• EP 80
    Black Friday สำหรับ SET ช่วงเช้าลงไป -20 จุด แล้วมาปิด -18.xx รอดูบาย
    EP 80 Black Friday สำหรับ SET ช่วงเช้าลงไป -20 จุด แล้วมาปิด -18.xx รอดูบาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 5 การตั้งค่าที่ควรเปลี่ยนบน E-Ink Tablet

    แท็บเล็ต E-Ink เช่น Kindle และ Kobo ได้รับความนิยมเพราะให้ประสบการณ์การอ่านที่ใกล้เคียงกับกระดาษจริง แต่หลายคนไม่รู้ว่าการปรับแต่งการตั้งค่าบางอย่างสามารถทำให้การใช้งานดียิ่งขึ้น บทความจาก SlashGear แนะนำ 5 การตั้งค่าที่ควรเปลี่ยนทันที เพื่อเพิ่มความสะดวกและยืดอายุการใช้งาน

    ปรับ Page Refresh
    หน้าจอ E-Ink มักเกิดปัญหา ghosting หรือร่องรอยข้อความจากหน้าก่อน การเปิดใช้งาน Page Refresh บ่อยขึ้นช่วยลบสิ่งเหล่านี้ แต่ต้องแลกกับแบตเตอรี่ที่หมดเร็วขึ้นและอายุการใช้งานจอที่สั้นลง

    ตั้ง Sleep Timer ให้นานขึ้น
    ค่าเริ่มต้นของ Kindle คือ 10 นาที แต่สามารถปรับเป็น 15–30 นาทีได้ โดยไม่กระทบแบตเตอรี่มากนัก เหมาะสำหรับคนที่อ่านต่อเนื่องและไม่อยากให้เครื่องดับเองบ่อย ๆ

    ปรับ Color Temperature ให้อุ่นขึ้น
    การใช้แสงสีขาวอาจทำให้ตาล้า การปรับเป็นโทนสีอุ่น (Warm Light) จะช่วยให้การอ่านสบายตา โดย Kindle และ Kobo มีฟีเจอร์ปรับอัตโนมัติตามพระอาทิตย์ขึ้น–ตก

    เปิด Airplane Mode
    การปิด Wi-Fi และ Bluetooth จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มาก บางคนสามารถใช้งาน Kindle ได้ 5–6 เดือนต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง หากเปิด Airplane Mode ตลอดเวลา

    ตั้งรหัสผ่าน (Passcode/PIN)
    แม้แท็บเล็ต E-Ink มักไม่ได้เก็บข้อมูลสำคัญ แต่การตั้งรหัสผ่านช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้ามาเปลี่ยนการตั้งค่า หรือซื้อหนังสือโดยไม่ได้รับอนุญาต

    https://www.slashgear.com/2027122/e-ink-tablet-settings-you-should-immediately-change/
    📖 5 การตั้งค่าที่ควรเปลี่ยนบน E-Ink Tablet แท็บเล็ต E-Ink เช่น Kindle และ Kobo ได้รับความนิยมเพราะให้ประสบการณ์การอ่านที่ใกล้เคียงกับกระดาษจริง แต่หลายคนไม่รู้ว่าการปรับแต่งการตั้งค่าบางอย่างสามารถทำให้การใช้งานดียิ่งขึ้น บทความจาก SlashGear แนะนำ 5 การตั้งค่าที่ควรเปลี่ยนทันที เพื่อเพิ่มความสะดวกและยืดอายุการใช้งาน 🔄 ปรับ Page Refresh หน้าจอ E-Ink มักเกิดปัญหา ghosting หรือร่องรอยข้อความจากหน้าก่อน การเปิดใช้งาน Page Refresh บ่อยขึ้นช่วยลบสิ่งเหล่านี้ แต่ต้องแลกกับแบตเตอรี่ที่หมดเร็วขึ้นและอายุการใช้งานจอที่สั้นลง ⏱️ ตั้ง Sleep Timer ให้นานขึ้น ค่าเริ่มต้นของ Kindle คือ 10 นาที แต่สามารถปรับเป็น 15–30 นาทีได้ โดยไม่กระทบแบตเตอรี่มากนัก เหมาะสำหรับคนที่อ่านต่อเนื่องและไม่อยากให้เครื่องดับเองบ่อย ๆ 🌙 ปรับ Color Temperature ให้อุ่นขึ้น การใช้แสงสีขาวอาจทำให้ตาล้า การปรับเป็นโทนสีอุ่น (Warm Light) จะช่วยให้การอ่านสบายตา โดย Kindle และ Kobo มีฟีเจอร์ปรับอัตโนมัติตามพระอาทิตย์ขึ้น–ตก ✈️ เปิด Airplane Mode การปิด Wi-Fi และ Bluetooth จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มาก บางคนสามารถใช้งาน Kindle ได้ 5–6 เดือนต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง หากเปิด Airplane Mode ตลอดเวลา 🔒 ตั้งรหัสผ่าน (Passcode/PIN) แม้แท็บเล็ต E-Ink มักไม่ได้เก็บข้อมูลสำคัญ แต่การตั้งรหัสผ่านช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้ามาเปลี่ยนการตั้งค่า หรือซื้อหนังสือโดยไม่ได้รับอนุญาต https://www.slashgear.com/2027122/e-ink-tablet-settings-you-should-immediately-change/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Settings You Should Immediately Change On Any E-Ink Tablet - SlashGear
    Your e-ink tablet can run longer, look cleaner, and stay more comfortable to read with a few smart adjustments. A practical walkthrough for everyday use.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP 77
    SET บวก 2x.xx จุด แต่ปิดบวกได้แค่ 9.xx หุ้นหลายตัวออกอาการ SIDE WAY ดูจากกราฟ
    EP 77 SET บวก 2x.xx จุด แต่ปิดบวกได้แค่ 9.xx หุ้นหลายตัวออกอาการ SIDE WAY ดูจากกราฟ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • SET รับอานิสงค์ NVIDIA งบโตต่อ (20/11/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้น
    SET รับอานิสงค์ NVIDIA งบโตต่อ (20/11/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link DIR-878 ที่หมดอายุการสนับสนุน

    D-Link ได้ออกประกาศเตือนผู้ใช้เราเตอร์รุ่น DIR-878 ว่าพบช่องโหว่ร้ายแรงถึง 4 จุด ซึ่งรวมถึงการ Remote Command Execution (RCE) โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ทันที หากเราเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยตรง ความเสี่ยงนี้ถือว่าสูงมาก เพราะผู้ใช้ไม่สามารถอัปเดตแพตช์แก้ไขได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ถูกจัดอยู่ในสถานะ End-of-Life (EOL) ตั้งแต่ปี 2021

    มุมมองจากวงการไซเบอร์
    รายงานจากหลายสำนักข่าวด้านความปลอดภัยระบุว่า ช่องโหว่เหล่านี้ครอบคลุมทั้งการ Command Injection ผ่าน Dynamic DNS และ DMZ Settings รวมถึง Buffer Overflow จาก USB Serial Number และการ QoS Rule Injection ซึ่งทั้งหมดสามารถนำไปสู่การเข้าควบคุมระบบได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยเตือนว่าหากผู้ใช้ยังคงใช้งานอุปกรณ์นี้ อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีเพื่อแพร่มัลแวร์หรือบอทเน็ตได้

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และองค์กร
    สิ่งที่น่ากังวลคือการโจมตีสามารถทำได้จากระยะไกลโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ซึ่งหมายความว่าแม้ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ใช่เป้าหมายโดยตรงก็อาจถูกโจมตีได้ หากอุปกรณ์ยังเปิดใช้งานอยู่ในบ้านหรือสำนักงาน การปล่อยให้เราเตอร์ที่หมดอายุการสนับสนุนเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจึงเท่ากับเปิดประตูให้แฮกเกอร์เข้ามาในเครือข่ายโดยตรง

    แนวโน้มและคำแนะนำ
    ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำให้ผู้ใช้ เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ยังได้รับการสนับสนุน และควรตรวจสอบอุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ ที่อาจหมดอายุการสนับสนุนแล้วเช่นกัน แนวโน้มในอนาคตคือการโจมตีอุปกรณ์ IoT และเราเตอร์ที่ไม่ได้รับการอัปเดตจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นจุดอ่อนที่เข้าถึงง่ายและมักถูกละเลย

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    D-Link DIR-878 หมดอายุการสนับสนุนตั้งแต่ปี 2021
    พบช่องโหว่ร้ายแรง 4 จุด (Dynamic DNS, DMZ, USB Buffer Overflow, QoS Injection)
    ช่องโหว่เปิดโอกาสให้โจมตีแบบ Remote Command Execution โดยไม่ต้องล็อกอิน

    คำเตือนจากข่าว
    ผู้ใช้ที่ยังใช้งานเราเตอร์รุ่นนี้เสี่ยงถูกโจมตีและควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ
    อุปกรณ์ที่หมดอายุการสนับสนุนไม่สามารถอัปเดตแพตช์แก้ไขได้
    การปล่อยให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอาจทำให้เครือข่ายบ้านหรือองค์กรถูกเจาะทะลวง

    https://securityonline.info/d-link-dir-878-reaches-eol-3-unpatched-rce-flaws-allow-unauthenticated-remote-command-execution/
    🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link DIR-878 ที่หมดอายุการสนับสนุน D-Link ได้ออกประกาศเตือนผู้ใช้เราเตอร์รุ่น DIR-878 ว่าพบช่องโหว่ร้ายแรงถึง 4 จุด ซึ่งรวมถึงการ Remote Command Execution (RCE) โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ทันที หากเราเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยตรง ความเสี่ยงนี้ถือว่าสูงมาก เพราะผู้ใช้ไม่สามารถอัปเดตแพตช์แก้ไขได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ถูกจัดอยู่ในสถานะ End-of-Life (EOL) ตั้งแต่ปี 2021 🌐 มุมมองจากวงการไซเบอร์ รายงานจากหลายสำนักข่าวด้านความปลอดภัยระบุว่า ช่องโหว่เหล่านี้ครอบคลุมทั้งการ Command Injection ผ่าน Dynamic DNS และ DMZ Settings รวมถึง Buffer Overflow จาก USB Serial Number และการ QoS Rule Injection ซึ่งทั้งหมดสามารถนำไปสู่การเข้าควบคุมระบบได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยเตือนว่าหากผู้ใช้ยังคงใช้งานอุปกรณ์นี้ อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีเพื่อแพร่มัลแวร์หรือบอทเน็ตได้ ⚠️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และองค์กร สิ่งที่น่ากังวลคือการโจมตีสามารถทำได้จากระยะไกลโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ซึ่งหมายความว่าแม้ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ใช่เป้าหมายโดยตรงก็อาจถูกโจมตีได้ หากอุปกรณ์ยังเปิดใช้งานอยู่ในบ้านหรือสำนักงาน การปล่อยให้เราเตอร์ที่หมดอายุการสนับสนุนเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจึงเท่ากับเปิดประตูให้แฮกเกอร์เข้ามาในเครือข่ายโดยตรง 🔮 แนวโน้มและคำแนะนำ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำให้ผู้ใช้ เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ยังได้รับการสนับสนุน และควรตรวจสอบอุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ ที่อาจหมดอายุการสนับสนุนแล้วเช่นกัน แนวโน้มในอนาคตคือการโจมตีอุปกรณ์ IoT และเราเตอร์ที่ไม่ได้รับการอัปเดตจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นจุดอ่อนที่เข้าถึงง่ายและมักถูกละเลย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ D-Link DIR-878 หมดอายุการสนับสนุนตั้งแต่ปี 2021 ➡️ พบช่องโหว่ร้ายแรง 4 จุด (Dynamic DNS, DMZ, USB Buffer Overflow, QoS Injection) ➡️ ช่องโหว่เปิดโอกาสให้โจมตีแบบ Remote Command Execution โดยไม่ต้องล็อกอิน ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ ผู้ใช้ที่ยังใช้งานเราเตอร์รุ่นนี้เสี่ยงถูกโจมตีและควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ⛔ อุปกรณ์ที่หมดอายุการสนับสนุนไม่สามารถอัปเดตแพตช์แก้ไขได้ ⛔ การปล่อยให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอาจทำให้เครือข่ายบ้านหรือองค์กรถูกเจาะทะลวง https://securityonline.info/d-link-dir-878-reaches-eol-3-unpatched-rce-flaws-allow-unauthenticated-remote-command-execution/
    SECURITYONLINE.INFO
    D-Link DIR-878 Reaches EOL: 3 Unpatched RCE Flaws Allow Unauthenticated Remote Command Execution
    D-Link warned that DIR-878 has reached EOL with three unpatched RCE flaws. Unauthenticated remote attackers can execute arbitrary commands via Dynamic DNS and DMZ settings due to insecure CGI parameters.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • SET ขาดข่าวดี 19/11/68 #SET #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #การลงทุน
    SET ขาดข่าวดี 19/11/68 #SET #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #การลงทุน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Samsung Smart TV มีเมนูลับที่คุณอาจไม่เคยรู้

    Samsung Smart TV รุ่นใหม่ๆ ไม่ได้มีแค่เมนูตั้งค่าทั่วไป แต่ยังมี “Service Menu” หรือเมนูลับที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้โดยช่างเทคนิคในการตรวจสอบและปรับแต่งระบบภายใน ซึ่งผู้ใช้ทั่วไปก็สามารถเข้าถึงได้ หากรู้วิธีการกดปุ่มบนรีโมตที่ถูกต้อง

    วิธีเข้าถึงเมนูลับ
    สำหรับรีโมตขนาดเล็ก: เปิดทีวี → ไปที่ Settings > Sound Settings และตั้งค่า “Sound Output” เป็น TV Speakers → กดปุ่มตามลำดับ Mute, Up, Down, Enter/OK, Mute

    สำหรับรีโมตขนาดใหญ่: เข้าสู่ Standby Mode โดยเปิดทีวีแล้วกดปิดทันที → จากนั้นกดปุ่มตามลำดับ Info, Menu, Mute, Power หากวิธีเหล่านี้ไม่ทำงาน สามารถค้นหาด้วย รุ่นของทีวี + คำว่า service menu เพื่อดูคำแนะนำเฉพาะรุ่น

    สิ่งที่ทำได้ในเมนูลับ
    ตรวจสอบ ชั่วโมงการใช้งานของจอภาพ (สำคัญมากหากซื้อทีวีมือสอง)
    ปรับแต่ง advanced picture settings เช่น white balance และ gamma
    ตั้งค่า Bluetooth radio configuration และ tuner region
    ปิด Hospitality Mode ที่บางครั้งถูกเปิดโดยผิดพลาด ทำให้ฟีเจอร์บางอย่างถูกจำกัด

    ข้อควรระวัง
    แม้เมนูลับนี้จะมีประโยชน์ แต่ก็มีความเสี่ยงสูง หากปรับค่าที่ไม่เข้าใจอาจทำให้ระบบทำงานผิดพลาดหรือเสียหายได้ ดังนั้นควรใช้เพื่อการตรวจสอบข้อมูลเท่านั้น ไม่ควรทดลองเปลี่ยนค่าที่ไม่แน่ใจ

    สรุปสาระสำคัญ
    วิธีเข้าถึงเมนูลับ
    รีโมตเล็ก: Mute → Up → Down → Enter/OK → Mute
    รีโมตใหญ่: Info → Menu → Mute → Power

    สิ่งที่ทำได้
    ตรวจสอบชั่วโมงการใช้งานจอ
    ปรับแต่ง advanced picture settings
    ตั้งค่า Bluetooth และ tuner region
    ปิด Hospitality Mode

    คำเตือน
    การปรับค่าที่ไม่เข้าใจอาจทำให้ทีวีทำงานผิดพลาด
    เมนูลับถูกออกแบบมาเพื่อช่างเทคนิค ไม่ใช่ผู้ใช้ทั่วไป
    ควรใช้เพื่อการตรวจสอบข้อมูลเท่านั้น

    https://www.slashgear.com/2026399/your-samsung-smart-tv-has-hidden-menu-how-to-access/
    📺 Samsung Smart TV มีเมนูลับที่คุณอาจไม่เคยรู้ Samsung Smart TV รุ่นใหม่ๆ ไม่ได้มีแค่เมนูตั้งค่าทั่วไป แต่ยังมี “Service Menu” หรือเมนูลับที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้โดยช่างเทคนิคในการตรวจสอบและปรับแต่งระบบภายใน ซึ่งผู้ใช้ทั่วไปก็สามารถเข้าถึงได้ หากรู้วิธีการกดปุ่มบนรีโมตที่ถูกต้อง 🔑 วิธีเข้าถึงเมนูลับ 🔰 สำหรับรีโมตขนาดเล็ก: เปิดทีวี → ไปที่ Settings > Sound Settings และตั้งค่า “Sound Output” เป็น TV Speakers → กดปุ่มตามลำดับ Mute, Up, Down, Enter/OK, Mute 🔰 สำหรับรีโมตขนาดใหญ่: เข้าสู่ Standby Mode โดยเปิดทีวีแล้วกดปิดทันที → จากนั้นกดปุ่มตามลำดับ Info, Menu, Mute, Power หากวิธีเหล่านี้ไม่ทำงาน สามารถค้นหาด้วย รุ่นของทีวี + คำว่า service menu เพื่อดูคำแนะนำเฉพาะรุ่น ⚙️ สิ่งที่ทำได้ในเมนูลับ 🔰 ตรวจสอบ ชั่วโมงการใช้งานของจอภาพ (สำคัญมากหากซื้อทีวีมือสอง) 🔰 ปรับแต่ง advanced picture settings เช่น white balance และ gamma 🔰 ตั้งค่า Bluetooth radio configuration และ tuner region 🔰 ปิด Hospitality Mode ที่บางครั้งถูกเปิดโดยผิดพลาด ทำให้ฟีเจอร์บางอย่างถูกจำกัด ⚠️ ข้อควรระวัง แม้เมนูลับนี้จะมีประโยชน์ แต่ก็มีความเสี่ยงสูง หากปรับค่าที่ไม่เข้าใจอาจทำให้ระบบทำงานผิดพลาดหรือเสียหายได้ ดังนั้นควรใช้เพื่อการตรวจสอบข้อมูลเท่านั้น ไม่ควรทดลองเปลี่ยนค่าที่ไม่แน่ใจ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ วิธีเข้าถึงเมนูลับ ➡️ รีโมตเล็ก: Mute → Up → Down → Enter/OK → Mute ➡️ รีโมตใหญ่: Info → Menu → Mute → Power ✅ สิ่งที่ทำได้ ➡️ ตรวจสอบชั่วโมงการใช้งานจอ ➡️ ปรับแต่ง advanced picture settings ➡️ ตั้งค่า Bluetooth และ tuner region ➡️ ปิด Hospitality Mode ‼️ คำเตือน ⛔ การปรับค่าที่ไม่เข้าใจอาจทำให้ทีวีทำงานผิดพลาด ⛔ เมนูลับถูกออกแบบมาเพื่อช่างเทคนิค ไม่ใช่ผู้ใช้ทั่วไป ⛔ ควรใช้เพื่อการตรวจสอบข้อมูลเท่านั้น https://www.slashgear.com/2026399/your-samsung-smart-tv-has-hidden-menu-how-to-access/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Your Samsung Smart TV Has A Hidden Menu — Here's How To Access It - SlashGear
    Access Samsung’s hidden service menu by entering remote codes, like Mute, Up, Down, OK, Mute on newer remotes or Info, Menu, Mute, Power on older ones.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • Blender 5.0 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

    Blender 5.0 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ 3D graphics แบบโอเพนซอร์ส ได้ถูกปล่อยออกมาแล้ว โดยมาพร้อมกับการปรับปรุงครั้งใหญ่ทั้งด้านการแสดงผล, เครื่องมือสร้างสรรค์ และการรองรับฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างงาน 3D ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมจริงมากขึ้น

    รองรับ HDR และ Wide Gamut Colors
    หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญคือการรองรับ HDR และ wide gamut colors บน Linux เมื่อใช้ Wayland และ Vulkan backend ซึ่งช่วยให้การทำงานด้านการปรับแต่งสีและการเรนเดอร์วิดีโอ HDR มีความแม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ยังมี AgX HDR view, Rec.2100-PQ/HLG displays และ ACES 1.3/2.0 views สำหรับงาน color grading ระดับมืออาชีพ

    ฟีเจอร์ใหม่ด้านการสร้างสรรค์
    Blender 5.0 เพิ่มเครื่องมือใหม่ๆ เช่น
    Storyboarding template และ workspace สำหรับงาน pre-production
    Geometry Nodes-based modifiers 6 แบบใหม่
    Curve drawing และ Curve Data panel ที่ปรับปรุงให้ใช้งานง่ายขึ้น
    Cylinder curve display type เพื่อให้เส้นโค้งดูสมจริงมากขึ้น
    Human base mesh bundle สำหรับ skeleton assets ที่สมจริง

    ปรับปรุงประสิทธิภาพและ UI
    Blender 5.0 ยังมาพร้อมกับการปรับปรุง UI เช่น drag-and-drop ใน Shape Keys, snapping sidebar, และการปรับ theme settings ให้สร้าง custom themes ได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเพิ่ม Zstd compression สำหรับ point caches และการปรับปรุง GPU requirements ให้รองรับ NVIDIA, AMD และ Intel รุ่นใหม่ๆ

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ด้านการแสดงผล
    รองรับ HDR และ wide gamut colors บน Wayland + Vulkan
    เพิ่ม AgX HDR view และ Rec.2100 displays

    ฟีเจอร์สร้างสรรค์
    Storyboarding workspace และ Geometry Nodes modifiers
    Human base mesh bundle และ Curve tools ที่ปรับปรุงใหม่

    การปรับปรุง UI และระบบ
    Drag-and-drop ใน Shape Keys, snapping sidebar
    Theme settings ที่ง่ายขึ้น และ Zstd compression

    https://9to5linux.com/blender-5-0-open-source-3d-graphics-app-is-now-available-for-download
    🎨 Blender 5.0 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Blender 5.0 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ 3D graphics แบบโอเพนซอร์ส ได้ถูกปล่อยออกมาแล้ว โดยมาพร้อมกับการปรับปรุงครั้งใหญ่ทั้งด้านการแสดงผล, เครื่องมือสร้างสรรค์ และการรองรับฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างงาน 3D ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมจริงมากขึ้น 🌈 รองรับ HDR และ Wide Gamut Colors หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญคือการรองรับ HDR และ wide gamut colors บน Linux เมื่อใช้ Wayland และ Vulkan backend ซึ่งช่วยให้การทำงานด้านการปรับแต่งสีและการเรนเดอร์วิดีโอ HDR มีความแม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ยังมี AgX HDR view, Rec.2100-PQ/HLG displays และ ACES 1.3/2.0 views สำหรับงาน color grading ระดับมืออาชีพ 🛠️ ฟีเจอร์ใหม่ด้านการสร้างสรรค์ Blender 5.0 เพิ่มเครื่องมือใหม่ๆ เช่น 🔰 Storyboarding template และ workspace สำหรับงาน pre-production 🔰 Geometry Nodes-based modifiers 6 แบบใหม่ 🔰 Curve drawing และ Curve Data panel ที่ปรับปรุงให้ใช้งานง่ายขึ้น 🔰 Cylinder curve display type เพื่อให้เส้นโค้งดูสมจริงมากขึ้น 🔰 Human base mesh bundle สำหรับ skeleton assets ที่สมจริง ⚡ ปรับปรุงประสิทธิภาพและ UI Blender 5.0 ยังมาพร้อมกับการปรับปรุง UI เช่น drag-and-drop ใน Shape Keys, snapping sidebar, และการปรับ theme settings ให้สร้าง custom themes ได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเพิ่ม Zstd compression สำหรับ point caches และการปรับปรุง GPU requirements ให้รองรับ NVIDIA, AMD และ Intel รุ่นใหม่ๆ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ด้านการแสดงผล ➡️ รองรับ HDR และ wide gamut colors บน Wayland + Vulkan ➡️ เพิ่ม AgX HDR view และ Rec.2100 displays ✅ ฟีเจอร์สร้างสรรค์ ➡️ Storyboarding workspace และ Geometry Nodes modifiers ➡️ Human base mesh bundle และ Curve tools ที่ปรับปรุงใหม่ ✅ การปรับปรุง UI และระบบ ➡️ Drag-and-drop ใน Shape Keys, snapping sidebar ➡️ Theme settings ที่ง่ายขึ้น และ Zstd compression https://9to5linux.com/blender-5-0-open-source-3d-graphics-app-is-now-available-for-download
    9TO5LINUX.COM
    Blender 5.0 Open-Source 3D Graphics App Is Now Available for Download - 9to5Linux
    Blender 5.0 free and open-source 3D computer graphics software tool set is now available for download as a major update with new features.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • Asus เพิ่มการจัดการพลังงานแยก E-Core/P-Core บน ROG Ally X

    Asus ได้เปิดตัวอัปเดต Armory Crate SE เวอร์ชันใหม่ที่มาพร้อมการปรับปรุงครั้งใหญ่สำหรับเครื่องเกมพกพา ROG Ally และ Ally X โดยฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดคือการเพิ่มตัวเลือก การจัดการพลังงานแยกสำหรับ Efficiency Core (E-Core) และ Performance Core (P-Core) บนชิป AMD Z2 Extreme (Z2E) ที่ใช้ใน ROG Ally X ซึ่งเป็นการออกแบบแบบไฮบริดที่รวม 3 Zen 5 P-Core และ 5 Zen 5C E-Core เข้าด้วยกัน

    ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมการใช้พลังงานของแต่ละกลุ่มคอร์ได้ แต่การอัปเดตนี้ทำให้สามารถปรับแต่ง TDP ของแต่ละกลุ่มคอร์ ได้ตามต้องการ เช่น ลดพลังงานของ P-Core เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่เมื่อเล่นเกมเบา ๆ หรือเพิ่มพลังงานให้ P-Core เพื่อดันเฟรมเรตในเกมที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    นอกจากฟีเจอร์หลักแล้ว Asus ยังได้ปรับปรุง FPS Limiter โดยเปลี่ยนค่า Preset จาก 45 FPS เป็น 40 FPS เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง รวมถึงเพิ่มตัวเลือก Windows Power Mode ในโหมด Manual และแก้ไขบั๊กต่าง ๆ ที่เคยสร้างปัญหาในการใช้งาน อีกทั้งยังมีการปรับปรุง UI สีสันใหม่ และเพิ่มการรองรับ Xbox Fullscreen Experience ที่สามารถเข้าออกได้ด้วยปุ่มลัดที่ผู้ใช้กำหนดเอง

    การอัปเดตนี้ยังมาพร้อม MCU และ BIOS update ที่ช่วยปรับปรุงการใช้พลังงานในโหมด Windows Modern Standby, เพิ่มแรงสั่นสะเทือนของ impulse triggers และทำให้ระบบ Cloud Recovery ทำงานได้ราบรื่นขึ้น ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมบน ROG Ally ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Armory Crate SE อัปเดตใหม่บน ROG Ally และ Ally X
    เพิ่มการจัดการพลังงานแยกสำหรับ E-Core และ P-Core บนชิป Z2 Extreme

    ผู้ใช้สามารถปรับแต่ง TDP ของแต่ละกลุ่มคอร์ได้
    เลือกเน้นประสิทธิภาพหรือยืดอายุแบตเตอรี่ตามการใช้งาน

    FPS Limiter ถูกปรับจาก 45 FPS เป็น 40 FPS
    เพื่อให้เหมาะสมกับการเล่นเกมจริงและการประหยัดพลังงาน

    เพิ่ม Windows Power Mode และ Xbox Fullscreen Experience
    ใช้งานได้สะดวกขึ้นด้วยปุ่มลัดที่กำหนดเอง

    MCU และ BIOS update ปรับปรุงระบบโดยรวม
    ลดการใช้พลังงาน, ปรับปรุงแรงสั่นสะเทือน และทำให้ Cloud Recovery ราบรื่นขึ้น

    การปรับแต่งพลังงานผิดพลาดอาจทำให้เครื่องไม่เสถียร
    ผู้ใช้ควรระวังการตั้งค่า TDP ที่สูงหรือต่ำเกินไป

    FPS Limiter ที่ต่ำลงอาจไม่เหมาะกับเกมที่ต้องการความลื่นไหลสูง
    ผู้เล่นที่เน้นเฟรมเรตสูงควรปรับแต่งเองตามความเหมาะสม

    https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/asus-adds-separate-e-core-and-p-core-power-management-to-the-z2-extreme-powered-rog-xbox-ally-x-major-armory-crate-se-update-released-for-all-of-its-gaming-handhelds
    🎮 Asus เพิ่มการจัดการพลังงานแยก E-Core/P-Core บน ROG Ally X Asus ได้เปิดตัวอัปเดต Armory Crate SE เวอร์ชันใหม่ที่มาพร้อมการปรับปรุงครั้งใหญ่สำหรับเครื่องเกมพกพา ROG Ally และ Ally X โดยฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดคือการเพิ่มตัวเลือก การจัดการพลังงานแยกสำหรับ Efficiency Core (E-Core) และ Performance Core (P-Core) บนชิป AMD Z2 Extreme (Z2E) ที่ใช้ใน ROG Ally X ซึ่งเป็นการออกแบบแบบไฮบริดที่รวม 3 Zen 5 P-Core และ 5 Zen 5C E-Core เข้าด้วยกัน ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมการใช้พลังงานของแต่ละกลุ่มคอร์ได้ แต่การอัปเดตนี้ทำให้สามารถปรับแต่ง TDP ของแต่ละกลุ่มคอร์ ได้ตามต้องการ เช่น ลดพลังงานของ P-Core เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่เมื่อเล่นเกมเบา ๆ หรือเพิ่มพลังงานให้ P-Core เพื่อดันเฟรมเรตในเกมที่ต้องการประสิทธิภาพสูง นอกจากฟีเจอร์หลักแล้ว Asus ยังได้ปรับปรุง FPS Limiter โดยเปลี่ยนค่า Preset จาก 45 FPS เป็น 40 FPS เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง รวมถึงเพิ่มตัวเลือก Windows Power Mode ในโหมด Manual และแก้ไขบั๊กต่าง ๆ ที่เคยสร้างปัญหาในการใช้งาน อีกทั้งยังมีการปรับปรุง UI สีสันใหม่ และเพิ่มการรองรับ Xbox Fullscreen Experience ที่สามารถเข้าออกได้ด้วยปุ่มลัดที่ผู้ใช้กำหนดเอง การอัปเดตนี้ยังมาพร้อม MCU และ BIOS update ที่ช่วยปรับปรุงการใช้พลังงานในโหมด Windows Modern Standby, เพิ่มแรงสั่นสะเทือนของ impulse triggers และทำให้ระบบ Cloud Recovery ทำงานได้ราบรื่นขึ้น ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมบน ROG Ally ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Armory Crate SE อัปเดตใหม่บน ROG Ally และ Ally X ➡️ เพิ่มการจัดการพลังงานแยกสำหรับ E-Core และ P-Core บนชิป Z2 Extreme ✅ ผู้ใช้สามารถปรับแต่ง TDP ของแต่ละกลุ่มคอร์ได้ ➡️ เลือกเน้นประสิทธิภาพหรือยืดอายุแบตเตอรี่ตามการใช้งาน ✅ FPS Limiter ถูกปรับจาก 45 FPS เป็น 40 FPS ➡️ เพื่อให้เหมาะสมกับการเล่นเกมจริงและการประหยัดพลังงาน ✅ เพิ่ม Windows Power Mode และ Xbox Fullscreen Experience ➡️ ใช้งานได้สะดวกขึ้นด้วยปุ่มลัดที่กำหนดเอง ✅ MCU และ BIOS update ปรับปรุงระบบโดยรวม ➡️ ลดการใช้พลังงาน, ปรับปรุงแรงสั่นสะเทือน และทำให้ Cloud Recovery ราบรื่นขึ้น ‼️ การปรับแต่งพลังงานผิดพลาดอาจทำให้เครื่องไม่เสถียร ⛔ ผู้ใช้ควรระวังการตั้งค่า TDP ที่สูงหรือต่ำเกินไป ‼️ FPS Limiter ที่ต่ำลงอาจไม่เหมาะกับเกมที่ต้องการความลื่นไหลสูง ⛔ ผู้เล่นที่เน้นเฟรมเรตสูงควรปรับแต่งเองตามความเหมาะสม https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/asus-adds-separate-e-core-and-p-core-power-management-to-the-z2-extreme-powered-rog-xbox-ally-x-major-armory-crate-se-update-released-for-all-of-its-gaming-handhelds
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • 20 ปีของความพยายามในการถอดรหัสไฟล์ .lin

    บทความ A File Format Uncracked for 20 Years โดย Lander เล่าประสบการณ์การพยายาม รีเวิร์สเอนจิเนียร์ไฟล์ .lin ของเกม Splinter Cell (2002) ซึ่งใช้ Unreal Engine 2 และยังคงเป็นปริศนามากว่าสองทศวรรษ แม้จะมีการศึกษามากมาย แต่โครงสร้างไฟล์ยังไม่ถูกถอดรหัสอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากการจัดเก็บข้อมูลแบบบีบอัดและการอ่านที่ซับซ้อน

    จุดเริ่มต้นจาก Splinter Cell
    ผู้เขียนเล่าว่า Splinter Cell บน Xbox ดั้งเดิมเป็นเกมที่ทำให้เขาสนใจการแฮ็กและการเขียนโปรแกรม เขาพยายามค้นหาคอนเทนต์ที่ถูกตัดออกจากเกม เช่น debug menu, voice lines หรือด่านที่ไม่ถูกปล่อย แต่พบว่าไฟล์ที่สำคัญคือ .lin ซึ่งไม่เคยมีใครถอดรหัสได้ชัดเจน

    โครงสร้างไฟล์ .lin
    ไฟล์ .lin มีลักษณะคล้าย container ที่บรรจุข้อมูลหลายส่วน เช่น maps, textures และ scripts โดยใช้ zlib compression และมีการจัดเรียงข้อมูลแบบไม่สามารถ seek ได้ (ต้องอ่านต่อเนื่อง) ทำให้การวิเคราะห์ยากมาก นอกจากนี้ยังมี file table ที่บันทึก offset และ length ของไฟล์ย่อย แต่ค่าที่บันทึกไว้กลับไม่ตรงกับข้อมูลจริง

    ความพยายามในการรีเวิร์สเอนจิเนียร์
    ผู้เขียนใช้ emulator (xemu) และ debugger เพื่อติดตามการอ่านไฟล์ พบว่า engine ใช้วิธี lazy loading และ interleaving data ระหว่าง object exports ทำให้ไม่สามารถอ่านไฟล์แบบตรงไปตรงมาได้ ต้องเข้าใจการ deserialize ของแต่ละ class ใน C++ ที่ engine ใช้ ซึ่งซับซ้อนและไม่เคยมีเอกสารชัดเจนมาก่อน

    เหตุผลที่ไฟล์ถูกออกแบบเช่นนี้
    การออกแบบ .lin สะท้อนข้อจำกัดของ Xbox รุ่นแรกที่มี RAM เพียง 64MB และต้องโหลดข้อมูลจากแผ่นดิสก์อย่างรวดเร็ว การบีบอัดและการจัดเรียงข้อมูลแบบ sequential read ช่วยลดการ seek บนสื่อจริงและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็ทำให้การถอดรหัสไฟล์ในภายหลังแทบเป็นไปไม่ได้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไฟล์ .lin ของ Splinter Cell เป็น container format
    ใช้ zlib compression และเก็บ maps, textures, scripts

    file table มีข้อมูล offset และ length
    แต่ค่าที่บันทึกไม่ตรงกับข้อมูลจริง ทำให้ parsing ยาก

    engine ใช้ lazy loading และ interleaving data
    ต้องเข้าใจการ deserialize ของ object ใน C++

    การออกแบบไฟล์สะท้อนข้อจำกัดของ Xbox รุ่นแรก
    RAM 64MB และการอ่านจากแผ่นดิสก์ต้องเร็วและมีประสิทธิภาพ

    การถอดรหัสไฟล์ .lin ยังไม่สมบูรณ์
    ต้องใช้ความเข้าใจลึกใน Unreal Engine 2 และโครงสร้างภายในเกม

    การ reverse engineer มีความเสี่ยงด้านเวลาและความซับซ้อนสูง
    อาจไม่สามารถนำไปใช้กับเกมอื่น ๆ ได้โดยตรง

    https://landaire.net/a-file-format-uncracked-for-20-years/
    📁 20 ปีของความพยายามในการถอดรหัสไฟล์ .lin บทความ A File Format Uncracked for 20 Years โดย Lander เล่าประสบการณ์การพยายาม รีเวิร์สเอนจิเนียร์ไฟล์ .lin ของเกม Splinter Cell (2002) ซึ่งใช้ Unreal Engine 2 และยังคงเป็นปริศนามากว่าสองทศวรรษ แม้จะมีการศึกษามากมาย แต่โครงสร้างไฟล์ยังไม่ถูกถอดรหัสอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากการจัดเก็บข้อมูลแบบบีบอัดและการอ่านที่ซับซ้อน 🎮 จุดเริ่มต้นจาก Splinter Cell ผู้เขียนเล่าว่า Splinter Cell บน Xbox ดั้งเดิมเป็นเกมที่ทำให้เขาสนใจการแฮ็กและการเขียนโปรแกรม เขาพยายามค้นหาคอนเทนต์ที่ถูกตัดออกจากเกม เช่น debug menu, voice lines หรือด่านที่ไม่ถูกปล่อย แต่พบว่าไฟล์ที่สำคัญคือ .lin ซึ่งไม่เคยมีใครถอดรหัสได้ชัดเจน 🗂️ โครงสร้างไฟล์ .lin ไฟล์ .lin มีลักษณะคล้าย container ที่บรรจุข้อมูลหลายส่วน เช่น maps, textures และ scripts โดยใช้ zlib compression และมีการจัดเรียงข้อมูลแบบไม่สามารถ seek ได้ (ต้องอ่านต่อเนื่อง) ทำให้การวิเคราะห์ยากมาก นอกจากนี้ยังมี file table ที่บันทึก offset และ length ของไฟล์ย่อย แต่ค่าที่บันทึกไว้กลับไม่ตรงกับข้อมูลจริง 🔍 ความพยายามในการรีเวิร์สเอนจิเนียร์ ผู้เขียนใช้ emulator (xemu) และ debugger เพื่อติดตามการอ่านไฟล์ พบว่า engine ใช้วิธี lazy loading และ interleaving data ระหว่าง object exports ทำให้ไม่สามารถอ่านไฟล์แบบตรงไปตรงมาได้ ต้องเข้าใจการ deserialize ของแต่ละ class ใน C++ ที่ engine ใช้ ซึ่งซับซ้อนและไม่เคยมีเอกสารชัดเจนมาก่อน 💡 เหตุผลที่ไฟล์ถูกออกแบบเช่นนี้ การออกแบบ .lin สะท้อนข้อจำกัดของ Xbox รุ่นแรกที่มี RAM เพียง 64MB และต้องโหลดข้อมูลจากแผ่นดิสก์อย่างรวดเร็ว การบีบอัดและการจัดเรียงข้อมูลแบบ sequential read ช่วยลดการ seek บนสื่อจริงและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็ทำให้การถอดรหัสไฟล์ในภายหลังแทบเป็นไปไม่ได้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไฟล์ .lin ของ Splinter Cell เป็น container format ➡️ ใช้ zlib compression และเก็บ maps, textures, scripts ✅ file table มีข้อมูล offset และ length ➡️ แต่ค่าที่บันทึกไม่ตรงกับข้อมูลจริง ทำให้ parsing ยาก ✅ engine ใช้ lazy loading และ interleaving data ➡️ ต้องเข้าใจการ deserialize ของ object ใน C++ ✅ การออกแบบไฟล์สะท้อนข้อจำกัดของ Xbox รุ่นแรก ➡️ RAM 64MB และการอ่านจากแผ่นดิสก์ต้องเร็วและมีประสิทธิภาพ ‼️ การถอดรหัสไฟล์ .lin ยังไม่สมบูรณ์ ⛔ ต้องใช้ความเข้าใจลึกใน Unreal Engine 2 และโครงสร้างภายในเกม ‼️ การ reverse engineer มีความเสี่ยงด้านเวลาและความซับซ้อนสูง ⛔ อาจไม่สามารถนำไปใช้กับเกมอื่น ๆ ได้โดยตรง https://landaire.net/a-file-format-uncracked-for-20-years/
    LANDAIRE.NET
    A File Format Uncracked for 20 Years
    "I’ve had enough reasonable file formats fired at me in my time to tell you that wasn’t one" - Sam Fisher
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคล็ดลับการใช้ Kindle Scribe ให้คุ้มค่า

    Kindle Scribe รุ่นล่าสุดถูกออกแบบให้เป็นมากกว่า e-reader ธรรมดา ด้วยหน้าจอ 11 นิ้วแบบ anti-glare ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกระดาษจริง พร้อมปากกา Premium Pen ที่สามารถปรับแต่งปุ่มลัดได้ เช่น ใช้เป็นปากกา, ไฮไลท์, ยางลบ หรือ Sticky Note ผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้จากเมนู Pen Settings เพื่อให้การจดบันทึกและการอ่านสะดวกขึ้น

    อีกฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือการสร้าง Sticky Notes ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเขียนบันทึกลงบนหนังสือหรือเอกสารได้โดยตรง และยังสามารถ ส่งออก Sticky Notes เพื่อเก็บรวมไว้ในที่เดียว เหมาะสำหรับนักอ่านที่ต้องการจดจำประเด็นสำคัญหรือผู้ทำงานที่ต้องการบันทึกไอเดียระหว่างอ่านเอกสาร

    สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก Kindle Scribe ยังมีฟีเจอร์ VoiceView ที่สามารถอ่านออกเสียงเนื้อหาให้ผู้ใช้ฟังได้ โดยต้องเชื่อมต่อกับหูฟังหรือลำโพง Bluetooth ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาการมองเห็นหรือผู้ที่อยากฟังแทนการอ่านสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ง่ายขึ้น

    นอกจากนี้ยังมีระบบ Household Library ที่ช่วยให้แชร์หนังสือกับสมาชิกครอบครัวได้สูงสุด 2 ผู้ใหญ่และเด็ก ๆ ผ่านบัญชี Amazon Family รวมถึงการเข้าถึง eBooks ฟรี จากบริการอย่าง OverDrive และ BookBub ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดค่าใช้จ่ายและมีหนังสือใหม่ ๆ ให้อ่านตลอดเวลา

    สรุปสาระสำคัญ
    การปรับแต่งปากกา Premium Pen
    ตั้งค่าปุ่มลัดเป็น ปากกา, ไฮไลท์, ยางลบ หรือ Sticky Note
    ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาในเมนู Pen Settings

    การสร้างและส่งออก Sticky Notes
    เขียนบันทึกลงบนหนังสือหรือเอกสารโดยตรง
    ส่งออก Sticky Notes เพื่อรวมไว้ในที่เดียว

    ฟีเจอร์ VoiceView อ่านออกเสียง
    เชื่อมต่อหูฟัง/ลำโพง Bluetooth เพื่อฟังเนื้อหา
    ใช้ gesture ควบคุม เช่น swipe, tap, double-tap

    การแชร์เนื้อหากับครอบครัว
    รองรับ Household Library ผ่าน Amazon Family
    ตั้งค่ารหัสควบคุมสำหรับเด็กเพื่อความปลอดภัย

    การเข้าถึง eBooks ฟรีและราคาถูก
    ใช้ OverDrive และ BookBub เพื่อโหลดหนังสือฟรี
    สมัคร Kindle Unlimited เพื่ออ่านไม่จำกัด

    ข้อควรระวัง
    ฟีเจอร์ VoiceView มี learning curve ต้องฝึก gesture
    การแชร์เนื้อหาต้องตั้งค่าความปลอดภัยสำหรับเด็ก

    https://www.slashgear.com/2025369/how-to-use-kindle-scribe-tips-tricks/
    📖 เคล็ดลับการใช้ Kindle Scribe ให้คุ้มค่า Kindle Scribe รุ่นล่าสุดถูกออกแบบให้เป็นมากกว่า e-reader ธรรมดา ด้วยหน้าจอ 11 นิ้วแบบ anti-glare ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกระดาษจริง พร้อมปากกา Premium Pen ที่สามารถปรับแต่งปุ่มลัดได้ เช่น ใช้เป็นปากกา, ไฮไลท์, ยางลบ หรือ Sticky Note ผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้จากเมนู Pen Settings เพื่อให้การจดบันทึกและการอ่านสะดวกขึ้น อีกฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือการสร้าง Sticky Notes ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเขียนบันทึกลงบนหนังสือหรือเอกสารได้โดยตรง และยังสามารถ ส่งออก Sticky Notes เพื่อเก็บรวมไว้ในที่เดียว เหมาะสำหรับนักอ่านที่ต้องการจดจำประเด็นสำคัญหรือผู้ทำงานที่ต้องการบันทึกไอเดียระหว่างอ่านเอกสาร สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก Kindle Scribe ยังมีฟีเจอร์ VoiceView ที่สามารถอ่านออกเสียงเนื้อหาให้ผู้ใช้ฟังได้ โดยต้องเชื่อมต่อกับหูฟังหรือลำโพง Bluetooth ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาการมองเห็นหรือผู้ที่อยากฟังแทนการอ่านสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบ Household Library ที่ช่วยให้แชร์หนังสือกับสมาชิกครอบครัวได้สูงสุด 2 ผู้ใหญ่และเด็ก ๆ ผ่านบัญชี Amazon Family รวมถึงการเข้าถึง eBooks ฟรี จากบริการอย่าง OverDrive และ BookBub ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดค่าใช้จ่ายและมีหนังสือใหม่ ๆ ให้อ่านตลอดเวลา 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การปรับแต่งปากกา Premium Pen ➡️ ตั้งค่าปุ่มลัดเป็น ปากกา, ไฮไลท์, ยางลบ หรือ Sticky Note ➡️ ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาในเมนู Pen Settings ✅ การสร้างและส่งออก Sticky Notes ➡️ เขียนบันทึกลงบนหนังสือหรือเอกสารโดยตรง ➡️ ส่งออก Sticky Notes เพื่อรวมไว้ในที่เดียว ✅ ฟีเจอร์ VoiceView อ่านออกเสียง ➡️ เชื่อมต่อหูฟัง/ลำโพง Bluetooth เพื่อฟังเนื้อหา ➡️ ใช้ gesture ควบคุม เช่น swipe, tap, double-tap ✅ การแชร์เนื้อหากับครอบครัว ➡️ รองรับ Household Library ผ่าน Amazon Family ➡️ ตั้งค่ารหัสควบคุมสำหรับเด็กเพื่อความปลอดภัย ✅ การเข้าถึง eBooks ฟรีและราคาถูก ➡️ ใช้ OverDrive และ BookBub เพื่อโหลดหนังสือฟรี ➡️ สมัคร Kindle Unlimited เพื่ออ่านไม่จำกัด ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ฟีเจอร์ VoiceView มี learning curve ต้องฝึก gesture ⛔ การแชร์เนื้อหาต้องตั้งค่าความปลอดภัยสำหรับเด็ก https://www.slashgear.com/2025369/how-to-use-kindle-scribe-tips-tricks/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Kindle Scribe Tips & Tricks New Users Will Want To Know - SlashGear
    Are you using your Kindle Scribe like a regular old e-reader? Amazon's shiniest e-ink tablet is certainly up to the task, but it can do a lot more.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • NetworkManager 1.54.2 เพิ่มการตั้งค่า HSR Protocol

    ทีมพัฒนา NetworkManager ได้ปล่อย เวอร์ชัน 1.54.2 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตย่อยในซีรีส์ 1.54 โดยมีการเพิ่มการรองรับการตั้งค่า HSR (High-availability Seamless Redundancy) Protocol Version ผ่าน property ใหม่ hsr.protocol-version รวมถึงการตั้งค่า HSR Interlink Port ผ่าน hsr.interlink สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถปรับแต่งการทำงานของเครือข่ายที่ต้องการความทนทานสูงได้อย่างละเอียดมากขึ้น

    HSR คืออะไร?
    HSR เป็น Layer 2 redundancy protocol ที่กำหนดโดยมาตรฐาน IEC 62439-3 ใช้ในระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรมและระบบที่ต้องความเสถียรสูง เช่น substation automation (IEC 61850), ระบบไฟฟ้า, การขนส่ง, โรงงานที่ต้อง real-time communication

    หัวใจของ HSR คือ:
    การทำงานแบบ Ring redundancy โดยไม่มีเวลาสลับเส้นทาง (0 ms recovery)
    อุปกรณ์ HSR จะเชื่อมต่อกันเป็นวง (ring) และ ทุกเฟรมที่ส่งออกมาจะถูกส่งสองทางพร้อมกัน — วิ่งตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกา หากทางใดทางหนึ่งขาด ระบบจะยังคงรับข้อมูลจากอีกทางหนึ่งทันที จึงไม่มี Downtime แม้เกิด failure

    นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำงานกับค่า sriov.vfs โดยสามารถ reapply ได้หากค่า sriov.total-vfs ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งช่วยให้การจัดการ Virtual Functions บน SR-IOV มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยไม่ต้องรีสตาร์ทระบบเครือข่ายทั้งหมด

    แม้จะเป็นการอัปเดตเล็ก แต่ NetworkManager 1.54.2 ถือเป็นการต่อยอดจากเวอร์ชัน 1.54 ที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2025 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ เช่น การรองรับการตั้งค่า IPv4 Forwarding ต่ออุปกรณ์, การเพิ่มการจัดการ OCI Baremetal ใน nm-cloud-setup และการปรับปรุง UI ของ nmtui ให้รองรับการตั้งค่า Loopback Interface

    ขณะเดียวกัน ทีมพัฒนากำลังเดินหน้าสู่ NetworkManager 1.56 ซึ่งจะเป็นการอัปเดตใหญ่ โดยมีแผนเพิ่มการจัดการ WireGuard peers ผ่าน nmcli, รองรับ DNS Hostname ที่ยาวกว่า 64 ตัวอักษร และการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ systemd-resolved DNSSEC เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของระบบเครือข่าย

    สรุปสาระสำคัญ
    การอัปเดตใหม่ใน NetworkManager 1.54.2
    รองรับการตั้งค่า HSR Protocol Version (hsr.protocol-version)
    รองรับการตั้งค่า HSR Interlink Port (hsr.interlink)

    การปรับปรุง SR-IOV
    สามารถ reapply ค่า sriov.vfs ได้
    ไม่ต้องรีสตาร์ทระบบหากค่า sriov.total-vfs ไม่เปลี่ยน

    การต่อยอดจาก NetworkManager 1.54
    เพิ่ม IPv4 Forwarding ต่ออุปกรณ์
    รองรับ OCI Baremetal และปรับปรุง UI ของ nmtui

    แผนใน NetworkManager 1.56
    เพิ่มการจัดการ WireGuard peers ผ่าน nmcli
    รองรับ DNS Hostname ที่ยาวกว่า 64 ตัวอักษร
    ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ systemd-resolved DNSSEC

    ข้อควรระวัง
    การตั้งค่า HSR ต้องใช้กับระบบที่รองรับเท่านั้น
    หาก SR-IOV ถูกตั้งค่าไม่ถูกต้อง อาจทำให้ระบบเครือข่ายไม่เสถียร

    https://9to5linux.com/networkmanager-1-54-2-adds-support-for-configuring-the-hsr-protocol-version
    🌐 NetworkManager 1.54.2 เพิ่มการตั้งค่า HSR Protocol ทีมพัฒนา NetworkManager ได้ปล่อย เวอร์ชัน 1.54.2 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตย่อยในซีรีส์ 1.54 โดยมีการเพิ่มการรองรับการตั้งค่า HSR (High-availability Seamless Redundancy) Protocol Version ผ่าน property ใหม่ hsr.protocol-version รวมถึงการตั้งค่า HSR Interlink Port ผ่าน hsr.interlink สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถปรับแต่งการทำงานของเครือข่ายที่ต้องการความทนทานสูงได้อย่างละเอียดมากขึ้น ✅ HSR คืออะไร? HSR เป็น Layer 2 redundancy protocol ที่กำหนดโดยมาตรฐาน IEC 62439-3 ใช้ในระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรมและระบบที่ต้องความเสถียรสูง เช่น substation automation (IEC 61850), ระบบไฟฟ้า, การขนส่ง, โรงงานที่ต้อง real-time communication 💖 หัวใจของ HSR คือ: 🔁 การทำงานแบบ Ring redundancy โดยไม่มีเวลาสลับเส้นทาง (0 ms recovery) อุปกรณ์ HSR จะเชื่อมต่อกันเป็นวง (ring) และ ทุกเฟรมที่ส่งออกมาจะถูกส่งสองทางพร้อมกัน — วิ่งตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกา หากทางใดทางหนึ่งขาด ระบบจะยังคงรับข้อมูลจากอีกทางหนึ่งทันที จึงไม่มี Downtime แม้เกิด failure นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำงานกับค่า sriov.vfs โดยสามารถ reapply ได้หากค่า sriov.total-vfs ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งช่วยให้การจัดการ Virtual Functions บน SR-IOV มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยไม่ต้องรีสตาร์ทระบบเครือข่ายทั้งหมด แม้จะเป็นการอัปเดตเล็ก แต่ NetworkManager 1.54.2 ถือเป็นการต่อยอดจากเวอร์ชัน 1.54 ที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2025 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ เช่น การรองรับการตั้งค่า IPv4 Forwarding ต่ออุปกรณ์, การเพิ่มการจัดการ OCI Baremetal ใน nm-cloud-setup และการปรับปรุง UI ของ nmtui ให้รองรับการตั้งค่า Loopback Interface ขณะเดียวกัน ทีมพัฒนากำลังเดินหน้าสู่ NetworkManager 1.56 ซึ่งจะเป็นการอัปเดตใหญ่ โดยมีแผนเพิ่มการจัดการ WireGuard peers ผ่าน nmcli, รองรับ DNS Hostname ที่ยาวกว่า 64 ตัวอักษร และการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ systemd-resolved DNSSEC เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของระบบเครือข่าย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การอัปเดตใหม่ใน NetworkManager 1.54.2 ➡️ รองรับการตั้งค่า HSR Protocol Version (hsr.protocol-version) ➡️ รองรับการตั้งค่า HSR Interlink Port (hsr.interlink) ✅ การปรับปรุง SR-IOV ➡️ สามารถ reapply ค่า sriov.vfs ได้ ➡️ ไม่ต้องรีสตาร์ทระบบหากค่า sriov.total-vfs ไม่เปลี่ยน ✅ การต่อยอดจาก NetworkManager 1.54 ➡️ เพิ่ม IPv4 Forwarding ต่ออุปกรณ์ ➡️ รองรับ OCI Baremetal และปรับปรุง UI ของ nmtui ✅ แผนใน NetworkManager 1.56 ➡️ เพิ่มการจัดการ WireGuard peers ผ่าน nmcli ➡️ รองรับ DNS Hostname ที่ยาวกว่า 64 ตัวอักษร ➡️ ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ systemd-resolved DNSSEC ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ การตั้งค่า HSR ต้องใช้กับระบบที่รองรับเท่านั้น ⛔ หาก SR-IOV ถูกตั้งค่าไม่ถูกต้อง อาจทำให้ระบบเครือข่ายไม่เสถียร https://9to5linux.com/networkmanager-1-54-2-adds-support-for-configuring-the-hsr-protocol-version
    9TO5LINUX.COM
    NetworkManager 1.54.2 Adds Support for Configuring the HSR Protocol Version - 9to5Linux
    NetworkManager 1.54.2 open-source network connection manager is now available for downlaoad with various new features.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • Kirin 9030 กับข่าวลือ “3nm เทียบเท่า”

    มีการเผยแพร่บน Weibo โดย tipster ชื่อ Momentary Digital ว่า Kirin 9030 จะถูกผลิตบนกระบวนการ “equivalent 3nm” และจะใช้ในสมาร์ตโฟนเกมมิ่งรุ่นใหม่ของ Huawei ในปี 2026 อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชี้ว่าเป็นการกล่าวเกินจริง เพราะจีนยังไม่สามารถผลิตชิปที่ต่ำกว่า 7nm ได้ในระดับ mass production.

    ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีการผลิต
    แม้ Huawei และ SMIC เคยประกาศพัฒนากระบวนการ 5nm แต่ยังไม่สามารถผลิตเชิงพาณิชย์ได้ เนื่องจาก จีนยังขาดเครื่อง EUV lithography ที่จำเป็นสำหรับการผลิต wafer ที่ต่ำกว่า 7nm ทำให้การอ้างว่า Kirin 9030 จะเทียบเท่า TSMC 3nm (N3P) เป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ.

    การแข่งขันกับชิปเรือธง
    ข่าวลือยังระบุว่า Kirin 9030 อาจแข่งขันกับ Google Tensor G5 ที่ผลิตบน TSMC 3nm ได้ แต่ผู้เชี่ยวชี้ว่า Huawei ยังไม่สามารถท้าชนกับ Snapdragon 8 Elite Gen 5, Dimensity 9500, Apple A19 Pro หรือ Exynos 2600 ได้ คาดว่า Kirin 9030 จะมีประสิทธิภาพอยู่ระหว่าง Snapdragon 8 Gen 2 และ Gen 3 เท่านั้น.

    ความจริงกับความคาดหวัง
    แม้ Huawei จะพยายามสร้าง hype เพื่อแข่งขันกับ Apple และผู้ผลิตรายอื่นในตลาดจีน แต่ความจริงคือข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีการผลิตยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ การเปิดตัว Kirin 9030 อาจช่วยให้ Huawei มีจุดขายในตลาดเกมมิ่ง แต่ยังไม่สามารถเทียบชิปเรือธงระดับโลกได้ในเร็ว ๆ นี้.

    สรุปสาระสำคัญ
    Kirin 9030 ถูกลือว่าจะเปิดตัวต้นปี 2026
    ใช้ในสมาร์ตโฟนเกมมิ่ง Huawei Mate 80 series
    มีการอ้างว่าจะผลิตบน “equivalent 3nm”

    ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี
    จีนยังไม่มีเครื่อง EUV สำหรับการผลิตต่ำกว่า 7nm
    SMIC ยังจำกัดอยู่ที่กระบวนการ 7nm

    การแข่งขัน
    ข่าวลือว่าเทียบ Google Tensor G5 (TSMC 3nm)
    คาดว่าประสิทธิภาพอยู่ระหว่าง Snapdragon 8 Gen 2 และ Gen 3

    คำเตือน
    ข่าวลือ “3nm equivalent” เป็นการกล่าวเกินจริง
    Huawei ยังไม่สามารถแข่งขันกับ Snapdragon 8 Elite Gen 5 หรือ Apple A19 Pro ได้

    https://wccftech.com/kirin-9030-rumor-claims-it-can-compete-with-3nm-chipsets/
    📱 Kirin 9030 กับข่าวลือ “3nm เทียบเท่า” มีการเผยแพร่บน Weibo โดย tipster ชื่อ Momentary Digital ว่า Kirin 9030 จะถูกผลิตบนกระบวนการ “equivalent 3nm” และจะใช้ในสมาร์ตโฟนเกมมิ่งรุ่นใหม่ของ Huawei ในปี 2026 อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชี้ว่าเป็นการกล่าวเกินจริง เพราะจีนยังไม่สามารถผลิตชิปที่ต่ำกว่า 7nm ได้ในระดับ mass production. ⚙️ ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีการผลิต แม้ Huawei และ SMIC เคยประกาศพัฒนากระบวนการ 5nm แต่ยังไม่สามารถผลิตเชิงพาณิชย์ได้ เนื่องจาก จีนยังขาดเครื่อง EUV lithography ที่จำเป็นสำหรับการผลิต wafer ที่ต่ำกว่า 7nm ทำให้การอ้างว่า Kirin 9030 จะเทียบเท่า TSMC 3nm (N3P) เป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ. 🆚 การแข่งขันกับชิปเรือธง ข่าวลือยังระบุว่า Kirin 9030 อาจแข่งขันกับ Google Tensor G5 ที่ผลิตบน TSMC 3nm ได้ แต่ผู้เชี่ยวชี้ว่า Huawei ยังไม่สามารถท้าชนกับ Snapdragon 8 Elite Gen 5, Dimensity 9500, Apple A19 Pro หรือ Exynos 2600 ได้ คาดว่า Kirin 9030 จะมีประสิทธิภาพอยู่ระหว่าง Snapdragon 8 Gen 2 และ Gen 3 เท่านั้น. ⚠️ ความจริงกับความคาดหวัง แม้ Huawei จะพยายามสร้าง hype เพื่อแข่งขันกับ Apple และผู้ผลิตรายอื่นในตลาดจีน แต่ความจริงคือข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีการผลิตยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ การเปิดตัว Kirin 9030 อาจช่วยให้ Huawei มีจุดขายในตลาดเกมมิ่ง แต่ยังไม่สามารถเทียบชิปเรือธงระดับโลกได้ในเร็ว ๆ นี้. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Kirin 9030 ถูกลือว่าจะเปิดตัวต้นปี 2026 ➡️ ใช้ในสมาร์ตโฟนเกมมิ่ง Huawei Mate 80 series ➡️ มีการอ้างว่าจะผลิตบน “equivalent 3nm” ✅ ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี ➡️ จีนยังไม่มีเครื่อง EUV สำหรับการผลิตต่ำกว่า 7nm ➡️ SMIC ยังจำกัดอยู่ที่กระบวนการ 7nm ✅ การแข่งขัน ➡️ ข่าวลือว่าเทียบ Google Tensor G5 (TSMC 3nm) ➡️ คาดว่าประสิทธิภาพอยู่ระหว่าง Snapdragon 8 Gen 2 และ Gen 3 ‼️ คำเตือน ⛔ ข่าวลือ “3nm equivalent” เป็นการกล่าวเกินจริง ⛔ Huawei ยังไม่สามารถแข่งขันกับ Snapdragon 8 Elite Gen 5 หรือ Apple A19 Pro ได้ https://wccftech.com/kirin-9030-rumor-claims-it-can-compete-with-3nm-chipsets/
    WCCFTECH.COM
    Huawei’s Kirin 9030 Rumored To Be Found In A Gaming-Focused Smartphone Arriving In Early 2026, Tipster Claims It Will Feature ‘An Equivalent’ 3nm Process
    A tipster from China is hyping up the Kirin 9030 and claims that Huawei’s next SoC can match the capabilities of current 3nm chipsets
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • พบคลังเทป VHS จำนวนมหาศาลที่บันทึกข่าวโทรทัศน์สหรัฐฯ ระหว่างปี 2004–2009

    มีผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งเปิดเผยว่าเขามีเทป VHS จำนวนหลายพันม้วนที่บันทึกข่าวจากช่อง CNN, MSNBC และ Fox News ระหว่างปี 2004–2009 เทปเหล่านี้ถูกเก็บอย่างเป็นระเบียบในกล่อง McDonald’s และตอนนี้เจ้าของต้องการมอบให้ผู้ที่สามารถเก็บรักษาและดิจิไทซ์ได้ โดย Internet Archive ถูกเสนอชื่อเป็นผู้รับที่เหมาะสมที่สุด.

    เหตุการณ์สำคัญที่ถูกบันทึก
    ภายในคลังเทปนี้มีการบันทึกข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญมากมาย เช่น
    การเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2004 และ 2008
    เหตุการณ์สึนามิปี 2004 และเหตุระเบิดลอนดอนปี 2005
    การเปิดตัว iPhone รุ่นแรกในปี 2007
    วิกฤตการเงินโลกปี 2008
    การเสียชีวิตของ Michael Jackson และการแจ้งเกิดของ Lady Gaga ในปี 2009

    นอกจากข่าวแล้ว ยังมีโฆษณาและรายการบันเทิงที่สะท้อนวัฒนธรรมยุคนั้น ซึ่งอาจมีคุณค่ามากกว่าตัวข่าวเอง.

    บทบาทของ Internet Archive
    Internet Archive เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีภารกิจเก็บรักษาเนื้อหาดิจิทัลและสื่อเก่า การได้รับคลังเทปนี้จะช่วยให้พวกเขาสามารถดิจิไทซ์และเผยแพร่สู่สาธารณะ ทำให้ผู้คนเข้าถึงบันทึกข่าวและวัฒนธรรมในช่วงปี 2004–2009 ได้อย่างสะดวกและปลอดภัยในระยะยาว.

    ความท้าทายและข้อกังวล
    แม้หลายคนสนับสนุนให้ Internet Archive รับเทปเหล่านี้ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าพวกเขามีเนื้อหาที่รอการดิจิไทซ์อยู่แล้วจำนวนมาก และอาจไม่สามารถเผยแพร่ได้เร็วตามที่สาธารณะคาดหวัง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงด้านการเก็บรักษาเทปที่อาจเสื่อมสภาพหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม.

    สรุปสาระสำคัญ
    คลังเทป VHS จำนวนมหาศาลถูกค้นพบ
    บันทึกข่าวสหรัฐฯ ระหว่างปี 2004–2009
    เก็บไว้ในกล่อง McDonald’s และแจกฟรี

    เหตุการณ์สำคัญที่ถูกบันทึก
    การเลือกตั้ง, สึนามิ, เหตุระเบิดลอนดอน
    การเปิดตัว iPhone, วิกฤตการเงิน, การเสียชีวิตของ Michael Jackson

    Internet Archive มีแนวโน้มรับเทป
    เพื่อดิจิไทซ์และเผยแพร่สู่สาธารณะ
    สร้างบันทึกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

    ความท้าทายและข้อกังวล
    Internet Archive มีเนื้อหาที่รอดิจิไทซ์อยู่แล้วจำนวนมาก
    เทป VHS เสี่ยงเสื่อมสภาพหากไม่ได้รับการดูแลทันเวลา

    https://www.tomshardware.com/software/video-editing-graphic-design/gigantic-vhs-videotape-hoard-of-thousands-of-videos-stored-in-mcdonalds-boxes-being-given-away-for-free-internet-archive-looks-set-to-claim-the-tapes-of-u-s-news-output-spanning-2004-09
    📼 พบคลังเทป VHS จำนวนมหาศาลที่บันทึกข่าวโทรทัศน์สหรัฐฯ ระหว่างปี 2004–2009 มีผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งเปิดเผยว่าเขามีเทป VHS จำนวนหลายพันม้วนที่บันทึกข่าวจากช่อง CNN, MSNBC และ Fox News ระหว่างปี 2004–2009 เทปเหล่านี้ถูกเก็บอย่างเป็นระเบียบในกล่อง McDonald’s และตอนนี้เจ้าของต้องการมอบให้ผู้ที่สามารถเก็บรักษาและดิจิไทซ์ได้ โดย Internet Archive ถูกเสนอชื่อเป็นผู้รับที่เหมาะสมที่สุด. 📰 เหตุการณ์สำคัญที่ถูกบันทึก ภายในคลังเทปนี้มีการบันทึกข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญมากมาย เช่น 🎗️ การเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2004 และ 2008 🎗️ เหตุการณ์สึนามิปี 2004 และเหตุระเบิดลอนดอนปี 2005 🎗️ การเปิดตัว iPhone รุ่นแรกในปี 2007 🎗️ วิกฤตการเงินโลกปี 2008 🎗️ การเสียชีวิตของ Michael Jackson และการแจ้งเกิดของ Lady Gaga ในปี 2009 นอกจากข่าวแล้ว ยังมีโฆษณาและรายการบันเทิงที่สะท้อนวัฒนธรรมยุคนั้น ซึ่งอาจมีคุณค่ามากกว่าตัวข่าวเอง. 🏛️ บทบาทของ Internet Archive Internet Archive เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีภารกิจเก็บรักษาเนื้อหาดิจิทัลและสื่อเก่า การได้รับคลังเทปนี้จะช่วยให้พวกเขาสามารถดิจิไทซ์และเผยแพร่สู่สาธารณะ ทำให้ผู้คนเข้าถึงบันทึกข่าวและวัฒนธรรมในช่วงปี 2004–2009 ได้อย่างสะดวกและปลอดภัยในระยะยาว. ⚠️ ความท้าทายและข้อกังวล แม้หลายคนสนับสนุนให้ Internet Archive รับเทปเหล่านี้ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าพวกเขามีเนื้อหาที่รอการดิจิไทซ์อยู่แล้วจำนวนมาก และอาจไม่สามารถเผยแพร่ได้เร็วตามที่สาธารณะคาดหวัง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงด้านการเก็บรักษาเทปที่อาจเสื่อมสภาพหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ คลังเทป VHS จำนวนมหาศาลถูกค้นพบ ➡️ บันทึกข่าวสหรัฐฯ ระหว่างปี 2004–2009 ➡️ เก็บไว้ในกล่อง McDonald’s และแจกฟรี ✅ เหตุการณ์สำคัญที่ถูกบันทึก ➡️ การเลือกตั้ง, สึนามิ, เหตุระเบิดลอนดอน ➡️ การเปิดตัว iPhone, วิกฤตการเงิน, การเสียชีวิตของ Michael Jackson ✅ Internet Archive มีแนวโน้มรับเทป ➡️ เพื่อดิจิไทซ์และเผยแพร่สู่สาธารณะ ➡️ สร้างบันทึกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ‼️ ความท้าทายและข้อกังวล ⛔ Internet Archive มีเนื้อหาที่รอดิจิไทซ์อยู่แล้วจำนวนมาก ⛔ เทป VHS เสี่ยงเสื่อมสภาพหากไม่ได้รับการดูแลทันเวลา https://www.tomshardware.com/software/video-editing-graphic-design/gigantic-vhs-videotape-hoard-of-thousands-of-videos-stored-in-mcdonalds-boxes-being-given-away-for-free-internet-archive-looks-set-to-claim-the-tapes-of-u-s-news-output-spanning-2004-09
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ Memos ทำให้ผู้โจมตีอยู่ในระบบแม้เปลี่ยนรหัสผ่าน

    ทีมพัฒนา Memos ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม knowledge base แบบ self-hosted ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2024-21635 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 7.1) โดยปัญหานี้เกิดจากการที่ระบบ ไม่ยกเลิก Access Tokens หลังจากผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่าน ส่งผลให้ผู้โจมตีที่มี token อยู่แล้วสามารถเข้าถึงบัญชีต่อไปได้แม้เจ้าของบัญชีจะทำการ reset password

    การทดสอบ Proof of Concept (PoC) แสดงให้เห็นว่า หากผู้ใช้ล็อกอินจากสองอุปกรณ์ แล้วเปลี่ยนรหัสผ่านจากอุปกรณ์หนึ่ง อีกอุปกรณ์ยังคงสามารถใช้งานบัญชีได้ตามปกติ ซึ่งขัดกับมาตรฐานความปลอดภัยทั่วไปที่คาดว่าการเปลี่ยนรหัสผ่านจะทำให้ทุก session ถูกยกเลิกทันที

    สิ่งที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงคือ รายการ Access Tokens ไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน ทำให้ผู้ใช้ยากต่อการตรวจสอบว่า token ใดเป็นของผู้โจมตี และไม่สามารถ pinpoint ได้ว่าใครยังคงมีสิทธิ์เข้าถึงอยู่

    ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อ ทุกเวอร์ชันจนถึง v0.18.1 โดยทีม Memos ได้แก้ไขใน v0.25.2 ซึ่งบังคับให้ Access Tokens ทั้งหมดถูกยกเลิกเมื่อมีการเปลี่ยนรหัสผ่าน เพื่อให้ผู้ใช้ต้องล็อกอินใหม่ทุกครั้ง และป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2024-21635
    ระบบไม่ยกเลิก Access Tokens หลังจากเปลี่ยนรหัสผ่าน
    ผู้โจมตีที่มี token อยู่แล้วสามารถเข้าถึงบัญชีต่อไปได้

    Proof of Concept
    ล็อกอินจากสองอุปกรณ์
    เปลี่ยนรหัสผ่านจากอุปกรณ์หนึ่ง อีกอุปกรณ์ยังคงใช้งานได้

    การแก้ไข
    แก้ไขในเวอร์ชัน v0.25.2
    บังคับให้ Access Tokens ถูกยกเลิกทุกครั้งที่เปลี่ยนรหัสผ่าน

    คำเตือนและความเสี่ยง
    ผู้โจมตีสามารถคงการเข้าถึงแม้ผู้ใช้จะเปลี่ยนรหัสผ่าน
    รายการ Access Tokens ไม่มีรายละเอียด ทำให้ตรวจสอบยาก
    ผู้ใช้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่าเสี่ยงต่อการถูกเข้ายึดบัญชี

    https://securityonline.info/high-severity-memos-flaw-cve-2024-21635-allows-hackers-to-stay-logged-in-after-password-change/
    🔐 ช่องโหว่ Memos ทำให้ผู้โจมตีอยู่ในระบบแม้เปลี่ยนรหัสผ่าน ทีมพัฒนา Memos ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม knowledge base แบบ self-hosted ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2024-21635 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 7.1) โดยปัญหานี้เกิดจากการที่ระบบ ไม่ยกเลิก Access Tokens หลังจากผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่าน ส่งผลให้ผู้โจมตีที่มี token อยู่แล้วสามารถเข้าถึงบัญชีต่อไปได้แม้เจ้าของบัญชีจะทำการ reset password การทดสอบ Proof of Concept (PoC) แสดงให้เห็นว่า หากผู้ใช้ล็อกอินจากสองอุปกรณ์ แล้วเปลี่ยนรหัสผ่านจากอุปกรณ์หนึ่ง อีกอุปกรณ์ยังคงสามารถใช้งานบัญชีได้ตามปกติ ซึ่งขัดกับมาตรฐานความปลอดภัยทั่วไปที่คาดว่าการเปลี่ยนรหัสผ่านจะทำให้ทุก session ถูกยกเลิกทันที สิ่งที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงคือ รายการ Access Tokens ไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน ทำให้ผู้ใช้ยากต่อการตรวจสอบว่า token ใดเป็นของผู้โจมตี และไม่สามารถ pinpoint ได้ว่าใครยังคงมีสิทธิ์เข้าถึงอยู่ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อ ทุกเวอร์ชันจนถึง v0.18.1 โดยทีม Memos ได้แก้ไขใน v0.25.2 ซึ่งบังคับให้ Access Tokens ทั้งหมดถูกยกเลิกเมื่อมีการเปลี่ยนรหัสผ่าน เพื่อให้ผู้ใช้ต้องล็อกอินใหม่ทุกครั้ง และป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2024-21635 ➡️ ระบบไม่ยกเลิก Access Tokens หลังจากเปลี่ยนรหัสผ่าน ➡️ ผู้โจมตีที่มี token อยู่แล้วสามารถเข้าถึงบัญชีต่อไปได้ ✅ Proof of Concept ➡️ ล็อกอินจากสองอุปกรณ์ ➡️ เปลี่ยนรหัสผ่านจากอุปกรณ์หนึ่ง อีกอุปกรณ์ยังคงใช้งานได้ ✅ การแก้ไข ➡️ แก้ไขในเวอร์ชัน v0.25.2 ➡️ บังคับให้ Access Tokens ถูกยกเลิกทุกครั้งที่เปลี่ยนรหัสผ่าน ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ ผู้โจมตีสามารถคงการเข้าถึงแม้ผู้ใช้จะเปลี่ยนรหัสผ่าน ⛔ รายการ Access Tokens ไม่มีรายละเอียด ทำให้ตรวจสอบยาก ⛔ ผู้ใช้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่าเสี่ยงต่อการถูกเข้ายึดบัญชี https://securityonline.info/high-severity-memos-flaw-cve-2024-21635-allows-hackers-to-stay-logged-in-after-password-change/
    SECURITYONLINE.INFO
    High-Severity Memos Flaw (CVE-2024-21635) Allows Hackers to Stay Logged In After Password Change
    A High-severity flaw (CVE-2024-21635) in Memos fails to invalidate Access Tokens upon password change, allowing attackers to maintain access to the knowledge base. Update to v0.25.2.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ CVSS 10.0 ใน Lynx+ Gateway

    หน่วยงาน Cybersecurity and Infrastructure Security Agency (CISA) ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่หลายรายการในอุปกรณ์ Lynx+ Gateway ที่ใช้ในระบบอุตสาหกรรมและ OT (Operational Technology) โดยหนึ่งในนั้นคือ CVE-2025-58083 ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่ร้ายแรงที่สุด มีคะแนน CVSS 10.0 เนื่องจากไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ในฟังก์ชันสำคัญ ทำให้ผู้โจมตีสามารถ รีเซ็ตอุปกรณ์จากระยะไกลได้ทันที

    นอกจากนั้นยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น
    CVE-2025-55034 (CVSS 8.2): การตั้งรหัสผ่านที่อ่อนแอ เสี่ยงต่อการ brute-force
    CVE-2025-59780 (CVSS 7.5): ขาดการตรวจสอบสิทธิ์ในการดึงข้อมูล ทำให้เข้าถึงข้อมูลภายในได้
    CVE-2025-62765 (CVSS 7.5): การส่งข้อมูลสำคัญแบบ cleartext ทำให้ผู้โจมตีสามารถดักจับรหัสผ่านและข้อมูลได้

    สิ่งที่น่ากังวลคือ GIC ไม่ตอบสนองต่อการประสานงานกับ CISA ทำให้ผู้ใช้งานต้องหาวิธีป้องกันเอง เช่น การจำกัดการเข้าถึงเครือข่าย, ใช้ firewall, และตรวจสอบ traffic อย่างเข้มงวด เนื่องจากอุปกรณ์นี้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในระบบควบคุมอุตสาหกรรม การโจมตีอาจนำไปสู่การหยุดชะงักของการผลิตหรือการสูญเสียข้อมูลสำคัญ

    ในภาพรวม เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของ IoT และ OT devices ที่มักมีการออกแบบโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และเมื่อผู้ผลิตไม่ตอบสนองต่อการแก้ไข ช่องโหว่เหล่านี้จะกลายเป็นภัยถาวรที่องค์กรต้องรับมือเอง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ช่องโหว่ที่ค้นพบใน Lynx+ Gateway
    CVE-2025-58083 (CVSS 10.0): รีเซ็ตอุปกรณ์จากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    CVE-2025-55034 (CVSS 8.2): รหัสผ่านอ่อนแอ เสี่ยง brute-force
    CVE-2025-59780 (CVSS 7.5): ดึงข้อมูลภายในโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    CVE-2025-62765 (CVSS 7.5): ส่งข้อมูลสำคัญแบบ cleartext

    ผลกระทบต่อระบบอุตสาหกรรม
    เสี่ยงต่อการหยุดชะงักของการผลิต
    ข้อมูลภายในและ credentials อาจถูกขโมย

    คำเตือนและความเสี่ยง
    ผู้ผลิต GIC ไม่ตอบสนองต่อการเปิดเผยช่องโหว่
    ผู้ใช้งานต้องหาวิธีป้องกันเอง เช่น firewall และ network segmentation
    ช่องโหว่ใน IoT/OT devices มักถูกละเลยด้านความปลอดภัย ทำให้เป็นเป้าหมายโจมตีถาวร

    https://securityonline.info/cisa-warns-critical-lynx-gateway-flaw-cvss-10-0-allows-unauthenticated-remote-reset-vendor-non-responsive/
    ⚠️ ช่องโหว่ CVSS 10.0 ใน Lynx+ Gateway หน่วยงาน Cybersecurity and Infrastructure Security Agency (CISA) ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่หลายรายการในอุปกรณ์ Lynx+ Gateway ที่ใช้ในระบบอุตสาหกรรมและ OT (Operational Technology) โดยหนึ่งในนั้นคือ CVE-2025-58083 ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่ร้ายแรงที่สุด มีคะแนน CVSS 10.0 เนื่องจากไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ในฟังก์ชันสำคัญ ทำให้ผู้โจมตีสามารถ รีเซ็ตอุปกรณ์จากระยะไกลได้ทันที นอกจากนั้นยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น 🪲 CVE-2025-55034 (CVSS 8.2): การตั้งรหัสผ่านที่อ่อนแอ เสี่ยงต่อการ brute-force 🪲 CVE-2025-59780 (CVSS 7.5): ขาดการตรวจสอบสิทธิ์ในการดึงข้อมูล ทำให้เข้าถึงข้อมูลภายในได้ 🪲 CVE-2025-62765 (CVSS 7.5): การส่งข้อมูลสำคัญแบบ cleartext ทำให้ผู้โจมตีสามารถดักจับรหัสผ่านและข้อมูลได้ สิ่งที่น่ากังวลคือ GIC ไม่ตอบสนองต่อการประสานงานกับ CISA ทำให้ผู้ใช้งานต้องหาวิธีป้องกันเอง เช่น การจำกัดการเข้าถึงเครือข่าย, ใช้ firewall, และตรวจสอบ traffic อย่างเข้มงวด เนื่องจากอุปกรณ์นี้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในระบบควบคุมอุตสาหกรรม การโจมตีอาจนำไปสู่การหยุดชะงักของการผลิตหรือการสูญเสียข้อมูลสำคัญ ในภาพรวม เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของ IoT และ OT devices ที่มักมีการออกแบบโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และเมื่อผู้ผลิตไม่ตอบสนองต่อการแก้ไข ช่องโหว่เหล่านี้จะกลายเป็นภัยถาวรที่องค์กรต้องรับมือเอง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ช่องโหว่ที่ค้นพบใน Lynx+ Gateway ➡️ CVE-2025-58083 (CVSS 10.0): รีเซ็ตอุปกรณ์จากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ➡️ CVE-2025-55034 (CVSS 8.2): รหัสผ่านอ่อนแอ เสี่ยง brute-force ➡️ CVE-2025-59780 (CVSS 7.5): ดึงข้อมูลภายในโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ➡️ CVE-2025-62765 (CVSS 7.5): ส่งข้อมูลสำคัญแบบ cleartext ✅ ผลกระทบต่อระบบอุตสาหกรรม ➡️ เสี่ยงต่อการหยุดชะงักของการผลิต ➡️ ข้อมูลภายในและ credentials อาจถูกขโมย ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ ผู้ผลิต GIC ไม่ตอบสนองต่อการเปิดเผยช่องโหว่ ⛔ ผู้ใช้งานต้องหาวิธีป้องกันเอง เช่น firewall และ network segmentation ⛔ ช่องโหว่ใน IoT/OT devices มักถูกละเลยด้านความปลอดภัย ทำให้เป็นเป้าหมายโจมตีถาวร https://securityonline.info/cisa-warns-critical-lynx-gateway-flaw-cvss-10-0-allows-unauthenticated-remote-reset-vendor-non-responsive/
    SECURITYONLINE.INFO
    CISA Warns: Critical Lynx+ Gateway Flaw (CVSS 10.0) Allows Unauthenticated Remote Reset; Vendor Non-Responsive
    CISA warned of four flaws in Lynx+ Gateway. The Critical (CVSS 10.0) Auth Bypass allows unauthenticated remote reset and cleartext credential theft. Vendor GIC has not responded to CISA.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องของนายสาก ตอนที่ 1 – 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เรื่องของนายสาก”
    ตอน 1
    อยู่ดีๆ ไม่มีเป่าปี่ ตีกลอง เงียบๆอย่างไม่มีใครนึกถึง เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง คุณช็อกโกแลต Petro Porochenko ประธานาธิบดีของยูเครน ก็แต่งตั้งนายสาก Mikheil Saakashvili อดีตประธานาธิบดีของจอร์เจีย ให้มาเป็นผู้ว่าการแคว้นโอเดสสาของยูเครน แค้วนที่มีคนยูเครน รักคุณพี่ปูตินไม่น้อย หรืออาจจะมาก คุณช๊อกโกแลต
    ขึ้นต้นเหมือนเขียนเรื่องซ้ำ แต่รับรอง ผมเลี้ยวออกไปไม่ซ้ำทางเดิมแน่นอน เลี้ยวไปเล่าเรื่องของนายสาก เรื่องของเขา ตามบทความที่ผมเพิ่งอ่านเจอ น่าสนใจอย่างที่สุด อ่านแล้ว ไม่อยากเก็บไว้คนเดียว เรื่องแบบนี้ ต้องเล่าสู่กันฟัง
    เมื่อไม่นานนี้เอง นายสาก ผู้นำการปฏิวัติดอกกุหลาบในจอร์เจีย และอดีตประธานาธิบดีของประเทศจอร์เจียที่สวยงามแต่ประชาชนค่อนข้างขัดสน กำลังหัวกระเซิง ลนลานหาที่ลี้ภัยให้กับตัวเอง
    ครั้งท้ายสุด ที่เขาเห็นท้องฟ้าสวยงามของจอร์เจียก็คือ เมื่อปี ค.ศ.2013 ก่อนที่เขาจะกลายเป็นผู้ต้องหา ในคดีทุจริตต่อหน้าที่ ใช้อำนาจโดยมิชอบ ใช้ความรุนแรงในการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และคดีอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน ที่อาจทำให้เขาต้องรับโทษทั้งหมดไม่น้อยกว่า 11 ปี ในรายการกระทำความผิดของเขา มีแม้กระทั่ง ใช้เงินของแผ่นดินไปจ่ายค่าฉีด โบท๊อกซ์ ค่าถอนขน (?) ค่าที่พักโรงแรม ค่าตั๋วเครื่องบิน ของนักออกแบบประจำตัว (personal stylist) นายแบบอีก 2 คน ค่าโรงแรม สำหรับหมอนวดเพื่อบำบัดชาวอเมริกัน ฯลฯ
    เป็นไงครับ นึกว่าผมเขียนถึงใครหรือ พฤติกรรมมันคล้ายๆ กัน คนมันพันธ์ุเดียวกันแม้จะคนละสัญชาติ…
    นายสาก ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของรัฐบาลคาวบอยบุช จึงหลบหนีคดีที่ประเทศของตัว ไปซุกหัวอยู่ที่อเมริกา ด้วยวีซ่าของนักท่องเที่ยว เพราะไม่มีขี้ข้าราคาถูกคอยออกพาสปอร์ตทางการให้ …แต่ไม่ต้องห่วง นายสาก มีลุงเป็นเศรษฐีอยู่แถวบรุคลิน ในมหานครนิวยอร์คอันหรูหรา และลูกชายของเขาก็เรียนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัย แถวรัฐเพนซิลเวเนีย นายสากจึงอบอุ่นไม่น้อย แม้จะอยู่ระหว่างมุดหัวหนีคดี มีลูกอยู่ใกล้ๆให้ชื่นใจ ไม่ใช่พ่ออยู่ทาง ลูกอยู่ทาง และดูเหมือนเมียชาวดัชท์ก็หนีตามไปอยู่ด้วย ไม่ได้หย่ากัน
    นายสาก อยากหนีคดี แล้วอยู่อเมริกาอย่างถาวร แหม ในฐานะผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ ให้ทำปฏิวัติก็ทำ ให้บุกป่าไปยึดเมือง ไปลุยไฟ จุดไฟ ที่ไหนก็ทำหมด ไม่มีเกี่ยง (อาจมีเพิ่มราคาบ้าง คงไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ ใครๆก็ทำกัน) เขาจึงหวังว่า ขณะกำลังหัวซุนหัวซุก อยู่นี้ อย่างน้อยก็น่าจะมีรางวัลปลอบใจ ให้เขามีตำแหน่งในมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ที่เขาได้ปริญญาทางกฏหมายมา หรือมหาวิทยาลัยมีอันดับที่ไหนก็ได้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า นายท่าน นึกถึงความจงรักภักดีของเขา และการอุทิศตัวของเขาเพื่อสร้างประชาธิปไตยให้แก่ประเทศเขา ตามคำสั่งของนายท่าน
    มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัตินะครับ ของอดีตขี้ข้าทั้งหลาย เมื่อพ้นจากตำแหน่งทางการ นายท่าน ก็มักจะให้ไปเป็นที่ปรึกษาตามมหาวิทยาลัยดังๆ หรือเดินสายไปพูดตามมหาวิทยาลัย หรือที่ประชุมใหญ่ ได้ทั้งโชว์หน้า กันคนลืม ได้ทั้งค่าพูดเสียน้ำลาย ฟูมปากมากน้อย แล้วแต่ความสามารถส่วนตัว เสร็จแล้วก็เดินยืดกันเป็นแถว ดีใจว่านายท่านไม่ลืม …เรียกใช้ …หารู้ไม่ว่าคนในบ้านในเมืองตัว เขาสมเพชและรังเกียจขนาดไหน ไอ้พวกเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ถุด..
    นายสาก มีเพื่อนซี้ ที่มีอิทธิพลสูงอยู่ในอเมริกา เช่น วุฒิสมาชิก จอห์น แมคเคน คนดังระเบิด ที่เป็นประธานกรรมาธิการด้านอาวุธ นางเหยี่ยว วิกตอเรีย (ฟัก อียู) นูแลนด์ นี่ก็ ซี้ แบบแนบแน่นเลย นอกจากนี้ยังมี อดีตหัวหน้าซีไอเอ นายเดวิด เปตรุส รายนี้ เป็นแขกประจำ มานั่งดวดเหล้าปลอบใจที่บ้านเขาในนิวยอร์คเกือบทุกวัน เขาไม่ต้องไปเรียกนักร้องมาแก้เหงา ไม่ต้องไปง้อพวกเสี่ยปั้มน้ำมัน ซื้อบ้านใหญ่จ้าง รปภ แบบติดอาวุธเพียบ มาเฝ้า
    แต่ถ้าวันหนึ่ง นายสาก เกิดต้องคำพิพากษาของศาลระหว่างประเทศ เรื่องมันคงทำให้นายท่านอึกอัก ขี้เกียจตอบคำถามสื่อ เกี่ยวกับเรื่องวีซ่าเขาในอเมริกา
    ##############
    ตอน 2
    นายสากเชื่อว่า ตนเองเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของนายปูติน ประธานาธิบดี ที่มีอำนาจและเหลี่ยมพราวรอบตัว และในฐานะเป็นอดีตหัวหน้าสายลับเคจีบีของรัสเซีย ที่มีหน่วยงานเครือข่ายทั่งโลก และนายปูตินจะรวบคอหอยเขาเสียเมื่อไหร่ก็ได้ นี่ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างยิ่งทีเดียว นายปูตินไม่ได้คิดจะรวบคอหอยนายสากแม้แต่น้อย
    สื่อฝรั่งเศส Le Nouvel Obsevateur อ้างว่า ในการสนทนาอย่างเป็นส่วนตัว ระหว่างประธานาธิบดีฝรั่งเศส Nicolas Sarkozy กับนายปูติน เมื่อปี ค.ศ.2008 หลังจากนายสาก ทำซ่าบุกเข้าไปใน South Ossetia นายปูตินยัวะจัด ขู่ว่า เขาจะจับตัวนายสากให้ได้ และจะเอาตัวมาแขวนห้อยไว้...โดยการผูกกระปู๋ของนายสาก.… threatening to hang him by his presidential private parts …ไม่ใช่ การรวบคอหอย เข้าใจแล้วนะครับ ว่า นายสากเข้าใจผิดขนาดไหน
    นาย Sarkozy ถึงกับช๊อก แล้วถามนายปูตินว่า คุณจะทำอย่างนั้นทำไม นายปูติน ตอบว่า ทำไมผมถึงจะไม่ทำ ….พวกอเมริกันก็ทำอย่างนั้นกับซัดดัมไม่ใช่หรือ นี่… มันต้องเจอคำตอบแบบนี้ ไม่เสียที มีตำแหน่งเป็นลูกพี่ผม เล่นเอานายซาโกซี หน้าหงายไปเลย
    เมื่อมีข่าวออกมา เครมลินปฏิเสธว่า ไม่มีการข่มขู่เช่นนั้น จากท่านประธานาธิบดีปูติน แต่เมื่อมีการสัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์ โดยโทรทัศน์รายการหนึ่ง ผู้จัดรายการถามท่านประธานาธิบดีว่า …จริงไหมครับ ที่เขาพูดกันว่า ท่านหมายมาดว่าจะแขวนนายสาก โดยการผูกส่วนหนึ่งของเขา คุณพี่ปูตินของผม ตอบว่า “… จะทำ ทำไม…แค่ส่วนเดียว…”
    ฮู้ย… ผมยิ่งเสียวแทนหนักขึ้นไปอีก
    เขาว่า ระหว่างที่นายสากกำลังทำหน้าหล่อ (จากการฉีดโบทอกซ์ ด้วยเงินภาษีของประชาชนชาวจอร์เจีย) เพลิดเพลินกับการให้สัมภาษณ์ข่าวโทรทัศน์ Gori ใน South Ossetia เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ.2008 เครื่องบินรบของกองทัพฝ่ายรัสเซียก็บินโฉบเข้ามาพอดี กล้องก็เลยจับได้ภาพนายสากที่กำลังมุดหลบเข้าไปอยู่ใต้หว่างขาของผู้คุ้มกันอย่างรวดเร็ว หน้าของนายสาก บิดเบี้ยว สีออกเขียวอมเทา ด้วยความตื่นตระหนกสุดขีด ไม่เหลือราคาโบทอกซ์ ที่ใช้เงินภาษีประชาชนจ่ายค่าฉีด
    นี่แค่เห็นแวบเดียว ของปีกเครื่องบินรัสเซียนะ ถ้าเห็นคุณพี่ปูตินของผม กล้ามแน่น ตัวเป็นๆเดินมา นายสากจะมีสภาพเป็นยังไง ผมไม่กล้านึกภาพ
    หลังจากสงครามจบลง ระหว่างการนั่งเจรจาเพื่อสันติ ภาพ ซึ่งฝ่ายตะวันตก ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครอง เจรจาแทนนายสาก พิลึกดีนะครับ นักข่าวจากบีบีซี รายงานว่า ….นายสาก ออกอาการเหมือนคนใกล้จะเสียสติ ประสาทเสื่อม เขาคว้าปลายเนคไทสีแดง ที่เขาผูกอยู่ เอาเข้าปากแล้วเคี้ยว… มันคงอาการหนักจริงๆ ผมนึกไม่ออก ว่านายท่าน ที่ชาญฉลาด เลือกใช้คนนั้นคนนี้ ต้อนเข้าคอกไปทั่ว ทำไมถึงถั่วจัด เลือกใช้นายสาก หรือโบทอกซ์มันคุณภาพดี จนบดบังอย่างอื่น อันนี้ไปสอบถามคุณนายนูแลนด์กันเองนะ ผมไม่อยากละลาบละล้วงมากกว่านี้
    นายสาก ให้คำเฉลยการเคี้ยวเนคไทของเขาภายหลังว่า ความกลัดกลุ้มเกี่ยวกับประเทศของตนเองมาก ก็สามารถทำให้คนเราเคี้ยวเนคไทได้นะ ผมก็นึกไปว่า ถ้าทฤษฏีนายสากมันเป็นไปได้ ลุงตู่ของผม ใส่เครื่องแบบทหาร หรือเครื่องแบบข้าราชการ ตอนชี้แจงหน้าจอ ก็ปลอดภัยเข้าทีดีนะครับ
    ผลของการเจรจา กองทัพรัสเซียหยุด 20 ไมล์ห่างจาก Tbilisi เมืองหลวงของจอร์เจีย และ อีก 2 เมือง Abkhazia และ South Ossetia ก็ประกาศตัวเป็นเอกราชจากจอร์เจีย
    แต่ ท่านประธานาธิบดีปูติน ไม่ลืมเรื่องเนคไท
    ” เก็บเนคไทไปให้พ้นหูพ้นตานะ ถ้าพวกคุณจะเชิญนายสากมากินข้าวเย็นด้วย” นายปูตินพูด เมื่อ ปี 2009 กับฝ่ายตรงข้ามกับเขาเกี่ยวกับยูเครน ในตอนนั้น คือ ประธานาธิบดี Victor Yushchenko และนายกรัฐมนตรี Yulia Timoshenko
    “เดี๋ยวนี้มันราคาแพงนะ และเขาอาจจะกินหมด” ตลกร้ายจริงคุณพี่ปูติน
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    18 มิ.ย. 2558
    เรื่องของนายสาก ตอนที่ 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เรื่องของนายสาก” ตอน 1 อยู่ดีๆ ไม่มีเป่าปี่ ตีกลอง เงียบๆอย่างไม่มีใครนึกถึง เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง คุณช็อกโกแลต Petro Porochenko ประธานาธิบดีของยูเครน ก็แต่งตั้งนายสาก Mikheil Saakashvili อดีตประธานาธิบดีของจอร์เจีย ให้มาเป็นผู้ว่าการแคว้นโอเดสสาของยูเครน แค้วนที่มีคนยูเครน รักคุณพี่ปูตินไม่น้อย หรืออาจจะมาก คุณช๊อกโกแลต ขึ้นต้นเหมือนเขียนเรื่องซ้ำ แต่รับรอง ผมเลี้ยวออกไปไม่ซ้ำทางเดิมแน่นอน เลี้ยวไปเล่าเรื่องของนายสาก เรื่องของเขา ตามบทความที่ผมเพิ่งอ่านเจอ น่าสนใจอย่างที่สุด อ่านแล้ว ไม่อยากเก็บไว้คนเดียว เรื่องแบบนี้ ต้องเล่าสู่กันฟัง เมื่อไม่นานนี้เอง นายสาก ผู้นำการปฏิวัติดอกกุหลาบในจอร์เจีย และอดีตประธานาธิบดีของประเทศจอร์เจียที่สวยงามแต่ประชาชนค่อนข้างขัดสน กำลังหัวกระเซิง ลนลานหาที่ลี้ภัยให้กับตัวเอง ครั้งท้ายสุด ที่เขาเห็นท้องฟ้าสวยงามของจอร์เจียก็คือ เมื่อปี ค.ศ.2013 ก่อนที่เขาจะกลายเป็นผู้ต้องหา ในคดีทุจริตต่อหน้าที่ ใช้อำนาจโดยมิชอบ ใช้ความรุนแรงในการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และคดีอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน ที่อาจทำให้เขาต้องรับโทษทั้งหมดไม่น้อยกว่า 11 ปี ในรายการกระทำความผิดของเขา มีแม้กระทั่ง ใช้เงินของแผ่นดินไปจ่ายค่าฉีด โบท๊อกซ์ ค่าถอนขน (?) ค่าที่พักโรงแรม ค่าตั๋วเครื่องบิน ของนักออกแบบประจำตัว (personal stylist) นายแบบอีก 2 คน ค่าโรงแรม สำหรับหมอนวดเพื่อบำบัดชาวอเมริกัน ฯลฯ เป็นไงครับ นึกว่าผมเขียนถึงใครหรือ พฤติกรรมมันคล้ายๆ กัน คนมันพันธ์ุเดียวกันแม้จะคนละสัญชาติ… นายสาก ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของรัฐบาลคาวบอยบุช จึงหลบหนีคดีที่ประเทศของตัว ไปซุกหัวอยู่ที่อเมริกา ด้วยวีซ่าของนักท่องเที่ยว เพราะไม่มีขี้ข้าราคาถูกคอยออกพาสปอร์ตทางการให้ …แต่ไม่ต้องห่วง นายสาก มีลุงเป็นเศรษฐีอยู่แถวบรุคลิน ในมหานครนิวยอร์คอันหรูหรา และลูกชายของเขาก็เรียนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัย แถวรัฐเพนซิลเวเนีย นายสากจึงอบอุ่นไม่น้อย แม้จะอยู่ระหว่างมุดหัวหนีคดี มีลูกอยู่ใกล้ๆให้ชื่นใจ ไม่ใช่พ่ออยู่ทาง ลูกอยู่ทาง และดูเหมือนเมียชาวดัชท์ก็หนีตามไปอยู่ด้วย ไม่ได้หย่ากัน นายสาก อยากหนีคดี แล้วอยู่อเมริกาอย่างถาวร แหม ในฐานะผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ ให้ทำปฏิวัติก็ทำ ให้บุกป่าไปยึดเมือง ไปลุยไฟ จุดไฟ ที่ไหนก็ทำหมด ไม่มีเกี่ยง (อาจมีเพิ่มราคาบ้าง คงไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ ใครๆก็ทำกัน) เขาจึงหวังว่า ขณะกำลังหัวซุนหัวซุก อยู่นี้ อย่างน้อยก็น่าจะมีรางวัลปลอบใจ ให้เขามีตำแหน่งในมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ที่เขาได้ปริญญาทางกฏหมายมา หรือมหาวิทยาลัยมีอันดับที่ไหนก็ได้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า นายท่าน นึกถึงความจงรักภักดีของเขา และการอุทิศตัวของเขาเพื่อสร้างประชาธิปไตยให้แก่ประเทศเขา ตามคำสั่งของนายท่าน มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัตินะครับ ของอดีตขี้ข้าทั้งหลาย เมื่อพ้นจากตำแหน่งทางการ นายท่าน ก็มักจะให้ไปเป็นที่ปรึกษาตามมหาวิทยาลัยดังๆ หรือเดินสายไปพูดตามมหาวิทยาลัย หรือที่ประชุมใหญ่ ได้ทั้งโชว์หน้า กันคนลืม ได้ทั้งค่าพูดเสียน้ำลาย ฟูมปากมากน้อย แล้วแต่ความสามารถส่วนตัว เสร็จแล้วก็เดินยืดกันเป็นแถว ดีใจว่านายท่านไม่ลืม …เรียกใช้ …หารู้ไม่ว่าคนในบ้านในเมืองตัว เขาสมเพชและรังเกียจขนาดไหน ไอ้พวกเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ถุด.. นายสาก มีเพื่อนซี้ ที่มีอิทธิพลสูงอยู่ในอเมริกา เช่น วุฒิสมาชิก จอห์น แมคเคน คนดังระเบิด ที่เป็นประธานกรรมาธิการด้านอาวุธ นางเหยี่ยว วิกตอเรีย (ฟัก อียู) นูแลนด์ นี่ก็ ซี้ แบบแนบแน่นเลย นอกจากนี้ยังมี อดีตหัวหน้าซีไอเอ นายเดวิด เปตรุส รายนี้ เป็นแขกประจำ มานั่งดวดเหล้าปลอบใจที่บ้านเขาในนิวยอร์คเกือบทุกวัน เขาไม่ต้องไปเรียกนักร้องมาแก้เหงา ไม่ต้องไปง้อพวกเสี่ยปั้มน้ำมัน ซื้อบ้านใหญ่จ้าง รปภ แบบติดอาวุธเพียบ มาเฝ้า แต่ถ้าวันหนึ่ง นายสาก เกิดต้องคำพิพากษาของศาลระหว่างประเทศ เรื่องมันคงทำให้นายท่านอึกอัก ขี้เกียจตอบคำถามสื่อ เกี่ยวกับเรื่องวีซ่าเขาในอเมริกา ############## ตอน 2 นายสากเชื่อว่า ตนเองเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของนายปูติน ประธานาธิบดี ที่มีอำนาจและเหลี่ยมพราวรอบตัว และในฐานะเป็นอดีตหัวหน้าสายลับเคจีบีของรัสเซีย ที่มีหน่วยงานเครือข่ายทั่งโลก และนายปูตินจะรวบคอหอยเขาเสียเมื่อไหร่ก็ได้ นี่ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างยิ่งทีเดียว นายปูตินไม่ได้คิดจะรวบคอหอยนายสากแม้แต่น้อย สื่อฝรั่งเศส Le Nouvel Obsevateur อ้างว่า ในการสนทนาอย่างเป็นส่วนตัว ระหว่างประธานาธิบดีฝรั่งเศส Nicolas Sarkozy กับนายปูติน เมื่อปี ค.ศ.2008 หลังจากนายสาก ทำซ่าบุกเข้าไปใน South Ossetia นายปูตินยัวะจัด ขู่ว่า เขาจะจับตัวนายสากให้ได้ และจะเอาตัวมาแขวนห้อยไว้...โดยการผูกกระปู๋ของนายสาก.… threatening to hang him by his presidential private parts …ไม่ใช่ การรวบคอหอย เข้าใจแล้วนะครับ ว่า นายสากเข้าใจผิดขนาดไหน นาย Sarkozy ถึงกับช๊อก แล้วถามนายปูตินว่า คุณจะทำอย่างนั้นทำไม นายปูติน ตอบว่า ทำไมผมถึงจะไม่ทำ ….พวกอเมริกันก็ทำอย่างนั้นกับซัดดัมไม่ใช่หรือ นี่… มันต้องเจอคำตอบแบบนี้ ไม่เสียที มีตำแหน่งเป็นลูกพี่ผม เล่นเอานายซาโกซี หน้าหงายไปเลย เมื่อมีข่าวออกมา เครมลินปฏิเสธว่า ไม่มีการข่มขู่เช่นนั้น จากท่านประธานาธิบดีปูติน แต่เมื่อมีการสัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์ โดยโทรทัศน์รายการหนึ่ง ผู้จัดรายการถามท่านประธานาธิบดีว่า …จริงไหมครับ ที่เขาพูดกันว่า ท่านหมายมาดว่าจะแขวนนายสาก โดยการผูกส่วนหนึ่งของเขา คุณพี่ปูตินของผม ตอบว่า “… จะทำ ทำไม…แค่ส่วนเดียว…” ฮู้ย… ผมยิ่งเสียวแทนหนักขึ้นไปอีก เขาว่า ระหว่างที่นายสากกำลังทำหน้าหล่อ (จากการฉีดโบทอกซ์ ด้วยเงินภาษีของประชาชนชาวจอร์เจีย) เพลิดเพลินกับการให้สัมภาษณ์ข่าวโทรทัศน์ Gori ใน South Ossetia เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ.2008 เครื่องบินรบของกองทัพฝ่ายรัสเซียก็บินโฉบเข้ามาพอดี กล้องก็เลยจับได้ภาพนายสากที่กำลังมุดหลบเข้าไปอยู่ใต้หว่างขาของผู้คุ้มกันอย่างรวดเร็ว หน้าของนายสาก บิดเบี้ยว สีออกเขียวอมเทา ด้วยความตื่นตระหนกสุดขีด ไม่เหลือราคาโบทอกซ์ ที่ใช้เงินภาษีประชาชนจ่ายค่าฉีด นี่แค่เห็นแวบเดียว ของปีกเครื่องบินรัสเซียนะ ถ้าเห็นคุณพี่ปูตินของผม กล้ามแน่น ตัวเป็นๆเดินมา นายสากจะมีสภาพเป็นยังไง ผมไม่กล้านึกภาพ หลังจากสงครามจบลง ระหว่างการนั่งเจรจาเพื่อสันติ ภาพ ซึ่งฝ่ายตะวันตก ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครอง เจรจาแทนนายสาก พิลึกดีนะครับ นักข่าวจากบีบีซี รายงานว่า ….นายสาก ออกอาการเหมือนคนใกล้จะเสียสติ ประสาทเสื่อม เขาคว้าปลายเนคไทสีแดง ที่เขาผูกอยู่ เอาเข้าปากแล้วเคี้ยว… มันคงอาการหนักจริงๆ ผมนึกไม่ออก ว่านายท่าน ที่ชาญฉลาด เลือกใช้คนนั้นคนนี้ ต้อนเข้าคอกไปทั่ว ทำไมถึงถั่วจัด เลือกใช้นายสาก หรือโบทอกซ์มันคุณภาพดี จนบดบังอย่างอื่น อันนี้ไปสอบถามคุณนายนูแลนด์กันเองนะ ผมไม่อยากละลาบละล้วงมากกว่านี้ นายสาก ให้คำเฉลยการเคี้ยวเนคไทของเขาภายหลังว่า ความกลัดกลุ้มเกี่ยวกับประเทศของตนเองมาก ก็สามารถทำให้คนเราเคี้ยวเนคไทได้นะ ผมก็นึกไปว่า ถ้าทฤษฏีนายสากมันเป็นไปได้ ลุงตู่ของผม ใส่เครื่องแบบทหาร หรือเครื่องแบบข้าราชการ ตอนชี้แจงหน้าจอ ก็ปลอดภัยเข้าทีดีนะครับ ผลของการเจรจา กองทัพรัสเซียหยุด 20 ไมล์ห่างจาก Tbilisi เมืองหลวงของจอร์เจีย และ อีก 2 เมือง Abkhazia และ South Ossetia ก็ประกาศตัวเป็นเอกราชจากจอร์เจีย แต่ ท่านประธานาธิบดีปูติน ไม่ลืมเรื่องเนคไท ” เก็บเนคไทไปให้พ้นหูพ้นตานะ ถ้าพวกคุณจะเชิญนายสากมากินข้าวเย็นด้วย” นายปูตินพูด เมื่อ ปี 2009 กับฝ่ายตรงข้ามกับเขาเกี่ยวกับยูเครน ในตอนนั้น คือ ประธานาธิบดี Victor Yushchenko และนายกรัฐมนตรี Yulia Timoshenko “เดี๋ยวนี้มันราคาแพงนะ และเขาอาจจะกินหมด” ตลกร้ายจริงคุณพี่ปูติน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 18 มิ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 390 มุมมอง 0 รีวิว
  • WhatsApp เปิดทางเชื่อมต่อ BirdyChat และ Haiket ตามกฎหมาย DMA ของสหภาพยุโรป

    Meta ประกาศความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ โดย WhatsApp จะสามารถเชื่อมต่อกับแอปแชทภายนอกอย่าง BirdyChat และ Haiket ได้ในยุโรป เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ของสหภาพยุโรปที่บังคับให้แพลตฟอร์มขนาดใหญ่ต้องเปิดทางให้บริการอื่นเข้ามาใช้งานร่วมกันได้ การทดสอบเบื้องต้นเสร็จสิ้นแล้ว และฟีเจอร์นี้จะเริ่มเปิดใช้งานเร็ว ๆ นี้บน Android และ iOS

    การเชื่อมต่อดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อความ ภาพ เสียง วิดีโอ และไฟล์ระหว่างแพลตฟอร์มได้อย่างราบรื่น โดยยังคงมาตรฐาน การเข้ารหัสแบบ End-to-End (E2EE) เทียบเท่ากับ WhatsApp เอง ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนในเมนู Settings เพื่อเลือกว่าจะเปิดใช้งานหรือปิดการทำงานของการแชทข้ามแพลตฟอร์มได้ตามต้องการ ถือเป็นการให้สิทธิ์ผู้ใช้ในการควบคุมความเป็นส่วนตัวและการใช้งาน

    อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ Group Chat ข้ามแอป จะยังไม่พร้อมใช้งานในช่วงแรก เนื่องจากต้องรอให้แอปพันธมิตรมีความพร้อมทางเทคนิคก่อน นอกจากนี้ WhatsApp ยังมีแผนจะขยายการเชื่อมต่อไปยังแอปอื่น ๆ อีกในอนาคต เพื่อให้ครอบคลุมตามข้อกำหนดของ DMA ซึ่งจะช่วยเพิ่มทางเลือกและลดการผูกขาดของแพลตฟอร์มรายใหญ่

    สิ่งที่น่าสนใจคือ DMA ไม่ได้บังคับเฉพาะ WhatsApp แต่ยังครอบคลุมไปถึงแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Apple และ Google ที่ต้องเปิดระบบให้บริการภายนอกเข้ามาใช้งานได้อย่างเท่าเทียม นี่จึงเป็นก้าวสำคัญของยุโรปในการสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรม และเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ในยุคที่การสื่อสารออนไลน์เป็นหัวใจหลักของชีวิตประจำวัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    WhatsApp เปิดเชื่อมต่อกับ BirdyChat และ Haiket
    รองรับการส่งข้อความ ภาพ เสียง วิดีโอ และไฟล์ระหว่างแพลตฟอร์ม

    มาตรฐานความปลอดภัยยังคงเดิม
    ทุกแอปที่เชื่อมต่อ ต้องใช้การเข้ารหัส End-to-End เทียบเท่า WhatsApp

    ผู้ใช้สามารถเลือกเปิดหรือปิดฟีเจอร์ได้เอง
    มีการแจ้งเตือนใน Settings เพื่อควบคุมการใช้งาน

    Group Chat ข้ามแอปยังไม่พร้อมใช้งาน
    จะเปิดให้ใช้เมื่อพันธมิตรมีความพร้อมทางเทคนิค

    DMA บังคับใช้กับแพลตฟอร์มรายใหญ่ทั้งหมด
    Apple, Google และบริการอื่น ๆ ต้องเปิดระบบให้ใช้งานร่วมกัน

    ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบนโยบายของแอปพันธมิตร เพราะอาจมีการจัดการข้อมูลต่างกัน

    ฟีเจอร์ยังจำกัดเฉพาะมือถือ
    WhatsApp Desktop และ Web ยังไม่รองรับการเชื่อมต่อข้ามแอปในช่วงแรก

    การใช้งานอาจมีข้อจำกัดบางประการ
    เช่น ฟีเจอร์สติ๊กเกอร์หรือข้อความหายอัตโนมัติ อาจไม่รองรับในการแชทข้ามแพลตฟอร์ม

    https://securityonline.info/whatsapp-interoperability-live-meta-confirms-dma-integration-with-birdychat-and-haiket/
    📱 WhatsApp เปิดทางเชื่อมต่อ BirdyChat และ Haiket ตามกฎหมาย DMA ของสหภาพยุโรป Meta ประกาศความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ โดย WhatsApp จะสามารถเชื่อมต่อกับแอปแชทภายนอกอย่าง BirdyChat และ Haiket ได้ในยุโรป เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ของสหภาพยุโรปที่บังคับให้แพลตฟอร์มขนาดใหญ่ต้องเปิดทางให้บริการอื่นเข้ามาใช้งานร่วมกันได้ การทดสอบเบื้องต้นเสร็จสิ้นแล้ว และฟีเจอร์นี้จะเริ่มเปิดใช้งานเร็ว ๆ นี้บน Android และ iOS การเชื่อมต่อดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อความ ภาพ เสียง วิดีโอ และไฟล์ระหว่างแพลตฟอร์มได้อย่างราบรื่น โดยยังคงมาตรฐาน การเข้ารหัสแบบ End-to-End (E2EE) เทียบเท่ากับ WhatsApp เอง ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนในเมนู Settings เพื่อเลือกว่าจะเปิดใช้งานหรือปิดการทำงานของการแชทข้ามแพลตฟอร์มได้ตามต้องการ ถือเป็นการให้สิทธิ์ผู้ใช้ในการควบคุมความเป็นส่วนตัวและการใช้งาน อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ Group Chat ข้ามแอป จะยังไม่พร้อมใช้งานในช่วงแรก เนื่องจากต้องรอให้แอปพันธมิตรมีความพร้อมทางเทคนิคก่อน นอกจากนี้ WhatsApp ยังมีแผนจะขยายการเชื่อมต่อไปยังแอปอื่น ๆ อีกในอนาคต เพื่อให้ครอบคลุมตามข้อกำหนดของ DMA ซึ่งจะช่วยเพิ่มทางเลือกและลดการผูกขาดของแพลตฟอร์มรายใหญ่ สิ่งที่น่าสนใจคือ DMA ไม่ได้บังคับเฉพาะ WhatsApp แต่ยังครอบคลุมไปถึงแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Apple และ Google ที่ต้องเปิดระบบให้บริการภายนอกเข้ามาใช้งานได้อย่างเท่าเทียม นี่จึงเป็นก้าวสำคัญของยุโรปในการสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรม และเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ในยุคที่การสื่อสารออนไลน์เป็นหัวใจหลักของชีวิตประจำวัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ WhatsApp เปิดเชื่อมต่อกับ BirdyChat และ Haiket ➡️ รองรับการส่งข้อความ ภาพ เสียง วิดีโอ และไฟล์ระหว่างแพลตฟอร์ม ✅ มาตรฐานความปลอดภัยยังคงเดิม ➡️ ทุกแอปที่เชื่อมต่อ ต้องใช้การเข้ารหัส End-to-End เทียบเท่า WhatsApp ✅ ผู้ใช้สามารถเลือกเปิดหรือปิดฟีเจอร์ได้เอง ➡️ มีการแจ้งเตือนใน Settings เพื่อควบคุมการใช้งาน ✅ Group Chat ข้ามแอปยังไม่พร้อมใช้งาน ➡️ จะเปิดให้ใช้เมื่อพันธมิตรมีความพร้อมทางเทคนิค ✅ DMA บังคับใช้กับแพลตฟอร์มรายใหญ่ทั้งหมด ➡️ Apple, Google และบริการอื่น ๆ ต้องเปิดระบบให้ใช้งานร่วมกัน ‼️ ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบนโยบายของแอปพันธมิตร เพราะอาจมีการจัดการข้อมูลต่างกัน ‼️ ฟีเจอร์ยังจำกัดเฉพาะมือถือ ⛔ WhatsApp Desktop และ Web ยังไม่รองรับการเชื่อมต่อข้ามแอปในช่วงแรก ‼️ การใช้งานอาจมีข้อจำกัดบางประการ ⛔ เช่น ฟีเจอร์สติ๊กเกอร์หรือข้อความหายอัตโนมัติ อาจไม่รองรับในการแชทข้ามแพลตฟอร์ม https://securityonline.info/whatsapp-interoperability-live-meta-confirms-dma-integration-with-birdychat-and-haiket/
    SECURITYONLINE.INFO
    WhatsApp Interoperability Live: Meta Confirms DMA Integration with BirdyChat and Haiket
    Meta confirmed WhatsApp is ready for DMA interoperability with third-party apps BirdyChat and Haiket. European users can soon opt in to cross-platform chats.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • Doxing, Sealioning, and Rage Farming: The Language of Online Harassment and Disinformation

    We know all too well that the internet isn’t all fun memes and hamster videos. The darker side of online life is home to trolls, spammers, and many varieties of toxic behavior, spanning from tactics intended to harass one person to nefarious attempts to spread harmful disinformation as widely as possible. For many of the practices that play out exclusively online, specialized terms have emerged, allowing us to name and shine a light on some of these actions—and their real-life consequences.

    sealioning
    Sealioning is a specific type of trolling. The general term trolling refers to harassing someone online with the intent of getting a (negative) reaction out of them. In the case of sealioning, a troll will relentlessly harass someone with questions or requests for evidence in an attempt to upset them and make their position or viewpoint seem weak or unreasonable. Sealioning is often disguised as earnest curiosity or interest in debate, but the real goal is to troll someone until they get angry or upset.

    Sealioning is a common trolling tactic used on social media. For example, a Twitter user might say that they support a higher minimum wage. In response, a sealioning troll might repeatedly and relentlessly ask them for sources that would prove the merits of higher pay scales or demand that they write detailed explanations of how increased wages have affected the economies of the world. The troll will not stop until the other person angrily lashes out (or blocks them), thus allowing the troll to paint themselves as the victim and then claim to have won the “debate” over the issue. Those who engage in sealioning are never actually interested in legitimately debating—the point is to harass and attempt to diminish.

    doxing
    Doxing, or doxxing, is the act of publishing someone’s personal information or revealing their identity without their consent. The term comes from the word docs (short for documents). Doxing is often done in an attempt to intimidate someone by invading their privacy and causing them to fear for their safety, especially due to the threats they often receive after having been doxed.

    In many cases, doxing involves revealing the identity and information of people who were otherwise anonymous or using an alias. For example, a hacker might post the real name and home address of a popular streamer or influencer who is otherwise known by a fake name. Sometimes, celebrities are the target of doxing. In one prominent incident in 2013, several high-profile celebrities, including Beyoncé and Kim Kardashian, were the victims of doxing after a hacker publicly revealed their addresses, social security numbers, and financial documents online. In a more recent instance, a Twitch gaming streamer known online as XQc was doxed and then repeatedly targeted with the practice known as swatting.

    swatting
    The term swatting refers to the practice of initiating a law enforcement response on an unsuspecting victim. Though swatting results in real-world actions, it often originates online or with the aid of digital means, such as by using software to anonymously contact 911 and report a threat or illegal activity at the target’s residence. The practice is especially used to target public figures. The word is based on the term SWAT, referring to the special police tactical units that respond to emergencies. Obviously, swatting is extremely dangerous due to the unpredictable nature of such scenarios, when law enforcement officials believe they are entering a highly dangerous situation.

    brigading
    In online contexts, the word brigading refers to a practice in which people join together to perform a coordinated action, such as rigging an online poll, downvoting or disliking content, or harassing a specific individual or group. Brigading is similar to the online practice known as dogpiling, which involves many people joining in on the act of insulting or harassing someone. Unlike dogpiling, which may be spontaneous, brigading typically follows a coordinated plan.

    Both the practice and the name for it are often traced to the forum website Reddit, where brigading (which is explicitly against the site’s rules) typically involves one community joining together to mass downvote content or to disrupt a community by posting a large amount of spam, abuse, or trolling comments. For example, a person who posts a negative review of a TV show may be targeted by users of that show’s fan forum, whose brigading might consist of messaging the original poster with abusive comments.

    firehosing
    Firehosing is a propaganda tactic that involves releasing a large amount of false information in a very short amount of time. Due to the resources often needed to pull off such an expansive disinformation strategy, the term firehosing is most often used to refer to the alleged actions of large organizations or governments.

    For example, the term firehosing has been used to describe Russian propaganda during the 2014 annexation of Crimea and the 2022 invasion of Ukraine; Chinese propaganda in response to reporting on Uyghur Muslims in 2021; and numerous incidents in which President Donald Trump and members of his administration were accused of spreading false information.

    astroturfing
    Astroturfing is a deception tactic in which an organized effort is used to create the illusion of widespread, spontaneous support for something. The goal of astroturfing is to give the false impression that something has wide support from a passionate grassroots campaign when in reality the effort is (secretly) motivated by a person or group’s personal interest. Like firehosing, the term astroturfing is often used in the context of large organizations and governments due to the resources needed to perform it.

    For example, the term has been repeatedly applied to the deceptive information practices allegedly used by the Russian government, such as attempts to create the perception of universal support for Russian president Vladimir Putin or to create the illusion of widespread opposition to Ukrainian president Volodymyr Zelenskyy during the 2022 Russian invasion of Ukraine. Elsewhere, astroturfing has been used by the media and public figures to describe attempts by businesses and special interest groups to falsely create the impression of popular support, such as for fracking, vaping, and denial of the existence of climate change.

    rage farming
    Rage farming is a slang term that refers to the practice of posting intentionally provocative political content in order to take advantage of a negative reaction that garners exposure and media attention.

    The term rage farming emerged in early 2022, first being used to describe a social media tactic used by conservative groups, such as the Texas Republican Party. The term was applied to the practice of purposefully posting provocative memes and other content in order to anger liberal opponents. The word farming in the term refers to its apparent goal of generating a large amount of critical and angry comments in hopes that the negative response draws media exposure and attention and attracts support—and donations—from like-minded people.

    สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    Doxing, Sealioning, and Rage Farming: The Language of Online Harassment and Disinformation We know all too well that the internet isn’t all fun memes and hamster videos. The darker side of online life is home to trolls, spammers, and many varieties of toxic behavior, spanning from tactics intended to harass one person to nefarious attempts to spread harmful disinformation as widely as possible. For many of the practices that play out exclusively online, specialized terms have emerged, allowing us to name and shine a light on some of these actions—and their real-life consequences. sealioning Sealioning is a specific type of trolling. The general term trolling refers to harassing someone online with the intent of getting a (negative) reaction out of them. In the case of sealioning, a troll will relentlessly harass someone with questions or requests for evidence in an attempt to upset them and make their position or viewpoint seem weak or unreasonable. Sealioning is often disguised as earnest curiosity or interest in debate, but the real goal is to troll someone until they get angry or upset. Sealioning is a common trolling tactic used on social media. For example, a Twitter user might say that they support a higher minimum wage. In response, a sealioning troll might repeatedly and relentlessly ask them for sources that would prove the merits of higher pay scales or demand that they write detailed explanations of how increased wages have affected the economies of the world. The troll will not stop until the other person angrily lashes out (or blocks them), thus allowing the troll to paint themselves as the victim and then claim to have won the “debate” over the issue. Those who engage in sealioning are never actually interested in legitimately debating—the point is to harass and attempt to diminish. doxing Doxing, or doxxing, is the act of publishing someone’s personal information or revealing their identity without their consent. The term comes from the word docs (short for documents). Doxing is often done in an attempt to intimidate someone by invading their privacy and causing them to fear for their safety, especially due to the threats they often receive after having been doxed. In many cases, doxing involves revealing the identity and information of people who were otherwise anonymous or using an alias. For example, a hacker might post the real name and home address of a popular streamer or influencer who is otherwise known by a fake name. Sometimes, celebrities are the target of doxing. In one prominent incident in 2013, several high-profile celebrities, including Beyoncé and Kim Kardashian, were the victims of doxing after a hacker publicly revealed their addresses, social security numbers, and financial documents online. In a more recent instance, a Twitch gaming streamer known online as XQc was doxed and then repeatedly targeted with the practice known as swatting. swatting The term swatting refers to the practice of initiating a law enforcement response on an unsuspecting victim. Though swatting results in real-world actions, it often originates online or with the aid of digital means, such as by using software to anonymously contact 911 and report a threat or illegal activity at the target’s residence. The practice is especially used to target public figures. The word is based on the term SWAT, referring to the special police tactical units that respond to emergencies. Obviously, swatting is extremely dangerous due to the unpredictable nature of such scenarios, when law enforcement officials believe they are entering a highly dangerous situation. brigading In online contexts, the word brigading refers to a practice in which people join together to perform a coordinated action, such as rigging an online poll, downvoting or disliking content, or harassing a specific individual or group. Brigading is similar to the online practice known as dogpiling, which involves many people joining in on the act of insulting or harassing someone. Unlike dogpiling, which may be spontaneous, brigading typically follows a coordinated plan. Both the practice and the name for it are often traced to the forum website Reddit, where brigading (which is explicitly against the site’s rules) typically involves one community joining together to mass downvote content or to disrupt a community by posting a large amount of spam, abuse, or trolling comments. For example, a person who posts a negative review of a TV show may be targeted by users of that show’s fan forum, whose brigading might consist of messaging the original poster with abusive comments. firehosing Firehosing is a propaganda tactic that involves releasing a large amount of false information in a very short amount of time. Due to the resources often needed to pull off such an expansive disinformation strategy, the term firehosing is most often used to refer to the alleged actions of large organizations or governments. For example, the term firehosing has been used to describe Russian propaganda during the 2014 annexation of Crimea and the 2022 invasion of Ukraine; Chinese propaganda in response to reporting on Uyghur Muslims in 2021; and numerous incidents in which President Donald Trump and members of his administration were accused of spreading false information. astroturfing Astroturfing is a deception tactic in which an organized effort is used to create the illusion of widespread, spontaneous support for something. The goal of astroturfing is to give the false impression that something has wide support from a passionate grassroots campaign when in reality the effort is (secretly) motivated by a person or group’s personal interest. Like firehosing, the term astroturfing is often used in the context of large organizations and governments due to the resources needed to perform it. For example, the term has been repeatedly applied to the deceptive information practices allegedly used by the Russian government, such as attempts to create the perception of universal support for Russian president Vladimir Putin or to create the illusion of widespread opposition to Ukrainian president Volodymyr Zelenskyy during the 2022 Russian invasion of Ukraine. Elsewhere, astroturfing has been used by the media and public figures to describe attempts by businesses and special interest groups to falsely create the impression of popular support, such as for fracking, vaping, and denial of the existence of climate change. rage farming Rage farming is a slang term that refers to the practice of posting intentionally provocative political content in order to take advantage of a negative reaction that garners exposure and media attention. The term rage farming emerged in early 2022, first being used to describe a social media tactic used by conservative groups, such as the Texas Republican Party. The term was applied to the practice of purposefully posting provocative memes and other content in order to anger liberal opponents. The word farming in the term refers to its apparent goal of generating a large amount of critical and angry comments in hopes that the negative response draws media exposure and attention and attracts support—and donations—from like-minded people. สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • KDE Frameworks 6.20 เพิ่มแอนิเมชันใหม่ใน System Settings

    KDE Project ได้ปล่อย KDE Frameworks 6.20 ซึ่งเป็นการอัปเดตรายเดือนที่มาพร้อมกับการปรับปรุงหลายด้าน โดยหนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือ แอนิเมชัน push/pop ที่สวยงามขึ้นใน System Settings ทำให้การเปลี่ยนหน้าการตั้งค่าดูราบรื่นและทันสมัยมากขึ้น ช่วยเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้ให้มีความเป็นธรรมชาติและสอดคล้องกับการออกแบบ UI สมัยใหม่

    นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง KRunner ให้สามารถจัดเรียงผลลัพธ์การค้นหาได้อย่างคาดเดาและเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงฟังก์ชันหรือแอปที่ต้องการได้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะผู้ใช้ที่พึ่งพาการค้นหาภายในระบบเป็นหลัก

    KDE Frameworks 6.20 ยังแก้ไขบั๊กหลายรายการ เช่น ปัญหาการแสดงผลใน System Settings เมื่อเปิดด้วย kcmshell6, การแก้ไข Crash ของ Plasma เมื่อเปลี่ยนธีม, และการแก้ไขปัญหาการทำงานของ Plasma Discover ที่ทำให้ผู้ใช้ถูกถาม Feedback ทุกครั้งที่เปิดใช้งาน นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง Breeze icon theme ให้รองรับภาษา RTL เช่น อาหรับและฮีบรู รวมถึงการแก้ไขการแสดงผลใน GTK apps

    การอัปเดตนี้ยังเพิ่มความเข้ากันได้กับ Dark Color Scheme, ปรับปรุงการจัดการไฟล์ใน Flatpak apps และแก้ไขปัญหาการทำงานกับ NFS share เพื่อให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ KDE Plasma และแอป KDE ทั่วไป

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน KDE Frameworks 6.20
    เพิ่มแอนิเมชัน push/pop ที่สวยงามขึ้นใน System Settings
    ปรับปรุงการจัดเรียงผลลัพธ์ KRunner ให้คาดเดาได้ง่ายขึ้น

    การแก้ไขบั๊กและปรับปรุง
    แก้ Crash ของ Plasma เมื่อเปลี่ยนธีม
    แก้ปัญหา Plasma Discover ที่ถาม Feedback ทุกครั้ง
    ปรับปรุง Breeze icon theme สำหรับภาษา RTL

    การปรับปรุงความเข้ากันได้
    รองรับ Dark Color Scheme ได้ดียิ่งขึ้น
    แก้ไขการทำงานกับ Flatpak apps และ NFS share

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ KDE
    หากไม่อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด อาจยังพบปัญหา Crash และบั๊กเดิม
    การละเลยการอัปเดตอาจทำให้ระบบไม่เสถียรและเสี่ยงต่อการทำงานผิดพลาด

    https://9to5linux.com/kde-frameworks-6-20-adds-a-fancier-push-pop-animation-to-system-settings-pages
    🎨 KDE Frameworks 6.20 เพิ่มแอนิเมชันใหม่ใน System Settings KDE Project ได้ปล่อย KDE Frameworks 6.20 ซึ่งเป็นการอัปเดตรายเดือนที่มาพร้อมกับการปรับปรุงหลายด้าน โดยหนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือ แอนิเมชัน push/pop ที่สวยงามขึ้นใน System Settings ทำให้การเปลี่ยนหน้าการตั้งค่าดูราบรื่นและทันสมัยมากขึ้น ช่วยเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้ให้มีความเป็นธรรมชาติและสอดคล้องกับการออกแบบ UI สมัยใหม่ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง KRunner ให้สามารถจัดเรียงผลลัพธ์การค้นหาได้อย่างคาดเดาและเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงฟังก์ชันหรือแอปที่ต้องการได้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะผู้ใช้ที่พึ่งพาการค้นหาภายในระบบเป็นหลัก KDE Frameworks 6.20 ยังแก้ไขบั๊กหลายรายการ เช่น ปัญหาการแสดงผลใน System Settings เมื่อเปิดด้วย kcmshell6, การแก้ไข Crash ของ Plasma เมื่อเปลี่ยนธีม, และการแก้ไขปัญหาการทำงานของ Plasma Discover ที่ทำให้ผู้ใช้ถูกถาม Feedback ทุกครั้งที่เปิดใช้งาน นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง Breeze icon theme ให้รองรับภาษา RTL เช่น อาหรับและฮีบรู รวมถึงการแก้ไขการแสดงผลใน GTK apps การอัปเดตนี้ยังเพิ่มความเข้ากันได้กับ Dark Color Scheme, ปรับปรุงการจัดการไฟล์ใน Flatpak apps และแก้ไขปัญหาการทำงานกับ NFS share เพื่อให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ KDE Plasma และแอป KDE ทั่วไป 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน KDE Frameworks 6.20 ➡️ เพิ่มแอนิเมชัน push/pop ที่สวยงามขึ้นใน System Settings ➡️ ปรับปรุงการจัดเรียงผลลัพธ์ KRunner ให้คาดเดาได้ง่ายขึ้น ✅ การแก้ไขบั๊กและปรับปรุง ➡️ แก้ Crash ของ Plasma เมื่อเปลี่ยนธีม ➡️ แก้ปัญหา Plasma Discover ที่ถาม Feedback ทุกครั้ง ➡️ ปรับปรุง Breeze icon theme สำหรับภาษา RTL ✅ การปรับปรุงความเข้ากันได้ ➡️ รองรับ Dark Color Scheme ได้ดียิ่งขึ้น ➡️ แก้ไขการทำงานกับ Flatpak apps และ NFS share ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ KDE ⛔ หากไม่อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด อาจยังพบปัญหา Crash และบั๊กเดิม ⛔ การละเลยการอัปเดตอาจทำให้ระบบไม่เสถียรและเสี่ยงต่อการทำงานผิดพลาด https://9to5linux.com/kde-frameworks-6-20-adds-a-fancier-push-pop-animation-to-system-settings-pages
    9TO5LINUX.COM
    KDE Frameworks 6.20 Adds a Fancier Push/Pop Animation to System Settings Pages - 9to5Linux
    KDE Frameworks 6.20 open-source software suite is out now with various improvements and bug fixes for KDE apps and the Plasma desktop.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • เก็บหุ้นปันผล ฝ่าSETซึม (14/11/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น
    เก็บหุ้นปันผล ฝ่าSETซึม (14/11/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • AMD และปัญหา SSD เขียนข้อมูลไม่หยุด

    เรื่องนี้เริ่มจากผู้ใช้รายหนึ่งพบว่าไดรเวอร์ของ AMD มีพฤติกรรมแปลก ๆ คือทุกครั้งที่ขยับหรือปรับขนาดหน้าต่างบนจอ ระบบจะเขียนข้อมูลลงไฟล์ log อย่างต่อเนื่องราวกับ “ยิงกระสุนข้อมูล” ไปที่ SSD ตลอดเวลา แม้จะเป็นข้อมูลเล็ก ๆ แต่ก็ทำให้หลายคนกังวลว่าอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของ SSD ได้ในระยะยาว

    นักวิศวกรบางคนอธิบายว่า การเขียนข้อมูลลักษณะนี้อาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะ SSD สมัยใหม่มีระบบ cache ที่ช่วยลดการเขียนจริงลงแผ่น NAND แต่สิ่งที่น่าสนใจคือไฟล์ log นี้เกี่ยวข้องกับบริการที่ชื่อว่า AMD External Events Utility ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับฟีเจอร์ FreeSync หากปิดบริการนี้ก็จะหยุดการเขียนไฟล์ได้ แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะกระทบกับการทำงานของ FreeSync หรือไม่

    AMD ยังไม่ได้ออกคำชี้แจงอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ใช้บางรายก็หาทางแก้ชั่วคราว เช่น redirect การเขียนไฟล์ไปที่ nul: เพื่อไม่ให้ข้อมูลถูกบันทึกลง SSD จริง ๆ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ก็มีความเสี่ยง เพราะอาจทำให้ระบบทำงานผิดพลาดในบางกรณี

    สรุปประเด็น
    พฤติกรรมไดรเวอร์ AMD เขียนไฟล์ log ทุกครั้งที่ขยับหน้าต่าง
    เกิดจากบริการ AMD External Events Utility

    การเขียนข้อมูลมีขนาดเล็กและอาจไม่กระทบ SSD มากนัก
    SSD รุ่นใหม่มีระบบ cache ลดการเขียนจริง

    การปิดบริการอาจกระทบ FreeSync
    ยังไม่มีการยืนยันผลกระทบจาก AMD

    การ redirect ไฟล์ไป nul: อาจเสี่ยงต่อระบบ
    ผู้ใช้ควรระวังและทดสอบก่อนใช้งานจริง

    https://www.tomshardware.com/software/windows/amd-users-flag-heavy-ssd-write-activity-tied-to-chipset-driver-incessant-log-file-writes-observed-every-time-a-window-is-moved-or-resized
    🖥️ AMD และปัญหา SSD เขียนข้อมูลไม่หยุด เรื่องนี้เริ่มจากผู้ใช้รายหนึ่งพบว่าไดรเวอร์ของ AMD มีพฤติกรรมแปลก ๆ คือทุกครั้งที่ขยับหรือปรับขนาดหน้าต่างบนจอ ระบบจะเขียนข้อมูลลงไฟล์ log อย่างต่อเนื่องราวกับ “ยิงกระสุนข้อมูล” ไปที่ SSD ตลอดเวลา แม้จะเป็นข้อมูลเล็ก ๆ แต่ก็ทำให้หลายคนกังวลว่าอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของ SSD ได้ในระยะยาว นักวิศวกรบางคนอธิบายว่า การเขียนข้อมูลลักษณะนี้อาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะ SSD สมัยใหม่มีระบบ cache ที่ช่วยลดการเขียนจริงลงแผ่น NAND แต่สิ่งที่น่าสนใจคือไฟล์ log นี้เกี่ยวข้องกับบริการที่ชื่อว่า AMD External Events Utility ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับฟีเจอร์ FreeSync หากปิดบริการนี้ก็จะหยุดการเขียนไฟล์ได้ แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะกระทบกับการทำงานของ FreeSync หรือไม่ AMD ยังไม่ได้ออกคำชี้แจงอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ใช้บางรายก็หาทางแก้ชั่วคราว เช่น redirect การเขียนไฟล์ไปที่ nul: เพื่อไม่ให้ข้อมูลถูกบันทึกลง SSD จริง ๆ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ก็มีความเสี่ยง เพราะอาจทำให้ระบบทำงานผิดพลาดในบางกรณี 📌 สรุปประเด็น ✅ พฤติกรรมไดรเวอร์ AMD เขียนไฟล์ log ทุกครั้งที่ขยับหน้าต่าง ➡️ เกิดจากบริการ AMD External Events Utility ✅ การเขียนข้อมูลมีขนาดเล็กและอาจไม่กระทบ SSD มากนัก ➡️ SSD รุ่นใหม่มีระบบ cache ลดการเขียนจริง ‼️ การปิดบริการอาจกระทบ FreeSync ⛔ ยังไม่มีการยืนยันผลกระทบจาก AMD ‼️ การ redirect ไฟล์ไป nul: อาจเสี่ยงต่อระบบ ⛔ ผู้ใช้ควรระวังและทดสอบก่อนใช้งานจริง https://www.tomshardware.com/software/windows/amd-users-flag-heavy-ssd-write-activity-tied-to-chipset-driver-incessant-log-file-writes-observed-every-time-a-window-is-moved-or-resized
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD users flag heavy SSD write activity tied to chipset driver — incessant log file writes observed every time a window is moved or resized
    Disabling the AMD External Events Utility service appears to be a workaround, but with modern disk caching, we aren’t sure there’s a tangible problem.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • การกลับมาของ Valve ในตลาด VR

    หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ Steam Deck และ Steam Deck OLED ล่าสุด Valve ได้เปิดตัว Steam Frame VR ซึ่งเคยถูกเรียกในโค้ดเนมว่า “Deckard” โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2026 ตัวเครื่องถูกออกแบบให้เป็น อุปกรณ์ VR แบบไร้สายและทำงานได้ด้วยตัวเอง (standalone) แต่ยังคงรองรับการสตรีมเกมจาก PC ผ่านอะแดปเตอร์ไร้สาย 6GHz ที่มีระบบ dual-radio เพื่อลดการรบกวนสัญญาณ

    สเปกและฟีเจอร์ที่โดดเด่น
    Steam Frame ใช้ Snapdragon 8 Gen 3, RAM 16GB และมีตัวเลือกพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุดถึง 1TB พร้อมช่อง microSD สำหรับขยายเพิ่ม รองรับ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.3 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ SteamOS และมีโปรแกรม Steam Frame Verified เพื่อบอกว่ามีเกมใดที่สามารถเล่นได้ในโหมด standalone นอกจากนี้ยังรองรับเกม Android เพื่อดึงดูดนักพัฒนาที่เคยทำงานบนแพลตฟอร์ม Quest

    เทคโนโลยี Foveated Streaming
    หนึ่งในฟีเจอร์ที่สร้างความตื่นเต้นคือ Foveated Streaming ซึ่งใช้กล้องติดตามดวงตา 2 ตัวเพื่อเพิ่มความละเอียดภาพเฉพาะบริเวณที่ผู้เล่นกำลังมองอยู่ Valve อ้างว่าสามารถเพิ่มคุณภาพภาพและประสิทธิภาพแบนด์วิดท์ได้ถึง 10 เท่า ทำให้การสตรีมเกมจาก PC มีความคมชัดและลื่นไหลมากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาการปรับแต่งจากนักพัฒนาเกม

    การออกแบบและประสบการณ์ใช้งาน
    ตัวเครื่องมีน้ำหนักรวมเพียง 440 กรัม โดยแบตเตอรี่ 21.6Wh ถูกติดตั้งไว้ด้านหลังเพื่อถ่วงน้ำหนักให้สมดุล รองรับการชาร์จเร็ว 45W และมีเลนส์แบบ pancake ที่ให้ภาพคมชัดทั่วทั้งขอบ พร้อมจอ LCD คู่ความละเอียด 2160 × 2160 ต่อข้าง รองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz และมุมมองกว้าง 110 องศา ด้านเสียงมีลำโพงสเตอริโอคู่ที่ให้เสียงคุณภาพสูง ขณะที่คอนโทรลเลอร์ถูกออกแบบใหม่ให้มีระบบติดตาม 6-DOF และใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ AA

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปิดตัว Steam Frame VR
    เปิดตัวอย่างเป็นทางการ กำหนดวางจำหน่ายต้นปี 2026
    เป็นอุปกรณ์ VR แบบ standalone และรองรับการสตรีมจาก PC

    สเปกและระบบภายใน
    Snapdragon 8 Gen 3, RAM 16GB, พื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 1TB
    รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3 และ SteamOS

    ฟีเจอร์ใหม่ Foveated Streaming
    ใช้กล้องติดตามดวงตาเพื่อเพิ่มคุณภาพภาพเฉพาะจุดที่มอง
    Valve เคลมว่าประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 10 เท่า

    การออกแบบและประสบการณ์ใช้งาน
    น้ำหนักรวม 440 กรัม พร้อมแบตเตอรี่ด้านหลังเพื่อสมดุล
    จอ LCD คู่ 2160 × 2160, รีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    ยังไม่ประกาศราคาและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่แน่นอน
    ประสิทธิภาพเกม PC VR ที่ต้องการสเปกสูงอาจยังไม่สมบูรณ์ในโหมด standalone

    https://securityonline.info/steam-frame-vr-unveiled-valves-standalone-headset-targets-quest-with-snapdragon-foveated-streaming/
    🎮 การกลับมาของ Valve ในตลาด VR หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ Steam Deck และ Steam Deck OLED ล่าสุด Valve ได้เปิดตัว Steam Frame VR ซึ่งเคยถูกเรียกในโค้ดเนมว่า “Deckard” โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2026 ตัวเครื่องถูกออกแบบให้เป็น อุปกรณ์ VR แบบไร้สายและทำงานได้ด้วยตัวเอง (standalone) แต่ยังคงรองรับการสตรีมเกมจาก PC ผ่านอะแดปเตอร์ไร้สาย 6GHz ที่มีระบบ dual-radio เพื่อลดการรบกวนสัญญาณ ⚡ สเปกและฟีเจอร์ที่โดดเด่น Steam Frame ใช้ Snapdragon 8 Gen 3, RAM 16GB และมีตัวเลือกพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุดถึง 1TB พร้อมช่อง microSD สำหรับขยายเพิ่ม รองรับ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.3 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ SteamOS และมีโปรแกรม Steam Frame Verified เพื่อบอกว่ามีเกมใดที่สามารถเล่นได้ในโหมด standalone นอกจากนี้ยังรองรับเกม Android เพื่อดึงดูดนักพัฒนาที่เคยทำงานบนแพลตฟอร์ม Quest 👀 เทคโนโลยี Foveated Streaming หนึ่งในฟีเจอร์ที่สร้างความตื่นเต้นคือ Foveated Streaming ซึ่งใช้กล้องติดตามดวงตา 2 ตัวเพื่อเพิ่มความละเอียดภาพเฉพาะบริเวณที่ผู้เล่นกำลังมองอยู่ Valve อ้างว่าสามารถเพิ่มคุณภาพภาพและประสิทธิภาพแบนด์วิดท์ได้ถึง 10 เท่า ทำให้การสตรีมเกมจาก PC มีความคมชัดและลื่นไหลมากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาการปรับแต่งจากนักพัฒนาเกม 🔊 การออกแบบและประสบการณ์ใช้งาน ตัวเครื่องมีน้ำหนักรวมเพียง 440 กรัม โดยแบตเตอรี่ 21.6Wh ถูกติดตั้งไว้ด้านหลังเพื่อถ่วงน้ำหนักให้สมดุล รองรับการชาร์จเร็ว 45W และมีเลนส์แบบ pancake ที่ให้ภาพคมชัดทั่วทั้งขอบ พร้อมจอ LCD คู่ความละเอียด 2160 × 2160 ต่อข้าง รองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz และมุมมองกว้าง 110 องศา ด้านเสียงมีลำโพงสเตอริโอคู่ที่ให้เสียงคุณภาพสูง ขณะที่คอนโทรลเลอร์ถูกออกแบบใหม่ให้มีระบบติดตาม 6-DOF และใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ AA 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปิดตัว Steam Frame VR ➡️ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ กำหนดวางจำหน่ายต้นปี 2026 ➡️ เป็นอุปกรณ์ VR แบบ standalone และรองรับการสตรีมจาก PC ✅ สเปกและระบบภายใน ➡️ Snapdragon 8 Gen 3, RAM 16GB, พื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 1TB ➡️ รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3 และ SteamOS ✅ ฟีเจอร์ใหม่ Foveated Streaming ➡️ ใช้กล้องติดตามดวงตาเพื่อเพิ่มคุณภาพภาพเฉพาะจุดที่มอง ➡️ Valve เคลมว่าประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 10 เท่า ✅ การออกแบบและประสบการณ์ใช้งาน ➡️ น้ำหนักรวม 440 กรัม พร้อมแบตเตอรี่ด้านหลังเพื่อสมดุล ➡️ จอ LCD คู่ 2160 × 2160, รีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่ประกาศราคาและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่แน่นอน ⛔ ประสิทธิภาพเกม PC VR ที่ต้องการสเปกสูงอาจยังไม่สมบูรณ์ในโหมด standalone https://securityonline.info/steam-frame-vr-unveiled-valves-standalone-headset-targets-quest-with-snapdragon-foveated-streaming/
    SECURITYONLINE.INFO
    Steam Frame VR Unveiled: Valve's Standalone Headset Targets Quest with Snapdragon & Foveated Streaming
    Valve unveiled Steam Frame VR, a standalone headset with Snapdragon 8 Gen 3, SteamOS, and Foveated Streaming, set to launch in early 2026.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD Bulldozer และ Piledriver ได้รับเฟิร์มแวร์ใหม่ในปี 2025

    เรื่องนี้น่าสนใจมาก เพราะใครจะคิดว่า CPU รุ่นเก่าของ AMD อย่าง Bulldozer และ Piledriver ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2011–2015 จะยังมีคนพัฒนาเฟิร์มแวร์ใหม่ให้ใช้งานได้ในปี 2025 โดยทีมอิสระชื่อ 15h.org ได้ทำให้เครื่องที่ใช้ CPU รุ่นนี้สามารถบูตได้เร็วขึ้นภายใน 15 วินาที แม้จะติดตั้ง RAM ขนาดมหาศาลถึง 256GB แถมยังรองรับการใช้งาน PCIe หลายตัว และแก้บั๊กต่าง ๆ ที่เคยมีในอดีต จุดเด่นคือ CPU รุ่นนี้ยังสามารถใช้ระบบที่เปิดซอร์สได้เต็มรูปแบบ ตั้งแต่ OS ไปจนถึง BIOS ซึ่งเป็นสิ่งที่ CPU รุ่นใหม่ไม่สามารถทำได้เพราะติดข้อจำกัดด้านความปลอดภัย UEFI

    การกลับมาของ Bulldozer และ Piledriver ทำให้เหล่า Linux Enthusiasts ตื่นเต้น เพราะมันเปิดโอกาสให้สร้างเครื่องที่ควบคุมได้ทุกส่วนโดยไม่ต้องพึ่งระบบปิดจากผู้ผลิต แม้ประสิทธิภาพต่อคอร์จะไม่สูง แต่การทำงานแบบหลายคอร์ยังคงมีประโยชน์ในงานเฉพาะทาง เช่น เซิร์ฟเวอร์หรือการประมวลผลแบบขนาน

    เฟิร์มแวร์ใหม่จาก 15h.org
    บูตเร็วขึ้น 15 วินาทีแม้ใช้ RAM 256GB
    รองรับ PCIe หลายตัวและแก้บั๊ก IOMMU

    จุดเด่นของ Bulldozer/Piledriver
    ใช้ระบบ open-source ได้เต็มรูปแบบ
    เหมาะกับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการควบคุม BIOS

    ข้อจำกัดของ CPU รุ่นเก่า
    ประสิทธิภาพ single-core ต่ำมากเมื่อเทียบกับ CPU รุ่นใหม่
    ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วสูงต่อคอร์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-ancient-bulldozer-and-piledriver-platforms-getting-open-source-firmwares-in-2025-latest-update-delivers-15-second-boot-up-times-with-256gb-memory-setups
    🖥️ AMD Bulldozer และ Piledriver ได้รับเฟิร์มแวร์ใหม่ในปี 2025 เรื่องนี้น่าสนใจมาก เพราะใครจะคิดว่า CPU รุ่นเก่าของ AMD อย่าง Bulldozer และ Piledriver ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2011–2015 จะยังมีคนพัฒนาเฟิร์มแวร์ใหม่ให้ใช้งานได้ในปี 2025 โดยทีมอิสระชื่อ 15h.org ได้ทำให้เครื่องที่ใช้ CPU รุ่นนี้สามารถบูตได้เร็วขึ้นภายใน 15 วินาที แม้จะติดตั้ง RAM ขนาดมหาศาลถึง 256GB แถมยังรองรับการใช้งาน PCIe หลายตัว และแก้บั๊กต่าง ๆ ที่เคยมีในอดีต จุดเด่นคือ CPU รุ่นนี้ยังสามารถใช้ระบบที่เปิดซอร์สได้เต็มรูปแบบ ตั้งแต่ OS ไปจนถึง BIOS ซึ่งเป็นสิ่งที่ CPU รุ่นใหม่ไม่สามารถทำได้เพราะติดข้อจำกัดด้านความปลอดภัย UEFI การกลับมาของ Bulldozer และ Piledriver ทำให้เหล่า Linux Enthusiasts ตื่นเต้น เพราะมันเปิดโอกาสให้สร้างเครื่องที่ควบคุมได้ทุกส่วนโดยไม่ต้องพึ่งระบบปิดจากผู้ผลิต แม้ประสิทธิภาพต่อคอร์จะไม่สูง แต่การทำงานแบบหลายคอร์ยังคงมีประโยชน์ในงานเฉพาะทาง เช่น เซิร์ฟเวอร์หรือการประมวลผลแบบขนาน ✅ เฟิร์มแวร์ใหม่จาก 15h.org ➡️ บูตเร็วขึ้น 15 วินาทีแม้ใช้ RAM 256GB ➡️ รองรับ PCIe หลายตัวและแก้บั๊ก IOMMU ✅ จุดเด่นของ Bulldozer/Piledriver ➡️ ใช้ระบบ open-source ได้เต็มรูปแบบ ➡️ เหมาะกับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการควบคุม BIOS ‼️ ข้อจำกัดของ CPU รุ่นเก่า ⛔ ประสิทธิภาพ single-core ต่ำมากเมื่อเทียบกับ CPU รุ่นใหม่ ⛔ ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วสูงต่อคอร์ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-ancient-bulldozer-and-piledriver-platforms-getting-open-source-firmwares-in-2025-latest-update-delivers-15-second-boot-up-times-with-256gb-memory-setups
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD's ancient Bulldozer and Piledriver platforms getting new open source firmwares in 2025 — update delivers 15-second boot-up times with 256GB memory setups
    AMD's FX series and Opteron CPUs based on Bulldozer and Piledriver are still being supported through a third-party on a handful of motherboards.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • Valve เปิดตัว Steam Machines, Steam Controller และ Steam Frame VR Headset

    Valve กลับมาสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการเกมอีกครั้งด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ถึงสามชิ้นพร้อมกัน ได้แก่ Steam Machines รุ่นใหม่, Steam Frame VR Headset และ Steam Controller รุ่นล่าสุด โดยทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อกับระบบนิเวศของ Steam อย่างสมบูรณ์ และยังคงยึดแนวคิด “open platform” ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ตามใจชอบ

    Steam Machines ใช้พลังจาก AMD Zen 4 และการ์ดจอ RDNA3 พร้อม RAM DDR5 และ SSD NVMe ความเร็วสูง รองรับการเชื่อมต่อที่ครบครันตั้งแต่ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 ไปจนถึง HDMI และ DisplayPort รุ่นใหม่ ส่วน Steam Frame VR Headset เน้นการสตรีมเกมจากคลัง Steam โดยใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 และหน้าจอความละเอียดสูง 2160×2160 ต่อข้าง รองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz พร้อมเลนส์ pancake ที่ช่วยให้ภาพคมชัดและมุมมองกว้างถึง 110 องศา

    ที่น่าสนใจคือ Valve ยังเปิดตัว Steam Controller รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมระบบ haptic motors และ thumbsticks แบบแม่เหล็กที่ตอบสนองแม่นยำยิ่งขึ้น แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 35 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทั้งหมดนี้จะเริ่มวางจำหน่ายต้นปี 2026 ในหลายภูมิภาค รวมถึงสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย

    Steam Machines รุ่นใหม่
    ใช้ AMD Zen 4, RDNA3 GPU, RAM DDR5, SSD NVMe
    รองรับ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3, HDMI 2.0, DisplayPort 1.4

    Steam Frame VR Headset
    ใช้ Snapdragon 8 Gen 3, RAM 16GB, หน้าจอ 2160×2160 ต่อข้าง
    รีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz, มุมมองกว้าง 110°

    Steam Controller รุ่นใหม่
    มี haptic motors, thumbsticks แม่เหล็ก, แบตเตอรี่ 35 ชั่วโมง

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    อุปกรณ์ใหม่อาจมีราคาสูงและต้องการสเปกเครือข่ายที่ทันสมัยเพื่อใช้งานเต็มประสิทธิภาพ
    VR Headset อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาหรือเวียนหัวง่าย

    P/S: ลุงอยากได้ !!!!!!

    https://9to5linux.com/valve-announces-steam-machines-steam-controller-and-steam-frame-vr-headset
    🕹️ Valve เปิดตัว Steam Machines, Steam Controller และ Steam Frame VR Headset Valve กลับมาสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการเกมอีกครั้งด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ถึงสามชิ้นพร้อมกัน ได้แก่ Steam Machines รุ่นใหม่, Steam Frame VR Headset และ Steam Controller รุ่นล่าสุด โดยทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อกับระบบนิเวศของ Steam อย่างสมบูรณ์ และยังคงยึดแนวคิด “open platform” ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ตามใจชอบ Steam Machines ใช้พลังจาก AMD Zen 4 และการ์ดจอ RDNA3 พร้อม RAM DDR5 และ SSD NVMe ความเร็วสูง รองรับการเชื่อมต่อที่ครบครันตั้งแต่ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 ไปจนถึง HDMI และ DisplayPort รุ่นใหม่ ส่วน Steam Frame VR Headset เน้นการสตรีมเกมจากคลัง Steam โดยใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 และหน้าจอความละเอียดสูง 2160×2160 ต่อข้าง รองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz พร้อมเลนส์ pancake ที่ช่วยให้ภาพคมชัดและมุมมองกว้างถึง 110 องศา ที่น่าสนใจคือ Valve ยังเปิดตัว Steam Controller รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมระบบ haptic motors และ thumbsticks แบบแม่เหล็กที่ตอบสนองแม่นยำยิ่งขึ้น แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 35 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทั้งหมดนี้จะเริ่มวางจำหน่ายต้นปี 2026 ในหลายภูมิภาค รวมถึงสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ✅ Steam Machines รุ่นใหม่ ➡️ ใช้ AMD Zen 4, RDNA3 GPU, RAM DDR5, SSD NVMe ➡️ รองรับ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3, HDMI 2.0, DisplayPort 1.4 ✅ Steam Frame VR Headset ➡️ ใช้ Snapdragon 8 Gen 3, RAM 16GB, หน้าจอ 2160×2160 ต่อข้าง ➡️ รีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz, มุมมองกว้าง 110° ✅ Steam Controller รุ่นใหม่ ➡️ มี haptic motors, thumbsticks แม่เหล็ก, แบตเตอรี่ 35 ชั่วโมง ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ อุปกรณ์ใหม่อาจมีราคาสูงและต้องการสเปกเครือข่ายที่ทันสมัยเพื่อใช้งานเต็มประสิทธิภาพ ⛔ VR Headset อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาหรือเวียนหัวง่าย P/S: ลุงอยากได้ !!!!!! https://9to5linux.com/valve-announces-steam-machines-steam-controller-and-steam-frame-vr-headset
    9TO5LINUX.COM
    Valve Announces Steam Machines, Steam Controller, and Steam Frame VR Headset - 9to5Linux
    Valve announces Steam Machines, Steam Controller, and Steam Frame VR headset products, scheduled for 2026.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts