• ศาลยกคำร้องทนายตุ๋ย ปิดปากสื่อไม่สำเร็จ ใครบิดเบือนความยุติธรรมคดี "แตงโม" ?
    .
    วันพุธที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ได้มีการนัดสืบพยานคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ วันพุธที่ผ่านมาเป็นการสืบพยานจำเลยนัดสุดท้าย รวม 2 ปาก ประกอบด้วย กระติก อิศรินทร์ กับ นายภีม ธรรมธีรศรี หรือ เอ็ม ส่วนทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม ให้สัมภาษณ์ว่า อีก 2 เดือนครึ่ง คงจะมีคำพิพากษาออกมา
    .
    ท่านผู้ชมรู้ไหมว่ามันมีประเด็นสำคัญ คือ ทนายตุ๋ย พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ของนายแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาลใน 2 สำนวน สำนวนแรกคือเรื่องของการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต คนที่ถูกกล่าวหามี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา อีกสำนวนหนึ่งเป็นกรณีนักอาชญาวิทยาคนหนึ่ง คาดว่าเป็น รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล หรือ อาจารย์โต้ง นักอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ
    .
    ประเด็นเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างมีพิรุธ มีเงื่อนงำสำคัญเยอะแยะ และแต่ละครั้งที่คนบนเรือออกมาพูด ประชาชนเขาจับสังเกตข้อพิรุธได้ว่า ทำไมพวกคุณถึงพูดไม่เหมือนกันเลย นี่มันเป็นละครของคนบนเรือที่เล่นร่วมกัน เพื่อให้เห็นว่าแตงโมตกน้ำตาย ทำให้คนที่มีความรู้ มีวิจารณญาณ ต้องการแสวงหาความจริง เป็นข้อพิรุธที่คนสงสัยกันทั้งประเทศ ว่า การตายของแตงโมนั้นมีเงื่อนงำ
    .
    ผมอยากจะบอกว่า การฟ้องปิดปากสื่อเป็นการปิดกั้นการแสวงหาความจริง แต่การที่นายแซน นายปอ กับทนายตุ๋ย เดินสายออกอากาศหลายช่อง แถลงข่าวหลายครั้ง พูดถูก พูดผิดไม่รู้โกหกไปอย่างไร พูดไม่เหมือนกันสักครั้ง ก็ต้องผิดยิ่งกว่า เพราะว่าพวกคุณทะลึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรงในคดีด้วย ยิ่งกว่าบุคคลภายนอกซึ่งเป็นสื่อมวลชน อย่างผม อย่างอาจารย์ปานเทพ และพรรคพวกอีก
    .
    ในช่วงเย็นวันเดียวกัน วันพุธที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนนทบุรียกคำร้องทนายตุ๋ย พรศักดิ์ ทนายความของแซน วิศาพัช จำเลย และคนบนเรือ ที่ยื่นเรื่องขอให้ไต่สวนนายอัจฉริยะ อาจารย์ปานเทพ และพรรคพวก กรณีจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ
    .
    หลังจากศาลยกคำร้องแล้ว นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ กล่าวว่า ในการสืบพยานวันนี้ยังสืบพยานไม่เสร็จ คดีเดินไปตามปกติทุกอย่าง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนคดีการยื่นไต่สวนเรื่องละเมิดอำนาจศาล เรื่องการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือนั้น ขอยังไม่ให้ข้อมูล พูดแบบกำกวม ยังรักษาความเท่อยู่เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ความเท่มันสูญหายไปตั้งนานแล้ว
    .
    คุณพรศักดิ์ คุณจะเท่ทั้งที เท่ให้มีหลักการ แล้วคุณอย่าคิดมาเคี้ยวผม พวกผมง่ายๆ เหมือนอย่างที่คุณคิดนะ ไม่ใช่ คุณคิดผิด คิดใหม่ได้ คุณควรจะกลับไปแล้วพูดกับนายแซน ลูกความคุณ ว่าเวลาพูดอะไร ให้จำๆเอาไว้หน่อยได้ไหมว่าเคยพูดอะไรไว้ อย่าไปพูดขัดแย้งกัน
    .
    สาธุ! คุณพรศักดิ์ ผมภาวนาให้ดีเอสไอรับเรื่องนี้เข้าไป แล้วผมเชื่ออย่างหนึ่งนะครับ คุณวิศาพัช คุณแซน ทนายพรศักดิ์ นายปอ คุณไม่เชื่อเหมือนผม ไม่เป็นไร เวรกรรมมันมีจริง ใครทำอะไรแตงโมไว้ เวรกรรมตามถึงพวกมึงแน่นอน ไม่ต้องห่วง ถึงแน่นอน ผม สนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัจจะวาจาตรงนี้ว่า ต้องถึงแน่นอน
    ศาลยกคำร้องทนายตุ๋ย ปิดปากสื่อไม่สำเร็จ ใครบิดเบือนความยุติธรรมคดี "แตงโม" ? . วันพุธที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ได้มีการนัดสืบพยานคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ วันพุธที่ผ่านมาเป็นการสืบพยานจำเลยนัดสุดท้าย รวม 2 ปาก ประกอบด้วย กระติก อิศรินทร์ กับ นายภีม ธรรมธีรศรี หรือ เอ็ม ส่วนทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม ให้สัมภาษณ์ว่า อีก 2 เดือนครึ่ง คงจะมีคำพิพากษาออกมา . ท่านผู้ชมรู้ไหมว่ามันมีประเด็นสำคัญ คือ ทนายตุ๋ย พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ของนายแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาลใน 2 สำนวน สำนวนแรกคือเรื่องของการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต คนที่ถูกกล่าวหามี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา อีกสำนวนหนึ่งเป็นกรณีนักอาชญาวิทยาคนหนึ่ง คาดว่าเป็น รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล หรือ อาจารย์โต้ง นักอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ . ประเด็นเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างมีพิรุธ มีเงื่อนงำสำคัญเยอะแยะ และแต่ละครั้งที่คนบนเรือออกมาพูด ประชาชนเขาจับสังเกตข้อพิรุธได้ว่า ทำไมพวกคุณถึงพูดไม่เหมือนกันเลย นี่มันเป็นละครของคนบนเรือที่เล่นร่วมกัน เพื่อให้เห็นว่าแตงโมตกน้ำตาย ทำให้คนที่มีความรู้ มีวิจารณญาณ ต้องการแสวงหาความจริง เป็นข้อพิรุธที่คนสงสัยกันทั้งประเทศ ว่า การตายของแตงโมนั้นมีเงื่อนงำ . ผมอยากจะบอกว่า การฟ้องปิดปากสื่อเป็นการปิดกั้นการแสวงหาความจริง แต่การที่นายแซน นายปอ กับทนายตุ๋ย เดินสายออกอากาศหลายช่อง แถลงข่าวหลายครั้ง พูดถูก พูดผิดไม่รู้โกหกไปอย่างไร พูดไม่เหมือนกันสักครั้ง ก็ต้องผิดยิ่งกว่า เพราะว่าพวกคุณทะลึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรงในคดีด้วย ยิ่งกว่าบุคคลภายนอกซึ่งเป็นสื่อมวลชน อย่างผม อย่างอาจารย์ปานเทพ และพรรคพวกอีก . ในช่วงเย็นวันเดียวกัน วันพุธที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนนทบุรียกคำร้องทนายตุ๋ย พรศักดิ์ ทนายความของแซน วิศาพัช จำเลย และคนบนเรือ ที่ยื่นเรื่องขอให้ไต่สวนนายอัจฉริยะ อาจารย์ปานเทพ และพรรคพวก กรณีจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ . หลังจากศาลยกคำร้องแล้ว นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ กล่าวว่า ในการสืบพยานวันนี้ยังสืบพยานไม่เสร็จ คดีเดินไปตามปกติทุกอย่าง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนคดีการยื่นไต่สวนเรื่องละเมิดอำนาจศาล เรื่องการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือนั้น ขอยังไม่ให้ข้อมูล พูดแบบกำกวม ยังรักษาความเท่อยู่เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ความเท่มันสูญหายไปตั้งนานแล้ว . คุณพรศักดิ์ คุณจะเท่ทั้งที เท่ให้มีหลักการ แล้วคุณอย่าคิดมาเคี้ยวผม พวกผมง่ายๆ เหมือนอย่างที่คุณคิดนะ ไม่ใช่ คุณคิดผิด คิดใหม่ได้ คุณควรจะกลับไปแล้วพูดกับนายแซน ลูกความคุณ ว่าเวลาพูดอะไร ให้จำๆเอาไว้หน่อยได้ไหมว่าเคยพูดอะไรไว้ อย่าไปพูดขัดแย้งกัน . สาธุ! คุณพรศักดิ์ ผมภาวนาให้ดีเอสไอรับเรื่องนี้เข้าไป แล้วผมเชื่ออย่างหนึ่งนะครับ คุณวิศาพัช คุณแซน ทนายพรศักดิ์ นายปอ คุณไม่เชื่อเหมือนผม ไม่เป็นไร เวรกรรมมันมีจริง ใครทำอะไรแตงโมไว้ เวรกรรมตามถึงพวกมึงแน่นอน ไม่ต้องห่วง ถึงแน่นอน ผม สนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัจจะวาจาตรงนี้ว่า ต้องถึงแน่นอน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 626 มุมมอง 0 รีวิว
  • คิงส์โพธิ์ดำ ep.2 จับอาการทักษิณ ข่าวลือยุบพรรค
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #ทักษิณ
    #จับสังเกต
    คิงส์โพธิ์ดำ ep.2 จับอาการทักษิณ ข่าวลือยุบพรรค #คิงส์โพธิ์ดำ #ทักษิณ #จับสังเกต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • เปิดหูเปิดตากันหน่อย
    จากการจับสังเกตุที่พรรคเฟี้ยวฟ้าวอย่างพรรคส้มเน่า
    ทำท่าขึงขังกับถาดหลุมจนค้านสายตาประชาชี แม้กระทั่งด้อมส้มเอง
    ก็ยังออกอาการ งง งง
    เรื่องของเรื่องคือ
    สิ่งที่โทนี่ และเจ้าของพรรคสีส้มตัวจริงคือธนาธร
    มีเป้าหมายที่เป็นจุดร่วมคือ
    1. การนิรโทษกรรมให้กับตัวเอง กรณี 112 เอาเข้าจริงๆ คนอย่างโทนี่ กับธนาธร ควรจะเป็นพ่อลูกกันมากกว่าอุ๊งอิ๊งซะอีก เพราะมีความคล้ายกันเอามากๆ นั่นคือ การอยากกลับมาเล่นเกมส์อำนาจด้วยตัวเอง ไม่ยอมเป็นคนที่อยู่หลังม่าน อาการคือมันไม่มันส์ ดังนั้น ถ้าหาทางให้เกิดนิรโทษกรรมกรณี 112 ได้ ทั้งสองก็จะกลับมาอยู่หน้าเวทีด้วยตัวเอง และยังติดสอยห้อยตามด้วยบรรดาทะลุวัง และบรรดาสส.พรรคส้มอีกเกือบครึ่งร้อยที่ปีกว่าๆก็จะเข้าซังเตหรือถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ดังนั้น ธนาธรรู้ดีว่า นาทีนี้ ควรสุ้หรือควรร่วมไม้ร่วมมือ เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้ว ยังไง การร่วมมือจะได้ประโยชน์กว่า แม๊งก็ใช้ธรเป็นเครื่องมือ ธรก็ใช้แม๊วเป็นเครื่องมือ ศีลเสมอ ผู้ประสบเหตุร่วม บรรยากาศในสภาก็จะดูเป็นโรงลิเกอย่าแปลกใจ
    2. เป้าหมายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือรื้อทั้งหมดทำใหม่ นั่นก็เพราะ ธนาธรหวังลึกๆว่าจะสามารถสอดไส้การแก้ไขมาตราที่ปกป้องสถาบันได้ไม่มากก็น้อย ส่งคนของตัวเองเข้ามามีส่วนในการร่างเยอะก็มีความเป็นไปได้ที่ฝันจะเป็นจริง ส่วนโทนี่ ก็ออกปากยอมรับกับคนรอบตัวว่า รัฐธรรมมนูญฉบับนี้ที่ร่างขึ้นทำให้โทนี่เองยากลำบากในการทำอะไรที่ตนเองต้องการหลายๆอย่าง ติดนั่น ติดนี่ มีองค์กรอิสระขวางต่างๆนาๆ รวมถึงการแก้ไขก็ยาก ต้องผ่านหลายด่าน ไม่เว้นแต่ประชามติอีกตะหาก ดังนั้นตั้งแต่โทนี่มาถึงประเทศไทย ไปยันชั้น 14 ลงมาเสนอลอยหน้าลอยตาในปัจจุบัน
    รู้หรือไม่ โทนี่ได้จัดทีมกฏหมายระดับประเทศไม่ใช่ 1 คน แต่เป็นฝูงในการรับใช้เพื่อปลดล็อคให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้โดยง่าย แม้ผู้ร่างจะล็อคไว้เป็นสิบชั้น แต่ฝูงนี้คือฝูงสะเดาะกุญแจของแท้
    ดังนั้น โปรดเข้าใจในท่าทีและลีลา
    อาจเหมือนเข้มข้นเรื่องอภิปราย แต่ก็เหมือนเอาไม้จิ้มขรี้แล้วกวนทราย
    ไม่มีสาระอะไรต่อประเทศชาติบ้านเมือง
    เพราะสองพรรคนี้ มีเป้าหมาย เดียวกัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เปิดหูเปิดตากันหน่อย จากการจับสังเกตุที่พรรคเฟี้ยวฟ้าวอย่างพรรคส้มเน่า ทำท่าขึงขังกับถาดหลุมจนค้านสายตาประชาชี แม้กระทั่งด้อมส้มเอง ก็ยังออกอาการ งง งง เรื่องของเรื่องคือ สิ่งที่โทนี่ และเจ้าของพรรคสีส้มตัวจริงคือธนาธร มีเป้าหมายที่เป็นจุดร่วมคือ 1. การนิรโทษกรรมให้กับตัวเอง กรณี 112 เอาเข้าจริงๆ คนอย่างโทนี่ กับธนาธร ควรจะเป็นพ่อลูกกันมากกว่าอุ๊งอิ๊งซะอีก เพราะมีความคล้ายกันเอามากๆ นั่นคือ การอยากกลับมาเล่นเกมส์อำนาจด้วยตัวเอง ไม่ยอมเป็นคนที่อยู่หลังม่าน อาการคือมันไม่มันส์ ดังนั้น ถ้าหาทางให้เกิดนิรโทษกรรมกรณี 112 ได้ ทั้งสองก็จะกลับมาอยู่หน้าเวทีด้วยตัวเอง และยังติดสอยห้อยตามด้วยบรรดาทะลุวัง และบรรดาสส.พรรคส้มอีกเกือบครึ่งร้อยที่ปีกว่าๆก็จะเข้าซังเตหรือถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ดังนั้น ธนาธรรู้ดีว่า นาทีนี้ ควรสุ้หรือควรร่วมไม้ร่วมมือ เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้ว ยังไง การร่วมมือจะได้ประโยชน์กว่า แม๊งก็ใช้ธรเป็นเครื่องมือ ธรก็ใช้แม๊วเป็นเครื่องมือ ศีลเสมอ ผู้ประสบเหตุร่วม บรรยากาศในสภาก็จะดูเป็นโรงลิเกอย่าแปลกใจ 2. เป้าหมายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือรื้อทั้งหมดทำใหม่ นั่นก็เพราะ ธนาธรหวังลึกๆว่าจะสามารถสอดไส้การแก้ไขมาตราที่ปกป้องสถาบันได้ไม่มากก็น้อย ส่งคนของตัวเองเข้ามามีส่วนในการร่างเยอะก็มีความเป็นไปได้ที่ฝันจะเป็นจริง ส่วนโทนี่ ก็ออกปากยอมรับกับคนรอบตัวว่า รัฐธรรมมนูญฉบับนี้ที่ร่างขึ้นทำให้โทนี่เองยากลำบากในการทำอะไรที่ตนเองต้องการหลายๆอย่าง ติดนั่น ติดนี่ มีองค์กรอิสระขวางต่างๆนาๆ รวมถึงการแก้ไขก็ยาก ต้องผ่านหลายด่าน ไม่เว้นแต่ประชามติอีกตะหาก ดังนั้นตั้งแต่โทนี่มาถึงประเทศไทย ไปยันชั้น 14 ลงมาเสนอลอยหน้าลอยตาในปัจจุบัน รู้หรือไม่ โทนี่ได้จัดทีมกฏหมายระดับประเทศไม่ใช่ 1 คน แต่เป็นฝูงในการรับใช้เพื่อปลดล็อคให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้โดยง่าย แม้ผู้ร่างจะล็อคไว้เป็นสิบชั้น แต่ฝูงนี้คือฝูงสะเดาะกุญแจของแท้ ดังนั้น โปรดเข้าใจในท่าทีและลีลา อาจเหมือนเข้มข้นเรื่องอภิปราย แต่ก็เหมือนเอาไม้จิ้มขรี้แล้วกวนทราย ไม่มีสาระอะไรต่อประเทศชาติบ้านเมือง เพราะสองพรรคนี้ มีเป้าหมาย เดียวกัน #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 851 มุมมอง 0 รีวิว