• อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ระวังมัคคภาวนา : มีทั้งไม่ถูก(ผิด)​และถูก
    สัทธรรมลำดับที่ : 1012
    ชื่อบทธรรม :- หมวด ฉ. ว่าด้วย อุปมาธรรมของมรรค
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1012
    เนื้อความทั้งหมด :-
    หมวด ฉ. ว่าด้วย อุปมาธรรมของมรรค
    --ระวังมัคคภาวนา : มีทั้ง-ไม่ถูก(ผิด)​และถูก

    ( ฝ่ายไม่ถูกหรือผิด )
    --ภิกษุ ท. ! เดือยแห่งเมล็ดข้าวสาลี หรือเดือยแห่งเมล็ดข้าวยวะที่วางไว้ไม่ถูกท่า
    จักตำมือ หรือตำเท้าที่เหยียบกดลงไป หรือจักทำโลหิตให้ห้อขึ้นมา ได้นั้น
    : นั่นไม่เป็นฐานะที่มีได้. ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ?
    เพราะเหตุว่า เดือยแห่งเมล็ดข้าวเหล่านั้น วางไว้ไม่ถูกท่า (สำหรับที่จะตำ),
    ข้อนี้ฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! เมื่อ ทิฏฐิเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ผิด มัคคภาวนาเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ไม่ถูก(ผิด)​แล้ว
    ภิกษุนั้น จักทำลายอวิชชา จักทำวิชชาให้เกิดขึ้น
    หรือ จักกระทำนิพพานให้แจ้ง ได้นั้น
    : นั่น ไม่เป็นฐานะที่มีได้. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ?
    เพราะเหตุว่า ทิฏฐิเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ไม่ถูก(ผิด)​, ฉันนั้นเหมือนกัน.

    ( ฝ่ายถูก )
    --ภิกษุ ท. ! เดือยแห่งเมล็ดข้าวสาลี หรือเดือยแห่งเมล็ดข้าวยวะที่วางอยู่ถูกท่า
    จักตำมือ หรือตำเท้าที่เหยียบกดลงไป หรือจักทำโลหิตให้ห้อขึ้นมา ได้นั้น
    : นั่นเป็นฐานะที่มีได้. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ?
    เพราะเหตุว่าเดือยแห่งเมล็ดข้าวเหล่านั้น วางอยู่ถูกท่า (สำหรับที่จะตำ),
    ข้อนี้ฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! เมื่อ ทิฏฐิเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ถูก มัคคภาวนาเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ถูก แล้ว
    ภิกษุนั้น จักทำลายอวิชชา จักทำวิชชาให้เกิดขึ้น หรือ จักกระทำนิพพานให้แจ้งได้นั้น
    : นั่น เป็นฐานะที่มีได้. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ?
    เพราะ​ เหตุว่าทิฏฐิเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ถูก, ฉันนั้นเหมือนกัน.

    +--ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า ที่เรียกว่า เมื่อทิฏฐิตั้งไว้ถูก มัคคภาวนาตั้งไว้ถูก แล้ว
    ภิกษุนั้นจักทำลายอวิชชา จักทำวิชชาให้เกิดขึ้น หรือจักกระทำนิพพานให้แจ้ง ได้ ?
    +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    เจริญสัมมาทิฏฐิ
    อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อการสลัดลง (ซึ่งอุปาทานขันธ์);
    เจริญสัมมาสังกัปปะ....;
    เจริญสัมมาวาจา….; เจริญสัมมากัมมันตะ….; เจริญสัมมาอาชีวะ….;
    เจริญสัมมาวายามะ ….; เจริญสัมมาสติ....;
    เจริญสัมมาสมาธิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อการสลัดลง (ซึ่งอุปทานขันธ).
    +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล คือข้อที่กล่าวว่า #เมื่อทิฏฐิตั้งไว้ถูกมัคคภาวนาตั้งไว้ถูก แล้ว
    ภิกษุนั้นจักทำลายอวิชชา จักทำวิชชาให้ เกิดขึ้น หรือ จักกระทำ #นิพพานให้แจ้ง ได้.-
    http://etipitaka.com/read/pali/19/14/?keywords=นิพฺพาน

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/9/42 - 44.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/9/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๑๓/๔๒ - ๔๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/13/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%92
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1012
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1012
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87
    ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ระวังมัคคภาวนา : มีทั้งไม่ถูก(ผิด)​และถูก สัทธรรมลำดับที่ : 1012 ชื่อบทธรรม :- หมวด ฉ. ว่าด้วย อุปมาธรรมของมรรค https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1012 เนื้อความทั้งหมด :- หมวด ฉ. ว่าด้วย อุปมาธรรมของมรรค --ระวังมัคคภาวนา : มีทั้ง-ไม่ถูก(ผิด)​และถูก ( ฝ่ายไม่ถูกหรือผิด ) --ภิกษุ ท. ! เดือยแห่งเมล็ดข้าวสาลี หรือเดือยแห่งเมล็ดข้าวยวะที่วางไว้ไม่ถูกท่า จักตำมือ หรือตำเท้าที่เหยียบกดลงไป หรือจักทำโลหิตให้ห้อขึ้นมา ได้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่มีได้. ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ? เพราะเหตุว่า เดือยแห่งเมล็ดข้าวเหล่านั้น วางไว้ไม่ถูกท่า (สำหรับที่จะตำ), ข้อนี้ฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! เมื่อ ทิฏฐิเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ผิด มัคคภาวนาเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ไม่ถูก(ผิด)​แล้ว ภิกษุนั้น จักทำลายอวิชชา จักทำวิชชาให้เกิดขึ้น หรือ จักกระทำนิพพานให้แจ้ง ได้นั้น : นั่น ไม่เป็นฐานะที่มีได้. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? เพราะเหตุว่า ทิฏฐิเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ไม่ถูก(ผิด)​, ฉันนั้นเหมือนกัน. ( ฝ่ายถูก ) --ภิกษุ ท. ! เดือยแห่งเมล็ดข้าวสาลี หรือเดือยแห่งเมล็ดข้าวยวะที่วางอยู่ถูกท่า จักตำมือ หรือตำเท้าที่เหยียบกดลงไป หรือจักทำโลหิตให้ห้อขึ้นมา ได้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่มีได้. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? เพราะเหตุว่าเดือยแห่งเมล็ดข้าวเหล่านั้น วางอยู่ถูกท่า (สำหรับที่จะตำ), ข้อนี้ฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! เมื่อ ทิฏฐิเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ถูก มัคคภาวนาเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ถูก แล้ว ภิกษุนั้น จักทำลายอวิชชา จักทำวิชชาให้เกิดขึ้น หรือ จักกระทำนิพพานให้แจ้งได้นั้น : นั่น เป็นฐานะที่มีได้. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? เพราะ​ เหตุว่าทิฏฐิเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ถูก, ฉันนั้นเหมือนกัน. +--ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า ที่เรียกว่า เมื่อทิฏฐิตั้งไว้ถูก มัคคภาวนาตั้งไว้ถูก แล้ว ภิกษุนั้นจักทำลายอวิชชา จักทำวิชชาให้เกิดขึ้น หรือจักกระทำนิพพานให้แจ้ง ได้ ? +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เจริญสัมมาทิฏฐิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อการสลัดลง (ซึ่งอุปาทานขันธ์); เจริญสัมมาสังกัปปะ....; เจริญสัมมาวาจา….; เจริญสัมมากัมมันตะ….; เจริญสัมมาอาชีวะ….; เจริญสัมมาวายามะ ….; เจริญสัมมาสติ....; เจริญสัมมาสมาธิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อการสลัดลง (ซึ่งอุปทานขันธ). +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล คือข้อที่กล่าวว่า #เมื่อทิฏฐิตั้งไว้ถูกมัคคภาวนาตั้งไว้ถูก แล้ว ภิกษุนั้นจักทำลายอวิชชา จักทำวิชชาให้ เกิดขึ้น หรือ จักกระทำ #นิพพานให้แจ้ง ได้.- http://etipitaka.com/read/pali/19/14/?keywords=นิพฺพาน #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/9/42 - 44. http://etipitaka.com/read/thai/19/9/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๑๓/๔๒ - ๔๔. http://etipitaka.com/read/pali/19/13/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%92 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1012 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1012 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87 ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - หมวด ฉ. ว่าด้วย อุปมาธรรมของมรรค
    -หมวด ฉ. ว่าด้วย อุปมาธรรมของมรรค ระวังมัคคภาวนา : มีทั้งผิดและถูก ( ฝ่ายผิด ) ภิกษุ ท. ! เดือยแห่งเมล็ดข้าวสาลี หรือเดือยแห่งเมล็ดข้าวยวะที่วางไว้ไม่ถูกท่า จักตำมือ หรือตำเท้าที่เหยียบกดลงไป หรือจักทำโลหิตให้ห้อขึ้นมา ได้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่มีได้. ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ? เพราะ เหตุว่า เดือยแห่งเมล็ดข้าวเหล่านั้น วางไว้ไม่ถูกท่า (สำหรับที่จะตำ), ข้อนี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! เมื่อ ทิฏฐิเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ผิด มัคคภาวนาเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ผิดแล้ว ภิกษุนั้น จักทำลายอวิชชา จักทำวิชชาให้เกิดขึ้น หรือ จักกระทำนิพพานให้แจ้ง ได้นั้น : นั่น ไม่เป็นฐานะที่มีได้. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? เพราะเหตุว่า ทิฏฐิเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ผิด, ฉันนั้นเหมือนกัน. ( ฝ่ายถูก ) ภิกษุ ท. ! เดือยแห่งเมล็ดข้าวสาลี หรือเดือยแห่งเมล็ดข้าวยวะที่วางอยู่ถูกท่า จักตำมือ หรือตำเท้าที่เหยียบกดลงไป หรือจักทำโลหิตให้ห้อขึ้นมา ได้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่มีได้. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? เพราะเหตุว่าเดือยแห่งเมล็ดข้าวเหล่านั้น วางอยู่ถูกท่า (สำหรับที่จะตำ), ข้อนี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! เมื่อ ทิฏฐิเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ถูก มัคคภาวนาเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ถูก แล้ว ภิกษุนั้น จักทำลายอวิชชา จักทำวิชชาให้เกิดขึ้น หรือ จักกระทำนิพพานให้แจ้งได้นั้น : นั่น เป็นฐานะที่มีได้. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? เพราะเหตุว่าทิฏฐิเป็นสิ่งที่ตั้งไว้ถูก, ฉันนั้นเหมือนกัน. ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า ที่เรียกว่า เมื่อทิฏฐิตั้งไว้ถูก มัคคภาวนาตั้งไว้ถูก แล้ว ภิกษุนั้นจักทำลายอวิชชา จักทำวิชชาให้เกิดขึ้น หรือจักกระทำนิพพานให้แจ้ง ได้ ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เจริญสัมมาทิฏฐิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อการสลัดลง (ซึ่งอุปาทานขันธ์); เจริญสัมมาสังกัปปะ....; เจริญสัมมาวาจา….; เจริญสัมมากัมมันตะ….; เจริญสัมมาอาชีวะ….; เจริญสัมมาวายามะ ….; เจริญสัมมาสติ....; เจริญสัมมาสมาธิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อการ สลัดลง (ซึ่งอุปทานขันธ). ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล คือข้อที่กล่าวว่า เมื่อทิฏฐิตั้งไว้ถูก มัคคภาวนาตั้งไว้ถูก แล้ว ภิกษุนั้นจักทำลายอวิชชา จักทำวิชชาให้ เกิดขึ้น หรือจักกระทำนิพพานให้แจ้ง ได้.
    0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาเป็นลำดับในลักษณะแห่งการถึงที่สุดทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 644
    ชื่อบทธรรม :- ลักษณะแห่งการถึงที่สุดทุกข์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=644
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ลักษณะแห่งการถึงที่สุดทุกข์
    --ภิกษุ ท. ! อวิชชาภิกษุละได้แล้ว
    วิชชาเกิดขึ้นแล้ว ในกาลใด,
    ในกาลนั้น ภิกษุนั้น,
    เพราะความสำรอกออกโดยไม่เหลือแห่งอวิชชา เพราะการเกิดขึ้นแห่งวิชชา, เธอ
    ย่อมไม่ปรุงแต่งซึ่ง อภิสังขารอันเป็นบุญ ;
    ย่อมไม่ปรุงแต่งซึ่ง อภิสังขารอันมิใช่บุญ ;
    ย่อมไม่ปรุงแต่งซึ่ง อภิสังขารอันเป็นอเนญชา ;
    เมื่อ ไม่ปรุงแต่ง อยู่,
    เมื่อ ไม่มุ่งมาด อยู่,
    เธอย่อม ไม่ถือมั่นสิ่งไรๆ ในโลก ;
    เมื่อไม่ถือมั่นอยู่,
    เธอย่อม ไม่สะดุ้งหวาดเสียว;
    เมื่อไม่สะดุ้งหวาดเสียวอยู่,
    เธอย่อม #ปรินิพพานเฉพาะตน นั่นเทียว.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/99/?keywords=ปรินิพฺพายติ
    เธอย่อมรู้ประจักษ์ว่า
    “ชาติสิ้นแล้ว, พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว,
    กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว,
    กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก”
    ดังนี้.
    --ภิกษุนั้น ถ้าเสวย สุขเวทนา ก็รู้ประจักษ์ว่า
    “เวทนานั้น ไม่เที่ยงอันเราไม่สยบมัวเมาแล้ว อันเราไม่เพลิดเพลินเฉพาะแล้ว”
    ดังนี้.
    ถ้าเสวย ทุกขเวทนา ก็รู้ประจักษ์ว่า
    “เวทนานั้น ไม่เที่ยง อันเราไม่สยบมัวเมาแล้ว อันเราไม่เพลิดเพลินเฉพาะแล้ว”
    ดังนี้.
    ถ้าเสวย อทุกขมสุขเวทนา ก็รู้ประจักษ์ว่า
    “เวทนานั้นไม่เที่ยง อันเราไม่สยบมัวเมาแล้ว อันเราไม่เพลิดเพลินเฉพาะแล้ว”
    ดังนี้.
    +-ภิกษุนั้น
    ถ้าเสวย สุขเวทนา ก็เป็นผู้ปราศจากกิเลสเครื่องร้อยรัดแล้ว เสวยเวทนานั้น ;
    ถ้าเสวย ทุกขเวทนา ก็เป็นผู้ปราศจากกิเลสเครื่องร้อยรัดแล้ว เสวยเวทนานั้น ;
    ถ้าเสวย อทุกขมสุขเวทนา ก็เป็นผู้ปราศจากกิเลสเครื่องร้อยรัดแล้ว เสวยเวทนานั้น.
    --ภิกษุนั้น
    เมื่อเสวย เวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ ย่อมรู้ประจักษ์ว่า
    “เราเสวยเวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ”
    ดังนี้.
    เมื่อเธอนั้น เสวย เวทนาอันมีชีวิตเป็นที่สุดรอบ ย่อมรู้ประจักษ์ว่า
    “เราเสวยเวทนาอันมีชีวิตเป็นที่สุดรอบ”
    ดังนี้.
    ภิกษุนั้น ย่อมรู้ประจักษ์ว่า
    “เวทนาทั้งหลายทั้งปวง
    อันเราไม่เพลิดเพลินเฉพาะแล้ว
    จักเป็นของเย็น ในอัตตภาพนี้เอง ;
    สรีระทั้งหลายจักเหลืออยู่ ;
    จนกระทั่งถึงที่สุดรอบแห่งชีวิต
    เพราะการแตกทำลายแห่งกาย”
    ดังนี้.

    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน
    บุรุษยกหม้อที่ยังร้อนออกจากเตาเผาหม้อ วางไว้พื้นดินอันเรียบ
    ไออุ่นที่หม้อนั้นพึงระงับหายไป ในที่นั้นเอง กระเบื้องทั้งหลายก็เหลืออยู่ นี้ฉันใด ;
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน กล่าวคือ
    เมื่อเสวยเวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ ย่อมรู้ประจักษว่า
    “เราเสวยเวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ”
    ดังนี้.
    เมื่อเธอนั้น เสวยเวทนาอันมีชีวิตเป็นที่สุดรอบ ย่อมรู้ประจักษ์ว่า
    “เราเสวยเวทนาอันมีชีวิตเป็นที่สุดรอบ”
    ดังนี้.
    +-ภิกษุนั้น ย่อมรู้ประจักษ์ว่า
    “เวทนาทั้งหลายทั้งปวง
    อันเราไม่เพลิดเพลินเฉพาะแล้ว
    จักเป็นของเย็นในอัตตภาพนี้เอง;
    สรีระทั้งหลายจักเหลืออยู่ ;
    จนกระทั่งถึงที่สุดรอบแห่งชีวิต
    เพราะการแตกทำลายแห่งกาย”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ;
    คือ ภิกษุผู้ขีณาสพ
    +--พึงปรุงแต่งปุญญาภิสังขาร,
    หรือว่าพึงปรุงแต่ง อปุญญาภิสังขาร,
    หรือว่าพึงปรุงแต่งอเนญชาภิสังขาร,
    บ้างหรือหนอ ?
    “ข้อนั้นหามิได้ พระเจ้าข้า !”
    +--เมื่อสังขารทั้งหลาย ไม่มี, เพราะความดับแห่งสังขาร
    โดยประการทั้งปวง,
    วิญญาณ พึงปรากฎ บ้างหรือหนอ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    +--เมื่อวิญญาณ ไม่มี, เพราะความดับแห่งวิญญาณ
    โดยประการทั้งปวง,
    นามรูป พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    +--เมื่อนามรูป ไม่มี, เพราะความดับแห่งนามรูป
    โดยประการทั้งปวง,
    สฬายตนะ พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    +--เมื่อสฬายตนะ ไม่มี, เพราะความดับแห่งสฬายตนะ
    โดยประการทั้งปวง,
    ผัสสะ พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    +--เมื่อผัสสะ ไม่มี, เพราะความดับแห่งผัสสะ
    โดยประการทั้งปวง,
    เวทนา พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    +--เมื่อเวทนา ไม่มี, เพราะความดับแห่งเวทนา
    โดยประการทั้งปวง,
    ตัณหา พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    +--เมื่อตัณหา ไม่มี, เพราะความดับแห่งตัณหา
    โดยประการทั้งปวง,
    อุปาทาน พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    +--เมื่ออุปาทาน ไม่มี, เพราะความดับแห่งอุปาทาน
    โดยประการทั้งปวง,
    ภพ พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    +--เมื่อภพ ไม่มี, เพราะความดับแห่งภพ
    โดยประการทั้งปวง,
    ชาติ พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --เมื่อชาติ ไม่มี, เพราะความดับแห่งชาติ
    โดยประการทั้งปวง.
    ชรามรณะ พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --ภิกษุ ท. ! ถูกแล้ว ถูกแล้ว.
    +--ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จงทำความสำคัญ จงเชื่อซึ่งข้อนั้น ไว้อย่างนั้นเถิด.
    +--ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลายจงปลงซึ่งความเชื่อ ในข้อนั้นอย่างนั้นเถิด ;
    จงเป็นผู้หมดความเคลือบแคลงสงสัยในข้อนั้นเถิด; #นั่นแหละที่สุดแห่งทุกข์ละ,
    http://etipitaka.com/read/pali/16/101/?keywords=เอเสวนฺโต+ทุกฺขสฺสาติ
    ดังนี้ แล.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน.สํ. 16/81-83/192-195.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/81/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน.สํ. ๑๖/๙๙-๑๐๑/๑๙๒-๑๙๕.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/99/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=644
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=644
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44
    ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาเป็นลำดับในลักษณะแห่งการถึงที่สุดทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 644 ชื่อบทธรรม :- ลักษณะแห่งการถึงที่สุดทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=644 เนื้อความทั้งหมด :- --ลักษณะแห่งการถึงที่สุดทุกข์ --ภิกษุ ท. ! อวิชชาภิกษุละได้แล้ว วิชชาเกิดขึ้นแล้ว ในกาลใด, ในกาลนั้น ภิกษุนั้น, เพราะความสำรอกออกโดยไม่เหลือแห่งอวิชชา เพราะการเกิดขึ้นแห่งวิชชา, เธอ ย่อมไม่ปรุงแต่งซึ่ง อภิสังขารอันเป็นบุญ ; ย่อมไม่ปรุงแต่งซึ่ง อภิสังขารอันมิใช่บุญ ; ย่อมไม่ปรุงแต่งซึ่ง อภิสังขารอันเป็นอเนญชา ; เมื่อ ไม่ปรุงแต่ง อยู่, เมื่อ ไม่มุ่งมาด อยู่, เธอย่อม ไม่ถือมั่นสิ่งไรๆ ในโลก ; เมื่อไม่ถือมั่นอยู่, เธอย่อม ไม่สะดุ้งหวาดเสียว; เมื่อไม่สะดุ้งหวาดเสียวอยู่, เธอย่อม #ปรินิพพานเฉพาะตน นั่นเทียว. http://etipitaka.com/read/pali/16/99/?keywords=ปรินิพฺพายติ เธอย่อมรู้ประจักษ์ว่า “ชาติสิ้นแล้ว, พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว, กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว, กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก” ดังนี้. --ภิกษุนั้น ถ้าเสวย สุขเวทนา ก็รู้ประจักษ์ว่า “เวทนานั้น ไม่เที่ยงอันเราไม่สยบมัวเมาแล้ว อันเราไม่เพลิดเพลินเฉพาะแล้ว” ดังนี้. ถ้าเสวย ทุกขเวทนา ก็รู้ประจักษ์ว่า “เวทนานั้น ไม่เที่ยง อันเราไม่สยบมัวเมาแล้ว อันเราไม่เพลิดเพลินเฉพาะแล้ว” ดังนี้. ถ้าเสวย อทุกขมสุขเวทนา ก็รู้ประจักษ์ว่า “เวทนานั้นไม่เที่ยง อันเราไม่สยบมัวเมาแล้ว อันเราไม่เพลิดเพลินเฉพาะแล้ว” ดังนี้. +-ภิกษุนั้น ถ้าเสวย สุขเวทนา ก็เป็นผู้ปราศจากกิเลสเครื่องร้อยรัดแล้ว เสวยเวทนานั้น ; ถ้าเสวย ทุกขเวทนา ก็เป็นผู้ปราศจากกิเลสเครื่องร้อยรัดแล้ว เสวยเวทนานั้น ; ถ้าเสวย อทุกขมสุขเวทนา ก็เป็นผู้ปราศจากกิเลสเครื่องร้อยรัดแล้ว เสวยเวทนานั้น. --ภิกษุนั้น เมื่อเสวย เวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ ย่อมรู้ประจักษ์ว่า “เราเสวยเวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ” ดังนี้. เมื่อเธอนั้น เสวย เวทนาอันมีชีวิตเป็นที่สุดรอบ ย่อมรู้ประจักษ์ว่า “เราเสวยเวทนาอันมีชีวิตเป็นที่สุดรอบ” ดังนี้. ภิกษุนั้น ย่อมรู้ประจักษ์ว่า “เวทนาทั้งหลายทั้งปวง อันเราไม่เพลิดเพลินเฉพาะแล้ว จักเป็นของเย็น ในอัตตภาพนี้เอง ; สรีระทั้งหลายจักเหลืออยู่ ; จนกระทั่งถึงที่สุดรอบแห่งชีวิต เพราะการแตกทำลายแห่งกาย” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน บุรุษยกหม้อที่ยังร้อนออกจากเตาเผาหม้อ วางไว้พื้นดินอันเรียบ ไออุ่นที่หม้อนั้นพึงระงับหายไป ในที่นั้นเอง กระเบื้องทั้งหลายก็เหลืออยู่ นี้ฉันใด ; --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน กล่าวคือ เมื่อเสวยเวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ ย่อมรู้ประจักษว่า “เราเสวยเวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ” ดังนี้. เมื่อเธอนั้น เสวยเวทนาอันมีชีวิตเป็นที่สุดรอบ ย่อมรู้ประจักษ์ว่า “เราเสวยเวทนาอันมีชีวิตเป็นที่สุดรอบ” ดังนี้. +-ภิกษุนั้น ย่อมรู้ประจักษ์ว่า “เวทนาทั้งหลายทั้งปวง อันเราไม่เพลิดเพลินเฉพาะแล้ว จักเป็นของเย็นในอัตตภาพนี้เอง; สรีระทั้งหลายจักเหลืออยู่ ; จนกระทั่งถึงที่สุดรอบแห่งชีวิต เพราะการแตกทำลายแห่งกาย” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ; คือ ภิกษุผู้ขีณาสพ +--พึงปรุงแต่งปุญญาภิสังขาร, หรือว่าพึงปรุงแต่ง อปุญญาภิสังขาร, หรือว่าพึงปรุงแต่งอเนญชาภิสังขาร, บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้นหามิได้ พระเจ้าข้า !” +--เมื่อสังขารทั้งหลาย ไม่มี, เพราะความดับแห่งสังขาร โดยประการทั้งปวง, วิญญาณ พึงปรากฎ บ้างหรือหนอ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” +--เมื่อวิญญาณ ไม่มี, เพราะความดับแห่งวิญญาณ โดยประการทั้งปวง, นามรูป พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” +--เมื่อนามรูป ไม่มี, เพราะความดับแห่งนามรูป โดยประการทั้งปวง, สฬายตนะ พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” +--เมื่อสฬายตนะ ไม่มี, เพราะความดับแห่งสฬายตนะ โดยประการทั้งปวง, ผัสสะ พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” +--เมื่อผัสสะ ไม่มี, เพราะความดับแห่งผัสสะ โดยประการทั้งปวง, เวทนา พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” +--เมื่อเวทนา ไม่มี, เพราะความดับแห่งเวทนา โดยประการทั้งปวง, ตัณหา พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” +--เมื่อตัณหา ไม่มี, เพราะความดับแห่งตัณหา โดยประการทั้งปวง, อุปาทาน พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” +--เมื่ออุปาทาน ไม่มี, เพราะความดับแห่งอุปาทาน โดยประการทั้งปวง, ภพ พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” +--เมื่อภพ ไม่มี, เพราะความดับแห่งภพ โดยประการทั้งปวง, ชาติ พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --เมื่อชาติ ไม่มี, เพราะความดับแห่งชาติ โดยประการทั้งปวง. ชรามรณะ พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --ภิกษุ ท. ! ถูกแล้ว ถูกแล้ว. +--ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จงทำความสำคัญ จงเชื่อซึ่งข้อนั้น ไว้อย่างนั้นเถิด. +--ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลายจงปลงซึ่งความเชื่อ ในข้อนั้นอย่างนั้นเถิด ; จงเป็นผู้หมดความเคลือบแคลงสงสัยในข้อนั้นเถิด; #นั่นแหละที่สุดแห่งทุกข์ละ, http://etipitaka.com/read/pali/16/101/?keywords=เอเสวนฺโต+ทุกฺขสฺสาติ ดังนี้ แล.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน.สํ. 16/81-83/192-195. http://etipitaka.com/read/thai/16/81/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน.สํ. ๑๖/๙๙-๑๐๑/๑๙๒-๑๙๕. http://etipitaka.com/read/pali/16/99/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=644 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=644 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44 ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ลักษณะแห่งการถึงที่สุดทุกข์
    -ลักษณะแห่งการถึงที่สุดทุกข์ ภิกษุ ท. ! อวิชชาภิกษุละได้แล้ว วิชชาเกิดขึ้นแล้ว ในกาลใด, ในกาลนั้น ภิกษุนั้น, เพราะความสำรอกออกโดยไม่เหลือแห่งอวิชชา เพราะการเกิดขึ้นแห่งวิชชา, เธอย่อมไม่ปรุงแต่งซึ่งอภิสังขารอันเป็นบุญ ; ย่อมไม่ปรุงแต่งซึ่งอภิสังขารอันมิใช่บุญ ; ย่อมไม่ปรุงแต่งซึ่ง อภิสังขารอันเป็นอเนญชา ; เมื่อ ไม่ปรุงแต่ง อยู่, เมื่อ ไม่มุ่งมาด อยู่, เธอย่อม ไม่ถือมั่นสิ่งไรๆ ในโลก ; เมื่อไม่ถือมั่นอยู่, เธอย่อม ไม่สะดุ้งหวาดเสียว; เมื่อไม่สะดุ้งหวาดเสียวอยู่, เธอย่อม ปรินิพพานเฉพาะตน นั่นเทียว. เธอย่อมรู้ประจักษ์ว่า “ชาติสิ้นแล้ว, พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว, กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว, กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก” ดังนี้. ภิกษุนั้น ถ้าเสวย สุขเวทนา ก็รู้ประจักษ์ว่า “เวทนานั้น ไม่เที่ยงอันเราไม่สยบมัวเมาแล้ว อันเราไม่เพลิดเพลินเฉพาะแล้ว” ดังนี้. ถ้าเสวยทุกขเวทนาก็รู้ประจักษ์ว่า “เวทนานั้น ไม่เที่ยง อันเราไม่สยบมัวเมาแล้ว อันเราไม่เพลิดเพลินเฉพาะแล้ว” ดังนี้. ถ้าเสวย อทุกขมสุขเวทนา ก็รู้ประจักษ์ว่า “เวทนานั้นไม่เที่ยง อันเราไม่สยบมัวเมาแล้ว อันเราไม่เพลิดเพลินเฉพาะแล้ว” ดังนี้. ภิกษุนั้น ถ้าเสวย สุขเวทนา ก็เป็นผู้ปราศจากกิเลสเครื่องร้อยรัดแล้ว เสวยเวทนานั้น ; ถ้าเสวย ทุกขเวทนา ก็เป็นผู้ปราศจากกิเลสเครื่องร้อยรัดแล้ว เสวยเวทนานั้น ; ถ้าเสวย อทุกขมสุขเวทนา ก็เป็นผู้ปราศจากกิเลสเครื่องร้อยรัดแล้ว เสวยเวทนานั้น. ภิกษุนั้น เมื่อเสวย เวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ ย่อมรู้ประจักษ์ว่า “เราเสวยเวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ” ดังนี้. เมื่อเธอนั้น เสวย เวทนาอันมี ชีวิตเป็นที่สุดรอบ ย่อมรู้ประจักษ์ว่า “เราเสวยเวทนาอันมีชีวิตเป็นที่สุดรอบ” ดังนี้. ภิกษุนั้น ย่อมรู้ประจักษ์ว่า “เวทนาทั้งหลายทั้งปวง อันเราไม่เพลิดเพลินเฉพาะแล้ว จักเป็นของเย็น ในอัตตภาพนี้เอง ; สรีระทั้งหลายจักเหลืออยู่ ; จนกระทั่งถึงที่สุดรอบแห่งชีวิต เพราะการแตกทำลายแห่งกาย” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน บุรุษยกหม้อที่ยังร้อนออกจากเตาเผาหม้อ วางไว้พื้นดินอันเรียบ ไออุ่นที่หม้อนั้นพึงระงับหายไป ในที่นั้นเอง กระเบื้องทั้งหลายก็เหลืออยู่ นี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน กล่าวคือ เมื่อเสวยเวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ ย่อมรู้ประจักษว่า “เราเสวยเวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ” ดังนี้. เมื่อเธอนั้น เสวยเวทนาอันมีชีวิตเป็นที่สุดรอบ ย่อมรู้ประจักษ์ว่า “เราเสวยเวทนาอันมีชีวิตเป็นที่สุดรอบ” ดังนี้. ภิกษุนั้น ย่อมรู้ประจักษ์ว่า “เวทนาทั้งหลายทั้งปวง อันเราไม่เพลิดเพลินเฉพาะแล้ว จักเป็นของเย็นในอัตตภาพนี้เอง; สรีระทั้งหลายจักเหลืออยู่ ; จนกระทั่งถึงที่สุดรอบแห่งชีวิต เพราะการแตกทำลายแห่งกาย” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ; คือ ภิกษุผู้ขีณาสพ พึงปรุงแต่งปุญญาภิสังขาร, หรือว่าพึงปรุงแต่ง อปุญญาภิสังขาร, หรือว่า พึงปรุงแต่ง อเนญชาภิสังขาร, บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้นหามิได้ พระเจ้าข้า !” เมื่อสังขารทั้งหลาย ไม่มี, เพราะความดับแห่งสังขาร โดยประการทั้งปวง, วิญญาณ พึงปรากฎ บ้างหรือหนอ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” เมื่อวิญญาณ ไม่มี, เพราะความดับแห่งวิญญาณ โดยประการทั้งปวง, นามรูป พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” เมื่อนามรูป ไม่มี, เพราะความดับแห่งนามรูป โดยประการทั้งปวง, สฬายตนะ พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” เมื่อสฬายตนะ ไม่มี, เพราะความดับแห่งสฬายตนะ โดยประการทั้งปวง, ผัสสะ พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” เมื่อผัสสะ ไม่มี, เพราะความดับแห่งผัสสะ โดยประการทั้งปวง, เวทนา พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” เมื่อเวทนา ไม่มี, เพราะความดับแห่งเวทนา โดยประการทั้งปวง, ตัณหา พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” เมื่อตัณหา ไม่มี, เพราะความดับแห่งตัณหา โดยประการทั้งปวง, อุปาทาน พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” เมื่ออุปาทาน ไม่มี, เพราะความดับแห่งอุปาทาน โดยประการทั้งปวง, ภพ พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” เมื่อภพ ไม่มี, เพราะความดับแห่งภพ โดยประการทั้งปวง, ชาติ พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” เมื่อชาติ ไม่มี, เพราะความดับแห่งชาติ โดยประการทั้งปวง. ชรามรณะ พึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! ถูกแล้ว ถูกแล้ว. ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จงทำความสำคัญ จงเชื่อซึ่งข้อนั้น ไว้อย่างนั้นเถิด. ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลายจงปลงซึ่งความเชื่อ ในข้อนั้นอย่างนั้นเถิด ; จงเป็นผู้หมดความเคลือบแคลงสงสัยในข้อนั้นเถิด ; นั่นแหละที่สุดแห่งทุกข์ละ, ดังนี้ แล.
    0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเหตุที่ผู้ศึกษาหยั่งรู้ไม่ได้สู่นิยามของความจริง
    สัทธรรมลำดับที่ : 277
    ชื่อบทธรรม :- ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม (อีกปริยายหนึ่ง)
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=277
    เนื้อความทั้งหมด :-
    (อีกปริยายหนึ่ง)
    --ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม คือความถูกต้องในกุศลธรรม
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบอยู่ด้วยเหตุห้าอย่าง แม้ฟังธรรมอยู่
    ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม คือความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย.
    เหตุห้าอย่างอะไรเล่า ? ห้าอย่างคือ
    ๑--เป็นคนลบหลู่ฟังธรรม
    ๒--มีจิตมากไปด้วยความลบหลู่ แข่งดีฟังธรรม
    ๓--คอยจ้องจับความผิดพลาดในผู้แสดงธรรมด้วยจิตมุ่งร้ายแข็งกระด้าง
    ๔--เป็นคนโง่เง่าเงอะงะ
    http://etipitaka.com/read/pali/22/196/?keywords=ทุปฺปญฺโญ
    ๕--มัวแต่สำคัญตนว่ารู้ในสิ่งที่ตนไม่รู้.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/196/?keywords=อนญฺญาเต+อญฺญาตมานี
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบด้วยเหตุห้าอย่างเหล่านี้แล
    แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม คือ #ความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย.-

    #ทุกบสมุทัย#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญจก. อํ. 22/159/153.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/159/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญจก. อํ. ๒๒/๑๙๖/๑๕๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/196/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%93
    ศึกษาเพิ่มเติม..
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=277
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=277
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18
    ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเหตุที่ผู้ศึกษาหยั่งรู้ไม่ได้สู่นิยามของความจริง สัทธรรมลำดับที่ : 277 ชื่อบทธรรม :- ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม (อีกปริยายหนึ่ง) https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=277 เนื้อความทั้งหมด :- (อีกปริยายหนึ่ง) --ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม คือความถูกต้องในกุศลธรรม --ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบอยู่ด้วยเหตุห้าอย่าง แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม คือความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย. เหตุห้าอย่างอะไรเล่า ? ห้าอย่างคือ ๑--เป็นคนลบหลู่ฟังธรรม ๒--มีจิตมากไปด้วยความลบหลู่ แข่งดีฟังธรรม ๓--คอยจ้องจับความผิดพลาดในผู้แสดงธรรมด้วยจิตมุ่งร้ายแข็งกระด้าง ๔--เป็นคนโง่เง่าเงอะงะ http://etipitaka.com/read/pali/22/196/?keywords=ทุปฺปญฺโญ ๕--มัวแต่สำคัญตนว่ารู้ในสิ่งที่ตนไม่รู้. http://etipitaka.com/read/pali/22/196/?keywords=อนญฺญาเต+อญฺญาตมานี --ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบด้วยเหตุห้าอย่างเหล่านี้แล แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม คือ #ความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย.- #ทุกบสมุทัย​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญจก. อํ. 22/159/153. http://etipitaka.com/read/thai/22/159/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญจก. อํ. ๒๒/๑๙๖/๑๕๓. http://etipitaka.com/read/pali/22/196/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%93 ศึกษาเพิ่มเติม.. https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=277 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=277 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18 ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (อีกปริยายหนึ่ง)
    -(อีกปริยายหนึ่ง) ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบอยู่ด้วยเหตุห้าอย่าง แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม คือความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย. เหตุห้าอย่างอะไรเล่า ? ห้าอย่างคือ เป็นคนลบหลู่ฟังธรรม มีจิตมากไปด้วยความลบหลู่ แข่งดีฟังธรรม คอยจ้องจับความผิดพลาดในผู้แสดงธรรมด้วยจิตมุ่งร้ายแข็งกระด้าง เป็นคนโง่เง่าเงอะงะ มัวแต่สำคัญตนว่ารู้ในสิ่งที่ตนไม่รู้. ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบด้วยเหตุห้าอย่างเหล่านี้แล แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม คือความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย.
    0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • ..ข้อคิดจากข่าว
    ..ยุคนี้คนชั่วครองประเทศไทย,มุกกฎหมายมากมายที่ออกตีตรามามันอ้างประชาชนบังหน้า,แต่แท้จริงมันปกป้องความทำชั่วมันเองให้ทำชั่วสะดวกและห้ามเปิดเผยข้อมูลชื่อกูที่เป็นแหล่งที่มาของการกระทำชั่ว,ไม่กระทบผลประโยชน์กูด้วยเพราะคนอื่นไม่รู้ สื่อถูกห้ามเปิดเผยชื่อในกิจการกู,ตลอดพวกนี้ห้ามเปิดเผยใบหน้าตัวตนจริงจนถึงที่สุดของศาลก็ว่าแต่สุดท้ายมันก็เขียนให้ศาลห้ามเปิดเผยอีกแม้ศาลตัดสินไปแล้ว,นี้คือวิถีทำลายคนดี รักษาคนไม่ดีให้มีที่ยืนเพื่อดำรงความชั่วเลวได้ต่อเนื่องได้,สำนึกดีชั่วเลวชั่งหัวใครมัน สื่อไม่สามารถระบุตัวตนชื่อกิจการบริษัทได้หรือระบุเจ้าสัวตัวตนเจ้าของกิจการตรงๆได้,กฎหมายมีเขียนออกมาตีตราใช้บังคับคนโง่และประชาชนตาดำๆอย่างเดียว,ไม่เคยเขียนประจานประฌามตรงๆแก่คนมีส่วนร่วมคู่กรณีอะไรเลย,แบรนด์ดังๆหน่อยก็เอาข้อกฎหมายกดปิดปากเขา,ประชาชนซวยแบบยายๆนี้ล่ะ,และมากมายประชาชนซวยแบบนีัตรึม,
    ..โจรมันเยอะจริงๆปล้นได้ทุกๆสถานที่,ทัังปล้นชิงแบบชอบธรรมปล้นชิงไม่ชอบธรรมและไม่สามารถเอาผิดได้,ตลอดเทียบเคียงลักเล็กขโมยทีละน้อยๆก็ได้,สังคมเรายิ่งมีเหตุกรณีทรัพย์สินหายเยอะมากๆ,แก้ไขเพื่อชี้เป้าคนไม่ดีได้ชัดคือต่างชาติต่างด้าวเยอะไปในประเทศไทย,ต้องผลักดันออกไปทัังหมดก่อน,จะเหลือจับผิดแค่คนไทยง่ายๆขึ้น,ใครลักทรัพย์ ของหายเวลาไหน กระทำการผ่านอะไร เทียบเวลาดูก็รู้ ใครทำธุรกรรมบัญชีใครมีโค้ตเจ้าหน้าที่หมด,ประชาชนลักขโมยของกันในชุมชนกลางทุ่งกลางป่าในหมู่บ้านขุมชน มีกล้องมีมือถทอตรวจจับพิกัดสัญญาณ โจรอาจถูกจับง่ายขึ้น,คนดีคนชั่วมีปะปนในสังคมชุมชนไทยเรา,หากสมมุติว่าฝังชิปจริงๆนะ ใครทำชั่วๆตรงจุดไหน หลักฐานวันเวลานอที่หายตรวจสอบย้อนหลังได้หมด เช่นชาวบ้านทำไร่ทำนา ฝังชิปทุกๆคน ขิปที่ปลอดภัยสูงไม่กระทบสุขภาพร่างกายบอดี้คน,เขาทิ้งของไว้สาระพัดสิ่งในไร่ในนาเขาปกติทิ้งอะไรไว้หายหมดเพราะไม่สามารถตรวจสอบสืบหาใดๆได้เลยที่รวดเร็ว เห็นผลชัด พอมีฝังชิปและรับรู้พิกัดย้อนหลังและเรียลไทม์จากดาวเทียมอีก ใครเข้าเขตส่วนบุคคลตนใครมันมีสิทธิ์ตรวจสอบสถานะชิปที่บริเวณตนเป็นเจ้าของได้และหาบุคคลต้องสงสัยมาสอบปากคำเพิ่มเติมได้ นายAและพวกกว่า2-3คนไปอยู่ช่วงเวลากลางดึกในไร่นาที่ของหายโดยมีสถานะชิปยืนยันการดำรงอยู่จริงอีกและไม่มีใครชิปใครร่วมปรากฎในบริเวณนั้นอีก สามารถฟันธง99%ได้เลยว่า มันคือขโมยลักเล็กขโมยน้อยแน่นอนในหมู่บ้านชุมชนที่ไร่ที่นานั้นก็ว่า,ตังคนฝากหายความผิดเต็มๆคือธนาคาร มีโค้ตเจ้าหน้าที่คีย์มำธุรกรรมโอนหรือถอนแน่นอน,มาอ้างรับผิดชอบแค่1ล้านค้ำประกันเงินฝากมันฟังไม่ขึ้นหรอก,เพราะเจ้าของบัญชีหากมิได้ยินยอมมอบฉันทะใครๆมาทำธุรกรรมแทนอีก ธนาคารนั้นต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบทันที,
    ..นีัคือการเขียนกฎหมายปกป้องคนชั่ว จะอ้างมุกกลั่นแกล้งแล้วมาอ้างเพื่อเขียนกฎหมายลักษณะนี้ เสมือนไม่ร่วมส่งเสริมในการลงโทษจากประชาชนข้อหาผิดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมชั่วดีไม่ออก,ซึ่งไส้ในจริงๆใครผิดถูกไม่ทราบแต่ศาลบอกให้ยายเบิกได้ แบงค์ทำแบบนี้ไม่ให้เบิกมันก็ผิดปกติมาก,ปัจจุบันจบหรือยังไม่ทราบรู้,แต่เคสนีัมันบ่งบอกว่า กฎหมายเราสามารถเผาทิ้งในหลายตัวพร้อมๆกันได้เลยในเวลาใกล้เคียงกันที่ออกๆมาของข้อกฎหมายอื่นๆก็ว่าที่ออกมาพร้อมกฎหมายห้ามเปิดเผยตัวตนชื่อกิจการบริษัทคนที่ร่วมเป็นคู่ความของข่าวแบบๆนี้ก็ว่า,นำเสนอผีบ้าแค่ด้านเดียว,คนไม่ดีชื่อพนักงานอะไร อยู่ธนาคารชื่อไหน สาขาอะไร นี้ต้องระบุชัดเจนเตือนภัยประชาชนเจาะจงได้เสือกเขียนกฎหมายไม่ให้ระบุชื่อมันกิจการมัน,กฎหมายประเทศเราออกโดยพวกผีบ้านานเกินไปแล้วและไม่เคยยกเลิกกฎหมายผีบ้านั้นๆจริงจังสักที,ตย.ชัดคือกฎหมายผีบ้าที่ยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติไปหมด,กฎหมายผีบ้าที่ไม่เอาเรื่องบ่อน้ำมันเข้าสภาอภิปรายให้ประชาชนรับรู้และเปิดเผยค่าจริงความจริงทั้งหมดแก่ประชาชนคนไทย ,ลึกลับทำกันเองในกระทรวงทบวงกรมตนหรืออธิบดีมีอำนาจเต็มโน้น,สภาสส.สว.กากกระจอกไร้ค่าไร้ราคาอย่ามีส่วนร่วมอย่ามาร่วมตัดสินใจห่าอะไรใดๆด้วยกากและกระจอกมือไม่ถึงโง่ไม่ฉลาดด้านบ่อน้ำมันและพลังงานทั้งสภาหรอก,เก่งกาจคนเดียวคืออธิบดีนี้หมดทั้งประเทศ สุดยอดแค่เจ้าเดียวเท่านั้นมันว่า,จึงอนุญาตไม่ต้องเข้าสภาสส.สว.มาเสือกอภิปรายใดๆขัดขวางปากท้องกูทำการแดกให้ง่ายๆได้,จริงๆจึงสมควรเริ่มเผาทิ้งฉีกทิ้งจากกฎหมายปิโตรเลียมนี้ก่อนเลย,ทุกๆฉบับแล้วจะโมฆะทันที,อาจยุบกระทรวงทบวงกรมก็ได้อีก โมฆะอัตโนมัติแน่นอนก็ว่า,พวกนี้ต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมดเพราะที่กระทรวงนี้ถูกยุบสามารถระบุข้อหาชัดเจนได้ว่าคือกบฎและกระทรวงทรยศของแผ่นดินไทยไม่ซื่อสัตย์อย่างร้ายแรงบวกคือภัยคุกคามความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทยด้วยประกอบเป็นตัวปั่นราคาให้สินค้าบริการแพงทั้งแผ่นดินกระทบเป็นเครือข่ายลูกโซ่จริงด้วย ค่าขนส่งขึ้น ราคาสินค้าขึ้นเพราะน้ำมันขึ้น เป็นต้น.

    https://youtube.com/shorts/SkTnVeSeAvY?si=-XJOKJ3BO983QToA
    ..ข้อคิดจากข่าว ..ยุคนี้คนชั่วครองประเทศไทย,มุกกฎหมายมากมายที่ออกตีตรามามันอ้างประชาชนบังหน้า,แต่แท้จริงมันปกป้องความทำชั่วมันเองให้ทำชั่วสะดวกและห้ามเปิดเผยข้อมูลชื่อกูที่เป็นแหล่งที่มาของการกระทำชั่ว,ไม่กระทบผลประโยชน์กูด้วยเพราะคนอื่นไม่รู้ สื่อถูกห้ามเปิดเผยชื่อในกิจการกู,ตลอดพวกนี้ห้ามเปิดเผยใบหน้าตัวตนจริงจนถึงที่สุดของศาลก็ว่าแต่สุดท้ายมันก็เขียนให้ศาลห้ามเปิดเผยอีกแม้ศาลตัดสินไปแล้ว,นี้คือวิถีทำลายคนดี รักษาคนไม่ดีให้มีที่ยืนเพื่อดำรงความชั่วเลวได้ต่อเนื่องได้,สำนึกดีชั่วเลวชั่งหัวใครมัน สื่อไม่สามารถระบุตัวตนชื่อกิจการบริษัทได้หรือระบุเจ้าสัวตัวตนเจ้าของกิจการตรงๆได้,กฎหมายมีเขียนออกมาตีตราใช้บังคับคนโง่และประชาชนตาดำๆอย่างเดียว,ไม่เคยเขียนประจานประฌามตรงๆแก่คนมีส่วนร่วมคู่กรณีอะไรเลย,แบรนด์ดังๆหน่อยก็เอาข้อกฎหมายกดปิดปากเขา,ประชาชนซวยแบบยายๆนี้ล่ะ,และมากมายประชาชนซวยแบบนีัตรึม, ..โจรมันเยอะจริงๆปล้นได้ทุกๆสถานที่,ทัังปล้นชิงแบบชอบธรรมปล้นชิงไม่ชอบธรรมและไม่สามารถเอาผิดได้,ตลอดเทียบเคียงลักเล็กขโมยทีละน้อยๆก็ได้,สังคมเรายิ่งมีเหตุกรณีทรัพย์สินหายเยอะมากๆ,แก้ไขเพื่อชี้เป้าคนไม่ดีได้ชัดคือต่างชาติต่างด้าวเยอะไปในประเทศไทย,ต้องผลักดันออกไปทัังหมดก่อน,จะเหลือจับผิดแค่คนไทยง่ายๆขึ้น,ใครลักทรัพย์ ของหายเวลาไหน กระทำการผ่านอะไร เทียบเวลาดูก็รู้ ใครทำธุรกรรมบัญชีใครมีโค้ตเจ้าหน้าที่หมด,ประชาชนลักขโมยของกันในชุมชนกลางทุ่งกลางป่าในหมู่บ้านขุมชน มีกล้องมีมือถทอตรวจจับพิกัดสัญญาณ โจรอาจถูกจับง่ายขึ้น,คนดีคนชั่วมีปะปนในสังคมชุมชนไทยเรา,หากสมมุติว่าฝังชิปจริงๆนะ ใครทำชั่วๆตรงจุดไหน หลักฐานวันเวลานอที่หายตรวจสอบย้อนหลังได้หมด เช่นชาวบ้านทำไร่ทำนา ฝังชิปทุกๆคน ขิปที่ปลอดภัยสูงไม่กระทบสุขภาพร่างกายบอดี้คน,เขาทิ้งของไว้สาระพัดสิ่งในไร่ในนาเขาปกติทิ้งอะไรไว้หายหมดเพราะไม่สามารถตรวจสอบสืบหาใดๆได้เลยที่รวดเร็ว เห็นผลชัด พอมีฝังชิปและรับรู้พิกัดย้อนหลังและเรียลไทม์จากดาวเทียมอีก ใครเข้าเขตส่วนบุคคลตนใครมันมีสิทธิ์ตรวจสอบสถานะชิปที่บริเวณตนเป็นเจ้าของได้และหาบุคคลต้องสงสัยมาสอบปากคำเพิ่มเติมได้ นายAและพวกกว่า2-3คนไปอยู่ช่วงเวลากลางดึกในไร่นาที่ของหายโดยมีสถานะชิปยืนยันการดำรงอยู่จริงอีกและไม่มีใครชิปใครร่วมปรากฎในบริเวณนั้นอีก สามารถฟันธง99%ได้เลยว่า มันคือขโมยลักเล็กขโมยน้อยแน่นอนในหมู่บ้านชุมชนที่ไร่ที่นานั้นก็ว่า,ตังคนฝากหายความผิดเต็มๆคือธนาคาร มีโค้ตเจ้าหน้าที่คีย์มำธุรกรรมโอนหรือถอนแน่นอน,มาอ้างรับผิดชอบแค่1ล้านค้ำประกันเงินฝากมันฟังไม่ขึ้นหรอก,เพราะเจ้าของบัญชีหากมิได้ยินยอมมอบฉันทะใครๆมาทำธุรกรรมแทนอีก ธนาคารนั้นต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบทันที, ..นีัคือการเขียนกฎหมายปกป้องคนชั่ว จะอ้างมุกกลั่นแกล้งแล้วมาอ้างเพื่อเขียนกฎหมายลักษณะนี้ เสมือนไม่ร่วมส่งเสริมในการลงโทษจากประชาชนข้อหาผิดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมชั่วดีไม่ออก,ซึ่งไส้ในจริงๆใครผิดถูกไม่ทราบแต่ศาลบอกให้ยายเบิกได้ แบงค์ทำแบบนี้ไม่ให้เบิกมันก็ผิดปกติมาก,ปัจจุบันจบหรือยังไม่ทราบรู้,แต่เคสนีัมันบ่งบอกว่า กฎหมายเราสามารถเผาทิ้งในหลายตัวพร้อมๆกันได้เลยในเวลาใกล้เคียงกันที่ออกๆมาของข้อกฎหมายอื่นๆก็ว่าที่ออกมาพร้อมกฎหมายห้ามเปิดเผยตัวตนชื่อกิจการบริษัทคนที่ร่วมเป็นคู่ความของข่าวแบบๆนี้ก็ว่า,นำเสนอผีบ้าแค่ด้านเดียว,คนไม่ดีชื่อพนักงานอะไร อยู่ธนาคารชื่อไหน สาขาอะไร นี้ต้องระบุชัดเจนเตือนภัยประชาชนเจาะจงได้เสือกเขียนกฎหมายไม่ให้ระบุชื่อมันกิจการมัน,กฎหมายประเทศเราออกโดยพวกผีบ้านานเกินไปแล้วและไม่เคยยกเลิกกฎหมายผีบ้านั้นๆจริงจังสักที,ตย.ชัดคือกฎหมายผีบ้าที่ยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติไปหมด,กฎหมายผีบ้าที่ไม่เอาเรื่องบ่อน้ำมันเข้าสภาอภิปรายให้ประชาชนรับรู้และเปิดเผยค่าจริงความจริงทั้งหมดแก่ประชาชนคนไทย ,ลึกลับทำกันเองในกระทรวงทบวงกรมตนหรืออธิบดีมีอำนาจเต็มโน้น,สภาสส.สว.กากกระจอกไร้ค่าไร้ราคาอย่ามีส่วนร่วมอย่ามาร่วมตัดสินใจห่าอะไรใดๆด้วยกากและกระจอกมือไม่ถึงโง่ไม่ฉลาดด้านบ่อน้ำมันและพลังงานทั้งสภาหรอก,เก่งกาจคนเดียวคืออธิบดีนี้หมดทั้งประเทศ สุดยอดแค่เจ้าเดียวเท่านั้นมันว่า,จึงอนุญาตไม่ต้องเข้าสภาสส.สว.มาเสือกอภิปรายใดๆขัดขวางปากท้องกูทำการแดกให้ง่ายๆได้,จริงๆจึงสมควรเริ่มเผาทิ้งฉีกทิ้งจากกฎหมายปิโตรเลียมนี้ก่อนเลย,ทุกๆฉบับแล้วจะโมฆะทันที,อาจยุบกระทรวงทบวงกรมก็ได้อีก โมฆะอัตโนมัติแน่นอนก็ว่า,พวกนี้ต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมดเพราะที่กระทรวงนี้ถูกยุบสามารถระบุข้อหาชัดเจนได้ว่าคือกบฎและกระทรวงทรยศของแผ่นดินไทยไม่ซื่อสัตย์อย่างร้ายแรงบวกคือภัยคุกคามความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทยด้วยประกอบเป็นตัวปั่นราคาให้สินค้าบริการแพงทั้งแผ่นดินกระทบเป็นเครือข่ายลูกโซ่จริงด้วย ค่าขนส่งขึ้น ราคาสินค้าขึ้นเพราะน้ำมันขึ้น เป็นต้น. https://youtube.com/shorts/SkTnVeSeAvY?si=-XJOKJ3BO983QToA
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน
    สัทธรรมลำดับที่ : 1011
    ชื่อบทธรรม :- ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1011
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลใดบุคคลหนึ่ง
    จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม เจริญกระทำให้มาก ซึ่งธรรม ๕ ประการ ;
    ผู้นั้น พึงหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่งได้ในบรรดาผลทั้งหลายสองอย่าง
    กล่าวคือ อรหัตตผลในทิฏฐธรรม (ภพปัจจุบัน) นั่นเทียว,
    หรือว่า อนาคามิผล เมื่อยังมีอุปาทิ (เชื้อ) เหลืออยู่.

    --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๕ ประการนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ห้าประการคือ
    ภิกษุในกรณีนี้ : -
    ๑--มีสติอันตนเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วในภายในนั่นเทียว
    เพื่อเกิดปัญญารู้ความ เกิดขึ้นและดับไป แห่งธรรมทั้งหลาย (อุทยตฺถคามินิยา+ปญฺญาย)​ ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อุทยตฺถคามินิยา+ปญฺญาย
    ๒--มีปกติตามเห็นความไม่งามในกาย(อสุภานุปสฺสี+กาเย)​ ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อสุภานุปสฺสี+กาเย
    ๓--มีความสำคัญว่า ปฏิกูลในอาหาร (อาหาเร+ปฏิกฺกูลสญฺญี)​ ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อาหาเร+ปฏิกฺกูลสญฺญี
    ๔--มีความสำคัญว่า ในโลกทั้งปวงไม่มีอะไรที่น่ายินดี (สพฺพโลเก+อนภิรตสญฺญี)​ ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=สพฺพโลเก+อนภิรตสญฺญี
    ๕--มีปกติเห็นว่ ความไม่เที่ยงในสังขารทั้งปวง (สพฺพสงฺขาเรสุ+อนิจฺจานุปสฺสี)​ .
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=สพฺพสงฺขาเรสุ+อนิจฺจานุปสฺสี
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลใดบุคคลหนึ่ง จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม
    เจริญกระทำให้มาก ซึ่งธรรม ๕ ประการเหล่านี้ ;

    +--ผู้นั้น พึงหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ในบรรดาผลทั้งหลายสองอย่าง
    กล่าวคือ #อรหัตตผลในทิฏฐธรรม (ภพปัจจุบัน--ผลานํ+อญฺญตรํ) นั่นเทียว,
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=ผลานํ+อญฺญตรํ
    หรือว่า #อนาคามิผล เมื่อยังอุปาทิเหลืออยู่ แล.-
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อนาคามิ

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/128/122.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/128/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๖๑/๑๒๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%92
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1011
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1011
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87
    ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน สัทธรรมลำดับที่ : 1011 ชื่อบทธรรม :- ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1011 เนื้อความทั้งหมด :- --ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน --ภิกษุ ท. ! บุคคลใดบุคคลหนึ่ง จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม เจริญกระทำให้มาก ซึ่งธรรม ๕ ประการ ; ผู้นั้น พึงหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่งได้ในบรรดาผลทั้งหลายสองอย่าง กล่าวคือ อรหัตตผลในทิฏฐธรรม (ภพปัจจุบัน) นั่นเทียว, หรือว่า อนาคามิผล เมื่อยังมีอุปาทิ (เชื้อ) เหลืออยู่. --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๕ ประการนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ห้าประการคือ ภิกษุในกรณีนี้ : - ๑--มีสติอันตนเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วในภายในนั่นเทียว เพื่อเกิดปัญญารู้ความ เกิดขึ้นและดับไป แห่งธรรมทั้งหลาย (อุทยตฺถคามินิยา+ปญฺญาย)​ ; http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อุทยตฺถคามินิยา+ปญฺญาย ๒--มีปกติตามเห็นความไม่งามในกาย(อสุภานุปสฺสี+กาเย)​ ; http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อสุภานุปสฺสี+กาเย ๓--มีความสำคัญว่า ปฏิกูลในอาหาร (อาหาเร+ปฏิกฺกูลสญฺญี)​ ; http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อาหาเร+ปฏิกฺกูลสญฺญี ๔--มีความสำคัญว่า ในโลกทั้งปวงไม่มีอะไรที่น่ายินดี (สพฺพโลเก+อนภิรตสญฺญี)​ ; http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=สพฺพโลเก+อนภิรตสญฺญี ๕--มีปกติเห็นว่ ความไม่เที่ยงในสังขารทั้งปวง (สพฺพสงฺขาเรสุ+อนิจฺจานุปสฺสี)​ . http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=สพฺพสงฺขาเรสุ+อนิจฺจานุปสฺสี --ภิกษุ ท. ! บุคคลใดบุคคลหนึ่ง จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม เจริญกระทำให้มาก ซึ่งธรรม ๕ ประการเหล่านี้ ; +--ผู้นั้น พึงหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ในบรรดาผลทั้งหลายสองอย่าง กล่าวคือ #อรหัตตผลในทิฏฐธรรม (ภพปัจจุบัน--ผลานํ+อญฺญตรํ) นั่นเทียว, http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=ผลานํ+อญฺญตรํ หรือว่า #อนาคามิผล เมื่อยังอุปาทิเหลืออยู่ แล.- http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อนาคามิ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/128/122. http://etipitaka.com/read/thai/22/128/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๖๑/๑๒๒. http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%92 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1011 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1011 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87 ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน
    -( ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า ในที่นี้ทรงแสดง สักกายะ ไว้ในฐานะเป็นสิ่งที่ตรงกัน ข้ามจาก นิพพาน, ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทั้งสองอย่างเป็นที่ตั้งแห่งความยินดีได้โดยเท่ากัน แล้วแต่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก ). ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน ภิกษุ ท. ! บุคคลใดบุคคลหนึ่ง จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม เจริญกระทำให้มาก ซึ่งธรรม ๕ ประการ ; ผู้นั้น พึงหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ในบรรดาผลทั้งหลายสองอย่าง กล่าวคือ อรหัตตผลในทิฏฐธรรม (ภพปัจจุบัน) นั่นเทียว, หรือว่า อนาคามิผล เมื่อยังมีอุปาทิ (เชื้อ) เหลืออยู่. ภิกษุ ท. ! ธรรม ๕ ประการนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ห้าประการคือ ภิกษุในกรณีนี้ : มีสติอันตนเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วในภายในนั่นเทียว เพื่อเกิดปัญญารู้ความ เกิดขึ้นและดับไปแห่งธรรมทั้งหลาย ๑ ; มีปกติตามเห็นความไม่งามในกาย ๑ ; มีความสำคัญว่าปฏิกูลในอาหาร ๑ ; มีความสำคัญว่าในโลกทั้งปวงไม่มีอะไรที่น่ายินดี ๑ ; มีปกติเห็นความไม่เที่ยงในสังขารทั้งปวง ๑. ภิกษุ ท. ! บุคคลใดบุคคลหนึ่ง จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม เจริญกระทำให้มาก ซึ่งธรรม ๕ ประการเหล่านี้ ; ผู้นั้น พึงหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ในบรรดาผลทั้งหลายสองอย่าง กล่าวคือ อรหัตตผลในทิฏฐธรรม (ภพปัจจุบัน) นั่นเทียว, หรือว่า อนาคามิผล เมื่อยังอุปาทิเหลืออยู่ แล.
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าพอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 643
    ชื่อบทธรรม :- พอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=643
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --พอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์
    --ภิกษุ ท. !
    ผัสสะ เป็นส่วนสุดข้างหนึ่ง
    ผัสสสมุทัย เป็นส่วนสุดข้างที่สอง
    ผัสสนิโรธ มีในท่ามกลาง
    http://etipitaka.com/read/pali/22/449/?keywords=ผสฺโส
    ตัณหา #เป็นเครื่องร้อยรัดให้ติดกัน ;
    ตัณหานั่นแหละ ย่อมถักร้อยเพื่อให้เกิดขึ้นแห่งภพนั้น ๆ นั่นเทียว.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/449/?keywords=ตณฺหา

    --ภิกษุ ท. ! ด้วยความรู้เพียงเท่านี้แล
    ภิกษุชื่อว่าย่อมรู้ยิ่งซึ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง
    ย่อมรอบรู้ซึ่งธรรมที่ควรรอบรู้ ;
    เมื่อรู้ยิ่งซึ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง รอบรู้ซึ่งธรรมที่ควรรอบรู้ อยู่,
    ย่อมเป็นผู้กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ในทิฏฐธรรมเทียว.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก.อํ. 22/358/332.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/358/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก.อํ. ๒๒/๔๔๖/๓๓๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/446/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=643
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=643
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44
    ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าพอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 643 ชื่อบทธรรม :- พอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=643 เนื้อความทั้งหมด :- --พอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์ --ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นส่วนสุดข้างหนึ่ง ผัสสสมุทัย เป็นส่วนสุดข้างที่สอง ผัสสนิโรธ มีในท่ามกลาง http://etipitaka.com/read/pali/22/449/?keywords=ผสฺโส ตัณหา #เป็นเครื่องร้อยรัดให้ติดกัน ; ตัณหานั่นแหละ ย่อมถักร้อยเพื่อให้เกิดขึ้นแห่งภพนั้น ๆ นั่นเทียว. http://etipitaka.com/read/pali/22/449/?keywords=ตณฺหา --ภิกษุ ท. ! ด้วยความรู้เพียงเท่านี้แล ภิกษุชื่อว่าย่อมรู้ยิ่งซึ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง ย่อมรอบรู้ซึ่งธรรมที่ควรรอบรู้ ; เมื่อรู้ยิ่งซึ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง รอบรู้ซึ่งธรรมที่ควรรอบรู้ อยู่, ย่อมเป็นผู้กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ในทิฏฐธรรมเทียว.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก.อํ. 22/358/332. http://etipitaka.com/read/thai/22/358/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก.อํ. ๒๒/๔๔๖/๓๓๒. http://etipitaka.com/read/pali/22/446/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=643 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=643 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44 ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - พอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์
    -พอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์ ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นส่วนสุดข้างหนึ่ง ผัสสสมุทัย เป็นส่วนสุดข้างที่สอง ผัสสนิโรธ มีในท่ามกลาง ตัณหา เป็นเครื่องร้อยรัดให้ติดกัน ; ตัณหานั่นแหละ ย่อมถักร้อยเพื่อให้เกิดขึ้นแห่งภพนั้น ๆ นั่นเทียว. ภิกษุ ท. !ด้วยความรู้เพียงเท่านี้แล ภิกษุชื่อว่าย่อมรู้ยิ่งซึ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง ย่อมรอบรู้ซึ่งธรรมที่ควรรอบรู้ ; เมื่อรู้ยิ่งซึ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง รอบรู้ซึ่งธรรมที่ควรรอบรู้ อยู่, ย่อมเป็นผู้กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ในทิฏฐธรรมเทียว.
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเหตุการฟังธรรมแล้วไม่ได้เข้าถึงในกุศลธรรม(อีกปริยายหนึ่ง)
    สัทธรรมลำดับที่ : 276
    ชื่อบทธรรม :- ฟังธรรมอยู่ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=276
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ฟังธรรมอยู่ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม(อีกปริยายหนึ่ง)
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบอยู่ด้วยเหตุห้าอย่าง (ปญฺจหิ ธมฺเมหิ)​
    http://etipitaka.com/read/pali/22/196/?keywords=ปญฺจหิ+ธมฺเมหิ
    แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม คือความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย.
    เหตุห้าอย่างอะไรเล่า ? ห้าอย่างคือ
    ๑--สนใจแต่คำพูด
    (บุคคลย่อมไม่พูดมาก)​
    ๒--สนใจแต่ผู้พูด
    (ไม่พูดคำพูดที่ผู้อื่นพูดแล้วมาก)​
    ๓--สนใจแต่ตัวเอง
    (ไม่พูดปรารภตน)​
    ๔--เป็นคนโง่เง่าเงอะงะ
    (เป็นผู้มีปัญญาไม่โง่เง่า--ปริโภติ ปญฺญวา )​
    http://etipitaka.com/read/pali/22/196/?keywords=ปริโภติ+ปญฺญวา
    ๕--มัวแต่สำคัญตนว่ารู้ในสิ่งที่ตนไม่รู้
    (ไม่เป็นผู้มีความถือตัวว่าเข้าใจในสิ่งที่ยังไม่เข้าใจ)​

    --ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบ ด้วยเหตุห้าอย่างนี้แล
    แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลง สู่นิยาม คือ #ความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/158/152.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/158/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๙๕/๑๕๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/195/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติ่ม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=276
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=276
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18
    ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเหตุการฟังธรรมแล้วไม่ได้เข้าถึงในกุศลธรรม(อีกปริยายหนึ่ง) สัทธรรมลำดับที่ : 276 ชื่อบทธรรม :- ฟังธรรมอยู่ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=276 เนื้อความทั้งหมด :- --ฟังธรรมอยู่ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม(อีกปริยายหนึ่ง) --ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบอยู่ด้วยเหตุห้าอย่าง (ปญฺจหิ ธมฺเมหิ)​ http://etipitaka.com/read/pali/22/196/?keywords=ปญฺจหิ+ธมฺเมหิ แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม คือความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย. เหตุห้าอย่างอะไรเล่า ? ห้าอย่างคือ ๑--สนใจแต่คำพูด (บุคคลย่อมไม่พูดมาก)​ ๒--สนใจแต่ผู้พูด (ไม่พูดคำพูดที่ผู้อื่นพูดแล้วมาก)​ ๓--สนใจแต่ตัวเอง (ไม่พูดปรารภตน)​ ๔--เป็นคนโง่เง่าเงอะงะ (เป็นผู้มีปัญญาไม่โง่เง่า--ปริโภติ ปญฺญวา )​ http://etipitaka.com/read/pali/22/196/?keywords=ปริโภติ+ปญฺญวา ๕--มัวแต่สำคัญตนว่ารู้ในสิ่งที่ตนไม่รู้ (ไม่เป็นผู้มีความถือตัวว่าเข้าใจในสิ่งที่ยังไม่เข้าใจ)​ --ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบ ด้วยเหตุห้าอย่างนี้แล แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลง สู่นิยาม คือ #ความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/158/152. http://etipitaka.com/read/thai/22/158/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๙๕/๑๕๒. http://etipitaka.com/read/pali/22/195/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติ่ม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=276 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=276 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18 ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (อีกปริยายหนึ่ง)
    -(อีกปริยายหนึ่ง) ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบอยู่ด้วยเหตุห้าอย่าง แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม คือความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย. เหตุห้าอย่างอะไรเล่า ? ห้าอย่างคือ สนใจแต่คำพูด สนใจแต่ผู้พูด สนใจแต่ตัวเอง ยเป็นคนโง่เง่าเงอะงะ มัวแต่สำคัญตนว่ารู้ในสิ่งที่ตนไม่รู้. ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบ ด้วยเหตุห้าอย่างนี้แล แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลง สู่นิยาม คือความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย.
    0 Comments 0 Shares 48 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเหตุที่ทำให้ฟังธรรมไม่รู้เรื่องเพราะภวตัณหา
    สัทธรรมลำดับที่ : 275
    ชื่อบทธรรม :- เหตุที่ทำให้ฟังธรรมไม่รู้เรื่อง
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=275
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --เหตุที่ทำให้ฟังธรรมไม่รู้เรื่อง
    (เพราะภวตัณหา)
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบอยู่ด้วยเหตุห้าอย่าง
    แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม คือความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย.
    เหตุห้าอย่างอะไรเล่า ? ห้าอย่างคือ
    ๑--สนใจแต่คำพูด
    (บุคคลย่อมไม่พูดมาก)​
    ๒--สนใจแต่ผู้พูด
    (ไม่พูดคำพูดที่ผู้อื่นพูดแล้วมาก)​
    ๓--สนใจแต่ตัวเอง
    (ไม่พูดปรารภตน)​
    http://etipitaka.com/read/pali/22/195/?keywords=อตฺตานํ
    ๔--มีจิตฟุ้งซ่านไม่มีเอกัคคตาจิตฟังธรรม
    (เป็นผู้มีจิตไม่ฟุ้งซ่านฟังธรรม)​
    http://etipitaka.com/read/pali/22/195/?keywords=สุณาติ+เอกคฺคจิตฺโต
    ๕--ทำในใจไม่แยบคาย​
    (เป็นผู้ไม่มีแน่วแน่ทางใจโดยอุบายแยบคาย) .
    http://etipitaka.com/read/pali/22/195/?keywords=โยนิโส+มนสิกโรติ

    --ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบด้วยเหตุห้าอย่างเหล่านี้แล
    แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลง สู่นิยาม คือ​ #ความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/158/151.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/158/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๙๕/๑๕๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/195/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=275
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=275
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18
    ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเหตุที่ทำให้ฟังธรรมไม่รู้เรื่องเพราะภวตัณหา สัทธรรมลำดับที่ : 275 ชื่อบทธรรม :- เหตุที่ทำให้ฟังธรรมไม่รู้เรื่อง https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=275 เนื้อความทั้งหมด :- --เหตุที่ทำให้ฟังธรรมไม่รู้เรื่อง (เพราะภวตัณหา) --ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบอยู่ด้วยเหตุห้าอย่าง แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม คือความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย. เหตุห้าอย่างอะไรเล่า ? ห้าอย่างคือ ๑--สนใจแต่คำพูด (บุคคลย่อมไม่พูดมาก)​ ๒--สนใจแต่ผู้พูด (ไม่พูดคำพูดที่ผู้อื่นพูดแล้วมาก)​ ๓--สนใจแต่ตัวเอง (ไม่พูดปรารภตน)​ http://etipitaka.com/read/pali/22/195/?keywords=อตฺตานํ ๔--มีจิตฟุ้งซ่านไม่มีเอกัคคตาจิตฟังธรรม (เป็นผู้มีจิตไม่ฟุ้งซ่านฟังธรรม)​ http://etipitaka.com/read/pali/22/195/?keywords=สุณาติ+เอกคฺคจิตฺโต ๕--ทำในใจไม่แยบคาย​ (เป็นผู้ไม่มีแน่วแน่ทางใจโดยอุบายแยบคาย) . http://etipitaka.com/read/pali/22/195/?keywords=โยนิโส+มนสิกโรติ --ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบด้วยเหตุห้าอย่างเหล่านี้แล แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลง สู่นิยาม คือ​ #ความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/158/151. http://etipitaka.com/read/thai/22/158/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๙๕/๑๕๑. http://etipitaka.com/read/pali/22/195/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=275 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=275 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18 ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - เหตุที่ทำให้ฟังธรรมไม่รู้เรื่อง
    -เหตุที่ทำให้ฟังธรรมไม่รู้เรื่อง (เพราะภวตัณหา) ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบอยู่ด้วยเหตุห้าอย่าง แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลงสู่นิยาม คือความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย. เหตุห้าอย่างอะไรเล่า ? ห้าอย่างคือ สนใจแต่คำพูด สนใจแต่ผู้พูด สนใจแต่ตัวเอง ๑. หญ้าสองชนิดนี้ เคยแปลกันว่า หญ้ามุงกระต่ายและหญ้าปล้อง แต่ไม่มีหลักฐานที่แน่นอน. ในที่นี้จึงไม่แปลไว้. มีจิตฟุ้งซ่านไม่มีเอกัคคตาจิตฟังธรรม และทำในใจไม่แยบคาย. ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบด้วยเหตุห้าอย่างเหล่านี้แล แม้ฟังธรรมอยู่ ก็ไม่อาจเพื่อจะก้าวลง สู่นิยาม คือความถูกต้องในกุศลธรรมทั้งหลาย.
    0 Comments 0 Shares 42 Views 0 Reviews
  • 🌍 Microsoft ปรับนโยบาย Edge ในยุโรป: ผู้ใช้มีอิสระมากขึ้น
    Microsoft ได้ประกาศ ลดการบังคับใช้ Edge ในยุโรป โดยเป็นผลมาจาก Digital Markets Act (DMA) ซึ่งเป็นกฎหมายของสหภาพยุโรปที่มุ่งเน้นให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ใช้มีทางเลือกมากขึ้น

    ก่อนหน้านี้ Microsoft ใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้ผู้ใช้ใช้ Edge เช่น ป๊อปอัปแจ้งเตือนหลังอัปเดต, การบล็อกการเปลี่ยนค่าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์ และการเปิดลิงก์ภายในแอปของ Windows ผ่าน Edge เท่านั้น

    แต่ภายใต้ DMA Microsoft ได้ปรับเปลี่ยนหลายอย่าง เช่น Edge จะไม่แจ้งเตือนให้ตั้งเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น เว้นแต่ผู้ใช้เปิด Edge โดยตรง และ Windows Widgets กับ Bing App จะเปิดลิงก์ในเบราว์เซอร์ที่ผู้ใช้ตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้น

    นอกจากนี้ Windows Search ในยุโรปจะสามารถใช้ผู้ให้บริการค้นหาอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bing และ Microsoft Store จะสามารถถอนการติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft ปรับนโยบาย Edge ในยุโรปตามข้อบังคับของ Digital Markets Act (DMA)
    - Edge จะไม่แจ้งเตือนให้ตั้งเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น เว้นแต่ผู้ใช้เปิด Edge โดยตรง
    - Windows Widgets และ Bing App จะเปิดลิงก์ในเบราว์เซอร์ที่ผู้ใช้ตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้น
    - Windows Search ในยุโรปสามารถใช้ผู้ให้บริการค้นหาอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bing
    - Microsoft Store สามารถถอนการติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลเฉพาะในยุโรป และผู้ใช้ในภูมิภาคอื่นยังคงต้องเผชิญกับข้อจำกัดเดิม
    - แม้จะมีการปรับปรุง แต่ Microsoft ยังคงควบคุมบางส่วนของ Windows Search และ Edge
    - ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดของ Edge อย่างไร
    - Microsoft อาจปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อรักษาผู้ใช้ Edge ในภูมิภาคอื่น ๆ

    การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ ผู้ใช้ในยุโรปมีอิสระมากขึ้นในการเลือกเบราว์เซอร์และบริการค้นหา อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้ในภูมิภาคอื่น ๆ จะได้รับการเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกันหรือไม่

    https://www.neowin.net/news/microsoft-will-finally-stop-shoving-edge-down-your-throat-on-one-condition/
    🌍 Microsoft ปรับนโยบาย Edge ในยุโรป: ผู้ใช้มีอิสระมากขึ้น Microsoft ได้ประกาศ ลดการบังคับใช้ Edge ในยุโรป โดยเป็นผลมาจาก Digital Markets Act (DMA) ซึ่งเป็นกฎหมายของสหภาพยุโรปที่มุ่งเน้นให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ใช้มีทางเลือกมากขึ้น ก่อนหน้านี้ Microsoft ใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้ผู้ใช้ใช้ Edge เช่น ป๊อปอัปแจ้งเตือนหลังอัปเดต, การบล็อกการเปลี่ยนค่าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์ และการเปิดลิงก์ภายในแอปของ Windows ผ่าน Edge เท่านั้น แต่ภายใต้ DMA Microsoft ได้ปรับเปลี่ยนหลายอย่าง เช่น Edge จะไม่แจ้งเตือนให้ตั้งเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น เว้นแต่ผู้ใช้เปิด Edge โดยตรง และ Windows Widgets กับ Bing App จะเปิดลิงก์ในเบราว์เซอร์ที่ผู้ใช้ตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ Windows Search ในยุโรปจะสามารถใช้ผู้ให้บริการค้นหาอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bing และ Microsoft Store จะสามารถถอนการติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft ปรับนโยบาย Edge ในยุโรปตามข้อบังคับของ Digital Markets Act (DMA) - Edge จะไม่แจ้งเตือนให้ตั้งเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น เว้นแต่ผู้ใช้เปิด Edge โดยตรง - Windows Widgets และ Bing App จะเปิดลิงก์ในเบราว์เซอร์ที่ผู้ใช้ตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้น - Windows Search ในยุโรปสามารถใช้ผู้ให้บริการค้นหาอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bing - Microsoft Store สามารถถอนการติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลเฉพาะในยุโรป และผู้ใช้ในภูมิภาคอื่นยังคงต้องเผชิญกับข้อจำกัดเดิม - แม้จะมีการปรับปรุง แต่ Microsoft ยังคงควบคุมบางส่วนของ Windows Search และ Edge - ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดของ Edge อย่างไร - Microsoft อาจปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อรักษาผู้ใช้ Edge ในภูมิภาคอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ ผู้ใช้ในยุโรปมีอิสระมากขึ้นในการเลือกเบราว์เซอร์และบริการค้นหา อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้ในภูมิภาคอื่น ๆ จะได้รับการเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกันหรือไม่ https://www.neowin.net/news/microsoft-will-finally-stop-shoving-edge-down-your-throat-on-one-condition/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft will finally stop shoving Edge down your throat, on one condition
    Good news if you're tired of Microsoft's heavy-handed Edge promos. The company is backing off a bit, but of course, there's a catch.
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า
    สัทธรรมลำดับที่ : 1010
    ชื่อบทธรรม :- ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1010
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า

    --ก. พวกที่ไม่ทำความเย็น
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ
    เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า.
    ธรรม ๖ ประการ เหล่าไหนเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ธรรมหกประการ คือ ภิกษุในกรณีนี้ : -
    ๑--ไม่ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม ( น นิคฺคเหตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=นิคฺคณฺห
    ๒--ไม่ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง ( น ปคฺคเหตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=ปคฺคเห
    ๓--ไม่ทำจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรทำจิตให้ร่าเริง ( น สมฺปหํสิตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=สมฺปหํสิ
    ๔--ไม่เข้าไปเพ่งอย่างยิ่งซึ่งจิตในสมัยที่ควรเข้าไปเพ่งอย่างยิ่ง ( น อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=อชฺฌุเปกฺขิ
    ๕--เป็นผู้มีจิตน้อมไปในธรรมทราม ( หีนาธิมุตฺติโก ) ; และ
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=หีนาธิมุตฺติโก
    ๖--เป็นผู้ยินดียิ่งใน สักกายะ ( สกฺกายาภิรโต ).
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=สกฺกายาภิรโต
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เหล่านี้แล้ว
    เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า.

    ข. พวกที่ทำความเย็น
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ
    เป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า.
    ธรรม ๖ ประการ เหล่าไหนเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ธรรมหกประการ คือ ภิกษุในกรณีนี้ : -
    ๑--ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม ( นิคฺคเหตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=นิคฺคเหตพฺพํ
    ๒--ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง ( ปคฺคเหตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=ปคฺคเหตพฺพํ
    ๓--ทำจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรทำจิตให้ร่าเริง ( สมฺปหํสิตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=สมฺปหํสิตพฺพํ
    ๔--เข้าไปเพ่งอย่างยิ่งซึ่งจิตในสมัยที่ควรเข้าไปเพ่งอย่างยิ่ง ( อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ
    ๕--เป็นผู้มีจิตน้อมไปในธรรมประณีต ( ปณีตาธิมุตฺติโก ) ; และ
    http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=ปณีตาธิมุตฺติโก
    ๖--เป็นผู้ยินดียิ่งใน นิพพาน ( นิพฺพานาภิรโต ).
    http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=นิพฺพานาภิรโต
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการเหล่านี้แล้ว
    เป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่ง #ความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า แล.-

    ( ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า
    ในที่นี้ทรงแสดง สักกายะ
    ไว้ในฐานะเป็นสิ่งที่ตรงกัน ข้ามจาก นิพพาน,
    ซึ่งแสดงให้เห็นว่า
    ทั้งสองอย่างเป็นที่ตั้งแห่งความยินดีได้โดยเท่ากัน
    แล้วแต่ว่าจะเป็น ฝ่ายผิดทาง หรือ ฝ่ายถูกทาง
    ).

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/388/356.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/388/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๘๕/๓๕๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%96
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1010
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1010
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87
    ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า สัทธรรมลำดับที่ : 1010 ชื่อบทธรรม :- ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1010 เนื้อความทั้งหมด :- --ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า --ก. พวกที่ไม่ทำความเย็น --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า. ธรรม ๖ ประการ เหล่าไหนเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ธรรมหกประการ คือ ภิกษุในกรณีนี้ : - ๑--ไม่ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม ( น นิคฺคเหตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=นิคฺคณฺห ๒--ไม่ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง ( น ปคฺคเหตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=ปคฺคเห ๓--ไม่ทำจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรทำจิตให้ร่าเริง ( น สมฺปหํสิตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=สมฺปหํสิ ๔--ไม่เข้าไปเพ่งอย่างยิ่งซึ่งจิตในสมัยที่ควรเข้าไปเพ่งอย่างยิ่ง ( น อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=อชฺฌุเปกฺขิ ๕--เป็นผู้มีจิตน้อมไปในธรรมทราม ( หีนาธิมุตฺติโก ) ; และ http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=หีนาธิมุตฺติโก ๖--เป็นผู้ยินดียิ่งใน สักกายะ ( สกฺกายาภิรโต ). http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=สกฺกายาภิรโต --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เหล่านี้แล้ว เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า. ข. พวกที่ทำความเย็น --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า. ธรรม ๖ ประการ เหล่าไหนเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ธรรมหกประการ คือ ภิกษุในกรณีนี้ : - ๑--ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม ( นิคฺคเหตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=นิคฺคเหตพฺพํ ๒--ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง ( ปคฺคเหตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=ปคฺคเหตพฺพํ ๓--ทำจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรทำจิตให้ร่าเริง ( สมฺปหํสิตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=สมฺปหํสิตพฺพํ ๔--เข้าไปเพ่งอย่างยิ่งซึ่งจิตในสมัยที่ควรเข้าไปเพ่งอย่างยิ่ง ( อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ๕--เป็นผู้มีจิตน้อมไปในธรรมประณีต ( ปณีตาธิมุตฺติโก ) ; และ http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=ปณีตาธิมุตฺติโก ๖--เป็นผู้ยินดียิ่งใน นิพพาน ( นิพฺพานาภิรโต ). http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=นิพฺพานาภิรโต --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการเหล่านี้แล้ว เป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่ง #ความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า แล.- ( ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า ในที่นี้ทรงแสดง สักกายะ ไว้ในฐานะเป็นสิ่งที่ตรงกัน ข้ามจาก นิพพาน, ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทั้งสองอย่างเป็นที่ตั้งแห่งความยินดีได้โดยเท่ากัน แล้วแต่ว่าจะเป็น ฝ่ายผิดทาง หรือ ฝ่ายถูกทาง ). #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/388/356. http://etipitaka.com/read/thai/22/388/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๘๕/๓๕๖. http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%96 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1010 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1010 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87 ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า
    -ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า ก. พวกที่ไม่ทำความเย็น ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า. ธรรม ๖ ประการ เหล่าไหนเล่า ? ภิกษุ ท. ! ธรรมหกประการ คือ ภิกษุในกรณีนี้ : ไม่ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม ( น นิคฺคเหตพฺพํ ) ; ไม่ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง ( น ปคฺคเหตพฺพํ ) ; ไม่ทำจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรทำจิตให้ร่าเริง ( น สมฺปหํสิตพฺพํ ) ; ไม่เข้าไปเพ่งอย่างยิ่งซึ่งจิตในสมัยที่ควรเข้าไปเพ่งอย่างยิ่ง ( น อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ) ; เป็นผู้มีจิตน้อมไปในธรรมทราม ( หีนาธิมุตฺติโก ) ; และ เป็นผู้ยินดียิ่งใน สักกายะ ( สกฺกายาภิรโต ). ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เหล่านี้แล้ว เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า. ข. พวกที่ทำความเย็น ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า. ธรรม ๖ ประการ เหล่าไหนเล่า ? ภิกษุ ท. ! ธรรมหกประการ คือ ภิกษุในกรณีนี้ : ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม ( นิคฺคเหตพฺพํ ) ; ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง ( ปคฺคเหตพฺพํ ) ; ทำจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรทำจิตให้ร่าเริง ( สมฺปหํสิตพฺพํ ) ; เข้าไปเพ่งอย่างยิ่งซึ่งจิตในสมัยที่ควรเข้าไปเพ่งอย่างยิ่ง ( อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ) ; เป็นผู้มีจิตน้อมไปในธรรมประณีต ( ปณีตาธิมุตฺติโก ) ; และ เป็นผู้ยินดียิ่งใน นิพพาน ( นิพฺพานาภิรโต ). ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการเหล่านี้แล้ว เป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่ง ความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า แล.
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าจะรู้จักกิเลสข้อไหนได้ก็ต่อเมื่อทำลายกิเลสนั้นเสร็จสิ้นแล้ว
    สัทธรรมลำดับที่ : 642
    ชื่อบทธรรม :- อาสวะสิ้นไปเพราะการกำจัดสมารัมภะและอวิชชา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=642
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อาสวะสิ้นไปเพราะการกำจัดสมารัมภะและอวิชชา
    --วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ?
    คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะกายสมารัมภะ
    (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางกาย)
    http://etipitaka.com/read/pali/21/268/?keywords=กายสมา
    เป็นปัจจัยเป็นเครื่อง ทำความคับแค้นเร่าร้อน ;
    เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก กายสมารัมภะ,
    อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี.
    บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และ
    ย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย.
    หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่า (นิชฺชรา) นี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นตนเอง
    http://etipitaka.com/read/pali/21/268/?keywords=นิชฺชรา
    ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู
    พึงน้อมเข้ามาในตนเป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน.
    -​-วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ
    ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”

    --วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คือ
    อาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะวจีสมารัมภะ
    (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางวาจา)
    http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=วจีสมา
    เป็นปัจจัยเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน ;
    เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก วจีสมารัมภะ,
    อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี.
    บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย
    และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/268/?keywords=นิชฺชรา
    หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง
    ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน
    เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน.
    --วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ
    ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”

    --วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ?
    คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะมโนสมารัมภะ
    (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางใจ)
    http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=มโนสมา
    เป็นปัจจัยเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน ;
    เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก มโนสมารัมภะ,
    อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี.
    บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย
    และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=นิชฺชรา
    หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง
    ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน
    เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน.
    --วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนาจะพึงไหลไปตามบุรุษ
    ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”

    --วัปปะ ! ท่านจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร ?
    คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย
    เป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน;
    เพราะการเกิดขึ้นแห่งวิชชา เพราะความสำรอกออกเสียได้หมดซึ่ง อวิชชา,
    http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=อวิชฺชา
    อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี.
    บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย
    และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้ว กระทำให้สิ้นไปด้วย.
    หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง
    ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน
    เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน.
    --วัปปะ ! อาสวะทั้งหลาย อันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ
    ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”-

    #ทุกขมรรค#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/189/195.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/189/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๖๖-๒๗๑/๑๙๕.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/266/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%95
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=642
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=642
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44
    ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียง..
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าจะรู้จักกิเลสข้อไหนได้ก็ต่อเมื่อทำลายกิเลสนั้นเสร็จสิ้นแล้ว สัทธรรมลำดับที่ : 642 ชื่อบทธรรม :- อาสวะสิ้นไปเพราะการกำจัดสมารัมภะและอวิชชา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=642 เนื้อความทั้งหมด :- --อาสวะสิ้นไปเพราะการกำจัดสมารัมภะและอวิชชา --วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะกายสมารัมภะ (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางกาย) http://etipitaka.com/read/pali/21/268/?keywords=กายสมา เป็นปัจจัยเป็นเครื่อง ทำความคับแค้นเร่าร้อน ; เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก กายสมารัมภะ, อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และ ย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย. หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่า (นิชฺชรา) นี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นตนเอง http://etipitaka.com/read/pali/21/268/?keywords=นิชฺชรา ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตนเป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. -​-วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คือ อาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะวจีสมารัมภะ (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางวาจา) http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=วจีสมา เป็นปัจจัยเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน ; เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก วจีสมารัมภะ, อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย. http://etipitaka.com/read/pali/21/268/?keywords=นิชฺชรา หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. --วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะมโนสมารัมภะ (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางใจ) http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=มโนสมา เป็นปัจจัยเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน ; เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก มโนสมารัมภะ, อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย. http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=นิชฺชรา หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. --วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนาจะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --วัปปะ ! ท่านจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย เป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน; เพราะการเกิดขึ้นแห่งวิชชา เพราะความสำรอกออกเสียได้หมดซึ่ง อวิชชา, http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=อวิชฺชา อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้ว กระทำให้สิ้นไปด้วย. หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. --วัปปะ ! อาสวะทั้งหลาย อันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”- #ทุกขมรรค​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/189/195. http://etipitaka.com/read/thai/21/189/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๖๖-๒๗๑/๑๙๕. http://etipitaka.com/read/pali/21/266/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%95 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=642 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=642 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44 ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียง.. http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (ข้อความนี้ เป็นหลักสำคัญอย่างยิ่งที่คนธรรมดาจะไม่นึกฝัน ว่าเราจะรู้จักสิ่งใดถึงที่สุดนั้น ก็ต่อเมื่อเราจัดการกับสิ่งนั้นตามที่ควรจะทำ ถึงที่สุดแล้ว, มิใช่ว่าพอสักว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งนั้น ก็รู้จักสิ่งนั้นโดยสมบูรณ์แล้ว. ในกรณีนี้ มีใจความสำคัญว่า จะรู้จักกิเลสข้อไหนได้ ก็ต่อเมื่อ เราทำลายกิเลสนั้นเสร็จสิ้นแล้ว). อาสวะสิ้นไปเพราะการกำจัดสมารัมภะและอวิชชา
    -(ข้อความนี้ เป็นหลักสำคัญอย่างยิ่งที่คนธรรมดาจะไม่นึกฝัน ว่าเราจะรู้จักสิ่งใดถึงที่สุดนั้น ก็ต่อเมื่อเราจัดการกับสิ่งนั้นตามที่ควรจะทำ ถึงที่สุดแล้ว, มิใช่ว่าพอสักว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งนั้น ก็รู้จักสิ่งนั้นโดยสมบูรณ์แล้ว. ในกรณีนี้ มีใจความสำคัญว่า จะรู้จักกิเลสข้อไหนได้ ก็ต่อเมื่อ เราทำลายกิเลสนั้นเสร็จสิ้นแล้ว). อาสวะสิ้นไปเพราะการกำจัดสมารัมภะและอวิชชา วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะกายสมารัมภะ (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางกาย) เป็นปัจจัยเป็นเครื่อง ทำความคับแค้นเร่าร้อน ; เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก กายสมารัมภะ, อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย. หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่า (นิชฺชรา) นี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นตนเอง ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะวจีสมารัมภะ (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางวาจา) เป็นปัจจัยเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน ; เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก วจีสมารัมภะ, อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย. หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะมโนสมารัมภะ (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางใจ) เป็นปัจจัยเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน ; เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก มโนสมารัมภะ, อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย. หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนาจะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะ ใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” วัปปะ ! ท่านจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย เป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน; เพราะการเกิดขึ้นแห่งวิชชา เพราะความสำรอกออกเสียได้หมดซึ่ง อวิชชา, อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้ว กระทำให้สิ้นไปด้วย. หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. วัปปะ ! อาสวะทั้งหลาย อันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”-
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาวิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด
    สัทธรรมลำดับที่ : 274
    ชื่อบทธรรม :- วิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=274
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --วิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด
    --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงแก่พวกเธอ ถึงเรื่อง ตัณหา
    อันมีธรรมชาติ เหมือนข่ายเป็นเครื่องดักสัตว์
    มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์,
    ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้
    ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก
    นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ
    จึงไม่ล่วงพ้นอบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้.
    พวกเธอ จงฟังข้อความนั้น ทำในใจให้สำเร็จประโยชน์ เราจักกล่าว
    (มนสิกโรถ ภาสิสฺสามีติ)​
    http://etipitaka.com/read/pali/21/288/?keywords=มนสิกโรถ+ภาสิสฺสามี
    บัดนี้.
    +--ครั้นภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ทูลสนองรับพระพุทธดำรัสแล้ว,
    พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงได้ตรัส พระพุทธวจนะ
    นี้ว่า :
    ---ภิกษุ ท. ! ตัณหานั้น เป็นอย่างไรเล่า
    จึงชื่อว่ามีธรรมชาติเหมือนข่าย เป็นเครื่องดักสัตว์
    มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์,
    ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้
    ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก
    นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ
    จึงไม่ล่วงพ้นอบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้ ?
    --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง
    ที่เข้าไป จับยึดขันธ์อันเป็นภายใน และตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง
    ที่เข้าไปจับยึดขันธ์ อันเป็นภายนอก เหล่านี้ มีอยู่.
    -----
    --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง
    ที่เข้าไป จับยึดขันธ์อันเป็นภายใน เหล่านั้น เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์ อันเป็นภายใน
    นั้นคือ เมื่อมีความนึกไปในทางที่
    ว่า “เรามี เราเป็น” ดังนี้
    ก็เกิดความนึกที่เป็นไปตามอำนาจแห่งตัณหา
    ว่า “เรามีอยู่ เป็นอยู่” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น อย่าง นี้ๆ” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น อย่างนั้นๆ (คืออย่างเดียวกันกับคู่เปรียบ)” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น อย่างอื่น (คือแตกต่างตรงกันข้ามจากคู่เปรียบ)” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น ผู้ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น ผู้เที่ยง ผู้ยั่งยืน” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงมีอยู่ พึงเป็นอยู่” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงเป็น อย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงเป็น อย่างนั้นๆ ” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงเป็น อย่างอื่น” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เรา มีอยู่เป็นอยู่” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนั้นๆ” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างอื่น” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักมีอยู่ จักเป็นอยู่” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักเป็น อย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักเป็น อย่างนั้นๆ” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักเป็น อย่างอื่น” ดังนี้ ๑.
    ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ชื่อว่า ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง
    ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายใน.
    ----
    --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา)
    ๑๘ อย่าง ที่เข้าไป จับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก เป็นอย่างไรเล่า ?
    ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก
    คือ เมื่อมีความนึกไปในทางที่
    ว่า “เรามี เราเป็น ด้วยสิ่ง (คือขันธ์อันเป็นภายนอก) นี้” ดังนี้
    ก็เกิดความนึกที่เป็นไปตามอำนาจแห่งตัณหา
    ว่า “เรามีอยู่ เป็นอยู่ ด้วยสิ่ง (คือขันธ์อันเป็นภายนอก)นี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น อย่างอื่นด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น ผู้ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น ผู้เที่ยง ผู้ยั่งยืน ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงมีอยู่ พึงเป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงเป็น อย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เรามีอยู่ เป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักมีอยู่ จักเป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักเป็น อย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑.
    ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ชื่อว่า ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง
    ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก.
    --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง
    ที่เข้าไปจับยึด ขันธ์อันเป็นภายในด้วย
    และตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอกด้วย
    เหล่านี้แล เรียกว่า ตัณหาวิจริต ๓๖ อย่าง.
    --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ ตัณหาวิจริตอย่างนี้แล
    เป็นอดีต ๓๖ อย่าง,
    เป็นอนาคต ๓๖ อย่าง, และ
    ปัจจุบัน ๓๖ อย่าง,
    รวมเป็นตัณหาวิจริต ๑๐๘ อย่าง.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/290/?keywords=ตณฺหาวิจริต
    --ภิกษุ ท. ! นี่แลคือ ตัณหานั้น อันมีธรรมชาติเหมือนข่ายเป็นเครื่องดักสัตว์
    มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์,
    ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้
    ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก
    นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ
    จึงไม่ล่วงพ้น อบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้
    แล.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/201/199.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/201/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๘๘/๑๙๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/288/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%99
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=274
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=274
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18
    ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาวิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด สัทธรรมลำดับที่ : 274 ชื่อบทธรรม :- วิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=274 เนื้อความทั้งหมด :- --วิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงแก่พวกเธอ ถึงเรื่อง ตัณหา อันมีธรรมชาติ เหมือนข่ายเป็นเครื่องดักสัตว์ มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์, ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้ ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ จึงไม่ล่วงพ้นอบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้. พวกเธอ จงฟังข้อความนั้น ทำในใจให้สำเร็จประโยชน์ เราจักกล่าว (มนสิกโรถ ภาสิสฺสามีติ)​ http://etipitaka.com/read/pali/21/288/?keywords=มนสิกโรถ+ภาสิสฺสามี บัดนี้. +--ครั้นภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ทูลสนองรับพระพุทธดำรัสแล้ว, พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงได้ตรัส พระพุทธวจนะ นี้ว่า : ---ภิกษุ ท. ! ตัณหานั้น เป็นอย่างไรเล่า จึงชื่อว่ามีธรรมชาติเหมือนข่าย เป็นเครื่องดักสัตว์ มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์, ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้ ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ จึงไม่ล่วงพ้นอบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้ ? --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง ที่เข้าไป จับยึดขันธ์อันเป็นภายใน และตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์ อันเป็นภายนอก เหล่านี้ มีอยู่. ----- --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง ที่เข้าไป จับยึดขันธ์อันเป็นภายใน เหล่านั้น เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์ อันเป็นภายใน นั้นคือ เมื่อมีความนึกไปในทางที่ ว่า “เรามี เราเป็น” ดังนี้ ก็เกิดความนึกที่เป็นไปตามอำนาจแห่งตัณหา ว่า “เรามีอยู่ เป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น อย่าง นี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น อย่างนั้นๆ (คืออย่างเดียวกันกับคู่เปรียบ)” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น อย่างอื่น (คือแตกต่างตรงกันข้ามจากคู่เปรียบ)” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น ผู้ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น ผู้เที่ยง ผู้ยั่งยืน” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงมีอยู่ พึงเป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็น อย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็น อย่างนั้นๆ ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็น อย่างอื่น” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เรา มีอยู่เป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนั้นๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างอื่น” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักมีอยู่ จักเป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็น อย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็น อย่างนั้นๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็น อย่างอื่น” ดังนี้ ๑. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ชื่อว่า ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายใน. ---- --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง ที่เข้าไป จับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก คือ เมื่อมีความนึกไปในทางที่ ว่า “เรามี เราเป็น ด้วยสิ่ง (คือขันธ์อันเป็นภายนอก) นี้” ดังนี้ ก็เกิดความนึกที่เป็นไปตามอำนาจแห่งตัณหา ว่า “เรามีอยู่ เป็นอยู่ ด้วยสิ่ง (คือขันธ์อันเป็นภายนอก)นี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น อย่างอื่นด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น ผู้ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น ผู้เที่ยง ผู้ยั่งยืน ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงมีอยู่ พึงเป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็น อย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เรามีอยู่ เป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักมีอยู่ จักเป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็น อย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ชื่อว่า ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก. --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึด ขันธ์อันเป็นภายในด้วย และตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอกด้วย เหล่านี้แล เรียกว่า ตัณหาวิจริต ๓๖ อย่าง. --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ ตัณหาวิจริตอย่างนี้แล เป็นอดีต ๓๖ อย่าง, เป็นอนาคต ๓๖ อย่าง, และ ปัจจุบัน ๓๖ อย่าง, รวมเป็นตัณหาวิจริต ๑๐๘ อย่าง. http://etipitaka.com/read/pali/21/290/?keywords=ตณฺหาวิจริต --ภิกษุ ท. ! นี่แลคือ ตัณหานั้น อันมีธรรมชาติเหมือนข่ายเป็นเครื่องดักสัตว์ มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์, ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้ ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ จึงไม่ล่วงพ้น อบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้ แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/201/199. http://etipitaka.com/read/thai/21/201/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๘๘/๑๙๙. http://etipitaka.com/read/pali/21/288/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=274 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=274 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18 ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - วิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด
    -วิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงแก่พวกเธอ ถึงเรื่อง ตัณหา อันมีธรรมชาติ เหมือนข่ายเป็นเครื่องดักสัตว์ มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์, ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้ ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ จึงไม่ล่วงพ้นอบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้. พวกเธอ จงฟังข้อความนั้น ทำในใจให้สำเร็จประโยชน์ เราจักกล่าวบัดนี้. ครั้นภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ทูลสนองรับพระพุทธดำรัสแล้ว, พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงได้ตรัส พระพุทธวจนะนี้ว่า : ภิกษุ ท. ! ตัณหานั้น เป็นอย่างไรเล่า จึงชื่อว่ามีธรรมชาติเหมือนข่าย เป็นเครื่องดักสัตว์ มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์, ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้ ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ จึงไม่ล่วงพ้นอบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้ ? ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง ที่เข้าไป จับยึดขันธ์อันเป็นภายใน และตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์ อันเป็นภายนอก เหล่านี้ มีอยู่. ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายใน เหล่านั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์ อันเป็นภายใน นั้นคือ เมื่อมีความนึกไปในทาง ที่ว่า “เรามี เราเป็น” ดังนี้ ก็เกิดความนึกที่เป็นไปตามอำนาจแห่งตัณหา ว่า “เรามีอยู่ เป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นอย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นอย่างนั้นๆ (คืออย่างเดียวกันกับคู่เปรียบ)” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นอย่างอื่น (คือแตกต่างตรงกันข้ามจากคู่เปรียบ)” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นผู้ไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นผู้เที่ยง ผู้ยั่งยืน” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงมีอยู่ พึงเป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็นอย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็นอย่างนั้นๆ ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็นอย่างอื่น” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เรามีอยู่ เป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็นอย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็นอย่างนั้นๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็นอย่างอื่น” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักมีอยู่ จักเป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “เรา จักเป็นอย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็นอย่างนั้นๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็นอย่างอื่น” ดังนี้ ๑. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ชื่อว่า ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายใน. ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก คือ เมื่อมีความนึกไปในทางที่ว่า “เรามี เราเป็น ด้วยสิ่ง (คือขันธ์อันเป็นภายนอก) นี้” ดังนี้ ก็เกิดความนึกที่เป็นไปตามอำนาจแห่งตัณหา ว่า “เรามีอยู่ เป็นอยู่ ด้วยสิ่ง (คือขันธ์อันเป็นภายนอก)นี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นอย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นอย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นอย่างอื่นด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นผู้ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นผู้เที่ยง ผู้ยั่งยืน ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงมีอยู่ พึงเป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็นอย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็นอย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็นอย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เรามีอยู่ เป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็นอย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็นอย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็นอย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักมีอยู่ จักเป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็นอย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็นอย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็นอย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ชื่อว่า ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก. ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึด ขันธ์อันเป็นภายในด้วย และตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอกด้วย เหล่านี้แล เรียกว่า ตัณหาวิจริต ๓๖ อย่าง. ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ ตัณหาวิจริตอย่างนี้แล เป็นอดีต ๓๖ อย่าง, เป็นอนาคต ๓๖ อย่าง, และปัจจุบัน ๓๖ อย่าง, รวมเป็นตัณหาวิจริต ๑๐๘ อย่าง. ภิกษุ ท. ! นี่แลคือ ตัณหานั้น อันมีธรรมชาติเหมือนข่ายเป็นเครื่องดักสัตว์ มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์, ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้ ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ๑ จึงไม่ล่วงพ้นอบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้ แล.
    0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเมื่อปัจจัยแห่งภวตัณหาเป็นแห่งทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 273
    ชื่อบทธรรม :- ปัจจัยแห่งภวตัณหา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=273
    เนื้อความทั้งหมด :-ปัจจัยแห่งภวตัณหา
    --ภิกษุ ท. ! ที่สุดในเบื้องต้นของภวตัณหา ย่อมไม่ปรากฏ ;
    ก่อนแต่นี้ ภวตัณหามิได้มี ;
    แต่ว่า ภวตัณหาเพิ่งมีต่อภายหลัง.
    ภิกษุ ท. ! คำกล่าวอย่างนี้แหละเป็นคำที่ใคร ๆ ควรกล่าว
    และควรกล่าวด้วยว่า “ภวตัณหา ย่อมปรากฏ เพราะมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้ภวตัณหานั้น
    ก็เป็น ธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
    ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของภวตัณหา ?
    คำตอบพึงมีว่า “อวิชชา เป็นอาหารของภวตัณหา”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้อวิชชา
    ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
    ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของอวิชชา ?
    คำตอบพึงมีว่า “นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ เป็นอาหารของอวิชชา”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ
    ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
    ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของ นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ?
    คำตอบพึงมีว่า “ทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ”
    ดังนี้.
    ....ฯลฯ.... .
    --ภิกษุ ท.(ทั้งหลาย) ด้วยประการดังนี้
    การไม่คบสัตบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่ฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์
    การไม่ฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีศรัทธาให้บริบูรณ์
    ความไม่มีศรัทธาที่บริบูรณ์ ย่อมยังการทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายให้บริบูรณ์.
    การทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์.
    ความไม่มีสติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่สำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์
    การไม่สำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ ย่อมยังทุจริต ๓ ให้บริบูรณ์
    ....ฯลฯ....
    การไม่สำรวมอินทรีย์บริบูรณ์แล้ว ย่อมทำทุจริต ๓ ประการให้บริบูรณ์ ;
    ทุจริต ๓ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำนิวรณ์ ๕ ประการให้บริบูรณ์ ;
    นิวรณ์ ๕ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำอวิชชาให้บริบูรณ์ ;
    อวิชชาบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำภวตัณหาให้บริบูรณ์.
    --ภิกษุ ท. ! #อาหารแห่งภวตัณหานี้ ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้
    http://etipitaka.com/read/pali/24/125/?keywords=อวิชฺชา+ปริปูรา+ภวตณฺหํ
    และ บริบูรณ์แล้วด้วยอาการอย่างนี้.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก.อํ.24/105/62.
    http://etipitaka.com/read/thai/24/105/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก.อํ.๒๔/๑๒๔/๖๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/124/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=273
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=273
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18
    ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเมื่อปัจจัยแห่งภวตัณหาเป็นแห่งทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 273 ชื่อบทธรรม :- ปัจจัยแห่งภวตัณหา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=273 เนื้อความทั้งหมด :-ปัจจัยแห่งภวตัณหา --ภิกษุ ท. ! ที่สุดในเบื้องต้นของภวตัณหา ย่อมไม่ปรากฏ ; ก่อนแต่นี้ ภวตัณหามิได้มี ; แต่ว่า ภวตัณหาเพิ่งมีต่อภายหลัง. ภิกษุ ท. ! คำกล่าวอย่างนี้แหละเป็นคำที่ใคร ๆ ควรกล่าว และควรกล่าวด้วยว่า “ภวตัณหา ย่อมปรากฏ เพราะมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้ภวตัณหานั้น ก็เป็น ธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของภวตัณหา ? คำตอบพึงมีว่า “อวิชชา เป็นอาหารของภวตัณหา” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้อวิชชา ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของอวิชชา ? คำตอบพึงมีว่า “นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ เป็นอาหารของอวิชชา” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของ นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ? คำตอบพึงมีว่า “ทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ” ดังนี้. ....ฯลฯ.... . --ภิกษุ ท.(ทั้งหลาย) ด้วยประการดังนี้ การไม่คบสัตบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่ฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์ การไม่ฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีศรัทธาให้บริบูรณ์ ความไม่มีศรัทธาที่บริบูรณ์ ย่อมยังการทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายให้บริบูรณ์. การทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์. ความไม่มีสติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่สำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์ การไม่สำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ ย่อมยังทุจริต ๓ ให้บริบูรณ์ ....ฯลฯ.... การไม่สำรวมอินทรีย์บริบูรณ์แล้ว ย่อมทำทุจริต ๓ ประการให้บริบูรณ์ ; ทุจริต ๓ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำนิวรณ์ ๕ ประการให้บริบูรณ์ ; นิวรณ์ ๕ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำอวิชชาให้บริบูรณ์ ; อวิชชาบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำภวตัณหาให้บริบูรณ์. --ภิกษุ ท. ! #อาหารแห่งภวตัณหานี้ ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ http://etipitaka.com/read/pali/24/125/?keywords=อวิชฺชา+ปริปูรา+ภวตณฺหํ และ บริบูรณ์แล้วด้วยอาการอย่างนี้.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก.อํ.24/105/62. http://etipitaka.com/read/thai/24/105/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก.อํ.๒๔/๑๒๔/๖๒. http://etipitaka.com/read/pali/24/124/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=273 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=273 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18 ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ปัจจัยแห่งภวตัณหา
    -ปัจจัยแห่งภวตัณหา ภิกษุ ท. ! ที่สุดในเบื้องต้นของภวตัณหา ย่อมไม่ปรากฏ ; ก่อนแต่นี้ ภวตัณหามิได้มี ; แต่ว่า ภวตัณหาเพิ่งมีต่อภายหลัง. ภิกษุ ท. ! คำกล่าวอย่างนี้แหละเป็นคำที่ใคร ๆ ควรกล่าว และควรกล่าวด้วยว่า “ภวตัณหา ย่อมปรากฏ เพราะมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้ภวตัณหานั้น ก็เป็น ธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของภวตัณหา ? คำตอบพึงมีว่า “อวิชชา เป็นอาหารของภวตัณหา” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้อวิชชา ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของอวิชชา ? คำตอบพึงมีว่า “นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ เป็นอาหารของอวิชชา” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของ นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ? คำตอบพึงมีว่า “ทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ” ดังนี้. ....ฯลฯ.... ....ฯลฯ.... การไม่สำรวมอินทรีย์บริบูรณ์แล้ว ย่อมทำทุจริต ๓ ประการให้บริบูรณ์ ; ทุจริต ๓ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำนิวรณ์ ๕ ประการให้บริบูรณ์ ; นิวรณ์ ๕ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำอวิชชาให้บริบูรณ์ ; อวิชชาบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำภวตัณหาให้บริบูรณ์. ภิกษุ ท. ! อาหารแห่งภวตัณหานี้ ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้และ บริบูรณ์แล้วด้วยอาการอย่างนี้.
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • เพราะไม่รู้อริยสัจทั้งสี่ สัตว์โลกธาตุนี้จึงต้องแล่นไปในสังสารวัฏ
    สัทธรรมลำดับที่ : 4
    ชื่อบทธรรม :- เพราะไม่รู้อริยสัจ จึงต้องแล่นไปในสังสารวัฏ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=63
    เนื้อความทั้งหมด :- เพราะไม่รู้อริยสัจ จึงต้องแล่นไปในสังสารวัฏ
    --ภิกษุ ท. ! เพราะไม่รู้ถึง ไม่แทงตลอดซึ่งอริยสัจสี่อย่าง,
    เราและพวกเธอทั้งหลาย จึงได้ท่องเที่ยวไปแล้วในสังสารวัฏ
    ตลอดกาลยืดยาวนานถึงเพียงนี้.
    --ภิกษุ ท. ! อริยสัจสี่อย่าง เหล่าไหนเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะไม่รู้ถึง ไม่แทงตลอดซึ่ง
    อริยสัจคือ ทุกข์,
    อริยสัจคือ เหตุให้เกิดทุกข์,
    อริยสัจคือ ความดับไม่เหลือของทุกข์ และ
    อริยสัจคือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์ ;
    เราและพวกเธอทั้งหลาย จึงได้ท่องเที่ยวไปแล้วในสังสารวัฏ
    ตลอดกาล ยืดยาวนานถึงเพียงนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เมื่ออริยสัจ คือ
    ทุกข์,
    เหตุให้เกิดทุกข์,
    ความดับไม่เหลือของทุกข์ และ
    ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์,
    เป็นความจริงที่เราและพวกเธอทั้งหลาย รู้ถึง และแทงตลอดแล้ว ;
    ตัณหาในภพ ก็ถูกถอนขึ้นขาดตัณหาที่จะนำไปสู่ภพ ก็สิ้นไปหมด
    บัดนี้ความต้องเกิดขึ้นอีก มิได้มี ;
    ดังนี้.-

    #ทุกข์ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/428/1698.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/428/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%99%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๔๑/๑๖๙๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/541/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%99%E0%B9%98
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=63
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=1&id=4
    ลำดับสาธยายธรรม : 1 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_01.mp3
    เพราะไม่รู้อริยสัจทั้งสี่ สัตว์โลกธาตุนี้จึงต้องแล่นไปในสังสารวัฏ สัทธรรมลำดับที่ : 4 ชื่อบทธรรม :- เพราะไม่รู้อริยสัจ จึงต้องแล่นไปในสังสารวัฏ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=63 เนื้อความทั้งหมด :- เพราะไม่รู้อริยสัจ จึงต้องแล่นไปในสังสารวัฏ --ภิกษุ ท. ! เพราะไม่รู้ถึง ไม่แทงตลอดซึ่งอริยสัจสี่อย่าง, เราและพวกเธอทั้งหลาย จึงได้ท่องเที่ยวไปแล้วในสังสารวัฏ ตลอดกาลยืดยาวนานถึงเพียงนี้. --ภิกษุ ท. ! อริยสัจสี่อย่าง เหล่าไหนเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะไม่รู้ถึง ไม่แทงตลอดซึ่ง อริยสัจคือ ทุกข์, อริยสัจคือ เหตุให้เกิดทุกข์, อริยสัจคือ ความดับไม่เหลือของทุกข์ และ อริยสัจคือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์ ; เราและพวกเธอทั้งหลาย จึงได้ท่องเที่ยวไปแล้วในสังสารวัฏ ตลอดกาล ยืดยาวนานถึงเพียงนี้. --ภิกษุ ท. ! เมื่ออริยสัจ คือ ทุกข์, เหตุให้เกิดทุกข์, ความดับไม่เหลือของทุกข์ และ ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์, เป็นความจริงที่เราและพวกเธอทั้งหลาย รู้ถึง และแทงตลอดแล้ว ; ตัณหาในภพ ก็ถูกถอนขึ้นขาดตัณหาที่จะนำไปสู่ภพ ก็สิ้นไปหมด บัดนี้ความต้องเกิดขึ้นอีก มิได้มี ; ดังนี้.- #ทุกข์ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/428/1698. http://etipitaka.com/read/thai/19/428/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%99%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๔๑/๑๖๙๘. http://etipitaka.com/read/pali/19/541/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%99%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=63 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=1&id=4 ลำดับสาธยายธรรม : 1 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_01.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - การรู้จักอันตคาหิกทิฏฐิไม่เกี่ยวกับ
    -การรู้จักอันตคาหิกทิฏฐิไม่เกี่ยวกับ การรู้อริยสัจและการประพฤติพรหมจรรย์ มาลุงก๎ยบุตร ! อะไรเล่า เป็นสิ่งที่เราไม่พยากรณ์ ? มาลุงก๎ยบุตร ! ทิฏฐิว่า “โลกเที่ยง” ดังนี้ เป็นสิ่งที่เราไม่พยากรณ์. มาลุงก๎ยบุตร ! ทิฏฐิว่า “โลกไม่เที่ยง” ดังนี้ เป็นสิ่งที่เราไม่พยากรณ์. มาลุงก๎ยบุตร ! ทิฏฐิว่า “โลกมีที่สิ้นสุด” ดังนี้ เป็นสิ่งที่เราไม่พยากรณ์. มาลุงก๎ยบุตร ! ทิฏฐิว่า “โลกไม่มีที่สิ้นสุด” ดังนี้ เป็นสิ่งที่เราไม่พยากรณ์. มาลุงก๎ยบุตร ! ทิฏฐิว่า “ชีวะก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น” ดังนี้ เป็นสิ่งที่เราไม่พยากรณ์. มาลุงก๎ยบุตร ! ทิฏฐิว่า “ชีวะก็อันอื่น สรีระก็อันอื่น” ดังนี้ เป็นสิ่งที่เราไม่พยากรณ์. มาลุงก๎ยบุตร ! ทิฏฐิว่า “ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้ว ย่อมมีอีก” ดังนี้เป็นสิ่งที่เราไม่พยากรณ์. มาลุงก๎ยบุตร ! ทิฏฐิว่า “ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้ว ย่อมไม่มีอีก” ดังนี้เป็นสิ่งที่เราไม่พยากรณ์. มาลุงก๎ยบุตร ! ทิฏฐิว่า “ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้ว ย่อมมีอีกก็มี ไม่มีอีกก็มี” ดังนี้ เป็นสิ่งเราไม่พยากรณ์. มาลุงก๎ยบุตร ! ทิฏฐิว่า “ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้ว ย่อมมีอีกก็หามิได้ ไม่มีอีกก็หามิได้” ดังนี้ เป็นสิ่งที่เราไม่พยากรณ์. มาลุงก๎ยบุตร ! เพราะเหตุไร นั่นจึงเป็นสิ่งที่เราไม่พยากรณ์ ? เพราะเหตุว่า นั่นไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ ไม่เป็นไปพร้อมเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับ ความระงับ ความรู้ยิ่งความรู้พร้อม และนิพพาน, เหตุนั้น นั่นจึงเป็นสิ่งที่เราไม่พยากรณ์. มาลุงก๎ยบุตร ! อะไรเล่า เป็นสิ่งที่เราพยากรณ์ ? มาลุงก๎ยบุตร ! สัจจะว่า “นี้ ความทุกข์” ดังนี้ เป็นสิ่งที่เราพยากรณ์. มาลุงก๎ยบุตร ! สัจจะว่า “นี้ เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์” ดังนี้ เป็นสิ่งที่เราพยากรณ์. มาลุงก๎ยบุตร ! สัจจะว่า “นี้ ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้ เป็นสิ่งที่เราพยากรณ์. มาลุงก๎ยบุตร ! สัจจะว่า “นี้ ทางเดินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้ เป็นสิ่งที่เราพยากรณ์. มาลุงก๎ยบุตร ! เพราะเหตุไร นั่นจึงเป็นสิ่งที่เราพยากรณ์ ? เพราะเหตุว่า นั่น ประกอบด้วยประโยชน์ นั่น เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ นั่นเป็นไปพร้อมเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับไม่เหลือ ความระงับความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม และนิพพาน, เหตุนั้น นั่นเราจึงพยากรณ์. มาลุงกย๎บุตร ! เพราะเหตุนั้นในเรื่องนี้ เธอจงถือเอาสิ่งที่เราไม่พยากรณ์ โดยความเป็นสิ่งที่เราไม่พยากรณ์ และสิ่งที่เราพยากรณ์โดยความเป็นสิ่งที่เราพยากรณ์ ดังนี้เถิด. มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อทิฏฐิว่า “โลกเที่ยง” ดังนี้ มีอยู่, มันจะเป็นการประพฤติพรหมจรรย์ขึ้นมาก็หามิได้ ; เมื่อทิฏฐิว่า “โลกไม่เที่ยง” ดังนี้ มีอยู่, มันจะเป็นการประพฤติพรหมจรรย์ขึ้นมาก็หามิได้อีกนั่นเอง. มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อทิฏฐิว่า โลกเที่ยง หรือว่า โลกไม่เที่ยง ก็ตาม มีอยู่ ; ชาติก็ยังมี ชราก็ยังมีมรณะก็ยังมี, โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ทั้งหลาย ก็ยังมี, อันเป็น สิ่งที่เราบัญญัติการกำจัดมันเสียในทิฏฐธรรมนี้. มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อทิฏฐิว่า “โลกมีที่สิ้นสุด” ดังนี้ มีอยู่, มันจะเป็นการประพฤติพรหมจรรย์ขึ้นมาก็หามิได้ ; เมื่อทิฏฐิว่า “โลกไม่มีที่สิ้นสุด” ดังนี้มีอยู่, มันจะเป็นการประพฤติพรหมจรรย์ขึ้นมาก็หามิได้อีกนั่นเอง. มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อทิฏฐิว่า โลกมีที่สิ้นสุด หรือว่า โลกไม่มีที่สิ้นสุด ก็ตาม มีอยู่ ; ชาติก็ยังมี ชราก็ยังมี มรณะก็ยังมี, โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ทั้งหลายก็ยังมี, อันเป็นสิ่งที่เราบัญญัติการกำจัดมันเสียในทิฏฐธรรมนี้. มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อทิฏฐิว่า “ชีวะก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น” ดังนี้ มีอยู่, มันจะเป็นการประพฤติพรหมจรรย์ขึ้นมาก็หามิได้ ; เมื่อทิฏฐิว่า “ชีวะก็อันอื่น สรีระก็อันอื่น” ดังนี้ มีอยู่, มันจะเป็นการประพฤติพรหมจรรย์ขึ้นมาก็หามิได้อีกนั่นเอง. มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อทิฏฐิว่า ชีวะก็อันนั้นสรีระก็อันนั้น หรือว่าชีวะก็ อันอื่น สรีระก็อันอื่น ก็ตาม มีอยู่, ชาติก็ยังมี ชราก็ยังมี มรณะก็ยังมี, โสกะปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ทั้งหลาย ก็ยังมี, อันเป็นสิ่งที่เราบัญญัติการ กำจัดมันเสียในทิฏฐธรรมนี้. มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อทิฏฐิว่า “ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้วย่อมมีอีก” ดังนี้ มีอยู่, มันจะเป็นการประพฤติพรหมจรรย์ขึ้นมาก็หามิได้ ; เมื่อทิฏฐิว่า “ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้ว ย่อมไม่มีอีก” ดังนี้ มีอยู่, มันจะเป็นการประพฤติพรหมจรรย์ขึ้นมาก็หามิได้อีกนั่นเอง. มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อทิฏฐิว่า ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้วย่อมมีอีก หรือว่า ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้วย่อมไม่มีอีก ก็ตามมีอยู่ ; ชาติก็ยังมี ชราก็ยังมี มรณะก็ยังมี, โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ทั้งหลาย ก็ยังมี, อันเป็นสิ่งที่เราบัญญัติการกำจัดมันเสียในทิฏฐธรรมนี้. มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อทิฏฐิว่า “ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้ว ย่อมมีอีก ก็มีไม่มีอีกก็มี” ดังนี้ มีอยู่, มันจะเป็นการประพฤติพรหมจรรย์ขึ้นมาก็หามิได้ ;nเมื่อทิฏฐิว่า “ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้ว ย่อมมีอีกก็หามิได้ไม่มีอีกก็หามิได้” ดังนี้ มีอยู่, มันจะเป็นการประพฤติพรหมจรรย์ขึ้นมาก็หามิได้อยู่นั่นเอง. มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อทิฏฐิว่า ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้วย่อมมีอีกก็มีไม่มีอีกก็มี หรือว่า ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้วย่อมมีอีกก็หามิได้ไม่มีอีกก็หามิได้ ก็ตาม มีอยู่ ; ชาติก็ยังมี ชราก็ยังมี มรณะก็ยังมี, โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ทั้งหลาย ก็ยังมี, อันเป็นสิ่งที่เราบัญญัติการกำจัดมันเสียในทิฏฐธรรมนี้.
    0 Comments 0 Shares 88 Views 0 Reviews
  • 💾 Seagate เตรียมเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ 150TB ด้วยเทคโนโลยี HAMR

    Seagate ได้เผยแผนพัฒนา ฮาร์ดไดรฟ์ขนาด 150TB โดยใช้ เทคโนโลยี Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) ซึ่งจะช่วยให้สามารถเพิ่มความจุของไดรฟ์ได้อย่างมหาศาล

    Seagate กำลังดำเนินการผ่าน แพลตฟอร์ม Mozaic ซึ่งปัจจุบันสามารถผลิต แผ่นบันทึกข้อมูล (platters) ขนาด 4TB และมีแผนจะเพิ่มเป็น 10TB ต่อแผ่นภายในปี 2028

    เป้าหมายสูงสุดคือ แผ่นบันทึกข้อมูลขนาด 15TB ซึ่งจะช่วยให้สามารถสร้าง ฮาร์ดไดรฟ์ 150TB ได้โดยใช้ 10 platters อย่างไรก็ตาม Seagate ระบุว่า ต้องใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่านี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Seagate วางแผนพัฒนา HDD ขนาด 150TB โดยใช้เทคโนโลยี HAMR
    - แพลตฟอร์ม Mozaic ปัจจุบันสามารถผลิตแผ่นบันทึกข้อมูลขนาด 4TB
    - เป้าหมายคือการเพิ่มขนาดแผ่นบันทึกข้อมูลเป็น 10TB ภายในปี 2028
    - แผ่นบันทึกข้อมูลขนาด 15TB จะช่วยให้สามารถสร้าง HDD 150TB ได้
    - Seagate คาดว่า HDD 150TB จะพร้อมใช้งานภายในปี 2035

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีแผนพัฒนา แต่ HDD 150TB ยังต้องใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่านี้
    - HAMR ยังต้องผ่านการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถใช้งานได้ในระดับอุตสาหกรรม
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะพัฒนาเทคโนโลยีที่แข่งขันกับ HAMR หรือไม่
    - การผลิต HDD ที่มีความจุสูงอาจต้องใช้ต้นทุนที่สูงขึ้นในช่วงแรก

    หาก Seagate สามารถพัฒนา HDD 150TB ได้สำเร็จ อาจช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้นโดยใช้พื้นที่น้อยลง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะสามารถทำได้ตามแผนหรือไม่

    https://www.techradar.com/pro/seagate-ceo-hints-at-150tb-hard-drives-thanks-to-novel-15tb-platters-but-that-wont-happen-for-another-decade
    💾 Seagate เตรียมเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ 150TB ด้วยเทคโนโลยี HAMR Seagate ได้เผยแผนพัฒนา ฮาร์ดไดรฟ์ขนาด 150TB โดยใช้ เทคโนโลยี Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) ซึ่งจะช่วยให้สามารถเพิ่มความจุของไดรฟ์ได้อย่างมหาศาล Seagate กำลังดำเนินการผ่าน แพลตฟอร์ม Mozaic ซึ่งปัจจุบันสามารถผลิต แผ่นบันทึกข้อมูล (platters) ขนาด 4TB และมีแผนจะเพิ่มเป็น 10TB ต่อแผ่นภายในปี 2028 เป้าหมายสูงสุดคือ แผ่นบันทึกข้อมูลขนาด 15TB ซึ่งจะช่วยให้สามารถสร้าง ฮาร์ดไดรฟ์ 150TB ได้โดยใช้ 10 platters อย่างไรก็ตาม Seagate ระบุว่า ต้องใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่านี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ✅ ข้อมูลจากข่าว - Seagate วางแผนพัฒนา HDD ขนาด 150TB โดยใช้เทคโนโลยี HAMR - แพลตฟอร์ม Mozaic ปัจจุบันสามารถผลิตแผ่นบันทึกข้อมูลขนาด 4TB - เป้าหมายคือการเพิ่มขนาดแผ่นบันทึกข้อมูลเป็น 10TB ภายในปี 2028 - แผ่นบันทึกข้อมูลขนาด 15TB จะช่วยให้สามารถสร้าง HDD 150TB ได้ - Seagate คาดว่า HDD 150TB จะพร้อมใช้งานภายในปี 2035 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีแผนพัฒนา แต่ HDD 150TB ยังต้องใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่านี้ - HAMR ยังต้องผ่านการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถใช้งานได้ในระดับอุตสาหกรรม - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะพัฒนาเทคโนโลยีที่แข่งขันกับ HAMR หรือไม่ - การผลิต HDD ที่มีความจุสูงอาจต้องใช้ต้นทุนที่สูงขึ้นในช่วงแรก หาก Seagate สามารถพัฒนา HDD 150TB ได้สำเร็จ อาจช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้นโดยใช้พื้นที่น้อยลง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะสามารถทำได้ตามแผนหรือไม่ https://www.techradar.com/pro/seagate-ceo-hints-at-150tb-hard-drives-thanks-to-novel-15tb-platters-but-that-wont-happen-for-another-decade
    WWW.TECHRADAR.COM
    This Seagate tech could change data storage forever—but we have to wait ten more years
    HAMR technology remains Seagate’s crown jewel for scaling drive capacity
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • 🧠 AI กับปัญหางานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน
    การเข้าถึง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ง่ายขึ้นส่งผลให้ งานวิจัยทางการแพทย์และสุขภาพมีความเข้มงวดทางวิทยาศาสตร์ลดลง และนำไปสู่ "กระแสงานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน" ซึ่งเต็มไปด้วยการวิเคราะห์ที่ผิวเผินและข้อมูลที่ถูกเลือกมาอย่างไม่เหมาะสม

    นักวิจัยจาก University of Surrey และ University of Aberystwyth พบว่า การใช้ AI ในงานวิจัยมักนำไปสู่การวิเคราะห์แบบสูตรสำเร็จ โดยเน้นเพียง ปัจจัยเดียว แทนที่จะใช้แนวทางที่ครอบคลุมมากขึ้น

    นอกจากนี้ ยังมีการใช้ AI-ready datasets เพื่อสร้างงานวิจัยจำนวนมากโดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจนำไปสู่ การเลือกข้อมูลที่ไม่เหมาะสม (cherry-picking) และการเปลี่ยนแปลงคำถามวิจัยหลังจากเห็นผลลัพธ์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - AI ทำให้การวิจัยทางการแพทย์และสุขภาพมีความเข้มงวดลดลง
    - University of Surrey และ University of Aberystwyth พบว่าการใช้ AI มักนำไปสู่การวิเคราะห์แบบสูตรสำเร็จ
    - มีการใช้ AI-ready datasets เพื่อสร้างงานวิจัยจำนวนมากโดยอัตโนมัติ
    - บางงานวิจัยใช้ข้อมูลที่ถูกเลือกมาอย่างไม่เหมาะสม (cherry-picking)
    - นักวิจัยแนะนำให้มีการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสถิติและการทบทวนโดยเพื่อนร่วมงาน (peer review) อย่างเข้มงวด

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้ AI ในงานวิจัยอาจนำไปสู่ข้อสรุปที่ผิดพลาดและการตีพิมพ์ข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ
    - ต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างงานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน
    - การเลือกข้อมูลที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในวงการแพทย์และสุขภาพ
    - ต้องมีการพัฒนาแนวทางการใช้ AI ในงานวิจัยให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้

    🚀 ผลกระทบต่อวงการวิจัย
    การใช้ AI ในงานวิจัยอาจช่วยให้ การวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่หากไม่มีการควบคุมที่ดี อาจนำไปสู่การเผยแพร่งานวิจัยที่ไม่มีคุณภาพ นักวิจัยและสถาบันวิชาการต้อง พัฒนาแนวทางการใช้ AI ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/01/ai-being-used-to-churn-out-deluge-of-dodgy-scientific-research
    🧠 AI กับปัญหางานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน การเข้าถึง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ง่ายขึ้นส่งผลให้ งานวิจัยทางการแพทย์และสุขภาพมีความเข้มงวดทางวิทยาศาสตร์ลดลง และนำไปสู่ "กระแสงานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน" ซึ่งเต็มไปด้วยการวิเคราะห์ที่ผิวเผินและข้อมูลที่ถูกเลือกมาอย่างไม่เหมาะสม นักวิจัยจาก University of Surrey และ University of Aberystwyth พบว่า การใช้ AI ในงานวิจัยมักนำไปสู่การวิเคราะห์แบบสูตรสำเร็จ โดยเน้นเพียง ปัจจัยเดียว แทนที่จะใช้แนวทางที่ครอบคลุมมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการใช้ AI-ready datasets เพื่อสร้างงานวิจัยจำนวนมากโดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจนำไปสู่ การเลือกข้อมูลที่ไม่เหมาะสม (cherry-picking) และการเปลี่ยนแปลงคำถามวิจัยหลังจากเห็นผลลัพธ์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - AI ทำให้การวิจัยทางการแพทย์และสุขภาพมีความเข้มงวดลดลง - University of Surrey และ University of Aberystwyth พบว่าการใช้ AI มักนำไปสู่การวิเคราะห์แบบสูตรสำเร็จ - มีการใช้ AI-ready datasets เพื่อสร้างงานวิจัยจำนวนมากโดยอัตโนมัติ - บางงานวิจัยใช้ข้อมูลที่ถูกเลือกมาอย่างไม่เหมาะสม (cherry-picking) - นักวิจัยแนะนำให้มีการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสถิติและการทบทวนโดยเพื่อนร่วมงาน (peer review) อย่างเข้มงวด ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้ AI ในงานวิจัยอาจนำไปสู่ข้อสรุปที่ผิดพลาดและการตีพิมพ์ข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ - ต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างงานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน - การเลือกข้อมูลที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในวงการแพทย์และสุขภาพ - ต้องมีการพัฒนาแนวทางการใช้ AI ในงานวิจัยให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ 🚀 ผลกระทบต่อวงการวิจัย การใช้ AI ในงานวิจัยอาจช่วยให้ การวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่หากไม่มีการควบคุมที่ดี อาจนำไปสู่การเผยแพร่งานวิจัยที่ไม่มีคุณภาพ นักวิจัยและสถาบันวิชาการต้อง พัฒนาแนวทางการใช้ AI ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/01/ai-being-used-to-churn-out-deluge-of-dodgy-scientific-research
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI being used to churn out deluge of dodgy scientific research
    Easy access to artificial intelligence (AI) has made medical and health research less scientifically rigorous and has facilitated a "flood" of shoddy journal papers full of superficial analyses based on "cherry-picked" data, a new study reports.
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สุขโสมนัสที่เป็นไปเพื่อสิ้นอาสวะ( มัชฌิมาปฏิปทาที่แสนสุข )
    สัทธรรมลำดับที่ : 1009
    ชื่อบทธรรม :- สุขโสมนัสที่เป็นไปเพื่อสิ้นอาสวะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1009
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สุขโสมนัสที่เป็นไปเพื่อสิ้นอาสวะ-( มัชฌิมาปฏิปทาที่แสนสุข )
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ
    ย่อมเป็นผู้มากไปด้วยสุขและโสมนัส(สุขโสมนสฺสพหุโลใน)​ทิฏฐธรรมเทียว ;
    และการกำเนิดของเธอนั้น จักเป็นการปรารภเพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะด้วย.
    ธรรม ๖ ประการ เหล่าไหนเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ธรรมหกประการคือ ภิกษุในกรณีนี้ : -
    --เป็น ๑.ธัมมาราโม ( มีธรรมเป็นที่มายินดี ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=ธมฺมาราโม
    --เป็น ๒.ภาวนาราโม ( มีการเจริญภาวนาเป็นที่มายินดี ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=ภาวนาราโม
    --เป็น ๓.ปหานาราโม ( มีการละกิเลสเป็นที่มายินดี ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=ปหานาราโม
    --เป็น ๔.ปวิเวการาโม ( มีความสงัดจากโยคธรรมเป็นที่มายินดี ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=ปวิเวการาโม
    --เป็น ๕.อัพ๎ยาปัชฌาราโม ( มีธรรมอันไม่เบียดเบียนเป็นที่มายินดี ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=อพฺยาปชฺฌาราโม
    --เป็น ๖.นิปปปัญจาราโม ( มีธรรมอันไม่ทำความเนิ่นช้าเป็นที่มายินดี ).
    http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=นิปฺปปญฺจาราโม
    --ภิกษุ ท.! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เหล่านี้แล
    #ย่อมเป็นผู้มากไปด้วยสุขและโสมนัส(สุขโสมนสฺสพหุโลใน)​ในทิฏฐธรรมเทียว ; และ
    การกำเนิดของเธอนั้น จักเป็นการปรารภเพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะด้วย.-
    http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=สุขโสมนสฺสพหุโล

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/384/349.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/384/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%94%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๘๑/๓๔๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%94%E0%B9%99
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1009
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1009
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87
    ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สุขโสมนัสที่เป็นไปเพื่อสิ้นอาสวะ( มัชฌิมาปฏิปทาที่แสนสุข ) สัทธรรมลำดับที่ : 1009 ชื่อบทธรรม :- สุขโสมนัสที่เป็นไปเพื่อสิ้นอาสวะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1009 เนื้อความทั้งหมด :- --สุขโสมนัสที่เป็นไปเพื่อสิ้นอาสวะ-( มัชฌิมาปฏิปทาที่แสนสุข ) --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้มากไปด้วยสุขและโสมนัส(สุขโสมนสฺสพหุโลใน)​ทิฏฐธรรมเทียว ; และการกำเนิดของเธอนั้น จักเป็นการปรารภเพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะด้วย. ธรรม ๖ ประการ เหล่าไหนเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ธรรมหกประการคือ ภิกษุในกรณีนี้ : - --เป็น ๑.ธัมมาราโม ( มีธรรมเป็นที่มายินดี ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=ธมฺมาราโม --เป็น ๒.ภาวนาราโม ( มีการเจริญภาวนาเป็นที่มายินดี ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=ภาวนาราโม --เป็น ๓.ปหานาราโม ( มีการละกิเลสเป็นที่มายินดี ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=ปหานาราโม --เป็น ๔.ปวิเวการาโม ( มีความสงัดจากโยคธรรมเป็นที่มายินดี ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=ปวิเวการาโม --เป็น ๕.อัพ๎ยาปัชฌาราโม ( มีธรรมอันไม่เบียดเบียนเป็นที่มายินดี ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=อพฺยาปชฺฌาราโม --เป็น ๖.นิปปปัญจาราโม ( มีธรรมอันไม่ทำความเนิ่นช้าเป็นที่มายินดี ). http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=นิปฺปปญฺจาราโม --ภิกษุ ท.! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เหล่านี้แล #ย่อมเป็นผู้มากไปด้วยสุขและโสมนัส(สุขโสมนสฺสพหุโลใน)​ในทิฏฐธรรมเทียว ; และ การกำเนิดของเธอนั้น จักเป็นการปรารภเพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะด้วย.- http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=สุขโสมนสฺสพหุโล #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/384/349. http://etipitaka.com/read/thai/22/384/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%94%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๘๑/๓๔๙. http://etipitaka.com/read/pali/22/481/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%94%E0%B9%99 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1009 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1009 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87 ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สุขโสมนัสที่เป็นไปเพื่อสิ้นอาสวะ
    -สุขโสมนัสที่เป็นไปเพื่อสิ้นอาสวะ ( มัชฌิมาปฏิปทาที่แสนสุข ) ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้มากไปด้วยสุขและโสมนัส ในทิฏฐธรรมเทียว ; และการกำเนิดของเธอนั้น จักเป็นการปรารภเพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะด้วย. ธรรม ๖ ประการ เหล่าไหนเล่า ? ภิกษุ ท. ! ธรรมหกประการคือ ภิกษุในกรณีนี้ : เป็น ธัมมาราโม ( มีธรรมเป็นที่มายินดี ) ; เป็น ภาวนาราโม ( มีการเจริญภาวนาเป็นที่มายินดี ) ; เป็น ปหานาราโม ( มีการละกิเลสเป็นที่มายินดี ) ; เป็น ปวิเวการาโม ( มีความสงัดจากโยคธรรมเป็นที่มายินดี ) ; เป็น อัพ๎ยาปัชฌาราโม ( มีธรรมอันไม่เบียดเบียนเป็นที่มายินดี ) ; เป็น นิปปปัญจาราโม ( มีธรรมอันไม่ทำความเนิ่นช้าเป็นที่มายินดี ). ภิกษุ ท.! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เหล่านี้แล ย่อมเป็นผู้มากไปด้วยสุขและโสมนัส ในทิฏฐธรรมเทียว ; และการกำเนิดของเธอนั้น จักเป็นการปรารภเพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะด้วย.
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่ารู้จักอุปาทาน ต่อเมื่อหมดอุปาทาน
    สัทธรรมลำดับที่ : 641
    ชื่อบทธรรม :- รู้จักอุปาทาน ต่อเมื่อหมดอุปาทาน
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=641
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --รู้จักอุปาทาน ต่อเมื่อหมดอุปาทาน
    --ภิกษุ ท. ! ธรรมเพื่อการรอบรู้อุปาทานทั้งปวง เป็นอย่างไรเล่า ?
    (ความจริงมีอยู่ว่า:-)​
    เพราะอาศัย จักษุ และรูป จึงเกิดจักขุวิญญาณ ;
    การประจวบพร้อมแห่งธรรม ๓ ประการ (ตา+รูป+จักขุวิญญาณ) นั้นคือ #ผัสสะ ;
    http://etipitaka.com/read/pali/18/39/?keywords=ผสฺโส
    เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัยจึงมีเวทนา.
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้มีการสดับ เห็นอยู่ (ซึ่งกระแสการปรุงแต่ง) อย่างนี้
    ย่อมเบื่อหน่ายทั้งใน ๑.จักษุ (ตา)☆
    เบื่อหน่ายทั้งในรูป
    เบื่อหน่ายทั้งในจักขุวิญญาณ
    เบื่อหน่ายทั้งในจักขุสัมผัส เบื่อหน่ายทั้งในเวทนา.
    เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด ;
    เพราะคลายกำหนัด ย่อมหลุดพ้น. เธอย่อมรู้ชัดว่า
    “อุปาทานของเรา เรารอบรู้แล้ว เพราะความหลุดพ้นนั้น (วิโมกฺขปริญฺญาตํ)”
    http://etipitaka.com/read/pali/18/40/?keywords=วิโมกฺขปริญฺญาตํ
    ดังนี้.

    ☆(ในกรณีแห่ง
    ๒.โสตะ(หู) ๓.ฆานะ(จมูก) ๔.ชิวหา(ลิ้น) ๕.กายะ(ผืวกายสัมผัส) และ ๖.มนะ(ใจ)​
    ก็มีข้อความที่ตรัสไว้อย่างเดียวกัน
    ).-

    #ทุกขมรรค#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก#พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/31/63.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/31/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๓๙/๖๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/39/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=641
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=641
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44
    ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่ารู้จักอุปาทาน ต่อเมื่อหมดอุปาทาน สัทธรรมลำดับที่ : 641 ชื่อบทธรรม :- รู้จักอุปาทาน ต่อเมื่อหมดอุปาทาน https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=641 เนื้อความทั้งหมด :- --รู้จักอุปาทาน ต่อเมื่อหมดอุปาทาน --ภิกษุ ท. ! ธรรมเพื่อการรอบรู้อุปาทานทั้งปวง เป็นอย่างไรเล่า ? (ความจริงมีอยู่ว่า:-)​ เพราะอาศัย จักษุ และรูป จึงเกิดจักขุวิญญาณ ; การประจวบพร้อมแห่งธรรม ๓ ประการ (ตา+รูป+จักขุวิญญาณ) นั้นคือ #ผัสสะ ; http://etipitaka.com/read/pali/18/39/?keywords=ผสฺโส เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัยจึงมีเวทนา. +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้มีการสดับ เห็นอยู่ (ซึ่งกระแสการปรุงแต่ง) อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายทั้งใน ๑.จักษุ (ตา)☆ เบื่อหน่ายทั้งในรูป เบื่อหน่ายทั้งในจักขุวิญญาณ เบื่อหน่ายทั้งในจักขุสัมผัส เบื่อหน่ายทั้งในเวทนา. เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด ; เพราะคลายกำหนัด ย่อมหลุดพ้น. เธอย่อมรู้ชัดว่า “อุปาทานของเรา เรารอบรู้แล้ว เพราะความหลุดพ้นนั้น (วิโมกฺขปริญฺญาตํ)” http://etipitaka.com/read/pali/18/40/?keywords=วิโมกฺขปริญฺญาตํ ดังนี้. ☆(ในกรณีแห่ง ๒.โสตะ(หู) ๓.ฆานะ(จมูก) ๔.ชิวหา(ลิ้น) ๕.กายะ(ผืวกายสัมผัส) และ ๖.มนะ(ใจ)​ ก็มีข้อความที่ตรัสไว้อย่างเดียวกัน ).- #ทุกขมรรค​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก​ #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/31/63. http://etipitaka.com/read/thai/18/31/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๓๙/๖๓. http://etipitaka.com/read/pali/18/39/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=641 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=641 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44 ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - รู้จักอุปาทาน ต่อเมื่อหมดอุปาทาน
    -รู้จักอุปาทาน ต่อเมื่อหมดอุปาทาน ภิกษุ ท. ! ธรรมเพื่อการรอบรู้อุปาทานทั้งปวง เป็นอย่างไรเล่า ? (ความจริงมีอยู่ว่า :-) เพราะอาศัย จักษุ และรูป จึงเกิดจักขุวิญญาณ ; การประจวบพร้อมแห่งธรรม ๓ ประการ (ตา+รูป+จักขุวิญญาณ) นั้นคือผัสสะ ; เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัยจึงมีเวทนา. ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้มีการสดับ เห็นอยู่ (ซึ่งกระแสการปรุงแต่ง) อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในจักษุ เบื่อหน่ายทั้งในรูป เบื่อหน่ายทั้งในจักขุวิญญาณ เบื่อหน่ายทั้งในจักขุสัมผัส เบื่อหน่ายทั้งในเวทนา. เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด ; เพราะคลายกำหนัด ย่อมหลุดพ้น. เธอย่อมรู้ชัดว่า “อุปาทานของเรา เรารอบรู้แล้ว เพราะความหลุดพ้นนั้น (วิโมกฺขปริญฺญาตํ)” ดังนี้. (ในกรณีแห่ง โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ และ มนะ ก็มีข้อความที่ตรัสไว้อย่างเดียวกัน).
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาลักษณะแห่งภวตัณหา
    สัทธรรมลำดับที่ : 272
    ชื่อบทธรรม :- ลักษณะแห่งภวตัณหา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=272
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ลักษณะแห่งภวตัณหา
    --ภิกษุ ท. ! ภวโยคะ (#การประกอบอยู่ด้วยภพ) เป็นอย่างไรเล่า ?
    http://etipitaka.com/read/pali/21/13/?keywords=ภวโยโค
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมไม่รู้ชัด ตามที่เป็นจริง
    ซึ่งความก่อขึ้นแห่งภพทั้งหลาย
    ซึ่งความดับไปแห่งภพทั้งหลาย
    ซึ่งรสอร่อยแห่งภพทั้งหลาย
    ซึ่งโทษแห่งภพทั้งหลาย และ
    ซึ่งอุบายเครื่องออกพ้นไปได้จากภพทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อเขาไม่รู้อยู่อย่างนั้น,
    ความกำหนัดในภพ ความเพลิดเพลินในภพ ความเสน่หาในภพ ความสยบในภพ
    ความหิวระหายในภพ ความเร่าร้อนเพราะภพ ความเมาหมกในภพ
    และ #ภวตัณหาในภพทั้งหลาย ย่อมนอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น.
    --ภิกษุ ท. ! นี้ เราเรียกว่า ภวโยคะ (การประกอบอยู่ด้วยภพ),
    ดังนี้แล.-

    #ทุกขสมุทัย#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ.21/9/10.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/9/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ.๒๑/๑๓/๑๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/13/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=272
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=272
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18
    ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาลักษณะแห่งภวตัณหา สัทธรรมลำดับที่ : 272 ชื่อบทธรรม :- ลักษณะแห่งภวตัณหา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=272 เนื้อความทั้งหมด :- --ลักษณะแห่งภวตัณหา --ภิกษุ ท. ! ภวโยคะ (#การประกอบอยู่ด้วยภพ) เป็นอย่างไรเล่า ? http://etipitaka.com/read/pali/21/13/?keywords=ภวโยโค --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมไม่รู้ชัด ตามที่เป็นจริง ซึ่งความก่อขึ้นแห่งภพทั้งหลาย ซึ่งความดับไปแห่งภพทั้งหลาย ซึ่งรสอร่อยแห่งภพทั้งหลาย ซึ่งโทษแห่งภพทั้งหลาย และ ซึ่งอุบายเครื่องออกพ้นไปได้จากภพทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เมื่อเขาไม่รู้อยู่อย่างนั้น, ความกำหนัดในภพ ความเพลิดเพลินในภพ ความเสน่หาในภพ ความสยบในภพ ความหิวระหายในภพ ความเร่าร้อนเพราะภพ ความเมาหมกในภพ และ #ภวตัณหาในภพทั้งหลาย ย่อมนอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น. --ภิกษุ ท. ! นี้ เราเรียกว่า ภวโยคะ (การประกอบอยู่ด้วยภพ), ดังนี้แล.- #ทุกขสมุทัย​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ.21/9/10. http://etipitaka.com/read/thai/21/9/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ.๒๑/๑๓/๑๐. http://etipitaka.com/read/pali/21/13/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=272 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=272 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18 ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ลักษณะแห่งภวตัณหา
    -ลักษณะแห่งภวตัณหา ภิกษุ ท. ! ภวโยคะ (การประกอบอยู่ด้วยภพ) เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมไม่รู้ชัด ตามที่เป็นจริง ซึ่งความก่อขึ้นแห่งภพทั้งหลาย ซึ่งความดับไปแห่งภพทั้งหลาย ซึ่งรสอร่อยแห่งภพทั้งหลาย ซึ่งโทษแห่งภพทั้งหลาย และซึ่งอุบายเครื่องออกพ้นไปได้จากภพทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เมื่อเขาไม่รู้อยู่อย่างนั้น, ความกำหนัดในภพ ความเพลิดเพลินในภพ ความเสน่หาในภพ ความสยบในภพ ความหิวระหายในภพ ความเร่าร้อนเพราะภพ ความเมาหมกในภพ และภวตัณหาในภพทั้งหลาย ย่อมนอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น. ภิกษุ ท. ! นี้ เราเรียกว่า ภวโยคะ (การประกอบอยู่ด้วยภพ), ดังนี้แล.
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดว่ากามเปรียบด้วยรูรั่วของเรือหรือเป็นดุจหัวงู
    สัทธรรมลำดับที่ : 271
    ชื่อบทธรรม :- กามเปรียบด้วยรูรั่วของเรือ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=271
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --กามเปรียบด้วยรูรั่วของเรือ
    --เมื่อสัตว์ มีความใคร่ในกามอยู่,
    ถ้ากามนั้น สำเร็จแก่เขา คือเขาได้ตามปรารถนาแล้ว,
    เขา ย่อมมีปีติในใจ โดยแท้.
    http://etipitaka.com/read/pali/25/484/?keywords=กาม
    +--เมื่อสัตว์ ผู้มีความพอใจ กำลังใคร่ในกามอยู่,
    ถ้ากามนั้น สูญหายไป, เขา ย่อมเดือดร้อน เหมือนถูกแทง ด้วยศร ฉะนั้น.
    +--ผู้ใด เว้นขาดจากกาม ด้วยความเห็น ว่า เป็นดุจหัวงู
    ผู้นั้นเป็นคนมีสติ ล่วงพ้นตัณหาอันส่ายไปในโลกเสียได้.
    +--ผู้ใด เข้าไปผูกใจอยู่ในที่นา ที่สวน เงิน โค ม้า ทาสชายและสตรี พวกพ้อง และ
    กามทั้งหลายอื่น ๆ เป็น อันมาก กิเลสมารย่อมครอบงำบุคคลผู้นั้นได้,
    http://etipitaka.com/read/pali/25/484/?keywords=กาม
    อันตรายรอบด้าน ย่อมย่ำยีบุคคลผู้นั้น ;
    +--เพราะเหตุนั้น ความทุกข์ ย่อมติดตามเขา เหมือนน้ำไหลเข้าสู่เรืออันแตกแล้ว ฉะนั้น.
    --เพราะฉะนั้น บุคคล ควรเป็นผู้มีสติ ทุกเมื่อ,
    พึงเว้นขาดจากกาม,
    #ละกามแล้วพึงข้ามโอฆะเสียได้ดุจบุคคลอุดยาเรือดีแล้วก็พึงข้ามไปถึงฝั่งโน้น (นิพพาน) ได้
    ฉะนั้น แล.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สุตฺต.ขุ. 25/360/408.
    http://etipitaka.com/read/thai/25/360/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%90%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สุตฺต.ขุ. ๒๕/๔๘๔/๔๐๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/25/484/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%90%E0%B9%98
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=271
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=271
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18
    ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดว่ากามเปรียบด้วยรูรั่วของเรือหรือเป็นดุจหัวงู สัทธรรมลำดับที่ : 271 ชื่อบทธรรม :- กามเปรียบด้วยรูรั่วของเรือ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=271 เนื้อความทั้งหมด :- --กามเปรียบด้วยรูรั่วของเรือ --เมื่อสัตว์ มีความใคร่ในกามอยู่, ถ้ากามนั้น สำเร็จแก่เขา คือเขาได้ตามปรารถนาแล้ว, เขา ย่อมมีปีติในใจ โดยแท้. http://etipitaka.com/read/pali/25/484/?keywords=กาม +--เมื่อสัตว์ ผู้มีความพอใจ กำลังใคร่ในกามอยู่, ถ้ากามนั้น สูญหายไป, เขา ย่อมเดือดร้อน เหมือนถูกแทง ด้วยศร ฉะนั้น. +--ผู้ใด เว้นขาดจากกาม ด้วยความเห็น ว่า เป็นดุจหัวงู ผู้นั้นเป็นคนมีสติ ล่วงพ้นตัณหาอันส่ายไปในโลกเสียได้. +--ผู้ใด เข้าไปผูกใจอยู่ในที่นา ที่สวน เงิน โค ม้า ทาสชายและสตรี พวกพ้อง และ กามทั้งหลายอื่น ๆ เป็น อันมาก กิเลสมารย่อมครอบงำบุคคลผู้นั้นได้, http://etipitaka.com/read/pali/25/484/?keywords=กาม อันตรายรอบด้าน ย่อมย่ำยีบุคคลผู้นั้น ; +--เพราะเหตุนั้น ความทุกข์ ย่อมติดตามเขา เหมือนน้ำไหลเข้าสู่เรืออันแตกแล้ว ฉะนั้น. --เพราะฉะนั้น บุคคล ควรเป็นผู้มีสติ ทุกเมื่อ, พึงเว้นขาดจากกาม, #ละกามแล้วพึงข้ามโอฆะเสียได้ดุจบุคคลอุดยาเรือดีแล้วก็พึงข้ามไปถึงฝั่งโน้น (นิพพาน) ได้ ฉะนั้น แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สุตฺต.ขุ. 25/360/408. http://etipitaka.com/read/thai/25/360/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%90%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สุตฺต.ขุ. ๒๕/๔๘๔/๔๐๘. http://etipitaka.com/read/pali/25/484/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%90%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=271 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=271 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18 ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - กามเปรียบด้วยรูรั่วของเรือ
    -กามเปรียบด้วยรูรั่วของเรือ เมื่อสัตว์ มีความใคร่ในกามอยู่, ถ้ากามนั้น สำเร็จแก่เขา คือเขาได้ตามปรารถนาแล้ว, เขา ย่อมมีปีติในใจ โดยแท้. เมื่อสัตว์ ผู้มีความพอใจ กำลังใคร่ในกามอยู่, ถ้ากามนั้น สูญหายไป, เขา ย่อมเดือดร้อน เหมือนถูกแทง ด้วยศร ฉะนั้น. ผู้ใด เว้นขาดจากกาม ด้วยความเห็น ว่า เป็นดุจหัวงู ผู้นั้นเป็นคนมีสติ ล่วงพ้นตัณหาอันส่ายไปในโลกเสียได้. ผู้ใด เข้าไปผูกใจอยู่ในที่นา ที่สวน เงิน โค ม้า ทาสชายและสตรี พวกพ้อง และกามทั้งหลายอื่น ๆเป็น อันมาก กิเลสมารย่อมครอบงำบุคคลผู้นั้นได้, อันตรายรอบด้าน ย่อมย่ำยีบุคคลผู้นั้น ; เพราะเหตุนั้น ความทุกข์ ย่อมติดตามเขา เหมือนน้ำไหลเข้าสู่เรืออันแตกแล้ว ฉะนั้น. เพราะฉะนั้น บุคคล ควรเป็นผู้มีสติ ทุกเมื่อ, พึงเว้นขาดจากกาม, ละกามแล้ว พึงข้ามโอฆะเสียได้ ดุจบุคคลอุดยาเรือดีแล้ว ก็พึงข้ามไปถึงฝั่งโน้น (นิพพาน) ได้ ฉะนั้น แล.
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ามีทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
    สัทธรรมลำดับที่ : 640
    ชื่อบทธรรม : -ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=640
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
    --ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ (วิมุตฺตายตนํ) ห้าประการ เหล่านี้ มีอยู่,
    http://etipitaka.com/read/pali/22/22/?keywords=วิมุตฺตายตน
    ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
    จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ
    หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ
    ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ.
    ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติห้าประการนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ห้าประการ คือ:-
    ๑. ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้
    : พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี
    ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ย่อม #แสดงธรรมแก่ภิกษุ,
    เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม
    ในธรรมนั้นตามที่พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีแสดงแล้วอย่างไร.
    เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถรู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
    ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
    เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด;
    เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
    ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
    เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น ;
    +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่หนึ่ง,
    ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
    จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ
    หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
    อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).

    ๒. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
    #แต่เธอแสดงธรรมตามที่ได้ฟังมา ได้เล่าเรียนมา แก่ชนทั้งหลายเหล่าอื่น โดยพิสดารอยู่,
    เธอนั้นย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรม
    ตามที่เธอแสดงแก่ชนเหล่าอื่น โดยพิสดารตามที่เธอฟังมาแล้วเล่าเรียนมาแล้วอย่างไร.
    เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
    ปราโมทย์ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
    เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ;
    เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
    ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
    เมื่อมีสุขจิตย่อมตั้งมั่น.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สอง,
    ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
    จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
    หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
    อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).

    ๓. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : พระศาสดา หรือเพื่อนพรหมจารี
    ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
    และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ;
    #แต่เธอกระทำการท่องบ่นซึ่งธรรม โดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา อยู่.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/24/?keywords=สชฺฌายํ+วิมุตฺตายตน
    เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น
    ตามที่เธอทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมาอย่างไร.
    เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
    ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
    เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ;
    เมื่อใจปีติ กายย่อมรำงับ ;
    ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
    เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สาม,
    ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
    จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
    หรือว่าเธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
    อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).

    ๔. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี
    ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
    และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ;
    และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ;
    #แต่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่เธอฟังมาเล่าเรียนมา อยู่,
    เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม
    ในธรรมนั้นตามที่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยจิต
    ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา อย่างไร.
    เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
    ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
    เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
    ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
    เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สี่,
    ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่,
    จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
    หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
    อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).

    ๕. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี
    ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
    และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอไดัฟังมาได้เล่าเรียนมา ;
    และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ;
    ทั้งเธอก็มิได้ตรึกตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยจิต ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา ;
    #แต่ว่าสมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอนั้นถือเอาดีแล้ว
    กระทำไว้ในใจดีแล้ว เข้าไปทรงไว้ดีแล้ว แทงตลอดดีแล้วด้วยปัญญา อยู่,
    เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น
    ตามที่สมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอถือเอาด้วยดี กระทำไว้ในใจดี
    เข้าไปทรงไว้ดี แทงตลอดดีด้วยปัญญา อย่างไร.
    เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
    ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
    เมื่อปราโมทย์แล้วปีติย่อมเกิด ;
    เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
    ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข(ด้วยนามกาย) ;
    เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่ห้า,
    ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาทมีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่.
    จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
    หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
    อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
    --ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องเข้าถึง #วิมุตติห้าประการ เหล่านี้
    http://etipitaka.com/read/pali/22/25/?keywords=ปญฺจ+วิมุตฺตายตน
    ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
    จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงที่ซึ่งความสิ้นรอบ
    หรือว่า
    #เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตน
    ยังไม่บรรลุตามลำดับ,
    ดังนี้แล.-

    #ทุกขมรรค#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิง​ไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/20-23/26.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/20/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๒๒-๒๕/๒๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/22/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=43&id=640
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=43
    ลำดับสาธยายธรรม : 43 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_43.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ามีทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง สัทธรรมลำดับที่ : 640 ชื่อบทธรรม : -ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=640 เนื้อความทั้งหมด :- --ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง --ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ (วิมุตฺตายตนํ) ห้าประการ เหล่านี้ มีอยู่, http://etipitaka.com/read/pali/22/22/?keywords=วิมุตฺตายตน ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ. ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติห้าประการนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ห้าประการ คือ:- ๑. ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ : พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ย่อม #แสดงธรรมแก่ภิกษุ, เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้นตามที่พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีแสดงแล้วอย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถรู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น ; +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่หนึ่ง, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๒. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; #แต่เธอแสดงธรรมตามที่ได้ฟังมา ได้เล่าเรียนมา แก่ชนทั้งหลายเหล่าอื่น โดยพิสดารอยู่, เธอนั้นย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรม ตามที่เธอแสดงแก่ชนเหล่าอื่น โดยพิสดารตามที่เธอฟังมาแล้วเล่าเรียนมาแล้วอย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุขจิตย่อมตั้งมั่น. +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สอง, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๓. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือเพื่อนพรหมจารี ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ; #แต่เธอกระทำการท่องบ่นซึ่งธรรม โดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา อยู่. http://etipitaka.com/read/pali/22/24/?keywords=สชฺฌายํ+วิมุตฺตายตน เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น ตามที่เธอทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมาอย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ; เมื่อใจปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น. +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สาม, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่าเธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๔. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ; และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ; #แต่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่เธอฟังมาเล่าเรียนมา อยู่, เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้นตามที่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยจิต ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา อย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น. +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สี่, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๕. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอไดัฟังมาได้เล่าเรียนมา ; และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ; ทั้งเธอก็มิได้ตรึกตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยจิต ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา ; #แต่ว่าสมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอนั้นถือเอาดีแล้ว กระทำไว้ในใจดีแล้ว เข้าไปทรงไว้ดีแล้ว แทงตลอดดีแล้วด้วยปัญญา อยู่, เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น ตามที่สมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอถือเอาด้วยดี กระทำไว้ในใจดี เข้าไปทรงไว้ดี แทงตลอดดีด้วยปัญญา อย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้วปีติย่อมเกิด ; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข(ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น. +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่ห้า, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาทมีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่. จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). --ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องเข้าถึง #วิมุตติห้าประการ เหล่านี้ http://etipitaka.com/read/pali/22/25/?keywords=ปญฺจ+วิมุตฺตายตน ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงที่ซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า #เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตน ยังไม่บรรลุตามลำดับ, ดังนี้แล.- #ทุกขมรรค​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิง​ไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/20-23/26. http://etipitaka.com/read/thai/22/20/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๒๒-๒๕/๒๖. http://etipitaka.com/read/pali/22/22/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96 ศึกษาเพิ่มเติม... http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=43&id=640 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=43 ลำดับสาธยายธรรม : 43 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_43.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
    -ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ (วิมุตฺตายตนํ) ห้าประการ เหล่านี้ มีอยู่, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มี ๑. รายละเอียดเรื่องปุพพันตานุทิฏฐิ และอปรันตานุทิฏฐิ หาดูได้จากหนังสือปฏิจจ. โอ. หน้า ๗๓๒-๗๖๘. ตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ. ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติห้าประการนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ห้าประการ คือ: ๑. ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ย่อม แสดงธรรมแก่ภิกษุ, เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้นตามที่พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีแสดงแล้วอย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถรู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น ; ภิกษุ ท. ! นี้คือธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่หนึ่ง, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอัน ไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๒. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; แต่เธอแสดงธรรมตามที่ได้ฟังมา ได้เล่าเรียนมา แก่ชนทั้งหลายเหล่าอื่น โดยพิสดารอยู่, เธอนั้นย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรม ตามที่เธอแสดงแก่ชนเหล่าอื่น โดยพิสดารตามที่เธอฟังมาแล้วเล่าเรียนมาแล้วอย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุขจิตย่อมตั้งมั่น. ภิกษุ ท. ! นี้คือ ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สอง, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๓. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือเพื่อนพรหมจารีผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ; แต่เธอกระทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา อยู่. เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้นตามที่เธอทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมาอย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ; เมื่อใจปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น. ภิกษุ ท. ! นี้คือ ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สาม, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่าเธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๔. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารีผู้ ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ; และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ; แต่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่เธอฟังมาเล่าเรียนมา อยู่, เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้นตามที่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา อย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น. ภิกษุ ท. ! นี้คือ ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติข้อที่สี่, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๕. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอไดัฟังมาได้เล่าเรียนมา ; และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ; ทั้งเธอก็มิได้ตรึกตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา ; แต่ว่า สมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอนั้นถือเอาดีแล้ว กระทำไว้ในใจดีแล้ว เข้าไปทรงไว้ดีแล้ว แทงตลอดดีแล้วด้วยปัญญา อยู่, เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น ตามที่สมาธินิมิต อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอถือเอาด้วยดี กระทำไว้ในใจดี เข้าไปทรงไว้ดี แทงตลอดดีด้วยปัญญา อย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้วปีติย่อมเกิด ; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข(ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น. ภิกษุ ท. ! นี้คือธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่ห้า, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาทมีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่. จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องเข้าถึงวิมุตติห้าประการเหล่านี้ ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงที่ซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตน ยังไม่บรรลุตามลำดับ, ดังนี้แล.
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาไวพจน์(คำแทนชื่อ)​ของกาม
    สัทธรรมลำดับที่ : 270
    ชื่อบทธรรม : -ไวพจน์ของกาม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=270
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ไวพจน์ของกาม
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ภัย’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ทุกข์’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘โรค’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘หัวฝี’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ลูกศร’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘เครื่องข้อง’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘เปือกตม’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ครรภ์’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘ภัย’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากภัย
    ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม (ปัจจุบันนี้) และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้น คำว่า ‘ภัย’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘ทุกข์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากทุกข์
    ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้นคำว่า ‘ทุกข์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘โรค’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วย กามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากโรค
    ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้น คำว่า ‘โรค’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘หัวฝี’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากหัวฝี
    ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้น คำว่า ‘หัวฝี’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘ลูกศร’ จึงเป็นแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากลูกศร
    ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้น คำว่า ‘ลูกศร’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘เครื่องข้อง’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากเครื่องข้อง
    ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้น คำว่า ‘เครื่องข้อง’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘เปือกตม’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากเปือกตม
    ทั้งที่เป็นไปทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้น คำว่า ‘เปือกตม’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘ครรภ์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ?
    ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากครรภ์
    ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้นคำว่า ‘ครรภ์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย,
    ดังนี้.
    ภัย ทุกข์ โรค หัวฝี ลูกศร ความข้อง เปือกตม และ การอยู่ในครรภ์
    นี้เรียกว่า กามที่ปุถุชนข้องอยู่แล้ว
    อันกามสุขครอบงำแล้ว #ย่อมไปเพื่อกำเนิดอีก ก็เพราะ
    ภิกษุมีความเพียร ยินดีด้วยสัมปชัญญะ (สมฺปชญฺญํ)​
    http://etipitaka.com/read/pali/23/299/?keywords=สมฺปชญฺญํ
    ภิกษุเห็นปานนี้นั้น ก้าวล่วงทางหมุนเวียนที่ข้ามได้ยากนี้ได้แล้ว
    ย่อมพิจารณา เห็นหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงชาติและชรา ดิ้นรนอยู่
    ดังนี้แล.

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อฎฺฐก. อํ. 23/227/146.
    http://etipitaka.com/read/thai/23/227/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อฎฺฐก. อํ. ๒๓/๒๙๘/๑๔๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/298/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%96
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=270
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=270
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18
    ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาไวพจน์(คำแทนชื่อ)​ของกาม สัทธรรมลำดับที่ : 270 ชื่อบทธรรม : -ไวพจน์ของกาม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=270 เนื้อความทั้งหมด :- --ไวพจน์ของกาม --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ภัย’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ทุกข์’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘โรค’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘หัวฝี’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ลูกศร’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘เครื่องข้อง’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘เปือกตม’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ครรภ์’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ภัย’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากภัย ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม (ปัจจุบันนี้) และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘ภัย’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ทุกข์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากทุกข์ ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้นคำว่า ‘ทุกข์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘โรค’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วย กามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากโรค ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘โรค’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘หัวฝี’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากหัวฝี ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘หัวฝี’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ลูกศร’ จึงเป็นแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากลูกศร ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘ลูกศร’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘เครื่องข้อง’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากเครื่องข้อง ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘เครื่องข้อง’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘เปือกตม’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย ? --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากเปือกตม ทั้งที่เป็นไปทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘เปือกตม’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ครรภ์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากครรภ์ ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้นคำว่า ‘ครรภ์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย, ดังนี้. ภัย ทุกข์ โรค หัวฝี ลูกศร ความข้อง เปือกตม และ การอยู่ในครรภ์ นี้เรียกว่า กามที่ปุถุชนข้องอยู่แล้ว อันกามสุขครอบงำแล้ว #ย่อมไปเพื่อกำเนิดอีก ก็เพราะ ภิกษุมีความเพียร ยินดีด้วยสัมปชัญญะ (สมฺปชญฺญํ)​ http://etipitaka.com/read/pali/23/299/?keywords=สมฺปชญฺญํ ภิกษุเห็นปานนี้นั้น ก้าวล่วงทางหมุนเวียนที่ข้ามได้ยากนี้ได้แล้ว ย่อมพิจารณา เห็นหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงชาติและชรา ดิ้นรนอยู่ ดังนี้แล. #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อฎฺฐก. อํ. 23/227/146. http://etipitaka.com/read/thai/23/227/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อฎฺฐก. อํ. ๒๓/๒๙๘/๑๔๖. http://etipitaka.com/read/pali/23/298/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%96 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=270 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=270 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18 ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ไวพจน์ของกาม
    -ไวพจน์ของกาม ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ภัย’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ทุกข์’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘โรค’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘หัวฝี’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ลูกศร’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘เครื่องข้อง’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘เปือกตม’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ครรภ์’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ภัย’ จึงเป็นคำแทนชื่อของกาม ทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากภัย ทั้งที่ เป็นไปในทิฏฐธรรม (ปัจจุบันนี้) และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘ภัย’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ทุกข์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของกามทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากทุกข์ ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้นคำว่า ‘ทุกข์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘โรค’ จึงเป็นคำแทนชื่อของกาม ทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วย กามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากโรค ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘โรค’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘หัวฝี’ จึงเป็นคำแทนชื่อของกาม ทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วย กามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากหัวฝี ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘หัวฝี’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ลูกศร’ จึงเป็นแทนชื่อของกาม ทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกาม ราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากลูกศร ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘ลูกศร’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘เครื่องข้อง’ จึงเป็นคำแทนชื่อของกามทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้วด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากเครื่องข้อง ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘เครื่องข้อง’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘เปือกตม’ จึงเป็นคำแทนชื่อของกามทั้งหลาย ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้วด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากเปือกตม ทั้งที่เป็นไปทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘เปือกตม’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ครรภ์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของกามทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากครรภ์ ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้นคำว่า ‘ครรภ์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย, ดังนี้แล.
    0 Comments 0 Shares 126 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ารายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม
    สัทธรรมลำดับที่ : 269
    ชื่อบทธรรม :- รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=269
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม
    --ภิกษุ ท. ! ที่เรากล่าวว่า
    “กาม นิทานสัมภวะแห่งกาม เวมัตตตา แห่งกาม
    วิบากแห่งกาม นิโรธแห่งกาม ปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม เป็นสิ่งที่ควรรู้แจ้ง”
    นั้น เรากล่าวหมายถึงกามไหนกันเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! กามคุณ ๕ อย่างเหล่านี้ คือ
    รูป ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยจักษุ(ตา)
    ....
    เสียง ทั้งหลาย อันจะถึงรู้แจ้งได้ด้วยโสตะ(หู)
    ....
    กลิ่น ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยฆานะ(จมูก)
    ....
    รส ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยชิวหา(ลิ้น)
    ....
    โผฏฐัพพะ ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้ง ได้ด้วยกาย (ผิวกาย)
    อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะอันน่ารัก
    เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยแห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มีอยู่,
    --ภิกษุ ท. ! อารมณ์ ๕ อย่างเหล่านี้ หาใช่กามไม่ ;
    ห้าอย่างเหล่านี้ เรียกกันในอริยวินัย ว่า กามคุณ.(คาถาจำกัดความตอนนี้)
    ความกำหนัดไปตามอำนาจความตริตรึก (สงฺกปฺปราโค) นั่นแหละคือกามของคนเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/460/?keywords=สงฺกปฺปราโค
    อารมณ์อันวิจิตรทั้งหลายในโลกนั้น หาใช่กามไม่ ;
    ความกำหนัดไปตามอำนาจความตริตรึกนั่นแหละคือ กาม ของคนเรา ;
    อารมณ์อันวิจิตร ก็มีอยู่ในโลกตามประสาของมันเท่านั้น ;
    ดังนั้น ผู้มีปัญญาจึงนำออกเสียซึ่งฉันทะ ในอารมณ์อันวิจิตรเหล่านั้น
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! นิทานสัมภวะ (เหตุเป็นแดนเกิด) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ?
    นิทานสัมภวะแห่งกาม คือ #ผัสสะ.

    --ภิกษุ ท. ! เวมัตตา (ประมาณต่าง ๆ) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ?
    ภิกษุ ท. ! เวมัตตตาแห่งกาม คือ
    ความใคร่ (กาม) ในรูปารมณ์ก็อย่างหนึ่ง ๆ,
    ความใคร่ในสัททารมณ์ ก็อย่างหนึ่งๆ,
    ความใคร่ในคันธารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ,
    ความใคร่ในรสารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ,
    ความใคร่ในโผฏฐัพพารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ ;
    --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า เวมัตตาแห่งกาม.

    --ภิกษุ ท. ! วิบากแห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลใคร่อยู่ซึ่งอารมณ์ (แห่งกาม) ใด
    เขากระทำอัตตภาพอันเกิดจากกามนั้น ๆ ให้เกิดขึ้น *--๑
    เป็นอัตตภาพ มีส่วนแห่งบุญ ก็ดี มีส่วนแห่งอบุญ ก็ดี ;
    --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า วิบากแห่งกาม.
    --ภิกษุ ท. ! นิโรธ (ความดับ) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! นิโรธแห่งกามย่อมมี เพราะนิโรธแห่งผัสสะ. อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้นั่นแล เป็นปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม ;
    ปฏิปทานั้นได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ
    สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
    สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ.

    --ภิกษุ ท. ! ในกาลใดแล อริยสาวกย่อม
    รู้ชัดซึ่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งนิทานสัมภวะแห่งกาม อย่างนี้,
    รู้ชัดซึ่งเวมัตตตาแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งวิบากแห่งกาม อย่างนี้,
    รู้ชัดซึ่งนิโรธแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม อย่างนี้ ;
    ในกาลนั้น อริยสาวกนั้น
    ย่อมรู้ชัดซึ่งพรหมจรรย์นี้อันเป็นเครื่องเจาะแทงกิเลส ว่าเป็นนิโรธแห่งกาม.-

    *--๑. ข้อความนี้ใช้ได้ทั้งภาษาคนและภาษาธรรม
    : ภาษาคนก็คือเกิดใหม่หลังจากตายแล้ว ดังที่ทราบกันอยู่ ;
    ถ้าเป็นภาษาธรรมก็คือ จิตที่ครองอัตตภาพปัจจุบันของเขานั้นเกิดเปลี่ยนเป็นบุญหรือบาป
    ตามสมควรแก่อุปาทานที่เกิดขึ้นจากความใคร่นั้น ๆ
    โดยที่ยังไม่ต้องตาย ;
    ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ศึกษาจะถือเอาความหมายไหน.

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อ. 22/365-368/334.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/365/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อ. ๒๒/๔๕๘-๔๖๐/๓๓๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/458/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%94
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=269
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=269
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18
    ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ารายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม สัทธรรมลำดับที่ : 269 ชื่อบทธรรม :- รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=269 เนื้อความทั้งหมด :- --รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม --ภิกษุ ท. ! ที่เรากล่าวว่า “กาม นิทานสัมภวะแห่งกาม เวมัตตตา แห่งกาม วิบากแห่งกาม นิโรธแห่งกาม ปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม เป็นสิ่งที่ควรรู้แจ้ง” นั้น เรากล่าวหมายถึงกามไหนกันเล่า ? --ภิกษุ ท. ! กามคุณ ๕ อย่างเหล่านี้ คือ รูป ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยจักษุ(ตา) .... เสียง ทั้งหลาย อันจะถึงรู้แจ้งได้ด้วยโสตะ(หู) .... กลิ่น ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยฆานะ(จมูก) .... รส ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยชิวหา(ลิ้น) .... โผฏฐัพพะ ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้ง ได้ด้วยกาย (ผิวกาย) อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะอันน่ารัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยแห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มีอยู่, --ภิกษุ ท. ! อารมณ์ ๕ อย่างเหล่านี้ หาใช่กามไม่ ; ห้าอย่างเหล่านี้ เรียกกันในอริยวินัย ว่า กามคุณ.(คาถาจำกัดความตอนนี้) ความกำหนัดไปตามอำนาจความตริตรึก (สงฺกปฺปราโค) นั่นแหละคือกามของคนเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/22/460/?keywords=สงฺกปฺปราโค อารมณ์อันวิจิตรทั้งหลายในโลกนั้น หาใช่กามไม่ ; ความกำหนัดไปตามอำนาจความตริตรึกนั่นแหละคือ กาม ของคนเรา ; อารมณ์อันวิจิตร ก็มีอยู่ในโลกตามประสาของมันเท่านั้น ; ดังนั้น ผู้มีปัญญาจึงนำออกเสียซึ่งฉันทะ ในอารมณ์อันวิจิตรเหล่านั้น ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! นิทานสัมภวะ (เหตุเป็นแดนเกิด) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? นิทานสัมภวะแห่งกาม คือ #ผัสสะ. --ภิกษุ ท. ! เวมัตตา (ประมาณต่าง ๆ) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เวมัตตตาแห่งกาม คือ ความใคร่ (กาม) ในรูปารมณ์ก็อย่างหนึ่ง ๆ, ความใคร่ในสัททารมณ์ ก็อย่างหนึ่งๆ, ความใคร่ในคันธารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ, ความใคร่ในรสารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ, ความใคร่ในโผฏฐัพพารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ ; --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า เวมัตตาแห่งกาม. --ภิกษุ ท. ! วิบากแห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! บุคคลใคร่อยู่ซึ่งอารมณ์ (แห่งกาม) ใด เขากระทำอัตตภาพอันเกิดจากกามนั้น ๆ ให้เกิดขึ้น *--๑ เป็นอัตตภาพ มีส่วนแห่งบุญ ก็ดี มีส่วนแห่งอบุญ ก็ดี ; --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า วิบากแห่งกาม. --ภิกษุ ท. ! นิโรธ (ความดับ) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! นิโรธแห่งกามย่อมมี เพราะนิโรธแห่งผัสสะ. อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้นั่นแล เป็นปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม ; ปฏิปทานั้นได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. --ภิกษุ ท. ! ในกาลใดแล อริยสาวกย่อม รู้ชัดซึ่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งนิทานสัมภวะแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งเวมัตตตาแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งวิบากแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งนิโรธแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม อย่างนี้ ; ในกาลนั้น อริยสาวกนั้น ย่อมรู้ชัดซึ่งพรหมจรรย์นี้อันเป็นเครื่องเจาะแทงกิเลส ว่าเป็นนิโรธแห่งกาม.- *--๑. ข้อความนี้ใช้ได้ทั้งภาษาคนและภาษาธรรม : ภาษาคนก็คือเกิดใหม่หลังจากตายแล้ว ดังที่ทราบกันอยู่ ; ถ้าเป็นภาษาธรรมก็คือ จิตที่ครองอัตตภาพปัจจุบันของเขานั้นเกิดเปลี่ยนเป็นบุญหรือบาป ตามสมควรแก่อุปาทานที่เกิดขึ้นจากความใคร่นั้น ๆ โดยที่ยังไม่ต้องตาย ; ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ศึกษาจะถือเอาความหมายไหน. #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อ. 22/365-368/334. http://etipitaka.com/read/thai/22/365/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อ. ๒๒/๔๕๘-๔๖๐/๓๓๔. http://etipitaka.com/read/pali/22/458/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%94 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=269 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=269 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18 ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม
    -รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม ภิกษุ ท. ! ที่เรากล่าวว่า “กาม นิทานสัมภวะแห่งกาม เวมัตตตา แห่งกาม วิบากแห่งกาม นิโรธแห่งกาม ปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม เป็นสิ่งที่ควรรู้แจ้ง” นั้น เรากล่าวหมายถึงกามไหนกันเล่า ? ภิกษุ ท. ! กามคุณ ๕ อย่างเหล่านี้ คือ รูป ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยจักษุ.... เสียง ทั้งหลาย อันจะถึงรู้แจ้งได้ด้วยโสตะ.... กลิ่น ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยฆานะ.... รส ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยชิวหา.... โผฏฐัพพะ ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้ง ได้ด้วยกาย อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะอันน่ารัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยแห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มีอยู่, ภิกษุ ท. ! อารมณ์ ๕ อย่างเหล่านี้ หาใช่กามไม่ ; ห้าอย่างเหล่านี้ เรียกกันในอริยวินัย ว่า กามคุณ. (คาถาจำกัดความตอนนี้) ความกำหนัดไปตามอำนาจความตริตรึก (สงฺกปฺปราค) นั่นแหละคือกามของคนเรา ; อารมณ์อันวิจิตรทั้งหลายในโลก นั้น หาใช่กามไม่ ; ความกำหนัดไปตามอำนาจความตริตรึก นั่นแหละคือกามของคนเรา ; อารมณ์อันวิจิตร ก็มีอยู่ในโลก ตามประสาของมันเท่านั้น ; ดังนั้น ผู้มีปัญญาจึงนำออกเสียซึ่งฉันทะ ในอารมณ์อันวิจิตรเหล่านั้น ดังนี้. ภิกษุ ท. ! นิทานสัมภวะ (เหตุเป็นแดนเกิด) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? นิทานสัมภวะแห่งกาม คือ ผัสสะ. ภิกษุ ท. ! เวมัตตา (ประมาณต่าง ๆ) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เวมัตตตาแห่งกาม คือ ความใคร่ (กาม) ในรูปารมณ์ก็อย่างหนึ่ง ๆ, ความใคร่ในสัททารมณ์ ก็อย่างหนึ่งๆ, ความใคร่ในคันธารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ, ความใคร่ในรสารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ, ความใคร่ในโผฏฐัพพารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ ; ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า เวมัตตาแห่งกาม. ภิกษุ ท. ! วิบากแห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลใคร่อยู่ซึ่งอารมณ์ (แห่งกาม) ใด เขากระทำอัตตภาพอันเกิดจากกามนั้น ๆ ให้เกิดขึ้น๑ เป็นอัตตภาพมีส่วนแห่งบุญ ก็ดี มีส่วนแห่งอบุญ ก็ดี ; ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า วิบากแห่งกาม. ภิกษุ ท. ! นิโรธ (ความดับ) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! นิโรธแห่งกามย่อมมี เพราะนิโรธแห่งผัสสะ. อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้นั่นแล เป็น ๑. ข้อความนี้ใช้ได้ทั้งภาษาคนและภาษาธรรม : ภาษาคนก็คือเกิดใหม่หลังจากตายแล้ว ดังที่ทราบกันอยู่ ; ถ้าเป็นภาษาธรรมก็คือ จิตที่ครองอัตตภาพปัจจุบันของเขานั้นเกิดเปลี่ยนเป็นบุญหรือบาป ตามสมควรแก่อุปาทานที่เกิดขึ้นจากความใคร่นั้น ๆ โดยที่ยังไม่ต้องตาย ; ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ศึกษาจะถือเอาความหมายไหน. ปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม ; ปฏิปทานั้นได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. ภิกษุ ท. ! ในกาลใดแล อริยสาวกย่อมรู้ชัดซึ่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งนิทานสัมภวะแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งเวมัตตตาแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งวิบากแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งนิโรธแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม อย่างนี้ ; ในกาลนั้น อริยสาวกนั้น ย่อมรู้ชัดซึ่งพรหมจรรย์นี้อันเป็นเครื่องเจาะแทงกิเลส ว่าเป็นนิโรธแห่งกาม.
    0 Comments 0 Shares 139 Views 0 Reviews
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.123 : อาเซียน ใน สมรภูมิ AI
    .
    สัปดาห์นี้ทีมงานบูรพาไม่แพ้ เดินทางไปที่มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เพื่อร่วมการสัมมนาที่จัดขึ้นโดย Asean China Centre ในเรื่อง “การใช้เอไอ เพิ่มความร่วมมือด้านการสื่อสารในภูมิภาค”
    .
    พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้เราจะมาถ่ายทอดมุมมองของประเทศจีน และ ประเทศอาเซียน ว่ามีการใช้งานเอไออย่างไรบ้าง รวมถึงว่า เอไอส่งผลกระทบอย่างไรต่อการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมในประเทศอาเซียน เพราะว่าเอไอกำลังกลายเป็น สมรภูมิใหม่ ทั้งในด้านการแข่งขันทางเทคโนโลยี และอิทธิพลระหว่างประเทศอีกด้วย
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=3c_9FiYlkLI
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #จีนอาเซียน #ปัญญาประดิษฐ์ #AI
    บูรพาไม่แพ้ Ep.123 : อาเซียน ใน สมรภูมิ AI . สัปดาห์นี้ทีมงานบูรพาไม่แพ้ เดินทางไปที่มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เพื่อร่วมการสัมมนาที่จัดขึ้นโดย Asean China Centre ในเรื่อง “การใช้เอไอ เพิ่มความร่วมมือด้านการสื่อสารในภูมิภาค” . พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้เราจะมาถ่ายทอดมุมมองของประเทศจีน และ ประเทศอาเซียน ว่ามีการใช้งานเอไออย่างไรบ้าง รวมถึงว่า เอไอส่งผลกระทบอย่างไรต่อการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมในประเทศอาเซียน เพราะว่าเอไอกำลังกลายเป็น สมรภูมิใหม่ ทั้งในด้านการแข่งขันทางเทคโนโลยี และอิทธิพลระหว่างประเทศอีกด้วย . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=3c_9FiYlkLI . #บูรพาไม่แพ้ #จีนอาเซียน #ปัญญาประดิษฐ์ #AI
    0 Comments 0 Shares 175 Views 0 Reviews
  • 🔍 Western Digital เตรียมเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ HAMR ในปี 2027
    Western Digital หนึ่งในผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์รายใหญ่ของโลก ได้ประกาศแผนเปิดตัว ฮาร์ดไดรฟ์ที่ใช้เทคโนโลยี Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) ในปี 2027 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มความจุของฮาร์ดไดรฟ์ให้สูงขึ้น

    🔬 เทคโนโลยี HAMR และการพัฒนา
    HAMR เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ ความร้อนเพื่อช่วยให้วัสดุบนจานแม่เหล็กสามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ทำให้สามารถเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ก่อนที่จะเปิดตัว HAMR อย่างเต็มรูปแบบ Western Digital จะยังคงพัฒนา ePMR 2 (energy-assisted Perpendicular Magnetic Recording) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูลโดยใช้กระแสไฟฟ้าเพิ่มเติมที่หัวเขียน

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Western Digital จะเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ HAMR ในปี 2027
    - HAMR ใช้ความร้อนเพื่อช่วยให้วัสดุบนจานแม่เหล็กสามารถบันทึกข้อมูลได้แม่นยำขึ้น
    - ก่อนเปิดตัว HAMR บริษัทจะยังคงพัฒนา ePMR 2 เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูล
    - ฮาร์ดไดรฟ์ HAMR รุ่นแรกจะมีความจุ 36TB และ 40TB
    - Western Digital ตั้งเป้าผลิตฮาร์ดไดรฟ์ 100TB ภายในปี 2030

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - HAMR เป็นเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลาพัฒนาเพิ่มเติมก่อนเปิดตัว
    - Seagate กำลังนำหน้า Western Digital ในการพัฒนา HAMR และเริ่มทดสอบผลิตภัณฑ์แล้ว
    - SMR (Shingled Magnetic Recording) อาจมีปัญหาด้านประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือเมื่อเทียบกับ CMR (Conventional Magnetic Recording)
    - ต้องติดตามว่า Western Digital จะสามารถแข่งขันกับ Seagate ได้หรือไม่ในตลาดฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูง

    🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมจัดเก็บข้อมูล
    การเปิดตัว HAMR ของ Western Digital อาจช่วยให้ตลาดฮาร์ดไดรฟ์สามารถแข่งขันกับ SSD ที่มีความเร็วสูงขึ้น ได้ โดยเฉพาะในกลุ่ม

    https://www.techspot.com/news/108125-western-digital-plans-hamr-hard-disk-drives-materialize.html
    🔍 Western Digital เตรียมเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ HAMR ในปี 2027 Western Digital หนึ่งในผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์รายใหญ่ของโลก ได้ประกาศแผนเปิดตัว ฮาร์ดไดรฟ์ที่ใช้เทคโนโลยี Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) ในปี 2027 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มความจุของฮาร์ดไดรฟ์ให้สูงขึ้น 🔬 เทคโนโลยี HAMR และการพัฒนา HAMR เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ ความร้อนเพื่อช่วยให้วัสดุบนจานแม่เหล็กสามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ทำให้สามารถเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนที่จะเปิดตัว HAMR อย่างเต็มรูปแบบ Western Digital จะยังคงพัฒนา ePMR 2 (energy-assisted Perpendicular Magnetic Recording) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูลโดยใช้กระแสไฟฟ้าเพิ่มเติมที่หัวเขียน ✅ ข้อมูลจากข่าว - Western Digital จะเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ HAMR ในปี 2027 - HAMR ใช้ความร้อนเพื่อช่วยให้วัสดุบนจานแม่เหล็กสามารถบันทึกข้อมูลได้แม่นยำขึ้น - ก่อนเปิดตัว HAMR บริษัทจะยังคงพัฒนา ePMR 2 เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูล - ฮาร์ดไดรฟ์ HAMR รุ่นแรกจะมีความจุ 36TB และ 40TB - Western Digital ตั้งเป้าผลิตฮาร์ดไดรฟ์ 100TB ภายในปี 2030 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - HAMR เป็นเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลาพัฒนาเพิ่มเติมก่อนเปิดตัว - Seagate กำลังนำหน้า Western Digital ในการพัฒนา HAMR และเริ่มทดสอบผลิตภัณฑ์แล้ว - SMR (Shingled Magnetic Recording) อาจมีปัญหาด้านประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือเมื่อเทียบกับ CMR (Conventional Magnetic Recording) - ต้องติดตามว่า Western Digital จะสามารถแข่งขันกับ Seagate ได้หรือไม่ในตลาดฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูง 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมจัดเก็บข้อมูล การเปิดตัว HAMR ของ Western Digital อาจช่วยให้ตลาดฮาร์ดไดรฟ์สามารถแข่งขันกับ SSD ที่มีความเร็วสูงขึ้น ได้ โดยเฉพาะในกลุ่ม https://www.techspot.com/news/108125-western-digital-plans-hamr-hard-disk-drives-materialize.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Western Digital's plans for HAMR hard disk drives will materialize in 2027
    At the recent Computex trade show in Taipei, Western Digital confirmed that its first hard drives based on Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) technology are scheduled to debut...
    0 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
More Results