถนัด รู้อยู่แก่ใจว่าไอ้ข้อตกลง Thanant Rusk นี่มันของเก๊
    ประโยชน์จริงๆ ของไทยอยู่ตรงไหนหาไม่เจอ อเมริกายิ่งอยู่นานไทยแลนด์ก็ยิ่งตกอยู่ในกรงอินทรีลึกเข้าไปทุกที กระดิกกระเดี้ยไม่ออก จะเป็นง่อยเปลี้ยเสียขาซะด้วยซ้ำ แต่ด้านรัฐบาลนายกถนอม กลับยังต้องการให้อเมริกาคงฐานทัพและเงินช่วยเหลือต่อไป เพราะอะไร ก็คงพอเข้าใจกัน อย่าให้ต้องพูดชัดกว่านี้เลยนะ
    อเมริกาเองก็ถูกบีบจากสภาสูง (Congress) ให้รีบเร่งลงนามสัญญาสันติภาพกับเวียตนาม.. เพราะที่ลง ทุนไปสร้างเรื่องรบกับเวียตนามเอาใจนักค้าอาวุธที่ควบคุมรัฐบาลอเมริกาอยู่อีกต่อหนึ่งนั่นน่ะ มันชักจะไม่คุ้ม นักค้าอาวุธได้เงินก็จริง แต่ประชาชนชาวดอกไม้บานในอเมริกาเริ่มจะโวยไม่หยุด เพราะทหารอเมริกันตายเป็นเบือ
    แล้วอเมริกาลงนามสัญญาสันติภาพที่ปารีส เมื่อ 28 ม.ค. พ.ศ.2516 (ค.ศ.1973) ขณะเดียวกันยังคงกองกำลังทางอากาศขนาดใหญ่และกองเรือในภูมิภาคต่อไป แต่การให้ความช่วยเหลือไทยถูกตัดลดจากปีละ 100 ล้านเหรียญ เหลือปีละ 38 ล้านเหรียญ!  มันเป็นการลดฮวบ ที่เหล่านักวิ่งผลัด ช็อกจนพูดไม่ออก นักวิ่งผลัดเริ่มแตกคอกัน นักศึกษาและสื่อ เริ่มประท้วงเรื่องรัฐบาลทหารเผด็จการ ต้องการรัฐบาลประชาธิปไตย
    แปลกดีนะ หลังจากเป็นเผด็จการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 นะ 12 ปี ไม่เคยมีใครประท้วง วันดีคืนดีการประท้วงก็เกิดขึ้น! เริ่มมีนักวิชาการ นักศึกษา เรียกร้องหาประชาธิปไตยของจริง ที่สำคัญมีหมายเหตุในรายงานทูตอเมริกันในไทย ถึงกระทรวงตปท.อเมริกัน บอกว่า นักศึกษาชุมนุมเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ไม่มีใครออกมาโวยเรื่องฐานทัพอเมริกาในไทย จังหวะเวลามันให้บังเอิญดีจริงนึกให้ดีๆ แล้วลองตีโจทก์กันเองบ้าง
    นอกจากนี้ ในรายงานของ CIA ระบุว่า นายคิสซิงเจอร์ ในฐานะรมว. ตปท. อเมริกาได้สนทนากับนายลี กวน ยู นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ขณะนั้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2516
    นายลีบอกว่า สถานการณ์ไทยน่าเป็นห่วงนะ ถ้าเขมรไป ไอว่าถนอม ประภาส คงอยู่ได้ไม่เกิน 18 เดือน ก่อนเก็บของเปิดก้นวิ่งหนีแน่ ยูควรบอกเขานะ ว่ายูจะดูแลเขา ไอคุยกับชาติชายไปแล้ว ว่ายูจะดูแลเขา แต่ยูบอกเองดีกว่า
    นายคิสซิงเจอร์บอกว่า นี่ท่านนายก (ลี) เราก็พยายามอดทนมากนะ เราก็ต้องผ่านความยากลำบากมาเหมือน กัน เราก็ต้องคิดว่าเราจะตัดสินใจอย่างไร
    นายลีบอก ยูต้องบอกให้ถนอม ประภาส รู้เรื่องนะ ว่ายูไม่สนับสนุนปฏิวัติ หรือยูจะดำเนินการอื่น นายคิสซิงเจอร์ บอกว่า เราไม่สนับสนุนปฏิวัติหรอก แต่เราจะดูหนทางดำเนินการอื่น…(ไม่ได้นั่งเทียนเขียนขึ้นมาเองนะ ครับ บทสนทนาข้างต้นน่ะ อยู่ในรายงานของ CIA ล้วนๆ)


    คนเล่านิทาน
    ๘-๖

    ของแถมประจำวันนี้

    เป็นเอกสารบันทึกการประชุม ที่มีนาย Henry Kissinger รมว ตปท อเมริกา
    กับ คณะ การสนทนาส่วนหนึ่ง ทำให้เราเห็นชัดว่า การที่อเมริกาเข้ามาใช้บ้านเราเป็น
    ฐานทัพนั้น ไม่มีสัญญา เป็นทางการกับเรา
    นาย Habib ผู้ชี้แจง คือ นาย Philip Habib นักการทูต ผู้ชำนาญเกีี่ยวกับเอเซีย
    และมีอิทธิพลสูงในช่วงสงครามเวียตนาม
    ๙-๒
    ของแถมอีกชิ้น
    เอกสาร อันนี้เป็น Memorandum เมื่อ February 27, 1967
    จาก Asst Secretary of State ถึง Secreatary of State Rusk
    เกี่ยวกับการใช้ฐานทัพไทย แบบใช้ของเถื่อน ไม่มีหลักฐาน
    เชิญอ่านกันครับ อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร บอกกันบ้าง
    ๙-๓-1
    ของแถมชิ้นโปรด
    รายงาน ชนิดลับสุดยอด ข้อความกลายแห่งถูกตัดออก
    แต่พอ อ่านได้ ถึงประโยคทอง ..”trust us, we know what to do”
    จาก ทูต Unger ถึง กระทรวง ตปท อเมริกา เมื่อ August 9, 1968
     ตอน 9 ระหว่างที่สงครามเวียตนามกำลังเริ่มเข้าขั้นโคม่า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 (ค.ศ.1967) พี่เบิ้มเริ่มเป็นฝ่ายรับ พี่เบิ้มจึงเปลี่ยนมาใช้แผน 2 (แผน 2 หน้า) หน้าหนึ่งก็เริ่มให้มีการเดินสายเล่นบทเจรจา ระหว่างรัฐมนตรีตปท.คนสำคัญของพี่เบิ้มกับทางเวียตนาม คนมีเสน่ห์ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ (Henry Kissinger) รมต ตปท ของพี่เบิ้มสมัยนั้น เดินทางเป็นว่าเล่น เหมือนคุณนาย คลินตัน (Clinton) ตอนรัฐบาลโอบามา (Obama 1) นั่นแหละ อีกหน้าหนึ่งก็ส่งให้ลูกกะเป๋งทั้งหลาย ก็ใครล่ะ นึกให้ดีนะ ลุยเข้าไปถล่มคอมมี่ต่อ (โปรดสังเกตพวกพี่เบิ้ม เวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน รมต.ตปท. ชีพจรลงเท้าทั้งนั้น ตอนนี้ก็เห็นบินกันว่อน ตามดูรอบตัวเรากันบ้างนะครับ) ดังนั้นปฏิบัติการลับในประเทศลาว ซึ่งฝ่ายไทยนำโดย รหัสเทพ 333 (ไปหาเอาเองนะครับว่าเป็นใคร) กับฝ่าย CIA อเมริกา จึงทำงานหนัก บินกระหน่ำถล่มคอมมิวนิสต์ที่ลาว ผลลาวแตกเป็น 2 ฝ่าย เมื่อปี พ.ศ.2518 (ค.ศ.1975) พี่น้องเจ้าลาวถูกเสี้ยมให้แตกกันเอง เจ้าสุวรรณภูมา ผู้พี่ วิ่งไปอยู่ในอ้อมกอดของพี่เบิ้มอเมริกา เจ้าสุภานุวงศ์ คนน้อง เหม็นฝรั่ง จึงไปซบกับฝ่ายจีน แล้วลาวก็เปลี่ยนจากประเทศที่ปกครองโดยระบอบกษัตริย์ เป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบสังคมนิยม ตั้งแต่ครั้งนั้น ฝีมือใครครับ โปรดไปศึกษาต่อน่าสนใจมาก ไม่ใช่เฉพาะที่ลาว ในสงครามเวียตนามเอง หลัง จากทุ่มเงินไปกว่าพันล้านเหรียญ (ใช้เงินมากกว่าตอนอเมริการบในสงครามโลกครั้งที่ 2 !) ใช้ทหารไปรบประมาณ 500,000 นาย เสียชีวิตไประหว่างรบทั้งหมดเกือบ 60,000 คน ยังไม่นับที่สูญหาย ทุพพลภาพทางกายและจิตใจ อเมริกาก็ออกอาการ ยืนพิงเชือก ปี พ.ศ.2512 (ค.ศ.1969) อเมริกาเสนอขอเจรจาสงบศึกกับเวียตนาม !!!! มันจะเป็นไปได้ยังไง อเมริกา (อ้างว่า) ลงทุนกับสงครามอินโดจีนมากมาย ทั้งด้านอาวุธ กำลังพล และกำลังทรัพย์ …ชาวประชาก็เป็นมึน กำลังรบกันเข้าฝัก ดันถอยทัพเสียอย่างนั้น ไทยแลนด์งงเป็นไก่ตาฟาง นักวิ่งผลัดวิ่งพล่านชนกันเอง เฮ้ย เฮ้ย เอาไงวะ พวก! มันเป็นไปแล้ว ก็บอกว่า เล่นแผน 2 วันที่ 25 ก.ค. พ.ศ.2512 ประธานาธิบดีนิกสันก็ประกาศ Guam Doctrine สรุปว่า พี่เบิ้มเปลี่ยนจากเหยี่ยวเป็นพิราบ (เปลี่ยนง่ายดีนะ ลูกกะเป๋งปรับตัวกันไม่ทันเลยว่ะ) จะไม่ส่งทหารไปช่วยทำสงครามกับประเทศที่ถูกรุกราน (โดยคอมมิวนิสต์) แต่จะให้ความช่วยเหลือประเทศพันธมิตรด้านเศรษฐกิจ (ฮั่นแน่!) และการทหารแทน แหม! นี่มันพิราบติดกรงเล็บเหยี่ยวนี่นา หลอกใครไม่รู้ แล้วไงล่ะ ไทยแลนด์ตอนให้เขาเข้ามาในบ้าน ใช้เป็นฐานทัพ เขาก็ไม่ถาม ไม่เซ็นสัญญา พอเขาจะไป เขาก็ไม่ปรึกษา บทจะไปก็เก็บฉากไปซะยังงั้น  นักวิ่งผลัดก็หน้ามืดละซิ ที่นี้จะเอาไงดี เงิน MAP ที่พี่เบิ้มเขาเคยให้ปีละ 100 ล้านเหรียญ เขาก็ลดลงเหลือ 20 กว่า ล้านเหรียญ ต๊าย ตาย ลดเยอะนะพวกเรา เดี๋ยวตอผุด เอายังไงดี อเมริกาก็ยังเป็นอเมริกา ปากบอกว่าถอนทหาร ถอยทัพ แต่ตาก็ขยิบ สั่งให้ลูกกะเป๋งไปถล่มเขมร ก็บินไปจากฐานทัพในไทยนั่นแหละ …เหล่านักวิ่งผลัด ก็เลยเห็นโอกาส ยังไม่อยากให้ยี่เกปิดฉาก นายพลเจ้าของสวนทุเรียน (ไปหาชื่อกันเองแล้วกันนะ เขียนมานี่ก็เสียวหลายเรื่องแล้ว) ก็เลยรับหน้าที่ไปเจรจากับพี่เบิ้ม ได้ไง! ยูสั่งให้ไอบิน ไอก็บิน สั่งให้ไอถล่ม ไอก็ถล่ม บอกไม่ทำสัญญา ไอก็ O.K ทหารยูทำผู้หญิงไทยท้อง ชกไอ้หนูหน้าดำผอมเกร็งแถวอีสานจนงอม ไม่ยอมขึ้นศาลไทย ไอก็ยอมหมดแล้ว …แต่เรื่องจะมาลด MAP นี่เรื่องใหญ่นะ (ของมันเคยได้น่ะ) แล้วต่อไปนี้สั่งใครเขาก็ลำบากนะ…ทุกอย่างมันต้องใช้เงินทั้ง นั้นนะ (เอะ เดี๋ยว ๆ นี่มันเรื่องสงครามเวียตนาม หรือสงครามไพร่ครองเมืองนะ คนเล่านิทานชักงง เรื่องมันคล้ายๆ กัน 555) ระหว่างเจรจาต่อรองกัน การเจรจาสันติภาพที่ปารีสเกิดสะดุด ฮานอยไม่ยอม อย่านึกว่าหมูนะ พญาอินทรี ที่พยายามจะแปลงกายเป็นนกพิราบก็เลยยั๊วะ งั้นสั่งรบต่อก็ได้ (วะ) คราวนี้ไม่รบแค่ในเวียตนาม ไอ้พวกญวนแดงอยากหนุนเขมรแดงดีนัก บอมบ์เขมรแม่มซะเลย คราวนี้กำลังรำคาญพี่ไทยที่มาแบมือขอเงินเพิ่ม พี่เบิ้มก็เลยใช้เกาะกวมเป็นฐานทัพ เจ้าของสวนทุเรียนได้ข่าว ก็รีบถลาไปเจรจาใหม่ (เขาเรียกว่าตื๊อน่ะ ถ้าจะให้พูดตรงๆ) ยูก้อ เราก็คบกันมานาน รู้ใจกัน จะเอาอะไรก็บอก ไอก็จะพยายาม ยูบินจากกวมน่ะ  มันไกลนะ เปลืองน้ำมัน กลับมาใช้ฐานทัพเราเหมือนเดิมเหอะ แต่ไอ้ MAP น่ะ ลดเหลือ 20 ล้าน มันก็เกินไปนะ ไปคิดใหม่ไป๊! ไอ้นิสัยที่ชอบใช้แผน 2 (2 หน้า) ของอเมริกานี่แหละ ก็ไม่ใช่ว่า จะรอดหูรอดตาประชาชนและสื่อของตนเองได้ การปฏิบัติการลับในเขมรจึงรั่วออกไปนิวยอร์ก ไทม์ส (N.Y Times) ลงข่าวใส่สีครบ ทำให้สภาสูงของอเมริกาซักฟอกเรื่องนี้ มีการถามถึงแผนตากสิน (Project 22) และบทบาทของไทยในลาวรวมทั้ง ข้อตกลงThanant Rusk ถึงกับมีประโยคอมตะออกมาเกี่ยวกับไทยว่า ไทยเป็นพันธมิตรดีสุดที่เงินซื้อได้ (“the Thai are the best allies money can buy”) อันนี้ปรากฏอยู่ในรายงานของอเมริกาเอง ผมไม่ได้แต่งเติม เห็นชัดหรือยังเขามองผู้บริหาร หรือรัฐบาลของเราอย่างไร ที่ผ่านมามีอะไรเปลี่ยนบ้าง ได้แต่เดินกุมตามก้นเขา แบมือขอเงินเขา เขาต้มแล้วต้มอีก ยังไม่รู้ตัว ล่าสุด ยังแถมไปยืนกระแดะยิ้มเยิ้มให้เขาจนลือกันไปทั้งโลกไม่มียางเหลือเลยนะ ระหว่างปี พ.ศ. 2512-2516 (ค.ศ.1969-1973) การเมืองไทยเริ่มมีปัญหาอีกครั้ง เริ่มจากนายถนัด คอมันตร์ รมต.ตปท.ของไทยเร่งให้อเมริกาถอนฐานทัพจากไทย เนื่องจากนายถนัด รู้อยู่แก่ใจว่าไอ้ข้อตกลง Thanant Rusk นี่มันของเก๊ ประโยชน์จริงๆ ของไทยอยู่ตรงไหนหาไม่เจอ อเมริกายิ่งอยู่นานไทยแลนด์ก็ยิ่งตกอยู่ในกรงอินทรีลึกเข้าไปทุกที กระดิกกระเดี้ยไม่ออก จะเป็นง่อยเปลี้ยเสียขาซะด้วยซ้ำ แต่ด้านรัฐบาลนายกถนอม กลับยังต้องการให้อเมริกาคงฐานทัพและเงินช่วยเหลือต่อไป เพราะอะไร ก็คงพอเข้าใจกัน อย่าให้ต้องพูดชัดกว่านี้เลยนะ อเมริกาเองก็ถูกบีบจากสภาสูง (Congress) ให้รีบเร่งลงนามสัญญาสันติภาพกับเวียตนาม.. เพราะที่ลง ทุนไปสร้างเรื่องรบกับเวียตนามเอาใจนักค้าอาวุธที่ควบคุมรัฐบาลอเมริกาอยู่อีกต่อหนึ่งนั่นน่ะ มันชักจะไม่คุ้ม นักค้าอาวุธได้เงินก็จริง แต่ประชาชนชาวดอกไม้บานในอเมริกาเริ่มจะโวยไม่หยุด เพราะทหารอเมริกันตายเป็นเบือ แล้วอเมริกาลงนามสัญญาสันติภาพที่ปารีส เมื่อ 28 ม.ค. พ.ศ.2516 (ค.ศ.1973) ขณะเดียวกันยังคงกองกำลังทางอากาศขนาดใหญ่และกองเรือในภูมิภาคต่อไป แต่การให้ความช่วยเหลือไทยถูกตัดลดจากปีละ 100 ล้านเหรียญ เหลือปีละ 38 ล้านเหรียญ!  มันเป็นการลดฮวบ ที่เหล่านักวิ่งผลัด ช็อกจนพูดไม่ออก นักวิ่งผลัดเริ่มแตกคอกัน นักศึกษาและสื่อ เริ่มประท้วงเรื่องรัฐบาลทหารเผด็จการ ต้องการรัฐบาลประชาธิปไตย แปลกดีนะ หลังจากเป็นเผด็จการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 นะ 12 ปี ไม่เคยมีใครประท้วง วันดีคืนดีการประท้วงก็เกิดขึ้น! เริ่มมีนักวิชาการ นักศึกษา เรียกร้องหาประชาธิปไตยของจริง ที่สำคัญมีหมายเหตุในรายงานทูตอเมริกันในไทย ถึงกระทรวงตปท.อเมริกัน บอกว่า นักศึกษาชุมนุมเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ไม่มีใครออกมาโวยเรื่องฐานทัพอเมริกาในไทย จังหวะเวลามันให้บังเอิญดีจริงนึกให้ดีๆ แล้วลองตีโจทก์กันเองบ้าง นอกจากนี้ ในรายงานของ CIA ระบุว่า นายคิสซิงเจอร์ ในฐานะรมว. ตปท. อเมริกาได้สนทนากับนายลี กวน ยู นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ขณะนั้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2516 นายลีบอกว่า สถานการณ์ไทยน่าเป็นห่วงนะ ถ้าเขมรไป ไอว่าถนอม ประภาส คงอยู่ได้ไม่เกิน 18 เดือน ก่อนเก็บของเปิดก้นวิ่งหนีแน่ ยูควรบอกเขานะ ว่ายูจะดูแลเขา ไอคุยกับชาติชายไปแล้ว ว่ายูจะดูแลเขา แต่ยูบอกเองดีกว่า นายคิสซิงเจอร์บอกว่า นี่ท่านนายก (ลี) เราก็พยายามอดทนมากนะ เราก็ต้องผ่านความยากลำบากมาเหมือน กัน เราก็ต้องคิดว่าเราจะตัดสินใจอย่างไร นายลีบอก ยูต้องบอกให้ถนอม ประภาส รู้เรื่องนะ ว่ายูไม่สนับสนุนปฏิวัติ หรือยูจะดำเนินการอื่น นายคิสซิงเจอร์ บอกว่า เราไม่สนับสนุนปฏิวัติหรอก แต่เราจะดูหนทางดำเนินการอื่น…(ไม่ได้นั่งเทียนเขียนขึ้นมาเองนะ ครับ บทสนทนาข้างต้นน่ะ อยู่ในรายงานของ CIA ล้วนๆ) คนเล่านิทาน ๘-๖ ของแถมประจำวันนี้ เป็นเอกสารบันทึกการประชุม ที่มีนาย Henry Kissinger รมว ตปท อเมริกา กับ คณะ การสนทนาส่วนหนึ่ง ทำให้เราเห็นชัดว่า การที่อเมริกาเข้ามาใช้บ้านเราเป็น ฐานทัพนั้น ไม่มีสัญญา เป็นทางการกับเรา นาย Habib ผู้ชี้แจง คือ นาย Philip Habib นักการทูต ผู้ชำนาญเกีี่ยวกับเอเซีย และมีอิทธิพลสูงในช่วงสงครามเวียตนาม ๙-๒ ของแถมอีกชิ้น เอกสาร อันนี้เป็น Memorandum เมื่อ February 27, 1967 จาก Asst Secretary of State ถึง Secreatary of State Rusk เกี่ยวกับการใช้ฐานทัพไทย แบบใช้ของเถื่อน ไม่มีหลักฐาน เชิญอ่านกันครับ อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร บอกกันบ้าง ๙-๓-1 ของแถมชิ้นโปรด รายงาน ชนิดลับสุดยอด ข้อความกลายแห่งถูกตัดออก แต่พอ อ่านได้ ถึงประโยคทอง ..”trust us, we know what to do” จาก ทูต Unger ถึง กระทรวง ตปท อเมริกา เมื่อ August 9, 1968
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 8
    พ.ศ.2506 คุณป๋าสฤษดิ์ก็หมดบุญ น้าหนอมของป้าจงก็ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 อีกครั้งหนึ่ง พี่เบิ้มบอกว่า น้าหนอมน่าเอ็นดู แต่เด็ดไม่ขาด ไม่มีบารมี การสั่งการจากที่เคยคุยแต่กับคุณป๋าคนเดียวก็รู้เรื่อง ที่นี้ก็ต้องคุยเป็นพวง ถนอม ประภาส จิตติ ทวี กฤษณ์ฯลฯ
    แล้วไง ทำเป็นไม่รู้เรื่อง คุย 1 คน จ่าย 100 คุย 5 คน ก็เอา 5 คูณ
    พี่เบิ้มถึงจะรวยก็ขี้เหนียวนะ มาเล่นวิ่งผลัด 100 x 5 กับไอนี่ ไอไม่ชอบนะ
    ช่วงนั้นสถานการณ์ด้านการรบก็กำลังเข้ม การบริหารประเทศไทยแลนด์ของยูก็ไม่มีเอกภาพ แบ่งชามข้าวกันอยู่นั้น เอ้า! พจน์ สารสิน (อีกแล้ว!) ยูมาคุมกระทรวงพัฒนาแห่งชาติหน่อย อย่างน้อยไอก็ไม่ต้องปวดหมองด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ เดี๋ยวเงินไหลเข้าไหลออกมันจะสะดุด แล้วพจน์ ยูก็มาทำหน้า ที่เป็นกระบอกเสียงระหว่างน้าหนอมกับไอด้วยนะ เวลาพี่เบิ้มจะเอาอะไรก็บอก good boy ชื่อ พจน์ พจน์ก็ไปบอกน้าหนอม ไม่งั้นสั่งอะไรน้าหนอมก็พยักหน้าอย่างเดียว ไม่รู้ว่ารู้เรื่องหรือเปล่า
    สถานการณ์วิ่งผลัดก็ดำเนินไปเรื่อยๆ เขาเข้ามาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพทั้งบก เรือ อากาศ นี่ดีว่าไม่มีเรือดำนำนะ ถามว่า ภายใต้พันธะอะไร ข้อตกลงอะไร เคยรู้กันบ้างไหมว่า เขาเข้ามากันเปล่าๆ ไม่เคยมีสัญญาข้อตกลงเป็นรูปธรรมเลยระหว่างสหรัฐกับไทย ก็มันสมประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย สหรัฐก็ไม่ต้องแจงรัฐสภาของตัวเอง ไทยก็ไม่ต้องแจงรัฐสภาของไทย เพราะทุกอย่างอยู่ในกำมือ บอกแล้วเงินช่วย เหลือเข้ามา ก็คนละหนุบละหนับ เขียนแล้วมันเศร้าใจ
    ทหารอเมริกันก็ไม่ต้องขึ้นศาลไทย เครื่องบินจะบินขึ้นไปทิ้งบอมบ์เขาก็เป็นคนอนุมัติ เขาจะขนทหารเข้ามาเท่าไหร่ เราก็ o.k, o.k
    นี่คือสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ยุคสงครามเวียตนาม แล้วนึกว่าหมดแล้วหรือ เปล่าเลยแล้วให้จำสัญญาJUSMAC ปี ค.ศ.1950 ที่ท่านนายพลคนแปลก เป็นผู้ลงนามไว้ บอกไว้แล้วว่า สัญญานั้นยังมีชีวิตอยู่ สัญญานี้มีผลอย่างไร เกี่ยวกับปัจจุบันหรือไม่ โปรดติดตาม อย่าได้ขาดตอนเชียว
    ช่วงปี พ.ศ.2507 – 2511 คอมมิวนิสต์เริ่มรุกเข้าอีสานบ้านเรา พี่เบิ้มก็ทุ่มเงินใส่ให้พัฒนาหมู่บ้านและตชด. กับตำรวจภูธรเพื่อดูแลหมู่บ้าน ตอนนี้เข้าใจแล้วใช่ไหม ทำไมเขาต้องตั้งตชด.และตั้งตำรวจ ภูธรให้เรา ทหารนั้นเอาไว้ไปรบกับเวียดกง โว้ย! สั่งทุกอย่างเหมือนเป็นบ้านตัวเองเลยนะ
    เงินที่พี่เบิ้มให้มาผ่านโครงการ MAP (Military Assistance Program) โดยให้ผ่านหน่วยงาน USIS และ USOM ปีละตั้งหลาย (ประมาณ 100 ล้านเหรียญต่อปีพี่เบิ้มเขาก็เป็นห่วงว่าเงิน MAP นี่มันจะไปใช้สนับสนุนกีฬาวิ่งผลัด 100 x 5 เท่าไหร่ จะถึงตชด.เท่าไหร่  เขาเลยเข้ามาวางแผนเข้าไปถึงระบบพัฒนาหมู่บ้านเราเอง จัดสรรงบเอง เพื่อไม่ให้กีฬาวิ่งผลัดเบิกบานเกินไป และเพื่อให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ สามารถรับใช้การปฏิบัติงานของเจ้าของเงินได้อย่างราบรื่น พี่เบิ้มก็ต้องการให้ไทยแลนด์มีการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตยจริงๆ เสียที เพราะว่า ค่าใช้จ่ายกีฬาวิ่งผลัดมันชักจะสูงไปแล้วนะ แทน ที่จะคุยกับนักกีฬาวิ่งผลัด คุยกับรัฐบาลมันน่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายไอมากกว่านะ แต่ต้องเป็นรัฐบาลจากพรรคที่ไอเลือกให้ เป็นรัฐบาลนะ
    คิดกลับไปกลับมา พี่เบิ้มก็ปวดหัวว่าจะใช้บริการของใครดีหนอ น้าหนอมน่าจะดีที่สุด ท่าทางนอนง่ายสอนง่าย ไม่ค่อยมีพยศ รายงานของ CIA ระบุว่า สหรัฐมีแผนที่จะให้กลุ่มถนอมเป็นผู้บริหารประเทศไทยต่อไป ดังนั้นจึงมีการเจรจากับทูตอเมริกันนามว่าคุณมาร์ติน ให้อเมริกาสนับสนุนการตั้งพรรคของ กลุ่มถนอม
    ได้ยินเสียงตัวแทนฝ่ายไทย คล้ายๆ เสียงนายพจน์ สารสิน บอกเลือกตั้งน่ะนะ มันต้องใช้ทุนแยะอยู่ ถ้ายูช่วยพวกไอก็จะดี จะได้ไม่ต้องไปเอาจากพ่อค้า ซึ่งส่วนมากเป็นคนจีน มันยากจะเดาว่าจะเอียงหน้าไปอยู่ข้างไหน
    รายงาน CIA บอกว่าทูตมาร์ตินนำเรื่องนี้ไปเสนอต่อ 303 Committee ปรากฏว่าทางวอชิงตัน (Washington) ก็ถามกลับมาว่า คุ้มแน่นะ คำตอบก็อยู่ในสายลมที่พัดไป แล้วก็เงียบหาย ระหว่างนั้นไทยแลนด์ก็เลยมีข่าวลือว่า จะมีการปฎิวัติน้าหนอมโดยกลุ่มทวี จิตติ กฤษณ์บ้าง ลุงตุ๊บ้าง แต่ระยะหลังข่าวปฎิวัติโดยลุงตุ๊มาแรง แหม มันประจวบเหมาะอะไรเช่นนั้น บังเอิญจริงนะ
    ช่วงข่าวปฏิวัติโดยลุงตุ๊ ทูตมาร์ตินก็หมดวาระกลับบ้าน ทูตอังเกอร์ (Unger) มาแทน คุณ good boy นามพจน์ ก็ไปเตือนทูตใหม่อีกว่า ยูจะเอายังไง ข่าวปฎิวัติมาแรงนะ ถ้ายูจะให้ถนอมเป็นนายกนี่ต้องเร่งๆ หน่อย เราจะตั้งพรรคแล้วหนา เงินที่ว่าจะช่วยยังไม่มาเลย
    ทูตตั้งคำถาม 20 คำถาม แล้วก็มีประโยคทองตอบไปเป็นเกียรติประวัติว่า “Trust us-We know what to do” เชื่อเราน่า เรารู้ว่าจะต้องทำยังไง …ไอรวยจะตาย ยูไม่ต้องห่วง ธุรกิจแยะไปหมด น้ำดำไทยแลนด์นี่ก็ของไอนะ (ไม่ได้ค่าโฆษณาไม่เขียนให้รอบสอง!)
    ทูตอังเกอร์ (Unger) ได้ยินประโยคทอง แล้วก็อ่อนระทวยเขียนรายงานชื่อว่า “Lotus Project” ส่งด่วนจี๋ไปยังวอชิงตัน (Washington) ทันทีอีกรอบ การเลือกตั้งในวันที่ 11 ก.พ. พ.ศ.2512 ปรากฏว่า พรรคสหประชาไทยของน้าหนอม ได้รับชัยชนะเฉียดฉิวมากคือ 75 ที่นั่งจากสส.ทั้งหมด 215 คน เก่งจังเลย!
    การเลือกตั้งครั้งนี้สมควร บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่าอำนวยการสร้างโดย CIA ของแท้ ภายใต้ชื่อว่า Lotus Project  มีนายพจน์ สารสินเป็น project manger ทั้งนี้เพราะพี่เบิ้มกลัวว่า ถ้าการเมืองไทยไม่นิ่ง Pax Americana ที่วางไว้ซับซ้อนก็จะ ฉ.ห. ดังนั้นพรรคสหประชาไทย ภายใต้การดำเนินงานของนายพจน์ จึงเกิด ขึ้น และชนะการเลือกตั้งและได้นายกชื่อ พล.อ. ถนอม!
    ไอ้ที่เขียนเกี่ยวกับ Lotus Project มาทั้งหมดนี้นี้ อยู่ในรายงานลับของทูตมาร์ติน และทูตอังเกอร์ เองนะ ไม่ ได้ยกเมฆ แหม ลับยังไงก็หลุดมาได้น่า สีมือระดับนี่แล้ว เดี๋ยวว่าคุย (ฮา)
    โม้มาก สงสัย คงมีพวกซีมาคอยรับตัวไปเที่ยวแน่
    Lotus Project ใช้เงินหลวงของพี่เบิ้มอุดหนุน ภายใต้การพิจารณาอนุมัติของ Committer 303 ไปหาดูแล้วกัน ไอ้ Committee นี้มันทำอะไร แล้วอย่ามาพูดอีกนะ ยูต้องเป็นประชาธิปไตย เหม็นขี้ฟันจริงๆ


    คนเล่านิทาน
    ตอน 8 พ.ศ.2506 คุณป๋าสฤษดิ์ก็หมดบุญ น้าหนอมของป้าจงก็ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 อีกครั้งหนึ่ง พี่เบิ้มบอกว่า น้าหนอมน่าเอ็นดู แต่เด็ดไม่ขาด ไม่มีบารมี การสั่งการจากที่เคยคุยแต่กับคุณป๋าคนเดียวก็รู้เรื่อง ที่นี้ก็ต้องคุยเป็นพวง ถนอม ประภาส จิตติ ทวี กฤษณ์ฯลฯ แล้วไง ทำเป็นไม่รู้เรื่อง คุย 1 คน จ่าย 100 คุย 5 คน ก็เอา 5 คูณ พี่เบิ้มถึงจะรวยก็ขี้เหนียวนะ มาเล่นวิ่งผลัด 100 x 5 กับไอนี่ ไอไม่ชอบนะ ช่วงนั้นสถานการณ์ด้านการรบก็กำลังเข้ม การบริหารประเทศไทยแลนด์ของยูก็ไม่มีเอกภาพ แบ่งชามข้าวกันอยู่นั้น เอ้า! พจน์ สารสิน (อีกแล้ว!) ยูมาคุมกระทรวงพัฒนาแห่งชาติหน่อย อย่างน้อยไอก็ไม่ต้องปวดหมองด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ เดี๋ยวเงินไหลเข้าไหลออกมันจะสะดุด แล้วพจน์ ยูก็มาทำหน้า ที่เป็นกระบอกเสียงระหว่างน้าหนอมกับไอด้วยนะ เวลาพี่เบิ้มจะเอาอะไรก็บอก good boy ชื่อ พจน์ พจน์ก็ไปบอกน้าหนอม ไม่งั้นสั่งอะไรน้าหนอมก็พยักหน้าอย่างเดียว ไม่รู้ว่ารู้เรื่องหรือเปล่า สถานการณ์วิ่งผลัดก็ดำเนินไปเรื่อยๆ เขาเข้ามาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพทั้งบก เรือ อากาศ นี่ดีว่าไม่มีเรือดำนำนะ ถามว่า ภายใต้พันธะอะไร ข้อตกลงอะไร เคยรู้กันบ้างไหมว่า เขาเข้ามากันเปล่าๆ ไม่เคยมีสัญญาข้อตกลงเป็นรูปธรรมเลยระหว่างสหรัฐกับไทย ก็มันสมประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย สหรัฐก็ไม่ต้องแจงรัฐสภาของตัวเอง ไทยก็ไม่ต้องแจงรัฐสภาของไทย เพราะทุกอย่างอยู่ในกำมือ บอกแล้วเงินช่วย เหลือเข้ามา ก็คนละหนุบละหนับ เขียนแล้วมันเศร้าใจ ทหารอเมริกันก็ไม่ต้องขึ้นศาลไทย เครื่องบินจะบินขึ้นไปทิ้งบอมบ์เขาก็เป็นคนอนุมัติ เขาจะขนทหารเข้ามาเท่าไหร่ เราก็ o.k, o.k นี่คือสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ยุคสงครามเวียตนาม แล้วนึกว่าหมดแล้วหรือ เปล่าเลยแล้วให้จำสัญญาJUSMAC ปี ค.ศ.1950 ที่ท่านนายพลคนแปลก เป็นผู้ลงนามไว้ บอกไว้แล้วว่า สัญญานั้นยังมีชีวิตอยู่ สัญญานี้มีผลอย่างไร เกี่ยวกับปัจจุบันหรือไม่ โปรดติดตาม อย่าได้ขาดตอนเชียว ช่วงปี พ.ศ.2507 – 2511 คอมมิวนิสต์เริ่มรุกเข้าอีสานบ้านเรา พี่เบิ้มก็ทุ่มเงินใส่ให้พัฒนาหมู่บ้านและตชด. กับตำรวจภูธรเพื่อดูแลหมู่บ้าน ตอนนี้เข้าใจแล้วใช่ไหม ทำไมเขาต้องตั้งตชด.และตั้งตำรวจ ภูธรให้เรา ทหารนั้นเอาไว้ไปรบกับเวียดกง โว้ย! สั่งทุกอย่างเหมือนเป็นบ้านตัวเองเลยนะ เงินที่พี่เบิ้มให้มาผ่านโครงการ MAP (Military Assistance Program) โดยให้ผ่านหน่วยงาน USIS และ USOM ปีละตั้งหลาย (ประมาณ 100 ล้านเหรียญต่อปีพี่เบิ้มเขาก็เป็นห่วงว่าเงิน MAP นี่มันจะไปใช้สนับสนุนกีฬาวิ่งผลัด 100 x 5 เท่าไหร่ จะถึงตชด.เท่าไหร่  เขาเลยเข้ามาวางแผนเข้าไปถึงระบบพัฒนาหมู่บ้านเราเอง จัดสรรงบเอง เพื่อไม่ให้กีฬาวิ่งผลัดเบิกบานเกินไป และเพื่อให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ สามารถรับใช้การปฏิบัติงานของเจ้าของเงินได้อย่างราบรื่น พี่เบิ้มก็ต้องการให้ไทยแลนด์มีการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตยจริงๆ เสียที เพราะว่า ค่าใช้จ่ายกีฬาวิ่งผลัดมันชักจะสูงไปแล้วนะ แทน ที่จะคุยกับนักกีฬาวิ่งผลัด คุยกับรัฐบาลมันน่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายไอมากกว่านะ แต่ต้องเป็นรัฐบาลจากพรรคที่ไอเลือกให้ เป็นรัฐบาลนะ คิดกลับไปกลับมา พี่เบิ้มก็ปวดหัวว่าจะใช้บริการของใครดีหนอ น้าหนอมน่าจะดีที่สุด ท่าทางนอนง่ายสอนง่าย ไม่ค่อยมีพยศ รายงานของ CIA ระบุว่า สหรัฐมีแผนที่จะให้กลุ่มถนอมเป็นผู้บริหารประเทศไทยต่อไป ดังนั้นจึงมีการเจรจากับทูตอเมริกันนามว่าคุณมาร์ติน ให้อเมริกาสนับสนุนการตั้งพรรคของ กลุ่มถนอม ได้ยินเสียงตัวแทนฝ่ายไทย คล้ายๆ เสียงนายพจน์ สารสิน บอกเลือกตั้งน่ะนะ มันต้องใช้ทุนแยะอยู่ ถ้ายูช่วยพวกไอก็จะดี จะได้ไม่ต้องไปเอาจากพ่อค้า ซึ่งส่วนมากเป็นคนจีน มันยากจะเดาว่าจะเอียงหน้าไปอยู่ข้างไหน รายงาน CIA บอกว่าทูตมาร์ตินนำเรื่องนี้ไปเสนอต่อ 303 Committee ปรากฏว่าทางวอชิงตัน (Washington) ก็ถามกลับมาว่า คุ้มแน่นะ คำตอบก็อยู่ในสายลมที่พัดไป แล้วก็เงียบหาย ระหว่างนั้นไทยแลนด์ก็เลยมีข่าวลือว่า จะมีการปฎิวัติน้าหนอมโดยกลุ่มทวี จิตติ กฤษณ์บ้าง ลุงตุ๊บ้าง แต่ระยะหลังข่าวปฎิวัติโดยลุงตุ๊มาแรง แหม มันประจวบเหมาะอะไรเช่นนั้น บังเอิญจริงนะ ช่วงข่าวปฏิวัติโดยลุงตุ๊ ทูตมาร์ตินก็หมดวาระกลับบ้าน ทูตอังเกอร์ (Unger) มาแทน คุณ good boy นามพจน์ ก็ไปเตือนทูตใหม่อีกว่า ยูจะเอายังไง ข่าวปฎิวัติมาแรงนะ ถ้ายูจะให้ถนอมเป็นนายกนี่ต้องเร่งๆ หน่อย เราจะตั้งพรรคแล้วหนา เงินที่ว่าจะช่วยยังไม่มาเลย ทูตตั้งคำถาม 20 คำถาม แล้วก็มีประโยคทองตอบไปเป็นเกียรติประวัติว่า “Trust us-We know what to do” เชื่อเราน่า เรารู้ว่าจะต้องทำยังไง …ไอรวยจะตาย ยูไม่ต้องห่วง ธุรกิจแยะไปหมด น้ำดำไทยแลนด์นี่ก็ของไอนะ (ไม่ได้ค่าโฆษณาไม่เขียนให้รอบสอง!) ทูตอังเกอร์ (Unger) ได้ยินประโยคทอง แล้วก็อ่อนระทวยเขียนรายงานชื่อว่า “Lotus Project” ส่งด่วนจี๋ไปยังวอชิงตัน (Washington) ทันทีอีกรอบ การเลือกตั้งในวันที่ 11 ก.พ. พ.ศ.2512 ปรากฏว่า พรรคสหประชาไทยของน้าหนอม ได้รับชัยชนะเฉียดฉิวมากคือ 75 ที่นั่งจากสส.ทั้งหมด 215 คน เก่งจังเลย! การเลือกตั้งครั้งนี้สมควร บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่าอำนวยการสร้างโดย CIA ของแท้ ภายใต้ชื่อว่า Lotus Project  มีนายพจน์ สารสินเป็น project manger ทั้งนี้เพราะพี่เบิ้มกลัวว่า ถ้าการเมืองไทยไม่นิ่ง Pax Americana ที่วางไว้ซับซ้อนก็จะ ฉ.ห. ดังนั้นพรรคสหประชาไทย ภายใต้การดำเนินงานของนายพจน์ จึงเกิด ขึ้น และชนะการเลือกตั้งและได้นายกชื่อ พล.อ. ถนอม! ไอ้ที่เขียนเกี่ยวกับ Lotus Project มาทั้งหมดนี้นี้ อยู่ในรายงานลับของทูตมาร์ติน และทูตอังเกอร์ เองนะ ไม่ ได้ยกเมฆ แหม ลับยังไงก็หลุดมาได้น่า สีมือระดับนี่แล้ว เดี๋ยวว่าคุย (ฮา) โม้มาก สงสัย คงมีพวกซีมาคอยรับตัวไปเที่ยวแน่ Lotus Project ใช้เงินหลวงของพี่เบิ้มอุดหนุน ภายใต้การพิจารณาอนุมัติของ Committer 303 ไปหาดูแล้วกัน ไอ้ Committee นี้มันทำอะไร แล้วอย่ามาพูดอีกนะ ยูต้องเป็นประชาธิปไตย เหม็นขี้ฟันจริงๆ คนเล่านิทาน
    9 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว
  • บังเอิญเกินไปมั๊ย โดรนเขมรเป็นห่ายุง หลังสหรัฐจับมือเขมร (3/8/68)
    Too much of a coincidence? Cambodian drones swarm like mosquitoes after U.S. teams up with Cambodia.

    #TruthFromThailand
    #CambodiaNoCeasefire
    #Hunsenfiredfirst
    #กัมพูชายิงก่อน
    #โดรนเขมร #สงครามไซเบอร์
    #Thaitimes #News1 #Shorts
    บังเอิญเกินไปมั๊ย โดรนเขมรเป็นห่ายุง หลังสหรัฐจับมือเขมร (3/8/68) Too much of a coincidence? Cambodian drones swarm like mosquitoes after U.S. teams up with Cambodia. #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst #กัมพูชายิงก่อน #โดรนเขมร #สงครามไซเบอร์ #Thaitimes #News1 #Shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากจักรวาล: เมื่อ “กาแล็กซีวัยเด็ก” มีรูปร่างเหมือนผู้ใหญ่

    ลองจินตนาการว่าคุณมองย้อนกลับไปในจักรวาลเมื่อ 11 พันล้านปีก่อน—ยุคที่ทุกอย่างยังวุ่นวายและไม่เป็นระเบียบ แล้วพบว่ามี “กาแล็กซีวัยเด็ก” ที่มีรูปร่างเหมือนทางช้างเผือกในปัจจุบัน ทั้งมีแขนเกลียวและแกนกลางแบบ barred spiral ที่สมบูรณ์

    นี่คือ J0107a กาแล็กซีขนาดมหึมาที่นักดาราศาสตร์พบโดยบังเอิญขณะศึกษากาแล็กซี VV114 โดยใช้กล้อง JWST และ ALMA ซึ่งเผยให้เห็นว่า J0107a มีมวลมากกว่าทางช้างเผือกถึง 10 เท่า และกำลังสร้างดาวใหม่เร็วกว่าเราถึง 300 เท่า โดยไม่มีร่องรอยของการชนหรือรวมตัวกับกาแล็กซีอื่น

    J0107a เป็นกาแล็กซี barred spiral ที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ
    เกิดขึ้นเมื่อ 11.1 พันล้านปีก่อน หรือเพียง 2.6 พันล้านปีหลัง Big Bang
    มีมวลมากกว่าทางช้างเผือก 10 เท่า และสร้างดาวใหม่ 300–600 ดวงต่อปี

    โครงสร้างของ J0107a คล้ายกับกาแล็กซีสมัยใหม่อย่างทางช้างเผือก
    มีแกนกลางแบบ bar ที่ช่วยดึงก๊าซเข้าสู่ศูนย์กลาง
    มีการไหลของก๊าซด้วยความเร็วหลายร้อยกิโลเมตรต่อวินาที

    ปริมาณก๊าซในแกนกลางของ J0107a สูงกว่ากาแล็กซีทั่วไปหลายเท่า
    ในกาแล็กซีปัจจุบัน bar มีก๊าซน้อยกว่า 10% ของมวลรวม
    แต่ใน J0107a มีถึง 50% ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการสร้างดาว

    ไม่มีร่องรอยของการชนหรือรวมตัวกับกาแล็กซีอื่น
    นักวิจัยเชื่อว่าก๊าซมาจาก “cold streams” จากโครงสร้างใยจักรวาล (cosmic web)
    ก๊าซหมุนเข้ามาอย่างสงบและก่อให้เกิดโครงสร้างแบบ disk และ bar

    การค้นพบนี้เปลี่ยนความเข้าใจเกี่ยวกับวิวัฒนาการของกาแล็กซี
    แสดงว่ากาแล็กซีขนาดใหญ่สามารถเกิดจากการไหลของก๊าซโดยไม่ต้องชนกัน
    บาร์อาจมีบทบาทสำคัญในการสร้างดาวตั้งแต่ยุคแรกของจักรวาล

    แบบจำลองเก่าของวิวัฒนาการกาแล็กซีอาจไม่ครอบคลุมความจริง
    ทฤษฎีเดิมเชื่อว่ากาแล็กซีขนาดใหญ่เกิดจากการชนและรวมตัว
    การค้นพบ J0107a แสดงว่ากาแล็กซีสามารถเติบโตอย่างสงบได้เช่นกัน

    การสังเกตการณ์กาแล็กซีในยุคแรกยังมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี
    แม้ JWST จะมีความสามารถสูง แต่การวิเคราะห์สเปกตรัมยังท้าทาย
    ต้องใช้กล้องคลื่นวิทยุอย่าง ALMA เพื่อศึกษาการเคลื่อนที่ของก๊าซ

    การมีบาร์ในกาแล็กซียุคต้นอาจทำให้เกิดการสร้างดาวอย่างรุนแรง
    การไหลของก๊าซเข้าสู่ศูนย์กลางอาจเร่งการเกิดดาวจนหมดเชื้อเพลิงเร็ว
    อาจเปลี่ยนกาแล็กซีให้กลายเป็น elliptical เร็วกว่าที่คาด

    การเปรียบเทียบกับทางช้างเผือกอาจทำให้เข้าใจผิดว่า J0107a มีวิวัฒนาการเหมือนกัน
    แม้รูปร่างคล้ายกัน แต่สภาพแวดล้อมและความหนาแน่นของก๊าซต่างกันมาก
    ต้องระวังในการสรุปว่ากาแล็กซีในยุคแรกจะมีพฤติกรรมเหมือนกาแล็กซีปัจจุบัน

    https://www.neowin.net/news/billion-years-old-question-answered-by-gigantic-galaxy-that-births-stars-300-times-faster/
    🌌 เรื่องเล่าจากจักรวาล: เมื่อ “กาแล็กซีวัยเด็ก” มีรูปร่างเหมือนผู้ใหญ่ ลองจินตนาการว่าคุณมองย้อนกลับไปในจักรวาลเมื่อ 11 พันล้านปีก่อน—ยุคที่ทุกอย่างยังวุ่นวายและไม่เป็นระเบียบ แล้วพบว่ามี “กาแล็กซีวัยเด็ก” ที่มีรูปร่างเหมือนทางช้างเผือกในปัจจุบัน ทั้งมีแขนเกลียวและแกนกลางแบบ barred spiral ที่สมบูรณ์ นี่คือ J0107a กาแล็กซีขนาดมหึมาที่นักดาราศาสตร์พบโดยบังเอิญขณะศึกษากาแล็กซี VV114 โดยใช้กล้อง JWST และ ALMA ซึ่งเผยให้เห็นว่า J0107a มีมวลมากกว่าทางช้างเผือกถึง 10 เท่า และกำลังสร้างดาวใหม่เร็วกว่าเราถึง 300 เท่า โดยไม่มีร่องรอยของการชนหรือรวมตัวกับกาแล็กซีอื่น ✅ J0107a เป็นกาแล็กซี barred spiral ที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ ➡️ เกิดขึ้นเมื่อ 11.1 พันล้านปีก่อน หรือเพียง 2.6 พันล้านปีหลัง Big Bang ➡️ มีมวลมากกว่าทางช้างเผือก 10 เท่า และสร้างดาวใหม่ 300–600 ดวงต่อปี ✅ โครงสร้างของ J0107a คล้ายกับกาแล็กซีสมัยใหม่อย่างทางช้างเผือก ➡️ มีแกนกลางแบบ bar ที่ช่วยดึงก๊าซเข้าสู่ศูนย์กลาง ➡️ มีการไหลของก๊าซด้วยความเร็วหลายร้อยกิโลเมตรต่อวินาที ✅ ปริมาณก๊าซในแกนกลางของ J0107a สูงกว่ากาแล็กซีทั่วไปหลายเท่า ➡️ ในกาแล็กซีปัจจุบัน bar มีก๊าซน้อยกว่า 10% ของมวลรวม ➡️ แต่ใน J0107a มีถึง 50% ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการสร้างดาว ✅ ไม่มีร่องรอยของการชนหรือรวมตัวกับกาแล็กซีอื่น ➡️ นักวิจัยเชื่อว่าก๊าซมาจาก “cold streams” จากโครงสร้างใยจักรวาล (cosmic web) ➡️ ก๊าซหมุนเข้ามาอย่างสงบและก่อให้เกิดโครงสร้างแบบ disk และ bar ✅ การค้นพบนี้เปลี่ยนความเข้าใจเกี่ยวกับวิวัฒนาการของกาแล็กซี ➡️ แสดงว่ากาแล็กซีขนาดใหญ่สามารถเกิดจากการไหลของก๊าซโดยไม่ต้องชนกัน ➡️ บาร์อาจมีบทบาทสำคัญในการสร้างดาวตั้งแต่ยุคแรกของจักรวาล ‼️ แบบจำลองเก่าของวิวัฒนาการกาแล็กซีอาจไม่ครอบคลุมความจริง ⛔ ทฤษฎีเดิมเชื่อว่ากาแล็กซีขนาดใหญ่เกิดจากการชนและรวมตัว ⛔ การค้นพบ J0107a แสดงว่ากาแล็กซีสามารถเติบโตอย่างสงบได้เช่นกัน ‼️ การสังเกตการณ์กาแล็กซีในยุคแรกยังมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี ⛔ แม้ JWST จะมีความสามารถสูง แต่การวิเคราะห์สเปกตรัมยังท้าทาย ⛔ ต้องใช้กล้องคลื่นวิทยุอย่าง ALMA เพื่อศึกษาการเคลื่อนที่ของก๊าซ ‼️ การมีบาร์ในกาแล็กซียุคต้นอาจทำให้เกิดการสร้างดาวอย่างรุนแรง ⛔ การไหลของก๊าซเข้าสู่ศูนย์กลางอาจเร่งการเกิดดาวจนหมดเชื้อเพลิงเร็ว ⛔ อาจเปลี่ยนกาแล็กซีให้กลายเป็น elliptical เร็วกว่าที่คาด ‼️ การเปรียบเทียบกับทางช้างเผือกอาจทำให้เข้าใจผิดว่า J0107a มีวิวัฒนาการเหมือนกัน ⛔ แม้รูปร่างคล้ายกัน แต่สภาพแวดล้อมและความหนาแน่นของก๊าซต่างกันมาก ⛔ ต้องระวังในการสรุปว่ากาแล็กซีในยุคแรกจะมีพฤติกรรมเหมือนกาแล็กซีปัจจุบัน https://www.neowin.net/news/billion-years-old-question-answered-by-gigantic-galaxy-that-births-stars-300-times-faster/
    WWW.NEOWIN.NET
    Billion years old question answered by gigantic galaxy that births stars 300 times faster
    An ancient galaxy throws astronomers a curveball as it confuses them, but may also have the answer to a question billions of years old.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • IO กัมพูชาไม่ได้ “ลุยเดี่ยว” แต่ “เล่นเป็นทีม” Scambodia

    มีบางสงคราม ที่ยังไม่ทันยิงปืน แต่เริ่มยึดพื้นที่ความคิดทั้งแผ่นดิน และในวันนี้เสียงระเบิดเริ่มขึ้น ความเข้าใจผิดในมุมต่างๆเริ่มขยายขึ้นแล้ว

    และวันนี้ เรากำลังอยู่ในสนามนั้น

    ภาพชัดขึ้นเรื่อย ๆ ว่าการ “ปั่นหัว ปั่นข่าว” จากกลุ่ม IO ที่มีต้นทางจากกัมพูชา ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ และไม่ใช่แค่ฝีมือของ “มือสมัครเล่น” แบบที่เราชอบหลอกตัวเอง แต่เป็นการ “เล่นกันเป็นทีม” แบบมีทั้งคนเปิด คนรับ และคนตามน้ำอย่างเป็นระบบ

    ฝั่งโน้น ใช้ “ความไม่รู้” ของประชาชน เป็น “จุดแข็ง” ในการจู่โจม ขณะที่ฝั่งนี้ กลับใช้ “ความรู้” ของเจ้าหน้าที่ เป็นแค่ “คำอธิบาย” ที่ไม่มีใครฟังจนจบ

    คำถามที่ต้องกล้าถามคือ ในสงครามข้อมูล ใครควบคุม narrative คนนั้นคือคนทิศทางของประเทศ แล้วตอนนี้ narrative ของเรา อยู่ในมือใคร? IO แบบใหม่ ไม่ได้ล่อเป้าแค่ด้วยความเท็จ แต่ ลวงให้เชื่อ ด้วยความคลุมเครือ

    มันไม่ใช่ “fake news” แบบเก่า แต่คือ “context manipulation” แบบใหม่

    คนทำข่าวไม่ต้องพูดเท็จ แค่ “บิดลำดับ” หรือ “โยงคำพูด” ก็เปลี่ยนความหมายได้ทั้งเกม ยิ่งในสังคมที่คนเสพข่าวแบบ “ครึ่งบรรทัด” แล้วแชร์กันทั้งประเทศ ความเสียหายไม่ต้องรอ 24 ชั่วโมง

    แล้วฝั่งไทยล่ะ?

    ยังตั้งรับแบบ “ขอพื้นที่ชี้แจง” ยังคิดว่า “เดี๋ยวคนก็รู้ทันกัมพูชา” ยังใช้วิธี “ชี้แจงทีหลัง” กับสงครามที่เขา ยิงก่อน-ลบก่อน-ไปก่อน

    หลายคนโทรมาถามว่า “ควรทำยังไง?” แต่พอให้คำตอบไป ก็ เงียบ เหมือนเดิม

    เพราะสิ่งที่ต้องทำ มันไม่ใช่แค่ “สั่งให้โพสต์ตอบ” แต่คือการ “วางโครงสร้าง narrative” ใหม่ทั้งหมด

    เรากำลังพ่าย เพราะเราไม่มี “Story Commander”

    เราไม่ขาดคนฉลาด เราไม่ขาดข้อมูล แต่เรา ขาดแม่ทัพที่ควบคุม “กลยุทธ์เล่าเรื่อง” ให้ทั้งกองทัพ ภาคการเมือง สื่อ และ ภาคประชาชน เดินไปในจังหวะเดียวกัน

    ในเมื่อเขาใช้ “หมาก IO แบบสามจังหวะ” คือ เปิด – โยน – ขยาย เราต้องตอบด้วยหมากที่ เหนือกว่า ไม่ใช่แค่ “ลบล้าง” แต่ต้อง “ครองใจ”

    อย่าให้ IO สร้าง story ที่เราต้องวิ่งตามตลอดชีวิต

    เราอาจไม่หยุดเขาได้ แต่เราสามารถ หยุด “ความเชื่อ” ที่เขาฝังไว้ในหัวคน ด้วยการสร้าง narrative ที่คนพร้อมปกป้องให้เรา ไม่ใช่แค่รอให้เราชี้แจง อย่าใช้แค่ “ข้อเท็จจริง” ไปสู้กับ “ความเชื่อ” เพราะในยุคนี้ ความเชื่อคือ reality ที่เร็วกว่า ข่าว Game ยังไม่จบ แต่อย่าให้เขาคุมกระดาน

    เราจะต้องมี War Room ที่คิดล่วงหน้า ไม่ใช่คิดตามหลัง Narrative ที่ “ไม่ต้องอธิบาย” แต่คนเข้าใจทันที Story Commander ที่ไม่ได้รอไฟไหม้… แต่ปลูกป่าให้เขาจุดไฟไม่ได้

    และที่สำคัญ ถ้าไม่มีใครทำ ก็ต้องมีคน เริ่มทำ ถ้าไม่มีคนลงมือ ก็อย่าบ่นว่า “โดนปั่นแล้วทำไมไม่มีใครแก้”

    เพราะในสงครามของความเชื่อ ใครไม่ขยับ คือแพ้โดยไม่รู้ตัว

    ผศ.ดร.ธีรศานต์ สหัสสพาศน์
    ผู้อำนวยการหลักสูตร DNA by SPU
    และอาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ ม.ศรีปทุม

    #TheStructure
    #TheStructureEssay
    #ชายแดนไทยกัมพูชา #กัมพูชายิงก่อน
    #scambodia
    IO กัมพูชาไม่ได้ “ลุยเดี่ยว” แต่ “เล่นเป็นทีม” Scambodia มีบางสงคราม ที่ยังไม่ทันยิงปืน แต่เริ่มยึดพื้นที่ความคิดทั้งแผ่นดิน และในวันนี้เสียงระเบิดเริ่มขึ้น ความเข้าใจผิดในมุมต่างๆเริ่มขยายขึ้นแล้ว และวันนี้ เรากำลังอยู่ในสนามนั้น ภาพชัดขึ้นเรื่อย ๆ ว่าการ “ปั่นหัว ปั่นข่าว” จากกลุ่ม IO ที่มีต้นทางจากกัมพูชา ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ และไม่ใช่แค่ฝีมือของ “มือสมัครเล่น” แบบที่เราชอบหลอกตัวเอง แต่เป็นการ “เล่นกันเป็นทีม” แบบมีทั้งคนเปิด คนรับ และคนตามน้ำอย่างเป็นระบบ ฝั่งโน้น ใช้ “ความไม่รู้” ของประชาชน เป็น “จุดแข็ง” ในการจู่โจม ขณะที่ฝั่งนี้ กลับใช้ “ความรู้” ของเจ้าหน้าที่ เป็นแค่ “คำอธิบาย” ที่ไม่มีใครฟังจนจบ คำถามที่ต้องกล้าถามคือ ในสงครามข้อมูล ใครควบคุม narrative คนนั้นคือคนทิศทางของประเทศ แล้วตอนนี้ narrative ของเรา อยู่ในมือใคร? IO แบบใหม่ ไม่ได้ล่อเป้าแค่ด้วยความเท็จ แต่ ลวงให้เชื่อ ด้วยความคลุมเครือ มันไม่ใช่ “fake news” แบบเก่า แต่คือ “context manipulation” แบบใหม่ คนทำข่าวไม่ต้องพูดเท็จ แค่ “บิดลำดับ” หรือ “โยงคำพูด” ก็เปลี่ยนความหมายได้ทั้งเกม ยิ่งในสังคมที่คนเสพข่าวแบบ “ครึ่งบรรทัด” แล้วแชร์กันทั้งประเทศ ความเสียหายไม่ต้องรอ 24 ชั่วโมง แล้วฝั่งไทยล่ะ? ยังตั้งรับแบบ “ขอพื้นที่ชี้แจง” ยังคิดว่า “เดี๋ยวคนก็รู้ทันกัมพูชา” ยังใช้วิธี “ชี้แจงทีหลัง” กับสงครามที่เขา ยิงก่อน-ลบก่อน-ไปก่อน หลายคนโทรมาถามว่า “ควรทำยังไง?” แต่พอให้คำตอบไป ก็ เงียบ เหมือนเดิม เพราะสิ่งที่ต้องทำ มันไม่ใช่แค่ “สั่งให้โพสต์ตอบ” แต่คือการ “วางโครงสร้าง narrative” ใหม่ทั้งหมด เรากำลังพ่าย เพราะเราไม่มี “Story Commander” เราไม่ขาดคนฉลาด เราไม่ขาดข้อมูล แต่เรา ขาดแม่ทัพที่ควบคุม “กลยุทธ์เล่าเรื่อง” ให้ทั้งกองทัพ ภาคการเมือง สื่อ และ ภาคประชาชน เดินไปในจังหวะเดียวกัน ในเมื่อเขาใช้ “หมาก IO แบบสามจังหวะ” คือ เปิด – โยน – ขยาย เราต้องตอบด้วยหมากที่ เหนือกว่า ไม่ใช่แค่ “ลบล้าง” แต่ต้อง “ครองใจ” อย่าให้ IO สร้าง story ที่เราต้องวิ่งตามตลอดชีวิต เราอาจไม่หยุดเขาได้ แต่เราสามารถ หยุด “ความเชื่อ” ที่เขาฝังไว้ในหัวคน ด้วยการสร้าง narrative ที่คนพร้อมปกป้องให้เรา ไม่ใช่แค่รอให้เราชี้แจง อย่าใช้แค่ “ข้อเท็จจริง” ไปสู้กับ “ความเชื่อ” เพราะในยุคนี้ ความเชื่อคือ reality ที่เร็วกว่า ข่าว Game ยังไม่จบ แต่อย่าให้เขาคุมกระดาน เราจะต้องมี War Room ที่คิดล่วงหน้า ไม่ใช่คิดตามหลัง Narrative ที่ “ไม่ต้องอธิบาย” แต่คนเข้าใจทันที Story Commander ที่ไม่ได้รอไฟไหม้… แต่ปลูกป่าให้เขาจุดไฟไม่ได้ และที่สำคัญ ถ้าไม่มีใครทำ ก็ต้องมีคน เริ่มทำ ถ้าไม่มีคนลงมือ ก็อย่าบ่นว่า “โดนปั่นแล้วทำไมไม่มีใครแก้” เพราะในสงครามของความเชื่อ ใครไม่ขยับ คือแพ้โดยไม่รู้ตัว ผศ.ดร.ธีรศานต์ สหัสสพาศน์ ผู้อำนวยการหลักสูตร DNA by SPU และอาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ ม.ศรีปทุม #TheStructure #TheStructureEssay #ชายแดนไทยกัมพูชา #กัมพูชายิงก่อน #scambodia
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • “กรรมคัดเลือกพ่อแม่เรา...ไม่ใช่ฟ้าดินลำเอียง”

    เมื่อคุณเกิดมาในบ้านที่โหดร้าย
    กับพ่อแม่ที่ไม่เคยเป็นที่พักใจให้สักครั้ง
    คำถามยอดฮิตคือ...
    “ทำไมถึงต้องเจอแบบนี้?”

    ถ้าไม่อยากเชื่อว่าโลกนี้ไร้ความยุติธรรม
    ถ้าไม่อยากคิดว่าเราคือเหยื่อของโชคชะตาบังเอิญ
    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจนว่า...

    “เรามีกรรมเป็นของของตน”
    เราเป็น ทายาทแห่งกรรม
    เราเกิดมาเพราะกรรม
    เราอยู่ในตระกูลนี้เพราะกรรม
    เราจะรับผลทุกอย่างที่เคยกระทำไว้ — ดีหรือร้าย — เพราะ กรรมคือของเราเอง

    ทำไมถึงได้พ่อแม่แบบนี้?

    พ่อแม่ผู้ให้กำเนิด
    คือผลลัพธ์ของ วิบากกรรม ที่เคยกระทำไว้
    ช่วงชีวิตที่เราช่วยตัวเองไม่ได้—คือทารกแรกเกิด
    เป็นช่วงที่ “กรรมเก่า” มีสิทธิ์ชี้ขาดที่สุด

    ใครเคยฆ่าลูก ใครเคยทารุณเด็กเล็ก
    ใครเคยทำลายชีวิตที่ไร้ทางสู้
    กรรมเหล่านั้นจะส่งผลให้…
    เราเกิดมาในบ้านที่ความรุนแรงคือของประจำวัน

    แล้วคนที่ถูกพ่อแม่ทำร้ายล่ะ?

    คุณไม่ได้ผิดที่เจ็บ
    คุณไม่ได้ผิดที่ร้องไห้
    แต่ อย่าเผลอคิดว่าไม่มีคำอธิบาย

    พระพุทธศาสนาบอกเราว่า

    “กรรมเก่าอธิบายได้เสมอ
    และกรรมใหม่จะเป็นทางออกเดียวของเรา”

    คนที่ถูกทำร้าย ต้อง “ตั้งสติให้ไว”
    อย่าโต้ตอบด้วยความโกรธ
    อย่าคืนกรรมเก่าด้วยกรรมใหม่ที่ร้ายยิ่งกว่า

    แม้คุณจะเป็นฝ่ายเจ็บ
    แต่ยังมีทางเลือกเสมอ
    ว่าจะ “ปิดฉากกรรม” อย่างสงบ
    หรือ “เปิดฉากกรรมใหม่” ที่จะยิ่งลากให้เจ็บกว่าเดิมในภายหน้า

    เปลี่ยนบาดแผลให้เป็นบุญ

    ศาสนาพุทธไม่ได้บอกให้ “ทนแบบโง่ๆ”
    ไม่ได้สอนให้ “เงียบยอมจนสูญเสียตัวตน”
    แต่สอนให้เรา...

    รู้เท่าทันกรรม
    ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
    หยุดวงจรเจ็บที่รุ่นเรา

    ถ้าไม่อยากให้ลูกเรามีกรรมแบบเรา
    ถ้าไม่อยากเกิดในแดนประหารอีก
    จงเมตตาผู้ด้อยกว่าในชาตินี้ให้มากที่สุด
    ทั้งลูก หลาน ลูกน้อง ผู้ใช้แรงงาน หรือสัตว์ที่ไร้เสียง

    เพราะพวกเขา…
    คือกระจกสะท้อนพฤติกรรมของเราในอดีต
    และเป็นผู้คัดเลือก “แดนเกิดใหม่” ให้กับเราในอนาคต

    สรุปใจความ:

    “ใครอยากได้พ่อแม่ดีในชาติหน้า
    วันนี้ต้องเป็นพ่อแม่ที่ดีให้กับลูก”

    “ใครอยากได้เจ้านายเมตตาในชาติหน้า
    วันนี้ต้องปฏิบัติกับลูกน้องอย่างมีเมตตา”
    🧠 “กรรมคัดเลือกพ่อแม่เรา...ไม่ใช่ฟ้าดินลำเอียง” เมื่อคุณเกิดมาในบ้านที่โหดร้าย กับพ่อแม่ที่ไม่เคยเป็นที่พักใจให้สักครั้ง คำถามยอดฮิตคือ... “ทำไมถึงต้องเจอแบบนี้?” ถ้าไม่อยากเชื่อว่าโลกนี้ไร้ความยุติธรรม ถ้าไม่อยากคิดว่าเราคือเหยื่อของโชคชะตาบังเอิญ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจนว่า... “เรามีกรรมเป็นของของตน” เราเป็น ทายาทแห่งกรรม เราเกิดมาเพราะกรรม เราอยู่ในตระกูลนี้เพราะกรรม เราจะรับผลทุกอย่างที่เคยกระทำไว้ — ดีหรือร้าย — เพราะ กรรมคือของเราเอง 👶 ทำไมถึงได้พ่อแม่แบบนี้? พ่อแม่ผู้ให้กำเนิด คือผลลัพธ์ของ วิบากกรรม ที่เคยกระทำไว้ ช่วงชีวิตที่เราช่วยตัวเองไม่ได้—คือทารกแรกเกิด เป็นช่วงที่ “กรรมเก่า” มีสิทธิ์ชี้ขาดที่สุด ใครเคยฆ่าลูก ใครเคยทารุณเด็กเล็ก ใครเคยทำลายชีวิตที่ไร้ทางสู้ กรรมเหล่านั้นจะส่งผลให้… เราเกิดมาในบ้านที่ความรุนแรงคือของประจำวัน 💔 แล้วคนที่ถูกพ่อแม่ทำร้ายล่ะ? คุณไม่ได้ผิดที่เจ็บ คุณไม่ได้ผิดที่ร้องไห้ แต่ อย่าเผลอคิดว่าไม่มีคำอธิบาย พระพุทธศาสนาบอกเราว่า “กรรมเก่าอธิบายได้เสมอ และกรรมใหม่จะเป็นทางออกเดียวของเรา” คนที่ถูกทำร้าย ต้อง “ตั้งสติให้ไว” อย่าโต้ตอบด้วยความโกรธ อย่าคืนกรรมเก่าด้วยกรรมใหม่ที่ร้ายยิ่งกว่า แม้คุณจะเป็นฝ่ายเจ็บ แต่ยังมีทางเลือกเสมอ ว่าจะ “ปิดฉากกรรม” อย่างสงบ หรือ “เปิดฉากกรรมใหม่” ที่จะยิ่งลากให้เจ็บกว่าเดิมในภายหน้า ✨ เปลี่ยนบาดแผลให้เป็นบุญ ศาสนาพุทธไม่ได้บอกให้ “ทนแบบโง่ๆ” ไม่ได้สอนให้ “เงียบยอมจนสูญเสียตัวตน” แต่สอนให้เรา... ✨ รู้เท่าทันกรรม ✨ ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ✨ หยุดวงจรเจ็บที่รุ่นเรา ถ้าไม่อยากให้ลูกเรามีกรรมแบบเรา ถ้าไม่อยากเกิดในแดนประหารอีก จงเมตตาผู้ด้อยกว่าในชาตินี้ให้มากที่สุด ทั้งลูก หลาน ลูกน้อง ผู้ใช้แรงงาน หรือสัตว์ที่ไร้เสียง เพราะพวกเขา… คือกระจกสะท้อนพฤติกรรมของเราในอดีต และเป็นผู้คัดเลือก “แดนเกิดใหม่” ให้กับเราในอนาคต 📌 สรุปใจความ: “ใครอยากได้พ่อแม่ดีในชาติหน้า วันนี้ต้องเป็นพ่อแม่ที่ดีให้กับลูก” “ใครอยากได้เจ้านายเมตตาในชาติหน้า วันนี้ต้องปฏิบัติกับลูกน้องอย่างมีเมตตา”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • สายการบินแอร์แคมโบเดีย (Air Cambodia) หรือแอร์กัมพูชา สายการบินประจำชาติกัมพูชา ได้ออกคำแถลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับลวดลายบนเครื่องบินและเครื่องแบบของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ที่คล้ายสายการบินอื่นเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่ได้เลียนแบบ

    โดยยืนยันอย่างหนักแน่นว่าการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ของสายการบินครั้งนี้ เป็นผลจากการพัฒนาอย่างรอบคอบและคำนึงถึงวัฒนธรรมที่หยั่งรากลึกในมรดกอันล้ำค่าและความภาคภูมิใจของชาติกัมพูชา
    สายการบินแอร์แคมโบเดีย (Air Cambodia) หรือแอร์กัมพูชา สายการบินประจำชาติกัมพูชา ได้ออกคำแถลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับลวดลายบนเครื่องบินและเครื่องแบบของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ที่คล้ายสายการบินอื่นเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่ได้เลียนแบบ โดยยืนยันอย่างหนักแน่นว่าการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ของสายการบินครั้งนี้ เป็นผลจากการพัฒนาอย่างรอบคอบและคำนึงถึงวัฒนธรรมที่หยั่งรากลึกในมรดกอันล้ำค่าและความภาคภูมิใจของชาติกัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..กฎหมายให้สัญชาติคนต่างชาติ เขียนออกมาหรือตีตราออกมาล้วนเป็นไปเพื่อไม่รักษาอธิปไตยความมั่นคงทางเผ่าพันธุ์คนไทยตนเองเลย,อย่างน้อยพื้นฐานคือต้องเกิดบนแผ่นดินไทยของคนต่างชาติที่มาคลอดลูกในไทยโดยบังเอิญมิใช่ตั้งใจมาเพื่ออยากได้สัญชาติไทยจะยุติสัญชาติเชื้อสายดั่งเดิมได้,ให้เลือกแค่1สัญชาติเท่านั้นคือไทยหรือตามพ่อตามแม่กรณีบังเอิญมาเกิดบนแผ่นดินไทย จะสามารถมีสิทธิเสรีให้โอกาสเลือก,ต่างจากตั้งใจมาคลอดลูกในไทยจะผลักดันกลับไปทันที,และต่างชาติที่มีอายุทารกในท้องเกิน6เดือนห้ามเข้าประเทศไทยทันทีจะตัดตอนได้,การถือ2สัญชาติคือกฎหมายอัปรีย์ทำลายความมั่นคงทางอธิปไตยไทยชัดเจนไร้ความมั่นใจจะมาสมัครสมานสามัคคีร่วมกันคนไทยสัญชาติไทยจริงพร้อมทรยศแผ่นดินไทยได้ทุกเมื่อและพร้อมกับไปรับไปเป็นสัญชาติเดิมที่ไม่ยกเลิกนั้น,นั้นคือมาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางวัตถุและทางมิดีในไทยได้อย่างราบรื่นแค่นััน,นักการเมืองมีสองสัญชาติยิ่งอันตรายแบบในอดีตจนสูงสุดเป็นถึงนายกฯประเทศไทย นัยยะการปฏิบัติยิ่งอันตรายสามารถทรยศเข้าด้วยกับศัตรูแล้วหนีภัยทางการเมืองไปประเทศสัญชาติที่2นั้นง่ายดายหลังจากทรยศหักหลังกับแผ่นดินอีกสัญชาติหนึ่ง,หรือเป็นไส้ศึกของข้าศึกศัตรูของบ้านของเมืองได้ง่ายจากการใช้สิทธิในการเข้าถึงใดๆเสมือนคนไทยสัญชาติไทยมีบัตรประชาชนชาวไทยจริง,
    ..กฎหมายสัญชาติต้องฉีกทิ้งทั้งหมด เขียนใหม่ว่า เป็นพ่อแม่คนไทย เกิดจากพ่อแม่คนไทยบนแผ่นดินไทยเท่านั้นคือตัวหลัก,ต่อจึงอนุโลมลูกเกิดบนแผ่นดินไทยแต่พ่อแม่ อาจเป็นคนต่างชาติได้เพื่อมนุษยธรรม เช่น พ่อเป็นไทย แม่เป็นคนต่างชาติที่ได้สัญชาติไทยแล้วที่1,ที่2อาจยังไม่ได้สัญชาติไทยกรณีรักกันจริง,และห้ามฝ่ายชายมีหญิงอื่นเด็ดขาด,ค้ำประกันฝ่ายหญิงต่างชาตินั้นๆมิให้ถูกหลอกลวง และแม่ต่างชาตินั้นสามารถมีสัญชาติไทยได้ทันทีและทิ้งสัญชาติเดิมตนทันทีเช่นกันแม้หย่าร้างก็ให้สิทธิเป็นสัญชาติไทยตลอดชีพ, หรือแม่เป็นคนไทยสัญชาติไทย สามีเป็นต่างชาติสามีต้องรักแม่คนเดียว,หากมีเมียคนใหม่ ความเป็นสัญชาติไทยจะสิ้นสุดทันทีป้องกันหญิงไทยถูกหลอกลวง,ไม่สามารถเป็นสัญชาติไทยตลอดชีพได้ ตัดสินใจแล้วมารักคนไทยหญิงไทยเราต้องปกป้องคนไทยด้วย,ที่เหลือจากเคสนี้มิอาจให้สัญชาติไทยได้อีกจะอยู่เป็น100ปีบนแผ่นดินไทยก็ให้ไม่ได้,ฝรั่งมาเดินเล่นๆออกๆเข้า5ปี15ปี20ปีอ้างแสวงหาประโยชน์มากมายบนแผ่นดินไทยอยากได้สัญชาติ มาอยู่ลักษณะนี้ใช้ไม่ได้ที่คนเขียนกฎหมายจะเขียนอัปรีย์ทรยศแบบนี้,นี้คือนัยยะให้สัญชาติง่ายดายนั้นล่ะ,เอาเงื่อนเวลาการอาศัยอยู่แดกในไทยมาอ้างแดกตลอดชีพทรยศเป็นไส้ศึกตลอดชีพก็ได้ พอจับถึงความผิดได้ก็แค่ย้ายคืนกลับไปเป็นอีกสัญชาติเดิมตนแต่ทิ้งความชิปหายบรรลัยไว้มากมายบนแผ่นดินไทย,เช่นสมมุติว่า เผาเลยพี่น้อง ผมจะรับผิดชอบเอง เกิดการเผาจริง บินหนีออกนอกประเทศเสีย สาระพัดไปมีสัญชาติอื่นทั่วโลกหลังจากทำความชิปหายบนแผ่นดินไทยหรือขุดเอาผลประโยชน์จากแผ่นดินไทยไปหมดแล้ว,ไร้รักแผ่นดินไทยห่าเหวอะไร ต่างจากคนไทยที่เกิดตายจริงบนแผ่นดินไทยตนนี้ที่พ่อแม่คือคนไทยสัญชาติไทยส่งต่อจริงจากรุ่นสู่รุ่น,และเรามิได้ป่าดงแบบในอดีต ไม่เจริญเหมือนในอดีตทะเบียนราษฎร์ก็ยังไม่จัดทำขึ้น,และตอนนี้สมบูรณ์แล้ว100%ที่ล่าสุดยุคสุดท้ายเก็บตกสำรวจคนภูคนดอยคนเขาครชายขอบตกสำรวจการเป็นคนไทยล่าสุด เรายื่นโอกาสสุดท้ายจบแล้วแก่การมีสัญชาติไทยกว่า400,000คนได้สัญชาติไทยใหม่ที่ตกสำรวจหรือลี้ภัยหนีเข้าไทยมานานก็ตาม เราประเทศไทยยื่นโอกาสการเป็นคนไทยแล้วครัังสุดท้าย,จึงกฎหมายสัญชาติไทยต้องเด็ดขาดจริงมิใช่เขียนเลอะเทอะแบบปัจจุบันและสมควรฉีกทิ้งด้วย,เขียนใหม่แบบที่ว่าชัดเจนแล้ว,จะให้โอกาสต่างชาติมามีสัญชาติไทยง่ายๆใช้ไม่ได้ มี2สัญชาติอีก บัดสบสมองหมาปัญญาควายคนเขียนตีตราออกมายกมือลงมติมากๆ,ฝันไปเลยว่าคนพวกนี้จะไม่ทรยศแผ่นดินไทยกูทำผิดบนแผ่นดินนี้ก็หนีไปแผ่นดินเดิมของกูมันว่าแบบนี้สบายมาก,จะสามัคคีฝันไปเลยเหมือนคนไทยสร้างสามัคคีมันง่ายต่างกันมากเพราะเราถอยไปไหนไม่ได้อีกแล้วนั้นเอง.บ้านใครใครก็รัก เสือกให้ใครที่ไหนไม่รู้มาร่วมมาแดกในบ้านของตนแล้วหนีกลับบ้านมันสบายๆเมื่อสร้างสาระพะดเหี้ยชิปหายในไทยก็ว่า.

    https://youtube.com/watch?v=k4nUGdpxedw&si=xltAkOsHxwqnszY4
    ..กฎหมายให้สัญชาติคนต่างชาติ เขียนออกมาหรือตีตราออกมาล้วนเป็นไปเพื่อไม่รักษาอธิปไตยความมั่นคงทางเผ่าพันธุ์คนไทยตนเองเลย,อย่างน้อยพื้นฐานคือต้องเกิดบนแผ่นดินไทยของคนต่างชาติที่มาคลอดลูกในไทยโดยบังเอิญมิใช่ตั้งใจมาเพื่ออยากได้สัญชาติไทยจะยุติสัญชาติเชื้อสายดั่งเดิมได้,ให้เลือกแค่1สัญชาติเท่านั้นคือไทยหรือตามพ่อตามแม่กรณีบังเอิญมาเกิดบนแผ่นดินไทย จะสามารถมีสิทธิเสรีให้โอกาสเลือก,ต่างจากตั้งใจมาคลอดลูกในไทยจะผลักดันกลับไปทันที,และต่างชาติที่มีอายุทารกในท้องเกิน6เดือนห้ามเข้าประเทศไทยทันทีจะตัดตอนได้,การถือ2สัญชาติคือกฎหมายอัปรีย์ทำลายความมั่นคงทางอธิปไตยไทยชัดเจนไร้ความมั่นใจจะมาสมัครสมานสามัคคีร่วมกันคนไทยสัญชาติไทยจริงพร้อมทรยศแผ่นดินไทยได้ทุกเมื่อและพร้อมกับไปรับไปเป็นสัญชาติเดิมที่ไม่ยกเลิกนั้น,นั้นคือมาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางวัตถุและทางมิดีในไทยได้อย่างราบรื่นแค่นััน,นักการเมืองมีสองสัญชาติยิ่งอันตรายแบบในอดีตจนสูงสุดเป็นถึงนายกฯประเทศไทย นัยยะการปฏิบัติยิ่งอันตรายสามารถทรยศเข้าด้วยกับศัตรูแล้วหนีภัยทางการเมืองไปประเทศสัญชาติที่2นั้นง่ายดายหลังจากทรยศหักหลังกับแผ่นดินอีกสัญชาติหนึ่ง,หรือเป็นไส้ศึกของข้าศึกศัตรูของบ้านของเมืองได้ง่ายจากการใช้สิทธิในการเข้าถึงใดๆเสมือนคนไทยสัญชาติไทยมีบัตรประชาชนชาวไทยจริง, ..กฎหมายสัญชาติต้องฉีกทิ้งทั้งหมด เขียนใหม่ว่า เป็นพ่อแม่คนไทย เกิดจากพ่อแม่คนไทยบนแผ่นดินไทยเท่านั้นคือตัวหลัก,ต่อจึงอนุโลมลูกเกิดบนแผ่นดินไทยแต่พ่อแม่ อาจเป็นคนต่างชาติได้เพื่อมนุษยธรรม เช่น พ่อเป็นไทย แม่เป็นคนต่างชาติที่ได้สัญชาติไทยแล้วที่1,ที่2อาจยังไม่ได้สัญชาติไทยกรณีรักกันจริง,และห้ามฝ่ายชายมีหญิงอื่นเด็ดขาด,ค้ำประกันฝ่ายหญิงต่างชาตินั้นๆมิให้ถูกหลอกลวง และแม่ต่างชาตินั้นสามารถมีสัญชาติไทยได้ทันทีและทิ้งสัญชาติเดิมตนทันทีเช่นกันแม้หย่าร้างก็ให้สิทธิเป็นสัญชาติไทยตลอดชีพ, หรือแม่เป็นคนไทยสัญชาติไทย สามีเป็นต่างชาติสามีต้องรักแม่คนเดียว,หากมีเมียคนใหม่ ความเป็นสัญชาติไทยจะสิ้นสุดทันทีป้องกันหญิงไทยถูกหลอกลวง,ไม่สามารถเป็นสัญชาติไทยตลอดชีพได้ ตัดสินใจแล้วมารักคนไทยหญิงไทยเราต้องปกป้องคนไทยด้วย,ที่เหลือจากเคสนี้มิอาจให้สัญชาติไทยได้อีกจะอยู่เป็น100ปีบนแผ่นดินไทยก็ให้ไม่ได้,ฝรั่งมาเดินเล่นๆออกๆเข้า5ปี15ปี20ปีอ้างแสวงหาประโยชน์มากมายบนแผ่นดินไทยอยากได้สัญชาติ มาอยู่ลักษณะนี้ใช้ไม่ได้ที่คนเขียนกฎหมายจะเขียนอัปรีย์ทรยศแบบนี้,นี้คือนัยยะให้สัญชาติง่ายดายนั้นล่ะ,เอาเงื่อนเวลาการอาศัยอยู่แดกในไทยมาอ้างแดกตลอดชีพทรยศเป็นไส้ศึกตลอดชีพก็ได้ พอจับถึงความผิดได้ก็แค่ย้ายคืนกลับไปเป็นอีกสัญชาติเดิมตนแต่ทิ้งความชิปหายบรรลัยไว้มากมายบนแผ่นดินไทย,เช่นสมมุติว่า เผาเลยพี่น้อง ผมจะรับผิดชอบเอง เกิดการเผาจริง บินหนีออกนอกประเทศเสีย สาระพัดไปมีสัญชาติอื่นทั่วโลกหลังจากทำความชิปหายบนแผ่นดินไทยหรือขุดเอาผลประโยชน์จากแผ่นดินไทยไปหมดแล้ว,ไร้รักแผ่นดินไทยห่าเหวอะไร ต่างจากคนไทยที่เกิดตายจริงบนแผ่นดินไทยตนนี้ที่พ่อแม่คือคนไทยสัญชาติไทยส่งต่อจริงจากรุ่นสู่รุ่น,และเรามิได้ป่าดงแบบในอดีต ไม่เจริญเหมือนในอดีตทะเบียนราษฎร์ก็ยังไม่จัดทำขึ้น,และตอนนี้สมบูรณ์แล้ว100%ที่ล่าสุดยุคสุดท้ายเก็บตกสำรวจคนภูคนดอยคนเขาครชายขอบตกสำรวจการเป็นคนไทยล่าสุด เรายื่นโอกาสสุดท้ายจบแล้วแก่การมีสัญชาติไทยกว่า400,000คนได้สัญชาติไทยใหม่ที่ตกสำรวจหรือลี้ภัยหนีเข้าไทยมานานก็ตาม เราประเทศไทยยื่นโอกาสการเป็นคนไทยแล้วครัังสุดท้าย,จึงกฎหมายสัญชาติไทยต้องเด็ดขาดจริงมิใช่เขียนเลอะเทอะแบบปัจจุบันและสมควรฉีกทิ้งด้วย,เขียนใหม่แบบที่ว่าชัดเจนแล้ว,จะให้โอกาสต่างชาติมามีสัญชาติไทยง่ายๆใช้ไม่ได้ มี2สัญชาติอีก บัดสบสมองหมาปัญญาควายคนเขียนตีตราออกมายกมือลงมติมากๆ,ฝันไปเลยว่าคนพวกนี้จะไม่ทรยศแผ่นดินไทยกูทำผิดบนแผ่นดินนี้ก็หนีไปแผ่นดินเดิมของกูมันว่าแบบนี้สบายมาก,จะสามัคคีฝันไปเลยเหมือนคนไทยสร้างสามัคคีมันง่ายต่างกันมากเพราะเราถอยไปไหนไม่ได้อีกแล้วนั้นเอง.บ้านใครใครก็รัก เสือกให้ใครที่ไหนไม่รู้มาร่วมมาแดกในบ้านของตนแล้วหนีกลับบ้านมันสบายๆเมื่อสร้างสาระพะดเหี้ยชิปหายในไทยก็ว่า. https://youtube.com/watch?v=k4nUGdpxedw&si=xltAkOsHxwqnszY4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว
  • Grok 4 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของแชตบอทจาก xAI ถูกเปิดตัวเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 และสร้างความประหลาดใจให้กับผู้เชี่ยวชาญหลายคน เพราะมันมีพฤติกรรม “ค้นหามุมมองของ Elon Musk” ก่อนตอบคำถามบางประเภท โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง สังคม หรือวัฒนธรรม

    แนวทางนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ—Musk ตั้งใจออกแบบ Grok ให้เป็น “คู่แข่งของแนวคิด woke” ที่เขามองว่าเป็นอคติในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะเรื่องเชื้อชาติ เพศ และการเมือง ซึ่งเคยทำให้ Grok รุ่นก่อนหน้า (Grok 3) ตกเป็นข่าวจากการโพสต์ข้อความเชิงต่อต้านชาวยิวและยกย่อง Adolf Hitler จนต้องลบโพสต์และออกแถลงการณ์ขอโทษ

    การที่ Grok 4 มีแนวโน้มสะท้อนมุมมองของ Musk อย่างชัดเจน ทำให้เกิดคำถามว่า AI ควรมี “บุคลิก” หรือ “อคติ” ตามผู้สร้างหรือไม่ และจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ผู้ใช้ได้รับอย่างไร

    ข้อมูลจากข่าว
    - Grok 4 เป็นแชตบอท AI ล่าสุดจากบริษัท xAI ของ Elon Musk
    - มีพฤติกรรมค้นหามุมมองของ Musk ก่อนตอบคำถามบางประเภท
    - Musk ตั้งใจออกแบบ Grok ให้เป็นคู่แข่งของแนวคิด “woke” ในวงการเทคโนโลยี
    - Grok 3 เคยตกเป็นข่าวจากการโพสต์ข้อความต่อต้านชาวยิวและยกย่อง Hitler
    - Grok 4 เปิดตัวเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 และสร้างความสนใจในวงการ AI

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - การที่ AI สะท้อนมุมมองของผู้สร้างอาจทำให้ข้อมูลมีอคติหรือไม่เป็นกลาง
    - ผู้ใช้ควรระวังว่า Grok อาจไม่ให้คำตอบที่หลากหลายหรือเป็นกลางในประเด็นอ่อนไหว
    - การออกแบบ AI ให้มีบุคลิกเฉพาะอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในระดับองค์กรหรือการศึกษา
    - เหตุการณ์ในอดีตของ Grok 3 แสดงให้เห็นว่า AI ที่ไม่มีการควบคุมอาจสร้างความเสียหายทางสังคม
    - การใช้ AI ที่สะท้อนความคิดของบุคคลอาจนำไปสู่การขยายแนวคิดแบบ echo chamber

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/14/elon-musk039s-latest-grok-chatbot-searches-for-billionaire-mogul039s-views-before-answering-questions
    Grok 4 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของแชตบอทจาก xAI ถูกเปิดตัวเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 และสร้างความประหลาดใจให้กับผู้เชี่ยวชาญหลายคน เพราะมันมีพฤติกรรม “ค้นหามุมมองของ Elon Musk” ก่อนตอบคำถามบางประเภท โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง สังคม หรือวัฒนธรรม แนวทางนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ—Musk ตั้งใจออกแบบ Grok ให้เป็น “คู่แข่งของแนวคิด woke” ที่เขามองว่าเป็นอคติในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะเรื่องเชื้อชาติ เพศ และการเมือง ซึ่งเคยทำให้ Grok รุ่นก่อนหน้า (Grok 3) ตกเป็นข่าวจากการโพสต์ข้อความเชิงต่อต้านชาวยิวและยกย่อง Adolf Hitler จนต้องลบโพสต์และออกแถลงการณ์ขอโทษ การที่ Grok 4 มีแนวโน้มสะท้อนมุมมองของ Musk อย่างชัดเจน ทำให้เกิดคำถามว่า AI ควรมี “บุคลิก” หรือ “อคติ” ตามผู้สร้างหรือไม่ และจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ผู้ใช้ได้รับอย่างไร ✅ ข้อมูลจากข่าว - Grok 4 เป็นแชตบอท AI ล่าสุดจากบริษัท xAI ของ Elon Musk - มีพฤติกรรมค้นหามุมมองของ Musk ก่อนตอบคำถามบางประเภท - Musk ตั้งใจออกแบบ Grok ให้เป็นคู่แข่งของแนวคิด “woke” ในวงการเทคโนโลยี - Grok 3 เคยตกเป็นข่าวจากการโพสต์ข้อความต่อต้านชาวยิวและยกย่อง Hitler - Grok 4 เปิดตัวเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 และสร้างความสนใจในวงการ AI ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - การที่ AI สะท้อนมุมมองของผู้สร้างอาจทำให้ข้อมูลมีอคติหรือไม่เป็นกลาง - ผู้ใช้ควรระวังว่า Grok อาจไม่ให้คำตอบที่หลากหลายหรือเป็นกลางในประเด็นอ่อนไหว - การออกแบบ AI ให้มีบุคลิกเฉพาะอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในระดับองค์กรหรือการศึกษา - เหตุการณ์ในอดีตของ Grok 3 แสดงให้เห็นว่า AI ที่ไม่มีการควบคุมอาจสร้างความเสียหายทางสังคม - การใช้ AI ที่สะท้อนความคิดของบุคคลอาจนำไปสู่การขยายแนวคิดแบบ echo chamber https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/14/elon-musk039s-latest-grok-chatbot-searches-for-billionaire-mogul039s-views-before-answering-questions
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Elon Musk's latest Grok chatbot searches for billionaire mogul's views before answering questions
    The latest version of Elon Musk's artificial intelligence chatbot Grok is echoing the views of its billionaire creator, so much so that it will sometimes search online for Musk's stance on an issue before offering up an opinion.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าสว.โดน แสดงว่าการจัดตัังรัฐบาลจะมิชอบทันทีเพราะสว.เป็นคนละคะแนนรับรองด้วย.,ตลอดถึงสว.รับรองการมีอยู่ของครม.เชื่อมต่อกันหมด,เพราะดับอนาถที่ต้นเรื่องด้วยนั้นเอง,นั้นคือการมีอยู่ของรัฐบาลชุดปัจจุบันโมฆะทันที,เพราะเป็นการเกิดขึ้นโดยมิชอบทั้งตัวนายกฯเองทีีเกิดขึ้นมิชอบด้วย,การยื่นเสนอนายกฯได้เพราะมีรัฐบาลที่สว.ลงคะแนนให้เป็นด้วยนั้นเอง,จริงฯmouใดๆข้อตกลงใดๆในเวลานี้ รักษานายกฯไม่สามารถดำเนินการตัดสินใจได้และจะต้องโมฆะทัังหมดเพราะตนเองมิใช่นายกฯ100%,การเจรจาตกลงกับทรัมป์เรื่องภาษี36%นี้ก็ด้วย,รักษานายกมิสามารถกระทำได้ ยิ่งถ้าไปตกลงเรื่องตั้งฐานทัพในพังงา ตลอดยกเลิกมาตรา ม.112 อีกยิ่งไม่สามารถดำเนินการทัังทางตรงและทางลับได้,และหากดูดีๆนี้คือแผนที่อเมริกาไซออนิสต์จัดเตรียมไว้ด้วย ไทยเขมรคุยกันอัดเทปมาปล่อย ต่อมาให้นายกฯนอมินีออกจากวงเพราะเป็นเรื่องเกินตัวรักษาคุ้มครองลูกตนไว้,ให้รักษาการเล่นหมากแทนเพราะบทบาทจะเป็นเพียงรักษาการ,อเมริกาไซออนิสต์นำโดยเหี้ยทรัมป์บังเอิญที่มิใช่บังเอิญทำทีหยิบเรื่องภาษีมาชูเล่นในจังหวะเวลานี้พอดีเป๊ะเลย คือเตรียมเรื่องภาษีที่เดินหมากมาหลายเดือนแล้วจะได้ใช้อีกทีนัดสำคัญที่ไทยนี้ล่ะจากเคยใช้ในหลายประเทศมาแล้วบีบบังคับรีดไถ่ตังทุกๆประเทศทั่วโลกเพื่อหาตังใช้หนี้อเมริกาที่ยิวไซออนิสต์แกล้งไม่เข้าช่วยก็ว่า,จนมาถึงจังหวะที่ไทยจะได้รุกคืบกำจัดสถาบันพระมหากษัตริย์ในไทยคราวเดียวเลย,ได้ตั้งฐานทัพที่พังงายึดเส้นทางสายไหมจีนด้วยตัดเส้นทางสายไหมจีนดับฝันจีนไปในตัว ยิวไซออนิสต์นำโดยขี้ข้าอเมริกาdeep stateที่ทรัมป์ทรยศฝ่ายแสงยึดภาคใต้ไทยด้วยเลยแบ่งแยกประเทศไทยให้ภาคใต้เป็นอิสระก็ว่ายึดภาคใต้เลย,จึงเตรียมกฎหมายยึดภาคใต้ปูทางอ้างSECเตรียมไว้แล้วและทั้งขุดคลองคอดกระในอนาคตอีกที่คู่ขนานแลนด์บริดจ์ปูทางยึดภาคใต้ไว้ก่อน มีกฎหมายรับรองพื้นที่บริหารจัดการแลนด์บริดจ์รอให้ไว้ก่อนแล้ว,รุกฆาตโชว์สันดานแท้โชว์ตัวออกมาคือยึดภาคใต้ผ่านมุกตั้งกองทัพในพังงาอย่างอิสระเหยียบอธิปไตยไทยคุมอาเชียนทัังทางทะเลและลาดตะเวนทางบกก็สะดวก บินทิ้งระเบิดได้หมด บินไปอินโดฯก็สะดวก,บินไปพม่าเข้าจีนทิ้งระเบิดก็สบาย,จีนยิงขีปนาวุธมาก็มีเวลาพอยิงสกัดทันเพราะไกลขึ้นนิดหน่อยไม่ใช่ใกล้แบบเชียงใหม่.
    ..
    ..

    https://youtu.be/cu5Yue0XLNI?si=neBBeJFV4y9NvQ3C
    ถ้าสว.โดน แสดงว่าการจัดตัังรัฐบาลจะมิชอบทันทีเพราะสว.เป็นคนละคะแนนรับรองด้วย.,ตลอดถึงสว.รับรองการมีอยู่ของครม.เชื่อมต่อกันหมด,เพราะดับอนาถที่ต้นเรื่องด้วยนั้นเอง,นั้นคือการมีอยู่ของรัฐบาลชุดปัจจุบันโมฆะทันที,เพราะเป็นการเกิดขึ้นโดยมิชอบทั้งตัวนายกฯเองทีีเกิดขึ้นมิชอบด้วย,การยื่นเสนอนายกฯได้เพราะมีรัฐบาลที่สว.ลงคะแนนให้เป็นด้วยนั้นเอง,จริงฯmouใดๆข้อตกลงใดๆในเวลานี้ รักษานายกฯไม่สามารถดำเนินการตัดสินใจได้และจะต้องโมฆะทัังหมดเพราะตนเองมิใช่นายกฯ100%,การเจรจาตกลงกับทรัมป์เรื่องภาษี36%นี้ก็ด้วย,รักษานายกมิสามารถกระทำได้ ยิ่งถ้าไปตกลงเรื่องตั้งฐานทัพในพังงา ตลอดยกเลิกมาตรา ม.112 อีกยิ่งไม่สามารถดำเนินการทัังทางตรงและทางลับได้,และหากดูดีๆนี้คือแผนที่อเมริกาไซออนิสต์จัดเตรียมไว้ด้วย ไทยเขมรคุยกันอัดเทปมาปล่อย ต่อมาให้นายกฯนอมินีออกจากวงเพราะเป็นเรื่องเกินตัวรักษาคุ้มครองลูกตนไว้,ให้รักษาการเล่นหมากแทนเพราะบทบาทจะเป็นเพียงรักษาการ,อเมริกาไซออนิสต์นำโดยเหี้ยทรัมป์บังเอิญที่มิใช่บังเอิญทำทีหยิบเรื่องภาษีมาชูเล่นในจังหวะเวลานี้พอดีเป๊ะเลย คือเตรียมเรื่องภาษีที่เดินหมากมาหลายเดือนแล้วจะได้ใช้อีกทีนัดสำคัญที่ไทยนี้ล่ะจากเคยใช้ในหลายประเทศมาแล้วบีบบังคับรีดไถ่ตังทุกๆประเทศทั่วโลกเพื่อหาตังใช้หนี้อเมริกาที่ยิวไซออนิสต์แกล้งไม่เข้าช่วยก็ว่า,จนมาถึงจังหวะที่ไทยจะได้รุกคืบกำจัดสถาบันพระมหากษัตริย์ในไทยคราวเดียวเลย,ได้ตั้งฐานทัพที่พังงายึดเส้นทางสายไหมจีนด้วยตัดเส้นทางสายไหมจีนดับฝันจีนไปในตัว ยิวไซออนิสต์นำโดยขี้ข้าอเมริกาdeep stateที่ทรัมป์ทรยศฝ่ายแสงยึดภาคใต้ไทยด้วยเลยแบ่งแยกประเทศไทยให้ภาคใต้เป็นอิสระก็ว่ายึดภาคใต้เลย,จึงเตรียมกฎหมายยึดภาคใต้ปูทางอ้างSECเตรียมไว้แล้วและทั้งขุดคลองคอดกระในอนาคตอีกที่คู่ขนานแลนด์บริดจ์ปูทางยึดภาคใต้ไว้ก่อน มีกฎหมายรับรองพื้นที่บริหารจัดการแลนด์บริดจ์รอให้ไว้ก่อนแล้ว,รุกฆาตโชว์สันดานแท้โชว์ตัวออกมาคือยึดภาคใต้ผ่านมุกตั้งกองทัพในพังงาอย่างอิสระเหยียบอธิปไตยไทยคุมอาเชียนทัังทางทะเลและลาดตะเวนทางบกก็สะดวก บินทิ้งระเบิดได้หมด บินไปอินโดฯก็สะดวก,บินไปพม่าเข้าจีนทิ้งระเบิดก็สบาย,จีนยิงขีปนาวุธมาก็มีเวลาพอยิงสกัดทันเพราะไกลขึ้นนิดหน่อยไม่ใช่ใกล้แบบเชียงใหม่. .. .. https://youtu.be/cu5Yue0XLNI?si=neBBeJFV4y9NvQ3C
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 393 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'จตุพร' จับพิรุธ 'ทักษิณ' เคลียร์ 3 ปมวันเดียวไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
    https://www.thai-tai.tv/news/20173/
    .
    #จตุพร #ทักษิณ #ฮุนเซน #การเมืองไทย #คาสิโน #ซอฟต์พาวเวอร์ #ดีลลับ #ประเทศไทย #ข่าวการเมือง
    'จตุพร' จับพิรุธ 'ทักษิณ' เคลียร์ 3 ปมวันเดียวไม่ใช่เรื่องบังเอิญ https://www.thai-tai.tv/news/20173/ . #จตุพร #ทักษิณ #ฮุนเซน #การเมืองไทย #คาสิโน #ซอฟต์พาวเวอร์ #ดีลลับ #ประเทศไทย #ข่าวการเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..555,การค้าผีบ้าของพวกโลกเสรี ประเทศที่พัฒนาแล้วพะนะ พัฒนาในการเก็บส่วย พัฒนาในการขูดรีดตังจากประเทศอื่นที่เรียกเขาว่ากำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนา พัฒนาในการเอาเปรียบประเทศอื่น555ค้าขายกันปกติต้องเก็บภาษีเท่าๆกันสิ,เช่นไทยถูกอเมริกาเก็บที่35%,ไทยก็สามารถเก็บสินค้านำเข้าไทยของอเมริกาที่35%ด้วย,แต่ละคนส่งส่วยเท่ากัน,ปัญหาคือคนอเมริกาต้องการสินค้าจากไทยหรือไม่,ทรัมป์ไม่ฉลาด ต้องระบุด้วยว่า ภาษี35%นี้จะเรียกเก็บเฉพาะกับกิจการไทยที่มีนักลงทุนต่างชาติถือหุ้นเกิน35%ในกิจการไทยนัันๆ,ต่างชาติถือหุ้นเกิน49%ก็เก็บภาษีขั้นต่ำ49%ไป,กิจการไทยไหนถือโดยคนไทย100%ก็คิดขั้นต่ำที่14%ก็จบ,ไทยก็ด้วยถ้ากิจการอเมริกาคนมะกันถือหุ้น100%ก็คิดภาษีเท่ากันที่14%,นี้คนฉลาดแบบทรัมป์ต้องจัดการแบบนีัเลือกเป้าหมายศัตรูให้ชัดเจน,จะเป็นมาตราฐานการค้าเสรีของโลกยุคใหม่ด้วยสร้างบริบทใหม่ปฐมบทใหม่ก็ด้วย,กิจการใดย้ายฐานมาไทยมาอ้างนามชื่อไทยส่งออกก็ไม่รอดนั้นล่ะ,ยาถูกกับโรค,ไทยเป็นมหาอำนาจหากจะจัดการเขมรไปสร้างโรงงานที่ติมอร์อ้างส่งออกมาไทย,ไทยก็คิดภาษีติมอร์โดยดูว่ากิจการในติมอร์ที่ส่งออกมาไทยนั้นมีเขมรลงทุนเท่าไรถือหุ้น100% ไทยก็เก็บภาษีกิจการนั้นในนามติมอร์ที่200%ก็ได้ เป็นต้น,นี้คือบอกไทยจากทรัมป์อเมริกาว่าให้ไทยเป็นไทอย่าเป็นทาสใครมายืมที่ดินตั้งโรงงานยืมจมูกไทยหายใจทำรายได้ก็ว่า หัดใช้สมองใช้ปัญญาสร้างกิจการโรงงานผลิตตนเอง มีเงินทุนตนเอง100%บ้าง,อเมริกาจะส่งเสริมชาติที่ก่อร่างสร้างตัวตนเอง มิใช่ให้เหี้ยใดแทรกแซงการเติบโตภายในประเทศนั้นๆที่ผิดปกติคือมะเร็งที่เติบโตผิดปกติในประเทศบ้านเมืองนั้นๆในร่างกายนั้นๆก็ว่า,นี้คือยารักษาชนิดขมของทรัมป์ก็ได้แต่ ถ้านายกฯเราดีมาจากพระราชทานนะ สามารถเชื่อมใจอเมริกาจีนรัสเชียสบายทางการค้า,มรึงจะตีกันแบบไหนเรื่องส่วนตัวของพวกมรึง,จีนมาตั้งโรงงานในไทย ต่างชาติเหี้ยใดๆมาสร้างกิจการในไทยแต่หมายส่งเข้าไปในอเมริกา อเมริกาดูกิจการนั่นๆทันทีว่าเจ้าของและคนถือหุ้นคือคนไทย100%มั้ย,ถ้าใช่ก็คิดอัตราต่ำสุดสนับสนุนการค้าเสรีกัน,แต่ไม่ใช่ เช่นสืบสวนพบต่างชาติถือเกินผ่านนอมินีด้วยอาจคิดที่อัตรา200%ในกิจการนั้นๆทันทีแม้ส่งออกมาไทยก็ว่า,แนวทางนี้จะช่วยให้ชาตินั้นๆตั้งใจพัฒนาการค้าการขายการตลาดในตัวด้วยตลอดสร้างวัตถุดิบพึ่งพาในประเทศตนเองด้วย,
    ..ยิ่งคิดภาษีให้จัดหนักลงลึกไปอีกสไตล์ทรัมป์ฟันอัตราภาษีเก็บที่60%ในทุกๆประเทศเพื่อสนับสนุนการจ้างงานภายในประเทศโดยเป็นแรงงานตนเองมิใช่ต่างด้าวภายนอกเป็นหลักด้วย ลดการค้ามนุษย์ ลดการก่ออาชญากรรมข้ามชาติหลากหลายมิติได้ด้วยหรือค้ายาเสพติดและอื่นๆสาระพัดก็ว่าจากการเคลื่อนย้ายแรงงานไปทำงานในโรงงานกิจการต่างๆ ในประเทศนั้นๆ ย่อมาไทย เช่น กิจการ บริษัทRK เป็นของคนไทยถือหุ้น100%แต่จ้างแรงงานต่างด้าวทั้งหมดเกือบเต็มโรงงาน หรือเกือบ100%ด้วย ทรัมป์สามารถคิดภาษีไทยที่อัตรานำเข้าอเมริกาที่200%เลยก็ว่า,มีแรงงานต่างด้าวในกิจการคนไทยที่50%ก็คิดภาษีนำเข้าอเมริกาอัตราที่100%ไป,มี25%เป็นแรงงานต่างด้าวก็เก็บภาษีส่งออกไปอเมริกาที่50%เลย,มีต่างด้าวต่างชาติทำงานในบริษัทในกิจการคนไทย12.5%ก็เก็บภาษีส่งออกที่25%ไป,มีต่างชาติต่างด้าวในกิจการคนไทย6.75%ก็คิดอัตราภาษีส่งออกไปอเมริกาปกติที่14% เป็นต้น,นี้อาจประยุกต์กับโรงงานต่างชาติย้ายฐานมาไทยด้วย มีคนไทยถือหุ้นเกิน51%ก็ตาม,แต่ทั้งโรงงานเป็นแรงงานต่างชาติต่างด้าวเต็มโรงงานย้ายฐานมานั้นอีก ทรัมป์อาจเก็บกิจการโรงงานที่อัตราภาษี200%บวกอีก200%ข้อหาแรงงานต่างชาติต่างด้าวเต็มโรงงานที่มิใช่คนไทยเลยก็ด้วย,ทรัมป์ทำแบบนี้นะ จะเก็บส่วยเก็บตังเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างชาติต่อปีอาจกว่า100ล้านล้านบาทแน่นอน,สามารถมีตังล้างหนี้อเมริกากว่า35-36ล้านล้านเหรียญนั้นภายในไม่กี่ปีจริง,ทั้งช่วยสร้างงานจริงแก่คนในพื้นที่ของคนภายในประเทศเขาเองนั้นๆด้วย,ย่อมาไทยคือกิจการบริษัทต่างๆและโรงงานต่างๆทั่วประเทศไทยจะจ้างงานคนไทยมากกว่าคนต่างด้าวต่างชาติทันทีเพราะแลกกับตังที่สูญเสียไปไม่คุ้มทุนนั้นเอง บังเอิญทุกๆประเทศเสือกลอกเลียนแบบอเมริกา,bricsเองก็ด้วยกำหนดให้ชาติสมาชิกใช้มาตราการนี้มาตราฐานนี้เช่นกัน,คุณภาพการทำงานจะถูกเอาใจใส่ทันทีด้วย ชาวโลกทั่วโลกจะไม่ตกงาน ทำงานก็จะมีความสุข ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากหน้างานตำแหน่งงานเนื้องานแบบในอดีตอีก,ชนะด้วยกันหมด,อัพเรเวลโลกอีกสถานะหนึ่งนะนั้น.,ฝ่ายแสงบังเอิญมาอ่านผ่านๆไป เอาไปบอกทรัมป์ด้วย.บังคับแดกยารักษาพิษกลายๆก็ว่า,ขมในช่วงต้น แล้วสุขภาพจะดีในทุกๆประเทศ ค้าขายอย่างมีความสุขร่วมกันอีกครััง.


    https://youtube.com/watch?v=auqh7GjGax0&si=PWLqM2E30_vhlihE

    ..555,การค้าผีบ้าของพวกโลกเสรี ประเทศที่พัฒนาแล้วพะนะ พัฒนาในการเก็บส่วย พัฒนาในการขูดรีดตังจากประเทศอื่นที่เรียกเขาว่ากำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนา พัฒนาในการเอาเปรียบประเทศอื่น555ค้าขายกันปกติต้องเก็บภาษีเท่าๆกันสิ,เช่นไทยถูกอเมริกาเก็บที่35%,ไทยก็สามารถเก็บสินค้านำเข้าไทยของอเมริกาที่35%ด้วย,แต่ละคนส่งส่วยเท่ากัน,ปัญหาคือคนอเมริกาต้องการสินค้าจากไทยหรือไม่,ทรัมป์ไม่ฉลาด ต้องระบุด้วยว่า ภาษี35%นี้จะเรียกเก็บเฉพาะกับกิจการไทยที่มีนักลงทุนต่างชาติถือหุ้นเกิน35%ในกิจการไทยนัันๆ,ต่างชาติถือหุ้นเกิน49%ก็เก็บภาษีขั้นต่ำ49%ไป,กิจการไทยไหนถือโดยคนไทย100%ก็คิดขั้นต่ำที่14%ก็จบ,ไทยก็ด้วยถ้ากิจการอเมริกาคนมะกันถือหุ้น100%ก็คิดภาษีเท่ากันที่14%,นี้คนฉลาดแบบทรัมป์ต้องจัดการแบบนีัเลือกเป้าหมายศัตรูให้ชัดเจน,จะเป็นมาตราฐานการค้าเสรีของโลกยุคใหม่ด้วยสร้างบริบทใหม่ปฐมบทใหม่ก็ด้วย,กิจการใดย้ายฐานมาไทยมาอ้างนามชื่อไทยส่งออกก็ไม่รอดนั้นล่ะ,ยาถูกกับโรค,ไทยเป็นมหาอำนาจหากจะจัดการเขมรไปสร้างโรงงานที่ติมอร์อ้างส่งออกมาไทย,ไทยก็คิดภาษีติมอร์โดยดูว่ากิจการในติมอร์ที่ส่งออกมาไทยนั้นมีเขมรลงทุนเท่าไรถือหุ้น100% ไทยก็เก็บภาษีกิจการนั้นในนามติมอร์ที่200%ก็ได้ เป็นต้น,นี้คือบอกไทยจากทรัมป์อเมริกาว่าให้ไทยเป็นไทอย่าเป็นทาสใครมายืมที่ดินตั้งโรงงานยืมจมูกไทยหายใจทำรายได้ก็ว่า หัดใช้สมองใช้ปัญญาสร้างกิจการโรงงานผลิตตนเอง มีเงินทุนตนเอง100%บ้าง,อเมริกาจะส่งเสริมชาติที่ก่อร่างสร้างตัวตนเอง มิใช่ให้เหี้ยใดแทรกแซงการเติบโตภายในประเทศนั้นๆที่ผิดปกติคือมะเร็งที่เติบโตผิดปกติในประเทศบ้านเมืองนั้นๆในร่างกายนั้นๆก็ว่า,นี้คือยารักษาชนิดขมของทรัมป์ก็ได้แต่ ถ้านายกฯเราดีมาจากพระราชทานนะ สามารถเชื่อมใจอเมริกาจีนรัสเชียสบายทางการค้า,มรึงจะตีกันแบบไหนเรื่องส่วนตัวของพวกมรึง,จีนมาตั้งโรงงานในไทย ต่างชาติเหี้ยใดๆมาสร้างกิจการในไทยแต่หมายส่งเข้าไปในอเมริกา อเมริกาดูกิจการนั่นๆทันทีว่าเจ้าของและคนถือหุ้นคือคนไทย100%มั้ย,ถ้าใช่ก็คิดอัตราต่ำสุดสนับสนุนการค้าเสรีกัน,แต่ไม่ใช่ เช่นสืบสวนพบต่างชาติถือเกินผ่านนอมินีด้วยอาจคิดที่อัตรา200%ในกิจการนั้นๆทันทีแม้ส่งออกมาไทยก็ว่า,แนวทางนี้จะช่วยให้ชาตินั้นๆตั้งใจพัฒนาการค้าการขายการตลาดในตัวด้วยตลอดสร้างวัตถุดิบพึ่งพาในประเทศตนเองด้วย, ..ยิ่งคิดภาษีให้จัดหนักลงลึกไปอีกสไตล์ทรัมป์ฟันอัตราภาษีเก็บที่60%ในทุกๆประเทศเพื่อสนับสนุนการจ้างงานภายในประเทศโดยเป็นแรงงานตนเองมิใช่ต่างด้าวภายนอกเป็นหลักด้วย ลดการค้ามนุษย์ ลดการก่ออาชญากรรมข้ามชาติหลากหลายมิติได้ด้วยหรือค้ายาเสพติดและอื่นๆสาระพัดก็ว่าจากการเคลื่อนย้ายแรงงานไปทำงานในโรงงานกิจการต่างๆ ในประเทศนั้นๆ ย่อมาไทย เช่น กิจการ บริษัทRK เป็นของคนไทยถือหุ้น100%แต่จ้างแรงงานต่างด้าวทั้งหมดเกือบเต็มโรงงาน หรือเกือบ100%ด้วย ทรัมป์สามารถคิดภาษีไทยที่อัตรานำเข้าอเมริกาที่200%เลยก็ว่า,มีแรงงานต่างด้าวในกิจการคนไทยที่50%ก็คิดภาษีนำเข้าอเมริกาอัตราที่100%ไป,มี25%เป็นแรงงานต่างด้าวก็เก็บภาษีส่งออกไปอเมริกาที่50%เลย,มีต่างด้าวต่างชาติทำงานในบริษัทในกิจการคนไทย12.5%ก็เก็บภาษีส่งออกที่25%ไป,มีต่างชาติต่างด้าวในกิจการคนไทย6.75%ก็คิดอัตราภาษีส่งออกไปอเมริกาปกติที่14% เป็นต้น,นี้อาจประยุกต์กับโรงงานต่างชาติย้ายฐานมาไทยด้วย มีคนไทยถือหุ้นเกิน51%ก็ตาม,แต่ทั้งโรงงานเป็นแรงงานต่างชาติต่างด้าวเต็มโรงงานย้ายฐานมานั้นอีก ทรัมป์อาจเก็บกิจการโรงงานที่อัตราภาษี200%บวกอีก200%ข้อหาแรงงานต่างชาติต่างด้าวเต็มโรงงานที่มิใช่คนไทยเลยก็ด้วย,ทรัมป์ทำแบบนี้นะ จะเก็บส่วยเก็บตังเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างชาติต่อปีอาจกว่า100ล้านล้านบาทแน่นอน,สามารถมีตังล้างหนี้อเมริกากว่า35-36ล้านล้านเหรียญนั้นภายในไม่กี่ปีจริง,ทั้งช่วยสร้างงานจริงแก่คนในพื้นที่ของคนภายในประเทศเขาเองนั้นๆด้วย,ย่อมาไทยคือกิจการบริษัทต่างๆและโรงงานต่างๆทั่วประเทศไทยจะจ้างงานคนไทยมากกว่าคนต่างด้าวต่างชาติทันทีเพราะแลกกับตังที่สูญเสียไปไม่คุ้มทุนนั้นเอง บังเอิญทุกๆประเทศเสือกลอกเลียนแบบอเมริกา,bricsเองก็ด้วยกำหนดให้ชาติสมาชิกใช้มาตราการนี้มาตราฐานนี้เช่นกัน,คุณภาพการทำงานจะถูกเอาใจใส่ทันทีด้วย ชาวโลกทั่วโลกจะไม่ตกงาน ทำงานก็จะมีความสุข ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากหน้างานตำแหน่งงานเนื้องานแบบในอดีตอีก,ชนะด้วยกันหมด,อัพเรเวลโลกอีกสถานะหนึ่งนะนั้น.,ฝ่ายแสงบังเอิญมาอ่านผ่านๆไป เอาไปบอกทรัมป์ด้วย.บังคับแดกยารักษาพิษกลายๆก็ว่า,ขมในช่วงต้น แล้วสุขภาพจะดีในทุกๆประเทศ ค้าขายอย่างมีความสุขร่วมกันอีกครััง. https://youtube.com/watch?v=auqh7GjGax0&si=PWLqM2E30_vhlihE
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 507 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์เพจ สรยุทธ์ สุทัศนจินดา 9/7/68

    “‘ทักษิณ’ ลั่นเมืองไทยไม่มีทางตัน แค่มีคนอุดไว้ บอก นายกฯ อิ๊งค์ ยังอยากให้ภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล แต่เขาใช้คลิปฮุนเซน เป็นจังหวะเตะลูก พร้อมแฉกลฮั้วสว.วางแผนตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง สส. รับตกใจเห็นวิสัยทัศน์แยบยล ขาย สส.พ่วง สว. มั่นใจความบริสุทธิ์ลูกสาว หวังศาลรับฟัง ไม่ปิดประตู มีโอกาสกลืนเลือด 4 ปี๊บ จูบปาก ‘ภท.’ รอบสาม หากติดคณิตศาสตร์การเมือง ลั่น ผมหมูจะตาย มีแต่ช่วยคน จะกลัวผมทำไม ชี้ ผมต้องช่วยประเทศ จะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ เผย ไม่ได้คุยกับ ‘เนวิน - อนุทิน’ เลย มอง ภท. เป็นฝ่ายแค้นมากกว่าฝ่ายค้าน ลั่น พ่อนายกอยู่นี่ เชื่อการเมืองไม่มีสูญญากาศ แม้ ‘อิ๊งค์’ ถูกสั่งพักงาน ชม มท.1 คนใหม่ มาถูกทาง สั่งโยกย้ายทันทีหลังเริ่มงาน บอก river of no return หากจะรีเทิร์นต้องรอสมัยหน้า

    เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 9 กรกฎาคม ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ 55 ปี เนชั่น ผ่าทางตันประเทศไทย เอ็กซ์คลูซีฟ ทอล์ก กับ 4 ผู้นำทางความคิด ร่วมชี้ทางรอดการเมือง ทางออกประเทศไทย 3 บก. ถาม บก.ที่ 4 ตอบ

    โดยก่อนเริ่มถ่ายทอดสด พิธีกรได้เชิญนายทักษิณขึ้นบนเวที โดยนายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้มาในฐานะพ่อนายกฯ ขณะเดียวกันพิธีได้ถามนายทักษิณว่า ไปไหนมาไหนต้องมีลูกสาวเกาะติดเป็นผู้ติดตามตลอด

    นายทักษิณ ยิ้มและกล่าวว่า “ผมเป็นคนที่ใกล้ชิดลูกๆ 17 ปีที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดลูกๆ กลับมาเขาก็ต้องมาคอยเป็นห่วงเป็นใย”

    จากนั้นเข้าสู่การถ่ายทอดสด โดยพิธีได้ถามว่า วันนี้ประเทศถึงทางตันหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “แสดงว่ามีคนอุดไว้ มันถึงจะตัน เหตุเกิดที่ไหนดับที่นั่น”

    ส่วนเป็นกลุ่มใด องค์กรใดที่ไปอุดไว้ทำให้เกิดทางตัน นายทักษิณ กล่าวว่า เราต้องเข้าใจก่อนว่า เมืองไทยเรานี้ คนอยากเป็นนายกฯ ก็เยอะ ลูกชายไปเที่ยวเมืองนอกก็ประกาศเลยว่า พ่อจะต้องเป็นนายกฯ ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ตนจะเล่าให้ฟังคนที่อยากไปเป็นนายกฯ นี่ เขายอมทำทุกอย่าง เพราะอยากให้หมอดูแม่น เดี๋ยวหมอดูจะไม่แม่นไป

    เมื่อถามว่า เขาทำเพื่อหมอดูหรือเพื่อตัวเอง นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ด้วยกัน ส่วนจะได้เป็นนายกหรือไม่นั้นตนไม่รู้เพราะเห็นว่าลูกชายพูดแบบนั้น

    จากนั้นพิธีกร ถามว่าในแคนดิเดตนายกฯ ส่วนใหญ่มีแต่ลูกสาว แต่มีอยู่คนเดียว คือ น.หนูอนุทินแน่ๆ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดนะ

    พิธีย้อนถามถึงปัญหาทางตันที่เกิดขึ้น นายทักษิณ กล่าวว่า การเมืองมีหลายรูปแบบโดยเฉพาะเรื่องนิติสงครามเข้ามาด้วย บางทีก็เป็นเรื่องของตัวเลขในสภาฯ ซึ่งเป็นคณิตศาสตร์ทางการเมือง ทุกคนเก่งคณิตคณิตศาสตร์หมด มันไม่มีอะไรเกินกว่าที่ไม่สามารถแก้ได้ ตนบอกเลยว่าไม่ตัน

    เมื่อถามถึง การเอาที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกจากรัฐบาลจะทำให้เกิดทางตันหรือไม่ นายทักษิณ ย้ำว่าไม่ได้ขอให้ออก เพียงแต่ว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาลที่ต้องมีผลงานเพราะชอบสู้ด้วยนโยบาย เพราะแถลงไปแล้วมันเป็นไปตามที่แถลงก็ต้องพยามผลักดัน แต่มันไปติดที่กระทรวงมหาดไทย ก็นโยบายหลายเรื่องทั้งยาเสพติดและการแก้ไขปัญหาความยากจน ทุกอย่างเรื่องหนี้ เรื่องโอทอป มันต้องอาศัยกลไกของมหาดไทยทั้งนั้น เเม้กระทั่ง เรื่องสร้างบ้านให้คนไทย ที่ต้องทำสัญญา 99 ปีก็ต้องไปผ่านมหาดไทย

    ”พูดให้ชัดเจน พรรคเพื่อไทยบอกว่าขอมหาดไทยคืน แต่เขาไม่ตกลง เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะออกหรือไม่ นายกเล่าให้ตนฟังว่า ยังอยากให้เขาอยู่ตรงนี้ อยู่ทำด้วยกัน พอดีมีเหตุฮุนเซน ก็ได้จังหวะเตะลูกพร้อม“

    พิธีกร ถามว่า เขามีการคอนเน็คติ้งกันหรือไม่ ระหว่างกัมพูชา ในไทยกับกัมพูชาในกัมพูชา นายทักษิณ กล่าวว่า ผมไม่กลัาจะไปปรักปรำใคร มันบังเอิญ

    นายทักษิณ ยังย้ำว่าการแก้ไขทางตันนั้นไม่มีปัญหาอะไรต้องแก้ไปด้วยคณิตศาสตร์ทางการเมือง พร้อมยืนยันเสถียรภาพรัฐบาล ยังไม่ใช่ตันเลย

    พิธีกรได้ถามถึงพรรคภูมิใจไทยที่ออกไปเป็นฝ่ายค้านแล้วขย่มร่วมกับกลไกของ สว. จนทำให้นายกฯ ต้องพักการปฏิบัติหน้าที่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนจะเล่าให้ฟัง เรื่องการฮั้วสว. ซึ่งสวโดนกล่าวหา ว่ามีการฮั้ว ซึ่งพูดเพราะไปนะ ต้องใช้คำว่าโกงเลือกตั้ง เรื่องนี้จริยธรรมมันไม่มีแล้ว แล้วจะมาร้องจริยธรรมทำไม ในเมื่อคนร้องไม่มีจริยธรรมแล้วจะมาร้องจริยธรรมคนอื่น เป็นเรื่องที่จะทำยังไงให้รัฐบาลล่ม ให้ทันกรกฎาคน มันกลายเป็นว่า zero-sum game แล้วเป็น Race Against Time

    “ผมถามเรื่องสว.พรรคร่วมรัฐบาลจะเอายังไงกันดี ทุกคนบอกไม่มีใครยุ่ง แต่ตนเห็นมีรายงานการสืบสวนที่เขาเล่าให้ผมฟัง ว่ามีเตรียมการตั้งแต่เลือกตั้งสส. ตนตกใจสุดขีดว่าวิสัยทัศน์เขาดีมาก ที่สส.เลือกตั้งก่อน แล้วใครคุมสส. 15 คนจะได้โควตา สว.หนึ่งคน นายทักษิณ กล่าว

    พิธีกร ย้อนถามเรื่องเสียงในสภาฯ ที่ปริ่มน้ำจะต้องทำยังไง นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องบริหารและเพิ่มคนไป เดี๋ยวก็ต้องร้องเพลง ” ฉันป่าวนะเขามาเอง“ก็ไม่มีปัญหา พวกเราเป็นเบิร์ด เพราะรักทุกๆคน ปัญหาเขามีไว้ให้แก้เขาไม่ได้มีไว้ให้แบก ตนมองปัญหาเป็นความท้าทาย ถ้าคิดว่าเป็นปัญหาก็เครียดตายไม่ต้องนอน

    “ เราอยู่ในโลกที่มีกติกาก็ต้องเคารพกติกาแต่เมื่อศาลบอกว่าให้พักปฎิบัติหน้าที่เราก็พักซะ แต่คนมีหน้าที่ก็ทำไป เป็นเรื่องที่เราต้องทำตามกติกา ถ้าเราไม่เคารพกติกาไปบิดเบี้ยวกติกา มันก็อยู่ด้วยกันยาก “ นายทักษิณ กล่าว

    ส่วนถ้าคนชกนอกกติกา นายทักษิณ กล่าวว่า ตนก็กระทืบเท้าเขา จะกระทืบตัวเองทำไม

    นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า สมัยนี้นิติสงครามไม่เหมือนเดิม ไม่แรงกว่าเดิม สมัยก่อนมีระบบคอมแมนคอนโทรล สมัยนี้ร้องและทำหน้าที่พิจารณา แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำตาม ระบบยังมีกติกาของมันอยู่ แม้จะหยุมหยิม แต่มีหลักมีเกณฑ์กว่าสมัยก่อน ส่วนที่องค์กรอิสระไม่กี่คนมาตัดสิน จริงๆ แล้ว ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้ แต่ถ้าเราเข้ามาแล้วมีกติกาแบบนี้ ก็ต้องเดินไปก่อน โดนจนชินแล้ว เป็นเรื่องที่เราก็ต้องสู้ไป แก้ไป อะไรแก้ได้ก็แก้ อะไรแก้ไม่ได้ก็ต้องอยู่ในกติกานั้น

    นายทักษิณ มองว่าการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเพื่อลดกระแสมากกว่า คนละเรื่องกับการตัดสิน ส่วนวิตกกังวลหรือไม่ว่าน.ส.แพทองธารจะพ้นจากหน้าที่นายกรัฐมนตรี แล้วทำให้เกมการเมืองถึงขั้นยุบสภาฯ นายทักษิณยืนยันว่าตนมั่นใจตามข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงและมั่นใจความบริสุทธิ์ใจของลูกสาว เชื่อว่าศาลน่าจะรับฟังด้วยเหตุและผลว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ก็อธิบายได้หมดทุกอย่าง ส่วนพรรคที่ออกไป เพราะคิดว่าน.ส.แพทองธารไม่รอดนั้น ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าใครไปทำอะไรหรือไม่

    หากเขาไปสุมหัวจะตั้งรัฐบาลแล้ว นายทักษิณ บอกว่าจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด ตนเดาอยู่แล้ว ผมไม่อยากให้เขาออก แต่เขาอยากออก แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ก็อย่าไปเสียใจกับมัน เราไม่สามารถควบคุมได้เพราะเราชวนเขาแล้ว เขาไม่เอา ไม่เอาก็ช่วยไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร เราก็อยู่ได้ เพราะแลกกระทรวงอื่นเขาก็ไม่เอา เขาจะเอากระทรวงมหาดไทยกับคมนาคม ส่วนเหตุผลที่ไม่ให้นั้นเพราะเรารู้อดีตเขา

    สำหรับกรณีที่หากย้อนกลับไปแล้วผิดหวังกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยรอบแรกปี 2551 ที่พรรค ภท. ไปตั้งพรรคของตัวเองแล้วไปร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อีกขั้วหนึ่ง ส่วนรอบนี้ก็ผิดหวังอีกนั้น นายทักษิณ บอกว่าการเมืองต้องเข้าใจว่าการเมืองบ้านเรามีกฎไว้เลี่ยง ผมกลับมาลืมอดีตหมดแล้ว พยายามจะเริ่มต้นใหม่ ส่วนจะมีรอบที่สามกับภูมิใจไทยหรือไม่นั้น นายทักษิณ บอกว่า การเมืองบ้านเรา วันนี้เป็นการออกแบบการเมืองที่แย่ที่สุด ตั้งแต่ทหารปฏิวัติมาเนี่ยแหละ เวลาเขาเขียนรัฐธรรมนูญ เขาเห็นหน้าผมอยู่ กันผมในทุกรูปแบบ กันจนผลสุดท้ายบ้านเมืองมีปัญหา การเมืองแบบหัวแตก พรรคเล็กพรรคน้อยเยอะแยะ ทำงานยาก ไม่เหมือนตอนตนแก้ปัญหาต้มยำกุ้ง เพราะเป็นพรรคใหญ่ ไม่มีระบบสัมปทานกระทรวง มาวันนี้มันแย่แล้ว ให้ไปบริหารแต่กับไปทำธุรการกับธุรกิจ ธุรการคือแต่งตั้งโยกย้าย ธุรกิจคือวางไข่ออกไข่ วันนี้กติกาแบบนี้สร้างวัฒนธรรม ไม่ทำไม่ผิด เมื่อถามย้ำ จะมีรอบสาม กับภูมิใจไทย หรือไม่ นายทักษิณ ระบุการเมืองไทย ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร เมื่อการเมืองออกแบบแบบนี้ ไม่สามารถที่จะบอกว่าจะอยู่คนเดียวในรัฐบาลนี้ สูตรคณิตศาสตร์ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นก็ต้องกลืนเลือด ซัก 3-4 ปี๊ป ก็ว่าไป ไม่ปิดโอกาสร่วมมือพรรคส้ม แต่วันนี้ยังไม่จำเป็น บอกสีน้ำเงินส้ม จับมือกันได้หลวมๆ เหตุเป็นปลาคนละน้ำ ชี้บริบทรัฐบาล มีหลายออฟชั่น

    นายทักษิณ ยังตอบคำถามกรณีตนเองเป็นทางตันหรือไม่ และปัญหาทั้งหมดเกิดเพราะท่านหรือไม่นั้น ว่า หลายคนอาจจะไม่ชอบหน้าเป็นพิเศษ จึงทำให้ตนมีขาประจำ ซึ่งตนเมินขาประจำที่เป็นมา 20 ปี พ่อเสียชีวิตก็ลืมถามว่าพ่อของใครมีปัญหากับพ่อของเขาหรือไม่ ส่วนที่เหตุใดจึงไม่สามารถโน้มน้าวคนกลุ่มนี้ได้นั้น ตนมองว่าหากคนกลุ่มนี้มาพูดคุยกับตน ซึ่งบางคนไม่รู้จักตนด้วยซ้ำ ไม่เคยเจอเห็นแต่ในทีวี แต่เมื่อเห็นก็รู้สึกหมั่นไส้แล้ว ซึ่งตนเป็นคนที่สร้างตัวจากไม่มีอะไรมาด้วยตัวเอง จึงไม่ค่อยอะไร

    ส่วนมาถามว่าเพราะอะไรถึงเห็นในทีวีแล้วหมั่นไส้ นายทักษิณ ระบุว่า ตนยังคงงงอยู่ ส่วนนายกฯ แพทองธาร เคยถามหรือไม่ว่าไปทำอะไรให้คนกลุ่มนั้น ถึงมาเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน นายทักษิณ ตอบสั้นๆ ว่า “ผมก็กวาดน้ำ อย่าไปคิดอะไรมาก”

    ส่วนในฐานะที่คลุกคลีกับการเมืองมา 51 ปี โอกาสที่พรรคสีแดงอย่างพรรคเพื่อไทยจะไปผสมกับพรรคประชาชนนายทักษิณ ระบุว่า “ในวันนี้ยังไม่มีมีความจำ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นศรัตรูกับพรรคใดพรรคหนึ่ง ยืนยันว่าไม่ได้เป็น แต่การจะทำงานกับใครต้องมั่นใจว่าเราไปด้วยกันได้ และไม่ขัดนโยบายหลักๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสถาบัน เรื่องเจ้านาย เพราะตนได้รับพระเมตตาสูงสุด ดังนั้นตนจะไม่มีทางที่จะไปทำงานกับใครที่กระทบกระเทือนกับสถาบัน

    หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาสีส้มไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นมาตรา 112 จะสามารถร่วมมือกันได้หรือไม่ นายทักษิณ ตอบ ”ไม่รู้ เพราะไม่ได้คุยกันเลย“

    สำหรับสีน้ำเงินกับสีส้มมีโอกาสจับมือกันได้หรือไม่ในขณะที่เป็น ตนมองว่า หากจะจับก็จับหลวมๆ เพราะเป็นปลาคนละน้ำ ส่วนน้ำของแดงกับส้มใกล้เคียงกว่ากันนั้นหรือไม่ หากพูดความจริงเป็นพรรคที่เกิดจากนโยบายพรรคที่เกิดจากการหาเสียงมาสไตล์เดียวกัน ถ้าเห็นไทยรักไทยอย่างไรพรรคส้มก็คล้ายๆ กัน

    อย่างนั้นส้มกับน้ำเงินปลาคนละน้ำ แต่แดงกับส้มปลาน้ำกันใช่หรือไม่ นายทักษิณ บอกว่า เป็นวงสีธรรมชาติ สีส้มเกิดจากสีแดงรวมกับสีเหลือง ถ้าแดงแยกไปประสมกับน้ำเงินจะเป็นสีม่วง และสีเหลืองผสมสีน้ำเงินเป็นสีเขียว ถ้าสีม่วงกับสีเหลืองไปผสมกันจะเป็นสีช้ำเลือดช้ำหนอง สีไม่สวย ส่วนสีแดงผสมกับสีส้มจะเป็นสีแสด ซึ่งสีแสดมันแรงไป

    ส่วนที่อดีตนายกวิเคราะห์ ยังไม่จำเป็นที่จะจับมือกับสีส้ม เสียงอย่างพอ โดยนายทักษิณระบุว่า พรรคแกนนำรัฐบาลยังมีความสามัคคีทำงานด้วยกันได้ ไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าต้องคุมในสภามาให้โดสภาแค่นั้นเอง ไม่ให้โดดกฎหมายสำคัญ
    ส่วนหลังจากนั้นหนูเปล่านะเขามาเอง

    ส่วนกลไกการเมืองในปัจจุบัน เป็นอุปสรรคต่อรัฐบาลในปัจจุบัน นายทักษิณ ระบุว่า มีปัญหาไว้ให้แก้เมื่อมีอุปสรรคต้องแก้ไป หากถามว่าถึงทางตันหรือไม่ไม่ตัน ส่วนกลไกบริบทปัจจุบันทำให้นายกรัฐมนตรีไปสู่การติดกับดัก และรักการนายกฯ ต้องประคองต่อ หรือหากไม่ลาออกก็ต้องยุบสภา รัฐบาลจะอายุสั้น นายทักษิณ ระบุว่า มีหลาย option 1.คือนายกแพทองธารทองคำรอด ก็สามารถกลับไปทำงานเต็มที่และทำยาว 2. แต่ถ้าสมมุติว่าไม่รอดมี 2 ทางเลือก คือเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ หรือยุบสภา และตอนนี้นายชัยเกษมก็ยังฟิต อยู่ตีกอล์ฟสบายมาก

    เมื่อถามว่า ท่านดูอารมณ์ของคนไทย ที่ถูกตั้งคำถามเหมือนกัน เพื่อไทยที่เป็นแกนนำ มีอาวุธอยู่สองอาวุธ คือ นายเศรษฐา ทวีสิน ติดกับดักจริยธรรมของ ศาลรัฐธรรมนูญ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ติดกับดักของศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปอีก ท่านคิดว่านายชัยเกษม ที่เป็นกลไกที่สาม จะเป็นทางรอดของประเทศหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ผมยังอยู่เอาออกไม่ได้ ตนยังเป็นสทร. เหมือนเดิม ผมไม่ยอม อายุ 76 ปียังหนุ่มอยู่ ขอให้บ้านเมืองรอด เอาเรื่องบ้านเมืองเป็นหลัก

    เมื่อถามว่า ถ้าเทียบกับช่วงสิงหาคมปี 2566 มีทัวร์ลงเยอะ วิบากกรรมเยอะขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร ตื่นเช้ามาวันนี้ต้องขึ้นศาลก็ขึ้นไป มันแก่แล้วปล่อยวางไปเยอะแล้ว ผมหยุดแล้วแต่ท่านไม่หยุด ตนต้องทำให้บ้านเมือง จะให้ทำอย่างไร ภาวะเศรษฐกิจในวันนี้ ถ้าตนไม่เสือกแล้วใครจะเสือก มันยากนะ วันนี้ปัญหาบ้านเมืองตนอยู่เฉยไม่ได้ ในฐานะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและลูกเป็นนายกรัฐมนตรี มีอะไรก็ต้องช่วยกัน วันนี้ประชุมว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งตนออกนอกประเทศไม่ได้ถ้าออกได้จะสนุกกว่านี้

    เมื่อถามว่าอยากจะออกไปช่วย แล้วมีคดีมองว่าเหมือนมีใครมาล่ามขาไว้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นเรื่องต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว ตอนที่ปฏิวัติปี 2549 คดีของตนจะหมดอายุความก็เลยล็อคไว้ก่อน โดยใช้การสัมภาษณ์ที่เกี่ยวข้องกับม. 112 ที่เกาหลีใต้ ซึ่งตนไม่กังวล เราไม่มีอะไรเลย ซึ่งถ้าเป็นภาวะปกติ ก็คงไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาแต่เป็นภาวะพิเศษ

    เมื่อถามว่า ในกลไกบริบททางการเมือง ในปัจจุบันทั้งกลไกเรื่องฝ่ายค้าน กลไกนิติสงครามทางข้อกฎหมาย กลไกองค์การอิสระ จะมีกลไกมีอำนาจอะไรที่เหนือกว่าสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ที่จะทำให้การทำงานของรัฐบาลเดินต่อไปไม่ค่อยได้ สะดุดตลอด นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีอะไรเลย มีแต่ความหยุมหยิมของระบบ ซึ่งต้องแก้ระบบการเมืองที่วางไว้ องค์การอิสระที่อนุญาตให้ใครก็ได้มาร้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่คดีหลบไปหมด ซึ่งอาจจะส่งเสริมอาชีพนักร้อง บางคนรับจ้างร้องหรือบางคนรับจ้างหยุดร้อง

    เมื่อถามว่า การกลับมาเป็น สทร. กลัวจะมีอำนาจอะไรหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า อย่ามากลัวตน หมูเรียกพี่ใครเจอตน ผมหมูจะตาย ไม่เคยฆ่าใครมีแต่ช่วยคน

    เมื่อถามว่า สายน้ำเงิน บอกว่าไม่กลัวลูกแต่กลัวพ่อนายทักษิณ กล่าวว่า ตนคุยชัดเจนจะตาย ถ้าชัดเจนแบบที่ตนบอกก็จบไปแล้ว

    เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับนายเนวิน หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่าไม่ได้คุยเลย เพราะเขาไม่คุยกับตน พรรคที่ร่วมรัฐบาล แปลสภาพมาเป็นฝ่ายค้าน

    เมื่อถามว่า ไม่รู้จะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายแค้น นายทักษิณ กล่าวว่า น่าจะแค้นมากกว่าค้าน เมื่อถามถึงเรื่องการทำงาน โดยเฉพาะในส่วนกระทรวงมหาดไทยที่เข้าไปดูแลกรมที่ดิน ประเมินเรื่องเขากระโดงอย่างไร นายทักษิณกล่าวว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกา และกฎหมาย ซึ่งที่ดินอัลไพน์ก็โดนสั่งถอน ว่ากันไปตามกติกามีสิทธิ์ก็รักษาสิทธิ์ไป ใครนั่งทับสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ต้องโดน ม. 157 และเดี๋ยวอีกไม่นานก็ต้องมีคนมาร้อง มท.1ใหม่ ซึ่งตอนนี้ก็มาแล้ว เป็นอย่างที่เขาบอกว่าบ้านเมืองเราไม่ใช่ผู้เสียหายก็ร้องได้เลอะเทอะไปหมด

    ส่วนเรื่องการทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ มีการโยกย้ายทันที ถือว่ามาถูกทางหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่าต้องเห็นใจ เขามาจากกระทรวงกลาโหม มาถึงตรงนี้ต้องเด็ดขาด และมองว่ากลไกกระทรวงมหาดไทยเริ่มทำงานแล้ว ได้ข่าวรัฐมนตรีบอกว่าจะดุเอง บอกว่าไม่ต้องมาต้อนรับ หากผู้ว่าฯไม่ทำงานก็จะโดน

    ส่วนในแง่การทำงานระหว่างที่นางสาวแพทองธารถูกพักการทำหน้าที่ จะสร้างความมั่นใจให้คนอย่างไรว่ารัฐบาลยังไม่ถึงจุดอับ ทักษิณกล่าวว่า

    “พ่อนายกอยู่นี่ ยังไงก็ดูแลบ้านเมืองเต็มที่ มีอะไรก็บอกให้รัฐมนตรีช่วยกันทำเชื่อว่าไม่มีสูญญากาศ ส่วนที่บอกว่าข้าราชการจะเกียร์ว่างนั้นไม่ต้องว่าง ไม่ต้องรอสถานการณ์การเมือง อย่าไปคิดว่า river จะ return”

    เมื่อถามว่าระบบราชการหลังรัฐประหารเปลี่ยนไป นายทักษิณยอมรับว่า เปลี่ยนไป ข้าราชการบางคนบอกว่าจะกลับมา แต่ตนขอบอกว่า river of no return จะรีเทิร์นต้องรอเลือกตั้งสมัยหน้า

    เมื่อถามว่าคะแนนนิยมที่ลดลง น่าห่วงหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า การเมืองเป็นกระแส ต้องดูว่าในภาวะการณ์ไหน หากโดนรุมอย่างนี้ หากเป็นทางโซเชียลมีเดีย ซอมบี้ทั้งหลาย ก็จะมีการปั่นกันโกรธกัน สักเดี๋ยวก็หยุด

    ส่วนจะขับเคลื่อนโครงการใหญ่ได้อย่างไร ในช่วงที่การเมืองไม่มีเสถียรภาพ นายทักษิณกล่าวว่าอะไรที่เคลื่อนได้ก็ต้องเคลื่อน อะไรที่เป็นรูทีนก็ต้องขับเคลื่อนทั้งเรื่องยาเสพติดการแก้หนี้การเพิ่มรายได้ให้ประชาชนต้องทำอย่างต่อเนื่อง แต่เรื่องโครงการใหญ่ใหญ่อยู่ในแนยทางอยู่แล้วก็ต้องทำไปส่วนเรื่องเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์วันนี้ถอนออกมาเพราะไม่อยากให้สับสน ซึ่งช่วงนี้ต้องเรียงลำดับความสำคัญก็ไม่เป็นไร”
    รีโพสต์เพจ สรยุทธ์ สุทัศนจินดา 9/7/68 “‘ทักษิณ’ ลั่นเมืองไทยไม่มีทางตัน แค่มีคนอุดไว้ บอก นายกฯ อิ๊งค์ ยังอยากให้ภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล แต่เขาใช้คลิปฮุนเซน เป็นจังหวะเตะลูก พร้อมแฉกลฮั้วสว.วางแผนตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง สส. รับตกใจเห็นวิสัยทัศน์แยบยล ขาย สส.พ่วง สว. มั่นใจความบริสุทธิ์ลูกสาว หวังศาลรับฟัง ไม่ปิดประตู มีโอกาสกลืนเลือด 4 ปี๊บ จูบปาก ‘ภท.’ รอบสาม หากติดคณิตศาสตร์การเมือง ลั่น ผมหมูจะตาย มีแต่ช่วยคน จะกลัวผมทำไม ชี้ ผมต้องช่วยประเทศ จะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ เผย ไม่ได้คุยกับ ‘เนวิน - อนุทิน’ เลย มอง ภท. เป็นฝ่ายแค้นมากกว่าฝ่ายค้าน ลั่น พ่อนายกอยู่นี่ เชื่อการเมืองไม่มีสูญญากาศ แม้ ‘อิ๊งค์’ ถูกสั่งพักงาน ชม มท.1 คนใหม่ มาถูกทาง สั่งโยกย้ายทันทีหลังเริ่มงาน บอก river of no return หากจะรีเทิร์นต้องรอสมัยหน้า เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 9 กรกฎาคม ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ 55 ปี เนชั่น ผ่าทางตันประเทศไทย เอ็กซ์คลูซีฟ ทอล์ก กับ 4 ผู้นำทางความคิด ร่วมชี้ทางรอดการเมือง ทางออกประเทศไทย 3 บก. ถาม บก.ที่ 4 ตอบ โดยก่อนเริ่มถ่ายทอดสด พิธีกรได้เชิญนายทักษิณขึ้นบนเวที โดยนายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้มาในฐานะพ่อนายกฯ ขณะเดียวกันพิธีได้ถามนายทักษิณว่า ไปไหนมาไหนต้องมีลูกสาวเกาะติดเป็นผู้ติดตามตลอด นายทักษิณ ยิ้มและกล่าวว่า “ผมเป็นคนที่ใกล้ชิดลูกๆ 17 ปีที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดลูกๆ กลับมาเขาก็ต้องมาคอยเป็นห่วงเป็นใย” จากนั้นเข้าสู่การถ่ายทอดสด โดยพิธีได้ถามว่า วันนี้ประเทศถึงทางตันหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “แสดงว่ามีคนอุดไว้ มันถึงจะตัน เหตุเกิดที่ไหนดับที่นั่น” ส่วนเป็นกลุ่มใด องค์กรใดที่ไปอุดไว้ทำให้เกิดทางตัน นายทักษิณ กล่าวว่า เราต้องเข้าใจก่อนว่า เมืองไทยเรานี้ คนอยากเป็นนายกฯ ก็เยอะ ลูกชายไปเที่ยวเมืองนอกก็ประกาศเลยว่า พ่อจะต้องเป็นนายกฯ ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ตนจะเล่าให้ฟังคนที่อยากไปเป็นนายกฯ นี่ เขายอมทำทุกอย่าง เพราะอยากให้หมอดูแม่น เดี๋ยวหมอดูจะไม่แม่นไป เมื่อถามว่า เขาทำเพื่อหมอดูหรือเพื่อตัวเอง นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ด้วยกัน ส่วนจะได้เป็นนายกหรือไม่นั้นตนไม่รู้เพราะเห็นว่าลูกชายพูดแบบนั้น จากนั้นพิธีกร ถามว่าในแคนดิเดตนายกฯ ส่วนใหญ่มีแต่ลูกสาว แต่มีอยู่คนเดียว คือ น.หนูอนุทินแน่ๆ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดนะ พิธีย้อนถามถึงปัญหาทางตันที่เกิดขึ้น นายทักษิณ กล่าวว่า การเมืองมีหลายรูปแบบโดยเฉพาะเรื่องนิติสงครามเข้ามาด้วย บางทีก็เป็นเรื่องของตัวเลขในสภาฯ ซึ่งเป็นคณิตศาสตร์ทางการเมือง ทุกคนเก่งคณิตคณิตศาสตร์หมด มันไม่มีอะไรเกินกว่าที่ไม่สามารถแก้ได้ ตนบอกเลยว่าไม่ตัน เมื่อถามถึง การเอาที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกจากรัฐบาลจะทำให้เกิดทางตันหรือไม่ นายทักษิณ ย้ำว่าไม่ได้ขอให้ออก เพียงแต่ว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาลที่ต้องมีผลงานเพราะชอบสู้ด้วยนโยบาย เพราะแถลงไปแล้วมันเป็นไปตามที่แถลงก็ต้องพยามผลักดัน แต่มันไปติดที่กระทรวงมหาดไทย ก็นโยบายหลายเรื่องทั้งยาเสพติดและการแก้ไขปัญหาความยากจน ทุกอย่างเรื่องหนี้ เรื่องโอทอป มันต้องอาศัยกลไกของมหาดไทยทั้งนั้น เเม้กระทั่ง เรื่องสร้างบ้านให้คนไทย ที่ต้องทำสัญญา 99 ปีก็ต้องไปผ่านมหาดไทย ”พูดให้ชัดเจน พรรคเพื่อไทยบอกว่าขอมหาดไทยคืน แต่เขาไม่ตกลง เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะออกหรือไม่ นายกเล่าให้ตนฟังว่า ยังอยากให้เขาอยู่ตรงนี้ อยู่ทำด้วยกัน พอดีมีเหตุฮุนเซน ก็ได้จังหวะเตะลูกพร้อม“ พิธีกร ถามว่า เขามีการคอนเน็คติ้งกันหรือไม่ ระหว่างกัมพูชา ในไทยกับกัมพูชาในกัมพูชา นายทักษิณ กล่าวว่า ผมไม่กลัาจะไปปรักปรำใคร มันบังเอิญ นายทักษิณ ยังย้ำว่าการแก้ไขทางตันนั้นไม่มีปัญหาอะไรต้องแก้ไปด้วยคณิตศาสตร์ทางการเมือง พร้อมยืนยันเสถียรภาพรัฐบาล ยังไม่ใช่ตันเลย พิธีกรได้ถามถึงพรรคภูมิใจไทยที่ออกไปเป็นฝ่ายค้านแล้วขย่มร่วมกับกลไกของ สว. จนทำให้นายกฯ ต้องพักการปฏิบัติหน้าที่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนจะเล่าให้ฟัง เรื่องการฮั้วสว. ซึ่งสวโดนกล่าวหา ว่ามีการฮั้ว ซึ่งพูดเพราะไปนะ ต้องใช้คำว่าโกงเลือกตั้ง เรื่องนี้จริยธรรมมันไม่มีแล้ว แล้วจะมาร้องจริยธรรมทำไม ในเมื่อคนร้องไม่มีจริยธรรมแล้วจะมาร้องจริยธรรมคนอื่น เป็นเรื่องที่จะทำยังไงให้รัฐบาลล่ม ให้ทันกรกฎาคน มันกลายเป็นว่า zero-sum game แล้วเป็น Race Against Time “ผมถามเรื่องสว.พรรคร่วมรัฐบาลจะเอายังไงกันดี ทุกคนบอกไม่มีใครยุ่ง แต่ตนเห็นมีรายงานการสืบสวนที่เขาเล่าให้ผมฟัง ว่ามีเตรียมการตั้งแต่เลือกตั้งสส. ตนตกใจสุดขีดว่าวิสัยทัศน์เขาดีมาก ที่สส.เลือกตั้งก่อน แล้วใครคุมสส. 15 คนจะได้โควตา สว.หนึ่งคน นายทักษิณ กล่าว พิธีกร ย้อนถามเรื่องเสียงในสภาฯ ที่ปริ่มน้ำจะต้องทำยังไง นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องบริหารและเพิ่มคนไป เดี๋ยวก็ต้องร้องเพลง ” ฉันป่าวนะเขามาเอง“ก็ไม่มีปัญหา พวกเราเป็นเบิร์ด เพราะรักทุกๆคน ปัญหาเขามีไว้ให้แก้เขาไม่ได้มีไว้ให้แบก ตนมองปัญหาเป็นความท้าทาย ถ้าคิดว่าเป็นปัญหาก็เครียดตายไม่ต้องนอน “ เราอยู่ในโลกที่มีกติกาก็ต้องเคารพกติกาแต่เมื่อศาลบอกว่าให้พักปฎิบัติหน้าที่เราก็พักซะ แต่คนมีหน้าที่ก็ทำไป เป็นเรื่องที่เราต้องทำตามกติกา ถ้าเราไม่เคารพกติกาไปบิดเบี้ยวกติกา มันก็อยู่ด้วยกันยาก “ นายทักษิณ กล่าว ส่วนถ้าคนชกนอกกติกา นายทักษิณ กล่าวว่า ตนก็กระทืบเท้าเขา จะกระทืบตัวเองทำไม นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า สมัยนี้นิติสงครามไม่เหมือนเดิม ไม่แรงกว่าเดิม สมัยก่อนมีระบบคอมแมนคอนโทรล สมัยนี้ร้องและทำหน้าที่พิจารณา แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำตาม ระบบยังมีกติกาของมันอยู่ แม้จะหยุมหยิม แต่มีหลักมีเกณฑ์กว่าสมัยก่อน ส่วนที่องค์กรอิสระไม่กี่คนมาตัดสิน จริงๆ แล้ว ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้ แต่ถ้าเราเข้ามาแล้วมีกติกาแบบนี้ ก็ต้องเดินไปก่อน โดนจนชินแล้ว เป็นเรื่องที่เราก็ต้องสู้ไป แก้ไป อะไรแก้ได้ก็แก้ อะไรแก้ไม่ได้ก็ต้องอยู่ในกติกานั้น นายทักษิณ มองว่าการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเพื่อลดกระแสมากกว่า คนละเรื่องกับการตัดสิน ส่วนวิตกกังวลหรือไม่ว่าน.ส.แพทองธารจะพ้นจากหน้าที่นายกรัฐมนตรี แล้วทำให้เกมการเมืองถึงขั้นยุบสภาฯ นายทักษิณยืนยันว่าตนมั่นใจตามข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงและมั่นใจความบริสุทธิ์ใจของลูกสาว เชื่อว่าศาลน่าจะรับฟังด้วยเหตุและผลว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ก็อธิบายได้หมดทุกอย่าง ส่วนพรรคที่ออกไป เพราะคิดว่าน.ส.แพทองธารไม่รอดนั้น ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าใครไปทำอะไรหรือไม่ หากเขาไปสุมหัวจะตั้งรัฐบาลแล้ว นายทักษิณ บอกว่าจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด ตนเดาอยู่แล้ว ผมไม่อยากให้เขาออก แต่เขาอยากออก แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ก็อย่าไปเสียใจกับมัน เราไม่สามารถควบคุมได้เพราะเราชวนเขาแล้ว เขาไม่เอา ไม่เอาก็ช่วยไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร เราก็อยู่ได้ เพราะแลกกระทรวงอื่นเขาก็ไม่เอา เขาจะเอากระทรวงมหาดไทยกับคมนาคม ส่วนเหตุผลที่ไม่ให้นั้นเพราะเรารู้อดีตเขา สำหรับกรณีที่หากย้อนกลับไปแล้วผิดหวังกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยรอบแรกปี 2551 ที่พรรค ภท. ไปตั้งพรรคของตัวเองแล้วไปร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อีกขั้วหนึ่ง ส่วนรอบนี้ก็ผิดหวังอีกนั้น นายทักษิณ บอกว่าการเมืองต้องเข้าใจว่าการเมืองบ้านเรามีกฎไว้เลี่ยง ผมกลับมาลืมอดีตหมดแล้ว พยายามจะเริ่มต้นใหม่ ส่วนจะมีรอบที่สามกับภูมิใจไทยหรือไม่นั้น นายทักษิณ บอกว่า การเมืองบ้านเรา วันนี้เป็นการออกแบบการเมืองที่แย่ที่สุด ตั้งแต่ทหารปฏิวัติมาเนี่ยแหละ เวลาเขาเขียนรัฐธรรมนูญ เขาเห็นหน้าผมอยู่ กันผมในทุกรูปแบบ กันจนผลสุดท้ายบ้านเมืองมีปัญหา การเมืองแบบหัวแตก พรรคเล็กพรรคน้อยเยอะแยะ ทำงานยาก ไม่เหมือนตอนตนแก้ปัญหาต้มยำกุ้ง เพราะเป็นพรรคใหญ่ ไม่มีระบบสัมปทานกระทรวง มาวันนี้มันแย่แล้ว ให้ไปบริหารแต่กับไปทำธุรการกับธุรกิจ ธุรการคือแต่งตั้งโยกย้าย ธุรกิจคือวางไข่ออกไข่ วันนี้กติกาแบบนี้สร้างวัฒนธรรม ไม่ทำไม่ผิด เมื่อถามย้ำ จะมีรอบสาม กับภูมิใจไทย หรือไม่ นายทักษิณ ระบุการเมืองไทย ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร เมื่อการเมืองออกแบบแบบนี้ ไม่สามารถที่จะบอกว่าจะอยู่คนเดียวในรัฐบาลนี้ สูตรคณิตศาสตร์ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นก็ต้องกลืนเลือด ซัก 3-4 ปี๊ป ก็ว่าไป ไม่ปิดโอกาสร่วมมือพรรคส้ม แต่วันนี้ยังไม่จำเป็น บอกสีน้ำเงินส้ม จับมือกันได้หลวมๆ เหตุเป็นปลาคนละน้ำ ชี้บริบทรัฐบาล มีหลายออฟชั่น นายทักษิณ ยังตอบคำถามกรณีตนเองเป็นทางตันหรือไม่ และปัญหาทั้งหมดเกิดเพราะท่านหรือไม่นั้น ว่า หลายคนอาจจะไม่ชอบหน้าเป็นพิเศษ จึงทำให้ตนมีขาประจำ ซึ่งตนเมินขาประจำที่เป็นมา 20 ปี พ่อเสียชีวิตก็ลืมถามว่าพ่อของใครมีปัญหากับพ่อของเขาหรือไม่ ส่วนที่เหตุใดจึงไม่สามารถโน้มน้าวคนกลุ่มนี้ได้นั้น ตนมองว่าหากคนกลุ่มนี้มาพูดคุยกับตน ซึ่งบางคนไม่รู้จักตนด้วยซ้ำ ไม่เคยเจอเห็นแต่ในทีวี แต่เมื่อเห็นก็รู้สึกหมั่นไส้แล้ว ซึ่งตนเป็นคนที่สร้างตัวจากไม่มีอะไรมาด้วยตัวเอง จึงไม่ค่อยอะไร ส่วนมาถามว่าเพราะอะไรถึงเห็นในทีวีแล้วหมั่นไส้ นายทักษิณ ระบุว่า ตนยังคงงงอยู่ ส่วนนายกฯ แพทองธาร เคยถามหรือไม่ว่าไปทำอะไรให้คนกลุ่มนั้น ถึงมาเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน นายทักษิณ ตอบสั้นๆ ว่า “ผมก็กวาดน้ำ อย่าไปคิดอะไรมาก” ส่วนในฐานะที่คลุกคลีกับการเมืองมา 51 ปี โอกาสที่พรรคสีแดงอย่างพรรคเพื่อไทยจะไปผสมกับพรรคประชาชนนายทักษิณ ระบุว่า “ในวันนี้ยังไม่มีมีความจำ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นศรัตรูกับพรรคใดพรรคหนึ่ง ยืนยันว่าไม่ได้เป็น แต่การจะทำงานกับใครต้องมั่นใจว่าเราไปด้วยกันได้ และไม่ขัดนโยบายหลักๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสถาบัน เรื่องเจ้านาย เพราะตนได้รับพระเมตตาสูงสุด ดังนั้นตนจะไม่มีทางที่จะไปทำงานกับใครที่กระทบกระเทือนกับสถาบัน หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาสีส้มไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นมาตรา 112 จะสามารถร่วมมือกันได้หรือไม่ นายทักษิณ ตอบ ”ไม่รู้ เพราะไม่ได้คุยกันเลย“ สำหรับสีน้ำเงินกับสีส้มมีโอกาสจับมือกันได้หรือไม่ในขณะที่เป็น ตนมองว่า หากจะจับก็จับหลวมๆ เพราะเป็นปลาคนละน้ำ ส่วนน้ำของแดงกับส้มใกล้เคียงกว่ากันนั้นหรือไม่ หากพูดความจริงเป็นพรรคที่เกิดจากนโยบายพรรคที่เกิดจากการหาเสียงมาสไตล์เดียวกัน ถ้าเห็นไทยรักไทยอย่างไรพรรคส้มก็คล้ายๆ กัน อย่างนั้นส้มกับน้ำเงินปลาคนละน้ำ แต่แดงกับส้มปลาน้ำกันใช่หรือไม่ นายทักษิณ บอกว่า เป็นวงสีธรรมชาติ สีส้มเกิดจากสีแดงรวมกับสีเหลือง ถ้าแดงแยกไปประสมกับน้ำเงินจะเป็นสีม่วง และสีเหลืองผสมสีน้ำเงินเป็นสีเขียว ถ้าสีม่วงกับสีเหลืองไปผสมกันจะเป็นสีช้ำเลือดช้ำหนอง สีไม่สวย ส่วนสีแดงผสมกับสีส้มจะเป็นสีแสด ซึ่งสีแสดมันแรงไป ส่วนที่อดีตนายกวิเคราะห์ ยังไม่จำเป็นที่จะจับมือกับสีส้ม เสียงอย่างพอ โดยนายทักษิณระบุว่า พรรคแกนนำรัฐบาลยังมีความสามัคคีทำงานด้วยกันได้ ไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าต้องคุมในสภามาให้โดสภาแค่นั้นเอง ไม่ให้โดดกฎหมายสำคัญ ส่วนหลังจากนั้นหนูเปล่านะเขามาเอง ส่วนกลไกการเมืองในปัจจุบัน เป็นอุปสรรคต่อรัฐบาลในปัจจุบัน นายทักษิณ ระบุว่า มีปัญหาไว้ให้แก้เมื่อมีอุปสรรคต้องแก้ไป หากถามว่าถึงทางตันหรือไม่ไม่ตัน ส่วนกลไกบริบทปัจจุบันทำให้นายกรัฐมนตรีไปสู่การติดกับดัก และรักการนายกฯ ต้องประคองต่อ หรือหากไม่ลาออกก็ต้องยุบสภา รัฐบาลจะอายุสั้น นายทักษิณ ระบุว่า มีหลาย option 1.คือนายกแพทองธารทองคำรอด ก็สามารถกลับไปทำงานเต็มที่และทำยาว 2. แต่ถ้าสมมุติว่าไม่รอดมี 2 ทางเลือก คือเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ หรือยุบสภา และตอนนี้นายชัยเกษมก็ยังฟิต อยู่ตีกอล์ฟสบายมาก เมื่อถามว่า ท่านดูอารมณ์ของคนไทย ที่ถูกตั้งคำถามเหมือนกัน เพื่อไทยที่เป็นแกนนำ มีอาวุธอยู่สองอาวุธ คือ นายเศรษฐา ทวีสิน ติดกับดักจริยธรรมของ ศาลรัฐธรรมนูญ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ติดกับดักของศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปอีก ท่านคิดว่านายชัยเกษม ที่เป็นกลไกที่สาม จะเป็นทางรอดของประเทศหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ผมยังอยู่เอาออกไม่ได้ ตนยังเป็นสทร. เหมือนเดิม ผมไม่ยอม อายุ 76 ปียังหนุ่มอยู่ ขอให้บ้านเมืองรอด เอาเรื่องบ้านเมืองเป็นหลัก เมื่อถามว่า ถ้าเทียบกับช่วงสิงหาคมปี 2566 มีทัวร์ลงเยอะ วิบากกรรมเยอะขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร ตื่นเช้ามาวันนี้ต้องขึ้นศาลก็ขึ้นไป มันแก่แล้วปล่อยวางไปเยอะแล้ว ผมหยุดแล้วแต่ท่านไม่หยุด ตนต้องทำให้บ้านเมือง จะให้ทำอย่างไร ภาวะเศรษฐกิจในวันนี้ ถ้าตนไม่เสือกแล้วใครจะเสือก มันยากนะ วันนี้ปัญหาบ้านเมืองตนอยู่เฉยไม่ได้ ในฐานะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและลูกเป็นนายกรัฐมนตรี มีอะไรก็ต้องช่วยกัน วันนี้ประชุมว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งตนออกนอกประเทศไม่ได้ถ้าออกได้จะสนุกกว่านี้ เมื่อถามว่าอยากจะออกไปช่วย แล้วมีคดีมองว่าเหมือนมีใครมาล่ามขาไว้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นเรื่องต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว ตอนที่ปฏิวัติปี 2549 คดีของตนจะหมดอายุความก็เลยล็อคไว้ก่อน โดยใช้การสัมภาษณ์ที่เกี่ยวข้องกับม. 112 ที่เกาหลีใต้ ซึ่งตนไม่กังวล เราไม่มีอะไรเลย ซึ่งถ้าเป็นภาวะปกติ ก็คงไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาแต่เป็นภาวะพิเศษ เมื่อถามว่า ในกลไกบริบททางการเมือง ในปัจจุบันทั้งกลไกเรื่องฝ่ายค้าน กลไกนิติสงครามทางข้อกฎหมาย กลไกองค์การอิสระ จะมีกลไกมีอำนาจอะไรที่เหนือกว่าสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ที่จะทำให้การทำงานของรัฐบาลเดินต่อไปไม่ค่อยได้ สะดุดตลอด นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีอะไรเลย มีแต่ความหยุมหยิมของระบบ ซึ่งต้องแก้ระบบการเมืองที่วางไว้ องค์การอิสระที่อนุญาตให้ใครก็ได้มาร้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่คดีหลบไปหมด ซึ่งอาจจะส่งเสริมอาชีพนักร้อง บางคนรับจ้างร้องหรือบางคนรับจ้างหยุดร้อง เมื่อถามว่า การกลับมาเป็น สทร. กลัวจะมีอำนาจอะไรหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า อย่ามากลัวตน หมูเรียกพี่ใครเจอตน ผมหมูจะตาย ไม่เคยฆ่าใครมีแต่ช่วยคน เมื่อถามว่า สายน้ำเงิน บอกว่าไม่กลัวลูกแต่กลัวพ่อนายทักษิณ กล่าวว่า ตนคุยชัดเจนจะตาย ถ้าชัดเจนแบบที่ตนบอกก็จบไปแล้ว เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับนายเนวิน หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่าไม่ได้คุยเลย เพราะเขาไม่คุยกับตน พรรคที่ร่วมรัฐบาล แปลสภาพมาเป็นฝ่ายค้าน เมื่อถามว่า ไม่รู้จะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายแค้น นายทักษิณ กล่าวว่า น่าจะแค้นมากกว่าค้าน เมื่อถามถึงเรื่องการทำงาน โดยเฉพาะในส่วนกระทรวงมหาดไทยที่เข้าไปดูแลกรมที่ดิน ประเมินเรื่องเขากระโดงอย่างไร นายทักษิณกล่าวว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกา และกฎหมาย ซึ่งที่ดินอัลไพน์ก็โดนสั่งถอน ว่ากันไปตามกติกามีสิทธิ์ก็รักษาสิทธิ์ไป ใครนั่งทับสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ต้องโดน ม. 157 และเดี๋ยวอีกไม่นานก็ต้องมีคนมาร้อง มท.1ใหม่ ซึ่งตอนนี้ก็มาแล้ว เป็นอย่างที่เขาบอกว่าบ้านเมืองเราไม่ใช่ผู้เสียหายก็ร้องได้เลอะเทอะไปหมด ส่วนเรื่องการทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ มีการโยกย้ายทันที ถือว่ามาถูกทางหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่าต้องเห็นใจ เขามาจากกระทรวงกลาโหม มาถึงตรงนี้ต้องเด็ดขาด และมองว่ากลไกกระทรวงมหาดไทยเริ่มทำงานแล้ว ได้ข่าวรัฐมนตรีบอกว่าจะดุเอง บอกว่าไม่ต้องมาต้อนรับ หากผู้ว่าฯไม่ทำงานก็จะโดน ส่วนในแง่การทำงานระหว่างที่นางสาวแพทองธารถูกพักการทำหน้าที่ จะสร้างความมั่นใจให้คนอย่างไรว่ารัฐบาลยังไม่ถึงจุดอับ ทักษิณกล่าวว่า “พ่อนายกอยู่นี่ ยังไงก็ดูแลบ้านเมืองเต็มที่ มีอะไรก็บอกให้รัฐมนตรีช่วยกันทำเชื่อว่าไม่มีสูญญากาศ ส่วนที่บอกว่าข้าราชการจะเกียร์ว่างนั้นไม่ต้องว่าง ไม่ต้องรอสถานการณ์การเมือง อย่าไปคิดว่า river จะ return” เมื่อถามว่าระบบราชการหลังรัฐประหารเปลี่ยนไป นายทักษิณยอมรับว่า เปลี่ยนไป ข้าราชการบางคนบอกว่าจะกลับมา แต่ตนขอบอกว่า river of no return จะรีเทิร์นต้องรอเลือกตั้งสมัยหน้า เมื่อถามว่าคะแนนนิยมที่ลดลง น่าห่วงหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า การเมืองเป็นกระแส ต้องดูว่าในภาวะการณ์ไหน หากโดนรุมอย่างนี้ หากเป็นทางโซเชียลมีเดีย ซอมบี้ทั้งหลาย ก็จะมีการปั่นกันโกรธกัน สักเดี๋ยวก็หยุด ส่วนจะขับเคลื่อนโครงการใหญ่ได้อย่างไร ในช่วงที่การเมืองไม่มีเสถียรภาพ นายทักษิณกล่าวว่าอะไรที่เคลื่อนได้ก็ต้องเคลื่อน อะไรที่เป็นรูทีนก็ต้องขับเคลื่อนทั้งเรื่องยาเสพติดการแก้หนี้การเพิ่มรายได้ให้ประชาชนต้องทำอย่างต่อเนื่อง แต่เรื่องโครงการใหญ่ใหญ่อยู่ในแนยทางอยู่แล้วก็ต้องทำไปส่วนเรื่องเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์วันนี้ถอนออกมาเพราะไม่อยากให้สับสน ซึ่งช่วงนี้ต้องเรียงลำดับความสำคัญก็ไม่เป็นไร”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 976 มุมมอง 0 รีวิว
  • บังเอิญพบคลิปนี้น่าสงสารนะ
    เช้านี้คนสวนเล่าที่ท้ายบ้านคนตกปลาเจองูเหลือมใหญ่เท่ากำปั้น3อัน แถวนี้งูมากหลาย1000 ธรรมชาติเน้อ
    บังเอิญพบคลิปนี้น่าสงสารนะ เช้านี้คนสวนเล่าที่ท้ายบ้านคนตกปลาเจองูเหลือมใหญ่เท่ากำปั้น3อัน แถวนี้งูมากหลาย1000 ธรรมชาติเน้อ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • อยู่ดี ๆ บน GitHub ก็มีรายงานจากกลุ่มชื่อ HonestAGI โพสต์งานวิเคราะห์ที่ชี้ว่า → Huawei ใช้ โมเดล Qwen 2.5–14B ของ Alibaba เป็นพื้นฐาน → แล้ว “ปรับแต่ง–ฝึกต่อ (incremental training)” กลายเป็น Pangu Pro MOE ที่เปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ → รายงานนี้บอกว่าโมเดลสองตัวมี “ความคล้ายอย่างผิดปกติ” จนไม่น่าเกิดจากแค่บังเอิญ

    ประเด็นร้อนคือ:
    - ถ้าจริง = Huawei อาจ ละเมิดลิขสิทธิ์โมเดล + ใส่ข้อมูลเท็จในรายงานทางเทคนิค
    - ถ้าไม่จริง = HonestAGI เองก็ไม่มีโปร่งใส และไม่รู้ว่าเบื้องหลังเป็นใคร

    Huawei ไม่รอช้า ออกแถลงการณ์ผ่านห้องวิจัย AI “Noah’s Ark Lab” → ยืนยันว่า Pangu Pro Moe ฝึกจากศูนย์ (from scratch) → ชี้ว่าโมเดลนี้ใช้ Huawei Ascend chip ทุกขั้นตอน และ “ออกแบบโครงสร้างเองทั้งหมด” → ยอมรับว่าอ้างอิง open-source แต่ ปฏิบัติตามเงื่อนไขลิขสิทธิ์อย่างเคร่งครัด

    Alibaba ปฏิเสธให้ความเห็น และยังไม่มีตัวตนของ HonestAGI เปิดเผยอย่างชัดเจน

    หลายฝ่ายมองว่าเรื่องนี้สะท้อน “การแข่งขันและความกดดันสูง” ในวงการ LLM จีน ที่ตอนนี้ Qwen–DeepSeek–Pangu–Baichuan ต่างเปิดโมเดลแข่งกันอย่างดุเดือด

    กลุ่ม HonestAGI เผยแพร่งานวิเคราะห์โมเดล Huawei ว่า “มีความสัมพันธ์สูงผิดปกติกับ Qwen 2.5”  
    • คาดว่าฝึกต่อจากโมเดล Alibaba โดยไม่ฝึกเองตั้งแต่ต้น  
    • ชี้ว่าอาจมีการใส่ข้อมูลเท็จ–ละเมิด open source license

    Huawei ออกแถลงการณ์โต้ทันทีว่า “ไม่ได้ลอก”  
    • โมเดล Pangu Pro MOE ใช้ชิป Ascend ทั้งหมด  
    • พัฒนาเองทุกด้าน ทั้งสถาปัตยกรรมและข้อมูล  
    • ยอมรับใช้อ้างอิง open source แต่ไม่ระบุว่าใช้อะไรบ้าง

    Huawei เปิด source โมเดลนี้บน GitCode ตั้งแต่ปลาย มิ.ย. 2025 เพื่อให้เข้าถึงง่ายขึ้น  
    • พยายามผลักดันการใช้งานในสายรัฐบาล, การเงิน, อุตสาหกรรม

    โมเดล Qwen ของ Alibaba ถูกออกแบบมาเน้นใช้งานฝั่ง consumer เช่น chatbot เหมือน GPT

    จนถึงขณะนี้ Alibaba ยังไม่มีแถลงอย่างเป็นทางการ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/07/huawei039s-ai-lab-denies-that-one-of-its-pangu-models-copied-alibaba039s-qwen
    อยู่ดี ๆ บน GitHub ก็มีรายงานจากกลุ่มชื่อ HonestAGI โพสต์งานวิเคราะห์ที่ชี้ว่า → Huawei ใช้ โมเดล Qwen 2.5–14B ของ Alibaba เป็นพื้นฐาน → แล้ว “ปรับแต่ง–ฝึกต่อ (incremental training)” กลายเป็น Pangu Pro MOE ที่เปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ → รายงานนี้บอกว่าโมเดลสองตัวมี “ความคล้ายอย่างผิดปกติ” จนไม่น่าเกิดจากแค่บังเอิญ ประเด็นร้อนคือ: - ถ้าจริง = Huawei อาจ ละเมิดลิขสิทธิ์โมเดล + ใส่ข้อมูลเท็จในรายงานทางเทคนิค - ถ้าไม่จริง = HonestAGI เองก็ไม่มีโปร่งใส และไม่รู้ว่าเบื้องหลังเป็นใคร Huawei ไม่รอช้า ออกแถลงการณ์ผ่านห้องวิจัย AI “Noah’s Ark Lab” → ยืนยันว่า Pangu Pro Moe ฝึกจากศูนย์ (from scratch) → ชี้ว่าโมเดลนี้ใช้ Huawei Ascend chip ทุกขั้นตอน และ “ออกแบบโครงสร้างเองทั้งหมด” → ยอมรับว่าอ้างอิง open-source แต่ ปฏิบัติตามเงื่อนไขลิขสิทธิ์อย่างเคร่งครัด Alibaba ปฏิเสธให้ความเห็น และยังไม่มีตัวตนของ HonestAGI เปิดเผยอย่างชัดเจน หลายฝ่ายมองว่าเรื่องนี้สะท้อน “การแข่งขันและความกดดันสูง” ในวงการ LLM จีน ที่ตอนนี้ Qwen–DeepSeek–Pangu–Baichuan ต่างเปิดโมเดลแข่งกันอย่างดุเดือด ✅ กลุ่ม HonestAGI เผยแพร่งานวิเคราะห์โมเดล Huawei ว่า “มีความสัมพันธ์สูงผิดปกติกับ Qwen 2.5”   • คาดว่าฝึกต่อจากโมเดล Alibaba โดยไม่ฝึกเองตั้งแต่ต้น   • ชี้ว่าอาจมีการใส่ข้อมูลเท็จ–ละเมิด open source license ✅ Huawei ออกแถลงการณ์โต้ทันทีว่า “ไม่ได้ลอก”   • โมเดล Pangu Pro MOE ใช้ชิป Ascend ทั้งหมด   • พัฒนาเองทุกด้าน ทั้งสถาปัตยกรรมและข้อมูล   • ยอมรับใช้อ้างอิง open source แต่ไม่ระบุว่าใช้อะไรบ้าง ✅ Huawei เปิด source โมเดลนี้บน GitCode ตั้งแต่ปลาย มิ.ย. 2025 เพื่อให้เข้าถึงง่ายขึ้น   • พยายามผลักดันการใช้งานในสายรัฐบาล, การเงิน, อุตสาหกรรม ✅ โมเดล Qwen ของ Alibaba ถูกออกแบบมาเน้นใช้งานฝั่ง consumer เช่น chatbot เหมือน GPT ✅ จนถึงขณะนี้ Alibaba ยังไม่มีแถลงอย่างเป็นทางการ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/07/huawei039s-ai-lab-denies-that-one-of-its-pangu-models-copied-alibaba039s-qwen
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Huawei's AI lab denies that one of its Pangu models copied Alibaba's Qwen
    Huawei's artificial intelligence research division has rejected claims that a version of its Pangu Pro large language model has copied elements from an Alibaba model, saying that it was independently developed and trained.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้ไหมครับว่าตอนนี้ xAI ของ Elon Musk ใช้ GPU ไปแล้วกว่า 200,000 ตัว ในศูนย์ข้อมูลชื่อ Colossus ที่เมืองเมมฟิส กินไฟถึง 300 เมกะวัตต์ → บริษัทต้องติดตั้งกังหันก๊าซ 35 ตัว + Tesla Megapack สำหรับจ่ายไฟให้ทัน → และตอนนี้จะสร้าง ศูนย์ข้อมูลรุ่นใหม่ที่ใช้ Blackwell GPUs กว่า 1 ล้านตัว! → GPU แค่นั้นก็ใช้ไฟราว 1,000–1,400 เมกะวัตต์ ยังไม่รวม CPU, RAM, สตอเรจ และระบบทำความเย็น → ถ้ารวมทั้งหมด คาดว่าโหลดไฟฟ้าจะสูงถึง 1,960 เมกะวัตต์ หรือประมาณเท่าบ้าน 1.9 ล้านหลังใช้พร้อมกัน!

    ปัญหาคือ... สร้างโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ใช้เวลานานเกิน → ทางออกของ Elon คือ “ซื้อโรงไฟฟ้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศแล้วขนมาทั้งโรง” → เพื่อใช้งานกับศูนย์ข้อมูลใหม่ที่แปลงมาจากโรงงานเก่าในเมมฟิส ที่รองรับเซิร์ฟเวอร์ GPU 125,000 ตัว

    นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะบริษัท AI รายอื่น ๆ อย่าง OpenAI หรือ Google DeepMind ก็เดินหน้าแบบเดียวกัน → สร้างศูนย์ข้อมูลขนาดยักษ์ → ใช้ระบบจ่ายไฟเฉพาะตัวเอง → กำลังเปลี่ยนจาก “ผู้ใช้พลังงาน” เป็น “เจ้าของแหล่งพลังงาน” กันหมดแล้วครับ

    Elon Musk ยืนยันว่า xAI ซื้อโรงไฟฟ้าจากต่างประเทศมาสหรัฐฯ เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูลใหม่  
    • เพราะสร้างโรงไฟฟ้าในอเมริกาใช้เวลานาน  
    • ต้องการใช้ทันทีสำหรับระบบ GPU ระดับล้านตัว

    ศูนย์ข้อมูล Colossus ปัจจุบันของ xAI ใช้ GPU 200K ตัว กินไฟ ~300 เมกะวัตต์  
    • ติดกังหันก๊าซ 35 ตัว และ Tesla Megapack เพื่อจ่ายไฟ

    ศูนย์ข้อมูลใหม่จะใช้ GPU มากกว่า 1 ล้านตัว (Blackwell B200/GB200/B300/GB300)  
    • แค่ GPU กินไฟ ~1,000–1,400 เมกะวัตต์  
    • ถ้านับรวมทั้งหมด (PUE 1.4) → โหลดรวม 1,960 เมกะวัตต์

    xAI ซื้อโรงงานในเมมฟิสเพื่อแปลงเป็นศูนย์ข้อมูล ขนาดรองรับ GPU 125,000 เครื่อง (แบบ 8 GPU ต่อเครื่อง)  
    • พร้อมระบบเครือข่าย, สตอเรจ, และระบายความร้อน

    โครงสร้างพลังงานใช้ระบบ onsite + ซื้อไฟจากระบบ grid เหมือนศูนย์ Colossus เดิม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elon-musk-xai-power-plant-overseas-to-power-1-million-gpus
    รู้ไหมครับว่าตอนนี้ xAI ของ Elon Musk ใช้ GPU ไปแล้วกว่า 200,000 ตัว ในศูนย์ข้อมูลชื่อ Colossus ที่เมืองเมมฟิส กินไฟถึง 300 เมกะวัตต์ → บริษัทต้องติดตั้งกังหันก๊าซ 35 ตัว + Tesla Megapack สำหรับจ่ายไฟให้ทัน → และตอนนี้จะสร้าง ศูนย์ข้อมูลรุ่นใหม่ที่ใช้ Blackwell GPUs กว่า 1 ล้านตัว! → GPU แค่นั้นก็ใช้ไฟราว 1,000–1,400 เมกะวัตต์ ยังไม่รวม CPU, RAM, สตอเรจ และระบบทำความเย็น → ถ้ารวมทั้งหมด คาดว่าโหลดไฟฟ้าจะสูงถึง 1,960 เมกะวัตต์ หรือประมาณเท่าบ้าน 1.9 ล้านหลังใช้พร้อมกัน! ปัญหาคือ... สร้างโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ใช้เวลานานเกิน → ทางออกของ Elon คือ “ซื้อโรงไฟฟ้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศแล้วขนมาทั้งโรง” → เพื่อใช้งานกับศูนย์ข้อมูลใหม่ที่แปลงมาจากโรงงานเก่าในเมมฟิส ที่รองรับเซิร์ฟเวอร์ GPU 125,000 ตัว นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะบริษัท AI รายอื่น ๆ อย่าง OpenAI หรือ Google DeepMind ก็เดินหน้าแบบเดียวกัน → สร้างศูนย์ข้อมูลขนาดยักษ์ → ใช้ระบบจ่ายไฟเฉพาะตัวเอง → กำลังเปลี่ยนจาก “ผู้ใช้พลังงาน” เป็น “เจ้าของแหล่งพลังงาน” กันหมดแล้วครับ ✅ Elon Musk ยืนยันว่า xAI ซื้อโรงไฟฟ้าจากต่างประเทศมาสหรัฐฯ เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูลใหม่   • เพราะสร้างโรงไฟฟ้าในอเมริกาใช้เวลานาน   • ต้องการใช้ทันทีสำหรับระบบ GPU ระดับล้านตัว ✅ ศูนย์ข้อมูล Colossus ปัจจุบันของ xAI ใช้ GPU 200K ตัว กินไฟ ~300 เมกะวัตต์   • ติดกังหันก๊าซ 35 ตัว และ Tesla Megapack เพื่อจ่ายไฟ ✅ ศูนย์ข้อมูลใหม่จะใช้ GPU มากกว่า 1 ล้านตัว (Blackwell B200/GB200/B300/GB300)   • แค่ GPU กินไฟ ~1,000–1,400 เมกะวัตต์   • ถ้านับรวมทั้งหมด (PUE 1.4) → โหลดรวม 1,960 เมกะวัตต์ ✅ xAI ซื้อโรงงานในเมมฟิสเพื่อแปลงเป็นศูนย์ข้อมูล ขนาดรองรับ GPU 125,000 เครื่อง (แบบ 8 GPU ต่อเครื่อง)   • พร้อมระบบเครือข่าย, สตอเรจ, และระบายความร้อน ✅ โครงสร้างพลังงานใช้ระบบ onsite + ซื้อไฟจากระบบ grid เหมือนศูนย์ Colossus เดิม https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elon-musk-xai-power-plant-overseas-to-power-1-million-gpus
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • เว็บล่มเพราะคนแห่เข้าเยอะ! แล้วจะแก้ยังไงดี? เล่าให้ฟังแบบบ้านๆ
    เคยเจอไหม?
    อยู่ดีๆ เว็บที่เปิดใช้งานได้ปกติทุกวัน จู่ๆ ก็เปิดไม่ขึ้น ช้าเป็นเต่า หรือแย่กว่านั้นคือ “ล่ม” ไปเลย...
    ปัญหานี้เจอบ่อยมาก โดยเฉพาะช่วงที่คนเข้าเว็บเยอะพร้อมกัน เช่น
    ลงทะเบียนกิจกรรม
    เปิดขายบัตรคอนเสิร์ต
    ปล่อยโปรโมชันเด็ดๆ
    หรือลงทะเบียนวัคซีน (จำกันได้ใช่ไหม )
    แล้วมันเกิดจากอะไร?
    ส่วนใหญ่คือ "เว็บรองรับปริมาณคนไม่ไหว" ครับ
    เหมือนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ แต่คนมาต่อแถวยาวหลายร้อยคน... ร้านก็ล้มแน่ๆ
    ---
    แล้วจะแก้ยังไงดี? มีหลายวิธีเลยนะ ลองดู
    1. เพิ่มขนาด Server (Scale up/Scale out)
    เปรียบง่ายๆ คือ เพิ่มโต๊ะ เพิ่มคนเสิร์ฟในร้านให้ทันลูกค้า
    ใช้เซิร์ฟเวอร์ที่แรงขึ้น (CPU, RAM เยอะขึ้น)
    หรือกระจายโหลดไปหลายเครื่อง (Load balancing)
    2. ใส่คิว/จำกัดจำนวนคนเข้า (Queue system)
    เหมือนให้คนรับบัตรคิว ไม่ให้ทุกคนพุ่งเข้ามาพร้อมกัน
    คนที่เข้ามาก่อนได้เข้าก่อน
    ลดความเสี่ยงระบบพัง
    3. ใช้ CDN ช่วยโหลดไฟล์หน้าเว็บ (Content Delivery Network)
    เอาไฟล์พวกรูป/สคริปต์ไปไว้ตามศูนย์ข้อมูลทั่วโลก ให้โหลดจากใกล้บ้าน
    ลดภาระเครื่องแม่
    หน้าเว็บโหลดไวขึ้น
    4. แคช (Cache) หน้าเว็บไว้ล่วงหน้า
    ถ้าหน้าเว็บไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ก็ควรทำให้แสดงแบบสำเร็จรูปไปเลย
    ไม่ต้องให้ server ประมวลผลทุกครั้ง
    เสถียรกว่าเยอะ
    5. ทดสอบโหลดล่วงหน้า (Load Test)
    อย่ารอวันจริงแล้วค่อยลุ้น
    ทดสอบก่อนว่าเว็บรับได้กี่คน
    เตรียมแผนเผื่อเอาไว้ก่อนเจอศึกจริง
    ---
    สรุปคือ…
    "เว็บล่ม" ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่แก้ได้ ถ้ารู้ว่าต้องเตรียมอะไรไว้บ้าง
    เพราะไม่มีใครอยากให้ลูกค้าเปิดเว็บเราแล้วเจอแต่ Error หรอก จริงไหม?
    ถ้าใครกำลังเจอปัญหาแบบนี้ ลองมาคุยกันได้นะ
    เราผ่านสมรภูมิเว็บล่มมาหลายงานแล้ว
    ทักแชทมาได้เลย หรือโทรมาก็ได้ครับ
    Line: @518bnitj
    โทร: 080-986-8336
    #เว็บล่ม #คนเข้าเยอะ #แก้เว็บล่ม #Devสายหมาป่า #Thinkableทำจริงดูแลจริง
    💥เว็บล่มเพราะคนแห่เข้าเยอะ! แล้วจะแก้ยังไงดี? เล่าให้ฟังแบบบ้านๆ💥 เคยเจอไหม? อยู่ดีๆ เว็บที่เปิดใช้งานได้ปกติทุกวัน จู่ๆ ก็เปิดไม่ขึ้น ช้าเป็นเต่า หรือแย่กว่านั้นคือ “ล่ม” ไปเลย... 📌 ปัญหานี้เจอบ่อยมาก โดยเฉพาะช่วงที่คนเข้าเว็บเยอะพร้อมกัน เช่น ลงทะเบียนกิจกรรม เปิดขายบัตรคอนเสิร์ต ปล่อยโปรโมชันเด็ดๆ หรือลงทะเบียนวัคซีน (จำกันได้ใช่ไหม 😅) แล้วมันเกิดจากอะไร? ส่วนใหญ่คือ "เว็บรองรับปริมาณคนไม่ไหว" ครับ เหมือนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ แต่คนมาต่อแถวยาวหลายร้อยคน... ร้านก็ล้มแน่ๆ --- 🔧 แล้วจะแก้ยังไงดี? มีหลายวิธีเลยนะ ลองดู 1. เพิ่มขนาด Server (Scale up/Scale out) 👉 เปรียบง่ายๆ คือ เพิ่มโต๊ะ เพิ่มคนเสิร์ฟในร้านให้ทันลูกค้า ใช้เซิร์ฟเวอร์ที่แรงขึ้น (CPU, RAM เยอะขึ้น) หรือกระจายโหลดไปหลายเครื่อง (Load balancing) 2. ใส่คิว/จำกัดจำนวนคนเข้า (Queue system) 👉 เหมือนให้คนรับบัตรคิว ไม่ให้ทุกคนพุ่งเข้ามาพร้อมกัน คนที่เข้ามาก่อนได้เข้าก่อน ลดความเสี่ยงระบบพัง 3. ใช้ CDN ช่วยโหลดไฟล์หน้าเว็บ (Content Delivery Network) 👉 เอาไฟล์พวกรูป/สคริปต์ไปไว้ตามศูนย์ข้อมูลทั่วโลก ให้โหลดจากใกล้บ้าน ลดภาระเครื่องแม่ หน้าเว็บโหลดไวขึ้น 4. แคช (Cache) หน้าเว็บไว้ล่วงหน้า 👉 ถ้าหน้าเว็บไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ก็ควรทำให้แสดงแบบสำเร็จรูปไปเลย ไม่ต้องให้ server ประมวลผลทุกครั้ง เสถียรกว่าเยอะ 5. ทดสอบโหลดล่วงหน้า (Load Test) 👉 อย่ารอวันจริงแล้วค่อยลุ้น ทดสอบก่อนว่าเว็บรับได้กี่คน เตรียมแผนเผื่อเอาไว้ก่อนเจอศึกจริง --- 💬 สรุปคือ… "เว็บล่ม" ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่แก้ได้ ถ้ารู้ว่าต้องเตรียมอะไรไว้บ้าง เพราะไม่มีใครอยากให้ลูกค้าเปิดเว็บเราแล้วเจอแต่ Error หรอก จริงไหม? ถ้าใครกำลังเจอปัญหาแบบนี้ ลองมาคุยกันได้นะ เราผ่านสมรภูมิเว็บล่มมาหลายงานแล้ว 😎 📩 ทักแชทมาได้เลย หรือโทรมาก็ได้ครับ Line: @518bnitj โทร: 080-986-8336 #เว็บล่ม #คนเข้าเยอะ #แก้เว็บล่ม #Devสายหมาป่า #Thinkableทำจริงดูแลจริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
  • · การตรวจสอบของกระทรวงกลาโหมยืนยันว่ากรมสรรพากรล้าสมัยไปแล้ว กองทุนการเงินระหว่างประเทศกำลังล่มสลาย และกฎหมายภาษีระหว่างประเทศกำลังถูกเขียนขึ้นใหม่ภายใต้โปรโตคอล GESARA ธนาคารกลางสหรัฐสูญเสียหน้าที่การสั่งการไปแล้ว โหนดควอนตัมกำลังดำเนินการกระจายความมั่งคั่งในระดับโลก การยกหนี้ สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ และกระเป๋าเงินคืนสำหรับทุกประเทศที่ถูกทำลายโดยเผด็จการของธนาคารกลาง

    · กวนตานาโม: ความยุติธรรมทางทหารแข็งแกร่งขึ้น อ่าวกวนตานาโมเป็นที่ตั้งศาลที่เข้มแข็งที่สุดในโลกในปัจจุบัน วันที่ 4 มิถุนายนเป็นวันก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินรุ่นใหม่ ทางเดินกักขังแบบไบโอเมตริกซ์ ปีกกักขังแยก และศูนย์เฝ้าระวังที่บูรณาการกับ AI

    · ข่าวกรองทางทหารยืนยันว่าการแฮ็กข้อมูลไบโอเมตริกซ์ที่สกัดกั้นได้ ซึ่งดำเนินการโดยผู้ควบคุมของไบเดนในสวิตเซอร์แลนด์ ถูกบล็อกก่อนที่พวกมันจะดูดสินทรัพย์สาธารณะของ QFS เข้าสู่กองทุนดำดั้งเดิมได้

    · คำสารภาพอันยอดเยี่ยมกว่า 2,000 ชั่วโมงยืนยันว่าห้องทดลองโคลนนิ่งบนดวงจันทร์เปิดดำเนินการจนถึงเดือนพฤษภาคม 2023 โปรแกรมกระตุ้น COVID ถูกฝังชิปติดตามประสาทไว้ คาราวานวัคซีนของ FEMA ถูกกำหนดให้แพร่กระจายอาวุธชีวภาพ ห้องทดลองหายไปแล้ว คำสารภาพถูกบันทึกไว้ และโลกจะรู้ในไม่ช้า

    · QFS: หัวใจของการรีเซ็ต ลืมเงินตรา ลืมเงินดิจิทัลไปได้เลย QFS ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจโลกใหม่ ชาติที่มีอำนาจอธิปไตยทั้งหมดที่สอดคล้องกับพันธมิตรกำลังดำเนินการโหนด QFS แบบคู่ขนาน ห้องนิรภัยทองคำดิจิทัลออนไลน์แล้ว การสร้างโทเค็นสกุลเงินสายรุ้งกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบ ห้องนิรภัยที่เชื่อมต่อกับการเข้ารหัสควอนตัมระดับเทสลาอยู่ในช่วงล็อกขั้นสุดท้าย

    · เงินเก่าของคุณกำลังจะตาย ความมั่งคั่งใหม่ของคุณเป็นแบบควอนตัม ปลอดภัย และอยู่ภายใต้การคุ้มครองทางทหาร ทุกธุรกรรม ทุกบัญชีแยกประเภท สาธารณะ ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นอิสระจากการควบคุมของ Rothschild ตลอดไป

    · ลอสแองเจลิสถูกปิดล้อม — การฟื้นฟูทางการทหารกำลังดำเนินไป การก่อจลาจลในแอลเอไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นการหายใจเฮือกสุดท้ายของเจ้าหน้าที่โลกาภิวัตน์ที่แฝงตัวอยู่ในการเมืองของเมืองและเครือข่ายเอ็นจีโอ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ทรัมป์ได้อนุญาตให้มีการส่งกำลังทหารทั้งหมดเพื่อยึดแอลเอคืนจากกลุ่มประสานงานการประท้วงที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มค้ายา เซิร์ฟเวอร์ข่าวกรองต่างประเทศ และตัวแทนที่ได้รับเงินทุนจากโซรอส

    · เครือข่ายเข้ารหัสที่เชื่อมโยงกับกาตาร์ บรัสเซลส์ และซูริก ควบคุมการปฏิบัติการระดับถนนผ่านแอนติฟาและตัวแทนที่ได้รับการสนับสนุนจาก WEF ฝูงบินแบล็กฮอว์กควบคุมน่านฟ้าในปัจจุบัน ยานเกราะแคมป์เพนเดิลตันได้ล็อกบริเวณทางแยกสำคัญ ผู้นำกลุ่มค้ายาที่แฝงตัวอยู่ใน "เขตปลอดภัย" ของกลุ่มนักเคลื่อนไหวถูกกำจัดด้วยการโจมตีที่แม่นยำ

    · JAG กำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ระดับรัฐ รวมถึงแกวิน นิวซัมและคาเรน บาสส์ ในข้อหาสมคบคิดและก่อกบฏในต่างประเทศ

    · การตรวจสอบของกระทรวงกลาโหมยืนยันว่ากรมสรรพากรล้าสมัยไปแล้ว กองทุนการเงินระหว่างประเทศกำลังล่มสลาย และกฎหมายภาษีระหว่างประเทศกำลังถูกเขียนขึ้นใหม่ภายใต้โปรโตคอล GESARA ธนาคารกลางสหรัฐสูญเสียหน้าที่การสั่งการไปแล้ว โหนดควอนตัมกำลังดำเนินการกระจายความมั่งคั่งในระดับโลก การยกหนี้ สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ และกระเป๋าเงินคืนสำหรับทุกประเทศที่ถูกทำลายโดยเผด็จการของธนาคารกลาง · กวนตานาโม: ความยุติธรรมทางทหารแข็งแกร่งขึ้น อ่าวกวนตานาโมเป็นที่ตั้งศาลที่เข้มแข็งที่สุดในโลกในปัจจุบัน วันที่ 4 มิถุนายนเป็นวันก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินรุ่นใหม่ ทางเดินกักขังแบบไบโอเมตริกซ์ ปีกกักขังแยก และศูนย์เฝ้าระวังที่บูรณาการกับ AI · ข่าวกรองทางทหารยืนยันว่าการแฮ็กข้อมูลไบโอเมตริกซ์ที่สกัดกั้นได้ ซึ่งดำเนินการโดยผู้ควบคุมของไบเดนในสวิตเซอร์แลนด์ ถูกบล็อกก่อนที่พวกมันจะดูดสินทรัพย์สาธารณะของ QFS เข้าสู่กองทุนดำดั้งเดิมได้ · คำสารภาพอันยอดเยี่ยมกว่า 2,000 ชั่วโมงยืนยันว่าห้องทดลองโคลนนิ่งบนดวงจันทร์เปิดดำเนินการจนถึงเดือนพฤษภาคม 2023 โปรแกรมกระตุ้น COVID ถูกฝังชิปติดตามประสาทไว้ คาราวานวัคซีนของ FEMA ถูกกำหนดให้แพร่กระจายอาวุธชีวภาพ ห้องทดลองหายไปแล้ว คำสารภาพถูกบันทึกไว้ และโลกจะรู้ในไม่ช้า · QFS: หัวใจของการรีเซ็ต ลืมเงินตรา ลืมเงินดิจิทัลไปได้เลย QFS ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจโลกใหม่ ชาติที่มีอำนาจอธิปไตยทั้งหมดที่สอดคล้องกับพันธมิตรกำลังดำเนินการโหนด QFS แบบคู่ขนาน ห้องนิรภัยทองคำดิจิทัลออนไลน์แล้ว การสร้างโทเค็นสกุลเงินสายรุ้งกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบ ห้องนิรภัยที่เชื่อมต่อกับการเข้ารหัสควอนตัมระดับเทสลาอยู่ในช่วงล็อกขั้นสุดท้าย · เงินเก่าของคุณกำลังจะตาย ความมั่งคั่งใหม่ของคุณเป็นแบบควอนตัม ปลอดภัย และอยู่ภายใต้การคุ้มครองทางทหาร ทุกธุรกรรม ทุกบัญชีแยกประเภท สาธารณะ ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นอิสระจากการควบคุมของ Rothschild ตลอดไป · ลอสแองเจลิสถูกปิดล้อม — การฟื้นฟูทางการทหารกำลังดำเนินไป การก่อจลาจลในแอลเอไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นการหายใจเฮือกสุดท้ายของเจ้าหน้าที่โลกาภิวัตน์ที่แฝงตัวอยู่ในการเมืองของเมืองและเครือข่ายเอ็นจีโอ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ทรัมป์ได้อนุญาตให้มีการส่งกำลังทหารทั้งหมดเพื่อยึดแอลเอคืนจากกลุ่มประสานงานการประท้วงที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มค้ายา เซิร์ฟเวอร์ข่าวกรองต่างประเทศ และตัวแทนที่ได้รับเงินทุนจากโซรอส · เครือข่ายเข้ารหัสที่เชื่อมโยงกับกาตาร์ บรัสเซลส์ และซูริก ควบคุมการปฏิบัติการระดับถนนผ่านแอนติฟาและตัวแทนที่ได้รับการสนับสนุนจาก WEF ฝูงบินแบล็กฮอว์กควบคุมน่านฟ้าในปัจจุบัน ยานเกราะแคมป์เพนเดิลตันได้ล็อกบริเวณทางแยกสำคัญ ผู้นำกลุ่มค้ายาที่แฝงตัวอยู่ใน "เขตปลอดภัย" ของกลุ่มนักเคลื่อนไหวถูกกำจัดด้วยการโจมตีที่แม่นยำ · JAG กำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ระดับรัฐ รวมถึงแกวิน นิวซัมและคาเรน บาสส์ ในข้อหาสมคบคิดและก่อกบฏในต่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 601 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts